Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย

หลักสูตรกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย

Published by ฤทัยรัตน์ ผลพิกุล, 2022-08-09 09:50:56

Description: หลักสูตรกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย

Search

Read the Text Version

สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ัด สาระก

๑๐๕ การเรียนร้แู กนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้/เนอ้ื หา/ เวลา คะแนน เกบ็ กจิ กรรม (ชั่วโมง) - รูปแบบการเขยี น โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ๒. ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้ในการ เขียนโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ - ตวั อยา่ งซอฟตแ์ วรท์ ี่ ใช้ในการเขียนโปรแกรม ๓. การเขยี นโปรแกรม คอมพวิ เตอรจ์ าก อลั กอรทิ มึ - เขยี นโปรแกรม คอมพิวเตอร์จาก อลั กอริทมึ - กรณีศกึ ษาการเขยี น โปรแกรมคอมพิวเตอร์

สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัด สาระก ๓. รวบรวมขอ้ มูลปฐม -การรวบรวมขอ้ มลู จาก ภูมิ ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอ ประมวลผล สร้างทางเ ขอ้ มูลและสารสนเทศ สารสนเทศเพอ่ื ใช้ในกา ตามวัตถุประสงค์ โดย มปี ระสทิ ธิภาพ ใชซ้ อฟต์แวร์ หรอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ต • การประมวลผลเป็นก ท่ี ผลลพั ธ์ทมี่ ีความหมาย สามารถทำไดห้ ลายวธิ ค่าเฉล่ยี - การใชซ้ อฟต์แวรห์ รือ หลากหลาย ท่ีหลากหลายในการรว ประเมินผล นำเสนอ จ ถูกต้อง และแมน่ ยำ -ตัวอย่างปญั หา เนน้ ก ตรงกับพฤติกรรมการบ ทอ้ งถ่นิ การสร้างกราฟ แนวโนม้

๑๐๖ การเรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรียนร้/ู เนอื้ หา/ เวลา คะแนน เกบ็ กจิ กรรม (ช่ัวโมง) กแหลง่ ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ การจดั การข้อมูล ๔ เลือก ประเมินผล จะทำให้ ได้ สารสนเทศ ารแกป้ ญั หาหรอื การ ตัดสินใจไดอ้ ย่าง ๑. ขอ้ มูลกับสารสนเทศ การกระทำกบั ขอ้ มูล เพอ่ื ให้ ได้ - ประเภทของขอ้ มูล ยและมปี ระโยชน์ต่อ การนำไปใชง้ าน ธี เช่น คำนวณอัตราสว่ น คำนวณ - การรวบรวมข้อมูล อบริการบนอินเทอร์เนต็ - สารสนเทศเบอ้ื งต้น - ลักษณะของ สารสนเทศที่ดี วบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก - ระบบสารสนเทศ จะชว่ ยให้ แก้ปญั หาไดอ้ ย่างรวดเร็ว - การจัดการขอ้ มูลและ การบูรณาการกบั วิชาอน่ื เชน่ ตม้ ไขใ่ ห้ สารสนเทศ บรโิ ภค คา่ ดัชนี มวลกายของคนใน ฟ ผลการทดลองและวิเคราะห์ ๒. การประมวลข้อมูล สารสนเทศ

สาระ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด สาระก ๔. ใชเ้ ทคโนโลยี -ใช้เทคโนโลยีสารสนเท สารสนเทศอย่าง ความเปน็ ส่วนตวั และอ ปลอดภยั ใช้สื่อ และ แหล่งขอ้ มูลตาม -การจดั การอตั ลักษณ์ ข้อกำหนดและ ข้อมูลสว่ นตัว ข้อตกลง

๑๐๗ การเรียนรูแ้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้/เนอื้ หา/ เวลา คะแนน เก็บ ทศอยา่ งปลอดภยั เช่น การปกป้อง กจิ กรรม (ชวั่ โมง) อัตลักษณ์ เชน่ การตั้งรหัสผา่ น การปกปอ้ ง - การประมวลขอ้ มลู ให้ เป็นสารสนเทศ - วธิ กี ารประมวลผล ขอ้ มลู ๓. ซอฟตแ์ วร์และการ เลือกใช้งาน - ประเภทของ ซอฟตแ์ วร์ - ตวั อย่างการสร้าง กราฟ การใช้เทคโนโลยี ๒ สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ๑. ความปลอดภัยของ ระบบสารสนเทศ

สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ัด สาระก -การพิจารณาความเห เปน็ สว่ นตวั ผู้อ่นื อนาจ -ขอ้ ตกลง ข้อกำหนดใน เช่น Creative comm สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลา

๑๐๘ การเรียนรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนร/ู้ เนอ้ื หา/ เวลา คะแนน เก็บ กิจกรรม (ช่วั โมง) หมาะสมของเนอื้ หา เช่น ละเมิดความ - ความปลอดภัยของ จาร วิจารณ์ ผู้อ่นื อย่างหยาบคาย เทคโนโลยีสารสนเทศ นการใชส้ อ่ื หรอื แหล่งข้อมูล ต่าง ๆ - รปู แบบภัยคุกคามต่อ mons ระบบรักษาความปลอดภยั ทางคอมพิวเตอร์ าง* หน่วยการเรียนร/ู้ เนอ้ื หา/ เวลา คะแนน กจิ กรรม (ชั่วโมง) เกบ็ - รูปแบบภัยคุกคามตอ่ ระบบรักษาความปลอดภัย ในคอมพวิ เตอร์ - แนวโนม้ ของภยั คกุ คามในอนาคต - การปอ้ งกนั และการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศใน อนาคต

สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรยี น

๑๐๙ - แนวโนม้ ระบบรักษา ความปลอดภัยเทคโนโลยี สารสนเทศในอนาคต ๒. จริยธรรมในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ - จรรยาบรรณในการ ใชง้ านเทคโนโลยี สารสนเทศ - ข้อกำหนด ขอ้ ตกลง ในการใชแ้ หล่งขอ้ มูล ๒๐/๒๐ ๒๐/๒๐ ๑๐๐/ ๑๐๐

ชัน้ มธั ยมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนร้.ู ..................วิทยาศา จำนวนมาตรฐาน ๗ มาตรฐาน และจำ สาระ มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด สาร สาระที่ ๑ มาตรฐาน ว ๑.๑ ๑. อธิบายโครงสรา้ งและการ - ระบบยอ่ ย สิ่งมีชวี ติ กบั ทำงานของระบบ ย่อยอาหาร ระบบหายใ กระบวนการ ระบบหมนุ เวียนเลอื ด ระบบ และระบบป ดำรงชวี ติ หายใจ ระบบขับถา่ ย ระบบ ระบบ ประ สบื พนั ธุ์ ของมนษุ ยแ์ ละสตั ว์ ทำงานอย่า รวมทั้งระบบประสาทของมนุษย์ - ระบบยอ่ ย ระบบหายใ ของสัตว์ ป ทำงานอยา่ ๒. อธบิ ายความสมั พนั ธข์ อง - ระบบยอ่ ย ระบบต่างๆ ของ มนษุ ย์และนำ ระบบหายใ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ของมนษุ ยใ์ สัมพันธ์กัน

๑๑๐ าปีท่ี ๒ าสตร.์ ................ชนั้ ......ม.๒............ ำนวนตัวชีว้ ดั ๔๔ ตัวช้วี ดั ตอ่ ปี ระการเรียนรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เนือ้ หา/กจิ กรรม (ชว่ั โมง) ยอาหาร ระบบหมนุ เวยี นเลือด ใจ ระบบขับถา่ ย ระบบสืบพันธ์ุ ประสาทของมนุษย์ ในแตล่ ะ ะกอบดว้ ยอวัยวะหลายชนดิ ที่ างเปน็ ระบบ ยอาหาร ระบบหมุนเวียนเลอื ด ใจ ระบบขับถ่าย ระบบสืบพันธุ์ ประกอบด้วยอวยั วะหลายชนดิ ที่ าง เปน็ ระบบ ยอาหาร ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด ใจ ระบบขับถา่ ย ระบบสืบพนั ธุ์ ในแตล่ ะระบบมกี ารทำงานท่ี นทำให้มนษุ ยด์ ำรงชีวิตอยูไ่ ด้

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาร สาระท่ี ๑ มาตรฐาน ว ๑.๑ ๓. สงั เกตและอธบิ ายพฤตกิ รรม อย่างปกติ สิ่งมชี ีวิตกบั ของมนษุ ย์และสัตว์ท่ตี อบสนอง ผิดปกติ ย่อ กระบวนการ ตอ่ สง่ิ เรา้ ภายนอกและภายใน ดงั นนั้ จึงตอ้ ดำรงชีวติ - แสง อุณห ๔. อธิบายหลักการและผลของ เรา้ ภายนอก การใช้เทคโนโลยีชวี ภาพในการ สารใน รา่ ง ขยายพันธุ์ ปรบั ปรงุ พนั ธุ์ และ เรา้ ภายใน เพมิ่ ผลผลิตของสัตวแ์ ละนำ เรา้ ภายในม ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ แสดงพฤตกิ - เทคโนโลย เพอ่ื ทำให้ส ส่งิ มีชวี ิต ม - การผสมเ โคลนเป็นก ขยายพนั ธ์ุ ของสัตว์

๑๑๑ ระการเรียนร้แู กนกลาง* หน่วยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เน้อื หา/กิจกรรม (ช่วั โมง) ถา้ ระบบใดระบบหนง่ึ ทำงาน อมสง่ ผลกระทบต่อระบบอ่นื ๆ องมกี ารดูแลรกั ษาสุขภาพ หภูมิ และการสมั ผัส จดั เป็นสงิ่ ก สว่ นการเปล่ียนแปลงระดบั งกาย เช่น ฮอร์โมน จดั เปน็ สิง่ ซงึ่ ทัง้ ส่ิงเร้าภายนอกและสงิ่ มผี ลต่อมนษุ ยแ์ ละสัตว์ ทำให้ กรรมตา่ งๆ ออกมา ยีชวี ภาพเป็นการใชเ้ ทคโนโลยี สงิ่ มชี วี ติ หรอื องค์ประกอบของ มีสมบัตติ ามตอ้ งการ เทียม การถ่ายฝากตวั อ่อน การ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการ ปรับปรุงพันธุ์ และเพม่ิ ผลผลิต

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้วี ัด สาร ๕. ทดลอง วิเคราะห์ แลอธบิ าย - แป้ง น้ำต สารอาหาร ในอาหารมปี รมิ าณ เปน็ สารอาห พลังงาน และสดั สว่ นท่เี หมาะสม กบั เพศและวัย - การบริโภ ๖. อภิปรายผลของสารเสพติดต่อ - สารเสพต ระบบตา่ ง ๆ ของร่างกาย และ ต่างๆของร แนวทางในการป้องกันตนเองจาก หน้าทผี่ ิดป สารเสพติด ใชส้ ารเสพต ปอ้ งกนั ตนเ สาระที่ ๓ มาตรฐาน ว ๓.๑ ๑. สำรวจและอธบิ าย - ธาตุเป็นส สารและ องคป์ ระกอบสมบัติของธาตุและ อะตอม ชน สมบัติของ สารประกอบ แยกสลายเ สาร เคมี - สารประ ประกอบด้ว รวมตัวกันด

๑๑๒ ระการเรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เนือ้ หา/กจิ กรรม (ชั่วโมง) ตาล ไขมัน โปรตีน วติ ามนิ ซี หารและสามารถทดสอบได้ ภคอาหาร จำ เปน็ ตอ้ งให้ได้ ตดิ แต่ละประเภทมผี ลต่อระบบ รา่ งกาย ทำให้ระบบเหลา่ นั้นทำ ปกติ ดงั นัน้ จึงตอ้ งหลกี เล่ยี งการ ตดิ และหาแนวทางในการ เองจาก สารเสพติด สารบริสุทธิ์ท่ปี ระกอบด้วย นดิ เดียวกนั และไมส่ ามารถ เป็นสารอืน่ ไดอ้ กี โดยวธิ กี ารทาง ะกอบเป็นสารบรสิ ทุ ธ์ิที่ วยธาตุต้ังแตส่ องธาตุขน้ึ ไป ด้วยอตั ราส่วนโดยมวลคงท่ี

สาระ มาตรฐาน ตวั ชวี้ ัด สาร และมีสมบัต ธาตุ ที่เปน็ ๒. สืบคน้ ขอ้ มูลและเปรียบเทียบ - ธาตแุ ต่ละ สมบตั ิของธาตุโลหะ ธาตุอโลหะ คลา้ ยกนั แล ธาตุกงึ่ โลหะและธาตุกมั มันตรงั สี จำแนกกลมุ่ และนำความรู้ไป ธาตโุ ลหะ ก กมั มนั ตรงั ส ใช้ประโยชน์ - ในชวี ิตปร ผลิตภัณฑ์ต สารประกอ เหมาะสมป ๓. ทดลองและอธิบายการ - การกรอง หลักการแยกสารดว้ ยวิธกี าร และโครมา กรอง การตกผลกึ การสกัด การ มหี ลกั การแ กล่ัน และโครมาโทกราฟีและนำ ประยุกตใ์ ช ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

๑๑๓ ระการเรยี นรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเก็บ เนือ้ หา/กจิ กรรม (ชั่วโมง) ติแตกตา่ งจากสมบตั เิ ดิมของ นองค์ประกอบ ะชนดิ มสี มบัตบิ างประการที่ ละแตกต่างกัน จึงสามารถ มธาตตุ ามสมบัติของธาตเุ ปน็ กึง่ โลหะ อโลหะ และธาตุ สี ระจำวันมีวสั ดอุ ุปกรณ์และ ต่างๆทีผ่ ลิตมาจากธาตุและ อบ จงึ ควรเลอื กใชใ้ ห้ถูกตอ้ ง ปลอดภัย และย่ังยนื ง การตกผลกึ การสกัด การกลัน่ าโทกราฟี เปน็ วิธีการแยกสารท่ี แตกต่างกนั และสามารถนำไป ชใ้ นชีวติ ประจำวนั

สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วัด สาร สาระท่ี ๓ มาตรฐาน ว ๓.๒ ๑. ทดลอง แ ล ะ อธิบายการ - เมือ่ สารเ สารและ เปลย่ี นแปลง สมบตั ิ มวล และ เขา้ มาเก่ยี สมบตั ิของ พลังงาน เมอื่ สารเกดิ ปฏกิ ิรยิ า พลงั งาน สาร เคมี รวมท้ังอธบิ าย ปจั จยั ทีม่ ผี ล ความรอ้ น ตอ่ การเกิดปฏิกริ ิยาเคมี - อุณหภูม สารและตัว ปฏกิ ริ ิยาเค ๒. ทดลอง อธิบายและเขยี น - สมการเค สมการเคมีของปฏกิ ิรยิ าของสาร เกดิ ปฏิกิรยิ ต่าง ๆ และนำความรไู้ ปใช้ และสารผล ประโยชน์ - ปฏิกริ ิยา โลหะกับน้ำ และกรดกบั พบท่วั ไป

๑๑๔ ระการเรียนรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เน้อื หา/กจิ กรรม (ชัว่ โมง) เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีจะมพี ลังงาน ยวข้อง ซ่ึงอาจเป็นการดดู ความร้อนหรอื คายพลังงาน มิ ความเข้มข้น ธรรมชาติของ วเรง่ ปฏิกริ ิยามีผลตอ่ การเกดิ คมีของสาร คมีใช้เขียนแสดงการ ยาเคมขี องสาร ซ่งึ มที ง้ั สารตง้ั ต้น ลิตภัณฑ์ าระหวา่ งโลหะกับออกซเิ จน ำ โลหะกับกรด กรดกับเบส บคาร์บอเนตเป็นปฏกิ ิริยาเคมที ่ี

สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัด สาร ๓. สืบค้นข้อมูลและอภปิ รายผล - การเลอื ก ของสารเคมี ปฏกิ ริ ยิ าเคมีต่อ ประจำ วันไ สิ่งมีชวี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม โดยคำนงึ ถ - สารเคมีแ ประโยชนแ์ สิ่งแวดลอ้ ม ๔. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธิบายการ - การใชส้ า ใช้สารเคมอี ยา่ งถกู ต้อง ปลอดภัย ป้องกนั ไม วิธปี อ้ งกนั และแก้ไขอนั ตรายที่ ผู้อนื่ โดยใช เกิดขึน้ จากการใช้สารเคมี - ผ้ใู ชส้ ารเค บนฉลาก แ พยาบาลเบ สารเคมี

๑๑๕ ระการเรียนรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เนือ้ หา/กจิ กรรม (ชั่วโมง) กใชว้ สั ดุและสารรอบตวั ในชีวติ ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภยั ถึงปฏกิ ิรยิ าที่เกิดขึ้น และปฏกิ ริ ิยาเคมี มีท้ัง และโทษต่อสง่ิ มีชวี ิตและ มทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม ารเคมตี อ้ งมีความระมดั ระวงั ม่ใหเ้ กิดอนั ตรายตอ่ ตนเองและ ช้ให้ถูกต้อง ปลอดภยั และคุ้มค่า คมคี วรรู้จกั สญั ลกั ษณ์เตอื นภัย และรู้วธิ กี ารแก้ไข และการปฐม บอ้ื งตน้ เม่ือไดร้ ับอนั ตรายจาก

สาระ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด สาร สาระท่ี ๔ มาตรฐาน ว ๔.๑ ๑. ทดลองและอธบิ ายการหาแรง - แรงเป็นป แรงและการ ลพั ธ์ของแรงหลายแรงในระนาบ แรงในระนา เคล่อื นท่ี เดยี วกนั ทีก่ ระทำต่อวตั ถุ เดยี วกัน สา หลักการรว ๒. อธิบายแรงลัพธ์ท่กี ระทำต่อ - เมือ่ แรงล วัตถุทหี่ ยดุ นิง่ หรอื วตั ถเุ คล่ือนท่ี ท่หี ยดุ นง่ิ ว ดว้ ยความเรว็ คงตวั ถา้ วัตถุเคล่ือ เคล่ือนที่ด้ว สาระที่ ๕ มาตรฐาน ว ๕.๑ ๑. ทดลองและอธบิ ายการ - เมือ่ แสงต พลงั งาน สะทอ้ นของแสง การหกั เหของ อีกตัวกลาง แสงและนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ เคล่ือนทโ่ี ด หักเหของแ - การนำคว แสงและกา แว่นตา ทศั

๑๑๖ ระการเรียนรู้แกนกลาง* หน่วยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เน้อื หา/กิจกรรม (ช่วั โมง) ปรมิ าณเวกเตอร์ เมอ่ื มีแรงหลาย าบเดียวกนั กระทำ ตอ่ วตั ถุ ามารถหาแรงลัพธไ์ ดโ้ ดยใช้ วมเวกเตอร์ ลพั ธ์มคี า่ เปน็ ศูนย์กระทำต่อวตั ถุ วัตถนุ ั้นก็จะหยุดนงิ่ ตลอดไป แต่ ลอนทีด่ ้วยความเรว็ คงตวั ก็จะ วยความเรว็ คงตวั ตลอดไป ตกกระทบผวิ วัตถุหรอื ตัวกลาง งหนงึ่ แสงจะเปลี่ยนทศิ ทางการ ดยการสะทอ้ นของแสง หรอื การ แสง วามรเู้ กยี่ วกับการสะทอ้ นของ ารหักเหของแสงไปใชอ้ ธิบาย ศนอปุ กรณ์ กระจกเสน้ ใยนำแสง

สาระ มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด สาร ๒. อธบิ ายผลของความสวา่ งท่มี ี - นยั น์ตาขอ ตอ่ มนุษยแ์ ละสิง่ มีชวี ติ อืน่ ๆ ต่างๆ นยั น อย่าง - ความสว่า การนำควา ในการจัดค ทำงาน - ออกแบบ มผี ลต่อส่ิงม ๓. ทดลองและอธบิ ายการ - เมอ่ื แสงต ดดู กลนื แสงสี การมองเห็นสีของ แสงสีบางส วตั ถุและนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ออกมาทำใ - การนำคว การมองเห็น การถ่ายรปู

๑๑๗ ระการเรยี นรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเก็บ เนือ้ หา/กจิ กรรม (ชั่วโมง) องคนเราเป็นอวยั วะใช้มองดสู ง่ิ นต์ ามอี งค์ประกอบสำคญั หลาย างมผี ลตอ่ นัยน์ตามนษุ ย์ จงึ มี ามรเู้ กี่ยวกับความสวา่ งมาชว่ ย ความสวา่ งใหเ้ หมาะสมกบั การ บวิธีการตรวจสอบว่าความสว่าง มีชวี ติ อ่นื ตกกระทบวัตถุ วตั ถุจะดูดกลนื สีไว้ และสะทอ้ นแสงสที ่ีเหลือ ให้เรามองเหน็ วัตถเุ ปน็ สตี ่าง ๆ วามรเู้ กย่ี วกับการดดู กลืนแสงสี นสขี องวตั ถไุ ปใช้ประโยชน์ใน ปและในการแสดง

สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัด สาร สาระที่ ๖ มาตรฐาน ว ๖.๑ ๑. สำรวจ ทดลองและอธบิ าย -ดินมีลักษณ กระบวนการ ลกั ษณะของช้นั หนา้ ตดั ดินสมบัติ วตั ถุต้นกำเ เปล่ยี นแปลง ของดิน และกระบวนการเกดิ ดิน ลักษณะภมู ของโลก และระยะเว ตรวจสอบส - ชัน้ หน้าต ลกั ษณะ สม กัน ๒. สำรวจ วเิ คราะห์และอธิบาย - ดนิ ในแต การใช้ประโยชนแ์ ละการปรับปรงุ ต่างกนั ตาม คุณภาพของดนิ ประโยชน์ต - การปรบั ป ของดินเพื่อ การใชป้ ระโ

๑๑๘ ระการเรยี นรู้แกนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เน้อื หา/กิจกรรม (ชัว่ โมง) ณะและสมบัติแตกต่างกันตาม เนดิ ดนิ ลกั ษณะภูมิอากาศ มปิ ระเทศ พชื พรรณ สิง่ มีชวี ติ วลาในการเกิดดนิ และ สมบัตบิ างประการของดนิ ตดั ดนิ แต่ละช้นั และแต่ละพืน้ ทม่ี ี มบัติ และองคป์ ระกอบแตกต่าง ต่ละท้องถ่นิ มีลกั ษณะและสมบตั ิ มสภาพของดิน จึงนำ ไปใช้ ต่างกัน ปรุงคณุ ภาพดินขึ้นอยกู่ บั สภาพ อทำให้ดนิ มีความเหมาะสมต่อ โยชน์

สาระ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด สาร ๓. ทดลองเลียนแบบเพ่ืออธิบาย -กระบวนก กระบวนการเกดิ และลกั ษณะ ทง้ั องค์ประกอบของหิน บนและใต้พ ลักษณะอง ทางดา้ นกา ๔. ทดสอบและสงั เกต - หินแบง่ เ องคป์ ระกอบและสมบัติของหนิ ตะกอนหนิ เพอื่ จำแนกประเภท ของหนิ และ กนั และนำ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ อุตสาหกรร สาระที่ ๖ มาตรฐาน ว ๖.๑ ๕. ตรวจสอบและอธบิ าย - เมอื่ สภาว กระบวนการ เปล่ยี นแปลง ลกั ษณะทางกายภาพของแร่ และ ภายใต้ ของโลก การนำไปใช้ ประโยชน์ อณุ หภูมิแล สารประกอ และสมบตั ิต สมบตั ิแต่ละ

๑๑๙ ระการเรียนรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเก็บ การเปล่ยี นแปลงทางธรณีวทิ ยา เน้อื หา/กจิ กรรม (ช่ัวโมง) พ้ืนผิวโลก ทำ ให้เกดิ หนิ ท่มี ี งคป์ ระกอบแตกต่างกันทัง้ ายภาพ และทางเคมี เปน็ หินอคั นี หินแปรและหิน นแต่ละประเภทมีความสมั พันธ์ ไปใช้ประโยชน์ในทาง รมการก่อสรา้ งและอืน่ ๆ วะแวดล้อมธรรมชาติทีอ่ ยู่ ละความดนั ท่เี หมาะสม ธาตแุ ละ อบจะตกผลึกเป็นแรท่ มี่ ีลกั ษณะ ต่างกัน ซง่ึ ตอ้ งใชว้ ิธีตรวจสอบ ะอย่างแตกต่างกนั ไป

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาร - แรท่ ่ีสำรว ชนดิ แตล่ ะช จากรูปผลกึ ความวาว แ และนำ ไปใ เครื่องประด ๖ สืบคน้ และอธบิ ายกระบวนการ -ปโิ ตรเลยี ม เกดิ ลักษณะและสมบัติของ เชอ้ื เพลิงธร ปโิ ตรเลยี ม ถ่านหิน หนิ น้ำมนั เปลย่ี นแปล และการนำไปใช้ประโยชน์ จะมลี ักษณ ประโยชนแ์ สาระที่ ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ๑. ต้ังคำถามทกี่ ำหนดประเดน็ ธรรมชาตขิ อง หรือตัวแปรทีส่ ำคัญในการ วิทยาศาสตร์ สำรวจ ตรวจสอบ หรอื ศกึ ษา และ คน้ ควา้ เร่อื งที่สนใจไดอ้ ย่าง เทคโนโลยี ครอบคลมุ และเชือ่ ถอื ได้

๑๒๐ ระการเรยี นร้แู กนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเก็บ เนอื้ หา/กิจกรรม (ชัว่ โมง) วจพบในประเทศไทยมีหลาย ชนิดตรวจสอบทางกายภาพได้ ก ความถว่ งจำเพาะ ความแขง็ แนวแตกเรยี บ สแี ละสีผงของแร่ ใช้ประโยชนต์ า่ งกนั เชน่ ใชท้ ำ ดบั ใชใ้ นด้านอุตสาหกรรม ม ถ่านหนิ หินน้ำมนั เปน็ รรมชาติท่ีเกิดจากกระบวนการ ลงทางธรณวี ิทยา ซง่ึ แต่ละชนดิ ณะ สมบัติและวธิ กี ารนำไปใช้ แตกต่างกัน

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาร ๒. สรา้ งสมมติฐานทส่ี ามารถ ตรวจสอบ ไดแ้ ละวางแผนการ สำรวจตรวจสอบหลาย ๆ วิธี ๓. เลือกเทคนิควธิ ีการสำรวจ ตรวจสอบ ท้ังเชิงปรมิ าณและ เชงิ คณุ ภาพที่ได้ผลเท่ียงตรงและ ปลอดภัย โดยใชว้ ัสดุและ เครอ่ื งมือทเ่ี หมาะสม ๔. รวบรวมขอ้ มลู จดั กระทำ ขอ้ มลู เชงิ ปริมาณและคุณภาพ ๕. วเิ คราะห์และประเมินความ สอดคล้อง ของประจกั ษพ์ ยาน กับข้อสรปุ ทงั้ ที่ สนบั สนุน หรือ ขดั แย้งกับสมมติฐาน และความผดิ ปกติของข้อมลู จาก การสำรวจตรวจสอบ

๑๒๑ ระการเรยี นรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เนือ้ หา/กิจกรรม (ชว่ั โมง)

สาระ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด สาร สาระท่ี ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ๖. สร้างแบบจำลอง หรรื ูปแบบที่ ธรรมชาตขิ อง อธบิ ายผลหรอื แสดงผลของการ วิทยาศาสตร์ สำรวจตรวจสอบ และ เทคโนโลยี ๗. สรา้ งคำ ถามทนี่ ำ ไปสกู่ าร สำรวจ ตรวจสอบ ในเร่อื งที่ เกีย่ วขอ้ ง และนำความร้ทู ไ่ี ด้ ไป ใช้ในสถานการณ์ใหม่หรือธบิ า เก่ียวกับแนวคดิ กระบวนการ และผลของโครงงานหรือชนิ้ งาน ใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจ ๘. บันทกึ และอธบิ ายผลการ สังเกต การสำรวจ ตรวจสอบ คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ จากแหล่ง ความร้ตู ่าง ๆ ใหไ้ ด้ข้อมูลที่ เช่ือถอื ได้ และยอมรับการ เปล่ียนแปลงความรู้ทคี่ ้นพบ

๑๒๒ ระการเรยี นรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เนือ้ หา/กิจกรรม (ชว่ั โมง)

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้วี ัด สาร เมอ่ื มีขอ้ มลู และประจักษ์ พยาน ใหมเ่ พม่ิ ข้นึ หรือโตแ้ ย้งจากเดิม ๙. จัดแสดงผลงาน เขยี นรายงาน และ/หรอื อธบิ าเกยี่ วกับแนวคิด กระบวนการ และผลของ โครงงานหรือ ช้ินงานให้ผอู้ น่ื เขา้ ใจ

๑๒๓ ระการเรยี นรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็ เนือ้ หา/กิจกรรม (ชว่ั โมง)

ช้ันมธั ยมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นร.ู้ .................วทิ ยาศาส มีจำนวน.....๘..... สาระ จำนวนมาตรฐาน...๙...มาตรฐาน สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาระที่ ๑ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจ ๑.สังเกตและอธิบายลักษณะของ สิ่งมีชีวติ กบั กระบวนการและความสำคัญ โครโมโซมทม่ี หี นว่ ยพนั ธุกรรม กระบวนการ ของการถา่ ยทอดลักษณะ หรอื ยีนในนิวเคลยี ส ดำรงชวี ติ ทางพันธกุ รรมววิ ัฒนาการ ของสง่ิ มชี ีวติ ความหลาก หลายทางชีวภาพ การใช้ เทคโนโลยีชวี ภาพท่มี ผล กระทบต่อมนษุ ย์และ สิง่ แวดล้อม มกี ระบวนการ สบื เสาะหาความรู้และ จิตวิทยาศาสตร์ ส่อื สารส่ิงที่ เรียนรู้ และนำความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์

๑๒๔ าปที ี่ ๓ สตร์.................ชัน......ม.๓............ น และจำนวนตวั ช้ีวดั .......๔๐............ตวั ชี้วดั ต่อปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง หนว่ ยการเรียนรู/้ หนว่ ย ชัว่ โมง เนื้อหาที่สอน ง - เมอื่ มองเซลล์ผา่ นกลอ้ งจลุ ทรรศนจ์ ะเห็น เสน้ ใยเล็กๆพนั กนั อยู่ในนิวเคลียส เม่อื เกดิ การแบ่งเซลลเ์ สน้ ใยเหล่านีจ้ ะขดสน้ั เข้าจน มีลกั ษณะเป็นทอ่ นส้ัน เรยี กวา่ โครโมโซม - โครโมโซมประกอบดว้ ยดีเอน็ เอและ โปรตนี - ยีนหรอื หนว่ ยพนั ธกุ รรมเปน็ ส่วนหนงึ่ ที่ อย่บู นดเี อน็ เอ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชี้วัด ๒. อธบิ ายความสำคัญของสาร พันธุกรรมหรือดเี อ็นเอ และ กระบวนการถ่ายทอดลกั ษณะ ทางพนั ธุกรรม ๓. อภปิ รายโรคทางพนั ธกุ รรมท เกดิ จากความผิดปกตขิ องยีนและ โครโมโซมและนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ๔. สำรวจและอธิบายความ หลาก หลายทางชวี ภาพในทอ้ งถ่นิ ท่ีทำ ให้สง่ิ มีชีวิตดำรงชีวติ อย่ไู ดอ้ ย่าง สมดลุ

๑๒๕ สาระการเรียนร้แู กนกลาง หนว่ ยการเรยี นร้/ู หน่วย ชัว่ โมง เนอ้ื หาทส่ี อน - เซลล์หรอื สง่ิ มีชีวิต มีสารพันธุกรรมหรือ ดเี อ็นเอ ท่ีควบคมุ ลกั ษณะ ของการ แสดงออก - ลักษณะทางพันธกุ รรมทค่ี วบคมุ ดว้ ยยนี จากพอ่ และแม่สามารถถา่ ยทอดสู่ลูกผ่าน ทางเซลล์สืบพนั ธ์ุและการปฏิสนธิ - โรคธาลัสซีเมยี ตาบอดสี เป็นโรคทาง ที่ พนั ธุกรรมท่ีเกิดจากความผิดปกติของยีน ะ - กลมุ่ อาการดาวน์เปน็ ความผิดปกติของ ร่างกายซ่งึ เกิดจากการท่ีมีจำนวน โครโมโซมเกนิ มา - ความหลากหลายทางชีวภาพทท่ี ำให้ สงิ่ มีชวี ิตอยูอ่ ยา่ งสมดุลข้ึนอย่กู บั ความ ำ หลากหลายของระบบนเิ วศความ หลากหลายของชนิดส่ิงมชี วี ิต และความ หลากหลายทางพนั ธุกรรม

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด ๕. อธบิ ายผลของความ หลากหลายทางชวี ภาพที่มตี อ่ มนษุ ย์ สตั ว์พชื และสิง่ แวดลอ้ ม ๖. อภิปรายผลของ เทคโนโลยชี วี ภาพตอ่ การ ดำรงชวี ิตของมนษุ ย์และ ส่งิ แวดล้อม สาระท่ี ๒ ชีวิตกับ มาตรฐาน ว ๒. ๑ เข้าใจ ๑. สำรวจระบบนิเวศตา่ งๆใน สิง่ แวดล้อม ส่งิ แวดลอ้ มในทอ้ งถ่ิน ความ ทอ้ งถน่ิ และ อธิบาย

๑๒๖ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู้/ หนว่ ย ชวั่ โมง เน้อื หาท่สี อน - การตดั ไมท้ ำลายป่าเป็นสาเหตุหนึ่งท่ีทำ ใหเ้ กดิ การสญู เสียความหลากหลายทาง ชีวภาพซ่งึ สง่ ผลกระทบตอ่ การดำรงชีวติ ของมนุษย์สตั ว์ พชื และสง่ิ แวดล้อม - การใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชและ สตั ว์ส่งผลกระทบต่อสง่ิ มีชวี ิตท้ังมนษุ ย์ สตั ว์และพชื ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ความหลากหลายทางชีวภาพและส่งผล กระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม ๖. อภปิ รายผลของเทคโนโลยีชวี ภาพต่อ การดำรงชีวิตของมนุษย์และส่งิ แวดล้อม - ระบบนิเวศในแต่ละทอ้ งถนิ่ ประกอบด้วย

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชี้วัด สมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ แวดล้อม ความสัมพนั ธข์ ององค์ประกอบ กับสิ่งมชี ีวติ ความสัมพันธ์ ภาย ในระบบนเิ วศ ระหว่างส่ิงมชี ีวิตต่าง ๆ ใน ระบบนิเวศ มกี ระบวนการ สบื เสาะหาความรู้และ จิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสง่ิ ที่ เรยี นรูแ้ ละนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ๒. วิเคราะห์และอธิบายความ ของการถา่ ยทอดพลงั งานของ สิง่ มชี วี ิตในรูปของโซ่อาหารและ สายใยอาหาร ๓. อธบิ ายวฏั จกั รน้ำ วฏั จกั ร คารบ์ อนและความสำคัญท่มี ตี อ่ ระบบนเิ วศ

๑๒๗ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หนว่ ยการเรียนรู้/ หนว่ ย ชวั่ โมง เนอื้ หาท่ีสอน องคป์ ระกอบทางกายภาพและ องคป์ ระกอบ ทางชวี ภาพเฉพาะถนิ่ ซงึ่ มคี วามเกีย่ วข้อง สัมพนั ธก์ ัน - สงิ่ มีชวี ติ มีความเกย่ี วข้องสมั พนั ธ์กนั โดย มกี ารถ่ายทอดพลังงานในรปู ของโซอ่ าหาร ะ และสายใยอาหาร - น้ำ และคาร์บอนเป็นองค์ประกอบใน สิ่งมชี ีวติ และสงิ่ ไม่มชี ีวิต

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด ๔. อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการ เปล่ียนแปลงขนาดของประชากร ในระบบนเิ วศ มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจ ๑. วเิ คราะห์สภาพปัญหา ความสำคญั ของ สงิ่ แวดลอ้ มทรัพยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรธรรมชาติ การใช้ ในท้องถิ่นและเสนอแนวทางใน ทรัพยากรธรรมชาติในระดบั การแก้ไขปญั หา ทอ้ งถนิ่ ประเทศ และโลกนำ

๑๒๘ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการเรยี นร/ู้ หนว่ ย ชว่ั โมง เน้อื หาท่ีสอน - นำ้ และคาร์บอนจะมกี ารหมนุ เวียน เปน็ วัฏจกั รในระบบนิเวศ ทำให้สิ่งมชี วี ิต ในระบบนเิ วศนำไปใช้ประโยชน์ได้ - น้ำ และคาร์บอนเปน็ องค์ประกอบใน ร สงิ่ มีชวี ติ และสิง่ ไมม่ ีชวี ติ - น้ำและคาร์บอนจะมีการหมนุ เวยี น เปน็ วฏั จักรในระบบนิเวศ ทำให้ส่งิ มชี ีวิต ในระบบนเิ วศนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ - อัตราการเกิด อัตราการตาย อัตราการ อพยพเข้า และอตั ราการอพยพออกของ ส่งิ มีชวี ิต มผี ลตอ่ การเปลีย่ นแปลงขนาด ของประชากรในระบบ นเิ วศ - สภาพปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากร ธรรมชาตใิ นทอ้ งถ่นิ เกดิ จากการกระทำ ของธรรมชาตแิ ละ มนุษย์

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด ความรู้ไปใช้ในในการจัดการ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ส่งิ แวดล้อมในท้องถ่ินอย่าง ย่ังยืน ๒. อธิบายแนวทางการรักษา สมดุลของระบบนเิ วศ ๓. อภปิ รายการใช้ ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างยงั่ ยนื

๑๒๙ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการเรียนร้/ู หนว่ ย ช่วั โมง เนื้อหาทส่ี อน -ปญั หาสิง่ แวดล้อมและ ทรัพยากรธรรมชาตทิ ่ีเกดิ ขนึ้ ควรมี แนวทางในการดูแลรักษา และป้องกนั - ระบบนิเวศจะสมดุลไดจ้ ะตอ้ งมกี าร ควบคมุ จำนวนผ้ผู ลิต ผู้บริโภค ผู้สลาย สารอินทรียใ์ ห้มีปริมาณ สัดส่วน และการ กระจายทเ่ี หมาะสม - การใช้ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งยัง่ ยนื และการดูแลรกั ษาสภาพแวดลอ้ ม เป็น การรกั ษา สมดุลของระบบนเิ วศ - การนำทรัพยากรธรรมชาตมิ าใชอ้ ยา่ ง คมุ้ คา่ ด้วยการใชซ้ ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ ลด การใช้ผลิตภัณฑ์ ใช้ผลิตภัณฑช์ นิดเดมิ ซอ่ มแซมสิง่ ของเครอ่ื งใช้ เป็นวธิ ีการใช้ ทรัพยากร ธรรมชาตอิ ย่างย่งั ยนื