Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research is aimed at tackling under achievement criteria. Course basics of creating a website using the HTML tag used primarily by the WBI. And satisfaction of students with the WBI. The samples Diploma1 students in technical computing. Department of Computer Technology Vocational College Semester 2/2560 that do not meet the 50 percent total of 19 people. WBI through Web applications use HTML tags for creating the Adobe Dreamweaver CS6, starting with the related information and website design. After a video presentation. And add sound effects, backgrounds, and other illustrations. associated Results from research When students have studied with WBI through and do the test. The results show that the criteria were 17 people as 89.5 percent and not qualified 2 people., representing a 10.5 percent, which meets the hypothesis is that more than 80 percent, and analysis of student satisfaction towards. WBI average satisfaction was 3.96, standard deviation 0.96 in the level of customer satisfaction. contain with 1) presentation Were satisfied with the average satisfaction was 4.00 , standard deviation 0.88 2) Design are satisfied, the average satisfaction was 3.93, 0.99 standard deviation 3) the benefit of the media are satisfied by the average satisfaction was 3.96, standard deviation 0.96. Keywords: WBI, บทนา่ รายวชิ าพ้ืนฐานการสรา้ งเวบ็ ไซต์ เร่ือง การใช้งาน แท็ก HTML เบื้องต้น นักศึกษาจะต้องท่าแบบทดสอบ เพื่อวดั ความรู้ทีจ่ ะน่าไปใช้ในการเขียนเว็บไซต์ จ่านวนทั้งหมด 29 คน ผลปรากฏว่ามีนักศึกษาท่าแบบทดสอบผ่าน เกณฑ์ จ่านวน 10 คน และมีนกั ศึกษาทา่ แบบทดสอบไม่ผ่านเกณฑ์ตามท่กี ่าหนด คือ ร้อยละ 50 จา่ นวน 19 คน ผู้วิจัยจึงได้ส่ารวจหาสาเหตุ พบว่ามีนักศึกษาบางส่วนไม่สามารถท่าแบบทดสอบได้ สาเหตุอาจเกิดจาก แบบเรยี นไม่นา่ สนใจหรอื ระดบั การเรยี นรู้ท่แี ตกต่างกันของนกั ศึกษา ซึ่งบางคนอาจจะต้องใชเ้ วลานานกว่าคนอื่น ทา่ ใหเ้ ม่อื ศกึ ษาตามแบบปกติ ท่าให้ไม่สามารถเรยี นรไู้ ดท้ ันคนอน่ื ๆ จากสาเหตุเบื้องต้น ท่าให้ครูผู้สอนสร้างสื่อการสอนจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ เพื่อ แก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่ากว่าเกณฑ์ในรายวิชาพื้นฐานการสร้างเว็บไซต์ เรื่อง การใช้งาน แท็ก HTML เบื้องต้น โดยเป็นบทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนผ่านเวบ็ เพ่ือลดความแตกตา่ งในการเรยี นรู้ ระหว่างบคุ คล เน่อื งจาก เปน็ สื่อการเรียนการสอนท่อี ย่บู นเทคโนโลยเี ว็บ สามารถทบทวนเนอื้ หาไดไ้ มจ่ ่ากดั ทั้งสถานที่และเวลา ดังนน้ั เพื่อแก้ปัญหาผลสัมฤทธิท์ างการเรียนต่ากวา่ เกณฑ์ในรายวิชาพ้ืนฐานการสร้างเว็บไซต์ เรื่อง การใช้ งาน แท็ก HTML เบื้องต้น ผู้วิจัยจึงท่าการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ รายวิชาพื้นฐานการสร้าง เว็บไซต์ เร่ือง การใช้งาน แท็ก HTML จากนั้น ผู้วิจัยจึงได้มอบหมายให้นักศึกษาทั้ง 19 คน ไปท่าการศึกษาจาก บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ ท่ีผู้วิจัยได้จัดเตรียมไว้ให้กับนักศึกษา จากน้ันให้นักศึกษาท้ัง 19 คน ท่า แบบทดสอบใหม่อีกครงั้ เพ่ือใหผ้ ลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของผเู้ รยี นผ่านเกณฑ์ทกี่ า่ หนด ทฤษฎที ี่เก่ียวขอ้ ง 1. การใชส้ อื่ การสอน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 240 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== สื่อการสอนมีอยู่หลากหลายรูปแบบหลากหลายประเภท การเลือกสื่อการสอนมีความส่าคัญมากต่อ กระบวนการเรียนการสอน ในทน่ี ีจ้ ะน่าเสนอเฉพาะแนวคิดของโรมิสซอวส์ ก้ี และแนวคิดของเคมพแ์ ละสเมลไล 2. การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ ใช้ส่ือการสอนแบบ WBI หรือ Web Base Instruction เพื่อเป็นการจัดกิจกรรมการสอนในรูปแบบของ Web Knowledge Based โดยใชเ้ ทคโนโลยที างของ Webpage เป็นศูนย์กลางในการน่าเสนอเน้ือหา หรือ ด่าเนิน กจิ กรรม หรอื ที่เรานยิ มเรยี กกันติดปากว่า “การเรียนการสอนแบบ Online” 3. เครือ่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการสรา้ งสอ่ื เคร่ืองมอื ท่ใี ชใ้ นการสร้างบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนผา่ นเว็บ ได้แก่ Adobe Dreamweaver CS6 เป็น โปรแกรมทชี่ ว่ ยในการสรา้ งเว็บไซต์ โปรแกรม Camtasia Studio 9 ใช้ในการตัดต่อวิดีโอที่ใช้ในการสาธิตวิธีการใช้ งาน และโปรแกรม Adobe Photoshop CS6 ใชใ้ นการตดั ต่อภาพนิง่ 4. สถิติทใ่ี ช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มูล งานวจิ ัยครัง้ นี้ ผูว้ ิจัยได้เลือกใช้สถิตใิ นการวิเคราะหข์ ้อมูล ได้แก่ การหาค่าเฉล่ีย การหาค่าร้อยละ การหา คา่ ความเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และเกณฑ์การใหค้ า่ คะแนนตามลา่ ดบั 5. งานวจิ ัยที่เกยี่ วข้อง ผู้วิจัยได้ทา่ การศกึ ษาทฤษฎีทเ่ี ก่ยี วข้องจาก งานวจิ ัยตา่ งๆ ไดแ้ ก่ 5.1 วสันต์ ค่าเขียว พิจิตรา ธงพานิช และพรศักดิ์ ยตะโคตร (2557 : บทคัดย่อ) วิจัยเรื่อง การ เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน ความคงทน และความพึงพอใจในการเรยี นวิชาคอมพิวเตอร์ เรือ่ ง คอมพิวเตอร์ เบือ้ งตน้ 5.2 รัชฎาภรณ์ ขนานแข็ง สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ และอัชชา เขตบ่ารุง (2558 : บทคัดย่อ) วิจัยเร่ือง การ เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและทักษะด้านฐานสมรรถนะวิชาชีพ ในรายวิชาคอมพิวเตอร์เพื่องานอาชีพ เร่ือง การใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 ส่าหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 2 สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ ทเี่ รียนด้วยบทเรียนบนเครอื ขา่ ยแบบ T5 Model กบั การเรียนแบบปกติ วิธีด่าเนนิ การวจิ ัย 1. ศึกษาทมี่ าของปญั หา นักศึกษาท่าแบบทดสอบ เพื่อวดั ความรู้ทจ่ี ะนา่ ไปใชใ้ นการเขียนเว็บไซต์ จ่านวนท้ังหมด 29 คน ผลปรากฏว่า มีนักศึกษาท่าแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ จ่านวน 10 คน และมีนักศึกษาท่าแบบทดสอบไม่ผ่านเกณฑ์ตามท่ีก่าหนด คือ ร้อยละ 50 จ่านวน 19 คน 2. เครอื่ งมือในการวจิ ยั 2.1 บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนผ่านเวบ็ เร่อื ง การใช้งาน แท็ก HTML เบือ้ งต้น เพื่อใชใ้ นรายวชิ า พ้ืนฐานการสรา้ งเวบ็ ไซต์ 2.2 แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น 2.3 เกณฑก์ ารวัดผลสมั ฤทธิ์ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2.4 แบบสอบถามความพึงพอใจของนกั ศึกษาทม่ี ตี ่อบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนผ่านเวบ็ เรอ่ื ง การใช้ งาน แท็ก HTML เบื้องตน้ ในรายวิชาพนื้ ฐานการสรา้ งเว็บไซต์ 3. การสรา้ งเครอ่ื งมือท่ใี ช้ในงานวจิ ยั---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 241 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 3.1 บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ เร่ือง การใช้งาน แท็ก HTML เบ้ืองต้น เพ่ือใช้ในรายวิชา พื้นฐานการสร้างเว็บไซต์ มีข้ันตอนการสร้าง 4 ข้ันตอน ได้แก่ การวิเคราะห์เนื้อหา การออกแบบโครงสร้างของ บทเรียน การสร้างเน้ือหาลงบนคอมพิวเตอร์ และการตรวจสอบความถูกต้องเน้ือหาของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย สอนผา่ นเว็บ 3.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผู้วิจัยได้ท่าการสร้างเคร่ืองมือในการวิจัย โดยศึกษา วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอบเขตเนื้อหา ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ สร้างแบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จา่ นวน 10 ข้อ 3.3 แบบสอบถามความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ เรื่อง การใช้งาน แท็ก HTML เบอื้ งตน้ รายวชิ าพ้ืนฐานการสรา้ งเวบ็ ไซต์ ผลการวจิ ยั ผลจากการวิจัยพบว่า เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บและท่า แบบทดสอบ ผลปรากฏว่าผ่านเกณฑ์ จ่านวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 89.5 และไม่ผ่านเกณฑ์จ่านวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 10.5 ซ่ึงตรงตามสมมติฐานที่ตง้ั ไวค้ ือมากกวา่ รอ้ ยละ 80 และผลการวเิ คราะห์ความพึงพอใจของนักศกึ ษาท่มี ี ต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ ความพึงพอใจเฉลี่ยรวม 3.96 และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.96 อยู่ใน ระดับความพึงพอใจมาก ซ่ึงประกอบด้วย 1)ด้านการน่าเสนอเนื้อหา มีความพึงพอใจเฉล่ีย 4.00 ค่าเบ่ียงเบน มาตรฐาน 0.88 2)ด้านการออกแบบมีความพึงพอใจเฉลี่ย 3.93 ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.99 และ3)ด้านประโยชน์ ของสือ่ มีความพงึ พอใจเฉล่ีย 3.96 และค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 0.96 ซง่ึ เปน็ ไปตามสมมติฐานท่ีต้งั ไว้ การอภปิ รายผล 1. ผลสัมฤทธจ์ิ ากการทา่ แบบทดสอบโดยใชบ้ ทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ นักศึกษาท่ีได้รับการสอนแบบวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ มี ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน มากกว่าร้อยละ 80 ได้แก่นักศึกษาท่าแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ จ่านวน 17 คน คิดเป็นร้อย ละ 89.5 ซึง่ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านที่ตั้งไว้ 2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาทม่ี ตี อ่ บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนผ่านเวบ็ 2.1 ด้านการน่าเสนอเน้ือหา ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ วิชาพื้นฐาน การสร้างเว็บไซต์ เรื่อง การใช้งาน แท็ก HTML เบื้องต้น มีความพึงพอใจเฉลี่ยเท่ากับ 4.00 และค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน 0.88 ซึ่งอยูใ่ นระดบั ความพงึ พอใจมาก เปน็ ไปตามสมมตฐิ านท่ตี ั้งไว้ 2.2 ด้านการออกแบบ ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนผ่านเว็บ วิชาพ้ืนฐานการ สร้างเว็บไซต์ เร่ือง การใช้งาน แท็ก HTML เบื้องต้น มีความพึงพอใจเฉลี่ยเท่ากับ 3.93 และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.99 ซึ่งอย่ใู นระดับความพงึ พอใจมาก เปน็ ไปตามสมมตฐิ านทีต่ ัง้ ไว้ 2.3 ดา้ นประโยชน์ของสอ่ื ผ้ตู อบแบบสอบถามที่ใช้บทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนผ่านเว็บ วชิ าพ้ืนฐานการ สรา้ งเว็บไซต์ เรอ่ื ง การใช้งาน แท็ก HTML เบื้องต้น มีความพึงพอใจเท่ากับ 3.96 และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.96 ซึ่งอยใู่ นระดับความพงึ พอใจมาก เป็นไปตามสมมติฐานทต่ี งั้ ไว้ บรรณานกุ รม กมลวรรณ สารสม. adobe photoshop cs6. คอื . [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก :---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 242 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== https://sites.google.com/site/khwamruphunthanphotoshopcs6/1-khunsmbati-phun- than-khxng-porkaerm/. (วนั ทีค่ น้ หาขอ้ มูล : 12 มกราคม 2561). บญุ ชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจยั เบ้ืองต้น. พิมพค์ รั้งท่ี 7. กรงเทพฯ : สุวีรยิ าสาส์น รัชฎาภรณ์ ขนานแขง็ , สทุ ธพิ งศ์ หกสุวรรณ และ อชั ชา เขตบ่ารุง, 2558. “การเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น และทักษะดา้ นฐานสมรรถนะ,” วารสารมหาวทิ ยาลยั นครพนม. ปที ่ี 5, ฉบบั ท่ี 1 : (มกราคม - เมษายน 2558) วสนั ต์ คา่ เขยี ว พจิ ิตรา ธงพานชิ และ พรศกั ดิ์ ยตะโคตร, 2557. “การเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ความ คงทน และความพงึ พอใจในการเรยี นวิชาคอมพวิ เตอร์ เรื่อง คอมพิวเตอร์เบ้อื งตน้ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นแบบบทเรยี นเว็บเควสท์กับการจดั การเรียนรแู้ บบดง้ั เดิม,” วารสาร มหาวทิ ยาลัยนครพนม. ปีท่ี 7, ฉบบั ที่ 1 : (มกราคม - เมษายน 2560) khanittakuldee. การใชส้ ื่อการสอน. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://khanittakuldee.wordpress.com. (วันท่ีค้นหาขอ้ มลู : 10 มกราคม 2561). udomchaiboonrod. ความรูเ้ บ้อื งตน้ เก่ยี วกับ WBI. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/udomchaiboonrod/wbi. (วนั ที่คน้ หาข้อมลู : 15 มกราคม 2561). banthitablog. การเรยี นการสอนแบบออนไลน.์ [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://banthitablog.wordpress.com/. (วนั ที่คน้ หาข้อมลู : 12 มกราคม 2561). mindphp. โปรแกรม Adobe Dreamweaver. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก : http://www.mindphp.com/adobe dreamweaver คืออะไร. (วนั ทค่ี น้ หาข้อมูล : 5 มกราคม 2561).---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 243 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ศกึ ษาปัจจยั ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ การขาดสง่ การบ้านของนักเรียนในรายวิชา คอมพิวเตอร์ และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี สาขาชา่ งยนต์ หอ้ ง 3,4 วทิ ยาลยั เทคนคิ ยโสธร ธรี ยทุ ธ ตาลทรพั ย์ และสรุ กิจ อภิรักษากร บทคดั ย่อ การวิจัยคร้ังนี้เป็นการศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านของนักเรียนในรายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ สาขาช่างยนต์ ห้อง 3,4 วิทยาลัยเทคนิคยโสธร กลุ่มตัวอย่าง 6 คน เครอ่ื งมือที่ใช้ในงานวิจัยคือแบบสอบถามปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านของนักเรียน ประกอบด้วย 2 ตอน ได้แก่ ข้อคาถามปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านของนักเรียน จานวน 15 ข้อ และข้อเสนอแนะ อ่นื ๆ มกี ารเกบ็ ข้อมูลโดยการแจกแบบสอบถามให้แก่กลุ่มตัวอย่าง นาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ การ หาค่าเฉล่ีย และการหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านของ นักเรียนที่เป็นปัจจัยในระดับมากที่สุด 3 ลาดับ ได้แก่ นักเรียนเตรียมตัวสอบเก็บคะแนน ( ̅= 4.00, S.D.= 0.75) และนักเรียนช่วยเหลืองานผู้ปกครอง ( ̅= 4.00, S.D.= 0.75) ลาดับรองลงมา นักเรียนทากิจกรรมของวิทยาลัย ( ̅= 3.00, S.D.= 1.37) นักเรียนทากิจกรรมกับผู้ปกครองข้างนอก ( ̅= 2.80, S.D.= 1.21) ซึ่งผลจากการวิจัย สอดคล้องกบั สมมตฐิ านที่ต้งั ไว้ คาสาคัญ : การขาดสง่ การบา้ น , ปัจจยั ท่ีสง่ ผลกระทบต่อการขาดส่งงาน Abstract The research is about the factors of effect why student not send homework as scheduled in Computer and Information Technology for Career automotive program Room 3,4 Yasothon technical college example group 6 people. The instrument are used in the research is questionnaire about the factors of effect why student not send homework as scheduled. Incliding 2 part the factors of effect why student not send homework as scheduled about 15 items and recommendation. The collection data we give out to example groups by questionnaires. The data were analyzed by using statistics average and standard deviation. The findings are factors of effect why student not send homework as scheduled have 3 levels, first student prepare for a test (4.00 standard deviation 0.75) and help parents work at home (4.00 standard deviation 0.75) second students joined activities of college (3.00 standard deviation 1.37) students joined activities with parents (2.80 standard deviation 1.21). The results are consistent with the hypothesis. Keywords : not send homework, the effect why not send homework. คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแกน่ E-mail : nameaum@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 244 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา การเรียนการสอนในปัจจุบันจะแบ่งคะแนนออกเป็นสองส่วน คือ คะแนนเก็บก่อนสอบปลายภาค ซ่ึงคิด เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนทั้งหมด โดยใน 60 เปอร์เซ็นต์น้ันผู้วิจัยได้เก็บคะแนนโดยการสอบเป็นราย จดุ ประสงค์และการสง่ งานของนักเรียน ดังนั้นการทาใบงานและการบ้านส่งครูของนักเรียนจึงเป็นเร่ืองที่สาคัญมาก ในการเรียนการสอนเพราะนอกจากจะมีคะแนนในส่วนของใบงานและการบ้านถ้าหากนักเรียนไม่ได้ทา ใบงานท่ีครู แจกใหน้ กั เรยี นกจ็ ะขาดคะแนนเกบ็ ในส่วนน้ันและครกู ไ็ ม่สามารถประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจของนกั เรยี นได้ ในช่วงแรกของการสอน ครูได้ใช้ใบงานและใบความรู้แจกให้กับนักเรียนทุกคนประกอบการสอนในแต่ละ ชัว่ โมง โดยที่ใบงานและใบความรูท้ แ่ี จกให้นักเรียนเก็บเป็นของตนเอง ซ่ึงมบี างเรือ่ งตอ้ งนามาเรยี นในคาบต่อไป เมื่อ ถงึ เวลาเรียน มีนกั เรียนไมไ่ ด้นาใบงานมาเรียน เม่ือครูผู้สอนถามถึงสาเหตุ นักเรียนอ้างสาเหตุต่างๆ เช่น ลืมเอาใบ งานมา ทาใบงานหาย ครูจึงให้นักเรียนท่ีไม่ได้นาใบงานมาเรียนในคาบนี้ ให้นาใบงานมาในคาบหน้า ซึ่งปรากฏว่า บางสว่ นไมน่ าใบงานมาให้ครูดู เมื่อครูทาการสอนผ่านไปช่วงหนึ่ง ครูสังเกตได้ว่าบางส่วนไม่ทางานส่ง อาจเกิดจาก ช่วงแรกครใู ห้นักเรยี นทางานทุกคร้ังและใหท้ าการบ้านเป็นคะแนนเก็บทุกคร้ัง นักเรียนท่ีขาดคาบใดคาบหนึ่งมักจะ ทางานตามเพอ่ื นไม่ทัน จงึ ไปสสู่ าเหตขุ องการไม่สง่ การบา้ น จากการท่ีผู้สอนได้สอนในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ของนักเรียนในระดับช้ัน ปวช.1 สาขาช่างยนต์ ห้อง 3,4 พบว่านกั เรยี นส่วนใหญ่จะส่งงานและการบ้านตรงตามเวลาท่ีครูผู้สอนกาหนด แต่มี นักเรียนบางส่วนส่งงานและการบ้านไม่ตรงตามท่ีกาหนด ซึ่งทาให้ครูผู้สอนไม่สามารถวัดความรู้ หรือติดตาม ความก้าวหนา้ ของนักเรยี นไดซ้ ง่ึ มีผลตอ่ คะแนนเกบ็ ของนกั เรยี นด้วย ดังนน้ั ผ้วู จิ ัยซงึ่ ในฐานะท่เี ป็นทั้งครผู ้สู อนและครู ประจาวิชาเห็นความสาคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ทาการวิจัยเพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่ง การบ้านของนักเรยี นในรายวชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ สาขาช่างยนต์ หอ้ ง 3,4 ทฤษฎี และงานวจิ ัยท่เี กย่ี วขอ้ ง 1.พฤตกิ รรม พฤติกรรม หมายถึง กิริยาอาการต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนกับมนุษย์หรือท่ีมนุษย์ได้แสดง หรือปฏิกิริยาท่ี เกดิ ขึ้นกับมนษุ ยเ์ มอ่ื ไดเ้ ผชิญกบั ส่งิ เร้า พฤตกิ รรมต่าง ๆ ท่ีกล่าวมาแล้ว อาจจะจาแนกออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1) พฤติกรรมท่ีไม่สามารถควบคุมได้เรียกว่า เป็นปฏิกิริยาสะท้อน 2) พฤติกรรมท่ีสามารถควบคุมและจัดระเบียบได้ เนื่องจากมนษุ ย์มีสติปัญญา และอารมณ์ รูปแบบพฤติกรรมของมนุษย์ แบ่งได้เป็น 2 อย่างคือ 1) พฤติกรรมเปิดเผยหรือพฤติกรรม ภายนอก เป็นพฤติกรรมที่บุคคลแสดงออกมา ทาให้ผู้อื่นสามารถมองเห็นได้ สังเกตได้ เช่น การเดิน การหัวเราะ การพดู ฯลฯ 2) พฤตกิ รรมปกปดิ หรอื พฤติกรรมภายใน เป็นพฤติกรรมที่บคุ คลแสดงแลว้ แตผ่ ูอ้ ่นื ไมส่ ามารถมองเห็น ได้ สังเกตได้โดยตรงจนกว่าบุคคลน้ันจะเป็นผู้บอกหรือแสดงบางอย่างเพื่อให้คนอ่ืนรับรู้ได้ เช่น ความคิด อารมณ์ การรับรู้ 2.ความหมายของการบา้ น กดู๊ ( Good , 1973 : 224 ) กล่าวว่า การบ้าน หมายถงึ งานท่คี รมู อบหมายให้นักศึกษา กลับไป ทาทบี่ า้ น เพอื่ ทบทวนความร้ทู ่เี รียนไปแลว้ และเป็นการฝกึ ทักษะ การใชก้ ฎ หรอื สตู รต่างๆ ท่เี รียนไปแล้ว ไพโรจน์ โตเทศ ( 2529 : 9-12 ) กลา่ วถึงการบ้านไว้ว่า การบ้านเป็นงานท่ีครูผู้สอน มอบหมาย ใหน้ กั ศกึ ษาไปทาทบ่ี ้าน เพอ่ื เปน็ การทบทวนความรู้ที่นกั ศึกษาได้เรยี นไปแลว้ จากโรงเรยี น ประการหน่ึง อกี ประหน่ึง---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 245 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== เป็นการให้งานที่มุ่งวางพื้นฐานในการเรียนต่อไป เพื่อความเข้าใจตรงกัน หรือความง่ายต่อการสอนในเน้ือหาวิชา ตอ่ ไป จินตนา ใบกาซูยี ( 2531 : 40 ) กล่าวถึงการบ้านไว้ว่า หมายถึง สิ่งจาเป็นที่เด็กทุกช้ัน จะต้อง ปฏบิ ตั ิ ทาให้เด็กรจู้ ักวนิ ัย รู้จักควบคุมตนเอง มคี วามรับผิดชอบตอ่ ตนเอง แบ่งเวลาเปน็ และรู้จักเรยี นด้วยตนเอง 3. แนวคดิ ทฤษฎีทีเ่ ก่ยี วข้องกับการบา้ น วัตถุประสงค์ของการบ้าน สแตรง ( Strang , 1960 อ้างถึงใน สุขดี ตั้งทรงสวัสดิ์. 2533 : 9 ) กลา่ วถึงวตั ถุประสงค์ ของการมอบหมายการบา้ นไว้ดังน้ี 1) เพื่อช่วยกระตุ้นให้นักศึกษามีความพยายาม ความคิดริเร่ิม ความเป็นอิสระ มีโอกาสใช้ ความคิดของตนเอง 2) ส่งเสริมให้นักศึกษาใช้เวลาว่างจากการเรียนในโรงเรียนให้เป็นประโยชน์ 3) เพื่อเพิ่มพูน ประสบการณท์ ่ไี ด้รับจากโรงเรยี นโดยทากจิ กรรม 4) สนับสนุนการเรียนรู้โดยมกี ารเตรียมตัวฝกึ ปฏิบตั ิ 4.ประเภทของการบา้ น สาอาง สหี าพงษ์ ( 2531 : 43 - 47) แบ่งการบา้ นออกเป็น 3 ประเภท คอื 1) ภาคความรู้ คือ การบ้านที่เป็นเร่ืองทักษะ ความรู้ ความคิด เช่น การศึกษาค้นคว้าทา รายงาน การหาขา่ ว ทาแบบฝึกหัด การตอบคาถาม การเตมิ คาการอ่านหนังสือเพ่ิมเติม 2) ภาคปฏิบัติ คือ การบ้าน ทท่ี าด้วยมอื เพอื่ กอ่ ใหเ้ กดิ ความชานาญและประสบการณ์ เชน่ การทากระบวยตักนา้ การจัดนทิ รรศการ การตอนก่ิง ไม้ การทดลองต่างๆ เป็นต้น 3) ประเภทให้ประโยชน์สาธารณะ เช่น การช่วยงานโรงเรียน การเข้าร่วมกิจกรรม ชุมนมุ และการเขา้ ร่วมกจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ เป็นต้น 5.ลักษณะของการบ้าน การบ้านเปน็ ส่วนหน่ึงของกิจกรรมการเรียนการสอน ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้และ ทัศนคติ ของผู้เรียนเปน็ อยา่ งย่ิง ดังนั้น จึงเปน็ หนา้ ท่ขี องครใู นการจัดการบ้านทดี่ ใี หแ้ กน่ กั ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (2539 : 5 – 6) ไดก้ ลา่ วถึงคุณลักษณะทดี่ ีของการบ้านไวด้ งั นี้ 1) ตรงตามหลักการ จุดหมาย และจุดประสงค์ของหลักสูตร 2) สัมพันธ์และสอดคล้องกับจุดประสงค์รายวิชา และแผนการเรียนการสอน 3) ชัดเจน ไม่มากและยากเกินไป สอดคลอ้ งกบั สภาพชวี ติ และความเป็นอยู่ของนักศึกษา 4) ย่วั ยแุ ละทา้ ทายความถนดั ความสามารถ และความสนใจ ของนักศึกษา 5) ส่งเสริมและพฒั นาการ ดา้ นความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์ของนกั ศกึ ษา 6) ใชเ้ วลาพอเหมาะกับ วยั และความสามารถของนักศึกษา 6. งานวิจยั ท่ีเกีย่ วข้อง พรรณี ชุติวัฒนธาดา (2544) ทาวิจัยในช้ันเรียน เร่ือง พฤติกรรมการไม่ส่งงานตามกาหนดของ นักเรียนช้ัน ม.5/5 ประจาภาคเรียนที่ 1/2544 จานวน 6 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาหาสาเหตุท่ีทาให้ นักเรยี นทง้ั 6 คน ไมส่ ่งงานตามกาหนดและเพอื่ หาวิธกี ารให้นักเรียนทั้ง 6 คนส่งงานตามกาหนด ซึ่งได้สรุปผล จาก การสัมภาษณ์ครู เพื่อน ตัวนักเรียน ผลงานของนักเรียน และจากการสังเกตพฤติกรรมในขณะเรียนใน ห้องเรียน พบว่า สาเหตุท่ีทาใหน้ กั เรยี นท้ัง 6 คน ไม่สง่ งานพร้อมเพ่อื นมาจากไม่มแี บบเรยี น ไมเ่ ขา้ ใจใน บทเรยี นและมีพื้นฐาน ทางภาษา อยูใ่ นเกณฑต์ ่างๆ จึงไมส่ ามารถทาแบบฝึกหดั ท้ายบทเรยี นได้ ตอ้ งรอให้เพ่อื นทา สง่ กอ่ นแล้วลอกเพื่อนมา ส่งครู เพยี งเพอ่ื ให้มีงานส่งได้ครบตามเกณฑ์ และไม่ตดิ “ร” และไดน้ าผลการ วเิ คราะห์ไปปรกึ ษาผรู้ ่วมงานและถาม ความคิดเห็นของนักเรียนทั้งห้อง เพ่ือหาแนวทางแก้ไข ได้ข้อสรุปว่า ครู ควรกาหนดวันที่แน่นอนที่จะต้องใช้ แบบเรยี นและสามารถให้นักเรยี นของยมื แบบเรียนเพื่อใชใ้ นคาบเรียนได้ สุธี สุกิจธรรมภาณ (2552) ทาวิจัยในช้ันเรียน เร่ือง การศึกษาพฤติกรรมการไม่ส่งงานหรือ การบ้าน ของนักศึกษา ระดับ ปวส. ชั้นปีที่ 2 กลุ่ม 2 แผนกวิชาช่างไฟฟ้ากาลัง วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการไม่ส่งงานหรือการบ้านของนักศึกษา ผลการวิจัยพบว่า สาเหตุของการไม่ ส่ง---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 246 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== งานหรือการบ้าน ลาดับท่ี 1 คือ การให้งานท่ีมอบมากเกนิ ไป และแบบฝึกหดั ยาก ทาไม่ได้ โดยคิดจาก นักศึกษา 38 คน ที่เลือกเปน็ สาเหตอุ นั ดับท่ี 1 และ 2 จานวน 23 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 65.85 วธิ ีการดาเนินการวิจยั 1. ประชากรกลมุ่ ตวั อย่างและกลมุ่ ตวั อยา่ ง ประชากร ไดแ้ ก่ นกั เรียนระดบั ชั้นประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปีท่ี 1 สาขาช่างยนต์ ห้อง 3,4 ทีก่ าลัง ศึกษาในวทิ ยาลยั เทคนิคยโสธร ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 จานวน 32 คน กลุ่มตวั อย่าง ได้แก่ นักเรยี นระดบั ชน้ั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ปีที่ 1 สาขาช่างยนต์ ห้อง 3,4 ที่ กาลงั ศกึ ษาในวิทยาลัยเทคนคิ ยโสธร ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 6 คน 2. เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านของ นักเรียน ประกอบด้วย 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ข้อคาถามปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านของนักเรียน จานวน 15 ขอ้ ตอนที่ 2 ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ 3. วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การเก็บรวบรวมแบบสอบถามด้วยตนเองและนาข้อมูลท่ีได้ท้ังหมดจากแบบสอบถามมาทาการ วิเคราะห์ขอ้ มลู 4. วธิ ีการวเิ คราะหข์ อ้ มูล ใช้แบบประเมินแบบมาตราส่วนประมาณค่า ตามแนวคิดของลเิ คิรท์ (Likert Scale) โดย แบ่งเป็น 5 ระดับ ดงั ตอ่ ไปน้ี คะแนนเฉลยี่ ระหวา่ ง 4.51 - 5.00 เปน็ ปัจจยั ในระดบั มากทสี่ ดุ คะแนนเฉลย่ี ระหวา่ ง 3.51 - 4.50 เปน็ ปจั จยั ในระดบั มาก คะแนนเฉลยี่ ระหวา่ ง 2.51 - 3.50 เป็นปจั จัยในระดับปานกลาง คะแนนเฉลยี่ ระหว่าง 1.51 - 2.50 เปน็ ปจั จัยในระดับมาก คะแนนเฉลย่ี ระหว่าง 1.00 - 1.50 เปน็ ปจั จัยในระดบั น้อยท่สี ดุ สถติ ทิ ี่ใชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล การหาค่าเฉลี่ย ̅ การหาคา่ สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจยั จากการเก็บข้อมูลปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพื่องานอาชพี ของนกั เรียนจากกลมุ่ ตัวอยา่ งทง้ั หมด มีการนาเสนอผลการวิจยั ดังต่อไปนี้ ปจั จัยทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ การขาดส่งการบ้านในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพในแต่ ละข้อคาถาม ได้ผลดังตอ่ ไปน้ี ตารางท่ี 4.1 ค่าเฉลี่ย ( ̅) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านใน รายวชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพในแต่ละข้อคาถาม ของนกั เรยี นจากกลมุ่ ตัวอยา่ งท้ังหมด---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 247 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ข้อคาถาม ̅ S.D. ความหมาย1. การบ้านมากเกนิ ไป2. นกั เรยี นเตรียมตัวสอบเก็บคะแนน 1.60 0.82 น้อย3. แบบฝกึ หดั ยากทาไมไ่ ด้4. นักเรียนไมไ่ ดน้ าสมดุ มา 4.00 0.75 มาก5. นกั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจคาสัง่6. การบ้านไม่น่าสนใจ 1.80 0.41 นอ้ ย7. นกั เรียนรสู้ ึกเบ่อื หน่าย ไมอ่ ยากทา8. นักเรียนทาหนงั สือหาย 1.60 0.55 นอ้ ย9. นักเรยี นลืมทาการบา้ น10. นกั เรียนไมม่ คี นคอยให้คาปรกึ ษา 1.60 0.84 น้อย11. นกั เรยี นทากจิ กรรมกับผู้ปกครองข้างนอก12. นกั เรียนช่วยเหลอื งานผปู้ กครอง 1.40 0.55 น้อย13. เวลาในการทาการบา้ นน้อย14. นกั เรียนทากิจกรรมของวิทยาลัย 1.00 0.82 นอ้ ย15. อาจารยอ์ ธบิ ายเร็ว 1.60 0.84 น้อย 1.60 0.98 นอ้ ย 1.40 0.82 นอ้ ย 2.80 1.21 ปานกลาง 4.00 0.75 มาก 1.60 0.98 นอ้ ย 3.00 1.37 ปานกลาง 1.60 0.55 นอ้ ย จากตารางที่ 4.1 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพท่ีเป็นปัจจัยในระดับมาก ได้แก่ นักเรียนเตรียมตัวสอบเก็บคะแนน ( ̅= 4.00, S.D.= 0.75) และนักเรียนช่วยเหลืองานผู้ปกครอง ( ̅= 4.00, S.D.= 0.75) ปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านในรายวิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพทเ่ี ปน็ ปจั จัยในระดับปานกลาง โดยเรียงลาดับจากข้อที่มีค่าเฉล่ีย ̅ จากน้อยไปหามาก ได้แก่ นักเรียนทากิจกรรมกับผู้ปกครองข้างนอก ( ̅= 2.80, S.D.= 1.21) และนักเรียนทากิจกรรมของวิทยาลัย ( ̅= 3.00, S.D.= 1.37) ปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพทเ่ี ป็นปัจจัยในระดับน้อย โดยเรียง 3 ลาดับแรกจากข้อท่ีมีค่าเฉล่ีย ̅ จากน้อยไปหามากนักเรยี นไม่มคี นคอยให้คาปรึกษา ( ̅= 1.40, S.D.= 0.82) การบ้านมากเกินไป ( ̅= 1.60, S.D.= 0.82) แบบฝึกหัดยากทาไม่ได้ ( ̅= 1.80, S.D.= 0.41)สรปุ และการอภปิ รายผล ผลจากการวิจัยพบว่าปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพที่เป็นปัจจัยในระดับมากที่สุด 3 ลาดับ ได้แก่ นักเรียนเตรียมตัวสอบเก็บคะแนน ( ̅=4.00, S.D.= 0.75) และนักเรียนช่วยเหลืองานผู้ปกครอง ( ̅= 4.00, S.D.= 0.75) ลาดับรองลงมา นักเรียนทากิจกรรมของวิทยาลัย ( ̅= 3.00, S.D.= 1.37) นักเรียนทากิจกรรมกับผู้ปกครองข้างนอก ( ̅= 2.80, S.D.= 1.21)ตามลาดบั ซงึ่ ผลจากการวจิ ยั สอดคลอ้ งกับสมมตฐิ านท่ีตัง้ ไว้ จากผลการวิจัยพบว่าปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการขาดส่งการบ้านในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพท่ีเป็นปัจจัยในระดับมากท่ีสุดลาดับที่ 1 ได้แก่ นักเรียนเตรียมตัวสอบเก็บคะแนน ซึ่งอาจเกิดจากนักเรียนใช้เวลาในการอ่านหนังสือหรือเตรียมตัวสอบ จึงทาให้นักเรียนไม่มีเวลาในการทาการบ้านส่ง และ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 248 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== นักเรียนช่วยเหลืองานผู้ปกครอง ซึ่งนักเรียนบางคนอาจจะมีภาระหน้าท่ีในครอบครัว จึงทาให้ละเลยในการทา การบ้าน ลาดับรองลงมา นักเรียนทากิจกรรมของวิทยาลัย เนื่องจากทางวิทยาลัยจัดกิจกรรมบ่อยและถ่ีในเทอมนี้ เกินไปจึงทาให้ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของวิทยาลัย จึงทาให้ผู้เรียนไม่กระตือรือร้น และลาดับสุดท้าย นักเรียนทากิจกรรมกับผู้ปกครองข้างนอก ซ่ึงอาจเกิดจากการเล้ียงดูของผู้ปกครอง เวลาไปไหนมาไหนนักเรียน อาจจะไปกับผปู้ กครองตลอดเวลา จงึ ทาให้นักเรียนเกดิ ความไมอ่ ยากทาการบ้านสง่ กิตตกิ รรมประกาศ วิจัยฉบับนไี้ ด้รบั การช่วยเหลอื อย่างย่งิ จาก อาจารยส์ รุ กิจ อภิรกั ษากร อาจารย์ท่ีปรึกษาวิจัย ซึ่งกรุณา ใหค้ าแนะนาและถ่ายทอดความรู้ ตลอดจนควบคุมการทาวิจัยจนประสบความสาเร็จ ผู้ทาวิจัยขอกราบขอพระคุณ เปน็ อยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ขอกราบขอบพระคุณ ผศ.ดร.จารวุ รรณ ทูลธรรม ทกี่ รณุ าถา่ ยทอดความรู้ตลอดระยะเวลาในการศกึ ษา รวมท้ังบุคคลท่ีปรากฏตามรายการอ้างอิงท่ีผู้ทาวิจัยใช้อ้างอิงขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านของแผนกเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ วทิ ยาลยั เทคนคิ ยโสธร บรรณานกุ รม พรรณี ชตุ วิ ฒั นธาดา. (2544). พฤตกิ รรมการไม่ส่งงานตามกาหนดของ นักเรียนชั้น ม.5/5 ประจาภาคเรยี นท่ี 1/2544 จานวน 6 คน . วภิ าพรรณ เจริญกุล. (2559). การศึกษาสาเหตกุ ารไม่ส่งการบา้ นตามกาหนดในวชิ าจิตวทิ ยาเพ่อื การพัฒนาตน ของ นักศกึ ษาช้ันปีที่ 1 หลกั สูตรคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศนู ยต์ รัง. สุธี สกุ ิจธรรมภาณ. (2552). การศกึ ษาพฤติกรรมการไมส่ ่งงานหรอื การบา้ น ของนกั ศกึ ษา ระดับ ปวส. ช้นั ปีท่ี 2 กลมุ่ 2 แผนกวชิ าชา่ งไฟฟา้ กาลงั วทิ ยาลยั เทคนคิ สุโขทยั . พฤตกิ รรม. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://www.novabizz.com/NovaAce/Behavior/ (วันทค่ี ้นหาข้อมลู ธันวาคม พ.ศ.2560)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 249 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การพัฒนาทักษะ เร่ือง การประยุกต์ใช้โปรแกรมสาเร็จรูปด้านงานเอกสารด้วย โปรแกรม Microsoft Word ด้วยสื่อวิดีโอการสอน สาหรับนักศึกษาประกาศนียบัตร วชิ าชพี ชนั้ สูง ระดับชั้นปีที่ 1/2 สาขาวิชาโยธา และระดับช้ันปีที่ 2/2 สาขาวิชาไฟฟ้า กาลงั วทิ ยาลัยการอาชพี นวมินทราชินีมุกดาหาร วัชรวิทย์ พมิ พพ์ รหม1* และทองทวี จติ พรมมา2 บทคดั ย่อ การวจิ ยั คร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะการใช้โปรแกรม Microsoft Word 2) เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิก่อนและหลังใช้บทเรียนสื่อวิดีโอการสอน เร่ือง การใช้โปรแกรม Microsoft Word พ้นื ฐาน มีเครือ่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการวจิ ัยคอื 1) แผนจดั การเรียนโดยใช้ส่ือวิดีโอการสอนเรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word พ้ืนฐาน จากหน้าเว็บไซต์ Youtube ช่อง Irp2com 2) แบบประเมินทักษะปฏิบัติ 4 ชุด ได้แก่ การจัดการ ตาราง ตกแตง่ ตาราง, การทาจดหมายเวยี น, การแทรกรูปภาพ สัญลกั ษณ์ อักษรศลิ ป์ และการจัดรูปแบบอักษรและ เอกสาร ผลการวจิ ัยพบวา่ กลุม่ ตัวอย่างมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลงั จากใช้แผนจัดการเรียนโดยใชส้ อื่ วิดโี อการสอน เรื่อง การใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word สูงขึ้น คาสาคัญ : การพัฒนาทักษะการใช้โปรแกรม Microsoft Word, ส่ือวิดีโอการสอนการใช้โปรแกรม Microsoft Word Abstract The objective of this research to 1) To develop the knowledge and skills to use microsoft word. 2) To compare the results before and after the lessons media video tutorials about using microsoft word Basics. There is a tool that is used in the Research : 1) Management plans by using the media video tutorials about using microsoft word from the Basic Web site pages, youtube channel irp2com. 2) The Evaluation Skills Practice 4 sets include the Table Disposition decorated table, the mail merge, insert the picture Symbols Wordart and the formatting font and the document. Research has found that the subject is on the results of the study after the management plans by using the media video tutorials about using microsoft word. Keywords : develop skills to use microsoft word. Video Media to teach the use of microsoft word. 1 คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรมวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น * Corresponding E-mail : jame_yen@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 250 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตราท่ี 22 กาหนดไว้ว่า การจัดการศึกษาต้องยึด หลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด กระบวนการ จัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ (พระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ 2542 : 7) และรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ เป็นรายวิชาในหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) กลุ่มทักษะวิชาชีพพ้ืนฐาน และกาหนดให้ผู้เรียนได้ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับ การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 โดยแนวทางการจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนจะสอนทฤษฏีควบคู่การ ปฏบิ ัติ พร้อมทั้งมอบหมายช้นิ งานใหน้ ักศึกษาไดฝ้ กึ ทักษะการพิมพเ์ อกสาร การใช้เครือ่ งมอื ต่างๆ รวมถึงการตกแต่ง และจัดการกบั เอกสารบนโปรแกรม Microsoft Word จากการจัดการเรียนการสอนในชนั้ เรียนของรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ เร่ือง การประยุกต์ใช้โปรแกรมสาเร็จรูปด้านงานเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word พบว่ามีนักศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ช้ันปีท่ี 1/2 สาขาวิชาโยธา และ ชั้นปีท่ี 2/2 สาขาวิชาไฟฟ้ากาลัง บางกลุ่มมี พัฒนาการเรียนรู้ที่ช้า เรียนไม่ทันเพ่ือน ไม่กล้าถามครูผู้สอน ขาดการทบทวนเนื้อหา จึงทาให้ผลสัมฤทธ์ิทางการ เรยี นภายหลังจากจบบทเรยี นไดค้ ะแนนต่ากว่าเกณฑ์ ดังนั้นผู้วิจัยตระหนักถึงปัญหา จึงมีแนวคิดท่ีจะแก้ปัญหากลุ่มของนักศึกษาท่ีมีผลสัมฤทธิ์หลังจากจบ บทเรียนตา่ กว่าเกณฑ์ ด้วยการนาสื่อวดิ ีโอการสอน เร่อื ง การใช้โปรแกรม Microsoft Word พื้นฐาน มาช่วยในการ สอนเสริมและช่วยให้เป็นการทบทวนเนื้อหา เพื่อให้นักศึกษากลุ่มที่มีปัญหามีพัฒนาการทางผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สงู ข้ึน เกิดทักษะการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2010 มากข้นึ และเป็นไปตามจุดมงุ่ หมายของหลักสูตร ทฤษฎีและเอกสารทเี่ กีย่ วข้อง 1. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเป็นความสามารถของนักเรียนในด้านต่างๆ ซ่ึงเกิดจากนักเรียนได้รับ ประสบการณ์จากกระบวนการเรียนการสอนของครู โดยครูต้องศึกษาแนวทางในการวัดและประเมินผล การสร้าง เครอื่ งมอื วดั ใหม้ คี ณุ ภาพนั้น ได้มีผู้ให้ความหมายของผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนไวด้ ังน้ี สมพร เช้ือพันธ์ (2547, หน้า 53) สรุปว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ หมายถึง ความสามารถ ความสาเร็จและสมรรถภาพด้านต่างๆของผู้เรียนที่ได้จากการเรียนรู้อันเป็นผลมาจากการเรียนการ สอน การฝึกฝนหรือประสบการณ์ของแตล่ ะบคุ คลซ่ึงสามารถวัดไดจ้ ากการทดสอบด้วยวธิ กี ารต่างๆ พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข (2548, หน้า 125) กล่าวว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายถึงขนาดของความสาเรจ็ ทีไ่ ดจ้ ากกระบวนการเรียนการสอน ปราณี กองจนิ ดา (2549,หนา้ 42) กล่าว่า ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน หมายถึง ความสามารถหรือ ผลสาเร็จทีไ่ ดร้ บั จากกิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นการเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมและประสบการณ์เรยี นรู้ทางด้านพุทธิ พสิ ัย จติ พิสัย และทกั ษะพิสยั และยังไดจ้ าแนกผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นไวต้ ามลกั ษณะของวตั ถปุ ระสงค์ของการเรียน การสอนทีแ่ ตกตา่ งกัน ดังน้นั จงึ สรุปไดว้ ่าผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น หมายถงึ ผลท่เี กดิ จากกระบวนการเรยี นการสอนท่ีจะ ทาใหน้ ักเรียนเกิดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรม และสามารถวัดได้โดยการแสดงออกมาทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านพุทธิพิสัย ด้านจติ พสิ ัย และด้านทกั ษะพิสยั 2. โปรแกรม Microsoft Word โปรแกรมประมวลผลคาแบบพิเศษ ช่วยให้สร้างเอกสารแบบมอื อาชีพ อย่างมีประสิทธภิ าพและประหยัด เช่น เหมาะกบั งานดา้ นการพิมพเ์ อกสารทุกชนิด สามารถพมิ พเ์ อกสารออกมาเป็น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 251 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ชุด ๆ ซง่ึ เอกสารอาจเป็นจดหมาย บันทึกขอ้ ความ รายงาน บทความ ประวัติย่อ และยังสามารถตรวจสอบ ทบทวน แก้ไข ปรับปรุงความถูกต้องในการพิมพ์เอกสารได้อย่างง่ายดาย สามารถตรวจสอบ สะกดคา และหลักไวยากรณ์ เพิ่มตาราง เพิ่มกราฟิก ในเอกสารได้อย่างง่ายดาย หรือเพิ่มเติมข้อมูลได้ตลอดเวลา สามารถใช้ลักษณะของการ จัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบต้ังโต๊ะ (Desktop Publishing) เพื่อสร้างโบชัวร์ (Brochures) ด้านสื่อ โฆษณา (Advertisements) และจดหมายขา่ ว (Newsletters) ไดด้ ว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา (word Processor) 3. ส่ือวีดิทัศน์ หมายถึง แถบ วัสดุอุปกรณ์ ซึ่งเป็นแถบเคลือบแม่เหล็กสามารถเก็บบันทึกข้อมูลได้ หลายมิติ เช่น ภาพ และเสียง ในรปู แบบของคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า สามารถติดต่อเพม่ิ เติม ลบออกไดโ้ ดยมสี ่ือแพร่ภาพ แพร่เสยี ง เช่น เครอ่ื งรับโทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นเคร่ืองแสดงภาพและเสียง การผลิตวีดิทัศน์ในการศึกษานั้น เป็นเรอ่ื งของการสอ่ื สาร การถ่ายทอดความรู้ผา่ นสื่อ วีดทิ ัศน์ไปยงั กลมุ่ เปา้ หมาย คือ นักเรียนและครูเป็นจดุ มุ่งหมาย หลัก ขั้นตอนการผลิตน้ันเหมือนกับการผลิตรายการวีดิทัศน์ทั่วไป แต่จะแตกต่างกันท่ีรายละเอียดความถูกต้อง น่าเช่ือถือ และการส่ือความหมายเพื่อการเรียนรู้ การสอน รายการวีดิทัศน์ ที่มีคุณภาพน้ันต้องส่ือความหมายหรือ ถา่ ยทอดความรูต้ ่างๆ ได้ตามวัตถปุ ระสงคห์ ลกั ทต่ี ้งั เอาไว้ 4. งานวิจยั ที่เก่ยี วขอ้ ง ธานินทร์ จันทอง วิจัยเรื่อง “การพัฒนาส่ือวีดิทัศน์ วิชาวิทยาศาสตร์ เร่ืองมลพิษทางน้า สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดอ้อมน้อย อาเภอกระทุ่มแบนา จังหวัดสมุทรสาคร วัตถุประสงค์ เพ่ือ 1) พัฒนาส่ือวีดิทัศน์ วิชาวิทยาศาสตร์ เร่ืองมลพิษทางน้า สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์ มาตรฐาน 80 2) เพื่อหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ท่ีเรียนจากสื่อวีดิทัศน์ เรื่องมลพิษทางน้า ผลการวิจัยพบว่า 1) ส่ือวีดิทัศน์ วิชา วิทยาศาสตร์ เร่ืองมลพิษทางน้า ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 2) ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรีย น หลังจากท่ีเรียนจากสื่อวีดิทัศน์ เรื่องมลพิษทางน้าสูงกว่าก่อนเรียน 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อสื่อวีดิทัศน์ อยูใ่ นระดับมาก ยงิ่ ยง บญุ ยงิ่ วจิ ยั เร่ือง “การเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นโดยใช้สือ่ วดี ิโอช่วยสอนเร่อื ง การออมเงิน วชิ าการเงินส่วนบุคคล สาขาบญั ชปี ระกาศนียบัตรวิชาชีพปีท่ี 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่” วัตถุประสงค์เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้สื่อวีดีโอช่วยสอน เรื่อง การออมเงิน สาหรับนักศึกษาสาขาบัญชี วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ ผลการวิจัยพบว่าค่าเฉล่ียหลังเรียนท่ี เพิม่ ขนึ้ จากค่าเฉลีย่ ก่อนเรยี นผลต่างอยูท่ ่ี 14.93 โดยหลงั เรียนค่าเฉลี่ย เทา่ กับ 19.66 กอ่ นเรียน ค่าเฉลี่ย 4.73 ส่วน เบยี่ งเบนมาตรฐานกอ่ นเรียน เท่ากับ 1.16 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานหลังเรียน เท่ากับ 0.48 แสดงให้เห็นว่าหลัง เรยี นสูงกวา่ ก่อนเรียนแสดงใหเ้ หน็ วา่ หลังเรียนสงู กว่าก่อนเรยี น วิธีดาเนินการวิจยั 1. ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง นักศึกษา ระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ระดับชั้นปวส. 1/2 สาขาวิชาโยธา และ ระดับชัน้ ปวส. 2/2 สาขาวชิ าไฟฟ้ากาลงั วทิ ยาลัยการอาชีพนวมินทราชนิ ีมกุ ดาหาร ทีม่ ีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนภาย หลังจากจบบทเรียนไดค้ ะแนนตา่ กวา่ เกณฑจ์ านวน 10 คน 2. เครือ่ งมือทใ่ี ช้ในการวจิ ัย 2.1 ส่ือวิดีโอการสอนเร่ือง การใช้โปรแกรม Microsoft Word พื้นฐาน จากเว็บไซต์ Youtube ช่อง Irp2com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 252 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 2.2 ชุดฝึกทักษะปฏิบัติวัดผลสัมฤทธิ์ จานวน 4 ชุด ได้แก่ 1) การจัดรูปแบบตัวอักษรและเอกสาร 2) การแทรกรูปภาพ สัญลกั ษณ์และอักษรศลิ ป์ 3) การจดั การตาราง ตกแตง่ ตาราง 4) การทาจดหมายเวยี น 3. การสรา้ งและพัฒนาเครื่องมือทใี่ ช้ในการวิจัย 3.1 กาหนดขอบเขตเนื้อหาท่ีศึกษา ได้แก่ 1) การจัดรูปแบบตัวอักษร 2) การจัดเอกสารเป็นคอลัมน์ 3) การแทรกรปู ภาพและอกั ษรศลิ ป์ 4) การจดั การตารางบนเอกสาร 5) การสรา้ งจดหมายเวยี น 3.2 สืบค้นหาสื่อวิดีโอการสอน เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word พ้ืนฐาน จากเว็บไซต์Youtube 3.3 นาสื่อวิดีโอการสอน เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word พ้ืนฐาน ไปใช้กับประชากรกลุ่มตวั อยา่ ง 4. วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมูล 4.1 รวบรวมผลคะแนนก่อนใชส้ ่อื วิดโี อการสอนจากแบบประเมินทกั ษะปฏบิ ัติ 4.2 นาสื่อวิดีโอการสอน เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word พ้ืนฐาน ให้ประชากรกลุ่มตัวอยา่ งศึกษา เป็นระยะเวลา 2 ช่วั โมง ในคาบเรียน 4.3 ทาการทดสอบหลงั เรียน โดยใชแ้ บบประเมินทักษะปฏิบตั ชิ ดุ เดียวกนั 5. การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยใช้สถิตใิ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูล คือ คา่ รอ้ ยละ และค่าเฉลี่ยผลการวจิ ัย ผวู้ ิจัยได้ทาการวิเคราะห์ขอ้ มูล นาเสนอผลการวจิ ัยและแปรความหมายดงั น้ีตารางท่ี 1 ผลการวิเคราะห์ค่าเฉลยี่ ชุดฝกึ ทกั ษะก่อนและหลงั ใช้ส่ือวดิ ีโอการสอน หัวข้อกิจกรรม จานวน ก่อนใชส้ อื่ วดิ ีโอ หลังใชส้ อ่ื วิดโี อ ผลต่างที่เพมิ่ ขึ้น คน การสอน การสอน รอ้ ยละการจดั รูปแบบอักษร และเอกสาร 10 คา่ เฉล่ยี รอ้ ยละ คา่ เฉลยี่ ร้อยละ 46.80การแทรกรปู ภาพ สัญลักษณ์และอักษรศลิ ป์ 10 39.60 86.40 48.00การจัดการตาราง ตกแต่งตาราง 10 54.80การทาจดหมายเวยี น 10 41.20 89.20 53.20 50.70 ค่าเฉลย่ี 38.80 93.60 41.20 94.80 40.20 91.00 จากตารางท่ี 1 ผลการวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยคะแนนจากแบบชุดฝึกทักษะจานวน 4 ชุด โดยพบว่าผลการทดสอบก่อนใชส้ ื่อวิดีโอการสอนมคี า่ เฉล่ยี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 40.20 ผลการทดสอบหลังใช้สื่อวิดีโอการสอนมีค่าเฉลี่ยคิดเปน็ รอ้ ยละ 91.00 มคี า่ เฉลยี่ ร้อยละของผลต่างท่เี พิ่มขึน้ คดิ เปน็ ร้อยละ 50.70---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 253 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การอภปิ รายผล ผลการวิเคราะห์หาผลสมั ฤทธ์จิ ากการทดสอบปฏิบตั ดิ ว้ ยชดุ ฝกึ ทกั ษะจานวน 4 ชุด โดยรวมผลการทดสอบ ก่อนใช้สื่อวิดีโอการสอนคิดเป็นร้อยละ 40.20 ผลการทดสอบหลังใช้ส่ือวิดีโอการสอนคิดเป็นร้อยละ 91.00 มีผล เฉลี่ยท่ีเพิ่มข้ึนร้อยละ 50.70 ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยสื่อวิดีโอท่ีผู้เรียนสามารถเรียนรู้ทบทวนได้ด้วย ตนเอง, สามารถเลือกหัวข้อท่ีจะเรียนรู้ได้ตามต้องการ, เรียนรู้ได้ตลอดเวลา โดยผลการทดสอบปฏิบัติจากชุดฝึก ทักษะทั้งหมด 4 ชุด เรือ่ ง การจดั การตาราง ตกแต่งตาราง มีค่าร้อยละของคะแนนเพิ่มขึ้นสูงสุดท่ี 54.80 เนื่องจาก การจัดการตารางข้ันตอนการปฏิบัติท่ีซับซ้อนหลายข้ันตอน นักศึกษาสามารถเรียนรู้จากส่ือวิดีโอโดยการเปิดดู เฉพาะข้ันตอนและปฏิบัติตามได้แตกต่างจากการเรียนรู้แบบเดิม และระดับค่าร้อยละคะแนนของเร่ืองการ จัดรปู แบบอักษรและเอกสาร คิดเปน็ ร้อยละ 86.40 เปน็ อันดบั นอ้ ยสุด เนอื่ งจากการเรียนเร่ืองน้ีต้องใช้ทักษะการใช้ โปรแกรม เพราะรูปแบบการจัดเอกสารมีหลากหลายรปู แบบ กติ ติกรรมประกาศ วิจัยฉบับนี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างดียิ่งจาก อาจารย์ทองทวี จิตพรมมา อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย ซ่ึง กรุณาให้คาแนะนาและถ่ายทอดความรู้ ตลอดจนควบคุมการทาวิจัยจนประสบความสาเร็จ ผู้ทาวิจัยขอกราบ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาส นี้ ขอกราบขอบพระคุณ ผศ.ดร.จารุวรรณ ทูลธรรม ท่ีกรุณาถ่ายทอดความรู้ ตลอดระยะเวลา ในการศึกษา รวมท้งั บคุ คลท่ีปรากฏตามรายการอา้ งองิ ที่ผทู้ าวิจยั ใชอ้ ้างอิงขอขอบพระคณุ อาจารย์พเ่ี ลี้ยงที่คอยให้ คาปรกึ ษาทางดา้ นขอ้ มูลและขอขอบคุณอาจารย์สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ นกั ศึกษากลุม่ ตวั อย่าง ทีช่ ว่ ยเหลือและ ใหค้ วามร่วมมอื ตลอดเวลาการทาวจิ ัย ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าอันพึงมจี ากวิจัยฉบับนี้ ผู้ทาวิจัยขอมอบเป็นกตัญญุตาบูชาแด่ บิดามารดา ครู อาจารยต์ ลอดจนผ้มู พี ระคุณทุกท่าน บรรณานุกรม ธานินทร์ จนั ทอง, (2547). การพัฒนาสอื่ วีดิทัศน์ วิชาวทิ ยาศาสตร์ เร่ืองมลพษิ ทางนา้ สาหรบั นักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนวัดอ้อมน้อย อาเภอกระทุ่มแบบ จงั หวัดสมุทรสาคร. สารนิพนธ์ ปริญญา ศึกษาศาสตร์มหาบณั ฑติ ภาควชิ าเทคโนโลยกี ารศกึ ษา บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร. ยิ่งยง บญุ ย่ิง. (2557). การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นโดยใช้สือ่ วีดโิ อชว่ ยสอนเรอ่ื งการออมเงิน วชิ า การเงนิ ส่วนบุคคล สาขาบญั ชีประกาศนียบตั รวชิ าชพี ปที ่ี 1 วทิ ยาลัยเทคโนโลยีโปลเิ ทคนิคลานนา เชยี งใหม.่ วทิ ยานพิ นธ์ ปริญญาตรี ครุศาสตร์บณั ฑติ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั เชยี งใหม.่ วีดทิ ัศน์ช่วยสอน. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก : https://www.l3nr.org/posts/455937 (วันท่คี น้ หาขอ้ มูล ธันวาคม พ.ศ. 2560) ความหมายและประโยชนโ์ ปรแกรม Microsoft Word. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/kroonew/khwam-hmay-khxng-porkaerm.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 254 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== (วันท่ีค้นหาขอ้ มูล ธนั วาคม พ.ศ. 2560) ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : http://www.nana-bio.com/Research/research.htm (วนั ทคี่ ้นหาขอ้ มูล ธนั วาคม พ.ศ. 2560)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 255 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ปัจจัยท่ีส่งผลให้นักเรียนขาดส่งการบ้าน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการ อาชีพ ของนกั เรยี น ระดบั ชน้ั ปวส.1 ภาควชิ าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคนิค มหาสารคาม กานต์ สาขามุละ1 และสุรกิจ อภิรกั ษากร2 บทคดั ยอ่ การวจิ ยั มวี ัตถุประสงคเ์ พื่อหาปัจจัยทสี่ ง่ ผลใหน้ ักเรียนขาดสง่ การบ้าน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการ อาชพี ของนักเรยี น ระดับชน้ั ปวส.1 ภาควชิ าเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างที่มี พฤติกรรมการขาดส่งการบา้ นจานวน 10 คน โดยใช้เคร่ืองมือในการวิจัยคือ แบบสอบถามปัจจัยท่ีส่งผลให้นักเรียน ขาดส่งการบ้าน ซ่ึงแยกได้ 3 ตอน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการขาดส่ง การบ้านจานวน 12 ข้อ ข้อเสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถาม และสถิติที่ใช้คือ การหาค่าร้อยละ การหาค่าเฉลี่ย และการหาค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ผ้วู ิจยั ดาเนินการเก็บขอ้ มูลโดยการแจกแบบสอบถามให้กับนักเรียนที่มีพฤติกรรม การขาดส่งการบ้าน ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยท่ีส่งผลให้นักเรียนขาดส่งการบ้าน 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับท่ี 1 คือ นกั เรยี นลืมทา ( ) อันดบั ที่ 2 คือ นกั เรยี นทาเอกสารแบบฝึกหดั หาย ( 2.90) นักเรียนทาเอกสารของวชิ าอ่ืน ( 2.90) และงานทผ่ี สู้ อนให้ยากเกินไป ( 2.90) อันดับท่ี 3 คือ เวลาในการทาการบา้ นนอ้ ย ( 2.80) โดยปัจจัยท่ี ส่งผลให้นกั เรียนขาดสง่ งาน 5 ปจั จยั แบง่ เปน็ ปัจจัยดา้ นผู้เรยี น 4 ปจั จยั คดิ เปน็ รอ้ ยละ 80 และปจั จยั ด้านครูผู้สอน 1 ปจั จยั คดิ เป็นร้อยละ 20 จงึ สรุปได้วา่ ปัจจยั ด้านผู้เรยี นเป็นปจั จยั ที่สง่ ผลให้นกั เรยี นขาดสง่ งานมากกว่าปัจจัยด้าน ครูผสู้ อนและตรงตามสมมติฐานทต่ี ้งั ไว้ คาสาคญั : พฤตกิ รรมการขาดสง่ การบา้ น 1คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น E-mail :kan1253@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 256 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract The purpose of this research were find a cause for student missing hand in homework in information technology for work for high vocational certificate 1, Department of Computer Technology, Mahasarakham Technical College. The Sample group was 10 student who missing hand in homework. The instruments used in the research were 12 questionaire cause for missing hand in homework and student suggestion. The precetage,mean and standard deviation were used for statistiol analysis. The research was collected data form student who had missing hand in home work . The result showed support for the hypotheses that 1) forgetting to do ( ̅ ) 2) document loss ,doing other subject and difficulty ( ̅ ) 3) having a few time ( ̅ ).The Causes for student missing hand in home work form five causes were student cause 80% and teacher cause 20% that showed the cause for missing hand in home work in Information Technology for work for Carreer Management subject was student cause more teacher ouse Keywords : missing hand in homework บทนา ปญั หาการขาดส่งการบ้านเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันปัญหาน้ีควรจะหาวิธีการแก้ไขให้ถูกต้อง และนามาปรับปรงุ พฤตกิ รรมอนั พึงประสงค์ของนกั เรียนในช่วั โมงจึงเปน็ หน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบของครูผู้สอนทุกคนที่ จะแกไ้ ขปญั หานเ้ี พราะเปน็ ปัญหาที่ทาให้เกดิ ปัญหาต่างๆ เช่นทาให้เกิดการปลูกฝังจิตสานึกในการทางานท่ีผิด อาจ ทาให้สง่ ผลกระทบต่อตัวผู้เรยี นในภายภาคหน้า หรอื ทาให้เกิดผลกระทบต่อการเรียนไม่ผ่านในรายวิชาน้ันๆ เพราะ คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ทก่ี าหนดเพราะขาดส่งการบ้านทาใหค้ ะแนนลดลง ผู้วจิ ัยจึงเห็นวา่ ปญั หาการขาดส่งการบ้านเป็น ปญั หาทส่ี าคัญอยา่ งยงิ่ จึงไดน้ ามาเป็นหัวข้อการวจิ ยั ในภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 นี้ผู้วิจัยได้ทาการสอน วิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการจัดการอาชีพ ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูงช้ันปีที่ 1 ภาควิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จานวน 32 คน โดยมี นักเรียนกลุ่มที่มีพฤติกรรมการขาดส่งการบ้านจานวน 10 คน โดยนักเรียนกลุ่มนี้มีการขาดส่งการบ้านเป็นประจา ตงั้ แตช่ วั่ โมงแรกของการทาการเรยี นการสอน ผู้วจิ ัยซึง่ เป็นครผู สู้ อนจึงนาปญั หานมี้ าเพอื่ หาปัจจยั ท่ีส่งผลตอ่ การขาด ส่งการบ้านซึ่งเปน็ พฤตกิ รรมทขี่ าดความรบั ผดิ ชอบอยา่ งย่ิง ทฤษฏแี ละงานวจิ ัยทเ่ี กย่ี วข้อง 1.ความหมายของพฤติกรรม (Behavior) หมายถงึ ปฏิกริ ิยาหรือกิจกรรมทกุ ชนดิ ของส่ิงมีชีวิตแม้ว่าจะสังเกตได้ หรอื ไมก่ ต็ าม เชน่ คน สตั ว์ เป็นตน้ 1.1 พฤติกรรมภายนอก (Over Behavior) หมายถึง ปฏิกิริยาของบุคคลหรือกิจกรรมของบุคคลท่ี ปรากฏออกมาให้บุคคลอื่นได้เห็น ทั้งทางวาจาและการกระทา ท่าทางอื่นๆ ท่ีปรากฏออกมาให้เห็นได้พฤติกรรมที่ ปรากฎออกมาให้เหน็ ภายนอกน้ันเป็นสงิ่ ที่คนมองเหน็ ตลอดเวลา เปน็ ปฏกิ ิยาที่คนเราไดแ้ สดงออกมาตลอดเวลาของ การมชี วี ิต ถา้ ลาดบั ต้ังแตต่ ืน่ นอนจนกระทง่ั นอนหลับ 1.2 พฤตกิ รรมภายใน (Cover Behavior) หมายถึง กิจกรรมภายในท่ีเกิดข้ึนในตัวบุคคล ซ่ึงสมองทา หนา้ ที่รวบรวมสะสมและสงั่ การ ซง่ึ เปน็ ผลจากการกระทา ของระบบประสาทและกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางด้าน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 257 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ชีวเคมีของร่างกาย พฤติกรรมภายในมีทั้งรูปธรรมและนามธรรม ที่เป็นรูปธรรมคนอื่นจะสังเกตเห็นไม่ได้แต่จะใช้ เครอ่ื งมือทางการแพทยท์ ดสอบได้ สัมผัสได้เช่น การเต้นของหวั ใจ การหดและการขยายตวั ของกล้ามเนอ้ื 2.ความหมายของการบ้าน กู๊ด (Goo,2008:224) กล่าวว่าการบ้าน หมายถึง งานที่ครูมอบหมายให้นักเรียน กลบั ไปทาที่บ้าน เพื่อทบทวนความรทู้ เ่ี รียนไปแล้ว และเปน็ การฝึกทกั ษะ การใช้กฎ หรอื สูตรตา่ งๆทีเ่ รียนไปแลว้ 3.แนวคดิ และทฤษฎีท่ีเกย่ี วข้องกับการบา้ น 3.1บัทเลอร์ (Butler) ได้ให้วัตถุประสงค์ของการบ้านไว้ Butler.2008.Homework(ออนไลน์) สืบค้น ไดจ้ าก:www.bigchalk.com [5 กุมภาพนั ธ์ 2553] 3.1.1 การบ้านควรจะเปน็ การเสรมิ ทกั ษะทีถกู แนะนาในหอ้ งเรียน 3.1.2 เพื่อบรรลุผลในความเชี่ยวชาญตอ่ บทเรยี นพืน้ ฐาน เช่น กฎทางคณติ ศาสตร์ เป็นต้น 3.1.3 สนบั สนนุ ให้เลอื กหวั ขอ้ ที่จะศึกษาไดอ้ ยา่ งอิสระ 3.1.4 ใหโ้ อกาสในการทากิจกรรมท่มี คี ุณค่าอย่างอสิ ระ 3.1.5 สนบั สนุนใหใ้ ช้เวลาว่างอยา่ งฉลาดและเป็นระเบียบ 4.งานวิจัยทเี่ ก่ยี วข้อง สาวยวุ ลี สายสังข์ (2556) ทาวิจัยเร่ือง การศึกษาพฤติกรรมเรื่องการไม่ส่งงาน/การบ้านของนักเรียน ชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปี ท่ี 3/8 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ โดยทาการวิจัย นักศึกษาจานวน 38 คน พบว่าสาเหตุของการไม่ส่งงาน/การบ้านตามกาหนด ลาดับท่ี 1 คือลืมทานักเรียนเลือก 9 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 23.68 อันดับท่ี 2 คือการบ้านมากเกินไป นักเรียนเลือก 8 คน คิดเป็นร้อยละ 21.05 อันดับท่ี 3 คือ ติดเกมส์ สมดุ หาย/หนังสือหาย นกั เรียนเลอื ก 5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 13.16 ปรารถนา เชาวน์เสฏฐกุล (2556) วิจัยเร่ือง การแก้ปัญหาการไม่ส่งงานของนักศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปีท่ี 2 สาขาวิชาการเลขานุการ วิทยาลัยเทคนิคตรัง รายวิชาการประเมินผลการ ปฏิบัติงาน รหัสวิชา 3207-2009 พบว่าสาเหตุที่ไม่ส่งงานตามกาหนด ลาดับท่ี 1 คือ แบบฝึกหัดยากทาไม่ได้ และ ติดงานในรายวิชาอ่ืน ๆ จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ลาดับท่ี 2 คือ ไม่มีคนคอยให้คาปรึกษา จานวน 3 คน คิดเปน็ ร้อยละ 60 ลาดบั ที่ 3 คอื งานทีม่ อบมากเกินไป เบื่อหน่ายไมอ่ ยากทา ลมื ทา และตดิ กิจกรรมของวทิ ยาลยั ยุวลี สายสังข์ (2556) วิจัยเรื่อง การศึกษาพฤติกรรมเร่ืองการไม่ส่งงาน/การบ้าน ของนักเรียนช้ัน ประกาศนีวชิ าชพี ปที ่ี 3/8 ขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ แสดงให้เห็นว่า สาเหตุของการ ไม่ส่งงาน / การบ้านตามกาหนด อันดับท่ี 1 คือ ลืมทา คิดเป็นร้อยละ 23.68 อันดับท่ี 2 คือการบ้านมากเกินไป นักเรยี นเลือก 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 21.05 อันดับที่ 3 คือ ติดเกมส์ สมุดหาย/หนังสือหาย นักเรียนเลือก 5 คน คิด เป็นร้อยละ 13.16 วธิ ดี าเนินการวจิ ยั 1.ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 1.1 ประชากร ได้แก่ นักเรียนระดับ ปวส.1 ภาควิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคนิค มหาสารคาม ท่เี รยี นวิชา เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์เพ่อื การจัดการอาชีพ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 32 คน 1.2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับ ปวส.1 ภาควิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคนิค มหาสารคาม ท่ีเรียนวิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพ่ือการจัดการอาชีพ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ท่ีมี พฤติกรรมการขาดส่งการบ้าน จานวน 10 คน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 258 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 2.เครื่องมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั 2.1 แบบสอบถาม เพื่อหาข้อมูลปัจจัยที่ส่งผลให้นักเรียนขาดส่งการบ้าน ของนักเรี ยนภาควิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ระดับช้ัน ปวส.1 วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ท่ีผู้วิจัยสร้างขึ้นมาด้วยมาตราส่วน 5 ระดับ โดยมีส่วนประกอบของแบบสอบถามดว้ ยกนั ท้ังหมด 3 ส่วนดงั นี้ 2.1.1 ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลส่วนตัวบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถามจานวน 1 ข้อ คาถามประกอบดว้ ย เพศ 2.1.2 ส่วนท่ี 2 ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ความพงึ พอใจและปัจจัยเกยี่ วข้องกบั การขาดสง่ การบา้ นจานวน 12 ขอ้ 2.1.3 สว่ นท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ คือข้อเสนอแนะที่นักเรียนอยากให้อาจารย์ผู้สอนพัฒนาทางด้าน การเรยี นการสอน 3.การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผู้วิจัยได้วางแผนการดาเนินการศึกษาและสร้างแบบสอบถามโดยใช้ข้อความที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ ส่งผลใหน้ ักเรยี นขาดสง่ การบ้าน เพอื่ ทาการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ ง ผู้วจิ ัยได้ทาการเก็บรวบรวมข้อมลู โดยให้ของนกั เรียน ภาควชิ าเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ ระดับช้ัน ปวส. 1 วทิ ยาลยั เทคนิคมหาสารคาม ทเ่ี รียนวิชา เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์เพ่ือการจัดการอาชีพ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ที่มพี ฤติกรรมการขาดสง่ การบา้ น จานวน 10 คน ตอบแบบสอบถามปจั จยั ทีส่ ง่ ผลใหน้ กั เรยี นขาดสง่ การบา้ น 4.สถิติทใี่ ช้ 4.1 คา่ ร้อยละ คอื ตัวเลขทีแ่ สดงถงึ สดั ส่วนของตวั เลขจานวนหนึง่ เม่ือแบง่ ออกเปน็ รอ้ ยส่วน 4.2 ค่าเฉล่ยี คอื การหารผลรวมของข้อมูลทงั้ หมดด้วยจานวนข้อมลู ทงั้ หมด 4.3 ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน คอื ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานเปน็ คา่ วัดการกระจายทีส่ าคญั ทางสถติ ิ เพราะ เป็นคา่ ที่ใช้บอกถึงการกระจายของข้อมลู ไดด้ ีกว่าคา่ พสิ ยั และคา่ ส่วนเบยี่ งเบนเฉล่ยี 5.นาเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล นาเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ในรูปของตารางโดยใช้เกณฑใ์ นการแปลความหมายของระดับคะแนน เฉลย่ี โดยการกาหนดคณุ ภาพแบบสอบถาม แบบมาตราสว่ นประมาณค่า 5 ระดบั ดงั น้ี คา่ เฉลี่ยระหวา่ ง 4.51-5.00 หมายถงึ เห็นด้วยระดับมากท่ีสดุ ค่าเฉลีย่ ระหวา่ ง 3.51-4.50 หมายถงึ เหน็ ด้วยระดบั มาก คา่ เฉลยี่ ระหวา่ ง 2.51-3.50 หมายถึง เหน็ ด้วย ระดับปานกลาง คา่ เฉลี่ยระหว่าง 1.51-2.50 หมายถงึ เห็นดว้ ยระดับน้อย คา่ เฉล่ยี ระหวา่ ง 1.00-1.50 หมายถงึ เห็นดว้ ยระดบั น้อยทสี่ ดุ ผลการวิจยั จากแบบสอบถามปัจจยั ทีส่ ง่ ผลให้นักเรยี นขาดสง่ การบ้าน ของนักเรียน วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ภาควิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ปวส.1 ที่เรียนวิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการจัดการอาชีพ โดยเลือกกลุ่ม ตัวอย่างท่ีมีพฤติกรรมการขาดส่งการบ้านจานวน 10 คน โดยในจานวนกลุ่มตัวอย่าง มีผู้ชาย 7 คน คิดเป็นร้อยละ 70 และเป็นผู้หญงิ 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 30---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 259 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ปัจจัยท่ีส่งผลให้นักเรียนขาดส่งการบ้าน ในปัจจัยด้านตัวผู้เรียนที่ส่งผลต่อการขาดส่งการบ้านที่มีระดับความคิดเห็นเฉล่ียมากสุด 3 อันดับ ได้แก่ อันดับที่ 1 คือ นักเรียนลืมทา ̅ 0 อันดับที่ 2 คือ นักเรียนทาเอกสารแบบฝกึ หดั หาย และนักเรียนทาเอกสารของวชิ าอืน่ ̅ อันดบั ท่ี 3 คอื เวลาในการทาการบา้ นนอ้ ย ̅ ปัจจัยที่ส่งผลให้นักเรียนขาดส่งการบ้าน ในปัจจัยด้านตัวผู้สอนท่ีส่งผลต่อการขาดส่งการบ้านท่ีมีระดับความคิดเห็นเฉลี่ยมากสุด 3 อันดับ ได้แก่ อันดับท่ี 1 คือ งานที่ครูผู้สอนให้ยากเกินไป ̅ อันดับท่ี 2 คือ ครูผู้สอนสัง่ งานไม่เข้าใจ ̅ อันดบั ท่ี 3 คือ ครผู ้สู อนให้งานมากเกนิ ไป ̅สรปุ และอภิปรายผล จากแบบสอบถามปัจจยั ทส่ี ่งผลให้นักเรยี นขาดสง่ การบ้าน ของนักเรียน วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ภาควิชาเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ ระดบั ชั้น ปวส.1 ที่เรยี นวิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพ่ือการจัดการอาชีพ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างที่มีพฤติกรรมการขาดส่งการบ้าน จานวน 10 คน โดยในจานวนกลุ่มตัวอย่าง มีผู้ชาย 7 คน คิดเป็นร้อยละ 70 และเป็นผู้หญิง 3 คน คิดเป็นร้อยละ 30 และพบว่าปัจจัยที่ส่งผลให้นักเรียนขาดส่งการบ้าน 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับท่ี 1 คือ นักเรียนลืมทา ̅ อันดับท่ี 2 คือ นักเรียนทาเอกสารแบบฝึกหดั หาย นกั เรยี นทาเอกสารของวิชาอื่น และงานท่ีผู้สอนให้ยากเกินไป ̅ อันดับท่ี 3 คือ เวลาในการทาการบา้ นน้อย ̅ 80 ซึ่งปจั จยั ทัง้ 3 อนั ดบั มปี ัจจยั ท่ีส่งผลให้นักเรียนขาดส่งงาน 5 ปัจจัย โดยเป็นปัจจัยด้านผเู้ รยี น 4 ปัจจยั คิดเปน็ รอ้ ยละ 80 และปจั จยั ดา้ นครูผ้สู อน 1 ปัจจยั คิดเป็นร้อยละ 20 จึงสรุปได้ว่าปัจจัยด้านผเู้ รียนเปน็ ปัจจยั ที่ส่งผลใหน้ ักเรียนขาดส่งงานมากกว่าปจั จัยดา้ นครผู สู้ อนและตรงตามสมมตฐิ านทต่ี ัง้ ไว้ จากการสรุปผลการวิจัยท่ีได้จากแบบสอบถามปัจจัยท่ีส่งผลให้นักเรียนขาดส่งการบ้าน ปัจจัยท่ีเป็นอันดับท่ี 1ไดแ้ ก่ นกั เรยี นลมื ทา ซึ่งอาจเกดิ จากสาเหตทุ น่ี กั เรียนใหค้ วามสนใจกับเรอ่ื งอื่นมากกว่าการบ้านท่ีได้รับจากครูผู้สอนทาใหค้ วามสนใจในการทาการบ้านลดลงจนลืมทาในท่ีสุด อันดับท่ี 2 นักเรียนทาเอกสารแบบฝึกหัดหาย ซึ่งมาจากความรบั ผดิ ชอบของตัวผู้เรียนซ่ึงไม่ให้ความใส่ใจกับเอกสารแบบฝึกหัดที่ได้รับ นักเรียนทาเอกสารของวิชาอ่ืน โดยตวั ผเู้ รยี นใหค้ วามสาคัญกับงานของรายวิชาอืน่ มากกว่า งานทผ่ี ู้สอนใหย้ ากเกินไป ซ่ึงตัวผู้สอนอาจจะให้การบ้านที่มีความยากมากเกินความสามารถของผู้เรียนจนผู้เรียนไม่สามารถทาได้ อันดับที่ 3 เวลาในการทาการบ้านน้อย เกิดจากตวั ผ้เู รียนบริหารเวลาในการทาการบ้านได้ไม่ดีเอาเวลาท่คี วรทาไปทาอย่างอ่ืนกติ ตกิ รรมประกาศ วิจัยฉบับนี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างยิ่งจาก อาจารย์สุรกิจ อภิรักษากร อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย ซึ่งกรุณาให้คาแนะนาและถ่ายทอดความรู้ ตลอดจนควบคุมการทาวิจัยจนประสบความสาเร็จ ผู้ทาวิจัยขอกราบขอบพระคุณเปน็ อย่างสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบคณุ อาจารย์ทกุ ท่านในสาขาครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรมวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ท่ีกรุณาถ่ายทอดความรู้ตลอดระยะเวลาในการศกึ ษารวมทง้ั บคุ คลท่ปี รากฏตามรายการอ้างอิงท่ผี ู้ทาวิจัยใช้อ้างอิงบรรณานุกรม http://www.chungkolpaktai.ac.th/-+Informatiนายสมนึก ทองไหม.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:on/Research_60/05.pdf (วนั ทค่ี น้ หาข้อมลู ธนั วาคม 2560)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 260 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ยวุ ลี สายสังข.์ [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก: http://thai-tech.ac.th/research/research_4.pdf (วันทีค่ น้ หาข้อมูล ธันวาคม 2560) อาพาภรณ์ เกิดทรพั ย์. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก: www.kbtc.ac.th/KM/files/11101811112534752_1303261 9194756.docx (วนั ที่คน้ หาขอ้ มูล ธันวาคม 2560) วภิ าพรรณ เจริญกลุ . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก: www.hu.ac.th/conference/conference2015/proceedings/ data/ภาคโปสเตอร/์ H-P-มนุษยฯ์ /1326-065H-P(วภิ าพรรณ%20เจรญิ กุล).pdf (วนั ท่ีคน้ หาขอ้ มูล ธันวาคม 2560) ปรารถนา เชาวน์เสฏฐกลุ . [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://rms.technictrang.ac.th/files/99999_1409 1111112811.pdf (วันทค่ี น้ หาขอ้ มลู ธนั วาคม 2560) วิชาสถิติ. [ออนไลน์]. ซึ่งเข้าไดจ้ าก: http://www.stvc.ac.th/elearning/stat/mainstat.html (วันทคี่ ้นหาขอ้ มลู ธันวาคม 2560) สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน. [ออนไลน์]. ซ่ึงเข้าได้จาก:http://moommimblog.wordpress.com/2012/12/02/ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน-2/ (วนั ท่ีค้นหาข้อมูล ธนั วาคม 2560) เปอร์เซ็นต์ร้อยละ. [ออนไลน์]. ซึ่งหาได้จาก:https://www.mathmyself.com/G/23/ร้อยละ-หรือ-เปอร์เซ็นต์- (percentage,percent).htm (วนั ทีค่ น้ หาขอ้ มูล ธันวาคม 2560)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 261 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================ความพึงพอใจของนักศึกษาเกยี่ วกับการใหบ้ ริการระบบสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่นพัชฌาชาวี เขยี วสดอมรกลุ 1* ปารษิ า สงิ ค์มูล2 และกติ ติ ทลู ธรรม3บทคัดย่อ งานวจิ ยั นม้ี วี ตั ถุประสงค์เพอ่ื สารวจปจั จยั ท่สี ่งผลให้นกั ศึกษาหญงิ คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาดทักษะในการซ่อมบารุงคอมพวิ เตอร์ กลมุ่ ตวั อย่างท่ีใชใ้ นการวจิ ยั ไดแ้ ก่ นักศึกษาหญงิ ชน้ั ปที ี่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ จานวน 16 คนเครอื่ งมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ัยคือ แบบสอบถาม ประกอบไปดว้ ย 3 ตอน ได้แก่ สถานภาพทวั่ ไป ปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้นกั ศกึ ษาหญิง คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาดทักษะการซ่อมบารุงคอมพวิ เตอร์ และข้อเสนอแนะอ่ืน ๆเก่ียวกับปจั จยั ทสี่ ง่ ผลใหน้ กั ศกึ ษาหญงิ ขาดทักษะการซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์ วิเคราะห์ข้อมลู โดยใช้สถติ ิ การหารอ้ ยละ การหาคา่ เฉลย่ี และการหาค่าส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั พบวา่ ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลให้นักศึกษาหญงิ คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรมสาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ ขาดทักษะในการซอ่ มบารุงคอมพิวเตอร์มากท่ีสดุ คือด้านความรพู้ ืน้ ฐานทางด้านชา่ ง ̅ = 4.56 ,SD = 0.51 โดยมีค่าเฉลี่ยรวมทง้ั 4 ดา้ น ̅ = 3.73 , SD = 0.58 ซึ่งสอดคลอ้ งสมมตุ ิฐานทผี่ ูว้ จิ ยั ได้ตัง้ ไว้คาสาคญั : ทักษะการซ่อมบารงุ , การซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์Abstract This research is aimed to survey the factor that affect female students Faculty of TechnicalEducation Computer Engineering lack of maintenance computer skills. The sampling this study wareregistry 16 four-year female students Faculty of Technical Education Computer Engineering. The toolsused for this research are questionnaire 3 parts are general status, factor that affect female studentsFaculty of Technical Education Computer Engineering lack of maintenance computer skills questionnaireand suggestion of factor that affect female students Faculty of Industrial Education Computer Engineeringlack of maintenance computer skills. The statistics used include the percentage, Mean and StandardDeviation This research found that factor that affect female students Faculty of Technical EducationComputer Engineering lack of maintenance computer skills most is basic knowledge in engineer (̅ = 4.56 ,SD = 0.51) and Average ̅ = 3.73 , SD = 0.58 this is consistent with the assumptions set.Key word : maintenance computer skills, computer maintenanceคณะครุศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น1E-mail : [email protected]*---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 262 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================บทนา พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และแกไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ท2่ี ) พ.ศ.2545 หมวด 4 แนวการจดัการศกึ ษา มาตรา 22 กาหนดไวว้ ่า “การจดั การศึกษาตอ้ งยดึ หลกั ว่าผเู้ รยี นทุกคนมีความ สามารถในการจดั การเรยี นร้แู ละพฒั นาตนเองได้ และถอื ว่าผเู้ รียนสาคัญทสี่ ดุ กระบวนการจดั การศกึ ษาตอ้ งสง่ เสรมิ ให้ ผูเ้ รยี นสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ศักยภาพ” (กระทรวงศึกษาธกิ าร,2545) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน ซ่ึงมีทง้ั หมด 4 วิทยาเขต ได้แก่ วทิ ยาเขตนครราชสมี า วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์วิทยาเขตสกลนคร และวิทยาเขตขอนแก่น ซ่งึ ในวทิ ยาเขตขอนแก่น ปัจจบุ นั เปดิ สอน 3 คณะ ไดแ้ ก่ คณะวิศกรรมศาสตร์คณะบริหารธรุ กจิ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ และคณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม ซึ่งสาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ก็เปน็ หนง่ึ ในสาขาของคณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม โดยมกี ารจัดการเรยี นการสอนเปน็ 3 หมวด ได้แก่ หมวดวชิ าศึกษาทั่วไป หมวดวิชาทางการศกึ ษา และหมวดวชิ าทางวิศวกรรม ซ่ึงรายวิชาเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ กเ็ ป็นหน่ึงวิชาในหมวดวิชาทางวิศวกรรม และเป็นกลุ่มวิชาบังคับทางวิศวกรรม ซึ่งในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนในหัวข้อการซ่อมบารงุ คอมพิวเตอร์ พบว่านกั ศึกษาหญิงสว่ นใหญ่ขาดทักษะในการซ่อมบารงุ คอมพวิ เตอร์ ดังนน้ั ผ้วู จิ ยั เห็นควรศึกษาปัจจยั ทส่ี ่งผลต่อการขาดทกั ษะในการซอ่ มบารุงคอมพวิ เตอร์ของนักศกึ ษาหญิง คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ และนาผลทไ่ี ด้มาเปน็ แนวทางในการวางแผน ปรบั เปลยี่ นวิธกี ารจดั การเรียนการสอนใหม่ เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพบัณฑติ ของคณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรมใหไ้ ดต้ ามมาตรฐานทกี่ าหนดไว้ตอ่ ไปทฤษฎีและงานวจิ ัยทเ่ี ก่ียวข้อง 1. การซ่อมบารงุ คอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น ขอ้ แนะนาในการดแู ลรักษาคอมพวิ เตอรเ์ บอื้ งต้น การดแู ลรกั ษาเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ทว่ั ไป ควรตงั้ เครอ่ื งใหห้ ่างจากผนงั ไมน่ อ้ ยกว่า 15 ซ.ม. เพือ่ ให้อากาศถ่ายเทและลดความรอ้ นภายในเครอ่ื ง ไม่ควรตงั้ เครอื่ งคอมพวิ เตอรไ์ ว้ท่ีมฝี นุ่ ละอองมาก, อุณหภูมไิ ม่คงท,ี่ มแี สงแดดส่อง , มคี วามชน้ื สงู , มกี ารส่ันสะเทือนบ่อย , ใกล้กบั แหลง่ กาเนิดไฟฟ้าแรงสูงสนามแม่เหล็ก ไมค่ วรวางสิง่ ของไว้ปิดชอ่ งระบายอากาศของจอภาพและตวั เครอื่ งคอมพิวเตอร์ ไม่ควรนานา้ กาแฟ หรือของเหลวอืน่ ๆ มาตัง้ ใกลเ้ ครอื่ ง เพราะส่งิ เหล่าน้ีอาจทาให้เครื่องเสยี หายได้ ไม่ควรเคล่อื นยา้ ยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หรือถอดสายใด ๆ ท่ตี อ่ เชอื่ มกับเครอื่ ง ขณะกาลังเปดิ ใชง้ านอยู่ ควรต่อเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์กับ UPS หรือSTABILAZER หากกระแสไฟฟา้ ไม่คงที่ หากปดิ เคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ล้วไม่ควรเปดิ เคร่อื งโดยทันที ใหร้ อสักประมาณ 1 นาที จึงเปิดเคร่อื งใหม่ เพราะกระแสไฟฟ้าอาจทาให้เครื่องเสยี งา่ ย ควรมกี ารตดิ ตง้ั โปรแกรมปอ้ งกนั ไวรสั /สปายแวร์ และต้องอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส (Signature Database) อยูเ่ สมอ หากมปี ัญหาเรอื่ งเครอ่ื งคอมพิวเตอรค์ วรปรกึ ษาช่างผชู้ านาญกอ่ นดาเนนิ การด้วยตนเอง 2. การสร้างแบบสอบถาม แบบสอบถาม เป็นรปู แบบของคาถามเปน็ ชดุ ๆ ที่ไดถ้ ูกรวบรวมไว้อยา่ งมหี ลักเกณฑ์และเป็นระบบ เพื่อใชว้ ดั สง่ิ ที่ผวู้ จิ ยั ต้องการจะวดั จากกลมุ่ ตวั อย่าง หรือประชากรเป้าหมายใหไ้ ดม้ าซง่ึ ขอ้ เท็จจรงิ ทงั้ ในอดีตปัจจุบนั และการคาดคะเนเหตการณ์ในอนาคต แบบสอบถามประกอบด้วยรายการคาถามทสี่ รา้ งอยา่ งประณตี เพ่ือรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความคดิ เหน็ หรือขอ้ เทจ็ จริง โดยสง่ ให้กลุม่ ตวั อย่างตามความสมคั รใจ การใช้แบบสอบถามเป็นเครอื่ งมือในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู นน้ั การสรา้ งคาถามเปน็ งานที่สาคญั สาหรบั ผวู้ จิ ัย เพราะว่าผวู้ จิ ัยอาจไมม่ โี อกาส ได้พบปะกบั ผู้ตอบแบบสอบถาม เพือ่ อธบิ ายความหมายต่าง ๆ ของขอ้ คาถามท่ตี อ้ งการเก็บรวบรวม 3. พฤติกรรมการเรยี น หมายถงึ การกระทา กจิ กรรม การตอบสนอง ปฏิกริ ิยา หรือวธิ ีการและเทคนคิ ในการเรยี นของนกั เรยี น ซงึ มีจุดมุ่งหมายเพือ พฒั นาความรู้ ทกั ษะ เจตคติ ใหบ้ รรลุจดุ ประสงคท์ กี าหนดในวิชาตา่ ง ๆ โดยมกี ารแสดงออกอยา่ งสมาเสมอด้วยความพึงพอใจ และมานะพยายามทจี ะพัฒนาการเรียนใหด้ ีขน้ึ โดยไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ อุปสรรค---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 263 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 4. พฤติกรรมการสอน หมายถงึ การกระทาทีค่ รูแสดงออกถึง ความพยายามในการจัดประสบการณ หรอืสถานการณแวดลอม ตลอดจนกจิ กรรมตาง ๆ ทเ่ี ก่ยี วของกับการเรยี นการสอน เพอื่ กระตนุ ใหผเู รียนเกดิ การเรยี นรแู ละเปลีย่ นแปลงพฤตกิ รรมไปในทางทพี่ งึ ประสงคจะเห็นไดวา พฤติกรรมการสอนของครมู คี วามสาคญั อยางยงิ่ ทเ่ี ปน็ ตวั บง่ ช้ถี งึความสามารถของครผู สู อน ในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ทางดานการเรยี นการสอนหรอื สภาพแวดลอม ของหองเรยี น และการมสี วนรวมปฏิสมั พันธระหวางครูกับนกั เรยี นในการกระทากจิ กรรมรวมกัน 5. งานวจิ ัยท่ีเกี่ยวข้อง ทิพยว์ รรณ สขุ ใจรงุ่ วฒั นา (2553) ได้ทาการวจิ ัยเกย่ี วกบั การศกึ ษาปจั จยั ทส่ี ่งผลตอ่พฤติกรรมการเรียนทีด่ ีของนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 สงั กัดสานักบรหิ ารงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษาเอกชนจังหวดั นครปฐม ผลการวิจัยสรปุ ได้ดงั นี้ ระดบั ของพฤติกรรมการเรยี นทดี่ ีของนักเรียน พบวา่ นกั เรียนมพี ฤตกิ รรม การเรียนท่ีดีอยูใ่ นระดบั ปานกลาง ปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางสังคมและปจั จยั ทางจิตวทิ ยาเป็นปัจจยั ทส่ี ่งผลต่อพฤตกิ รรมการเรียนทีด่ ขี องนกั เรยี น สามารถทานายพฤติกรรมการเรียนท่ดี ขี องนกั เรียน พบวา่ การตระหนักร้ดู า้ นการเรยี น บรรยากาศทางการเรยี นและการสนับสนุนของครอบครัว ได้รบั คัดเลอื กเข้าสมการ เป็นลาดับท1่ี ลาดบั ท่ี2 และลาดับท3่ี ตามลาดับ ตวั แปรทง้ั 3 ตวั นี้สามารถรว่ มกนั ทานายพฤติกรรมการ เรียนที่ดรี อ้ ยละ 41.3 พฤตกิ รรมการเรยี นทีด่ ีของนกั เรยี น เมอื่ จาแนกตามปัจจัยส่วนบคุ คล พบว่า ขนาด โรงเรยี น เกรดเฉลี่ยสะสม ระดับการศกึ ษาของบิดา ระดบั การศกึ ษาของมารดา อาชีพของบิดา อาชีพของมารดา รายไดต้ อ่ วนั ของนักเรียน ไม่แตกตา่ งกนั แต่เม่ือจาแนกตามเพศและรายได้เฉลีย่ ของผปู้ กครอง พบวา่ มคี วามแตกต่างกัน อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติทีร่ ะดบั 0.05วิธีการดาเนนิ การวจิ ยั 1. ประชากรกลุ่มตัวอยา่ ง ประชากร ได้แก่ นกั ศกึ ษาหญิงคณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น กลุ่มตัวอยา่ ง ได้แก่ นักศึกษาหญิงช้ันปที ี่ 4 คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น ไดม้ าโดยเลือกแบบเจาะจงเน่อื งจากช่วงระยะเวลาในการเกบ็ ขอ้ มลู จากกลุ่มตัวอยา่ งสอดคลอ้ งกบั ช่วงเวลาในการทาวิจยั ของผู้วิจยั จานวน16 คน 2. เครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการวจิ ัย ไดแ้ ก่ แบบสอบถามความคิดเหน็ แบง่ เปน็ 3 ส่วน ประกอบด้วย ตอนท่ี 1สถานภาพทวั่ ไป ตอนท่ี 2 แบบสอบถามความคดิ เห็นเก่ียวกบั ปัจจัยท่ีสง่ ผลกระทบให้นักศึกษาหญงิ คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาดทกั ษะการซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์ แบง่ เป็น 4 ดา้ นคือ ดา้ นความรู้พนื้ ฐานทางด้านช่าง ดา้ นพฤตกิ รรมการเรียนภาคปฏิบัติ ดา้ นรูปแบบการสอนภาคปฏิบัติ ด้านส่ิงสนบั สนุนการเรยี นรู้ และตอนที่ 3ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ โดยเคร่ืองมอื ทีน่ ามาใช้ผา่ นการประเมินความสอดคล้องของเน้อื หา และขอ้ คาถามจากผู้เชย่ี วชาญ 3. การเก็บรวมรวมขอ้ มลู การเก็บข้อมูลข้นั ต้น เก็บข้อมลู จากผลการเรยี นในรายวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์การเกบ็ ขอ้ มูลวจิ ยั เก็บด้วยตยเองโดยแจกแบบสอบถามใหก้ ลมุ่ ตวั อยา่ งและนามาวเิ คราะห์ข้อมลู 4. การวิเคราะหข์ ้อมลู ใช้แบบประเมนิ แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) ตามวธิ ขี องริเคริ ท์ (Likert) มี 5 ระดับ ซึง่ มีความหมายดังนี้ 5 หมายถงึ เป็นปัจจัยมากท่สี ุด 4 หมายถงึ เปน็ ปจั จยั มาก 3 หมายถงึ เปน็ ปจั จยั ปานกลาง 2 หมายถงึ เปน็ ปัจจัยนอ้ ย 1 หมายถึง เป็นปจั จยั นอ้ ยทีส่ ุด---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 264 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== นาคะแนนผลการประเมนิ แบบสอบถามความคดิ เห็น มาวเิ คราะหห์ าค่าเฉลยี่ (x̅) และค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วนาไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ทีต่ ้ังไว้ สถิติทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การหาร้อยละ, การหาค่าเฉล่ยี , การหาคา่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการวจิ ยั การวเิ คราะหข์ อ้ มลู แบง่ เปน็ 3 ส่วนสอดคล้องกับวัตถุประสงคข์ องการวิจัย ซง่ึ ประกอบไปดว้ ย สถานภาพทวั่ ไปแบบสอบถามความคิดเห็นเกยี่ วกบั ปจั จยั ที่ส่งผลกระทบใหน้ ักศึกษาหญงิ คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาดทักษะการซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์ และขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ เกีย่ วกบั ปัจจยั ทสี่ ง่ ผลให้นกั ศกึ ษาหญิงขาดทกั ษะการซ่อมบารงุ คอมพิวเตอร์ ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู มดี งั น้ี สภาพท่วั ไป ระดับวุฒิการศึกษาทจ่ี บก่อนเข้าศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 62.5 และจบการศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพจานวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 37.5 และผลการเรยี นรายวชิ าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญม่ ผี ลการเรยี นรายวิชาเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ คือ D+ จานวน 6 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 37.5 ลาดบัรองลงมาผลการเรียนวิชาเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์คอื C จานวน 4 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 25 ผลการเรยี นวิชาเทคโนโลยีคอมพวิ เตอรค์ อื C+ จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.5 และผลการเรยี นระดบั อ่ืน ๆ ผลการเรยี นละ 1 คน รวม 4 คน คดิ เปน็ร้อยละ ลาดบั สดุ ท้ายผลการเรยี นวชิ าเทคโนโลยคี อมพิวเตอรค์ อื A B+ B และ D จานวนเทา่ กันคือ 1 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 25 ปจั จยั ของผู้ตอบแบบสอบถามทัง้ 4 ดา้ นคือ คอื ดา้ นความรพู้ นื้ ฐานทางดา้ นช่าง ด้านพฤตกิ รรมการเรียนภาคปฏิบตั ิ ดา้ นรปู แบบการสอนภาคปฏบิ ตั ิ และดา้ นสิง่ สนบั สนุนการเรียนรู้ แสดงดงั ตารางที่ 1ตารางท่ี 1 คา่ เฉล่ีย (x̅) คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และแปลความโดยแบ่งเปน็ ดา้ น ดา้ น x̅ S.D. แปลความ1. ดา้ นความรู้พื้นฐานทางด้านช่าง 4.56 0.51 ดีมาก 1.08 ดี2. ด้านพฤติกรรมการเรียนภาคปฏิบัติ 3.69 0.96 พอใช้ 1.18 พอใช้3. ดา้ นรปู แบบการสอนภาคปฏบิ ตั ิ 3.44 0.58 ดี4. ดา้ นสงิ่ สนับสนุนการเรียนรู้ 3.25 ภาพรวม 3.73 จากตารางที่ 1 ปัจจยั ทสี่ ง่ ผลใหน้ กั ศกึ ษาหญิง คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ขาดทักษะการซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์มากทสี่ ดุ คอื ด้านความรูพ้ ้ืนฐานทางด้านชา่ ง (x̅ = 4.56 , S.D. = 0.51) รองลงมาคือด้านพฤติกรรมการเรียนภาคปฏบิ ตั ิ (x̅ = 3.69 , S.D. = 1.08) และดา้ นรูปแบบการสอนภาคปฏิบตั ิ (x̅ = 3.44 , S.D. = 0.96)ตามลาดบัสรุปและอภปิ รายผล ประชากรท่ีใช้ในการวจิ ยั ไดแ้ ก่ นกั ศึกษาหญงิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม สาขาวศิ วะกรรมคอมพิวเตอร์ กลุ่มตวั อย่างทใ่ี ชใ้ นการวิจยั ครงั้ น้คี อื นกั ศกึ ษาหญงิ ช้ันปที ่ี 4 คณะครุศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น ไดม้ าโดยเลอื กแบบเจาะจงเนอ่ื งจากช่วงระยะเวลาเหมาะสม จานวน 16 คน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 265 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นการวจิ ัยครงั้ น้คี ือ แบบสอบถามความพึงพอใจ ไดแ้ บง่ ของเป็น 3 สว่ น ดังนี้ 1. สถานภาพทั่วไป ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่จบการศกึ ษาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มากกวา่ ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพวิชาชีพ และมผี ลการเรยี นรายวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอื D+ 2. ผลการประเมนิ ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลกระทบให้นกั ศกึ ษาหญงิ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาดทักษะการซ่อมบารุงคอมพวิ เตอร์ เมือ่ พิจารณาแตล่ ะดา้ นพบวา่ ปจั จัยของผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ในระดับนอ้ ยท่ีสดุ เมอ่ื พิจารณาเป็นรายดา้ นเรยี งตามลาดับคอื ด้านความร้พู น้ื ฐาน (x̅ = 2.99) ด้านพฤตกิ รรมการเรยี นของนกั ศึกษาหญงิ (x̅ = 3.15) ด้านผู้สอน (x̅ = 3.80) และดา้ นสนับสนนุ การเรียนรู้ (x̅ = 3.83) ตามลาดับ 3. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ เกีย่ วกับปัจจยั ท่สี ง่ ผลใหน้ ักศึกษาหญิงขากทักษะในการซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์ ผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญจ่ บการศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มากกวา่ ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพวชิ าชีพ และมีผลการเรยี นรายวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอื D+ เน่อื งจากผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่จบการศึกษาระดบัมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบตั รวิชาชีพทไ่ี ม่ใช่สาขาชา่ งอตุ สาหกรรม จงึ ขาดทักษะเกีย่ วกับรายวชิ าเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ ผลการประเมินปัจจยั ท่ีสง่ ผลกระทบให้นกั ศกึ ษาหญิง คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ขาดทักษะการซอ่ มบารงุ คอมพิวเตอร์ ปัจจยั ที่มากทส่ี ุดคือ ดา้ นความรูพ้ ื้นฐานทางดา้ นช่าง (x̅ = 4.56 , S.D. = 0.51) มีค่าเฉล่ียอยใู่ นระดับดีมาก หมายถงึ มีพฤตกิ รรมในระดบั น้อยทสี่ ุดบรรณานกุ รมจิตราภรณ์ พงษ์มาลี. 2550. การศกึ ษาความสมั พันธร์ ะหวา่ งพฤตกิ รรมการสอนของครกู บั ความสามารถในการคิดอย่างมี วิจารณญาณของนเั รยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6.ทิพยว์ รรณ สขุ ใจรุ่งวฒั นา. 2553. ปัจจยั ท่สี ่งผลต่อพฤตกิ รรมการเรยี นทด่ี ขี องนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 สงั กดั สานกั บริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศกึ ษาเอกชน จงั หวัดนครปฐม.ศุภิสรา เกยี รตสิ นั ตสิ ขุ และคณะ. (มปป). คู่มือดูแลรกั ษาเคร่อื งคอมพิวเตอร์เบ้ืองต้น.ผศ.ดร.อรพณิ ศริ ิสมั พนั ธ.์ 2550. การศึกษาพฤตกิ รรมการเรยี นของนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร.อุทมุ พร จามรมาน (2544) แบบสอบถาม: การสร้างและการใช้. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 6. กรงุ เทพฯ: ฟนั นพ่ี ลับบิชชงิ่ จากัด.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 266 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมือ กราฟิกโหมด เร่ือง การพัฒนาโปรแกรมทางธุรกิจอย่างง่าย ของนักศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีท่ี 3 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิค สารภี โดยใชส้ ื่อออนไลนบ์ นยทู ูป กฤตพิ ันธ์ จันทร์เขียว1 และกิตติ ทูลธรรม2 บทคัดยอ่ การวจิ ยั ครั้งนีเ้ ปน็ การเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างการสอบก่อนเรียนและหลังเรียน จากสอ่ื ออนไลนบ์ นยูทปู ในเรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมคานวณเงนิ เดือนและคา่ ประกนั สงั คม โดยเน้ือหาอยู่ในเรื่อง การ พฒั นาโปรแกรมทางธรุ กิจอย่างง่าย วิชาการเขียนโปรแกรมโดยใช้เครื่องมือกราฟิกโหมด โดยมีนักศึกษาท่ีเป็นกลุ่ม ตัวอยา่ งคือ นกั ศึกษา 5 คน แผนกคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันปีที่ 3วิทยาลัยเทคนิคสารภี อาเภอ สารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยการดาเนินการในการวัดผลสัมฤทธ์ิก่อนเรียน กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉล่ียคะแนนสอบอยู่ที่ 1.6 คะแนน จากคะแนนเตม็ 10 คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 16 จากนัน้ ผูว้ ัยไดใ้ หก้ ลมุ่ ตัวอย่างเรียนรู้ผา่ นส่อื ออนไลน์บน ยูทูป เร่ืองการเขียนโปรแกรมโดยใช้โปรแกรม Visual Basic และได้ทาการวัดผลสัมฤทธ์ิอีกคร้ัง จากการวัด ผลสมั ฤทธิห์ ลังการเรยี นผา่ นส่อื ออนไลนบ์ นยทู ปู กลุ่มตวั อย่างมคี ะแนนสอบเฉล่ยี อยทู่ ่ี 3 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 30 จากการวัดผลสัมฤทธ์ิก่อนเรียนและหลังเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์บนยูทูป คะแนนสอบหลังเรียนเพิ่มข้ึนอยู่ท่ี 1.4 คิด เปน็ ร้อยละ 14 จากผลการดาเนินงาน กลมุ่ ตวั อยา่ งมคี า่ ของผลสัมฤทธิ์เพ่ิมมากข้ึนตามสมมุติฐานท่ีตั้งไว้ แต่เพิ่มข้ึน น้อยมาก หรืออาจเป็นเพราะเน้ือหาของวิชานี้ยากเกิน หรือออาจเป็นเพราะการเรียนรู้บนสื่อออนไลน์บนยูทูปไม่ เหมาะสมกบั เนื้อหารายวิชา แต่อาจจะได้ผลดกี ับรายวิชาอนื่ มากกวา่ คาสาคญั : ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน , สือ่ ออนไลน์ , การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ Abstract This research is a comparison of learning achievement between pre-test and post- study on online media on YouTube. Computing Salary and Social Security The content in the story. Develop simple business applications. Academic programming using graphical tools. There are five students in the business computer department. Diploma of the Year Saraphi Technical College, Saraphi District, Chiang Mai By doing the achievement measurement before class. The sample size was 1.6, with a score of 10 (16%). The subjects then learned through online media on YouTube. Programming with Visual Basic and re-measured The achievement of learning after learning through online media on YouTube. The sample had an average score of 3 points, representing 30% of the achievement before and after learning through online media on YouTube. After-school test scores increased to 1.4, representing 14% of the performance. The samples had higher values of achievement based on the hypothesis. But a little more. Or maybe---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 267 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== the content of this course is too difficult. This is because online learning on YouTube is not appropriate for the content of the course. It may work better with other courses. Keywords : Achievement , Online media , Computer Programming คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น * Corresponding E-mail : Theblue96964@Gmail. com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 268 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา วิชาการเขียนโปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมือกราฟิกโหมด รหัสวิชา 2204 – 2107 ใช้สอนในระดับประกาศ ณียบัตรวิชาช้ันปีท่ี 3 ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม องค์ประกอบของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ข้ันตอนการแก้ไขปัญหา (Algorithm) กระบวนการเขียนโปรแกรม คาสั่งควบคุมการทางานของโปรแกรม การ พัฒนาโปรแกรมทางธุรกิจอย่างง่าย โดยใช้เคร่ืองมือกราฟิกโหมดเพื่อพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและ สร้างเป็นช้นิ งานขนาดเลก็ การเขียนโปรแกรมในวิชาการเขียนโปรแกรมโดยใช้โปรแกรมกราฟกิ โหมดใชโ้ ปรแกรม Visual Basic ใน การเรยี นการสอนผ้จู ึงจาเปน็ อย่างมากทีจ่ าเป็นตอ้ งเข้าใจหลักการการเขียนโปรแกรม เรมิ่ ตง้ั แต่ การวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบโปรแกรม การเขียนโปรแกรมด้วยคอมพิวเตอร์ การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม จนถึง การจัดทา เอกสารประกอบโปรแกรม ถ้าขาดสว่ นใดส่วนหนงึ่ ไปจะเปน็ โปรแกรมทีส่ าบูรณไ์ มไ่ ด้ เนื่องจากผู้สอนได้ทาการสังเกตการณ์สอน ผู้เรียน 5 คนท่ีไม่สามารถเขียนโค้ดด้วยตัวเองได้ เน่ืองจาก ผเู้ รยี นไม่ร้จู ะเร่ิมจากตรงไหน เร่ิมต้นยังไง ควรใช้คาส่ังไหน แต่ผู้เรียนยังมีความตั้งใจท่ีจะพยายามท่ีจะเรียนรู้ ทาง ผสู้ อนจงึ มองเห็นแนวการและได้นาเอาส่ือออนไลน์บนยูทูปที่เป็นการเขียนโปรแกรมในโปรแกรม Visual Basic มา เข้าให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ โดยทางผู้สอนหวังเป็นอย่างว่าการนาเอาสื่อการสอนออนไลน์บนยูทูป มาใช้ใน วิชาการ เขียนฤโปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมือกราฟิกโหมด เรื่องการพัฒนาโปรแกรมทางธุรกิจอย่าง จะช่วยทาให้ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นของผู้เรยี นท้งั 5 คนดีข้ึนอยา่ งยง่ิ ทฤษฎแี ละงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 1. โปรแกรม Visual Basic Visual Basic คือ Visual Basic เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Language) ที่พัฒนาโดย บริษัทไมโครซอฟท์ ซ่ึงเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สร้างระบบปฏิบัติการ Windows 95/98 และ Windows NT ที่เราใช้ กนั อยู่ในปจั จุบนั โดยตัวภาษาเองมีรากฐานมาจากภาษา Basic ซึ่งย่อมาจาก Beginner’s All Purpose Symbolic Instruction ถ้าแปลให้ไดต้ ามความหมายก็คือ “ชดุ คาสั่งหรือภาษาคอมพิวเตอร์สาหรับผู้เร่ิมต้น” ภาษา Basic มี จุดเด่นคือผู้ท่ีไม่มีพ้ืนฐานเรื่องการเขียนโปรแกรมเลขก็สามารถเรียนรู้และนาไปใช้งานได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เมื่อเทียบกบั การเรียนภาษาคอมพวิ เตอรอ์ ่ืนๆ เช่น ภาษาซี (C). ปาสคาส (Pascal). ฟอร์แทรน (Fortian) หรือ แอส เชมบลี (Assembler) 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนเป็นความสามารถของนักเรยี นในด้านตา่ งๆ ซึง่ เกิดจาก นักเรียนได้รับประสบการณ์จากกระบวนการเรียนการสอนของครู โดยครูต้องศึกษาแนวทางในการวัดและ ประเมินผล การสรา้ งเครอื่ งมือวดั ใหม้ คี ุณภาพนน้ั ไดม้ ผี ้ใู หค้ วามหมายของผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนไว้ดังนี้ ความสามารถ ความสาเร็จและสมรรถภาพด้านต่างๆของผู้เรียนท่ีได้จากการเรียนรู้อันเป็นผลมาจากการ เรยี นการสอน การฝกึ ฝนหรอื ประสบการณ์ของแตล่ ะบุคคลซ่ึงสามารถวัดไดจ้ ากการทดสอบด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ผลท่ีเกิดจากกระบวนการเรียนการสอนที่จะทาให้ นักเรียนเกิดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรม และสามารถวัดได้โดยการแสดงออกมาทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านพุทธิพิสัย ด้าน จิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 269 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 3. สอื่ ออนไลน์ (Youtube) YouTube (ยูทูบ) เป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนภาพวิดีโอที่มีชื่อเสียง(www.youtube.com) โดยในเว็บไซต์นี้ ผู้ใช้สามารถอัพโหลดภาพวิดีโอเข้าไป เปิดดูภาพวิดีโอท่ีมีอยู่ และแบ่งภาพวิดีโอ เหล่าน้ีให้คนอ่ืนดูได้โดยไม่เสีย ค่าใช้จ่ายใดๆ ใน YouTube จะมีข้อมูลเนื้อหารวมถึงคลิปภาพยนตร์สั้นๆ และคลิปท่ีมาจากรายการโทรทัศน์ มิว สิกวิดีโอ และวิดีโอบล็อกก้ิง (ซึ่งเป็นการสร้างบล็อกโดยมีส่วนของข้อมูลท่ีเป็นภาพ วิดีโอเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะเป็นภาพวดิ ีโอที่เกิดจากมือสมัครเล่นถา่ ยกันเอง) คลิปวิดีโอท่ีเผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ YouTube ส่วนมาก เป็นไฟลค์ ลิปสน้ั ๆ ประมาณ 1 - 10 นาที ถ่ายทาโดยประชาชนทว่ั ไป แลว้ อพั โหลดขึ้นสู่เว็บไซต์ของ YouTube โดย มีการแบ่งประเภทและจัดอันดับคลิปเอาไว้ด้วย เช่น ไฟล์ล่าสุด, ไฟล์ท่ีมีผู้ชมมากท่ีสุด, ไฟล์ท่ีได้รับการโหวตมาก ทส่ี ดุ ฯลฯ 4. หลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เขยี นโปรแกรมจะต้องเข้าใจหลกั เกณฑ์ของภาษาโปรแกรม และระบบ การทางานของคอมพิวเตอร์ ว่ามีโครงสร้างและวิธีการใช้คาสั่งอย่างไร ซ่ึงในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มี หลกั เกณฑ์การเขยี นโปรแกรม ประกอบดว้ ย 5 ข้ันตอนดังนค้ี ือ - ทาความเขา้ ใจและวเิ คราะหป์ ัญหา - กาหนดแผนในการแก้ปญั หา - เขยี นโปรแกรมตามแผนทกี่ าหนด - ทดสอบและตรวจสอบความถูกตอ้ งของโปรแกรม - นาโปรแกรมท่ีผ่านการทดสอบไปใชง้ าน 5. งานวจิ ัยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ชนัญญา ธญั ญพนั ธ์ (2559) ได้ทาการวิจัยโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ ร่วมกับ เทคนิคการใช้คา เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ ร่วมกับ เทคนิคการใชค้ าถาม เรือ่ งทศนิยมและเศษสว่ น ของนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปี ที่ 1 กล่มุ ตัวอย่างทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษาคร้ัง นเี้ ปน็ นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปี ที่ 1/3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปี การศึกษา 2559โรงเรียนยานตาขาวรัฐชนูปถมั ภ์ อาเภอยาน ตาข่าว จังหวัดตรงั ซึง่ ไดม้ าจากการส่มุ แบบแบง่ กลุ่ม จานวน 30 คนถามเรื่อง ทศนิยมและเศษส่วนของนักเรียนชั้น มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 วธิ ีดาเนนิ การงานวิจยั 1. ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง ประชากร ท่ีใช้ในการวจิ ัยครัง้ นี้ เปน็ นักศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนคิ สารภี สาขาบรหิ ารธรุ กิจ แผนก คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีที่ 3 ท่ีเรียนในรายวิชา การเขียนโปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมือกราฟิก โหมด รหัสวิชา 2004-2107 หน่วยที่ 7 เรื่อง การพัฒนาโปรแกรมทางธุรกิจอย่างง่าย จานวน 5 คน ที่เขียน โปรแกรมออ่ นกว่านกั ศกึ ษาคนอืน่ ๆ จากการทผ่ี ู้สอนทาการสงั เกตจากการเรียนการสอนภายในคาบเรยี น 2. เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการวิจยั สื่อออนไลนบ์ นยทู ปู การเขียนโปรแกรมคานวณเงินเดอื นโดยใชโ้ ปรแกรม Visual Basic ใชใ้ นการเรียนรูใ้ นหนว่ ยที่ 7 การพฒั นาโปรแกรมทางธุรกจิ อย่างงา่ ย วิชาการเขยี นโปรแกรมโดยใช้เครอ่ื งมือกราฟิกโหมด สามารถเขา้ ถงึ ได้ทห่ี น้า เว็บ https://www.youtube.com/watch?v=AKil1fjpFQkหรือ https://www.youtube.com แล้วค้นหา คลิป วดิ โี อทีเ่ ป็นการสอนโปรแกรมโดยใชโ้ ปรแกรม Visual Basic โดยส่ือผ่านการประเมินความสอดคล้องกับเนื้อหาและ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 270 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== วตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรจู้ ากผ้เู ชยี่ วชาญเรียบร้อยแล้วและ2 แบบทดสอบเพื่อใช้ในการวัดผลสัมฤทธ์ิ หน่วยที่ 7 การ พัฒนาโปรแกรมทางธรุ กิจอยา่ งงา่ ย วชิ าการเขียนโปรแกรมโดยใชเ้ ครอื่ งมือราฟิกโหมด 3. ขอ้ มูลทใ่ี ช้ศึกษา เปน็ การวัดผลสมั ฤทธ์ิจากการจากสอบเกบ็ คะแนนกอ่ นเรียนจากนน้ั ใหน้ ักศกึ ษาฝกึ เขยี นโปรแกรมจากส่ือ ออนไลน์บนยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=AKil1fjpFQk และทาการวัดผลสัมฤทธิ์จากการสอบ เก็บคะแนนหลงั เรยี นจากสอื่ ออนไลนบ์ นยทู ูป โดยนักศึกษาทีท่ าการวัดผลสัมฤทธ์ิจะต้อง วิเคราะห์ปัญหา วางแผนการแก้ไขปัญหา เขียนโค้ดให้ถูกต้อง โปรแกรมจะต้องมคี วามถกู ตอ้ งสมบูรณ์ และมแี นวคดิ ให้การนาโปรแกรมไปพัฒนาตอ่ ไป 4. วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล นาคะแนนจากการวดั ผลสัมฤทธิ์ก่อนเรยี น และหลังเรียนจากสื่อออนไลนบ์ นยูทูป ทีเ่ นอื้ หาอยใู่ นหน่วยท่ี 7 เร่ืองการพฒั นาโปรแกรมทางธรุ กิจอยา่ งงา่ ย วชิ าการเขียนโปรแกรมโดยใช้เครื่องมือกราฟกิ โหมด มาเปรียบเทยี บกัน เพื่อท่ีจะหาผลลัพธ์ว่าระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน จากการวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนจากสื่อออนไลน์บนยูทูป เพ่ิมขึ้น จากการวัดผลสัมฤทธก์ิ อ่ นเรยี นหรือไม่ 5. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู หาคา่ เฉลีย่ x x Nเม่ือ x แทน ค่าเฉล่ยี x แทน ผลรวมคะแนนของประชากรท้งั หมดN แทน จานวนประชากรทัง้ หมดหาค่าร้อยละเม่อื p แทน ค่ารอ้ ยละ f แทน ความถี่ทีต่ ้องการเปล่ียนแปลงให้เป็นคา่ ร้อยละ n แทน จานวนความถีท่ ง้ั หมดเปรียบเทยี บกันโดยมกี ารวิเคราะห์ข้อมูลดงั นี้ หลงั เรยี น > กอ่ นเรยี น = ระดบั ผลสัมฤทธิ์ของคะแนนสอบเพ่มิ ขึน้ หลงั เรยี น = ก่อนเรยี น = ระดบั ผลสมั ฤทธ์ิของคะแนนสอบเท่าเดมิ หลังเรยี น < ก่อนเรยี น = ระดับผลสมั ฤทธ์ิของคะแนนสอบลดลง---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 271 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ผลการวิจัย สอบ ค่าเฉลีย่ คา่ รอ้ ยละ (Percentage) ก่อนเรยี น 1.6 16 หลังเรียน 3 30ผลคานวณความต่าง 1.4 14 จากผลการวจิ ยั พบวา่ การวดั ผลสมั ฤทธิ์วดั สัมฤทธิ์กอ่ นเรยี น กลุ่มตวั อย่างมคี ะแนนสอบอยู่ท่ี 1.6 คดิ เปน็ร้อยละ 16 และการวัดผลสมั ฤทธว์ิ ดั สมั ฤทธิห์ ลงั เรียน กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนสอบอยู่ที่ 3 คิดเปน็ ร้อยละ 30 และผลคานวณความต่างหลงั เรยี นเพ่มิ ข้ึนจากก่อนเรยี นอยู่ท่ี 1.4 คดิ เปน็ ร้อยละ 14สรุปผล 1. ผลการวดั ผลสมั ฤทธจิ์ ากคะแนนสอบก่อนเรียน มีค่าเฉล่ียอยู่ที่ 1.6 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 16 2. ผลการวัดผลสัมฤทธิ์จากคะแนนสอบหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 30 3. ผลการเปรียบเทียบสัมฤทธ์ิจากคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากส่ือออนไลน์บนยูทูป มีค่าคานวณความตา่ งอยู่ท่ี 1.4 และผลคานวณค่ารอ้ ยละคร้งั ท่ี 2 และครง้ั ที่ 1 อยู่ที่ 14อภิปรายผล จากผู้การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์จากการสอบ 2 ครั้ง กลุ่มตัวอย่างมีค่าผลสัมฤทธ์ิเพิ่มมากข้ึน โดยมีค่าเฉลี่ยที่เพ่ิมข้ึนอยู่ท่ี 1.4 คิดเป็นร้อยละ 14 ซ่ึงเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ แต่เป็นตัวเลขท่ีน้อยมาก แสดงว่าวิธกี ารเรียนรู้ด้วยสื่อออนไลน์บนยูทูปใช้ได้ผลจริง แต่มีประสิทธิภาพน้อย หรืออาจเป็นเพราะเนื้อหาของรายวิชาน้ียากเกนิ ไป จนทาใหก้ ลุม่ ตวั อย่างมีคะแนนสอบเพิ่มขึน้ ไม่มาก หรืออาจเป็นเพราะการเรียนจากสื่อออนไลน์บนยูทูปไม่เหมาะสาหรับเนอ้ื หาของวิชาน้ี แตอ่ าจใชไ้ ด้ผลดีกบั รายวชิ าอนื่ มากกวา่Referencesชนญั ญา ธญั ญพันธ์ 2559. รายงานวจิ ัยเรื่อง การวจิ ัยโดยใชแ้ บบฝึกทักษะวิชาคณติ ศาสตร์ ร่วมกับ เทคนคิ การใช้ คาเพ่ือเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นมนัสชัย กีรติผจญ 2556. 2204 – 2107 การเขียนโปรแกรมโดยใชเ้ คร่อื งมือกราฟกิ โหมด (พิมพ์ครงั้ ที่ 3) สานกึ พิมพ์ เอมพนั ธ์ กรงุ เทพมหานคร---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 272 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การศึกษาพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนของนักศึกษาประกาศนียบัตร วิชาชพี ชัน้ ปีท่ี 1 แผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคเลยณฐั วุฒิ แก้วมงคล1บทคัดย่อการวจิ ยั คร้งั นีม้ ีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อ 1.) การศึกษาพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนของนักศึกษาวิทยาลัยเทคนคิ เลยระดับชน้ั ปีที่ 1 2.) ศึกษาแนวทางการจดั กระบวนการเรียนร้เู พือ่ ส่งเสริมการกําหนดจุดมุ่งหมายการศึกษาพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนของนักศึกษาระดับช้ันปีที่ 1 ประชากรได้แก่ นักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคเลยระดับช้ันปีท่ี 1 จํานวน 20 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ประกอบด้วยแบบสอบถาม ความคิดเห็นของครูผู้สอน วเิ คราะหข์ ้อมลู จากผตู้ อบแบบสอบถามดว้ ยการวเิ คราะห์สาระกลุ่มตัวอย่างเป็นวิทยาลัยเทคนิคเลยศึกษา จํานวน 46 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simplerandom sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสอบถามความพึงพอใจ เร่ืองการศึกษาพฤติกรรมการใช้โทรศพั ทม์ อื ถือในห้องเรียนของ วทิ ยาลัยเทคนิคเลย วเิ คราะหข์ ้อมูลโดยใชส้ ถติ คิ ่าร้อยละและค่าเฉลีย่ 0.5ผลการวจิ ยั พบวา่ 1) นักศกึ ษาส่วนใหญม่ ีพฤตกิ รรมการใช้โทรศพั ทม์ อื ถอื ในชั้นเรียนเพื่อนัดหมายวันเวลาสถานทีแ่ นช่ ัดดาํ เนนิ กจิ ธรุ ะ หรือการใชโ้ ทรศัพท์มือถือพูดคุยทักทายเพื่อนฝูง ญาติสนิท (ร้อยละ 10.64) และการใช้โทรศัพท์เพื่อเรียกหากันในระยะไม่เกิน 100 เมตร (ร้อยละ 15.68) นอกจากน้ีการใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อถ่ายรูปถา่ ยคลิปวดิ โี อ อัดเสยี ง (ร้อยละ 13.44) การใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถือตรวจสอบความถูกต้องหรือช้ีนําเส้นทาง กรณีท่ีต้องเดินทางไปในสถานทไ่ี ม่คนุ้ เคย เพื่อป้องกันการหลงทาง (ร้อยละ 12.32) การใช้โทรศัพท์มือถือเพ่ือฟังเพลง ดูคลิปเลน่ เกมส์ ฯลฯ (ร้อยละ 11.76) การใชโ้ ทรศัพท์เก่ยี วกบั การศึกษาหาความรู้ตา่ งๆ เช่น แปลคําศพั ท์ ภาษาอังกฤษห รื อ คิ ด เ ล ข ( ร้ อย ล ะ 7.84) ก า ร ใ ช้ โ ท ร ศั พ ท์ มื อ ถื อ เ ล่ น ( Soeial network ห รื อfacebook,twitter,instagrm.line,what’sapp) ฯลฯ (ร้อยละ 11.76) การใช้โทรศพั ท์มือถือเพื่อส่งข้อความ SMSMMS (ร้อยละ 10.64 ) การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อ Chat พูดคุยกับเพื่อน แฟน ฯลฯ (ร้อยละ 8.4) การใช้โทรศัพท์มือถือเพ่ือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต (ร้อยละ 13.44) พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในช้ันเรียนมีความสัมพันธ์กบั ผลการเรยี นของนักศกึ ษาอย่างมนี ยั สาํ คญั ทางสถิติที่ระดับ 0.05คําสาํ คัญ : กระบวนการเรยี นรู้, จดุ มงุ่ หมาย, วตั ถุประสงค์ของงานวจิ ัย, สมมติฐานงานวจิ ยั , ขอบเขตของงานวจิ ยั 1คณะครุศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ *E-mail : tanglove14725@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 273 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนาํ 1.ความเป็นมาและความสําคญั ปจั จุบันในวทิ ยาลยั เทคนคิ เลยมีการใช้โทรศพั ทม์ ือถอื กนั อยา่ งแพรห่ ลาย โดยโทรศพั ท์มือถอื ทนี่ กั ศึกษา นั้นอาจจะมีราคาสูงและต่ําตามฐานะของแต่ละคนจึงอาจมีเกิดผลกระทบต่อผู้ปกครองของนักศึกษาท่ีใช้ โทรศัพท์มอื ถอื ราคาแพงรวมถึงใชจ้ า่ ยรายวันหรอื รายสัปดาห์ในการจ่ายคา่ โทรศัพท์มือถือและการใช้โทรศัพท์มือถือ ติดตอ่ กันเปน็ เวลานานอาจทาํ ให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายด้วย ปัญหาในการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานหรือซ้ือโทรศัพท์มือถือราคาแพง อาจจะเป็นผลกระทบ ทงั้ ตวั นกั เรยี นและผปู้ กครองของนักศึกษาเองทาํ ใหเ้ กดิ ผลเสียทางดา้ นการเงินและสขุ ภาพจติ ดงั น้นั ทางผู้จัดทําจงึ ได้ จัดทํางานวิจัยชุดน้ีขึ้นเพ่ือสํารวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือและผลกระทบของการใช้โทรศัพท์มือถือ เพ่ือ สํารวจการใช้งานของนักศกึ ษาประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชนั้ ปที ่ี 1 สาขาวิชาชา่ งยนต์ ดังนัน้ ผูว้ จิ ยั ในฐานะครูผสู้ อน จงึ ไดท้ าํ การศึกษาปัญหา และสาเหตุของปญั หา โดยครผู ู้สอนไดพ้ ยายามทาํ การศกึ ษา และหาวิธีดําเนนิ การวจิ ยั ใหส้ อดคล้องกบั ปัญหาทเ่ี กดิ ขึน้ คือผเู้ รียนบางส่วนสนใจการใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่าการ เรียน ที่กําหนด ผ้สู อนจงึ คิดแก้ปัญหาน้ีใหแ้ กน่ ักเรียนเพื่อเป็นการเสริมสร้างให้เกิดสํานึกความรับผิดชอบในตนเอง โดยทาํ การวจิ ยั ในช้นั เรียน โดยใช้เครื่องมือ คอื แบบสอบถาม ใบบันทกึ พฤติกรรมการเตรียมอุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการเรยี น มา และการใหค้ าํ แนะนาํ ปรึกษาแกผ่ ู้เรียน เนน้ การพดู คยุ และตอบปัญหาในชัน้ เรยี น โดยวิธกี ารพูดคุยระหว่างการ สอน และผู้สอนจะบอกข้อปญั หาทคี่ วรปรับปรุง การวิเคราะห์สภาพปัญหาการเรียนการสอนในระดับห้องเรียน เป็นการระบุปัญหาท่ีแท้จริง โดยอาศัย ข้อมลู จากห้องเรยี นเพอื่ เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา การไม่ส่งงานตามเวลาที่กําหนดของนักเรียน และเป็นการ เสรมิ สร้างความรับผดิ ชอบในงานของผ้เู รยี นอีกด้วย 2.วัตถุประสงคข์ องงานวจิ ยั 2.1เพอื่ สาํ รวจและรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกับพฤติกรรมการใชง้ านโทรศพั ท์มอื ถอื ในชนั้ เรียนและผลกระทบของ นักศึกษาประกาศนยี บตั รวิชาชีพชั้นปีท่ี 1 สาขาวิชาช่างยนต์ 2.3เพื่อนําข้อมูลมาวิเคราะห์ว่านักศึกษาในวิทยาลัยเทคนิคเลยมีความสนใจในเรื่องโทรศัพท์มือถือ ทําอะไร เพอ่ื อะไร และนําข้อมลู เหล่านีม้ าพิจารณาและแกไ้ ขต่อไป 3.สมมตฐิ านงานวิจัย 3.1นักศกึ ษามีการใช้โทรศัพท์มือถือตามกระแสนิยมและสนใจมอื ถือมากกว่าการเรียน 3.2นักศึกษาในวทิ ยาลัยเทคนิคเลยใช้โทรศพั ท์เป็นเวลานานทําให้เสียสุขภาพกายและสุขภาพจติ 3.3ผู้ปกครองของนกั ศึกษาวิทยาลยั เทคนคิ เลยเสยี ค่าเกีย่ วกบั โทรศพั ท์มอื ถอื ของนกั ศกึ ษาเปน็ จํานวน มาก 3.4นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเลยใช้โทรศัพท์มือถือในการติดต่อสื่อสาร ทั้งเพ่ือควา มบันเทิงและ ความ สะดวกสบาย 4.นิยามศพั ท์เฉพาะ โทรศพั ท์มอื ถือ (call phone) คอื อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ทีใ่ ช้ในการส่ือสารสองทางผ่านโทรศัพท์มือถือใช้ คลน่ื วทิ ยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศพั ท์มือโดยผ่านสถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการ จะเชื่อมตอ่ กับเครอื ข่ายโทรศพั ท์บา้ นและเครอื ข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอ่ืนโทรศัพท์มือถือมีความสามารถ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 274 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== เพิ่มขึ้นในลักษณะคอมพิวเตอร์พกพาจะถูกกล่าวถึงในชื่อสมาร์ตโฟน Wi-fi คือ เครือข่ายไร้สาย มักใช้กับระบบ เครือขา่ ย ไมว่ ่าจะเปน็ ในองคก์ รหรือในระบบเครือข่ายอินเตอรเ์ นต็ 5.ขอบเขตของงานวิจยั 5.1 ขอบเขตด้านประชากรนกั ศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชพี ปที ่ี 1 แผนกวชิ าชา่ งยนต์ จํานวน 46 คน 5.2 ขอบเขตดา้ นเน้อื หาจะศกึ ษาถึงด้านพฤติกรรมการใช้โทรศพั ทม์ อื ถอื ท่มี ผี ลดแี ละผลเสียตอ่ นักเรยี นช้ันปที ี่ 1 5.3 ขอบเขตดา้ นตวั แปรที่ใชใ้ นการศึกษา ไดแ้ ก่ เพศ ห้องเรยี นทเ่ี รียนอยู่ 5.4 ขอบเขตด้านพื้นที่ในการศึกษา คือ จะเก็บตัวอย่างจากนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคเลย ตอนที่ 1 การศึกษาพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนท่ีส่งผลต่อการกําหนดจุดมุ่งหมายการดําเนิน ชีวิตด้วยตนเอง ของนักเรยี นวิทยาลยั เทคนคิ เลยระดบั ชน้ั ปที ี่ 1 1. ด้านเน้ือหา ในการวิจยั คร้ังน้ีมุง่ ศึกษาพฤตกิ รรมการใช้โทรศพั ทม์ อื ถอื ในห้องเรียนจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการกําหนด จุดมงุ่ หมายการดําเนนิ ชวี ติ ดว้ ยตนเองของ ระดบั ชน้ั ปที ี่ 1 ท้งั หมด 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ 2. กล่มุ เปา้ หมาย กลุ่มเป้าหมายท่ใี ช้ในการวิจยั ได้แก่ ครผู ู้สอนนักเรียนท่ีมีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนระดับชั้นปีท่ี 1 ที่รับผดิ ชอบสอนตามกล่มุ สาระการเรียนรูท้ งั้ 3 กล่มุ สาระ จาํ นวน 46 คน ท่ีทําการสุ่มนักศึกษามาทําแบบสอบถาม วิทยาลยั เทคนิคเลย 3. ตัวแปรทศ่ี กึ ษา สภาพการจัดกระบวนการเรยี นรเู้ พือ่ สง่ เสรมิ การกาํ หนดจุดมงุ่ หมายการดําเนินชวี ิตด้วยตนเองของนักเรยี นท่มี ี ความบกพรอ่ งทางการเห็นในโรงเรียนสอนคนตาบอด ระดับชั้นประถมศึกษาในเขตภาคเหนือ ทั้ง 3 กลุ่มสาระการ เรยี นรทู้ ่สี ง่ เสรมิ การกาํ หนดจุดมุ่งหมายการดาํ เนนิ ชวี ิตดว้ ยตนเอง 8 ทกั ษะ 1. ทักษะการสรา้ งตัวเลอื ก 2. ทักษะการตัดสนิ ใจ 3. ทักษะการแกไ้ ขปญั หา 4. ทักษะการต้ังเป้าหมายและความสาํ คัญของชีวิต 5. ทักษะการดํารงชีวิตอสิ ระ การกล้าเส่ียง และการรจู้ ักรกั ษาความปลอดภยั ในตนเอง 6. ทกั ษะการสังเกตตนเอง การประเมนิ ตนเอง และการส่งเสรมิ ตนเอง 7. ทกั ษะการสอนตนเอง 8.ทักษะการเปน็ ผนู้ ํา ตอนท่ี 2 การศกึ ษาแนวทางการจดั กระบวนการเรียนรู้เพ่อื ส่งเสรมิ การกาํ หนดจดุ มุ่งหมายการดําเนินชีวิต ดว้ ยตนเอง ระดบั ชั้นปที ี่ 1 การศึกษาพฤตกิ รรมการใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถือในหอ้ งเรียนชน้ั ปีที่ 1 1. ด้านเนอ้ื หาข้นั วางแผนแบบสอบถาม ผวู้ จิ ัยได้วางแผนลาํ ดบั ขนั้ ตอนไว้ดงั นี้ ขั้นที่ 1 ศึกษาบทความของอาจารย์ท่ีปรึกษา ในสถานบันต่างๆ จากเอกสาร ตํารา และปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ เพ่ือ กาํ หนดกรอบเบ้อื งต้น ขั้นที่ 2 ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือทางสังคมตลอดจนภาพรวมปัญหาและ อุปสรรคตา่ งๆท่เี กิดขน้ึ และนําขอ้ มลู ท่ีได้รวมกบั ขอ้ มลู ตอนตอนที่ 1 มาเลือกซื้อมอื ถือสาํ หรับการวจิ ัยต่อไป---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 275 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ขนั้ ที่ 3 รวบรวมข้อมูลที่ได้จากขั้นท่ี 1 และข้ันท่ี 2 มากําหนดปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อโทรศัพท์มือถือ ทางสังคม 2. แหล่งข้อมลู วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้อมลู มวี ิธีการ ดังนี้ 1.ศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามพฤติกรรมการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ แล้วจึงออกแบบแบบสอบถามพฤติกรรม การเลอื กซอื้ โทรศพั ท์มอื ถอื 2.สรา้ งแบบสอบถาม โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ดังนี้สถานที่ที่นักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือช่วงเวลาท่ีนักเรียนใช้ โทรศัพทม์ อื ถอื จํานวน 46 คน 3.แจกแบบสอบถามใหน้ ักเรยี นกรอก และเก็บรวบรวมมาวเิ คราะห์ข้อมลู 3.4 การวเิ คราะหข์ ้อมูล เมื่อได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา จึงได้นํามาตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถาม จากนั้นจึงได้แจ้งระดับ คะแนน วิเคราะห์ข้อมลู และนําเสนอ โดยผูว้ จิ ัยนาํ ข้อมูลท่เี ก็บรวบรวมมาวเิ คราะหค์ ่าสถิติ ตอนท่ี 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกบั สถานภาพและรายระเอยี ดสว่ นตัวของผูต้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 เปน็ แบบสอบถามเกีย่ วกบั พฤตกิ รรมการใชซ้ ือ้ โทรศัพทม์ ือถือของนักเรยี นโรงเรยี นพะเยาพทิ ยาคม วธิ ดี ําเนินการวจิ ัย ตอนท่ี 1 ศกึ ษาสภาพการจัดกระบวนการเรียนรเู้ พือ่ ส่งเสริมการกาํ หนดจุดม่งุ หมายการดาํ เนนิ ชีวติ ดว้ ย ตนเอง และการศกึ ษาพฤตกิ รรมการใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถอื ในหอ้ งเรียน 1. กลมุ่ เปา้ หมาย กลุม่ เป้าหมายท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาครงั้ น้ไี ดแ้ ก่ ครผู ้สู อนนกั ศกึ ษาของวทิ ยาลัยเทคนคิ เลยทมี่ รี ะดบั ชนั้ ปีท่ี 1 ทรี่ ับผดิ ชอบ สอนตามกลุม่ สาระการเรียนรทู้ ั้ง 3 กลมุ่ สาระ จํานวนการสมุ่ นักศึกษา 46 คน 2. เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ข้ันที่ 1 ศึกษาบทความของอาจารย์ที่ปรึกษา ในสถานบันต่างๆ จากเอกสาร ตํารา และปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ เพ่ือ กําหนดกรอบเบื้องต้น ขั้นที่ 2 ศึกษาปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือทางสังคมตลอดจนภาพรวมปัญหาและ อปุ สรรคตา่ งๆที่เกิดข้นึ และนําข้อมลู ท่ไี ดร้ วมกบั ขอ้ มูลตอนตอนที่ 1 มาเลอื กซ้ือมือถือสาํ หรับการวจิ ัยต่อไป ขั้นที่ 3 รวบรวมข้อมูลที่ได้จากขั้นท่ี 1 และขั้นที่ 2 มากําหนดปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซ้ือโทรศัพท์มือถือ ทางสังคม แบบสอบถามการศึกษาพฤตกิ รรมการศึกษาในการเลือกซ้อื โทรศพั ทม์ ือถอื ของนักศึกษาประกาศนียบัตร วิชาชพี ช้ันปีท่ี 1 สาขาวชิ าช่างยนต์ วทิ ยาลัยเทคนิคเลย ในภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 การสร้างเครื่องมือผู้วิจยั ไดส้ รา้ งเครอื่ งมอื ทใี่ ชส้ ําหรบั การเกบ็ ขอ้ มลู เพ่ือการวิจยั เป็นลาํ ดับขน้ั ตอนดังน้ี 4. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การรวบรวมขอ้ มลู มีวิธกี าร ดงั นี้ 1.ศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามพฤติกรรมการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ แล้วจึงออกแบบแบบสอบถามพฤติกรรม การเลือกซื้อโทรศัพทม์ ือถอื---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 276 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 2.สร้างแบบสอบถาม โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ดังน้ีสถานท่ีท่ีนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือช่วงเวลาท่ีนักเรียนใช้ โทรศัพทม์ ือถอื จาํ นวน 46 คน 3.แจกแบบสอบถามให้นกั เรียนกรอก และเก็บรวบรวมมาวิเคราะห์ข้อมลู 5.การวิเคราะหข์ อ้ มูล เม่อื ไดร้ ับแบบสอบถามกลับคืนมา จงึ ไดน้ ํามาตรวจสอบความสมบรู ณ์ของแบบสอบถาม จากนน้ั จึงไดแ้ จ้งระดบั คะแนน วิเคราะหข์ ้อมูลและนําเสนอ โดยผวู้ ิจยั นําข้อมลู ท่ีเก็บรวบรวมมาวเิ คราะห์ค่าสถติ ิ ตอนท่ี 1 เปน็ แบบสอบถามเก่ียวกบั สถานภาพและรายระเอยี ดส่วนตวั ของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกบั พฤตกิ รรมการใชซ้ อื้ โทรศพั ทม์ ือถอื ของนกั เรียนโรงเรียนพะเยา พทิ ยาคม วเิ คราะห์ขอ้ มูลดังน้ี ตอนท่ี 2 ศกึ ษาแนวทางการจดั กระบวนการเรียนรเู้ พอื่ สง่ เสริมการกําหนดจดุ มุง่ หมายการดําเนินชวี ติ ดว้ ยตนเอง การศึกษาพฤติกรรมการใชโ้ ทรศัพทม์ ือถือในหอ้ งเรยี นชน้ั ปีที่ 1 3.1 ประชากรกลมุ่ ตัวอย่าง ประชากร ที่ใช้ในการศึกษาคร้ังน้ีได้แก่ นักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคเลย ท่ีกําลังศึกษาในปีการศึกษาปี ท่ี 2560 ชน้ั ปที ี่ 1 จาํ นวน 46 คน โดยจะศกึ ษาประชากรดงั กล่าวจากนกั ศึกษาทก่ี าํ ลงั ศึกษาในวิทยาลยั เทคนคิ เลย 3.2 เครื่องมือทใ่ี ช้ในการวิจัย แบบสอบถามการศึกษาพฤติกรรมการศึกษาในการเลือกซ้ือโทรศัพท์มือถือ ของนักศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นปที ่ี 1 สาขาวิชาชา่ งยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ เลย ในภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2560 การสร้างเครื่องมอื ผวู้ ิจัยได้สร้างเครือ่ งมือท่ใี ช้สําหรบั การเกบ็ ข้อมลู เพอื่ การวิจยั เปน็ ลาํ ดับข้ันตอนดงั นี้ 3. ขนั้ ตอนการสรา้ งเครอื่ งมอื 3.1. ศกึ ษาเอกสาร และ งานวจิ ยั ทเ่ี กีย่ วข้องกบั งานวิจัยทท่ี ําการศกึ ษาและการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ทฤษฎกี าร กาํ หนดจดุ มงุ่ หมายการดาํ เนินชวี ติ ด้วยตนเอง และการศกึ ษาพฤติกรรมการใชโ้ ทรศพั ท์มือถอื ในหอ้ งเรียน 3.2. เขียนขอ้ คาํ ถามหรอื รายการสัมภาษณ์ ตามเนื้อหาในขอ้ 3.1 3.3. นําขอ้ คาํ ถามใหอ้ าจารยท์ ปี่ รกึ ษาตรวจสอบความถกู ตอ้ งของข้อคําถามและใหข้ ้อเสนอแนะ เพอื่ การปรับปรงุ แก้ไข บรรณานุกรม ตัวอยา่ งสอบถามพฤตกิ รรมการใชโ้ ทรศัพท์ สืบค้นวนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน 2560 เข้าถงึ ไดท้ ี่ https://www.slideshare.net/Sombom/4-58857527 งานวิจยั พฤติกรรมการใชโ้ ทรศพั ท์มอื ถือของนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 สบื คน้ วนั ที่ 15 พฤศจิกายน 2560 เข้าถงึ ได้ท่ี https://is12724.wordpress.com โทรศพั ทม์ อื ถือ สมาร์โฟน เทคโนโลยี แฟบเลต็ ข้อมูลมือถือสืบคน้ วันท่ี 15 พฤศจกิ ายน 2560 เข้าถึงได้ที่ www.jaymart.co.th/product.asp?ty=MOBILE พฤตกิ รรมการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนโรงเรียนชุมพวงศึกษา เด็กหญิง กฤตพร งบของ http://mynewleezaw.blogspot.com/---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 277 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Baker, Burton H. (2000), The Gray Matter: The Forgotten Story of the Telephone. St. Joseph, Michigan: Telepress. ISBN 0-615-11329-X Bruce, Robert V. (1990), Bell: Alexander Graham Bell and the Conquest of Solitude. Ithaca, New York: Cornell University Press. ISBN 0-8014-9691-8. Dusenbery, David B. (2009). Living at Micro Scale, p. 124.Harvard University Press, Cambridge, Mass. ISBN 978-0-674-03116-6. Evenson, A. Edward (2000), The Telephone Patent Conspiracy of 1876: The Elisha Gray - Alexander Bell Controversy. Jefferson, North Carolina: McFarland & Co., Inc. ISBN 0-7864-0883-9 http://www.kusc.nisit.kps.ku.ac.th/nisit.html นสิ ิต Huurdeman, Anton A. (2003), The Worldwide History of Telecommunications. Hoboken: New Jersey: Wiley-IEEE Press. ISBN 978-0-471-20505-0 John, Richard R. Network Nation: Inventing American Telecommunications (Harvard University . Josephson, Matthew (1992), Edison: A Biography. Hoboken, New Jersey: John Wiley & Sons, Inc. ISBN 0-471-54806-5---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 278 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การศึกษาปัญหาผู้เรียนชั้น ปวช.3 ไม่สามารถอ่านและต่อวงจร วิชางานนิวแมติกส์ และไฮดรอลิกส์เบ้ืองต้น โดยวิธีการเรียนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน นักเรียน (ปวช.) ชั้นปที ี่ 3 ณฐั วฒุ ิ ศรีจนั ทา1 บทคัดย่อ งานวจิ ยั ชิ้นน้เี กีย่ วกบั การพัฒนาความรู้และเข้าใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) ชั้นปีที่ ๓ แผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์ ในการเรียนในรายวิชางานนิวแมติกส์และไฮดรอลิกส์โดยวิธีการเรียนแบบเพ่ือนช่วย เพื่อน ในการจัดทางานวิจัยในชนั้ เรยี นการศึกษาปัญหาผเู้ รยี นชน้ั ปวช.3 ไม่สามารถอา่ นและต่อวงจร วชิ างานนิว แมติกส์และไฮดรอลิกส์เบื้องต้น โดยวิธีการเรียนแบบเพ่ือนช่วยเพ่ือน เพ่ือให้นักเรียนแผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์ ชั้น ปวช.3 จานวน 5 คน ท่ีไม่สามารถอ่านและต่อวงจร ให้สามารถอ่านและต่อวงจรได้ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนา ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นวชิ างานนิวแมติกสแ์ ละไฮดรอลิกส์เบ้อื งต้น ของนักเรยี นแผนกวิชาอิเลก็ ทรอนิกส์ ชั้น ปวช.3 จานวน 7 คน ในภาคเรียนท่ี 2/2560 ให้มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนทส่ี งู ขนึ้ โดยใชว้ ิธกี ารสอนแบบเพือ่ นช่วยเพือ่ น คําสาํ คญั : กระบวนการเรียนรู้, จดุ มงุ่ หมาย, วตั ถปุ ระสงค์ของงานวิจัย, สมมตฐิ านงานวจิ ยั , ขอบเขตของงานวิจัย 1คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ *E-mail : tanglove14725@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 279 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนํา ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา ในการเรียนการสอน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 นักเรียน ระดับ ปวช.3/1 แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการหนองสองห้องจะต้อง เรียน วชิ างานนิวแมตกิ ส์และไฮดรอลกิ สเ์ บอื้ งตน้ ซ่ึงเปน็ วิชาทีจ่ ะตอ้ งเรยี น ภาคทฤษฎี ควบค่ไู ปกับการปฏิบตั ิ ในเชงิ ทฤษฎี ผูเ้ รยี นสามารถเขา้ ใจได้ดีไม่ว่าจะเรื่องใดในวิชางานนิวแมติกส์และไฮดรอลิกส์เบ้ืองต้น แต่ในการปฏิบัติของ ผู้เรียน จากการสังเกต ผู้เรียนยังขาดทักษะในการอ่านวงจรและต่อวงจร ทาให้การปฏิบัติงานเกิดความล่าช้าทาให้ การเรยี นการสอนเกดิ ความล่าช้าตามมาเช่นกัน จงึ เกิดแนวคิดที่จะแก้ปัญหา ให้ผู้เรียนมีทักษะในการอ่านวงจรและ ต่อวงจร โดยอาศัย วิธีการเรียนแบบเพื่อนช่วยเพ่ือน เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชางานนิวแมติกส์และไฮ ดรอลกิ ส์เบ้อื งต้นของนกั เรียน ชั้น ปวช. 3/1 แผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์และเพื่อให้ผู้เรียนช้ัน ปวช.3/1 ที่ไม่สามารถ อา่ นวงจรและตอ่ วงจร ให้สามารถอ่านวงจรและตอ่ วงจรได้ วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้นักเรียนแผนกอิเล็กทรอนิกส์ ระดับช้ัน ปวช.3/1 จานวน 5 คน ท่ีไม่สามารถอ่านวงจรและต่อ วงจรได้ ให้สามารถอ่านวงจรและต่อวงจรได้และผ่านเกณฑท์ ก่ี าหนดไว้ 2. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชางานนิวแมติกส์และไฮดรอลิกส์เบ้ืองต้น ของนักเรียนแผนก อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ชน้ั ปวช.3/1 จานวน 7 คน ในภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 ให้มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นท่สี งู ข้ึน ขอบเขต 1. ประชากร เปน็ นักเรียน แผนกวิชาชา่ งอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ระดบั ชนั้ ปวช.3/1 จานวน 7 คน2. ตัวแปรที่ ศึกษา 2.1 ตัวแปรอิสระ คือ การเรยี นรู้ โดยวิธกี ารเรียนแบบเพือ่ นชว่ ยเพือ่ น ในกิจกรรมการฝกึ ทักษะ 2.2 ตัวแปรตาม คือ ประสทิ ธิภาพของกจิ กรรมการฝกึ ทกั ษะ ประโยชน์ที่ได้รบั 1. ไดก้ จิ กรรมฝึกทักษะการเรยี นรูเ้ กย่ี วกับการอา่ นวงจรและต่อวงจรนิวสเ์ มตรกิ ส์ เพอ่ื พฒั นาทักษะของ ผ้เู รยี น ให้สูงข้ึน 2. เป็นแนวทางในการเรียนการสอนวชิ างานนิวแมติกสแ์ ละไฮดรอลิกส์เบื้องต้น หรอื รายวิชาอน่ื ๆ ต่อไป นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 1. นิวแมติกส์ หมายถึง ระบบนิวแมติกส์ล้วนเก่ียวข้องกับอากาศทั้งสิ้น เพราะลักษณะการทางานของ ระบบนิวแมตกิ ส์ เป็นการนาลมมาใช้เป็นพลังงานขบั ดนั ใหอ้ ุปกรณ์ต่าง ๆ เคลอ่ื นที่ เชน่ ใช้สง่ กาลงั ให้วาล์วเลื่อนไป– มา เพ่ือควบคุมให้ลูกสูบเลื่อนเข้า–ออก หรือควบคุมใหม้ อเตอร์ลมหมุนทวน–ตามเขม็ นาฬิกา เป็นต้น 2. ผลสัมฤทธ์ิในการเรียน ความหมายของผลสัมฤทธิ์ในการเรียนมีผู้ให้ไว้หลากหลาย ท่ีน่าสนใจและ สอดคลอ้ งกบั การวจิ ยั ในคร้ังนี้ ได้แก่ ความหมายอขงอายส์เนค และไมลี (Eysneck and Meili 1986 : 16) ที่กล่าว วา่ ผลสมั ฤทธใ์ิ นการเรยี น (achivement) ก็คือ ดัชนีชป้ี ระสิทธิภาพและคุณภาพของการจดั การศกึ ษา ผลสัมฤทธ์ิใน การเรยี นการสอน หรอื ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนก็ได้ สอดคล้องกับความหมายที่ ไพศาล หวังพานิฐ (2536 : 139) ให้ไว้ว่า คือ คุณลักษณะและความสามารถของบุคคลอันเกิดจากการเรียนการสอน เป็นผลของการ เปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมและประสบการณก์ ารเรียนร้ทู เี่ กดิ จากการอบรมหรอื การส่งั สอน แหลง่ ขอ้ มลู วธิ กี ารเก็บรวบรวมขอ้ มลู การรวบรวมขอ้ มลู มวี ิธกี าร ดงั น้ี---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 280 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 5.1. ทดสอบกอ่ นเรียน โดยการให้ผู้เรยี นปฏิบตั ิ (โดยใชโ้ ปรแกรม Festo Fluidsim ช่วยแทนสื่อในการต่อวงจรจริง) 5.2. ดาเนินการสอนโดยใช้กิจกรรมการเรยี นการสอนเพือ่ นช่วยเพ่อื น 5.3. เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนตามกาหนดแล้วจึงทาการทดสอบหลังเรียนโดยการให้ผู้เรียนปฏิบัติ (โดยใช้ โปรแกรม Festo Fluidsim ช่วยแทนส่อื ในการตอ่ วงจรจริง) 3 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลโดย นาการทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียนมาเปรียบเทียบกัน โดยใช้แผนภูมิแท่ง Excel 2013 วธิ ดี าํ เนนิ การวจิ ยั ตอนท่ี 1 ศกึ ษาสภาพการจดั กระบวนการเรียนร้เู พื่อสง่ เสรมิ การกําหนดจุดมุง่ หมายการดาํ เนินชีวติ ดว้ ย ตนเอง และการศึกษาพฤตกิ รรมการใชโ้ ทรศพั ท์มือถอื ในห้องเรียน วจิ ยั ในชั้นเรยี นเรือ่ ง การศกึ ษาปญั หาผเู้ รยี นช้ัน ปวช.3 ไมส่ ามารถอ่านและต่อวงจร วชิ างานนวิ แมตกิ ส์และไฮดรอ ลกิ ส์เบือ้ งตน้ โดยวธิ ีการเรียนแบบเพอ่ื นช่วยเพือ่ น ซง่ึ ผวู้ ิจัยไดด้ าเนนิ การตามขนั้ ตอนดงั นี้ 1. กลุ่มประชากร 2. กล่มุ ตวั อย่าง 3. ระยะเวลาที่ใช้ในการศกึ ษา 4. เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการรวบรวมข้อมลู 5. ขน้ั ตอนการสรา้ งเครอ่ื งมือ 6. การเก็บรวบรวมข้อมูล 7. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู 1. กลมุ่ ประชากร กลมุ่ ประชากรที่ใชใ้ นการวิจัยครั้งน้ีเป็นนักเรียน แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ช้ัน ปวช. 3/1 จาน วน 5 คน โดยคดั เอาตามความรคู้ วามสามารถทางการเรยี นคอื ออ่ น มาทาการเรียนแบบเพื่อนช่วยเพ่ือน 2. กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive sampling ) ทา การเลือกตัวอย่างมา 1 ห้องเรยี น จานวน 7 คน ทม่ี ีผลการเรียนอ่อน เพือ่ ใหเ้ ป็นกลมุ่ ทดลอง 3. ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา เวลาในการดาเนินการวิจัยในภาคเรียนท่ี2 ปีการศึกษา 2560 โดยผู้รายงาน ดาเนินการ ทดลองเอง ใช้เวลาในการทดลอง 4 คาบ โดยดาเนินการทดลอง 3 คาบ ทดสอบก่อนและหลังเรียน 1 คาบ 4. เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการวิจยั เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการวิจยั ประกอบด้วย 4.1. แผนการเรียนรู้ รายวิชางานนวิ แมติกสแ์ ละไฮดรอลิกส์เบ้ืองต้น เร่ือง การเขียนวงจรนิวแมติกส์ (โดย ใช้โปรแกรม Festo Fluidsim ช่วยแทนสอ่ื ในการต่อวงจรจริง) 4.2. แบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนกอ่ นและหลงั เรยี น (การปฏิบตั ิ) 4.3. การเรยี นแบบเพอื่ นชว่ ยเพ่ือน 5. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 5.1. ทดสอบก่อนเรยี น โดยการให้ผู้เรียนปฏิบตั ิ (โดยใช้โปรแกรม Festo Fluidsim ชว่ ยแทนสื่อในการต่อ วงจรจริง) 5.2. ดาเนินการสอนโดยใช้กิจกรรมการเรียนการสอนเพ่ือนช่วยเพื่อน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 281 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 5.3. เม่อื สิน้ สดุ การเรียนการสอนตามกาหนดแล้วจงึ ทาการทดสอบหลงั เรียนโดยการใหผ้ ูเ้ รียนปฏิบัติ (โดย ใช้โปรแกรม Festo Fluidsim ชว่ ยแทนส่อื ในการต่อวงจรจริง) 6. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลโดย นาการทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียนมาเปรียบเทียบกัน โดยใช้แผนภูมิแท่ง Excel 2013---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 282 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018 =====================================================================================================การพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น วิชางานบารักษารถยนต์ เร่อื งการบารุงรักษาและบรกิ ารแบตเตอรีร่ ถยนต์เกรียงศกั ด์ิ กองนาแผนกวิชาชา่ งยนต์ วทิ ยาลัยเทคนคิ ชยั ภูมิ สถาบนั การอาชีวะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5บทคัดยอ่ นาไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของ ตลาดแรงงาน การวจิ ยั เรอื่ ง การพัฒนาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรอ่ื ง การบารุงรักษาและบริการแบตเตอร่ีรถยนต์ วิชางานบารุงรักษา แ ต่ เ น่ื อ ง จ า ก นั ก เ รี ย น ที่ เ รี ย น ใ น ร า ย วิ ช า ง า น บ า รุ ง รั กษารถยนต์ รหัสวิชา 2101-2104 ของนักเรียนระดบั ชั้น ปวช.1 ห้อง รถยนต์ เป็นนักเรียนช้ัน ปวช.1 แผนกช่างยนต์ ซึ่งไม่มีA3 แผนกช่างยนต์วิทยาลยั เทคนิคชัยภมู ิ โดยใช้ส่ืออุปกรณ์ที่เปน็ ประสบการณ์จากการจากการใช้และการบารุงรักษาแบตเตอรี่ของจริง ช่วยในการเรียนการสอน มีวัตถุประสงค์ 2 ข้อคือ รถยนต์เท่าท่ีควร ทาให้ขาดความรู้พื้นฐาน ทักษะเก่ียวกับการใช้1. เพื่อให้นักเรียนระดับช้ัน ปวช.1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน งานส่งผลให้ในรายวิชางานบารุงรักษารถยนต์ ในเรื่องการเรื่องการบารุงรักษาและบริการแบตเตอรี่รถยนต์ดียิ่งขึ้น 2. เพื่อ บารุงรักษาและบริการแบตเตอรี่รถยนต์ นักเรียนไมท่ ราบชือ่ และลดการจินตนาการการเรียนรู้ เรื่องการบารุงรักษาและบริการ การใช้งานของแบตเตอรรี่ ถยนต์ที่ใช้ในการตรวจสภาพการใช้งานแ บ ต เ ต อ ร่ี ร ถ ย น ต์ ส า ห รั บ นั ก เ รี ย น ร ะ ดั บ ช้ั น ป ว ช . 1 แบตเตอรี่ เม่อื มาเรยี นจงึ มปี ัญหาความไม่เข้าใจบทเรียน สง่ ผลให้วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ ประชากรของการวิจัยคร้ังนี้คือ นักเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชางานบารุงรักษารถยนต์ เร่ืองระดับชั้น ปวช.1 ห้อง A3 แผนกช่างยนต์ จานวนท้ังหมด 20 คน การบารุงรักษาและบริการแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีท่ีลงทะเบียนเรียนภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 โดยเจาะจง ก าหนดท้ังหมด เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบทดสอบปรนัย เรื่องการบารุงรักษาและบริการแบตเตอร่ีรถยนต์ ประกอบด้วย จากปัญหาดังกล่าวผูว้ ิจัยจึงเห็นความส าคัญของปญั หาและแบบทดสอบปรนัยก่อนเรียนจานวน 10 ข้อ แบบทดสอบปรนัย ได้รวบรวมข้อมลู จงึ สรุปได้ว่าครูผู้สอนจะต้องใช้ส่อื อุปกรณ์ทีเ่ ปน็หลังเรียนจานวน 10 ข้อวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม ของจริงเข้ามาช่วยในการเรียนการสอนเพ่ือที่จะทาให้นักศึกษาMicrosoft Excel โดยวิเคราะห์ด้วยคา่ T-test ลดการจิตนาการทางการเรียนรู้ ซ่ึงจะช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางผลการวิจัย พบว่า ค่าเฉล่ียของคะแนนก่อนเรียนมีความแตกตา่ ง การศึกษาของนักเรียนท่ีไม่ผ่านเกณฑ์คะแนนที่กาหนดไว้ในเร่ืองกับคะแนนหลังเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 ซึ่งมี การบารุงรักษาและบริการแบตเตอร่ีรถยนต์ วิชางานบารุงรักษาความหมายว่า การสอนแบบใช้สื่ออุปกรณ์ที่เป็นของจริง ช่วยใน รถยนต์ และทาการวัดผลก่อนเรียนและหลังเรียนเพื่อวิเคราะห์การเรียนการสอน สามารถพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ เปรียบเทียบผลการเรียนเพื่อให้นักเรียนทุกคนมีความเข้าใจในผเู้ รียนได้จริง เร่ืองการบารุงรกั ษาและบริการแบตเตอร่ีรถยนต์ ได้อย่างถูกต้อง และเปน็ การพฒั นาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนให้สูงขึน้1. บทนา 2. วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั วิชางานบารุงรักษารถยนต์เป็นวิชาหลักท่ีสาคัญสาหรับ 1.2.1 เพือ่ ให้นักเรียนระดับช้ัน ปวช.1 หอ้ ง A3 มผี ลสมั ฤทธ์ินักเรียนสาขาช่างยนต์ วิชางานบารุงรักษารถยนต์ สามารถ ทางการเรยี น เร่อื ง การบ ารุงรักษาและบรกิ ารแบตเตอรีร่ ถยนต์ดีนาไปใช้ในการตรวจสอบสภาพเบ้ืองต้นรถยนต์ของผู้เรียนเองได้ ยง่ิ ขน้ึมีสมรรถนะรายวิชา คือ 1. แสดงขั้นตอนการเติมน้ากลั่นแบตเตอร่ีตามคู่มือ 2. แสดงขั้นตอนการตรวจสภาพการใช้งาน 1.2.2 เพ่ือลดจินตนาการการเรียนรู้ เร่ืองการบารุงรักษาแบตเตอรี่ 3. แสดงขั้นตอนการประจุไฟแบตเตอรี่ 4. แสดงการ และบริการแบตเตอร่ีรถยนต์สาหรับนักเรียนระดับช้ัน ปวช. 1ติดต้ังแบตเตอร่ีในรถยนต์ เม่ือนักเรียนจบออกไปแล้วสามารถ ห้อง A3 วิทยาลยั เทคนคิ ชัยภูมิ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 283 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================3. นยิ ามศัพท์เฉพาะ 4.3.2 จัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยกิจกรรมการ สอน แบบใชส้ ่อื อุปกรณท์ ี่เป็นของจรงิ ชว่ ยในการเรยี นการสอน ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน หมายถึง ผลท่เี กิดจากกระบวนการเรียนการสอนที่จะทาให้นักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม 4.3.3 ทดสอบหลงั เรยี น บันทึกผล (คะแนน)และสามารถวัดได้โดยการแสดงออกมาท้ัง 3 ด้าน คือ ด้านพุทธิ 4.4 วิเคราะหผ์ ลทดสอบ สรปุ ผลการวจิ ัย และเขยี นรายงานพิสัย ด้านจิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย การวจิ ยั นักเรียน หมายถึง นักเรียนระดับ ปวช. 1 ประจาภาคเรียน 5. ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ที่กาลังศึกษาในหลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ แผนกวิชาชา่ งยนต์ วทิ ยาลัยเทคนิคชยั ภูมิ ผลคะแนนจากการทดสอบก่อนเรยี นมีความแตกต่างกบั ผล คะแนนการทดสอบหลังเรียนโดยผลคะแนนจากการทดสอบของ สื่ออปุ กรณ์ทเ่ี ปน็ ของจรงิ หมายถงึ ส่ือทผ่ี เู้ รยี นสามารถรับรู้ นกั เรียนทกุ คนทแี่ สดงในตาราง จะเหน็ ไดว้ ่า การเรียนแบบใชส้ ่ือและเรียนรู้ได้ด้วยประสาทสัมผสั ทั้ง 5 ทาให้สามารถมองเห็น ได้ อุปกรณ์ท่ีเป็นของจริง ช่วยในการเรียนการสอน สามารถช่วยให้ยนิ ได้กลิน่ ได้ลิม้ รส และไดส้ มั ผัสกบั บรรยากาศของของจรงิ ผู้เรียนท่ีมีผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียนต่ากว่าเกณฑ์มีผล คะแนนการทดสอบหลงั เรียนผา่ นเกณฑท์ กุ คน การพฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เรื่องการบ ารุงรักษาและบริการแบตเตอรี่รถยนต์ วิชางานบารุงรักษารถยนต์ ใช้สื่อ ผลการเปรยี บเทยี บคะแนนเฉลยี่ เรือ่ ง การบ ารงุ รักษาและบรกิ ารอุปกรณ์ท่ีเป็นของจริง ช่วยในการเรียนการสอน หมายถึงการจัดทาส่ือ อุปกรณ์ท่ีเป็นของจริง ประกอบการเรียนรู้เพ่ือเพิ่ม แบตเตอร่ีรถยนต์ความรู้ ความเข้าใจและลดการจินตนาการในการรบั ร้ขู องนกั เรยี นในรายวิชางานบ ารงุ รกั ษารถยนต์เร่อื งการบ ารุงรกั ษาและบริการ ตัวแปร N x S. D. tแบตเตอรีร่ ถยนต์ ช่วยให้ผู้สอนด านเ ินการสอนท่มี ีคณุ ภาพและยังทาให้ประหยัดเวลาในการเตรียมการสอน อีกทั้งยังทาให้สอน คะแนนก่อนเรียน 20 2.55 1.190เรื่องการบารุงรักษาและบริการแบตเตอร่ีรถยนต์เป็นไปตาม (Pretest) 15.126วัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้เพ่ือเป็นการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ืองการบารุงรักษาและบริการแบตเตอร่ีรถยนต์ วิชางาน คะแนนหลังเรียน 20 8.65 1.225บ ารุงรกั ษารถยนต์ของนกั เรียนใหส้ ูงขนึ้ (Posttest)4. วิธดี าเนนิ การวิจยั จากตาราง พบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนเรียนมีความ แตกต่างกับคะแนนหลังเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 4.1 ขน้ั เตรยี มการสอน ผสู้ อนไดเ้ ตรยี มการสอน โดยใช้ 0.05 ซึ่งมีความหมายว่า การสอนแบบใช้ส่ืออุปกรณ์ที่เป็นของ จริง ช่วยในการเรียนการสอน สามารถพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการวธิ กี ารสอน แบบสอ่ื อุปกรณท์ ี่เป็นของจรงิ ช่วยในการเรียนการ เรยี นของผเู้ รยี นได้จรงิสอน ซง่ึ กระบวนการท าแผนการสอนไดด้ าเนินการโดย 6. สรปุ ผลและอภิปรายผลการวจิ ัย 4.1.1 วเิ คราะห์ผู้เรยี น 6.1 ผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียนเร่ืองการบารุงรักษา 4.1.2 วเิ คราะหเ์ น้อื หา และบรกิ ารแบตเตอรรี่ ถยนต์ 4.1.3 ออกแบบกระบวนการเรียน โดยเลือกกิจกรรมการ พบว่า ผลคะแนนจากการทดสอบก่อนเรียนของผู้เรียนมีความสอน แบบใช้สื่ออุปกรณ์ท่ีเป็นของจรงิ ชว่ ยในการเรยี นการสอน แตกต่างกันโดยนักศึกษา ที่มีผลคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์จานวน 19 4.1.4 เตรยี มกจิ กรรมการสอน เพ่อื กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รยี นสนใจ คนและนกั ศึกษาทผ่ี ่านเกณฑ์ก็มผี ลคะแนนทไี่ มด่ ีเทา่ ทีควร 4.1.5 เตรยี มส่ือและอุปกรณก์ ารเรียน 4.1.6 วางแผนประเมินผลการเรยี นรู้ 6.2 ผลคะแนนการทดสอบหลังเรียนเร่ืองการบารุงรักษา 4.2 ข้นั สอน มีการน าเข้าสบู่ ทเรียน การสอนตามบทเรียน และบริการแบตเตอรี่รถยนต์ พบว่า ผลคะแนนจากการทดสอบ 4.3 ด านเ นิ กิจกรรมการเรียนรู้ตามล าดบั หลังเรยี นของผเู้ รยี นทุกคนมีผลคะแนนผ่านเกณฑ์ โดยนกั ศึกษาที่ ได้คะแนนต่าสุดอยู่ที่ 6 คะแนน จานวน 2 คน นักศึกษาที่ได้ 4.3.1 ทดสอบก่อนเรียน บันทึกผล (คะแนน)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 284 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================คะแนน 9 คะแนน จานวน 5 คน และนักศึกษาที่ได้คะแนนเต็ม 8. บรรณานุกรม10 มีจ านวน6 คน 8.1 ตรีเพชรอีซูซุเซลล์. (2547). คู่มือการใช้รถยนต์ อีซูซุ TFR. 6.3 เปรียบเทียบผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลัง กรุงเทพฯ : ตรเี พชรอีซชู เุ ซลล.์เรียนเรอ่ื ง การบ ารุงรักษาและบริการแบตเตอรร่ี ถยนต์ 8.2 โตโยต้ามอเตอร์. (2529). คู่มือการซ่อมเคร่ืองยนต์ 1S, 2S. กรุงเทพฯ:โตโยต้า. (2529). คู่มือการซ่อมเครื่องยนต์ 1E, 2E. พบว่า ผลคะแนนจากการทดสอบก่อนเรยี นมีความแตกต่าง กรุงเทพฯ : โตโยต้า. (2547). คู่มือการใช้รถยนต์ โตโยตา โคโรลกับผลคะแนนการทดสอบ หลังเรียนโดยผลคะแนนจากการ ล่า. กรุงเทพฯ : โตโยต้า. (2547). คู่มือการใช้รถยนตโ์ ตโยตา้ ฟอร์ทดสอบของนักเรียนทุกคนที่แสดงในตาราง จะเห็นได้ว่ากลวิธี จนู เนอร์.กรงุ เทพฯ:โตโยต้า.การจัดการเรียนการสอนแบบใชส้ ื่ออุปกรณ์ที่เป็นของจริง ช่วยใน 8.3 ธีระยุทธ สุวรรณประทีป. (2539). เทคนิคยานยนต์.การเรียนการสอน สามารถช่วยให้ผู้เรียนที่มีผลคะแนนการ กรุงเทพฯ : เอ็มแอนด์ดี.ทดสอบก่อนเรียนต่ ากว่าเกณฑม์ ผี ลคะแนนการทดสอบหลังเรยี น 8.4 บางจากปิโตรเลียม. (2535). คู่มือผลิตภัณฑ์นา้ มันเช้ือเพลิงผ่านเกณฑ์ทุกคน และน้ ามนั หล่อลืน่ . กรงุ เทพฯ : ม.ป.ท.ผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยเรื่องการบารุงรักษาและบริการ 8.5 มาสค้าเซลล์. (2549). คู่มือการใช้ Mazda BT-50 12 R.แบตเตอร่ีรถยนต์ กรุงเทพฯ : มาสค้าเซลล.์ 8.6 มิตซูบิชิ. (2535). คู่มือการใช้รถยนต์มิตซูบิชิ. กรุงเทพฯ : 6.4 เมื่อเปรียบเทียบผลคะแนนจากการทดสอบก่อนเรียน มิตซบู ซิ ิ มอเตอร์และการทดสอบ หลังเรียนนักเรียนระดับชั้น ปวช. 1 ห้อง A3 8.7 เอสโซ่แสตนดาร์ด. (2535). นา้ มันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์แผนกช่างยนต์ ทุกคนมีการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนท่ีดี หล่อลืน่ . กรุงเทพฯ : เอส'โซแสตนดาร์ด.ยง่ิ ขน้ึ 8.8 ฮอนด้า ออโตโมบิล. (ม.ป.ป.). คู่มือผู้ใช้รถ Honda City. กรุงเทพฯ : ฮอนด้า ออโตโมบิล. พบว่า ค่าเฉล่ียของคะแนนก่อนเรียนมีความแตกต่างกับ 8.9 Clifford, M. T. ( 1 9 8 3 ) . Automotive Serviceคะแนนหลังเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 ซึ่งมี Technology. 3rded. Sydney: McGraw-Hill.ความหมายว่า การสอนแบบใช้สื่ออุปกรณ์ท่ีเป็นของจริง ช่วยใน 8.10 Ferguson, C.R. (1986). Internal Combustion Engine.การเรียนการสอน สามารถพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ 8.11 Shop Manual Honda Civic Maintenance and Repair.ผูเ้ รียนไดจ้ รงิ (1983). n.p. : Honda Motor.7. กติ ติกรรมประกาศ งานวิจัยเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่องการบารุงรักษาและบริการแบตเตอรี่รถยนต์ วิชางานบารุงรักษารถยนต์ รหัสวิชา 2101-2104 ของนักเรยี นระดบั ช้ัน ปวช. 1 ห้องA3 แผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคชยั ภมู ิ โดยใช้ส่อื อปุ กรณ์ที่เปน็ของจริง ช่วยในการเรียนการสอน เสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความกรุณาและความร่วมมือของผู้เก่ียวข้องหลายฝ่าย กราบขอบพระคุณผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่กรุณาตรวจสอบเครื่องมือต่างๆ ท่ีใช้ในการวิจัย และให้ข้อเสนอแนะ แนวคิด และวิธีการด านเ ินการต่าง ๆ จนสามารถน าเครอ่ื งมือไปใชใ้ นการศกึ ษาวิจยั สุดท้ายนี้ผู้วิจัยขอน้อมลาลึกถึงคุณบิดามารดา ครูอาจารย์ผู้มีพระคุณทุกท่านและขอบคุณเพ่ือน พี่น้อง ทุกคนที่สนับสนุนและเปน็ ก าลงั ใจ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 285 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การหาประสิทธภิ าพเอกสารประกอบการสอน วิชางานวัดละเอยี ดช่างยนต์สุวิจักขณ์ อัศวพัฒนชนิแผนกวชิ าชา่ งยนต์ วิทยาลัยเทคนคิ หนองคาย สถาบันการอาชวี ะภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 1บทคดั ยอ่ พงึ พอใจมีรวมทุกด้าน คา่ เฉลย่ี ( X ) เทา่ กับ 4.57 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือหาประสิทธิภาพของ ท่ีดมี าก และค่าส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.50เอกสารประกอบการสอนในรายวิชางานวดั ละเอียดชา่ งยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพให้มี 1. บทนาประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กาหนดไว้ เพื่อศึกษา ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร อ า ชี ว ศึ ก ษ าประสิทธิผลของผลการจัดกิจกรรมการเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ สาหรับ กระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ เพื่อเปรียบเทียบ พุทธศักราช 2556 เพื่อให้สอดคลอ้ งกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตร สงั คมแหง่ ชาตฉิ บับท่ี 11 พ.ศ. 2555 – 2559 ซ่งึ ได้จดั วิชางานวัดวิชาชีพปีท่ี 1 ท่ีเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียน โดยใช้เอกสาร ละเอียดช่างยนต์ กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรมประกอบการเรียนการสอน วิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ โดย เศรษฐกิจ การเมืองและการปกครอง พร้อมทั้งกระบวนในการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เพ่ือศึกษาประสิทธิภาพของ แก้ปัญหาโดยใช้หลักจริยธรรมและคุณธรรม เพ่ือให้นักศึกษา ได้เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ ศกึ ษาความเจรญิ กา้ วหนา้ ในด้านวิทยาการและส่งิ ตา่ ง ๆ ทมี่ นุษย์และศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการเรียนรู้โดยใช้ นามาใช้แต่การสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ เนื้อหาในบทนี้เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ จะเน้นถึงสมรรถนะของผู้เรียน ซึ่งผู้สอนจะประสบปัญหากับการระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี จัดการเรียนการสอนที่นักศึกษาขาดความสนใจใฝ่ที่จะศึกษา ครูผู้สอนจะถ่ายทอดความรู้ใช้วิธีการบรรยายหรืออธิบายสอน สาหรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีที่ 1 ให้นักศึกษา และนักศึกษาจะไม่ให้ความร่วมมือในการเรียนสาขาวิชาเคร่ืองกล สาขางานยานยนต์ ประจาภาคเรียนท่ี 2 ปี การสอนจึงส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่ายและไม่น่าสนใจท้ังผู้สอนการศึกษา 2560 จานวน 18 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบ (Cluster และผู้เรียน ซ่ึงสภาพปัญหาดังกล่าวน้ีช้ีให้เห็นว่าปัญหาในRandom Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เอกสาร การจัดการเรียนการสอนควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ประกอบการเรียนการสอนวิชางา นวัดละเอียดช่างยนต์ การเรียนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ สัมฤทธิ์ผลตามจุดประสงค์แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน แบบสอบถาม ของการจัดการเรียนการสอนแนวทางแก้ปัญหาได้แก่การจัดการความพึงพอใจ ของนักศึกษาที่มีต่อเอกสารประกอบ การเรียน เรียนการสอนแบบการบูรณาการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญตามการสอน วิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ หลักสูตรซ่ึงไดต้ ระหนักถึงความรบั ผิดชอบที่ต้องจัดการเรียนการข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สอนให้บังเกิดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้ครอบคลุมจุดประสงค์วเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เชิงพฤติกรรมทั้งทางด้านพุทธพิสัย ทักษะพิสัย คุณธรรมและ จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมภพ สุวรรณรัฐ ผลการวิจัยพบว่า ผลการหาประสิทธิภาพเอกสาร (มปป. :1) การจัดการเรียนการสอนที่มุ่งจัดกิจกรรมที่สอดคล้องประกอบการเรียนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา กับการดารงชีวิต เหมาะสมกบั ความสามารถและความสนใจของ2101-2106 มีประสิทธิภาพหลังเรียนร้อยละ 86.94 ซึ่งมีค่าสูง ผเู้ รียน โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและลงมอื ปฏิบัติจรงิ ทุกขั้นตอนจะกว่าเกณฑ์ท่ีตั้งไว้คือ ร้อยละ 80 ค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสาร บังเกิดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองประกอบการเรียนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ มีค่าเท่ากับ 0.6204 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ ดังน้ัน ในฐานะครูผู้สอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ จึงได้นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 ท่ีเรียนจากการ นาแผนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ เน้นฐานสรรถนะจัดกิจกรรมการเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน และบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการจัดการเรียนการวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ ก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่า สอนให้สอดคล้องกับความสามารถและความแตกต่างของผเู้ รียนผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบ โดยวิธีการใช้แผนการสอน วิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ เน้นฐานก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ 0.05 ความพึงพอใจของ สรรถนะ และบูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอื่ สร้าง กระบวนการนกั ศกึ ษาท่มี ตี ่อวชิ างานวัดละเอยี ดช่างยนต์ พบว่ามี ความ คิดการลงมือปฏิบัติและการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มุ่งเน้น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 286 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================ผู้เรียนเป็นสาคัญและบูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและ 5. ผลการวิเคราะหข์ ้อมลูคุณลักษณะที่พึงประสงค์สอดคล้องกับพระราชบัญญัตกิ ารศึกษา ผ ล ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ก า ร ห า ป ร ะ สิ ท ธิ์ ภ า พ ข อ ง เ อ ก ส า รแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขนาไปสู่การเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีคุณภาพที่ดี ใน ประกอบการเรียนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชาอนาคตทด่ี ีตอ่ ไป 2101-2106 ระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ ผู้วิจัยได้น าเสนอเรียง ตามล าดับหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี2. วตั ถุประสงค์ของการวจิ ัย 2.1 เพ่ือหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน 5.1 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของเอกสาร ประกอบการเรียนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชาในรายวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 2101-2106 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ตามเกณฑ์ ไม่น้อยนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพให้มีประสิทธิภาพตาม กว่าร้อยละ 80 โดยหาค่าเฉลยี่ เบ่ียงเบนมาตรฐานและค่ารอ้ ยละเกณฑม์ าตรฐานทีก่ าหนดไว้ ตารางที่ 1 แสดงผลการวิเคราะห์การหาประสิทธิ์ภาพของเอกสาร 2.2 เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษา ประกอบการเรียนการสอนวชิ างานวัดละเอยี ดชา่ งยนต์ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1 ท่ีเรียนจากการจัดกิจกรรม ผลรวมคะแนนกอ่ นเรียน 1,181 65.61การเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ผลรวมคะแนนหลงั เรยี น 1,565 คา่ เฉลย่ี 86.94งานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 โดยทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน จากตารางที่ 1 พบว่า ผลการเรียนรู้ของนักศึกษาที่เรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรยี นการสอนวิชางานวัดละเอียดช่าง 2.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการเรียนรู้ ยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานวัดละเอียด จากการท าแบบทดสอบก่อนเรียนรวมทกุ หน่วย มคี า่ คะแนนเฉลย่ีชา่ งยนต์ รหสั วิชา 2101-2106 ระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี ร้อยละ 65.61 ดังนั้น E1 ของเอกสารประกอบประกอบการเรยี น การสอน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 65.61 และผลจากการทา3. สมมติฐานการวิจัย แบบทดสอบหลังเรียนรวมทุกหน่วย มีค่าคะแนนเฉล่ียร้อยละ 3.1 ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน 86.94 ดังนั้น E2 ของคะแนนแบบทดสอบหลังเรยี นของนักศึกษา ที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชารายวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ จะต้องมีประสิทธิภาพไม่น้อย งานวัดละเอียดช่างยนต์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพกวา่ ร้อยละ 80 มีประสิทธภิ าพเทา่ กับ 86.94 3.2 ผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่า 5.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาผลสมั ฤทธิข์ องคะแนนทดสอบกอ่ นเรียนอยา่ งมีนยั ส าคัญทางสถิติ ก่อนเรียนและหลังเรียนท่ีใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอนที่ระดบั 0.05 วชิ างานวดั ละเอียดชา่ งยนต์ 3.3 ผลการการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการ ตารางท่ี 2 แสดงการเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนกั ศกึ ษาก่อนเ รี ย น รู้ โ ด ย ใ ช้ เ อ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น เ รี ย น แ ล ะ ห ลั ง เ รี ย น ที่ ใ ช้ เ อ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ นวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ มีค่า วิชางานวัดละเอยี ดช่างยนต์ระดบั คะแนนเฉล่ียไมน่ ้อยกว่า 3.5 ในทุก ๆ ด้าน และค่าเบีย่ งเบน แบบทดสอบวดัมาตรฐาน (S.D.) ไม่เกิน 1 ผลสมั ฤทธ์ิ N X D D2 T-Test4. วิธีดาเนนิ การวิจัย แบบทดสอบ 18 65.61 16,126 4.19 4.1 ท า ก า ร ท ด ส อ บ ก่ อ น เ รี ย น ( Pre- test) โ ด ย ใ ช้ ก่อนเรยี น 384 แบบทดสอบแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนท่ีผวู้ ิจยั สร้างข้นึ (E1) หลังเรยี น 18 86.94 4.2 ท ากิจกรรมในเอกสารประกอบการเรยี นการสอน 4.3 ทา กา ร ทด ส อบ ห ลั งเ รี ย น ( Post- test) โ ด ย ใช้ จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั ศึกษาทีเ่ รยี นโดยใชเ้ อกสารประกอบการ เรียนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา 2101-2106แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างข้ึน เพ่ือหา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี นัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 และมีความแตกต่างของคะแนนคา่ ประสิทธภิ าพของผลลัพธ์ (E2) หลังเรยี นกับก่อนเรยี นเท่ากบั 384 คะแนน น่ันคือ ผลของการใช้ 4.4 สอบถามความพึงพอใจของนักศึกษา หลังจากทดสอบหลังเรยี น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 287 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================เอกสารประกอบการเรียนการ วิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ 8. บรรณานกุ รมรหัสวชิ า 2101-2106 ท าให้นักศึกษามคี วามรเู้ พม่ิ ขึน้ [1] หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ กรมอาชวี ศกึ ษา.5.3 ค่ า เ ฉ ล่ี ย แ ล ะ ค่ า ส่วนเ บี่ย งเ บ นม า ตร ฐาน ของ [2] ธนนันท์ มาศธนานันต์. 2550. การศึกษาผลการใช้ความพึงพอใจของนักศกึ ษาทมี่ ตี ่อการเรยี นการสอน วิชางานวัดละเอยี ดชา่ งยนต์ เอกสารประกอบการสอน วิชาเครอื่ งรับวทิ ยุ [3] นวลจติ ต์ เชาวกีรติพงศ์. 2535. การพฒั นารูปแบบการตารางท่ี 3 แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนการสอน วิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ จัดการเรียนการสอนท่ีเน้นทักษะปฏิบัติสาหรับ ครูวิชาอาชีพ.รวมทุกดา้ น วทิ ยานิพนธป์ รญิ ญาเอก, จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั .ล าดับ จดุ ประเมนิ ( X ) S.D.1. ด้านเนอื้ หา 4.62 0.49 [4] บุญชม ศรีสะอาด. 2543. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์2. ดา้ นแบบประเมินผลการเรียนรู้ 4.57 0.50 ครั้งท่ี 6. กรุงเทพมหานคร : สวุ รี ยิ าสาสน์ .3. ด้านส่ือการเรยี นการสอน 4.60 0.504. ด้านครูผู้สอน 4.69 0.46 [5] บุญชม ศรีสะอาด. 2545. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์คะแนนเฉล่ยี รวมท้งั 4 ดา้ น 4.62 0.49 คร้งั ท่ี 7. กรุงเทพมหานคร : สวุ รี ยิ าสาส์น.จากตารางที่ 3 พบว่า ความพงึ พอใจของนักศึกษาที่มตี ่อการเรียน [6] ประเสริฐ จันทร์อุดม. 2545. การสร้างและพัฒนาการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 เอกสารประกอบการสอนวชิ าการอ่านรวมทุกด้าน มีค่าเฉลี่ย ( X ) เท่ากับ 4.62 ซ่ึงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก [7] ผอ่ งพรรณ ตรยั มงคลกลู และสุภาพ ฉัตราภรณ.์ 2549. การออกแบบการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร :และค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากบั 0.49 มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์.6. สรุปผลและอภปิ รายผลการวิจยั [8] เผชิญ กิจระการ. 2544. การวิเคราะหห์ าประสิทธภิ าพ 6.1 ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ส่ือและเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา. การวัดผลการศึกษา. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม.การสอนวชิ างานวดั ละเอียดชา่ งยนต์ รหสั วิชา 2101-2106 พบว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.94 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน [9] ศกึ ษาธกิ าร, กระทรวง. 2546. หลักสตู รประกาศนยี บตั รทก่ี าหนดไว้ วิชาชีพพุทธศักราช 2545 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม (ปรับปรุง พ.ศ. 2546). (อัดส าเนา) 6.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิของคะแนนทดสอบก่อนเรียนหลังหลังเรียนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา [10] สมภพ สุวรรณรัฐ. หลกั และแนวทางการจดั การเรยี น2101-2106 พบว่าผลสัมฤทธ์ิของคะแนนทดสอบหลงั เรยี นสูงกวา่ การสอนอาชีวศึกษาโดยยึดผู้เรียนเป็นสาคัญตามรูปแบบ CIPPA.ก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถติ ิทร่ี ะดบั 0.05 เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เขียนแผนการสอน ทเี่ น้นสมรรถนะอาชีพ”. มปป. (อดั ส าเนา) 6.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 [11] สาหร่าย พันธ์น้อย. 2545. รายงานการใช้นวัตกรรมพบว่ามีคา่ เฉลี่ยทุกด้าน 4.62 ซึ่งอยู่ในระดับดมี าก การสอน เอกสารประกอบการสอน วิชา ว 037 เคมี 3 ช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนโคกเจริญวิทยา จังหวัดลพบุรี.7. กิตตกิ รรมประกาศ วิทยานพิ นธ์ปรญิ ญาโท, มหาวิทยาลยั ขอนแก่น. กระผมขอขอบพระคณุ วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย สาขาวิชา [12] ไสว ฟักขาว. 2544. หลักการสอนสาหรับเป็นเคร่ืองกล แผนกช่างยนต์ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ ในการทาวิจัย ครมู อื อาชีพ. กรงุ เทพมหานคร : เอมพันธ.์การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนการสอน ในรายวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 และขอบพระคุณ [13] อรทัย มูลคา และสุวิทย์ มูลคา. 2544. CHILDคณะครูแผนกวิชาช่างยนต์ ท่ีทุกท่านได้ให้คาปรึกษาแนะนาและ CENTRED: STORTLINE METHOD : การบูรณาการหลักสูตรใ ห้ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ใ น ก า ร ด า เ นิ น ก า ร ต ล อ ด จ น ก า ร แ ก้ ไ ข แ ล ะ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น โ ด ย เ น้ น ผู้ เ รี ย น เ ป็ น ส า คั ญ .ข้อบกพร่องต่าง ๆ ทใ่ี หค้ าแนะน ากเ ่ียวกับการวิจัย กรุงเทพมหานคร : ภาพพมิ พ.์ [14] อาภรณ์ ใจเท่ียง. 2546. หลักการสอน. พิมพ์ คร้งั ที่ 3. กรุงเทพมหานคร : โอเอส พรนิ ตง้ิ เฮา้ ส์.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 288 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== เปรียบเทียบผลสมั ฤทธิ์ระหว่างภาคเรยี น ของนกั เรยี นชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปี ท่ี 1/2 รายวิชางานจักยานยนต์ ของนักเรียนระดับชั้น ปวช.ชย. 1/2 สาขาวิชาช่าง ยนต์ประจาภาคเรียนที่ 2/2560 โดยการใชแ้ บบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น วิรยิ ะ ภคู งนา้ 1 บทคดั ย่อ งานวิจยั ครั้งนีม้ ีวัตถปุ ระสงค์ เพ่ือศึกษาและเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิคะแนนระหวา่ งภาคเรยี นรายวิชางาน จกั ยานยนต์ โดยการใช้แบบทดสอบ ของนักเรยี นช้ันประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั ปที ่ี 1/2 สาขาวิชาชา่ งยนต์ ดาเนินการโดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบสองกลุ่ม ทดสอบด้วยแบบทดสอบระหว่างภาค คร้ังที่ 1 และ ทดสอบแบบทดสอบระหว่างภาค คร้งั ที่ 2 กลุ่มตวั อย่างเป็นนกั เรยี นนักเรียนระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปี ที่ 1/2 สาขาวิชาช่างยนต์ จานวน 18 คน ที่ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องงานจักยานยนต์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ระหว่างภาค และ การ วิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉล่ีย ร้อยละ และการทดสอบค่าที่ ผลการวิจัยพบว่าการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย (X ) ส่วน เบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) และสัมประสทิ ธ์กิ ารกระจายของคะแนนสอบ (C.V.) พบว่าคะแนนสอบระหว่างภาค ครั้ง ท่ี 1 มคี า่ เฉลย่ี เท่ากับ 6.8 คา่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.63 คิดเป็นร้อยละ 6 และคะแนนสอบระหว่างภา คร้ังท่ี 2 มีค่าเฉลี่ยเทา่ กับ 8 คา่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ0.47 คิดเปน็ รอ้ ยละ 80 1คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น *E-mail : tyowe007@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 289 RMUTI EDUCON 2018
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325