หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้อินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 มารยาทในการตดิ ต่อส่ือสารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ Note วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพอ่ื ใหน้ กั เรียน - มที กั ษะการสืบคน้ ข้อมลู เกยี่ วกับการตดิ ต่อสอ่ื สารผา่ นทางอนิ เทอร์เน็ตในปจั จบุ ัน หรอื ในหวั ข้อท่ีไดร้ ับมอบหมาย พร้อมประเมินความน่าเชือ่ ถือของขอ้ มูลโดยใชท้ กั ษะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ - มีทักษะการทางานร่วมกนั โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการสื่อสารและและเปล่ียน ข้อมูลรว่ มกันในการทากจิ กรรม - มีทกั ษะการสารวจ โดยให้นักเรยี นสารวจตนเองเกย่ี วกับการใชช้ ่องทางการตดิ ต่อ สื่อสารผ่านทางอินเทอรเ์ น็ต และการมมี ารยาทของตนเองเมอ่ื ติดต่อสอ่ื สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ต - มที ักษะการสงั เกต โดยสงั เกตแนวทางการปฏบิ ัติตนใหม้ ีมารยาทในการติดต่อ สือ่ สารผา่ นเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตในหนงั สอื เรยี น ขั้นสรุป ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตการตอบคาถาม การทากิจกรรม และสมุดประจาตัว ของนกั เรยี น 2. ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลงานการทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ 3. นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ เนื้อหาโดยภาพรวมเกย่ี วกับมารยาทในการติดตอ่ ส่ือสาร ผ่านอินเทอร์เนต็ ว่า“ในปจั จบุ ันการติดต่อสอ่ื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ตไดร้ บั ความนิยมเปน็ อย่างมาก ดังนนั้ เราจึงควรมีมารยาททด่ี ีในการตดิ ต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเปน็ การใชค้ าพูด การตรวจสอบ ความถกู ต้องกอ่ นทจ่ี ะสง่ ต่อข้อมลู ไม่พูดคยุ หรอื นินทาผู้อื่นจนได้รบั ความเสียหายหรือทาให้ ผูอ้ ื่นเกดิ ความเสือ่ มเสีย เป็นตน้ ” เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 219
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 มารยาทในการตดิ ตอ่ ส่อื สารผา่ นอนิ เทอร์เน็ต 7. การวัดและประเมนิ ผล วิธีวัด เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ รายการวดั 7.1 การประเมนิ ระหว่างการ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 จัดกิจกรรม ผลงาน 1) การนาเสนอผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล การทางานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ กล่มุ การทางานกลุ่ม 4) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่น อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน 8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั 2) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) อินเทอรเ์ นต็ 2) ห้องคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 220
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 มารยาทในการตดิ ตอ่ ส่ือสารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ ....... 9. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชือ่ ( ตาแหนง่ 10. บนั ทึกผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคานวณ) ด้านอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทม่ี ีปญั หาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 221
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 ข้อมูลเพ่ือการตดั สนิ ใจ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 ข้อมลู เพอ่ื การตดั สนิ ใจ เวลา 2 ช่วั โมง 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวช้ีวัด ว 4.2 ป. 5/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือบริการบนอินเทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย เพ่ือแกป้ ัญหาในชวี ติ ประจาวนั 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของการวเิ คราะหข์ ้อมลู ได้ถูกตอ้ ง (K) 2. บอกวิธกี ารนาข้อมลู มาตัดสินใจได้อยา่ งเหมาะสม (K) 3. เขยี นเงือ่ นไขในซอฟตแ์ วร์กระดานคานวณได้อยา่ งถกู ต้อง (P) 4. เล็งเหน็ ประโยชน์ของการนาซอฟตแ์ วร์กระดานคานวณมาใช้ในการตัดสินใจ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา สาระการเรียนรู้แกนกลาง - การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล จะทาให้ได้สารสนเทศเพ่ือใช้ใน การแกป้ ัญหาหรือการตัดสินใจได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ - การใชซ้ อฟต์แวร์หรือบรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล นาเสนอ จะช่วยให้ การแกป้ ัญหาทาได้อย่างรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง และแมน่ ยา 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การพจิ ารณาข้อมูลโดยการจาแนก แยกแยะ จดั เรียง คานวณ แล้วนาเสนอในรูปแบบของกราฟ หรือ แผนภมู ิ เป็นการวิเคราะห์ข้อมลู เพื่อพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้และเหมาะสมท่ีสดุ ซงึ่ ซอฟตแ์ วรท์ ี่นยิ มใช้ เพ่อื รวบรวม ประมวลผล และตัดสินใจ คือ ซอฟตแ์ วรก์ ระดานคานวณ เช่น ไมโครซอฟต์เอ็กเซล กเู กิลชีต เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 222
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 ขอ้ มูลเพ่ือการตดั สนิ ใจ 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1.มีวินัย รับผิดชอบ - ทักษะการสื่อสาร 2.ใฝ่เรยี นรู้ - ทักษะการแลกเปล่ียนข้อมูล 3.มุง่ ม่นั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ทกั ษะการสังเกต 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต - ทักษะการทางานร่วมกนั 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทกั ษะการสบื ค้นขอ้ มลู 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ กี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1-2 ข้ันนา ข้นั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามกระต้นุ ความสนใจของนักเรียนว่า“ข้อมูลทีน่ ักเรยี นพบเห็นในชีวิตประจาวันมีข้อมลู เกย่ี วกบั อะไรบ้าง” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคาตอบข้ึนอย่กู บั ดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน เช่น ข้อมูลเก่ยี วกบั ตัวเลข ขอ้ มลู เกีย่ วกับตัวอักษร ข้อมลู เกยี่ วกับเสยี ง และข้อมลู เก่ยี วกบั ภาพ เป็นต้น) 2. ครูถามคาถามประจาหวั ข้อกับนกั เรยี นวา่ “นักเรยี นคิดว่าการนาขอ้ มลู มาวเิ คราะหม์ ปี ระโยชน์ อย่างไรต่อการตดั สนิ ใจ” (แนวตอบ : การวเิ คราะหข์ ้อมูลเปน็ การพจิ ารณาทางเลือกท่ีเป็นไปได้ท้งั หมด และตดั สินใจ เลอื กทางเลอื กทีเ่ หมาะสมทสี่ ุด) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 223
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 ข้อมูลเพอ่ื การตดั สนิ ใจ ขัน้ สอน ขัน้ ที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. ครถู ามกระตุ้นความคิดของนักเรียนวา่ “การวิเคราะห์ข้อมลู คอื อะไร” (แนวตอบ : การพจิ ารณาข้อมูล การจาแนกข้อมูล การแยกแยะข้อมลู การคานวณข้อมูล การนาเสนอขอ้ มลู ) 2. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสืบค้นขอ้ มลู จากอินเทอรเ์ นต็ โดยใช้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง ภายใตห้ ัวขอ้ เรือ่ ง ซอฟตแ์ วร์ที่นามาชว่ ยในการรวบรวมข้อมูล ประมวลผลข้อมลู และ นาเสนอข้อมลู พร้อมอภิปรายรว่ มกันในห้องเรยี น 3. จากนน้ั ครูยกตวั อย่างซอฟตแ์ วร์ทนี่ ยิ มใช้ในการรวบรวมข้อมลู ประมวลผลขอ้ มูล และ นาเสนอข้อมูลจากบตั รภาพ เรื่อง ซอฟต์แวรก์ ระดานคานวณ ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครอู ธิบายกับนักเรยี นวา่ “กระดานคานวณสามารถใสส่ ูตรหรือฟังก์ชนั คานวณได้” 5. ครูยกตัวอยา่ งฟังก์ชนั ท่ใี ช้ในการตดั สนิ ใจในหนงั สอื เรียน พร้อมอธบิ ายรายละเอยี ดตา่ ง ๆ ของฟังก์ชันเพ่อื ใหน้ ักเรียนเข้าใจมากย่งิ ข้ึนวา่ “ฟงั กช์ นั ท่ีใช้ในการตดั สินใจหรือฟังก์ชันทใ่ี ช้ สาหรับตรวจสอบเง่ือนไข ได้แก่ ฟงั กช์ นั IF โดยการใช้ฟงั ก์ชนั IF นอกจากจะต้องระบุเง่ือนไข ยังต้องระบุข้อมลู อีก 2 สว่ นดว้ ยกนั คือ การระบคุ า่ ทีไ่ ด้เมือ่ เง่อื นไขเป็น“จริง” และคา่ ที่ได้ เมือ่ เง่ือนไขเปน็ “เท็จ” โดยการระบุคา่ ท่ีไดห้ ากเป็นตวั อักษร ผใู้ ช้งานจะต้องใส่เครอ่ื งหมาย อญั ประกาศคร่อมที่ตัวอักษร เพอื่ ใหต้ วั อกั ษรนัน้ สามารถแสดงค่าได้อย่างถกู ต้อง” 6. นกั เรียนสงั เกตการนาข้อมูลมาใชใ้ นการตัดสินใจ จากตัวอย่างประสบการณใ์ นหนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การใช้ อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั และคดิ วเิ คราะหต์ ามอย่างมีเหตผุ ลว่าบุคคลใดควรได้รับแสตมป์ 7. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุม่ ลงมือใชง้ าน Google Sheets และร่วมกนั กรอกขอ้ มลู ตามตัวอย่างจากหนงั สอื เรียน 8. ใหน้ ักเรยี นหายอดรวมการชาระสินคา้ ของลูกค้าแต่ละรายตามวิธีการในหนังสือเรยี น 9. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ กับนักเรยี นวา่ “เพ่ือการหาผลรวมของข้อมลู ท่รี วดเรว็ ให้นกั เรียนหาผลลพั ธ์ ของลกู คา้ คนแรก และนาเมาส์วางมุมลา่ งขวาของเซลจะปรากฏสัญลกั ษณ์รปู บวก จากน้ัน ให้นกั เรียนคลกิ เลือกสัญลักษณร์ ูปบวกและลากลงมาเพอื่ ทาการคัดลอกสูตร และจะปรากฏ ยอดรวมของลูกค้าทั้งหมดทตี่ ารางขอ้ มลู ” เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 224
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้อินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 ข้อมลู เพ่อื การตดั สนิ ใจ 10. ครใู หน้ กั เรียนเพิม่ ฟงั กช์ ันท่ีใชใ้ นการตดั สนิ ใจหรือฟงั ก์ชนั IF เขา้ สูต่ ารางข้อมลู ตามขั้นตอน ในหนังสอื เรียนภายใตเ้ งื่อนไขการตรวจสอบว่า“ยอดชาระเกิน 50 บาทใชห่ รือไม่ ถา้ เงื่อนไข เป็นจรงิ ให้แสดงคาวา่ “Yes” แตถ่ า้ เง่ือนไขเป็นเท็จให้แสดงคาว่า “No” จากนั้นให้นักเรียน ทดลองทาวธิ ลี ัดเพื่อให้ไดผ้ ลลัพธอ์ ยา่ งรวดเร็วตามทก่ี าหนดในหนังสือเรยี น ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 11. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันทากจิ กรรมฝึกทักษะจากหนงั สือเรยี น โดยเลอื กใชโ้ ปรแกรมกระดาน คานวณในการหาคาตอบ และบนั ทกึ ผลในสมุดประจาตัว 12. ครูสมุ่ นกั เรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียน พรอ้ มอภิปรายรว่ มกบั เพ่ือน ในช้ันเรียน Note วตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพอ่ื ใหน้ กั เรยี น - มที ักษะการสบื ค้นข้อมูล โดยนักเรียนสามารถสบื คน้ ข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ โดยใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองภายใตห้ วั ข้อเร่ืองทีน่ ักเรียนไดร้ บั มอบหมาย - มีทกั ษะการสงั เกต โดยนกั เรียนสงั เกตการนาขอ้ มลู มาใชใ้ นการตัดสินใจ จากตัวอย่างสถานการณใ์ นหนังสอื เรยี น และคดิ วเิ คราะห์ตามอยา่ งมเี หตุผล - มีทักษะการทางานร่วมกนั โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ เพื่อให้นกั เรยี นได้ส่ือสาร และแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ร่วมกันจากการทากิจกรรม ข้ันสรปุ ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคาถาม การทากจิ กรรม และสมดุ ประจาตัว ของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลงานการทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ 3. นกั เรียนและครูร่วมกันสรปุ โดยภาพรวมเกย่ี วกับการวเิ คราะห์ข้อมูล และการใช้ซอฟตแ์ วร์ กระดานคานวณเข้ามาช่วยในการตดั สนิ ใจว่า“การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เป็นการพจิ ารณาข้อมูล และตัดสนิ ใจเลือกทางที่เหมาะสมที่สดุ โดยซอฟตแ์ วร์ทน่ี ยิ มใชใ้ นการรวบรวม ประมวลผล เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 225
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 ข้อมูลเพื่อการตดั สนิ ใจ และตัดสนิ ใจ คือ ซอฟต์แวร์กระดานคานวณ เชน่ ไมโครซอฟต์เอ็กเซล กูเกิลชีต เป็นต้น เพราะมีสว่ นช่วยในการอานวยความสะดวกในการใชง้ าน” 7. การวัดและประเมินผล วิธวี ดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน รายการวัด - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 7.1 การประเมินระหว่างการ ผลงาน จดั กจิ กรรม 1) การนาเสนอผลงาน การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล การทางานรายบุคคล 3) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 กลุ่ม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 อนั พึงประสงค์ ความรับผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน 8. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง การใชอ้ ินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย 2) บัตรภาพ เร่ือง ซอฟต์แวร์กระดานคานวณ 3) เครื่องคอมพิวเตอร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อินเทอร์เน็ต 2) ห้องคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 226
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 ขอ้ มลู เพอ่ื การตดั สนิ ใจ บตั รภาพ เรื่อง ซอฟต์แวร์กระดานคานวณ ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล กเู กลิ ชีตเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 227
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 ขอ้ มูลเพือ่ การตดั สนิ ใจ ....... 9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ( ตาแหนง่ 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน ดา้ นความรู้ ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วิทยาการคานวณ) ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 228
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 การนาเสนอข้อมูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 การนาเสนอข้อมลู และการทาแบบสารวจความคิดเห็นออนไลน์ เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด 1.1 ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื บริการบนอนิ เทอรเ์ น็ตที่หลากหลาย เพอื่ แก้ปญั หาในชวี ติ ประจาวัน 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวิธีการนาเสนอข้อมูลสารสนเทศโดยใช้ blog ได้อย่างถกู ต้อง (K) 2. อธบิ ายขน้ั ตอนการสรา้ งแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลนไ์ ด้ (K) 3. เขียนบล็อกจากหัวข้อท่ไี ด้รบั มอบหมายได้ถกู ต้อง (P) 4. สรา้ งแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลนไ์ ด้ (P) 5. เลง็ เหน็ ประโยชน์ของการเขียนบล็อกและการสร้างแบบสารวจความคดิ เหน็ ออนไลน์ (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง - การใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล นาเสนอ จะช่วยให้ การแกป้ ัญหาทาได้อย่างรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และ แม่นยา - ตวั อย่างปญั หา เชน่ ถา่ ยภาพ และสารวจแผนท่ี ในท้องถ่นิ เพ่ือนาเสนอแนวทางในการจัดการพ้ืนที่ วา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ทาแบบสารวจความคดิ เหน็ ออนไลน์ และวิเคราะห์ขอ้ มูล นาเสนอขอ้ มลู โดย การใช้ blog หรอื web page เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 229
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 การนาเสนอขอ้ มลู และการทาแบบสารวจความคดิ เหน็ ออนไลน์ 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด เม่ือต้องการเกบ็ ข้อมูลจากคนจานวนมาก เป็นสิง่ ท่ีสามารถทาไดย้ าก และในบางครั้งก็ไม่สามารถ ทาการสารวจได้ครบทุกคน เนื่องจากบริเวณทที่ าการสารวจมคี วามกว้างและมีความซบั ซ้อน ดังนน้ั จึงควรมี การทาแบบสารวจความคิดเห็น โดยใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตเข้ามามีสว่ นเก่ียวข้อง เพื่อทาการสารวจทคี่ รอบคลุม ชดั เจน และแม่นยา 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ - ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้ - ทักษะการแลกเปลีย่ นข้อมลู 3. ม่งุ มั่นในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทกั ษะการสงั เกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - ทักษะการทางานร่วมกนั 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทกั ษะการสืบค้นข่อมูล - ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ ีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงท่ี 1 ขัน้ นา ข้นั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามกระต้นุ ความคิดของนกั เรยี นว่า“ปจั จบุ ันการนาเสนอขอ้ มูลมวี ธิ ีการอย่างไรบ้าง” (แนวตอบ : การนาเสนอข้อมูลมีหลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ การนาเสนอข้อมลู ด้วยข้อความ รปู ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง วดิ โี อ เป็นตน้ ) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 230
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้อนิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การนาเสนอข้อมลู และการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ 2. ครูอธิบายกับนักเรียนเพือ่ เชอ่ื มโยงเขา้ ส่บู ทเรียนว่า“ปัจจุบนั มกี ารนาเสนอข้อมูลและ สารสนเทศทน่ี า่ สนใจ คือ การนาเสนอข้อมูลดว้ ยบลอ็ ก (Blog) ซงึ่ บล็อกเป็นคารวมมาจาก คาว่าเว็บบลอ็ กซง่ึ เป็นรปู แบบของเว็บไซตป์ ระเภทหนงึ่ ซ่ึงผเู้ ขียนสามารถบันทึกสง่ิ ท่ีตอ้ งการ นาเสนอไดง้ ่าย สะดวก และรวดเรว็ ” ขัน้ สอน ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Exploration) 1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพ่อื ศึกษาข้อมลู เกยี่ วกบั ความหมายของบล็อก จากหนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่อื ง การใช้อนิ เทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั หรอื สืบคน้ จากอนิ เทอรเ์ น็ต ในเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 2. ครถู ามคาถามประจาหัวข้อกับนักเรยี นวา่ “การนาเสนอข้อมูลด้วยบล็อกมปี ระโยชน์อย่างไร” (แนวตอบ : สามารถนาเสนอได้หลากหลายรปู แบบ ใช้งานง่าย เผยแพรข่ ้อมลู ได้อย่างรวดเร็ว) 3. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันศึกษาวธิ ีการเขียนบล็อกจากหนังสือเรยี นและอินเทอรเ์ นต็ เรมิ่ ตั้งแต่ การสมัครบัญชขี อง Gmail เพอื่ นาไปสรา้ ง Blog จนถงึ การได้ลิงคส์ าหรบั เผยแพร่ข้อมูล ข้นั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครูอธิบายกบั นักเรียนว่า“ในการจดั ทา Blog น้นั สง่ิ ที่ควรคานงึ อยู่เสมอ คือ มารยาททีค่ วร ปฏบิ ตั ิในการเขียนบล็อก ไดแ้ ก่ ไม่คัดลอกข้อความทั้งหมดของผู้อน่ื มาใช้งาน ควรอ้างองิ จากแหลง่ ข้อมลู ทน่ี ามาใชง้ านอยู่เสมอ และก่อนนามาเผยแพรค่ วรตรวจสอบความถูกต้อง ของผลงานกอ่ นทุกคร้ัง เป็นต้น” 5. ครมู อบหมายหัวข้อเรื่องในการเขียนบลอ็ กให้แก่นักเรยี น คือ สถานทีท่ ่องเที่ยวทน่ี ่าสนใจ โดยให้แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมาจบั สลากหวั ข้อภมู ิภาคในการเขียนบลอ็ ก ดังนี้ หวั ข้อท่ี 1 ภาคเหนือ หวั ข้อที่ 2 ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ หวั ข้อท่ี 3 ภาคกลาง หัวข้อที่ 4 ภาคตะวันออก หัวขอ้ ที่ 5 ภาคตะวนั ตก หวั ขอ้ ที่ 6 ภาคใต้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 231
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การนาเสนอข้อมลู และการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ 6. เปดิ โอกาสให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ไดเ้ ขียนบล็อกอย่างอสิ ระตามขัน้ ตอนจากหนงั สือเรยี น 7. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอบล็อกเกี่ยวกับสถานที่ท่องเท่ยี วทน่ี ่าสนใจตามภูมภิ าค ท่ไี ดร้ บั มอบหมายหน้าช้ันเรยี น 8. จากนั้นครถู ามนักเรียนวา่ “ถา้ จะสารวจความสนใจในการไปทอ่ งเทย่ี วของนักเรยี นท้ังโรงเรยี น ตามภมู ภิ าคท่นี ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ไดน้ าเสนอจะมวี ธิ กี ารอย่างไรบ้าง” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคดิ เหน็ ของตนเอง โดยคาตอบขึน้ อยู่กบั ดลุ ยพนิ จิ ของ ครูผสู้ อน เชน่ การทาแบบสอบถามแจกนักเรยี นทั้งโรงเรยี น สัมภาษณค์ วามคดิ เหน็ ของ นกั เรียนภายในโรงเรียน เปน็ ตน้ ) 9. ครอู ธบิ ายกบั นักเรียนวา่ “ปัจจบุ ันไดม้ กี ารทาแบบสารวจออนไลน์ทจ่ี ะทาใหส้ ามารถสารวจ และเกบ็ ข้อมลู ได้ครบตามจานวน และไม่ซบั ซ้อน ทาใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ถี่ ูกต้อง ไมค่ ลาดเคล่อื น” ชัว่ โมงที่ 2 ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 10. นักเรียนศึกษาตัวอยา่ งการทาแบบสารวจความคิดเห็นออนไลน์โดยใช้ Google Form จากสถานการณ์ในหนงั สือเรยี นทีละขน้ั ตอนตงั้ แต่การเข้าสู่ Google Form การสรา้ ง แบบสารวจออนไลน์ การเพิ่มคาถาม และการจัดส่งแบบสารวจ เป็นตน้ ซงึ่ นักเรยี น อาจจะศึกษาเพิ่มเตมิ ไดจ้ ากอินเทอร์เนต็ 11. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สร้างแบบสารวจออนไลน์เก่ียวกับบล็อกของสถานท่ที ่องเท่ียวท่ีนักเรียน ไดเ้ ผยแพรล่ งบนอนิ เทอรเ์ นต็ 12. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมกบั นกั เรียนวา่ “เมอ่ื วเิ คราะหผ์ ลสารวจเสร็จแล้ว สามารถเผยแพรข่ ้อมูล ผ่านทางบล็อกหรอื เวบ็ เพจ เพ่อื ให้รบั ทราบผลสารวจรว่ มกนั ” 13. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ โดยใหน้ กั เรียนจดั ทาแบบสารวจออนไลน์ เกยี่ วกับโรงเรยี นและสรปุ ผล โดยให้นกั เรียนบอกขน้ั ตอนการสรา้ งแบบสารวจ จากนั้น บนั ทึกผลการทาแบบสารวจลงในสมุดประจาตวั เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 232
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การนาเสนอขอ้ มูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ Note วัตถปุ ระสงค์ของกิจกรรมเพือ่ ให้นักเรยี น - มที ักษะการสืบคน้ ข้อมูล เกี่ยวกบั หัวขอ้ เรอ่ื งที่ไดร้ ับมอบหมายโดยใชก้ ารคิด วิเคราะห์ในการพิจารณาถึงความถกู ต้องของขอ้ มูลกอ่ นนามาใช้งาน - มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีในการเขยี นบลอ็ กและจัดทาแบบสารวจ ความคิเห็นออนไลนเ์ พื่อพัฒนาตนเองและสังคมในดา้ นการเรยี นรู้ การส่ือสาร และการทางาน - มที กั ษะการทางานรว่ มกนั โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการสื่อสาร และแลกเปลี่ยน ข้อมลู รว่ มกัน - มีทกั ษะการสังเกตตัวอย่างการเขียนบล็อกและการจดั ทาแบบสารวจความคดิ เห็น ออนไลน์จากหนงั สือเรียนและนามาปรับใชใ้ นการเรียนได้อย่างเหมาะสม ข้ันสรุป ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูนานักเรียนเล่นเกม Mail Blog Chat Game ในหนังสือเรยี น พร้อมบอกกติกาการเล่นเกม ท่ชี ัดเจนเพื่อให้นักเรยี นเกดิ ความเข้าใจ จากน้นั ใหน้ ักเรียนประเมินผลตนเองหลังเรียนจบหน่วย ให้ตรงกับระดับความสามารถของตนเอง 2. ครปู ระเมินผลนกั เรียน โดยการสงั เกตการตอบคาถาม การทากจิ กรรม และสมุดประจาตัว ของนักเรยี น 3. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทากิจกรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสือเรยี น 4. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เก่ียวกับลาดับขั้นตอนการเขียนบล็อกและการสรา้ งแบบสารวจ ความคดิ เห็นออนไลน์ 5. นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั 6. นกั เรยี นทากจิ กรรมเสริมสร้างการเรียนรู้จากหนังสือเรียน และทาชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง การใช้อนิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั โดยให้นักเรียนตอบคาถามใหถ้ กู ตอ้ ง และนามาสง่ ในช่วั โมงถัดไป เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 233
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การนาเสนอข้อมลู และการทาแบบสารวจความคดิ เหน็ ออนไลน์ 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวดั วิธีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมินระหว่าง - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 การจดั กิจกรรม ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ 1) การนาเสนอผลงาน 2) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล การทางานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 กลมุ่ การทางานกลุ่ม คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ 4) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินัย อันพงึ ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่ัน ในการทางาน 7.2 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง - แบบทดสอบหลังเรียน หลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ ินเทอร์เน็ต - ตรวจช้ินงาน/ภาระงาน - แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ 2 อย่างปลอดภัย (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์ - การประเมนิ ช้นิ งาน /ภาระงาน (รวบยอด) เรือ่ ง การใช้อินเทอร์ เน็ตอยา่ งปลอดภัย 8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย 2) เครื่องคอมพิวเตอร์ 3) สลากหัวข้อภมู ิภาคในการเขียนบล็อก 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อนิ เทอร์เนต็ 2) ห้องคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 234
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การนาเสนอข้อมูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ ชนิ้ งาน/ภาระงาน(รวบยอด) เร่อื ง การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภัย คาชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามให้ถูกต้อง 1. ไปรษณยี ์อิเล็กทรอนกิ ส์คืออะไร ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ 2. อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตคืออะไร ............................................................................................................................ ............................................ ............................................................................................................................. ........................................... 3. จงบอกมารยาทในการติดตอ่ ส่ือสารผ่านอินเทอรเ์ นต็ มา 3 ข้อ ............................................................................................................................. ........................................... ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ 4. จงหาผลรวม และเขียนฟังก์ชันท่ีใชใ้ นการตดั สินใจจากตารางขอ้ มูลที่กาหนดให้ A BCDEFGH 1 Student Day1 Day2 Day3 Day4 Day5 Total Check 2 1 15 20 15 10 25 ? ? หาผลรวม =………………………………… “จงตรวจสอบว่ายอดรวมเงินออมมากกวา่ 100 บาทใช่หรอื ไม่ ถ้าใชใ่ ห้ใส่เง่ือนไขวา่ Yes แต่ถ้าไม่ใช่ใหใ้ ส่เงือ่ นไขวา่ No” ฟังก์ชนั ท่ีใช้ในการตดั สนิ ใจ =……….(............................... , ……………… , ………………) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 235
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั เฉลย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การนาเสนอขอ้ มลู และการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ ชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรือ่ ง การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง 1. ไปรษณยี ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์คอื อะไร .............บ...ร..ิก..า..ร..ร..ับ...ส..ง่..จ..ด...ห..ม...า..ย..ผ...่า..น..เ.ค...ร..ือ..ข...่า.ย...อ..ิน...เ.ท...อ..ร..์เ.น...็ต..จ...า..ก..บ...ุค..ค...ล..ห...น..งึ่..ไ..ป..ย...ัง.บ...คุ..ค...ล..อ...นื่ ..ๆ. ..ซ...ึ่ง..ส..า..ม..า..ร..ถ...ส..่ง..ไ.ด...้ ..... .............ท...ัง้..ข..้อ...ค..ว..า..ม....เ.ส...ีย..ง...ร..ูป...ภ..า..พ....ว..ีด...ีโ.อ....แ..ล...ะ..ไ..ฟ..ล...ต์ ..่า..ง..ๆ................................................................................... 2. อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตคอื อะไร .............ผ..้ทู...่ใี..ช..ค้..อ...ม..พ...วิ..เ.ต...อ..ร..์แ..ล...ะ..เ.ค...ร..อื ..ข..่.า.ย...ค..อ...ม..พ...ิว..เ.ต...อ..ร..เ์.ป...น็...เ.ค..ร..ื่อ...ง.ม...ือ..ใ..น..ก...า..ร..ก..ร..ะ..ท...า..ค..ว..า..ม...ผ..ดิ ...เ..พ..่ือ...ใ.ห...้ผ..อู้...น่ื ............ .............เ.ก...ิด..ค...ว..า..ม..เ.ส...ยี ..ห...า..ย..ห...ร..ือ..เ.ส...ื่อ..ม...เ.ส..ยี...ช..อื่..เ..ส..ีย..ง............................................................................................... 3. จงบอกมารยาทในการติดต่อสื่อสารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ มา 3 ข้อ ................1.....ใ.ช...ภ้ ..า..ษ...า..ใ.ห...้ถ..ูก...ต..้อ...ง.ต...า..ม..ห...ล..กั...ไ.ว..ย...า..ก..ร..ณ...์......................................................... ................................ ................2....ไ.ม...พ่ ..ดู...ค..ยุ...ห..ร..อื...น..นิ...ท..า..ผ...ู้อ..นื่...ใ.ห...้ไ.ด...้ร..ับ...ค..ว..า..ม..เ..ส..ยี..ห...า..ย..ห...ร..ือ..เ..ส..่ือ..ม...เ.ส...ีย..ช..่ือ...เ.ส..ยี...ง........................................... ................3....ไ.ม...เ่ .ผ..ย...แ..พ...ร..่ข..อ้..ค...ว..า..ม....ร..ปู ..ภ...า..พ...ท..ี่ผ...ดิ ..ก...ฏ..ห...ม..า..ย..................................................................................... 4. จงหาผลรวม และเขียนฟงั กช์ นั ทีใ่ ช้ในการตดั สนิ ใจจากตารางข้อมูลที่กาหนดให้ A BCDEFGH 1 Student Day1 Day2 Day3 Day4 Day5 Total Check 2 1 15 20 15 10 25 ? ? หาผลรวม =……B2…+…C…2+…D…2…+…E2…+…F…2 … “จงตรวจสอบวา่ ยอดรวมเงินออม มากกวา่ หรอื เท่ากับ 100 บาทใชห่ รือไม่ ถ้าใชใ่ ห้ใสเ่ ง่ือนไขวา่ Yes แต่ถ้าไมใ่ ช่ใหใ้ ส่เงอ่ื นไขวา่ No” ฟงั ก์ชนั ทีใ่ ชใ้ นการตดั สินใจ =……IF….(.........G..2...≥....1..0..0......... , …“…Ye…s…”…… , …“…N…o…”……) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 236
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 การนาเสนอขอ้ มูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาชี้แจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา 2 ความคดิ สร้างสรรค์ 3 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............/................./................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 237
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 การนาเสนอขอ้ มลู และการทาแบบสารวจความคดิ เหน็ ออนไลน์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อนื่ 3 การทางานตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมีน้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ............/.................../................ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 238
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การใช้อนิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 การนาเสนอขอ้ มูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน การแสดง การทางาน การมี ความ ตามทไ่ี ดร้ บั ลาดับที่ ชื่อ–สกุล คิดเหน็ การยอมรับ มอบหมาย ความมนี า้ ใจ ส่วนรว่ มใน รวม ของนักเรียน ฟังคนอื่น การปรับปรุง 15 คะแนน ผลงานกลมุ่ 321321321321321 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............./.................../............... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) 239
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การนาเสนอขอ้ มลู และการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ ้าน 32 1 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อ กษตั ริย์ โรงเรยี น 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา 3. มวี ินัย รับผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทีเ่ กีย่ วกบั สถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามทีโ่ รงเรยี นจดั ขนึ้ 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถี่ ูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏิบตั ิในสง่ิ ท่ถี ูกตอ้ ง 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั 6. ม่งุ มน่ั ในการทางาน มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั 7. รักความเป็นไทย 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้ 8. มจี ิตสาธารณะ 4.2 ร้จู กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชอื่ ฟงั คาส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ตัง้ ใจเรยี น 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ให้งานสาเร็จ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 รู้จกั การดูแลรกั ษาทรพั ย์สมบตั ิและสิ่งแวดล้อมของหอ้ งเรยี นและ โรงเรยี น ลงชอื่ ..................................................ผู้ประเมนิ ............/.................../................ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 240
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้อินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การนาเสนอข้อมูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างคร้ัง 30–40 พอใช้ ต่ากว่า 30 ปรับปรงุ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 241
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การนาเสนอข้อมูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ แบบประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ว 4.2 ป. 5/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตค้นหาขอ้ มูล ตดิ ต่อสื่อสารและทางานร่วมกัน ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมูล ป. 5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บริการ บนอินเทอรเ์ นต็ ที่หลากหลาย เพือ่ แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน ป. 5/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั มมี ารยาท เขา้ ใจสิทธแิ ละหน้าทข่ี องตน เคารพสิทธขิ อง ผู้อ่ืน แจ้งผูเ้ ก่ยี วข้อเมื่อพบข้อมูลหรอื บุคคลทไ่ี มเ่ หมาะสม รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดับคุณภาพ) ระดับ ประเมิน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) คณุ ภาพ 1.ไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์ บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ ไม่สามารถบอก ไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ไปรษณียอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ ความหมายของ ดมี าก ดี ได้ดมี าก ไดด้ ี ได้ค่อนข้างดี ไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ พอใช้ ปรบั ปรุง ได้ 2. อาชญากรรมอินเทอรเ์ น็ต บอกความหมาย บอกความหมาย บอกความหมาย ไม่สามารถบอก ของอาชญากรรม ของอาชญากรรม ของอาชญากรรม ความหมายของ อนิ เทอร์เนต็ ไดด้ มี าก อนิ เทอรเ์ น็ตไดด้ ี อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ อาชญากรรม คอ่ นข้างดี อนิ เทอร์เน็ตได้ 3. มารยาทในการตดิ ต่อ บอกมารยาทในการ บอกมารยาทในการ บอกมารยาทในการ ไมส่ ามารถบอกมารยาท ส่อื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ติดตอ่ ส่อื สารผ่าน ติดต่อสือ่ สารผ่าน ติดต่อสอ่ื สารผ่าน ในการตดิ ตอ่ สือ่ สาร อนิ เทอรเ์ น็ตได้ 3 ขอ้ อนิ เทอรเ์ น็ตได้ 2 ขอ้ อินเทอร์เน็ตได้ 1 ขอ้ ผ่านอินเทอร์เนต็ ได้ 4. หาผลรวมและเขียน หาผลรวมและเขียน หาผลรวมและเขียน หาผลรวมและเขยี น ไม่สามารถหาผลรวม ฟังกช์ ันในการตดั สินใจ ฟังก์ชันในการตดั สนิ ใจ ฟงั ก์ชนั ในการตดั สินใจ ฟังกช์ นั ในการตัดสนิ ใจ และเขียนฟังกช์ นั ในการ ได้ดมี าก ไดด้ ี ไดค้ อ่ นขา้ งดี ตัดสนิ ใจได้ 5. ความสมบรู ณข์ องผลงาน ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถว้ น สมบูรณ์ดมี าก สมบรู ณค์ ่อนขา้ งดี สมบรู ณ์ดเี ป็นบางส่วน สมบูรณน์ ้อย 6. สง่ งานตรงเวลา สง่ ภาระงานภายในเวลา สง่ ภาระงานชา้ กวา่ ส่งภาระงานช้ากว่า สง่ ภาระงานช้ากว่า กาหนด 2 วัน กาหนดเกนิ 3 วนั ขน้ึ ไป ทีก่ าหนด กาหนด 1 วนั เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 20 - 24 ดมี าก 15 - 19 ดี 9 - 14 พอใช้ 1 - 8 ปรับปรงุ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 242
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การใช้อินเทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 การนาเสนอข้อมูลและการทาแบบสารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ 9 ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ................................. ................................ ) ขอ้ เสนอแนะ ....... ลงชื่อ ( ตาแหน่ง 10. บันทึกผลหลงั การสอน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่มี ีปญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 243
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275