Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือแผนออนไลน์ประถม1-63 แก้ไขรอบที่ 5

คู่มือแผนออนไลน์ประถม1-63 แก้ไขรอบที่ 5

Published by fangza_8894, 2021-12-02 03:44:44

Description: คู่มือแผนออนไลน์ประถม1-63 แก้ไขรอบที่ 5

Search

Read the Text Version

298 เฉลยใบกจิ กรรม บทเรียนออนไลน์ที่ 2 เรอื่ ง ลักษณะการเมืองการปกครองสุโขทัย 1. การปกครองแบบราชาธปิ ไตยมีลักษณะสำคญั อย่างไร ......พระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ผปู้ กครอง สูงสุด ทรงเปน็ ผู้ใชอ้ ำนาจอธิปไตย ..... 2. สุโขทยั มีลักษณะการปกครอง 2 แบบ คือ 1. การปกครองสุโขทยั ตอนต้น…………. 2. การปกครองสโุ ขทัยตอนปลาย ………………….. 3. การปกครองแบบบิดาปกครองบุตร คอื การปกครองทีม่ ีลกั ษณะสำคัญเช่นไร . ......... พระมหากษัตริย์ทรงใกล้ชิดกับประชาชน เสมือนพ่อปกครองลูก…….. 4. ลกั ษณะเด่นของการปกครองในสมยั สุโขทยั ตอนตน้ คอื อะไร.........พระมหากษัตรยิ ม์ ีความใกลช้ ิด กับประชาชน 5. พระมหากษัตริย์สุโขทัยพระองค์ใดบ้างท่ีปกครองแบบพอ่ ปกครองลกู พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย์ พ่อขุนบานเมอื ง พอ่ ขนุ รามคำแหงมหาราช…………………………. 6. การปลูกฝังธรรมะให้แกป่ ระชาชนของพ่อขุนรามคำแหง ทำให้เกดิ ประโยชน์ คือ ....................... ประชาชนเกิดความสามัคคีง่ายต่อการปกครอง ……………….. 7. สมัยทขี่ อมยงั มอี ำนาจปกครองสโุ ขทยั การปกครองของขอมมลี กั ษณะอยา่ งไร นายปกครองบา่ ว 8. ในระยะเรมิ่ แรกของอาณาจกั รสุโขทัยผ้นู ำของอาณาจักรสุโขทัยมีฐานะเป็นอะไร. พ่อขนุ 9. คำว่า พ่อขนุ ในสมยั สโุ ขทัย หมายถึง ....พระมหากษตั รยิ ์ผู้มีอำนาจสูงสุด ใชอ้ ำนาจโดย ยึดหลกั รกั เมตตาประชาชนเหมอื นบตุ ร ……………………………….. 10. พระมหากษัตริย์สโุ ขทยั ในระยะแรกปฏบิ ตั ิพระองค์เช่นไรต่อประชาชน .................................. ใหค้ วามใกล้ชิดกับประชาชน …………………………. 11. ให้ผเู้ รยี นบอกชอ่ื พระมหากษตั รยิ ์ในสมยั สุโขทัยมาอยา่ งนอ้ ย 5 พระองค์ ตอบ 1. พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทิตย์ 2. พอ่ ขุนบานเมอื ง 3. พอ่ ขุนรามคำแหงมหาราช 4. พญาเลอไท 5. พญางว่ั นำถม 6. พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลไิ ท) 7. พระมหาธรรมราชาที่ 2 8. พระมหาธรรมราชาท่ี 3 (พญาไสลือไทย) 9. พระมหาธรรมราชาท่ี 4 (พญาบานเมอื งองคท์ ่ี 2)

299 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 เรอ่ื ง การเมืองการปกครองสมยั สโุ ขทยั คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบทีถ่ ูกต้องท่สี ุดเพียงคำตอบเดยี ว 1. ในสมัยสุโขทัยตอนตน้ พระมหากษัตรยิ ท์ รงปกครองประชาชนแบบใด ก. อตั ตาธิปไตย ข. พ่อปกครองลูก ค. ประชาธปิ ไตย ง. สมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ 2. การใชห้ ลักธรรมบรหิ ารบ้านเมอื งสมัยสโุ ขทัยพระมหากษตั ริยท์ รงชกั ชวนให้ประชาชน กระทำสงิ่ ใดจึงสามารถอยรู่ ว่ มกันอย่างมคี วามสุข ก. แบ่งปันกนั ข. แขง่ ขนั กัน ค. ปฏบิ ตั ธิ รรม ง. ชว่ ยเหลือกัน 3. การปกครองแบบ “ธรรมราชา” เปน็ การปกครองท่ีพระมหากษัตรยิ ์จะต้องปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร ก. ปฏิบัตติ ามหลกั ทศพิธราชธรรม ข. ปกครองประเทศด้วยความเขม้ แข็ง ค. ดแู ลทุกขส์ ุขของราษฎรอยา่ งใกล้ชดิ ง. พระมหากษตั ริย์ทรงบรหิ ารประเทศร่วมกับประชาชน 4. เมืองใดต่อไปนไ้ี มไ่ ดจ้ ัดอยู่ในอาณาเขตการปกครองของอาณาจกั รสโุ ขทัย สมัยพอ่ ขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ ก. เมืองแพร่ ข. เมืองสโุ ขทัย ค. เมืองเชลียง ง. เมืองสระหลวง 5. ข้อใดตอ่ ไปน้ีไม่ใช่ เมอื งลูกหลวงในสมยั สโุ ขทัย ก. เมืองสองแคว ข. เมอื งนครชุม ค. เมืองศรีสัชนาลยั ง. เมอื งนครศรธี รรมราช

300 6. ธรรมะในข้อใดท่ีกษตั ริย์สมัยสุโขทยั นำมาใช้ปกครองประชาชนจนเป็นแบบอย่างมาจนถึง ปัจจุบัน ก. สัตบรุ ุษ ข. พรหมวิหาร 4 ค. ทศพิธราชธรรม ง. กุศลกรรมบท 10 7. พระมหากษัตริย์พระองค์ใด ในสมยั สโุ ขทัยท่ีนำเอาพระพุทธศาสนาเข้ามาเกย่ี วขอ้ งกับการปกครอง ก. พระยาลิไทย ข. พญาไสลือไทย ค. พ่อขุนรามคำแหง ง. พระมหาธรรมราชาท่ี 4 8. พระราชกรณียกิจใด ของพ่อขนุ รามคำแหง มหาราช ทน่ี บั ได้ว่าเปน็ การวางรากฐานสำคัญท่ีสุด ทางด้านวัฒนธรรมไทย ก. การประดิษฐอ์ ักษรไทย ข. การทำนบุ ำรงุ พระพทุ ธศาสนา ค. การปกครองแบบบดิ าปกครองบุตร ง. การสร้างขนบธรรมเนยี มประเพณไี ทย 9. เมืองประเภทใดทีพ่ ระมหากษตั ริย์สโุ ขทัยจะไม่เข้าไปยุ่งเก่ียวกับการปกครองภายใน ก. เมืองลูกหลวง ข. หัวเมืองชน้ั ใน ค. หัวเมอื งช้นั นอก ง. เมอื งประเทศราช 10. ลกั ษณะท่ีสำคญั ที่สดุ ของการปกครองสมยั สุโขทัย คอื ข้อใด ก. พระมหากษตั รยิ เ์ ปรยี บเสมอื นหวั หนา้ ครอบครวั ข. พระมหากษตั ริยม์ อี ำนาจสงู สุดในการปกครองบา้ นเมอื ง ค. พระมหากษตั ริย์มีความสมั พันธก์ บั ราษฎรเสมือนบดิ ากบั บุตร ง. พระมหากษตั ริย์ทรงยดึ หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาในการปกครอง

301 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 เรอ่ื ง การเมืองการปกครองสมัยสโุ ขทยั 1.ข 2. ค 3. ก 4. ง 5. ง 6. ค 7. ก 8. ก 9. ง 10. ข

302 แบบทดสอบก่อนเรียน บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 3 เรอ่ื ง สภาพสังคมและวัฒนธรรมของอาณาจักรสโุ ขทัย คำส่งั ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพยี งข้อเดยี ว 1. เจดีย์สร้างในสมัยสโุ ขทยั ซ่งึ เปน็ แบบสุโขทยั แท้มลี กั ษณะอย่างไร ก. ทรงแปดเหลีย่ ม ข. ทรงพุ่มขา้ วบณิ ฑ์ ค. ทรงกลมแบบลังกา ง. ทรงกลมแบบอินเดยี 2. ถา้ เราไปนมัสการกราบไหว้พระทีว่ ดั พระศรรี ตั นมหาธาตุ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก เราควรไปกราบไหว้ พระพุทธรปู องคใ์ ด ก. พระอจนะ ข. พระพทุ ธชนิ สีห์ ค. พระพุทธชนิ ราช ง. พระศรีศากยมนุ ี 3. พระพุทธรูปองค์ใดที่สร้างในสมัยสุโขทัย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ท่ีวัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพมหานคร ก. พระอจนะ ข. พระพทุ ธชินสีห์ ค. พระพุทธชินราช ง. พระศรศี ากยมุนี 4. การศึกษาภาพจำหลกั ลายเสน้ ซึง่ พบท่ีเพดานมณฑปวดั ศรีชมุ จงั หวัดสโุ ขทัย เราจะไดร้ ับความรู้ เก่ยี วกบั เรอ่ื งอะไร ก. ชาดกชุดพระเจ้าห้ารอ้ ยชาติ ข. การเมอื งการปกครองสมยั สุโขทยั ค. เรอ่ื งราวต่าง ๆ ของอาณาจักรสโุ ขทยั ง. การประดิษฐอ์ ักษรไทยของพอ่ ขนุ รามคำแหงมหาราช 5. ลายสอื ไทย หมายถงึ อะไร ก. ตัวอักษรไทย ข. พระพุทธรปู สมัยสุโขทัย ค. ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ง. ภาพจำหลักลายเสน้ บนแผน่ หนิ ชนวน

303 6. ตวั อักษรไทยท่ีสร้างขึน้ ในสมัยพ่อขนุ รามคำแหงมหาราช ดัดแปลงมาจากตัวอกั ษรใด ก. อกั ษรพม่า และอักษรลาว ข. อักษรลาว และอักษรเขมร ค. อักษรพมา่ และอักษรมอญ ง. อกั ษรเขมร และอักษรมอญ 7. สิ่งใดในสมยั สโุ ขทยั ท่ยี ูเนสโกได้ประกาศขน้ึ ทะเบียนเปน็ เอกสารมรดกความทรงจำโลก ก. ลายสือไทย ข. หนังสือไตรภมู พิ ระร่วง ค. ศิลาจารกึ พ่อขุนรามคำแหง ง. ภาพจำหลักลายเส้นบนแผนหนิ ชนวน 8. ข้อใดไม่ใชพ่ ัฒนาการของเตาทุเรยี ง ก. เตาสูบ ข. เตาขุด ค. เตาอโุ มงค์ ง. เตาประทุน 9. ขอ้ ใดกลา่ วถึงเคร่อื งสังคโลกสมยั สุโขทัยไมถ่ กู ต้อง ก. สว่ นใหญ่เคลอื บสีเขยี ว ข. ได้รับอทิ ธิพลมาจากจนี ค. มีคณุ ภาพดี ลวดลายสวยงาม ง. มีเฉพาะของใช้ประจำวนั ในครัวเรือน 10. สรีดภงส์ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. ฝาย ข. เข่ือน ค. ทำนบ ง. เหมือง

304 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 เรอื่ ง สภาพสงั คมและวฒั นธรรมของอาณาจกั รสโุ ขทยั 1. ข 2. ค 3. ข 4. ก 5. ก 6. ง 7. ค 8. ก 9. ง 10. ค

305 ใบกิจกรรม บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 3 เร่ือง สภาพสงั คมและวฒั นธรรมของอาณาจักรสโุ ขทัย ครูแนะแนว https://www.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=g2gzfeFLZYE แบบทดสอบกอ่ นเรยี น https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfNqTcDsmsUxJc3Phufab_K0xiewLW8tXQ z2SZkW-0xNUR6LQ/viewform ใบงาน : การเมืองการปกครองสมัยสโุ ขทยั https://www.youtube.com/watch?t=98s&v=5nc9a45DgN0 ใบกจิ กรรม https://sites.google.com/d/1vVTYJtp1Qyxn4-g- lbJUSkwUCtSQ866x/p/19p4yLDwCjVgJvjH0NmM3RbU90rTyZxfL/edit แบบทดสอบหลงั เรียน https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSf530COooIOuUQk0- dD_vy0BLfHvUvhP3Jwbkql9eyLVhxmjA/viewform พบปะครผู ู้สอน https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSf530COooIOuUQk0- dD_vy0BLfHvUvhP3Jwbkql9eyLVhxmjA/viewform แบบทดสอบก่อนเรยี น https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfjhJ08oE2gYlviRwj2okIcV- 7Xwgb87BHvooBa2WDz1SybrQ/viewform ใบงาน ให้นักศกึ ษา เรียนรจู้ ากคลิป - เร่ืองศลิ าจารึกและกำเนิดอักษรไทย https://www.youtube.com/watch?v=8BLWuq51Rqw - เร่ืองศิลปหตั กรรม https://www.youtube.com/watch?v=EFsNRbTW7Aw - พลวตั ทางสงั คม สมยั สุโขทัย https://www.youtube.com/watch?t=72s&v=Tujb2y4mCjw - ดนตรีในสมยั สุโขทัย https://www.youtube.com/watch?v=bg9hvWZUVG8 ใบกจิ กรรมที่ 3 https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfnKANXw4wnQOIFXNX8uZR6o9PO2hnB6bJiLS d56njeaaDTKw/viewform แบบทดสอบหลังเรยี น https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSeR68LAmMBHaoS- gcDHwhJ-MzSHQISbEel18fL7wg2HTxQxUA/viewform

306 ใบความรู้ บทเรยี นออนไลน์ท่ี 3 เรอ่ื ง สภาพสงั คมและวฒั นธรรมของอาณาจกั รสุโขทยั ประเพณีลอยกระทงเผาเทยี นเล่นไฟ จังหวดั สโุ ขทยั ความเป็นมา/ความสำคัญ ประเพณีลอยกระทงนน้ั ไมม่ ีหลกั ฐานระบแุ นช่ ดั ว่าเร่มิ ตงั้ แต่เมือ่ ใด แต่เชอ่ื ว่าประเพณีนไ้ี ดส้ ืบ ต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า \"พิธีจองเปรียญ\" หรือ \"การลอยพระประทีป\" และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลกั ที่ 1 กล่าวถึงงานเผา เทียนเล่นไฟว่าเปน็ งานรื่นเริงที่ใหญ่ ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงาน ลอยกระทงอย่างแน่นอน จังหวดั สโุ ขทัย กรมศลิ ปากร และ การทอ่ งเทีย่ วแหง่ ประเทศไทย จึงร่วมกัน จดั งานประเพณี ลอยกระทง เผาเทียนเลน่ ไฟ จงั หวัดสโุ ขทัย ข้ึนเมอ่ื ปี พ.ศ. 2520 เพ่ือเป็นการฟื้นฟู ประวัติศาสตร์ประเพณีลอยกระทงและส่งเสริมการเดินทางท่อง เที่ยวจังหวัดสุโขทัย โดยให้ชื่องาน ตามคำในศิลาจารึกว่า \"งานเผาเทียน เล่นไฟ\" จุดเน้นที่สำคัญของงานนี้ คือ การฟื้นฟูประเพณีลอย กระทง เผาเทยี น เล่นไฟ พลุ ตะไล ไฟพะเนยี ง ดอกไมไ้ ฟชนดิ ตา่ งๆ จงั หวดั สโุ ขทยั โดยกำหนดจัดข้ึน ทกุ ปี ในวนั เพญ็ เดือน 12 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) หรอื ประมาณเดือนพฤศจกิ ายน ของทุกปี ประเพณี ลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ งานประเพณีลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ณ อุทยาน ประวัติศาสตร์สุโขทัย จัดขึ้นในวันเพ็ญ เดือนสิบสองของทุกปี ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นในระดับประเทศ เป็นการอนุรกั ษ์และส่งเสริมศิลปวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณอี ันดงี าม พบกับบรรยากาศย้อน ยคุ 700 ปี พบเหน็ วิถีชีวติ ของความเปน็ ไทย มีกจิ กรรมตา่ งๆ ดังนี้ 1. พธิ ีรับรุ่งอรุณแหง่ ความสขุ 2. การแสดงแสงและเสียง ณ วดั มหาธาตุ 3. การแสดงศลิ ปวัฒนธรรมพนื้ บา้ น /หมู่บ้านวถิ ไี ทย 4. กิจกรรมลานเทศน์ ลานธรรม ณ บริเวณดงตาล 5. กจิ กรรมประกวดกระทงใหญ่ กระทงเลก็ และจัดแห่ขบวนนางนพมาศ 6. การประกวดนางนพมาศ เครือ่ งบชู าเทศนม์ หาชาติ พนมหมาก พนมเบีย้ พนมดอกไม้ และเทียนพนม บางท่านคงเคยได้ยนิ และทราบความหมายของคำว่า พนมหมาก พนมเบี้ย พนมดอกไม้ และเทียนพนมเป็นอย่างดีแล้ว และก็คงมีบางท่านอาจไม่เคยได้ยินได้ฟัง หรือแม้กระทั่งได้ทราบ ความหมายของชื่อต่างๆ เหลา่ น้ี จงขอนำเสนอเรอื่ งราวนี้เพ่ือเผยแพร่ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรมไทย อกี แขนงหนึ่ง

307 พนมหมาก พนมเบยี้ และพนมดอกไมน้ มี้ ีกล่าวไวใ้ นศลิ าจากรึกพอ่ ขนุ รามคำแหง วา่ “คนในเมืองสโุ ขทยั น้ีมักทาน มกั ทรงศลี มักโอยทาน พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองสุโขทัยน้ี ทงั้ ชาวแมช่ าวเจ้า ทว่ ยปว่ั ทว่ ยนาง ลูกเจา้ ลูกขุน ท้งั สนิ้ ทงั้ หลาย ทงั้ ผู้ชายผหู้ ญิง ฝูงท่วยมีศรัทธราใน พระพทุ ธศาสนา ทรงศีลเมอื่ พรรษาทุกคน เมอื่ ออกพรรษากรานกฐินเดือนหน่งึ จงึ่ แล้ว เมื่อกรานกฐิน มีพนมเบยี้ มีพนมหมาก มพี นมดอกไม้ มีหมอนนงั่ หมอนนอน บรพิ ารกฐนิ โอยทานแล่ปีแล้ญิบบ้าน ไปสวดญัตติกฐนิ ถงึ อรัญญิกพู้น...” รูปภาพ พนมหมาก ใช้เป็นเคร่ืองบชู าเทศมหาชาติ จากข้อความในศิลาจารึกดังกล่าวจะเห็นได้ว่า พนมเบี้ย พนมหมาก พนมดอกไม้ เกี่ยวข้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีไทย และอาจกล่าวได้ว่าเป็นมรดกวัฒนธรรมไทยที่สืบ ต่อเน่อื งกนั มาอย่างไม่ขาดสายแมใ้ นปจั จุบัน ถ้าแยกศัพท์คำว่า “พนม” ออกจากคำว่า เบ้ีย หมาก ดอกไม้ และเทียนแลว้ “พนม” ใน ความหมายของภาษาเขมรแปลว่า “ภูเขา” และความหมายของไทยหมายถึง ลักษณะของสิ่งที่เป็น พุ่มยอดแหลมอย่างดอกบัวตูม การกระพุ่มมือไหว้ หรือที่เราเรียกกันว่าพนมมือ ลักษณะทาง สถาปัตยกรรม ซง่ึ เป็นดอกบัวตูมก็เรียกว่า ทรงพนม และคำวา่ พนมเพลงิ ซง่ึ หมายถึง ไฟส่วนที่กำลัง เผาไหมจ้ ากไส้เชื้อเพลิงก็มรี ูปคล้ายดอกบวั ปลายแหลม สง่ิ ตา่ งๆ เหลา่ น้ีมลี กั ษณะเป็นพุ่มยอดแหลม ทั้งสิ้น ดังนั้นพนมในที่นี้จึงหมายถึงพุ่ม มากกว่าจะหมายถึงภูเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภูเขาและพุ่มก็มี ลักษณะที่มียอดแหลมเช่นเดียวกันเมื่อพนมหมายถึงพุ่ม และนำไปรวมเข้ากับคำว่า หมาก เบ้ีย

308 ดอกไม้ และเทยี นแล้ว พนมหมากหมายถงึ พมุ่ ท่ปี ระดับด้วยหมากที่ใชก้ นิ กับพลู พนมเบี้ยก็หมายถึง พุ่มประดับเงินเบี้ย พนมดอกไม้หมายถึง พุ่มที่ประดับด้วยดอกไม้ และเทียนพนม หมายถึงพุ่มท่ี ประดับด้วยเทยี นนน่ั เอง ลักษณะของพนมหมาก พนมเบี้ย พนมดอกไม้ และเทียนพนมจะมีลักษณะเป็นอย่างไร สวยงามตามความต้องการของผู้จัดอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับศิลปะในการประดิษฐ์ตกแต่งของผู้จัด มี หลักฐานทก่ี ลา่ วถงึ ลักษณะของพนมหมากไวต้ า่ งๆ กนั ดงั นี้ ในหนังสือพระราชพิธีสิบสองเดือน พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอย่หู ัว อธิบายลักษณะของพนมหมากไว้ว่า “เป็นพานแวน่ ฟ้า ป้นั ด้วยดินสองชั้นทาสีเขียวน้ำกาว ที่ปากพานมีกระดาษเจิมเหมือนใบตอง แล้วมีกรวยกระดาษทาสีขาวๆ ตั้งที่ตรงกลาง รอบล่างมีดิน ปั้นก้อนกลมๆ รูปรา่ งเหมือนประทัดลม ตา่ งวา่ หมากทาสีเขยี วหรือสีขาวก็ได้ แลว้ มีนำ้ ยาสีอื่นขีดเป็น สาแหรกห้าสาแหรกเห็นจะต่างว่ารอยผ่าเป็นคำคำ มีทองอังกฤษติดที่ใจสาแหรก ต่อนั้นขึ้นไปมีรูป ภาพสีผึ้งเห็นหงส์ เป็นเทพนมหรือเป็นใบไมต้ ิดไม้เสียบกับกรวยเป็นชั้นๆ เรียวขึ้นไปจนถึงยอด พุ่ม เป็นทองอังกฤษ ตวั สผี ง้ึ ท่ตี ดิ นัน้ ห่างๆ โปร่งแลเหน็ กรวยทเี่ ปน็ แกนข้างใน” ในหนังสอื ประเพณีเทศนม์ หาชาติ เข้าใจว่าคงจะเปน็ พระนพิ นธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธปิ ประพนั ธพงศ์ กล่าวว่า “หมากพนมนี้ประดบั ดว้ ยหมากพลู เปน็ รูปทรงฝาชีต้ังอยู่บน พานแว่นฟ้าสองชัน้ อนั มีใบตองเจิมรอบ ประดับดว้ ยฟกั ทอง มะละกอ เคร่ืองสดแกะบ้าง ทองอังกฤษ กระจกมีบ้าง มีดอกไม้สดปนด้วย” และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนพนักกำแพงฐานไพที วัดพระศรีรัตน ศาสดาราม มตี ัวอยา่ งของพนมหมากทเี่ ราจะหาดูไดง้ า่ ย โดยทำเปน็ รูปกรวยใบตองต้งั บนพานแว่นฟ้า สองชั้น รูปกรวยใบตองแต่งเป็นริ้วตามแนวดิ่งทาสีเขียว ประดับกระเบื้องเคลือบเป็นวงรัด ๓ วง เหมือนมาลยั เกยี้ วรัดกรวยใบตอง กรวยวางควำ่ บนกลีบบัวประดบั กระเบ้ืองเหมือนการเย็บแบบ ส่วน ยอดกรวยแตง่ ประดับกระเบอ้ื งเปน็ บวั กลุ่มเรียวเลก็ ข้นึ ไป

309 ไตรภมู ิพระร่วง ไตรภูมิกถา หรือไตรภูมิพระรว่ ง เป็นวรรณกรรมช้ินเอกสมัยกรุงสโุ ขทยั นับเป็นวรรณคดี เรื่องแรกของไทย เป็นพระราชนิพนธ์ใน สมเด็จพระศรีสุริยพงศ์รามมหาธรรมราชาธิราช หรือ พระมหาธรรมราชาลไิ ทย เปน็ วรรณคดีไทยทม่ี อี ิทธพิ ลต่อสังคมไทย ตง้ั แต่สมัยกรุงสโุ ขทัย กรงุ ศรีอยธุ ยามา จนถึงปัจจุบัน เพราะได้รวบรวมเอาคติความเชื่อทุกแง่ทุกมมุ ของทุกชนชั้นหลายเผ่าพันธุ์มาร้อยเรียง เป็นเรื่องราวให้ผู้อ่านผู้ฟังยำเกรงในการกระทำบาปทุจริต และเกดิ ความปิติยินดีในการทำบุญทำกุศล อาจหาญมงุ่ มัน่ ในการกระทำคุณงามความดี พระมหาธรรมราชาลไิ ทย มพี ระปรีชารอบรแู้ ตกฉานในพระไตรปิฎก อรรถกถาฎีกาอนุฏีกา และปกรณ์พิเศษต่าง ๆ พระองค์ยังเชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ และไสยศาสตร์ จนถึงขน้ั ทรงบัญญัตคิ มั ภีร์ศาสตราคมเป็นปฐมธรรมเนยี มสบื ตอ่ มา จนถงึ ปัจจบุ ัน ในปี พ.ศ.๑๘๘๘ พระยาลิไทย อุปราชผคู้ รองนครศรีสัชนาลัย ได้ทรงนพิ นธ์ไตรภูมิกถาข้ึน มสี าระสำคัญ คอื ทรงพรรณาถงึ เรือ่ งการเกิด การตาย ของสัตวท์ ้งั หลายว่า การเวยี นวา่ ยตายเกดิ อยู่ ในภูมทิ ัง้ สามคือ กามภมู ิ รูปภูมิ และอรปู ภูมิ ด้วยอำนาจของบุญและบาปที่ตนไดก้ ระทำแลว้ กามภูมิ เป็นที่ตั้งแห่งความใคร่ แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ อบายภูมิ และสุคติภูมิ อบายภมู ิ ยังแบง่ ออกเป็นส่ภี ูมิได้แก่ นรกภมู ิ ตริ ัจฉานภมู ิ เปรตภูมิ และอสูรกายภมู ิ นรกภมู ิ เปน็ ทตี่ งั้ ของสตั วท์ ีท่ ำบาป ตอ้ งไปรับทณั ฑท์ รมานนานาประการ แบง่ ออกเป็นขุม ใหญ่ ๆ ได้ แปดขมุ ดว้ ยกัน คือ - สัญชีพนรก มอี ายุ ๕๐๐ ปี นรก (๑ ว ั น เ ท ่ า ก ับ ๙ ล ้ า น ป ี ข อ ง มน ุษย์) - กาฬสตุ ตนรก มอี ายุ ๑,๐๐๐ ปนี รก (๑ วันเท่ากับ ๓๖ ล้านปีของมนุษย์) - สงั ฆาฏนรก มอี ายุ ๒,๐๐๐ ปนี รก (๑ วันเท่ากับ ๑๔๕ ล้านปีของมนุษย์) - โรรวุ ะนรก มอี ายุ ๔,๐๐๐ ปนี รก (๑ วันเท่ากับ ๕๗๖ ล้านปีของมนุษย์)

310 - มหาโรรุวะนรก มอี ายุ ๘,๐๐๐ ปีนรก (๑ วันเท่ากับ ๒,๓๐๔ ล้านปีของมนุษย์) - ตาปนรก มอี ายุ ๑๖,๐๐๐ ปีนรก (๑ วันเท่ากัย ๙,๒๓๖ ล้านปีของมนุษย์) - มหาตาปนรก มีอายยุ าวนานนบั ไม่ถ้วน - อวีจีนรก หรอื อเวจีนรก มีอายุนบั ได้กลั ป์หนง่ึ ในแต่ละนรกยงั มีนรกบรวิ าร เช่น นรกขุมท่ชี อื่ โลหสมิ พลี เปน็ นรกบรวิ ารของสัญชพี นรก ผู้ ทเี่ ป็นชูก้ บั สามหี รอื ภรยิ าผอู้ น่ื จามาตกนรกขุมน้ี จะถกู นายนริ บาลไลต่ ้อนให้ขน้ึ ตน้ ง้วิ ทีส่ งู ต้นละหน่ึง โยชน์ มีหนามเป็นเหลก็ ร้อนจนเปน็ สีแดงมีเปลวไฟลุกโชนยาว ๑๖ นิ้ว ชายหญิงที่เป็นชู้กนั ต้องปนี ขนึ้ ลง โดยมีนายนิรบาลเอาหอกแหลมทิ่มแทงให้ขึน้ ลงวนเวยี นอยูเ่ ช่นน้ีนบั รอ้ ยปนี รก สำหรับผูท้ ี่ทำบาป แต่ไม่หนักพอท่จี ะตกนรก ก็ไปเกดิ ในทอ่ี นั หาความเจรญิ มไิ ด้ อ่ืน ๆ เช่น เกิดเป็นเปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน พวกที่พ้นโทษจากนรกแล้วยังมีเศษบาปติดอยู่ก็ไปเกิดเป็น เดรจั ฉานบา้ ง เป็นเปรตบ้าง เปน็ อสูรกายบา้ ง เปน็ มนุษยท์ ีท่ ุพพลภาพพกิ ลพิการ ตามความหนกั เบา ของบาปท่ีตนไดท้ ำไว้ สุคติภูมิ เป็นส่วนของกามาพจรภูมิ หรือ กามสุคติภูมิ แบ่งออกเป็นเจ็ดชั้น คือ มนุษย์ภูมิ สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาภูมิ สวรรค์ชั้นตาวติงสาภูมิ (ดาวดึงส์ - ไตรตรึงษ์) สวรรค์ชั้นยามาภูมิ สวรรค์ช้นั ตสุ ติ าภูมิ (ดสุ ิต) สวรรค์ชัน้ นมิ มานรดีภูมิ และสวรรค์ชนั้ ปรนิมมติ วสวัตดภี มู ิ กามาพจรภมู ทิ ้งั เจด็ ชั้น เปน็ ที่ต้ังอันเตม็ ไปด้วยกาม เป็นทท่ี อ่ งเท่ยี วของสตั ว์ท่ีลุ่มหลงอยู่ใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นอารมณอ์ ันพึงปรารถนา เมื่อรวมกับอบายภูมิอีกส่ีชั้นเรียกว่า กามภูมสิ ิบเอด็ ช้นั รูปภมู ิ หรือรปู าวจรภูมิ ไดแ้ ก่ รปู พรหมสิบหกช้ัน เริม่ ตัง้ แต่พรหมปรสิ ชั ชาภมู ิ ทีอ่ ยู่สูงกว่า สวรรคช์ ้นั หก คือ ปรนิมมติ วสวัตดี มากจนนับระยะทางไม่ได้ ระยะทางดงั กล่าวอุปมาไว้ว่า สมมติมี หินก้อนใหญ่เทา่ โลหะปราสาทในลงั กาทวีป หินกอ้ นนีท้ ้ิงลงมาจากชนั้ พรหมปรสิ ัชชาภูมิ หินก้อนน้ัน ใช้เวลาถงึ สเ่ี ดอื นจึงจะตกลงถึงพนื้ จากพรหมปรสิ ชั ชาภมู ขิ น้ึ ไปถึงช้ันท่สี ิบเอ็ด ชื่อชั้นอสญั ญภี มู ิ เป็นรูปพรหมทมี่ ีรูปแปลก ออกไปจากพรหมชั้นอน่ื ๆ คือ พรหมชั้นอ่ืน ๆ มรี ูป มีความรู้สกึ เคลอ่ื นไหวได้ แตพ่ รหมชน้ั อสญั ญมี ี รูปท่ี ไมไ่ หวตงิ ไร้อรยิ าบท โบราณเรยี กว่า พรหมลกู ฟักครัน้ หมดอายุ ฌานเสอ่ื มแลว้ กไ็ ปเกิดตาม กรรมตอ่ ไป รูปพรหมทีส่ งู ข้นึ ไปจากอสัญญพี รหมอีกห้าช้นั เรียกว่า ชน้ั สทุ ธาวาส หมายถึง ทีอ่ ยูข่ อง ผู้บริสุทธิ ผู้ที่จะไปเกิดในพรหมชั้นสุทธาวาสคือ ผู้ที่สำเร็จเป็นพระอริยบคุ คลชั้นพระอนาคามี คือ เปน็ ผทู้ ไ่ี มก่ ลบั มาสโู่ ลกน้ตี อ่ ไป ทกุ ทา่ นจะสำเร็จเปน็ พระอรหันต์แลว้ นิพพานในช้ันสุทธาวาสนี้ อรูปภูมิ หรืออรูปาพาจรภูมิ มีสี่ชั้น เป็นพรหมที่ไมม่ ีรูปปรากฏ ผู้ที่ไปเกิดในภูมินี้คือผูท้ ี่ บำเพ็ญเพียรจนได้บรรลุฌานโลกีย์ชั้นสูงสุด เรียกว่าอรูปฌานซึ่งมีอยู่ส่ีระดับได้แก่ผู้ที่บรรลุ

311 อากาสานัญจายตนะฌาน (ยึดหนว่ งเอาอากาศเป็นอารมณ์) จะไปเกดิ ในอากาสานญั จายตะภมู ิ ผทู้ ่ี บรรลวุ ิญญาณัญจายตนะฌาน (ยึดหน่วงเอาวญิ ญาณเป็นอารมณ)์ จะไปเกดิ ในวิญญาณัญจายตะภมู ิ ผ้ทู บี่ รรลุอากญิ จัญญายตนะฌาน (ยดึ หนว่ งเอาความไม่มีเป็นอารมณ์) จะไปเกดิ ในอากิญจญั ญาตนะ ภูมิ และผู้ท่ีบรรลเุ นวสญั ญานสสญั ญายตนะฌาน (ยึดหนว่ งเอาฌานทีส่ ามให้ละเอียดลงจนเปน็ ผู้มี สัญญากม็ ิใช่ ไมม่ ีญากม็ ิใช่) จะไปเกิดในแนวสัญญานาสัญญายตนะภมู ิ พรหมเหล่าน้ีเม่อื เสือ่ มจาก ฌานก็จะกลบั มาเกดิ ในรปู พรหมภมู ิ หรือภูมิอ่ืน ๆ ได้เช่นกนั การกำเนิดของสตั ว์ การเกิดของสตั ว์ในสามภมู ิมีอย่สู ่อี ย่างดว้ ยกันคอื - ชลาพชุ ะ เกิดในครรภ์ เชน่ มนษุ ย์และสตั ว์เดรัจฉานบางชนดิ ทเ่ี ลย้ี งลกู ดว้ ยนม - อณั ฑชะ เกดิ ในไข่ ได้แก่สัตวเ์ ดรจั ฉานบางชนดิ เชน่ นก สัตวเ์ ลอ้ื ยคลานบางชนดิ ปลา เป็นตน้ - สงั เสทชะ เกดิ ในเถา้ ไคล ไดแ้ ก่สตั ว์ช้นั ตำ่ บางชนิดทีใ่ ช้การแบ่งตัวออกไป เชน่ ไฮดรา อมิบา เป็นต้น - โอปาติกะ เกดิ ข้นึ เอง เม่ือเกิดแล้วก็จะสมบรู ณเ์ ตม็ ที่ เม่อื ตายไปจะไม่มที ราก ไดแ้ ก่ เปรต อสรู กาย เทวดา และพรหม เป็นต้น การตายของสตั ว์ การตายมีสาเหตสุ ่ีประการด้วยกันคือ - อายุขยะ เปน็ การตายเพราะสนิ้ อายุ - กรรมขยะ เปน็ การตายเพราะส้ินกรรม - อภุ ยขยะ เปน็ การตายเพราะสิ้นท้งั อายุ และส้นิ ทง้ั กรรม - อปุ ัจเฉทกรรมขยะ เปน็ การตายเพราะอุบตั ิเหตุ นอกจากนั้นแล้ว มีการกล่าวถึงสิ่งต่าง ๆ ในโลกและในจักรวาล มีภูเขาพระสุเมรุราชเป็น แกนกลาง แวดล้อมด้วยกำแพงน้ำสีทันดรสมุทร และภูเขาสัตตบรรพต อันประกอบด้วย ภูเขา ยุคนธร อินมิ ธร กรวิก สุทศั นะ เนมินธร วนิ ันตกะ และอสั สกัณณะ กลา่ วถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดาว นพเคราะห์ และดารากรทั้งหลายในจกั รวาล เป็นเครื่องบ่งบอกให้รู้วนั เวลาฤดูกาล และเหตุการณ์ ตา่ ง ๆ กลา่ วถงึ ทวีปท้งั ส่ที ี่ตั้งอยรู่ อบภูเขาพระเมรุมาศ ชมพูทวีปอยูท่ างทศิ ใตก้ วา้ ง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ มปี รมิ ณฑล ๓๐๐,๐๐๐ โยชน์ มีแผน่ ดินเลก็ ล้อมรอบได้ ๕๐๐ มีแผ่นดนิ เล็กอยู่กลางทวีปใหญ่สี่ผืน เรียกวา่ สุวรรณทวปี กวา้ งได้ ๑,๐๐๐ โยชน์ มปี ระมณฑล ๓๐,๐๐๐ โยชน์ เปน็ เมืองที่อยูข่ องพญาครฑุ การกำหนดอายขุ องสัตวแ์ ละโลกท้งั สามภมู ิ มี กัลป์ มหากัลป์ การวินาศ การอุบัติ การ สร้างโลก สร้างแผ่นดินตามคติของพราหมณ์ ท้ายสดุ ของภูมกิ ถา เป็นนิพพานคถาวา่ ด้วยนิพพานสมบัติของพระอรยิ ะเจา้ ทง้ั หลาย วธิ ี ปฏิบตั ิเพ่ือบรรลพุ ระนิพพาน อันเปน็ วิธตี ามแนวทางของพระพทุ ธศาสนา

312 สุภาษิตพระร่วง เป็นวรรณกรรมจารึกลงในแผ่นศิลารูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ติดไว้กบั ผนังด้าน ใน ของศาลาหน้าพระมหาเจดีย์หลังเหนือ วัดพระเชตุพน ฯ กรุงเทพ ฯ และจดไว้ในสมุดไทยอีก หลายเล่ม กรมศิลปากรจัดพิมพเ์ ป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๒ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึง่ ว่า บัญญัติ พระร่วง เป็นภาษิตไทยแท้ ๆ ใช้ถ้อยคำอย่างพื้น ๆ เป็นภาษิตไทยเก่าแก่ที่ติดปากคนไทยสืบ มา และมากลายรูปไปในลักษณะกวีนิพนธแ์ บบตา่ ง ๆ แทรกอยู่ในวรรณคดีไทยในเวลาตอ่ มา เม่ือ พิจารณาตามรูปของวลีจะพบว่า คล้ายคลึงใกล้เคียงกับ จารึกพ่อขุนรามคำแหงอาจเป็นไปได้ว่า สภุ าษติ พระรว่ งเดิมเปน็ พระบรมราโชวาท ซึ่งพระรว่ ง พ่อขนุ รามคำแหง ทรงแสดงสง่ั สอนประชาชน ชาวไทยในคร้ังนนั้ สภุ าษิตพระร่วงเขียนเป็นรา่ ยสภุ าพ มีรปู แบบท่ีกำหนดไว้ตายตัววา่ ในวรรคหนง่ึ ๆ ให้ใช้คำ ได้วรรคละห้าคำ คำสง่ สัมผัสมีรูปวรรณยุกต์ใด คำรบั สมั ผัสต้องมรี ูปวรรณยกุ ต์น้ัน เช่น ภายในอย่า นำออก ภายนอกอย่านำเข้า เป็นตน้ วรรณกรรมเรื่องสุภาษิตพระร่วงเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะของสุโขทัย ได้รับการเรียบเรียง เปน็ รา่ ยสภุ าพ และจารึกเป็นวรรณกรรมลายลกั ษณ์ ตำนานพระร่วงพระลือ พระรว่ งพระลือ จากคำบอกเล่าสบื ตอ่ กนั มาว่า เดิมจำหลักจากงา ดำของช้างเผือกเป็นศิลปะสุโขทัย ต่อมามีการหล่อด้วยสำริดศิลปะอยุธยา ลักษณะประทับยนื ตรง ยกพระหตั ถ์ทัง้ สองตัง้ เสมอพระอรุ ะ ทรงพระมาลาท่ีชาวบ้านเรยี กวา่ หมวกชีโบ ครองจีวรคลุมยาว ถงึ พระชงฆ์ องคพ์ ระรว่ งสูง ๓๘ เซนตเิ มตร กว้าง ๘ เซนติเมตร องคพ์ ระลือสงู ๓๔ เซนติเมตร กว้าง ๗ เซนตเิ มตร ปจั จุบนั ต้ังแสดงอยู่ทพี่ พิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาตริ ามคำแหง พงศาวดารเหนอื กล่าวประวัติพระรว่ งกษัตรยิ ์ผู้ครองกรุงสโุ ขทยั วา่ พระบิดาเปน็ มนุษย์พระ มารดาเป็นนางนาค พระบดิ าเดมิ ครองนครหริภญุ ไชย ทรงพระนามวา่ อภัยคามมะนี ทา่ นได้ไปจำศีล ภาวนาอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ได้มีนางนาคจำแลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาเที่ยวเล่น ได้พบพระยาอภัย คามมะนีแล้วเกิดรกั ใคร่กนั ได้อย่รู ่วมกนั เปน็ เวลาเจ็ดวัน นางนาคกก็ ลบั สู่เมอื งบาดาล เม่อื ใกล้คลอด บตุ รจึงไดข้ ้ึนจากบาดาลไปยงั ภูเขาท่เี คยพบพระยาอภัยคามมะนี และคลอดบุตรชาย ณ ที่น้ัน แล้ว วางบุตรบนผ้ากัมพล พร้อมทั้งวางพระธำมรงค์ทีไ่ ดร้ บั ประทานจากพระยาอภยั คามมะนี อธิษฐาน ขอใหพ้ อ่ ลูกพบกัน แล้วกลับไปบาดาล มีพรานป่าผู้หนึ่งมาพบทารกจึงนำไปเลี้ยง เมื่อกุมารเจริญวัย เป็นผู้มีบุญญาธกิ าร มีวาจา สทิ ธ์ิ วนั หนง่ึ พระยาอภยั คามมะนี มีพระราชประสงค์จะสรา้ งพระราชนิเวศนเ์ พมิ่ เติม จึงประกาศให้ ราษฎรไปช่วยกันตัดไม้มาสรา้ งถวาย พรานป่าก็ได้พาบตุ รบุญธรรมไปร่วมตัดไม้ด้วย กุมารก็แสดง ฤทธิ์ด้วยการใช้วาจาสิทธิ์ให้ได้ไม้มาโดยไม่ต้องลงแรงตัด ความทราบถึงพระยาอภัยคามมะนี จึง รับส่งั ใหล้ ูกนางนาคเขา้ เฝ้า เมอ่ื ได้ซกั ถามประวัติจนทราบว่า เปน็ พระโอรสจึงรับเข้าไว้ในเศวตฉัตร และทรงตั้งพระนามว่า อรุณกุมาร พระยาอภัย ฯ มีโอรสกับพระมเหสีอีกองค์หนึ่ง มีพระนามว่า

313 ฤทธกิ ุมาร เม่อื โอรสทัง้ สองเจรญิ วยั กไ็ ด้ทรงสขู่ อพระธิดาผคู้ รองนครศรีสัชนาลัยมาอภิเษกสมรสกับ อรณุ กุมาร เม่ือพระยาอภัย ฯ สวรรคต อรณุ กุมารจงึ ไดค้ รองนครสุโขทัยสืบแทน ต่อมาเม่ือผู้ครอง นครศรีสชั นาลยั สวรรคต อรุณกมุ ารก็ไดค้ รองนครศรีสัชนาลัยควบคู่กับนครสุโขทัย ทรงพระนามว่า พระร่วงพระองค์ไดท้ รงสู่ขอพระธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่ ให้อภิเษกสมรสกับฤทธกิ ุมาร และหลังจาก เจา้ เมอื งเชียงใหมส่ วรรคตแล้ว เจา้ ฤทธกิ มุ ารก็ได้ครองเมอื งเชยี งใหมไ่ ด้พระนามใหม่ว่า พระลือ พระร่วงส่วยน้ำ มีตำนานเร่ืองพระร่วงอีกเรื่องหนึ่งกล่าวว่า พระร่วงเป็นบุตรของนายคง เครา นายกองส่งสว่ ยน้ำเมอื งลพบรุ ี ในครั้งนั้นพระเจา้ แผน่ ดินขอมแห่งกรุงกัมพูชามีเมืองขึ้นทีต่ อ้ ง ส่งเครอื่ งบรรณาการเป็นจำนวนมาก ในจำนวนดังกลา่ วมเี มืองลพบรุ ีอยู่ด้วย เมอื งลพบุรีต้องส่งส่วย น้ำเป็นเครื่องบรรณาการเป็นประจำทุกปี นายคงเครามีบุตรคนหนึ่งชื่อนายร่วง เป็นคนมีบุญญาธิ การ มีวาจาสิทธ์ิ เมื่อตอนที่มีอายุสิบเอ็ดปี เขาพายเรือทวนน้ำนานเข้าจึงเหน็ดเหนื่อยมากถึงกบั ออกปากว่า \"ทำไมนำ้ จึงไม่ไหลไปทางโน้นบ้าง\" พอพูดขาดคำกป็ รากฏว่าสายน้ำได้ไหลย้อนกลับไป ในทางทจ่ี ะไปทันที นายร่วงเม่อื รวู้ ่าตนมีวาจาสิทธิก์ เ็ ก็บเรือ่ งไวเ้ ปน็ ความลบั ไมบ่ อกใหใ้ ครรู้ เมื่อนายคงเคราชราภาพลง นายร่วงจึงรับหน้าที่ส่งส่วยน้ำแทนบิดา เขาคิดหาวิธีการทำ ภาชนะใส่น้ำส่งเจ้ากรุงกัมพูชา เป็นภาชนะที่เบาและจุน้ำได้มากโดยใช้ไม้ไผ่มาจักสานเป็นชะลอม (ครุ) ข้ึนเปน็ จำนวนมาก แลว้ นำไปตกั นำ้ ในทะเลชุบศร ลัน่ วาจาสิทธ์ิใหน้ ้ำไมร่ ่วั ออกจากชะลอม น้ำ ก็อย่ใู นชะลอมไมร่ ว่ั ไหลออกมา เมือ่ นำไปถวายพระเจ้ากรงุ กัมพูชาทรงเห็นเปน็ ท่อี ัศจรรย์ และทรง วิตกวา่ บดั น้มี คี นมบี ุญเกิดขึ้นแล้ว ถ้าปล่อยไว้จะเปน็ อันตรายต่อกรุงกมั พูชา ควรที่จะกำจัดนายร่วง เสียโดยเร็ว จึงได้ตรัสสั่งใหน้ ายเดโชชยั นายทหารคพู่ ระทัย ดำเนินการกำจดั นายรว่ งเสีย ฝ่ายนายร่วงเมื่อได้ทราบว่าพระเจ้ากรุงกัมพูชาคิดกำจัดตน จึงหลบหนีจากเมืองลพบุรี ข้นึ มาบวชเปน็ พระภกิ ษุทีว่ ัดมหาธาตุ เมอื งสโุ ขทัย นายเดโชชัย เปน็ ผู้มีวชิ าอาคมแก่กลา้ ก็ได้ติดตาม นายร่วงมาถึงเมืองสุโขทัย เมื่อมาถึงกำแพงเมอื งสุโขทัย ก็ใช้อิทธิฤทธิ์ดำดินลอดใต้กำแพงเมืองเขา้ มาโผล่ขึ้นในลานวดั มหาธาตุ ขณะนั้นพระภิกษุพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่ นายเดโชชัยจงึ เข้าไป ถามว่า รู้ไหมว่านายร่วงที่มาจากเมืองลพบุรีนั้นขณะนี้อยู่ที่ไหน พระภิกษุร่วงก็รู้ทันทีว่าคนผู้นี้ ตามมาทำรา้ ยตน จึงได้กลา่ ววาจาออกไปว่า \"สูจงอยู่ทีน่ เ่ี ถดิ รูปจะไปบอกนายร่วงให้\" พอพูดขาดคำ ร่างของนายเดโชชัยก็กลายเป็นหินไปทันที เมื่อชาวบ้านเมืองสุโขทัยรู้ว่าพระภิกษุร่วงมีวาจาสิทธ์ิ สาปขอมให้กลายเป็นหินได้ จึงมีความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าเมอื งสุโขทัยส้ินแล้ว จึงได้ พากันอาราธนาให้พระภิกษุร่วงลาสิกขา แล้วขึ้นครองเมืองสุโขทัย ทรงพระนามว่า พระเจ้าศรีจัน ทราธิบดี ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิธราชธรรม นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ประชาชน และ บา้ นเมืองก็เจรญิ รงุ่ เรอื งสบื ตอ่ มา สำหรับรูปคนที่เป็นหินนัน้ ชาวบ้านเรยี กว่า ขอมดำดิน ปัจจุบันถูกคนทบุ ตจี นแตกหักเปน็ เศษเล็กเศษน้อย ทางราชการไดน้ ำไปไว้ที่ศาลพระแม่ยา่ หน้าศาลากลางจงั หวัดสโุ ขทัย

314 เคร่อื งสังคโลก เวลาทีพ่ ูดถงึ เรื่องเก่ียวกบั ขา้ วของเคร่ืองใช้ในอดีตคำวา่ “เคร่ืองสังคโลก” จะต้องเป็นคำท่ีถูก ยกขึ้นมาใช้อย่างแน่นอนสำหรับประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะนี่คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจาก นำ้ พกั น้ำแรงของรนุ่ บรรพบรุ ุษต้งั แต่สมัยสโุ ขทัยไล่มาจนถงึ สมยั อยธุ ยาตอนตน้ เป็นศิลปวัฒนธรรมท่ี แสดงให้เห็นถึงความละเอียดออ่ น และความใสใ่ จของคนไทยมานานหลายศตวรรษ ซ่ึงเคร่อื งสังคโลก เองยงั เป็นส่ิงทีช่ ีน้ ำเรอ่ื งราวต่างๆ มากมายถา่ ยทอดมาให้สู่คนรุ่นหลงั ไดร้ บั รู้และยังคงจะเป็นเรื่องราว ท่ีถูกเลา่ ขานต่อไปอย่างไม่จบสิน้

315 ความหมายของเครอ่ื งสังคโลก เป็นข้าวของเครื่องใช้ท่ีถูกผลิตขึ้นโดยมีวัตถุดบิ มาจากเครื่องปั้นดนิ เผา ซึ่งยังรวมไปถึงของประดับตกแตง่ ต่างด้วย ตัวอย่างของเครื่องสังคโลกที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด เช่น ถ้วย จาน ชาม ไหดิน โอ่งน้ำ กระปุก ขวดดนิ กระเบื้อง ตัวหมากรกุ นอกจากนี้ยงั มกี ารทำเคร่ืองสังคโลกเป็นของจำพวกตุ๊กตาดิน รปู ต่างๆ เช่น รปู คน ช้าง มา้ วัว ควาย พระพทุ ธรปู เทวรูป ไดอ้ กี ด้วย ซึง่ เครอื่ งสังคโลกท่ีถูกสร้างข้ึน นน้ั จะมีทัง้ แบบการเคลอื บน้ำยาและไมเ่ คลอื บน้ำยาขน้ึ อยู่กับความต้องการของผู้สร้าง เครอื งสังคโลก จะเปน็ เคร่ืองป้นั ดนิ เผาประเภทเนอื้ ละเอยี ดทำใหค้ งทนแขง็ แรงตอ่ การใชง้ านเปน็ อย่างมาก ประเภทของเคร่อื งสงั คโลก

316 โดยปกติแล้วเครอ่ื งสงั คโลกนนั้ จะสามารถแบ่งออกมาได้ทัง้ ในรูปของเน้อื ดนิ กับลวดลายและประเภท ของการเผา ซึง่ จำแนกออกมาได้ ดังน้ี 1. เน้อื ดนิ ทีเ่ ปน็ ประเภทเนอ้ื แกรง่ มีอณุ หภมู ิในการเผาท่ีใช้ค่อนขา้ งสงู อย่ทู ่ปี ระมาณ 1,150- 1,280 องศาเซลเซียส ซึ่งในส่วนของเทคนคิ เกี่ยวกับการเผาและการเคลือบลายสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ - เครื่องปั้นดินเผาชนิดเนื้อแกร่งแต่ไม่เคลือบ จะใช้แม่พิมพ์ในการกดเพื่อให้ออกมาเป็น ลวดลายตามทต่ี ้องการ อาทิ ลายเรขาคณิต จะใช้วธิ กี ารโดยการป้นั ดินแล้วก็แปะติดเข้ากับเครื่องสังค โลกชนดิ นน้ั ๆ ก่อนทจี่ ะทำการเผา - เครื่องถ้วยที่มีสีน้ำตาลเขม้ เป็นการเคลือบด้วยสพี ืน้ เดียว จะคล้ายๆ กับเครื่องถ้วยลพบุรี ประเภทเคลือบสีน้ำตาล - เคร่อื งถว้ ยแบบเคลอื บขาวโดยจะเขียนลวดลายใต้เคลือบนำ้ ตาลดำ จะมลี ักษณะคล้ายคลึง กบั เครอ่ื งใชข้ องจีนเสาสอื โจ้ว และเครอื่ งถ้วยของอนั หนานทีม่ าจากเวยี ดนาม - เครอ่ื งถว้ ยแบบเคลอื บขาวโดยจะเขยี นลวดลายบนเคลอื บท่เี ปน็ สีนำ้ ตาลทอง - เครือ่ งถ้วยเคลือบทเ่ี ป็นสีเขยี วไขก่ า จะทำการตกแตง่ ลวดลายต่างๆ ด้วยวิธีการขุดจากน้ันก็ ทำการเคลือบทับเครือ่ งสังคโลกจัดได้วา่ เป็นหลกั ฐานชิน้ สำคัญสำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์ในพื้นที่ ต่างๆ ที่แสดงให้เหน็ ถึงวฒั นธรรมในการเป็นอยู่ การใช้ชวี ิต น่ีจึงเปน็ สงิ่ สำคัญทถ่ี ่ายทอดเรื่องราวจาก อดตี สปู่ จั จุบนั ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

317 ใบงาน บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 เรอื่ ง มรดกทางวฒั นธรรมสมัยสุโขทยั จงตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ความเชื่อเรอื่ ง ลอยประทีปในสมยั สโุ ขทยั ไดร้ ับอิทธพิ ลมาจากใคร ................................................................................................................................................ 2. การเผาเทียน ในสมยั สโุ ขทัย หมายถึงอะไร ................................................................................................................................................ 3. การเลน่ ไฟ ในสมัยสุโขทยั หมายถงึ อะไร ................................................................................................................................................ 4. เจดีย์สมัยสโุ ขทัย มีก่แี บบ อะไรบ้าง ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ 5. พระพุทธรูปสมยั สโุ ขทยั มีกหี่ มวด อะไรบา้ ง ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ 6. วงปพ่ี าทย์เคร่ืองหา้ ประกอบดว้ ยเคร่ืองดนตรีอะไรบ้าง ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 7. เครอ่ื งดนตรมี ังคละ ประกอบด้วยเคร่ืองดนตรอี ะไรบา้ ง ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 8. เครอื่ งดนตรีเครอ่ื งสาย ทม่ี ีในสมัยสุโขทยั มีอะไรบ้าง ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... 9.ให้ผเู้ รียนทำรายงานเก่ยี วกบั เครอื่ งสงั คโลกสมัยสโุ ขทัย มาอยา่ งน้อย 5 หน้ากระดาษ A4 ...............................................................................................................................................

318 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลน์ที่ 3 เรอ่ื ง มรดกทางวัฒนธรรมสมัยสุโขทยั กิจกรรมท่ี 1ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เลน่ ไฟ 1. ความเชือ่ เรอื่ ง ลอยประทีปในสมยั สโุ ขทัย ไดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากใคร ตอบ อารยธรรมขอม 2. การเผาเทียน ในสมัยสุโขทยั หมายถึงอะไร ตอบ การจดุ เทียนบชู าสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ 3. การเลน่ ไฟ ในสมัยสโุ ขทัย หมายถงึ อะไร ตอบ การจดุ ดอกไมไ้ ฟ 4. เจดีย์สมัยสโุ ขทัย มกี แ่ี บบ อะไรบา้ ง ตอบ มี 6 แบบ คอื 1. เจดยี ์ทรงดอกบัวตูม 2. เจดยี ์ทรงกลมแบบลังกา 3. เจดยี ผ์ สมแบบลังกาและศรีวชิ ยั 4. เจดยี แ์ บบลงั กาผสมปรางค์ 5. เจดยี ท์ รงมณฑปภายในตง้ั พระพุทธรปู องค์เดียว และพระพทุ ธรปู 4 อิริยาบท 6. เจดยี ์แบบเบด็ เตล็ด 5. พระพทุ ธรูปสมัยสุโขทัย มีกห่ี มวด อะไรบา้ ง ตอบ มี 4 หมวด ไดแ้ ก่ 1. หมวดใหญ่ 2. หมวดก าแพงเพชร 3. หมวดพระพทุ ธชนิ ราช 4. หมวดเบด็ เตล็ดหรือหมวดวัดตะกวน 6. วงปีพ่ าทย์เครอ่ื งห้า ประกอบดว้ ยเครอื่ งดนตรีอะไรบา้ ง ตอบ ปีใ่ น ฆ้องวง ตะโพน กลองทัด และฉ่ิง 7. เครื่องดนตรีมังคละ ประกอบด้วยเครอ่ื งดนตรอี ะไรบา้ ง ตอบ กลองสองหนา้ จำนวน 2 ใบ กลองมงั คละ 1 ใบ ฆอ้ งโหมง่ จำนวน 3 ใบ ปี่ชวา 1 เลา ฉาบเลก็ 1 คู่ ฉาบใหญ่ 1 คู่ และกรับไม้ 1 คู่ 8. เครื่องดนตรีเคร่ืองสาย ทีม่ ีในสมยั สุโขทัย มอี ะไรบ้าง ตอบ พิณ และซอสามสาย

319 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 3 เรอ่ื ง สภาพสังคมและวัฒนธรรมของอาณาจกั รสุโขทัย คำส่งั ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกที่สุดเพยี งข้อเดียว 1. เจดีย์สร้างในสมัยสโุ ขทยั ซ่งึ เปน็ แบบสุโขทยั แท้มีลกั ษณะอยา่ งไร ก. ทรงแปดเหลีย่ ม ข. ทรงพุ่มขา้ วบณิ ฑ์ ค. ทรงกลมแบบลังกา ง. ทรงกลมแบบอินเดยี 2. ถา้ เราไปนมัสการกราบไหว้พระทีว่ ดั พระศรรี ตั นมหาธาตุ จังหวัดพษิ ณุโลก เราควรไปกราบไหว้ พระพุทธรปู องคใ์ ด ก. พระอจนะ ข. พระพทุ ธชนิ สีห์ ค. พระพุทธชนิ ราช ง. พระศรีศากยมนุ ี 3. พระพุทธรูปองค์ใดที่สร้างในสมัยสุโขทัย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ท่ีวัดบวรนิเวศวหิ ารกรุงเทพมหานคร ก. พระอจนะ ข. พระพทุ ธชินสีห์ ค. พระพุทธชินราช ง. พระศรศี ากยมุนี 4. การศึกษาภาพจำหลกั ลายเส้น ซงึ่ พบท่ีเพดานมณฑปวดั ศรีชมุ จังหวดั สโุ ขทัย เราจะได้รับความรู้ เก่ยี วกบั เรอ่ื งอะไร ก. ชาดกชุดพระเจ้าห้ารอ้ ยชาติ ข. การเมอื งการปกครองสมยั สุโขทยั ค. เรอ่ื งราวต่าง ๆ ของอาณาจักรสโุ ขทยั ง. การประดิษฐอ์ ักษรไทยของพอ่ ขนุ รามคำแหงมหาราช 5. ลายสอื ไทย หมายถงึ อะไร ก. ตัวอักษรไทย ข. พระพุทธรปู สมัยสุโขทัย ค. ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ง. ภาพจำหลักลายเสน้ บนแผน่ หนิ ชนวน

320 6. ตวั อักษรไทยท่ีสร้างขึน้ ในสมัยพ่อขนุ รามคำแหงมหาราช ดัดแปลงมาจากตัวอกั ษรใด ก. อกั ษรพม่า และอักษรลาว ข. อักษรลาว และอักษรเขมร ค. อักษรพมา่ และอักษรมอญ ง. อกั ษรเขมร และอักษรมอญ 7. สิ่งใดในสมยั สโุ ขทยั ท่ยี ูเนสโกได้ประกาศขน้ึ ทะเบียนเปน็ เอกสารมรดกความทรงจำโลก ก. ลายสือไทย ข. หนังสือไตรภมู พิ ระร่วง ค. ศิลาจารกึ พ่อขุนรามคำแหง ง. ภาพจำหลักลายเส้นบนแผนหนิ ชนวน 8. ข้อใดไม่ใชพ่ ัฒนาการของเตาทุเรยี ง ก. เตาสูบ ข. เตาขุด ค. เตาอโุ มงค์ ง. เตาประทุน 9. ขอ้ ใดกลา่ วถึงเคร่อื งสังคโลกสมยั สุโขทัยไมถ่ กู ต้อง ก. สว่ นใหญ่เคลอื บสีเขยี ว ข. ได้รับอทิ ธิพลมาจากจนี ค. มีคณุ ภาพดี ลวดลายสวยงาม ง. มีเฉพาะของใช้ประจำวนั ในครัวเรือน 10. สรีดภงส์ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. ฝาย ข. เข่ือน ค. ทำนบ ง. เหมือง

321 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 เรอื่ ง สภาพสงั คมและวัฒนธรรมของอาณาจกั รสโุ ขทยั 1. ข 2. ค 3. ข 4. ก 5. ก 6. ง 7. ค 8. ก 9. ง 10. ค

322 แบบทดสอบก่อนเรยี น บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 เรอ่ื ง การบรหิ ารจัดการเร่ืองนำ้ สมยั สโุ ขทยั คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งทีส่ ดุ เพียงขอ้ เดียว 1. หลักฐานใดที่ช่วยยืนยันวา่ สุโขทยั มคี วามเจริญมาก่อนหนา้ ทีจ่ ะได้สถาปนาเป็นราชธานี ก. ศาสนสถานศิลปะขอม ข. เรื่องราวจากเอกสารจีน ค. ข้อความท่ีปรากฏในศลิ าจารึก ง. พระราชพงศาวดารกรุงสโุ ขทยั 2. การสถาปนากรุงสุโขทยั เกดิ จากวธิ ใี ด ก. กลมุ่ คนไทยอพยพลงมาต้ังถน่ิ ฐานบา้ นเมือง ข. ขอมรบชนะชุมชนทีอ่ ยมู่ ากอ่ นแล้วตั้งกรงุ สโุ ขทัยข้นึ ค. กลมุ่ คนไทยรวมตัวต้ังตนเปน็ อสิ ระ ไมย่ อมอย่ใู ตอ้ ำนาจขอม ง. อาณาจักรขอมได้ให้อิสรภาพโดยมอบผคู้ นและทรพั ยส์ ินมาสรา้ งบา้ นเมอื ง 3. การปกครองแบบพ่อปกครองลูก สง่ ผลดีต่ออาณาจกั รสโุ ขทยั อย่างไร ก. ชาวต่างชาติเขา้ มาติดต่อค้าขายมากข้นึ ข. การละเมดิ กฎหมายลดนอ้ ยลง ค. กษัตรยิ ก์ บั ราษฎรใกล้ชดิ กัน ง. ทำให้ขุนนางมีอำนาจมาก 4. รปู แบบการปกครองสมยั สโุ ขทัยมีลักษณะอยา่ งไร ก. แบง่ พนื้ ท่ีเป็นมณฑล ข. ส่งขา้ หลวงไปปกครอง ค. รวมอำนาจไว้ทรี่ าชธานี ง. กระจายอำนาจสู่ท้องถิน่ 5. ลักษณะการค้าขายของอาณาจักรสุโขทัยตรงกับขอ้ ใด ก. ราษฎรคา้ ขายสินค้าไดบ้ างชนิด ข. ราษฎรค้าขายได้อยา่ งเสรี ค. รฐั ค้าขายแขง่ กบั ราษฎร ง. รฐั เป็นผู้ผูกขาดการค้า

323 6. ตลาดนัดจตุจกั รในปัจจบุ ันหากเทยี บกับสมัยสุโขทัย จะหมายถงึ สงิ่ ใด ก. ตระพัง ข. สรดี ภงส์ ค. เตาทุเรียง ง. ตลาดปสาน 7. แนวทางการสร้างความสงบสุขของสังคมสุโขทัย จากหลกั ฐานทป่ี รากฏนยิ มใชว้ ิธกี ารใด ก. อบรมคนใหม้ ีศีลธรรม ข. ออกกฎหมายที่เขม้ งวด ค. ให้รางวลั แก่ผู้ทำความดี ง. ลงโทษผู้ฝ่าฝนื 8. สโุ ขทัยได้รับอทิ ธพิ ลการนบั ถือพระพุทธศาสนานกิ าย เถรวาทลัทธิลังกาวงศ์มาจากแห่งใด ก. ศรลี งั กา ข. ทวารวดี ค. หรภิ ุญชัย ง. นครศรีธรรมราช 9. ข้อใดเป็นลกั ษณะความสัมพันธ์ระหวา่ งสโุ ขทัยกบั ลังกา ก. ลงั กาส่งเคร่ืองราชบรรณาการ ข. ลงั กาถ่ายทอดพระพุทธศาสนาให้สุโขทยั ค. สุโขทัยถ่ายทอดพระพทุ ธศาสนาใหล้ งั กา ง. สโุ ขทัยแผข่ ยายอำนาจเข้าครอบครองลังกา 10. การมสี มั พันธไมตรีอันดกี บั ล้านนาสง่ ผลต่อสุโขทยั อยา่ งไร ก. ได้กำลังช่วยยามเกิดสงคราม ข. เปน็ แหล่งวตั ถุดิบไวผ้ ลิตสินคา้ ค. ปลอดภยั จากการถูกตีทางเหนือ ง. สามารถเผยแพร่วฒั นธรรมไดอ้ ยา่ งเสรี 11. พระมหากษัตรยิ ์ของสโุ ขทยั พระองคใ์ ดทที่ รงนำพระพทุ ธศาสนามาเป็นเคร่ืองมือในการสรา้ ง สัมพนั ธไมตรกี บั อาณาจกั รตา่ งๆ ก. พ่อขนุ ศรอี ินทราทิตย์ ข. พ่อขนุ รามคำแหงมหาราช ค. พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลไิ ทย) ง. พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล)

324 12. ข้อใดเป็นภมู ิปญั ญาสมยั สโุ ขทยั ทเี่ ก่ยี วข้องกบั ชลประทาน ก. สรีดภงส์ ข. เตาทเุ รียง ค. ลายสือไทย ง. เคร่ืองสังคโลก 13. มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญทคี่ นปัจจบุ นั ได้รบั จากสมยั พ่อขุนรามคำแหงมหาราช คือสงิ่ ใด ก. ลายสอื ไทย ข. เมืองฉอด ค. พระพทุ ธรูปสมยั สุโขทยั ง. การปกครองแบบปติ ุลาธิปไตย 14. ภมู ิปญั ญาของชาวสุโขทัยในข้อมูลใดที่เกีย่ วกับการผลิตเครอ่ื งมอื เครื่องใช้ ก. ตระพงั ข. เครื่องสงั คโลก ค. พระพุทธรูป ง. อาวุธที่ทำด้วยสำรดิ 15. ปจั จัยสำคญั ที่ทำให้สโุ ขทยั เส่อื มและตกเป็นส่วนหนง่ึ ของอยุธยามีหลายประการ ยกเว้นขอ้ ใด ก. ความอ่อนแอทางทหาร ข. เกบ็ ภาษีอากรได้นอ้ ย ค. การค้าซบเซาเพราะอยู่ไกลทะเล ง. การแยง่ ชงิ อำนาจในหมู่ราชวงศ์พระรว่ ง

325 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรอื่ ง การบรหิ ารจดั การเร่ืองนำ้ สมัยสุโขทัย 1. ก 2. ค 3. ค 4. ง 5. ข 6. ง 7. ก 8. ง 9. ข 10. ค 11. ค 12. ก 13. ก 14. ข 15. ข

326 ใบกจิ กรรม บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 เรอ่ื ง การบรหิ ารจดั การเรื่องนำ้ สมัยสโุ ขทยั พบปะครูผสู้ อน https://www.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=juBD-3jXMIA แบบทดสอบกอ่ นเรียน https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfmQSWnhSyapF9oYNLyFH- ypZghzBEV_L8x4SXlxow1G94TMA/viewform ใบงานท่ี 1 ให้นักศกึ ษาเรียนรู้จากคลปิ - ระบบชลประทานแห่งแรกของไทย https://www.youtube.com/watch?v=HK-hyR9lgTA - ระบบชลประทานสมยั สุโขทยั https://www.youtube.com/watch?v=JbTJChb_aPM - ชลประทานสมยั สโุ ขทัย https://www.youtube.com/watch?v=tZ2Lgw_MgTw ใบกจิ กรรม https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfUWtHB9uZNWZk10p5izXNIE2112uD4vS FZxEfL54iqbhOsfg/viewform แบบทดสอบหลังเรยี น https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdbs6Mxc0JMNOd7sL76aw3R3oMeSU9vv 4wj2jhCpf_1tiZw7Q/viewform

327 ใบความรู้ บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรอื่ ง การบรหิ ารจัดการเรื่องน้ำสมยั สโุ ขทยั ระบบชลประทาน สมัยสโุ ขทัย เป็นที่ทราบกนั ดีแลว้ ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจกั รีสริ ินธร รัฐสีมาคุณากร ปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สนพระทัยในงานด้านศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และโบราณคดี นอกจากจะทรงศกึ ษาจากตำราต่างๆแล้ว ยังทรงอตุ สาหะเสด็จพระราชดำเนนิ ไปทอดพระเนตรแหล่ง โบราณคดีต่างๆท่ัวประเทศอย่างสมำ่ เสมอ ท้ังยังทรงส่งเสริมให้มีการศึกษา อนรุ กั ษ์ สบื สาน ตลอดจน เผยแพร่องค์ความรู้ด้านนี้ออกไปในวงกว้าง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าและ ความสำคัญของมรดกแผ่นดนิ เหลา่ นี้ ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๔ ได้เสด็จพระราชดำเนินไป ทอดพระเนตรสถานที่สำคญั ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีในจังหวัดสุโขทยั ทอดพระเนตรระบบ ชลประทานสมัยสุโขทัยและแหล่งน้ำต่างๆทม่ี ีต้นกำเนิดจากเทือกเขาประทกั ษ์ ทรงศกึ ษาทำนบก้ันน้ำ จุดต่างๆและเหมืองฝายทีส่ ำคัญหลายตอ่ หลายแห่งด้วยความสนพระทัยยิ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรม ศลิ ปากรกราบบงั คมทลู รายละเอยี ดตา่ งๆ ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งน้ัน กรมศิลปากรได้มอบหมายให้นายเอนก สีหามาตย์ นกั โบราณคดี ๖ หน่วยศลิ ปากรที่ ๓ สโุ ขทัย สำรวจศึกษาสภาพคันกน้ั น้ำทำนบพระร่วง ทำนบโคกมน และโซกต่างๆซึ่งเป็นลำธารท่ีไหลมาจากเขาประทักษ์ แล้วจัดทำเอกสารและแผนผังข้ึนเพื่อทูลเกลา้ ทูลกระหม่อมถวายสำหรับทรงศึกษารายละเอียด โดยภายหลังจากการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนัน้ แล้ว กรมศิลปากรได้ปรับปรุงเอกสารขึ้นเพื่อจัดพิมพ์เผยแพร่แก่ผู้สนใจการชลประทานชองเมือง โบราณสโุ ขทยั อันเปน็ หลกั ฐานทางวชิ าการที่สำคัญอกี ดา้ นหนง่ึ ของประวตั ิศาสตร์โบราณคดีสโุ ขทัย ภูมศิ าสตร์โบราณคดี เมืองโบราณสุโขทัยตั้งอยู่พิกัดภูมิศาสตร์เส้นรุ้งที่ ๙๙ ํ ๔๒' และเส้นแวงที่ ๑๗ ํ ๐๑' อยู่ใน เขตพืน้ ท่รี าบลมุ่ แม่นำ้ เจา้ พระยาตอนบน ปรากฏแนวคูน้ำคันดนิ ลอ้ มรอบเป็นกำแพงเมอื งท้ัง ๔ ด้าน ขนาดกำแพงเมืองด้านเหนือและใต้ ยาวประมาณ ๑,๘๐๐ เมตร ส่วนด้านทิศตะวันออกและ ทศิ ตะวันตกกว้างประมาณ ๑,๖๐๐ เมตร ท่ตี ง้ั ของเมืองสโุ ขทัยนเี้ ป็นสว่ นขอบของพน้ื ท่รี าบลมุ่ แมน่ ้ำเจ้าพระยาทางด้านเหนือบริเวณน้ี จะปรากฏภเู ขาเล็กๆ โผล่ขึ้นมาไม่สงู มากนกั แล้วค่อยๆลาดลงเป็นพ้นื ท่รี าบกว้างสม่ำเสมอตอ่ เนื่องไป ตลอด จนถึงด้านใตข้ องพ้ืนทร่ี าบลุม่ แม่นำ้ เจ้าพระยา ทอ่ี ยู่ทางภาคกลางของประเทศไทย ด้านทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัยปรากฏแนวเทือกเขาประทักษ์ ทำหน้าที่เป็นหลังคารับนำ้ ก่อนทจ่ี ะไหลลงสู่ที่ราบทางด้านทิศตะวนั ออก ซ่ึงเปน็ ทต่ี ้งั เมืองสุโขทัย และต่อเนื่องไปสู่พื้นที่ราบลุ่ม

328 แม่นำ้ ยมที่อยหู่ า่ งออกไปราว ๑๔ กโิ ลเมตร เทอื กเขาประทักษ์ประกอบด้วยชุดหินแม่ทะ มีหินกรวด มน หินทราย หินดินดาน หินชนวน หินปูนและหินภเู ขาไฟ มีแหล่งต้นนำ้ บนเทือกเขาไหลลงมาเป็น ลำธาร ซึ่งมีความลาดชันและรุนแรง พัดพาตะกอนหิน กรวด ทราย ทับถมในลำธารบนภูเขา แล้ว ค่อยๆเปลี่ยนสภาพพื้นที่เอนลาดสู่พื้นที่ราบ ตะกอนหินที่มีขนาดใหญ่จะทับถมบริเวณเชิงเขา ลักษณะดินบรเิ วณน้ีจะแข็งและรว่ น ตะกอนส่วนมากในบริเวณนี้เป็นกรวดและทราย เป็นที่แห้งแล้ง หรอื กึ่งแหง้ แลง้ ไมส่ ามารถกกั เกบ็ นำ้ หรือเพาะปลูกได้ ส่วนตะกอนทม่ี ขี นาดเลก็ กวา่ จะถูกพัดพาไกล ออกไป และเมือ่ เข้าสู่ที่ราบที่ห่างไกลภเู ขามากข้นึ พื้นที่บริเวณนีก้ ระแสน้ำจะไหลช้ากว่า และเมื่อเข้า สทู่ รี่ าบท่ีห่างไกลภูเขามากขน้ึ อกี จะกลายเป็นทรี่ าบระดับ บริเวณนจ้ี ะมีปา่ ไม้เตี้ยๆ หรือหญ้าข้ึนปก คลุมหา่ งๆ ที่ราบลุ่มบรเิ วณนี้จะมีน้ำท่วมขังทุกปี กระแสน้ำที่ไหลชา้ จะทำให้อนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า ตกตะกอนบริเวณใกล้ฝั่ง ส่วนอนุภาคเล็กจะตกตะกอนไกลออกไป ทำให้พื้นที่ริมฝั่งประกอบด้วย อนุภาคขนาดโต ทำให้เกิดสภาพภูมิประเทศสูง เรียกว่า สันริมน้ำ เป็นบริเวณที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ขึ้นอยู่ และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และถัดลงไปเป็นทีล่ ุ่มต่ำ ประกอบด้วยอนุภาคที่มีขนาดเลก็ กว่า ที่เรียกว่า ทีล่ ุ่มต่ำ มีการระบายน้ำได้ไมด่ นี กั ใช้เป็นพนื้ ทป่ี ลกู ข้าว พ้ืนที่ฝ่ังตะวนั ตกของแม่น้ำยม มีลักษณะเป็นท้องกระทะที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดทีร่ าบขั้นบันไดของแมน่ ้ำที่ต่อเนื่องจากที่ลาด ของเชิงเขาประทักษ์ กล่าวคือ ในระยะแรกแม่นำ้ ลำธารจะพัดพาตะกอนทับถมตามหบุ เขา ความเร็ว ในการไหลของแม่น้ำได้ทำให้เกิดการกัดเซาะเป็นแนว จนระยะเวลาหนึ่งอิทธิพลของแม่น้ำที่ลด ความเร็วลงทำให้เกิดการทับถมบนแนวกัดเซาะและเมื่อเกิดกระแสน้ำรุนแรงก็จะกัดเซาะพื้นที่ตรง กลางอีก ลกั ษณะนี้เมื่อเกดิ ขน้ึ ซ้ำๆ จะทำใหเ้ กิดท่ีราบขั้นบันไดลดหลัน่ กนั ไปจนถึงริมฝงั่ แม่นำ้ นำ้ ฝนเปน็ ตัวการสำคัญท่ีทำใหเ้ กิดลำธารและแม่น้ำสายต่างๆ เม่อื นำ้ ฝนไหลลงไปตามความ ลาดชันของภูเขา ก่อให้เกิดการกัดเซาะพื้นที่เป็นร่องนำ้ เล็กๆต่างๆ ไหลไปรวมกันเป็นร่องน้ำขนาด ใหญ่และรวมกันเป็นสาขาของลำธาร และรวมตัวกันไปเร่ือยๆจนกลายเป็นลำธารและแมน่ ้ำในที่สุด ขณะทนี่ ำ้ ไหลไปตามทางจะพดั พาอนุภาคต่างๆทงั้ ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ให้เคล่อื นท่ีออกไป อนุภาค ทไี่ หลมากับน้ำเหลา่ นีจ้ ะเพม่ิ แรงปะทะให้รนุ แรงและแตกหักมากยงิ่ ขึ้น กดั เซาะลำธารใหเ้ ป็นหลุมเป็น บ่อและกวา้ งมากขนึ้ เรอื่ ยๆ ตามลำดบั วิวฒั นาการ แนวเทือกเขาประทักษ์ทอดตัวตามแนวทิศเหนือ-ใต้ เป็นระยะทางกว่า ๒๙ กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ราว ๓๑๒ ตารางกิโลเมตร มีสันเขาค่อนไปทางด้านทิศตะวันตก ทำให้ภูเขาฝั่ง ตะวันตกมคี วามลาดชันมากกว่าฝ่ังตะวนั ออก มยี อดเขาสูงต่ำรวมท้ังหมด ๓๙ ยอด มีหุบเขาระหว่าง ยอดเขาลกู ต่างๆ เปน็ ตน้ น้ำลำธารท่ีจะไหลสู่ทล่ี าดเชงิ เขา น้ำทไี่ หลลงจากลำธารบนเทอื กเขาประทักษ์ ที่มีผลเก่ยี วกับระบบชลประทานสโุ ขทยั มี ๓ ทาง ได้แก่ ๑. น้ำทีไ่ หลลงจากลำหว้ ยทางทศิ ตะวันตกของเขาประทกั ษ์

329 ๒. น้ำท่ีไหลลงจากลำหว้ ยทางดา้ นทศิ เหนอื ของเทือกเขาประทกั ษ์ ๓. นำ้ ทไ่ี หลลงจากลำหว้ ยทางด้านทิศตะวันออกของเทือกเขาประทกั ษ์ ลักษณะทางกายภาพของที่ราบเชิงเขาประทักษ์ เป็นลักษณะของป่าฝนเขตร้อนที่มีความสูง จากระดับน้ำทะเลไม่เกิน ๑,๐๐๐ เมตร มีพันธุ์ไม้ขึ้นปะปนหลายชนิด เช่น ยางขาว ยางแดง ยาง ตะเคียน กะบาก เคียนหอม แดงดง และกาฝาก ทำให้ป่าค่อนข้างมืดครึ้ม ต้นไม้มีการเจริญเติบโต ตลอดท้งั ปีไมม่ ีการผลดั ใบ ปา่ เช่นนจ้ี ะปกคลุมลำธารท่ไี หลจากยอดเขาต่างๆ ใหช้ ุ่มชืน้ ตลอดปี พนื้ ทบี่ ริเวณนเี้ ป็นทต่ี งั้ เมอื งสุโขทยั ดว้ ยองค์ประกอบทางดา้ นธรณวี ิทยาต่างๆ เช่น สภาพภูมิ ประเทศและแหล่งนำ้ ต่างๆ นอกจากน้ียงั มกี ารดดั แปลงแหล่งน้ำธรรมชาติ เพ่ือประโยชนใ์ นการพฒั นา เมือง ท้ังในดา้ นเกษตรกรรม เศรษฐกิจและสังคม เข่อื นสรดี ภงส์และแหล่งตน้ นำ้ ในอดีต “สรดี ภงส์”มาจากภาษาสันสกฤตว่า สริทกฺ งคฺ แปลว่า ทำนบ สรดี ภงสต์ ั้งอยู่ห่างตัวเมืองไป ทางทิศตะวันตกเฉยี งใต้ประมาณ ๓ กิโลเมตร จากการสำรวจเม่อื ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ โดยเจา้ หน้าที่หน่วย ศิลปากรท่ี ๓ สุโขทยั พบแนวคนั ดินเช่ือมต่อระหว่างเขาก่วิ อา้ ยมาและเขาพระบาทใหญ่ มีการขุดดิน จากด้านในเพื่อนำมาปรับถมเป็นคันดินกั้นน้ำ ลักษณะคันดินที่เหลืออยู่มีขนาดฐานกว้างประมาณ ๑๔ เมตร สงู ๔ เมตร คนั ดินตอนบนกว้าง ๓-๔ เมตร ยาว ๓๓๐ เมตร สภาพพงั ทลายขาดเป็นช่วงๆ เพราะถูกน้ำกัดเซาะ สภาพปัจจุบันได้รับการปรับปรุงคันดินตามระบบชลประทาน มีความสูง ประมาณ ๑๐ เมตร กกั เก็บน้ำได้ ๔๐๐,๐๐๐ ลกู บาศก์เมตร มพี น้ื ท่รี บั น้ำประมาณ ๕ ตารางกโิ ลเมตร รบั น้ำจากเทือกเขาประทกั ษ์ เขาคา่ ย เขาเจดีย์งาม ทีเ่ ปน็ พ้ืนที่หลงั คารบั น้ำ ไหลลงมาเป็นลำธาร หรือ โซก ต่างๆ เชน่ ๑. โซกพระร่วงลองพระขรรค์ ๒. โซกเรอื ตามอญ ๓. โซกอา้ ยก่าย ๔. โซกนำ้ ดบิ ชะนาง ๕. โซกชมพู่ ๖. โซกพม่าฝนหอก สรีดภงส์ ๒ (ทำนบก้นั นำ้ โคกมน) ตั้งอยทู่ บี่ ้านมนต์ครี ี หา่ งจากกำแพงเมอื งด้านทิศใต้ไปตาม แนวคันดินกน้ั นำ้ หมายเลข ๔ ต. หรอื ถนนพระรว่ ง ไปประมาณ ๗๖ กโิ ลเมตร เป็นคันดินอยู่ทางทิศ ตะวันออกของเขานายาและเขากุดยายชี มีความกว้างราว ๗-๑๐ เมตร สูง ๓-๔ เมตร ยาว ๑,๓๐๐ เมตรตรงกลางทำนบเจาะขาดเป็นช่องระบายน้ำเม่ือน้ำมปี ริมาณมากเกินไป สรีดภงส์ ๒ รับน้ำจากพื้นที่หลังคารับน้ำเทือกเขาโป่งสะเดา เขาคุยบุนนาค เขาอีลม ครอบคลมุ พ้นื ทร่ี าว ๑๘ ตารางกิโลเมตร มลี ำธารเลก็ ๆ ๑๒ สาย ไหลมารวมตวั กันบริเวณท้องกระทะ

330 ของภูเขา ๓ ลูกซึ่งมีพ้ืนที่ประมาณ ๕-๖ ตารางกิโลเมตร แล้วไหลต่อเนือ่ งมาเป็นเหมืองยายอึ่ง ผ่าน เพิงผาหินบริเวณที่พบประติมากรรมสตรี หรือ พระแม่ย่า แล้วไหลอ้อมเลียบภูเขาไปสู่พื้นที่ราบลุ่ม และพน้ื ทกี่ ักเก็บน้ำสรีดภงส์ ๒ เหมืองยายอึง่ ..เปน็ ลำธารขนาดใหญ่ มคี วามกว้างประมาณ ๒๐-๒๕ เมตร ผนังลำธารสูงเฉล่ีย ๕-๑๐ เมตร รับน้ำจากลำธารเล็กๆ ๑๒ สาย ที่ไหลมาจากเทอื กเขาโป่งสะเดา เขาคุยบุนนาคและเขาอี ลม ที่ระดับความสูง ๘๑๗ เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง แล้วลดระดับลงสู่อ่างกระทะรับน้ำที่ ความสูงระดับ ๓๕๐ เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ความลาดชันสูงนี้ทำให้เกิดกระแสนำ้ รนุ แรง พัดพาหินขนาดใหญ่มาทับถมกัน และบางส่วนของลำธารมีร่องรอยถูกกัดเซาะจนผนังหินพังทลาย มี ร่องรอยของ กุมภลกั ษณ์ หรือ Pothole ที่เกิดจากกรวดทรายทีน่ ำ้ พดั พามาตกในร่องหนิ กระแสน้ำท่ี ไหลเช่ียวอย่างต่อเน่ืองยาวนาน พดั ใหก้ รวดทรายหมนุ วนกดั กรอ่ นพ้ืนหนิ เปน็ หลมุ ตงั้ ฉากกบั พน้ื โลก น้ำโคก..ปรากฏอยู่ในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ที่กล่าวว่า “เบื้องหวั นอน... มีป่าม่วง ป่าขาม มีน้ำ โคก มีพระขพุงผี... ” นำ้ โคกหรอื บอ่ นำ้ ผุด ตั้งอยู่ถดั ลงมาทางทิศใต้ของเหมืองยายอึ่ง เป็นแหล่งน้ำที่ ไหลมาจากใต้ดนิ ทำให้เกิดลำธารไหลไปรวมกับเหมืองยายอง่ึ ก่อนไหลไปรวมกนั ทีส่ รดี ภงส์ ๒ (ทำนบ กัน้ น้ำโคกมน) เมอ่ื ปรมิ าณน้ำมมี ากเกนิ ไป ทางหนึ่งจะระบายออกท่ปี ากท่อกลางทำนบอีกทางหน่ึงจะ ไหลออกไปตามเหมอื งยายอง่ึ ไปบรรจบกับทำนบกั้นน้ำหมายเลข ๔ ต. หรือถนนพระร่วงสายสโุ ขทัย- กำแพงเพชร เพอื่ ใชใ้ นการเกษตรกรรมตามชุมชนริมถนนพระรว่ ง ซากนำ้ ตกที่เกิดจากเทอื กเขาประทกั ษ์ โซกเป็ดเป็นแหล่งตน้ นำ้ ทีม่ ีนำ้ ซึมผ่านทรายชน้ื เปยี กไปตามแนวลำธาร ทรายทอ่ี ย่พู ื้นลำธารมี สีดำอมน้ำตาลคล้ายขี้เป็ดอยู่ทั่วไป อาจเกี่ยวกับที่มาของช่ือแหล่งโดยชาวบ้านอาจเคยเรียกว่า โซกขี้เป็ด แลว้ กร่อนเหลอื เพียง โซกเปด็ น้ำจากโซกเป็ดนีจ้ ะไหลไปสู่ทำนบกั้นน้ำหมายเลข ๔ ต. ตามเหมืองตา ราม แล้วระบายไหลออกไปรวมกับคลองยาง โซกข้ีเหล็กตั้งอยทู่ างด้านใตข้ องโซกเป็ด ตามลำธารมีกองหนิ ทับถมจำนวนมาก บางตอนของ ผนังโซกมีร่องรอยหินกรวดทบั ถมหนาถึง ๑-๑.๕๐ เมตร แสดงถึงการทบั ถมของหินท่ีถกู นำ้ พัดพามา เป็นเวลานาน น้ำจากโซกขี้เหล็กจะไหลไปหาทำนบก้ันน้ำหมายเลข ๔ ต. และไหลไปรวมกับเหมือง ยายอึ่งต่อไป การทดน้ำมาใชใ้ น-นอกเมืองเก่าสุโขทัย ภายในเมอื งสโุ ขทยั มีสระเก็บกักน้ำประมาณ ๑๗๕ สระ มีท้ังแบบขดุ ลงไปในดิน และกรุผนัง ด้วยอิฐหรือศลิ าแลง บ่อที่ลึกที่สุดอยู่บรเิ วณดา้ นหลังอนุสาวรีย์พอ่ ขุนรามคำแหงมหาราช ขนาดปาก บ่อกว้าง ๓ เมตร ลึก ๒๕ เมตร มีคลองส่งน้ำจากบรเิ วณเมืองชั้นในทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ ส่งน้ำ จากตระพังตระกวนเขา้ มายังตระพงั สอคูเมืองและกำแพงเมืองสโุ ขทัยวางตัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มี คันดินเป็นกำแพง ๓ ชั้น และคูน้ำ ๓ ชั้น ทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันขา้ ศึกและเป็นคันบังคับน้ำมาใช้

331 ประโยชน์ โดยเป็นน้ำท่ีไหลมาจากคลองเสาหอด้านทิศตะวนั ตกมายังบริเวณคูเมืองด้านทศิ ตะวันตก เฉียงใต้ ซึ่งคงมีท่อเชื่อมสู่คูเมอื งชั้นใน เนื่องจากในการบูรณะปรับปรุงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทยั ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๑-๒๕๓๑ ได้ขุดพบท่อน้ำดินเผาขนาดต่างๆ ใกล้ขอบสระและคูน้ำล้อมรอบวดั เสมอๆ เช่นท่ีวัดพระพายหลวง วัดมหาธาตุ วัดเชตุพน เป็นตน้ นอกจากนี้ยังมีทำนบกั้นน้ำอื่นๆ ก่อสร้างไว้เพื่อส่งน้ำและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในเมือง ทำนบที่ สำคัญได้แก่ แนวคันดินหมายเลข ๔ ต. ถนนพระร่วง ๑ สุโขทัย-กำแพงเพชร ตั้งอยู่ทางทิศใต้นอก กำแพงเมอื ง มีความสูงประมาณ ๐.๕๐-๒.๕๐ เมตร กว้างราว ๔-๖ เมตร ยาวประมาณ ๗๓ กโิ ลเมตร ถงึ เมอื งกำแพงเพชร มโี บราณสถานตามถนนพระรว่ งสายน้ี ๒-๓ แห่ง และแนวคนั ดนิ ถนนพระร่วง ๒ สโุ ขทยั -ศรสี ชั นาลัย ขนาดใกลเ้ คยี งกับถนนพระรว่ ง ๑ สุโขทัย-กำแพงเพชร วางตวั เรมิ่ ตน้ ต้ังแต่ประตู ศาลหลวงมุ่งขึ้นไปถึงเมืองศรีสัชนาลัย โดยแนวคันดินที่พบขาดหายเป็นระยะๆ สำรวจพบ โบราณสถานเรียงรายตามแนวถนน ๒๓ แหง่ แนวคนั ดินเหล่านี้นอกจากใชเ้ ป็นถนนแลว้ ยังใชเ้ ป็นแนว บงั คับน้ำทไ่ี หลมาจากทางทศิ ตะวนั ตกเพ่ือใชป้ ระโยชนแ์ ละผันน้ำไปสูแ่ มน่ ้ำยม วธิ ีการควบคมุ นำ้ ของเมืองสโุ ขทัย ชลประทานมาจากคำว่า ชล แปลว่า น้ำ +ประทานแปลว่า ให้ หมายถึงการจัดสรรน้ำใน รูปแบบต่างๆเพื่อประโยชน์หลายๆอยา่ งแกป่ ระชาชน ใหม้ นี ้ำไว้ใช้อย่างเพยี งพอและสม่ำเสมอตลอด ปี เช่น การสร้างเหมืองฝาย สำหรับกักเก็บน้ำในฤดูฝนซึ่งเกินความต้องการ เป็นการบรรเทาปญั หา อุทกภัย และสามารถเก็บนำ้ ไวใ้ ช้ประโยชนใ์ นการเพาะปลูกเมือ่ เขา้ สูฤ่ ดูแลง้ เป็นต้น การพัฒนาแหล่งนำ้ ในการชลประทานเพอ่ื การเกษตรกรรม มวี ิธีการต่างๆ ดงั น้ี ๑. การทดน้ำ คือ การสร้างเขื่อนหรือฝายกั้นให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนสูงขึ้นจนถงึ ระดับพื้นที่ เพาะปลกู ๒. การส่งน้ำ คอื การขดุ คูคลอง หรอื การวางทอ่ ส่งน้ำ เพอ่ื กระจายปรมิ าณนำ้ ใหท้ วั่ ถึงพ้ืนท่ี เพาะปลกู ๓. การเก็บกักรักษาน้ำ คือ การสร้างทำนบ การสร้างประตูกักนำ้ หรือแม้แต่การพรวนดิน คลมุ ดนิ เพื่อรักษาความช้ืนในดนิ ใหม้ ากทส่ี ดุ ๔. การระบายน้ำ คอื การขดุ คูคลองเพ่อื ระบายนำ้ ออกจากพน้ื ทีเ่ พาะปลูก เพอ่ื การเกบ็ เกีย่ ว และขนยา้ ยผลผลติ ออกจากพ้นื ท่เี พาะปลกู ๕. การป้องกันอุทกภัย คือ การระบายน้ำด้วยการสร้างคันกั้นน้ำและอาจมีท่อระบายน้ำ ประกอบ การชลประทานในเขตชุมชนวัดพระพายหลวง ชุมชนวัดพระพายหลวง ได้ปรากฏขึ้นก่อนการสร้างเมืองสุโขทัย ชุมชนนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำแม่ รำพนั โดยมเี ทือกเขาประทักษเ์ ปน็ ฉากหลงั ทางทิศใตแ้ ละทศิ ตะวันตก ลักษณะการเลือกสร้างเมืองใน

332 ที่เนินสูงใกล้เส้นทางน้ำและใกล้ภูเขาเช่นนี้ ปรากฏมาตั้งแต่แรกเริ่มสรา้ งชุมชนมนุษย์ ชุมชนวัดพระ พายหลวงมรี ูปแบบการสร้างเมืองทรงเรขาคณติ แสดงใหเ้ ห็นวา่ เป็นชุมชนท่ีได้รับการจดั ระเบยี บอย่าง ดี เชื่อวา่ อทิ ธิพลการสร้างเมืองแบบนี้ไดร้ ับมาจากกลมุ่ ผู้นับถอื ศาสนาฮินดู ซึง่ มีความชำนาญในการ จัดรูปผังเมืองและการชลประทานเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดทางศาสนา โดยกำหนดให้มีปราสาท เป็นเทวสถานกลาง สัญลักษณ์ของเขาพระสุเมรุที่เป็นศูนย์กลางจักรวาล กำแพงรายล้อมเป็น สัญลกั ษณ์ของดิน และน้ำในคูเมืองเป็นสญั ลกั ษณข์ องเกษียรสมุทร ศูนย์กลางการปกครองและศาสนาของชุมชนวัดพระพายหลวง ตงั้ อยู่ในพนื้ ท่ีส่ีเหลี่ยมขนาด เลก็ ในขณะทีพ่ นื้ ทโ่ี ดยรอบเปน็ พ้นื ที่หลักทางเศรษฐกิจของชมุ ชน การสรา้ งฝายนำ้ ลน้ และอ่างเก็บน้ำ ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในการป้องกันน้ำไม่ให้ไหลท่วมพื้นที่ชุมชน และกักเก็บน้ำไว้ในการ เกษตรกรรม จากการสำรวจได้พบร่องน้ำที่ไหลมาจากช่องโซกม่วงกล้วยและเขาสะพานหินทางทิศ เหนอื เข้าสู่มุมทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื และทิศตะวนั ตกเฉยี งใต้ของชมุ ชน และรอ่ งน้ำท่ีไหลผา่ นช่องเขา สะพานหินกบั เขาเจดีย์งามจะไหลเข้าสู่ชมุ ชนวัดพระพายหลวงเช่นกนั จากระดับความสูงของแหล่ง ต้นน้ำท่ีมคี วามชันค่อนข้างมาก ทำใหน้ ำ้ ที่ไหลลงมามีความรุนแรง จึงต้องมีการสรา้ งคันดินเพื่อชะลอ ความเรว็ ของนำ้ ในบริเวณทศิ ตะวนั ตกของวดั ศรีชมุ โดยได้สำรวจพบแนวคนั ดนิ ทีม่ ีความยาวประมาณ ๑.๒ กิโลเมตร กว้างประมาณ ๘-๑๐ เมตร สูง ๓-๔ เมตร แนวคันดินหมายเลข ๔ และแนวคันดิน หมายเลข ๕ และ ๖ ทำหน้าที่เปน็ ฝายน้ำลน้ ๒ ฝาย ในขณะเดยี วกันคูน้ำที่ล้อมรอบชุมชนก็สามารถ ป้องกันน้ำที่ไหลล้นมาจากคันดินเข้าท่วมเมืองได้อีกชั้นหนึ่งก่อนระบายลงคลองซอยไปสู่ลำน้ำแม่ รำพนั พนื้ ทบ่ี รเิ วณคลองซอยเหล่านี้ใช้เปน็ แหลง่ ทำมาคา้ ขายและสัญจรได้ ในศลิ าจารึกเรียกบริเวณ ดังกลา่ วน้ีว่า ตลาดปสาน ซึ่งสามารถใชเ้ ป็นทางออกสู่ทางนำ้ สายใหญ่ คอื ลำน้ำแมร่ ำพนั ด้านทิศตะวันออกของลำน้ำแม่รำพัน มีคันดินหมายเลข ๗ ขนาดกว้างประมาณ ๑๕-๒๐ เมตรสูง ๔-๕ เมตร โอบรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกเว้นด้านทิศตะวันตก ส่วนคันดินด้านทิศ ตะวันออกเวน้ ช่องระบายน้ำไว้ตรงกลาง คันดินนส้ี ามารถเกบ็ น้ำที่เออ่ ลน้ จากลำนำ้ แม่รำพนั เพ่ือใช้ใน การเพาะปลูกขา้ วไดเ้ ปน็ จำนวนมาก การชลประทานในเขตเมืองสโุ ขทยั การสร้างเมืองใหม่ในบริเวณไม่ห่างไกลจากที่ตั้งชุมชนเดิม อาจเกิดจากการขยายตัวของ ชุมชน หรือที่ตั้งเมืองเก่าอาจเกิดจากปัญหาภาวะทางธรรมชาติที่อาจเกิดความไม่เหมาะสมในทางใด ทางหนึ่ง อยา่ งไรก็ตาม สถาปนกิ และวิศวกรของชุมชนเมืองสุโขทยั อาจใช้ประสบการณ์จากที่ต้ังเมือง เดิมคือชุมชนวดั พระพายหลวง สร้างเมืองสุโขทัยให้สมบูรณ์ แหล่งน้ำและเส้นทางน้ำต่างๆ ถูกทำขึน้ อยา่ งมรี ะบบ เพือ่ เกบ็ นำ้ มาไวภ้ ายในเมืองไดอ้ ยา่ งกลา้ หาญและชาญฉลาด

333 การชลประทานเพือ่ การอุปโภคบริโภค แหล่งน้ำธรรมชาติจากเขาประทักษ์ ได้แก่ คลองเสาหอ ลำน้ำจะไหลลงมายังสรีดภงส์ที่มี พน้ื ทกี่ ักเกบ็ น้ำได้ ๘๐,๐๐๐-๑๒๐,๐๐๐ ลกู บาศก์เมตร สามารถระบายเข้ามาในเมืองสโุ ขทัยได้ตลอด ทง้ั ปลี ำนำ้ สายนี้จะไหลไปยังบริเวณมมุ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองสโุ ขทยั ถกู ชักเข้าไปเล้ียงคูเมือง โดยรอบและกกั เก็บน้ำไว้ตามตระพงั ต่างๆ ก่อนไหลไปสมทบกับลำนำ้ แม่รำพันทางทิศตะวันออกของ เมือง จะสังเกตได้ว่าการสร้างเมืองสุโขทัยใหม่นี้ ไม่ได้สร้างฝายเพื่อป้องกันน้ำท่วม อาจเป็นเพราะ ฝายน้ำล้นเก่าของชุมชนวดั พระพายหลวงยังใช้การไดด้ ี และน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติทางตอนเหนือ อาจไม่มีผลกระทบในทางร้ายต่อเมืองที่สร้างขึน้ ใหม่ทางใต้ แต่ผู้สร้างเมืองกม็ ิได้มีความประมาทใน ความรุนแรงของน้ำจากภูเขา จึงได้สร้างกำแพงเมืองขึ้นเป็น ๓ ชั้น ทำหน้าที่เสมือนฝายหรือเขื่อน ปอ้ งกันนำ้ เขา้ ทว่ มเมือง นอกเหนอื จากประโยชน์ในการป้องกนั ข้าศกึ ศตั รู การชลประทานแบบเหมืองฝายของเมอื งสุโขทัย จากการศึกษาระบบชลประทานในสมัยสุโขทัย พบหลักฐานระบุถึงการชลประทานแบบ เหมืองฝายจากศลิ าจารกึ สุโขทยั หลกั ที่ ๓ หรือศิลาจารึกนครชุม พ.ศ. ๑๙๐๐ ในรชั สมัยพระมหาธรรม ราชาที่ ๑ มีคำว่า “เหมืองแปลงฝายรปู้ รา...” และจารกึ ฐานพระอิศวรเมืองกำแพงเพชร พ.ศ. ๒๐๕๓ ระบุว่า “อนึ่งท่อปู่พระยารว่ งทำเอาน้ำไปเถิงบางพานนั้นก็ถมหายสิ้นและเขาย่อมทำนาทางฟา้ และ หาท่อนัน้ พบ กระทำทอ่ เอานำ้ เขา้ ไปเลีย้ งนาให้เป็นนาเหมืองนาฝาย มไิ ดเ้ ป็นทางฟ้า...” เหน็ ได้ว่าใน สมัยปู่พระยาร่วง ซึ่งอาจเป็นพระราชวงศ์สุโขทัย ได้มีการชลประทานแบบเหมืองฝายขึ้นในเขต กำแพงเพชร สำหรับในเมืองสุโขทัยนั้นพบว่าน้ำจากเทอื กเขาประทกั ษ์ไมม่ บี ทบาทในการทำลายเมือง น้ำจะไหลจากแหล่งน้ำธรรมชาติลงสู่ที่ราบลุ่มต่ำ ตามลำธาร ลำห้วย เช่น คลองยาง เหมืองตาราม เหมอื งยายองึ่ คลองตาเจ็ก เปน็ ต้น สรดี ภงส์ ๒ เป็นฝายน้ำล้นที่สร้างขน้ึ ระหว่างเขานายากับเขากุดยายชี นำ้ เหนอื ฝายนี้จะระบายไปตามเหมืองยายอึ่งสทู่ ีร่ าบต่ำทางทศิ ตะวนั ออกเพือ่ ใช้ในการเกษตรกรรม การชลประทานเพือ่ การเกษตรในสมัยสุโขทัยนั้น เมื่อมีการขยายชุมชนเดิมจากวัดพระพาย หลวงมายังชมุ ชนสโุ ขทยั ระบบการควบคุมน้ำเดิมของชุมชนวดั พระพายหลวงยงั ใช้การไดอ้ ยู่ คือคันบงั คบั น้ำ ทางตะวันออกและตะวันตกของวดั พระพายหลวง ทำให้ชุมชนสุโขทัยยังทำเกษตรกรรมไดใ้ นบริเวณ ทางทิศเหนือ ทศิ ตะวนั ออกและทิศใตข้ องเมือง ดงั คำในศิลาจารึกพอ่ ขนุ รามคำแหง พ.ศ.๑๘๓๕ “...เบื้องตะวนั ออกเมอื งสโุ ขทยั นม้ี พี หิ ารปคู่ รู มีทะเลหลวง มปี ่าหมากป่าพลู มไี ร่ มนี า มถี นิ่ ฐาน มี บ้านใหญ่บา้ นเลก็ มีปา่ มว่ ง มปี ่าขาม ดงู ามดังแกลง้ เบ้ืองตนี นอนสโุ ขทัยนี้ มตี ลาดปสาน มีพระอจนะ มปี ราสาท มปี ่าหมากพร้าว ป่าหมากลาง มไี ร่ มนี า มถี น่ิ ถาน มบี ้านใหญ่ บา้ นเล็ก เบื้องหัวนอนเมือง สุโขทัยนี้ มีกุฎี พิหาร ปู่ครูอยู่ มีสรีดภงส์ มีป่าพร้าว ป่าลาง มีป่าม่วง ป่าขาม มีน้ำโคก มีพระขพุงผี เทพดาในเขาอันนั้น...”แหล่งน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคภายในเมืองสุโขทัย มีอยู่ ๒ ลักษณะด้วยกัน คือน้ำจากสระต่างๆและน้ำจากบ่อบาดาลจากสระต่างๆ (ตระพัง)ในเมืองสุโขทัยมีสระน้ำที่สามารถ

334 บรรจนุ ้ำไดไ้ ม่ต่ำกวา่ ๓๐๐ ลกู บาศก์เมตร จำนวน ๘๐ สระ น้ำจากคเู มืองจะไหลเข้าส่สู ระตา่ ง ๆ ตาม บรเิ วณทมี่ ีชุมชนอยอู่ าศยั โดยมตี ระพงั ขนาดใหญ่ จำนวน ๔ ตระพัง ดงั นี้ ตระพังเงนิ อย่ทู างทิศตะวันตกของวดั มหาธาตุ มีขนาดกวา้ ง ๕๒ เมตร ยาว ๒๕๓ เมตร ลึก ๓ เมตร สามารถกกั เกบ็ นำ้ ได้ ๓๙,๔๖๘ ลกู บาศก์เมตร ตระพังทอง อยู่ทางทศิ ตะวนั ออกของวดั มหาธาตุ มขี นาดกวา้ ง ๑๗๕ เมตร ยาว ๘๐๐ เมตร ลึก ๓ เมตร เก็บกักน้ำได้ ๙๖๓,๗๕ ลูกบาศก์เมตร เกาะกลางเป็นที่ตั้งของวัดตระพังทอง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วง เมื่อคราว เสด็จทอดพระเนตรเมืองเกา่ สุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ไว้ว่า ตอนแรกที่พระองค์ประทับแรมอยู่ได้ อาศยั น้ำในตระพงั ทองให้สตั ว์ท่เี ปน็ พาหนะเดินทางอาศยั ด่ืมกนิ ตระพังตระกวน อยู่ทางทิศเหนือของตระพังเงินและวัดมหาธาตุ มีขนาดกว้าง ๒๑๖ เมตร ยาว ๔๑๗ เมตร ลกึ ๓ เมตร รบั น้ำได้ ๒๒๒,๕๐๔ ลูกบาศกเ์ มตร เกาะกลางเป็นท่ีตัง้ ของวดั สระศรี ตระพังสอ อยู่ทางทิศเหนือของพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง มีขนาดกว้าง ๕๖.๗๕ เมตร ยาว ๒๑๘ เมตร ลกึ ๓ เมตร กักเก็บน้ำได้ ๓๗,๑๑๔ ลกู บาศก์เมตร นำ้ ในตระพงั เหล่าน้จี ะระบายไปยังตระพังอ่นื ๆภายในเมือง โดยเร่มิ จากทางดา้ นทิศตะวันตก มาสู่ด้านทิศตะวันออก โดยการวางท่อระบายน้ำต่อถึงกันระหว่างสระต่างๆ จากการขุดแต่ง โบราณสถานในเมืองสโุ ขทัย พบทอ่ ระบายน้ำบรเิ วณวดั มหาธาตดุ ้านเหนอื เปน็ ท่อดินเผาเคลอื บ ปาก ท่อกว้าง ๔๕ เซนติเมตร ปลายสอบเหลือ ๑๘ เซนติเมตร และพบอีกแห่งหนึ่งที่มุมกำแพงวัด มหาธาตุดา้ นใต้ พบทอ่ ท่มี ีขนาดเท่ากันโดยตลอด สว่ นหวั และปลายทำสวมต่อกนั ได้สว่ นสระน้ำเล็กๆ จะไมม่ ที อ่ ระบายนำ้ สง่ ถึงกัน อาศยั เพยี งนำ้ ฝนตามฤดูกาล จึงไมม่ นี ้ำขงั อยตู่ ลอดทั้งปี จงึ ต้องมีการขุด บ่อบาดาลมาใชอ้ ีกสว่ นหนึ่งดว้ ย บ่อน้ำ หรือ ตระพังโพย คำว่า ตระพังโพย เป็นภาษาเขมร แปลว่า บ่อมหัศจรรย์ คงเป็น ความหมายของบ่อน้ำที่มีน้ำตลอดทัง้ ปี น้ำจากแหลง่ นำ้ บาดาล เป็นอกี ส่วนหนึง่ ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภคในเมือง สุโขทัย การขุดเจาะน้ำบาดาลในบริเวณเมอื งสุโขทัยต้องเจาะลงไปที่ความลึกมากกว่า ๕ เมตร จาก การสำรวจและปรบั ปรุงบ่อนำ้ ในการพัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์ พบบอ่ น้ำซึมใต้ดนิ ท่ีมีลักษณะเป็น บ่อกลม กรุด้วยศิลาแลง อิฐ และบางแห่งมีหินก่อเสริม กระจายตัวอยู่ตามบริเวณต่างๆของเมือง สโุ ขทัย เป็นทสี่ งั เกตวา่ ปรมิ าณบอ่ น้ำในแตล่ ะพื้นท่ี อาจมีความสัมพนั ธ์กับปริมาณประชากรในชุมชน ท่อี าศยั ในบริเวณนน้ั ๆ ในบริเวณทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย ไมม่ ีตระพงั หรือสระเก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่พบว่ามีบ่อน้ำค่อนข้างหนาแน่น จำนวนถึง ๗๐ บ่อ ขณะที่กลางเมืองสุโขทัยมีเพียง ๒๓ บ่อ ทางด้านทิศเหนือเป็นอีกบริเวณที่มีบ่อน้ำหนาแน่น โดยพบถึง ๒๖ บ่อ จึงอาจกล่าวได้วา่ ในบริเวณ ทางทิศตะวันตกและทิศเหนือของเมืองซึ่งพบปริมาณบ่อน้ำค่อนข้างหนาแน่น มีชุมชนอยู่อาศัย

335 มากกว่าพ้นื ทที่ างทศิ ตะวนั ออกและทิศใต้ ท่ีพบจำนวนบ่อนำ้ ไม่มากนกั โดยสนั นษิ ฐานวา่ บริเวณน้ีคง ใชเ้ ป็นพ้ืนทเี่ กษตรกรรม นอกจากนี้ยงั มีขอ้ สงั เกตอีกประการหน่ึงคอื บอ่ น้ำทขี่ ดุ ขน้ึ ส่วนใหญ่จะอยู่ใน เขตโบราณสถาน หรอื บริเวณวัด โดยทางด้านตะวนั ตกของเมอื งก็ปรากฏวา่ มีวดั อยหู่ นาแน่นเชน่ กัน อนึง่ ในการสำรวจบ่อโบราณ กรมศลิ ปากรได้ทำการขุดลอกบ่อโบราณบางแห่งพบวา่ เป็นหลุม สุขา โดยเป็นหลุมคู่โดยมีรางเล็ก มีแท่งหินหรอื ไม้ปิดอย่างดี ในชั้นดินของบ่อพบกากอุจจาระ มีซาก ตา่ งๆดังนี้ เม็ดตะคอ้ เมด็ แตง เมด็ พรกิ ไม้ไผ่ หลุมเหล่านี้ลกึ ประมาณ ๗-๘ เมตร สันนิษฐานว่าอาจ เป็น วัจจกุฎี คือห้องสุขาของพระสงฆ์ ตามพระธรรมวินัยที่กำหนดให้พระสงฆ์ต้องมีที่ขับถ่าย โดยเฉพาะ สรุปปัญหาภูมศิ าสตรโ์ บราณคดี จากสภาพพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ แสดงให้เห็นว่า ทำเลที่ตั้งของเมอื งสุโขทัยนั้นตั้งอยู่บนท่ีราบ ลาดเอียงชายป่า มลี ำธารทไี่ หลมาจากทางทิศตะวันตกซึ่งเปน็ พื้นทภี่ ูเขา ทางทิศตะวันออกของเมือง เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ทำให้เห็นได้ว่าเมืองสุโขทัยนั้นตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีขุนเขาเป็นฉากบังอยู่ ทางด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ มีการสร้างคูเมืองกำแพงเมือง มีระบบการจัดผังเมืองเป็นบ้าน เป็น เมือง เขตสวนไร่นา บ้านใหญ่ บ้านเล็ก ความรู้ทางด้านฝายน้ำล้นที่แพร่หลายในแหลมอินโดจีนมา ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๖ ได้ถูกนำมาใช้กอ่ สร้าง ชักน้ำไปทางทิศตะวันออก ผ่านคูเมืองและพื้นทีใ่ ช้ ประโยชนต์ ่างๆ ก่อนไหลลงสูท่ ี่ราบล่มุ แม่นำ้ ยม ระดับความลาดเอียงในเมืองสุโขทัยที่มีความสูงถึง ๓-๔ เมตร ย่อมกักเก็บน้ำไม่ได้จึงต้องมี การขุดสระน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆโดยเฉพาะในการเกษตรกรรม ทำให้ดินมีความชุ่มช้ืน สามารถปลูกหมากม่วง หมากขาม ป่าแก้ว ป่าลาง สวนหมาก สวนพลู ทั่วทุกแห่ง เมืองสุโขทัยจึง ร่มเย็น น่าอยู่อาศัย งามดังแกล้ง คนสุโขทัยมีการขุดบ่อน้ำซึมที่สะอาดเย็นจากใต้ดินขึ้นมาใช้อย่าง แพร่หลาย โดยไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับการขุดบ่อน้ำใช้จำนวนมากเช่นนี้จากเมืองโบราณอื่นๆใน ประเทศไทยเลย จึงแสดงว่าระบบการสขุ าภิบาลของชาวสุโขทยั นั้นก้าวหนา้ กวา่ สงั คมอ่ืนๆ เมือ่ ศึกษาถงึ การออกแบบการวางผังเมือง ถนนทางเดิน ขอบสระ ตลอดจนการเนรมิตศิลปะ โบราณวตั ถตุ า่ ง ๆ สถาปนิกและนายชา่ งศลิ ปกรรมสุโขทยั มฝี ีมอื อยู่ในระดบั แนวหนา้ กว่าศิลปินเมือง อื่น ๆ ที่ร่วมสมยั เดียวกัน ย่อมเป็นประจักษพ์ ยานเป็นไดช้ ัดวา่ เมืองสุโขทยั น้ีดี และแพร่หลายเปน็ ท่ี ชน่ื ชอบของชาวเมืองนครศรีธรรมราช เมอื งเชยี งใหม่ เมอื งน่าน ฯลฯ จึงเขียนตำนานยกย่องชาวเมือง สุโขทยั ในนามพระรว่ ง เปน็ เอกสารทีเ่ หลืออยู่จนบดั นี้จะมีตกอับอย่แู ต่เพียงในวรรณกรรมเรื่องขุนช้าง ขนุ แผนเท่าน้ัน ท่กี ลา่ วว่าเจา้ เมืองสุโขทัยยากจนขนาดตอ้ งนำธิดานางแก้วกรยิ าไปขายฝากขดั ดอกเบ้ีย เศรษฐีขุนช้างแต่เพยี งแห่งเดียว

336 ใบงาน บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 เรอื่ ง ความเป็นมาของประวตั ิศาสตร์การบรหิ ารจดั การน้ำ 1.การตง้ั ถ่ินฐานบา้ นเรอื นสมัยสุโขทยั พิจารณาจากส่ิงใดเป็นสำคญั ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………............................................................................. 2.อธิบายประโยชนข์ องระบบชลประทาน (เหมอื ง ฝาย ทำนบ) ท่ีมีต่อชาวสโุ ขทยั ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………......................................................................................

337 เฉลยใบงาน บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรอื่ ง ความเป็นมาของประวตั ศิ าสตรก์ ารบริหารจัดการน้ำ 1. การตงั้ ถิ่นฐานบา้ นเรือนสมัยสโุ ขทยั พิจารณาจากส่งิ ใดเป็นสำคัญ ตอบ 1. มแี หล่งน้ำ คือ ปจั จัยสำคญั ทีส่ ุดสำหรับการทำเกษตร โดยอาณาบรเิ วณสมยั สุโขทัย มลี ำน้ำขนาดใหญ่ผ่านถงึ 3 สาย คอื ลำน้ำปงิ ลำน้ำยม ลำนำ้ นา่ น 2. สภาพพ้นื ทีด่ ิน คอื ปัจจยั สำคญั รองลงมา สภาพพน้ื ที่ดนิ ม3ี แบบด้วยกนั คอื พ้นื ที่ ท่อี ยู่ระหว่างเขาลงมาตามท่รี าบลมุ่ แมน่ ้ำ พน้ื ท่บี รเิ วณลมุ่ น้ำใกลเ้ คียงกัน และพน้ื ทร่ี าบลุ่มน้ำเป็นพนื้ ที่ ที่เหมาะกบั การทำการเกษตร 2. อธบิ ายประโยชนข์ องระบบชลประทาน (เหมอื ง ฝาย ทำนบ) ทมี่ ีต่อชาวสุโขทัย ตอบ สมัยสุโขทยั มรี ะบบการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการเกษตร โดยมกี ารจัดทำ “สรีดภงส์” (เข่อื นหรือทำนบ) เชื่อมระหว่างเขาเพื่อกกั เกบ็ น้ำ และมกี ารจัดทำท่อดินเผาขนาดต่างๆ เพื่อบังคับน้ำ จากคลองใหไ้ หลเข้าไปในกำแพงเมืองไปสูตระพัง (สระน้ำหรือหนองน้ำ) ขนาดกลางเมอื งสโุ ขทยั การชลประทานของเมอื งสุโขทัย เปน็ ประโยชนท์ ัง้ ดา้ นการเกษตรและการคมนาคม เพราะชาวสุโขทัย ใช้น้ำทีม่ าทางทอ่ ของพระยารว่ ง สำหรบั การเกษตรจากเหมืองฝาย โดยไมต่ ้องอาศัยน้ำฝนอย่างเดียว รวมท้งั ประโยชน์ทางด้านอปุ โภคบริโภคภายในเมืองสุโขทัย เพราะชาวสโุ ขทยั จะขดุ ตระพังจำนวนมาก

338 แบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรอ่ื ง การบรหิ ารจัดการเร่ืองนำ้ สมยั สโุ ขทยั คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งทสี่ ุดเพียงขอ้ เดียว 1. หลักฐานใดที่ช่วยยืนยันวา่ สุโขทยั มคี วามเจริญมาก่อนหนา้ ทีจ่ ะได้สถาปนาเป็นราชธานี ก. ศาสนสถานศิลปะขอม ข. เรือ่ งราวจากเอกสารจีน ค. ข้อความท่ีปรากฏในศลิ าจารึก ง. พระราชพงศาวดารกรุงสโุ ขทยั 2. การสถาปนากรุงสุโขทยั เกดิ จากวธิ ีใด ก. กลมุ่ คนไทยอพยพลงมาต้ังถน่ิ ฐานบา้ นเมือง ข. ขอมรบชนะชุมชนทีอ่ ยมู่ ากอ่ นแล้วตง้ั กรงุ สุโขทยั ข้นึ ค. กลมุ่ คนไทยรวมตัวต้ังตนเปน็ อสิ ระ ไมย่ อมอยใู่ ตอ้ ำนาจขอม ง. อาณาจกั รขอมไดใ้ หอ้ ิสรภาพโดยมอบผคู้ นและทรพั ยส์ ินมาสรา้ งบ้านเมอื ง 3. การปกครองแบบพ่อปกครองลูก สง่ ผลดีต่ออาณาจักรสโุ ขทยั อย่างไร ก. ชาวต่างชาติเขา้ มาติดต่อค้าขายมากขน้ึ ข. การละเมดิ กฎหมายลดนอ้ ยลง ค. กษัตรยิ ก์ บั ราษฎรใกล้ชดิ กัน ง. ทำให้ขนุ นางมีอำนาจมาก 4. รปู แบบการปกครองสมยั สโุ ขทัยมีลักษณะอย่างไร ก. แบง่ พ้ืนท่ีเป็นมณฑล ข. ส่งข้าหลวงไปปกครอง ค. รวมอำนาจไว้ทีร่ าชธานี ง. กระจายอำนาจสู่ท้องถิน่ 5. ลักษณะการค้าขายของอาณาจักรสุโขทยั ตรงกับขอ้ ใด ก. ราษฎรคา้ ขายสินค้าไดบ้ างชนิด ข. ราษฎรค้าขายได้อย่างเสรี ค. รฐั ค้าขายแขง่ กบั ราษฎร ง. รฐั เป็นผู้ผูกขาดการค้า

339 6. ตลาดนัดจตุจักรในปจั จบุ นั หากเทยี บกับสมยั สุโขทัย จะหมายถงึ สง่ิ ใด ก. ตระพงั ข. สรีดภงส์ ค. เตาทุเรยี ง ง. ตลาดปสาน 7. แนวทางการสร้างความสงบสุขของสังคมสโุ ขทัย จากหลกั ฐานทป่ี รากฏนิยมใชว้ ธิ ีการใด ก. อบรมคนใหม้ ีศีลธรรม ข. ออกกฎหมายที่เข้มงวด ค. ใหร้ างวลั แกผ่ ู้ทำความดี ง. ลงโทษผู้ฝา่ ฝืน 8. สโุ ขทัยไดร้ ับอิทธพิ ลการนบั ถอื พระพุทธศาสนานิกาย เถรวาทลัทธิลังกาวงศม์ าจากแหง่ ใด ก. ศรีลงั กา ข. ทวารวดี ค. หรภิ ญุ ชยั ง. นครศรธี รรมราช 9. ข้อใดเปน็ ลักษณะความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสุโขทยั กบั ลังกา ก. ลังกาส่งเคร่ืองราชบรรณาการ ข. ลังกาถ่ายทอดพระพทุ ธศาสนาให้สุโขทยั ค. สุโขทัยถ่ายทอดพระพุทธศาสนาให้ลงั กา ง. สโุ ขทยั แผข่ ยายอำนาจเข้าครอบครองลงั กา 10. การมีสมั พนั ธไมตรอี นั ดีกับลา้ นนาส่งผลตอ่ สุโขทยั อยา่ งไร ก. ไดก้ ำลงั ชว่ ยยามเกิดสงคราม ข. เปน็ แหล่งวัตถุดิบไวผ้ ลิตสินค้า ค. ปลอดภยั จากการถกู ตที างเหนือ ง. สามารถเผยแพร่วฒั นธรรมไดอ้ ย่างเสรี 11. พระมหากษัตรยิ ข์ องสุโขทยั พระองค์ใดที่ทรงนำพระพทุ ธศาสนามาเปน็ เครื่องมอื ในการสรา้ ง สัมพนั ธไมตรีกบั อาณาจักรตา่ งๆ ก. พ่อขุนศรอี ินทราทติ ย์ ข. พอ่ ขุนรามคำแหงมหาราช ค. พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลิไท) ง. พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล)

340 12. ข้อใดเป็นภมู ิปญั ญาสมยั สโุ ขทยั ทเี่ ก่ยี วข้องกบั ชลประทาน ก. สรีดภงส์ ข. เตาทเุ รียง ค. ลายสือไทย ง. เคร่ืองสังคโลก 13. มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญทคี่ นปัจจบุ นั ได้รบั จากสมยั พ่อขุนรามคำแหงมหาราช คือสงิ่ ใด ก. ลายสอื ไทย ข. เมืองฉอด ค. พระพทุ ธรูปสมยั สุโขทยั ง. การปกครองแบบปติ ุลาธิปไตย 14. ภมู ิปญั ญาของชาวสุโขทัยในข้อมูลใดที่เกีย่ วกับการผลิตเครอ่ื งมอื เครื่องใช้ ก. ตระพงั ข. เครื่องสงั คโลก ค. พระพุทธรูป ง. อาวุธที่ทำด้วยสำรดิ 15. ปจั จัยสำคญั ที่ทำให้สโุ ขทยั เส่อื มและตกเป็นส่วนหนง่ึ ของอยุธยามีหลายประการ ยกเว้นขอ้ ใด ก. ความอ่อนแอทางทหาร ข. เกบ็ ภาษีอากรได้นอ้ ย ค. การค้าซบเซาเพราะอยู่ไกลทะเล ง. การแยง่ ชงิ อำนาจในหมู่ราชวงศ์พระรว่ ง

341 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เรอื่ ง การบรหิ ารจดั การเร่ืองนำ้ สมัยสุโขทัย 1. ก 2. ค 3. ค 4. ง 5. ข 6. ง 7. ก 8. ง 9. ข 10. ค 11. ค 12. ก 13. ก 14. ข 15. ข

342 เอกสารอ้างอิง สำนักงาน กศน. สำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ // หนงั สอื เรยี นสาระความร้พู ้นื ฐาน รายวิชาภาษาไทย (พท11001) ,2555 // เอกสารทางวิชาการลำดบั ท่ี 1/2555 สำนกั งาน กศน. สำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร // หนงั สอื เรียนสาระทักษะการเรยี นรู้ (ทร11001) ,2555 // เอกสารทางวิชาการลำดับที่ 32/2555 สำนกั งาน กศน. สำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร // ชดุ วิชาประวตั ิศาสตรช์ าติไทย (สค12024) ,2561 // เอกสารทางวิชาการลำดบั ท่ี 2/2561 เรือ่ ง การเรยี นรโู้ ดยใช้โครงงานเพื่อพฒั นาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (2561) , {ออนไลน์], เขา้ ถึงไดจ้ าก http://acad.vru.ac.th/Journal/Journal%208_3/8_3_15.pdf

343 รายชอ่ื คณะผู้จัดทำเอกสาร คมู่ ือแนวทางการจดั การเรียนรอู้ อนไลน์ ระดับประถมศึกษา 1. คณะกรรมการทปี่ รึกษา ประกอบด้วย ผอ.สำนกั งาน กศน.จงั หวัดนครปฐม รองผอ.สำนกั งาน กศน.จังหวัดนครปฐม 1.1 นายสมเจตน์ สวาศรี ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอเมอื งนครปฐม 1.2 นางอัญชลี ปสนั ตา ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกำแพงแสน 1.3 นายประชาลักณ์ ศรคี ุณาภรณ์ ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอนครชัยศรี 1.4 นายพรี ฉัตร อนุวงศ์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอดอนตูม 1.5 นางรัชนี คงฤทธิ์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอสามพราน 1.6 นางจดิ าภา บวั ทอง ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอพุทธมณฑล 1.7 นายสมมาตร คงชื่นสิน 1.8 นางเยาวรักษ์ บญุ จันทร์ 2. คณะกรรมการจดั ทำสื่อบทเรียนออนไลน์ ระดบั ประถมศกึ ษา (แผนการพบกลุ่ม, แผนการพบ กลมุ่ รายสปั ดาห,์ แผนการจัดการเรียนรู้รายสัปดาห,์ บทเรียนออนไลน์ 1-5 ) ประกอบดว้ ย 2.1 นายพีรฉัตร อนุวงศ์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกำแพงแสน 2.2 นายสมมาตร คงชนื่ สิน ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอสามพราน 2.3 นางจิดาภา บวั ทอง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอดอนตมู 2.4 นางอรวรรณ มหายศนันท์ ขา้ ราชกาครู ชำนาญการ 2.5 นางสาวถาวร ศิลปศร ข้าราชการครู 2.6 นางนวลลออ สทุ ธิงาม ครู อาสาสมคั รฯ 2.7 นางรินนา อนุภาษ ครู อาสาสมคั รฯ 2.8 นางสาวศศยิ าพชั ญ์ อินทรก์ รุงเก่า ครู อาสาสมคั รฯ 2.9 นางสาวเกศสดุ า ขาวขำ ครู กศน.ตำบล 2.10 นายณรงค์ ขวญั เพม่ิ พร ครู กศน.ตำบล 2.11 นางสาวขนษิ ฐา โพธ์ิทอง ครู กศน.ตำบล 2.12 นางสาวลักษค์ ณา สง่ โสภา ครู กศน.ตำบล 2.13 นางสาวสุจิตรา สมทรง ครู กศน.ตำบล 2.14 นางสาวบวั บชู า ลำ้ เลิศ ครู กศน.ตำบล 2.15 นางสาววรรณเพ็ญ ฮวบบุรี ครู กศน.ตำบล

344 2.16 นายไพรโรจน์ โพธทิ์ อง ครู กศน.ตำบล 2.17 นางสาวกานต์ธีมา แสงสว่าง ครู กศน.ตำบล 2.18 นางสาวศิริญา สบื นุช ครู กศน.ตำบล 2.19 นางอนงค์ ทงั่ ทอง ครู กศน.ตำบล 2.20 นางสาวอญั ชลยี ์ ว่องไว ครู กศน.ตำบล 2.21 นางสาวจติ รา เซย่ี งเทศ ครู กศน.ตำบล 3. คณะกรรมการบรรณาธิการ ประกอบด้วย 3.1 นายพรี ฉัตร อนวุ งศ์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกำแพงแสน 3.2 นางสาวถาวร ศิลปศร ขา้ ราชการครู 3.3 นางสาวอรพรรณ ขนั แกว้ นักวิชาการศกึ ษาปฏิบัติการ 3.4 นางสาวศศยิ าพชั ญ์ อินทรก์ รุงเกา่ ครู อาสาสมัครฯ 3.5 นางอนงค์ ทัง่ ทอง ครู กศน.ตำบล 3.6 นางสาวกานต์ธมี า แสงสว่าง ครู กศน.ตำบล 4. คณะทำงานจัดพมิ พต์ น้ ฉบบั และจัดทำรูปเลม่ ประกอบดว้ ย 4.1 นางสาวอรพรรณ ขนั แกว้ นักวิชาการศกึ ษาปฏบิ ัติการ 4.2 นางสาวปณั ณธร พรหมมณี นกั วิชาการศึกษา 4.3 นางสาวเกศสดุ า ขาวขำ ครู กศน.ตำบล 4.4 นายณรงค์ ขวัญเพิม่ พร ครู กศน.ตำบล 4.5 นางสาวขนิษฐา โพธทิ์ อง ครู กศน.ตำบล 4.6 นางสาวลกั ษ์คณา ส่งโสภา ครู กศน.ตำบล 4.7 นางสาวสจุ ติ รา สมทรง ครู กศน.ตำบล 4.8 นางสาวบัวบชู า ลำ้ เลศิ ครู กศน.ตำบล 4.9 นางสาววรรณเพญ็ ฮวบบรุ ี ครู กศน.ตำบล 4.10 นายไพรโรจน์ โพธิท์ อง ครู กศน.ตำบล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook