Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore EDUCON 2018

EDUCON 2018

Published by kawintec, 2018-06-24 04:32:19

Description: EDUCON 2018

Search

Read the Text Version

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================บทนาจากการเรียนการสอนวิชางานจักยานยนต์ ในระดับช้ันปวช.1/2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2552 พบว่ามีนักเรียน บางคนมีปัญหาในการใช้เคร่ืองมือในการถอดประกอบช้ินส่วนของระบบส่งกาลังรถยนต์ยังไม่ถูกต้องตามข้ันตอน ขาดความเข้าใจในหลักการทางานของระบบเกียร์ การทางานอย่างปลอดภยั พบว่า มีนกั เรียนจานวน 5 คนจากนักเรียนทั้งหมด 18 คน ที่ยังมีปัญหาไม่สามารถเขา้ ใจ ในหลักการทางานของระบบเกียร์ การถอดและประกอบชิ้นสว่ นของระบบเกียร์ ได้อย่างถูกต้องและจากการสัมภาษณ์นักเรียนทาให้ทราบปัญหาท่ีเกิดขึ้นว่ามีสาเหตุมาจากนักเรียนไม่มีความเข้าใจ มีเวลาในการฝึกทักษะการปฏิบัติยังใช้เ วลาไม่มากพอเพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวผู้วิจัยจึงได้บรรยายและอธิบายในหลักการทางานของระบบการส่งกาลังของรถจักยานยนต์ การฝึกปฏิบตั กิ ารถอดประกอบเพ่อื ใหเ้ กดิ ทกั ษะใหม้ ากข้ึน เพื่อที่จะใหน้ กั เรียนได้ปฏบิ ัติทถ่ี ูกต้องของนกั เรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถนาทักษะไปปฏิบัติไดอ้ ยา่ งถูกต้องจากแนวคดิ ดังกล่าวข้างตน้ พอสรุปได้วา่ การทดสอบยอ่ ยจะทาใหน้ ักเรียนเตรยี มพร้อมในการเรียนอยู่เสมอและยงั ช่วยให้นักเรยี นไดส้ ารวจแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งในการเรียนของตนเองอีกด้วยนอกจากนี้ยังเป็นการสร้างสัมพันธ์ต่อเนื่องในการพัฒนาการเรยี นส่งผลใหผ้ ลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นสูงขึ้นดว้ ยผวู้ จิ ยั จงึ สนใจท่ีจะศึกษาเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิร์ ะหวา่ งภาคเรียน ในรายวิชางานจักยานยนต์ ของระดับ ปวช. ชนั้ .ปที ่ี 1/2 สาขาวชิ าช่างยนต์ วทิ ยาลยั สารพดั ช่างกาฬสนิ ธ์ุจุดมุ่งหมายของการวิจัย การวจิ ัยครั้งนมี้ วี ตั ถุประสงค์เพอ่ื ศกึ ษาผลสัมฤทธ์ิระหว่างภาคเรียน รายวิชางานส่งกาลังรถยนต์ ของระดับ ปวช. ช้ันปีที่1/2 สาขาวิชาช่างยนต์วทิ ยาลัยสารพดั ชา่ งกาฬสนิ ธ์ุสมมติฐานการวจิ ัย การทดสอบย่อยมีประโยชน์ต่อนักเรียนหลายประการคือ1. ช่วยให้นักเรยี นรู้มากข้นึ เพราะการประเมนิ ผลย่อยทาใหน้ ักเรยี นต้องเตรยี มตัวอยเู่ สมอ2. ทาใหก้ ารเรยี นรูง้ า่ ยขน้ึ เพราะต้องแบง่ เนอ้ื หาออกเป็นส่วนย่อยๆและไดร้ ับการแก้ไขสว่ นบกพรอ่ งอยตู่ ลอดเวลา3. ทาให้นกั เรยี นทราบข้อบกพรอ่ งที่ควรแกไ้ ขตนเองและเรยี นรทู้ จ่ี ะแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งเหลา่ น้นั4. ทาใหม้ ีความม่ันใจในการเรยี นรกู้ ลา้ เผชญิ ปัญหาวิธดี าเนินการวิจัย การดาเนินงานเพื่อศึกษาการใช้แบบทดสอบเพ่ือพัฒนาความรู้ความสามารถในการสาหรับปวช. ชั้นปีที่ 1/2สาขาวิชาชา่ งยนต์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ปีการศึกษ 2552 โดยใช้แบบทดสอบ ซ่ึงได้ดาเนินการตามลาดับดังต่อไปนี้ 1. การกาหนดประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง 2. แบบแผนการวิจัย 3. การสร้างเคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นการวิจยั 4. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 5. การจัดกระทาและการวิเคราะห์ขอ้ มลู1. ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง 1.1 ประชากรประชากรในการวิจัยครั้งน้ี เป็นรายวิชางานจักยานยนต์ของระดับ ปวช.ช้ันปีท่ี 1/2 สาขาวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยสารพดั ชา่ งกาฬสนิ ธ์ุ จานวน 18 คน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 290 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 1.2 กลุ่มตวั อยา่ งกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งน้ี เป็นรายวิชางานจักยานยนต์ ของระดับปวช.ช้ันปีท่ี 1/2 สาขาวิชาช่างยนต์วิทยาลยั สารพดั ช่างกาฬสินธุ์ จานวน 18 คน2. แบบแผนการวจิ ัย ในการวจิ ยั ครั้งนีใ้ ชร้ ปู แบบการทดลองแบบ กลุ่มเดียวทดสอบระหว่างภาค ครั้งท่ี 1 และทดสอบระหว่างภาคครง้ั ที่ 2 (One Group Pretest Posttest Design)(พวงรตั น์ ทวรี ตั น.์ 2543 : 60-61) ดังนี้ T1 X T2 เมือ่ T1 หมายถึง การทดสอบก่อนเรียนใช้ แบบทดสอบผ้วู จิ ยั สร้างขน้ึ X . หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียน การสอนโดยใช้แบบฝึกการสร้างสูตรและฟังก์ชั่นที่ T2 หมายถึง การทดสอบหลงั การใช้แบบทดสอบ3. การสรา้ งเครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการวิจยั เครอ่ื งมือทีใ่ ชใ้ นการวิจัยในครงั้ น้ี ประกอบดว้ ย3.1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิระหว่างภาคใช้สาหรับวัดผลการเรียนรู้มีลักษณะเป็นแบบข้อสอบเลือกตอบ 4ตวั เลือกมคี าตอบทถ่ี ูกต้องเพียง 1 ตวั เลอื กในแตล่ ะขอ้4. การเก็บรวบรวมข้อมลูผู้วจิ ัยดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลดงั ต่อไปน้ี4.1 ดาเนินการสอบระหว่างภาค คร้ังท่ี14.2 ดาเนินการสอบระหว่างภาค ครั้งท่ี 25. การจดั กระทาและการวเิ คราะห์ข้อมูลผู้วิจัยไดว้ เิ คราะหข์ อ้ มลู จากผลสมั ฤทธ์ริ ะหว่างภาค โดยใช้สถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ย ( ) ร้อยละ (%) และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.)ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู การวิจัยคร้ังนี้เป็นการแก้ปัญหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชางานส่งกาลังรถยนต์ สาหรับนักเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ช้ันปีที่ 1 วิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธ์ุ ผู้วิจัยได้เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลาดบั ดงั ต่อไปน้ี 1. สญั ลักษณ์ท่ีใชใ้ นการนาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมูล 2. ลาดับขัน้ ตอนในการนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมลู 3. ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล1. สัญลกั ษณ์ทใี่ ชใ้ นการนาเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ในการแปลความหมายในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ผวู้ ิจัยไดก้ าหนดสัญลกั ษณ์ที่ใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูลดังน้ี N แทน จานวนนักเรียนในกลุม่ ตวั อย่างแทนคา่ เฉลยี่---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 291 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== S.D. แทนส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน2. ลาดับข้ันตอนในการนาเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล ผู้วิจัยได้เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามผลการทดสอบระหว่างภาคเรียน ครั้งท่ี 1 และทดสอบระหว่างภาคเรยี น ครง้ั ท่ี 2 โดยใช้แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน3. ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผู้วิจัยได้นาเสนอผลการทดสอบคะแนนสอบระหว่างภาค ครั้งที่ 1 และคะแนนสอบระหว่างภาค ครั้งที่ 2 โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนและผู้วิจัยได้วิเคราะห์ผลปรากฏดังรายละเอียดตารางที่ 1ตารางท่ี 1 แสดงผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นรายบคุ คลจากคะแนนสอบระหว่างภาค คร้ังที่ 1 และคะแนนสอบระหว่างภาคคร้งั ทท่ี 2 โดยใชแ้ บบทดสอบและค่าเฉล่ีย ( ) รอ้ ยละ (%) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.)ลาดับที่ ชอ่ื – สกลุ คะแนนกลางภาค ( 10 ) คร้งั ที่ 1 ครั้งท่ี 21 นายภานพู งษ์ เมอื งงาว 682 นายวศนิ รักกลาง 783 นายศตพล ผา่ นจงั หาร 794 นายสรวิช ชดุ นอก 675 นายสุทธิศกั ด์ิ คงแจม่ ใส 796 นายสทุ นิ โฮมแพน 687 นายอตริ าช อมิ่ จิตต์ 788 นายอนิรุทธ์ นาคแสงทอง 789 นายเมธชิ ัย ฆ้องอนิ ตะ 7810 นายเอกลักษณ์ สายชว่ ง 7811 นายอนุวัฒน์ ไพศาลจรงุ 7812 นายเอกวทิ ย์ ภูนาใบ 6813 นายณฐั สิทธ์ิ แสงศรี 6714 นายธีรถทั ธุ์ อดุ ไทย 7815 นายอภิชาต การสวา่ ง 8816 นายนนั ทศัย โพธิงาม 6817 นายไพบูล ศรีวรรณา 7818 นายพเิ ชษฐชยั คะสา 88 คะแนนรวม 122 144 ค่าเฉล่ีย (X ) 6.8 8คา่ ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) 0.63 0.47 ค่าร้อยละ (%) 68 80---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 292 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================จากตารางท่ี 1 พบว่าคะแนนสอบระหว่างภาค คร้ังที่ 1 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.8 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ0.63 คิดเป็น ร้อยละ 68 และคะแนนสอบระหว่างภาค ครั้งที่ 2 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเทา่ กับ 0.47 คิดเป็น ร้อยละ 80สรปุ ผลและอภิปรายผลการวิจยั ผวู้ ิจัยไดส้ รุปผลการวิจัยดังนี้การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย (X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และร้อยละคะแนนสอบระหว่างภาค คร้ังท่ี 1 พบว่าคะแนนสอบก่อนเรียน ครั้งที่ 1 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.8 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.63 คิดเป็นร้อยละ 68และคะแนนสอบหลังเรยี น ครง้ั ที่ 2 มีคา่ เฉล่ียเท่ากบั 8 คา่ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.47 คิดเปน็ ร้อยละ 80อภิปรายผลการวิเคราะหข์ ้อมูลจากการศึกษาผลการใช้แบบทดสอบพทุ ธธรรมเพื่อพัฒนาตนเองและสงั คมอภปิ รายผลไดด้ ังต่อไปนี้การเปรียบเทียบค่าเฉล่ียและการกระจายของคะแนนสอบก่อนเรียน ครั้งท่ี 1 และคะแนนสอบหลังเรียน ครั้งที่ 2หลงั จากการใช้แบบทดสอบการปฏิบัติงานส่งกาลังรถยนต์ จากคะแนนเฉล่ียสอบหลังเรียน ครั้งที่ 2 สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยสอบก่อนเรียน ครั้งที่ 1 แสดงว่านักเรียนมีพัฒนาการทางการเรียนท่ีสูงข้ึนและการกระจายของคะแนนสอบหลังเรียน ครัง้ ที่ 2 สงู กว่าคะแนนสอบกอ่ นเรียน ครั้งท่ี 1 แสดงว่าหลังจากใช้แบบทดสอบแล้วนักเรียนมีพัฒนาการทางการเรียนรู้ที่ดีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นนักเรียนเก่งและนักเรียนอ่อนมีคะแนนเกาะกลุ่มกันดีเป็นเคร่ืองชี้ชดั ว่านวัตกรรมไดแ้ ก่ส่อื วิธีสอนท่ีครูใช้สอนน้ันใช้ได้เหมาะสมดังจะเห็นได้จากค่าของร้อยละมีค่าผลสัมฤทธ์ิคะแนนสอบหลงั เรียน คร้ังท่ี 2 มีค่ามากกว่าคะแนนสอบก่อนเรียน คร้ังท่ี 1 อาจเป็นเพราะว่าการใช้เอกสารประกอบการสอนท่ีได้จัดทาขึ้นมีเน้ือหาและกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ความคิดเกิดการเรียนรู้และเข้าใจที่แท้จริงและมีกระบวนการท่ีสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นสามารถค้นพบหลักการความคิดรวบยอดและสามารถสรปุ ผลได้ด้วยตนเองกิตติกรรมประกาศ วจิ ัยในชัน้ เรียนฉบับน้ีสาเร็จได้ด้วยความกรุณาของ นายสมพงษ์ แสนบูตร ผู้อานวยการวิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธ์ุ และทา่ นรองผู้อานวยการทุกทา่ น ซึง่ ได้ใหค้ าปรึกษา ข้อชี้แนะและ ความช่วยเหลอื ในหลายส่ิงหลายอย่างจนกระท่ังลุล่วงไปได้ด้วยดีผู้วิจัยขอกราบขอบพระคุณ เป็นอย่างสูงมาณ ท่ีนี้ขอขอบคุณท่าน อาจารย์พัทธ์ปกรณ์ธนัทศริ วณิชย์ หัวหน้าแผนกวิชาเคร่ืองกลท่ีอนุมัติเห็นชอบในการจัดทาวิจัยในชั้นเรียนและให้การสนับสนุนรวมท้ังคณะครูประจาแผนกวชิ าชา่ งยนต์ ทกุ ท่านทไ่ี ด้ให้คาแนะนาและขอ้ คิดเหน็ ตา่ ง ๆ ของการทางานมาโดยตลอดขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านท่ีได้สนับสนุนการทางาน และให้กาลังใจแก่ผู้วิจัยเสมอมากระทั่งการศึกษาค้นคว้าวิจัยคร้ังนี้สาเร็จลุล่วงด้วยดี และ ความดีอันเกิดจากการศึกษาค้นคว้าคร้ังนี้ ผู้เขียนขอมอบแด่บิดา มารดา ครูอาจารย์และผูม้ พี ระคุณทุกท่านผู้เขียนมีความซาบซงึ้ ในความกรณุ าอันดีย่ิงจากทกุ ทา่ นทไ่ี ดก้ ลา่ วนามมาวและวขอกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้บรรณานกุ รม (5 เกยี รตสิ ุดาศรสี ขุ .(2552). ระเบียบวิธวี จิ ัย.เชยี งใหม่ : โรงพิมพ์ครองช่าง.นภาหลมิ รตั น์. การวดั และการประเมินผลภาควิชาชวี เคมคี ณะแพทยศาสตร์มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น [ระบบออนไลน์] แหล่งที่มา http://202.28.95.5/thai/tech/news/index-eval.htmสิงหาคม 2552).---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 293 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บุญธรรมกิจปรีดาบริสทุ ธ.์ิ (2542). เทคนิคการสรา้ งเครอ่ื งมือรวบรวมข้อมลู สาหรับการวจิ ยั .พิมพ์ครง้ั ท่ี 5. กรงุ เทพฯ : เจริญดีการพมิ พ.์ พวงแกว้ ปุณยกนก. (2540). แบบและเคร่ืองมอื การวจิ ัยทางการศึกษา :แบบหน่ึงของเคร่ืองมอื วิจัย: แบบสอบเอ็มอีควิ . กรงุ เทพฯ: สานักพมิ พ์แหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . พัลลภพริ ิยะสุรวงศ.์ (2542). การออกแบบและพัฒนามลั ติมีเดยี แบบฝึกโดยใช้รปู แบบการควบคุมการ เรยี นการตา่ งกัน. วิทยานพิ นธด์ ษุ ฏบี ัณฑติ สาขาวชิ าเทคโนโลยีการศึกษามหาวทิ ยาลัยศรี นครนิ ทรว์ ิโรฒ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 294 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การพฒั นาทกั ษะการใชเ้ ครอื่ งมอื ช่างยนตข์ องนักศกึ ษา ระดบั ปวช. 1 แผนกวิชาชา่ ง ยนต์ วิทยาลัยการอาชพี กมุ ภวาปี โดยใช้กิจกรรมจบั คูฝ่ กึ ปฏิบัติ The development of skills in using motorized tools of vocational students 1. Department of mechanics Kumphawapi Vocational College Use matching activities. ชยั ณรงค์ กองศรผี ิว1 บทคดั ย่อ การวิจัยเรอ่ื งศกึ ษาการใช้เคร่ืองมือช่างยนต์ ระดบั ชัน้ ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ชน้ั ปที ่ี 1 แผนกวิชาช่างยนต์ สามารถสรุปผลการวจิ ัยไดด้ ังนี้ ผลการวิจัยพบว่านักเรียนมีพฤติกรรมการใช้เครื่องมือช่างยนต์ท่ีถูกต้องและแม่นยามากขึ้นโดยรวมอยู่ใน ระดับมาก เม่ือพจิ ารณาเปน็ รายข้ออย่ใู นระดบั มากทุกข้อดังนี้ความสนใจการใช้เคร่ืองมือช่างยนต์ โดยสรุปจากการ สงั เกตและทดสอบการใชเ้ ครอื่ งมือช่างยนต์ เพื่อสร้างพฤตกิ รรมของผู้เรียนให้มีความกระตือรือร้นและมีความเอาใจ ใส่ตอ่ การเรียนครผู ูส้ อนต้องสร้างจิตสานกึ ให้กับผู้เรียนอยู่เสมอตลอดจนการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่มี ความหลากหลายเพอ่ื มิใหผ้ เู้ รยี นเกิดความเบ่อื หน่ายและมีความสนใจมากขึ้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วย ระบบใบงานเป็นอกี หนง่ึ วธิ กี ารสอนมีส่วนสาคัญในการปรบั พฤติกรรมของผเู้ รียนให้เกดิ ความกระตือรือรน้ และเอาใจ ใสต่ ่อการเรียนการสอนเปน็ อยา่ งดี Abstract Research on the use of motorized tools. The first year of the Diploma of Vocational Education, Department of Automotive Engineering, can be summarized as follows. The research found that students had more accurate and accurate motor behavior. When considering each item at the high level, all the following. In summary of the observation and testing of the use of motor vehicles. To create a student's enthusiasm And with attention to learning, teachers must always create awareness for the learner as well as the use of various forms of teaching and learning so that students are less tired and more interested. Organizing instructional activities with a workbook system is another way to teach an important part in adjusting the learner's behavior to enthusiasm and attention to learning. These lessons well. 1คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น *E-mail : auss_win@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 295 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา วิชาเครื่องยนต์เล็กเป็นระบบทมี่ คี วามซบั ซอ้ นเช่นเดียวกับระบบอ่ืนในรถยนต์ในการแก้ปัญหาในการซ่อม รถยนต์ผู้ท่ีทาการซ่อมต้องมีความชานาญและมีความสามารถในการใช้เครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อหาจุดท่ีต้อง ซ่อมเพราะฉะน้นั ในการจดั การเรียนการสอนรายวชิ างานเครอื่ งยนต์เลก็ ผเู้ รียนจาเปน็ ตอ้ งมที กั ษะในการใช้เคร่ืองมือ ช่างยนต์ เพอ่ื วเิ คราะหข์ ้อบกพรอ่ งของวิชางานเครอื่ งยนต์เลก็ ซ่งึ จะทาใหส้ ามารถแก้ปญั หาได้ตรงจดุ ปญั หาที่พบมากท่สี ดุ ในการจดั การเรียนการสอนได้แก่การขาดทักษะในการใช้เครื่องมือช่างยนต์ ผู้สอนจึง ได้จัดทาแบบประเมินโดยการสังเกตจากจานวนนักศึกษา 18 คนพบว่าจัดกลุ่มความสามารถในการใช้เคร่ืองมือ ออกเป็น 3 กลมุ่ คือ 1. ระดบั ดี 12 คน 2. ระดับปานกลาง 5 คน 3. ระดบั ทีต่ อ้ งปรับปรุง 1 คน ซ่ึงหากนักศึกษาสามารถใช้เครื่องมือช่างยนต์ ได้ถูกต้องแม่นยาจะทาให้สามารถใช้เวลาในการทางานน้อยลงทาให้ เกิดประโยชนต์ ่อผ้เู รียนโดยตรงและเป็นประโยชนต์ ่อครูผู้สอนในการสอนบทเรียนตอ่ ไป วัตถุประสงค์ของการวจิ ัย 1. เพื่อศึกษาถึงแนวทางท่ีจะช่วยเพิ่มทักษะและวิธีการใช้เคร่ืองมือช่างยนต์ พร้อมท้ังนาค่าอ่านที่ได้ไป วิเคราะห์หาขอ้ บกพรอ่ งของงานเคร่ืองยนตเ์ ล็กไดม้ ากขน้ึ 2. เพอื่ ใหน้ กั ศึกษามที กั ษะในการใช้เคร่อื งมอื ช่างยนต์ ได้อยา่ งถูกต้องแมน่ ยา 80%ของผ้เู รยี นท้งั หมด ขอบเขตของการวิจัย 1. การวิจัยคร้ังนี้ทาการศึกษากับนักศึกษาระดับปวช.1 แผนกวิชาช่างยนต์วิทยาลัยการอาชีพกุมภวาปี จานวน 15 คน 2. การศึกษาครง้ั นีท้ าเพอ่ื ศึกษาถงึ แนวทางท่จี ะช่วยเพิม่ ทกั ษะและวิธกี ารใชเ้ ครอื่ งมือ ช่างยนต์ ได้ถูกต้อง มากข้ึนตามหลกั สตู รการเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี ของสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา 3. ตวั แปรที่ศกึ ษา - ตวั แปรตน้ กิจกรรมจับคู่ฝกึ ปฏบิ ตั ิ - ตวั แปรตามทักษะการเครื่องมือชา่ งยนต์ 4. นักศกึ ษาสามารถผา่ นเกณฑป์ ระเมินขน้ั ต่า 60% ได้ 80% ของผ้เู รียนท้ังหมด การทบทวนวรรณกรรม ในการวิจัยเพ่ือการพัฒนาทักษะการเคร่ืองมือช่างยนต์ของนักศึกษาระดับ ปวช. 1 แผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพกุมภวาปโี ดยใชก้ ิจกรรมจบั คู่ฝึกปฏิบัติในครงั้ น้ีพบว่ามเี อกสารและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ียวข้องดังน้ี เอกสารที่เกีย่ วข้อง “เครื่องมอื ช่างยนต์” เป็นเคร่ืองมือสาหรับ ทางานโดยใชแ้ รงจากคนอาจจะใช้สาหรบั ขนั ตอก ตดั ฯลฯ 1.ประแจ เปน็ เรอ่ื งมิอหลักทส่ี าคัญท่สี ุด ในการซอ่ มเครอื่ งยนต์ หรือเครอื่ งจกั รกลท่ัวไป สลกั เกลยี วและ แป้นเกลยี วท่ใี ชใ้ นงานชา่ งยนต์มักจะเป็นหกเหลี่ยมฉะนน้ั ประแจตา่ งๆท่ีใชต้ อ้ งเลือกประแจสาหรับนอ๊ ต – หกเหลยี่ ม ให้ถกู ตอ้ ง 2 ชนดิ ของประแจ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 296 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ผู้ผลิตเคร่ืองมือได้ออกแบบประแจให้มีรูปร่างและแบบให้แตกต่างกันหลายชนิด บางชนิดใช้กับงานท่ัวไป บาง ชนิดใช้กับงานเฉพาะอย่าง ท่ีจะกลา่ วตอ่ ไปน้เี ปน็ ประแจสาหรับงานช่างยนต์ 2.1 ประแจแหวน ใช้กับงานท่ัวไป ราคาไม่แพง ซ่ึงคอจะงอเป็นมุมประมาณ 15 องศา ประแจแหวนท่ีใช้ ทว่ั ไปจะมี 2 หวั 2.2 ประแจปากตาย เปน็ ประแจท่ีใชแ้ ทนประแจแหวน แต่เน่ืองจากปากประแจสัมผัสหัวเกลียวหรือน๊อต เพียงสองด้านทาให้เหลีย่ มมนได้งา่ ย เหมาะสมกบั งานบางประเภทเชน่ ขนั นอ๊ ตหรือสกรหู รือนอ๊ ตท่อตา่ งๆ 2.3 ประแจรวม เป็นประแจท่อี อกแบบมาขา้ งหนง่ึ เป็นประแจแหวนอกี ขา้ งหนึง่ เป็นประแจปากตาย 2.4 ประแจกระบอก เปน็ ประแจทใี่ ชร้ ่วมกับดา้ มขนั ประแจชนิดนี้ใช้สาหรบั ขันสลกั เกลียวและแป้นเกลียว ไดด้ ีท่ีสดุ 2.5 ประแจหัวผ่า ออกแบบมาเพื่อถอดน๊อตท่อซ่ึงปลายประแจจะมีลักษณะคล้ายประแจแหวนแต่ส่วน ปลายจะผ่าเพ่อื สาหรบั รอดผ่านท่อ 3. ด้ามประแจ การเลอื กใช้ดา้ มประแจให้ถกู ต้องกบั งานจะช่วยใหท้ างานไดร้ วดเรว็ และอายกุ ารใช้งานนาน 3.1 ดา้ มสวา่ น ใช้ต่อกบั ประแจกระบอกสาหรับขันหรือคลายสลักเกลียวเพ่ือความรวดเร็ว แต่สลักเกลียว ตอ้ งไมแ่ น่นเกนิ ไป 3.2 ด้ามยาว ใช้สาหรับขันสลักเกลยี วที่แนน่ มากๆ โดยทว่ั ไปจะใชข้ ันเป็นครั้งสุดท้าย 3.3 ด้ามกรอกแกรก เป็นด้ามที่ใช้สาหรับขันหรือคลายสลักเกลียวในที่แคบๆ ด้ามชนิดนี้ไม่ค่อยแข็งแรง จรึงทาใหเ้ สยี บ่อยเพราะใชง้ านผดิ ประเภท 3.3 ด้ามที ใช้สาหรับงานท่ีต้องการแรงกดทางซ้ายหรอื ทางขวาเท่าๆกนั 4. ประแจพิเศษแบบตา่ งๆ เป็นประแจที่ออกแบบใหใ้ ชง้ านสะดวกขึ้น ซงึ่ ใชก้ บั งานเฉพาะอย่าง 4.1 ประแจกแหวนกรอกแกรก สามารถขันสลักเกลียวได้โดยไม่ต้องยกประแจออก การกลับทางหมุนใช้ สลบั ดา้ นดา้ มประแจ 4.2 ประแจกระบอกข้อตอ่ อ่อน ใช้สาหรบั ขนั สลักเกลยี วท่แี นวขนั เอยี งเป็นมมุ 4.3 ประแจกระบอกข้อต่อออ่ นด้ามในตวั ใช้แทนประแจแหวนหรือประแจกระบอก 4.4 ประแจถอดสตัด ใชส้ าหรับใส่หรอื ถอดสตัด 4.5 อิมแพคเรน้ ซ์ ประแจแบบน้ีมที งั้ ใช้ไฟฟ้าและลม ใช้คู่กบั ประแจกระบอก จากผลการวิจัยของแดนประชาคร้ามแสง (2547) ในการแก้ปัญหาทักษะขาดความแม่นยาในการมองนัต และโบลต์กบั การเลอื กใช้ประแจของนักเรยี นระดับช้ันปวช. 1 แผนกวิชาช่างยนต์ในการสอนวิชางานเครื่องยนต์เล็ก โดยใช้ชุดฝึกความแมน่ ยาในการมองหวั นัตและโบลตผ์ ลการวจิ ัยพบวา่ สามารถพฒั นาทักษะการมองหัวนัตและโบลต์ ของนักศกึ ษาได้แม่นยามากข้ึนทาใหน้ ักเรียนเลอื กใชป้ ระแจได้อย่างถกู ต้องทาใหป้ ระหยดั เวลาในการทางาน การสอนวิชางานเครือ่ งยนต์เล็กจะทาการสาธิตและปฏบิ ัติจริงใหน้ กั เรยี นดูเป็นตวั อย่างการฝึกปฏบิ ัติครูจะ ให้นักเรยี นจบั คู่ฝกึ ปฏิบตั ิหรือฝึกเป็นกลุ่มๆครูเดินดูทุกคู่ทุกกลุ่มนักเรียนคนใดกลุ่มใดปฏิบัติไม่ถูกต้องครูให้คาแนะ นาแกไ้ ขทนั ทแี ละให้นักเรียนที่ปฏิบัตไิ ด้ดีออกมาสาธิตใหเ้ พอื่ นๆดแู ลว้ ให้นกั เรยี นกลับไปฝึกปฏบิ ัตใิ หมท่ าซา้ ๆจนเกิด ความชานาญสามารถปฏบิ ัติไดท้ ุกคนทาใหน้ กั เรียนเกดิ ความม่ันใจ วิธีการดาเนินการวจิ ยั การวจิ ยั ครง้ั นเี้ ป็นการวจิ ัยเชิงทดลอง ใชร้ ูปแบบการทดลองในช้ันเรียน โดยทดลองเป็นรายกลุ่มประชากร และกลุ่มตวั อย่าง---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 297 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ประชากรคือ นกั ศกึ ษาระดับ ปวช. 1 วทิ ยาลยั การอาชีพกุมภวาปี แผนกวิชาช่างยนต์ จากจานวน 4 กลุ่ม รวม 77 คน กลุ่มตัวอยา่ งคอื นกั ศึกษาระดบั ปวช. 1 จานวน 1 ห้องเรียน รวม 15 คน ภาคเรยี นท่ี 2/2560 เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ยั เครื่องมือทใี่ ช้ในการวิจยั เร่ืองการพฒั นาทกั ษะการใช้เครื่องมือช่างยนต์ ของนักศึกษาระดับปวช. 1 แผนก วิชาชา่ งยนต์วทิ ยาลยั การอาชีพกุมภวาปี โดยใช้กิจกรรมจบั คฝู่ กึ ปฏิบัติ ได้แก่ 1. เครื่องมอื ชา่ งยนต์ 2. ชุดฝกึ งานเคร่ืองยนตเ์ ล็ก 3. ใบงาน/ใบความรู้ 4. แบบประเมนิ การปฏิบตั งิ าน การเก็บรวบรวมข้อมูล 1. แจ้งผลการประเมินจากการสังเกตเบ้ืองต้นในนักศึกษาทราบถึงระดับความสามารถของตนเองใน ปจั จบุ ัน 2. ให้นักศกึ ษาที่มีความสามารถในการใชเ้ ครื่องมือช่างยนต์ ในระดับดีจับคู่ฝึกปฏิบัติกับนักเรียนที่มีระดับ ความสามารถต่ากวา่ ตามความสมคั รใจ 3. กาหนดการฝึกร่วมกบั นักเรียนชว่ งพักกลางวันและหลงั เลกิ เรยี น 4. ดาเนนิ การฝกึ ตามแผนทกี่ าหนดไว้ 5. กาหนดประเดน็ การประเมินและสร้างแบบประเมินทักษะภาคปฏิบตั ิ 6. ทดสอบพฒั นาการทเ่ี กดิ ขน้ึ และบนั ทกึ ลงในแบบประเมินผล ผู้วจิ ยั ได้ดาเนนิ การเกบ็ ขอ้ มูล การวิเคราะหข์ อ้ มลู 1. นาผลคะแนนทไี่ ดจ้ ากการประเมินการปฏิบตั งิ านเปรยี บเทยี บกับเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ 2. บรรยายข้อมูลด้วยการแจงแจกความถคี่ า่ รอ้ ยละ (%)ผลการวิจัย การวิจยั ครัง้ นไ้ี ดท้ าการศกึ ษาในการวจิ ยั เพื่อการพัฒนาทกั ษะการเครื่องมอื ชา่ งยนตข์ องนกั เรียนระดับปวช. 1 แผนกวิชาชา่ งยนตว์ ิทยาลยั การอาชพี กุมภวาปี โดยใชก้ ิจกรรมจับคฝู่ กึ ปฏิบตั ซิ ึง่ มผี ลวเิ คราะหข์ ้อมลู ดงั น้ีการวเิ คราะหข์ อ้ มูล 1. นาผลคะแนนทไ่ี ดจ้ ากการประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานเปรยี บเทียบกับเกณฑท์ ี่กาหนดไว้ 2. บรรยายขอ้ มลู ด้วยการแจงแจกความถีค่ ่าร้อยละ (%) การ ขัน้ ตอน การ การใช้ การเก็บชือ่ -สกุล เตรียม การ เลือกใช้ เครือ่ ง เคร่อื งมอื คะแนน ร้อยละ เคร่อื ง ปฏบิ ตั ิ เคร่ือง มือช่าง หลงั ใช้ รวม มอื งาน มือ ยนต์ งานระดับคะแนน 2 5 5 6 2 20 100%นายธีระภัทร ใจหยดุ 2 3 4 4 2 15 75นายนราธปิ สมจติ 2 3 5 4 2 16 80---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 298 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================นายนันทวธุ รองศรี 2 4 5 4 2 17 85นายบารมี สรวงศริ ิ 2 4 4 4 2 16 80นายปฎภิ าณ อุดชุมพิสยั 2 3 3 4 2 14 70นายพงศธร พลชัยเรอื น 2 4 5 5 2 18 90นายอธวิ ัฒน์ อิสรวงศช์ ยั 2 3 3 4 2 14 70นายปรญั ญา สมั ปุญญา 2 3 4 6 2 17 85นายพงษ์เทพ แฝงสมศรี 2 4 4 4 2 16 80นายพันธกานต์ โอษฐ์ 2 3 3 3 2 13 65จนั ทรศ์ รีนายพทิ ยา น้อยเขยี ว 2 3 1 2 2 10 50นายพทุ ธิพงศ์ ปาสา 2 3 4 4 2 15 75นายภทั รชยั มหามาตร 2 3 4 3 2 14 70นายภาคไิ นย ดวงพิมพ์ 2 4 4 3 2 15 75นายภาณุพงศ์ ก่ิงนอก 2 2 4 3 2 13 65 จากตารางพบว่าคะแนนท่ไี ดจ้ ากแบบประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านนกั ศกึ ษาสามารถผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิไดจ้ านวน 15 คนคดิ เป็นร้อยละ 93.75 ไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมนิ 1 คนคดิ เปน็ ร้อยละ 6.25 ของนักศกึ ษาท่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรมจบั คฝู่ กึ ปฏบิ ัติอภิปรายผลการวิจัย ผลจากการพัฒนาทักษะการใช้เครื่องมือช่างยนต์โดยใช้กิจกรรมจับคู่ฝึกปฏิบัติของกลุ่มตัวอย่างซ่ึงเป็นนักศึกษาระดับปวช. 1 แผนกวิชาช่างยนต์วิทยาลัยการอาชีพกุมภวาปี จานวน 16 คนนักศึกษาสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินไดจ้ านวน 17 คนคิดเป็นร้อยละ 93.75 ไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ 1 คนคิดเปน็ ร้อยละ 6.25 ของนกั ศึกษาท่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรมจับคูฝ่ ึกปฏิบตั ิข้อเสนอแนะ ควรนาวิธีการพฒั นาทักษะการใช้เคร่อื งมอื ชา่ งยนต์โดยใชก้ จิ กรรมจบั คูฝ่ กึ ปฏบิ ตั ไิ ปใชใ้ นการเรียนการสอนหน่วยอ่นื นกั ศกึ ษากลมุ่ อ่นื และควรใช้วิธีการสอนเป็นรายบุคคลสาหรับนักศึกษาท่ียังมีผลประเมินผลการปฏิบัติการใชเ้ ครอื่ งมือชา่ งยนต์ต่าว่า 60%บรรณานุกรม “เครอื่ งมือชา่ งยนต์”, [ออนไลน์].เขา้ ถงึ ไดจ้ าก: URL:http://www.siamtech.ac.th/learning/anucha/gauge.html , 2550 [20 มกราคม 2551].---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 299 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== อ.อมั พร ภักดีชาต.ิ งานเคร่ืองยนต.์ กรงุ เทพฯ.สานักพิมพ์ศูนย์ส่งเสรมิ อาชีวะ 131 ถ.เทศบาลนิมิตใต้ ซอย1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 300 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การหาประสทิ ธิภาพเอกสารประกอบการสอน วชิ างานตังถงั และพ่นสรี ถยนต์ ธนากร เรอื งเทศ1 บทคดั ยอ่ การวจิ ัยในครงั้ น้มี วี ัตถปุ ระสงค์ เพ่อื หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนในรายวชิ างานตัวถังและพ่น สีรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2111 นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานท่ี กาหนดไว้ เพ่อื ศึกษาประสทิ ธิผลของผลการจัดกิจกรรมการเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางาน ตัวถังและพ่นสีรถยนต์ สาหรบั นักศกึ ษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ นักศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี ปีที่ 3 ที่เรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน การสอน วิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ โดยทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเอกสาร ประกอบการเรยี นการสอนวิชางานตัวถังและพน่ สีรถยนต์ และศึกษาความพึงพอใจของนกั ศึกษาต่อการเรยี นรู้โดยใช้ เอกสารประกอบการเรยี นการสอน วิชางานตวั ถงั และพน่ สีรถยนต์ ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ สาหรับนกั ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ปที ี่ 3 สาขาวิชาเคร่ืองกล สาขางานยานยนต์ ประจาภาคเรียน ที่ 2 ปีการศกึ ษา 2560 จานวน 16 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบ (Cluster Random Sampling) เครื่องมือท่ีใช้ในการ วิจัย ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน แบบสอบถาม ความพึงพอใจ ของนักศกึ ษาที่มีตอ่ เอกสารประกอบ การเรียนการสอน วิชางานตัวถังและพ่นสี รถยนต์ สถิตทิ ใี่ ช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ได้แก่ คา่ ร้อยละ ค่าเฉลีย่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน และวิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ผลการวิจัยพบว่า ผลการหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2111 มีประสิทธิภาพหลังเรียนร้อยละ 86.94 ซึ่งมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ ร้อยละ 80 ค่าดัชนี ประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ มีค่าเท่ากับ 0.6204 การ เปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนกั ศึกษาระดับประกาศนยี บัตรวิชาชีพช้นั ปีท่ี 3 ท่ีเรียนจากการจัดกิจกรรม การเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ ก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่า ผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ 0.05 ความพึง พอใจของนกั ศึกษาทม่ี ตี ่อวิชางานตวั ถังและพ่นสีรถยนต์ พบว่ามี ความพึงพอใจมีรวมทุกด้าน ค่าเฉลี่ย ( X ) เท่ากับ 4.57 ซึง่ อยู่ในเกณฑ์ทดี่ ีมาก และค่าส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) เทา่ กบั 0.50 1คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแกน่ *E-mail : atit007la12@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 301 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 เพ่ือให้สอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติฉบบั ที่ 11 พ.ศ. 2555 – 2559 ซ่ึงได้ จัดวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ กับการเปล่ียนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมืองและการปกครอง พรอ้ มทั้งกระบวนในการแกป้ ญั หาโดยใช้หลักจริยธรรมและคุณธรรม เพ่ือให้นักศึกษา ได้ศึกษาความเจริญก้าวหน้า ในดา้ นวทิ ยาการและสิ่งต่าง ๆ ท่ีมนุษย์นามาใช้แต่การสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ เน้ือหาในบทนี้จะเน้นถึง สมรรถนะของผ้เู รยี น ซง่ึ ผสู้ อนจะประสบปัญหากบั การจัดการเรยี นการสอนท่ีนักศึกษาขาดความสนใจใฝ่ท่ีจะศึกษา ครผู ู้สอนจะถา่ ยทอดความรู้ใช้วิธกี ารบรรยายหรอื อธิบายสอน ใหน้ ักศึกษา และนกั ศกึ ษาจะไมใ่ หค้ วามรว่ มมอื ในการ เรียน การสอนจึงส่งผลให้เกิดความเบ่ือหนา่ ยและไมน่ า่ สนใจท้งั ผูส้ อนและผู้เรียน ซ่ึงสภาพปัญหาดังกล่าวนี้ช้ีให้เห็น ว่าปัญหาใน การจัดการเรียนการสอนควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ การเรียนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ สมั ฤทธิผ์ ลตามจุดประสงค์ของการจดั การเรียนการสอนแนวทางแก้ปัญหาไดแ้ กก่ ารจัดการเรียนการสอนแบบการบูร ณาการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญตามหลักสูตรซึ่งได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบท่ีต้องจัดการเรียนการสอนให้บังเกิด ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้ครอบคลุมจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมท้ังทางด้านพุทธพิสัย ทักษะพิสัย คุณธรรมและ จรยิ ธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมภพ สุวรรณรัฐ (มปป. :1) การจัดการเรียนการสอนที่มุ่งจัดกิจกรรมที่ สอดคล้องกับการดารงชีวิต เหมาะสมกับความสามารถและความสนใจของผ้เู รยี น โดยใหผ้ ู้เรียนมีส่วนร่วมและลงมือ ปฏบิ ตั ิจรงิ ทุกขั้นตอนจะบังเกิดการเรียนรดู้ ้วยตนเอง ดังนั้น ในฐานะครูผู้สอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ จึงได้นาแผนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ เน้นฐานสรรถนะและบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความสามารถ และความแตกต่างของผู้เรียน โดยวิธีการใช้แผนการสอน วิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ เน้นฐานสรรถนะ และ บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง เพอื่ สร้าง กระบวนการคดิ การลงมอื ปฏิบัติและการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มุ่งเน้น ผู้เรียนเป็นสาคัญและบูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ท่ีเน้นให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขนาไปสู่การเป็น ทรัพยากรบคุ คลอนั มีคณุ ภาพทีด่ ี ในอนาคตทดี่ ตี ่อไป วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย 2.1 เพ่อื หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน ในรายวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา 2101- 2111 นกั ศึกษาระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพให้มปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑม์ าตรฐานทีก่ าหนดไว้ 2.2 เพ่อื เปรียบเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนกั ศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 ท่ีเรียนจากการ จดั กิจกรรมการเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอนวชิ า งานตวั ถังและพ่นสรี ถยนต์ รหสั วชิ า 2101-2111 โดยทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน 2.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางาน ตัวถังและพน่ สีรถยนต์ รหสั วิชา 2101-2111 ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพ สมมติฐานการวิจยั 3.1 ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนรายวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ จะต้องมี ประสิทธิภาพไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 302 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 3.2 ผลสัมฤทธ์ิของคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธ์ิของคะแนนทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิตทิ ี่ระดับ 0.05 3.3 ผลการการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอนวชิ างานตัวถงั และพ่นสีรถยนต์ ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพ มีค่าระดับคะแนนเฉล่ียไม่น้อยกว่า 3.5 ในทุก ๆ ด้านและคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) ไม่เกนิ 1วิธีดาเนินการวิจัย 4.1 ทาการทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) โดยใชแ้ บบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนท่ผี ูว้ ิจัยสรา้ งขึน้ (E1) 4.2 ทากจิ กรรมในเอกสารประกอบการเรยี นการสอน 4.3 ทาการทดสอบหลังเรียน (Post-test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีผู้วิจัยสร้างข้ึน เพ่ือหาค่าประสทิ ธิภาพของผลลัพธ์ (E2) 4.4 สอบถามความพึงพอใจของนักศึกษา หลงั จากทดสอบหลงั เรียนผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ผลการวิเคราะห์การหาประสิทธิ์ภาพของเอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์รหัสวชิ า 2101-2111 ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ผวู้ จิ ยั ไดน้ าเสนอเรียงตามลาดบั หวั ข้อต่อไปนี้ 5.1 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์รหัสวิชา 2101-2111 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ตามเกณฑ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยหาค่าเฉลี่ยเบ่ียงเบนมาตรฐานและคา่ ร้อยละตารางที่ 1 แสดงผลการวเิ คราะหก์ ารหาประสทิ ธ์ภิ าพของเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ ผลรวมคะแนนกอ่ นเรยี น 1,181 คา่ เฉลี่ย 65.61 ผลรวมคะแนนหลังเรยี น 1,565 86.94 จากตารางที่ 1 พบว่า ผลการเรียนรู้ของนักศึกษาที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถงั และพน่ สีรถยนต์ รหัสวชิ า 2101-2111 ระดับประกาศนียบตั รวิชาชพี จากการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนรวมทุกหน่วย มีค่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 65.61 ดังนั้น E1 ของเอกสารประกอบประกอบการเรียนการสอน มีประสทิ ธภิ าพเท่ากับ 65.61 และผลจากการทาแบบทดสอบหลงั เรียนรวมทุกหน่วย มีค่าคะแนนเฉล่ียร้อยละ 86.94ดังน้ัน E2 ของคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนของนักศึกษาที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตวั ถังและพน่ สีรถยนต์ ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี มปี ระสทิ ธภิ าพเทา่ กบั 86.94 5.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษาก่อนเรียนและหลังเรียนท่ีใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานตัวถังและพน่ สรี ถยนต์ตารางท่ี 2 แสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาก่อนเรียนและหลังเรียนท่ีใช้เอกสารประกอบการเรยี นการสอนวิชางานตัวถงั และพน่ สีรถยนต์---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 303 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================แบบทดสอบวดั N X D  D2 T- ผลสมั ฤทธ์ิ Test แบบทดสอบ ก่อนเรยี น 16 65.61 แบบทดสอบ 384 16,126 4.19 หลังเรยี น 16 86.94จากตารางท่ี 2 พบวา่ นกั ศึกษาท่ีเรียนโดยใชเ้ อกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา 2101-2111 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05และมีความแตกต่างของคะแนนหลังเรียนกับก่อนเรียนเท่ากับ 384 คะแนน น่ันคือ ผลของการใช้เอกสารประกอบการเรยี นการ วิชางานตวั ถังและพ่นสรี ถยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 ทาใหน้ ักศกึ ษามคี วามรเู้ พ่มิ ข้นึ 5.3 ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการเรียนการสอนวิชางานตัวถงั และพน่ สรี ถยนต์ตารางท่ี 3 แสดงค่าเฉล่ียและค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนการสอนวชิ างานตัวถังและพ่นสรี ถยนต์รวมทกุ ด้านลาดับ จดุ ประเมนิ ( X ) S.D.1. ดา้ นเน้อื หา 4.62 0.492. ดา้ นแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 4.57 0.503. ด้านสื่อการเรียนการสอน 4.60 0.504. ด้านครผู ูส้ อน 4.69 0.46คะแนนเฉลยี่ รวมทง้ั 4 ดา้ น 4.62 0.49จากตารางที่ 3 พบว่า ความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา2101-2111 รวมทกุ ด้าน มีค่าเฉลยี่ ( X ) เท่ากับ 4.62 ซึง่ อย่ใู นเกณฑ์ที่ดีมาก และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)เท่ากับ 0.49สรปุ ผลและอภปิ รายผลการวิจัย 6.1 ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน การสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา2101-2111 พบว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.94 ซ่ึงสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ที่กาหนดไว้ 6.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบ ก่อนเรียนหลังหลังเรียน วิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา2101-2106 พบวา่ ผลสัมฤทธิข์ องคะแนนทดสอบหลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียนอยา่ งมีนยั สาคัญทางสถติ ิทีร่ ะดับ 0.05 6.3 ความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชางานตัวถังและพ่นสีรถยนต์ รหัสวชิ า 2101-2111 พบว่ามคี า่ เฉล่ยี ทกุ ดา้ น 4.62 ซึง่ อยู่ในระดับดมี าก---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 304 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================กติ ตกิ รรมประกาศ กระผมขอขอบพระคุณวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย สาขาวิชาเครื่องกล แผนกช่างยนต์ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ในการทาวิจัยการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนการสอน ในรายวิชา งานวัดละเอียดช่างยนต์ รหัสวิชา 2101-2106 และขอบพระคุณคณะครูแผนกวิชาช่างยนต์ ที่ทุกท่านได้ให้คาปรึกษาแนะนาและให้ความช่วยเหลือในการดาเนนิ การตลอดจนการแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งต่าง ๆ ท่ใี ห้คาแนะนาเก่ยี วกับการวจิ ยับรรณานกุ รม[1] หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ กรมอาชวี ศึกษา.[2] ธนนนั ท์ มาศธนานนั ต.์ 2550. การศกึ ษาผลการใชเ้ อกสารประกอบการสอน วชิ าเคร่ืองรับวิทยุ[3] นวลจิตต์ เชาวกีรตพิ งศ.์ 2535. การพัฒนารปู แบบการจัดการเรียนการสอนทเี่ นน้ ทกั ษะปฏิบัติสาหรับ ครูวชิ าอาชพี . วทิ ยานพิ นธป์ รญิ ญาเอก, จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.[4] บญุ ชม ศรีสะอาด. 2543. การวจิ ัยเบ้ืองต้น. พมิ พ์ ครั้งท่ี 6. กรงุ เทพมหานคร : สุวรี ิยาสาส์น.[5] บุญชม ศรีสะอาด. 2545. การวิจยั เบ้ืองตน้ . พมิ พ์ คร้งั ท่ี 7. กรุงเทพมหานคร : สวุ ีรยิ าสาสน์ .[6] ประเสริฐ จันทร์อุดม. 2545. การสรา้ งและพฒั นาเอกสารประกอบการสอนวชิ าการอา่ น[7] ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกูลและสุภาพ ฉัตราภรณ์. 2549. การออกแบบการวิจัย. พิมพ์คร้ังท่ี 5.กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.[8] เผชิญ กิจระการ. 2544. การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพส่ือและเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา. การวัดผลการศกึ ษา. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม.[9] ศึกษาธิการ, กระทรวง. 2546. หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพพุทธศักราช 2545 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม (ปรับปรุง พ.ศ. 2546). (อัดสาเนา)[10] สมภพ สวุ รรณรฐั . หลักและแนวทางการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาโดยยึดผู้เรียนเป็นสาคัญตามรูปแบบ CIPPA. เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เขียนแผนการสอน ที่เน้นสมรรถนะอาชีพ”. มปป.(อัดสาเนา)[11] สาหร่าย พันธ์น้อย. 2545. รายงานการใช้นวัตกรรมการสอน เอกสารประกอบการสอน วิชา ว 037เคมี 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนโคกเจรญิ วทิ ยา จงั หวดั ลพบรุ ี. วทิ ยานิพนธป์ ริญญาโท, มหาวิทยาลัยขอนแก่น.[12] ไสว ฟกั ขาว. 2544. หลกั การสอนสาหรับเปน็ ครมู ืออาชพี . กรุงเทพมหานคร : เอมพนั ธ์.[13] อรทัย มูลคา และสุวิทย์ มูลคา. 2544. CHILD CENTRED: STORTLINE METHOD : การบูรณาการหลกั สตู รและการเรยี นการสอนโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั . กรุงเทพมหานคร : ภาพพิมพ์.[14] อาภรณ์ ใจเทีย่ ง. 2546. หลักการสอน. พิมพ์ ครั้งท่ี 3. กรงุ เทพมหานคร : โอเอส พรนิ ต้ิง เฮา้ ส์.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 305 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ปัญหาในการใช้ส่ือการสอนของครผู ู้สอน วิชางานถอดประกอบเคร่อื งกลเบอ้ื งตน้ ฤทธไิ กร จรูญภาคย์1 บทคัดย่อ การวิจัยเรื่อง ปัญหาในการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอนในระดับช้ัน ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ โดยใช้ แบบสอบถาม สามารถสรุปผลการวิจยั ไดด้ ังนี้ จากการศกึ ษาและวิเคราะห์แบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนระดับชั้น ปวช.2/2 สาขางาน ยานยนต์ ในเร่ืองปัญหาของนักเรียนที่เกิดจากการใช้ส่ือการสอน ของครูผู้สอน แสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมของ นกั เรียนท่ีเกดิ จากการใชส้ ่อื การสอนของครผู สู้ อน ลาดับที่ 1 คอื สื่อดเู ขา้ ใจยาก โดยคิดจาก นกั เรยี น 10 คน ท่เี ลือก เป็นสาเหตุอันดับท่ี 1 จานวน 10 คน คิดเป็น ร้อยละ 40 ดังน้ันการวิจัยเร่ืองปัญหาในการใช้ส่ือการสอนของ ครูผสู้ อน ในระดบั ชั้น ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ โดยการใช้แบบสอบถาม แสดงให้เห็นว่าการตอบแบบสอบถาม ของนักเรียนในเรื่อง พฤติกรรมของนักเรียนท่ีเกิดจากการเลือกใช้สื่อการสอนของครูผู้สอน โดยทาการเรียงลาดับ จากสาเหตทุ ี่ นักเรยี นทีน่ ักเรยี นคิดว่าเปน็ สาเหตุทสี่ าคัญท่สี ดุ ในการวจิ ัยคร้งั ต่อไปอาจเจาะจงทาการวิจัยกลุ่มนักเรียนในระดับชั้นอ่ืนๆ ต่อไป และอาจแยกหัวข้อ เป็น รายวชิ าต่าง ๆ เพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ มูลทล่ี ะเอยี ดขึ้น ซ่ึงจะได้นาผลการทดลองท่ีไดไ้ ปแก้ไขพฤติกรรมของนักเรียนที่ เกิดจาก การเลือกใช้สอ่ื การสอนของครผู สู้ อนกับนกั เรยี นต่อไป 1คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น *E-mail : auss_win@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 306 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บทนา ปัจจุบันในการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอนในรายวิชา งานถอดประกอบเคร่ืองกลเบ้ืองต้น แก่นักเรียนใน ระดับช้นั ปวช. 2/2 สาขางานยานยนต์ พบวา่ ประเภทของส่อื การสอนท่ีใชส้ อนนักเรยี น มีผลตอ่ การเข้าใจใน เนือ้ หา รายวิชาของนกั เรียน ซ่ึงในบางครง้ั อาจมีผลตอ่ คะแนนเก็บของนกั เรยี น ดงั นนั้ ผู้วจิ ัยในฐานะที่เปน็ ทงั้ ครผู ู้สอนและครปู ระจาวิชาเห็นความสาคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ ทาการ วิจัย เพื่อศึกษาผลท่ีเกิดกับพฤติกรรมของนักเรียนในระดับช้ันดังกล่าว เพื่อนามาเป็นข้อมูลในการ แก้ปัญหาของ นักเรียนในเรื่องการหาปัญหาในการใช้ส่ือการสอนของครผู สู้ อน วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั 1.2.1 เพ่ือศึกษาผลจากการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอนกับนักเรียนช้ัน ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ วิชา งานถอดประกอบเครอ่ื งกลเบือ้ งต้น 1.2.2 เพื่อรวบรวมข้อมูลสาหรับการแก้ปัญหาการใช้สื่อการสอนกับนักเรียนชั้น ปวช.2/2 สาขางานยาน ยนต์ วชิ างานถอดประกอบเครื่องกลเบ้ืองต้น สมมตฐิ านการวิจยั ให้นักศึกษาทาแบบสอบถาม เพ่อื หาสาเหตุทแ่ี ท้จริงและแก้ปญั หาเร่ืองการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอน ใน ระดบั ปวช.2/2 ช่างยนต์ วิทยาลยั เทคนิคอานาจเจรญิ วธิ ีดาเนินการวิจยั การวิจยั เรือ่ งปัญหาในการใช้ส่ือการสอนของครูผู้สอน ในระดับชั้น ปวช.2/2 สาขางาน ยานยนต์ โดยใช้ แบบสอบถาม ผู้วิจัยได้วางแผนการดาเนินการศึกษาสร้างแบบสอบถาม โดยใช้ข้อความท่ีคาดว่าจะเป็นสาเหตุของ ผลกระทบจากการเลือกใช้สอ่ื การสอนของครผู สู้ อน ผวู้ ิจยั ได้ดาเนินการวิจัย ตามข้นั ตอนดังน้ี 4.1 แบบแผนการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบสารวจผลจากการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอนมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา ปัญหาจากการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอน โดยใช้แบบสอบถามเพื่อหาผลกระทบจากการใช้ ส่ือการสอนของ ครูผู้สอนที่สง่ ผลตอ่ การเรยี นรู้และนาปัญหามาแก้ไข 4.2 ประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ ง ประชากรทใ่ี ช้ในการศึกษา คอื นักเรยี นระดบั ช้ัน ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ จานวน 10 คน 4.3 เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการวจิ ัย เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการวิจัยครงั้ นีป้ ระกอบด้วย 4.3.1 สื่อการสอน วิชางานถอดประกอบเคร่ืองกลเบ้อื งตน้ 4.3.2 แบบสารวจปัญหาจากการใชส้ ่ือการสอนที่ส่งผลกระทบตอ่ ผู้เรยี น 4.4 ขน้ั ตอนการสรา้ งเครอื่ งมอื ในการดาเนินการศกึ ษาวิจยั ครั้งนมี้ ีวตั ถุประสงค์ เพอื่ ศกึ ษาปัญหาจากการใช้ส่ือการสอนของครูผู้สอน โดยใช้แบบสอบถาม เพ่ือหาผลกระทบจากการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอน ผู้วิจัยได้วางแผนการดาเนินการ ศึกษา---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 307 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================สร้างแบบสอบถาม โดยใช้ข้อความทค่ี าดว่าจะเป็นสาเหตุของผลกระทบจากการใช้ส่ือการสอนของ ครูผู้สอนและได้ดาเนินการซ่ึงมีรายละเอียดเป็นขั้นตอนดงั นี้ 4.4.1 ข้ันวเิ คราะห์ 4.4.1.1 วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียน การวิเคราะห์ผู้เรียนได้กาหนดไว้ดังน้ีประชากร คือนกั เรียนช้นั ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 จานวน 10 คน 4.4.1.2 วิเคราะห์ปัญหาของการใช้สื่อของผู้สอนท่ีส่งผลต่อการเรียนตามความคิดเห็นของผู้เรียนโดยจัดลาดับและหาคา่ รอ้ ยละ 4.4.2 ขน้ั ออกแบบ ผู้วิจัยดาเนินการสร้างแบบสอบถามเพื่อทราบสภาพปัญหาของนักเรียนท่ีเกิดจากการใช้สื่อการสอนของครูผูส้ อน โดยมลี าดบั ข้ันตอนการสร้างดังน้ี 4.4.2.1 ศกึ ษาเทคนิคการสร้างแบบสอบถามจากเอกสารตา่ ง ๆ 4.4.2.2 สรา้ งแบบสอบถามเพอ่ื ศกึ ษาสภาพปัญหาของนักเรียนที่เกิดจากการใช้ส่ือการสอนของครผู ้สู อนกับนักเรียนในระดับชั้น ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ จานวน 10 ข้อ โดยให้นกั เรียนใสห่ มายเลข ลาดับของปัญหาของนักเรียนที่เกิดจากการใช้ส่ือการสอนของครูผู้สอนจากลาดับมากท่ีสุด ( 1 ) ไปจนถึงลาดับน้อยทีส่ ดุ ( 10 ) 4.4.2.3 นาแบบวัดเจตคติท่ีสร้างขึ้นเสนอตอ่ ทป่ี รกึ ษางานวิจยั เพือ่ ตรวจสอบแก้ไข 4.4.2.4 แบบวัดเจตคติมาปรบั ปรงุ แกไ้ ขกอ่ นนาไปใช้จริง 4.4.3 ขน้ั ดาเนินการ ในการวิจัยครั้งนผี้ วู้ จิ ยั ได้มีการดาเนินการดังนี้ 4.4.3.1 นาแบบสอบถามเพื่อศึกษาสภาพปัญหาตามความคิดเห็นของนักเรียนที่เกิดจากการใช้ส่อื การสอน ของครูผสู้ อนกับนกั เรียนชนั้ ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 10คน เพอื่ หาสาเหตขุ องปัญหาของส่ือทส่ี ง่ ผลตอ่ ผเู้ รียน 4.4.3.2 ดาเนินการหาคา่ รอ้ ยละของแต่ละขอ้ สาเหตุเพอ่ื จดั ลาดับความสาคัญ ของปัญหา4.5 การดาเนินการวจิ ยั / การเก็บรวบรวมขอ้ มูล - ศกึ ษาสภาพปญั หาและวเิ คราะหป์ ัญหา - เขยี นเคา้ โครงงานวิจัยในชั้นเรียน - ศกึ ษาเทคนคิ การสรา้ งแบบสอบถาม - ออกแบบและสร้างแบบสอบถามที่จะใชใ้ นงานวจิ ัย - นักเรียนทาแบบสอบถาม - เก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะหข์ อ้ มลู - สรุปและอภิปรายผล - จัดทารปู เล่ม4.6 การวเิ คราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ผลจากคะแนนท่ีได้จากการทาแบบสอบถามเพ่ือศึกษาสภาพปัญหาและจัดลาดับ ความสาคัญของปัญหา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆโดยใช้สูตรทางสถิติดงั ตอ่ ไปนี้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 308 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การหาค่ารอ้ ยละ ค่าร้อยละ = เมอ่ื X = คะแนนท่ีได้ N = จานวนนกั เรยี นทัง้ หมดผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนระดับช้ัน ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ ในเร่ืองปัญหาของนกั เรยี นทเี่ กดิ จากการใช้สอื่ การสอนของครูผู้สอน เพ่อื นาผลการวจิ ยั มาเก็บเปน็ ข้อมลู เพอ่ื หาสาเหตุและนาไปแกไ้ ขปญั หาในการเรียนการสอน วิชางานถอดประกอบเคร่ืองกลเบื้องต้น โดยใช้แบบสอบถาม เพื่อศึกษาปัญหาจานวน 15 ข้อ โดยกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2560 จานวน 10 คน โดยเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู เป็นลาดับ ในลกั ษณะตาราง ประกอบคาบรรยาย ดังนี้ตารางท่ี 1 แสดงผลการประเมินแบบสอบพฤติกรรมเก่ียวกับสภาพปัญหาของนักเรียนท่ีเกิดจากการใช้สื่อการสอนของครผู ้สู อน 3 ลาดับแรก สาเหตุของปญั หาการใช้ส่อื การสอนของครผู สู้ อน อนั ดบั ที่ รอ้ ยละ 1.สอื่ ดูเขา้ ใจยาก 1 40 2.รายละเอยี ดน้อยเกนิ ไป 2 28 3.ไมน่ ่าสนใจ 3 20 4.เวลาน้อยเกินไป 4 12 ปัญหาการใช้ส่ือการสอนของครูผู้สอน (ร้อยละ)45 14035 23025 320 415 ร้ อยละ1050 รปู ที่ 5.1 แสดงแผนภมู ริ ะดบั ปญั หาการใช้สอ่ื การสอนของครูผสู้ อน (ร้อยละ)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 309 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== จากตารางท่ี 1 แสดงให้เห็นว่าการตอบแบบสอบถามของนักเรียนในเร่ืองพฤติกรรมเกี่ยวกับสภาพปัญหาของนกั เรียนทเ่ี กิดจากการเลือกสอ่ื การสอนของครูผู้สอน โดยทาการเรียงลาดับจากสาเหตุท่นี กั เรยี นที่ นกั เรียนคดิ วา่เป็นสาเหตทุ สี่ าคัญที่สดุ จนถงึ สาเหตทุ ่ีนอ้ ยทส่ี ุด ตามลาดบั 1 -3 ดังต่อไปนี้ สาเหตขุ องปัญหา อนั ดบั ท่ี รอ้ ย จานวน ละ คน 1.ส่ือดูเขา้ ใจยาก 1 40 10 2.รายละเอียดน้อยเกินไป 2 28 7 3.ไม่น่าสนใจ 3 20 5 4.เวลานอ้ ยเกินไป 4 12 3 ปัญหาการใชส้ อ่ื การสอนของครผู สู้ อน (จานวนคน)12 110826342 40 ชุดขอ้ มลู 1 รปู ท่ี 5.2 แสดงแผนภูมริ ะดบั ปัญหาการใชส้ อ่ื การสอนของครผู สู้ อน (จานวนคน) สรุปผลและอภปิ รายผลการวิจัย การวจิ ยั เรอื่ งปัญหาในการใชส้ ื่อการสอนของครผู ้สู อน ในระดับช้ัน ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ โดยการ ใช้แบบสอบถาม แสดงใหเ้ ห็นว่าการตอบแบบสอบถามของนกั เรยี นในเร่อื งสภาพปัญหาของนักเรียน ท่ีเกิดจากการ ใชส้ ่ือการสอนของครูผู้สอน โดยทาการเรยี งลาดบั จากสาเหตุทีน่ กั เรยี น ทีน่ ักเรียนคิดวา่ เปน็ สาเหตทุ สี่ าคัญท่สี ุด 6.1 สรปุ ผลการวิจัย จากการศึกษาและวิเคราะห์แบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนระดับชั้น ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ ในเรื่องปัญหาของนักเรียนท่ีเกิดจากการใช้ส่ือการสอนของครูผู้สอน แสดงให้เห็นว่า พฤติกรรม ของนักเรยี นทีเ่ กดิ จากการใช้ส่อื การสอนของครผู ูส้ อน ลาดบั ท่ี 1 คือ สื่อดเู ข้าใจยาก โดยคิดจาก นักเรียน 10 คน ท่ี เลือกเปน็ สาเหตุอันดบั ที่ 1 จานวน 10 คน คดิ เป็น ร้อยละ 40 6.2 ขอ้ เสนอแนะในการวิจัย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 310 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 6.2.1 ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้ ในการสร้างแบบสอบถามเพ่ือศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนชั้น ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ ในเร่ืองพฤติกรรมของนักเรียนที่เกิดจากการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอน อาจจัดทากบั นักเรยี นทกุ ระดบั ชน้ั เพอ่ื เปน็ การศึกษาในภาพรวม เพราะการวจิ ัยครัง้ น้ีกลุม่ ตวั อยา่ งเป็นเพยี งนกั เรียน ในระดับชนั้ ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ เท่าน้ัน ซงึ่ อาจจะไดผ้ ลการวิจยั ทีแ่ ตกต่างกัน ก็ได้ 6.2.2 ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การวิจัยครัง้ ต่อไป ในการวิจยั ครั้งต่อไปอาจเจาะจงทาการวิจัยกลุ่มนักเรียนใน ระดับชัน้ อ่ืน ๆ ต่อไป และอาจแยกหวั ขอ้ เป็นรายวิชาต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น ซ่ึงจะได้นาผลการวิจัยไป ปรับปรุงแก้ไขส่ือการสอนใหม้ ี ประสิทธิภาพและส่งผลต่อการเรียนรูท้ ดี่ ีย่งิ ขนึ้ กติ ติกรรมประกาศ การทาการวิจยั เร่อื งปญั หาในการใชส้ อื่ การสอนของครูผู้สอนในระดับชั้น ปวช.2/2 สาขางานยานยนต์ โดยใช้ แบบสอบถามของวิทยาลัยเทคนิคอานาเจริญในครั้งนี้ บรรลุวัตถุประสงค์สาเร็จลุล่วงได้ด้วย ความกรุณาและ ช่วยเหลือเป็นอย่างดีย่ิงจากคณะครูแผนกวิชาช่างยนต์ทุกท่านและผู้ทรงคุณวุฒิที่กรุณาเสียสละเวลาให้คาแนะนา ตรวจแกไ้ ขข้อบกพร่องของงานวิจยั ผ้วู ิจัยรสู้ ึกซาบซ้ึงในความกรุณาของผู้ทรงคุณวุฒิและขอขอบคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ ทีน่ ด้ี ้วย บรรณานกุ รม จาเนียร น้อยทา่ ชา้ ง และวีณา นนั ทพนั ธาวาทย์. การพฒั นาคณุ ภาพ การเรียนการสอนผลงานทางวชิ าการ ของครูผู้สอน.ม.ป.ท., 2534. ณัฐชรนิ ทร์ หวนั ทา (บทคัดย่อ) ความพึงพอใจในการใชส้ ื่อ Power Point วิชาพลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม รหสั วชิ า 2001-0008 ของนกั ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี แผนกชา่ งยนต์ ช้นั ปีที่ 1 กล่มุ ที่ 5 และกล่มุ ที่ 6 วิทยาลยั เทคนิคนครนายก. รุ่งทวิ า จักรกร. วธิ ีสอนทวั่ ไป. ร่งุ เรอื งธรรม.กรงุ เทพฯ, 2527. วาโร เพง็ สวัสดิ์. การวิจัยชัน้ เรยี น. กรงุ เทพฯ : สวุ ีริยาสาส์น, 2546.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 311 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมทางการเรียนของนักเรียน ปวช.1-3 ประเภทวิชา อตุ สาหกรรม สาขาชา่ งยนต์ ทัศวทิ ย์ แก้วมงคล1 บทนา 1.1 ความเปน็ มาและความสาคัญของการวจิ ัย การศกึ ษาเปน็ ปจั จัยสาคญั ในการพฒั นาประเทศ และทรพั ยากรมนษุ ย์ ซงึ่ เป็นท้ังกระบวนการและเน้ือหา ในการพฒั นาคนใหเ้ ป็นมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ เป็นการถา่ ยทอดวฒั นธรรม และเปน็ การสรา้ งภูมิปญั ญาให้แก่สังคมดังน้ัน การศึกษาจงึ ถือว่าเปน็ รากฐานและเครอื่ งมืออันสาคัญในการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรม และการเมือง ของประเทศ การท่จี ะใช้การศึกษาเป็นเครอ่ื งมอื ในการพฒั นาประชากรและประเทศชาติให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ได้น้ัน จาเป็นต้องพัฒนาระบบการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ มาตรฐานและมีประสิทธิภาพที่ดีพอที่จะพัฒนา ประชากรและประเทศชาติให้ก้าวหน้าทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในกระแสโลกาภิวัฒนากรที่ จะพัฒนา ประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ จะต้องมีการพัฒนาในทุกๆด้านพร้อมกันไป ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมอื ง การปกครองและการศกึ ษาโดยเฉพาะการศกึ ษานับเปน็ รากฐานทส่ี าคญั ในการพัฒนาประเทศชาติ เปน็ เคร่ืองมือช่วยให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางสังคม และเสริมกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาประเทศท่ี ผ่านมาจะช้ีให้เหน็ ว่า การพฒั นาทย่ี ั่งยนื นัน้ มิใช่การพัฒนาทใี่ หค้ วามสาคัญเฉพาะกบั การพัฒนาด้านใดดา้ นหนึ่งหรือ ความคดิ ท่ีวา่ หากพฒั นาเศรษฐกจิ ใหก้ ้าวหนา้ เจรญิ เติบโตแล้ว จะส่งผลให้การพัฒนาด้านอ่ืนๆ เจริญงอกงามตาม ไปดว้ ย เป็นสิ่งท่ีไดร้ ับการพิสูจน์มาแลว้ ว่าไม่เปน็ ความจรงิ จากสภาพปัจจบุ ันทป่ี ระเทศกาลงั เผชิญปญั หาต่างๆ ทั้ง ดา้ นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การพฒั นาท่ียงั่ ยืนจาเปน็ ตอ้ งมีการพฒั นา แบบบรู ณาการ ซึ่งต้องเน้นการพัฒนา ที่ ตวั คน ให้คนมีการพัฒนาคุณภาพและสมรรถนะ ให้สามารถมคี วามคิดริเร่ิม สรา้ งสรรค์ อันจะเป็นการเพ่ิมขีด ความสามารถของชุมชน สังคมและของชาติในที่สุด และนาไปสู่การพัฒนาสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมอื ง และสง่ิ แวดล้อมให้เกิดความสมดุลสาหรับความจริงในปัจจุบันคือ ตัวคน ถือเป็นปัจจัยสาคัญท่ีจะทาให้ สังคมเจริญก้าวหนา้ ไปดว้ ยดี เพราะฉะนนั้ การจะทาให้สังคมเจรญิ กา้ วหนา้ ไปดว้ ยดนี น้ั จะตอ้ งมกี ารพัฒนาท่ี ตัวคน เปน็ สาคญั ตัวคนในสถานศกึ ษาได้แก่ นกั เรียน การที่จะทาให้นักเรยี นเปน็ ทรัพยากรทมี่ ีคณุ ภาพตอ้ งมกี ารปลกู ฝังใน หลายๆด้าน ไม่วา่ จะเปน็ พฤติกรรมทางการเรียน พฤติกรรมทางการแต่งกาย หรือพฤติกรรมอื่นๆ ท่ีมีส่วนให้เกิด การพฒั นาอย่างเปน็ ระบบ เกิดการคดิ ดี ทาดี โดยการเริ่มตนที่พฤติกรรมท่ีดีของนักเรียนท่ีสบปัญหาต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นการออกกลางคัน เรียนไม่ทันเพื่อน เวลาเรียนไม่พอ ฯลฯ จากการตรวจสอบพบว่าเกิดจากพฤติกร รม บางอย่างที่นักเรียนไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องจากสภาพดังกล่าว ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะทาการศึกษาถึง พฤติกรรมทม่ี ีผลกระทบตอ่ การเรยี นของนักเรยี น เพือ่ จาทราบว่าควรหาทางแนวทางและวิธีการแกไ้ ขอย่างไร และมี การพฒั นาในจุดใด เพื่อให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมที่ดีข้ึน และไม่กระทบต่อการเรียนของนักเรียนนอกจากนี้ยังสามารถ นางานวจิ ยั นไ้ี ปใชแ้ กไ้ ขหรอื ป้องกนั ปญั หาไดอ้ ยา่ งตรงประเด็น และมีผลตอ่ การเรยี นของนักเรียนต่อไป 1คณะครุศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ *E-mail : jame12341964@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 312 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 1.2 วตั ถุประสงค์ของการวจิ ัย 1.2.1 เพ่ือศึกษาถึงพฤติกรรมที่มีผลกระทบต่อการเรียนของนักเรียนระดับช้ัน ปวช.1-3 ประเภทวิชา อตุ สาหกรรม สาขาชา่ งยนต์ 1.2.2 เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมทางการเรียนของนักเรียนปวช.1-3 ประเภทวิชา อตุ สาหกรรม สาขาชา่ งยนต์ 1.3 ขอบเขตของการวจิ ยั 1.3.1 การวจิ ยั นีม้ งุ่ ศึกษาพฤตกิ รรมการเรียนของนกั เรยี น ปวช.1-3 ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาช่าง ยนต์ โดยศกึ ษาถึงพฤตกิ รรมการแต่งกายทรงผม พฤตกิ รรมการมาสายพฤตกิ รรมการขาดเรียนและพฤตกิ รรมทวั่ ไป 1.3.2 ประชากรท่ีจะศึกษา ได้แก่ นักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือหนองคาย ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม ระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ชัน้ ปีที่ 1-3 สาขาชา่ งยนต์ 1.3.3 ช่วงเวลาในการเกบ็ ข้อมลู คือเดือน มิถุนายน - กันยายน พ.ศ.2560 1.3.4 ตัวแปรท่จี ะศึกษา มดี ังนี้ 1.3.4.1 ตวั แปรอสิ ระ ประกอบด้วยตวั แปร 4 คือ 1.3.4.1 พฤติกรรมการแตง่ กาย ทรงผม 1.3.4.2 พฤตกิ รรมการมาสาย 1.3.4.3 พฤติกรรมการขาดเรยี น 1.3.4.4 พฤตกิ รรมทวั่ ไป 1.3.4.2 ตัวแปรตาม คือพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชน้ั ปีท่ี 1-3 สาขาช่างยนต์ 1.3.5 เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นการวจิ ยั ไดแ้ ก่ แบบสอบถาม 1.4 คานยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 1.4.1 พฤติกรรม หมายถึง การกระทา หรือการแสดงออกซึ่งการกระทาของนักเรียนในแต่ละคนซ่ึง อาจจะมคี วามแตกต่างกันหรอื คลา้ ยกัน 1.4.2 นักเรียน หมายถึง ผู้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนท่ีได้ข้ึนทะเบียนเป็นนักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมการตอ่ เรือหนองคาย 1.4.3 ระดับการศึกษา หมายถึง วุฒิทางการศึกษาของนักเรียนท่ีทาการวิจัย ได้แก่ ระดับ ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) 1.4.4 ประเภทวชิ า หมายถึง การแบ่งหลกั สูตรการศึกษาในวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อ เรอื หนองคายซึ่งสามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ ดงั น้ี 1.4.4.1 พณิชยกรรม 1.4.4.2 อุตสาหกรรม 1.5 สถานท่ีดาเนินการวจิ ยั วิทยาลัยเทคโนโลยแี ละอุตสาหกรรมการตอ่ เรอื หนองคาย 1.6 ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ 1.6.1 เพือ่ ทราบถึงพฤตกิ รรมที่มผี ลกระทบต่อการเรียนของนกั เรียน ระดับช้ัน ปวช ช้ันปีท่ี 1-3 สาขา ชา่ งยนต์ 1.6.2 เพอ่ื ทราบถึงปจั จัยท่มี ีอทิ ธิพลตอ่ พฤตกิ รรมทางการเรยี นของนกั เรียนระดบั ชน้ั ปวช.1-3 ประเภท วชิ าอตุ สาหกรรม สาขาช่างยนต์---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 313 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 1.6.3 เพื่อสามารถแกป้ ัญหาการเรียนไดอ้ ยา่ งตรงประเด็น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 314 RMUTI EDUCON 2018


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook