ทกั ษะ ทกั ษะยอ่ ย พฤต๓. การเขียน ๓.๑ การเขยี นในชีวิตประจาวัน ๓.๑.๑ สามารถ(Writing Skills) ตนเอง ๓.๑.๒ สามารถ ตนเอง ๓.๑.๓ สามารถ โทรศพั ท์ของตน ได้
๘๔ตกิ รรมทค่ี าดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมถเขยี นหรอื พิมพช์ ื่อของ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การเขียนหรือพิมพ์ ชื่อของตนเองโดยใช้กจิ กรรมดงั ตอ่ ไปน้ีถเขยี นหรอื พิมพท์ ่ีอยขู่ อง ๑) การวเิ คราะห์ถเขยี นหรอื พมิ พเ์ บอร์ ๒) การสาธิตนเองและบุคคลในครอบครัว ๓) การเลยี นแบบ ๔) การปฏบิ ัติจรงิ ผ้สู อนฝึกให้ผเู้ รยี นปฏิบัติในเร่อื ง การเขยี นหรือพิมพ์ที่ อยขู่ องตนเองโดยใช้กจิ กรรมดังต่อไปนี้ ๑) การวิเคราะห๑์ . การวิเคราะห์ ๒) การสาธิต ๓) การเลียนแบบ ๔) การปฏิบัติจริง ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเร่ือง การเขียนหรือพิมพ์ เบอร์โทรศัพท์ของตนเองและบุคคลในครอบครัวได้ โดยใช้กิจกรรมดงั ต่อไปนี้ ๑) การวเิ คราะห์ ๒) การสาธติ ๓) การเลยี นแบบ ๔) การปฏบิ ตั จิ ริง
ทกั ษะ ทกั ษะยอ่ ย พฤต๓. การเขียน ๓.๑ การเขียนในชวี ิตประจาวนั ๓.๑.๔ สามารถ(Writing Skills) (ตอ่ ) (ตอ่ ) ในครอบครวั ได้ ๓.๑.๕ สามารถ ตนเองได้ ๓.๑.๖ สามารถ เอกสารตา่ ง ๆ ไ เขยี นการ์ดอวยพ แบบฝาก-ถอนเ
๘๕ติกรรมทค่ี าดหวัง แนวทางการจดั กจิ กรรมถเขียนหรอื พมิ พช์ ือ่ ของบุคคล ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การเขียนหรือพิมพ์ ชอ่ื ของบคุ คลในครอบครัวไดโ้ ดยใชก้ ิจกรรมดงั ต่อไปน้ี ๑) การวเิ คราะหง์ าน ๒) การสาธติ โดยใช้สอ่ื และปฏิบตั ิตาม ๓) การเลียนแบบ ๔) การปฏิบัติจรงิถเขยี นตารางนัดหมายของ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การเขียนตารางนัด หมายของตนเองได้โดยใช้กจิ กรรมดงั ต่อไปนี้ ๑) การวิเคราะหง์ าน ๒) การสาธิตปฏิทนิ ประจาสปั ดาห/์ ประจาเดือน ๓) การเลียนแบบ ๔) การปฏิบัติจรงิถเขียนข้อมลู ลงในแบบฟอร์ม ผู้สอนฝึกใหผ้ เู้ รียนปฏบิ ตั ใิ นเรอ่ื ง การเขียนข้อมลู ลงในได้ เชน่ แบบคาร้อง แบบฟอร์มเอกสารต่าง ๆ ได้ เช่น แบบคาร้อง เขียนพร บัญชีรบั -จา่ ยของตนเอง การ์ดอวยพร บัญชีรับ-จ่ายของตนเอง แบบฝาก-ถอนเงนิ เป็นตน้ เงนิ เป็นตน้ โดยใชก้ จิ กรรมดังตอ่ ไปนี้ ๑) การวิเคราะห์งานและการสอนตามโครงสรา้ งของ งาน ๒) การสาธิตและปฏบิ ัตติ าม ๓) การเลียนแบบโดยใช้แบบฟอรม์ ง่ายๆไปถงึ ซับซอ้ น
ทักษะ ทกั ษะย่อย พฤต๓. การเขียน ๓.๑ การเขยี นในชีวิตประจาวัน ๓.๑.๖ สามารถ เอกสารต่าง ๆ ไ(Writing Skills) (ต่อ) (ต่อ) เขียนการด์ อวยพ แบบฝาก-ถอนเ ๓.๑.๗ สามารถ แสดงการรอ้ งขอ๔. การคิดคานวณ ๔.๑ การบอกคา่ ตวั เลขและ ๔.๑.๑ สามาร(Arithmetic Skills) จานวน (ตอ่ ) อุปกรณ์/ของใช(ตอ่ ) เคร่ืองช่ังน้าหน บอกราคา ป้าย หมดอายุ เปน็ ต
๘๖ติกรรมท่คี าดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมถเขียนข้อมูลลงในแบบฟอร์ม ๔) การปฏบิ ตั จิ ริงได้ เช่น แบบคาร้องพร บญั ชีรับ-จา่ ยของตนเองเงนิ เปน็ ตน้ (ต่อ)ถเขียนเพ่ือบอกความต้องการ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเร่ือง การเขียนเพื่อบอกอ แสดงความรู้สกึ ได้ ความต้องการแสดงการรอ้ งขอ แสดงความรู้สึกได้โดย ใชก้ จิ กรรมดังตอ่ ไปนี้ ๑) การวิเคราะหง์ าน ๒) การสาธิตกับส่ือต่างๆและใหป้ ฏิบัตติ าม ๓) การเลยี นแบบการใช้เครอ่ื งมอื การสอ่ื สารแสดง ความต้องการ ๔) การปฏบิ ตั ิจากสถานการณจ์ ริงรถบอกค่าตัวเลข ที่ระบุใน ผ้สู อนฝึกให้ผู้เรยี นปฏบิ ัติในเร่อื ง การบอกค่าตัวเลข ท่ีช้ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวันเช่น ระบุในอุปกรณ์/ของใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวันเช่นนัก เครื่องชั่งผักผลไม้ ป้าย เครื่องช่ังน้าหนัก เคร่ืองชั่งผักผลไม้ ป้ายบอกราคา ป้ายบอกวันท่ีผลิต ป้ายบอกวันหมดอายุ เป็นต้นโดยยบอกวันท่ีผลิต ป้ายบอกวัน ใชก้ ิจกรรมดงั ตอ่ ไปนี้ตน้ ๑) การสาธิตครัง้ ละ ๑ กิจกรรม โดยเร่มิ จากเคร่ืองชงั่ ป้ายราคา ฯลฯ ๒) การฝกึ ปฏิบตั ิ
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๔. การคิดคานวณ ๔.๑ การบอกคา่ ตวั เลขและ ๔.๑.๑ สามาร อปุ กรณ์/ของใช(Arithmetic Skills) จานวน (ต่อ) เครื่องชั่งน้าหน บอกราคา ป้าย(ต่อ) หมดอายุ เปน็ ต ๔.๑.๒ สามาร ตนเอง ต้องการ ๔.๑.๓ สามา เรียงลาดับในก ตามลาดับ จาก หาน้อยได้ เช่น หนังสือไปวางช้นั
๘๗ติกรรมทค่ี าดหวัง แนวทางการจดั กจิ กรรมรถบอกค่าตัวเลข ที่ระบุใน ๓) การใช้เกมช้ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวันเช่น ๔) สถานการณจ์ าลองนัก เคร่ืองชั่งผักผลไม้ ป้าย ๕) การปฏิบตั ิจากสถานการณ์จริงยบอกวันที่ผลิต ป้ายบอกวันตน้ (ต่อ)รถหยิบของตามจานวนท่ี ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การหยิบของตาม จานวนทต่ี นเองต้องการโดยใชก้ จิ กรรมดังตอ่ ไปนี้ ๑) การสาธติ ๒) การฝึกปฏบิ ัติ ๓) การใช้เกม ๔) สถานการณ์จาลอง ๕) การปฏิบัติจากสถานการณ์จริงในชีวติ ประจาวันารถ บ อ ก แ ล ะ เข้ าใจ ก าร ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การบอกและเข้าใจการหยิบจับหรือจัดส่ิงของไว้ การเรียงลาดับในการหยิบจับหรือจัดส่ิงของไว้ ตามลาดับ จากน้อยไปหามาก จากมากไปหาน้อยได้กน้อยไปหามาก จากมากไป เช่น หยิบนมกล่องท่ี ๒ , เอาหนังสือไปวางช้ันท่ี ๓น หยิบนมกล่องที่ ๒ , เอา เป็นตน้ โดยใช้กิจกรรมดงั ต่อไปนี้นที่ ๓ เป็นตน้ ๑) การสาธิตในกิจกรรมประจาวันและการเล่น ๒) การฝกึ ปฏบิ ัติ
ทักษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๔. การคดิ คานวณ ๔.๑ การบอกค่าตัวเลขและ ๔.๑.๓ สามา เรียงลาดับในก(Arithmetic Skills) จานวน (ตอ่ ) ตามลาดับ จาก หาน้อยได้ เช่น(ตอ่ ) หนงั สอื ไปวางชั้น ๔.๑.๔ สามาร น้าหนักสิ่งของท เชน่ น้อยกวา่ , เ
๘๘ติกรรมทีค่ าดหวงั แนวทางการจัดกิจกรรมารถ บ อ ก แ ล ะ เข้ าใจ ก าร ๓) การใช้เกมการหยิบจับหรือจัดสิ่งของไว้ ๔) สถานการณจ์ าลองกน้อยไปหามาก จากมากไป ๕) การปฏบิ ตั ิจากสถานการณ์จรงิน หยิบนมกล่องท่ี ๒ , เอานท่ี ๓ เป็นตน้ (ต่อ)รถเปรียบเทียบปริมาณหรือ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเร่ือง การเปรียบเทียบที่กาหนดให้โดยใช้อุปกรณ์ได้ ปริมาณหรือน้าหนักส่ิงของท่ีกาหนดให้โดยใช้อุปกรณ์ ได้ เช่น น้อยกว่า, เท่ากับ, มากกว่า เป็นต้นโดยใช้เทา่ กบั , มากกวา่ เป็นตน้ กิจกรรมดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การสาธติ กบั อุปกรณ์ และแนะนาในการ เปรียบเทียบ ๒) การฝกึ ปฏบิ ัติในชวี ิตประจาวัน ๓) การใชเ้ กม ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏบิ ตั จิ ากสถานการณ์จรงิ
ทักษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๔. การคิดคานวณ ๔.๑ การบอกค่าตัวเลขและ ๔.๑.๕ สามาร น้ า ห นั ก สิ่ ง ข อ(Arithmetic Skills) จานวน (ตอ่ ) ในชีวิตประจาว(ต่อ) มากกวา่ เป็นต้น ๔.๒ การใช้จา่ ยเงิน ๔.๒.๑ สามารถ ธนบัตรและตรว
๘๙ติกรรมทคี่ าดหวัง แนวทางการจดั กจิ กรรมรถเปรียบเทียบปริมาณหรือ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเร่ือง การเปรียบเทียบองท่ีระบุในผลิตภัณ ฑ์ที่ใช้ ปริมาณหรือน้าหนักสิ่งของท่ีระบุในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ใน ชีวิตประจาวัน เช่น น้อยกว่า, เท่ากับ, มากกว่า เป็นวัน เช่น น้อยกว่า, เท่ากับ, ตน้ โดยใช้กิจกรรมดงั ต่อไปน้ีน ๑) การสาธติ จากของจรงิ โดยจาแนกรปู รา่ ง จานวนใน สงิ่ ของประเภทเดยี วก่อน ๒) การฝึกปฏบิ ตั ิการเปรยี บเทียบครั้งละ ๑ ๓) การใชเ้ กม ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏิบัติจากสถานการณ์จริงถซื้อของด้วยเงินเหรียญหรือ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การซื้อของด้วยเงินวจสอบเงนิ ทอนได้ เห รี ย ญ ห รื อ ธ น บั ต ร แ ล ะต ร ว จ ส อ บ เงิน ท อ น โด ย ใช้ กจิ กรรมดงั ต่อไปนี้ ๑) วเิ คราะห์งานและนามาสอนครงั้ ละ ๑ ขั้นตอน ๒) บทบาทสมมติ ๓) สถานการณ์จาลอง ๔) การปฏิบตั จิ ากสถานการณ์จรงิ
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๔. การคิดคานวณ ๔.๒ การใชจ้ ่ายเงิน (ตอ่ ) ๔.๒.๒ สามาร(Arithmetic Skills) ส่ิงของท่ีซื้อเช่น(ต่อ) ของราคา ๕ หร ๔.๒.๓ สามารถ ซ้อื สินค้า
๙๐ติกรรมทค่ี าดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมรถใช้เงินท่ีมีค่าใกล้เคียงกับ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเร่ือง การใช้เงินท่ีมีค่าน ใช้เงินเหรียญ ๑๐ บาท ซื้อ ใกล้เคียงกับสิ่งของที่ซ้ือเช่น ใช้เงินเหรียญ ๑๐ บาท ซื้อของราคา ๕ หรอื ๑๐ บาท เป็นต้นโดยใช้กิจกรรมรือ ๑๐ บาท เปน็ ต้น ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) การจาแนก และเปรียบเทียบมากกว่า น้อยกว่า กับเงินท่ีกาหนด ๒) การเชอื่ มโยงการจา ๓) บทบาทสมมติ ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏิบตั จิ ากสถานการณจ์ รงิถเปรียบเทยี บราคาสนิ ค้ากอ่ น ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การเปรียบเทียบ ราคาสนิ ค้าก่อนซือ้ สนิ ค้าโดยใชก้ จิ กรรมดังตอ่ ไปนี้ ๑) การเปรยี บเทียบสนิ ค้าประเภทเดียวกนั เกี่ยวกับ ปรมิ าณและราคา ๒) การเชอ่ื มโยงการจา ๓) บทบาทสมมติ ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏบิ ตั ิจากสถานการณจ์ รงิ
ทักษะ ทักษะย่อย พฤต๔. การคิดคานวณ ๔.๒ การใช้จา่ ยเงิน (ตอ่ ) ๔.๒.๔ สามารถ(Arithmetic Skills) ด้วยจานวนเงินท(ต่อ) ๔.๒.๕ สามา ต้องการ โดยกา ฝากธนาคาร
๙๑ตกิ รรมท่ีคาดหวัง แนวทางการจัดกิจกรรมถจ่ายค่าซ้ือสินค้าที่ต้องการ ผูส้ อนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การจ่ายค่าซ้ือสินค้าทถ่ี ูกตอ้ งได้ ท่ีต้องการด้วยจานวนเงินที่ถูกต้องได้โดยใช้กิจกรรม ดงั ต่อไปน้ี ๑) การนับเงนิ และการทอนเงิน ๒) การเชอื่ มโยงการจา ๓) บทบาทสมมติ ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏิบัติจากสถานการณ์จริงารถเก็บเงินเพื่อใช้ในส่ิงท่ี ผ้สู อนฝึกใหผ้ ูเ้ รียนปฏิบัตใิ นเร่ือง การเก็บเงินเพือ่ ใช้ในารหยอดกระปุกออมสินหรือ สิ่งท่ีต้องการ โดยการหยอดกระปุกออมสินหรือฝาก ธนาคารโดยใช้กจิ กรรมดังต่อไปนี้ ๑) การอธบิ าย ๒) การเชื่อมโยงการจา ๓) บทบาทสมมติ ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏิบตั จิ ากสถานการณจ์ ริง
ทกั ษะ ทกั ษะย่อย พฤต๔. การคดิ คานวณ ๔.๒ การใช้จา่ ยเงนิ (ตอ่ ) ๔.๒.๖ สามารถ(Arithmetic Skills) หาย(ตอ่ ) ๔.๒.๗ สามารถ
๙๒ตกิ รรมทค่ี าดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมถรู้จักเก็บรักษาเงินไม่ให้สูญ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การท่ีสามารถรู้จัก เกบ็ รกั ษาเงินไมใ่ หส้ ูญหายโดยใชก้ จิ กรรมดังต่อไปน้ี ๑) การสาธติ และปฏิบตั ิตาม ๒) การเช่ือมโยงการจา ๓) บทบาทสมมติ ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏิบัตจิ ากสถานการณจ์ ริงถใชเ้ คร่ืองคิดเลขได้ ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง การใช้เคร่ืองคิดเลข ไดโ้ ดยใชก้ ิจกรรมดังต่อไปนี้ ๑) การอธบิ ายพรอ้ มสาธิต ๒) การเชอ่ื มโยงการจา ๓) บทบาทสมมติ ๔) สถานการณจ์ าลอง ๕) การปฏิบัติจากสถานการณ์จรงิ
ทกั ษะ ทกั ษะย่อย พฤต ๕.๑ วันและเวลา ๕.๑.๑ สามาร๕. ความคดิ รวบยอดและการแกป้ ญั หา วนั หยดุ ได้(Concept andProblem Solving) ๕.๑.๒ สามารถ มีการกาหนดนดั ๕.๑.๓ สามารถ ตามตารางเวลา
๙๓ติกรรมท่คี าดหวงั แนวทางการจดั กิจกรรมถรู้จักวันที่ต้องมาเรียนและ ผสู้ อนฝกึ ใหผ้ ้เู รยี นปฏบิ ัตใิ นเรื่อง ของการรูจ้ ักวันท่ี ต้องมาเรยี นและวันหยดุ โดยผสู้ อนชว่ ยเหลอื จน ผ้เู รยี นสามารถทาไดด้ ว้ ยตนเองโดยใช้วธิ กี าร ดังต่อไปน้ี ๑) การอธบิ าย ๒) กลวิธกี ารเรียนรูผ้ า่ นการมอง ๓) การเช่อื มโยงรูปภาพ ๔) การปฏิบตั จิ ากสถานการณ์จรงิถปฏบิ ัติกจิ วัตรหรอื กิจกรรมที่ ผู้สอนฝกึ ใหผ้ ูเ้ รียนปฏิบตั ิในเรื่อง ของการปฏิบตั ิดหมายไว้ได้ กจิ วัตรหรอื กจิ กรรมทีม่ ีการกาหนดนัดหมาย โดยใช้ วิธีการดังต่อไปน้ี ๑) การอธบิ าย ๒) กลวิธกี ารเรยี นรผู้ ่านการมอง ๓) การเชอื่ มโยงรูปภาพ ๔) การปฏบิ ตั ิจากสถานการณ์จริงถปฏิบัติกิจวัตรหรือกิจกรรม ผู้สอนฝึกให้ผูเ้ รียนปฏบิ ตั ิในเร่ือง ของการปฏบิ ัติาของแตล่ ะวนั ได้ กิจวัตรหรือกจิ กรรม ตามเวลาในการทากจิ วตั ร ประจาวันของแตล่ ะวนั โดยใช้วิธีการดงั ต่อไปนี้ ๑) การอธบิ าย ๒) กลวิธีการเรยี นรูผ้ า่ นการมอง ๓) การเช่อื มโยงรูปภาพ ๔) การปฏบิ ัตจิ ากสถานการณจ์ ริง
ทักษะ ทกั ษะยอ่ ย พฤต ๕.๒.๑ สามารถ๕. ความคิดรวบยอด ๕.๒ การวางแผนการปฏบิ ัติและการแก้ปัญหา กจิ วัตรประจาวนั วันและเวลา เชน่(Concept andProblem Solving)(ต่อ) ๕.๒.๒ สามาร ล่วงหน้าได้ ๕.๒.๓ สามารถ ประจาวัน เช่น บอกเวลา นาฬิก
๙๔ตกิ รรมท่คี าดหวงั แนวทางการจดั กจิ กรรมถบอกเหตุการณ์ท่ีสัมพันธ์กับ ผู้สอนฝึกใหผ้ ูเ้ รยี นปฏบิ ตั ใิ นเรื่อง ของการบอกน เมอื่ วาน วันนี้ พรุง่ น้ีได้ เหตกุ ารณ์ที่สัมพนั ธ์กบั วันและเวลา เชน่ เม่ือวาน วันนี้ พรุง่ นี้ โดยใช้วธิ ีการดังต่อไปน้ี ๑) การอธิบาย ๒) กลวิธีการเรียนรู้ผ่านการมอง ๓) การเชอ่ื มโยงรูปภาพ ๔) การเลียนแบบ ๕) การชีแ้ นะ ๖) การปฏบิ ัติจากสถานการณ์จรงิรถวางแผน งาน กิจกรรม ผสู้ อนฝกึ ให้ผู้เรยี นปฏิบัตใิ นเร่ือง ของการสามารถวาง งาน กจิ กรรม ล่วงหน้า โดยใช้วิธกี ารดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การอธิบาย ๒) กลวิธีการเรียนรผู้ า่ นการมอง ๓) การเชือ่ มโยงรูปภาพ ๔) การเลียนแบบ ๕) การช้แี นะ ๖) การปฏบิ ตั ิจากสถานการณ์จริงถวางแผนการปฏิบัติกิจวัตร ผูส้ อนฝึกให้ผเู้ รียนปฏบิ ตั ใิ นเร่ือง ของการวางแผนการการต้ังนาฬิกาปลุก นาฬิกา ปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจาวนั เช่น การตั้งนาฬกิ าปลุก นาฬิกาบอกเวลา นาฬกิ าจับเวลาได้ โดยใช้วิธกี ารกาจบั เวลาได้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) การอธิบาย
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต ๕.๒.๓ สามารถ๕. ความคดิ รวบยอด ๕.๒ การวางแผนการปฏิบัติและการแกป้ ัญหา กิจวตั รประจาวัน (ต่อ) ประจาวัน เชน่(Concept andProblem Solving) บอกเวลา นาฬิก(ตอ่ ) ๕.๓ สถานที่ในชีวิตประจาวัน ๕.๓.๑ สามารถ ๕.๓.๒ สามารถ ตามขอ้ มลู ท่ีกาห
๙๕ตกิ รรมที่คาดหวงั แนวทางการจดั กิจกรรมถวางแผนการปฏิบตั ิกจิ วัตร การตงั้ นาฬิกาปลกุ นาฬกิ า ๒) กลวิธีการเรยี นรผู้ า่ นการมองกาจับเวลาได้ (ตอ่ ) ๓) การเชื่อมโยงรูปภาพ ๔) การเลียนแบบถบอกสถานท่ีทต่ี นเองอยูไ่ ด้ ๕) การชแ้ี นะ ๖) การปฏิบตั ิจากสถานการณ์จริง ผสู้ อนฝึกใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ัติในเร่ือง ของการบอกสถานท่ี ทีต่ นเองอยู่ โดยใช้วธิ ีการดงั ต่อไปนี้ ๑) บทบาทสมมติ ๒) สถานการณจาลอง ๓) การเช่อื มโยงการจา ๔) การปฏิบตั ิจากสถานการณ์จรงิถค้นหาชื่อถนนและเลขท่ีบา้ น ผสู้ อนฝึกใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติในเรื่อง ของการคน้ หาช่อืหนดได้ ถนนและเลขทบ่ี ้านตามข้อมลู ท่ีกาหนด โดยใช้วธิ กี าร ดังตอ่ ไปน้ี ๑) บทบาทสมมติ ๒) สถานการณจาลอง ๓) การเชื่อมโยงการจา ๔) การปฏิบตั ิจากสถานการณ์จรงิ
ทกั ษะ ทกั ษะย่อย พฤต ๕.๓.๓ สามารถ๕. ความคดิ รวบยอด ๕.๓ สถานทีใ่ นชวี ิตประจาวนั บริการต่าง ๆและการแก้ปญั หา (ต่อ) บริการจากสถา(Concept and ทาการ ไปรษณProblem Solving) สานักงาน เทศบ(ตอ่ ) ตาบล โรงพยา เปน็ ต้น ๕.๓.๔ สามารถ ชุมชนได้ เช่น ธน าค าร ห้ อ เทศบาลหรืออ โรงพยาบาลส่งเ
๙๖ติกรรมที่คาดหวงั แนวทางการจดั กิจกรรมถรทู้ ี่ต้ังและบทบาทหน้าที่ของ ผสู้ อนฝึกใหผ้ ูเ้ รยี นปฏิบัติในเร่ือง ของการรู้ทต่ี งั้ และในชุมชน และสามารถใช้ บทบาทหนา้ ที่ของบริการต่าง ๆ ในชมุ ชน และ สามารถใช้บรกิ ารจากสถานที่ตา่ ง ๆ ได้ เช่น ร้านค้าานที่ต่าง ๆ ได้ เช่น ร้านค้า ท่ี ที่ทาการ ไปรษณีย์ ธนาคาร หอ้ งสมุด ตลาดณีย์ ธนาคาร ห้องสมุด ตลาด สานกั งาน เทศบาลหรอื องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลบาลหรือองค์การบรหิ ารส่วน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล เป็นตน้ โดยใช้าบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล วิธกี ารดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) บทบาทสมมติ ๒) สถานการณจาลอง ๓) การเชื่อมโยงการจา ๔) การปฏิบตั ิจากสถานการณจ์ ริงถใช้สถานท่ีบริการต่าง ๆ ใน ผสู้ อนฝกึ ใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ัตใิ นเร่ือง ของการรูจ้ ักใช้ร้านค้า ท่ีทาการ ไปรษณีย์ สถานท่ีบริการต่าง ๆ ในชุมชนได้ เชน่ ร้านค้า ที่ทา การ ไปรษณยี ์ ธนาคาร หอ้ งสมดุ ตลาด สานักงานงสมุ ด ตล าด สานั กงาน เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตาบล โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนตาบล สง่ เสริมสขุ ภาพตาบล เป็นตน้ โดยใช้วิธีการดงั ตอ่ ไปน้ีเสริมสขุ ภาพตาบล เปน็ ตน้ ๑) บทบาทสมมติ ๒) สถานการณจาลอง ๓) การเชื่อมโยงการจา ๔) การปฏิบัตจิ ากสถานการณ์จริง
ทักษะ ทักษะย่อย พฤต ๕.๔ รู้จกั การแก้ปัญหา๕. ความคิดรวบยอด ๕.๔.๑ สามารถและการแกป้ ัญหา สถานการณ์ต่าง(Concept and เลือกวิธีการแกป้Problem Solving) เหมาะสม และส(ตอ่ ) ดารงชวี ติ ประจา
ติกรรมทคี่ าดหวัง ๙๗ถเผชญิ กับปญั หาใน แนวทางการจดั กจิ กรรมงๆในชวี ติ ประจาวนั และ ผสู้ อนฝกึ ใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ใิ นเรื่อง ของการทส่ี ามารถปัญหาท่ีถกู ต้องและ เผชญิ กบั ปัญหาในสถานการณต์ า่ งๆในชีวติ ประจาวนัสามารถแกป้ ัญหาในการ และเลอื กวิธีการแก้ปัญหาทถี่ ูกตอ้ งและเหมาะสมาวนั ได้ และสามารถแกป้ ัญหาในการดารงชีวติ ประจาวันได้ ๑) การสาธิต ๒) การจาลองสถานการณ์ ๓) การแสดงบทบาทสมมุติ ๔) การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในสถานการณ์จรงิ ๕) การสอนแบบตัวต่อตัว ๖) กระบวนการกลมุ่ ๗) การสอนโดยใชห้ ลัก 3R’s
๓) แนวการจัดกิจกรรมกลุ่มทกั ษะส่วนบุคคลและสังคม (Per ทักษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๑. การจัดการและการ ๑.๑ การรจู้ กั ตนเอง ๑.๑.๑ สามารถควบคุมตนเอง (Self- สี อาหาร กฬี าdetermination Skills) สามารถบอกสิ่ง อาหาร กีฬา สถ ๑.๑.๒ สามารถ เชน่ ดีใจ เสียใจ
๙๘rsonal and Social Skills)ติกรรมท่ีคาดหวงั แนวทางการจดั กิจกรรมถบอกส่งิ ทต่ี นเองชอบไดเ้ ช่นสถานที่ สัตว์ เป็นตน้ ผู้สอนฝึกให้ผูเ้ รยี นปฏบิ ตั ิในเร่ือง การบอกสงิ่ ทีต่ นเองงทตี่ นเองชอบได้เชน่ สี ชอบไดเ้ ชน่ สี อาหาร กีฬา สถานท่ี สตั ว์ เปน็ ตน้ โดยถานท่ี สตั ว์ เป็นตน้ ใช้วิธีการดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การสาธิต การให้เลอื กสิง่ ต่างๆในชวี ิตประจาวนัถบอกอารมณ์ของตนเองได้ ๒) การใชส้ ือ่ โสตทศั นปู กรณ์จ โกรธ เปน็ ต้น ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏบิ ัติกจิ กรรมในสถานการณจ์ ริง ๖) การสารวจ ๗) การสอนแบบตวั ต่อตวั ๘) การสอนโดยใชห้ ลกั 3R’s ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏิบตั ิในเร่ือง การบอกอารมณ์ของ ตนเองได้ เชน่ ดใี จ เสยี ใจ โกรธ เปน็ ตน้ โดยใช้วิธกี าร ดังต่อไปนี้ ๑) การสาธติ จากการใชเ้ รื่องเลา่ ทางสงั คมและให้ แสดงตามบทบาท ๒) การใชส้ ื่อโสตทศั นปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต ๑.๑.๒ สามารถบ๑. การจดั การและการ ๑.๑ การรู้จกั ตนเอง (ต่อ) เช่น ดีใจ เสยี ใจควบคุมตนเอง (Self-determination Skills) ๑.๑.๓ สามารถบ(ต่อ) ๑.๑.๔ สามารถบ ตนเองได้
๙๙ตกิ รรมท่คี าดหวงั แนวทางการจัดกิจกรรมบอกอารมณข์ องตนเองได้ ๕) การปฏบิ ัติกจิ กรรมในสถานการณจ์ รงิโกรธ เปน็ ตน้ (ต่อ) ๖) การสอนแบบตัวต่อตัว ๗) การสอนโดยใช้หลัก 3R’sบอกช่อื ของตนเองได้ ผ้สู อนฝกึ ใหผ้ ู้เรยี นปฏบิ ตั ิในเร่ือง การบอกชื่อของบอกอายุ วนั เดือนปีเกดิ ของ ตนเอง โดยใชว้ ธิ ีการดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การสาธิต ๒) การใช้สอ่ื โสตทศั นปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ การสมั ภาษณ์ การแนะนาตนเอง ๕) การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมในสถานการณจ์ ริง ๖) การสอนแบบตวั ตอ่ ตวั ๗) การสอนโดยใชห้ ลัก 3R’s ผู้สอนฝึกให้ผู้เรียนปฏบิ ตั ใิ นเรื่อง การบอกอายุ วนั เดือนปเี กดิ ของตนเอง โดยใชว้ ธิ กี ารดังต่อไปน้ี ๑) การสาธติ การใชก้ ลยุทธ์ผา่ นการมองเห็นโดยใช้ ขอ้ มูลบุคคล ๒) การใช้สื่อโสตทัศนูปกรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในสถานการณจ์ รงิ
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต ๑.๑.๔ สามารถ๑. การจดั การและการ ๑.๑ การรูจ้ กั ตนเอง (ต่อ) ของตนเองได้ (ควบคมุ ตนเอง (Self-determination Skills) ๑.๒.๑ สามารถ(ตอ่ ) ได้เชน่ ความดีท หอ้ งเรยี น สถาน ๑.๒ ความภาคภมู ิใจในตนเอง เปน็ ตน้ ๑.๒.๒ สามารถ กระทาได้ เชน่ ไ ต้น
๑๐๐ติกรรมที่คาดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมถบอกอายุ วันเดอื นปเี กดิ ๖) การสารวจ(ตอ่ ) ๗) การสอนแบบตัวตอ่ ตวั ๘)การสอนโดยใช้หลกั 3R’sถบอกความดีที่ตนเองกระทา ผู้สอนฝึกใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ิในเร่ือง การบอกความดีที่ท่ีกระทาต่อ ครอบครวั ตนเองกระทาไดเ้ ช่น ความดีที่กระทาตอ่ ครอบครัวนศึกษา ชุมชน สังคม ห้องเรยี น สถานศึกษา ชมุ ชน สงั คม เป็นตน้ โดยใช้ วธิ กี ารดงั ต่อไปน้ีถบอกความซื่อสัตย์ท่ตี นเอง ๑) การสาธิต และการใช้เรือ่ งเลา่ ทางสังคมไม่ลักขโมย ไม่พูดโกหก เปน็ ๒) การใช้สื่อโสตทัศนปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบัติกจิ กรรมในสถานการณจ์ ริง ๖) การจดั ทาโครงการและกิจกรรมในชมุ ชน ๗) การสอนแบบตวั ตอ่ ตัว ๘) กระบวนการกลุ่ม ผสู้ อนฝึกให้ผเู้ รียนปฏิบัติในเร่ือง การบอกความ ซื่อสัตยท์ ่ตี นเองกระทาได้ เช่น ไม่ลกั ขโมย ไม่พดู โกหก เปน็ ต้น โดยใชว้ ิธีการดังต่อไปนี้ ๑) การใช้เรื่องเลา่ ทางสงั คม ๒) การใช้ส่อื โสตทศั นูปกรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๑. การจดั การและการ ๑.๒ ความภาคภูมใิ จในตนเอง ๑.๒.๒ สามารถควบคุมตนเอง (Self- (ต่อ) กระทาได้ เช่น ไdetermination Skills) ต้น (ต่อ)(ต่อ) ๑.๒.๓ สามารถ กระทาได้ เช่น แ อ่ืน เป็นตน้๑.๓ การเหน็ คุณคา่ ในตนเอง ๑.๓.๑ บอกควา มกี ารตระหนัก ตนเอง
๑๐๑ติกรรมท่คี าดหวัง แนวทางการจัดกจิ กรรมถบอกความซื่อสตั ยท์ ี่ตนเอง ๔) การแสดงบทบาทสมมุติไมล่ ักขโมย ไม่พดู โกหก เป็น ๕) การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในสถานการณจ์ ริง ๖) การจดั ทาโครงการและกิจกรรมในชมุ ชน ๗) การสอนแบบตวั ต่อตวั ๘) กระบวนการกลุ่มถบอกความเสียสละทีต่ นเอง ผ้สู อนฝึกใหผ้ ูเ้ รยี นปฏิบตั ิในเร่ือง การบอกความแบง่ ขนมหรอื ของเล่นให้คน เสยี สละทต่ี นเองกระทาได้ เชน่ แบ่งขนมหรือของเล่น ให้คนอ่ืน เปน็ ต้น โดยใช้วธิ กี ารดังต่อไปน้ี ๑) การใชเ้ ร่ืองเล่าทางสังคม ๒) การใชส้ อ่ื โสตทัศนูปกรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบตั ิกจิ กรรมในสถานการณจ์ ริง ๖) การจัดทาโครงการและกจิ กรรมในชมุ ชน ๗) การสอนแบบตัวต่อตวัามสามารถของตนเองได้ โดย ผูส้ อนฝึกให้ผู้เรยี นปฏิบตั ใิ นเรื่อง การบอกยอมรับ และเหน็ คุณคา่ ใน ความสามารถของตนเองได้ โดยมีการตระหนกั ยอมรับ และเหน็ คณุ ค่าในตนเองโดยใช้วิธกี าร ดงั ต่อไปน้ี ๑) การจดั กจิ กรรมใหเ้ ลือกปฏิบัติสงิ่ ที่ชอบและลงมือ ปฏิบัติ ๒) การจาลองสถานการณ์
ทกั ษะ ทกั ษะยอ่ ย พฤต๑. การจดั การและการ ๑.๓ การเหน็ คณุ ค่าในตนเอง ๑.๓.๑ บอกควาควบคุมตนเอง (Self- มีการตระหนักdetermination Skills) ตนเอง(ตอ่ )๑.๔ รู้จักสทิ ธิ หนา้ ที่และ ๑.๔.๑ รจู้ กั สิทธบทบาทตนเอง และมีความรบั ผ บทบาทหน้าท่ีข ห้องเรยี น เช่น ก ปฏิบตั ติ ามกฎก บ้าน เปน็ ต้น
๑๐๒ติกรรมทค่ี าดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมามสามารถของตนเองได้ โดย ๓) การแสดงบทบาทสมมุติยอมรับ และเหน็ คณุ คา่ ใน ๔) การปฏบิ ตั ิกิจกรรมในสถานการณ์จรงิ ๕) การสอนแบบตวั ต่อตัว ๖) กระบวนการกลุ่ม ๗) การสอนโดยการมอบหมายงานท่สี นใจธิ หนา้ ท่ี บทบาทของตนเอง ผูส้ อนฝกึ ให้ผเู้ รยี นปฏบิ ัติในเรื่อง การรจู้ ักสิทธิ หน้าท่ีผดิ ชอบในการกระทาตาม บทบาทของตนเอง และมีความรบั ผิดชอบในการของตนเองทม่ี ีต่อครอบครัว กระทาตามบทบาทหน้าท่ีของตนเองท่ีมตี อ่ ครอบครัวการยนื ตรงเคารพธงชาติ หอ้ งเรยี น เช่น การยนื ตรงเคารพธงชาติ ปฏิบัติตามกติกาของห้องเรยี น ช่วยงาน กฎกติกาของหอ้ งเรยี น ช่วยงานบ้าน เป็นตน้ โดยใชว้ ิธีการดังต่อไปนี้ ๑) การสาธิตและปฏบิ ตั ิในสถานการณ์จรงิ ใน ชีวติ ประจาวนั ๒) การใชส้ ่ือโสตทศั นปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบตั กิ ิจกรรมในสถานการณ์จรงิ ๖) การสอนแบบตวั ต่อตวั ๗) กระบวนการกลุ่ม
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๑. การจดั การและการ ๑.๔ รู้จกั สิทธิ หนา้ ทีแ่ ละ ๑.๔.๒ รจู้ กั สิทธควบคมุ ตนเอง (Self- บทบาทตนเอง (ต่อ) และมคี วามรับผdetermination Skills) บทบาทหนา้ ที่ข(ตอ่ ) สังคม เชน่ ไมท่ เข้ารว่ มกจิ กรรม เหมาะสม เป็นต๑.๕ สรา้ งและรกั ษาปฏิสมั พันธ์ ๑.๕.๑ สามารถกบั ผู้อืน่ ตอบสนองต่อก ตามประเพณี ว สงั คม เชน่ การ และการรักษาป เอาใจเขามาใส ของเพ่ือน ปรับ ที่ดกี ับผ้อู นื่ ได้
๑๐๓ตกิ รรมที่คาดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมธิ หนา้ ท่ี บทบาทของตนเอง ผู้สอนฝกึ ใหผ้ ู้เรยี นปฏิบัตใิ นเรื่อง ของรู้จกั สิทธิ หนา้ ท่ีผิดชอบในการกระทาตาม บทบาทของตนเอง และมีความรบั ผิดชอบในการของตนเองทม่ี ตี ่อชุมชน และ กระทาตามบทบาทหน้าท่ีของตนเองท่ีมตี อ่ ชมุ ชนทาลายทรัพยส์ ินของชมุ ชน และสังคม เช่น ไมท่ าลายทรัพยส์ นิ ของชุมชน เข้าร่วมมในชุมชนตามโอกาสท่ี กิจกรรมในชมุ ชนตามโอกาสท่ีเหมาะสม เป็นตน้ต้น โดยใชว้ ิธีการดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) การสาธติ และปฏบิ ตั ิในสถานการณจ์ ริงใน ชวี ติ ประจาวนั ๒) การใชส้ ่ือโสตทัศนูปกรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบัติกจิ กรรมในสถานการณจ์ ริง ๖) การสอนแบบตวั ต่อตัว ๗) กระบวนการกลมุ่ถใช้ภาษา ท่าทาง การ ผสู้ อนฝกึ ให้ผเู้ รียนปฏบิ ัติในเร่ือง การทส่ี ามารถใช้การมีปฏสิ มั พันธก์ ับผอู้ ืน่ ภาษา ทา่ ทาง การตอบสนองตอ่ การมปี ฏิสัมพันธ์กบัวฒั นธรรมและมารยาททาง ผอู้ น่ื ตามประเพณี วัฒนธรรมและมารยาททางสงั คมรยิ้ม การไหว้ การทักทาย เชน่ การย้ิม การไหว้ การทกั ทาย และการรักษาปฏสิ มั พันธ์กับผู้อน่ื เชน่ รู้จกั ปฏิสัมพันธก์ บั ผูอ้ นื่ เชน่ รู้จักเอาใจเขามาใสใ่ จเราส่ใจเรา รจู้ กั สงั เกตพฤติกรรม รูจ้ ักสังเกตพฤติกรรมของเพอื่ น ปรบั ตนเอง เพื่อสรา้ งบตนเอง เพอื่ สร้างปฏิสัมพนั ธ์ ปฏิสมั พันธ์ท่ีดีกับผู้อืน่ ได้ เป็นตน้ โดยใชว้ ธิ ีการเปน็ ต้น ดังตอ่ ไปนี้
ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย พฤต๑. การจดั การและการ ๑.๕ สร้างและรักษาปฏิสัมพันธ์ควบคมุ ตนเอง (Self- กับผ้อู ืน่ (ต่อ)determination Skills)(ตอ่ )๒. การมสี ่วนรว่ มทาง ๒.๑ การเข้าควิ ๒.๑.๑ รจู้ กั การสังคม (Community รับบรกิ ารในหอ้Participation and และสงั คม เชน่Living Skills) รบั อาหารและส หรือรบั บรกิ ารก รบั บรกิ ารโรงพย เล่นของเล่นสาธ
๑๐๔ตกิ รรมท่คี าดหวัง แนวทางการจัดกิจกรรม ๑) การสาธิตและปฏิบัติในสถานการณ์ จริงใน ชวี ิตประจาวัน ๒) การใชส้ ่อื โสตทศั นูปกรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบตั ิกจิ กรรมในสถานการณจ์ ริง ๖) การสอนแบบตัวต่อตัว ๗) กระบวนการกลุม่ ๘) การสอนโดยใช้ 3R’sรรอคอยโดยการเข้าควิ เพ่ือ ผสู้ อนฝกึ ให้ผู้เรียนปฏิบัตใิ นเร่ือง การรจู้ ักการรอคอยองเรยี น สถานศกึ ษา ชุมชน โดยการเข้าควิ เพ่อื รับบริการในหอ้ งเรยี น สถานศึกษาการรับของ การส่งงาน การ ชมุ ชน และสังคม เช่น การรับของ การส่งงาน การรับสิ่งของตา่ งๆ การซอ้ื สนิ คา้ อาหารและสิ่งของตา่ งๆ การซื้อสินคา้ หรอื รบั บรกิ ารการชาระค่าสินค้าการเข้าคิว การชาระค่าสนิ คา้ การเข้าคิวรับบรกิ ารโรงพยาบาลยาบาล ห้างสรรพสนิ ค้า หรือ ห้างสรรพสินค้า หรอื เล่นของเลน่ สาธารณะเปน็ ต้นธารณะเปน็ ตน้ เป็นตน้ โดยใช้วธิ ีการดังตอ่ ไปนี้ ๑) การสาธติ และปฏบิ ตั ใิ นสถานการณจ์ ริงใน ชีวิตประจาวัน ๒) การใชส้ ่อื โสตทศั นปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบตั กิ จิ กรรมในสถานการณ์จริง
ทักษะ ทกั ษะย่อย พฤต ๒.๑ การเข้าคิว (ต่อ)๒. การมสี ว่ นร่วมทาง ๒.๑.๑ รจู้ ักการสงั คม (Community รบั บรกิ ารในห้อParticipation and และสงั คม เช่นLiving Skills) (ตอ่ ) รบั อาหารและส หรือรบั บรกิ ารก ๒.๒ การบาเพญ็ ประโยชน์ รับบริการโรงพย เล่นของเล่นสาธ ๒.๒.๑ รจู้ กั ช่ว สังคม เชน่ กวา กจิ กรรมพฒั นา เกดิ ภัยพบิ ตั ติ ่า
๑๐๕ติกรรมทีค่ าดหวงั แนวทางการจัดกิจกรรมรรอคอยโดยการเขา้ ควิ เพ่ือ ๖) การจัดทาโครงการและกิจกรรมในชมุ ชนองเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน ๗) การสอนแบบตวั ตอ่ ตวัการรับของ การส่งงาน การ ๘) กระบวนการกลุ่มสง่ิ ของตา่ งๆ การซื้อสินค้า ๙) การสอนโดยใช้หลัก 3R’sการชาระคา่ สนิ คา้ การเขา้ คิวยาบาล หา้ งสรรพสินค้า หรือธารณะเป็นต้น (ต่อ)วยเหลอื ครอบครวั ชุมชนและ ผสู้ อนฝึกใหผ้ ้เู รียนปฏิบตั ใิ นเรื่อง การรู้จักชว่ ยเหลอืาดบ้าน ถบู ้าน ล้างจาน ครอบครัว ชมุ ชนและสงั คม เชน่ กวาดบา้ น ถบู า้ นาหมู่บา้ น บรจิ าคสง่ิ ของเมื่อ ล้างจาน กิจกรรมพัฒนาหมบู่ ้าน บรจิ าคสิ่งของเมื่อางๆ เป็นต้น เกดิ ภัยพบิ ัติตา่ งๆ เป็นต้นโดยใชว้ ิธีการดังตอ่ ไปน้ี ๑) การสาธิตและปฏบิ ัตใิ นสถานการณ์จริงใน ชีวติ ประจาวัน ๒) การใช้สื่อโสตทัศนปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบัตกิ ิจกรรมในสถานการณจ์ รงิ ๖) การจดั ทาโครงการและกิจกรรมในชมุ ชน ๗) การสอนแบบตัวตอ่ ตัว ๘) กระบวนการกลุ่ม ๙) การสอนโดยใชห้ ลกั 3R’s
ทกั ษะ ทกั ษะยอ่ ย พฤต๓. การเดินทางในชุมชน ๓.๑ สถานท่ตี ่างๆในชมุ ชน ๓.๑.๑ รจู้ กั สถ(Community โรงเรียน โรงพMobility Skills) ตลาด และสถา๓.๒ สัญลักษณ์และสัญญาณ ๓.๒.๑ รจู้ ักและจราจร ตามสัญญาณจร
๑๐๖ติกรรมท่ีคาดหวัง แนวทางการจดั กิจกรรมถานที่ต่างๆในชุมชน เช่นพยาบาล หา้ งสรรพสนิ คา้ ผู้สอนฝกึ ให้ผู้เรียนปฏิบัติในเร่ือง การรจู้ ักสถานท่ีานทร่ี าชการอืน่ ๆ เป็นต้น ต่างๆในชมุ ชน เชน่ โรงเรยี น โรงพยาบาล หา้ งสรรพสนิ คา้ ตลาด และสถานทีร่ าชการอน่ื ๆ เป็นะเขา้ ใจสญั ลกั ษณ์และปฏิบตั ิ ต้นโดยใชว้ ธิ ีการดังต่อไปน้ีราจรได้อย่างถูกต้อง ๑) การสาธติ ๒) การใช้สือ่ โสตทศั นูปกรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบัตกิ จิ กรรมในสถานการณจ์ รงิ ๖) การสารวจชุมชน ๗) การจัดทาโครงการและกิจกรรมในชมุ ชน ๘) การสอนแบบตวั ต่อตัว ๙) กระบวนการกลุม่ ๑๐) การสอนโดยใช้หลกั 3R’s ผู้สอนฝกึ ใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ตั ิในเรื่อง การรจู้ ักสถานที่ ตา่ งๆในชมุ ชน เช่น โรงเรยี น โรงพยาบาล หา้ งสรรพสนิ ค้า ตลาด และสถานท่รี าชการอื่นๆ เป็น ต้นโดยใช้วิธีการดงั ต่อไปนี้ ๑) การสาธติ และปฏบิ ตั ิ ๒) การใชส้ ่ือโสตทศั นปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์
ทกั ษะ ทกั ษะยอ่ ย พฤต๓. การเดินทางในชมุ ชน ๓.๒ สัญลักษณ์และสญั ญาณ ๓.๒.๑ รจู้ ักและ(Community จราจร (ตอ่ ) ตามสญั ญาณจรMobility Skills) (ตอ่ ) ๓.๓ การเดินทางไปสถานท่ตี ่าง ๓.๓.๑ รจู้ กั ตาแ ๆ ในชมุ ชน ชุมชน เช่น โรงเ และใชเ้ ครื่องมือ โทรศพั ท์ การถา เปน็ ตน้
๑๐๗ติกรรมทีค่ าดหวงั แนวทางการจัดกจิ กรรมะเขา้ ใจสัญลักษณแ์ ละปฏบิ ัติ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติราจรได้อยา่ งถูกตอ้ ง (ต่อ) ๕) การปฏิบตั กิ ิจกรรมในสถานการณ์จริง โดยใช้การ เลอื กและจัดสนิ ใจ ๖) การสารวจชุมชน ๗) การจดั ทาโครงการและกิจกรรมในชุมชน ๘) การสอนแบบตัวต่อตัว ๙) กระบวนการกลุ่มแหนง่ ท่ีตงั้ เสน้ ทางทีต่ า่ ง ๆ ใน ผสู้ อนฝกึ ใหผ้ ้เู รียนปฏิบัตใิ นเรื่อง การรูจ้ ักตาแหนง่เรยี น วัด โรงพยาบาล เป็นต้น ที่ตงั้ เส้นทางทตี่ ่าง ๆ ในชมุ ชน เชน่ โรงเรยี น วดัอช่วยในการเดินทาง เช่น โรงพยาบาล เปน็ ต้น และใช้เครื่องมือช่วยในการามทางปา้ ย สัญลักษณต์ ่าง ๆ เดนิ ทาง เชน่ โทรศพั ท์ การถามทาง ปา้ ย สญั ลักษณ์ ตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ โดยใชว้ ิธีการดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การสาธติ กับส่อื ของจริงและปฏบิ ตั ิ ๒) การใชส้ ือ่ โสตทัศนูปกรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏิบัตกิ ิจกรรมในสถานการณ์จริง ๖) การสารวจชุมชน ๗) การจัดทาโครงการและกจิ กรรมในชุมชน ๘) การสอนแบบตัวตอ่ ตัว ๙) กระบวนการกลุ่ม
ทักษะ ทกั ษะย่อย พฤต ๓.๓ การเดนิ ทางไปสถานทตี่ า่ ง๓. การเดนิ ทางในชมุ ชน ๆ ในชมุ ชน (ตอ่ ) ๓.๓.๑ รจู้ ักตาแ(Community ชมุ ชน เชน่ โรงเMobility Skills) (ต่อ) ๓.๔ การโดยสารรถประจาทาง และใช้เคร่ืองมือ โทรศัพท์ การถา เป็นต้น ๓.๔.๑ สามารถ ประจาทาง ร้จู ัก โดยสารรถเพื่อใ ถกู ต้องและปลอ
๑๐๘ติกรรมทค่ี าดหวงั แนวทางการจัดกจิ กรรมแหนง่ ท่ตี ัง้ เส้นทางท่ตี า่ ง ๆ ใน ๑๐) การสอนโดยใชห้ ลัก 3R’sเรยี น วัด โรงพยาบาล เป็นตน้อชว่ ยในการเดินทาง เชน่ามทางปา้ ย สัญลกั ษณต์ ่าง ๆถเลอื กใช้บรกิ ารรถโดยสาร ผู้สอนฝึกใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ิในเร่ือง การท่ีสามารถกจุดข้นึ รถ การชาระเงิน วธิ ี เลอื กใช้บรกิ ารรถโดยสารประจาทาง รูจ้ กั จดุ ข้นึ รถให้ไปถึงจดุ หมายไดอ้ ย่าง การชาระเงนิ วิธโี ดยสารรถเพ่ือใหไ้ ปถึงจดุ หมายได้อดภยั อยา่ งถูกต้องและปลอดภยั โดยใชว้ ิธกี ารดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) การสาธิตและสอนบรู ณาการกบั ทกั ษะวิชาการ ๒) การใช้ส่ือโสตทัศนปู กรณ์ ๓) การจาลองสถานการณ์ ๔) การแสดงบทบาทสมมุติ ๕) การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในสถานการณ์จริง ๖) การสารวจชุมชน ๗) การจัดทาโครงการและกิจกรรมในชมุ ชน ๘) การสอนแบบตวั ตอ่ ตวั ๙) กระบวนการกลุ่ม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313