หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 รจู้ กั ขอ้ มูล 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ขอ้ มลู คือ ข้อเท็จจรงิ ทเ่ี กย่ี วข้องกับสงิ่ ต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นคน สตั ว์ สิง่ ของ หรือเหตกุ ารณ์ โดยอาจจะ เกิดข้นึ จากการสังเกต การจดบันทึก การสมั ภาษณ์ การสอบถาม นอกจากนน้ั ขอ้ มลู ยงั แบง่ ออกเปน็ 5 ประเภท คือ ข้อมูลตวั อักขระ ข้อมูลภาพ ข้อมูลตัวเลข ข้อมูลเสยี ง และขอ้ มลู อ่ืน ๆ 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ัย รับผิดชอบ - ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้ - ทกั ษะการแลกเปล่ยี นข้อมลู 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทกั ษะการคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทกั ษะการสื่อสาร 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต - ทักษะการทางานรว่ มกัน - ทกั ษะการสารวจ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสืบคน้ ข้อมูล - ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning) ชัว่ โมงที่ 1 ขั้นนา 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง ขอ้ มลู สารสนเทศ เพ่ือวดั ความรู้เดิม ของนักเรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 119
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ร้จู กั ข้อมูล 2. ครถู ามคาถามกระตนุ้ ความคิดของนักเรยี นว่า“ขอ้ มลู ท่ีอยรู่ อบ ๆ ตวั นักเรยี นมีอะไรบ้าง” (แนวตอบ : นักเรียนแสดงความคิดเหน็ ตามความคดิ ของตนเอง โดยคาตอบขึ้นอย่กู ับดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน เช่น ชือ่ -นามสกุล เบอรโ์ ทรศัพท์ ภาพถา่ ย คะแนนสอบวิชาต่าง ๆ เปน็ ต้น) 3. ครูอธิบายกบั นักเรียนเพอ่ื เชอื่ มโยงเข้าสู่บทเรยี นว่า“นกั เรียนจะเป็นไดว้ ่าในการดารงชีวติ ประจาวนั ของมนษุ ยจ์ ะต้องเกี่ยวข้องกบั ขอ้ มูลตลอดเวลาไม่ว่าจะเปน็ ช่อื -นามสกลุ นาหนกั สว่ นสงู ท่อี ยู่ ภาพถ่าย ภาพจากโทรทัศน์ ข่าวสารจากวทิ ยุ” ขั้นสอน ขั้นที่ 1 กาหนดปัญหา 1. ครถู ามคาถามประจาหัวข้อวา่ “นกั เรยี นคิดว่าข้อมูลทีด่ ีควรมลี กั ษณะอยา่ งไร” ขน้ั ท่ี 2 ทาความเขา้ ใจกบั ปญั หา 2. ครใู ห้นักเรียนสบื ค้นความหมายของข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีเครอื่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง 3. ครูอธบิ ายข้อสรุปกบั นักเรยี นเกย่ี วกบั ความหมายของข้อมลู จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรอ่ื ง ขอ้ มลู สารสนเทศ ว่า“ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงท่ีเกย่ี วข้องกับส่ิงต่าง ๆ ไมว่ า่ จะเปน็ คน สัตว์ สง่ิ ของ หรือเหตุการณ์ตา่ ง ๆ โดยอาจจะเกิดขึนจากการสงั เกต การจดบนั ทึก การสัมภาษณ์ การสอบถาม และ มกี ารรวบรวมไว้” ขน้ั ท่ี 3 ดาเนินการศกึ ษาค้นคว้า 4. นกั เรยี นสังเกตและศึกษาการจดบนั ทกึ เรื่องราวการไปท่องเทีย่ วจากตัวอยา่ งในหนงั สือเรียน 5. ครถู ามนักเรยี นวา่ “จากการศึกษาตวั อย่างสถานการณน์ ักเรียนพบข้อมลู ใดบ้าง” (แนวตอบ : ข้อมลู วนั ที่ สถานท่ที อ่ งเท่ียว เป็นต้น) 6. นักเรยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะในหนงั สือเรียน โดยให้นักเรียนสารวจตนเองและบันทกึ ข้อมูล สว่ นตัวลงในสมดุ แล้วนาข้อมูลไปจัดทาประวตั ิสว่ นตวั พร้อมตกแต่งให้สวยงามโดยใช้ โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด ชัว่ โมงท่ี 2 ขัน้ สอน ขนั้ ที่ 3 ดาเนินการศึกษาค้นควา้ 7. ครูทบทวนเน้ือหาการเรียนเมื่อช่ัวโมงทีแ่ ลว้ เก่ยี วกบั ความหมายของขอ้ มลู เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 120
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 รู้จกั ข้อมูล 8. ครูสุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมานาเสนอประวตั สิ ว่ นตัวที่จดั ทาเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว 9. นกั เรียนศกึ ษาเนื้อหา เรื่อง ประเภทของข้อมูลจากหนงั สือเรียนหรือสบื ค้นจากอนิ เทอรเ์ น็ต ข้นั ที่ 4 สังเคราะหค์ วามรู้ 10. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน โดยให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั เขียนข้อมูลที่พบภายใน โรงเรยี นใหม้ ากที่สดุ และให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมาเตมิ คาตอบบนกระดาน หน้าชนั้ เรียน โดยแตล่ ะกลมุ่ จะต้องตอบไมซ่ ้ากนั 11. ครูใช้ปากกาสีตา่ ง ๆ วาดรปู วงกลมบนกระดานหน้าช้นั เรียนจานวน 5 รปู 12. จากนน้ั ใหน้ ักเรียนภายในชั้นเรียนร่วมกันแยกข้อมลู บนกระดานและนาไปใส่ในวงกลมต่าง ๆ ตามประเภทของข้อมูลในหนังสอื เรยี น 13. ครอู ธิบายกบั นักเรยี นว่า“ขอ้ มลู ทอ่ี ยูร่ อบตัวเราสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. ขอ้ มูลตัวอักขระ 2. ข้อมูลภาพ 3. ข้อมูลตวั เลข 4. ข้อมูลเสียง 5. ขอ้ มูลอื่น ๆ แตข่ อ้ มูลบางอย่างไม่ควรเผยแพรใ่ ห้บุคคลอื่นรบั รู้ เพราะอาจมผี ูท้ ีไ่ มห่ วงั ดีนาไปใช้ และ สร้างความเสียหายใหแ้ ก่เรา เชน่ เลขบัตรประจาตวั ประชาชน เบอร์โทรศพั ท์ รหสั บตั ร ATM เปน็ ต้น” 14. นกั เรยี นทากจิ กรรมฝกึ ทักษะ โดยให้นกั เรยี นพจิ ารณาภาพ และสามารถบอกไดว้ า่ งสิง่ น้ัน จัดเปน็ ขอ้ มูลประเภทใด พร้อมลงมอื ทาใบงานที่ 3.1.1 เรอื่ ง ประเภทของข้อมลู ข้นั ที่ 5 สรุปและประเมนิ ค่าของคาตอบ 15. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสัย และครใู ห้ความร้เู พมิ่ เติมในสว่ นน้ัน หรืออาจจะให้ นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเตมิ จากอนิ เทอรเ์ นต็ 16. จากนนั้ ครถู ามคาถามประจาหัวขอ้ กับนักเรยี นว่า“นกั เรยี นคดิ ว่าข้อมลู ท่ีดคี วรมลี ักษณะ อยา่ งไร” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคาตอบขึ้นอยู่กบั ดลุ ยพินิจของ ครูผสู้ อน เชน่ ขอ้ มูลมีความถูกตอ้ ง ข้อมลู สามารถเชอ่ื ถอื ได้ ขอ้ มลู มีความทันสมยั เปน็ ต้น) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 121
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 รู้จกั ข้อมลู ขัน้ ที่ 6 นาเสนอและประเมนิ ผลงาน 17. ครปู ระเมินผลนักเรียน จากการสงั เกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และสมดุ ประจาตัว ของนักเรยี น 18. ครูตรวจสอบความถูกต้อง ของผลงานการทาใบงานท่ี 3.1.1 และกจิ กรรมฝึกทักษะ Note วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพอื่ ให้นักเรยี น - มที ักษะการสืบค้นข้อมลู โดยให้นักเรียนสืบคน้ ข้อมลู จากทางอินเทอรเ์ นต็ เพอ่ื สบื เสาะหาความรเู้ พมิ่ เตมิ ภายใตห้ วั ข้อที่ไดร้ บั มอบหมาย - มีทกั ษะการสังเกต โดยให้นักเรียนสงั เกตและศึกษาตวั อย่างสถานการณจ์ ากหนังสือ เรยี น เพ่ือเป็นแนวทางในการทาความเข้าใจ - มีทกั ษะการสารวจ โดยให้นักเรยี นสารวจข้อมูลส่วนตวั ของตนเอง และบนั ทึกพร้อม นามาจัดทาประวตั ิส่วนตัวพร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงามผ่านโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด โดยใช้ ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยแี ละทักษะกระบวนการคิดอย่างสรา้ งสรรค์ - มีทกั ษะการทางานรว่ มกัน โดยใหน้ ักเรียนใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทางาน เพื่อให้ นักเรียนแลกเปลยี่ นข้อมลู และสอื่ สารร่วมกัน ผา่ นการคิดวิเคราะหแ์ ละบนั ทึกข้อมลู ที่พบ ภายในโรงเรียน รวมถงึ การแยกข้อมลู ตา่ ง ๆ ตามประเภทได้อยา่ งเหมาะสม ขัน้ สรุป นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปเกี่ยวกับข้อมูลท่นี ยิ มใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ความหมายของขอ้ มูล และประเภทของข้อมูลวา่ “ขอ้ มลู เกิดจากการสังเกต การจดบนั ทึกการสัมภาษณ์ การสอบถาม และข้อมูลท่ีอย่รู อบ ๆ ตัวสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท ได้แก่ ข้อมลู ตวั อักขระ , ขอ้ มูลภาพ ข้อมูลตัวเลข , ข้อมูลเสยี ง และข้อมลู อ่นื ๆ” เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 122
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 รู้จกั ขอ้ มลู 7. การวดั และประเมนิ ผล วิธวี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน รายการวดั - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ ก่อนเรยี น 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง ข้อมูลสารสนเทศ 7.2 ประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) ประเภทของขอ้ มูล - ตรวจใบงานท่ี 3.1.1 - ใบงานที่ 3.1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน การนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการทางานกลุม่ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 5) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ความรับผิดชอบ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน 8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอื่ ง ข้อมูลสารสนเทศ 2) ใบงานท่ี 3.1.1 เรอ่ื ง ประเภทของขอ้ มลู 3) เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ 4) ปากกาสตี ่าง ๆ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องคอมพวิ เตอร์ 2) อินเทอรเ์ นต็ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 123
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 รู้จกั ขอ้ มลู ใบงานท่ี 3.1.1 เรอื่ ง ประเภทของขอ้ มลู คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาพที่กาหนดให้ จากนั้นนาหมายเลขประจาภาพมาเติมให้ตรงกบั ประเภทของข้อมลู 1. 2. 3. หอมจงั 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ข้อมูลภาพ ข้อมลู ตวั อักขระ ข้อมลู เสียง ขอ้ มูลตัวเลข ขอ้ มลู อื่น ๆ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 124
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ร้จู กั ขอ้ มูล ใบงานที่ 3.1.1 เฉลย เรื่อง ประเภทของขอ้ มูล คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นพิจารณาภาพทีก่ าหนดให้ จากนั้นนาหมายเลขประจาภาพมาเตมิ ใหต้ รงกบั ประเภทของข้อมลู 1. 2. 3. หอมจัง 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ขอ้ มูลภาพ หมายเลข 7 , หมายเลข 9 ข้อมลู ตวั อักขระ หมายเลข 4 , หมายเลข 10 หมายเลข 2 , หมายเลข 6 ขอ้ มลู เสยี ง หมายเลข 5 , หมายเลข 8 ข้อมลู ตวั เลข หมายเลข 1 , หมายเลข 3 ขอ้ มลู อื่น ๆ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 125
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 รจู้ กั ข้อมลู 9. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ................................. ................................ ) ข้อเสนอแนะ ....... ลงช่อื ( ตาแหนง่ 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคานวณ) ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี ) ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 126
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 ลักษณะของขอ้ มูลที่ดี แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 ลักษณะของขอ้ มูลที่ดี เวลา 2 ช่ัวโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด 1.1 ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ป. 5/3 ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตค้นหาขอ้ มลู ตดิ ต่อส่ือสารและทางานรว่ มกัน ประเมิน ความนา่ เช่อื ถือของข้อมูล ว 4.2 ป. 5/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใช้ ซอฟต์แวรห์ รอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ตท่หี ลากหลาย เพ่ือแก้ปัญหาในชีวติ ประจาวัน 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกลกั ษณะของข้อมลู ที่ดีไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 2. อธิบายประโยชน์ท่ีไดร้ บั จากการนาข้อมูลมาใชง้ านได้ (K) 3. สบื คน้ ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ลักษณะของขอ้ มูลทดี่ ีและประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากการนาขอ้ มูลมาใชง้ าน (P) 4. เห็นประโยชน์ของการนาข้อมลู ทด่ี ีมาใช้งานในชีวิตประจาวนั (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การค้นหาข้อมลู ในอินเทอรเ์ น็ต และการพจิ ารณา ผลการค้นหา - การประเมินความนา่ เชื่อถือของขอ้ มูล เชน่ เปรยี บเทยี บความสอดคลอ้ ง สมบรู ณข์ องข้อมูล จากหลายแหล่ง แหล่งตน้ ตอของข้อมลู ผเู้ ขียน วนั ทเ่ี ผยแพรข่ อ้ มูล - ขอ้ มลู ทดี่ ีต้องมรี ายละเอยี ดครบทุกดา้ น เชน่ ข้อดี และขอ้ เสยี ประโยชน์และโทษ 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 127
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 ลักษณะของขอ้ มลู ทด่ี ี การคน้ หาข้อมูลเพอ่ื ทาการสง่ิ ใดสิง่ หนึง่ จะต้องพจิ ารณาข้อมูลที่ดที ี่สุด ซง่ึ ข้อมูลทด่ี ีควรมีความ ถูกต้องเชอ่ื ถือได้ มีความสมบูรณ์ครบถ้วน สามารถนาไปใช้งานได้ ตรงตามความต้องการของผ้ใู ช้ มคี วาม ทนั สมัย และ มีความสอดคลอ้ งกนั ของขอ้ มลู นอกจากนัน้ ข้อมูลตา่ ง ๆ ยงั สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้ อย่างหลากหลาย 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ - ทักษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมลู 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - ทกั ษะการทางานร่วมกัน 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มูล 6. กิจกรรมการเรียนรู้ วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1 ขนั้ นา ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครทู บทวนความรู้เดิมของนักเรียนเก่ียวกับความหมายและประเภทของข้อมูล พร้อมให้ นักเรียนยกตัวอย่างข้อมลู ที่อยู่บรเิ วณบ้านของตนเอง 2. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 5 คน หรือตามความเหมาะสม จากนัน้ ครเู ขียนประเภทของข้อมูล บนกระดานแบง่ เป็นคอลัมน์ของแตล่ ะประเภท และให้นักเรยี นทีเ่ ปน็ ตัวแทนของแต่ละกล่มุ ออกมาเขียนส่งิ อยู่บรเิ วณบ้านของตนเองบนกระดานหนา้ ช้นั เรียน 3. นักเรียนและครูรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมลู บนกระดานหนา้ ชัน้ เรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 128
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 ลักษณะของขอ้ มลู ที่ดี 4. ครถู ามนักเรยี นว่า“นกั เรียนคิดว่าข้อมูลบนกระดานมีความสมบูรณ์หรือไม่ ถ้ายงั ไมส่ มบูรณ์ และนาข้อมูลเหลา่ นี้ไปใช้จะเกดิ ผลอยา่ งไร” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคิดเหน็ ของตนเอง โดยคาตอบข้นึ อยูก่ บั ดลุ ยพนิ ิจ ของครูผูส้ อน เช่น ข้อมูลเกิดความผดิ พลาด ข้อมลู ขาดความนา่ เชื่อถือ เปน็ ต้น) ขนั้ สอน ขน้ั ที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรยี นศกึ ษาลักษณะของข้อมลู ทด่ี ีจากหนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เร่อื ง ขอ้ มูลสารสนเทศ หรอื สืบค้น จากอนิ เทอร์เน็ต 2. ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอภิปรายหน้าชน้ั เรยี นเกยี่ วกับขอ้ มลู ทไ่ี ดด้ าเนนิ การศึกษา หนา้ ชั้นเรียน ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมกบั นกั เรยี นเก่ยี วกบั ลักษณะของข้อมลู ท่ีดีว่า“นอกเหนือจากลักษณะของ ขอ้ มูลท่ีดจี ะต้องมี 1. มีความถูกต้องเช่ือถือได้ 2. มีความสมบูรณ์ครบถ้วน สามารถนาไปใช้งานได้ 3. ตรงตามความต้องการของผใู้ ช้ 4. มคี วามทนั สมัย 5. มีความสอดคล้องกันของข้อมลู ขอ้ มูลที่ดีจะต้องมีความกระชับ เข้าใจงา่ ย และสื่อความหมายได้ชดั เจน” 4. นักเรยี นทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนงั สอื เรียน โดยใหน้ ักเรยี นพิจารณาข้อมลู ที่สามารถนามา ใชง้ านได้ และขอ้ มลู ทไี่ มส่ ามารถนามาใช้งานได้ 5. นกั เรียนทาใบงานท่ี 3.2.1 เรอ่ื ง ลักษณะของข้อมูลท่ีดี โดยให้พจิ ารณาข้อความท่ีกาหนดให้ และทาเครอ่ื งหมายถูกหนา้ ข้อทสี่ ามารถนามาใช้งานได้ จากน้นั ครสู มุ่ นกั เรียน 2-3 ออกมา นาเสนอ พร้อมอภปิ รายร่วมกันภายในห้องเรียน ชัว่ โมงที่ 2 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 129
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 ลกั ษณะของขอ้ มลู ทด่ี ี ขั้นสอน ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 6. ครูทบทวนเนือ้ หาการเรียนเม่ือชวั่ โมงทีแ่ ลว้ 7. นกั เรียนศึกษาเน้ือหา เรือ่ ง ประโยชนข์ องข้อมลู จากหนังสอื เรียน หรือสืบค้นข้อมลู เพิ่มเติม จากอินเทอร์เน็ตในเคร่อื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง จากนนั้ ส่มุ นกั เรียนออกมาอภปิ รายเนื้อหา หน้าชั้นเรียนโดยครคู อยให้คาแนะนาเพม่ิ เติม 8. ครอู ธิบายกบั นักเรียนเกี่ยวกบั ประโยชน์ของข้อมูลทีส่ ามารถนามาใช้ประโยชนไ์ ด้หลายดา้ น ดงั น้ี “1. ดา้ นการตดั สินใจหรือแก้ไขปัญหา เชน่ การเลือกซื้อผกั การเลอื กเสน้ ทางการเดินทาง ที่เรว็ ทสี่ ุด เป็นต้น 2. ดา้ นการติดต่อส่อื สาร เชน่ การพดู คยุ การแลกเปล่ยี นข้อมลู ซ่ึงกันและกนั การดกู าร์ตนู (เป็นการรับขอ้ มูลอย่างเดียว) การเล่นเกม (เป็นการรบั และสง่ ข้อมลู ) เปน็ ตน้ 3. ด้านการเรยี นหรือการทางาน เช่น การหาข้อมูลผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เพอ่ื นามาพฒั นา ความรขู้ องตนเอง เปน็ ต้น 4. ดา้ นการพัฒนาชุมชนและสงั คม เชน่ จานวนนักเรยี นในห้องเรียนท่ชี อบเลน่ เกม ซง่ึ ข้อมลู เหลา่ นจ้ี ะนาไปใชส้ าหรับการแก้ปัญหา นกั เรียนชอบเล่นเกมตอ่ ไปได้ เป็นต้น” ข้ันท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 9. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน เพื่อทากิจกรรมฝึกทักษะในหนังสือเรียน โดยใหน้ กั เรียน พิจารณาและส่อื สาร แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ร่วมกนั เกยี่ วกับขอ้ มลู ทไ่ี ด้จากภาพ และครใู ห้ นักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน Note วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพื่อใหน้ กั เรยี น - มีทกั ษะการทางานเทรคว่ โมนกโลันยีโ(ดวทิยยใชากก้ ารระคบานวนวณก)ารกลุ่มในการทางาน ทากิจกรรม ภายในห้องเรียน และเปิดโอกาสให้นักเร1ยี 3น0 ไดส้ ื่อสารและและเปล่ยี นความคิดเหน็ ร่วมกัน อยา่ งเหมาะสม
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 ลักษณะของขอ้ มูลท่ีดี ขนั้ สรปุ ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลนกั เรียน จากการตอบคาถาม การทาใบงาน และสมุดประจาตัวของนักเรยี น 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทาใบงานและกจิ กรรมฝึกทกั ษะ 3. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เก่ียวกับลกั ษณะของขอ้ มลู ทดี่ ีและข้อมลู ทส่ี ามารถนามาใช้ ประโยชน์ได้ในดา้ นตา่ ง ๆ และในชีวิตประจาวนั ประโยชนข์ องข้อมูล 7. การวัดและประเมินผล วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ รายการวดั - ตรวจใบงานที่ 3.2.1 - ใบงานท่ี 3.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ กจิ กรรมการเรยี นรู้ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 1) ลกั ษณะของข้อมลู ทีด่ ี การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 2) การนาเสนอผลงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการทางาน การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 4) พฤตกิ รรมการทางาน ความรบั ผดิ ชอบ คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์ กลมุ่ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่นั อันพึงประสงค์ ในการทางาน 5) คุณลกั ษณะอันพึง ประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรียนรู้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 131
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 ลักษณะของขอ้ มลู ที่ดี 1) หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรื่อง ข้อมลู สารสนเทศ 2) ใบงานท่ี 3.2.1 เร่อื ง ลกั ษณะของข้อมลู ท่ีดี 3) เครื่องคอมพวิ เตอร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพวิ เตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ลกั ษณะของข้อมลู ทด่ี ี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 132
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 ลกั ษณะของขอ้ มูลทีด่ ี คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาข้อความทก่ี าหนดใหต้ ่อไปนี้ และทาเคร่ืองหมาย ดา้ นหน้าขอ้ ความ ที่นาข้อมูลท่ดี ีมาใช้งาน และทาเครอ่ื งหมาย ด้านหน้าข้อความท่นี าข้อมูลท่ีไม่ดีมาใช้งาน 1. มารสิ าเหน็ เพ่อื นในห้องโพสต์ขอ้ ความในสื่อสังคมออนไลน์วา่ ............................... “พรุ่งน้ีโรงเรียนหยุด” จงึ โพสต์ข้อมลู น้ตี ่อใหเ้ พ่ือน ๆ ภายในหอ้ งเรียน 2. ลักษณาต้องทาการบา้ นเร่ืองข้อมูลทดี่ ี จงึ ไปหาข้อมลู เพิ่มเติมท่หี ้องสมดุ ............................... ภายในโรงเรียน เพือ่ ทาการบ้านและสง่ ใหค้ รูตามเวลาที่กาหนด . 3. ธีรศกั ด์ิต้องการเดนิ ทางไปจงั หวัดบุรีรัมยด์ ว้ ยเครือ่ งบิน จึงคน้ หาข้อมูล .............................. จากเว็บไซตส์ ายการบิน เพ่ือนาข้อมูลราคาคา่ โดยสารมาเปรียบเทียบ ก่อนตัดสินใจเดินทาง 4. หน่อยอยากมผี วิ พรรณดี ขาวใส จึงค้นหาข้อมลู เก่ียวกบั อาหารเสรมิ ต่าง ๆ ............................... จากอินเทอรเ์ น็ตเพ่ือประกอบการตัดสนิ ใจในการเลือกซ้ือ 5. เอกและกิตต้องทารายงานวิชาภาษาองั กฤษสง่ ครู ดังนัน้ จึงหาข้อมูล ............................... จากอินเทอรเ์ น็ตและหนังสอื หลาย ๆ เลม่ และจดั ทาเป็นรายงานสง่ คุณครู ใบงานท่ี 3.2.1 เฉลย เร่อื ง ลักษณะของขอ้ มลู ทดี่ ี เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 133
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 ลกั ษณะของขอ้ มลู ท่ีดี คาช้ีแจง : ให้นักเรยี นพิจารณาขอ้ ความทกี่ าหนดใหต้ อ่ ไปนี้ และทาเครือ่ งหมาย ด้านหน้าข้อความ ทนี่ าข้อมูลท่ดี ีมาใช้งาน และทาเครื่องหมาย ด้านหนา้ ขอ้ ความทน่ี าข้อมูลที่ไม่ดีมาใช้งาน 1. มารสิ าเหน็ เพ่ือนในห้องโพสต์ขอ้ ความในสือ่ สังคมออนไลนว์ า่ ............ ............ “พร่งุ นี้โรงเรยี นหยุด” จึงโพสต์ข้อมูลนต้ี อ่ ให้เพ่ือน ๆ ภายในหอ้ งเรยี น 2. ลกั ษณาต้องทาการบ้านเรื่องข้อมูลทด่ี ี จงึ ไปหาข้อมลู เพิ่มเติมที่ห้องสมดุ ............ ............ ภายในโรงเรียน เพื่อทาการบ้านและส่งให้ครูตามเวลาที่กาหนด 3. ธีรศกั ดิ์ตอ้ งการเดินทางไปจังหวัดบุรรี มั ย์ดว้ ยเครอ่ื งบนิ จึงค้นหาข้อมลู ............ ............ จากเว็บไซตส์ ายการบนิ เพื่อนาข้อมูลราคาคา่ โดยสารมาเปรียบเทียบ ก่อนตดั สนิ ใจเดินทาง 4. หนอ่ ยอยากมผี ิวพรรณดี ขาวใส จึงค้นหาขอ้ มูลเก่ียวกับอาหารเสริมตา่ ง ๆ ............ ............ จากอนิ เทอร์เน็ตเพื่อประกอบการตดั สินใจในการเลือกซ้ือ 5. เอกและกติ ต้องทารายงานวชิ าภาษาองั กฤษส่งครู ดงั นน้ั จึงหาข้อมลู ............ ............ จากอนิ เทอรเ์ น็ตและหนังสอื หลาย ๆ เลม่ และจดั ทาเป็นรายงานสง่ คุณครู 9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ) ....... ข้อเสนอแนะ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ลงช่ือ 134 ( ตาแหน่ง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 ลกั ษณะของขอ้ มูลทีด่ ี 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคานวณ) ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมที่มปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) ปญั หา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 135
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 แหล่งขอ้ มูล แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 แหล่งข้อมลู เวลา 2 ชวั่ โมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด 1.1 ตัวชว้ี ัด ว 4.2 ป. 5/3 ใช้อนิ เทอร์เนต็ ค้นหาขอ้ มลู ตดิ ต่อสอ่ื สารและทางานรว่ มกัน ประเมิน ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู ว 4.2 ป. 5/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ท่ีหลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวติ ประจาวนั 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายประเภทของแหล่งข้อมลู ได้ถกู ต้อง (K) 2. จาแนกข้อมลู ตามแหล่งขอ้ มลู ไดอ้ ย่างถูกต้อง (K) 3. สืบคน้ ข้อมูลเก่ียวกบั แหลง่ ข้อมลู จากทางอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ (P) 4. เห็นความสาคญั ของแหล่งข้อมูลและการนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - การค้นหาข้อมลู ในอินเทอร์เนต็ และการพจิ ารณา ผลการค้นหา - การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มลู เชน่ เปรียบเทยี บความสอดคลอ้ ง สมบรู ณข์ องข้อมลู จากหลายแหล่ง แหล่งต้นตอของข้อมลู ผู้เขียน วนั ท่เี ผยแพร่ขอ้ มูล - ขอ้ มูลทด่ี ตี ้องมีรายละเอยี ดครบทกุ ด้าน เช่น ข้อดี และข้อเสีย ประโยชนแ์ ละโทษ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 136
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 แหลง่ ขอ้ มูล 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด แหล่งข้อมลู ถือว่าเปน็ ต้นกาเนิดของขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสอื อนิ เทอรเ์ น็ต บุคคล และ สถานท่ีต่าง ๆ ท่สี ามารถให้ข้อมลู ได้ไม่วา่ จะเปน็ พิพธิ ภณั ฑ์หรือแหลง่ ท่องเทย่ี ว โดยแหลง่ ขอ้ มลู สามารถ แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ แหลง่ ข้อมลู ปฐมภมู ิและแหลง่ ข้อมลู ทุตยิ ภมู ิ 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด 1. มวี ินยั รบั ผิดชอบ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มุง่ ม่ันในการทางาน - ทักษะการสังเกต 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสืบคน้ ขอ้ มลู 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1-2 ขน้ั นา ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนักเรยี นเกี่ยวกบั ลักษณะของข้อมูลท่ดี ี และประโยชน์ของการนา ขอ้ มูลไปใช้ 2. ครถู ามคาถามกระตุน้ ความสนใจของนักเรียนว่า“ถ้าตอ้ งการขอ้ มูลตา่ ง ๆ มาจัดทารายงาน จะสามารถสบื คน้ ข้อมลู จากที่ใดได้บา้ ง” (แนวตอบ : นักเรียนแสดงความคิดเหน็ ตามประสบการณข์ องตนเอง โดยคาตอบขน้ึ อยกู่ ับ ดุลยพนิ จิ ของครผู ้สู อน เชน่ หนังสือ อินเทอร์เนต็ ห้องสมดุ เปน็ ตน้ ) ขัน้ สอน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 137
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 แหลง่ ขอ้ มลู ขั้นท่ี 2 สารวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรียนแตล่ ะคนสบื คน้ ความหมายของแหลง่ ข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตทเ่ี คร่อื งคอมพิวเตอร์ ของตนเอง 2. ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 คน มานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน พรอ้ มกบั อภปิ รายร่วมกนั ในห้องเรียน 3. นกั เรยี นศึกษาเนื้อหาเกีย่ วกบั ประเภทของแหลง่ ขอ้ มูลจากหนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง ขอ้ มูลสารสนเทศ และ สงั เกตสถานการณต์ วั อย่างการหาขอ้ มูลจากแหล่งข้อมลู ปฐมภูมิและแหลง่ ข้อมลู ทตุ ิยภูมิ ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครสู ุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมาอภิปรายหนา้ ช้ันเรียนเกย่ี วกับความแตกต่างของแหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู แิ ละแหล่งข้อมลู ทตุ ยิ ภูมิ 5. ครูอธบิ ายเกีย่ วกับประเภทของแหล่งข้อมูลแบ่งเปน็ 2 ประเภทเพือ่ ให้นักเรียนเข้าใจมากย่ิงข้ึน วา่ “แหล่งขอ้ มลู สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทซ่งึ มคี วามแตกตา่ งกัน ดังนี้ 1. แหลง่ ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ เป็นแหล่งขอ้ มูลทใ่ี ห้ข้อมลู โดยตรงกบั ผรู้ บั ขอ้ มลู ซ่งึ พบได้ จากการได้ยนิ การเห็น การได้กล่นิ เป็นตน้ 2. แหล่งข้อมลู ทุตยิ ภูมิ เปน็ แหล่งข้อมลู ทีไ่ ด้จากการนาข้อมูลที่ผอู้ น่ื รวบรวมไว้มาใช้ เช่น จานวนนกั เรียนแต่ละหอ้ ง อุณหภูมิแต่ละวัน เป็นต้น แต่การหาข้อมูลจากแหลง่ ข้อมูลทตุ ยภมู ิ ทาให้สะดวกสบายและประหยดั คา่ ใช้จ่ายสาหรับ การเดินทางไปหาขอ้ มลู แต่มีข้อระวงั คือ ข้อมูลบางส่วนอาจคลาดเคลื่อนหรือเป็นข้อมูล ที่ลา้ สมัย ขาดความครบถ้วนสมบูรณแ์ ละความน่าเช่ือถือ” 6. ครูชีแ้ จงกบั นกั เรียนว่า“คาทมี่ ักจะมีคนอา่ นผดิ อยเู่ สมอ ได้แกค่ าวา่ ปฐมภมู ิ ดงั นนั้ การอ่าน ที่ถูกต้อง จะตอ้ งอ่านวา่ ปะ-ถม-มะ-พมู ” 7. นักเรียนทากิจกรรมฝกึ ทักษะ โดยใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาภาพท่กี าหนดให้ และบอกได้ว่าเป็น แหล่งข้อมลู ประเภทใด จากน้ันบันทึกลงในสมุดประจาตัว 8. ครูสมุ่ นักเรียน 2-3 คน ออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรียน พร้อมกบั อภิปรายรว่ มกนั ในหอ้ งเรยี น ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 9. นกั เรยี นทาใบงานที่ 3.3.1 เร่อื ง แหล่งข้อมลู เป็นการบา้ นและนามาสง่ ในช่วั โมงถดั ไป Note วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพเือ่ทใคหโน้นโักลเยรี ีย(วนิทยาการคานวณ) - มีทกั ษะการสืบค้นข้อมลู โดยใหน้ 1กั 3เ8รียนสบื คน้ ข้อมูลจากทางอนิ เทอรเ์ น็ต เพอ่ื สบื เสาะหาความรู้เพิม่ เติมภายใต้หัวข้อท่ีได้รับมอบหมาย
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 แหลง่ ขอ้ มลู ข้นั สรปุ ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี น จากการสงั เกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และสมดุ ประจาตัว ของนักเรยี น 2. ครตู รวจสอบผลการทาใบงานที่ 3.3.1 และกิจกรรมฝกึ ทักษะ 3. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั ข้อมลู และแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ ทีพ่ บไดใ้ นชวี ิตประจาวัน ไม่วา่ จะเป็นแหล่งข้อมลู ปฐมภูมหิ รอื แหลง่ ข้อมลู ทุติยภมู ิ 7. การวดั และประเมินผล เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 139
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 แหล่งข้อมูล รายการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 การเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 1) แหล่งข้อมูล - ตรวจใบงานที่ 3.3.1 - ใบงานที่ 3.3.1 ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม รายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการทางานกลุ่ม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม 5) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ความรับผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มั่น อันพงึ ประสงค์ ในการทางาน 8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ 2) ใบงานที่ 3.3.1 เร่อื ง แหลง่ ขอ้ มูล 3) เคร่อื งคอมพิวเตอร์ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) เคร่อื งคอมพิวเตอร์ 2) อนิ เทอรเ์ นต็ ใบงานท่ี 3.3.1 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 140
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 แหลง่ ขอ้ มูล เรอื่ ง แหลง่ ขอ้ มลู คาช้ีแจง : ใหน้ าขอ้ มูลทก่ี าหนดใหไ้ ปไว้ท่กี อ้ นเมฆปฐมภูมิและกอ้ นเมฆทุติยภมู ิ โดยมีเงอื่ นไขดังนี้ 1) ถา้ ข้อมลู ใดเปน็ แหล่งขอ้ มลู ปฐมภูมิให้ใช้ปากกาสนี ้าเงนิ ลากไปไว้ทีก่ ้อนเมฆปฐมภมู ิ 2) ถ้าขอ้ มูลใดเปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ทตุ ิยภมู ใิ ห้ใช้ปากกาสแี ดงลากไปไว้ที่ก้อนเมฆทุตยิ ภูมิ กอ้ นเมฆปฐมภูมิ กอ้ นเมฆทตุ ิยภมู ิ ใบงานที่ 3.3.1 เฉลย เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 141
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 แหล่งข้อมูล เรือ่ ง แหล่งขอ้ มลู คาชี้แจง : ใหน้ าขอ้ มลู ที่กาหนดใหไ้ ปไวท้ ่ีกอ้ นเมฆปฐมภูมิและก้อนเมฆทุติยภูมิ โดยมีเงือ่ นไขดังนี้ 1) ถ้าข้อมูลใดเปน็ แหล่งข้อมูลปฐมภูมิใหใ้ ชป้ ากกาสนี า้ เงินลากไปไวท้ ่ีก้อนเมฆปฐมภูมิ 2) ถา้ ข้อมลู ใดเปน็ แหล่งขอ้ มลู ทุติยภมู ิใหใ้ ช้ปากกาสแี ดงลากไปไวท้ ี่ก้อนเมฆทุติยภูมิ กอ้ นเมฆปฐมภูมิ ก้อนเมฆทตุ ยิ ภมู ิ 9. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 142 ลงช่อื (
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 แหลง่ ข้อมูล 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคานวณ) ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 143
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 การรวบรวมขอ้ มูล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 การรวบรวมข้อมลู เวลา 2 ช่ัวโมง 1. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั 1.1 ตวั ชี้วัด ว 4.2 ป. 5/3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตค้นหาข้อมลู ติดตอ่ สือ่ สารและทางานรว่ มกัน ประเมิน ความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มลู ว 4.2 ป. 5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงคโ์ ดยใช้ ซอฟตแ์ วร์หรอื บรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตท่หี ลากหลาย เพ่ือแก้ปัญหาในชีวติ ประจาวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายข้นั ตอนการรวบรวมขอ้ มูลได้ถูกต้อง (K) 2. บอกวิธีการรวบรวมข้อมลู ได้ (K) 3. เขียนการวางแผนรวบรวมขอ้ มลู ตามขั้นตอนตา่ ง ๆ ได้ (P) 4. เห็นความสาคญั ของการรวบรวมขอ้ มูล และการนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - การประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมูล เชน่ การเปรยี บเทยี บความสอดคลอ้ ง สมบูรณข์ องข้อมลู จากหลายแหล่ง แหล่งตน้ ตอของข้อมูล ผู้เขียน วนั ท่เี ผยแพร่ขอ้ มลู - การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมนิ ผล จะทาให้ไดส้ ารสนเทศเพ่ือใช้ใน การแกป้ ญั หาหรือการตัดสนิ ใจได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ - การใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตท่ี หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ ง ทางเลือก ประเมินผล นาเสนอ จะชว่ ยให้ การแก้ปญั หาทาได้อย่างรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และแมน่ ยา เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 144
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 การรวบรวมขอ้ มลู 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การรวบรวมข้อมูล เปน็ การดาเนินการด้วยวิธีตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ ้อมูล ซ่ึงขัน้ ตอนในการรวบรวม ขอ้ มลู นั้นจะประกอบด้วย 5 ข้นั ตอน คือ กาหนดวตั ถปุ ระสงค์และความตอ้ งการของสง่ิ ท่ีสนใจ วางแผน และพจิ ารณาเลือกแหลง่ ข้อมูล กาหนดวธิ กี ารรวบรวมข้อมูล คน้ หาและรวบรวมขอ้ มลู และสรปุ ผลขอ้ มูล ส่วนวธิ กี ารในการรวบรวมขอ้ มลู แบง่ เปน็ 4 วธิ ี คอื การสังเกต สารวจและจดบนั ทึก การสอบถาม หรือ การสัมภาษณ์ การสารวจโดยใชแ้ บบสอบถามและการรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ - ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมลู 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - ทักษะการทางานร่วมกนั 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทักษะการสบื ค้นข้อมลู 6. กิจกรรมการเรียนรู้ วธิ ีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1-2 ข้ันนา ขัน้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. ครทู บทวนความรูเ้ ดิมเก่ียวกับแหล่งข้อมูล พรอ้ มกับให้นักเรียนยกตัวอย่างของแหลง่ ข้อมูล แต่ละประเภท 2. นักเรียนออกมาเขียนแหลง่ ขอ้ มลู บนกระดานคนละ 1 ตัวอย่าง ระหว่างแหล่งข้อมลู ปฐมภูมิ และแหลง่ ข้อมูลทุติยภมู ิ พรอ้ มอภิปรายกบั เพ่ือนร่วมชั้นท่ีหน้าชั้นเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 145
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 การรวบรวมขอ้ มูล 3. ครถู ามนักเรียนว่า“ข้อมลู ทน่ี ักเรยี นแต่ละคนมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรียนนั้น นักเรยี นได้มา ดว้ ยวธิ ีใด” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคาตอบขึ้นอยู่กับดลุ ยพนิ ิจ ของครูผูส้ อน เชน่ การสงั เกตจากการมองเห็น การไดย้ นิ การจดบันทกึ เปน็ ต้น) 4. ครถู ามคาถามประจาหวั ข้อกับนกั เรียนว่า“ถ้านกั เรียนต้องการทารายงานนักเรยี นจะมีวธิ กี าร รวบรวมข้อมลู อย่างไร” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคาตอบขน้ึ อยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครูผูส้ อน เช่น การสบื ค้นจากอินเทอรเ์ นต็ การสอบถามผรู้ ู้ การสังเกต การสารวจ และการจดบันทกึ เป็นต้น) ขัน้ สอน ขั้นที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรียนสืบค้นความหมายของการรวบรวมขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตท่ีเครอื่ งคอมพิวเตอร์ ของตนเอง 2. ครูสมุ่ นักเรยี น 2-3 คน มานาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น พร้อมกบั อภิปรายรว่ มกันในหอ้ งเรยี น 3. นกั เรยี นศกึ ษาการรวบรวมข้อมูลจากหนงั สือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ขอ้ มูลสารสนเทศ หรือสืบคน้ เพมิ่ เตมิ เพือ่ ขยายความเข้าใจจากทางอนิ เทอรเ์ นต็ ข้นั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครูอธบิ ายถึงข้ันตอนการรวบรวมขอ้ มลู ว่าประกอบดว้ ย 5 ข้ันตอน ดงั น้ี 1) กาหนดวตั ถุประสงค์และความตอ้ งการของสิง่ ทส่ี นใจ 2) วางแผนและพจิ ารณาเลือกแหลง่ ขอ้ มลู 3) กาหนดวิธกี ารรวบรวมข้อมูล 4) ค้นหาและรวบรวมข้อมูล 5) สรปุ ผลข้อมูล 5. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คนหรอื ตามความเหมาะสม เพ่ือรวบรวมข้อมูลในประเดน็ ท่นี กั เรียนสนใจตามขัน้ ตอนการรวบรวมขอ้ มูลทัง้ 5 ขน้ั ตอน และบนั ทึกลงในใบงานที่ 3.4.1 เรื่อง การรวบรวมข้อมลู 6. ครอู ธิบายวิธกี ารรวบรวมขอ้ มูลซึง่ มที ั้งหมด 4 วิธี ดงั น้ี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 146
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 การรวบรวมขอ้ มูล 1) การสังเกต สารวจ และจดบนั ทกึ 2) การสอบถาม หรือสมั ภาษณผ์ ูท้ ่ีเก่ียวข้อง 3) การสารวจ โดยการใช้แบบสอบถาม แบบทดสอบ 4) การรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร หรือข้อมลู ท่ผี ูอ้ นื่ รวบรวมไวแ้ ลว้ 7. ครอู ธิบายเกยี่ วกับการรวบรวมขอ้ มลู เพ่ิมเติมว่า“วิธีการรวบรวมขอ้ มลู จัดเป็นข้นั ตอนหน่ึง ของการดาเนินงานทเี่ ก่ยี วกับการศกึ ษาส่งิ ใดสิ่งหนึ่ง เพื่อให้บรรลุวตั ถปุ ระสงคท์ ี่ต้ังไว้ ดงั นนั้ ก่อนการรวบรวมขอ้ มูล ผู้ทที่ าการรวบรวมขอ้ มลู จงึ ตอ้ งทราบถึงวัตถุประสงคข์ องการนาขอ้ มูล ไปใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ีถูกต้อง ชดั เจน ตรงประเด็น และใชเ้ วลาไดน้ ้อยลง” 8. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนทากิจกรรมกลุ่มอย่างอสิ ระ และใหแ้ ต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอ หน้าช้นั เรยี น 9. ครถู ามคาถามทา้ ทายการคิดข้ันสูงวา่ “ในการรวบรวมข้อมลู ถา้ ขาดข้นั ตอนการวางแผน และพิจารณาเลือกแหลง่ ข้อมูลจะสง่ ผลอยา่ งไรบ้าง” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคาตอบข้นึ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน เชน่ จะส่งผลให้แหล่งข้อมูลทไ่ี ด้มานั้นขาดความน่าเช่ือถือ เป็นต้น) ขั้นที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 10. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ทากจิ กรรมฝึกทักษะในหนังสือเรียน 11. ให้นักเรยี นแตล่ ะออกมานาเสนอแนวทางการรวบรวมขอ้ มูลเพอื่ จดั ทาแบบสารวจ ความคิดเห็นหนา้ ช้ันเรียน เพื่อสารวจความคิดเหน็ ของนักเรียนภายในโรงเรยี นเก่ยี วกบั กีฬา ทีช่ ่นื ชอบ จากนั้นให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มกลับไปทาเป็นการบ้านและนามาส่งในช่วั โมงถัดไป Note วตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรมเพอื่ ให้นักเรียน - มที ักษะการสบื ค้นข้อมูล โดยใหน้ ักเรียนสบื คน้ ข้อมลู จากทางอินเทอรเ์ นต็ เพอื่ สบื เสาะหาความรู้เพมิ่ เติม ภายใต้หัวขอ้ ที่ได้รบั มอบหมาย - มีทักษะการทางานร่วมกัน โดยใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทางาน เพ่ือเปดิ โอกาส ให้นกั เรียนได้ส่ือสาร และแลกเปลี่ยนข้อมลู รว่ มกันขณะทางานกลุ่ม - มีทักษะการคดิ วิเคราะห์ ในการรวบรวมขอ้ มลู ตามขั้นตอนการเลอื กใชข้ ้อมูล ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 147
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 การรวบรวมขอ้ มลู ขั้นสรปุ ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลงานของนักเรยี น จากการสังเกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และสมดุ ประจาตัว 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทาใบงานและกิจกรรมฝึกทกั ษะ 3. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั ข้นั ตอนการรวบรวมข้อมลู 7. การวดั และประเมินผล รายการวัด วิธีวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ 7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 1) การรวบรวมข้อมูล - ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 - ใบงานท่ี 3.4.1 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤตกิ รรมการทางาน ผลงาน การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม 4) พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 5) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มัน่ อันพงึ ประสงค์ ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง ข้อมลู สารสนเทศ 2) ใบงานที่ 3.4.1 เรอื่ ง การรวบรวมข้อมลู 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องคอมพวิ เตอร์ 2) อินเทอรเ์ นต็ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 148
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 การรวบรวมขอ้ มลู ใบงานท่ี 3.4.1 เรอื่ ง การรวบรวมข้อมลู คาชแ้ี จง : ให้นักเรยี นรวบรวมข้อมูลตามข้ันตอนการรวบรวมทั้ง 5 ขั้นตอน เพอ่ื สารวจในประเดน็ ทนี่ กั เรียนสนใจมาคนละ 1 ประเด็น จากน้นั บนั ทึกผลอย่างละเอียด 1. ใหน้ กั เรยี นวางแผนรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนต่างๆ ชอื่ หัวข้อเรอื่ งท่นี กั เรียนสนใจ .............................................................................................................. ขั้นตอน รายละเอียด ข้นั ตอนที่ 1 กาหนดวัตถุประสงค์ ................................................................................................. ขน้ั ตอนท่ี 2 เลือกแหลง่ ขอ้ มลู ................................................................................................. ข้นั ตอนท่ี 3 กาหนดวธิ ีการรวบรวมข้อมลู ................................................................................................. ขน้ั ตอนท่ี 4 ดาเนินการรวบรวมขอ้ มูล ................................................................................................. ข้ันตอนท่ี 5 สรุปผลขอ้ มูล ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................................. 2. ใหน้ กั เรยี นออกแบบสอบถามเพ่อื รวบรวมข้อมูลตามประเด็นที่นักเรยี นกาหนด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 149
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 การรวบรวมขอ้ มูล ใบงานที่ 3.4.1 เฉลย เรือ่ ง การรวบรวมข้อมลู คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลตามข้นั ตอนการรวบรวมทง้ั 5 ข้นั ตอน เพอื่ สารวจในประเด็น ท่ีนักเรียนสนใจมาคนละ 1 ประเดน็ จากนัน้ บันทกึ ผลอย่างละเอียด 1. ใหน้ กั เรยี นวางแผนรวบรวมข้อมลู ตามขนั้ ตอนตา่ งๆ ช่ือหัวข้อเรือ่ งท่ีนักเรยี นสนใจ การสารวจรสชาติไอศกรีมทีช่ นื่ ชอบของเพื่อนในห้องเรยี นจานวน 10 คน ขั้นตอน รายละเอียด ขั้นตอนที่ 1 กาหนดวัตถุประสงค์ รสชาตไิ อศกรีมทช่ี ื่นชอบ.......................................................... ................................................................................................. ขั้นตอนท่ี 2 เลือกแหล่งข้อมลู เพ่ือนในห้องเรยี นจานวน 10 คน............................................. ................................................................................................. ขน้ั ตอนท่ี 3 กาหนดวธิ กี ารรวบรวมข้อมลู แบบบันทึก,แบบสอบถาม,แบบสัมภาษณ์................................ ................................................................................................. ขั้นตอนที่ 4 ดาเนนิ การรวบรวมขอ้ มลู ใช้แบบบันทึก,แบบสอบถาม,แบบสมั ภาษณ์เป็นรายบคุ คล...... ................................................................................................. ขั้นตอนที่ 5 สรุปผลขอ้ มลู สรุปข้อมลู รสชาติไอศกรีมทเ่ี พอ่ื นชนื่ ชอบ................................ ................................................................................................. 2. ให้นักเรยี นออกแบบสอบถามเพอื่ รวบรวมข้อมูลตามประเด็นทน่ี กั เรยี นกาหนด ลาดบั ขอ้ คาถาม ระดับความชอบ ชอบ เฉยๆ ไมช่ อบ 1 ไอศกรมี รสวนิลา 2 ไอศกรีมรสช็อกโกเลต 3 ไอศกรมี รสสตอเบอร่ี ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 150
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ข้อมูลสารสนเทศ ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 การรวบรวมขอ้ มูล ....... 9. ความเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ( ตาแหน่ง 10. บันทึกผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคานวณ) ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 151
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การประมวลผลขอ้ มูล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 การประมวลผลข้อมูล เวลา 2 ชว่ั โมง 1. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด 1.1 ตวั ช้ีวดั ว 4.2 ป. 5/3 ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาขอ้ มลู ติดต่อสอ่ื สารและทางานรว่ มกัน ประเมิน ความน่าเช่อื ถือของข้อมูล ว 4.2 ป. 5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงค์โดยใช้ ซอฟตแ์ วรห์ รือบริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ทห่ี ลากหลาย เพ่ือแก้ปญั หาในชวี ติ ประจาวนั 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายของการประมวลผลข้อมลู ได้ (K) 2. บอกวธิ กี ารประมวลผลข้อมลู ไดอ้ ย่างถูกต้อง (K) 3. สร้างทางเลือกในการประมวลผลข้อมลู ได้ (P) 4. เลง็ เห็นความสาคัญของการประมวลผลขอ้ มลู และการนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิน่ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา สาระการเรียนรู้แกนกลาง การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล จะทาให้ไดส้ ารสนเทศเพ่ือใช้ในการ แกป้ ัญหาหรือการตดั สนิ ใจได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ข้อมลู ท่ีอยรู่ อบตัวเรามจี านวนมาก ๆ มีข้อมลู บางอยา่ งทส่ี ามารถนามาใชไ้ ด้ทันที และมีขอ้ มูล บางอยา่ งทจี่ ะต้องนาไปประมวลผลทาใหเ้ ปน็ ขอ้ มูลสารสนเทศก่อนนามาใชง้ าน เพ่ือให้สามารถนาข้อมูล ไปใชไ้ ด้อย่างสะดวกและเกิดประโยชน์อยา่ งสูงสุด สาหรับการประมวลผลข้อมูลน้นั สามารถเลอื กทาได้ หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเปน็ การเปรยี บเทยี บข้อมูล การจดั กลุ่มข้อมูล การแยกแยะขอ้ มลู และ การเรยี งลาดบั ข้อมลู เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 152
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การประมวลผลข้อมูล 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ - ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ทักษะการแลกเปล่ียนข้อมูล 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทางานรว่ มกนั 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ วิธีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่วั โมงที่ 1-2 ขนั้ นา ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลการจัดทาแบบสารวจความคดิ เห็นของนักเรยี นแต่ละกลุ่ม 2. ครูซกั ถามเพอ่ื กระตุ้นความคิดของนักเรยี นว่า“นักเรยี นมีวิธีการจดั การกบั ขอ้ มลู อยา่ งไร” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคดิ เหน็ ของตนเอง โดยคาตอบขนึ้ อยู่กับดุลยพินจิ ของ ครผู สู้ อน เชน่ การวเิ คราะห์ข้อมลู การจดั กลมุ่ ข้อมูล การคานวณขอ้ มูล การแยกแยะข้อมูล และการประเมนิ ผลข้อมูล เป็นตน้ ) 3. ครใู ชค้ าถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนวา่ “การเลอื กรับประทานอาหารกลางวัน ในโรงอาหาร นกั เรียนจะตอ้ งมีขอ้ มลู ใดบา้ งเพื่อชว่ ยในการตัดสนิ ใจ” (แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคาตอบขน้ึ อยู่กบั ดลุ ยพนิ ิจของ ครผู ู้สอน เช่น รายการอาหาร รสชาตอิ าหาร ราคาอาหาร เปน็ ตน้ ) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 153
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การประมวลผลขอ้ มูล 4. ครูอธบิ ายเพื่อเช่ือมโยงเข้าสูบ่ ทเรียนว่า“จากคาตอบของนักเรียนจะเลือกบอกได้วา่ ก่อนที่ นักเรียนจะซื้ออาหารรบั ประทานนั้น สมองของนักเรยี นต้องประมวลผลก่อนว่าต้องการ เลอื กทานอะไร ร้านใด เพราะเหตุผลอะไร ถ้าเป็นเช่นนน้ั แสดงว่า การประมวลผลหรือ การประมวลข้อมูลน้นั มีความสาคญั กบั เราตลอดเวลา ดังนั้นจงึ ต้องมีการประมวลผลข้อมูล อยเู่ สมอเพ่ือใหไ้ ดข้ ้อมูลทถ่ี ูกต้องอยเู่ สมอ” ขัน้ สอน ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรียนแต่ละคนค้นหาความหมายของการประมวลผลข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ี เคร่ืองคอมพิวเตอร์ของตนเอง จากนน้ั ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 คน ออกมานาเสนอข้อมลู หน้าชัน้ เรียน พร้อมกับอภิปรายรว่ มกนั ในหอ้ งเรียน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 2. นักเรียนศกึ ษาการประมวลผลข้อมลู จากสถานการณต์ วั อย่างการประมวลผลขอ้ มูล โดย การวเิ คราะห์ขอ้ มลู น้าหนักและส่วนสงู ของนักเรยี นในหนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง ขอ้ มูลสารสนเทศ โดยเปรยี บเทยี บขอ้ มูล กับเกณฑม์ าตรฐานวา่ นักเรยี นคนใดมนี ้าหนักสว่ นสงู ที่สงู กว่า หรอื ตา่ กว่าเกณฑม์ าตรฐาน จากตารางแสดงเกณฑ์มาตรฐานของน้าหนักและส่วนสูงตามอายุ 3. ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ เกยี่ วกบั การประมวลผลขอ้ มลู วา่ “การประมวลผลขอ้ มูลเปน็ การเปล่ยี นแปลง หรอื การจัดระเบยี บข้อมูลให้อยู่ในรปู แบบที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ข้อมลู โดยทัว่ ไปเกิดขน้ึ อยา่ งไม่เปน็ ระเบียบจากกระบวนการนับหรือการวัดโดยไม่สามารถสือ่ ความหมายให้เขา้ ใจหรอื นามาใชป้ ระโยชน์ได้ ดงั น้ัน การประมวลผลจงึ เป็นวธิ ีการนาขอ้ มลู ให้เป็นสารสนเทศท่ีมี ประสทิ ธิภาพและนาไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้อยา่ งเหมาะสม” 4. ครูอธบิ ายกับนักเรยี นวา่ “ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวันของนักเรยี น บางครั้งนักเรียนอาจจะพบ ปัญหาท่ตี อ้ งเลอื กส่ิงใดสง่ิ หนึ่ง อย่างใดอย่างหนึง่ ดังน้ันเพ่ือการเลือกทีถ่ ูกต้อง นักเรยี นจะตอ้ ง มีการประมวลผลจากทางเลือกทม่ี ีอย่างละเอยี ด” 5. นกั เรียนดูตัวอยา่ งแนวทางการสร้างทางเลือกในการประมวลผลจากสถานการณ์ท่โี ป้กาลัง พจิ ารณาเลือกซ้ือสินคา้ ท่ีซูเปอรม์ าร์เก็ตในหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 154
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การประมวลผลข้อมูล ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 6. นักเรยี นจับคกู่ ับเพ่ือนทนี่ งั่ ข้าง ๆ เพ่ือทากจิ กรรมฝึกทักษะการสารวจรา้ นคา้ ในโรงเรยี นแล้ว พจิ ารณาเลือกซ้ืออาหารใหต้ รงกับความต้องการของนักเรียน จากนนั้ บันทึกลงในสมุดประจาตัว และให้นกั เรยี นแต่ละคอู่ อกมานาเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น 7. นักเรียนแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 3.5.1 เรอื่ ง การประมวลผลขอ้ มูล โดยใหน้ ักเรยี นแต่ละคน พิจารณาตารางข้อมลู คะแนนสอบกลางภาคทัง้ 4 รายวิชา และตอบคาถามให้ถูกต้องผ่าน การประมวลผลข้อมลู จากน้ันนามาส่งในชัว่ โมงถดั ไป Note วตั ถุประสงค์ของกิจกรรมเพอ่ื ใหน้ ักเรยี น - มที กั ษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยให้นักเรียนแตล่ ะคนสบื ค้นข้อมูลจากทางอินเทอรเ์ น็ต เพอื่ สืบเสาะหาความรเู้ พมิ่ เติมภายใตห้ ัวข้อที่ได้รับมอบหมาย - มีทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยให้นกั เรยี นคิดวิเคราะห์ข้อมูลจากสถานการณ์ตัวอยา่ ง การประมวลผลข้อมูลทน่ี ักเรียนพจิ ารณาข้อมลู เพื่อเปรียบเทยี บขอ้ มลู กับเกณฑม์ าตรฐาน ทกี่ าหนดไว้ได้อย่างถูกตอ้ ง - มที กั ษะการทางานรว่ มกัน โดยใหน้ ักเรยี นจับคู่กับเพ่ือนท่ีนง่ั ขา้ ง ๆ และส่ือสาร หรือแลกเปล่ยี นข้อมลู รว่ มกัน ในการทากิจกรรมฝึกทักษะการสารวจรา้ นค้าในโรงเรียน แล้วพจิ ารณาเลอื กซื้ออาหารใหต้ รงกบั ความต้องการของนักเรยี น ขนั้ สรปุ ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลงานนักเรียนจากการสังเกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และสมุดประจาตัว ของนักเรยี น 2. ครูตรวจสอบผลงาน จากการทาใบงานและกจิ กรรมฝึกทกั ษะ 3. นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปเน้ือหาเกยี่ วกับข้ันตอนการประมวลผลขอ้ มูล การพิจารณา และ การเปรียบเทยี บข้อมูล เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 155
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การประมวลผลขอ้ มลู 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วธิ วี ัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 ประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 การเรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 1) การประมวลผลข้อมลู - ตรวจใบงานที่ 3.5.1 - ใบงานที่ 3.5.1 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทางาน ผลงาน การนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม 4) พฤตกิ รรมการทางานกล่มุ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม 5) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน ความรับผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั อันพึงประสงค์ ในการทางาน 8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรอ่ื ง ข้อมลู สารสนเทศ 2) ใบงานท่ี 3.5.1 เรื่อง การประมวลผลขอ้ มูล 3) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เนต็ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 156
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การประมวลผลขอ้ มูล ใบงานที่ 3.5.1 เรอ่ื ง การประมวลผลข้อมูล คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนพิจารณาตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคทง้ั 4 รายวชิ า และตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง ตารางขอ้ มูลคะแนนสอบกลางภาคทง้ั 4 รายวิชา เลขท่ี รายชื่อ รายวิชา รายวิชา รายวิชา รายวชิ า คะแนนรวม วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ 10 1 สมศรี 4 3 2 1 15 3 6 11 2 สมบัติ 1 5 2 2 18 6 8 16 3 สมทรง 5 2 2 4 17 2 5 11 4 สมจติ ร 1 3 2 5 14 1 5 11 5 สมพร 9 1 1 4 10 4 2 6 สมสมร 2 8 7 สมใจ 3 1 8 สมชาย 4 4 9 สมศักด์ิ 1 5 10 สมปอง 2 2 จากตารางข้อมลู คะแนนสอบกลางภาคทงั้ 4 รายวชิ า ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกตอ้ ง โดยใช้วิธีการประมวลผลข้อมูลเพ่อื เปรยี บเทยี บข้อมลู 1. รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ นกั เรียนคนใดได้คะแนนสูงทส่ี ดุ 2. รายวชิ าคอมพิวเตอร์ นักเรียนคนใดได้คะแนนทตี่ า่ สุด 3. รายวิชาภาษาไทย นักเรียนคนใดได้คะแนนสูงท่ีสดุ 4. รายวิชาคณติ ศาสตร์ นักเรียนคนใดได้คะแนนสงู ทสี่ ุดเป็นลาดบั ท่ี 2 5. นักเรียนคนใดได้มคี ะแนนรวมทกุ วิชาเปน็ ลาดับที่ 1 6. นกั เรียนคนใดได้มคี ะแนนรวมทุกวชิ าเป็นลาดับสุดท้าย เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 157
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การประมวลผลขอ้ มลู ใบงานท่ี 3.5.1 เฉลย เรือ่ ง การประมวลผลข้อมลู คาชแี้ จง : ให้นักเรียนพิจารณาตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคท้ัง 4 รายวิชา และตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง ตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคทงั้ 4 รายวชิ า เลขท่ี รายช่อื รายวิชา รายวิชา รายวิชา รายวชิ า คะแนนรวม วทิ ยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ 10 1 สมศรี 4 3 2 1 15 3 6 11 2 สมบัติ 1 5 2 2 18 6 8 16 3 สมทรง 5 2 2 4 17 2 5 11 4 สมจติ ร 1 3 2 5 14 1 5 11 5 สมพร 9 1 1 4 10 4 2 6 สมสมร 2 8 7 สมใจ 3 1 8 สมชาย 4 4 9 สมศกั ด์ิ 1 5 10 สมปอง 2 2 จากตารางข้อมูลคะแนนสอบกลางภาคทั้ง 4 รายวิชา ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ีให้ถูกต้อง โดยใช้วิธกี ารประมวลผลขอ้ มูลเพอ่ื เปรียบเทยี บข้อมูล 1. รายวชิ าวิทยาศาสตร์ นักเรยี นคนใดได้คะแนนสูงที่สุด สมพร 2. รายวิชาคอมพวิ เตอร์ นักเรียนคนใดได้คะแนนทีต่ ่าสดุ สมใจ สมพร 3. รายวิชาภาษาไทย นกั เรยี นคนใดได้คะแนนสูงทสี่ ดุ สมจิตร 4. รายวิชาคณิตศาสตร์ นกั เรียนคนใดได้คะแนนสงู ท่ีสดุ เป็นลาดบั ท่ี 2 สมบตั ิ 5. นักเรียนคนใดได้มีคะแนนรวมทกุ วิชาเปน็ ลาดับที่ 1 สมจิตร 6. นักเรยี นคนใดได้มคี ะแนนรวมทุกวิชาเปน็ ลาดบั สดุ ท้าย สมศรี สมปอง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 158
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การประมวลผลขอ้ มลู ....... 9. ความเห็นของผู้บรหิ ารถานศึกษาหรอื ผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ( ตาแหน่ง 10. บันทึกผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคานวณ) ด้านอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่ีมีปญั หาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 159
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การสบื คน้ ขอ้ มูลโดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ต แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 การสบื ค้นข้อมูลโดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ต เวลา 2 ช่วั โมง 1. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั 1.1 ตวั ช้วี ดั ว 4.2 ป. 5/3 ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ค้นหาข้อมลู ตดิ ตอ่ สื่อสารและทางานร่วมกัน ประเมิน ความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มลู ว 4.2 ป. 5/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใช้ ซอฟตแ์ วร์หรอื บริการบนอนิ เทอรเ์ น็ตทีห่ ลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชวี ิตประจาวัน 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายวธิ กี ารสบื ค้นขอ้ มลู โดยใช้อินเทอรเ์ นต็ ได้ (K) 2. บอกหลักในการประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมลู จากการสืบคน้ ได้ (K) 3. สบื คน้ ขอ้ มลู โดยใชอ้ ินเทอร์เน็ตตามวิธีการตา่ ง ๆ ได้ (P) 4. ตรวจสอบความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ตได้ (P) 5. เห็นความสาคัญของการสืบคน้ ข้อมลู โดยใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตและการนาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การคน้ หาข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ นต็ และการพิจารณา ผลการค้นหา - การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู เช่น เปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบูรณ์ของข้อมลู จากหลายแหล่ง แหลง่ ต้นตอของข้อมลู ผเู้ ขียน วันทีเ่ ผยแพร่ข้อมลู - ข้อมูลทดี่ ตี ้องมีรายละเอยี ดครบทุกด้าน เชน่ ข้อดี และข้อเสยี ประโยชน์และโทษ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 160
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การสบื ค้นขอ้ มูลโดยใช้อนิ เทอร์เนต็ 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การคน้ หาข้อมูลในอนิ เทอรเ์ น็ตโดยใช้เวบ็ ไซตท์ ่เี รยี กว่า Search Engine สามารถค้นหาได้หลายวิธี ไม่วา่ จะเป็นการคน้ หาขอ้ มลู โดยใช้คยี ์เวริ ์ด การคน้ หาข้อมูลตามหมวดหมู่ หรือการคน้ หาขอ้ มูลจากหลาย แหล่ง และในการสบื ค้นข้อมลู จากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ จะตอ้ งมกี ารประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู เพ่ือ ใหไ้ ด้ข้อมลู ที่ถกู ต้องและตรงตามความต้องการของผู้ใชง้ าน 5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ยั รับผิดชอบ - ทักษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรียนรู้ - ทักษะการแลกเปล่ียนข้อมลู 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทักษะการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - ทกั ษะการทางานรว่ มกนั 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการสบื คน้ ข้อมูล 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงท่ี 1 ขนั้ นา ขั้นที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามกระตุ้นความสนใจของนกั เรยี นว่า“โดยปกตแิ ลว้ ถา้ นักเรยี นตอ้ งการจดั ทารายงาน หรือ ตอ้ งการสบื คน้ ข้อมูล นักเรียนสามารถหาข้อมูลไดจ้ ากท่ีใดบ้าง” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคาตอบขนึ้ อยู่กับดลุ ยพินิจของ ครผู สู้ อน เช่น หนังสือเรียน ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ตน้ ) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 161
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 การสบื ค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต 2. ครอู ธิบายเพ่ือเช่อื มโยงเขา้ สบู่ ทเรียนว่า“ปัจจุบันวิธีการที่นิยมใชส้ าหรับการคน้ หาขอ้ มูล คอื การคน้ หาข้อมลู ผา่ นอนิ เทอร์เนต็ โดยใช้เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ในการสืบค้นข้อมูล หรอื ท่เี รียกว่า Search Engine เช่น www.google.com” ขัน้ สอน ขั้นที่ 2 สารวจคน้ หา (Exploration) 1. ครูให้นกั เรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูลเกย่ี วกบั เร่อื ง ทม่ี าของคอมพวิ เตอร์ โดยเปิดโอกาส ใหน้ ักเรยี นสบื ค้นจากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 2. จากนัน้ ครสู ุ่มถามนักเรียน 5-6 คน เกี่ยวกับคาที่ใช้ค้นหาในเว็บ Search Engine (แนวตอบ : ประวัตขิ องคอมพิวเตอร์ ทีม่ าของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรเ์ กิดขน้ึ ได้อย่างไร ผู้ก่อตงั้ คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ เป็นต้น) 3. นกั เรยี นศึกษาเน้ือหา เรอื่ ง การสบื คน้ ข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอร์เนต็ จากหนังสือเรียนรายวชิ า พ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง ข้อมูลสารสนเทศ โดยครอู ธบิ ายกบั นักเรียนว่า“การค้นหาข้อมลู จากเวบ็ ไซต์ Search Engine วา่ มีหลายวธิ ี ไดแ้ ก่ 1. การคน้ หาข้อมูลโดยใชค้ ีย์เวิร์ด 2. การคน้ หาข้อมูลตามหมวดหมู่ 3. การค้นหาข้อมูลจากหลายแหล่ง” ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครูชแี้ จงกับนักเรยี นว่า“เวบ็ ไซต์ Search Engine ทไี่ ด้รบั ความนิยมในปจั จุบันได้แก่ www.google.com , www.sanook.com , www.yahoo.com เป็นตน้ ” 5. นักเรยี นจบั คกู่ ับเพ่ือนท่ีนั่งขา้ ง ๆ และทาใบงานที่ 3.6.1 เร่ือง การสืบคน้ ข้อมูล ดว้ ยอินเทอรเ์ น็ต และให้แต่ละกล่มุ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรยี น โดยครแู นะนา กับนกั เรยี นว่า“การคน้ หาข้อมลู บนอินเทอร์เนต็ ผ้ใู ชจ้ ะต้องสบื ค้นและนาข้อมูลมาเปรียบเทยี บ กนั เพื่อคดั เลือกเนื้อหาท่ีมีความถกู ต้องและมีความนา่ เชือ่ ถือ และมารยาทในการนาขอ้ มลู มา ใช้งาน คือผใู้ ชจ้ ะตอ้ งมกี ารอา้ งอิงถึงแหล่งทมี่ าของข้อมลู เพื่อเปน็ การยนื ยันว่าข้อมูล มีแหลง่ ทม่ี าชัดเจน น่าเชอื่ ถอื เป็นต้น” 6. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะคนทากิจกรรมฝึกทักษะโดยค้นหาขอ้ มลู บนอินเทอร์เนต็ เกย่ี วกับ สถานท่ีท่องเท่ยี วในประเทศไทยและนามาสง่ ในชั่วโมงถดั ไป เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 162
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การสบื คน้ ขอ้ มลู โดยใช้อินเทอรเ์ นต็ ช่ัวโมงที่ 2 ขัน้ สอน ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 7. ครูทบทวนเน้อื หาการเรียนเม่ือชว่ั โมงทแี่ ล้วเก่ยี วกับการสบื คน้ ขอ้ มูลโดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ต 8. ครูทาการสมุ่ นักเรียน 2-3 คนออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรยี นเกี่ยวกับข้อมลู ที่ได้สบื คน้ จากการ ทากจิ กรรมฝึกทักษะ 9. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกย่ี วกับการสบื คน้ ข้อมูลวา่ “ในการสืบค้นขอ้ มูลใด ๆ มาใชง้ านนัน้ ผทู้ ่ีค้นหา ข้อมลู จะตอ้ งมีการอา้ งองิ ถึงแหลง่ ท่มี าของข้อมลู เพ่ือยืนยันว่าขอ้ มลู นน้ั มีแหลง่ ทม่ี าชัดเจน นา่ เชื่อถอื แบะเพ่ือเปน็ การให้เกียรติแกเ่ จา้ ของข้อมูล” 10. นกั เรยี นศึกษาเน้ือหาเกีย่ วกบั การประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมลู จากหนังสอื เรยี น และ อภิปรายรว่ มกนั ภายในชัน้ เรียน 11. ครอู ธิบายกับนักเรยี นถงึ ขอ้ ควรพจิ ารณาในการประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู ว่าควร พิจารณาดังน้ี 1) มีการบอกวัตถุประสงค์ในการจัดทาข้อมูล 2) มีการระบชุ อ่ื ผเู้ ขยี นหรือผู้ให้ขอ้ มลู 3) มีการระบวุ ันท่ีพมิ พ์ และครง้ั ที่ปรบั ปรงุ 4) มีการอ้างอิงแหลง่ ทมี่ า 5) พิจารณาข้อมูลจากแหลง่ ข้อมูลที่เช่ือถือได้ ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 12. นักเรยี นจับคู่กบั เพ่ือนที่นั่งขา้ ง ๆ (คู่เดมิ ) และทากิจกรรมฝกึ ทักษะการสบื คน้ ขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ จากนั้นทาการรวบรวมขอ้ มลู และจัดทารายงาน สุดท้ายให้นักเรยี นวิเคราะห์วา่ ข้อมลู ทไ่ี ดม้ า มคี วามนา่ เชือ่ ถือหรือไม่อยา่ งไร 13. นกั เรียนแตล่ ะคู่ออกมานาเสนอข้อมลู ท่ีได้สืบค้นหนา้ ชน้ั เรยี น โดยครูคอยให้คาแนะนาเพ่ิมเตมิ ตามความเหมาะสม เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 163
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การสบื ค้นข้อมูลโดยใช้อนิ เทอร์เน็ต Note วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพอ่ื ให้นกั เรียน - มีทกั ษะการทางานร่วมกัน โดยใหน้ กั เรียนจับคู่กนั เพ่ือทากิจกรรมภายในชัน้ เรยี น เพ่อื เปิดโอกาสให้นักเรยี นสือ่ สารและแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ รว่ มกัน - มีทกั ษะการสบื ค้นข้อมลู โดยให้นักเรยี นสืบค้นข้อมลู ต่าง ๆ จากอนิ เทอร์เนต็ ตามหัวข้อที่ไดร้ ับมอบหมาย - มที กั ษะการคิดวิเคราะห์ และการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณในการพจิ ารณาข้อมูลท่ีได้ ทาการสืบคน้ โดยการเปรยี บเทียบเพ่ือตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูล ขนั้ สรุป ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูนานักเรยี นเลน่ เกมแยกหมวดหมขู่ องขอ้ มูล โดยให้นักเรียนแบง่ กลุม่ และร่วมกัน แยกประเภทของข้อมลู ต่าง ๆ ตามท่ไี ด้กาหนด จากนนั้ ใหน้ ักเรียนประเมนิ ผลตนเอง หลังเรียนจบหนว่ ยให้ตรงกับระดับความสามารถของตนเอง 2. ครปู ระเมินผลนักเรยี นจากการสังเกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และสมุดประจาตัว 3. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทาใบงานและกิจกรรมฝกึ ทักษะ 4. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรุปเก่ียวกบั การสืบค้นข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ และการประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมลู 5. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นท่ี 3 เรอ่ื ง ขอ้ มูลสารสนเทศ 6. นกั เรยี นทากจิ กรรมเสรมิ สร้างการเรียนร้จู ากหนังสือเรยี น และทาชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง ข้อมลู สารสนเทศ และนามาส่งในชว่ั โมงถดั ไป เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 164
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การสบื ค้นข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอร์เนต็ 7. การวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน รายการวดั - ตรวจใบงานที่ 3.6.1 - ใบงานที่ 3.6.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรม - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 การเรียนรู้ ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 1) การสบื ค้นข้อมูล - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ ดว้ ยอินเทอร์เน็ต ระดบั คุณภาพ 2 2) การนาเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการทางาน การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมนิ ประเมินตามสภาพจรงิ 4) พฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ความรับผดิ ชอบ คุณลกั ษณะ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั อนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 5) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการทางาน ผ่านเกณฑ์ 7.2 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน 1) แบบทดสอบหลงั เรียน หลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง ข้อมลู สารสนเทศ - ตรวจชนิ้ งาน/ภาระ - แบบประเมินช้นิ งาน 2) การประเมนิ ชิ้นงาน /ภาระงาน (รวบยอด) งาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง ข้อมูลสารสนเทศ 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ข้อมูลสารสนเทศ 2) ใบงานท่ี 3.6.1 เรือ่ ง การสบื คน้ ขอ้ มูลดว้ ยอนิ เทอรเ์ นต็ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 165
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การสืบคน้ ขอ้ มูลโดยใช้อินเทอรเ์ น็ต 2) อินเทอร์เน็ต ใบงานท่ี 3.6.1 เร่ือง การสืบค้นข้อมูลด้วยอินเทอร์เนต็ คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนค้นหาข้อมูลเกย่ี วกับ “ต้นรวงผงึ้ ” ซง่ึ เปน็ ตน้ ไม้ประจาพระองค์ในรัชกาลที่ 10 จากนนั้ ให้ตอบคาถามให้ถูกต้อง 1. ความสาคญั ของต้นรวงผ้ึง 2. ประวตั คิ วามเปน็ มาของต้นรวงผึง้ 3. ลักษณะของตน้ รวงผ้ึง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 166
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 การสืบค้นขอ้ มลู โดยใชอ้ ินเทอร์เนต็ 4. วธิ กี ารปลกู และวิธีการดูแลรกั ษา 5. ประโยชน์ของตน้ รวงผึ้ง แหล่งที่มาของข้อมลู : 1. 2. 3. 4. 5. เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 167
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การสืบคน้ ข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เนต็ ใบงานที่ 3.6.1 เฉลย เร่ือง การสืบคน้ ข้อมูลดว้ ยอนิ เทอรเ์ น็ต คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนค้นหาขอ้ มลู เก่ยี วกับ “ต้นรวงผงึ้ ” ซ่งึ เปน็ ต้นไม้ประจาพระองค์ในรชั กาลท่ี 10 จากนั้นให้ตอบคาถามให้ถูกต้อง 1. ความสาคัญของตน้ รวงผ้ึง ตน้ รวงผง้ึ เปน็ พรรณไมท้ ถ่ี ูกยกให้เปน็ พรรณไมป้ ระจาพระองค์ในรัชกาลที่ 10 2. ประวัติความเปน็ มาของต้นรวงผง้ึ โดยทั่วไปจะเรยี กตน้ ไมช้ นดิ นี้ว่า \"ต้นรวงผ้ึง\" แตถ่ ้าหากได้ยินคนเรียก ต้นนา้ ผ้ึง ต้นสายน้าผ้งึ หรือ ดอกน้าผ้งึ เพราะช่ือเหลา่ นเ้ี ป็นชือ่ เรยี กของคนท้องถ่นิ ที่มกั ได้ยินกนั บ่อยในแถบกรุงเทพฯ และภาคเหนอื ต้นรวงผ้งึ มชี ่ือภาษาอังกฤษว่า Yellow star เปน็ พรรณไม้ทม่ี ถี ่นิ กาเนิดในประเทศไทย พบมากในป่า ทางภาคเหนอื ความสูงจากระดบั น้าทะเล 1,000-1,100 เมตร 3. ลักษณะของต้นรวงผ้ึง ต้นรวงผ้งึ จดั เปน็ ไมย้ ืนต้นขนาดเล็ก ความสงู ประมาณ 5 เมตร ทนแดด และชอบขนึ้ ในท่ีแลง้ หรือ คอ่ นข้างแล้ง ลาต้นแตกกง่ิ ตา่ ลักษณะลาตน้ เป็นทรงพุ่มมน ส่งกล่นิ หอมตลอดทั้งวัน และมสี ีเหลืองอร่าม ออกดอกเปน็ ช่อสนั้ ตามซอกใบ ดอกจะบานได้นาน 7-10 วัน โดยจะผลิดอกในเดือนกรกฎาคม-สงิ หาคม เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 168
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275