Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

Description: ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1.

Search

Read the Text Version

Page 151 130 ตาํ รบั ยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย ไฉห(ู 柴胡) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร ปน เซี่ย(半夏) 2 เซนตเิ มตร หวงฉิน(黄芩) 3 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร เซิงเจียง(生姜) เหรินเซนิ (人参) ตา เจา (大枣) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร กนั เฉา (จอ้ื )[甘草(炙)]

Page 152 ตาํ รบั ยาปรับสมดุล: เสีย่ วไฉหทู ัง 131 วธิ ีใช ตม เอาน้าํ ด่ืม1,3 การออกฤทธ์ิ ปรบั สมดุลเสนเสา หยาง (ถุงน้าํ ด)ี 1,3 สรรพคุณ พษิ ไขเ ขา สูเ สน เสาหยาง (ถุงนํ้าดี) ทําใหม อี าการเดยี๋ วหนาวเด๋ียวรอน แนนทรวงอก และชาย โครง เซ่ืองซมึ เบอื่ อาหาร หงุดหงดิ คล่ืนไส ปากขม คอแหง ตาลาย ลน้ิ มฝี า ขาวบาง ชพี จรตงึ หรือสตรี ท่ีเปน ไขเ น่อื งมาจากถูกความเยน็ กระทบ หรือความรอนเขา สูร ะบบเลือด1,3 ตาํ รบั ยานส้ี ามารถใชโ ดยการเพมิ่ หรือลดขนาดยาไดใ นกรณกี ลมุ ผูปวยโรคเสาหยาง (ถงุ นา้ํ ด)ี แสดงออกโดยเปน โรคไขห วัด ไขม าลาเรีย ทอ ถุงนํา้ ดตี ดิ เชอื้ โรคตบั อกั เสบ เนอ้ื เยอ่ื ทรวงอกอกั เสบ กระเพาะอาหารอักเสบเรอ้ื รงั ระบบยอยอาหารไมดี เตา นมอักเสบ เจ็บเสน ประสาทที่บริเวณซี่โครง ระบบ ประสาท กระเพาะอาหารทํางานบกพรอ ง1,3 คาํ อธบิ ายตาํ รับ สมนุ ไพร ทาํ หนาที่ รส คุณสมบตั ิ สรรพคณุ 柴胡 ไฉหู 黄芩 หวงฉิน ตวั ยาหลกั ขม เผด็ เยน็ ลดไข ผอนคลาย คลายเครยี ด 半夏 ปน เซี่ย เล็กนอ ย ชวยใหหยางลอยข้ึนสว นบน ตวั ยาเสริม ขม เยน็ ระบายความรอน แกความชื้น ขับพิษรอน ชวยใหเลือดเย็น และหามเลือด แกตัวรอน กลอมครรภ ตัวยาชว ย เผด็ อนุ สลายความชน้ื ละลายเสมหะ (มีพษิ )* กดชี่ลงลา ง แกค ลน่ื ไสอาเจียน สลายเสมหะที่เกาะตัวเปนกอ น * ปนเซ่ีย เปนสมุนไพรท่ีมพี ิษ ตอ งฆาฤทธิย์ ากอ นใช

Page 153 132 ตาํ รับยาจีนที่ใชบ อยในประเทศไทย สมุนไพร ทําหนาท่ี รส คณุ สมบัติ สรรพคุณ 生姜 เซงิ เจยี ง (ขงิ สด) ตัวยาชว ย เผ็ด อนุ ผอ นคลายผิวหนัง ขบั เหงื่อ ให 人参 เหรินเซนิ ความอบอุนแกสวนกลางของ (โสมคน) รา งกาย (กระเพาะอาหาร) แก 大枣 ตา เจา คลืน่ ไสอ าเจียน ใหค วามอนุ แก (พุทราจีน) ปอด ระงับไอ 甘草(炙) ตวั ยาชว ย หวานอมขม อนุ บาํ รุงช่ี (อยางดี) เสริมปอด กนั เฉา (จ้อื ) เล็กนอย เลก็ นอย บาํ รุงมาม กอใหเกิดธาตุนํ้า (ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผึง้ ) สงบจิตใจ ตวั ยาชว ย หวาน อนุ เสริมชี่ บํารุงสวนกลางของ รางกาย เสริมเลือด สงบจิต ปรบั สมดลุ ของยา ตัวยานาํ พา หวาน อุน เสรมิ ชี่ บาํ รุงสว นกลาง ระบาย ความรอน แกพิษ ขับเสมหะ ระงับไอ บรรเทาอาการปวด ปรบั สมดลุ ของยา รปู แบบยาในปจ จุบนั ยาตม ยาชง ยาเม็ด4 ขอควรระวงั ในการใช ยาตํารับน้ไี มค วรใชในผปู วยท่เี ปนโรคสว นบนแกรง สวนลางพรอ ง ไฟตับสงู จดั จนพุงข้นึ สว นบน มอี าการยินพรอง อาเจียนเปน เลือด1,3 ขอมลู วชิ าการที่เกยี่ วของ ตํารับยาเส่ยี วไฉหทู งั มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ตาํ รับยาเสีย่ วไฉหทู ังมฤี ทธิ์ปกปองตบั เพิม่ การไหลเวยี นของเลอื ด ในตับ ชวยใหน าํ้ ในถงุ นาํ้ ดไี หลเวียนดขี ้นึ เพ่ิมประสทิ ธภิ าพการทํางานของกระเพาะอาหาร ลดไข และ ตา นอกั เสบในหนูขาว เพ่มิ ภมู ติ านทานในหนูถีบจักร4

Page 154 ตาํ รับยาปรับสมดุล: เส่ียวไฉหูทัง 133 การศกึ ษาทางคลนิ กิ : ตาํ รบั ยาเส่ียวไฉหทู ังมสี รรพคณุ ตานเชอ้ื ไวรสั และเชือ้ แบคทีเรยี ถอน พิษไข ตาํ รับยาน้มี จี ุดเดนในดานรักษาอาการตัวรอ น ลดการอักเสบ ชว ยกระตุน การทาํ งานของระบบ ยอยอาหาร ระงับอาการคลน่ื ไส ขบั เสมหะ ระงบั ไอ ปกปองตับ และชว ยใหน้ําในถงุ น้ําดีไหลเวียนดขี ึ้น สงบจิตใจ1,3 การศึกษาความปลอดภัย: เม่ือใหส ารสกัดชนิดผงทางปากหนขู าวในขนาด 40, 160 และ 640 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรมั ตดิ ตอกนั นาน 6 เดือน ไมพ บอาการผดิ ปกตใิ ด ๆ เมอื่ เปรียบเทยี บกบั กลมุ ควบคมุ 4 ไฉหู (Radix Bupleuri) คอื รากแหงของพชื ทมี่ ีชือ่ วิทยาศาสตรว า Bupleurum chinense DC. หรือ B. scorzonerifolium Willd. หรอื B. falcatum L. วงศ Umbelliferae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดนาํ้ ทางปากและฉีดเขากลามเนื้อกระตายในขนาด เทียบเทาผงยา 18 กรัม/กโิ ลกรัม พบวามีฤทธ์ริ ะบายความรอ น เมอื่ ฉดี นาํ้ มันหอมระเหยเขาชองทอ ง หนูขาวในขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรมั พบวามีฤทธริ์ ะบายความรอ นเชน กนั นอกจากน้สี ารสกดั น้ํายังมี ฤทธิ์ตานอักเสบและปกปองตบั จากสารพษิ ในกระตา ย6 การศึกษาทางคลินิก: ผงยามีสรรพคุณลดไขจากโรคหวัดและไขหวัดใหญไดดี รักษาโรค เก่ียวกับตบั และถุงนา้ํ ดี และตา นอักเสบ6 การศึกษาความปลอดภัย: ไฉหมู พี ษิ นอ ย การศกึ ษาพษิ เฉียบพลันโดยฉดี สว นของสารสกดั แอลกอฮอลท ีล่ ะลายนา้ํ ได ความเขม ขน รอยละ 10 เขา ใตผ ิวหนังหนถู ีบจักร พบวาขนาดนอยท่ีสดุ ทที่ าํ ให หนูถีบจกั รตายมคี าเทากบั 110 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรัม เม่ือใหสารแซโพนิน (saponin) ซง่ึ เปน องคประกอบ ทางเคมีของไฉหูทางปาก ฉดี เขา ใตผ วิ หนัง ฉดี เขา ชอ งทอ ง และฉีดเขา หลอดเลอื ดดาํ หนถู ีบจกั ร พบวา ขนาดของสารแซโพนินทีท่ ําใหห นถู บี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคา เทากับ 4.70, 1.90, 0.11 และ 0.07 กรัม/กิโลกรัม ตามลําดับ และเม่อื ฉดี สารดงั กลา วเขา ชอ งทองหนูตะเภา พบวา LD50 มีคา เทากับ 58.3 มิลลกิ รมั /กิโลกรมั 6 หวงฉิน (Radix Scutellariae) คือ รากแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Scutellaria baicalensis Georgi วงศ Labiatae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจัยดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ผงยามีฤทธิ์ตานเช้ือแบคทีเรียหลายชนิดและปกปองตับในหลอด ทดลอง สารสกัดมฤี ทธิ์ลดไขแ ละแกป วดในหนถู ีบจกั ร สารสกดั นา้ํ สวนทต่ี กตะกอนในแอลกอฮอลมี ฤทธ์ติ านอกั เสบในหนขู าว7

Page 155 134 ตํารบั ยาจนี ที่ใชบ อยในประเทศไทย การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดนํา้ มีสรรพคุณรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและหลอดลม อักเสบชนดิ เฉยี บพลนั ในเด็ก รกั ษาโรคบิดชนิดเฉียบพลนั และตับอักเสบ7 การศึกษาความปลอดภยั : สารสกดั นา้ํ ขนาด 1 กรมั /กโิ ลกรัม มีฤทธท์ิ ําใหจ ติ ใจสงบและไมทาํ ใหก ระตา ยตาย และเมอ่ื ฉดี สารสกดั เอทานอลและสารไบคาลนิ (baicalin) ซึง่ เปนองคประกอบทางเคมี ของหวงฉนิ เขา ใตผ ิวหนัง พบวา ขนาดท่ที ําใหหนถู ีบจักรตายมคี าเทา กนั คือ 6 กรัม/กิโลกรัม และคา LD50 ของสารไบคาลินเมือ่ ฉีดเขา ชองทองของหนถู บี จักรมคี า เทากบั 3.08 กรมั /กโิ ลกรัม7 ปนเซ่ยี (Rhizoma Pinelliae) คอื ลําตนใตด นิ แหง ที่เอาเปลือกนอกและรากฝอยออกแลว ของ พชื ทม่ี ชี อ่ื วทิ ยาศาสตรว า Pinellia ternata (Thunb.) Breit. วงศ Araceae5 ปนเซี่ยเปน สมนุ ไพรทมี่ ี พษิ ตองฆาฤทธิ์ยากอนใช โดยนําปนเซี่ยไปแชในนํ้าสารสม (ความเขมขน 8%) จนกระท่ังมองเห็นเน้ือ ในสมุนไพร เมื่อชิมดจู ะรสู ึกลน้ิ ชาเลก็ นอย ลา งน้าํ ใหส ะอาด หัน่ เปนแวนหนา ๆ แลวนําไปทาํ ใหแ หง8 มี รายงานการศึกษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ปนเซ่ียมีฤทธิ์ระงับไอ ขับเสมหะในแมวและสุนัข ตานอาเจียนใน นกพิราบ กระตาย และสนุ ขั 9 การศึกษาทางคลินิก: ปน เซีย่ มีสรรพคุณแกอ าเจียน แกท อ งเสยี 9 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาความเปนพิษของ ปนเซี่ยมีความสัมพันธอยางใกลชิดกับกระบวนการแปรรูปและการเตรียมสารสกัด มีรายงานวา เม่ือให ผงยา (ท่ียังไมผานการฆาฤทธ์ิยา) ทางปาก ขนาดท่ีทําใหหนูถีบจักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 42.7 กรัม/กิโลกรัม และเม่ือใหผงยาดังกลาวในขนาด 2.25, 4.5 และ 9 กรัม/กิโลกรัม วันละครั้ง ติดตอกันนาน 21 วัน พบวาหนูถีบจักรตายหมด เม่ือฉีดสารสกัดปนเซี่ยเขาชองทองหนูถีบจักร พบวา ขนาดของสารสกัดที่ทําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทียบเทาผงยา 131.4 กรัม/กิโลกรัม ในขณะที่สารสกัดจากปนเซี่ยที่ผานการฆาฤทธิ์ยาแลวไมทําใหเกิดพิษเฉียบพลันใด ๆ และการให สารสกัดปน เซ่ยี ทผี่ านการฆาฤทธิ์ยาแลว ในขนาด 9 กรมั /กิโลกรมั ทางปากตดิ ตอ กันนาน 21 วนั ไมม ผี ล ตอการเปล่ียนแปลงของน้าํ หนักตัว และไมพบหนูถบี จักรตวั ใดตาย9 เซิงเจยี ง [ขงิ สด (Rhizoma Zingiberis Recens)] คอื เหงาสดของพชื ที่มีช่ือวทิ ยาศาสตรว า Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจยั ดานตาง ๆ ดังน้ี

Page 156 ตาํ รบั ยาปรับสมดุล: เส่ียวไฉหูทัง 135 การศึกษาทางเภสัชวิทยา: นา้ํ คั้นมีฤทธ์ิตานการอาเจียนไดผลดี และนํ้าค้ันในระดับความ เขมขน ตํ่า ๆ จะเพมิ่ แรงบบี ตวั ของลําไสห นโู ดยไมท ําใหความตงึ ตัวของลําไสเปลย่ี นแปลง แตในระดบั ความเขมขนสูง ๆ จะลดแรงบบี ตัวและความตงึ ตวั ของลาํ ไสอ ยางชดั เจน รวมทั้งสามารถเพ่ิมแรงบีบตัว ของลําไสเลก็ สุนขั 10 นอกจากนี้นํ้าค้ันขงิ แกมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อราในชอ งปาก10 การศึกษาทางคลินิก: ขิงสดมีสรรพคุณรักษาโรคไขหวัดจากการกระทบลมเย็น แกคล่ืนไส อาเจยี น แกก ระเพาะอาหารอกั เสบเรอ้ื รัง แกทองเสยี 11 การศึกษาความปลอดภยั : เม่ือฉดี นํา้ คัน้ ขิงสดทมี่ ีความเขม ขน 20% เขาหลอดเลอื ดดาํ ของหนู ถีบจักร พบวาขนาดทที่ าํ ใหห นูถีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 1.5 กรัม/กิโลกรมั อาการพษิ ที่ ทําใหส ัตวต าย คอื ชกั และหยุดหายใจ12 เหรินเซิน [โสมคน (Radix Ginseng)] คือ รากแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Panax ginseng C.A. Mey. วงศ Araliaceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เมื่อใหสารสกัดน้ําทางปากและฉีดเขาชองทองหนูถีบจักรในขนาด เทียบเทาผงยา 1-3 กรัม/กโิ ลกรมั มีผลชวยใหห นูถบี จกั รมีความจาํ ดีขึน้ และมีรายงานวาโสมคนมฤี ทธ์ิ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุมกันของรางกาย โดยการกระตุนระบบภูมิคุมกันแบบไมเฉพาะเจาะจง นอกจากนโ้ี สมคนยังชวยปรับการเตนของหวั ใจใหกลับสภู าวะปกติเร็วขน้ึ ทาํ ใหเ หน่อื ยชา ลง และสามารถ ทาํ งานไดน านขึ้น13 การศึกษาทางคลินิก: เม่ือใหผูปวยที่มีอาการเครียดและออนเพลีย รับประทานยาเตรียม ทงิ เจอรจากโสมคนความเขม ขน 3% วนั ละ 3 ครั้ง ครัง้ ละ 5 มิลลิลติ ร ติดตอกนั ทุกวันเปนเวลา 5-7 วนั พบวาอาการปวดศีรษะ นอนไมหลับ เบื่ออาหาร ดีข้ึนอยางชัดเจน6 เม่ือใหผูปวยโรคโลหิตจาง รับประทานสารสกัดทุกวัน วันละ 60-120 มิลลิกรัม พบวานอกจากประสิทธิภาพการทํางานของ ไขกระดกู เพิม่ ขึ้นแลว ยงั ชว ยบรรเทาอาการออนเพลียหรอื เมอื่ ยลา เบอ่ื อาหาร เวยี นศีรษะ หวั ใจเตนเร็ว ของผปู ว ยใหด ขี น้ึ ดว ย นอกจากนโ้ี สมคนยังมีสรรพคุณชว ยเพ่มิ สมรรถนะในการทาํ งานของรา งกายให สงู ข้นึ ตานความเมื่อยลา และเพิม่ ประสทิ ธภิ าพของระบบภมู คิ ุม กันของรางกาย13,14 การศกึ ษาความปลอดภัย: มรี ายงานการศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนถู บี จักร พบวา ขนาดของ ผงยาและสารสกัดนํ้าเมื่อใหทางปากท่ีทําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 5 และ 1.65 กรัม/กิโลกรมั ตามลาํ ดบั 13

Page 157 136 ตาํ รับยาจนี ทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย ตาเจา [พุทราจีน (Fructus Ziziphi Jujubae)] คือ ผลแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Ziziphus jujuba Mill. วงศ Rhamnaceae5 มีรายงานการศึกษาวิจยั ดานตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนํ้ามีฤทธิ์ปกปองตับในกระตาย ระงับไอ ขับเสมหะในหนู ถบี จกั ร15 การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดนา้ํ มีสรรพคุณบรรเทาอาการเลือดค่ัง โดยทั่วไปตาเจามักไมใช เดยี่ ว สวนใหญจ ะเปนสวนประกอบในตํารับยาตา ง ๆ15 กันเฉา (จื้อ) [ชะเอมเทศผัดนา้ํ ผง้ึ (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คือ รากแหง ของพืชท่ี มีชื่อวิทยาศาสตรวา Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae5 เตรยี มโดยนาํ น้ําผ้งึ บริสุทธิม์ าเจือจางดว ยนํา้ ตม ในปรมิ าณท่ี เหมาะสม ใสชะเอมเทศที่หั่นเปนแวน ๆ หรือเปนชิ้น ๆ ตามตองการ (อัตราสวนของสมุนไพร:นา้ํ ผ้ึง เทากับ 4:1) แลวคลกุ ใหเขากัน หมักไวส กั ครูเ พ่ือใหน้าํ ผ้งึ ซมึ เขาในตัวยา จากนน้ั นําไปผัดในภาชนะที่ เหมาะสมโดยใชร ะดับไฟปานกลาง ผดั จนกระทัง่ มีสีเหลืองเขมและไมเ หนยี วติดมือ นาํ ออกจากเตา แลว ตั้งทงิ้ ไวใ หเย็น8 ชะเอมเทศมีคุณสมบัติเปนกลางคอนขางเย็นเล็กนอย มีรสอมหวาน มีสรรพคุณระบาย ความรอน ขบั พิษ แกไ อ ขับเสมหะ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตํารับยารกั ษาอาการไอมเี สมหะมาก พษิ จาก ฝแ ผล คอบวม อกั เสบ หรอื พษิ จากยาและอาหาร โดยสามารถชว ยระบายความรอนและขบั พษิ ได หาก นํามาผัดนา้ํ ผงึ้ จะทําใหมีคุณสมบตั ิอุน มีรสหวาน มีสรรพคณุ บาํ รงุ มามและกระเพาะอาหาร เสรมิ ชี่ ทําให การเตนของชีพจรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ โดยทั่วไปมักใชเขาในตํารับยารักษาอาการมามและ กระเพาะอาหารออนเพลยี ไมมแี รง ชขี่ องหวั ใจพรอง ปวดทอ ง เสน เอน็ และชพี จรตงึ แข็ง ชพี จรเตนไม สมํ่าเสมอ และชีพจรเตน หยดุ อยา งมีจงั หวะ มีรายงานผลการศกึ ษาเปรยี บเทยี บปริมาณกรดกลไี ซรไ รซิก (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศทีผ่ ัดและไมไดผัดนํา้ ผึง้ พบวา ชะเอมเทศผดั นํา้ ผงึ้ จะมีปรมิ าณสาร ดงั กลาวนอยกวา ชะเอมเทศทีไ่ มไดผดั รอ ยละ 47-60 8 การศกึ ษาวจิ ยั ท้ังน้ขี ้ึนอยูก บั คุณภาพของเครอื่ งยา ของชะเอมเทศผดั น้ําผึ้ง มดี งั นี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: มรี ายงานการศกึ ษาเปรยี บเทยี บฤทธิเ์ สริมภูมคิ ุมกันของชะเอมเทศท่ี ผดั นํา้ ผ้ึงและไมไ ดผ ดั พบวา ฤทธิเ์ สรมิ ภูมิคมุ กันของชะเอมเทศผดั น้าํ ผ้ึงแรงกวา ชะเอมเทศทีไ่ มไดผ ัดมาก ดงั น้ันชะเอมเทศผดั นาํ้ ผ้ึงจงึ นับเปนตัวยาท่มี ีสรรพคณุ บํารงุ ชที่ ด่ี ที ่ีสดุ ในทางคลนิ กิ 8

Page 158 ตํารับยาปรบั สมดุล: เสย่ี วไฉหูทัง 137 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรัส ต้งั อรามวงศ, สณุ ี จีระจิตสมั พนั ธ, ธีรพงศ ตง้ั อรา มวงศ. ตํารบั ยาเส่ียวไฉหทู งั . [เอกสารแปลเพ่ือการจดั ทําฐานขอ มลู ยา สมุนไพรจีน]. นนทบุรี: สถาบนั การแพทยไทย-จีน เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Zhang SF, Li CW, Wang L. Xiao Chaihu Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Ma JK. Radix Bupleuri: cai hu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Hou JY. Radix Scutellariae: huang qin. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine. 2001. 9. Dou CG. Rhizoma Pinelliae: ban xia. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press. 1999. 10. สรอยศริ ิ ทวีบูรณ. ขงิ . ใน: บพติ ร กลางกัลยา นงลกั ษณ สุขวาณิชยศ ิลป (บรรณาธิการ). รายงานผลการศึกษาโครงการ การ ประเมนิ ประสิทธิภาพและความปลอดภยั ของยาสมนุ ไพร. นนทบรุ ี: บริษัท เอส อาร พริ้นติ้ง แมสโปรดักส จาํ กัด, 2544. 11. Zhao GB. Rhizoma Zingiberis Recens: sheng jiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 12. สถาบันวิจยั สมุนไพร เอกสารวิชาการสมุนไพร. นนทบุรี: กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ , 2543. 13. Zhou QM, Wang Y, Wang BX. Radix Ginseng: ren sheng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999. 15. Zhou ZC. Fructus Jujubae: da zao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 159 138 ตาํ รับยาจีนท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย ซ่อื หนี้สาน (四逆散) ตาํ ราตนตํารบั 伤寒论 ซางหานลนุ (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจงจงิ่ ) »2 สวนประกอบ Radix Bupleuri ไฉหู 6 กรัม Fructus Aurantii Immaturus 6 กรัม 柴胡 Radix Paeoniae Alba จือ่ สือ 9 กรัม 枳实 Radix Glycyrrhizae Praeparata 6 กรัม 白芍 ไปเสา 甘草 (炙) กนั เฉา (จอื้ ) วธิ ใี ช ตมเอาน้าํ ดื่ม1,3 การออกฤทธิ์ 1,3 ขับกระจายพิษออกจากผวิ กาย ผอ นคลายตบั ปรับชรี่ ะบบมาม สรรพคณุ รักษาโรคท่ีมีหยางช่ีอดุ ก้ันอยูภ ายในรางกาย ไมสามารถกระจายไปท่ีแขนและขา ทาํ ใหม ือเทา เย็น ช่ขี องตบั ไมผอนคลาย การทํางานของมา มตดิ ขดั ทําใหม ีอาการอึดอดั แนนทอ ง ถา ยเปนบดิ ปวด ทอ ง ล้ินมีฝา ขาว ชพี จรตงึ 1,3 ตาํ รับยานสี้ ามารถเพ่มิ หรอื ลดขนาดยาใหเหมาะสมในผปู วยโรคตบั อกั เสบเรอ้ื รัง ถุงน้ําดอี ักเสบ นิว่ ในถงุ นาํ้ ดี ตับออ นอกั เสบ ปวดประสาทตรงชายโครง อาการทางประสาทของกระเพาะอาหาร ซึ่งมี สาเหตุมาจากชตี่ ับไมผ อ นคลาย การทํางานของมา มตดิ ขัด

ตาํ รับยาปรับสมดุล: ซอ่ื หนส้ี า น Page 160 139 ตาํ รับยา ซื่อหนีส้ า น (四逆散) ไฉหู (柴胡) 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร ไปเสา (白芍) จ่อื สอื (枳实) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร กันเฉา(จือ้ ) [甘草(炙)]

Page 161 140 ตํารับยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย คําอธิบายตาํ รับ สมุนไพร ทาํ หนาท่ี รส คุณสมบัติ สรรพคุณ 柴胡 ไฉหู ตวั ยาหลกั ขม เผ็ด เย็น ขับกระจายลดไข แกตัวรอน 枳实 จอื่ สอื (สมซา) เลก็ นอ ย ผอ นคลายระบบตบั และชว ยให 白药 ไปเ สา หยางชข่ี นึ้ สสู ว นบน ผอ นคลาย 甘草 (炙) คลายเครยี ด กันเฉา (จื้อ) (ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผ้งึ ) ตวั ยาเสรมิ ขม เผ็ด เยน็ ขับของเสียที่ตกคาง ละลาย เลก็ นอย เสมหะ ตัวยาชว ย ขม เปร้ียว เยน็ เสริมยนิ เลือด ปรบั ประจาํ เดอื น อมหวาน เล็กนอย และปรับสมดลุ ชี่ของตบั ระงับ ปวด เกบ็ กกั ยินชี่ ระงบั เหง่ือ ตัวยานาํ พา หวาน อนุ เสริมชบี่ ํารุงสว นกลาง ระบาย ความรอน แกพิษ ขับเสมหะ ระงบั ไอ ปรับสมดุลยา เมือ่ ใช รว มกบั ตัวยาไปเสาจะชว ยแกต ึง ระงับปวด รูปแบบยาในปจจบุ ัน ยาตม ยาผง4 ขอควรระวงั ในการใช ตาํ รบั ยาซ่อื หนส้ี า นใชไ ดเ ฉพาะผูปว ยทีม่ อื เทา เย็นจากหยางช่ีถกู ปด ก้ันภายใน ซึ่งทาํ ใหชีไ่ ปไมถึง มอื และเทา ทาํ ใหม อื เทา มีอาการเย็น ถาเกิดจากสาเหตอุ ื่น ๆ ใชตาํ รับยาน้ไี มไ ด เชน หยางพรอ ง เลอื ดลม ไปเล้ียงมือเทาไมถงึ ทําใหมอื เทามีอาการเยน็ กไ็ มค วรใชต ํารับยานี้1,3 ขอมูลวิชาการท่เี กี่ยวขอ ง ตํารับยาซอื่ หน้สี าน มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตาง ๆ ดังน้ี

Page 162 ตํารบั ยาปรบั สมดุล: ซ่ือหนสี้ า น 141 การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: ตํารับยาซ่อื หน้ีสา นมฤี ทธป์ิ กปอ งตบั 5 สารสกัดแอลกอฮอลมฤี ทธ์ิ ตานการหดเกรง็ ของลาํ ไสก ระตาย รักษาแผลในกระเพาะอาหารหนูขาว สารสกัดนา้ํ มีฤทธิ์ชว ยใหนอน หลับ ชวยใหก ารทํางานของระบบประสาทสวนกลางดีขน้ึ และเม่ือใหสารสกัดนา้ํ ทางปากหนูถบี จักรใน ขนาดเทียบเทาผงยา 20 กรัม/กิโลกรัม มผี ลลดไข6 การศึกษาทางคลินิก: ตํารับยาซ่อื หนี้สา นมสี รรพคณุ ในการสงบสติ แกอ าการกลามเน้ือเกร็ง ระงบั ปวด ระบายความรอ น ตานเช้ือแบคทีเรยี และมีสรรพคณุ ที่เดนชัดในเรื่องการปองกันการถูกทําลาย ของตบั 1,3 นอกจากนน้ั ตํารับยาน้ยี งั มฤี ทธ์ิขยายหลอดเลอื ดในสมองผูปวยท่เี ลือดไปเล้ียงสมองตดิ ขดั ชว ยใหการไหลเวยี นของเลือดดีข้ึน บรรเทาอาการหดเกร็งของกระเพาะอาหารและลําไส การยอ ยของ กระเพาะอาหารผดิ ปกติ สะอึก และขับของเสยี ท่ีตกคางในลาํ ไสเ ล็กทอ นบนไดผลดี รวมท้ังมสี รรพคุณ รักษาอาการหวาดผวาเน่อื งจากไขส งู เปน บดิ และปวดทองในผปู ว ยเด็ก6 ตามการแพทยแ ผนปจจบุ นั ตํารบั ยาซ่ือหนส้ี า นมีสรรพคณุ รักษาอาการกระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร ตับอักเสบ ลาํ ไสอ กั เสบ ถุงนํ้าดอี ักเสบ และนวิ่ ในถุงน้าํ ด4ี การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนถู ีบจกั รโดยการใหส ารสกดั นํา้ ทางปาก และฉีดเขาชองทอง พบวาขนาดสารสกัดเทียบเทาผงยาที่ทําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทา กบั 413 และ 122.8 กรมั /กโิ ลกรมั ตามลาํ ดับ และเมื่อใหสารสกัดนํ้าทางปากหนขู าว วันละครัง้ ตดิ ตอ กนั นาน 20 วนั ไมพบการเปลยี่ นแปลงทผี่ ดิ ปกตขิ องน้ําหนกั ตัว และการทํางานของตบั และไต6 ไฉหู (Radix Bupleuri) คือ รากแหง ของพชื ทมี่ ีชือ่ วิทยาศาสตรวา Bupleurum chinense DC. หรือ B. scorzonerifolium Willd. หรือ B. falcatum L. วงศ Umbelliferae7 มรี ายงานการศึกษาวิจัย ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เมื่อใหสารสกัดนํา้ ทางปากและฉีดเขากลามเนื้อกระตายในขนาด เทยี บเทา ผงยา 18 กรมั /กิโลกรมั พบวามฤี ทธ์ริ ะบายความรอ น เมือ่ ฉดี น้ํามันหอมระเหยเขาชองทอ ง หนูขาวในขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พบวามีฤทธ์ิระบายความรอนเชนกัน นอกจากน้ีสารสกัดนํา้ ยังมีฤทธต์ิ านอักเสบและปกปอ งตับจากสารพิษในกระตา ย8 การศึกษาทางคลินิก: ผงยามีสรรพคุณลดไขจากโรคหวัดและไขหวัดใหญไดดี รักษาโรค เก่ียวกบั ตับและถงุ น้ําดี และตา นอักเสบ8 การศึกษาความปลอดภัย: ไฉหูมีพิษนอย การศึกษาพิษเฉียบพลันโดยฉีดสวนของสาร สกัดแอลกอฮอลท ล่ี ะลายนํา้ ได ความเขมขนรอยละ 10 เขาใตผ วิ หนังหนถู ีบจกั ร พบวา ขนาดนอ ยทีส่ ดุ ที่

Page 163 142 ตาํ รบั ยาจีนทใ่ี ชบอ ยในประเทศไทย ทําใหหนถู ีบจักรตายมคี า เทา กบั 110 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม เมอื่ ใหสารแซโพนนิ (saponin) ซง่ึ เปน องคประกอบทางเคมีของไฉหทู างปาก ฉีดเขาใตผ ิวหนัง ฉีดเขาชอ งทอ ง และฉดี เขาหลอดเลือดดําหนถู ีบ จักร พบวา ขนาดของสารแซโพนินที่ทําใหหนถู ีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทากบั 4.70, 1.90, 0.11 และ 0.07 กรมั /กโิ ลกรัม ตามลําดบั และเม่ือฉดี สารดังกลาวเขา ชองทอ งหนูตะเภา พบวา LD50 มี คาเทา กบั 58.3 มิลลิกรัม/กิโลกรมั 8 จอ่ื สือ [สมซา (Fructus Aurantii Immaturus)] คอื ผลออ นแหงของพชื ทม่ี ีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Citrus aurantium L. หรอื C. sinensis Osbeck วงศ Rutaceae7 มีรายงานการศึกษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกัดความเขมขน 0.01 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร มีฤทธิ์เพ่ิมการ เคล่ือนไหวของลําไสกระตาย ยาฉีดขนาด 20-40 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร มีฤทธิ์ยับย้ังการหดตัวของ กลา มเนื้อเรยี บของลาํ ไสก ระตา ย และสารสกัดนํ้าเมอ่ื ใหท างปากสนุ ัขในขนาด 1 กรมั /กิโลกรัม มีฤทธเ์ิ พมิ่ การเคลอื่ นไหวของกลามเนอ้ื เรยี บของลําไสเลก็ สุนขั 9 การศึกษาทางคลนิ กิ : สารสกดั นํา้ มีสรรพคณุ ชวยใหก ารทํางานของกระเพาะอาหาร การไหลเวยี น ของเลอื ดไปเลยี้ งหัวใจและสมองดีขึ้น และรกั ษาอาการทองผกู เปน ประจําในผสู ูงอายไุ ดผ ลดี9 การศกึ ษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพษิ เฉยี บพลันในหนถู บี จกั ร โดยการใหย าฉดี เขา หลอด เลือดดําและชองทอง พบวาขนาดของยาเทียบเทาผงยาที่ทําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคา 71.8 267 กรัม/กิโลกรมั 9 เทา กับ และ ตามลาํ ดับ ไปเ สา (Radix Paeoniae Alba) คอื รากแหงของพชื ทม่ี ีชอ่ื วทิ ยาศาสตรว า Paeonia lactiflora Pall. วงศ Ranunculaceae7 มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดน้าํ มีฤทธ์ิเสริมภูมิคุมกัน เม่ือฉีดสารสกัดกลุมไกลโคไซด รวม (total glycosides) เขาชองทองหนูถีบจักร พบวาขนาดของสารสกัดท่ีมีผลระงับปวดไดรอยละ 50 (ED50) มคี า เทากับ 5-40 มิลลิกรมั /กิโลกรมั และเมอื่ ฉีดสารสกดั ดงั กลาวเขากลา มเนือ้ หนูถีบจักรใน ขนาด 20-40 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พบวา หนถู บี จกั รมีอาการสงบลง10 สารพโี อไนโฟลริน (paeoniflorin) ในสารสกดั น้าํ มีฤทธ์ปิ องกันการแข็งตวั ของเลอื ด และตานอักเสบ สารสกดั น้ําเม่ือใหทางปากหนูถบี จักร กระตาย และหนตู ะเภา มฤี ทธิ์ตา นการหดเกร็งของลาํ ไสเล็กสวนปลายและมดลูก และสารสกดั ดังกลาว ยงั มีฤทธ์ปิ กปองตบั ในหนูถบี จักรและหนูขาว11,12

Page 164 ตาํ รบั ยาปรบั สมดุล: ซื่อหนสี้ า น 143 การศึกษาทางคลินิก: เมอื่ ใหสารสกัดกลุม ไกลโคไซดร วมแกผ ปู วยระบบภมู คิ มุ กนั บกพรอ งท่ี เกิดจากการปวยดวยโรคเรื้อรัง (เชน โรคปอดอักเสบ โรคหัวใจ โรครูมาติซ่มั เปนตน) จาํ นวน 65 ราย ติดตอกันทุกวันนาน 1 เดือน มีผลปรับสมดุลของระบบภูมิคุมกันได และเมื่อใหสารสกัดดังกลาวแก ผูป ว ยโรคตับอกั เสบชนิดบี จํานวน 85 ราย พบวาไดผ ลในการรักษาเชนกัน10 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลนั โดยการใหผ งยาทางปากหนถู บี จักร พบวา ขนาดของผงยาทท่ี ําใหหนูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทา กบั 81 กรมั /กโิ ลกรมั เมอ่ื ใหผงยาทาง ปากสนุ ัขวันละ 3 กรมั /กโิ ลกรมั ตดิ ตอ กันนาน 6 เดือน ไมพบอาการขางเคยี งหรืออาการผดิ ปกตใิ ด ๆ เมือ่ ฉีดสารสกัดกลมุ ไกลโคไซดร วมเขา ชอ งทอ งหนถู ีบจักรและหนูขาว พบวาขนาดของสารสกดั ทท่ี ําใหหนู ตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 125 และ 301 มิลลิกรมั /กิโลกรมั ตามลําดบั เมอ่ื ฉดี สารพโี อไนโฟลรนิ เขา หลอดเลอื ดดําและชอ งทอ งหนูถบี จกั ร พบวา ขนาดของสารทท่ี าํ ใหห นถู บี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคา เทียบเทา ผงยา 3.53 และ 9.53 กรมั /กโิ ลกรมั ตามลําดับ10 กันเฉา (จือ้ ) [ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผึ้ง (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คือ รากแหง ของพืชท่ี มชี ่ือวทิ ยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae7 เตรียมโดยนํานํ้าผ้ึงบรสิ ทุ ธ์ิมาเจือจางดวยนาํ้ ตมในปริมาณทเ่ี หมาะสม ใสช ะเอมเทศทห่ี ่ันเปน แวน ๆ หรือเปนชน้ิ ๆ ตามตองการ (อัตราสว นของสมนุ ไพร:นํา้ ผ้ึง เทา กับ 4:1) แลว คลกุ ใหเ ขากนั หมกั ไวส ักครเู พอ่ื ใหนา้ํ ผง้ึ ซึมเขา ในตวั ยา จากน้ันนาํ ไปผัดในภาชนะท่ีเหมาะสมโดยใช 13 ระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระทั่งมีสเี หลอื งเขม และไมเหนยี วตดิ มือ นําออกจากเตา แลว ตั้งทิ้งไวใ หเยน็ ชะเอมเทศมีคุณสมบตั เิ ปนกลางคอนขางเย็นเล็กนอย มีรสอมหวาน มีสรรพคุณระบายความ รอ น ขบั พษิ แกไอ ขบั เสมหะ โดยทัว่ ไปมักใชเขา ในตํารับยารักษาอาการไอมเี สมหะมาก พิษจากฝแผล คอบวมอกั เสบ หรอื พิษจากยาและอาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอนและขับพิษได หากนาํ มาผัด นาํ้ ผงึ้ จะทาํ ใหม คี ุณสมบัติอุน มรี สหวาน มสี รรพคุณบํารงุ มามและกระเพาะอาหาร เสริมช่ี ทาํ ใหการเตน ของชีพจรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารักษาอาการมามและกระเพาะ อาหารออนเพลีย ไมมีแรง ช่ีของหัวใจพรอง ปวดทอง เสนเอ็นและชีพจรตึงแข็ง ชีพจรเตนไมสม่ําเสมอ และชพี จรเตน หยดุ อยา งมจี ังหวะ มีรายงานผลการศกึ ษาเปรียบเทียบปรมิ าณกรดกลีไซรไรซกิ (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศท่ีผัดและไมไดผัดน้าํ ผ้ึง พบวาชะเอมเทศผัดนา้ํ ผึ้งจะมีปริมาณสารดังกลาวนอยกวา ชะเอมเทศที่ไมไ ดผ ดั รอ ยละ 47-60 ท้งั นข้ี ึน้ อยูก ับคณุ ภาพของเครือ่ งยา13 การศกึ ษาวจิ ยั ของชะเอมเทศ ผัดน้าํ ผ้ึง มดี งั นี้

Page 165 144 ตาํ รับยาจีนทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย การศึกษาทางเภสัชวิทยา: มีรายงานการศกึ ษาเปรยี บเทียบฤทธเ์ิ สริมภมู คิ ุมกันของชะเอมเทศ ท่ีผัดนา้ํ ผึ้งและไมไดผัด พบวาฤทธิเ์ สรมิ ภมู ิคุมกันของชะเอมเทศผัดน้าํ ผึ้งแรงกวาชะเอมเทศท่ไี มไ ดผัด มาก ดังน้ันชะเอมเทศผัดนาํ้ ผงึ้ จึงนับเปนตวั ยาที่มีสรรพคุณบํารุงชท่ี ีด่ ีท่สี ุดในทางคลนิ ิก13 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรัส ตัง้ อรา มวงศ, สุณี จรี ะจติ สมั พันธ, ธรี พงศ ต้ังอรามวงศ. ตาํ รบั ยาซ่อื หนส้ี า น. [เอกสารแปลเพ่ือการจัดทาํ ฐานขอมูลยาสมนุ ไพร จีน]. นนทบุรี: สถาบนั การแพทยไทย-จีน เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990. 5. Jiang J, Zhou C, Xu Q. Alleviating effects of si-ni-san, a traditional Chinese prescription, on experimental liver injury and its mechanisms. Biol Pharm Bull 2003; 26(8): 1089-94. 6. Liu SQ, Zhang SF. Sini san. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 7. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 8. Ma JK. Radix Bupleuri: cai hu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Li W. Fructus Aurantii Immaturus: zhi shi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Wang SX. Radix Paeonia Alba: bai shao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 12. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999. 13. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.

Page 166 ตํารับยาปรับสมดุล: เซยี วเหยาสาน 145 เซียวเหยาสา น (逍遥散) ตําราตนตํารบั 太平惠民和剂局方 ไทผงิ หยุ หมนิ เหอจจี้ ฺหวฟี าง (Prescription of Peaceful Benevolent Dispensary)1 « ค.ศ. 1151 Chen Shiwen (陈诗文 เฉินซือเหวิน) »2 สวนประกอบ Radix Bupleuri ไฉหู 15 กรมั Rhizoma Atractylodis Macrocephalae 15 กรมั 柴胡 Poria ไปจ ู 15 กรมั 白术 Rhizoma Zingiberis Recens Praeparata 3 กรัม 茯苓 Radix Glycyrrhizae Praeparata ฝหู ลิง 6 กรมั 生姜 (煨) Radix Angelicae Sinensis เซงิ เจยี ง (เวย) 15 กรมั 甘草 (炙) Radix Paeoniae Alba กนั เฉา (จือ้ ) 15 กรมั 当归 Herba Menthae ตังกุย 3 กรัม 白芍 薄荷 ไปเ สา ปอเหอ ตาํ รบั ยา เซยี วเหยาสาน (逍遥散)

Page 167 146 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบ อยในประเทศไทย ไฉหู (柴胡) 2 เซนตเิ มตร ไปจู (白术) 3 เซนติเมตร ฝหู ลิง (茯苓) 3 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร เซิงเจียง(เวย) [生姜](煨)] 2 เซนตเิ มตร 5 เซนตเิ มตร กนั เฉา(จือ้ ) [甘草(炙)] ตงั กุย (当归) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร ไปเสา (白芍) ปอ เหอ (薄荷)

Page 168 ตํารับยาปรบั สมดุล: เซียวเหยาสาน 147 วิธใี ช ใชเซิงเจียง (เวย) กับ ปอเหอ ตมกับนํ้า นาํ มาใชเปน นํ้ากระสายยาของตวั ยาอ่ืนทเี่ หลือซึง่ อบแหงและบดเปนผง รบั ประทานครง้ั ละ 6-9 กรมั หรือทาํ ในรปู ยาตม โดยปรับลดน้ําหนักยาลงครงึ่ หนึ่ง จากตํารับยาขา งตน1,3 การออกฤทธิ์ 1,3 คลายเครียด ผอนคลายชี่ของตับ เสริมเลือด และบํารุงมา ม สรรพคุณ รักษาอาการชี่ของตับติดขัดไมหมุนเวียน เลือดพรอง แสดงออกโดยมีอาการปวดชายโครง ปวดศรี ษะ ตาลาย ปากขม คอแหง ออ นเพลยี รบั ประทานอาหารไดน อย หรือมีอาการสะบัดรอนสะบัด 1,3 หนาว สตรปี ระจําเดือนมาไมป กติ แนนและตึงบริเวณทรวงอก ลน้ิ แดงซดี ชพี จรตงึ และพรอง ตํารับยานี้สามารถเพ่มิ หรอื ลดขนาดยาใหเหมาะสมในผปู วยรายท่มี เี ลอื ดพรอง ชี่ตบั ติดขัด แสดงออก โดยเปนโรคตับอักเสบเรือ้ รัง เย่ือหุมทรวงอกอกั เสบ โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรงั โรคประสาทออน และประจาํ เดือนผิดปกติ1,3 คําอธิบายตาํ รับ สมนุ ไพร ทําหนา ที่ รส คุณสมบตั ิ สรรพคุณ 柴胡 ไฉหู ตวั ยาหลัก ขมเผด็ เย็น ขับกระจายลดไข แกต วั รอ น ผอ น 白术 ไปจู เล็กนอ ย คลายตับ และชว ยใหห ยางช่ีขน้ึ สู 茯苓 ฝูหลงิ (โปงรากสน) สว นบน ผอนคลาย คลายเครียด 生姜 (煨) ตวั ยาเสริม ขม อนุ บํารงุ ช่ี เสริมมา มใหแ ขง็ แรง แก อมหวาน ความชื้น ระบายนํ้า ระงับเหง่ือ เซิงเจียง (เวย) กลอมครรภ (ขิงสดปง ) ตวั ยาเสริม หวาน กลาง ระบายความช้ืนและน้ํา เสรมิ มา ม เล็กนอ ย ใหแข็งแรง สงบจิตใจ ตวั ยาเสรมิ เผ็ด อุน ใหความอบอุนแกสวนกลาง (กระเพาะอาหาร) ระงบั อาเจยี น และ ใหความอบอนุ แกป อด ระงับไอ

Page 169 148 ตํารับยาจีนที่ใชบ อ ยในประเทศไทย สมนุ ไพร ทําหนาท่ี รส คุณสมบัติ สรรพคณุ หวาน อนุ 甘草 (炙) กนั เฉา (จื้อ) ตัวยาเสรมิ หวานเผด็ อุน เสริมช่ี บํารุงสวนกลาง ปรับ (ชะเอมเทศผัดนํา้ ผ้ึง) ประสานตัวยาทั้งหมดใหเขากัน ขม เปรย้ี ว เยน็ บํารงุ เลือด ชว ยใหเ ลอื ดมกี าร 当归 ตังกุย ตัวยาชว ย อมหวาน เล็กนอย หมนุ เวยี น ปรบั ประจาํ เดอื น ระงับ (โกฐเชียง) ปวด ชว ยใหล าํ ไสมีความชมุ ชื้น เผ็ด เย็น เสริมยนิ เลอื ด ปรับประจาํ เดือน 白芍 ไปเ สา ตัวยาชว ย และปรบั สมดลุ ชข่ี องตับ ระงบั ปวด เกบ็ กกั ยนิ ช่ี ระงบั เหงอ่ื 薄荷 ปอเหอ ตวั ยานาํ พา ขับกระจายลมรอนท่ีกระทบตอ รา งกาย ระบายความรอ น ชวยให ศรี ษะและสายตาสดใส ลาํ คอโลง กระทุงโรคหัด ผอนคลายตับ คลายเครียด รูปแบบยาในปจจุบัน ยานํา้ ยาลูกกลอน ยาผง ยาตม4 ขอ มูลวิชาการท่เี กี่ยวของ ตํารบั ยาเซยี วเหยาสา น มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วิทยา: ตาํ รบั ยาเซยี วเหยาสา นมีฤทธปิ์ กปองตับ เพิ่มการหลง่ั นาํ้ ยอยใน กระเพาะอาหารในหนูขาว และลดอาการเกรง็ ของลาํ ไสกระตา ย4 การศกึ ษาทางคลินกิ : ตาํ รบั ยาเซยี วเหยาสานมสี รรพคณุ เดนชดั ในการปกปอ งตบั รักษาโรคตับ แขง็ ถงุ นาํ้ ดีอกั เสบเรอื้ รัง ลดอาการหดเกรง็ ชวยใหระบบการยอยอาหารดีขน้ึ เสริมความแขง็ แรงของ กระเพาะอาหาร ปรบั สภาพการทํางานของมดลกู บาํ รงุ เลือด และสงบจิตใจ1,3,4 การศกึ ษาความปลอดภัย: มรี ายงานการศกึ ษาพษิ เฉยี บพลนั ในหนูถบี จกั ร พบวา ขนาดของผง ยาเมอื่ ใหทางปากท่ที าํ ใหห นูถบี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทา กับ 20.77 กรมั /กโิ ลกรัม และขนาด สงู สุดของผงยาเม่อื ใหทางปากโดยไมพบหนูถบี จกั รตวั ใดตาย มีคาเทา กับ 200 กรัม/กโิ ลกรมั 4

Page 170 ตาํ รบั ยาปรบั สมดุล: เซียวเหยาสาน 149 ไฉหู (Radix Bupleuri) คอื รากแหง ของพชื ทม่ี ชี ื่อวทิ ยาศาสตรวา Bupleurum chinense DC. หรือ B. scorzonerifolium Willd. หรอื B. falcatum L. วงศ Umbelliferae5 มีรายงานการ ศกึ ษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดน้ําทางปากและฉีดเขากลามเน้ือกระตายในขนาด เทียบเทา ผงยา 18 กรัม/กโิ ลกรัม พบวามีฤทธริ์ ะบายความรอน เมอื่ ฉดี นํ้ามันหอมระเหยเขา ชองทอ ง หนูขาวในขนาด 100 มิลลิกรัม/กโิ ลกรมั พบวา มฤี ทธร์ิ ะบายความรอ นเชน กนั นอกจากนี้สารสกัดนาํ้ ยงั มี ฤทธ์ติ า นอักเสบและปกปองตับจากสารพิษในกระตา ย6 การศึกษาทางคลินิก: ผงยามีสรรพคุณลดไขจากโรคหวัดและไขหวัดใหญไดดี รักษาโรค เกย่ี วกบั ตับและถุงนํา้ ดี และตา นอักเสบ6 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันโดยฉีดสวนของสารสกัดแอลกอฮอล ท่ีละลายนํ้าได ความเขมขน รอยละ 10 เขาใตผิวหนงั หนถู ีบจักร พบวา ขนาดนอยทส่ี ดุ ที่ทาํ ใหหนถู บี จักร ตายมีคาเทากบั 110 มลิ ลิกรมั /กิโลกรมั เมอ่ื ใหสารแซโพนนิ (saponin) ซง่ึ เปนองคประกอบทางเคมี ของไฉหทู างปาก ฉีดเขา ใตผวิ หนงั ฉีดเขาชอ งทอง และฉีดเขาหลอดเลือดดําหนูถีบจักร พบวา ขนาดของ สารแซโพนนิ ท่ที ําใหห นถู ีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทา กบั 4.70, 1.90, 0.11 และ 0.07 กรมั /กิโลกรมั ตามลําดบั และเมื่อฉดี สารดงั กลาวเขาชองทอ งหนูตะเภา พบวา LD50 มีคา เทา กับ 58.3 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรัม6 ไปจู (Rhizoma Atractylodis Macrocephalae) คือ ลาํ ตนใตดินแหงของพืชที่มีช่ือ วทิ ยาศาสตรวา Atractylodes macrocephala Koidz. วงศ Compositae5 มีรายงานการศึกษาวิจยั ดา นตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ผงยามีฤทธ์ิปกปองตับและเพ่ิมการทํางานของระบบภูมิคุมกันใน หนูถบี จกั ร สารสกดั นาํ้ เมอื่ ใหห นถู ีบจกั รทางปากในขนาดเทียบเทาผงยา 6 กรมั /กโิ ลกรมั มผี ลเพ่มิ นา้ํ หนักตัวและความทนทานของหนูถีบจักร นอกจากนี้สารสกัดน้ํายังมีฤทธ์ิขับปสสาวะในหนูขาว กระตา ย และสนุ ัข7 การศกึ ษาทางคลินกิ : ผงยามฤี ทธขิ์ บั ปสสาวะ รกั ษาอาการตบั แข็ง และโรคทองมาน (มนี ํ้าขงั ในชอ งทอ ง)7 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูขาวโดยการฉีดสารสกัดนํา้ เขา ชองทอง พบวาขนาดของสารสกัดเทียบเทาผงยาที่ทําใหหนูขาวตายรอยละ 50 (LD50) มีคามากกวา

Page 171 150 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบ อ ยในประเทศไทย 13.3 กรัม/กิโลกรมั และเมอ่ื ใหส ารสกัดน้ําทางปากหนขู าวในขนาด 0.5 กรมั /กโิ ลกรมั ทุกวนั ตดิ ตอ กนั นาน 30-60 วนั ไมท าํ ใหเกิดอาการพิษใด ๆ8 ฝูหลิง [โปงรากสน (Poria)] คือ เห็ดที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกัดนา้ํ มีฤทธิส์ งบประสาทในหนถู ีบจักร คลายกลามเนอ้ื เรยี บ 8 เม่ือใหผงยาทางปากหนูถีบจักรในขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มีผลยับยั้งอาการ ของลาํ ไสกระตาย ผวิ หนงั อักเสบ สารสกดั นาํ้ ตาลเชิงซอนเม่ือใหทางปากหนูถีบจกั รในขนาด 250, 500 และ 1,000 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรมั วันละคร้งั ติดตอ กนั นาน 7 วัน มฤี ทธิ์เสริมมา มใหแขง็ แรง และเม่ือฉสี ารสกัด 70% แอลกอฮอลเขา ชอ งทอ งกระตายในขนาด 0.5 กรัม/กิโลกรมั วันละครั้ง ติดตอกันนาน 5 วัน มีฤทธ์ิ ขบั ปสสาวะ นอกจากน้ยี ังพบวาเมอื่ ฉดี ยาเตรียมเขา ใตผวิ หนงั หนขู าวในขนาดเทียบเทาผงยา 1.4 กรมั / กิโลกรมั วันละคร้ัง ตดิ ตอ กันนาน 8 วนั มีผลปกปองตบั ได9 การศึกษาทางคลนิ ิก: สารสกดั นาํ้ สามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจติ ใจไมสงบชนิดเร้ือรัง และมีฤทธร์ิ ะบายความชน้ื และนาํ้ 9 เซิงเจยี ง (เวย) [ขงิ สดปง (Rhizoma Zingiberis Recens Praeparata)] คอื เหงา สดท่ปี ง แลว ของพชื ทีม่ ชี ื่อวิทยาศาสตรว า Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มี รายงานการศกึ ษาวิจัยดานตาง ๆ ดังน้ี การศกึ ษาทางคลินกิ : ขิงสดปง มีสรรพคณุ แกคลนื่ ไสอาเจียน แกกระเพาะอาหารอักเสบเรือ้ รัง แกทอ งเสยี 10 กันเฉา (จือ้ ) [ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผงึ้ (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คือ รากแหง ของพชื ท่ี มชี อื่ วิทยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรอื G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรยี มโดยนํานํ้าผึง้ บรสิ ทุ ธ์มิ าเจือจางดว ยนาํ้ ตมในปรมิ าณที่เหมาะสม ใสชะเอมเทศทห่ี ัน่ เปน แวน ๆ หรือเปน ชิ้น ๆ ตามตอ งการ (อตั ราสวนของสมนุ ไพร:นา้ํ ผ้งึ เทากบั 4:1) แลวคลกุ ใหเขากัน หมกั ไวสกั ครูเพื่อใหน ํา้ ผึง้ ซึมเขาในตวั ยา จากนนั้ นาํ ไปผัดในภาชนะท่ีเหมาะสมโดยใช ระดบั ไฟปานกลาง ผดั จนกระทั่งมีสีเหลืองเขมและไมเ หนียวติดมือ นําออกจากเตา แลว ตั้งทงิ้ ไวใ หเ ยน็ 11 ชะเอมเทศมีคณุ สมบตั ิเปน กลางคอ นขางเย็นเล็กนอย มรี สอมหวาน มีสรรพคุณระบายความ รอ น ขบั พษิ แกไอ ขับเสมหะ โดยทั่วไปมกั ใชเขา ในตํารบั ยารกั ษาอาการไอมีเสมหะมาก พิษจากฝแ ผล คอบวมอักเสบ หรือพษิ จากยาและอาหาร โดยสามารถชว ยระบายความรอนและขับพษิ ได หากนํามาผัด

Page 172 ตํารบั ยาปรบั สมดุล: เซียวเหยาสาน 151 นาํ้ ผงึ้ จะทําใหมคี ุณสมบตั อิ นุ มีรสหวาน มสี รรพคณุ บาํ รงุ มามและกระเพาะอาหาร เสริมช่ี ทาํ ใหก ารเตน ของชีพจรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารักษาอาการมามและกระเพาะ อาหารออ นเพลยี ไมม แี รง ชข่ี องหวั ใจพรอง ปวดทอ ง เสน เอน็ และชพี จรตงึ แขง็ ชพี จรเตนไมส มา่ํ เสมอ และชีพจรเตน หยุดอยา งมีจังหวะ มีรายงานผลการศกึ ษาเปรยี บเทียบปรมิ าณกรดกลีไซรไ รซกิ (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศท่ผี ัดและไมไ ดผัดนํ้าผง้ึ พบวา ชะเอมเทศผัดน้ําผงึ้ จะมีปรมิ าณสารดงั กลาวนอ ยกวา ชะเอมเทศทไ่ี มไดผดั รอ ยละ 47-60 ท้งั นขี้ ้นึ อยูกับคณุ ภาพของเครอ่ื งยา11 การศกึ ษาวจิ ัยของชะเอม เทศผัดนํา้ ผ้ึง มีดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: มีรายงานการศกึ ษาเปรียบเทยี บฤทธเ์ิ สริมภมู คิ ุมกันของชะเอมเทศ ทีผ่ ัดนาํ้ ผง้ึ และไมไ ดผ ดั พบวาฤทธเิ์ สรมิ ภมู ิคุมกนั ของชะเอมเทศผดั นํา้ ผึง้ แรงกวาชะเอมเทศท่ีไมไดผ ดั มาก ดังนนั้ ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผง้ึ จึงนบั เปน ตวั ยาท่มี สี รรพคณุ บํารุงชที่ ่ีดีทสี่ ดุ ในทางคลนิ ิก11 ตังกยุ [โกฐเชยี ง (Radix Angelicae Sinensis)] คอื รากแหง ของพชื ที่มชี ่ือวิทยาศาสตรว า Angelica sinensis (Oliv.) Diels วงศ Umbelliferae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดน้ํามฤี ทธิย์ ับยัง้ การรวมตัวของเกลด็ เลอื ดและการปลอย สารเซโรโทนิน (serotonin) ในหนูขาว12 เมื่อฉีดสารสกัดนํ้าเขาหลอดเลือดดาํ สุนัขในขนาดเทียบเทา ผงยา 10 กรัม/กโิ ลกรัม พบวามฤี ทธก์ิ ระตนุ การหดตวั ของกลา มเนื้อเรยี บกระเพาะปสสาวะ ลาํ ไส และ มดลูก เม่อื ฉดี สารสกดั นา้ํ และสารสกดั แอลกอฮอลเขาหลอดเลือดดําแมว หนขู าว และกระตา ย พบวา มี ฤทธเิ์ พม่ิ การหดตัวของกลามเน้ือเรยี บของมดลกู นอกจากน้ยี งั พบวา สารพอลแิ ซกคาไรด (polysaccharide) มฤี ทธ์ิกระตนุ การสรางเมด็ เลือด13 การศึกษาทางคลินิก: เม่ือใหสารสกัดนํ้าครั้งละ 5 มิลลิลิตร วันละ 3 คร้ัง ติดตอกันนาน 1 สปั ดาห จะลดอาการปวดประจาํ เดอื น และชว ยขบั ประจําเดอื น จงึ ไมค วรใชกบั ผูป ว ยทีใ่ ชย าปองกนั เลือดแข็งตัว สารสกัดนํา้ ยังมฤี ทธก์ิ ระตนุ กลามเน้ือเรียบของมดลกู และลดความหนดื ของเลือดในสตรี และเมื่อฉีดสารสกัดนํา้ เขาหลอดเลือดดําผูปวยจาํ นวน 40 ราย ในขนาด 240 มิลลิลิตร/คน/วัน ติดตอ กนั นาน 30 วนั ไมทําใหเ กดิ อาการผิดปกติใด ๆ13 การศกึ ษาความปลอดภัย: เม่ือฉีดสารสกัดเขาหลอดเลอื ดดาํ หนถู ีบจกั ร พบวา ขนาดสารสกดั เทียบเทาผงยาที่ทําใหหนูถบี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทา กับ 100.6 กรมั /กโิ ลกรมั 14 ไปเสา (Radix Paeoniae Alba) คือ รากแหงของพชื ทีม่ ชี อ่ื วทิ ยาศาสตรว า Paeonia lactiflora Pall. วงศ Ranunculaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี

Page 173 152 ตํารบั ยาจีนที่ใชบอยในประเทศไทย การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดนํา้ มฤี ทธเ์ิ สรมิ ภมู ิคมุ กัน เมื่อฉีดสารสกดั กลุม ไกลโคไซด รวม (total glycosides) เขาชอ งทองหนถู ีบจกั ร พบวา ขนาดของสารสกดั ทีม่ ผี ลระงบั ปวดในหนถู ีบจักร ไดรอยละ 50 (ED50) มคี า เทา กบั 5-40 มลิ ลกิ รัม/กโิ ลกรมั และเมอื่ ฉดี สารสกดั ดงั กลาวเขา กลา มเนอื้ หนถู ีบจกั รในขนาด 20-40 มลิ ลิกรมั /กิโลกรัม พบวา หนถู บี จักรมีอาการสงบลง15 สารพีโอไนโฟลรนิ (paeoniflorin) ในสารสกดั นาํ้ มีฤทธิ์ปอ งกนั การแขง็ ตวั ของเลือด และตานอักเสบ สารสกดั น้าํ เม่ือให ทางปากหนถู บี จักร กระตาย และหนตู ะเภา มฤี ทธ์ิตานการหดเกรง็ ของลําไสเ ล็กสวนปลายและมดลูก และสารสกดั ดงั กลาวยงั มีฤทธ์ปิ กปอ งตับในหนูถีบจักรและหนขู าว8,16 การศึกษาทางคลนิ กิ : เม่ือใหสารสกัดกลุม ไกลโคไซดร วมแกผ ูป วยระบบภมู ิคุมกันบกพรอ งท่ี เกดิ จากการปวยดวยโรคเรือ้ รงั (เชน โรคปอดอักเสบ โรคหัวใจ โรครมู าติซมั่ เปนตน ) จาํ นวน 65 ราย ติดตอ กนั ทุกวันนาน 1 เดอื น มีผลปรับสมดุลของระบบภมู ิคุมกนั ได และเมื่อใหส ารสกดั ดงั กลา วแก ผูปว ยโรคตับอกั เสบชนดิ บี จาํ นวน 85 ราย พบวาไดผ ลในการรกั ษาเชนกัน15 การศึกษาความปลอดภยั : การศึกษาพิษเฉียบพลนั โดยการใหผ งยาทางปากหนถู บี จกั ร พบวา ขนาดของผงยาท่ที ําใหห นูถบี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทากบั 81 กรัม/กโิ ลกรัม เม่ือใหผงยา ทางปากสนุ ขั วันละ 3 กรัม/กโิ ลกรมั ตดิ ตอกันนาน 6 เดือน ไมพ บอาการขา งเคยี งหรอื อาการผดิ ปกตใิ ด ๆ เมื่อฉีดสารสกดั กลมุ ไกลโคไซดร วมเขา ชองทอ งหนูถบี จกั รและหนูขาว พบวาขนาดของสารสกัดที่ทาํ ใหห นูตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทากบั 125 และ 301 มิลลิกรมั /กิโลกรมั ตามลําดบั เมอื่ ฉดี สารพี โอไนโฟลรนิ เขาหลอดเลอื ดดําและชองทองหนถู บี จักร พบวาขนาดของสารท่ีทาํ ใหห นูถบี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทยี บเทาผงยา 3.53 และ 9.53 กรมั /กิโลกรมั 15 ตามลําดบั ปอ เหอ (Herba Menthae) คือ สว นเหนอื ดินทท่ี ําใหแหง ของพืชทม่ี ชี อื่ วิทยาศาสตรว า Mentha haplocalyx Briq. วงศ Labiatae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนา้ํ มีฤทธ์ิตานเช้ือไวรัสในกระตายและมีฤทธิ์ตานเช้ือ 17 แบคทเี รยี ในหลอดทดลอง น้าํ มันหอมระเหยมฤี ทธ์ิขับเสมหะและตานอักเสบในกระตาย การศึกษาทางคลนิ ิก: โดยทัว่ ไปปอเหอมักไมใชเด่ยี ว สวนใหญจะใชเปน สวนประกอบในตํารับ ยารักษาอาการไขหวดั คออักเสบ และโรคผวิ หนัง17 การศกึ ษาความปลอดภยั : มีรายงานการศกึ ษาพิษเฉียบพลันในหนถู บี จกั รและหนูขาวโดยการ ฉดี เมนทอล (จากธรรมชาติ) เขา ใตผ วิ หนงั พบวาขนาดของเมนทอลท่ที าํ ใหสัตวทดลองตายรอ ยละ 50

Page 174 ตํารับยาปรบั สมดุล: เซียวเหยาสา น 153 (LD50) มีคามากกวา 5 และ 0.1 กรมั /กิโลกรมั ตามลําดับ และเมอื่ ใหเมนทอลทางปากและฉีดเขา ชอ ง ทองแมว พบวา LD50 มคี า เฉล่ยี มากกวา 0.9 กรัม/กโิ ลกรมั 17 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรสั ต้งั อรา มวงศ, สุณี จรี ะจติ สัมพันธ, ธีรพงศ ตงั้ อรามวงศ. ตํารับยาเซียวเหยาสาน. [เอกสารแปลเพื่อการจัดทําฐานขอมูลยา สมุนไพรจีน]. สถาบันการแพทยไ ทย-จีน เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Liu SQ, Zhang SF, Wang L. Xiaoyao San. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Ma JK. Radix Bupleuri: cai hu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Zhou ZC. Rhizoma Atractylodis Macrocephalae: bai zhu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 9. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Zhao GB. Rhizoma Zingiberis Recens: sheng jiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001. 12. Tang W, Eisenbrand G. Chinese drugs of plant origin. 1st ed. Berlin Heidelberg: Springer-Verlag, 1992. 13. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.2. Geneva: World Health Organization, 2002. 14. Wang SX. Radix Angelicae Sinensis: dang gui. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 15. Wang SX. Radix Paeonia Alba: bai shao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 16. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999.

Page 175 154 ตาํ รบั ยาจีนทใ่ี ชบ อยในประเทศไทย 17. Du XM. Herba Menthae: bo he. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 176 ตาํ รับยาสมาน: ยฺว่ผี งิ เฟงสาน 155 ยวฺ ี่ผงิ เฟงสา น (玉屏风散) ตาํ ราตนตํารับ 丹溪心法 ตันซีซนิ ฝา (Danxi’s Experimental Therapy)1 « ค.ศ.1347 Zhu Danxi (朱丹溪 จูตันซี) »2 สวนประกอบ Radix Astragali Membranacei หวงฉี 30 กรัม 60 กรัม 黄芪 Rhizoma Atractylodis Macrocephalae ไปจ ู 30 กรมั 白术 防风 Radix Saposhnikoviae Divaricatae ฝางเฟง วธิ ีใช นําตวั ยาทั้งหมดมาบดเปนผงละเอยี ด รับประทานกับน้ําอุนวนั ละ 2 ครงั้ ครัง้ ละ 6-9 กรัม หรือ เตรยี มเปน ยาตม ซึง่ อาจจะปรบั ลดปริมาณยาตามสว นได1,3 การออกฤทธ์ิ เพิม่ ชี่ เสรมิ ภูมิคุม กัน ระงับเหงือ่ 1,3 สรรพคุณ ใชรกั ษาผูป ว ยทมี่ ีรางกายออนแอ ภูมิคุมกันตํา่ แพอ ากาศ เปนหวัดงาย เหง่ือออกเอง หนา ซีด ขาว กลวั ลม ลน้ิ ซดี และมีฝาขาว ชีพจรลอยและพรองออ น1,3 ตาํ รบั ยาน้ีสามารถเพมิ่ หรือลดขนาดยาไดตามความเหมาะสมข้ึนอยูกับความรุนแรงของอาการ ของโรค4 และสามารถใชในผปู ว ยท่มี เี หงื่อออกมาก ภมู แิ พ เย่ือจมกู อักเสบชนดิ เร้ือรัง เนื่องจากภมู ิคุมกัน ต่ํา หรอื ไขหวัดจากการกระทบลมภายนอก1,3

Page 177 156 ตํารับยาจนี ท่ใี ชบอยในประเทศไทย ตาํ รับยา ยวฺ ่ผี งิ เฟง สาน (玉屏风散) 2 เซนตเิ มตร ไปจู (白术) 3 เซนตเิ มตร หวงฉี (黄芪) 2 เซนตเิ มตร ฝางเฟง (防风)

Page 178 ตาํ รบั ยาสมาน: ยวฺ ผ่ี ิงเฟงสา น 157 คําอธบิ ายตาํ รับ สมนุ ไพร ทําหนาที่ รส คุณสมบตั ิ สรรพคุณ 黄芪 หวงฉี ตัวยาหลกั หวาน อุน บํารงุ ช่ีของปอดและมา ม เสริมภูมคิ ุมกัน 白术 ไปจ ู ตัวยาเสริม ขม อมหวาน เลก็ นอย ระงบั เหง่ือ 防风 ฝางเฟง ตวั ยาชว ย เผ็ด อุน เสริมมา ม มีฤทธิ์ทาํ ใหแ หง สลายความช้นื อมหวาน บํารุงช่ี เสริมฤทธขิ์ องหวงฉีใหแ รงขึ้น อนุ ชวยกระทุง ไขหวัดจากการกระทบลม เล็กนอ ย ภายนอก รูปแบบยาในปจ จุบนั 5 ยานา้ํ ลกู กลอนสารสกัด ยาผง ยาตม ขอควรระวงั ในการใช ไมควรใชตํารบั ยายวฺ ผี่ งิ เฟง สา นกับผปู ว ยที่มเี หงื่อออกตอนกลางคนื เนือ่ งจากยินพรอง1 ขอมูลวิชาการที่เกีย่ วของ ตาํ รับยายฺว่ีผงิ เฟงสาน มีรายงานการศึกษาวิจัยดา นตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: เม่ือใหส ารสกดั นํา้ ความเขม ขน เทียบเทา ผงยา 2 กรมั /มลิ ลลิ ิตร ทาง ปากหนถู บี จกั รขนาดเทยี บเทา ผงยา 30 กรัม/กิโลกรัม เปน เวลาติดตอ กนั 4 วนั มีผลชวยใหการ ไหลเวียนของเลอื ดดขี ้ึน และปรบั สมดุลของระบบภูมคิ มุ กัน โดยควบคมุ การแบงตัวของลมิ โฟซัยทจ าก มามของหนถู บี จักรในหลอดทดลอง ในกรณที ี่การทาํ งานของระบบภมู คิ มุ กันแกรง เกนิ ไป ตวั ยาฝางเฟง จะเสริมฤทธิ์ตัวยาหวงฉี ปรับการทํางานของระบบภมู คิ มุ กันใหเปน ปกติ และถา การทํางานของระบบ ภูมิคุมกันบกพรอง ตัวยาหวงฉีจะชวยเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของระบบภูมิคุมกัน ในขณะท่ีตัว 6 ยาไปจ แู ละฝางเฟง ไมมผี ลดังกลาว นอกจากนย้ี ังพบวาตํารบั ยายวฺ ี่ผงิ เฟง สานมีฤทธย์ิ บั ยัง้ เช้อื ไวรัส ไขหวดั ใหญบางชนิดในไก บรรเทาอาการเยอ่ื จมกู อักเสบในกระตาย ชวยชะลอความแกใ นหนูถบี จักร และควบคุมการทาํ งานของตอ มเหง่อื ในกระตา ย1,5 การศกึ ษาทางคลินิก: ตาํ รับยายฺว่ีผิงเฟงสานมีฤทธิ์เพ่ิมการทาํ งานของระบบภูมิคุมกันในอาสา สมัครสุขภาพดี6 สามารถปรับสมดุลของระบบภูมิคุมกัน รักษาอาการหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง

Page 179 158 ตํารบั ยาจนี ทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย เย่ือจมูกอักเสบเน่ืองจากภูมิแพ และบรรเทาอาการติดเช้ือระบบทางเดินหายใจในเด็ก5 ตามการแพทย แผนปจจุบนั ตํารบั ยาน้ีมสี รรพคุณรักษาโรคตดิ เชื้อในระบบทางเดินหายใจสวนบน หลอดลมอักเสบ เย่ือ จมกู อกั เสบจากการแพ เยือ่ จมูกอักเสบเรื้อรัง7 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาเม่ือใหผงยาทางปาก ขนาด 100 กรมั /กิโลกรมั ไมมหี นถู ีบจกั รตัวใดตาย ภายใน 24 ชั่วโมงหลงั จากไดร บั ยา และเม่อื ใหผงยา ขนาด 15 กรมั /กโิ ลกรมั เปนเวลาติดตอกนั นาน 14 วนั จะทําใหสัตวท ดลองเกดิ อาการทอ งเสยี เลก็ นอ ย แตการเคล่อื นไหวและการกินอาหารเปนปกติ และไมพบการเปลี่ยนแปลงที่ผดิ ปกตทิ างจลุ กายวภิ าคของ เนื้อเย่ือหัวใจ ตับ ปอด ไต และกระเพาะอาหารเม่ือเปรียบเทียบกับกลุมควบคุม การศึกษาในสุนัข พบวา เมอ่ื ใหผงยาทางปากในขนาด 264 กรัม/กิโลกรัม เปน เวลาตดิ ตอ กันนาน 3 เดือน ไมพ บอาการ ผดิ ปกติใด ๆ5 หวงฉี (Radix Astragali Membranacei) คือ รากแหง ของพชื ท่ีมีชื่อวทิ ยาศาสตรวา Astragalus membranaceus (Fisch.) Bge. วงศ Leguminosae-Papilionoideae8 มีรายงาน การศึกษาวิจัยดานตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกดั น้าํ ทางปากหนูถีบจักรขนาดเทียบเทา ผงยา 25 กรมั / กโิ ลกรมั เปนเวลาติดตอ กัน 5 วนั มฤี ทธ์เิ พ่มิ การทาํ งานของระบบภมู ิคมุ กนั และเมื่อใหใ นขนาดเทยี บเทา ผงยา 50 กรัม/กิโลกรัม มีผลชะลอความแกโดยการเพ่ิมจํานวนกรดอะมิโนท่ีจําเปนตอเซลลผิวหนัง 9 10 ทาํ ใหท นทานตอ การขาดออกซเิ จน นอกจากนี้ยงั พบวาผงยามีฤทธ์ปิ กปอ งตับในหนถู บี จกั ร การศึกษาทางคลนิ ิก: สารสกดั นํา้ สามารถลดอาการและระยะเวลาการเปนไขห วัดได และมฤี ทธิ์ กระตนุ ภมู ิคมุ กัน10,11 ยาชงสามารถรักษาโรคตบั อักเสบชนิดเรอ้ื รังได9 การศกึ ษาความปลอดภัย: สมุนไพรชนิดน้มี คี วามปลอดภยั 10 การศกึ ษาพษิ เฉียบพลันในหนู ขาว พบวา เม่อื ใหส ารสกดั นาํ้ ทางปากขนาดเทยี บเทา ผงยา 7.5 กรัม/กิโลกรัม ไมท ําใหเกิดอาการผิดปกติ ใด ๆ ภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากไดรับยา เมื่อฉีดสารสกัดน้ําเขาชองทองหนูขาว พบวาขนาด ของ สารสกัดเทียบเทาผงยาท่ีทําใหหนขู าวตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 40 กรมั /กโิ ลกรมั และเมือ่ ฉีด สารสกัดน้าํ เขาชอ งทองหนูขาวในขนาดเทียบเทาผงยา 0.5 กรัม/กิโลกรัม ทุกวนั เปนเวลาติดตอ กนั 30 วนั พบวา ทาํ ใหน ้ําหนักตวั ของสตั วทดลองเพิ่มขน้ึ แตไ มพบอาการผดิ ปกติใด ๆ และไมมีหนูตัวใดตาย9

Page 180 ตํารบั ยาสมาน: ยวฺ ่ีผงิ เฟงสาน 159 ไปจู (Rhizoma Atractylodis Macrocephalae) คอื ลาํ ตนใตดนิ แหง ของพชื ท่มี ชี ่ือวทิ ยาศาสตร วา Atractylodes macrocephala Koidz. วงศ Compositae8 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวทิ ยา: ผงยามฤี ทธ์ิปกปองตับและเพม่ิ การทาํ งานของระบบภมู คิ ุมกนั ในหนู ถบี จกั ร6 สารสกดั น้ําเมื่อใหหนูถบี จักรทางปากในขนาดเทยี บเทาผงยา 6 กรมั /กิโลกรัม มผี ลเพ่ิมน้ําหนัก ตัวและความทนทานของหนถู ีบจักร นอกจากนส้ี ารสกดั นา้ํ ยังมีฤทธ์ิขบั ปสสาวะในหนขู าว กระตาย และ สุนขั 10 การศกึ ษาทางคลินกิ : ผงยามฤี ทธข์ิ ับปส สาวะ รักษาอาการตบั แข็ง และโรคทองมาน (มนี ํา้ ขงั ในชองทอง)12 การศกึ ษาความปลอดภยั : มรี ายงานการศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนขู าวโดยการฉีดสารสกัดนํ้า เขาชองทอ ง พบวา ขนาดของสารสกัดเทียบเทา ผงยาทท่ี ําใหห นูขาวตายรอยละ 50 (LD50) มคี า มากกวา 13.3 กรัม/กโิ ลกรัม และเมือ่ ใหสารสกดั น้ําทางปากหนูขาวในขนาด 0.5 กรมั /กโิ ลกรัม ทุกวนั ตดิ ตอกนั นาน 30-60 วนั ไมท ําใหเ กิดอาการพิษใด ๆ10 ฝางเฟง (Radix Saposhnikoviae Divaricatae) คือ รากแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Saposhnikovia divaricata (Turcz.) Schischk. วงศ Umbelliferae8 มีรายงานการศึกษาวิจัย ดานตา ง ๆ ดังน้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: เมอื่ ใหสารสกดั นํา้ หรอื สารสกัดแอลกอฮอลความเขมขนรอยละ 20 ทางปากกระตายในขนาด 10 มลิ ลลิ ติ ร/กิโลกรัม พบวา มีฤทธิ์ลดไขไ ดด ี โดยสารสกดั น้าํ มฤี ทธ์ิแรงกวา สารสกัดแอลกอฮอล และเม่อื ฉดี สารสกดั น้ําเขา ชองทอ งกระตายในขนาดเทียบเทาผงยา 4.4 กรัม/ กโิ ลกรัม พบวา มฤี ทธิ์ลดไขเชน เดียวกัน เมอ่ื ฉดี สารสกัดแอลกอฮอลเขาชองทองหนูถีบจกั รในขนาด เทียบเทาผงยา 2 กรัม/กิโลกรัม พบวา มฤี ทธิ์ลดไขท่เี กดิ จากการตดิ เชื้อไอกรน เชอ้ื คอตบี และเชอื้ บาดทะยัก และเมอื่ ใหสารสกดั แอลกอฮอลทางปากและฉีดเขา ใตผ วิ หนงั หนถู บี จักรในขนาดเทียบเทา ผง ยา 21.8 และ 42.4 กรมั /กิโลกรมั ตามลําดับ 13 นอกจากนย้ี ังพบวา พบวา มีฤทธ์ริ ะงบั อาการปวดไดด ี ฝางเฟง มีฤทธย์ิ บั ย้งั เชื้อไวรสั ไขห วัดใหญบ างชนิด10 การศึกษาทางคลินิก: โดยทั่วไปฝางเฟงมักไมใชเดี่ยว สวนใหญจะใชเปนสวนประกอบใน ตํารับยารกั ษาอาการปวดศรี ษะ ไขหวัด อาการปวดเมื่อยตามมือเทา เนอื่ งจากลมช้ืน โรคระบบทางเดิน หายใจ และโรคระบบทางเดนิ อาหาร13

Page 181 160 ตาํ รับยาจีนท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย การศึกษาความปลอดภยั : การศึกษาพษิ เฉยี บพลันในหนูถีบจกั ร โดยการใหสารสกัดน้ําทาง ปากและฉดี เขาชอ งทอ ง พบวาขนาดของสารสกดั เทียบเทา ผงยาทีท่ าํ ใหหนถู บี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทากบั 213.8 และ 37.18 กรมั /กิโลกรัม ตามลาํ ดับ อีกการศึกษาหนึ่ง พบวา เมือ่ ใหสารสกัดนา้ํ โดย การฉดี เขาชอ งทอ ง ขนาดของสารสกัดเทียบเทา ผงยาทท่ี ําใหห นูถีบจักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทา กบั 112.8 กรัม/กิโลกรัม เมื่อฉดี สารสกัดแอลกอฮอล (โดยวิธีหมัก) เขา ชองทอ งและใตผ ิวหนงั หนู ถีบจกั ร พบวา ขนาดของสารสกัดเทียบเทาผงยาท่ที าํ ใหห นูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทากับ 11.80 และ 59.64 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดับ และเม่อื ฉีดสารสกดั แอลกอฮอล (โดยใชความรอ น) เขา ชอ งทองหนู ถบี จกั ร พบวาขนาดของสารสกัดเทียบเทา ผงยาท่ีทําใหหนูถบี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มี คาเทากบั 26.83 กรัม/กโิ ลกรมั 13 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรัส ตง้ั อรามวงศ, สุณี จรี ะจิตสัมพนั ธ, ธีรพงศ ตั้งอรามวงศ. ตาํ รบั ยายวฺ ี่ผิงเฟงสา น. [เอกสารแปลเพ่ือการจัดทําฐานขอมลู ยา สมนุ ไพรจนี ]. นนทบรุ ี: สถาบันการแพทยไทย-จนี เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Zuo YF, Zhu ZB, Huang YZ, Tao JW, Li ZG. Science of prescriptions. Nanjing University of Traditional Chinese Medicine and Shanghai University of Traditional Chinese Medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 5. Xin Y, Yuan XQ. Yupingfeng san. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 6. Poon PM, Wang CK, Fung KP, Fong CY, Wong EL, Lau JT, Leung PC, Tsui SK, Wan DC, Waye MM, Au SW, Lau CB, Lam CW. Immunomodulatory effects of a traditional Chinese medicine with potential antiviral activity: a self- control study. Am J Chin Med 2006; 34(1): 13-21. 7. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990. 8. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 9. Li DH. Radix Astragali: huang qi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993.

Page 182 ตํารบั ยาสมาน: ยฺวผี่ งิ เฟงสา น 161 11. Chang HM, But PPH. Pharmacology and application of Chinese materia medica. Vol.2. Singapore: World Scientific, 1987. 12. Zhou ZC. Rhizoma Atractylodis Macrocephalae: bai zhu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK. (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 13. Du XM. Radix Saposhnikoviae: fang feng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 183 162 ตาํ รับยาจีนทใ่ี ชบ อยในประเทศไทย ซือ่ เสินหวาน (四神丸) ตาํ ราตน ตํารับ 证治准绝 เจ้ิงจ้ือจุน จเฺ หวยี (Standard of Diagnosis and Treatment)1 « ค.ศ.1602 Wang Kentang (王肯堂 หวางเข่นิ ถัง) »2 สวนประกอบ Fructus Psoraleae ปูกจู อื 120 กรมั Semen Myristicae โรวโตว โคว 60 กรมั 补骨脂 Fructus Evodiae หวจู ยู หฺ วี 30 กรมั 肉豆蔻 (saturated and fried) (จิน้ เฉา) Fructus Schisandrae Chinensis อเู วย จ ื่อ 60 กรมั 吴茱萸 (浸炒) 五味子 วิธีใช นาํ ตวั ยาท้ังหมดมารวมกนั เติมเซงิ เจียง (生姜 ขงิ สด) 240 กรัม และตา เจา (大枣 พุทราจนี ) 100 ผล บดเปนผงละเอียด ใชนาํ้ เปน กระสายยาปน เปน ลูกกลอน รับประทานกบั นํา้ ตม สกุ หรือนํา้ ตมสกุ ผสมเกลอื เลก็ นอ ยกอ นนอนครงั้ ละ 9-12 กรมั หรอื ใชต ม เอานาํ้ ดมื่ โดยปรบั ลดนํา้ หนักยาลงจากตาํ รบั ยา ขา งตน 10 เทา1,3 การออกฤทธ์ิ เสริมความอบอนุ ท้งั ไตและมา ม เพิ่มความแข็งแรงใหล าํ ไส ชวยระงบั การขับถายโดยการเหนยี่ วรง้ั การบีบรดั ตวั ของลําไส1 ,3 สรรพคณุ รักษาอาการทอ งเสยี อนั เนือ่ งจากระบบไตและมา มพรอ ง ทองเสียตอนเชา ตรู เบือ่ อาหาร ถา ย เหลว อาหารไมยอย ปวดทอง มือเทาเย็น เม่ือยเอว ออนเพลีย ไมมีแรง ล้ินซีดจางและมีฝาขาวบาง ชพี จรจม เตน ชา ไมม ีแรง1,3 ตํารับยานี้สามารถเพ่ิมหรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคลาํ ไสอักเสบเร้ือรัง ลาํ ไสใหญ เปนแผลอักเสบหรอื เปน วณั โรคทีล่ ําไส และโรคปว ยเรื้อรังในผูสงู อายุ ซึ่งมีอาการทองเสยี เนอ่ื งจากหยาง ของมามและไตพรอ ง แกทอ งเสียตอนเชาตรู (ตีหา)1,3

ตาํ รับยาสมาน: ซอ่ื เสินหวาน Page 184 163 ตํารับยา ซอ่ื เสินหวาน (四神丸) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ปกู ูจือ (补骨脂) โรวโตวโคว (肉豆蔻) 2 เซนติเมตร หวูจูยฺหว(ี จิ้นเฉา) [吴茱萸(浸炒)] อูเวยจอ่ื (五味子) 2 เซนตเิ มตร เซิงเจยี ง (生姜) 2 เซนตเิ มตร ตาเจา (大枣) 2 เซนตเิ มตร

Page 185 164 ตํารับยาจีนท่ีใชบอ ยในประเทศไทย คาํ อธิบายตาํ รับ ทาํ หนาท่ี รส คณุ สมบัติ สรรพคุณ สมุนไพร ตัวยาหลกั เผ็ดขม อุน ทําใหเ ลอื ดหมนุ เวยี น เสรมิ หยาง 补骨脂 ปกู ูจือ ตัวยาเสริม เผด็ ของไต บาํ รุงมา ม หยดุ ถาย 肉豆蔻 โรว โตว โคว อนุ ใหความอบอุนกับมามและไต (ลกู จันทน) สมานลําไส ระงบั ทองรว ง 吴茱萸 (浸炒) หวูจูยฺหวี (จ้นิ เฉา) ตวั ยาเสรมิ เผ็ดอมขม รอน ใหความอบอุนกับมามและ 五味子 อูเวยจอ่ื (มพี ิษ กระเพาะอาหาร สลายความเยน็ เล็กนอ ย)* และความชน้ื ระงบั ปวด 生姜 เซิงเจยี ง (ขงิ สด) ตวั ยาชว ย เปรีย้ ว อนุ เกบ็ ช่ีของปอด เสริมธาตนุ ํา้ ของ 大枣 ตา เจา (พุทราจีน) อมหวาน ไต ระงบั เหงือ่ เหนย่ี วรง้ั อสจุ ิ ระงบั ถา ย สงบจติ ใจ ตวั ยานําพา เผด็ อนุ สลายความช้ืน ชวยใหการ ไหลเวียนของนาํ้ ในรา งกายดขี ึน้ ตวั ยานาํ พา อมหวาน อุน บาํ รงุ มามและกระเพาะอาหาร เสริมชี่ รูปแบบยาในปจจุบนั ยาลูกกลอน ยาเมด็ ยาผง ยาตม4 ขอหา มใช ตาํ รับยาน้ีหา มใชในผูปวยโรคทองรวงอันเนอื่ งมาจากอาหารไมยอย หรือมีความรอ นสะสมใน กระเพาะอาหารและลําไส1 ,3 ขอมูลวิชาการท่ีเกีย่ วขอ ง ตํารับยาซ่ือเสนิ หวาน มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังน้ี * หวจู ยู หฺ วี เปนสมุนไพรที่มพี ษิ เล็กนอย ตองฆา ฤทธยิ์ ากอ นใช

Page 186 ตํารบั ยาสมาน: ซอื่ เสนิ หวาน 165 การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดน้ํามีฤทธ์ิแกทองเสียในกระตายที่เกิดจากหยางของมาม และไตพรอง1,4 การศึกษาทางคลินิก: ตาํ รับยาซื่อเสินหวานมีสรรพคุณปกปองเยื่อเมือกของกระเพาะอาหาร และลําไส เสรมิ หยางของมามและไต ระงบั ทอ งรว ง เหนี่ยวรัง้ การหลงั่ เรว็ ของอสจุ แิ ละการขับปส สาวะ บรรเทาอาการแพ และแกไ อหอบ1,3,4 ปกู ูจอื (Fructus Psoraleae) คือ ผลสุกแหงของพชื ทีม่ ชี ่อื วิทยาศาสตรว า Psoralea corylifolia L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae5 มรี ายงานการศกึ ษาวิจัยดา นตาง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: สารคอรีลิฟอลนิ นิ (corylifolinin) ซึง่ เปน สารสําคัญในปกู จู อื่ มฤี ทธิ์ ชวยเพิ่มการไหลเวยี นของเลือดทไ่ี ปเลี้ยงหวั ใจของหนตู ะเภา และสารโซราเลน (psoralen) มฤี ทธิต์ า น เชอ้ื จุลินทรยี 6 การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดเอทานอลความเขมขน 30% มีสรรพคุณรักษาโรคหูด กลาก ผ่ืนแดงและแผลพพุ องชนดิ เรื้อรงั อาการเลอื ดออกทม่ี ดลกู และโรคหลอดลมอกั เสบชนิดเรอื้ รงั 6 การศึกษาความปลอดภัย: เม่อื ใหนํา้ มนั ปกู ูจ อื ทางปากหนูถบี จกั ร พบวาขนาดของนา้ํ มัน เทยี บเทาผงยาท่ีทาํ ใหหนูถบี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทากบั 38.0 กรมั /กิโลกรัม เมือ่ ใหสาร บาคชู ิออล (bakuchiol) และสารไอโซโซราเลน (isopsoralen) ซ่ึงเปน องคป ระกอบทางเคมีของปกู จู ือ ทางปากหนูถีบจกั ร พบวา ขนาดของสารเทยี บเทา ผงยาที่ทําใหห นูถบี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี า 2.3 180 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรมั 6 เทา กับ และ ตามลาํ ดบั โรวโตว โคว [ลูกจันทน (Semen Myristicae)] คือ เน้ือในเมล็ดแหงของพืชทม่ี ชี อื่ วิทยาศาสตร วา Myristica fragrans Houtt. วงศ Myristicaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจัยดา นตาง ๆ ดังนี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: สารสกดั เอทานอลมฤี ทธิ์ตานเชอ้ื จุลินทรยี  นํ้ามนั ลกู จนั ทนส ามารถ ยับย้ังการจับตัวของเกล็ดเลือดได สารสกัดของเปลือกเมล็ดแสดงฤทธิ์ตา นอักเสบในสัตวท ดลอง7 การศกึ ษาทางคลินิก: ลูกจันทนม ีสรรพคุณแกท อ งเสยี ชนิดเรื้อรัง แกปวดทอ ง อาหารไมยอ ย อาเจียน มีรายงานวา เมื่อรบั ประทานผงลกู จนั ทนขนาด 7.5 กรัม อาจทําใหเกดิ อาการวิงเวยี นศีรษะ คลืน่ ไส อาเจยี น ปากแหง นอนไมห ลบั หากรับประทานในขนาดสูงมากอาจทาํ ใหต ายได7 การศกึ ษาความปลอดภัย: เมอ่ื ใหสารสกดั อีเทอรท างปากแมว พบวา ขนาดของสารสกดั ทท่ี าํ ให แมวตายมคี า เทากบั 0.5-1 มิลลลิ ติ ร/กโิ ลกรัม และเม่อื ใหผงยาทางปากแมวในขนาด 1.8 กรัม/กิโลกรมั อาจทาํ ใหเ กดิ อาการประสาทหลอน และถงึ ตายไดภ ายใน 24 ชวั่ โมง7

Page 187 166 ตํารับยาจีนทใ่ี ชบอ ยในประเทศไทย หวูจยู ฺหวี (จิน้ เฉา) (Fructus Evodiae) คอื ผลใกลส กุ แหงของพชื ทมี่ ีชื่อวิทยาศาสตรว า Evodia rutaecarpa (Juss.) Benth. หรือ E. rutaecarpa (Juss.) Benth. var. officinalis (Dode) Huang หรือ E. rutaecarpa (Juss.) Benth. var. bodinieri (Dode) Huang วงศ Rutaceae5 หวจู ูยหฺ วี เปน สมุนไพรท่มี พี ษิ เลก็ นอย ตอ งฆาฤทธ์ิยากอ นใช โดยนาํ หวูจยู ฺหวใี สล งในนา้ํ ตมชะเอมเทศในขณะรอ น แช จนกระท่งั น่ิมและแตกออก หรอื ตมใหเดอื ดจนกระทง่ั สามารถมองเหน็ เนื้อใน ตมตอ จนนํ้าแหง จากนน้ั นําไปผัดโดยใชร ะดบั ไฟปานกลางจนกระทั่งแหง หมาด ๆ นําออกจากเตา แลว นาํ ไปทําใหแ หง (หวูจูยหฺ วี 100 กิโลกรมั ใชช ะเอมเทศ 6.5 กโิ ลกรมั )8 มีรายงานการศกึ ษาวิจยั ดานตา ง ๆ ดังนี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดนาํ้ ที่มคี วามเขมขน 0.4 มิลลกิ รมั /มิลลลิ ติ ร มฤี ทธิ์กระตนุ การบีบตัวของลําไสกระตาย แตท่ีความเขมขน 1.2 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร กลับมีฤทธ์ิลดการบีบตัวของ ลําไสก ระตา ย เม่อื ใหสารสกัดนาํ้ ทางปากหนถู ีบจกั รในขนาดเทยี บเทา ผงยา 20 กรัม/กิโลกรมั พบวา มี ฤทธ์ิแกท องเสีย นอกจากนี้สารสกดั น้าํ ยงั มฤี ทธย์ิ ับย้งั การเกดิ แผลในกระเพาะอาหารและตานอักเสบใน หนถู ีบจักรและหนูขาว แกปวดในหนูถบี จกั ร และปกปอ งตับในหนูขาว9 การศกึ ษาทางคลนิ ิก: หวจู ยู หฺ วีมีสรรพคุณแกอ าเจียน อาหารไมย อย แกทอ งเสยี ทีม่ สี าเหตุ จากมา มและกระเพาะอาหารเย็นพรอ งในเดก็ 9 การศึกษาความปลอดภัย: เม่ือฉดี สารสกดั น้ําเขาหลอดเลือดดําและชอ งทอ งหนูถบี จกั รขนาด เทยี บเทาผงยา 6.72 และ 22.4 กรมั /กโิ ลกรัม ตามลําดบั พบวาหนูถีบจักรเริ่มมีการตายเกิดขึ้น แตเ มือ่ ใหส ารสกัดน้ําทางปากขนาด 168 กรัม/กิโลกรัม ไมพ บวามหี นูถีบจักรตัวใดตาย9 อูเวยจ่ือ (Fructus Schisandrae Chinensis) คือ ผลสุกแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตร วา Schisandra chinensis (Turcz.) Baill. วงศ Magnoliaceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสชั วิทยา: เม่ือใหยาเตรยี มทางปากหนูถีบจักรในขนาดเทียบเทา ผงยา 10 กรมั / กิโลกรัม วันละคร้ัง ติดตอกันเปนเวลา 4 วัน สามารถปกปองตับจากความเปนพิษที่เกิดจากคารบอน เตตราคลอไรดไ ด และเมอ่ื ฉีดสารสกดั นา้ํ ความเขมขน 1:1 เขา หลอดเลือดดาํ สุนัขในขนาด 0.1-0.5 และ 0.5-1.0 มิลลิลิตร/กิโลกรัม มีฤทธ์ิกระตุนระบบทางเดนิ หายใจ ชว ยใหหายใจไดล กึ และเรว็ ขน้ึ 10 สาร สกดั นาํ้ และสารสกดั แอลกอฮอลม ฤี ทธิ์เพิม่ แรงบีบตวั ของกลามเนือ้ หวั ใจ11 ยาเตรียมอูเ วยจ ื่อยงั มฤี ทธ์ิ กระตนุ ประสาทสว นกลางหลายสว นในกบ12 การศึกษาทางคลินิก: ผงยาชวยใหการตอบสนองของรางกายคนปกติวองไวข้ึน ชวยเพ่ิม

Page 188 ตํารบั ยาสมาน: ซือ่ เสนิ หวาน 167 ประสทิ ธภิ าพในการทาํ งาน และชวยใหค นปกติและผูปวยโรคตาสามารถมองเห็นภาพไดชัดเจนขึ้น เม่ือใหผูปว ยโรคตบั อกั เสบเรือ้ รงั จาํ นวน 102 คน รบั ประทานยาผง พบวาการรกั ษาไดผลดี 72% ผปู ว ยสวนใหญจะหายเปนปกติภายในเวลา 25 วัน โดยไมแสดงอาการขางเคียงใด ๆ12 นอกจากนี้ อูเวยจ่ือยงั ใหผ ลในการรกั ษาโรคบดิ เรื้อรงั ในเด็กไดด ี โดยใหผ ปู วยรับประทานยาผงขนาด 0.25-2 กรัม หรอื ยาทิงเจอรอเู วยจ่ือความเขมขน 90% จาํ นวน 30-40 หยด หรอื สารสกัดขนาด 0.5 กรมั 10 การศึกษาความปลอดภัย: ขนาดของผงยาเมื่อใหทางปากหนูขาวที่ทาํ ใหเกิดพิษ คือ 10-15 กรมั /กิโลกรัม โดยทาํ ใหหนขู าวมีอาการไมส งบ นอนไมหลบั และหายใจขดั 12 เซิงเจยี ง (ขิงสด Rhizoma Zingiberis Recens) คือ เหงาสดของพชื ท่ีมชี อ่ื วทิ ยาศาสตรว า Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มีรายงานการศึกษาวิจัยดานตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: น้าํ ค้ันมีฤทธ์ิตานการอาเจียนไดผลดี และน้ําคั้นในระดับความ เขมขน ตา่ํ ๆ จะเพ่ิมแรงบีบตัวของลาํ ไสหนูโดยไมทาํ ใหความตึงตัวของลาํ ไสเปลี่ยนแปลง แตใ นระดบั ความเขมขนสงู ๆ จะลดแรงบบี ตัวและความตงึ ตัวของลาํ ไสอ ยา งชัดเจน รวมท้ังสามารถเพ่มิ แรงบีบตวั ของลําไสเลก็ สนุ ขั 13 นอกจากนนี้ า้ํ คั้นขิงแกย งั มฤี ทธยิ์ บั ย้ังเช้อื ราในชองปาก14 การศึกษาทางคลินิก: ขิงสดมีสรรพคุณรักษาโรคไขหวัดจากการกระทบลมเย็น แกคลื่นไส อาเจียน แกกระเพาะอาหารอักเสบเรอ้ื รงั แกท อ งเสีย15 การศกึ ษาความปลอดภยั : เมื่อฉีดนํา้ ค้ันขงิ สดความเขม ขน 20% เขาหลอดเลือดดําหนถู ีบจักร พบวา ขนาดทท่ี ําใหหนูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทา กบั 1.5 กรมั /กโิ ลกรมั อาการพิษที่ทาํ ให สตั วต าย คือ ชกั และหยุดหายใจ13 ตา เจา (พทุ ราจีน Fructus Ziziphi Jujubae) คอื ผลแหงของพืชท่มี ชี อ่ื วิทยาศาสตรวา Ziziphus jujuba Mill. วงศ Rhamnaceae5 มรี ายงานการศึกษาวิจยั ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกดั น้าํ มฤี ทธปิ์ กปองตับในกระตา ย ระงบั ไอ ขับเสมหะในหนู ถีบจักร16 การศึกษาทางคลินิก: สารสกดั นํ้ามีสรรพคณุ บรรเทาอาการเลอื ดค่งั โดยทวั่ ไปตาเจา มกั ไมใ ช เด่ียว สวนใหญจ ะเปน สวนประกอบในตํารบั ยาตา ง ๆ16 เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999.

Page 189 168 ตํารับยาจนี ทใี่ ชบอ ยในประเทศไทย 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. เย็นจติ ร เตชะดํารงสิน. ตํารับยาซอื่ เสนิ หวาน. [เอกสารแปลเพอื่ การจดั ทําฐานขอ มูลยาสมนุ ไพรจีน]. นนทบุรี: สถาบนั การแพทย ไทย-จีน เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Xin Y. Sishen Wan. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Di L. Fructus Psoraleae: bu gu zhi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Tao C, Lin ZB. Semen Myristicae: rou dou kou. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001. 9. Qu SY. Fructus Evodiae: wu zhu yu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Liu LD, Zhou ZC, Liu GT. Fructus Schisandrae: wu wei zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Huang KC. The pharmacology of Chinese herbs. 2nd ed. Boca Raton: CRC Press, 1993. 12. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 13. สถาบนั วิจัยสมนุ ไพร. เอกสารวิชาการสมุนไพร. นนทบุรี: กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ , 2543. 14. สรอ ยศริ ิ ทวบี ูรณ. ขงิ . ใน: บพิตร กลางกัลยา นงลักษณ สขุ วาณชิ ยศิลป.(บรรณาธิการ) รายงานผลการศกึ ษาโครงการ การ ประเมินประสิทธภิ าพและความปลอดภยั ของยาสมุนไพร. นนทบรุ ี: บริษทั เอส อาร พริน้ ตง้ิ แมสโปรดกั ส จาํ กดั , 2544. 15. Zhao GB. Rhizoma Zingiberis Recens: sheng jiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 16. Zhou ZC. Fructus Jujubae: da zao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 190 ตํารบั ยาใหความอบอนุ ภายในรางกาย: หล่ีจงหวาน 169 หลจ่ี งหวาน (理中丸) ตําราตน ตํารับ 伤寒论 ซางหานลุน (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจงจงิ่ ) »2 สว นประกอบ Rhizoma Zingiberis กนั เจยี ง 90 กรมั Radix Ginseng เหรินเซิน 90 กรมั 干姜 Rhizoma Atractylodis Macrocephalae ไปจู 90 กรัม 人参 Radix Glycyrrhizae Praeparata กันเฉา (จอื้ ) 90 กรมั 白术 甘草(炙) วิธีใช นําตวั ยาทง้ั หมดมาบดเปนผง ผสมเขา กับนาํ้ ผ้งึ แลว ปน เปนลกู กลอน รบั ประทานวนั ละ 2-3 ครั้ง ครัง้ ละ 9 กรัม รบั ประทานกบั น้าํ ตมสุก หรอื ใชตมเอานาํ้ ดืม่ โดยปรับลดน้ําหนกั ยาลงจากตํารับยา ขางตน 10 เทา1,3 การออกฤทธ์ิ เสรมิ ความอบอนุ ขบั ความเย็นทีส่ วนกลาง เสรมิ ชี่และพลงั บํารงุ มา มและกระเพาะอาหาร1,3 สรรพคณุ รกั ษาโรคมา มและกระเพาะอาหารออนแอ ซงึ่ มีอาการปวดทอ งนอ ย ชอบความอบอนุ หรือกด นาบทห่ี นา ทองแลวรสู ึกสบาย อจุ จาระใสเหลว ทองอดื รับประทานอาหารไดน อย คลน่ื ไสอ าเจยี น ล้ินซีด มีฝาขาว ชพี จรจม เล็ก หรอื หยางพรองและเสยี เลอื ด หรืออาการชัก หรอื สะดงุ ผวาในเด็กทีเ่ กิดจากโรค เรื้อรัง หรือหลงั ปว ยชอบมีนํ้าลายและเสมหะไหล หรอื หยางของสว นกลางพรอ ง ทําใหเ จ็บทรวงอก1,3 ตาํ รับยานี้สามารถเพมิ่ หรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคกระเพาะอาหารและลําไสอ ักเสบ เรื้อรัง ลาํ ไสเปน แผล การยอ ยอาหารไมด ี กระเพาะอาหารขยายตวั บวม หรือยอ ยต่าํ ลง มามและกระเพาะ อาหารพรอ งเยน็ กระเพาะอาหารและลาํ ไสอ กั เสบเฉียบพลนั 1,3

Page 191 170 ตาํ รับยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย ตาํ รับยา หล่ีจงหวาน (理中丸) กันเจียง (干姜) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร เหรินเซนิ (人参) 3 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร ไปจ ู (白术) กันเฉา(จ้อื ) [甘草(炙)]

Page 192 ตาํ รบั ยาใหความอบอุนภายในรางกาย: หล่ีจงหวาน 171 คําอธบิ ายตํารับ สมนุ ไพร ทาํ หนา ท่ี รส คุณสมบตั ิ สรรพคุณ 干姜 กนั เจยี ง (ขงิ แหง) ตวั ยาหลกั เผ็ด รอ น เสริมความอบอุน ขบั ความเย็น 人参 เหรินเซนิ และฟนฟูหยางชี่ของมามและ (โสมคน) 白术 ไปจู กระเพาะอาหาร สมานระบบ 甘草 (炙) กระเพาะอาหารทาํ ใหชี่ลงต่าํ กันเฉา (จ้ือ) ระงบั อาการคลน่ื ไสอ าเจยี น (ชะเอมเทศผดั นํา้ ผง้ึ ) ตวั ยาเสรมิ หวานอมขม อุน เสริมชี่ บํารงุ มา มและกระเพาะ เล็กนอย เล็กนอย อาหาร ตัวยาชว ย ขมอมหวาน อุน ใหความอบอุนกับระบบมาม บํารงุ มา ม ขับความชื้น ตวั ยานาํ พา หวาน อนุ เสริมชี่ บาํ รุงสวนกลาง ปรับ ประสานตวั ยาท้ังหมดใหเขา กัน รูปแบบยาในปจ จุบนั ยาลูกกลอนนํา้ ผง้ึ ยาลกู กลอนนํา้ ยาตม4 ขอควรระวังในการใช ตาํ รับยานีม้ ีฤทธิ์ใหความอบอนุ และแหง จงึ ไมเ หมาะทจี่ ะใชกับผปู วยโรคไขห วดั ตวั รอ น หรอื ธาตนุ ํ้านอย รอ นใน1,3 ขอ มูลวิชาการที่เก่ยี วขอ ง ตาํ รับยาหล่ีจงหวาน มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดน้ํามีฤทธิ์ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารของหนูขาว4 การศึกษาทางคลินิก: ตํารับยาหล่ีจงหวานมีสรรพคุณชวยใหระบบการทาํ งานของกระเพาะ อาหารและลําไส และการไหลเวียนของเลือดดีข้ึน เสรมิ พลงั การขบั พิษและของเสีย บรรเทาอาการเกรง็ แกปวด แกอ าเจยี น แกทอ งเสยี และขบั ปสสาวะ1,3,4

Page 193 172 ตํารับยาจีนทใ่ี ชบอ ยในประเทศไทย กนั เจียง [ขิงแหง (Rhizoma Zingiberis)] คอื เหงาแหง ของพืชทม่ี ีชื่อวิทยาศาสตรวา Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ัยดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัด 50 % เอทานอลทางปากหนถู บี จกั รในขนาด 25 มลิ ลกิ รมั /กิโลกรมั เปนเวลาติดตอกัน 7 วนั พบวา มฤี ทธก์ิ ระตุนภมู ิคมุ กนั เม่ือใหในขนาด 200 มลิ ลิกรัม/ กิโลกรัม พบวามีฤทธ์ิระงับปวดไดอยางมีนัยสําคัญ และเมื่อใหสารสกัดดังกลาวทางปากกระตายในขนาด 500 มิลลิกรัม/กโิ ลกรัม พบวา มีฤทธล์ิ ดไขมันในเลือดและมฤี ทธ์ิตา นการเกดิ ภาวะหลอดเลือดแขง็ สารสกัด อะซีโตนหรือ 50% เอทานอล เม่ือใหแกสุนัขทางปากในขนาด 25, 50, 100 และ 200 มิลลิกรัม/ กิโลกรมั สามารถลดจาํ นวนครั้งของการอาเจียนทีเ่ กิดจากยาตานมะเรง็ ได สว นผลตอ การชะลอการเร่มิ เกดิ การอาเจียนครงั้ แรกนัน้ เฉพาะสารสกัดอะซโี ตนขนาด 100 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรมั หรือสารสกดั 50% เอทานอล ขนาด 25, 50 และ 100 มิลลิกรมั /กโิ ลกรัม เทาน้นั ทีส่ ามารถชะลอการเรม่ิ เกิดการอาเจยี นไดอยา งมี นัยสาํ คัญ6 การศึกษาทางคลินิก: ผงขิงในขนาด 940 มิลลิกรัม มีประสิทธิภาพในการปองกันและลด 7 เม่อื ใหหญงิ มีครรภร ับประทานขงิ ผงบรรจุแคปซลู ขนาด 1 กรัม นาน 4 วัน อาการเมารถเมาเรือไดด ี ใหผลในการตา นการอาเจียนเนื่องจากต้งั ครรภ และไมพบอาการขางเคียงแตประการใด6 นอกจากนยี้ ัง พบวา ขงิ ชว ยบรรเทาอาการปวด และลดการบวมของขอ และยงั ทาํ ใหก ารทาํ งานของขอ ฟน ตวั ดขี ้ึนใน ผปู ว ยโรคปวดขอ รมู าตอยด และผปู ว ยที่มอี าการปวดหลงั เรอื้ รัง7 การศึกษาความปลอดภัย: ยังไมพบรายงานเกี่ยวกับการเกิดพิษจากการใชขิงแหงเพียงอยาง เดยี ว และผลจากการศึกษาทางคลนิ กิ ในผปู วยกลุมตา ง ๆ ไมพ บวาขงิ กอ ใหเกดิ อาการพษิ แตอ ยา งใด เม่ือ ใหส ารสกัดขงิ ดว ยนํ้ามันงาในขนาดสูงถึง 1 กรัม/กิโลกรัม แกห นขู าวทตี่ ง้ั ทอ งในชว งท่ตี ัวออ นมกี ารสราง อวัยวะ ไมพ บพษิ ตอตวั แมแ ละตวั ออ นในทอง6 เหรนิ เซิน [โสมคน (Radix Ginseng)] คือ รากแหงของพชื ท่มี ชี ่ือวทิ ยาศาสตรว า Panax ginseng C.A. Mey วงศ Araliaceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ัยดานตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดนํา้ ทางปากและฉีดเขาชองทองหนูถีบจักรใน ขนาดเทียบเทาผงยา 1-3 กรมั /กิโลกรัม มีผลชว ยใหห นูถบี จักรมคี วามจําดีข้ึน และมีรายงานวา โสมคนมี ฤทธเิ์ พ่มิ ประสิทธภิ าพของระบบภมู ิคุม กนั ของรา งกาย โดยกระตุนระบบภูมิคมุ กันของรางกายแบบไม เฉพาะเจาะจง นอกจากนีโ้ สมคนยังชวยปรบั การเตนของหัวใจใหกลบั สูภาวะปกตเิ ร็วข้นึ ทําใหเ หน่ือย 8 ชาลง และสามารถทํางานไดนานขึ้น

Page 194 ตํารับยาใหความอบอนุ ภายในรา งกาย: หลี่จงหวาน 173 การศึกษาทางคลินิก: เม่ือใหผูปวยที่มีอาการเครียดและออนเพลีย รับประทานยาเตรียม ทงิ เจอรจ ากรากโสมคนความเขม ขน 3% วันละ 3 ครง้ั คร้ังละ 5 มิลลิลติ ร รับประทานติดตอ กนั ทกุ วนั เปน เวลา 5-7 วนั พบวาอาการปวดศรี ษะ นอนไมหลบั เบือ่ อาหารดีขึ้นอยา งชัดเจน9 เมอื่ ใหผ ปู วยโรค โลหิตจางรับประทานสารสกดั ทกุ วนั วนั ละ 60-120 มิลลกิ รัม พบวา นอกจากประสิทธภิ าพการทาํ งานของ ไขกระดูกเพมิ่ ขน้ึ แลว ยงั ชว ยบรรเทาอาการออนเพลยี หรอื เมือ่ ยลา เบอ่ื อาหาร เวยี นศีรษะ หัวใจเตนเร็ว ของผปู ว ยใหดขี น้ึ ดวย นอกจากน้โี สมคนยังมสี รรพคุณชวยเพ่ิมสมรรถนะในการทาํ งานของรา งกายให สูงข้นึ ตานความเมื่อยลา และเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของระบบภมู คิ มุ กันของรางกาย8,10 การศึกษาความปลอดภัย: มรี ายงานการศึกษาพษิ เฉียบพลนั ในหนถู ีบจกั ร พบวาขนาดของ ผงยาและสารสกดั นา้ํ เมอ่ื ใหทางปากทที่ ําใหหนูถบี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทากบั 5 และ 1.65 กรัม/กิโลกรัม ตามลาํ ดบั 8 ไปจู (Rhizoma Atractylodis Macrocephalae) คือ ลาํ ตนใตด นิ แหง ของพชื ทมี่ ีชือ่ วิทยาศาสตร วา Atractylodes macrocephala Koidz. วงศ Compositae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจยั ดานตาง ๆ ดังน้ี การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: ผงยามฤี ทธิ์ปองกนั ตบั และเพม่ิ การทํางานของระบบภูมิคุมกันในหนู ถีบจักร11 สารสกดั นา้ํ เมอื่ ใหห นถู ีบจกั รทางปากขนาดเทียบเทาผงยา 6 กรัม/กิโลกรมั มผี ลเพม่ิ นํ้าหนกั ตวั และความทนทานของหนถู ีบจักร12 การศกึ ษาทางคลินิก: ผงยามฤี ทธ์ิขบั ปส สาวะ รักษาอาการตับแขง็ และโรคทองมาน (มีน้ําขงั ในชองทอ ง)13 การศกึ ษาความปลอดภัย: มีรายงานการศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนขู าวโดยฉดี สารสกดั นาํ้ เขา ชองทอง พบวา ขนาดของสารสกดั นา้ํ เทียบเทาผงยาท่ีทําใหห นูขาวตายรอยละ 50 (LD50) มีคา มากกวา 13.3 กรมั /กิโลกรัม และเมื่อใหสารสกดั นํา้ ทางปากหนขู าวในขนาด 0.5 กรัม/กโิ ลกรมั ทกุ วันติดตอ กัน นาน 30-60 วนั ไมทําใหเ กดิ อาการพิษใด ๆ12 กนั เฉา (จอ้ื ) [ชะเอมเทศผัดนา้ํ ผง้ึ (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คอื รากแหง ของพชื ทมี่ ชี อ่ื วทิ ยาศาสตรวา Glycyrrhiza uralensis Fischer หรอื G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรียมโดยนําน้ําผึ้งบรสิ ุทธิ์มาเจอื จางดวยน้าํ ตมในปริมาณทเ่ี หมาะสม ใสช ะเอมเทศท่ีหัน่ เปน แวน ๆ หรอื เปน ช้ิน ๆ ตามตอ งการ (อัตราสว นของสมนุ ไพร:น้ําผง้ึ เทากับ 4:1) แลว คลกุ ใหเ ขา กนั หมกั ไวส กั ครูเ พือ่ ใหน้ําผง้ึ ซึมเขา ในตัวยา จากนน้ั นําไปผัดในภาชนะที่เหมาะสมโดยใช ระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระทั่งมีสเี หลอื งเขมและไมเ หนยี วติดมือ นาํ ออกจากเตา แลวต้ังท้ิงไวใ หเ ยน็ 14

Page 195 174 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย ชะเอมเทศมีคุณสมบตั เิ ปนกลางคอนขางเยน็ เล็กนอ ย มรี สอมหวาน มสี รรพคณุ ระบายความ รอ น ขับพษิ แกไ อ ขับเสมหะ โดยท่วั ไปมักใชเ ขา ในตํารบั ยารักษาอาการไอมเี สมหะมาก พิษจากฝแผล คอบวมอกั เสบ หรอื พิษจากยาและอาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอนและขบั พษิ ได หากนํามาผดั น้ําผึง้ จะทําใหมคี ณุ สมบัตอิ นุ มีรสหวาน มีสรรพคณุ บาํ รุงมา มและกระเพาะอาหาร เสริมช่ี ทาํ ใหการเตน ของชีพจรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารักษาอาการมามและกระเพาะ อาหารออ นเพลียไมมแี รง ชขี่ องหัวใจพรอง ปวดทอ ง เสน เอน็ และชพี จรตงึ แขง็ ชีพจรเตนไมส มา่ํ เสมอ และชพี จรเตนหยุดอยางมจี ังหวะ มรี ายงานผลการศึกษาเปรยี บเทยี บปรมิ าณกรดกลไี ซรไ รซิก (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศที่ผัดและไมไ ดผ ัดนาํ้ ผึ้ง พบวา ชะเอมเทศผัดน้ําผงึ้ จะมีปริมาณสารดังกลาวนอยกวา ชะเอมเทศท่ีไมไดผัดรอยละ 47-60 ท้ังนี้ขึ้นอยูกับคุณภาพของเคร่ืองยา14 การศึกษาวิจยั ของชะเอม เทศผดั นํา้ ผง้ึ มีดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวทิ ยา: มีรายงานการศกึ ษาเปรยี บเทยี บฤทธเิ์ สรมิ ภมู คิ ุมกนั ของชะเอมเทศ ที่ผัดน้าํ ผึ้งและไมไดผัด พบวาฤทธ์เิ สรมิ ภมู ิคุมกันของชะเอมเทศผดั นาํ้ ผงึ้ จะแรงกวาชะเอมเทศท่ีไมไ ด 14 ผดั มาก ดังน้นั ชะเอมเทศผัดนํา้ ผงึ้ จึงนบั เปนตวั ยาทมี่ ีสรรพคณุ บาํ รุงชี่ทด่ี ีทสี่ ุดในทางคลินิก เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. มานพ เลศิ สุทธิรกั ษ. ตาํ รบั ยาหล่ีจงหวาน. [เอกสารแปลเพื่อการจัดทําฐานขอ มูลยาสมนุ ไพรจีน]. นนทบรุ ี: สถาบนั การแพทยไทย- จนี เอเชียตะวันออกเฉียงใต กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Ou YJH. Lizhong Wan. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. นงลักษณ สุขวาณิชยศิลป. ขิง. ใน: บพิตร กลางกัลยา นงลักษณ สุขวาณชิ ยศิลป. (บรรณาธิการ). รายงานผลการศึกษาโครงการ การประเมนิ ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาสมุนไพร. นนทบรุ ี: บรษิ ทั เอส อาร พริ้นต้ิง แมสโปรดักส จาํ กดั , 2544. 7. สถาบนั วจิ ยั สมนุ ไพร. เอกสารวชิ าการสมุนไพร. นนทบรุ ี: กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข, 2543. 8. Zhou QM, Wang Y, Wang BX. Radix Ginseng: ren sheng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 196 ตํารบั ยาใหความอบอุนภายในรางกาย: หลี่จงหวาน 175 9. Wang N, Minatogushi S, Arai M, Uno Y, Nishida Y, Hashimoto K, Xue HC, Fukuda K, Akao S, Takemoto G, Fujiwara H. Sheng-Mai-San is protective against post-ischemic myocardial dysfunction in rats through its opening of the mitochondrial KATP channels. Am J Chin Med 2001; 29(2): 367-75. 10. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999. 11. Poon PM, Wang CK, Fung KP, Fong CY, Wong EL, Lau JT, Leung PC, Tsui SK, Wan DC, Waye MM, Au SW, Lau CB, Lam CW. Immunomodulatory effects of a traditional Chinese medicine with potential antiviral activity: a self- control study. Am J Chin Med. 2006; 34(1): 13-21. 12. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 13. Zhou ZC. Rhizoma Atractylodis Macrocephalae: bai zhu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.

Page 197 176 ตํารบั ยาจนี ท่ีใชบอ ยในประเทศไทย หวจู ูยฺหวีทงั (吴茱萸汤) ตําราตนตํารบั 伤寒论 ซางหานลุน (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจง จิง่ )»2 สว นประกอบ Fructus Evodiae หวจู ูยหฺ วี (จ้ินเฉา ) 3 กรมั (saturated and fried) 吴茱萸 (浸炒) Radix Ginseng เหรินเซิน 6 กรมั Rhizoma Zingiberis Recens เซงิ เจียง 18 กรมั 人参 Fructus Ziziphi Jujubae ตาเจา 4 ผล 生姜 大枣 วธิ ีใช ตมเอานาํ้ ดื่ม1,3 การออกฤทธ์ิ เสริมอาการพรอง เสริมช่ี เพิ่มความอบอุนสวนกลาง ลดการไหลเวียนสวนทางลอยขึ้นของชี่ ระงบั อาเจียน1,3 สรรพคณุ รกั ษาอาการเย็นพรองของตับและกระเพาะอาหาร เมอ่ื รับประทานอาหารมีอาการกระอักกระอวน จุกล้ินป แนนหนาอกและอึดอัด หรอื ปวดกระเพาะอาหาร มอี าการอาเจยี น เรอเหม็นเปร้ียว ถา ยเปน บดิ มือเทาเย็น รอนรุมหนาอก จิตใจไมสงบ มือเทาเคลื่อนไหวไมเปนสุข ปวดศีรษะท่ีเสนลมปราณเช่ียยิน (ซานเจียวและตับ) ทําใหอาเจียนแตไมมีอะไรออก บวนน้ําลายเปนฟอง หรือปวดและรูสึกเย็นที่กลาง ศรี ษะ1,3 ตํารบั ยานีส้ ามารถเพมิ่ หรือลดขนาดยาใหเ หมาะสมในผูปว ยโรคกระเพาะอาหารอกั เสบเฉียบพลนั หรือเร้ือรัง กระเพาะอาหารและลาํ ไสเลก็ สว นบนเปน แผล ตับอักเสบ อาเจียนในขณะตั้งครรภ ปวดศีรษะ ขา งเดียว กลุมอาการของโรคซงึ่ มีสาเหตจุ ากตบั และกระเพาะอาหารพรอ งเย็น ภาวะหรืออาการทเ่ี กิดจาก 1,3 ยนิ ทไ่ี มปกตติ ีขนึ้ เบอ้ื งบน

ตาํ รบั ยาใหความอบอุนภายในรา งกาย: หวจู ยู หฺ วที งั Page 198 177 ตาํ รบั ยา หวูจูยฺหวที ัง (吴茱萸汤) 2 เซนตเิ มตร หวูจูยฺหว(ี จ้ินเฉา) [吴茱萸(浸炒)] 2 เซนตเิ มตร เหรินเซิน (人参) เซงิ เจียง (生姜) 3 เซนติเมตร ตา เจา (大枣) 2 เซนติเมตร

Page 199 178 ตํารบั ยาจนี ทใี่ ชบ อยในประเทศไทย คําอธิบายตํารับ สมนุ ไพร ทาํ หนาท่ี รส คุณสมบัติ สรรพคณุ 吴茱萸 (浸炒) ตวั ยาหลกั เผ็ดอมขม หวจู ยู ฺหวี (จ้ินเฉา ) ตวั ยาเสรมิ รอน (มีพษิ สลายความเย็น แกป วด อบอุน ตัวยาชว ย หวานอมขม เล็กนอ ย)* สว นกลาง ระงบั อาเจยี น เสริม 人参 เหรินเซิน เลก็ นอย (โสมคน) ตวั ยานาํ พา หยาง แกท อ งรว ง เผ็ด 生姜 เซิงเจียง อุนเล็กนอย เสรมิ พลงั ชี่ บํารงุ หัวใจและ (ขิงสด) หวาน มาม เสริมปอด สรา งธาตนุ ้ํา 大枣 ตา เจา ชว ยใหจ ิตใจสงบ (พทุ ราจีน) อนุ อบอนุ สวนกลาง ระงบั อาเจยี น กระทุงไขหวดั ขบั เหง่อื แกไอ ใหค วามอบอุน แกป อด เม่อื ใช รว มกับหวจู ูยฺหวีจะเพมิ่ ฤทธิ์ แกอาเจียนใหแรงขึ้น อุน บํารุงเสริมชสี่ วนกลาง บํารงุ โลหติ และสงบจติ ใจ ชว ยปรบั ฤทธิข์ องหวจู ยู หฺ วแี ละเซงิ เจยี ง ใหช า และออ นลง และเสรมิ ฤทธิ์ของเหรินเซนิ ใหแรงข้นึ รปู แบบยาในปจจบุ ัน ยาตม 4 ขอ แนะนาํ การใช 1. ผูปวยทีม่ ีอาการอาเจยี นคอนขางรุนแรง ควรรบั ประทานยาเมือ่ ยาเย็นแลว 1,3 2. ผูปว ยบางรายอาจมีอาการอาเจียนหลงั รบั ประทานยา ในกรณนี คี้ วรแนะนําใหผ ปู วยพักผอน แตโดยทั่วไปภายหลังรับประทานยาแลว ประมาณคร่ึงชัว่ โมง มกั มีอาการดขี ึ้นเอง1,3 * หวูจูยหฺ วี เปนสมนุ ไพรท่ีมพี ษิ เล็กนอ ย ตองฆา ฤทธิย์ ากอ นใช

Page 200 ตํารบั ยาใหความอบอนุ ภายในรา งกาย: หวจู ูยหฺ วีทงั 179 ขอหา มใช หา มใชในผปู ว ยท่ีมีความรอนคัง่ คา งในกระเพาะอาหาร หรอื อาเจยี นมรี สขม เรอเหม็นเปรย้ี วอัน เน่ืองมาจากมคี วามรอ นในรางกาย1,3 ขอ มลู วิชาการทเ่ี กยี่ วขอ ง ตาํ รบั ยาหวจู ยู หฺ วที งั มรี ายงานการศึกษาวิจัยดา นตาง ๆ ดังน้ี การศกึ ษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกดั นาํ้ มีฤทธติ์ า นอาเจียนในนกพริ าบ มฤี ทธิ์ยับยงั้ การเกดิ แผล ในกระเพาะอาหารในหนขู าว4 การศกึ ษาทางคลินิก: ตาํ รับยาหวจู ูยหฺ วที งั มสี รรพคุณกระตุนการไหลเวยี นโลหติ ของระบบทาง เดนิ อาหาร ลดอาการตึงของกลา มเนือ้ เรียบ คลายเกร็ง ระงบั อาเจยี น ระงับปวด ชวยยอ ยอาหาร ชว ยให 1,3,4 การทาํ งานของรา งกายดขี ึ้น หวจู ยู หฺ วี (จนิ้ เฉา) (Fructus Evodiae) คือ ผลใกลส ุกแหง ของพืชทมี่ ีชื่อวทิ ยาศาสตรวา Evodia rutaecarpa (Juss.) Benth. หรอื E. rutaecarpa (Juss.) Benth. var. officinalis (Dode) Huang หรือ E. rutaecarpa (Juss.) Benth. var. bodinieri (Dode) Huang วงศ Rutaceae5 หวจู ยู หฺ วี เปน สมุนไพรที่มีพิษเล็กนอย ตองฆาฤทธ์ิยากอนใช โดยนําหวูจูยฺหวีใสลงในนา้ํ ตมชะเอมเทศในขณะ รอน โดยใชหวูจูยฺหวี:ชะเอมเทศ เทากับ 100:6.56 แชจนกระท่ังน่ิมและแตกออก หรือตมให เดือดจนกระทั่งสามารถมองเห็นเน้ือใน ตมตอจนนาํ้ แหง จากนั้นนาํ ไปผัดโดยใชไฟระดับปานกลาง จนกระท่ังแหงหมาด ๆ นาํ ออกจากเตา แลวนาํ ไปตากหรอื อบใหแ หง มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา น ตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนา้ํ ท่คี วามเขม ขน 0.4 มลิ ลิกรมั /มลิ ลลิ ติ ร มฤี ทธก์ิ ระตนุ การบีบตัวของลําไสกระตาย แตที่ความเขมขน 1.2 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร มีฤทธ์ิลดการบีบตัวของลําไส กระตา ย และสารสกดั นา้ํ เมื่อใหท างปากหนถู ีบจกั รขนาดเทียบเทา ผงยา 20 กรมั /กโิ ลกรมั มีฤทธิ์แก ทองเสยี นอกจากนี้สารสกดั น้ํายงั มฤี ทธิ์ยับย้ังการเกิดแผลในกระเพาะอาหารและตานอักเสบในหนู ถีบจักรและหนขู าว ปกปองตับในหนขู าว และแกป วดในหนถู บี จกั ร7 การศึกษาทางคลินกิ : หวูจูยหฺ วีมสี รรพคณุ แกอ าเจียน อาหารไมยอย แกทอ งเสียทม่ี ีสาเหตุ จากมา มและกระเพาะอาหารเย็นพรอ งในเด็ก7