Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== พัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน เรอ่ื งการใช้งานวงจรวงจร R-L-C ขนานและอนกุ รม โดยชดุ ฝึกวงจร R-L-C ขนานและอนุกรม ธนาชล ชะพนิ ใจ1 บทคดั ยอ่ การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการใช้งานวงจร R-L-C ขนานและ อนุกรม สาหรบั ใช้ในการเรยี นการสอน วชิ าวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี วทิ ยาลยั การอาชีพ รอ้ ยเอด็ การดาเนินการวิจัยประกอบดว้ ย 4 ขน้ั ตอน คอื (1) ศกึ ษาประเดน็ ของปัญหาในการเรยี นรเู้ รอ่ื งวงจร R-L-C ขนานและอนุกรม (2) วิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือสร้างชุดฝึกวงจร R-L-C ขนาดและอนุกรม (3) ทาการประเมินคุณภาพ ชดุ ฝึกฯท่ีสร้างขึ้นโดยผู้เช่ียวชาญจานวน 3 คน (4) นาไปใช้กับกลุ่มทดลองเพื่อหาประสิทธิภาพ โดยใช้นักศึกษาใน ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี สาขาวชิ าช่างอิเลก็ ทรอนกิ ส์ วทิ ยาลัยการอาชีพรอ้ ยเอด็ จานวนทง้ั หมด 12 คน ผลการวิจัยพบว่าชุดฝึกที่สร้างขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ซึ่งสามารถนาชุดฝึกน้ีไปใช้ในการเรียนการ สอน วิชา วงจรไฟฟา้ กระแสสลบั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ Abstract This research aims to develop student achievement. Re: R-L-C Parallel and Serial Circuits For use in teaching. AC circuit High Vocational Certificate Roi Et Vocational College The research consists of four steps: (1) to study the problems of learning parallel and serial RLC circuits; (2) to analyze the data to create a series of RLC circuits; (3) Created by 3 experts. (4) Apply to the experimental group to find the efficiency. Use of students at vocational certificate level. Electronics 12 students in Roi Et Vocational College The research found that the training set quality was very high. This training kit can be used to teach the AC course. Effectively 1คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น * Correspondingc E-mailc : coombo2499@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 40 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา ปัจจุบันการเรียนการสอนวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ 2105-2003 ต้องได้ชุดฝึกวงจร R-L-C ขนานและ อนุกรม ซึ่งไม่มีชุดทดลองเพียงพอต่อการเรียนการสอน อีกทั้งนักเรียนนักศึกษาที่เข้าเรียนใหม่ในแผนกวิชาช่าง อิเล็กทรอนิกส์ จาเป็นต้องได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวัดค่าและการใช้งานของวงจร R-L-C ขนานและอนุกรม ซ่ึงเป็น พืน้ ฐานในการเรียนการสอนละนาความรพู้ ้ืนฐานทีไ่ ด้ไปเรียนในรายวิชาอืน่ ๆอกี ต่อไป ซึง่ จากสภาพการเรียนการสอนนัน้ มชี ดุ ฝกึ วงจร R-L-C ขนานและอนกุ รมไม่เพียงพอ อาจทาให้นักเรียนไม่ เขา้ ใจในการทดลองจากชุดฝึก จึงจาเป็นต้องสรา้ งชดุ ฝกึ เพ่ือใหน้ กั เรยี นได้ทดลองและมองเห็นสภาพการทางานของ ชุดฝกึ เพ่ือใหก้ ารเรียนการสอนในวชิ าวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั 2105-2003 สมั ฤทธ์ิผลตามจดุ ประสงคข์ องการจดั การ เรยี นการสอน แนวทางแกป้ ัญหาไดจ้ ดั ทาแผนจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตร ซ่ึงได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบท่ีต้อง จัดการเรียนการสอนให้บังเกิดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้ครอบคลุมจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมทั้งทางด้านพุทธิพิสัย ทกั ษะพสิ ยั คุณธรรมและจริยธรรมตามคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จากความสาคัญและความเป็นมาของปัญหาทางผู้จัดทาจึงได้จัดทาชุดฝึกวงจร R-L-C ขนานและอนุกรม ใช้ในการประกอบการจัดการเรียนการสอนในวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ 2105-2003 เพื่อแก้ปัญหาชุดฝึกไม่ เพียงพอให้สอดคล้องกับความสามารถและความแตกต่างของผู้เรียนโดยวิธีการใช้ชุดฝึกวงจร R-L-C ขนานและ อนุกรมโดยเนน้ กระบวนการคดิ การลงมือปฏิบัตแิ ละการสร้างองค์ความร้ดู ว้ ยตนเองมุง่ เนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั วธิ ดี าเนนิ การศกึ ษา การวิจัยศกึ ษาเรื่อง การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสสลับโดยใช้ชุดฝึกวงจร R-L- C ขนานและอนุกรม ผวู้ จิ ยั ได้ศกึ ษาทฤษฎีและงานวิจยั ทเี่ กยี่ วขอ้ งเพื่อนามาใช้เปน็ แนวทางในการวิจัย ดงั นี้ 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 3.2 เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการวจิ ัย 3.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3.4 การวเิ คราะหข์ ้อมลู 3.5 สถติ ิท่ีใช้ในการวจิ ัย 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง การศึกษาเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสสลับโดยใช้ชุดฝึกวงจร R-L-C ขนานและ อนุกรม ไดศ้ ึกษาทฤษฎีและงานวจิ ัยที่เกี่ยวข้องเพอื่ นามาใชเ้ ปน็ แนวทางในการวจิ ัย ดงั น้ี 3.1.1 ประชากร กลุ่มประชากร คอื นักศึกษาปวช.1 แผนกวิชาชา่ งอเิ ล็กทรอนิกส์ วทิ ยาลัยการอาชีพร้อยเอด็ ภาคเรยี นท่ี 2 ปี การศกึ ษา 2560 จานวน 1 หอ้ งเรียน 15 คน โดยแบง่ ออกเป็น 2 กลมุ่ กลมุ่ ละ 8 คน 1 กลมุ่ และกลมุ่ ละ 7 คน 1 กลมุ่ 3.1.2 กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้หาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของการใช้ชุดทดลองกับไม่ใช้ชุดทดลองเพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้ทา แบบทดสอบให้ได้คะแนนทด่ี ขี ้ึน 3.2 เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจยั 3.2.1 เนือ้ หาวชิ า วงจรไฟฟ้ากระแสสลบั ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ียวกับวงจร R-L-C ขนานและอนุกรม---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 41 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== เน้ือหาวชิ า วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ เรื่อง วงจร R-L-C หนังสือวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ โดยเอกสารประกอบด้วย เนื้อหาดงั ต่อไปนี้ - เนือ้ หาทฤษฎีของหนว่ ยเรียน เรอ่ื ง วงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟ้าและวงจรแบง่ กระแสไฟฟา้ - ใบงาน, แบบทดสอบ - การตอ่ ใช้งาน 3.2.2 แบบทดสอบ ทาการสร้างแบบทดสอบความเช่ือม่ันของแบบทดสอบ และนาไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง เพ่ือนามาหาค่าระดับ ความยากงา่ ย คา่ อานาจจาแนกและความเชือ่ มนั่ ของแบบทดสอบ สาหรับหาหาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนของผู้เรียน 3.3 วธิ กี ารสรา้ งเคร่ืองมอื 3.3.1 ขั้นวางแผนศกึ ษาข้อมลู เนอ้ื หาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพือ่ นามาสรา้ งใบงานการทากจิ กรรมของผู้เรยี น 3.3.2 ขน้ั การสร้างแบบทดสอบ ข้นั ท่ี 1 ศกึ ษาวิธกี ารสร้างแบบทดสอบใหส้ อดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์ เน้ือหาวชิ าวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั ขน้ั ที่ 2 สรา้ งแบบทดสอบหลงั เรยี น 3.3.3 ขัน้ การตรวจสอบเครอ่ื งมือ ผู้วจิ ยั ได้ทาการตรวจสอบคุณภาพของเครือ่ งมอื ทีไ่ ดส้ รา้ งขนึ้ ดงั น้ี ขน้ั ท่ี 1 การประเมนิ คณุ ภาพของเนื้อหาทฤษฎีวิชาวงจรไฟฟา้ กระแสสลับ เร่ือง วงจร R-L-C ขนานและอนุกรม โดย ให้ผ้เู ช่ยี วชาญประเมนิ ให้คะแนนในแต่ละสว่ นของชุดฝกึ แลว้ นามาหาคะแนนเฉลี่ย ดงั นี้ แสดงระดับความคดิ เห็นของผู้ประเมิน ระดับ 5 หมายถึง มากทสี่ ดุ ระดับ 4 หมายถึง มาก ระดบั 3 หมายถงึ ปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง นอ้ ย ระดบั 1 หมายถงึ นอ้ ยท่สี ดุ ขัน้ ที่ 2 การประเมินความสอดคลอ้ งระหวา่ งขอ้ คาถามกับวตั ถปุ ระสงคข์ องวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั เร่อื ง วงจร R- L-C ขนานและอนุกรม โดยให้ผู้เช่ียวชาญประเมิน ให้คะแนนในแต่ละส่วนของชุดฝึกแล้วนามาหาคะแนนเฉล่ียอยู่ ระหวา่ ง 0.6 - 1.0 3.4 วธิ กี ารเก็บขอ้ มลู เม่อื ไดใ้ บงานเนือ้ หาวชิ าวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ เรอ่ื งวงจร R-L-C ขนานและอนุกรม ที่ได้มาทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง ตามขัน้ ตอนดังนี้ 3.4.1ทาการสอนโดยวธิ กี ารสอนบรรยายการสอนแบบปฏิบัติและการสอนแบบถามตอบ 3.4.2แบง่ นักศกึ ษาออกเปน็ 2 กลมุ่ กลุ่มละ 8 คน 1 กล่มุ โดยกลมุ่ 1 ใช้ชดุ ฝกึ อกี กลุ่ม 1 ไมใ่ ชช้ ุดฝกึ (กลุ่ม 7 คน) 3.4.3ทาแบบทดสอบ 3.4.3ทาการเก็บผลทาแบบทดสอบหลังจากการทาแบบทดสอบ 3.5 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.5.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยวิเคราะห์จากคะแนนกลุ่มที่ใช้ชุดฝึกและกลุ่มที่ไม่ใช้ ชดุ ฝึกแล้วใชส้ ถติ ิ t-test ในการวเิ คราะห์ 3.5.2 นาขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการทดสอบมาวเิ คราะหผ์ ลสัมฤทธิท์ างการเรียนทีใ่ ช้ชุดฝกึ และทไี่ มใ่ ช้ชุดฝึก 3.6 สถิติที่ใชใ้ นการวจิ ยั---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 42 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================3.6.1 การหาค่าสถิติพืน้ ฐานการหาคะแนนเฉลย่ี (Mean)สตู รการหาค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)เมอ่ื = ค่าเฉล่ยี หรอื ค่าตัวกลางเลขคณติ = สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน = คา่ ของข้อมลู ตัวท่ี i = คา่ ของขอ้ มูลตวั ท่ี i ยกกาลงั สอง n = จานวนข้อมลู ทเี่ กบ็ รวบรวมไดจ้ ากตวั อยา่ งท้ังหมด3.6.2 การหาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นการหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน จากการจัดการเรียนการสอนด้วยใบงาน เป็นการเปรียบเทียบผลคะแนนจากการสอบของผู้เรียน หลังจากที่เรียนด้วยการจัดการเรียนการสอนบรรยาย การสอนแบบปฏิบัติและการสอนแบบถามตอบโดยการใช้ ชดุ ฝกึ ประกอบ วา่ สูงกวา่ ผลคะแนนสอบแบบไมใ่ ชช้ ดุ ฝึก มีผลทาใหผ้ ูเ้ รียนมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นสงู ขึน้ สถติ ิท่ีใชใ้ นการวิเคราะห์หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบใช้ชุดฝกึ และไม่ใช้ชุดฝึก เป็นสถิติแบบอิสระ (t-testIndependent) ซ่ึงใชส้ ตู รดังนี้สูตรเม่อื t = ค่าสถติ ิทีใ่ ช้เปรียบเทยี บกับค่าวกิ ฤตเพอ่ื หาค่านัยสาคญั = การนาเอาผลต่างระหวา่ งคะแนนกอ่ นเรียนและหลังเรยี นของผเู้ รยี นแตล่ ะคนมารวมกนั = การนาเอาผลตา่ งระหวา่ งคะแนนก่อนเรียนและหลังเรยี นของผู้เรียนแตล่ ะคนมารวมกนั แลว้ ยกกาลัง 2 N = จานวนผ้เู รยี นหมายเหตุ ค่า t ทค่ี านวณได้จะมีการเปรยี บเทยี บค่าวกิ ฤตของ tในตารางท่ีระดบั นยั สาคญั .05ผลการวิจยั ผลการประเมินแบบประเมินเพื่อหาคุณภาพความแตกต่างระหว่างการใช้ชุดฝึกกับไม่ใช้ชุดฝึกวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ เร่ือง วงจร R-L-C ขนานและอนุกรม แบบประเมินเพ่ือหาคุณภาพความแตกต่างระหว่างการใช้ชุดฝึกกับไม่ใช้ชุดฝึกวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ เร่ือง วงจร R-L-C ขนานและอนุกรม โดยมีระดับคะแนนดงั นี้บทสรปุ เนอื้ หาในวชิ าวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั เรือ่ งวงจร R-L-C ขนานและอนุกรม โดยการใช้ชุดฝึกและไม่ใช้ชุดฝึกของนักศกึ ษา ปวช.1/2 แผนกอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วิทยาลยั การอาชพี ร้อยเอ็ด ซ่ึงสรุปสามารถได้วา่ วธิ ีการทดสอบโดยการใชช้ ุดฝกึ มผี ลสมั ฤทธท์ิ ี่แตกต่างจากของคะแนนทดสอบแบบไม่ใช้ชดุ ฝึก อย่างมนี ยั สาคัญทางสถิติทีร่ ะดับ .05---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 43 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== กติ ตกิ รรมประกาศ การศึกษาวิจัยคร้ังนี้ สาเร็จลุล่วงด้วยดี ผู้วิจัยกราบขอบพระคุณคณะผู้บริหารของวิทยาลัยการอาชีพ ร้อยเอ็ดทุกท่าน ท่ีให้การสนับสนุนในการดาเนินการศึกษาวิจัย กราบขอบพระคุณผู้เช่ียวชาญ ท้ัง 3 ท่าน ประกอบด้วย 1) นายสัญญา ปาลศรี ตาแหน่งหัวหน้าแผนกอิเล็กทรอนิกส์ ครูชานาญการ แผนกอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด 2) นายปฐมพงศ์ จันทรวงษ์ ตาแหน่ง พนักงานราชการ แผนกอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัย การอาชพี ร้อยเอด็ 3) นายวิมพ์ นามโคตร ตาแหน่งครู วิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด ท่ีได้กรุณาให้คาปรึกษา แนะนา ชี้แนะและตรวจสอบแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งตลอดจนให้ขอ้ คิดตา่ ง ๆ เพื่อใหก้ ารศึกษาครง้ั นี้สมบูรณ์ ขอขอบคุณครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดท่ีคอยให้กาลังใจและขอขอบใจนักศึกษาระดับหลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ช้ันปีที่ 1 สาขาวิชาชา่ งอิเลก็ ทรอนิกส์ ที่เป็นกลมุ่ ตัวอยา่ งในการวจิ ยั ไว้ ณ โอกาสนี้ บรรณานกุ รม กานดา พูลลาภทวี. 2549. สถติ ิเพื่อการวิจัย. ฟิสกิ เซ็นเตอร์. กรุงเทพมหานคร. หนา้ 72 – 219 บุญชม ศรสี ะอาด. 2541. การวจิ ัยเบ้ืองตน้ . กรงุ เทพฯ: วงกมล โพรดักชัน่ . บญุ ชม ศรสี ะอาด. 2540. การวิจยั เบ้อื งตน้ . มหาสารคาม : อภิชาตการพิมพ์. บุญชม ศรีสะอาด. 2540. การวจิ ยั ทางการวัดผลและประเมินผล. กรงุ เทพฯ : สุวีรยิ าสาสน์ . พวงรัตน์ ทวีรัตน์. 2542. วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์คร้ังท่ี 7. กรุงเทพฯ: สานัก ทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรว์ ิโรฒ ประสานมิตร. ระววิ รรณ ชนิ ะตระกลู . 2547. วธิ วี จิ ยั ทางการศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร. ภาพพิมพ์. หน้า 237 สถิต วงศส์ วรรค.์ 2542. จิตวทิ ยาการศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร. รวมสาส์น.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 44 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================( การพัฒนาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรื่องวงจรเรียงกระแสเตม็ คลนื่ แบบบรดิ จ์ วชิ าอุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ สแ์ ละวงจร โดยการใชช้ ดุ ฝกึ วงจรเรยี งกระแสเต็มคล่นื แบบบริดจ์)( นาย ไชยยงค์ ชรากาหมุด )บทคัดยอ่ การพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวิชาอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละวงจร โดยใช้ชดุ ฝกึ วงจรเรียงกระแสเต็มคลื่นแบบบรดิ จ์โดยมกี ลุ่ม เป้าหมายเป็นนักศึกษา ปวช.3/5 แผนกช่างไฟฟา้ กาลงั วทิ ยาลยั เทคนคิ ร้อยเอ็ดภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 จานวน 1 ห้องเรียน 16 คน โดยแบง่ ออกเปน็ กลมุ่ กล่มุ ละ 8 คน 2 เนอ้ื หาที่ใชใ้ นการวิจยั คอื เนอ้ื หาในวิชาอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์และวงจร จากหนังสือวิชาอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์และวงจรตามหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี พทุ ธศกั ราช 2556 ของสานักงานคณะกรรมการอาชวี ศึกษาเคร่ืองมือท่ีใช้คือแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ืองวงจรเรียงกระแสเต็มคลื่นแบบบริดจ์แบบปรนัยเลือกตอบ 4ตวั เลอื กจานวน 7 ข้ออตั นัยอกี จานวน 1 ข้อ ท่ีผ่านการตรวจสอบจากผเู้ ช่ยี วชาญและหาคุณภาพเครื่องมือตามข้ันตอนแล้วใช้สถิติพ้ืนฐานในการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานส่วนการทดสอบสมมุติฐานสาหรบั กล่มุ ตัวอย่างทไี่ มเ่ ปน็ อสิ ระตอ่ กันใช้คา่ t-test for Dependent Sample ผลของการวิจัยหลงั การทดสอบพบว่า ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นโดยการใช้ชุดฝึกกบั ไม่ใช้ชุดฝึกแตกต่างกัน ท่รี ะดบั นัยสาคัญท่ี .05 แสดงใหเ้ หน็ ว่าการใช้ชุดฝกึ ทาให้ผูเ้ รียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นทสี่ งู ขึน้Abstract Development of learning achievement in electronics and circuits. Using a full bridgerectifier training kit, Target is 3/5 students. Roi Et Technical College, Semester 2, AcademicYear 2016, with 1 class, 16 students, divided into 8 groups. From books to electronics andcircuits. According to the Vocational Certificate BE 2556 The instrument used is theachievement test. Full-wave rectifier circuits, multiple choice, four options, seven subjectivequestions, one expert tested, and one quality tool. The basic statistics used in the analysisare average and deviation. Standard hypothesis testing for non-independent samples t-testfor Dependent Sample The results of the research after the test showed that Learning Achievement byUsing Training Kit with No Different Training Package At the .05 level, it was shown that theuse of training kits resulted in higher learning achievement---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 45 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================( คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น )* Correspondingc E-mail : ( [email protected] )บทนา/Introduction ปัจจุบันการเรียนการสอนวชิ าด้านไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ต้องได้ใช้การตอ่ วงจรเขา้ มาชว่ ยในการต่อระบบไฟฟ้า ซ่ึงทาให้เกิดความยุ่งยากสาหรับคนที่ไม่มีพืน้ ฐานในการต่อวงจร ซึ่งอีกทั้งนักเรียนนกั ศึกษาท่ีเขา้เรยี นใหมใ่ นแผนกวิชาชา่ งไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จาเปน็ ตอ้ งได้เรยี นรูเ้ กย่ี วกบั วงจรอนุกรม วงจรขนาน และวงจรผสมซง่ึ เปน็ พ้ืนฐานในการเรยี นการสอนละนาความรูพ้ ืน้ ฐานท่ไี ด้ไปเรียนในรายวชิ าอื่นๆอกี ตอ่ ไป จากสภาพปัญหาดังกล่าวน้ีช้ีให้เห็นว่าปัญหาในการจัดการเรียนการสอนยังขาดการพัฒนาท างด้ านชุดฝึกและควรไดร้ ับการปรับปรงุ แก้ไขเนื่องจาก ไดโอด มีการนาไปประยุกต์ใช้งานมากข้นึ ในด้านอุตสาหกรรมและสอ่ื การเรยี นการสอน เพื่อใหก้ ารเรียนวชิ า อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละวงจร รหัสวชิ า 2104-2102 สมั ฤทธิ์ผลตามจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอน แนวทางแก้ปัญหาได้แก่การจัดทาแผนจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตร ซ่ึงได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบท่ีต้องจัดการเรียนการสอนให้บังเกิดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้ครอบคลุมจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมทง้ั ทางด้านพทุ ธิพสิ ยั ทักษะพสิ ัย คณุ ธรรมและจริยธรรมตามคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ จึงได้สร้างชุดฝึกวงจรเรียงกระแสเต็มคลื่นแบบบริดจ์ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกบั ความสามารถและความแตกต่างของผเู้ รียนโดยวิธกี ารใช้ชุดฝกึ วงจรเรียงกระแสเตม็ คล่ืนแบบบริดจ์ มงุ่ เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญและบูรณาการคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขนาไปสู่การเปน็ ทรพั ยากรบคุ คลอนั มคี ุณภาพทด่ี ีในอนาคตต่อไปวธิ ดี าเนินการศกึ ษา/Research Methodlogyการวิจัยศึกษาเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในวิชาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร โดยใช้ชุดฝึกวงจรเรียงกระแสเต็มคล่ืนแบบบริดจ์ผู้วจิ ัยได้ศึกษาทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเกย่ี วข้องเพอ่ื นามาใช้เป็นแนวทางในการวิจัย ดังนี้ 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 3.2 เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นการวิจยั 3.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.4 การวิเคราะหข์ อ้ มูล 3.5 สถติ ิทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 46 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง การศกึ ษาเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชาอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์และวงจร โดยใช้ชุดฝึกวงจรเรียงกระแสเต็มคลื่นแบบบริดจ์ ได้ศึกษาทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือนามาใช้เป็นแนวทางในการวิจัย ดังน้ี 3.1.1 ประชากร กลุ่มประชากร คือนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปวช. ชั้นปีท่ี 3/5 แผนกวิชาช่างช่างไฟฟ้ากาลงัวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 1 ห้องเรียน 16 คน โดยแบ่งออกเป็น 2กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน 3.1.2 กลมุ่ ตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของการใช้ชุดฝึกกับไม่ใช้ชุดฝึกเพ่ือช่วยให้ผู้เรียนได้ทาแบบทดสอบใหไ้ ดค้ ะแนนทดี่ ีขึน้3.2 เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการวิจยั 3.2.1 เน้ือหาวิชาอุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์และวงจร ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกบั วงจรเรยี งกระแสแบบครง่ึคลื่น เต็มคลนื่ เรื่อง วงจรเรียงกระแสเตม็ คลืน่ แบบบรดิ จโ์ ดยเอกสารประกอบด้วยเนื้อหาดังต่อไปนี้ - เนือ้ หาทฤษฎีของหน่วยเรียน เรอ่ื ง วงจรเรยี งกระแสเต็มคล่ืนแบบบริดจ์ - แบบปรนัย 7 ขอ้ และอตั นยั 1 ข้อ3.3 วิธีการสร้างเครื่องมือ 3.3.1 ขัน้ วางแผนศกึ ษาขอ้ มลู เนื้อหาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือนามาสร้างใบงานการทากจิ กรรมของผู้เรียน 3.3.2 ข้ันการตรวจสอบเครื่องมือ ผู้วิจัยได้ทาการตรวจสอบคณุ ภาพของเครื่องมือทีไ่ ดส้ รา้ งขึน้ ดงั น้ี ขั้นที่ 1 การประเมินคุณภาพของเน้ือหาทฤษฎีวิชาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร เรื่องวงจรเรียงกระแสเต็มคล่นื แบบบรดิ จโ์ ดยให้ผู้เชี่ยวชาญประเมนิ ใหค้ ะแนนในแตล่ ะสว่ นของชดุ ฝกึ แล้วนามาหาคะแนนเฉลย่ี ดงั น้ีแสดงระดับความคดิ เห็นของผู้ประเมนิ ระดบั 5 หมายถึง มากท่ีสดุ ระดับ 4 หมายถงึ มาก ระดบั 3 หมายถงึ ปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง น้อย ระดับ 1 หมายถงึ นอ้ ยทส่ี ุด---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 47 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ข้ันท่ี 2 การประเมินความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับวัตถุประสงค์ของวิชาอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์และวงจร เรอ่ื ง วงจรเรียงกระแสเตม็ คล่นื แบบบริดจ์ โดยให้ผูเ้ ชี่ยวชาญประเมนิ ใหค้ ะแนนในแต่ละสว่ นของชดุ ฝกึ แลว้ นามาหาคะแนนเฉลย่ี อยรู่ ะหว่าง 0.6 - 1.03.4 วิธีการเกบ็ ขอ้ มลู เมื่อได้ใบงานเน้ือหาวิชาวิชาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร เรื่องวงจรเรียงกระแสเต็มคลื่นแบบบริดจ์ ท่ีได้มาทดสอบกับกลุม่ ตัวอย่าง ตามขัน้ ตอนดังนี้ 3.4.1 ทาการสอนโดยวิธีการสอนบรรยายการสอนแบบปฏบิ ัติและการสอนแบบถามตอบ 3.4.2 แบ่งนักศกึ ษาออกเป็น 2 กลมุ่ กลุม่ ละ 8 คนโดยกลุ่ม 1 ใช้ชุดฝึก อีกกลมุ่ 1 ไมใ่ ช้ชุดฝึก 3.4.3 ทาแบบทดสอบ3.5 การวิเคราะห์ขอ้ มลู 3.5.1 การวิเคราะหข์ อ้ มลู เพอื่ หาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น โดยวิเคราะหจ์ ากคะแนนกลมุ่ ที่ใชช้ ดุ ฝึกและกล่มุ ทไ่ี มใ่ ช้ชดุ ฝกึ แลว้ ใช้สถิติ t-test ในการวิเคราะห์ 3.5.2 นาขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากการทดสอบมาวิเคราะหผ์ ลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นทใี่ ช้ชุดฝึกและทไี่ ม่ใชช้ ุดฝกึ3.6 สถติ ทิ ใี่ ชใ้ นการวิจยั3.6.1 การหาคา่ สถิตพิ ืน้ ฐานการหาคะแนนเฉลีย่ (Mean) n สูตร X xi x1 x2 x3 ... xn i 1 nnการหาคา่ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) nn n xi2 ( xi )2 สูตร S.D i1 i 1 n(n 1)เมือ่ X = คา่ เฉล่ยี หรือคา่ ตัวกลางเลขคณิต S.D = สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ค่าของขอ้ มูลตัวท่ี i n = คา่ ของขอ้ มลู ตวั ท่ี i ยกกาลงั สอง xi = จานวนข้อมูลทเี่ กบ็ รวบรวมไดจ้ ากตัวอยา่ งท้งั หมด =i 1 n xi2i 1n---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 48 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 3.6.2 การหาผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น การหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากการจัดการเรียนการสอนด้วยใบงาน เป็นการเปรียบเทียบผลคะแนนจากการสอบของผู้เรียน หลงั จากทเี่ รียนด้วยการจัดการเรียนการสอนบรรยาย การสอนแบบปฏิบตั ิและการสอนแบบถามตอบโดยการใช้ ชุดฝึก ประกอบ ว่าสงู กว่าผลคะแนนสอบแบบไม่ใชช้ ุดฝึก มีผลทาใหผ้ ้เู รียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์หาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนแบบใช้ชุดฝึก และไม่ใช้ชุดฝกึ เปน็ สถิติแบบไม่อสิ ระ (t-test dependent) ซ่ึงใช้สูตรดงั น้ี สตู ร t D n (D2 ) ( D)2 n 1เมอ่ื t = คา่ สถิตทิ ใี่ ชเ้ ปรียบเทียบกับคา่ วกิ ฤตเพือ่ หาคา่ นัยสาคัญ D = การนาเอาผลตา่ งระหว่างคะแนนก่อนเรยี นและหลงั เรยี นของผเู้ รยี นแตล่ ะคนมารวมกัน D2 = การนาเอาผลต่างระหว่างคะแนนก่อนเรยี นและหลงั เรียนของผเู้ รยี นแตล่ ะคนมารวมกันแล้วยกกาลงั 2 n = จานวนผ้เู รียนหมายเหตคุ ่า t ท่คี านวณไดจ้ ะมีการเปรียบเทยี บคา่ วิกฤตของ t ในตารางทีร่ ะดบั นยั สาคัญ 0.05ผลการวจิ ัย/Results นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบท้ายหน่วยเรียนได้ คดิ เปน็ ค่าเฉล่ียร้อยละ 80.83 และทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ คิดเปน็ ค่าเฉลี่ยรอ้ ยละ 89.16 แสดงว่ามปี ระสทิ ธิภาพมากกว่าเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ซ่ึงมากกวา่ สมมติฐานของงานวจิ ยั ทก่ี าหนดไว้ ที่ 80/80บทสรปุ /conciusion ผลการวิจัย สรุปไดด้ งั น้ี เน้อื หาในวิชารายวิชาอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์และวงจร เรอ่ื งวงจรเรียงกระแสเต็มคล่นื แบบบริดจ์ โดยการใช้ชุดฝึกและไม่ใช้ชุดฝึกของนักศึกษา ปวช. 3/5 แผนกไฟฟ้ากาลัง วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด ซ่ึงสรุปได้ว่าวธิ กี ารทดสอบโดยการใชช้ ุดฝกึ มีผลสัมฤทธิท์ ี่แตกต่างจากของคะแนนทดสอบแบบไม่ใช้ชดุ ฝกึ อยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถิติท่รี ะดับ .05---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 49 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================กติ ตกิ รรมประกาศ/Discussion การวิจัยเร่ืองการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร โดยใช้ชุดฝึกวงจรเรียงกระแสเต็มคลื่นแบบบริดจ์ ได้สาเร็จลุล่วงมาจนถึงบัดน้ีนั้นเน่ืองจากได้รับคาแนะนาและการให้คาปรึกษาเป็นอย่างดีจากคณะครู-อาจารยใ์ นแผนกวิชาช่างไฟฟ้ากาลังได้นาความรู้ที่ได้รบั มาลงมือปฏิบัตจิ รงิในการ การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น วิชาอปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์และวงจร ทาใหม้ ีความเขา้ ใจมากข้ึนซ่ึงตลอดระยะเวลาการทาวิจัยนั้นได้รับความช่วยเหลือแนะนาและให้คาปรึกษาอย่างดียิ่งจากคณะครู -อาจารย์เพื่อนร่วมงานซึ่งทาให้มกี าลังใจท่ีจะพฒั นางานต่อไปรวมทั้งได้รับความร่วมมอื เป็นอยา่ งดจี ากนกั ศึกษา ปวช.3/5 แผนกวิชาชา่ งไฟฟ้ากาลัง วทิ ยาลัยเทคนิครอ้ ยเอ็ดท่ที าให้เกิดความมงุ่ มนั่ ในการสรา้ งผลงานการวิจยั ในช้ันเรียนได้ประสบผลสาเร็จดังที่มุ่งหวังคุณค่าของผลงานการวจิ ัยในชั้นเรียนน้ีขอมอบแด่ผู้มีพระคุณทุกท่านและหวงั ใหเ้ กดิ ประโยชน์อย่างยิง่ ต่อการพัฒนาผู้เรยี นซ่งึ เปน็ เยาวชนอนั สาคัญของชาติและยงั ส่งผลต่อผู้สนใจที่จะสรา้ งผลงานการวิจยั ในชัน้ เรยี นใหม่แพรห่ ลายยง่ิ ข้นึ ตอ่ ไป---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 50 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การสร้างชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino เร่ืองการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และ เรือ่ งการเชอื่ มตอ่ กับ RFID Module Arduino Microcontroller Experiment Board with RTC Module ModuleGY Module, Stepper Motor Servo Motor And the connection to RFID Module นวพล ยอดเพชร1 บทคัดย่อ งานวิจัยในช้ันเรียนมีจุดมุ่งหมาย เพ่ือเป็นสร้างชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino เรื่องการ เช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรื่องการเช่ือมต่อ กับ RFID Module รวมทง้ั การหาคุณภาพ ความพงึ พอใจ และการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น โดยผลการวิจัยพบว่าชุดสาธิตมีคุณภาพอยู่ในระดับ ดีมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.667 คะแนน นักศึกษามีความพึงพอใจของนักศึกษาต่อชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino เร่ืองการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เรอื่ งการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรื่องการเชื่อมต่อกับ RFID Module โดยรวมอยู่ในระดับท่ีมคี วามพึงพอใจมาก โดยมคี ะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.179 คะแนน ซ่งึ คุณภาพ และความพึงพอใจต่อ ตรงตามสมมตุ ิฐานทกุ ประการ และเมอื่ เปรียบเทยี บผลการทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น ผลการทดสอบหลังเรียน มีค่าเฉลย่ี ที่สงู ข้นึ และมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นแตกต่างกันอย่างมนี ยั สาคัญทางสถติ ิท่ี.05 1คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ 1 *Corresponding E-mail : nawaphon.nb@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 51 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract Research in the classroom is intended. To build Arduino microcontroller experiment on the connection with RTC Module GY Module on Stepper Motor Servo Motor Control and the connection to RFID Module as well as finding the quality, satisfaction and achievement measurement. The results showed that the demonstration set was of very good quality, with an average score of 4.667. Students were satisfied with the Arduino microcontroller. The connection was with the RTC Module GY Module, Stepper Motor Control. Servo Motor, and the connection to the RFID module is very satisfactory. The average score is 4.179 points, which quality and satisfaction. Follow all hypotheses. Comparison of pre and post test results. The results of the posttest tests were higher and the learning achievement was different. Statistically significant at .05 บทนา ในปัจจุบนั ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ.2556 เล่มที่ 2 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชา ช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิชางานไมโครคอนโทรลเลอร์น้ัน มีเร่ืองให้ศึกษาอยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อกับ RTC Moduleและ GY Module เรอื่ งการควบคมุ Stepper Motor และ Servo Motor เป็นตน้ จุดประสงค์ของรายวิชาไมโครคอนโทรลเลอร์นั้นกล่าวคือ เข้าใจโครงสร้างและหลักการทางานของ ไมโครคอนโทรลเลอร์ การใช้ชุดคาสั่ง การประยุกต์ใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์กับงานอื่นๆ สามารถเขียน โปรแกรมควบคมุ วิเคราะห์และทดสอบระบบการทางาน ประยุกต์ไมโครคอนโทรลเลอร์กับงานอ่ืนๆซึ่งจะสังเกตได้ ว่า ต้องทาความเข้าใจ กับการประยุกต์ใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์กับงานอ่ืนๆ และสามารถใช้งาน ไมโครคอนโทรลเลอร์ไดจ้ ริง ซง่ึ ในรายวชิ าดงั กล่าวน้ัน จาเป็นต้องได้หัดทากับอุปกรณ์หลายชนิด เพ่ือที่จะสามารถ ควบคุมอปุ กรณ์เหลา่ นั้นไดจ้ รงิ และสามารถเขา้ ใจการทางานของอุปกรณต์ า่ งๆทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับไมโครคอนโทรเลอร์ ซ่ึง ในปัจจุบันน้ีไมโครคอนโทรลเลอร์ที่มีความนิยมอย่างแพร่หลาย และสามารถใช้งานได้หลากหลายคือ ไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino ซ่ึงสามารถประยุกต์ใช้งานได้จริงจึงทาให้นักเรียน นักศึกษาควรได้รับการศึกษา เกยี่ วกับเรอื่ ง ไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino และการประยุกต์ใช้ และปัจจบุ ันแผนกอิเล็กทรอนกิ ส์ วทิ ยาลยั สารพัด ช่างมหาสารคาม ยังไม่มีชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino ในเร่ืองการเชื่อมต่อกับ RTC Moduleและ GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเร่ืองการเชื่อมต่อกับ-RFID-Module จึงทาให้ นกั ศกึ ษาไม่ได้รับความรู้ และทดลองจรงิ จากปัญหาข้างต้น ผู้วิจัยจึงได้ตระหนักว่าจะทาอย่างไรถึงจะขจัดปัญหาเหล่านั้นให้หมดไป จึงได้ศึกษา ทดลองและสรา้ ง ชดุ ทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino เรื่องการเชือ่ มต่อกับ RTC Module GY Module เรื่อง การควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเร่ืองการเชื่อมต่อกับ RFID Module และเรื่องการเช่ือมต่อกับ- RFID-Module เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียนนักศึกษาในการเรียนการสอนวิชาไมโครคอนโทรลเลอร์ และวิชาท่เี กี่ยวขอ้ งในแผนกอิเลก็ ทรอนกิ สต์ ่อไป---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 52 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== วิธีดาเนนิ การวิจยั / Research Methodology 1. ศึกษาหลักการและทฤษฏีเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรอ่ื งการเช่อื มต่อกับ RFID Module กบั Arduino 2. ออกแบบและสรา้ ง ชดุ ทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เร่ืองการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการ ควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรอื่ งการเชอื่ มตอ่ กับ RFID Module 3. ศึกษาวิธีสร้างแบบประเมินคุณภาพและแบบสอบถามความพงึ พอใจ 4. ออกแบบและจดั ทาแบบประเมินคณุ ภาพและแบบสอบถามความพึงพอใจ 5. ประเมินคุณภาพชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เร่ืองการเชื่อมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการ ควบคมุ Stepper Motor Servo Motor และเรอื่ งการเช่ือมต่อกบั RFID Modul 6. นาชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เรอื่ งการเชอ่ื มตอ่ กับ RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรอ่ื งการเชอื่ มตอ่ กับ RFID Module ใชง้ านในการจัดการเรยี นการสอน 7. สอบถามความพงึ พอใจของผ้เู รยี นโดยใช้แบบสอบถามท่ีสรา้ งข้นึ 8. การวเิ คราะหข์ ้อมลู 9. แปลผลข้อมลู ที่ได้มา และ สรุปผลการดาเนนิ งาน ผลการวิจัย/ Results 1. ได้ชดุ ทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เร่ืองการเชื่อมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรอ่ื งการเช่ือมต่อกับRFID Module ทส่ี วยงามพร้อมใช้งาน ชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เร่ืองการเชือ่ มต่อกบั RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรื่องการเช่ือมตอ่ กับRFID Module ทส่ี วยงามพรอ้ มใชง้ าน 2. ผลการประเมนิ คุณภาพชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เรอ่ื งการเชอื่ มต่อกบั RTC Module GY Module เร่อื ง การควบคมุ Stepper Motor Servo Motor และเรื่องการเชือ่ มต่อกับ RFID Module โดยผเู้ ชี่ยวชาญ ผลการประเมินหาคุณภาพของชุดสาธติ วงจรอิเลก็ ทรอนกิ สอ์ เนกประสงค์ จานวน 3 ทา่ นได้แก่ 1. นายเผดจ็ เมอื งศรี ครู หัวหน้าแผนกวิชาช่างอเิ ลก็ ทรอนิกส์---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 53 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================วิทยาลยั สารพดั ช่างมหาสารคาม2. นายกิตพิ งษ์ มะพันธ์ ครพู ิเศษ แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนกิ ส์วิทยาลยั สารพดั ชา่ งมหาสารคาม3.วา่ ทร่ี ้อยตรอี ภิวฒั น์ แววศรี ครพู ิเศษ แผนกวชิ าชา่ งอิเลก็ ทรอนกิ ส์วิทยาลัยสารพัดชา่ งมหาสารคาม ซึ่งผลการประเมนิ แสดงในตารางที่ 1ดงั น้ีตารางท่ี 1 ขอ้ มลู การประเมนิ คณุ ภาพ คุณภาพดา้ น ผ้เู ช่ยี วชาญ ผู้เชีย่ วชาญ ผ้เู ชย่ี วชาญ คะแนน S.D. คนท่ี 1 คนที่ 2 คนที่ 3 เฉล่ยีชุดทดลองสะดวกตอ่ การใช้งาน 5 5 5 5 0ใช้งานไดจ้ รงิ ท้ังในการเรยี นและการทางาน 5 5 4 4.6667 0.57735รปู ร่าง ขนาด น้าหนักเหมาะสม 5 5 4 4.6667 0.57735กะทดั รดั นา่ ใชง้ าน 5 5 5 5แข็งแรงทนทานต่อการใชง้ าน 4 5 3 4 0ความเหมาะสมในการใชช้ ุดทดลองกบั 1นกั เรียนนักศึกษาเปน็ กลมุ่ 5 5 3ครอบคลมุ กบั เน้ือหาของการเรียนในแตล่ ะ 4.3333 1.15470ชว่ั โมงเรยี น 5 5 5วัสดอุ ปุ กรณ์ราคาประหยดั 5 5 3 50ใช้งานไดต้ ่อเนือ่ งโดยชุดทดลองไมช่ ารดุ 5 5 5 4.3333 1.15470ชดุ ทดลองมีความประณตี ประกอบชดุ ทดลองได้เรยี บร้อยสวยงาม 5 5 4 50สอดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงค์ของรายวชิ าที่ใช้งานชุดทดลอง 5 5 4 4.6667 0.57735ถูกตอ้ ง มีคณุ คา่ ทางวชิ าการ 5 5 4ทางานไดค้ รบถ้วนทกุ ภาคการทางาน 5 5 4 4.6667 0.57735สะอาด ปราศจากขยะหลังการใช้งาน 5 5 4 4.6667 0.57735ความปลอดภยั ในการใชง้ าน 5 5 4 4.6667 0.57735คะแนนรวม 4.6667 0.57735คา่ เฉล่ยี ประเมินคุณภาพรวม 4.6667 0.57735 210 4.667 จากตารางท่ี 4.1 ผลการประเมินหาค่าเฉลี่ยโดยคุณภาพโดยผู้เช่ียวชาญ สามารถจาแนกรายละเอียดผลการประเมินคณุ ภาพชุดสาธิตฯ ไดแ้ ก่---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 54 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ข้อคาถามท่ีได้ค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ชุดทดลองสะดวกต่อการใช้งาน,กะทัดรัด น่าใช้งาน และใช้งานได้ ต่อเน่อื งโดยชุดทดลองไมช่ ารุด มคี ่าเฉลี่ยเท่ากับ 5 และขอ้ คาถามท่ีมคี า่ เฉล่ยี น้อยที่สดุ คือ แขง็ แรงทนทานตอ่ การใช้ งาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4 และคา่ เฉล่ียประเมินคณุ ภาพรวม เท่ากับ 4.667 ซง่ึ ตรงตามสมมุติฐานทตี่ ง้ั ไว้ 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนนักศึกษาท่ีมีต่อชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เรื่องการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเร่ืองการเช่ือมต่อกับ RFID Module ผลการสอบถามความพึงพอใจต่อชุดสาธิตวงจรอิเล็กทรอนิกส์อเนกประสงค์ ของนักเรียนชั้น ปวช.2 แผนกวิชาชา่ งอเิ ล็กทรอนิกส์ วิทยาลยั สารพัดชา่ งมหาสารคาม แสดงในตารางที่ 2 ได้ ดังน้ีตารางที่ 2 ขอ้ มูลการสอบถามความพงึ พอใจของนกั เรียนนักศกึ ษา คุณภาพดา้ น นกั เรียน นักเรยี น นักเรยี น คะแนน S.D. 1 2 3 เฉลีย่ดา้ นการออกแบบใชอ้ ุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มาตรฐานในการนามา 5 5 5 5 0สร้างชดุ ทดลอง 4 4 4 4 0สวย ทันสมัย น่าใช้งานและกะทัดรัด 3 3.666667 1.15470 4 4 1ชดุ ทดลองนา่ เรียนรู้และน่าใชง้ าน 53 3 3.333333 0.57735 4 3.666667 0.57735แข็งแรง ทนทาน 53 3 3.666667 1.15470 4 4.333333 0.57735มคี วามโค้งเวา้ ที่สวยงาม 43 3 4.333333 1.15470สัมผสั นุ่มนวล กระชบั มอื 34ชดุ ทดลองมัน่ คงไมผ่ ุพงั งา่ ย 35 5นา้ หนกั เบา 45 5 4หากชารุดสามารถถอดซ่อมแซมได้ง่าย 55 4ดา้ นการใชง้ านเข้าใจหลกั การใช้งานไดง้ า่ ย 55 50 4.666667 0.57735หลกั การทางานไมซ่ บั ซ้อน 45 4.333333 0.57735ชดุ ทดลองถกู ต้องตามทฤษฎี 45ชุดทดลองสามารถประยุกต์ใช้กบั วงจร 4.333333 0.57735อเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ นื่ ๆได้ 45 163คะแนนรวม 4.179คา่ เฉล่ยี ประเมินคณุ ภาพรวม จากตารางที่ 2 ข้อมูลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เร่ืองการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการควบคุม Stepper Motor ServoMotor และเรือ่ งการเชื่อมต่อกับ RFID Module---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 55 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ด้านการออกแบบ ขอ้ คาถามท่ีได้ค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มาตรฐานในการนามา สร้างชุดทดลอง มีค่าเฉล่ียเท่ากับ 5 และข้อคาถามที่มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ มีความโค้งเว้าที่สวยงาม มีค่าเฉล่ีย เทา่ กบั 3.3333 ด้านการใชง้ าน ข้อคาถามท่ีได้ค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ เข้าใจหลักการใช้งานได้ง่ายมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 5 และ ข้อคาถามท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด คือ ชุดทดลองถูกต้องตามทฤษฎี และ ชุดทดลองสามารถประยุกต์ใช้กับวงจร อเิ ล็กทรอนกิ ส์อนื่ ๆได้ ซึ่งมีคา่ เฉลยี่ เท่ากับ 4.333 ซ่งึ จากขอ้ มูลความพงึ พอใจของนักเรยี นนักศกึ ษาทมี่ ีต่อชดุ สาธติ ฯ ทง้ั ดา้ นการออกแบบและด้านการใช้งาน มคี า่ เฉลีย่ ความพึงพอใจรวมท่ี 4.179 ซ่งึ ตรงตามสมมุตฐิ านท่ีตั้งไว้ 4.ผลเปรียบเทียบคะแนนกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นของนกั เรียน ปวช.2 แผนกวชิ าชา่ ง อเิ ลก็ ทรอนิกส์ วิทยาลยั สารพัด ชา่ งมหาสารคาม ผลการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ปวช.2 แผนกวิชาช่าง อิเล็กทรอนกิ ส์ในการแสดงจะแสดงแยกออกเปน็ 3 เรื่องคือ การเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module ,เร่ืองการ ควบคมุ Stepper Motor Servo Motor และเรือ่ งการเช่อื มตอ่ กับ RFID Module ดังน้ีตารางท่ี 3 การเปรียบเทยี บคะแนนกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น เรื่อง การเชอ่ื มต่อกบั RTC Module GY Moduleลาดับ ช่อื - สกุล คะแนนก่อนเรียน T - Score คะแนนหลัง T - Score ที่ (10) 42.40928 เรยี น 56.21059 (10)1 นายจตุพร ปะทาเส 4 82 นายมารตุ โสภารตั น์ 5 45.85961 9 59.660923 นายโชคทวี ศรเี ฮือง 3 38.95895 9 59.660924 นายอนุชติ โคชาลี 2 35.50862 8 56.210595 นายวีรพล สายรตั น์ 4 42.40928 10 63.11125 Mean 3.6 41.02 8.8 58.97 SD 2.89 43.72 ร้อยละของคะแนนทเี ฉล่ียท่ีเพม่ิ ขนึ้ 144.44 ร้อยละของคะแนนสอบทเ่ี พม่ิ ขนึ้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 56 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================ตารางที่ 4 การเปรยี บเทยี บคะแนนกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น เร่อื ง การเชอ่ื มตอ่ กบั Stepper Motor Servo Motorลาดบั ที่ ชือ่ - สกุล คะแนนกอ่ น T - Score คะแนนหลัง T - Score เรยี น 35.31305 เรียน 56.294411 นายจตพุ ร ปะทาเส (10) (10) 2 82 นายมารุต โสภารตั น์ 3 38.80994 9 59.79133 นายโชคทวี ศรเี ฮอื ง 5 45.80373 9 59.79134 นายอนุชติ โคชาลี 4 42.30684 9 59.79135 นายวีรพล สายรัตน์ 4 42.30684 9 59.7913 Mean 3.6 40.90 8.8 59.09 SD รอ้ ยละของคะแนน T เฉล่ยี ทีเ่ พมิ่ ขน้ึ 2.85 ร้อยละของคะแนน ท่เี พม่ิ ข้นึ 44.45 144.44ตารางท่ี 5 การเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรยี น เร่ือง การเชื่อมต่อกบั -RFID-Moduleลาดบั ที่ ชอื่ - สกุล คะแนนกอ่ น คะแนนหลงั T - Score เรยี น T - Score เรียน 64.552141 นายจตุพร ปะทาเส (10) (10) 4 42.72393125 102 นายมารตุ โสภารัตน์ 5 46.36196562 9 60.91413 นายโชคทวี ศรีเฮอื ง 3 39.08589687 8 57.276074 นายอนุชติ โคชาลี 2 35.4478625 7 53.638035 นายวีรพล สายรตั น์ 4 42.72393125 8 57.27607 Mean 3.6 41.26 8.4 58.73 SD 2.74 42.31 รอ้ ยละของคะแนนทีเฉลย่ี ที่เพิ่มขน้ึ 133.33 รอ้ ยละของคะแนนสอบทเี่ พ่มิ ขึน้ แสดงใหเ้ ห็นเม่ือเปรยี บเทยี บผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ผลการทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉล่ยี ท่ีสูงข้นึ และมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนแตกตา่ งกัน อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถติ ิท.ี่ 05การอภิปรายผล จากผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู สามารถนาผลการวจิ ัยมาอภปิ รายผล ไดด้ ังนี้ การประเมินคุณภาพโดยผู้เช่ียวชาญ ข้อคาถามท่ีได้ค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ชุดทดลองสะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เรื่องการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 57 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Stepper Motor Servo Motor และเรอ่ื งการเชือ่ มต่อกับ RFID Module ออกแบบมาใช้งานง่ายและไม่มีอุปกรณ์ท่ี มากจนเกินไป สามารถใช้งานไดง้ า่ ยและมปี ระสิทธภิ าพสงู สุด ทาให้คุณภาพด้าน ชุดทดลองสะดวกต่อการใช้งาน มี ค่าเฉลีย่ มากท่ีสุด และคุณภาพด้านที่มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน สาเหตุเป็นเพราะว่าชุด ทดลองมีน้าหนักเบา และวัสดุเป็นพลาสติกไม่แข็งแรง ทาให้ คุณภาพด้านแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน มีค่าเฉล่ีย น้อยทีส่ ุด ข้อมูลความพึงพอใจด้านการออกแบบ ข้อคาถามที่ได้ค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ใช้อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ที่มาตรฐานในการนามาสร้างชุดทดลอง เพราะทางผู้วิจัยได้คัดเลือกวัสดุอุปกรณ์ท่ีมีคุณภาพก่อน นามาประกอบเปน็ ชุดทดลอง และข้อคาถามทีม่ ีค่าเฉล่ียนอ้ ยที่สุด คอื มีความโค้งเว้าท่สี วยงาม เป็นเพราะตัวเคร่ือง มีรูปทรงสีเ่ หลีย่ มผืนผ้า ไมไ่ ดโ้ ค้งเว้า ทาใหม้ คี ่าเฉล่ยี ท่นี อ้ ยที่สดุ ด้านการใช้งาน ข้อคาถามที่ได้ค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ เข้าใจหลักการใช้งานได้ง่าย เพราะตัวชุดสาธิตออกแบบการทางานไม่ซับซ้อนเหมาะสาหรับนักเรียน ปวช. และ ปวส. และข้อคาถามที่มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ ชุดทดลองถูกต้องตามทฤษฎี และชุดทดลองสามารถประยุกต์ใช้กับ วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์อ่ืนๆได้ เพราะเด็กนักศึกษายังไม่มีความเขา้ ใจมากพอในเรื่องของทฤษฎี และการประยุกต์ใช้กับ วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ ่ืนๆได้ จากผลการเปรียบเทยี บการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน ปรากฏว่านักเรียนประกาศนียบัตร วชิ าชีพ ช้นั ปที ่ี 2 แผนกวชิ าช่างโลหะการ มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นแตกตา่ งกนั ระหว่างกอ่ นเรยี นและหลังเรยี นอย่าง มีนยั สาคัญทางสถิติที่.05 บทสรุป ผลการประเมนิ คณุ ภาพ สอบถามความพงึ พอใจ และเปรียบเทียบการทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน ของ นักเรยี นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชัน้ ปที ่ี 2 แผนกวชิ าช่างอเิ ล็กทรอนิกส์ วิทยาลยั สารพดั ช่างมหาสารคาม โดยใช้ ชุด ทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เรื่องการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเร่อื งการเชือ่ มตอ่ กบั RFID Module สามารถสรปุ ผลวิจัย ได้ดังนี้ - ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เช่ียวชาญ คุณภาพในด้านชุดทดลองสะดวกต่อการใช้งาน,กะทัดรัด น่าใช้ งาน และใช้งานได้ต่อเนื่องโดยชุดทดลองไม่ชารุด มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด เท่ากับ 5 คะแนน และคุณภาพในด้านท่ีมี ค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด คือ แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4 และค่าเฉลี่ยประเมินคุณภาพรวม เท่ากับ 4.667 ตรงตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้คือ ชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เรื่องการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เร่ืองการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรื่องการเชื่อมต่อกับ RFID Module มีคุณภาพ คา่ เฉล่ยี ท่ี 3.51 ข้นึ ไป - ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนนักศึกษาท่ีมีต่อชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ เรื่องการ เช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรื่องการเชื่อมต่อ กบั RFID Module สามารถจาแนกรายละเอยี ดผลการสอบถามความพึงพอใจ ได้แก่---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 58 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ดา้ นการออกแบบ ข้อคาถามท่ีได้ค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีมาตรฐานใน การนามาสร้างชุดทดลอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5 และข้อคาถามที่มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ มีความโค้งเว้าท่ีสวยงาม มี คา่ เฉลย่ี เทา่ กบั 3.3333 ด้านการใช้งาน ข้อคาถามท่ีได้ค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ เข้าใจหลักการใช้งานได้ง่ายมีค่าเฉล่ีย เทา่ กับ 5 และขอ้ คาถามทีม่ คี า่ เฉลี่ยน้อยทีส่ ดุ คอื ชุดทดลองถูกต้องตามทฤษฎี และ ชุดทดลองสามารถประยุกต์ใช้ กับวงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์อน่ื ๆได้ ซง่ึ มคี ่าเฉลยี่ เท่ากบั 4.333 ซ่ึงจากข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อชุดสาธิตฯ ท้ังด้านการ ออกแบบและด้านการใช้งาน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจรวมที่ 4.179 ตรงตามสมมติฐานที่วางไว้คือ ชุดทดลอง ไมโครคอนโทรลเลอร์ เร่ืองการเช่ือมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรือ่ งการเช่อื มต่อกบั RFID Module มีค่าความพึงพอใจเฉลย่ี ที่ 3.51 ขึน้ ไป แสดงให้เห็นเมอ่ื เปรยี บเทียบผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ผลการทดสอบหลังเรียนมี คา่ เฉลยี่ ท่สี งู ข้นึ และมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนแตกตา่ งกัน อย่างมีนยั สาคัญทางสถิติที่.05 ตรงตามสมมุติฐานที่วางไว้ คอื มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นแตกตา่ งกันระหวา่ งกอ่ นเรยี นและหลังเรียน อยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิที่ .05 กิตติกรรมประกาศ ในการจัดทาวิจัยในชั้นเรียน ในหัวข้อ การสร้างชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino เรื่องการ เชื่อมต่อกับ RTC Module GY Module เรื่องการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และเรื่องการเช่ือมต่อ กบั RFID Module ขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านในแผนกอิเล็กทรอนกิ ส์ วิทยาลัยสารพัดช่างมหาสารคาม ซึ่งให้ คาปรกึ ษาของวิจัยเรื่องน้ี และให้คาแนะนา ชี้แนวทางท่ีเป็นประโยชน์แก่ผู้จัดทาวิจัย จนกระทั่งงานวิจัยนี้สาเร็จลง ดว้ ยความเรียบรอ้ ย ขอขอบพระคุณ อาจารย์เผด็จ เมืองศรี อาจารย์กิติพงษ์ มะพันธ์ และอาจารย์อภิวัฒน์ แววศรี ซึ่งเป็น อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิท่ีให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือในการประเมินคุณภาพชุดทดลองไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino เร่อื งการเชอ่ื มตอ่ กับ RTC Module GY Module เรื่องการควบคุม Stepper Motor Servo Motor และ เร่อื งการเชอื่ มต่อกับ RFID Module ท่สี ร้างขึ้นตลอดจนใหก้ ารแนะนาในการจดั ทาวจิ ยั ขอบคุณเด็กๆ ในชั้นเรียนท่ีให้ความร่วมมือในการประเมินความพึงพอใจ และใช้ชุดทดลองน้ีในการเรียน และช่วยให้วจิ ยั นสี้ าเร็จลลุ ว่ งไปดว้ ยดี นอกเหนือจากที่กล่าวมาทั้งหมดก็ขอขอบคุณบิดามารดาขอข้าพเจ้าและเพ่ือนๆทุกคนที่ได้แลกเปลี่ยน ข้อคดิ เหน็ ต่างๆ ให้กาลงั ใจในการทาวิจัยในชนั้ เรยี น ซึง่ หากไมม่ ีบุคคลเหล่าน้ีก็อาจจะไม่สามารถลุล่วงไปด้วยดี ทาง ผ้จู ัดทาก็ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนด้ี ว้ ย บรรณานกุ รม กฤษณา ศักดศ์ิ รี. จติ วิทยาการศกึ ษา. กรุงเทพฯ : บารุงสาส์น, 2530. จนิ ดา สขุ มาก. เอกสารประกอบเรียนการสอนวชิ าการศกึ ษา 2143205 หลกั การสอน. กรุงเทพฯ : คณะวิชาครุศาสตร์ วิทยาลัยครูสุนันทา, 2536. ฉนั ทนา กลอ่ มจิต, กอบพร อินทรตั้ง และวิลาวัลย์ จตุรธารง. การสรา้ งแบบสารวจลกั ษณะนิสัย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 59 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การเรียน นกั ศึกษามหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . งานวิจัยคณะศกึ ษาศาสตร์ ขอนแกน่ : มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น, 2543. ชดุ า จติ พิทกั ษ.์ วจิ ัยในชั้นเรยี น. กรงุ เทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2540. เทพา เครือคา. ความสมั พนั ธ์ระหว่างความสามารถทางสมองตามทฤษฎีเชาวป์ ัญญาของสเตริ ์น เบอร์กกบั ความสามารถในการคิวจิ ารณญาณ และความสามารถในการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ของนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 : การวเิ คราะหส์ หสมั พันธค์ าโนนิคอล. วทิ ยานพิ นธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม, 2547.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 60 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== พฤตกิ รรมการขาดเรียนนักศึกษา Student behaviorวรี ะยุทธ มงคะวริ ะ1บทคดั ยอ่การจัดทาวิจัยเร่ืองพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการเช่ือมประกอบคณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ เพอ่ื ศึกษาหาสาเหตุของการขาดเรียนท่ีเกิดกับนักศึกษาโดยใชก้ ลมุ่ ประชากรท่ีใช้ในการศกึ ษาเป็นกลมุ่ นกั ศกึ ษาสาขาการเชื่อมประกอบ คณะคุรุศาสตร์ ชั้นปีท่ี4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่นจานวน 27 คนในการศึกษาหาสาเหตุการขาดเรียนของนักศึกษาผลจากการศึกษาพบว่า นักศึกษาห้อง 4R ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 22 ปี นักศึกษาให้ความสาคัญกับปจั จยั ทเ่ี ป็นสาเหตปุ ญั หาพฤตกิ รรมการขาดเรยี นโดยรวมทกุ ดา้ นในระดบั ปานกลาง สามารถสรปุ ไดด้ งั นี้ดา้ นครอบครวั นกั ศึกษาใหค้ วามสาคญั กับครอบครัวในระดบั ปานกลางดา้ นครู นกั ศึกษาใหค้ วามสาคัญกบั ครูในระดับปานกลางดา้ นเพ่อื น นกั ศึกษาใหค้ วามสาคญั กบั เพื่อนในระดับปานกลางดา้ นสงั คมและสิง่ แวดล้อม นักศึกษาใหค้ วามสาคญั กับสังคมและสง่ิ แวดล้อมในระดบั ปานกลางAbstract Research on Student's absence Industrial Engineering Faculty of Industrial EducationRajamangala University of Technology IsanKhonKaen Campus To study the causes of studentabsences. Using the population as a group. Student Welding Faculty of Fine Arts, RajamangalaUniversity of Technology Isan There are 27 students in the KhonKaen Campus.The study foundthat 4R students were mostly male students aged 22 years. The students paid attention to thefactors that caused the problem of lack of learning in all aspects at moderate level. Can besummarized as follows.Family members focus on the family at a moderate level.Teachers focuson teachers at a moderate level.Friends in the middle class with friends.Social and EnvironmentalStudents focus on social and environmental issues at a moderate level. 1คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น *E-mail : natthaphong191995@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 61 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา ในปัจจุบันการศึกษาเป็นส่ิงสาคัญที่สุดในการพัฒนาบุคลากรเพื่อพัฒนาประเทศชาติไทยให้ก้าวหน้า ทัดเทียมต่างชาติจากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้ว่า “การศึกษา” หมายความว่ากระบวนการเรยี นรเู้ พอ่ื ความเจรญิ งอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝกึ การอบรมการสืบสานทางวัฒนธรรมการสร้างสรรค์จรรโลงความกา้ วหน้าทางวิชาการการสร้างองค์ความรู้อัน เกิดจากการจดั สภาพแวดลอ้ มสงั คมการเรียนรู้และปัจจยั เกอื้ หนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตดังน้ันการ จดั การศึกษาตอ้ งยึดหลกั ว่าผูเ้ รยี นมคี วามสาคัญที่สดุ ผเู้ รยี นทุกคนสามารถเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองไดก้ ระบวนการจดั การศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ (คลังปัญญาไทย, 2555: ออนไลน์) ดงั นน้ั สถาบันการศึกษาจึงมบี ทบาทสาคัญในการพฒั นาประเทศการศึกษามีความจาเปน็ สาหรบั ทุกคนเป็นรากฐานที่ สาคญั ในการสร้างบคุ คลใหม้ คี วามรู้ความสามารถในการปฏบิ ัติหน้าทแี่ ละสามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ สขุ การที่นักศึกษาจะสามารถเรยี นจนจบการศกึ ษาได้นั้นจะตอ้ งอาศยั บคุ คลหลายคนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยเฉพาะครูบาอาจารย์ผู้ปกครองเพ่ือนร่วมชั้นสังคมที่อยู่อาศัยตลอดจนตัวของนักศึกษาเองท่ีจะต้องให้ความ รว่ มมือในการศึกษาใหส้ าเรจ็ ลุลว่ งไปดว้ ยดีในการดูแลนักศึกษาเป็นหน้าท่ีของบุคคลหลายฝ่ายที่ต้องช่วยกันหาแนว ทางแก้ไขปัญหาเกยี่ วกับพฤตกิ รรมของนักศึกษาในระหว่างท่ีเรียนเช่นปัญหาการขาดเรียนของนักศึกษาที่ต้องมีการ ดแู ลและตรวจสอบรายช่ือของนักศึกษาก่อนเข้าเรียนทุกคร้ังถ้าพบว่ามีการขาดเรียนบ่อยครั้งก็อาจจะส่งผลกระทบ ต่อนักศึกษาในกระบวนการเรียนรู้การสอบและสง่ ผลกระทบถึงผปู้ กครองครูอาจารย์วิทยาลัยส่งผลกระทบต่อสังคม และเกดิ ปัญหาอน่ื ๆตามมาไดใ้ นภายหลงั ได้แก่ปญั หายาเสพย์ติดการยกพวกทะเลาะวิวาทการมั่วสุมในแหล่งบันเทิง แหลง่ อบายมุขต่างๆการตดิ เกมส์และปญั หาการก้าวรา้ วเปน็ ต้น (สภุ าพกาละปลกู ,2544) ดังน้นั ผจู้ ดั ทางานวิจัยจึงได้ทาการวิจยั พฤตกิ รรมการขาดเรยี นของนักศึกษาขึ้นเพ่ือที่จะได้ทาการปรับปรุง แกไ้ ขปญั หาได้อยา่ งถกู ตอ้ งเป็นประโยชนก์ ับนักศกึ ษาและประเทศชาติตอ่ ไป วตั ถุประสงคโ์ ครงการ เพ่ือศึกษาพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการเช่ือมประกอบห้อง 4R คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่นภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2560 เพอื่ หาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการเชื่อมประกอบห้อง 4R คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่นและเป็นแนวทางในการ เรียนการสอนในภาคเรยี นถดั ไป ขอบเขตการวิจยั ในการศกึ ษาวจิ ยั พฤตกิ รรมการขาดเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ-เชื่อมประกอบห้อง 4R ได้กาหนดขอบเขตของการวิจัยไว้ดังนี้ ขอบเขตประชากร นักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4 ห้อง 4R คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น จานวน 28 คน ภาคเรยี นท่ี 1 ปี การศึกษา 2560 โดยแบง่ ได้ดังนี้ นกั ศกึ ษาชาย จานวน 26 คน นักศึกษาหญงิ จานวน 1 คน ขอบเขตของเนือ้ หา---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 62 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== เนือ้ หาในการศึกษาคร้ังนี้ประกอบด้วยการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษา ซึง่ มาจากสาเหตดุ า้ นตา่ งๆดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ดา้ นครอบครวั 2. ดา้ นครู 3. ด้านเพือ่ น 4. ด้านสงั คมและสง่ิ แวดล้อม ข้นั ตอนการออกแบบการดาเนินการ การทาวจิ ยั ในชั้นเรียนคร้ังนี้เพื่อมุ่งศึกษาพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการเช่ือม ประกอบ ชั้นปีที่ 4 ห้อง 4R มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 เพอ่ื นาผลการวจิ ยั ที่ไดม้ าเป็นแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาการขาดเรียนของนักศึกษาและเป็นแนวทางในการ เรยี นการสอนในภาคเรียนถดั ไป ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากรท่ีใช้ในการทาในวิจัยช้ันเรียน คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวชิ าวศิ วกรรมอุตสาหการเชื่อมประกอบ ช้ันปีที่ 4 ห้อง 4R จานวน 27 คน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ ประกอบดว้ ย นักศกึ ษาชาย จานวน 26 คน และ นักศกึ ษา หญิง จานวน 1 คน เครอ่ื งมอื และวธิ ีการท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา 1 เครื่องมอื ทีใ่ ช้ในการศึกษา เครอื่ งมือท่ีใชใ้ นการวิจยั ครงั้ นีป้ ระกอบด้วย 1.1 แบบสอบถามพฤตกิ รรมการขาดเรยี นของนักศกึ ษา2แบ่งออกเปน็ 3 ตอน ดังนี้ ตอนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไปของนักศึกษา ได้แก่ เพศและอายุ ตอนท่ี 2 ข้อมูลสาเหตปุ ญั หาพฤติกรรมการขาดเรยี นของนักศกึ ษา ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ 2 วธิ ีศึกษา 2.1 ศึกษาจากแบบสอบถามนักศึกษาในชั้นเรียน โดยการแจกแบบสอบถาม ให้กลุ่มนักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการเช่ือมประกอบ ห้อง 4R เพื่อเก็บข้อมูลทั่วไป สาเหตุของ การขาดเรียน และการ แสดงความคิดเห็นของนักศกึ ษาตอ่ การขาดเรียน 2.3 สรุปผลท่ีได้จากแบบสอบถาม โดยการนามาวิเคราะห์ข้อมูลทาง สถิติ โดยใช้โปรแกรม สาเรจ็ รปู SPSS เพ่อื ทราบสาเหตขุ องการขาดเรียนและความคดิ เหน็ ของนกั ศึกษาตอ่ การขาดเรยี น 2.4 คดิ หาแนวทางการแก้ไขพฤตกิ รรมการขาดเรยี นของนักศกึ ษา เพ่ือนามาปรบั ใช้ในการเรียน การสอนในภาคเรียนถัดไป การเก็บรวบรวมข้อมลู การเก็บรวบรวมข้อมูลของการทาวิจัยช้ันในเรียนในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทาการรวบรวม เอกสารข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลต่างๆ ดงั นี้ 1 ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามสาเหตุของพฤติกรรมการขาด เรียนของนักศึกษา (Questionnaire) และการสังเกตในขณะเรยี น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 63 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================2 ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) ศึกษาจากเอกสารงานและวิจัยที่เกี่ยวข้องของ งานวิจัยภายในประเทศ เกี่ยวกับเร่ืองพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษาในชน้ั เรยี นการวเิ คราะหข์ อ้ มูล1 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ (Qualitative Research) ผู้วิจัยสังเกตพฤติกรรมการมาเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการเช่ือมประกอบหอ้ ง 4R โดยการสงั เกตพฤติกรรมของกล่มุ นักศกึ ษาท่ีขาดเรยี นบ่อย โดยการเช็ครายช่ือการเข้าเรียนของนักศึกษาจากเอกสารบันทกึ การเขา้ เรียน (Teaching) และการสงั เกตนกั ศึกษาในขณะเรยี น2 การวิเคราะห์ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Research) ผู้วิจัยได้กาหนดการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการนาข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามพฤติกรรมการขาดเรียนของนกั ศกึ ษาเพื่อมาวิเคราะหด์ ังน้ี 1 คาถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของนักศึกษา ข้อมูลท่ีรวบรวมได้จากแบบสอบถาม จะนามาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ประกอบด้วย ความถี่ (Frequency) ร้อยละ(Percentage) 2 การวิเคราะห์ข้อมูลในแบบสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาพฤติกรรมการขาดเรียนคาถาม จะใช้เกณฑ์การแบ่งระดับออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่ สาคัญมากท่ีสุด สาคัญมาก สาคัญปานกลาง สาคัญน้อย สาคัญน้อยท่ีสุด ตามวิธี Rating Scales (กุณฑลี เวชสาร, 2545: 111-123) โดยแต่ละระดับ มีการกาหนดคะแนนตามระดับความสาคัญดงั น้ี ระดบั ความสาคัญ คะแนน มากทีส่ ดุ 5 มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 น้อยท่สี ดุ 1สถานท่ใี นการดาเนินการศกึ ษาและรวบรวมข้อมูลในการวิจยั คร้งั นี้ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใชแ้ บบสอบถามสารวจขอ้ มลู นักศึกษา จะดาเนินการที่คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการเชื่อมประกอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ระยะเวลาในการศกึ ษาระยะเวลาท้งั หมดในการวิจัยครง้ั น้รี วม 4 เดือน เร่มิ ต้งั แต่ เดอื นกรกฎาคม – เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 256สรปุ ผลงานวิจยัสว่ นท่ี 1 ข้อมลู ทวั่ ไปของนักศกึ ษา จากการศกึ ษาพบว่า นกั ศกึ ษาห้อง 4R สว่ นใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 22 ปี สว่ นท่ี 2 ข้อมูลสาเหตุปัญหาพฤตกิ รรมการขาดเรียนของนกั ศึกษา จากการศึกษาพบวา่ นักศึกษาใหค้ วามสาคญั กบั ปัจจยั ท่เี ปน็ สาเหตุปญั หาพฤตกิ รรมการขาดเรียนโดยรวมทกุ ด้านโดยรวมแล้วอยูใ่ นระดบั ปานกลาง เมอ่ื พจิ ารณาในส่วนของปจั จยั ยอ่ ยในแตล่ ะดา้ นไดผ้ ลดังนี้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 64 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ดา้ นครอบครัว พบว่านกั ศึกษาให้ความสาคญั ต่อปจั จยั ดา้ นครอบครวั โดยรวมอยใู่ นระดบั ปานกลาง ซ่ึง ปจั จยั ยอ่ ย คือ การทผ่ี ู้ปกครองบงั คับใหเ้ รยี นในสาขาทไ่ี ม่ชอบ ผปู้ กครองไม่มเี วลาว่างใหค้ าปรึกษาชี้แนะเกย่ี วกบั การเรยี นและการทีผ่ ู้ปกครองตามใจนักศกึ ษามากเกนิ ไป ด้านครู พบวา่ นักศึกษาใหค้ วามสาคัญต่อปัจจยั ด้านครโู ดยรวมอยใู่ นระดบั ปานกลาง ซึ่งปจั จัยยอ่ ย คอื การสอนของครผู สู้ อนในรายวชิ าตา่ งๆ ครูผสู้ อนในรายวชิ าต่างๆมสี ว่ นชว่ ยในการแก้ไขปัญหาการขาดเรยี น และ อาจารยท์ ีป่ รึกษามีสว่ นช่วยในการแกไ้ ขปญั หาและให้คาปรึกษา ด้านเพ่ือน พบวา่ นกั ศึกษาใหค้ วามสาคญั ตอ่ ปจั จยั ดา้ นเพ่ือนโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ซ่งึ ปจั จยั ยอ่ ย คือ เพอื่ นมีส่วนให้นกั ศึกษาไม่อยากมามหาวทิ ยาลัย การท่นี ักศึกษาไมม่ ีเพื่อนสนิทและการทน่ี กั ศึกษามีพฤติกรรม ชอบเทย่ี ว ด้านสงั คมและสงิ่ แวดล้อม พบวา่ นักศกึ ษาให้ความสาคญั ต่อปัจจยั ดา้ นสังคมและสงิ่ แวดโดยรวมอยใู่ น ระดบั ปานกลาง ซ่ึงปจั จยั ยอ่ ย คอื ระยะทางในการเดนิ ทางมามหาวทิ ยาลัย สภาพบรรยากาศการเรยี นในห้องเรียน และกจิ กรรมในมหาวิทยาลยั---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 65 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การศึกษาความเครยี ดในการเรยี นของนักศกึ ษา วีรพล มานะดี1 บทคัดยอ่ การศกึ ษาวิจยั ครั้งนี้ มีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือศึกษาความเครียดของนักศึกษาสาขาวิศวกรรมการเช่ือมฯ ช้ันปีท่ี 4 มหาหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ผู้วิจัยได้จัดทาแบบสอบถามเพ่ือศึกษา สาเหตุของ การเกิดความเครียด ของนักศกึ ษาจานวน 10 ข้อ โดยให้นักศึกษาตอบคาถามตามแบบสอบถามว่ามีพฤติกรรมหรือ ความคิดต่าง ๆ เกิดขึ้นมากเพียงใดในรอบสองเดือนท่ีผ่านมา โดยสุ่มเก็บข้อมูลจากนักศึกษา ชั้นปีที่ 4 สาขา วศิ วกรรมการเชอื่ ม คณะครุศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ จานวน 26 คน จากจานวนนักศึกษาท้ังหมด 28คน แล้วนาผลท่ีได้จากแบบสอบถามว่าทาการวิเคราะห์ว่าสาเหตุการเกิด ความเครียดเกิดจากสาเหตุอะไร โดยการคานวณ หาคา่ เฉลย่ี สรุปไดว้ า่ สาเหตทุ ท่ี าให้นกั ศึกษาเกิดความเครียดสูงที่สุดเกิดจากการนอนดึกของนักศึกษา ซ่ึงอาจมีปัจจัย หลายอย่างที่ทาให้นักศกึ ษามีการนอนดกึ และอาจสง่ ผลหลายๆ อยา่ งต่อตัวนักศึกษาจึงทาให้เกิดความเครียดในการ เรียนเปน็ อย่างมากและสาเหตตุ อ่ มาท่ีทาให้เกิดความเครียดของนักศึกษา คือ มีความรู้สึกเบ่ือหน่ายกับการเรียน,ต้ัง สมาธิลาบาก,รูส้ ึกเหนือ่ ยง่ายและกังวลกบั เร่อื งเรียน ซ่งึ อาจเปน็ ผลกระทบจากการนอนดึกทีท่ าใหเ้ กิดความเครยี ดสงู จงึ ทาให้เกิดการ ต้งั สมาธิลาบาก,รสู้ ึกเหน่ือยง่ายและร้สู ึกเบ่ือหน่ายกับการเรียน จึงทาให้สาเหตุข้างต้นเป็นสาเหตุท่ี ทาใหเ้ กดิ ความเครยี ดมาเปน็ อนั ดบั ตอ่ มา ทง้ั นส้ี าเหตุที่ทาใหเ้ กดิ ความเครียดสามารถแกไ้ ขได้โดยการวางแผนในการ ใช้ชีวิตในแตล่ ะวนั ใหม้ เี วลาพักผ่อนท่เี พียงพอหรอื วธิ กี ารอืน่ ท่ีทาให้ลดความเครียดในการเรยี น โดยทีต้องอาศัยความ มรี ะเบยี บมีวนิ ัยของตวั ผเู้ รยี นและครผู ูส้ อนกต็ อ้ งให้คาแนะนาท่ีดีในการใชช้ วี ิตแก่ผูเ้ รียนด้วย 1คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ *Email : weerapon_manadee@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 66 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This study The purpose of this study was to study the stress of welding students in the 4th year of Rajamangala University of Technology Isan. Khon Kaen Campus The researcher conducted a questionnaire for the study. Causes of stress Of 10 students Ask students to answer questions based on how many behaviors or ideas occurred in the past two months. Randomly collected data from 4th year students in welding engineering. Faculty of Industrial Education Rajamangala University of Technology Isan There are 26 students from Khon Kaen University. The result is from the questionnaire that analyzes the causes of the stress caused by calculating the mean. Concluded that the cause of student stress caused by high school students sleep. There may be many factors that make students sleep late and may have several effects. The students are very stressful in learning and cause the stress of students I have a feeling of weariness with school, difficulty concentrating, feeling tired and anxious about studying. This may be due to late night sleep that causes high stress. Cause Concentrate hard, feel tired and feel tired of learning. Cause the above is the cause of the stress to the next. The causes of stress can be corrected by planning to live each day, having enough rest or other means of reducing stress in the study. The need for discipline and discipline of the teacher and the teacher must give good advice to the life of the students. บทนา ท่มี าและความสาคัญของปัญหา ในปัจจุบันน้ีโลกของเรามีการเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ มากมาย ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี ตลอดจนการเรียนการศึกษา การเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ นี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อมนุษย์อย่างมาก เน่ืองจากมนษุ ย์ในปจั จบุ นั ให้ความสาคญั กับวัตถนุ อกกายมากกวา่ วตั ถุทางจิตใจ ทาให้เกิดการแข่งขันกันในสังคมขึ้น เพ่อื ความอยูร่ อด จึงส่งผลทาให้เกดิ ภาวะความเครียดกับมนุษยข์ ึ้น สาเหตุของความเครยี ดในชวี ิตประจาวนั มเี พิ่มข้ึน มากกว่าในอดีตเพราะการตอ่ ส้ดู น้ิ รนใหช้ วี ติ และความเปน็ อยูด่ ขี ้ึนโดยสภาวะทไี่ ม่สามารถปรับตวั ได้ตามสถานการณ์ จึงส่งผลต่อสภาวะสุขภาพจิต ซึ่งแม้จะไม่มีดัชนีช้ีวัดภาวะสุขภาพจิตอย่างแท้จริง แต่ปรากฏการณ์ที่เป็นจริงใน ปจั จบุ ันคือความเครยี ดซ่ึงเปน็ โรคเกย่ี วข้องกบั พฤติกรรมมแี นวโนม้ สูงข้ึนอย่างมาก ปัจจุบันความเครียดเป็นปัญหาสุขภาพจิตท่ีเกิดข้ึนกับคนไทยทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะกับนักเรียน นักศกึ ษาที่ต้องมกี ารแขง่ ขนั กนั อนั เนอื่ งมาจากการศกึ ษาในปัจจบุ นั ทาให้คนแตกต่างกันในด้านฐานะ หน้าที่การเงิน ความมั่นคงของชวี ิตชือ่ เสยี ง เพื่อใหบ้ รรลุเปา้ หมายน้จี ึงทาใหเ้ กิดการแข่งขันกันสูง การเลือกอาชีพในการทางาน ซึ่ง เปน็ ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการเข้าสูร่ ปู แบบการศึกษาท่ีสาคญั ในเร่ืองการประกอบอาชีพ และยังถกู คาดหวังจาก ครอบครวั ในการเลือกเรียนในสาขาทต่ี นเองไม่ชอบ จึงอาจเพ่ิมระดับความเครียดให้กับนักศึกษา ซึ่งส่งผลทาให้เกิด ความเครียดสูงตามไปด้วย และความเครียดนี้สามารถนาไปสู่ปัญหาทางด้านสุขภาพจิตท่ีร้ายแรง เช่น โรคจิต โรค ซึมเศรา้ ซ่งึ ก่อให้เกดิ ปญั หาการฆา่ ตัวตายขึ้น นอกจากนี้ความเครียดอาจนาไปสู่โรคต่างๆทางกายมากมาย เช่น โรค กระเพาะอาหาร โรคหัวใจ โรคนอนไม่หลับ เป็นต้น ดังน้ันผู้วิจัยจึงได้ทาการวิจัยเพื่อศึกษาปัญหาท่ีเกิดขึ้นของ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 67 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== พฤติกรรมการเครียดของนักศึกษาว่าเกิดขึ้นด้วยสาเหตุอะไร เพื่อประโยชน์ในการนาข้อมูลที่ได้ไปใช้ในเสนอแนะ แนวทางในการแก้ปัญหา และให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนให้มีพฤติกรรมการเผชิญความเครียดท่ีดี ช่วยป้องกัน การเกิดปัญหาสุขภาพจิตจากพฤติกรรมการเผชิญความเครียดที่ไม่พึงประสงค์ และสามารถแก้ไขปัญหาเก่ียวกับ ความเครียดแก่นักเรียนได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เป็นบุคคลท่ีมีสุขภาพจิตดี เรียนหนังสืออย่างมีความสุข และมี ประสทิ ธิภาพเป็นกาลังทีด่ ีของประเทศชาตติ ่อไป วัตถปุ ระสงค์ของการวิจยั - เพ่ือศึกษาสาเหตุของความเครียดในการเรยี นทเี่ กิดขน้ึ ของนักศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี ห้อง4R สาขา วิศวกรรมการเชอ่ื ม คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ - เพ่ือรวบรวมขอ้ มูลสาหรบั การแกป้ ัญหาความเครยี ดในการเรยี นของนักศกึ ษา ตอ่ ไป วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการในการทาการวิจยั ข้นั ตอนการดาเนนิ การ 1.วิเคราะหข์ ้อมลู พ้ืนฐานของผเู้ รยี น แลว้ กาหนดประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ งดงั นี้ -ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังนี้คือนักศึกษาระดับปริญญาตรี ห้อง 4R สาขาวิศวกรรมการเช่ือม คณะครุ ศาสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น จานวน 28 คน -กลุ่มตัวท่ีใช้ในการวิจัยครั้งน้ีคือนักศึกษาระดับปริญญาตรี ห้อง 4R สาขาวิศวกรรมการเช่ือม คณะครุ ศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น โดยใช้สูตรการคานวณหากลุ่ม ตวั อยา่ งของ ทาโร่ ยามาเน่ ไดจ้ านวนกลุ่มตัวอยา่ ง จานวน 26 คน 2.เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ในการทาวิจยั ครง้ั นี้ แบบสอบถาม ทผ่ี วู้ จิ ยั สรา้ งขึ้นเอง -การสร้างเคร่อื งมอื ที่ใช้ในการวิจัย เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นการวิจยั ครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบสอบถาม 2 ตอน คอื ตอนที่ 1 แบบสอบถามขอ้ มูลท่ัวไปของนักเรียน ตอนที่ 2 แบบสอบถามความเครียด ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามความเครียดที่ผู้วิจัยดัดแปลง และปรับปรุงมาจากแบบวัดความเครียดของคนไทย (กรมสุขภาพจิต. 2540) ลักษณะของแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ให้ผู้ เลือกตอบ เลอื กตอบเพียงระดับเดียว จาก มากท่ีสุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุดประกอบด้วยคาถามวัดอาการทางกาย 5 ขอ้ และอาการทางจิต 5 ข้อ ทสี่ มั พันธก์ บั ความเครยี ด รวม 10 ขอ้ ผู้วจิ ัยได้นามาหาคุณภาพของเคร่ืองมือโดยพบว่า แบบสอบถามความเครียดมคี ่าสมั ประสิทธสิ์ หสัมพันธ์อยู่ระหว่าง .285 - .785 และมีค่าความเช่ือม่ันทั้งฉบับเท่ากับ .920 โดยมเี กณฑ์การพจิ ารณาระดับความเครยี ดจากคะแนนเฉลย่ี ดงั นี้ 1.00 – 2.00 หมายถึง เครยี ดตา่ 2.01 – 3.00 หมายถงึ เครยี ดปานกลาง 3.01 – 4.00 หมายถงึ เครยี ดสูง 4.01 – 5.00 หมายถึง เครยี ดรนุ แรง---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 68 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 3.การเก็บรวบรวมข้อมลู การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ผู้วจิ ยั ดาเนนิ การตามข้นั ตอนดังน้ี -ผู้วจิ ยั นาแบบสอบถาม ไปเกบ็ รวบรวมข้อมลู ดว้ ยตนเอง โดยอธิบายคาช้แี จงในการตอบ แบบสอบถาม และขอความรว่ มมอื ในการเกบ็ ข้อมูล -นาแบบสอบถามทไ่ี ดร้ ับมาตรวจสอบความสมบรู ณ์ เพอ่ื ท่ีจะนาไปวเิ คราะห์ข้อมูลตอ่ ไป 4.การวิเคราะห์ขอ้ มลู -ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้การหาค่าสถิติพื้นฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก แบบสอบถาม -สถติ ิที่ใช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู ค่าเฉลีย่ รูปที่ 1 รูปแสดงสูตรการหาคา่ เฉลย่ีผลการวจิ ัย ในการวจิ ัยครง้ั นีผ้ ู้วจิ ยั ได้ทาการเก็บขอ้ มูลจากกลมุ่ ตัวอยา่ ง จานวน 26 คน โดยการใชแ้ บบสอบถามในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลแล้วทาการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของแบบสอบถามแลว้ ทาการคานวณหาคะแนนเฉล่ยี ในแตล่ ะขอ้ จากผตู้ อบแบบสอบถามทั้งหมด โดยได้ค่าเฉลยี่ ดงั ตาราง ดังนี้ลาดบั ปัญหาท่ีเกดิ ข้ึนประจาวัน ค่าเฉลย่ี 1 กังวลกับเรือ่ งเรียน 3.85 2 ครอบครวั มคี วามขดั แย้งในเร่ืองเงิน เรื่องงานในบา้ น 2.38 3 มคี วามรสู้ กึ เบือ่ หนา่ ยกับการเรียน 3.04 4 นอนดกึ 4.00 5 ปวดหวั จากความตึงเครยี ด 2.77 6 ปวดศรี ษะข้างเดยี ว 1.88 7 รู้สึกวติ กกังวล 2.08 8 รู้สึกโกรธ หรอื หงุดหงดิ 1.65 9 ตัง้ สมาธลิ าบาก 3.88 10 รู้สึกเหน่ือยงา่ ย 3.19---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 69 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ตารางที่1 ตารางแสดงคะแนนเฉลยี่ ในแตล่ ะขอ้ จากผตู้ อบแบบสอบถามทงั้ หมด 26 คน อภิปรายงานวิจัย จากการสร้างแบบสอบถามเพ่ือศึกษาความเครียดในการเรียน ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ห้อง 4R สาขาวศิ วกรรมการเชื่อม ในคร้ังนส้ี ามารถอภิปรายผลได้ดงั นี้ สาเหตุความเครียดที่เกิดจากการปวดศีรษะข้างเดียวและรู้สึกโกรธ หรือหงุดหงิด มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ ระหวา่ ง 1.00 – 2.00 หมายถงึ เครยี ดตา่ สาเหตุความเครียดท่ีเกดิ จากครอบครวั มีความขดั แยง้ ในเรื่องเงนิ เรอ่ื งงานในบ้าน,รู้สกึ วติ กกงั วลและปวด หัวจากความตงึ เครยี ด มีคะแนนเฉล่ียอย่รู ะหว่าง 2.01 – 3.00 หมายถงึ เครยี ดปานกลาง สาเหตุความเครยี ดท่เี กิดจากมคี วามร้สู ึกเบอื่ หน่ายกับการเรยี น,ตัง้ สมาธลิ าบาก,รสู้ ึกเหน่อื ยงา่ ยและกงั วล กับเรื่องเรยี น มคี ะแนนเฉลี่ยอยรู่ ะหวา่ ง 3.01 – 4.00 หมายถงึ เครยี ดสูง สาเหตคุ วามเครียดที่เกิดจากการนอนดึก มคี ะแนนเฉลย่ี อยู่ระหว่าง 4.01 – 5.00 หมายถงึ เครยี ดรุนแรง สรปุ ผลงานวจิ ัย จากการศึกษาและวิเคราะห์แบบสอบถามเพ่ือศึกษาความเครียดในการเรียน ของนักศึกษา ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาวิศวกรรมการเช่ือม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขต ขอนแก่น ปีการศึกษาที่ 1/2560 พบว่าสาเหตุที่ทาให้นักศึกษาเกิดความเครียดสูงที่สุดเกิดจากการนอนดึกของ นักศกึ ษา ซ่ึงอาจมปี จั จยั หลายอย่างที่ทาให้นักศึกษามีการนอนดึกและอาจส่งผลหลายๆ อย่างต่อตัวนักศึกษาจึงทา ให้เกิดความเครียดในการเรยี นเป็นอย่างมากและสาเหตุต่อมาท่ีทาให้เกิดความเครียดของนักศึกษา คือ มีความรู้สึก เบ่ือหนา่ ยกับการเรียน,ต้ังสมาธลิ าบาก,รูส้ ึกเหนอ่ื ยงา่ ยและกงั วลกับเรอ่ื งเรยี น ซงึ่ อาจเป็นผลกระทบจากการนอนดึก ทที่ าให้เกดิ ความเครียดสูง จงึ ทาใหเ้ กดิ การ ตัง้ สมาธิลาบาก,ร้สู ึกเหนือ่ ยง่ายและรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียน จึงทาให้ สาเหตขุ ้างตน้ เปน็ สาเหตทุ ี่ทาให้เกิดความเครยี ดมาเปน็ อันดับตอ่ มา ทัง้ นี้สาเหตุทีท่ าให้เกดิ ความเครียดสามารถแกไ้ ข ไดโ้ ดยการวางแผนในการใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอหรือวิธีการอื่นที่ทาให้ลดความเครียดในการ เรยี น โดยทีตอ้ งอาศยั ความมรี ะเบยี บมวี ินัยของตัวผ้เู รยี นและครูผ้สู อนก็ต้องให้คาแนะนาท่ีดีในการใช้ชีวิตแก่ผู้เรียน ด้วย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 70 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ก า ร อ อ ก แ บ บ แ ล ะ ส ร้ า ง ชุ ด เ ค ร่ื อ ง ช่ ว ย จั บ บั ด ก รี ข้ั ว ต่ อ ส า ย น า สั ญ ญ า ณ และเช็คสายนาสัญญาณ ภาณพุ งศ์ แวงวรรณ1 บทคดั ยอ่ การศึกษาวิจัยคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสาเหตุท่ีนักเรียนยังขาดทักษะการบัดกรีข้ัวต่อสายนา สัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปีท่ี 2 แผนกอิเล็กทรอนิกส์ ภาคเรียนที่ 2 ประจาปีการศึกษา 2560 จานวน 13 คน ผู้วิจัยได้หาวิธีการจัดทาการสร้างชุดเครื่องช่วยจับบัดกรี ข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ การวิจัยดาเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้การสร้างและหาคุณภาพชุด เครอ่ื งช่วยจับบดั กรีขั้วตอ่ สายนาสญั ญาณและเช็คสายนาสัญญาณ ในการเรยี นพร้อมทาใบงาน และสงั เกตผูเ้ รียน ใน รายวิชาระบบเสยี ง รหสั วิชา 2105-2102 แผนกวชิ าอิเล็กทรอนิกส์ แล้วนาข้อมูลจากการวิเคราะห์ การถาม-ตอบ เพ่ือสรุปหาข้อดขี อ้ เสียและขอ้ บกพร่องของผูเ้ รียน ตอ่ จากน้นั ได้ดาเนนิ การแก้ไขข้อบกพรอ่ งโดยการใช้แผนการสอน ท่ีจัดทาข้ึน เพื่อการสร้างและพัฒนาคู่ชุดเคร่ืองช่วยจับบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ วิชา ระบบเสียง ของนักศกึ ษาช้นั ปวช.2 แผนกวิชาชา่ งอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ผลการศึกษาปรากฏว่า จากการศกึ ษาและวเิ คราะหก์ ารสงั เกตเพ่ือศกึ ษาสาเหตุทีน่ ักเรยี นขาดทักษะการ บดั กรขี ั้วตอ่ สายนาสัญญาณและเช็คสายนาสญั ญาณ แสดงใหเ้ หน็ วา่ สาเหตขุ องการท่ีนกั เรียนขาดทกั ษะบดั กรขี ้วั ต่อ สายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ ลาดับที่ 1 อาจเกิดจากตัวนักเรียนเอง เน่ืองมาจากสาเหตุท่ีนักเรียนไม่ เข้าใจเนื้อหาเพราะขาดพื้นฐานการ เรียนรู้ ลาดับท่ี 2 อาจเกิดจากครูผู้สอน เน่ืองมาจากสาเหตุท่ีนักเรียนทางานท่ี รับมอบหมายไม่ได้เพราะครูส่ังงานยากเกินไป ลาดับที่ 3 อาจเกิดจากกระบวนการสอนสอน เน่ืองมาจากสาเหตุที่ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจเนือ้ หาเพราะขาดสื่อการเรียนการสอนท่ีดี และลาดับที่ 4 ด้านบรรยากาศในห้องเรียนหรือบริเวณ รอบ ๆ ห้อง 1คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ *E-mail : koa-koa-@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 71 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This study The objectives of this research were to investigate the causes of students' lack of soldering skills, connectors, and signal lines of the second year vocational certificate students. Find out how to make a set of soldering pins, connectors, cables and check the signal. The research was carried out by using the creation and quality assortment of solder grips, connectors, and signal transducers. To study with the work. And observe the learner In the course of sound system, course code 2105-2102. The data from the analysis of Q & A to summarize the advantages and disadvantages of students. Subsequently, the bug was corrected using the lesson plan. To build and develop a pair of soldering irons, connectors, and signal cables. Sound system Of students in vocational schools. The results show that. A study and analysis of observations to investigate the reasons students lacked the skills of soldering, connectors, and signal transducers. show that The reason for students' lack of soldering skills, connectors, and signals. The reason is that students do not understand the content because the lack of learning basics. No. 2 may be caused by the teacher. The reason is that students do not work because the assignment is too difficult. The third may be due to the teaching process. The reason is that students do not understand the content because of the lack of good teaching materials and No. 4 atmosphere in the classroom or around the room. ความเป็นมาของปัญหา ปัจจุบันกรมอาชีวศึกษาได้มีการขยายขอบเขตการศึกษาออกไปอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านจานวน สถานศกึ ษาและประเภทสาขาวชิ า ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากการจัดต้งั วทิ ยาลยั ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหค้ นในชนบทไดม้ โี อกาสเขา้ ศกึ ษา การประกอบวชิ าชพี มากขึ้น ในกระบวนการเรยี นรู้ สาขางานอเิ ล็กทรอนิกส์ มีจุดมุ่งเน้นให้นักเรียน นักศึกษาเรียนรู้ และฝกึ ทกั ษะท้ังภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในการบดั กรขี ัว้ ตอ่ สายนาสญั ญาณหรอื การตอ่ แจ๊คชนดิ ตา่ งๆ นักศึกษายงั ขาดความรู้และความสามารถใน การตอ่ ขั้วต่อสายนาสัญญาณและต่อแจ็คไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและชานาญ ซ่ึงในการบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณหรือการ ต่อแจ๊คโดยไม่มีเคร่ืองมือช่วย นักศึกษาไม่สามารถทาได้ด้วยตนเองเพียงคนเดียว ต้องมีผู้ช่วยในการช่วยจับข้ัวต่อ หรือจบั สายนาสญั ญาณ อีกท้งั ยังใชเ้ วลาค่อนข้างมาก และยุ่งยากในการหาผู้ช่วย ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้มีแนวคิดที่จะหา เคร่ืองมือมาช่วยในการบดั กรขี ัว้ ตอ่ สายนาสัญญาณหรือการต่อแจ๊ค ท่ีสามารถช่วยให้นักศึกษามีทักษะในการบัดกรี ขว้ั ตอ่ สายนาสัญญาณหรอื การตอ่ แจ๊คได้อย่างรวดเร็วและสามารถนามาใช้ประโยชน์ไดจ้ รงิ จากปัญหาดงั กล่าวผู้วิจยั ไดส้ ร้างชุดเครื่องมือช่วยจับบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ เพื่อใช้ในการประกอบการเรียนการสอนในรายวิชา ระบบเสียง รหัสวิชา 2105-2102 ของนักศึกษาช้ัน ปวช.2 ซ่ึง เน้ือหาในรายวิชาได้มีการเรียนเก่ียวกับการต่อพ่วงระบบเสียง โดยใช้สายนาสัญญาณ ผู้วิจัยได้มุ่งเน้นท่ีจะใช้ชุด เครื่องมือช่วยจับบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะและมีความ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 72 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ชานาญในการบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณหรือการต่อแจ๊ค รวมถึงการเข้าสายนาสัญญาณได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และคล่องแคล่ว ทงั้ น้ผี ู้วจิ ยั ได้นาขอ้ มูลจากการวิจัยในคร้ังนี้ ไปศกึ ษาปัญหาเพ่ิมเตมิ พรอ้ มทั้งคดิ หาแนวทางในการแก้ไขให้ มีประสทิ ธิภาพสูงสดุ เพอื่ ให้เกิดประโยชน์และสามารถนาไปใชใ้ นการศึกษาหรือการเรียนการสอนในครั้งตอ่ ไปวตั ถุประสงค์และเป้าหมายของการวิจัย 1. เพื่อออกแบบและสร้างชดุ เคร่อื งช่วยจบั บัดกรขี ั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ 2. เพอื่ หาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นด้วยชดุ เครอ่ื งชว่ ยจับบัดกรขี ้วั ต่อสายนาสัญญาณวธิ ดี าเนนิ การวิจัย การศกึ ษาคน้ ควา้ ครั้งนี้ มวี ัตถปุ ระสงค์เพื่อสรา้ งชุดเครอื่ งช่วยจับบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสญั ญาณ ของนักเรียนชนั้ ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 2 จานวน 13 คน แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จึงไดด้ าเนินการศึกษาตามลาดับดงั น้ี 1. ขั้นตอนการดาเนนิ งานวิจยั 2. ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง 3. การสร้างเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวิจยั 4. การดาเนนิ การวจิ ยั 5. การวิเคราะหข์ อ้ มูล 6. สถิติที่ใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมลู1. ขน้ั ตอนการดาเนนิ งานวจิ ัย เรมิ่ ตน้ ศกึ ษาหาขอ้ มูลและวิเคราะหส์ ภาพปญั หา สร้างชอ่ื เรอื่ งวจิ ัย ชุดเครอื่ งช่วยจบั บดั กรีขั้วต่อสายนาสัญญาณ และเช็คสายนาสญั ญาณ 1---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 73 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นดาเนนิ การ ไมผ่ า่ น ปรับปรุงแกไ้ ข ผา่ นเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและข้อมลู มาวเิ คราะห์ประเมินผลสรปุ ผลของงานวิจัยส้นิ สดุ แผนภมู ิที่ 1. ขัน้ ตอนการดาเนินงานวิจยั 2. ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง ประชากร ในการวิจัยในครั้งน้ี ผู้วิจัยได้กาหนดกลุ่มเป้าหมาย เป็นนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แผนกวชิ าอิเล็กทรอนิกส์ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 วทิ ยาลยั การอาชพี โพนทอง กลมุ่ ตัวอย่าง กลุ่มนักศึกษาที่ขาดทักษะบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ เป็นนักศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีท่ี 2 แผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์ จานวน 13 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 แผนกวชิ าช่างอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ วทิ ยาลัยการอาชพี โพนทอง 3. การสร้างเคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการวจิ ัย - แผนการสอนวชิ าวิชาระบบเสียง - ขอ้ มูลจากการสอบปฏิบัติการจับบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณต่อความสัมพันธ์ กับเวลาของการสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน ในเวลา 10 นาที---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 74 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การประเมนิ ผลในวิธกี ารสอนการบดั กรขี ัว้ ตอ่ สายนาสญั ญาณและเชค็ สายนาสัญญาณ โดยใช้กิจกรรมการ เรียนแบบมีการใช้ชุดเคร่ืองช่วยจับบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณมาใช้ร่วมในการเรียนใน รายวชิ าระบบเสียง ผวู้ จิ ัยไดน้ าเคร่ืองมือรายการที่ 1 คือ ชุดเครื่องช่วยจับบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสาย นาสญั ญาณ ทไ่ี ดผ้ ่านการปรบั ปรุงจากผู้เช่ยี วชาญมาแลว้ และแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นไดผ้ า่ นการหา คุณภาพโดยใชก้ ารวเิ คราะห์คา่ ดชั นคี วามสอดคล้องระหวา่ งข้อสอบจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ศึกษาหลักสตู รและจุดประสงคก์ ารเรยี นรวู้ ชิ าระบบเสยี ง ศกึ ษารายละเอยี ดเกีย่ วกบั การสรา้ งแผนการสอน และสร้างสรา้ งชดุ เครอื่ งชว่ ยจับบดั กรขี ั้วตอ่ สายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ จากเอกสารตาราและงานวิจัย ต่าง ๆ ตลอดจนตวั อยา่ งกิจกรรมการเรียนขั้วตอ่ หรอื คอนเน็กเตอรห์ รอื แจ็ค 3.1 ศกึ ษาหลักการและทฤษฎที ่ีเกีย่ วข้องกบั กจิ กรรมการบัดกรีข้วั ตอ่ สายนาสญั ญาณ 3.2 จัดแบ่งเนือ้ หา เรื่อง ขว้ั ตอ่ โดยใช้เวลา 4 ช่วั โมง ทฤษฎี 1 ชั่วโมง ปฏิบตั ิ 3 ชงั่ โมง 3.3 สร้างแผนการสอน จานวน 1 แผน และสร้างชุดเครือ่ งช่วยจับบดั กรขี ้ัวตอ่ สายนาสัญญาณและเช็คสาย นาสัญญาณ เวลา 4 ช่ัวโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเรื่องบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณ สร้างขึ้นตาม คาอธบิ ายรายวิชาและตามผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง โดยศึกษาคาอธบิ ายรายวชิ าและหลักสูตร วิชาระบบเสียง 4. การดาเนนิ การวิจยั ในการวจิ ัยครั้งน้เี ปน็ การวิจัยเชิงทดลองโดยรูปแบบของการวิจัยซึ่งมีลักษณะของการเรียนทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และทดสอบหลงั เรียน (Post-test) ซึ่งจะแบง่ ออกไดด้ ังน้ี 4.1 อธิบายถึงอุปกรณ์การเรียน การบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ แจ้ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ปี ระเมินผลการเรียนรู้ 4.2 ทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) กับนักศึกษากลุ่มตัวอย่างด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิการ บดั กรขี ว้ั ต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสญั ญาณ 4.3 ดาเนนิ การวิจัยโดยทาการสอนนักศึกษากลุ่มตัวอย่าง ในรายวิชาระบบเสียงโดยใช้กิจกรรม การบดั กรีข้วั ต่อสายนาสัญญาณและเชค็ สายนาสญั ญาณ 4.4 เม่ือสอนครบ 4 ชั่วโมงแล้ว ทาการทดสอบหลังการทดลอง (Post-test) ด้วย กิจกรรมการ ต่อพ่วงระบบเสียงโดยมีคู่มือการตอ่ พว่ งระบบเสียง 4.5 ตรวจแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กิจกรรมการบัดกรีข้ัวต่อสายนา สัญญาณและเช็คสายนาสญั ญาณ แลว้ นาผลการวเิ คราะห์โดยใช้วธิ ที างสถิตเิ พอื่ ทดสอบสมมตฐิ าน 5. การวิเคราะห์ขอ้ มูล เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิภายในกลุ่มทดลองระหว่างก่อนการทดลองและหลังการทดลองโดยใช้ t-test for Dependent Sample 6. สถิติทใ่ี ช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล สถิติพืน้ ฐานท่ใี ช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยคานวณจากสตู ร ดังน้ี 6.1 ค่าเฉลย่ี (Mean) โดยใช้สูตร ดงั นี้ (สมนึก ภัททิยธนี. 2546: 237)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 75 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================จากสูตร X = X (3.1) N เม่อื X แทน ค่าเฉลยี่ ∑X แทน ผลรวมของคะแนนทกุ ตัวในกลุ่ม N แทน จานวนคนทง้ั หมดการแปรความหมายคา่ เฉลีย่ จากการประเมินผลโดยความคิดเห็นของผ้เู ชย่ี วชาญ ผู้วิจัยกาหนดค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของผ้เู ชีย่ วชาญตามแนวทางของเบสท์ (Best, 1983 : 175-182) การแปรความหมายของคา่ เฉลย่ี คา่ เฉลย่ี แปรความหมาย 4.50 – 5.00 มากท่สี ดุ 3.50 – 4.49 มาก 2.50 – 3.49 ปานกลาง 1.50 – 2.49 นอ้ ย 1.00 – 1.49 นอ้ ยท่สี ดุ 6.2 การวิเคราะหแ์ บบทดสอบการตรวจวดั หาขาทรานซิสเตอร์ การคานวณค่าสถิตพิ ้นื ฐาน ค่าเฉลี่ย ̅ ̅ =∑ ̅ หมายถึง คะแนนเฉล่ยี X หมายถงึ คะแนน ∑ หมายถงึ ผลรวมของคะแนนท้งั หมด N หมายถงึ จานวนนักเรยี น การวเิ คราะหผ์ ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรยี น ปวช. 1/1 จานวน 4 คน เกดิ ทกั ษะจากกระบวนการเรยี นรโู้ ดยวิธีการเรียนแบบเพ่ือนชว่ ยเพอ่ื นทเี่ พ่ิมสงู ข้นึ จากเดมิ ร้อยละ 30 หรือไม่รอ้ ยละ T-score เฉลยี่ ท่เี พ่ิมข้นึ = (คา่ T-score เฉลยี่ กอ่ นเรยี น - ค่า T-score เฉลีย่ ก่อนเรยี น) x 100 ค่า T-score เฉลีย่ ก่อนเรียน คะแนนมาตรฐานที (T –Score) คะแนนมาตรฐานที (T –Score) หมายถึงคะแนนท่ีมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 50 และมีค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 10 และมีการแจกแจงคะแนนเป็นรูปโค้งปกติ ซึ่งเป็นคะแนนมาตรฐานท่ีแปลงมาจาก คะแนนมาตรฐานซี เพ่ือแกจ้ ุดอ่อนบางประการของคะแนนมาตรฐานซี คะแนนมาตรฐานที (T – Score) คานวณได้จากสูตรต่อไปน้ี---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 76 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== T = 50 + 10Z และ = - ̅ เม่อื Z คือ คะแนนมาตรฐานซี X คือ คะแนนแต่ละคน ̅ คอื ค่าเฉล่ยี S คือ คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน ซ่ึง =√∑ ( - ̅) - ตัวอยา่ ง คะแนนสอบ (X) คะแนนมาตรฐานซี (Z) คะแนนมาตรฐานที (T) นักเรียน 40 0.001. กมล 42 0.50 50 + (10 0.00) = 502. โสภา 44 1.00 50 + (10 0.50) = 553. นิรมล 48 2.00 50 + (10 1.00) = 604. ประชา 37 -0.75 50 + (10 2.00) = 705. นเิ วศ 33 -1.75 50 + (10 (-0.75)) = 42.56. ประจกั ษ์ 50 + (10 (-1.75)) = 32.5การแปลความหมายการประเมินคะแนนมาตรฐานที (T –Score) อาจกาหนดระดบั คุณภาพเป็น 5 ระดับดังนี้ ตง้ั แต่ T 65 และสงู กวา่ อยใู่ นเกณฑ์ ดมี าก ตง้ั แต่ T 55 –65 อยู่ในเกณฑ์ ดี ต้งั แต่ T 45 –55 อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ เฉพาะ T 50 อยใู่ นเกณฑ์ มคี วามสามารถปานกลางพอดี ตง้ั แต่ T 35 –45 อยู่ในเกณฑ์ ยงั ไม่พอใช้ ต้งั แต่ T 35 และตา่ กว่า อย่ใู นเกณฑ์ อ่อน 6.3 การวิเคราะหก์ ารเปรียบเทียบผลสมั ฤทธิ์ของนกั เรียน ปวช. 1/1 จานวน 4 คน ทเี่ รยี นโดยวิธีการเรยี นแบบเพอ่ื นชว่ ยเพอ่ื นสงู กวา่ วธิ กี ารเรียนแบบปกติที่ระดบั นยั สาคญั ท่ี .05 หรอื ไม่ กรณกี ลมุ่ ตัวอยา่ งมีความสมั พันธ์กัน การเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของคะแนนเฉล่ีย 2 กลุ่มท่มี ีความสมั พนั ธก์ ัน (ไม่อสิ ระจากกัน ) เช่นในกรณีท่ีทาการศึกษาที่มีลักษณะเป็นคู่กัน เช่น ฝาแฝด หรือคนกลุ่มเดียวแต่มีการทดสอบสองครั้ง เช่น ทดสอบก่อนการทดลองและทดสอบหลงั การทดลอง โดยใชค้ ่าแจกแจง t – test แบบ Dependent Samples ดงั น้ี = ∑ ; df = n-1 √∑ -( ∑ ) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 77 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================เมือ่ t แทน ค่าสถิติทีใ่ ชใ้ นการพิจารณาใน t – distribution D แทน ความแตกต่างของคะแนนแตล่ ะคู่ N แทน จานวนค่ขู องคะแนนหรือจานวนนกั เรียน ∑ แทน ผลรวมทง้ั หมดของผลตา่ งของคะแนนกอ่ นและหลงั การทดลอง ∑ แทน ผลรวมของกาลังสองของผลตา่ งของคะแนนกอ่ นและหลงั การทดลองตวั อย่าง ในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนโดยใชช้ ุดการสอน โดยกอ่ นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไดท้ าการทดสอบความรกู้ ่อนใชช้ ดุ ฝกึ และหลังการใช้ชุดฝกึ โดยใชแ้ บบทดสอบฉบบั เดยี วกนั ปรากฏผลดงั ตาราง จงทดสอบว่านกั เรียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นหลงั ใช้ชดุ การสอนสงู กว่าก่อนการใชช้ ดุ การสอนหรอื ไม่ทร่ี ะดบั นัยสาคัญ .05 คนท่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ก่อนเรยี น 20 18 20 15 8 3 10 15 18 19 รวม =146 หลงั เรยี น 30 25 28 30 20 19 20 25 28 29 รวม = 254 D 10 7 8 15 12 16 10 10 10 10 D = 108 100 49 64 225 144 256 100 100 100 100 D2 = 1,238ขั้นท่ี 1 ต้งั สมมุตฐิ าน ตั้งสมมตุ ิฐานทางสถิติ H0 : post = preขน้ั ที่ 2 กาหนดระดับนยั สาคัญ H1 : post > pre = .05ขน้ั ที่ 3 เลอื กสถิติทใี่ ชใ้ นการทดสอบสมมตุ ิฐาน =∑ ; df = n-1 √∑ -( ∑ ) -ขัน้ ท่ี 4 กาหนดขอบเขตวิกฤติ กาหนด = .05 และเปน็ การทดสอบแบบทางเดยี ว ( H1 : post > pre ) คา่ วกิ ฤตของ t ณ df = 9 และ .05 จะได้คา่ วกิ ฤตของ t ( t ตาราง ) = 1.83ข้ันท่ี 5 คานวณคา่ สถติ ิตามสตู ร =∑ √∑ -( ∑ ) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 78 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================t 108 = 108 1238011664 10(1,238) (108)2 10-1 9t 108 = 108 108 716 79.56 8.92 9 t 12.11 ข้นั ที่ 6 สรุปตดั สนิ ใจ พิจารณา เม่ือ t คานวณ t ตาราง จะปฏเิ สธ H0 ยอมรบั H1 เม่อื t คานวณ t ตาราง จะยอมรบั H0 ปฏิเสธ H1 เนื่องจาก tคานวณ =12.11 > tตาราง =1.83 ดังนั้น จงึ ปฏเิ สธ H0 ยอมรบั H1 น่นั คอื หลงัใชช้ ดุ การสอนนักเรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสงู กวา่ ก่อนการใชช้ ดุ การสอนไดอ้ ยา่ งมนี ยั สาคญัทร่ี ะดับ .05สรปุ ผลการวิจัย 1. ผลจากการประเมินพฤติกรรมการใช้งานชุดเครื่องช่วยจับบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ วิชาระบบเสียงของนักศึกษาช้นั ปวช.2 กอ่ นการทดลองและหลังการทดลองจะแตกตา่ งกนั โดยก่อนการใช้ชุดเครือ่ งช่วยจบั บัดกรีขว้ั ต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ นักศึกษาไมส่ ามารถทาได้ด้วยตนเองเพียงสองคน และใชเ้ วลาในการตอ่ ขวั้ สญั ญาณคอ่ นขา้ งมาก แต่หลงั จากทใี่ ช้ชดุ เครอื่ งช่วยจับบดั กรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ นักศึกษามีความชานาญในการบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณหรือการต่อแจ๊คได้อย่างถูกต้องรวดเรว็ และคลอ่ งแคล่วมากขึ้น 2. การใช้งานชุดเครื่องช่วยจับบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ ผลปรากฏว่านักเรียนมีทกั ษะในการวดั ทดสอบอปุ กรณไ์ ด้อยา่ งมีความชานาญมากขน้ึอภิปรายผลการวจิ ยั การวิจัยครั้งน้ีเป็นการศึกษาพัฒนาทักษะการบัดกรีขั้วต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ ของนักเรียนนักเรียนช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 2 ที่ได้ใช้ชุดเคร่ืองช่วยจับบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสญั ญาณ จากผลการวจิ ัยได้อภปิ รายผลตามลาดบั หัวขอ้ ดงั ตอ่ ไปน้ี จากสมมติฐานข้อท่ี 1 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในรายวิชา ระบบเสียง ของนักเรียนช้ันประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) ชัน้ ปีที่ 2 ท่ีไดร้ บั มอบหมายปฏิบตั ิการสอน ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนท่ีได้ใช้งานชุดเครื่องช่วยจับบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ ก่อนการทดลองและหลังการทดลองมคี วามแตกต่างกัน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 79 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ข้อเสนอแนะ การสร้างและหาคุณภาพของชุดเคร่ืองช่วยจับบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ ของ นักศึกษาชั้น ปวช.2 เป็นเทคนิคท่ีพัฒนาทักษะในตนเอง และการถ่ายทอดความรู้ระหว่างเพ่ือนในกลุ่มที่เรียน ลกั ษณะของกล่มุ จะเป็นกลุ่มทคี่ ละความสามารถ การสร้างกจิ กรรมให้นกั เรยี นแตล่ ะคนเขา้ ใจวธิ ีการและกฎเกณฑ์ใน การทางานโดยใช้ชดุ เคร่อื งช่วยจับบัดกรีขว้ั ต่อสายนาสญั ญาณและเช็คสายนาสญั ญาณ เปน็ ตวั ช่วยสร้างบรรยากาศที่ ในการแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นและกาหนดหนา้ ท่รี บั ผิดชอบของนักเรียนแต่ละคน กาหนดเวลาในการทางานร่วมกัน นอกจากน้ันครูจะต้องยกย่อง ให้รางวัล คาชมเชยในการทางานร่วมกันของนักเรียนในด้านการประเมินผลครูให้ คะแนนเปน็ รายบคุ คล แลว้ นาคะแนนของทกุ คนมารว่ มกันเปน็ คะแนนกลมุ่ เพอ่ื เป็นการสร้างขวญั และกาลังใจให้กับ นักเรียนและทาให้นักเรียนมีความสนใจเรียนมากขึ้น อันจะเป็นผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนที่สูงขึ้นไป ด้วย จากนี้ ผู้วิจยั จงึ ขอเสนอแนะแนวทางเพื่อนาข้อค้นพบในการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาทักษะการเรียนการสอน คอื 1. ครคู วรศึกษาชนิดของขั้วต่อในระบบเสียงที่มีมากมาย เครื่องเสียงในแต่ละรุ่นจะใช้ขั้วต่อที่แตกต่างกัน ออกไป และประกอบกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น เพือ่ การพัฒนาทักษะการบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสาย นาสัญญาณ โดยวิธีการเรียนการสอนแบบใช้ชุดเคร่ืองช่วยจับบัดกรีข้ัวต่อสายนาสัญญาณและเช็คสายนาสัญญาณ ในรายวชิ า ระบบเสยี ง รหัสวชิ า 2105-2102 ใหเ้ กิดผลสัมฤทธิท์ างการเรียนมากยงิ่ ขึน้ 2. ครูควรใช้จิตวิทยาในการโน้มน้าวจิตใจให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความขยันอดทน และไม่ย่อท้อต่อความยากลาบาก และต้องคานึงถึงความปลอดภัย รวมทั้งเห็นคุณค่าของการปรับพฤติกรรมของ ตนเอง กิตติกรรมประกาศ การทาวิจัยครั้งนี้ สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความกรุณาอย่างยิ่งจากคณะอาจารย์นิเทศ สาขาครุศาสตร์ อตุ สาหกรรมอเิ ล็กทรอนิกส์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ และอาจารย์เรวัต มาลา กรรณ (หัวหน้าแผนกอิเล็กทรอนิกส์) และอาจารย์พี่เล้ียงประจาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ ที่กรุณาให้คาปรึกษาและ คาแนะนา ช่วยเหลือตรวจแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เกี่ยวกับการวิจัยมาโดยตลอด ผู้วิจัยรู้สึกซาบซึ้งในความ กรุณาอย่างย่ิง ขอกราบขอบพระคุณ ว่าท่ีร้อยโทสันติสุข โมฬา ผู้อานวยการสถานศึกษาวิทยาลัยการอาชีพโพนทอง คณะครอู าจารย์และนกั ศกึ ษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ช้ันปีท่ี 2 สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยการ อาชีพโพนทอง ทใี่ หค้ วามช่วยเหลอื ทกุ ด้านตลอดมา พรอ้ มทง้ั ให้ความรว่ มมอื ในการทาวจิ ัยเป็นอย่างดี ขอขอบคุณเพื่อนๆร่วมสาขาครุศาสตร์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเพ่ือนนักศึกษาฝึกประสบการณ์ วิชาชพี ครู วิทยาลัยการอาชีพโพนทองทุกคน ทค่ี อยใหก้ าลังแรงใจและคาปรกึ ษาตลอดมา ขอกรอบขอบพระคุณ ครอบครัว ท่ีดูแลให้กาลังใจ และสนับสนุนส่งเสริมมาโดยตลอด และขอขอบคุณ กาลงั ใจพลังใจจากคนทร่ี ักทกุ คน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 80 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== คุณค่าและประโยชน์อันพึงเกิดจากวิจัยฉบับน้ี ผู้วิจัยขอมอบ เป็นเคร่ืองสักการะ บูชา พระคุณบิดา มารดา และครูอาจารย์ทุกระดับการศึกษาของผู้วิจัยที่ได้มีส่วนสาคัญในการวางรากฐานชีวิตและการศึกษาที่มี คุณภาพแกผ่ ้วู จิ ยั มาโดยตลอด บรรณานุกรม ประพนั ธ์ พพิ ฒั นสขุ ,ธรี ะพันธ์ พพิ ัฒนสขุ . 2556. ระบบเสียง . บรษิ ทั ศนู ย์หนังสือ เมืองไทย จากดั . กรงุ เทพมหานคร. ไชยวัฒน์ วงศ์สมศรี. 2557 (ปรบั ปรุง พ.ศ 2546) เครื่องเสียง. พิมพค์ ร้งั ท่ี 8หจก. ซี แอนด์ บ๊คุ . กรงุ เทพมหานคร. ประวติ เอราวรรณ์.2554. การวิจัยในชน้ั เรยี น. พมิ พ์ครั้งท่ี 1. กรุงเทพมหานคร. บรษิ ัท สานกั พิมพด์ อกหญา้ วชิ าการ จากดั . สวุ มิ ล วอ่ งวานชิ . 2548. การวจิ ยั ปฏบิ ตั ิการในช้ันเรยี น. พิมพค์ รั้งท่ี 8. กรุงเทพมหานคร. โรงพมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. พิศิษฐตณั ฑวนชิ . 2547. สถิตเิ พอ่ื งานวิจยั ทางการศึกษา. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 3. กรงุ เทพมหานคร. บริษัทบุ๊คพอยท์ จากดั . สุนทร โคตรบรรเทา. 2551. หลกั การทาและการเขียนผลงานการวิจัย. พมิ พ์คร้งั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร. สานกั พิมพป์ ญั ญาชน. กาญนา วัฒาย.ุ 2544. การวิจยั ในชนั้ เรียนเพอ่ื พัฒนาการเรยี นการสอน สถาบันพฒั นาผู้บรหิ าร การศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กรงุ เทพมหานคร กระทรวงศกึ ษาธิการ. วิไลพร ดาสะอาด. การศกึ ษาความสามารถในการใชภ้ าษาไทยและความสนใจในวธิ ีการสอนภาษาไทย ท 401 ของนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนหนองชุมแสงวทิ ยา ท่ีรับการสอนโดยใช้เพลงและเกมประกอบการสอน : โรงเรียนหนองชุมแสงวทิ ยา, 2542.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 81 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== พฤตกิ รรมการกล้าแสดงออกหน้าช้ันเรียน นธวัช คาควร1 บทคัดยอ่ การวิจยั ครั้งน้ีมวี ตั ถุประสงค์เพือ่ นักศึกษามีความมั่นใจในตนเองกลา้ ตดั สนิ ใจและกลา้ ท่จี ะแสดงออก มีการ ปรับเปลย่ี นพฤติกรรมในการกล้าแสดงออกทีด่ ขี นึ้ กล้าคดิ กล้าทา และกลา้ แสดงความคิดเหน็ Abstract This research aims to Students have confidence, self-determination and courage to express themselves. There is a change in behavior that is more courageous, brave, brave and brave. 1คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ *Email : sun26102538@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 82 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ท่ีมาและความสาคญั ของงานวิจยั 4. ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา พฤตกิ รรมการกล้าแสดงออก ถือเปน็ สิง่ ทจ่ี าเปน็ อย่างย่ิงต่อการดาเนินชีวิตในสังคมปัจจุบัน เน่ืองจากเป็น ปัจจัยท่ีทาให้สามารถเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม กล้าฟันฝ่าอุปสรรค ปัญหา และยังทาให้เป็น บุคคลท่ีมีความม่ันใจในตนเอง ได้ในสิ่งที่ต้องการ และบุคคลที่พบเห็นจะให้เกียรติมากขึ้น จอร์นสัน ( Johnson, 2004) กล่าวว่าการท่ีคนเราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่พฤติกรรมการแสดงออกน้ัน จะต้องตระหนักไว้เสมอว่าการ เปลี่ยนแปลงน้ันจะทาใหค้ นใกลช้ ิดหรือคนทเ่ี กี่ยวขอ้ ง แสดงพฤตกิ รรมโตต้ อบในทา่ ทางลบตอ่ การเปลยี่ นแปลงน้ันได้ เนอื่ งจากวา่ ถ้าเราไม่เคยมีพฤตกิ รรมการกล้าแสดงออกแล้วไปแสดงออกเลย การเปล่ยี นแปลงน้ันยากที่ผู้ใกล้ชิดหรือ คนท่ีเก่ยี วข้องจะยอมรับไดเ้ นอื่ งจากพวกเราจะคุ้นเคยกบั ส่งิ ทเ่ี ราเป็น ไดร้ ับในส่งิ ทต่ี ้องการความกลัววา่ จะสญู เสยี เรา จากไปจากการกระทาน้ัน ซ่ึงเราไม่ควรจะย่อท้อหรือเปล่ียนใจท่ีจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เน่ืองจากเราอาจจะไม่ สามารถที่จะไม่ใส่ใจคนที่เรารัก หรือคนท่ีสาคัญในชีวิตของเราได้ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมกล้าแ สดงออกเป็น คณุ สมบตั ิทสี่ ามารถปลกู ฝังและพัฒนาให้เกิดขึ้นไดใ้ นตัวบคุ คลใหม้ ีการกล้าแสดงออกทีถ่ กู ต้องและเหมาะสมไดท้ าให้ บคุ คลเรยี นรทู้ จี่ ะเปน็ “ผู้ชนะ” ในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างแท้จริงดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การท่ีบุคคลมีพฤติกรรมการ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม ชว่ ยทาให้มบี คุ ลกิ ทีด่ ีขนึ้ สามารถปรบั ตวั มคี วามเช่ือมั่นในตนเอง กล้าแสดงออก กล้า พูดตอ่ หน้าผูอ้ ่ืน กลา้ เขา้ รว่ มกิจกรรมได้รบั การยอมรับจากเพือ่ น มีผลการเรียนทด่ี ีขึ้น พฤติกรรมการแสดงออกเป็น สิ่งทีส่ าคัญยิ่งสาหรับนักศึกษาที่เรียนคณะครุศาสตร์ เพราะจะต้องนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันและทางด้าน สังคม รวมถึงการทางานในอนาคตต่อไป ซ่ึงจะทาให้นักศึกษาเกิดความม่ันใจในการแสดงออกน้ันๆ มากขึ้นอย่าง สมเหตุสมผลตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทางกลับกันหากนักศึกษาไม่มีความกล้าแสดงออกก็จะส่งผลให้นักศึกษา ขาดความเชอ่ื ม่ัน และอาจจะต้องเผชิญกบั ปัญหาทางดา้ นการตดิ ต่อหรอื การมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นด้วย ซึ่งจะทา ให้เกิดความยากลาบากในการทางาน อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการกล้าแสดงออกสามารถที่จะฝึกฝนและสามารถ พฒั นาใหเ้ กดิ ขนึ้ ไดใ้ นตวั ของบคุ คลให้เกดิ ความกล้าแสดงออกและเหมาะสมตามสถานการณต์ า่ งๆ ไดจ้ ากการท่ีผวู้ ิจัย ได้ สงั เกตพฤตกิ รรม ของนกั ศึกษา TIW 4R จานวน 28 คน นักศึกษาส่วนใหญ่ ยังขาดความกล้าแสดงออกใน เรื่องของการตอบข้อซักถามหรือให้แสดงความคิดเห็นเป็นประจา ปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลให้นักศึกษาเกิดปัญหา การกลา้ แสดงออกกบั การเรยี นในระดบั ชั้นทีส่ งู ขน้ึ และวิชาอ่ืนๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง จากความสาคัญดังกล่าว จะเห็นได้ว่าความกล้าแสดงออกมีความสาคัญต่อตัวนักศึกษาเองและสังคมจึงควร ได้รับการช่วยเหลือเพ่ือท่ีจะได้พัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง ดังนั้น ผู้วิจัยจึงสนใจท่ีจะศึกษา พฤติกรรมการกล้า แสดงออก ของนึกศกึ ษา ช้ันปีท่ี 4 หอ้ ง TIW4R สาขาวิชาเชื่อมประกอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น เพ่ือหาแนวทางแก้ไขปัญหา และ หาแนวทาง ท่ีจะทาให้ นึกศึกษามีความกล้า ที่จะแสดงออก กลา้ พดู ตอ่ หนา้ ผ้อู ื่น กล้าเข้าร่วมกิจกรรม ผลท่ีได้จากการวิจัยนี้จะเป็น ข้อมูลพื้นฐาน และแนวทางในการปรับปรุงการเรียนการสอน อันจะเป็น ประโยชน์ต่อผู้บริหาร และนักศึกษาท่ี กาลังศึกษาอยู่เพื่อ เป็นจุดเริ่มต้นในการช่วยให้นักศึกษาสามารถพัฒนา พฤติกรรมการกล้าแสดงออกให้สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตและสังค มและเป็นส่วนหนึ่งที่ทาให้นักศึกษาประสบ ความสาเรจ็ ในด้านการเรียนและการดาเนินชวี ติ ในอนาคตต่อไปได้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 83 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 5. วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย การศึกษาน้มี เี ปา้ หมายทจี่ ะทาการศึกษาเกยี่ วกับพฤติกรรมการกลา้ แสดงออก ในระดับ ชนั้ ปีท่ี 4 ห้อง TIW 4R จานวน 16 คน สาขาวชิ าเช่ือมประกอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอสี านวทิ ยา เขตขอนแกน่ โดยมีวตั ถปุ ระสงคด์ ังต่อไปนี้ 2.1 เพื่อให้ผู้เรยี น มคี วามมนั ใจในตนเอง และกลา้ ตัดสนิ ใจท่ีจะแสดงออก ของนักเรียนในชั้นปีที่ 4 สาขาวชิ าเชื่อมประกอบ ห้อง TIW4R มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอสี านวิทยาเขตขอนแกน่ วสั ดุ อุปกรณ์ และวิธกี าร เคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นงานวจิ ัย แบบสอบถาม ขนั้ ตอนการออกแบบการดาเนนิ การ 1.วเิ คราะห์ขอ้ มลู พน้ื ฐานของผเู้ รยี น การวิเคราะหผ์ เู้ รยี นไดก้ าหนดไวด้ ังนี้ ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือนักศึกษาระดับปริญญาตรี ห้อง 4R สาขาวิศวกรรมการเชื่อม คณะครุศาสตร์ อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น จานวน 16 คน 2.วเิ คราะหส์ าเหตขุ องการไม่กล้าแสดงออกหน้าชน้ั เรียนของนกั ศกึ ษาโดยการหาค่ารอ้ ยละ ขัน้ ออกแบบแบบสอบถาม (Design) ผูว้ ิจัยดาเนินการสรา้ งแบบสอบถามเพื่อวัดพฤตกิ รรมการไม่กล้าแสดงออกหนา้ ช้นั เรียนโดยมีลาดับขั้นตอน การสรา้ งดงั น้ี 1.ศึกษาเทคนคิ การสรา้ งแบบสอบถามจากเอกสารตา่ งๆ 2.สรา้ งแบบสอบถามเพอื่ วดั พฤติกรรมของนกั ศึกษาเพอื่ หาสาเหตุในการไมก่ ล้าแสดงออกหน้าชัน้ เรยี นของ นกั ศึกษาหอ้ ง 4R สาขาวิศวกรรมการเช่อื ม จานวน 5 ขอ้ โดยให้นกั เรยี นใสห่ มายเลขลาดับสาเหตุของการไมก่ ล้า แสดงออกหน้าชัน้ เรียนตามกาหนด จากลาดับมากท่ีสดุ ( ) ไปจนถงึ ลาดบั น้อยท่สี ดุ ( 5 ) ข้ันดาเนนิ การ ในการวิจัยคร้ังนี้ ผู้วจิ ยั ไดม้ ีการดาเนินการดังน้ี 1.นาแบบสอบถามเพือ่ ศกึ ษาพฤตกิ รรมการไม่กล้าแสดงออกหนา้ ชั้นเรยี นของนักศึกษาจานวน28 คน เพื่อ หาสาเหตขุ องการไมก่ ลา้ แสดงออกหน้าชั้นเรียนและทาการบันทึกคะแนน 2.ดาเนินการหาค่ารอ้ ยละของแตล่ ะข้อสาเหตุ ขั้นวิเคราะห์ขอ้ มลู 1.วเิ คราะหข์ ้อมูล - วิเคราะหผ์ ลจากคะแนนทไี่ ดจ้ ากการทาแบบสอบถามเพอ่ื ศึกษาพฤติกรรม 2.สถติ ิท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมลู 4.2.1 การหาคา่ ร้อยละ ค่ารอ้ ยละ = X x 100 N เมอื่ X = คะแนนทไ่ี ด้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 84 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================N = จานวนนกั เรยี นท้งั หมดผลการประเมนิ แบบสอบถามของนกั ศึกษาในเร่ืองการไม่กล้าแสดงออกหน้าช้ันเรียนเก่ียวกับการหาสาเหตุที่ไม่กล้าแสดงออกหนา้ ช้นั เรียนของนกั ศกึ ษาตาราง ผลการประเมินแบบสอบถามของนกั ศกึ ษาถึงสาเหตุทผ่ี ู้เรียนไม่กลา้ แสดงออกหน้าชั้นเรียน สาเหตุของการไม่กล้าแสดงออกหน้าช้ันเรยี น ลาดับท่ี ร้อยละ1. เขินหรอื อาย2. ไมไ่ ด้เตรยี มตวั มากอ่ น 5 21.483. ตื่นเตน้4. ไมก่ ล้าพดู 2 7.145. กลวั เพ่อื นแซว 4 17.85 2 7.14 3 14.28อภปิ รายงานวิจยั จากการสร้างแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมการไม่กล้าแสดงออกหน้าช้ันเรียนของนักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี หอ้ ง 4R สาขาวศิ วกรรมการเชอื่ ม ในครั้งน้สี ามารถอภปิ รายผลได้ดงั นี้พบวา่ แบบสอบถามเพื่อศกึ ษาพฤติกรรมของนกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรหี ้อง 4R สาขาวศิ วกรรมการเชื่อมในเรื่องการไม่กล้าแสดงออกหนา้ ช้นั เรยี นได้ทาใหท้ ราบถึงสาเหตทุ ่ีสาคัญมากท่ีสดุ จนถงึ สาเหตุที่น้อยทส่ี ุด ในการไม่กล้าแสดงออกหน้าชั้นเรยี น คอื เขินหรืออาย ไม่ได้เตรียมตวั มาก่อน ตื่นเตน้ ไม่กล้าพูด กลวั เพอ่ื นแซวสรปุ ผลงานวจิ ยั จากการศึกษาและวิเคราะหแ์ บบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมการไมก่ ลา้ แสดงออกหนา้ ช้ันเรียนของนักศึกษาระดบั ปริญญาตรี ห้อง 4R สาขาวศิ วกรรมการเช่ือม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น แสดงให้เห็นว่า สาเหตขุ องการไมก่ ล้าแสดงออกหน้าชัน้ เรยี น ลาดับท่ี 1 คือ เขนิ หรืออาย นกั เรยี นเลอื ก 5 คน คิดเป็นร้อยละ 21.48อนั ดับที่ 2 ตน่ื เต้น นักเรียนเลือก 4 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 17.85 อันดับท่ี 3 กลวั เพอื่ นแซว นักเรยี นเลอื ก 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 14.28 โดยคิดจากนกั เรยี น 16 คน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 85 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== พฤตกิ รรมการท้ิงขยะในช้ันเรียน จกั รพล คงจา1 บทคัดย่อ การจัดทาวจิ ัยเรือ่ ง เพ่ือพฤติกรรมการท้ิงขยะ สาขา วิศวกรรมการเช่ือม มหาลัยราชมงคลขอนแก่น เพื่อ ศึกษาหาสาเหตขุ องปัญหาการเรียนท่เี กิดกับนกั ศึกษาโดยใชก้ ลมุ่ ประชากรทใ่ี ชใ้ นการศึกษาเป็นกลุ่มนักศึกษาช้ันป่ีที่ 4 สาขา วิศวกรรมการเช่อื ม มหาลัยราชมงคลขอนแก่น จานวน 28 คน ในการศกึ ษาหาสาเหตุเพื่อพฤติกรรมการทิ้ง ขยะผลจากการศกึ ษาพบว่าวิธีที่จะแกป้ ญั หานกั ศึกษาพฤติกรรมการทิง้ ขยะให้ได้ผลคือเมื่อพ่อแม่ทราบจากทางมหา ลยั วา่ เดก็ พฤตกิ รรมการทิ้งขยะกอ็ ย่าเพ่งิ โมโหหรือทาโทษเด็กขอให้ต้ังสติพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองให้ ได้แลว้ พยายามมองเด็กอย่างเข้าใจและเหน็ ใจเรยี กเดก็ มาคุยบอกกับเด็กว่าพอ่ กับแมร่ ักเขาส่ิงท่ีเกิดขึ้นเรามาช่วยกัน คดิ ช่วยกนั หาสาเหตุท่ีแท้จรงิ ของการทง้ิ ขยะและชว่ ยกันแก้ไขเพื่อความสุขของทกุ คนในครอบครัวอย่างน้อยที่สุดพ่อ และแม่ก็จะไดร้ ับรอู้ ารมณแ์ ละความรสู้ ึกนกึ คดิ ภายในใจของเด็กว่าเขารสู้ ึกอย่างไรและทาไมถงึ มีพฤติกรรมอย่างนี้ให้ งดการลงโทษโดยการดุด่าหรือเฆ่ียนตีเด็กเด็ดขาดเพราะจะทาให้เหตุการณ์เลวร้ายย่ิงขึ้นนอกจากนี้พ่อแม่ควร ประสานกับทางมหาลยั ให้จัดกิจกรรมทนี่ า่ สนใจเพ่อื ให้เด็กได้เข้าไปมีส่วนร่วมเด็กจะได้รู้สึกว่าเขามีคุณค่าต่อตนเอง และตอ่ มหาลัย Abstract Research on For waste disposal in welding engineering. Rajamangala University of Technology Khon Kaen To study the causes of students' learning problems by using the population groups used in the study. 28 students from Khon Kaen University. The result of the study found that the way to solve the problem of garbage disposal students is that when the parents know from the college that the behavior of garbage is not angry. Or punish the child, try to try. Control your emotions and try to see the children understand and sympathize with children to talk to children that parents love him what happened, we come together to help find the true cause of garbage and help. At the very least, parents should be aware of their emotions and feelings in the mind of their children, how they feel and why they are behaving. In this way, the punishment by punishing or punishing children is strictly prohibited, as it will make the situation worse. The children will feel that they are valuable to themselves and to the college. 1คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น *Email: jcakkapol.boy@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 86 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา ในปัจจบุ ันใครหลายๆคนอาจจะเคยชนิ กับการท้ิงขยะเรย่ี ราดไมเ่ ป็นทเี่ ปน็ ทางไมว่ า่ จะเปน็ ทสี่ วนสาธารณะ ถนน ท่ีทางาน หรือแม้กระทั่งโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียน ต้องมีบ้างล่ะ ถังขยะ! แต่ลงถัง มีแต่ความมักง่ายท่ีชอบ ซุกขยะไว้บริเวณรอบๆที่ตนเองอยู่ตรงน้ัน เช่น โต๊ะหินอ่อน โต๊ะนักเรียน บนพ้ืน ท่อระบายน้า หรือแม้แต่นักเรียน ส่วนใหญก่ ็มองขา้ มถงั ขยะไม่ยอมท้ิงตน้ ไมท้ ี่เป็นซอกเปน็ รกู ็ยงั ทง้ิ ไปได้มีแต่นักเรียนส่วนน้อยและคุณครูท่ีเห็นว่าการ ท้ิงขยะไม่ถูกที่ทาให้โรงเรียนไม่สะอาด ดูไม่งามตา และคุณครูทุกๆคน ก็สั่งสอนลูกของตนให้มีความรับผิดชอบ มี ระเบียบวนิ ัย และมคี วามรกั ษาความสะอาดอย่แู ลว้ กม็ ีการจัดเวรทาความสะอาดอยทู่ กุ วัน แต่มนั การกาจัดเพียงพอ บรรเทาไมใ่ หข้ ยะมนั มากเกนิ ไป เพราะคนท้ิงมากกว่าคนเก็บ เพราะฉะน้นั ทุกคนควรมคี วามคิดในเร่ืองของภัยขยะที่ ตามมา เชน่ เกดิ มลพษิ โรงเรียนหรือท่ตี า่ งๆไมส่ ะอาดและไม่น่าอยู่ ถ้ามีคนอยู่ประมาณ 2000 คน ถ้าทิ้งขยะคนละ ช้ิน ก็จะมีขยะเพ่ิมในโรงเรียน 2000 ช้ิน แต่ถ้าเก็บขยะลงถังคนละชิ้น ก็จะมีขยะในโรงเรียนลดลง 2000 ชิ้น คิดดู เอาเองว่าจะเลือกมโี รงเรียนท่แี ตข่ ยะเต็มไปหมด หรอื โรงเรยี นทีไ่ มม่ ีขยะ ถงึ มแี ตก่ ็น้อยท่สี ุด สาเหตุและท่ีมาของขยะ! เกิดจากความมักง่ายและขาดจิตสานึก ถึงผลเสียท่ีจะเกิดข้ึน เป็นสาเหตุที่พบ บ่อยมาก ซงึ่ จะเห็นได้จากการทิ้งขยะลงตามพ้ืนหรือแหล่งน้าโดยไม่ทิ้งลงในถังรองรับที่จัดไว้ให้ หรือแม้กระทั่งการ ซื้อของการใชส้ ง่ิ ของของนกั เรียนเช่น ขนม กระดาษ แกว้ น้า ขวดน้า โดยใส่ถุงพลาสติกหลายๆถุง ทาใหม้ ขี ยะเพิ่มใน ปริมาณมาก การป้องกันและควบคุมการเพิ่มข้ึนของปริมาณขยะท่ีสาคัญ คือ การลดขยะที่แหล่งกาเนิด (Source reduction) โดยอาศยั ขบวนการปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมในชีวิตประจาวันการลดปริมาณขยะจะสามารถลดค่าใช้จ่าย ในการจัดการขยะต้ังแต่การเก็บรวบรวม ขนส่ง การคัดแยกและใช้ประโยชน์ ตลอดจนการกาจัดขั้นสุดท้าย ลด ปัญหาสภาวะส่ิงแวดล้อม และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ โดยทั่วไปแล้วหน่วยงานองค์กรและชุมชน สามารถลด ปริมาณขยะที่จะเกิดข้ึนได้ ก่อนจะทิ้งขยะ หยุดคิดสักนิดว่าเราจะสามารถลดปริมาณขยะและนาขยะกลับมาใช้ ประโยชนไ์ ด้ วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ัย เพอ่ื ศึกษาพฤตกิ รรมการท้ิงขยะของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น เพราะทาให้เกิดมลพษิ ทางอากาศและสงิ่ แวดลอ้ ม ขนั้ ตอนการออกแบบการดาเนินการ 1.วิเคราะหข์ ้อมลู พ้นื ฐานของผ้เู รยี น การวเิ คราะห์ผ้เู รียนไดก้ าหนดไวด้ ังนี้ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งน้ีคือนักศึกษาระดับปริญญาตรี ห้อง 4R สาขาวิศวกรรมการเช่ือม คณะครุศาสตร์ อตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น จานวน 28 คน 2.วเิ คราะห์สาเหตกุ ารทิง้ ขยะในช้ันเรยี นของนกั ศึกษาโดยการหาค่าร้อยละ ข้ันออกแบบแบบสอบถาม (Design) ผู้วิจัยดาเนินการสร้างแบบสอบถามเพื่อวัดพฤติกรรมการ ท้ิงขยะในช้ันเรียนของนักศึกษาโดยมีลาดับ ข้ันตอนการสร้างดังน้ี 1.ศกึ ษาเทคนคิ การสร้างแบบสอบถามจากเอกสารตา่ งๆ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 87 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 2.สร้างแบบสอบถามเพื่อวัดพฤติกรรมของนักศึกษาเพ่ือหาสาเหตุในการท้ิงขยะในชั้นเรียนของนักศึกษาห้อง 4R สาขาวิศวกรรมการเชอ่ื ม จานวน 7 ขอ้ โดยใหน้ ักเรียนใส่หมายเลขลาดับสาเหตุของการท้ิงขยะในชั้นเรียนของนกั ศึกษา จากลาดบั มากท่สี ุด ( 1 ) ไปจนถึงลาดับนอ้ ยทส่ี ดุ ( 5 )ขั้นดาเนนิ การ ในการวจิ ยั คร้ังน้ี ผ้วู จิ ยั ไดม้ ีการดาเนนิ การดังน้ี1.นาแบบสอบถามเพอ่ื ศกึ ษาพฤตกิ รรมการทิ้งขยะในชั้นเรียนของนักศึกษาจานวน28 คน เพื่อหาสาเหตุของการท้ิงขยะในชัน้ เรียนของนกั ศกึ ษา และทาการบันทึกคะแนน2.ดาเนนิ การหาค่ารอ้ ยละของแต่ละขอ้ สาเหตุขน้ั วเิ คราะห์ข้อมูล 1.วเิ คราะหข์ อ้ มลู - วเิ คราะหผ์ ลจากคะแนนท่ีได้จากการทาแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรม 2.สถติ ิท่ีใชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมลู 2.1 การหาค่ารอ้ ยละ คา่ รอ้ ยละ = X x 100 N เมอ่ื X = คะแนนท่ไี ด้ N = จานวนนกั เรยี นทั้งหมด สาเหตุของการท้งิ ขยะในชั้นเรียน ลาดบั ท่ี ร้อยละ1. ความสะอาดรอบสาขา 6 13.452. การทิ้งขยะลงถัง 2 12.143. การแยกประเภทขยะ 5 2.144. การทิ้งขยะในหอ้ งเรยี น 2 7.285. เก็บขยะคนอื่นที่ท้ิงไว้ ไปท้ิงท่ถี งั ขยะ 4 12.286. การทง้ิ ขยะไม่เปน็ ท่ีเป็นทาง 1 2.487. ความรบั ผิดชอบตอ่ การท้ิงขยะ 1 10.37สรปุ ผลการวิเคราะห์ข้อมลู จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสังเกต ข้อมูลด้านพฤติกรรมการท้ิงขยะ และการตอบแบบสอบถามจากนักเรยี น การใช้แรงจูงใจเสรมิ แรงโดยใหค้ าชมเชยแกน่ กั ศกึ ษา รวมทั้งดูแลความรับผิดชอบ และติดตามจากผปู้ กครอง ซ่งึ นกั ศึกษาให้ความร่วมมอื เป็นอย่างดี ทาใหน้ ักศกึ ษามคี วามกระตือรอื รน้ ต่อการรบั ผดิ ชอบ ในการทาวิจยั ครง้ั นป้ี รากฏว่า นกั ศึกษา สาขาวศิ วกรรมการเช่ือมฯ ชั้นปีท4ี่ ปกี ารศกึ ษา 2560 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน (วิยาเขตขอนแก่น) มีความรับผดิ ชอบมากขนึ้ โดยสงั เกตจากบรรยากาศรอบสาขา วิศวกรรมการเช่อื ม มคี วามรับผิดชอบต่อหน้าท่ี รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยความเต็มใจ โดยดูจากการสังเกต การสัมภาษณ์สรุปผลการเปรยี บเทียบจากการตอบแบบสอบถามเก่ยี วกับความมีวินัย ความรับผิดชอบ และยังทาให้สังคมหน้าอยู่มากยิ่งข้นึ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 88 RMUTI EDUCON 2018
Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== พฤตกิ รรมพดู คำหยำบในช้นั เรียน จตรุ ง บุญตำ1 บทคดั ยอ่ การจัดทาวิจัยเร่ือง เพื่อพฤติกรรมการพูดคาหยาบในห้องเรียน สาขา วิศวกรรมการเช่ือม มหาลัยราช มงคลขอนแกน่ เพ่อื ศกึ ษาหาสาเหตุของปัญหาการเรียนที่เกิดกับนักศึกษาโดยใช้กลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็น กลุ่มนักศึกษาช้ันปี่ท่ี1สาขาช่างเช่ือมโลหะ วิทยาลัยการอาชีพสตึก จานวน 36 คน ในการศึกษาหาสาเหตุเพ่ือ พฤติกรรมการพูดคาหยาบผลจากการศึกษาพบว่าวิธีท่ีจะแก้ปัญหานักศึกษาพฤติกรรมการพูดคาหยาบให้ได้ผลคือ เมื่อพ่อแม่ทราบจากทางวิทยาลัยว่าเด็กพฤติกรรมการพูดคาหยาบกอ็ ย่าเพ่ิงโมโหหรือทาโทษเดก็ ขอให้ต้งั สตพิ ยายาม ควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองให้ได้แล้วพยายามมองเดก็ อย่างเขา้ ใจและเห็นใจเรียกเด็กมาคุยบอกกับเด็กว่าพ่อกับ แม่รักเขาสิ่งท่ีเกิดขึ้นเรามาช่วยกันคิดช่วยกันหาสาเหตุท่ีแท้จริงของการพูดคาหยาบและช่วยกันแก้ไขเพื่อความสุข ของทุกคนในครอบครัวอย่างนอ้ ยทส่ี ุดพอ่ และแมก่ จ็ ะได้รับรอู้ ารมณแ์ ละความรู้สึกนกึ คดิ ภายในใจของเดก็ ว่าเขารู้สึก อยา่ งไรและทาไมถงึ มีพฤติกรรมอยา่ งนี้ใหง้ ดการลงโทษโดยการดดุ า่ หรอื เฆย่ี นตเี ด็กเด็ดขาดเพราะจะทาใหเ้ หตกุ ารณ์ เลวร้ายยิ่งขึ้นนอกจากนี้พ่อแม่ควรประสานกับทางวิทยาลัยให้จัดกิจกรรมที่น่าสนใจเพ่ือให้เด็กได้เข้าไปมีส่วนร่วม เดก็ จะไดร้ ู้สึกวา่ เขามคี ณุ ค่าต่อตนเองและต่อวทิ ยาลยั 1คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น *Email: kannikadasee2540@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 89 RMUTI EDUCON 2018
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325