148 แบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 4 เรอื่ งการคดิ เป็น คำชแ้ี จง ผเู้ รยี นอา่ นคำถามที่ละขอ้ แล้วตอบคำถามโดยกาเคร่อื งหมาย X ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง 1. หลักการของการคิดเป็น คอื ข้อใด ก. สังคมเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา ความต้องการของมนษุ ยก์ เ็ ปลย่ี นแปลงตลอดเวลา ข. มนษุ ย์มคี วามตอ้ งการต่างกนั จงึ ตอ้ งรู้จกั วธิ ีปรับตวั เพอ่ื ใหต้ นเองมีชีวิตอยอู่ ย่างมคี วามสุข ค. การคดิ วเิ คราะห์ เพื่อการแก้ปญั หา มนษุ ยต์ อ้ งรูจ้ ักวธิ ีการรวบรวมข้อมูลประกอบการคิด ง. สงั คมเปล่ียนแปลงอยตู่ ลอดเวลา การคิดตัดสินใจอาจจะตอ้ งเปลย่ี นแปลงปรบั ปรุงใหมใ่ ห้ เหมาะสมกบั สภาพและสถานการณ์ท่ีเปล่ียนไป 2. ข้อมลู ด้านตนเอง ตรงกับข้อใด ก. สภาพแวดลอ้ ม สงั คม วฒั นธรรม ความเช่ือ และ ประเพณี ข. การเงนิ สุขภาพอนามยั บุคลกิ ภาพ ความรู้ อายุ และวยั ค. ความรู้ดา้ นวิชาการที่เกยี่ วข้องกบั เรอื่ งทตี่ ้องคิด และตดั สินใจ ง. เพ่อื นร่วมงาน ชุมชน ภูมิประเทศและสถานท่ีปฏิบตั ิงาน 3. ข้อมูลด้านสังคมและสงิ่ แวดลอ้ ม ตรงกบั ขอ้ ใด ก. เพอ่ื นร่วมงาน ชุมชน ภูมิประเทศและสถานท่ปี ฏิบตั ิงาน ข. สุขภาพอนามยั บคุ ลกิ ภาพ อุปนสิ ัย สภาพจติ ใจ และ ความรู้ ค. ความรู้ดา้ นวิชาการที่เกีย่ วขอ้ งกับเร่ืองที่ต้องตดั สินใจ และปฏบิ ัติ ง. สภาพแวดลอ้ มครอบครวั สังคม วัฒนธรรม ความเช่อื ประเพณี ค่านิยมตลอดจน กรอบคุณธรรม จรยิ ธรรม 4. ขอ้ มูลด้านวิชาการตรงกบั ข้อใด ก. ความรู้ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับเรื่องทีต่ อ้ งคิด ตัดสินใจและปฏบิ ัติ ข. เพือ่ นรว่ มงาน ชุมชน ภมู ิประเทศและสถานท่ปี ฏิบตั ิงาน ค. ความรู้ สุขภาพอนามัย บคุ ลิกภาพ อปุ นิสยั และสภาพจติ ใจ ง. วัฒนธรรม ความเช่อื ประเพณี ค่านิยมตลอดจนกรอบคุณธรรม จรยิ ธรรม 5. ลักษณะของคนคดิ เปน็ คอื ข้อใด ก. ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาโดยใช้ข้อมลู ท่ีอยรู่ อบ ๆ ตนเอง ข. รวู้ า่ การกระทำของตนเองมผี ลดแี ละถูกต้องเสมอ ค. ทำแลว้ ตดั สินใจแล้ว สบายใจ และเตม็ ใจรบั ผิดชอบ ง. เชือ่ ว่าปัญหาเกิดข้ึนได้ตลอดเวลาและต้องแก้ไขอยา่ งเปน็ ระบบ
149 6. สมรรถภาพของคนคิดเปน็ คอื ข้อใด ก. คิดหาสาเหตุของปัญหาและตัดสินใจเลือกทางเลอื กแก้ปัญหาทนั ที ข. สามารถที่จะแสวงหาและใชข้ อ้ มูลหลายๆด้าน ในการคิดแก้ไขปัญหา ค. ตดั สินใจแกป้ ญั หาที่เกิดข้นึ อย่างเป็นระบบ ภายใต้ความคิดตนเองเปน็ หลกั ง. ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หาอย่างมสี ติ และเปน็ ระบบภายใต้ขอ้ มูลทางสังคมท่มี อี ยู่ 7. การศึกษารวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับปัญหาเพอื่ ทำความเข้าใจปญั หาและสถานการณน์ ั้นๆ เป็น ขน้ั ตอนใดของกระบวนการคดิ เปน็ ก. ขนั้ หาสาเหตุของปญั หา ข. ขนั้ เลอื กทางเลอื กแก้ปญั หา ค. ขัน้ ตดั สนิ ใจเลือกทางเลือกแกป้ ญั หา ง. ขน้ั ปฏิบตั ิการตามแผนเพื่อการแกป้ ัญหา 8. การปฏบิ ัติตามข้อใดจงึ จะเรียกว่า “คิดเป็น” ก. ปฏิบัติตามสิง่ ทีไ่ ด้คิดและตดั สินใจแล้ว เกดิ ความพอใจ ยอมรับผลของการตดั สนิ ใจอย่างมีความสขุ ข. คดิ ได้ ทำเป็นอย่างเหมาะสมกบั ตนเอง เกิดความพอดี และสามารถแก้ปญั หาได้ดว้ ย ค. ใช้สตปิ ัญญาในการดำเนินชีวติ และแกป้ ัญหาทเี่ กดิ ข้ึนอยา่ งเปน็ ระบบเหมาะกับตนเอง ง. กำหนดเป้าหมายในการแกป้ ัญหาโดยเสาะแสวงหาความรู้อย่างรอบดา้ นมาประกอบ 9. การคดิ ตามข้อใดเป็นแนวคดิ ที่สอดคล้องกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ก. การคดิ แบบพอเพยี ง ไม่มาก ไม่นอ้ ย ตามสภาพของสังคมและสามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้ ข. การคดิ แบบพอประมาณ ตามสภาพของตนเองโดยใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวติ อยา่ งพอเพียง ค. การคดิ ทีไ่ มม่ าก ไม่นอ้ ยเกินไป และพร้อมที่จะรับผลกระทบที่เกิดขน้ึ จากการแก้ปญั หา ง. การคิดแบบพอเพียง พอประมาณ ไมม่ าก ไม่นอ้ ยเป็นทางสายกลาง สามารถอธบิ ายได้ดว้ ย เหตุผล พร้อมที่จะรบั ผลกระทบท่ีเกิดโดยมคี วามรอบรูใ้ นวชิ าการทเ่ี กย่ี วข้องอยา่ งร้จู ริง
150 10. การคดิ ของบคุ คลตามขอ้ ใดเรียกว่าคิดเป็น ก. สมศรตี ัดสนิ ใจทำอาชีพเพาะเห็ดนางฟา้ ขายเนอ่ื งจากมีเงินทุนเพยี งพอ เปน็ ที่ตอ้ งการ ของ ตลาดและคนในหม่บู า้ นชอบนำมาปรุงอาหาร อกี ทั้งมเี จา้ หน้าท่กี ารเกษตรมา สง่ เสริมให้ความรู้เก่ยี วกบั การเพาะเหด็ นางฟา้ ข. บุญมาตดั สินใจเล้ยี งไก่ เน่อื งจากมีแหลง่ เงินทนุ ให้กยู้ ืม และบุญมาคิดวา่ เม่ือเล้ียงไก่โต แลว้ และขายได้จะนำตน้ ทนุ ไปใชห้ นี้ ส่วนทีเ่ หลือจำนำไปซ้อื ต้เู ย็น ค. ทองกอ้ นเหน็ เพือ่ นขา้ งบา้ นปรบั ปรุงบริเวณบ้านเป็นสวนรม่ รืน่ พรอ้ มขายส้มตำ ไกย่ ่าง ปลาเผา ซึง่ แต่ละวนั มคี นมาอุดหนนุ มากมาย จนขายแทบไมท่ นั ในแต่ละวนั จึงตดั สนิ ใจทำบ้าง ง. ใบไผ่ต้องการหารายไดเ้ สริม เนือ่ งจากเงนิ เดือนทีไ่ ดร้ ับอยไู่ ม่พอใช้ จงึ ตัดสินใจไปซื้อ เสือ้ ผา้ มาเดินขายหลังจากเลิกงานแล้ว เนอ่ื งจากเหน็ เพือ่ บ้านทำแล้วรายไดด้ ี
151 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน บทเรยี นออนไลน์ที่ 4 เร่ืองการคดิ เป็น 1. ง 2. ข 3. ง 4. ก 5. ค 6. ข 7. ก 8. ก 9. ง 10. ก
152 ใบความรู้ บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เร่ืองการคิดเป็น เรื่อง การ\"คิดเปน็ \"เพ่ือการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ และสงั คมไทย “การศึกษาคือกระบวนการที่ทำให้คนและสังคมเจริญงอกงาม ยิ่งเรียน ยิง่ ขยนั ยง่ิ เรียนย่ิงอดทน ยง่ิ เรยี นย่ิงซอ่ื สัตย์ ย่ิงเรยี นยิ่งมีความกตญั ญู ยิง่ เรียนยงิ่ รักปู่ย่าตายาย ดูแล ปยู่ ่าตายาย ไปไหนกด็ แู ลซ่ึงกันและกัน บ้านเมอื งกจ็ ะมีแต่ความสุข” เนื้อหาในส่วนน้ีได้รวบรวมสาระ แนวคิด บทความของท่าน ดร.โกวิท วรพิพัฒน์ ท่ี เป็นผใู้ ห้นยิ าม คำว่า คดิ เปน็ \"กระบวนการคิดเพื่อตัดสินใจ\" โดยใชข้ อ้ มลู 3 ด้าน คือ ข้อมลู สว่ นตัว ข้อมูล ทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม และข้อมูลทางวิชาการ ปรัชญา \"คิดเป็น\" มีรายละเอียดและสาระที่น่าศึกษา การ\"คิดเป็น\"เพอื่ การพฒั นาคุณภาพชวี ิตและสังคมไทย \"คิดเปน็ มาจากแนวคิดท่ีว่า ธรรมชาติของมนุษย์ ทุกคนต้องการความสุข คนคิดเป็นจะสามารถดำรงชีวิต ให้พบความสุขได้\" มนษุ ยม์ จี ติ สำนกึ ทีจ่ ะใคร่ครวญ และแสวงหารากเหง้าท่ีมาของปัญหาและความทุกข์ และพิจารณาทางเลือก และหาคำตอบต่างๆ เพื่อจะได้ตัดสินใจกระทำการหรือไม่ ในการแสวงหาคำตอบ แทนที่จะยอมจำนนต่อปัญหา หรือโชคชะตา โดยกระบวนการที่จะพัฒนาการคิดเป็นให้กับบุคคลตาม ทฤษฎีการ \"คิดเป็น\" ซึ่งจะเป็น กระบวนการตัด และตัดสินใจแก้ไขปัญหาด้วยข้อมูล 3 ประเภท ได้แก่ ข้อมลู ตนเอง ขอ้ มลู สังคมสิ่งแวดล้อม และขอ้ มลู วชิ าการ มาประกอบการตัดสนิ ใจ
153 กระบวนการคิดเป็น จึงเป็นเป็นการทำให้บุคคลได้เข้าใจตนเองอย่างถ่องแท้ว่า ตนเองเป็นใคร และ อะไรคอื สิง่ ที่ตนเองต้องการ รวมทั้งการเข้าใจสภาพสังคมสิง่ แวดล้อมท่ีตนเองดำรงชีวิต และสามารถ นำข้อมลู วชิ าการท่ีมีอยมู่ าประกอบการคิดและตัดสินใจ โดยวิเคราะห์ วจิ ารณ์อยา่ งเป็นระบบ ภายใต้ หลักการ เหตุผล หลักคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งนำไปสู่การปฏิบัติจนเกดิ ความพึงพอใจ เป็นบุคคลที่มี พฤติกรรมคิดเป็น เป็นคนดี คนเก่ง และพบกับความสุขได้ในที่สุด ศาสตราจารย์ อุ่นตา นพคุณ ได้ สรุปความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับ การคิดเป็น มี 4 ประการ ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจกระบวนการคิด เปน็ ไดอ้ ย่างชัดเจน คือ ▪ ประการที่ 1 มนษุ ย์ทุกคนตอ้ งการความสุข ▪ ประการท่ี 2 การใช้ข้อมูล 3 ประเภท พร้อมกันประกอบการคดิ แกไ้ ขปัญหา ▪ ประการท่ี 3 เปน็ การคิดเพ่ือการตัดสนิ ใจแกไ้ ขปัญหา ▪ ประการท่ี 4 มนุษย์มเี สรภี าพในการตัดสนิ ใจกำหนดชะตาชีวติ ของตนเอง คดิ เปน็ จงึ เปน็ กระบวนการทจ่ี ะทำให้มนษุ ย์กำหนดปรชั ญาในการดำรง ชีวิตของตนเองในแตล่ ะ ดา้ นวา่ ตนเองเป็นใคร ควรทำอะไร ทำทำไม ทำอยา่ งไร ทำเพื่อใคร ซง่ึ ท้ังหมดตอ้ งเปน็ สง่ิ ที่ตนเอง ต้องการ และนำกระบวนการคดิ เปน็ น้ันไปสู่ปรัชญาทกี่ ำหนดใหส้ ำเรจ็ และในท่ีสุดกจ็ ะสามารถนำพา ชีวติ ไปถงึ เปา้ หมายสงู สดุ คือ ความสุข ซ่งึ เปน็ ปรัชญาช้ันสูงสุดในการดำรงชวี ิตมนษุ ยท์ ี่จะทำให้ สามารถดำรงชวี ติ อย่างมีคุณภาพได้
154 ความเชอื้ พนื้ ฐานเกีย่ วกับ \"การคิดเปน็ \" 1. มนษุ ยท์ ุกคนต้องการความสขุ ข้อตกลงเบอ้ื งต้นของการ \"คิดเปน็ \" คือ มนษุ ย์ทกุ คน ตอ้ งการความสุข คือ เชื่อวา่ คนเราจะมคี วามสขุ เมอื่ คนเราและสงั คมสิ่งแวดลอ้ ม ประสมกลมกลืนกัน อย่างราบร่นื ท้ังทางวัตถุ กาย ใจ และมนษุ ยจ์ ะไม่มคี วามสขุ เมอื่ มีปัญหา ปัญหาเกิดข้ึนเมอ่ื เกิดชอ่ งว่าง ระหวา่ งสภาพการณ์และสิง่ ท่เี ขามีอยู่จริง ปัญหาในช่วงชีวิตมนษุ ย์แตล่ ะคนเป็นเรอื่ งสลบั ซับซ้อน และ เก่ียวโยงถึงปัจจยั ตา่ ง ๆ การคดิ ทีใ่ ช้ข้อมูลประกอบการคิดเพ่อื แกไ้ ขปัญหา และเกิดความพงึ พอใจ 2. การคดิ เปน็ เป็นการคิดเพื่อแก้ปัญหา เนอ่ื งจากการคิดมีจุดเร่ิมที่ตัวปัญหา และพิจารณา ไตร่ตรองถึงข้อมูล 3 ประการ คือ ข้อมูลตนเอง ข้อมูลสังคมสิ่งแวดล้อม และข้อมูลทางวิชาการ ต่อจากน้นั กล็ งมอื กระทำการ ถา้ หากกระทำการ ทำให้ปญั หาและไม่พอใจหายไป กระบวนการคิดจะ ยุตลิ ง แตถ่ ้าหากบคุ คลยงั รสู้ ึกไมพ่ อใจ ปัญหายังคงมีอยู่ ก็จะเริม่ กระบวนการคิดอีกครั้ง 3. การใช้ขอ้ มูล 3 ประเภท พรอ้ มกนั ประกอบการแก้ปญั หา ตามแนวคิดเร่ืองการคดิ เปน็ บคุ คลที่จะถือวา่ เปน็ คนคิดเป็น จะต้องเปน็ บุคคลทีใ่ ช้ขอ้ มูล 3 ปรเภทไปพร้อมกนั ประกอบการ ตดั สินใจแกป่ ัญหา การคิดทอี่ าศยั ขอ้ มูลประเภทใดประเภทหนึง่ หรอื สองประเภท ยังไมถ่ ือวา่ บคุ คล นนั้ เป็นคนคดิ เป็นไดส้ มบูรณ์แบบ ขอ้ มลู 3 ประเภท ได้แก่ 1) ข้อมูลตนเอง 2) ขอ้ มูลสงั คมส่งิ แวดลอ้ ม 3) ข้อมลู วิชาการ ข้อมลู ตนเอง (Information of self) ข้อมูลประเภทตนเอง ถูกกำหนดขึ้นเพราะอิทธิพลทางศาสนา ปรัชญา และจิตวิทยา โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา ซึ่งได้สั่งสอนให้บุคคลพิจารณาและเฝ้ามองตนเอง และแก้ไขทุกข์ด้วย ตนเอง มีอิทธิพลต่อการกำหนดข้อมูลประเภทน้ี การ \"คิดเป็น\" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายต้องการให้บุคคลใช้ ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง ได้แก่ ข้อมูลในเรื่องสถานภาพทางเศรษฐกิจ สถานภาพทางสังคม สุขภาพอนามัย ระดับการศึกษา ความรู้ ความถนัด ทักษะ วัย เพศ และอื่น ๆ ซึ่งข้อมูลประเภทนี้ ต้องการใหพ้ จิ ารณาจดุ อ่อน จดุ แข็ง ขอ้ ดี ข้อเสยี ของตนเองอยา่ งจรงิ จงั ก่อนการตดั สินใจกระทำสง่ิ ใด ขอ้ มลู สังคมและสิง่ แวดล้อม (Information on Society and Environment) ธรรมชาติมนุษย์เป็นสัตว์สังคมไม่ได้อยู่ตามลำพัง ข้อมูลประเภทนี้จึงถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้ บุคคลใช้ความนึกคิด คำนึงถึงสิ่งที่อยู่นอกกาย คำนึงถึงผู้อื่น ชุมชน ตลอดจนสภาพแวดล้อมสังคม ส่วนรวม หากบุคคลใช้ข้อประเภทตนเองอย่างเดียวก็จะเป็นคนเห็นแก่ตัว และเป็นคนใจแคบ ดังน้นั อิทธิพลของสังคมและสิ่งแวดล้อมจึงมีผลกระทบตอ่ มนุษย์เสมอ สิ่งแวดล้อมของมนุษย์ประกอบดว้ ย ปัจจัยที่แตกต่างกัน แต่ก็ส่งผลกระทบชีวิตมนุษย์ทุกคน และในทางกลับกัน การกระทำของมนุษย์ก็ ส่งผลต่อสงิ่ แวดล้อมของตวั มนษุ ย์ด้วย ขอ้ มูลสังคมสิ่งแวดลอ้ ม อาจแยกไดเ้ ปน็ ข้อมูลสังคมและจิตใจ เช่น พฤตกิ รรมของมนษุ ยใ์ นการอยใู่ นสงั คมด้วยความถูกตอ้ ง เหมาะสม และข้อมูลกายภาพ เชน่ ภมู ิอากาศ ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
155 ขอ้ มลู วิชาการ (Technical or Book Knowledge) ในความหมายของการคิดเป็น หมายถึง ข้อมูลและความรู้อันมหาศาลที่มนุษย์เราได้สะสม รวบรวมไว้เปน็ เน้ือหาวชิ าต่าง ๆ เปน็ หลกั สูตร เป็นศาสตร์ แนวคดิ เรื่องการคดิ เปน็ ตระหนกั วา่ บคุ คล นั้นถึงแม้ว่าจะเข้าใจตนเอง เข้าใจสังคมสิ่งแวดล้อมเป็นอยา่ งดีกต็ าม แต่ถ้าขาดข้อมูลทางวิชาการไป อาจจะเสียเปรียบผ้อู น่ื ในการดำรงชีวติ และ การแกป้ ญั หา เพราะวา่ ในปจั จุบันน้ีโลกได้เปล่ยี นแปลงไป อยา่ งรวดเร็ว มนษุ ย์และสงั คมถกู เปล่ียนเพราะความเจรญิ กา้ วหน้าทางวิชาการ ดงั นน้ั มนุษย์จำเป็นที่ จะตอ้ งได้รับความรู้และข้อมลู ทางวิชาการ มาใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อใหไ้ ด้คำตอบท่ดี ีที่สุดในการ ดำรงชวี ติ จากความเชอื่ พื้นฐาน เร่ืองการใช้ขอ้ มูล 3 ประเภทพรอ้ มกนั ประกอบการตัดสนิ ใจแก้ปัญหา เป็นลักษณะเด่นของเรื่อง \"คิดเป็น\" การกำหนดให้ใช้ข้อมูลประเภทต่าง ๆ วิเคราะห์และหาหนทาง แกป้ ัญหา และเพือ่ ปอ้ งกันไม่ใหบ้ ุคคลใชข้ ้อมูลพจิ ารณาปัญหาจากจดุ ยืนหรือมติ เิ ดียว 1. เสรแี ละอำนาจการตดั สินใจกำหนดชะตาชวี ติ ตนเอง ความเชอ่ื พ้ืนฐานข้อนีม้ าจากคำสั่ง สอนของพุทธศาสตร์โดยตรง และปรชั ญาการศึกษาสำนกั มนษุ ยนยิ ม คอื พุทธศาสนา สอนวา่ ปญั หา หรือความทุกขข์ องมนุษย์เกิดขน้ึ ตามกระบวนการแหง่ เหตผุ ล และทกุ ข์หรือปญั หาของมนษุ ยเ์ ปน็ สิ่งที่ แก้ไขได้ พร้อมทัง้ ได้ให้วธิ แี ก้ไขดว้ ย อริยสัจ 4 กล่าวโดยสรุป ความเชื่อพื้นฐานของการ \"คิดเป็น\" มาจากธรรมชาติของมนุษย์ที่ว่าสิ่งที่เป็นยอด ปรารถนา คือ ความสขุ และมนษุ ย์เราจะมีความสุขที่สุดเม่ือตนเอง และสงั คม สิ่งแวดล้อม กลมกลืน กันอยา่ งราบรื่น ทั้งด้านวัตถุ กาย และใจ การที่มนษุ ย์เรากระทำไดย้ ากนัน้ แต่อาจทำใหต้ นเอง และ ส่ิงแวดลอ้ มประสมกลมกลืนกนั ไดเ้ ทา่ ท่ีแตล่ ะคน หรอื กล่มุ คนจะสามารถทำได้ โดยกระทำดงั ตอ่ ไปนี้
156 1. ปรบั ปรุงตวั เองใหเ้ ขา้ กบั สงั คมสิง่ แวดล้อม 2. ปรับสังคมและส่งิ แวดล้อมใหเ้ ข้ากับตวั เรา 3. ปรบั ปรุงทงั้ ตัวเราและสงั คมสง่ิ แวดล้อม ท้งั สองด้านให้ประสมกลมกลืนกนั 4. หลกี สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ มหนึง่ ไปสู่สังคมสิ่งแวดล้อมหน่ึงท่ีเหมาะสมกบั ตน บุคคลที่จะสามารถดำเนินการข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลายข้อเพื่อตนเองและสังคมสิ่งแวดล้อม ประสมกลมกลนื กนั เพอื่ ตนเองจะได้มีความสขุ น้ัน บคุ คลผนู้ น้ั ต้อง \"คดิ เปน็ \" เพราะการคิดเปน็ การทำ ใหบ้ คุ คลสามารถแก้ไขปญั หาได้ บคุ คลทมี่ แี ต่ความจำ ยอ่ มไม่สามารถดำเนินการตามข้อใดข้อหนึ่งใน 4 ข้อได้ คนที่ทำเช่นนี้ได้ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถคิดแก้ปัญหา สามารถรู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ และรู้จักธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในสงั คมนัน้ การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน จะสามารถช่วยพัฒนาการคิดเป็นให้เกิดขึน้ ได้ โดยครูควร เปิดโอกาสให้ผู้เรียนไดค้ ิด ตัดสินใจ และลงมือปฏิบตั ิจรงิ ในกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะใหเ้ กิดกระบวนการ เรียนรู้ และเกิดกระบวนการคิด โดยการคิดนั้นควรส่งเสริมการใช้เหตุผล หลักคุณธรรมเป็นสำคัญ เพ่อื ให้รู้ว่าเขาเปน็ ใคร ทำอะไร จะทำอย่างไร ทำเพื่ออะไร จะได้ผลอยา่ งไร ซ่งึ การดำเนินการดังกล่าว ครสู ามารถนำกระบวนการ \"คิดเปน็ \" ซึง่ เปน็ กระบวนการคิดทีม่ กี ารรวบรวมข้อมูลดา้ นตา่ ง ๆ ให้ครบ ก่อนการตดั สินใจ จงึ นา่ จะเปน็ กระบวนการคดิ ท่ีเหมาะสมกับการดำรงชวี ิตในยุคข่าวสารข้อมูลได้เป็น อย่างดี
157 ใบงาน บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 4 เรอ่ื งการคดิ เปน็ ให้ผู้เรียนร่วมกันเสนอกรณีตัวอย่างการตัดสินใจด้วยกระบวนการคิดเป็น และร่วมกัน รวบรวมข้อมูลทั้ง 3 ด้าน บันทึกลงไว้ในแบบฟอร์มจำแนกข้อมูลจากนั้น ให้ช่วยกันฝึกการวิเคราะห์ และสงั เคราะหข์ อ้ มูล กำหนดทางเลือกในการตัดสินใจ 2 - 3 ทางเลอื กทเ่ี หมาะสมและเปน็ ไปได้ แล้ว เลอื ก 1 ทางเลอื กในการตัดสินใจ ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจลงในแบบฟอร์มท่กี ำหนด แบบบันทีกข้อมูล 1. ช่อื กรณีตัวอย่าง .............................................................................................................................................................. 2. สาระของกรณีตัวอย่าง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. ข้อมลู ท่ีจำแนกทั้ง 3 ด้าน คอื ด้านวิชาการ ดา้ นตนเอง และด้านสงั คมและสิ่งแวดล้อม ข้อมูลด้านวิชาการ ข้อมลู ด้านตนเอง ข้อมูลดา้ นสงั คมและ สง่ิ แวดลอ้ ม
158 4. ทางเลอื กที่เสนอเพ่ือการพจิ ารณาตัดสินใจ 1) .................................................................................................................................................... 2) ........................................................................................................................................................ 3) ......................................................................................................................................................... 5. ทางเลอื กท่ีตัดสินใจแลว้ ลงมือปฏิบตั ิ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
159 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เร่อื งการคดิ เป็น ให้ผู้เรียนร่วมกันเสนอกรณีตัวอย่างการตัดสินใจด้วยกระบวนการคิดเป็น และร่วมกัน รวบรวมข้อมูลทั้ง 3 ด้าน บันทึกลงไว้ในแบบฟอร์มจำแนกข้อมูลจากนั้น ให้ช่วยกันฝึกการวิเคราะห์ และสงั เคราะห์ขอ้ มูล กำหนดทางเลือกในการตัดสินใจ 2 - 3 ทางเลือกที่เหมาะสมและเปน็ ไปได้ แล้ว เลอื ก 1 ทางเลือกในการตัดสินใจ ให้เหตุผลประกอบการตัดสนิ ใจลงในแบบฟอรม์ ท่ีกำหนด (อยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน)
160 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 เรอ่ื งการคดิ เปน็ คำช้ีแจง ผู้เรียนอ่านคำถามท่ีละข้อ แล้วตอบคำถามโดยกาเครื่องหมาย X ทับตัวอกั ษร ก ข ค ง 1. ดร.โกวิท วรพิพฒั น์ มีความเกย่ี วขอ้ งกับข้อใด ก. ปรชั ญา ข. คดิ เปน็ ค. การปรับตวั ง. ความเชอ่ื พ้ืนฐาน 2. ปรัชญาพนื้ ฐานของการศกึ ษานอกโรงเรยี น คอื ข้อใด ก. ทำเป็น ข. ทำได้ ค. คิดเปน็ ง. คดิ ได้ 3. ความเชือ่ ตามปรัชญาพืน้ ฐานของการศึกษานอกโรงเรียน คอื ขอ้ ใด ก. มนษุ ยท์ ุกคนต้องการความสบาย ข. มนษุ ยท์ ุกคนต้องการความอสิ ระ ค. มนุษย์ทกุ คนตอ้ งการความสะดวก ง. มนษุ ยท์ ุกคนต้องการความสุข 4. ข้อมลู ตนเอง ขอ้ มลู สังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม และขอ้ มูลวิชาการ มีความเก่ยี วขอ้ งกบั ขอ้ ใด ก. กระบวนการคดิ เป็น ข. กระบวนการตดั สนิ ใจ ค. กระบวนการคิด วิเคราะห์ ง. กระบวนการแสวงหาความรู้ 5. ความหมายของ “คดิ เปน็ ” คอื ข้อใด ก. การคิดอย่างรอบคอบเพอ่ื การแกป้ ญั หา โดยอาศัยขอ้ มูลตนเอง ข้อมูลสงั คมสิง่ แวดลอ้ มและข้อมูลวชิ าการ ข. การคดิ อย่างอย่างมีสติ และใช้เหตุผลเพอ่ื การปรบั ตนเองและการตัดสินใจอย่งถูกตอ้ ง ค. การคดิ วิเคราะห์ และแก้ปญั หาท่ีเกิดขึน้ เพื่อใหต้ นเองเกดิ ความสขุ และความพึงพอใจ ง. การคดิ อย่างใครค่ รวญ ไตรต่ รอง เพอ่ื เลือกปฏิบัตอิ ย่างมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
161 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 เรอื่ งการคดิ เป็น 1. ข 2. ค 3. ง 4. ก 5. ก
162 แบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 เรือ่ ง การวิเคราะห์ศักยภาพธุรกจิ 1. ศักยภาพทางธรุ กิจหมายถึงข้อใด ก. การพฒั นาสนิ คา้ หรอื ผลติ ภณั ฑ์ ข. การประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ค. การเปลย่ี นแปลงอยา่ งมีกระบวนการโดยมีจุดมงุ่ หมาย ง. ธรุ กจิ ทบ่ี ุคคลมีความสามารถพัฒนาสินค้าให้สามารถอยู่ในตลาดได้ 2. การพัฒนาศักยภาพหมายถึงข้อใด ก. การแยกแยะสิง่ ท่ีจะพิจารณาออกเปน็ ส่วนย่อย ข. การเปล่ียนแปลงอยา่ งมกี ระบวนการโดยมีจดุ มุ่งหมาย ค. การนำเอาความสามารถมาใชป้ ระโยชน์เพอ่ื ผลงานท่ีดที ี่สุด ง. การนำความสามารถทีซ่ ่อนเรน้ ภายในมาใช้ประโยชนอ์ ย่างมกี ระบวนการ 3. การวเิ คราะหต์ ำแหนง่ ธุรกิจโดยท่ัวไปแบง่ เป็นกี่ระยะ ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 4. ธุรกจิ ทอ่ี ยใู่ นชว่ งการขยายตัวหรอื การทรงตัวเปน็ ธรุ กิจระยะใด ก. ระยะสรา้ งตัว ระยะทรงตวั ข. ระยะเรมิ่ ตน้ ระยะทรงตัว ค. ระยะสร้างตวั ระยะตกตำ่ หรอื สูงขึ้น ง. ระยะเริม่ ตน้ ระยะตกต่ำหรือสงู ขน้ึ 5. วฎั จักรของการประกอบอาชพี ธรุ กิจ การค้า หรอื บรกิ ารหมายถึงขอ้ ใด ก. เสน้ ทางชว่ งเวลา ข. เส้นทางของเวลา ค. เส้นทางธรุ กิจ ง. เสน้ ทางการบริการ
163 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน บทเรียนออนไลน์ที่ 5 เรอื่ ง การวิเคราะห์ศักยภาพธรุ กิจ 1. ง 2. ง 3. ง 4. ก 5. ข
164 ใบกจิ กรรม บทเรยี นออนไลน์ที่5 เรือ่ ง การวเิ คราะห์ศกั ยภาพธุรกิจ วดี ีโอชแี้ จ้งการเรียนรู้ โดยครูผู้สอน https://youtu.be/LyYQZsUS1ZQ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน เรือ่ ง การวเิ คราะห์ศักยภาพธรุ กิจ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdqxP_s1qtpb29RjTF49AGKfi68d Ujf-sT70MHpjjSOzrdJYw/viewform?usp=sf_link แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน เรอื่ งการวิเคราะหท์ นุ ปัจจยั การผลิตหรือการบริการ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfqRUKK3P- fTj0dw19iG72BHsBpSi0uZOU7446kQGVBGg8SRw/viewform?usp=sf_link ใบความรเู้ ร่ือง การวเิ คราะห์ศักยภาพธุรกจิ https://drive.google.com/open?id=1CNGY_DrF90lhdfctrBtZv8wR9cwNcYepEi YfHb1fW4k ใบความรู้เรื่อง การวเิ คราะหท์ นุ ปจั จยั การผลติ หรือการบรกิ าร https://drive.google.com/open?id=14CEqPM_szgri3O69ok7rlZZnQsxhWbeE6 mDGwU2sYyY วดี ีโอเรอื่ งพัฒนาอาชพี ให้มนั่ คง การวิเคาระห์ https://youtu.be/nABbXndBxoo ใบงานเรอ่ื ง การวิเคราะหศ์ ักยภาพธุรกจิ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfkm7SHM7bSIbrqki7x1Nqr16bv 8zleUB91V5NwLcQc1bEW4A/viewform?usp=sf_link ใบงานเรอ่ื ง การวิเคราะห์ทุนปัจจยั การผลิตหรือการบรกิ าร https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSeWTw0uvQxVcBMJApnSuqVM Dv3zMVxBP3kH1ONVpxB_FMigkg/viewform?usp=sf_link วดี ีโอสรุปการเรียนรโู้ ดยครูผสู้ อน https://youtu.be/up5oQfu7Zpc
165 ใบความรู้ บทเรยี นออนไลน์ที่ 5 เรือ่ ง การวเิ คราะหศ์ กั ยภาพธุรกจิ ศักยภาพ คือ ความสามารถภายในร่างกายที่ซ่อนเร้น และยังไม่ถูกนำมาใช้ในการพัฒนา ธรุ กิจหรือดำเนนิ การในสิ่งต่างๆ การพัฒนา คอื การเปลี่ยนแปลงอยา่ งมีกระบวนการโดยมีจุดม่งุ หมายกำหนดไว้ การพัฒนาศักยภาพ คือ การนำเอาความสามารถที่ซ่อนเร้นภายในมาใช้ประโยชน์อย่างมี กระบวนการ เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลงานเกดิ ประสิทธิภาพทด่ี ีท่สี ุด การวิเคราะห์ คือ การแยกแยะสง่ิ ทจ่ี ะพจิ ารณาออกเปน็ สว่ นยอ่ ย ท่ีมคี วามสมั พันธ์กัน รวมถึง สบื คน้ ความสัมพนั ธ์สว่ นย่อยเหลา่ นนั้ การวเิ คราะห์ศักยภาพธุรกิจ คือ การแยกแยะสว่ นยอ่ ยของความสามารถท่ซี ่อนเร้นในตัวตน นำมาใชป้ ระโยชนอ์ ย่างมกี ระบวนการ เพื่อผลงานท่ีดที ส่ี ดุ คุณค่าและความจำเป็นของการวเิ คราะห์ศักยภาพธรุ กจิ 1. ผปู้ ระกอบการรู้จักตวั เอง, คู่แข่งขนั 2. ผู้ประกอบการสามารถวางกลยุทธ์ทางธุรกิจได้หลายระดับ และแบ่งแยกหน้าที่ได้ชัดเจน เหมาะสม กบั ความถนดั 3. ผู้ประกอบการสามารถมองหาลทู่ างการลงทุนได้ดขี ้นึ ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์ศกั ยภาพธุรกิจ คุณพงษ์ศกั ดิ์ ชัยศริ ิ เจา้ ของรา้ นเฟอร์นิเจอรเ์ ครอ่ื งเรอื นไม้ 1. มีใจรักดา้ นการค้าเฟอร์นิเจอร์ ชอบบริการงานดา้ นการขาย 2. มีมนษุ ย์สมั พนั ธ์ทีด่ ี ยม้ิ แยม้ แจม่ ใส เปน็ กนั เอง อ่อนน้อมถอ่ มตน 3. มีความซื่อสัตยต์ อ่ ลูกค้า ขายสนิ ค้าเหมาะสมกับราคา ไม่เอาเปรียบลกู ค้า 4. มคี วามรู้ดา้ นเฟอรน์ เิ จอรเ์ ครอ่ื งเรือนไม้เป็นอย่างดี 5. ทำเลท่ีต้ังรา้ นมีความเหมาะสม 6. มเี งนิ ทนุ หมุนเวียนคลอ่ งตวั 7. มสี ว่ นแบง่ ตลาดในทอ้ งถ่นิ ประมาณ 30% 8. ลกู ค้าส่วนใหญ่อาชีพพนกั งานบรษิ ทั , ข้าราชการ ระดบั รายไดป้ านกลาง ในหม่บู า้ นจดั สรร บริเวณใกล้เคียงประมาณ 7 หมบู่ า้ นแถบชานเมอื ง 9. ในทอ้ งถิน่ มีผปู้ ระกอบกิจการค้าเฟอร์นเิ จอรไ์ มเ้ ช่นเดยี วกนั 3 ราย 10. ทศิ ทางในอาชพี นี้ ยงั มีอนาคตอกี ยาวไกลจะมีจำนวนหมูบ่ ้านจัดสรรเพิ่มข้ึนในแถบน้ีอีก ประมาณ 5 หมบู่ ้าน
166 จะเห็นได้ว่า การวิเคราะห์ศักยภาพมีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาอาชีพให้เข้มแขง็ มาก หากได้วิเคราะห์แยกแยะศักยภาพของตนเองอย่างรอบด้าน ปัจจัยภายในตัวตนผู้ประกอบการ ปัจจัยภายนอกของผู้ประกอบการ โอกาสและอุปสรรคในการประกอบธุรกิจการค้า ยิ่งวิเคราะห์ได้ มากและถูกต้องแมน่ ยำมาก จะทำใหผ้ ู้ประกอบการรู้จักตนเอง อาชพี ของตนเองได้ดีย่ิงขึ้นเหมือนคำ กล่าว รู้เขา ร้เู รา รบร้อยคร้ัง ชนะทัง้ ร้อยคร้ัง
167 ใบงาน บทเรียนออนไลน์ที่ 5 วิชา การวเิ คราะหศ์ ักยภาพธุรกจิ 1. ใหผ้ ้เู รยี นวิเคราะหศ์ ักยภาพธรุ กิจอาชีพของตนเอง หรอื อาชพี ที่ตนเองสนใจจากปัจจัยภายในตวั ตน ของผู้เรียนและปจั จัยภายนอกท่แี วดลอ้ ม รวมถงึ โอกาสทีด่ ี อุปสรรคที่อาจเกิดข้นึ เป็นลำดับ เหมือน ตวั อยา่ งใบความรทู้ ี่ 1 ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
168 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 เร่อื งการวเิ คราะหศ์ ักยภาพธรุ กจิ 1. ใหผ้ เู้ รียนวเิ คราะหศ์ ักยภาพธุรกิจอาชพี ของตนเอง หรืออาชีพทตี่ นเองสนใจจากปัจจยั ภายในตวั ตน ของผเู้ รยี นและปจั จยั ภายนอกที่แวดลอ้ ม รวมถึงโอกาสท่ีดี อุปสรรคทอี่ าจเกิดขึน้ เปน็ ลำดับ เหมือน ตัวอย่างใบความรู้ที่ 1 (อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน) ตอบ ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์ศักยภาพธุรกจิ คณุ พงษศ์ ักด์ิ ชัยศิริ เจ้าของร้านเฟอรน์ เิ จอรเ์ ครือ่ งเรือนไม้ 1. มีใจรกั ดา้ นการค้าเฟอร์นเิ จอร์ ชอบบรกิ ารงานดา้ นการขาย 2. มีมนษุ ย์สัมพันธท์ ี่ดี ย้ิมแย้มแจ่มใส เป็นกนั เอง ออ่ นนอ้ มถ่อมตน 3. มคี วามซอ่ื สตั ย์ตอ่ ลกู คา้ ขายสนิ คา้ เหมาะสมกับราคา ไม่เอาเปรยี บลูกค้า 4. มคี วามรดู้ ้านเฟอร์นเิ จอรเ์ ครือ่ งเรอื นไมเ้ ป็นอยา่ งดี 5. ทำเลทีต่ งั้ รา้ นมคี วามเหมาะสม 6. มเี งินทนุ หมุนเวียนคลอ่ งตวั 7. มีส่วนแบง่ ตลาดในทอ้ งถน่ิ ประมาณ 30% 8. ลกู คา้ สว่ นใหญ่อาชพี พนกั งานบรษิ ัท, ขา้ ราชการ ระดับรายไดป้ านกลาง ในหมู่บา้ นจัดสรรบรเิ วณ ใกลเ้ คียงประมาณ 7 หมู่บ้านแถบชานเมือง 9. ในทอ้ งถน่ิ มผี ู้ประกอบกิจการคา้ เฟอร์นิเจอร์ไมเ้ ชน่ เดียวกัน 3 ราย 10. ทิศทางในอาชีพนี้ ยงั มีอนาคตอีกยาวไกลจะมีจำนวนหมบู่ ้านจัดสรรเพม่ิ ข้ึนในแถบนี้อกี ประมาณ 5 หมบู่ า้ น
169 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 เรือ่ ง การวเิ คราะห์ศักยภาพธุรกจิ 1. ศกั ยภาพทางธรุ กิจหมายถึงข้อใด ก. การพฒั นาสนิ คา้ หรือผลติ ภณั ฑ์ ข. การประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ค. การเปล่ยี นแปลงอยา่ งมีกระบวนการโดยมีจุดมุ่งหมาย ง. ธุรกจิ ทบ่ี คุ คลมีความสามารถพัฒนาสนิ ค้าให้สามารถอยู่ในตลาดได้ 2. การพฒั นาศักยภาพหมายถึงข้อใด ก. การแยกแยะสิง่ ท่ีจะพจิ ารณาออกเปน็ ส่วนย่อย ข. การเปล่ียนแปลงอยา่ งมกี ระบวนการโดยมจี ดุ มุง่ หมาย ค. การนำเอาความสามารถมาใช้ประโยชน์เพอ่ื ผลงานทด่ี ที ี่สุด ง. การนำความสามารถทีซ่ ่อนเรน้ ภายในมาใช้ประโยชน์อย่างมกี ระบวนการ 3. การวิเคราะห์ตำแหนง่ ธรุ กจิ โดยท่ัวไปแบง่ เป็นกร่ี ะยะ ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 4. ธุรกจิ ทอ่ี ยใู่ นชว่ งการขยายตัวหรอื การทรงตัวเปน็ ธุรกจิ ระยะใด ก. ระยะสร้างตัว ระยะทรงตัว ข. ระยะเร่มิ ต้น ระยะทรงตัว ค. ระยะสร้างตวั ระยะตกตำ่ หรอื สูงขึ้น ง. ระยะเริม่ ตน้ ระยะตกต่ำหรอื สงู ขน้ึ 5. วัฎจกั รของการประกอบอาชพี ธรุ กจิ การค้า หรอื บริการหมายถึงขอ้ ใด ก. เสน้ ทางชว่ งเวลา ข. เส้นทางของเวลา ค. เส้นทางธุรกิจ ง. เสน้ ทางการบริการ
170 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 เรอ่ื ง การวิเคราะห์ศักยภาพธรุ กจิ 1. ง 2. ง 3. ง 4. ก 5. ข
171 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 เรอื่ ง การวิเคราะห์ทุนปัจจยั การผลิตหรือการบริการ 1. ขอ้ ใดจดั เป็นปัจจยั ในการผลติ ก. ผู้ประกอบการ ท่ีดนิ แรงงาน การบรกิ าร ข. แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติ คา่ เช่า ค. ที่ดิน แรงงาน ทุน ผู้ประกอบการ ง. ทนุ เคร่ืองจักร ทรพั ยากร ท่ีดนิ 2. การใช้ประโยชน์จากสง่ิ ของและบรกิ าร เพ่อื สนองความต้องการของมนุษยส์ อดคลอ้ งกบั ข้อใด ก. ผู้ผลิต ข. ผบู้ รโิ ภค ค. ปจั จยั พ้นื ฐาน ง. ผู้ประกอบการ 3. ผบู้ รโิ ภคจะเลอื กซ้อื สนิ ค้า โดยคำนึงเรื่องใดมากที่สุด ก. สินค้าราคาถูกแตม่ ีคุณภาพดี ข. คณุ ภาพของสินค้าที่ไดม้ าตรฐานและราคาตำ่ ค. รายได้ท่มี อี ยู่อย่างจำกัด และความเหมาะสมของราคาสนิ ค้า ง. ความพอใจสงู สดุ ภายใตร้ ายได้และทรัพยากรที่มีอยอู่ ย่างจำกัด 4. ขอ้ ใดจัดเป็นการกระจายรายได้ตามหนา้ ท่ีในการผลิต ก. ท่ีดิน แรงงาน กำไร คา่ จา้ ง ข. คา่ เชา่ คา่ จ้าง ดอกเบ้ีย กำไร ค. ทุน ค่าเช่า ดอกเบ้ีย แรงงาน ง. ต้นทนุ กำไร ดอกเบ้ยี แรงงาน 5. ผผู้ ลิตสนิ ค้าจะมกี ำไรสงู ข้นึ ด้วยวิธกี ารหลายอยา่ ง ยกเว้นข้อใด ก. มีการประชาสัมพันธ์สนิ คา้ และบริการไดม้ ากกว่าผผู้ ลิตรายอน่ื ข. ผลติ สนิ ค้าตรงตามความตอ้ งการและรสนิยมของผบู้ ริโภค ค. มีการกระจายสินค้าสู่ผบู้ รโิ ภคได้มากทีส่ ุด ง. องคก์ รของรฐั สนบั สนุนสนิ คา้ และบรกิ าร
172 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรยี นออนไลน์ท่ี 5 เรอื่ ง การวเิ คราะห์ทนุ ปัจจัยการผลิตหรอื การบริการ 1. ค 2. ข 3. ง 4. ข 5. ง
173 ใบความรู้ บทเรยี นออนไลน์ท่ี 5 เร่อื งการวเิ คราะห์ทุนปัจจัยการผลติ หรอื การบรกิ าร การวิเคราะห์ทุน ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตจึงมีความจำเป็นต่อการพัฒนาอาชีพ จะส่งผลต่อ ความเขม้ แขง็ ของอาชีพ ถ้าร้จู กั ลดต้นทนุ ใชท้ นุ อยา่ งเหมาะสมและประหยดั จดั หาทนุ ทดแทน ทุน หมายถึง ปัจจัยที่ใช้ในการลงทุนในการดำเนินการประกอบอาชีพ เพื่อหวงั ผลกำไรจาก การดำเนินการ ทุนถือว่าเปน็ ปัจจัยสำคญั ในการประกอบอาชีพใหด้ ำเนินงานไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ และมคี วามเจรญิ เตบิ โตอย่างต่อเน่ือง ต้นทุนการผลติ หมายถงึ ทนุ ในการดำเนนิ การประกอบอาชพี แบง่ ได้ 2 ประเภท คือ 1. ทนุ คงที่ คือปัจจยั ท่ผี ู้ประกอบการจดั หามา เพือ่ ใชใ้ นการจัดหาสนิ ทรัพยถ์ าวร เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ดิน อาคาร เครอ่ื งจักร เป็นตน้ สำหรับใช้ในการประกอบอาชีพทุนคงที่ สามารถแบ่ง ได้ 2 ลักษณะ คอื 1) ทุนคงทีท่ ี่เป็นเงนิ สด เป็นจำนวนเงินทีต่ ้องจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อนำมาใช้ใน การ ดำเนินการประกอบอาชพี 2) ทุนคงที่ที่ไม่เป็นเงินสด ได้แก่ พื้นที่ อาคารสถานที่ โรงเรือน รวมถึงค่าเสื่อม ราคาของ เครอ่ื งจกั ร 2. ทุนหมุนเวียน คือ ปัจจัยที่ผู้ประกอบการจัดหามา เพื่อใช้ในการดำเนินการจัดหา สินทรัพย์ หมุนเวียนในการดำเนินกิจกรรมอาชีพ เช่น วัตถุดิบในการผลิตสินค้าหรือการบริการ วัสดุสิ้นเปลือง คา่ แรงงาน ค่าขนส่ง คา่ ไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ เปน็ ตน้ ทุนหมนุ เวียนแบ่งออกเปน็ ดงั น้ี คือ 1. คา่ วสั ดุอุปกรณใ์ นการประกอบอาชพี ดังน้ี 1.1) วสั ดอุ ปุ กรณอ์ าชพี ในกลุ่มผลติ ผลผลติ เช่น งานอาชพี เกษตรกรรม เชน่ คา่ ปุ๋ย พันธพ์ุ ืช พันธส์ุ ัตว์ คา่ น้ำมัน เปน็ ตน้ 1.2) วสั ดอุ ุปกรณอ์ าชพี ในกล่มุ บรกิ าร เช่น อาชพี รับจา้ งซกั รีดเสอ้ื ผ้า เชน่ ค่าผงซกั ฟอก ค่าน้ำยาซกั ผา้ เป็นตน้ 2. ค่าจ้างแรงงาน เป็นค่าจ้างแรงงานในการผลิตหรือบริการ เช่น ค่าแรงงานในการไถดิน ค่าจ้างลูกจ้างในรา้ นอาหาร 3. คา่ เช่าที่ดิน/สถานท่ี เป็นคา่ เชา่ ทีด่ ิน/สถานท่ใี นการประกอบธรุ กจิ 4. คา่ ใชจ้ ่ายอน่ื ๆ เป็นค่าใชจ้ า่ ยในกรณีอ่นื ทน่ี อกเหนือจากรายการ
174 5. คา่ ใช้จา่ ยในครัวเรือน เป็นแรงงานในครัวเรือนสว่ นใหญ่ ในการประกอบอาชีพอาจจะไม่ได้ นำมาคิดเป็นต้นทุน จึงไม่ทราบข้อมูลการลงทุนที่ชัดเจน ดังนั้นการคิดค่าแรงในครัวเรือน จึง จำเปน็ ตอ้ งคิดดว้ ยโดยคิดในอตั ราคา่ แรงขน้ั ตำ่ ของทอ้ งถิ่นน้ันๆ 6. คา่ เสยี โอกาสท่ีดิน กรณีเจ้าของธุรกิจมที ่ีดินเป็นของตนเอง การคดิ ตน้ ทุนให้คิดตามอัตรา ค่าเช่าทดี่ นิ ในทอ้ งถิ่นหรอื บริเวณใกล้เคยี ง ในการดำเนินงานประกอบอาชีพ การบริหารเงินทุนหรือด้านการเงินนั้น เป็นสิ่งท่ี ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมีผลต่อความมั่นคงของอาชีพว่าจะก้าวหน้า หรือลม้ เหลวได้
175 ใบงาน บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 เร่ืองการวเิ คราะหท์ ุนปจั จยั การผลิตหรอื การบรกิ าร 1. ใหผ้ เู้ รียนกำหนดทนุ และวเิ คราะหค์ วามจำเป็นในการพัฒนาอาชพี เพือ่ จะทำใหอ้ าชพี มคี วาม เข้มแข็ง (อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน) รายการทนุ เหตผุ ลในการใช้ทุน รายการ จำนวน
176 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 5 เรื่อง การวเิ คราะหท์ ุนปัจจยั การผลติ หรือการบริการ 1. ขอ้ ใดจดั เป็นปัจจัยในการผลิต ก. ผู้ประกอบการ ท่ีดนิ แรงงาน การบริการ ข. แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติ ค่าเช่า ค. ที่ดิน แรงงาน ทุน ผปู้ ระกอบการ ง. ทุน เครอ่ื งจักร ทรพั ยากร ท่ีดนิ 2. การใช้ประโยชน์จากสิ่งของและบริการ เพ่อื สนองความต้องการของมนษุ ย์สอดคล้องกบั ข้อใด ก. ผู้ผลิต ข. ผู้บรโิ ภค ค. ปัจจัยพน้ื ฐาน ง. ผู้ประกอบการ 3. ผ้บู ริโภคจะเลือกซื้อสนิ คา้ โดยคำนึงเรอ่ื งใดมากทส่ี ุด ก. สนิ ค้าราคาถกู แตม่ ีคุณภาพดี ข. คณุ ภาพของสนิ ค้าทไ่ี ดม้ าตรฐานและราคาตำ่ ค. รายได้ทมี่ ีอยอู่ ยา่ งจำกัด และความเหมาะสมของราคาสนิ ค้า ง. ความพอใจสงู สุดภายใต้รายไดแ้ ละทรัพยากรท่มี อี ยู่อย่างจำกดั 4. ขอ้ ใดจดั เปน็ การกระจายรายได้ตามหนา้ ท่ใี นการผลติ ก. ท่ีดนิ แรงงาน กำไร คา่ จา้ ง ข. คา่ เชา่ ค่าจ้าง ดอกเบย้ี กำไร ค. ทุน ค่าเช่า ดอกเบี้ย แรงงาน ง. ต้นทุน กำไร ดอกเบ้ีย แรงงาน 5. ผู้ผลติ สินค้าจะมกี ำไรสูงขึ้นดว้ ยวธิ ีการหลายอย่าง ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. มีการประชาสัมพันธส์ นิ คา้ และบริการไดม้ ากกว่าผ้ผู ลติ รายอ่ืน ข. ผลิตสินคา้ ตรงตามความตอ้ งการและรสนิยมของผูบ้ รโิ ภค ค. มกี ารกระจายสินคา้ สู่ผู้บริโภคไดม้ ากทสี่ ดุ ง. องคก์ รของรฐั สนบั สนุนสินคา้ และบรกิ าร
177 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 5 เรือ่ ง การวเิ คราะหท์ ุนปจั จัยการผลติ หรอื การบรกิ าร 1. ค 2. ข 3. ง 4. ข 5. ง
178 แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูร้ ายวชิ าการเรยี นรโู้ ดยวธิ โี ครงงาน ทร03037 ใบงาน กจิ กรรม คะแนน - 1 เรอ่ื งการเขียนโครงงาน 1. ประโยชน์ของการเขียนโครงงาน 10 2. ประเภทของโครงงาน 20 2 เรื่องกระบวนการและข้ันตอนการทำโครงงาน 10 เรือ่ งวิเคราะห์ประเภทของโครงงาน 20 40 3 เรอ่ื งการกำหนดหัวเรื่องและการเขียนรายละเอยี ดตามเคา้ โครงของ โครงงาน เร่ืองการวิเคราะหเ์ น้ือหาเพอ่ื นำมาจัดทำเปน็ โครงงาน 4 เรื่องการวดั และประเมนิ ผลโครงงาน 5 สอบระหว่างภาค 6 สอบปลายภาค
แผนการจัดกจิ กรรมเรียนรู้ รายวชิ าแบบออนไลน์ รายวชิ า การเรยี นรูโ้ ดยวิธโี ครงงาน ทร03037 จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดับประถมศกึ ษา จำนวน 120 ช่ัวโมง บทเรยี น หวั เร่อื ง วัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม กิจกรรมการเรยี นรู้ จำนวน ส่อื /แหลง่ การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรทู้ ี่ ออนไลน์ ชั่วโมง เรียนรู้ / ประเมนิ ผล คาดหวัง 1 วิชาการเรียนรู้ 1. เพ่ือให้ผเู้ รียนอธบิ าย และ ผเู้ รียนศึกษาเรยี นรจู้ าก ออนไลน์ บทเรียน - 1. ผู้เรยี นอธิบาย 10 1.อนิ เตอร์เนต็ ออนไลนท์ ่ี 1 และเหน็ โดยวธิ ีโครงงาน เห็นประโยชนข์ องการเขยี น อินเตอรเ์ นต็ วิชา การเรยี นรู้โดย ชวั่ โมง 2.คลปิ วดี ีโอ ประโยชน์ของการ เขียนโครงงาน ทร03037 โครงงาน วธิ โี ครงงาน ทร03037 ค้นคว้า 3.Google Site 2. ผูเ้ รียนบอก ประเภทของ หวั เรือ่ ง การเขียน 2. เพื่อให้ผ้เู รยี นบอกประเภทของ ความรทู้ ีเ่ กีย่ วขอ้ ง โครงงานได้ โครงงานได้ -ให้นักศกึ ษาบันทกึ ความรทู้ ่ไี ด้ โครงงาน ลงในสมดุ บันทกึ การเรยี นรู้ 179
แผนการจดั กจิ กรรมเรียนรู้ รายวชิ าแบบออนไลน์ รายวิชา การเรียนร้โู ดยวธิ โี ครงงาน ทร03037 จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา จำนวน 120 ช่ัวโมง บทเรยี น หวั เรือ่ ง วัตถปุ ระสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรทู้ ่ี ช่วั โมง /ออนไลน์ ประเมนิ ผล คาดหวัง ออนไลน์ พฤตกิ รรม 1.ผ้เู รียนศึกษาเรียนรูจ้ าก Google Site การเรียนรู้ โดยวธิ ีโครงงาน ทร03037 3 ชั่วโมง 1.อนิ เตอรเ์ น็ต บทเรยี น ชอ่ ง1 1.ผูเ้ รยี นเขียน 2 วิชาการเรียนรู้โดย 1.เพ่ือใหผ้ ู้เรียนเขยี น เร่ืองกระบวนการและขัน้ ตอนการทำโครงงาน 2.คลปิ วีดีโอ ออนไลนท์ ่ี 2 โครงงานตาม -ผู้เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 3.Google Site ขน้ั ตอนต่างๆได้ วิธโี ครงงาน โครงงานตามขน้ั ตอน -ผเู้ รยี นทำกจิ กรรมท่ี 1 เร่ืองกระบวนการและ ขนั้ ตอนการทำโครงงาน ทร03037 ตา่ ง ๆ ได้ -ผู้เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน 2.ผู้เรียนศึกษาเรยี นรจู้ าก Google Site การเรยี นรู้ หัวเรอื่ ง การเขยี น โดยวิธีโครงงาน ทร03037 เรอ่ื งวิเคราะห์ประเภท ของโครงงาน โครงงาน -ผู้เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น -ผู้เรียนทำกิจกรรมที่ 2 เรอื่ งวเิ คราะหป์ ระเภทของ โครงงาน 3 ช่ัวโมง -ผู้เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน 180
แผนการจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ รายวชิ าแบบออนไลน์ รายวชิ า การเรียนรโู้ ดยวธิ ีโครงงาน ทร03037 จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดับประถมศกึ ษา จำนวน 120 ชั่วโมง บทเรียน หวั เรอื่ ง วัตถุประสงค์เชิง กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นร้ทู ่ี ประเมินผล คาดหวงั ออนไลน์ พฤติกรรม ช่ัวโมง /ออนไลน์ บทเรียน ออนไลน์ที่ 3 ชอ่ ง2 3. ผ้เู รยี นวิเคราะห์ 3 วิชาการเรยี นรู้ 3. เพือ่ ให้ผู้เรยี น 1.ผู้เรยี นศกึ ษาเรียนรจู้ าก Google Site 3 1.อนิ เตอร์เนต็ เนอ้ื หาเพอื่ นำมา จัดทำเป็นโครงงาน โดยวิธโี ครงงาน วเิ คราะห์เนอื้ หาเพ่ือ วิชาการเรียนรู้โดยวธิ ีโครงงาน ทร03037 ชัว่ โมง 2.คลิปวีดโี อ และแยกประเภท โครงงานได้ ทร03037 นำมาจัดทำเป็น เร่อื งการกำหนดหัวเรื่องและการเขียนรายละเอยี ดตาม 3.Google Site 4. ผู้เรียนอธบิ ายการ ดำเนนิ งานตามหัวขอ้ หัวเรอื่ ง การเขยี น โครงงานและแยก เค้าโครงของโครงงาน ทก่ี ำหนดในการเขยี น โครงงาน ประเภทโครงงานได้ -ผู้เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน ช่อง3 โครงงาน 4. เพอ่ื ให้ผู้เรยี น -ผู้เรยี นทำกิจกรรมที่ 1 เรื่องการกำหนดหวั เร่อื งและ อธิบายการ การเขียนรายละเอียดตามเค้าโครงของโครงงาน ดำเนินงานตาม 2.ผู้เรยี นศึกษาเรียนรู้จาก Google Site 3 หวั ข้อทกี่ ำหนดใน วิชาการเรียนรโู้ ดยวิธีโครงงาน ทร03037 เร่ืองการ ชว่ั โมง การเขียนโครงงาน วิเคราะห์เนื้อหาเพอื่ นำมาจัดทำเปน็ โครงงาน -ผู้เรยี นทำกิจกรรมท่ี 2 เร่ืองการวิเคราะห์เนื้อหาเพอื่ นำมาจดั ทำเปน็ โครงงาน -ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 181
แผนการจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ รายวชิ าแบบออนไลน์ รายวชิ า การเรียนรโู้ ดยวิธีโครงงาน ทร03037 จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดบั ประถมศกึ ษา จำนวน 120 ชั่วโมง บทเรยี น หัวเร่อื ง วัตถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม กิจกรรมการเรยี นรู้ จำนวน สือ่ /แหล่ง การวดั และ กศน.4 ผลการเรียนรูท้ ี่ ออนไลน์ ช่ัวโมง เรียนรู้ / ประเมนิ ผล คาดหวัง 4 ออนไลน์ วชิ าการเรยี นรู้ 5. เพ่ือให้ผเู้ รยี นแบง่ น้ำหนกั 1.ผูเ้ รียนศึกษาเรียนร้จู าก 6 1.อินเตอรเ์ นต็ บทเรยี น ช่อง4 5. ผเู้ รียนแบ่ง โดยวิธโี ครงงาน คะแนน การประเมินโครงงาน Google Site ชั่วโมง 2.คลิปวดี ีโอ ออนไลนท์ ่ี 4 นำ้ หนกั คะแนน ทร03037 ตามข้นั ตอนตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ ง วชิ าการเรียนรโู้ ดยวธิ ีโครงงาน 3.Google การประเมินโครงงาน หัวเรอ่ื ง การเขียน เหมาะสม ทร03037 Site ตามข้ันตอนต่าง ๆ โครงงาน เร่ืองการวดั และประเมนิ ผล ได้อยา่ งเหมาะสม โครงงาน -ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน -ผูเ้ รยี นทำกจิ กรรมท่ี 1 เร่อื งการวดั และประเมนิ ผล โครงงาน -ผู้เรยี นทำแบบทดสอบหลัง เรียน 182
183 ภาคผนวก : สอ่ื เอกสารบทเรียนออนไลน์ 1-4 วิชาการเรยี นรู้โดยวธิ โี ครงงาน (ทร03037)
184 ใบกจิ กรรม บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 เรื่องการเขยี นโครงงาน ให้ผเู้ รยี นศึกษาเรียนรู้จากแบบเรยี น หรืออนิ เตอร์เนต็ เรื่องความหมายและความสำคัญของ โครงงาน https://panchalee.files.wordpress.com/2018/12/7_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3% E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0 %B9%89%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0% B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99.pdf
185 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เรอ่ื ง ขนั้ ตอนการทำโครงงาน คำสั่ง:ให้ผูเ้ รียนทำเครอ่ื งหมาย X ในขอ้ ท่ถี ูกต้อง 1. ข้อใดกล่าวถึงโครงงานไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ไมส่ ามารถนำไปใชไ้ ด้จรงิ ในชีวิตประจำวนั ข. ผทู้ ำโครงงานไมม่ สี ิทธิเ์ ลอื กหวั ขอ้ โครงงานของตนเอง ค. ผูท้ ำโครงงานสามารถเลอื กดำเนินการไดต้ ามความพอใจ ง. เป็นสิ่งท่ีชว่ ยสรา้ งความสัมพันธ์ระหวา่ งนกั เรยี นกบั ทปี่ รึกษาโครงงาน 2. ขอ้ ใดคอื ความสำคญั ของการทำโครงงาน ก. เรียนรจู้ ากประสบการณ์ตรง ข. พัฒนาความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ค. ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ ง. ถูกทกุ ข้อ 3. ความหมายของโครงงานเน้นสว่ นทสี่ ำคัญ คอื ขอ้ ใด ก. เปน็ กิจกรรมทีค่ รอู อกแบบให้ ข. เป็นกจิ กรรมท่ีครคู ดิ หวั ขอ้ ให้ ค. เป็นกจิ กรรมทผี่ ู้เรียนปฏิบตั ิไดด้ ้วยตนเอง ง. เป็นกจิ กรรมท่ผี ูเ้ รียนไดจ้ ัดทำเปน็ ไปตามการเรยี นการสอนปกติ 4. การปลกู พชื โดยไมใ่ ชด้ นิ เป็นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานที่เก่ยี วกับการสำรวจรวบรวมข้อมลู ข. โครงงานท่ีเก่ยี วกับการทดลอง ค. โครงงานทีเ่ กยี่ วกบั สง่ิ ประดษิ ฐห์ รอื การพฒั นา ง. โครงงานที่เกยี่ วกบั ทฤษฎีและหลักการ 5. โครงงานสำรวจความต้องการประกอบอาชีพของคนในชุมชนเปน็ โครงงานประเภทใด ก. โครงงานทเี่ กีย่ วกับการสำรวจรวบรวมขอ้ มูล ข. โครงงานทเ่ี ก่ียวกับการทดลอง ค. โครงงานทีเ่ กยี่ วกบั สิ่งประดษิ ฐ์หรอื การพัฒนา ง. โครงงานที่เกีย่ วกับทฤษฎแี ละหลักการ
186 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 เร่อื ง ขน้ั ตอนการทำโครงงาน 1. ค 2. ง 3. ค 4. ข 5. ก
187 ใบกจิ กรรม บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 เรอื่ งกระบวนการและขั้นตอนการทำโครงงาน วิเคราะหป์ ระเภทของโครงงาน ให้ผ้เู รียนศกึ ษาเรียนรจู้ ากแบบเรียน หรืออนิ เตอร์เนต็ เร่อื งเรือ่ งกระบวนการและขนั้ ตอนการทำ โครงงานวิเคราะห์ประเภทของโครงงาน http://slamunder1.blogspot.com/ วิธีดำเนินโครงงาน https://sites.google.com/a/krasang.ac.th/khorng-ngan- khxmphiwtexr-reuxng-sbu-smunphir/bth-thi-3-withi-danein-ngan ผลการศกึ ษาค้นคว้า http://nongnamzaa7725.blogspot.com/2013/12/4.html สรุปและอภิปรายโครงงาน https://sites.google.com/site/thebookcomplementstheknowledge/bth-thi-5- xphipray-phl-kar-danein-ngan
188 ใบความรู้ บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เรอื่ ง ขัน้ ตอนการทำโครงงาน ขน้ั ตอนที่ 1 การคดิ และเลอื กหัวเร่ือง เปน็ การหาหวั ข้อในการทดลอง ในการที่จะอยากรอู้ ยากเหน็ ขั้นตอนท่ี 2 การศกึ ษาเอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง รวมไปถงึ การขอคําปรึกษา หรอื ขอ้ มูลตา่ งๆจาก ผ้ทู รงคุณวุฒิ ที่เกี่ยวข้อง ขน้ั ตอนท่ี 3 การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน โดยทัว่ ไปเค้าโครงของโครงงานจะมีหวั ขอ้ ดงั ต่อไปนี้ หวั ขอ้ /รายการ รายละเอียดที่ต้องระบุ 1. ชอ่ื โครงงาน 1. ทําอะไร กับใคร เพ่อื อะไร 2. ชอ่ื ผู้ทําโครงงาน 2. ผรู้ ับผิดชอบโครงงานน้ี 3. ชื่อทปี่ รึกษาโครงงาน 3. ผู้ทรงคุณวุฒิตา่ งๆ 4. ระยะเวลาดาํ เนินการ 4. ระยะเวลาดาํ เนนิ งานโครงงานตง้ั แต่ตน้ จนจบ 5. หลกั การและเหตผุ ล 5. เหตผุ ลและความคาดหวงั 6. จุดหมาย/วตั ถปุ ระสงค์ 6. สง่ิ ท่ีตอ้ งการให้เกดิ เมื่อสนิ้ สุดการทาํ โครงงาน 7. สมมติฐานของการศึกษาโครงงาน 7. สิง่ ที่คาดวา่ จะเกิดเมอื่ สิ้นสุดการทําโครงงาน 8. ข้ันตอนการดาํ เนนิ งาน 8. ขน้ั ตอนการทาํ งาน เครื่องมือ วัสดอุ ปุ กรณ์ 9. ปฏิบตั โิ ครงงาน สถานท่ี 10. ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ ับ 9. วัน เวลา และกจิ กรรมดําเนนิ งานต่างๆต้งั แตต่ น้ 11. บรรณานกุ รม จนเสรจ็ 10. สภาพของผลทต่ี ้องการใหเ้ กิดท้ังท่เี ป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ 11. ชือ่ เอกสารขอ้ มูล ท่ไี ด้จากแหล่งตา่ งๆ ขน้ั ตอนที่ 4 การปฏบิ ตั ิโครงงาน เป็นการดําเนินงานตามแผน ท่ีได้กาํ หนดไว้ในเค้าโครงของโครงงาน และตอ้ งมกี ารจดบันทึกข้อมูลต่างๆได้อยา่ งละเอียด และตอ้ งจดั ทาํ อยา่ งเป็นระบบ ระเบยี บ เพ่ือที่จะ ได้ใชเ้ ป็นข้อมูลต่อไป
189 ขั้นตอนท่ี 5 การเขียนรายงาน ควรใช้ภาษาทเ่ี ขา้ ใจง่าย กระชบั ชัดเจน และครอบคลมุ ประเด็นสําคัญ ของโครงงาน โดยสามารถเขียนให้อยู่ในรูปต่างๆ เช่น การสรุป รายงานผล ซึ่งประกอบไปด้วยหวั ข้อ ตา่ งๆ เช่น บทคดั ยอ่ บทนํา เอกสารท่ีเกย่ี วข้อง เปน็ ตน้ ขัน้ ตอนที่ 6 การแสดงผล การแสดงผลงาน เปน็ การนาํ เสนอผลงาน สามารถจัดไดห้ ลายรูปแบบ เช่น การจัดนิทรรศการ หรือทําเป็นสิ่งตีพิมพ์ การสอนแบบเพื่อนสอนเพื่อน ตามแต่ความเหมาะสม ของ โครงงาน
190 ใบงาน บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เร่อื ง ข้นั ตอนการทำโครงงาน 1. ชอ่ื โครงงาน ........................................................................................................................................................ 2. ชอื่ ผู้ทำโครงงาน 1) ...................................................... 2) .............................................................. 3) ...................................................... 4) .............................................................. 3. ชื่อทป่ี รึกษา โครงงาน………………………………………………………………………………….......……………………………….. 4. ท่มี าและความสำคญั ของโครงงาน …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จุดมุง่ หมายของการศึกษาคน้ คว้า …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………..…………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. เปา้ หมายของการศกึ ษา …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………..…………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. วธิ ดี ำเนนิ งาน 1.วัสดุอปุ กรณ์ท่ใี ช้ …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………..…………………………………………………………………………………………………………………… 2.แนวการศึกษาค้นคว้า ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
191 8. แผนการปฏิบัติงาน ระยะเวลา สถานที่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ผู้รับผดิ ชอบ ที่ กิจกรรม 9. ระยะเวลาดำเนินงาน เริม่ ตง้ั แตว่ นั ท.่ี ...................... เดอื น.......................................... พ.ศ............................. สน้ิ สดุ วนั ท.ี่ .......................... เดือน......................................... พ.ศ............................. 10. ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11. เอกสารอา้ งองิ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ........................................................ผู้เสนอโครงงาน (......................................................) ............/............................../.......... ลงชื่อ.......................................................อาจารย์ที่ปรึกษา (......................................................) ............/............................./.............
192 เฉลยใบงาน บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 เรอ่ื ง ขั้นตอนการทำโครงงาน คำตอบอยทู่ ด่ี ลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน
193 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เรอ่ื ง ขัน้ ตอนการทำโครงงาน คำสง่ั :ให้ผู้เรยี นทำเครอื่ งหมาย X ในข้อท่ีถูกตอ้ ง 1. ข้อใดกล่าวถึงโครงงานไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ไม่สามารถนำไปใช้ไดจ้ รงิ ในชวี ิตประจำวัน ข. ผู้ทำโครงงานไมม่ ีสทิ ธเ์ิ ลือกหวั ขอ้ โครงงานของตนเอง ค. ผทู้ ำโครงงานสามารถเลอื กดำเนนิ การไดต้ ามความพอใจ ง. เปน็ สง่ิ ทีช่ ว่ ยสร้างความสัมพนั ธร์ ะหว่างนกั เรยี นกับท่ปี รึกษาโครงงาน 2. ข้อใดคือความสำคัญของการทำโครงงาน ก. เรยี นรจู้ ากประสบการณ์ตรง ข. พฒั นาความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ค. ใช้เวลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ ง. ถกู ทุกข้อ 3. ความหมายของโครงงานเน้นส่วนท่สี ำคญั คอื ขอ้ ใด ก. เปน็ กจิ กรรมที่ครูออกแบบให้ ข. เป็นกจิ กรรมที่ครคู ิดหัวข้อให้ ค. เป็นกิจกรรมท่ผี ้เู รียนปฏิบตั ิได้ดว้ ยตนเอง ง. เป็นกจิ กรรมทผี่ เู้ รยี นไดจ้ ดั ทำเปน็ ไปตามการเรียนการสอนปกติ 4. การปลกู พชื โดยไมใ่ ชด้ ิน เปน็ โครงงานประเภทใด ก. โครงงานทเี่ ก่ียวกับการสำรวจรวบรวมขอ้ มลู ข. โครงงานทีเ่ กีย่ วกบั การทดลอง ค. โครงงานที่เกีย่ วกับสงิ่ ประดษิ ฐ์หรอื การพฒั นา ง. โครงงานทีเ่ กย่ี วกับทฤษฎีและหลกั การ 5. โครงงานสำรวจความตอ้ งการประกอบอาชีพของคนในชมุ ชนเป็นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานท่ีเกย่ี วกับการสำรวจรวบรวมขอ้ มลู ข. โครงงานท่เี กีย่ วกบั การทดลอง ค. โครงงานทเี่ กี่ยวกบั ส่ิงประดิษฐห์ รือการพัฒนา ง. โครงงานทเ่ี กีย่ วกบั ทฤษฎแี ละหลักการ
194 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เร่อื ง ขน้ั ตอนการทำโครงงาน 1. ค 2. ง 3. ค 4. ข 5. ก
195 แบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรยี นออนไลน์ที่ 2 เรอื่ งประเภทของโครงงาน 1. การทำของใชจ้ ากวสั ดเุ หลอื ใช้ เปน็ โครงงานประเภทใด ก. โครงงานทเ่ี กยี่ วกบั การสำรวจรวบรวมข้อมลู ข. โครงงานท่ีเกี่ยวกับการทดลอง ค. โครงงานที่เก่ยี วกับสงิ่ ประดิษฐ์หรือการพัฒนา ง. โครงงานทเ่ี กี่ยวกับทฤษฎแี ละหลักการ 2. โครงงานประเภทประดษิ ฐค์ วรคำนงึ ถึงข้อใดมากทสี่ ุด ก. ความประณีต ข. ความสวยงาม ค. ความน่าเช่ือถอื ง. ความคงทนแข็งแรงและประโยชนใ์ ช้สอย 3. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์ของโครงงานทผ่ี ู้เรยี นจะไดร้ ับจากการทำโครงงาน ก. มีความสขุ และสนกุ กบั การทำงาน ข. พฒั นาความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ ค. สามารถนำไปพฒั นาและใชไ้ ด้จริงในชวี ติ ประจำวนั ง. นำไปพฒั นาสรา้ งรายไดจ้ ำนวนมาก 4. โครงงาน ทดลองเรอื่ งการไหลของของเหลว จัดอยู่ในโครงงานประเภทใด ก. โครงงานพัฒนาส่ือเพือ่ การศกึ ษา ข. โครงงานพฒั นาเคร่อื งมอื ค. โครงงานจำลองทฤษฎี ง. โครงงานประยกุ ต์ใชง้ าน 5. โครงงาน ส่ือคำศพั ท์ จัดอยู่ในโครงงานประเภทใด ก. โครงงานพฒั นาสือ่ เพอื่ การศึกษา ข. โครงงานพฒั นาเครือ่ งมอื ค. โครงงานจำลองทฤษฎี ง. โครงงานพฒั นาเกมส์
196 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เร่อื งประเภทของโครงงาน 1. ค 2. ง 3. ง 4. ค 5. ก
197 ใบความรู้ บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 เรอื่ งประเภทของโครงงาน ประเภทของโครงงาน สำหรับประเภทของโครงงานที่ผู้เรียนจะปฏิบตั ิในแต่ละระดับนั้น สุชาติ วงศ์สุวรรณ (2542 :9–12) ได้จัดแบ่งโครงงานออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ 4 ประเภท ตามลักษณะของการปฏิบัติหรอื การ ได้มาซง่ึ คำตอบ ดังนี้ 1. โครงงานทเี่ ปน็ การสำรวจรวบรวมขอ้ มลู โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อสำรวจและรวบรวมข้อมูล เก่ยี วกบั เรือ่ งใดเร่ืองหนง่ึ แลว้ นำขอ้ มูลทีไ่ ด้จากการสำรวจนนั้ มาจำแนกเปน็ หมวดหมู่และนำเสนอใน รปู แบบต่าง ๆ อย่างมีระบบ เพ่อื ให้เห็นถึงลกั ษณะหรือความสัมพันธ์ของเร่ืองดังกล่าวได้ชัดเจนย่ิงขึ้น การปฏิบัติตามโครงงานนี้ ผู้เรียนจะต้องไปศึกษา รวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น สอบถาม สมั ภาษณ์ สำรวจ โดยใชเ้ ครื่องมือ เชน่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบนั ทกึ ฯลฯในการรวบรวม ข้อมูลท่ตี อ้ งการศึกษา ในการทำโครงงานประเภทสำรวจข้อมูล ไม่จำเป็นจะต้องมีตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้อง นกั เรยี นเพียงแต่สำรวจรวบรวมข้อมูลท่ไี ด้ แลว้ นำขอ้ มูลที่ไดม้ าจัดให้เป็นหมวดหมู่และนำเสนอ ก็ถือ วา่ เป็นการสำรวจรวบรวมข้อมลู แลว้ 2. โครงงานที่เป็นการคน้ ควา้ ทดลอง โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่องใดเรื่องหน่ึง โดยเฉพาะ โดยการออกแบบโครงงานในรปู ของการทดลองเพ่ือศึกษาว่า ตัวแปรหนึ่งจะมีผลอยา่ งไร บ้างด้วยการควบคมุ ตวั แปรอื่นซ่งึ อาจมีผลต่อตัวแปรทตี่ อ้ งการศกึ ษาไว้ การทำโครงการประเภทน้จี ะมี ขั้นตอนการดำเนินงานประกอบด้วยการกำหนดปัญหาการตั้งวัตถุประสง ค์หรือสมมติฐานการ ออกแบบทดลองการรวบรวมข้อมูลการดำเนนิ การทดลอง การแปรผล และสรปุ ผลการทดลอง 3 โครงงานท่ีเป็นการศกึ ษาความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดใหม่ โครงงานประเภทน้ี เป็นโครงงานที่มีวตั ถุประสงค์เพ่ือเสนอความรู้ ทฤษฎี หลักการ แนวคิดใหม่ ๆ เก่ยี วกบั เรอื่ งใดเร่อื งหนง่ึ ทย่ี ังไมม่ ีใครคิดมากอ่ น หรอื ขดั แย้ง หรือขยายจากเดิมท่ีมีอยู่ ซึ่งความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดที่เสนอ ต้องผ่านการพิสูจน์อย่างมีหลักการ หรือวิธีการท่ี น่าเชื่อถือตามกติกา / ข้อตกลงที่กำหนดขึ้นมาเอง หรืออาจใช้กติกาหรือข้อตกลงเดิมมามาอธิบาย ข้อความรู้ ทฤษฎี หลักการ แนวคิดใหม่ก็ได้โครงงานที่เป็นการศึกษา ความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรือ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348