212 รูปสิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม อิม�สทฺทปทม�ล� (น)ี้ อติ ถีลิงค์ วิภตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. อย ำ อมิ � อมิ �โย ทุติย�. อมิ ำ อิม� อิม�โย ตติย�. อิม�ย อมิ �หิ อมิ �ภิ จตตุ ถ.ี อสสฺ �ย อมิ สิ ฺส�ย อสสฺ � อมิ สิ สฺ � อิม�ย อมิ �สำ อิม�ส�นำ ปญั จม.ี อมิ �ย อมิ �หิ อมิ �ภิ ฉฏั ฐ.ี อสฺส�ย อิมิสสฺ �ย อสสฺ � อมิ สิ สฺ � อิม�ย อิม�สำ อิม�ส�นำ สัตตมี. อสสฺ ำ อิมิสสฺ ำ อมิ สิ ฺส� อิม�ย ำ อิม�สุ ๒๒๒. อิมสสฺ ’ิ ท’ม-ํ สิสุ นปํุสเก. อํสสิ ุ ในเพร�ะอำและสวิ ิภัตต ิ ท. อทิ ำ อ.ก�รแปลงเป็น อิท ำ อมิ สฺส แห่งอมิ ศพั ท ์ วตตฺ มานสฺส อันเป็นไปอยู่ นปุำสเก ในนปุงสกลิงค์ สวภิ ตฺติสฺส อันเป็นไปกบั ดว้ ยวิภตั ต ิ โหติ ย่อมม ี วา บ้�ง. (เพร�ะอแำ ละสวิ ิภตั ต ิ ในนปงุ สกลิงค ์ แปลง อิมศัพทก์ บั วิภัตติ เปน็ อทิ ำ บ้�ง) สตู รนี้ม ี ๔ บท คอื อิมสสฺ , อทิ ำ, อสำ ิสุ, นปสุำ เก. เป็น อาเทสวิธิสตู ร. ท�ำ ตวั รูป อิทํ ศัพท์เดมิ คือ = อิม หลงั อิม ลง สิ ปฐม�วิภตั ติ อมิ + สิ = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. เพร�ะสวิ ภิ ัตต ิ แปลง อมิ กับ ส ิ เปน็ อิท ำ อิม+สิ อิท ำ = อมิ สฺสิทมำสสิ ุ นปสำุ เก. ส�ำ เร็จรูปเปน็ อทิ .ํ (อิท ำ จติ ตฺ ำ วิโรจติ. อ.จติ ดวงนี้ ยอ่ มรุ่งโรจน)์ ทำ�ตวั รปู อมิ ํ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = อิม = ลงิ ฺคตฺเถ ป€มา. หลงั อมิ ลง ส ิ ปฐม�วิภัตต ิ อมิ + สิ = สึ. = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั จ�กอก�รนั ต ์ แปลง สิ เปน็ อ ำ อมิ + สิ อ ำ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ หฺ ิฯ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. แยกพยญั ชนะ มฺ ออกจ�กสระ อ อมิ ฺ อ + อำ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ อิมฺ อ + อ ำ นำ�พยญั ชนะ ม ฺ ไปประกอบกบั สระ อ อิม ำ สำ�เร็จรูปเป็น อิมํ. (อิมำ จิตฺตำ. อ.จติ ดวงน)้ี ทำ�ตวั รูป อิมาน ิ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = อิม หลัง อมิ ลง โย ปฐม�วิภัตติ อิม + โย = ลิงฺคตเฺ ถ ป€ม�. หลังจ�กอก�รันต ์ แปลง โย เป็น นิ อมิ + โย นิ = อโต นิจจฺ .ำ แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ อิมฺ อ + นิ = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย.
กัณฑ์ ] สพั พนาม ไตรลิงค์ 213 เพร�ะโยที่แปลงเป็นนิแล้ว ทฆี ะอเป็นอ� อมิ ฺ อ อ� + น ิ = โยส ุ กตนกิ �รโลเปสุ ทีฆำ. น�ำ พยัญชนะ ม ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อมิ �น ิ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. ส�ำ เร็จรูปเปน็ อิมาน.ิ (อมิ �น ิ จิตฺต�นิ. อ.จติ ท.เหล่�น)ี้ ทำ�ตวั รูป อทิ ํ ศัพท์เดมิ คอื = อมิ หลัง อิม ลง อำ ทุตยิ �วภิ ัตต ิ อิม + อ ำ = กมฺมตเฺ ถ ทุติย�. เพร�ะอวำ ภิ ตั ต ิ แปลง อมิ กบั อำ เป็น อิทำ อมิ +อำ อิทำ = อิมสฺสทิ มสำ สิ ุ นปำุสเก. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ อิทํ. (อิทำ ปปุ ฺผ ำ ปสฺส. อ.ท่�น จงด ู ซง่ึ ดอกไม้น้ี) หม�ยเหต:ุ - อิมศัพทท์ ่ีเป็นนปงุ สกลิงค ์ ตัง้ แต่ตติย�วิภตั ตจิ นถึงสตั ตมวี ิภตั ติ มรี ูปเหมอื นอิมศัพทใ์ นปงุ ลิงค์ วภิ ัตต ิ เอกวจนะ อมิ สทฺทปทม�ล� (น)้ี นปงุ สกลิงค์ พหุวจนะ ปฐม�. อิทำ อมิ ำ อมิ �นิ ทตุ ิย�. อทิ ำ อิม ำ อมิ �นิ ตตยิ �. อเนน อิมนิ � เอห ิ เอภิ อเิ มห ิ อิเมภิ จตตุ ถี. อสฺส อิมสฺส เอส ำ เอส�นำ อเิ มสำ อเิ มส�นำ ปัญจม.ี อสฺม� อิมสมฺ � อิมมฺห� เอหิ เอภ ิ อิเมหิ อิเมภิ ฉฏั ฐ.ี อสฺส อิมสฺส เอส ำ เอส�น ำ อเิ มสำ อเิ มส�นำ สตั ตมี. อสมฺ ึ อมิ สมฺ ึ อิมมหฺ ิ เอสุ อเิ มสุ ๒๒๓. อมสุ สฺ โม สํ. สิมฺห ิ ในเพร�ะสิวภิ ตั ต ิ โม อ.มอกั ษร อมุสฺส ของอมุศัพท์ อนปำสุ กสสฺ อนั ไม่ใชน่ ปงุ สกลิงค ์ อาปชฺชเต ย่อมถงึ สํ ซงึ่ คว�มเป็น ส วา บ้�ง. (เพร�ะสวิ ภิ ัตติ แปลง มอักษรของอมศุ พั ทท์ ีไ่ มใ่ ช่นปุงสกลิงค ์ เป็น ส บ้�ง) สูตรน้ีม ี ๓ บท. เป็น อาเทสวิธิสตู ร. ด้วยก�รแบง่ สูตรโดยเว้นตวั ทต่ี �มม�(วิน�ธิก�รโยควภิ �ค)ว่� “อมสุ สฺ โม ส”ำ เพร�ะกอักษร แปลง ม ของ อมุกศพั ท์ เป็น ส ได ้ อุท�หรณว์ ่� อสุโก เป็นตน้ . ทำ�ตัวรูป อสุ ศัพทเ์ ดมิ คอื = อมุ = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. หลัง อมุ ลง สิ ปฐม�วิภัตติ อม ุ + ส ิ = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = อมสุ ฺส โม ส.ำ แยกพยญั ชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ ุ อม ฺ อุ + สิ เพร�ะสวิ ภิ ตั ติ แปลง มฺ ของ อม ุ เป็น สฺ อ ม ฺ สฺ อ ุ + ส ิ
214 รูปสทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม ลบ สิวิภตั ต ิ อส ฺ อุ + ส ิ = เสสโต โลป ํ คสปิ .ิ น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ อ ุ อส ุ = นเย ปรำ ยุตฺเต. สำ�เรจ็ รูปเปน็ อสุ. (อสุ ร�ช�. อ.พระร�ช� พระองค์โนน้ ) ๒๒๔. สพพฺ โต โก. โก อ.กอ�คม โหติ ยอ่ มลง ปรํ ในเบ้อื งหลงั สพฺพโต (สพพฺ นามโต) จ�กสพั พน�มท้งั ปวง วา บ้�ง. (หลงั จ�กสัพพน�มทั้งปวง ลง กอ�คม บ�้ ง) สตู รนม้ี ี ๒ บท. เปน็ อาคมวิธสิ ตู ร. สพฺพโตศพั ท์ : มอี รรถ อวุตตฺ สมุจฺจย รวบรวมอรรถท่ีไมไ่ ดก้ ล่�วไว ้ ในสูตร คือ หลงั จ�กศพั ทท์ ีไ่ ม่ใช่สพั พน�ม มี หีนศพั ทเ์ ป็นต้น ก็ส�ม�รถลง กอ�คมได ้ เชน่ หีนโก เปน็ ตน้ . ทำ�ตัวรูป อสโุ ก ศัพท์เดมิ คอื = อมุ = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. หลงั อม ุ ลง สิ ปฐม�วภิ ัตติ อม ุ + สิ = สพฺพโต โก. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั อมุ ลง กอ�คม อมุก + สิ = อมสุ ฺส โม สำ วิน�ธิก�รโยควิภ�ค. = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. แยกพยัญชนะ มฺ ออกจ�กสระ อ ุ อม ฺ อุ ก + สิ = โส. = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะก แปลง มฺ ของ อมุ เปน็ สฺ อ ม ฺ สฺ อุ ก + สิ = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทมิ ฺหฯิ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ อุ อสกุ + สิ หลังจ�กอก�รนั ต์ แปลง ส ิ เป็น โอ อสกุ + สิ โอ แยกพยญั ชนะ ก ฺ ออกจ�กสระ อ อสุก ฺ อ + โอ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ อสุก ฺ อ + โอ นำ�พยัญชนะ กฺ ไปประกอบกบั สระ โอ อสโุ ก ส�ำ เร็จรูปเปน็ อสุโก. (อสุโก ปุรโิ ส. อ.บุรุษโน้น) วิภตั ต ิ เอกวจนะ อสุกสทฺทปทม�ล� (โนน้ ) ปงุ ลงิ ค์ พหวุ จนะ ปฐม�. อสโุ ก อสุก� ทุตยิ �. อสกุ ำ อสเุ ก ตตยิ �. อสุเกน อสุเกหิ อสเุ กภิ จตตุ ถ.ี อสุกสสฺ อสุก�นำ ปญั จม.ี อสกุ � อสุกมฺห� อสุกสฺม� อสเุ กหิ อสุเกภิ ฉฏั ฐี. อสกุ สสฺ อสุก�นำ สัตตมี. อสเุ ก อสุกมหฺ ิ อสุกสฺมึ อสุเกสุ
กณั ฑ์ ] สพั พนาม ไตรลิงค์ 215 อสกุ �สททฺ ปทม�ล� (โนน้ ) อติ ถลี ิงค์ วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. อสุก� อสุก� อสกุ �โย ทุตยิ �. อสุก ำ อสกุ � อสุก�โย ตติย�. อสกุ �ย อสุก�ห ิ อสกุ �ภิ จตุตถี. อสุก�ย อสุก�นำ ปัญจมี. อสกุ �ย อสกุ �หิ อสกุ �ภิ ฉฏั ฐี. อสุก�ย อสกุ �นำ สัตตม.ี อสกุ �ยำ อสุก�สุ วภิ ัตติ เอกวจนะ อสุกสททฺ ปทม�ล� (โน้น) นปงุ สกลงิ ค์ พหุวจนะ ปฐม�. อสุกำ อสุก� อสกุ �นิ ทุตยิ �. อสกุ ำ อสุเก อสกุ �นิ ตติย�. อสเุ กน อสุเกหิ อสุเกภิ จตตุ ถ.ี อสกุ สฺส อสกุ �นำ ปัญจมี. อสุก� อสุกมหฺ � อสกุ สฺม� อสเุ กหิ อสุเกภิ ฉฏั ฐี. อสกุ สสฺ อสุก�นำ สตั ตมี. อสเุ ก อสุกมหฺ ิ อสุกสฺม ึ อสุเกสุ หม�ยเหต:ุ - อสกุ ศพั ทแ์ ละอมกุ ศัพทท์ ่ีเปน็ ปุงลิงค์ แจกต�มปุรสิ ศัพท์, ทเ่ี ปน็ อติ ถลี งิ ค ์ แจกต�มกฺาศพั ท ์ และทเ่ี ปน็ นปงุ สกลิงค ์ แจกต�มจิตฺตศัพท.์ ทำ�ตวั รปู อม ู ศัพท์เดมิ คือ = อมุ หลงั อมุ ลง โย ปฐม�วิภตั ติ อมุ + โย = ลิงคฺ ตฺเถ ป€มา. แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อุ อมฺ อ ุ + โย = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. ตง้ั อุ ชอื่ ล อม ฺ อ ุ ล + โย = อิวณณฺ ุวณณฺ � ฌล�. หลงั จ�ก อุ ท่ชี อื่ ล ลบ โยวิภัตต ิ อม ฺ อ ุ ล + โย = ฆปโต จ โยนำ โลโป. เพร�ะโยทถ่ี ูกลบแลว้ ทีฆะ อุ เป็น อู อม ฺ อุ อ ู = โยส ุ กตนกิ �รโลเปส ุ ทฆี ำ. นำ�พยัญชนะ มฺ ไปประกอบกับสระ อ ู อมู = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เรจ็ รปู เปน็ อม.ู (อมู ปุริส�. อ.บุรุษ ท. เหล�่ โน้น)
216 รูปสทิ ธิทีปนี [ ๒. นาม ท�ำ ตวั รปู อม ุำ ศพั ทเ์ ดิมคอื = อมุ = กมฺมตเฺ ถ ทตุ ยิ �. หลงั อม ุ ลง อำ ทตุ ิย�วภิ ตั ติ อมุ + อ ำ = อวิ ณฺณวุ ณฺณ� ฌล�. = อำโม นิคคฺ หีต ำ ฌลเปห.ิ ต้ัง อุ ชอ่ื ล อม ุ ล + อ ำ = อมุ หลังจ�ก อ ุ ที่ชือ่ ล แปลง อ ำ เปน็ นิคหติ อมุ + อ ำ ำ = กรเณ ตติย�. = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. สำ�เร็จรูปเปน็ อมุ.ำ (ซง่ึ ... โน้น) = สุนหำ ิสุ จ. = สฺม�หิสมฺ นึ ำ มหฺ �ภมิ ฺหิ ว�. ทำ�ตวั รปู อมภู ิ ศพั ทเ์ ดมิ คือ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. หลงั อมุ ลง หิ ตตยิ �วิภัตติ อม ุ + ห ิ = อมุ = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ ี. แยกพยัญชนะ มฺ ออกจ�กสระ อ ุ อมฺ อุ + หิ = อมุสสฺ �ท ุำ วิน�ธกิ �รโยควภิ �คะ.. = พยฺ ชฺ เน จ. เพร�ะหวิ ภิ ตั ต ิ ทีฆะ อุ เป็น อ ู อมฺ อ ุ อ ู + ห ิ = ส�คโม เส. หลงั จ�กลงิ ค์ทง้ั ปวง แปลง ห ิ เปน็ ภ ิ อม ฺ อู + หิ ภ ิ = อมุ = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ ี. นำ�พยัญชนะ ม ฺ ไปประกอบกับสระ อ ู อมภู ิ = ปุพฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สุนหำ ิส ุ จ. สำ�เร็จรูปเป็น อมูภ.ิ (ด้วย... โนน้ ท.) = สพฺพโต น ำ สสำ �น.ำ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. ท�ำ ตวั รูป อทสุ สฺ ศัพทเ์ ดมิ คอื = อมุ หลัง อมุ ลง ส จตุตถีวิภตั ติ อม ุ + ส = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ .ี = ปุพฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. แปลง อม ุ เปน็ อทุ ำ อมุ อทำุ + ส = สนุ หำ สิ ุ จ. เพร�ะพยญั ชนะ ลบนคิ หติ อท ุ ำ + ส เพร�ะสวภิ ตั ต ิ ลง สอฺ �คม อท ุ + ส ฺ -ส ส�ำ เร็จรปู เปน็ อทสุ ฺส. (แก.่ .. โน้น) ท�ำ ตวั รูป อมูสํ ศัพท์เดมิ คอื หลงั อม ุ ลง นำ จตุตถวี ภิ ัตต ิ อม ุ + นำ แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ ุ อม ฺ อ ุ + น ำ เพร�ะนวำ ิภตั ติ ทฆี ะ อ ุ เป็น อ ู อม ฺ อุ อู + นำ หลงั จ�กสพั พน�ม แปลง นำ เป็น ส ำ อม ฺ อ ู + นำ ส ำ น�ำ พยญั ชนะ มฺ ไปประกอบกับสระ อู อมูส ำ สำ�เร็จรูปเปน็ อมสู .ํ (แก.่ .. โน้น ท.) ท�ำ ตัวรูป อมูสานํ ศัพทเ์ ดมิ คือ หลงั อมุ ลง น ำ จตุตถีวภิ ตั ติ อมุ + นำ แยกพยญั ชนะ มฺ ออกจ�กสระ อุ อม ฺ อุ + น ำ เพร�ะนำวภิ ัตต ิ ทีฆะ อ ุ เปน็ อู อมฺ อุ อู + น ำ
กณั ฑ์ ] สัพพนาม ไตรลงิ ค์ 217 หลงั จ�กสพั พน�ม แปลง นำ เป็น ส�น ำ อม ฺ อู + น ำ ส�น ำ = สพฺพโต นำ สสำ �นำ. = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. น�ำ พยญั ชนะ ม ฺ ไปประกอบกับสระ อ ู อมูส�น ำ = อมุ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น อมูสานํ. (แก.่ .. โนน้ ท.) = โอก�เส สตตฺ มี. = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ท�ำ ตวั รูป อมูสุ ศัพทเ์ ดิมคือ = สนุ หำ ิสุ จ. = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. หลัง อมุ ลง สุ สตั ตมีวภิ ัตต ิ อม ุ + สุ แยกพยญั ชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อุ อม ฺ อุ + สุ เพร�ะสุวภิ ตั ติ ทีฆะ อ ุ เป็น อ ู อม ฺ อ ุ อ ู + ส ุ น�ำ พยัญชนะ ม ฺ ไปประกอบกบั สระ อู อมสู ุ สำ�เรจ็ รปู เปน็ อมูสุ. (ใน... โนน้ ท.) อมสุ ททฺ ปทม�ล� (โน้น) ปงุ ลงิ ค์ วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. อสุ อมู ทุตยิ �. อมำ ุ อมู ตติย�. อมนุ � อมหู ิ อมูภ ิ อมุหิ อมุภิ จตุตถี. อมุสฺส อทสุ ฺส อมสู ำ อมสู �นำ อมสุ ำ อมุส�นำ ปัญจม.ี อมุมฺห� อมุสฺม� อมูห ิ อมูภิ อมหุ ิ อมภุ ิ ฉัฏฐี. อมสุ สฺ อทุสสฺ อมสู ำ อมูส�น ำ อมสุ ำ อมุส�นำ สัตตม.ี อมมุ ฺห ิ อมสุ มฺ ึ อมสู ุ อมุสุ ท�ำ ตวั รปู อมยุ า ศัพท์เดิมคือ = อมุ หลัง อม ุ ลง น� ตติย�วภิ ตั ต ิ อมุ + น� = กรเณ ตตยิ �. ตง้ั อุ ชอื่ ป อม ุ ป + น� = เต อิตฺถิขยฺ � โป. หลงั จ�ก อ ุ ที่ชอื่ ป แปลง น� เป็น ย� อม ุ + น� ย� = ปโต ย�. ส�ำ เร็จรปู เป็น อมุยา. (อมุย� อติ ถฺ ยิ �. ด้วย... หญงิ คนโนน้ ) ท�ำ ตวั รูป อมุสฺสา ศัพท์เดิมคือ = อมุ หลงั อม ุ ลง ส จตตุ ถีวิภตั ต ิ อม ุ + ส = สมปฺ ท�เน จตุตฺถี. ตง้ั อุ ช่ือ ป อม ุ ป + ส = เต อิตถฺ ิขยฺ � โป. หลงั จ�ก อ ุ ที่ชือ่ ป แปลง ส เป็น ส� อมุ + ส ส� = ฆปโต สฺมสึ �นำ สำส�. เพร�ะส�อ�เทศ ลง สฺอ�คม อม ุ + สฺ -ส� = สสำ �เสฺวกวจเนสุ จ. ส�ำ เร็จรูปเปน็ อมุสฺสา. (อมุสสฺ � อติ ฺถิย�. แก.่ .. หญงิ คนโน้น)
218 รูปสทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตัวรูป อมุสฺสํ ศัพท์เดมิ คอื = อมุ หลัง อม ุ ลง สมฺ ึ สตั ตมวี ิภตั ต ิ อม ุ + สมฺ ึ = โอก�เส สตฺตมี. ต้ัง อ ุ ชอ่ื ป อมุ ป + สมฺ ึ = เต อติ ฺถขิ ฺย� โป. หลงั จ�ก อุ ท่ีชื่อ ป แปลง สมฺ ึ เป็น สำ อม ุ + สฺมึ สำ = ฆปโต สฺมึส�น ำ สำส�. เพร�ะสอำ �เทศ ลง สฺอ�คม อมุ + สฺ -สำ = สสำ �เสวฺ กวจเนส ุ จ. สำ�เรจ็ รูปเปน็ อมสุ สฺ ํ. (อมสุ สฺ ำ อิตถฺ ยิ ำ. ใน... หญงิ คนโนน้ ) ทำ�ตวั รูป อมยุ ํ ศัพทเ์ ดิมคอื = อมุ หลงั อม ุ ลง สฺมึ สตั ตมีวิภัตติ อม ุ + สฺมึ = โอก�เส สตตฺ ม.ี ตง้ั อ ุ ชื่อ ป อม ุ ป + สฺม ึ = เต อติ ฺถิขยฺ � โป. หลงั จ�ก อุ ทช่ี อ่ื ป แปลง สมฺ ึ เปน็ ย ำ อมุ + สมฺ ึ ย ำ = ฆปโต สมฺ ึ ยำ ว�. สำ�เร็จรปู เป็น อมุย.ํ (อมุย ำ อติ ฺถยิ ำ. ใน... หญิง คนโน้น) ทำ�ตัวรูป อมุยา ศพั ทเ์ ดิมคือ = อมุ หลงั อม ุ ลง สฺมึ สัตตมวี ภิ ัตต ิ อมุ + สมฺ ึ = โอก�เส สตตฺ ม.ี ตง้ั อ ุ ชื่อ ป อม ุ ป + สมฺ ึ = เต อติ ฺถิขยฺ � โป. หลงั จ�ก อ ุ ช่อื ป แปลง สมฺ ึ เป็น ย� อม ุ + สมฺ ึ ย� = ปโต ย�. ส�ำ เร็จรูปเปน็ อมุยา. (อมยุ � อิตถฺ ิยำ. ใน... หญิง คนโนน้ ) อมสุ ทฺทปทม�ล� (โนน้ ) อิตถีลิงค์ วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. อส ุ อมู อมุโย ทุติย�. อมุ ำ อม ู อมุโย ตตยิ �. อมยุ � อมหู ิ อมูภิ จตตุ ถี. อมุสสฺ � อมยุ � อมสู ำ อมูส�นำ ปญั จมี. อมุย� อมูหิ อมูภิ ฉฏั ฐี. อมสุ สฺ � อมยุ � อมูสำ อมูส�นำ สตั ตมี. อมุสฺส ำ อมยุ ำ อมยุ � อมสู ุ
กณั ฑ์ ] สพั พนาม ไตรลงิ ค์ 219 ๒๒๕. อมสุ ฺส’าทํุ. อสํ สิ ุ ในเพร�ะอำและสิวิภัตติ ท. อทุำ อ.ก�รแปลงเป็น อท ำุ อมุสฺส แห่งอมุศพั ท์ วตตฺ มานสฺส อันเป็นไปอยู่ นปุำสเก ในนปุงสกลิงค์ สวภิ ตตฺ สิ ฺส อนั เป็นไปกับด้วยวภิ ัตต ิ โหติ ยอ่ มมี. (เพร�ะอแำ ละสิวิภตั ติ แปลง อมุศพั ทก์ บั วภิ ตั ต ิ เปน็ อทุำ ในนปุงสกลิงค์) สตู รนม้ี ี ๒ บท คือ อมุสฺส, อท.ำุ เปน็ อาเทสวิธิสตู ร. ทำ�ตวั รูป อท ุำ ศัพท์เดิมคอื = อมุ = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. หลงั อมุ ลง สิ ปฐม�วภิ ัตต ิ อมุ + สิ = อมสุ ฺส�ท.ำุ เพร�ะสวิ ภิ ัตติ แปลง อมุ กับ สิ เป็น อทำ ุ อม+ุ ส ิ อทุ ำ สำ�เร็จรูปเปน็ อท.ุำ (อท ำุ ปุปผฺ ำ. อ.ดอกไม้ ดอกโน้น) ท�ำ ตวั รูป อม ู ศพั ทเ์ ดมิ คือ = อมุ หลงั อม ุ ลง โย ปฐม�วิภัตต ิ อมุ + โย = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ ุ อมฺ อ ุ + โย = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ตง้ั อุ ช่อื ล อมฺ อุ ล + โย = อิวณฺณุวณฺณ� ฌล�. หลงั จ�ก อ ุ ทีช่ อ่ื ล ลบ โยวิภัตติ อม ฺ อ ุ + โย = ฆปโต จ โยน ำ โลโป. เพร�ะโยทถี่ ูกลบแล้ว ทฆี ะ อ ุ เปน็ อู อม ฺ อ ุ อ ู = โยส ุ กตนกิ �รโลเปสุ ทฆี ำ. นำ�พยัญชนะ ม ฺ ไปประกอบกับสระ อู อมู = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. สำ�เรจ็ รปู เปน็ อมู. (อม ู ปปุ ผฺ �น.ิ อ.ดอกไม ้ ท. เหล�่ โนน้ ) ทำ�ตัวรปู อมนู ิ ศัพท์เดมิ คอื = อมุ หลงั อม ุ ลง โย ปฐม�วภิ ตั ติ อมุ + โย = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. หลังจ�กนปงุ สกลงิ ค์ แปลงโย เป็น นิ อม ุ + โย นิ = โยน ำ นิ นปสำุ เกห.ิ แยกพยัญชนะ มฺ ออกจ�กสระ อ ุ อม ฺ อ ุ + น ิ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะโยท่แี ปลงเป็นนแิ ล้ว ทีฆะอเุ ป็นอ ู อมฺ อุ อู + น ิ = โยสุ กตนิก�รโลเปส ุ ทีฆำ. น�ำ พยัญชนะ มฺ ไปประกอบกบั สระ อ ู อมูนิ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. ส�ำ เร็จรูปเป็น อมนู .ิ (อมนู ิ ปุปผฺ �นิ. อ.ดอกไม้ ท. เหล�่ โนน้ ) ทำ�ตวั รูป อทำุ ศัพทเ์ ดมิ คือ = อมุ หลงั อม ุ ลง อำ ทตุ ยิ �วภิ ัตติ อม ุ + อ ำ = กมฺมตเฺ ถ ทุตยิ �. เพร�ะอำวภิ ัตติ แปลง อมุ กับ อ ำ เป็น อท ุำ อม+ุ อ ำ อท ำุ = อมสุ ฺส�ท.ำุ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น อท.ำุ (อท ำุ ปปุ ฺผ.ำ ซงึ่ ... ดอกไม ้ ดอกโน้น)
220 รปู สทิ ธิทปี นี [ ๒. นาม ท�ำ ตวั รูป อทสุ ฺส ศพั ทเ์ ดมิ คอื = อมุ = สมฺปท�เน จตุตถฺ ี. หลัง อม ุ ลง ส จตตุ ถวี ิภตั ติ อม ุ + ส = อมสุ ฺส�ทำุ วิน�ธิก�รโยควิภ�คะ.. = พฺยชฺ เน จ. แปลง อมุ เปน็ อท ำุ อมุ อทุำ + ส = ส�คโม เส. เพร�ะพยัญชนะ ลบนิคหิต อท ุ ำ + ส เพร�ะสวภิ ัตติ ลง สอฺ �คม อทุ + ส ฺ -ส ส�ำ เร็จรปู เป็น อทสุ สฺ . (แก่... โน้น) อมสุ ททฺ ปทม�ล� (โนน้ ) นปงุ สกลิงค์ วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. อท ำุ อม ู อมนู ิ ทุติย�. อท ุำ อม ู อมูนิ ตตยิ �. อมนุ � อมูหิ อมภู ิ อมหุ ิ อมภุ ิ จตตุ ถี. อมุสสฺ อทสุ สฺ อมสู ำ อมสู �นำ อมสุ ำ อมสุ �นำ ปญั จมี. อมมุ หฺ � อมสุ ฺม� อมูหิ อมภู ิ อมหุ ิ อมุภิ ฉฏั ฐ.ี อมุสสฺ อทสุ ฺส อมสู ำ อมสู �นำ อมสุ ำ อมุส�นำ สตั ตม.ี อมมุ ฺหิ อมุสมฺ ึ อมูส ุ อมสุ ุ. หม�ยเหต:ุ - อมุศัพท์ท่เี ปน็ นปงุ สกลิงค ์ ตง้ั แตต่ ติย�วภิ ตั ตจิ นถงึ สัตตมวี ิภตั ต ิ มรี ปู เหมือนอมศุ พั ทใ์ นปงุ ลงิ ค์ ๒๒๖. เสเสสุ จ. เสเสสุ วภิ ตตฺ ิเภเทส ุ ในเพร�ะประเภทของวิภัตต ิ ท. อันเหลอื จ�ก วปจั จัย ก อ.ก�รแปลงเป็น ก กสิ ฺส แหง่ กศึ ัพท์ โหติ ย่อมม ี จ ห�้ มแปลงบ้�ง. (เพร�ะวภิ ตั ติทเี่ หลือจ�ก วปจั จยั แปลง กึ เปน็ ก ห้�มแปลงบ�้ ง) สูตรน้มี ี ๒ บท. เป็น อาเทสวธิ สิ ูตร. จศพั ท์ : มอี รรถ นวิ ตตฺ าปนาวธารณ ห้�มแปลง กึ เป็น ก บ�้ ง ตวั อย่�งว�่ กิสฺส, กสิ ฺม,ึ กมิ หฺ ิ. ทำ�ตัวรปู โก ศพั ทเ์ ดมิ คือ = กึ = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. หลัง ก ึ ลง ส ิ ปฐม�วภิ ัตติ ก ึ + สิ = เสเสสุ จ. = โส. เพร�ะสวิ ภิ ัตติ แปลง กึ เปน็ ก ก ึ ก + สิ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหิฯ หลงั จ�กอก�รนั ต ์ แปลง สิ เป็น โอ ก + สิ โอ แยกพยญั ชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ + โอ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ กฺ อ + โอ
กัณฑ์ ] สัพพนาม ไตรลิงค์ 221 นำ�พยญั ชนะ กฺ ไปประกอบกับสระ โอ โก = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เรจ็ รูปเป็น โก. (อ.ใคร) ท�ำ ตัวรูป เก ศัพทเ์ ดมิ คือ = กึ = ลงิ ฺคตฺเถ ป€มา. หลงั กึ ลง โย ปฐม�วภิ ัตต ิ ก ึ + โย = เสเสสุ จ. = สพฺพนามการเต ป€โม. เพร�ะโยวภิ ตั ต ิ แปลง กึ เป็น ก ก ึ ก + โย = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทิมฺหิฯ หลังจ�กสพั พน�ม แปลง โย เป็น เอ ก + โย เอ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยญั ชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ กฺ อ + เอ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ กฺ อ + เอ น�ำ พยญั ชนะ กฺ ไปประกอบกับสระ เอ เก สำ�เร็จรูปเป็น เก. (อ.ใคร ท.) ทำ�ตวั รูป ก ํ ศัพทเ์ ดมิ คือ = กึ = กมมฺ ตฺเถ ทตุ ิย�. หลัง ก ึ ลง อำ ทตุ ยิ �วภิ ัตต ิ กึ + อำ = เสเสส ุ จ. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะอำวิภตั ต ิ แปลง ก ึ เปน็ ก ก ึ ก + อ ำ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ ฺหิฯ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยัญชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ + อำ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกติ ก ฺ อ + อ ำ น�ำ พยญั ชนะ ก ฺ ไปประกอบกบั สระ อ กำ สำ�เรจ็ รูปเปน็ ก.ํ (ซง่ึ ... ใคร ท.) ท�ำ ตวั รปู เก ศัพท์เดมิ คอื = กึ = กมมฺ ตเฺ ถ ทุตยิ �. หลัง ก ึ ลง โย ทตุ ยิ �วิภตั ต ิ ก ึ + โย = เสเสสุ จ. = สพฺพโยนนี ม�เอ. เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลง ก ึ เป็น ก ก ึ ก + โย = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหิฯ หลงั จ�กอก�รนั ต์ แปลง โย เปน็ เอ ก + โย เอ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยัญชนะ ก ฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ + เอ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ กฺ อ + เอ น�ำ พยญั ชนะ กฺ ไปประกอบกับสระ เอ เก สำ�เร็จรูปเปน็ เก. (ซึ่ง... ใคร ท.) ท�ำ ตัวรูป เกน ศพั ทเ์ ดมิ คอื = กึ = กรเณ ตติย�. หลัง กึ ลง น� ตตยิ �วภิ ตั ติ กึ + น� = เสเสส ุ จ. = อโต เนน. เพร�ะน�วิภัตติ แปลง กึ เป็น ก ก ึ ก + น� หลังจ�กอก�รันต ์ แปลง น� เปน็ เอน ก + น� เอน
222 รูปสทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม แยกพยัญชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ + เอน = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ ฺหิฯ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ กฺ อ + เอน = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. น�ำ พยญั ชนะ กฺ ไปประกอบกบั สระ เอ เกน = กึ = กรเณ ตติย�. ส�ำ เร็จรูปเป็น เกน. (ดว้ ย... ใคร) = เสเสสุ จ. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. ทำ�ตวั รปู เกภ ิ ศพั ทเ์ ดมิ คือ = สุหสิ วฺ ก�โร เอ. = สมฺ �หิสฺมนึ ำ มหฺ �ภมิ หฺ ิ ว�. หลัง กึ ลง ห ิ ตติย�วภิ ตั ติ กึ + ห ิ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. เพร�ะหวิ ภิ ัตติ แปลง กึ เปน็ ก กึ ก + หิ = กึ = สมฺปท�เน จตุตถฺ ี. แยกพยญั ชนะ ก ฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ + ห ิ = เสเสส ุ จ. = ส�คโม เส. เพร�ะหวิ ภิ ัตติ แปลง อ เปน็ เอ ก ฺ อ เอ + หิ = กึ หลังจ�กลงิ คท์ ัง้ ปวง แปลง ห ิ เป็น ภิ ก ฺ เอ + หิ ภิ = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ .ี = พฺยชฺ เน จ. น�ำ พยญั ชนะ ก ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ เกห ิ = ส�คโม เส. ส�ำ เร็จรปู เปน็ เกห.ิ (ดว้ ย... ใคร ท.) = กึ = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ .ี ทำ�ตัวรปู กสสฺ ศัพทเ์ ดมิ คือ = เสเสส ุ จ. = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. หลัง กึ ลง ส จตุตถวี ิภตั ติ กึ + ส = สพฺพน�ม�น ำ นมำ ฺหิ จ. = สพฺพโต นำ สสำ �น.ำ เพร�ะสวภิ ัตติ แปลง กึ เปน็ ก ก ึ ก + ส = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. เพร�ะสวิภัตต ิ ลง สอฺ �คม ก + สฺ -ส ส�ำ เร็จรูปเปน็ กสฺส. (แก่... ใคร) ท�ำ ตัวรูป กิสสฺ ศพั ทเ์ ดมิ คือ หลงั ก ึ ลง ส จตุตถวี ภิ ัตต ิ ก ึ + ส เพร�ะพยัญชนะ ลบนคิ หิต ก ิ ำ + ส เพร�ะสวภิ ัตติ ลง สฺอ�คม ก ิ + สฺ -ส ส�ำ เร็จรปู เป็น กสิ ฺส. (แก.่ .. ใคร) ทำ�ตวั รูป เกส ํ ศพั ทเ์ ดิมคอื หลงั กึ ลง นำ จตุตถีวภิ ตั ต ิ กึ + น ำ เพร�ะนำวิภตั ติ แปลง กึ เปน็ ก กึ ก + นำ แยกพยัญชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ กฺ อ + นำ เพร�ะนำวิภัตติ แปลง อ เปน็ เอ กฺ อ เอ + น ำ หลังจ�กสพั พน�ม แปลง น ำ เป็น สำ กฺ เอ + นำ ส ำ นำ�พยัญชนะ ก ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ เกส ำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น เกส.ํ (แก.่ .. ใคร ท.)
กณั ฑ์ ] สพั พนาม ไตรลงิ ค์ 223 ท�ำ ตัวรูป เกสาน ํ ศัพทเ์ ดมิ คือ = กึ = สมปฺ ท�เน จตตุ ฺถี. หลงั ก ึ ลง นำ จตุตถีวภิ ัตต ิ กึ + น ำ = เสเสสุ จ. = ปุพฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะนำวิภัตติ แปลง กึ เป็น ก กึ ก + น ำ = สพฺพน�ม�นำ นมำ หฺ ิ จ. = สพฺพโต น ำ สำส�นำ. แยกพยัญชนะ ก ฺ ออกจ�กสระ อ กฺ อ + น ำ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. เพร�ะนวำ ภิ ตั ต ิ แปลง อ เปน็ เอ ก ฺ อ เอ + นำ = กึ = อปาทาเน ปจฺ ม.ี หลังจ�กสพั พน�ม แปลง นำ เปน็ ส�น ำ กฺ เอ + นำ ส�นำ = เสเสสุ จ. = สฺม�หสิ มฺ ึน ำ มหฺ �ภิมฺห ิ ว�. นำ�พยัญชนะ ก ฺ ไปประกอบกับสระ เอ เกส�น ำ = กึ ส�ำ เรจ็ รปู เป็น เกสาน.ํ (แก่... ใคร ท.) = โอก�เส สตฺตม.ี = เสเสสุ จ. ท�ำ ตัวรูป กมฺหา ศัพทเ์ ดิมคือ = สฺม�หสิ ฺมึน ำ มฺห�ภมิ ฺหิ ว�. หลงั กึ ลง สมฺ � ปญั จมวี ิภัตต ิ กึ + สมฺ � = กึ = โอก�เส สตฺตม.ี เพร�ะสฺม�วภิ ัตติ แปลง ก ึ เป็น ก กึ ก + สมฺ � = พฺยฺชเน จ. = สมฺ �หสิ ฺมึนำ มหฺ �ภมิ หฺ ิ ว�. หลงั จ�กปงุ ,นปงุ . แปลง สมฺ � เป็น มหฺ � ก + สมฺ � มฺห� = กึ สำ�เร็จรปู เปน็ กมหฺ า. (แต.่ .. ใคร) = โอก�เส สตฺตมี. = เสเสสุ จ. ทำ�ตัวรปู กมหฺ ิ ศัพท์เดิมคอื = ปุพฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สุหสิ ฺวก�โร เอ. หลงั ก ึ ลง สมฺ ึ สตั ตมีวภิ ัตต ิ ก ึ + สมฺ ึ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. เพร�ะสฺมึวิภตั ต ิ แปลง ก ึ เปน็ ก กึ ก + สฺม ึ หลังจ�กปุง,นปุง. แปลง สมฺ ึ เป็น มหฺ ิ ก + สฺมึ มฺหิ ส�ำ เร็จรูปเปน็ กมหฺ .ิ (ใน... ใคร) ทำ�ตวั รปู กมิ หฺ ิ ศพั ทเ์ ดมิ คอื หลงั กึ ลง สมฺ ึ สตั ตมวี ิภัตต ิ กึ + สฺมึ เพร�ะพยัญชนะ ลบนคิ หิต ก ิ ำ + สฺม ึ หลงั จ�กลงิ คท์ ้ังปวง แปลง สฺมึ เป็น มหฺ ิ ก ิ + สฺม ึ มฺหิ ส�ำ เร็จรปู เป็น กมิ ฺหิ. (ใน... ใคร) ท�ำ ตัวรปู เกส ุ ศพั ทเ์ ดมิ คอื หลงั ก ึ ลง ส ุ สตั ตมีวภิ ัตต ิ ก ึ + ส ุ เพร�ะสุวภิ ัตต ิ แปลง กึ เป็น ก ก ึ ก + สุ แยกพยญั ชนะ ก ฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ + สุ เพร�ะสุวภิ ัตต ิ แปลง อ เป็น เอ กฺ อ เอ + ส ุ น�ำ พยญั ชนะ ก ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ เกส ุ สำ�เรจ็ รูปเปน็ เกส.ุ (ใน... ใคร ท.)
224 รปู สทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม กึสททฺ ปทม�ล� (ใคร, อะไร, ไหน) ปงุ ลงิ ค์ วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. โก เก ทุติย�. ก ำ เก ตตยิ �. เกน เกห ิ เกภิ จตตุ ถ.ี กสสฺ กสิ สฺ เกส ำ เกส�นำ ปญั จมี. กมฺห� กสฺม� เกหิ เกภิ ฉัฏฐ.ี กสสฺ กิสฺส เกสำ เกส�นำ สตั ตมี. กมฺห ิ กิมหฺ ิ กสฺม ึ กิสฺม ึ เกสุ ท�ำ ตวั รูป กา ศัพทเ์ ดิมคือ = กึ = ลงิ ฺคตฺเถ ป€มา. หลงั กึ ลง สิ ปฐม�วิภตั ติ กึ + สิ = เสเสส ุ จ. = อิตฺถิยมโต อ�ปจจฺ โย. เพร�ะสวิ ิภตั ติ แปลง กึ เปน็ ก กึ ก + สิ = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทมิ หฺ ิฯ หลงั กศัพท ์ ลง อ�ปัจจยั อิตถลี ิงค์ ก อ� + ส ิ = เสสโต โลป ํ คสปิ .ิ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. แยกพยัญชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ อ� + ส ิ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ ก ฺ อ อ� + ส ิ ลบ สิวภิ ัตติ ก ฺ อ� + สิ นำ�พยญั ชนะ กฺ ไปประกอบกับสระ อ� ก� สำ�เรจ็ รูปเปน็ กา. (ก� อติ ถฺ ี. อ.หญิง คนไหน) ท�ำ ตวั รปู กา ศัพท์เดมิ คือ = กึ หลัง กึ ลง โย ปฐม�วิภัตติ กึ + โย = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะโยวภิ ตั ติ แปลง กึ เปน็ ก ก ึ ก + โย = เสเสส ุ จ. หลงั กศัพท์ ลง อ�ปัจจยั อติ ถลี ิงค ์ ก อ� + โย = อิตฺถิยมโต อ�ปจจฺ โย. แยกพยญั ชนะ ก ฺ ออกจ�กสระ อ ก ฺ อ อ� + โย = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกต ิ ก ฺ อ อ� + โย = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทิมฺหฯิ ต้งั อ� ชอ่ื ฆ กฺ อ� ฆ + โย = อ� โฆ. หลังจ�ก อ� ท่ชี อื่ ฆ ลบ โยวภิ ตั ติ ก ฺ อ� ฆ + โย = ฆปโต จ โยนำ โลโป. น�ำ พยัญชนะ ก ฺ ไปประกอบกับสระ อ� ก� = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เรจ็ รูปเป็น กา. (ก� อติ ถฺ ิโย. อ.หญิง ท. เหล่�ไหน)
กัณฑ์ ] สพั พนาม ไตรลงิ ค์ 225 ก�สทฺทปทม�ล� (ใคร, อะไร, ไหน) อิตถีลิงค์ วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. ก� ก� ก�โย ทุติย�. ก ำ ก� ก�โย ตตยิ �. ก�ย ก�หิ ก�ภิ จตุตถี. กสฺส� ก�ย ก�ส ำ ก�ส�นำ ปัญจม.ี ก�ย ก�ห ิ ก�ภิ ฉฏั ฐี. กสสฺ � ก�ย ก�ส ำ ก�ส�นำ สัตตม.ี กสสฺ ำ ก�ย ำ ก�สุ หม�ยเหตุ:- ก�ศัพท ์ มีวิธที ำ�ตัวรูปและแจกปทม�ล�เหมอื นสพพฺ �ศัพท์ ทำ�ตวั รูป ก ึ ศพั ทเ์ ดิมคอื = กึ = ลงิ ฺคตเฺ ถ ป€มา. หลัง ก ึ ลง ส ิ ปฐม�วภิ ตั ต ิ กึ + สิ = เสสโต โลป ํ คสิปิ. ลบ สวิ ิภตั ต ิ ก ึ + ส ิ = กึ = ลิงคฺ ตฺเถ ป€มา. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น กึ. (อ.อะไร) = เสเสส ุ จ. = อโต นจิ ฺจำ. ทำ�ตัวรปู กานิ ศพั ท์เดมิ คือ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = โยสุ กตนิก�รโลเปส ุ ทฆี ำ. หลงั ก ึ ลง โย ปฐม�วิภัตต ิ กึ + โย = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. เพร�ะโยวภิ ัตติ แปลง กึ เปน็ ก กึ ก + โย = กึ = กมฺมตเฺ ถ ทุติย�. หลังจ�กอก�รนั ต ์ แปลง โย เป็น น ิ ก + โย น ิ = กฺวจิ โลป.ํ = อิวณณฺ วุ ณฺณ� ฌล�. แยกพยัญชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ กฺ อ + น ิ = อโำ ม นคิ คฺ หีต ำ ฌลเปหิ. เพร�ะโยที่แปลงเป็นนิแลว้ ทีฆะอเป็นอ� ก ฺ อ อ� + นิ นำ�พยญั ชนะ กฺ ไปประกอบกับสระ อ� ก�น ิ ส�ำ เร็จรปู เป็น กาน.ิ (อ.อะไร ท.) ท�ำ ตวั รูป ก ึ ศพั ทเ์ ดมิ คือ หลัง กึ ลง อำ ทตุ ิย�วภิ ัตติ กึ + อำ เพร�ะสระหลงั ลบนิคหติ ก ิ ำ + อำ ต้งั อ ิ ชอ่ื ฌ กิ ฌ + อำ หลังจ�ก อิ ทชี่ ่ือ ฌ แปลง อ ำ เป็นนิคหติ กิ + อำ ำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ก.ึ (ซ่งึ ... อะไร)
226 รูปสทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม หม�ยเหต:ุ - กึศพั ทใ์ นนปงุ สกลงิ ค์ ต้งั แต่ตติย�วภิ ัตติจนถึงสตั ตมีวิภัตติ มีรปู เหมือนกศึ พั ท์ในปุงลิงค์ กึสทฺทปทม�ล� (อะไร, ไหน) นปงุ สกลิงค์ วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. กึ ก�นิ ทุตยิ �. ก ึ ก�นิ ตติย�. เกน เกห ิ เกภิ จตุตถ.ี กสสฺ กสิ สฺ เกส ำ เกส�นำ ปัญจมี. กมหฺ � กสฺม� เกห ิ เกภิ ฉัฏฐ.ี กสฺส กิสฺส เกส ำ เกส�นำ สตั ตม.ี กมฺหิ กมิ หฺ ิ กสฺมึ กสิ มฺ ึ เกสุ อรรถของ กศึ ัพท์ ๑. กึศพั ทท์ ้ังส�มลงิ คท์ ่มี ี จนิ ิบ�ตตอ่ ท้�ย เช่น โกจ,ิ ก�จิ, กิจฺ ิ เปน็ ตน้ มอี รรถว�่ “อปปฺ ” แปลว�่ นอ้ ย, นดิ หน่อย, บ�งพวก เช่น น เตส ำ โกจิ สรต.ิ อ.ญ�ติ ไรๆ ยอ่ มไม่ระลกึ ถึง ซง่ึ เปรต ท.เหล่�นน้ั . ๒. กึศพั ท์ทงั้ ส�มลิงค์ท่มี ี ยศัพท์อยหู่ น�้ และมี จินบิ �ตต่อท้�ย เชน่ โย โกจ,ิ ย� ก�จิ, ย ำ กิจฺ ิ มีอรรถว่� “สกล” แปลว�่ ท้ังหมด เช่น เย เกจ ิ กสุ ล� ธมมฺ �, สพเฺ พ เต กสุ ลมูล�. อ.ธรรม ท. อนั เป็นกุศล เหล่�ใดเหล่�หน่งึ , อ.ธรรม ท.เหล่�น้นั ท้งั หมด เป็นธรรมมกี ศุ ลเป็นร�กเหง้� ย่อมเปน็ . ๓. กึศพั ทล์ ้วนๆ มอี รรถว�่ “ปจุ ฉฺ �” เป็นค�ำ ถ�ม แปลว่� ใคร, อะไร, ไหน เช่น โก เต อุปชฌฺ �โย. อ.ใคร เปน็ พระอุปัชฌ�ย ์ ของท�่ น ยอ่ มเป็น. ค�ถ�สรปุ อรรถของกึศัพท์ จนิ ฺโต ก� โก จ กสึ ทโฺ ท อปฺปกตถฺ สฺส ว�จโก จนิ โฺ ต จ ย�ทิ กึสทโฺ ท สกลตฺถสฺส ว�จโก อจินฺโต จ อย�ทิ จ ปุจฺฉ� ว�จกสมฺมโต. โกศพั ท ์ ก�ศพั ท ์ และกึศพั ท ์ ท่ีมี จนิ ิบ�ตอยทู่ �้ ย กล�่ วอรรถว�่ น้อย, โกศัพท์ ก�ศพั ท์ และกึศัพท ์ ท่ีประกอบด้วย ยอักษรในเบอื้ งแรก และ มี จนิ บิ �ตอยทู่ ้�ย กล�่ วอรรถว่� ทง้ั หมด, โกศพั ท์ ก�ศพั ท ์ และกึศัพท์ ลว้ นๆ ทีไ่ มม่ ีจนิ ิบ�ต อยู่ท�้ ย และไมม่ ี ยอกั ษรในเบอ้ื งแรก ถกู รูแ้ ล้วว่� กล�่ วอรรถ ค�ำ ถ�ม.
กัณฑ์ ] สัพพนาม ไตรลงิ ค์ 227 กึ + จิ สททฺ ปทม�ล� (อะไรๆ, ใครๆ) ปุงลงิ ค์ วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. โกจิ เกจิ ทตุ ยิ �. กฺจ ิ เกจิ ตติย�. เกนจ ิ เกหจิ ิ จตตุ ถี. กสสฺ จิ เกสฺจิ ปัญจมี. กสมฺ �จิ เกหิจิ ฉัฏฐ.ี กสฺสจ ิ เกสฺจิ สตั ตม.ี กสฺมิ ฺจ,ิ กิสมฺ ิ จฺ ิ เกสจุ ิ ก� + จิ สททฺ ปทม�ล� (อิตถลี งิ ค์) วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. ก�จิ ก�จิ ทตุ ยิ �. กจฺ ิ ก�จิ ตตยิ �. ก�ยจ ิ ก�หจิ ิ จตตุ ถี. ก�ยจิ, กสฺส�จ ิ กาสจฺ ิ ปัญจมี. ก�ยจิ ก�หจิ ิ ฉัฏฐี. ก�ยจ,ิ กสสฺ �จิ กาสฺจิ สัตตมี. ก�ยจิ ก�สจุ ิ วิภัตติ เอกวจนะ กึ + จิ สททฺ ปทม�ล� (นปงุ สกลงิ ค)์ พหุวจนะ ปฐม�. กิจฺ ิ ก�นิจิ ทตุ ิย�. กิ ฺจิ ก�นิจิ ตตยิ �. เกนจิ เกหิจิ จตุตถี. กสสฺ จ ิ เกสฺจิ ปัญจม.ี กสมฺ �จิ เกหจิ ิ ฉฏั ฐี. กสฺสจ ิ เกสจฺ ิ สัตตมี. กสมฺ ิ ฺจิ, กิสมฺ ิฺจิ เกสจุ ิ
228 รูปสทิ ธิทีปนี [ ๒. นาม วิภัตต ิ เอกวจนะ ย + กึ + จิ สททฺ ปทม�ล� (ปุงลงิ ค)์ พหุวจนะ ปฐม�. โย โกจ ิ เย เกจิ ทุตยิ �. ยํ กฺจิ เย เกจิ ตตยิ �. เยน เกนจ ิ เยหิ เกหิจิ จตตุ ถี. ยสฺส กสฺสจ ิ เยสํ เกสฺจิ ปัญจม.ี ยสมฺ � กสฺม�จิ เยห ิ เกหจิ ิ ฉัฏฐ.ี ยสฺส กสสฺ จ ิ เยสํ เกสฺจิ สตั ตมี. ยสฺมึ กสมฺ ิฺจิ เยส ุ เกสจุ ิ ย� + ก� + จิ สททฺ ปทม�ล� (อติ ถีลิงค์) วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. ย� ก�จ ิ ย� ก�จิ ทุติย�. ยํ กจฺ ิ ย� ก�จิ ตตยิ �. ย�ย ก�ยจิ ย�ห ิ ก�หิจิ จตุตถ.ี ย�ย ก�ยจ ิ ยาสํ กาสจฺ ิ ปญั จม.ี ย�ย ก�ยจ ิ ย�ห ิ ก�หจิ ิ ฉัฏฐี. ย�ย ก�ยจ ิ ยาสํ กาสจฺ ิ สตั ตม.ี ย�ย ก�ยจิ ย�ส ุ ก�สุจิ ย + กึ + จิ สททฺ ปทม�ล� (นปงุ สกลงิ ค)์ วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. ยํ กิ ฺจิ ย�นิ ก�นิจิ ทุติย�. ยํ กิฺจ ิ ย�นิ ก�นิจิ ตตยิ �. เยน เกนจ ิ เยห ิ เกหจิ ิ จตุตถ.ี ยสฺส กสสฺ จิ เยสํ เกสฺจิ ปัญจมี. ยสฺม� กสมฺ �จ ิ เยหิ เกหจิ ิ ฉฏั ฐี. ยสฺส กสสฺ จ ิ เยสํ เกสจฺ ิ สตั ตม.ี ยสฺมึ กสมฺ ิฺจ ิ เยสุ เกสุจิ
กณั ฑ์ ] สพั พนาม ไตรลิงค์ 229 เอกสทฺทปทม�ล� (หนึง่ ) ลิงค์ ปงุ ลงิ ค์ อิตถีลงิ ค์ นปงุ สกลิงค์ วภิ ัตติ เอกวจนะ เอกวจนะ เอกวจนะ ปฐม�. เอโก เอก� เอกำ ทตุ ิย�. เอก ำ เอกำ เอกำ ตตยิ �. เอเกน เอก�ย เอเกน จตตุ ถี. เอกสสฺ เอกิสฺส� เอก�ย เอกสสฺ ปญั จมี. เอกมหฺ � เอกสมฺ � เอก�ย เอกมฺห� เอกสฺม� ฉฏั ฐี. เอกสฺส เอกสิ สฺ � เอก�ย เอกสสฺ สตั ตมี. เอกมฺห ิ เอกสมฺ ึ เอกสิ ฺส ำ เอก�ยำ เอกมฺห ิ เอกสฺมึ ทำ�ตัวรปู อุโภ ศัพทเ์ ดิมคือ = อภุ หลงั อุภ ลง โย ปฐม�วภิ ัตต ิ อภุ + โย = ลิงคฺ ตฺเถ ป€มา. หลังจ�กอุภ แปลง โย เป็น โอ อภุ + โย โอ = ตุศพั ท ์ ใน ตโต โยนโม ต.ุ แยกพยญั ชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ อุภ ฺ อ + โอ = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ อภุ ฺ อ + โอ = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทมิ ฺหิฯ นำ�พยญั ชนะ ภฺ ไปประกอบกบั สระ โอ อุโภ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. สำ�เร็จรปู เป็น อุโภ. (อุโภ ปุริส�. อ.บรุ ุษ ท. ทั้งสอง) ทำ�ตัวรูป อุเภ ศพั ท์เดิมคือ = อภุ = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลงั อุภ ลง โย ปฐม�วิภตั ติ อุภ + โย = สพฺพนามการเต ป€โม. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. หลังจ�กอภุ แปลง โย เป็น เอ อุภ + โย เอ = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทิมฺหิฯ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยญั ชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ อุภฺ อ + เอ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ อุภ ฺ อ + เอ น�ำ พยัญชนะ ภ ฺ ไปประกอบกับสระ เอ อเุ ภ สำ�เรจ็ รูปเป็น อเุ ภ. (อุเภ ปรุ ิส�. อ.บุรษุ ท. ท้ังสอง) ท�ำ ตวั รูป อโุ ภ ศัพทเ์ ดิมคอื = อุภ = กมมฺ ตฺเถ ทตุ ยิ �. หลัง อุภ ลง โย ทตุ ิย�วิภัตต ิ อุภ + โย = ตศุ พั ท์ ใน ตโต โยนโม ต.ุ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. หลังจ�กอภุ แปลง โย เป็น โอ อภุ + โย โอ = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทมิ ฺหฯิ แยกพยัญชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ อุภฺ อ + โอ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ อภุ ฺ อ + โอ
230 รปู สทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม นำ�พยัญชนะ ภฺ ไปประกอบกบั สระ โอ อุโภ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ อโุ ภ. (อโุ ภ ปุรเิ ส. ซงึ่ ... บุรุษ ท. ท้งั สอง) ท�ำ ตวั รปู อุเภ ศพั ท์เดมิ คอื = อภุ หลงั อภุ ลง โย ทตุ ิย�วภิ ัตต ิ อุภ + โย = กมมฺ ตเฺ ถ ทุตยิ �. หลังจ�กอภุ แปลง โย เปน็ เอ อภุ + โย เอ = สพพฺ โยนนี ม�เอ. แยกพยัญชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ อภุ ฺ อ + เอ = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ อภุ ฺ อ + เอ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ ฺหิฯ นำ�พยัญชนะ ภ ฺ ไปประกอบกับสระ เอ อุเภ = นเย ปรำ ยุตฺเต. สำ�เรจ็ รูปเป็น อุเภ. (อุเภ ปุริเส. ซึ่ง... บุรษุ ท. ทั้งสอง) ทำ�ตัวรูป อุโภห ิ ศัพทเ์ ดมิ คือ = อภุ = กรเณ ตตยิ �. หลัง อภุ ลง หิ ตตยิ �วิภัตต ิ อภุ + หิ = ปุพฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สหุ สิ ฺวก�โร เอ. แยกพยัญชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ อุภ ฺ อ + หิ = เตสุ วทุ ธฺ โิ ลป�คมวกิ �รวิปรีต�ฯ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. เพร�ะหวิ ภิ ัตต ิ แปลง อ เป็น เอ อภุ ฺ อ เอ + ห ิ เพร�ะหวิ ภิ ัตติ แปลง เอ เป็น โอ อุภ ฺ เอ โอ + ห ิ น�ำ พยัญชนะ ภ ฺ ไปประกอบกับสระ โอ อุโภหิ สำ�เร็จรปู เป็น อุโภห.ิ (ดว้ ย... ท้ังสอง ท.) ทำ�ตัวรูป อเุ ภภิ ศัพท์เดมิ คือ = อภุ = กรเณ ตติย�. หลงั อภุ ลง หิ ตติย�วิภตั ต ิ อภุ + ห ิ = ปุพพฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สหุ ิสวฺ ก�โร เอ. แยกพยัญชนะ ภ ฺ ออกจ�กสระ อ อุภฺ อ + ห ิ = สฺม�หสิ ฺมึนำ มหฺ �ภมิ ฺหิ ว�. = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. เพร�ะหิวภิ ัตต ิ แปลง อ เป็น เอ อุภ ฺ อ เอ + หิ หลังจ�กลิงคท์ ้ังปวง แปลง หิ เป็น ภิ อภุ ฺ เอ + หิ ภิ นำ�พยัญชนะ ภฺ ไปประกอบกบั สระ เอ อเุ ภภิ สำ�เรจ็ รปู เปน็ อเุ ภภิ. (ดว้ ย... ท้งั สอง ท.) ๒๒๗. อภุ าทโิ ต น’มนิ ฺนํ. นํ อ.นวำ ิภตั ติ ปรํ อันเปน็ เบอื้ งหลงั อภุ าทโิ ต (สงฺขฺยาสททฺ โต) จ�กสงั ขย�ศัพท ์ ท. มี อุภ เปน็ ต้น อนิ นฺ ํ แปลงเปน็ อินนฺ ำ โหต ิ ย่อมเป็น. (หลงั จ�กสังขย�ศพั ทม์ ี อภุ เป็นตน้ แปลง นำวภิ ตั ติ เป็น อนิ ฺนำ) สูตรนีม้ ี ๓ บท คอื อภุ �ทโิ ต, นำ, อนิ นฺ .ำ เป็น อาเทสวิธสิ ตู ร.
กณั ฑ์ ] สพั พนาม ไตรลิงค์ 231 ท�ำ ตัวรปู อุภนิ ฺน ํ ศพั ท์เดิมคอื = อุภ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ ี. หลัง อภุ ลง นำ จตตุ ถวี ภิ ตั ต ิ อุภ + นำ = อภุ �ทิโต นมนิ ฺนำ. = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. หลังจ�กสังขย� แปลง น ำ เปน็ อนิ ฺนำ อภุ + นำ อนิ นฺ ำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ ฺหิฯ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยญั ชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ อภุ ฺ อ + อนิ นฺ ำ = อุภ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ อภุ ฺ อ + อินนฺ ำ = โอก�เส สตตฺ ม.ี = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. นำ�พยญั ชนะ ภ ฺ ไปประกอบกบั สระ อิ อภุ นิ นฺ ำ = สุหิสวฺ ก�โร เอ. = เตสุ วุทธฺ ิโลป�คมวกิ �รวิปรตี �ฯ ส�ำ เร็จรูปเป็น อภุ ินนฺ ํ. (แก.่ .. ทัง้ สอง ท.) = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. ทำ�ตวั รปู อโุ ภสุ ศัพท์เดมิ คือ = อุภ = โอก�เส สตฺตมี. หลัง อุภ ลง สุ สัตตมวี ิภตั ต ิ อุภ + ส ุ = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สหุ ิสวฺ ก�โร เอ. แยกพยัญชนะ ภ ฺ ออกจ�กสระ อ อุภ ฺ อ + สุ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. เพร�ะสวุ ภิ ัตติ แปลง อ เป็น เอ อภุ ฺ อ เอ + สุ เพร�ะสวุ ิภตั ติ แปลง เอ เปน็ โอ อุภฺ เอ โอ + สุ นำ�พยัญชนะ ภฺ ไปประกอบกับสระ โอ อโุ ภสุ สำ�เร็จรปู เป็น อุโภส.ุ (ใน... ท้ังสอง ท.) ทำ�ตวั รปู อุเภส ุ ศพั ท์เดมิ คือ หลงั อุภ ลง ส ุ สัตตมวี ภิ ตั ติ อภุ + ส ุ แยกพยญั ชนะ ภ ฺ ออกจ�กสระ อ อภุ ฺ อ + ส ุ เพร�ะสุวภิ ัตติ แปลง อ เปน็ เอ อุภ ฺ อ เอ + ส ุ นำ�พยัญชนะ ภฺ ไปประกอบกบั สระ เอ อุเภส ุ สำ�เร็จรปู เปน็ อเุ ภสุ. (ใน... ทง้ั สอง ท.) วภิ ัตติ อุภสททฺ ปทม�ล� (ทัง้ สอง) ส�มลงิ ค์ ปฐม�. ทตุ ิย�. พหุวจนะ ตตยิ �. อุโภ อเุ ภ จตตุ ถ.ี อโุ ภ อุเภ ปัญจม.ี อุโภหิ อโุ ภภ ิ อุเภห ิ อเุ ภภิ ฉัฏฐี. อภุ ินนฺ ำ สตั ตม.ี อุโภห ิ อุโภภ ิ อเุ ภหิ อเุ ภภิ อุภินนฺ ำ อโุ ภสุ อเุ ภสุ
232 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม ๒๒๘. โยสุ ทวฺ ินฺนํ เทวฺ จ. โยสุ ในเพร�ะโยวภิ ัตต ิ ท. เทวฺ จ อ.ก�รแปลงเป็น เทวฺ ดว้ ย ทฺวินฺนํ แหง่ ทวฺ ศิ ัพท์ วตตฺ มานานํ อนั เปน็ ไป อย่ ู อติ ฺถิปุมนปุำสเก ในอิตถลี ิง ์ ปงุ ลงิ ค ์ และนปุงสกลิงค ์ สวภิ ตตฺ ีนํ อนั เปน็ ไปกบั ดว้ ยวภิ ัตต ิ โหติ ย่อมม.ี (เพร�ะโยวิภัตติ แปลง ทฺวิ กบั โยวิภัตต ิ เปน็ เทฺว ทั้งส�มลิงค์) สูตรนี้ม ี ๔ บท. เป็น อาเทสวธิ ิสูตร. จศพั ท์ : มีอรรถ อวตุ ตฺ สมจุ ฺจย รวบรวมอรรถที่ไม่ได้กล่�วไวใ้ นสตู รน ี้ คอื ใหแ้ ปลง ทวฺ ิ กับ โยวภิ ตั ติ เป็น ทเุ ว และเพร�ะนำวภิ ตั ต ิ แปลง ทวฺ ิ เป็น ทุวิ เชน่ ทุเว, ทวุ ินฺน.ำ อนุกรณ์ (ก�รเลียนแบบ) มี ๒ อย่�ง (๑) ปจั จัตตานุกรณ์ หม�ยคว�มว่� ก�รทำ�ต�มท่ีสละคว�มเป็นจรงิ เชน่ สูตรว�่ ส ฉสสฺ ว� แปลว�่ แปลง ฉสังขย�เป็น ส บ�้ ง ในตัวอย่�งน ี้ คว�มจรงิ ฉสงั ขย� รูปสำ�เร็จมีเฉพ�ะวิภัตตฝิ ่�ยพหุวจนะเท่�นน้ั แต่ในสตู รท�ำ เป็นเอก วจนะ ฉะนน้ั จึงเปน็ ก�รท�ำ เลียนแบบต�มไวย�กรณเ์ ท่�น้ัน แตไ่ มม่ ใี ชจ้ รงิ ในพระบ�ลี (๒) อปจั จัตตานุกรณ์ หม�ยคว�มว่� ก�รทำ�ต�มทีไ่ มส่ ละคว�มเปน็ จริง เชน่ สูตรว่� โยสุ ทวฺ นิ ฺน ำ เทฺว จ แปลว่� เพร�ะโยวภิ ัตติ ใหแ้ ปลง ทฺวิ กับวภิ ัตตเิ ป็น เทฺว ในตัวอย�่ งน้ ี คว�มจริง ทวฺ ิ เป็นศพั ท์เดยี ว แตใ่ ชร้ ูปเป็นพหูพจน ์ เน่ืองจ�ก ทวฺ ศิ ัพท์แจกปทม�ล�มรี ปู ฝ่�ยพหูพจน์เพยี งอย่�งเดียว ท�ำ ตวั รปู เทวฺ ศัพท์เดิมคือ = ทฺวิ หลัง ทฺว ิ ลง โย ปฐม�วภิ ตั ติ ทวฺ ิ + โย = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลงทวฺ ิกบั โยเปน็ เทฺว ทฺวิ+โย เทวฺ = โยสุ ทฺวินนฺ ำ เทวฺ จ. สำ�เร็จรปู เป็น เทฺว. (เทฺว ธมฺม�, เทวฺ อติ ถฺ ิโย, เทฺว รปู �นิ) ท�ำ ตัวรปู ทุเว ศพั ท์เดมิ คอื = ทวฺ ิ = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. หลงั ทวฺ ิ ลง โย ปฐม�วภิ ัตติ ทวฺ ิ + โย = จศัพท์ ใน โยส ุ ทวฺ ินนฺ ำ เทฺว จ. เพร�ะโยวิภัตต ิ แปลงทฺวกิ บั โยเป็น ทุเว ทฺว+ิ โย ทเุ ว ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ทุเว. (อ.ทง้ั สอง ท.) ทำ�ตวั รูป ทฺวหี ิ ศพั ท์เดิมคือ = ทฺวิ = กรเณ ตตยิ �. หลัง ทวฺ ิ ลง ห ิ ตตยิ �วภิ ัตต ิ ทวฺ ิ + ห ิ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สนุ ำหิสุ จ. แยกพยญั ชนะ ว ฺ ออกจ�กสระ อิ ทฺวฺ อ ิ + หิ = นเย ปรำ ยุตฺเต. เพร�ะหวิ ภิ ัตต ิ ทีฆะ อิ เปน็ อี ทวฺ ฺ อิ อี + หิ น�ำ พยญั ชนะ วฺ ไปประกอบกับสระ อ ี ทวฺ ีห ิ ส�ำ เร็จรปู เป็น ทวฺ ีหิ. (ดว้ ย... ทั้งสอง ท.)
กัณฑ์ ] สพั พนาม ไตรลงิ ค์ 233 ๒๒๙. โน จ ทฺวาทิโต นมํ หฺ .ิ นํมฺหิ ในเพร�ะนำวภิ ตั ต ิ โน จ อ.นฺอ�คมด้วย โหติ ยอ่ มลง ปรํ ในเบอ้ื งหลงั ทวฺ าทโิ ต (สงขฺ ยฺ าสททฺ โต) จ�กสังขย�ศัพท ์ ท.ม ี ทฺวิ เป็นตน้ . (เพร�ะนำวภิ ตั ติ ลง นฺอ�คมหลังจ�กสงั ขย�ศพั ทม์ ี ทฺว ิ เป็นตน้ ) สตู รนี้มี ๔ บท. เป็น อาเทสวธิ สิ ตู ร. จศัพท์ : มอี รรถ อวตุ ฺตสมุจจฺ ย รวบรวมอรรถท่ไี มไ่ ด้กล�่ วไวใ้ นสูตร น้ี คือ หลังจ�ก ต ิ และจตุศพั ทใ์ นอิตถีลิงค์ เพร�ะนำวภิ ตั ต ิ ให้ลง สฺสอำ �คม เชน่ ตสิ ฺสนนฺ ,ำ จตสสฺ นนฺ ำ. ทำ�ตัวรปู ทวฺ นิ ฺนํ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = ทวฺ ิ = สมปฺ ท�เน จตุตฺถี. หลัง ทวฺ ิ ลง นำ จตุตถวี ิภตั ต ิ ทวฺ ิ + น ำ = โน จ ทวฺ �ทิโต นำมหฺ .ิ เพร�ะนวำ ภิ ัตต ิ ลง นอฺ �คมหลงั สังขย� ทฺวิ + น ฺ -น ำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ทวฺ นิ ฺน.ํ (แก่... ทงั้ สอง ท.) ท�ำ ตวั รปู ทุวินนฺ ํ ศพั ท์เดิมคอื = ทฺวิ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ ี. หลงั ทวฺ ิ ลง นำ จตตุ ถีวภิ ตั ติ ทวฺ ิ + นำ = จศัพท์ ใน โยส ุ ทวฺ ินนฺ ำ เทฺว จ. = โน จ ทวฺ �ทโิ ต นำมฺห.ิ เพร�ะนำวิภตั ต ิ แปลง ทวฺ ิ เป็น ทวุ ิ ทฺวิ ทวุ ิ + นำ เพร�ะนำวภิ ตั ติ ลง นฺอ�คมหลงั สังขย� ทุวิ + น ฺ -น ำ สำ�เรจ็ รปู เปน็ ทวุ นิ นฺ ํ. (แก.่ .. ทง้ั สอง ท.) วิภตั ต ิ ทวฺ สิ ทฺทปทม�ล� (สอง) ทงั้ ๓ ลงิ ค์ ปฐม�. ทตุ ิย�. พหุวจนะ ตตยิ �. เทฺว ทเุ ว จตตุ ถ.ี เทวฺ ทุเว ปัญจมี. ทฺวีหิ ทวฺ ภี ิ ฉัฏฐี. ทวฺ ินฺน ำ ทุวินฺนำ สัตตม.ี ทฺวีหิ ทวฺ ีภิ ทวฺ ินฺนำ ทุวินฺนำ ทวฺ ีสุ
234 รูปสิทธทิ ปี นี [ ๒. นาม ๒๓๐. ต-ิ จตนุ นฺ ํ ตสิ ฺโส-จตสโฺ ส-ตโย-จตตฺ าโร-ตณี -ิ จตตฺ าร.ิ โยสุ ในเพร�ะโยวภิ ัตติ ท. ติสโฺ สจตสฺโสตโยจตตฺ าโรตณี จิ ตตฺ าริ อ.ก�รแปลงเปน็ ตสิ โฺ ส, จตสฺโส, ตโย, จตฺต�โร, ตีณิ, จตฺต�ร ิ ท. ติจตนุ นฺ ํ แห่ง ต ิ และ จตสุ ังขย� ท. สวภิ ตฺตีนํ อันเปน็ ไปกบั ด้วยวิภัตต ิ โหนฺต ิ ย่อมมี. (เพร�ะโยวภิ ตั ต ิ แปลง ต ิ กับ โย เปน็ ตโย, ตสิ ฺโส, ตณี ิ และแปลง จตุ กบั โย เปน็ จตฺต�โร, จตสฺโส, จตตฺ �ร)ิ สูตรน้ีม ี ๒ บท คือ ตจิ ตนุ ฺน,ำ ตสิ ฺโสจตสฺโสตโยจตตฺ �โรตีณจิ ตฺต�ร.ิ เป็น อาเทสวธิ สิ ตู ร. ทำ�ตัวรูป ตโย ศัพทเ์ ดิมคอื = ติ หลงั ติ ลง โย ปฐม�วิภตั ติ ติ + โย = ลิงคฺ ตฺเถ ป€มา. เพร�ะโยวิภัตติ แปลง ติ กับ โย เปน็ ตโย ติ+โย ตโย = ตจิ ตนุ นฺ ำ ติสโฺ สจตสโฺ สตโยฯ สำ�เรจ็ รปู เป็น ตโย. (ตโย ปรุ ิส�. อ.บุรษุ ท. ส�มคน) ทำ�ตวั รูป ตโย ศัพท์เดมิ คือ = ติ หลัง ติ ลง โย ทุติย�วภิ ัตติ ติ + โย = กมฺมตฺเถ ทุตยิ �. เพร�ะโยวภิ ัตติ แปลง ต ิ กับ โย เป็น ตโย ติ+โย ตโย = ติจตุนนฺ ำ ติสฺโสจตสโฺ สตโยฯ ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ตโย. (ตโย ปุรเิ ส ปสสฺ . อ.ท่�น จงดู ซ่ึงบรุ ุษ ท. ส�มคน) ทำ�ตัวรูป ตหี ิ ศพั ท์เดมิ คอื = ติ = กรเณ ตติย�. หลงั ติ ลง หิ ตตยิ �วภิ ัตติ ติ + หิ = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สุนหำ สิ ุ จ. แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อิ ต ฺ อิ + ห ิ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. เพร�ะหิวิภตั ต ิ ทฆี ะ อ ิ เป็น อี ตฺ อ ิ อ ี + ห ิ น�ำ พยัญชนะ ต ฺ ไปประกอบกับสระ อ ี ตหี ิ ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ ตีหิ. (ด้วย... ส�ม ท.) ทำ�ตวั รูป ตภี ิ ศัพท์เดมิ คือ = ติ = กรเณ ตตยิ �. หลัง ต ิ ลง ห ิ ตตยิ �วิภัตต ิ ติ + หิ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สุนหำ สิ ุ จ. แยกพยญั ชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ ิ ต ฺ อิ + หิ = สฺม�หิสฺมึน ำ มฺห�ภมิ หฺ ิ ว�. = นเย ปรำ ยุตฺเต. เพร�ะหิวิภตั ติ ทฆี ะ อิ เป็น อ ี ต ฺ อิ อ ี + ห ิ หลังจ�กลงิ ค์ท้งั ปวง แปลง หิ เป็น ภ ิ ต ฺ อี + ห ิ ภ ิ น�ำ พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกับสระ อ ี ตีภ ิ สำ�เร็จรูปเป็น ตภี .ิ (ดว้ ย... ส�ม ท.) ๒๓๑. อณิ ฺณ’มิณณฺ นฺนํ ตหี ิ สงฺขฺยาหิ. นํ อ.นวำ ิภตั ติ ปรํ อนั เปน็ เบอ้ื งหลงั ตีหิ สงขฺ ฺยาหิ จ�กติสงั ขย� อิณฺณมณิ ฺณนนฺ ํ แปลงเปน็ อณิ ณฺ ำ และ อิณณฺ นฺน ำ โหติ ยอ่ มเปน็ .
กัณฑ์ ] สัพพนาม ไตรลิงค์ 235 (หลงั จ�กติสงั ขย� แปลงนวำ ภิ ัตติ เป็น อิณณฺ ำ และ อิณณฺ นฺนำ) สูตรน้ีมี ๓ บท. เป็น อาเทสวิธิสูตร. ท�ำ ตวั รปู ตณิ ฺณํ ศัพทเ์ ดิมคือ = ติ หลัง ต ิ ลง นำ จตุตถวี ภิ ตั ติ ต ิ + น ำ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ .ี หลงั จ�กตสิ งั ขย� แปลง นำ เป็น อณิ ณฺ ำ ติ + น ำ อณิ ณฺ ำ = อณิ ณฺ มณิ ณฺ นฺน ำ ตหี ิ สงฺขยฺ �หิ. แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ ิ ตฺ อิ + อณิ ฺณำ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกต ิ ต ฺ อิ + อณิ ณฺ ำ = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทิมหฺ ฯิ น�ำ พยญั ชนะ ตฺ ไปประกอบกับสระ อิ ตณิ ณฺ ำ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เร็จรปู เปน็ ตณิ ฺณ.ํ (ติณฺณำ ปรุ ิส�นำ. แก่บรุ ุษ ท. ทง้ั ส�ม) ทำ�ตัวรปู ติณฺณนนฺ ํ ศัพทเ์ ดิมคือ = ติ หลัง ต ิ ลง น ำ จตตุ ถวี ิภัตต ิ ต ิ + น ำ = สมฺปท�เน จตุตถฺ ี. หลังจ�กตสิ งั ขย� แปลงน ำ เป็นอิณณฺ นนฺ ำ ติ + น ำ อิณฺณนฺน ำ = อณิ ฺณมิณณฺ นนฺ ำ ตหี ิ สงฺขยฺ �ห.ิ แยกพยัญชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อิ ต ฺ อิ + อิณณฺ นฺน ำ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ ตฺ อิ + อณิ ณฺ นฺนำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหฯิ นำ�พยญั ชนะ ตฺ ไปประกอบกับสระ อ ิ ติณณฺ นฺนำ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. สำ�เรจ็ รปู เป็น ติณณฺ นนฺ .ํ (ติณฺณนฺนำ ปุริส�น.ำ แก่บุรษุ ท. ท้งั ส�ม) วิภัตติ ตสิ ททฺ ปทม�ล� (ส�ม) ปงุ ลิงค์ ปฐม�. ทตุ ิย�. พหวุ จนะ ตตยิ �. ตโย จตตุ ถี. ตโย ปญั จม.ี ตหี ิ ตีภิ ฉฏั ฐี. ตณิ ฺณำ ติณฺณนนฺ ำ สัตตมี. ตหี ิ ตภี ิ ตณิ ฺณ ำ ติณณฺ นฺนำ ตีสุ ทำ�ตัวรปู ตสิ ฺโส ศัพทเ์ ดิมคอื = ติ = ลงิ ฺคตฺเถ ป€มา. หลงั ติ ลง โย ปฐม�วิภตั ติ ต ิ + โย = ตจิ ตุนนฺ ำ ตสิ โฺ สจตสโฺ สตโยฯ เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลงติกับโย เป็นตสิ ฺโส ติ+โย ตสิ โฺ ส
236 รูปสิทธทิ ปี นี [ ๒. นาม ส�ำ เร็จรปู เปน็ ตสิ ฺโส. (ตสิ ฺโส อติ ฺถโิ ย. อ.หญงิ ท. ส�มคน) ท�ำ ตัวรูป ตสิ ฺโส ศัพทเ์ ดิมคือ = ติ หลงั ต ิ ลง โย ทุตยิ �วิภัตต ิ ติ + โย = กมฺมตฺเถ ทุติย�. เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลง ติ กับ โย เป็น ติสโฺ สติ+โย ติสโฺ ส = ติจตนุ ฺน ำ ตสิ ฺโสจตสโฺ สตโยฯ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ติสโฺ ส. (ตสิ โฺ ส อิตถฺ ิโย ปสสฺ . อ.ท่�น จงดู ซึง่ หญงิ ท. ส�มคน) ทำ�ตวั รปู ตสิ ฺสนนฺ ํ ศพั ทเ์ ดิมคอื = ติ หลงั ติ ลง น ำ จตุตถวี ิภัตต ิ ต ิ + น ำ = สมฺปท�เน จตตุ ฺถี. เพร�ะนำวิภตั ต ิ ลง สฺสอำ �คม ต ิ + สฺสำ -น ำ = จศพั ท ์ ใน โน จ ทฺว�ทิโต นำมฺหิ. เพร�ะพยัญชนะ แปลง นิคหิต เป็น นฺ ติ + สสฺ ำ น ฺ -น ำ = วคฺคนตฺ ำ ว� วคเฺ ค. ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ติสสฺ นฺนํ. (ติสฺสนนฺ ำ อิตถฺ ีนำ. แก่หญงิ ท. ส�มคน) วภิ ตั ติ ตสิ ทฺทปทม�ล� (ส�ม) อติ ถลี งิ ค์ ปฐม�. ทตุ ิย�. พหุวจนะ ตตยิ �. ติสฺโส จตุตถ.ี ติสฺโส ปญั จม.ี ตีห ิ ตภี ิ ฉัฏฐี. ติสสฺ นฺนำ สตั ตม.ี ตีห ิ ตีภิ ติสสฺ นนฺ ำ ตสี ุ ทำ�ตวั รปู ตีณิ ศพั ท์เดิมคือ = ติ หลงั ต ิ ลง โย ปฐม�วิภัตต ิ ต ิ + โย = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะโยวิภตั ต ิ แปลง ติ กับ โย เปน็ ตีณิ ต+ิ โย ตีณิ = ติจตุนนฺ ำ ตสิ โฺ สจตสฺโสตโยฯ สำ�เรจ็ รูปเปน็ ตณี ิ. (ตณี ิ กุล�น.ิ อ.ตระกลู ท. ท้ังส�ม) ท�ำ ตัวรูป ตณี ิ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = ติ หลัง ต ิ ลง โย ทุติย�วภิ ตั ติ ติ + โย = กมฺมตเฺ ถ ทตุ ยิ �. เพร�ะโยวิภตั ต ิ แปลง ต ิ กบั โย เป็น ตณี ิ ติ+โย ฎ ตีณิ = ตจิ ตนุ นฺ ำ ติสโฺ สจตสโฺ สตโยฯ ส�ำ เร็จรูปเปน็ ตณี ิ. (ตณี ิ กลุ �น ิ ปสสฺ . อ.ท่�น จงด ู ซ่งึ ตระกูล ท. ทง้ั ส�ม)
กัณฑ์ ] สัพพนาม ไตรลงิ ค์ 237 ท�ำ ตัวรปู ตณิ ฺณํ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ติ หลัง ติ ลง น ำ จตุตถวี ภิ ัตติ ต ิ + น ำ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ ี. หลงั จ�กตสิ งั ขย� แปลง นำ เปน็ อณิ ณฺ ำ ต ิ + นำ อณิ ฺณำ = อิณฺณมิณณฺ นนฺ ำ ตหี ิ สงขฺ ฺย�ห.ิ แยกพยัญชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ ิ ต ฺ อิ + อณิ ฺณ ำ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ ต ฺ อ ิ + อณิ ฺณำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหิฯ นำ�พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกับสระ อิ ติณณฺ ำ = นเย ปรำ ยุตฺเต. ส�ำ เร็จรปู เปน็ ติณฺณ.ํ (ติณณฺ ำ กุล�นำ. แกต่ ระกลู ท. ทัง้ ส�ม) หม�ยเหต:ุ - ตศิ ัพท์ทเ่ี ป็นนปงุ สกลงิ ค ์ ต้งั แตต่ ติย�วภิ ตั ติ จนถึงสัตตมวี ิภตั ติ มรี ูปเหมอื นติศพั ท์ในปงุ ลงิ ค์ วิภตั ต ิ ติสททฺ ปทม�ล� (ส�ม) นปงุ สกลิงค์ ปฐม�. ทุติย�. พหวุ จนะ ตติย�. ตณี ิ จตตุ ถี. ตณี ิ ปัญจม.ี ตหี ิ ตีภิ ฉฏั ฐ.ี ติณณฺ ำ ติณฺณนนฺ ำ สัตตมี. ตีห ิ ตภี ิ ติณฺณำ ติณฺณนนฺ ำ ตีสุ ทำ�ตัวรปู จตตฺ าโร ศพั ท์เดมิ คือ = จตุ หลัง จตุ ลง โย ปฐม�วภิ ัตติ จตุ + โย = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. เพร�ะโย แปลง จต ุ กับ โย เป็น จตฺต�โร จต+ุ โย จตฺต�โร = ตจิ ตนุ ฺนำ ติสฺโสจตสโฺ สตโยฯ สำ�เรจ็ รูปเป็น จตฺตาโร. (จตฺต�โร ปรุ ิส�. อ.บุรษุ ท. สีค่ น) ทำ�ตวั รปู จตโุ ร ศพั ท์เดิมคอื = จตุ หลงั จต ุ ลง โย ปฐม�วภิ ัตติ จตุ + โย = ลิงคฺ ตฺเถป€มา. หลงั จตุศัพท์ แปลง โย เปน็ โอ จตุ + โย โอ = ตุศัพทใ์ น ตโต โยนโม ตุ. เพร�ะสระหลงั ลง รอฺ �คม จตุ + รฺ -โอ = ยวมทนตรล� จ�คม�. น�ำ พยญั ชนะ รฺ ไปประกอบกับสระ โอ จตุโร = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. สำ�เร็จรปู เปน็ จตุโร. (จตุโร ปุรสิ �. อ.บุรษุ ท. สค่ี น)
238 รปู สิทธิทีปนี [ ๒. นาม ท�ำ ตวั รูป จตหู ิ ศพั ท์เดมิ คอื = จตุ = กรเณ ตตยิ �. หลัง จต ุ ลง ห ิ ตติย�วิภัตติ จตุ + หิ = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สนุ ำหสิ ุ จ. แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อุ จต ฺ อ ุ + ห ิ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. เพร�ะสุวภิ ตั ติ ทีฆะ อุ เปน็ อ ู จต ฺ อ ุ อู + หิ = จตุ = กรเณ ตตยิ �. น�ำ พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกับสระ อู จตหู ิ = สฺม�หิสฺมนึ ำ มหฺ �ภิมหฺ ิ ว�. = วคเฺ ค โฆส�โฆส�น ำ ตตยิ ป€ม�. ส�ำ เร็จรูปเป็น จตหู .ิ (ดว้ ย... ส่ี ท.) = จตุ ทำ�ตวั รปู จตุพฺภ ิ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = สมปฺ ท�เน จตุตฺถี. = โน จ ทวฺ �ทโิ ต นมำ หฺ ิ. หลงั จต ุ ลง ห ิ ตตยิ �วภิ ัตติ จต ุ + หิ = จตุ หลงั จ�กลงิ ค์ทั้งปวง แปลง ห ิ เป็น ภ ิ จต ุ + ห ิ ภิ = โอก�เส สตฺตม.ี = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. พฺ อสทสิ เทวภ�วะ จตุ + พ ฺ -ภ ิ = สุนหำ สิ ุ จ. = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. สำ�เร็จรปู เป็น จตพุ ฺภิ. (ด้วย... ส ่ี ท.) ท�ำ ตัวรูป จตนุ นฺ ํ ศพั ท์เดิมคอื หลงั จตุ ลง น ำ จตตุ ถีวภิ ัตติ จตุ + นำ เพร�ะนวำ ภิ ตั ต ิ ลง นฺอ�คม จต ุ + น ฺ -น ำ ส�ำ เร็จรปู เป็น จตุนฺน.ํ (แก.่ .. สี ่ ท.) ทำ�ตวั รูป จตูส ุ ศัพท์เดมิ คือ หลัง จต ุ ลง ส ุ สัตตมีวภิ ตั ต ิ จต ุ + ส ุ แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ ุ จต ฺ อุ + ส ุ เพร�ะสวุ ิภตั ต ิ ทฆี ะ อ ุ เป็น อู จต ฺ อ ุ อู + ส ุ น�ำ พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกบั สระ อู จตูสุ สำ�เร็จรปู เปน็ จตูสุ. (ใน... ส ี่ ท.) วภิ ตั ต ิ จตุสททฺ ปทม�ล� (ส)่ี ปุงลิงค์ ปฐม�. ทตุ ยิ �. พหุวจนะ ตตยิ �. จตตฺ �โร จตโุ ร จตุตถ.ี จตฺต�โร จตโุ ร ปญั จมี. จตูหิ จตูภิ จตุพภฺ ิ ฉัฏฐ.ี จตุนนฺ ำ จตูหิ จตูภิ จตุพภฺ ิ จตนุ นฺ ำ
กณั ฑ์ ] สัพพนาม ไตรลิงค์ 239 สัตตม.ี จตูสุ ทำ�ตัวรปู จตสโฺ ส ศพั ท์เดิมคือ = จตุ หลัง จตุ ลง โย ปฐม�วภิ ัตติ จต ุ + โย = ลิงคฺ ตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะโย แปลง จตุ กับ โย เปน็ จตสโฺ ส จตุ+โย จตสฺโส = ตจิ ตุนนฺ ำ ติสฺโสจตสฺโสตโยฯ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น จตสฺโส. (จตสฺโส อิตฺถโิ ย. อ.หญงิ ท. ส่ีคน) ทำ�ตัวรปู จตสสฺ นนฺ ํ ศัพท์เดิมคอื = จตุ หลัง จต ุ ลง นำ จตุตถีวภิ ตั ติ จต ุ + น ำ = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ ี. เพร�ะนำวภิ ตั ต ิ ลง สฺสอำ �คม จต ุ + สสฺ ำ -นำ = จศพั ทใ์ น โน จ ทฺว�ทิโต นมำ หฺ ิ. เพร�ะพยัญชนะ แปลงนิคหติ เปน็ นฺ จต ุ + สฺส ำ น ฺ -น ำ = วคฺคนตฺ ำ ว� วคเค. แยกพยญั ชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อุ จต ฺ อุ + สสฺ นนฺ ำ = ปุพฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. แปลง อ ุ เป็น อ จตฺ อ ุ อ + สฺสนนฺ ำ = เตสุ วุทธฺ โิ ลป�คมวกิ �รวปิ รตี �ฯ น�ำ พยัญชนะ ต ฺ ไปประกอบกบั สระ อ จตสฺสนนฺ ำ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. ส�ำ เร็จรูปเปน็ จตสฺสนนฺ ํ. (จตสฺสนนฺ ำ อติ ถฺ ีนำ. แก.่ .. หญงิ ท. สี่คน) วภิ ัตต ิ จตสุ ทฺทปทม�ล� (ส่)ี อิตถลี งิ ค์ ปฐม�. ทตุ ิย�. พหวุ จนะ ตติย�. จตสโฺ ส จตตุ ถ.ี จตสฺโส ปญั จมี. จตหู ิ จตูภ ิ จตุพฺภิ ฉฏั ฐี. จตสสฺ นฺนำ สตั ตมี. จตหู ิ จตูภิ จตุพฺภิ จตสสฺ นฺนำ จตูสุ ทำ�ตวั รูป จตฺตาร ิ ศัพท์เดมิ คือ = จตุ หลงั จต ุ ลง โย ปฐม�วิภตั ติ จต ุ + โย = ลิงคฺ ตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะโย แปลง จต ุ กบั โย เปน็ จตตฺ �ริ จต+ุ โย จตตฺ �ร ิ = ติจตุนนฺ ำ ตสิ ฺโสจตสฺโสตโยฯ ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ จตตฺ าริ. (จตตฺ �ริ กลุ �นิ. อ.ตระกลู ท. สีต่ ระกูล)
240 รูปสิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม ทำ�ตวั รปู จตตฺ าริ ศัพท์เดิมคอื = จตุ หลงั จตุ ลง โย ทตุ ยิ �วิภัตต ิ จตุ + โย = กมมฺ ตฺเถ ทตุ ยิ �. เพร�ะโย แปลง จตุ กบั โย เป็น จตตฺ �ร ิ จต+ุ โย จตฺต�ร ิ = ตจิ ตนุ ฺนำ ตสิ ฺโสจตสฺโสตโยฯ สำ�เร็จรูปเปน็ จตฺตาร.ิ (จตฺต�ร ิ กลุ �น.ิ ซ่ึง...ตระกลู ท. สี่ตระกลู ) ท�ำ ตวั รูป จตุนนฺ ํ ศพั ท์เดิมคอื = จตุ = สามิสมฺ ึ ฉฏ€ฺ ี. หลัง จต ุ ลง นำ ฉฏั ฐีวิภัตติ จตุ + นำ = โน จ ทวฺ �ทิโต นมำ หฺ .ิ เพร�ะนำวภิ ตั ต ิ ลง นฺอ�คม จต ุ + น ฺ -น ำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น จตนุ ฺนํ. (แก่... ส ่ี ท.) วิภัตต ิ จตุสทฺทปทม�ล� (ส่)ี นปุงสกลิงค์ ปฐม�. ทตุ ยิ �. พหวุ จนะ ตติย�. จตฺต�ริ จตุตถ.ี จตตฺ �ริ ปญั จม.ี จตูห ิ จตูภิ จตพุ ฺภิ ฉฏั ฐ.ี จตุนนฺ ำ สัตตม.ี จตูห ิ จตูภิ จตพุ ภฺ ิ จตุนฺนำ จตสู ุ ก�รก�ำ หนดลงิ คแ์ ละวจนะของสงั ขย� (๑) ตงั้ แต ่ ทฺว ิ ถงึ อฏฺ€ารส (๒-๑๘) เปน็ พหวุ จนะ ส�มลิงค์ (๒) ตง้ั แต่ เอกูนวีสต ิ ถึง อฏฺ€นวตุ ิ (๑๙-๙๘) เปน็ เอกวจนะ อิตถีลงิ ค์ (๓) ตั้งแต่ เอกูนสต ำ ถงึ อสงฺเขยฺ ยยฺ เป็นนปุงสกลิงค ์ ๒ วจนะ (๔) โกฏ,ิ ปโกฏ,ิ โกฏิปโกฏ ิ และ อกโฺ ขภณิ ี เปน็ อิตถลี งิ ค ์ ๒ วจนะ ค�ถ� แสดงก�รก�ำ หนดลงิ ค์และวจนะของสังขย� ทฺว�ทโย อฏฺ€ารสนตฺ า ตลิ งิ ฺเค พหวุ �จก� วสี ตยฺ �ที นวตุ ยฺ นฺต� อติ ฺถิลิงเฺ คกว�จก�. สต�ที อสงฺขฺเยยยฺ นฺต� นปำุสก� ทวฺ วิ �จก� โกฏปิ ภตุ ยฺ กโฺ ขภิณี อิตถฺ ลิ งิ ฺค� ทวฺ ิว�จก�.
กัณฑ์ ] สพั พนาม อลิงคนาม 241 สงั ขย�ทงั้ หล�ยม ี ทฺว ิ เปน็ ต้น ถึง อฏฺ€ารส เป็นพหวุ จนะ ในลิงค์ทงั้ ๓, ตัง้ แต่ เอกูนวีสติ ถึง อฏฺ€นวตุ ิ เป็นอิตถีลงิ ค์ เท่�นั้น, ตัง้ แต ่ เอกนู สต ำ ถงึ อสงฺเขยฺ ยยฺ เปน็ นปุำสกลิงค ์ ๒ วจนะ, โกฏ,ิ ปโกฏ,ิ โกฏปิ โกฏ ิ และ อกโฺ ขภณิ ี เปน็ อิตถลี ิงค ์ ๒ วจนะ จบ สพั พน�ม ไตรลิงค์ ___________ ๔.๒ สพั พน�ม อลิงคน�ม ๒๓๒. ตฺว’มหํ สิมฺหิ จ. สมิ ฺหิ ในเพร�ะสวิ ิภัตติ ตฺวมหํ จ อ.ก�รแปลงเป็น ตฺวำ และ อหำ ท.ด้วย ตุมฺหมฺหากํ แห่งตมุ หฺ และอมหฺ ศพั ท ์ ท. สวิภตตฺ นี ํ อันเปน็ ไปกับด้วยวิภตั ติ โหนฺติ ยอ่ มม.ี (เพร�ะสวิ ิภตั ต ิ แปลง ตุมหฺ กบั ส ิ เปน็ ตฺวำ และแปลง อมฺห กับ ส ิ เปน็ อห)ำ สตู รนี้มี ๓ บท. เปน็ อาเทสวิธสิ ูตร. จศัพท์ : มีอรรถ อวตุ ตฺ สมุจฺจย รวบรวมอรรถท่ไี มไ่ ด้กล่�วไว้ในสูตร คอื แปลง ตมุ ฺห กบั ส ิ เปน็ ตุว.ำ ทำ�ตัวรปู ตฺวํ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ตมุ หฺ = ลิงคฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลัง ตมุ ฺห ลง ส ิ ปฐม�วิภัตติ ตมุ หฺ + สิ = ตวฺ มห ำ สมิ ฺหิ จ. เพร�ะสวิ ิภัตต ิ แปลงตุมหฺ กบั ส ิ เปน็ ตวฺ ำ ตุมฺห+ส ิ ตฺว ำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ตวฺ ํ. (อ.ท�่ น) ท�ำ ตวั รปู ตวุ ํ ศัพท์เดิมคือ = ตมุ ฺห = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. หลงั ตุมหฺ ลง สิ ปฐม�วิภตั ติ ตุมหฺ + สิ = จศัพทใ์ น ตวฺ มหำ สมิ ฺหิ จ. เพร�ะสวิ ภิ ัตต ิ แปลงตมุ หฺ กบั ส ิ เป็น ตวุ ำ ตุมหฺ +สิ ตวุ ำ = อมหฺ = ลงิ ฺคตเฺ ถ ป€มา. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ ตุว.ํ (อ.ท�่ น) = ตวฺ มห ำ สมิ ฺหิ จ. ท�ำ ตัวรปู อห ํ ศัพท์เดมิ คือ หลัง อมหฺ ลง สิ ปฐม�วภิ ัตต ิ อมหฺ + สิ เพร�ะสวิ ิภตั ติ แปลงอมฺหกับ ส ิ เป็น อหำ อมหฺ +ส ิ อห ำ สำ�เรจ็ รูปเป็น อห.ํ (อ.ข้�พเจ�้ )
242 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตัวรูป ตมุ เฺ ห ศพั ท์เดมิ คอื = ตมุ ฺห = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. หลัง ตุมฺห ลง โย ปฐม�วภิ ัตติ ตุมฺห + โย = สพพฺ นามการเต ป€โม. = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั จ�กสพั พน�ม แปลง โย เปน็ เอ ตุมหฺ + โย เอ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหิฯ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. แยกพยญั ชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ ตุมหฺ ฺ อ + เอ = อมหฺ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ ตมุ ฺห ฺ อ + เอ = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. = สพฺพนามการเต ป€โม. นำ�พยัญชนะ ห ฺ ไปประกอบกับสระ เอ ตมุ ฺเห = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมหฺ ฯิ สำ�เรจ็ รูปเป็น ตมุ ฺเห. (อ.ท�่ น ท.) = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. ท�ำ ตวั รปู อมฺเห ศัพทเ์ ดิมคอื หลัง อมฺห ลง โย ปฐม�วภิ ตั ติ อมฺห + โย หลงั จ�กสัพพน�ม แปลง โย เป็น เอ อมฺห + โย เอ แยกพยัญชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ อมหฺ ฺ อ + เอ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ อมฺห ฺ อ + เอ นำ�พยัญชนะ ห ฺ ไปประกอบกับสระ เอ อมฺเห สำ�เร็จรปู เป็น อมเฺ ห. (อ.ข้�พเจ�้ ท.) ๒๓๓. มยํ โยมหฺ ิ ป€เม. โยมฺห ิ ในเพร�ะโยวิภัตติ ป€เม อนั เป็นปฐม� มยำ อ.ก�รแปลงเปน็ มยำ อมฺหสสฺ แห่งอมหฺ ศัพท์ สวภิ ตตฺ ิสสฺ อันเป็นไปกับด้วยวิภตั ต ิ โหติ ยอ่ มม.ี (เพร�ะโยปฐม�วิภัตติ แปลง อมฺห กับ โย เป็น มย)ำ สตู รนม้ี ี ๓ บท. เปน็ อาเทสวธิ สิ ูตร. ทำ�ตวั รูป มยํ ศพั ทเ์ ดมิ คือ = อมฺห หลัง อมฺห ลง โย ปฐม�วิภตั ติ อมหฺ + โย = ลงิ ฺคตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะโยวิภัตต ิ แปลงอมหฺ กบั โยเป็นมย ำ อมฺห+โย มยำ = มยํ โยมฺหิ ป€เม. ส�ำ เรจ็ รูปเป็น มย.ํ (มย ำ คจฉฺ �ม. อ.ข้�พเจ�้ ท. จะไป) ๒๓๔. ตว-ํ มมฺ’จ นวา. อํมหฺ ิ จ ในเพร�ะอวำ ิภัตติดว้ ย ตวมํ มํ อ.ก�รแปลงเปน็ ตวำ และมมำ ท. ตุมหฺ มฺหากํ แหง่ ตมุ หฺ ศพั ท์และอมหฺ ศพั ท์ ท. สวิภตฺตีนํ อนั เปน็ ไปกบั ดว้ ยวภิ ัตต ิ โหนตฺ ิ ย่อมมี นวา บ�้ ง. (เพร�ะอำวภิ ัตติ แปลง ตุมหฺ กับ อำ เปน็ ตว ำ และแปลง อมฺห กับ อ ำ เปน็ มม ำ บ�้ ง) สูตรน้มี ี ๓ บท คือ ตวำมม,ำ จ, นว�. เปน็ อาเทสวธิ สิ ูตร. จศัพท ์ : มีอรรถ อนกุ ฑฒฺ น ดึงบทว่� “อำมหฺ ิ” ม� ไว้ในสูตรน.้ี
กณั ฑ์ ] สพั พนาม อลิงคนาม 243 ท�ำ ตัวรปู ตว ํ ศัพท์เดิมคอื = ตมุ หฺ = กมฺมตเฺ ถ ทตุ ยิ �. หลงั ตุมฺห ลง อ ำ ทุติย�วิภตั ติ ตุมฺห + อ ำ = ตวมํ มฺจ นวา. เพร�ะอำวภิ ัตติ แปลงตุมฺหกบั อ ำ เป็น ตว ำ ตุมฺห+อ ำ ตว ำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ตวํ. (ตวำ ปสสฺ . อ.ท่�น จงดู ซึ่งท�่ น) ทำ�ตวั รูป มม ํ ศัพทเ์ ดิมคือ = อมฺห หลงั อมหฺ ลง อ ำ ทุตยิ �วิภัตติ อมหฺ + อ ำ = กมฺมตฺเถ ทุติย�. เพร�ะอำวภิ ัตต ิ แปลงอมฺหกับอ ำ เป็น มมำ อมหฺ +อ ำ มม ำ = ตวมํ มฺจ นวา. ส�ำ เร็จรูปเปน็ มม.ํ (มม ำ ปสฺส. อ.ท่�น จงด ู ซงึ่ ข�้ พเจ�้ ) ๒๓๕. ต-ํ ม’มมํ ฺหิ. อมํ ฺหิ ในเพร�ะอำวภิ ตั ต ิ ตมํ ํ อ.ก�รแปลงเปน็ ต ำ และมำ ท. ตมุ ฺหมหฺ าก ํ แห่งตุมฺหศัพทแ์ ละอมหฺ ศพั ท ์ ท. สวภิ ตฺตนี ํ อนั เป็นไปกบั ดว้ ยวภิ ตั ติ โหนตฺ ิ ย่อมม.ี (เพร�ะอวำ ภิ ตั ต ิ แปลง ตุมฺห กบั อำ เปน็ ตำ และแปลง อมฺห กบั อำ เปน็ ม)ำ สูตรนี้มี ๒ บท คือ ตมำ ำ, อำมฺห.ิ เปน็ อาเทสวิธสิ ตู ร. ทำ�ตัวรูป ตํ ศัพทเ์ ดมิ คอื = ตุมฺห = กมมฺ ตเฺ ถ ทุตยิ �. หลัง ตมุ หฺ ลง อ ำ ทตุ ิย�วภิ ตั ต ิ ตุมหฺ + อำ = ตำมมำมฺหิ. เพร�ะอวำ ิภัตต ิ แปลง ตมุ หฺ กับอ ำ เป็น ตำ ตมุ หฺ +อ ำ ต ำ สำ�เรจ็ รปู เปน็ ต.ํ (ต ำ ปสฺส. อ.ท�่ น จงด ู ซง่ึ ท�่ น) ท�ำ ตัวรปู มํ ศัพท์เดิมคอื = อมหฺ = กมฺมตฺเถ ทุติย�. หลัง อมหฺ ลง อ ำ ทุตยิ �วภิ ตั ติ อมฺห + อำ = ตมำ มมำ หฺ ิ. เพร�ะอวำ ภิ ัตต ิ แปลง อมฺห กบั อำ เปน็ ม ำ อมฺห+อ ำ มำ สำ�เรจ็ รปู เปน็ ม.ํ (มำ ปสสฺ . อ.ท่�น จงดู ซงึ่ ข�้ พเจ้�) ๒๓๖. ตมุ ฺหสสฺ ตุวํ-ตฺว’มมํ หฺ ิ. อํมฺห ิ ในเพร�ะอำวิภัตต ิ ตุวํตฺวํ อ.ก�รแปลงเปน็ ตวุ ำ และตฺว ำ ท. ตมุ หฺ สฺส แห่งตมุ หฺ ศพั ท ์ สวภิ ตฺตสิ ฺส อนั เป็น ไปกับด้วยวิภตั ติ โหนฺต ิ ย่อมมี. (เพร�ะอวำ ภิ ตั ติ แปลง ตมุ หฺ กับ อำ เปน็ ตุวำ และ ตฺวำ) สตู รนี้ม ี ๓ บท คือ ตุมฺหสสฺ , ตุวำตวฺ ำ, อำมหฺ .ิ เปน็ อาเทสวิธิสูตร. ท�ำ ตวั รูป ตวุ ํ ศัพทเ์ ดมิ คอื = ตมุ หฺ ตมุ ฺห + อำ = กมมฺ ตเฺ ถ ทตุ ิย�. หลัง ตุมหฺ ลง อำ ทตุ ิย�วิภตั ติ
244 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม เพร�ะอำวภิ ตั ติ แปลงตุมฺหกับอ ำ เป็น ตวุ ำ ตมุ หฺ +อ ำ ตวุ ำ = ตมุ ฺหสฺส ตวุ ตำ ฺวมมำ หฺ .ิ สำ�เร็จรูปเป็น ตวุ ํ. (ตุวำ ปสสฺ . อ.ท�่ น จงดู ซ่งึ ท่�น) = ตมุ ฺห = กมมฺ ตเฺ ถ ทุตยิ �. ท�ำ ตวั รูป ตฺว ํ ศัพท์เดิมคอื = ตมุ ฺหสฺส ตวุ ตำ วฺ มมำ ฺห.ิ หลงั ตุมหฺ ลง อำ ทุตยิ �วิภตั ติ ตุมหฺ + อ ำ เพร�ะอำวภิ ัตติ แปลงตุมหฺ กบั อำ เปน็ ตวฺ ำ ตมุ หฺ +อ ำ ตฺว ำ สำ�เร็จรปู เปน็ ตวฺ ํ. (ตวฺ ำ ปสสฺ . อ.ท่�น จงด ู ซึ่งท่�น) ๒๓๗. วา ยวฺ ’ปฺป€โม. โย อ.โยวิภัตติ อปฺป€โม อนั ไม่ใช่ปฐม� ปโร อนั เป็นเบอื้ งหลัง ตุมหฺ มฺเหหิ จ�กตุมฺหศัพทแ์ ละอมฺหศัพท์ ท. อากํ แปลงเปน็ อ�กำ โหติ ย่อมเป็น วา บ�้ ง. (หลังจ�กตุมฺหศพั ทแ์ ละอมฺหศพั ท ์ แปลงโยทุติย�วิภตั ต ิ เป็น อ�กำ บ�้ ง) สูตรนมี้ ี ๓ บท คอื ว�, โย, อปฺป€โม. เป็น อาเทสวธิ ิสูตร. ท�ำ ตวั รปู ตมุ หฺ ากํ ศพั ท์เดิมคือ = ตมุ ฺห หลัง ตุมฺห ลง โย ทุตยิ �วภิ ตั ติ ตุมหฺ + โย = กมมฺ ตฺเถ ทุติย�. หลงั จ�กตมุ ฺหศพั ท ์ แปลง โย เป็น อ�กำ ตมุ ฺห + โย อ�กำ = วา ยฺวปปฺ €โม. แยกพยัญชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ ตมุ หฺ ฺ อ + อ�กำ = ปุพพฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ ตุมฺห ฺ อ + อ�กำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ ฺหฯิ น�ำ พยญั ชนะ ห ฺ ไปประกอบกับสระ อ� ตุมหฺ �ก ำ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. สำ�เรจ็ รูปเป็น ตุมหฺ ากํ. (ตมุ หฺ �กำ ปสสฺ �ม.ิ อ.ข�้ พเจ�้ ย่อมเห็น ซ่ึงท่�น ท.) ท�ำ ตวั รปู ตุมเฺ ห ศัพท์เดมิ คอื = ตมุ ฺห หลัง ตมุ หฺ ลง โย ทุตยิ �วภิ ัตติ ตมุ ฺห + โย = กมฺมตฺเถ ทตุ ยิ �. หลงั จ�กอก�รนั ต์ แปลง โย เป็น เอ ตมุ ฺห + โย เอ = สพฺพโยนีนม�เอ. แยกพยัญชนะ ห ฺ ออกจ�กสระ อ ตมุ ฺห ฺ อ + เอ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกต ิ ตุมฺห ฺ อ + เอ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ หฺ ฯิ น�ำ พยัญชนะ ห ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ตุมเฺ ห = นเย ปรำ ยุตฺเต. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ตมุ ฺเห. (ตมุ เฺ ห ปสสฺ �ม.ิ อ.ข�้ พเจ้� ยอ่ มเห็น ซึ่งท�่ น ท.) ทำ�ตวั รูป อมฺหาก ํ ศัพทเ์ ดิมคือ = อมหฺ = กมฺมตฺเถ ทตุ ิย�. หลัง อมหฺ ลง โย ทตุ ยิ �วิภัตติ อมฺห + โย = วา ยฺวปปฺ €โม. หลังจ�กอมฺหศพั ท ์ แปลง โย เปน็ อ�ก ำ อมหฺ + โย อ�กำ
กัณฑ์ ] สัพพนาม อลิงคนาม 245 แยกพยญั ชนะ ห ฺ ออกจ�กสระ อ อมหฺ ฺ อ + อ�กำ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ อมหฺ ฺ อ + อ�กำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหิฯ น�ำ พยัญชนะ ห ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อมหฺ �กำ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เรจ็ รปู เป็น อมหฺ าก.ํ (อมฺห�ก ำ ปสสฺ ส.ิ อ.ท่�น ย่อมเหน็ ซึง่ ข้�พเจ้� ท.) ท�ำ ตวั รปู อมเฺ ห ศัพท์เดิมคอื = อมฺห หลัง อมหฺ ลง โย ทตุ ยิ �วภิ ตั ต ิ อมฺห + โย = กมฺมตเฺ ถ ทตุ ยิ �. หลังจ�กอมหฺ ศพั ท ์ แปลง โย เป็น เอ อมหฺ + โย เอ = สพพฺ โยนนี ม�เอ. แยกพยัญชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ อมฺห ฺ อ + เอ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ อมฺห ฺ อ + เอ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหฯิ น�ำ พยัญชนะ ห ฺ ไปประกอบกับสระ เอ อมเฺ ห = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. สำ�เร็จรูปเป็น อมเฺ ห. (อมฺเห ปสสฺ สิ. อ.ท�่ น ยอ่ มเห็น ซ่งึ ข�้ พเจ�้ ท.) ๒๓๘. นามฺหิ ตยา-มยา. นามหฺ ิ ในเพร�ะน�วภิ ตั ติ ตยามยา อ.ก�รแปลงเป็น ตย� และมย� ท. ตุมหฺ มหฺ ากํ แหง่ ตมุ ฺหศพั ท ์ และอมหฺ ศพั ท์ ท. สวิภตตฺ ีนํ อนั เป็นไปกับด้วยวภิ ัตติ โหนตฺ ิ ย่อมม.ี (เพร�ะน�วภิ ตั ติ แปลง ตมุ หฺ กบั น� เปน็ ตย� และแปลง อมฺห กบั น� เป็น มย�) สูตรนี้ม ี ๒ บท. เป็น อาเทสวธิ สิ ูตร. ทำ�ตัวรปู ตยา ศัพทเ์ ดิมคอื = ตุมฺห = กรเณ ตติย�. หลงั ตมุ ฺห ลง น� ตตยิ �วภิ ัตติ ตมุ ฺห + น� = น�มฺหิ ตย�มย�. เพร�ะน� แปลง ตมุ หฺ กับ น� เป็น ตย� ตุมหฺ +น� ตย� สำ�เร็จรปู เปน็ ตยา. (ดว้ ย... ท่�น) ทำ�ตัวรปู มยา ศัพท์เดิมคือ = อมหฺ = กรเณ ตติย�. หลัง อมฺห ลง น� ตติย�วภิ ัตต ิ อมหฺ + น� = น�มหฺ ิ ตย�มย�. เพร�ะน� แปลง อมหฺ กับ น� เป็น มย� อมฺห+น� มย� ส�ำ เร็จรปู เปน็ มยา. (ดว้ ย... ข้�พเจ�้ ) ๒๓๙. ตยา-ตยนี ํ ตกาโร ตวฺ ตตฺ ํ วา. ตกาโร อ.ตอักษร ตยาตยีนํ ของ ตย� และ ตย ิ ท. อาปชชฺ เต ยอ่ มถึง ตวฺ ตตฺ ํ ซ่งึ คว�มเป็น ตฺว วา บ�้ ง. (แปลง ตอักษรของ ตย� และ ตยิ เป็น ตฺว บ�้ ง) สูตรน้ีม ี ๔ บท คอื ตย�ตยนี ำ, ตก�โร, ตวฺ ตฺต,ำ ว�. เปน็ อาเทสวธิ สิ ูตร.
246 รูปสิทธทิ ปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตัวรปู ตฺวยา ศัพทเ์ ดิมคือ = ตุมฺห = กรเณ ตติย�. หลัง ตมุ ฺห ลง น� ตติย�วภิ ัตติ ตมุ ฺห + น� = น�มหฺ ิ ตย�มย�. = ตย�ตยนี ำ ตก�โร ตฺวตตฺ ำ ว�. เพร�ะน� แปลง ตุมหฺ กบั น� เปน็ ตย� ตมุ ฺห+น� ตย� = ตุมฺห แปลง ต ของ ตย� เปน็ ตวฺ ต ตฺว ย� = กรเณ ตตยิ �. = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. ส�ำ เร็จรูปเปน็ ตฺวยา. (ด้วย... ท่�น) = สหุ ิสวฺ ก�โร เอ. = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. ท�ำ ตวั รปู ตมุ ฺเหหิ ศัพท์เดิมคอื = อมหฺ หลงั ตมุ หฺ ลง ห ิ ตติย�วิภตั ต ิ ตุมฺห + ห ิ = กรเณ ตตยิ �. = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. แยกพยญั ญชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ ตมุ หฺ ฺ อ + ห ิ = สุหิสฺวก�โร เอ. = สฺม�หสิ มฺ ึน ำ มฺห�ภิมฺหิ ว�. เพร�ะหวิ ภิ ตั ต ิ แปลง อ เปน็ เอ ตุมฺหฺ อ เอ + ห ิ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. นำ�พยัญชนะ ห ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ตมุ ฺเหหิ ส�ำ เร็จรูปเป็น ตุมเฺ หหิ. (ด้วย... ท�่ น ท.) ทำ�ตัวรปู อมเฺ หภิ ศัพทเ์ ดมิ คอื หลัง อมหฺ ลง หิ ตติย�วภิ ตั ต ิ อมหฺ + หิ แยกพยญั ญชนะ ห ฺ ออกจ�กสระ อ อมฺห ฺ อ + ห ิ เพร�ะหวิ ภิ ตั ติ แปลง อ เป็น เอ อมหฺ ฺ อ เอ + หิ หลังจ�กลงิ คท์ ั้งปวง แปลง หิ เปน็ ภิ อมหฺ ฺ เอ + ห ิ ภ ิ น�ำ พยญั ชนะ ห ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ อมฺเหภ ิ ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ อมเฺ หภิ. (ดว้ ย... ข้�พเจ้� ท.) ๒๔๐. สสฺส.ํ อํ อ.ก�รแปลงเปน็ อ ำ สสฺส แห่งสวภิ ัตต ิ ปรสสฺ อนั เปน็ เบอื้ งหลัง ตุมฺหมเฺ หหิ จ�กตมุ ฺหศพั ท์และอมฺหศัพท์ ท. โหต ิ ยอ่ มม ี วา บ้�ง. (หลังจ�กตมุ ฺหศพั ทแ์ ละอมหฺ ศัพท ์ แปลง สวภิ ัตติ เป็น อำ บ้�ง) สตู รน้มี ี ๒ บท คือ สสสฺ , อ.ำ เป็น อาเทสวิธิสตู ร. ทำ�ตวั รปู ตมุ ฺห ํ ศพั ท์เดิมคอื = ตุมหฺ = สมฺปท�เน จตตุ ฺถี. หลงั ตุมหฺ ลง ส จตุตถีวิภตั ติ ตมุ ฺห + ส = สสสฺ .ำ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. หลังจ�กตุมหฺ ศพั ท ์ แปลง ส เปน็ อ ำ ตมุ ฺห + ส อ ำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ หฺ ิฯ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยัญชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ ตมุ ฺหฺ อ + อ ำ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกต ิ ตุมหฺ ฺ อ + อำ น�ำ พยัญชนะ หฺ ไปประกอบกับสระ อ ตุมหฺ ำ
กัณฑ์ ] สัพพนาม อลงิ คนาม 247 สำ�เร็จรปู เป็น ตมุ หฺ ํ. (แก.่ .. ท่�น) ท�ำ ตวั รปู อมฺหํ ศัพท์เดมิ คอื = อมหฺ = สมปฺ ท�เน จตตุ ฺถ.ี หลงั อมฺห ลง ส จตตุ ถีวิภัตต ิ อมหฺ + ส = สสฺส.ำ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. หลงั จ�กอมฺหศัพท์ แปลง ส เป็น อำ อมหฺ + ส อำ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ฯิ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. แยกพยญั ชนะ ห ฺ ออกจ�กสระ อ อมฺห ฺ อ + อ ำ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ อมหฺ ฺ อ + อ ำ นำ�พยญั ชนะ ห ฺ ไปประกอบกับสระ อ อมหฺ ำ ส�ำ เร็จรปู เป็น อมฺหํ. (แก.่ .. ข้�พเจ้�) ๒๔๑. ตว-มม เส. เส ในเพร�ะสวภิ ตั ติ ตวมม อ.ก�รแปลงเป็น ตว และ มม ท. ตุมหฺ มหฺ ากํ แห่งตมุ หฺ ศัพทแ์ ละอมหฺ ศพั ท ์ ท. สวิภตตฺ นี ํ อันเปน็ ไปกับด้วยวภิ ัตต ิ โหนฺติ ย่อมม.ี (เพร�ะสวภิ ัตติ แปลง ตมุ หฺ กับ ส เปน็ ตว และแปลง อมหฺ กบั ส เปน็ มม) สตู รนีม้ ี ๒ บท. เป็น อาเทสวธิ ิสตู ร. ท�ำ ตวั รูป ตว ศัพท์เดิมคอื = ตมุ หฺ = สมฺปท�เน จตุตฺถี. หลงั ตมุ ฺห ลง ส จตุตถวี ิภัตต ิ ตุมหฺ + ส = ตวมม เส. เพร�ะสวิภัตติ แปลงตมุ หฺ กับ ส เปน็ ตว ตมุ ฺห+ส ตว สำ�เร็จรปู เปน็ ตว. (แก.่ .. ท�่ น) ท�ำ ตัวรปู มม ศพั ทเ์ ดมิ คือ = อมฺห = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ .ี หลงั อมหฺ ลง ส จตุตถีวิภัตต ิ อมหฺ + ส = ตวมม เส. เพร�ะสวิภัตต ิ แปลงอมฺหกบั ส เป็น มม อมหฺ +ส มม ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ มม. (แก่... ข้�พเจ�้ ) ๒๔๒. ตุยหฺ ํ-มยฺห’ฺ จ. เส ในเพร�ะสวภิ ตั ต ิ ตุยหฺ มํ ยฺหฺจ อ.ก�รแปลงเป็น ตยุ หฺ ำ และ มยหฺ ำ ท. ด้วย ตมุ หฺ มฺหากํ แหง่ ตมุ ฺหศพั ท ์ และอมฺหศพั ท์ ท. สวภิ ตตฺ ีนํ อนั เปน็ ไปกบั ด้วยวิภัตติ โหนตฺ ิ ย่อมม.ี (เพร�ะสวิภัตติ แปลง ตมุ ฺห กบั ส เปน็ ตุยฺห ำ และแปลง อมหฺ กับ ส เปน็ มยฺหำ) สตู รนมี้ ี ๒ บท คอื ตุยหฺ ำมยหฺ ,ำ จ. เป็น อาเทสวิธิสตู ร. จศพั ท์ : มอี รรถ อนุกฑฺฒน ดงึ บทว่� “เส” จ�กสตู ร ว่� “ตวมม เส” ม�ไว้ในสตู รน้ี.
248 รปู สทิ ธิทปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตัวรูป ตุยหฺ ํ ศัพทเ์ ดิมคือ = ตุมหฺ = สมปฺ ท�เน จตุตฺถ.ี หลัง ตมุ หฺ ลง ส จตุตถวี ภิ ัตต ิ ตมุ หฺ + ส = ตุยฺหํมยฺหจฺ . เพร�ะสวิภัตต ิ แปลงตมุ ฺหกบั สเป็นตุยหฺ ำ ตุมฺห+ส ตยุ หฺ ำ = อมหฺ = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ ี. สำ�เรจ็ รปู เปน็ ตุยฺห.ํ (แก.่ .. ท่�น) = ตยุ ฺหํมยฺหฺจ. ท�ำ ตวั รูป มยฺหํ ศัพทเ์ ดมิ คอื หลัง อมหฺ ลง ส จตุตถวี ภิ ัตต ิ อมหฺ + ส เพร�ะสวิภตั ติ แปลงอมฺหกบั สเป็นมยหฺ ำ อมหฺ +ส มยหฺ ำ สำ�เร็จรูปเป็น มยฺหํ. (แก่... ข�้ พเจ�้ ) ๒๔๓. อมหฺ สสฺ มมํ สวภิ ตฺตสิ สฺ เส. เส ในเพร�ะสวิภตั ต ิ มมํ อ.ก�รแปลงเปน็ มมำ อมหฺ สฺส แห่งอมหฺ ศัพท ์ สวิภตฺติสสฺ อนั เปน็ ไปกับด้วยวิภตั ต ิ โหติ ยอ่ มม.ี (เพร�ะสวภิ ตั ต ิ แปลง อมฺห กบั ส เป็น มม)ำ สูตรนม้ี ี ๔ บท. เป็น อาเทสวิธิสตู ร. ท�ำ ตัวรูป มมํ ศพั ท์เดิมคือ = อมหฺ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ .ี หลัง อมหฺ ลง ส จตตุ ถวี ภิ ัตต ิ อมฺห + ส = อมหฺ สฺส มม ำ สวิภตฺตสิ สฺ เส. เพร�ะสวภิ ัตติ แปลงอมหฺ กบั สเปน็ มม ำ อมฺห+ส มมำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น มมํ. (แก.่ .. ข�้ พเจ�้ ) ๒๔๔. ตมุ ฺห’มเฺ หหิ น’มากํ. นํ อ.นวำ ภิ ัตต ิ ปรํ อันเปน็ เบอื้ งหลงั ตุมหฺ มเฺ หหิ จ�ก ตมุ ฺหศัพท์และอมฺหศพั ท ์ ท. อากํ แปลงเป็น อ�กำ ดว้ ย อํ แปลงเป็น อำ ด้วย โหติ ยอ่ มเปน็ . (หลังจ�กตุมฺหศัพทแ์ ละอมหฺ ศัพท์ แปลง นวำ ภิ ัตต ิ เป็น อำ และ อ�กำ) สตู รนมี้ ี ๓ บท คือ ตมุ หฺ มฺเหหิ, นำ, อ�ก.ำ เปน็ อาเทสวธิ สิ ตู ร. ทำ�ตวั รูป ตุมหฺ ํ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ตุมหฺ = สมปฺ ท�เน จตุตฺถ.ี หลงั ตุมฺห ลง นำ จตตุ ถวี ิภตั ติ ตุมฺห + น ำ = ตุมฺหมเฺ หห ิ นม�ก.ำ = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. หลงั จ�กตุมฺหศพั ท ์ แปลง น ำ เปน็ อ ำ ตุมฺห + น ำ อ ำ = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทิมหฺ ิฯ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. แยกพยญั ชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ ตมุ ฺหฺ อ + อำ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกติ ตุมฺหฺ อ + อ ำ น�ำ พยัญชนะ ห ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ตุมหฺ ำ
กณั ฑ์ ] สพั พนาม อลิงคนาม 249 ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ตุมฺห.ํ (แก่... ท่�น ท.) = ตุมหฺ = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ ี. ทำ�ตวั รปู ตมุ หฺ ากํ ศพั ท์เดิมคือ = ตมุ ฺหมฺเหหิ นม�ก.ำ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. หลัง ตมุ หฺ ลง น ำ จตุตถีวิภตั ติ ตมุ หฺ + นำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ ฺหฯิ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. หลงั จ�กตุมหฺ ศัพท ์ แปลง นำ เป็น อ�ก ำ ตมุ หฺ + น ำ อ�กำ = อมฺห แยกพยญั ชนะ ห ฺ ออกจ�กสระ อ ตุมหฺ ฺ อ + อ�กำ = สมฺปท�เน จตุตฺถ.ี = ตุมหฺ มเฺ หห ิ นม�กำ. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ ตมุ ฺหฺ อ + อ�ก ำ = ปุพฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมหฺ ฯิ น�ำ พยัญชนะ หฺ ไปประกอบกบั สระ อ� ตมุ หฺ �กำ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. ส�ำ เร็จรูปเป็น ตมุ หฺ ากํ. (แก่... ท�่ น ท.) = อมฺห = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ ี. ท�ำ ตัวรปู อมหฺ ํ ศพั ท์เดิมคอื = ตมุ หฺ มเฺ หห ิ นม�ก.ำ = ปุพฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั อมฺห ลง นำ จตตุ ถวี ิภัตต ิ อมหฺ + นำ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ หฺ ิฯ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. หลงั จ�กอมฺหศพั ท ์ แปลง นำ เป็น อำ อมหฺ + น ำ อ ำ = อมฺห แยกพยัญชนะ ห ฺ ออกจ�กสระ อ อมหฺ ฺ อ + อำ = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ ี. = ตมุ ฺหมเฺ หห ิ นม�กำ. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ อมหฺ ฺ อ + อำ = เตสุ วุทฺธโิ ลป�คมวิก�รวิปรตี �ฯ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. นำ�พยัญชนะ หฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อมหฺ ำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหิฯ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ อมฺหํ. (แก่... ข้�พเจ้� ท.) ทำ�ตัวรปู อมฺหากํ ศัพทเ์ ดมิ คอื หลงั อมหฺ ลง นำ จตตุ ถีวภิ ัตต ิ อมหฺ + น ำ หลงั จ�กอมหฺ ศัพท ์ แปลง น ำ เป็น อ�ก ำ อมหฺ + น ำ อ�ก ำ แยกพยัญชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ อมหฺ ฺ อ + อ�ก ำ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ อมฺหฺ อ + อ�ก ำ นำ�พยัญชนะ หฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อมหฺ �กำ สำ�เรจ็ รูปเปน็ อมหฺ าก.ํ (แก.่ .. ข�้ พเจ้� ท.) ท�ำ ตัวรปู อสมฺ ากํ ศัพทเ์ ดิมคือ หลัง อมหฺ ลง นำ จตตุ ถีวภิ ัตต ิ อมฺห + น ำ หลังจ�กอมหฺ ศพั ท ์ แปลง น ำ เปน็ อ�ก ำ อมหฺ + น ำ อ�กำ แปลง อมฺห เปน็ อสฺม อมหฺ อสฺม + อ�กำ แยกพยญั ชนะ มฺ ออกจ�กสระ อ อสมฺ ฺ อ + อ�กำ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ อสมฺ ฺ อ + อ�ก ำ นำ�พยญั ชนะ ม ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อสมฺ �กำ ส�ำ เร็จรปู เปน็ อสฺมากํ. (แก่... ข้�พเจ้� ท.)
250 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตวั รูป ตยา ศัพท์เดิมคอื = ตมุ ฺห = อปาทาเน ปจฺ มี. หลงั ตมุ หฺ ลง สฺม� ปญั จมวี ิภัตติ ตมุ หฺ + สมฺ � = อมฺหตมุ หฺ นตฺ ุร�ชพรฺ หมฺ ตฺตสขฯ = น�มหฺ ิ ตย�มย�. หลังจ�กตมุ หฺ ศัพท์ ตั้ง สมฺ � เป็น น� ตมุ หฺ + สมฺ � น� = อมฺห เพร�ะน� แปลง ตุมฺห กบั น� เปน็ ตย� ตมุ หฺ +น� ตย� = อปาทาเน ปฺจม.ี = อมหฺ ตุมหฺ นฺตรุ �ชพรฺ หฺมตฺตสขฯ สำ�เร็จรปู เป็น ตยา. (แต่... ท่�น) = น�มหฺ ิ ตย�มย�. ทำ�ตวั รูป มยา ศัพทเ์ ดมิ คือ หลัง อมหฺ ลง สฺม� ปัญจมวี ภิ ตั ติ อมหฺ + สฺม� หลังจ�กอมฺหศพั ท์ ต้งั สมฺ � เปน็ น� อมฺห + สมฺ � น� เพร�ะน� แปลง อมฺห กับ น� เป็น มย� อมหฺ +น� มย� ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ มยา. (แต.่ .. ข้�พเจ�้ ) ๒๔๕. ตมุ หฺ ’มฺหากํ ตยิ-มยิ. สมฺ มึ ฺหิ ในเพร�ะสมฺ วึ ิภตั ติ ตยิมยิ อ.ก�รแปลงเปน็ ตย ิ และ มยิ ท. ตมุ หฺ มหฺ ากํ แหง่ ตุมฺหศัพท์และอมหฺ ศพั ท ์ ท. สวิภตฺตีนํ อนั เป็นไปกับดว้ ยวิภัตติ โหนฺติ ย่อมม.ี (เพร�ะสมฺ วึ ิภัตต ิ แปลง ตุมหฺ กบั สฺมึ เป็น ตย ิ และแปลง อมฺห กบั สมฺ ึ เป็น มยิ) สูตรนม้ี ี ๒ บท. เป็น อาเทสวิธสิ ูตร. ท�ำ ตัวรปู ตยิ ศัพทเ์ ดมิ คอื = ตมุ ฺห = โอก�เส สตตฺ มี. หลงั ตมุ หฺ ลง สฺมึ สัตตมวี ภิ ัตติ ตมุ หฺ + สฺมึ = ตมุ หฺ มฺห�ก ำ ตยมิ ย.ิ เพร�ะสมฺ ึ แปลง ตมุ ฺห กบั สมฺ ึ เป็น ตยิ ตมุ ฺห+สฺม ึ ตย ิ สำ�เรจ็ รปู เป็น ตยิ. (ใน... ท่�น) ทำ�ตวั รปู ตฺวย ิ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ตุมหฺ = โอก�เส สตฺตม.ี หลัง ตุมหฺ ลง สมฺ ึ สัตตมีวิภตั ติ ตุมหฺ + สมฺ ึ = ตมุ ฺหมฺห�กำ ตยิมย.ิ = ตย�ตยนี ำ ตก�โร ตฺวตฺต ำ ว�. เพร�ะสฺมึ แปลง ตุมฺห กบั สฺม ึ เป็น ตย ิ ตมุ หฺ +สมฺ ึ ตยิ แปลง ต ของ ตยิ เปน็ ตฺว ต ตฺว ย ิ สำ�เรจ็ รูปเป็น ตฺวย.ิ (ใน... ท�่ น) ท�ำ ตัวรปู มยิ ศัพท์เดิมคอื = อมหฺ = โอก�เส สตฺตม.ี หลัง อมฺห ลง สฺม ึ สตั ตมีวิภัตต ิ อมฺห + สฺม ึ = ตมุ หฺ มฺห�ก ำ ตยมิ ย.ิ เพร�ะสมฺ ึ แปลง อมหฺ กับ สฺมึ เปน็ มยิ อมหฺ +สฺมึ มย ิ ส�ำ เร็จรูปเป็น มยิ. (ใน... ข้�พเจ้�)
กัณฑ์ ] สัพพนาม อลิงคนาม 251 ท�ำ ตวั รูป ตุมเฺ หสุ ศพั ท์เดิมคอื = ตุมฺห = โอก�เส สตฺตม.ี หลงั ตุมหฺ ลง ส ุ สตั ตมวี ภิ ตั ต ิ ตมุ ฺห + สุ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สหุ สิ วฺ ก�โร เอ. แยกพยัญชนะ ห ฺ ออกจ�กสระ อ ตมุ ฺหฺ อ + ส ุ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. เพร�ะสวุ ิภัตติ แปลง อ เป็น เอ ตุมหฺ ฺ อ เอ + สุ = อมฺห = โอก�เส สตตฺ มี. นำ�พยญั ชนะ ห ฺ ไปประกอบกับสระ เอ ตุมฺเหสุ = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สหุ ิสฺวก�โร เอ. สำ�เร็จรูปเปน็ ตุมฺเหส.ุ (ใน... ท�่ น ท.) = นเย ปรำ ยุตฺเต. ท�ำ ตวั รปู อมเฺ หสุ ศัพทเ์ ดมิ คือ หลัง อมหฺ ลง ส ุ สัตตมวี ิภตั ติ อมหฺ + สุ แยกพยญั ชนะ หฺ ออกจ�กสระ อ อมฺหฺ อ + สุ เพร�ะสวุ ิภตั ต ิ แปลง อ เปน็ เอ อมฺห ฺ อ เอ + ส ุ น�ำ พยญั ชนะ ห ฺ ไปประกอบกับสระ เอ อมเฺ หสุ ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ อมเฺ หส.ุ (ใน... ข้�พเจ้� ท.) ๒๔๖. ปทโต ทุติยา-จตุตฺถ-ี ฉฏ€ฺ ีสุ โว-โน. ทตุ ยิ าจตุตถฺ ฉี ฏฺ€สี ุ ในเพร�ะทตุ ิย� จตตุ ถี และฉฏั ฐีวภิ ัตติ ท. พหวุ จเนสุ อนั เป็นพหุวจนะ โวโน อ.ก�ร แปลงเปน็ โว และ โน ท. ตุมหฺ มหฺ ากํ แหง่ ตุมหฺ ศัพท์และอมหฺ ศพั ท ์ ท. สวภิ ตตฺ ีนํ อนั เป็นไปกับด้วยวิภัตต ิ ปเรสํ อัน เปน็ เบื้องหลงั ปทโต จ�กบท โหนฺติ ยอ่ มมี นวา บ�้ ง. (เพร�ะทตุ ยิ � จตุตถี และฉัฏฐวี ิภัตติฝ�่ ยพหพู จน์ แปลง ตุมฺห กับวภิ ตั ติ เป็น โว และแปลง อมฺห กับวภิ ัตต ิ เป็น โน อยู่หลงั จ�กบทอ่ืน บ�้ ง) สูตรนมี้ ี ๓ บท คือ ปทโต, ทุติยาจตุตฺถฉี ฏ€ฺ สี ,ุ โวโน. เป็น อาเทสวธิ สิ ตู ร. เช่น. ปห�ย โว คมิสฺส�ม.ิ (ทตุ ิย�) อ.ข�้ พเจ�้ ละแลว้ ซึง่ ท�่ น ท. จักไป. ม� โน อชชฺ วกิ นฺตึส.ุ (ทตุ ิย�) อ.ชน ท. อย�่ ตดั แลว้ ซงึ่ เร� ท. ในวนั นี.้ ธมมฺ ำ โว ภิกขฺ เว เทสิสสฺ �ม.ิ (จตุตถ)ี ดกู ่อนภิกษุ ท. อ.เร� จกั แสดง ซ่ึงธรรม แก่เธอ ท. สำวิภเชถ โน รชฺเชน. (จตตุ ถี) อ.บคุ คล พงึ แบง่ ซึง่ ร�ชสมบตั ิ แก่เร� ท. ตุฏฺโ€สฺมิ โว ปกติย�. (ฉัฏฐี) อ.เร� เป็นทยี่ ินดแี ล้ว ของท�่ น ท. โดยปกต ิ ย่อมเปน็ . สตถฺ � โน ภคว� อนุปฺปตฺโต. (ฉฏั ฐ)ี อ.พระผู้มีพระภ�คเจ้� ผูเ้ ปน็ ศ�สด� ของเร� ท. เสด็จถึงแลว้ . ท�ำ ตัวรูป โว ศพั ทเ์ ดิมคือ = ตมุ ฺห = กมฺมตเฺ ถ ทตุ ิย�. หลัง ตมุ หฺ ลง โย ทตุ ยิ �วภิ ตั ติ ตมุ ฺห + โย = ปทโต ทุติยาจตุตฺถีฉฏฺ€สี ุ โวโน. เพร�ะโยวิภัตติ แปลงตุมฺหกบั โยเปน็ โว ตุมฺห+โย โว สำ�เรจ็ รูปเป็น โว. (ซ่ึง... ท่�น ท.)
252 รปู สทิ ธิทีปนี [ ๒. นาม ท�ำ ตวั รูป โน ศัพท์เดิมคอื = อมฺห = กมมฺ ตเฺ ถ ทุตยิ �. หลัง อมหฺ ลง โย ทตุ ยิ �วภิ ตั ต ิ อมหฺ + โย = ปทโต ทตุ ยิ าจตตุ ถฺ ีฉฏ€ฺ ีสุ โวโน. เพร�ะโยวภิ ตั ติ แปลงอมฺหกบั โยเป็น โน อมฺห+โย โน = ตมุ ฺห = สมฺปท�เน จตุตถฺ ี. ส�ำ เรจ็ รูปเป็น โน. (ซงึ่ ... ข�้ พเจ�้ ท.) = ปทโต ทุติยาจตตุ ถฺ ฉี ฏฺ€สี ุ โวโน. ท�ำ ตวั รปู โว ศัพท์เดมิ คอื = อมฺห = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ ี. หลัง ตมุ หฺ ลง นำ จตตุ ถวี ิภตั ติ ตุมฺห + นำ = ปทโต ทตุ ยิ าจตตุ ฺถฉี ฏ€ฺ ีสุ โวโน. เพร�ะนวำ ภิ ตั ต ิ แปลงตมุ ฺหกบั น ำ เป็น โว ตุมฺห+นำ โว = ตมุ หฺ = สามิสฺมึ ฉฏ€ฺ ี. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ โว. (แก.่ .. ท�่ น ท.) = ปทโต ทุติยาจตตุ ฺถฉี ฏฺ€ีสุ โวโน. ท�ำ ตัวรปู โน ศพั ทเ์ ดมิ คอื = อมหฺ = สามสิ มฺ ึ ฉฏฺ€.ี หลงั อมฺห ลง นำ จตุตถวี ิภตั ติ อมหฺ + น ำ = ปทโต ทุตยิ าจตุตถฺ ฉี ฏ€ฺ ีสุ โวโน. เพร�ะนำวิภตั ต ิ แปล อมหฺ กับ น ำ เป็น โน อมฺห+น ำ โน สำ�เรจ็ รปู เป็น โน. (แก.่ .. ข�้ พเจ�้ ท.) ทำ�ตัวรูป โว ศัพทเ์ ดิมคือ หลัง ตุมหฺ ลง น ำ ฉฏั ฐีวิภตั ต ิ ตมุ ฺห + น ำ เพร�ะนวำ ภิ ตั ต ิ แปลงตมุ หฺ กบั นำ เป็น โว ตุมหฺ +น ำ โว ส�ำ เรจ็ รปู เป็น โว. (แหง่ ... ท่�น ท.) ท�ำ ตัวรปู โน ศพั ทเ์ ดิมคือ หลงั อมฺห ลง น ำ ฉฏั ฐวี ภิ ตั ต ิ อมหฺ + นำ เพร�ะนวำ ภิ ตั ติ แปลงอมหฺ กับ น ำ เป็น โน อมหฺ +น ำ โน ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ โน. (แห่ง... ข้�พเจ้� ท.) ๒๔๗. เต-เม’กวจเนสุ จ. จตตุ ฺถีฉฏฺ€สี ุ ในเพร�ะจตุตถแี ละฉัฏฐวี ภิ ตั ติ ท. เอกวจเนสุ อันเป็นเอกจนะ เตเม อ.ก�รแปลงเป็น เต และ เม ท. ตมุ หฺ มฺหากํ แหง่ ตมุ หฺ ศัพทแ์ ละอมหฺ ศพั ท ์ ท. สวภิ ตฺตีนํ อันเป็นไปกับดว้ ยวิภัตติ ปเรสํ อนั เปน็ เบอ้ื งหลัง ปทโต จ�กบท โหนฺติ ยอ่ มม ี นวา บ้�ง. (เพร�ะจตุตถีและฉัฏฐีวิภัตตฝิ ่�ยเอกวจนะ แปลง ตุมหฺ กับ ส เป็น เต และแปลง อมฺห กบั ส เป็น เม อยู่หลงั จ�กบทอนื่ บ้�ง) สตู รน้ ี ม ี ๓ บท คอื เตเม, เอกวจเนสุ, จ. เป็น อาเทสวิธิสตู ร. จศัพท์ : มอี รรถ อนกุ ฑฺฒน ดงึ บทว่� “ปทโต และ จตตุ ฺถฉี ฏฺ€สี ”ุ ม�ไวใ้ นสูตรนี้.
กัณฑ์ ] สัพพนาม อลงิ คนาม 253 เช่น. ทท�มิ เต ค�มวร�น ิ ปฺจ. (จตตุ ถ)ี อ.เร� จะให้ ซ่งึ หมูบ่ �้ นส่วย ท. ห�้ หมู่บ�้ น แกท่ �่ น. ทท�ห ิ เม ค�มวร.ำ (จตุตถ)ี อ.ท่�น จงให้ ซึ่งหม่บู ้�นสว่ ย แกข่ ้�พเจ้�. อิท ำ เต รฏ€ฺ ํ. (ฉฏั ฐ)ี อ.แวน่ แคว้นน้ ี เป็นแว่นแควน้ ของท่�น ย่อมเป็น. อย ำ เม ปุตโฺ ต. (ฉฏั ฐี) อ.บุคคลนี ้ เปน็ บตุ ร ของเร� ย่อมเปน็ . ท�ำ ตวั รปู เต ศพั ท์เดมิ คอื = ตมุ ฺห = สมฺปท�เน จตุตฺถี. หลัง ตมุ หฺ ลง ส จตุตถวี ิภัตต ิ ตุมฺห + ส = เตเมกวจเนสุ จ. เพร�ะสวิภัตติ แปลงตุมฺหกับ ส เปน็ เต ตมุ หฺ +ส เต ส�ำ เรจ็ รูปเป็น เต. (แก่... ท�่ น) ทำ�ตัวรปู เม ศัพท์เดิมคือ = อมหฺ = สมฺปท�เน จตุตถฺ .ี หลัง อมฺห ลง ส จตตุ ถวี ภิ ัตต ิ อมฺห + ส = เตเมกวจเนส ุ จ. เพร�ะสวิภัตต ิ แปลงอมหฺ กบั ส เป็น เม อมหฺ +ส เม สำ�เรจ็ รูปเปน็ เม. (แก่... ข้�พเจ�้ ) ท�ำ ตัวรปู เต ศัพท์เดมิ คอื = ตมุ ฺห = สามสิ มฺ ึ ฉฏ€ฺ .ี หลัง ตุมหฺ ลง ส ฉัฏฐวี ภิ ตั ต ิ ตมุ หฺ + ส = เตเมกวจเนสุ จ. เพร�ะสวิภัตต ิ แปลงตมุ ฺหกับ ส เปน็ เต ตุมหฺ +ส เต ส�ำ เร็จรปู เปน็ เต. (แหง่ ... ท�่ น) ท�ำ ตวั รปู เม ศัพทเ์ ดิมคือ = อมหฺ = สามสิ มฺ ึ ฉฏฺ€.ี หลงั อมฺห ลง ส ฉัฏฐวี ภิ ตั ต ิ อมฺห + ส = เตเมกวจเนสุ จ. เพร�ะสวิภัตติ แปลงอมหฺ กับ ส เปน็ เม อมหฺ +ส เม สำ�เรจ็ รูปเป็น เม. (แห่ง... ข�้ พเจ้�) ๒๔๘. น อมํ ฺห.ิ อํมฺห ิ ในเพร�ะอวำ ภิ ัตติ เตเม อ.ก�รแปลงเป็น เต และ เม ท. ตุมหฺ มฺหากํ แห่งตุมหฺ ศัพทแ์ ละอมฺหศพั ท์ ท. สวิภตตฺ ีนํ อันเปน็ ไปกับด้วยวภิ ตั ต ิ ปเรสํ อันเปน็ เบื้องหลัง ปทโต จ�กบท น โหนฺติ ย่อมไมม่ ี. (เพร�ะอำวภิ ัตต ิ ห�้ มแปลง ตมุ ฺห กบั อำ เปน็ เต และห้�มแปลง อมฺห กับ อำ เป็น เม หลงั จ�กบท) สตู รนมี้ ี ๒ บท. เป็น ปฏิเสธวิ ิธิสูตร คือห้�มแปลง ตุมฺห กบั อำ เป็น เต และห�้ มแปลง อมหฺ กับ อ ำ เปน็ เม ถึง จะอยู่หลงั บท เช่น ปสฺเสยฺย ตำ วสฺสสต ำ อโรคำ. อ.บคุ คล พึงปร�รถน�เหน็ ซ่ึงท่�น ผู้ไม่โรค ส้ินรอ้ ยแห่งปี, โส มมพรฺ วิ. อ.เข� ได้กล�่ วแลว้ กะเร�.
254 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม ๒๔๙. วา ตติเย จ. ตติเย จ ในเพร�ะตติย�วิภัตติดว้ ย เอกวจเน อนั เป็นเอกวจนะ เตเม อ.ก�รแปลงเปน็ เต และ เม ท. ตมุ ฺหมฺหากํ แหง่ ตมุ หฺ ศัพทแ์ ละอมฺหศัพท ์ ท. สวภิ ตฺตีนํ อนั เป็นไปกับดว้ ยวิภัตต ิ ปเรสํ อนั เปน็ เบือ้ งหลัง ปทโต จ�กบท โหนตฺ ิ ยอ่ มมี วา บ้�ง. (เพร�ะตตยิ �วภิ ตั ตฝิ ่�ยเอกวจนะ แปลง ตุมฺห กับ น� เป็น เต และแปลง อมหฺ กับ น� เป็น เม อยหู่ ลงั จ�กบท บ�้ ง) สูตรนีม้ ี ๓ บท. เปน็ อาเทสวิธสิ ตู ร. จศัพท์ : มอี รรถ อนุกฑฺฒน ดงึ บทว�่ “เตเมกวจเน” จ�กสูตรว่� “เตเมกวจเนส ุ จ” ม�ไว้ในสตู รน.้ี เชน่ กตำ เต ป�ป.ํ (อนภิหิตกตั ต�) อ.บ�ป อนั ท่�น กระทำ�แล้ว. กต ำ เม ปุ ฺ.ํ (อนภิหติ กตั ต�) อ.บุญ อนั ข�้ พเจ้� กระทำ�แล้ว. ทำ�ตัวรปู เต ศัพทเ์ ดมิ คือ = ตมุ หฺ = กตฺตริ จ. หลัง ตมุ หฺ ลง น� ตตยิ �วภิ ัตต ิ ตมุ หฺ + น� = ว� ตตเิ ย จ. เพร�ะน� แปลง ตุมหฺ กบั น� เปน็ เต ตมุ ฺห+น� เต ส�ำ เร็จรูปเปน็ เต. (อนั ท�่ น) ทำ�ตวั รูป เม ศพั ทเ์ ดมิ คอื = อมหฺ = กตตฺ ริ จ. หลงั อมฺห ลง น� ตตยิ �วภิ ัตต ิ อมฺห + น� = ว� ตตเิ ย จ. เพร�ะน� แปลง อมหฺ กับ น� เป็น เม อมฺห+น� เม สำ�เร็จรปู เป็น เม. (อันข้�พเจ�้ ) ๒๕๐. พหวุ จเนสุ โว-โน. ตตเิ ยสุ ในเพร�ะตตยิ �วภิ ตั ติ พหวุ จเนสุ อันเป็นพหวุ จนะ โวโน อ.ก�รแปลงเปน็ โว และ โน ท. ตมุ หฺ มฺหากํ แห่งตมุ หฺ ศพั ท์และอมฺหศพั ท ์ ท. สวภิ ตตฺ นี ํ อันเปน็ ไปกบั ดว้ ยวิภตั ติ ปเรสํ อันเป็นเบ้อื งหลัง ปทโต จ�กบท โหนตฺ ิ ย่อมม ี วา บ้�ง. (เพร�ะตตยิ �วิภตั ตฝิ �่ ยพหพู จน์ แปลง ตุมฺห กบั หิ เป็น โว และแปลง อมหฺ กบั ห ิ เป็น โน หลงั จ�กบท บ�้ ง) สตู รนม้ี ี ๒ บท. เป็น อาเทสวธิ สิ ูตร. ดว้ ยก�รแสดงเปน็ พหวุ จนะว�่ “พหุวจเนส”ุ เพร�ะโยปฐม�วภิ ัตติ แปลง ตุมฺห กบั โย เปน็ โว และแปลง อมฺห กับ โย เป็น โน ได้. เช่น กต ำ โว กมฺมำ. (ตตยิ �) อ.กรรม อันท่�น ท. กระทำ�แล้ว. กต ำ โน กมมฺ ำ. (ตติย�) อ.กรรม อันข้�พเจ้� ท. กระท�ำ แลว้ . ค�ม ำ โว คจเฺ ฉยยฺ �ถ. (ปฐม�) อ.ท่�น ท. พงึ ไป ส่หู มบู่ �้ น. ค�ม ำ โน คจฺเฉยฺย�ม. (ปฐม�) อ.เร� ท. พงึ ไป สูห่ ม่บู ้�น.
กณั ฑ์ ] สัพพนาม อลิงคนาม 255 ทำ�ตัวรูป โว ศัพท์เดมิ คือ = ตมุ ฺห = กตตฺ ริ จ. หลัง ตุมฺห ลง ห ิ ตติย�วภิ ัตต ิ ตมุ ฺห + หิ = พหุวจเนส ุ โวโน. เพร�ะหวิ ภิ ัตติ แปลงตุมหฺ กับห ิ เปน็ โว ตมุ ฺห+ห ิ โว = อมฺห = กตตฺ ร ิ จ. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น โว. (อันท�่ น ท.) = พหุวจเนส ุ โวโน. ท�ำ ตวั รูป โน ศัพท์เดิมคือ = ตมุ ฺห = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลัง อมฺห ลง ห ิ ตติย�วิภัตต ิ อมฺห + ห ิ = พหวุ จเนสุ โวโน. เพร�ะหิวิภัตต ิ แปลงอมฺหกบั หเิ ปน็ โน อมหฺ +ห ิ โน = อมฺห = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. ส�ำ เร็จรูปเปน็ โน. (อนั ข�้ พเจ�้ ท.) = พหุวจเนสุ โวโน. ทำ�ตัวรูป โว ศพั ท์เดิมคอื หลัง ตุมหฺ ลง โย ปฐม�วภิ ตั ต ิ ตุมฺห + โย เพร�ะโยวิภตั ติ แปลงตมุ หฺ กับโยเป็น โว ตมุ ฺห+โย โว สำ�เร็จรปู เปน็ โว. (อ.ท่�น ท.) ท�ำ ตัวรปู โน ศพั ท์เดมิ คือ หลัง อมหฺ ลง โย ปฐม�วิภัตต ิ อมฺห + โย เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลงอมฺหกับโยเปน็ โน อมหฺ +โย โน สำ�เรจ็ รปู เปน็ โน. (อ.ข�้ พเจ้� ท.) ตมุ หฺ สทฺทปทม�ล� (ท่�น, เธอ, คณุ , เจ้�) วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. ตวฺ ำ ตุว ำ ตมุ ฺเห โว ทุติย�. ตว ำ ตำ ตวฺ ำ ตุว ำ ตมุ ฺห�ก ำ ตุมเฺ ห โว ตตยิ �. ตย� ตฺวย� เต ตุมเฺ หหิ ตุมเฺ หภ ิ โว จตุตถ.ี ตมุ หฺ ำ ตว ตุยหฺ ำ เต ตุมหฺ ำ ตุมฺห�กำ โว ปัญจม.ี ตย� ตมุ ฺเหห ิ ตุมฺเหภิ ฉัฏฐี. ตมุ ฺหำ ตว ตยุ ฺหำ เต ตมุ หฺ ำ ตุมฺห�ก ำ โว สตั ตม.ี ตย ิ ตฺวยิ ตุมฺเหสุ
256 รูปสิทธทิ ปี นี [ ๒. นาม อมฺหสทฺทปทม�ล� (ข�้ พเจ�้ , เร�, ผม, ดิฉัน) วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. อหำ มย ำ อมเฺ ห โน ทุตยิ �. ม ำ มมำ อมฺห�ก ำ อมฺเห โน ตติย�. มย� เม อมฺเหหิ อมเฺ หภ ิ โน จตตุ ถี. อมฺห ำ มม มยฺห ำ มมำ เม อมหฺ ำ อมฺห�ก ำ อสมฺ �ก ำ โน ปญั จมี. มย� อมเฺ หหิ อมฺเหภิ ฉัฏฐ.ี อมฺห ำ มม มยฺหำ มมำ เม อมฺหำ อมฺห�ก ำ อสฺม�กำ โน สัตตมี. มยิ อมฺเหสุ ๒๕๑. ปจฺ าทีน’มกาโร. โยสุ ในเพร�ะโยวภิ ัตติ ท. อกาโร อ.ก�รแปลงเปน็ ออกั ษร อนฺตสฺส แห่งสระท่สี ดุ ปจฺ าทีนํ (สงขฺ ฺยาน)ํ ของสงั ขย� ท.มี ปฺจ เป็นต้น วตตฺ มานานํ อนั เปน็ ไปอยู่ อิตถฺ ิปุมนปำุสเก ในอติ ถีลงิ ค์ ปงุ ลิงค์ และนปงุ สกลิงค์ สวิภตตฺ สิ ฺส อนั เป็นไปกับด้วยวิภตั ติ โหติ ย่อมม.ี (เพร�ะโยวภิ ัตติ แปลงสระทีส่ ุดของสังขย�ศัพท์มี ปจฺ เปน็ ต้นกับโยวิภตั ต ิ เป็น อ ทง้ั ส�มลิงค์) สูตรนมี้ ี ๒ บท คอื ปฺจาทนี ํ, อก�โร. เปน็ อาเทสวธิ ิสูตร. ท�ำ ตวั รปู ปฺจ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ปจฺ หลงั ปจฺ ลง โย ปฐม�วิภตั ติ ปจฺ + โย = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. แยกพยัญชนะ จฺ ออกจ�กสระ อ ปจฺ ฺ อ + โย = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะโยวภิ ัตติ แปลง อ กบั โย เปน็ อ ปฺจฺ อ+โย อ = ปจฺ าทนี มกาโร. = นเย ปรำ ยุตฺเต. นำ�พยัญชนะ จ ฺ ไปประกอบกับสระ อ ปฺจ สำ�เร็จรปู เป็น ปฺจ. (ปฺจ ขนฺธา. อ.ขันธ์ ท. ห�้ ) ๒๕๒. ปฺจาทีน’มตฺต.ํ สุนหํ ิสุ ในเพร�ะส ุ นแำ ละหวิ ิภัตติ ท. อนโฺ ต (สโร) อ.สระที่สุด ปฺจาทนี ํ (สงขฺ ฺยานํ) ของสังขย�ศพั ท์ ท. ม ี ปฺจ เป็นตน้ อาปชชฺ เต ย่อมถึง อตตฺ ํ ซึง่ คว�มเปน็ อ. (เพร�ะส ุ นำและหิวิภัตติ แปลงสระท่สี ุดของสังขย�ศพั ท์มี ปฺจ เป็นต้น เปน็ อ) สตู รนม้ี ี ๒ บท คอื ปฺจาทีน,ํ อตฺต.ํ เปน็ อาเทสวธิ ิสูตร. ทำ�ตวั รปู ปจฺ ห ิ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ปจฺ หลงั ปฺจ ลง หิ ตติย�วภิ ตั ติ ปจฺ + ห ิ = กรเณ ตตยิ �.
กัณฑ์ ] สพั พนาม อลิงคนาม 257 แยกพยญั ชนะ จ ฺ ออกจ�กสระ อ ปฺจฺ อ + ห ิ = ปุพฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = ปฺจาทนี มตตฺ ํ. เพร�ะหวิ ภิ ัตติ แปลง อ เป็น อ ปจฺ ฺ อ อ + หิ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. น�ำ พยัญชนะ จ ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ปจฺ ห ิ = ปฺจ = สมปฺ ท�เน จตุตฺถี. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ปจฺ ห.ิ (ดว้ ย... ห�้ ท.) = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = ปฺจาทีนมตตฺ ํ. ท�ำ ตวั รูป ปจฺ นฺนํ ศัพท์เดิมคือ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. = โน จ ทวฺ �ทิโต นำมหฺ .ิ หลงั ปฺจ ลง นำ จตุตถีวภิ ตั ติ ปฺจ + นำ แยกพยัญชนะ จฺ ออกจ�กสระ อ ปจฺ ฺ อ + น ำ เพร�ะนำวิภตั ติ แปลง อ เปน็ อ ปฺจฺ อ อ + นํ นำ�พยัญชนะ จฺ ไปประกอบกบั สระ อ ปจฺ + น ำ เพร�ะนำวิภัตติ ลง นฺอ�คม ปฺจ + น ฺ -นำ ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ ปจฺ นฺนํ. (แห่ง... ห�้ ท.) วภิ ตั ติ ปฺจสททฺ ปทม�ล� (ห�้ ) ส�มลิงค์ ปฐม�. ทุติย�. พหวุ จนะ ตติย�. ปจฺ จตตุ ถ.ี ปจฺ ปญั จม.ี ปจฺ หิ ปฺจภิ ฉัฏฐี. ปฺจนนฺ ํ สัตตมี. ปฺจหิ ปฺจภิ ปจฺ นฺนํ ปฺจสุ สงั ขย�ศัพทท์ ่ีแจกต�ม ปจฺ มีดงั นี้ ฉ หก สตตฺ เจด็ อฏ€ฺ แปด นว เก้� ทส สิบ ๒๕๓. เทฺวกฏ€ฺ าน’มากาโร วา. สงขฺ ฺยาเน ในเพร�ะสงั ขย�ศัพท ์ อนฺโต (สโร) อ.สระท่ีสุด เทฺวกฏฺ€านํ ของ ทวฺ ิ เอก และอฏฺ€ ท. อากาโร แปลงเป็น อ�อกั ษร โหต ิ ยอ่ มเป็น วา โดยก�ำ หนดต�มอุท�หรณใ์ นพระบ�ล.ี (เพร�ะสังขย�ศัพท์ แปลงสระที่สดุ ของ ทฺวิ เอก และอฏฺ€ เปน็ อ� โดยกำ�หนดต�มอทุ �หรณ์ในพระบ�ล)ี สตู รน้ีมี ๓ บท คือ เทวฺ กฏฺ€าน,ํ อ�ก�โร, ว�. เปน็ อาเทสวธิ สิ ตู ร.
258 รูปสิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม ทำ�ตวั รปู เอกาทส ศพั ทเ์ ดมิ คือ = เอก + ทส = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. แยกพยัญชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ เอกฺ อ + ทส = เทวฺ กฏฺ€านมากาโร วา. = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. เพร�ะสงั ขย�ศัพท์ แปลง อ เป็น อ� เอก ฺ อ อ� + ทส = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. น�ำ พยญั ชนะ กฺ ไปประกอบกับสระ อ� เอก�ทส = ปฺจาทีนมกาโร. = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. หลงั เอก�ทส ลง โย ปฐม�วภิ ตั ต ิ เอก�ทส + โย แยกพยัญชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ เอก�ทส ฺ อ + โย เพร�ะโยวภิ ัตติ แปลง อ กบั โย เปน็ อ เอก�ทส ฺ อ+โย อ น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ อ เอก�ทส สำ�เรจ็ รปู เปน็ เอกาทส. (สิบเอ็ด) ๒๕๔. เอกาทิโต ทส ร สงฺขยฺ าเน. สงขฺ ยฺ าเน ในเพร�ะสงั ขย�ศัพท์ ร อ.ก�รแปลงเป็น ร ทส แหง่ ท ของ ทสศัพท ์ ปรสสฺ อนั เปน็ เบ้อื งหลงั เอกาทิโต (สงฺขฺยาสทฺทโต) จ�กสังขย�ศัพท ์ ท. มี เอกศัพท์เป็นต้น โหติ ยอ่ มม ี วา บ้�ง. (เพร�ะสังขย�ศัพท์ แปลง ท ของทสศพั ท ์ ทเ่ี ป็นเบ้ืองหลังจ�กสงั ขย�ศพั ทม์ ี เอก เปน็ ตน้ เป็น ร บ้�ง) สูตรนม้ี ี ๔ บท. เปน็ อาเทสวธิ ิสตู ร. อ�ทิศพั ท์ : หม�ยเอ� ทวฺ ิ และตสิ ังขย� ท�ำ ตวั รปู เอการส ศพั ท์เดมิ คอื = เอก + ทส = เอก�ทิโต ทส ร สงฺขยฺ �เน. หลังจ�กเอก แปลง ท ของทสเปน็ ร เอก + ท ร ส = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = เทวฺ กฏ€ฺ านมากาโร วา. แยกพยญั ชนะ ก ฺ ออกจ�กสระ อ เอกฺ อ + รส = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะสงั ขย�ศัพท ์ แปลง อ เป็น อ� เอกฺ อ อ� + รส = ปุพฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = ปจฺ าทนี มกาโร. นำ�พยัญชนะ ก ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� เอก�รส = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. หลัง เอก�รส ลง โย ปฐม�วิภตั ติ เอก�รส + โย แยกพยัญชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ เอก�รสฺ อ + โย เพร�ะโยวิภตั ต ิ แปลง อ กบั โย เปน็ อ เอก�รส ฺ อ+โย อ น�ำ พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกับสระ อ เอก�รส ส�ำ เร็จรูปเป็น เอการส. (สิบเอ็ด) ๒๕๕. วสี ติ-ทเสสุ พา ทวฺ ิสฺส ต.ุ วสี ติทเสสุ ในเพร�ะวีสตศิ พั ท์และทสศัพท์ ท. พา อ.ก�รแปลงเปน็ พ� ทฺวสิ สฺ แห่งทวฺ ศิ พั ท ์ โหติ ยอ่ มมี วา บ้�ง. (เพร�ะวสี ตศิ ัพทแ์ ละทสศพั ท ์ แปลง ทฺว ิ เป็น พ� บ้�ง)
กัณฑ์ ] สพั พนาม อลงิ คนาม 259 สูตรนมี้ ี ๔ บท. เปน็ อาเทสวธิ ิสูตร. ตศุ ัพท์ : มอี รรถ อวตุ ฺตสมุจจฺ ย รวบรวมอรรถทไ่ี ม่ไดก้ ล�่ วไวใ้ นสตู ร นี ้ คอื เพร�ะตึสศพั ท ์ แปลง ทวฺ ิ เป็น พ� ได ้ เช่น พ�ตตฺ ึส (ทวฺ ิ + ตสึ ). ทำ�ตัวรปู พารส ศพั ท์เดมิ คอื = ทวฺ ิ + ทส = วสี ตทิ เสสุ พ� ทวฺ ิสฺส ต.ุ เพร�ะทสศพั ท ์ แปลง ทวฺ ิ เปน็ พ� ทฺวิ พ� + ทส = เอก�ทโิ ต ทส ร สงขฺ ยฺ �เน. = ลงิ ฺคตเฺ ถ ป€มา. หลงั จ�กสงั ขย� แปลง ท ของ ทส เป็น ร พ� + ท ร ส = ปุพฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = ปฺจาทนี มกาโร. หลัง พ�รส ลง โย ปฐม�วิภัตต ิ พ�รส + โย = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ พ�รส ฺ อ + โย เพร�ะโยวภิ ตั ติ แปลง อ กบั โย เปน็ อ พ�รสฺ อ+โย อ น�ำ พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกบั สระ อ พ�รส ส�ำ เร็จรูปเป็น พารส. (สิบสอง) ทำ�ตวั รูป ทวฺ าทส ศัพทเ์ ดมิ คอื = ทวฺ ิ + ทส = ปุพพฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. แยกพยัญชนะ ว ฺ ออกจ�กสระ อ ิ ทวฺ ฺ อิ + ทส = เทวฺ กฏฺ€านมากาโร วา. = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. เพร�ะสงั ขย�ศัพท ์ แปลง อิ เปน็ อ� ทฺว ฺ อิ อ� + ทส = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. นำ�พยัญชนะ ว ฺ ไปประกอบกับสระ อ� ทฺว�ทส = ปจฺ าทีนมกาโร. = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. หลัง ทวฺ ��ทส ลง โย ปฐม�วิภัตต ิ ทวฺ �ทส + โย แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ทวฺ �ทส ฺ อ + โย เพร�ะโยวิภตั ต ิ แปลง อ กับ โย เปน็ อ ทฺว�ทสฺ อ+โย อ นำ�พยญั ชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ อ ทวฺ �ทส สำ�เรจ็ รปู เป็น ทฺวาทส. (สิบสอง) ท�ำ ตัวรูป เตรส ศพั ทเ์ ดมิ คอื = ต ิ + ทส = เตสุ วทุ ธฺ ิโลป�คมวกิ �รวิปรีต�ฯ เพร�ะทสศพั ท ์ แปลง ต ิ เปน็ เต ต ิ เต + ทส = เอก�ทิโต ทส ร สงขฺ ฺย�เน. = ลิงคฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลังจ�กสงั ขย� แปลง ท ของทสเปน็ ร เต + ท ร ส = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = ปฺจาทนี มกาโร. หลัง เตรส ลง โย ปฐม�วิภัตต ิ เตรส + โย = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. แยกพยญั ชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ เตรสฺ อ + โย เพร�ะโยวภิ ัตติ แปลง อ กบั โย เปน็ อ เตรสฺ อ+โย อ น�ำ พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกบั สระ อ เตรส ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ เตรส. (สิบส�ม)
260 รูปสทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม ๒๕๖. จตูปปทสสฺ โลโป ต’ุ ตตฺ ร-ปทาท-ิ จสสฺ จุ-โจปิ นวา. คณเน ในสงั ขย� ตุ อ.ตศุ พั ท์ จตปู ปทสฺส ของจตศุ ัพท์อันเป็นบทใกลข้ องทสศัพท ์ โลโป เปน็ ศพั ท์ถูก ลบ โหติ ยอ่ มเปน็ , จุโจปิ อ.ก�รแปลงเป็น จุ และโจ ท. อุตฺตรปทาทจิ สสฺ แหง่ จอักษรอนั เป็นเบื้องแรกของบทหลัง โหนตฺ ิ ย่อมมี นวา บ�้ ง. (ในสงั ขย� ลบตศุ พั ท์ของจตุอันเป็นบท่ใกลข้ องทสศัพท์ และแปลง จ อนั เบ้ืองแรกของบทหลัง เป็น จ ุ และ โจ บ้�ง) สตู รนมี้ ี ๗ บท คือ จตปู ปทสสฺ , โลโป, ต,ุ อุตตฺ รปท�ทจิ สฺส, จโุ จ, อปิ, นว�. เปน็ โลปวิธแิ ละอาเทสวิธิสูตร. อปศิ ัพท์ : มอี รรถ อวุตตฺสมุจฺจย รวบรวมอรรถทไ่ี ม่ไดก้ ล่�วไว้ในสตู รน้ ี คอื ให้ลบ จอกั ษรทไ่ี ม่ใช่บทใกลใ้ นสงั ขย� และ ใหแ้ ปลง จอักษร เปน็ จุ และโจ บ�้ ง อุท�หรณ ์ ต�ลีสำ, จุตฺต�ลีส,ำ โจตตฺ �ลีส,ำ จตตฺ �ลสี ำ. ท�ำ ตวั รูป จุททฺ ส ศัพท์เดมิ คือ = จตุ + ทส = จตปู ปทสฺส โลโป ตุตตฺ รปท�ทิฯ ลบ ตุ ของจตุ และแปลง จ เป็น จุ จ จ ุ ตุ + ทส = ปร เทวฺ ภาโว €าเน. = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. ทฺ สทิสเทฺวภ�วะ จุ + ท ฺ -ทส = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = ปจฺ าทนี มกาโร. หลงั จทุ ทฺ ส ลง โย ปฐม�วภิ ตั ติ จทุ ทฺ ส + โย = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยญั ชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ จทุ ฺทสฺ อ + โย เพร�ะโยวิภตั ติ แปลง อ กบั โย เป็น อ จทุ ฺทสฺ อ+โย อ นำ�พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกบั สระ อ จทุ ฺทส สำ�เรจ็ รูปเปน็ จทุ ฺทส. (สิบสี่) ท�ำ ตัวรปู โจททฺ ส ศพั ทเ์ ดมิ คือ = จต ุ + ทส = จตปู ปทสฺส โลโป ตตุ ตฺ รปท�ทฯิ ลบ ต ุ ของจตุ และแปลง จ เป็น โจ จ โจ ตุ + ทส = ปร เทวฺ ภาโว €าเน. = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. ทฺ สทสิ เทฺวภ�วะ โจ + ท ฺ -ทส = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = ปฺจาทนี มกาโร. หลงั โจทฺทส ลง โย ปฐม�วภิ ัตต ิ โจทฺทส + โย = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. แยกพยัญชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ โจททฺ ส ฺ อ + โย เพร�ะโยวิภตั ต ิ แปลง อ กบั โย เปน็ อ โจททฺ สฺ อ+โย อ นำ�พยญั ชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ อ โจททฺ ส สำ�เร็จรูปเปน็ โจทฺทส. (สบิ สี่) ท�ำ ตัวรูป ปนนฺ รส ศัพท์เดมิ คอื = ปจฺ + ทส = เตสุ วุทธฺ ิโลป�คมวิก�รวิปรตี �ฯ เพร�ะทสศัพท์ แปลง ปจฺ เป็น ปนฺน ปจฺ ปนนฺ + ทส = อฏ€ฺ าทโิ ต จ. = ลิงคฺ ตฺเถ ป€มา. หลงั จ�กสงั ขย� แปลง ท ของทสเป็น ร ปนนฺ + ท ร ส = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. หลัง ปนฺนรส ลง โย ปฐม�วิภตั ต ิ ปนนฺ รส + โย แยกพยัญชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ ปนฺนรสฺ อ + โย
กณั ฑ์ ] สัพพนาม อลิงคนาม 261 เพร�ะโยวิภัตติ แปลง อ กับ โย เป็น อ ปนนฺ รสฺ อ+โย อ = ปจฺ าทีนมกาโร. = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. น�ำ พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกับสระ อ ปนนฺ รส = ปจฺ + ทส ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ปนนฺ รส. (สิบห�้ ) = เตส ุ วทุ ธฺ ิโลป�คมวกิ �รวปิ รตี �ฯ = อฏฺ€าทโิ ต จ. ทำ�ตวั รูป ปณณฺ รส ศัพทเ์ ดิมคือ = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะทสศัพท ์ แปลง ปจฺ เป็น ปณฺณ ปฺจ ปณณฺ + ทส = ปฺจาทนี มกาโร. = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. หลงั จ�กสังขย� แปลง ท ของทสเป็น ร ปณฺณ + ท ร ส หลัง ปณฺณรส ลง โย ปฐม�วภิ ัตต ิ ปณฺณรส + โย แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปณฺณรสฺ อ + โย เพร�ะโยวภิ ตั ติ แปลง อ กับ โย เปน็ อ ปณฺณรส ฺ อ+โย อ น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ปณณฺ รส ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ ปณณฺ รส. (สิบห้�) ๒๕๗. ทเส โส นิจจฺ จฺ . ทเส ในเพร�ะทสศพั ท ์ โส อ.ก�รแปลงเปน็ โส ฉสฺส แหง่ ฉศัพท ์ โหติ ย่อมม ี นจิ ฺจํ แนน่ อน. (เพร�ะทสศัพท์ แปลง ฉ เปน็ โส แนน่ อน) สตู รนม้ี ี ๔ บท คอื ทเส, โส, นิจฺจ,ำ จ. เปน็ อาเทสวธิ สิ ตู ร. จศัพท์ : มีอรรถ อนกุ ฑฒฺ น ดึงบทว�่ “ฉสฺส” จ�กสูตรว่� “ส ฉสสฺ ว�” ม�ไวใ้ นสตู รน้ี. ๒๕๘. ล ท-รานํ. ล อ.ก�รแปลงเปน็ ล ทรานํ แห่ง ท และ ร ท. สงขฺ ฺยานํ ของสังขย� ท. โหติ ย่อมม ี วา บ�้ ง. (แปลง ท และ ร ของสังขย� เป็น ล บ้�ง) สูตรน้ีม ี ๒ บท. เป็น อาเทสวธิ สิ ตู ร. ท�ำ ตวั รปู โสฬส ศัพทเ์ ดิมคอื = ฉ + ทส = ทเส โส นจิ ฺจจฺ . เพร�ะทสศพั ท ์ แปลง ฉ เปน็ โส ฉ โส + ทส = ล ทร�นำ. = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. แปลง ท ของสังขย� เป็น ล โส + ท ล ส = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = ปฺจาทีนมกาโร. หลงั โสฬส ลง โย ปฐม�วิภตั ต ิ โสฬส + โย = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ โสฬส ฺ อ + โย เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลง อ กบั โย เป็น อ โสฬส ฺ อ+โย อ นำ�พยญั ชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ อ โสฬส ส�ำ เรจ็ รูปเป็น โสฬส. (สบิ หก)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374