198 แนวคิดใหม่นี้ ผูท้ ำโครงงานต้องเป็นผทู้ ม่ี ีความร้พู ื้นฐานในเรอ่ื งนน้ั ๆ เปน็ อย่างดี หรอื ตอ้ งมีการศึกษา คน้ ควา้ ข้อมูลมาประกอบอย่างลกึ ซึง้ จงึ จะทำให้สามารถกำหนดความรู้ ทฤษฎีหลักการหรือแนวคิด ใหม่ๆข้นึ ได้ 4. โครงงานทเ่ี ป็นการประดิษฐค์ ดิ ค้น โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์ คือ การนำเอาความรู้ ทฤษฎี หลกั การ หรอื แนวคิดมาประยกุ ต์ใช้ โดยการประดิษฐ์เปน็ เคร่ืองมือ เคร่อื งใช้ตา่ ง ๆ เพ่ือประโยชน์ใน การเรียน การทำงาน หรือการใช้สอยอื่นๆ การประดิษฐ์คิดค้นตามโครงงานนี้อาจเป็นการประดิษฐ์ ขึ้นมาใหม่ โดยที่ยังไม่มีใครทำ หรืออาจเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่ แล้ว ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพสูงข้ึนกว่าที่เปน็ อยู่ รวมท้ังการสรา้ งแบบจำลองต่าง ๆ เพอื่ ประกอบการอธบิ าย แนวคิดในเร่ืองต่าง ๆ โครงงานที่เป็นการประดษิ ฐ์คิดค้นนี้จะครอบคลุมเร่ืองต่าง ๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา สังคม อาชีพ ส่งิ แวดลอ้ ม ฯลฯ เริงชัย จงพพิ ฒั นสุข (2542 : 21 ) ได้แบง่ โครงงานออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. โครงงานสำรวจขอ้ มูล จดุ ประสงค์เพ่อื สำรวจรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับเรื่องท่ีกำลัง ศึกษาหรืองานทีก่ ำลงั ทำสำหรับนำมาพฒั นาปรบั ปรงุ สง่ เสริมใหก้ ว้างขวางหรอื ไดผ้ ลดยี ่ิงข้นึ 2. โครงงานศกึ ษาค้นคว้า จุดประสงค์เพือ่ แสวงหาความรู้จากแหล่งวิทยาการต่างๆ เช่น หอ้ งสมุด สำนกั งาน สถาบนั หรือผ้รู ู้ในสาขาวชิ านนั้ ๆ โดยตรง เปน็ การฝกึ ฝนหาแนวทางในการ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เพ่อื นำมาเทียบเคียงกับความรู้ทไี่ ด้โดยตรงจากตำรา หรอื รายงาน เอกสาร ทางวิชาการ รวมทั้งการทดลองเพื่อค้นหาหรือตรวจสอบกฎ ทฤษฎีหรือข้อเท็จจริง ซึ่งผลจากการ ค้นควา้ ทดลองอาจคลาดเคลื่อนไม่ครบถว้ นหรือละเอียดมากในบางแงม่ ุม เม่อื ไดป้ รับแก้ด้วยวิธีทางที่ ถูกต้องจากผู้สอนแล้วก็จะเป็นแม่แบบแม่บทสำหรับการเรียนและการศึกษาค้นคว้าเพื่อแสวงหา ความรู้ด้วยตนเองในระดบั ชั้นที่สูงขน้ึ หรอื ในชีวิตจรงิ 3. โครงงานสร้างหรือพัฒนาชน้ิ งาน จุดประสงคเ์ พ่อื ส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์จาก การสงั เกต วเิ คราะห์ เคร่ืองมือ เครอื่ งใช้ หรือกลวิธใี นการจัดการต่าง ๆ แลว้ พัฒนาหรือสร้างขึ้นใหม่ เพื่อสนองตอบความต้องการของสังคมตามความรู้ความสามารถที่มีอยู่ หรือที่ได้รับจากบทเรียนการ พัฒนาหรือสร้างชิ้นงานนี้มักจะเกิดข้ึนหลังจากทำโครงงานสำรวจข้อมูล และโครงงานศึกษาค้นควา้ ทดลองมาก่อน เช่น การสร้างหรือพัฒนาเครื่องจักรกล การสร้างหรือพัฒนาระเบียบวิธีจัดจำหน่าย ผลติ ภัณฑห์ รอื ผลิตผล การสรา้ งหรอื พฒั นาระบบการจัดการเงินของธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ เปน็ ต้น
199 จิรศักดิ์ กนกอุดม และ พรพิมล ผลวัฒนะ (2548 : 8-9 ) ได้กล่าวว่า โครงงาน โดยท่ัวไปแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ 1.โครงงานประเภทสำรวจหรอื รวบรวมข้อมูล ผู้เรียนทจี่ ัดทำโครงงานประเภทนี้ มจี ุดประสงคเ์ พ่อื สำรวจและเก็บรวบรวม ข้อมลู เก่ียวกับเรอื่ งทกี่ ำลังศกึ ษา หรอื งานทกี่ ำลงั ทำ โดยมรี ะบบในการจำแนกและนำเสนอเพ่ือความ ชดั เจน วิธกี ารทใ่ี ช้อาจจะเป็นการสัมภาษณ์ การใชแ้ บบสอบถาม การสำรวจจากสภาพจรงิ เพอ่ื นำมา พฒั นาปรับปรงุ หรอื ส่งเสริมใหไ้ ดผ้ ลดียงิ่ ขึ้น เปน็ ต้น 2.โครงงานประเภทศึกษาค้นคว้า ผู้เรียนที่จัดทำโครงงานประเภทนี้ มีจุดประสงค์เพื่อแสวงหาความรู้ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พิสูจน์ทฤษฎีหรือเรื่องเล่าต่าง ๆ จากการศึกษาค้นคว้าทั้งจากแหล่งวิทยาการ ตา่ ง ๆ เชน่ หอ้ งสมุด สถาบันการศึกษา แหลง่ เรียนรู้ประเภทเอกสาร เชน่ ตำรา รายงานการค้นคว้า ทางวิชาการ หรือ เอกสารทางวิชาการหรือตัวบุคคล ได้แก่ ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนั้นโดยตรง ซึ่งเป็น แหล่งอา้ งอิงท่มี ีข้อมูลชดั เจนและเชื่อถือได้ ผลทไี่ ดจ้ ากการค้นคว้าอาจจะไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่เมื่อ ได้ปรับปรุงแก้ไขด้วยวิธีการที่ถูกต้องจากผู้สอนแล้ว ก็สามารถเป็นแม่แบบแม่บทในการเรียนหรือ การศกึ ษาค้นควา้ เพื่อแสวงหาความรู้ด้วยตนเองในระดับช้ันท่ีสูงขนึ้ หรือนำไปใชใ้ นชีวิตจริงได้ 3. โครงงานประเภททดลอง ผูเ้ รียนทจ่ี ัดทำโครงงานประเภทน้ี มจี ุดประสงค์เพือ่ ศึกษาความเปน็ ไปได้ซ่ึง การทดลองอาจจะมีหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจในเบื้องต้นแล้วจึงศึกษา คน้ คว้าตอ่ ไป 4. โครงงานส่ิงประดิษฐ์ ผู้เรียนท่ีจดั ทำโครงงานประเภทน้ีจะได้รับการสง่ เสรมิ ใหส้ ร้างสรรคส์ ่งิ ประดษิ ฐ์ หรือพฒั นาชน้ิ งานโดยส่ิงทีผ่ ู้จัดทำโครงงานจะไดร้ บั คอื การสง่ เสรมิ ความคิดสร้างสรรค์จากการสังเกต วิเคราะหก์ ลวธิ ีในการจัดการต่าง ๆ แลว้ พฒั นาหรือสรา้ งชิน้ งานขน้ึ ใหมเ่ พื่อสนองความต้องการของ สังคมตามความรคู้ วามสามารถทีม่ อี ยหู่ รอื ท่ไี ดร้ ับจากบทเรียน
200 ใบงาน บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เร่อื งประเภทของโครงงาน 1. โครงงานมกี ป่ี ระเภท อะไรบ้าง …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 2 โครงงานที่เป็นการสำรวจรวบรวมขอ้ มูล มวี ตั ถุประสงค์อย่างไร …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. โครงงานท่ีเปน็ การค้นคว้าทดลองมวี ัตถุประสงคอ์ ย่างไร …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. โครงงานทเี่ ป็นการศกึ ษาความรู้ ทฤษฎี หลกั การ หรอื แนวคดิ ใหมม่ ีวัตถุประสงคอ์ ย่างไร …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………………………………… …………..…………………………………………………………………………………………………………………………………
201 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เรื่องประเภทของโครงงาน 1. โครงงานมกี ีป่ ระเภท อะไรบา้ ง ตอบ โครงงานมีประเภทใหญ่ๆ 4 ประเภท ได้แก่ 1. โครงงานประเภทสำรวจหรือรวบรวมข้อมลู 2. โครงงานประเภทศกึ ษาคน้ คว้าทดลอง 3. โครงงานท่เี ปน็ การศกึ ษาความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรอื แนวคิดใหม่ 4. โครงงานท่เี ปน็ การประดษิ ฐ์คิดค้น 2 โครงงานที่เป็นการสำรวจรวบรวมข้อมูล มีวัตถปุ ระสงคอ์ ยา่ งไร ตอบ เพอ่ื สำรวจและรวบรวมข้อมูลเกีย่ วกบั เรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ แลว้ นำขอ้ มูลท่ีได้จากการสำรวจนั้น มาจำแนกเป็นหมวดหมู่และนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ อย่างมีระบบ เพื่อให้เห็นถึงลักษณะหรือความสัมพันธ์ ของเรื่องดังกลา่ วไดช้ ดั เจนย่งิ ขึ้น การปฏบิ ัตติ ามโครงงานนี้ ผู้เรียนจะตอ้ งไปศึกษา รวบรวมขอ้ มลู ด้วย วิธีการต่าง ๆ เช่น สอบถาม สัมภาษณ์ สำรวจ โดยใช้เครื่องมือ เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบนั ทึกฯลฯในการรวบรวมขอ้ มูลท่ตี อ้ งการศึกษา 3. โครงงานท่เี ป็นการคน้ ควา้ ทดลองมวี ัตถปุ ระสงค์อย่างไร ตอบ เพอื่ ศึกษาเรอ่ื งใดเรื่องหนงึ่ โดยเฉพาะ โดยการออกแบบโครงงานในรูปของการทดลองเพ่ือ ศึกษาว่า ตัวแปรหนึ่งจะมีผลอย่างไรบ้างด้วยการควบคุมตัวแปรอ่ืนซึ่งอาจมีผลต่อตัวแปรที่ต้องการ ศึกษาไว้การทำโครงการประเภทนี้จะมีข้ันตอนการดำเนินงานประกอบดว้ ยการกำหนดปญั หาการตง้ั วัตถุประสงค์หรือสมมติฐานการออกแบบทดลองการรวบรวมขอ้ มลู การดำเนนิ การทดลอง การแปรผล และสรปุ ผลการทดลอง 4. โครงงานที่เปน็ การศึกษาความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรอื แนวคดิ ใหม่มีวัตถุประสงค์อยา่ งไร ตอบ เพอื่ เสนอความรู้ ทฤษฎี หลกั การ แนวคดิ ใหม่ ๆ เกย่ี วกบั เร่อื งใดเรอื่ งหน่ึง ท่ยี งั ไมม่ ีใครคิด มาก่อน หรือขัดแย้ง หรือขยายจากเดิมที่มีอยู่ ซึ่งความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดที่เสนอ ต้อง ผ่านการพิสูจนอ์ ย่างมีหลกั การ หรือวิธีการที่นา่ เช่ือถือตามกตกิ า / ข้อตกลงท่ีกำหนดขึ้นมาเอง หรือ อาจใช้กติกาหรอื ขอ้ ตกลงเดิมมามาอธิบายขอ้ ความรู้ ทฤษฎี หลักการ แนวคิดใหม่กไ็ ด้โครงงานท่ีเป็น การศึกษา ความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดใหม่นี้ ผู้ทำโครงงานต้องเป็นผู้ที่มีความรู้พื้นฐานใน เร่ืองน้ัน ๆ เป็นอยา่ งดี หรือตอ้ งมกี ารศึกษา ค้นคว้า ขอ้ มลู มาประกอบอย่างลึกซง้ึ จึงจะทำให้สามารถ กำหนดความรู้ ทฤษฎหี ลกั การหรือแนวคดิ ใหม่ๆข้ึนได้
202 5. โครงงานทเ่ี ป็นการประดษิ ฐค์ ดิ ค้น มีวัตถปุ ระสงค์อยา่ งไร ตอบ การนำเอาความรู้ ทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดมาประยุกต์ใช้ โดยการประดิษฐ์เป็น เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการเรยี น การทำงาน หรือการใช้สอยอื่น ๆ การประดิษฐ์ คิดค้นตามโครงงานนีอ้ าจเป็นการประดิษฐ์ข้ึนมาใหม่ โดยที่ยังไม่มีใครทำ หรืออาจเป็นการปรับปรงุ เปล่ียนแปลง หรอื ดดั แปลงของเดิมท่มี อี ยู่แล้ว ใหม้ ีประสิทธิภาพสงู ข้ึนกว่าท่ีเป็นอยู่ รวมท้ังการสร้าง แบบจำลองตา่ ง ๆ เพอ่ื ประกอบการอธบิ ายแนวคิดในเรือ่ งต่าง ๆ โครงงานทเี่ ป็นการประดิษฐ์คิดค้นนี้ จะครอบคลุมเร่ืองต่าง ๆ ทงั้ วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ภาษา สงั คม อาชพี สิง่ แวดลอ้ ม
203 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรยี นออนไลน์ที่ 2 เรือ่ งประเภทของโครงงาน 1. การทำของใชจ้ ากวสั ดเุ หลอื ใช้ เปน็ โครงงานประเภทใด ก. โครงงานทีเ่ ก่ยี วกบั การสำรวจรวบรวมข้อมลู ข. โครงงานทเี่ กย่ี วกับการทดลอง ค. โครงงานท่เี กี่ยวกบั สงิ่ ประดิษฐ์หรือการพัฒนา ง. โครงงานที่เกีย่ วกับทฤษฎแี ละหลักการ 2. โครงงานประเภทประดิษฐค์ วรคำนงึ ถึงขอ้ ใดมากที่สุด ก. ความประณตี ข. ความสวยงาม ค. ความน่าเชื่อถือ ง. ความคงทนแขง็ แรงและประโยชนใ์ ชส้ อย 3. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของโครงงานทผ่ี ู้เรยี นจะไดร้ บั จากการทำโครงงาน ก. มีความสขุ และสนกุ กบั การทำงาน ข. พฒั นาความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ ค. สามารถนำไปพฒั นาและใชไ้ ด้จรงิ ในชวี ติ ประจำวนั ง. นำไปพัฒนาสรา้ งรายได้จำนวนมาก 4. โครงงาน ทดลองเรื่องการไหลของของเหลว จัดอยใู่ นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานพฒั นาสื่อเพือ่ การศกึ ษา ข. โครงงานพฒั นาเคร่ืองมือ ค. โครงงานจำลองทฤษฎี ง. โครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ าน 5. โครงงาน สื่อคำศัพท์ จัดอยู่ในโครงงานประเภทใด ก. โครงงานพฒั นาสื่อเพอื่ การศึกษา ข. โครงงานพัฒนาเครอ่ื งมอื ค. โครงงานจำลองทฤษฎี ง. โครงงานพัฒนาเกมส์
204 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เร่อื งประเภทของโครงงาน 1. ค 2. ง 3. ง 4. ค 5. ก
205 แบบทดสอบก่อนเรียน บทเรยี นออนไลน์ท่ี 3 เร่ืองการกำหนดหัวเร่ืองและการเขียนรายละเอยี ดตามเคา้ โครงของ โครงงาน 1. การเลือกหัวข้อโครงงานควรพจิ ารณาสง่ิ ใดเป็นลำดับแรก ก. เคยมีผู้ทำแล้ว ข. ใช้ต้นทนุ ตำ่ ค. ความสามารถของตน ง. สามารถนำไปจำหน่ายได้ 2. ความหมายของโครงงานเนน้ ส่วนทส่ี ำคญั คือข้อใด ก. เป็นกจิ กรรมท่ีครอู อกแบบให้ ข. เป็นกิจกรรมทค่ี รคู ิดหวั ข้อให้ ค. เปน็ กจิ กรรมทีผ่ ้เู รยี นปฏิบัติไดด้ ้วยตนเอง ง. เปน็ กจิ กรรมที่ผ้เู รียนได้จัดทำเป็นไปตามการเรียนการสอนปกติ 3. ขอ้ ใดเป็นสิง่ สำคัญอนั ดับแรกของการตัดสินใจเลือกหวั ข้อท่ีจะนำมาพัฒนาโครงงาน ก. สามารถจดั หาเครอ่ื งคอมพวิ เตอรไ์ ด้ ข. มงี บประมาณเพียงพอ ค. มีเวลาเพียงพอ ง. มีความรู้และทักษะพ้ืนฐานอยา่ งเพียงพอในหัวขอ้ เร่อื งที่จะศึกษา 4. นกั เรยี นไม่ควรเลอื กหวั ขอ้ โครงงานใด ก. การสรา้ งอาวุธสงคราม ข. สบสู่ มนุ ไพรเพื่อสขุ ภาพ ค. ถุงพลาสติกพิชิตแมลงวัน ง. การหาสารพิษในอาหาร 5. การไดม้ าของหัวเร่อื งในการทำโครงงาน ควรจะได้มาจากท่ีใดเป็นอันดับแรก ก. ไปศกึ ษานอกสถานท่ี ข. สงั เกตสำรวจสง่ิ แวดลอ้ มรอบตัว ค. ไปศึกษาแนวคิดของโครงงานอ่ืน ง. ปรึกษาอาจารยท์ ป่ี รกึ ษาโครงงาน
206 6. สิง่ ทค่ี วรทำเปน็ อนั ดบั แรกในการทำโครงงานคือทำอย่างไร ก. คิดหวั เร่อื งท่ีจะทำ ข. สอบถามเรื่องทีจ่ ะทำจากอาจารยท์ ่ีปรึกษา ค. เตรยี มสถานท่ีท่จี ะทำโครงงาน ง. ศึกษาหาสถานที่ทจ่ี ะประกวด 7. โครงงานตามสาระการเรียนรู้ มีลกั ษณะเช่นใด ก. เป็นการสร้างความสามัคคใี นหมู่คณะ ข. เปน็ การให้บูรณาการร่วมกับการเรียนรู้ ค. เปน็ การนำความรดู้ า้ นต่างๆ มาประยกุ ต์ใช้ด้วยกัน ง. เปน็ การพฒั นาศักยภาพของตนเองไปด้านท่ตี นเองสนใจ 8. การจดั การเรียนการสอนแบบโครงงานมุง่ เนน้ ดา้ นใดถูกที่สุด ก. มงุ่ เนน้ ใหผ้ ้เู รียนสามัคคี ข. ม่งุ เน้นใหผ้ ู้เรียนหาเลย้ี งชีพเพยี งลำพงั ค. มงุ่ เนน้ ใหผ้ ู้เรยี นเรยี นรจู้ ากประสบการณต์ รง ง. มุ่งเน้นใหผ้ ู้เรียนสามารถเอาสิ่งทีไ่ ด้มาไปหารายได้ 9. ข้อใดตอ่ ไปนไี้ มไ่ ดเ้ ป็นองคป์ ระกอบเพ่ือการตัดสินใจเลือกโครงงาน ก. ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ ข. ความคดิ สร้างสรรค์ ค. ค่านิยม ง. ค่าใช้จ่าย 10. สิ่งใดสำคญั ท่ีสดุ ในการทำโครงงาน ก. งบประมาณ ข. ความปลอดภยั ค. ความสวยงาม ง. การใช้งานได้จรงิ
207 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรยี นออนไลน์ที่ 3 เรอื่ งการกำหนดหวั เรื่องและการเขียนรายละเอยี ดตามเค้าโครงของ โครงงาน 1.ก 2.ค 3.ง 4.ก 5.ง 6.ข 7.ค 8.ง 9.ค 10.ง
208 ใบกิจกรรม บทเรยี นออนไลน์ที่3 เรื่อง การกำหนดหวั เร่อื งและการเขียนรายละเอยี ดตามเค้าโครงของ โครงงาน วดิ ิโอช้ีแจงการเรยี นรโู้ ดยครูผสู้ อน https://youtu.be/y3730VusHOM แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSe_rb9yGaddVm6dTtmFod3w- Txgf8pnoe7eQarL_vwlxIg5uA/viewform?usp=sf_link ใบความรเู้ รอื่ ง การกำหนดหัวเรอื่ งและการเขียนรายละเอียดตามเค้าโครงของโครงงาน https://drive.google.com/open?id=10mflFqKNl0b688pbnJlyqYwg3Hq- PgRYUpFA0Bk72OQ กจิ กรรมใบงานเรือ่ งการกำหนดหัวเรอื่ งของโครงงาน https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScekNkd9AqJsLC12bOK2lktYHnjl MG_xqHj739Wbc_KMQho0w/viewform?usp=sf_link วีดีโอสรุปการเรียนรูโ้ ดยครูผสู้ อน https://youtu.be/0UxNglaApbs
209 ใบความรู้ บทเรียนออนไลนท์ ี่ 3 เร่อื งการกำหนดหวั เร่ืองและการเขยี นรายละเอยี ดตามเคา้ โครงของ โครงงาน การคิดเลือกหัวข้อ เป็นขั้นตอนแรกของการทำโครงงาน หัวเรื่องที่ศึกษา ควรเป็นเรื่องที่ เกิดจากความสนใจ ความสงสยั ของนักเรียนในเรือ่ งราวทเ่ี กยี่ วข้องกับเร่ืองท่คี รูสอนในหอ้ งเรยี น ที่ อยากค้นหาคำตอบ หวั ข้อเร่ืองของโครงงาน ควรเฉพาะเจาะจงและมีความชัดเจน บง่ ชดั ว่าจะศึกษา สง่ิ ใด และถา้ เปน็ เร่อื งแปลกใหม่ หรือมีแนวการศึกษาทดลองท่แี ปลกใหม่ กเ็ ปน็ สง่ิ ซ่งึ แสดงถงึ ความคิด ริเร่มิ สร้างสรรคด์ ว้ ย นอกจากนัน้ เร่ืองที่เป็นประโยชนก์ จ็ ะทำให้โครงงานน้นั มคี ณุ ค่ายง่ิ ข้ึน ขอ้ ควรคำนึงในการเลือกหวั ขอ้ เรอื่ ง มีดงั ตอ่ ไปน้ี 1. นักเรียนเป็นผู้เลือกอย่างมีความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ศึกษาค้นคว้าตามความถนัด และ คำนึงความพรอ้ ม ความสนใจของตนเองหรือของกล่มุ ใชร้ ะยะเวลาสนั้ ๆหน่งึ ภาคเรียนหรอื มากกว่า น้ันกไ็ ด้ 2. เลือกโครงงานท่ีมคี ณุ ค่าและเปน็ ปญั หาใหมๆ่ ตรงกับความสามารถและความรขู้ องตนเอง 3. คำนงึ ถึงความเหมาะสมในเรอ่ื ง ความปลอดภยั เวลา งบประมาณ และกำลงั ของตน 4. คำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการทำโครงงาน ได้แก่ ความร่วมมือจาก ผเู้ ก่ยี วขอ้ ง มแี หล่งทรพั ยากร และแหลง่ เรียนร้หู รอื เอกสารเพยี งพอทจี่ ะค้นคว้า 5. สามารถวางแผนการดำเนินการตามขัน้ ตอนต่างๆไว้ลว่ งหนา้ เห็นลทู่ างทจ่ี ะทำไดส้ ำเรจ็ 6. สามารถหาคำตอบไดโ้ ดยวธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ หาขอ้ มูลมาตรวจสอบสมมุติฐานเพื่อ หาขอ้ สรุปหรอื ยตุ ิปญั หาได้ 7. สามารถหาเคร่ืองมือหรือสรา้ งเครอื่ งมอื ทมี่ ีคณุ ภาพเพื่อรวบรวมขอ้ มูลได้ 8. มีความตง้ั ใจทจี่ ะทำโครงงานให้ประสบผลสำเร็จ ไดผ้ ลงานที่นำไปใช้ได้จรงิ 9. เปน็ เรื่องที่มีอยู่จริงและเป็นไปได้ มคี ุณคา่ ต่อการเรยี นรูข้ องนกั เรยี น 10.นกั เรียนมปี ระสบการณอ์ ยู่บ้างและเปน็ เรอ่ื งทีม่ ีโอกาสไดเ้ รียนรูจ้ ากประสบการณ์ตรง 11.เปน็ เรือ่ งที่เปิดโอกาสให้นกั เรยี นร่วมมือกนั ในการทำโครงงาน 12.สอดคลอ้ งกับหลักสูตรนักเรยี นไดพ้ ฒั นาการครบทุกดา้ นตามจดุ มุ่งหมายของหลกั สูตร 13.เปน็ เร่ืองทผ่ี ปู้ กครองมีโอกาสเข้ามามสี ่วนรว่ มในโครงงาน 14.เป็นเรือ่ งทีใ่ กลต้ ัวไมก่ วา้ งเกนิ ไป จนทำใหไ้ ม่สามารถศกึ ษาลึกลงไปในรายละเอียดได้ 15.ผู้ทำมคี วามรูแ้ ละทกั ษะในการใช้อปุ กรณพ์ ืน้ ฐาน และทกั ษะในเทคนคิ วธิ ีอย่างเพียงพอ ในเรอ่ื งทจ่ี ะคน้ ควา้ หรือขอคำปรกึ ษา ตลอดจนมีครหู รือผู้ทรงคุณวุฒริ ับเปน็ ทีป่ รึกษา
210 16.สามารถจดั หาวสั ดุอุปกรณท์ ี่จำเปน็ หรอื จดั ทำขึ้นมาได้ 17.เปน็ เร่อื งท่นี กั เรยี นสามารถนำความรแู้ ละทักษะที่ได้ไปประยกุ ต์ใช้ในการทำกิจกรรมอื่นๆ 18.เป็นกิจกรรมการศึกษาทใ่ี หน้ กั เรียนศึกษาคน้ ควา้ ปฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการ ทางทฤษฎีตามเนอ้ื หาโครงงานน้ันๆหรือจากประสบการณ์และกจิ กรรมต่างๆท่ีไดพ้ บเห็นมาแล้ว 19.นักเรียนเปน็ ผู้เสนอโครงงาน รายละเอยี ดของโครงงาน แผนปฏิบัติงาน และการแปลผล รายงานผลต่อครทู ี่ปรกึ ษาเพ่อื ดำเนนิ งานรว่ มกนั ให้บรรลุตามจดุ หมายที่กำหนดไว้ 20.เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งคา่ ใชจ้ า่ ยในการดำเนินงานด้วย การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมลู เพอ่ื การเลอื กหัวข้อเรื่อง 1. การสำรวจและวเิ คราะหข์ อ้ มูลในการเลือกโครงงาน ในการพิจารณาเลือกโครงงาน ผู้เรียนจะต้องคิดและตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยการสำรวจและ วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการผิดพลาดทั้งก่อนการปฏิบัติงาน ขณะ ปฏบิ ัตงิ าน และหลังปฏบิ ัตงิ าน โดยมีการสำรวจและวเิ คราะห์ขอ้ มูล ดังน้ี 1.1 การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลของตนเอง หมายถึง การพิจารณาตนเอง ว่ามีความถนดั ความพร้อมและความสนใจ ในดา้ นความรู้ ทักษะ อยใู่ นระดับใดของโครงงานน้ันๆ ตลอดจนสิ่งอื่นๆที่จำเป็นต่อการทำโครงงานที่ตนเองกำลังตัดสินใจเลือกทำ มีความรักชอบ ที่จะทำ โครงงานในเรื่องใดอย่างแท้จริง เช่น เคยชอบและรักที่จะทำเรื่องใดมาบ้าง หรือเมื่อทำแล้ว ได้รับ ความสำเร็จหรอื ประสบความล้มเหลวในงานที่ทำหรอื ไม่ ตนเองมีความรใู้ นหลักการ ทฤษฎีพ้ืนฐานท่ี จะนำมาช่วยให้ทำโครงงานที่คิดไว้สำเร็จลุล่วงเพียงใด เคยได้ทราบแนวทางปรับปรุงโครงงานให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือไม่ เคยเรียนวิชาใด หรือมีความรู้ในวิชาต่างๆที่จะทำโครงงาน หรือไม่ มีประสบการณ์อย่างไรบ้าง หรือมกี ารปรึกษาครูประจำชัน้ ครฝู ่ายแนะแนว หรือครูในวิชา น้นั ๆ เพือ่ ขอทราบรายละเอยี ดความชอบ ความถนัด หรือขอ้ บกพร่องมากน้อยเพียงใด นอกจากนีย้ งั ต้องสำรวจตนเองว่ามคี วามมานะอดทน ขยนั ประณตี รอบคอบ มคี วามใส่ใจทจ่ี ะทำโครงงานนนั้ ๆอกี ด้วย 1.2. การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นการ สำรวจในเร่อื งของเครื่องมอื วัสดอุ ปุ กรณ์ สถานที่ปฏิบตั ิงาน ค่าใชจ้ า่ ย และการรว่ มมือของผู้ร่วมงาน ซงึ่ ทัง้ หมดน้ีเปน็ สว่ นสำคัญทจ่ี ะทำให้โครงงานดำเนินไปอย่างราบร่ืนและประสบความสำเรจ็ ด้วยดี 1.3. การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสังคมและสภาพแวดล้อม เป็นการ สำรวจข้อมูลต่าง ๆ ที่อย่รู อบตวั เรา เช่น ความเห็นชอบของครูที่ปรกึ ษาโครงงาน ความเห็นชอบของ ผู้ปกครอง เพื่อนร่วมงาน ความต้องการของสังคมและท้องถิ่นในชุมชน มีสถานประกอบการและ ผู้เช่ียวชาญให้คำปรึกษาหรือไม่ ตลอดจนการสำรวจและวิเคราะหข์ ้อมูลเก่ียวกบั สภาพแวดล้อม เช่น
211 สาธารณูปโภคที่เอื้ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง แหล่งจัดหาวัสดุอุปกรณ์และสถานที่ที่ใช้ใน การปฏิบตั งิ าน 1.4 การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยงกับโครงงาน เป็นการหาข้อมูลเพ่ือ สนับสนุนให้โครงงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทำให้เกิดแนวคิดและประสบการณ์ที่หลากหลาย ทำได้ หลายวธิ ี ดังน้ี 1.4.1.การศึกษาดูงานจากแหล่งการเรียนรู้ สถานประกอบการณ์ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม บรษิ ทั ร้านค้าต่างๆ ศูนยว์ จิ ยั ผลติ ภัณฑ์ เป็นตน้ 1.4.2.การศึกษาผลผลิตหรือผลงานของบุคคลอ่นื รวมถงึ การสนทนาพูดคุย แลกเปล่ียนความคดิ เห็นทางวิชาการกับเจ้าของผลผลิตนั้นๆ 1.4.3.การเข้าชมงานแสดงผลงานหรือผลผลิตตามที่หน่วยงานเอกชนหรือ รฐั บาลจดั 1.4.4.การสำรวจจากสง่ิ ทีอ่ ยรู่ อบๆตวั เรา และสง่ิ ที่สนใจเปน็ พิเศษ การศกึ ษาเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง ในการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง นักเรียนควรมีสมุดจดบันทึกหรือถ่ายเอกสารไว้ เป็น หลักฐานควรนำมาแสดงในวันทำโครงงานดว้ ย การศึกษาเอกสารที่เก่ียวข้องจะช่วยใหน้ กั เรียน เกิดแนวคิด สามารถวางแผนการดำเนินงานได้อย่างเหมาะสม ข้อความที่นักเรียนควรนำมาใช้ ประกอบการทำโครงงานเชน่ - ใครเปน็ ผเู้ ขยี นผแู้ ต่ง - ช่อื หนังสอื ช่อื เรือ่ ง - โรงพิมพ์ สถานท่ี ปีทพ่ี ิมพ์ - หนา้ ทคี่ ดั ลอกมา การเขยี นรายงานโครงงาน การเขียนรายงานโครงงานเปน็ รูปแบบหน่ึงของการนำเสนอผลงานของโครงงานท่ีผู้เรยี นได้ ศึกษาค้นคว้าตั้งแต่ต้นจนจบ การกำหนดหัวข้อในการเขียนรายงานโครงงานอาจไม่ระบุตายตัว เหมือนกันทุกโครงงาน ส่วนประกอบของหัวขอ้ ในรายงานต้องเหมาะสมกับประเภทของโครงงานและ ระดับช้ันของผู้เรยี น องคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานโครงงาน แบ่งกวา้ งๆ เป็น 3 สว่ น ดงั นี้ 1. สว่ นปกและสว่ นตน้ ส่วนปกและส่วนต้น ประกอบดว้ ย 1) ช่ือโครงงาน 2) ช่ือผทู้ ำโครงงาน ชน้ั โรงเรียน และวนั เดอื นปีทีจ่ ัดทำ 3) ชอื่ อาจารยท์ ีป่ รกึ ษา 4) คำนำ
212 5) สารบญั 6) สารบญั ตาราง หรอื ภาพประกอบ (ถ้าม)ี 7) บทคัดย่อสั้นๆ ที่บอกเค้าโครงอย่างย่อๆ ซึ่งประกอบด้วย เรื่อง วัตถุประสงค์ วธิ กี ารศึกษาระยะเวลา และสรุปผล 8) กิตติกรรมประกาศ เพื่อแสดงความขอบคุณบุคคล หรือหน่วยงานที่ให้ความ ช่วยเหลือหรอื มีสว่ นเกี่ยวขอ้ ง 2. สว่ นเนื้อเรอ่ื ง ส่วนเนอื้ เรอ่ื ง ประกอบด้วย 1) บทนำ บอกความเป็นมา ความสำคัญของโครงงาน บอกเหตุผล หรือเหตุจูงใจในการ เลือกหวั ขอ้ โครงงาน 2) วตั ถุประสงค์ของโครงงาน 3) สมมตฐิ านของการศกึ ษาคน้ คว้า 4) การดำเนินงาน อาจเขียนเปน็ ตาราง แผนผังโครงงานเพือ่ ใหก้ ารดำเนินงานเป็นไปตาม หวั ขอ้ เรอ่ื ง ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงงาน และพิสูจนค์ ำตอบ (สมมตฐิ าน) ตามประเด็นท่ีกำหนด ดังตัวอย่างการเขียนแผนผงั โครงงานตอ่ ไปนี้ ในแผนผงั โครงงานทำให้เห็นระบบการทำงานอย่างมีเป้าหมาย มกี ารวางแผนการทำงาน จะ เห็นได้ว่าสิง่ ทีต่ ้องการทราบ คือ หัวข้อย่อย หรอื คำถามย่อยของหวั ขอ้ โครงงาน ถา้ มีมาก ๑ ข้อ ก็จะ เรยี งลำดับทีละหัวขอ้ พรอ้ มทั้งบอกสมมติฐาน วธิ ศี ึกษา และแหลง่ ศึกษาคน้ คว้าตามแผนผงั ให้ครบทุก ข้อ ส่งิ ที่ตอ้ งการทราบ สมมตฐิ าน วิธกี ารศกึ ษา แหล่งศึกษา/แหลง่ ขอ้ มูล หัวข้อยอ่ ยจากหัวข้อเรื่อง ของโครงงานที่ต้องการหาคำตอบ การตอบคำถามลว่ งหน้า คน้ คว้า สอบถาม สัมภาษณ์ สังเกต ศกึ ษา โดยการด-ู ฟัง จากส่ือชนดิ ตา่ งๆ - เอกสาร หนังสือ - สถานท่ี บุคคล 5) สรปุ ผลการศกึ ษา เป็นการอธบิ ายคำตอบท่ีได้จากการศกึ ษาค้นคว้า ตามหัวข้อ ย่อยทีต่ ้องการทราบ วา่ เป็นไปตามสมมติฐานหรือไม่ 6) อภิปรายผล บอกประโยชน์ หรอื คณุ ค่าของผลงานทไ่ี ด้ และบอกข้อจำกัดหรือ ปัญหา อปุ สรรค (ถา้ มี) พรอ้ มท้ังบอกข้อเสนอแนะในการศกึ ษาค้นคว้า โครงงานลักษณะใกลเ้ คยี งกนั 3. สว่ นท้าย ส่วนทา้ ย ประกอบด้วย 1) บรรณานุกรม หรือ เอกสารอ้างอิง หรือเอกสารที่ใช้ค้นคว้า ซึ่งมีหลายประเภท เช่น หนงั สือ ตำรา บทความ หรือคอลัมน์ ซึง่ จะมวี ธิ กี ารเขียนบรรณานกุ รมตา่ งกนั เชน่
213 หนงั สือ ชอื่ นามสกุล. ชือ่ หนังสอื . สถานทพ่ี ิมพ์ : สำนกั พมิ พ์, ปีที่พิมพ์ บทความในวารสาร ช่ือผู้เขยี น \"ชอื่ บทความ,\" ชอ่ื วารสาร. ปีทหี่ รือเลม่ ท่ี : หน้า ;วนั เดอื น ปี. คอลัมน์จากหนังสอื พมิ พ์ ช์ อื่ ผเู้ ขียน \"ช่ือคอลัมน์ : ชื่อเร่ืองในคอลัมน์\" ชื่อหนังสอื พิมพ์. วนั เดือน ป.ี หนา้ . 2) ภาคผนวก เชน่ โครงร่างโครงงาน ภาพกจิ กรรม แบบสอบถาม บทสมั ภาษณ์
214 ใบงาน บทเรียนออนไลนท์ ี่ 3 เรอ่ื งการกำหนดหวั เรอื่ งของโครงงาน 1.ให้ผเู้ รยี นอธบิ ายถึงการกำหนดหัวเรอื่ งของโครงงานมาโดยละเอียด ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.ใหผ้ ู้เรียนอธบิ ายขอ้ ควรคำนงึ ในการเลอื กหัวข้อเรอ่ื ง มีอะไรบ้าง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. ให้ผเู้ รยี นเขียนองค์ประกอบของการเขียนรายงานโครงงาน ท้งั 3 สว่ น มาพอสังเขป ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
215 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 เรื่องการกำหนดหวั เร่ืองของโครงงาน 1. ให้ผเู้ รียนอธบิ ายถงึ การกำหนดหัวเรื่องของโครงงานมาโดยละเอียด ตอบ การคิดเลือกหัวข้อ เปน็ ขั้นตอนแรกของการทำโครงงาน หวั เรือ่ งทศ่ี กึ ษา ควรเป็นเรื่องที่ เกิดจากความสนใจ ความสงสัย ของนกั เรยี นในเรอ่ื งราวท่เี ก่ียวข้องกับเรื่องที่ครูสอนในห้องเรยี น ที่ อยากค้นหาคำตอบ หัวข้อเร่อื งของโครงงาน ควรเฉพาะเจาะจงและมีความชัดเจน บง่ ชัดว่าจะศึกษา สิ่งใด และถา้ เปน็ เรอ่ื งแปลกใหม่ หรอื มีแนวการศึกษาทดลองทแ่ี ปลกใหม่ ก็เป็นสิง่ ซงึ่ แสดงถึงความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ดว้ ย นอกจากนน้ั เร่อื งที่เป็นประโยชนก์ ็จะทำให้โครงงานนนั้ มคี ุณค่ายิง่ ข้นึ 2. ใหผ้ เู้ รียนอธบิ ายขอ้ ควรคำนึงในการเลือกหัวข้อเรอ่ื ง มีอะไรบ้าง ตอบ 1. นกั เรยี นเป็นผู้เลือกอยา่ งมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ศึกษาคน้ ควา้ ตามความถนัด และ คำนึงความพรอ้ ม ความสนใจของตนเองหรือของกลมุ่ ใช้ระยะเวลาส้นั ๆหน่งึ ภาคเรียนหรือมากกวา่ นน้ั กไ็ ด้ 2. เลอื กโครงงานท่มี ีคณุ คา่ และเป็นปญั หาใหมๆ่ ตรงกับความสามารถและความรขู้ องตนเอง 3. คำนึงถึงความเหมาะสมในเร่ือง ความปลอดภยั เวลา งบประมาณ และกำลังของตน 4. คำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการทำโครงงาน ได้แก่ ความร่วมมือจาก ผูเ้ กี่ยวขอ้ ง มีแหล่งทรัพยากร และแหลง่ เรียนร้หู รอื เอกสารเพียงพอท่ีจะค้นควา้ 5. สามารถวางแผนการดำเนินการตามขั้นตอนตา่ งๆไวล้ ่วงหนา้ เห็นลูท่ างทีจ่ ะทำได้สำเร็จ 6. สามารถหาคำตอบได้โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หาข้อมูลมาตรวจสอบสมมุติฐาน เพอ่ื หาข้อ สรุปหรอื ยตุ ปิ ญั หาได้ 7. สามารถหาเครอื่ งมือหรอื สรา้ งเครอื่ งมอื ทมี่ คี ณุ ภาพเพ่อื รวบรวมข้อมลู ได้ 8. มคี วามต้ังใจท่จี ะทำโครงงานใหป้ ระสบผลสำเร็จ ไดผ้ ลงานทน่ี ำไปใชไ้ ด้จริง 9. เปน็ เรอ่ื งท่ีมีอยจู่ ริงและเปน็ ไปได้ มคี ณุ ค่าตอ่ การเรียนรขู้ องนักเรียน 10.นักเรียนมปี ระสบการณอ์ ยู่บ้างและเปน็ เรื่องทมี่ ีโอกาสไดเ้ รียนรู้จากประสบการณ์ตรง 11.เปน็ เรอ่ื งทเ่ี ปิดโอกาสให้นักเรยี นรว่ มมือกันในการทำโครงงาน 12.สอดคล้องกบั หลักสตู รนกั เรยี นได้พฒั นาการครบทุกด้านตามจุดมงุ่ หมายของหลักสตู ร 14.เปน็ เรอื่ งทีใ่ กล้ตัวไมก่ ว้างเกินไป จนทำให้ไม่สามารถศึกษาลกึ ลงไปในรายละเอียดได้ 15.ผู้ทำมีความรู้และทักษะในการใช้อุปกรณ์พื้นฐาน และทักษะในเทคนิควิธีอย่าง เพยี งพอในเรอ่ื งทจ่ี ะคน้ ควา้ หรือขอคำปรึกษา ตลอดจนมคี รูหรอื ผู้ทรงคณุ วฒุ ิรบั เป็นทปี่ รึกษา 16.สามารถจัดหาวสั ดุอปุ กรณท์ ่จี ำเป็นหรือจดั ทำขึน้ มาได้ 17.เป็นเรอื่ งท่ีนักเรียนสามารถนำความร้แู ละทักษะทีไ่ ด้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทำกิจกรรมอืน่ ๆ
216 ตอบ 18.เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองโดยอาศัยหลัก วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆหรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่างๆที่ได้พบเห็น มาแลว้ ตอบ 19.นักเรียนเป็นผ้เู สนอโครงงาน รายละเอยี ดของโครงงาน แผนปฏิบตั ิงานและการแปลผล ไว้รายงานผลต่อครทู ีป่ รึกษาเพอื่ ดำเนินงานรว่ มกันให้บรรลตุ ามจุดหมายทก่ี ำหนด ตอบ 20.เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทัง้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนนิ งานด้วย 3. ใหผ้ ้เู รียนเขียนองคป์ ระกอบของการเขียนรายงานโครงงาน ท้ัง 3 สว่ น มาพอสังเขป ตอบ 1. ส่วนปกและส่วนตน้ สว่ นปกและส่วนต้น ประกอบดว้ ย 1) ช่อื โครงงาน 2) ชอ่ื ผู้ทำโครงงาน ช้ัน โรงเรยี น และวนั เดอื นปที ี่จัดทำ 3) ชื่ออาจารย์ทป่ี รกึ ษา 4) คำนำ 5) สารบญั 6) สารบัญตาราง หรือภาพประกอบ (ถ้าม)ี 7) บทคดั ยอ่ ส้ันๆ 8) กิตตกิ รรมประกาศ 2. สว่ นเนือ้ เร่ือง ประกอบดว้ ย 1) บทนำ 2) วตั ถุประสงค์ของโครงงาน 3) สมมติฐานของการศกึ ษาค้นควา้ 4) การดำเนินงาน อาจเขียนเปน็ ตาราง 5) สรปุ ผลการศึกษา 6) อภปิ รายผล 3. สว่ นท้าย ประกอบด้วย 1) บรรณานุกรม หรือ เอกสารอา้ งองิ 2) ภาคผนวก
217 ใบความรู้ บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 3 เรื่องทีม่ าของหวั เรอื่ งโครงงาน สถานการณ์ท่ี 1 เด็กหญงิ จ๋าเรียนอย่ใู นโรงเรียนประจำจังหวดั แหง่ หน่งึ ได้เรยี นวชิ าคณติ ศาสตรใ์ นเร่อื งการหา พืน้ ที่ จ๋ามคี วามสนใจมาก อยูม่ าวันหน่ึงได้รดน้ำตน้ ไม้ที่บ้าน และเกิดความคดิ ในใจว่าเม่ือเราเรียน การคำนวณเรอ่ื งการหาพ้นื ท่ีมาแล้วน่าจะนำมาทำประโยชน์อะไรได้บ้าง และเม่อื เหลือบไปเห็นใบไม้ ท่ีมรี ปู ร่าง ขนาดแตกต่างกัน แล้วนึกขึ้นมาว่าจะทำอยา่ งไรท่ีจะหาความสมั พนั ธ์ระหว่างเส้นกลางใบ กับพื้นที่ของใบ ก็เลยนำเรือ่ งนี้ไปเสนอครูคณิตศาสตร์ ครูให้ความสนใจและแนะนำให้จ๋า นำไปทำ เปน็ โครงงานคณิตศาสตร์ หวั เรอ่ื งโครงงาน : การศึกษาความสมั พันธข์ องเสน้ กลางและพนื้ ทขี่ องใบไม้ โรงเรยี นสมฤดสี มทุ รสาคร จังหวดั สมทุ รสาคร สถานการณ์ท่ี 2 เด็กหญิงรัตนา เรียนอยใู่ นโรงเรียนแห่งหนึง่ มคี วามสนใจในวชิ าคณิตศาสตร์ ในช่วงภาวะ เศรษฐกจิ ตกตำ่ รัตนาไดไ้ ปซอ้ื ของกบั พ่อแม่ทร่ี า้ นคา้ ได้มีโอกาสพบเหน็ คนท่ีมรี ายได้แตกต่างกนั ไปซอื้ ของ คนท่มี ีรายได้ตำ่ ไปซื้อของกซ็ ื้อได้ในปริมาณทีน่ ้อยและของกร็ าคาแพง กเ็ ลยเกดิ ความสนใจท่ีจะ ไปสำรวจราคาสินค้า เพื่อจะทำให้ทราบว่าสินค้าชนิดเดียวกันคนละยี่ห้อจะมีราคาต่างกันอย่างไร และยี่หอ้ ไหนมรี าคาถกู กวา่ กันจงึ นำเรอื่ งน้ีไปเสนอครู ครูเลยถามรัตนาวา่ สนใจที่จะทำเป็นโครงงาน หรอื ไม่ รตั นาจึงรับทีจ่ ะทำเปน็ โครงงาน หวั เรือ่ งโครงงาน : ผ้ซู ้อื สมองใสต้านภัยเศรษฐกจิ โรงเรยี นประเสรฐิ อิสลาม จงั หวดั นนทบรุ ี
218 สถานการณ์ที่ 3 เด็กชายแดงเดนิ ไปศกึ ษาพืชในสวนของโรงเรียนพอดเี ดินไปพบตน้ ไม้ท่มี ีดอกสีต่างๆก็เก็บมา เพอื่ จะศกึ ษาสว่ นประกอบตา่ ง ๆ แล้วก็เลยนำกลีบดอกมาขย้ีด้วยมือแล้วมีนำสีออกมาแล้วกเ็ ลยนำมา ทากระดาษกเ็ หน็ สีสวยมากก็คดิ ท่ีจะทำโครงงานสีจากผักและดอกไมม้ าใช้ในการระบายสจี ากรูปภาพ หัวเร่ืองโครงงาน : การใชส้ จี ากผักและดอกไมใ้ นการระบายสีรปู ภาพ โรงเรียนอนุบาลไผทวทิ ยา จ.นครปฐม สถานการณ์ที่ 4 เด็กหญิงนารีเรียนอยู่ในโรงเรยี นสังกัดสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษานครปฐม เขต 1 อยู่มา วันหน่ึงคุณครูที่สอนศิลปะได้เข้ามาสอนการระบายสีและก็ให้นารนี ำพู่กันมาแต่ในวนั นั้นพอดีนารีลืม นำพู่กันมาก็เลยจะไปยืมเพื่อนแต่เพื่อนทุกคนนำมาพอใช้เฉพาะตัวเองก็เลยให้ไม่ได้ นารีก็เลย ตัดสินใจนำเอากระดาษชำระ กระดาษสมุด และเศษไม้มาระบายสี ซึ่งสามารถใช้ได้จึงคิดเป็น โครงงานการใชว้ สั ดตุ า่ ง ๆ ในการระบายสี หวั เร่อื งโครงงาน : การใช้วสั ดุเหลอื ใชใ้ นการระบายสี
219 ใบงาน บทเรยี นออนไลน์ท่ี 3 เรอื่ งทมี่ าของหัวเรื่องโครงงาน 1. ปญั หาท่ีพบในสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ ปัญหาที่พบในสถานการณ์ที่ 1 1………………………………………………………………………………………………. 2. ……………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บในสถานการณท์ ี่ 2 1………………………………………………………………………………………………. 2. ……………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพ่ี บในสถานการณท์ ี่ 3 1………………………………………………………………………………………………. 2. ……………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บในสถานการณ์ท่ี 4 1………………………………………………………………………………………………. 2. ……………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาจากการระดมสมองของกลุม่ ปัญหาที่กลุม่ ตัดสนิ ใจเลอื ก คอื …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… หวั เร่ืองโครงงาน คอื ……………………………………………………………………………………………
220 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลน์ที่ 3 เรอื่ งการกำหนดหวั เร่ืองของโครงงาน 1. ปัญหาทพี่ บในสถานการณท์ ่กี ำหนดให้ ปัญหาที่พบในสถานการณ์ที่ 1 1. เดก็ หญิงจา๋ มคี วามสนใจการคำนวณเร่ืองการหาพน้ื ทใ่ี บไม้ท่มี ีรูปร่าง ขนาดแตกต่างกัน 2. เดก็ หญิงจา๋ คดิ หาความสมั พันธ์ระหว่างเส้นกลางใบกบั พน้ื ทขี่ องใบ ปัญหาทพี่ บในสถานการณ์ที่ 2 1. เดก็ หญิงรัตนา มคี วามสนใจ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้มโี อกาสพบเหน็ คนทมี่ รี ายไดแ้ ตกต่าง กนั ไปซอื้ ของกซ็ อ้ื ไดใ้ นปริมาณที่ น้อยและของก็ราคาแพง 2. เด็กหญงิ รัตนาเกดิ ความสนใจท่ีจะไปสำรวจราคาสนิ คา้ เพื่อจะทำให้ทราบวา่ สินคา้ ชนดิ เดยี วกันคนละย่หี อ้ จะมรี าคาตา่ งกนั ราคายห่ี อ่ ไหนถูกกว่ากนั ปญั หาที่พบในสถานการณ์ท่ี 3 1. เดก็ ชายแดงเดินไปพบต้นไมท้ ี่มดี อกสตี ่างๆเลยนำกลีบดอกมาขยี้ด้วยมอื แล้วมนี ำสอี อกมา 2. เด็กชายแดงนำมาทากระดาษกเ็ ห็นสสี วยมากกค็ ดิ ท่จี ะทำโครงงานสีจากผักและดอกไม้มา ใช้ในการระบายสจี ากรปู ภาพ ปัญหาที่พบในสถานการณท์ ่ี 4 1. คณุ ครทู ี่สอนศิลปะได้เข้ามาสอนการระบายสีด้วยพกู่ นั แตเ่ ดก็ หญิงนารีลมื นำพู่กนั มา 2. เด็กหญิงนารนี ำเอากระดาษชำระ กระดาษสมดุ และเศษไมม้ าระบายสีแทนพูกัน 2. ปัญหาจากการระดมสมองของกลุ่ม คำตอบอยูท่ ดี่ ลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน
221 ใบงาน บทเรยี นออนไลน์ท่ี 3 เร่ืองการฝึกปฏบิ ัติการทำโครงงาน คำสัง่ ให้แตล่ ะกล่มุ ปฏิบตั ิตามเคา้ โครงของโครงงาน แลว้ บันทกึ วิเคราะห์ สรุปและอภปิ รายผล การศึกษาค้นคว้า บันทกึ ผลการศกึ ษาค้นคว้า ………………………………………………………………………………..……...................................................... ……………………………………........................................................……………………………………………………. ………………………………………………………........................................................…………………………………… …………………………………………………………........................................................………………………………… วเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการศึกษาคน้ คว้า ………………………………………………………………………………..……...................................................... ……………………………………........................................................……………………………………………………. ………………………………………………………........................................................…………………………………… …………………………………………………………........................................................………………………………… อภิปรายผลการศึกษาคน้ ควา้ ………………………………………………………………………………..……...................................................... ……………………………………........................................................……………………………………………………. ………………………………………………………........................................................…………………………………… …………………………………………………………........................................................…………………………………
222 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลน์ที่ 3 เรอ่ื งการฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารทำโครงงาน คำส่ัง ให้แตล่ ะกลุ่มปฏิบตั ิตามเคา้ โครงของโครงงาน แล้วบันทึก วิเคราะห์ สรุปและอภปิ รายผล การศึกษาค้นคว้า คำตอบอยทู่ ่ีดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน
223 แบบทดสอบหลงั เรยี น บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 3 เรือ่ งการกำหนดหวั เรื่องและการเขียนรายละเอยี ดตามเคา้ โครงของ โครงงาน 1. การเลือกหัวขอ้ โครงงานควรพจิ ารณาสงิ่ ใดเป็นลำดบั แรก ก. เคยมีผู้ทำแลว้ ข. ใช้ตน้ ทนุ ตำ่ ค. ความสามารถของตน ง. สามารถนำไปจำหนา่ ยได้ 2. ความหมายของโครงงานเนน้ ส่วนท่สี ำคญั คือข้อใด ก. เปน็ กิจกรรมทค่ี รูออกแบบให้ ข. เปน็ กิจกรรมท่ีครคู ิดหวั ข้อให้ ค. เปน็ กจิ กรรมทผี่ ้เู รียนปฏิบตั ิได้ด้วยตนเอง ง. เป็นกิจกรรมท่ีผ้เู รยี นได้จดั ทำเปน็ ไปตามการเรยี นการสอนปกติ 3. ข้อใดเป็นสิ่งสำคญั อันดับแรกของการตัดสนิ ใจเลอื กหวั ขอ้ ทจี่ ะนำมาพัฒนาโครงงาน ก. สามารถจัดหาเครอ่ื งคอมพิวเตอรไ์ ด้ ข. มงี บประมาณเพยี งพอ ค. มีเวลาเพยี งพอ ง. มีความรู้และทักษะพ้ืนฐานอยา่ งเพยี งพอในหัวขอ้ เร่อื งที่จะศกึ ษา 4. นกั เรยี นไมค่ วรเลือกหัวขอ้ โครงงานใด ก. การสรา้ งอาวุธสงคราม ข. สบูส่ มนุ ไพรเพ่อื สขุ ภาพ ค. ถงุ พลาสติกพชิ ิตแมลงวนั ง. การหาสารพิษในอาหาร 5. การได้มาของหวั เร่อื งในการทำโครงงาน ควรจะได้มาจากท่ใี ดเป็นอันดับแรก ก. ไปศึกษานอกสถานที่ ข. สงั เกตสำรวจสิง่ แวดลอ้ มรอบตัว ค. ไปศึกษาแนวคดิ ของโครงงานอน่ื ง. ปรกึ ษาอาจารย์ทีป่ รึกษาโครงงาน
224 6. สงิ่ ที่ควรทำเปน็ อนั ดบั แรกในการทำโครงงานคือทำอย่างไร ก. คิดหวั เร่อื งท่ีจะทำ ข. สอบถามเรื่องทีจ่ ะทำจากอาจารย์ท่ีปรึกษา ค. เตรยี มสถานท่ีท่จี ะทำโครงงาน ง. ศึกษาหาสถานที่ทจ่ี ะประกวด 7. โครงงานตามสาระการเรียนรู้ มีลกั ษณะเชน่ ใด ก. เป็นการสร้างความสามัคคใี นหมู่คณะ ข. เปน็ การให้บูรณาการร่วมกับการเรยี นรู้ ค. เป็นการนำความรดู้ ้านต่างๆ มาประยกุ ตใ์ ช้ด้วยกัน ง. เปน็ การพฒั นาศักยภาพของตนเองไปดา้ นท่ตี นเองสนใจ 8. การจดั การเรียนการสอนแบบโครงงานมุ่งเนน้ ดา้ นใดถูกท่ีสุด ก. มงุ่ เนน้ ใหผ้ ้เู รียนสามัคคี ข. ม่งุ เน้นใหผ้ เู้ รียนหาเลย้ี งชีพเพยี งลำพงั ค. มงุ่ เนน้ ใหผ้ ู้เรยี นเรยี นรจู้ ากประสบการณต์ รง ง. มุ่งเน้นใหผ้ ู้เรียนสามารถเอาสิ่งท่ไี ดม้ าไปหารายได้ 9. ข้อใดต่อไปนไี้ มไ่ ดเ้ ป็นองคป์ ระกอบเพือ่ การตัดสินใจเลือกโครงงาน ก. ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ ข. ความคดิ สร้างสรรค์ ค. ค่านิยม ง. ค่าใช้จ่าย 10. สง่ิ ใดสำคญั ท่ีสดุ ในการทำโครงงาน ก. งบประมาณ ข. ความปลอดภยั ค. ความสวยงาม ง. การใช้งานได้จรงิ
225 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน บทเรยี นออนไลน์ท่ี 3 เรื่องการกำหนดหวั เรอื่ งและการเขยี นรายละเอยี ดตามเค้าโครงของ โครงงาน 1.ก 2.ค 3.ง 4.ก 5.ง 6.ข 7.ค 8.ง 9.ค 10.ง
226 แบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรียนออนไลนท์ ี่ 4 เร่ือง การวดั และประเมินผลโครงงาน คำส่งั :ใหผ้ เู้ รยี นทำเคร่ืองหมาย X ในข้อที่ถกู ตอ้ ง 1. การเลอื กหัวขอ้ โครงงานควรพจิ ารณาส่งิ ใดเป็นลำดบั แรก ก. เคยมีผ้ทู ำแล้ว ข. ใชต้ น้ ทุนต่ำ ค. ความสามารถของตน ง. สามารถนำไปจำหน่ายได้ 2. สิง่ ใดสำคญั ที่สดุ ในการทำโครงงาน ก. งบประมาณ ข. ความปลอดภยั ค. ความสวยงาม ง. การใชง้ านได้จรงิ 3. ขอ้ ใดต่อไปนไ้ี มไ่ ด้เปน็ องค์ประกอบเพ่อื การตดั สินใจเลือกโครงงาน ก. ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ ข. ความคดิ สร้างสรรค์ ค. ค่านิยม ง. คา่ ใชจ้ ่าย 4. ขอ้ ใดเปน็ สงิ่ สำคัญอันดบั แรกของการตดั สนิ ใจเลอื กหวั ขอ้ ที่จะนำมาพฒั นาโครงงาน ก. สามารถจัดหาเครอ่ื งคอมพวิ เตอรไ์ ด้ ข. มีงบประมาณเพียงพอ ค. มีเวลาเพยี งพอ ง. มีความร้แู ละทกั ษะพน้ื ฐานอยา่ งเพยี งพอในหัวขอ้ เร่ืองท่ีจะศึกษา 5. ขอ้ ใดเป็นจุดประสงค์หลักของการนำเสนอและเผยแพรโ่ ครงงาน ก. เพือ่ ป้องกนั ไมใ่ หผ้ ้อู ื่นนำโครงงานของตนไปใช้ ข. เพื่อเปน็ เกียรตติ ่ออาจารย์ทีป่ รกึ ษาและผู้สนับสนุนโครงงาน ค. เพ่ือแสดงถึงลิขสทิ ธ์ิเกยี่ วกับการทำโครงงาน ง. เพื่อให้ผู้อ่ืนนำโครงงานดังกลา่ วไปพฒั นาและใช้ในชวี ติ ประจำวัน
227 6. ในการจดั แสดงโครงงานน้ัน ข้อใดสำคัญที่สุดทีค่ วรพิจารณาอันดับแรก ก. ดึงดูดความสนใจผเู้ ข้าชม ใช้สที ส่ี ดใส ข. ใชข้ ้อความกะทดั รัด ชัดเจน และเขา้ ใจง่าย ค. มีรูปภาพประกอบ โดยจัดวางอย่างเหมาะสม ง. ทกุ อย่างตอ้ งถูกตอ้ ง ไมม่ กี ารสะกดผดิ หรืออธบิ ายหลกั การที่ผดิ 7. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระเดน็ สำคญั ในการจัดแสดงและการนำเสนอผลงาน ก. ชอื่ โครงงาน ชือ่ ผทู้ ำโครงงาน ช่ือท่ีปรึกษา ข. ผลงานท่เี กดิ ข้นึ จากการทำโครงงาน ค. ผลงานทกุ ช้นิ ท่ีทดลอง ง. วธิ กี ารดำเนินการ โดยเลือกเฉพาะข้ันตอนที่เดน่ และสำคัญ 8. ขัน้ ตอนแรกของการทำโครงงาน คอื ข้อใด ก. การนำเสนอและแสดงโครงงาน ข. จัดทำเคา้ โครงของโครงงาน ค. คัดเลือกหวั ข้อโครงงานทีส่ นใจ ง. ศกึ ษาคน้ คว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมูล 9. ข้อใดเปน็ สิ่งสำคญั อนั ดบั แรกของการตัดสนิ ใจเลือกหัวขอ้ ทจี่ ะนำมาพฒั นาโครงงาน ก. สามารถจัดหาเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ได้ ข. มีงบประมาณเพียงพอ ค. มีเวลาเพยี งพอ ง. มีความรู้และทกั ษะพ้นื ฐานอย่างเพียงพอ ในหวั ขอ้ เรอื่ งทจ่ี ะศึกษา 10. มานีขอพบครผู ู้สอนวิชาวทิ ยาศาสตรเ์ พื่อขอคำแนะนำการทำโครงงานพฒั นาโปรแกรมสอนเรอ่ื ง ระบบสุรยิ ะ อยู่ในขน้ั ตอนใดของการทำโครงงาน ก. ขั้นการคัดเลอื กหัวข้อโครงงาน ข. ขัน้ การศกึ ษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหล่งขอ้ มูล ค. ขน้ั การจดั ทำข้อเสนอโครงงาน ง. ขน้ั การลงมือทำโครงงาน
228 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน บทเรียนออนไลน์ที่ 4 เรือ่ ง การวดั และประเมินผลโครงงาน 1. ค 2. ง 3. ค 4. ง 5. ง 6. ง 7. ค 8. ข 9. ง 10. ข
229 ใบกจิ กรรม บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 เรื่องการวดั และประเมินผลโครงงาน วีดีโอช้ีแจงการเรยี นร้โู ดยครูผู้สอน https://youtu.be/b4-YMtcmrpU แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSetnPt5NeuTqsH8mKLPfaqcZWkkMfUSdM lvwtYZLKazBXZvg/viewform?usp=sf_link ใบความรูว้ ชิ าการเรยี นรโู้ ดยวธิ โี ครงงานเรือ่ งการวดั และประเมนิ ผลโครงงาน https://drive.google.com/open?id=1VuwuWX406XXkh9VqzISLMZ43VpqAfLZbocYULzg ovRA วีดีโอเรอ่ื งการวัดและการประเมินผล https://youtu.be/esMQ0TQfRmY วดี ีโอสรุปการเรยี นรู้โดยครผู ู้สอน https://youtu.be/xy1rSZkY8ZY
230 ใบความรู้ บทเรียนออนไลนท์ ี่ 4 เรือ่ ง การวัดและประเมินผลโครงงาน โครงงานเม่ือทำการศกึ ษา และปฏิบตั ิเรียบร้อยแล้วต้องมีการวัดและประเมินผล โดยต้องวัด ให้ครอบคลุมกิจกรรมการทำงาน ตั้งแต่การเตรียมก่อนลงมือทำกิจกรรม กระบวนการทำงานตาม แผนที่วางไว้และผลสำเร็จของผลงานที่อาจอยู่ในรูปชิ้นงาน หรือทฤษฎีก็ได้ เพื่อหา ข้อบกพร่อง ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในระหว่างทำงาน จนถึงสิ้นสุดการปฏิบัติงาน การ ประเมินผลมกั จะประเมินตามจุดประสงค์และการปฏิบัตงิ าน จะต้องทำอย่างต่อเน่ือง สม่ำเสมอและ มีผลย้อนกลับต่อผู้ปฏิบัติงานคือ นำผลประเมิน ไปปรับปรุงและพัฒนาต่อไป ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ถือ เป็นพฤตกิ รรมการเรียนร้ทู ี่ต้องการใหผ้ เู้ รียนเปล่ียนแปลง คอื พฤติกรรมการเรียนร้ทู ั้ง 3 ด้าน คอื 1. พทุ ธพิสยั คอื การเปลี่ยนแปลงดา้ นความคิด 2. จิตพิสัย คือ การเปลี่ยนแปลงด้านเจตคติหรอื จติ ใจ 3. ทักษะพสิ ยั คือ การเปลย่ี นแปลงทางด้านการทำงาน ประโยชนก์ ารประเมนิ โครงงาน 1. ทำให้ทราบขอ้ บกพร่องและความสำเรจ็ ของงาน 2. ทำให้มีการปรบั ปรงุ แกไ้ ขตลอดเวลาทก่ี ำลังปฏบิ ัติงาน 3. ผู้ปฏิบัตงิ านมคี วามกระตอื รอื ร้นทจ่ี ะทำงานด้วยความต้งั ใจ เสยี สละ และจรงิ ใจ 4. ทำให้บุคคลอ่ืนทราบว่าโครงงานได้รบั ความสำเร็จหรอื ล้มเหลว ถ้าสำเรจ็ ก็จะนำไปเป็น แบบอยา่ งตอ่ ไป ถ้าลม้ เหลวกจ็ ะทราบว่าเป็นเพราะเหตใุ ด และหาแนวทางแก้ไขปรับปรงุ ต่อไป องค์ประกอบของเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน 1. การวางแผนการทำโครงงาน 2. วิธกี ารดำเนินงานโครงงาน 3. สรุปผลการดำเนินโครงงาน 4. การนำเสนอโครงงาน
231 แนวทางประเมินโครงงาน 1. ประเมินในหัวข้อต่างๆเช่น การแสดงออก ความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการทำงาน ผลผลิต แฟ้มสะสม งาน ผลงาน การทดสอบ 2. ประเมินผลโดยใหผ้ ู้สอน ผ้เู รียน ผปู้ กครอง เพื่อน ฯลฯ เป็นผู้ประเมนิ 3. ระยะเวลาในการประเมิน อาจประเมินเป็นระยะๆ เช่น ก่อนการทำโครงงาน(ขั้นเตรียมการ) ระหวา่ งทำโครงงาน หลังทำโครงงาน โดยใชว้ ิธีการต่าง ๆ ประเมิน เชน่ การสงั เกต สมั ภาษณ์ ตรวจ รายงาน ตรวจผลงาน ทดสอบ จัดนิทรรศการแสดงผลงานฯลฯ คำชีแ้ นะกอ่ นการประเมินผลการทำโครงงาน ผู้เรียนประเมินการทำโครงงานเพอ่ื นแตล่ ะกลุม่ โดยใชแ้ บบประเมินแผนผงั โครงงาน พิจารณาตามรายละเอยี ดดังนี้ 1. ชอื่ เรอื่ ง แสดงถงึ ความคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ 2. ช่อื เรอ่ื ง มีความสมั พันธก์ บั เนอ้ื หาคำถาม มกี ารกระตุ้นให้นกั เรยี นเกิดความคดิ 3. สมมุติฐาน มกี ารแสดงถึงพืน้ ฐานความรู้เดมิ 4. วิธกี าร เคร่ืองมอื ทใี่ ชใ้ นการศึกษา เหมาะสมสอดคล้องกบั จุดมุ่งหมายและเนอื้ หา 5. แหลง่ ศกึ ษา สามารถคน้ ควา้ คำตอบได้ 6. วิธกี ารนำเสนอ ชดั เจน เหมาะสมกับเนื้อหาและเวลา 7. การวัดและประเมนิ ผลโครงงาน ครูควรกำหนดเกณฑ์และตารางการวดั ผลให้ครอบคลุม ทุกขั้นตอนของการทำกจิ กรรมและชัดเจนก่อนลงมอื ทำ เพื่อกระต้นุ การทำงาน ดงั ตวั อย่างแบบต่างๆ
232 ใบงาน บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 เรื่องการวดั และประเมนิ ผลโครงงาน 1.ช่อื โครงงาน..................................................................................... 2.กลุ่มที่..................... 3.ชอ่ื สมาชกิ 1................................................................................................................................................ 2................................................................................................................................................ 3................................................................................................................................................ การประเมนิ โครงงาน มีหลักเกณฑ์การประเมนิ ดงั น้ี รายการประเมนิ คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ หมายเหตุ 1. รายงานโครงงาน (5) 1.1 รปู เลม่ รายงานมสี ว่ นประกอบ ครบถ้วน 3 ……………. 1.2 เสร็จตามเวลาท่กี ำหนด 2 …………… 2. ความสำคญั ของโครงงาน (5) 2.1 ความนา่ สนใจ 2 …………… 2.2 ประโยชน์ การนำไปใช้ 3 …………… 3. การดำเนินการ (10) 3.1 การวางแผน/เตรียมการ 2 …………….. 3.2 สอดคลอ้ งกับบทเรียน 2 …………… 3.3 เหมาะสมกับวัยของนักเรยี น 2 …………….. 3.4 สอดคล้องกบั จุดประสงคโ์ ครงงาน 2 …………… 3.5 ความรว่ มมือของสมาชกิ ในกลมุ่ 2 4. เนื้อหา (10) 4.1 การรวบรวมขอ้ มลู 5 ………….. 4.2 การสรปุ ข้อมูลเป็นองค์ความรู้ 5 ……………
233 รายการประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้ หมายเหตุ 5. การนำเสนอ (5) 5.1 การใช้ภาษาในการนำเสนอ 5 ………….. 5.2 การส่ือความหมายให้เข้าใจ 5 …………… รวม 40 ………….. ลงชอ่ื ................................................ผปู้ ระเมิน (............................................................................) เกณฑก์ ารประเมนิ วันท่ี.............เดอื น...........................พ.ศ........................ คะแนน ระดับ 31-40 ดีเยยี่ ม สรปุ ผลการประเมนิ โครงงาน 21-30 ดี โครงงานอยูในระดบั ………………………………………………… 11-20 ปานกลาง 0-10 ควรปรบั ปรุง
234 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรื่องการวดั และประเมนิ ผลโครงงาน คำตอบอยู่ในดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน
235 แบบทดสอบหลงั เรียน บทเรียนออนไลน์ที่ 4 เรอื่ ง การวัดและประเมินผลโครงงาน คำส่งั :ใหผ้ เู้ รยี นทำเคร่ืองหมาย X ในข้อทถี่ กู ต้อง 1. การเลอื กหัวขอ้ โครงงานควรพจิ ารณาสิ่งใดเป็นลำดับแรก ก. เคยมีผ้ทู ำแล้ว ข. ใชต้ น้ ทุนต่ำ ค. ความสามารถของตน ง. สามารถนำไปจำหน่ายได้ 2. สิง่ ใดสำคญั ที่สดุ ในการทำโครงงาน ก. งบประมาณ ข. ความปลอดภยั ค. ความสวยงาม ง. การใชง้ านได้จรงิ 3. ขอ้ ใดต่อไปนไ้ี มไ่ ด้เปน็ องค์ประกอบเพ่ือการตดั สินใจเลือกโครงงาน ก. ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ ข. ความคดิ สร้างสรรค์ ค. ค่านิยม ง. คา่ ใชจ้ ่าย 4. ขอ้ ใดเปน็ สงิ่ สำคัญอันดบั แรกของการตดั สินใจเลอื กหวั ขอ้ ท่ีจะนำมาพฒั นาโครงงาน ก. สามารถจัดหาเครอ่ื งคอมพวิ เตอรไ์ ด้ ข. มีงบประมาณเพียงพอ ค. มีเวลาเพยี งพอ ง. มีความร้แู ละทกั ษะพนื้ ฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรอื่ งท่ีจะศึกษา 5. ขอ้ ใดเป็นจุดประสงค์หลักของการนำเสนอและเผยแพร่โครงงาน ก. เพือ่ ป้องกนั ไมใ่ หผ้ ้อู ืน่ นำโครงงานของตนไปใช้ ข. เพื่อเปน็ เกียรตติ ่ออาจารย์ทปี่ รึกษาและผู้สนับสนุนโครงงาน ค. เพ่ือแสดงถึงลิขสทิ ธิ์เกี่ยวกับการทำโครงงาน ง. เพื่อให้ผู้อ่ืนนำโครงงานดังกล่าวไปพฒั นาและใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
236 6. ในการจดั แสดงโครงงานน้ัน ข้อใดสำคัญที่สุดทีค่ วรพิจารณาอันดับแรก ก. ดึงดูดความสนใจผเู้ ข้าชม ใช้สที ส่ี ดใส ข. ใชข้ ้อความกะทดั รัด ชัดเจน และเขา้ ใจง่าย ค. มีรูปภาพประกอบ โดยจัดวางอย่างเหมาะสม ง. ทกุ อย่างตอ้ งถูกตอ้ ง ไมม่ กี ารสะกดผดิ หรืออธบิ ายหลกั การที่ผดิ 7. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระเดน็ สำคญั ในการจัดแสดงและการนำเสนอผลงาน ก. ชอื่ โครงงาน ชือ่ ผทู้ ำโครงงาน ช่ือทป่ี รึกษา ข. ผลงานท่เี กิดข้นึ จากการทำโครงงาน ค. ผลงานทกุ ช้นิ ท่ีทดลอง ง. วธิ กี ารดำเนินการ โดยเลือกเฉพาะข้ันตอนที่เดน่ และสำคัญ 8. ขัน้ ตอนแรกของการทำโครงงาน คอื ข้อใด ก. การนำเสนอและแสดงโครงงาน ข. จัดทำเคา้ โครงของโครงงาน ค. คัดเลือกหวั ข้อโครงงานทีส่ นใจ ง. ศกึ ษาคน้ คว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมูล 9. ข้อใดเปน็ สิ่งสำคญั อนั ดบั แรกของการตดั สนิ ใจเลือกหัวขอ้ ทจี่ ะนำมาพฒั นาโครงงาน ก. สามารถจัดหาเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ได้ ข. มีงบประมาณเพียงพอ ค. มีเวลาเพยี งพอ ง. มีความรู้และทกั ษะพ้นื ฐานอย่างเพยี งพอ ในหวั ขอ้ เรอื่ งทจ่ี ะศึกษา 10. มานีขอพบครผู ู้สอนวิชาวทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือขอคำแนะนำการทำโครงงานพฒั นาโปรแกรมสอนเรอ่ื ง ระบบสุรยิ ะ อยู่ในขน้ั ตอนใดของการทำโครงงาน ก. ขั้นการคัดเลอื กหัวข้อโครงงาน ข. ขัน้ การศกึ ษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหล่งขอ้ มูล ค. ขน้ั การจดั ทำข้อเสนอโครงงาน ง. ขน้ั การลงมือทำโครงงาน
237 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน บทเรียนออนไลน์ที่ 4 เรือ่ ง การวดั และประเมินผลโครงงาน 1. ค 2. ง 3. ค 4. ง 5. ง 6. ง 7. ค 8. ข 9. ง 10. ข
238 แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าประวัตศิ าสตรช์ าติไทย สค12024 ใบงาน กิจกรรม คะแนน 1 เรอื่ งความภูมิใจในความเป็นชาตไิ ทย - 1 ความหมาย ความเปน็ มา และความสำคัญของสถาบนั หลกั ของชาติ 10 2 เสรีภาพในการนับถอื ศาสนาของไทย 10 เรอื่ ง พระมหากษตั ริย์ไทยและบรรพบุรษุ ในสมัยสโุ ขทัย 10 1 พระมหากษัตริย์ไทยในสมัยสโุ ขทัย 10 2 เรื่อง บญุ คุณพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย 20 3 เร่ือง การเมอื งการปกครองสมยั สโุ ขทัย 40 4 เร่ือง สภาพสังคมและวฒั นธรรมของอาณาจักรสโุ ขทยั 100 5 เรื่อง การบริหารจดั การเรื่องนำ้ สมัยสโุ ขทยั 6 สอบระหวา่ งภาค 7 สอบปลายภาค รวม
239 แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าแบบออนไลน์ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย สค12024 จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดับประถมศกึ ษา จำนวน 80 ชั่วโมง บทเรียน หัวเรื่อง วตั ถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม กจิ กรรมการเรียนรู้ จำนวน ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรู้ที่ ออนไลน์ ชวั่ โมง ประเมนิ ผล คาดหวงั บทเรยี น 1.ปฐมนเิ ทศ เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนเข้าใจแนวทางการ ปฐมนิเทศโดย 30ชม. -คลปิ - -- ออนไลน์ เรยี น กศน. ผอ.กศน.อำเภอ -Google Site ท่1ี ครูช้ีแจงรายละเอียดในสปั ดาหท์ ่ี นางจดิ าภา บวั ทอง ใบงานท่ี 1 1 -มอบหมายบทเรียนออนไลน์ ผู้เรียนศึกษาเรยี นรูจ้ าก 1.หนงั สือเรียน มอบหมายงาน เพื่อให้ผเู้ รยี น ท่ี 1 หนังสือแบบเรียนหรือ วชิ าประวตั ศิ าสตร์ บทเรยี น อธิบายเสรีภาพใน วชิ า วิชาประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย อินเตอรเ์ นต็ รายวิชา ชาติไทย สค12024 ออนไลน์ท่ี1 การนับถอื ศาสนา ประวตั ิศาสตร์ 1. เพ่อื ให้ผ้เู รยี นอธิบาย ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย 2.สอื่ อินเตอรเ์ นต็ ของไทย ชาติไทย ความหมาย ความเป็นมา และ สค12024 ค้นคว้าหาความรู้ท่ี ความสำคญั ของสถาบันหลกั ของ เกยี่ วขอ้ งและบนั ทกึ ความรู้ที่ ชาติ ได้ลงในสมดุ บันทึกการเรยี นรู้ 2. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนอธบิ ายเสรภี าพ ในการนับถอื ศาสนาของไทย 239
240 แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาแบบออนไลน์ รายวิชา ประวัติศาสตรช์ าติไทย สค12024 จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดับประถมศึกษา จำนวน 80 ช่ัวโมง บทเรยี น หัวเร่ือง วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กิจกรรมการเรยี นรู้ จำนวน สือ่ /แหลง่ การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรทู้ ่ี คาดหวงั ออนไลน์ พฤตกิ รรม ชัว่ โมง เรยี นรู้ ประเมินผล ช่อง 1 ผเู้ รียนสามารถ บทเรียน เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นเขา้ ใจแนว -ช้ีแจงวิธีการพบกลมุ่ ออนไลน์ 30 คลิปวดี ีโอ บทเรียน บอกความเป็นมา ของชาติไทยและ ออนไลน์ ทางการเรียน กศน. - ชแ้ี จงรายละเอยี ดการเรียนรู้ของสปั ดาหท์ ี่ นาที -Google Site ออนไลน์ท่ี2 จดั ลำดับเหตุการณ์ สำคญั ของ ท่2ี 3 พระมหากษตั รยิ ์ ไทยในยคุ ตา่ งๆ ได้ วิชา 1. เพื่อใหผ้ ู้เรียน ผู้เรยี นศกึ ษาเรยี นรจู้ าก Google site ประวตั ศิ าสตร์ สามารถบอกความ ประวตั ศิ าสตร์ สค12024 อนิ เตอรเ์ น็ต ชาติไทย เป็นมาของชาตไิ ทย เรื่องเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ของประวตั ศิ าสตร์ไทย 15 ชม. คลปิ วีดีโอ 2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียน ทผ่ี เู้ รยี นรู้จกั สามารถจัดลำดบั -แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เหตุการณ์สำคญั ของระ -แบบทดสอบหลังเรยี น มหากษัตริย์ไทยในยุค -ใบงานที่ 1 เร่อื ง-ความเปน็ มาของชาติไทย ต่างๆได้ -บญุ คณุ ของพระมหากษัตรยิ พ์ ระองคอ์ นื่ ๆ ในสมัยตา่ ง 240
241 แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรรู้ ายวชิ าแบบออนไลน์ รายวิชา ประวตั ิศาสตรช์ าติไทย สค12024 จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดับประถมศึกษา จำนวน 80 ช่ัวโมง บทเรยี น หัวเรือ่ ง วตั ถปุ ระสงค์เชงิ กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน สอ่ื /แหล่ง การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรูท้ ่ี ออนไลน์ พฤติกรรม ชั่วโมง เรียนรู้ ประเมินผล คาดหวัง บทเรียน จัดกจิ กรรมการ 1.เพือ่ ใหส้ ามารถบอก - ชแ้ี จงรายละเอยี ดการเรยี นร้ขู อง 6 ชม. อนิ เตอรเ์ นต็ บทเรยี น ชอ่ ง 2 ผูเ้ รียนสามารถ ออนไลน์ เรยี นร้อู อนไลน์ พระราชประวัติ พระ สัปดาห์ท่ี 7 คลปิ วีดีโอ ออนไลนท์ ี่3 บอกพระราช ท่ี 3 วิชา ราชกรณยี กิจท่ีสำคญั ผู้เรียนศึกษาเรียนรู้จาก Google site -Google Site ประวัติและพระ ประวตั ิศาสตร์ ของพระมหากษตั ริย์ ประวตั ศิ าสตร์ สค12024 ราชกรณียกิจท่ี ชาตไิ ทย ไทย ในสมยั สุโขทยั ได้ เรื่อง พระราชประวตั ิและพระราช สำคญั ของ 2.เพ่ือให้ผเู้ รียนบอก กรณียกจิ ทสี่ ำคญั ของพระมหากษตั รยิ ์ พระมหากษัตริย์ วีรกรรมของบรรพ ไทย ในสมัยสโุ ขทัย ไทย ในสมยั บุรุษสมัยสุโขทยั ได้ -แบบทดสอบก่อนเรียน สโุ ขทยั ได้ -แบบทดสอบหลังเรียน -ใบงานท่ี 2 เร่ือง -ลักษณะการเมืองการปกครองสุโขทยั และวีรกรรมของบรรพบรุ ุษสมัย สโุ ขทัย 241
242 แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรูร้ ายวชิ าแบบออนไลน์ รายวชิ า ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย สค12024 จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั ประถมศกึ ษา จำนวน 80 ช่ัวโมง บทเรยี น หวั เร่อื ง วตั ถปุ ระสงค์เชิง กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน สอ่ื /แหลง่ การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ท่ี ออนไลน์ พฤตกิ รรม ประเมนิ ผล คาดหวงั บทเรยี น จดั กจิ กรรมการ ช่ัวโมง เรียนรู้ บทเรยี น ออนไลน์ เรยี นรอู้ อนไลน์ 1.เพ่อื ให้ผูเ้ รียนสามารถ ออนไลน์ท่ี4 ชอ่ ง 3 ผเู้ รยี นสามารถ บอกและยกตัวอยา่ ง - ช้ีแจงรายละเอยี ดการเรียนรู้ของ 30 ชม. อินเตอรเ์ นต็ บอกและ ท่ี4 วิชาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมสมัยสุโขทยั ได้ ยกตัวอยา่ ง ชาติไทย 2.เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถ สปั ดาห์ที่ 12 คลปิ วดี ีโอ วัฒนธรรมสมยั บอกแนวทางในการสบื สโุ ขทยั สานวัฒนธรรมสมยั ผู้เรียนศกึ ษาเรียนรู้จาก Google site -Google Site สโุ ขทยั 3.เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถ ประวตั ศิ าสตร์ สค12024 แสดงความคิดเห็นในการ สบื สานมรดกทาง เรอื่ งมรดกทางวัฒนธรรมสมยั สโุ ขทัย วฒั นธรรมสมัยสุโขทยั สู่ การปฏบิ ัตไิ ด้ -แบบทดสอบกอ่ นเรียน -แบบทดสอบหลังเรียน -ใบงานที่ 3 เร่อื ง -ประเพณีไทยในสมัยสุโขทัย -ดนตรีไทยและดนตรีพื้นบา้ นสมยั สุโขทัย 242
243 แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรรู้ ายวชิ าแบบออนไลน์ รายวชิ า ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย สค12024 จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา จำนวน 80 ชั่วโมง บทเรยี น หัวเรือ่ ง วัตถปุ ระสงค์เชงิ กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน สอ่ื /แหล่ง การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ ออนไลน์ พฤตกิ รรม ชวั่ โมง เรียนรู้ ประเมินผล ท่คี าดหวงั - สถาปตั ยกรรมและประติมากรรม สมัยสุโขทยั 1) เจดีย์สมัยสโุ ขทยั 2) พระพุทธรูปสมยั สโุ ขทยั การสบื สานมรดกทางวัฒนธรรมสมยั สโุ ขทยั 243
244 แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาแบบออนไลน์ รายวชิ า ประวตั ิศาสตรช์ าติไทย สค12024 จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา จำนวน 80 ชั่วโมง บทเรียน หวั เรื่อง วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม กิจกรรมการเรยี นรู้ จำนวน สอื่ /แหล่ง การวดั และ กศน.4 ผลการเรียนรู้ที่ ออนไลน์ ชวั่ โมง เรยี นรู้ ประเมนิ ผล ช่อง 4 คาดหวัง บทเรียน จัดกจิ กรรมการ ออนไลนท์ ่ี5 เรยี นรู้ออนไลน์ 1.เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถ - ช้แี จงรายละเอยี ดการ 10 ชม. อนิ เตอรเ์ นต็ บทเรยี น ผู้เรียนสามารถบอก ประวตั ิศาสตร์ชาติ อธิบายวิธีการบรหิ ารจัดการ เรียนรขู้ องสปั ดาห์ท่ี 16 คลิปวดี ีโอ ออนไลน์ท่ี5 ยกตัวอย่างวัฒนธรรม ไทย นำ้ สมยั สุโขทัย ผ้เู รียนศกึ ษาเรียนรู้จาก -Google Site การสืบสานวัฒนธรรม 2.เพ่ือใหผ้ ้เู รยี นสามารถ Google Site สมยั สโุ ขทยั ได้ ยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้ ประวัติศาสตร์ สค12024 การอยูก่ บั นำ้ ในสมัยโบราณ เรอื่ งเหตุการณ์ทาง กับชวี ิตประจำวนั ประวตั ิศาสตร์ 3.เพอื่ ผ้เู รียนมีทักษะในการ สมยั สโุ ขทัย สืบคน้ ข้อมูลการบริหาร แบบทดสอบก่อนเรียน จัดการนำ้ สมัยสโุ ขทัย และ ทำใบงานที่ 4 เรือ่ ง ความเป็นมาของ ประวัตศิ าสตร์การบรหิ าร จัดการน้ำและการอยกู่ ับน้ำ ในสมยั โบราณ 244
245 ภาคผนวก : ส่ือเอกสารบทเรียนออนไลน์ที่ 1 – 5 วิชาประวตั ิศาสตรช์ าติไทย (สค12024)
246 แบบทดสอบกอ่ นเรียน บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 เรอื่ ง บุญคุณพระมหากษัตริย์ไทย 1) สถาบนั หลักของประเทศไทยคอื ข้อใด ก.ชาติ ข.ศาสนา ค.พระมหากษัตริย์ ง.ถูกทุกขอ้ ทก่ี ลา่ วมา 2 ) สถาบันพระมหากษัตริย์อยูค่ ่กู ับสังคมไทยมาตง้ั แตส่ มยั ใด ก.สุโขทัย ข.อยธุ ยา ค.ธนบรุ ี ง.รตั นโกสินทร์ 3) อาณาจักรอยุธยาเป็นราชธานีของไทยนานถึงกปี่ ี ก.15 ปี ข.200 ปี ค.417 ปี ง.275 ปี 4) กษัตรยิ ร์ าชวงศใ์ ดปกครองอาณาจกั รสโุ ขทัย ก.ราชวงศส์ ุโขทยั ข.ราชวงศพ์ ระร่วง ค.ราชวงศ์บา้ นพลหู ลวง ง.ราชวงศส์ พุ รรณภมู ิ 5) บุคคลใดเปน็ พระมหากษตั ริย์ในสมยั ธนบุรี ก.พอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ ข.สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลก ค.สมเด็จพระเจ้าตากสนิ ง.พระมหาธรรมราชาที่ 1 6) ข้อใดไมใ่ ช่ความสำคญั ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ก.ดำรงไวซ้ งึ่ ความเป็นชาติและเอกราชของไทย ข.เปน็ ทย่ี ดึ เหนย่ี วจิตใจของประชาชนทัง้ ชาติ ค.ทรงเปน็ อัครศาสนปู ถัมป์ภก ง.ทรงเปน็ ตน้ ตระกลู ของคนไทย 7) พระมหากษตั รยิ ์ทรงใช้อำนาจบริหารโดยผ่านองคก์ รใด ก.ศาล ข.คณะรัฐมนตรี ค.คณะองคมนตรี ง.รฐั สภา
247 8) การแตง่ ตั้งคณะผพู้ พิ ากษาให้เปน็ ไปในพระปรมาภไิ ธย ของพระมหากษัตรยิ ์ แสดงถึงการใช้ อำนาจของพระมหากษัตรยิ ใ์ นขอ้ ใด ก.อำนาจบรหิ าร ข.อำนาจนิตบิ ญั ญัติ ค.อำนาจตุลาการ ง.อำนาจรัฐ 9) ข้อใดไม่ใชอ่ งค์กรที่เป็นตัวแทนของพระมหากษัตรยิ ์ในการใช้อำนาจอธิปไตย ก.คณะองคมนตรี ข.ผพู้ ิพากษา ค.สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรและวฒุ ิสภา ง.คณะรฐั มนตรี 10) การใชอ้ ำนาจทางนติ บิ ญั ญตั ขิ องพระมหากษตั ริยห์ มายถงึ ข้อใด ก.การแตง่ ตัง้ ผูพ้ พิ ากษา ข.การใหค้ ณะรฐั มนตรถี วายสตั ย์ปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์กอ่ นจงึ สามารถปฏบิ ัติหนา้ ทไี่ ด้ ค.ทรงดำรงตำแหนง่ ประมุขของชาติ ง.การกำหนดใหร้ า่ งกฎหมายท่ีจะใชบ้ งั คับต้องใหพ้ ระมหากษตั รยิ ล์ งปรมาภิไธยกอ่ น 11) ราชวงศจ์ ักรีเปน็ กษตั รยิ ์ปกครองอาณาจกั รใด ก.อาณาจกั รสโุ ขทัย ข.อาณาจกั รอยุธยา ค.อาณาจักรธนบรุ ี ง.อาณาจกั รรัตนโกสินทร์ 12) คำว่า อัครศาสนูปถมั ปภ์ ก หมายความว่าอย่างไร ก.ผ้ทู ำนุบำรุงอปุ ถมั ภ์ศาสนาทกุ ศาสนา ข.ผ้ทู ำนบุ ำรุงศาสนาพุทธ ค.ผกู้ ่อตง้ั ศาสนา ง.ผ้เู ผยแผ่ศาสนา 13) การท่ีพระมหากษตั รยิ เ์ สด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ เป็นบทบาทด้านใดของ พระมหากษัตริย์ ก.การส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ของประชาชน ข.การเปน็ อคั รศาสนูปถมั ปภ์ ก ค.การสรา้ งความสัมพนั ธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ง.กระตนุ้ การพฒั นาเศรษฐกจิ 14)คำว่า พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ พทุ ธมามกะ หมายความถึงขอ้ ใด ก.พระมหากษตั รยิ ์เป็นผกู้ อ่ ต้งั ศาสนาพุทธ ข.พระมหากษัตริย์ผู้นับถอื ศาสนาพุทธ ค.พระมหากษตั ริยผ์ ้ศู ึกษาศาสนาพทุ ธ ง.พระมหากษัตรยิ ์ผู้เป็นศาสดาของศาสนาพทุ ธ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348