Page 51 30 ตํารับยาจีนที่ใชบ อยในประเทศไทย ยุคของประวัตศิ าสตรจนี (ตอ ) ยคุ ราชวงศซ ง (宋代) ป ราชวงศฉี (齐代) ราชวงศใ ต ราชวงศเ หลียง (梁代) ค.ศ. 420-479 (南朝) ราชวงศเ ฉิน (陈代) ค.ศ. 479-502 ค.ศ. 502-557 ราชวงศใ ตกบั เหนือ ราชวงศเ วยเหนอื ค.ศ. 557-589 ค.ศ. 386-534 (南北朝) ราชวงศเหนอื (北魏代) ค.ศ. 534-550 (北朝) ราชวงศเ วยต ะวันออก ค.ศ. 550-577 (东魏代) ค.ศ. 535-556 ค.ศ. 557-581 ราชวงศฉีเหนือ (北齐代) ค.ศ. 581-618 ค.ศ. 618-907 ราชวงศเ วยตะวันตก (西魏代) ค.ศ. 907-923 ค.ศ. 923-936 ราชวงศโจวเหนอื (北周代) ค.ศ. 936-946 ค.ศ. 947-950 ราชวงศสุย (隋代) ค.ศ. 951-960 ค.ศ. 960-1127 ราชวงศถ ัง (唐代) ค.ศ. 1127-1279 ค.ศ. 907-1125 ราชวงศโ ฮว เหลียง (后梁代) ค.ศ. 1115-1234 ค.ศ. 1206-1368 หา ราชวงศ ราชวงศโ ฮว ถัง (后唐代) ค.ศ. 1368-1644 (五代) ราชวงศโ ฮว จนิ้ (后晋代) ค.ศ. 1616-1911 ราชวงศโฮวฮ่ัน (后汉代) ค.ศ. 1912-1949 ค.ศ. 1949-ปจจบุ นั ราชวงศโฮว โจว (后周代) ราชวงศซ ง (宋代) ราชวงศซงเหนือ (北宋代) ราชวงศซงใต (南宋代) ราชวงศเ หลียว (辽代) ราชวงศจิน (金代) ราชวงศเ หวยี น (元代) ราชวงศห มิง (明代) ราชวงศช ิง (清代) สาธารณรฐั จนี (中华民国) สาธารณรฐั ประชาชนจนี (中华人民共和国)
Page 52 ประวตั กิ ารแพทยจนี 31 เอกสารทีใ่ ชประกอบการเรยี บเรยี ง 1. วิชยั โชควิวัฒน. ประวัติการแพทยจ ีนโดยสังเขป. วารสารการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 2547; 2(1): 73-92. 2. วิทิต วัณนาวิบลู . ประวัติการแพทยจนี . พมิ พค ร้งั ที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สาํ นกั พมิ พห มอชาวบาน จาํ กัด, 2548. 3. Chan KL. History of famous ancient Chinese doctors. 2nd ed. Hong Kong: The Institute of Present-Day Chinese Medicine, 1977. 4. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 5. Zhang E. Basic theory of traditional Chinese medicine I: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. Vol.I. 9th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999.
Page 53 32 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย บทท่ี 3 วิธกี ารรกั ษาโรคของแพทยแผนจนี วิธีการรักษาโรคของแพทยแผนจีนมีหลายวิธี ซึ่งแตละวิธีลวนมีจุดเดนในตัวเอง จาก ประสบการณอันยาวนานของแพทยแผนจีน ทาํ ใหการรักษาโรคคอย ๆ เปนระบบมากขึ้น โดยทั่วไป วิธกี ารรกั ษาโรคของการแพทยแ ผนจนี แบงเปน 8 วธิ ี ดังน้ี 1. วธิ ีขับเหงื่อ (汗法 ฮน่ั ฝา) วิธีขับเหง่ือ คือ การรักษาโรคดวยยาท่ีไปขจัดสาเหตุของโรคท่ีสวนนอกของรางกายใหออกไป จากรา งกายทางเหง่อื สวนมากใชร ักษากลมุ อาการ หรือโรคทเี่ กดิ จากสาเหตุภายนอกของรางกาย แบง เปน 2 วิธี คือ 1.1 วิธีขับเหงื่อดวยยาท่ีมีรสเผ็ดและมีคุณสมบัติเปนยารอน ใชรักษากลุมอาการโรค ภายนอกของรา งกายทีเ่ กิดจากลมและความเยน็ ซ่ึงมีอาการกลัวหนาว มไี ขต่าํ ๆ ปวดศรี ษะ และปวด เมอ่ื ยตวั 1.2 วิธขี บั เหงอ่ื ดวยยาทม่ี ีรสเผด็ และมีคุณสมบัติเปน ยาเย็น ใชร ักษากลุมอาการ หรือโรคท่ีมี สาเหตุจากภายนอกของรางกายท่ีเกดิ จากลมและความรอ น ซงึ่ มอี าการไขส งู เจ็บคอ และกระหายน้าํ การเสียเหง่ือมากจะทําใหสญู เสียยนิ และชไ่ี ปดว ย การรกั ษาโรคโดยวิธขี บั เหงือ่ จงึ ตองระมดั ระวงั เปนพิเศษในผูปวยทีม่ ยี ินพรอ ง ช่ีพรอ ง และ/หรอื เลอื ดพรอ ง ดงั น้ันหา มใชว ธิ ีขับเหงื่อในผูปวยทีม่ กี ลมุ อาการภายในของรางกายทมี่ ีโรคหวั ใจลม เหลว และในผูป วยทม่ี ีรางกายออ นแอมาก อน่งึ การใชยารสเผด็ รอ นตอ งไมใ หม ากเกินไป และตองปรบั ชนดิ และขนาดของยาขบั เหง่อื ให เหมาะสมกับลักษณะดินฟาอากาศในเขตรอ นดวย 2. วิธที ําใหอ าเจยี น (吐法 ถฝู า) วิธีทําใหอ าเจยี น คือ การรักษาโดยการขบั เสมหะ นาํ้ ลายท่ีคง่ั อดุ ตันอยใู นลาํ คอหรือทรวงอก ออกจากรางกายทางปาก ใชรกั ษาผูท อี่ าหารไมย อยหรือรับประทานสารพษิ เขาไป วธิ กี ารรักษาโดยทาํ ใหอ าเจยี นเปนการรักษาโรคฉกุ เฉนิ จึงควรใชเม่ือจาํ เปน จรงิ ๆ เทา น้นั เพราะการอาเจยี นทําใหสญู เสียยนิ และชี่ การอาเจียนทาํ ใหเ กิดการเปลย่ี นแปลงเฉยี บพลนั ของความดนั ในทรวงอกและทอ ง จึงหามใช
Page 54 วิธกี ารรักษาโรคของแพทยแผนจนี 33 วิธีกระตุนใหอาเจียนในผูปวยโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดแข็งตัว หลอดเลือดโปงพอง โรค กระเพาะอาหารเปนแผล วัณโรคปอดท่มี ีเลอื ดออกงาย หญงิ มีครรภ นอกจากนีค้ วรพิจารณาดวยความ ระมดั ระวังหากตอ งใชก ับผปู วยโรคหวั ใจ และผทู ่ีรางกายออนแอมาก 3. วิธรี ะบาย (下法 เซย่ี ฝา) วธิ รี ะบาย คือ การขบั สิ่งทค่ี ั่งคา งอยใู นกระเพาะอาหารและลาํ ไส ไดแ ก อาหารทีไ่ มย อย อุจจาระ ที่แขง็ ความเยน็ ค่ัง เลอื ดค่ัง หรือเสมหะและของเหลวคงั่ โดยการขับออกจากรางกายทางทวารหนกั มี 4 วิธี คือ 3.1 วธิ ีระบายดว ยยาท่มี คี ุณสมบัติเปนยาเยน็ เปน การระบายดว ยยารสขมเย็นหรอื เค็มเยน็ เปน หลกั รว มกับยาทช่ี วยไหลเวียนลมปราณ สว นมากใชรกั ษากลมุ อาการภายในของรา งกายท่เี กดิ จากความ รอนในระบบลมปราณ กลมุ อาการความรอนช้ืน หรือความรอนคง่ั ในกระเพาะอาหารและลําไส กลุม อาการไฟเพ่มิ สงู ทม่ี ีอาการเลอื ดออกงา ย อาหารเปน พิษ และการรับประทานสารพษิ 3.2 วิธีระบายดวยยาที่มีคุณสมบัติเปนยาอุน เปนการระบายดวยยารสเผด็ และอนุ เปนยาหลัก รวมกับยาระบายอื่น ๆ ยาจะชว ยเพ่ิมการไหลเวียนของเลอื ด เพม่ิ การบีบตวั ของทางเดนิ อาหาร และเพ่มิ การยอยอาหาร ใชร กั ษากลุม อาการหยางของมามและกระเพาะอาหารพรอ ง รกั ษาความเย็นสะสมใน กระเพาะอาหารและลําไส ซงึ่ มีอาการทองอืด ปวดเย็นในทอง ทองผกู และมอื เทาเยน็ 3.3 วิธีระบายดวยยาชวยเพิ่มความชุมช้ืนในลาํ ไสเปนหลัก จะใชรวมกับยาชวยใหลมปราณ ไหลเวียน ทาํ ใหอ ุจจาระนุมขับถา ยออกไดง าย ใชรกั ษาอาการทองผกู ในผปู ว ยทท่ี อ งผูกเปน ประจํา หรือ ทอ งผูกในระยะฟนไขหลังคลอด ผูสูงอายุ ผทู ม่ี รี างกายออ นแอ หรอื ผทู เี่ ปนริดสดี วงทวารหนกั 3.4 วิธีระบายดว ยยาขบั น้าํ ออกจากลาํ ไสอ ยา งรนุ แรง เปนการขบั น้าํ ทค่ี งั่ ภายในรา งกาย เชน น้ําในปอด ทองมาน ยาจะทําใหถา ยทอ งอยา งรนุ แรง จึงควรใชใ นผูทม่ี รี า งกายแข็งแรงเทานัน้ วธิ ีระบาย สว นมากใชรกั ษากลมุ อาการภายในของรางกายหรือความผิดปกตขิ องทางเดนิ อาหาร ถามีกลุมอาการโรคภายนอกรวมดวย หรือเปนกลุม อาการกง่ึ ภายนอกก่งึ ภายใน กค็ วรรกั ษาไปพรอมกนั มิฉะน้ันโรคจะลุกลามจากภายนอกเขาสภู ายในแลว ทาํ ลายลมปราณ ทาํ ใหโ รคเปน มากขึ้น วิธีน้เี ปน วิธี กาํ จัดสาเหตุของโรคทคี่ อนขางรุนแรงและรวดเร็ว มีผลขา งเคยี ง คือ ทาํ ใหยนิ พรอง จงึ ควรนาํ มาใชเมือ่ จาํ เปนเทาน้นั และควรใชด วยความระมดั ระวังในผูทีม่ ยี นิ พรอง ช่ีพรอง หญงิ มคี รรภ และหญงิ มีระดู 4. วธิ ปี ระสาน (和法 เหอฝา ) วิธีประสาน คือ วิธีรักษาโรคโดยการปรับความผิดปกติใหพอดี ทาํ ใหยิน-หยางกลับมาอยูใน
Page 55 34 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย สมดุล ชว ยเสรมิ ลมปราณตา นทานโรคและขจดั ลมปราณกอ โรค ทาํ ใหรางกายกลับเปน ปกติ ใชรักษา ความผดิ ปกติของเลือดและลมปราณของอวยั วะภายใน กลมุ อาการกึ่งภายนอกก่งึ ภายใน กลุมอาการ รอนปนเย็น ในทางคลินิก วิธีปรับสมดุลใชบ รรเทากลุมโรคซาวหยาง (少 阳 病) ปรบั สมดุลตับและ มา ม (ระบายตับ บาํ รุงมาม) ปรบั สมดุลตบั กบั กระเพาะอาหาร (สงบตบั ปรบั กระเพาะอาหาร) ปรับสมดลุ กระเพาะอาหารกบั ลําไส 5. วธิ ีใหค วามอบอุน (温法 เวนิ ฝา) วธิ ใี หความอบอนุ คือ การรักษาโรคโดยการใหความอบอุน ขับไลค วามเย็นในอวัยวะภายใน และเสนลมปราณ แบงเปน 3 วิธี คอื 5.1 วิธีใหความอบอุนจงเจยี วเพือ่ ขบั ไลความเย็น เปน การใหค วามอบอนุ เพ่อื กระตุน การทาํ งาน ของมามและกระเพาะอาหารใหสรางความรอนขับไลความเย็น ใชรักษากลุมอาการภายในที่เกิดจาก ความเยน็ เพราะหยางของมา มและกระเพาะอาหารพรอง การทํางานของมา มและกระเพาะอาหารลดลง 5.2 วธิ ีใหค วามอบอุน เสริมหยาง ใชรกั ษาอาการหยางชข่ี องหวั ใจและไตพรอ ง 5.3 วธิ ีใหค วามอบอุนเสน ลมปราณขบั ไลค วามเยน็ สวนมากใชร กั ษาอาการไหลเวยี นเลอื ดและ ลมปราณติดขัดเน่อื งจากความเย็นในเสนลมปราณ ทาํ ใหม อี าการปวดขอ เคลอื่ นไหวไมสะดวก ซงึ่ ความ อบอนุ จะชวยขบั ไลความเยน็ ทําใหเลือดและลมปราณไหลเวยี นสะดวกข้นึ จึงชวยบรรเทาอาการปวด หา มใชว ธิ ใี หค วามอบอนุ รักษากลุมอาการของโรครอ นจดั รอนแทเยน็ เทียม กลมุ อาการรอนที่มี อาการเลอื ดออกงาย และตองใชยาทีม่ ีคณุ สมบตั ิรอนรุนแรงดว ยความระมดั ระวังในหญิงมคี รรภ 6. วธิ ลี ดความรอ น (清法 ชิงฝา ) วิธีลดความรอ น คอื การรักษากลุม อาการภายในของรางกายจากสาเหตคุ วามรอนและไฟ โดย ระบายความรอ นและดบั ไฟ ยาท่ีใชร ะบายความรอ นมฤี ทธิ์ฆา เช้อื แบคทีเรีย ลดอาการอักเสบ และลดไข ใชร ักษากลุมอาการภายในของรา งกายจากความรอ น ดังน้ี - ระยะท่คี วามรอ นเขาสรู ะบบลมปราณ - ระยะทคี่ วามรอ นเขา สรู ะบบอ๋งิ และระบบเลอื ด - กลุม อาการไฟและพษิ ไฟในอวยั วะภายใน ซึ่งเปนโรคตดิ เชื้อแบคทีเรยี - กลมุ อาการรอ นพรอ ง หา มใชวธิ ลี ดความรอ นรักษาอาการเย็น กลุมอาการเยน็ พรอ ง กลมุ อาการเย็นแทรอ นเทียม
Page 56 วธิ ีการรกั ษาโรคของแพทยแ ผนจีน 35 ยาลดความรอนสวนมากมีคุณสมบัติหนาวเย็น ถารับประทานนานเกินไปจะกดการทาํ งานของ มามและกระเพาะอาหาร ทําใหมอี าการเบอ่ื อาหาร ถาเปนกลุมอาการรอนช้นื ควรใชยาลดความรอ นควบคกู ับยาระบายความชนื้ ถาความรอนจดั จะไปทําลายยิน ควรใหย าเสรมิ ยนิ รวมดวย ถาเปน อาการรอ นและทองผกู ควรใหย าระบายอจุ จาระดว ย 7. วิธบี ํารุง (补法 ปฝู า) วิธีบํารุง คือ การรักษาโรคดวยการหลอ เล้ียง เสรมิ บาํ รุงชีแ่ ละเลอื ด และยิน-หยาง ของรา งกาย ใชร กั ษากลมุ อาการพรอ งออนแอของอวัยวะภายใน ชีแ่ ละเลือด และยิน-หยาง แบง เปน 4 วธิ ี คอื 7.1 การบาํ รงุ ช่ี โดยท่ัวไปหมายถงึ บํารงุ ชขี่ องมามและปอด ใชรกั ษากลมุ อาการชพ่ี รอง บางคร้งั กใ็ ชร กั ษากลมุ อาการเลอื ดพรองโดยใชควบคูกบั ยาบํารุงเลอื ด 7.2 การบาํ รุงเลอื ด ใชร กั ษากลมุ อาการเลอื ดพรอ ง 7.3 การบํารงุ หยาง มักใชรกั ษากลุมอาการหยางไตพรอง หรอื หยางของมา มพรอง 7.4 การบาํ รงุ ยนิ คือ บํารุงสารจาํ เปน เลอื ด และของเหลวในรา งกาย การใชย าเสรมิ บาํ รงุ ตอ งคํานึงถึงการทาํ หนาท่ียอยอาหารของมา มและกระเพาะอาหาร ถา มาม และกระเพาะอาหารออ นแอ จะตอ งใชย ากระตุนการทํางานของมา มและกระเพาะอาหารกอ น หรือใหย า เสรมิ บํารุงควบคูกบั ยากระตุนการทาํ งานของมา มและกระเพาะอาหาร วิธีเสริมบํารุงจะใชตอเม่ือรางกายมีภูมิคุมกันบกพรองชัดเจน ถา อาการลมปราณตา นทานโรค พรอ งไมมาก แตส าเหตุที่กอโรคยงั ไมไ ดรับการแกไ ข ใหใชว ธิ ขี จัดสาเหตุท่ที ําใหเกดิ โรคกอน หรอื ใชวธิ ี เสริมลมปราณตานทานโรคควบคกู บั การขจัดสาเหตกุ อโรค การเสริมสรา งรา งกายใหแ ข็งแรงมีภูมิตานทานโรค ไมส ามารถอาศัยยาเสรมิ บาํ รุงเพียงอยา งเดียว ตองอาศยั ปจจยั อ่ืน ๆ เชน รบั ประทานอาหารทม่ี ีคณุ คา ออกกําลงั กายสมํา่ เสมอ ปรับสมดุลจติ ใจและ อารมณ เปน ตน 8. วิธีทําใหสลาย (消法 เซียวฝา ) วิธีทาํ ใหสลาย คอื การสลายการคั่งหรือการสะสมของชี่และเลอื ด เสมหะ น้ํา หรือกอน โดย การปรบั การไหลเวยี นของช่ี ระบายการคั่งของเลอื ด ขับความชน้ื ทางปสสาวะ เรงการยอ ยอาหาร ขบั เสมหะ สมานแผล ฝ แบง เปน 6 วิธี คอื 8.1 การปรับการไหลเวียนของช่ใี หเปน ปกติ ไดแก - การกระตุนการไหลเวยี นของชี่ ใชร กั ษาชี่ติดขดั ในตบั มาม และกระเพาะอาหาร
Page 57 36 ตํารับยาจีนที่ใชบอ ยในประเทศไทย - การปรบั ใหลมปราณไหลเวียนลงลา งตามปกติ ใชรักษากลมุ อาการช่ลี อยสวนขนึ้ ขา งบนในปอด กระเพาะอาหาร และตับ รกั ษาอาการหอบหดื อาเจียน สะอกึ หรอื กระวนกระวาย 8.2 การเพิ่มการไหลเวยี นเลอื ด เปนการระบายเลอื ดคั่ง คลายกลามเนื้อเรยี บของหลอดเลือด และอวยั วะตาง ๆ รกั ษาความผิดปกติของระดู การอกั เสบเรื้อรัง โรคหลอดเลอื ดหวั ใจ กระดกู หัก ฟกช้าํ ตบั มามโต 8.3 การขบั ความช้นื ออกทางปส สาวะดว ยยาขบั ปสสาวะ ควรใชด วยความระมดั ระวังในผูท่มี ยี นิ พรอง แนวทางการใชย าขบั ปส สาวะทางคลนิ กิ มี 4 วธิ ี คอื - การขับปสสาวะใหไหลคลอง สว นมากใชร กั ษาโรคทางเดินปสสาวะอักเสบหรือนว่ิ ในทางเดนิ ปส สาวะทีม่ อี าการปวดแนนทอ งนอย ปสสาวะบอย กล้นั ปส สาวะไมอยู ปส สาวะแสบขัด ปสสาวะมสี ี เหลืองเขม - การขบั ปสสาวะลดอาการบวมน้าํ เปนการขับน้าํ ท่คี ่ังในรางกายจากโรคหัวใจลม เหลว ไตวาย ตบั แขง็ ภาวะทพุ โภชนาการ - ขบั ปส สาวะรว มกับการระบายความรอน ใชร ักษากลมุ อาการรอ นช้นื - การใหค วามอบอุน และขบั ปส สาวะ ใชรกั ษากลุมอาการเยน็ ชนื้ ทเ่ี กดิ จากหยางมา มหรือหยาง ไตพรอ ง 8.4 การขับเสมหะท่ีคงั่ อยูในสว นตาง ๆ ของรา งกาย สว นมากใชรักษาโรคทางเดินหายใจ และ ยงั ใชร ักษาโรคทางเดินอาหาร ระบบไหลเวยี นเลอื ด และระบบประสาท 8.5 การเรง การยอยอาหารท่ีคั่งคาง ดวยยาทีช่ ว ยกระตุน การทาํ หนาที่ยอยอาหารของกระเพาะ อาหารและลําไส ใชรักษากลุม อาการอาหารไมย อ ยทมี่ อี าการอาเจยี น เรอ ทอ งเดิน 8.6 การสลาย หรอื สมานแผล ฝ ท่ีผิวหนงั และอวัยวะภายใน มหี ลายวิธี ขนึ้ กบั ลกั ษณะของ แผล ฝ ปฏิกิริยาของรา งกาย และการวนิ จิ ฉัยแยกกลมุ อาการ เอกสารท่ใี ชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. โกวิท คัมภีรภาพ. ทฤษฎพี น้ื ฐานการแพทยแผนจีน. พมิ พคร้ังที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: บริษัท นวิ ไวเตก็ จํากดั , 2544. 2. วทิ ติ วัณนาวิบูล, สุรเกียรติ อาชานานภุ าพ (กองบรรณาธกิ าร). ทฤษฎแี พทยจ นี . พิมพครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ หมอชาวบา น, 2540. 3. Deng ZJ. Chinese Prescriptions. 8th ed. Beijing: Zhongguo Zhongyiyao Publishing House, 2006.
Page 58 การใชยาสมนุ ไพรจีน 37 บทที่ 4 การใชยาสมนุ ไพรจนี การใชย าสมุนไพรตามทฤษฎีการแพทยแ ผนจีนประกอบดว ย การจดั ยารวมหรอื ยากลมุ ขอ หา ม ใช ขนาดยาท่ีใช วิธตี ม ยา และวธิ รี ับประทาน ดังนี้ การจัดยารวมหรือยากลมุ (配伍 เพย อ)ู ในการใชยาสมุนไพร ตัวยาบางชนิดสามารถใชเ ด่ียว ๆ แตตัวยาบางชนดิ จําเปนตองใชรวมกบั ตัวยาอน่ื ๆ ต้ังแต 2 ชนิดขน้ึ ไป ตามทฤษฎีการแพทยแ ผนจนี การใชย าสมุนไพรมี 7 ประเภท คอื ประเภทตวั ยาเดี่ยว ประเภทเสรมิ ฤทธ์ิกัน ประเภทเสริมฤทธิ์ฝายเดยี ว ประเภทถกู ขม ประเภทลดทอน หรอื กําจัดพิษ ประเภทลดทอนฤทธิ์ และประเภทใหผลตรงกันขา ม ประเภทตัวยาเดย่ี ว (单行 ตนั สงิ ) เปน การใชตวั ยาชนดิ เดียวที่มฤี ทธ์ชิ ดั เจนและเหมาะสมกับ โรคนัน้ ๆ เชน โสมคน (人参 เหรินเซนิ ) ใชรกั ษาผูป วยทมี่ ีอาการชพ่ี รองมาก ชพี จรออนมาก หวั ใจออ น แรง มือเทาเย็น หยางช่อี อ นแอ และ ตน ผักเบ้ียใหญ (马齿苋 หมาฉือ่ เส้ยี น) ใชร กั ษาโรคบิด เปนตน ประเภทเสริมฤทธกิ์ ัน ( 相 须 เซียงซว)ี เปน การใชต วั ยารวมกนั ของตัวยาทมี่ ีคณุ สมบัติ เหมอื นกนั และมีสรรพคุณใกลเคียงกัน ทําใหตัวยามีสรรพคุณดีขึ้น เชน เกลือจืด (石膏 สือเกา) เม่ือใชรวมกับ จือหมู (知母) จะมสี รรพคุณแกไขรอนจัด ลดไข รอ นใน และกระหายนาํ้ ไดผ ลดี ประเภทเสริมฤทธฝ์ิ ายเดียว (相使 เซียงสื่อ) เปน การใชตัวยารว มกนั โดยมีตวั ยาชนดิ หน่งึ เปนตัวยาหลัก และตัวยาอีกชนิดหนึ่งทําหนาท่ีเสริมสรรพคุณรว มของตัวยาหลกั เพ่ือใหมีฤทธิ์แรงข้ึน เชน หวงฉี (黄芪) มสี รรพคุณเพิ่มช่ี ระบายนํา้ เมื่อใชร วมกับโปง รากสน (茯苓 ฝูหลงิ ) ซึ่งมสี รรพคณุ เสริมมา ม ระบายน้ํา โปง รากสนจะชวยเสริมฤทธิ์หวงฉใี หเ พ่มิ การระบายน้ําไดม ากขนึ้ ประเภทถกู ขม ( 相 畏 เซียงเวย ) เปน การใชตวั ยารว มกันโดยตวั ยาชนดิ หน่ึงมพี ษิ หรอื ผลขางเคยี งสวนตัวยาอีกชนิดหน่ึงสามารถลดพิษหรือผลขางเคียงของตัวยาชนดิ แรกได ตวั ยาในกลุม นมี้ ี 19 ชนิด (十九畏 สอื จว่ิ เวย ) ดงั นี้ กํามะถนั (硫黄 หลิวหวง) ถกู ขมดวย ผอเซยี ว (朴硝)
Page 59 38 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบ อยในประเทศไทย ปรอท (水银 สยุ อ๋ิน)* ถกู ขมดวยสารหนู (砒霜 ผเี ซยี ง)* หลงั ตู (狼毒) ถกู ขมดวยม่ถี อเจิง (密陀僧) สลอด (巴豆 ปาโตว)* ถกู ขม ดว ยเชียนหนวิ (牵牛) กานพลู (丁香 ตงิ เซียง) ถกู ขม ดวยวา นนางคํา (郁金 ยฺหวี่จนิ ) โหราเดือยไก (川乌 ชวนอ)ู และเฉาอู (草乌) ถกู ขมดว ยนอแรด (犀角 ซีเจ่ยี ว) ดินประสวิ (牙硝 หยาเซยี ว) ถูกขมดว ยซานหลงิ (三棱) อบเชยจนี (肉桂 โรวกุย ) ถูกขม ดวยสือจอื (石脂) โสมคน (人参 เหรินเซิน) ถกู ขม ดว ยอหู ลงิ จอื (五灵脂) ประเภทลดทอนหรอื กาํ จัดพษิ ( 相 杀 เซียงซา) เปนการใชต ัวยารว มกันโดยตัวยาชนดิ หนงึ่ สามารถลดทอนหรอื กาํ จัดพิษ หรอื ผลขางเคียงของตัวยาอีกชนดิ หน่งึ ได เชน เหงาขิงสด (生姜 เซิงเจยี ง) สามารถกําจดั ผลขางเคียงของปน เซ่ีย (半夏) จะเห็นไดว า เซียงเวย (相畏) และ เซียงซา (相杀) มี ความหมายเหมือนกนั คือ ตวั ยาหน่งึ จะไปลดพษิ ของตวั ยาอีกตวั หนึ่ง ตา งกนั เพียงตวั ยาใดเปนผูกระทาํ หรือถกู กระทาํ ประเภทลดทอนฤทธิ์ ( 相 恶 เซยี งเออร) เปนการใชต ัวยารว มกนั โดยตวั ยาชนดิ หนึง่ ทาํ ให สรรพคณุ เดมิ ของตัวยาอีกชนิดหนึ่งลดลงหรอื หมดไป เชน เมล็ดหวั ผักกาด (莱菔子 ไหลฝจู ่อื ) ลดทอน ฤทธิข์ องโสมคน (人参 เหรนิ เซนิ ) เปน ตน ประเภทใหผ ลตรงขาม (相反 เซียงฝน ) เปน การใชตัวยาสองชนิดรว มกันและทาํ ใหเ กดิ การลบ ลางสรรพคุณของตัวยา ตวั ยาในกลมุ น้มี ี 18 ชนดิ (十八反 สือปาฝน ) ดงั น้ี ชะเอมเทศ (甘草 กนั เฉา ) จะลบลางสรรพคณุ ของตาจ๋ี (大戟) กนั สยุ (甘遂) เหยียนฮวา (芫花) และสาหรายทะเล (海藻 ไหเ จา ) อูโถว (乌头) จะลบลางสรรพคุณของปนเซ่ีย (半夏) กวาโหลว (瓜蒌) เปยหมู (贝母) ไปเลยี่ น (白敛) และไปจ๋ี (白笈) หลีหลู (黎芦) จะลบลางสรรพคุณของโสมคน (人参 เหรินเซิน) เปยซ าเซิน (北沙参) ตันเซิน (丹参) เสฺวียนเซนิ (玄参) ซซ่ี นิ (细辛) และไปเ สา (白芍) * ปรอท สารหนู สลอด และน้าํ มนั สลอด ไมอนญุ าตใหใ ชใ นตาํ รับยาแผนโบราณของประเทศไทย ยกเวน ยาทผ่ี ลิตข้ึนสาํ หรับใชภ ายนอก โดยมีปรอทไมเ กินรอยละ 10 ของปริมาณตวั ยาทงั้ หมด และยกเวน ยาทีผ่ ลิตขึ้นโดยมสี ารหนูและ/หรือสารประกอบออกไซดของสารหนู ปนอยูรวมกันแลว คํานวณเปน ปริมาณสารหนูไมเ กินสสี่ วนในลานสว น
การใชยาสมนุ ไพรจนี Page 60 39 2 เซนติเมตร กาํ มะถัน (硫黄 หลิวหวง) 2 เซนตเิ มตร ดเี กลอื (朴硝 ผอเซยี ว) ปรอท (水银 สุยอิ๋น) 2 เซนตเิ มตร สารหนู (砒霜 ผีเซยี ง) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร สลอด (巴豆 ปาโตว) เชียนหนิว (牵牛) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร กานพลู (丁香 ตงิ เซียง) วา นนางคํา (郁金 ยหฺ ว่ีจิน)
Page 61 40 ตํารับยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย 2 เซนตเิ มตร เฉา อู (草乌) 2 เซนตเิ มตร โหราเดือยไก (川乌 ชวนอ)ู 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ดนิ ประสิว (牙硝 หยาเซยี ว) ซานหลิง (三棱) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร อบเชยจนี (肉桂 โรว กยุ ) สอื จือ (石脂) 5 เซนตเิ มตร โสมคน (人参 เหรนิ เซิน)
การใชยาสมนุ ไพรจนี Page 62 41 2 เซนติเมตร อหู ลิงจอื (五灵脂) 2 เซนตเิ มตร ชะเอมเทศ (甘草 กนั เฉา) 2 เซนติเมตร กนั สุย (甘遂) 1 เซนติเมตร ตาจ๋ี (大戟) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร เหยียนฮวา (芫花) สาหรายทะเล (海藻 ไหเ จา) อูโถว (乌头) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร ปนเซยี่ (半夏)
Page 63 42 ตาํ รับยาจีนทใ่ี ชบอยในประเทศไทย 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร กวาโหลว (瓜蒌) เปยหมู (贝母) 2 เซนตเิ มตร 1 เซนติเมตร ไปเ ลี่ยน (白敛) เปย ซ าเซิน (北沙参) ไปจี๋ (白笈) 2 เซนตเิ มตร เสฺวยี นเซนิ (玄参) 2 เซนตเิ มตร ตนั เซนิ (丹参) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ไปเ สา (白芍) 2 เซนติเมตร ซซ่ี นิ (细辛)
Page 64 การใชยาสมุนไพรจนี 43 ขอหามใช (禁忌 จิน้ จ้)ี ในการใชย ารักษาโรคนั้น หากใชถ กู กบั โรคจะใหค ณุ หากใชผ ดิ จะใหโ ทษ ดงั นัน้ การใชย าบางชนดิ จาํ เปน ตองระมัดระวังในการใช เพอ่ื ไมใหเ กิดโทษตอ รางกาย ขอ หา มใชม ี 4 ประเภท ดังนี้ ขอหามใชในกลุมอาการบางอยาง (证候禁忌 เจ้ิงโฮวจิ้นจี้) ตัวยาแตละกลุม หรือตัวยา แตละชนิดเหมาะกับโรคแตกตางกัน หมายถึงตัวยาแตละกลุมหรือตัวยาแตละชนิดจะใชภายใต เงื่อนไขที่กาํ หนดไวเทานั้น เชน หมาหวง (麻黄) มีสรรพคุณเปนยาขับเหงื่อ แกห อบ เหมาะสําหรับ โรคไขหวัดจากการกระทบลมเย็น ไมม ีเหง่ือ ไอหอบเนอื่ งจากชป่ี อดไมก ระจาย จึงหา มใชก ับผูปวยท่ีมี อาการออ นแอ เหงือ่ ออกมาก ไอหอบเนอื่ งจากปอดพรอ ง เปน ตน ขอ หา มตามหลกั การจดั ยารว มหรอื ยากลุม ( 配伍禁忌 เพยอ จู น้ิ จ)้ี ตวั ยาบางชนดิ เม่ือใช รว มกันแลว จะทาํ ใหเกิดพษิ หรือเกิดอาการอันไมพงึ ประสงค หรือทาํ ใหเกิดพิษเพ่มิ ขึน้ หรอื ทําใหฤทธ์ิ ของตวั ยาหมดไป ยาเหลาน้กี ็ไมควรใชรวมกนั การแพทยแ ผนจนี กลา วถงึ ตวั ยาที่ไมค วรใชร ว มกัน 2 กลมุ คอื สอื ปาฝน (十八反) และ สือจวิ่ เวย (十九畏) ดงั ท่ไี ดก ลา วมาแลวขา งตน ขอหามในหญิงมีครรภ (妊妇禁忌 เหรนิ่ ฟจู ิ้นจี้) ตวั ยาบางชนิดมีผลตอทารกในครรภ ทาํ ให แทงลูกได จึงหามใชในหญงิ มีครรภ ซงึ่ ตวั ยาสว นใหญใ นกลมุ นีม้ ักมพี ิษมาก เชน สลอด (巴豆 ปาโตว) เชียนหนวิ (牵牛) เหยียนฮวา (芫花) ซานหลิง (三棱) ตา จ๋ี (大戟) และกนั สยุ (甘遂) เปน ตน ตัวยาบางชนดิ ตอ งใชอ ยางระมัดระวงั ในหญงิ มีครรภ เน่อื งจากเปนตวั ยาท่ีมีฤทธิก์ ระจายชแี่ ละเลอื ด ทําให เลอื ดไหลเวียน เชน เมล็ดทอ (桃仁 เถาเหริน) ดอกคําฝอย (红花 หงฮวา) มีฤทธิ์ขับของเสียตกคาง และขบั ถายพิษรอน โกฐนํา้ เตา (大黄 ตาหวง) มฤี ทธ์ริ ะบาย ขบั พษิ รอ น อบเชยจีน (肉桂 โรว กุย ) มี ฤทธิ์ใหค วามอบอนุ เสริมหยางระบบไต เปนตน ดงั น้ันหากไมจ ําเปนจริง ๆ ควรหลีกเลย่ี งการใชตวั ยา ดงั กลา วในหญงิ มีครรภ ขอหามในชวงเวลาท่ีรับประทานยา (服药饮食禁忌 ฝูเหยาอิ่นสือจ้ินจ้ี) นิยมเรียกวา “ของแสลง” กลา วคอื ในชวงเวลาทร่ี บั ประทานยา ควรงดดืม่ นํ้าเย็น ของมัน ของคาว อาหารทีย่ อยยาก หรือทม่ี ีรสจัด เชน กรณผี ูปวยทมี่ ไี ขส งู หามรบั ประทานของมนั เปนตน ขนาดยาท่ใี ช (剂量 จเี้ ล่ียง) ขนาดยาทีใ่ ช หมายถึงปรมิ าณของยาท่ีใชในผใู หญตอวนั เนอ่ื งจากยาสมนุ ไพรเปนผลผลติ จากธรรมชาติ ดงั นัน้ ปริมาณของตัวยาทใี่ ชจ ึงไมเขม งวดเหมอื นกับยาแผนปจจบุ นั ยกเวนตัวยาบางชนิด
Page 65 44 ตาํ รบั ยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย เทานั้นท่ีตองใชข นาดยาดว ยความระมัดระวัง เพ่ือปอ งกนั ไมใ หเกดิ อนั ตราย โดยท่วั ไปขนาดยาท่ีใช ควรคํานึงถงึ ปจ จยั ดงั ตอ ไปนี้ คุณลักษณะของยา (药物的性质 เหยาอูเตอซิ่งจื้อ) ตัวยาที่มีฤทธ์ิแรงควรใชปริมาณ นอย หรือเร่ิมใชปริมาณนอยแลวคอย ๆ เพิ่มข้ึน เม่ือผูปวยมีอาการดีข้ึนใหคอย ๆ ลดขนาดยาลงจน หยุดใช สาํ หรับตัวยาท่ีมีฤทธิ์ออนมักใชในปริมาณมาก โดยทั่วไปตัวยาที่มีความหนาแนน หรือแข็ง มาก เชน แรธาตุ หรือ เปลอื กหอย เปน ตน จะใชในปริมาณมาก สว นตวั ยาทมี่ ีนํ้าหนกั เบา เชน ดอก ใบ หรอื ตวั ยาทมี่ นี ํ้ามนั หอมระเหย จะใชใ นปรมิ าณนอย การจดั ยารว มหรือยากลุมและรปู แบบของยา (配伍与剂型 เพยอยู ฺหวจี่ ้สี ิง) โดยทวั่ ไปตวั ยา เดย่ี วจะใชใ นปริมาณมากกวา ยาตาํ รับ และหากใชเปนยาตม ปริมาณทใี่ ชจ ะมากกวา ยาลกู กลอนหรือยา ผง และในยาแตล ะตํารับ ตัวยาหลักจะใชในปรมิ าณมากกวาตวั ยาอ่นื ๆ อาการของโรค (病情 ปง ฉิง) รูปราง (体质 ถีจ่ อ้ื ) และอายขุ องผูปวย (年龄 เหนยี นหลิง) โดยท่ัวไปผูปวยหนัก ผูปวยโรคเฉียบพลัน หรือผูปวยท่ีมีรางกายอวนใหญ จะใชยาในปริมาณมาก สวนผูสูงอายุมีรางกายออนแอ หญิงหลังคลอด หรือเด็ก จะใชยาในปริมาณนอย สาํ หรับเด็กอายุ 6 ป ข้ึนไป ใหใ ชย าขนาดคร่ึงหน่งึ ของขนาดท่ีใชในผูใหญ เดก็ ทีม่ อี ายตุ ํ่ากวา 6 ป ใหใ ชยาขนาด 1 ใน 4 ของขนาดทใี่ ชในผูใ หญ วิธีตม ยา (煎法 เจียนฝา) ยาตม (汤剂 ทังจี้ หรือ 煎剂 เจียนจ้)ี เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีนิยมใชมากท่ีสุดในการแพทย แผนจีน แพทยแผนจีนไดใหความสําคัญกับวิธีตมยาเปนอยางมาก เน่ืองจากวิธีตมยาสมุนไพรมี ความ สัมพันธอยางใกลช ดิ กบั ประสิทธผิ ลในการรักษาโรคของยาตาํ รับ ในการเตรยี มยาที่มีคุณภาพและ มีประสิทธิผลในการรักษานน้ั ควรปฏบิ ัตดิ งั น้ี ภาชนะทใ่ี ชในการตมยา (煎药用具 เจยี นเหยายง จฺว)ี้ นยิ มใชภ าชนะจาํ พวกเครือ่ งปนดินเผา ทมี่ ีฝาปด เพื่อปองกนั การทําปฏิกริ ยิ าขององคป ระกอบเคมใี นตัวยากบั ภาชนะท่ีใชใ นระหวา งการตม ยา ทํา ใหป ระสิทธิภาพหรอื ความแรงของตวั ยาไมสูญเสียไป ไมควรใชภ าชนะจาํ พวกเหลก็ หรือทองแดง ทงั้ น้ี เพือ่ ปองกนั การตกตะกอน และอาจทําปฏกิ ริ ยิ าทางเคมีกบั ตัวยา ซงึ่ จะทําใหเ กดิ ผลขา งเคียงหรือความเปน พิษได นํา้ ท่ใี ชตมยา (煎药用水 เจยี นเหยายง สยุ ) จะตองเปน นา้ํ สะอาดและบรสิ ุทธ์ิ เชน นํา้ ประปา นา้ํ แร และนา้ํ กลนั่ เปน ตน
Page 66 การใชยาสมนุ ไพรจนี 45 ระดับไฟที่ใชตมยา (煎药火候 เจียนเหยาหั่วโฮว) ไฟท่ีใชตมยาแบงออกเปน 2 ระดับ คือ ไฟออน และไฟแรง โดยท่ัวไปการตมยามักจะใชไฟแรงกอนแลวจึงใชไฟออน บางคร้ังอาจใชไ ฟออน หรือไฟแรงเพียงอยา งเดยี วในการตมยา เชน ใชไ ฟออนอยา งเดียวในการตมยาประเภทยาบาํ รุง หรอื ใช ไฟแรงอยา งเดยี วในการตม ยาประเภทรักษาอาการภายนอก วธิ ตี มยา (煎药方法 เจียนเหยา ฟง ฝา ) การตม ยามี 2 วธิ ี คือ 1. วิธีท่ัวไป (一般煎药法 อีปนเจียนเหยาฝา) เตรียมโดยนําตัวยาใสในภาชนะท่ีมีฝาปด เตมิ นํ้าใหทว มตัวยา ตัง้ ทงิ้ ไวประมาณ 30-60 นาที เพ่ือใหนาํ้ ซึมเขาตวั ยาอยา งเต็มที่ เวลาตม จะใชไฟ แรงกอน เมือ่ เดอื ดจะใชไฟออ น ๆ ตมตอ เพื่อปองกนั ไมใ หน าํ้ ยาลน ออกนอกภาชนะ หรอื ไมใหน ํา้ ยาแหง งวดเร็วเกนิ ไป ในระหวา งตมอยาเปด ฝาบอ ย ๆ เพอื่ ปอ งกนั ไมใ หส ารที่ระเหยไดสญู เสียไป ในการตมยา ประเภทรกั ษาอาการภายนอกหรอื ยาลดไข ควรใชไฟแรงเพื่อปอ งกันไมใหส ารสาํ คญั ระเหยไป สําหรบั ยา บํารุง ควรตมโดยใชไฟออน ๆ เพ่ือสกดั สารสาํ คัญออกมาไดอ ยา งสมบูรณ ตวั ยาที่มีพิษบางชนดิ เชน โหราเดอื ยไก (附子 ฟจู ่ือ) ควรใชไ ฟออ นตม นาน ๆ เพื่อลดพษิ ของสมุนไพร เม่อื ตมเสรจ็ ใหร นิ นํา้ ยา เก็บไว เติมนํ้าลงในกากท่ีเหลอื แลว ตมตอ โดยท่ัวไปยาหนึ่งหอ จะตม 2-3 ครง้ั เมือ่ ตมเสร็จใหร วม นาํ้ ยาทีต่ ม ไดเขาดวยกนั แลว แบง รับประทาน ควรรบั ประทานขณะยายงั อุน ๆ ยกเวน ยาทเ่ี ม่อื รับประทาน ตอนอุน แลว จะทําใหค ลนื่ ไสอ าเจยี น ก็ใหรบั ประทานเม่อื ยาเย็นแลว 2. วิธเี ฉพาะ (特殊煎法 เถอซูเจยี นฝา ) เปนวิธีท่ีใชตมตัวยาท่ีมีคุณลักษณะพิเศษบางชนิด ซึ่งจําเปน ตองใชว ิธเี ฉพาะ และจะตอ งระบุไวใ นสูตรตาํ รับดว ย ดังนี้ ใสกอ น (先煎 เซียนเจียน) มีตวั ยา 3 ประเภท ซึ่งตองตมกอนตัวยาตัวอ่ืนในตาํ รับ ไดแ ก - ตัวยาท่ีมีพษิ ใหต มกอ นตวั ยาอน่ื 30-45 นาที - แรธาตุและเปลือกหอย เชน เกลือจืด (石膏 สือเกา) สือจฺเหวียหมิง (石决明) หมูล่ี (牡蛎) เปน ตัวยาท่ีมีลักษณะแขง็ สารออกฤทธ์ลิ ะลายออกมาไดย าก จึงตอ งตม ใหเ ดอื ดประมาณ 15 นาทกี อ น แลว จงึ ใสต วั ยาชนิดอน่ื ๆ ในตํารบั ลงไปตม พรอ มกนั - ตัวยาท่ีมีนํ้าหนักเบาและใชในปริมาณมาก หากตมพรอมตัวยาอื่น ๆ จะทําใหตัวยาเต็ม หมอจนตมไมได จึงใหตมตัวยาดังกลาว 20 นาทีกอน แลวเอาเฉพาะนา้ํ ที่ตมไดไปใชตมตัวยาตัว อื่นในตาํ รับยา
Page 67 46 ตํารับยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย ใสห ลงั (后下 โฮว เซยี่ ) ตัวยาบางชนิดมนี ้ํามันหอมระเหย ควรใสห ลงั จากตมตวั ยาชนดิ อ่นื ๆ ในตาํ รับใหเ ดอื ดแลว ประมาณ 5-10 นาที แลว จงึ ตมตอประมาณ 5 นาที เพ่อื ปอ งกนั ไมใ หส ารออก ฤทธ์ิประเภทน้าํ มันหอมระเหยสลายไป ตัวอยางสมุนไพรเหลา น้ี เชน เรว ( 砂 仁 ซาเหรนิ ) และ สะระแหน (薄荷 ปอ เหอ) เปน ตน นอกจากน้ี ตวั ยาบางชนดิ ท่ีมีสรรพคณุ เปนยาระบายหรือยาถา ย ก็ ควรใสท หี ลงั เชน โกฐนา้ํ เตา (大黄 ตาหวง) และใบมะขามแขก (番泻叶 ฟานเซ่ยี เย่ีย) เปน ตน ใสหอ (包煎 เปาเจียน) สมุนไพรบางชนิดมีลักษณะเปนผง หรือมีลักษณะเหนียว หรอื เปน ยาง หรือมลี กั ษณะเปน ขน ควรใสใ นถงุ ผา เพ่ือปองกันไมใ หน้ํายาขนุ หรือเหนียวติดภาชนะทใี่ ชต ม หรือ ทําใหไมระคายคอ เชน ซวนฟูฮวา (旋覆花) และเมล็ดผักกาดนา้ํ (车前子 เชอเฉียนจ่ือ) เปน ตน แยกตม (另煎 ลงิ่ เจียน) ตวั ยาบางชนดิ มีราคาแพง เชน โสมคน (人参 เหรนิ เซนิ ) โสม อเมริกัน (西洋参 ซีหยางเชิน) เปนตน ควรแยกตมตางหาก หรือตุนดวยหมอตุน 2 ชั้นนาน 2-3 ช่วั โมง เพื่อสกดั ตวั ยาออกมาใหมากที่สดุ อาจแยกรบั ประทาน หรอื นาํ มาผสมกบั นาํ้ ยาของตัวยาชนดิ อนื่ ที่ตมได เพ่ือปอ งกนั ไมใหสญู เสยี ฤทธข์ิ องยา ชงน้าํ รบั ประทาน ( 冲 服 ชงฝ)ู สมนุ ไพรบางชนดิ ไมค วรนาํ มาตม แตควรบดใหเปนผง ละเอียดมาก ๆ แลวชงนํ้าอุนดืม่ หรือนาํ ไปชงกับน้ํายาของสมุนไพรชนิดอ่ืนท่ีเตรียมได ตัวอยาง สมุนไพรเหลา น้ี เชน อาํ พัน (琥珀 หูพ่วั ) และซนั ชี (三七) เปนตน ชงละลาย (溶化 หรงฮวา) ตัวยาบางชนิดมีลักษณะเปนยางหรือมีความเหนียวมาก ควร นาํ มาละลายในน้าํ รอนหรือละลายในยาเตรียมรบั ประทาน เชน เออเจียว (阿胶) เปน ตน แชน้าํ (泡服 เผา ฝ)ู ตวั ยาบางชนิดมสี ารออกฤทธ์หิ รอื มีองคประกอบของนาํ้ มนั หอมระเหย ซึ่งสามารถละลายในน้ํารอนไดงาย ควรเตรยี มยาโดยการนาํ มาแชในน้ํารอนหรือน้าํ ยาของตวั ยาชนิด อื่นทรี่ อ น เชน อบเชยจีน (肉桂 โรว กุย ) เปนตน วิธีรบั ประทานยา (服法 ฝูฝา) วิธรี บั ประทานยา รวมถงึ เวลาทีเ่ หมาะสมในการรับประทานยา โดยท่วั ไปปฏบิ ัติ ดงั นี้ ยาตม ใหรับประทานวันละ 1 หอ หากอาการรุนแรงสามารถรับประทานวันละ 2 หอได ยา หอหนึ่ง ๆ ตมแบงรับประทาน 2-3 คร้ัง โดยกําหนดวาอาการปวยทั่วไปใหรับประทานเชา-เย็น หาก อาการปวยหนกั สามารถรับประทานไดทุก 4 ช่ัวโมง ยาประเภทบาํ รงุ ควรรบั ประทานกอนอาหาร แต หากจะใหเหมาะสม ไมวาจะรับประทานกอนหรือหลังอาหาร ใหเวนระยะเวลาหางกันพอสมควร ยา
Page 68 การใชยาสมุนไพรจนี 47 ประเภทฆาพยาธิหรือยาระบายใหรับประทานขณะทองวาง ยารักษาโรคมาลาเรียใหรับประทานยากอน มาลาเรียกาํ เริบ ยาชวยใหจิตใจสงบหรือนอนหลับใหรับประทานกอนนอน โรคเร้ือรังควร กําหนดเวลารับประทานยาใหแ นนอน ยาประเภทชาชง ใหร บั ประทานตางนาํ้ ชา จิบไดบ อ ย ๆ ใหรับประทานยาตมขณะอุน ๆ แตถาปวยดวยโรคกลุมความรอน สามารถรับประทานยาใน ขณะที่ยาเยน็ แลว ถาปวยดวยโรคกลุมความเย็น ใหด่ืมขณะรอน ๆ ในอาการท่ีปวยดวยโรคกลมุ อาการเย็นแทรอนเทยี ม ใหร บั ประทานขณะทย่ี าเย็นแลว ถาปวยดวยโรคกลุมอาการรอนแทเ ย็นเทยี ม ให รบั ประทานขณะที่ยายังรอนอยู ในผูปวยหมดสติหรือกัดฟนแนน สามารถใหยาทางสายยางผานรูจมูก ในผูปวยที่มีอาการ อาเจียน ใหต มยาใหคอนขา งเขม ขน มีปริมาณนอย แลวแบง รบั ประทานหลายครงั้ ยาเมด็ ลกู กลอน และยาผง ใหด ่มื นํา้ ตาม เอกสารที่ใชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. Zhang E. The Chinese materia medica: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 2. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 3. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 4. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990.
Page 69 48 ตาํ รบั ยาจนี ท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย บทท่ี 5 การตัง้ ตาํ รับยาจนี ตาํ รบั ยาเกดิ จากการผสมกนั ของตวั ยาตาง ๆ ตั้งแต 2 ชนดิ ข้ึนไป โดยไดจากการวนิ ิจฉัยโรค แลว จงึ คัดเลอื กตวั ยาท่ีเหมาะสมเขาเปน หมวดหมู ตวั ยาแตละตัวมสี รรพคุณเดน และดอ ยในตัวเอง ดังน้ัน การตั้งตํารับยาท่ีเหมาะสมอาจเสริมฤทธ์ิหรือลดพิษของยาในตาํ รับได การเสริมฤทธิ์ ลดพิษหรือลด ความแรงของยาทีเ่ หมาะสม มีผลทําใหต วั ยาสามารถออกฤทธิ์ไดด ี ตามคัมภีร “เนยจิง (内经)” ตํารับยาจะประกอบดวยตัวยาหลัก ตัวยาเสริม ตัวยาชวย และตัวยานาํ พา ตัวยาหลักเปนตัวยาท่ีสําคัญท่ีสุดในตํารับยา โดยท่ัวไปจะใชในปริมาณมากท่ีสุด สว นตัวยาเสรมิ และตัวยาชว ยจะใชใ นปรมิ าณรองลงมา ตวั ยาหลกั (主药 จเู หยา หรือ 君药 จวฺ นิ เหยา) ตัวยาหลกั คอื ตวั ยาทเ่ี ปน ตวั ยาสาํ คญั ทใี่ ชร กั ษาโรคของตาํ รบั ยานนั้ ตัวยานี้จะมีผลรักษาสาเหตุ ของโรคหรอื อาการสําคัญของโรค ดงั น้ันตัวยาหลักจงึ เปน ตัวยาสําคัญทีก่ อ ใหเ กดิ ผลการรักษาตามวัตถุ ประสงคของตาํ รับยานั้น หรอื กลา วอีกนัยหน่ึงคอื ตัวยาหลักบอกสรรพคุณหลกั ของตํารบั ยานนั้ ตัวอยาง เชน การใชห มาหวง (麻黄) เปน ตัวยาหลักในตาํ รับยาขับเหง่อื แกห อบหดื เปน ตน ตัวยาเสริม (辅药 ฝเู หยา หรือ 臣药 เฉินเหยา) ตัวยาเสริม คือตัวยาที่ชวยเสรมิ หรอื เพิ่มประสิทธผิ ลการรกั ษาของตัวยาหลกั ในตาํ รับ รวมทั้ง ใชร กั ษาอาการอนื่ ๆ ของโรคน้ัน ๆ ทต่ี ัวยาหลกั ไมสามารถครอบคลุมอาการเหลานัน้ ได ตัวอยา งเชน การใชก ิ่งอบเชยจีน (桂枝 กยุ จือ) เปน ตัวยาเสรมิ สาํ หรับหมาหวง (麻黄) ในการขบั เหงือ่ กระทุง ไข ใน ตํารับยาหมาหวงทงั (麻黄汤) เปนตน ตัวยาชว ย (佐药 จัว่ เหยา ) ตัวยาชวย คือตัวยาที่ชวยเสริมฤทธ์ิ ควบคุม ลดพิษ ขจัดพิษของตัวยาหลักและตัวยาเสริม รวมท้ังใชรักษาผลขางเคียงของตัวยาหลักและตัวยาเสริม ตัวยาน้ีมักใชในปริมาณนอ ย เชนการใชขงิ สด (生姜 เซิงเจียง) ลดพิษของปน เซย่ี (半夏) ซึง่ เปน ตัวยาหลกั ในตํารับยาแกไอ เปนตน
Page 70 การตั้งตํารบั ยาจนี 49 ตัวยานําพา (使药 ส่ือเหยา ) ตวั ยานาํ พา คอื ตัวยาท่ที าํ หนา ท่ีนําพาตวั ยาอืน่ ๆ ใหไปยงั บรเิ วณทตี่ อ งการรกั ษา และทําหนาท่ี ปรับตัวยาในตาํ รับใหเขา กนั ได มกั ใชต วั ยานีใ้ นปริมาณนอย ตัวอยา งเชน การใชช ะเอมเทศ (甘 草 กนั เฉา) เปนตัวยานําพา ทําหนาที่ปรบั ตัวยาทงั้ ตํารบั ใหเขา กนั และปองกนั การขบั เหง่ือมากเกินไปของ หมาหวง (麻黄) และกงิ่ อบเชยจีน (桂枝 กุยจอื ) ในตาํ รับยาหมาหวงทัง (麻黄汤) เปน ตน นอกจากตวั ยาหลักแลว ตํารับยาหน่ึง ๆ ไมจําเปนตอ งมสี วนประกอบครบทง้ั หมด และตวั ยา หนง่ึ ๆ อาจทําหนาที่หลายอยา งได หากอาการเจ็บปว ยไมซบั ซอ น อาจใชต วั ยาเพียงหน่ึงหรอื สองชนดิ ได หากตัวยาหลกั และตวั ยาเสริมไมม ีพิษหรอื ไมมีอาการขา งเคยี ง ก็ไมจําเปน ตองมตี วั ยาชว ย และหากตวั ยาหลักสามารถเขาสบู รเิ วณท่เี จบ็ ปว ยได กไ็ มจําเปน ตอ งใชต วั ยานําพา โดยทัว่ ไปการตั้งตํารบั ยามักใช ตัวยาหลักเพยี งหนง่ึ ชนิด แตหากอาการเจบ็ ปวยมีความซับซอ นมาก กส็ ามารถใชตวั ยาหลกั ไดม ากกวา หน่งึ ชนิด สว นตวั ยาเสรมิ นน้ั สามารถใชไ ดหลายชนิด และตัวยาชว ยมกั ใชจ าํ นวนชนิดมากกวาตัวยา เสริม สาํ หรบั ตัวยานําพาน้นั มักใชเพียง 1-2 ชนดิ ดงั นั้น ในยาแตล ะตาํ รับ อาจมีจาํ นวนชนิดของตัวยา ท่ีทําหนา ท่แี ตกตางกนั ขน้ึ กบั อาการของผูป ว ย ชนดิ ของโรค และวธิ ีรักษาเปนสําคัญ เอกสารทใ่ี ชประกอบการเรยี บเรยี ง 1. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 2. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 3. สมบูรณ ฟเู จรญิ ทรพั ย, บุญยง เศวตบวร. การตัง้ ตํารบั ยา. ใน: มานพ เลิศสุทธริ กั ษ, พจงจิต เลิศสุทธริ กั ษ, นติ ตน นั ท เทอดเกยี รติ (บรรณาธกิ าร). ตาํ รับยาจีน. [เอกสารประกอบการฝก อบรมหลกั สูตรยาและสมุนไพรจีน วันท่ี 12-24 มถิ นุ ายน 2547]. นนทบุรี: สถาบนั การแพทยไ ทย-จนี เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ . กรุงเทพมหานคร, 2547.
Page 71 50 ตํารับยาจีนท่ีใชบอ ยในประเทศไทย บทท่ี 6 พฒั นาการของตํารับยาจีน ตาํ รับยาจีนที่ใชกันมาต้ังแตสมัยโบราณซ่ึงมีผลตอการปองกันและรักษาโรคน้ัน เกิดจากการ ผสมกนั ของตวั ยาตาง ๆ ตั้งแตส องชนดิ ข้ึนไปตามหลักการตัง้ ตาํ รบั ยาจนี ศาสตรด า นเภสชั ตาํ รบั ของจีน มีการศกึ ษาวิจัยและพัฒนาในเชงิ วทิ ยาศาสตรอ ยางตอเนอ่ื ง เพอ่ื สนบั สนุนการนาํ ไปใชโ ดยอาศยั ความรู ตามภมู ิปญญา ตามตาํ นานและหลักฐานทางประวตั ิศาสตร ตํารับยาจนี เร่ิมกําเนดิ ขึน้ ในยุคสงั คมทาส ได เริ่มมกี ารนาํ ตัวยาเดีย่ วมาใชเ พอื่ การปองกนั และบาํ บัดรักษาโรค ตอ มาในยคุ ราชวงศซาง (商代 Shang Dynasty: 1,600-1,100 ปกอ นคริสตศ ักราช) มนษุ ยไดเ รยี นรชู นิดของโรคและรจู กั ตวั ยามากข้ึน รจู ักนํา ตัวยาหลายชนิดมาผสมกันเปนตํารับเพ่ือใชในการรักษาโรคภัยไขเจ็บ ทําใหการบําบัดรักษาโรคมี ประสทิ ธภิ าพมากย่ิงข้นึ ในป ค.ศ. 1979 ไดม ีการคน พบหลักฐานทางโบราณคดจี ากสสุ านหมาหวางตุย (马王堆 Ma Wangdui) ในสมยั ราชวงศฮน่ั พบตาํ รับยารกั ษาโรคจํานวน 52 ขนาน ซึ่งถือเปนตํารายา ท่เี กาแกทส่ี ดุ ของประวัตศิ าสตรก ารแพทยจีน การพัฒนาวชิ าการดานการแพทยจ นี ทาํ ใหตํารบั ยามคี วามสมบรู ณแ ละมีเนือ้ หาสาระมากขึน้ ใน ยุคจั้นก๋ัว ยุคราชวงศฉิน และยุคราชวงศฮั่น ไดพบคัมภีรหวงต้ีเนยจิง (黄帝内经 The Yellow Emperor’s Canon of Internal Medicine) เนอื้ หาประกอบดวยทฤษฎีพน้ื ฐานของเภสชั ตาํ รับ เชน หลักการตั้งตํารบั ยา ขอหา มในการจดั ยารวมหรอื ยากลุม รูปแบบยาเตรียมของตํารบั ยา วธิ ใี ชย า เปน ตน รวมท้งั สน้ิ 13 ตาํ รบั ซ่งึ ถอื เปน จุดกาํ เนิดของศาสตรดานเภสัชตํารบั ในปจ จุบนั เสินหนงเปน เฉา จงิ เปน คัมภรี สมุนไพรจนี ฉบับแรกที่สืบทอดมาต้งั แตราชวงศฉิน ราชวงศฮ นั่ และแพรหลายใชม าจนถงึ ปจ จุบนั คัมภีรน ไ้ี ดบันทกึ ชอื่ สมุนไพรจีนถึง 365 ชนิด และบรรยายถงึ ทฤษฎี การใชส มุนไพรจนี ตา ง ๆ ในบทท่ีวาดวยเร่อื งของยา คอื จฺวิน (ยาหลกั ) เฉิน (ยาเสรมิ ) จัว่ (ยาชวย) ส่อื (ยานําพา) ชีฉิง (อารมณท ั้ง 7) และซ่อื ช่อี ูเ วย (4 รส 5 กล่ิน) ซึ่งในวงการวทิ ยาศาสตรปจ จุบนั ยอมรบั วาผลของยาสมุนไพรที่บันทึกไวในคัมภีรเลมนี้สวนใหญจะถูกตอง เชน หมาหวงใชรักษาโรคหอบ หวงเหลียนรักษาโรคบิด สาหรา ยรกั ษาโรคคอพอก เปนตน ในยุคราชวงศฮ ั่นตะวันออก มีแพทยที่มีช่ือเสยี งทานหนงึ่ คือ จางจงจิ่ง (张 仲 景 Zhang Zhongjing) ไดรวบรวมความรูทางการแพทยในอดีตบวกกับประสบการณของตนเองแตงคัมภีร
Page 72 พัฒนาการของตาํ รับยาจนี 51 ซางหานจาปงลุน (伤寒杂病论 Treatise on Febrile and Miscellaneous Diseases) เน้อื หา ประกอบดวยตาํ รบั ยารักษาโรคตา ง ๆ รวม 269 ตํารับ โดยไดอธิบายถึงรายละเอยี ดการปรบั เพ่มิ หรือลด ขนาดยาในตํารับ วธิ ีใช และรปู แบบยาเตรียมที่เหมาะสม คัมภรี เ ลม นี้มคี วามสมบูรณมาก ตอ มาชนรนุ หลังไดยกยองทานใหเปน “บิดาแหงตาํ รับยาจีน” ในยุคราชวงศถังเปนยุคแรกท่ีพุทธศาสนารุงเรือง ทส่ี ุด ซึง่ มอี ทิ ธิพลตอ พฒั นาการทางการแพทยจ นี มีหนงั สือตาํ ราทางการแพทยเ กดิ ขน้ึ จาํ นวนมาก ทาํ ให มกี ารพัฒนาศาสตรดา นตํารับยาจีนอยางกวา งขวาง เชน ตาํ ราเปยจี๋เชียนจนิ เอยี้ วฟาง (备急千金要方 Thousand Ducat Formulae) และตาํ ราเชยี นจนิ อ้ีฟาง (千金翼方 Supplement to the Thousand Ducat Formulae) ของซุนซอื เหมยี่ ว (孙思邈 Sun Simiao) ตาํ ราไวไถมเ่ี อี้ยว (外台秘要 Arcane Essentials from Imperial Library) ของหวางถาว (王焘 Wang Tao) ซ่งึ บรรจุตํารบั ยาไวกวา 6,000 ตาํ รับ หนงั สอื ดงั กลา วทงั้ สามเลม จัดเปนงานรวบรวมตํารับยาคร้ังยิ่งใหญโดยแพทยผูมีชื่อเสียงใน ประวัตศิ าสตรการแพทยจีน นับเปน มรดกอนั ล้ําคาที่ตกทอดมาจนถึงปจ จุบัน ในยคุ ราชวงศซง ทางการไดจัดใหม ีการประชุมคณะแพทยจีนและไดร วบรวมขนึ้ เปน ตําราไทผิง เซิง่ หุยฟาง (太平圣惠方 Peaceful Holy Benevolent Formulae) บรรจตุ ํารับยาไวร วม 16,834 ตาํ รบั ตาํ ราเซง่ิ จจ่ี ง ลู (圣济总录 The Complete Record of Holy Benevolence) บรรจตุ ํารบั ยา ประมาณ 20,000 ตาํ รบั และตาํ ราไทผ ิงหุยหมนิ เหอจจี้ ฺหวฟี าง (太平惠民和剂局方 Formulae of the Peaceful Benevolent Dispensary) บรรจตุ ํารบั ยาไวร วม 788 ตาํ รบั สาํ หรับตาํ ราไทผิงหุย หมนิ เหอจ้จี ฺหวฟี างถอื เปนตาํ รายาหลวงเลมแรกในโลกเก่ียวกับตํารับยา ตาํ ราเลมนีไ้ ดร วบรวมตาํ รับยาหลวง และมีการแกไ ขปรบั ปรงุ ใหม โดยมรี ายละเอียดของเนื้อหาในแตล ะตํารบั เชน สรรพคุณของตํารบั ยา สว นประกอบ วธิ แี ปรรูป และการนาํ ไปใชใหต รงตามสรรพคุณทต่ี องการ ตาํ ราดังกลา วนับเปนตาํ ราสาํ หรบั โอสถสถานในยุคราชวงศซง ซ่งึ ตอมาไดมีการพัฒนาอยางตอเน่ือง และเปนจุดเริ่มตนของกําเนิดเภสัช ตาํ รบั เลมแรกของประเทศจีน ในยุคราชวงศจนิ (金代 Jin Dynasty) เฉงิ อจู ี่ (成无己 Cheng Wuji) ไดแตงตําราซางหานหมิงหลล่ี นุ (伤寒明理论 Expoundings on the Treatise on Febrile Diseases) ซ่งึ คัดเลอื กตาํ รบั ยาจาํ นวน 20 ขนานจากตาํ ราซางหานลนุ (伤寒论 Treatise on Febrile Diseases) นํามาศกึ ษาวเิ คราะหอยา งละเอยี ด และไดใหคาํ อธบิ ายตํารับยาแตล ะตํารบั อยางชดั เจน ไดแก ตัวยาหลัก ตวั ยาเสริม ตัวยาชวย และตวั ยานาํ พา ซงึ่ ถอื เปนตาํ ราทฤษฎีตํารบั ยาจีนเลมแรกและเปนพืน้ ฐานในการ พฒั นาตํารบั ยาในยคุ ตอมา
Page 73 52 ตํารบั ยาจนี ทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย ในยคุ ราชวงศหมงิ แพทยจีนจูสู (朱橚 Zhu Su) และคณะ ไดรวบรวมตํารบั ยาตาง ๆ กอ น ศตวรรษท่ี 15 และไดแ ตง ตาํ ราผจู ฟ้ี าง (普济方 Prescription for Universal Relief) บรรจุตาํ รบั ยา ไวรวม 61,739 ตาํ รบั จัดเปนตาํ ราท่ีบรรจุจาํ นวนตํารบั ยามากที่สดุ ของจีนจวบจนปจ จบุ ัน ในยคุ ราชวงศช งิ (清代 Qing Dynasty) มกี ารกอ ตง้ั สํานักโรคระบาดขึ้น โดยไดรวบรวมแพทยจ นี ทม่ี ีชื่อเสียง หลายทานมารวมกันคิดคนและพัฒนาตาํ ราการแพทยและเภสัชตาํ รับ ทาํ ใหเน้ือหาในตาํ รับยามีความ สมบูรณมากยิ่งข้ึน ตัวอยางเชน ตําราอีฟางเขา (医方考 Textual Criticism on Prescriptions) อีฟางจ๋เี จี่ย (医方集解 Collection of Formulae and Notes) เปนตน ทําใหทฤษฎตี าํ รบั ยาจีนไดรับ การพัฒนากา วหนาข้ึนอีกระดบั หนง่ึ หลงั การสถาปนาสาธารณรฐั ประชาชนจีน รฐั บาลจนี มีนโยบายสังคายนาการแพทยจนี ท่ัวประเทศ มีการรวบรวมและชาํ ระตาํ ราแพทยด ง้ั เดมิ อยา งกวางขวาง มกี ารศกึ ษาวิจยั ทางพรคี ลินกิ และทางคลนิ กิ ในสถาบันวจิ ยั ตา ง ๆ ของประเทศ โดยศึกษาครอบคลุมทั้งตาํ รับยาโบราณ ตาํ รบั ยาลบั และตํารบั ยาจาก ประสบการณของแพทยท ีม่ ชี ื่อเสียง ขณะเดยี วกันกไ็ ดคดิ คนตํารบั ยาใหม ๆ ทม่ี ปี ระสิทธิภาพจํานวน มาก และไดพ ฒั นารูปแบบยาใหม ๆ ข้ึน จากผลดงั กลาวเปนที่มาของพัฒนาการของตาํ รับยาจนี โดยสรปุ พัฒนาการของตาํ รบั ยาจนี มีประวัตศิ าสตรอันยาวนาน โดยเรมิ่ จากระดับสามัญสู ระดับที่กาวหนา ทนั สมยั ข้นึ จากความธรรมดางา ย ๆ จนกลายเปน ความลกึ ซ้ึง ซง่ึ ตอ งอาศัยเวลาอนั ยาวนาน แลวคอย ๆ สืบทอดตอกนั มาจนกลายเปน สาขาวิชาท่ีมีความโดดเดน สมบูรณ และมที ฤษฎที ่ี เปนระบบแขนงหนง่ึ ของการแพทยจีน เอกสารที่ใชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 2. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 3. วิชยั โชคววิ ฒั น. ประวตั กิ ารแพทยจีนโดยสงั เขป. วารสารการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก 2547; 2(1): 73-92.
Page 74 รปู แบบยาเตรียมของตํารบั ยาจีน 53 บทที่ 7 รูปแบบยาเตรยี มของตาํ รับยาจนี รูปแบบยาเตรียมของตํารับยาจีนมีหลายรูปแบบ เชน ยาตม ยาดองเหลา ยาน้ําเช่ือม ยา ลูกกลอน ยาเมด็ ยาแคปซลู ยาผง ยาชงพรอมด่ืม ยาเสน ยาครีม ยาฉดี เปนตน การเลอื กรปู แบบยา เตรียมท่ีเหมาะสมตองคํานึงถึงลักษณะและอาการโรคของผูปวยแตละราย คุณลักษณะเฉพาะของ ตัวยาแตละชนดิ และสรรพคณุ ของตํารับยา รูปแบบยาเตรียมท่นี ยิ มใชม ีดังตอไปน้ี 1. ยาตม (汤剂 ทงั จี้) ยาตม เปนรปู แบบยาเตรยี มท่นี ิยมใชในการแพทยแผนจนี มากท่ีสดุ เตรียมโดยนําตาํ รับยามา แชในนํา้ ใหนาํ้ ทว มตัวยาเล็กนอ ย ตัง้ ทง้ิ ไวประมาณ 30-60 นาที เพ่อื ใหน า้ํ ซึมเขา ตวั ยากอ นตม ในการ ตมยานน้ั ปรมิ าณน้ํา ระดับไฟ และเวลาทใี่ ชในการตมยาขนึ้ อยูกับคุณสมบตั ขิ องยาแตล ะประเภท เชน ยารักษาอาการภายนอก ยาแกรอ นใน ใหใ ชน ํ้าปริมาณนอ ย ใชไ ฟแรง และใชเ วลาตม นอย โดยทว่ั ไป หลังตม เดอื ดแลวใหตม ตอ อีกประมาณ 5-10 นาที หากเปนยาบํารงุ ใหเพมิ่ ปรมิ าณนาํ้ ใชไฟออ น และใช เวลาตมนานข้ึน โดยท่ัวไปหลงั ตมเดอื ดแลว ใหต ม ตออกี ประมาณ 30-40 นาที วธิ กี ารตม โดยทวั่ ไป เมือ่ เร่ิมตมใหใ ชไ ฟแรงกอน พอเดือดแลว ใชไ ฟออ น ๆ ตม ตอ ยาหนึ่ง หอจะตม 2-3 ครัง้ เม่อื ตมครัง้ แรกเสรจ็ แลว ใหร นิ นา้ํ ยาเก็บไว เตมิ นํ้าลงในกากทเ่ี หลือ แลว ตมตออีก 1-2 ครง้ั รวมนาํ้ ท่ีตม ไดท ้งั หมดเขา ดวยกนั (อาจนําไปเคยี่ วใหงวดลงอีกครงึ่ หนึง่ ) จดุ เดน ของยาตม คอื ยาดูดซึมไดรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง มีผลขางเคียงนอยและพิษต่ํา นิยมใชรักษาโรคทั่วไปหรือ โรคเฉยี บพลัน นอกจากน้ี ยังสามารถปรับเปลย่ี นสตู รตาํ รับใหเ หมาะกบั ผูปว ยได ยาตม บางตํารบั ใช รักษาแผลภายนอก โดยใชช าํ ระลางทีผ่ วิ หนัง และบางตาํ รับใชส วนทวาร 2. ยาดองเหลา (酒剂 จ่วิ จ)ี้ ยาดองเหลา เปนรปู แบบยาเตรยี มท่ีไดจ ากการนําตวั ยามาแชใ นเหลาขาว สารที่ออกฤทธิ์จะ ละลายออกมาในเหลา ยาดองเหลา มักมีลักษณะใส เหมาะสําหรบั ผูปว ยทมี่ สี ภาพรางกายออนแอ มี ปญหาเรื่องลมชน้ื ปวดเมอ่ื ยตามรางกาย บาดเจบ็ จากการชกตอ ย ตัวอยา งเชน ยาดองเหลา สบิ ทศิ (十 全大补酒 สือฉวนตาปจู ว่ิ ) และเฟงซอื เหยา จว่ิ (风湿药酒) เปน ตน
Page 75 54 ตาํ รับยาจีนทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย 3. ยานํ้าเช่อื ม (糖浆剂 ถังเจียงจ)ี้ ยานาํ้ เช่ือม แบงออกเปน 2 ประเภทคือ แบบมตี ัวยา และแบบไมมตี ัวยา (หรอื นํ้าเชอื่ มลวน) ยานาํ้ เชื่อมแบบมีตัวยามีวิธีการเตรียมคือ นาํ ตัวยามาตมน้าํ แลว นาํ นาํ้ ยาทไี่ ดไ ปเคี่ยวจนเขม ขน จากนั้น จึงใสนาํ้ เช่ือมลงไปผสมใหเ ขากนั ยานํ้าเชื่อมจะมรี สหวาน เหมาะสาํ หรบั ผูป ว ยเด็ก 4. นาํ้ ยากล่นั (药露 เหยา ลู หรอื 露剂 ลจู )้ี น้าํ ยากลั่น เปนรปู แบบยาเตรียมท่ไี ดจ ากการนําตัวยาสดทีม่ อี งคป ระกอบของสารระเหยงา ยใส หมอนง่ึ นึ่งจนกลายเปนไอ เม่ือไอนาํ้ ยาไปกระทบกับความเย็นทฝี่ าหมอ จะไดห ยดนํา้ ยาเรยี กวา น้าํ ยา กล่ัน นาํ้ ยากลั่นจะมีกล่ินหอมช่ืนใจ รสจืด ไมมีสี รับประทานงาย ใชเปนเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แก รอนใน ตัวอยา งเชน นํา้ ยากลน่ั ดอกสายนา้ํ ผึง้ (金银花露 จินอิ๋นฮวาล)ู เปนตน 5. ยาลูกกลอน (丸剂 หวานจ)ี้ ยาลกู กลอน เปนรูปแบบยาเตรียมท่มี ลี ักษณะเปนเมด็ กลม ๆ ขนาดแตกตางกนั เตรียมโดย นาํ ตวั ยาไปบดเปนผงละเอียด แลวผสมกบั น้ํากระสายยา เชน น้าํ น้ําผง้ึ นํา้ สมสายชู น้าํ ผลไม แปง เปย ก แปงหม่ีเปย ก เหลา เหลาองนุ และไขผึง้ เปนตน จากนน้ั นํามาปน เปนยาลกู กลอนดว ยมือหรอื เคร่อื งจักร โดยปกติยาลูกกลอนใชร บั ประทานรักษาโรคทัว่ ไป ประเภทของยาลกู กลอนที่นยิ มใช ไดแก 5.1 ยาลกู กลอนนา้ํ ผง้ึ (蜜丸 ม่ีหวาน) คือยาลูกกลอนท่ีใชน ้ําผง้ึ เปนนา้ํ กระสายยา เตรยี ม โดยนาํ ตัวยาที่บดเปนผงละเอยี ดมาผสมกบั น้ําผ้ึงบรสิ ุทธ์ิ แลว เคย่ี วจนเหนยี ว สีคลํา้ จากน้นั นาํ มาปน เปนกอนกลมดวยมือหรือเครื่องจักร อาจจะมีขนาดใหญหรือเล็กก็ได ขนาดใหญมีนํ้าหนักประมาณ 3-9 กรัม ขนาดเลก็ อาจจะมขี นาดตา ง ๆ กันตามตองการ เนื่องจากยาลกู กลอนชนดิ น้ใี ชน าํ้ ผึง้ เปน น้ํา กระสายยา จึงมีลักษณะคอนขางน่มิ นุม และเหนยี วชน้ื เล็กนอย กลน่ิ หอมชวนรบั ประทาน ยาออกฤทธ์ิ เรว็ ปานกลาง เหมาะสําหรับใชร กั ษาโรคท้ังประเภทเฉยี บพลนั และเรอ้ื รัง และยังมีผลบาํ รงุ รา งกายดวย ตัวอยางเชน เซิ่นชี่หวาน (肾气丸) และอันกงหนิวหวงหวาน (安宫牛黄丸) เปนตน 5.2 ยาลูกกลอนนาํ้ (水丸 สุยหวาน) คอื ยาลูกกลอนทีใ่ ชนํา้ เปนนา้ํ กระสายยา เตรยี มโดยนํา ตัวยาที่บดเปน ผงละเอยี ดมาผสมกับน้ําสะอาด หรอื ของเหลวทร่ี บั ประทานไดอนื่ ๆ เชน เหลา เหลา องุน นํา้ สมสายชู หรือแมแ ตน า้ํ ยาทเ่ี ตรียมไดจากตวั ยาอื่น ๆ จากนนั้ นาํ มาทาํ เปนยาลกู กลอนดว ยมอื หรอื เครอื่ งจกั ร ปกตมิ ักทาํ เปนยาลูกกลอนขนาดเม็ดเลก็ กลืนงาย จงึ ใชส าํ หรบั รักษาโรคทัว่ ไป ยาสามารถ แตกตัวและดูดซึมเขาสูรางกายไดเร็ว ตัวอยางยาลูกกลอนน้าํ เชน เปาเหอหวาน (保和丸) และ
Page 76 รูปแบบยาเตรียมของตํารบั ยาจีน 55 ล่ิวเสนิ หวาน (六神丸) เปน ตน 5.3 ยาลกู กลอนแปง เปย ก (糊丸 หหู วาน) คือยาลกู กลอนทใ่ี ชแปงเปย กเปน นาํ้ กระสายยา เตรียมโดยนํายาสมุนไพรทบี่ ดเปนผงละเอยี ด มาผสมกับแปง เปย กหรอื แปง หมเี่ ปย ก เพอ่ื ชว ยในการปน ลกู กลอน ยาลกู กลอนชนดิ นมี้ ีลกั ษณะเหนียวเหนอะหนะมากกวา ยาลกู กลอนชนดิ อ่นื เมือ่ รบั ประทาน ยาจงึ แตกตวั และถูกดูดซมึ ไดช ากวายาลกู กลอนนา้ํ ผึง้ และยาลูกกลอนน้ํา เปนรูปแบบยาทนี่ ิยมใชก ับตวั ยาทเ่ี ปนสารกระตนุ หรือมพี ษิ หรือระคายเคืองมาก ซงึ่ จะชว ยใหการดดู ซมึ ชา ลง ลดการระคายเคอื ง ตอทางเดินอาหาร และมีผลการรักษาเนิน่ นานออกไป ตัวอยา งยาลกู กลอนแปง เปยก เชน ซีหวงหวาน (犀黄丸) เปน ตน 5.4 ยาลูกกลอนสารสกัด (浓缩剂 หนงซวั หวาน) คอื ยาลูกกลอนท่เี ตรยี มจากนํ้ายาสมนุ ไพร สกัดเขมขน มวี ธิ กี ารเตรยี มคอื ตม ตัวยาทตี่ อ งการตามกรรมวิธกี ารเตรียมยาตม จากน้นั นาํ นํ้ายาทต่ี ม ไดม าเค่ยี วตอใหเขม ขน จนเหนียวหนืด แลว นาํ ไปผสมกบั ตัวยาอ่ืน ๆ ในตาํ รบั ทบ่ี ดเปนผงละเอียด ผสมคลุกเคลาจนเขากนั อยางสม่ําเสมอ นําไปอบใหแ หง แลว บดเปน ผงละเอยี ด นําผงยาทีเ่ ตรียมไดน ้ี ไปทาํ เปนยาลกู กลอน โดยใชนา้ํ เหลา หรอื นํ้ายาสมุนไพรท่ีเหลอื เปนน้ํากระสายยา จะไดย าลูกกลอน สารสกัด ซึ่งเปน ยาทม่ี ปี ระสิทธภิ าพสูง รักษาโรคไดโดยใชป ริมาณนอย จึงมักทาํ เปน ยาลกู กลอนเม็ด เล็ก รับประทานงาย เหมาะกับการใชร กั ษาโรคทุกชนดิ ตวั อยางยาลกู กลอนสารสกัด เชน หนิวหวง เจยี่ ตูหนงซวั หวาน (牛黄解毒浓缩丸) เปน ตน 6. ยาตัน (丹剂 ตนั จ้ี) ยาตัน เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการระเหิดเม่ือไดรับความรอนของเคร่ืองยาธาตุวัตถุท่ีมี ปรอทและกํามะถันเปนสว นประกอบ ตัวยากลุมนี้มีคุณสมบตั ิที่ดีคือ ใชใ นปริมาณนอ ยแตม ปี ระสทิ ธิภาพ สงู สวนมากมกั ใชเ ปนยาภายนอก เชน ไปเจี้ยงตัน (白降丹) และหงเซงิ ตนั ( 红升丹) เปน ตน นอกจากนี้ คําวา “ยาตัน” อาจจะหมายถึง ยาจีนทม่ี ีคุณคา หายาก และมีคุณสมบตั พิ ิเศษ ตัวอยา งเชน เสย่ี วเออ รหยุ ชนุ ตนั (小儿回春丹) หวั ลั่วตนั (活络丹) และจอื่ เสวฺ ต ัน (紫雪丹) เปน ตน 7. ยาเมด็ (片剂 เพยี่ นจ)ี้ ยาเม็ด เปนรูปแบบยาเตรียมที่ไดจากการนําตัวยามาบดเปนผง แลวเติมสารประกอบอื่น เพ่อื ใหไ ดสว นผสมและปริมาณยาท่ีเหมาะสม และชว ยในการตอกเปน เมด็ ผสมใหเ ขา กัน จากน้นั นําไป ตอกเมด็ เปน รูปแบบตา ง ๆ โดยใชเ ครื่องตอกยาเมด็ ยาเมด็ มีขอ ดคี อื รับประทานงา ย ปรมิ าณสาร สาํ คัญสมํา่ เสมอ ตน ทุนการผลิตต่ํา ดูแลรักษางา ย และการขนสงสะดวก หากตัวยามกี ลน่ิ และมรี สขม
Page 77 56 ตํารับยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย สามารถบดบังไดโดยการเคลือบยาเม็ดดวยนํา้ ตาล หากตองการใหยาเม็ดออกฤทธ์ิที่กระเพาะอาหาร หรือลาํ ไส สามารถใชสารเคลือบที่เหมาะสมได ตัวอยางเชน ซังจฺหวีก่ันเมาเพ่ียน (桑菊感冒片) และอิน๋ เฉยี วเจยี่ ตเู พ่ยี น (银翘解毒片) เปนตน 8. ยาแคปซูล (胶囊剂 เจียวหนงั จ)้ี ยาแคปซลู มี 2 ประเภท ไดแ ก ยาสมุนไพรบรรจแุ คปซลู (บดเปนผง แลว ผา นแรงเบอร 100) และสารสกดั สมนุ ไพรบรรจแุ คปซลู ขนาดของแคปซลู มหี ลายขนาด เชน 500, 250, 150 มลิ ลกิ รัม เปน ตน ปลอกแคปซูลผลิตมาจากวสั ดุตาง ๆ กนั เชน จากพืช และจากสตั ว เปนตน 9. ยาอม หรือยาเม็ดแบน (锭剂 ตง้ิ จ้ี หรอื 饼剂 ปงจี้) ยาอมหรือยาเม็ดแบน เปนรูปแบบยาเตรียมที่ไดจากการนาํ ตัวยาลวน ๆ ท่ีบดเปนผง ละเอียดหรือผสมกับสารประกอบอื่น ทาํ ใหเปนรูปแบบตาง ๆ กัน เชน รูปกลม รูปกลมแบน รูปรี รูปเหล่ียม เปนตน แลวนําไปอบแหง ใชไดทั้งรับประทาน หรือใชภายนอก เชน จื่อจินติ้ง (紫金锭) เปน ตน 10. ยาผง (散剂 สา นจี้) ยาผง เปน รปู แบบยาเตรยี มท่ีไดจากการนําตวั ยามาบดเปนผงละเอียด และผสมคลกุ เคลาให เขากัน แลวนาํ ไปอบหรอื ตากใหแ หง มที ้งั ตาํ รบั ทใี่ ชภายในและภายนอก ตํารับท่ใี ชภายในน้ัน กรณีที่ ใชขนาดยาปริมาณนอย ใหนาํ ตัวยามาบดเปนผงละเอียด แลว ชงกับน้าํ รับประทาน กรณีที่ใชขนาดยา ปริมาณมาก มักบดเปนผงหยาบ นําไปตม กบั นาํ้ กรองเอากากออก แลวรับประทานเฉพาะน้ําทก่ี รองได สวนตํารบั ยาผงทใ่ี ชภายนอก ใชวิธโี รยบนแผล หรอื บรเิ วณทีต่ องการรักษา ตํารับยาผงอาจถูกนําไป ปรุงแตงกอนนําไปใช ยาผงเปนรูปแบบยาเตรียมท่ีนิยมมากอกี รปู แบบหนง่ึ เพราะเตรียมไดงาย ใช สะดวกท้ังรับประทานหรือใชภายนอก หากการเตรียมและการเก็บรักษาดียาจะไมเส่ือมสภาพงาย นอกจากนีย้ งั มขี อ ดีในเร่ืองราคาถูกและประหยดั 11. ยาชงสมนุ ไพร (茶剂 ฉาจ้)ี ยาชงสมุนไพร เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการนําตัวยาที่บดเปนผงหยาบ มาผสมกับสาร ยึดเกาะ ปน เปนกอนหรือเม็ดเล็ก ๆ แลวอบใหแหง วิธีใชค อื นาํ มาแชในนาํ้ เดือดในภาชนะท่มี ีฝาปด นาน 5-10 นาที แลวดม่ื แทนนาํ้ ชา ตัวอยางเชน อสู อื ฉา (午时茶) เปนตน
Page 78 รูปแบบยาเตรียมของตาํ รับยาจีน 57 12. ยาชงพรอมดมื่ (冲服剂 ชงฝูจ)ี้ ยาชงพรอมดม่ื เปนรปู แบบยาเตรียมทไ่ี ดจ ากการนาํ สารสกดั กง่ึ แขง็ หรือสารสกัดแหง ( 浸 膏 จ้นิ เกา) มาผสมกับสารประกอบบางชนดิ เชน แปง หรือผงนา้ํ ตาล แลวนาํ ไปอบแหง ทําเปนเมด็ เล็ก ๆ บรรจซุ อง สําหรบั ชงนา้ํ รบั ประทาน รูปแบบยาประเภทนี้พัฒนามาจากยาตมและยาน้ําเช่อื ม มีขอ ดีคอื ใชง า ยและพกพาสะดวก ตัวยาออกฤทธิ์เร็ว เหมาะสําหรบั ใชร กั ษาโรคหลายชนิด ตวั อยางเชน ซูกาน ชงจ้ี (疏肝冲剂) และกนั่ เมา ทยุ เรอ ชงจ้ี (感冒退热冲剂) เปน ตน 13. ยาครมี ข้ผี ึง้ หรอื รปู แบบยาท่ีคลายกนั (膏剂 เกาจ)ี้ ยาครมี ขีผ้ ึง้ หรือรูปแบบยาทีค่ ลายกนั เตรยี มโดยนําตวั ยามาตม กบั น้ํา หรอื น้ํามันพืช ทําให เขมขน โดยการเค่ยี วตอ จนไดยาเตรยี มท่ีมลี ักษณะขนเหนยี วคลายครมี หรอื ยาข้ผี ึ้ง หรอื เคย่ี วจนไดย า เตรียมท่ีขนกึ่งแข็งเกือบแหงคลายยาสีฟนหรือปูนที่ผสมแลว (พรอมท่ีจะนาํ ไปฉาบ) หรือเค่ียวจนได รูปแบบเกือบแข็งเหมือนกอเอี๊ยะ หรือเคี่ยวจนแหงเปนผงสารสกัด ยาเตรียมรูปแบบนี้มีทั้งชนิด รับประทาน เชน สารสกัดเหลว (流浸膏 หลิวจ้ินเกา) สารสกัดก่งึ แข็งหรอื สารสกดั แหง (浸膏 จิ้นเกา) สารสกดั เขม ขนก่งึ เหลว (煎膏 เจยี นเกา) และชนดิ ท่ีใชท าภายนอก เชน ครีมและข้ีผง้ึ (软膏 หรวน เกา) และกอเอย๊ี ะ (硬膏 อิง้ เกา) เปน ตน 13.1 สารสกัดเหลว ( 流 浸 膏 หลิวจน้ิ เกา) เตรยี มโดยนําตวั ยามาแชในตวั ทาํ ละลายที่ เหมาะสม เพื่อใหไดสารสกัดที่ออกฤทธ์ิตามตองการ แลวนําไประเหยเอาตัวทําละลายออกโดยใช อุณหภมู ิต่าํ ปรับความเขม ขนของสารสกัดและปริมาณของตัวทําละลายใหอยูในเกณฑมาตรฐานที่ กาํ หนดไว โดยท่ัวไปยาเตรยี มสารสกัดเหลวปรมิ าตร 1 มิลลลิ ิตร จะมปี ระสทิ ธภิ าพเทียบเทา กับตวั ยา แหง นํา้ หนกั 1 กรัม เวน แตจะมีการระบุไวเ ปน กรณพี ิเศษ ตัวอยางสารสกัดเหลว เชน สารสกัดเหลว ชะเอมเทศ (甘草流浸膏 กันเฉา หลิวจนิ้ เกา) และสารสกดั เหลวกญั ชาเทศ (益母草流浸膏 อี้หมูเ ฉา หลิวจ้ินเกา) เปนตน 13.2 สารสกัดกงึ่ แข็งและสารสกดั แหง (浸膏 จนิ้ เกา) เตรยี มโดยนาํ ตวั ยามาหมกั ในตวั ทาํ ละลายท่ีเหมาะสม เพ่ือใหไดส ารสกัดท่อี อกฤทธ์ติ ามตองการ แลวนําไประเหยเอาตัวทําละลายออกโดย ใชอุณหภูมิต่ําตามมาตรฐานของสารสกัดกึ่งแข็งและสารสกัดแหง สารสกัดปริมาณ 1 กรัม จะมี ประสทิ ธิภาพเทียบเทา กบั ตวั ยาแหงนาํ้ หนกั 2-5 กรัม นิยมนําสารสกัดกง่ึ แขง็ มาเตรียมเปนยาเม็ด หรอื ยาลกู กลอน ตัวอยางเชน เหมาตงชิงจิน้ เกา (毛冬青浸膏) เปนตน สว นสารสกัดแหง ทีเ่ ปน ผงแหง ฃ นยิ มใชบรรจุแคปซูลหรือชงนํ้ารบั ประทาน ตวั อยางเชน หลงตานเฉา จิน้ เกา (龙胆草浸膏) เปนตน
Page 79 58 ตาํ รบั ยาจีนท่ใี ชบอยในประเทศไทย 13.3 สารสกัดเขมขนกง่ึ เหลว (煎膏 เจยี นเกา หรือ 膏滋 เกาจอื ) เตรียมโดยนาํ ตัวยามาตม จนกระท่ังการสกดั สมบูรณ ทิง้ กาก นาํ สารสกดั ทไี่ ดมาทําใหเ ขมขน เตมิ น้ําผึง้ หรอื นํ้าตาลกรวด หรือ น้ําตาลทรายในปริมาณที่เหมาะสม ผสมใหเ ขากัน จะไดส ารสกดั ท่มี ลี ักษณะเขมขนกงึ่ เหลว การใชย า เตรียมชนิดนี้จะใชในปริมาตรนอย รับประทานงาย เนื่องจากมีสวนผสมของน้าํ ผ้ึงหรือนํ้าตาลใน ปริมาณมาก และมีประสิทธิภาพในการบํารุงคอนขางสูง จึงเหมาะสําหรับผูปวยโรคเรื้อรังที่รางกาย ออนแอ ตัวอยางสารสกัดเขมขนก่ึงเหลว เชน อี้หมูเฉาเกา (益母草膏) และผีผาเกา (枇杷膏) เปนตน 13.4 ครมี และขี้ผงึ้ (软膏 หรวนเกา หรอื 药膏 เหยา เกา) เปนรปู แบบยาเตรยี มซง่ึ มลี กั ษณะ เปน ครมี ขนเหนียว ทาติดผิวหนังไดง าย ทอี่ ณุ หภมู ปิ กตจิ ะมลี กั ษณะคอนขา งแขง็ และมีความเหนียว เฉพาะตัว เมื่อนํามาปา ยหรอื ทาลงบนผวิ หนงั จะคอย ๆ ออ นตวั หรอื หลอมละลาย สารออกฤทธจ์ิ ะ คอย ๆ ถกู ดูดซมึ เขา สผู วิ หนงั ยาประเภทน้ีจะออกฤทธ์ิเร็วปานกลาง ตัวอยางยาครีมและขผี้ งึ้ เชน ซนั หวงหรว นเกา (三黄软膏) และครีมฟาทะลายโจร (穿心莲软膏 ชวนซนิ เหลียนหรวนเกา) เปน ตน 13.5 กอเอยี๊ ะ (硬膏 อง้ิ เกา) เตรยี มโดยใชส ารพ้นื ที่เหมาะสมผสมหรอื ละลายเขากบั ตวั ยา สมุนไพร แลว นาํ มาปายลงบนผาหรอื บนแผน วัสดทุ ใ่ี ชป ด เฉพาะทผี่ วิ หนงั สว นทเี่ ปนสดี าํ บนผา หรือ วสั ดุนั้นเรียกวา กอเอ๊ยี ะหรือกอเอี๊ยะดาํ (黑膏药 เฮยเ กาเหยา) โดยปกตทิ อี่ ุณหภูมหิ องจะมีลักษณะ เปน ของแขง็ แตจ ะออ นตวั ลงท่อี ุณหภูมริ า งกายหรอื ทป่ี ระมาณ 36-37 องศาเซลเซยี ส และยาจะเริ่ม ออกฤทธิ์ โดยคอย ๆ ถูกดูดซึมเขาสูผิวหนังเฉพาะที่หรือท่ัวรางกาย ตัวอยางยากอเอี๊ยะ เชน โกวผี เกา (狗皮膏) และซางซอื จ่อื ทง เกา (伤湿止痛膏) เปน ตน 14. ยาเสน (条剂 เถยี วจ)ี้ ยาเสน เปนรูปแบบยาเตรียมที่ไดจากการนาํ ตัวยาใสในกระดาษที่เตรียมจากเปลือกตนหมอน แลว นํามามวนเปนเสน เล็ก ๆ หรือนํามามวนเปน เสน เล็ก ๆ แลว เคลอื บดวยยาผงสมุนไพร ยาเสน มกั ใชปก เขา รหู วั ฝเพอ่ื ขบั หนอง และทาํ ใหแผลเปอ ยแหงเร็ว นยิ มใชในศลั ยกรรมจนี 15. ยาเสน ดา ย (线剂 เสย้ี นจ)ี้ ยาเสนดาย เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการนําเสนดายไหมหรือเสนดายฝายไปแชหรือตม ใน นา้ํ ยาสมุนไพร จากน้นั นาํ ไปตากแหง โดยทั่วไปมักใชยาเตรยี มประเภทนผ้ี ูกรากไฝ หรือรากริดสีดวง ทวาร
Page 80 รปู แบบยาเตรียมของตํารบั ยาจนี 59 16. ยามว นลนไฟ (灸剂 จว่ิ จี้) ยามวนลนไฟ เปนรูปแบบยาเตรียมทไี่ ดจ ากการนาํ ใบโกฐจฬุ าลมั พา (艾叶 ไอเยี่ย) มาห่นั เปน เสนฝอย จากนั้นหอมวนดวยใบโกฐจุฬาลัมพาอีกที คลายกับมวนยาสูบ เปนรูปแบบยาที่ใชในการ ฝงเขม็ หรือรักษาจุดลมปราณหรือตําแหนงทีเ่ กดิ โรค วธิ ีการใชค อื นํายาเตรยี มนี้มาจดุ ไฟ แลว นํามาลน เพือ่ การรกั ษาหรือเพือ่ การปองกนั โรค 17. ยาฉีด (针剂 เจนิ จี้ หรือ 注射剂 จูเ ซอ จ)ี้ * ยาฉีด เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการนําตัวยามาสกัด และผานกระบวนการสกัดเอา สารประกอบท่ไี มต องการออก จนไดส ารบรสิ ทุ ธ์ิ แลวนําไปเตรียมยาฉีด โดยผา นการฆาเช้อื ตามเกณฑ มาตรฐานของการเตรยี มยาฉีด ยาฉดี มีหลายประเภท ทงั้ ประเภทฉดี ใตผ วิ หนงั ฉดี เขา กลามเนอ้ื และ หลอดเลือดดํา ยาฉดี มีประสิทธภิ าพสูง มีปริมาณสารสาํ คญั ทแี่ นน อน นอกจากน้ี การดูดซมึ ของตวั ยา จะไมถูกรบกวนโดยอาหาร และตวั ยาไมถูกทาํ ลายโดยนา้ํ ยอ ยในกระเพาะอาหาร ตัวอยา งยาฉดี เชน ยา ฉดี จวฺ น่ิ หวง (菌黄注射液) และยาฉีดฟฟู างตันเซนิ (复方丹参注射液) เปน ตน เอกสารทใี่ ชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990. 2. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 3. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. *ในประเทศไทยไมอนุญาตใหใชย าเตรยี มจากสมุนไพรในรูปยาฉดี
Page 81 60 ตาํ รบั ยาจนี ท่ใี ชบ อยในประเทศไทย บทท่ี 8 ประเภทของตาํ รับยาจนี ตาํ รับยาจนี แบงตามสรรพคณุ เปนประเภทใหญ ๆ 17 ประเภท ไดแก ตาํ รับยาบํารงุ ตํารับยา ปรับใหสมดุล ตาํ รับยาปรับการไหลเวยี นของช่ภี ายในรางกาย ตาํ รบั ยารกั ษาความผิดปกติของระบบ เลอื ด ตํารับยาใหความอบอุนภายในรางกาย ตํารบั ยารักษาอาการภายนอก ตาํ รบั ยาระบายความรอ น ตํารับยาสลายความช้ืน ตํารับยาสมาน ตํารับยาชวยยอยสลาย ตาํ รับยารักษาอาการแหงขาดความ ชุมช้ืน ตาํ รับยาขับเสมหะ ตํารับยาบรรเทาอาการลม ตาํ รับยาเปดทวาร ตํารับยากลอมจิตประสาท ตํารบั ยาถาย และตํารบั ยารักษาแผล ฝห นอง รายละเอียดของตาํ รับยาแตละประเภทสรปุ ได ดังน้ี 1. ตํารบั ยาบํารงุ (补益剂 ปูอ้จี ี้) หมายถึงตาํ รบั ยาทปี่ ระกอบดวยตวั ยาทมี่ ีสรรพคณุ ชว ยเพิม่ สารจาํ เปน เพม่ิ ภูมิตานทาน และ ชว ยใหรา งกายแขง็ แรง แบงเปน 4 กลมุ ดงั น้ี 1.1 ตาํ รับยาบํารุงชี่ (补气剂 ปูชี่จี้) ประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณบํารุงช่ี สามารถเพิ่ม สมรรถนะการทาํ งานของปอดและมา ม ใชร กั ษาโรคท่ชี ีข่ องปอดและมามพรอ ง เชน เซิงมายสา น (生脉 散) เปนตน 1.2 ตํารับยาบาํ รุงเลือด (补血剂 ปูเซวี่ยจ้ี) ประกอบดวยตัวยาบาํ รุงเลือด ใชรักษาอาการ ขาดเลอื ด เชน ซือ่ อูทัง (四物汤) เปนตน 1.3 ตํารับยาบํารุงยิน (补阴剂 ปูยินจี้) ประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณเสริมบาํ รุงยิน ใช รักษาอาการยนิ ของตับ และไตพรอง เชน ล่ิวเวยต ้ีหวงหวาน (六味地黄丸) เปนตน 1.4 ตาํ รับยาบาํ รุงหยาง (补阳剂 ปหู ยางจ)้ี ประกอบดว ยตวั ยาทมี่ ีสรรพคณุ บาํ รงุ หยางของ ไต ใชรกั ษาอาการหยางของไตออ นแอ เชน เซ่นิ ชห่ี วาน (肾气丸) เปนตน 2. ตาํ รับยาปรบั ใหส มดลุ (和解剂 เหอเจย่ี จ)้ี หมายถึงตํารับยาที่ประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณรักษาอาการของโรคเสาหยาง ชวยใหการ ทาํ งานของตับ มา ม กระเพาะอาหารและลําไสดขี ้นึ ตํารับยาน้ีแบงเปน 3 กลมุ ดังน้ี 2.1 ตาํ รบั ยาปรบั เสา หยางใหส มดลุ (和解少阳剂 เหอเจ่ียเสาหยางจ)ี้ ใชรักษาโรคเสา หยาง ซ่ึงมีลักษณะกง่ึ ในก่ึงนอก เชน เสยี่ วไฉหทู งั (小柴胡汤) เปนตน
Page 82 ประเภทของตํารบั ยาจีน 61 2.2 ตํารับยาปรบั ตับและมามใหสมดุล (调和肝脾剂 เถยี วเหอกานผจี )้ี ประกอบดวยตวั ยา ทมี่ ีฤทธิก์ ระจายช่ขี องตบั และเสริมมา มใหแข็งแรง มีสรรพคณุ ปรบั ตบั และมามใหส มดุล ใชร ักษาโรคท่ี ชต่ี ดิ ขดั ไปกระทบตอมา ม หรอื มามพรองออ นแอ ไมสามารถทาํ หนา ที่ดานลาํ เลยี ง จนสง ผลใหช ข่ี องตับ กระจายไดไ มค ลอ ง ทาํ ใหต บั และมา มไมสมดลุ เชน ซือ่ หน้ีสา น (四逆散) เปนตน 2.3 ตาํ รับยาปรบั กระเพาะอาหารและลําไสใหส มดุล (调和肠胃剂 เถยี วเหอฉางเวย จ )้ี มรี ส เผ็ดและขม กระจายสเู บ้อื งลาง มีฤทธิป์ รบั มา มและกระเพาะอาหารใหส มดลุ ใชร กั ษาโรคทกี่ ารทํางาน ของกระเพาะอาหารและลําไสแปรปรวน เชน หวงเหลยี นทัง (黄连汤) เปน ตน 3. ตาํ รบั ยาปรับการไหลเวียนของชภ่ี ายในรา งกาย (理气剂 หลีช่ ี่จี)้ หมายถงึ ตํารบั ยาทสี่ ว นใหญประกอบดว ยตัวยาท่ีชว ยใหก ารไหลเวียนของชี่ภายในรางกายดีขึ้น หรอื ปรับช่ีใหลงสูเ บ้อื งลา ง แบง เปน 2 กลุม ดงั น้ี 3.1 ตาํ รับยาชว ยใหการไหลเวยี นของชีภ่ ายในรา งกายดีข้ึน (行气剂 สงิ ช่ีจ)ี้ มฤี ทธิ์ปรับการ ทาํ งานของช่ีทงั้ ระบบทาํ ใหไหลเวยี นดขี น้ึ ใชร ักษาโรคที่มอี าการช่ีติดขดั เชน ตา วช่ที งั (导气汤) เปน ตน 3.2 ตาํ รับยาปรบั ใหชลี่ งสูเ บื้องลา ง (降气剂 เจย้ี งช่ีจ)ี้ ทีม่ ฤี ทธ์ิปรับช่ีใหล งสเู บอื้ งลา ง ลดการ ไหลยอนข้นึ ของชใ่ี นรา งกาย เพื่อระงบั อาการไอหอบ หรอื อาเจียนในผูป ว ย เชน ตง้ิ ฉวนทงั (定喘汤) เปน ตน 4. ตํารบั ยารักษาความผดิ ปกติของระบบเลอื ด (理血剂 หล่เี ซวี่ยจ)ี้ หมายถึงตํารบั ยาท่ีประกอบดวยตวั ยาทม่ี ีสรรพคณุ รกั ษาอาการผิดปกตขิ องระบบเลอื ด ชว ย ปรับสมดลุ ของช่แี ละเลือด โดยทั่วไปใชบํารุงเลือด หา มเลือด สลายเลอื ดค่ัง และชว ยการไหลเวียนของ เลอื ดใหด ขี ้ึน แบงเปน 2 กลมุ ดังน้ี 4.1 ตาํ รบั ยาชว ยใหเ ลอื ดไหลเวยี นและสลายเลอื ดคั่ง (活血祛瘀剂 หวั เซว่ยี ชวยี วฺ จี )ี้ มี สรรพคุณรักษาอาการที่มีเลอื ดคัง่ และชํ้าใน (เลือดตกใน) เชน ชีหลสี าน (七厘散) และ เถยี่ ตาหวาน (铁打丸) เปน ตน 4.2 ตาํ รบั ยาหามเลือด (止血剂 จอ่ื เซวี่ยจ)้ี มฤี ทธ์หิ ามเลือดทัง้ ภายในและภายนอกรา งกาย ใชรักษาอาการของโรคท่ีมีเลือดออก เชน ไอเปนเลือด เลือดกําเดาไหล ถายเปนเลือด หรือ ประจาํ เดือนมามากผิดปกติ เชน ซ่ือเซงิ หวาน (四生丸) เปนตน
Page 83 62 ตาํ รบั ยาจีนท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย 5. ตาํ รบั ยาสมาน (固涩剂 กเู ซอ จ)ี้ หมายถึงตํารบั ยาทีใ่ ชร ักษาโรคทชี่ ีข่ องเลือด สารพน้ื ฐานในไต และอสจุ เิ คลอื่ นหล่ังออกงาย ประกอบดว ยตวั ยาทีม่ ฤี ทธย์ิ ับย้งั หรือเหนี่ยวรง้ั ใหเ สถยี ร การเคลอ่ื นหลง่ั ออกของสารภายในรางกาย ทํา ใหสูญเสียชขี่ องเลอื ด ซง่ึ มีสาเหตุและพยาธสิ ภาพของรา งกายแตกตา งกัน เชน เหง่อื ออกงาย เหง่ือออก ขณะนอนหลบั ทองเสียเร้อื รัง ถายบิดเรอ้ื รัง หล่ังอสุจิขณะหลับ หรอื ปสสาวะรดทนี่ อนในขณะหลบั ประจําเดือนมามากผิดปกตหิ รือมาทลี ะนอยไมห มด รวมถงึ อาการตกขาวมากผิดปกติ แบงเปน 4 กลมุ ดังน้ี 5.1 ตํารับยาเสริมภูมิตานทานของผิวภายนอก ระงับเหง่ือ (固表止汗剂 กูเปยวจ่ือฮั่นจ้ี) มสี รรพคุณบาํ รุงช่ี ปกปองรขู มุ ขนของรา งกาย ชวยระงบั ไมใ หเหง่อื ออกงาย ใชรักษาโรคเหงือ่ ออกเอง ซ่ึงมีสาเหตุจากพลังชี่ท่ีหอหุมผิวกายขาดภูมิตานทาน หรือใชรักษาโรคที่มีอาการยินพรอง ทําใหเกิด ความรอ น เหงอ่ื ออกมาก เชน ยวฺ ผี่ ิงเฟง สาน (玉屏风散) และหมลู ่สี าน (牡蛎散) เปนตน 5.2 ตาํ รับยาสมานลาํ ไส กระชบั ระบบขับถา ย (涩肠固脱剂 เซอฉางกทู วั จี)้ มีสรรพคณุ แก ทอ งเสีย บาํ รงุ มามและไต ชวยชะลอและยับยงั้ การถายมาก หรอื ถายโดยควบคุมไมไ ด ใชร กั ษาโรค มามและไตพรอ ง (หยางพรอง) ซ่งึ ทําใหท องเสยี เร้ือรงั ถายไมห ยุด เชน ซื่อเสินหวาน (四神丸) เปนตน 5.3 ตํารับยาเหนย่ี วรัง้ การหลง่ั นาํ้ อสุจแิ ละปส สาวะ (涩精止遗剂 เซอ จงิ จอ่ื อี๋จ)้ี มสี รรพคุณ บํารุงไต และชว ยใหไตมพี ลงั ในการเหนี่ยวร้งั ไมใ หอ สุจิเคลอ่ื นหลั่ง หรอื ปส สาวะเลด็ โดยไมม แี รงควบคมุ ใชร กั ษาโรคที่พลงั ไตพรอ ง ซง่ึ ทาํ ใหเ ก็บรัง้ อสุจไิ มอ ยู ทาํ ใหเ กดิ อาการหลัง่ เรว็ หรอื พลงั ไตพรองไม สามารถควบคุมการทาํ งานของกระเพาะปสสาวะ ทาํ ใหปสสาวะเล็ด กล้ันไมได หรือปสสาวะบอย เชน ฝูทูตนั (附菟丹) เปนตน 5.4 ตาํ รับยาระงับการตกขาวและประจําเดือนมามาก (固崩止带剂 กเู ปง จ่อื ไตจี้) มฤี ทธิ์ หามเลือดประจําเดือนทม่ี ามาก หรอื ตกขาวมากผิดปกติ ใชร กั ษาโรคประจําเดือนมามากผิดปกติ หรอื มาทลี ะนอ ย แตไมห มด รวมท้ังตกขาวมาก เชน กูจ งิ หวาน (固经丸) เปนตน 6. ตํารับยาใหค วามอนุ ภายในรางกาย (温里剂 เวนิ หลีจ่ ้)ี หมายถึงตาํ รบั ยาท่ีใชรักษากลมุ อาการเย็นภายในรา งกาย มีฤทธิท์ าํ ใหร า งกายอบอนุ สลาย ความเย็น แกป วด เสรมิ การทาํ งานของมามและกระเพาะอาหาร ตํารับยานีม้ ีรสเผ็ดรอน กลุมอาการเย็นภายในรางกาย มสี าเหตมุ าจากสภาพหยางของรา งกายพรอง หยางไมเ พยี งพอ ทาํ ใหเ กิดความเยน็ ภายในรางกาย หรือใชย าผดิ ทําใหหยางลดลง หรือกระทบกบั ความเย็นภายนอกและ
Page 84 ประเภทของตํารับยาจนี 63 เขา ถงึ อวยั วะภายใน แลว ตอไปยังเสนลมปราณ แบง เปน 3 กลุมตามความรนุ แรงของอาการของโรค และตําแหนง ทเ่ี กดิ โรค ดงั นี้ 6.1 ตาํ รบั ยาขจดั ความเย็น อุนจงเจยี ว (มามและกระเพาะอาหาร) (温中祛寒剂 เวินจงชวี หานจ้ี) ใชรักษาโรคที่มีอาการเย็นพรองภายในที่ตําแหนงจงเจียว (มามและกระเพาะ) ประกอบดวย ตัวยาทใี่ หฤทธอ์ิ นุ รอ น และเสรมิ บาํ รงุ ชขี่ องมาม เชน หล่จี งหวาน (理中丸) เปนตน 6.2 ตํารับยาฟน คืนหยางชี่ (回阳救逆剂 หุยหยางจว้ิ หนจี้ )้ี ประกอบดวยตัวยาท่ีมีคุณสมบัติ อุนรอน มีสรรพคุณอุนหยางของไต ชวยใหหยางฟนคืนกลับ ใชรักษาโรคท่ีมีอาการหนาวเย็นมาก เนื่องจากหยางของไตออ นแอ หรือหยางของหัวใจและไตออนแอ เชน ซ่ือหน้ที งั (四逆汤) เปนตน 6.3 ตํารบั ยาสลายความเยน็ อนุ เสน ลมปราณ (温经散寒剂 เวนิ จงิ สานหานจ)ี้ มีฤทธส์ิ ลาย ความเยน็ อนุ เสนลมปราณ และบาํ รงุ เลอื ด ทะลวงชีพจร ใชร กั ษาโรคท่มี อี าการหยางชไ่ี มเพยี งพอ เลอื ด ลมออนแอ หรืออาการปวดที่เกิดจากความเย็นมากระทบ ซึ่งมีผลตอการไหลเวียนของเสนลมปราณ เชน ตังกยุ ซอ่ื หนท้ี ัง (当归四逆汤) เปน ตน 7. ตาํ รบั ยารกั ษาอาการภายนอก (解表剂 เจ่ียเปยวจ)ี้ หมายถึงตํารับยาทใี่ ชร ักษากลุม อาการของโรคอันมสี าเหตุจากภายนอก เชน สภาพอากาศท้งั 6 ไดแ ก ลม ความเยน็ ความรอ นอบอาว ความช้ืน ความแหง และไฟ ตาํ รับยานี้จะออกฤทธก์ิ าํ จัดของ เสยี ท่อี ยตู ามผิวหนังออกโดยผา นการขบั เหงอื่ และกระทงุ อาการของโรคหัดใหอ อกไดง ายขึ้น โดยทวั่ ไป ตํารับยาประเภทนจี้ ะมีรสเผด็ ตอ งเลือกใชใ หเ หมาะกบั โรคตามสาเหตขุ องโรค เชน ลมรอ น ลมเย็น และสภาพรางกาย ซึง่ มลี ักษณะยนิ -หยาง แกรง พรอ งแตกตา งกนั แบงเปน 3 กลุม ดังน้ี 7.1 ตํารับยารกั ษาอาการภายนอกทีม่ รี สเผ็ดอนุ (辛温解表剂 ซงิ เวินเจยี่ เปย วจ)ี้ มรี สเผด็ และมคี ณุ สมบตั เิ ปนยาอุน ใชร กั ษาอาการไขจ ากการกระทบลมเย็น หนาวสนั่ เชน หมาหวงทงั (麻黄 汤) และ เซียงซสู าน (香苏散) เปน ตน 7.2 ตาํ รับยารกั ษาอาการภายนอกท่ีมีรสเผด็ เยน็ (辛凉解表剂 ซงิ เหลยี งเจีย่ เปยวจ้ี) มรี ส เผด็ และมีคณุ สมบตั เิ ปนยาเย็น ใชรกั ษาอาการไข เหงื่อออก เชน อิ๋นเฉียวสาน (银翘散) เปนตน 7.3 ตํารบั ยาเสรมิ ภมู คิ ุมกนั และขบั เหงอ่ื (扶正解表剂 ฝเู จ้ิงเจี่ยเปยวจ)ี้ มีฤทธิ์ขบั เหงอ่ื บํารุงรางกาย และเสรมิ ภูมคิ ุมกนั ใชร ักษาอาการไข หนาวสนั่ ในผปู ว ยที่มอี าการหนักและผปู ว ยทม่ี ี รางกายออนแอ เชน เซินซอู ิ่น (参苏饮) เปนตน
Page 85 64 ตํารบั ยาจีนทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย 8. ตํารบั ยาระบายความรอ น (清热剂 ชิงเรอจ)้ี หมายถึงตาํ รับยาที่ใชรักษากลุมอาการรอนภายในรางกาย ประกอบดวยตัวยาซึ่งมี สรรพคุณระบายความรอ น ชว ยใหเลือดเย็น และแกพ ิษ แบงเปน 7 กลุม ตามตาํ แหนงของโรค ดังน้ี 8.1 ตํารับยาระบายความรอนในระดับชี่ (清气分热剂 ชิงชี่เฟนเรอจี้) มีฤทธ์ิระบาย ความรอ นในระดับช่ี แกอ าการรอ นใน กระหายนํา้ ใชร ักษาโรคทีม่ ไี ขสงู กระหายน้ํามาก เหงื่อออกมาก ชีพจรใหญ เชน ไปหูท งั (白虎汤) เปน ตน 8.2 ตํารับยาระบายความรอ นในระบบหยงิ ช่แี ละเลือด (清营凉血剂 ชงิ อง๋ิ เหลียงเซว่ียจ)้ี มี ฤทธบิ์ รรเทาความรอ นในระบบหยิงชแ่ี ละเลือด ชวยใหเ ลอื ดเยน็ ลง กระจายการคง่ั ของเลือด และหา ม เลือดอันเนอ่ื งมาจากเลอื ดรอน ระบายความรอ นและถอนพษิ ไข เชน ชงิ อ๋ิงทงั (清营汤) เปนตน 8.3 ตาํ รับยาระบายความรอนในระดับช่ีและระดับเลือด (气血两清剂 ช่ีเซวี่ยเหล่ียงชิงจี้) มีฤทธิ์ระบายความรอนทั้งในระดับชี่และในระดับเลือด ใชในกรณีท่ีความรอนเกิดข้ึนพรอมกันทั้ง ภายในและภายนอก หรอื มีไขพ ษิ รอนซง่ึ มอี าการรุนแรง เชน ชิงเวินไปต อู น่ิ (清瘟败毒饮) เปน ตน 8.4 ตํารับยาระบายความรอน บรรเทาพิษไข (清热解毒剂 ชิงเรอเจ่ียตูจ้ี) มฤี ทธ์ริ ะบาย ความรอ น บรรเทาพษิ ไข ใชรกั ษาโรคท่ีมอี าการพษิ รอนมากภายใน รวมท้ังพษิ รอ นบริเวณศีรษะ และ ใบหนา เชน หวงเหลยี นเจย่ี ตทู ัง (黄连解毒汤) เปน ตน 8.5 ตํารบั ยาระบายความรอ นทอี่ วยั วะภายใน (清脏腑热剂 ชิงจั้งฝูเรอ จี้) มฤี ทธ์ริ ะบาย ความรอนสูงทีเ่ กดิ ขน้ึ ในอวยั วะภายในทัง้ หลาย เชน เซีย่ ไปสา น (泻白散) และเสาเหยาทงั (芍药汤) เปนตน 8.6 ตํารบั ยาลดไขจ ากยนิ พรอ ง (清虚热剂 ชิงซวเี รอ จ้ี) มีสรรพคณุ ลดไขจ ากยินพรอง (มี อาการไขต ่าํ ซึง่ เปนความรูส ึกของคนไขเอง เม่ือวดั ปรอทอาจมไี ขเ พยี งเลก็ นอย หรืออาจไมมไี ขกไ็ ด) เสริมยนิ ระบายความรอนจากภายใน ใชรกั ษาโรคที่มไี ขต ํ่า ๆ เปนเวลานาน หรอื ผปู ว ยทม่ี อี าการรอ น ในกระดกู เชน ชงิ กสู า น (清骨散) เปนตน 8.7 ตาํ รับยาลดไขจากอาการเปนลมเพราะแพแดด และเสริมชี่ (清暑益气剂 ชิงสอู ช้ี จี่ ี)้ มีสรรพคุณลดไขจากอาการเปนลมเพราะแพแดด และตัวยาท่ีมีสรรพคุณบํารุงชี่ เสริมยิน ใชรักษา โรคที่ถูกแดดเปนเวลานาน ทําใหมีอาการออนเพลีย ตัวรอน และหมดสติ เชน ลิว่ อี้สา น (六一散) และชงิ สูอชี้ ่ที ัง (清暑益气汤) เปน ตน
Page 86 ประเภทของตํารับยาจีน 65 9. ตาํ รบั ยาสลายความช้ืน (祛湿剂 ชวฺ ีซอื จ)ี้ หมายถงึ ตาํ รบั ยาท่ใี ชรักษาโรคหรอื กลุมอาการเจบ็ ปวยท่เี กดิ จากความชนื้ ประกอบดวยตัวยาที่ มีสรรพคณุ ขจดั ความช้ืนดว ยการขบั นาํ้ สลายชืน้ ระบายน้ําท่มี ีลกั ษณะขนุ เปนตะกอน เพอ่ื ใหเกิดสภาพ คลอ ง สาเหตุทท่ี าํ ใหเ กดิ ความช้นื มี 2 สาเหตุ คือ 1) ความช้นื จากภายนอก เมือ่ รางกายกระทบความชน้ื จากภายนอก ทําใหทางเดินของลมปราณ ติดขัด เกิดอาการกลวั หนาว เปน ไขตัวรอน ปวดศีรษะ ปวดเม่อื ยตามตัว หรอื อาจปวดบวมทข่ี อ ทาํ ให ขอยืดงอไมสะดวก 2) ความช้นื จากภายใน ความชื้นภายในรา งกายมีผลตอ การทํางานของมา ม ปอด ไต ทางเดิน ของซานเจียว และกระเพาะปส สาวะ ทาํ ใหร ะบบการกําจัดนํ้าเสยี บกพรอง เปน ผลใหเกิดภาวะน้ําตกคาง (น้ําเสยี ทคี่ อนขา งใส) กบั เสมหะ (น้ําเสียท่ีคอนขา งหนืด) หรอื นา้ํ เสียที่มองไมเ หน็ ดวยตาเปลา ทําให เกิดอาการบวมนํา้ รางกายของคนมีความเกี่ยวของกับปจจัยภายในและภายนอก ดังน้ันความช้ืนจากภายนอก สามารถเขาสูภายในได ในทํานองเดียวกัน ความชื้นจากภายในสามารถขจัดออกสูภายนอกไดโดยผาน ผวิ หนงั ความชื้นภายนอกและภายในจึงมผี ลตอกัน โดยทั่วไป ความชื้นมกั มาพรอ มกบั ลม ความเยน็ และความรอ น และเนือ่ งจากสภาพรา งกาย ของคนมคี วามแขง็ แรง ออ นแอ แกรง และพรอ งตางกัน ตําแหนง ท่ีเกิดโรคสามารถเกิดไดทง้ั สว นบน สว นลาง ภายในและภายนอก นอกจากน้ี อาการเจบ็ ปวยอาจแปรเปล่ียนไปเปน เย็นหรือรอ นได การ รกั ษาดวยการสลายความชื้นจึงมี 5 วธิ ี คือ (1) หากตาํ แหนงของโรคอยูภ ายนอกหรอื อยสู ว นบน ใหใชยาขบั เหงอ่ื นอ ย ๆ เพื่อขจัดความช้ืน ใหอ อกทางเหงือ่ (2) หากตําแหนงของโรคอยภู ายในหรอื อยสู วนลา ง ใหใ ชย าหอมเยน็ รสขม หรอื รสหวานอมจืด เพื่อขับน้ําออกทางปส สาวะ (3) หากความชนื้ แปรสภาพเปน เยน็ ใหอ ุนหยางสลายชน้ื (4) หากความชนื้ แปรสภาพเปนรอน ใหขจดั รอนสลายชืน้ (5) หากรางกายออนแอ (พรอ ง) มคี วามชืน้ คอนขา งมาก ใหขจดั ความชื้นพรอมกับเสรมิ บํารุง ตํารับยาสลายความช้ืนแบงเปน 5 กลมุ ดงั น้ี
Page 87 66 ตาํ รบั ยาจีนทใี่ ชบอยในประเทศไทย 9.1 ตาํ รับยาสลายความช้ืน ปรับสมดุลของกระเพาะอาหาร (燥湿和胃剂 เจา ซอื เหอเวย จ )ี้ มีรสขม มคี ุณสมบัตอิ นุ มฤี ทธิข์ จดั ความชื้นทาํ ใหแ หง และมกี ลิน่ หอม มีฤทธ์ิกระจายสลายความช้ืน ใชรักษาโรคท่ีมีความช้ืนอุดกั้นภายในรางกาย และมีลมเยน็ จากภายนอกมากระทบ เชน ผงิ เวยส า น (平胃散) เปนตน 9.2 ตาํ รับยาระบายความรอ น สลายความชืน้ (清热祛湿剂 ชิงเรอชวฺ ีซือจ)้ี มีสรรพคณุ ขจดั ความรอน ระบายความชืน้ ใชร กั ษาโรคที่มอี าการรอ นชน้ื เชน ปาเจงิ้ สาน (八正散) เปน ตน 9.3 ตํารับยาขับปสสาวะ ระบายความช้ืน (利水渗湿剂 หลสี ยุ เซิ่นซอื จ้ี) มีสรรพคุณระบาย ความช้ืนออกทางปสสาวะ ใชรักษาโรคที่มีนํ้าหรือความชื้นตกคาง (บวมนาํ้ ) เชน ซอื่ หลงิ สา น (四苓 散) เปนตน 9.4 ตํารบั ยาใหค วามอบอนุ สลายความชื้น (温化水湿剂 เวนิ ฮวา สยุ ซอื จ้)ี มสี รรพคุณ อนุ หยาง และระบายความช้ืน ใชรักษาโรคที่มคี วามเยน็ ช้นื เชน ฟจู อ่ื ทงั (附子汤) เปนตน 9.5 ตํารับยาขจัดลมชื้น และแกปวด (祛风胜湿剂 ชฺวีเฟงเซิง่ ซือจี้) มีสรรพคณุ ขจดั ลมชน้ื ใชรักษาโรคทีม่ ีอาการปวดเนื่องจากลมชืน้ หรือโรคผนื่ คันตามผวิ หนงั เชน กุยจอื เสาเหยา จือหมทู งั (桂 枝芍药知母汤) เปนตน 10. ตํารบั ยาถาย (泻下剂 เซย่ี เซย่ี จ)้ี หมายถึงตาํ รับยาท่ีใชรักษากลุมอาการแกรงภายในรางกาย ประกอบดวยตัวยาที่มีสรรพคุณ ระบายทอ ง กําจดั ของเสยี ท่ตี กคา งในกระเพาะอาหารและลาํ ไส ระบายความรอ นทส่ี ูงเกนิ ไป และขบั นา้ํ เนื่องจากกลมุ อาการแกรงภายในรา งกายทีเ่ ปนสาเหตใุ หทอ งผูกนัน้ อาจเกดิ จากความรอน ความ เย็น ความแหง และนาํ้ ตํารับยาประเภทนีจ้ ึงแบง เปน 5 กลุม ตามพยาธิสภาพของรา งกายและอายขุ อง ผูปวย ดงั น้ี 10.1 ตาํ รับยาถา ย ขบั ความรอน (寒下剂 หานเซยี่ จี้) มีคุณสมบัติเปนยาเยน็ มีสรรพคณุ เปนยาถาย ใชร ักษาโรคทอ งผกู จากความรอนสะสมภายในรา งกาย เชน เสยี่ วเฉิงชีท่ ัง (小承气汤) เปน ตน 10.2 ตาํ รับยาถา ย เสรมิ ความอบอนุ (温下剂 เวนิ เซี่ยจ)ี้ มคี ณุ สมบตั ิอุนรอน มฤี ทธส์ิ ลาย ความเย็นท่ีเปนสาเหตุใหทองผูก ใชรักษาโรคท่ีมีอาการแกรงภายในรางกายท่ีเกิดจากความเย็น เชน เวินผที งั (温脾汤) เปน ตน 10.3 ตํารับยาถาย เพ่ิมความชุมชื้นใหระบบขับถาย (润下剂 รุนเซ่ียจ้ี) มีฤทธิ์ใหความ
Page 88 ประเภทของตํารบั ยาจนี 67 ชุมชื้นและหลอลื่นลําไส เพ่ือใหถายงาย ใชรักษาโรคทองผูกเน่ืองจากน้ําในลําไสไมเพียงพอ ทําให อจุ จาระแขง็ และถายยาก เชน หมาจื่อเหรนิ หวาน (麻子仁丸) เปนตน 10.4 ตํารับยาถา ยอยา งแรง ขบั ความชน้ื (逐水剂 จสู ยุ จ)้ี มสี รรพคุณเปนยาถา ยอยา งแรง ใชรักษาโรคที่มีน้ําเสียตกคางอยูในบริเวณชองทองและทรวงอกรวมถึง อาการบวมนา้ํ ท่ีเกิดจากกลุม อาการแกรง เชน สือเจา ทงั (十枣汤) เปน ตน 10.5 ตาํ รับยาระบาย เพ่ิมความแข็งแรงของลําไส (攻补兼施剂 กงปูเจียนซือจี้) มี สรรพคณุ บาํ รุงและระบาย ใชร กั ษาโรคที่มอี าการแกรงภายใน และพลังชี่ของรา งกายออ นแอ (พบในคน ทสี่ ุขภาพออ นแอ ทองผกู งา ย) หากระบายอยา งเดียวจะทาํ ใหม อี าการออนเพลียมากขน้ึ จึงตองทั้งบาํ รุง และระบายทองพรอมกัน เชน ซนิ เจียหวงหลงทงั (新加黄龙汤) เปนตน 11. ตาํ รบั ยาชวยยอยสลาย (消导剂 เซยี วตา วจ)ี้ หมายถึงตาํ รับยาท่ีสวนใหญประกอบดวยตัวยาที่มีสรรพคุณชวยใหระบบยอยอาหารดีขึ้น ขับ อาหารตกคาง บรรเทาทองอดื หรอื อาการจุกเสยี ดแนน ทอง แบง เปน 2 กลมุ ดงั น้ี 11.1 ตํารับยาชวยยอยอาหาร ขับอาหารตกคาง (消食导滞剂 เซียวสือตาวจื้อจี้) ตาํ รับยา กลุมนี้ประกอบดวยตัวยาที่มีสรรพคุณชวยบรรเทาอาการจุกเสียดทองและชวยยอยอาหาร ใชรักษา อาการอาหารไมย อ ย เชน เปาเหอหวาน (保和丸) เปน ตน 11.2 ตาํ รับยาชวยยอยอาหาร บรรเทาอาการทองอืด (消痞化积剂 เซียวผ่ีฮวาจีจี้) มี สรรพคณุ ชวยใหชี่เดนิ ชวยการไหลเวียนของเลือด และขับชนื้ สลายเสมหะซง่ึ เปน สาเหตใุ หท องอดื เชน จอ่ื สือเซียวผหี่ วาน (枳实消痞丸) เปน ตน 12. ตํารบั ยาขับเสมหะ (祛痰剂 ชวีถันจ)้ี หมายถึงตํารบั ยาท่ใี ชรักษาโรคตา ง ๆ อันเกิดจากเสมหะ ประกอบดว ยตวั ยาทม่ี สี รรพคณุ ขบั เสมหะและนาํ้ เสียที่ตกคา งใหห มดไป เนอื่ งจากเสมหะมีหลายชนิด เชน เสมหะชืน้ เสมหะรอ น เสมหะ แหง เสมหะเย็น และเสมหะปนลม ดงั นนั้ จึงตอ งเลือกใชใหเ หมาะสม ดังน้ี 12.1 ตาํ รับยาสลายความช้ืน ละลายเสมหะ (燥湿化痰剂 เจาซือฮวาถันจี้) ประกอบดวย ตวั ยาละลายเสมหะ สลายความชื้น และตวั ยาท่ีมีรสขม อนุ ชว ยใหค วามชนื้ หายไป หรือตัวยาทีม่ รี ส หวานจืด ชวยระบายความชื้น ใชรักษาโรคท่ีมีอาการเสมหะช้ืน เชน เออรเฉินทัง (二陈汤) และ เวินตา นทัง (温胆汤) เปนตน
Page 89 68 ตํารบั ยาจนี ทใี่ ชบอยในประเทศไทย 12.2 ตาํ รบั ยาขจดั ความรอ น ขบั เสมหะ (清热化痰剂 ชิงเรอฮวา ถนั จ)้ี มีสรรพคุณขจัด ความรอนและสลายเสมหะ ใชรักษาโรคที่มีอาการเสมหะรอน เชน ชงิ ชี่ฮวาถันหวาน (清气化痰丸) เปนตน 12.3 ตํารับยาเพ่มิ ความชมุ ช้นื ใหปอด ละลายเสมหะ (润燥化痰剂 รุน เจา ฮวา ถนั จ)้ี มี สรรพคุณสลายเสมหะและชว ยใหป อดชมุ ชื้น ใชรักษาโรคท่มี อี าการเสมหะแหง เชน เออรห มูสาน (二 母散) เปนตน 12.4 ตาํ รบั ยาอนุ ปอด ขบั เสมหะเยน็ (温化寒痰剂 เวินฮวา หานถันจ)้ี มสี รรพคุณเพม่ิ ความอบอนุ ใหป อด สลายเสมหะ ใชรกั ษาโรคท่ีมอี าการเสมหะเย็น เชน ซันจ่อื หยางชนิ ทัง (三子养 亲汤) เปน ตน 12.5 ตาํ รับยาสลายเสมหะ ขับลม (治风化痰剂 จอื้ เฟงฮวา ถนั จ้ี) มีสรรพคณุ สลายเสมหะ และขับลม แบง เปน 2 กลุมยอย คือ - ตาํ รบั ยาขบั ลมภายนอกที่ทาํ ใหเ กิดเสมหะ (疏风化痰剂 ซเู ฟงฮวา ถนั จ)ี้ เหมาะกบั ผปู วยทมี่ ีเสมหะเนอ่ื งจากลมภายนอก ทาํ ใหป อดกระจายชไี่ มค ลอง จงึ เกิดเสมหะ ตองรักษาดว ยการ กระจายลมและสลายเสมหะ เชน จอ่ื โซวสาน (止嗽散) เปนตน - ตํารบั ยาขบั ลมภายในทที่ ําใหเ กิดเสมหะ (熄风化痰剂 ซเี ฟงฮวา ถนั จี้) เหมาะกับ ผปู ว ยที่มีเสมหะเน่อื งจากพน้ื ฐานเดมิ มีเสมหะอยกู อ นแลว เมอ่ื มีลมจากตบั ชกั นาํ ใหเสมหะข้นึ สสู วนบน ของรางกาย จงึ ทําใหเกดิ อาการเจ็บปวยตาง ๆ ตองรกั ษาดวยการขับลมภายในและสลายเสมหะ ตํารบั ยาในกลุมน้ีประกอบดว ยตวั ยาทีม่ สี รรพคณุ ขบั ลมภายในและสลายเสมหะ เชน ปนเซี่ยไปจเู ทียนหมาทงั (半夏白术天麻汤) เปนตน 13. ตํารบั ยารักษาอาการแหงขาดความชุม ช้ืน (治燥剂 จื้อเจา จ)้ี หมายถึงตาํ รับยาท่ีประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณเสริมสรางนํา้ หลอเลี้ยง ชวยใหอวัยวะมี ความชมุ ช้ืน แบง เปน 2 กลุม ดงั นี้ 13.1 ตํารบั รักษาอาการแหงภายนอกท่ีออกฤทธกิ์ ระจายเบาบาง ชว ยการไหลเวียนของชที่ ป่ี อด (轻宣外燥剂 ชงิ ซวนไวเจา จี)้ มีสรรพคณุ รกั ษาความแหงอันเนอื่ งมาจากอากาศภายนอก มักเกดิ ใน ฤดูใบไมร ว ง เม่ือลมหนาวมา ทําใหช่ีปอดกระจายไมค ลอง นยิ มใชต วั ยาทมี่ คี ุณสมบัตอิ ุน น้ําหนักเบา เชน ซงิ่ ซสู า น (杏苏散) เปนตน
Page 90 ประเภทของตํารับยาจีน 69 13.2 ตํารับยารักษาอาการแหงภายในดวยการเพิ่มความชุมชื้น เสริมยิน (滋润内燥剂 จือรนุ เนย เ จาจ)ี้ มีสรรพคุณรกั ษาอาการแหง แบบรอ น มักจะเกิดในชว งตนฤดใู บไมร วง ซงึ่ ยงั มคี วาม รอ นของปลายฤดูรอ นแฝงอยู ทาํ ใหน้าํ หลอเลีย้ งในปอดลดลง นิยมใชย าท่มี คี ณุ สมบัติเยน็ น้ําหนักเบา เชน อีเ้ วย ทัง (益胃汤) และหยา งยนิ ชิงเฟย ท ัง (养阴清肺汤) เปน ตน 14. ตาํ รับยาเปด ทวาร (开窍剂 ไคเช่ียวจ้)ี หมายถึงตาํ รับยาท่ปี ระกอบดวยตัวยาท่มี รี สเผ็ด มีกลน่ิ หอม ทะลวงไดด ี สามารถเปดทวาร ทาํ ใหม สี ตฟิ น ฟูสมั ปชญั ญะ ใชร ักษาอาการหมดสติ สตเิ ลอะเลือน เกิดอาการชกั หรืออมั พฤกษ แบงเปน 2 กลมุ ดังนี้ 14.1 ตํารับยาเปด ทวารประเภทยาเยน็ (凉开剂 เหลียงไคจ้ี) มกี ล่นิ หอมเย็น ใชรวมกบั ตวั ยาทม่ี สี รรพคณุ ระบายความรอ นของหวั ใจ และชวยใหเ ลอื ดเยน็ ลง ใชรักษาโรคทมี่ อี าการรอ นจัด หรอื พษิ รอนเขา สูเยอื่ หมุ หัวใจ ทําใหห มดสติ เชน หนิวหวงชงิ ซนิ หวาน (牛黄清心丸) เปนตน 14.2 ตาํ รับยาเปดทวารประเภทยาอนุ (温开剂 เวินไคจ)้ี มกี ล่ินหอม ใชร วมกับยาทม่ี รี ส เยน็ มคี ณุ สมบัติอุน ชว ยใหการไหลเวยี นของชดี่ ีขีน้ ใชรักษาโรคทมี่ ีอาการหมดสติเนื่องจากความเย็น ปดก้ันทวาร เชน ผปู ว ยโรคอมั พฤกษทไ่ี ดรบั ความเย็นจนหมดสติ หรอื เสมหะตีขน้ึ สมอง ทําใหหมดสติ เชน ทงกวนสา น (通关散) เปนตน 15. ตาํ รบั ยากลอมจิตประสาท (安神剂 อันเสนิ จี้) หมายถึงตาํ รับยาที่สวนใหญประกอบดวยตัวยาที่มีฤทธิ์คลายเครียด หรือตัวยาบํารุงหัวใจ กลอมประสาท ลดความกระวนกระวายใจ แบงเปน 2 กลมุ ดงั นี้ 15.1 ตาํ รับยาชว ยควบคุมจิตประสาทใหสงบเปนปกติ บรรเทาอาการชกั หรือชอ็ ค (重镇安神 剂 จง เจนิ้ อันเสนิ จ้ี) มฤี ทธ์ริ ะงับประสาท มีสรรพคณุ บรรเทาอาการตกใจกลวั อาการกระวนกระวายไม อยูน่งิ และแกโ รคลมชกั เชน จซู าอนั เสินหวาน (朱砂安神丸) เปน ตน 15.2 ตํารบั ยาบาํ รงุ หัวใจ ชวยใหนอนหลบั (滋养安神剂 จือหยางอนั เสนิ จ)้ี มฤี ทธิ์บํารงุ เลอื ดและยนิ ชว ยใหจติ ใจสงบ ชว ยใหนอนหลับ ใชร กั ษาโรคทมี่ อี าการตกใจงาย หวาดกลัว ใจส่ัน และนอนไมหลับ เชน ซวนเจาเหรินทัง (酸枣仁汤) และเทียนหวางปูซนิ ตัน (天王补心丹) เปน ตน
Page 91 70 ตํารบั ยาจนี ท่ีใชบ อยในประเทศไทย 16. ตาํ รบั ยาบรรเทาอาการลม (治风剂 จ้ือเฟงจ)ี้ หมายถึงตาํ รับยาที่ประกอบดวยตัวยาที่มีรสเผ็ด มีฤทธิ์กระจายลม หรือเสริมยิน ลดหยาง ภายในรางกาย แบงเปน 2 กลมุ ดังนี้ 16.1 ตาํ รับยาปดเปาลมภายนอก (疏散外风剂 ซูสานไวเฟงจี้) มีรสเผ็ด มีฤทธก์ิ ระจาย ลม มีสรรพคุณรักษาอาการเจบ็ ปว ยจากการกระทบลมภายนอก เชน เซยี วเฟงสา น (消风散) เปนตน 16.2 ตาํ รับยาสงบลมภายใน (平熄内风剂 ผงิ ซเี นย เ ฟงจ)ี้ มีสรรพคณุ สงบลมของตบั เปน หลัก โดยทว่ั ไปมักใชรว มกบั ตวั ยาที่มฤี ทธิร์ ะบายความรอน สลายเสมหะ บํารุงเลือด ใชร กั ษาโรคที่มี อาการเจบ็ ปวยจากลมภายในรา งกาย เชน เจิน้ กานซีเฟงทงั (镇肝熄风汤) เปนตน 17. ตาํ รับยารกั ษาแผล ฝห นอง (痈疡剂 ยงหยางจ)ี้ หมายถึงตาํ รับยาท่ีประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณขับพิษรอน ขับหนอง หรือสลายตุมกอน ดวยความอุน ใชร กั ษาโรคแผล ฝ หนอง ตุมกอนตา ง ๆ แบงเปน 2 กลุม ดังน้ี 17.1 ตาํ รับยารกั ษาแผล ฝห นองภายนอกรา งกาย (外痈剂 ไวยงจ)ี้ มสี รรพคณุ รกั ษาแผล ฝ หนองท่เี กิดตามผวิ หนังภายนอก ไดแก ฝฝก บวั ฝหัวแขง็ ตมุ หนองที่ผิวหนัง งูสวัด ไฟลามทุง ตอม น้ําเหลืองโต เชน เซียนฟางหัวม่ิงอ่ิน (仙方活命饮) และหยางเหอทงั (阳和汤) เปนตน 17.2 ตาํ รับยารกั ษาแผล ฝห นองภายในรา งกาย (内痈剂 เนย ย งจ)ี้ มีสรรพคุณรกั ษาแผล ฝ หนองทีเ่ กดิ ตามอวัยวะภายในตา ง ๆ เชน ฝในปอด ไสติง่ อักเสบ เชน ตาหวงหมตู นั ทัง (大黄牡丹 汤) เปนตน เอกสารทีใ่ ชประกอบการเรยี บเรยี ง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999.
Page 92 ตํารับยาจนี 71 บทที่ 9 ตาํ รบั ยาจีน ตาํ รับยาจีนท่ไี ดค ดั เลือกมาบรรจไุ วใ นหนงั สือเลม น้ี มีจาํ นวน 30 ตํารบั แบง เปน 10 ประเภท ดงั น้ี 1. ยาบํารงุ - ยาบํารงุ ช:ี่ ซือ่ จฺวินจอื่ ทัง (四君子汤) เซงิ มายสาน (生脉散) ปูจงอช้ี ี่ทัง (补中益气汤) - ยาบํารงุ เลอื ด: ซ่อื อทู ัง (四物汤) - ยาบํารงุ ยนิ : อกี ว นเจยี น (一贯煎) ล่วิ เวยต ้ีหวงหวาน (六味地黄丸) - ยาบํารุงหยาง: เซ่ินชี่หวาน (肾气丸) 2. ยาปรับสมดลุ - ยาปรับเสาหยางใหส มดุล: เส่ยี วไฉหทู งั (小柴胡汤) - ยาปรบั ตบั และมา มใหสมดุล: ซอ่ื หน้สี า น (四逆散) เซียวเหยาสา น (消遥散) 3. ยาสมาน - ยาเสริมภูมิตา นทานของผิวภายนอก ระงับเหงอ่ื : ยวฺ ผ่ี งิ เฟงสา น (玉屏风散) - ยาสมานลําไส กระชบั ระบบขบั ถา ย: ซอื่ เสนิ หวาน (四神丸) 4. ยาใหค วามอบอุนภายในรา งกาย - ยาขจัดความเยน็ อุนจงเจยี ว: หล่ีจงหวาน (理中丸) หวูจยู ฺหวที งั (吴茱萸汤) 5. ยารกั ษาอาการภายนอก - ยารักษาอาการภายนอกทมี่ รี สเผด็ อนุ : หมาหวงทงั (麻黄汤) กยุ จือทงั (桂枝汤) เส่ยี วชงิ หลงทงั (小青龙汤) 6. ยาระบายความรอ น - ยาระบายความรอ นในระดับช:่ี ไปห ทู ัง (白虎汤) - ยาระบายความรอน บรรเทาพิษไข: หวงเหลยี นเจีย่ ตูทงั (黄连解毒汤)
Page 93 72 ตาํ รับยาจนี ทใี่ ชบอยในประเทศไทย - ยาระบายความรอ นที่อวัยวะภายใน: ยวฺ ่ีนหฺ วเี่ จียน (玉女煎) ชิงเวย สา น (清胃散) เซ่ียหวงสา น (泻黄散) เซี่ยไปส าน (泻白散) ไปโ ถวเวงิ ทงั (白头翁汤) 7. ยาสลายความช้ืน - ยาขับปส สาวะ ระบายความช้ืน: อหู ลิงสาน (五苓散) 8. ยาถา ย - ยาถา ย ขบั ความรอน: ตาเฉงิ ชท่ี งั (大承气汤) - ยาถา ย เสรมิ ความอบอนุ : เวนิ ผที งั (温脾汤) ไตหวงฟจู อื่ ทัง (大黄附子汤) 9. ยาชว ยยอยสลาย - ยาชว ยยอยอาหาร ขับอาหารตกคาง: เปาเหอหวาน (保和丸) 10. ยาขับเสมหะ - ยาสลายความชืน้ ละลายเสมหะ: เออ รเ ฉินทงั (二陈汤) รายละเอียดของตาํ รับยาจนี แตละตํารับ จะประกอบดว ย ตาํ ราตน ตาํ รับ สว นประกอบ วธิ ใี ช การออกฤทธ์ิ สรรพคณุ คําอธิบายตาํ รับ รูปแบบยาในปจจุบัน ขอ แนะนําการใช ขอควรระวงั ในการใช ขอหา มใช ขอ มลู วิชาการที่เกย่ี วของ เอกสารอา งองิ และภาพประกอบของตาํ รบั ยาและตวั ยา ดงั นี้
Page 94 ตาํ รบั ยาบาํ รงุ : ซ่ือจฺวนิ จอ่ื ทัง 73 ซอื่ จวฺ ินจื่อทงั (四君子汤) ตําราตนตํารับ 太平惠民和剂局方 ไทผงิ หุย หมนิ เหอจ้ีจฺหวีฟาง (Prescription of Peaceful Benevolent Dispensary)1 « ค.ศ. 1151 Chen Shiwen (陈师文 เฉินซือเหวิน) »2 สวนประกอบ Radix Ginseng เหรินเซิน 10 กรัม 9 กรัม 人参 Poria ฝูหลิง 9 กรมั 茯苓 6 กรมั 白术 Rhizoma Atractylodis Macrocephalae ไปจู 甘草 (炙) Radix Glycyrrhizae Praeparata กนั เฉา (จ้อื ) วธิ ีใช ตมเอานาํ้ ด่ืม1,3 การออกฤทธ์ิ เสริมช่บี ํารุงมาม1,3 สรรพคณุ รักษาอาการชี่ของระบบมามและกระเพาะอาหารพรอง โดยมีอาการรับประทานอาหารไดนอย เบื่ออาหารและถา ยเหลว หนาซดี ขาว พูดเสียงเบาออน มอื เทา ไมม ีแรง ชีพจรจมเลก็ ออน หรือ ชีพจรจม เตนชา 1,3 ตํารับยานีส้ ามารถเพมิ่ หรอื ลดขนาดยาใหเ หมาะสมในผปู วยโรคโลหิตจางจากการขาดสารอาหาร เน่อื งจากระบบการยอ ยอาหารไมดี โรคกระเพาะอาหารและลําไสอ ักเสบเรือ้ รงั หรอื ผูป ว ยโรคบดิ เรอื้ รังซ่ึง เกดิ จากช่ขี องมามและกระเพาะอาหารพรอง1,3
Page 95 74 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบอ ยในประเทศไทย ตํารบั ยา ซอ่ื จวฺ นิ จอ่ื ทงั (四君子汤) 2 เซนติเมตร เหรินเซนิ (人参) 5 เซนตเิ มตร ฝูหลงิ (茯苓) 3 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร ไปจ ู (白术) กันเฉา(จ้ือ) [甘草(炙)]
Page 96 ตาํ รบั ยาบํารุง: ซอื่ จฺวินจ่อื ทงั 75 คําอธิบายตาํ รับ สมนุ ไพร ทําหนา ที่ รส คณุ สมบตั ิ สรรพคณุ 人参 เหรินเซนิ ตัวยาหลัก หวานอมขม (โสมคน) อุน เสรมิ พลังช่ี (อยางมาก) เสริม เล็กนอ ย 茯苓 ฝูหลิง เล็กนอ ย ปอด บํารุงมามและกระเพาะ (โปง รากสน) ตัวยาเสรมิ หวาน เลก็ นอ ย อาหาร สรางธาตุนาํ้ ชวยให 白术 ไปจู ตัวยาชว ย ขม จติ ใจสงบ 甘草 (炙) อมหวาน กลาง ระบายความชื้นและน้าํ เสริม กันเฉา (จอ้ื ) ตวั ยานําพา หวาน (ชะเอมเทศผดั น้าํ ผึง้ ) มามใหแ ข็งแรง ชว ยใหจติ ใจ สงบ อุน บํารงุ ชี่ เสรมิ มา มใหแ ข็งแรง แกค วามชืน้ ระบายน้ํา ระงบั เหงือ่ กลอ มครรภ อนุ เสรมิ ช่ี บํารุงสว นกลาง ปรับ ประสานตัวยาทั้งหมดให เขากัน รปู แบบยาในปจจบุ ัน ยาตม ยาเม็ด ยาลูกกลอน4 ขอ ควรระวังในการใช 1. ถา ใชยาซอ่ื จวฺ นิ จือ่ ทงั นาน ๆ จะปรากฏอาการปากและลน้ิ แหง กระหายนํ้า หงุดหงดิ และ กระสับกระสาย1,3 2. ตองระมัดระวงั ในการใชย าซื่อจวฺ นิ จ่อื ทังในผูปว ยท่มี อี าการไขส งู รอ นจัดเนอ่ื งจากยนิ พรอง หรือมสี ารตกคา งในกระเพาะอาหาร ทอ งอืด มีสารนํ้าไมเ พียงพอ หงดุ หงดิ กระหายนํ้า และทอ งผูก1,3 ขอมูลวชิ าการทเี่ กยี่ วของ ตํารับยาซ่อื จฺวินจือ่ ทงั มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดน้าํ มฤี ทธิ์บาํ รงุ มามในหนขู าวและหนูถีบจักร ชว ยปรบั สมดลุ
Page 97 76 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบอ ยในประเทศไทย การทาํ งานของกระเพาะอาหารและลําไสในหนูขาว เสรมิ ภูมคิ มุ กนั ในหนถู ีบจกั ร เสริมสรางเซลลส มอง และเซลลต ับในหนถู ีบจกั รท่ีอายมุ าก4 การศกึ ษาทางคลินิก: ตํารับยาซ่อื จวฺ นิ จ่ือทงั มสี รรพคณุ ในการเพิ่มประสทิ ธภิ าพการทาํ งานของ ประสาทสวนกลาง กระตุนการเผาผลาญ เพมิ่ ภมู ติ า นทาน ปรบั สภาพการทํางานของกระเพาะอาหารและ ลําไส เพ่ิมประสทิ ธิภาพการดดู ซมึ ของระบบการยอ ยอาหาร ระงับอาการทอ งเสยี แกอ าการบวมน้ํา และ ชว ยขับปส สาวะ1,3 เหรินเซิน [โสมคน (Radix Ginseng)] คือ รากแหงของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Panax ginseng C.A. Mey. วงศ Araliaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดนา้ํ ทางปากและฉีดเขาชองทองหนูถีบจักรในขนาด เทียบเทาผงยา 1-3 กรัม/กิโลกรัม มีผลชวยใหหนูถีบจักรมีความจาํ ดีข้ึน และมีรายงานวาโสมคนมีฤทธิ์ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุมกันของรางกาย โดยการกระตุนระบบภูมิคุมกันแบบไมเฉพาะเจาะจง นอกจากน้ีโสมคนยงั ชวยปรับการเตนของหวั ใจใหกลบั สูภ าวะปกตเิ รว็ ขนึ้ ทําใหเหน่อื ยชา ลง และสามารถ ทาํ งานไดน านขึ้น6 การศึกษาทางคลินิก: เมือ่ ใหผ ูปวยที่มอี าการเครยี ดและออ นเพลยี รบั ประทานยาเตรียมทงิ เจอร จากโสมคนความเขมขน 3% วนั ละ 3 ครงั้ คร้ังละ 5 มลิ ลลิ ติ ร ตดิ ตอ กันทกุ วนั เปนเวลา 5-7 วัน พบวา อาการปวดศีรษะ นอนไมหลับ เบื่ออาหาร ดีขึ้นอยางชัดเจน6 เม่ือใหผูปวยโรคโลหิตจางรับประทาน สารสกดั ทกุ วัน วนั ละ 60-120 มลิ ลกิ รมั พบวานอกจากประสทิ ธิภาพการทาํ งานของไขกระดูกเพ่มิ ข้ึน แลว ยงั ชว ยบรรเทาอาการออนเพลียหรอื เม่อื ยลา เบอื่ อาหาร เวียนศรี ษะ หัวใจเตนเร็วของผปู ว ยใหด ขี ึ้น ดวย นอกจากนี้โสมคนยังมสี รรพคณุ ชว ยเพ่มิ สมรรถนะในการทํางานของรา งกายใหส งู ขึ้น ตา นความ เม่ือยลา และเพมิ่ ประสทิ ธิภาพของระบบภมู คิ ุมกันของรางกาย6,7 การศึกษาความปลอดภัย: มีรายงานการศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาขนาดของ ผงยาและสารสกัดนา้ํ เมื่อใหทางปากที่ทาํ ใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 5 และ 1.65 กรมั /กโิ ลกรัม ตามลําดับ6 ฝูหลิง [โปงรากสน (Poria)] คือ เห็ดที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนํ้ามีฤทธิ์สงบประสาทในหนูถีบจักร คลายกลามเน้ือเรียบ ของลําไสกระตาย8 ผงยาเม่ือใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มีผลยับย้ังอาการ
Page 98 ตาํ รับยาบํารงุ : ซอื่ จฺวนิ จอ่ื ทงั 77 ผิวหนังอักเสบ สารสกัดน้าํ ตาลเชิงซอ นเมอื่ ใหทางปากหนถู ีบจกั รในขนาด 250, 500 และ 1,000 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรมั วันละคร้งั ติดตอกนั นาน 7 วนั มฤี ทธเิ์ สรมิ มามใหแ ข็งแรง และเมือ่ ฉีดสารสกัด 70% แอลกอฮอลเ ขา ชองทอ งกระตา ยในขนาด 0.5 กรมั /กิโลกรมั วนั ละครง้ั ตดิ ตอ กันนาน 5 วนั มีฤทธ์ิขบั ปส สาวะ นอกจากน้ียงั พบวา เมือ่ ฉดี ยาเตรยี มเขา ใตผ ิวหนงั หนขู าวในขนาดเทียบเทา ผงยา 1.4 กรมั / กโิ ลกรัม วันละครั้ง ตดิ ตอ กนั นาน 8 วนั มผี ลปกปองตับได9 การศึกษาทางคลินกิ : สารสกดั นํ้าสามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจติ ใจไมสงบชนิดเร้ือรงั และมีฤทธริ์ ะบายความชืน้ และนาํ้ 9 ไปจู (Rhizoma Atractylodis Macrocephalae) คือ ลําตนใตดินแหงของพืชที่มีชื่อ วิทยาศาสตรวา Atractylodes macrocephala Koidz. วงศ Compositae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจัย ดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ผงยามฤี ทธิ์ปกปอ งตบั และเพม่ิ การทํางานของระบบภูมคิ มุ กันในหนู ถบี จักร สารสกดั นํา้ เมอ่ื ใหห นถู ีบจักรทางปากในขนาดเทยี บเทาผงยา 6 กรัม/กโิ ลกรัม มีผลเพิ่มน้าํ หนัก ตัวและความทนทานของหนูถีบจกั ร นอกจากนส้ี ารสกัดนาํ้ ยงั มฤี ทธขิ์ ับปส สาวะในหนูขาว กระตาย และ สนุ ัข10 การศึกษาทางคลินิก: ผงยามีฤทธขิ์ ับปสสาวะ รกั ษาอาการตบั แข็ง และโรคทอ งมาน (มนี าํ้ ขงั ใน ชอ งทอ ง)10 การศึกษาความปลอดภยั : มีรายงานการศกึ ษาพษิ เฉยี บพลนั ในหนูขาวโดยการฉดี สารสกดั นํา้ เขา ชอ งทอ ง พบวา ขนาดของสารสกดั เทยี บเทาผงยาท่ีทาํ ใหห นขู าวตายรอยละ 50 (LD50) มีคา มากกวา 13.3 กรมั /กิโลกรมั และเมอ่ื ใหส ารสกดั นา้ํ ทางปากหนูขาวในขนาด 0.5 กรมั /กโิ ลกรัม ทกุ วันตดิ ตอ กัน นาน 30-60 วนั ไมท าํ ใหเกดิ อาการพิษใด ๆ8 กนั เฉา (จ้ือ) [ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผ้งึ (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คือ รากแหง ของพชื ท่ี มชี อ่ื วิทยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรยี มโดยนาํ นาํ้ ผ้ึงบรสิ ทุ ธิ์มาเจือจางดวยนํา้ ตม ในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม ใสชะเอมเทศทห่ี ัน่ เปน แวน ๆ หรอื เปน ช้นิ ๆ ตามตองการ (อตั ราสว นของสมนุ ไพร:นา้ํ ผ้งึ เทากับ 4:1) แลว คลกุ ใหเ ขา กนั หมกั ไวส กั ครูเ พื่อใหน ํา้ ผ้งึ ซมึ เขาในตวั ยา จากนัน้ นําไปผัดในภาชนะท่ีเหมาะสมโดยใช ระดบั ไฟปานกลาง ผดั จนกระท่ังมสี เี หลืองเขมและไมเหนียวตดิ มอื นาํ ออกจากเตา แลว ตงั้ ทง้ิ ไวใ หเย็น11
Page 99 78 ตาํ รับยาจนี ท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย ชะเอมเทศมีคุณสมบัติเปนกลางคอนขางเย็นเล็กนอย มีรสอมหวาน มีสรรพคุณระบาย ความรอนขับพิษ แกไอ ขับเสมหะ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารักษาอาการไอมีเสมหะมาก พิษจาก ฝแผล คอบวมอักเสบ หรือพษิ จากยาและอาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอ นและขับพษิ ได หาก นํามาผัดนํ้าผึ้งจะทาํ ใหม ีคณุ สมบัตอิ ุน มีรสหวาน มสี รรพคณุ บาํ รุงมา มและกระเพาะอาหาร เสรมิ ช่ี ทาํ ให การเตน ของชีพจรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารักษาอาการมามและ กระเพาะอาหารออ นเพลีย ไมมีแรง ชีข่ องหัวใจพรอง ปวดทอง เสนเอ็นและชพี จรตึงแขง็ ชพี จรเตนไม สม่าํ เสมอ และชีพจรเตนหยุดอยางมีจังหวะ มีรายงานผลการศึกษาเปรียบเทียบปริมาณกรดกลี ไซรไรซิก (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศทีผ่ ดั และไมไ ดผัดนํ้าผง้ึ พบวา ชะเอมเทศผัดนา้ํ ผ้ึงจะมี ปริมาณสารดังกลา วนอยกวาชะเอมเทศทีไ่ มไ ดผ ัดรอยละ 47-60 ทงั้ นข้ี ้ึนอยกู ับคณุ ภาพของเคร่อื งยา11 การศกึ ษา วจิ ยั ของชะเอมเทศผดั นํ้าผึ้ง มีดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: มีรายงานการศกึ ษาเปรยี บเทียบฤทธ์ิเสริมภมู ิคุมกนั ของชะเอมเทศท่ี ผดั น้ําผงึ้ และไมไ ดผ ัด พบวา ฤทธเิ์ สริมภูมิคุมกันของชะเอมเทศผัดน้าํ ผึ้งแรงกวา ชะเอมเทศที่ไมไ ดผ ัดมาก 11 ดงั นั้นชะเอมเทศผัดนํ้าผง้ึ จงึ นับเปน ตัวยาทม่ี ีสรรพคุณบาํ รงุ ชีท่ ี่ดที ส่ี ดุ ในทางคลินกิ เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรัส ตั้งอรา มวงศ, สณุ ี จีระจิตสมั พันธ, ธรี พงศ ต้ังอรามวงศ. ตํารบั ยาซ่อื จวฺ นิ จื่อทัง. [เอกสารแปลเพื่อการจัดทาํ ฐานขอ มูลยา สมุนไพรจีน]. นนทบรุ ี: สถาบันการแพทยไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉยี งใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Zhao H. Si Junzi Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Zhou QM, Wang Y, Wang BX. Radix Ginseng: ren sheng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999.
Page 100 ตาํ รบั ยาบาํ รุง: ซ่อื จฺวนิ จอื่ ทงั 79 8. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 9. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Zhou ZC. Rhizoma Atractylodis Macrocephalae: bai zhu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 460
Pages: