Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน คณิต ป.3

แผนการสอน คณิต ป.3

Published by nattaporn Wongruedeejaroenkun, 2022-11-16 16:35:21

Description: แผนการสอน คณิต ป.3

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลาเรยี น 15 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 เร่อื ง การเปรียบเทยี บระยะเวลา วนั ท่ี 4 เดือน ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น ครสู นทนำกับนกั เรียนเก่ียวกบั กำรนำกำรเปรียบเทยี บ กำรเปรียบเทียบระยะเวลำเปน็ ชัว่ โมงและนำที ถ้ำจำนวนชวั่ โมงไม่เทำ่ กัน จำนวนช่วั โมงมำกกว่ำ ระยะเวลำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ระยะเวลำน้ันจะมำกกว่ำ ถ้ำจำนวนชวั่ โมงเทำ่ กัน ขั้นสอน จำนวนนำทมี ำกกว่ำ ระยะเวลำนน้ั จะมำกกวำ่ 1. ครูยกตวั อยำ่ งสถำนกำรณ์ที่เป็นกำรเปรยี บเทยี บระยะเวลำ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตำมหนงั สือเรยี นหนำ้ 113 ครถู ำมนักเรียนวำ่ จำกสถำนกำรณ์ตอ้ ง นำเวลำใดมำเปรียบเทียบกนั จำกนน้ั ครูแนะนำว่ำให้เปรียบเทยี บ 1. อธิบำยกำรเปรียบเทยี บระยะเวลำท่ีมีหน่วย จำนวนทีม่ ีหนว่ ยเหมอื นกัน จะได้ว่ำ 5 ชัว่ โมง มำกกว่ำ 3 ช่ัวโมง เดียวกันได้ (K) ดังนน้ั 5 ชัว่ โมง 39 นำที มำกกว่ำ 3 ชั่วโมง 58 นำที 2. เปรยี บเทียบระยะยะทมี่ ีหนว่ ยเดียวกนั ได้ (P) 2. ครยู กตัวอย่ำงสถำนกำรณท์ ี่ 2 ตำมหนังสือเรยี นหน้ำ 113 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้ำทท่ี ี่ได้รับมอบหมำย (A) ครูใหน้ ักเรยี นสงั เกตว่ำ ระยะเวลำ 3 ช่วั โมง 8 นำทีกับ ระยะเวลำ 3 ช่วั โมง 56 นำที มจี ำนวนช่ัวโมงเทำ่ กนั คือ 3 ช่ัวโมง ถ้ำจำนวน ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ช่วั โมงเทำ่ กันจะเปรยี บเทียบกันไดอ้ ย่ำงไร ครูใหน้ กั เรยี นสรปุ วำ่ ระยะเวลำ 3 ชว่ั โมง 8 นำที น้อยกว่ำ ระยะเวลำ 3 ชวั่ โมง 56 นำที • กำรสอ่ื สำรและกำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ ดงั นน้ั ออมสนิ ใชเ้ วลำเดินทำงไปเทยี่ วสวนน้ำ นอ้ ยกว่ำชว่ ยแม่ • กำรเช่อื มโยง ทำงำนบ้ำน คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 3. นกั เรยี นรว่ มกนั เปรียบเทียบระยะเวลำในหนังสอื เรียนหน้ำ • มวี นิ ยั 114 • ใฝ่เรยี นรู้ • มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน 4. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 7 กำรเปรยี บเทียบ ระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวิชำ ขั้นสรุป ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ส่ิงทไี่ ด้เรียนรรู้ ่วมกนั สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ • หนงั สอื เรียน ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เลม่ ท่ี 1 บนั ทกึ หลังการสอน • ใบงำนที่ 7 เรอื่ ง กำรเปรยี บเทยี บระยะเวลำ การวัดและประเมนิ ผล ลงช่ือ ฐพร ลงชอ่ื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ วิธีการวดั ครูผู้สอน ใบงำนท่ี 7 1. ตรวจใบงำน ผูอ้ ำนวยกำร 2. สังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 15 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เร่ือง การเปรียบเทียบระยะเวลา วนั ท่ี 5 เดือน ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น ครูทบทวนควำมรู้ เรอ่ื ง กำรเปรียบเทยี บระยะเวลำโดยใช้ กำรเปรยี บเทียบระยะเวลำทมี่ หี นว่ ยต่ำงกันตอ้ ง เปลี่ยนหนว่ ยใหเ้ ปน็ หน่วยเดียวกนั ก่อนแลว้ นำมำ ควำมสัมพันธ์ระหวำ่ งช่ัวโมงกับนำที โดยนำบตั รข้อควำมแสดงเวลำ เปรียบเทยี บกนั มำใหน้ กั เรียนพจิ ำรณำ ขน้ั สอน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ครูยกตวั อยำ่ งสถำนกำรณ์กำรเปรยี บเทียบระยะเวลำทตี่ อ้ ง 1. อธบิ ำยกำรเปรยี บเทยี บระยะเวลำทีม่ หี นว่ ย เปล่ยี นหน่วยตำมหนงั สอื เรียนหนำ้ 115 ครแู นะนำว่ำกำร ต่ำงกนั ได้ (K) เปรียบเทยี บระยะเวลำทมี่ ีหนว่ ยตำ่ งกัน จงึ ต้องเปล่ยี นหน่วยให้ เหมือนกันก่อนแลว้ จึงนำมำเปรยี บเทยี บกัน ครใู หน้ กั เรยี นเปล่ยี น 2. เปรยี บเทียบระยะยะทีม่ ีหน่วยตำ่ งกนั ได้ (P) หน่วยเวลำให้เป็นหน่วยเดียวกนั ดังนัน้ นกั เรยี นสำมำรถเปล่ยี น 3. รับผิดชอบตอ่ หนำ้ ทีท่ ี่ได้รบั มอบหมำย (A) หน่วยเวลำจำกนำทีเปน็ ช่ัวโมงได้ดงั น้ี เนอื่ งจำก 60 นำที เท่ำกับ 1 ชว่ั โมง ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. ครูให้นกั เรียนฝกึ กำรเปรยี บเทียบระยะเวลำทม่ี ีหน่วยต่ำงกนั • กำรส่ือสำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ ท่ีเปน็ จำนวนมำกขึน้ ตำมหนงั สอื เรียนหน้ำ 116 • กำรเช่ือมโยง 3. นักเรยี นชว่ ยกันบอกระยะเวลำท่ีใบบัวใชท้ ำกจิ กรรมว่ำ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ มำกกวำ่ นอ้ ยกว่ำ หรอื เท่ำกบั ระยะเวลำทขี่ นุ ใชท้ ำกิจกรรมตำม • มีวนิ ัย หนังสือเรียนหนำ้ 117 • ใฝ่เรยี นรู้ • มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน 4. นกั เรียนตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกันตอบคำถำมใน หนงั สือเรยี นหน้ำ 118 5. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 8 กำรเปรียบเทยี บ ระยะเวลำ ลงในสมดุ รำยวชิ ำ ขนั้ สรุป ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนังสอื เรียน ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เล่มที่ 1 บนั ทกึ หลังการสอน • ใบงำนท่ี 8 เรอ่ื ง กำรเปรียบเทยี บระยะเวลำ การวดั และประเมินผล ลงช่อื ฐพร ลงชอื่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ วิธีการวัด ครูผู้สอน ใบงำนที่ 8 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน 3. สังเกตคณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 15 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เรอ่ื ง การอา่ นบนั ทกึ กิจกรรมทร่ี ะบเุ วลา วันท่ี S เดือน ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน ครสู นทนำกับนกั เรยี นเก่ียวกบั กำรบันทึกกิจกรรมในชีวิตจรงิ ว่ำ บนั ทึกกจิ กรรมทร่ี ะบุเวลำโดยทวั่ ไปประกอบด้วย ช่ือบนั ทกึ วันท่ี เดอื น พ.ศ. จะอยสู่ ่วนบนของบันทกึ เกดิ ประโยชน์อย่ำงไรบำ้ ง เวลำจะอยดู่ ้ำนซำ้ ยของบนั ทึก และกิจกรรมต่ำง ๆ ขั้นสอน จะอยู่ดำ้ นขวำของบันทึก ซึ่งรำยละเอยี ดของบนั ทกึ ขึ้นอยู่กับควำมตอ้ งกำรของผ้บู นั ทกึ 1. ครตู ิดบัตรภำพบนั ทึกกจิ กรรมของแกว้ ตำตำมหนังสอื เรียน หน้ำ 119 บนกระดำน ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ว่ำ บนั ทกึ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ กิจกรรมที่ระบเุ วลำโดยทั่วไปประกอบด้วย ชื่อบนั ทึก วันท่ี เดอื น พ.ศ. จะอยู่ส่วนบนของบันทกึ เวลำจะอยู่ดำ้ นซำ้ ยของบันทกึ และ 1. อธิบำยเกีย่ วกบั กำรอ่ำนบนั ทึกกิจกรรมหรือ กจิ กรรมต่ำงๆ จะอยู่ด้ำนขวำของบันทึก รำยละเอียดของบันทกึ เหตกุ ำรณต์ ำ่ งๆ ที่ระบุเวลำได้ (K) ขน้ึ อยู่กบั ควำมต้องกำรของผบู้ นั ทกึ 2. อำ่ นบนั ทกึ กจิ กรรมหรือเหตุกำรณต์ ่ำงๆ ทร่ี ะบุ 2. นกั เรียนร่วมกันอ่ำนบันทกึ กำรไปเทย่ี วชลบรุ ขี องขนุ พร้อม เวลำได้ (P) ท้ังตอบคำถำมตำมหนังสือเรยี นหน้ำ 120 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้ำท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมำย (A) 3. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 9 กำรอำ่ นบันทกึ กิจกรรมท่ี ระบุเวลำ ลงในสมุดรำยวชิ ำ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ขัน้ สรุป ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรียนรู้ร่วมกัน • กำรสอ่ื สำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ • กำรเชอ่ื มโยง คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ บนั ทกึ หลังการสอน • มีวินยั ลงชอ่ื ฐพร ลงชอ่ื ) • ใฝเ่ รยี นรู้ ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( • มุง่ มน่ั ในกำรทำงำน ครผู สู้ อน ผูอ้ ำนวยกำร สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ • หนังสือเรยี น ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 3 เล่มที่ 1 • ใบงำนที่ 9 เร่อื ง กำรอำ่ นบนั ทึกกจิ กรรมท่ีระบุ เวลำ การวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื ท่ีใช้ วิธีการวัด ใบงำนที่ 9 1. ตรวจใบงำน 2. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี น 3. สงั เกตคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 10 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 15 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 เวลา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เรอื่ ง การเขียนบันทกึ กจิ กรรมท่รี ะบุเวลา วันท่ี 9 เดือน ส.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน ใหน้ ักเรียนทบทวนกำรอ่ำนบันทึกกิจกรรมหรอื เหตุกำรณ์ตำ่ ง ๆ บนั ทกึ กิจกรรมทีร่ ะบเุ วลำโดยทวั่ ไปประกอบด้วย ชอ่ื บันทึก วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. จะอยสู่ ่วนบนของบนั ทกึ ทร่ี ะบเุ วลำ โดยครตู ดิ แถบบันทึกเวลำบนกระดำนแลว้ ให้นกั เรียน เวลำจะอยู่ด้ำนซ้ำยของบนั ทกึ และกิจกรรมตำ่ ง ๆ รว่ มกันตอบคำถำม จะอยูด่ ำ้ นขวำของบนั ทกึ ซง่ึ รำยละเอยี ดของบนั ทึก ข้ันสอน ขึน้ อยกู่ บั ควำมต้องกำรของผ้บู ันทกึ 1. ครูแนะนำกำรเขียนบันทึกกิจกรรมทรี่ ะบุเวลำ โดย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ยกตวั อย่ำงจำกกำรบันทึกงำ่ ย ๆ ก่อน เชน่ มีกิจกรรม 3 - 4 กิจกรรม และเปน็ กำรบนั ทึกภำยในวันเดียวตำมหนังสือเรียนหนำ้ 1. อธิบำยเกยี่ วกับกำรเขยี นบนั ทกึ กจิ กรรมหรอื 121 ครูและนกั เรียนร่วมกันเขยี นบนั ทึกกิจกรรมที่ระบเุ วลำโดย เหตกุ ำรณต์ ำ่ งๆ ท่รี ะบเุ วลำได้ (K) กำหนดนำฬกิ ำแสดงเวลำกำรทำกจิ กรรมต่ำงๆ โดยใช้กำรถำม - ตอบ แลว้ ให้เขยี นลงในสมุด จำกนั้นนกั เรียนชว่ ยกนั เขียนบนั ทกึ 2. เขยี นบนั ทึกกิจกรรมหรือเหตุกำรณต์ ่ำงๆ ท่รี ะบุ กิจกรรมท่ีระบเุ วลำในกรอบทำ้ ยหนงั สอื เรยี นหนำ้ 121 เวลำได้ (P) 2. นักเรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน 3. รับผดิ ชอบต่อหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำย (A) หนงั สือเรยี นหน้ำ 122 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 3. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 10 กำรเขยี นบนั ทกึ กจิ กรรม ทร่ี ะบเุ วลำ ลงในสมดุ รำยวิชำ • กำรสื่อสำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ข้ันสรุป • กำรเชือ่ มโยง ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกนั คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ บันทกึ หลงั การสอน • มีวนิ ยั ลงชื่อ ฐพร ลงชอ่ื ) • ใฝเ่ รียนรู้ ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( • มงุ่ ม่ันในกำรทำงำน ครูผสู้ อน ผู้อำนวยกำร สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนังสือเรยี น ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนท่ี 10 เรื่อง กำรเขยี นบันทกึ กจิ กรรมทรี่ ะบุ เวลำ การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ วธิ ีการวัด ใบงำนท่ี 10 1. ตรวจใบงำน 2. สงั เกตพฤติกรรมของผู้เรียน 3. สังเกตคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 11 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 15 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เวลา เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เร่อื ง โจทย์ปัญหาการบวกเกีย่ วกบั เวลาและระยะเวลา วนั ท่ี 10 เดอื น ส.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน ครูทบทวนควำมรูเ้ ก่ยี วกับเวลำ โดยแสดงบัตรคำ 20 นำฬิกำ กำรแก้โจทยป์ ัญหำทำได้โดยอ่ำนทำควำมเขำ้ ใจ ปญั หำ วำงแผนแกป้ ัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ 19 นำที จำกนนั้ ครใู ห้ตวั แทนนักเรยี นออกมำหมนุ เขม็ นำฬกิ ำ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ จำลองใหต้ รงกบั เวลำทก่ี ำหนด ข้นั สอน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ครูติดแถบโจทย์ปญั หำบนกระดำนตำมหนังสือเรียนหน้ำ 1. วเิ ครำะห์โจทย์ปญั หำกำรบวกเกี่ยวกบั เวลำและ 124 จำกนน้ั ครูถำมนกั เรียนวำ่ โจทย์ถำมอะไร โจทย์บอกอะไรจำก ระยะเวลำได้ (K) ทโ่ี จทยถ์ ำมแมใ่ ช้เวลำทง้ั หมดเทำ่ ไร เวลำท้งั หมดมีอะไรบ้ำง นกั เรยี นจะหำคำตอบไดอ้ ยำ่ งไร ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเขียนแสดง 2. แก้โจทยป์ ัญหำกำรบวกเกยี่ วกบั เวลำและ วธิ หี ำคำตอบโดยในกำรเขียนแสดงวธิ หี ำคำตอบหน่วยเดียวกันต้อง ระยะเวลำได้ (P) เขยี นให้ตรงกนั และหำผลบวกในหน่วยเดียวกัน จำกนั้นนักเรียน ร่วมกันเขยี นแสดงวธิ ีหำคำตอบในกรอบทำ้ ยหนังสือเรียนหนำ้ 124 3. รับผิดชอบต่อหน้ำทที่ ี่ได้รบั มอบหมำย (A) 2. นักเรียนชว่ ยกันเขียนแสดงวิธหี ำคำตอบข้อ 2 ขอ้ 5 และขอ้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 6 จำกหนังสือเรยี นหน้ำ 125 • กำรแกป้ ญั หำ • กำรสือ่ สำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ 3. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 11 โจทย์ปญั หำกำรบวก • กำรเชือ่ มโยง เก่ียวกับเวลำและระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวิชำ • กำรให้เหตผุ ล ขนั้ สรุป ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปสง่ิ ท่ไี ด้เรียนรูร้ ว่ มกนั คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ • มวี นิ ยั • ใฝ่เรียนรู้ • ม่งุ มัน่ ในกำรทำงำน สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ บันทึกหลงั การสอน • หนงั สือเรียน ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เล่มท่ี 1 • ใบงำนท่ี 11 เรอื่ ง โจทยป์ ญั หำกำรบวกเกีย่ วกบั เวลำและระยะเวลำ การวดั และประเมนิ ผล ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครือ่ งมือท่ีใช้ วิธกี ารวดั ครผู ูส้ อน ใบงำนที่ 11 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผูเ้ รียน 3. สังเกตคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 15 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาการลบเกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา วันที่ 11 เดอื น ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูทบทวนควำมรูเ้ รื่อง โจทย์ปัญหำกำรบวกเกย่ี วกบั เวลำ กำรแก้โจทยป์ ัญหำทำไดโ้ ดยอำ่ นทำควำมเขำ้ ใจ ปญั หำ วำงแผนแก้ปัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกน้นั ครใู ห้นักเรยี นแขง่ ขันกันตอบปัญหำโดยครูเล่ำสถำนกำรณ์ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบ โจทยป์ ญั หำใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ให้นักเรยี นหำคำตอบ ขั้นสอน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ครูติดแถบโจทยป์ ญั หำบนกระดำนตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 1. วิเครำะหโ์ จทยป์ ญั หำกำรลบเกี่ยวกับเวลำและ 123 จำกนัน้ ครถู ำมนักเรยี นว่ำ โจทย์ถำมอะไร โจทยบ์ อกอะไร ระยะเวลำได้ (K) กำรเปรยี บเทียบระยะเวลำนักเรยี นนำเวลำใดกบั เวลำใดมำ เปรียบเทียบกัน ระยะเวลำใดน้อยกว่ำ หำคำตอบได้อยำ่ งไร ครู 2. แกโ้ จทย์ปญั หำกำรลบเก่ียวกบั เวลำและ และนกั เรยี นรว่ มกนั เขยี นแสดงวิธหี ำคำตอบโดยในกำรเขียนแสดง ระยะเวลำได้ (P) วิธหี ำคำตอบหนว่ ยเดยี วกันต้องเขียนให้ตรงกนั และหำผลลบใน หนว่ ยเดยี วกนั จำกน้ันนกั เรียนร่วมกนั เขยี นแสดงวิธีหำคำตอบใน 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้ำทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมำย (A) กรอบท้ำยหนังสือเรยี นหนำ้ 123 ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 2. นกั เรียนช่วยกนั เขยี นแสดงวธิ หี ำคำตอบขอ้ 1 ขอ้ 3 และข้อ 4 จำกหนังสือเรียนหน้ำ 125 • กำรแกป้ ญั หำ • กำรสื่อสำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 3. นกั เรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยร่วมกนั ตอบคำถำมใน • กำรเช่อื มโยง หนังสอื เรียนหน้ำ 126 • กำรให้เหตผุ ล 4. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 12 โจทยป์ ญั หำกำรลบ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ เกีย่ วกับเวลำและระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวชิ ำ • มวี นิ ยั ขนั้ สรุป • ใฝ่เรยี นรู้ • มงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ บันทกึ หลงั การสอน • หนงั สอื เรียน ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนท่ี 12 เร่ือง โจทย์ปญั หำกำรลบเกีย่ วกบั เวลำและระยะเวลำ การวัดและประเมินผล ลงช่อื ฐพร ลงชอื่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ วธิ กี ารวัด ครูผูส้ อน ใบงำนท่ี 12 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผ้เู รยี น 3. สงั เกตคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลาเรยี น 15 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เวลา เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เร่อื ง โจทยป์ ญั หาการคณู เก่ยี วกบั เวลาและระยะเวลา วันท่ี 15 เดือน ส.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น ครทู บทวนควำมรู้เรื่อง โจทย์ปัญหำกำรลบเก่ียวกับเวลำ กำรแก้โจทย์ปัญหำทำไดโ้ ดยอ่ำนทำควำมเขำ้ ใจ ปัญหำ วำงแผนแก้ปญั หำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกนัน้ ครูใหน้ ักเรียนแข่งขนั กันตอบปัญหำโดยครเู ลำ่ สถำนกำรณ์ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบ โจทยป์ ัญหำให้นกั เรียนฟงั แลว้ ให้นกั เรยี นหำคำตอบ ขั้นสอน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ครูตดิ แถบโจทย์ปัญหำบนกระดำนตำมหนงั สือเรียนหนำ้ 1. วเิ ครำะห์โจทยป์ ญั หำกำรคูณเก่ียวกบั เวลำและ 127 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สนทนำจำกสว่ นท่โี จทย์ถำมและสว่ นท่ี ระยะเวลำได้ (K) โจทยบ์ อก นกั เรียนสำมำรถหำคำตอบได้อยำ่ งไร ครแู ละนกั เรียน รว่ มกนั เขียนแสดงวธิ หี ำคำตอบ โดยกำรเขยี นแสดงวธิ ีหำคำตอบ 2. แกโ้ จทย์ปญั หำกำรคูณเกีย่ วกบั เวลำและ ตำมหนงั สือเรียนหนำ้ 127 จำกน้นั นักเรยี นร่วมกนั เขียนแสดงวิธีหำ ระยะเวลำได้ (P) คำตอบในกรอบท้ำยหนังสือเรยี นหนำ้ 127 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หนำ้ ทท่ี ่ีได้รบั มอบหมำย (A) 2. ครตู ดิ แถบโจทยป์ ญั หำบนกระดำนตำมหนังสือเรียนหนำ้ 128 ครูและนกั เรียนรว่ มกันสนทนำจำกสว่ นที่โจทยถ์ ำมและส่วนที่ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ โจทยบ์ อก นักเรียนสำมำรถหำคำตอบได้อยำ่ งไร ครูและนักเรียน ร่วมกันเขียนแสดงวิธหี ำคำตอบ โดยกำรเขยี นแสดงวิธีหำคำตอบ • กำรแกป้ ัญหำ ตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 128 จำกนนั้ นักเรียนรว่ มกันเขยี นแสดงวิธหี ำ • กำรสื่อสำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ คำตอบในกรอบทำ้ ยหนงั สอื เรียนหนำ้ 128 • กำรเชือ่ มโยง • กำรใหเ้ หตุผล 3. นกั เรียนชว่ ยกนั เขยี นแสดงวธิ ีหำคำตอบขอ้ 1 ขอ้ 4 และขอ้ 5 จำกหนังสือเรียนหน้ำ 131 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ • มีวนิ ยั 4. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 13 โจทย์ปัญหำกำรคณู • ใฝเ่ รยี นรู้ เก่ียวกับเวลำและระยะเวลำ ลงในสมดุ รำยวิชำ • มงุ่ มั่นในกำรทำงำน ขน้ั สรปุ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีได้เรียนรรู้ ่วมกัน สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ บนั ทึกหลงั การสอน • หนังสือเรียน ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนที่ 13 เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หำกำรคณู เกีย่ วกบั เวลำและระยะเวลำ การวดั และประเมินผล ลงช่ือ ฐพร ลงช่ือ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่อื งมือที่ใช้ วธิ กี ารวัด ครูผสู้ อน ใบงำนท่ี 13 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผ้เู รยี น 3. สงั เกตคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 14 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรียน 15 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เรอื่ ง โจทย์ปัญหาการหารเกยี่ วกบั เวลาและระยะเวลา วันที่ 16 เดือน ส.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น ครทู บทวนควำมรู้เรื่อง โจทยป์ ัญหำกำรคณู เกย่ี วกบั เวลำ กำรแก้โจทยป์ ญั หำทำไดโ้ ดยอำ่ นทำควำมเขำ้ ใจ ปญั หำ วำงแผนแก้ปัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกนน้ั ครใู ห้นักเรยี นแขง่ ขันกันตอบปญั หำโดยครูเลำ่ สถำนกำรณ์ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ โจทยป์ ัญหำใหน้ ักเรียนฟัง แล้วให้นักเรยี นหำคำตอบ ข้นั สอน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ครตู ดิ แถบโจทยป์ ัญหำบนกระดำนตำมหนงั สอื เรยี นหน้ำ 1. วิเครำะห์โจทยป์ ัญหำกำรหำรเก่ยี วกบั เวลำและ 129 ครูและนักเรยี นรว่ มกันสนทนำจำกสว่ นทโี่ จทย์ถำมและสว่ นที่ ระยะเวลำได้ (K) โจทยบ์ อก นกั เรียนสำมำรถหำคำตอบได้อยำ่ งไร ครูและนักเรียน รว่ มกนั เขยี นแสดงวธิ หี ำคำตอบ โดยกำรเขยี นแสดงวธิ ีหำคำตอบ 2. แกโ้ จทยป์ ัญหำกำรหำรเก่ียวกับเวลำและ ตำมหนังสือเรยี นหน้ำ 129 จำกนั้นนกั เรียนร่วมกันเขียนแสดงวิธหี ำ ระยะเวลำได้ (P) คำตอบในกรอบทำ้ ยหนงั สือเรียนหนำ้ 129 3. รับผดิ ชอบต่อหน้ำท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมำย (A) 2. ครูตดิ แถบโจทย์ปัญหำบนกระดำนตำมหนังสอื เรยี นหนำ้ 130 ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนำจำกส่วนที่โจทยถ์ ำมและส่วนที่ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ โจทยบ์ อก นักเรียนสำมำรถหำคำตอบได้อย่ำงไร ครูและนกั เรยี น ร่วมกันเขียนแสดงวธิ ีหำคำตอบ โดยกำรเขยี นแสดงวิธีหำคำตอบ • กำรแก้ปัญหำ ตำมหนงั สือเรียนหน้ำ 130 จำกนัน้ นักเรียนร่วมกนั เขียนแสดงวธิ หี ำ • กำรสื่อสำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ คำตอบในกรอบท้ำยหนงั สอื เรยี นหน้ำ 130 • กำรเชอื่ มโยง • กำรให้เหตุผล 3. นักเรียนชว่ ยกนั เขียนแสดงวิธหี ำคำตอบขอ้ 2 ขอ้ 3 และขอ้ 6 จำกหนังสอื เรยี นหนำ้ 131 คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ • มีวนิ ัย 4. นักเรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยร่วมกันตอบคำถำมใน • ใฝ่เรียนรู้ หนงั สือเรียนหน้ำ 132 • มุ่งม่นั ในกำรทำงำน 5. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 14 โจทยป์ ัญหำกำรหำร สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ เก่ยี วกับเวลำและระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวชิ ำ • หนงั สอื เรียน ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เล่มท่ี 1 ขนั้ สรุป • ใบงำนที่ 14 เรื่อง โจทย์ปญั หำกำรหำรเกีย่ วกับ ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ร่วมกัน เวลำและระยะเวลำ บันทึกหลังการสอน การวดั และประเมินผล ลงชอ่ื ฐพร ลงช่อื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่อื งมอื ท่ีใช้ วธิ กี ารวดั ครผู สู้ อน ใบงำนที่ 14 1. ตรวจใบงำน ผ้อู ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น 3. สงั เกตคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลาเรียน 15 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เวลา เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เร่ือง โจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั เวลาและระยะเวลา วนั ที่ 1ไ เดือน ส.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน ครทู บทวนควำมรู้เรอื่ ง โจทย์ปัญหำกำรหำรเกย่ี วกับเวลำ กำรแก้โจทย์ปญั หำทำไดโ้ ดยอ่ำนทำควำมเขำ้ ใจ ปัญหำ วำงแผนแก้ปัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นแขง่ ขันกันตอบปญั หำโดยครูเล่ำสถำนกำรณ์ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ โจทยป์ ญั หำให้นักเรยี นฟงั แลว้ ใหน้ ักเรยี นหำคำตอบ ข้ันสอน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ครตู ิดแถบโจทยป์ ญั หำบนกระดำนตำมหนงั สอื เรียนหน้ำ 1. วิเครำะหโ์ จทยป์ ัญหำเกยี่ วกับเวลำและระยะเวลำ 133 ครูถำมนักเรียนวำ่ โจทยถ์ ำมอะไร โจทย์บอกอะไร ครูและ ได้ (K) นกั เรยี นร่วมกันเขยี นแสดงวธิ หี ำคำตอบ จำกนั้นนกั เรยี นชว่ ยเขยี น แสดงวิธหี ำคำตอบในกรอบทำ้ ยหนังสือเรียนหน้ำ 133 2. แก้โจทย์ปัญหำเกี่ยวกับเวลำและระยะเวลำได้ (P) 3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้ำทที่ ่ีได้รับมอบหมำย (A) 2. ครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหำหรอื เขยี นโจทย์ปัญหำบนกระดำน ตำมหนงั สอื เรยี นหนำ้ 134 จำกน้ันให้นักเรียนร่วมกนั เขียนแสดงวธิ ี ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หำคำตอบพรอ้ มทง้ั เขยี นหรอื ตดิ บัตรภำพกำรหำเวลำส้ินสดุ โดยใช้ • กำรแก้ปัญหำ เส้นจำนวนโดยเริ่มจำกนับระยะเวลำเป็นช่ัวโมง • กำรส่อื สำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ • กำรเชือ่ มโยง 3. ครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหำหรือเขยี นโจทยป์ ญั หำบนกระดำน • กำรใหเ้ หตผุ ล ตำมหนงั สือเรียนหน้ำ 135 ใหช้ ่วยกนั เขียนแสดงวิธีหำเวลำเริม่ ตน้ พร้อมทั้งเขยี นหรือตดิ บัตรภำพ กำรหำเวลำเรมิ่ ต้นโดยใชเ้ สน้ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ จำนวน ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เขียนแสดงวิธีหำคำตอบ จำกนน้ั • มวี ินัย นกั เรยี นชว่ ยกันเขียนแสดงวธิ หี ำคำตอบในกรอบท้ำยหนงั สือเรยี น • ใฝเ่ รยี นรู้ หนำ้ 135 • มงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน 3. นักเรยี นตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยร่วมกันตอบคำถำมใน สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ หนังสือเรียนหนำ้ 136 • หนงั สอื เรยี น ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนที่ 15 เรื่อง โจทย์ปญั หำเก่ยี วกับเวลำและ 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนท่ี 15 โจทยป์ ญั หำเกี่ยวกับเวลำ และระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวิชำ ระยะเวลำ ขั้นสรุป ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ สงิ่ ท่ไี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน บันทึกหลังการสอน การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือท่ใี ช้ วธิ ีการวดั ลงช่อื ฐพร ลงชอื่ ใบงำนที่ 15 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน ครูผู้สอน 3. สังเกตคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ ) ผูอ้ ำนวยกำร ณั

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 15 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 เวลา เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรอื่ ง การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที วันท่ี 18 เดอื น ส.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น นกั เรียนร่วมกันตอบคำถำมเพอื่ เตรียมควำมพร้อมเรื่องเวลำ กำรบอกเวลำเป็นนำฬกิ ำและนำที - ถ้ำเป็นนำฬิกำแบบเข็มให้พจิ ำรณำทต่ี ำแหน่ง ตำมหนังสือเรยี นหนำ้ 92 ครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบควำม เขม็ สัน้ และเข็มยำว เขม็ ส้ันบอกเวลำเปน็ นำฬิกำ เขม็ ถกู ตอ้ ง ยำวบอกเวลำเปน็ นำที ขน้ั สอน - ถำ้ เป็นนำฬกิ ำแบบใชต้ วั เลข ตวั เลขหนำ้ เครื่องหมำย : แสดงเวลำเป็นนำฬกิ ำตัวเลขหลงั 1. ครูทบทวนกำรบอกเวลำเป็นนำฬกิ ำและนำที (ชว่ ง 5 นำท)ี เครอ่ื งหมำย : แสดงเวลำเป็นนำที โดยเร่มิ จำกให้นักเรียนสงั เกตนำฬิกำจำลองแบบเขม็ ว่ำ บนหน้ำปัด นำฬิกำ ครหู มุนเข็มยำวช้ีตวั เลขไปทีละชอ่ งใหญ่ ใหน้ ักเรยี นบอก จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เวลำไปเรอ่ื ยๆ จนถงึ เวลำ 7 นำฬกิ ำ 30 นำที แลว้ หมุนเข็มยำวไป อีก 1 ช่องเลก็ ครูถำมนกั เรียนอำ่ นเวลำได้อยำ่ งไร ครูหมุนเขม็ ยำว 1. อธบิ ำยกำรบอกเวลำเป็นนำฬกิ ำและนำทีได้ (K) ช้ีตวั เลข 7 กบั 2 ชอ่ งเลก็ แล้วถำมนักเรยี นวำ่ อำ่ นเวลำไดอ้ ยำ่ งไร 2. บอกเวลำเปน็ นำฬิกำและนำทีได้ (P) จำกนนั้ ให้นักเรียนชว่ ยกนั บอกเวลำจำกหนำ้ ปัดนำฬกิ ำท้ำยหนงั สือ 3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้ำท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมำย (A) เรยี นหน้ำ 93 ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. ครูตดิ บตั รภำพนำฬิกำแบบเขม็ และแบบใชต้ ัวเลขแสดงเวลำ อยใู่ นภำพด้วยตำมหนังสอื เรียนหน้ำ 94 ครูถำมนักเรยี นวำ่ นำฬิกำ • กำรสอื่ สำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ แบบใชต้ วั เลขบอกเวลำใด จำกนน้ั ให้นกั เรียนช่วยกันบอกเวลำเปน็ • กำรเชอ่ื มโยง นำฬิกำและนำทจี ำกหน้ำปัดนำฬกิ ำทำ้ ยหนังสือเรยี นหนำ้ 94 คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ 3. นักเรียนช่วยกันจับค่นู ำฬิกำทีแ่ สดงเวลำเดยี วกันกบั นำฬิกำ • มวี ินยั ตำมหนงั สอื เรยี นหนำ้ 95 • ใฝ่เรยี นรู้ • มุ่งม่ันในกำรทำงำน 3. นักเรียนตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน หนังสอื เรียนหนำ้ 96 สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนังสอื เรียน ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เลม่ ที่ 1 4. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 1 กำรบอกเวลำเป็นนำฬิกำ • ใบงำนท่ี 1 เรือ่ ง กำรบอกเวลำเป็นนำฬกิ ำและ และนำที ลงในสมุดรำยวิชำ ขนั้ สรปุ นำที ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปส่งิ ทไ่ี ด้เรียนร้รู ่วมกัน บันทกึ หลังการสอน การวัดและประเมินผล เครือ่ งมือทใ่ี ช้ วิธีการวัด ลงช่อื ฐพร ลงช่ือ ใบงำนที่ 1 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤติกรรมของผ้เู รยี น ครผู สู้ อน 3. สงั เกตคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ) ผอู้ ำนวยกำร ณั

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 15 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เวลา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เรือ่ ง การอ่านและการเขยี นบอกเวลาทม่ี ีมหพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) วนั ท่ี 19 เดอื น ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรียน ครูทบทวนกำรบอกเวลำจำกนำฬิกำแบบใช้ตวั เลข โดยชูบัตร กำรอำ่ นเวลำใหอ้ ำ่ นตัวเลขหนำ้ มหพั ภำค (.) หรือ ทวิภำค (:) เปน็ นำฬิกำ และอ่ำนตวั เลขหลังมหพั ภำค ภำพนำฬกิ ำทีแ่ สดงเวลำตำ่ งๆ แล้วใหน้ กั เรียนบอกเวลำจำกนำฬกิ ำ (.) หรอื ทวภิ ำค (:) เปน็ นำที แบบใช้ตัวเลข ขั้นสอน กำรเขยี นบอกเวลำอำจใชม้ หัพภำค (.) หรือ ทวิภำค (:) คน่ั ระหว่ำงตวั เลขทแ่ี สดงนำฬิกำกับ 1. ครนู ำบตั รภำพทเ่ี ขยี นแสดงเวลำตำมหนังสือเรยี น หนำ้ 97 ตวั เลขที่แสดงนำทแี ลว้ เขยี น น. ตอ่ ท้ำย ครูให้นกั เรยี นอำ่ นเวลำในกำหนดกำรพร้อมกัน จำกนัน้ ครูแนะนำ นกั เรียนวำ่ เคร่อื งหมำย . เรียกวำ่ มหพั ภำค (.) ครยู กตัวอย่ำงบัตร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตำรำงเดินรถโดยสำรปรับอำกำศ จำกน้ันครแู นะนำนกั เรยี นว่ำ เครือ่ งหมำย : เรยี กว่ำ (ทวภิ ำค) (:) จำกนน้ั ครตู ิดบัตรภำพแสดง 1. อธบิ ำยกำรอำ่ นและกำรเขียนเขียนบอกเวลำโดย บัตรเข้ำชมทอ้ งฟำ้ จำลองกรุงเทพ และครตู ดิ บตั รภำพรอบกำร ใช้มหัพภำค (.) หรอื ทวิภำค (:) ได้ (K) แสดงชำ้ งแลว้ ให้นักเรียนอำ่ นเวลำเป็นนำฬกิ ำและนำที 2. อ่ำนและเขียนบอกเวลำโดยใช้มหพั ภำค (.) หรือ 2. ครูยกตวั อยำ่ งเขยี นบอกเวลำแบบใชม้ หพั ภำค (.) 7.30 น. ทวภิ ำค (:) ได้ (P) หรอื 07.30 น. เขยี นบอกเวลำแบบใชท้ วิภำค (:) 7:30 น. หรือ 07:30 น. จำกนั้นครแู สดงบัตรขอ้ ควำม “ร้ำนคำ้ ของโรงเรยี นเปดิ 3. รับผดิ ชอบตอ่ หนำ้ ท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมำย (A) เวลำ 7 นำฬกิ ำ 15 นำท”ี ให้นกั เรยี นเขียนบอกเวลำแบบใช้ มหัพภำค (.) และทวภิ ำค (:) ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3. นกั เรยี นชว่ ยกันอำ่ นเวลำและเขียนบอกเวลำแบบใช้ • กำรสื่อสำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ มหพั ภำค (.) และทวิภำค (:) ในกรอบท้ำยหนงั สอื เรยี นหนำ้ 98 • กำรเช่ือมโยง 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 2 กำรอำ่ นและกำรเขยี นบอก คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ เวลำที่มมี หัพภำค (.) หรอื ทวิภำค (:) ลงในสมดุ รำยวิชำ • มวี ินยั ขน้ั สรุป • ใฝ่เรยี นรู้ • ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้รว่ มกนั สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ • หนังสือเรยี น ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เล่มท่ี 1 บนั ทกึ หลังการสอน • ใบงำนที่ 2 เรอื่ ง กำรอ่ำนและกำรเขียนบอกเวลำ ทม่ี มี หัพภำค (.) หรือทวภิ ำค (:) การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื ทใ่ี ช้ วิธกี ารวัด ลงชื่อ ฐพร ลงชื่อ ใบงำนที่ 2 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รียน ครผู ู้สอน 3. สงั เกตคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ) ผู้อำนวยกำร ณั

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 15 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เวลา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรอื่ ง การอ่านและการเขียนบอกเวลาทม่ี มี หพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) วนั ที่ 22 เดอื น ส.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูทบทวนกำรบอกเวลำโดยใช้มหพั ภำค (.) หรือทวิภำค (:) โดย กำรอ่ำนเวลำให้อ่ำนตวั เลขหน้ำมหัพภำค (.) หรือ ทวิภำค (:) เป็นนำฬกิ ำ และอำ่ นตัวเลขหลังมหพั ภำค ให้เขียนเวลำบนกระดำนแลว้ ใหน้ ักเรียนบอกเวลำ (.) หรอื ทวภิ ำค (:) เป็นนำที ขั้นสอน กำรเขียนบอกเวลำอำจใช้มหัพภำค (.) หรอื 1. ครหู มุนเขม็ สน้ั และเข็มยำวบนหนำ้ ปดั นำฬกิ ำแสดงเวลำ 14 ทวิภำค (:) คน่ั ระหวำ่ งตวั เลขท่แี สดงนำฬกิ ำกบั นำฬกิ ำ 27 นำที ครสู มุ่ นักเรียนเขียนบอกเวลำแบบใชม้ หัพภำค (.) ตัวเลขทแ่ี สดงนำทีแล้วเขียน น. ต่อทำ้ ย และทวภิ ำค (:) ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบควำมถกู ต้อง จำกนั้นครใู ห้นักเรยี นจับค่ชู ่วยกันเขียนบอกเวลำแบบใชม้ หัพภำค จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (.) และทวิภำค (:) ตำมกรอบท้ำยหนงั สอื เรียนหนำ้ 99 เมื่อ นักเรียนทำเสรจ็ ครสู ุ่มหรืออำสำสมัครนกั เรยี นออกมำนำเสนอครู 1. อธิบำยกำรอำ่ นและกำรเขยี นเขียนบอกเวลำโดย และนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบควำมถูกตอ้ ง ใช้มหัพภำค (.) หรือทวิภำค (:) ได้ (K) 2. นกั เรียนตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยร่วมกันตอบคำถำมใน 2. อ่ำนและเขยี นบอกเวลำโดยใช้มหัพภำค (.) หรอื หนังสือเรียนหนำ้ 100 ทวิภำค (:) ได้ (P) 3. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนท่ี 3 กำรอำ่ นและกำรเขยี นบอก 3. รับผดิ ชอบต่อหนำ้ ท่ที ่ไี ด้รับมอบหมำย (A) เวลำทีม่ มี หพั ภำค (.) หรอื ทวภิ ำค (:) ลงในสมุดรำยวชิ ำ ขน้ั สรปุ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ สงิ่ ทไี่ ด้เรียนร้รู ว่ มกนั • กำรส่อื สำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ • กำรเชอ่ื มโยง คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ บนั ทกึ หลงั การสอน • มวี นิ ยั ลงช่อื ฐพร ลงชื่อ ) • ใฝเ่ รียนรู้ ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( • ม่งุ มั่นในกำรทำงำน ครูผู้สอน ผู้อำนวยกำร สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ • หนงั สือเรียน ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 3 เลม่ ที่ 1 • ใบงำนท่ี 3 เร่อื ง กำรอำ่ นและกำรเขียนบอกเวลำ ทม่ี มี หัพภำค (.) หรอื ทวภิ ำค (:) การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื ทีใ่ ช้ วิธีการวัด ใบงำนท่ี 3 1. ตรวจใบงำน 2. สังเกตพฤติกรรมของผ้เู รยี น 3. สงั เกตคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 15 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เวลา เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เรอื่ ง การบอกระยะเวลาเปน็ ชั่วโมงและนาที (1) วันท่ี 23 เดอื น ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน ครูทบทวนกำรอำ่ นเวลำโดยครูหมุนเข็มช่ัวโมงและเข็มนำทไี ปที่ กำรบอกระยะเวลำอำจบอกเปน็ ช่วั โมง โดยนบั จำกเวลำเริ่มต้นจนถึงเวลำสิ้นสุด ตำแหน่งต่ำง ๆ เพื่อบอกเวลำเปน็ นำฬกิ ำและนำที ข้ันสอน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ครูตดิ บัตรภำพแสดงเวลำ 9.30 น. และ 10.30 น. จำกนน้ั 1. อธิบำยเก่ยี วกบั กำรบอกระยะเวลำเป็นชัว่ โมงได้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ จะเห็นได้วำ่ จำก 9.30 น. ถงึ 10.00 น. (K) เปน็ ระยะเวลำ 30 นำที และจำก 10.00 น. ถงึ 10.30 น. เป็น ระยะเวลำ 30 นำที ครูแสดงเส้นจำนวนกำรนบั เวลำทีละ 30 นำที 2. บอกระยะเวลำเป็นชั่วโมง เมอื่ กำหนดเวลำเรมิ่ ต้น ตำมหนงั สอื เรยี นหน้ำ 101 ดงั น้ันจำก 9.30 น. ถึง 10.30 น. เป็น และเวลำสิ้นสุดกิจกรรมได้ (P) ระยะเวลำ 30 + 30 = 60 นำทหี รอื 1 ชวั่ โมง ครูลำกเสน้ บนเสน้ จำนวนแสดงกำรนบั เวลำทลี ะ 1 ชว่ั โมงตำมหนังสอื เรียนหนำ้ 101 3. รบั ผิดชอบตอ่ หน้ำทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมำย (A) 2. ครตู ิดบตั รภำพนำฬกิ ำแสดงเวลำตำมหนังสอื เรียนหน้ำ 102 ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ จำกนน้ั ครูให้นักเรียนหำระยะเวลำกีช่ ่วั โมง และแสดงเวลำบนเส้น จำนวนตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 102 • กำรแกป้ ัญหำ • กำรสื่อสำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 3. ครยู กตัวอยำ่ งสถำนกำรณต์ ำมหนงั สือเรียนหน้ำ 103 ครู • กำรเช่ือมโยง และนกั เรียนร่วมกนั หำระยะเวลำโดยใช้เส้นจำนวนแสดงกำรนับ เวลำทีละ 1 ชว่ั โมงตำมหนังสอื เรยี นหน้ำ 103 จำกนัน้ นักเรยี น คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ช่วยกนั หำระยะเวลำท่ีใช้ในกำรทำกจิ กรรมในกรอบท้ำยหน้ำ 103 • มวี นิ ยั • ใฝ่เรียนรู้ 4. นักเรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกันตอบคำถำมใน • มุ่งมัน่ ในกำรทำงำน หนงั สอื เรียนหน้ำ 104 สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 5. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 4 กำรบอกระยะเวลำเปน็ • หนงั สอื เรียน ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 3 เล่มที่ 1 ชั่วโมงและนำที (1) ลงในสมดุ รำยวิชำ • ใบงำนท่ี 4 เรอ่ื ง กำรบอกระยะเวลำเป็นชั่วโมง ขั้นสรุป และนำที (1) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงท่ีไดเ้ รยี นรู้ร่วมกัน บันทกึ หลังการสอน การวัดและประเมินผล ลงชือ่ ฐพร ลงชอ่ื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอื่ งมอื ที่ใช้ วธิ ีการวดั ครูผสู้ อน ใบงำนที่ 4 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น 3. สงั เกตคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 15 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เวลา เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เรอ่ื ง การบอกระยะเวลาเปน็ ช่วั โมงและนาที (2) วนั ที่ 24 เดือน ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน ครจู ดั กิจกรรมนบั ใหค้ รบ 30 นำที หรือ 60 นำที โดยเขียน กำรบอกระยะเวลำอำจบอกเป็นนำที โดยนับจำก เวลำเร่ิมตน้ จนถงึ เวลำสน้ิ สุด ขอ้ ควำมบนกระดำนแล้วใหน้ ักเรยี นช่วยกนั หำคำตอบ ขั้นสอน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ครูยกตัวอย่ำงสถำนกำรณ์ในหนงั สือเรยี นหน้ำ 105 ให้ 1. อธิบำยเก่ียวกบั กำรบอกระยะเวลำเป็นนำทไี ด้ (K) นกั เรียนออกมำหมุนเข็มส้นั และเขม็ ยำวบนหน้ำปดั นำฬิกำแสดง 2. บอกระยะเวลำเปน็ นำที เมื่อกำหนดเวลำเรม่ิ ต้น เวลำทีต่ ้นกลำ้ เรม่ิ ปนั่ จกั รยำน แลว้ ใหห้ มนุ เขม็ ส้นั และเข็มยำวบน หนำ้ ปัดนำฬกิ ำจนถึงเวลำ 17.45 น. จำกน้ันใหห้ มุนเข็มยำวไปทีละ และเวลำสิ้นสุดกจิ กรรมได้ (P) ชอ่ งเลก็ พร้อมถำมนกั เรยี นวำ่ เวลำผำ่ นไปก่ีนำทีแล้วโดยให้นบั ตอ่ 3. รับผิดชอบตอ่ หนำ้ ที่ที่ได้รับมอบหมำย (A) จำก 45 นำที จนครบ 48 นำที ดงั นนั้ 17.00 น. ถงึ 17.48 น. ใช้ เวลำ 48 นำที ครูแสดงกำรหำระยะเวลำโดยใช้เสน้ จำนวนตำม ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หนงั สอื เรยี นหนำ้ 105 ครูยกตวั อยำ่ งสถำนกำรณท์ ี่ 2 เพิ่มเติม • กำรแกป้ ัญหำ 2. ครตู ิดบัตรภำพนำฬิกำแสดงเวลำตำมหนงั สอื เรียนหนำ้ 106 • กำรสอ่ื สำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ จำกนน้ั ครูใหน้ กั เรยี นหำระยะเวลำกีน่ ำที และแสดงเวลำบนเสน้ • กำรเชือ่ มโยง จำนวนตำมหนงั สือเรยี นหนำ้ 106 คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 3. ครูยกตัวอยำ่ งสถำนกำรณ์ตำมหนงั สอื เรยี นหน้ำ 107 ครู • มีวินยั และนักเรียนร่วมกันหำระยะเวลำโดยใช้เสน้ จำนวน ตำมหนังสือ • ใฝเ่ รียนรู้ เรยี นหนำ้ 107 จำกน้ันนักเรยี นช่วยกันหำระยะเวลำทีใ่ ชใ้ นกำรทำ • มุง่ มัน่ ในกำรทำงำน กิจกรรมในกรอบทำ้ ยหนำ้ 107 สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 4. นกั เรียนตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกันตอบคำถำมใน • หนังสือเรียน ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เล่มท่ี 1 หนงั สอื เรยี นหนำ้ 108 • ใบงำนที่ 5 เรอื่ ง กำรบอกระยะเวลำเป็นช่วั โมง 5. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนที่ 5 กำรบอกระยะเวลำเป็น และนำที (2) ชั่วโมงและนำที (2) ลงในสมดุ รำยวชิ ำ ขั้นสรุป ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปสิ่งทีไ่ ด้เรยี นรู้รว่ มกนั บนั ทกึ หลงั การสอน การวดั และประเมนิ ผล ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอ่ื งมือท่ใี ช้ วธิ ีการวัด ครูผู้สอน ใบงำนที่ 5 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผูเ้ รยี น 3. สงั เกตคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 15 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เวลา เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรื่อง การบอกระยะเวลาเป็นช่วั โมงและนาที (3) วันท่ี 25 เดือน ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น ครแู จกนำฬิกำจำลองใหน้ ักเรยี นคนละ 1 เรือน แล้วใหน้ ักเรียน กำรบอกระยะเวลำอำจบอกเปน็ ชว่ั โมงและนำที โดยนบั จำกเวลำเรม่ิ ตน้ จนถึงเวลำส้นิ สุด หมนุ เวลำตำมทค่ี รบู อกเปน็ นำฬกิ ำและนำที ข้ันสอน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ครูยกตวั อย่ำงสถำนกำรณใ์ นหนงั สือเรยี นหน้ำ 109 ครแู ละ 1. อธิบำยเกี่ยวกับกำรบอกระยะเวลำเป็นช่ัวโมงและ นกั เรยี นสนทนำรว่ มกันเก่ียวกับกำรหำระยะเวลำพรอ้ มท้งั เขียนเส้น นำทไี ด้ (K) จำนวนแสดงกำรหำระยะเวลำเป็นช่ัวโมงและนำที ครใู ชก้ ำรถำม ตอบ ดังน้ี จำก 14.00 น. ถงึ 15.00 น. ใชเ้ วลำกีช่ วั่ โมง จำก 2. บอกระยะเวลำเปน็ ชั่วโมงและนำที เมือ่ 15.00 น. ถึง 15.29 น. ใช้เวลำก่นี ำที จะได้ระยะเวลำจำก 14.00 กำหนดเวลำเร่มิ ต้นและเวลำสนิ้ สดุ กจิ กรรมได้ (P) น. ถึง 15.29 น. ใช้เวลำไปเทำ่ ไร จำกนั้นครูยกตวั อยำ่ งสถำนกำรณ์ ท่ี 2 เพม่ิ เติม 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้ำทที่ ีไ่ ด้รับมอบหมำย (A) 2. ครยู กตวั อยำ่ งสถำนกำรณต์ ำมหนังสอื เรียนหน้ำ 110 ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ จำกน้ันครูใหน้ ักเรียนหำระยะเวลำและแสดงเวลำบนเสน้ จำนวน ตำมหนังสือเรียนหนำ้ 110 • กำรแกป้ ัญหำ • กำรส่ือสำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 3. ครยู กตวั อย่ำงสถำนกำรณต์ ำมหนังสือเรยี นหนำ้ 111 ครู • กำรเชอ่ื มโยง และนกั เรยี นร่วมกนั หำระยะเวลำโดยใชเ้ สน้ จำนวน ตำมหนงั สอื เรียนหนำ้ 111 จำกน้นั นกั เรยี นชว่ ยกนั หำระยะเวลำทใี่ ช้ในกำรทำ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ กจิ กรรมในกรอบทำ้ ยหนำ้ 111 • มวี ินัย • ใฝเ่ รียนรู้ 4. นกั เรยี นตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยร่วมกนั ตอบคำถำมใน • มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน หนงั สือเรียนหน้ำ 112 สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 5. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 6 กำรบอกระยะเวลำเป็น ชว่ั โมงและนำที (3) ลงในสมดุ รำยวชิ ำ ขัน้ สรุป ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้รว่ มกนั • หนังสือเรยี น ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 3 เลม่ ที่ 1 บันทึกหลังการสอน • ใบงำนท่ี 6 เรือ่ ง กำรบอกระยะเวลำเปน็ ชั่วโมง และนำที (3) การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื ทีใ่ ช้ วธิ กี ารวัด ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ใบงำนท่ี 6 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น ครผู ูส้ อน 3. สงั เกตคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ ) ผู้อำนวยกำร ณั

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรียน 15 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เร่ือง การเปรียบเทียบระยะเวลา วนั ท่ี 26 เดือน ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน ครูสนทนำกบั นกั เรียนเกยี่ วกบั กำรนำกำรเปรียบเทียบ กำรเปรียบเทยี บระยะเวลำเป็นช่ัวโมงและนำที ถำ้ จำนวนช่ัวโมงไม่เทำ่ กัน จำนวนช่ัวโมงมำกกวำ่ ระยะเวลำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ระยะเวลำนัน้ จะมำกกวำ่ ถ้ำจำนวนชั่วโมงเท่ำกัน ข้ันสอน จำนวนนำทีมำกกว่ำ ระยะเวลำนน้ั จะมำกกวำ่ 1. ครูยกตวั อย่ำงสถำนกำรณท์ ่ีเปน็ กำรเปรยี บเทียบระยะเวลำ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตำมหนงั สอื เรียนหน้ำ 113 ครถู ำมนกั เรยี นว่ำจำกสถำนกำรณ์ตอ้ ง นำเวลำใดมำเปรียบเทียบกัน จำกนัน้ ครแู นะนำวำ่ ใหเ้ ปรียบเทยี บ 1. อธิบำยกำรเปรียบเทยี บระยะเวลำที่มหี น่วย จำนวนที่มหี นว่ ยเหมือนกนั จะไดว้ ำ่ 5 ชว่ั โมง มำกกวำ่ 3 ชว่ั โมง เดยี วกันได้ (K) ดังนัน้ 5 ชัว่ โมง 39 นำที มำกกว่ำ 3 ชว่ั โมง 58 นำที 2. เปรยี บเทยี บระยะยะที่มีหน่วยเดยี วกนั ได้ (P) 2. ครยู กตัวอย่ำงสถำนกำรณท์ ่ี 2 ตำมหนังสือเรยี นหน้ำ 113 3. รับผิดชอบต่อหน้ำท่ที ่ีได้รับมอบหมำย (A) ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตว่ำ ระยะเวลำ 3 ช่วั โมง 8 นำทกี บั ระยะเวลำ 3 ชว่ั โมง 56 นำที มจี ำนวนชั่วโมงเทำ่ กัน คือ 3 ช่ัวโมง ถ้ำจำนวน ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชวั่ โมงเทำ่ กนั จะเปรียบเทียบกันไดอ้ ยำ่ งไร ครใู หน้ ักเรยี นสรปุ วำ่ ระยะเวลำ 3 ชว่ั โมง 8 นำที นอ้ ยกวำ่ ระยะเวลำ 3 ช่ัวโมง 56 นำที • กำรสอื่ สำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ ดงั นัน้ ออมสินใช้เวลำเดินทำงไปเท่ียวสวนนำ้ น้อยกวำ่ ชว่ ยแม่ • กำรเช่ือมโยง ทำงำนบำ้ น คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 3. นักเรียนร่วมกันเปรยี บเทียบระยะเวลำในหนังสอื เรยี นหน้ำ • มีวินัย 114 • ใฝ่เรียนรู้ • มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 7 กำรเปรยี บเทยี บ ระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวชิ ำ ขั้นสรุป ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีได้เรยี นรรู้ ่วมกัน สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ • หนังสอื เรยี น ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เล่มที่ 1 บันทกึ หลงั การสอน • ใบงำนที่ 7 เร่ือง กำรเปรยี บเทียบระยะเวลำ การวัดและประเมนิ ผล ลงชอ่ื ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครือ่ งมอื ท่ีใช้ วิธีการวดั ครูผสู้ อน ใบงำนท่ี 7 1. ตรวจใบงำน ผ้อู ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น 3. สงั เกตคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 15 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เรือ่ ง การเปรียบเทียบระยะเวลา วันท่ี 29 เดอื น ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน ครทู บทวนควำมรู้ เรอื่ ง กำรเปรียบเทยี บระยะเวลำโดยใช้ กำรเปรยี บเทียบระยะเวลำทมี่ หี น่วยตำ่ งกนั ตอ้ ง เปล่ียนหนว่ ยให้เปน็ หน่วยเดยี วกันกอ่ นแล้วนำมำ ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งชว่ั โมงกับนำที โดยนำบตั รข้อควำมแสดงเวลำ เปรยี บเทยี บกัน มำให้นักเรียนพจิ ำรณำ ขัน้ สอน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ครยู กตวั อย่ำงสถำนกำรณก์ ำรเปรียบเทียบระยะเวลำที่ตอ้ ง 1. อธิบำยกำรเปรียบเทียบระยะเวลำทีม่ ีหนว่ ย เปลยี่ นหน่วยตำมหนังสอื เรยี นหนำ้ 115 ครแู นะนำวำ่ กำร ตำ่ งกันได้ (K) เปรียบเทียบระยะเวลำที่มหี น่วยต่ำงกัน จึงตอ้ งเปลยี่ นหน่วยให้ เหมือนกันก่อนแล้วจงึ นำมำเปรยี บเทยี บกนั ครใู หน้ กั เรียนเปล่ยี น 2. เปรยี บเทียบระยะยะท่มี หี น่วยตำ่ งกันได้ (P) หน่วยเวลำใหเ้ ปน็ หนว่ ยเดยี วกัน ดังน้ันนกั เรียนสำมำรถเปลีย่ น 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้ำทที่ ีไ่ ดร้ ับมอบหมำย (A) หนว่ ยเวลำจำกนำทีเป็นชัว่ โมงไดด้ ังน้ี เน่อื งจำก 60 นำที เทำ่ กบั 1 ชว่ั โมง ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. ครใู หน้ กั เรยี นฝกึ กำรเปรยี บเทยี บระยะเวลำท่ีมีหนว่ ยต่ำงกัน • กำรส่ือสำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ท่เี ปน็ จำนวนมำกขนึ้ ตำมหนังสอื เรยี นหน้ำ 116 • กำรเชือ่ มโยง 3. นกั เรยี นช่วยกันบอกระยะเวลำทใ่ี บบัวใช้ทำกิจกรรมวำ่ คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ มำกกว่ำ น้อยกวำ่ หรอื เทำ่ กับระยะเวลำท่ขี นุ ใช้ทำกิจกรรมตำม • มวี นิ ัย หนงั สือเรียนหน้ำ 117 • ใฝ่เรียนรู้ • มุ่งม่นั ในกำรทำงำน 4. นักเรียนตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยร่วมกนั ตอบคำถำมใน หนงั สอื เรยี นหนำ้ 118 5. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนที่ 8 กำรเปรียบเทยี บ ระยะเวลำ ลงในสมดุ รำยวิชำ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ที่ได้เรยี นรรู้ ่วมกัน สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ • หนังสือเรยี น ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 3 เล่มที่ 1 บันทึกหลังการสอน • ใบงำนท่ี 8 เรือ่ ง กำรเปรยี บเทยี บระยะเวลำ การวดั และประเมนิ ผล ลงชือ่ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่อื งมือที่ใช้ วธิ ีการวดั ครผู ู้สอน ใบงำนท่ี 8 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน 3. สงั เกตคณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 15 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 เรือ่ ง การอา่ นบันทึกกจิ กรรมทรี่ ะบุเวลา วันที่ 30 เดอื น ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูสนทนำกบั นกั เรียนเก่ียวกบั กำรบันทึกกจิ กรรมในชีวิตจรงิ ว่ำ บันทึกกจิ กรรมทีร่ ะบุเวลำโดยท่ัวไปประกอบด้วย ชอ่ื บันทึก วันที่ เดอื น พ.ศ. จะอยูส่ ่วนบนของบนั ทกึ เกดิ ประโยชน์อย่ำงไรบ้ำง เวลำจะอยู่ดำ้ นซ้ำยของบันทึก และกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ข้นั สอน จะอยู่ดำ้ นขวำของบันทึก ซึง่ รำยละเอยี ดของบนั ทึก ขึ้นอยกู่ ับควำมตอ้ งกำรของผู้บันทึก 1. ครตู ิดบัตรภำพบันทกึ กิจกรรมของแก้วตำตำมหนงั สอื เรียน หนำ้ 119 บนกระดำน ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปวำ่ บันทกึ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ กิจกรรมทรี่ ะบุเวลำโดยทวั่ ไปประกอบด้วย ชอ่ื บนั ทึก วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. จะอย่สู ่วนบนของบันทกึ เวลำจะอยู่ด้ำนซ้ำยของบนั ทกึ และ 1. อธิบำยเกี่ยวกับกำรอ่ำนบันทึกกิจกรรมหรอื กิจกรรมตำ่ งๆ จะอยู่ดำ้ นขวำของบนั ทึก รำยละเอยี ดของบันทกึ เหตกุ ำรณต์ ่ำงๆ ท่ีระบเุ วลำได้ (K) ข้ึนอยูก่ ับควำมต้องกำรของผูบ้ นั ทกึ 2. อ่ำนบนั ทึกกิจกรรมหรอื เหตกุ ำรณต์ ่ำงๆ ที่ระบุ 2. นักเรยี นรว่ มกนั อำ่ นบันทึกกำรไปเทย่ี วชลบุรขี องขนุ พร้อม เวลำได้ (P) ท้งั ตอบคำถำมตำมหนงั สอื เรียนหน้ำ 120 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนำ้ ทที่ ีไ่ ด้รับมอบหมำย (A) 3. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนที่ 9 กำรอ่ำนบันทกึ กิจกรรมท่ี ระบุเวลำ ลงในสมุดรำยวิชำ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ขัน้ สรปุ ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ท่ไี ดเ้ รียนร้รู ่วมกนั • กำรส่ือสำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ • กำรเชือ่ มโยง คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ บันทึกหลงั การสอน • มวี ินัย ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) • ใฝเ่ รียนรู้ ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( • มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน ครูผู้สอน ผอู้ ำนวยกำร สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนังสอื เรียน ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนที่ 9 เรอื่ ง กำรอำ่ นบนั ทึกกจิ กรรมท่ีระบุ เวลำ การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือที่ใช้ วธิ กี ารวัด ใบงำนท่ี 9 1. ตรวจใบงำน 2. สังเกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 15 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เวลา เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรื่อง การเขยี นบันทึกกจิ กรรมทรี่ ะบเุ วลา วันที่ 31 เดือน ส.ค . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน ให้นกั เรียนทบทวนกำรอำ่ นบนั ทึกกจิ กรรมหรอื เหตกุ ำรณ์ตำ่ ง ๆ บนั ทึกกจิ กรรมที่ระบเุ วลำโดยท่วั ไปประกอบด้วย ชื่อบันทึก วันท่ี เดอื น พ.ศ. จะอยูส่ ว่ นบนของบนั ทกึ ที่ระบุเวลำ โดยครตู ิดแถบบันทกึ เวลำบนกระดำนแลว้ ใหน้ กั เรยี น เวลำจะอยู่ดำ้ นซ้ำยของบันทกึ และกจิ กรรมต่ำง ๆ ร่วมกนั ตอบคำถำม จะอย่ดู ำ้ นขวำของบนั ทกึ ซ่งึ รำยละเอยี ดของบนั ทึก ขน้ั สอน ขึน้ อยู่กบั ควำมต้องกำรของผบู้ ันทึก 1. ครแู นะนำกำรเขียนบนั ทึกกจิ กรรมทร่ี ะบเุ วลำ โดย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ยกตวั อยำ่ งจำกกำรบนั ทึกง่ำย ๆ กอ่ น เชน่ มกี ิจกรรม 3 - 4 กจิ กรรม และเป็นกำรบันทกึ ภำยในวนั เดียวตำมหนงั สอื เรยี นหน้ำ 1. อธบิ ำยเกี่ยวกบั กำรเขียนบนั ทึกกจิ กรรมหรือ 121 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเขียนบันทกึ กจิ กรรมที่ระบุเวลำโดย เหตุกำรณ์ต่ำงๆ ทร่ี ะบเุ วลำได้ (K) กำหนดนำฬกิ ำแสดงเวลำกำรทำกจิ กรรมต่ำงๆ โดยใช้กำรถำม - ตอบ แลว้ ให้เขียนลงในสมุด จำกนั้นนักเรยี นช่วยกันเขียนบนั ทึก 2. เขียนบันทกึ กจิ กรรมหรือเหตกุ ำรณ์ต่ำงๆ ทีร่ ะบุ กิจกรรมที่ระบเุ วลำในกรอบท้ำยหนงั สือเรยี นหนำ้ 121 เวลำได้ (P) 2. นกั เรียนตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกันตอบคำถำมใน 3. รับผดิ ชอบต่อหน้ำท่ีทีไ่ ด้รบั มอบหมำย (A) หนงั สอื เรยี นหน้ำ 122 ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 3. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนท่ี 10 กำรเขียนบนั ทึกกจิ กรรม ที่ระบเุ วลำ ลงในสมุดรำยวชิ ำ • กำรสอ่ื สำรและกำรส่อื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ ข้นั สรปุ • กำรเชือ่ มโยง ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่งิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกนั คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ บันทกึ หลงั การสอน • มวี ินัย ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) • ใฝเ่ รียนรู้ ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( • มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน ครูผูส้ อน ผู้อำนวยกำร สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ • หนังสือเรียน ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนท่ี 10 เรื่อง กำรเขยี นบนั ทึกกจิ กรรมทีร่ ะบุ เวลำ การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือท่ีใช้ วธิ กี ารวัด ใบงำนที่ 10 1. ตรวจใบงำน 2. สังเกตพฤติกรรมของผ้เู รียน 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 11 กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรียน 15 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรือ่ ง โจทย์ปัญหาการบวกเกยี่ วกบั เวลาและระยะเวลา วันที่ 1 เดอื น ก ย. พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน ครทู บทวนควำมรู้เก่ียวกับเวลำ โดยแสดงบตั รคำ 20 นำฬิกำ กำรแกโ้ จทยป์ ญั หำทำได้โดยอำ่ นทำควำมเข้ำใจ ปญั หำ วำงแผนแก้ปัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ 19 นำที จำกนัน้ ครูใหต้ ัวแทนนักเรยี นออกมำหมุนเขม็ นำฬิกำ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ จำลองใหต้ รงกบั เวลำที่กำหนด ขน้ั สอน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ครตู ิดแถบโจทยป์ ญั หำบนกระดำนตำมหนงั สือเรียนหนำ้ 1. วิเครำะหโ์ จทย์ปัญหำกำรบวกเกี่ยวกับเวลำและ 124 จำกน้นั ครถู ำมนักเรียนวำ่ โจทยถ์ ำมอะไร โจทย์บอกอะไรจำก ระยะเวลำได้ (K) ที่โจทยถ์ ำมแมใ่ ชเ้ วลำทง้ั หมดเทำ่ ไร เวลำทงั้ หมดมอี ะไรบ้ำง นกั เรียนจะหำคำตอบได้อย่ำงไร ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เขยี นแสดง 2. แก้โจทย์ปญั หำกำรบวกเกย่ี วกับเวลำและ วิธีหำคำตอบโดยในกำรเขยี นแสดงวธิ หี ำคำตอบหน่วยเดียวกันต้อง ระยะเวลำได้ (P) เขยี นให้ตรงกนั และหำผลบวกในหนว่ ยเดียวกนั จำกนนั้ นกั เรยี น ร่วมกนั เขียนแสดงวธิ ีหำคำตอบในกรอบทำ้ ยหนังสือเรียนหน้ำ 124 3. รับผิดชอบต่อหนำ้ ทีท่ ไี่ ด้รบั มอบหมำย (A) 2. นกั เรยี นช่วยกนั เขยี นแสดงวธิ หี ำคำตอบขอ้ 2 ข้อ 5 และขอ้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 6 จำกหนังสอื เรียนหนำ้ 125 • กำรแกป้ ัญหำ • กำรส่อื สำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 3. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนท่ี 11 โจทยป์ ญั หำกำรบวก • กำรเชอื่ มโยง เก่ยี วกบั เวลำและระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวชิ ำ • กำรให้เหตผุ ล ข้ันสรุป ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งท่ีได้เรียนร้รู ว่ มกนั คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ • มีวนิ ัย • ใฝ่เรยี นรู้ • มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ บนั ทกึ หลังการสอน • หนังสอื เรียน ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เลม่ ที่ 1 • ใบงำนท่ี 11 เร่อื ง โจทย์ปัญหำกำรบวกเกย่ี วกับ เวลำและระยะเวลำ การวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื ที่ใช้ วธิ ีการวดั ลงชื่อ ฐพร ลงช่ือ ใบงำนที่ 11 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤติกรรมของผ้เู รยี น ครูผสู้ อน 3. สงั เกตคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ ) ผอู้ ำนวยกำร ณั

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 12 กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 15 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เวลา เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เร่อื ง โจทย์ปญั หาการลบเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา วนั ที่ 2 เดือน ก ย. พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน ครูทบทวนควำมรู้เร่อื ง โจทย์ปญั หำกำรบวกเกย่ี วกับเวลำ กำรแกโ้ จทยป์ ญั หำทำไดโ้ ดยอ่ำนทำควำมเข้ำใจ ปญั หำ วำงแผนแกป้ ัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกน้นั ครูให้นกั เรียนแข่งขนั กันตอบปัญหำโดยครเู ล่ำสถำนกำรณ์ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบ โจทย์ปัญหำใหน้ กั เรียนฟัง แล้วให้นกั เรยี นหำคำตอบ ข้ันสอน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหำบนกระดำนตำมหนงั สอื เรียนหนำ้ 1. วิเครำะหโ์ จทยป์ ัญหำกำรลบเกี่ยวกับเวลำและ 123 จำกนนั้ ครถู ำมนกั เรียนว่ำ โจทยถ์ ำมอะไร โจทยบ์ อกอะไร ระยะเวลำได้ (K) กำรเปรียบเทียบระยะเวลำนักเรยี นนำเวลำใดกับเวลำใดมำ เปรียบเทยี บกนั ระยะเวลำใดน้อยกวำ่ หำคำตอบได้อยำ่ งไร ครู 2. แก้โจทย์ปัญหำกำรลบเกีย่ วกบั เวลำและ และนักเรยี นร่วมกันเขยี นแสดงวิธหี ำคำตอบโดยในกำรเขียนแสดง ระยะเวลำได้ (P) วธิ หี ำคำตอบหน่วยเดยี วกนั ตอ้ งเขียนให้ตรงกนั และหำผลลบใน หนว่ ยเดยี วกนั จำกนั้นนักเรียนรว่ มกนั เขยี นแสดงวธิ ีหำคำตอบใน 3. รับผิดชอบต่อหน้ำที่ที่ไดร้ ับมอบหมำย (A) กรอบท้ำยหนงั สอื เรยี นหนำ้ 123 ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 2. นกั เรียนชว่ ยกันเขยี นแสดงวิธหี ำคำตอบขอ้ 1 ข้อ 3 และขอ้ 4 จำกหนังสือเรียนหน้ำ 125 • กำรแกป้ ัญหำ • กำรสอ่ื สำรและกำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ 3. นักเรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยร่วมกนั ตอบคำถำมใน • กำรเชอ่ื มโยง หนังสอื เรยี นหน้ำ 126 • กำรใหเ้ หตุผล 4. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 12 โจทย์ปัญหำกำรลบ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ เกีย่ วกับเวลำและระยะเวลำ ลงในสมดุ รำยวิชำ • มวี นิ ัย ขัน้ สรุป • ใฝ่เรียนรู้ • มุง่ ม่ันในกำรทำงำน ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ บันทกึ หลงั การสอน • หนงั สือเรียน ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 3 เลม่ ที่ 1 • ใบงำนท่ี 12 เร่อื ง โจทย์ปัญหำกำรลบเก่ียวกับ เวลำและระยะเวลำ การวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมอื ที่ใช้ วธิ กี ารวัด ลงชือ่ ฐพร ลงชื่อ ใบงำนท่ี 12 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รียน ครูผู้สอน 3. สงั เกตคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ) ผู้อำนวยกำร ณั

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 15 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา วนั ที่ 5 เดือน ก ย. พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น ครูทบทวนควำมรเู้ รือ่ ง โจทย์ปัญหำกำรลบเกยี่ วกบั เวลำ กำรแกโ้ จทยป์ ญั หำทำไดโ้ ดยอำ่ นทำควำมเข้ำใจ ปัญหำ วำงแผนแกป้ ัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกนนั้ ครูใหน้ ักเรยี นแข่งขันกันตอบปัญหำโดยครเู ล่ำสถำนกำรณ์ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบ โจทย์ปัญหำให้นกั เรยี นฟัง แลว้ ให้นักเรียนหำคำตอบ ขนั้ สอน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ครูตดิ แถบโจทยป์ ัญหำบนกระดำนตำมหนังสอื เรียนหน้ำ 1. วเิ ครำะห์โจทย์ปญั หำกำรคณู เกยี่ วกับเวลำและ 127 ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนำจำกสว่ นที่โจทยถ์ ำมและสว่ นท่ี ระยะเวลำได้ (K) โจทยบ์ อก นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบไดอ้ ย่ำงไร ครแู ละนักเรยี น ร่วมกนั เขียนแสดงวธิ ีหำคำตอบ โดยกำรเขียนแสดงวธิ หี ำคำตอบ 2. แกโ้ จทย์ปัญหำกำรคณู เกย่ี วกับเวลำและ ตำมหนังสอื เรียนหนำ้ 127 จำกนนั้ นกั เรียนร่วมกันเขียนแสดงวธิ ีหำ ระยะเวลำได้ (P) คำตอบในกรอบท้ำยหนงั สือเรียนหนำ้ 127 3. รับผิดชอบต่อหน้ำทท่ี ีไ่ ด้รับมอบหมำย (A) 2. ครตู ิดแถบโจทย์ปัญหำบนกระดำนตำมหนังสือเรยี นหนำ้ 128 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสนทนำจำกส่วนทโี่ จทย์ถำมและส่วนที่ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ โจทยบ์ อก นกั เรียนสำมำรถหำคำตอบไดอ้ ย่ำงไร ครแู ละนักเรยี น รว่ มกนั เขียนแสดงวิธีหำคำตอบ โดยกำรเขยี นแสดงวธิ หี ำคำตอบ • กำรแก้ปัญหำ ตำมหนังสอื เรยี นหนำ้ 128 จำกนน้ั นักเรยี นรว่ มกันเขียนแสดงวธิ หี ำ • กำรส่ือสำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ คำตอบในกรอบท้ำยหนังสือเรียนหนำ้ 128 • กำรเชอื่ มโยง • กำรใหเ้ หตุผล 3. นกั เรยี นช่วยกนั เขยี นแสดงวธิ ีหำคำตอบข้อ 1 ขอ้ 4 และข้อ 5 จำกหนังสอื เรียนหน้ำ 131 คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ • มีวินัย 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนท่ี 13 โจทย์ปัญหำกำรคณู • ใฝ่เรยี นรู้ เก่ยี วกบั เวลำและระยะเวลำ ลงในสมดุ รำยวิชำ • มุง่ ม่ันในกำรทำงำน ขน้ั สรปุ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ บนั ทึกหลังการสอน • หนงั สอื เรียน ชั้นประถมศึกษำปีที่ 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนท่ี 13 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหำกำรคูณเก่ยี วกบั เวลำและระยะเวลำ การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือท่ีใช้ วธิ กี ารวัด ลงช่อื ฐพร ลงช่อื ใบงำนที่ 13 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สังเกตพฤตกิ รรมของผ้เู รียน ครูผู้สอน 3. สงั เกตคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ) ผู้อำนวยกำร ณั

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 14 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 15 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เวลา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เร่ือง โจทย์ปัญหาการหารเก่ยี วกบั เวลาและระยะเวลา วนั ที่ 6 เดือน ก ย. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั ค 2.1 ป.3/2 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรยี น ครทู บทวนควำมร้เู รอื่ ง โจทยป์ ัญหำกำรคูณเก่ยี วกับเวลำ กำรแกโ้ จทย์ปัญหำทำไดโ้ ดยอ่ำนทำควำมเขำ้ ใจ ปญั หำ วำงแผนแกป้ ัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกนัน้ ครใู ห้นักเรียนแข่งขันกันตอบปัญหำโดยครูเล่ำสถำนกำรณ์ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ โจทยป์ ญั หำใหน้ กั เรยี นฟงั แล้วใหน้ ักเรียนหำคำตอบ ขั้นสอน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ครูติดแถบโจทยป์ ญั หำบนกระดำนตำมหนงั สือเรียนหน้ำ 1. วิเครำะห์โจทยป์ ญั หำกำรหำรเกี่ยวกบั เวลำและ 129 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนำจำกส่วนท่โี จทย์ถำมและส่วนท่ี ระยะเวลำได้ (K) โจทย์บอก นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบไดอ้ ย่ำงไร ครูและนกั เรยี น รว่ มกนั เขียนแสดงวิธหี ำคำตอบ โดยกำรเขยี นแสดงวิธีหำคำตอบ 2. แกโ้ จทย์ปญั หำกำรหำรเก่ยี วกบั เวลำและ ตำมหนังสอื เรยี นหน้ำ 129 จำกน้ันนักเรียนรว่ มกันเขยี นแสดงวิธีหำ ระยะเวลำได้ (P) คำตอบในกรอบทำ้ ยหนังสือเรียนหน้ำ 129 3. รบั ผิดชอบต่อหน้ำที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมำย (A) 2. ครูติดแถบโจทยป์ ญั หำบนกระดำนตำมหนงั สอื เรยี นหน้ำ 130 ครูและนกั เรยี นร่วมกันสนทนำจำกสว่ นทีโ่ จทยถ์ ำมและส่วนท่ี ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ โจทย์บอก นักเรียนสำมำรถหำคำตอบไดอ้ ย่ำงไร ครูและนกั เรียน รว่ มกนั เขียนแสดงวธิ หี ำคำตอบ โดยกำรเขยี นแสดงวิธีหำคำตอบ • กำรแก้ปัญหำ ตำมหนงั สอื เรยี นหนำ้ 130 จำกนน้ั นักเรียนรว่ มกันเขยี นแสดงวิธหี ำ • กำรส่ือสำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ คำตอบในกรอบท้ำยหนงั สือเรียนหน้ำ 130 • กำรเชอื่ มโยง • กำรใหเ้ หตผุ ล 3. นักเรียนช่วยกันเขยี นแสดงวิธหี ำคำตอบขอ้ 2 ข้อ 3 และข้อ 6 จำกหนงั สือเรยี นหน้ำ 131 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ • มีวนิ ยั 4. นักเรียนตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกันตอบคำถำมใน • ใฝ่เรยี นรู้ หนงั สอื เรยี นหน้ำ 132 • มุ่งมั่นในกำรทำงำน 5. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนที่ 14 โจทยป์ ญั หำกำรหำร สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ เกี่ยวกับเวลำและระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวชิ ำ • หนงั สอื เรียน ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เล่มที่ 1 ขัน้ สรปุ • ใบงำนท่ี 14 เรื่อง โจทยป์ ญั หำกำรหำรเกี่ยวกบั ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สิ่งทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน เวลำและระยะเวลำ บันทกึ หลงั การสอน การวดั และประเมนิ ผล ลงช่อื ฐพร ลงช่ือ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครือ่ งมือที่ใช้ วธิ ีการวดั ครผู ู้สอน ใบงำนที่ 14 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน 3. สังเกตคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 15 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 15 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เวลา เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เรอื่ ง โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา วันที่ 7 เดอื น กย พ.ศ. 2565 . . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั ค 2.1 ป.3/2 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ครูทบทวนควำมรูเ้ รื่อง โจทย์ปญั หำกำรหำรเกย่ี วกบั เวลำ กำรแกโ้ จทย์ปัญหำทำไดโ้ ดยอ่ำนทำควำมเขำ้ ใจ ปัญหำ วำงแผนแก้ปัญหำ หำคำตอบ และตรวจสอบ จำกนัน้ ครใู ห้นกั เรยี นแขง่ ขนั กันตอบปัญหำโดยครเู ลำ่ สถำนกำรณ์ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ โจทยป์ ญั หำให้นกั เรียนฟัง แล้วให้นักเรยี นหำคำตอบ ขั้นสอน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ครูติดแถบโจทยป์ ญั หำบนกระดำนตำมหนังสอื เรยี นหน้ำ 1. วิเครำะหโ์ จทยป์ ญั หำเกี่ยวกับเวลำและระยะเวลำ 133 ครถู ำมนักเรยี นว่ำ โจทยถ์ ำมอะไร โจทย์บอกอะไร ครูและ ได้ (K) นักเรียนร่วมกนั เขยี นแสดงวิธีหำคำตอบ จำกนัน้ นักเรยี นชว่ ยเขียน แสดงวธิ ีหำคำตอบในกรอบท้ำยหนังสือเรียนหนำ้ 133 2. แก้โจทย์ปญั หำเกย่ี วกับเวลำและระยะเวลำได้ (P) 3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้ำทที่ ไ่ี ด้รับมอบหมำย (A) 2. ครตู ิดแถบโจทยป์ ญั หำหรอื เขียนโจทย์ปัญหำบนกระดำน ตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 134 จำกน้ันให้นักเรยี นรว่ มกนั เขยี นแสดงวธิ ี ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หำคำตอบพร้อมทัง้ เขยี นหรอื ติดบัตรภำพกำรหำเวลำสน้ิ สดุ โดยใช้ • กำรแกป้ ญั หำ เสน้ จำนวนโดยเริ่มจำกนับระยะเวลำเป็นช่วั โมง • กำรสือ่ สำรและกำรส่อื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ • กำรเชือ่ มโยง 3. ครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหำหรือเขยี นโจทย์ปญั หำบนกระดำน • กำรให้เหตุผล ตำมหนังสอื เรยี นหน้ำ 135 ให้ชว่ ยกันเขียนแสดงวธิ ีหำเวลำเริม่ ต้น พร้อมทงั้ เขียนหรอื ติดบตั รภำพ กำรหำเวลำเรม่ิ ตน้ โดยใชเ้ สน้ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ จำนวน ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเขยี นแสดงวธิ หี ำคำตอบ จำกนนั้ • มวี ินยั นักเรยี นช่วยกันเขียนแสดงวธิ ีหำคำตอบในกรอบทำ้ ยหนังสือเรียน • ใฝ่เรยี นรู้ หนำ้ 135 • ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำน 3. นักเรยี นตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ หนงั สือเรียนหนำ้ 136 • หนงั สอื เรยี น ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนที่ 15 เรอ่ื ง โจทย์ปัญหำเกย่ี วกบั เวลำและ 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 15 โจทยป์ ัญหำเก่ยี วกับเวลำ และระยะเวลำ ลงในสมุดรำยวิชำ ระยะเวลำ ขัน้ สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน บันทกึ หลงั การสอน การวดั และประเมินผล ลงชอื่ ฐพร ลงชอ่ื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครื่องมือที่ใช้ วิธกี ารวดั ครูผู้สอน ใบงำนที่ 15 1. ตรวจใบงำน ผูอ้ ำนวยกำร 2. สังเกตพฤตกิ รรมของผเู้ รียน 3. สงั เกตคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ณั



แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 7 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 รปู เรขาคณิต เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรื่อง รูปที่มีแกนสมมาตร วันที่ 8 เดอื น กย พ.ศ. 2565 . . มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น นักเรยี นร่วมกันปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเพื่อเตรียมควำมพร้อมกอ่ นเรียน รปู ที่เม่อื พับแล้วสองขำ้ งของรอยพับทบั กันสนิท เป็นรปู ทีม่ แี กนสมมำตร รอยพบั เป็นแกนสมมำตร เร่ืองเรขำคณิตตำมหนงั สอื เรยี นหนำ้ 140 ขั้นสอน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ครูใหน้ ักเรยี นทำำกิจกรรม “พบั กระดำษ” ตำมหนงั สือเรยี น 1. อธิบำยลักษณะของรปู ทม่ี แี กนสมมำตรได้ (K) หนำ้ 141 ซึง่ ครูตอ้ งสำธิตพรอ้ มอธบิ ำยวิธีกำรพบั กระดำษให้สอง 2. ระบุรูปที่มแี กนสมมำตรได้ (P) ขำ้ งของรอยพบั ทบั กันสนิทพร้อมชใี้ ห้นกั เรียนเห็นกำรทับกนั สนิท 3. รบั ผิดชอบต่อหน้ำที่ทไี่ ด้รับมอบหมำย (A) ของกระดำษ และคลีก่ ระดำษออกให้นกั เรยี นเหน็ รอยพับ ครชู ี้ให้ นักเรยี นสังเกตกระดำษรปู ทเี่ มอ่ื พับแล้วสองขำ้ งของรอยพบั ทับกัน ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ สนิท พรอ้ มแนะนำว่ำรปู ลักษณะนี้เรำเรยี กว่ำรปู ทม่ี แี กนสมมำตร และรอยพบั คือแกนสมมำตร ให้นักเรียนสังเกตรูปท่มี แี กนสมมำตร • กำรแกป้ ัญหำ และรปู ท่ีไมม่ แี กนสมมำตรเพ่มิ เติมจำกหนังสอื เรียนหนำ้ 142 • กำรสอื่ สำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ 2. ครูใหน้ ักเรียนฝึกกำรพับกระดำษเพ่อื บอกรูปเรขำคณติ ท่ี คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ กำหนดให้เปน็ รปู ท่มี แี กนสมมำตรหรือไม่ โดยให้นกั เรยี นทำ • มีวินยั กจิ กรรม “หำรูปทม่ี แี กนสมมำตร” ตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 143 • ใฝ่เรยี นรู้ จำกน้ันให้นกั เรียนช่วยกนั บอกว่ำรปู ท่อี ยใู่ นกรอบทำ้ ยหนังสือเรียน • มงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน หนำ้ 143 3. นักเรยี นตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกันตอบคำถำมใน หนงั สือเรียนหน้ำ 144 4. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 1 รปู ทีม่ ีแกนสมมำตร ลงใน สมดุ รำยวชิ ำ ขั้นสรปุ ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ สง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้รว่ มกนั สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ • หนงั สือเรียน ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 3 เล่มท่ี 1 บนั ทกึ หลังการสอน • ใบงำนที่ 1 เร่อื ง รปู ทม่ี ีแกนสมมำตร การวัดและประเมนิ ผล ลงชื่อ ฐพร ลงชอื่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครือ่ งมือทใ่ี ช้ วิธีการวัด ครูผู้สอน ใบงำนท่ี 1 1. ตรวจใบงำน ผ้อู ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผู้เรียน 3. สงั เกตคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 7 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 รูปเรขาคณติ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เร่อื ง รปู ทม่ี ีแกนสมมาตรหลายแกน วนั ที่ 9 เดือน ก ย. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ขัน้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน ครทู บทวนควำมรู้ เร่อื ง เรขำคณิตสองมิติ โดยครูติดบัตรภำพ รูปท่ีมแี กนสมมำตร บำงรูปมีแกนสมมำตร 1 แกน บำงรปู มแี กนสมมำตรมำกกว่ำ 1 แกน รปู เรขำคณติ ชนิดตำ่ งๆ ลงบนกระดำนใหน้ กั เรียนดู จำกนนั้ ครูตั้ง คำถำมเพอ่ื ถำมนกั เรยี นวำ่ เปน็ รูปเรขำคณติ ชนิดใด จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขน้ั สอน 1. อธิบำยลกั ษณะของรูปทีม่ ีแกนสมมำตรหลำยแกน 1. ครยู กตวั อย่ำงรูปสีเ่ หลี่ยมท่ีมแี กนสมมำตร 4 แกนและ ได้ (K) สำมำรถพับให้สองขำ้ งของรอยพับทบั กันสนิทได้หลำยแบบ ครอู ำจ ให้นักเรยี นออกมำแสดงกำรพับกระดำษในแต่ละแบบ หรอื อำจ 2. ระบรุ ูปทม่ี ีแกนสมมำตรและจำนวนแกนสมมำตร แสดงกำรพบั ใหน้ กั เรยี นดเู ปน็ ตัวอย่ำงกอ่ นแลว้ จงึ ใหน้ กั เรยี น ได้ (P) ออกมำแสดงกำรพับกระดำษ 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หนำ้ ทท่ี ่ีได้รับมอบหมำย (A) 2. ครูแจกกระดำษแบบเดียวกนั ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ แล้ว ใหน้ ักเรยี นพบั กระดำษแลว้ ขดี เส้นตำมรอยพบั ตำมท่ีครสู ำธติ จน ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ครบทงั้ 4 แบบ จำกน้นั ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปวำ่ รปู ส่เี หลีย่ ม รูปน้สี ำมำรถพับใหส้ องข้ำงของรอยพับทบั กันสนิทได้ 4 แบบ • กำรแก้ปัญหำ จำกน้ันครแู จกกระดำษท่ตี ัดเป็นรปู ต่ำงๆ ตำมกรอบท้ำยหนำ้ 145 • กำรสื่อสำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ เพื่อให้นักเรยี นใช้ในกำรตอบคำถำม คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 3. ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม “มีแกนสมมำตรกีแ่ กน” โดยแบง่ • มวี ินยั นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่มแล้วแจกกระดำษรูปเรขำคณิตชนดิ ตำ่ ง ๆ ให้ • ใฝ่เรียนรู้ กลุ่มละ 1 ชุด • มุ่งม่ันในกำรทำงำน 4. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนท่ี 2 รูปทม่ี ีแกนสมมำตรหลำย แกน ลงในสมุดรำยวชิ ำ ขน้ั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นรูร้ ่วมกนั สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ • หนงั สือเรยี น ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เล่มท่ี 1 บันทกึ หลังการสอน • ใบงำนที่ 2 เรือ่ ง รูปท่มี ีแกนสมมำตรหลำยแกน การวดั และประเมนิ ผล ลงชือ่ ฐพร ลงช่ือ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอื่ งมือที่ใช้ วิธีการวัด ครผู สู้ อน ใบงำนที่ 2 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รียน 3. สังเกตคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลาเรียน 7 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 รปู เรขาคณิต เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เร่ือง รูปท่มี ีแกนสมมาตรหลายแกน วนั ท่ี 12 เดือน ก ย. พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น ครตู ้ังคำถำมเพอ่ื ถำมกระตนุ้ ควำมคิดของนักเรยี นว่ำ “ใน รูปทีม่ ีแกนสมมำตร บำงรปู มีแกนสมมำตร 1 แกน บำงรปู มีแกนสมมำตรมำกกว่ำ 1 แกน เช่น รูป ชีวติ ประจำวนั นกั เรยี นพบเห็นอะไรท่เี ปน็ รปู สมมำตรบำ้ ง” ให้ สำมเหลย่ี ม รูปสเ่ี หลีย่ ม นักเรียนแสดงควำมคิดเห็นตำมควำมเข้ำใจของตนเอง ข้นั สอน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตว่ำรูปเรขำคณิตเหล่ำนน้ั มีแกนสมมำตร 1. อธิบำยลักษณะของรปู ทม่ี แี กนสมมำตรหลำยแกน ก่ีแกน ครูช้ใี หน้ กั เรยี นสังเกตรปู ทมี่ ีแกนสมมำตรและจำนวนแกน ได้ (K) สมมำตรเพิ่มเติมจำกหนงั สือเรยี นหนำ้ 147 จำกน้นั ครแู ละนักเรียน รว่ มกนั สรุปว่ำรูปเรขำคณิตทมี่ คี วำมยำวด้ำนเท่ำกันทกุ ด้ำนและ 2. ระบรุ ูปที่มแี กนสมมำตรและจำนวนแกนสมมำตร ขนำดของมมุ เทำ่ กนั ทกุ มมุ จะมีจำนวนแกนสมมำตรเทำ่ กบั จำนวน ได้ (P) ดำ้ น หรือ จำนวนมมุ เช่นรปู 1 4 7 และ 9 ในหนงั สอื เรยี นหนำ้ 147 แล้วนกั เรยี นสงั เกตรูปทีส่ ่วนท้ำยของหนำ้ 147 และอภิปรำย 3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้ำทที่ ไ่ี ด้รับมอบหมำย (A) รว่ มกันเกย่ี วกับจำนวนแกนสมมำตร ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. ครูใหน้ กั เรยี นทำำกิจกรรม “หำแกนสมมำตร” โดยแบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ แล้วแจกกระดำษรปู ตำ่ ง ๆ ใหก้ ลุม่ ละ 1 ชุดตำม • กำรแก้ปญั หำ หนงั สือเรียนหน้ำ 148 จำกนั้นรว่ มกนั หำจำนวนแกนสมมำตรจำก • กำรสื่อสำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ กำรลำกเสน้ ผ่ำนรูปในหนงั สือเรยี นหน้ำ 149 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 3. นกั เรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยร่วมกนั ตอบคำถำมใน • มีวินยั หนังสอื เรยี นหน้ำ 150 • ใฝเ่ รียนรู้ • มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน 4. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนที่ 3 รปู ท่ีมแี กนสมมำตรหลำย แกน ลงในสมุดรำยวชิ ำ ขัน้ สรปุ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้เรียนรูร้ ว่ มกัน สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ • หนงั สอื เรียน ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี 3 เลม่ ที่ 1 บันทึกหลังการสอน • ใบงำนท่ี 3 เรอ่ื ง รูปท่ีมีแกนสมมำตรหลำยแกน การวัดและประเมินผล ลงช่อื ฐพร ลงช่อื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครื่องมอื ทใี่ ช้ วิธีการวดั ครูผสู้ อน ใบงำนท่ี 3 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผ้เู รียน 3. สังเกตคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 7 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 รูปเรขาคณิต เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เรื่อง การประยุกต์ใชร้ ปู ท่มี ีแกนสมมาตร วันที่ 13 เดอื น ก ย. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น ครูแนะนำกำรนำควำมรู้เรือ่ งรูปทมี่ ีแกนสมมำตรและจำนวน สำมำรถนำควำมรูเ้ ก่ียวกบั รปู ที่มแี กนสมมำตรมำ ประดษิ ฐเ์ ป็นผลงำนตำ่ งๆ แกนสมมำตรมำประยุกต์ใชใ้ นกจิ กรรมพับกระดำษเพอ่ื ตัดให้เป็น รปู ต่ำงๆ โดยครอู ำจนำสง่ิ ท่ีพบในชวี ติ จริงมำใชเ้ ปน็ ตัวอยำ่ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขน้ั สอน 1. อธิบำยกำรสร้ำงรูปท่มี แี กนสมมำตรได้ (K) 1. ครใู หน้ กั เรียนทำกจิ กรรม “รูปทม่ี ีแกนสมมำตรกับกำรตดั 2. ประยุกตใ์ ช้รูปทม่ี ีแกนสมมำตรเพอื่ ประดษิ ฐ์ กระดำษ” ตำมหนงั สอื เรียนหนำ้ 151 กจิ กรรมตอนท่ี 1 ให้ นักเรยี นทำกิจกรรมเพื่อให้เขำ้ ใจวำ่ กำรพบั ครึ่งกระดำษ 1 ครง้ั ตำม ผลงำนตำ่ งๆ ได้ (P) รอยทีพ่ ับ เช่น รูปหัวใจนม้ี ีแกนสมมำตร 1 แกน ก1ิ จกรรมตอนที่ 2 3. รับผิดชอบต่อหน้ำทีท่ ่ีได้รับมอบหมำย (A) เป็นกจิ กรรมทีน่ ำควำมรเู้ ร่ืองรูปทีม่ ีแกนสมมำตร 2 แกนมำใช้ โดย ครสู ำธติ กำรพบั ครึ่งกระดำษ 2 คร้ัง วำดและตัดตำมรอยวำด แลว้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ คลกี่ ระดำษออกมำเป็นรปู ดอกไม้ ลกั ษณะของกลีบข้นึ อย่กู ับวิธีพับ • กำรแกป้ ัญหำ กระดำษและกำรวำดตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 152 ครูให้นกั เรยี นนำ • กำรสอ่ื สำรและกำรส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ผลงำนทต่ี ัดทงั้ หมดออกมำตกแตง่ ใหส้ วยงำมแลว้ นำเสนอหนำ้ ห้อง • กำรเชอ่ื มโยง ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรำยเกี่ยวกบั กำรนำควำมรู้เรอ่ื งรปู ทมี่ ี • กำรใหเ้ หตุผล แกนสมมำตรและจำนวนแกนสมมำตรมำใช้ในกิจกรรมนี้ • กำรคดิ สรำ้ งสรรค์ 2. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 4 กำรประยุกตใ์ ชร้ ูปทมี่ ีแกน คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ สมมำตร ลงในสมดุ รำยวชิ ำ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ร่วมกัน • มวี ินัย • ใฝเ่ รียนรู้ • มุง่ มน่ั ในกำรทำงำน สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ บนั ทึกหลงั การสอน • หนังสือเรียน ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เล่มท่ี 1 • ใบงำนที่ 4 เรอื่ ง กำรประยุกตใ์ ช้รปู ทีม่ แี กน สมมำตร การวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื ที่ใช้ วิธกี ารวัด ลงชอ่ื ฐพร ลงชือ่ ใบงำนที่ 4 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น ครูผสู้ อน 3. สังเกตคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ) ผู้อำนวยกำร ณั

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 7 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 รูปเรขาคณิต เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เรือ่ ง การประยกุ ตใ์ ชร้ ูปท่ีมีแกนสมมาตร วันท่ี 14 เดือน กย . พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน ครยู กตวั อย่ำงรูปทมี่ ีแกนสมมำตร 1 แกน 2 รปู แล้วสุม่ นักเรียน สำมำรถนำควำมรเู้ กี่ยวกบั รูปท่ีมีแกนสมมำตรมำ ประดิษฐเ์ ป็นผลงำนต่ำงๆ 2 คน ออกมำพับแลว้ บอกวำ่ เปน็ รูปที่มีแกนสมมำตรหรือไม่ ถำ้ เปน็ รูปทมี่ แี กนสมมำตรให้เขียนเส้นประเพื่อแสดงแกนสมมำตรของรูป จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขนั้ สอน 1. อธิบำยกำรสร้ำงรปู ทม่ี แี กนสมมำตรได้ (K) 1. ครกู ำหนดรปู ที่ต้องกำรแล้วถำมนกั เรียนว่ำจะต้องพับ 2. ประยุกต์ใช้รูปที่มีแกนสมมำตรเพ่ือประดษิ ฐ์ กระดำษ วำด และตดั อย่ำงไร ใหอ้ อกมำเป็นรูปทกี่ ำหนดให้ โดยครู ให้นกั เรียนลองหำวธิ ีพับกระดำษ วำด แลว้ ตัดใหเ้ ป็นตำมทีก่ ำหนด ผลงำนตำ่ งๆ ได้ (P) ก่อน ครูแนะวำ่ รปู ทีก่ ำหนดใหน้ ้ันเปน็ รูปที่มีแกนสมมำตรกี่แกน 3. รับผิดชอบต่อหนำ้ ทท่ี ่ีได้รับมอบหมำย (A) แลว้ ให้นักเรยี นพับตำมรอยท่เี ปน็ แกนสมมำตรตำมหนงั สอื เรยี น หน้ำ 153 แลว้ วำดตำมรูปอีกด้ำนหนงึ่ ของแกนสมมำตร ตัดตำม ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ รอยวำดแล้วคล่กี ระดำษออก ซง่ึ ขนึ้ อยกู่ บั ว่ำนกั เรียนจะใชร้ ูปที่มี แกนสมมำตรกี่แกน ถำ้ ใชร้ ปู ท่ีมแี กนสมมำตร 1 แกน ก็ใหพ้ ับครึ่ง • กำรแก้ปัญหำ กระดำษ 1 ครั้ง ถำ้ ใชร้ ปู ทม่ี แี กนสมมำตร 2 แกน ก็ให้พบั คร่งึ • กำรสอื่ สำรและกำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ กระดำษ 2 ครง้ั แลว้ วำดตำมรูปอีกดำ้ นหนึ่งของแกนสมมำตร ตัด • กำรเช่อื มโยง กระดำษตำมรอยวำด แลว้ คลก่ี ระดำษออกมำ จำกน้นั ครใู ห้ • กำรใหเ้ หตุผล นักเรยี นช่วยกนั พบั ครงึ่ กระดำษ วำด ตัด แลว้ คลอ่ี อกมำให้เป็นรปู • กำรคิดสร้ำงสรรค์ ตำมที่กำหนดใหใ้ นกรอบท้ำยหนังสือเรียนหน้ำ 153 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 2. นักเรียนตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยร่วมกันตอบคำถำมใน • มวี ินัย หนังสือเรียนหน้ำ 154 • ใฝเ่ รียนรู้ • มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน 3. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนที่ 5 กำรประยุกตใ์ ชร้ ูปที่มีแกน สมมำตร ลงในสมดุ รำยวิชำ สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ ข้ันสรปุ • หนงั สอื เรยี น ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 1 • ใบงำนที่ 5 เรอื่ ง กำรประยุกต์ใช้รูปทมี่ แี กน ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่งิ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้ร่วมกนั สมมำตร บนั ทกึ หลงั การสอน การวดั และประเมินผล ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่ืองมือท่ีใช้ วิธกี ารวดั ครผู ู้สอน ใบงำนท่ี 5 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผู้เรยี น 3. สงั เกตคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 7 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 รูปเรขาคณติ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรอื่ ง การประยกุ ต์ใชร้ ปู ทม่ี แี กนสมมาตร วนั ที่ 15 เดือน กย พ.ศ. 2565 .. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด ค 2.2 ป.3/1 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน ครทู บทวนสิง่ ที่เรยี นไปชว่ั โมงที่แล้วเก่ยี วกบั รูปสมมำตรและ สำมำรถนำควำมรูเ้ กยี่ วกบั รปู ท่ีมีแกนสมมำตรมำ ประดษิ ฐ์เปน็ ผลงำนต่ำงๆ แกนสมมำตร โดยครูวำดรูปเรขำคณติ สองมติ ลิ งบนกระดำน จำกน้ันถำมนักเรยี นว่ำเป็นรปู สมมำตรหรอื ไม่ และมแี กนสมมำตรกี่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ แกน ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบ ขนั้ สอน 1. อธบิ ำยกำรวำดรูปทม่ี ีแกนสมมำตรโดยใชก้ ระดำษ จดุ ได้ (K) 1. ครแู นะนำกระดำษจุดวำ่ แตล่ ะจดุ มีระยะห่ำงเท่ำกันพร้อมรูป ท่มี ีแกนสมมำตรทว่ี ำดโดยใชก้ ระดำษจดุ จำกนั้นครใู ห้นักเรยี นทำ 2. วำดรปู ท่มี ีแกนสมมำตรโดยใช้กระดำษจดุ ได้ (P) กิจกรรมตำมหนังสอื เรียนหน้ำ 155 โดยครวู ำดรูปทมี่ ีแกนสมมำตร 3. รบั ผิดชอบต่อหนำ้ ทที่ ่ีไดร้ บั มอบหมำย (A) ให้เพียงดำ้ นเดียว แลว้ ให้นักเรยี นวำดรปู ทีม่ แี กนสมมำตรตอ่ จำกรูป ท่ีกำหนดให้เป็นรปู ทมี่ แี กนสมมำตร 1 แกน จำกน้นั ครูและนกั เรยี น ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ สนทนำร่วมกนั ว่ำกำรวำดรปู ทีม่ ีแกนสมมำตรโดยใช้กระดำษจุด เมอื่ กำหนดแกนสมมำตรและรปู ข้ำงหน่ึงของแกนสมมำตรให้ ทำได้ • กำรสือ่ สำรและกำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ โดยลำกเส้นผ่ำนจุดบนกระดำษจุดท่ีมีระยะหำ่ งจำกแกนสมมำตร • กำรเชือ่ มโยง เท่ำกันกบั รูปอีกข้ำงหนึง่ ของแกนสมมำตรตำมหนังสือหนำ้ 155 • กำรคิดสรำ้ งสรรค์ จำกนัน้ นกั เรยี นช่วยกันวำดรูปอกี ข้ำงหนงึ่ ของแกนสมมำตรเพ่ือให้ ได้รปู ท่ีมแี กนสมมำตร 1 แกน ในกรอบท้ำยหนงั สือเรียนหนำ้ 155 คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ • มวี นิ ยั 2. นกั เรียนทำกิจกรรม “ตอ่ ให้เปน็ รปู ท่ีมแี กนสมมำตร 1 • ใฝเ่ รียนรู้ แกน” ตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 156 • มงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน 3. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนท่ี 6 กำรประยกุ ต์ใช้รปู ที่มแี กน สมมำตร ลงในสมุดรำยวิชำ ข้ันสรุป ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ที่ไดเ้ รียนร้รู ่วมกนั สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ บนั ทึกหลังการสอน • หนังสือเรียน ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 3 เล่มท่ี 1 • ใบงำนที่ 6 เรอ่ื ง กำรประยุกต์ใชร้ ูปที่มีแกน สมมำตร การวัดและประเมนิ ผล ลงช่อื ฐพร ลงช่ือ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่ืองมือท่ใี ช้ วิธีการวัด ครูผสู้ อน ใบงำนท่ี 6 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 7 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 รูปเรขาคณติ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เรือ่ ง การประยุกตใ์ ช้รูปทีม่ ีแกนสมมาตร วนั ท่ี 16 เดือน ก ย. พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น ครูนำสนทนำเกย่ี วกับรูปสองมิตทิ มี่ ีแกนสมมำตร พร้อม สำมำรถนำควำมรู้เก่ยี วกับรปู ท่มี แี กนสมมำตรมำ ประดษิ ฐเ์ ปน็ ผลงำนต่ำงๆ นำเสนอตวั อกั ษร ตรำสัญลกั ษณ์ต่ำงๆ หรือสัญลกั ษณ์ทำงกำรคำ้ ที่ พบเห็นในชีวติ ประจำวนั ท่ีมลี กั ษณะเป็นรปู ทมี่ ีแกนสมมำตร จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขนั้ สอน 1. อธบิ ำยกำรวำดรปู ท่มี ีแกนสมมำตรโดยใช้กระดำษ 1. ครใู ห้นักเรยี นทำกิจกรรม “ตอ่ ใหเ้ ปน็ รปู ท่มี ีแกนสมมำตร 2 จดุ ได้ (K) แกน” ตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 157 ให้นกั เรยี นลำกเส้นตอ่ จดุ และ ระบำยสตี กแตง่ ภำพให้สวยงำม พรอ้ มทง้ั ตั้งช่อื ภำพ ครูชี้แนะวำ่ 2. วำดรูปทีม่ ีแกนสมมำตรโดยใช้กระดำษจุดได้ (P) กำรวำดรปู ท่มี ีแกนสมมำตร 2 แกนนั้นตอ้ งกำหนดกอ่ นวำ่ จะวำด 3. รบั ผิดชอบตอ่ หน้ำท่ที ่ีไดร้ ับมอบหมำย (A) รปู ตำมแกนสมมำตรของแกนใด จำกน้นั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกัน ตรวจสอบควำมถูกตอ้ งและนำเสนอผลงำนหนำ้ ช้ันเรยี น ครแู ละ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนรว่ มกันสรุปกำรวำดรปู ต่อจดุ ใหไ้ ด้รปู ท่มี แี กนสมมำตร 2 แกน โดยใช้กระดำษจุด เม่ือกำหนดแกนสมมำตรให้ 2 แกนและรูป • กำรสือ่ สำรและกำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ สว่ นหนงึ่ ของแกนสมมำตรให้ ทำไดโ้ ดยลำกเสน้ ผ่ำนจุดบนกระดำษ • กำรเชอ่ื มโยง จุดทม่ี รี ะยะห่ำงจำกแกนสมมำตรเทำ่ กนั กับรปู อกี ข้ำงหน่ึงของแกน • กำรคดิ สร้ำงสรรค์ สมมำตร อำจเร่มิ จำกแกนสมมำตร แกนใดแกนหนึง่ กอ่ น คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ 2. นักเรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน • มวี ินยั หนงั สอื เรียนหนำ้ 158 • ใฝ่เรียนรู้ • มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน 3. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 7 กำรประยกุ ต์ใช้รปู ท่ีมีแกน สมมำตร ลงในสมุดรำยวชิ ำ ขัน้ สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ สิง่ ทไี่ ดเ้ รยี นรูร้ ่วมกัน สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ บนั ทึกหลังการสอน • หนังสอื เรียน ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 3 เลม่ ที่ 1 • ใบงำนท่ี 7 เรอ่ื ง กำรประยุกต์ใช้รปู ทม่ี ีแกน สมมำตร การวัดและประเมนิ ผล ลงช่ือ ฐพร ลงชื่อ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่อื งมอื ทใี่ ช้ วิธีการวัด ครูผู้สอน ใบงำนท่ี 7 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ณั



แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 10 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เร่ือง การเกบ็ รวบรวมข้อมลู วันท่ี 19 เดือน ก ย. พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน ตรวจสอบควำมรพู้ นื้ ฐำนของนกั เรียนโดยใหน้ ักเรียนรว่ มกัน ขอ้ มูลเป็นขอ้ เท็จจริงของสิ่งทส่ี นใจซ่ึงได้จำกกำร เก็บรวบรวม พิจำรณำแผนภูมริ ูปภำพในหนำ้ 162 แล้วร่วมกันตอบคำถำม ขน้ั สอน กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู อำจใช้กำรสังเกต กำร สอบถำม 1. ครตู ดิ ภำพสัตว์ตำ่ ง ๆ ตำมหนงั สือเรียนหน้ำ 163 บน กระดำนแล้วให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบคำถำมว่ำมีสตั ว์กีช่ นดิ และมี กำรเก็บรวบรวมข้อมูลและจำแนกขอ้ มูล ทำให้ อะไรบำ้ ง จำกน้นั ถำมนกั เรยี นว่ำ ถ้ำตอ้ งแบ่งสัตว์เหลำ่ นี้ นกั เรยี น สะดวกต่อกำรนำข้อมลู ไปใช้ จะแบง่ เป็นก่ีประเภท อะไรบ้ำง แลว้ ครูควรอภปิ รำยให้ไดข้ ้อสงั เกต วำ่ สตั ว์ทอี่ ยใู่ นประเภทเดียวกันจะต้องมลี กั ษณะเหมือนกนั ตำม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เกณฑ์ทใ่ี ชจ้ ดั ประเภทน้นั ครสู ุม่ ให้นกั เรียนบำงคนออกมำนำเสนอ พร้อมกบั บอกเกณฑ์ท่ีใชใ้ นกำรแบง่ ประเภทของสัตว์ 1. อธิบำยวธิ กี ำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลและจำแนก ข้อมูลได้ (K) 2. ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรม “พวกใครพวกมนั ” ตำมหนังสือ เรยี นในหน้ำ 164 2. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจำแนกข้อมลู ได้ (P) 3. รับผิดชอบต่อหน้ำท่ีที่ได้รับมอบหมำย (A) 3. ครใู ห้นกั เรยี นดูภำพตำมหนังสอื เรียน หนำ้ 165 แล้วใชก้ ำร ถำมตอบเพือ่ ใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจสถำนกำรณใ์ นรปู ภำพ ครูติดภำพ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ แสดงจำนวนรถชนิดต่ำงๆ ทวี่ ิ่งผ่ำนหน้ำโรงเรียนแลว้ รว่ มกันสรปุ กบั นกั เรยี นวำ่ เม่ือนักเรยี นสงั เกตรถที่วงิ่ ผำ่ นหนำ้ โรงเรยี นแล้ว • กำรส่อื สำรและกำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ นกั เรียนต้องนบั จำนวนรถแตล่ ะชนิดแลว้ เขียนสรปุ ขอ้ มูลดังรปู ใน • กำรเช่อื มโยง หนงั สอื เรียนหนำ้ 165 คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 3. นักเรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยร่วมกันตอบคำถำมใน • มวี นิ ัย หนงั สือเรียนหนำ้ 168 • ใฝ่เรยี นรู้ • มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 1 กำรเก็บรวบรวมข้อมลู ลง ในสมุดรำยวชิ ำ สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปสง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้ร่วมกัน • หนังสอื เรียน ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 3 เล่มที่ 1 บันทึกหลงั การสอน • ใบงำนที่ 1 เรือ่ ง กำรเก็บรวบรวมข้อมลู การวัดและประเมนิ ผล ลงชอื่ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่ืองมือท่ใี ช้ วิธีการวดั ครูผสู้ อน ใบงำนท่ี 1 1. ตรวจใบงำน ผ้อู ำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น 3. สงั เกตคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 10 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เร่ือง การจาแนกข้อมูล วนั ท่ี 20 เดือน กย พ.ศ. 2565 .. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน ครูถำมนกั เรยี นว่ำถ้ำต้องกำรรู้ว่ำเพ่ือนในห้องชอบกนิ ไอศกรีม ข้อมูลเปน็ ข้อเท็จจรงิ ของส่ิงที่สนใจซึง่ ได้จำกกำร เกบ็ รวบรวม รสอะไรบ้ำงจะตอ้ งทำอย่ำงไรจึงจะได้ข้อมูลมำ ขั้นสอน กำรเก็บรวบรวมข้อมูลอำจใชก้ ำรสังเกต กำร สอบถำม 1. ครูใหต้ วั แทนห้องถำมเพือ่ นแตล่ ะคนวำ่ ชอบกนิ ไอศกรีมรส อะไรบ้ำง แล้วบันทึกข้อมลู บนกระดำน เปน็ รอยขีดแล้วนำเสนอ กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและจำแนกข้อมลู ทำให้ เปน็ ตัวเลขแสดงจำนวนตำมหนังสือเรียนหน้ำ 166 จำกนนั้ ครถู ำม สะดวกต่อกำรนำขอ้ มูลไปใช้ คำถำมเกย่ี วกับข้อมลู ในตำรำง แล้วรว่ มกนั สรปุ ว่ำ กำรทำลักษณะ เชน่ นเี้ ป็นกำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู จำกสถำนกำรณจ์ ริง โดยกำรถำม จดุ ประสงค์การเรียนรู้ คำถำมแลว้ บนั ทกึ ขอ้ มูล และขอ้ มูลท่ีได้ อำจบันทึกในรูปแบบตำ่ งๆ กนั 1. อธิบำยวธิ กี ำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลและจำแนก ขอ้ มูลได้ (K) 2. ครูนำเข้ำสกู่ ิจกรรม “รู้จกั เพื่อน” โดยเล่ำสถำนกำรณต์ ำม หนงั สอื เรยี นหนำ้ 166 แลว้ ร่วมกันอภิปรำยเกยี่ วกับข้อมลู ท่ีได้จำก 2. เก็บรวบรวมข้อมลู และจำแนกขอ้ มลู ได้ (P) กำรสอบถำม ครูตดิ ภำพแสดงจำนวนเพอ่ื นท่ชี อบกินไอศกรมี รส 3. รบั ผิดชอบต่อหนำ้ ทที่ ไี่ ดร้ ับมอบหมำย (A) ตำ่ งๆ แลว้ อธบิ ำยวำ่ จำกข้อมลู ทตี่ ้นกล้ำบนั ทกึ สำมำรถสรุปข้อมลู ได้ดงั ภำพนี้ตำมหนงั สอื เรียนหน้ำ 166 จำกน้นั ครใู หน้ กั เรียนทำ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กจิ กรรม “รจู้ กั เพ่อื น” ตำมหนังสือเรียนหนำ้ 167 • กำรสือ่ สำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 3. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 2 กำรจำแนกข้อมูล ลงใน • กำรเชอื่ มโยง สมดุ รำยวชิ ำ ข้นั สรปุ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ • มีวนิ ัย ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นร้รู ว่ มกนั • ใฝ่เรยี นรู้ • มุ่งมั่นในกำรทำงำน สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ • หนังสือเรยี น ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 3 เล่มท่ี 1 บนั ทึกหลงั การสอน • ใบงำนที่ 2 เรือ่ ง กำรจำแนกขอ้ มูล การวดั และประเมนิ ผล ลงช่ือ ฐพร ลงชอ่ื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอ่ื งมือที่ใช้ วิธีการวัด ครูผสู้ อน ใบงำนที่ 2 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผ้เู รยี น 3. สงั เกตคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 10 ช่วั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรือ่ ง การอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพ วนั ที่ 21 เดอื น กย พ.ศ. 2565 . . มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด ค 2.2 ป.3/1 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรียน ครูต้ังคำถำมกระตุ้นควำมสนใจของนกั เรียนวำ่ “จำก แผนภมู ิรูปภำพ เป็นแผนภมู ิที่นำเสนอขอ้ มูล โดย ใชร้ ูปภำพแทนจำนวนสงิ่ ตำ่ ง ๆ ถำ้ เปน็ ขอ้ มูลของส่งิ ประสบกำรณ์ทีผ่ ำ่ นมำนกั เรียนพบเหน็ กำรนำเสนอข้อมูลดว้ ย เดยี วกนั รูปภำพที่ใชต้ ้องเป็นรูปภำพทีเ่ หมอื นกนั และ วธิ กี ำรใดบำ้ ง” มีขนำดเท่ำกนั จำนวนท่ีแทจ้ รงิ ของส่ิงตำ่ ง ๆ อำจไม่ ขัน้ สอน เทำ่ กบั จำนวนรปู ภำพในแผนภมู ิรูปภำพ ขน้ึ อย่กู ับ ข้อกำหนดในแผนภมู ริ ูปภำพ 1. ครตู ดิ แผนภูมิรปู ภำพตำมหนังสือเรยี นหนำ้ 169 จำกนน้ั ครู อธบิ ำยถงึ ส่วนประกอบของแผนภูมริ ปู ภำพว่ำ ประกอบดว้ ย ชื่อ จุดประสงค์การเรยี นรู้ แผนภมู ิ ตัวแผนภูมิ และขอ้ กำหนด 1. อธิบำยวธิ ีกำรอำ่ นข้อมลู จำกแผนภูมริ ปู ภำพได้ 2. ครูยกตัวอยำ่ งแผนภูมิรปู ภำพลักษณะทีต่ ่ำงจำกแผนภมู ิ (K) รูปภำพหน้ำ 169 ตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 170 โดยตดิ แผนภูมิ รูปภำพบนกระดำน ให้นักเรยี นบอกสงิ่ ที่ทรำบจำกแผนภมู ริ ูปภำพ 2. อำ่ นข้อมลู จำกแผนภูมริ ปู ภำพได้ (P) ครแู นะนำว่ำ จำกข้อกำหนด แทนจำนวนพันธ์ุผัก 20 ซอง 3. รับผดิ ชอบต่อหน้ำทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมำย (A) ดงั นน้ั แทนจำนวนพนั ธผุ์ ัก 10 ซอง ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันตอบ คำถำมในกรอบทำ้ ยหนังสือเรียนหนำ้ 170 แล้วให้ตัวแทนนกั เรยี น ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ออกมำนำเสนอวิธคี ิด โดยครอู ำจแนะนำให้นักเรยี นหำจำนวนพันธ์ ผกั แตล่ ะชนิดก่อนเพอ่ื สะดวกในกำรตอบคำถำม • กำรแก้ปญั หำ • กำรสอ่ื สำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 3. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนท่ี 3 กำรอำ่ นแผนภมู ิรปู ภำพ • กำรเช่อื มโยง ลงในสมดุ รำยวชิ ำ ข้นั สรุป คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั • มวี ินัย • ใฝ่เรียนรู้ • ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำน สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนังสอื เรียน ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 3 เลม่ ท่ี 1 บนั ทกึ หลังการสอน • ใบงำนท่ี 3 เร่ือง กำรอ่ำนแผนภูมิรปู ภำพ การวดั และประเมินผล ลงชื่อ ฐพร ลงช่ือ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่อื งมือท่ใี ช้ วธิ กี ารวดั ครูผสู้ อน ใบงำนท่ี 3 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผูเ้ รียน 3. สงั เกตคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 10 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เร่ือง การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ วนั ท่ี 22 เดอื น ถย พ.ศ. 2565 . . มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั ค 2.2 ป.3/1 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ข้ันนาเข้าส่บู ทเรยี น ครูติดแผนภูมิรปู ภำพบนกระดำนตำมหนงั สือเรียนหน้ำ 171 ให้ แผนภูมริ ปู ภำพ เปน็ แผนภูมทิ ี่นำเสนอข้อมูล โดย ใชร้ ูปภำพแทนจำนวนส่ิงตำ่ ง ๆ ถำ้ เป็นขอ้ มลู ของสิ่ง นกั เรยี นบอกสิ่งท่ที รำบจำกแผนภูมิรูปภำพ เดยี วกัน รูปภำพท่ีใช้ตอ้ งเปน็ รปู ภำพที่เหมอื นกันและ ขั้นสอน มีขนำดเทำ่ กัน จำนวนทแี่ ท้จริงของสงิ่ ตำ่ ง ๆ อำจไม่ เท่ำกบั จำนวนรูปภำพในแผนภูมิรปู ภำพ ข้นึ อย่กู ับ 1. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถำม เช่น รูป แทนจำนวน ข้อกำหนดในแผนภูมิรปู ภำพ นักเรียนก่ีคน เพรำะเหตุใด มนี ักเรียนเล้ยี งสตั วก์ ค่ี น คดิ ได้อยำ่ งไร มีนกั เรยี นเลน่ ดนตรีกค่ี น คิดได้อย่ำงไร จำกนัน้ ให้นักเรยี นช่วยกนั จุดประสงค์การเรียนรู้ ตอบคำถำมในกรอบทำ้ ยหนงั สือเรยี น หน้ำ 171 แลว้ ใหต้ วั แทน นักเรยี นออกมำนำเสนอวิธคี ิด โดยครูอำจแนะนำให้นักเรยี นหำ 1. อธบิ ำยวธิ ีกำรอำ่ นขอ้ มลู จำกแผนภมู ิรูปภำพได้ จำนวนนักเรยี นในงำนอดเิ รกแตล่ ะประเภทไว้เพ่ือสะดวกต่อกำร (K) ตอบคำถำม 2. อำ่ นข้อมลู จำกแผนภมู ิรูปภำพได้ (P) 2. นกั เรียนตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยร่วมกันตอบคำถำมใน 3. รบั ผดิ ชอบต่อหน้ำที่ท่ีได้รับมอบหมำย (A) หนังสือเรยี นหน้ำ 172 ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 3. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนที่ 4 กำรอ่ำนแผนภูมิรปู ภำพ ลงในสมุดรำยวชิ ำ • กำรแก้ปัญหำ ขนั้ สรุป • กำรส่ือสำรและกำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ • กำรเชอื่ มโยง ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ สิง่ ทีไ่ ดเ้ รยี นร้รู ว่ มกัน คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ • มีวนิ ยั • ใฝ่เรียนรู้ • มุ่งมั่นในกำรทำงำน สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ • หนงั สอื เรียน ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เล่มที่ 1 บนั ทึกหลังการสอน • ใบงำนที่ 4 เร่ือง กำรอ่ำนแผนภูมิรูปภำพ การวัดและประเมินผล ลงช่ือ ฐพร ลงช่อื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ วธิ ีการวัด ครผู ู้สอน ใบงำนท่ี 4 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผเู้ รียน 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรียน 10 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เรือ่ ง การเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ วันท่ี 23 เดอื น ก ย. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน ครอู ำจนำเขำ้ สู่บทเรียนโดยใช้กำรถำมตอบเกยี่ วกับแผนภมู ิ กำรเขยี นแผนภูมริ ูปภำพตอ้ งมีชือ่ แผนภูมิ ตัว แผนภมู แิ ละข้อกำหนด ขอ้ มลู ชุดเดียวกัน สำมำรถ รูปภำพ เชน่ แผนภมู ิรปู ภำพประกอบดว้ ยอะไรบำ้ ง เขียนแผนภูมิรปู ภำพโดยใช้ข้อกำหนดทีแ่ ตกตำ่ งกนั ขัน้ สอน จำนวนรูปภำพที่เขยี นในแผนภูมิรปู ภำพขนึ้ อยู่กบั ข้อมูลและขอ้ กำหนด 1. ครยู กตัวอยำ่ งสถำนกำรณ์ตำมหนงั สือเรยี นหนำ้ 173 ครูให้ นักเรยี นเขยี นแผนภมู ิรปู ภำพท่มี ชี ่อื แผนภมู ิคอื จำนวนนกั เรยี นช้นั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ป.3 ท่ีชอบกินขนมชนิดตำ่ ง ๆ ที่มี 5 รำยกำร ตำมขอ้ มลู ข้ำงตน้ โดยให้นกั เรยี นกำหนดรปู อะไรในกำรเขียนกไ็ ด้ และเขียน 1. อธบิ ำยวิธีกำรเขยี นแผนภมู ริ ูปภำพจำกขอ้ มลู ที่ ขอ้ กำหนดเป็นรปู 1 รปู แทนจำนวนนักเรียน 1 คน กำหนดให้ได้ (K) 2. ครูอำจอธบิ ำยเพิ่มเตมิ โดยให้นกั เรยี นพจิ ำรณำจำนวนขอ้ มูล 2. เขยี นแผนภมู ิรปู ภำพจำกขอ้ มูลทกี่ ำหนดใหไ้ ด้ (P) ในแตล่ ะรำยกำร ดงั นี้ 21 12 18 24 และ 9 แลว้ ถำมนักเรียนวำ่ มี 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หนำ้ ทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมำย (A) จำนวนใดทหี่ ำรจำนวนเหลำ่ น้ลี งตวั บำ้ ง และในจำนวนทีห่ ำรลงตวั นี้ มจี ำนวนใดบำ้ งทหี่ ำรจำนวนข้อมลู ในแต่ละรำยกำรลงตัวท้งั หมด ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ครูถำมนักเรียนว่ำจะตอ้ งกำหนดให้รูป 1 รปู ในแผนภูมริ ูปภำพแทน จำนวนนกั เรยี นกค่ี น จำกนัน้ ครูให้นักเรียนชว่ ยกันพจิ ำรณำว่ำ • กำรสอื่ สำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ขอ้ มูลในแต่ละรำยกำรตอ้ งวำดรปู กรี่ ูป จำกน้นั ครูและนกั เรียน • กำรเชอื่ มโยง รว่ มกันเขียนแผนภมู ริ ปู ภำพโดยกำำหนดให้รปู 1 รปู แทนจำนวน นักเรยี น 3 คน จำกนัน้ ใหน้ ักเรยี นช่วยกันเขยี นแผนภูมิรปู ภำพตำม คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ ขอ้ มูลในกรอบทำ้ ยหนงั สือเรยี นหน้ำ 174 • มวี ินยั • ใฝ่เรียนรู้ 3. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนท่ี 5 กำรเขียนแผนภมู ิรูปภำพ • ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำน ลงในสมุดรำยวชิ ำ ขน้ั สรปุ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ สงิ่ ทไี่ ดเ้ รียนร้รู ่วมกนั สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนังสือเรยี น ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เล่มที่ 1 บนั ทึกหลงั การสอน • ใบงำนที่ 5 เรอื่ ง กำรเขียนแผนภูมิรปู ภำพ การวดั และประเมนิ ผล ลงชื่อ ฐพร ลงชอ่ื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครื่องมอื ทใี่ ช้ วิธีการวัด ครผู สู้ อน ใบงำนที่ 5 1. ตรวจใบงำน ผ้อู ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรียน 10 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เร่อื ง การเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพ วันที่ 26 เดือน กย พ.ศ. 2565 .. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั ค 2.2 ป.3/1 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น ครทู บทวนควำมร้จู ำกตัวอย่ำงในหนงั สือเรียนหนำ้ 174 นนั้ ครู กำรเขยี นแผนภมู ริ ูปภำพต้องมชี อื่ แผนภมู ิ ตวั แผนภมู แิ ละขอ้ กำหนด ขอ้ มูลชุดเดียวกัน สำมำรถ ถำมนกั เรยี นว่ำ ถำ้ กำำหนดใหร้ ปู 1 รูป แทนจำนวนอ่ืนที่ไมใ่ ช่ 3 เขียนแผนภูมริ ปู ภำพโดยใชข้ ้อกำหนดทแี่ ตกต่ำงกนั จะเปน็ จำนวนอน่ื ไดห้ รือไม่ จำนวนรูปภำพท่เี ขยี นในแผนภมู ิรูปภำพข้นึ อยู่กับ ขน้ั สอน ขอ้ มูลและข้อกำหนด 1. นกั เรียนพจิ ำรณำขอ้ มูลผกั ทีน่ ักเรียนชัน้ ป.3 เก็บได้ในวนั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ศกุ ร์ ตำมหนงั สอื เรยี นหนำ้ 175 โดยครแู นะนำว่ำนอกจำกจะใช้ รปู ภำพท่มี ีลักษณะเตม็ รปู แสดงจำนวนหรือปรมิ ำณของสิ่งตำ่ ง ๆ 1. อธบิ ำยวิธีกำรเขยี นแผนภูมิรปู ภำพจำกข้อมูลที่ ได้แลว้ ยงั สำมำรถใชร้ ปู ภำพที่มลี ักษณะไม่เต็มรูปหรอื มลี ักษณะ กำหนดให้ได้ (K) คร่งึ รูป เพ่อื แสดงจำนวนหรอื ปรมิ ำณของส่ิงตำ่ ง ๆ ตำมข้อกำหนด ได้ จำกน้ันครใู ห้นักเรยี นร่วมกันอภปิ รำยวำ่ ถ้ำจะนำขอ้ มลู จำนวน 2. เขยี นแผนภมู ิรูปภำพจำกข้อมลู ท่กี ำหนดใหไ้ ด้ (P) ผกั ท่เี ก็บไดใ้ นวันศกุ ร์ มำเขยี นแผนภูมริ ูปภำพ จะกำหนดใหร้ ปู 1 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนำ้ ท่ที ่ไี ดร้ บั มอบหมำย (A) รปู แทนจำนวนผกั กี่ต้นบ้ำง พรอ้ มทั้งบอกเหตุผล จำกนนั้ ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ แลว้ ให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ สังเกตวำ่ ถำ้ แตล่ ะ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ แผนภมู ิรูปภำพมีขอ้ กำหนดทแ่ี ตกตำ่ งกันตำมหนงั สือเรยี นหน้ำ 175 และ 176 จำกนั้นครสู ุ่มเลอื กนกั เรียนมำอธบิ ำยข้ันตอนกำร • กำรส่อื สำรและกำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ เขียนแผนภมู ริ ปู ภำพแต่ละแผนภูมิรูปภำพให้เพอื่ นฟงั โดยครรู ่วม • กำรเชื่อมโยง ให้คำแนะนำในกรณีทนี่ กั เรียนอธิบำยไมค่ รอบคลมุ คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ 2. นักเรยี นตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน • มวี ินัย หนงั สอื เรยี นหนำ้ 178 • ใฝ่เรยี นรู้ • มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน 3. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนท่ี 6 กำรเขยี นแผนภมู ิรปู ภำพ ลงในสมดุ รำยวิชำ สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ ข้ันสรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รียนร้รู ว่ มกนั • หนงั สอื เรียน ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 3 เล่มที่ 1 บนั ทึกหลงั การสอน • ใบงำนท่ี 6 เร่อื ง กำรเขยี นแผนภูมิรปู ภำพ การวัดและประเมนิ ผล ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ วิธีการวัด ครผู สู้ อน ใบงำนท่ี 6 1. ตรวจใบงำน ผ้อู ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลาเรียน 10 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรื่อง การเขยี นแผนภูมิรปู ภาพ วนั ท่ี 27 เดือน .กย พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั ค 2.2 ป.3/1 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรียน ครูติดแผนภูมิรูปภำพบนกระดำนใหน้ กั เรยี นบอกรำยละเอยี ด กำรเขยี นแผนภูมริ ปู ภำพตอ้ งมชี อ่ื แผนภมู ิ ตวั แผนภมู แิ ละข้อกำหนด ข้อมลู ชดุ เดียวกัน สำมำรถ ของแผนภมู ิรปู ภำพ เชน่ แผนภมู ิรูปภำพทีแ่ สดงเกย่ี วกับอะไร อ่ำน เขียนแผนภูมิรูปภำพโดยใชข้ อ้ กำหนดท่แี ตกต่ำงกัน ขอ้ มูลได้อย่ำงไร ฝึกทกั ษะกำรต้ังคำถำมโดยใหน้ ักเรียนจบั คกู่ ับ จำนวนรูปภำพทีเ่ ขียนในแผนภูมิรปู ภำพขน้ึ อยู่กับ เพ่ือนตัง้ คำถำมและหำคำตอบจำกแผนภมู ิรปู ภำพทค่ี รกู ำหนดให้ ขอ้ มูลและข้อกำหนด ขนั้ สอน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มทำกจิ กรรม “สนกุ กับกำรเขยี น แผนภมู ิรปู ภำพ” ตำมหนังสือเรียนหน้ำ 177 และครแู นะนำให้ 1. อธบิ ำยวิธกี ำรเขียนแผนภูมิรูปภำพจำกขอ้ มูลท่ี นักเรยี นเขียนเป็นแผนภูมิรูปภำพท้งั แนวต้ังและแนวนอน เพอ่ื ให้ กำหนดให้ได้ (K) เห็นควำมหลำกหลำยในกำรนำเสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภูมิรปู ภำพ 2. เขยี นแผนภูมริ ปู ภำพจำกข้อมลู ทกี่ ำหนดใหไ้ ด้ (P) 2. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนที่ 7 กำรเขียนแผนภูมริ ปู ภำพ 3. รบั ผิดชอบต่อหน้ำท่ที ี่ได้รบั มอบหมำย (A) ลงในสมุดรำยวชิ ำ ขัน้ สรุป ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นร้รู ่วมกนั ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ • กำรส่อื สำรและกำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ • กำรเชอ่ื มโยง คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ บนั ทึกหลงั การสอน • มวี ินัย • ใฝ่เรยี นรู้ ลงชื่อ ฐพร ลงชื่อ ) • มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( ครผู ูส้ อน สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ ผู้อำนวยกำร • หนงั สือเรยี น ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เล่มที่ 1 • ใบงำนที่ 7 เร่อื ง กำรเขียนแผนภมู ิรูปภำพ การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ วธิ ีการวดั ใบงำนท่ี 7 1. ตรวจใบงำน 2. สงั เกตพฤติกรรมของผู้เรยี น 3. สังเกตคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 10 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 เรือ่ ง การอ่านตารางทางเดยี ว วนั ที่ 28 เดอื น ก ย. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน ครเู กร่นิ นำเขำ้ สูบ่ ทเรยี นว่ำ นอกจำกกำรนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ย ตำรำงทำงเดียวประกอบด้วย ชื่อตำรำงและ ตำรำงที่มหี วั ตำรำงและรำยละเอยี ดของขอ้ มลู แผนภูมริ ปู ภำพแลว้ อำจนำเสนอข้อมูลดว้ ยรูปแบบอ่ืนได้อีกหรือไม่ ข้นั สอน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ครูเล่ำสถำนกำรณ์เก่ยี วกบั ข้อมลู กำรเดินทำงมำโรงเรยี นของ 1. อธบิ ำยวธิ ีกำรอำ่ นตำรำงทำงเดยี วได้ (K) นกั เรยี นตำมหนังสอื เรยี นหน้ำ 179 จำกนนั้ ให้นักเรยี นร่วมกัน 2. อำ่ นขอ้ มูลจำกตำรำงทำงเดียวได้ (P) อภิปรำยว่ำตำรำงทำงเดียวทง้ั สองแบบเหมอื นกนั หรือแตกต่ำงกัน 3. รับผดิ ชอบต่อหน้ำทท่ี ีไ่ ด้รบั มอบหมำย (A) อย่ำงไร จำกกำรอภปิ รำยนกั เรียนควรไดข้ อ้ สรุปว่ำ ตำรำงทำงเดยี ว ประกอบดว้ ย ช่อื ตำรำงและตำรำงท่ีมีหวั ตำรำงและรำยละเอยี ด ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของขอ้ มูล ซึง่ สำมำรถเขียนหัวตำรำงไวท้ ำงดำ้ นบนหรอื ด้ำนซ้ำยก็ • กำรแก้ปญั หำ ได้ • กำรสื่อสำรและกำรส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ • กำรเชอ่ื มโยง 2. ครใู ห้นักเรียนรว่ มกันพจิ ำรณำตำรำงทำงเดยี วแสดงจำนวน นักเรยี นท่เี ดนิ ทำงมำโรงเรียนโดยพำหนะชนิดต่ำงๆ ตำมหนงั สอื คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ เรยี นหนำ้ 180 จำกนน้ั ครอู ำจใชค้ ำถำมเกย่ี วกบั ตำรำงทำงเดยี ว ให้ • มีวินัย นักเรียนหำคำตอบแลว้ ร่วมกนั ตรวจคำตอบ • ใฝเ่ รียนรู้ • มงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน 3. นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถำมตำมหนงั สือเรยี นหนำ้ 181 4. นกั เรยี นตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน หนงั สอื เรียนหน้ำ 182 5. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 8 กำรอ่ำนตำรำงทำงเดียว ลงในสมดุ รำยวชิ ำ ขน้ั สรุป ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นร้รู ่วมกัน สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ • หนงั สือเรียน ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 3 เล่มที่ 1 บนั ทึกหลังการสอน • ใบงำนท่ี 8 เรอ่ื ง กำรอำ่ นตำรำงทำงเดียว การวัดและประเมินผล ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ วิธีการวัด ครผู สู้ อน ใบงำนที่ 8 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผ้เู รยี น 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 9 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 10 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เร่ือง การเขยี นตารางทางเดียว วนั ที่ 29 เดือน กย พ.ศ. 2565 . . มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั ค 2.2 ป.3/1 กจิ กรรมการเรียนรู้ สาระสาคัญ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน ครูต้ังคำถำมกระต้นุ ควำมสนใจของนกั เรียนวำ่ จำก กำรเขยี นตำรำงทำงเดียวต้องมีช่ือตำรำงและ ตำรำงทมี่ หี วั ตำรำงและรำยละเอียดของขอ้ มูล ประสบกำรณท์ ่ีผำ่ นมำนกั เรยี นพบเห็นกำรนำเสนอขอ้ มูลดว้ ย วธิ กี ำรใดบำ้ ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขน้ั สอน 1. อธิบำยวิธีกำรเขียนตำรำงทำงเดยี วจำกขอ้ มูลที่ 1. ครสู ำธิตกำรเขยี นตำรำงทำงเดยี วจำกขอ้ มูลท่เี ป็นจำนวนนับ กำหนดให้ได้ (K) ตำมหนังสือเรยี นหน้ำ 183 ทีละขั้นตอนเร่มิ จำกกำรเขยี นชือ่ ตำรำง กำรเขียนตำรำง กำรเขียนหวั ตำรำง และกำรเขยี นรำยละเอยี ดของ 2. เขยี นตำรำงทำงเดียวจำกขอ้ มูลทกี่ ำหนดให้ได้ (P) ข้อมลู ในตำรำง และครเู นน้ ยำ้ ว่ำสำมำรถเขียนตำรำงทำงเดยี วได้ 3. รบั ผดิ ชอบต่อหน้ำท่ที ไี่ ดร้ บั มอบหมำย (A) สองแบบ ทัง้ แบบท่มี ีหัวตำรำงอยูด่ ำ้ นบนและแบบทีม่ ีหวั ตำรำงอยู่ ด้ำนซำ้ ย แตถ่ ำ้ ขอ้ มลู มีหลำยรำยกำร กำรเขยี นตำรำงแบบที่มีหวั ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ตำรำงอย่ดู ้ำนบนจะสะดวกกว่ำ เพรำะถำ้ เขียนตำรำงแบบท่มี หี ัว ตำรำงอยู่ดำ้ นซำ้ ยอำจทำใหก้ ำรเขียนรำยละเอยี ดของข้อมลู ลงใน • กำรสือ่ สำรและกำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ตำรำงไม่ครบถว้ น • กำรเชอ่ื มโยง 2. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลมุ่ แล้วใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มทำ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ กิจกรรม “เขยี นตำรำงทำงเดียว” ตำมหนงั สือเรียนหน้ำ 184 • มวี นิ ัย • ใฝเ่ รียนรู้ 3. จำกน้ันครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั เขียนตำรำงทำงเดียว • มุ่งม่ันในกำรทำงำน จำกข้อมลู ที่เป็นจำนวนนบั ตำมหนงั สือเรียนหน้ำ 185 กลมุ่ ละ 1 ข้อโดยครูใช้คำถำมเพอื่ ช่วยใหน้ ักเรียนเขียนตำรำงทำงเดยี วได้ 4. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนที่ 9 กำรเขยี นตำรำงทำงเดยี ว ลงในสมุดรำยวชิ ำ ข้นั สรปุ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่ิงทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ว่ มกนั สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนังสือเรยี น ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 3 เล่มท่ี 1 บนั ทึกหลงั การสอน • ใบงำนที่ 9 เร่อื ง กำรเขียนตำรำงทำงเดียว การวัดและประเมินผล ลงชือ่ ฐพร ลงช่ือ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครื่องมอื ทีใ่ ช้ วิธกี ารวัด ครูผูส้ อน ใบงำนที่ 9 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผู้เรียน 3. สงั เกตคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 10 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 10 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เรอื่ ง การเขียนตารางทางเดียว วนั ที่ 30 เดือน ก ย. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด ค 2.2 ป.3/1 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น ครูนำตัวอย่ำงตำรำงเทียวมำใหน้ ักเรียนดโู ดยติดไว้บนกระดำน กำรเขยี นตำรำงทำงเดยี วต้องมีช่ือตำรำงและ ตำรำงทมี่ หี ัวตำรำงและรำยละเอยี ดของขอ้ มลู ใหน้ ักเรียนช่วยกนั พจิ ำรณำสว่ นประกอบของตำรำงทำงเดียววำ่ ประกอบไปด้วยสว่ นประกอบอะไรบำ้ ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขน้ั สอน 1. อธิบำยวธิ ีกำรเขียนตำรำงทำงเดยี วจำกขอ้ มูลที่ 1. ครูติดตำรำงข้อมูลสภำพอำกำศของประเทศไทยเดือน กำหนดให้ได้ (K) กันยำยนตำมหนังสอื เรียนหน้ำ 186 ครูอำจอธิบำยเพิ่มเตมิ ว่ำ ประเทศไทยมี 3 ฤดกู ำล ได้แก่ ฤดรู ้อน (กลำงเดือนกมุ ภำพันธ์ 2. เขยี นตำรำงทำงเดยี วจำกขอ้ มลู ท่กี ำหนดให้ได้ (P) ถึงกลำงเดอื นพฤษภำคม) ฤดูฝน (กลำงเดือนพฤษภำคมถงึ 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนำ้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมำย (A) กลำงเดอื นตลุ ำคม) และฤดหู นำว (กลำงเดอื นตุลำคมถึงกลำงเดือน กุมภำพนั ธ์) จำกนัน้ ครยู กตวั อย่ำงกำรเขียนตำรำงทำงเดยี วทเ่ี ปน็ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กำรนำเสนอข้อมูลเดยี วกันแตเ่ ขียนหวั ตำรำงไว้ดำ้ นบน • กำรสือ่ สำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 2. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั เขียนตำรำงทำงเดยี วแสดง • กำรเชื่อมโยง จำนวนจังหวัดทม่ี สี ภำพป่ำไมแ้ บบต่ำง ๆ ของประเทศไทยตำม หนังสอื เรยี นหนำ้ 187 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ • มีวนิ ยั 3. นกั เรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน • ใฝ่เรยี นรู้ หนังสอื เรียนหน้ำ 188 • มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 4. มอบหมำยนกั เรยี นทำใบงำนท่ี 10 กำรเขยี นตำรำงทำงเดยี ว ลงในสมุดรำยวิชำ ขน้ั สรุป ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สิ่งทไี่ ด้เรียนรู้รว่ มกนั สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ • หนงั สอื เรียน ช้ันประถมศึกษำปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 1 บันทึกหลงั การสอน • ใบงำนท่ี 10 เรอ่ื ง กำรเขยี นตำรำงทำงเดียว การวดั และประเมินผล ลงชอื่ ฐพร ลงชื่อ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่อื งมอื ท่ีใช้ วธิ ีการวดั ครูผู้สอน ใบงำนที่ 10 1. ตรวจใบงำน ผ้อู ำนวยกำร 2. สงั เกตพฤติกรรมของผู้เรยี น 3. สงั เกตคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ณั



แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เศษสว่ น เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เรือ่ ง การอา่ นและการเขยี นเศษสว่ น วนั ท่ี 3 เดือน ต ค. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.3/3 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน ครูนำขนมปังมำแบง่ ออกเป็น 2 ส่วน เท่ำๆ กนั ครูถำมวำ่ ถ้ำ เศษสว่ นเปน็ สัญลักษณแ์ สดงจำนวน ซงึ่ ตอ้ งกำรแบ่งขนมปงั ออกเป็น 2 ส่วน เทำ่ ๆ กัน จะตอ้ งแบง่ อย่ำงไร ประกอบด้วยตัวเศษและตวั ส่วน ตัวเศษแสดงจำนวน ข้นั สอน ของสว่ นทีก่ ล่ำวถึง เขียนไวด้ ้ำนบนของเส้นคัน่ ตัว 1. นักเรียนดูภำพตำมหนังสือเรยี นหน้ำ 193 ครูอธิบำยวำ่ กำร เขยี นเศษสว่ นแสดงจำนวนของเคก้ แต่ละชน้ิ จำกน้ันนักเรียน ส่วนแสดงจำนวนของส่วนทเี่ ท่ำๆ กันทั้งหมดเขยี นไว้ ช่วยกัน ตอบคำถำมในกรอบท้ำยในหนงั สือเรียนหน้ำ 193 1 2 6 ดำ้ นล่ำงของเส้นค่ัน เชน่ 4 5 13 เศษส่วนทตี่ วั เศษ 2. ครูยกตวั อยำ่ งกำรแบง่ กระดำษออกเปน็ 3 ส่วนเทำ่ ๆ กนั 5 ส่วนเทำ่ ๆ กนั ตำมหนังสอื เรียนหน้ำ 194 แลว้ ใหน้ กั เรยี นบอก เทำ่ กบั ตวั ส่วนมคี ่ำเท่ำกบั 1 เศษสว่ นท่แี สดงจำนวนของแต่ละส่วนทแ่ี บ่งวำ่ เป็นเศษสว่ นใดของ ท้งั หมด จำกน้นั นักเรียนร่วมกนั ตอบคำถำมในกรอบทำ้ ยในหนังสอื จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เรียนหนำ้ 194 1. อธิบำยวิธีกำรอ่ำนและเขียนเศษส่วนที่แสดง 3. ครูยกตัวอย่ำงเศษสว่ นท่ีแสดงสว่ นทีร่ ะบำยสีในรูปตำ่ งๆ ปริมำณของสิง่ ตำ่ งๆ ได้ (K) เพือ่ แสดงเศษส่วนที่ตัวเศษมำกกวำ่ 1 ตำมหนังสือเรยี นหน้ำ 195 จำกนัน้ นักเรยี นร่วมกันตอบคำถำมในกรอบทำ้ ยในหนังสือเรยี น 2. อ่ำนและเขยี นเศษส่วนทแ่ี สดงปริมำณของสิ่ง หน้ำ 195 ตำ่ งๆ ได้ (P) 4. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนที่ 1 กำรอำ่ นและกำรเขียน 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้ำที่ที่ไดร้ บั มอบหมำย (A) เศษสว่ น ลงในสมุดรำยวิชำ ข้นั สรปุ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้รว่ มกนั • กำรสือ่ สำรและกำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ • กำรเชอ่ื มโยง •กำรใหเ้ หตุผล คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ • มีวนิ ัย • ใฝเ่ รียนรู้ • มุ่งมั่นในกำรทำงำน สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ • หนงั สอื เรยี น ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เลม่ ที่ 1 บนั ทึกหลังการสอน • ใบงำนที่ 1 เร่อื ง กำรอำ่ นและกำรเขยี นเศษสว่ น การวัดและประเมินผล ลงช่อื ฐพร ลงชอ่ื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอื่ งมอื ท่ีใช้ วธิ กี ารวดั ครผู ูส้ อน ใบงำนท่ี 1 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 6 เศษสว่ น เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เรื่อง การอา่ นและการเขยี นเศษสว่ น วนั ที่ 4 เดอื น ๓. ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.3/3 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน เศษส่วนเปน็ สัญลักษณแ์ สดงจำนวน ซง่ึ นักเรียนฝึกกำรเขยี นเศษสว่ นแสดงจำนวนของสว่ นท่รี ะบำยสที ี่ ประกอบด้วยตวั เศษและตัวสว่ น ตัวเศษแสดงจำนวน ตวั เศษไมเ่ ทำ่ กับ 1 หลำยๆ จำนวน หลำยๆ แบบ ของสว่ นทกี่ ล่ำวถงึ เขยี นไวด้ ้ำนบนของเสน้ คัน่ ตัว ข้ันสอน สว่ นแสดงจำนวนของส่วนท่เี ทำ่ ๆ กนั ท้ังหมดเขียนไว้ 1. นกั เรียนดภู ำพกำรระบำยสี 4 สว่ นจำกทัง้ หมด 4 สว่ น ตำม ด้ำนล่ำงของเส้นค่นั เชน่ 1 2 6 เศษสว่ นที่ตัวเศษ หนงั สือเรยี นหนำ้ 196 ครูถำมนกั เรียนวำ่ จำกบัตรภำพเขียนแสดง 4 5 13 เศษส่วนได้อยำ่ งไร พร้อมระบตุ ัวเศษและตัวสว่ น ครูอธบิ ำยวำ่ รูป เทำ่ กบั ตวั ส่วนมคี ่ำเทำ่ กบั 1 ส่ีเหลี่ยม 1 รปู แบง่ เปน็ 4 สว่ นเทำ่ ๆ กันระบำยสี 4 ส่วนใน 4 ส่วน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หมำยถึงระบำยสี แต่ละสว่ นของรูปจนเตม็ รปู 1 รูป ดงั นั้น 1. อธิบำยวิธีกำรอ่ำนและเขยี นเศษสว่ นทีแ่ สดง เศษส่วนนจ้ี งึ เท่ำกับ 1 จำกนน้ั ยกตัวอยำ่ งรปู อน่ื ท่ีระบำยสีเต็มรปู ปริมำณของสงิ่ ตำ่ งๆ ได้ (K) 6 เชน่ 6 ตำมหนงั สอื เรยี นหนำ้ 196 จำกนนั้ นักเรยี นช่วยกันดรู ูปท่ี 2. อำ่ นและเขียนเศษส่วนที่แสดงปรมิ ำณของสิ่ง ต่ำงๆ ได้ (P) ระบำยสีในกรอบทำ้ ยหนงั สอื เรยี นหนำ้ 196 3. รับผดิ ชอบต่อหนำ้ ที่ท่ีไดร้ บั มอบหมำย (A) 2. นักเรยี นทำกจิ กรรมเศษส่วนแสนสนกุ ตำมหนังสือเรียนหน้ำ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 197 • กำรสือ่ สำรและกำรส่อื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ 3. นกั เรียนตรวจสอบควำมเข้ำใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน • กำรเชอื่ มโยง •กำรให้เหตผุ ล หนังสอื เรยี นหน้ำ 198 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 4. มอบหมำยนักเรยี นทำใบงำนที่ 2 กำรอำ่ นและกำรเขยี น • มวี นิ ยั เศษสว่ น ลงในสมุดรำยวชิ ำ • ใฝ่เรยี นรู้ • ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน ขัน้ สรุป ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสิ่งท่ีไดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ • หนงั สอื เรยี น ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เลม่ ท่ี 1 บันทกึ หลังการสอน • ใบงำนที่ 2 เรอ่ื ง กำรอ่ำนและกำรเขียนเศษส่วน การวัดและประเมนิ ผล ลงช่ือ ฐพร ลงช่ือ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่อื งมือท่ีใช้ วิธีการวดั ครูผู้สอน ใบงำนที่ 2 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน 3. สงั เกตคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 14 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 เศษสว่ น เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เรื่อง การเปรียบเทยี บเศษสว่ นทตี่ วั ส่วนเทา่ กัน วนั ท่ี 5 เดือน ต ค. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.3/4 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น นกั เรยี นดภู ำพในหนงั สือเรยี นหน้ำ 199 แลว้ รว่ มกันเขยี น กำรเปรียบเทียบเศษส่วนท่ตี ัวสว่ นเทำ่ กัน ให้ดทู ี่ ตัวเศษ ถำ้ ตัวเศษของเศษส่วนใดมำกกวำ่ เศษส่วนนัน้ เศษส่วนแสดงปริมำณของนำ้ ผลไม้ต่ำงๆ จะมำกกว่ำ ขั้นสอน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสงั เกตโหลแก้วในบัตรภำพแตล่ ะบตั รวำ่ มรี ปู รำ่ ง และมีควำมจุ 1 ลติ ร เท่ำกนั และแบ่งเปน็ 5 สว่ น เท่ำ ๆ กนั แล้ว 1. อธิบำยหลักกำรเปรยี บเทียบเศษสว่ นที่ตัวส่วน สงั เกตปริมำตรของนำ้ แตล่ ะชนิดแลว้ ให้นักเรียนเปรยี บเทยี บ เทำ่ กนั ได้ (K) ปรมิ ำตร ครูอธบิ ำยว่ำ กำรนำเศษสว่ นมำเปรยี บเทยี บกัน เศษส่วน นน้ั ต้องมำจำกสิง่ เดยี วกนั จำกนน้ั ใหน้ กั เรียนตอบคำถำมในกรอบ 2. เปรียบเทียบเศษสว่ นทตี่ วั สว่ นเทำ่ กนั ได้ (P) ท้ำยหนงั สือเรียนหนำ้ 199 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนำ้ ที่ทไี่ ดร้ ับมอบหมำย (A) 2. นักเรยี นศกึ ษำหนังสอื เรยี นหน้ำ 200 ใหน้ กั เรยี น ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ เปรยี บเทยี บเศษสว่ นโดยพิจำรณำจำกกำรระบำยสใี นแถบกระดำษ จำกนน้ั นกั เรียนช่วยกันเปรยี บเทยี บเศษส่วนในกรอบทำ้ ยหนงั สือ • กำรส่อื สำรและกำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ เรียนหนำ้ 200 • กำรเชือ่ มโยง • กำรใหเ้ หตุผล 3. ครูยกตัวอยำ่ งกำรเปรยี บเทยี บเศษสว่ นตำมหนังสือเรยี น หนำ้ 201 โดยใหน้ กั เรียนสังเกตทต่ี ัวเศษ ถ้ำตัวเศษของเศษสว่ นใด คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มำกกวำ่ เศษสว่ นน้นั จะมำกกวำ่ จำกน้นั ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกัน • มีวินยั เปรียบเทยี บเศษสว่ นโดยเตมิ เครอื่ งหมำย > หรอื < ตำมหนงั สือ • ใฝ่เรยี นรู้ เรยี นหน้ำ 201 แล้วพิจำรณำเติมตวั เลขแสดงจำนวนในช่องว่ำงใน • มุ่งมั่นในกำรทำงำน กรอบทำ้ ยหนังสอื เรียนหน้ำ 201 สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 4. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนที่ 3 กำรเปรยี บเทียบเศษส่วนที่ • หนงั สอื เรียน ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 3 เลม่ ท่ี 1 ตวั ส่วนเท่ำกนั ลงในสมุดรำยวิชำ • ใบงำนท่ี 3 เร่อื ง กำรเปรียบเทียบเศษส่วนทตี่ วั ข้ันสรปุ สว่ นเท่ำกัน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รียนร้รู ว่ มกัน บันทึกหลังการสอน การวัดและประเมินผล ลงชอ่ื ฐพร ลงช่อื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครื่องมือทใ่ี ช้ วธิ กี ารวดั ครูผู้สอน ใบงำนที่ 3 1. ตรวจใบงำน ผู้อำนวยกำร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รียน 3. สังเกตคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ณั

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 14 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เศษส่วน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 เร่ือง การเรียงลาดับเศษส่วนท่ตี วั ส่วนเทา่ กัน วนั ที่ 6 เดือน ต ค. . พ.ศ. 2565 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ค 1.1 ป.3/4 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สาระสาคญั ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน ครทู บทวนเรือ่ งกำรเปรยี บเทียบเศษสว่ นที่ตวั ส่วนเท่ำกัน โดย กำรเรยี งลำดับเศษส่วนทีต่ วั ส่วนเท่ำกนั ให้ พจิ ำรณำตัวเศษ ถ้ำเรียงลำดบั เศษสว่ นจำกมำกไป นำบัตรภำพแสดงเศษสว่ น มำให้นกั เรียนดูทลี ะคู่ แล้วใหน้ กั เรียน นอ้ ยใหเ้ ขียนเศษสว่ นเรียงลำดบั จำกเศษสว่ นทีต่ ัวเศษ ร่วมกนั เปรียบเทียบวำ่ รปู ภำพใดแสดงเศษส่วนท่มี ำกกวำ่ หรือน้อย มำกไปน้อย ถ้ำเรยี งลำดับเศษสว่ นจำกน้อยไปมำกให้ กว่ำกนั 2 - 3 ตัวอย่ำง เขยี นเศษส่วนเรียงลำดบั จำกเศษส่วนทต่ี วั เศษนอ้ ยไป ข้ันสอน มำก 1. ครูยกตวั อยำ่ งเศษสว่ นตำมหนงั สือเรียนหนำ้ 203 แลว้ ให้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรยี นเรียงลำดับเศษส่วนจำกมำกไปน้อยและจำกน้อยไปมำก โดยครอู ธบิ ำยเพิ่มเตมิ ว่ำ กำรเรียงลำดบั เศษส่วนท่ีตัวส่วนเทำ่ กนั 1. อธิบำยหลกั กำรเรยี งลำดับเศษสว่ นทตี่ วั สว่ น ถำ้ เรยี งลำดบั เศษสว่ นจำกนอ้ ยไปมำก ใหเ้ ขียนเศษส่วนเรยี งลำดับ เท่ำกันได้ (K) จำกเศษส่วนท่ตี วั เศษน้อยไปมำก ถำ้ เรยี งลำดบั เศษส่วนจำกมำกไป น้อย ให้เขยี นเศษสว่ นเรยี งลำดับจำกเศษส่วนทตี่ ัวเศษมำกไปน้อย 2. เรยี งลำดับเศษสว่ นที่ตวั ส่วนเท่ำกันได้ (P) จำกน้นั ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั เรียงลำดับเศษสว่ นทีต่ วั สว่ นเทำ่ กัน 3. รับผดิ ชอบต่อหนำ้ ที่ท่ีได้รับมอบหมำย (A) จำกมำกไปน้อยและจำกนอ้ ยไปมำก ในกรอบทำ้ ยหนงั สอื เรยี นหนำ้ 203 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. นักเรยี นตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกันตอบคำถำมใน • กำรสื่อสำรและกำรส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ หนังสอื เรยี นหนำ้ 204 • กำรเชือ่ มโยง • กำรให้เหตุผล 3. มอบหมำยนกั เรียนทำใบงำนท่ี 4 กำรเรยี งลำดบั เศษส่วนที่ ตวั สว่ นเท่ำกัน ลงในสมุดรำยวิชำ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ขน้ั สรุป • มีวินัย • ใฝ่เรยี นรู้ ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปสงิ่ ทีไ่ ด้เรียนรรู้ ่วมกัน • มุ่งม่นั ในกำรทำงำน สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ บนั ทกึ หลงั การสอน • หนังสอื เรยี น ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 3 เล่มท่ี 1 • ใบงำนที่ 4 เรื่อง กำรเรียงลำดบั เศษส่วนทต่ี วั สว่ น เทำ่ กัน การวัดและประเมนิ ผล ลงชื่อ ฐพร ลงช่อื ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ วธิ กี ารวัด ครูผู้สอน ใบงำนท่ี 4 1. ตรวจใบงำน ผูอ้ ำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน 3. สงั เกตคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ณั

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 14 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เศษสว่ น เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เร่ือง การเปรยี บเทียบเศษส่วนท่ีตวั เศษเทา่ กนั วนั ที่ 7 เดอื น ต.ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ป.3/4 กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน นกั เรยี นดภู ำพในหนงั สือเรยี นหน้ำ 205 แลว้ ร่วมกนั เขียน กำรเปรียบเทียบเศษส่วนท่ตี ัวเศษเทำ่ กัน ให้ดูที่ ตวั สว่ น ถำ้ ตวั สว่ นของเศษส่วนใดมำกกวำ่ เศษสว่ น เศษส่วนแสดงปริมำณของน้ำผลไมต้ ำ่ งๆ นน้ั จะน้อยกวำ่ ขั้นสอน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักเรียนสงั เกตโหลแก้วในบตั รภำพแต่ละบตั รวำ่ มรี ูปรำ่ ง และมคี วำมจุ 1 ลิตร เทำ่ กนั และระบำยสี 1 ส่วนเท่ำกัน แล้ว 1. อธิบำยหลักกำรเปรียบเทียบเศษส่วนทีต่ วั เศษ สังเกตปรมิ ำตรของน้ำแต่ละชนดิ แลว้ ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทียบ เท่ำกนั ได้ (K) ปรมิ ำตร ครอู ธบิ ำยว่ำวำ่ ในกำรแบง่ สิง่ ของตำ่ ง ๆ ที่มำจำกสิง่ เดียวกนั ถ้ำแบ่งเป็นสว่ นเท่ำๆ กัน หลำยส่วนแตล่ ะส่วนจะมคี ำ่ 2. เปรียบเทยี บเศษส่วนทต่ี ัวเศษเท่ำกนั ได้ (P) นอ้ ยกวำ่ กำรแบ่งเป็นสว่ นเทำ่ ๆ กัน ที่มจี ำนวนสว่ นนอ้ ยกวำ่ 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนำ้ ท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมำย (A) จำกนน้ั ให้นกั เรียนตอบคำถำมในกรอบทำ้ ยหนงั สือเรยี นหน้ำ 205 ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 2. นักเรยี นศึกษำหนงั สือเรียนหน้ำ 206 ให้นักเรยี น เปรียบเทยี บเศษสว่ นโดยพจิ ำรณำจำกกำรระบำยสีในแถบกระดำษ • กำรส่ือสำรและกำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ จำกนัน้ นกั เรียนช่วยกนั เปรียบเทยี บเศษสว่ นในกรอบท้ำยหนงั สือ • กำรเช่ือมโยง เรียนหน้ำ 206 • กำรให้เหตุผล 3. ครูยกตัวอย่ำงกำรเปรียบเทยี บเศษส่วนตำมหนงั สอื เรยี น คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ หน้ำ 207 โดยให้นักเรียนสังเกตท่ีตวั ส่วน ถ้ำตัวสว่ นของเศษส่วนใด • มีวินยั มำกกวำ่ เศษส่วนนน้ั จะนอ้ ยกว่ำ จำกนนั้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั • ใฝ่เรียนรู้ เปรียบเทยี บเศษส่วนโดยเติมเครอ่ื งหมำย > หรอื < ตำมหนงั สือ • มงุ่ มั่นในกำรทำงำน เรียนหน้ำ 207 แล้วพิจำรณำเติมตวั เลขแสดงจำนวนในช่องวำ่ งใน กรอบท้ำยหนงั สอื เรยี นหนำ้ 207 สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ • หนังสอื เรียน ช้นั ประถมศึกษำปีที่ 3 เล่มท่ี 1 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนท่ี 5 กำรเปรยี บเทยี บเศษส่วนท่ี • ใบงำนท่ี 5 เรือ่ ง กำรเปรยี บเทยี บเศษสว่ นทต่ี วั ตวั เศษเทำ่ กนั ลงในสมดุ รำยวิชำ ข้ันสรปุ เศษเทำ่ กนั ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ สิ่งที่ได้เรยี นรู้รว่ มกนั บนั ทึกหลงั การสอน การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือทใี่ ช้ วธิ ีการวดั ลงชื่อ ฐพร ลงชอ่ื ใบงำนที่ 5 1. ตรวจใบงำน ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( 2. สงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น ครูผสู้ อน 3. สังเกตคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ) ผอู้ ำนวยกำร ณั

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 6 เศษสว่ น เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เรื่อง การเรียงลาดบั เศษสว่ นท่ีตัวเศษเทา่ กัน วนั ท่ี 10 เดอื น ต. ค พ.ศ. 2565 . มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ป.3/4 กิจกรรมการเรียนรู้ สาระสาคญั ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน ครทู บทวนเรื่องกำรเปรยี บเทียบเศษสว่ นทีต่ วั เศษเทำ่ กัน โดย กำรเรยี งลำดบั เศษส่วนท่ีตวั เศษเทำ่ กันให้ พิจำรณำตวั สว่ น ถ้ำเรียงลำดับเศษส่วนจำกมำกไป นำบัตรภำพแสดงเศษสว่ น มำให้นกั เรียนดทู ีละคู่ แล้วให้นกั เรยี น น้อยใหเ้ ขียนเศษส่วนเรียงลำดบั จำกเศษส่วนทตี่ วั ร่วมกนั เปรียบเทยี บว่ำ รปู ภำพใดแสดงเศษสว่ นท่ีมำกกว่ำหรอื น้อย ส่วนนอ้ ยไปมำก ถ้ำเรยี งลำดับเศษส่วนจำกน้อยไป กว่ำกัน 2 - 3 ตวั อยำ่ ง มำกใหเ้ ขยี นเศษส่วนเรยี งลำดบั จำกเศษสว่ นทีต่ ัว ขัน้ สอน ส่วนมำกไปนอ้ ย 1. นักเรยี นปฏบิ ัตกิ จิ กรรมหนำ้ 208 โดยให้นักเรียนเขยี น จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เศษส่วนโดยเรยี งลำดบั เศษสว่ น 1. อธบิ ำยหลกั กำรเรียงลำดบั เศษสว่ นทต่ี ัวเศษ 2. ครยู กตัวอย่ำงเศษส่วนตำมหนงั สอื เรียนหนำ้ 209 แลว้ ให้ เท่ำกนั ได้ (K) นกั เรียนเรยี งลำดับเศษสว่ นจำกมำกไปน้อยและจำกน้อยไปมำก โดยครูอธบิ ำยเพิม่ เตมิ วำ่ กำรเรยี งลำดบั เศษส่วนทต่ี ัวเศษเทำ่ กัน 2. เรียงลำดับเศษส่วนท่ตี วั เศษเทำ่ กันได้ (P) ถำ้ เรยี งลำดับเศษส่วนจำกน้อยไปมำกใหเ้ ขยี นเศษส่วนเรียงลำดับ 3. รับผิดชอบตอ่ หน้ำทีท่ ี่ได้รับมอบหมำย (A) จำกเศษส่วนทีต่ วั ส่วนมำกไปนอ้ ย ถำ้ เรียงลำดบั เศษส่วนจำกมำกไป น้อยใหเ้ ขยี นเศษส่วนเรยี งลำดับจำกเศษสว่ นที่ตัวส่วนน้อยไปมำก ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ จำกนั้นครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั เรยี งลำดับเศษสว่ นที่ตัวเศษเทำ่ กนั จำกมำกไปน้อยและจำกน้อยไปมำกในกรอบท้ำยหนังสือเรียน หนำ้ • กำรส่ือสำรและกำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ 209 • กำรเชอื่ มโยง • กำรให้เหตผุ ล 3. นักเรียนตรวจสอบควำมเขำ้ ใจโดยรว่ มกนั ตอบคำถำมใน หนงั สอื เรยี นหนำ้ 210 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ • มีวนิ ยั 4. มอบหมำยนักเรียนทำใบงำนท่ี 4 กำรเรียงลำดบั เศษส่วนท่ี • ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ส่วนเท่ำกัน ลงในสมุดรำยวชิ ำ • ม่งุ มั่นในกำรทำงำน ข้ันสรปุ ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ทีไ่ ด้เรียนรรู้ ว่ มกนั สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ บันทกึ หลังการสอน • หนังสือเรยี น ช้ันประถมศึกษำปที ่ี 3 เล่มที่ 1 • ใบงำนท่ี 6 เรอื่ ง กำรเรียงลำดบั เศษสว่ นที่ตัวเศษ เทำ่ กนั การวัดและประเมนิ ผล ลงชื่อ ฐพร ลงชือ่ ) ( )นางสาวณัฐพร วงค์ฤดีเจริญกุล ( เคร่ืองมือท่ใี ช้ วธิ กี ารวัด ครผู สู้ อน ใบงำนท่ี 6 1. ตรวจใบงำน ผอู้ ำนวยกำร 2. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี น 3. สงั เกตคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ณั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook