สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชี้วัด ๔. วิเคราะห์และอธบิ ายการใช้ ทรพั ยากรธรรมชาติ ตามปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง ๕. อภิปรายปัญหาสิง่ แวดล้อม และเสนอ แนะแนวทางการ แกป้ ญั หา
๑๓๐ สาระการเรียนร้แู กนกลาง หน่วยการเรียนรู้/ หน่วย ชว่ั โมง เน้อื หาท่สี อน - การใช้ทรพั ยากรธรรมชาตคิ วรคำนึงถงึ า ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงบนพนื้ ฐานของ ทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดย คำนึงถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการเตรียมตวั ใหพ้ ร้อมทีจ่ ะรับ ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงที่เกิดขน้ึ - ปัญหาสิ่งแวดลอ้ ม อาจเกดิ จากมลพษิ ทางนำ้ มลพิษทางเสยี ง มลพิษทางอากาศ มลพษิ ทางดนิ - แนวทางการแก้ปญั หามหี ลายวิธี เรมิ่ จาก ศกึ ษาแหล่งทม่ี าของปัญหา เสาะหา กระบวนการในการแกป้ ญั หา และทุกคนมี ส่วนร่วมในการปฏบิ ัติเพ่อื แกป้ ญั หาน้นั
สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด ๖. อภปิ รายและมีส่วนร่วมใน การดูแลและอนุรักษส์ ่งิ แวดลอ้ ม ในท้องถนิ่ อย่างย่ังยืน สาระท่ี ๔ แรง มาตรฐาน ว ๔. ๑ เขา้ ใจ ๑. อธิบายความเรง่ และผลของ และการเคลื่อนท่ี ธรรมชาตขิ องแรงแมเ่ หล็ก แรงลัพธท์ ท่ี ำตอ่ วัตถุ ไฟฟา้ แรงโน้มถ่วง และแรง นวิ เคลียร์มีกระบวนการสืบ เสาะหาความรู้ ส่อื สารส่งิ ท่ี เรยี นรแู้ ละนำความรไู้ ปใช้ ประโยชน์อย่างถกู ตอ้ งและมี คุณธรรมช้นั ๒. ทดลองและอธบิ ายแรงกริ ยิ า และแรงปฏิกริ ิยาระหว่างวัตถุ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
๑๓๑ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู้/ หน่วย ชัว่ โมง เนื้อหาทสี่ อน - การดแู ลและอนรุ ักษ์สิง่ แวดล้อมใน ม ท้องถน่ิ ให้ย่งั ยนื ควรได้รบั ความรว่ มมือ จากทุกฝ่ายและตอ้ งเป็นความรบั ผดิ ชอบ ของทกุ คน - วตั ถุเคลื่อนทด่ี ว้ ยความเร็วที่ เปล่ยี นแปลงเปน็ การเคลอ่ื นท่ีดว้ ย ความเร่ง เมอื่ แรงลัพธม์ คี า่ ไมเ่ ทา่ กบั ศนู ย์ กระทำตอ่ วัตถวุ ตั ถจุ ะเคลื่อนทดี่ ว้ ย ความเรง่ ซ่ึงมที ศิ ทางเดียวกบั แรงลพั ธ์ - ทกุ แรงกิรยิ าจะมีแรงปฏกิ ิริยาโตต้ อบ ด้วย ขนาดของแรงเทา่ กัน แต่มที ิศทางตรงข้าม
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด ๓. ทดลองและอธบิ ายแรงพยุง ของของเหลวท่กี ระทำต่อวัตถุ มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจ ๑. ทดลองและอธบิ ายความ ลกั ษณะการเคลอ่ื นที่แบบ แตกต่างระหว่างแรงเสยี ดทาน ต่างๆ ของวัตถุในธรรมชาติ สถิตกับแรงเสยี ดทานจลน์ และ มีกระบวนการสบื เสาะหา นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ความรูแ้ ละจติ วทิ ยาศาสตร์
๑๓๒ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการเรียนร/ู้ หน่วย ช่วั โมง เนอ้ื หาทสี่ อน - การนำความรูเ้ รื่องแรงกริ ยิ าและแรง ปฏกิ ริ ยิ าไปใชอ้ ธบิ าย เช่น การชักเยอ่ การ จดุ บั้งไฟ - แรงพยงุ คอื แรงที่ของเหลวกระทำต่อ วัตถุมคี า่ เทา่ กบั นำ้ หนกั ของของเหลวทีม่ ี ปริมาตรเท่ากับสว่ นท่จี มของวัตถุ - ของเหลวท่มี ีความหนาแนน่ มากจะมแี รง พยุงมาก - วตั ถทุ ่ีลอยได้ในของเหลวจะมคี วาม หนาแนน่ นอ้ ยกวา่ ความหนาแน่นของ ของเหลว - แรงเสยี ดทานสถติ เป็นแรงเสยี ดทานที่ กระทำตอ่ วตั ถขุ ณะหยุดน่ิง ส่วนแรงเสยี ด ทานจลนเ์ ป็นแรงเสยี ดทานท่ีกระทำต่อ วตั ถขุ ณะเคลือ่ นท่ี
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด สือ่ สารสิง่ ท่ีเรียนรแู้ ละนำ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ ๒. ทดลองและวเิ คราะหโ์ มเมนต ของแรง และนำความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ ๓. สังเกตและอธิบายการ เคลอื่ นท่ีของวตั ถุทเ่ี ป็นแนวตรง และแนวโค้ง
๑๓๓ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หนว่ ยการเรียนรู้/ หนว่ ย ชว่ั โมง เน้อื หาท่ีสอน - การเพิม่ แรงเสยี ดทาน เช่น การ ออกแบบพนื้ รองเทา้ เพอ่ื กนั ลน่ื - การลดแรงเสยี ดทาน เชน่ การใช้ นำ้ มนั หล่อล่นื ทจ่ี ดุ หมุน ต์ - เมอ่ื มีแรงที่กระทำตอ่ วัตถุ แลว้ ทำให้เกดิ โมเมนต์ของแรงรอบจดุ หมุน วตั ถจุ ะ เปล่ียนสภาพการหมนุ - การวเิ คราะห์โมเมนตข์ องแรงใน สถานการณต์ ่าง ๆ -การเคล่ือนที่ของวตั ถมุ ีท้งั การเคลือ่ นที่ใน แนวตรงเชน่ การตกแบบเสรี และการ เคลือ่ นที่ในแนวโค้งเช่น การเคล่ือนทแี่ บบ โพรเจกไทลข์ องลกู บาสเกตบอลในอากาศ การเคล่ือนที่แบบวงกลมของวัตถทุ ่ีผูก เชอื กแลว้ แกว่ง เป็นตน้
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด สาระท่ี ๕ มาตรฐาน ว ๕. ๑ เขา้ ใจ ๑. อธบิ ายงาน พลังงานจลน์ พลงั งาน ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง พลงั งานศักย์โน้มถ่วง กฎการ พลงั งานกับการดำรงชวี ิต อนุรกั ษพ์ ลังงาน และ การเปลย่ี นรปู พลังงาน ความสัมพนั ธร์ ะหว่างปรมิ าณ ปฏสิ มั พันธ์ระหว่างสารและ เหลา่ น้ี รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ พลังงาน ผลของการใช้ ประโยชน์ พลงั งานตอ่ ชีวติ และ สง่ิ แวดลอ้ ม มกี ระบวน การ สบื เสาะหาความรู้ ส่อื สารสงิ่ ทเี่ รียนรู้และนำความรไู้ ปใช้ ประโยชน์
๑๓๔ สาระการเรียนรู้แกนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู/้ หน่วย ชัว่ โมง เน้อื หาทส่ี อน - การใหง้ านแก่วัตถเุ ป็นการถา่ ยโอนพลงั งานใหว้ ัตถุ พลงั งานนี้เป็นพลงั งานกลซง่ึ ประกอบด้วยพลังงานศกั ยแ์ ละพลังงาน จลน์พลังงานจลนเ์ ปน็ พลังงานของวตั ถุ ขณะวัตถุเคลอื่ นทีส่ ว่ นพลงั งานศกั ย์โน้ม ถว่ งของวัตถเุ ป็นพลังงานของวตั ถุที่อยูส่ งู จากพนื้ โลก - กฎการอนุรกั ษ์พลงั งานกลา่ วว่า พลังงาน รวมของวัตถไุ มส่ ูญหาย แต่สามารถเปลยี่ น จากรูปหน่ึงไปเป็นอีกรปู หน่ึงได้ - การนำกฎการอนรุ ักษ์พลังงานไปใช้ ประโยชนใ์ นการอธบิ ายปรากฏการณ์ เช่น พลังงานนำ้ เหนือเข่อื นเปลีย่ นรปู จาก พลังงานศกั ยโ์ น้มถว่ งเป็นพลงั งานจลน์, ปั้นจั่นตอกเสาเข็ม
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด ๒. ทดลองและอธบิ าย ความสัมพันธร์ ะหว่างความต่าง ศักย์ กระแสไฟฟ้า ความต้านทาน และนำความรูไ้ ป ใช้ประโยชน์ ๓. คำนวณพลงั งานไฟฟา้ ของ เครื่องใชไ้ ฟฟา้ และนำความรูไ้ ป ใช้ประโยชน์ ๔. สังเกตและอภปิ รายการต่อ วงจรไฟฟ้าในบา้ นอยา่ งถกู ตอ้ ง ปลอดภยั และประหยัด
๑๓๕ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู้/ หน่วย ชวั่ โมง เนอื้ หาทสี่ อน - ความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้าและความ ตา้ นทานมคี วามสัมพนั ธก์ นั ตามกฎของ โอหม์ ป - การนำกฎของโอห์มไปใชว้ เิ คราะห์ วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย - การคำนวณพลงั งานไฟฟา้ ของ ป เครอื่ งใช้ไฟฟ้าเป็นส่วนหน่ึงของการคิดค่า ไฟฟา้ และเปน็ แนวทางในการประหยดั พลังงานไฟฟา้ ในบ้าน การต่อวงจรไฟฟ้าในบ้านต้องออกแบบ วงจร ติดต้งั เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ อปุ กรณ์ไฟฟ้า อยา่ งถกู ต้อง โดยการต่อสวติ ชแ์ บบ อนกุ รม ตอ่ เต้ารบั แบบขนานและเพือ่ ความปลอดภัยตอ้ งต่อสายดนิ และฟวิ ส์ รวมทงั้ ตอ้ งคำนึงถงึ การใช้ไฟฟ้าอยา่ ง ประหยัด
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด ๕. อธิบายตวั ตา้ นทานไดโอด ทรานซิสเตอร์ และทดลองตอ่ วงจรอิเลก็ ทรอนิกสเ์ บอ้ื งตน้ ท่มี ี ทรานซิสเตอร์
๑๓๖ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หนว่ ยการเรียนรู้/ หน่วย ชั่วโมง เน้อื หาทีส่ อน - ช้ินสว่ นอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เชน่ ตวั ต้านทาน ไดโอด ทรานซสิ เตอร์ มีสมบตั ทิ างไฟฟา้ แตกต่างกันตวั ต้านทานทำหน้าทีจ่ ำกัด กระแสไฟฟา้ ในวงจรไดโอดมสี มบตั ใิ ห้ กระแสไฟฟ้าผ่านได้ทศิ ทางเดยี วและ ทรานซิสเตอร์ทำหนา้ ทเ่ี ปน็ สวิตซป์ ดิ - เปิด วงจร - การประกอบวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เบอ้ื งตน้ ท่ีมีทรานซิสเตอร์ ๑ ตวั ทำหนา้ ท่ี เป็นสวิตซ์
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด สาระท่ี ๗ ดารา มาตรฐาน ว ๗.๑ เข้าใจ ๑. สืบ คน้ แ ล ะ อ ธิ บ า ยค ศาสตร์และ ววิ ัฒนาการของระบบสรุ ยิ ะ วามสัมพนั ธ์ระหวา่ งดวงอาทติ ย์ อวกาศ กาแลก็ ซีและเอกภพ การ โลก ดวงจนั ทรแ์ ละดาวเคราะห์ ปฏิสมั พันธ์ภายในระบบ อื่น ๆ และผลท่เี กดิ ขนึ้ ตอ่ สรุ ยิ ะและผลต่อส่งิ มีชวี ติ บน ส่งิ แวดล้อมและสงิ่ มชี วี ติ บนโลก โลก มีกระบวนการสบื เสาะ หาความรแู้ ละจิตวทิ ยา ๒. สืบค้นและอธบิ าย ศาสตร์ การส่ือสารส่งิ ที่ องคป์ ระกอบของเอกภพ เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ กาแลก็ ซี และระบบสุรยิ ะ ประโยชน์ ๓. ระบตุ ำแหน่งของกลมุ่ ดาว และนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
๑๓๗ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หน่วยการเรยี นรู้/ หนว่ ย ชัว่ โมง เนอ้ื หาทส่ี อน - ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทรอ์ ยู่เปน็ ระบบได้ภายใตแ้ รงโนม้ ถว่ ง - แรงโนม้ ถว่ งระหวา่ งโลกกบั ดวงจนั ทร์ ทำใหด้ วงจนั ทรโ์ คจรรอบโลก แรงโนม้ ถว่ ง ระหว่างดวงอาทิตยก์ ับบรวิ าร ทำให้ บริวารเคลื่อนรอบดวงอาทิตย์กลายเปน็ ระบบสุรยิ ะ - แรงโน้มถว่ งท่ดี วงจนั ทร์ ดวงอาทติ ย์ นกป-สขิ่ง้นึรับเรอมะะนแกทชีกำ้สภีวอำนลติตพบลงบ่อปด้าโนซว้รนละโง่ึยแกลสกดหทก่งอา่งผำวบใลฤแหดตกต้ว้เอ่กษ่ลยสดิะ์จกิง่กปำาแนาแรวแาวลดกลน็กล็กฏมซ้อซกามี มีกาาแรกทลณมะอี่ า์นยยำ้ ู่ เปน็ ระบบดว้ ยแรงโนม้ ถว่ ง กาแลก็ ซที าง ช้างเผอื กมรี ะบบสุรยิ ะอย่ทู ีแ่ ขนของกา แลก็ ซด่ี า้ นกลมุ่ ดาวนายพราน - กล่มุ ดาวฤกษป์ ระกอบด้วยดาวฤกษ์ หลายดวงท่ปี รากฏอย่ใู นขอบเขตแคบๆ
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัด มาตรฐาน ว ๗.๒ เขา้ ใจ ๑. สืบ ค้น แ ล ะ อ ภปิ ราย ความสำคญั ของเทคโนโลยี ความ อวกาศท่ีนำมาใชใ้ นการ กา้ วหน้าของเทคโนโลยีอวกาศท สำรวจอวกาศและ ใช้สำรวจอวกาศ วัตถุทอ้ งฟา้ ทรพั ยากรธรรมชาติ ด้าน สภาวะอากาศ ทรัพยากร การเกษตรและการสือ่ สาร มี ธรรมชาติ การเกษตรและการ กระบวนการสืบเสาะหา สื่อสาร ความรแู้ ละจติ วทิ ยาศาสตร์ สื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนำ ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์อยา่ งมี คุณธรรมตอ่ ชวี ติ และ ส่งิ แวดลอ้ ม
๑๓๘ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู้/ หน่วย ชัว่ โมง เนื้อหาทสี่ อน และเรยี งเปน็ รปู ต่างๆกันบนทรงกลมฟ้า โดยดาวฤกษท์ ่ีอยใู่ นกลมุ่ เดียวกนั ไม่ จำเปน็ ตอ้ งอยใู่ กล้กนั อย่างท่ีตาเห็น แตม่ ี ตำแหนง่ ท่ีแนน่ อนบนทรงกลมฟา้ จงึ ใช้ บอกทิศและเวลาได้ - มนุษยใ์ ช้กลอ้ ง โทรทรรศน์ จรวด ดาวเทยี ม ยานอวกาศ สำรวจอวกาศ วัตถุ ที่ ท้องฟ้า สภาวะ อากาศ ทรพั ยากร ธรรมชาติ การเกษตรและใช้ในการส่อื สาร
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด สาระท่ี ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ใช้ ๑. ตั้งคำถามที่กำหนดประเดน็ ธรรมชาตขิ อง กระบวนการทาง หรือตวั แปรท่สี ำคัญในการ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ วิทยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยา สำรวจ ตรวจสอบ หรือศกึ ษา เทคโนโลยี ศาสตร์ในการสบื เสาะหา คน้ ควา้ เรอ่ื งท่สี นใจไดอ้ ยา่ ง ความรู้ การแก้ปญั หา รูว้ า่ ครอบคลุมและเช่อื ถือได้ ปรากฏการณท์ างธรรมชาติที่ เกดิ ขน้ึ ส่วนใหญม่ ีรปู แบบที่ ๒. สร้างสมมติฐานทส่ี ามารถ แนน่ อนสามารถอธบิ ายและ ตรวจสอบ ได้และวางแผนการ ตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูล สำรวจตรวจสอบหลาย ๆ วธิ ี และเครือ่ งมือที่มีอยูใ่ น ชว่ งเวลา นัน้ ๆ เข้าใจวา่ ๓. เลือกเทคนคิ วิธกี ารสำรวจ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตรวจสอบ ทงั้ เชิงปริมาณและ สงั คม และส่งิ แวดล้อมมี เชงิ คุณภาพทไี่ ด้ผลเท่ียงตรงและ ความเกยี่ วขอ้ งสัมพันธก์ ัน ปลอดภัย โดยใชว้ ัสดแุ ละ เคร่ืองมอื ทีเ่ หมาะสม ๔. รวบรวมข้อมูล จดั กระทำ ขอ้ มูลเชิงปรมิ าณและคุณภาพ ๕. วิเคราะห์และประเมินความ สอดคล้อง ของประจกั ษ์พยาน
๑๓๙ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการเรียนร้/ู หนว่ ย ช่วั โมง เนอื้ หาท่สี อน ะ น
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด กบั ขอ้ สรปุ ทง้ั ท่ีสนับสนุน หรือ ขัดแย้งกับสมมติฐานและความ ผดิ ปกตขิ องขอ้ มูล จากการ สำรวจตรวจสอบ ๖. สร้างแบบจำลอง หรอื รูปแบบที่อธิบายผลหรอื แสดงผล ของการสำรวจตรวจสอบ ๗. สรา้ งคำ ถามท่นี ำ ไปสู่การ สำรวจ ตรวจสอบ ในเรือ่ งที่ เกี่ยวข้อง และนำความรทู้ ีไ่ ด้ ไป ใชใ้ นสถานการณ์ใหม่หรอื อธิบาย เกีย่ วกบั แนวคดิ กระบวนการ และผลของโครงงานหรือช้นิ งาน ใหผ้ ้อู น่ื เขา้ ใจ ๘. บนั ทึกและอธบิ ายผลการ สงั เกต การสำรวจ ตรวจสอบ ค้นคว้าเพม่ิ เตมิ จากแหล่ง
๑๔๐ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หน่วยการเรียนรู้/ หน่วย ช่วั โมง เนอ้ื หาทส่ี อน ล ป ย น
สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชี้วัด ความรตู้ า่ ง ๆ ใหไ้ ด้ขอ้ มูลที่ เชอ่ื ถือได้ และยอมรับการ เปล่ียนแปลงความรู้ที่คน้ พบ เมอ่ื มีขอ้ มลู และประจักษ์ พยาน ใหมเ่ พ่มิ ขึ้นหรือโตแ้ ย้งจากเดิม ๙. จัดแสดงผลงาน เขียน รายงาน และ/ หรืออธบิ าย เกยี่ วกับ แนวคดิ กระบวนการ และผลของโครงงานหรือ ชิน้ งาน ใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจ
๑๔๑ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการเรียนร้/ู หนว่ ย ช่วั โมง เนอื้ หาท่สี อน น น
แบบการวิเคราะห์ตวั ช้วี ัดเพ่ือจ
๑๔๒ จดั ทำคำอธิบายรายวชิ า
๑๔๓ คำอธบิ ายรายวชิ า
๑๔๔ รหัสวิชา ว 11101 คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 รายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 80 ชวั่ โมง ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะและหน้าที่ของส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช รวมทั้งการทำหน้าที่ร่วมกันของส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ ความสำคัญของส่วนต่างๆของร่างกายตนเอง และการดูแลส่วนต่างๆอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ชื่อพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ บรเิ วณต่างๆในทอ้ งถ่นิ สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมในบริเวณทีพ่ ชื และสัตวอ์ าศยั อยู่ สมบตั ทิ สี่ ังเกตไดข้ องวัสดุที่ ใช้ทำวตั ถุซ่งึ ทำจากวสั ดุชนิดเดียวหรอื หลายชนิดประกอบกัน ชนดิ ของวัสดแุ ละจดั กลุ่มวสั ดตุ ามสมบัติท่ีสังเกต การเกิดเสียงและทิศทางการเคล่ือนท่ีของเสียง ลักษณะภายนอกของหนิ จากลกั ษณะเฉพาะตวั ท่ีสังเกต ดาวที่ ปรากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวันและกลางคืน และสาเหตุที่มองไม่เห็นดาวส่วนใหญ่ในเวลากลางวัน และ แกป้ ัญหาโดยใชก้ ารลองผิดลองถูกการเปรยี บเทียบ แสดงลำดับข้นั ตอนการทำงานหรือการแก้ปญั หาอย่างง่าย โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ การเขียนโปรแกรมและใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูล รวมทั้งใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษา อุปกรณเ์ บอื้ งตน้ และใช้งานอย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บอก ตระหนัก บรรยาย อธิบาย สร้างแบบจำลอง เปรยี บเทยี บ ทดลอง แกป้ ญั หา โดยการลองผิดลองถูก เขยี นโปรแกรม ใชเ้ ทคโนโลยี ในการสร้าง จัดเกบ็ ขอ้ มูล บรุ ณาการกระบวนการวเิ คราะห์ กระบวนการสืบเสาะ กระบวนการกล่มุ ผา่ นกจิ กรรมการเรียนรู้ ตามแนวคิด Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสัมพันธ์ ระหว่างวิทยาศาสตร์ กับสภาพแวดล้อมเป็นผู้มีจิตวิทยา ศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มในการใชว้ ิทยาศาสตร์อย่างสร้างสรรค์ มาตรฐาน / ตัวชว้ี ดั ว 1.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 1.2 ป.1/1 ป.1/2 ว 2.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 2.3 ป.1/1 ว 3.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 3.2 ป.1/1 ว 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5 รวม 7 มาตรฐาน 15 ตวั ชีว้ ดั
๑๔๕ รหัสวิชา ว 12101 คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 รายวชิ าพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 80 ชวั่ โมง เปรียบเทียบลักษณะของสง่ิ มีชีวิตและส่ิงไม่มีชวี ิต พชื ต้องการแสงและน้ำเพ่ือการเจริญเติบโตของพืช โดยดูแลพืชให้ได้รับปัจจัยอย่างเหมาะสม วัฏจักรชีวิตของพืชดอก สมบัติการดูดซับน้ำของวัสดุ และการนำ สมบัติการดดู ซับนำ้ ของวสั ดุไปประยุกตใ์ ช้ในการทำวัตถุในชีวิตประจำวัน สมบตั ทิ ีส่ งั เกตได้ของวัสดุที่เกิดจาก การนำวัสดุมาผสมกัน เปรียบเทียบสมบัติที่สังเกตได้ของวสั ดุ ประโยชน์ของการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ การเคล่ือนท่ีของแสงจากแหลง่ กำเนดิ แสง การมองเหน็ วัตถุและแนวทางการปอ้ งกนั อันตรายจากการมองวัตถุ ที่อยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างไม่เหมาะสม ส่วนประกอบของดินและชนิดของดิน การใช้ประโยชน์จากดิน การ แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ การเขียน โปรแกรมและใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูล รวมทั้งใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏิบัติตามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์เบือ้ งต้น และ ใชง้ านอย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสร้างแบบจำลอง เปรียบเทียบข้อมูล อธิบายสมบัติท่ี สังเกตได้ เขียนโปรแกรมและตรวจหาข้อผิดพลาด ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ บูรณาการกระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสืบเสาะ กระบวนการกลุม่ ผ่านกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนแสดงความกระตือรือร้น สนใจ เกิดที่จะเรียนรู้ มีความติดสร้างสรรค์ เกี่ยวกับเรื่องที่ ศึกษาตามลักษณะของผมู้ ีจิตวทิ ยาศาสตร์ เหน็ คุณคา่ ของการนำความรทู้ างวิทยาศาสตรไ์ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน มาตรฐาน / ตวั ชีว้ ดั ว 1.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ว 1.3 ป.2/1 ว 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ว 2.3 ป.2/1 ป.2/2 ว 3.2 ป.2/1 ป.2/2 ว 4.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 รวม 6 มาตรฐาน / 16 ตัวชวี้ ัด
๑๔๖ รหัสวิชา ว 13101 คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 80 ชั่วโมง ศกึ ษาวิเคราะห์ปัจจยั ท่ีจำเป็นต่อการดำรงชวี ติ และการเจรญิ เตบิ โตของมนุษยแ์ ละสตั ว์ ประโยชน์ของ อาหาร น้ำ และอากาศ วัฏจักรชีวิตของสัตว์ คุณค่าของชีวิตสัตว์ วัตถุประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อยๆสามารถ แยกออกจากกันและประกอบกนั เป็นวัตถุชิน้ ใหม่ การเปล่ียนแปลงของวัสดุเมอื่ ทำให้ร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลง แรงที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง แรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัสที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ แรงดึงดูดของวัตถุ และแรงแม่เหล็ก การเปลี่ยนแปลงพลังงาน ส่วนประกอบของอากาศ และความสำคัญของอากาศ ผลกระทบ ของมลพิษทางอากาศตอ่ ส่ิงมีชีวติ การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม การเกดิ ปรากฏการณ์การขึ้นและตก ของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ความสำคัญและประโยชน์ของดวงอาทิตย์ต่อ สิ่งมีชีวิต การแสดงอัลกอริทึมในการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายและใช้อินเทอร์เน็ตคน้ หาความรู้ รวบรวม ประมวลผลและนำเสนอข้อมูล รวมทั้ง ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงในการใช้อินเทอรเ์ น็ต โดย ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการสรา้ งแบบจำลอง อธิบายการเปลี่ยนแปลงชองวัตถุ ระบุ ผลของแรง เปรียบเทยี บและยกตัวอยา่ ง จำแนกวัตถุ บรรยายการทำงาน อธบิ ายสาเหตตุ า่ งๆ จากแบบจำลอง แสดงอลั กอรทิ มึ ในการทำงาน เขียนโปรแกรมและตรวจหาข้อผิดพลาด ใช้อินเทอร์เน็ต บรู ณาการการบวนการ วเิ คราะห์ กระบวนการกลมุ่ ผ่านการจดั การเรยี นรู้ตามแนวคดิ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการ ดำรงชีวิต ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมสำหรับทำโครงงานหรือชิ้นงานตามความสนใจด้วยความมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยดั ซ่ือสตั ย์และทำงานร่วมกับผอู้ น่ื อยา่ งมคี วามสขุ มาตรฐาน / ตวั ช้วี ัด ว 1.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ว 2.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 2.3 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ว 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ว 3.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 4.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 รวม 7 มาตรฐาน 25 ตวั ช้ีวัด
๑๔๗ รหัสวชิ า ว 1๔101 คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ รายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 80 ชัว่ โมง ศึกษาวิเคราะห์โครงสรา้ งและหน้าทีข่ องราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก ความแตกต่างลักษณะ ของส่งิ มชี วี ิตออกเปน็ กลมุ่ พชื กลมุ่ สตั ว์ และกลุ่มทไี่ ม่ใช่พืชและสัตว์ พืชดอกและพชื ไม่มดี อก สัตว์มีกระดูกสัน หลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้ของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์ สะเทินน้ำสะเทินบก กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทดลอง เปรียบเทียบสมบัติ ของวสั ดุ ด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดุ สมบัตขิ องสสารและการใช้ เครื่องมือเพื่อวัดมวลและปริมาตรของสสารทั้ง 3 สถานะ แรงโน้มถ่วงที่มีต่อวัตถุ มวลที่มีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนทีข่ องวัตถุ วัตถุที่เป็นตัวกลางโปร่งใส โปร่งแสง และวัตถุทึบแสง การขึ้นและตกของ ดวงจันทร์ การเปลี่ยนแปลงรูปรา่ งปรากฏของดวงจันทร์ ระบบสุรยิ ะและคาบการโคจรของดาวเคราะหต์ ่างๆ ศกึ ษาการใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา การอธบิ ายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ การออกแบบและ การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟแวร์ ศึกษาการใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ การประเมินความ น่าเชื่อถือของข้อมูล และการรวบรวมข้อมูล ประเมินทางเลือก พร้อมทั้งการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตาม ความเหมาะสม ศกึ ษาการใชซ้ อฟต์แวรเ์ พอ่ื แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการบรรยายลกั ษณะเฉพาะ เปรียบเทยี บสมบัติทางกายภาพ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกวัตถุ สร้างแบบจำลอง ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการ แก้ปัญหา ออกเขียนและเขียนโปรแกรม ประเมินความน่าเชื่อถือ ของข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ บูรณาการกระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสืบเสาะ กระบวนการกลุ่ม ผ่านการจัดการเรียนรู้ ตามแนวคิด Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนแสดงความรับผิดชอบด้วยกระบวนการทำงานท่ีรับมอบหมายอย่างรอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์ จนงานลุล่วงเป็นผลสำเร็จ แสดงความคิดเห็นของตนเองยอมรับในข้อมูลที่มีหลักฐานอ้างอิง และ ทำงานรว่ มกบั ผอู้ น่ื อยา่ ง มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั ว 1.2 ป.4/1 ว 1.3 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ว 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ว 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ว 2.3 ป.4/1 ว 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ว 4.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 รวม 7 มาตรฐานการเรียนรู้ 21 ตวั ชี้วดั
๑๔๘ รหสั วชิ า ว 1๕101 คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ รายวิชาพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เวลา 80 ชว่ั โมง ศึกษาวิเคราะห์โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตในท้องถิ่น (จังหวัด ปทุมธานี) ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในแต่ละแหล่งที่อยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิต และสิ่งมีชีวิตกับสิง่ ไม่มีชีวิต โซ่อาหาร บทบาทหน้าท่ีของผู้ผลิต และผู้บริโภคสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อ การดำรงชีวติ ของสิ่งมชี วี ิต ลักษณะทางพนั ธกุ รรมท่ีมกี ารถ่ายทอดจากพอ่ แม่ส่ลู กู ของพืช สัตว์ และมนษุ ย์ การ เปลี่ยนสถานะของสาร การละลายของสาร การเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลง ที่ผันกลับได้และผัน กลับไม่ได้ การหาแรงลัพธ์ แรงที่กระทำต่อวัตถุในแนวเดียวกันและแรงลัพธ์ทีก่ ระทำต่อวัตถุ การใช้เครื่องชั่ง สปริงในการวดั แรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ แรงเสยี ดทาน การได้ยินเสยี งผา่ นตัวกลาง ทดลอง อธบิ ายลกั ษณะการเกิด เสยี งสูง เสียงตำ่ เสียงดงั เสยี งค่อย ระดับเสยี ง แนวทางในการหลกี เลยี่ ง และลดมลพิษทางเสียง ปรมิ าณน้ำใน แตล่ ะแหล่ง ปริมาณนำ้ ที่มนษุ ย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ แนวทางการใชน้ ้ำอย่างประหยัดและการอนุรักษ์น้ำ วัฏจักรน้ำ การเกิดเมฆ หมอก น้ำค้างและน้ำค้างแข็ง การเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ ความแตกต่างของดาว เคราะห์และดาวฤกษ์ การขน้ึ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า การใชแ้ ผนทดี่ าว การศึกษาการใชเ้ หตุผลเชิง ตรรกะในการแกป้ ญั หา การอธิบายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ การออกแบบและการเขยี นโปรแกรมที่มี การใช้เหตุผลเชิงตรรกะอยา่ งง่าย ศึกษาการใช้อนิ เทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสอื่ สารและทำงานร่วมกัน การ ประเมินความน่าเชื่อถือของขอ้ มูล และการรวบรวมข้อมูล ประเมินทางเลือก พร้อมทั้งการนำเสนอข้อมลู ใน รูปแบบตามความเหมาะสม ศึกษาการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน และการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภยั มมี ารยาทเขา้ ใจสิทธแิ ละหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการบรรยายโครงสร้าง อธิบายความสัมพันธ์ วิเคราะห์การ เปลี่ยนแปลง เขียนแผนภาพ ใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ระบุตัวแปรทดลอง ออกแบบการทดลอง ใช้แผนที่ดาว ใช้แบบจำลอง ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา ออกแบบละเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ นต็ ใช้เทคโนโลยี บรู ณาการกระบวนการวเิ คราะห์ กระบวนการ สบื เสาะ กระบวนการกลุ่ม ผา่ นการจดั การเรยี นรู้ตามแนวคดิ Active Learning เพ่ือให้ผ้เู รียนแสดงความมุ่งม่ัน สนใจทีจ่ ะเรยี นรู้ มคี วามคิดสร้างสรรค์ เกยี่ วกับเร่ือง ที่จะศึกษา โดย ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการ ดำรงชีวิต แสดงความชื่นชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วย การทำโครงงานหรือชนิ้ งานตามความสนใจ
๑๔๙ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ว 1.3 ป.5/1 ป.5/2 ว 2.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ว 2.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ว 2.3 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ว 3.1 ป.5/1 ป.5/2 ว 3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ว 4.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 รวม 8 มาตรฐานการเรียนรู้ 32 ตวั ช้ีวดั
๑๕๐ รหสั วชิ า ว 1๖101 คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ รายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 80 ชั่วโมง ศึกษาวิเคราะห์ สารอาหาร ประโยชน์และความสำคัญของสารอาหาร แนวทางในการเลือก รบั ประทานอาหารใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วนในสัดสว่ นท่เี หมาะสมกับเพศและวัย รวมท้ังความปลอดภัยต่อ สุขภาพ หน้าที่และความสำคัญของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร การย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร แนวทางในการดแู ลรกั ษาอวยั วะในระบบย่อยอาหารให้ทำงานเปน็ ปกติ การแยกสารผสม โดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอน รวมทั้งวิธีแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการแยกสาร การเกิดและผลของแรงไฟฟ้าที่เกิดจากวัตถุที่ผ่านการขัดถู ส่วนประกอบ และหน้าที่ของวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย การต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ทดลอง อธิบายและบอก ประโยชน์ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ประโยชน์ ข้อจำกัดของการต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้งการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การ เกดิ เงามืดเงามวั กระบวนการเกิดหินอคั นี หนิ ตะกอน และหินแปร วฏั จกั รหนิ การใชป้ ระโยชน์ของหินและ แร่ในชีวติ ประจำวนั การเกิดซากดกึ ดำบรรพ์และการคาดคะเนสภาพแวดลอ้ ม การเกดิ ลมบก ลมทะเล และ มรสุม รวมทง้ั ผลที่มตี ่อสงิ่ มีชวี ติ และสง่ิ แวดล้อม ผลของมรสุมต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย ลักษณะและ ผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถลม่ แผ่นดินไหว สึนามิ ผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณี พิบัตภิ ัย แนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและธรณีพบิ ัติภัยท่ีอาจเกิดข้ึน ในท้องถิ่น การเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก และผล ของปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อสิ่งมีชีวิต แนว ทางการปฏิบัติตนเพื่อลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก การเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ จนั ทรุปราคา พัฒนาการของเทคโนโลยอี วกาศและการนำมาใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน การศึกษาการใช้ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธบิ าย และออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตประจำวนั การออกแบบและการ เขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลอย่างมี ประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานรว่ มกันอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสทิ ธิและหนา้ ท่ีของตน เคารพใน สิทธขิ องผอู้ นื่ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการบอกแนวทางในการเลือก อธิบายเปรียบเทียบเขียน แผนภาพ ต่อวงจร ออกแบบการทดลอง สร้างแบบจำลอง อธิบายพัฒนาการ อธิบายผลที่เกิดจากข้อมูลท่ี รวบรวม บรรยายลกั ษณะและผลกระทบ ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ ออกแบบและเขียนโปรแกรมใชอ้ นิ เทอร์เน็ต และเทคโนโลยีสารสนเทศดว้ ยความเขา้ ใจ
๑๕๑ เพ่อื ให้ผู้เรียนซาบซ้งึ หว่ งใย ดแู ลรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งรูค้ ุณค่านำความรู้ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต เคารพสิทธิและหน้าที่ของตนเองและของผู้อื่นกับผู้อื่น อย่างสรา้ งสรรค์ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชี้วัด ว 1.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ว 2.1 ป.6/1 ว 2.2 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6 ป.6/7 ป.6/8 ว 3.1 ป.6/1 ป.6/2 ว 3.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6 ป.6/7 ป.6/8 ป.6/9 ว 4.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 รวม 7 มาตรฐานการเรียนรู้ 30 ตวั ช้ีวัด
๑๕๒ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 2110๒ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา ๖0 ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษาและเรียนรู้สมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ จุดเดือด จุดหลอมเหลวของ สารบริสุทธิแ์ ละสารผสม โดยการวัดอณุ หภูมิ ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม การใช้เครื่องมือเพื่อวัดมวลและปริมาตรของสารบริสุทธิ์และสารผสม ความสัมพันธ์ ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบ โครงสร้างอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนโดย การจัดเรียง อนุภาค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค และการเคลื่อนที่ของอนภุ าคของสสารชนิดเดียวกนั ในสถานะของแขง็ ของเหลว และแก๊ส รูปร่างและโครงสร้างของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ หน้าที่ของผนังเซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาสซึม นิวเคลียส แวคิวโอล ไมโทคอนเดรียและคลอโรพลาสต์ การใช้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงศึกษา เซลล์ และโครงสร้างต่างๆ ภายในเซลล์ การจัดระบบของสิ่งมีชีวิต โดยเริ่มจากเซลล์เนื้อเยื่อ อวัยวะ ระบบ อวัยวะ จนเปน็ สงิ่ มชี ีวิต กระบวนการแพรแ่ ละออสโมซิส ปจั จยั ทจี่ ำเป็นในการสงั เคราะหด์ ้วยแสงและผลผลิต การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชต่อสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ลักษณะ หน้าที่และทิศทางการลำเลียงสารของ ไซเล็ม และโฟลเอ็ม การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศของพืชดอก ลักษณะโครงสร้างของดอก การปฏิสนธขิ องพืชดอก การเกิด ผลและเมล็ด การกระจายเมล็ด และการงอกของเมล็ด ธาตุอาหารบางชนิด ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของพืช วิธีการขยายพันธุ์พืชให้เหมาะสมกับความต้องการของ มนุษย์ การเพาะเลย้ี งเนื้อเย่ือพืชในการใชป้ ระโยชนด์ ้านตา่ ง ๆ โดยใช้กระบวนการทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ วเิ คราะห์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สรา้ งแบบจำลอง ออกแบบ เลือกใชแ้ ละสร้างอุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหา ในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุม่ กระบวนการ สร้างความตระหนัก กระบวนการสืบเสาะ ผ่านกระบวนการเรียนรตู้ ามแนวคดิ Active Learning เพือ่ ให้ผูเ้ รยี นเขา้ ใจลักษณะและองคป์ ระกอบที่สำคัญของเซลล์สิง่ มีชวี ิต องคป์ ระกอบและสมบัติของ ธาตุ สารละลาย สารบรสิ ทุ ธ์ิ สารผสม การถา่ ยโอนพลงั งาน สมดลุ ความร้อน และให้ผเู้ รียนตระหนักในคุณค่า ของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือสร้างชิ้นงาน แสดงความชื่นชมยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ และรักษา ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการพิทักษ์ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถิน่ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ดั ว ๑.2 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/๑0 ม.1/1๑ ม.1/๑2 ม.1/๑3 ม.1/๑4 ม.1/15 ม.1/๑6 ม.1/๑7 ม.1/๑8 ว 2.1 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/๑0 ว ๔.๑ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ว ๔.๒ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 รวม ๔ มาตรฐานการเรยี นรู้ ๓๗ ตัวชีว้ ัด
๑๕๓ คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 2110๒ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา ๖0 ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ศึกษาและเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างความดันอากาศกับความสูงจากพื้นโลก การคำนวณปริมาณ ความร้อนที่ทำให้ สสาร เปลี่ยน อุณหภูมิและ เปลี่ยนสถานะ โดยใช้สมการ การใช้เทอร์มอมิเตอร์ในการวัด อุณหภูมิของ สสาร การถ่ายโอนความร้อน การคำนวณปริมาณความร้อนท่ีถ่ายโอนระหว่างสสารจนเกิดสมดุลความรอ้ น การถ่าย โอนความร้อนโดยการนาความร้อน การพาความร้อน การแผ่รังสีความร้อน การแบ่งชั้นบรรยากาศและ เปรียบเทียบประโยชน์ของบรรยากาศ ปจั จัยทม่ี ผี ลต่อการเปล่ยี นแปลงองคป์ ระกอบของลมฟ้าอากาศ การเกิด พายุฝนฟ้าคะนองและพายหุ มุนเขตร้อนและผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม และการพยากรณ์อากาศการ เปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศโลก โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สรา้ งแบบจำลอง ออกแบบ เลอื กใชแ้ ละสร้างอุปกรณ์เพ่ือแก้ปัญหา ในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการ สร้างความตระหนกั กระบวนการสืบเสาะ ผา่ นกระบวนการเรยี นรูต้ ามแนวคดิ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจการถ่ายโอนพลังงาน สมดุลความร้อน ลักษณะของชั้นบรรยากาศ องค์ประกอบ และปัจจยั ที่มผี ลตอ่ ลมฟ้าอากาศ สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงภมู ิอากาศโลก และใหผ้ ้เู รียนตระหนักในคุณค่า ของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือสร้างชิ้นงาน แสดงความชื่นชมยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ และรักษา ทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการพิทักษ์ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อมในทอ้ งถนิ่ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วดั ว 2.2 ม.1/๑ ว 2.3 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ว 3.2 ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ว ๔.๑ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ว ๔.๒ ม.1/๑ ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 รวม ๕ ๒๔ ตวั ช้ีวัด
๑๕๔ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 22101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 เวลา ๖0 ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษาและเรยี นรู้เกย่ี วกับอวยั วะและหน้าที่ของอวัยวะท่ีเก่ยี วขอ้ งในระบบหายใจ กลไกการหายใจเข้า และออก กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส อวยั วะในระบบขบั ถ่ายในการกำจัดของเสียทางไต บรรยายโครงสร้าง และหน้าที่ของหัวใจ หลอดเลือด และเลือด การทำงานของระบบหมุนเวียนเลือด การเปรียบเทียบอัตราการ เต้นของหัวใจขณะปกติและหลังทำกิจกรรม อวัยวะและหน้าที่ของอวัยวะในระบบประสาทส่วนกลางในการ ควบคุมการทำงานตา่ ง ๆ ของร่างกาย การป้องกนั การกระทบกระเทือนและอันตรายต่อสมองและไขสันหลงั อวยั วะและหน้าที่ของอวยั วะในระบบสบื พันธข์ุ องเพศชายและเพศหญงิ ผลของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิง ท่คี วบคมุ การเปล่ียนแปลงของรา่ งกายเมอื่ เข้าสวู่ ัยหนุม่ สาว การตกไข่ การมปี ระจำเดอื น การปฏิสนธิ และการ พฒั นาของไซโกต จนคลอดเป็นทารก การเลือกวธิ ีการคมุ กำเนิดท่เี หมาะสมกับสถานการณ์ท่ีกำหนด การแยก สารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกัดด้วยตัวทำ ละลาย การแยกสารไปใช้แก้ปญั หาในชีวิตประจำวันโดยบูรณาการวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และ วศิ วกรรมศาสตร์ ผลของชนิดตวั ละลาย ชนดิ ตวั ทำละลาย อุณหภูมแิ ละความดันทมี่ ตี อ่ สภาพละลายไดข้ องสาร ปรมิ าณตัวละลายในสารละลายในหนว่ ยความเขม้ ข้นเปน็ รอ้ ยละ ปริมาตรต่อปริมาตร มวลต่อมวล และมวลต่อ ปรมิ าตร โดยใช้กระบวนการทักษะทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ วิเคราะห์สถานการณ์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง พยากรณ์ ออกแบบการทดลองและ ทดลอง เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสืบเสาะผ่าน กระบวนการเรยี นร้ตู ามแนวคิด Active Learning เพอ่ื ให้ผู้เรยี นตระหนักในคุณค่าของความรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีทใ่ี ช้ในชีวิตประจำวัน ใชค้ วามรู้ และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิตและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือสร้าง ชิ้นงาน แสดงความชื่นชมยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใยมี พฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการดูแล ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในท้องถิ่น มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ดั ว ๑.2 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/๑0 ม.2/11 ม.2/๑2 ม.2/๑3 ม.2/๑4 ม.2/15 ม.2/๑6 ม.2/๑7 ว 2.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 รวม 4 มาตรฐานการเรยี นรู้ 32 ตวั ชี้วดั
๑๕๕ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 22102 รายวิชา วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา ๖0 ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการเคล่ือนท่ีของวัตถุที่เปน็ ผลของแรงลพั ธ์ท่ีเกิดจากแรงหลายแรงท่ีกระทำ ต่อวัตถใุ นแนวเดียวกัน แรงและแรงลพั ธท์ ี่เกดิ จากแรงหลายแรงทกี่ ระทำต่อวัตถุในแนวเดียวกัน ปัจจัยที่มีผล ตอ่ ความดันของของเหลว แรงพยุงและการจม การลอยของวัตถุในของเหลว แรงเสียดทานสถิตและแรงเสียด ทานจลน์ปัจจัยที่มีผลต่อขนาดของแรงเสียดทาน โมเมนต์ของแรงเมือ่ วัตถุอยู่ในสภาพสมดุลต่อการหมุนและ คำนวณโดยใช้สมการ แหล่งของสนามแม่เหลก็ สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง และทิศทางของแรงที่กระทำ ตอ่ วัตถุท่ีอยู่ในแต่ละสนาม แรงแม่เหล็กแรงไฟฟ้าและแรงโนม้ ถ่วงทีก่ ระทำตอ่ วัตถุ ความสมั พันธ์ระหว่างขนาด ของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้าและแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามนั้นๆ กับระยะห่างจากแหล่งของ สนามถงึ วัตถุ อตั ราเรว็ และความเร็วของการเคลื่อนท่ีของวัตถุ การกระจดั และความเร็ว งานและพลังงานการ ทำงานของเคร่อื งกลอย่างง่ายจาก ปจั จยั ทมี่ ผี ลต่อพลังงานจลน์และพลงั งานศกั ย์โนม้ ถ่วง การเปล่ียนและการ ถา่ ยโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนรุ กั ษ์พลังงาน การใชเ้ ช้ือเพลงิ ซากดกึ ดาบรรพ์ ข้อดแี ละข้อจำกัดของพลังงาน ทดแทนแต่ละประเภท แนวทางการใช้พลังงานทดแทนที่เหมาะสมในท้องถิ่น โครงสร้าง ภายในโลก ตาม องคป์ ระกอบ ทางเคมี กระบวนการผพุ ังอย่กู ับท่ี การกรอ่ น และการสะสมตวั ของตะกอน ช้นั หนา้ ตัดดินปัจจัย ที่ทำให้ดินมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน สมบัติบางประการของดิน การใช้ประโยชน์ดิน ปัจจัยและ กระบวนการเกิดแหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้าใต้ดิน การใช้น้ำ แนวทางการใช้น้ำอย่างยั่งยืนในท้องถิ่นของ ตนเอง และกระบวนการเกิดและผลกระทบของนำ้ ท่วม การกดั เซาะชายฝั่ง ดินถลม่ หลมุ ยุบ แผน่ ดินทรดุ โดยใช้กระบวนการทักษะทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนแผนภาพ วิเคราะห์สถานการณ์ แปลความหมายข้อมูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง พยากรณ์ ออกแบบการทดลองและ ทดลอง เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสืบเสาะผ่าน กระบวนการเรยี นรู้ตามแนวคิด Active Learning เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นตระหนักในคุณคา่ ของความรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทใ่ี ช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้ และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิตและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือสร้าง ชิ้นงาน แสดงความชื่นชมยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใยมี พฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่วนร่วมในการดูแล ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มในท้องถน่ิ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ดั ว 2.2 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/๑0 ม.2/11 ม.2/๑2 ม.2/๑3 ม.2/๑4 ม.2/15 ว 2.3 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ว 3.2 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/๑0 ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ว 4.1 ม.2/๑ ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 รวม 5 มาตรฐานการเรียนรู้ 40 ตัวชว้ี ัด
๑๕๖ คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 23101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา ๖0 ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบนิเวศ รูปแบบความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิตรูปแบบต่างๆ ในแหล่งที่อยู่เดียวกัน การถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหาร ความสัมพันธ์ของผู้ผลติ ผู้บริโภคและผู้ย่อยสลาย สารอินทรีย์ในระบบนิเวศ การสะสมสารพิษในสิ่งมีชีวิตในโซ่อาหาร ความสัมพันธ์ ระหว่าง ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากการผสมโดยพิจารณาลักษณะ เดียวที่แอลลีลเด่นข่มแอลลีลด้อยอย่างสมบูรณ์ การเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของลูก การคำนวณอัตราส่วน การเกดิ จโี นไทป์และฟีโนไทปข์ องรุ่นลูก การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซิส การเปลีย่ นแปลงของยีนหรือ โครโมโซมอาจทำให้เกิดโรคทางพันธุกรรม การใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งมชี วี ิตดดั แปรพนั ธุกรรมและผลกระทบที่อาจ มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ความหลากหลายทาง ชีวภาพในระดับชนิดสง่ิ มีชีวิตในระบบนิเวศต่าง ๆ ความสำคญั ของความหลากหลายทางชีวภาพท่ีมีผลต่อการ รกั ษาสมดุลของระบบนเิ วศและต่อมนษุ ย์ สมบัตทิ างกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรา มิกส์และวัสดุผสม การเกิดปฏิกิริยาเคมี การจัดเรียงตัวใหม่ของอะตอมเมื่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีกฎทรงมวล ปฏิกิริยาดูดความร้อนและปฏกิ ิริยาคายความร้อน พลังงานความร้อนของปฏิกริ ิยา ปฏิกิริยาการเกิดสนมิ ของ เหล็ก ปฏกิ ริ ยิ าของกรดกับโลหะ ปฏกิ ิรยิ าของกรดกับเบส และปฏกิ ิรยิ าของเบสกับโลหะ ปฏิกริ ิยาการเผาไหม้ การเกิดฝนกรด การสังเคราะห์ด้วยแสง ประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม วิธีการป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมี เข้าใจระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต กับ สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ปรากฏของดวงอาทิตย์ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ความ หลากหลายทางชีวภาพ วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสม แรงที่ปรากฏในชวี ิตประจำวนั และ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้างและแรงยึด เหนย่ี วระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติ ของการเปลยี่ นแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการ เกิด ปฏกิ ิริยาเคมี โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนกราฟ ความสัมพันธ์ วิเคราะหค์ วามสัมพันธ์ แปลความหมายขอ้ มูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง ออกแบบการทดลอง และทดลอง เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์เทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน บูรณาการกระบวนการคิด วเิ คราะห์ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสืบเสาะผา่ น กระบวนการเรยี นรู้ตามแนวคดิ Active Learning เพ่ือให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการดำรงชีวิต และการ ประกอบอาชีพ แสดงความชื่นชมยกยอ่ ง และเคารพสิทธิในผลงานของผูค้ ิดค้น เข้าใจผลกระทบทั้งด้านบวก และด้านลบของการพัฒนาทางวทิ ยาศาสตร์ ต่อสิ่งแวดล้อมและตอ่ บริบทอ่ืน ๆ และศึกษาหาความรู้เพิ่มเตมิ ทำโครงงานหรือสร้างชิ้นงานตามความสนใจ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และ
๑๕๗ รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอยา่ งรู้คุณค่า มสี ว่ นร่วมในการพิทักษ์ ดแู ลทรพั ยากรธรรมชาติและ สงิ่ แวดล้อมในทอ้ งถนิ่ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้ีวดั ว ๑.1 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ว ๑.3 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/๑0 ม.3/11 ว 2.1 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 รวม ๓ มาตรฐานการเรียนรู้ ๒๔ ตัวชว้ี ัด
๑๕๘ คำอธบิ ายรายวิชาวิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหัสวิชา ว 2310๒ รายวิชา วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เวลา ๖0 ช่ัวโมง ศึกษาและเรยี นรูเ้ กีย่ วกับองคป์ ระกอบของความสัมพนั ธร์ ะหว่างความต่างศักย์กระแสไฟฟา้ และความ ต้านทาน การใช้โวลต์มิเตอร์ แอมมิเตอร์ในการวัดปริมาณทาง ไฟฟ้า การต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมและ ขนาน การทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างงา่ ยในวงจร คำนวณค่าไฟฟา้ ของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบา้ นการ เกิดคลื่นและบรรยายส่วนประกอบของคลื่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประโยชน์ และอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การอธิบายกฎการสะท้อนของแสง การเคลื่อนที่ของแสงแสดงการเกดิ ภาพจากกระจกเงา การหักเหของแสงเมอ่ื ผ่านตัวกลางโปรง่ ใสที่แตกต่างกนั การกระจายแสงของแสงขาวเม่ือ ผ่านปริซึม การเคลื่อนที่ของแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์บาง แสงและการทำงานของทัศนอุปกรณ์ การ เคลื่อนที่ของแสงแสดงการเกิดภาพของทศั นอุปกรณ์และเลนส์ตา ความสว่างทีม่ ตี ่อดวงตา การโคจรของดาว เคราะห์รอบดวงอาทิตย์ การเกิดฤดูและการเคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม การ เปล่ยี นแปลงเวลาการขึน้ และตกของดวงจันทร์ และการเกดิ น้ำขน้ึ นำ้ ลง การใชป้ ระโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศ และความก้าวหน้าของโครงการสำรวจอวกาศ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่าย โอนพลังงาน ปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ติ ประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้ง นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ กระบวนการเกิดและ วิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อ สงิ่ มชี วี ิต และการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีอวกาศ โดยใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ เขียนกราฟ ความสัมพนั ธ์ วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ แปลความหมายขอ้ มูล คำนวณ สร้างแบบจำลอง ออกแบบการทดลอง และทดลอง เลอื กใช้และสร้างอุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหาในชีวติ ประจำวัน ตง้ั คำถามหรือกำหนดปัญหาที่เชื่อมโยง กับพยานหลกั ฐานหรือหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ ทีม่ ีการกำหนดและควบคมุ ตวั แปร คดิ คาดคะเนคำตอบหลาย แนวทาง สร้างสมมติฐานท่ีสามารถนำไปสู่การสำรวจ ตรวจสอบ ออกแบบและลงมือสำรวจตรวจสอบโดยใช้ วัสดุและเครื่องมือที่เหมาะสม เลือกใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการเก็บรวบรวม ข้อมูล บูรณาการกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความ ตระหนัก กระบวนการสืบเสาะ ผา่ นกระบวนการเรยี นรู้ตามแนวคิด Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการดำรงชีวิตและการ ประกอบอาชีพ แสดงความชื่นชมยกยอ่ ง และเคารพสิทธิในผลงานของผูค้ ิดค้น เข้าใจผลกระทบทั้งด้านบวก และด้านลบของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ต่อสิ่งแวดล้อมและต่อบริบทอื่น ๆ และศึกษาหาความรู้เพิ่มเตมิ ทำโครงงานหรือสร้างชิ้นงานตามความสนใจ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และ รักษาทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มสี ่วนรว่ มในการพิทักษ์ ดแู ลทรพั ยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดล้อมในทอ้ งถ่นิ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั ว 2.3 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/๑0 ม.3/11 ม.3/12 ม.3/13 ม.3/14 ม.3/15 ม.3/16 ม.3/17 ม.3/18 ม.3/19 ม.3/20 ม.3/21 ว 3.1 ม.3/๑ ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 รวม ๒ มาตรฐานการเรยี นรู้ ๒๕ ตัวชว้ี ดั
๑๕๙ รหสั วิชา ว 31102 คำอธบิ ายรายวชิ าวทิ ยาศาสตรพ์ นื้ ฐาน ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เวลา ๖0 ชัว่ โมง ศึกษาความหลากหลายของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ องค์ประกอบของ ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เซลล์และโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ การรกั ษาดุลยภาพของนำ้ และแร่ธาตุ กรด-เบส อณุ หภูมิในรา่ งกายมนษุ ย์ ระบบภูมิคุ้มกัน ความผดิ ปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การสรา้ งอาหารของพืชด้วยกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง สารสังเคราะห์ จากพชื ปจั จัยท่มี ีผลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช การตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า ยนี และการถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมระดับยีนและโครโมโซม การใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยที าง ดเี อ็นเอ วิวัฒนาการของสง่ิ มีชีวติ จากการคัดเลือกโดยธรรมชาติ การ คัดเลอื กโดยธรรมชาติของสง่ิ มชี วี ติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการสืบเสาะ หาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปราย และการสรปุ เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถ ในการตดั สนิ ใจ สอ่ื สารส่งิ ที่เรียนรู้และนาํ ความร้ไู ปใช้ในชวี ิตของตนเองและดแู ลรกั ษาส่ิงมีชีวิตอ่นื ๆ เฝ้าระวัง และพฒั นาส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งยัง่ ยนื มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม ตัวช้วี ดั ว 1.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ว 1.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6 ม.4/7 ม.4/8 ม.4/9 ม.4 / 1 0 ม.4 /11 ม.4/12 ว 1.3 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6 รวม 3 มาตรฐาน 22 ตัวชว้ี ดั
๑๖๐ รหสั วิชา ว 32102 คำอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตรพ์ นื้ ฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 รายวชิ า วิทยาศาสตร์กายภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เวลา ๖0 ช่ัวโมง ศกึ ษา วเิ คราะห์ และแปลความหมายของปริมาณทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การเคลือ่ นที่ ระยะทาง การกระจดั อัตราเร็ว ความเร็ว ความเร่ง ลักษณะของแรง การหาแรงลพั ธ์ กฎการเคลือ่ นทีข่ องนวิ ตนั การเคลอื่ นทแ่ี บบ โพรเจกไทล์ การเคลื่อนทแี่ บบวงกลมและปริมาณทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับการเคล่ือนท่แี บบวงกลม แรงสูศ่ นู ย์กลาง ความเรง่ ส่ศู นู ย์กลาง การประยกุ ตใ์ ช้ความรู้การเคล่อื นท่ีแบบวงกลมในการอธบิ ายการเคล่อื นทข่ี องรถบนถนน โคง้ การแกวง่ ของวัตถุตดิ ปลายเชือก การสัน่ ของวัตถุตดิ ปลายสปริง แรงโน้มถว่ งและสนามโน้มถว่ ง การ เคลอื่ นท่ีของวัตถุในสนามโนม้ ถว่ งของโลก ประโยชนจ์ ากสนามโน้มถว่ ง แรงไฟฟ้าและสนามไฟฟ้า ผลของ สนามไฟฟ้าตอ่ อนุภาคท่มี ีประจไุ ฟฟ้า ประโยชน์จากสนามไฟฟา้ แรงแมเ่ หลก็ และสนามแม่เหลก็ ผลของ สนามแม่เหล็กต่ออนุภาคที่มปี ระจไุ ฟฟ้า ผลของสนามแม่เหลก็ ตอ่ ตวั นำทมี่ กี ระแสไฟฟา้ ประโยชนจ์ าก สนามแม่เหล็ก แรงนวิ เคลยี ร์อย่างเขม้ แรงนิวเคลียรอ์ ยา่ งออ่ น พลังงานในชีวติ ประจำวัน พลงั งานทดแทน ประเภทส้นิ เปลอื ง พลงั งานทดแทนประเภทหมุนเวยี น ไฟฟา้ จากพลังงานนวิ เคลยี ร์ ไฟฟ้าจากพลงั งาน แสงอาทติ ย์ พลงั งานนิวเคลยี รฟ์ ชิ ชัน พลังงานนวิ เคลียรฟ์ ิวชัน เทคโนโลยดี า้ นพลงั งาน คลนื่ กล ส่วนประกอบ ของคล่ืนกล อตั ราเร็วของคลนื่ สมบัติของคลน่ื เสียง สมบัตขิ องเสียง ระดบั เสยี ง ความเข้มเสียง หูกับการไดย้ นิ บีต ดอปเพลอร์ ความถ่ธี รรมชาติและการสนั่ พ้อง การนำความรู้เรือ่ งเสยี งไปใชป้ ระโยชน์ แสง ตากับการ มองเห็น การผสมแสงสี การผสมสารสี และการใช้ประโยชน์ การบอดสี คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า สเปกตรัมคล่ืน แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ประโยชนข์ องคลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า อปุ กรณ์ควบคมุ ระยะไกล การใช้คล่นื แมเ่ หล็กไฟฟ้าในการ สือ่ สารข้อมูล สญั ญาณแอนะลอ็ ก และสญั ญาณดิจทิ ัล โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มูล การสังเกต การวิเคราะห์ การอภิปราย และการสรปุ ผล เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มี ความสามารถในการตดั สนิ ใจ สือ่ สารสงิ่ ทีเ่ รียนรแู้ ละนำความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมจี ิตวิทยา ศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม มาตรฐานตัวชว้ี ัด ว 2.2 ม.5/1 ,ม.5/2 , ม.5/3 , ม.5/4 , ม.5/5, ม.5/6 , ม.5/7, ม.5/8 , ม.5/9 , ม.5/10 , ว 2.3 ม.5/1 ,ม.5/2 , ม.5/3 ม.5/4 ,ม.5/5,ม.5/6,ม.5/7,ม.5/8, ม.5/9,ม.5/10,ม.5/11,ม.5/12 รวม 2 มาตรฐาน 22 ตัวช้ีวัด
รหสั วิชา ว 33102 ๑๖๑ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 คำอธบิ ายรายวิชาวิทยาศาสตรพ์ ้นื ฐาน รายวิชา วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา ๖0 ชั่วโมง ศึกษาการกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดบิกแบง หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก กระบวนการเกิด ดาวฤกษ์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความส่องสว่าง ความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติมาตร ความสัมพันธ์ ระหว่างสี อุณหภูมิผิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการที่สัมพันธ์กับมวลตั้งต้นของดาวฤกษ์ กระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อการ ดำรงชีวิต โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะ การสำรวจอากาศโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ ในช่วงความยาวคลื่นต่าง ๆ ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ การนำความรู้ทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ มาประยุกตใ์ ช้ การแบ่งชั้นและสมบัตขิ องโครงสรา้ งโลก หลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนการเคลื่อนทีข่ อง แผน่ ธรณี รปู แบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณี สาเหตกุ ระบวนการเกิด พ้ืนทเี่ สี่ยงภัยภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว และสีนามิ แนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากธรณีพิบัติภัย ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการ ได้รับพลงั งานจากดวงอาทติ ย์ การหมุนเวยี นอากาศ การหมุนเวียนของน้ำผวิ หน้าในมหาสมทุ ร ปจั จัยท่ีมีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศจากแผนที่อากาศ และนำข้อมูล สารสนเทศตา่ ง ๆ มาวางแผนในการดำเนนิ ชวี ติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวเิ คราะห์ การอภปิ ราย การอธิบายและการสรปุ ผล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ตลอดจนมจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ถี ูกต้อง มาตรฐานตัวชวี้ ัด ว 3.1 ม.6/1 ม.6/2 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/5 ม.6/6 ม.6/7 ม.6/8 ม.6/9 ม.6/10 ว 3.2 ม.6/1 ม.6/2 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/5 ม.6/6 ม.6/7 ม.6/8 ม.6/9 ม.6/10 ม. 6/11 ม.6/12 ม.6/13 ม.6/14 รวม 2 มาตรฐาน 24 ตัวชีว้ ัด
๑๖๒ คำอธิบายรายวิชาเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) รหัสวิชา ว 11102 รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง ศึกษาการแก้ปญั หาอย่างงา่ ยโดยใช้ขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา การแสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทำงาน หรอื การแกป้ ัญหาโดยใช้ ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือข้อความ ตลอดจนการเขยี นโปรแกรมสร้างลำดับของคำส่ังให้ คอมพิวเตอรท์ ำงาน ศกึ ษาการใชง้ านอปุ กรณ์เทคโนโลยีเบอ้ื งต้น การใช้ซอฟต์แวรเ์ บือ้ งต้น การสร้างและ จัดเกบ็ ไฟล์อย่างเปน็ ระบบและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย โดยอาศยั กระบวนการเรียนรูโ้ ดยใชก้ ารคดิ เชิงคำนวณและปญั หาเป็นฐาน (Problem – based Learning) เพอ่ื เน้นให้ผู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้ จากการฝกึ แกป้ ัญหาต่าง ๆ ผ่านกระบวนการคดิ การปฏบิ ัตอิ ย่าง มีระบบ และสรา้ งองค์ความรู้ใหม่จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชวี ติ ประจำวันได้ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทกั ษะการคิดเชิงคำนวณ การคดิ วิเคราะห์ แกป้ ญั หาเป็นข้นั ตอน และเปน็ ระบบ มที กั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ รกั ษาขอ้ มลู สว่ นตวั และการสอ่ื สารเบ้อื งตน้ ในการ แก้ปัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตลอดจนนำความรู้ความเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และ เทคโนโลยไี ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อสงั คม และการดำรงชวี ติ จนสามารถพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หาและการจัดการทกั ษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการตัดสนิ ใจ และเป็น ผทู้ ่มี ีจิตวิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ มาตรฐานตัวชวี้ ัด ว. 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5 รวม 1 มาตรฐาน รวม 5 ตัวชว้ี ัด
๑๖๓ คำอธิบายรายวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) รหสั วิชา ว 12102 รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 20 ชว่ั โมง ศึกษาการแสดงลำดบั ข้ันตอนการทำงานหรอื แกป้ ัญหาอยา่ งง่าย โดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื ข้อความ ตลอดจนการเขียนโปรแกรมสร้างลำดับของคอมพิวเตอร์ทำงาน และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ศกึ ษา การใช้งานซอฟตแ์ วรเ์ บอ้ื งต้น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้าง และจัดการกบั ข้อมูลอย่างเป็นระบบ รวมถึงการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย โดยอาศัยกระบวนการเรียนร้โู ดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Base Learning) เพ่อื เน้นให้ผู้เรยี น เกดิ การเรียนรจู้ ากการฝึกแก้ปัญหาต่าง ๆ ผา่ นกระบวนการคิด การปฏบิ ตั ิอย่างมีระบบ และสรา้ งองค์ความรู้ ใหม่จากการใช้ปัญหาท่ีเกดิ ขึน้ จรงิ ในชีวิตประจำวันได้ เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจ มีทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปญั หาเป็นขนั้ ตอน และเป็นระบบ มีทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รกั ษาขอ้ มลู สว่ นตัว และการสือ่ สารเบอ้ื งต้นในการ แกป้ ญั หาทพ่ี บในชวี ิตจรงิ ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยไี ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ อ่ สังคม และการดำรงชีวติ จนสามารถพฒั นากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา การจัดการทักษะในการสือ่ สาร ความสามารถในการตัดสนิ ใจ และเป็นผู้มี จติ วิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์ มาตรฐานตัวชี้วัด ว 4.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 รวม 1 มาตรฐาน รวม 4 ตัวช้ีวดั
๑๖๔ คำอธบิ ายรายวชิ าเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) รหสั วชิ า ว 13102 รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 20 ชัว่ โมง ศกึ ษาเกยี่ วกับการใช้อัลกอริทึมในการแกป้ ญั หา โดยมกี ารใช้แนวคิดเชิงคำนวณเข้ามาช่วยในการ แกป้ ัญหา ศกึ ษาการเขียนโปรแกรมอย่างง่าย การตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมซ่งึ เรยี นรไู้ ดจ้ ากเว็บไซต์ Code.org ศึกษาการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั การรวบรวม ประมวลผล นำเสนอข้อมลู และศึกษาการใชง้ านซอฟต์แวรต์ ่าง ๆ เพื่อนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นการพัฒนางานใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพ โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem–Based Learning) และวฏั จักรการ เรียนรู้แบบ สบื เสาะหาความรู้ (5Es Intructional Model) เพอื่ เน้นให้ผูเ้ รียนไดล้ งมือปฏิบัติ ฝกึ ทักษะการคดิ เผชิญสถานการณก์ ารแกป้ ัญหา วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง ผา่ นกระบวนการคิดและปฏิบตั ิ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการคดิ เชงิ คำนวณ การคดิ วเิ คราะห์ แก้ปญั หาเป็นขนั้ ตอน และเปน็ ระบบ มที กั ษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รกั ษาขอ้ มลู สว่ นตัว และการสอ่ื สารเบื้องต้นในการ แกป้ ญั หาท่พี บในชีวติ จรงิ ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำความรู้ความเขา้ ใจในวชิ าวิทยาศาสตร์และนำ เทคโนโลยีใหมท่ ่ีเกิดข้นึ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพฒั นากระบวนการคดิ และจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการ ตดั สนิ ใจ และเปน็ ผู้ทีม่ จี ติ วิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์ มาตรฐานตวั ช้ีวัด ว 4.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 รวม 1 มาตรฐาน รวม 5 ตัวช้วี ดั
๑๖๕ คำอธบิ ายรายวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) รหสั วชิ า ว 14102 รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 20 ช่วั โมง ศกึ ษาเกยี่ วกับการใช้อัลกอริทึมในการแกป้ ญั หา โดยมกี ารใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณเข้ามาชว่ ยในการ แกป้ ัญหา ศกึ ษาการเขียนโปรแกรมอย่างง่าย การตรวจสอบข้อผดิ พลาดของโปรแกรมซึง่ เรยี นรไู้ ดจ้ ากเวบ็ ไซต์ Code.org ศึกษาการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย การรวบรวม ประมวลผล นำเสนอข้อมลู และศึกษาการใชง้ านซอฟต์แวรต์ ่าง ๆ เพ่อื นำมาประยุกต์ใชใ้ นการพฒั นางานใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพ โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem–Based Learning) และวัฏจกั รการ เรียนรู้แบบ สบื เสาะหาความรู้ (5Es Intructional Model) เพื่อเนน้ ให้ผู้เรียนไดล้ งมือปฏบิ ตั ิ ฝึกทกั ษะการคิด เผชิญสถานการณก์ ารแกป้ ัญหา วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรยี นรู้ และสร้างองค์ความรใู้ หม่ด้วยตนเอง ผา่ นกระบวนการคิดและปฏิบตั ิ โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วิเคราะห์ แกป้ ญั หาเป็นข้ันตอน และเปน็ ระบบ มที กั ษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รกั ษาข้อมลู ส่วนตวั และการสอื่ สารเบื้องต้นในการ แกป้ ญั หาท่พี บในชีวติ จรงิ ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์และนำ เทคโนโลยีใหมท่ ่ีเกิดข้นึ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพฒั นากระบวนการคดิ และจนิ ตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจดั การทกั ษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการ ตดั สนิ ใจ และเปน็ ผู้ทีม่ จี ติ วิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์ มาตรฐานตวั ช้ีวัด ว 4.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 รวม 1 มาตรฐาน รวม 5 ตัวช้วี ดั
๑๖๖ คำอธิบายรายวิชาเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) รหสั วิชา ว 15102 รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 20 ชว่ั โมง ศึกษาการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธจ์ ากปญั หาอย่างงา่ ย การออกแบบและเขยี นโปรแกรมทีม่ ีการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะอยา่ งงา่ ย ตรวจหาขอผดิ พลาดและแก้ไข การใช้ อนิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาขอ้ มูล ติดตอ่ สื่อสารและทำงานรว่ มกนั ประเมินความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมลู การรวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตที่ หลากหลายเพ่ือแก้ปญั หาในชีวติ ประจำวัน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มมี ารยาท เข้าใจสิทธิ และหนา้ ทขี่ องตนเอง เคารพในสิทธิของผอู้ ่ืน และแจง้ ผเู้ ก่ยี วข้องเมอ่ื พบข้อมูลหรอื บุคคลทไ่ี มเ่ หมาะสม โดยอาศยั กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Base Learning) เพอื่ เน้นให้ผูเ้ รยี น เกดิ การเรยี นรู้จากการฝกึ แกป้ ญั หาต่าง ๆ ผา่ นกระบวนการคิด การปฏบิ ัตอิ ย่างมีระบบ และสร้างองค์ความรู้ ใหมจ่ ากการใชป้ ญั หาที่เกิดขน้ึ จรงิ ในชีวติ ประจำวันได้ เพื่อใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปัญหาเปน็ ข้นั ตอน และเปน็ ระบบ มีทกั ษะในการต้งั คำถาม หรือกำหนดปัญหาเก่ียวกับสง่ิ ท่จี ะเรียนรตู้ ามทก่ี ำหนดให้ หรอื ตาม ความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมติฐานท่ีสอดคลอ้ งกบั คำถาม วางแผนและสำรวจ ตรวจสอบโดยใช้เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศท่เี หมาะสมในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลทง้ั เชิง ปรมิ าณและคุณภาพ คน้ หาขอ้ มลู อย่างมปี ระสิทธภิ าพและประเมินความน่าเชอื่ ถอื ตัดสินใจเลือกข้อมูล ให้ เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา ตลอดจนนำความรคู้ วามเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้ เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมและการดำรงชีวิต จนสามารถพฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถใน การแกป้ ัญหาและการจัดการทักษะในการส่ือสาร ความสามารถในการตัดสินใจ และเปน็ ผ้มู จี ติ วิทยาศาสตร์ มี คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใชว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์ มาตรฐานตัวช้ีวัด ว. 4.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 รวม 1 มาตรฐาน รวม 5 ตัวช้วี ดั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327