12 รูปสทิ ธิทปี นี [ ๒. นาม ๗๕. ยํ กโรติ ตํ กมฺมํ. ปุคฺคโล อ.บุคคล กโรติ ยอ่ มกระท�ำ ยำ (ก�รกำ) ซึ่งก�รกใด, ตำ (ก�รกำ) อ.ก�รกนั้น กมฺมํ มชี ือ่ ว�่ กรรม โหติ ยอ่ มเป็น. (บุคคลกระทำ�ก�รกใด ก�รกนนั้ มีชื่อว่�กรรม) สตู รนม้ี ี ๔ บท. เปน็ สัญญ�สตู ร. ๗๖. กมมฺ ตเฺ ถ ทุติยา. ทุตยิ � อ.ทุติย�วภิ ตั ต ิ โหติ ยอ่ มลง กมฺมตเฺ ถ ในอรรถกรรม. (ลงทุติย�วภิ ตั ติ ในอรรถกรรม) สตู รนีม้ ี ๒ บท. เปน็ วภิ ัตติวิธิสตู ร. ทำ�ตัวรูป ปุรสิ ํ ศัพทเ์ ดิมคอื = ปุรสิ หลงั ปุริส ลง อ ำ ทุตยิ �วิภตั ติ ปรุ สิ + อ ำ = กมมฺ ตฺเถ ทตุ ิย�. แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปรุ สิ ฺ อ + อ ำ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ ปรุ สิ ฺ อ + อ ำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทิมหฺ ิฯ น�ำ พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกบั สระ อ ปุริสำ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. สำ�เร็จรปู เปน็ ปุรสิ ํ. (ซง่ึ , สู่, ยัง, ส้ิน, ตลอด, กะ, เฉพ�ะบรุ ุษ) ทำ�ตัวรูป ปุรเิ ส ศพั ท์เดมิ คอื = ปุรสิ หลัง ปุรสิ ลง โย ทตุ ิย�วภิ ัตต ิ ปุริส + โย = กมมฺ ตฺเถ ทุตยิ �. หลังจ�กอก�รันต ์ แปลง โย เป็น เอ ปรุ สิ + โย เอ = สพพฺ โยนนี ม�เอ. แยกพยัญชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปรุ สิ ฺ อ + เอ = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกติ ปุริส ฺ อ + เอ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ หฺ ิฯ น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปุริเส = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ปรุ ิเส. (ซง่ึ , ส,ู่ ยัง, สิ้น, ตลอด, กะ, เฉพ�ะบรุ ุษทง้ั หล�ย) ๗๗. โย กโรติ ส กตฺตา. โย (ก�รโก) อ.ก�รกใด กโรต ิ ยอ่ มกระทำ�, โส (ก�รโก) อ.ก�รกน้นั กตตฺ � มีช่ือว�่ กัตต� โหต ิ ย่อมเป็น. (ก�รกใดย่อมกระท�ำ ก�รกนั้น มชี ่อื ว่�กัตต�) สูตรนมี้ ี ๔ บท. เปน็ สญั ญ�สูตร.
กณั ฑ์ ] ปุงลิงค์ อการนั ต์ 13 ๗๘. กตฺตริ จ. ตติย� อ.ตติย�วภิ ัตติ โหต ิ ยอ่ มลง กตตฺ ริ จ ในอวตุ ตกตั ตกุ �รก (หรือ ในอรรถอนภหิ ิตกัตต�) ดว้ ย. (ลงตตยิ �วภิ ัตต ิ ในอรรถอนภหิ ติ กตั ต�ดว้ ย) สูตรนม้ี ี ๒ บท. เป็น วิภัตตวิ ิธิสูตร. จศัพท ์ : มอี รรถ อวตุ ตฺ สมุจจฺ ย รวบรวมก�รลงตตยิ �วิภัตต ิ ในอรรถ อติ ถมั ภูตลกั ขณะ เชน่ ส� ก�ลี ภนิ เฺ นน สเี สน ปคฆฺ รนฺเตน โลหิเตน ปฏวิ ิสสฺ ก�น ำ อชุ ฺฌ�เปสิ. (น�งก�ลนี ้ัน มีศีรษะ แตกแลว้ มเี ลอื ดไหลออกอยู่ โพนทะน� แก่หญงิ ผูค้ ุ้นเคยทัง้ หล�ย) ๗๙. อโต เนน. น� อ.น�วภิ ตั ต ิ ปรำ อันเป็นเบื้องหลงั อโต จ�กลิงคอ์ นั เป็นอก�รันต์ เอน แปลงเปน็ เอน โหต ิ ย่อมเปน็ . (หลงั จ�กลิงค์ทีเ่ ปน็ อก�รนั ต ์ แปลง น�วิภัตติ เป็น เอน) สูตรนม้ี ี ๓ บท คือ อโต, น�, เอน. เป็น อาเทสวิธิสูตร. ทำ�ตวั รปู ปุริเสน ศพั ท์เดิมคอื = ปุรสิ หลัง ปุรสิ ลง น� ตติย�วิภัตต ิ ปรุ ิส + น� = กตตฺ ริ จ. หลังจ�กอก�รันต์ แปลง น� เป็น เอน ปุริส + น� เอน = อโต เนน. แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปุริส ฺ อ + เอน = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ ปุรสิ ฺ อ + เอน = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทิมหฺ ิ ฯ นำ�พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปุรเิ สน = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. สำ�เร็จรปู เปน็ ปุรเิ สน. (อันบรุ ษุ ) (ปุรเิ สน กตำ กมมฺ .ำ อ.กรรม อันบรุ ุษ กระทำ�แล้ว) ๘๐. สหุ สิ วฺ ’กาโร เอ. สุหสิ ุ ในเพร�ะสวุ ิภัตติและหวิ ภิ ัตติ ท. อก�โร อ.ออักษร อ�ปชฺชเต ย่อมถงึ เอ ซึ่งคว�มเป็น เอ. (เพร�ะสุวภิ ัตติและหวิ ภิ ตั ติ แปลง อ เป็น เอ) สตู รนีม้ ี ๓ บท คอื สหุ ิส,ุ อก�โร, เอ. เป็น อ�เทสวธิ ิสูตร. ๘๑. สมฺ า-ห-ิ สมฺ นึ ํ มฺหา-ภิ-มฺหิ วา. มหฺ �ภิมฺหิ อ.ก�รแปลงเปน็ มฺห�, ภ ิ และ มหฺ ิ ท. สมฺ �หิสมฺ ึนำ แห่ง สฺม�, ห ิ และ สฺมวึ ิภตั ต ิ ท. โหนตฺ ิ ยอ่ มมี ว� บ้�ง. (แปลง สฺม� เปน็ มฺห�, ห ิ เป็น ภ ิ และ สฺมึ เป็น มฺหิ บ้�ง) สูตรนม้ี ี ๓ บท. เปน็ อ�เทสวธิ ิสูตร.
14 รปู สิทธิทีปนี [ ๒. นาม ทำ�ตวั รูป ปุรเิ สหิ ศัพทเ์ ดมิ คอื = ปรุ ิส หลัง ปรุ ิส ลง ห ิ ตตยิ �วภิ ตั ติ ปรุ ิส + หิ = กตฺตร ิ จ. แยกพยญั ชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ ปุรสิ ฺ อ + หิ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะหิวภิ ตั ต ิ แปลง อ เปน็ เอ ปุรสิ ฺ อ เอ + หิ = สหุ ิสฺวก�โร เอ. น�ำ พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปุริเสหิ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เร็จรปู เปน็ ปุริเสหิ. (อนั บรุ ุษท้งั หล�ย) (ปุริเสห ิ กต.ำ อ.กรรม อันบุรุษ ท. กระทำ�แล้ว) ทำ�ตัวรูป ปรุ เิ สภิ ศพั ท์เดิมคอื = ปุรสิ หลงั ปุรสิ ลง หิ ตติย�วภิ ัตต ิ ปรุ สิ + ห ิ = กตตฺ ร ิ จ. แยกพยัญชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ ปรุ สิ ฺ อ + ห ิ = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะหวิ ภิ ตั ต ิ แปลง อ เป็น เอ ปรุ สิ ฺ อ เอ + ห ิ = สหุ ิสฺวก�โร เอ. หลังจ�กลิงคท์ ั้งปวง แปลง หิ เปน็ ภ ิ ปรุ สิ ฺ เอ + ห ิ ภ ิ = สฺม�หสิ มฺ ึนำ มฺห�ภิมหฺ ิ ว�. น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปุริเสภ ิ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. สำ�เรจ็ รปู เป็น ปุริเสภ.ิ (อนั บุรุษทง้ั หล�ย) (ปรุ ิเสภิ กต.ำ อ.กรรม อันบุรุษ ท. กระทำ�แลว้ ) ๘๒. เยน วา กยริ เต ตํ กรณ.ํ ปคุ คฺ โล อ.บุคคล กยริ เต ย่อมกระท�ำ เยน (ก�รเกน) ดว้ ยก�รกใด ว� ก็ด,ี ตำ (ก�รกำ) อ.ก�รกนน้ั กรณำ มชี อ่ื ว่�กรณะ โหต ิ ย่อมเป็น. (บคุ คลย่อมทำ�ด้วยก�รกใด ก็ดี ก�รกนนั้ มชี อ่ื ว่�กรณะ) สตู รน้ี ม ี ๕ บท. เปน็ สัญญ�สูตร. ๘๓. กรเณ ตตยิ า. ตติย� อ.ตตยิ �วภิ ตั ต ิ โหต ิ ย่อมลง กรเณ ในกรณก�รก. (ลงตติย�วิภัตติ ในกรณก�รก). สูตรนีม้ ี ๒ บท. เป็น วภิ ตั ติวธิ สิ ูตร. ท�ำ ตัวรูป ปุริเสน ศพั ท์เดิมคือ = ปรุ ิส หลงั ปุริส ลง น� ตตยิ �วิภตั ติ ปรุ สิ + น� = กรเณ ตติย�. หลงั จ�กอก�รันต ์ แปลง น� เป็น เอน ปุริส + น� เอน = อโต เนน. แยกพยัญชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ ปรุ ิสฺ อ + เอน = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ ปรุ สิ ฺ อ + เอน = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมหฺ ฯิ น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปรุ ิเสน = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. ส�ำ เร็จรูปเป็น ปรุ เิ สน. (ด้วยบุรษุ ) (อาวฏิ ฺเ€น ปรุ เิ สน โส ปุ ฺ ํ กโรติ)
กณั ฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการนั ต์ 15 ทำ�ตวั รปู ปรุ เิ สหิ ศัพทเ์ ดิมคือ = ปุริส = กรเณ ตติย�. หลัง ปุรสิ ลง หิ ตติย�วิภัตต ิ ปุรสิ + ห ิ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = สหุ สิ วฺ ก�โร เอ. แยกพยญั ชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ ปุริสฺ อ + หิ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. เพร�ะหวิ ภิ ัตติ แปลง อ เปน็ เอ ปุริสฺ อ เอ + หิ น�ำ พยญั ชนะ สฺ ไปประกอบกับสระ เอ ปุรเิ สหิ สำ�เรจ็ รูปเป็น ปุรเิ สห.ิ (ดว้ ยบุรษุ ทงั้ หล�ย) ๘๔. ยสสฺ ทาตุกาโม โรจเต ธารยเต วา ตํ สมปฺ ทาน.ํ ปคุ ฺคโล อ.บคุ คล ท�ตุก�โม เปน็ ผ้ใู คร่เพอื่ อันให ้ ยสฺส (ก�รกสสฺ ) แกก่ �รกใด โหติ ยอ่ มเปน็ ว� กด็ ี, โรจเต ยอ่ มชอบใจ ยสสฺ (ก�รกสสฺ ) แก่ก�รกใด ว� กด็ ี, ธ�รยเต ย่อมทรงไว้ ยสสฺ (ก�รกสสฺ ) แก่ก�รกใด ว� กด็ ,ี ตำ (ก�รกำ) อ.ก�รกนน้ั สมปฺ ท�นำ มีชื่อว�่ สมั ปท�น โหติ ยอ่ มเป็น. (บคุ คลประสงคจ์ ะให้แกก่ �รกใดกด็ ,ี ยอ่ มชอบใจแก่ก�รกใดก็ดี, ยอ่ มทรงไว้แกก่ �รกใดกด็ ี, ก�รกนั้น มีชอื่ ว�่ สมั ปท�น) สตู รน้มี ี ๗ บท. เปน็ สัญญ�สตู ร. ๘๕. สมฺปทาเน จตุตถฺ ี. จตุตถฺ ี อ.จตตุ ถวี ิภัตต ิ โหติ ย่อมลง สมปฺ ท�เน ในสัมปท�นก�รก. (ลงจตตุ ถีวิภัตติ ในสมั ปท�นก�รก) สตู รนม้ี ี ๒ บท. เป็น วิภตั ตวิ ธิ ิสูตร. ๘๖. สาคโม เส. เส ในเพร�ะสวิภตั ติ ส�คโม อ.สฺอ�คม โหต ิ ยอ่ มลง. (เพร�ะสวิภัตตทิ ้ังจตุตถีและฉฏั ฐวี ิภตั ติ ลง สอฺ �คม) สูตรนมี้ ี ๒ บท. เป็น อ�คมวธิ สิ ตู ร. ท�ำ ตัวรปู ปุริสสฺส ศพั ทเ์ ดมิ คอื = ปรุ ิส = สมฺปท�เน จตตุ ฺถ.ี หลงั ปุริส ลง ส จตตุ ถีวภิ ัตต ิ ปรุ สิ + ส = ส�คโม เส. เพร�ะ สวิภัตติ ลง สฺอ�คม ปรุ สิ + ส ฺ - ส สำ�เร็จรูปเปน็ ปรุ สิ สสฺ . (แก่, เพ่อื , ตอ่ บุรษุ )
16 รูปสทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม ๘๗. สุ-น-ํ หิสุ จ. สนุ หำ สิ ุ ในเพร�ะส ุ นำ และหวิ ิภัตต ิ ท. สร� อ.สระ ท. อ�ปชฺชนเฺ ต ยอ่ มถงึ ทฆี ำ ซ่งึ คว�มเป็นทฆี ะ จ ห้�ม ทฆี ะบ้�ง. (เพร�ะ สุ น ำ และหิวภิ ตั ต ิ ทีฆสระหน้� ห�้ มทฆี ะบ�้ ง) สตู รน้มี ี ๒ บท. เปน็ ทีฆวธิ สิ ูตร. จศัพท ์ : มีอรรถ นิวตฺต�ปน�วธ�รณ ก�ำ หนดว�่ ห�้ มทีฆะ อ ิ กับ อ ุ บ้�ง แตไ่ มท่ ัง้ หมด บ�งอทุ �หรณก์ ม็ ีรูปเปน็ ทีฆะได้. ท�ำ ตัวรปู ปุริสานํ ศพั ทเ์ ดิมคอื = ปุริส หลัง ปรุ ิส ลง น ำ จตุตถวี ิภัตต ิ ปุรสิ + นำ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ .ี แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปุริสฺ อ + นำ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะนวำ ิภัตติ ทีฆะ อ เปน็ อ� ปรุ สิ ฺ อ อ� + น ำ = สุนหำ ิสุ จ. นำ�พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกับสระ อ� ปรุ สิ �นำ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. ส�ำ เร็จรปู เปน็ ปุรสิ าน.ํ (แก,่ เพอ่ื , ต่อบุรุษท้งั หล�ย) ๘๘. ยสมฺ า’ทเปติ ภย’มาทตเฺ ต วา ต’ทปาทานํ. อเปต ิ ยอ่ มหลีกไป ยสฺม� (ก�รก�) จ�กก�รกใด ว� กด็ ี, ภยำ อ.คว�มกลวั ช�ยเต ย่อมเกดิ ยสมฺ � (ก�รก�) จ�กก�รกใด ว� กด็ ,ี อ�ทตเฺ ต ย่อมเรยี นเอ� ยสฺม� (ก�รก�) จ�กก�รกใด ว� กด็ ี, ตำ (ก�รก)ำ อ.ก�รก น้ัน อป�ท�นำ มีชื่อว�่ อป�ท�น โหติ ย่อมเปน็ . (ยอ่ มหลีกไป จ�กก�รกใด ก็ดี, คว�มกลวั ยอ่ มเกิดขึน้ จ�กก�รกใด กด็ ี, ย่อมเรียนเอ� จ�กก�รกใด ก็ดี, ก�รก น้นั มชี ่ือว่�อป�ท�น) สตู รนมี้ ี ๗ บท คือ ยสฺม�, อเปติ, ภย,ำ อ�ทตเฺ ต, ว�, ตำ, อป�ท�นำ. เปน็ สัญญ�สตู ร. ๘๙. อปาทาเน ปจฺ ม.ี ปจฺ มี อ.ปญั จมีวิภัตต ิ โหต ิ ย่อมลง อป�ท�เน ในอป�ท�นก�รก. (ลงปัญจมีวภิ ตั ติ ในอป�ท�นก�รก). สูตรนม้ี ี ๒ บท. เปน็ วภิ ัตติวธิ ิสูตร. ๙๐. สฺมา-สมฺ ึนํ วา. อ�เอ อ.ก�รแปลงเปน็ อ� และ เอ ท. สมฺ �สฺมนึ ำ แห่งสมฺ �วภิ ัตตแิ ละสฺมวึ ิภตั ต ิ ท. ปเรสำ อันเป็นเบอ้ื งหลัง อโต จ�กลิงค์อนั เปน็ อก�รันต์ โหติ ย่อมม ี ว� บ�้ ง. (หลังจ�กอก�รันต์ แปลง สมฺ �วิภัตติ เปน็ อ� และ สฺมึวภิ ัตติ เปน็ เอ บ้�ง) สตู รน้ีม ี ๒ บท. เปน็ อ�เทสวธิ สิ ตู ร.
กัณฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการันต์ 17 ท�ำ ตวั รูป ปุรสิ า ศพั ทเ์ ดิมคือ = ปรุ ิส = อปาทาเน ปฺจมี. หลงั ปุริส ลง สมฺ � ปญั จมวี ิภตั ติ ปรุ สิ + สมฺ � = สมฺ �สมฺ ึนำ ว�. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. หลังจ�กอก�รันต ์ แปลง สมฺ � เป็น อ� ปรุ ิส + สมฺ � อ� = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจ�ทมิ ฺหฯิ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. แยกพยัญชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ ปุริส ฺ อ + อ� ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกต ิ ปรุ ิส ฺ อ + อ� นำ�พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกับสระ อ� ปรุ ิส� ส�ำ เร็จรูปเปน็ ปรุ ิสา. (แต่, จ�ก, กว�่ , เพร�ะบรุ ษุ ) ทำ�ตวั รปู ปุริสมฺหา ศัพทเ์ ดมิ คอื = ปุรสิ หลัง ปรุ ิส ลง สฺม� ปญั จมีวภิ ัตต ิ ปุริส + สมฺ � = อปาทาเน ปจฺ มี. หลงั จ�กปงุ ,นปงุ . แปลงสมฺ �เป็น มฺห� ปุรสิ + สมฺ � มหฺ � = สมฺ �หสิ มฺ นึ ำ มฺห�ภมิ หฺ ิ ว�. สำ�เรจ็ รูปเป็น ปรุ สิ มหฺ า. (แต,่ จ�ก, กว�่ , เพร�ะบรุ ุษ) ท�ำ ตวั รูป ปุรสิ สฺมา ศัพทเ์ ดิมคือ = ปรุ สิ หลงั ปุรสิ ลง สมฺ � ปัญจมีวภิ ตั ติ ปุรสิ + สมฺ � = อปาทาเน ปฺจมี. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ปรุ ิสสฺมา. (แต่, จ�ก, กว่�, เพร�ะบุรษุ ) ทำ�ตวั รูป ปรุ เิ สหิ ศัพท์เดมิ คอื = ปรุ ิส หลัง ปรุ สิ ลง หิ ปัญจมวี ิภัตติ ปุรสิ + ห ิ = อปาทาเน ปจฺ มี. แยกพยัญชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปุรสิ ฺ อ + ห ิ = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะหิวิภตั ติ แปลง อ เปน็ เอ ปรุ สิ ฺ อ เอ + หิ = สุหิสวฺ ก�โร เอ. น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปุรเิ สหิ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ปรุ เิ สห.ิ (แต่, จ�ก, กว่�, เพร�ะบุรษุ ทัง้ หล�ย) ทำ�ตวั รูป ปรุ ิเสภ ิ ศพั ทเ์ ดิมคือ = ปุริส หลัง ปุรสิ ลง หิ ปัญจมวี ภิ ตั ต ิ ปุรสิ + หิ = อปาทาเน ปฺจมี. แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปรุ ิส ฺ อ + หิ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะหวิ ภิ ัตต ิ แปลง อ เปน็ เอ ปรุ ิสฺ อ เอ + ห ิ = สหุ ิสฺวก�โร เอ. หลังจ�กลิงคท์ ้ังปวง แปลง ห ิ เป็น ภ ิ ปุรสิ ฺ เอ + หิ ภิ = สมฺ �หิสฺมนึ ำ มฺห�ภมิ ฺหิ ว�. นำ�พยญั ชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปรุ ิเสภ ิ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. ส�ำ เร็จรูปเป็น ปุริเสภิ. (แต่, จ�ก, กว่�, เพร�ะบุรษุ ท้ังหล�ย)
18 รูปสทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม ๙๑. ยสฺส วา ปริคคฺ โห ตํ สาม.ี ปริคฺคโห อ.ทรพั ยอ์ นั ถกู ครอบครอง ยสฺส (ส�มิโน) ของเจ้�ของใด อตถฺ ิ มีอย่,ู ตำ ธนส�มิกรปู ํ อ.เจ้�ของ แห่งทรัพย์นน้ั ส�มี มชี ่ือว่�ส�มี โหติ ยอ่ มเป็น. (ทรพั ยอ์ ันถกู ครอบครองของเจ้�ของใด มอี ยู่ เจ้�ของทรพั ย์น้นั มีชอ่ื ว�่ ส�ม)ี สตู รน้ีม ี ๕ บท. เปน็ สัญญ�สูตร. ๙๒. สามสิ มฺ ึ ฉฏฺ€ี. ฉฏ€ฺ ี อ.ฉฏั ฐวี ภิ ัตต ิ โหต ิ ย่อมลง ส�มิสฺมึ ในอรรถส�ม.ี (ลงฉฏั ฐวี ภิ ตั ต ิ ในอรรถส�มี คว�มเปน็ เจ�้ ของ) สตู รน้ีมี ๒ บท. เป็น วภิ ตั ตวิ ธิ ิสูตร. ท�ำ ตัวรปู ปุรสิ สฺส ศัพทเ์ ดมิ คอื = ปุริส = สามสิ ฺมึ ฉฏ€ฺ ี. หลัง ปรุ ิส ลง ส ฉฏั ฐวี ภิ ตั ติ ปุริส + ส = ส�คโม เส. เพร�ะ สวภิ ัตต ิ ลง สฺอ�คม ปุริส + สฺ - ส สำ�เร็จรูปเป็น ปุรสิ สฺส. (แห่ง, ของ, เมอื่ บรุ ุษ) ท�ำ ตัวรูป ปุรสิ าน ํ ศัพทเ์ ดิมคอื = ปรุ ิส หลงั ปุริส ลง น ำ ฉัฏฐีวภิ ัตต ิ ปุริส + น ำ = สามิสฺมึ ฉฏ€ฺ ี. แยกพยัญชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปรุ ิส ฺ อ + น ำ = ปุพพฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะนวำ ิภัตต ิ ทีฆะ อ เป็น อ� ปุรสิ ฺ อ อ� + นำ = สุนหำ ิส ุ จ. นำ�พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� ปรุ สิ �น ำ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. สำ�เร็จรปู เปน็ ปุริสานํ. (แห่ง, ของ, เม่ือบรุ ุษท้ังหล�ย) ๙๓. โย’ธาโร ต’โมกาสํ. โย (ก�รโก) อ.ก�รกใด อ�ธ�โร เปน็ ที่ตง้ั แห่งกิริย�ก�รกระทำ�, ตำ (ก�รก)ำ อ.ก�รกน้ัน โอก�สำ มชี อ่ื ว่� โอก�ส โหติ ย่อมเปน็ . (ก�รกใด เปน็ ทตี่ ั้งแห่งกริ ยิ �ก�รกระท�ำ ก�รกน้ัน มชี อื่ ว�่ โอก�ส) สตู รนีม้ ี ๔ บท คือ โย, อ�ธ�โร, ตำ, โอก�สำ. เป็น สญั ญ�สูตร.
กณั ฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการนั ต์ 19 ๙๔. โอกาเส สตตฺ ม.ี สตตฺ มี อ.สัตตมวี ภิ ัตติ โหติ ยอ่ มลง โอก�เส ในอรรถโอก�สก�รก. (โอก�ส,ที่ว�่ ง,ท่รี องรบั ) (ลงสตั ตมีวิภัตต ิ ในโอก�สก�รก) สตู รน้ีมี ๒ บท. เปน็ วิภัตติวิธิสตู ร. ท�ำ ตวั รปู ปุรเิ ส ศัพท์เดมิ คอื = ปรุ สิ หลงั ปรุ ิส ลง สมฺ ึ สตั ตมีวิภตั ติ ปุรสิ + สฺม ึ = โอก�เส สตฺตม.ี หลงั จ�กอก�รนั ต์ แปลง สมฺ ึ เปน็ เอ ปรุ สิ + สมฺ ึ เอ = สมฺ �สมฺ นึ ำ ว�. แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปุริส ฺ อ + เอ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ ปุริส ฺ อ + เอ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ ฺหฯิ นำ�พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ เอ ปรุ เิ ส = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. ส�ำ เร็จรูปเป็น ปรุ เิ ส. (ใน, ใกล,้ ท,ี่ คร้นั เม่อื , ในเพร�ะ, เหนอื , บนบุรษุ ) ทำ�ตวั รูป ปรุ สิ มหฺ ิ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ปรุ สิ หลัง ปุริส ลง สมฺ ึ สตั ตมีวภิ ตั ติ ปุรสิ + สมฺ ึ = โอก�เส สตฺตม.ี หลังจ�กปุง,นปุง. แปลง สมฺ ึ เปน็ มหฺ ิ ปุริส + สฺม ึ มฺหิ = สฺม�หสิ มฺ ึนำ มฺห�ภมิ ฺหิ ว�. ส�ำ เร็จรูปเปน็ ปุริสมหฺ ิ. (ใน, ใกล,้ ที,่ คร้ันเม่อื , ในเพร�ะ, เหนือ, บนบรุ ุษ) ทำ�ตวั รูป ปรุ สิ สฺมึ ศพั ท์เดมิ คือ = ปุริส หลงั ปุรสิ ลง สมฺ ึ สตั ตมีวิภตั ติ ปรุ ิส + สมฺ ึ = โอก�เส สตตฺ มี. ส�ำ เร็จรปู เปน็ ปรุ ิสสมฺ .ึ (ใน, ใกล,้ ที,่ ครน้ั เมือ่ , ในเพร�ะ, เหนือ, บนบุรุษ) ทำ�ตวั รูป ปรุ เิ สสุ ศพั ท์เดมิ คอื = ปุริส หลงั ปรุ ิส ลง ส ุ สตั ตมวี ิภัตต ิ ปรุ ิส + สุ = โอก�เส สตฺตมี. แยกพยญั ชนะ สฺ ออกจ�กสระ อ ปรุ สิ ฺ อ + ส ุ = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะสุวิภัตติ แปลง อ เป็น เอ ปุรสิ ฺ อ เอ + ส ุ = สุหิสฺวก�โร เอ. นำ�พยัญชนะ สฺ ไปประกอบกบั สระ เอ ปุรเิ สสุ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. สำ�เรจ็ รูปเปน็ ปรุ เิ สส.ุ (ใน, ใกล,้ ท่,ี คร้ันเมื่อ, ในเพร�ะ, เหนอื , บนบรุ ุษทั้งหล�ย)
20 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม วิภัตติ เอกวจนะ ปรุ สิ สททฺ ปทม�ล� (บุรุษ, บคุ คล) พหุวจนะ ปฐม�. ปุริโส ปุรสิ � อ�ลปนะ. โภ ปรุ สิ ปุรสิ � ภวนโฺ ต ปรุ สิ � ทุตยิ �. ปรุ ิสำ ปรุ ิเส ตติย�. ปรุ ิเสน ปุรเิ สห ิ ปรุ ิเสภิ จตตุ ถ.ี ปุริสสฺส ปุรสิ �นำ ปัญจมี. ปรุ ิส� ปุริสมฺห� ปุรสิ สมฺ � ปรุ ิเสห ิ ปรุ เิ สภิ ฉฏั ฐ.ี ปุริสสฺส ปุรสิ �นำ สตั ตมี. ปรุ ิเส ปุรสิ มฺหิ ปรุ สิ สมฺ ึ ปรุ ิเสสุ ประโยคบ�ลตี วั อย�่ ง ป. ปุริโส ธมมฺ ำ สุณ�ต.ิ ปรุ ิส� ธมมฺ ำ สณุ นตฺ .ิ ........................................................................ ............................................................................... อ�. โภ ปรุ สิ อุป�สโก ธมฺมำ สุณ�ติ. ภวนโฺ ต ปุริส� อปุ �สก� ธมมฺ ำ สณุ นตฺ .ิ ........................................................................ ............................................................................... ทุ. พทุ ฺโธ ปรุ ิสำ ภ�สต.ิ พุทฺโธ ปรุ ิเส ภ�สติ. ........................................................................ ............................................................................... ต. ส�มเณโร ปุริเสน สทธฺ ึ ค�มำ คจฺฉติ. ส�มเณร� ปุรเิ สหิ สทฺธึ ค�ม ำ คจฺฉนฺติ. ........................................................................ ............................................................................... จ. ปณฑฺ ิโต ปรุ ิสสฺส ธมฺม ำ เทเสติ. ปณฑฺ ติ � ปรุ ิส�น ำ ธมมฺ ำ เทเสนตฺ ิ. ........................................................................ ............................................................................... ปญั . ส�มเณโร ปรุ สิ สฺม� อเปต.ิ ส�มเณร� ปุรเิ สห ิ อเปนฺติ. ........................................................................ ............................................................................... ฉ. ปุรสิ สสฺ ปุตฺโต. ปรุ สิ �น ำ ปุตฺต�. ........................................................................ ............................................................................... ส. ปรุ เิ ส โรทนฺเต, ท�รโก วหิ �ร ำ คจฺฉติ. ปรุ ิเสสุ โรทนเฺ ตส,ุ ท�รก� วิห�ร ำ คจฺฉนฺต.ิ ........................................................................ ...............................................................................
กณั ฑ์ ] ปุงลงิ ค์ อการนั ต์ 21 สคุ ตสทฺทปทม�ล� (พระสุคตเจ้�) วัภตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. สคุ โต สุคต� อ�ลปนะ. โภ สุคต สคุ ต� ภวนฺโต สคุ ต� ทุตยิ �. สคุ ตำ สคุ เต ตตยิ �. สคุ เตน สุคเตห ิ สุคเตภิ จตุตถี. สุคตสฺส สคุ ต�นำ ปัญจม.ี สุคต� สุคตมหฺ � สุคตสฺม� สคุ เตหิ สุคเตภิ ฉฏั ฐี. สคุ ตสฺส สุคต�นำ สตั ตมี. สุคเต สุคตมฺหิ สุคตสฺม ึ สคุ เตสุ ศพั ท์แจกต�ม ปรุ ิส มดี ังนี้ อรุ ค ง ู สุร เทวด� อสรุ อสรู นร คน น�ค พญ�น�ค, ช�้ ง ยกขฺ ยักษ์ คนฺธพพฺ คนธรรพ ์ กนิ ฺนร กนิ นร มนสุ สฺ มนษุ ย ์ ปิส�จ ปศี �จ เปต เปรต ม�ตงคฺ ช้�ง ชงฺคม สัตว์ผเู้ ทยี่ วไปในสงส�ร ตรุ งคฺ ม้� วร�ห หมปู ่� สีห ร�ชสหี ์ พฺยคฺฆ เสอื โคร่ง อจฺฉ หม ี กจฺฉป เต่� ตรจฉฺ หม�ป�่ มิค เน้อื อสฺส ม้� โสณ สุนขั อ�โลก แสงสว่�ง โลก โลก นิลย บ้�น อนลิ ลม จ�ค ก�รสละ โยค ก�รประกอบ, คว�มเพียร, สูตร ว�ย�ม คว�มพย�ย�ม ค�ม หมบู่ ้�น นิคม นคิ ม, ตำ�บล อ�คม อ�คม, ก�รม� ธมฺม ธรรม, บญุ กุศล ก�ม ก�ม, คว�มใคร่ สฆำ พระสงฆ์, หม่ ู โอฆ หว้ งน้ำ โฆส เสยี งกอ้ ง ปฏิฆ คว�มเคียดแคน้ อ�สว อ�สวะ โกธ คว�มโกรธ โลภ คว�มโลภ ส�รมฺภ ก�รแข่งดี ถมภฺ หวั ด้ือ, เส�เรอื น มท คว�มเลินเล่อ ม�น คว�มถือตัว ปม�ท คว�มประม�ท มกขฺ คว�มลบหล่คู ณุ ปุนนฺ �ค ต้นบุนน�ค ปูค ตน้ หม�ก ปนส ตน้ ขนนุ อสน ตน้ ประดู ่ จมฺปก ต้นจ�ำ ป� อมฺพ ต้นมะมว่ ง หินฺต�ล ตน้ เต�่ ร้�ง ต�ล ต้นต�ล พกุล ต้นพิกุล อชฺชุน ต้นกุ่ม กึสกุ ต้นทองกว�ว มนฺท�ร ตน้ มณฑ�รพ กนุ ฺท ตน้ คล�้ ปุจมิ นทฺ ตน้ สะเด� กรฺช ต้นกระเช้� รุกขฺ ต้นไม้ มยรู นกยงู สกณุ นก อณฑฺ ช นก โกฺจ นกกระเรียน หำส หงส์
22 รูปสิทธทิ ปี นี [ ๒. นาม ๙๕. มโนคณาทโิ ต สมฺ นึ าน’มอิ า. ออิ � อ.ก�รแปลงเป็น อิ และ อ� ท. สฺมนึ �นำ แหง่ สฺมึวิภัตตแิ ละน�วภิ ัตต ิ ท. ปเรสำ อนั เป็นเบ้ืองหลัง มโนคณ�ทิโต (สทเฺ ทห)ิ จ�กศัพท์ ท.มี มโนคณะเป็นต้น โหนฺติ ย่อมม ี ว� บ�้ ง. (หลังจ�กศัพท์มีมโนคณะเป็นตน้ แปลง สฺมึ เปน็ อิ และแปลง น� เปน็ อ� บ�้ ง) สูตรนม้ี ี ๓ บท คือ มโนคณ�ทิโต, สฺมนึ �นำ, ออิ �. เปน็ อ�เทสวธิ ิสูตร. ลักษณะของมโนคณะมี ๓ ประก�ร (๑) แปลง น� เปน็ อ�, ส เปน็ โอ, สฺม ึ เปน็ อ ิ แล้วลง สฺอ�คม เชน่ มนส�, มนโส, มนสิ (๒) เปน็ กรรมของกริ ยิ � แปลง อำทุติย�วภิ ตั ติ เปน็ โอ ได้ เชน่ กสฺสปสฺส วโจ สตุ วฺ �. ฟังแลว้ ซึ่งคำ� ของพระ กสั สปะ. ในตัวอย�่ งน้ ี บทว่� “วโจ” เป็นทุตยิ �วิภัตติ ลง อวำ ภิ ัตติ แปลง อ ำ เป็น โอ (ด้วยจศัพท์ใน สสฺส โจ) เพร�ะเป็น กรรมของกริ ยิ � คอื “สตุ วฺ �” ฟงั แล้ว. (๓) แปลง อ เปน็ โอ ท่�มกล�งสม�สและตัทธิต เชน่ มโนเสฏฺ€า (สม�ส), มโนมย� (ตทั ธติ ). มโนคณ�ทิคณะ มี ๒ พวก (๑) พวก พิลศพั ท์ ม ี ๘ ศพั ท์ มีลักษณะเหมอื นมโนคณะข้อท่ ี ๑ คอื ใน น�, ส และสมฺ ึวภิ ตั ต ิ มีรูปเปน็ ส�, โส, สิ มคี �ถ�แสดงไวว้ �่ พลิ ํ พลํ ทโม วาโห ถาโม ถามํ ชโร ชรา, ปณุ ฺณา มโนคณาทิโก. ศพั ท์ ๘ ศัพท์เหล�่ น้ี คอื พลิ รู, โพลง, พล ก�ำ ลัง, ทม ก�รฝึก, ว�ห เกวียน, ถ�ม กำ�ลัง, ชร ชร� คว�มแก่, ปท บท เท�้ , หน้�, ป�ก เป็นมโนคณ�ทคิ ณะ เพร�ะมีลกั ษณะเหมอื นกบั ของมโนคณะขอ้ แรก (๒) พวก อ�ปศพั ท์ ม ี ๔ ศพั ท ์ มลี กั ษณะเหมอื นมโนคณะ ขอ้ ๒-๓ คือ แปลง อำทตุ ิย�วิภตั ต ิ เป็น โอ และ แปลง อ เปน็ โอ ท�่ มกล�งสม�สและตัทธติ มคี �ถ�แสดงไว้ว�่ อ�โป จ สรโท ว�โย รโช รชนตฺ ิ อ�ทโย, อนตฺ งกฺ ทวฺ ยสมปฺ นนฺ � มโนคณ�ทิโก มต�. ศัพท์ทง้ั หล�ยเปน็ ต้นว�่ อ�ป นำ้ , สรท ฤดูสรทะ, ป,ี ว�ย ลม, รช ฝุ่นธุลี พึงทร�บว�่ เปน็ มโนคณ�ทคิ ณะ เพร� มโนคณะ ๒ ขอ้ หลัง
กณั ฑ์ ] ปงุ ลงิ ค์ อการันต์ 23 ๙๖. ส สเร วา’คโม. สเร ในเพร�ะสระ ปเร อันเปน็ เบ้อื งหลัง โส อ�คโม อ.สอฺ �คม โหต ิ ย่อมลง ปร ำ ในเบอื้ งหลงั มโนคณ�ทโิ ต (สทฺเทห)ิ จ�กศัพท ์ ท.ม ี มโนคณะเป็นตน้ ว� บ้�ง. (หลงั จ�กศพั ทม์ ีมโนคณะเปน็ ต้น ลง สฺอ�คม บ้�ง) สตู รน้ีมี ๔ บท คอื โส, สเร, ว�, อ�คโม. เป็น อ�มควิธสิ ูตร. ทำ�ตวั รูป มนสา ศพั ท์เดมิ คอื = มน หลัง มน ลง น�ตตยิ �วภิ ัตต ิ มน + น� = กตฺตร ิ จ. (กรเณ ตติย�) หลงั จ�กมโนคณศัพท ์ แปลง น� เปน็ อ� มน + น� อ� = มโนคณ�ทิโต สฺมึน�นมอิ �. เพร�ะสระหลงั ลง สฺอ�คม มน + ส ฺ - อ� = ส สเร ว�คโม. นำ�พยญั ชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ อ� มนส� = นเย ปร ำ ยุตฺเต. สำ�เร็จรปู เปน็ มนสา. (ด้วย, โดย, อัน, ต�ม, เพร�ะ, ม,ี ดว้ ยทั้งใจ) ๙๗. สสฺส โจ. โอ จ อ.ก�รแปลงเป็น โอ ด้วย สสฺส แหง่ สวภิ ัตต ิ ปรสฺส อันเปน็ เบ้ืองหลัง มโนคณ�ทิโต (สทฺเทหิ) จ�ก ศัพท ์ ท.มี มโนคณะเปน็ ตน้ โหต ิ ยอ่ มมี ว� บ�้ ง. (หลังจ�กศัพทม์ มี โนคณะเป็นต้น แปลง สวิภตั ติ เปน็ โอ บ�้ ง) สูตรนี้มี ๓ บท คอื สสสฺ , จ, โอ. เป็น อ�เทสวธิ ิสตู ร. จศัพท์ : มอี รรถ อวุตตฺ สมุจฺจย รวบรวมก�รแปลง อำวภิ ตั ติ เป็น โอ ไดใ้ นกรณที ี่เป็นกรรมของกริ ยิ � เช่น กสฺสปสสฺ วโจ สุตวฺ �... ฟังแล้ว ซ่งึ ค�ำ ของพระกัสสปะ... ทำ�ตวั รปู มนโส ศัพท์เดมิ คือ = มน = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ .ี หลงั มน ลง สจตตุ ถวี ภิ ตั ต ิ มน + ส = สสฺส โจ. = ส สเร ว�คโม. หลงั จ�กมโนคณศพั ท ์ แปลง ส เปน็ โอ มน + ส โอ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. เพร�ะสระหลัง ลง สอฺ �คม มน + สฺ - โอ น�ำ พยญั ชนะ สฺ ไปประกอบกบั สระ โอ มนโส สำ�เร็จรูปเป็น มนโส. (แก,่ เพอ่ื , ตอ่ ใจ) ทำ�ตวั รปู มนสิ ศพั ทเ์ ดิมคอื = มน หลัง มน ลง สมฺ สึ ัตตมวี ภิ ตั ติ มน + สมฺ ึ = โอก�เส สตตฺ มี. หลังจ�กมโนคณศพั ท ์ แปลง สฺม ึ เปน็ อิ มน + สฺม ึ อ ิ = มโนคณ�ทิโต สมฺ นึ �นมอิ �. เพร�ะสระหลงั ลง สอฺ �คม มน + สฺ - อ ิ = ส สเร ว�คโม. นำ�พยญั ชนะ ส ฺ ไปประกอบกับสระ อิ มนส ิ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. ส�ำ เร็จรูปเปน็ มนสิ. (ใน, ใกล้, ท,่ี ครน้ั เม่อื , ในเพร�ะ, เหนือ, บนใจ)
24 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม มนสทฺทปทม�ล� (ใจ) วิภตั ต ิ เอกวจนะ พหวุ จน ะ ปฐม�. มโน มน� อ�ลปนะ. เห มน มน� เห มน� ทุติย�. มน ำ มเน ตติย�. มนส� มเนน มเนหิ มเนภิ จตุตถี. มนโส มนสฺส มน�นำ ปัญจมี. มน� มนมหฺ � มนสฺม� มเนห ิ มเนภิ ฉฏั ฐี. มนโส มนสฺส มน�นำ สตั ตม.ี มนสิ มเน มนมหฺ ิ มนสมฺ ึ มเนสุ ป. มโน วสิ ย ำ ช�น�ต.ิ ประโยคบ�ลีตัวอย�่ ง มน� วิสยำ ช�นนฺต.ิ .......................................................................... ............................................................................. อ�. เห มน อหำ ตำ น ช�น�มิ. เห มน� มยำ ตุมฺเห น ช�น�ม. .......................................................................... ............................................................................. ทุ. อหำ เอตสฺส ปรุ ิสสสฺ มนำ น ช�น�ม.ิ มย ำ เอเตส ำ ปุริส�น ำ มเน น ช�น�ม. .......................................................................... ............................................................................. ต. ปคุ คฺ โล เจ ปทุฏเฺ €น มนส� ภ�สติ. ปคุ ฺคล� เจ ปสนฺเนหิ มเนห ิ ภ�สนตฺ ิ. .......................................................................... ............................................................................. จ. ธโี ร มนสสฺ อนรุ ปู ํ กมมฺ ฏฺ€านํ กโรต.ิ ธีรา มนานํ อนรุ ปู ํ กมมฺ ฏฺ€านํ กโรนฺต.ิ .......................................................................... ............................................................................. ปญั . วิตกฺโก มนสฺม� อปุ ปฺ ชฺชติ. วติ กกฺ � มเนห ิ อุปฺปชชฺ นตฺ ิ. .......................................................................... ............................................................................. ฉ. มนสสฺ สงกฺ ปฺโป โหติ. มน�นำ สงฺกปฺป� โหนฺต.ิ .......................................................................... ............................................................................. ส. ยสสฺ ปคุ ฺคลสสฺ มเน โลโภ อตถฺ .ิ เยส ำ ปุคฺคล�นำ มเนสุ โลภ� สนฺต.ิ .......................................................................... .............................................................................
กณั ฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการนั ต์ 25 ศัพทแ์ จกต�ม มน เรียกว�่ มโนคณะ มีดังนี้ วจ ค�ำ พูด วย วยั เตช เดช ตป ตบะ, คว�มเพียร เจต ใจ ตม คว�มมดื ยส ยศ อย เหล็ก ปย นำ้ นม สริ ศีรษะ ฉนฺท คมั ภีร์ฉันท์, คว�มพอใจ, อ�ำ น�จ, คว�มประสงค ์ สร สระนำ้ อุร อก รห ทล่ี ับ อห วัน ค�ถ�สรุป มโนคณศพั ท์ มโน วโจ วโย เตโช ตโป เจโต ตโม ยโส, อโย ปโย สิโร ฉนโฺ ท สโร อุโร รโห อโห. ๙๘. อา สมิ หฺ .ิ สมิ หฺ ิ ในเพร�ะสิวภิ ตั ต ิ อ� อ.ก�รแปลงเปน็ อ� นฺตสุ ฺส แหง่ นฺตปุ ัจจัย สวภิ ตฺติสฺส อนั เปน็ ไปกบั ด้วยวิภัตติ โหติ ย่อมมี. (เพร�ะสวิ ภิ ตั ติ แปลง นฺต ุ กบั ส ิ เป็น อ�) สูตรนม้ี ี ๒ บท. เป็น อ�เทสวิธิสูตร. ทำ�ตวั รปู คุณวา ศพั ท์เดิมคอื = คณุ วนฺตุ หลัง คุณวนตฺ ุ ลง สิ ปฐม�วิภตั ต ิ คุณวนตฺ ุ + สิ = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะสวิ ิภตั ติ แปลง นตฺ ุ กับ ส ิ เปน็ อ� คุณว นตฺ ุ+สิ อ� = อ� สมิ ฺห.ิ แยกพยัญชนะ วฺ ออกจ�กสระ อ คุณว ฺ อ + อ� = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ คณุ วฺ อ + อ� = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหิฯ นำ�พยญั ชนะ วฺ ไปประกอบกบั สระ อ� คุณว� = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. สำ�เรจ็ รปู เป็น คุณวา. (คุณว� ปุรโิ ส ตฏิ €ฺ ต.ิ อ.บรุ ษุ ผมู้ ีคุณ ยืนอย่)ู ๙๙. นฺตสุ ฺส นฺโต. โยมฺห ิ ในเพร�ะโยวิภตั ต ิ ป€เม อนั เปน็ ปฐม�วิภัตต ิ นโฺ ต อ.ก�รแปลงเป็น นฺโต นฺตุสฺส แห่งนฺตปุ จั จัย สพฺพสฺเสว ทง้ั ตัวน่ันเทียว สวภิ ตฺติสฺส อนั เปน็ ไปกับดว้ ยวภิ ัตติ โหติ ย่อมมี ว� บ�้ ง. (เพร�ะโยปฐม�วิภตั ติ แปลง นตฺ ุ ทงั้ ตัวกบั โย เป็น นฺโต บ้�ง) สตู รนม้ี ี ๒ บท. เปน็ อ�เทสวธิ ิสูตร.
26 รปู สิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม ท�ำ ตัวรปู คุณวนฺโต ศพั ท์เดิมคือ = คุณวนฺตุ หลัง คุณวนตฺ ุ ลง โย ปฐม�วภิ ตั ติ คณุ วนฺตุ + โย = ลิงคฺ ตเฺ ถ ป€มา. เพร�ะโยวิภตั ติ แปลงนฺตุกับโย เปน็ นฺโต คุณว นฺตุ+โย นฺโต = นฺตุสฺส นโฺ ต. ส�ำ เร็จรูปเปน็ คณุ วนฺโต. (คณุ วนฺโต ปรุ สิ � ตฏิ ฺ€นตฺ ิ. อ.บรุ ุษทงั้ หล�ย ผมู้ คี ุณ ยนื อยู่) ๑๐๐. นตฺ สุ ฺส’นโฺ ต โยสุ จ. สุนำหิสุ จ ในเพร�ะส,ุ นำ และหิวภิ ตั ต ิ ท.ด้วย โยสุ จ ในเพร�ะโยวภิ ตั ต ิ ท.ดว้ ย อนโฺ ต (อกุ �โร) อ.ออุ กั ษร อนั เปน็ ที่สดุ นตฺ สุ ฺส ของนฺตปุ จั จัย อ�ปชชฺ เต ย่อมถงึ อตฺตำ ซง่ึ คว�มเปน็ อ. (เพร�ะส,ุ นำ, ห ิ และโยวิภัตตทิ งั้ หล�ย แปลง อ ุ ท่ีสุดของ นตฺ ปุ จั จยั เป็น อ) สูตรนีม้ ี ๔ บท คอื นฺตสุ สฺ , อนฺโต, โยส,ุ จ. เปน็ อ�เทสวิธิสูตร. จศัพท์ : มอี รรถ อวุตฺตสมุจจฺ ย รวบรวมอรรถ ที่ไม่ได้กล�่ วไวใ้ นสตู ร คือ เพร�ะ อำ น� สฺม� และสฺมวึ ภิ ตั ต ิ แปลง อ ุ ทส่ี ุด นตฺ ุ เป็น อ ได้. อนตฺ ศัพท์ : มีอรรถ อวุตตฺ สมุจฺจย รวบรวมอรรถท่ีไม่ไดก้ ล�่ วไว ้ คือใหแ้ ปลง โยวิภัตติ เปน็ อิ ได ้ ในนปุงสกลงิ ค์ เช่น คุณวนตฺ ิ กลุ �นิ. ทำ�ตัวรปู คุณวนฺตา ศัพท์เดิมคอื = คุณวนฺต ุ หลงั คุณวนฺต ุ ลง โย ปฐม�วิภตั ต ิ คุณวนตฺ ุ + โย = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ ุ คณุ วนตฺ ฺ อุ + โย = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะโยวิภตั ติ แปลง อุ เปน็ อ คุณวนฺต ฺ อุ อ + โย = นฺตสุ ฺสนโฺ ต โยส ุ จ. หลังจ�กอก�รันต ์ แปลง โย เปน็ อ� คุณวนฺต ฺ อ + โย อ� = สพพฺ โยนีนม�เอ. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกต ิ คุณวนตฺ ฺ อ + อ� = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ หฺ ิฯ นำ�พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกับสระ อ� คณุ วนฺต� = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. สำ�เรจ็ รปู เป็น คณุ วนตฺ า. (คณุ วนฺต� ปุริส� ตฏิ €ฺ นฺติ. อ.บุรุษทัง้ หล�ย ผู้มีคุณ ยืนอยู่) ๑๐๑. อวณณฺ า จ เค. เค ในเพร�ะสิอ�ลปนะอันมีช่ือว่� ค ปเร อันเป็นเบ้อื งหลงั อำ อ.ก�รแปลงเปน็ อ ำ ดว้ ย อวณฺณ� จ อ.ก�ร แปลงเปน็ อวัณณะ ท. ดว้ ย นฺตุสสฺ แหง่ นฺตปุ จั จยั สวิภตตฺ สิ ฺส อันเปน็ ไปกบั ดว้ ยวิภัตติ โหติ ยอ่ มม.ี (เพร�ะสอิ �ลปนะท่ชี ื่อ ค แปลง นตฺ ุ กับ สิ เปน็ อำ, อ และ อ�) สตู รนี้ม ี ๓ บท. เป็น อาเทสวิธิสูตร. จศัพท ์ : มอี รรถ อนกุ ฑฺฒน ดึงบทว่� “อำ” ม�ไวใ้ นสตู รนี.้ ทำ�ตัวรูป คณุ วํ ศัพท์เดิมคอื = คุณวนฺตุ = อ�ลปเน จ. หลัง คณุ วนฺต ุ ลง สิ อ�ลปนะ คุณวนตฺ ุ + ส ิ = อาลปเน สิ คสโฺ . = อวณณฺ � จ เค. ตง้ั ส ิ ช่ือ ค คุณวนตฺ ุ + ส ิ ค เพร�ะสทิ ่ีช่ือ ค แปลง นฺตุ กบั สิ เป็น อำ คณุ ว นตฺ ุ+สิ อำ
กัณฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการนั ต์ 27 แยกพยญั ชนะ วฺ ออกจ�กสระ อ คณุ ว ฺ อ + อำ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ หฺ ิฯ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกต ิ คุณว ฺ อ + อ ำ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. นำ�พยญั ชนะ วฺ ไปประกอบกับสระ อ คุณวำ = คุณวนตฺ ุ = อ�ลปเน จ. สำ�เร็จรูปเป็น คุณวํ. (แน่ะ... ผ้มู คี ณุ ) = อาลปเน สิ คสฺโ. = อวณณฺ � จ เค. ท�ำ ตัวรูป คณุ ว ศัพท์เดมิ คือ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมฺหิฯ หลงั คุณวนตฺ ุ ลง ส ิ อ�ลปนะ คุณวนฺตุ + ส ิ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. ตงั้ ส ิ ชอื่ ค คณุ วนตฺ ุ + ส ิ ค = คณุ วนตฺ ุ = อ�ลปเน จ. เพร�ะสทิ ่ชี ่อื ค แปลง นตฺ ุ กบั ส ิ เป็น อ คณุ ว นฺต+ุ ส ิ อ = อาลปเน สิ คสฺโ. = อวณณฺ � จ เค. แยกพยญั ชนะ วฺ ออกจ�กสระ อ คุณวฺ อ + อ = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ ฺหิฯ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ คณุ ว ฺ อ + อ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. น�ำ พยัญชนะ ว ฺ ไปประกอบกบั สระ อ คุณว ส�ำ เร็จรูปเปน็ คณุ ว. (แน่ะ... ผ้มู คี ุณ) ทำ�ตวั รปู คณุ วา ศัพท์เดมิ คอื หลงั คณุ วนฺตุ ลง สิ อ�ลปนะ คณุ วนตฺ ุ + ส ิ ตั้ง สิ ชอื่ ค คุณวนฺตุ + สิ ค เพร�ะสทิ ชี่ อ่ื ค แปลง นตฺ ุ กบั สิ เป็น อ� คุณว นตฺ +ุ ส ิ อ� แยกพยญั ชนะ ว ฺ ออกจ�กสระ อ คณุ วฺ อ + อ� ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ คณุ ว ฺ อ + อ� น�ำ พยญั ชนะ วฺ ไปประกอบกบั สระ อ� คณุ ว� ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ คุณวา. (แนะ่ ... ผู้มคี ณุ ) ๑๐๒. โต-ต-ิ ตา ส-สฺมึ-นาส.ุ สสฺมนึ �สุ ในเพร�ะ ส, สฺมึ และน�วิภตั ต ิ ท. โตตติ � อ.ก�รแปลงเป็น โต ต ิ และ ต� ท. นฺตุสสฺ แหง่ นฺตปุ จั จยั สวิภตตฺ สิ สฺ อนั เปน็ ไปกบั ด้วยวิภัตต ิ โหนตฺ ิ ย่อมมี ว� บ้�ง. (เพร�ะ ส, สมฺ ึ และน�วภิ ัตต ิ แปลง นฺต ุ กบั ส เปน็ โต, นตฺ ุ กบั สมฺ ึ เป็น ติ, นฺต ุ กบั น� เป็น ต� บ้�ง) สตู รน้มี ี ๒ บท. เป็น อ�เทสวิธิสตู ร. ทำ�ตัวรูป คุณวตา ศัพทเ์ ดมิ คือ = คณุ วนตฺ ุ หลงั คณุ วนตฺ ุ ลง น� ตตยิ �วภิ ัตติ คุณวนตฺ ุ + น� = กรเณ ตติย�. เพร�ะน�วิภัตต ิ แปลงนตฺ ุกับน� เปน็ ต� คณุ ว นฺตุ+น� ต� = โตตติ � สสฺมึน�สุ. ส�ำ เร็จรูปเปน็ คุณวตา. (ดว้ ย, โดย, อนั , ต�ม, เพร�ะ, ม,ี ด้วยทัง้ ผ้มู ีคณุ )
28 รูปสิทธิทปี นี [ ๒. นาม ท�ำ ตวั รปู คณุ วนเฺ ตน ศัพทเ์ ดมิ คอื = คณุ วนฺตุ หลงั คณุ วนฺตุ ลง น� ตติย�วิภัตติ คุณวนฺต ุ + น� = กรเณ ตตยิ �. แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อุ คุณวนตฺ ฺ อุ + น� = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะน�วิภตั ต ิ แปลง อ ุ เปน็ อ คุณวนฺตฺ อ ุ อ + น� = จศัพท์ใน นตฺ ุสฺสนฺโต โยส ุ จ. หลงั จ�กอก�รนั ต ์ แปลง น� เปน็ เอน คณุ วนฺต ฺ อ + น� เอน = อโต เนน. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ คณุ วนฺตฺ อ + เอน = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ิ ฯ นำ�พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกับสระ เอ คุณวนเฺ ตน = นเย ปร ำ ยุตฺเต. ส�ำ เร็จรูปเป็น คุณวนเฺ ตน. (ดว้ ย, โดย, อนั , ต�ม, เพร�ะ, ม,ี ด้วยทง้ั ผมู้ ีคุณ) ๑๐๓. นตฺ สสฺ เส วา. เส ในเพร�ะสวภิ ัตติ นตฺ สฺส อ.ก�รแปลงเป็น นตฺ สสฺ นตฺ สุ สฺ แหง่ นฺตุปจั จยั สวภิ ตฺตสิ ฺส อันเป็นไปกบั ดว้ ย วภิ ตั ต ิ โหติ ย่อมม ี ว� บ�้ ง. (เพร�ะสวิภัตต ิ แปลง นตฺ ุ กบั ส เป็น นตฺ สสฺ บ�้ ง) สตู รนม้ี ี ๓ บท. เป็น อ�เทสวิธสิ ูตร. ทำ�ตวั รปู คุณวนตฺ สฺส ศัพท์เดิมคือ = คุณวนฺต ุ = สมฺปท�เน จตุตฺถ.ี หลงั คุณวนฺต ุ ลง ส จตตุ ถวี ิภตั ติ คณุ วนตฺ ุ + ส = นฺตสฺส เส ว�. เพร�ะสวิภัตติ แปลงนฺตกุ ับสเป็น นฺตสฺส คุณว นตฺ +ุ ส นตฺ สฺส สำ�เร็จรปู เปน็ คณุ วนตฺ สฺส. (แก่, เพอื่ , ตอ่ ผูม้ คี ุณ) ทำ�ตัวรูป คณุ วโต ศพั ท์เดมิ คือ = คณุ วนฺตุ = สมฺปท�เน จตุตฺถี. หลัง คณุ วนฺต ุ ลง ส จตุตถีวิภตั ติ คุณวนฺตุ + ส = โตติต� สสฺมนึ �ส.ุ เพร�ะสวภิ ตั ต ิ แปลง นฺตุ กบั ส เป็น โต คุณว นฺต+ุ ส โต สำ�เรจ็ รูปเป็น คณุ วโต. (แก,่ เพื่อ, ต่อผ้มู คี ณุ ) ๑๐๔. นํมฺหิ ตํ วา. นำมฺหิ ในเพร�ะนำวภิ ตั ต ิ ตำ อ.ก�รแปลงเป็น ต ำ นตฺ สุ สฺ แหง่ นตฺ ปุ ัจจยั สวภิ ตฺตสิ ฺส อนั เป็นไปกบั ด้วยวภิ ตั ติ โหติ ย่อมมี ว� บ�้ ง. (เพร�ะนวำ ภิ ัตติ แปลง นฺต ุ กับ น ำ เปน็ ต ำ บ้�ง) สูตรน้ีมี ๓ บท. เป็น อ�เทสวธิ ิสูตร.
กัณฑ์ ] ปงุ ลงิ ค์ อการนั ต์ 29 ทำ�ตวั รปู คุณวต ํ ศัพท์เดมิ คอื = คณุ วนฺตุ หลัง คณุ วนตฺ ุ ลง น ำ จตุตถีวภิ ตั ติ คณุ วนตฺ ุ + น ำ = สมฺปท�เน จตุตฺถี. เพร�ะนวำ ิภตั ติ แปลง นฺต ุ กับ น ำ เปน็ ตำ คณุ ว นตฺ +ุ น ำ ตำ = นำมฺหิ ตำ ว�. ส�ำ เร็จรปู เป็น คุณวต.ํ (แก่, เพ่ือ, ต่อผูม้ ีคุณทั้งหล�ย) ท�ำ ตวั รปู คณุ วนฺตานํ ศพั ท์เดมิ คือ = คณุ วนฺต ุ หลัง คุณวนฺตุ ลง นำ จตุตถีวิภัตต ิ คุณวนฺตุ + นำ = สมปฺ ท�เน จตุตฺถ.ี แยกพยัญชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ ุ คณุ วนฺตฺ อุ + นำ = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะนวำ ภิ ตั ต ิ แปลง อุ เปน็ อ คณุ วนฺตฺ อุ อ + น ำ = นฺตุสสฺ นโฺ ต โยสุ จ. เพร�ะนำวภิ ัตต ิ ทฆี ะ อ เปน็ อ� คุณวนฺตฺ อ อ� + นำ = สุนหำ ิส ุ จ. นำ�พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกบั สระ อ� คุณวนฺต�น ำ = นเย ปรำ ยุตฺเต. สำ�เร็จรปู เป็น คุณวนฺตานํ. (แก่, เพื่อ, ต่อผู้มีคณุ ทัง้ หล�ย) ท�ำ ตวั รปู คณุ วตา ศพั ท์เดิมคอื = คุณวนตฺ ุ หลัง คุณวนฺต ุ ลง สมฺ � ปญั จมีวิภัตต ิ คณุ วนฺตุ + สฺม� = อปาทาเน ปจฺ ม.ี หลังจ�กนตฺ ุปัจจยั ตง้ั สมฺ � เปน็ น� คณุ วนฺต ุ + สฺม� น� = อมฺหตมุ ฺหนฺตรุ �ชพฺรหมฺ ตฺตสขฯ เพร�ะน�วภิ ตั ต ิ แปลงนฺตุกับน�เป็น ต� คุณว นฺตุ+น� ต� = โตตติ � สสฺมึน�สุ. สำ�เรจ็ รปู เปน็ คุณวตา. (แต่, จ�ก, กว่�, เพร�ะผ้มู คี ณุ ) ทำ�ตัวรูป คุณวต ิ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = คุณวนตฺ ุ หลัง คณุ วนฺตุ ลง สมฺ ึ สัตตมวี ภิ ตั ต ิ คุณวนฺตุ + สมฺ ึ = โอก�เส สตฺตมี. เพร�ะสฺมึวภิ ัตติ แปลงนตฺ ุกับสฺมึเปน็ ติ คณุ ว นฺต+ุ สฺมึ ต ิ = โตตติ � สสมฺ นึ �สุ. สำ�เร็จรปู เปน็ คุณวติ. (ใน, ใกล,้ ท่,ี ครน้ั เม่อื , ในเพร�ะ, เหนือ, บนผมู้ ีคณุ ) ทำ�ตวั รูป คุณวนเฺ ต ศพั ทเ์ ดิมคือ = คุณวนตฺ ุ หลงั คุณวนตฺ ุ ลง สมฺ ึ สัตตมวี ภิ ัตติ คุณวนฺต ุ + สมฺ ึ = โอก�เส สตตฺ มี. แยกพยัญชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อุ คณุ วฺ นตฺ ฺ อ ุ + สมฺ ึ = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะสฺมึวิภตั ติ แปลง อ ุ เป็น อ คุณวนฺต ฺ อ ุ อ + สมฺ ึ = จศพั ทใ์ น นตฺ สุ ฺสนโฺ ต โยสุ จ. หลงั จ�กอก�รนั ต ์ แปลง สฺม ึ เป็น เอ คุณวนฺต ฺ อ + สฺม ึ เอ = สมฺ �สฺมนึ ำ ว�. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ คุณวนฺต ฺ อ + เอ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ฯิ นำ�พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกบั สระ เอ คณุ วนฺเต = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. ส�ำ เร็จรปู เปน็ คณุ วนเฺ ต. (ใน, ใกล,้ ที่, คร้ันเม่อื , ในเพร�ะ, เหนอื , บนผูม้ ีคุณ)
30 รูปสทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตัวรูป คุณวนเฺ ตสุ ศพั ทเ์ ดิมคือ = คุณวนตฺ ุ หลงั คณุ วนฺตุ ลง สุ สตั ตมีวภิ ตั ต ิ คุณวนตฺ ุ + ส ุ = โอก�เส สตฺตมี. แยกพยัญชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ ุ คณุ ฺวนตฺ ฺ อุ + สุ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะสวุ ิภัตติ แปลง อุ เปน็ อ คุณวนตฺ ฺ อ ุ อ + ส ุ = นตฺ สุ สฺ นฺโต โยส ุ จ. เพร�ะสวุ ภิ ัตต ิ แปลง อ เปน็ เอ คุณวนตฺ ฺ อ เอ + สุ = สหุ สิ ฺวก�โร เอ. นำ�พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกับสระ เอ คณุ วนฺเตส ุ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ คุณวนฺเตส.ุ (ใน, ใกล,้ ที,่ ครนั้ เมอ่ื , ในเพร�ะ, เหนือ, บนผมู้ ีคุณ ท.) คุณวนตฺ ุสททฺ ปทม�ล� (ผูม้ ีคณุ ) วิภัตต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. คุณว� คณุ วนฺโต คุณวนฺต� อ�ลปนะ. โภ คุณวำ คุณว คุณว� ภวนโฺ ต คณุ วนโฺ ต คณุ วนฺต� ทุตยิ �. คุณวนตฺ ำ คณุ วนฺเต ตตยิ �. คุณวต� คณุ วนฺเตน คณุ วนฺเตห ิ คณุ วนฺเตภิ จตุตถ.ี คุณวโต คุณวนฺตสสฺ คุณวตำ คุณวนตฺ �นำ ปัญจม.ี คณุ วต� คณุ วนฺต� คุณวนตฺ มหฺ � คณุ วนฺตสฺม� คณุ วนฺเตหิ คณุ วนฺเตภิ ฉัฏฐ.ี คณุ วโต คุณวนตฺ สฺส คุณวต ำ คุณวนฺต�นำ สัตตมี. คณุ วต ิ คุณวนเฺ ต คณุ วนตฺ มหฺ ิ คุณวนฺตสฺมึ คณุ วนฺเตสุ ประโยคบ�ลีตวั อย่�ง ป. คณุ ว� มนุสโฺ ส อ�ว�สำ คจฉฺ ติ. คุณวนโฺ ต มนสุ สฺ � อ�ว�ส ำ คจฉฺ นตฺ .ิ .......................................................................... ............................................................................. อ�. คณุ วำ อุป�สก ตวฺ ำ วิห�ร ำ คจฺฉ�ห.ิ คุณวนฺโต อปุ �สก� ตุมฺเห วิห�ร ำ คจฺฉถ. .......................................................................... ............................................................................. ทุ. ตวฺ ำ คุณวนฺต ำ อุป�สกำ ปสฺส. ตุมเฺ ห คณุ วนเฺ ต อุป�สเก ปสฺสถ. .......................................................................... ............................................................................. ต. อหำ คุณวต� ปุริเสน สทธฺ ึ ค�ม ำ คจฺฉ�ม.ิ มยำ คณุ วนเฺ ตห ิ ปรุ เิ สหิ สทฺธึ ค�มำ คจฉฺ �ม. .......................................................................... ............................................................................. จ. อหํ คุณวโต ทารกสฺส ตฏุ ฺ€ทิ ายํ เทมิ. มยํ คุณวตํ ทารกานํ ตฏุ €ฺ ิทาเย เทม. .......................................................................... .............................................................................
กณั ฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการันต์ 31 ปัญ. สสิ โฺ ส คุณวต� อปุ ชฺฌ�ย� ธมฺมำ สุณ�ติ. สิสสฺ � คุณวนเฺ ตหิ อปุ ชฌฺ �เยห ิ ธมฺเม สณุ นตฺ ิ. .......................................................................... ............................................................................. ฉ. คณุ วโต ปุรสิ สสฺ กติ ตฺ ิสทโฺ ท อพภฺ ุคฺคจฺฉติ. คุณวต ำ ปรุ สิ �นำ กติ ตฺ ิสทฺท� อพภฺ ุคฺคจฉฺ นฺติ. .......................................................................... ............................................................................. ส. ภควา คุณวติ อุปาสเก ตฏิ ฺ€ติ. ภควา คุณวนเฺ ตสุ อุปาสเกสุ ตฏิ €ฺ ต.ิ .......................................................................... ............................................................................. ศพั ทแ์ จกต�ม คุณวนฺตุ มีดงั น้ี ยสวนฺตุ ผู้มยี ศ ปฺ วนตฺ ุ ผู้มปี ญั ญ� คณวนฺตุ ผู้มีหม ู่ กุลวนตฺ ุ ผู้มีตระกูลดี พลวนตฺ ุ ผมู้ กี ำ�ลัง ธนวนตฺ ุ ผู้มที รพั ย ์ ผลวนตฺ ุ ต้นไมอ้ นั มีผล สีลวนฺต ุ ผู้มีศีล ภควนตฺ ุ พระผู้มพี ระภ�ค สุตวนฺตุ ผ้มู กี �รไดย้ ินได้ฟังม�ก ๑๐๕. สิมฺหิ วา. สมิ หฺ ิ ในเพร�ะสวิ ภิ ัตติ อนโฺ ต อ.สระท่สี ุด นฺตสุ สฺ ของนฺตปุ จั จัย อตตฺ ำ แปลงเปน็ อ โหต ิ ยอ่ มเป็น ว� บ้�ง. (เพร�ะสวิ ิภตั ต ิ แปลงสระ อ ุ ท่สี ดุ ของนตฺ ุปัจจัย เปน็ อ บ�้ ง) สตู รนม้ี ี ๒ บท. เป็น อ�เทสวิธิสตู ร. ทำ�ตัวรปู หิมวนฺโต ศัพท์เดมิ คอื = หมิ วนตฺ ุ = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. หลัง หมิ วนตฺ ุ ลง ส ิ ปฐม�วภิ ตั ต ิ หมิ วนตฺ ุ + สิ = ปุพฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = สิมฺหิ ว�. แยกพยัญชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ ุ หิมวนตฺ ฺ อุ + ส ิ = โส. = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ิฯ เพร�ะสวิ ภิ ตั ต ิ แปลง อุ เปน็ อ หิมวนฺต ฺ อุ อ + ส ิ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. หลังจ�กอก�รนั ต ์ แปลง ส ิ เปน็ โอ หมิ วนฺตฺ อ + ส ิ โอ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกต ิ หิมวนตฺ ฺ อ + โอ นำ�พยัญชนะ ต ฺ ไปประกอบกบั สระ โอ หิมวนฺโต ส�ำ เร็จรูปเป็น หิมวนโฺ ต. (อ.ภเู ข�หิมพ�นต์)
32 รปู สิทธิทีปนี [ ๒. นาม หมิ วนตฺ ุสททฺ ปทม�ล� (ภเู ข�หิมพ�นต์) วิภัตต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. หิมว� หิมวนฺโต หมิ วนฺโต หิมวนตฺ � อ�ลปนะ. เห หมิ วำ หิมว หิมว� เห หิมวนฺโต หิมวนฺต� ทตุ ยิ �. หิมวนตฺ ำ หมิ วนฺเต ตติย�. หิมวต� หมิ วนเฺ ตน หิมวนฺเตห ิ หิมวนฺเตภิ จตตุ ถ.ี หิมวโต หมิ วนตฺ สฺส หิมวตำ หมิ วนตฺ �นำ ปญั จมี. หิมวต� หมิ วนฺต� หมิ วนฺตมฺห� หิมวนตฺ สฺม� หมิ วนฺเตห ิ หิมวนเฺ ตภิ ฉฏั ฐ.ี หมิ วโต หมิ วนตฺ สฺส หมิ วต ำ หิมวนตฺ �นำ สตั ตม.ี หิมวติ หิมวนเฺ ต หิมวนตฺ มฺหิ หิมวนฺตสมฺ ึ หิมวนเฺ ตสุ สติมนตฺ ุ ผู้มสี ติ ศพั ท์แจกต�ม หมิ วนฺตุ มีดังน้ี ธติ มิ นฺต ุ ผู้มคี ว�มต้งั มนั่ คตมิ นฺต ุ ผู้มปี ญั ญ� มตมิ นตฺ ุ ผ้มู ีปญั ญ� มุติมนตฺ ุ ผู้มีปัญญ� มุตตฺ มิ นตฺ ุ ผมู้ ีปัญญ� ชุตมิ นตฺ ุ ผู้มีรศั ม,ี ร่งุ เรอื ง สิรมิ นตฺ ุ ผมู้ ีสิริ หริ มิ นตฺ ุ ผ้มู คี ว�มละอ�ย ถุติมนตฺ ุ ผมู้ กี �รสรรเสรญิ รติมนฺตุ ผมู้ ีคว�มยนิ ด ี ยตมิ นตฺ ุ ผู้มีคว�มเพียร สุจมิ นตฺ ุ ผู้มคี ว�มสะอ�ด กลมิ นฺตุ ผู้มโี ทษ พลิมนฺตุ ผมู้ พี ลีกรรม กสมิ นตฺ ุ ผู้มีก�รไถ รจุ มิ นฺตุ ผูม้ คี ว�มชอบใจ พทุ ฺธมิ นฺต ุ ผ้มู ปี ัญญ� จกขฺ ุมนฺต ุ ผมู้ ปี ญั ญ�จกั ษุ พนฺธมุ นฺตุ ผมู้ ีพวกพอ้ ง เหตมุ นฺต ุ ผมู้ ีเหตุ เสตุมนฺตุ ผู้มีสะพ�น เกตมุ นตฺ ุ ผู้มธี ง ร�หมุ นฺตุ ผู้มีร�ห ู ภ�ณมุ นฺตุผมู้ แี สงสว่�ง ข�ณมุ นฺต ุ ป่�อนั มีตอ วชิ ชฺ มุ นฺตุ ทอ้ งฟ้�อนั มสี �ยฟ้� หม�ยเหต:ุ - เฉพ�ะ สติมนฺตุ และ พนฺธุมนฺตุศัพท ์ ใน อทำ ุตยิ �วิภัตตแิ ละสวภิ ตั ต ิ ใหแ้ ปลง นตฺ ปุ จั จัยทง้ั ตัว เปน็ อ สำ�เร็จรปู เป็น สตมิ ำ สติมนฺต,ำ พนฺธมุ ำ พนธฺ มุ นฺตำ, สตมิ สฺส สตมิ โต สติมนตฺ สสฺ , พนธฺ มุ สฺส พนธฺ มุ โต พนฺธุมนฺตสสฺ วิภตั ตทิ เี่ หลอื แจกเหมอื นกบั หมิ วนตฺ ุศัพท ์ ทุกประก�ร. ๑๐๖. สพพฺ สฺส วา อ-ํ เสสุ. อเำ สสุ ในเพร�ะอำวภิ ัตติและสวิภตั ต ิ ท. อตฺต ำ อ.คว�มเปน็ อ นตฺ ุสสฺ แหง่ นตฺ ุปจั จยั สพพฺ สฺส ทั้งตวั โหต ิ ยอ่ มม ี ว� บ้�ง. (เพร�ะอำและสวภิ ตั ติ แปลง นฺตปุ จั จัยทง้ั ตัว เปน็ อ บ้�ง) สตู รนี้มี ๓ บท. เป็น อ�เทสวธิ ิสตู ร. ทำ�ตัวรูป สตมิ ํ ศพั ท์เดิมคือ = สตมิ นตฺ ุ หลงั สติมนตฺ ุ ลง อ ำ ทุติย�วิภัตต ิ สตมิ นฺตุ + อำ = กมมฺ ตฺเถ ทตุ ิย�.
กณั ฑ์ ] ปงุ ลงิ ค์ อการนั ต์ 33 เพร�ะอำวิภัตติ แปลง นฺต ุ เป็น อ สติม นฺตุ อ + อำ = สพฺพสฺส ว� อำเสสุ. แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ สติมฺ อ อ + อ ำ = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะสระหลัง ลบสระหน�้ สตมิ ฺ อ อ + อ ำ = สร� สเร โลป.ํ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ สติมฺ อ + อ ำ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมฺหฯิ นำ�พยญั ชนะ มฺ ไปประกอบกบั สระ อ สตมิ ำ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. สำ�เร็จรปู เปน็ สติม.ํ (ซง่ึ , สู่, ยงั , สน้ิ , ตลอด, กะ, เฉพ�ะผู้มีสต)ิ ท�ำ ตัวรูป สติมสฺส ศพั ทเ์ ดิมคอื = สตมิ นตฺ ุ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ .ี หลงั สตมิ นตฺ ุ ลง ส จตตุ ถวี ภิ ัตต ิ สตมิ นฺตุ + ส = สพพฺ สฺส ว� อำเสส.ุ = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะสวิภตั ติ แปลง นฺตุ เป็น อ สตมิ นฺต ุ อ + ส = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหฯิ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. แยกพยญั ชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ สติมฺ อ อ + ส = ส�คโม เส. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ สติม ฺ อ อ + ส นำ�พยัญชนะ มฺ ไปประกอบกับสระ อ สติม + ส เพร�ะ สวิภัตติ ลง สอฺ �คม สตมิ + ส ฺ - ส ส�ำ เร็จรปู เป็น สตมิ สฺส. (แก,่ เพ่อื , ต่อผู้มีสต)ิ วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ สตมิ นตฺ สุ ททฺ ปทม�ล� (ผ้มู สี ต)ิ พหุวจนะ ปฐม�. สตมิ � สติมนโฺ ต สตมิ นฺโต สติมนฺต� อ�ลปนะ. โภ สติม ำ สติม สติม� ภวนโฺ ต สตมิ นฺโต สติมนฺต� ทตุ ยิ �. สตมิ ำ สตมิ นฺตำ สติมนเฺ ต ตติย�. สติมต� สตมิ นฺเตน สติมนเฺ ตห ิ สตมิ นเฺ ตภิ จตุตถี. สตมิ สสฺ สติมโต สติมนฺตสสฺ สตมิ ตำ สติมนตฺ �นำ ปญั จม.ี สตมิ ต� สตมิ นฺต� สติมนตฺ มฺห� สติมนตฺ สฺม� สติมนเฺ ตห ิ สติมนฺเตภิ ฉัฏฐี. สติมสฺส สตมิ โต สติมนตฺ สฺส สติมต ำ สตมิ นตฺ �นำ สตั ตมี. สตมิ ติ สตมิ นฺเต สตมิ นฺตมฺหิ สตมิ นตฺ สมฺ ึ สตมิ นเฺ ตสุ ป. สติม� นฬก�โร กมมฺ ำ กโรต.ิ ประโยคบ�ลีตัวอย�่ ง สตมิ นตฺ � นฬก�ร� กมฺม�นิ กโรนตฺ ิ. .......................................................................... ............................................................................. อ�. สติม อุป�สก ตวฺ ำ วหิ �รำ คจฺฉ�ห.ิ สติมนโฺ ต อปุ �สก� ตมุ เฺ ห วหิ �รำ คจฺฉถ. .......................................................................... .............................................................................
34 รูปสทิ ธิทีปนี [ ๒. นาม ท.ุ ตวฺ ำ สติมนฺตำ ม�ล�ก�รำ ปสฺส. ตมุ เฺ ห สติมนฺเต ม�ล�ก�เร ปสสฺ ถ. .......................................................................... ............................................................................. ต. อหำ สติมต� ปุริเสน สทธฺ ึ ค�มำ คจฺฉ�มิ. มยำ สติมนเฺ ตห ิ ปุริเสห ิ สทฺธึ ค�มำ คจฉฺ �ม. .......................................................................... ............................................................................. จ. อหํ สตมิ โต ทารกสสฺ ตฏุ ฺ€ทิ ายํ เทมิ. มยํ สติมตํ ทารกานํ ตฏุ ฺ€ิทาเย เทม. .......................................................................... ............................................................................. ปญั . สสิ ฺโส สตมิ นฺต� อุปชฺฌ�ย� ธมฺมำ สุณ�ติ. สสิ ฺส� สติมนเฺ ตห ิ อุปชฌฺ �เยหิ ธมฺเม สณุ นตฺ ิ. .......................................................................... ............................................................................. ฉ. สตมิ โต นรสฺส กิตฺตสิ ทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. สตมิ ตำ นร�นำ กติ ตฺ ิสททฺ � อพฺภุคฺคจฺฉนฺต.ิ .......................................................................... ............................................................................. ส. สติมนฺเต ปุรเิ ส กมมฺ ำ กโรนเฺ ต, ท�โส คจฺฉ.ิ สตมิ นเฺ ตสุ ปรุ เิ สสุ กมฺเม กโรนเฺ ตส,ุ ท�ส� คมึสุ. .......................................................................... ............................................................................. ๑๐๗. สิมฺหิ คจฺฉนฺตาทีนํ นฺต-สทฺโท อ.ํ สิมฺห ิ ในเพร�ะสิวภิ ัตติ นตฺ สทฺโท อ.นฺตศพั ท ์ คจฉฺ นตฺ �ทีนำ (สททฺ �นำ) แหง่ ศพั ท์ ท. ม ี คจฉฺ นฺต เปน็ ต้น อ�ปชฺชเต ยอ่ มถึง อำ ซงึ่ คว�มเปน็ อ ำ ว� บ�้ ง. (เพร�ะสวิ ิภัตติ แปลง นตฺ ของศพั ท์ม ี คจฉฺ นฺต เปน็ ตน้ เปน็ อำ บ้�ง) สตู รนมี้ ี ๔ บท. เปน็ อ�เทสวิธิสตู ร. ด้วยก�รแบง่ สูตร(ทฺวิธ�กรณโยค)ว่� “นตฺ สทโฺ ท อ”ำ แปลง นฺต ของศัพท์ อืน่ ซ่งึ ไมใ่ ชค่ จฺฉนตฺ �ทิคณะ เปน็ อำ เช่น กรสิ ฺส ำ (กร + สฺสนตฺ ุ +สิ) (รูปสทิ ธ.ิ สูตรท ่ี ๖๕๐ หน�้ ๔๗๗) ทำ�ตวั รปู คจฺฉํ ศพั ท์เดิมคือ = คจฉฺ นฺต = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. หลงั คจฉฺ นฺต ลง ส ิ ปฐม�วภิ ัตต ิ คจฺฉนตฺ + สิ = สมิ หฺ ิ คจฺฉนตฺ �ทีน ำ นฺตสทฺโท อำ. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะสิวิภตั ต ิ แปลง นฺต เปน็ อ ำ คจฺฉ นตฺ อ ำ + สิ = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทมิ ฺหฯิ = เสสโต โลป ํ คสิป.ิ แยกพยัญชนะ ฉฺ ออกจ�กสระ อ คจฉฺ ฺ อ อ ำ + ส ิ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกติ คจฉฺ ฺ อ อ ำ + สิ ลบสวิ ิภัตติ คจฺฉฺ อ ำ + ส ิ น�ำ พยัญชนะ ฉฺ ไปประกอบกับสระ อ คจฺฉำ สำ�เร็จรูปเป็น คจฉฺ ํ. (อ.ผไู้ ปอยู่)
กัณฑ์ ] ปุงลงิ ค์ อการนั ต์ 35 ๑๐๘. เสเสสุ นตฺ ุ’ว. เสเสสุ (วภิ ตตฺ ปิ ปฺ จจฺ เยส)ุ ในเพร�ะวิภตั ติและปัจจยั ท. อันเหลือจ�กสวิ ิภัตต ิ นตฺ สทฺโท อ.นตฺ ศพั ท ์ คจฉฺ นตฺ �ทนี ำ (สททฺ �น)ำ ของศัพท ์ ท. ม ี คจฉฺ นฺต เป็นตน้ (โสตุชเนน) อนั นกั ศึกษ� (ทฏ€ฺ พฺโพ) พงึ ทร�บ นตฺ ุ อวิ ว�่ เป็นเพยี งดัง นตฺ ุปจั จัย โหติ ยอ่ มเปน็ . (เพร�ะวิภตั ตแิ ละปจั จัยท่เี หลอื จ�กสิวภิ ตั ติ ตั้ง นตฺ ของศัพทม์ ี คจฺฉนตฺ เปน็ ตน้ เหมอื น นฺตปุ ัจจัย) สูตรน้มี ี ๓ บท คือ เสเสสุ, นฺตุ, อิว. เปน็ ก�ริย�ติเทสสูตร สตู รชแี้ จงวธิ ีทำ�ตัวรูป. ท�ำ ตวั รปู คจฺฉนโฺ ต ศัพท์เดิมคอื = คจฺฉนฺต = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลัง คจฉฺ นฺต ลง โย ปฐม�วภิ ตั ต ิ คจฺฉนตฺ + โย = เสเสส ุ นตฺ วุ . = นตฺ ุสฺส นฺโต. เพร�ะโยวิภัตต ิ ต้ัง นฺต เหมอื น นตฺ ุ คจฉฺ นฺต นฺตุ + โย เพร�ะโยวภิ ตั ติ แปลงนฺตุกับโยเปน็ นฺโต คจฺฉ นฺตุ+โย นฺโต สำ�เร็จรูปเปน็ คจฉฺ นโฺ ต. (อ.ผไู้ ปอยู่ ท.) ทำ�ตวั รปู คจฉฺ นฺตา ศัพทเ์ ดิมคอื = คจฉฺ นฺต = ลงิ ฺคตเฺ ถ ป€มา. หลงั คจฺฉนตฺ ลง โย ปฐม�วิภตั ติ คจฉฺ นฺต + โย = สพฺพโยนีนม�เอ. = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. หลังจ�กอก�รันต์ แปลง โย เปน็ อ� คจฉฺ นฺต + โย อ� = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ ฺหฯิ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. แยกพยญั ชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ คจฉฺ นฺต ฺ อ + อ� ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกติ คจฉฺ นตฺ ฺ อ + อ� น�ำ พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� คจฺฉนตฺ � สำ�เรจ็ รูปเปน็ คจฺฉนฺตา. (อ.ผู้ไปอยู ่ ท.) ท�ำ ตวั รปู คจฺฉตา ศพั ท์เดิมคือ = คจฺฉนฺต = กรเณ ตตยิ �. หลัง คจฉฺ นฺต ลง น� ตตยิ �วภิ ตั ติ คจฺฉนตฺ + น� = เสเสส ุ นฺตวุ . = โตตติ � สสฺมึน�สุ. เพร�ะน�วิภตั ต ิ ตงั้ นตฺ เหมือน นฺต ุ คจฺฉ นฺต นตฺ ุ + น� เพร�ะน�วิภตั ติ แปลงนฺตุกับน�เป็น ต� คจฉฺ นตฺ +ุ น� ต� ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ คจฉฺ ตา. (ด้วย... ผู้ไปอยู่) ทำ�ตัวรปู คจฉฺ โต ศัพท์เดิมคือ = คจฉฺ นฺต = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ .ี หลงั คจฺฉนตฺ ลง ส จตุตถีวภิ ตั ติ คจฉฺ นตฺ + ส = เสเสส ุ นฺตวุ . = โตตติ � สสมฺ ึน�สุ. เพร�ะสวิภัตต ิ ต้งั นตฺ เหมือน นฺต ุ คจฉฺ นตฺ นตฺ ุ + ส เพร�ะสวิภตั ต ิ แปลง นฺตุ กบั ส เปน็ โต คจฉฺ นฺต+ุ ส โต สำ�เรจ็ รูปเป็น คจฺฉโต. (แก,่ เพอื่ , ต่อผู้ไปอยู่)
36 รปู สิทธทิ ปี นี [ ๒. นาม ทำ�ตัวรปู คจฺฉตํ ศพั ท์เดิมคือ = คจฺฉนฺต หลัง คจฺฉนฺต ลง นำ จตุตถีวิภตั ต ิ คจฺฉนตฺ + นำ = สมปฺ ท�เน จตุตฺถ.ี เพร�ะนำวิภตั ติ ต้ัง นฺต เหมอื น นตฺ ุ คจฉฺ นตฺ นตฺ ุ + น ำ = เสเสสุ นฺตวุ . เพร�ะนำวภิ ัตติ แปลง นฺตุ กบั น ำ เปน็ ต ำ คจฉฺ นตฺ +ุ นำ ตำ = นมำ ฺหิ ตำ ว�. สำ�เรจ็ รปู เป็น คจฺฉตํ. (แก,่ เพ่อื , ต่อผไู้ ปอยู่ทัง้ หล�ย) ท�ำ ตวั รูป คจฉฺ ต ิ ศพั ท์เดมิ คือ = คจฉฺ นฺต = โอก�เส สตฺตม.ี หลัง คจฺฉนตฺ ลง สฺมึ สตั ตมีวิภัตต ิ คจฺฉนฺต + สมฺ ึ = เสเสส ุ นฺตุว. = โตตติ � สสมฺ ึน�สุ. เพร�ะสมฺ ึวภิ ัตติ ต้ัง นฺต เหมอื น นตฺ ุ คจฉฺ นตฺ นตฺ ุ + สมฺ ึ เพร�ะสมฺ วึ ภิ ัตติ แปลงนฺตกุ บั สฺมเึ ปน็ ติ คจฺฉ นฺต+ุ สมฺ ึ ต ิ สำ�เรจ็ รปู เป็น คจฺฉติ. (ใน... ผไู้ ปอยู)่ วิภตั ต ิ เอกวจนะ คจฉฺ นฺตสทฺทปทม�ล� (ผู้ไปอยู่) พหุวจนะ ปฐม�. คจฺฉำ คจฉฺ นฺโต คจฉฺ นโฺ ต คจฉฺ นตฺ � อ�ลปนะ. โภ คจฉฺ ำ คจฺฉ คจฺฉ� ภวนฺโต คจฺฉนฺโต คจฺฉนตฺ � ทุตยิ �. คจฺฉนตฺ ำ คจฺฉนเฺ ต ตติย�. คจฺฉต� คจฉฺ นเฺ ตน คจฉฺ นเฺ ตหิ คจฉฺ นฺเตภิ จตุตถ.ี คจฉฺ โต คจฺฉนฺตสฺส คจฺฉตำ คจฉฺ นตฺ �นำ ปัญจมี. คจฺฉต� คจฺฉนตฺ � คจฺฉนตฺ มหฺ � คจฺฉนฺตสมฺ � คจฺฉนเฺ ตห ิ คจฉฺ นเฺ ตภิ ฉฏั ฐ.ี คจฉฺ โต คจฺฉนฺตสสฺ คจฉฺ ตำ คจฺฉนตฺ �นำ สัตตม.ี คจฺฉติ คจฺฉนฺเต คจฺฉนตฺ มฺห ิ คจฺฉนตฺ สฺม ึ คจฺฉนฺเตสุ ประโยคบ�ลีตวั อย่�ง ป. สโู ท อ�ปณ ำ คจฺฉนฺโต อ�ห�ร ำ กณิ �ต.ิ สทู � อ�ปณำ คจฉฺ นตฺ � อ�ห�เร กณิ นฺติ. .......................................................................... ............................................................................. อ�. คจฺฉ ำ อุป�สก ตวฺ ำ มจฉฺ ำ คณหฺ �หิ. คจฺฉนฺโต อุป�สก� ตุมเฺ ห มจเฺ ฉ คณฺหถ. .......................................................................... ............................................................................. ทุ. ตวฺ ำ นคิ ม ำ คจฺฉนฺต ำ อปุ �สก ำ ปสฺส. ตุมฺเห นิคม ำ คจฉฺ นฺเต อปุ �สเก ปสฺสถ. .......................................................................... ............................................................................. ต. อหำ คจฺฉนฺเตน ปรุ เิ สน สทฺธ ึ ค�มำ คจฉฺ �ม.ิ มย ำ คจฉฺ นฺเตหิ ปุรเิ สหิ สทธฺ ึ ค�มำ คจฺฉ�ม. .......................................................................... .............................................................................
กณั ฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการนั ต์ 37 จ. อหํ คจฺฉโต ทารกสสฺ หิรฺ ํ เทม.ิ มยํ คจฉฺ นตฺ านํ ทารกานํ หิรฺานิ เทม. .......................................................................... ............................................................................. ปัญ. สสิ โฺ ส คจฉฺ ต� อ�จริย� โอว�ทำ สณุ �ติ. สิสสฺ � คจฉฺ นเฺ ตห ิ อ�จรเิ ยห ิ โอว�เท สุณนตฺ .ิ .......................................................................... ............................................................................. ฉ. ชนปทำ คจฉฺ โต ปุริสสสฺ อิท ำ โปตถฺ กำ. ค�มำ คจฺฉต ำ ปรุ สิ �นำ อิม�น ิ โปตฺถก�น.ิ .......................................................................... ............................................................................. ส. ปุริเส คจฉฺ นฺเต, กลิ มโถ อปุ ปฺ ชชฺ ต.ิ ปุรเิ สส ุ คจฉฺ นเฺ ตสุ, กลิ มถ� อุปฺปชชฺ นฺติ. .......................................................................... ............................................................................. ศัพทแ์ จกต�ม คจฉฺ นตฺ มีดงั น้ี มหนตฺ ผูบ้ ูช�อยู ่ จรนฺต ผเู้ ท่ียวไปอย่ ู ตฏิ €ฺ นตฺ ผยู้ ืนอยู่ ททนตฺ ผ้ใู หอ้ ยู่ ภุชฺ นตฺ ผ้บู รโิ ภคอยู่ สณุ นตฺ ผู้ฟงั อยู ่ ปจนฺต ผหู้ งุ อยู่ ชยนตฺ ผชู้ นะอยู ่ ชีรนตฺ ผูแ้ กอ่ ยู ่ จวนฺต ผู้ต�ยอย,ู่ เคลือ่ น มียนฺต ผู้ต�ยอย ู่ สรนฺต ผรู้ ะลึกถงึ อยู่ กพุ ฺพนตฺ ผู้กระท�ำ อยู่ ชปนตฺ ผูส้ วดอยู่ วชนตฺ ผูไ้ ปอยู่ ค�ถ�สรุป ศัพท์แจกต�ม คจฺฉนฺตศพั ท์ คจฺฉํ มหํ จรํ ติฏฺ€ํ ททํ ภุชฺ ํ สุณํ ปจํ, ชยํ ชีรํ จวํ มยี ํ สรํ กุพพฺ ํ ชปํ วช.ํ ท�ำ ตัวรูป ภว ํ ศพั ท์เดมิ คอื = ภวนฺต = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลงั ภวนฺต ลง สิ ปฐม�วิภัตต ิ ภวนฺต + ส ิ = สมิ ฺห ิ คจฺฉนฺต�ทนี ำ นตฺ สทโฺ ท อ.ำ = ปุพพฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะสวิ ิภตั ต ิ แปลง นฺต เป็น อำ ภว นฺต อำ + สิ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมฺหฯิ = เสสโต โลปํ คสิปิ. แยกพยัญชนะ วฺ ออกจ�กสระ อ ภวฺ อ อ ำ + ส ิ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ ภวฺ อ อำ + สิ ลบสิวภิ ตั ติ ภว ฺ อ ำ + สิ น�ำ พยัญชนะ ว ฺ ไปประกอบกับสระ อ ภว ำ ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ภวํ. (อ.ท�่ นผ้เู จรญิ )
38 รูปสทิ ธิทปี นี [ ๒. นาม ๑๐๙. โอภาโว กวฺ จิ โยสุ วการสฺส. โยส ุ ในเพร�ะโยวิภัตต ิ ท. โอภ�โว อ.คว�มเป็นโอ วก�รสสฺ แห่งวอักษร ภวโต ของภวนตฺ ศัพท์ โหต ิ ย่อมม ี กฺวจ ิ บ�้ ง. (เพร�ะโยวภิ ัตติ แปลง ว อกั ษรของภวนฺตศพั ท ์ เปน็ โอ บ�้ ง) สตู รน้ีม ี ๔ บท. เปน็ อ�เทสวธิ ิสูตร. ด้วยก�รแบง่ สูตร(ทวฺ ธิ �กรณโยควภิ �ค)ว�่ “โอภ�โว กวฺ จ”ิ เพร�ะน� วิภัตต ิ และสวภิ ัตต ิ แปลง ว ของภวนตฺ ศัพท ์ เป็น โอ บ้�ง. ทำ�ตวั รูป โภนฺโต ศัพท์เดิมคือ = ภวนฺต = ลิงฺคตเฺ ถ ป€มา. หลงั ภวนตฺ ลง โย ปฐม�วิภตั ต ิ ภวนตฺ + โย = โอภ�โว กวฺ จิ โยสุ วก�รสฺส. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะโยวิภัตติ แปลง ว เปน็ โอ ภ ว โอ นฺต + โย = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ ฺหฯิ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. แยกพยัญชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ ภ ฺ อ โอ นตฺ + โย = เสเสส ุ นฺตวุ . = นฺตสุ สฺ นฺโต. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ ภ ฺ อ โอ นฺต + โย นำ�พยัญชนะ ภ ฺ ไปประกอบกบั สระ โอ โภ นฺต + โย เพร�ะโยวภิ ัตติ ตง้ั นฺต เหมือน นฺต ุ โภ นตฺ นตฺ ุ + โย เพร�ะโยวิภัตติ แปลงนฺตกุ ับโย เปน็ นโฺ ต โภ นตฺ +ุ โย นฺโต สำ�เรจ็ รูปเปน็ โภนโฺ ต. (อ.ท�่ นผเู้ จริญ ท.) ท�ำ ตวั รูป ภวนฺโต ศพั ทเ์ ดมิ คือ = ภวนฺต = ลงิ ฺคตฺเถ ป€มา. หลงั ภวนฺต ลง โย ปฐม�วิภตั ต ิ ภวนตฺ + โย = เสเสส ุ นฺตวุ . = นตฺ ุสฺส นฺโต. เพร�ะโยวิภัตต ิ ตง้ั นตฺ เหมือน นตฺ ุ ภว นฺต นฺตุ + โย เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลงนฺตุกบั โย เปน็ นโฺ ต ภว นตฺ +ุ โย นฺโต สำ�เรจ็ รูปเปน็ ภวนโฺ ต. (อ.ท่�นผู้เจริญ ท.) ทำ�ตวั รปู ภวนตฺ า ศพั ท์เดิมคือ = ภวนฺต = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลงั ภวนฺต ลง โย ปฐม�วภิ ัตต ิ ภวนตฺ + โย = สพพฺ โยนนี ม�เอ. = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. หลงั จ�กอก�รันต์ แปลง โย เปน็ อ� ภวนฺต + โย อ� = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ฯิ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยัญชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ ภวนฺตฺ อ + อ� ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ ภวนตฺ ฺ อ + อ� น�ำ พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� ภวนฺต� สำ�เรจ็ รปู เป็น ภวนตฺ า. (อ.ท่�นผู้เจริญ ท.)
กัณฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการนั ต์ 39 ๑๑๐. โภ เค ตุ. เค ในเพร�ะ ค ปเร อนั เปน็ เบอ้ื งหลัง โภ ตุ อ.ก�รแปลงเป็น โภ ดว้ ย ภวโต แหง่ ภวนตฺ ศพั ท ์ โหติ ย่อมม.ี (เพร�ะสิช่อื ค แปลง ภวนตฺ เปน็ โภ) สูตรนมี้ ี ๓ บท. เปน็ อ�เทสวธิ สิ ตู ร. ตศุ ัพท์ : มอี รรถ อวุตฺตสมจุ จฺ ย รวบรวมอรรถทไี่ มไ่ ด้กล่�วไว้ในสูตร คอื เพร�ะสิอ�ลปนะช่ือค แปลง ภวนตฺ เป็น ภนเฺ ต, โภนฺต และ โภนฺต�. ทำ�ตัวรปู โภ ศัพท์เดมิ คอื = ภวนตฺ หลัง ภวนฺต ลง สิ อ�ลปนะ ภวนฺต + ส ิ = อ�ลปเน จ. ตัง้ สิ ช่ือ ค ภวนตฺ + สิ ค = อาลปเน สิ คสโฺ . เพร�ะสทิ ่ชี ่อื ค แปลง ภวนฺต เป็น โภ ภวนตฺ โภ + ส ิ = โภ เค ต.ุ ลบ สิอ�ลปนะทช่ี ื่อ ค โภ + ส ิ = เสสโต โลป ํ คสปิ ิ. สำ�เร็จรปู เป็น โภ. (แนะ่ , ดกู อ่ น, ข�้ แต่ท�่ นผเู้ จรญิ ) ทำ�ตวั รูป ภนเฺ ต ศพั ท์เดมิ คอื = ภวนฺต หลัง ภวนตฺ ลง ส ิ อ�ลปนะ ภวนตฺ + สิ = อ�ลปเน จ. ตงั้ สิ ชื่อ ค ภวนฺต + สิ ค = อาลปเน สิ คสฺโ. เพร�ะสิท่ีช่อื ค แปลง ภวนตฺ เปน็ ภนเฺ ต ภวนตฺ ภนฺเต + ส ิ = ตศุ ัพท์ใน โภ เค ต.ุ ลบ สอิ �ลปนะท่ชี อ่ื ค ภนฺเต + สิ = เสสโต โลป ํ คสปิ .ิ ส�ำ เร็จรูปเปน็ ภนฺเต. (แนะ่ , ดกู ่อน, ข้�แตท่ �่ นผู้เจรญิ ) ท�ำ ตัวรปู โภนฺต ศัพท์เดมิ คือ = ภวนฺต หลงั ภวนฺต ลง สิ อ�ลปนะ ภวนฺต + สิ = อ�ลปเน จ. ตง้ั สิ ช่อื ค ภวนตฺ + ส ิ ค = อาลปเน สิ คสโฺ . เพร�ะสทิ ่ีช่อื ค แปลง ภวนตฺ เปน็ โภนตฺ ภวนฺต โภนตฺ + สิ = ตุศพั ท์ใน โภ เค ตุ. ลบ สอิ �ลปนะที่ชื่อ ค โภนตฺ + สิ = เสสโต โลป ํ คสปิ .ิ สำ�เรจ็ รูปเปน็ โภนตฺ . (แน่ะ, ดกู ่อน, ข้�แต่ท�่ นผู้เจริญ) ท�ำ ตัวรูป โภนตฺ า ศัพท์เดมิ คือ = ภวนตฺ หลงั ภวนตฺ ลง สิ อ�ลปนะ ภวนตฺ + สิ = อ�ลปเน จ. ตั้ง สิ ชื่อ ค ภวนฺต + ส ิ ค = อาลปเน สิ คสโฺ . เพร�ะสทิ ช่ี ่อื ค แปลง ภวนตฺ เปน็ โภนฺต� ภวนตฺ โภนฺต� + สิ = ตุศพั ท์ใน โภ เค ตุ. ลบ สิอ�ลปนะท่ชี อ่ื ค โภนตฺ � + สิ = เสสโต โลปํ คสิป.ิ สำ�เร็จรปู เป็น โภนฺตา. (แนะ่ , ดกู อ่ น, ข�้ แตท่ �่ นผู้เจริญ)
40 รปู สทิ ธทิ ีปนี [ ๒. นาม ท�ำ ตวั รูป โภนฺโต ศัพท์เดมิ คอื = ภวนตฺ หลงั ภวนตฺ ลง โย อ�ลปนะ ภวนฺต + โย = อ�ลปเน จ. เพร�ะโยวิภัตต ิ แปลง ว เปน็ โอ ภ ว โอ นฺต + โย = โอภ�โว กฺวจ ิ โยส ุ วก�รสสฺ . แยกพยัญชนะ ภ ฺ ออกจ�กสระ อ ภฺ อ โอ นตฺ + โย = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ ภฺ อ โอ นตฺ + โย = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ฯิ น�ำ พยญั ชนะ ภ ฺ ไปประกอบกับสระ โอ โภ นตฺ + โย = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. เพร�ะโยวิภตั ติ ตั้ง นตฺ เหมือน นตฺ ุ โภ นตฺ นตฺ ุ + โย = เสเสสุ นฺตุว. เพร�ะโยวิภตั ติ แปลงนฺตุกับโยเปน็ นโฺ ต โภ นตฺ +ุ โย นฺโต = นตฺ ุสสฺ นฺโต. สำ�เรจ็ รปู เป็น โภนฺโต. (แน่ะ, ดูก่อน, ข�้ แตท่ �่ นผเู้ จรญิ ท.) ทำ�ตัวรูป ภวนโฺ ต ศพั ทเ์ ดมิ คอื = ภวนตฺ หลัง ภวนฺต ลง โย อ�ลปนะ ภวนฺต + โย = อ�ลปเน จ. เพร�ะโยวภิ ัตติ ต้ัง นตฺ เหมือน นตฺ ุ ภว นฺต นตฺ ุ + โย = เสเสส ุ นตฺ วุ . เพร�ะโยวิภัตต ิ แปลงนฺตุกบั โยเป็น นโฺ ต ภว นฺตุ+โย นฺโต = นฺตุสฺส นฺโต. สำ�เรจ็ รปู เป็น ภวนโฺ ต. (แน่ะ, ดกู อ่ น, ข้�แตท่ ่�นผ้เู จรญิ ท.) ท�ำ ตวั รปู ภวนตฺ า ศัพทเ์ ดมิ คือ = ภวนฺต หลัง ภวนฺต ลง โย อ�ลปนะ ภวนตฺ + โย = อ�ลปเน จ. หลงั จ�กอก�รันต ์ แปลง โย เปน็ อ� ภวนตฺ + โย อ� = สพฺพโยนนี ม�เอ. แยกพยัญชนะ ภ ฺ ออกจ�กสระ อ ภวนตฺ ฺ อ + อ� = ปุพพฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ ภวนฺต อ + อ� = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทมิ หฺ ฯิ นำ�พยัญชนะ ต ฺ ไปประกอบกับสระ อ� ภวนฺต� = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. ส�ำ เรจ็ รปู เป็น ภวนฺตา. (แนะ่ , ดูกอ่ น, ข�้ แต่ท�่ นผู้เจริญ ท.) ทำ�ตวั รูป ภวนฺตํ ศพั ท์เดิมคือ = ภวนตฺ = กมฺมตเฺ ถ ทุตยิ �. หลงั ภวนฺต ลง อำ ทตุ ิย�วภิ ตั ติ ภวนตฺ + อำ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ฯิ แยกพยญั ชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ ภวนตฺ ฺ อ + อ ำ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ ภวนตฺ ฺ อ + อำ นำ�พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ภวนตฺ ำ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ภวนตฺ ํ. (ซึง่ ... ท�่ นผู้เจรญิ ) ทำ�ตัวรปู โภนฺเต ศัพทเ์ ดมิ คอื = ภวนตฺ หลัง ภวนฺต ลง โย ทุติย�วภิ ัตติ ภวนฺต + โย = กมมฺ ตฺเถ ทตุ ยิ �.
กณั ฑ์ ] ปุงลิงค์ อการนั ต์ 41 เพร�ะโยวภิ ตั ต ิ แปลง ว เป็น โอ ภ ว โอ นตฺ + โย = โอภ�โว กฺวจ ิ โยส ุ วก�รสฺส. = ปุพพฺ มโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. แยกพยัญชนะ ภฺ ออกจ�กสระ อ ภฺ อ โอ นตฺ + โย = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหิฯ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกต ิ ภ ฺ อ โอ นตฺ + โย = สพฺพโยนนี ม�เอ. = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. นำ�พยัญชนะ ภฺ ไปประกอบกับสระ โอ โภ นตฺ + โย = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ ฺหิฯ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. หลงั จ�กอก�รนั ต ์ แปลง โย เปน็ เอ โภนฺต + โย เอ = ภวนฺต แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ โภนตฺ ฺ อ + เอ = กรเณ ตติย�. = โอภ�โว กวฺ จิ โยควภิ �คใน...... ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกติ โภนตฺ ฺ อ + เอ = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหิฯ น�ำ พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกบั สระ เอ โภนเฺ ต = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. = เสเสสุ นตฺ ุว. ส�ำ เรจ็ รูปเป็น โภนฺเต. (ซ่งึ ... ท�่ นผ้เู จริญ ท.) = โตติต� สสมฺ ึน�สุ. ทำ�ตวั รูป โภตา ศัพท์เดมิ คอื = ภวนตฺ = กรเณ ตติย�. หลงั ภวนฺต ลง น� ตตยิ �วิภัตติ ภวนตฺ + น� = เสเสสุ นตฺ วุ . = โตตติ � สสฺมึน�สุ. เพร�ะน�วิภัตต ิ แปลง ว เป็น โอ ภ ว โอ นฺต + น� = ภวนฺต แยกพยัญชนะ ภ ฺ ออกจ�กสระ อ ภ ฺ อ โอ นฺต + น� = กรเณ ตตยิ �. = อโต เนน. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ ภฺ อ โอ นตฺ + น� = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ ฺหิฯ น�ำ พยัญชนะ ภ ฺ ไปประกอบกับสระ โอ โภ นตฺ + น� = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. เพร�ะน�วภิ ัตต ิ ตั้ง นฺต เหมอื น นฺตุ โภ นตฺ นตฺ ุ + น� เพร�ะน�วิภตั ต ิ แปลงนฺตุกบั น�เปน็ ต� โภ นฺตุ+น� ต� สำ�เรจ็ รูปเปน็ โภตา. (ดว้ ย... ท่�นผู้เจริญ) ท�ำ ตวั รปู ภวตา ศพั ท์เดมิ คอื หลัง ภวนฺต ลง น� ตติย�วภิ ตั ติ ภวนฺต + น� เพร�ะน�วภิ ตั ติ ตง้ั นตฺ เหมือน นตฺ ุ ภว นฺต นฺตุ + น� เพร�ะน�วภิ ัตติ แปลงนตฺ ุ กบั น� เป็น ต� ภว นตฺ ุ+น� ต� สำ�เร็จรปู เป็น ภวตา. (ด้วย... ท่�นผู้เจริญ) ท�ำ ตัวรปู ภวนฺเตน ศัพท์เดมิ คือ หลัง ภวนฺต ลง น� ตตยิ �วภิ ัตติ ภวนตฺ + น� หลงั จ�กอก�รนั ต์ แปลง น� เปน็ เอน ภวนตฺ + น� เอน แยกพยญั ชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ ภวนฺตฺ อ + เอน ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ ภวนตฺ ฺ อ + เอน น�ำ พยญั ชนะ ต ฺ ไปประกอบกับสระ เอ ภวนฺเตน ส�ำ เร็จรูปเปน็ ภวนเฺ ตน. (ดว้ ย... ท�่ นผู้เจรญิ )
42 รปู สทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม ท�ำ ตัวรูป โภโต ศัพท์เดิมคือ = ภวนฺต = สมปฺ ท�เน จตตุ ฺถ.ี หลงั ภวนตฺ ลง ส จตุตถวี ิภัตต ิ ภวนตฺ + ส = โอภ�โว กวฺ จ ิ โยควภิ �คใน...... = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะสวิภตั ติ แปลง ว เป็น โอ ภ ว โอ นฺต + ส = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมหฺ ฯิ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยัญชนะ ภ ฺ ออกจ�กสระ อ ภ ฺ อ โอ นฺต + ส = เสเสสุ นตฺ ุว. = โตตติ � สสมฺ ึน�สุ. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกต ิ ภฺ อ โอ นตฺ + ส = ภวนฺต น�ำ พยัญชนะ ภ ฺ ไปประกอบกบั สระ โอ โภ นฺต + ส = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ .ี = เสเสส ุ นตฺ วุ . เพร�ะสวภิ ัตติ ตงั้ นตฺ เหมือน นฺตุ โภ นฺต นตฺ ุ + ส = โตตติ � สสฺมึน�ส.ุ เพร�ะสวิภตั ติ แปลง นฺต ุ กับ ส เปน็ โต โภ นตฺ +ุ ส โต = ภวนตฺ = โอก�เส สตตฺ ม.ี สำ�เร็จรปู เป็น โภโต. (แก.่ .. ท�่ นผูเ้ จริญ) = เสเสสุ นฺตุว. = โตติต� สสมฺ นึ �สุ. ท�ำ ตัวรูป ภวโต ศัพทเ์ ดิมคือ หลงั ภวนตฺ ลง ส จตุตถวี ิภตั ติ ภวนฺต + ส เพร�ะสวิภตั ติ ต้ัง นตฺ เหมือน นตฺ ุ ภว นตฺ นฺต ุ + ส เพร�ะสวภิ ัตต ิ แปลง นฺตุ กบั ส เป็น โต ภว นฺตุ+ส โต ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ภวโต. (แก่... ท�่ นผู้เจรญิ ) ทำ�ตวั รูป ภวต ิ ศพั ท์เดิมคือ หลัง ภวนตฺ ลง สฺมึ สตั ตมีวภิ ตั ติ ภวนตฺ + สฺม ึ เพร�ะสฺมึวิภัตต ิ ต้งั นตฺ เหมือน นตฺ ุ ภว นตฺ นฺตุ + สฺมึ เพร�ะสฺมึวภิ ัตติ แปลงนตฺ กุ ับสมฺ ึ เป็น ติ ภว นตฺ ุ+สฺมึ โต สำ�เรจ็ รปู เปน็ ภวติ. (ใน... ท่�นผเู้ จรญิ ) ภวนตฺ สทฺทปทม�ล� (ผ้เู จรญิ ,ท�่ น) วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. ภว ำ โภนโฺ ต ภวนโฺ ต ภวนฺต� อ�ลปนะ. โภ ภนเฺ ต โภนตฺ โภนตฺ � โภนโฺ ต ภวนโฺ ต ภวนฺต� ทตุ ย�. ภวนตฺ ำ โภนฺเต ภวนฺเต ตตยิ �. โภต� ภวต� ภวนฺเตน ภวนฺเตหิ ภวนฺเตภิ จตุตถ.ี โภโต ภวโต ภวนตฺ สสฺ ภวตำ ภวนฺต�นำ ปญั จมี. โภต� ภวต� ภวนฺต� ภวนฺตมหฺ � ภวนตฺ สฺม� ภวนฺเตห ิ ภวนฺเตภิ ฉัฏฐ.ี โภโต ภวโต ภวนตฺ สฺส ภวต ำ ภวนฺต�นำ สัตตม.ี ภวติ ภวนเฺ ต ภวนฺตมฺหิ ภวนฺตสมฺ ึ ภวนเฺ ตสุ
กณั ฑ์ ] ปุงลิงค์ อการนั ต์ 43 ๑๑๑. ภทนฺตสสฺ ภทฺทนฺต-ภนเฺ ต. เค ในเพร�ะสอิ �ลปนะทีช่ ื่อคดว้ ย โยสุ จ ในเพร�ะโยวภิ ตั ติ ท.ด้วย ภทฺทนตฺ ภนเฺ ต อ.ก�รแปลงเปน็ ภททฺ นฺต และภนฺเต ท. ภทนฺตสสฺ แหง่ ภทนตฺ ศัพท ์ โหต ิ ย่อมม ี ว� บ�้ ง. (เพร�ะสิอ�ลปนะท่ีช่ือค และโยวภิ ตั ต ิ แปลง ภทนฺต เป็น ภททฺ นตฺ และ ภนเฺ ต บ�้ ง) สตู รนมี้ ี ๒ บท. เปน็ อาเทสวิธสิ ตู ร. ท�ำ ตัวรปู ภททฺ นฺต ศพั ท์เดมิ คอื = ภทนฺต = อ�ลปเน จ. หลงั ภทนฺต ลง ส ิ อ�ลปนะ ภทนฺต + สิ = อาลปเน สิ คสโฺ . = ภทนฺตสฺส ภททฺ นตฺ ภนฺเต. ต้งั สิ ชอื่ ค ภทนฺต + สิ ค = เสสโต โลปํ คสิปิ. เพร�ะสทิ ่ีชอื่ ค แปลงภทนตฺ เป็น ภทฺทนฺต ภทนตฺ ภททฺ นตฺ + สิ ลบ สิอ�ลปนะท่ชี ือ่ ค ภททฺ นฺต + สิ ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ภททฺ นฺต. (ข้�แตท่ �่ นผ้เู จริญ) ทำ�ตัวรูป ภนเฺ ต ศพั ท์เดมิ คือ = ภทนตฺ = อ�ลปเน จ. หลัง ภทนฺต ลง ส ิ อ�ลปนะ ภทนฺต + สิ = อาลปเน สิ คสโฺ . = ภทนตฺ สฺส ภทฺทนฺตภนเฺ ต. ต้งั ส ิ ชอื่ ค ภทนตฺ + สิ ค = เสสโต โลป ํ คสิปิ. เพร�ะสิทีช่ ื่อค แปลง ภทนฺต เป็น ภนเฺ ต ภทนตฺ ภนเฺ ต + ส ิ ลบ สิอ�ลปนะท่ีชือ่ ค ภนเฺ ต + สิ สำ�เรจ็ รปู เปน็ ภนเฺ ต. (ข�้ แต่ท่�นผูเ้ จริญ) ๑๑๒. สนตฺ -สทฺทสสฺ โส เภ โพ จ’นเฺ ต. เภ ในเพร�ะภ ปเร อันเปน็ เบ้ืองหลัง โส อ.ก�รแปลงเป็น ส สนตฺ สททฺ สฺส แห่งสนฺตศพั ท ์ โหต ิ ย่อมม ี จ ด้วย, โพ อ.พฺอ�คม โหต ิ ย่อมลง อนเฺ ต ในที่สดุ จ ดว้ ย. (เพร�ะ ภ แปลง สนฺตศัพท์ เป็น ส และลง พอฺ �คมในที่สุด) สตู รนม้ี ี ๖ บท คอื สนตฺ สทฺทสสฺ , โส, เภ, โพ, จ, อนฺเต. เป็น อ�เทสวธิ ิ และอ�คมวิธสิ ตู ร. จศัพท์ : มอี รรถ อวตุ ตฺ สมุจฺจย ในสม�ส แมน้ ิมติ ท่ีไมใ่ ช่ ภ กแ็ ปลง สนฺต เปน็ ส ได ้ เชน่ สปฺปรุ ิโส (สนตฺ + ปรุ ิส) สตั บรุ ุษ. ท�ำ ตวั รูป ส ํ ศพั ทเ์ ดิมคือ = สนฺต = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลัง สนฺต ลง ส ิ ปฐม�วิภัตติ สนฺต + ส ิ = สิมหฺ ิ คจฺฉนฺต�ทีน ำ นฺตสทฺโท อำ. = ปพุ พฺ มโธ€ติ มสฺสรฯํ เพร�ะสวิ ภิ ัตต ิ แปลง นตฺ เปน็ อ ำ ส นฺต อำ + ส ิ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทิมฺหฯิ = เสสโต โลปํ คสิป.ิ แยกพยญั ชนะ ส ฺ ออกจ�กสระ อ ส ฺ อ อำ + ส ิ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ สฺ อ อำ + สิ ลบ สวิ ภิ ัตติ สฺ อำ + ส ิ
44 รปู สิทธทิ ปี นี [ ๒. นาม น�ำ พยัญชนะ ส ฺ ไปประกอบกบั สระ อ ส ำ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ ส.ํ (มีอย)ู่ = สนฺต = กรเณ ตติย�. ท�ำ ตัวรปู สตา ศพั ท์เดิมคอื = เสเสสุ นฺตวุ . = โตติต� สสมฺ นึ �สุ. หลงั สนตฺ ลง น� ตตยิ �วภิ ัตต ิ สนตฺ + น� = สนตฺ เพร�ะน�วภิ ัตติ ตัง้ นตฺ เหมอื น นฺต ุ ส นตฺ นฺตุ + น� = กรเณ ตติย�. = สมฺ �หสิ มฺ ึน ำ มหฺ �ภิมหฺ ิ ว�. เพร�ะน�วภิ ตั ต ิ แปลงนตฺ กุ บั น� เปน็ ต� ส นตฺ ุ+น� ต� = สนตฺ สททฺ สฺส โส เภ โพ จนเฺ ต. สำ�เร็จรูปเป็น สตา. (ดว้ ย... ผู้ไปอย่)ู = สนฺต = สมฺปท�เน จตุตถฺ ี. ทำ�ตวั รปู สพภฺ ิ ศัพท์เดิมคอื = เสเสสุ นฺตุว. = โตติต� สสมฺ นึ �ส.ุ หลัง สนฺต ลง ห ิ ตติย�วิภัตติ สนฺต + หิ = สนฺต หลงั จ�กลิงคท์ ั้งปวง แปลง หิ เปน็ ภ ิ สนตฺ + หิ ภิ = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ .ี = เสเสสุ นตฺ ุว. เพร�ะภ แปลงสนตฺ เป็นสและลงพอฺ �คม สนตฺ ส - พ ฺ + ภิ = นมำ หฺ ิ ตำ ว�. ส�ำ เร็จรปู เป็น สพฺภ.ิ (ดว้ ย... สตั บรุ ุษทง้ั หล�ย) = สนฺต = โอก�เส สตตฺ ม.ี ท�ำ ตวั รปู สโต ศพั ทเ์ ดมิ คอื = เสเสส ุ นตฺ ุว. = โตตติ � สสมฺ นึ �ส.ุ หลงั สนฺต ลง ส จตุตถวี ิภตั ติ สนฺต + ส เพร�ะสวภิ ตั ติ ตัง้ นตฺ เหมือน นตฺ ุ ส นตฺ นตฺ ุ + ส เพร�ะสวิภัตต ิ แปลง นตฺ ุ กบั ส เปน็ โต ส นฺตุ+ส โต สำ�เร็จรูปเป็น สโต. (แก่, เพ่อื , ตอ่ สตั บุรุษ) ทำ�ตวั รปู สต ํ ศัพท์เดิมคอื หลงั สนตฺ ลง น ำ จตุตถวี ิภตั ติ สนฺต + น ำ เพร�ะนวำ ิภัตต ิ ตง้ั นฺต เหมอื น นฺต ุ ส นตฺ นฺตุ + น ำ เพร�ะนวำ ิภตั ติ แปลง นตฺ ุ กบั นำ เปน็ ตำ ส นตฺ +ุ นำ ตำ สำ�เร็จรปู เปน็ สตํ. (แก,่ เพ่ือ, ต่อสัตบุรษุ ท้งั หล�ย) ท�ำ ตวั รปู สต ิ ศัพท์เดมิ คือ หลงั สนตฺ ลง สฺมึ สัตตมวี ภิ ัตติ สนตฺ + สมฺ ึ เพร�ะสฺมวึ ิภตั ต ิ ตัง้ นฺต เหมอื น นตฺ ุ ส นฺต นตฺ ุ + สฺมึ เพร�ะสฺมวึ ิภัตติ แปลงนตฺ กุ บั สฺม ึ เป็น ต ิ ส นตฺ ุ+สฺม ึ ติ ส�ำ เรจ็ รปู เป็น สติ. (ใน... สัตบุรษุ , มีอย)ู่
กณั ฑ์ ] ปุงลงิ ค์ อการนั ต์ 45 สนตฺ สทฺทปทม�ล� (มีอย,ู่ สัตบุรุษ, ผูส้ งบ, ผเู้ หนอ่ื ยล�้ ) วิภตั ต ิ เอกวจน ะ พหวุ จนะ ปฐม�. ส ำ สนโฺ ต สนโฺ ต สนฺต� อ�ลปนะ. โภ สำ ส ส� ภวนโฺ ต สนฺโต สนฺต� ทุติย�. สนตฺ ำ สนเฺ ต ตติย�. สต� สนฺเตน สนเฺ ตหิ สพฺภิ จตตุ ถ.ี สโต สนตฺ สฺส สต ำ สนฺต�นำ ปญั จมี. สต� สนฺต� สนฺตมหฺ � สนฺตสฺม� สนเฺ ตห ิ สพฺภิ ฉัฏฐี. สโต สนตฺ สฺส สต ำ สนตฺ �นำ สตั ตม.ี สติ สนฺเต สนตฺ มหฺ ิ สนตฺ สฺม ึ สนเฺ ตสุ ๑๑๓. สฺย’า จ. ส ิ อ.สิวภิ ัตติ ปร ำ อันเปน็ เบื้องหลัง พฺรหมฺ ตฺตสขร�ช�ทิโต (สทฺเทห)ิ จ�กศพั ท์ ท. ม ี พรฺ หมฺ อตฺต สข และ ร�ช เปน็ ตน้ อ� แปลงเปน็ อ� โหต ิ ยอ่ มเป็น. (หลังจ�กศัพทม์ ี พรฺ หฺม อตตฺ สข และ ร�ช เปน็ ต้น แปลงสวิ ภิ ัตต ิ เปน็ อ�) สูตรน้ีม ี ๓ บท คือ ส,ิ อ�, จ. เป็น อ�เทสวธิ ิสตู ร. จศพั ท์ : มอี รรถ วาจาสิลิฏฺ€ ท�ำ คำ�พดู ให้สละสลวย. ท�ำ ตัวรปู ราชา ศพั ทเ์ ดิมคือ = ร�ช หลัง ร�ช ลง สิ ปฐม�วภิ ัตติ ร�ช + สิ = ลงิ ฺคตเฺ ถ ป€มา. หลังจ�ก ร�ช แปลง ส ิ เปน็ อ� ร�ช + ส ิ อ� = สฺย� จ. แยกพยญั ชนะ ช ฺ ออกจ�กสระ อ ร�ช ฺ อ + อ� = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ ร�ช ฺ อ + อ� = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหฯิ นำ�พยัญชนะ ชฺ ไปประกอบกับสระ อ� ร�ช� = นเย ปรำ ยุตฺเต. ส�ำ เร็จรูปเปน็ ราชา. (ร�ช� ติฏฺ€ติ. อ.พระร�ช� ประทับยืนอยู่) ๑๑๔. โยน’มาโน. อ�โน อ.ก�รแปลงเปน็ อ�โน โยนำ แหง่ โยวิภตั ต ิ ท. ปเรสำ อันเป็นเบอื้ งหลงั พรฺ หมฺ ตฺตสขร�ช�ทิโต (สทฺเทหิ) จ�กศัพท ์ ท. ม ี พฺรหมฺ อตฺต สข และร�ชเป็นตน้ โหต ิ ย่อมมี. (หลังจ�กศัพท์ม ี พฺรหมฺ อตฺต สข และ ร�ช เป็นต้น แปลงโยวิภตั ต ิ เป็น อ�โน) สตู รน้ีม ี ๒ บท คอื โยนำ, อ�โน. เปน็ อ�เทสวิธสิ ตู ร.
46 รปู สิทธิทีปนี [ ๒. นาม ท�ำ ตัวรปู ราชาโน ศพั ทเ์ ดิมคอื = ร�ช หลงั ร�ช ลง โย ปฐม�วิภัตติ ร�ช + โย = ลงิ ฺคตฺเถ ป€มา. หลงั จ�ก ร�ช แปลง โย เปน็ อ�โน ร�ช + โย อ�โน = โยนม�โน. แยกพยัญชนะ ช ฺ ออกจ�กสระ อ ร�ชฺ อ + อ�โน = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ ร�ชฺ อ + อ�โน = สรโลโปม�เทสปฺปจจฺ ย�ทิมหฺ ิฯ นำ�พยญั ชนะ ช ฺ ไปประกอบกับสระ อ� ร�ช�โน = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เรจ็ รูปเปน็ ราชาโน. (ร�ช�โน ตฏิ ฺ€นฺต.ิ อ.พระร�ช� ท. ประทับยืนอย)ู่ ๑๑๕. พฺรหมฺ ’ตตฺ -สข-ราชาทโิ ต อ’มาน.ํ อำ อ.อำวภิ ัตต ิ ปรำ อันเปน็ เบ้อื งหลงั พฺรหมฺ ตตฺ สขร�ช�ทิโต (สทฺเทหิ) จ�กศพั ท์ ท. ม ี พฺรหมฺ อตตฺ สข และ ร�ช เป็นตน้ อานํ แปลงเปน็ อ�น ำ โหติ ยอ่ มเปน็ ว� บ้�ง. (หลังจ�กศัพท์มี พรฺ หมฺ อตฺต สข และ ร�ช เปน็ ตน้ แปลงอวำ ภิ ัตต ิ เปน็ อ�นำ บ้�ง) สตู รนมี้ ี ๓ บท คือ พฺรหฺมตตฺ สขร�ช�ทโิ ต, อ,ำ อ�นำ. เป็น อ�เทสวิธสิ ตู ร. ท�ำ ตัวรูป ราชาน ํ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = ร�ช หลงั ร�ช ลง อำ ทุตยิ �วิภัตต ิ ร�ช + อำ = กมมฺ ตฺเถ ทุติย�. หลังจ�ก ร�ช แปลง อ ำ เป็น อ�นำ ร�ช + อำ อ�นำ = พรฺ หมฺ ตฺตสขร�ช�ทิโต อม�นำ. แยกพยญั ชนะ ชฺ ออกจ�กสระ อ ร�ช ฺ อ + อ�นำ = ปุพฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ ร�ช ฺ อ + อ�นำ = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมฺหิฯ นำ�พยัญชนะ ช ฺ ไปประกอบกบั สระ อ� ร�ช�น ำ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ ราชานํ. (ร�ช�นำ ปสฺส. อ.ท�่ น จงดู ซึ่งพระร�ช�) ๑๑๖. นามฺหิ รฺา วา. น�มฺหิ ในเพ�ะน�วิภตั ติ รฺ า อ.ก�รแปลงเป็น รฺา ร�ชสสฺ แหง่ ร�ชศพั ท์ สวภิ ตฺตสิ สฺ อนั เปน็ ไป กบั ด้วยวภิ ัตติ โหติ ย่อมม ี ว� บ�้ ง. (เพร�ะน�วภิ ัตต ิ แปลง ร�ช กบั น� เปน็ รฺ า บ�้ ง) สูตรนี้ม ี ๓ บท. เป็น อาเทสวิธสิ ตู ร. ท�ำ ตัวรปู รฺ า ศพั ท์เดิมคอื = ร�ช = กรเณ ตตยิ �. หลัง ร�ช หลัง น� ตติย�วิภัตติ ร�ช + น� = นามหฺ ิ รฺา วา. เพร�ะน� แปลงร�ชกบั น� เป็น รฺา ราช+นา รฺ า สำ�เรจ็ รปู เปน็ รฺ า. (ดว้ ย... พระร�ช�)
กัณฑ์ ] ปุงลิงค์ อการนั ต์ 47 ๑๑๗. ราชสสฺ ราชุ สุ-น-ํ หิสุ จ. สนุ ำหิสุ ในเพร�ะส ุ น ำ และหวิ ิภตั ต ิ ท. ร�ช ุ อ.ก�รแปลงเป็น ร�ชุ ร�ชสฺส แห่ง ร�ชศพั ท ์ โหต ิ ย่อมมี จ บ�้ ง. (เพร�ะส ุ น ำ และหวิ ิภัตต ิ แปลง ร�ช เป็น ร�ช ุ บ้�ง) สูตรนี้มี ๔ บท. เป็น อ�เทสวธิ สิ ตู ร. จศัพท์ : มอี รรถ วิกปฺปน แสดงคว�มไม่แนน่ อน ฉะนน้ั จึงมีรูปได้ ท้ังท่แี ปลงและไมแ่ ปลง ร�ช เป็น ร�ช.ุ ท�ำ ตัวรูป ราชูหิ ศัพทเ์ ดมิ คือ = ร�ช = กรเณ ตตยิ �. หลัง ร�ช ลง หิ ตตยิ �วภิ ตั ต ิ ร�ช + ห ิ = ร�ชสสฺ ร�ชุ สนุ หำ ิส ุ จ. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะหวิ ิภัตต ิ แปลง ร�ช เป็น ร�ช ุ ร�ช ร�ชุ + หิ = สนุ หำ ิส ุ จ. = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยญั ชนะ ช ฺ ออกจ�กสระ อุ ร�ช ฺ อุ + ห ิ เพร�ะหวิ ภิ ตั ต ิ ทฆี ะ อ ุ เป็น อู ร�ช ฺ อ ุ อ ู + หิ น�ำ พยญั ชนะ ช ฺ ไปประกอบกับสระ อ ู ร�ชหู ิ สำ�เรจ็ รูปเป็น ราชูห.ิ (ดว้ ย... พระร�ช� ท.) ท�ำ ตวั รปู ราชูภ ิ ศัพท์เดิมคือ = ร�ช = กรเณ ตติย�. หลงั ร�ช ลง ห ิ ตตยิ �วิภตั ติ ร�ช + ห ิ = ร�ชสฺส ร�ชุ สนุ ำหิสุ จ. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะหวิ ิภัตต ิ แปลง ร�ช เปน็ ร�ชุ ร�ช ร�ชุ + ห ิ = สุนหำ สิ ุ จ. = สมฺ �หิสฺมนึ ำ มหฺ �ภิมฺห ิ ว�. แยกพยัญชนะ ชฺ ออกจ�กสระ อ ุ ร�ชฺ อุ + ห ิ = นเย ปรำ ยุตฺเต. เพร�ะหิวภิ ัตต ิ ทฆี ะ อ ุ เปน็ อ ู ร�ช ฺ อ ุ อ ู + หิ หลังจ�กลิงคท์ งั้ ปวง แปลง ห ิ เป็น ภิ ร�ชฺ อู + หิ ภิ น�ำ พยญั ชนะ ชฺ ไปประกอบกับสระ อ ู ร�ชภู ิ ส�ำ เรจ็ รูปเป็น ราชภู .ิ (ดว้ ย... พระร�ช� ท.) ๑๑๘. ราชสสฺ รฺโ-ราชโิ น เส. เส ในเพร�ะสวภิ ัตต ิ รโฺ ราชโิ น อ.ก�รแปลงเปน็ รฺโ และ ร�ชโิ น ท. ร�ชสฺส แห่ง ร�ชศพั ท ์ สวิภตฺตสิ สฺ อนั เป็นไปกบั ด้วยวิภัตต ิ โหนตฺ ิ ยอ่ มมี. (เพร�ะสวิภัตต ิ แปลง ร�ช กับ ส เปน็ รฺโ และร�ชิโน) สูตรน้ีมี ๓ บท. เปน็ อ�เทสวธิ ิสตู ร. ท�ำ ตัวรูป รโฺ ศัพท์เดิมคอื = ร�ช = สมฺปท�เน จตุตถฺ ี. หลัง ร�ช ลง ส จตตุ ถีวภิ ตั ติ ร�ช + ส = ราชสสฺ รโฺ ราชิโน เส. เพร�ะสวิภตั ต ิ แปลงร�ชกบั ส เป็นรฺโ ราช+ส รโฺ สำ�เรจ็ รปู เป็น รฺโ. (แก่... พระร�ช�)
48 รูปสิทธิทปี นี [ ๒. นาม ท�ำ ตวั รปู ราชิโน ศัพท์เดิมคือ = ร�ช = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ ี. หลัง ร�ช ลง ส จตตุ ถีวภิ ัตติ ร�ช + ส = ราชสสฺ รฺโราชโิ น เส. เพร�ะสวิภตั ต ิ แปลงร�ชกับส เป็นร�ชโิ น ร�ช+ส ร�ชโิ น สำ�เร็จรูปเป็น ราชโิ น. (แก.่ .. พระร�ช�) ๑๑๙. รฺํ นํมฺหิ วา. นำมฺหิ ในเพร�ะนำวภิ ัตต ิ รฺ ํ อ.ก�รแปลงเป็น รฺํ ร�ชสสฺ แหง่ ร�ชศัพท ์ สวภิ ตฺติสฺส อนั เป็นไปกบั ดว้ ย วิภตั ต ิ โหติ ย่อมมี ว� บ้�ง. (เพร�ะนำวิภตั ติ แปลง ร�ช กับ น ำ เป็น รฺ ํ บ�้ ง) สตู รนี้มี ๓ บท. เปน็ อ�เทสวธิ สิ ตู ร. ท�ำ ตัวรูป รฺ ํ ศพั ท์เดมิ คอื = ร�ช = สมฺปท�เน จตตุ ฺถ.ี หลัง ร�ช ลง นำ จตตุ ถีวิภตั ต ิ ร�ช + น ำ = รฺํ นํมฺหิ วา. เพร�ะนวำ ิภัตติ แปลงร�ชกับน ำ เป็นรฺ ํ ราช+นํ รฺ ํ สำ�เรจ็ รปู เปน็ รฺ ํ. (แก่... พระร�ช� ท.) ท�ำ ตัวรูป ราชนู ํ ศพั ท์เดมิ คอื = ร�ช = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ ี. หลัง ร�ช ลง น ำ จตุตถวี ภิ ตั ติ ร�ช + น ำ = ร�ชสฺส ร�ชุ สุนำหสิ ุ จ. = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. เพร�ะนวำ ภิ ตั ต ิ แปลง ร�ช เป็น ร�ชุ ร�ช ร�ช ุ + นำ = สนุ หำ ิสุ จ. = นเย ปร ำ ยุตฺเต แยกพยญั ชนะ ชฺ ออกจ�กสระ อุ ร�ชฺ อุ + นำ เพร�ะนำวภิ ัตต ิ ทฆี ะ อ ุ เป็น อู ร�ช ฺ อ ุ อ ู + นำ น�ำ พยัญชนะ ชฺ ไปประกอบกบั สระ อ ู ร�ชนู ำ สำ�เร็จรูปเปน็ ราชูนํ. (แก.่ .. พระร�ช� ท.) ๑๒๐. อมหฺ -ตมุ ฺห-นฺตุ-ราช-พรฺ หฺม’ตตฺ -สข-สตฺถ-ุ ปติ าทหี ิ สมฺ า นา’ว. สฺม� อ.สมฺ �วิภตั ต ิ ปรำ อนั เปน็ เบื้องหลัง อมหฺ ตมุ หฺ นฺตรุ �ชพรฺ หฺมตตฺ สขสตฺถปุ ิต�ทหี ิ (สทเฺ ทหิ) จ�ก ศัพท ์ ท. มี อมฺห ตุมหฺ นฺตุ ร�ช พฺรหมฺ อตฺต สข สตถฺ ุ และ ปิต ุ เปน็ ตน้ (โสตุชเนน) อนั นกั ศกึ ษ� (ทฏฺ€พฺพํ) พึงทร�บ น� อวิ ว่�เปน็ เพยี งดงั น�วิภัตต.ิ (หลงั จ�กศัพท์มี อมฺห ตมุ หฺ นฺตุ ร�ช พฺรหฺม อตฺต สข สตฺถ ุ และ ปิต ุ เปน็ ตน้ ตง้ั สมฺ �วิภัตติ เปน็ เหมอื น น�) สตู รน ้ี ม ี ๔ บท คือ อมฺหตุมหฺ นฺตรุ �ชพรฺ หมฺ ตตฺ สขสตฺถปุ ิต�ทหี ิ, สฺม�, น�, อิว. เปน็ รูป�ติเทสสตู ร ชแ้ี จงวธิ ีก�ร ทำ�ตวั รูป ช้แี จงว�่ ให้แปลง สมฺ �วภิ ตั ต ิ เปน็ น� น่ันเอง.
กัณฑ์ ] ปงุ ลงิ ค์ อการนั ต์ 49 ทำ�ตัวรปู รฺา ศัพท์เดมิ คอื = ร�ช = อปาทาเน ปจฺ มี. หลัง ร�ช ลง สฺม� ปัญจมวี ิภตั ต ิ ร�ช + สฺม� = อมหฺ ตุมหฺ นตฺ รุ �ชพรฺ หมฺ ตตฺ ฯ หลงั ร�ช ตง้ั สฺม� เปน็ น� ร�ช + สมฺ � น� = นามฺหิ รฺ า วา. เพร�ะน� แปลงร�ชกบั น� เป็น รฺา ราช+นา รฺ า ส�ำ เรจ็ รปู เป็น รฺ า. (แต.่ .. พระร�ช�) ๑๒๑. สฺมึมฺหิ รเฺ -ราชนิ ิ. สมฺ มึ ฺห ิ ในเพร�ะสมฺ ึวภิ ัตติ รเฺ ราชินิ อ.ก�รแปลงเป็น รฺเ และร�ชนิ ิ ท. ร�ชสฺส แห่งร�ชศพั ท ์ สวิภตตฺ สิ ฺส อันเปน็ ไปกบั ด้วยวภิ ัตต ิ โหติ ยอ่ มมี. (เพร�ะสมฺ วึ ภิ ัตติ แปลง ร�ช กบั สมฺ ึ เป็น รเฺ และ ร�ชนิ ิ) สตู รนี้มี ๒ บท. เปน็ อ�เทสวิธสิ ูตร. ทำ�ตวั รปู รเฺ ศัพทเ์ ดิมคือ = ร�ช = โอก�เส สตฺตมี. หลงั ร�ช ลง สฺม ึ สตั ตมวี ภิ ัตต ิ ร�ช + สฺมึ = สมฺ มึ ฺหิ รเฺ ราชิน.ิ เพร�ะสมฺ ึ แปลง ร�ช กบั สฺม ึ เป็น รฺเ ราช+สฺมึ รเฺ สำ�เรจ็ รูปเป็น รเฺ . (ใน... พระร�ช�) ท�ำ ตวั รูป ราชินิ ศพั ท์เดมิ คอื = ร�ช = โอก�เส สตฺตม.ี หลงั ร�ช ลง สมฺ ึ สัตตมีวิภัตติ ร�ช + สฺม ึ = สฺมึมหฺ ิ รเฺ ราชนิ ิ. เพร�ะสฺม ึ แปลง ร�ช กับ สฺมึ เปน็ ร�ชนิ ิ ร�ช+สมฺ ึ ร�ชินิ สำ�เรจ็ รูปเป็น ราชนิ .ิ (ใน... พระร�ช�) ท�ำ ตัวรปู ราชสู ุ ศพั ท์เดิมคือ = ร�ช = โอก�เส สตตฺ มี. หลัง ร�ช ลง ส ุ สัตตมวี ภิ ัตต ิ ร�ช + ส ุ = ร�ชสฺส ร�ช ุ สุนหำ ิสุ จ. = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะสวุ ิภตั ติ แปลง ร�ช เป็น ร�ชุ ร�ช ร�ช ุ + สุ = สุนำหสิ ุ จ. = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต แยกพยญั ชนะ ชฺ ออกจ�กสระ อ ุ ร�ชฺ อุ + สุ เพร�ะสุวภิ ัตติ ทฆี ะ อ ุ เป็น อ ู ร�ชฺ อ ุ อ ู + สุ นำ�พยญั ชนะ ช ฺ ไปประกอบกับสระ อู ร�ชูส ุ ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ ราชสู .ุ (ใน... พระร�ช� ท.)
50 รูปสทิ ธิทีปนี [ ๒. นาม ร�ชสทฺทปทม�ล� (พระร�ช�) วิภัตต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. ร�ช� ร�ช�โน อ�ลปนะ. โภ ร�ช ร�ช� ภวนโฺ ต ร�ช�โน ทตุ ยิ �. ร�ช�นำ ร�ช ำ ร�ช�โน ตติย�. รฺ า ราเชน ร�ชหู ิ ร�ชภู ิ ร�เชห ิ ร�เชภิ จตุตถี. รโฺ ราชโิ น รฺ ํ ราชนู ํ ราชานํ ปัญจม.ี รฺา ร�ชูหิ ร�ชภู ิ ร�เชหิ ร�เชภิ ฉฏั ฐี. รฺโ ราชโิ น รฺํ ราชนู ํ ราชานํ สัตตมี. รฺเ ราชนิ ิ ร�ชสู ุ ร�เชสุ ป. ร�ช� ภกิ ขฺ ุโน จวี รำ อท�สิ. ประโยคบ�ลีตวั อย่�ง ร�ช�โน ภิกฺขูน ำ จีวร�นิ อทสำ ุ. .......................................................................... ............................................................................. อ�. โภ ร�ช ตฺว ำ มยหฺ ำ โคณำ เทห.ิ ภวนฺโต ร�ช�โน ตมุ เฺ ห อมหฺ �ก ำ โคเณ เทถ. .......................................................................... ............................................................................. ท.ุ ชโน ร�ช�นำ อุปสงฺกม.ิ ชน� ร�ช�โน อุปสงกฺ มสึ .ุ .......................................................................... ............................................................................. ต. ร�ชปรุ ิโส รฺ า สทฺธึ วหิ �รำ คจฉฺ .ิ ร�ชปุริส� ร�ชูหิ สทฺธึ วิห�รำ อคมสึ ุ. .......................................................................... ............................................................................. จ. อมจโฺ จ รฺโ ตํ ปวตฺตึ กเถส.ิ อมจจฺ � ร�ชนู ำ ตำ ปวตตฺ ึ กเถส.ุำ .......................................................................... ............................................................................. ปัญ. ปโุ รหโิ ต ตมหฺ า รฺา ปลายติ. ปโุ รหติ � เตห ิ ร�ชหู ิ ปล�ยนตฺ ิ. .......................................................................... ............................................................................. ฉ. อทิ ํ อฺ ตรสฺส รฺโ นิเวสนํ โหติ. อมิ านิ อฺ ตรานํ ราชานํ นเิ วสนานิ โหนฺต.ิ .......................................................................... ............................................................................. ส. โส อปุ าสโก รเฺ อฏฺ€าส.ิ เต อุปาสกา ราชสู ุ อฏฺ€ํส.ุ .......................................................................... .............................................................................
กัณฑ์ ] ปงุ ลงิ ค์ อการนั ต์ 51 ๑๒๒. พฺรหฺมโต คสฺส จ. เอ อ.ก�รแปลงเปน็ เอ คสฺส แหง่ ค ปรสฺส อันเปน็ เบ้ืองหลงั พรฺ หมฺ โต จ�กพรฺ หมฺ ศัพท ์ โหต ิ ยอ่ มม.ี (หลังจ�กพฺรหมฺ ศพั ท์ แปลง สิอ�ลปนะที่ช่อื ค เป็น เอ) สูตรนีม้ ี ๓ บท. เปน็ อ�เทสวธิ สิ ูตร. จศัพท์ : มีอรรถ อนกุ ฑฒฺ น ดงึ เอศพั ทม์ �ไวใ้ นสูตรน.้ี ทำ�ตัวรูป พรฺ หฺเม ศพั ท์เดมิ คอื = พรฺ หฺม = อ�ลปเน จ. หลัง พรฺ หมฺ ลง ส ิ อ�ลปนะ พฺรหฺม + สิ = อาลปเน สิ คสโฺ . = พฺรหมฺ โต คสฺส จ. ตง้ั ส ิ ช่ือ ค พรฺ หมฺ + สิ ค = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จยฺ �ทิมฺหิฯ หลังจ�กพรฺ หมฺ แปลงสทิ ่ชี ่ือค เป็น เอ พฺรหฺม + ส ิ เอ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ พรฺ หมฺ ฺ อ + เอ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ พฺรหฺมฺ อ + เอ น�ำ พยัญชนะ มฺ ไปประกอบกับสระ เอ พฺรหฺเม ส�ำ เร็จรูปเป็น พรฺ หฺเม. (แน่ะ... พรหม) ทำ�ตัวรูป พรฺ หฺมาโน ศัพท์เดมิ คอื = พฺรหมฺ = อ�ลปเน จ. หลัง พฺรหฺม ลง โย อ�ลปนะ พฺรหมฺ + โย = โยนม�โน. = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. หลงั พรฺ หมฺ แปลง โย เปน็ อ�โน พฺรหมฺ + โย อ�โน = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทิมหฺ ิฯ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ พฺรหมฺ ฺ อ + อ�โน ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ พรฺ หฺมฺ อ + อ�โน นำ�พยัญชนะ มฺ ไปประกอบกับสระ อ� พฺรหฺม�โน ส�ำ เร็จรูปเปน็ พรฺ หมฺ าโน. (แน่ะ... พรหม ท.) ๑๒๓. อตุ ฺตํ ส-นาส.ุ สน�ส ุ ในเพร�ะส และน�วิภตั ต ิ ท. อนฺโต อ.สระทส่ี ดุ พฺรหมฺ สฺส ของพรฺ หฺมศพั ท ์ อ�ปชฺชเต ยอ่ มถงึ อตุ ฺตำ ซ่ึงคว�มเป็น อุ. (เพร�ะสวิภตั ติและน�วภิ ตั ติ แปลงสระ อ ทส่ี ดุ ของพรฺ หฺมศัพท์ เปน็ อุ) สตู รนี้มี ๒ บท. เปน็ อ�เทสวธิ ิสูตร. ดว้ ยก�รแบง่ สูตร(โยควภิ �คะ)ว่� “อตุ ฺตำ” เพร�ะนวำ ภิ ัตต ิ แปลง อ เป็น อ ุ เชน่ พฺรหฺมนู .ำ ทำ�ตัวรปู พฺรหฺมุนา ศพั ทเ์ ดมิ คือ = พรฺ หมฺ หลงั พฺรหฺม ลง น� ตตยิ �วภิ ตั ติ พรฺ หมฺ + น� = กรเณ ตติย�. แยกพยัญชนะ มฺ ออกจ�กสระ อ พรฺ หฺมฺ อ + น� = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. เพร�ะน�วภิ ัตต ิ แปลง อ เปน็ อ ุ พฺรหมฺ ฺ อ อ ุ + น� = อตุ ตฺ ำ สน�สุ.
52 รูปสิทธทิ ีปนี [ ๒. นาม นำ�พยญั ชนะ มฺ ไปประกอบกบั สระ อุ พฺรหฺมนุ � = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เรจ็ รปู เปน็ พฺรหฺมนุ า. (ดว้ ย... พรหม) ๑๒๔. ฌ-ลโต สสสฺ โน วา. โน อ.ก�รแปลงเปน็ โน สสสฺ แหง่ สวิภัตติ ปรสฺส อนั เปน็ เบื้องหลัง ฌลโต จ�ก ฌ และ ล ท. โหติ ยอ่ มม ี ว� บ้�ง. (หลงั จ�กอวิ ัณณะทีช่ อื่ ฌ และอุวัณณะทช่ี ่อื ล แปลง สวิภตั ต ิ เปน็ โน บ้�ง) สตู รนมี้ ี ๔ บท. เป็น อ�เทสวิธิสูตร. ทำ�ตวั รปู พฺรหมฺ ุโน ศัพทเ์ ดมิ คือ = พรฺ หมฺ = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ ี. หลงั พรฺ หมฺ ลง ส จตตุ ถีวิภตั ติ พรฺ หฺม + ส = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = อตุ ตฺ ำ สน�ส.ุ แยกพยญั ชนะ มฺ ออกจ�กสระ อ พฺรหฺมฺ อ + ส = อิวณฺณุวณฺณ� ฌล�. = ฌลโต สสสฺ โน ว�. เพร�ะสวภิ ตั ติ แปลง อ เป็น อุ พฺรหฺม ฺ อ อ ุ + ส = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. ต้ัง อ ุ ชื่อ ล พฺรหมฺ ฺ อ ุ ล + ส หลงั จ�ก อ ุ ช่อื ล แปลง ส เป็น โน พรฺ หมฺ ฺ อ ุ + ส โน น�ำ พยัญชนะ ม ฺ ไปประกอบกับสระ อุ พฺรหมฺ โุ น ส�ำ เร็จรูปเป็น พรฺ หมฺ ุโน. (แก่... พรหม) ท�ำ ตัวรูป พฺรหฺมุนา ศัพทเ์ ดมิ คอื = พฺรหฺม = อปาทาเน ปจฺ มี. หลงั พฺรหฺม ลง สมฺ � ปัญจมวี ิภตั ต ิ พรฺ หมฺ + สมฺ � = ปุพฺพมโธ€ติ มสสฺ รํฯ = อมหฺ ตุมหฺ นฺตรุ �ชพฺรหมฺ ตฺตสขฯ แยกพยัญชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ พฺรหฺมฺ อ + สมฺ � = อุตตฺ ำ สน�ส.ุ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. หลังจ�กพรฺ หมฺ ศัพท์ ตง้ั สฺม� เปน็ น� พรฺ หมฺ ฺ อ + สมฺ � น� เพร�ะน�วิภตั ต ิ แปลง อ เปน็ อุ พฺรหมฺ ฺ อ อุ + น� น�ำ พยัญชนะ มฺ ไปประกอบกบั สระ อุ พฺรหมฺ นุ � ส�ำ เร็จรูปเปน็ พฺรหฺมนุ า. (แต่... พรหม) ๑๒๕. พรฺ หมฺ โต ตุ สฺมึ น.ิ สมฺ ึ อ.สมฺ ึวิภัตต ิ ปร ำ อนั เป็นเบ้อื งหลงั พรฺ หฺมโต ตุ จ�กพรฺ หมฺ ศัพท์ด้วย น ิ แปลงเป็น น ิ โหต ิ ยอ่ มเป็น. (หลงั จ�กพฺรหมฺ ศัพท ์ แปลง สฺมวึ ิภัตต ิ เปน็ น)ิ สูตรน้ีม ี ๔ บท. เปน็ อ�เทสวิธิสตู ร. ตศุ ัพท์ : มีอรรถ อวุตฺตสมุจจฺ ย รวบรวมเอ�แม้หลังจ�ก กมมฺ จมฺม และมุทธฺ ศัพท์เป็นต้น กส็ �ม�รถแปลงสฺมึวิภตั ต ิ เป็น นิ ได ้ เช่น กมมฺ นิ, จมมฺ น,ิ มุทฺธน ิ เป็นต้น
กณั ฑ์ ] ปุงลิงค์ อการันต์ 53 ทำ�ตัวรปู พฺรหมฺ นิ ศัพทเ์ ดมิ คอื = พฺรหฺม = โอก�เส สตฺตม.ี หลัง พรฺ หมฺ ลง สมฺ ึ สตั ตมีวิภตั ติ พฺรหมฺ + สฺมึ = พรฺ หมฺ โต ต ุ สฺม ึ นิ. หลงั จ�กพรฺ หมฺ ศพั ท ์ แปลง สมฺ ึ เปน็ น ิ พฺรหฺม + สมฺ ึ นิ สำ�เร็จรปู เปน็ พฺรหฺมน.ิ (ใน... พรหม) พฺรหฺมสททฺ ปทม�ล� (พรหม) วิภตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. พฺรหฺม� พรฺ หฺม�โน อ�ลปนะ. โภ พฺรหฺเม ภวนโฺ ต พรฺ หฺม�โน ทตุ ยิ �. พฺรหฺม�น ำ พรฺ หฺมำ พฺรหมฺ �โน ตติย�. พรฺ หฺมนุ � พรฺ หฺเมหิ พฺรหฺเมภิ จตุตถ.ี พฺรหมฺ ุโน พฺรหฺมสฺส พรฺ หมฺ �นำ พรฺ หมฺ ูนำ ปัญจม.ี พฺรหมฺ นุ � พรฺ หเฺ มห ิ พรฺ หฺเมภิ ฉฏั ฐ.ี พรฺ หมฺ ุโน พรฺ หมฺ สฺส พรฺ หมฺ �นำ พฺรหมฺ ูนำ สัตตม.ี พฺรหมฺ น ิ พฺรหเฺ มสุ ทำ�ตวั รปู อตตฺ า ศพั ทเ์ ดิมคอื = อตตฺ = ลิงฺคตฺเถ ป€มา. หลัง อตตฺ ลง สิ ปฐม�วภิ ตั ติ อตตฺ + ส ิ = สฺย� จ. = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสรํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั จ�กอตฺตศัพท์ แปลง ส ิ เป็น อ� อตฺต + สิ อ� = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ ฺหิฯ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยัญชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ อตฺต ฺ อ + อ� = อตตฺ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกต ิ อตตฺ ฺ อ + อ� = ลงิ ฺคตเฺ ถ ป€มา. = โยนม�โน. น�ำ พยญั ชนะ ตฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อตฺต� = ปุพฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทมิ ฺหิฯ ส�ำ เร็จรปู เป็น อตตฺ า. (อ.ตน) = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. ทำ�ตัวรปู อตฺตาโน ศัพท์เดิมคอื หลงั อตฺต ลง โย ปฐม�วิภตั ต ิ อตตฺ + โย หลงั จ�กอตตฺ ศพั ท์ แปลง โย เปน็ อ�โน อตตฺ + โย อ�โน แยกพยญั ชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ อตฺตฺ อ + อ�โน ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ อตฺตฺ อ + อ�โน น�ำ พยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อตฺต�โน สำ�เรจ็ รปู เปน็ อตตฺ าโน. (อ.ตน ท.)
54 รูปสิทธิทปี นี [ ๒. นาม ท�ำ ตัวรปู อตตฺ านํ ศัพท์เดิมคือ = อตตฺ = กมฺมตเฺ ถ ทตุ ยิ �. หลัง อตฺต ลง อำ ทตุ ิย�วิภตั ติ อตฺต + อ ำ = พรฺ หมฺ ตฺตสขร�ช�ทิโต อม�น.ำ = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั จ�กอตฺตศพั ท ์ แปลง อำ เป็น อ�น ำ อตตฺ + อำ อ�นำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทิมหฺ ฯิ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยญั ชนะ ต ฺ ออกจ�กสระ อ อตฺต ฺ อ + อ�น ำ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกต ิ อตตฺ ฺ อ + อ�นำ นำ�พยญั ชนะ ตฺ ไปประกอบกบั สระ อ� อตฺต�นำ สำ�เรจ็ รูปเป็น อตฺตาน.ํ (ซงึ่ ... ตน) ๑๒๖. อตฺต’นฺโต หสิ มฺ ิ’มนตฺตํ. หสิ ฺมึ ในเพร�ะหวิ ภิ ัตต ิ ปเร อันเป็นเบอื้ งหลัง อตตฺ นฺโต อ.สระท่ีสุดของอตตฺ ศัพท ์ อ�ปชชฺ เต ยอ่ มถงึ อนตตฺ ำ ซึง่ คว�มเป็น อน. (เพร�ะหิวภิ ัตติ แปลงสระ อ ทสี่ ุดของ อตตฺ ศัพท ์ เปน็ อน) สตู รนม้ี ี ๓ บท คือ อตตฺ นโฺ ต, หสิ มฺ ,ึ อนตตฺ .ำ เปน็ อ�เทสวธิ สิ ูตร. ทำ�ตวั รปู อตตฺ เนหิ ศพั ท์เดิมคอื = อตตฺ = กรเณ ตตยิ �. หลัง อตตฺ ลง ห ิ ตตยิ �วภิ ัตต ิ อตตฺ + หิ = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. = อตตฺ นโฺ ต หสิ ฺมมิ นตฺตำ. แยกพยัญชนะ ตฺ ออกจ�กสระ อ อตฺตฺ อ + หิ = ปุพฺพมโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สุหิสวฺ ก�โร เอ. เพร�ะหวิ ภิ ตั ติ แปลง อ เป็น อน อตตฺ ฺ อ อน + หิ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. แยกพยญั ชนะ น ฺ ออกจ�กสระ อ อตฺตฺ อน ฺ อ + หิ เพร�ะหวิ ิภัตติ แปลง อ เป็น เอ อตตฺ ฺ อน ฺ อ เอ + หิ น�ำ พยญั ชนะไปประกอบกบั สระ อตฺตเนห ิ ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ อตตฺ เนห.ิ (ด้วย... ตน ท.) ๑๒๗. สสฺส โน. โน อ.ก�รแปลงเปน็ โน สสสฺ แห่ง สวิภัตติ ปรสสฺ อนั เปน็ เบ้อื งหลงั ตโต อตฺตโต จ�กอตตฺ ศพั ทน์ ั้น โหติ ยอ่ มม.ี (หลังจ�กอตตฺ ศพั ท์ แปลง สวิภัตต ิ เป็น โน) สูตรนีม้ ี ๒ บท. เปน็ อ�เทสวธิ ิสตู ร. ท�ำ ตัวรูป อตตฺ โน ศัพท์เดิมคอื = อตฺต = สมฺปท�เน จตตุ ถฺ .ี หลัง อตตฺ ลง ส จตตุ ถีวภิ ัตติ อตฺต + ส = สสฺส โน. หลังจ�กอตตฺ ศพั ท์ แปลง ส เป็น โน อตฺต + ส โน ส�ำ เรจ็ รปู เป็น อตตฺ โน. (แก่... ตน)
กณั ฑ์ ] ปงุ ลิงค์ อการันต์ 55 ๑๒๘. สฺมา นา. สมฺ � อ.สมฺ �วิภัตต ิ ปรำ อันเปน็ เบ้ืองหลงั ตโต อตตฺ โต จ�กอตฺตศพั ทน์ ั้น น� แปลงเป็น น� โหติ ยอ่ มเป็น. (หลงั จ�กอตตฺ ศัพท์ แปลง สฺม�วภิ ัตติ เป็น น�) สตู รนีม้ ี ๒ บท. เปน็ อ�เทสวธิ ิสูตร. ทำ�ตัวรูป อตตฺ นา ศพั ทเ์ ดมิ คือ = อตฺต = อปาทาเน ปฺจมี. หลัง อตตฺ ลง สฺม� ปญั จมวี ิภตั ติ อตตฺ + สฺม� = สมฺ � น�. หลงั จ�กอตตฺ ศพั ท ์ แปลง สฺม� เป็น น� อตฺต + สฺม� น� ส�ำ เรจ็ รูปเป็น อตฺตนา. (จ�ก... ตน) ๑๒๙. ตโต สฺมึ นิ. สฺม ึ อ.สมฺ ึวิภตั ติ ปรำ อนั เป็นเบอ้ื งหลัง ตโต อตฺตโต จ�กอตฺตศพั ทน์ นั้ นิ แปลงเป็น นิ โหติ ย่อมเป็น. (หลังจ�ก อตตฺ ศัพท ์ แปลง สฺมึวิภัตต ิ เปน็ น)ิ สตู รน้มี ี ๓ บท. เป็น อ�เทสวธิ สิ ตู ร. ท�ำ ตัวรูป อตฺตนิ ศพั ทเ์ ดมิ คอื = อตตฺ = โอก�เส สตตฺ มี. หลัง อตตฺ ลง สมฺ ึ สตั ตมีวิภตั ติ อตตฺ + สฺมึ = ตโต สมฺ ึ น.ิ หลังจ�กอตฺตศัพท์ แปลง สมฺ ึ เป็น น ิ อตฺต + สฺม ึ น ิ ส�ำ เร็จรปู เป็น อตฺตน.ิ (ใน... ตน) อตฺตสทฺทปทม�ล� (ตน,จิต,สภ�วธรรม,ปรม�ตมัน) วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐม�. อตตฺ � อตฺต�โน อ�ลปนะ. โภ อตฺต อตตฺ � ภวนฺโต อตฺต�โน ทุติย�. อตตฺ �นำ อตตฺ ำ อตตฺ �โน ตตยิ �. อตตฺ น� อตฺเตน อตตฺ เนห ิ อตตฺ เนภิ จตตุ ถี. อตฺตโน อตฺต�นำ ปัญจม.ี อตตฺ น� อตฺตเนหิ อตตฺ เนภิ ฉัฏฐ.ี อตฺตโน อตฺต�นำ สัตตม.ี อตฺตน ิ อตฺเตสุ
56 รปู สทิ ธทิ ปี นี [ ๒. นาม ป. อตตฺ � ห ิ อตฺตโน น�โถ โหติ. ประโยคบ�ลตี ัวอย่�ง อตตฺ �โน อตฺต�น ำ น�ถ� โหนตฺ .ิ .......................................................................... ............................................................................ อ�. เห อตฺต อตฺตโน น�โถ โหหิ. เห อตฺต�โน อตตฺ �นำ น�ถ� โหถ. .......................................................................... ............................................................................ ท.ุ ปุคคฺ โล อตตฺ �น ำ อปุ ม ำ กเรยยฺ . ปุคคฺ ล� อตตฺ �โน อปุ ม� กเรยยฺ .ุำ .......................................................................... ............................................................................ ต. ปุคฺคโล สุทนฺเตน อตตฺ น� ทลุ ฺลภำ น�ถ ำ ลภต.ิ ปุคคฺ ล� สทุ นเฺ ตหิ อตฺตเนห ิ ทลุ ลฺ ภำ น�ถ ำ ลภนฺต.ิ .......................................................................... ............................................................................ จ. ตฺว ำ อตฺตโน ทีป ํ กโรห.ิ ตุมเฺ ห อตฺต�น ำ ทเี ป กโรถ. .......................................................................... ............................................................................ ปัญ. โส อตตฺ น� อเปติ. เต อตตฺ เนห ิ อเปนฺติ. .......................................................................... ............................................................................ ฉ. ปคุ ฺคโล อตตฺ โนว กต�กตำ กิจฺจำ อเวกฺเขยฺย. ปุคคฺ ล� อตตฺ �นวำ กจิ ฺจ�น ิ อเวกฺเขยฺย.ำุ .......................................................................... ............................................................................ ส. โทโส อตตฺ นิ อปุ ฺปชชฺ ติ. โทส� อตเฺ ตส ุ อุปปฺ ชฺชนฺต.ิ .......................................................................... ............................................................................ ๑๓๐. สขโต จ’าโย-โน. อาโยโน อ.ก�รแปลงเปน็ อ�โย และโน ท. โยนำ แห่งโยวภิ ัตติ ท. ปเรสำ อนั เป็นเบ้ืองหลัง สขโต จ�กสข ศพั ท์ โหติ ย่อมม.ี (หลงั จ�กสขศัพท ์ แปลง โยวิภตั ต ิ เป็น อ�โย และ โน) สูตรน้มี ี ๓ บท คือ สขโต, จ, อ�โยโน. เปน็ อ�เทสวิธิสตู ร. จศัพท ์ : มีอรรถ อนุกฑฒฺ น ดึงบทว�่ “โยนำ” จ�ก สตู รว่� “โยนม�โน” ม�ไวใ้ นสตู รน้ี. ท�ำ ตวั รูป สขาโย ศพั ท์เดมิ คือ = สข = ลิงคฺ ตฺเถ ป€มา. หลงั สข ลง โย ปฐม�วิภัตติ สข + โย = สขโต จ�โยโน. = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. หลงั จ�กสขศัพท ์ แปลง โย เปน็ อ�โย สข + โย อ�โย = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทมิ ฺหิฯ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. แยกพยญั ชนะ ขฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ + อ�โย ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เป็นปกติ สขฺ อ + อ�โย น�ำ พยัญชนะ ขฺ ไปประกอบกบั สระ อ� สข�โย ส�ำ เร็จรูปเปน็ สข�โย. (อ.เพ่อื น ท.)
กัณฑ์ ] ปงุ ลงิ ค์ อการนั ต์ 57 ๑๓๑. สขนตฺ สฺสิ โน-นา-น-ํ เสสุ. โนน�นเำ สสุ ในเพร�ะโน น� นำ และสวภิ ตั ติ ท. อิ อ.ก�รแปลงเปน็ อ ิ สขนตฺ สสฺ แหง่ สระที่สดุ ของสขศัพท ์ โหติ ย่อมม.ี (เพร�ะโน น� น ำ และสวภิ ัตติ แปลงสระ อ ท่ีสุดของ สขศัพท์ เป็น อิ) สตู รนี้มี ๓ บท คือ สขนตฺ สสฺ , อ,ิ โนน�นำเสสุ. เปน็ อาเทสวิธิสูตร. ทำ�ตวั รปู สขิโน ศพั ท์เดมิ คือ = สข = ลงิ คฺ ตฺเถ ป€มา. หลงั สข ลง โย ปฐม�วภิ ัตติ สข + โย = สขโต จ�โยโน. = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย. หลงั จ�กสขศัพท ์ แปลง โย เปน็ โน สข + โย โน = สขนฺตสสฺ ิ โนน�นำเสส.ุ = นเย ปร ำ ยตุ ฺเต. แยกพยญั ชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ + โน เพร�ะโน แปลง อ เปน็ อ ิ สขฺ อ อ ิ + โน น�ำ พยญั ชนะ ข ฺ ไปประกอบกับสระ อ ิ สขิโน สำ�เรจ็ รปู เป็น สขิโน. (อ.เพื่อน ท.) ๑๓๒. สขโต คสฺเส วา. เอ อ.ก�รแปลงเปน็ อ อ� อ ิ อี และ เอ ท. คสฺส แห่ง ค ปรสฺส อันเป็นเบื้องหลัง สขโต จ�กสขศพั ท ์ โหติ ยอ่ มมี วา ดว้ ย. (หลงั จ�กสขศัพท์ แปลง สิอ�ลปนะที่ชื่อ ค เป็น อ อ� อ ิ อี และ เอ ) สูตรนี้ม ี ๔ บท คอื สขโต, คสฺส, เอ, ว�. เปน็ อาเทสวิธสิ ตู ร. วาศัพท์ : มีอรรถ อวตุ ตฺ สมจุ ฺจย รวบรวม อรรถทไ่ี ม่ได้กล�่ วไว้ในสูตร คือ หลงั จ�กศัพทอ์ น่ื กส็ �ม�รถแปลง สิอ�ลปนะเป็น เอ ได ้ เชน่ ภททฺ นเฺ ต อเิ ส เปน็ ต้น ทำ�ตัวรปู สข ศัพทเ์ ดมิ คอื = สข หลงั สข ลง สิ อ�ลปนะ สข + สิ = อ�ลปเน จ. ต้ัง สิ ชื่อ ค สข + สิ ค = อาลปเน สิ คสฺโ. หลังจ�กสขศพั ท์ แปลงสทิ ชี่ ือ่ ค เป็น อ สข + ส ิ อ = สขโต คสฺเส ว�. แยกพยัญชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ + อ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสฺสรํ สเรน วิโยชเย. ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ สขฺ อ + อ = สรโลโปม�เทสปปฺ จฺจย�ทิมฺหฯิ น�ำ พยัญชนะะ ข ฺ ไปประกอบกบั สระ อ สข = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. สำ�เร็จรูปเป็น สข. (แนะ่ ... เพ่อื น) หม�ยเหตุ :- อุท�หรณ์อ�ลปนะ เอกวจนะ คอื สข�, สข,ิ สข,ี สเข ทงั้ ๔ รปู น ี้ ใหแ้ ปลง สอิ �ลปนะชือ่ ค เปน็ อ�,อิ, อี และ เอ ดว้ ยสตู ร “สขโต คสเฺ ส ว�”. วิธที ่ีเหลอื ทำ�ตัวรูปเหมอื น สขศพั ทท์ กุ ประก�ร
58 รปู สิทธิทปี นี [ ๒. นาม ๑๓๓. สุ-น’มํสุ วา. สุนมํส ุ ในเพร�ะสุ น ำ และอวำ ภิ ตั ต ิ ท. อาโร อ.ก�รแปลงเปน็ อ�ร สขนตฺ สฺส แหง่ สระที่สุดของสขศพั ท ์ โหติ ยอ่ มม ี วา บ�้ ง. (เพร�ะส ุ น ำ และอำวภิ ตั ติ แปลงสระ อ ทส่ี ุดของสขศัพท ์ เปน็ อ�ร บ�้ ง) สตู รน้ีมี ๒ บท. เป็น อาเทสวธิ สิ ตู ร. ท�ำ ตวั รปู สขาร ํ ศพั ท์เดมิ คือ = สข = กมฺมตเฺ ถ ทตุ ยิ �. หลัง สข ลง อ ำ ทุติย�วิภัตติ สข + อ ำ = ปพุ ฺพมโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สุนมสำ ุ ว�. แยกพยญั ชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ + อำ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สรโลโปม�เทสปฺปจฺจย�ทมิ หฺ ิฯ เพร�ะอำวิภัตติ แปลง อ เป็น อ�ร สขฺ อ อ�ร + อ ำ = นเย ปร ำ ยุตฺเต. แยกพยัญชนะ รฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ�ร ฺ อ + อำ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลงั ๆ เปน็ ปกติ สขฺ อ�รฺ อ + อ ำ นำ�พยัญชนะไปประกอบกับสระ สข�รำ ส�ำ เรจ็ รูปเปน็ สขาร.ํ (ซงึ่ ... เพือ่ น) ท�ำ ตวั รูป สขานํ ศพั ทเ์ ดมิ คือ = สข = กมมฺ ตฺเถ ทตุ ยิ �. หลัง สข ลง อำ ทุตยิ �วภิ ตั ต ิ สข + อำ = พรฺ หฺมตตฺ สขร�ช�ทิโต อม�น.ำ = ปพุ ฺพมโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั จ�กสขศพั ท ์ แปลง อ ำ เปน็ อ�นำ สข + อำ อ�นำ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหิฯ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. แยกพยัญชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ + อ�น ำ ลบสระหน้� เพร�ะสระหลังๆ เป็นปกติ สข ฺ อ + อ�นำ นำ�พยญั ชนะ ขฺ ไปประกอบกับสระ อ� สข�นำ สำ�เร็จรูปเป็น สขานํ. (ซ่ึง... เพอื่ น) ๑๓๔. อาโร หิมฺหิ วา. หิมหฺ ิ ในเพร�ะหวิ ิภตั ต ิ อาโร อ.ก�รแปลงเป็น อ�ร สขนฺตสฺส แห่งสระท่สี ุดของสขศัพท์ โหติ ยอ่ มม ี วา บ้�ง. (เพร�ะหวิ ิภัตต ิ แปลงสระ อ ที่สุดของสขศัพท์ เปน็ อ�ร บ�้ ง) สตู รนม้ี ี ๓ บท. เปน็ อาเทสวิธิสตู ร. ท�ำ ตัวรปู สขาเรภิ ศพั ท์เดมิ คือ = สข หลัง สข ลง หิ ตตยิ �วภิ ตั ต ิ สข + ห ิ = กรเณ ตติย�. แยกพยญั ชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ + หิ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย.
กณั ฑ์ ] ปุงลงิ ค์ อการันต์ 59 เพร�ะหิวภิ ตั ติ แปลง อ เปน็ อ�ร สขฺ อ อ�ร + ห ิ = อ�โร หิมหฺ ิ ว�. = ปุพพฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. แยกพยญั ชนะ ร ฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ�ร ฺ อ + หิ = สหุ สิ ฺวก�โร เอ. = สมฺ �หิสฺมนึ ำ มฺห�ภมิ ฺหิ ว�. เพร�ะหิวภิ ัตติ แปลง อ เป็น เอ สข ฺ อ�รฺ อ เอ + หิ = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. หลงั จ�กลิงค์ท้ังปวง แปลง ห ิ เปน็ ภิ สข ฺ อ�ร ฺ เอ + หิ ภ ิ = สข = สมปฺ ท�เน จตุตฺถี. นำ�พยญั ชนะไปประกอบกบั สระ สข�เรภิ = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สขนฺตสสฺ ิ โนน�นเำ สสุ. ส�ำ เรจ็ รูปเป็น สขาเรภิ. (ด้วย... เพื่อน ท.) = อวิ ณฺณุวณฺณ� ฌล�. = ฌลโต สสฺส โน ว�. ทำ�ตัวรปู สขโิ น ศพั ท์เดมิ คือ = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. หลัง สข ลง ส จตุตถวี ิภตั ต ิ สข + ส = สข = สมปฺ ท�เน จตุตถฺ .ี แยกพยัญชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ + ส = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สุนมำส ุ ว�. เพร�ะสวิภัตต ิ แปลง อ เป็น อ ิ สข ฺ อ อ ิ + ส = ปพุ พฺ มโธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = สุนำหิส ุ จ. ตั้ง อ ิ ชอ่ื ฌ สข ฺ อ ิ ฌ + ส = นเย ปรำ ยตุ ฺเต. หลังจ�ก อิ ที่ชอ่ื ฌ แปลง ส เปน็ โน สขฺ อิ ฌ + ส โน = สข = สมปฺ ท�เน จตตุ ถฺ ี. น�ำ พยญั ชนะ ข ฺ ไปประกอบกับสระ อ ิ สขิโน = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = สขนฺตสสฺ ิ โนน�นเำ สสุ. สำ�เร็จรูปเป็น สขิโน. (แก่... เพื่อน) = สนุ หำ สิ ุ จ. = นเย ปร ำ ยุตเฺ ต. ทำ�ตวั รูป สขาราน ํ ศัพท์เดิมคอื หลงั สข ลง นำ จตุตถวี ภิ ัตต ิ สข + นำ แยกพยัญชนะ ขฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ + น ำ เพร�ะนำวิภตั ต ิ แปลง อ เป็น อ�ร สข ฺ อ อ�ร + นำ แยกพยัญชนะ รฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ�ร ฺ อ + นำ เพร�ะนำวภิ ัตต ิ ทฆี ะ อ เปน็ อ� สขฺ อ�ร ฺ อ อ� + นำ น�ำ พยญั ชนะไปประกอบกบั สระ สข�ร�น ำ สำ�เรจ็ รูปเปน็ สขาราน.ํ (แก.่ .. เพื่อน ท.) ทำ�ตัวรูป สขีนํ ศัพท์เดิมคือ หลัง สข ลง น ำ จตตุ ถีวิภัตต ิ สข + น ำ แยกพยัญชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สข ฺ อ + นำ เพร�ะนำวิภัตติ แปลง อ เปน็ อิ สขฺ อ อ ิ + นำ เพร�ะนำวภิ ัตต ิ ทีฆะ อิ เปน็ อี สขฺ อ ิ อี + น ำ นำ�พยัญชนะ ข ฺ ไปประกอบกับสระ อ ี สขนี ำ สำ�เร็จรปู เป็น สขีนํ. (แก.่ .. เพือ่ น ท.)
60 รูปสิทธิทปี นี [ ๒. นาม ท�ำ ตัวรูป สขนิ า ศพั ทเ์ ดมิ คอื = สข = อปาทาเน ปจฺ ม.ี หลงั สข ลง สมฺ � ปัญจมีวภิ ัตติ สข + สมฺ � = อมหฺ ตมุ หฺ นฺตรุ �ชพฺรหฺมตตฺ สขฯ = ปพุ ฺพมโฺ ธ€ิตมสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. หลงั จ�กสขศพั ท ์ ต้ัง สฺม� เปน็ น� สข + สฺม� น� = สขนฺตสฺสิ โนน�นำเสสุ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. แยกพยญั ชนะ ขฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ + น� เพร�ะน�อ�เทศ แปลง อ เป็น อิ สขฺ อ อิ + น� นำ�พยัญชนะ ขฺ ไปประกอบกับสระ อิ สขนิ � สำ�เรจ็ รูปเป็น สขนิ า. (แต่... เพอื่ น) ๑๓๕. สมฺ ิ’เม. สฺมึ อ.สฺมวึ ภิ ัตต ิ ปรํ อันเปน็ เบ้อื งหลงั สขโต จ�กสขศัพท์ เอ แปลงเป็น เอ โหต ิ ยอ่ มเป็น. (หลังจ�กสขศพั ท ์ แปลง สฺมวึ ภิ ตั ต ิ เปน็ เอ) สูตรนม้ี ี ๒ บท คอื สฺมึ, เอ. เป็น อาเทสวิธิสตู ร. ท�ำ ตัวรปู สเข ศพั ทเ์ ดมิ คือ = สข = โอก�เส สตตฺ มี. หลงั สข ลง สฺม ึ สตั ตมีวภิ ัตติ สข + สมฺ ึ = สมฺ เิ ม. = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. หลงั จ�กสขศพั ท ์ แปลง สฺม ึ เป็น เอ สข + สฺมึ เอ = สรโลโปม�เทสปปฺ จจฺ ย�ทิมฺหฯิ = นเย ปรำ ยุตเฺ ต. แยกพยัญชนะ ข ฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ + เอ ลบสระหน�้ เพร�ะสระหลังๆ เปน็ ปกติ สขฺ อ + เอ น�ำ พยญั ชนะ ข ฺ ไปประกอบกับสระ เอ สเข ส�ำ เรจ็ รูปเป็น สเข. (ใน... เพอ่ื น) ทำ�ตวั รปู สขาเรสุ ศพั ท์เดิมคือ = สข = โอก�เส สตฺตมี. หลงั สข ลง ส ุ สัตตมวี ภิ ตั ต ิ สข + ส ุ = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วโิ ยชเย. = สนุ มสำ ุ ว�. แยกพยัญชนะ ขฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ + ส ุ = ปุพพฺ มโธ€ิตมสฺสรํ สเรน วโิ ยชเย. = สุหิสฺวก�โร เอ. เพร�ะสวุ ภิ ัตต ิ แปลง อ เป็น อ�ร สข ฺ อ อ�ร + ส ุ = นเย ปรำ ยตุ เฺ ต. แยกพยัญชนะ ร ฺ ออกจ�กสระ อ สขฺ อ�ร ฺ อ + ส ุ เพร�ะสวุ ภิ ัตติ แปลง อ เปน็ เอ สขฺ อ�ร ฺ อ เอ + สุ น�ำ พยัญชนะไปประกอบกับสระ สข�เรส ุ ส�ำ เรจ็ รปู เปน็ สขาเรส.ุ (ใน... เพื่อน ท.)
กัณฑ์ ] ปุงลงิ ค์ อการันต์ 61 สขสทฺทปทม�ล� (เพอื่ น) วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐม�. สข� สข�โน สข�โย สขโิ น อ�ลปนะ. โภ สข สข� สขิ สข ี สเข ภวนโฺ ต สข�โน สข�โย สขโิ น ทุติย�. สข�รำ สข�นำ สขำ สข�โน สข�โย สขิโน ตตยิ �. สขนิ � สข�เรห ิ สข�เรภ ิ สเขห ิ สเขภิ จตุตถ.ี สขโิ น สขิสสฺ สข�ร�น ำ สขนี ำ ปญั จมี. สขิน� สข�เรหิ สข�เรภ ิ สเขห ิ สเขภิ ฉฏั ฐี. สขโิ น สขิสฺส สข�ร�นำ สขีนำ สัตตมี. สเข สข�เรสุ สเขส.ุ ๑๓๖. ปุมนตฺ สฺส’า สมิ หฺ ิ. สิมฺหิ ในเพร�ะสิวภิ ตั ติ อา อ.ก�รแปลงเปน็ อ� ปุมนตฺ สสฺ แหง่ สระทีส่ ดุ ของปมุ ศพั ท์ สวภิ ตตฺ ิสสฺ อันเปน็ ไป กับด้วยวิภัตติ โหต ิ ย่อมมี. (เพร�ะสวิ ิภัตติ แปลงสระท่ีสดุ ของปุมศัพทพ์ ร้อมกบั วภิ ตั ติเปน็ อ�) สตู รนี้ม ี ๓ บท คือ ปมุ นตฺ สฺส, อ�, สมิ หฺ .ิ เป็น อาเทสวิธสิ ูตร. อนตฺ ศัพท์ : มอี รรถ อวตุ ตฺ สมจุ ฺจย รวบรวม อรรถท่ีไม่ไดก้ ล�่ วไวใ้ นสตู ร คือให้แปลงสระทส่ี ดุ ของ มฆว และยุวศัพทเ์ ป็นตน้ เป็น อ� ได้ เช่น มฆว�, ยวุ �. ท�ำ ตวั รูป ปุมา ศพั ทเ์ ดิมคือ = ปุม = ลงิ คฺ ตเฺ ถ ป€มา. หลัง ปมุ ลง ส ิ ปฐม�วิภตั ต ิ ปุม + สิ = ปุพพฺ มโธ€ติ มสสฺ รํ สเรน วิโยชเย. = ปุมนตฺ สฺส� สิมฺห.ิ แยกพยญั ชนะ ม ฺ ออกจ�กสระ อ ปุม ฺ อ + สิ = นเย ปร ำ ยตุ เฺ ต. เพร�ะสิวิภัตต ิ แปลง อ กบั สิ เปน็ อ� ปมุ ฺ อ+ส ิ อ� นำ�พยัญชนะ ม ฺ ไปประกอบกับสระ อ� ปมุ � สำ�เรจ็ รูปเป็น ปมุ า. (อ.ผชู้ �ย) ๑๓๗. โยสวฺ ’าโน. โยส ุ ในเพร�ะโยวิภัตต ิ ท. อาโน อ.ก�รแปลงเปน็ อ�โน ปุมนฺตสฺส แห่งสระทีส่ ดุ ของปุมศัพท ์ สวิภตตฺ ิสฺส อนั เป็นไปกบั ดว้ ยวภิ ัตติ โหติ ย่อมม.ี (เพร�ะโยวภิ ัตต ิ แปลงสระทสี่ ดุ ของปุมศพั ทพ์ รอ้ มกับวิภัตตเิ ป็น อ�โน) สูตรนี้ม ี ๒ บท คือ โยสุ, อ�โน. เปน็ อาเทสวิธิสูตร.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374