262 รปู สทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม ๒๕๙. อฏฺ€าทโิ ต จ. สงฺขยฺ าเน ในเพร�ะสังขย�ศพั ท ์ ร อ.ก�รแปลงเป็น ร ทส แหง่ ท ของทสศัพท ์ ปรสฺส อนั เป็นเบอ้ื งหลัง อฏ€ฺ าทิโต (สงฺขยฺ าสททฺ โต) จ�กสงั ขย�ศัพท ์ ท.มี อฏ€ฺ เป็นต้น โหต ิ ย่อมมี วา บ�้ ง. (เพร�ะสงั ขย�ศพั ท ์ แปลง ท ของ ทสศพั ทท์ ่ีอยู่หลงั จ�กสงั ขย�ศพั ทม์ ี อฏ€ฺ เปน็ ต้น เปน็ ร บ�้ ง) สูตรนม้ี ี ๒ บท. เปน็ อาเทสวธิ สิ ตู ร. จศพั ท์ : มีอรรถ อนกุ ฑฺฒน ดงึ บทว�่ “ทส” และ “ร” ม�ไวใ้ นสูตร นี.้ อ�ทศิ ัพท์ : หม�ยเอ� ปญฺจ และสตตฺ สังขย� ท�ำ ตวั รูป อฏฺ€ารส ศพั ทเ์ ดิมคือ = อฏฺ€ + ทส หลังจ�ก อฏฺ€ แปลง ท ของทส เปน็ ร อฏ€ฺ + ท ร ส = อฏ€ฺ าทโิ ต จ. แยกพยัญชนะ € ฺ ออกจ�กสระ อ อฏ€ฺ ฺ อ + รส = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะสงั ขย�ศัพท์ แปลง อ เป็น อ� อฏ€ฺ ฺ อ อา + รส = เทฺวกฏฺ€านมากาโร วา. = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. นำ�พยัญชนะ € ฺ ไปประกอบกับสระ อ� อฏฺ€ารส = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. หลัง อฏ€ฺ ารส ลง โย ปฐม�วภิ ตั ติ อฏฺ€ารส + โย = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. แยกพยัญชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ อฏ€ฺ ารสฺ อ + โย = ปจฺ าทนี มกาโร. เพร�ะโยวิภัตติ แปลง อ กบั โย เป็น อ อฏฺ€ารสฺ อ+โย อ = นเย ปรำ ยุตฺเต. น�ำ พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกับสระ อ อฏ€ฺ ารส สำ�เร็จรปู เปน็ อฏ€ฺ ารส. (สิบแปด) ท�ำ ตวั รปู กต ิ ศพั ทเ์ ดมิ คือ = กติ หลงั กติ ลง โย ปฐม�วิภตั ต ิ กติ + โย = ลิงคฺ ตฺเถ ป€มา. ต้ัง อ ิ ชือ่ ฌ กติ ฌ + โย = อวิ ณณฺ ุวณณฺ � ฌล�. หลังจ�กอิชือ่ ฌ ลบโยวภิ ตั ต ิ กตฺ อิ + โย = ฆปโต จ โยน ำ โลโป. เพร�ะโยทถ่ี ูกลบแลว้ ทฆี ะ อ ิ เปน็ อี กต ฺ อ ิ อี = โยสุ กตนกิ �รโลเปสุ ทีฆ.ำ รัสสะ อ ี เปน็ อ ิ กตฺ อี อิ = กฺวจ�ทิมชฌฺ ตุ ฺตร�นำ ทีฆรสสฺ �ฯ นำ�พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ิ กต ิ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. สำ�เร็จรูปเปน็ กต.ิ (อิมสฺม ึ ส�สเน กติ ธรุ �นิ. อ.ธุระ ท. มีเท�่ ไร ในพระศ�สน�น้)ี กติสททฺ ปทม�ล� (เท�่ ไร) วิภัตต ิ พหวุ จนะ ปฐม�. กติ ทตุ ิย�. กติ ตติย�. กตหิ ิ กตภิ ิ
กณั ฑ์ ] วภิ ัตติปัจจยวธิ าน 263 จตุตถ.ี กตินำ ปัญจมี. กตหิ ิ กติภิ ฉฏั ฐี. กตินำ สัตตม.ี กติสุ จบ อลงิ คน�ม. ____________ ๕. วภิ ตั ตปิ ัจจยวธิ �น คำ�ว่� “วิภตั ตปิ ัจจัยวธิ �น” ม�จ�ก “วภิ ตั ติ + ปจั จัย + วิธ�น” แปลว�่ วิธีของปจั จยั ทลี่ งในอรรถของวภิ ตั ต ิ หรอื ใชแ้ ทนวิภตั ติ หม�ยคว�มว�่ เปน็ ปจั จัย แตล่ งในอรรถของวิภัตตติ �่ งๆ ใช้แทนวภิ ัตตนิ น่ั เอง มี ๑๕ ตวั คือ โต, ตรฺ , ถ, ห, ธ, ธ,ิ ห,ึ ห,ำ หญิ ฺจน,ำ ว, ท�, ท�นิ, รหิ, ธุน� และ ท�จนปำ ัจจัย รปู ส�ำ เรจ็ เป็นนิบ�ต หรือเรยี กว่�อพั ยยศัพท ์ มวี ธิ กี �รใช้ ดงั น้ ี ๑) โตปัจจัย ลงหลังจ�กน�มน�มบ�้ ง หลงั สพั พน�มบ้�ง (๑) เปน็ เคร่อื งหม�ยตติย�วภิ ตั ติ แปลว่� “ข้�ง..., โดย...”, (๒) เป็นเครือ่ งหม�ยปญั จมวี ภิ ตั ติ แปลว�่ “แต.่ .., จ�ก...., กว่�...,เพร�ะ...” และ (๓) เปน็ เครอ่ื งหม�ย สตั ตมีวภิ ตั ติ แปลว่� “ใน..., บน...”เป็นตน้ ถ�้ หลงั น�มน�ม แปลออกสำ�เนยี งอ�ยตนบิ �ตของวภิ ัตตไิ ด้เลย ส่วนลงหลงั วิเสสนสัพพน�ม เวล�แปล ต้องโยคสทุ ธน�มเข�้ ม�กอ่ น จงึ จะแปลได้ ๒) ปจั จัย ๙ ตัวเหล่�น ้ี คือ ตรฺ , ถ, ห, ธ, ธ,ิ ห,ึ ห,ำ หญิ ฺจน ำ และ วปจั จยั ลงหลังจ�กสพั พน�ม เปน็ เครอื่ งหม�ยสัตตมีวภิ ัตติ ๓) ปัจจัย ๕ ตัวเหล่�นี ้ คอื ท�, ท�น,ิ รหิ, ธนุ � และ ท�จนำปจั จัย ลงหลังจ�กสพั พน�ม เป็นเคร่ืองหม�ย สตั ตมีวิภัตติ ในอรรถก�ล เรยี กว�่ ก�ลสตั ตมี ๒๖๐. กวฺ จิ โต ปจฺ มฺย’ตเฺ ถ. โต อ.โตปัจจยั โหติ ย่อมลง ปฺจมยฺ ตเฺ ถ ในอรรถแหง่ ปัญจมวี ิภัตติ กวฺ จิ บ้�ง. (ลงโตปัจจยั ในอรรถปญั จมีวิภตั ต ิ บ�้ ง) สูตรนม้ี ี ๓ บท. เป็น ปัจจยวธิ ิสูตร. สตู รน้ใี หล้ งโตปจั จยั หลังจ�กลงิ คท์ ่เี ป็นสุทธน�มและสัพพน�มทง้ั ปวง. ดว้ ยก�รแบง่ สูตร(ทฺวธิ �กรณโยควิภ�ค)ว�่ “กฺวจิ โต” ส�ม�รถลงโตปจั จัย ในอรรถสัตตมวี ภิ ตั ต ิ หลงั จ�กศัพทม์ ี อ�ทิ เปน็ ต้นได ้ เชน่ อ�ทิโต (ในเบือ้ งต้น), มชฺฌโต (ในท่�มกล�ง) เปน็ ตน้ และลงโตปัจจยั ในอรรถตติย�วิภตั ติ หลงั จ�ก ศัพท์มี อนจิ จฺ เปน็ ต้น เชน่ อนิจจฺ โต สมฺมสต ิ (ย่อมพจิ �รณ� โดยคว�มเป็นสภ�พไมเ่ ท่ียง), ทุกฺขโต (โดยคว�มเป็นสภ�พ ท่ที นไดย้ �ก) เป็นต้น.
264 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม ๒๖๑. ตวฺ าทโย วิภตตฺ ิ-สฺาโย. ตวฺ าทโย ปจจฺ ยา อ.ปัจจัย ท.ม ี โต เปน็ ตน้ วภิ ตฺติสฺ าโย มชี ่ือว�่ วภิ ตั ติ โหนตฺ ิ ย่อมเปน็ . (ตง้ั โตปัจจยั เป็นตน้ ชอ่ื ว�่ วิภตั ติ) สูตรน้ีม ี ๒ บท. เป็น สญั ญ�สูตร. ทำ�ตัวรูป ปุรสิ โต ศัพทเ์ ดิมคือ = ปุริส = กวฺ จิ โต ปจฺ มฺยตฺเถ. หลงั ปุริส ลง โตปจั จัยในอรรถปัญจม ี ปุรสิ + โต = ตฺวาทโย วภิ ตฺติสฺาโย. ตง้ั โตปจั จัย ชอ่ื วภิ ัตต ิ ปรุ สิ + โต ส�ำ เร็จรูปเปน็ ปรุ ิสโต. (แต.่ .. บุรุษ) ทำ�ตัวรูป อติ ถฺ โิ ต ศัพทเ์ ดิมคอื = อติ ฺถี = กฺวจิ โต ปฺจมฺยตเฺ ถ. หลงั อติ ถฺ ี ลง โตปจั จัยในอรรถปัญจมี อิตถฺ ี + โต = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺาโย. = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ตั้ง โตปัจจยั ชื่อวภิ ตั ต ิ อิตถฺ ี + โต = กฺวจ�ทิมชฺฌตุ ตฺ ร�น ำ ทฆี รสฺส�ฯ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. แยกพยญั ชนะ ถ ฺ ออกจ�กสระ อ ี อติ ถฺ ฺ อ ี + โต เพร�ะโตปัจจัย รัสสะ อี เปน็ อ ิ อติ ฺถ ฺ อ ี อ ิ + โต น�ำ พยัญชนะ ถ ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ิ อติ ถฺ โิ ต สำ�เร็จรปู เปน็ อติ ฺถโิ ต. (แต.่ .. หญิง) เอว ำ ร�ชโต ว�. (ร�ช + โต) แต่...พระร�ช� ก็ดี. โจรโต ว�. (โจร + โต) แต.่ ..โจร กด็ .ี อคฺคิโต ว�. (อคคฺ ิ + โต) แต่...ไฟ ก็ดี. คหปตโิ ต ว�. (คหปต ิ + โต) แต.่ ..คฤหบด ี กด็ ี. หตถฺ โิ ต. (หตถฺ ี + โต) แต่...ช้�ง. (รสั สะ อี เป็น อ ิ = กฺวจ�ทมิ ชฌฺ ตุ ตฺ ร�นฯำ ) เหตโุ ต. (เหต ุ + โต) แต่...เหต.ุ แต่...พระสพั พญั ญูพุทธเจ�้ . (รสั สะ = กวฺ จ�ทิมชฺฌุตฺตร�นำฯ) สพพฺ ฺโุ ต. (สพฺพฺ ู + โต) แต.่ ..ส�วน้อย. (รัสสะ อ� เป็น อ = กฺวจ�ทมิ ชฌฺ ตุ ฺตร�นฯำ ) กฺโต. (กฺา + โต) แต.่ ..คว�มเหม�ะสม. ยตุ ตฺ ิโต. (ยุตตฺ ิ + โต) แต.่ ..ภิกษณุ .ี (รสั สะ อ ี เป็น อิ = กวฺ จ�ทมิ ชฌฺ ุตตฺ ร�นฯำ ) ภกิ ขฺ นุ ิโต. (ภิกขฺ นุ ี + โต) แต่...ข�้ วต้ม. ย�คโุ ต. (ย�ค ุ + โต) แต่...ตน้ หว้�. (รสั สะ อู เปน็ อุ = กฺวจ�ทมิ ชฌฺ ุตตฺ ร�นำฯ) ชมพฺ ุโต. (ชมพฺ ู + โต) แต่...จิต. จิตฺตโต. (จิตฺต + โต) แต.่ ..อ�ย.ุ อ�ยโุ ต. (อ�ย ุ + โต)
กัณฑ์ ] วภิ ัตติปัจจยวธิ าน 265 หม�ยเหตุ:- ศพั ทท์ ่มี ีทฆี สระเปน็ ทีส่ ุดทุกศพั ท ์ หลังจ�กลงโตปัจจัยแล้ว ใหท้ �ำ รสั สะ ด้วยสตู รว่� “กฺวจ�ทิ- มชฌฺ ตุ ฺตร�น ำ ทฆี รสฺส� ปจจฺ เยส ุ จ” ทุกครงั้ . ทำ�ตัวรปู สพฺพโต ศพั ท์เดมิ คอื = สพฺพ = กฺวจิ โต ปจฺ มฺยตฺเถ. หลงั สพฺพ ลง โตปจั จัยในอรรถปัญจมี สพฺพ + โต = ตวฺ าทโย วภิ ตฺตสิ ฺ าโย. ตัง้ โตปัจจยั ชอื่ วภิ ตั ต ิ สพฺพ + โต สำ�เรจ็ รปู เป็น สพฺพโต. (แต.่ .. ทั้งปวง) ทำ�ตวั รูป ตโต ศพั ท์เดิมคอื = ต = กฺวจิ โต ปฺจมฺยตฺเถ. หลงั ย ลง โตปจั จยั ในอรรถปัญจม ี ต + โต = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺาโย. ตง้ั โตปจั จัย ช่อื วภิ ัตต ิ ต + โต สำ�เรจ็ รูปเปน็ ตโต. (แต่... นั้น) เอว ำ ยโต. (ย + โต) แต่...ใด. กตรโต. (กตร + โต) แต่...ไหน. กตมโต. (กตม + โต) แต.่ ..ไหน. อติ รโต. (อติ ร + โต) แต่...นอกนี.้ แต.่ ..อืน่ . อฺ โต. (อฺ + โต) แต.่ ..หนึง่ . เอกโต. (เอก + โต) แต่...ทง้ั สอง. อภุ ยโต. (อภุ ย + โต) แต.่ ..ข�้ งหน�้ . ปพุ พฺ โต. (ปพุ พฺ + โต) แต่....ข้�งหลงั . ปรโต. (ปร + โต) แต.่ ..อื่นอีก. อปรโต. (อปร + โต) แต.่ ..ข้�งใต้. ทกขฺ ิณโต. (ทกฺขณิ + โต) แต่...ข�้ งบน. อุตตฺ รโต. (อุตตฺ ร + โต) แต.่ ..โนน้ . อมโุ ต. (อมุ + โต) ๒๖๒. ตรฺ -โต-เถสุ จ. ตรฺ โตเถสุ จ ในเพร�ะ ตฺร โต และถปัจจยั ท. ด้วย ก ุ อ.ก�รแปลงเปน็ ก ุ กสิ ฺส แห่ง กึศัพท ์ โหติ ยอ่ มม.ี (เพร�ะ ตฺร โต และถปจั จัย แปลง กึศัพท ์ เปน็ กุ) สูตรนม้ี ี ๒ บท. เปน็ อาเทสวธิ สิ ตู ร. จศัพท์ : มีอรรถ อนกุ ฑฒฺ น ดึงบทว�่ “กุ” ม�ไวใ้ นสูตรน้.ี
266 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตวั รปู กโุ ต ศพั ทเ์ ดมิ คือ = กึ = กวฺ จิ โต ปฺจมยฺ ตฺเถ. หลัง กึ ลง โตปัจจัยในอรรถปัญจมี ก ึ + โต = ตวฺ าทโย วภิ ตฺติสฺาโย. = ตฺรโตเถสุ จ. ต้งั โตปจั จัย ช่ือวภิ ตั ติ กึ + โต เพร�ะโตปจั จยั แปลง กึ เปน็ ก ุ ก ึ ก ุ + โต ส�ำ เร็จรปู เป็น กโุ ต. (แต.่ .. ไหน) ๒๖๓. สพพฺ สฺเส’ตสฺสา’กาโร วา. โตเถสุ ในเพระโตปัจจัยและถปจั จยั ท. อกาโร อ.ก�รแปลงเปน็ ออักษร เอตสฺส แห่งเอตศพั ท์ สพพฺ สฺส ทั้งตัว โหติ ย่อมมี วา บ้�ง. (เพร�ะโตและถปจั จัย แปลง เอตศัพท์ทง้ั ตวั เป็น อ บ�้ ง) สตู รนีม้ ี ๔ บท คือ สพพฺ สฺส, เอตสสฺ , อก�โร, ว�. เป็น อาเทสวิธสิ ตู ร. ทำ�ตัวรปู อโต ศพั ท์เดมิ คือ = เอต = กฺวจิ โต ปจฺ มฺยตฺเถ. หลงั เอต ลง โตปจั จยั ในอรรถปญั จมี เอต + โต = ตฺวาทโย วิภตตฺ ิสฺ าโย. = สพพฺ สฺเสตสสฺ �ก�โร ว�. ต้ัง โตปจั จัย ช่ือวิภตั ต ิ เอต + โต เพร�ะโตปจั จัย แปลง เอต เป็น อ เอต อ + โต สำ�เร็จรูปเปน็ อโต. (แต่... น่ัน) ๒๖๔. เอ โต-เถสุ จ. โตเถสุ จ ในเพร�ะโตปจั จยั และถปัจจยั ท.ดว้ ย เอ อ.ก�รแปลงเป็น เอ เอตสสฺ แห่งเอตศัพท ์ สพพฺ สสฺ ทัง้ ตวั โหต ิ ยอ่ มมี วา บ�้ ง. (เพร�ะโตและถปัจจยั แปลง เอตศัพท์ทง้ั ตัวเป็น เอ บ�้ ง) สูตรน้ีม ี ๓ บท. เป็น อาเทสวิธิสูตร. จศัพท์ : มีอรรถ สนฺนฏิ €ฺ านาวธารณ ก�ำ หนดว่�เพร�ะโตและ ถปัจจยั ตอ้ งแปลง เอต เป็น อ และเป็น เอ เท�่ นนั้ . ท�ำ ตัวรปู เอตฺโต ศัพทเ์ ดมิ คอื = เอต = กวฺ จิ โต ปจฺ มยฺ ตฺเถ. หลัง เอต ลง โตปัจจัยในอรรถปญั จม ี เอต + โต = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺาโย. = เอ โตเถส ุ จ. ตั้ง โตปัจจยั ชอ่ื วิภัตติ เอต + โต = ปร เทวฺ ภาโว €าเน. เพร�ะโตปจั จัย แปลง เอต เปน็ เอ เอต เอ + โต ตฺ สทิสเทวภ�วะ เอ + ต ฺ -โต ส�ำ เร็จรูปเป็น เอตฺโต. (แต.่ .. น่ัน)
กัณฑ์ ] วภิ ตั ติปจั จยวธิ าน 267 ๒๖๕. อิมสสฺ ิ ถ-ํ ทานิ-ห-โต-เธสุ จ. ถทํ านิหโตเธสุ ในเพร�ะ ถ ำ ท�น ิ ห โต และธปจั จัย ท. อิ อ.ก�รแปลงเป็น อิ อิมสฺส แห่งอมิ ศพั ท์ สพฺพสฺส ทั้งตัว โหติ ย่อมมี จ แน่นอน. (เพร�ะ ถำ ท�นิ ห โต และธปจั จัย แปลง อิมศพั ทท์ ัง้ ตัวเปน็ อ ิ แน่นอน) สตู รนม้ี ี ๔ บท คือ อิมสฺส, อิ, ถทำ �นิหโตเธส,ุ จ. เป็น อาเทสวิธิสูตร. จศัพท์ : มีอรรถ สนฺนฏิ €ฺ านาวธารณ กำ�หนดว่� เพร�ะ ถำ ท�นิ ห โต และธปจั จัย ตอ้ งแปลง อมิ ศพั ท์ทั้งตัวเป็น อิ แน่นอน. ทำ�ตวั รูป อิโต ศพั ท์เดมิ คือ = อิม = กวฺ จิ โต ปฺจมฺยตเฺ ถ. หลงั อมิ ลง โตปัจจัยในอรรถปญั จม ี อมิ + โต = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺ าโย. = อิมสฺส ิ ถทำ �นิหโตเธสุ จ. ตั้ง โตปัจจัย ช่ือวภิ ัตต ิ อมิ + โต เพร�ะโตปัจจยั แปลง อิม เป็น อ ิ อิม อิ + โต สำ�เรจ็ รปู เป็น อโิ ต. (แต.่ .. น้ี) ทำ�ตัวรปู อาทิโต ศัพท์เดมิ คือ = อ�ทิ = “กวฺ จ ิ โต” โยควิภ�คะใน ... หลงั อ�ทิ ลง โตปัจจยั ในอรรถสตั ตมี อ�ท ิ + โต = ตฺวาทโย วิภตตฺ สิ ฺาโย. ต้ัง โตปัจจัย ช่ือวภิ ัตติ อ�ทิ + โต ส�ำ เรจ็ รปู เป็น อาทโิ ต. (ใน...เบอื้ งตน้ ) ทำ�ตัวรปู ปจฺฉโต ศพั ท์เดมิ คอื = ปจฺฉ� = “กฺวจ ิ โต” โยควภิ �คะใน ... หลงั ปจฉฺ � ลง โตปจั จัยในอรรถสตั ตม ี ปจฺฉ� + โต = ตฺวาทโย วภิ ตฺติสฺ าโย. = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. ต้ัง โตปจั จยั ชอื่ วิภตั ติ ปจฺฉ� + โต = กวฺ จ�ทิมชฌฺ ุตฺตร�นำ ทีฆรสฺส�ฯ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยญั ชนะ ฉ ฺ ออกจ�กสระ อ� ปจฺฉ ฺ อ� + โต เพร�ะโตปจั จัย รสั สะ อ� เป็น อ ปจฉฺ ฺ อ� อ + โต น�ำ พยัญชนะ ฉ ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ปจฺฉโต ส�ำ เร็จรปู เป็น ปจฉฺ โต. (ในภ�ยหลงั , ข�้ งหลงั ) เอวำ. มชฺฌโต. (มชฺฌ + โต) ในท่�มกล�ง. เอกโต. (เอก + โต) ในคว�มเป็นอันเดยี วกนั . ปุรโต. (ปรุ + โต) ในก�ลกอ่ น, ข้�งหน้� ปจฺฉโต. (ปจฺฉ� + โต) ในภ�ยหลัง, ข้�งหลัง(รสั สะ อ� เป็น อ = กวฺ จ�ทมิ ชฺฌตุ ฺตร�นฯำ ) ปสสฺ โต. (ปสสฺ + โต) ในด�้ นข�้ ง. ในข้�งหลัง. ปิฏ€ฺ โิ ต. (ปฏิ €ฺ ิ + โต) ใกล้เท�้ . ป�ทโต. (ป�ท + โต)
268 รูปสิทธิทีปนี [ ๒. นาม สีสโต. (สสี + โต) บนศรี ษะ. อคฺคโต. (อคคฺ + โต). บนยอด. มลู โต. (มูล + โต) ที่ร�กไม,้ ใกลโ้ ค้นไม.้ ปรโต. (ปร + โต) ในข�้ งหลัง. ทำ�ตวั รปู อนิจจฺ โต ศัพทเ์ ดิมคือ = อนิจจฺ หลงั อนิจจฺ ลง โตปจั จัยในอรรถตตยิ � อนจิ จฺ + โต = “กวฺ จิ โต” โยควภิ �คะใน ... ตั้ง โตปจั จัย ชอื่ วภิ ัตติ อนจิ จฺ + โต = ตวฺ าทโย วิภตฺตสิ ฺาโย. สำ�เรจ็ รูปเป็น อนจิ จฺ โต. (โดยคว�มเปน็ สภ�พไม่เทยี่ ง) เอวำ. ทุกฺขโต สมมฺ สต.ิ (ทกุ ฺข + โต) ยอ่ มพจิ �รณ� โดยคว�มเปน็ สภ�พทท่ี นไดย้ �ก. โรคโต. (โรค + โต) โดยคว�มเป็นโรค. คณฺฑโต. (คณฺฑ + โต) โดยคว�มเป็นฝี. ๒๖๖. ตรฺ -ถ สตตฺ มยิ า สพฺพนาเมห.ิ ตฺรถ อ.ตฺรและถปัจจยั ท. โหนฺติ ย่อมลง ปรํ ในเบ้ืองหลัง สพพฺ นาเมหิ จ�กสัพพน�ม ท. สตตฺ มิยา ใน อรรถแห่งสัตตมีวิภัตต ิ กฺวจิ บ้�ง. (หลังจ�กสัพพน�ม ลง ตรฺ และถปจั จยั ในอรรถสตั ตมีวภิ ตั ติ บ้�ง) สูตรน้ีมี ๓ บท. เปน็ ปจั จยวธิ ิสูตร. ท�ำ ตวั รูป สพพฺ ตฺร ศัพท์เดมิ คือ = สพฺพ = ตรฺ ถ สตตฺ มิย� สพฺพน�เมหิ. หลัง สพพฺ ลง ตรฺ ปัจจัยในอรรถสัตตมี สพฺพ + ตฺร = ตวฺ าทโย วิภตฺติสฺาโย. ตัง้ ตรฺ ปจั จยั ช่อื วิภัตติ สพพฺ + ตรฺ สำ�เร็จรปู เป็น สพพฺ ตฺร. (ใน... ทัง้ ปวง) ท�ำ ตวั รูป สพฺพตถฺ ศัพท์เดิมคอื = สพฺพ = ตฺรถ สตตฺ มยิ � สพฺพน�เมหิ. หลงั สพพฺ ลง ถปัจจยั ในอรรถสัตตมี สพฺพ + ถ = ตฺวาทโย วิภตตฺ สิ ฺ าโย. = วคเฺ ค โฆสาโฆสานํ ตตยิ ป€มา. ตัง้ ถปัจจยั ช่อื วิภตั ต ิ สพฺพ + ถ ต ฺ อสทิสเทวภ�วะ สพพฺ + ตฺ -ถ สำ�เร็จรปู เป็น สพฺพตถฺ . (ใน... ทงั้ ปวง) ทำ�ตัวรปู ยตรฺ ศัพท์เดมิ คอื = ย หลัง ย ลง ตฺรปจั จยั ในอรรถสตั ตม ี ย + ตฺร = ตฺรถ สตฺตมิย� สพพฺ น�เมหิ.
กัณฑ์ ] วิภัตตปิ ัจจยวธิ าน 269 ตัง้ ตรฺ ปจั จยั ช่ือวภิ ตั ต ิ ย + ตฺร = ตวฺ าทโย วิภตฺติสฺาโย. สำ�เรจ็ รูปเป็น ยตฺร. (ใน... ใด) = ย = ตรฺ ถ สตตฺ มิย� สพพฺ น�เมห.ิ ท�ำ ตวั รปู ยตฺถ ศัพท์เดมิ คือ = ตวฺ าทโย วิภตตฺ ิสฺาโย. = วคฺเค โฆสาโฆสานํ ตติยป€มา. หลัง ย ลง ถปจั จัยในอรรถสัตตมี ย + ถ = ต ตัง้ ถปัจจยั ช่ือวภิ ตั ติ ย + ถ = ตฺรถ สตฺตมิย� สพฺพน�เมห.ิ = ตวฺ าทโย วภิ ตฺตสิ ฺ าโย. ตฺ อสทสิ เทวภ�วะ ย + ตฺ -ถ = ต ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ยตถฺ . (ใน... ใด) = ตรฺ ถ สตฺตมยิ � สพพฺ น�เมห.ิ = ตวฺ าทโย วิภตฺติสฺ าโย. ท�ำ ตวั รูป ตตรฺ ศัพทเ์ ดมิ คอื = วคเฺ ค โฆสาโฆสานํ ตตยิ ป€มา. หลงั ต ลง ตฺรปจั จัยในอรรถสตั ตมี ต + ตฺร = กึ = ตฺรถ สตตฺ มยิ � สพพฺ น�เมหิ. ตง้ั ตฺรปัจจยั ชือ่ วิภัตติ ต + ตฺร = ตฺวาทโย วภิ ตตฺ สิ ฺาโย. = ตรฺ โตเถสุ จ. สำ�เรจ็ รปู เปน็ ตตรฺ . (ใน... นน้ั ) = วคฺเค โฆสาโฆสานํ ตติยป€มา. ท�ำ ตวั รปู ตตฺถ ศัพทเ์ ดิมคอื = กึ = ตรฺ ถ สตตฺ มิย� สพพฺ น�เมหิ. หลัง ต ลง ถปจั จัยในอรรถสัตตม ี ต + ถ = ตฺวาทโย วภิ ตฺติสฺ าโย. = จศพั ท ์ ใน กิสฺส ก เว จ. ตั้ง ถปัจจยั ชอื่ วิภัตต ิ ต + ถ = วคฺเค โฆสาโฆสานํ ตตยิ ป€มา. ตฺ อสทสิ เทวภ�วะ ต + ต ฺ -ถ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ตตฺถ. (ใน... นนั้ ) ทำ�ตวั รูป กุตฺถ ศัพท์เดมิ คือ หลัง ก ึ ลง ถปัจจัยในอรรถสัตตมี กึ + ถ ต้ัง ถปัจจัย ชอื่ วิภตั ติ ก ึ + ถ เพร�ะถปจั จยั แปลง ก ึ เปน็ ก ุ กึ ก ุ + ถ ตฺ อสทิสเทวภ�วะ กุ + ตฺ -ถ ส�ำ เร็จรปู เป็น กตุ ฺถ. (ใน... ไหน) ทำ�ตวั รปู กตถฺ ศพั ทเ์ ดิมคอื หลัง กึ ลง ถปัจจัยในอรรถสัตตมี ก ึ + ถ ต้ัง ถปจั จัย ช่ือวิภัตติ ก ึ + ถ เพร�ะถปจั จยั แปลง ก ึ เป็น ก กึ ก + ถ ตฺ อสทิสเทวภ�วะ ก + ตฺ -ถ สำ�เร็จรปู เป็น กตถฺ . (ใน... ไหน)
270 รูปสทิ ธิทีปนี [ ๒. นาม เอว.ำ อติ รตรฺ . (อติ ร + ตรฺ ) ใน...นอกน้.ี อติ รตถฺ . (อิตร + ถ) ใน...นอกน้.ี ใน...อ่ืน. อฺตฺร. (อฺ + ตรฺ ) ใน...อืน่ . อฺตฺถ. (อฺ + ถ) ใน...ท้ังสอง. อภุ ยตฺร. (อภุ ย + ตรฺ ) ใน...ทัง้ สอง. อภุ ยตฺถ. (อภุ ย + ถ) ใน...อน่ื . ปรตฺร. (ปร + ตรฺ ) ใน...อนื่ . ปรตถฺ . (ปร + ถ) ใน...ไหน. (แปลง กึ เปน็ กุ = ตฺรโตเถสุ จ) กุตรฺ . (กึ + ตรฺ ) ใน...ไหน. กุตฺถ. (ก ึ + ถ) ใน...ไหน. (แปลง กึ เปน็ ก = จศัพท์ใน กสิ สฺ ก เว จ) กตฺถ. (กึ + ถ) ใน...โนน้ . อมุตรฺ . (อม ุ + ตรฺ ) ใน...โนน้ . อมุตถฺ . (อมุ + ถ) ๒๖๗. เตฺร นิจจฺ ํ. เตฺร ในเพร�ะตฺรปจั จยั อกาโร อ.ก�รแปลงเปน็ ออกั ษร สพพฺ สฺส เอตสฺส แหง่ เอตศัพท์ทง้ั ตัว โหติ ยอ่ มมี นจิ ฺจํ แนน่ อน. (เพร�ะตฺรปัจจัย แปลง เอตศัพทท์ ้งั ตวั เปน็ อ แน่นอน) สตู รน้ีม ี ๒ บท. เปน็ อาเทสวิธิสตู ร. ท�ำ ตัวรูป อตรฺ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = เอต = ตฺรถ สตฺตมยิ � สพฺพน�เมห.ิ หลงั เอต ลง ตรฺ ปจั จยั ในอรรถสตั ตมี เอต + ตฺร = ตฺวาทโย วภิ ตฺตสิ ฺ าโย. = เตฺร นิจฺจ.ำ ตั้ง ตรฺ ปจั จยั ชอ่ื วภิ ตั ติ เอต + ตรฺ เพร�ะตฺรปัจจยั แปลง เอต เปน็ อ เอต อ + ตฺร ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ อตฺร. (ใน... น่ัน) ทำ�ตวั รูป อตฺถ ศพั ทเ์ ดิมคือ = เอต = ตฺรถ สตฺตมยิ � สพฺพน�เมหิ. หลงั เอต ลง ถปจั จยั ในอรรถสัตตม ี เอต + ถ = ตวฺ าทโย วภิ ตฺตสิ ฺาโย. = สพพฺ สเฺ สตสสฺ �ก�โร ว�. ตัง้ ถปัจจยั ช่อื วภิ ตั ต ิ เอต + ถ = วคเฺ ค โฆสาโฆสานํ ตติยป€มา. เพร�ะถปัจจยั แปลง เอต เปน็ อ เอต อ + ถ ต ฺ อสทสิ เทวภ�วะ อ + ตฺ -ถ ส�ำ เร็จรปู เปน็ อตฺถ. (ใน... นนั่ )
กณั ฑ์ ] วภิ ัตติปัจจยวธิ าน 271 ท�ำ ตัวรูป เอตถฺ ศพั ท์เดิมคือ = เอต = ตฺรถ สตตฺ มยิ � สพพฺ น�เมห.ิ หลงั เอต ลง ถปจั จยั ในอรรถสัตตมี เอต + ถ = ตวฺ าทโย วิภตตฺ ิสฺ าโย. = เอ โตเถส ุ จ. ตัง้ ถปัจจัย ช่อื วิภตั ต ิ เอต + ถ = วคฺเค โฆสาโฆสานํ ตตยิ ป€มา. เพร�ะถปัจจัย แปลง เอต เปน็ เอ เอต เอ + ถ ตฺ อสทสิ เทวภ�วะ เอ + ต ฺ -ถ สำ�เร็จรปู เปน็ เอตถฺ . (ใน... นน่ั ) ๒๖๘. สพพฺ โต ธิ. ธิ อ.ธิปัจจัย โหติ ยอ่ มลง ปรํ ในเบ้ืองหลงั สพฺพโต จ�กสพพฺ ศัพท์ อตเฺ ถ ในอรรถ สตตฺ มิยา แห่งสัตตมี วภิ ัตต ิ กวฺ จิ บ�้ ง. (หลงั จ�กสพพฺ ศพั ท ์ ลง ธปิ จั จัย ในอรรถสัตตมีวภิ ตั ติ บ้�ง) สูตรนมี้ ี ๒ บท. เป็น ปัจจยวธิ ิสูตร. ท�ำ ตัวรูป สพฺพธ ิ ศัพทเ์ ดิมคอื = สพฺพ = สพฺพโต ธิ. หลัง สพฺพ ลง ธิปัจจยั ในอรรถสตั ตมี สพพฺ + ธ ิ = ตฺวาทโย วภิ ตตฺ ิสฺ าโย. ตั้ง ธปิ จั จยั ชือ่ วิภตั ต ิ สพพฺ + ธ ิ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น สพฺพธิ. (ใน... ท้ังปวง) ๒๖๙. กิสมฺ า โว. โว อ.วปัจจยั โหติ ย่อมลง ปรํ ในเบื้องหลัง กสิ ฺมา จ�กกศึ ัพท ์ อตเฺ ถ ในอรรถ สตตฺ มยิ า แห่งสัตตมีวิภตั ติ กวฺ จิ บ้�ง. (หลังจ�กกศึ พั ท์ ลง วปัจจัย ในอรรถสตั ตมีวภิ ัตติ บ้�ง) สตู รนีม้ ี ๒ บท. เป็น ปัจจยวธิ ิสตู ร. ๒๗๐. กิสฺส ก เว จ. เว จ ในเพร�ะวปจั จัยดว้ ย ก อ.ก�รแปลงเป็น ก กสิ สฺ แห่งกศึ ัพท์ โหติ ยอ่ มมี. (เพร�ะวปจั จยั แปลง กึศัพท์ เป็น ก) สตู รน้ีมี ๔ บท. เปน็ อาเทสวิธิสูตร. จศพั ท์ : มอี รรถ อวตุ ฺตสมจุ ฺจย รวบรวมอรรถท่ไี ม่ได้กล�่ วไว้ในสตู ร คือ เพร�ะ ถ และหปำ ัจจัย ก็ส�ม�รถแปลง กศึ ัพท์เปน็ ก ได ้ เช่น กตถฺ , กหำ. ทำ�ตัวรปู กฺว ศพั ทเ์ ดมิ คอื = กึ กึ + ว = กิสมฺ � โว. หลัง ก ึ ลง วปจั จยั ในอรรถสัตตมี ก ึ + ว = ตฺวาทโย วิภตตฺ ิสฺาโย. ตง้ั วปจั จยั ชือ่ วภิ ัตต ิ
272 รปู สทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม เพร�ะวปัจจยั แปลง กึ เปน็ ก กึ ก + ว = กสิ ฺส ก เว จ. แยกพยัญชนะ กฺ ออกจ�กสระ อ กฺ อ + ว = ปพุ ฺมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะวปจั จยั ลบ ออักษร ก ฺ อ + ว = เตสุ วุทธฺ โิ ลป�คมวกิ �รวิปรีต�ฯ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น กฺว. (กวฺ คโตสิ ตวฺ ำ. อ.ท�่ น เป็นผู้ไปแล้ว ในท่ไี หน ย่อมเป็น) ๒๗๑. ห-ึ ห-ํ หิ ฺจน.ํ หหึ ํหิ จฺ นํ อ.หึ หำ และหิ ฺจนำปัจจัย ท. โหนตฺ ิ ย่อมลง ปรํ ในเบอ้ื งหลงั กิสฺมา จ�กกึศพั ท์ อตฺเถ ในอรรถ สตตฺ มยิ า แห่งสตั ตมวี ิภตั ต ิ กวฺ จิ บ�้ ง. (หลังจ�กกศึ ัพท ์ ลง ห ึ ห ำ และหิ จฺ นํปัจจยั ในอรรถสตั ตมีวภิ ตั ติ บ�้ ง) สูตรน้ีมบี ทเดยี ว. เป็น ปจั จยวิธิสตู ร. ๒๗๒. กุ หึ-หํสุ จ. หึหสํ ุ จ ในเพร�ะหแึ ละหปำ ัจจัย ท.ด้วย กุ อ.ก�รแปลงเป็น กุ กสิ ฺส แหง่ กึศพั ท์ โหต ิ ยอ่ มม.ี (เพร�ะหึและหปำ ัจจัย แปลง กศึ พั ท ์ เป็น ก)ุ สูตรน้มี ี ๓ บท. เปน็ อาเทสวิธสิ ตู ร. จศัพท ์ : มีอรรถ อวตุ ฺตสมุจฺจย รวบรวมอรรถทไี่ ม่ได้กล�่ วไว้ในสูตรนี้ คือ แมเ้ พร�ะหิ ฺจนำและท�จนปำ ัจจยั เปน็ ตน้ ให้แปลง กึศพั ท์เปน็ ก ุ ได ้ เช่น กหุ ิ จฺ น,ํ กุท�จน.ำ ทำ�ตวั รูป กุหึ ศัพท์เดิมคือ = กึ = หึหํหิ จฺ น.ํ หลงั ก ึ ลง หปึ จั จัยในอรรถสัตตม ี ก ึ + หึ = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺ าโย. = กุ หึหสำ ุ จ. ตั้ง หปึ ัจจัย ชอ่ื วิภตั ติ กึ + ห ึ เพร�ะหึปจั จัย แปลง กึ เป็น กุ กึ ก ุ + ห ึ สำ�เรจ็ รปู เปน็ กุห.ึ (ใน... ไหน) ทำ�ตวั รูป กหุ ํ ศัพท์เดิมคอื = กึ = หึหํหิจฺ นํ. หลัง กึ ลง หำปัจจยั ในอรรถสตั ตมี กึ + ห ำ = ตฺวาทโย วภิ ตตฺ สิ ฺาโย. = กุ หหึ สำ ุ จ. ตั้ง หปำ จั จัย ชอ่ื วิภตั ติ ก ึ + ห ำ เพร�ะหำปจั จัย แปลง ก ึ เปน็ ก ุ ก ึ กุ + หำ ส�ำ เรจ็ รปู เป็น กุห.ํ (ใน... ไหน) ทำ�ตวั รปู กหุ ิ ฺจนํ ศพั ทเ์ ดมิ คือ = กึ หลัง กึ ลง หิจฺ นปำ ัจจยั ในอรรถสตั ตมี กึ + หิจฺ นํ = หหึ หํ ิจฺ น.ํ ตง้ั หิ ฺจนำปจั จยั ช่อื วิภตั ต ิ กึ + หิจฺ นํ = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺาโย. = จศพั ทใ์ น ก ุ หึหำส ุ จ. เพร�ะหิฺจนํปจั จยั แปลง ก ึ เป็น กุ ก ึ ก ุ + หิ จฺ นํ
กณั ฑ์ ] วิภัตตปิ ัจจยวธิ าน 273 สำ�เรจ็ รปู เปน็ กหุ ิฺจนํ. (ใน... ไหน) ท�ำ ตัวรูป กห ํ ศพั ท์เดมิ คือ = กึ = หึหหํ ิ จฺ น.ํ หลงั กึ ลง หปำ ัจจัยในอรรถสัตตม ี ก ึ + ห ำ = ตฺวาทโย วิภตฺตสิ ฺ าโย. = จศัพท์ ใน กิสฺส ก เว จ. ตัง้ หำปัจจัย ชือ่ วภิ ตั ต ิ กึ + หำ เพร�ะหำปัจจยั แปลง ก ึ เป็น ก ก ึ ก + ห ำ ส�ำ เร็จรูปเปน็ กหํ. (ใน... ไหน) ๒๗๓. ตมหฺ า จ. หหึ ํ อ.หแึ ละหำปจั จัย ท. โหนตฺ ิ ย่อมลง ปรํ ในเบื้องหลัง ตมหฺ า จ จ�ก ตศพั ทด์ ว้ ย อตเฺ ถ ในอรรถ สตฺตมยิ า แห่งสัตตมวี ิภตั ต ิ กวฺ จิ บ้�ง. (หลงั จ�กตศัพท ์ ลง ห ึ และหำปัจจัย ในอรรถสตั ตมีวิภัตติ บ้�ง) สตู รน้ีมี ๒ บท. เป็น ปจั จยวิธสิ ูตร. จศพั ท์ : มอี รรถ อนุกฑฺฒน ดงึ บทว่� “หึหำ” ม�ไว้ในสูตรน้ี. ทำ�ตวั รูป ตหึ ศพั ทเ์ ดิมคอื = ต = ตมฺห� จ. หลงั ต ลง หึปจั จยั ในอรรถสัตตมี ต + ห ึ = ตวฺ าทโย วภิ ตฺตสิ ฺาโย. ตง้ั หึปจั จัย ช่อื วิภตั ติ ต + หึ สำ�เรจ็ รูปเป็น ตห.ึ (ใน... น้นั ) ท�ำ ตัวรปู ตห ํ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = ต = ตมหฺ � จ. หลงั ต ลง หำปจั จัยในอรรถสตั ตม ี ต + หำ = ตฺวาทโย วภิ ตฺติสฺาโย. ตง้ั หำปัจจัย ชอ่ื วิภัตติ ต + หำ ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ตหํ. (ใน... น้นั ) ๒๗๔. อิมสฺมา ห-ธา จ. หธา จ อ.หและธปัจจัย ท.ดว้ ย โหนตฺ ิ ย่อมลง ปรํ ในเบือ้ งหลัง อิมสฺมา จ�ก อิมศัพท ์ อตเฺ ถ ในอรรถ สตตฺ มยิ า แห่งสัตตมวี ิภตั ติ กฺวจิ บ้�ง. (หลังจ�กอมิ ศัพท ์ ลง ห และธปัจจัย ในอรรถสตั ตมวี ภิ ัตติ บ�้ ง) สูตรน้ีมี ๓ บท. เป็น ปจั จยวิธสิ ูตร. จศัพท์ : มีอรรถ สนนฺ ิฏฺ€านาวธารณ ตดั สนิ ช้ีข�ดว�่ “หปจั จยั และ ธ ปจั จัย” ตอ้ งลงหลงั จ�กอิมศัพท์ ในอรรถสตั ตมีวิภตั ติเท่�นนั้ . ทำ�ตัวรูป อิห ศัพทเ์ ดิมคือ = อิม อิม + ห = อิมสฺม� หธ� จ. หลงั อมิ ลง หปัจจัยในอรรถสตั ตม ี อิม + ห = ตวฺ าทโย วภิ ตฺติสฺ าโย. ตงั้ หปจั จัย ช่อื วิภตั ติ
274 รปู สทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม เพร�ะหปัจจัย แปลง อิม เปน็ อิ อมิ อิ + ห = อมิ สสฺ ิ ถำท�นหิ โตเธสุ จ. ส�ำ เร็จรูปเปน็ อหิ . (ใน... น้)ี = อิม = อิมสมฺ � หธ� จ. ทำ�ตวั รูป อธิ ศพั ทเ์ ดิมคอื = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺ าโย. = อิมสสฺ ิ ถทำ �นหิ โตเธสุ จ. หลงั อมิ ลง ธปัจจัยในอรรถสัตตม ี อิม + ธ ตงั้ ธปจั จัย ช่อื วิภัตติ อมิ + ธ เพร�ะธปัจจัย แปลง อิม เปน็ อิ อมิ อิ + ธ สำ�เร็จรปู เปน็ อธิ . (ใน... น้ี) ๒๗๕. ยโต ห.ึ หึ อ.หปึ จั จยั โหติ ยอ่ มลง ปรํ ในเบอ้ื งหลัง ยโต จ�ก ยศัพท ์ อตเฺ ถ ในอรรถ สตตฺ มิยา แหง่ สตั ตมวี ิภัตต ิ กฺวจิ บ�้ ง. (หลงั จ�กยศัพท ์ ลง หปึ ัจจัย ในอรรถสัตตมวี ิภตั ต ิ บ�้ ง) สตู รนม้ี ี ๒ บท. เป็น ปัจจยวิธสิ ูตร. ทำ�ตัวรปู ยห ึ ศพั ทเ์ ดิมคือ = ย = ยโต หึ. หลงั ย ลง หึปจั จัยในอรรถสตั ตมี ย + ห ึ = ตฺวาทโย วภิ ตตฺ ิสฺ าโย. ตง้ั หปึ จั จัย ชอื่ วภิ ตั ต ิ ย + หึ ส�ำ เร็จรปู เปน็ ยหึ. (ใน... ใด) ๒๗๖. กึ-สพฺพ’เฺ ’ก-ย-กหุ ิ ทา-ทาจน.ํ ทาทาจนํ อ.ท� และท�จนปำ จั จยั ท. โหนฺติ ยอ่ มลง ปรํ ในเบ้ืองหลงั กึสพพฺ เฺ กยกุหิ จ�ก กึ สพพฺ อฺ เอก ย และกศุ ัพท ์ ท. อตฺเถ ในอรรถ สตตฺ มยิ า แห่งสตั ตมีวภิ ตั ต ิ กาเล ในอรรถก�ล กฺวจิ บ�้ ง. (หลังจ�ก ก ึ สพฺพ อฺ เอก ย และกศุ พั ท์ ลง ท� และท�จนปำ จั จยั ในอรรถก�ลสตั ตม ี บ้�ง) สตู รนมี้ ี ๒ บท. เป็น ปจั จยวธิ สิ ตู ร. ท�ำ ตวั รูป กทา ศพั ท์เดิมคอื = กึ = กสึ พพฺ ฺเกยกหุ ิ ทาทาจนํ. หลัง กึ ลง ท�ปัจจัยในอรรถก�ลสตั ตม ี ก ึ + ท� = ตฺวาทโย วภิ ตฺตสิ ฺาโย. = จศัพท์ ใน กิสสฺ ก เว จ. ต้ัง ท�ปจั จัย ชอ่ื วิภตั ต ิ ก ึ + ท� เพร�ะท�ปจั จยั แปลง กึ เปน็ ก ก ึ ก + ท� ส�ำ เร็จรปู เป็น กทา. (ในก�ลไร)
กณั ฑ์ ] วิภัตติปัจจยวธิ าน 275 ๒๗๗. สพพฺ สฺส โส ทามหฺ ิ วา. ทามหฺ ิ ในเพร�ะท�ปัจจยั โส อ.ก�รแปลงเป็น ส สพฺพสสฺ แหง่ สพฺพศัพท ์ โหติ ย่อมมี วา บ้�ง. (เพร�ะท�ปจั จยั แปลงสพพฺ ศพั ท์ เปน็ ส บ้�ง) สูตรน้มี ี ๔ บท. เป็น อาเทสวธิ สิ ตู ร. ทำ�ตวั รปู สทา ศัพทเ์ ดมิ คือ = สพพฺ หลังสพพฺ ลงท�ปจั จัยในอรรถก�ลสัตตม ี สพฺพ + ท� = กสึ พฺพฺเกยกหุ ิ ทาทาจนํ. ตง้ั ท�ปจั จยั ชอื่ วิภตั ต ิ สพพฺ + ท� = ตวฺ าทโย วภิ ตฺตสิ ฺ าโย. เพร�ะท�ปจั จยั แปลง สพพฺ เปน็ ส สพฺพ ส + ท� = สพฺพสสฺ โส ท�มหฺ ิ ว�. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น สทา. (ในก�ลทุกเมื่อ) (สท� โสตถฺ ี ภวนฺต ุ เต) ท�ำ ตัวรูป สพพฺ ทา ศัพท์เดิมคอื = สพฺพ หลังสพฺพ ลงท�ปจั จัยในอรรถก�ลสตั ตมี สพพฺ + ท� = กสึ พฺพเฺ กยกุหิ ทาทาจน.ํ ตงั้ ท�ปัจจยั ช่อื วิภตั ติ สพพฺ + ท� = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ สิ ฺาโย. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น สพฺพทา. (ในก�ลทุกเมอื่ , ในก�ลทงั้ ปวง) ทำ�ตวั รูป อฺ ทา ศพั ท์เดิมคือ = อฺ = กึสพฺพเฺ กยกหุ ิ ทาทาจนํ. หลงั อฺ ลงท�ปจั จยั ในอรรถก�ลสตั ตม ีอฺ + ท� = ตฺวาทโย วิภตตฺ สิ ฺาโย. ต้ัง ท�ปัจจัย ชื่อวภิ ตั ต ิ อฺ + ทา สำ�เรจ็ รูปเป็น อฺ ทา. (ในก�ลอืน่ ) ท�ำ ตวั รูป เอกทา ศพั ท์เดมิ คอื = เอก = กึสพฺพฺเกยกุหิ ทาทาจนํ. หลังเอก ลงท�ปัจจัยในอรรถก�ลสัตตม ี เอก + ท� = ตวฺ าทโย วิภตฺติสฺาโย. ตงั้ ท�ปจั จยั ชอื่ วิภตั ติ เอก + ท� ส�ำ เร็จรปู เป็น เอกทา. (ในก�ลบ�งคร�ว) ท�ำ ตวั รูป ยทา ศพั ท์เดิมคือ = ย = กสึ พพฺ ฺเกยกหุ ิ ทาทาจนํ. หลัง ย ลง ท�ปัจจยั ในอรรถก�ลสตั ตมี ย + ท� = ตฺวาทโย วภิ ตฺตสิ ฺาโย. ตง้ั ท�ปจั จัย ชื่อวภิ ตั ต ิ ย + ท� ส�ำ เร็จรูปเปน็ ยทา. (ในก�ลใด) ท�ำ ตวั รปู กุทาจน ํ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = กึ = กสึ พฺพฺเกยกหุ ิ ทาทาจน.ํ หลังกึ ลงท�จนปำ ัจจยั ในอรรถก�ลสัตตม ี กึ + ท�จน ำ = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ ิสฺ าโย. = จศพั ท ์ ใน ก ุ หึหำสุ จ. ตง้ั ท�จนปำ ัจจัย ช่ือวภิ ัตต ิ ก ึ + ท�จนำ เพร�ะท�จนปำ จั จยั แปลง ก ึ เปน็ ก ุ กึ ก ุ + ท�จนำ
276 รูปสทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม สำ�เร็จรูปเปน็ กุทาจนํ. (ในก�ลไหนๆ) ๒๗๘. ตมหฺ า ทานิ จ. ทานิ จ อ.ท�นิปัจจยั ด้วย ทา อ.ท�ปัจจยั ด้วย โหนตฺ ิ ย่อมลง ปรํ ในเบ้อื งหลงั ตมฺหา จ�กตศพั ท์ สตตฺ มยฺ ตฺเถ ในอรรถแห่งสตั ตมีวิภตั ต ิ กาเล ในอรรถก�ล กวฺ จิ บ�้ ง. (หลงั จ�กตศัพท์ ลง ท�น ิ และท�ปจั จัย ในอรรถก�ลสัตตมี บ�้ ง) สูตรน้มี ี ๓ บท. เป็น ปัจจยวิธสิ ตู ร. จศัพท ์ : มีอรรถ อนกุ ฑฺฒน ดึงบทว่� “ท�” ม�ไว้ในสูตรน้ี. ทำ�ตัวรูป ตทานิ ศัพทเ์ ดมิ คอื = ต = ตมหฺ � ท�น ิ จ. หลงั ต ลง ท�นปิ จั จยั ในอรรถก�ลสตั ตมี ต + ท�น ิ = ตฺวาทโย วภิ ตตฺ สิ ฺาโย. ตง้ั ท�นิปจั จยั ชอ่ื วภิ ัตติ ต + ท�น ิ สำ�เร็จรปู เปน็ ตทานิ. (ในก�ลนนั้ ) ท�ำ ตัวรปู ตทา ศพั ทเ์ ดิมคอื = ต = ตมหฺ � ท�น ิ จ. หลงั ต ลง ท�ปัจจยั ในอรรถก��ลสัตตม ี ต + ท� = ตฺวาทโย วิภตฺติสฺ าโย. ตัง้ ท�ปัจจัย ชื่อวภิ ัตติ ต + ท� ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ตทา. (ในก�ลน้นั ) ๒๗๙. อมิ สมฺ า รห-ิ ธุนา-ทานิ จ. รหธิ นุ าทานิ จ อ.รห ิ ธนุ � และท�นปิ ัจจยั ท.ดว้ ย โหนตฺ ิ ยอ่ มลง ปรํ ในเบือ้ งหลัง อิมสมฺ า จ�ก อมิ ศพั ท์ สตฺตมยฺ ตเฺ ถ ในอรรถแห่งสตั ตมวี ภิ ตั ติ กาเล ในอรรถก�ล กวฺ จิ บ�้ ง. (หลงั จ�กอิมศพั ท์ ลง รหิ ธนุ � และท�นปิ ัจจยั ในอรรถก�ลสัตตม ี บ้�ง) สูตรนม้ี ี ๓ บท. เปน็ ปจั จยวิธสิ ูตร. จศพั ท์ : มีอรรถ อนกุ ฑฒฺ น ดงึ บทว่� “ก�เล และ สตฺตมยฺ ตเฺ ถ” ม�ไว้ ในสตู รนี้. ๒๘๐. เอต รหมิ หฺ .ิ รหมิ ฺหิ ในเพร�ะรหปิ ัจจัย เอต อ.ก�รแปลงเป็น เอต อิมสสฺ แหง่ อิมศพั ท ์ สพฺพสฺส ทง้ั ตัว โหติ ยอ่ มมี. (เพร�ะรหปิ จั จัย แปลง อมิ ศพั ท์ทัง้ ตัว เป็น เอต) สตู รน้มี ี ๒ บท. เปน็ อาเทสวธิ สิ ูตร. ทำ�ตวั รูป เอตรหิ ศัพทเ์ ดมิ คอื = อมิ = อิมสฺม� รหิธุน�ท�น ิ จ. หลัง อิม ลง รหปิ จั จยั ในอรรถก�ลสัตตมี อิม + รห ิ = ตฺวาทโย วภิ ตตฺ ิสฺ าโย. ตั้ง รหิปจั จัย ชื่อวิภตั ติ อิม + รหิ
กัณฑ์ ] วภิ ตั ติปจั จยวิธาน 277 เพร�ะรหปิ จั จัย แปลง อิม เปน็ เอต อมิ เอต + รหิ = เอต รหมิ ฺห.ิ สำ�เร็จรปู เปน็ เอตรห.ิ (ในก�ลน)้ี ๒๘๑. อ ธุนามหฺ ิ จ. ธุนามหฺ ิ ในเพร�ะธนุ �ปัจจัย อ อ.ก�รแปลงเปน็ อ อมิ สฺส แหง่ อิมศพั ท ์ สพฺพสฺส ท้ังตัว โหติ ยอ่ มม ี จ แน่นอน. (เพร�ะธนุ �ปัจจยั แปลงอมิ ศัพทท์ ง้ั ตัว เป็น อ แนน่ อน) สูตรน้ีม ี ๓ บท. เป็น อาเทสวิธสิ ูตร. จศพั ท์ : มีอรรถ สนนฺ ิฏฺ€านาวธารณ ตัดสนิ ลงไปว�่ “เพร�ะธนุ � ปัจจยั ต้องแปลง อิมศัพทเ์ ป็น อ แนน่ อน”. ทำ�ตัวรปู อธนุ า ศพั ทเ์ ดิมคือ = อิม = อมิ สฺม� รหิธุน�ท�น ิ จ. หลังอิม ลงธนุ �ปัจจยั ในอรรถก�ลสตั ตม ี อิม + ธนุ � = ตฺวาทโย วิภตตฺ ิสฺ าโย. = อ ธนุ �มฺหิ จ. ต้งั ธนุ �ปจั จยั ช่ือวภิ ัตติ อมิ + ธนุ � เพร�ะธุน�ปัจจยั แปลง อมิ เป็น อ อิม อ + ธุน� ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ อธนุ า. (ในก�ลไม่ช�้ น้ี) ท�ำ ตัวรปู อิทาน ิ ศัพท์เดมิ คอื = อิม = อมิ สฺม� รหธิ นุ �ท�น ิ จ. หลงั อมิ ลงท�นปิ จั จยั ในอรรถก�ลสตั ตม ี อิม + ท�นิ = ตวฺ าทโย วภิ ตตฺ สิ ฺ าโย. = อิมสฺสิ ถทำ �นิหโตเธส ุ จ. ต้งั ท�นปิ จั จัย ชื่อวิภตั ต ิ อมิ + ท�นิ เพร�ะท�นปิ จั จยั แปลง อมิ เป็น อิ อิม อิ + ท�นิ ส�ำ เร็จรปู เปน็ อทิ าน.ิ (ในก�ลนี้) จบ วิภตั ตปิ ัจจยวิธ�น ____________
278 รูปสิทธิทปี นี [ ๒. นาม อปุ สัคบท ค�ำ ว�่ “อุปสคั ” แปลว่� เข้�ไปจัดแจงอรรถของธ�ตุ มวี ิเคร�ะหว์ ่� “อเุ ปจฺจ อตฺถ ำ สชฺชนตฺ ตี ิ อปุ สคฺค�, ป�ทโย” เข�้ ไปอยู่ข้�งหน้�ธ�ตุแลว้ ย่อมจัดแจงอรรถของธ�ตุ เพร�ะเหตนุ ัน้ ช่อื ว�่ อุปสัค, ได้แก ่ ป เปน็ ตน้ . (อุป+สชฺช +ณ), “อปุ สคคฺ เมว โอปสคฺคกิ ”ำ . อุปสัคนนั่ แหละ ชื่อว�่ โอปสัคคกิ ะ. (อปุ สคคฺ +ณิก) หม�ยคว�มว่� อุปสคั เกือบจะ ทัง้ หมด จะประกอบอย่ขู ้�งหน้�ธ�ตุ เว้น อปิอุปสัคตัวเดยี ว ทอ่ี ยขู่ ้�งหน�้ ธ�ต ุ กม็ ี อย่ขู ้�งหลังธ�ต ุ ก็ม ี และอปุ สคั บ�งตวั อย่ตู ัวเดยี วโดดๆ ก็มบี ้�ง สว่ นม�กอยูห่ น้�ธ�ตุ ทไ่ี ด้ชื่อว�่ เข้�ไปจัดแจงอรรถของธ�ตุ เพร�ะอปุ สัคน้นั มอี รรถม�ก ธ�ตุ ตัวเดยี ว เม่ือมอี ุปสคั ตัวต�่ งๆ ไปอยู่ข้�งหน้� คว�มหม�ยก็จะเปลี่ยนไป เชน่ ธ�ธ�ต ุ มอี รรถว�่ “ทรงไว้” แต่ถ้�ม ี นิอปุ สัค เปน็ บทหน้� มอี รรถว่� “ฝงั ไว้” มีรปู เปน็ “นิธยี ติ” ยอ่ มถูกฝังไว้, มี วอิ ปุ สัคเป็นบทหน้� มอี รรถว�่ “กระทำ�” มีรูปเปน็ “วิธียต”ิ ย่อมถูกกระท�ำ , ม ี สำอุปสคั เป็นบทหน้� มอี รรถว่� “ต้ังไว”้ มรี ูปว่� “สม�หิโต” ตั้งม่นั แล้ว, ม ี อภอิ ุปสคั เป็นบท หน�้ มีอรรถว่� “กล่�ว” มีรูปเปน็ “อภิหติ ำ” ถูกกล่�วแลว้ , มี ปริอุปสคั เปน็ บทหน�้ มอี รรถว่� “นงุ่ ห่ม” มีรปู เปน็ “ปริ ทหติ” ย่อมนงุ่ ห่ม, มี อปอิ ปุ สัคเปน็ บทหน้� มอี รรถว�่ “ปิด” มีรปู เปน็ “ปทิ หต”ิ ยอ่ มปิด เป็นต้น อปุ สคั นน้ั ม ี ๒๐ ตัว คอื ป, ปร�, นิ, น,ี อ,ุ ท,ุ ส,ำ วิ, อว, อน,ุ ปริ, อธ,ิ อภิ, ปต,ิ ส,ุ อ�, อต,ิ อป,ิ อป, อุป. บ�ล ี (ส�ำ หรบั ท่อง) : ป, ปรา, นิ, นี, อ,ุ ทุ, ส,ํ ว,ิ อว, อน,ุ ปริ, อธิ, อภ,ิ ปติ, ส,ุ อา, อติ, อป,ิ อป, อุป อิติ วสี ติ อุปสคคฺ า. อปุ สคั มีอรรถ ๓ อย่�ง (๑) ธาตฺวตถฺ พาธก เบยี ดเบยี นอรรถของธ�ต ุ เชน่ คจฺฉต ิ แปลว�่ ย่อมไป ใส ่ อ�อุปสัคเข�้ ไปข�้ งหน�้ ธ�ต ุ มี รปู ว�่ อ�คจฺฉติ แปลว�่ ยอ่ มม�, ชยต ิ แปลว�่ ย่อมชนะ ใส่ ปร�อปุ สคั เข้�ไปข�้ งหน้�ธ�ตุ มีรปู ว่� ปร�ชยติ แปลว�่ ยอ่ ม พ�่ ยแพ ้ (๒) ธาตฺวตถฺ านุวตฺตก คลอ้ ยต�มอรรถของธ�ต ุ เชน่ จรติ แปลว่� ย่อมประพฤติ ใส่ อ�อุปสคั เข้�ไปข�้ งหน�้ ธ�ต ุ มีรปู ว�่ อ�จรติ แปลว�่ ย่อมประพฤติ มีคว�มหม�ยเหมือนอรรถของธ�ตุ (๓) ธาตวฺ ตถฺ วเิ สสก ท�ำ อรรถของธ�ตใุ หพ้ เิ ศษขึน้ เชน่ ภวติ แปลว่� ยอ่ มม,ี ย่อมเป็น ใส ่ อนุอุปสัค เข�้ ไป ข�้ งหน�้ ธ�ตุ มีรปู ว�่ อนภุ วต ิ แปลว่� ยอ่ มเสวย ค�ถ�สรุป อรรถของอปุ สัค ๓ อย่�ง ธาตฺวตฺถํ พาธเต โกจิ โกจิ ตมนุวตตฺ เต ตเมวฺโ วเิ สเสติ อุปสคฺคคตี ติธา. อปุ สัค มีอรรถ ๓ อย�่ ง คือ อุปสัคบ�งตวั ยอ่ มเบยี ดเบียนอรรถของธ�ต ุ อปุ สัคบ�งตัว ย่อมคล้อยต�มอรรถของธ�ตุ และอุปสคั บ�งตัว ย่อมยงั อรรถของธ�ตุใหพ้ เิ ศษข้ึน
กณั ฑ์ ] อปุ สคั บท 279 อุปสัค ๒๐ ตัว และอรรถของอปุ สคั (๑) ป ทว่ั , ข้างหนา้ , ก่อน, ออก, ประการ, แยก, ใส, ปรารถนา - ปก�ร อรรถประก�ร, ต�่ งๆ เช่น ปฺ า. คว�มรู้โดยประก�รต�่ งๆ (ป + า + อ) - อ�ทิกมฺม อรรถเบ้อื งต้น เช่น วปิ ฺปกต.ำ ก�รง�นอนั ถูกระท�ำ เบอ้ื งแรกยงั ไม่ส�ำ เร็จ (วิ+ป+กร+ต) - ปธ�น อรรถประธ�น เชน่ ปณตี .ำ คว�มประณีต (ป + น ี + ต) - อสิ สฺ ริย อรรถคว�มเป็นใหญ ่ เชน่ ปภู อย ำ เทสสฺส. อ.ผูน้ ี ้ เป็นใหญ ่ แห่งสถ�นท่ี (ป + ภ)ู - อนฺโตภ�ว อรรถคว�มเป็นภ�ยใน เชน่ ปกขฺ ติ ฺต.ำ ถกู ใสแ่ ลว้ (ป + ขิป + ต) - วิโยค อรรถก�รแยกกัน เชน่ ปว�ส.ี ผู้จ�กไปอยู่ต�่ งถิน่ , ผ้พู ลัดพร�ก (ป + วส + ณ)ี - ตปปฺ ร อรรถประเสริฐกว�่ น้ัน เช่น ป�จริโย. อ�จ�รยข์ องอ�จ�รย ์ (ป + อ�จริย) - ภสุ ตฺถ อรรถย่งิ เชน่ ปวุทฺธก�โย. ผมู้ ีก�ยใหญย่ ่งิ (ป + วุทธฺ ก�ย) - สมฺภว อรรถก�รเกดิ เบอ้ื งแรก เชน่ หมิ วต� คงฺค� ปภวต.ิ อ.แมน่ ้ำคงค� ย่อมเกดิ ขึ้นเบอ้ื งแรก จ�กภเู ข�หิมพ�นต ์ (ป + ภู + อ+ ต)ิ - ตติ ฺต ิ อรรถเตม็ หรืออิ่ม เชน่ ปหูตมนนฺ ำ. อ.ข้�ว อนั เพยี งพอ (ป + ห ู + ต) - อน�วลิ อรรถไมข่ ุน่ มัว เชน่ ปสนฺนมทุ ก.ำ อ.นำ้ อันใส (ป + สท + ต) - ปตฺถน อรรถคว�มปร�รถน� เชน่ ปณหิ ิตำ. ปร�รถน�แลว้ (ป + น ิ + ธ� + ต) (๒) ปรา กลบั ความ, ท่อี ยู่, ความพยายาม, จบั ต้อง - ปริห�นิ อรรถคว�มเส่อื ม เชน่ ปร�ภโว. คว�มเส่ือม (ปร� + ภว) - ปร�ชย อรรถพ�่ ยแพ ้ เชน่ ปร�ชโิ ต. พ�่ ยแพ้แลว้ (ปร� + ชิ + ต) - คติ อรรถท่อี ย่,ู ทีไ่ ป เชน่ ปร�ยน.ำ ท่อี ย่อู �ศัย, ที่ไป (ปร� + อย + ยุ) - วิกกฺ ม อรรถคว�มพย�ย�ม เช่น ปรกกฺ มติ. ย่อมบ�กบนั่ (ปร� + กม ุ + อ + ต)ิ - อ�มสน อรรถก�รจบั ตอ้ ง เช่น องฺคสสฺ ปร�มสน.ำ อ.ก�รลูบคล�ำ ซึ่งอวัยวะ (ปร�+อ�+มส+ยุ) (๓) นิ เขา้ , ลง, ไม่มี, ออก, ห้าม, ตัดสิน, เปรยี บเทยี บ, จบ, ละเอียด - นิสเฺ สส อรรถไม่มีเหลอื เชน่ นิรุตตฺ .ิ ก�รกล่�วโดยไม่มีเหลอื (นิ + วจ + ติ) - นคิ คฺ ต อรรถก�รออก เช่น นกิ ฺกเิ ลโส. ผ้มู ีกเิ ลสออกแล้ว, ผู้ปร�ศจ�กกเิ ลส (น ิ + กิเลส) นยิ ฺย�ต.ิ ย่อมออกไป (นิ + ย� + อ + ติ) - นหิ รณ อรรถก�รน�ำ ออก เช่น นิทธฺ �รณ.ำ ก�รถอนออก (นิ + ธร + ย)ุ - อนโฺ ตปเวส อรรถก�รใสเ่ ข�้ ข�้ งใน เชน่ นขิ �โต. ฝงั แลว้ (น ิ + ขนุ + ต) - อภ�ว อรรถคว�มไมม่ ี เช่น นิมฺมกฺขิก.ำ ไมม่ แี มลงวัน (นิ + มกขฺ กิ �)
280 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม - นิเสธ อรรถก�รห้�ม เช่น นิว�เรต.ิ ยอ่ มห้�ม (น ิ + วร + เณ + ต)ิ - นกิ ฺขนตฺ อรรถก�รพ้น เชน่ นิพฺพโน. ผพู้ ้นจ�กดงกิเลส (นิ + วน) นิพพฺ �น.ำ สภ�พหลุดพ้นจ�กตัณห� (น ิ + ว�น) - ป�ตุภ�ว อรรถคว�มมีปร�กฏ เช่น นมิ มฺ ติ .ำ ถูกเนรมิตแล้ว, ถูกสร�้ งแล้ว (น ิ + ม� + ต) - อวธ�รณ อรรถก�รตดั สนิ เช่น นจิ ฉฺ โย. ก�รตดั สิน (น ิ + จ ิ + อ) - วภิ ชน อรรถก�รจ�ำ แนก เชน่ นทิ ฺเทโส. ก�รแสดงโดยพิสด�ร (นิ + ทิสี + อ) - อปุ ม� อรรถก�รเปรียบเทยี บ เช่น นทิ สฺสน.ำ ตัวอย�่ งเป็นเคร่ืองแสดง (นิ + ทสิ + ยุ) - อวส�น อรรถก�รจบ เชน่ นฏิ €ฺ ิต.ํ จบแล้ว (นิ + €า + ต) - เฉก อรรถฉล�ด เชน่ นิปุโณ. ผ้ฉู ล�ด (นิ + ปณุ + อ) (๔) นี ออก, ห้าม เชน่ นีหรต.ิ ยอ่ มน�ำ ออก (น ี + หร + ต)ิ - นีหรณ อรรถก�รน�ำ ออก เชน่ นวี รณำ. ธรรมอนั กน้ั (น ี + วร + ยุ) - อ�วรณ อรรถก�รห้�ม (๕) อุ ข้นึ , นอก, ประเสรฐิ , พลดั พราก, เกดิ ข้ึน, ไดส้ ภาพ, ความสามารถ, การกล่าวโดยสรปุ - อุคคฺ ต อรรถก�รข้นึ เชน่ อุคคฺ จฉฺ ติ. ยอ่ มขึ้นไป (อ ุ + คมุ + อ+ ติ) - อุทฺธกมฺม อรรถกระท�ำ ข�้ งบน เช่น อ�สน� อฏุ €ฺ ิโต. ลกุ ข้นึ แล้ว จ�กอ�สนะ (อุ + €า + ต) อุกเฺ ขโป. ก�รยกข้นึ (อ ุ + ขปิ + อ) - ปธ�น อรรถคว�มประเสริฐ เชน่ อตุ ฺตโม. ผปู้ ระเสริฐสูงสดุ (อ ุ + ตม) โลกตุ ฺตโร. ธรรมอันเหนือโลก (โลก + อุตตฺ ร) - วิโยค อรรถก�รแยกจ�กกนั เชน่ อุพฺพ�สโิ ต ผถู้ กู ให้แยกจ�กกนั (อ ุ + วส + เณ + ต) - สมภฺ ว อรรถก�รเกิดขนึ้ เชน่ อุพภฺ ูโต. เกิดข้นึ แล้ว (อ ุ + ภู + ต) - อตฺถล�ภ อรรถก�รได้ซ่งึ สภ�พ เชน่ อปุ ฺปนฺน ำ าณํ. อ.ญ�ณ อนั เกิดขึน้ แลว้ (อุ + ปท + ต) - สตตฺ ิ อรรถคว�มส�ม�รถ เช่น อุสฺสหต ิ คนฺตำ.ุ ย่อมส�ม�รถ เพอื่ อนั ไป (อุ + สห + อ+ ติ) - สรูปกถน อรรถก�รกล่�วโดยสรปุ เช่น อทุ ทฺ สิ ต ิ สตุ ตฺ .ำ ยอ่ มสวด ซึง่ พระสูตร (อุ + ทิส + อ + ต)ิ (๖) ทุ ช่ัว, ยาก, ไม่มี, นา่ เกลยี ด, ผิดปกติ - อโสภน อรรถคว�มไมง่ �ม เชน่ ทคุ คฺ นฺโธ. กลิน่ เหมน็ (ท ุ + คนฺธ) - อภ�ว อรรถคว�มไม่ม ี เช่น ทุพฺภกิ ขฺ .ำ คว�มข�ดแคลนอ�ห�ร (ทุ + ภิกฺข�) - กจุ ฉฺ ิต อรรถคว�มน�่ เกลยี ด เชน่ ทุกฺกฏำ. กรรมอันกระทำ�โดยน�่ เกลียด (ทุ + กร + ต) - อสมิทธฺ ิ อรรถคว�มไม่บรบิ ูรณ ์ เช่น ทุสสฺ สสฺ .ำ ข�้ วกล้�อันไมบ่ รบิ รู ณ์ (ทุ + สสสฺ )
กัณฑ์ ] อุปสัคบท 281 - กิจฺฉ อรรถคว�มย�กลำ�บ�ก เชน่ ทกุ ฺกรำ. กรรมอันกระท�ำ ไดโ้ ดยย�ก (ท ุ + กร + ข) - วริ ปู ต� อรรถคว�มมีรปู ผดิ ปกติ เชน่ ทุพพฺ ณฺโณ. ผู้มีผวิ พรรณไม่ง�ม (ท ุ + วณฺณ) ทุมมฺ โุ ข. ผมู้ ใี บหน�้ ไม่ง�ม (ทุ + มุข) (๗) สํ ดี, งาม, ง่าย, การต่อ, การย่อ, เสมอกัน, ร่วมกนั , เบ้ืองแรก, รวบรวม, ปิด, บรบิ รู ณ์ - สโมธ�น อรรถก�รรวม เชน่ สนฺธิ. ก�รตอ่ (ส ำ + ธ� + อิ) - สมฺม� อรรถดว้ ยด ี เช่น สม�ธิ. คว�มตั้งไวด้ ้วยดใี นอ�รมณ์ (ส ำ + อ� + ธ� + อิ) - สม อรรถเสมอกัน เช่น สมฺปยุตฺโต. ประกอบโดยเสมอกัน (ส ำ + ป + ยชุ + ต) - สมนตฺ ภ�ว อรรถคว�มเปน็ โดยรอบ เชน่ สกำ ิณณฺ �. เกล่ือนกล่นแล้ว (สำ + กริ + ต) สมลุ ฺลปน�. ก�รพดู เลยี บเคียง (ส ำ + อุ + ลป + ยุ) - สงคฺ ต อรรถก�รรว่ ม เชน่ สงคฺ โม. ก�รรว่ มกนั , สังคม (สำ + คม ุ + อ) - สงเฺ ขป อรรถก�รย่อ เช่น สม�โส. ก�รยอ่ (ส ำ + อสุ + ณ) - ภุสตฺถ อรรถแรง เชน่ ส�รตฺโต. กำ�หนัดอย�่ งแรง (สำ + รนชฺ + ต) - สหตถฺ อรรถสหศัพท ์ เชน่ สำว�โส. ก�รอยูด่ ้วยกัน (ส ำ + วส + ณ) - อปฺปตฺถ อรรถน้อย เชน่ สมคฺโฆ. มรี �ค�ถกู (สำ + อคฺฆ) - ปภว อรรถก�รเกิดเบือ้ งแรก เชน่ สมภฺ โว. ท่ีเกิดเบอ้ื งแรก, เหตุ (สำ + ภ ู + อ) - อภิมขุ ภ�ว คว�มเป็นเฉพ�ะหน�้ เช่น สมฺมุขำ. เฉพ�ะหน้� (สำ + มุข) - สงฺคห อรรถก�รรวบรวม เช่น สงคฺ ณหฺ �ติ. ย่อมรวบรวม (สำ + คห + ณฺห� + ต)ิ - ปิธ�น อรรถก�รปิด เชน่ สำวตุ ำ. ก�รปดิ (สำ + วร + ต) - ปนุ ปปฺ นุ กรณ อรรถกระทำ�บอ่ ยๆ เชน่ สนธฺ �วติ. ย่อมแลน่ ไปบ่อยๆ (สำ + ธ�วุ + อ + ต)ิ - สมทิ ธฺ ิ อรรถบรบิ ูรณ์ เช่น สมฺปนฺโน. สมบรู ณแ์ ลว้ , ถงึ พร้อมแล้ว (สำ + ปท + ต) (๘) วิ วเิ ศษ, แจง้ , ต่าง, ตรงกนั ข้าม, ปราศจาก, แยกจากกนั , ผิดปกติ - วเิ สส อรรถพเิ ศษ เชน่ วิมุตตฺ .ิ ก�รพน้ โดยพิเศษ (ว ิ + มุจ + ต)ิ วิสิฏโฺ €. พิเศษ (วิ + เสส + ต) - วิวธิ อรรถประก�รต่�งๆ เชน่ วิมติ. คว�มรโู้ ดยอย�่ งต�่ งๆ, คว�มสงสัย (วิ + มน + ติ) วิจิตฺรำ. วิจิตร (วิ + จนิ ตฺ + ตรณ)ฺ - วริ ทุ ธฺ อรรถตรงกันข�้ ม เชน่ ววิ �โท. ก�รทะเล�ะกัน (ว ิ + วท + ณ) - วิคต อรรถปร�ศจ�ก เชน่ วิมลำ. ปร�ศจ�กมลทนิ (ว ิ + มล) - วโิ ยค อรรถแยกจ�กกนั เชน่ วปิ ปฺ ยุตฺโต. ไม่ประกอบ (ว ิ + ป+ ยชุ + ต) - วิรูปต� อรรถคว�มมีรปู ผดิ ปกต ิ เชน่ วิรูโป. ผมู้ รี ปู ผดิ แปลก (ว ิ + รปู )
282 รปู สทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม (๙) อว ลง, แยกจากกนั , รู้, บรสิ ุทธ,์ิ ตดั สนิ , สถานท,ี่ การลกั ขโมย (รปู แปลง อว เปน็ โอ กม็ ใี ช้) - อโธภ�ค อรรถสว่ นภ�ยใต้ เช่น อวกขฺ ติ ตฺ จกขฺ .ุ ผมู้ ตี �อนั ทอดลง (อว + ขิป + ต + จกขฺ ุ) - วิโยค อรรถก�รแยกจ�กกัน เชน่ โอมกุ ฺกอปุ �หโน. ผู้มีรองเท้�อนั ถอดออกแลว้ (อว + มจุ + ต) อวโกกลิ ำ วน.ำ อ.ป�่ อันนกดเุ หว่�ทอดทงิ้ แล้ว. (อว + โกกลิ ) - ปริภว อรรถก�รดหู ม่ิน เช่น อวช�นน.ำ ก�รดูหมิ่น (อว + า + ย)ุ อวมฺ ต.ิ ย่อมดูหม่ิน (อว + มน + ย + ต)ิ - ช�นน อรรถก�รร ู้ เช่น อวคจฉฺ ติ. ยอ่ มรู้ (อว + คมุ + อ + ต)ิ อวคมนำ. ก�รร ู้ (อว + คม ุ + ย)ุ - สทุ ฺธ ิ อรรถคว�มบรสิ ทุ ธิ ์ เช่น โวท�นำ. คว�มหมดจด (วิ + อว + ท� + ยุ) - นจิ ฉฺ ย อรรถก�รตดั สิน เช่น อวธ�รณำ. ก�รกำ�หนด (อว + ธร + เณ + ย)ุ - เทส อรรถสถ�นท่ ี เชน่ อวก�โส. สถ�นท ่ี (อว + ก�ส + อ) - เถยฺย อรรถก�รขโมย เช่น อวห�โร. ก�รลกั ขโมย (อว + หร + ณ) (๑๐) อนุ นอ้ ย, ภายหลงั , ตาม, ไมข่ าดสาย, แรง, เหมอื นกัน, สว่ น, กลา่ วซ้ำ - อนคุ ต อรรถก�รไปต�ม เชน่ อเนวฺ ต.ิ ยอ่ มไปต�ม (อนุ + อ ิ + อ + ติ) - อนุปจฺฉินฺน อรรถคว�มไม่ข�ด เช่น อนสุ โย. กิเลสอนั นอนเนอ่ื งอยู่ในสันด�น (อน ุ + สิ + อ) - ปจฺฉ�สทฺทตถฺ อรรถปจฺฉ�ศัพท ์ เช่น อนุรถ.ำ ภ�ยหลังรถ (อน ุ + รถ) - ภุสตฺถ อรรถแรง เช่น อนรุ ตฺโต. ก�ำ หนัดอย่�งแรง (อน ุ + รนฺช + ต) - ส�ทสิ ฺส อรรถเหมอื นกัน เชน่ อนรุ ปู ํ. สมควร (อนุ + รูป) - หีน อรรถต่ำต้อย เชน่ อน ุ ส�ริปุตฺต ำ ปฺ วนฺโต. อ.ผมู้ ปี ัญญ� ท. ด้อยกว่�พระส�รีบุตร - ตตยิ ตฺถ อรรถตตยิ �วิภตั ต ิ เช่น นทมิ นฺววสติ � เสน�. อ.กองทพั อยูต่ ดิ เนื่องแล้ว กบั ด้วยแมน่ ้ำ. - ลกฺขณ อรรถลกั ขณะ เชน่ รกุ ฺขำ อน ุ วชิ ฺโชตเต วชิ ชฺ .ุ อ.ส�ยฟ�้ ย่อมส่องแสง กระทบต้นไม้. - อติ ฺถมภฺ ตู กฺข�น กล�่ วคว�มพิเศษ เช่น ส�ธุ เทวทตโฺ ต ม�ตร ำ อนุ. อ.เทวทตั ปฏบิ ตั ิดี ในม�รด�. - ภ�ค อรรถส่วน เช่น ยเทตฺถ มำ อนุ สิย�, ตำ ทียตุ. ในทรพั ย์ ท.เหล่�นหี้ น� อ.ทรัพย์ใด เป็นส่วน ของเร� พึงมี, อ.ทรัพยนน้ั อันท่�น จงให้. -วิจฉฺ � อรรถกล�่ วซำ้ เช่น รกุ ฺขำ รุกขฺ ำ อนุ วชิ โฺ ชตเต จนโฺ ท. อ.พระจันทร ์ ยอ่ มส่องแสง ทตี่ ้นไม ้ ทกุ ต้น (๑๑) ปริ รอบ, กำหนด, เวน้ , กอด, นุ่ง, บูชา, การใหบ้ ริโภค, ดูหมิ่น, กลา่ วโทษ - สมนฺตโตภ�ว คว�มเป็นโดยรอบ เช่น ปริวุโต. ถกู แวดลอ้ มแลว้ (ปร ิ + วร + ต) - ปริจฺเฉท อรรถก�รก�ำ หนด เช่น ปริฺเยยฺ .ํ ธรรมอนั ควรกำ�หนดร้ ู (ปริ + า + ณฺย)
กัณฑ์ ] อุปสคั บท 283 - วิชชฺ น อรรถก�รเวน้ เช่น ปริหรต.ิ ยอ่ มเว้น ย่อมหลีก (ปร ิ + หร + อ + ติ) - อ�ลิงฺคน อรรถก�รกอด เช่น ปรสิ สฺ ชต.ิ ยอ่ มกอด (ปริ + สช + อ + ต)ิ - นวิ �สน อรรถก�รนุง่ เช่น วตฺถำ ปรธิ สสฺ ติ. จักนงุ่ ซึ่งผ้� (ปริ + ธ� + สฺสต)ิ - ปูช� อรรถก�รบูช� เช่น ป�ริจริย�. ก�รรบั ใช ้ (ปริ + จร + ณยฺ ) - โภชน อรรถก�รใหบ้ ริโภค เช่น ภกิ ขฺ ำุ ปริวสิ ต.ิ ย่อมอังค�ส ซ่งึ ภิกษ ุ (ปริ + วสิ + อ + ติ) - อวช�นน อรรถก�รดูหม่ิน เชน่ ปรภิ วติ. ยอ่ มดหู มน่ิ (ปร ิ + ภู + อ + ติ) - โทสกฺข�น อรรถก�รกล�่ วโทษ เชน่ ปริภ�สติ. ยอ่ มกล่�วโทษ ย่อมด�่ (ปริ + ภ�ส + อ + ติ) - ลกขฺ ณ อรรถลักขณะ เชน่ รกุ ขฺ ำ ปร ิ วิชโฺ ชตเต วชิ ชฺ .ุ อ.ส�ยฟ�้ ย่อมสอ่ งแสง กระทบต้นไม้. (๑๒) อธิ ยง่ิ , ใหญ่, ทบั , ข้�งบน, ครอบงำ�, สวด, อธษิ ฐ�น, ตดั สิน, ถึง - อธิก อรรถยิ่ง เช่น อธิสลี .ำ ศีลอนั ยิ่ง (อธ ิ + สีล) - อสิ สฺ ร อรรถเปน็ ใหญ ่ เช่น อธปิ ต.ิ ผเู้ ป็นใหญ่ อธบิ ดี (อธ ิ + ปติ) อธ ิ พรฺ หฺมทตเฺ ต ปจฺ าลา. อ.ช�วเมืองปัญจ�ละ ท. เป็นพลเมือง ของพระเจ้�พรหมทตั - อุปริภ�ว อรรถคว�มเป็นข�้ งบน เชน่ อธิโรหต.ิ ยอ่ มขน้ึ ข้�งบน (อธิ + รหุ + อ + ติ) ปถวึ อธิเสสฺสต.ิ จักนอนทบั บนแผ่นดิน (อธิ + ส ิ + สสฺ ติ) - อธภิ วน อรรถครอบง�ำ เช่น อธภิ วติ. ย่อมครอบงำ� (อธ ิ + ภู + อ + ต)ิ - อชฺฌ�ยน อรรถก�รสวด เชน่ พยฺ �กรณมธีเต. ย่อมสวด ซึ่งคมั ภรี ไ์ วย�กรณ์ (อธ ิ + อิ + เต) - อธฏิ ฺ€าน อรรถก�รอธษิ ฐ�น เช่น ภูมิกมฺป�ทึ อธิฏ€ฺ าติ. ย่อมอธษิ ฐ�น ซ่ึงอทิ ธวิ ธิ ีมีก�รหวัน่ ไหว แหง่ แผ่นดินเป็นต้น (อธิ + €า + อ + ติ) - นจิ ฉฺ ย อรรถก�รตดั สนิ เช่น อธโิ มกโฺ ข. ก�รตดั สิน (อธ ิ + มจุ + อ) - ป�ปุณน อรรถก�รถงึ หรือได ้ เช่น โภคกขฺ นธฺ ำ อธิคจฉฺ ติ. ยอ่ มได้ ซ่งึ กองแหง่ โภคะ (อธ ิ + คม ุ + อ + ติ) (๑๓) อภิ ยง่ิ , ใหญ่, จำ�เพ�ะ, ข�้ งหน้�, พเิ ศษ, เหม�ะสม, กร�บไหว้ - อภมิ ุขภ�ว คว�มเปน็ เฉพ�ะหน�้ เช่น อภมิ โุ ข. ผูอ้ ย่เู ฉพ�ะหน�้ (อภ ิ + มขุ ) อภกิ ฺกมต.ิ ย่อมก้�วไปข้�งหน�้ (อภิ + กมุ + อ + ต)ิ - วสิ ิฏ€ฺ อรรถพเิ ศษ เชน่ อภิธมฺโม. ธรรมอันพเิ ศษกว่�พระสตู รคอื อภธิ รรม (อภิ + ธมมฺ ) - อธกิ อรรถยง่ิ เชน่ อภิวสสฺ ต.ิ ย่อมตกหนกั (อภิ + วสสฺ + อ + ต)ิ - อทุ ธฺ กมฺม อรรถกระท�ำ ข�้ งบน เช่น อภริ ุหต.ิ ย่อมข้นึ (อภิ + รุห + อ + ติ) - กลุ อรรถตระกูล เช่น อภชิ �โต. ผู้เกดิ ม�ในตระกลู ด ี (อภ ิ + ชน + ต) - ส�รปุ ปฺ อรรถมสี ภ�พเหม�ะสม เช่น อภิรโู ป. ผู้มรี ปู ง�ม (อภ ิ + รปู )
284 รปู สทิ ธิทปี นี [ ๒. นาม - วนทฺ น อรรถก�รกร�บไหว ้ เช่น อภิว�เทติ. ยอ่ มกร�บไหว ้ (อภิ + วท + เณ + ติ) (๑๔) ปติ เฉพาะ, ตอบ, ทวน, กลบั , เหมือนกัน, ถอื เอา, รตู้ ลอด, อาศัย (แปลง ปติ เป็น ปฏ ิ บ�้ ง) - ปติคต อรรถก�รอ�ศยั เชน่ ปจฺจกฺขำ. อ�รมณ์อันอ�ศยั อินทรยี ์ ๕ (ปต ิ + อกขฺ ) - ปฏโิ ลม อรรถทวนกลบั เชน่ ปฏโิ สตำ. ทวนกระแส (ปติ + โสต) - ปตนิ ธิ ิ อรรถเหมือน, ตัวแทน เชน่ อ�จริยโต ปติ สิสโฺ ส. อ.ศษิ ย ์ เหมือนกบั อ�จ�รย์. - ปติท�น อรรถก�รให้แทน เช่น เตลตถฺ ิกสสฺ ฆต ำ ปติ ทท�ต.ิ ยอ่ มให้แทน ซงึ่ เนยใส แก่บคุ คล ผ้ตู อ้ งก�รน้ำมนั . - นเิ สธ อรรถก�รห�้ ม เช่น ปฏเิ สธน.ำ ก�รปฏิเสธ (ปต ิ + เสธ + ย)ุ - นวิ ตตฺ น อรรถก�รกลบั เชน่ ปฏกิ ฺกมติ. ยอ่ มก้�วกลับ ย่อมถอยหลัง (ปต ิ + กม ุ + อ + ต)ิ - ส�ทิสฺส อรรถคว�มเหมือนกัน เชน่ ปติรูปก.ำ ของเทยี ม,รูปเหมอื น (ปต ิ + รปู ก) - ปติกรณ อรรถก�รเยียวย� เช่น ปติก�โร. ก�รเยียวย� (ปต ิ + กร + ณ) - อ�ท�น อรรถก�รถอื เอ� เช่น ปตคิ ฺคณหฺ �ติ. ยอ่ มถอื เอ� ย่อมรบั (ปต ิ + คห + ณหฺ � + ติ) - ปตโิ พธ อรรถก�รรตู้ ลอด เชน่ ปฏเิ วโธ. ก�รแทงตลอด ปฏิเวธ (ปติ + วิธ + อ) - ปฏจิ จฺ อรรถอ�ศัย เชน่ ปจฺจโย. อ�ศยั แล้วเปน็ ไป, เหตุ, ปัจจัย (ปต ิ + อิ + อ) (๑๕) สุ ดี, ง�ม, ง่�ย, ด้วยด,ี บรบิ รู ณ์ - โสภน อรรถง�ม เชน่ สุคนฺโธ. มกี ล่นิ หอม (ส ุ + คนฺธ) - สฏุ ฺ€ุ อรรถดว้ ยด ี เชน่ สุฏฺ€ุ คโต สุคโต. เสดจ็ ไปแล้ว ด้วยด ี (เพร�ะเหตุน้นั ) ชื่อว�่ สคุ ต. ผู้เสด็จไปด้วยดี (สุ + คต) - สมมฺ � อรรถดว้ ยดี, โดยชอบ เชน่ สมมฺ � คโตติป ิ สุคโต. เสดจ็ ไปแลว้ โดยชอบ แมเ้ พร�ะเหตนุ ้นั ช่ือว่�สคุ ต. ผเู้ สดจ็ ไปโดยชอบ (สุ + คมุ + ต) - สมทิ ธฺ ิ อรรถบรบิ รู ณ์ เชน่ สภุ ิกขฺ .ำ คว�มบรบิ ูรณ์แหง่ อ�ห�ร (สุ + ภิกฺข�) - สุขตฺถ อรรถคว�มง�่ ย เชน่ สุกโร. ก�รง�นอนั บุคคลกระทำ�ได้โดยง�่ ย (ส ุ + กร + ข) (๑๖) อ� ท่ัว, ยงิ่ , กลับคว�ม, เขตแดน, ถงึ , ปร�รถน�, เรม่ิ ตน้ , กอด, ถอื เอ�, ใกล,้ เรียก - อภิมขุ ภ�ว คว�มเป็นเฉพ�ะหน้� เช่น อ�คจฺฉต.ิ ย่อมม� (อ� + คมุ + อ + ต)ิ - อุทฺธกมมฺ อรรถกระทำ�ข�้ งบน เช่น อ�โรหติ. ย่อมขนึ้ (อ� + รุห + อ + ติ) - มรยิ �ท อรรถเขตแดน เช่น อ�ปพฺพต� เขตตฺ .ำ อ.น� จรดภูเข�. - อภิวธิ ิ อรรถก�รแผ่ไป เชน่ อ�กมุ �ร ำ ยโส กจฺจ�ยนสฺส. อ.ชอื่ เสยี ง ของพระกจั จ�ยนเถระ ถงึ เดก็ น้อย - ปตฺติ อรรถก�รถึง เชน่ อ�ปตฺต ึ อ�ปนโฺ น. ต้องแลว้ ซึ่งอ�บตั ิ (อ� + ปท + ต)
กัณฑ์ ] อปุ สคั บท 285 - อิจฉฺ � อรรถคว�มปร�รถน� เชน่ อ�กงขฺ �. คว�มหวัง (อ� + กขิ + อ + อ�) - ปริสฺสชน อรรถก�รกอด เช่น อ�ลิงคฺ นำ. ก�รกอด (อ� + ลค ิ + ยุ) - อ�ทิกมฺม อรรถกระทำ�เบื้องแรก เช่น อ�รมโฺ ภ. ก�รเริม่ ตน้ (อ� + รภ + อ) - คหณ อรรถก�รถือเอ� เช่น อ�ทยี ต.ิ ยอ่ มถกู ถือเอ� (อ� + ท� + ย + เต) อ�ลมฺพติ. ย่อมห้วิ , ยอ่ มหนว่ ง (อ� + ลพ ิ + อ + ต)ิ - นิว�ส อรรถก�รอย ู่ เชน่ อ�วสโถ. ท่ีอยอู่ �ศัย (อ� + วส + ถ) - สมปี อรรถใกล้ เช่น อ�สนนฺ .ำ ใกล้ (อ� + สท + ต) - อวฺห�น อรรถก�รเรียก เชน่ อ�มนฺเตสิ. เรียกแล้ว (อ� + มนตฺ + เณ + ส ฺ + อ)ี (๑๗) อติ ยิง่ , เกิน, ล่วง, แรง เช่น อติโรจติ อมเฺ หห.ิ ย่อมรงุ่ โรจนก์ ว�่ กว�่ เร� ท. (อต+ิ รุจ+อ+ติ) - อติกกฺ มน อรรถก�รลว่ งเลย อตโี ต. ก�ลอนั ลว่ งไปแลว้ (อต ิ + อ ิ + ต) เช่น อจฺจนตฺ ำ. เกนิ ซึ่งขอบเขต, โทษ (อต ิ + อนฺต) เชน่ อติกุสโล. ฉล�ดย่ิง (อติ + กุสล) เชน่ อติกโฺ กโธ. โกรธอย่�งแรง, โกรธจดั (อต ิ + โกธ) - อตกิ กฺ นตฺ อรรถเกินไป อติวทุ ธฺ ิ. เจรญิ ม�ก (อติ + วทุ ธฺ )ิ - อติสย อรรถยิ่ง - ภุสตฺถ อรรถแรง (๑๘) อปิ ใกล้, บน, มองห�, รวบรวม, ตเิ ตียน, คำ�ถ�ม (มกี �รลบ อ ของ อปอิ ปุ สัคบ้�ง) - สมฺภ�วน� อรรถก�รสรรเสรญิ เชน่ อป ิ ทิพเฺ พส ุ ก�เมส.ุ แม้ในก�ม ท. อันเปน็ ทิพย์ เมรุมฺป ิ วนิ วิ ชิ ฺฌิตฺว� คจเฺ ฉยยฺ . เจ�ะแล้ว แม้ซึง่ ภเู ข�สิเน ุ พงึ ไป - อเปกขฺ � อรรถก�รมองห� เช่น อยมฺปิ ธมโฺ ม อนิยโต. อ.อ�บัต ิ แมน้ ้ี ก็ไมแ่ น่นอน - สมุจฺจย อรรถก�รรวบรวม เชน่ อติ ปิ ิ อรห.ำ แม้เพร�ะเหตนุ ี้ ทรงเป็นพระอรหันต์ อนตฺ มปฺ ิ อนฺตคุณมฺป ิ อ�ท�ย. ถอื เอ�แลว้ ซ่ึงใสใ้ หญด่ ้วย ซึ่งใสน้ ้อยด้วย - ครห อรรถก�รติเตียน เชน่ อปิ อมฺห�ก ำ ปณฑฺ ิตก. แนะ่ บณั ฑติ ผนู้ �่ เกลยี ด ของเร� ท. - ปณฺห อรรถค�ำ ถ�ม เช่น อป ิ ภนฺเต ภิกขฺ ำ ลภิตฺถ. ข้�แต่ท่�นผเู้ จรญิ อ.ท่�น ได้แลว้ ซ่งึ อ�ห�ร บ�้ งหรือ? (๑๙) อป ปร�ศ, หลีก, ติเตียน, บชู �, ประทุษร้�ย - อปคต อรรถปร�ศจ�ก เช่น อปม�โน. ผูม้ ีม�นะไปปร�ศแล้ว, ผปู้ ร�ศจ�กม�นะ (อป + ม�น) อเปโต. ไปปร�ศแลว้ (อป + อิ + ต)
286 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม - ครห อรรถก�รตเิ ตยี น เช่น อปคพฺโภ. ผมู้ คี รรภ์อนั เลว (อป + คพภฺ ) - วชฺชน อรรถก�รเว้น เช่น อปส�ล�ย อ�ยนฺต ิ ว�ณิช�. อ.พ่อค�้ ท. หลกี เวน้ จ�กศ�ล� ย่อมม� - ปูช� อรรถก�รบูช� เชน่ วทุ ธฺ �ปจ�ย.ี ผู้มปี กตอิ ่อนน้อมต่อผูใ้ หญ่ (วุทฺธ + อป + จิ + ณ)ี - ปทสุ สฺ น อรรถก�รประทษุ ร�้ ย เช่น อปรชฺฌติ. ยอ่ มประทุษร�้ ย, ยอ่ มประพฤติผดิ (อป+ร�ธ+ย+ต)ิ (๒๐) อปุ เข�้ ไป, ใกล,้ มน่ั , กล�่ วโทษ, ช่อื , กระท�ำ ข้�งหน�้ , ก�รบูช� - อปุ คมน อรรถเข�้ ไปใกล ้ เชน่ นสิ นิ นฺ ำ ว� อปุ นสิ เี ทยยฺ . พงึ เข�้ ไปนงั่ ใกล ้ ซง่ึ บคุ คลผนู้ งั่ แลว้ กด็ ี (อปุ + น ิ + สท + เอยยฺ ) - สมปี อรรถใกล ้ เช่น อุปนคร.ำ ใกลแ้ หง่ เมอื ง (อปุ + นคร) - อปุ ปตฺต ิ อรรถก�รเข�้ ถงึ เช่น สคฺคำ โลก ำ อุปปชฺชติ. ยอ่ มเข�้ ถึง ซึง่ โลกสวรรค ์ (อปุ +ปท+ย+ติ) หรอื แปลว�่ สมควร เชน่ อปุ ปตตฺ โิ ต อกิ ขฺ ตตี ิ อเุ ปกฺข�. ยอ่ มดู โดยคว�มสมควร เพร�ะเหต ุ น้ัน ชื่อว่�อุเปกฺข�. ดโู ดยสมควร (อุป + อกิ ขฺ + อ + อ�) - ส�ทสิ สฺ อรรถคว�มเหมือนกนั เช่น อุปม�นำ อุปม�. อ.ก�รเปรียบเทียบ ชื่อว�่ อุปม� (อปุ + ม�+อ+ อ�) - อธกิ อรรถย่ิง เชน่ อปุ ข�รยิ ำ โทโณ. อ.ทะน�น ยงิ่ เกิน กว่�ข�รี. - อปุ รภิ �ว อรรถคว�มเปน็ ข้�งบน เชน่ อปุ สมปฺ นโฺ น. ผถู้ ึงคว�มเปน็ ภกิ ษุอนั สงู (อุป + ส ำ + ปท + ต) - อนสน อรรถก�รไมก่ ินอ�ห�ร เชน่ อุปว�โส. ก�รอยโู่ ดยไมก่ ินอ�ห�ร (อปุ + วส + ณ) - โทสกขฺ �น อรรถก�รกล่�วโทษ เชน่ ปร ำ อุปวทติ. ย่อมว�่ ร�้ ย ซ่งึ บคุ คลอนื่ (อปุ + วท + อ + ต)ิ - สฺ า อรรถช่อื เช่น อุปธ�. ชื่อว�่ อปุ ธ� (อุป + ธ�) อปุ สคโฺ ค. อุปสัคบท (อปุ + สชฺช + ณ) - ปุพพฺ กมมฺ อรรถกระทำ�ข�้ งหน�้ เช่น อปุ กฺกโม. ก�รก�้ วไปข�้ งหน�้ , คว�มบ�กบั่น (อุป + กมุ + อ) อุปก�โร. กระท�ำ คณุ กอ่ น, อุปก�ระ (อปุ + กร + ณ) - ปูช� อรรถก�รบูช� เช่น พทุ ฺธปุ ฏฺ€าโก. ผู้อุปัฏฐ�กพระพทุ ธเจ้� (พุทธฺ + อปุ ฏ€ฺ าก) มาตปุ ฏฺ€าน.ํ ก�รบำ�รุงม�รด� (ม�ต ุ + อปุ ฏ€ฺ าน) - คยหฺ �ก�ร อ�ก�รอนั ควรถือเอ� เช่น โสเจยยฺ ปปฺ จจฺ ปุ ฏ€ฺ าน.ํ คว�มปร�กฏโดยคว�มเป็นบคุ คลผสู้ ะอ�ด (โสเจยยฺ + ปต ิ + อปุ ฏ€ฺ าน) - ภุสตถฺ อรรถแรง เชน่ อุป�ท�นำ. ก�รยดึ มั่น (อปุ + อ� + ท� + ย)ุ อุป�ย�โส. คว�มลำ�บ�กอย่�งหนกั (อุป + อ�ย�ส) อุปนสิ ฺสโย. ที่อ�ศยั ใหญ่ (อุป + นิ + สิ + อ)
กัณฑ์ ] อุปสัคบท 287 ๒๘๒. สพพฺ าส’มาวุโส’ปสคฺค-นปิ าตาทหี ิ จ. โลโป อ.ก�รลบ สพฺพาสํ (วิภตตฺ นี )ํ ซึ่งวภิ ตั ติ ท.ทัง้ ปวง ปราสํ อนั เป็นเบือ้ งหลัง อาวโุ สปสคคฺ นิปาตาทีหิ (ลิงฺเคห)ิ จ�กลงิ ค ์ ท.มี อ�วโุ สศัพท ์ อปุ สคั และนบิ �ตเปน็ ตน้ โหติ ยอ่ มม ี จ แน่นอน. (หลงั จ�ก อ�วุโสศัพทเ์ ป็นตน้ อปุ สัค และนบิ �ต ลบวิภตั ตทิ ัง้ ปวงแนน่ อน) สตู รนีม้ ี๓ บท คอื สพฺพ�สำ, อ�วโุ สปสคฺคนิป�ต�ทหี ิ, จ. เปน็ โลปวิธสิ ตู ร. จศพั ท์ : มีอรรถ สนนฺ ิฏฺ€านาวธารณ กำ�หนดตดั สนิ ว่� หลัง อ�วโุ สศัพท์เป็นตน้ อปุ สัค และนิบ�ต ตอ้ งลบวิภัตตแิ น่นอน. อ�ทศิ ัพท์ : หม�ยเอ� สตุ ตฺ ศพั ท์ ปทศัพท ์ และพยฺ ฺชนศัพทเ์ ปน็ ตน้ ท่ลี ง โสปัจจยั ในอัพยยตัทธิต เช่น สุตตฺ โส (สตุ ตฺ + โส + น�) โดยก�รจำ�แนกโดยสูตร ในตัวอย่�งน้ ี ลบ น�ตตยิ �วภิ ัตต ิ ด้วยสตู รว่� “สพฺพ�สม�วโุ สปสคคฺ นปิ �ต�ทหี ิ จ” น.้ี ตัวอย�่ งก�รประกอบอปุ สัคทง้ั ๒๐ ตวั ลำ�ดบั อปุ สคั ค�ำ ศพั ท์ คำ�แปล แยกธ�ต+ุ ปจั จยั +[วภิ ัตติ] - หรณำ ก�รนำ�ไป หร + ยุ - ห�โร ก�รนำ�ไป, ห�ระ หร + ณ (๑) ป - หรติ ย่อมนำ�ไป หร + อ + ติ - ปหรณำ ก�รตี ป + หร + ยุ - ปห�โร ก�รต ี ป + หร + ณ (๒) ปร� - ปหรติ ย่อมต ี ป + หร + อ + ติ - ปร�ภวนำ คว�มเสื่อม ปร� + ภู + ยุ - ปร�ภโว คว�มเสอ่ื ม ปร� + ภ ู + ณ (๓) น ิ - ปร�ภวติ ยอ่ มเสอ่ื ม ปร� + ภู + อ + ติ - นวิ �สน ำ ก�รอยู ่ นิ + วส + ยุ - นวิ �โส ก�รอยู ่ นิ + วส + ณ (๔) นี - นิวสติ ย่อมอยู่ น ิ + วส + อ + ติ - นหี รณำ ก�รน�ำ ไป, นำ�ออก น ี + หร + ยุ - นีห�โร ก�รนำ�ไป, นำ�ออก นี + หร + ณ (๕) อ ุ - นีหรต ิ ย่อมนำ�ไป, นำ�ออก น ี + หร + อ + ติ - อุทธฺ รณำ ก�รถอนขึ้น อุ + ธร + ยุ - อุทฺธ�โร ก�รถอนขนึ้ อุ + ธร + ณ - อุทฺธรติ ยอ่ มถอนข้นึ อุ + ธร + อ + ติ
288 รูปสทิ ธิทปี นี [ ๒. นาม (๖) ท ุ - ทุหรณำ ก�รน�ำ ไปไมด่ ี ทุ + หร + ยุ - ทหุ �โร ก�รน�ำ ไปไม่ด ี ท ุ + หร + ณ - ทุหรติ ยอ่ มนำ�ไปไม่ดี ทุ + หร + อ + ติ (๗) สำ - สหำ รณำ ก�รรวบรวม, ก�รยอ่ สำ + หร + ยุ - สหำ �โร ก�รรวบรวม, ก�รยอ่ สำ + หร + ณ - สำหรติ ยอ่ มรวบรวม สำ + หร + อ + ติ (๘) วิ - วิหรณำ ก�รอยู่ วิ + หร + ย ุ - วิห�โร วดั เปน็ ท่อี ย ู่ วิ + หร + ณ - วิหรติ ย่อมอย ู่ วิ + หร + อ + ติ (๙) อว - อวหรณำ ก�รลักขโมย อว + หร + ยุ - อวห�โร ก�รลักขโมย อว + หร + ณ - อวหรต ิ ยอ่ มลักขโมย อว + หร + อ + ติ (๑๐) อน ุ - อนหุ รณำ ก�รนำ�ไปโดยสมควร อน ุ + หร + ยุ - อนหุ �โร ก�รน�ำ ไปโดยสมควร อน ุ + หร + ณ - อนุหรต ิ ยอ่ มนำ�ไปโดยสมควร อนุ + หร + อ + ติ (๑๑) ปริ - ปริหรณ ำ ก�รหลีก, ก�รแก้, ก�รกั ษ� ปร ิ + หร + ยุ - ปรหิ �โร ก�รหลกี , ก�รแก,้ ก�รกั ษ� ปร ิ + หร + ณ - ปริหรต ิ ย่อมหลกี , ยอ่ มแก,้ ยอ่ มรกั ษ� ปร ิ + หร + อ + ติ (๑๒) อธิ - อธหิ รณ ำ ก�รน�ำ ไปย่ิง อธิ + หร + ยุ - อธิห�โร ก�รนำ�ไปยง่ิ อธ ิ + หร + ณ - อธิหรติ ย่อมนำ�ไปย่งิ อธิ + หร + อ + ติ (๑๓) อภ ิ - อภหิ รณ ำ ก�รนำ�ไปข้�งหน�้ อภ ิ + หร + ยุ - อภิห�โร ก�รน�ำ ไปข�้ งหน้� อภิ + หร + ณ - อภิหรติ ย่อมนำ�ไปข�้ งหน้� อภ ิ + หร + อ + ติ (๑๔) ปต ิ - ปติหรณ ำ ก�รนำ�กลบั ปต ิ + หร + ยุ - ปตหิ �โร ก�รน�ำ กลบั ปติ + หร + ณ - ปตหิ รต ิ ย่อมนำ�กลับ ปต ิ + หร + อ + ติ (๑๕) สุ - สหุ รณำ ก�รน�ำ ไปด ี สุ + หร + ยุ - สหุ �โร ก�รนำ�ไปดี สุ + หร + ณ - สุหรติ ยอ่ มน�ำ ไปดี ส ุ + หร + อ + ติ (๑๖) อ� - อ�หรณำ ก�รน�ำ ม� อ� + หร + ยุ
กัณฑ์ ] อุปสคั บท 289 - อ�ห�โร ก�รน�ำ ม� อ� + หร + ณ - อ�หรต ิ ย่อมน�ำ ม� อ� + หร + อ + ติ (๑๗) อต ิ - อติหรณำ ก�รนำ�ไปย่ิง อติ + หร + ยุ - อติห�โร ก�รนำ�ไปยิ่ง อต ิ + หร + ณ - อติหรติ ย่อมนำ�ไปย่ิง อติ + หร + อ + ติ (๑๘) อป ิ - อปหิ รณำ ก�รนำ�ไปปดิ อป ิ + หร + ยุ - อปิห�โร ก�รน�ำ ไปปิด อป ิ + หร + ณ - อปิหรต ิ ยอ่ มน�ำ ไปปิด อปิ + หร + อ + ติ (๑๙) อป - อปหรณำ ก�รนำ�ออกไป อป + หร + ยุ - อปห�โร ก�รนำ�ออกไป อป + หร + ณ - อปหรต ิ ยอ่ มน�ำ ออกไป อป + หร + อ + ติ (๒๐) อุป - อุปหรณำ ก�รนำ�เข้�ไป, ก�รบูช� อปุ + หร + ยุ - อปุ ห�โร ก�รนำ�เข�้ ไป, ก�รบูช� อปุ + หร + ณ - อปุ หรติ ย่อมน�ำ เข�้ ไป, ย่อมบชู � อปุ + หร + ยุ จบ อุปสคั บท _________
290 รูปสทิ ธิทปี นี [ ๒. นาม นิบ�ตบท คำ�ว่� “นบิ �ต” แปลว�่ ศัพท์ทีต่ กไป คอื ถูกว�งไว้ข�้ งหน�้ บ้�ง ท�่ มกล�งบ้�ง หรือทีส่ ุดบ�้ งของประโยค มวี เิ คร�ะหว์ �่ “ปท�ทมิ ชฌฺ นฺเต นิปตนฺตีติ นิปาตา” ย่อมตกไป ในเบอ้ื งต้น ท่�มกล�ง และที่สุดของบท เพร�ะเหตุ นน้ั ชื่อว�่ นบิ �ต. (นิ + ปต + ณ), นิป�ตเมว เนปาตกิ .ํ นบิ �ตน่นั แหละ ชื่อว�่ เนป�ตกิ ะ.(นปิ �ต + ณกิ ) นบิ �ตน ้ี เป็น บทๆ หนึง่ ในบท ๔ คอื น�มบท อปุ สัคบท นบิ �ตบท และอ�ขย�ตบท สำ�หรับนิน�ตน ี้ เป็นบททไี่ ม่เปลีย่ นแปลงในเร่ือง ของวิภัตต ิ หม�ยคว�มว�่ จะลงวภิ ตั ติน�มอะไรม�ก็ต�ม จะตอ้ งถกู ลบทง้ิ ท้ังหมด ด้วยสูตรว่� “สพพฺ �สม�วโุ สปสคฺค- นปิ �ต�ทีหิ จ” นบิ �ตน้ี เปน็ ศพั ท์โดดๆ กม็ ี เป็นศัพท์ทสี่ ำ�เร็จม�จ�กน�ม ที่เปน็ วิภตั ติปจั จยวธิ �น กม็ ี เปน็ ศพั ท์ท่ีส�ำ เรจ็ ม�จ�กตัทธิต ทเ่ี ป็นอพั ยยตัทธิต ก็ม ี และเป็นศพั ท์กริ ยิ �กติ ก์ท่สี ำ�เรจ็ ม�จ�กธ�ตุปจั จัย โดยเฉพ�ะทม่ี ี ตเว, ตำ,ุ ตุน, ตวฺ �น และ ตฺว�ปจั จยั เป็นทสี่ ุด ก็ม ี รูปส�ำ เร็จเป็นนิบ�ต เรยี กว�่ อัพยยศพั ท์ทั้งหมด ดังนี้ (๑) นบิ �ตแท้ๆ เป็นคำ�ศพั ท์โดดๆ ไม่ส�ม�รถแยกศพั ท์ได้ เช่น ห,ิ จ, ปน, ต ุ เป็นต้น (๒) นิบ�ตท่สี ำ�เร็จม�จ�กน�ม ส�ม�รถแยกศพั ทไ์ ด ้ เชน่ เอตฺถ ม�จ�ก “เอต + ถปจั จัย” เปน็ ตน้ (๓) นิบ�ตทสี่ �ำ เรจ็ ม�จ�กอพั ยยตทั ธิต ส�ม�รถแยกศัพท์ได้ เชน่ เอกธ� ม�จ�ก “เอก + ธ�ปัจจยั ” เปน็ ตน้ (๔) นบิ �ตทสี่ �ำ เรจ็ ม�จ�กกติ ก์ ส�ม�รถแยกศัพท์ได้ เชน่ กตฺว� ม�จ�ก “กรธ�ต ุ + ตวฺ �ปจั จยั ” เปน็ ต้น ก�รจัดประเภทของนบิ �ต ส�ม�รถจัดได้ต�มหน้�ทีข่ องนิบ�ตน้นั ๆ เชน่ นิบ�ตต้นขอ้ คว�ม นิบ�ตบอก อ�ลปนะ นิบ�ตบอกคว�มปรกิ ัปป์ นบิ �ตทเี่ ปน็ ก�ลสัตตม ี เปน็ ต้น. (๑) จ ดว้ ย, และ, แน่นอน - สมุจจฺ ย รวบรวม เชน่ ตวฺ ำ ปจ�หิ จ ภุชฺ าหิ จ. อ.ท�่ น จงหุงดว้ ย จงบรโิ ภคด้วย - อนวฺ �จย รวบรวมภ�ยหลงั เช่น สลี ำ รกฺข�ห,ิ ทานฺจ เทห.ิ อ.ท�่ น จงรกั ษ� ซงึ่ ศีล, (ถ้�ส�ม�รถ) จงให ้ ซง่ึ ท�นดว้ ย - อติ รตี รโยค รวบรวมอรรถอืน่ เชน่ สมโณ จ พรฺ �หมฺ โณ จ สมณพรฺ �หมฺ ณ�. อ.สมณะดว้ ย อ.พร�หมณ์ ดว้ ย ช่อื ว�่ สมณพรฺ �หฺมณ. (สมณะและพร�หมณ)์ - สม�ห�ร รวบรวมให้เป็นหนึ่ง เช่น จกฺข ุ จ โสตจฺ จกฺขโุ สต.ำ อ.ต�ด้วย อ.หดู ้วย ชอื่ ว่�จกฺขโุ สต. (ต�และห)ู - อวธ�รณ ตดั สิน, ชี้ข�ด เช่น อ ธนุ �มฺหิ จ. ในเพร�ะธนุ �ปจั จยั อ.ก�รแปลงเปน็ อ แห่งอมิ ศัพท์ ยอ่ มม ี แน่นอน
กณั ฑ์ ] นิบาตบท 291 (๒) วา บ�้ ง, หรอื , เพยี งดงั , กด็ ,ี ดว้ ย, กล่�วก�ำ หนด - วกิ ปปฺ น ไมแ่ น่นอน เช่น สมโณ ว� พรฺ �หฺมโณ ว�. อ.สมณะหรือ หรอื ว่� อ.พร�หมณ์ - อุปม�น เพียงดงั , เหมอื น เชน่ มธุ ว� มฺตี พ�โล. อ.คนพ�ล ย่อมส�ำ คัญ ซงึ่ บ�ป ว�่ เป็น เพียงดัง นำ้ ผ้ึง - สมุจจฺ ย รวบรวม เชน่ ร�ชโต ว� โจรโต ว� มนุสสฺ โต ว� อ�รกขฺ ำ คณหฺ นฺตุ. จงถอื เอ� ซ่งึ ก�รอ�รักข� จ�กพระร�ช�ด้วย จ�กโจรดว้ ย จ�กมนุษย์ดว้ ย. - ววตถฺ ติ วิภ�ส� กล่�วกำ�หนด เช่น ว� ปโร อสรปู �. อ.สระ อันเป็นเบื้องหลงั จ�กอสรปู สระ ยอ่ มถงึ ซง่ึ ก�รลบ โดยกำ�หนดต�มอทุ �หรณ์ในพระบ�ลี. (๓) นิบ�ตเหล่�น้ ี คอื น, โน, มา, อ, อล,ํ หลํ ใช้ในอรรถ ปฏิเสธน ก�รห�้ ม ก�รปฏเิ สธ น ไม่ เชน่ น ว�หำ ปณณฺ ำ ภุ ฺชาม.ิ อ.เร� จะไม่กิน ซึ่งผัก แน่นอน โน ไม่ เชน่ สุภ�สิตวำ ภ�เสยยฺ โน จ ทุพฺภ�สิต ำ ภเณ. อ.บุคคล ควรพดู ซ่ึงค�ำ อนั เปน็ สภุ �ษติ เทยี ว อนง่ึ ไมค่ วรพดู ซ่ึงค�ำ อันเปน็ ทุพภ�สิต ม� อย�่ เช่น ม� เอวมกตถฺ . อ.ท่�น ท. อย่�ได้กระท�ำ แลว้ อย�่ งนี.้ อ ไม ่ เชน่ อฺาตํ อสตุ ํ อทฏิ ฺ€ํ อวิทติ ํ อสจฉฺ กิ ตํ อปสสฺ ิตํ ปฺาย. อันเร� ไมร่ แู้ ลว้ ไมไ่ ดย้ ินแลว้ ไม่เหน็ แล้ว ไมเ่ ข�้ ใจแลว้ ไมก่ ระจ�่ ง แลว้ ไมบ่ รรลุแล้ว ดว้ ยปัญญ� อล ำ อย่�เลย, พอละ เช่น อลำ เต อธิ ว�เสน. อ.อย�่ เลย ด้วยก�รอยู ่ ในทนี่ ี้ แกท่ ่�น หล ำ อย่�เลย, ไม่ควร เชน่ หลำ ท�นิ ปก�สิตำ.ุ ไม่ควร เพื่ออันแสดง ในก�ลนี้ (๔) อลํ สมควร, ประดบั เช่น อลํ ปฺุ านิ ก�ตำ.ุ สมควร เพอื่ อันท�ำ ซึง่ บญุ ท. - ปรยิ ตตฺ ิ สมควร เชน่ อลงกฺ �โร. เครอ่ื งประดับ - ภูสน ก�รประดบั
292 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม ปูรณะ ก�รทำ�บทให้เตม็ มี ๒ อย�่ ง (๑) อตถฺ ปูรณ ก�รท�ำ เนื้อคว�มให้เตม็ หม�ยคว�มว่� ทำ�ใหเ้ นือ้ คว�มของประโยคนั้นๆ ชัดเจนยงิ่ ขึ้น (๒) ปทปรู ณ ก�รทำ�บทใหเ้ ตม็ ไม่มคี ว�มหม�ยพเิ ศษเพม่ิ เติมใดๆ ใชใ้ นจณุ ณิยะ ใชป้ ระดบั คำ�พดู หรอื ทำ�ค�ำ พูดให้สละสลวยย่งิ ขึน้ เรียกว�่ “วจน�ลังก�ระ”บ�้ ง เรียกว�่ “ว�จ�สลิ ฏิ ฐะ”บ้�ง ใชใ้ นค�ถ� เรียกว�่ “ปทปูรณะ” ใส่ เข้�ม�เพื่อให้ครบต�มจำ�นวนพย�งค์ที่กำ�หนดไวใ้ นฉันทลักษณ์ (๕) นบิ �ตเหล�่ น ้ีคอื อถ, ขลุ, วต, วถ, อโถ, อสฺส,ุ ยคฺเฆ, หิ, จรห,ิ นํ, ต,ํ วา, จ, ตุ, ว, โว ปน, หเว, กวี , ห, ตโต, ยถา, สุท,ํ โข, เว, ห,ํ เอนํ, เสยฺยถิทํ เป็นต้น เปน็ ปทปูรณะ. - อถ ปทปรู ณะ เชน่ อถ ปรุ โิ ส อ�คจเฺ ฉยฺย. อ.บุรษุ พงึ ม� - ขลุ ปทปรู ณะ เช่น สมโณ ขล ุ โภ โคตโม สกยฺ ปตุ โฺ ต สกยฺ กลุ � ปพพฺ ชโิ ต. ท�่ นผเู้ จรญิ อ.พระสมณะ ผูโ้ คดม เป็นศ�กยบุตร ทรงเสดจ็ ออกแล้ว จ�กตระกูลศ�กยะ ทรงผนวชแลว้ - วต ปทปูรณะ เชน่ อจฺฉริย ำ วต โภ. ท่�นผเู้ จรญิ น�่ อัศจรรย์ - วถ ปทปรู ณะ เชน่ ต ำ วถ ชยเสโน ร�ชกมุ �โร. อ.พระร�ชกุม�รพระน�มว่�ชัยเสน ยอ่ มรู้จัก ซ่งึ เหตุนั้น - อโถ ปทปูรณะ เชน่ อโถ ม ำ อนุกมปฺ ส.ิ อ.ท�่ น ย่อมอนเุ คร�ะห ์ ซึ่งเร� - อสสฺ ุ ปทปรู ณะ เช่น น�สฺสุธ โกจิ ภควนตฺ ำ อปุ สงกฺ มต.ิ อ.ใครๆ ในหมู่สงฆน์ ี้ ยอ่ มไม่ เข�้ ไปเฝ�้ ซึ่งพระผู้มพี ระภ�ค. - ยคเฺ ฆ ปทปรู ณะ เชน่ ยคฺเฆ มห�ร�ช ช�เนยยฺ �สิ. ข้�แตม่ ห�บพิตร อ.พระองค ์ พงึ ทร�บ - ห ิ ปทปรู ณะ เช่น โส หิ ภคว� ช�น ำ ช�น�ติ, ปสสฺ ำ ปสฺสติ. อ.พระผมู้ พี ระภ�คเจ�้ พระองค์นนั้ เมือ่ ร ู้ ยอ่ มตรสั ว่� ย่อมรู,้ เม่ือเห็น ย่อมตรัสว�่ ย่อมเห็น - จรหิ ปทปูรณะ เชน่ กถ ำ จรหิ มหาปฺโ. เปน็ ผู้มปี ญั ญ�ม�ก ได้อย�่ งไร - น ำ ปทปูรณะ เช่น น น ำ สุช�โต สมโณ โคตโม. อ.พระสมณะผโู้ คดม ทรงเปน็ ผมู้ ี พระช�ตดิ ีแลว้ - ตำ ปทปรู ณะ เชน่ ตำ กสิ ฺส เหตุ. เพร�ะเหตไุ ร? - ว� ปทปรู ณะ เชน่ นิจฺจ ำ ว� อนิจจฺ ำ ว�ต.ิ อ.อนั ถ�มว่� อ.รูป เทย่ี ง ไมเ่ ท่ยี ง - จ ปทปูรณะ เชน่ ก ึ จ ภิกขฺ เว รปู ํ วเทถ. ดกู อ่ นภกิ ษุ ท. เพร�ะเหตไุ ร? อ.เธอ ท. จงึ เรียกว�่ รูป
กณั ฑ์ ] ปทปูรณะ นบิ าตบท 293 - ตุ ปทปูรณะ เช่น เวทน�ทสี ุเปกสฺมึ ขนฺธสทฺโท ตุ รฬุ ฺหยิ �. อ.ขนฺธศัพท ์ ย่อมถกู ยกแสดง โดยระบุ ในสว่ นหน่ึง แมใ้ นขนั ธ ์ ท. ม ี เวทน� เปน็ ตน้ - ว เช่น เธนวุ วจฉฺ คิทธฺ �ว, กถ ำ มททฺ ี กรสิ ฺสส.ิ แนะ่ แมม่ ัทร ี เมือ่ เธอ ไม่เห็น ปทปรู ณะ อยู่ ซึง่ เดก็ ท., อ.เธอ จกั กระท�ำ อย่�งไร? เพียงดัง อ.แมโ่ คนม ผู้ตอ้ งก�รลกู วัว (เวสสฺ นฺตรช�ตก) - โว ปทปรู ณะ เชน่ เอเต โว สขุ สมฺมต�. อ.ก�มคุณ ๕ ท.เหล�่ น่นั เปน็ ของสมมติกนั ว�่ เป็นสุข ย่อมเปน็ - ปน เช่น ก ึ ปน ภว ำ โคตโม ทหโร เจว ช�ติย� นโว จ ปพพฺ ชชฺ �ย. อ.พระโคดม ทรงพระเย�ว์ โดยช�ติดว้ ยนนั่ เทยี ว ทรงเป็นผ้ใู หม่ ปทปูรณะ ดว้ ยก�รบวชดว้ ย เพร�ะเหตุใด (ย่อมประก�ศ ซ่งึ พระองค์ว�่ เปน็ พระพุทธเจ�้ เล่�?) - หเว ปทปรู ณะ เช่น หเว เต โภนฺโต สมณพฺร�หฺมณ�. อ.สมณะและพร�หมณ ์ ท. ผเู้ จริญ เหล่�นัน้ - กีว ปทปูรณะ เชน่ ย�ว กวี จฺ ภิกฺขเว ภิกขฺ นู ำ. ดูกอ่ นภิกษ ุ ท. มีประม�ณเพียงไร ปทปรู ณะ แก่ภิกษ ุ ท. - ห เชน่ ม� เหว ำ อ�นนฺท. ดกู อ่ นอ�นนท์ อ.เธอ อย�่ กล่�วแลว้ อย�่ งน.้ี - ตโต ปทปรู ณะ เชน่ ตโต จ มฆว� สกฺโก อตฺถทสสฺ ี ปรุ ินทฺ โท. อ.ท้�วสกั กะ ผู้มีน�มว�่ มฆะ ผู้เห็นประโยชน ์ เปน็ ผเู้ คยใหท้ �นในก�ลก่อน - ยถ� เชน่ ยถ� กถำ ปน ภนเฺ ต ภควต ิ พรฺ หมฺ จรยิ ำ วุสฺสติ. ข�้ แต่ท่�นผ้เู จรญิ ปทปรู ณะ อ.พรหมจรรย์ อันข�้ พระองค ์ จะประพฤติ ในสำ�นกั ของพระผู้มี พระภ�ค ได้อย่�งไร - สุท ำ ปทปรู ณะ เชน่ ตตรฺ สทุ ำ ภคว� น�ตเิ ก วิหรติ คิ ฺชกาวสเถ. อ.พระผู้มีพระภ�ค ทรงประทับอย ู่ ที่ปร�ส�ท ในหมูบ่ ้�นน�ติกะนน้ั - โข ปทปรู ณะ เชน่ ตตรฺ ส ุ โข ภคว� ภกิ ขฺ ู อ�มนฺเตสิ. ในสมยั นน้ั อ.พระผูม้ ีพระภ�ค ตรัสเรียกแลว้ ซงึ่ ภิกษุ ท. - เว ปทปรู ณะ เชน่ ส เว เอเตน ย�เนน นพิ พฺ �นสเฺ สว สนตฺ เิ ก. อ.บคุ คลนนั้ ด�ำ เนินไป อยู่ ในที่ใกล ้ แห่งพระนพิ พ�นน่นั เทยี ว ด้วยย�น คอื อริยมรรคนัน่ - หำ ปทปูรณะ เชน่ ม� หำ ปน เม ภนเฺ ต ภคว�. ข�้ แต่ท่�นผู้เจริญ อ.พระผ้มู ีพระภ�ค มิได้ตรัสแลว้ แก่ข้�พระองคน์ ัน่ เทียว - เอนำ เช่น ยตฺว�ธิกรณเมนำ จกฺขนุ ทฺ ฺรยิ ำ อสำวุต ำ วหิ รนตฺ ำ. อ.กิเลส ย่อมท่วมทับ ซ่งึ บุคคลผไู้ ม่สำ�รวมแล้ว ซึง่ อนิ ทรยี ์คอื จักษุ อย่อู ย ู่ เพร�ะเหตุใด
294 รปู สิทธิทีปนี [ ๒. นาม - เสยฺยถทิ ำ ปทปรู ณะ เชน่ เสยยฺ ถิทำ รูปูป�ท�นกฺขนฺโธ. อ.รปู ขนั ธ์อนั เป็นอ�รมณ์ ของอุป�ท�น (๖) อถ ในท่ไี มม่ รี ะหว�่ ง, ครง้ั นน้ั , หรือ - ปหฺ ก�รถ�มปัญห� เชน่ อถ ตวฺ ำ เกน วณเฺ ณน เกน ว� ปน เหตุน� เกน ว� อตฺถช�เตน - อนนฺตรยิ อตฺต�นำ ปริโมจยิ. อ.เธอ เปลอื้ งแลว้ ซึ่งตน เพร�ะเหตุปัจจยั อะไรหรือ? - อธิก�ร ไม่ข�ดระยะ, ตอ่ เนอ่ื ง เชน่ อถ น�มกิ วิภตยฺ �วต�โร วุจฺจเต. ต่อจ�กสนธกิ ณั ฑ์นน้ั อ.ก�รลง วภิ ัตติน�ม อนั ข�้ พเจ�้ จะกล่�ว. อถ น ำ อ�ห. ล�ำ ดับนน้ั อ.เข� กล�่ วแลว้ กะบุคคลน้นั สถ�นท ่ี เช่น อถ ปพุ ฺพสฺสรโลโป. ในทนี่ นั้ อ.ก�รลบสระหน�้ ยอ่ มม.ี (๗) ขลุ ไม่, แนแ่ ท้, ไดย้ นิ ว�่ - ปฏเิ สธ - อวธ�รณ ก�รห้�ม เช่น ขลุปจฉฺ �ภตฺติโก. ผไู้ มฉ่ ันภตั ต�ห�รภ�ยหลัง - ปสิทธฺ ิ ก�รตดั สิน, เน้นคว�ม เช่น ส�ธ ุ ขลุ ปยโส ป�นำ ยฺทตเฺ ตน. อันน�ยยัญญทัต ดื่ม ซ่งึ นม เปน็ ก�รดี แน่แท้ คว�มส�ำ เร็จ เชน่ สม�โน ขลุ โภ โคตโม. ข้�แตท่ ่�นผ้เู จริญ ไดย้ นิ ว่� อ.พระสมณะ ผโู้ คดม (๘) วต หนอ, แนน่ อน, โดยแท,้ จรงิ ๆ - เอกำส โดยสว่ นเดยี ว เช่น อจเฺ ฉรำ วต โลกสฺม ึ อปุ ฺปชชฺ นฺต ิ วจิ กฺขณ�. อ.บัณฑติ ท. ยอ่ มเกิดขน้ึ - เขท ในโลก น�่ อัศจรรยจ์ รงิ ๆ - อนกุ มปฺ - สงฺกปฺป คว�มเหนด็ เหนื่อย เช่น กจิ ฉฺ ำ วต�ยำ โลโก อ�ปนฺโน. อ.สตั วโ์ ลกน้ ี ถึงแลว้ ซงึ่ คว�มย�ก ล�ำ บ�กหนอ คว�มสงส�ร เช่น กปโณ วต�ยำ สมโณ. อ.พระสมณะน้ี เปน็ ผูก้ �ำ พร�้ หนอ. คว�มด�ำ ริ เชน่ อโห วต�ยำ นสฺเสยฺย. โอหนอ อ.บคุ คลน้ี พึงฉบิ ห�ย (๙) อโถ อนง่ึ , นอกจ�กน้นั - อนวฺ �เทส แสดงคว�มคลอ้ ยต�ม เชน่ สฺว�คตำ เต มห�ร�ช, อโถ เต อทรุ �คต.ำ ข้�แต่มห�บพิตร อ.ก�ร เสดจ็ ม�ดแี ลว้ ย่อมม ี แกพ่ ระองค์ อนงึ่ อ.ก�รไมเ่ สด็จม�ร�้ ย ยอ่ มม ี แกพ่ ระองค์
กัณฑ์ ] นิบาตบท 295 (๑๐) ห ิ เพร�ะว�่ , เท่�นั้น เช่น มรณนฺตำ ห ิ ชวี ิต.ำ เพร�ะว�่ อ.ชวี ิต มคี ว�มต�ยเป็นทสี่ ุด - เหตุ เหต,ุ เพร�ะว่� เชน่ ชินวจนยุตตฺ ำ หิ. อ.สูตร วตุ ต ิ และอทุ �หรณ์ เป็นของสมควร - อวธ�รณ ก�รตัดสนิ , เท่�น้ัน ต่อพระพทุ ธพจนเ์ ท่�นนั้ ย่อมเป็น (๑๑) ต ุ แต่ว่�, เพร�ะว�่ , ห้�ม - วเิ สส คว�มแตกต�่ ง เชน่ ตลุ โฺ ย ตวฺ มสิ เภโท ตุ, สรเี รเนทเิ สน เต. อ.พระองค ์ เปน็ ผู้เสมอ ดว้ ยส�คร ยอ่ มเปน็ , ส่วนว่� อ.คว�มแตกต�่ ง ดว้ ยสรีระ เชน่ นี้ ของพระองค์ ยอ่ มมี - เหตนุ วิ ตตฺ น ก�รห้�มเหต ุ เช่น เวทน�ทสี ุเปกสมฺ ึ, ขนฺธสทโฺ ท ตุ รุฬฺหิย�. อ.ขนั ธศัพท ์ ในขันธ์ ท. แมม้ เี วทน�ขันธ์เปน็ ตน้ ยอ่ มปร�กฏ ในขันธ์อนั หน่ึง โดยคว�ม เปน็ ส�ำ นวนนั่นเทยี ว (๑๒) ปน สว่ นว�่ , แตว่ ่� - วเิ สส กล่�วคว�มให้พเิ ศษ เชน่ อฏฺ€กถายํ ปน วุตฺตำ ขลูต ิ เอโก สกโุ ณต.ิ แต่ว�่ อ.ค�ำ ว่� “ขล”ุ ได้แกน่ กตัวหน่ึง อันท�่ น กล่�วไว้แลว้ ในอรรถกถ� (๑๓) หเว, เว ใช้ในอรรถ เอกสํ โดยส่วนเดียว คว�มแน่นอน - หเว แล, แน่นอน, โดยแท ้ เช่น ยท� หเว ป�ตภุ วนฺต ิ ธมมฺ �. อ.ธรรม ท. ย่อมปร�กฏ โดยแท้ ในก�ลใด - เว แล, แน่นอน, โดยแท้ เชน่ ชีรนฺต ิ เว ร�ชรถ� สจุ ิตตฺ �. อ.ร�ชรถ ท. อันวจิ ิตรดี ย่อมคร่ำ�คร่� โดยแท้ (๑๔) ห ํ โอ, น�่ หว�ดหวนั่ เชน่ หำ เอกปุตตฺ ก. โอ ดกู ่อนลูกน้อยผูเ้ ดียว - วิส�ท คว�มออ่ นใจ เช่น ห ำ สมมฺ กึ ตฺวำ ปสสฺ ส ิ อุปริปพพฺ เต €ิโต. ดูก่อนสห�ย อ.ท�่ น ยนื อยู่ - สมฺภม คว�มหวนั่ ไหว แล้ว ในเบอื้ งบนแห่งภเู ข� ยอ่ มแลเห็น ซง่ึ อะไร อย�่ งน่� หว�ดหวน่ั (๑๕) เสยยฺ ถทิ ํ เปน็ ไฉน, คอื เชน่ อยเมว อริโย อฏฺ€งคฺ โิ ก มคโฺ ค. เสยยฺ ถิทำ? อ.มรรค อันประเสริฐ อนั ประกอบดว้ ยองค์ ๘ นี้น่ันเทยี ว. อ.อรยิ มรรคนั้น เป็นไฉน ?
296 รูปสทิ ธิทีปนี [ ๒. นาม อตฺถปูรณ ก�รท�ำ เน้ือคว�มให้เตม็ มี ๒ อย่�ง (๑) วิภตตฺ ยิ ตุ ตฺ ประกอบด้วยวภิ ัตต ิ ใช้ในอรรถของวภิ ัตต ิ เชน่ อ�วุโส ดกู ่อนผ้มู ีอ�ยุ ใชใ้ นอรรถอ�ลปนะ (๒) อวภิ ตตฺ ยิ ตุ ฺต ไมป่ ระกอบดว้ ยวภิ ัตต ิ ไม่ใชใ้ นอรรถของวภิ ตั ต ิ เช่น อปฺเปว น�ม ชือ่ แมไ้ ฉน ใชใ้ นอรรถ สงสัย ตอ่ ไปน้ี เป็นนบิ �ตทีป่ ระกอบดว้ ยวภิ ตั ติ ใชใ้ นอรรถของวิภัตติ (๑๖) อตถฺ ,ิ สกกฺ า, ลพภฺ า ใชใ้ นอรรถปฐม�วิภัตติ อตถฺ ิ มีอยู ่ เช่น ปตุ ฺต� มตฺถ.ิ อ.บุตร ท. ของเร� มีอย่.ู สกกฺ � อ�จ, ส�ม�รถ เช่น สกฺก� ภกิ ขฺ เว อกุสล ำ ปชหติ ำ ุ กสุ ลำ ภ�เวต.ำุ ดูกอ่ นภิกษ ุ ท. อันบคุ คล อ�จ เพอ่ื อนั ละ ซ่ึงอกุศล เพอื่ อนั ยังกุศล ใหเ้ จรญิ ลพภฺ � ได้ เชน่ ลพฺภ� ภิกฺขเว ปถว ี เกตุ ำ วิกเฺ กตุ ำ €าเปตุำ โอจนิ ติ ำ ุ วิจนิ ติ ำ.ุ ดูกอ่ นภกิ ษ ุ ท. อ.แผน่ ดิน อนั บคุ คล พึงได ้ เพือ่ อนั ซอื้ เพือ่ อันข�ย เพอื่ อนั จำ�นอง เพอ่ื อนั ตรวจสอบ เพอื่ อนั เลอื กเฟ้น (๑๗) อาวโุ ส, อมโฺ ภ, หมฺโภ, เร, อเร, หเร, เช ใช้ในอรรถ อามนฺตน ก�รร้องเรียก อ�วุโส ดูก่อนท�่ นผ้มู อี �ยุ เชน่ น ตำ ภ�ย�ม ิ อ�วโุ ส. ดูกอ่ นท่�นผมู้ ีอ�ย ุ อ.เร� ยอ่ มไมก่ ลัว ซ่งึ ท�่ น อมฺโภ แนะ่ ท�่ นผูเ้ จริญ เช่น อมโฺ ภ ปุริส ก ึ ตยุ ฺหิมนิ � ป�ปเกน ทชุ ฺชีวิเตน. แนะ่ บรุ ษุ ผเู้ จรญิ อ.ประโยชนอ์ ะไร ดว้ ยชวี ติ ที่ไม่ดี อนั เลวทร�มน ้ี แก่ท�่ น หมโฺ ภ แน่ะท่�นผเู้ จริญ เชน่ หมโฺ ภ ปุพเฺ พ ฉ สตฺถ�โร มย ำ อรหนฺต�มฺห�ต ิ วจิ รึส.ุ แน่ะท่�นผูเ้ จริญ อ.ครู ท. หก ในก�ลก่อน กล�่ วแล้วว�่ อ.เร� ท. เป็นพระอรหนั ต์ ยอ่ มเป็น ดงั น้ ี เที่ยวไปแล้ว เร เฮ้ย, เวย้ เช่น วิกกฺ ม เร มห�มิค�. แน่ะกว�งใหญเ่ อย๋ อ.ท�่ น จงขวนขว�ยเถดิ อเร เฮย้ , เวย้ เช่น อเร ทฏุ ฺ€โจรา. เฮย้ โจรผชู้ วั่ ช�้ ท. หเร เฮ้ย, เวย้ เช่น หเร สข� กสิ สฺ น ุ ม ำ ชห�ส.ิ เฮ้ย เพ่อื น อ.ท�่ น ย่อมทง้ิ ซ่งึ เร� เพร�ะเหตุอะไรหนอ? เช แนะ่ แมส่ �วใช้ เช่น สเจ เช ตฺวำ สจฺจ ำ ภณสิ. แนะ่ แม่ส�วใช้ ถ้�ว�่ อ.เธอ ยอ่ มพดู ซง่ึ คว�มจรงิ ไซร้ (๑๘) ทิวา, ภยิ โฺ ย, นโม ใชใ้ นอรรถของปฐม�วิภตั ต ิ และทตุ ยิ าวิภัตติ ทิว� เวล�กล�งวนั เช่น รตฺตึเยว สม�น ำ ทิว�ติ สชฺ านนฺต.ิ อ.ชน ท. ย่อมส�ำ คญั ซึง่ เวล� กล�งคืนนน่ั เทียว อันมีอยู่ ว�่ เปน็ เวล�กล�งวนั
กณั ฑ์ ] ยง่ิ นิบาตบท 297 ภิยโฺ ย คว�มนอบน้อม เชน่ อปุ ฺปชฺชติ สขุ ำ, สุข� ภิยโฺ ย โสมนสสฺ .ำ อ.คว�มสขุ ยอ่ มเกิดขน้ึ , อ.คว�มโสมนัส อนั ยิ่ง กว่�คว�มสุข ยอ่ มเกิดข้นึ นโม เชน่ นโม เต พุทฺธวรี ตฺถุ. ข้�แตพ่ ระพทุ ธเจ�้ ผกู้ ล�้ ห�ญ อ.คว�ม นอบนอ้ ม ขอจงม ี แด่พระองค์ (อรรถปฐม�วภิ ัตติ) นโม กโรหิ น�คสฺส. อ.ท่�น จงกระท�ำ ซึ่งก�รนอบนอ้ ม แกพ่ ระ อรหนั ต ์ (อรรถทุตยิ �วภิ ตั ต)ิ (๑๙) สย,ํ สามํ, สํ, สมฺมา, กนิ ตฺ ิ ใช้ในอรรถของตติยาวิภัตติ สยำ ด้วยตนเอง เช่น สยํ อภิ ฺาย กมทุ ฺทิเสยยฺ .ำ อ.เร� ตรสั รแู้ ล้ว ด้วยตนเอง พงึ อ�้ ง ซึ่งใคร? ส�มำ ดว้ ยตนเอง เช่น ส�ม ำ สจฺจ�นิ อภิสมฺพุชฺฌิตวฺ �. ตรัสรยู้ ิ่งแลว้ ซึง่ สจั จะ ท. ด้วย พระองค์เอง ส ำ ด้วยตนเอง เช่น สมพฺ ทุ โฺ ธ. ผูต้ รัสรดู้ ้วยพระองค์เอง สมมฺ � โดยชอบ เชน่ เย เอว ำ ช�นนตฺ ,ิ เต สมมฺ � ช�นนตฺ .ิ อ.ชน ท.เหล�่ ใด ย่อมร ู้ อย่�งนี,้ อ.ชน ท.เหล�่ นั้น ยอ่ มร ู้ โดยชอบ กนิ ฺติ อย�่ งไร เช่น กินตฺ ิ เม ส�วก� สทธฺ �ย วฑฺเฒยฺย.ุำ อ.ส�วก ท. ของเร� พงึ เจริญ ดว้ ยศรทั ธ� อย่�งไร? (๒๐) บทท่ลี ง โส, โต และธาปจั จัยเป็นทส่ี ุด ลงในอรรถตตยิ าวภิ ัตติ สตุ ฺตโส โดยสูตร เช่น สุตฺตโส ธมมฺ ำ ว�เจยฺย. ยังอนุปสัมบนั พงึ ให้กล�่ ว ซง่ึ ธรรม โดยสตู ร ปทโส โดยบท, โดยส่วน เช่น ปทโส ธมมฺ ำ ว�เจยยฺ . ยงั อนุปสัมบัน พงึ ให้กล�่ ว ซ่งึ ธรรม โดยบท อนิจฺจโต โดยคว�มไมเ่ ทย่ี ง เช่น อนิจจฺ โต สมฺมสติ. ยอ่ มพิจ�รณ� โดยคว�มเป็นสภ�พไม่เท่ียง ทุกขฺ โต โดยคว�มเปน็ ทกุ ข์ เช่น ทุกขฺ โต สมมฺ สต.ิ ย่อมพิจ�รณ� โดยคว�มเป็นทุกข์ เอกธ� โดยสว่ นเดยี ว เช่น เอเกน วิภ�เคน เอกธ�. โดยสว่ นหน่ึง ชื่อว่�เอกธ� ทฺวิธ� โดยสองสว่ น เช่น ทวฺ ีห ิ วิภ�เคหิ ทฺวิธ�. โดยสว่ น ท. สอง ช่ือว่�ทวฺ ธิ � (๒๑) บทที่ลง ตเว และตปำุ จั จยั เป็นที่สุด ใช้ในอรรถจตุตถีวิภตั ติ ก�ตเว เพ่อื อันกระทำ� เชน่ ปฺุ านิ กาตเว. เพื่ออนั กระท�ำ ซงึ่ บุญ ท. ท�ตเว เพอื่ อันให ้ เชน่ ท�น�น ิ ท�ตเว. เพ่ืออนั ให ้ ซง่ึ ท�น ท. ก�ตุำ เพ่ืออนั กระทำ� เชน่ ปฺุานิ ก�ตำ.ุ เพอ่ื อนั กระท�ำ ซึง่ บุญ ท.
298 รูปสทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม ก�เรต ุำ เพือ่ อนั ยัง... ให้กระท�ำ เชน่ วิห�รำ ก�เรต.ำุ เพื่ออนั ยังช�่ งให้สร้�ง ซึง่ วิห�ร ท�ตุ ำ ท�เปตำุ เพื่ออันให ้ เชน่ ท�น�นิ ท�ตุ.ำ เพอ่ื อันให้ ซง่ึ ท�น ท. เพอื่ อันยงั ... ให้ให ้ เช่น ท�นำ ท�เปต.ำุ เพอื่ อนั ยงั บคุ คลน้นั ใหถ้ ว�ย ซึง่ ท�น (๒๒) บททล่ี ง โส และโตปจั จัยเป็นท่ีสุด ใช้ในอรรถปญั จมีวิภัตติ ทีฆโส จ�กสว่ นย�ว โอรโส จ�กฝัง่ น้ ี ร�ชโต ว� จ�กพระร�ช� กด็ ี โจรโต ว� จ�กโจร กด็ ี (๒๓) บททล่ี ง โตปัจจัยเปน็ ท่ีสุด ใช้ในอรรถสัตตมวี ิภัตติ เอกโต ทดี่ ้�นหนง่ึ ปุรโต ทขี่ ้�งหน้� ปจฺฉโต ทข่ี ้�งหลงั ปสสฺ โต ทดี่ �้ นข�้ ง ปิฏ€ฺ ิโต ท่ขี �้ งหลงั ป�ทโต ที่เท�้ , บนพน้ื สสี โต บนศรี ษะ อคคฺ โต บนยอด มลู โต ใกลโ้ คนตน้ , ท่ีร�ก (๒๔) บทที่ลง ตฺร และถปัจจัยเป็นต้นเปน็ ทส่ี ุด ใช้ในอรรถสตั ตมีวภิ ตั ติ ยตรฺ ใน... ใด ยตถฺ ใน... ใด ยหึ ใน... ใด ตตรฺ ใน... นั้น ตตถฺ ใน... นั้น ตหึ ใน... นั้น ตหำ ใน... นัน้ (๒๕) สมนตฺ า, สามนตฺ า, ปรโิ ต, อภโิ ต, สมนตฺ โต, เอกชฌฺ ,ํ เอกมนตฺ ํ, เหฏ€ฺ า, อปุ ริ, อทุ ธฺ ํ, อโธ, ตริ ยิ ํ, สมมฺ ุขา, ปรมฺมขุ า, อาวิ, รโห, ตโิ ร, อจุ ฺจ,ํ นจี ํ, อนโฺ ต, อนฺตรา, อชฺฌตตฺ ,ํ พหทิ ธฺ า, พาหริ า, พาหิร,ํ พหิ, โอรํ, ปารํ, อารา, อารกา, ปจฺฉา, ปเุ ร, หุรํ และ เปจจฺ ใชใ้ นอรรถ สตั ตมวี ภิ ัตติ - สมนตฺ � ในที่โดยรอบ เชน่ สมนตฺ � จกกฺ ว�เฬสุ อตฺร�คจฉฺ นตฺ ุ เทวต� สทธฺ มมฺ ำ มุนริ �ชสสฺ สณุ นตฺ ุ สคคฺ โมกขฺ ทำ. อ.เทวด� ท. ในจักว�ฬ ท. ในท่โี ดยรอบ จงม� ในท่นี ี้ จงฟงั ซึง่ พระสทั ธรรม อันใหซ้ ึ่งสวรรค์และนพิ พ�น ของพระจอมมุนี - ส�มนตฺ � ในทีใ่ กล,้ ในทโ่ี ดยรอบ เชน่ ร�ชคหสฺส ส�มนฺต� เวปลุ ลฺ ปพฺพตพภฺ นตฺ เร. ในระหว�่ งแหง่ ภเู ข� เวปลุ ละ ในท่ีใกล้ แหง่ เมืองร�ชคฤห์
กัณฑ์ ] นิบาตบท 299 - ปริโต ในทโี่ ดยรอบ เชน่ ปรโิ ต ค�ม ำ วสต.ิ ยอ่ มอย ู่ ในท่ีโดยรอบ แห่งหม่บู ้�น - อภิโต ในภ�ยใน เช่น มุจลนิ ฺทำ สรำ อภโิ ต. ในภ�ยใน แหง่ สระมจุ ลนิ ท์ - สมนฺตโต ในท่ีรอบๆ เชน่ อคฺย�ค�รำ สมนตฺ โต. แวดลอ้ มแลว้ ซ่งึ โรงไฟ ในท่รี อบๆ - เอกชฌฺ ำ ในสว่ นหนึ่ง เช่น เอกชฌฺ ำ สนนฺ ิปตสึ ุ. ประชมุ กนั แลว้ ในส่วนหน่งึ - เอกมนตฺ ำ ในทส่ี มควรข้�งหนึ่ง เช่น เอกมนฺต ำ อฏฺ€�สิ. ไดย้ ืนอยแู่ ลว้ ในที่สมควรข้�งหน่ึง - เหฏ€ฺ า ในภ�ยใต ้ เช่น มฺจสสฺ เหฏฺ€า. ในภ�ยใต ้ แหง่ เตียง - อปุ ริ ในเบอ้ื งบน เชน่ ป�ทตลโต อปุ ร.ิ ในเบอื้ งบน จ�กช้ันแหง่ พนื้ - อุทฺธำ ในเบอ้ื งบน เชน่ อทุ ธฺ ำ ป�ทตล�. ในเบ้อื งบน จ�กชนั้ แห่งพ้ืน - อโธ ในเบอ้ื งล�่ ง เชน่ อโธ เกสมตฺถก�. ในเบ้อื งล�่ ง จ�กปล�ยแหง่ ผม - ติรยิ ำ ในด้�นขว�ง เช่น น�โค คนฺตฺว� คตมคเฺ ค ติรยิ ำ อฏ€ฺ าส.ิ อ.ช้�งพล�ย ม�แล้ว ไดย้ ินแล้ว ขว�ง ในท�งเป็นทเ่ี สดจ็ ไป - สมฺมขุ � ในที่เฉพ�ะหน�้ เช่น โส ตำป ิ สมมฺ ขุ � €ิต ํ ทสิ ฺว�. อ.เข� เห็นแล้ว ซึ่งบุคคลแม้นนั้ ผยู้ ืนแล้ว ในทีเ่ ฉพ�ะหน้� - ปรมฺมขุ � ในที่ลบั หลัง เช่น กถ ำ ปรมฺมขุ � วกิ ปปฺ น� โหตตี ิ. อ.ก�รใคร่ครวญ ยอ่ มม ี ในทลี่ บั หลัง ได้อย่�งไร? - อ�ว ิ ในทแี่ จ้ง, แจ่มแจง้ เช่น อ�วิ ภวิสสฺ ต.ิ จกั มี อย่�งแจ่มแจ้ง - รโห ในท่ีลับ เชน่ รโห ติฏฺ€ต.ิ ยืนอย ู่ ในที่ลบั - ติโร ในฝั่งข้�งนอก เช่น ตโิ รป�ก�เร. ในฝัง่ ข้�งนอกแห่งก�ำ แพง - อจุ ฺจ ำ ในทส่ี ูง เช่น อุจฺจ ำ นปิ นฺโน. นอนแลว้ ในทส่ี งู - นจี ำ ในทต่ี ำ�่ เชน่ นจี ำ นสิ ที ิ. น่งั แล้ว ในที่ตำ่ - อนฺโต ในภ�ยใน เช่น อนฺโตกุฏเฺ ฏ ปทีโป วยิ . ร�วกะ อ.ประทีบ ในภ�ยในแหง่ ฝ� - อนตฺ ร� ในระหว่�ง เชน่ อนตฺ ร� จ ร�ชคหำ อนตฺ ร� จ น�ฬนทฺ ำ อทฺธ�นมคฺคปฺปฏิปนฺโน. อ.พระผมู้ พี ระภ�คเจ้� เปน็ ผเู้ สด็จดำ�เนนิ ไปแล้วสหู่ นท�งไกล ใน ระหว่�ง แหง่ เมืองร�ชคฤห์ดว้ ย แห่งเมอื งน�ฬนั ท�ดว้ ย ย่อมเปน็ - อชฺฌตฺต ำ ในภ�ยใน เช่น ยงกฺ ิ จฺ ิ รปู ํ อตีต�น�คตปจฺจุปฺปนฺนำ อชฌฺ ตฺต ำ ว� พหิทธฺ � ว�...อภิ สฺ หู ิตวฺ า อภสิ งขฺ ปิ ิตฺว�... อ.รูป อย่�งใดอย�่ งหนง่ึ ที่เป็นอดีต อน�คต และปัจจุบนั ยอ่ แลว้ สรุปแล้ว ซงึ่ รปู นั้น ในสว่ นหนงึ่ ในภ�ยใน หรอื หรือว่� ในภ�ยนอก... - พหทิ ธฺ � ในภ�ยนอก เช่น พหิทฺธ� ธมมฺ �. อ.ธรรม ท. ในภ�ยนอก - พ�หิร� ในภ�ยนอก เชน่ พ�หริ � อ�ลนิ ฺเท นสิ ีท.ิ น่ังแลว้ ทรี่ ะเบียง ในภ�ยนอก - พ�หิรำ ในภ�ยนอก เช่น พ�หริ ำ อ�ลนิ ฺเท นิปนฺโน. นอนแลว้ ที่ระเบยี ง ในภ�ยนอก
300 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม - พหิ ในภ�ยนอก เช่น พห ิ อ�ลินเฺ ท นปิ นฺโน. นอนแล้ว ทร่ี ะเบียง ในภ�ยนอก - โอร ำ ในฝั่งนี้, ท่ีฝงั่ ใน เช่น โอรำ สมทุ ทฺ สฺส อติตตฺ รูโป. มีรูปอันไมอ่ มิ่ แหง่ สมุทร ในฝ่งั ใน - ป�รำ ในฝง่ั โนน้ , ทฝี่ งั่ นอก เชน่ ป�ร ำ สมุทฺทสสฺ ป ิ ปตฺถเยถ. พงึ ปร�รถน� แม้แห่งสมุทร ทฝ่ี ่งั นอก - อ�ร� ในทหี่ �่ งไกล เชน่ อ�ร� สิงฆฺ �มิ ว�ริชำ. อ.เร� ยอ่ มสดู กล่ิน ซึ่งปล� ในท่ีห่�งไกล - อ�รก� ในที่ห่�งไกล เช่น อ�รก� ปรวิ ชฺเชหิ. อ.ท่�น จงเว้น ในที่ห่�งไกล - ปจฉฺ � ในภ�ยหลัง เชน่ ปจฺฉ� น ห�เยถ. ไมพ่ งึ เสอ่ื ม ในภ�ยหลงั - ปเุ ร ในก�ลกอ่ น เช่น อหำ ปเุ ร สฺ มสิ สฺ ํ. อ.เร� จักส�ำ รวม ในก�ลก่อน - หุร ำ ในโลกอน่ื เชน่ อิธ ว� หุร ำ ว�. ในโลกน้ี หรือ หรือว�่ ในโลกอน่ื - เปจจฺ ในโลกหน�้ เชน่ ส เว เปจฺจ น โสจต.ิ อ.เข�แล ยอ่ มไม่เศร�้ โศก ในโลกหน�้ (๒๖) สมฺปต,ิ อายติ, อชชฺ , อปรชฺชุ, สุเว, เสฺว, ปรสุเว, หิยโฺ ย, ปเร, สชฺช,ุ สายํ, ปาโต, กาลํ, กลลฺ ,ํ ทวิ า, นตฺต,ํ นิจจฺ ํ, สตตํ, อภิณฺหํ, อภกิ ขฺ ณํ, มุห,ํ มหุ ุตตฺ ,ํ ภตู ปุพพฺ ํ, ปุรา, ยทา, ตทา และ กทา เปน็ ต้น ใชใ้ นอรรถกาลสตั ตม.ี - สมปฺ ติ บดั เดยี๋ วน,ี้ ในก�ลน้ ี เชน่ สมปฺ ติ ช�ตสฺส โพธิสตฺตสสฺ เทว� ฉตตฺ ำ ธ�รยสึ .ุ อ.เทวด� ท. กัน้ แล้ว ซ่งึ ร่ม แกพ่ ระโพธิสัตว์ ผเู้ กิดแลว้ ในบดั เดี๋ยวนี้ - อ�ยติ ในก�ลต่อไป เช่น อ�ยต ึ โทสำ นาฺ าย โย ก�เม ปฏิเสวต.ิ อ.บุคคลใด ยอ่ มเสพ ซึง่ ก�ม ท. เพร�ะไมร่ ู้ ซึ่งโทษ ในก�ลต่อไป - อชชฺ ในวันน้ี เช่น ตฺยชชฺ ปตุ ฺเต น ปสสฺ �มิ. อ.เร� ย่อมไม่เห็น ซึ่งบตุ ร ท. เหล�่ นนั้ ในวนั นี้ - อปรชชฺ ุ ในวันอ่ืนอกี เช่น มม กสิผลำ ภุ ฺชิตวฺ า อปรชชฺ ุ เอว ฉ�โต โหต.ิ อ.บคุ คล บรโิ ภคแล้ว ซึง่ ผลของก�รหว่�นไถ ของเร� เปน็ ผูห้ ิวแล้ว ในวันอ่ืนอีก น่ันเทยี ว ย่อมเปน็ - สุเว ในวันพร่งุ น ี้ เชน่ โก ชฺ า มรณ ำ สุเว. อ.ใคร พงึ รู้ ซง่ึ คว�มต�ย ในวนั พรุง่ นี้ - เสฺว ในวนั พร่งุ น้ี เชน่ ภนฺเต เสวฺ อมหฺ �กำ ภิกขฺ ำ คณฺหถ. ข้�แต่พระองค์ผเู้ จรญิ อ.พระองค ์ ขอจงรบั ซงึ่ ภกิ ษ� ของข�้ พระองค ์ ท. ในวนั พรุ่งนี้ - ปรสเุ ว ในวนั มะรนื น ้ี เช่น สเุ ว ว� ปรสเุ ว ว� มรณ ำ ว� ชวี ิต ำ ว� โก ช�เนยฺย. อ.ใคร พงึ ร้ ู ซึ่งคว�มต�ย หรือ หรอื ว�่ ซ่ึงชีวติ ในวนั พรุ่งน้ ี หรอื หรอื ว�่ ในวัน มะรนื น้ี - หยิ โฺ ย ในวนั ว�น เช่น หิยฺโยปิ ปเรป ิ ตย�เวตำ €านํ สมฺมชฺชิตำ. อ.ทน่ี ัน่ อันเธอนน่ั เทยี ว กว�ดแล้ว แมใ้ นวันว�น แม้ในวนั อน่ื หรอื ? - ปเร ในวันอนื่ เชน่ หยิ โฺ ยป ิ ปเรป ิ ตย�เวต ำ €านํ สมมฺ ชชฺ ิตำ. อ.ท่นี นั่ อันเธอนนั่ เทยี ว
กัณฑ์ ] นบิ าตบท 301 กว�ดแลว้ แม้ในวันว�น แม้ในวนั อืน่ หรอื ? - สชฺช ุ ในวันมีอย,ู่ ในวันน้ ี เช่น สชฺช ุ ป�ณหรำ มมเฺ ม ต�ฬน.ำ อ.ก�รนำ�ไปซึง่ สัตว ์ เปน็ ก�รชก ในจดุ ทสี่ �ำ คญั ของเร� ในวันน้ี - ส�ยำ ในเวล�เยน็ เชน่ ส�ย ำ นโิ คฺรธุป�คมึ. อ.เร� ได้เข้�ไปแลว้ สูต่ ้นไทร ในเวล�เยน็ - ป�โต ในเวล�เช้� เช่น ป�โต ปณิ ฺฑ�ย จรนฺติ. อ.ภิกษ ุ ท. ย่อมเท่ียวไป เพอ่ื บิณฑบ�ต ใน เวล�เช�้ - ก�ล ำ ในเวล�รุง่ ส�ง เช่น น�ยำ ก�ล ำ อก�ล ำ ว� อภิช�น�ติ กุกฺกุโฏ. อ.ไก่น้ ี ยอ่ มไม่รู้ว่� เวล�รุ่งส�ง หรอื ไมใ่ ช่เวล�รุง่ ส�ง - กลลฺ ำ ในคว�มสมควร เชน่ อกลฺลำ ม ำ พรฺ �หมฺ ณ�. อ.พร�หมณ ์ ท. ย่อมถ�ม ซึ่งเร� ในสิง่ ทไ่ี ม่สมควร - ทิว� ในเวล�กล�งวัน เช่น ทิว� ว� รตโฺ ต ว� หรนฺติ เย พลึ. อ.ชน ท.เหล�่ ใด ย่อมน�ำ ไป ซ่ึงพลกี รรม ในเวล�กล�งวัน หรือ หรือว่�ในเวล�กล�งคนื - นตฺตำ ในเวล�กล�งคืน เชน่ นตฺตำ รตฺติยำ ม�ล� ยสฺส�ติ นตฺตม�โล. อ.ระเบียบ ของตน้ ไม้ใด มอี ยู่ ในเวล�กล�งคนื เพร�ะเหตนุ นั้ อ.ต้นไมน้ ้ัน ช่อื ว�่ นตฺตม�ล. (ต้นกมุ่ , ไม้กะเช้�) - นจิ จฺ ำ แนน่ อน, เป็นนจิ เช่น ธมเฺ มส ุ นิจจฺ ำ อนุธมฺมจ�ร.ี อ.บคุ คลผู้ประพฤติซง่ึ ธรรมต�ม- สมควรโดยปกต ิ ในธรรม ท. เป็นนจิ - สตต ำ แนน่ อน, เปน็ ประจำ� เชน่ สตตนตฺ ิ นิรนฺตรำ. บทว�่ สตตำ ได้แกต่ ลอดไป - อภิณฺห ำ เนืองๆ เชน่ อภิณฺห ำ ปจฺจเวกขฺ ิตพพฺ ำ. อนั ภิกษุ พงึ พจิ �รณ� เนอื งๆ - อภิกฺขณ ำ เนืองๆ เช่น อภิกฺขณำ ปรชฺชติ. ย่อมยนิ ดี เนืองๆ - มหุ ุำ เนอื งๆ, บ่อยๆ เชน่ กึ ม ำ มหุ ำุ เปกฺขส ิ หฏฺ€โลโม. อ.ท่�น เป็นผ้มู ขี นอันลกุ แล้ว ยอ่ มมองด ู ซง่ึ เร� เนอื งๆ เพร�ะอะไร? - มหุ ตุ ตฺ ำ เพียงชว่ั ครู่ เช่น มหุ ุตตฺ มปิ เจ วิ ฺ,ู ปณฑฺ ติ ำ ปยิรุป�สต.ิ ห�กว�่ อ.ผู้รู้ ยอ่ มเข�้ ไป นงั่ ใกล ้ ซง่ึ บัณฑิต แมเ้ พียงชว่ั ครู่ - ภูตปุพพฺ ำ ในอดตี ก�ล เชน่ ภูตปุพพฺ ำ ภกิ ฺขเว. ดกู อ่ นภิกษุ ท. ในอดตี ก�ล (เคยมีม�แลว้ ) - ปุร� ในก�ลกอ่ น เช่น ทนฺเต อเิ ม ฉนิ ทฺ ตี ิ ปรุ � มร�มิ. อ.น�ยพร�น ตัดแล้ว ซ่งึ ง� ท. เหล�่ นี้ เพร�ะเหตนุ ั้น อ.เร� ย่อมต�ย ในก�ลกอ่ น - ยท� ในก�ลใด เช่น ยท� เต ววิ ทสิ ฺสนตฺ .ิ อ.ชน ท.เหล�่ นน้ั จกั ทะเล�ะกัน ในก�ลใด - ตท� ในก�ลน้ัน เช่น ตท� ปณณฺ รสโุ ปสโถ อโหส.ิ อ.วนั นั้น เปน็ วันอุโบสถ ๑๕ คำ่ ไดเ้ ปน็ แล้ว ในก�ลนั้น - กท� ในก�ลไหน เชน่ กท� อ�คโตส.ิ อ.ท่�น เปน็ ผู้ม�แล้ว ในก�ลไหน ย่อมเป็น
302 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม ตอ่ ไปน้ี เป็นนิบ�ตทไ่ี ม่ประกอบดว้ ยวิภัตติ ไมล่ งในอรรถของวิภตั ติ (๒๗) อปเฺ ปว, อปเฺ ปว นาม, นุ ใชใ้ นอรรถ สสํ ย คว�มสงสัย คล�งแคลงใจ อปเฺ ปว ไฉนหนอ เช่น อปฺเปว มำ ภคว� อฏ€ฺ กิ ํ โอวเทยฺย. ไฉนหนอ อ.พระผมู้ ีพระภ�ค พึงสง่ั สอน ซึ่งเร� ดว้ ยดี อปเฺ ปว น�ม ชอ่ื แม้ไฉน, ไฉนหนอ เช่น อปฺเปวน�ม อยม�ยสฺม� อนโุ ลมกิ �นิ เสน�สน�นิ ปฏเิ สวม�โน อฺมาราเธยยฺ . ไฉนหนอ? อ.ท�่ นผมู้ อี �ยุนี้ ใช้สอยอยู่ ซ่งึ เสน�สนะ ท. อันสปั ป�ยะ พงึ บรรล ุ ซึ่งพระอรหันต์ นุ หนอ เช่น กึ นุ โขสฺม,ิ กถำ นุ โขสมฺ ิ. อ.เร� จะเปน็ อะไรหนอแล ย่อมเป็น, อ.เร� จะเป็นอย่�งไรหนอแล ยอ่ มเปน็ (๒๘) อทธฺ า, อฺ ทตถฺ ุ, ตคฆฺ , ชาตุ, กาม,ํ สสกฺกํ ใชใ้ นอรรถ เอกํส โดยส่วนเดียว อทธฺ � แน่แท้ เชน่ อทฺธ� อ�วโุ ส ภคว� ช�นำ ช�น�ติ, ปสสฺ ำ ปสฺสติ. ดูก่อนท่�นผู้มอี �ยุ อ.พระผู้มีพระภ�ค เมอ่ื ร ู้ ยอ่ มตรสั ว่� ย่อมร,ู้ เมือ่ เห็น ย่อมตรัสว�่ ย่อมเห็น แน่แท้ อฺ ทตถฺ ุ โดยแนแ่ ท้ เชน่ อฺทตฺถุ มาณวกานฺเว สตุ ฺวา. ฟังแลว้ ซง่ึ คำ� ของม�ณพ ท.นนั่ เทยี ว โดยแนแ่ ท้ ตคฺฆ แน่แท ้ เช่น ตคฺฆ สคุ ต โพชฺฌงคฺ �. ข้�แต่พระสคุ ต อ.ธรรม ท.เหล�่ นน้ั เปน็ โพชฌงค ์ แนแ่ ท้ ช�ตุ โดยแน่แท้ เชน่ อทิ ฺหิ ชาตุ เม ทิฏ€ฺ ํ, นยิทํ อติ ิหตี หิ ํ. ก ็ อ.คว�มเปน็ พระอรหนั ต์ น ี้ อันเร� เหน็ แลว้ โดยแนแ่ ท้, อ.คว�มเปน็ พระอรหันต์น้ี ไม่ใช่ เรอื่ งเล�่ ต่อๆ กันม� ก�มำ แน่แท ้ เชน่ ก�มำ จช�ม อสุเรสุ ป�ณ.ำ อ.เร� ท. จะสละ ซ่ึงชีวิต ในอสูร ท. เปน็ แนแ่ ท้ สสกกฺ ำ แน่แท ้ เชน่ เอวรูปํ เต ร�หุล ก�เยน กมฺมำ สสกฺกำ น จ กรณียำ. ดูกอ่ นร�หลุ อ.กรรม อันเห็นป�นน้ ี อันเธอ ไมค่ วรกระท�ำ ดว้ ยก�ย อย่�งแน่แท้ (๒๙) เอว ใชใ้ นอรรถ อวธารณ ก�รตดั สนิ เอว นัน่ เทียว, เท�่ น้นั เชน่ ปพุ ฺเพว เม ภกิ ขฺ เว สมโฺ พธ� อนภิสมพฺ ทุ ฺธสฺส โพธสิ ตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ. ดกู ่อนภิกษุ ท. อ.คว�มปริวิตกน้ ี ไดม้ ีแลว้ แกเ่ ร�
กณั ฑ์ ] นิบาตบท 303 ผ้มู ไิ ดต้ รสั รสู้ ัมโพธิญ�ณ ผเู้ ป็นพระโพธิสัตวน์ นั่ เทยี ว มีอยู ่ ในก�ลกอ่ นน่นั เทียว แต่ก�ลเป็นทีต่ รสั รู้ (๓๐) กจฺจิ, น,ุ กนิ นฺ ,ุ นนุ, กถ,ํ กึส,ุ กึ ใช้ในอรรถ ปจุ ฉฺ น ก�รถ�มปัญห� กจจฺ ิ หรือ, แลหรอื เชน่ กจฺจิ ภิกขฺ เว ขมนยี ำ, กจฺจ ิ ย�ปนยี .ำ ดกู อ่ นภกิ ษ ุ ท. อ.อัตภ�พ อนั เธอ ท. ยังพอทนไดห้ รือ, อ.อัตภ�พ อนั เธอ ท. ยังพอ ให้เปน็ ไป ได้หรอื ? น ุ หรือ เชน่ โก น ุ โข ภนฺเต เหต ุ สติ สฺส ป�ตุกมมฺ �ย. ข�้ แตพ่ ระองคผ์ ้เู จรญิ อ.อะไรหนอแล เป็นเหต ุ แหง่ ก�รแยม้ ทำ�ใหป้ ร�กฏ กนิ ฺนุ หรอื หนอ, เหตุใด เชน่ กินฺน ุ สนตฺ รม�โนว. รีบเรง่ อยูเ่ ทียว เพร�ะเหตอุ ะไรหนอ? กถำ อย�่ งไร เชน่ กถ ำ ส ุ ตรติ โอฆำ. ยอ่ มข้�ม ซ่งึ โอฆะ(หว้ งนำ้ ) ได้อย�่ งไร? กสึ ุ อะไรสิ เช่น กสึ ุ เฉตวฺ � สุขำ เสติ. อ.บุคคล ตัดแลว้ ซงึ่ อะไรสิ ยอ่ มนอน เปน็ สุข กึ อะไร เชน่ กึ เสวม�โน ลภตีธ ปฺ.ํ อ.บคุ คล ในโลกน ี้ เสพอย ู่ ซ่งึ อะไร ยอ่ มได้ ซงึ่ ปญั ญ� (๓๑) เอว,ํ อิติ, อติ ฺถํ ใชใ้ นอรรถ นิทสสฺ น ชแ้ี จง แสดงตัวอย่�ง เอว ำ อย�่ งน้ ี เช่น เอวมปฺ ิ เต มโน. อ.ใจ ของเธอ แมอ้ ย่�งนี้ อิติ อย�่ งน ้ี เช่น อติ ิปิ เต มโน. อ.ใจ ของเธอ แม้อย�่ งนี้ อิตฺถ ำ อย�่ งนี้ เชน่ อติ ฺถมปฺ ิ เต มโน. อ.ใจ ของเธอ แมอ้ ย�่ งนี้ (๓๒) อิติ เพร�ะเหตนุ ัน้ , จบแลว้ , ดงั นี้แล - เหตุ เพร�ะเหตนุ ั้น เช่น ส�สตีต ิ สตฺถ�. ยอ่ มส่งั สอน เพร�ะเหตนุ ั้น ชื่อว่�พระศ�สด�. -ว�กยฺ ปรสิ มตฺต ิ จบค�ำ พูด, ดงั นี้แล เช่น อิติ ปทรปู สิทฺธิย ำ สนธฺ ิกณโฺ ฑ ป€โม. อ.สนธกิ ณั ฑ ์ อันเปน็ กัณฑ ์ ท ี่ ๑ ในคมั ภีรป์ ทรปู สิทธ ิ จบแลว้ (๓๓) ยาว, ตาว, ยาวตา, ตาวตา, กติ ตฺ าวตา, เอตฺตาวตา, กีว ใชใ้ นอรรถ ปริจฺเฉทน ก�รก�ำ หนด ย�ว เพียงใด เช่น ย�วสสฺ ก�โย €สฺสติ. อ.พระวรก�ย ของพระผู้มีพระภ�คนั้น จกั ดำ�รงอยู ่ เพียงใด? ต�ว เพยี งนัน้ เช่น ต�ว นำ ทกขฺ นตฺ ิ เทวมนสุ สฺ �. อ.เทวด�และมนษุ ย์ ท. ย่อมเหน็ ซึ่งพระวรก�ยนนั้ เพียงนน้ั ย�วต� เพยี งใด เชน่ ย�วต� ภิกฺขเว ก�สิโกสล�. ดูก่อนภิกษุ ท. อ.แควน้ ก�ส ี และ แควน้ โกศล ท. มีอยู ่ เพยี งใด?
304 รูปสิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม ต�วต� เพียงนั้น เชน่ ต�วต� ตวฺ ำ ภวสิ สฺ สิ อิสิ ว� อสิ ิตถฺ �ย ว� ปฏปิ นโฺ น. อ.เธอ เปน็ ฤาษ ี หรอื หรอื ว่� เป็นผูป้ ฏบิ ัต ิ เพ่อื คว�มเป็นฤาษ ี เพยี งนัน้ กิตฺต�วต� มีประม�ณเพียงไร เช่น กติ ฺต�วต� น ุ โข ภนเฺ ต อปุ �สโก โหตตี .ิ ข้�แตพ่ ระองคผ์ ู้เจรญิ อ.บุคคล ชอ่ื ว่�เป็นอุบ�สก ดว้ ยเหตุมปี ระม�ณเท่�ไร? หนอแล ยอ่ มเป็น ดงั นี้ เอตตฺ �วต� มีประม�ณเพยี งนี้ เชน่ เอตฺต�วต� โข มห�น�ม อปุ �สโก โหตีติ. ดกู ่อนมห�น�มะ อ.บคุ คล ช่อื ว่�เปน็ อุบ�สก ด้วยเหตุมีประม�ณเพียงนแ้ี ล ย่อมเปน็ ดงั น้ี กีว เพียงไร เชน่ กีว ทโู ร ค�โม. อ.หม่บู �้ น ไกล เพียงไร? (๓๔) เอวํ, สาหุ, ลหุ, โอปายกิ ํ, ปติรูป,ํ อาม, สาธุ ใชใ้ นอรรถ สมฺปฏจิ ฺฉน ก�รรับคำ� เอว ำ อย่�งน้ัน เชน่ เอว ำ ภนฺเตติ โข เต ภกิ ขฺ ู ภควโต ปฏสิ ฺสุตฺว�. อ.ภิกษุ ท.เหล�่ น้นั รบั แล้ว ซง่ึ พระดำ�รสั ของพระผมู้ พี ระภ�ค ว่� ข�้ แตพ่ ระองค ์ ผู้เจรญิ อ.อย�่ งนนั้ ส�หุ ดีแลว้ เช่น ส�หตู ิ. รับแล้ว ว่� อ.ดีละ ดงั นี้ ลหุ เบ�, ไม่เป็นไร เชน่ ลหูติ. รับแลว้ ว�่ ไมเ่ ปน็ ไร ดังนี้ โอป�ยิกำ เหม�ะสม เช่น โอป�ยกิ นฺติ. รบั แล้วว�่ เหม�ะสมแล้ว ดังนี้ ปติรูปํ สมควร เชน่ ปติรูปนตฺ ิ. รับแล้วว�่ สมควรแล้ว ดงั นี้ อ�ม ครบั , ค่ะ เชน่ อ�ม�วโุ ส ช�น�มิ. ดูก่อนผู้มีอ�ย ุ ครบั อ.ผม ยอ่ มรู้ ส�ธุ ดีละ, ครับ, ค่ะ เช่น ส�ธุ สฏุ €ฺ ุ ภนเฺ ต สำวรสิ ฺส�มิ. ข�้ แตท่ ่�นผเู้ จรญิ ดีละ อ.กระผม จักส�ำ รวม ดว้ ยดี (๓๕) ยถา, ตถา, ยเถว, ตเถว, เอว,ํ เอวเมว, เอวเมว,ํ เอวมฺปิ, ยถาปิ, เสยฺยถาป,ิ เสยยฺ ถาปิ นาม, วยิ , อิว, ยถรวิ , ตถริว, ยถานาม, ตถานาม, ยถาห,ิ ตถาห,ิ ยถาจ, ตถาจ ใชใ้ นอรรถ ปฏิภาค ก�รเปรียบเทียบ ลกั ษณะทเ่ี หมอื นกัน ยถ� ฉันใด เช่น นครำ ยถ� ปจฺจนฺต ำ คุตตฺ ำ สนฺตรพ�หิรำ. อ.เมือง อันตั้งอย ู่ ในท่สี ุด ปล�ยแดน อันบคุ คล ค้มุ ครองแลว้ ในภ�ยในและในภ�ยนอก ฉันใด ตถ� ฉนั นน้ั เช่น ตถปู มำ สปปฺ รุ ิส ำ วท�มิ. อ.เร� ย่อมกล่�ว ซง่ึ สตั บรุ ษุ ว่�ไมห่ วัน่ ไหว อันมีเส�เขอื่ นเป็นเครื่องเปรียบ ฉันน้นั ยเถว ฉันใดนัน่ เทียว เช่น ยเถว ตฺย�หำ วจนำ. อ.เร� จะทำ� ซึ่งค�ำ ของท่�น ฉนั ใดนนั่ เทียว
กัณฑ์ ] นิบาตบท 305 ตเถว ฉนั น้ันน่ันเทยี ว เช่น ตเถว สทฺโธ สุตว� อภสิ งฺขจฺจ โภชนำ. อ.บคุ คลผู้มีศรัทธ� เปน็ พหูสูตร ปรงุ แตง่ แลว้ ซงึ่ โภชนะ ยอ่ มเล้ียงด ู ใหอ้ ิม่ หน�ำ เหมอื นอย่�งนั้นน่นั เทียว เอวำ ฉันน้ัน เช่น เอวำ วิชติ สงคฺ �ม ำ สตถฺ ว�หำ, อนตุ ตฺ รำ. อ.ส�วก ท. ยอ่ มบำ�รุง ซึ่งพระ ผูม้ พี ระภ�ค ผู้ยอดเยยี่ ม เป็นดุจน�ยกองเกวยี น ผูม้ สี งคร�ม อนั ชนะแลว้ เหมอื นอย่�งนัน้ เอวเมว ฉนั นน้ั นั่นเทียว เชน่ เอวเมว ตวฺ มปฺ ิ ปมุ จฺ สฺสุ สทฺธ.ำ แม้ อ.เธอ จงปลอ่ ย ซ่ึงศรัทธ� เหมอื นอย�่ งน้นั น่นั เทยี ว เอวเมว ำ ฉนั นน้ั นัน่ เทยี ว เช่น เอวเมวำ โภต� โคตเมน อเนกปรยิ �เยน ธมโฺ ม ปก�สิโต. อ.พระธรรม อันพระโคดม ผเู้ จรญิ ทรงประก�ศแลว้ โดยอเนก ปรยิ �ย ฉันน้ันนัน่ เทยี ว เอวมปฺ ิ แมฉ้ ันน้ัน เช่น เอวมฺปิ โย เวทคู ภ�วิตตโฺ ต. อ.บุคคลใด ผู้มตี นอันอบรมแล้ว เปน็ ผถู้ ึงซง่ึ พระนพิ พ�น แม้ฉนั นั้น ยถ�ปิ แมฉ้ ันใด, ฉนั ใด เชน่ ยถ�ป ิ รหโท คมฺภีโร วิปปฺ สนโฺ น อน�วิโล. อ.ห้วงน้ำ อนั ลกึ อนั ใส สะอ�ดแลว้ ไม่ขุ่นมวั แมฉ้ นั ใด เสยฺยถ�ปิ แม้ฉนั ใด เช่น เสยฺยถ�ปิ ภิกฺขเว มห�รุกโฺ ข. ดูกอ่ นภกิ ษุ ท. อ.ตน้ ไมใ้ หญ ่ แมฉ้ ันใด เสยยฺ ถ�ป ิ น�ม ชื่อแมฉ้ ันใด เชน่ เสยยฺ ถ�ป ิ น�ม มหต ี นงคฺ ลสีส�. อ.งอนไถ อันใหญ ่ ชอ่ื แมฉ้ นั ใด วิย ร�วกะ, ดจุ เชน่ หตฺถิปปฺ ภนิ ฺนำ วยิ องฺกสุ คคฺ โห. ร�วกะ อ.น�ยคว�ญช้�ง ปร�บอย่ ู ซ่ึงช�้ งตัวตกมัน อิว เพียงดงั , เหมอื น เช่น ตลู ำ ภฏฺ€ํว ม�ลโุ ต. เพียงดงั อ.ลม พัดไปอย ู่ ซ่งึ ปุยนุ่น ใหล้ อยไป ยถริว ฉันใดน่ันเทยี ว, เหมือน เชน่ ยถริว โภต� โคตเมน. เหมือนกบั พระโคดมผเู้ จรญิ ตถริว ฉนั นน้ั นัน่ เทยี ว,เหมือน เชน่ ตถรวิ ภคว�. เหมอื นพระผู้มีพระภ�คเจ้� ยถ�น�ม ช่อื ฉนั ใด เช่น ยถ�น�ม วิปปฺ ว�ส� อ�คต ำ ปตุ ตฺ ำ ม�ต� สก ึ อภินนทฺ ต.ิ อ.ม�รด� ผ้อู ยปู่ ร�ศจ�ก เหน็ แลว้ ซ่ึงบุตร ผมู้ �แลว้ ยอ่ มยนิ ดียิง่ ครงั้ หน่ึง ชอื่ ฉนั ใด ตถ�น�ม ช่ือฉนั นัน้ เช่น ตถ�น�ม ภคว�. เหมือนพระผูม้ พี ระภ�คเจ�้ ยถ�หิ ฉันใด เช่น ยถ�หิ เมโฆ ถนย.ำ อ.เมฆ ค�ำ ร�มอยู ่ ฉนั ใด. ตถ�หิ ฉันนั้น เชน่ ตถ�หิ ภคว�. เหมอื นพระผู้มพี ระภ�คเจ้� ยถ�จ ฉนั ใด เช่น ยถ�จ มห�ร�ช. ข้�แตม่ ห�บพิตร ...ฉนั ใดนนั่ เทยี ว. ตถ�จ ฉันน้นั เช่น ตถ�จ ภคว�. เหมือนพระผู้มพี ระภ�คเจ้�
306 รูปสิทธิทปี นี [ ๒. นาม (๓๖) ยถา สมควรแก่สภ�พ, กล่�วซ้ำ, ต�มล�ำ ดบั , แสดงตวั อย่�ง - โยคตตฺ � คว�มเหม�ะสม เช่น ยถ�รปู ํ อุปสหำ รติ. ย่อมน้อมเข�้ ไป ต�มสมควร - วิจฉฺ � กล่�วซำ้ เช่น เย เย วฑุ ฒฺ � ยถ�วฑุ ฺฒำ. อ.ผู้เจรญิ ท.ใดใด ชอ่ื ว่�ยถ�วุฑฒฺ - ปทตฺถ�นติวตฺต ไม่ข้�มอรรถของบท เชน่ ยถ�กฺกม.ำ ต�มลำ�ดับ - นทิ สฺสน แสดงตวั อย�่ ง เชน่ โก คสฺส. ยถ� กุลปู โก. อ.ก�รแปลงเปน็ ก แหง่ ค ย่อมมี เช่น กลุ ปู โก (ผู้เข�้ ไปสู่ตระกูล) (๓๗) เอวํ อย�่ งน,้ี อย�่ งนห้ี รอื - อุปเทส - ปหฺ ชแ้ี นะ, บอกวธิ ี เชน่ เอว ำ เต อภกิ กฺ มิตพพฺ ำ. อันเธอ พงึ ก�้ วไปข้�งหน�้ อย่�งนี้ ก�รถ�ม เช่น เอว ำ กริ อก�สิ. ได้ยินว่� อ.เธอ ไดก้ ระทำ�แล้ว อย่�งนหี้ รอื ? (๓๘) กิจฺ าปิ ใช้ในอรรถ อนุคคฺ หณ ก�รคล้อยต�ม กิจฺ าปิ แม้กจ็ ริง เช่น กิจฺ าปิ เม ภนฺเต ภคว� สทธฺ �ยโิ ก ปจฺจยโิ ก. ข้�แต่พระองค์ ผเู้ จริญ อ.พระผมู้ พี ระภ�ค เป็นผู้อนั ข�้ พระองค์ควรศรัทธ� ควรเช่ือ แมก้ จ็ รงิ (๓๙) อโห พิโธ,่ โอ, น�่ อศั จรรย ์ - ครห ก�รตเิ ตยี น เช่น อโห วต เร อสมฺ �กำ ปณฺฑติ ก. ดกู ่อนบัณฑติ ผู้น่�รังเกยี จ - ปสสำ น ของเร� ท. โอหนอ - ปตถฺ น ก�รสรรเสรญิ เชน่ อโห พทุ ฺโธ, อโห ธมโฺ ม, อโห สโำ ฆ. โอ อ.พระพทุ ธเจ�้ , โอ อ.พระธรรม, โอ อ.พระสงฆ์ คว�มปร�รถน� เช่น อโห วต มํ อรฺเ วสมานํ รชเฺ ช อภสิ ิเฺ จยยฺ . โอหนอ อ.มห�ชน พึงอภิเสก ซง่ึ เร� ผอู้ ยู่ ในป�่ ในคว�มเปน็ แหง่ พระ ร�ช� (๔๐) นาม ชอ่ื , ชอื่ ว่�, หนอ, หรอื - ครห ก�รตเิ ตยี น เช่น อตถฺ ิ น�ม ต�ต รฏฺ€ปาล อมฺห�ก.ำ แน่ะพ่อรัฐบ�ล อ.ทรพั ย์ ของเร� ท. มีอย่หู นอ - ปสำสน ก�รสรรเสรญิ เช่น ส�วก�ป ิ น�ม เอว ำ มหิทธฺ กิ �. ชื่อ แม้ อ.ส�วก ท. เปน็ ผมู้ ฤี ทธ์ิม�ก อย�่ งน ี้ ย่อมเปน็
กณั ฑ์ ] นิบาตบท 307 - สฺ า ชื่อ เช่น วิส�ข� น�ม อุป�สิก�. อ.อบุ �สกิ �ช่ือว่�วสิ �ข� เช่น อตถฺ ิ น�ม ต�ต สุทนิ นฺ . แน่ะพอ่ สทุ นิ อ.ทรพั ย์ ของเร� มอี ย ู่ - ปหฺ ก�รถ�มปัญห� มิใชห่ รือ?, ก ึ น�เมตำ. อ.ข้อนน้ั ชอื่ อะไร? (๔๑) สาธุ ดลี ะ, ขอโอก�ส เช่น ส�ธุ ส�ธ ุ ส�รปิ ุตตฺ . ดกู ่อนส�รีบตุ ร อ.ดลี ะๆ - ปสำสน ก�รสรรเสรญิ เช่น ส�ธ ุ เม ภนเฺ ต ภคว� ธมฺม ำ เทเสตุ. ข�้ แต่พระองคผ์ ู้เจรญิ - ย�จน ก�รขอ, ขอโอก�ส ขอประท�นวโรก�ส อ.พระผู้มีพระภ�ค ขอจงแสดง ซงึ่ ธรรม แกข่ ้�พระองค์ (๔๒) อิงฆฺ , หนฺท ใช้ในอรรถ โจทน ก�รกระตุ้นเตือน อิงฺฆ เชิญเถอะ เชน่ อิงฆฺ เม ตฺว ำ อ�นนทฺ ป�นยี ำ อ�หร. ดกู อ่ นอ�นนท์ เชิญเถอะ อ.เธอ จงน�ำ ม� ซ่ึงนำ้ ดื่ม แก่เร� หนฺท เชิญเถดิ , เอ�เถอะ เช่น หนทฺ ท�น ิ ภกิ ขฺ เว อ�มนตฺ ย�ม ิ โว วยธมมฺ � สงขฺ �ร�, อปปฺ ม�เทน สมปฺ �เทถ. ดกู ่อนภิกษุ ท. เอ�เถอะ ในก�ลน้ ี อ.เร� ขอเตือน ซึ่งเธอ ท.ว�่ อ.สงั ข�ร ท. มีคว�มเส่อื มไปเปน็ ธรรมด�, อ.เธอ ท. ยังกิจ จงให้ถึงพร้อม ด้วยคว�มไม่ประม�ทเถดิ (๔๓) สาธ,ุ สฏุ ฺ€,ุ เอวเมตํ ใช้ในอรรถ อนุโมทน ก�รพลอยยนิ ดี ส�ธุ ดแี ล้ว เชน่ ส�ธุ เต กต.ำ อ.กรรม อนั ท�่ น กระท�ำ แล้ว ดแี ลว้ สุฏฺ€ ุ ดแี ล้ว เช่น สฏุ €ฺ ุ เต กต.ำ อ.กรรม อันท�่ น กระท�ำ แล้ว ดแี ลว้ เอวเมต ำ ข้อนช้ี อบแลว้ เชน่ เอวเมต ำ มห�ร�ช. ข้�แตม่ ห�บพิตร อ.ข้อน้ ี ชอบแลว้ (๔๔) กิร ไดย้ นิ ว่� - อนุสฺสวน ไดฟ้ งั ต�มกนั ม� เชน่ เอวำ กริ อก�สิ. ไดย้ นิ ว่� อ.เธอ ได้กระท�ำ แล้ว อย�่ งน้หี รอื ? เช่น เกจิ กริ วทนตฺ ิ. ได้ยนิ ว่� อ.อ�จ�รย ์ ท. บ�งพวก ย่อมกล�่ ว - อสฺสทเฺ ธยยฺ ไม่เช่ือถอื (๔๕) นนู แน,่ จรงิ ๆ, หนอ - อนุม�น ค�ดคะเน, เป็นแน่แท้ เช่น นนู หิ น โส ธมฺมวินโย โอรโก, น ส� โอรก� ปพพฺ ชฺช�. อ.พระธรรม วนิ ยั นนั้ เห็นจะไมต่ ำ่ เปน็ แน่แท,้ อ.บรรพช�นัน้ เหน็ จะไม่ตำ่ เป็นแน่แท้
308 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม - อนุสสฺ รณ หวนระลึก เชน่ ส� นูน กปณิย� อนฺธ� อปริณ�ยิก�. อ.ช้�งพ�ยน้ัน เป็นช�้ ง ก�ำ พร้� ต�บอด ไม่มีผ้นู ำ�ท�ง ช่�งน�่ สงส�รจริงๆ เช่น ยนฺนนู �หำ อนุปขชฺช ชวี ิต� โวโรเปยฺยำ. ไฉนหนอ? อ.เร� เข้�ไปใกล้ แล้ว พงึ ปลงลง จ�กชีวิต - ปริวติ กกฺ น คว�มด�ำ ริ (๔๖) กสมฺ า ใชใ้ นอรรถ การณปจุ ฉฺ น ก�รถ�มถงึ เหตุก�รณ์ กสฺม� เพร�ะเหตอุ ะไร เช่น กสมฺ า ภวํ วชิ นมรฺนิสฺสิโต. อ.ท่�น(พระโคดม) อ�ศยั แล้ว ซ่ึงป่�ทป่ี ร�ศจ�กคน เพร�ะเหตุไร? (๔๗) ยสมฺ า, ตสฺมา, ตถาห,ิ เตน ใชใ้ นอรรถ การณจเฺ ฉทน ก�รก�ำ หนดขอบเขตของเหต,ุ ก�รตัดเหตุ ยสมฺ � เพร�ะเหตุใด เช่น ยสฺม� จ โข ภกิ ฺขเว รูปํ อนตฺต�. ดกู ่อนภกิ ษ ุ ท. อ.รูป เปน็ อนตั ต� เพร�ะเหตใุ ดแล ตสมฺ � เพร�ะเหตนุ ั้น เชน่ ตสฺม� รปู ํ อ�พ�ธ�ย สำวตฺตติ. เพร�ะเหตนุ ้ัน อ.รปู ยอ่ มเป็นไป เพ่ืออ�พ�ธ ตถ�ห ิ เพร�ะเหตนุ น้ั เช่น ตถ�หิ ปน เม อยฺยปุตตฺ � ภคว� นิมนตฺ ิโต สฺว�ตน�ย ภตฺต ำ สทธฺ ึ ภกิ ขฺ สุ ำเฆน. ข้�แตพ่ ระคณุ เจ้� ท. ก็เพร�ะเหตุนน้ั แล อ.พระผ้มู ี พระภ�ค อันดิฉัน นมิ นตแ์ ล้ว เพื่อฉนั ซึง่ อ�ห�ร อันจะมใี นวันรุง่ ขึ้น กับ ดว้ ยหม่แู ห่งภกิ ษุ เตน เพร�ะเหตนุ น้ั เชน่ สุ ฺํ เม อค�รำ ปวิสติ พฺพำ อโหสิ, เตน ป�วิสนิ ฺติ. อ.เรือน อนั ว่�ง อันเร� พงึ เข�้ ไป ไดม้ ีแล้ว, เพร�ะเหตุน้นั อ.เร� ไดเ้ ข�้ ไปแล้ว (๔๘) สห, สทฺธ,ึ สม,ํ อมา ใช้ในอรรถ สมกฺริยา กระทำ�พร้อมกนั สห กับ เช่น เวเทโห สหมจเฺ จห ิ อุมงเฺ คน คมสิ สฺ ต.ิ อ.พระเจ�้ เวเทหะ จกั เสดจ็ ไป โดยท�งอุโมงค์ กบั ด้วยอำ�ม�ตย ์ ท. สทธฺ ึ กับ เช่น มย� สทฺธ ึ คมสิ ฺสติ. อ.เข� จกั ไป กบั ดว้ ยข้�พเจ้� สม ำ เสมอ เช่น สหสเฺ สน สมำ มิต�. ถกู เปรยี บเทียบแล้ว เสมอ ด้วยพนั อม� กับ เช่น สพฺพกิจเฺ จสุ อม� รฺ า วตฺตติ. อ.บคุ คลใด ยอ่ มเป็นไป กับ ด้วยพระร�ช� ในกจิ ทั้งปวง ท. (๔๙) วินา, ริเต ใช้ในอรรถ วิปฺปโยค ก�รไม่ประกอบ ก�รพลดั พร�ก วิน� เว้น เชน่ วิน� สทฺธมมฺ � นตฺถฺโ โกจ ิ โลเก น�โถ วิชชฺ ต.ิ อ.ทพี่ ง่ึ อะไรๆ
กณั ฑ์ ] นบิ าตบท 309 เว้น มอี ยู่ ในโลก, อ.ทพ่ี ึง่ อนื่ เว้น จ�กพระสทั ธรรม ย่อมไม่มี ริเต เช่น รเิ ต สทธฺ มฺม� กโุ ต สุข.ำ อ.คว�มสุข เว้น จ�กพระสทั ธรรม จกั มี แตท่ ่ไี หน (๕๐) นานา, ปุถุ ใช้ในอรรถ พหปุ ฺปการ มีประก�รต่�งๆ จ�ำ นวนม�ก น�น� ต�่ ง เช่น น�น�ผลธร� ทมุ �. อ.ต้นไม้ ท. ทรงไว้ซ่งึ ผลต�่ งๆ ปุถ ุ จำ�นวนม�ก, ต�่ งๆ เช่น ปถุ ุ สมณพรฺ �หฺมณ�. อ.สมณะและพร�หมณ์ ท. จ�ำ นวนม�ก (๕๑) ปุถ,ุ วิสำุ ใช้ในอรรถ อสงฆฺ าต ไม่เกย่ี วข้องกนั ปุถ ุ ต�่ งห�ก เชน่ อริเยหิ ปถุ ุ ภโู ต ชโน. อ.ชน เป็นผูต้ �่ งห�ก จ�กพระอริยะ ท. วิสุ ำ เฉพ�ะ, ต่�งห�ก เชน่ วสิ ำุ วิสุำ รกฺขณตฺถ�ย. เพ่ือประโยชน์แกก่ �รรักษ� เฉพ�ะข้อๆ (๕๒) ทุฏ€ฺ ุ, ก ุ ใชใ้ นอรรถ ชคิ ุจฉฺ า น่�รังเกยี จ ทฏุ ฺ€ุ ไม่ด ี เชน่ อโสภณ ำ กตำ ทกุ ฺกฏำ. อ.กรรมอันถูกกระทำ�แลว้ ไมด่ ี ช่อื ว�่ ทกุ กฏ กุ น�่ รงั เกยี จ เชน่ กปุ ุริโส บรุ ษุ ผนู้ �่ รงั เกียจ (๕๓) ปนุ ใชใ้ นอรรถ อปฺป€ม ในทไี่ ม่ใชค่ รั้งแรก ปุน อีก เชน่ ปนุ วท�ม.ิ อ.ข้�พเจ�้ จะกล่�ว อกี (๕๔) กถฺจิ ใชใ้ นอรรถ กิจฺฉ ย�ก, ล�ำ บ�ก กถจฺ ิ ย�กล�ำ บ�ก เชน่ โก จ�ป ิ ปชชฺ ลติ โลหคฬุ ำ คเหต ำุ สกโฺ กต ิ กถจฺ ทิ ป ิ ป�ณติ เลน ภมู .ึ แม้อ.ใครเล่� ยอ่ มอ�จ เพ่ืออันจบั ซึ่งกอ้ นเหล็กอนั ลุกโพรงแลว้ บนพ้ืนดิน แมด้ ว้ ยฝ่�มอื อย่�งย�กลำ�บ�ก (๕๕) ธ�, กฺขตตฺ ำุ, สกึ ใช้ในอรรถ สงขฺ ฺยาวภิ าค ก�รจ�ำ แนกสงั ขย�(จ�ำ นวน) ธ� ส่วน, อย่�ง, ประก�ร เช่น เอกธ�. หน่ึงสว่ น กขฺ ตตฺ ำุ ครง้ั เช่น ตกิ ขฺ ตตฺ ุ ำ ปทกฺขิณำ กตฺว�. กระท�ำ ปทักษณิ ส�มคร้ัง สก ึ ครั้งเดียว เช่น สกึ นมิ คุ ฺโค. ดำ�ลงแล้ว คร้งั เดยี ว (๕๖) อีสกํ ใชใ้ นอรรถ อปฺป เลก็ น้อย อสี ก ำ นดิ หนอ่ ย, เลก็ น้อย เช่น อสี ก ำ หสต.ิ ยอ่ มย้ิม เล็กน้อย
310 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม (๕๗) สณิกํ ใชใ้ นอรรถ มนทฺ เบ�ๆ ค่อยๆ สณิก ำ ค่อยๆ, เบ�ๆ เช่น สณกิ ำ มนทฺ มกฺขิก ำ อปเนตวฺ �. นำ�ออกแล้ว ซึ่งผง้ึ ตวั อ่อน ค่อยๆ (๕๘) ขิปปฺ ,ํ อรำ, ลห,ุ อ�ส,ำุ ตุณณฺ ำ, อจริ ำ ใชใ้ นอรรถ สีฆ เร็ว ขปิ ปฺ ํ พลนั เชน่ ขปิ ฺปเมว สมิชฌฺ ตุ. อ.มโนรถ ขอจงส�ำ เร็จ ฉับพลันน่นั เทียว อร ำ เร็ว, พลัน เช่น อรำ สีฆำ ชร� อสสฺ �ต ิ อรฺชโร. อ.คว�มคร�ำ่ คร�่ เรว็ ของน้ำสม้ นั้น มอี ย ู่ เพร�ะเหตนุ ั้น ช่ือว่�อรชฺ ร. (น้ำส้ม) ลห ุ เรว็ , พลนั เช่น ลห ุ อตถฺ ำ วจิ นิ ฺตก�. อ.บคุ คลผู้ดำ�ร ิ ท. ซึ่งประโยชน ์ เรว็ อ�สำ ุ เร็ว, พลัน เช่น อ�สุ ำ คมนตฺถ�ย อสโฺ ส. อ.ม้� ย่อมม ี เพอื่ ประโยชน์แก่ก�รไป เร็ว ตุณณฺ ำ เรว็ , พลนั เช่น ตุณฺณำ ว�ยตตี ิ ตุณณฺ ว�โย. ยอ่ มเยบ็ เรว็ เพร�ะเหตุน้นั ชอ่ื ว่� ตณุ ฺณว�ย. (ผู้เย็บเร็ว) อจิร ำ ไมน่ �น เช่น อจิร ำ วตย ำ ก�โย, ปถว ึ อธเิ สสสฺ ต.ิ อ.ก�ยนี ้ จักนอนทบั บนแผ่นดนิ ไมน่ �นหนอ (๕๙) จิร,ํ จริ สสฺ ํ ใช้ในอรรถ ทฆี กาล เวล�ย�วน�น จิรำ ก�ลน�น เชน่ จิรํ ติฏฺ€ตุ สทฺธมโฺ ม. อ.พระสัทธรรม ขอจงตง้ั อยู่ ตลอดก�ลน�น จริ สฺส ำ ก�ลน�น เช่น จริ สฺส ำ วต ปสสฺ �ม,ิ พฺร�หฺมณำ ปรนิ ิพฺพุตำ. อ.เร� ย่อมเหน็ ซ่งึ พระ อรหนั ตสมั ม�สัมพุทธเจ�้ ผ้ทู รงดบั กิเลสแลว้ สน้ิ ก�ลน�นหนอ (๖๐) เจ, ยทิ ใช้ในอรรถ สงกฺ าวฏฺ€าน กำ�หนดเง่ือนไข เจ ห�กว่� เช่น มฺเจ ตฺว ำ นิกขฺ ณ ำ วเน. ห�กว่� อ.ท่�น ฝังไว ้ ซง่ึ เร� ในป�่ ไซร้ ยทิ ผิว่� เช่น ยทิมสฺส โลกน�ถสสฺ , วริ ชฺฌิสสฺ �ม ส�สนำ. ผิว่� อ.เร� ท. จกั ผดิ ซง่ึ คำ�สอน ของพระโลกน�ถพระองคน์ ้ันไซร้ (๖๑) ธุวํ แน่นอน เชน่ นจิ จฺ ำ ธวุ ำ สสสฺ ต.ำ เท่ยี ง จรี ัง ยัง่ ยืน - ถริ ม่ันคง เช่น ธวุ ำ พุทฺโธ ภว�มหำ. อ.เร� จะเป็นพทุ ธเจ้� แน่แท้ จะเปน็ - อวธ�รณ ตดั สนิ , ชชี้ ดั (๖๒) หา ใช้ในอรรถ วสิ าท คว�มเหนอ่ื ยใจ ห� เฮ้ย เช่น ห� มฏ€ฺ กุณฑฺ ล.ี เฮ้ย มัฏฐกุณฑลี
กัณฑ์ ] นิบาตบท 311 (๖๓) ตณุ หฺ ี ใช้ในอรรถ อภาสน ก�รไม่กล่�ว ตณุ ฺห ี น่ิง เช่น ตุณหฺ ภี ูโต อทุ กิ เฺ ขยฺย. อ.เข� เปน็ ผู้น่ิง พงึ แลดู (๖๔) สจฉฺ ิ ใช้ในอรรถ ปจจฺ กขฺ คว�มประจกั ษแ์ ก่อนิ ทรีย์ สจฺฉิ แจง้ เช่น อรหตตฺ ผล ำ สจฺฉิ อก�สิ. อ.เข� ไดก้ ระท�ำ ให้แจ้งแลว้ ซงึ่ อรหตั ผล (๖๕) มุสา, มิจฉฺ า, อลิกํ ใชใ้ นอรรถ อสจฺจ คว�มไม่จรงิ เทจ็ มุส� เท็จ เชน่ ตุจฉฺ ำ มุส� วิลปนิ ฺต.ิ อ.ข�้ พเจ้� กล�่ วแล้ว ว่�งเปล่� เทจ็ มิจฉฺ � ผดิ เชน่ อทิ ำ โว มจิ ฺฉ�. อ.สง่ิ นี ้ เปน็ คว�มผดิ ของเธอ ท. อลิก ำ ไม่จรงิ , เหล�ะแหละ เช่น อลิก ำ ภ�สติ อย ำ ธตุ ฺโต. อ.นกั เลงก�รพนนั ผู้นี ้ ยอ่ มกล่�ว ซง่ึ ค�ำ ไม่จริง (๖๖) สวุ ตฺถิ ใชใ้ นอรรถ อาสสี คว�มหวัง คว�มปร�รถน� สวุ ตฺถ ิ คว�มสวสั ดี เช่น เอเตน สจฺเจน สุวตถฺ ิ โหตุ. ดว้ ยสจั จว�จ�น้ ี อ.คว�มสวัสดี ขอจงมี (๖๗) บททีม่ ี ตนุ , ตวฺ าน และ ตวฺ าปจั จัยเป็นทสี่ ดุ ใช้ในอรรถ อุสฺสุกฺกน คว�มพย�ย�มในก�รสืบตอ่ กิริย� หม�ยคว�ม ว�่ ยงั มกี ิริย�อ่ืนๆ ต่อไปอีก เป็น “ปพุ พฺ ก�ลกรฺ ิย�” กริ ยิ �ทท่ี ำ�ก่อนกริ ิย�ถัดไป ปสฺสิตนุ เหน็ แลว้ ปสสฺ ยิ เหน็ แล้ว ปสสฺ ิตฺว�น เห็นแลว้ ปสฺสิตฺว� เห็นแลว้ ทสิ วฺ � เห็นแลว้ ทิสฺว�น เห็นแลว้ ทสฺเสตวฺ � แสดงแลว้ ท�ตนุ ให้แล้ว ทตฺว�น ใหแ้ ลว้ ทตวฺ � ใหแ้ ล้ว อปุ �ท�ย ถือเอ�แลว้ ท�เปตวฺ � ให้ใหแ้ ล้ว วิ ฺาเปตฺวา ให้รู้แล้ว วเิ จยยฺ พจิ �รณ�แลว้ วเิ นยยฺ แนะนำ�แล้ว นิหจจฺ กระทบแล้ว สเมจฺจ สงบแล้ว อเปจจฺ ไปปร�ศแลว้ , ละไปแล้ว อเุ ปจจฺ เข้�ไปใกลแ้ ล้ว อ�รพภฺ ปร�รภแลว้ , เร่มิ แล้ว อ�คมมฺ อ�ศัยแลว้ จบ นบิ �ตบท ____________
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374