Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาการคำนวณ ป5

วิทยาการคำนวณ ป5

Published by naree.ced55, 2021-07-21 08:36:02

Description: วิทยาการคำนวณ ป5

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การสืบค้นขอ้ มูลโดยใช้อินเทอรเ์ นต็ 4. วิธีการปลูกและวิธีการดูแลรกั ษา ต้นรวงผึ้งนยิ มขยายพนั ธดุ์ ว้ ยการตอนกิง่ ดว้ ยการคว่นั ก่งิ และลอกเปลือกออก จากนั้นนาดินเหนยี วและ กาบมะพรา้ วชบุ นา้ มาหุ้มแผลเอาไว้ หอ่ ด้วยแผน่ พลาสติกและมดั เชอื กปดิ มิด ดูแลรดนา้ ตามปกติ รอ รากงอกออกมาภายใน 2-3 วัน จึงค่อยตัดไปปลูกลงในหลุมดนิ ร่วน เพ่ือให้ได้ผลดแี นะนาให้ปลกู ในท่ี กลางแจ้งเนื่องจากเปน็ พืชที่ชอบแดดและทนแลง้ ได้ดี 5. ประโยชน์ของตน้ รวงผึ้ง มีรปู ลักษณ์และสีสนั สวยงาม มกี ล่ินหอมอ่อน ๆ เพื่อปรับบรรยากาศให้สดชนื่ นอกจากน้ียงั เปน็ ไม้มงคล ที่เหมาะจะนามาปลกู ประดับสวนภายในบา้ นและตามสถานท่ตี า่ ง ๆ โดยเฉพาะบา้ นทีม่ ีคนธาตุไฟ ตน้ รวงผึง้ กจ็ ะช่วยเสรมิ ความเป็นสริ มิ งคลให้มากยิ่งขน้ึ แหลง่ ที่มาของข้อมลู : 1. https://home.kapook.com/view162236.html 2. 3. 4. 5. เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 169

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การสืบค้นขอ้ มลู โดยใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง ขอ้ มูลสารสนเทศ คาชีแ้ จง : ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง 1. ประเภทของข้อมูลแบ่งออกเปน็ กี่ประเภทอะไรบา้ ง จงอธบิ ายตามทีน่ กั เรียนเขา้ ใจ 2. ลักษณะของข้อมูลที่ดีควรมีลักษณะอยา่ งไร 3. ให้นักเรียนวิเคราะหข์ ้อความทกี่ าหนดให้และเติมเคร่ืองหมาย  ไว้หน้าข้อทน่ี กั เรียนคิดว่าถกู ต้อง และเติมเครือ่ งหมาย  ไวห้ น้าขอ้ ที่นักเรียนคิดว่าผดิ 1. เจเจ ตอ้ งการที่จะร้ขู ้อมลู เบอร์โทรศพั ท์ของเพอ่ื นๆ ในห้องเรียน เพื่อนาไปเป็นประโยชน์ ดา้ นพฒั นาชุมชนและสงั คมในจังหวดั สมุทรปราการ 2. ถ้าต้องการทราบข้อมลู เพ่ือตดั สนิ ใจเลอื กซ้ือปากกาให้ถามข้อมลู กบั เพอ่ื น ๆ จะได้ขอ้ มูล ทถ่ี กู ต้องและเหมาะสมท่ีสดุ 3. ณชั ชาต้องการให้คณุ พอ่ ไปสง่ ทบี่ ้านของลดั ดาแต่ไม่ทราบเส้นทาง ถา้ ณชั ชาต้องการทราบ แผนทีเ่ พื่อเดนิ ทางไปบ้านลัดดา ณัชชาต้องคน้ หาข้อมูลเส้นทางการเดินทางที่เว็บไซต์ค้นหาแผนที่ 4. ประโยชน์ของข้อมูลดา้ นการเรยี นการสอนคือ เพือ่ ใช้ในการตดิ ต่อสอ่ื สารกบั ผู้อื่น 5. เลขประจาตัวนักเรียน หอ้ งเรียน ครปู ระจาช้ัน คะแนนสอบ เป็นข้อมลู หรอื ข้อเทจ็ จรงิ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 170

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การสืบคน้ ขอ้ มลู โดยใชอ้ ินเทอร์เน็ต 4. ใหน้ ักเรยี นวิเคราะหค์ าท่กี านหให้ และเรียงลาดับขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลให้ถูกตอ้ ง กาหนดวิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู คน้ หาและรวบรวมขอ้ มูล สรปุ ผลขอ้ มลู วางแผนและพจิ ารณาเลือกแหลง่ ข้อมูล กาหนดวตั ถปุ ระสงค์และความตอ้ งการ ของสงิ่ ทส่ี นใจ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 171

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การสบื คน้ ข้อมูลโดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ต ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย เรือ่ ง ขอ้ มูลสารสนเทศ คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง 1. ประเภทของข้อมลู แบ่งออกเปน็ กี่ประเภทอะไรบ้าง จงอธิบายตามทน่ี ักเรียนเขา้ ใจ 5 ประเภท ไดแ้ ก่ ข้อมูลอกั ขระ ข้อมลู ภาพ ข้อมูลตวั เลข ข้อมูลเสยี ง และข้อมูลอน่ื ๆ 2. ลักษณะของข้อมูลที่ดีควรมีลักษณะอยา่ งไร มคี วามถูกตอ้ งน่าเชอ่ื ถอื มีความครบถว้ นสมบูรณ์สามารถนาไปใชง้ านได้ ตรงตามความตอ้ งการของ ผใู้ ชง้ าน มคี วามทันสมยั และมีความสอดคลอ้ งกนั ของขอ้ มูล 3. ให้นักเรียนวเิ คราะหข์ ้อความทก่ี าหนดใหแ้ ละเตมิ เครื่องหมาย  ไวห้ นา้ ข้อทนี่ กั เรยี นคิดวา่ ถกู ตอ้ ง และเตมิ เคร่ืองหมาย  ไวห้ นา้ ขอ้ ทีน่ ักเรยี นคดิ วา่ ผดิ  1. เจเจ ต้องการท่จี ะร้ขู ้อมลู เบอรโ์ ทรศัพทข์ องเพอ่ื นๆ ในห้องเรยี น เพื่อนาไปเปน็ ประโยชน์ ด้านพฒั นาชมุ ชนและสงั คมในจงั หวัดสมทุ รปราการ  2. ถ้าต้องการทราบขอ้ มูลเพ่ือตัดสินใจเลอื กซื้อปากกาให้ถามข้อมลู กับเพ่อื น ๆ จะได้ขอ้ มูล ทถี่ ูกต้องและเหมาะสมทสี่ ุด  3. ณัชชาตอ้ งการให้คณุ พ่อไปสง่ ท่บี า้ นของลัดดาแต่ไม่ทราบเส้นทาง ถ้าณชั ชาต้องการทราบ แผนที่เพ่ือเดินทางไปบ้านลัดดา ณชั ชาต้องคน้ หาข้อมูลเส้นทางการเดินทางที่เว็บไซต์ค้นหาแผนท่ี  4. ประโยชนข์ องข้อมูลด้านการเรียนการสอนคือ เพือ่ ใช้ในการติดต่อสือ่ สารกับผู้อน่ื  5. เลขประจาตวั นกั เรยี น หอ้ งเรียน ครปู ระจาช้นั คะแนนสอบ เป็นข้อมูลหรือข้อเท็จจรงิ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 172

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ขอ้ มูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การสบื ค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอรเ์ น็ต 4. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะห์คาท่กี านหให้ และเรยี งลาดบั ขัน้ ตอนการรวบรวมข้อมูลใหถ้ กู ตอ้ ง กาหนดวธิ ีการรวบรวมขอ้ มลู ค้นหาและรวบรวมข้อมลู สรุปผลข้อมลู วางแผนและพิจารณาเลือกแหลง่ ขอ้ มลู กาหนดวัตถุประสงคแ์ ละความต้องการ ของส่ิงที่สนใจ กาหนดวัตถปุ ระสงคแ์ ละความต้องการของสง่ิ ท่ีสนใจ วางแผนและพิจารณาเลือกแหล่งข้อมูล กาหนดวธิ กี ารรวบรวมขอ้ มูล ค้นหาและรวบรวมขอ้ มูล สรุปผลขอ้ มลู เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 173

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การสบื ค้นข้อมลู โดยใช้อนิ เทอรเ์ นต็ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา   2 ความคิดสร้างสรรค์   3 วิธีการนาเสนอผลงาน   4 การนาไปใชป้ ระโยชน์   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............/................./................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 174

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การสบื ค้นขอ้ มูลโดยใช้อินเทอร์เนต็ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล คาช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็   2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน   3 การทางานตามหน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมาย   4 ความมนี ้าใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ............/.................../................ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 175

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 การสืบคน้ ขอ้ มลู โดยใชอ้ ินเทอร์เน็ต แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดบั คะแนน การมี ลาดับท่ี ชอ่ื –สกุล การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม ของนักเรียน ความ ฟงั คนอื่น ตามที่ไดร้ ับ น้าใจ การ 15 คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน ปรับปรุง ผลงานกลมุ่ 321321321321321 ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมนิ ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 176

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การสืบค้นขอ้ มลู โดยใชอ้ ินเทอร์เน็ต 8–10 พอใช้ แตบ่าบกปวา่ ระ8เมนิ คณุ ลักษณปะรอับันปพรงุ งึ ประสงค์ คาช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 32 1 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ กษัตรยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามท่โี รงเรยี นจัดขน้ึ 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมูลทีถ่ ูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัติในสิ่งท่ถี ูกตอ้ ง 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ในชวี ิตประจาวัน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เช่ือฟังคาส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตัง้ ใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและส่งิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงิน 6. ม่งุ ม่ันในการทางาน 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน 8.2 รูจ้ ักการดแู ลรกั ษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรยี นและ โรงเรยี น ลงช่อื ..................................................ผปู้ ระเมนิ ............/.................../................ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 177

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ข้อมลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 การสบื คน้ ข้อมลู โดยใช้อนิ เทอรเ์ นต็ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ างครั้ง 30–40 พอใช้ ต่ากว่า 30 ปรบั ปรงุ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 178

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 การสบื ค้นข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ว 4.2 ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เนต็ ค้นหาข้อมลู ตดิ ต่อส่ือสารและทางานร่วมกัน ประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มูล ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวรห์ รือบริการบนอนิ เทอรเ์ น็ตที่หลากหลาย เพื่อแก้ปญั หาในชีวติ ประจาวัน รายการ เกณฑก์ ารประเมิน (ระดบั คุณภาพ) ระดบั ประเมนิ คณุ ภาพ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) 1. รูจ้ กั ขอ้ มลู ดีมาก บอกประเภทของข้อมูล บอกประเภทของขอ้ มูล บอกประเภทของขอ้ มลู ไม่สามารถบอกประเภท ไดด้ มี าก ไดด้ ี ไดพ้ อใช้ ของขอ้ มลู ได้ 2. ลักษณะของข้อมลู อธิบายลักษณะของ อธิบายลักษณะของ อธบิ ายลักษณะของ ไม่สามารถอธิบาย ดี ทด่ี ี ขอ้ มลู ทีด่ ีไดด้ มี าก ข้อมูลท่ีดีได้ดี ข้อมลู ทด่ี ีได้พอใช้ ลักษณะของขอ้ มลู ทด่ี ี พอใช้ ได้ ปรบั ปรุง 3. ขนั้ ตอนในการรวบรวม บอกขน้ั ตอนในการ บอกขัน้ ตอนในการ บอกขัน้ ตอนในการ ไมส่ ามารถบอกขนั้ ตอน ขอ้ มูล รวบรวมข้อมลู ได้ รวบรวมข้อมลู ได้ รวบรวมขอ้ มลู ได้ ในการรวบรวมขอ้ มลู ได้ ครบถ้วนดมี าก ครบถว้ นดี ครบถว้ นพอใช้ ครบถว้ น 4. ความสมบรู ณ์ของผลงาน ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน สมบรู ณด์ มี าก สมบูรณค์ ่อนขา้ งดี สมบูรณด์ เี ปน็ บางสว่ น สมบูรณน์ อ้ ย 5. สง่ งานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานช้ากว่า ส่งภาระงานช้ากว่า สง่ ภาระงานชา้ กวา่ กาหนด 2 วัน กาหนดเกิน 3 วนั ข้นึ ไป ทกี่ าหนด กาหนด 1 วัน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 16 - 20 ดีมาก 12 - 15 ดี 6 - 11 พอใช้ 1 - 5 ปรับปรงุ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 179

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ข้อมูลสารสนเทศ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 การสืบค้นข้อมลู โดยใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ....... 9. ความเห็นของผูบ้ รหิ ารถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ( ตาแหน่ง 10. บนั ทึกผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคานวณ)  ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ัญหาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแก้ไข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 180

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภัย เวลา 12 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จรงิ อย่างเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่าง มีประสิทธภิ าพ รู้เท่าทัน และมจี ริยธรรม ว 4.2 ป.5/3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตคน้ หาขอ้ มลู ตดิ ตอ่ สอื่ สารและทางานรว่ มกัน ประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มลู ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ ซอฟตแ์ วร์หรือบรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลาย เพ่ือแก้ปัญหา ในชีวติ ประจาวัน ป.5/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทขี่ องตน เคารพในสิทธขิ องผู้อ่นื แจง้ ผ้เู กยี่ วข้อเม่อื พบข้อมูลหรอื บุคคลท่ไี มเ่ หมาะสม 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1) การค้นหาข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ น็ต และการพจิ ารณาผลการค้นหา 2) การติดต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต เชน่ อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา 3) การเขียนจดหมาย (บรู ณาการกับวิชาภาษาไทย) 4) การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการติดตอ่ สื่อสารและทางานร่วมกัน เช่น ใชน้ ดั หมายในการประชมุ กลุ่ม ประชาสัมพนั ธก์ ิจกรรมในห้องเรียน การแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นในการเรียน ภายใต้ การดแู ลของครู 5) การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู เช่น เปรยี บเทยี บความสอดคล้อง สมบรู ณ์ของข้อมลู จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของข้อมูล ผเู้ ขียน วนั ท่เี ผยแพร่ข้อมูล 6) การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมนิ ผล จะทาใหไ้ ด้สารสนเทศเพื่อใชใ้ น การแกป้ ัญหาหรือการตดั สินใจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 7) การใช้ซอฟต์แวร์หรอื บริการอินเทอร์เน็ตท่ีหลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมนิ ผล นาเสนอ จะชว่ ยให้การแกป้ ัญหาทาไดอ้ ย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแมน่ ยา 8) ตวั อย่างปญั หา เชน่ ถา่ ยภาพ และสารวจแผนท่ใี นท้องถิ่นเพื่อนาเสนอแนวทางในการจดั การพน้ื ที่ วา่ งให้เกดิ ประโยชน์ ทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ และวเิ คราะห์ขอ้ มูล นาเสนอขอ้ มลู โดย การใช้ blog หรือ web page เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 181

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั 9) อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต 10) มารยาทในการติดตอ่ ส่อื สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ (บูรณาการกบั วิชาทเี่ ก่ียวข้อง) 2.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 3. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ในปัจจบุ ันการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ตทาได้หลากหลายและช่วยตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ใหม้ ีความสะดวกสบายมากย่ิงขึ้นในด้านการส่ือสาร ดังน้นั จึงมผี ู้ใช้คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็น เครื่องมือในการกระทาความผิด เพื่อใหผ้ ู้อ่ืนเสียหายหรือเส่ือมเสียชอ่ื เสียง โดยมักจะเรยี กว่า อาชญากรรมทาง อนิ เทอรเ์ น็ต ดังน้ัน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทดี่ ีจะต้องมแี นวทางป้องกนั การเกิดอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต รวมถึง การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมีมารยาท เพราะนอกจากการติดต่อส่ือสารแล้ว อินเทอร์เน็ตยังถูกนามาใช้สาหรับ การวเิ คราะห์ข้อมลู การรวบรวมข้อมูล การประมวลผลข้อมลู เพ่ือพจิ ารณาทางเลือกทเ่ี ป็นไปได้ และเหมาะสม มากทส่ี ุด 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ - ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ทกั ษะการแลกเปลี่ยนข้อมลู 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการแก้ปญั หา - ทักษะการสังเกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - ทักษะการทางานรว่ มกนั - ทกั ษะการสารวจ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทกั ษะการสืบค้นขอ้ มลู - ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอื่ ง การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 182

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การใช้อินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั 6. การวัดและการประเมินผล วธิ ีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน รายการวดั 6.1 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน - ตรวจช้ินงาน/ - แบบประเมินชน้ิ งาน ระดับคุณภาพ 2 (รวบยอด) เรอ่ื ง การใช้ ภาระงาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์ อนิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย 6.2 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง - แบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การใช้อินเทอร์เน็ต อย่างปลอดภยั 6.3 ประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การเรยี นรู้ 1) โปรแกรมสนทนาออนไลน์ - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - ใบงานที่ 4.1.1 2) การป้องกนั การเกิดปัญหา - ตรวจใบงานที่ 4.2.1 - ใบงานท่ี 4.2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ อาชญากรรมทาง อนิ เทอรเ์ น็ต 3) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ 4) พฤตกิ รรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 รายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 5) พฤติกรรมการทางานกลุ่ม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 6) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 ความรับผิดชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ อันพงึ ประสงค์ ในการทางาน 6.4 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจริง - แบบทดสอบหลังเรียน หลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง การใช้อินเทอร์เน็ต อย่างปลอดภัย เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 183

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้อินเทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั 7. กิจกรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 184

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การใช้อินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั เรื่องท่ี 1 : การติดตอ่ ส่ือสารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ เวลา 4 ชั่วโมง วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงที่ 1-2 ขั้นนา ขัน้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) ครูถามคาถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนโดยใชค้ าถามประจาหนว่ ยการเรยี นรู้ และ คาถามประจาหวั ข้อกับนักเรยี นเพอ่ื กระต้นุ ความคิดของนกั เรยี น ดงั น้ี 1. ปจั จุบันนกั เรยี นไดใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ทาส่ิงใดบ้าง 2. นกั เรียนมีวิธกี ารใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างไรให้ปลอดภยั 3. นกั เรยี นคดิ ว่าการนาอนิ เทอร์เนต็ เข้ามาใชใ้ นการติดต่อส่อื สารมีประโยชน์อย่างไร ขนั้ สอน ขั้นที่ 2 สารวจคน้ หา (Exploration) 1. ครูซกั ถามนกั เรียนวา่ “นักเรียนรจู้ กั การตดิ ต่อส่ือสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตแบบใดบา้ ง” 2. นกั เรียนศกึ ษาการตดิ ต่อส่ือสารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ ในปัจจบุ นั จากหนังสือเรียนหรือ จากอินเทอรเ์ นต็ 3. ครเู ปิดเวบ็ ไซต์ www.gmail.com เพื่อเข้าใช้งานไปรษณีย์อิเล็กทรอนกิ ส์หรืออเี มล จากนนั้ ให้นักเรียนเข้าส่เู วบ็ ไซตต์ ามในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของตนเอง 4. นักเรยี นสารวจตนเองว่ามีบัญชีผใู้ ช้ของเว็บไซต์ www.gmail.com หรือไม่ หากไม่มีใหน้ ักเรียน สร้างบัญชีผใู้ ช้ตามข้ันตอนในหนงั สอื เรียนอย่างละเอียด ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 5. ครูสุม่ นกั เรยี นออกมาเขียนสรปุ ข้ันตอนการเขียนอเี มลบนกระดานหน้าชนั้ เรยี น โดยครู คอยตรวจสอบความถูกต้องและใหข้ ้อเสนอแนะเพ่มิ เติมแก่นกั เรียน 6. ครซู กั ถามเพอื่ กระตนุ้ ความคิดของนักเรียนว่า“การเขียนอีเมลต้องพมิ พ์ในส่วนใดบา้ ง” 7. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นเขียนอีเมลภายใต้ช่ือเรื่องการแนะนาตนเองและสง่ มายังท่อี ยู่อีเมล ของครู เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 185

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั ช่วั โมงท่ี 3-4 ขน้ั สอน ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 8. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน เพือ่ สบื คน้ และศึกษาเกยี่ วกบั โปรแกรมสนทนา และตัวอยา่ ง การใชโ้ ปรแกรมสนทนาจากสถานการณ์ในหนงั สอื เรียนหรืออินเทอรเ์ น็ต พรอ้ มเปดิ โอกาส ให้นกั เรยี นได้สื่อสารและแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ร่วมกนั 9. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สบื ค้นและคดั เลือกบลอ็ กทส่ี นใจ พรอ้ มออกมาอภิปรายหน้าชั้นเรียน ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 10. นกั เรยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะในหนังสือเรยี นและทาใบงานท่ี 4.1.1 เรอ่ื ง โปรแกรมสนทนา ออนไลน์ เป็นการบ้านและนามาส่งในช่วั โมงถัดไป ขน้ั สรปุ ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลนักเรียน จากการสงั เกตการตอบคาถาม การรว่ มกนั ทาผลงาน และการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องจากผลงานการทาใบงานที่ 4.1.1 และกจิ กรรมฝึกทักษะของนักเรยี น 3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ เก่ียวกับการติดต่อสือ่ สารผ่านอินเทอร์เนต็ ว่า“ปัจจุบันคนนยิ ม ส่ือสารผ่านเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นจานวนมาก เพราะถือว่าเปน็ บรกิ ารที่ช่วยตอบสนอง ความต้องการในด้านการสื่อสาร เพราะเปน็ การส่ือสารท่สี ะดวก รวดเร็ว และสามารถทาได้ หลากหลายรูปแบบ” เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 186

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้อินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั เร่ืองท่ี 2 : อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ เวลา 2 ชัว่ โมง วธิ กี ารสอนโดยเนน้ การจัดการเรียนรู้แบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (problem- based learning) ชวั่ โมงท่ี 1-2 ข้ันนา 1. ครทู บทวนการเรียนจากชัว่ โมงท่ีแล้วเกยี่ วกับข้นั ตอนการเขียนอเี มลเบื้องต้น 2. ครูกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นโดยถามคาถามประจาหวั ขอ้ ว่า“นกั เรยี นมวี ธิ ีปอ้ งกนั การเกดิ อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ที่อาจจะเกดิ ขึ้นกบั ตนเองอย่างไร” ข้ันสอน ขัน้ ที่ 1 กาหนดปญั หา 1. ครูต้ังคาถามร่วมกับนักเรียนภายในห้องเรียนว่า“นักเรียนคิดว่าการเกิดปัญหาอาชญากรรม ทางอินเทอรเ์ น็ตมอี ะไรบ้าง” ข้นั ที่ 2 ทาความเขา้ ใจปัญหา 2. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพือ่ ทาความเข้าใจเกี่ยวกบั อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต จากหนงั สือเรียน ขน้ั ท่ี 3 ดาเนนิ การศกึ ษาคน้ คว้า 3. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกบั การกอ่ อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบตา่ ง ๆ จากหนงั สือเรียนหรือเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 4. ครอู ธิบายกบั นักเรียนว่า“ในปัจจบุ นั ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตมีจานวนเพิ่มมากขน้ึ และเพ่ือเปน็ การปอ้ งกนั ตนเองจากปัญหาดังกล่าวเราจึงควรปฏบิ ัตติ นตามแนวทางป้องกัน การเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต” 5. นักเรียนศึกษาแนวทางการป้องกันการเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ จาก หนงั สือเรยี นและแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ น็ต ห้องสมดุ เป็นตน้ 6. ครถู ามคาถามท้าทายการคดิ ข้ันสูงว่า“นกั เรยี นคดิ วา่ อะไรเป็นสาเหตุทที่ าให้เกิดปญั หา อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ” 7. นักเรียนสังเกตการใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ ท่ีอาจก่อให้เกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต และแนวทางการป้องกนั เม่ือพบปัญหาจากหนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 187

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั ขน้ั ท่ี 4 สังเคราะห์ความรู้ 8. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอข้อมูลตามท่ีนักเรียนไดส้ บื ค้นเก่ียวกบั หวั ข้อดังต่อไปนี้ 1. ความหมายของอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต 2. การกอ่ อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ 3. แนวทางการป้องกนั การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ 9. นกั เรยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะและใบงานที่ 4.2.1 เร่ือง การปอ้ งกนั การเกิดอาชญากรรม ทางอนิ เทอร์เน็ต โดยเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสบื ค้นข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกบั ปัญหา อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ และแนวทางการป้องกนั ข้นั ท่ี 5 สรุปและประเมินคา่ ของคาตอบ 10. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสยั โดยครูให้ความร้เู พิม่ เตมิ ในส่วนท่ีนักเรียนไม่เข้าใจ ขั้นที่ 6 นาเสนอและประเมินผลงาน 11. ครปู ระเมินผลนักเรียนจากการสงั เกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และการบนั ทึกภายใน สมดุ ประจาตวั 12. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทาใบงานที่ 4.2.1 และกจิ กรรมฝกึ ทักษะ ขัน้ สรปุ นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เก่ียวกบั อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตว่า“ปจั จุบันปญั หาท่ีเกิดจาก อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ มีจานวนมากขน้ึ เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ในทาง ที่ไมเ่ หมาะสม การคดั ลอกผลงานของผู้อ่นื และนามาเป็นผลงานของตนเอง การเผยแพรภ่ าพลามก อนาจาร เป็นต้น ดงั น้ันเราจึงควรปฏบิ ัตติ นตามแนวทางป้องกันการเปดิ ปญั หาอาชญากรรมทาง อนิ เทอรเ์ น็ต เพื่อความปลอดภัยจากปัญหาท่ีจะเกิดขึ้นตอ่ ไป” เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 188

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้อนิ เทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั เรอ่ื งท่ี 3 : มารยาทในการตดิ ตอ่ ส่ือสารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ต เวลา 2 ชั่วโมง วธิ ีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1-2 ขั้นนา ข้นั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) ครูถามคาถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนว่า“ปจั จุบันนีเ้ ราตดิ ต่อส่ือสารกันผ่านทาง ช่องทางใดไดบ้ า้ ง” และถามคาถามประจาหัวขอ้ ว่า“การตดิ ตอ่ สือ่ สารทด่ี ีผ่านอินเทอรเ์ นต็ ควรทาอย่างไร” ข้นั สอน ขั้นท่ี 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพ่ือใหน้ กั เรยี นสารวจตนเอง เกยี่ วกับการใช้ชอ่ งทางการติดต่อสอื่ สารผ่านทางอินเทอรเ์ น็ต หรือสบื ค้นช่องทางท่ี นยิ มตดิ ต่อสื่อสารในปจั จบุ นั จากเครื่องคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 2. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนได้สื่อสารและแลกเปลีย่ นข้อมลู ร่วมกันภายในกลุม่ 3. นกั เรียนศึกษามารยาทในการตดิ ต่อสอื่ สารผา่ นอนิ เทอร์เน็ตจากหนงั สือเรยี น 4. ครถู ามคาถามทา้ ทายการคิดข้ันสงู ของนักเรียนวา่ “ถ้าทกุ คนบนโลกไมเ่ ขา้ ใจเรือ่ งมารยาท ในการใช้อนิ เทอร์เน็ตจะเป็นอย่างไร” ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 5. นกั เรียนสังเกตตัวอยา่ งมารยาทในการติดต่อสื่อสารผา่ นเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตจากสถานการณ์ ในหนงั สอื เรียน และร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็น ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 6. นักเรียนทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนงั สอื เรยี นโดยให้นกั เรยี นสร้างผงั ความคดิ เก่ยี วกบั มารยาท ในการติดต่อสือ่ สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตและบนั ทึกลงในสมดุ ประจาตวั 7. ครสู ่มุ นักเรยี น 2-3 คน ออกมานาเสนอผงั ความคิดเกย่ี วกบั มารยาทในการตดิ ต่อสอ่ื สาร ผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตหน้าช้นั เรยี น พร้อมอภปิ รายรว่ มกันภายในห้องเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 189

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั ขั้นสรุป ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตการตอบคาถาม การทากิจกรรม และสมุดประจาตัว ของนกั เรยี น 2. ครตู รวจสอบความถกู ต้องของผลงานการทากจิ กรรมฝึกทักษะ 3. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรปุ เน้ือหาโดยภาพรวมเก่ียวกับมารยาทในการติดตอ่ ส่ือสาร ผา่ นอินเทอรเ์ น็ตว่า“ในปัจจบุ ันการตดิ ต่อสื่อสารผา่ นอินเทอร์เน็ตไดร้ บั ความนยิ มเปน็ อย่างมาก ดงั นน้ั เราจงึ ควรมีมารยาททดี่ ีในการตดิ ต่อสอื่ สาร ไม่ว่าจะเป็น การใชค้ าพูด การตรวจสอบ ความถกู ต้องก่อนท่จี ะส่งต่อข้อมลู ไม่พดู คุยหรือนนิ ทาผอู้ ่ืนจนไดร้ บั ความเสยี หายหรือทาให้ ผอู้ ื่นเกิดความเส่ือมเสยี เป็นตน้ ” เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 190

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั เรอ่ื งท่ี 4 : ขอ้ มูลเพ่อื การตดั สินใจ เวลา 2 ช่วั โมง วิธกี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1-2 ขัน้ นา ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) ครูถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นว่า“ขอ้ มลู ท่ีนักเรยี นพบเห็นในชวี ติ ประจาวนั มีข้อมูล เกย่ี วกับอะไรบ้าง” และถามคาถามประจาหัวขอ้ กับนกั เรียนวา่ “นักเรยี นคิดว่าการนาข้อมูล มาวิเคราะห์มีประโยชน์อย่างไรตอ่ การตดั สนิ ใจ” ขัน้ สอน ข้นั ที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. ครถู ามกระตุน้ ความคิดของนักเรียนว่า“การวิเคราะห์ข้อมูลคืออะไร” และเปิดโอกาส ให้นกั เรยี นสืบคน้ ข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง ภายใตห้ ัวข้อ เรอ่ื ง ซอฟตแ์ วร์ท่ีนามาช่วยในการรวบรวมข้อมลู ประมวลผลข้อมูล และนาเสนอข้อมลู พร้อมอภิปรายรว่ มกันในห้องเรยี น 2. จากนน้ั ครูยกตวั อย่างซอฟต์แวรท์ ี่นยิ มใชใ้ นการรวบรวมข้อมลู ประมวลผลขอ้ มลู และ นาเสนอข้อมูลจากบัตรภาพ เร่ือง ซอฟต์แวรก์ ระดานคานวณ ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 3. ครอู ธบิ ายกับนักเรียนว่า“กระดานคานวณสามารถใสส่ ูตรหรือฟังกช์ ันคานวณได้” 4. ครูยกตัวอย่างฟงั ก์ชันทใ่ี ชใ้ นการตัดสนิ ใจในหนงั สอื เรียน พรอ้ มอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ของฟังก์ชนั เพื่อใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากยิ่งข้ึน 5. นกั เรยี นสังเกตการนาข้อมลู มาใช้ในการตดั สินใจ จากตัวอย่างประสบการณใ์ นหนังสือเรียน และคดิ วเิ คราะห์ตามอย่างมีเหตุผลว่าบคุ คลใดควรไดร้ ับแสตมป์ 6. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน หรอื ตามความเหมาะสม จากนั้นให้แตล่ ะกล่มุ ลงมือใชง้ าน Google Sheets และร่วมกันกรอกขอ้ มูลตามตัวอย่างจากหนังสือเรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 191

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้อนิ เทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั ข้ันที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 7. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ทากิจกรรมฝกึ ทกั ษะจากหนังสือเรียน โดยเลือกใช้โปรแกรมกระดาน คานวณในการหาคาตอบ และบันทกึ ผลในสมดุ ประจาตัว 8. ครสู มุ่ นกั เรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น พร้อมอภปิ รายรว่ มกับ เพือ่ นในชน้ั เรียน ขน้ั สรุป ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลนักเรยี นจากการสงั เกตการตอบคาถาม การทากจิ กรรม และสมดุ ประจาตัว ของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลงานการทากิจกรรมฝกึ ทักษะ 3. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ โดยภาพรวมเกี่ยวกบั การวิเคราะห์ข้อมลู และการใชซ้ อฟตแ์ วร์ กระดานคานวณเข้ามาช่วยในการตดั สนิ ใจว่า“การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เป็นการพจิ ารณาข้อมูล และตดั สนิ ใจเลอื กทางที่เหมาะสมท่สี ดุ โดยซอฟตแ์ วรท์ น่ี ยิ มใชใ้ นการรวบรวม ประมวลผล และตดั สินใจ คือ ซอฟตแ์ วร์กระดานคานวณ เช่น ไมโครซอฟต์เอ็กเซล กูเกลิ ชีต เป็นต้น เพราะมีสว่ นช่วยในการอานวยความสะดวกในการใช้งาน” เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 192

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั เรอ่ื งที่ 5 : การนาเสนอข้อมลู และการทาแบบสารวจความคิดเห็นออนไลน์ เวลา 2 ชัว่ โมง วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่วั โมงที่ 1 ขน้ั นา ข้ันที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามกระตุ้นความคิดของนกั เรยี นว่า“ปจั จุบันการนาเสนอข้อมลู มวี ิธกี ารอย่างไรบา้ ง” 2. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นเพื่อเช่อื มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นวา่ “ปจั จบุ ันมกี ารนาเสนอข้อมูลและ สารสนเทศท่ีนา่ สนใจ คือ การนาเสนอข้อมลู ดว้ ยบล็อก (Blog) ซง่ึ บล็อกเปน็ คารวมมาจาก คาว่าเว็บบลอ็ กซงึ่ เป็นรปู แบบของเวบ็ ไซตป์ ระเภทหน่งึ ซ่งึ ผู้เขียนสามารถบันทึกส่ิงท่ีต้องการ นาเสนอไดง้ ่าย สะดวก และรวดเร็ว” ข้นั สอน ข้นั ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม เพื่อศกึ ษาข้อมูลเก่ียวกับ ความหมายของบล็อก จากหนงั สือเรียนหรอื สืบค้นจากอินเทอรเ์ น็ต 2. ครูถามคาถามประจาหัวข้อกับนกั เรยี นว่า“การนาเสนอข้อมลู ด้วยบลอ็ กมปี ระโยชน์อย่างไร” 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาวิธีการเขียนบลอ็ กจากหนังสือเรียนและอินเทอรเ์ นต็ ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครอู ธบิ ายกับนักเรยี นเกยี่ วกับสิ่งทีค่ วรคานงึ ในการเขียนบล็อก 5. ครูมอบหมายหวั ข้อเร่ืองในการเขยี นบล็อกใหแ้ กน่ ักเรยี น คือ สถานทท่ี ่องเทยี่ วที่น่าสนใจ โดยให้แตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาจบั สลากหวั ขอ้ ภูมิภาคในการเขียนบล็อก 6. เปิดโอกาสให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มได้เขยี นบล็อกอยา่ งอสิ ระตามข้นั ตอนจากหนงั สือเรียน 7. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอบล็อกเก่ยี วกบั สถานท่ที ่องเที่ยวท่นี ่าสนใจตามภูมิภาค ท่ีได้รบั มอบหมายหน้าชั้นเรียน 8. จากน้นั ครถู ามนักเรยี นว่า“ถ้าจะสารวจความสนใจในการไปท่องเทยี่ วของนักเรียนทง้ั โรงเรยี น ตามภมู ิภาคทนี่ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ได้นาเสนอจะมวี ธิ กี ารอย่างไรบ้าง” เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 193

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั 9. ครอู ธบิ ายกบั นักเรยี นว่า“ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารทาแบบสารวจออนไลนท์ จี่ ะทาให้สามารถสารวจ และเก็บขอ้ มูลได้ครบตามจานวน และไมซ่ ับซ้อน ทาใหไ้ ด้ผลลพั ธ์ทถ่ี ูกต้อง ไมค่ ลาดเคลือ่ น” ชัว่ โมงท่ี 2 ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 10. นักเรยี นศึกษาตัวอยา่ งการทาแบบสารวจความคดิ เห็นออนไลนโ์ ดยใช้ Google Form จากสถานการณ์ในหนังสือเรียนทีละขนั้ ตอน ซ่ึงนักเรียนอาจจะศกึ ษาเพิ่มเตมิ ได้ จากอนิ เทอรเ์ น็ต 11. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ สรา้ งแบบสารวจออนไลน์เก่ียวกับบล็อกของสถานทท่ี ่องเทยี่ วท่นี ักเรยี น ไดเ้ ผยแพร่ลงบนอินเทอร์เนต็ 12. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ กบั นกั เรยี นวา่ “เมือ่ วเิ คราะหผ์ ลสารวจเสรจ็ แลว้ สามารถเผยแพร่ข้อมูล ผา่ นทางบลอ็ กหรือเว็บเพจ เพ่อื ให้รับทราบผลสารวจร่วมกัน” 13. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ทากจิ กรรมฝกึ ทักษะ โดยใหน้ กั เรยี นจดั ทาแบบสารวจออนไลน์ เกี่ยวกบั โรงเรียนและสรุปผล โดยให้นกั เรียนบอกขนั้ ตอนการสรา้ งแบบสารวจ จากนัน้ บันทึกผลการทาแบบสารวจลงในสมดุ ประจาตวั ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครนู านักเรยี นเลน่ เกม Mail Blog Chat Game ในหนงั สอื เรยี น พรอ้ มบอกกติกาการเล่นเกม ท่ีชดั เจนเพื่อใหน้ ักเรยี นเกิดความเข้าใจ จากนนั้ ใหน้ กั เรียนประเมนิ ผลตนเองหลงั เรยี นจบหนว่ ย ให้ตรงกับระดบั ความสามารถของตนเอง 2. ครปู ระเมินผลนกั เรียน โดยการสังเกตการตอบคาถาม การทากจิ กรรม และสมุดประจาตัว ของนักเรยี น 3. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนงั สือเรียน 4. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปเก่ียวกบั ลาดบั ขนั้ ตอนการเขยี นบลอ็ กและการสรา้ งแบบสารวจ ความคิดเห็นออนไลน์ 5. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั 6. นกั เรียนทากิจกรรมเสริมสร้างการเรยี นร้จู ากหนงั สือเรยี น และทาชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย โดยให้นกั เรยี นตอบคาถามใหถ้ กู ต้อง และนามาสง่ ในช่ัวโมงถดั ไป เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 194

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การใช้อินเทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั 8. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่อื ง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั 2) ใบงานที่ 4.1.1 เรอื่ ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ 4) บัตรภาพ เรื่อง ซอฟตแ์ วร์กระดานคานวณ 5) สลากภูมภิ าคในการเขียนบล็อก 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อนิ เทอรเ์ น็ต 2) หอ้ งคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 195

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 คาช้แี จง : ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดหมายถงึ ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ 6. ขอ้ ใดคอื การป้องกันตนเองจากปัญหาอาชญากรรม ก. E-commerce ทางอนิ เทอร์เน็ต ข. E-mail ก. ปดิ ไฟทุกครั้งหลงั เลิกใชง้ าน ค. E-learning ข. พิมพ์เลขบัตรประชาชนลงใน Facebook ง. E-money ค. ติดตงั้ โปรแกรมสแกนไวรัส 2.ขอ้ ใดไม่อยูใ่ นข้ันตอนการเขียนอีเมลเบือ้ งตน้ ง. ตั้งรหสั ผา่ นเขา้ สูค่ อมพิวเตอร์ ก. พมิ พ์ทีอ่ ยอู่ ีเมลของผรู้ ับ 7. บุคคลใดเป็นอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต ข. พมิ พช์ ื่อเรอ่ื ง ก. นโี นเ่ ผยแพร่วีดีโอการทาอาหารลงอินเทอรเ์ นต็ ค. พมิ พ์เบอรโ์ ทรศัพท์ของผรู้ บั ข. แนนถ่ายรปู เพ่อื นแลว้ ส่งต่อไปยงั คนอน่ื โดยได้รับ ง. คลิกส่ง อนญุ าต 3. ข้อใดเขยี นช่อื เรือ่ งอีเมลได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม ค. นทั ใช้คอมพวิ เตอร์ของเพ่ือนเพอ่ื สืบคน้ ขอ้ มลู ใน ก. รายงาน123 อินเทอรเ์ นต็ ข. แฟม้ สะสมผลงานสดุ เจ๋ง ง. น่มิ คดั ลอกผลงานของเพื่อนและนาไปส่งครู ค. รายงานการประชมุ ครั้งท1ี่ เรมิ่ เวลา 18.00 น. 8. บุคคลใดไมม่ ีมารยาทในการตดิ ตอ่ ส่อื สารผ่าน โดยมที า่ นประธาน คือ นายวิชยั ใจสะอาด อินเทอรเ์ นต็ ง. คะแนนสอบปลายภาควชิ าคอมพวิ เตอร์ ก. กบตรวจสอบขอ้ มลู ใหถ้ ูกต้องกอ่ นสง่ ให้ผอู้ ื่น ปีการศึกษา 2562 ข. กล้าใช้ศพั ทส์ แลงในการสือ่ สาร 4. ขอ้ ใดคือคณุ สมบตั ขิ องบลอ็ ก ค. แกว้ ไม่เผยแพร่ข้อมลู ส่วนตวั ของผ้อู น่ื ก. เสียค่าใชจ้ า่ ยสูง ง. กิ๊กใช้ข้อความท่สี นั้ กะทัดรดั และเข้าใจง่าย ข. สามารถสรา้ งไดด้ ว้ ยตนเอง 9. ซอฟต์แวร์ใดที่นิยมใชเ้ พอ่ื รวบรวม ประมวลผล และตดั สินใจ ค. เป็นเทคโนโลยที ล่ี า้ หลงั ก. ซอฟต์แวรก์ ระดานคานวณ ง. รบั ชมไดเ้ ฉพาะชาวตา่ งชาติ ข. ซอฟต์แวรป์ ระมวลคา 5. ผทู้ ส่ี ร้างรายได้จากการเขยี นบล็อกเรียกว่าอะไร ค. ซอฟต์แวรน์ าเสนอ ก. บล็อกเกอร์ ง. ซอฟตแ์ วร์ส่ือสารขอ้ มูล ข. กเู กลิ บล็อก 10. บรกิ ารของ Google ในขอ้ ใดใชส้ รา้ งแบบสารวจความคดิ ค. บล็อกก้ี เหน็ ออนไลน์ ง. สตอร่บี ลอ็ ก ก. Google Drive ข. Google Chrome ค. Google Play ง. Google Form เฉลย 1. ข 2. ค 3. ง 4. ข 5. ก 6. ง 7. ง 8. ข 9. ก 10. ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 196

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 คาชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. Google Form เปน็ บริการของ Google ท่เี ข้ามา 6. ก๊ิกแอบถ่ายรูปเพ่ือนแล้วสง่ ตอ่ ไปยังเพ่อื นคนอนื่ ๆ ชว่ ยเหลือในดา้ นใด ในอินเทอร์เนต็ โดยไม่ได้รับอนญุ าต การกระทาของกิก๊ ก. บริการค้นหาสนิ ค้าผา่ นระบบอนิ เทอรเ์ น็ต ถือว่ากิ๊กเป็นคนอย่างไร ข. บรกิ ารแสดงแผนทท่ี ว่ั โลก ก. กก๊ิ เป็นอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต ค. บริการสรา้ งเอกสารออนไลน์ ข. กิ๊กไมม่ ีมารยาทในการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ต ง. บริการสรา้ งแบบสารวจความคดิ เห็นออนไลน์ ค. ก๊กิ มมี นษุ ย์สมั พนั ธ์ท่ดี ีตอ่ เพอ่ื นร่วมชัน้ 2. ขอ้ ใดคอื คุณสมสบตั ขิ องบล็อกเกอร์ ง. กก๊ิ มีนิสยั รา่ เริง ชอบแกลง้ เพอ่ื น ก. มีความเชี่ยวชาญในการเขยี นบลอ็ ก 7. การปอ้ งกันตนเองจากปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ข. มคี ่าใช้จา่ ยในการเขียนบล็อกคอ่ นขา้ งสูง ของบุคคลใดเหมาะสมท่สี ดุ ค. มีความซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ ในการประกอบอาชีพ ก. มีนากรอกเบอรโ์ ทรศพั ทเ์ พอื่ อยากไดโ้ ทรศัพทฟ์ รี ง. ทางานเรียบร้อยและตรงต่อเวลา จากอนิ เทอร์เนต็ 3. ซอฟต์แวร์กระดานคานวณนยิ มใช้สาหรับทางาน ข. มานะปดิ ไฟทุกครั้งหลงั เลกิ ใช้งานคอมพิวเตอร์ ในขอ้ ใด ค. มาลตี ดิ ต้ังโปรแกรมปอ้ งกนั ไวรสั ทีเ่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ก. ใชใ้ นการนาเสนอขอ้ มลู ของตนเอง ข. ใชใ้ นการรวบรวม ประมวลผล และตดั สินใจ ง. ปรีชาต้งั รหสั ผา่ นในการเขา้ สูเ่ ครื่องคอมพวิ เตอร์ ค. ใชใ้ นการสรา้ งเอกสารสว่ นตัว 8. Email เป็นบรกิ ารของ Google ทีเ่ ข้ามาช่วยเหลือในดา้ นใด ง. ใชใ้ นการคดิ คานวณผลงาน ก. ค้นหาขอ้ มลู ในเว็บไซต์ตา่ ง ๆ 4. กลา้ ใช้ศัพทแ์ สลงส่ือสารกบั เพอื่ นรว่ มช้นั ในอนิ เทอรเ์ น็ต ข. คน้ หาเส้นทางแสดงแผนทที่ ่วั โลก ดังนนั้ ถอื วา่ กลา้ เป็นคนอยา่ งไร ค. สร้างเอกสารออนไลน์ ก. กลา้ เป็นคนใช้ขอ้ ความส้นั ๆ กะทดั รัด และเขา้ ใจง่าย ง. สอ่ื สารระหว่างบุคคลต้ังแต่ 2 คนขึน้ ไปโดยไมเ่ สียคา่ ใชจ้ า่ ย ในการสื่อสาร 9. การเขียนฟังกช์ นั สาหรับการตรวจสอบเง่ือนไขขอ้ ใดถูกตอ้ ง ข. กล้าเปน็ คนไมม่ มี ารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สาร ก. =IF(เงอ่ื นไข,ค่าที่ไดเ้ มื่อเง่อื นไขเปน็ จรงิ ,คา่ ทไี่ ด้เมื่อเง่ือนไข ผ่านทางอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ เท็จ) ค. กล้าเป็นคนทนั สมยั ใช้ศัพท์แสลงในการส่ือสาร ข. =IF(เงือ่ นไข,ใช่,ไม่ใช่) ง. กลา้ มีมนุษย์สมั พันธ์ในการอยรู่ ว่ มกับผอู้ ่นื ค. =IF(เง่อื นไขท่เี ป็นจริง)(เง่อื นไขทีเ่ ป็นเท็จ) 5. ข้อใด ไม่ใช่ คณุ สมบตั ขิ องไปรษณยี ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ง. =IF(คา่ ทีไ่ ดเ้ มื่อเงือ่ นไขเป็นจริง)(ค่าทีไ่ ด้เม่ือเงอื่ นไขเป็นเทจ็ ) ก. เปน็ การสื่อสารผ่านเครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ 10. บุคคลใดปฏบิ ัตติ นในการเขยี นบล็อกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ข. เสียค่าใช้จา่ ยในการติดต่อสอื่ สาร ก. นกคัดลอกข้อมลู ของผอู้ น่ื มาใสใ่ นรายงาน ค. สามารถส่งวิดโี อ รปู ภาพ และไฟล์ตา่ ง ๆ ได้ ข. นีโน่โพสตง์ านลงอนิ เทอรน์ ต็ โดยไมต่ รวจสอบ ง. อานวยความสะดวกในการส่อื สารระหว่างผสู้ ง่ -ผ้รู ับ ค. แนนอา้ งอิงแหล่งข้อมูลทีน่ ามาใชอ้ ยู่เสมอ เฉลย ง. นุ่นนารูปภาพในอินเทอร์เน็ตมาใช้อยา่ งอสิ ระ 1. ง 2. ก 3. ข 4. ข 5. ข 6. ก 7. ง 8. ง 9. ก 10. ค เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 197

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้อนิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 การตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอินเทอร์เน็ต แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 การติดตอ่ สอ่ื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต เวลา 4 ชวั่ โมง 1. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั 1.1 ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 ป. 5/3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตค้นหาขอ้ มูล ติดต่อส่อื สารและทางานร่วมกัน ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูล 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายเกย่ี วกบั การติดตอ่ สือ่ สารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ ได้ถูกตอ้ ง (K) 2. เขยี นอเี มลเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง (P) 3. สืบค้นขอ้ มูลเกี่ยวกับโปรแกรมสนทนาและบล็อกได้ (P) 4. เล็งเหน็ ถึงความสาคญั และประโยชน์ของการติดตอ่ สื่อสารผา่ นอินเทอร์เนต็ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิ่น - การคน้ หาข้อมูลในอินเทอรเ์ นต็ และการพิจารณา พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา ผลการคน้ หา - การติดตอ่ สื่อสารผา่ นอินเทอรเ์ นต็ เชน่ อเี มล บล็อก โปรแกรมสนทนา - การเขยี นจดหมาย (บูรณาการกับวชิ าภาษาไทย) - การใช้อนิ เทอร์เน็ตในการติดตอ่ ส่ือสารและทางาน ร่วมกนั เช่น ใชน้ ดั หมายในการประชุมกลมุ่ ประชาสัมพันธก์ ิจกรรมในห้องเรียน การแลกเปล่ยี น ความรู้ ความคดิ เหน็ ในการเรยี น ภายใต้การดูแล ของครู เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 198

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การติดตอ่ สอื่ สารผ่านอินเทอร์เนต็ 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ในปัจจุบันการติดต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ ถือวา่ เปน็ บริการท่ชี ่วยตอบสนองความต้องการ ในการส่ือสาร ของมนษุ ย์ใหม้ ีความสะดวกสบายมากยงิ่ ขน้ึ โดยเฉพาะการตดิ ต่อสอ่ื สารผ่านอินเทอร์เนต็ ในปัจจบุ ันสามารถทาได้หลากหลายรปู แบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่ือสารผ่านไปรษณยี ์อิเล็กทรอนิกส์ หรอื อีเมล โปรแกรมสนทนา และบล็อก 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินัย รับผิดชอบ - ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รยี นรู้ - ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมลู 3. มุ่งม่นั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต - ทกั ษะการทางานรว่ มกนั 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทักษะการสบื ค้นข้อมูล - ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงที่ 1-2 ข้นั นา ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั เพื่อวดั ความรู้เดิมของนักเรียนกอ่ นเขา้ สู่กิจกรรม เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 199

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การติดตอ่ สอ่ื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต 2. ครูถามคาถามกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “ปจั จุบันนกั เรยี นได้ใช้อินเทอรเ์ น็ต ทาสงิ่ ใดบ้าง” (แนวตอบ : เลน่ เกม ดูคลิปวดิ ีโอ สื่อสารกับเพ่ือน ๆ สบื ค้นข้อมลู เป็นต้น) 3. จากนัน้ ครูถามคาถามประจาหนว่ ยการเรยี นรู้กับนกั เรยี นว่า“นกั เรยี นมวี ธิ กี ารใชง้ าน อินเทอรเ์ นต็ อย่างไรให้ปลอดภยั ” (แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคาตอบขนึ้ อยู่กบั ดุลยพนิ ิจ ของครผู ูส้ อน เช่น ปอ้ งกันข้อมลู สว่ นตวั ของตนเอง ตรวจสอบทุกครั้งก่อนนาข้อความ หรอื รปู ภาพลงบนอินเทอรเ์ น็ต เปน็ ต้น) 4. ครูถามคาถามประจาหวั ข้อกับนกั เรยี นว่า“นักเรียนคดิ วา่ การนาอินเทอรเ์ น็ตเข้ามาใช้ ในการตดิ ต่อสอ่ื สารมีประโยชน์อย่างไร” (แนวตอบ : การติดต่อส่ือสารผา่ นอินเทอร์เนต็ เปน็ บรกิ ารทีช่ ่วยตอบสนองความต้องการ ในการสอ่ื สารของมนษุ ย์ให้มีความสะดวกสบายยิ่งขน้ึ เป็นต้น) ขัน้ สอน ขั้นที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. ครซู กั ถามนกั เรียนว่า“นักเรียนร้จู กั การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอรเ์ น็ตแบบใดบา้ ง” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามประสบการณ์ของนักเรยี น โดยคาตอบข้ึนอยู่กับดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน เชน่ ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส์ Facebook Line Messenger เป็นตน้ ) 2. นกั เรยี นศกึ ษา เรื่อง การติดต่อสื่อสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตในปัจจุบันจากหนังสือเรยี นรายวิชา พืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เร่อื ง การใช้อินเทอร์เน็ต อย่างปลอดภยั หรอื สบื ค้นจากอินเทอรเ์ นต็ 3. ครูเปิดเว็บไซต์ www.gmail.com เพ่อื เข้าใช้งานไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์หรืออีเมล จากนั้น ใหน้ กั เรียนเข้าสเู่ ว็บไซต์ตามในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง โดยครอู ธิบายความหมายของ ไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์วา่ “ไปรษณียอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์เป็นบริการรับ-ส่งจดหมายผ่านเครือข่าย อนิ เทอร์เนต็ จากบุคคลหนึง่ ไปยังบุคคลอื่น ๆ ซึ่งสามารถส่งไดท้ ้ังข้อความ เสยี ง รปู ภาพ และ วดิ ีโอ เป็นต้น” 4. นักเรียนสารวจตนเองว่ามบี ญั ชผี ู้ใช้ของเวบ็ ไซต์ www.gmail.com หรอื ไม่ หากไมม่ ีให้นักเรยี น สรา้ งบญั ชีผู้ใชต้ ามขนั้ ตอนในหนงั สอื เรยี น ดงั นี้ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 200

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ต 1. เข้าสู่เวบ็ ไซตท์ ใี่ หบ้ ริการอีเมล คือ www.gmail.com 2. คลิกเลอื กสร้างบัญชเี พ่ือสรา้ งบญั ชใี หม่ 3. กรอกข้อมลู ผใู้ ชง้ าน เช่น ชอื่ นามสกลุ ช่อื ผใู้ ช้ รหัสผา่ น เปน็ ตน้ 4. คลิกเลอื ก ถัดไป 5. กรอกข้อมูลผู้ใชง้ านเพ่มิ เติม 6. คลิกเลือก ถัดไป 5. ครูชแ้ี จงกบั นักเรยี นวา่ “หากนักเรยี นมีบัญชีผู้ใชแ้ ล้ว นักเรยี นสามารถเขา้ ใชง้ านอเี มล โดยการกรอกชือ่ ผใู้ ชแ้ ละรหัสผา่ นทหี่ นา้ ลงช่อื เข้าใช้งาน เพ่ือใช้งานไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์ หรืออเี มลของตนเอง” ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 6. นักเรียนศกึ ษาขั้นตอนการเขียนอเี มลเบื้องต้นจากหนังสือเรียน จากน้นั ครสู มุ่ นกั เรียนออกมา เขียนสรปุ ขนั้ ตอนการเขียนอีเมลบนกระดานหน้าชน้ั เรียน โดยครคู อยตรวจสอบความถูกต้อง และใหข้ ้อเสนอแนะเพมิ่ เติมแกน่ ักเรยี น 7. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมกับนกั เรยี นเกี่ยวกบั หลกั การเขียนชือ่ เร่ืองว่า“การเขยี นช่ือเรื่องท่ีใช้ใน การสง่ อีเมล ควรเลือกใช้ข้อความท่ีกระชบั ไดใ้ จความเข้าใจง่าย และใช้ถ้อยคาทสี่ ุภาพ” 8. นกั เรียนศึกษาตัวอยา่ งการเขียนอีเมลจากสถานการณใ์ นหนังสือเรียน 9. ครซู กั ถามเพอื่ กระตนุ้ ความคิดของนักเรยี นว่า“การเขยี นอเี มลต้องพมิ พ์ในสว่ นใดบ้าง” (แนวตอบ : พิมพ์ที่อยอู่ เี มลของผู้รบั พิมพช์ ือ่ เร่ือง และพิมพ์รายละเอียดเนื้อหา) 10. ครมู อบหมายให้นักเรยี นเขยี นอีเมลภายใตช้ ื่อเร่ืองการแนะนาตนเอง และสง่ มายงั ที่อยู่อเี มล ของครู ช่วั โมงที่ 3-4 ขัน้ สอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 11. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน เพื่อสบื คน้ และศกึ ษาเก่ียวกบั โปรแกรมสนทนา และตวั อย่าง การใชโ้ ปรแกรมสนทนาจากสถานการณ์ในหนงั สอื เรียนหรืออนิ เทอร์เนต็ พรอ้ มเปิดโอกาส ให้นักเรียนไดส้ ื่อสารและแลกเปลี่ยนขอ้ มูลร่วมกัน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 201

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การติดต่อสอื่ สารผ่านอินเทอร์เน็ต 12. ครูอธิบายกบั นักเรียนเกี่ยวกบั โปรแกรมสนทนาว่า“โปรแกรมสนทนาเป็นโปรแกรมการสนทนา ออนไลน์ท่ีสอื่ สารผา่ นเครอื ข่ายอินเทอร์เน็ต ซ่ึงในปัจจบุ ันมีการสอ่ื สารทผี่ ใู้ ชง้ านสามารถเห็น ใบหนา้ กันได้ เชน่ Line Facebook Messenger Skype เปน็ ตน้ ” 13. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ศึกษาข้อมลู เกีย่ วกับบลอ็ ก (Blog) โดยอธิบายวา่ “บลอ็ ก คือ เว็บไซต์รูปแบบหน่งึ ท่เี ปน็ การเขยี นเว็บไซต์ทเี่ นน้ การนาเสนอขอ้ มูลในดา้ นทีต่ นเองสนใจ เช่น บล็อกการท่องเท่ียว บล็อกขายสนิ ค้า บลอ็ กทาอาหาร เปน็ ตน้ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถทาได้ โดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ ่าย” 14. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสบื ค้นและคดั เลอื กบลอ็ กท่ีสนใจ พร้อมออกมาอภปิ รายหน้าชั้นเรยี น 15. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ กั เรียนเข้าใจวา่ “ผู้ที่มคี วามชานาญในการเขยี นบลอ็ กหรือผู้ที่เขียนบลอ็ ก เปน็ อาชพี เรามกั จะเรยี กคนเหล่านว้ี า่ บลอ็ กเกอร์ (Blogger)” 16. นกั เรียนศกึ ษาตวั อยา่ งการใช้บลอ็ กจากสถานการณ์ที่กาหนดไวใ้ นหนังสอื เรียน พร้อมถาม คาถามทา้ ทายการคดิ ขนั้ สงู กับนกั เรียนว่า“นอกจากการสร้างสอ่ื การเรยี นการสอนแลว้ นักเรียนคิดว่าบลอ็ กสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ในด้านการเรียนการสอนได้อยา่ งไรบา้ ง” (แนวตอบ : ใช้บลอ็ กในการขยายความเข้าใจในเนอ้ื หาตา่ ง ๆ เพ่ือเผยแพร่เนื้อหาทน่ี า่ สนใจ ให้นกั เรียนได้มคี วามเขา้ ใจมากยง่ิ ข้นึ หรือสร้างเป็นชอ่ งทางในการสอื่ สาร เพอ่ื ใหผ้ ู้ท่สี นใจ ในเรอื่ งเดียวกนั ได้แลกเปลย่ี นความร้รู ว่ มกนั ) ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 17. นักเรยี นทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนงั สือเรียนและทาใบงานที่ 4.1.1 เร่ือง โปรแกรมสนทนา ออนไลน์ เปน็ การบา้ นและนามาส่งในช่วั โมงถัดไป Note วตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรมเพือ่ ให้นกั เรียน - มีทักษะการสบื ค้นข้อมูลโดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกับ การตดิ ต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต - มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ในการสร้างบัญชีผู้ใช้ในเวบ็ ไซตเ์ พอ่ื การเรยี นรู้ และการพฒั นาตนเองในการเรียนรู้ การสอ่ื สาร และการทางาน - มีทกั ษะการทางานรว่ มกนั โดยใช้ทักษะกระบวนการกลมุ่ ในการทากิจกรรมเพื่อให้ นกั เรยี นได้ศกึ ษา สอื่ สาร และแลกเปล่ยี นขอ้ มูลรว่ มกันผา่ นการคิดวิเคราะหเ์ กย่ี วกบั โปรแกรม สนทนาออนไลนแ์ ละบล็อก - มที กั ษะการแก้ปญั หาในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม ขณะเขียนจดหมายจากไปรษณยี ์อเิ ล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 202

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 การติดตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ขั้นสรุป ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลนกั เรยี น จากการสังเกตการตอบคาถาม การร่วมกันทาผลงาน และการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องจากผลงานการทาใบงานท่ี 4.1.1 และกจิ กรรมฝึกทักษะของนักเรียน 3. นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ เก่ียวกับการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอินเทอร์เน็ตว่า“ปัจจบุ นั คนนยิ ม สอ่ื สารผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นจานวนมาก เพราะถือว่าเป็นบรกิ ารทช่ี ่วยตอบสนอง ความต้องการในด้านการสื่อสาร เพราะเปน็ การสือ่ สารทีส่ ะดวก รวดเรว็ และสามารถทาได้ หลากหลายรปู แบบ” 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธวี ัด เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - ใบงานที่ 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 ก่อนเรยี น - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ เร่อื ง การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ อยา่ งปลอดภยั - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 7.2 การประเมินระหวา่ ง - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ การจดั กิจกรรม อันพึงประสงค์ 1) โปรแกรมสนทนา - ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 ออนไลน์ 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ ผลงาน 3) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม รายบคุ คล การทางานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม กลุม่ การทางานกลุ่ม 5) คุณ ลักษ ณ ะอัน พึ ง - สงั เกตความมีวินัย ประสงค์ ความรับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ัน ในการทางาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 203

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 การตดิ ตอ่ สอื่ สารผ่านอินเทอร์เน็ต 8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย 2) ใบงานที่ 4.1.1 เร่อื ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ 3) เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อนิ เทอรเ์ น็ต 2) ห้องคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 204

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 การตดิ ต่อสอื่ สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต ใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ คาชแ้ี จง : ให้นกั เรียนบอกโปรแกรมสนทนาออนไลนท์ นี่ กั เรยี นใชเ้ ป็นประจา พร้อมวาดภาพสัญลกั ษณ์ ของโปรแกรมที่นกั เรยี นใช้งาน พร้อมอธิบายว่าโปรแกรมสนทนาออนไลนน์ ้คี ืออะไร และ มปี ระโยชนก์ ับนักเรียนอย่างไรบ้าง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ทีน่ กั เรยี นใช้ คือ ............................................................................................................................................ สญั ลักษณ์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 205

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ใบงานท่ี 4.1.1 เฉลย เร่ือง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ คาช้แี จง : ใหน้ ักเรียนบอกโปรแกรมสนทนาออนไลนท์ ่นี ักเรยี นใช้เป็นประจา พรอ้ มวาดภาพสญั ลกั ษณ์ ของโปรแกรมทน่ี กั เรยี นใช้งาน พร้อมอธบิ ายว่าโปรแกรมสนทนาออนไลน์น้ีคอื อะไร และ มปี ระโยชน์กับนกั เรียนอย่างไรบ้าง โปรแกรมสนทนาออนไลนท์ ่นี กั เรียนใช้ คือ ...................................................................L...i.n...e................................................................... สญั ลกั ษณ์ L…IN……E…ค…อื ……แ…อ…พ…พ…ล…เิ ค…ช…นั่……ท…่ีร…วม…บ……รกิ…า…ร…ร…ะ…ห…ว…า่ …ง…M…e…s…s…a…g…in…g…แ…ล…ะ……V…o…ic…e……O…v…e…r…IP…………… จ…ึง…ท…า…ให…้เ…ก…ิด…เ…ป…็น…แ…อ…พ…พ…ล…ิเ…ค…ช…น่ั …ท…สี่ …า…ม…า…รถ…แ…ช…ท……ส…ร…้า…งก…ล…ุ่ม……ส…ง่ …ข…อ้ …ค…ว…า…ม…ส…ง่ …ร…ูป…ต…่า…งๆ…………… …โท…ร…ค…ยุ …แ…บ…บ…ใ…ช…เ้ …ส…ีย…ง…แ…ล…ะ…โท……รค…ยุ…แ…บ…บ……เห…็น…ห…น……า้ ไ…ด…้ …ซ…่ืงท…า…ใ…ห…ม้ …ีป…ร…ะ…โ…ย…ช…น…์ต…่อ…ก…า…รส…อื่…ส…า…ร…… …เป…็น…อ…ย…า่…ง…ม…า…ก…แ…ม…ว้…่า…อ…ย…ู่ไ…ก…ล…ก…ัน…แ…ค…ไ่ ห……น…ก…ท็ …า…ให…้ใ…ก…ล…ก้ …นั …ม…า…ก…ย…งิ่ …ข…น้ึ ……………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 206

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 การติดต่อสอื่ สารผา่ นอินเทอรเ์ นต็ ....... 9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอื่ ( ตาแหน่ง 10. บันทึกผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น  ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคานวณ)  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 207

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั 1.1 ตัวชวี้ ดั ว 4.2 ป.5/3 ใช้อินเทอร์เนต็ คน้ หาข้อมูล ติดต่อส่ือสาร และทางานรว่ มกัน ประเมิน ความน่าเชอื่ ถือของข้อมูล ป.5/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มมี ารยาท เข้าใจสิทธิและหนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธขิ องผู้อื่น แจง้ ผ้เู ก่ยี วขอ้ งเมอื่ พบข้อมูลหรือบุคคลท่ไี ม่เหมาะสม 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ตได้ถูกต้อง (K) 2. ยกตวั อย่างอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ได้ (K) 3. สืบค้นข้อมูลเกย่ี วกบั แนวทางการป้องกนั การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) 4. เลง็ เหน็ ถงึ ความสาคัญเกย่ี วกับอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การค้นหาข้อมูลในอนิ เทอร์เน็ต และการพิจารณา ผลการคน้ หา - การประเมินความน่าเชื่อถอื ของข้อมลู เช่น เปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบรู ณข์ องข้อมลู จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของข้อมลู ผ้เู ขียน วันท่เี ผยแพรข่ อ้ มลู - อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรม ทางอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 208

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ในปจั จุบันปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตมจี านวนเพ่ิมมากขึ้นเรอ่ื ย ๆ โดยเฉพาะการใช้ คอมพวิ เตอร์และเครอื ข่ายคอมพิวเตอรเ์ ป็นเครื่องมือในการกระทาความผดิ เพ่ือให้ผูอ้ น่ื เกิดความเสยี หาย ความเดอื ดร้อน และเส่อื มเสียชื่อเสียง ดังนนั้ ผใู้ ชง้ านที่ดคี วรปฏิบัตติ นตามแนวทางป้องกันการเกิดปญั หา อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ เพื่อป้องกนั อนั ตรายทีอ่ าจเกิดขึ้นจากการใช้งานอินเทอรเ์ นต็ 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินัย รบั ผิดชอบ - ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ทกั ษะการแลกเปลย่ี นข้อมูล 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทกั ษะการสงั เกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - ทักษะการทางานร่วมกัน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทักษะการสบื คน้ ข้อมูล 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  วธิ ีการสอนโดยเนน้ การจัดการเรียนรู้แบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (problem- based learning) ชั่วโมงที่ 1-2 ขัน้ นา 1. ครูทบทวนการเรียนจากชั่วโมงทแี่ ล้วเกยี่ วกับข้ันตอนการเขียนอีเมลเบ้ืองต้น 2. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคาถามประจาหวั ข้อวา่ “นกั เรียนมวี ิธปี ้องกนั การเกดิ อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ที่อาจจะเกดิ ขน้ึ กบั ตนเองอย่างไร” (แนวตอบ : ตดั การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน ติดตงั้ โปรแกรมสแกนไวรัส ไม่เปิดเผยข้อมลู สว่ นตวั ลงบนเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 209

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้อนิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต ขั้นสอน ขั้นท่ี 1 กาหนดปญั หา 1. ครูตั้งคาถามร่วมกับนักเรียนภายในห้องเรียนว่า“นักเรียนคิดว่าการเกิดปัญหาอาชญากรรม ทางอินเทอรเ์ น็ตมีอะไรบ้าง” (แนวตอบ : นักเรียนตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคาตอบขึน้ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน เชน่ การแพร่ภาพอนาจารทางออนไลน์ การละเมิดลขิ สทิ ธ์ิ เป็นต้น) ขั้นที่ 2 ทาความเขา้ ใจปญั หา 2. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 2-3 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพอื่ ทาความเขา้ ใจเกยี่ วกับ อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ จากหนังสือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง การใช้อินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั ขนั้ ท่ี 3 ดาเนินการศกึ ษาคน้ คว้า 3. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นสืบค้นข้อมลู เกย่ี วกบั การก่ออาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ในรูปแบบตา่ ง ๆ จากหนังสือเรียนหรือเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของตนเอง 4. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นวา่ “ในปัจจบุ นั ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตมีจานวนเพม่ิ มากข้นึ และเพ่ือเปน็ การปอ้ งกันตนเองจากปัญหาดังกล่าวเราจงึ ควรปฏบิ ตั ติ นตามแนวทางป้องกัน การเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ” 5. นกั เรียนศกึ ษาแนวทางการป้องกันการเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ จาก หนังสือเรยี นและแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ เชน่ อินเทอรเ์ น็ต ห้องสมดุ เป็นต้น 6. ครูถามคาถามทา้ ทายการคิดขั้นสูงว่า“นักเรยี นคิดวา่ อะไรเป็นสาเหตทุ ที่ าใหเ้ กิดปญั หา อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเหน็ ของตนเอง โดยคาตอบขน้ึ อยูก่ ับดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน เชน่ เปดิ เผยข้อมลู ส่วนตัวของตนเองลงบนอินเทอร์เน็ต ต้งั รหสั ผ่าน ทคี่ าดเดาได้งา่ ย ดาวนโ์ หลดไฟลห์ รอื ข้อมูลจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ท่ตี ิดไวรัส เปน็ ตน้ ) 7. นักเรียนสงั เกตการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตที่อาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต และแนวทางการป้องกันเม่อื พบปัญหาจากหนงั สือเรียน ขน้ั ท่ี 4 สังเคราะหค์ วามรู้ 8. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอข้อมลู ตามทนี่ ักเรยี นได้สืบค้นเกย่ี วกับหัวข้อดงั ต่อไปนี้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 210

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ 1. ความหมายของอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต 2. การก่ออาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ 3. แนวทางการป้องกันการเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ 9. นกั เรยี นทากจิ กรรมฝกึ ทักษะและใบงานที่ 4.2.1 เรอ่ื ง การป้องกนั การเกดิ อาชญากรรม ทางอนิ เทอร์เนต็ โดยเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสบื ค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ เกี่ยวกบั ปญั หา อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ และแนวทางการป้องกัน ขน้ั ท่ี 5 สรุปและประเมินค่าของคาตอบ 10. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั โดยครูให้ความรู้เพิม่ เตมิ ในส่วนทน่ี ักเรยี นไม่เข้าใจ ขน้ั ที่ 6 นาเสนอและประเมินผลงาน 11. ครปู ระเมนิ ผลนกั เรยี นจากการสังเกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และการบันทึกภายใน สมดุ ประจาตวั 12. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทาใบงานท่ี 4.2.1 และกจิ กรรมฝึกทักษะ Note วตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพื่อใหน้ ักเรยี น - มที กั ษะการสบื ค้นข้อมลู โดยนักเรยี นสามารถสบื ค้นข้อมูลในหัวขอ้ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย และประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล โดยใช้ทักษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ - มีทกั ษะการทางานรว่ มกัน โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการทางานเพื่อให้นักเรียน ได้สือ่ สาร และแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นร่วมกันในการทากจิ กรรม - มีทกั ษะการสงั เกต โดยใหน้ ักเรียนสังเกตการใชอ้ ินเทอร์เนต็ ของตนเองท่อี าจกอ่ ใหเ้ กิดปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต และแนวทางการปอ้ งกนั เม่ือพบปัญหา จากหนงั สอื เรยี น ขน้ั สรปุ นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกบั อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ว่า“ปจั จบุ นั ปญั หาที่เกิดจาก อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตมจี านวนมากขนึ้ เรอื่ ย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อินเทอรเ์ น็ตในทางท่ีไม่เหมาะสม การคดั ลอกผลงานของผู้อน่ื และนามาเป็นผลงานของตนเอง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร เป็นตน้ ดังนัน้ เราจึงควรปฏิบตั ิตนตามแนวทางปอ้ งกนั การเปดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต เพ่ือ ความปลอดภัยจากปัญหาท่ีจะเกิดขึ้นตอ่ ไป” เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 211

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต 7. การวัดและประเมินผล วิธีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน รายการวดั 7.1 การประเมนิ ระหว่างการ - ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 - ใบงานท่ี 4.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ จัดกิจกรรม 1) การปอ้ งกันการเกดิ ปัญหาอาชญากรรม ทางอนิ เทอร์เนต็ 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทางานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 4) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ กลมุ่ การทางานกลุ่ม - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ัย อนั พงึ ประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่น ในการทางาน 8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรือ่ ง การใชอ้ ินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั 2) ใบงานที่ 4.2.1 เร่ือง การป้องกันการเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต 3) เครื่องคอมพวิ เตอร์ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) อินเทอรเ์ นต็ 2) หอ้ งคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 212

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต ใบงานที่ 4.2.1 เรอ่ื ง การป้องกนั การเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ คาชี้แจง : ให้นักเรยี นสบื คน้ ข้อมูลเกีย่ วกบั ปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ และแนวทางการปอ้ งกนั ปญั หาจากแหล่งข้อมลู สารสนเทศตา่ ง ๆ มา 3 ขอ้ ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต แนวทางการปอ้ งกันปญั หา 1. ............................................................. …............................................................. ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………... ………………………………………………………... 2. ............................................................. …............................................................. ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………... ………………………………………………………... 3. ............................................................. …............................................................. ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………... ………………………………………………………... เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 213

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ใบงานท่ี 4.2.1 เฉลย เรื่อง การป้องกนั การเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนสบื ค้นข้อมูล เกย่ี วกับปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต และแนวทางการป้องกนั ปญั หาจากแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศต่าง ๆ มา 3 ขอ้ ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต แนวทางการปอ้ งกันปัญหา 1. ก..า..ร..ล..ะ..เ.ม...ดิ ..ล..ขิ..ส...ทิ ..ธ..ิ์.น...า..ผ..ล..ง..า..น..ข..อ..ง..ผ..ู้อ...นื่ ....... …1..ค...ว.ร..ใ..ส..เ่.ค..ร..ด...ิต..ใ.น...ผ..ล..ง..า..น..ท...ีเ่ .ร..า.น...า..ม..า..ใ.ช..้...... …ไป…ใ…ช…้ปร…ะ…โย…ช…น…์โด…ย…ไม…่ได…ร้ …ับ…อน…ุญ…า…ต………… …2.…ข…อ…อน…ญุ …า…ต…เจ…า้ ข…อ…ง…ผล…ง…าน…ก…่อ…นน…า………… ………………………………………………………… …ผล…ง…าน…ม…า…ใช…้ ……………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………... ………………………………………………………... 2. .ก..า..ร..เ.จ..า..ะ..ร..ะ..บ..บ...เ.ข..า้..ไ..ป..ท...า.ล...า.ย...ร.ะ...บ..บ............ …ต.ัง้..ร..ห..ัส...ผ..า่ ..น..ใ..น..ก..า..ร..เ.ข..้า..ส..ู่เ..ค..ร..ือ่ ..ง..ค..อ..ม..พ...ิว..เ.ต..อ...ร.์ ………คอ…ม…พ…ิวเ…ต…อร…์ ห…ร…อื …น…าข…้อ…ม…ลู ข…อ…งผ…ู้อ…ืน่ …… …ใ…หค้…า…ด…เด…าย…า…ก…แ…ละ…ไ…ม่บ…อ…ก…รห…สั …ก…าร…เข…้า…… ………ออ…ก…ม…าใ…ช…ง้ า…น………………………………… …เค…ร…อ่ื …งค…อ…ม…พวิ…เต…อ…ร…ใ์ ห…ก้ …บั …ผู้อ…่นื …แ…ล…ะ…เป…ล…ี่ยน… ………………………………………………………… …ร…ห…สั ผ…า่ …น…ทกุ…ๆ…2…-…3……เด…อื น……………………… ………………………………………………………... ………………………………………………………... 3. ..ก..า..ร..เ.ผ..ย..แ..พ...ร..ภ่ ..า..พ...น..ิ่ง..ห..ร..ือ..ภ...า..พ..เ..ค..ล..อ่ื..น...ไ.ห...ว.. …ไม..่เ.ข..า้..ไ..ป..ย..งั..เ.ว..็บ...ไ.ซ..ต..ท์...ี่ด..ูไ..ม..่น..า่..ไ..ว..้ว..า.ง..ใ..จ........... ……ล…า…ม…กอ…น…า…จา…ร…ลง…บ…น…อนิ…เ…ทอ…ร…เ์ น…ต็ ………… …แล…ะ…ด…าว…น…์โห…ล…ด…ขอ้…ม…ูล…ห…รือ…เอ…ก…ส…าร…ต…า่ ง…ๆ…… ………………………………………………………… …ค…วร…ด…าว…น…โ์ ห…ล…ด…จา…ก…เว…บ็ …ไซ…ต…ท์ เ่ี…ช…ือ่ ถ…ือ…ได…้ …… ………………………………………………………… …เท…่า…น้นั………………………………………………… ………………………………………………………... ………………………………………………………... เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 214

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต ....... 9. ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ีไ่ ด้รบั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอื่ ( ตาแหนง่ 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน  ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคานวณ)  ด้านอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ญั หาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 215

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การใช้อินเทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 มารยาทในการตดิ ตอ่ สือ่ สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 มารยาทในการตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ต เวลา 2 ช่วั โมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั 1.1 ตัวชีว้ ดั ว 4.2 ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาข้อมลู ตดิ ตอ่ สื่อสาร และทางานร่วมกัน ประเมิน ความนา่ เช่อื ถือของข้อมลู ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มมี ารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าทขี่ องตน เคารพในสิทธิของผู้อนื่ แจง้ ผูเ้ กี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลท่ไี ม่เหมาะสม 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกมารยาทในการติดต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ ได้ (K) 2. สืบคน้ ข้อมลู จากแหลง่ สารสนเทศเก่ียวกบั มารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตได้ (P) 3. เล็งเห็นถึงความสาคัญของมารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอินเทอร์เน็ต (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การค้นหาข้อมลู ในอนิ เทอร์เนต็ และการพจิ ารณา ผลการคน้ หา - การประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมลู เชน่ เปรียบเทียบความสอดคลอ้ ง สมบรู ณ์ของข้อมลู จากหลายแหลง่ แหลง่ ตน้ ตอของข้อมลู ผ้เู ขยี น วนั ท่ีเผยแพร่ข้อมูล - มารยาทในการติดตอ่ ส่ือสารผา่ นอินเทอร์เนต็ (บรู ณาการกับวชิ าท่เี กี่ยวข้อง) 4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ปัจจุบันการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ ได้รับความนิยมเปน็ อย่างมาก เพราะสามารถติดต่อสอื่ สาร กนั ได้อย่างทั่วถึงและท่วั โลก แตก่ ารตดิ ต่อสื่อสารทด่ี นี ้ันจะตอ้ งสื่อสารอยา่ งมีมารยาท ไม่วา่ จะเป็นการใช้ ภาษาทสี่ ภุ าพ การตรวจสอบขอ้ มูลให้ถูกต้องก่อนส่งต่อให้ผอู้ ืน่ และไม่เผยแพรข่ อ้ ความหรอื ภาพ ท่ีผิดกฎหมาย เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 216

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 มารยาทในการตดิ ต่อสื่อสารผา่ นอนิ เทอร์เน็ต 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ัย รับผิดชอบ - ทักษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ทักษะการสื่อสาร 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทกั ษะการสังเกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต - ทกั ษะการทางานร่วมกัน - ทกั ษะการสารวจ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มูล 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  วิธกี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงท่ี 1-2 ข้ันนา ข้นั ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนวา่ “ปจั จุบันนเี้ ราติดต่อสื่อสารกนั ผ่านทาง ช่องทางใดไดบ้ ้าง” (แนวตอบ : โทรศัพทม์ อื ถือ สังคมออนไลน์ตา่ ง ๆ เช่น Facebook Line Twitter เปน็ ตน้ ) 2. ครถู ามคาถามประจาหวั ข้อว่า“การติดต่อสอื่ สารทด่ี ีผา่ นอินเทอร์เน็ตควรทาอยา่ งไร” (แนวตอบ : ใช้ภาษาสภุ าพและถกู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ หลีกเลีย่ งการใช้ภาษาทด่ี ูถูก เหยียดหยามผู้อน่ื ไมเ่ ผยแพร่ข้อความหรอื ภาพทผี่ ดิ กฎหมายหรอื ขดั กับศีลธรรมอันดีงาม ของสังคมไทย) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 217

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 มารยาทในการตดิ ต่อสื่อสารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ต ขัน้ สอน ข้ันที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพื่อใหน้ ักเรยี นสารวจตนเอง เกย่ี วกบั การใช้ช่องทางการติดตอ่ สื่อสารผา่ นทางอนิ เทอร์เน็ต หรอื สบื คน้ ช่องทางที่ นิยมติดต่อสื่อสารในปัจจบุ ันจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง 2. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นได้สอ่ื สารและแลกเปลี่ยนข้อมลู ร่วมกนั ภายในกลุม่ 3. นกั เรยี นศึกษามารยาทในการติดตอ่ สื่อสารผ่านอินเทอรเ์ นต็ จากหนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง การใช้อินเทอรเ์ น็ต อย่างปลอดภยั 4. ครถู ามคาถามท้าทายการคดิ ข้ันสูงของนักเรียนว่า“ถ้าทกุ คนบนโลกไมเ่ ข้าใจเรื่องมารยาท ในการใช้อินเทอร์เน็ตจะเปน็ อย่างไร” (แนวตอบ : การละเมดิ สิทธ์ขิ องผู้อืน่ อาจเกิดการทะเลาะเบาะแวง้ มีการฟ้องร้องหมิ่นประมาท ทาใหผ้ อู้ ืน่ ได้รบั ความเสียหาย ความเดอื ดร้อน หรือเสื่อมเสียช่ือเสียงจากการเผยแพร่ข้อความ และภาพนิ่งที่ผิดกฎหมายหรือขัดกบั ศีลธรรมอันดงี ามของสงั คมไทย) ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 5. นกั เรียนสงั เกตตวั อยา่ งมารยาทในการตดิ ตอ่ ส่ือสารผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เนต็ จากสถานการณ์ ในหนังสือเรยี น 6. นกั เรียนภายในกลมุ่ ร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับตัวอย่างสถานการณ์ จากหนังสอื เรยี น 7. ครอู ธิบายเพิ่มเติมใหน้ ักเรียนฟงั เกยี่ วกับส่ิงท่คี วรกระทาและไม่ควรกระทาในการติดต่อส่ือสาร ผ่านเครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตว่า“ส่งิ ทค่ี วรระวังในการติดต่อสอ่ื สารผา่ นอนิ เทอร์เน็ต คือ คาพูด การเลอื กใชค้ าพดู ควรเลือกใหเ้ หมาะสมตามกาลเทศะ เช่น พูดกบั ผ้ใู หญ่ควรจะมีคาลงท้าย เชน่ สวสั ดีค่ะ ขอบคุณครบั รบกวนสอบถามหนอ่ ยครับ เปน็ ตน้ และสิง่ ไม่ควรกระทา คือ การตาหนิผู้อา่ นโดยใชค้ าหยาบคายทาให้ผอู้ ืน่ เสื่อมเสียชอ่ื เสยี ง” ข้ันท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 8. นกั เรยี นทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสอื เรยี นโดยให้นกั เรียนสรา้ งผังความคิดเกย่ี วกับมารยาท ในการตดิ ต่อสอ่ื สารผ่านอินเทอรเ์ น็ตและบนั ทกึ ลงในสมดุ ประจาตวั 9. ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมานาเสนอผังความคิดเก่ยี วกบั มารยาทในการติดต่อสอ่ื สาร ผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตหนา้ ชน้ั เรยี น พรอ้ มอภิปรายรว่ มกันภายในหอ้ งเรยี น เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 218


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook