Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน การสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย

รายงาน การสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย

Description: Upload_20211005-065740

Search

Read the Text Version

ก การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้งั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 บรรณาธกิ าร ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิชยั เอกพลากร ผเู้ ขยี น (บทท่ี 1, 3, 4, 5, 6, 7, 8) (บทท่ี 2) ศาสตราจารย์ นายแพทยว์ ิชยั เอกพลากร (บทท่ี 4.4 พฤตกิ รรมการกินอาหาร) คุณหทยั ชนก พรรคเจริญ รองศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ เสถียรนพเกา้ ผู้ช่วยบรรณาธิการ คณุ ณัฐชา ช่มุ สุนทร ผูป้ ระสานงาน คุณผอ่ งศรี เจรญิ รักษ์ คุณจรวยพร องิ คเสรพี ิทกั ษ์ ออกแบบปก ส่อื สารองคก์ ร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลัยมหิดล สนับสนุนโดย มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล สถาบันวจิ ัยระบบสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสุข การอา้ งองิ (วชิ ยั เอกพลากร, (บก.), รายงานการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563) บรรณานกุ รม วิชัย เอกพลากร, (บก.), รายงานการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563. ISBN 978-616-443-609-1 จดั พมิ พ์โดย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลยั มหดิ ล พิมพ์คร้ังท่ี 1 กนั ยายน 2564 จ�ำนวน 1,000 เล่ม พิมพท์ ่ี สำ� นักพิมพ์อกั ษรกราฟฟิคแอนดด์ ไี ซน์

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ข เครอื ข่ายการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทย โดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ส่วนกลาง หัวหนา้ โครงการและนักวิจยั หลกั ผู้รว่ มวิจยั 1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิชัย เอกพลากร ผู้ร่วมวจิ ัย 2. รองศาสตราจารย์ ดร.อัญชลี จติ ธรรมา ผรู้ ่วมวิจัย 3. รองศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ เสถียรนพเกา้ ผู้ร่วมวจิ ัย 4. ศาสตราจารย์ นายแพทย์บุญส่ง องค์พพิ ัฒนกลุ นักวชิ าการสถิติ 5. อาจารย์ นายแพทย์จกั รกฤษณ์ เอือ้ สนุ ทรวฒั นา ประสานงานโครงการ 6. นางสาวณัฐชา ชุ่มสนุ ทร 7. นางสาวจรวยพร อิงคเสรีพทิ กั ษ ์ เครือข่ายการสำ� รวจภาคกลาง วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย 1. แพทย์หญงิ นพิ รรณพร วรมงคล ทีป่ รึกษาโครงการ 2. ศาสตราจารย์ นายแพทยส์ ุรศักด์ิ ฐานพี านชิ สกลุ หวั หน้าโครงการภาคกลาง 3. แพทย์หญงิ นภาพรรณ วริ ยิ ะอตุ สาหกุล ผู้ร่วมวจิ ัย 4. รองศาสตราจารย์ ดร.รตั นา ส�ำโรงทอง ผู้ร่วมวจิ ัย 5. รองศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา รงั ษีหิรญั รตั น์ ผรู้ ว่ มวิจัย 6. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณฎั ฐา ฐานพี านิชสกลุ ผรู้ ว่ มวิจัย 7. อาจารย์ ดร.ปกเกศ วงศาสลุ กั ษณ ์ ผู้รว่ มวิจัย 8. อาจารย์ ดร.ประมณฑ์ ววิ ฒั นากุลวาณิชย์ ผรู้ ว่ มวิจัย 9. อาจารย์ ดร.ไกรวุฒิ กัลวิชา ผรู้ ว่ มวิจัย 10. อาจารย์ ดร.วันดี ศริ ิโชคชชั วาล ผู้ร่วมวจิ ยั 11. อาจารย์ ดร.อัญชลี ประสารสุขลาภ ผรู้ ่วมวจิ ยั 12. อาจารย์ ดร.เทพนาฎ พมุ่ ไพบลู ย ์ ผู้รว่ มวิจยั 13. อาจารย์ ดร.มนทกานต์ิ เช่ือมชติ ผู้รว่ มวิจัย 14. อาจารย์ ดร.อนุชิต ภานุมาสววิ ฒั น์ ผ้รู ว่ มวจิ ยั 15. ดร.อรอมุ า ซองรมั ย์ ผู้ร่วมวจิ ัย 16. ดร.นชุ นาฎ หวนนากลาง ผ้รู ่วมวิจยั 17. นางสาวศุกรนิ ทร์ วิมกุ ตายน ผู้รว่ มวจิ ัย 18. นางเสาวนีย์ เสมาทอง ผู้ร่วมวิจัย

ฃ การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 19. นางสาวศุทธฤทยั เชญิ ขวัญมา ผรู้ ่วมวจิ ยั 20. นางสาวกาญรัตน์ อินทุรตั น์ ผูร้ ่วมวิจยั 21. นางสาวสฐาปนยี ์ นิลทะราช ผู้ร่วมวจิ ัย 22. นางสาวกุลญาณินทร์ ศรีดาชาติ ผู้รว่ มวิจยั 23. นายพงศยา พานิชเจรญิ ผู้รว่ มวจิ ัย 24. นางณฐั วรรณ ดเี ลิศยืนยง ผ้รู ว่ มวจิ ัย เครือข่ายการส�ำรวจภาคเหนอื คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ 1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร.สวุ ฒั น์ จรยิ าเลิศศกั ด ์ิ หัวหนา้ โครงการภาคเหนอื 2. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.จกั รกฤษณ์ วงั ราษฎร ์ ผรู้ ว่ มวจิ ยั 3. อาจารย์ ดร.อักษรา ทองประชมุ ผู้ร่วมวิจยั 4. อาจารย์ ดร.วรางคณา นาคเสน ผู้ร่วมวจิ ยั 5. อาจารย์ ดร.สนิ นี าฏ ชาวตระการ ผู้รว่ มวิจยั 6. อาจารย์ ดร.ปารฉิ ตั ร องอาจบรริ กั ษ ์ ผู้ร่วมวจิ ัย เครอื ขา่ ยการส�ำรวจภาคใต้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์วีระศักด์ิ จงสวู่ ิวัฒน์วงศ ์ ท่ีปรึกษาโครงการ 2. ศาสตราจารย์ แพทยห์ ญงิ สาวติ รี อษั ณางคก์ รชยั หวั หนา้ โครงการภาคใต้ 3. ดร.นายแพทย์มฮู มั มดั ฟาหม์ ี ตาเละ ผรู้ ว่ มวิจยั 4. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์พลเทพ วจิ ิตรคุณากร ผูร้ ว่ มวิจยั 5. อาจารย์ ดร.วทิ ย์ วิชยั ดิษฐ ผู้รว่ มวิจยั 6. อาจารย์ ดร.ดารกิ า ใสงาม ผรู้ ่วมวจิ ยั 7. นางทกั ษญา สรรเพช็ ญ์ ผู้ร่วมวจิ ัย 8. นางสาววาริศา ชูแก้ว ผรู้ ว่ มวจิ ัย 9. นางสาวชลกิ า เจียรธนกฤติ ผู้รว่ มวจิ ัย เครือขา่ ยการสำ� รวจภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ 1. รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทยป์ ัตพงษ์ เกษสมบรู ณ์ หัวหน้าโครงการภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 2. รองศาสตราจารย์ ดร.ปยิ ธิดา คหู ิรญั ญรัตน์ ผูร้ ่วมวิจยั 3. อาจารย์ ดร.แพทยห์ ญิงเสาวนนั ท์ บ�ำเรอราช ผู้ร่วมวิจัย เครอื ขา่ ยการสำ� รวจกรงุ เทพมหานคร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 1. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.นรีมาลย์ นลี ะไพจิตร หวั หน้าโครงการกรงุ เทพมหานคร 2. รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ เปียซื่อ ผู้ร่วมวจิ ัย 3. พว.เฉลยี ว คงคา ผูร้ ว่ มวจิ ัย

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ค นักวชิ าการผเู้ ชยี่ วชาญเฉพาะประเด็น 1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประกติ วาทีสาธกกติ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลยั มหิดล 2. ศาสตราจารย์ นายแพทยป์ ิยะมติ ร ศรีธรา คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลยั มหิดล 3. ศาสตราจารย์ นายแพทย์บญุ ส่ง องคพ์ ิพฒั นกุล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวทิ ยาลัยมหิดล 4. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเสรฐิ อสั สันตชยั คณะแพทยศาสตรศ์ ิริราชพยาบาล มหาวิทยาลยั มหิดล 5. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ นายแพทยส์ มเกยี รติ แสงวัฒนาโรจน์ คณะแพทยศาสตร์จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั 6. ศาสตราจารยเ์ กียรติคณุ แพทยห์ ญิงวรรณี นิธิยานนั ท ์ คณะแพทยศาสตร์ศริ ิราชพยาบาล มหาวทิ ยาลยั มหิดล 7. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสริ นิ ทร ฉันศิริกาญจน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 8. ศาสตราจารย์ แพทยห์ ญิงลัดดา เหมาะสวุ รรณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 9. ศาสตราจารย์ นายแพทยอ์ นันต์นิตย์ วิสทุ ธิพันธ ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล 10. ศาสตราจารย์คลินิก แพทยห์ ญงิ ณฎั ฐา รชั ตะนาวิน คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลัยมหดิ ล 11. รองศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ เสถยี รนพเก้า คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล 12. รองศาสตราจารย์ ดร.นภิ า โรจนร์ งุ่ วศินกุล สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลยั มหดิ ล 13. รองศาสตราจารยส์ มลกั ษณ์ วนะวนานต์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลยั มหดิ ล 14. อาจารย์ นายแพทย์จักรกฤษณ์ เอือ้ สุนทรวัฒนา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลยั มหิดล 15. ผอู้ �ำนวยการและนักวชิ าการกองนโยบายและวิชาการสถติ ิ ส�ำนักงานสถิตแิ หง่ ชาติ 16. นายสญั ชัย เตชนมิ ิตวชั สำ� นกั บริหารการทะเบียน กรมการปกครอง 17. นายธวชั ชยั สุขบ�ำเพงิ สำ� นักบรหิ ารการทะเบยี น กรมการปกครอง

ฅ การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครัง้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ฆ กิตกิ รรมประกาศ คณะผดู้ ำ� เนนิ การวจิ ยั โครงการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 นี้ ขอขอบพระคณุ บคุ คลทเ่ี ปน็ ตวั อยา่ งของการสำ� รวจภาวะสขุ ภาพทไ่ี ดส้ ละเวลา ให้ข้อมูลในการส�ำรวจคร้ังนี้เป็นอย่างยิ่ง โครงการน้ีได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ด�ำเนินการจาก งบประมาณแผน่ ดิน มหาวิทยาลยั มหิดล สถาบนั วิจัยระบบสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสขุ และความชว่ ยเหลอื และความรว่ มมอื จากผอู้ ำ� นวยการกองนโยบาย และวชิ าการสถติ ิ สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ ในการกำ� หนดขนาดตวั อยา่ ง จดั ทำ� กรอบตวั อยา่ ง และคณุ ธวชั ชยั สุขบำ� เพงิ ที่ชว่ ยทำ� การสุ่มตัวอย่าง ขอขอบพระคณุ บุคคลสำ� คัญทชี่ ว่ ย สนบั สนนุ การดำ� เนนิ งาน คณบดคี ณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี ศ. นพ.ปยิ ะมติ ร ศรีธรา และ ศ. นพ.บุญส่ง องค์พิพัฒนกุล ขอขอบพระคุณเครือข่ายทีมภาคสนาม ไดแ้ ก่ ทมี ศ. นพ.สุวัฒน์ จรยิ าเลิศศักดิ์ ศ. นพ.สรุ ศักด์ิ ฐานพี านชิ สกุล ศ. พญ.สาวิตรี อษั ณางคก์ รชยั รศ. นพ.ปตั พงษ์ เกษสมบรู ณ์ และ ผศ. ดร.นรมี าลย์ นลี ะไพจติ ร นอกจากนี้ ขอขอบพระคุณคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องต่างๆ บุคลากร สาธารณสุขทุกท่านในพ้ืนท่ี อาสาสมัครสาธารณสุขท่ีมีส่วนร่วมในการด�ำเนินการ นักวชิ าการและผ้สู นบั สนุนอีกหลายท่านที่มสี ว่ นรว่ มในการส�ำรวจคร้งั นี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิชยั เอกพลากร บรรณาธกิ ารและหัวหนา้ คณะผวู้ ิจยั ฯ

ง การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 จ ค�ำน�ำ การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายเป็นการส�ำรวจระดับ ประเทศที่ช่วยเฝ้าระวังสภาวะทางสุขภาพประชาชนไทย การส�ำรวจคร้ังน้ีเป็นครั้งท่ี 6 ด�ำเนินงานภาคสนามในปี 2562 - 2563 ประเด็นทางสขุ ภาพทคี่ รอบคลมุ ในการส�ำรวจ มที ัง้ ในเรือ่ งพฤติกรรมสขุ ภาพ ภาวะโรคทีส่ ามารถตรวจวัดพื้นฐาน ไดแ้ ก่ การวดั สดั สว่ น รา่ งกาย ความดนั โลหติ และการตรวจวดั นำ�้ ตาล และไขมนั ในเลอื ด เปน็ ตน้ โดยครอบคลมุ ทง้ั ในวัยท�ำงาน และผสู้ ูงอายุ ปญั หาสขุ ภาพอนั ดบั ตน้ ของสงั คมในขณะนค้ี อื โรคจากพฤตกิ รรรมทางสขุ ภาพ คอื โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การส�ำรวจภาวะสุขภาพโดยการตรวจร่างกายครั้งน้ี ท�ำให้เห็นภาพ ปัญหาพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนไทยท่ีแนวโน้มยังคงต้องได้รับการแก้ไข เช่น การสูบบุหร่ี การด่ืมสุรา การมีกิจกรรมทางกายและการกินผักผลไม้ไม่เพียงพอ ฯลฯ สถานการณ์ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพข้างต้น มีแนวโน้มเพ่ิมขึ้น โดยเฉพาะภาวะอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ซ่ึงมีผลต่ออุบัติการณ์โรค ระบบหัวใจและหลอดเลือดที่จะเกิดข้ึนในอนาคต อันเป็นภาระของผู้ป่วย ครอบครัว สังคม และระบบบริการสุขภาพ ดังน้ันมาตรการป้องกันและลดภาระโรคเหล่านี้จึงเป็น ประเด็นสำ� คัญ ขอ้ มลู จากการสำ� รวจนเี้ ปน็ ประโยชนส์ ำ� หรบั ผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งในหนว่ ยงานตา่ งๆ ทง้ั ใน ภาครฐั และเอกชน นำ� ไปใชป้ ระกอบในการประเมนิ และปรบั นโยบายและมาตรการดำ� เนนิ การระบบสุขภาพ รวมทั้งการให้ประชาชนความรู้ความตระหนักด้านสุขภาพ เพ่ือให้ ประชาชนมีสุขภาพท่ีดีข้ึน นอกจากนี้ข้อมูลจากการส�ำรวจนี้ยังเป็นฐานข้อมูลท�ำให้เกิด การศกึ ษาวจิ ยั ในทางลกึ เกยี่ วกบั สขุ ภาพและปจั จยั ทเี่ กยี่ วขอ้ งเพอื่ นำ� ไปสกู่ ารแกไ้ ขปญั หา เฉพาะประเด็นต่อไป ขอขอบคุณ ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิชัย เอกพลากร และทีมวิจัยเครือข่าย มหาวทิ ยาลยั และหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง และบคุ คลผรู้ ว่ มกนั ดำ� เนนิ การในครงั้ นเี้ ปน็ อยา่ งยง่ิ และทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมีความยินดีในการสนับสนุนร่วมกับ กระทรวงสาธารณสขุ และหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งใหม้ กี ารดำ� เนนิ การสำ� รวจนอ้ี ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เพื่อเป็นขอ้ มลู สว่ นหนง่ึ ทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาระบบสุขภาพของประชาชนต่อไป ศาสตราจารย์ นายแพทยป์ ยิ ะมิตร ศรธี รา คณบดีคณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลยั มหดิ ล

ฉ การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 สารบญั CONTENTS บทคัดยอ่ ส�ำหรบั ผบู้ รหิ าร 1 บทที่ 1 บทน�ำ 11 บทที่ 2 ระเบียบวธิ กี ารสำ� รวจ 21 2.1 คุ้มรวม 23 2.2 ระดับของการน�ำเสนอผล 23 2.3 แผนแบบการเลือกตวั อย่าง 24 2.4 การกำ� หนดขนาดตัวอยา่ ง 29 2.5 การค�ำนวนค่าถ่วงน�้ำหนกั 29 บทที่ 3 ลักษณะทางประชากร สงั คม และเศรษฐกจิ 45 3.1 โครงสรา้ งอายุ เพศ ท่ีอยู่ตามเขตการปกครองและภาคของตัวอย่างที่ส�ำรวจ 47 3.2 การศึกษา 48 3.3 สถานภาพสมรส 53 3.4 สถานภาพทางเศรษฐกิจ รายได้ 55 3.5 การนบั ถือศาสนา 59 3.6 ภาวะพกิ ารทางกาย 59 บทท่ี 4 พฤตกิ รรมสขุ ภาพ 61 4.1 การสบู บุหรี่ 63 4.2 การดม่ื เครอ่ื งดืม่ ทีม่ แี อลกอฮอล์ 78 4.3 กจิ กรรมทางกาย 97 4.4 พฤตกิ รรมการกนิ อาหาร 110 4.5 การกินผักผลไม้ 134 4.6 การใช้ยาและอาหารเสรมิ 147 4.7 การใชส้ ารเคมกี �ำจัดแมลง สารก�ำจดั ศตั รพู ืชและวัชพืช 163

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ช บทที่ 5 สถานะสุขภาพ 167 5.1 ภาวะน้�ำหนักเกินและอว้ น 169 5.2 โรคเบาหวาน 177 5.3 โรคความดันโลหิตสงู 188 5.4 ภาวะไขมันในเลอื ดผดิ ปกต ิ 195 5.5 โรคและปจั จัยเส่ียงของโรคระบบหวั ใจและหลอดเลอื ด 212 5.5.1 ปจั จัยเสยี่ งต่อโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดหลายปจั จยั (Multiple risk factors) 212 5.5.2 ภาวะเมแทบอลิกซินโดรม 213 5.6 โรคหลอดเลอื ดหัวใจ จากประวตั ิการวนิ ิจฉยั โดยแพทย ์ 216 และโรคหลอดเลอื ดสมองจากประวตั ิอาการ 5.7 ประวตั โิ รคอมั พฤกษ์ อมั พาต จากโรคหลอดเลือดสมอง 220 5.8 ภาวะโลหิตจาง 225 5.9 ภาวะซมึ เศรา้ 230 5.10 โรคเร้ือรงั ท่เี คยได้รับการวินจิ ฉัยจากแพทย์ 233 5.11 การบาดเจบ็ 235 5.12 การวดั แรงบบี มอื 239 245 บทที่ 6 อนามัยเจรญิ พันธ ุ์ 248 6.1 การมีประจำ� เดือนและการหมดประจำ� เดือน 251 6.2 การต้งั ครรภแ์ ละการคลอดบตุ ร 253 6.3 การแทง้ ลูก 256 6.4 การมีคูส่ มรสและการคมุ ก�ำเนดิ 260 6.5 ภาวะการมบี ุตรยาก 262 6.6 การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 265 6.7 การตรวจคัดกรองมะเร็งเตา้ นม 269 6.8 พฤติกรรมเคยมเี พศสัมพันธ์ในกลุ่มอายุ 15 - 19 ปี 271 บทท่ี 7 สขุ ภาพผสู้ ูงอาย ุ 273 7.1 ลกั ษณะตวั อยา่ งผู้สงู อายุ 276 7.2 ปจั จยั เกอ้ื หนนุ ตอ่ ความอยู่ดมี ีสุขของผู้สูงอาย ุ 282 7.3 ปัจจัยท่เี กื้อหนุนผู้สงู อายุด้านหลกั ประกันในการอย่อู าศยั และความปลอดภัย 296 7.4 การพึง่ พงิ ในกิจวัตรประจำ� วัน 308 7.5 ความเส่อื มถอยของอวัยวะ 315 7.6 การหกล้ม 321 7.7 โรคเรอ้ื รงั ในผสู้ ูงอายุ 327 7.8 การทดสอบความเรว็ ของการเดิน 334 7.9 การมองระยะใกล ้ 337 บทท่ี 8 สรปุ และข้อเสนอแนะ

ซ การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 1 บทคัดยอ่ ส�ำหรับผบู้ ริหาร การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทย โดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563

2 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครัง้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 3 บทคัดยอ่ สำ� หรับผู้บรหิ าร การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การสำ� รวจสุขภาพประชาชน คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 น้ี ด�ำเนินการโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยความรว่ มมอื จากเครอื ขา่ ยมหาวทิ ยาลยั ในภมู ภิ าคตา่ งๆ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากงบประมาณแผน่ ดนิ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขและกระทรวงสาธารณสุข วัตถุประสงค์หลักของการส�ำรวจฯ คือ แสดงความชุกของ โรคและปจั จยั เสย่ี งทางสขุ ภาพที่สำ� คัญ การกระจายตามเพศ และกล่มุ อายุ ในระดับประเทศ ภาค และเขตการปกครอง ตัวอย่างแบบ multi-stage random sampling จากประชาชนไทยทีอ่ าศัยใน 20 จังหวดั ท่วั ประเทศ และกรุงเทพฯ อายุ 15 ปขี ้นึ ไป จ�ำนวน 23,760 คน ด�ำเนนิ การเก็บข้อมลู ภาคสนาม เมอ่ื สิงหาคม 2562 - ตุลาคม 2563 ผลการสำ� รวจ ได้ผู้เข้าร่วมการศึกษาจ�ำนวน 22,698 คน คิดเป็นอัตราตอบกลับร้อยละ 95.5 ผลการส�ำรวจในกลุ่มสุขภาพผู้ใหญ่ วัยแรงงานและสงู อายุมดี ังนี้ พฤตกิ รรมสขุ ภาพ การสูบบหุ รี่ 1. ความชุกของการสบู บุหรใี่ นประชาชนไทยอายุ 15 ปีข้ึนไป สบู ในปจั จุบันรอ้ ยละ 18.7 (ชายร้อยละ 35.5 และหญิงรอ้ ยละ 2.8) สูบบุหร่ีเปน็ ประจำ� รอ้ ยละ 15.2 (ชายร้อยละ 29.5 และหญงิ รอ้ ยละ 1.8) การสบู เปน็ ประจำ� ตาม กลมุ่ อายใุ นเพศชายความชกุ เรมิ่ ตง้ั แตร่ อ้ ยละ 30.7 ในกลมุ่ อายุ 15 - 29 ปี และเพมิ่ ขนึ้ ตามอายุ สงู สดุ ในกลมุ่ อายุ 30 - 44 ปี ร้อยละ 37.6 ความชุกลดลงเม่ืออายุมากขึ้น อย่างไรก็ตามพบว่าหน่ึงในส่ีของผู้สูงอายุชายยังคงสูบบุหรี่อยู่ ส่วนใน เพศหญิงความชุกของการสบู บุหร่สี งู ในวยั ผสู้ ูงอายโุ ดยสูงสุดในกลมุ่ อายุ 80 ปีข้นึ ไป (ร้อยละ 3.6) 2. ความชกุ ของการใช้บุหรี่ไฟฟา้ เคยใช้ รอ้ ยละ 3.5 (ชายรอ้ ยละ 6.7 หญงิ ร้อยละ 0.5) ผูท้ ใ่ี ชบ้ ุหร่ไี ฟฟา้ ใน 30 วันท่ผี ่านมา รอ้ ยละ 1.0 (ชายร้อยละ 1.9 หญิงร้อยละ 0.3) กล่มุ อายุท่ใี ช้มากทส่ี ดุ คอื 15 - 29 ปี ร้อยละ 3.6 (ชายรอ้ ยละ 5.8 หญิงร้อยละ 1.2) 3. ใน 30 วันท่ผี า่ นมา ร้อยละ 69.9 ของคนที่ไมส่ ูบบหุ รี่ไดร้ บั ควนั บหุ ร่มี ือสอง 4. เมื่อเปรียบเทียบกับผลการส�ำรวจสุขภาพประชาชนครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 พบว่าร้อยละการสูบบุหร่ีลดลง จากการสำ� รวจฯครงั้ ที่ 5 คอื ผชู้ ายสบู บหุ รเ่ี ปน็ ประจำ� ลดลงจากรอ้ ยละ 31.1 เปน็ รอ้ ยละ 29.5 ผหู้ ญงิ ทส่ี บู บหุ รเ่ี ปน็ ประจำ� คงเดิม คอื ร้อยละ 1.8 จำ� นวนมวนบหุ รี่ทีส่ ูบในผชู้ ายลดลงจากเฉลีย่ วันละ 11.2 มวน เป็นวันละ 9.7 มวน และในผหู้ ญิง ลดจากเฉลยี่ วนั ละ 7.7 มวน เป็นวันละ 5.7 มวน สดั ส่วนของคนทไี่ มส่ บู บุหร่แี ตไ่ ดร้ บั ควันบหุ รีม่ ือสองลดลงเล็กน้อยจาก รอ้ ยละ 72.6 ในการสำ� รวจฯครงั้ ที่ 5 ปี 2557 เปน็ รอ้ ยละ 69.9 ในการสำ� รวจฯคร้ังน้ี

4 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครัง้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การดืม่ เคร่อื งด่มื แอลกอฮอล์ 5. ความชกุ ของการด่ืมเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล์ ในประชาชนไทยอายุ 15 ปขี ึน้ ไป การดม่ื ใน 12 เดอื นทีผ่ ่านมา รอ้ ยละ 44.6 (ชายร้อยละ 59.0 หญงิ ร้อยละ 31.0) ความชกุ การด่ืมใน 30 วันทผ่ี ่านมา ร้อยละ 32.5 (ชายร้อยละ 47.3 หญิงรอ้ ยละ 18.6) 6. ความชกุ ของการเสยี่ งต่อการตดิ สุรา พบว่าเปน็ แบบเสี่ยงตดิ สุรา (alcohol dependence) ร้อยละ 0.7 แบบอนั ตราย (harmful use) รอ้ ยละ 1.6 แบบเสย่ี ง (hazardous drinker) ร้อยละ 12.9 และแบบเสีย่ งต่ำ� (low risk drinker) รอ้ ยละ 84.7 7. เมื่อเปรียบเทียบกับผลการส�ำรวจสุขภาพประชาชนครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 นี้กับการส�ำรวจฯ คร้ังท่ี 5 พ.ศ. 2557 พบว่า สัดสว่ นของประชาชนไทยอายุ 15 ปขี ึน้ ไปท่ีดืม่ เครอ่ื งดม่ื แอลกกอฮอล์ใน 12 เดอื นที่ผ่านมา เพิ่มข้ึน มีร้อยละ 44.6 (ชายร้อยละ 59.0 และหญิงร้อยละ 31.0) ซึ่งเพ่ิมจากการส�ำรวจฯครั้งที่ 5 มีร้อยละ 38.9 (ชายร้อยละ 55.9 และหญงิ ร้อยละ 23.0) 8. การด่มื เคร่ืองดืม่ แอลกอฮอลอ์ ย่างหนกั (binge drinking) ใน 30 วันท่ผี า่ นมา พบว่าการสำ� รวจฯ ครง้ั ที่ 6 นม้ี รี ้อยละ 12.9 (ชายร้อยละ 18.0 หญงิ ร้อยละ 8.2) ส�ำหรบั การสำ� รวจฯครั้งท่ี 5 มีร้อยละ 10.9 (ชายรอ้ ยละ 19.4, หญงิ รอ้ ยละ 2.9) กิจกรรมทางกาย 9. สดั สว่ นของประชาชนไทยอายุ 15 ปขี นึ้ ไป ทม่ี กี จิ กรรมทางกายไมเ่ พยี งพอมรี อ้ ยละ 30.9 (ชายรอ้ ยละ 28.9 และหญิงร้อยละ 32.7) 10. การมกี จิ กรรมทางกายไมเ่ พยี งพอมมี ากในกลมุ่ ผสู้ งู อายพุ บรอ้ ยละ 43.4 ในกลมุ่ อายุ 70 - 79 และมากทส่ี ดุ ในกลุ่มอายุ 80 ปีขึ้นไปมีร้อยละ 61.4 สัดส่วนของคนในเขตเทศบาลท่ีมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอมีมากกว่า คนนอกเขตฯ (รอ้ ยละ 36.1 และ 28.0 ตามล�ำดับ) 11. กลมุ่ อาชพี ทม่ี ลี กั ษณะการทำ� งานไมต่ อ้ งใชแ้ รงกายมาก เชน่ งานเสมยี น นกั วชิ าการ ผบู้ รหิ าร และไมม่ อี าชพี ซง่ึ รวมแมบ่ ้านมีความชุกของการมีกจิ กรรมยามวา่ งระดบั ปานกลางข้นึ ไปรอ้ ยละ 16 - 30 12. เมื่อเปรียบเทยี บกับการสำ� รวจสุขภาพฯ ครง้ั ที่ 5 เมือ่ ปี 2557 พบว่า ผลการส�ำรวจคร้งั ท่ี 6 น้ี พบสัดส่วน ของประชาชนไทยทมี่ ีกิจกรรมทางกายไม่เพยี งพอเพ่มิ มากกว่าผลการส�ำรวจสขุ ภาพฯ ครั้งท่ี 5 เมื่อปี 2557 (ชายรอ้ ยละ 18.4 และหญงิ ร้อยละ 20.0) พฤตกิ รรมการกินอาหาร 13. ประชาชนไทยอายุ 15 ปีข้ึนไปรอ้ ยละ 73.0 กินอาหารครบ 3 มอื้ ต่อวนั กลุ่มอายทุ ่กี ินครบ 3 มื้อน้อยทสี่ ุด คอื 15 - 29 ปี มีร้อยละ 64.0 ซง่ึ น้อยกว่าผลการสำ� รวจปี 2557 (รอ้ ยละ 76.0 และ 69.9 ตามล�ำดบั ) 14. พฤติกรรมการกินอาหารในวันท�ำงาน ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ร้อยละ 86.0 กินอาหารม้ือเย็น ท่ีท�ำกินเองท่ีบ้าน ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ประมาณหนึ่งในส่ีของประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปกินอาหารนอกบ้าน อย่างน้อย 1 ม้ือโดยนิยมอาหารตามส่ังและอาหารซื้อจากตลาด เม่ือเทียบกับปี 2557 สัดส่วนการกินอาหารในบ้าน และนอกบ้านไม่เปล่ยี นแปลงมากนกั การกินผกั ผลไม้ 15. ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปร้อยละ 27.8 กินผักปริมาณต่อวันเพียงพอ (≥ 3 ส่วนมาตรฐานต่อวัน) (ชายร้อยละ 26.9 และหญิงร้อยละ 28.8) ร้อยละ 23.4 กินผลไม้ปริมาณต่อวันเพียงพอ (≥ 2 ส่วนมาตรฐานต่อวัน) (ชายร้อยละ 20.5 และหญงิ ร้อยละ 26.1)

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 5 16. ประชาชนไทยอายุ 15 ปีข้ึนไปร้อยละ 21.2 กินผักและผลไม้ปริมาณต่อวันเพียงพอตามข้อแนะน�ำ (รวม ≥ 5 ส่วนมาตรฐานต่อวนั ) (ชายรอ้ ยละ 19.7 และหญงิ รอ้ ยละ 22.7) กล่มุ อายุ 15 - 59 ปี รอ้ ยละ 18.9 - 23.3 กนิ ผกั และผลไมเ้ พยี งพอ สัดส่วนนีล้ ดลงในผูส้ ูงอายุ ≥ 60 ปี และลดลงตำ�่ สดุ ในกล่มุ อายุ 80 ปขี ึน้ ไป (ร้อยละ 16.5) การกินผักและผลไม้เพียงพอของคนในเขตเทศบาลและนอกเขตฯ มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เมื่อพิจารณาตามภาค พบว่า ภาคใต้มีการกินผักและผลไม้เพียงพอมากท่ีสุด (ร้อยละ 33.0) รองลงมาคือ กรุงเทพฯ (ร้อยละ 21.8) ส่วนภาคอื่น มีสดั สว่ นใกลเ้ คียงกัน อยู่ในชว่ งร้อยละ 18.5 - 19.6 17. เมื่อเปรยี บเทียบกับการกินผกั ผลไม้ในการส�ำรวจสขุ ภาพฯ ครง้ั ท่ี 5 พ.ศ. 2557 ในการสำ� รวจฯครัง้ ท่ี 6 นี้ สดั ส่วนการกินผักและผลไมอ้ ยา่ งเพยี งพอลดลง โดยในปี 2557 มรี อ้ ยละ 25.9 (ผชู้ าย และผหู้ ญิง รอ้ ยละ 24.1 และ 27.6 ตามลำ� ดบั ) การใชย้ าและอาหารเสรมิ 18. ใน 1 เดือนท่ผี ่านมา ประชาชนไทยอายุ 15 ปขี ้ึนไปรอ้ ยละ 1.9 กนิ ยาแกป้ วดทุกวัน (หญิงรอ้ ยละ 2.1 และชายร้อยละ 1.7) และสัดส่วนการกินยาแก้ปวดเพ่ิมข้ึนเม่ืออายุมากข้ึน ในเขตฯและนอกเขตเทศบาลมีสัดส่วน การกินยาแก้ปวดใกล้เคียงกัน กรุงเทพฯ และภาคกลางมีร้อยละของคนกินยาแก้ปวดมากกว่าภาคอื่นเล็กน้อย (รอ้ ยละ 2.8 และ 3.3 ตามล�ำดับ) 19. ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปร้อยละ 2.9 กินยาคลายเครียดหรือยานอนหลับ เป็นประจำ� (รวมเมอ่ื มอี าการและไมม่ อี าการ) โดยผู้หญงิ มรี อ้ ยละของการกินยาดังกลา่ วสงู กวา่ ผ้ชู าย (ร้อยละ 3.4 และ 2.5 ตามล�ำดับ) คนในเขตเทศบาลมีความชุกการกินยาคลายเครียดหรือยานอนหลับสูงกว่าคนนอกเขตฯ เล็กน้อย (ร้อยละ 3.1 และ 2.8 ตามล�ำดับ) กรุงเทพฯ มีสัดส่วนการกินยาดังกล่าวสูง (ร้อยละ 3.9) รองลงมาคือภาคกลาง (รอ้ ยละ 3.6) และภาคเหนอื (รอ้ ยละ 3.3) 20. ใน 6 เดอื นทีผ่ า่ นมา ประชาชนไทยรอ้ ยละ 8.2 กินยาสมนุ ไพรเปน็ ประจ�ำ และสดั ส่วนในหญงิ มากกว่าชาย (ร้อยละ 8.4 และ 8.1 ตามล�ำดบั ) 21. ใน 30 วนั ท่ีผ่านมา ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป รอ้ ยละ 20.1 เคยกนิ อาหารเสรมิ โดยชายมากกว่าหญงิ (ร้อยละ 20.5 และ 19.8 ตามล�ำดับ) นอกจากนี้ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปร้อยละ 0.8 กินยาลดความอ้วน โดยความชกุ สงู ท่สี ดุ ในผหู้ ญงิ อายุ 15 - 29 ปี มีรอ้ ยละ 3.3 การเปรยี บเทยี บกบั ผลการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยครง้ั ที่ 5 ความชกุ ของการใชย้ าแกป้ วดเปน็ ประจำ� ทกุ วนั ของการส�ำรวจครั้งน้ี (ชายร้อยละ 1.7 และหญิง 2.1) ต่�ำกว่าผลส�ำรวจฯครั้งที่ 5 (ซ่ึงพบชายร้อยละ 2.0 หญิง 2.7) สว่ นการใช้ยาคลายเครยี ดและยานอนหลับนน้ั พบวา่ มีการใชย้ าเป็นประจ�ำใน 6 เดอื นท่ีผ่านมา รอ้ ยละ 2.9 ซึ่งมากกวา่ ปี 2557 เลก็ นอ้ ย ภาวะอว้ น 22. ความชกุ ของภาวะอว้ น (BMI ≥ 25 kg/m2) ในประชาชนไทยอายุ 15 ปขี นึ้ ไปมรี ้อยละ 42.2 (ชายร้อยละ 37.8 และหญิงรอ้ ยละ 46.4) ความชุกในเขตเทศบาลสูงกวา่ นอกเขตฯ (ในชายรอ้ ยละ 41.5 และ 35.9 ในหญิงร้อยละ 47.8 และ 45.5 ตามล�ำดับ) โดยผู้ชายในภาคกลางและกรุงเทพฯมีสัดส่วนสูงสุด ส�ำหรับผู้หญิงทุกภาคมีสัดส่วน ไม่ตา่ งกันมาก 23. ความชกุ ของภาวะอว้ นลงพงุ (รอบเอว ≥ 90 ซม. ในชาย และ ≥ 80 ซม. ในหญิง) มีรอ้ ยละ 27.7 ในผู้ชาย และรอ้ ยละ 50.4 ในผ้หู ญิง ความชกุ ในเขตเทศบาล (ชายรอ้ ยละ 33.6 และหญิงรอ้ ยละ 55.4) สูงกวา่ นอกเขตเทศบาล (ชายร้อยละ 24.6 และหญงิ ร้อยละ 47.7)

6 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 24. เม่ือเปรียบเทียบกับผลการส�ำรวจฯ ครั้งที่ 5 เม่ือปี 2557 ความชุกของภาวะอ้วน(BMI ≥25 kg/m2) มีแนวโน้มสูงข้ึนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในผู้หญิงความชุกเพิ่มจากร้อยละ 41.8 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 46.4 สว่ นในผ้ชู ายเพ่มิ จากรอ้ ยละ 32.9 เป็น ร้อยละ 37.8 ในการส�ำรวจปจั จุบัน ภาวะอ้วนลงพงุ ในผชู้ ายมคี วามชกุ เพม่ิ ขึน้ จากร้อยละ 26.0 เปน็ ร้อยละ 27.7 ส่วนในผหู้ ญงิ คอ่ นข้างคงเดิม โดยมีร้อยละ 51.3 ในปี 2557 และรอ้ ยละ 50.4 ใน การส�ำรวจคร้งั ที่ 6 น้ี โรคเบาหวาน 25. ความชุกของโรคเบาหวานวัดโดยประวัติและ fasting plasma glucose (FPG) ในประชาชนไทยอายุ 15 ปีข้ึนไปมีร้อยละ 9.5 ความชุกในผู้หญิงสูงกว่าในผู้ชาย (ร้อยละ 10.3 และ 8.6 ตามล�ำดับ) ความชุกต�่ำสุดใน คนอายนุ ้อยและเพ่มิ ขน้ึ ตามอายุที่สูงขน้ึ และสงู ทสี่ ดุ ในกลุ่มอายุ 60 - 69 ปใี นผู้ชาย (รอ้ ยละ 18.6) และ อายุ 70 - 79 ปี ในผู้หญิง (ร้อยละ 24.6) จากน้ันความชุกลดลงเม่ืออายุมากข้ึน ความชุกของคนท่ีอาศัยในเขตเทศบาลสูงกว่านอกเขต เทศบาล พจิ ารณาตามภาค กรงุ เทพฯมีความชุกสงู ท่สี ดุ (ชายรอ้ ยละ 12.6 และหญิงรอ้ ยละ 12.4) 26. ความชุกของเบาหวานวัดโดยประวัติและ HbA1c ในประชาชนไทยอายุ 15 ปีข้ึนไปมีร้อยละ 11.0 ความชกุ ในผหู้ ญิงสูงกว่าในผ้ชู าย (รอ้ ยละ 12.5 และ 9.5 ตามลำ� ดับ) 27. ร้อยละ 30.6 ของผู้ที่เป็นเบาหวาน (โดยประวัติและ FPG) ไม่ทราบว่าตนเองเป็นเบาหวานมาก่อน สว่ นผู้ทเ่ี ป็นเบาหวานมรี ้อยละ 13.9 ไมไ่ ดร้ ับการรกั ษา รอ้ ยละ 47 ของผู้เปน็ เบาหวานทีไ่ ดร้ บั การรักษาสามารถควบคุม น�้ำตาลในเลือดในเกณฑ์ < 130 มก./ดล. (หรือร้อยละ 26.3 ของผู้ที่เป็นเบาหวานทั้งหมด) ทั้งนี้ผู้หญิงมีสัดส่วนของ การได้รบั การวินิจฉยั การรักษาและการควบคุมนำ�้ ตาลได้ตามเกณฑไ์ ดม้ ากกว่าในผู้ชาย 28. เมื่อเปรียบเทียบกบั ผลการสำ� รวจฯ คร้งั ที่ 5 ความชกุ ของเบาหวาน (โดยประวัตแิ ละ FPG) ในประชาชน อายุ 15 ปีข้ึนไป ในปี 2562-63 สงู กว่าความชกุ ในปี 2557 (ซึง่ มีร้อยละ 8.9) สำ� หรบั ความครอบคลมุ ในการตรวจพบ ผู้เป็นเบาหวานเพม่ิ ข้นึ เมอ่ื เทยี บกับผลการสำ� รวจในปี 2557 สดั สว่ นของผู้เปน็ เบาหวานทไี่ ม่ได้รับการวินิจฉยั ลดลงจาก รอ้ ยละ 43.1 เปน็ รอ้ ยละ 30.6 และในสว่ นของการรักษาและสามารถควบคมุ น้�ำตาลในเลือดได้ตามเกณฑ์ (FPG < 130 มก./ดล.) เพิ่มจากร้อยละ 23.5 เป็นรอ้ ยละ 26.3 โรคความดันโลหติ สูง 29. ความชกุ ของโรคความดนั โลหิตสงู ในประชาชนอายุ 15 ปขี ้นึ ไป มีรอ้ ยละ 25.4 ผชู้ ายรอ้ ยละ 26.7 และ ผู้หญิงร้อยละ 24.2 ความชุกของโรคต�่ำสุดในกลุ่มอายุ 15 - 29 ปี (ร้อยละ 3.3) จากนั้นเพิ่มขึ้นตามอายุและสูงสุด ในกลมุ่ อายุ 80 ปีขนึ้ ไป ความชุกของความดนั โลหติ สงู ในเขตเทศบาลสงู กวา่ นอกเขตฯ เลก็ นอ้ ย ภาคกลาง ภาคเหนอื และกรงุ เทพฯมีความชุกสูงใกลเ้ คยี งกัน (ร้อยละ 27.2 - 27.5) และสงู กว่าภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาคใต้ (ร้อยละ 24.3 และ 21.0 ตามลำ� ดับ) ส�ำหรับความครอบคลุมในการตรวจวินิจฉัยผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงร้อยละ 57.0 ในชาย และร้อยละ 40.5 ในหญิงไม่เคยได้รับการวินิจฉัยมาก่อน ร้อยละ 3.5 ของคนที่เป็นความดันโลหิตสูงได้รับการวินิจฉัยแต่ไม่ได้รักษา ร้อยละ 25.0 ของผู้ป่วยทง้ั หมดได้รบั การรักษาแตค่ วบคุมความดนั โลหิตไม่ไดต้ ามเกณฑ์ (< 140/90 มม. ปรอท) และ อกี ร้อยละ 22.6 ของผู้ท่เี ป็นความดันโลหติ สูงไดร้ บั การรกั ษาและควบคมุ ความดนั โลหติ ได้ ผู้ชายมสี ดั สว่ นของการได้รับ การวนิ ิจฉัย รักษา และควบคุมความดันโลหิตไดต้ ามเกณฑ์นอ้ ยกว่าในผ้หู ญิง 30. เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ผลการสำ� รวจฯ ครงั้ ที่ 5 ความชกุ ของโรคความดนั โลหติ สงู ในปี 2562 - 2563 นี้ สงู กวา่ ปี 2557 ซึง่ พบความชุกร้อยละ 24.7 (ชายร้อยละ 25.6 และหญงิ รอ้ ยละ 23.9) แต่การเข้าถึงระบบบริการยังไม่ดีข้ึน โดยในจ�ำนวนคนท่ีเป็นความดันโลหิตสูงน้ัน สัดส่วนของผู้ที่ไม่ได้รับการ วนิ จิ ฉยั วา่ เปน็ ความดนั โลหติ สงู เพม่ิ จากรอ้ ยละ 44.7 เปน็ รอ้ ยละ 48.8 สดั สว่ นทไ่ี ดร้ บั การรกั ษาแตค่ วบคมุ ไมไ่ ดต้ ามเกณฑ์ เพ่ิมจากรอ้ ยละ 20.1 เป็น 25.0 และสัดสว่ นของผทู้ ี่สามารถคมุ ความดนั โลหิตไดต้ ามเกณฑ์ลดลงจากรอ้ ยละ 29.7 เป็น 22.6 ตามลำ� ดับ

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 7 ภาวะไขมนั ในเลือดผิดปกติ 31. ความชุกของภาวะไขมันคอเลสเตอรอลรวม (Total cholesterol; TC) ≥ 240 มก./ดล. ในประชาชนไทย อายุ 15 ปขี ้นึ ไปมรี อ้ ยละ 23.5 ความชกุ ในผูห้ ญิงสงู กว่าในผชู้ าย (ร้อยละ 25.1 และ 21.7 ตามลำ� ดับ) ความชกุ เพ่ิมข้นึ ตามอายุท่ีเพ่ิมขึน้ และสงู สดุ ในกลมุ่ อายุ 45 - 59 ปี (ร้อยละ 30.0) จากนน้ั ความชุกลดลง ในเขตเทศบาลมีความชุกสงู กว่านอกเขตฯ เล็กนอ้ ย เม่ือพิจารณาตามภมู ิภาค พบวา่ คนทอี่ ยู่ในกรุงเทพฯ มีความชุกของภาวะไขมันคอเลสเตอรอล รวม ≥ 240 มก./ดล. สูงที่สุด (ร้อยละ 31.6) รองลงมาคือ ภาคใต้ (ร้อยละ 28.2) ภาคกลาง (ร้อยละ 26.7) และ ภาคเหนอื (รอ้ ยละ 24.1) และภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื (ร้อยละ 16.6) ตามล�ำดบั 32. เมื่อเปรียบเทียบกับผลการส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยคร้ังท่ี 5 พ.ศ. 2557 ระดับไขมันคอเลสเตอรอล รวมของประชาชนไทยอายุ 15 ปีข้ีนไป สูงขึ้น ในผู้หญิงลดจาก 199.5 มก./ดล. ในปี 2557 เป็น 213.2 มก./ดล. ในปี 2562 - 2563 ในผ้ชู ายเพ่ิมจาก 192.7 เปน็ 206.8 มก./ดล. ความชุกของภาวะไขมันคอเลสเตอรอลรวมในเลือด (≥ 240 มก./ดล.) ในผหู้ ญงิ เพิม่ จากร้อยละ 17.7 เป็น 25.1 และในผู้ชายเพ่มิ จาก รอ้ ยละ 14.9 เปน็ 21.7 ตามลำ� ดบั 33. ความชุกของภาวะ Metabolic syndrome ในประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป เท่ากับร้อยละ 25.1 (ผู้หญิงร้อยละ 27.7 และชายร้อยละ 22.5) ความชุกในเขตเทศบาลสูงกว่านอกเขตฯ และความชุกในภาคกลาง และกรุงเทพฯ สงู กว่าภาคอืน่ ๆ ความชกุ ของภาวะน้ใี นการสำ� รวจคร้ังที่ 6 นีต้ �ำ่ กว่า ปี 2557 ซ่ึงพบร้อยละ 28.9 ประวตั โิ รคหลอดเลือดหวั ใจ และโรคหลอดเลือดสมอง 34. ข้อมูลโรคเรื้อรังนี้ไดจ้ ากการสัมภาษณ์เทา่ นนั้ รอ้ ยละ 1.5 ของประชาชนไทยทม่ี อี ายุ 15 ปขี น้ึ ไป และร้อย ละ 1.8 ของประชาชนไทยที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป บอกว่าเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจหรือกล้ามเนื้อ หัวใจตาย ผู้ชายและผู้หญิงมีความชุกใกลเ้ คยี งกัน ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึน้ ไป ร้อยละ 1.3 บอกว่าเคยเปน็ อัมพฤกษ์ หรอื อมั พาต ความชกุ ในเพศชายสงู กวา่ เพศหญงิ เลก็ น้อย (รอ้ ยละ 1.7 และ 0.9 ตามลำ� ดับ) และความชกุ ของผ้ทู ี่ยังมี อาการอัมพฤกษห์ รอื อมั พาตอยูใ่ นขณะที่สัมภาษณ์มีรอ้ ยละ 0.7 35. ความชุกของโรคเรื้อรังในประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่บอกว่าเคยได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์และ บคุ ลากรสาธารณสขุ พบวา่ เปน็ ขอ้ อกั เสบ รอ้ ยละ 8.2 โรคหอบหดื รอ้ ยละ 3.9 โรคเกาท์ รอ้ ยละ 2.9 นว่ิ ทางเดนิ ปสั สาวะ ร้อยละ 2.4 ไตวาย ร้อยละ 1.5 โรคลมชัก (ลมบ้าหม)ู รอ้ ยละ 1.1 ธาลสั ซเี มีย รอ้ ยละ 0.9 โรคเรื้อนกวางหรือสะเก็ดเงนิ รอ้ ยละ 0.5 และหลอดลมปอดอุดกัน้ เร้อื รัง รอ้ ยละ 0.4 การมปี ัจจยั เสี่ยงหลายปัจจัยร่วมกัน 36. ความชุกของการมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดหลายปัจจัยร่วมกัน ท่ีพบบ่อย 5 ปัจจัย ได้แก่ เบาหวาน ความดนั โลหติ สงู ไขมนั คอเลสเตอรอลรวม ≥ 240 มก./ดล. สบู บหุ รเี่ ปน็ ประจำ� และอว้ น (BMI ≥ 25 kg/m2) พบวา่ รอ้ ยละ 38.6 ของประชาชนไทยอายุ 15 ปขี ้ึนไปมี 1 ปจั จัยเส่ยี ง, รอ้ ยละ 23.4 มี 2 ปัจจยั เสีย่ ง, รอ้ ยละ 8.2 มี 3 ปัจจัยเสย่ี ง และรอ้ ยละ 1.1 มีตงั้ แต่ 4 ปัจจยั เสี่ยงขน้ึ ไป 37. เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั ผลการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยครงั้ ที่ 5 พ.ศ. 2557 พบวา่ ความชกุ ของการมหี ลาย ปัจจัยเส่ยี งในการสำ� รวจคร้ังน้ีเพม่ิ ขนึ้ ซึง่ ในปี 2557 ความชกุ ของการมีปจั จัยเส่ียง 1, 2, 3 และ 4 ปัจจัยเส่ยี งขึน้ ไป ร้อยละ 36.9, 20.8, 6.9 และ 1.1 ตามล�ำดบั ภาวะซึมเศรา้ 38. ความชกุ ของภาวะซมึ เศร้าในประชาชนไทยอายุ 15 ปีขน้ึ ไป มีรอ้ ยละ 1.7 ความชุกในเพศหญิงมากกวา่ เพศชาย (ร้อยละ 2.2 และ 1.2 ตามลำ� ดับ) ในผูห้ ญิงความชกุ สูงในชว่ งอายุ 15 - 29 ปี มีร้อยละ 2.6 และเพม่ิ ข้ึนใน ผสู้ งู อายุ สงู สดุ ในกล่มุ 70 - 79 ปีร้อยละ 3.7 และในผชู้ ายสูงสดุ ในชว่ งอายุ 30 - 44 ปี มีรอ้ ยละ 2.0 ในเขตเทศบาล

8 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครัง้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 และนอกเขตเทศบาลมีความชกุ ใกลเ้ คยี งกนั เมอื่ พจิ ารณาตามภาคผู้ชายในทุกภาคมีความชุกใกล้เคยี งกนั สว่ นในผู้หญงิ พบว่ากรงุ เทพฯมคี วามชุกสงู สุด รองลงมาคือ ภาคกลาง ภาคเหนอื ตะวนั ออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ตามลำ� ดบั ความชุกของภาวะซึมเศร้าในการส�ำรวจฯครั้งที่ 6 น้ี ต่�ำกว่าผลส�ำรวจฯครั้งท่ี 5 ปี 2557 ซ่ึงพบร้อยละ 3.0 (ชายร้อยละ 2.1 และหญงิ ร้อยละ 3.8) ภาวะโลหติ จาง 39. ความชกุ ของภาวะโลหติ จางในประชาชนไทยอายุ 15 ปขี นึ้ ไป มรี อ้ ยละ 16.2 ความชกุ ในหญงิ สงู กวา่ ในชาย (รอ้ ยละ 21.0 และ 11.0 ตามลำ� ดบั ) ความชกุ ของภาวะโลหติ จางเพม่ิ ขนึ้ ตามอายุ จากรอ้ ยละ 9.8 ในกลมุ่ อายุ 15 - 29 ปี และเพ่ิมขน้ึ เม่อื อายมุ ากข้นึ จนสงู สดุ เทา่ กับร้อยละ 54.2 ในกล่มุ อายุ ≥ 80 ปี ผหู้ ญิงมีความชกุ ภาวะโลหิตจางสงู กวา่ ผชู้ ายทกุ กลมุ่ อายุ แตก่ ลมุ่ อายุ 80 ขน้ึ ไป ความชกุ ของภาวะโลหติ จางในชายและหญงิ ใกลเ้ คยี งกนั ความชกุ ในเขตเทศบาล และนอกเขตเทศบาลใกล้เคียงกัน ผู้ชายในภาคตะวันออกเฉียงเหนอื มีความชกุ สูงสดุ ส�ำหรบั ผ้หู ญงิ ภาคตะวนั ออกเฉียง เหนอื และกรุงเทพฯมีความชกุ สงู กว่าภาคอนื่ 40. เมื่อเปรียบเทียบการส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทย คร้ังท่ี 5 พ.ศ. 2557 ความชุกของภาวะโลหิตจางใน ประชาชนไทยอายุ 15 ปขี ้นึ ไป ของครั้งท่ี 6 ลดลง ในขณะที่ความชุกในผชู้ ายลดลงจากรอ้ ยละ 24.3 ในปี 2557 เป็น 11.0 ในปี 2562 - 2563 ความชุกในผหู้ ญงิ ลดลง คือจากร้อยละ 25.2 เปน็ 21.0 ตามลำ� ดับ การบาดเจ็บ 41. ใน 12 เดือนท่ผี า่ นมา รอ้ ยละ 8.3 ของประชาชนไทยอายุ 15 ปขี ึน้ ไป รายงานวา่ เคยไดร้ บั บาดเจ็บจนตอ้ ง เขา้ รบั การรกั ษาในโรงพยาบาล สดั สว่ นในผชู้ ายสงู กวา่ ผหู้ ญงิ 2 เทา่ (รอ้ ยละ 10.8 และ 5.8 ตามลำ� ดบั ) กลมุ่ ทม่ี กี ารบาดเจบ็ มากทสี่ ดุ คอื อายุ 15 - 29 ปี (รอ้ ยละ 12.0) โดยเฉพาะผชู้ าย (รอ้ ยละ 16.6) ในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาลมสี ดั สว่ น ใกลเ้ คยี งกนั การกระจายความชกุ จำ� แนกตามภาคไมม่ คี วามแตกตา่ งกนั มากนกั สาเหตสุ ว่ นใหญข่ องการบาดเจบ็ เกดิ จาก อุบตั เิ หตจุ ราจร ผลการส�ำรวจฯเกี่ยวกับร้อยละของประชาชนอายุ 15 ปีข้ึนไปที่มีประวัติการบาดเจ็บใน 12 เดือนท่ีผ่านมา ใกล้เคียงกับผลการส�ำรวจฯคร้ังที่ 5 ซ่ึงมีร้อยละ 7.2 แต่มีสัดส่วนการบาดเจ็บจนต้องเข้านอนในโรงพยาบาลมีมากข้ึน คอื จากร้อยละ 3.2 เปน็ รอ้ ยละ 6.2 อนามยั เจรญิ พันธ์ุ 42. อายุเฉล่ียของสตรีไทยเม่ือเร่ิมมีประจ�ำเดือนครั้งแรกตามกลุ่มอายุ สตรีที่มีอายุมากกว่ามีประจ�ำเดือน ครงั้ แรกเมอ่ื อายมุ ากกวา่ สตรที มี่ อี ายนุ อ้ ยกวา่ กลา่ วคอื กลมุ่ อายุ 15 - 29 ปี 30 - 44 ปี และ 45 - 59 ปี เรมิ่ มปี ระจำ� เดอื น คร้งั แรกเม่ืออายุ 12.8 ปี 13.6 ปี และ 14.7 ปีตามล�ำดับ 43. การตง้ั ครรภใ์ นวยั รนุ่ พบวา่ สตรวี ยั 15 - 19 ปรี อ้ ยละ 8.2 บอกวา่ เคยตง้ั ครรภ์ ซง่ึ รอ้ ยละ 92.6 เคยคลอดบตุ ร 44. ใน 5 ปีทผี่ ่านมา สตรรี อ้ ยละ 2.6 เคยมกี ารแทง้ ลกู กลุ่มอายุ 20 - 30 ปี มรี ้อยละของการแทง้ ลูกสงู สดุ ร้อยละ 5.4 และสาเหตุของการแท้งทุกกลุ่มอายุส่วนใหญ่ (ร้อยละ 91.2) เป็นการแท้งตามธรรมชาติ รองลงมาคือ ทำ� แทง้ รอ้ ยละ 8.8 ในจำ� นวนน้ีเปน็ เหตผุ ลทางการแพทย์ร้อยละ 51.4 และไม่พร้อมมบี ตุ รรอ้ ยละ 48.6 45. การคมุ กำ� เนดิ พบวา่ มอี ตั ราการคมุ กำ� เนดิ รอ้ ยละ 67.3 และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื มกี ารคมุ กำ� เนดิ สงู สดุ ถึงรอ้ ยละ 73.2 วิธกี ารคุมก�ำเนิดโดยการท�ำหมนั หญงิ มสี งู สดุ รอ้ ยละ 41.3 รองลงมาเป็นยาเม็ดคมุ ก�ำเนดิ ร้อยละ 34.6 46. ร้อยละ 10.3 ของกลมุ่ อายุ 15 - 59 ปี บอกว่ามภี าวะมบี ุตรยาก

การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 9 47. การตรวจคัดกรองมะเรง็ ปากมดลูก พบว่าใน 2 ปีทผี่ า่ นมา สตรอี ายุ 15 - 59 ปี ร้อยละ 47.3 เคยได้รับการ ตรวจมะเรง็ ปากมดลกู โดยกลุ่มอายุ 30 - 44 ปแี ละ 45 - 59 ปีได้รับการตรวจรอ้ ยละ 48.3 และ 57.4 ตามลำ� ดบั เมอื่ เปรียบเทียบกบั ผลการสำ� รวจคร้งั ที่ 5 เมอ่ื ปี 2557 พบวา่ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในชว่ ง 2 ปที ี่ผ่านมา สัดส่วนใกลเ้ คียงกนั คือ ร้อยละ 47.8 ใน ปี 2557 48. การตรวจคดั กรองมะเรง็ เต้านมดว้ ยบคุ ลากรทางการแพทย์ใน 1 ปีทผี่ า่ นมา สตรีอายุ 15 - 59 ปี เคยไดร้ บั การตรวจรอ้ ยละ 21.7 โดยกลุ่มอายุ 30 - 44 ปีและ 45 - 59 ปไี ด้รบั การตรวจร้อยละ 20.9 และ 28.0 ตามลำ� ดบั การตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัย 15 - 59 ปี ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 62.6 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 61.9 ในปี 2562 - 2563 49. การตรวจแมมโมแกรมในสตรีอายุ 40 - 59 ปี ใน 1 ปที ผี่ า่ นมาเพิ่มจากรอ้ ยละ 4.8 ในปี 2557 เป็นรอ้ ยละ 5.5 ในปี 2562 - 2563 สุขภาพผู้สงู อายุ 50. สดั สว่ นของผู้สงู อายุ (อายุ 60 ปขี นึ้ ไป) ท่ีทำ� งานเชงิ เศรษฐกิจ ร้อยละ 50.3 ชายมรี ้อยละ 60.4 หญิงมี ร้อยละ 42.3 ซึ่งมากกว่าผลการส�ำรวจฯ ในปี 2557 ซ่ึงมี ร้อยละ 41.2 ชายร้อยละ 51.4 และหญิงร้อยละ 32.8 ตามล�ำดับ 51. สัดส่วนของผ้สู ูงอายุ (อายุ 60 ปขี นึ้ ไป) ทอี่ ยคู่ นเดียว มีร้อยละ 9.5 และรอ้ ยละ 22.3 อยกู่ บั คสู่ มรสเทา่ นัน้ ซึ่งสัดสว่ นของการอยูค่ นเดียวและการอยู่กับคูส่ มรสเพิ่มข้ึน เมอ่ื เทียบกับผลการสำ� รวจฯ ในปี 2557 ซ่ึงพบรอ้ ยละ 7.9 และ 17.6 ตามลำ� ดบั 52. ผู้สงู อายุ ร้อยละ 39.4 บอกวา่ ตนเองมีรายไดไ้ มเ่ พียงพอ สดั ส่วนนมี้ ากกว่าของปี 2557 ซึง่ มรี ้อยละ 26.7 53. 5 ใน 10 คนของผสู้ งู อายุ มโี รคเรอ้ื รงั หรอื ปจั จยั เสย่ี ง ไดแ้ ก่ โรคความดนั โลหติ สงู รอ้ ยละ 60.7 โรคเบาหวาน ร้อยละ 20.4 ไขมันในเลือดสูง (Total cholesterol>=240 มก./ดล.) ร้อยละ 23.8 อ้วน (BMI>=25 kg/m2) ร้อยละ 38.4 อ้วนลงพงุ ร้อยละ 46.5 ภาวะ Metabolic syndrome 39.8 เปน็ ตน้ การหกล้ม 54. ความชุกของการหกลม้ ภายใน 6 เดือนที่ผา่ นมา ในผู้สูงอายุ 60 ปขี ้นึ ไปมรี ้อยละ 15.3 (ผู้ชายรอ้ ยละ 11.3 และผู้หญงิ ร้อยละ 18.5) เม่ือจำ� แนกตามกลมุ่ อายุ (60 - 69, 70 - 79 และ 80 ปขี ึ้นไป) พบความชุกของการหกลม้ เพ่ิมข้ึนเล็กน้อยตามอายุที่เพ่ิมข้ึน สถานท่ีหกล้มส่วนใหญ่ล้มนอกบ้าน (ร้อยละ 59.8) การล้มในบ้านมีร้อยละ 40.2 ผู้สูงอายุอาศัยในเขตฯและนอกเขตเทศบาลมีความชุกของการหกล้มใกล้เคียงกัน สาเหตุของการหกล้มบ่อยที่สุดคือ สะดุดวัตถสุ ่งิ ของรอ้ ยละ 33.6 รองลงมาคือ พืน้ ลืน่ รอ้ ยละ 30.7 ความชุกของหกล้มในการส�ำรวจฯ คร้ังท่ี 6 ต่�ำกว่าผลการส�ำรวจฯครั้งที่ 5 เม่ือปี 2557 เล็กน้อย ซ่ึงพบ ร้อยละ 16.9 (ชายร้อยละ 13.2 หญงิ รอ้ ยละ 19.9) ภาวะพ่งึ พงิ ในกจิ วตั รประจ�ำวนั 55. ผูส้ งู อายุร้อยละ 85.9 บอกวา่ สามารถดแู ลตนเองในกจิ วตั รประจำ� วนั ได้ ร้อยละ 8.6 บอกวา่ ตอ้ งพ่ึงพาใน บางกจิ กรรม และรอ้ ยละ 5.5 บอกวา่ ต้องพึ่งพาทง้ั หมด 56. การพ่ึงพิงของผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) จ�ำแนกตามความสามารถในการท�ำกิจวัตรประจ�ำวันพื้นฐาน 8 กจิ กรรม (ไดแ้ ก่ อาบนำ้� , ลา้ งหนา้ , แตง่ ตวั , กนิ อาหาร, ลกุ จากทน่ี อน, ใชห้ อ้ งนำ�้ /สว้ ม, การขนึ้ ลงบนั ได และเดนิ ในตวั บา้ น) รว่ มกบั ความสามารถในการกลน้ั ปสั สาวะ หรอื การกลน้ั อจุ จาระ ผลการสำ� รวจพบวา่ ผสู้ งู อายทุ ม่ี ขี อ้ จำ� กดั ในการทำ� กจิ วตั ร พนื้ ฐานด้วยตนเอง ร้อยละ 12.8 มขี อ้ จ�ำกดั ในการท�ำกจิ กรรมใดๆ 1 กจิ กรรม, ร้อยละ 11.1 มขี ้อจ�ำกดั 2 กิจกรรม และ ร้อยละ 4.3 มขี อ้ จำ� กัด 3 กิจกรรมขึ้นไป

10 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 57. เมอ่ื เปรียบเทยี บกบั ภาวะพึง่ พงิ ของการส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยครัง้ ที่ 5 พ.ศ. 2557 พบว่า สดั สว่ นท่ี อย่ใู นเกณฑ์ทม่ี ขี ้อจำ� กดั ในการทำ� กิจวตั รพื้นฐานดังนี้ 1 กิจกรรม รอ้ ยละ 11.4, 2 กิจกรรม รอ้ ยละ 10.4 และ 3 กจิ กรรม ร้อยละ 4.1 ตามลำ� ดับ ซึ่งใกลเ้ คียงกับผลการส�ำรวจครง้ั นี้ การเสื่อมของอวัยวะ 58. ปัญหาสุขภาพท่ัวไปอื่นๆ ที่พบในผู้สูงอายุ ได้แก่ ต้อกระจกในผู้สูงอายุร้อยละ 17.6 (ชายและหญิงมี ร้อยละ 16.1 และ 18.7 ตามลำ� ดบั ) การมฟี ัน (รวมฟันทดแทน) นอ้ ยกวา่ 20 ซ่ี พบร้อยละ 52.2 นอกจากนีร้ ้อยละ 26.4 ของผ้สู งู อายุมปี ญั หาการได้ยิน ผลการส�ำรวจฯนใี้ กล้เคียงกบั ผลการส�ำรวจฯ ครัง้ ที่ 5 ซึ่งพบต้อกระจกรอ้ ยละ 22.3 การมฟี นั น้อยกวา่ 20 ซ่ี ร้อยละ 52.2 และมปี ญั หาการได้ยนิ ร้อยละ 24.5 โดยสรปุ เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั ผลการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายครง้ั ที่ 6 น้ี กบั การสำ� รวจ ครง้ั ที่ 5 ในปี 2557 พบวา่ ความชกุ ของบางปจั จยั เสยี่ งมแี นวโนม้ เพม่ิ ขน้ึ เชน่ ภาวะอว้ น ภาวะเบาหวาน และความดนั โลหติ สงู ไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดเพ่ิมข้ึน การกินผักและผลไม้เพียงพอลดลง บางปัจจัยอยู่ในสถานการณ์ดีข้ึน ได้แก่ การมี กจิ กรรมทางกายเพยี งพอดขี น้ึ และภาวะโลหติ จางลดลง และบางปจั จยั เสยี่ งมแี นวโนม้ ทดี่ ขี นึ้ ในบางกลมุ่ เชน่ การสบู บหุ รี่ ลดลงในกลมุ่ ผชู้ ายแตใ่ นผหู้ ญงิ ยงั ไมล่ ดลง เปน็ ตน้ ดงั นน้ั จงึ ยงั มคี วามจำ� เปน็ ทที่ กุ ภาคสว่ นยงั ตอ้ งรว่ มกนั กำ� หนดมาตรการ ด�ำเนินการควบคุมป้องกันปัจจัยเสี่ยง และสร้างเสริมสุขภาพประชาชนให้มีประสิทธิผลมากขึ้น และต้องมีการส�ำรวจ ติดตามสถานะสุขภาพของประชาชนตอ่ เนอ่ื งเปน็ ระยะๆ ต่อไป

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 11 1บทท่ี บทนำ�

12 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 13 1บทท่ี บทนำ� 1.1 ความเป็นมาของการส�ำรวจสภาวะสุขภาพอนามัยประชาชนไทยโดยการตรวจ ร่างกาย การสำ� รวจสภาวะสขุ ภาพโดยการตรวจรา่ งกายของประชาชนในระดบั ประเทศ โดยการสมั ภาษณ์ การตรวจรา่ งกาย เบอื้ งตน้ และการตรวจเลอื ดและปสั สาวะทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ทำ� ใหไ้ ดข้ อ้ มลู สขุ ภาพ ดา้ นความชกุ ของปญั หาสขุ ภาพตา่ งๆ ได้แก่ พฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคของบุคคลที่เป็นตัวแทนของประชากร เป็นข้อมูลท่ีบอกขนาดปัญหา ด้านปัจจัยเส่ียงและ สถานการณส์ ุขภาพท่รี ะบบข้อมลู สุขภาพอ่นื ๆ เชน่ รายงานโรค ทะเบยี นผู้ป่วยไม่สามารถครอบคลุมได้ และเม่ือข้อมลู น้ี ประกอบกบั ขอ้ มูลประชากร ข้อมูลการปว่ ย ข้อมูลการตายจะทำ� ใหท้ ราบลำ� ดับความส�ำคัญของปญั หาทางสขุ ภาพและ ใชใ้ นการติดตามสถานะสขุ ภาพไดเ้ ปน็ ระยะๆตอ่ เนื่องเพ่อื น�ำมาใชใ้ นการแก้ไขปัญหาทีส่ �ำคญั ต่อไป ทผี่ า่ นมาประเทศไทยไดม้ กี ารสำ� รวจสภาวะสขุ ภาพอนามยั ของประชาชนโดยการตรวจรา่ งกายรวมทง้ั การสำ� รวจ ในคร้ังน้ี 6 ครงั้ คือ ครัง้ ที่ 1 ในระหว่าง พ.ศ. 2534 - 2535, คร้ังท่ี 2 พ.ศ. 2539 - 2540 , คร้ังที่ 3 พ.ศ. 2546 - 2547 ครั้งท่ี 4 พ.ศ. 2551 - 2552 และคร้งั ท่ี 5 ปี 2557 และคร้ังท่ี 6 ปี 2562 - 2563 สาระส�ำคญั ของการส�ำรวจสภาวะสุขภาพโดยการตรวจรา่ งกายท้งั 6 ครั้ง การส�ำรวจสภาวะสุขภาพโดยการตรวจร่างกายในประเทศไทย ครัง้ ท่ี 1 (พ.ศ. 2534 - 2535)1 ระยะเวลาที่ส�ำรวจ 1 สงิ หาคม 2534 - 31 มนี าคม 2535 ผรู้ ่วมด�ำเนินการ กระทรวงสาธารณสุข, ส�ำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร, คณะกรรมการระบาดวิทยาแห่งชาติ (สถาบันวิจัย สาธารณสุขไทย ในปัจจุบัน), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อทราบความชุกของโรคเรื้อรังที่ส�ำคัญๆ และอุบัติการณ์ของโรคเฉียบพลันที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุข ของประเทศ

14 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การสุม่ ตัวอย่าง • สุ่มแบบ Stratified Two State Sampling เร่ิมด้วยการจัด Stratum เป็นกลุ่มของจังหวัดในแต่ละภาค และกรุงเทพมหานคร รวมทัง้ หมด 5 Stratum คือ กรงุ เทพมหานคร, ภาคกลาง (ยกเว้นกรงุ เทพมหานคร), ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื และภาคใต้ ในแต่ละจังหวัดแบ่งออกเปน็ 3 เขตการปกครองคือ (1) ในเขตเทศบาล (2) ในเขต สุขาภิบาล (3) นอกเขตเทศบาล สขุ าภบิ าล ในแตล่ ะเขตการปกครองจะเลอื กชมุ รมุ อาคาร/หมบู่ า้ น อยา่ งเปน็ อสิ ระตอ่ กนั โดยใชค้ วามนา่ จะเปน็ ในการเลอื ก เป็นปฏภิ าคกับจ�ำนวนครัวเรอื นของชมุ รมุ อาคาร/หมู่บ้านนน้ั ๆ Stage I สมุ่ ชมุ รมุ อาคาร (ในเขตเทศบาล) และหมู่บ้าน (ในเขตสุขาภิบาล หรอื นอกเขตเทศบาล สขุ าภบิ าล) Stage II สุ่มเลือกครัวเรือนตัวอย่างจากชุมรุมอาคาร/หมู่บ้าน จากบัญชีรายชื่อครัวเรือนโดยจัดเรียงล�ำดับ รายชือ่ ครวั เรือนตามขนาดของครวั เรือน (วัดด้วยจำ� นวนสมาชกิ ของครัวเรือน แลว้ สุ่มแบบมรี ะบบ) จ�ำนวนครอบครัวตัวอย่างทั้งหมด 5,882 ครอบครัว มีประชากรรวม 23,884 คนส�ำรวจได้ 22,217 คน (รอ้ ยละ 93.0) ได้แก่ ชาย 9,894 คน (รอ้ ยละ 44.5), หญงิ 12,323 คน (ร้อยละ 55.5) เป็นเดก็ อายุตำ�่ กวา่ 15 ปี รอ้ ยละ 31.9, วยั ท�ำงาน 15 - 59 ปี รอ้ ยละ 58.5 และ วัยสูงอายุ (60 ปี) ร้อยละ 9.8 ขอ้ มลู การสมั ภาษณ์ ขอ้ มลู ครอบครวั และรายได้ ขอ้ มลู ทวั่ ไป การเจบ็ ปว่ ยและการบาดเจบ็ การสบู บหุ รี่ ดมื่ เหลา้ ลมชัก และการซักประวัติเพ่ือคัดกรองโรคต่างๆ ด้วยอาการในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป คือ ภาวะตับแข็ง นิ่วในทางเดิน ปสั สาวะ ปวดขอ้ ปวดหลัง มะเร็งปากมดลูก (หญงิ 30 ปีขน้ึ ไป) โรคเร้อื รงั (ความดนั เลอื ดสงู เบาหวาน ไขมันในเลอื ดสูง โรคหืด วณั โรคปอด ปอดอุดตันเรอ้ื รัง ภูมแิ พ้ และอาการแน่นหนา้ อก (แบบแองไจนา) เปน็ ตน้ กลุ่มเปา้ หมายและการตรวจรา่ งกาย และการตรวจทางพเิ ศษ 0 - 5 ปี นำ้� หนัก สว่ นสูง วัดพฒั นาการ 6 - 14 ปี นำ�้ หนัก สว่ นสงู 15 - 29 ปี ตรวจร่างกาย ดูความพิการ ตับแข็ง ช่ังน�้ำหนัก วัดส่วนสูง ความดันเลือด Peak Expiratory Flow Rate เจาะเลือดตรวจ Hematocrit, Serum protein, Serum creatinine, Fasting blood sugar, Total cholesterol, Total bilirubin 30 ปขี ึน้ ไป นำ้� หนกั สว่ นสงู ตรวจเตา้ นม (ในหญงิ อายุ 30 ป)ี ความพกิ าร ตบั แขง็ Peak Flow Rate คล่นื ไฟฟ้าหัวใจ Hematocrit, Serum protein, Serum creatinine, Fasting blood sugar, Total cholesterol, Total bilirubin ส�ำหรับผทู้ ่ี PEFR ผดิ ปกติหรือประวัตปิ สั สาวะผดิ ปกติ จะไดร้ ับการตรวจทางรงั สีวทิ ยา คือ Chest X-ray และ Plain KUB ตอ่ ไป ในการสำ� รวจครง้ั นค้ี รอบคลมุ พนื้ ท่ี 17 จงั หวดั รวมกรงุ เทพมหานคร จำ� นวนประชากรทสี่ ำ� รวจ 22,217 คน (จาก เปา้ หมาย 23,884 คน) ใน 5,852 ครอบครวั ผลการส�ำรวจ พบวา่ ปญั หาสขุ ภาพทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก่ ภาวะทพุ โภชนาการในเดก็ อายตุ ำ�่ กวา่ 5 ปี รอ้ ยละ 24.7 ความพกิ ารทางกาย ร้อยละ 6.3 ปวดขอ้ ปวดหลัง (> 40%) ความดันเลือดสงู (ความชุกเท่ากับ 5.4%) ภาวะคอเลสเตอรอลสูงกว่า 200 mg% มรี อ้ ยละ 11.3 เบาหวาน (นำ้� ตาลในเลอื ดสงู กวา่ 140 mg%) รอ้ ยละ 2.3 ภาวะโลหติ จางในประชากรอายตุ ง้ั แต่ 15 ปี ขน้ึ ไป ร้อยละ 21.7 ภาวะปอดอุดตนั เรื้อรงั ในประชากรอายุ 15 ปขี ้ึนไปรอ้ ยละ 1.5 และนิว่ ในทางเดนิ ปัสสาวะในประชากร

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 15 กลุ่มเดยี วกนั ร้อยละ 3.2 ในชาย และรอ้ ยละ 0.9 ในหญิง ประชากรสบู บหุ รเ่ี ป็นประจ�ำร้อยละ 20.6 และดืม่ สรุ าบอ่ ยๆ รอ้ ยละ 5.2 การสำ� รวจสภาวะสขุ ภาพโดยการตรวจรา่ งกายในประเทศไทย ครัง้ ที่ 2 (พ.ศ. 2539 - 2540)2 ระยะเวลาทส่ี ำ� รวจ มถิ ุนายนถึงตลุ าคม 2540 ผูร้ ว่ มด�ำเนนิ การ กระทรวงสาธารณสุข, มูลนิธสิ าธารณสขุ แห่งชาติ โดยสถาบนั วจิ ยั สาธารณสุขไทย, จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , มหาวทิ ยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น และมหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อศกึ ษาสภาวะสุขภาพของคนไทย ปัจจัยที่เก่ียวขอ้ ง ทงั้ ทางด้านการแพทยก์ ารสาธารณสขุ ปจั จยั ทางสงั คม เศรษฐกจิ ตลอดจนสภาวะสงิ่ แวดล้อม รวมทัง้ ความเป็นไปไดใ้ นการแกป้ ญั หา วัตถุประสงค์เฉพาะ 1. เพ่ือศกึ ษาขนาดของปญั หาหรือสภาวะสุขภาพ ในรปู ของความชุกของโรค และสถานะสุขภาพต่างๆ 2. เพอ่ื ศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปญั หาหรอื สภาวะสขุ ภาพ กบั ปจั จยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ งทงั้ ดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ และ ส่ิงแวดล้อม 3. เพอื่ นำ� ขอ้ มลู ทไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการวางแผน และจดั ทรพั ยากรทจี่ ะแกป้ ญั หาและปอ้ งกนั ปญั หาทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต การสุ่มตวั อยา่ ง การสุ่มตัวอย่างเป็นแบบ Three - stage Stratified Sampling โดยแบ่งประชากรทั้งประเทศ 5 Strata (ภมู ิภาค 4 ภาคและกรุงเทพมหานคร) Stage 1 สมุ่ เลอื กจงั หวดั ในแตล่ ะ Strata (ภาค) ภาคละ 8 จงั หวดั (Proportional to size) ในกรงุ เทพมหานคร เลอื ก 8 เขตการปกครอง Stage 2 สุ่มเลือกชุมรุม/หมู่บ้าน ในระดับจังหวัดแบ่งพื้นท่ีเป็นในและนอกเขตเทศบาล (ในเขตสุขาภิบาล และนอกเขตสุขาภิบาล) ในแต่ละเขตสุ่มเลือกชุมรุมอาคาร/หมู่บ้าน ยกเว้นในกรุงเทพมหานคร ท่ีเลือกชุมรุมอาคาร/ หมู่บ้านตามเขตการปกครอง โดยใช้จ�ำนวนรายช่ือชุมรุมอาคาร/หมู่บ้าน เป็นจุดเดียวกับการส�ำรวจการเปล่ียนแปลง ประชากร พ.ศ. 2538 - 2539 ของสำ� นักงานสถิตแิ ห่งชาติ Stage 3 เลอื กบคุ คลตวั อยา่ งของแตล่ ะชมุ รมุ อาคาร/หมบู่ า้ น ใชต้ วั อยา่ งทงั้ สนิ้ 15 คน ในแตล่ ะหมวดอายุ และ เลอื กตัวอย่างสำ� รองอกี ไม่เกนิ 5 คน เพื่อใหส้ ามารถไดข้ ้อมูลเพยี งพอ จ�ำนวนตวั อยา่ งแบง่ เป็น 4 กลมุ่ อายุ (<6 , 6 - 12, 13 - 59 และ 60 ปีข้ึนไป) กลุ่มตัวอย่าง 1. เด็กปฐมวยั อายุต่ำ� กวา่ 6 ปี เนน้ พัฒนาการ และปัจจยั ที่เกยี่ วข้อง 2. กลุ่มอายุ 6 - 12 ปี ศกึ ษาระดับเชาวป์ ญั ญา และปจั จัยที่เกยี่ วข้อง 3. กลุ่มอายุ 13 - 59 ปี พฤตกิ รรมสขุ ภาพ อนามัยเจรญิ พันธุ์ และการตรวจร่างกาย 4. สูงอายุ (60 ปี ขน้ึ ไป) ศกึ ษาภาวะพงึ่ พงิ ภาวะทุพพลภาพ ท้ังระยะสน้ั และยาว จ�ำนวนตวั อยา่ ง กลมุ่ ละ 5,010 คน รวม 20,040 คน จ�ำนวนทส่ี �ำรวจไดจ้ ริง 16,182 คน คดิ เป็นร้อยละ 80.7

16 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 เคร่อื งมือท่ีใช้ในการส�ำรวจ 1. แบบสอบถาม 2. สมดุ สขุ ภาพใช้ร่วมกับแบบประเมนิ พัฒนาการเด็ก 3. แบบทดสอบระดบั เชาวป์ ญั ญาชนดิ ไมใ่ ชภ้ าษา (Test of nonverbal intelligence second edition, TONI 2) 4. สภาวะสขุ ภาพประชากรวยั แรงงาน วดั โดยการสมั ภาษณ์ ตรวจรา่ งกาย และตรวจเลอื ด สง่ิ ทว่ี ดั คอื นำ�้ หนกั ตวั สว่ นสูง คา่ ดัชนมี วลกาย (Body mass index, BMI) ความดนั เลอื ด ชพี จร เสน้ รอบเอว เส้นรอบสะโพก การมองเหน็ ภาวะตาบอดสี ระดับฮโี มโกลบิน ฮีมาโตกรติ น้ำ� ตาลในเลอื ด (Fasting blood sugar :FBS) และคอเลสเตอรอลในเลือด (Total cholesterol) 5. ในกลุ่มผูส้ ูงอายุ ใชแ้ บบทดสอบวัดภาวะพ่ึงพา (Dependency) ภาวะทุพพลภาพ (Disability) ท้งั ระยะส้นั และระยะยาว และภาวะสมองเส่ือม (Demensia) โดยเครื่องมือท่ีใช้มี ดัชนีบาร์เธลเอดีแอล ดัชนีจุฬาเอดีแอล แบบทดสอบสภาพจติ จุฬา ซึ่งเปน็ แบบทดสอบที่ใช้คน้ หาผู้ทมี่ สี ภาวะบกพรอ่ งทางปัญญาอย่างกว้างๆ และมีโอกาสสูงท่ี จะเป็นผู้ปว่ ยกลมุ่ อาการสมองเส่อื ม ผลการส�ำรวจ พบสภาวะและปญั หาสุขภาพทสี่ ำ� คัญในวัยต่างๆ ดงั น้ี 1. กลุ่มเด็กปฐมวัย (3,306 คน) พบว่าน้�ำหนักแรกเกิดโดยเฉล่ีย 3,070 กรัม ได้กินนมแม่ในขวบปีแรก รอ้ ยละ 89 เดก็ นอกเขตเทศบาลมภี าวะทพุ โภชนาการ (เกณฑน์ ำ้� หนักต่ออายุ) มากกว่าเด็กในเขตเทศบาล (ร้อยละ 27.6 และร้อยละ 11.9) เด็กมีฟันผุรอ้ ยละ 42.7 พฒั นาการช้ากวา่ วัย ร้อยละ 20.1 เม่ือพิจารณาละเอยี ดในด้านสังคมภาษา การใช้มอื และตาแก้ปญั หา และการเคลอื่ นไหว พบเดก็ ร้อยละ 18.3 มพี ฒั นาการช้ากวา่ วัยอยา่ งนอ้ ย 1 ดา้ น 2. เด็กวัยเรยี น (4,238 คน) พบวา่ เดก็ รอ้ ยละ 9.6 มนี �้ำหนกั ต่�ำกวา่ เกณฑอ์ ายุ และร้อยละ13.5 คอ่ นข้างผอม แต่ร้อยละ 3.7 มีน้�ำหนักมากกว่าเกณฑ์อายุ เด็กนอกเขตเทศบาลมีภาวะทุพโภชนาการมากกว่าเด็กในเขตเทศบาล พบวา่ เด็กวยั นี้ร้อยละ 19.3 มีภาวะผอมและขาดสารอาหาร รอ้ ยละ 11.0 อยู่ในภาวะท้วมและอว้ น เดก็ รอ้ ยละ 56.0 ฟันผุ ร้อยละ 6.6 มีประวัติเคยถูกท�ำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงจากคนในครอบครัว ผลการทดสอบเชาว์ปัญญาพบว่า คา่ เฉล่ีย ± สว่ นเบี่ยงเทา่ กับ 91.96 ± 11.87 3. วยั แรงงาน (4,230 คน) พบวา่ พฤตกิ รรมสขุ ภาพทสี่ ำ� คญั คอื รอ้ ยละ 20.6 ออกกำ� ลงั กายมากกวา่ 4 ครงั้ /สปั ดาห์ อัตราการสบู บุหรร่ี ้อยละ 20 ในเพศชายสงู กวา่ เพศหญิง 10 เทา่ การดมื่ เครอ่ื งด่มื แอลกอฮอลใ์ นเพศชายร้อยละ 33.7 มากกว่าเพศหญิง 3 เทา่ ในสตรีพบอตั ราแท้งบตุ รในรอบ 1 ปี ท่ผี า่ นมารอ้ ยละ 8.4 อัตราคุมก�ำเนิดรอ้ ยละ 64.5 ร้อยละ 40.3 เคยตรวจมะเรง็ ปากมดลูก ประชากรรอ้ ยละ 11.6 มีปญั หาความดนั เลอื ดสงู นำ�้ ตาลในเลือดสูงรอ้ ยละ 4.4 และ รอ้ ยละ 1.4 มีระดบั คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ในภาพรวมกล่มุ ตวั อยา่ งในเขตเทศบาลมสี ภาวะสขุ ภาพด้อยกวา่ นอกเขต เทศบาล 4. วยั สงู อายุ (4,408 คน) พบวา่ ร้อยละ 65 อยู่กบั บุตรธดิ า ร้อยละ 4.2 อย่คู นเดียว ผู้สงู อายุทุก 1 ใน 4 คนจะ มภี าวะทพุ พลภาพ ในจำ� นวนนร้ี อ้ ยละ 19 เปน็ ทพุ พลภาพระยะยาว มรี อ้ ยละ 1.8 เปน็ ภาวะทพุ พลภาพรนุ แรงถงึ รนุ แรงมาก ความชกุ ของกล่มุ อาการส่อไปในทางสมองเส่ือม รอ้ ยละ 3.4 และความดนั เลอื ดสงู พบ รอ้ ยละ 24.8 และมคี วามสมั พนั ธ์ กบั ภาวะทพุ พลภาพและภาวะพงึ่ พา การสำ� รวจสภาวะสขุ ภาพโดยการตรวจรา่ งกายในประเทศไทย ครั้งท่ี 3 (พ.ศ. 2546 - 2547)3 ด�ำเนินการโดยส�ำนักงานการส�ำรวจสภาวะสุขภาพอนามัย (สกสอ.) ซ่ึงจัดต้ังเพ่ือการน้ีโดยสถาบันวิจัย ระบบสาธารณสขุ และไดร้ บั การสนบั สนนุ งบประมาณการสำ� รวจจากสำ� นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสขุ

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 17 เครอื ข่ายด�ำเนินงานเกบ็ ข้อมลู ในพนื้ ที่ ได้แก ่ วิทยาลัยสาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ภาคกลาง), คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (กรุงเทพมหานคร), คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ภาคเหนือ), คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ), และคณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ (ภาคใต)้ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อศกึ ษาสภาวะสขุ ภาพอนามัยของประชาชนไทย ในกลุ่มวัยแรงงาน ชาย หญิง อายุ 15 - 59 ปี และวัยสงู อายุ ชาย หญงิ อายุ 60 ปขี นึ้ ไป เปน็ ภาพรวมในระดบั ประเทศ ภาค และเขตสาธารณสุข ในดา้ นความชุกของพฤตกิ รรมเสย่ี ง ทส่ี ำ� คญั โรคโดยเฉพาะโรคเรือ้ รงั ภาวะการเจบ็ ป่วย ความพิการ การไดร้ บั การรกั ษาพยาบาลหรอื การคดั กรองโรค การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายคร้งั ที่ 4 (พ.ศ. 2551 - 2552)4 ดำ� เนนิ การโดย สำ� นกั งานสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทย (สสท.) สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสขุ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากส�ำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข, ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ (สปสช.) เครอื ขา่ ยทด่ี ำ� เนนิ การเกบ็ ขอ้ มลู ไดแ้ ก่ วทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (ภาคกลาง), คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล (กรงุ เทพมหานคร), คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ (ภาคเหนอื ), คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ (ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ), และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ภาคใต)้ วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาวะสุขภาพอนามัยของประชาชนไทย ในกลุ่มวัยเด็กอายุ 1 - 14 ปี วัยแรงงาน ชาย หญิง อายุ 15 - 59 ปี และวัยสูงอายุ ชาย หญิง อายุ 60 ปีข้ึนไป เป็นภาพรวมในระดับประเทศ ภาค เขตการปกครอง ในดา้ นพฒั นาการทางร่ายกาย พัฒนาการทางด้านจิตใจและสงั คมของเดก็ พฤติกรรมการกินอาหาร ส�ำหรับวัยแรงงาน และผุ้สูงอายุ เพื่อศึกษาความชุกของพฤติกรรมเสี่ยงท่ีส�ำคัญ โรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรัง ภาวะการเจ็บป่วย ความพิการ การได้รับการรกั ษาพยาบาลหรอื การคัดกรองโรค รวมท้งั ลักษณะท่ีพักอาศยั และภาวะพ่ึงพาในผู้สงู อายุ เป็นตน้ การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 5 (พ.ศ. 2556 - 2557) ดำ� เนินการโดย แผนงานส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทย (สสท.) ส�ำนกั งานวิจัยเพอื่ การพัฒนาหลักประกันสุขภาพ ไทย สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสขุ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากสำ� นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสขุ , สำ� นกั งาน กองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.), เครอื ขา่ ยทดี่ ำ� เนนิ การเกบ็ ขอ้ มลู ไดแ้ ก่ วทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (ภาคกลาง), คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล (กรงุ เทพมหานคร), คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ (ภาคเหนอื ), คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ (ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ), และคณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ (ภาคใต)้ วัตถปุ ระสงค์ 1. แสดงความชุกของโรคส�ำคัญ ภาวะการเจ็บป่วย และภาวะความพิการ ตลอดจนปัจจัยเส่ียงต่อสุขภาพ ของประชาชนไทยในระดบั ประเทศ และภาค เป็นรายหมวดอายุ เพศ และเขตการปกครอง 2. แสดงแนวโนม้ ความชุกของปัจจยั เสี่ยงและโรค 3. เป็นขอ้ มลู พ้นื ฐานสำ� หรับการศกึ ษาตดิ ตามระยะยาว

18 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ประโยชน์ของการส�ำรวจ การสำ� รวจท�ำใหเ้ กิดระบบขอ้ มลู สาธารณสุขที่สามารถน�ำไปใชป้ ระโยชนไ์ ดด้ งั ตอ่ ไปนี้ 1. ประเมินสภาวะสุขภาพของประชากร 2. มรี ะบบขอ้ มลู สำ� หรบั ติดตามการเปลีย่ นแปลงทางดา้ นสุขภาพของประชาชน 3. มีระบบขอ้ มลู ส�ำหรบั ติดตามความก้าวหน้าและประเมนิ ผลโครงการสขุ ภาพ 4. เป็นสารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการระบบสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพท้ังในส่วนของการป้องกันและ ควบคมุ โรค และการส่งเสริมสขุ ภาพของประชาชนไทย การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครง้ั ที่ 6 (พ.ศ. 2562 - 2563) ดำ� เนนิ การโดย ภาควิชาเวชศาสตรช์ ุมชน คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี โดยได้รบั การสนบั สนนุ ใน การเตรียมการส�ำรวจโดย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข และสนับสนุนงบประมาณการด�ำเนินการเก็บข้อมูลจาก มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล และกระทรวงสาธารณสขุ , เครือขา่ ยทด่ี ำ� เนนิ การเกบ็ ข้อมลู ได้แก่ วทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (ภาคกลาง), คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล (กรงุ เทพมหานคร), คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ (ภาคเหนอื ), คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ (ภาคตะวนั ออก- เฉยี งเหนอื ), และคณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ (ภาคใต)้ 1.2 วตั ถุประสงคข์ องการส�ำรวจ วัตถุประสงค์ ศึกษาความชุกของโรคส�ำคัญ ภาวะการเจ็บป่วย และภาวะความพิการ ตลอดจนปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพของ ประชาชนไทยในระดบั ประเทศ และภาค เป็นรายหมวดอายุ เพศ และเขตการปกครอง และแสดงแนวโน้มความชุกของ ปจั จยั เสีย่ งและโรค และเป็นข้อมลู พน้ื ฐานส�ำหรบั การศึกษาติดตามระยะยาว 1.3 ประโยชนข์ องการสำ� รวจ การสำ� รวจท�ำให้เกิดระบบขอ้ มลู สาธารณสุขทีส่ ามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ได้ดังตอ่ ไปน้ี 1. ประเมินสภาวะสุขภาพของประชากร 2. มรี ะบบขอ้ มลู ส�ำหรบั ตดิ ตามการเปล่ียนแปลงทางดา้ นสุขภาพของประชาชน 3. มีระบบข้อมูลส�ำหรับติดตามความก้าวหนา้ และประเมินผลโครงการสุขภาพ 4. เปน็ สารสนเทศเพอื่ การบรหิ ารจดั การระบบสขุ ภาพอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพทง้ั ในสว่ นของการปอ้ งกนั และควบคมุ โรค และการส่งเสรมิ สุขภาพของประชาชนไทย สำ� หรับรายละเอยี ดเกย่ี วกับการวิธกี ารส�ำรวจจะได้กลา่ วในบทต่อไป 1.4 กรอบเนอื้ หารายงาน รายงานการสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยครงั้ ท่ี 6 น้ีประกอบด้วยเน้อื หาทัง้ หมด 7 บท ดงั ต่อไปน้ี บทที่ 1 บทนำ� กล่าวถงึ ความเป็นมาของการสำ� รวจ และวัตถปุ ระสงค์การสำ� รวจ บทท่ี 2 ระเบียบวิธีการส�ำรวจ ประกอบด้วยประชากรเป้าหมาย ระเบียบวิธีในการสุ่มตัวอย่าง การก�ำหนด ขนาดตัวอย่าง เคร่ืองมือท่ีใช้ในการส�ำรวจ การตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การวิเคราะห์ข้อมูล การคา่ ถว่ งน�ำ้ หนักเพ่ือประมาณค่าประชากรและการประมวลผลขอ้ มูล

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 19 บทท่ี 3 ลักษณะประชากร สงั คม และเศรษฐกิจ ของเดก็ และครอบครวั น�ำเสนอขอ้ มลู ลกั ษณะทางประชากร สังคมและเศรษฐกิจของประชากรอายุ 15 ปีข้นึ ไปทที่ ำ� การสำ� รวจ ได้แก่ โครงสรา้ งอายุ เพศ ที่อยตู่ ามเขตการปกครอง และภาคของตวั อยา่ งท่สี ำ� รวจ การศึกษา สถานภาพสมรถ สถานภาพทางเศรษฐกจิ และรายได้ บทท่ี 4 พฤตกิ รรมสขุ ภาพ น�ำเสนอผลการสำ� รวจพฤติกรรมสขุ ภาพ ทไี่ ดจ้ ากแบบสอบถามที่ตอบดว้ ยตนเอง ได้แก่ การสูบบุหร่ี การด่ืมสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การมีกิจกรรมทางกาย พฤติกรรมการกินอาหาร การใช้ยา และอาหารเสรมิ บทท่ี 5 สถานะสขุ ภาพ ไดเ้ สนอผลสำ� รวจความชกุ ของโรค ทไี่ ดจ้ ากการตรวจรา่ งกาย ตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และการตอบแบบสอบถาม ด้วยตัวเอง ได้แก่ ลักษณะร่างกายทั่วไป การทดสอบแรงบีบมือ กลุ่มโรคและปัจจัยเส่ียง ของระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ภาวะน้�ำหนักเกินและอ้วน เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ภาวะเมแทบอลกิ ซนิ โดรม ประวัตโิ รคหลอดเลือดหัวใจ ประวัติโรคอมั พฤกษ์ อมั พาต เป็นตน้ และกลุม่ โรคเร้ือรังท่ีเคย วินิจฉยั จากแพทย์ ได้แก่ โรคถุงลมโป่งพอง/ปอดอดุ ก้ันเรื้อรงั โรคข้อเสอ่ื ม โรคเก๊าต์ นิ่วทางเดนิ ปสั สาวะ โรคไตเรื้อรัง โรคหอบหืด รวมทง้ั โรคโลหติ จาง ประวัติธาลสั ซีเมยี ภาวะซึมเศรา้ และการบาดเจบ็ บทที่ 6 อนามัยเจรญิ พนั ธ์ุ นำ� เสนอผลการสำ� รวจอนามัยเจริญพันธุข์ องตวั อย่างอายุ 15 - 59 ปี โดยรายงาน ถงึ ประวตั กิ ารเจรญิ พนั ธ์ุ การคมุ กำ� เนดิ ประวตั กิ ารตง้ั ครรภแ์ ละการคลอด การแทง้ ประวตั กิ ารคดั กรองมะเรง็ ปากมดลกู และมะเรง็ เตา้ นม บทท่ี 7 สุขภาพผู้สูงอายุ เป็นผลการส�ำรวจสุขภาพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้น�ำเสนอปัจจัยที่เก่ียวข้องกับ ผู้สูงอายุ ได้แก่ ลักษณะท่ีอยู่อาศัย ผู้ดูแล และการทดสอบพิเศษ ได้แก่ การเดินจับเวลา การมองเห็น และผลจาก แบบสอบถามท่ีตอบด้วยตนเอง เช่น ภาวะพ่ึงพาในการประกอบกิจวัตรประจ�ำวัน โรคต้อกระจก ฟันและการบดเค้ียว การได้ยนิ และการหกล้ม เปน็ ตน้ หมายเหตุ ในรายงานฉบบั นตี้ อ่ ไปการอา้ งองิ ผลการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยครง้ั ท่ี 4 จะเรยี กวา่ การสำ� รวจฯ ในปี 2552 และการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยครง้ั ที่ 5 เรยี กว่า การส�ำรวจฯในปี 2557

20 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 เอกสารอา้ งอิง 1. จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ บรรณาธิการ. รายงานการส�ำรวจสถานะสุขภาพอนามัยของประชาชนไทยด้วยการ สอบถามและการตรวจร่างกายทว่ั ประเทศ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2534 - 2535 สถาบันวจิ ัยสาธารณสขุ ไทย; 2539 2. รายงานผลการส�ำรวจ สภาวะสุขภาพของประชาชนโดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 2 พศ. 2539 - 2540. กระทรวง สาธารณสุข มูลนิธิสาธารณสุขแหง่ ชาต,ิ องค์การอนามยั โลก. 3. เยาวรัตน์ ปรปกั ษ์ขาม พรพันธ์ุ บญุ ยรัตพนั ธุ์ บรรณาธกิ าร. การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 3 พ.ศ. 2546 - 2547. สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสุข; 2549. 4. วิชยั เอกพลากร บรรณาธิการ รายงานการส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครัง้ ที่ 4. ส�ำนักงาน ส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทย, สถาบนั วิจยั ระบบสาธารณสุข; 2552 5. วชิ ยั เอกพลากร บรรณาธกิ าร รายงานสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ท่ี 5. สำ� นกั งานสำ� รวจ สขุ ภาพประชาชนไทย, สถาบนั วจิ ัยระบบสาธารณสขุ ; 2557

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 21 2บทที่ ระเบยี บ วิธีการสำ� รวจ

22 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 23 2บทท่ี ระเบียบวธิ ีการส�ำรวจ ในการด�ำเนินการสำ� รวจดว้ ยตัวอยา่ ง (sample survey) นัน้ ระเบียบวธิ สี ถิติเป็นขัน้ ตอนท่สี ำ� คัญขน้ั ตอนหน่งึ โดยเริ่มต้ังแต่การวางแผนการส�ำรวจ การก�ำหนดแผนการเลือกตัวอย่าง การสร้างเคร่ืองมือ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล เปน็ ต้น โดยในบทนจ้ี ะกลา่ วถึง การกำ� หนดค้มุ รวม (coverage) ของการสำ� รวจ แผนการเลอื กตวั อย่าง (sampling design) หน่วยตัวอย่าง (sampling unit) และกรอบตัวอย่าง (sampling frame) ในแต่ละข้ันตอนของ การเลือกตวั อยา่ ง การกำ� หนดขนาดตัวอย่าง วธิ กี ารประมาณค่าสถติ ิ และการค�ำนวณคา่ ถว่ งน้ำ� หนกั 2.1 คุ้มรวม (coverage) ตามกรอบการศกึ ษาทก่ี ำ� หนดในการสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562-2563 เพอื่ ใหค้ รอบคลมุ ประชาชนไทยทกุ คนนน้ั คมุ้ รวมสำ� หรบั การสำ� รวจตวั อยา่ งครง้ั นค้ี อื ประชาชนไทยทม่ี อี ายตุ งั้ แต่ 1 ปขี น้ึ ไป ท่ีอาศัยอยูใ่ นประเทศไทย 2.2 ระดบั ของการน�ำเสนอผล จากปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรท์ แี่ ตกตา่ งกนั รวมถงึ ปจั จยั ทางเศรษฐกจิ และสงั คม สภาวะแวดลอ้ ม ตลอดจนวถิ ชี วี ติ ตา่ งๆ จะส่งผลต่อสภาพความเป็นอยู่ การด�ำรงชีวิตของประชากร สุขภาพกาย และสุขภาพจิตของประชากรในแต่ละพื้นที่มี ความแตกต่างกัน เพ่ือแสดงสภาวะสุขภาพของประชาชนไทยในแต่ละพ้ืนที่ รวมท้ังเพื่อสนองความต้องการใช้ข้อมูล ในการกำ� หนดนโยบายสขุ ภาพและการบรหิ ารจดั การโครงการทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชน ไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 จงึ กำ� หนดใหม้ กี ารเสนอผลการสำ� รวจในระดบั กรงุ เทพมหานคร และภาค จ�ำนวน 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยในแต่ละภาคน�ำเสนอผลแยก เขตการปกครองคือ ในเขตเทศบาล และนอกเขตเทศบาล นอกจากนโ้ี ดยธรรมชาตปิ ระชากรในแตล่ ะวัยย่อมมีลักษณะ พน้ื ฐานทางร่างกาย ปัญหาสขุ ภาพอนามัย ความเจบ็ ป่วย สภาวะทพุ พลภาพของรา่ งกาย ตลอดจนสขุ ภาพจิตท่ีแตกต่าง กัน และสภาพร่างกายตามธรรมชาติของชาย และหญิงน้ันมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซ่ึงความแตกต่าง ทั้งทางด้านอายุ และเพศนั้นจะเป็นปัจจัยส�ำคัญที่ส่งผลไปยังสถานะสุขภาพอนามัย ความเจ็บป่วย ปัญหาสุขภาพกาย และสขุ ภาพจติ ดังนน้ั เพอ่ื ให้ผลการสำ� รวจท่ีมคี ณุ ภาพ สอดคล้องกบั สภาวะที่กลา่ วมาแลว้ การสำ� รวจในครั้งนีน้ อกจาก

24 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครงั้ ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 แบง่ การนำ� เสนอผลตามลกั ษณะทางภมู ศิ าสตรแ์ ลว้ ยงั นำ� เสนอผลประชากรออกเปน็ 3 กลมุ่ อายุ คอื กลมุ่ อายุ 1 - 14 ปี กลุ่มอายุ 15 - 59 ปี และ กลุ่มอายุ 60 ปีข้ึนไป และในแต่ละกลุ่มอายุได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ เพศชาย และเพศหญงิ เพ่ือท�ำการเสนอผลในแตล่ ะกลุ่มยอ่ ย โดยใหส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์ของโครงการ 2.3 แผนแบบการเลือกตวั อย่าง (sample design) การส�ำรวจตัวอย่างขนาดใหญ่ (large scale sample survey) ในระดับประเทศน้ัน มักจะก�ำหนดให้เป็น การเลอื กตวั อยา่ งหลายขนั้ (multi-stage sampling) เพอื่ ประหยดั ทรพั ยากรตา่ งๆ เชน่ งบประมาณ กำ� ลงั คน และ เวลา ส�ำหรับการส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 น้ี เป็นการส�ำรวจตัวอยา่ งขนาดใหญ่ จึงได้มีการพัฒนาแผนแบบการเลือกตัวอย่างแบบแบ่งช้ันภูมิหลายขั้น เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ คุ้มรวม และ หน่วยตัวอย่าง (ประชากรที่มีอายุ 1 ปีข้ึนไป) ของโครงการ รวมท้ังข้อจ�ำกัดในด้านของบุคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ในการด�ำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล จะต้องเป็นผู้ท่ีมีความรู้และความช�ำนาญเฉพาะทางด้านการแพทย์ นอกจากน้ี ข้อจ�ำกัดอีกประการหน่ึงคือ งบประมาณ และเวลาที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยเฉพาะงบประมาณในการตรวจ ร่ายกายต่อหน่วยนนั้ สูงมาก การส�ำรวจตัวอย่างครั้งนี้จึงได้ใช้แผนแบบการเลือกตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิสี่ข้ัน (stratified four-stage sampling) ซง่ึ เปน็ แผนแบบการเลือกตัวอยา่ งแบบใช้ความนา่ จะเป็น (probability sampling) โดยมกี รุงเทพมหานคร และภาคจำ� นวน 4 ภาคเปน็ สตราตมั จงั หวดั ในแตล่ ะภาคเปน็ หนว่ ยตวั อยา่ งขน้ั ทหี่ นง่ึ อำ� เภอเปน็ หนว่ ยตวั อยา่ งขนั้ ทสี่ อง เขตแจงนบั (enumeration area : EA) เปน็ หนว่ ยตวั อยา่ งขน้ั ทสี่ าม และประชาชนไทยทมี่ อี ายตุ งั้ แต่ 1 ปขี น้ึ ไปเปน็ หนว่ ย ตัวอย่างขนั้ สุดท้าย (eligible sampling unit) ยกเวน้ กรงุ เทพมหานครไม่มกี ารเลือกจงั หวดั ตัวอยา่ ง และเขตตัวอยา่ ง โดยการส่มุ ตวั อยา่ งจากขอ้ มูลส�ำนักทะเบยี นราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย การจัดชั้นภมู ิ หรอื การจดั สตราตมั แผนแบบการเลือกตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ ได้พัฒนามาส�ำหรับประชากรบางประเภทที่ประกอบด้วยหน่วย ตวั อยา่ งทม่ี ลี กั ษณะแตกตา่ งกนั (heterogenous population) ซง่ึ สามารถแยกออกไดห้ ลายประเภท โดยความแปรปรวน ของประชากรกลมุ่ นจี้ ะมคี า่ สงู แผนแบบการเลอื กตวั อยา่ งแบบงา่ ยจะไมเ่ หมาะสมกบั ประชากรเหลา่ นี้ ดงั นนั้ กอ่ นทจี่ ะมี การเลือกตัวอย่างจะต้องมีการแบ่งประชากรออกเป็นส่วนๆ โดยในแต่ละส่วนควรจะประกอบด้วยหน่วยตัวอย่างที่มี ลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ซ่ึงสามารถเลือกตัวอย่างได้อย่างท่ัวถึง และมีประสิทธิภาพสูง โดยแผนแบบการเลือกตัวอย่าง แบบน้ีเรียกว่า แผนแบบการเลือกตัวอย่างแบบแบ่งช้ันภูมิ (stratified sampling) นอกจากน้ีแผนการเลือกตัวอย่าง แบบแบ่งช้ันภูมิ ยังสามารถวัดค่าที่แสดงลักษณะบางประการของประชากรในแต่ละชั้นภูมิให้มีความแม่นย�ำสูงได้ และยงั สามารถใช้ในการบริการจดั การการส�ำรวจได้ เชน่ การสำ� รวจตัวอย่างจากทกุ ภาคทั่วประเทศ การใช้แผนแบบการ เลอื กตัวอยา่ งแบบแบง่ ช้นั ภมู จิ ะท�ำใหก้ ารบรหิ ารจดั การ การแบง่ งาน และการควบคมุ งานน้นั มคี วามสะดวกมากข้นึ โดยในการสำ� รวจครงั้ น้ี ไดก้ ำ� หนดให้ กรงุ เทพมหานคร และภาคจำ� นวน 4 ภาคเปน็ สตราตมั รวมทง้ั สนิ้ 5 สตราตมั และในแต่ละสตราตัม ได้ท�ำการแบ่งออกเป็น 12 สตราตัมย่อย ตามลักษณะการปกครองของกรมการปกครอง (คือ ในเขตเทศบาล และนอกเขตเทศบาล) กลุ่มอายุ (คือ 1 - 14 ปี 15 - 59 ปี และ 60 ปขี น้ึ ไป) และเพศ ยกเวน้ กรุงเทพมหานครสุ่มเลือก 12 เขตๆ ละ 3 กล่มุ อายุๆ ละ 2 เพศ ไดจ้ �ำนวนสตราตัมย่อยรวมท้ังสน้ิ 72 สตราตมั ยอ่ ย

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 25 2.3.1 การเลือกหน่วยตวั อย่างขนั้ ทีห่ นง่ึ (primary sampling selection) หน่วยตัวอยา่ งขนั้ ที่หนึ่ง : จงั หวัด กรอบตวั อย่างขน้ั ทห่ี นงึ่ : บญั ชรี ายชือ่ จังหวัดในแตล่ ะภาค โดยเรียงตามลกั ษณะภูมิศาสตร์ การเลอื กหนว่ ยตัวอยา่ งขัน้ ท่หี นึง่ : ในแต่ละภาค หรือสตราตมั ท�ำการเลือกจังหวดั ตัวอยา่ งอยา่ งอิสระตอ่ กัน ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (simple random sampling) ได้จ�ำนวนจังหวัดตัวอย่างทั้งสิ้น 20 จังหวัด ซ่ึงกระจายไป ในแต่ละสตราตมั ดังน้ี ตารางท่ี 1 : จ�ำนวนและรายชอ่ื จงั หวัดตวั อย่าง จ�ำแนกตามสตราตมั สตราตัม จ�ำนวนจงั หวดั ตัวอย่าง รายชอ่ื จงั หวัดตัวอย่าง กรุงเทพมหานคร - ไมม่ กี ารเลือกจงั หวดั ตัวอยา่ ง กลาง (ยกเว้น กทม.) 5 ลพบรุ ี นครนายก สมทุ รปราการ ระยอง นครปฐม เหนอื 5 เชยี งใหม่ ลำ� พนู แพร่ พิษณุโลก ก�ำแพงเพชร ตะวันออกเฉียงเหนือ 5 อบุ ลราชธานี บุรรี มั ย์ ขอนแกน่ บึงกาฬ เลย ใต ้ 5 ยะลา พัทลุง กระบ่ี สุราษฎรธ์ านี สงขลา รวมทว่ั ประเทศ 20 2.3.2 การเลอื กหนว่ ยตัวอย่างข้ันท่ีสอง (secondary sampling selection) หน่วยตัวอย่างข้นั ที่สอง : อำ� เภอ กรอบตัวอยา่ งข้นั ท่สี อง : บญั ชีรายช่ืออำ� เภอในแตล่ ะจงั หวัดตวั อย่าง โดยเรยี งตามลักษณะภมู ิศาสตร์ การเลือกหน่วยตัวอย่างข้ันทีส่ อง : ในแตล่ ะจงั หวัดตวั อยา่ ง ไดท้ ำ� การเลอื ก อำ� เภอตัวอยา่ งอย่างอิสระต่อกนั ด้วยวิธกี ารเลือกตัวอย่างแบบมรี ะบบโดยใชค้ วามนา่ จะเป็นเปน็ สัดสว่ นกับขนาด (probability proportional to size systematic sampling) ไดจ้ ำ� นวนอำ� เภอตวั อยา่ งทั้งสน้ิ 88 อำ� เภอ ยกเว้น กรงุ เทพมหานคร ไม่มกี ารเลอื กเขตตวั อย่าง ตารางท่ี 2 : จำ� นวนอ�ำเภอตวั อยา่ ง จ�ำแนกตามจังหวัด ภาค จงั หวดั ตัวอย่าง จำ� นวนอ�ำเภอ ภาค จงั หวดั ตวั อย่าง จ�ำนวนอำ� เภอ ตวั อย่าง ตัวอย่าง กรุงเทพมหานคร - 12 เขต ตะวันออกเฉยี งเหนือ กลาง ลพบุรี 4 อบุ ลราชธานี 5 นครนายก 3 ระยอง 3 บงึ กาฬ 3 สมทุ รปราการ 3 นครปฐม 3 ใต ้ บรุ ีรมั ย์ 5 เหนอื เชียงใหม่ 4 แพร่ 3 ขอนแก่น 5 กำ� แพงเพชร 4 พิษณโุ ลก 3 เลย 4 ล�ำพนู 3 รวมท่วั ประเทศ ยะลา 3 กระบี่ 3 พทั ลุง 4 สุราษฎร์ธานี 4 สงขลา 4 88

26 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้งั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 2.3.3 การเลอื กหนว่ ยตัวอย่างข้นั ท่ีสาม (Tertiary sampling selection) หน่วยตัวอย่างขั้นทส่ี าม : เขตแจงนับ (Enumeration area : EA) กรอบตวั อย่างข้นั ทส่ี าม : บัญชีรายช่ือเขตแจงนับในกรุงเทพมหานคร และแตล่ ะอำ� เภอตัวอยา่ ง การเลอื กหน่วยตวั อยา่ งขัน้ ทส่ี าม : ในกรุงเทพมหานคร และแตล่ ะอำ� เภอตัวอย่าง ทำ� การเลือก EA ตวั อยา่ ง อยา่ งอสิ ระตอ่ กนั ดว้ ยวธิ กี ารสมุ่ แบบมรี ะบบโดยใชค้ วามนา่ จะเปน็ เปน็ สดั สว่ นกบั ขนาด (probability proportional to size systematic sampling) ไดจ้ �ำนวน EA ตัวอย่างทัง้ ส้นิ 540 EA ซึง่ กระจายไปในแตล่ ะสตราตัมและสตราตมั ยอ่ ย ดังนี้ ตารางที่ 3 : จำ� นวนเขตแจงนบั ตวั อยา่ ง จำ� แนกตามสตราตัม และสตราตมั ย่อย สตราตมั จ�ำนวนเขตแจงนบั ตวั อย่าง กรงุ เทพมหานคร รวม ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล กลาง (ยกเว้น กทม.) เหนอื 60 60 - ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ใต ้ 120 60 60 รวมท่วั ประเทศ 120 60 60 120 60 60 120 60 60 540 300 240 2.3.4 การเลอื กหนว่ ยตวั อยา่ งข้นั สุดท้าย ( eligible sampling selection) หน่วยตัวอยา่ งข้ันสุดทา้ ย : ประชาชนไทยทมี่ ีอายุตัง้ แต่ 1 ปีข้ึนไป กรอบตวั อยา่ งขน้ั สุดท้าย : บัญชีรายชอื่ ครัวเรอื น และสมาชิกในครวั เรอื นทม่ี ีอายุตงั้ แต่ 1 ปขี ึ้นไป ในแต่ละเขต แจงนบั ตวั อย่าง การเลอื กหน่วยตวั อย่างขั้นสดุ ทา้ ย : ในแตล่ ะเขตแจงนบั ตัวอย่าง ท�ำการเลอื ก คนตวั อยา่ ง จ�ำแนกตามกลุ่ม อายุและเพศ อย่างอิสระต่อกัน ด้วยวิธีการเลือกตัวอย่างแบบมีระบบ (systematic sampling) ได้จ�ำนวนประชาชน ตวั อย่างทัง้ ส้นิ 32,400 คน ซงึ่ กระจายไปในแตล่ ะสตราตัม ดังนี้

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 27 ตารางที่ 4 : จำ� นวนประชาชนตวั อยา่ ง จ�ำแนกตามสตราตัม และสตราตมั ยอ่ ย จ�ำนวนประชาชนตวั อย่าง รวม สตราตมั รวม 1 - 14 ปี 15 - 59 ปี 60 ปี ขึ้นไป กรงุ เทพมหานคร 3,600 960 1,680 960 กลาง (ยกเว้น กทม.) 7,200 1,920 3,360 1,920 7,200 1,920 3,360 1,920 เหนอื 7,200 1,920 3,360 1,920 ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 7,200 1,920 3,360 1,920 32,400 8,640 15,120 8,640 ใต้ รวมท่ัวประเทศ จ�ำนวนประชาชนตัวอยา่ ง ในเขตเทศบาล สตราตมั รวม 1 - 14 ปี 15 - 59 ปี 60 ปี ขน้ึ ไป กรุงเทพมหานคร 3,600 960 1,680 960 กลาง (ยกเวน้ กทม.) 3,600 960 1,680 960 3,600 960 1,680 960 เหนอื 3,600 960 1,680 960 ตะวันออกเฉยี งเหนอื 3,600 960 1,680 960 18,000 4,800 8,400 4,800 ใต้ รวมทว่ั ประเทศ จ�ำนวนประชาชนตวั อยา่ ง นอกเขตเทศบาล สตราตมั รวม 1 - 14 ปี 15 - 59 ปี 60 ปี ข้ึนไป กรุงเทพมหานคร - - - - กลาง (ยกเวน้ กทม.) 3,600 960 1,680 960 3,600 960 1,680 960 เหนือ 3,600 960 1,680 960 ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 3,600 960 1,680 960 14,400 3,840 6,720 3,840 ใต้ รวมทวั่ ประเทศ

แผนภาพท่ี 1: แสดงขัน้ ตอนการเลือกตวั อยา่ ง ประเทศไทย 28 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 ช้ันภมู ิ กทม. กลาง เหนือ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ใต ขั้นทหี่ น่ึง จ.1 จ.2 จ.3 จ.4 จ.5 จ.1 … จ.5 จ.1 จ.2 จ.3 จ.4 จ.5 จ.1 … จ.5 เลอื กจงั หวัดตวั อยาง ขน้ั ทสี่ อง อ.1 … … อ.1 … … อ.1 … … อ.1 … … อ.1 … … เลือกอำเภอตวั อยา ง ชนั้ ภูมิยอย ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล ขน้ั ทีส่ าม EA 1 … EA 60 EA 1 … EA … EA 1 … EA … หญิง เลอื กเขตแจงนบั ตัวอยา ง ชาย ชนั้ ภูมิยอ ย 1 - 14 ป 15 - 59 ป 60 ปข น�้ ไป 1 - 14 ป 15 - 59 ป 60 ปขน�้ ไป ขัน้ ทีส่ ่ี ประชาชน … ประชาชน ประชาชน … ประชาชน ประชาชน … ประชาชน ประชาชน ประชาชน เลือกประชาชนตัวอยาง ตวั อยา งที่ 1 ตวั อยา งที่ 8 ตวั อยา งท่ี 1 ตัวอยา งท่ี 8 ตัวอยา งที่ 1 ตัวอยา งท่ี 8 ตัวอยางท่ี 1 … ตวั อยางท่ี 8 ประชาชน … ประชาชน ประชาชน … ประชาชน ตัวอยา งท่ี 1 ตัวอยางท่ี ตัวอยางท่ี 1 ตวั อยา งที่ 14 14

การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 29 2.4 การกำ� หนดขนาดตวั อยา่ ง ในการก�ำหนดขนาดตัวอย่างเพ่ือให้สามารถน�ำเสนอผลได้ทุกสตราตัม จะต้องก�ำหนดขนาดตัวอย่างในแต่ละ สตราตัมอย่างอิสระต่อกัน โดยได้ท�ำการค�ำนวณขนาดตัวอย่างท่ีเหมาะสมส�ำหรับการประมาณค่าสัดส่วนประชากร ในกรณใี ชแ้ ผนการเลือกตัวอย่างอย่างง่าย โดยใชส้ ูตรการคำ� นวณขนาดตวั อยา่ งดังน้ี n= k2r(1 - r) x 1 rate x f ; E = Er E2 response โดยที ่ n = ขนาดตัวอยา่ ง k = คา่ คงท่ีของระดับความเช่อื ม่นั ท่ี 1 - α r = สดั สว่ นตัวชีว้ ดั สำ� คญั ที่ตอ้ งการศึกษา E = ขนาดของความคลาดเคล่ือน (margin of error) E = ความคลาดเคลอ่ื นสัมพัทธ์ (relative margin of error) response rate = อตั ราการให้ความร่วมมือ f = คา่ คงทส่ี �ำหรับการปรบั ขนาดตัวอยา่ งกรณีใช้แผนแบบการเลือกตวั อย่างหลายข้นั (sample design effect) หลังจากที่ได้ขนาดตัวอย่างในแต่ละสตราตัมแล้ว สิ่งที่ต้องน�ำมาใช้ประกอบการพิจารณาคือทรัพยากรท่ีมีอยู่ เช่นงบประมาณ เวลา และก�ำลังคน นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาจากแผนแบบการเลือกตัวอย่าง โดยขนาดตัวอย่าง ในแต่ละข้นั จะปรากฏอยใู่ นหัวขอ้ 2.3.1 - 2.3.4 2.5 การค�ำนวณคา่ ถ่วงนำ�้ หนัก การค�ำนวณค่าประมาณยอดรวมของจ�ำนวนประชากรท่ีต้องการศึกษา ต้องใช้ค่าถ่วงน�้ำหนัก ซึ่งสามารถ คำ� นวณไดจ้ ากผลคูณของค่าตา่ ง ๆ เหลา่ นี้ 2.5.1 การค�ำนวณค่าถ่วงน้�ำหนักเร่ิมต้น (Base weights) ค�ำนวณจากแผนการเลือกตัวอย่างท่ีใช้ โดย ค่าถ่วงน�้ำหนักเร่ิมต้นจะมีค่าเท่ากับผลคูณส่วนกลับของความน่าจะเป็นท่ีหน่วยตัวอย่างจะถูกเลือกมาเป็นตัวแทน ในแตล่ ะข้นั ในการสำ� รวจนี้แผนการเลอื กตัวอยา่ งทใ่ี ช้เปน็ แบบ Stratified four - stage sampling ดังนน้ั ความนา่ จะ เป็นที่หน่วยตัวอยา่ งในแตล่ ะขน้ั จะถกู เลือกเป็นตวั แทนสามารถค�ำนวณได้ดังน้ี • หนว่ ยตัวอยา่ งขน้ั ท่ี 1 (จังหวัดตัวอย่าง) ถกู เลอื กดว้ ยวธิ ีการเลอื กตัวอย่างสมุ่ แบบง่าย (Simple random Sampling) ด้วยความนา่ จะเปน็ Aa hh โดยท่ี ah คอื จ�ำนวนจังหวดั ตัวอยา่ ง ในภาค h Ah คอื จ�ำนวนจงั หวัดทั้งสน้ิ ในภาค h เ ป็น สัดส่ว• นกหบั นขว่ นยาตดวั อ(pยrา่oงbขaนั้ bทilี่it2y(อpำ�roเภpอoตrtวั iอoยnา่aงl)tถoกู sเลizอื eกsดyว้ sยteวธิmกี aาtรicเลsอื aกmตวัpอliยnา่gง)แดบ้วบยมครีวะาบมบนโ่าดจยะใเชปค้น็ วาBมนhา่cจdะเปน็ โดยที่ Bhc Bhcd คือ จ�ำนวนครัวเรือนทัง้ สิ้น ในอ�ำเภอ d จังหวดั c ภาค h Bhc คือ จำ� นวนครัวเรอื นท้งั สน้ิ ในจังหวัด c ภาค h

30 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 • หน่วยตัวอย่างขั้นที่ 3 (เขตแจงนับตัวอย่าง) ถูกเลือกด้วยวิธีการเลือกตัวอย่างแบบมีระบบโดยใช้ ความนา่ จะเปน็ เปน็ สดั สว่ นกบั ขนาด (probability proportional to size systematic sampling) ดว้ ยความนา่ จะเปน็ Bhcdi Bhcd โดยที่ Bhcdi คอื จำ� นวนครัวเรือนทง้ั สิน้ ของเขตแจงนบั ตัวอยา่ ง i อ�ำเภอ d จังหวดั c ภาค h Bhcd คอื จ�ำนวนครัวเรอื นทง้ั สนิ้ ของอ�ำเภอ d จงั หวดั c ภาค h • หน่วยตัวอย่างข้ันที่ 4 (ประชาชนตัวอย่าง) ถูกเลือกด้วยวิธีการเลือกตัวอย่างแบบมีระบบ (Systematic Sampling) ด้วยความนา่ จะเป็น N n hh c cd d ee ii jjk k โดยท่ี nhcdeijk คอื จำ� นวนประชาชนตวั อย่างตามทก่ี �ำหนด ในกลมุ่ อายุ k เพศ j เขตแจงนบั i เขตการปกครอง e อำ� เภอ d จงั หวดั c ภาค h Nhcdeijk คอื จำ� นวนประชาชนท้ังส้ินตามทกี่ �ำหนด ในกล่มุ อายุ k เพศ j เขตแจงนบั i เขตการปกครอง e อำ� เภอ d จังหวดั c ภาค h ดังน้นั คา่ ถ่วงน�ำ้ หนกั เรม่ิ ตน้ สำ� หรับประชาชนตัวอย่าง f กลมุ่ อายุ k เพศ j เขตแจงนับ i เขตการปกครอง e อ�ำเภอ d จงั หวดั c ภาค h คือ Whcdeijkf = Ah x Bhc x Bhcd x Nhcdeijk ah ZhcBhcd mhcdBhcdi nhcdeijk โดยท่ี Zhc = จ�ำนวนอำ� เภอตัวอยา่ ง ของจงั หวัด c ภาค h mhcd = จ�ำนวนเขตแจงนบั ตวั อยา่ ง ของอำ� เภอ d จังหวัด c ภาค h 2.5.2 การปรบั คา่ ถ่วงนำ�้ หนักดว้ ยการไม่ตอบ (non-response adjustment) Adj_NRhejk = nhejk nhejk โดยที่ nhejk คือ จ�ำนวนประชาชนตวั อยา่ งตามท่ีก�ำหนด ในกลมุ่ อายุ k เพศ j เขตการปกครอง e ภาค h nhejk คือ จำ� นวนประชาชนตวั อย่างท่ีให้ความร่วมมอื ในกลุ่มอายุ k เพศ j เขตการปกครอง e ภาค h

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 31 2.5.3 การปรับค่าถ่วงน้�ำหนักด้วยการแบ่งข้อมูลออกเป็นช้ันภูมิ (post stratification calibration adjustment) การปรบั ค่าถ่วงน�ำ้ หนักดว้ ยการแบ่งข้อมลู ออกเปน็ ช้นั ภูมินั้น ใช้ค่าคาดประมาณจ�ำนวนประชากรท่ีมอี ายุ 1 ปี ข้ึนไป ณ พฤศจิกายน 2556 โดยเป็นคา่ จ�ำนวนประชากร ของกลุ่มอายุ k เพศ j เขตการปกครอง e ภาค h Adj_NChcejk = Nhcejk Nhcejk โดยที่ Nhcejk คือ จ�ำนวนประชากรที่ได้จากคา่ คาดประมาณ ในกลมุ่ อายุ k เพศ j เขตการปกครอง e ภาค h Nhcejk คอื ค่าประมาณจ�ำนวนประชากร ในกล่มุ อายุ k เพศ j เขตการปกครอง e ภาค h ท่ีค�ำนวณก่อนปรบั คา่ ถว่ งน�้ำหนักดว้ ยค่าคาดประมาณประชากร ดังนั้นค่าถ่วงน้�ำหนักสุดท้าย (final weights) ที่ก�ำหนดให้แต่ละหน่วยตัวอย่างข้ันสุดท้ายนั้น ได้ค�ำนวณจาก ผลคูณของคา่ ถว่ งนำ้� หนกั เร่ิมตน้ (base weights) การปรับการไม่ตอบ (non-response adjustment) และการปรบั ด้วยการแบ่งขอ้ มลู ออกเปน็ ชั้นภมู ิ โดยค่าถ่วงน้�ำหนกั น้ีจะใช้เพอื่ ทำ� การวเิ คราะหข์ อ้ มูลโดยการประมาณคา่ ประชากร

32 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครัง้ ที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายคร้งั ท่ี 6 ประจ�ำปี พ.ศ. 2562 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายคร้ังท่ี 6 ประจ�ำปี พ.ศ. 2562 ขนาดตวั อย่าง จำ� แนกตามเขตการปกครอง เพศ กล่มุ อายุ จังหวดั ตวั อยา่ ง และภาค (54 Domains) รวม รวม จังหวดั ตวั อย่าง จำ� นวนอ�ำเภอ จ�ำนวน SITE รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตวั อย่าง ตัวอย่าง 3,600 กทม. 960 1,680 960 ภาคกลาง 15 60 304 532 304 ลพบรุ ี 4 19 1,140 304 532 304 นครนายก 3 19 1,140 368 644 368 นครปฐม 3 23 1,380 544 952 544 สมทุ รปราการ 3 34 2,040 400 700 400 ระยอง 3 25 1,500 1,920 3,360 1,920 รวมภาคกลาง 16 120 7,200 (ยกเวน้ กทม.) หญงิ รวม ชาย จงั หวดั ตัวอยา่ ง รวม 1 - 14 15 - 59 60+ รวม 1 - 14 15 - 59 60+ 1,800 480 840 480 1,800 480 840 480 กทม. ภาคกลาง 570 152 266 152 570 152 266 152 570 152 266 152 570 152 266 152 ลพบรุ ี 690 184 322 184 690 184 322 184 นครนายก 1,020 272 476 272 1,020 272 476 272 นครปฐม 750 200 350 200 750 200 350 200 สมทุ รปราการ 3,600 960 1,680 960 3,600 960 1,680 960 ระยอง รวมภาคกลาง (ยกเวน้ กทม.)

การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครง้ั ท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 33 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายคร้ังท่ี 6 ประจำ� ปี พ.ศ. 2562 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครง้ั ที่ 6 ประจำ� ปี พ.ศ. 2562 ขนาดตัวอยา่ ง จ�ำแนกตามเขตการปกครอง เพศ กลมุ่ อายุ จังหวดั ตวั อย่าง และภาค (54 Domains) ในเขตเทศบาล รวม จังหวัด จ�ำนวน SITE รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตัวอยา่ ง ตัวอย่าง 960 กทม. 60 3,600 960 1,680 80 ภาคกลาง 48 96 ลพบรุ ี 5 300 80 140 416 320 นครนายก 3 180 48 84 960 นครปฐม 6 360 96 168 สมทุ รปราการ 26 1,560 416 728 ระยอง 20 1,200 320 560 รวมภาคกลาง 60 3,600 960 1,680 (ยกเว้น กทม.) ในเขตเทศบาล หญงิ ชาย จังหวดั รวม 1 - 14 15 - 59 60+ รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตัวอยา่ ง กทม. 1,800 480 840 480 1,800 480 840 480 ภาคกลาง ลพบรุ ี 150 40 70 70 40 นครนายก 90 24 42 40 150 40 42 24 นครปฐม 180 48 84 24 90 24 84 48 สมุทรปราการ 780 208 364 48 180 48 364 208 ระยอง 600 160 280 208 780 208 280 160 รวมภาคกลาง 1,800 480 840 160 600 160 840 480 (ยกเว้น กทม.) 480 1,800 480

34 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 6 ประจำ� ปี พ.ศ. 2562 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายคร้งั ที่ 6 ประจ�ำปี พ.ศ. 2562 ขนาดตัวอย่าง จ�ำแนกตามเขตการปกครอง เพศ กลุ่มอายุ จังหวัดตัวอย่าง และภาค (54 Domains) (ตอ่ ) นอกเขตเทศบาล รวม จงั หวดั จ�ำนวน SITE รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตัวอย่าง ตัวอย่าง 224 กทม. 256 272 ภาคกลาง 128 80 ลพบุรี 14 840 224 392 960 นครนายก 16 960 256 448 นครปฐม 17 1,020 272 476 สมทุ รปราการ 8 480 128 224 ระยอง 5 300 80 140 รวมภาคกลาง 60 3,600 960 1,680 (ยกเว้น กทม.) นอกเขตเทศบาล หญิง ชาย จงั หวดั รวม 1 - 14 15 - 59 60+ รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตวั อย่าง กทม. ภาคกลาง ลพบุรี 420 112 196 112 420 112 196 112 นครนายก 480 128 224 128 480 128 224 128 นครปฐม 510 136 238 136 510 136 238 136 สมุทรปราการ 240 64 112 64 240 64 112 64 ระยอง 150 40 70 40 150 40 70 40 รวมภาคกลาง 1,800 480 840 480 1,800 480 840 480 (ยกเวน้ กทม.)

การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้ังท่ี 6 พ.ศ. 2562 - 2563 35 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครัง้ ที่ 6 ประจำ� ปี พ.ศ. 2562 การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายครั้งท่ี 6 ประจำ� ปี พ.ศ. 2562 ขนาดตวั อย่าง จ�ำแนกตามเขตการปกครอง เพศ กลุม่ อายุ จงั หวัดตัวอย่าง และภาค (54 Domains) รวม รวม จงั หวัดตัวอยา่ ง จำ� นวนอ�ำเภอ จำ� นวน SITE รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ภาคเหนอื ตัวอย่าง ตวั อยา่ ง เชยี งใหม่ ลำ� พูน 4 20 1,200 320 560 320 3 32 1,920 512 896 512 แพร่ 3 28 1,680 448 784 448 พษิ ณุโลก 3 23 1,380 368 644 368 กำ� แพงเพชร 4 17 1,020 272 476 272 รวมภาคเหนือ 17 120 7,200 1,920 3,360 1,920 รวม หญิง ชาย จงั หวดั รวม 1 - 14 15 - 59 60+ รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตวั อยา่ ง ภาคเหนอื 600 160 280 160 600 160 280 160 เชยี งใหม่ 960 256 448 256 960 256 448 256 ลำ� พูน 840 224 392 224 840 224 392 224 แพร่ 690 184 322 184 690 184 322 184 พิษณุโลก 510 136 238 136 510 136 238 136 ก�ำแพงเพชร 3,600 960 1,680 960 3,600 960 1,680 960 รวมภาคเหนือ

36 การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562 - 2563 การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายคร้ังท่ี 6 ประจ�ำปพี .ศ. 2562 การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกายครัง้ ที่ 6 ประจ�ำปี พ.ศ. 2562 ขนาดตวั อย่าง จ�ำแนกตามเขตการปกครอง เพศ กลุ่มอายุ จังหวัดตวั อย่าง และภาค (54 Domains) ในเขตเทศบาล รวม จังหวดั จ�ำนวน SITE รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตัวอย่าง ตัวอย่าง ภาคเหนอื 168 96 เชียงใหม่ 6 360 96 644 368 ล�ำพูน 23 1,380 368 476 272 แพร่ 17 1,020 272 168 96 พษิ ณุโลก 6 96 224 128 กำ� แพงเพชร 8 360 128 1,680 960 รวมภาคเหนอื 60 480 960 3,600 ในเขตเทศบาล หญิง ชาย จงั หวัด รวม 1 - 14 15 - 59 60+ รวม 1 - 14 15 - 59 60+ ตัวอยา่ ง ภาคเหนือ 180 48 84 48 180 48 84 48 เชียงใหม่ 690 184 322 184 690 184 322 184 ลำ� พูน 510 136 238 136 510 136 238 136 แพร่ 180 48 84 48 180 48 84 48 พิษณุโลก 240 64 112 64 240 64 112 64 ก�ำแพงเพชร 1,800 480 840 480 1,800 480 840 480 รวมภาคเหนือ