Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

Description: ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1.

Search

Read the Text Version

Page 51 30 ตํารับยาจีนที่ใชบ อยในประเทศไทย ยุคของประวัตศิ าสตรจนี (ตอ ) ยคุ ราชวงศซ ง (宋代) ป ราชวงศฉี (齐代) ราชวงศใ ต ราชวงศเ หลียง (梁代) ค.ศ. 420-479 (南朝) ราชวงศเ ฉิน (陈代) ค.ศ. 479-502 ค.ศ. 502-557 ราชวงศใ ตกบั เหนือ ราชวงศเ วยเหนอื ค.ศ. 557-589 ค.ศ. 386-534 (南北朝) ราชวงศเหนอื (北魏代) ค.ศ. 534-550 (北朝) ราชวงศเ วยต ะวันออก ค.ศ. 550-577 (东魏代) ค.ศ. 535-556 ค.ศ. 557-581 ราชวงศฉีเหนือ (北齐代) ค.ศ. 581-618 ค.ศ. 618-907 ราชวงศเ วยตะวันตก (西魏代) ค.ศ. 907-923 ค.ศ. 923-936 ราชวงศโจวเหนอื (北周代) ค.ศ. 936-946 ค.ศ. 947-950 ราชวงศสุย (隋代) ค.ศ. 951-960 ค.ศ. 960-1127 ราชวงศถ ัง (唐代) ค.ศ. 1127-1279 ค.ศ. 907-1125 ราชวงศโ ฮว เหลียง (后梁代) ค.ศ. 1115-1234 ค.ศ. 1206-1368 หา ราชวงศ ราชวงศโ ฮว ถัง (后唐代) ค.ศ. 1368-1644 (五代) ราชวงศโ ฮว จนิ้ (后晋代) ค.ศ. 1616-1911 ราชวงศโฮวฮ่ัน (后汉代) ค.ศ. 1912-1949 ค.ศ. 1949-ปจจบุ นั ราชวงศโฮว โจว (后周代) ราชวงศซ ง (宋代) ราชวงศซงเหนือ (北宋代) ราชวงศซงใต (南宋代) ราชวงศเ หลียว (辽代) ราชวงศจิน (金代) ราชวงศเ หวยี น (元代) ราชวงศห มิง (明代) ราชวงศช ิง (清代) สาธารณรฐั จนี (中华民国) สาธารณรฐั ประชาชนจนี (中华人民共和国)

Page 52 ประวตั กิ ารแพทยจนี 31 เอกสารทีใ่ ชประกอบการเรยี บเรยี ง 1. วิชยั โชควิวัฒน. ประวัติการแพทยจ ีนโดยสังเขป. วารสารการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 2547; 2(1): 73-92. 2. วิทิต วัณนาวิบลู . ประวัติการแพทยจนี . พมิ พค ร้งั ที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สาํ นกั พมิ พห มอชาวบาน จาํ กัด, 2548. 3. Chan KL. History of famous ancient Chinese doctors. 2nd ed. Hong Kong: The Institute of Present-Day Chinese Medicine, 1977. 4. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 5. Zhang E. Basic theory of traditional Chinese medicine I: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. Vol.I. 9th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999.

Page 53 32 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย บทท่ี 3 วิธกี ารรกั ษาโรคของแพทยแผนจนี วิธีการรักษาโรคของแพทยแผนจีนมีหลายวิธี ซึ่งแตละวิธีลวนมีจุดเดนในตัวเอง จาก ประสบการณอันยาวนานของแพทยแผนจีน ทาํ ใหการรักษาโรคคอย ๆ เปนระบบมากขึ้น โดยทั่วไป วิธกี ารรกั ษาโรคของการแพทยแ ผนจนี แบงเปน 8 วธิ ี ดังน้ี 1. วธิ ีขับเหงื่อ (汗法 ฮน่ั ฝา) วิธีขับเหง่ือ คือ การรักษาโรคดวยยาท่ีไปขจัดสาเหตุของโรคท่ีสวนนอกของรางกายใหออกไป จากรา งกายทางเหง่อื สวนมากใชร ักษากลมุ อาการ หรือโรคทเี่ กดิ จากสาเหตุภายนอกของรางกาย แบง เปน 2 วิธี คือ 1.1 วิธีขับเหงื่อดวยยาท่ีมีรสเผ็ดและมีคุณสมบัติเปนยารอน ใชรักษากลุมอาการโรค ภายนอกของรา งกายทีเ่ กิดจากลมและความเยน็ ซ่ึงมีอาการกลัวหนาว มไี ขต่าํ ๆ ปวดศรี ษะ และปวด เมอ่ื ยตวั 1.2 วิธขี บั เหงอ่ื ดวยยาทม่ี ีรสเผด็ และมีคุณสมบัติเปน ยาเย็น ใชร ักษากลุมอาการ หรือโรคท่ีมี สาเหตุจากภายนอกของรางกายท่ีเกดิ จากลมและความรอ น ซงึ่ มอี าการไขส งู เจ็บคอ และกระหายน้าํ การเสียเหง่ือมากจะทําใหสญู เสียยนิ และชไ่ี ปดว ย การรกั ษาโรคโดยวิธขี บั เหงือ่ จงึ ตองระมดั ระวงั เปนพิเศษในผูปวยทีม่ ยี ินพรอ ง ช่ีพรอ ง และ/หรอื เลอื ดพรอ ง ดงั น้ันหา มใชว ธิ ีขับเหงื่อในผูปวยทีม่ กี ลมุ อาการภายในของรางกายทมี่ ีโรคหวั ใจลม เหลว และในผูป วยทม่ี ีรางกายออ นแอมาก อน่งึ การใชยารสเผด็ รอ นตอ งไมใ หม ากเกินไป และตองปรบั ชนดิ และขนาดของยาขบั เหง่อื ให เหมาะสมกับลักษณะดินฟาอากาศในเขตรอ นดวย 2. วิธที ําใหอ าเจยี น (吐法 ถฝู า) วิธีทําใหอ าเจยี น คือ การรักษาโดยการขบั เสมหะ นาํ้ ลายท่ีคง่ั อดุ ตันอยใู นลาํ คอหรือทรวงอก ออกจากรางกายทางปาก ใชรกั ษาผูท อี่ าหารไมย อยหรือรับประทานสารพษิ เขาไป วธิ กี ารรักษาโดยทาํ ใหอ าเจยี นเปนการรักษาโรคฉกุ เฉนิ จึงควรใชเม่ือจาํ เปน จรงิ ๆ เทา น้นั เพราะการอาเจยี นทําใหสญู เสียยนิ และชี่ การอาเจียนทาํ ใหเ กิดการเปลย่ี นแปลงเฉยี บพลนั ของความดนั ในทรวงอกและทอ ง จึงหามใช

Page 54 วิธกี ารรักษาโรคของแพทยแผนจนี 33 วิธีกระตุนใหอาเจียนในผูปวยโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดแข็งตัว หลอดเลือดโปงพอง โรค กระเพาะอาหารเปนแผล วัณโรคปอดท่มี ีเลอื ดออกงาย หญงิ มีครรภ นอกจากนีค้ วรพิจารณาดวยความ ระมดั ระวังหากตอ งใชก ับผปู วยโรคหวั ใจ และผทู ่ีรางกายออนแอมาก 3. วิธรี ะบาย (下法 เซย่ี ฝา) วธิ รี ะบาย คือ การขบั สิ่งทค่ี ั่งคา งอยใู นกระเพาะอาหารและลาํ ไส ไดแ ก อาหารทีไ่ มย อย อุจจาระ ที่แขง็ ความเยน็ ค่ัง เลอื ดค่ัง หรือเสมหะและของเหลวคงั่ โดยการขับออกจากรางกายทางทวารหนกั มี 4 วิธี คือ 3.1 วธิ ีระบายดว ยยาท่มี คี ุณสมบัติเปนยาเยน็ เปน การระบายดว ยยารสขมเย็นหรอื เค็มเยน็ เปน หลกั รว มกับยาทช่ี วยไหลเวียนลมปราณ สว นมากใชรกั ษากลมุ อาการภายในของรา งกายท่เี กดิ จากความ รอนในระบบลมปราณ กลมุ อาการความรอนช้ืน หรือความรอนคง่ั ในกระเพาะอาหารและลําไส กลุม อาการไฟเพ่มิ สงู ทม่ี ีอาการเลอื ดออกงา ย อาหารเปน พิษ และการรับประทานสารพษิ 3.2 วิธีระบายดวยยาที่มีคุณสมบัติเปนยาอุน เปนการระบายดวยยารสเผด็ และอนุ เปนยาหลัก รวมกับยาระบายอื่น ๆ ยาจะชว ยเพ่ิมการไหลเวียนของเลอื ด เพม่ิ การบีบตวั ของทางเดนิ อาหาร และเพ่มิ การยอยอาหาร ใชร กั ษากลุม อาการหยางของมามและกระเพาะอาหารพรอ ง รกั ษาความเย็นสะสมใน กระเพาะอาหารและลําไส ซงึ่ มีอาการทองอืด ปวดเย็นในทอง ทองผกู และมอื เทาเยน็ 3.3 วิธีระบายดวยยาชวยเพิ่มความชุมช้ืนในลาํ ไสเปนหลัก จะใชรวมกับยาชวยใหลมปราณ ไหลเวียน ทาํ ใหอ ุจจาระนุมขับถา ยออกไดง าย ใชรกั ษาอาการทองผกู ในผปู ว ยทท่ี อ งผูกเปน ประจํา หรือ ทอ งผูกในระยะฟนไขหลังคลอด ผูสูงอายุ ผทู ม่ี รี างกายออ นแอ หรอื ผทู เี่ ปนริดสดี วงทวารหนกั 3.4 วิธีระบายดว ยยาขบั น้าํ ออกจากลาํ ไสอ ยา งรนุ แรง เปนการขบั น้าํ ทค่ี งั่ ภายในรา งกาย เชน น้ําในปอด ทองมาน ยาจะทําใหถา ยทอ งอยา งรนุ แรง จึงควรใชใ นผูทม่ี รี า งกายแข็งแรงเทานัน้ วธิ ีระบาย สว นมากใชรกั ษากลมุ อาการภายในของรางกายหรือความผิดปกตขิ องทางเดนิ อาหาร ถามีกลุมอาการโรคภายนอกรวมดวย หรือเปนกลุม อาการกง่ึ ภายนอกก่งึ ภายใน กค็ วรรกั ษาไปพรอมกนั มิฉะน้ันโรคจะลุกลามจากภายนอกเขาสภู ายในแลว ทาํ ลายลมปราณ ทาํ ใหโ รคเปน มากขึ้น วิธีน้เี ปน วิธี กาํ จัดสาเหตุของโรคทคี่ อนขางรุนแรงและรวดเร็ว มีผลขา งเคยี ง คือ ทาํ ใหยนิ พรอง จงึ ควรนาํ มาใชเมือ่ จาํ เปนเทาน้นั และควรใชด วยความระมดั ระวังในผูทีม่ ยี นิ พรอง ช่ีพรอง หญงิ มคี รรภ และหญงิ มีระดู 4. วธิ ปี ระสาน (和法 เหอฝา ) วิธีประสาน คือ วิธีรักษาโรคโดยการปรับความผิดปกติใหพอดี ทาํ ใหยิน-หยางกลับมาอยูใน

Page 55 34 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย สมดุล ชว ยเสรมิ ลมปราณตา นทานโรคและขจดั ลมปราณกอ โรค ทาํ ใหรางกายกลับเปน ปกติ ใชรักษา ความผดิ ปกติของเลือดและลมปราณของอวยั วะภายใน กลมุ อาการกึ่งภายนอกก่งึ ภายใน กลุมอาการ รอนปนเย็น ในทางคลินิก วิธีปรับสมดุลใชบ รรเทากลุมโรคซาวหยาง (少 阳 病) ปรบั สมดุลตับและ มา ม (ระบายตับ บาํ รุงมาม) ปรบั สมดุลตบั กบั กระเพาะอาหาร (สงบตบั ปรบั กระเพาะอาหาร) ปรับสมดลุ กระเพาะอาหารกบั ลําไส 5. วธิ ีใหค วามอบอุน (温法 เวนิ ฝา) วธิ ใี หความอบอนุ คือ การรักษาโรคโดยการใหความอบอุน ขับไลค วามเย็นในอวัยวะภายใน และเสนลมปราณ แบงเปน 3 วิธี คอื 5.1 วิธีใหความอบอุนจงเจยี วเพือ่ ขบั ไลความเย็น เปน การใหค วามอบอนุ เพ่อื กระตุน การทาํ งาน ของมามและกระเพาะอาหารใหสรางความรอนขับไลความเย็น ใชรักษากลุมอาการภายในที่เกิดจาก ความเยน็ เพราะหยางของมา มและกระเพาะอาหารพรอง การทํางานของมา มและกระเพาะอาหารลดลง 5.2 วธิ ีใหค วามอบอุน เสริมหยาง ใชรกั ษาอาการหยางชข่ี องหวั ใจและไตพรอ ง 5.3 วธิ ีใหค วามอบอุนเสน ลมปราณขบั ไลค วามเยน็ สวนมากใชร กั ษาอาการไหลเวยี นเลอื ดและ ลมปราณติดขัดเน่อื งจากความเย็นในเสนลมปราณ ทาํ ใหม อี าการปวดขอ เคลอื่ นไหวไมสะดวก ซงึ่ ความ อบอนุ จะชวยขบั ไลความเยน็ ทําใหเลือดและลมปราณไหลเวยี นสะดวกข้นึ จึงชวยบรรเทาอาการปวด หา มใชว ธิ ใี หค วามอบอนุ รักษากลุมอาการของโรครอ นจดั รอนแทเยน็ เทียม กลมุ อาการรอนที่มี อาการเลอื ดออกงาย และตองใชยาทีม่ ีคณุ สมบตั ิรอนรุนแรงดว ยความระมดั ระวังในหญิงมคี รรภ 6. วธิ ลี ดความรอ น (清法 ชิงฝา ) วิธีลดความรอ น คอื การรักษากลุม อาการภายในของรางกายจากสาเหตคุ วามรอนและไฟ โดย ระบายความรอ นและดบั ไฟ ยาท่ีใชร ะบายความรอ นมฤี ทธิ์ฆา เช้อื แบคทีเรีย ลดอาการอักเสบ และลดไข ใชร ักษากลุมอาการภายในของรา งกายจากความรอ น ดังน้ี - ระยะท่คี วามรอ นเขาสรู ะบบลมปราณ - ระยะทคี่ วามรอ นเขา สรู ะบบอ๋งิ และระบบเลอื ด - กลุม อาการไฟและพษิ ไฟในอวยั วะภายใน ซึ่งเปนโรคตดิ เชื้อแบคทีเรยี - กลมุ อาการรอ นพรอ ง หา มใชวธิ ลี ดความรอ นรักษาอาการเย็น กลุมอาการเยน็ พรอ ง กลมุ อาการเย็นแทรอ นเทียม

Page 56 วธิ ีการรกั ษาโรคของแพทยแ ผนจีน 35 ยาลดความรอนสวนมากมีคุณสมบัติหนาวเย็น ถารับประทานนานเกินไปจะกดการทาํ งานของ มามและกระเพาะอาหาร ทําใหมอี าการเบอ่ื อาหาร ถาเปนกลุมอาการรอนช้นื ควรใชยาลดความรอ นควบคกู ับยาระบายความชนื้ ถาความรอนจดั จะไปทําลายยิน ควรใหย าเสรมิ ยนิ รวมดวย ถาเปน อาการรอ นและทองผกู ควรใหย าระบายอจุ จาระดว ย 7. วิธบี ํารุง (补法 ปฝู า) วิธีบํารุง คือ การรักษาโรคดวยการหลอ เล้ียง เสรมิ บาํ รุงชีแ่ ละเลอื ด และยิน-หยาง ของรา งกาย ใชร กั ษากลมุ อาการพรอ งออนแอของอวัยวะภายใน ชีแ่ ละเลือด และยิน-หยาง แบง เปน 4 วธิ ี คอื 7.1 การบาํ รงุ ช่ี โดยท่ัวไปหมายถงึ บํารงุ ชขี่ องมามและปอด ใชรกั ษากลมุ อาการชพ่ี รอง บางคร้งั กใ็ ชร กั ษากลมุ อาการเลอื ดพรองโดยใชควบคูกบั ยาบํารุงเลอื ด 7.2 การบาํ รุงเลอื ด ใชร กั ษากลมุ อาการเลอื ดพรอ ง 7.3 การบํารงุ หยาง มักใชรกั ษากลุมอาการหยางไตพรอง หรอื หยางของมา มพรอง 7.4 การบาํ รงุ ยนิ คือ บํารุงสารจาํ เปน เลอื ด และของเหลวในรา งกาย การใชย าเสรมิ บาํ รงุ ตอ งคํานึงถึงการทาํ หนาท่ียอยอาหารของมา มและกระเพาะอาหาร ถา มาม และกระเพาะอาหารออ นแอ จะตอ งใชย ากระตุนการทํางานของมา มและกระเพาะอาหารกอ น หรือใหย า เสรมิ บํารุงควบคูกบั ยากระตุนการทาํ งานของมา มและกระเพาะอาหาร วิธีเสริมบํารุงจะใชตอเม่ือรางกายมีภูมิคุมกันบกพรองชัดเจน ถา อาการลมปราณตา นทานโรค พรอ งไมมาก แตส าเหตุที่กอโรคยงั ไมไ ดรับการแกไ ข ใหใชว ธิ ขี จัดสาเหตุท่ที ําใหเกดิ โรคกอน หรอื ใชวธิ ี เสริมลมปราณตานทานโรคควบคกู บั การขจัดสาเหตกุ อโรค การเสริมสรา งรา งกายใหแ ข็งแรงมีภูมิตานทานโรค ไมส ามารถอาศัยยาเสรมิ บาํ รุงเพียงอยา งเดียว ตองอาศยั ปจจยั อ่ืน ๆ เชน รบั ประทานอาหารทม่ี ีคณุ คา ออกกําลงั กายสมํา่ เสมอ ปรับสมดุลจติ ใจและ อารมณ เปน ตน 8. วิธีทําใหสลาย (消法 เซียวฝา ) วิธีทาํ ใหสลาย คอื การสลายการคั่งหรือการสะสมของชี่และเลอื ด เสมหะ น้ํา หรือกอน โดย การปรบั การไหลเวยี นของช่ี ระบายการคั่งของเลอื ด ขับความชน้ื ทางปสสาวะ เรงการยอ ยอาหาร ขบั เสมหะ สมานแผล ฝ แบง เปน 6 วิธี คอื 8.1 การปรับการไหลเวียนของช่ใี หเปน ปกติ ไดแก - การกระตุนการไหลเวยี นของชี่ ใชร กั ษาชี่ติดขดั ในตบั มาม และกระเพาะอาหาร

Page 57 36 ตํารับยาจีนที่ใชบอ ยในประเทศไทย - การปรบั ใหลมปราณไหลเวียนลงลา งตามปกติ ใชรักษากลมุ อาการช่ลี อยสวนขนึ้ ขา งบนในปอด กระเพาะอาหาร และตับ รกั ษาอาการหอบหดื อาเจียน สะอกึ หรอื กระวนกระวาย 8.2 การเพิ่มการไหลเวยี นเลอื ด เปนการระบายเลอื ดคั่ง คลายกลามเนื้อเรยี บของหลอดเลือด และอวยั วะตาง ๆ รกั ษาความผิดปกติของระดู การอกั เสบเรื้อรัง โรคหลอดเลอื ดหวั ใจ กระดกู หัก ฟกช้าํ ตบั มามโต 8.3 การขบั ความช้นื ออกทางปส สาวะดว ยยาขบั ปสสาวะ ควรใชด วยความระมดั ระวังในผูท่มี ยี นิ พรอง แนวทางการใชย าขบั ปส สาวะทางคลนิ กิ มี 4 วธิ ี คอื - การขับปสสาวะใหไหลคลอง สว นมากใชร กั ษาโรคทางเดินปสสาวะอักเสบหรือนว่ิ ในทางเดนิ ปส สาวะทีม่ อี าการปวดแนนทอ งนอย ปสสาวะบอย กล้นั ปส สาวะไมอยู ปส สาวะแสบขัด ปสสาวะมสี ี เหลืองเขม - การขบั ปสสาวะลดอาการบวมน้าํ เปนการขับน้าํ ท่คี ่ังในรางกายจากโรคหัวใจลม เหลว ไตวาย ตบั แขง็ ภาวะทพุ โภชนาการ - ขบั ปส สาวะรว มกับการระบายความรอน ใชร ักษากลมุ อาการรอ นช้นื - การใหค วามอบอุน และขบั ปส สาวะ ใชรกั ษากลุมอาการเยน็ ชนื้ ทเ่ี กดิ จากหยางมา มหรือหยาง ไตพรอ ง 8.4 การขับเสมหะท่ีคงั่ อยูในสว นตาง ๆ ของรา งกาย สว นมากใชรักษาโรคทางเดินหายใจ และ ยงั ใชร ักษาโรคทางเดินอาหาร ระบบไหลเวยี นเลอื ด และระบบประสาท 8.5 การเรง การยอยอาหารท่ีคั่งคาง ดวยยาทีช่ ว ยกระตุน การทาํ หนาที่ยอยอาหารของกระเพาะ อาหารและลําไส ใชรักษากลุม อาการอาหารไมย อ ยทมี่ อี าการอาเจยี น เรอ ทอ งเดิน 8.6 การสลาย หรอื สมานแผล ฝ ท่ีผิวหนงั และอวัยวะภายใน มหี ลายวิธี ขนึ้ กบั ลกั ษณะของ แผล ฝ ปฏิกิริยาของรา งกาย และการวนิ จิ ฉัยแยกกลมุ อาการ เอกสารท่ใี ชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. โกวิท คัมภีรภาพ. ทฤษฎพี น้ื ฐานการแพทยแผนจีน. พมิ พคร้ังที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: บริษัท นวิ ไวเตก็ จํากดั , 2544. 2. วทิ ติ วัณนาวิบูล, สุรเกียรติ อาชานานภุ าพ (กองบรรณาธกิ าร). ทฤษฎแี พทยจ นี . พิมพครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ หมอชาวบา น, 2540. 3. Deng ZJ. Chinese Prescriptions. 8th ed. Beijing: Zhongguo Zhongyiyao Publishing House, 2006.

Page 58 การใชยาสมนุ ไพรจีน 37 บทที่ 4 การใชยาสมนุ ไพรจนี การใชย าสมุนไพรตามทฤษฎีการแพทยแ ผนจีนประกอบดว ย การจดั ยารวมหรอื ยากลมุ ขอ หา ม ใช ขนาดยาท่ีใช วิธตี ม ยา และวธิ รี ับประทาน ดังนี้ การจัดยารวมหรือยากลมุ (配伍 เพย อ)ู ในการใชยาสมุนไพร ตัวยาบางชนิดสามารถใชเ ด่ียว ๆ แตตัวยาบางชนดิ จําเปนตองใชรวมกบั ตัวยาอน่ื ๆ ต้ังแต 2 ชนิดขน้ึ ไป ตามทฤษฎีการแพทยแ ผนจนี การใชย าสมุนไพรมี 7 ประเภท คอื ประเภทตวั ยาเดี่ยว ประเภทเสรมิ ฤทธ์ิกัน ประเภทเสริมฤทธิ์ฝายเดยี ว ประเภทถกู ขม ประเภทลดทอน หรอื กําจัดพิษ ประเภทลดทอนฤทธิ์ และประเภทใหผลตรงกันขา ม ประเภทตัวยาเดย่ี ว (单行 ตนั สงิ ) เปน การใชตวั ยาชนดิ เดียวที่มฤี ทธ์ชิ ดั เจนและเหมาะสมกับ โรคนัน้ ๆ เชน โสมคน (人参 เหรินเซนิ ) ใชรกั ษาผูป วยทมี่ ีอาการชพ่ี รองมาก ชพี จรออนมาก หวั ใจออ น แรง มือเทาเย็น หยางช่อี อ นแอ และ ตน ผักเบ้ียใหญ (马齿苋 หมาฉือ่ เส้ยี น) ใชร กั ษาโรคบิด เปนตน ประเภทเสริมฤทธกิ์ ัน ( 相 须 เซียงซว)ี เปน การใชต วั ยารวมกนั ของตัวยาทมี่ ีคณุ สมบัติ เหมอื นกนั และมีสรรพคุณใกลเคียงกัน ทําใหตัวยามีสรรพคุณดีขึ้น เชน เกลือจืด (石膏 สือเกา) เม่ือใชรวมกับ จือหมู (知母) จะมสี รรพคุณแกไขรอนจัด ลดไข รอ นใน และกระหายนาํ้ ไดผ ลดี ประเภทเสริมฤทธฝ์ิ ายเดียว (相使 เซียงสื่อ) เปน การใชตัวยารว มกนั โดยมีตวั ยาชนดิ หน่งึ เปนตัวยาหลัก และตัวยาอีกชนิดหนึ่งทําหนาท่ีเสริมสรรพคุณรว มของตัวยาหลกั เพ่ือใหมีฤทธิ์แรงข้ึน เชน หวงฉี (黄芪) มสี รรพคุณเพิ่มช่ี ระบายนํา้ เมื่อใชร วมกับโปง รากสน (茯苓 ฝูหลงิ ) ซึ่งมสี รรพคณุ เสริมมา ม ระบายน้ํา โปง รากสนจะชวยเสริมฤทธิ์หวงฉใี หเ พ่มิ การระบายน้ําไดม ากขนึ้ ประเภทถกู ขม ( 相 畏 เซียงเวย ) เปน การใชตวั ยารว มกันโดยตวั ยาชนดิ หน่ึงมพี ษิ หรอื ผลขางเคยี งสวนตัวยาอีกชนิดหน่ึงสามารถลดพิษหรือผลขางเคียงของตัวยาชนดิ แรกได ตวั ยาในกลุม นมี้ ี 19 ชนิด (十九畏 สอื จว่ิ เวย ) ดงั นี้ กํามะถนั (硫黄 หลิวหวง) ถกู ขมดวย ผอเซยี ว (朴硝)

Page 59 38 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบ อยในประเทศไทย ปรอท (水银 สยุ อ๋ิน)* ถกู ขมดวยสารหนู (砒霜 ผเี ซยี ง)* หลงั ตู (狼毒) ถกู ขมดวยม่ถี อเจิง (密陀僧) สลอด (巴豆 ปาโตว)* ถกู ขม ดว ยเชียนหนวิ (牵牛) กานพลู (丁香 ตงิ เซียง) ถกู ขม ดวยวา นนางคํา (郁金 ยฺหวี่จนิ ) โหราเดือยไก (川乌 ชวนอ)ู และเฉาอู (草乌) ถกู ขมดว ยนอแรด (犀角 ซีเจ่ยี ว) ดินประสวิ (牙硝 หยาเซยี ว) ถูกขมดว ยซานหลงิ (三棱) อบเชยจนี (肉桂 โรวกุย ) ถูกขม ดวยสือจอื (石脂) โสมคน (人参 เหรินเซิน) ถกู ขม ดว ยอหู ลงิ จอื (五灵脂) ประเภทลดทอนหรอื กาํ จัดพษิ ( 相 杀 เซียงซา) เปนการใชต ัวยารว มกันโดยตัวยาชนดิ หนงึ่ สามารถลดทอนหรอื กาํ จัดพิษ หรอื ผลขางเคียงของตัวยาอีกชนดิ หน่งึ ได เชน เหงาขิงสด (生姜 เซิงเจยี ง) สามารถกําจดั ผลขางเคียงของปน เซ่ีย (半夏) จะเห็นไดว า เซียงเวย  (相畏) และ เซียงซา (相杀) มี ความหมายเหมือนกนั คือ ตวั ยาหน่งึ จะไปลดพษิ ของตวั ยาอีกตวั หนึ่ง ตา งกนั เพียงตวั ยาใดเปนผูกระทาํ หรือถกู กระทาํ ประเภทลดทอนฤทธิ์ ( 相 恶 เซยี งเออร) เปนการใชต ัวยารว มกนั โดยตวั ยาชนดิ หนึง่ ทาํ ให สรรพคณุ เดมิ ของตัวยาอีกชนิดหนึ่งลดลงหรอื หมดไป เชน เมล็ดหวั ผักกาด (莱菔子 ไหลฝจู ่อื ) ลดทอน ฤทธิข์ องโสมคน (人参 เหรนิ เซนิ ) เปน ตน ประเภทใหผ ลตรงขาม (相反 เซียงฝน ) เปน การใชตัวยาสองชนิดรว มกันและทาํ ใหเ กดิ การลบ ลางสรรพคุณของตัวยา ตวั ยาในกลมุ น้มี ี 18 ชนดิ (十八反 สือปาฝน ) ดงั น้ี ชะเอมเทศ (甘草 กนั เฉา ) จะลบลางสรรพคณุ ของตาจ๋ี (大戟) กนั สยุ (甘遂) เหยียนฮวา (芫花) และสาหรายทะเล (海藻 ไหเ จา ) อูโถว (乌头) จะลบลางสรรพคุณของปนเซ่ีย (半夏) กวาโหลว (瓜蒌) เปยหมู (贝母) ไปเลยี่ น (白敛) และไปจ๋ี (白笈) หลีหลู (黎芦) จะลบลางสรรพคุณของโสมคน (人参 เหรินเซิน) เปยซ าเซิน (北沙参) ตันเซิน (丹参) เสฺวียนเซนิ (玄参) ซซ่ี นิ (细辛) และไปเ สา (白芍) * ปรอท สารหนู สลอด และน้าํ มนั สลอด ไมอนญุ าตใหใ ชใ นตาํ รับยาแผนโบราณของประเทศไทย ยกเวน ยาทผ่ี ลิตข้ึนสาํ หรับใชภ ายนอก โดยมีปรอทไมเ กินรอยละ 10 ของปริมาณตวั ยาทงั้ หมด และยกเวน ยาทีผ่ ลิตขึ้นโดยมสี ารหนูและ/หรือสารประกอบออกไซดของสารหนู ปนอยูรวมกันแลว คํานวณเปน ปริมาณสารหนูไมเ กินสสี่ วนในลานสว น

การใชยาสมนุ ไพรจนี Page 60 39 2 เซนติเมตร กาํ มะถัน (硫黄 หลิวหวง) 2 เซนตเิ มตร ดเี กลอื (朴硝 ผอเซยี ว) ปรอท (水银 สุยอิ๋น) 2 เซนตเิ มตร สารหนู (砒霜 ผีเซยี ง) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร สลอด (巴豆 ปาโตว) เชียนหนิว (牵牛) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร กานพลู (丁香 ตงิ เซียง) วา นนางคํา (郁金 ยหฺ ว่ีจิน)

Page 61 40 ตํารับยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย 2 เซนตเิ มตร เฉา อู (草乌) 2 เซนตเิ มตร โหราเดือยไก (川乌 ชวนอ)ู 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ดนิ ประสิว (牙硝 หยาเซยี ว) ซานหลิง (三棱) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร อบเชยจนี (肉桂 โรว กยุ ) สอื จือ (石脂) 5 เซนตเิ มตร โสมคน (人参 เหรนิ เซิน)

การใชยาสมนุ ไพรจนี Page 62 41 2 เซนติเมตร อหู ลิงจอื (五灵脂) 2 เซนตเิ มตร ชะเอมเทศ (甘草 กนั เฉา) 2 เซนติเมตร กนั สุย (甘遂) 1 เซนติเมตร ตาจ๋ี (大戟) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร เหยียนฮวา (芫花) สาหรายทะเล (海藻 ไหเ จา) อูโถว (乌头) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร ปนเซยี่ (半夏)

Page 63 42 ตาํ รับยาจีนทใ่ี ชบอยในประเทศไทย 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร กวาโหลว (瓜蒌) เปยหมู (贝母) 2 เซนตเิ มตร 1 เซนติเมตร ไปเ ลี่ยน (白敛) เปย ซ าเซิน (北沙参) ไปจี๋ (白笈) 2 เซนตเิ มตร เสฺวยี นเซนิ (玄参) 2 เซนตเิ มตร ตนั เซนิ (丹参) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ไปเ สา (白芍) 2 เซนติเมตร ซซ่ี นิ (细辛)

Page 64 การใชยาสมุนไพรจนี 43 ขอหามใช (禁忌 จิน้ จ้)ี ในการใชย ารักษาโรคนั้น หากใชถ กู กบั โรคจะใหค ณุ หากใชผ ดิ จะใหโ ทษ ดงั นัน้ การใชย าบางชนดิ จาํ เปน ตองระมัดระวังในการใช เพอ่ื ไมใหเ กิดโทษตอ รางกาย ขอ หา มใชม ี 4 ประเภท ดังนี้ ขอหามใชในกลุมอาการบางอยาง (证候禁忌 เจ้ิงโฮวจิ้นจี้) ตัวยาแตละกลุม หรือตัวยา แตละชนิดเหมาะกับโรคแตกตางกัน หมายถึงตัวยาแตละกลุมหรือตัวยาแตละชนิดจะใชภายใต เงื่อนไขที่กาํ หนดไวเทานั้น เชน หมาหวง (麻黄) มีสรรพคุณเปนยาขับเหงื่อ แกห อบ เหมาะสําหรับ โรคไขหวัดจากการกระทบลมเย็น ไมม ีเหง่ือ ไอหอบเนอื่ งจากชป่ี อดไมก ระจาย จึงหา มใชก ับผูปวยท่ีมี อาการออ นแอ เหงือ่ ออกมาก ไอหอบเนอื่ งจากปอดพรอ ง เปน ตน ขอ หา มตามหลกั การจดั ยารว มหรอื ยากลุม ( 配伍禁忌 เพยอ จู น้ิ จ)้ี ตวั ยาบางชนดิ เม่ือใช รว มกันแลว จะทาํ ใหเกิดพษิ หรือเกิดอาการอันไมพงึ ประสงค หรือทาํ ใหเกิดพิษเพ่มิ ขึน้ หรอื ทําใหฤทธ์ิ ของตวั ยาหมดไป ยาเหลาน้กี ็ไมควรใชรวมกนั การแพทยแ ผนจนี กลา วถงึ ตวั ยาที่ไมค วรใชร ว มกัน 2 กลมุ คอื สอื ปาฝน (十八反) และ สือจวิ่ เวย (十九畏) ดงั ท่ไี ดก ลา วมาแลวขา งตน ขอหามในหญิงมีครรภ (妊妇禁忌 เหรนิ่ ฟจู ิ้นจี้) ตวั ยาบางชนิดมีผลตอทารกในครรภ ทาํ ให แทงลูกได จึงหามใชในหญงิ มีครรภ ซงึ่ ตวั ยาสว นใหญใ นกลมุ นีม้ ักมพี ิษมาก เชน สลอด (巴豆 ปาโตว) เชียนหนวิ (牵牛) เหยียนฮวา (芫花) ซานหลิง (三棱) ตา จ๋ี (大戟) และกนั สยุ (甘遂) เปน ตน ตัวยาบางชนดิ ตอ งใชอ ยางระมัดระวงั ในหญงิ มีครรภ เน่อื งจากเปนตวั ยาท่ีมีฤทธิก์ ระจายชแี่ ละเลอื ด ทําให เลอื ดไหลเวียน เชน เมล็ดทอ (桃仁 เถาเหริน) ดอกคําฝอย (红花 หงฮวา) มีฤทธิ์ขับของเสียตกคาง และขบั ถายพิษรอน โกฐนํา้ เตา (大黄 ตาหวง) มฤี ทธ์ริ ะบาย ขบั พษิ รอ น อบเชยจีน (肉桂 โรว กุย ) มี ฤทธิ์ใหค วามอบอนุ เสริมหยางระบบไต เปนตน ดงั น้ันหากไมจ ําเปนจริง ๆ ควรหลีกเลย่ี งการใชตวั ยา ดงั กลา วในหญงิ มีครรภ ขอหามในชวงเวลาท่ีรับประทานยา (服药饮食禁忌 ฝูเหยาอิ่นสือจ้ินจ้ี) นิยมเรียกวา “ของแสลง” กลา วคอื ในชวงเวลาทร่ี บั ประทานยา ควรงดดืม่ นํ้าเย็น ของมัน ของคาว อาหารทีย่ อยยาก หรือทม่ี ีรสจัด เชน กรณผี ูปวยทมี่ ไี ขส งู หามรบั ประทานของมนั เปนตน ขนาดยาท่ใี ช (剂量 จเี้ ล่ียง) ขนาดยาทีใ่ ช หมายถึงปรมิ าณของยาท่ีใชในผใู หญตอวนั เนอ่ื งจากยาสมนุ ไพรเปนผลผลติ จากธรรมชาติ ดงั นัน้ ปริมาณของตัวยาทใี่ ชจ ึงไมเขม งวดเหมอื นกับยาแผนปจจบุ นั ยกเวนตัวยาบางชนิด

Page 65 44 ตาํ รบั ยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย เทานั้นท่ีตองใชข นาดยาดว ยความระมัดระวัง เพ่ือปอ งกนั ไมใ หเกดิ อนั ตราย โดยท่วั ไปขนาดยาท่ีใช ควรคํานึงถงึ ปจ จยั ดงั ตอ ไปนี้ คุณลักษณะของยา (药物的性质 เหยาอูเตอซิ่งจื้อ) ตัวยาที่มีฤทธ์ิแรงควรใชปริมาณ นอย หรือเร่ิมใชปริมาณนอยแลวคอย ๆ เพิ่มข้ึน เม่ือผูปวยมีอาการดีข้ึนใหคอย ๆ ลดขนาดยาลงจน หยุดใช สาํ หรับตัวยาท่ีมีฤทธิ์ออนมักใชในปริมาณมาก โดยทั่วไปตัวยาที่มีความหนาแนน หรือแข็ง มาก เชน แรธาตุ หรือ เปลอื กหอย เปน ตน จะใชในปริมาณมาก สว นตวั ยาทมี่ ีนํ้าหนกั เบา เชน ดอก ใบ หรอื ตวั ยาทมี่ นี ํ้ามนั หอมระเหย จะใชใ นปรมิ าณนอย การจดั ยารว มหรือยากลุมและรปู แบบของยา (配伍与剂型 เพยอยู ฺหวจี่ ้สี ิง) โดยทวั่ ไปตวั ยา เดย่ี วจะใชใ นปริมาณมากกวา ยาตาํ รับ และหากใชเปนยาตม ปริมาณทใี่ ชจ ะมากกวา ยาลกู กลอนหรือยา ผง และในยาแตล ะตํารับ ตัวยาหลักจะใชในปรมิ าณมากกวาตวั ยาอ่นื ๆ อาการของโรค (病情 ปง ฉิง) รูปราง (体质 ถีจ่ อ้ื ) และอายขุ องผูปวย (年龄 เหนยี นหลิง) โดยท่ัวไปผูปวยหนัก ผูปวยโรคเฉียบพลัน หรือผูปวยท่ีมีรางกายอวนใหญ จะใชยาในปริมาณมาก สวนผูสูงอายุมีรางกายออนแอ หญิงหลังคลอด หรือเด็ก จะใชยาในปริมาณนอย สาํ หรับเด็กอายุ 6 ป ข้ึนไป ใหใ ชย าขนาดคร่ึงหน่งึ ของขนาดท่ีใชในผูใหญ เดก็ ทีม่ อี ายตุ ํ่ากวา 6 ป ใหใ ชยาขนาด 1 ใน 4 ของขนาดทใี่ ชในผูใ หญ วิธีตม ยา (煎法 เจียนฝา) ยาตม (汤剂 ทังจี้ หรือ 煎剂 เจียนจ้)ี เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีนิยมใชมากท่ีสุดในการแพทย แผนจีน แพทยแผนจีนไดใหความสําคัญกับวิธีตมยาเปนอยางมาก เน่ืองจากวิธีตมยาสมุนไพรมี ความ สัมพันธอยางใกลช ดิ กบั ประสิทธผิ ลในการรักษาโรคของยาตาํ รับ ในการเตรยี มยาที่มีคุณภาพและ มีประสิทธิผลในการรักษานน้ั ควรปฏบิ ัตดิ งั น้ี ภาชนะทใ่ี ชในการตมยา (煎药用具 เจยี นเหยายง จฺว)ี้ นยิ มใชภ าชนะจาํ พวกเครือ่ งปนดินเผา ทมี่ ีฝาปด เพื่อปองกนั การทําปฏิกริ ยิ าขององคป ระกอบเคมใี นตัวยากบั ภาชนะท่ีใชใ นระหวา งการตม ยา ทํา ใหป ระสิทธิภาพหรอื ความแรงของตวั ยาไมสูญเสียไป ไมควรใชภ าชนะจาํ พวกเหลก็ หรือทองแดง ทงั้ น้ี เพือ่ ปองกนั การตกตะกอน และอาจทําปฏกิ ริ ยิ าทางเคมีกบั ตัวยา ซงึ่ จะทําใหเ กดิ ผลขา งเคียงหรือความเปน พิษได นํา้ ท่ใี ชตมยา (煎药用水 เจยี นเหยายง สยุ ) จะตองเปน นา้ํ สะอาดและบรสิ ุทธ์ิ เชน นํา้ ประปา นา้ํ แร และนา้ํ กลนั่ เปน ตน

Page 66 การใชยาสมนุ ไพรจนี 45 ระดับไฟที่ใชตมยา (煎药火候 เจียนเหยาหั่วโฮว) ไฟท่ีใชตมยาแบงออกเปน 2 ระดับ คือ ไฟออน และไฟแรง โดยท่ัวไปการตมยามักจะใชไฟแรงกอนแลวจึงใชไฟออน บางคร้ังอาจใชไ ฟออน หรือไฟแรงเพียงอยา งเดยี วในการตมยา เชน ใชไ ฟออนอยา งเดียวในการตมยาประเภทยาบาํ รุง หรอื ใช ไฟแรงอยา งเดยี วในการตม ยาประเภทรักษาอาการภายนอก วธิ ตี มยา (煎药方法 เจียนเหยา ฟง ฝา ) การตม ยามี 2 วธิ ี คือ 1. วิธีท่ัวไป (一般煎药法 อีปนเจียนเหยาฝา) เตรียมโดยนําตัวยาใสในภาชนะท่ีมีฝาปด เตมิ นํ้าใหทว มตัวยา ตัง้ ทงิ้ ไวประมาณ 30-60 นาที เพ่ือใหนาํ้ ซึมเขาตวั ยาอยา งเต็มที่ เวลาตม จะใชไฟ แรงกอน เมือ่ เดอื ดจะใชไฟออ น ๆ ตมตอ เพื่อปองกนั ไมใ หน าํ้ ยาลน ออกนอกภาชนะ หรอื ไมใหน ํา้ ยาแหง งวดเร็วเกนิ ไป ในระหวา งตมอยาเปด ฝาบอ ย ๆ เพอื่ ปอ งกนั ไมใ หส ารที่ระเหยไดสญู เสียไป ในการตมยา ประเภทรกั ษาอาการภายนอกหรอื ยาลดไข ควรใชไฟแรงเพื่อปอ งกันไมใหส ารสาํ คญั ระเหยไป สําหรบั ยา บํารุง ควรตมโดยใชไฟออน ๆ เพ่ือสกดั สารสาํ คัญออกมาไดอ ยา งสมบูรณ ตวั ยาที่มีพิษบางชนดิ เชน โหราเดอื ยไก (附子 ฟจู ่ือ) ควรใชไ ฟออ นตม นาน ๆ เพื่อลดพษิ ของสมุนไพร เม่อื ตมเสรจ็ ใหร นิ นํา้ ยา เก็บไว เติมนํ้าลงในกากท่ีเหลอื แลว ตมตอ โดยท่ัวไปยาหนึ่งหอ จะตม 2-3 ครง้ั เมือ่ ตมเสร็จใหร วม นาํ้ ยาทีต่ ม ไดเขาดวยกนั แลว แบง รับประทาน ควรรบั ประทานขณะยายงั อุน ๆ ยกเวน ยาทเ่ี ม่อื รับประทาน ตอนอุน แลว จะทําใหค ลนื่ ไสอ าเจยี น ก็ใหรบั ประทานเม่อื ยาเย็นแลว 2. วิธเี ฉพาะ (特殊煎法 เถอซูเจยี นฝา ) เปนวิธีท่ีใชตมตัวยาท่ีมีคุณลักษณะพิเศษบางชนิด ซึ่งจําเปน ตองใชว ิธเี ฉพาะ และจะตอ งระบุไวใ นสูตรตาํ รับดว ย ดังนี้ ใสกอ น (先煎 เซียนเจียน) มีตวั ยา 3 ประเภท ซึ่งตองตมกอนตัวยาตัวอ่ืนในตาํ รับ ไดแ ก - ตัวยาท่ีมีพษิ ใหต มกอ นตวั ยาอน่ื 30-45 นาที - แรธาตุและเปลือกหอย เชน เกลือจืด (石膏 สือเกา) สือจฺเหวียหมิง (石决明) หมูล่ี (牡蛎) เปน ตัวยาท่ีมีลักษณะแขง็ สารออกฤทธ์ลิ ะลายออกมาไดย าก จึงตอ งตม ใหเ ดอื ดประมาณ 15 นาทกี อ น แลว จงึ ใสต วั ยาชนิดอน่ื ๆ ในตํารบั ลงไปตม พรอ มกนั - ตัวยาท่ีมีนํ้าหนักเบาและใชในปริมาณมาก หากตมพรอมตัวยาอื่น ๆ จะทําใหตัวยาเต็ม หมอจนตมไมได จึงใหตมตัวยาดังกลาว 20 นาทีกอน แลวเอาเฉพาะนา้ํ ที่ตมไดไปใชตมตัวยาตัว อื่นในตาํ รับยา

Page 67 46 ตํารับยาจนี ท่ใี ชบอ ยในประเทศไทย ใสห ลงั (后下 โฮว เซยี่ ) ตัวยาบางชนิดมนี ้ํามันหอมระเหย ควรใสห ลงั จากตมตวั ยาชนดิ อ่นื ๆ ในตาํ รับใหเ ดอื ดแลว ประมาณ 5-10 นาที แลว จงึ ตมตอประมาณ 5 นาที เพ่อื ปอ งกนั ไมใ หส ารออก ฤทธ์ิประเภทน้าํ มันหอมระเหยสลายไป ตัวอยางสมุนไพรเหลา น้ี เชน เรว ( 砂 仁 ซาเหรนิ ) และ สะระแหน (薄荷 ปอ เหอ) เปน ตน นอกจากน้ี ตวั ยาบางชนดิ ท่ีมีสรรพคณุ เปนยาระบายหรือยาถา ย ก็ ควรใสท หี ลงั เชน โกฐนา้ํ เตา (大黄 ตาหวง) และใบมะขามแขก (番泻叶 ฟานเซ่ยี เย่ีย) เปน ตน ใสหอ (包煎 เปาเจียน) สมุนไพรบางชนิดมีลักษณะเปนผง หรือมีลักษณะเหนียว หรอื เปน ยาง หรือมลี กั ษณะเปน ขน ควรใสใ นถงุ ผา เพ่ือปองกันไมใ หน้ํายาขนุ หรือเหนียวติดภาชนะทใี่ ชต ม หรือ ทําใหไมระคายคอ เชน ซวนฟูฮวา (旋覆花) และเมล็ดผักกาดนา้ํ (车前子 เชอเฉียนจ่ือ) เปน ตน แยกตม (另煎 ลงิ่ เจียน) ตวั ยาบางชนดิ มีราคาแพง เชน โสมคน (人参 เหรนิ เซนิ ) โสม อเมริกัน (西洋参 ซีหยางเชิน) เปนตน ควรแยกตมตางหาก หรือตุนดวยหมอตุน 2 ชั้นนาน 2-3 ช่วั โมง เพื่อสกดั ตวั ยาออกมาใหมากที่สดุ อาจแยกรบั ประทาน หรอื นาํ มาผสมกบั นาํ้ ยาของตัวยาชนดิ อนื่ ที่ตมได เพ่ือปอ งกนั ไมใหสญู เสยี ฤทธข์ิ องยา ชงน้าํ รบั ประทาน ( 冲 服 ชงฝ)ู สมนุ ไพรบางชนดิ ไมค วรนาํ มาตม แตควรบดใหเปนผง ละเอียดมาก ๆ แลวชงนํ้าอุนดืม่ หรือนาํ ไปชงกับน้ํายาของสมุนไพรชนิดอ่ืนท่ีเตรียมได ตัวอยาง สมุนไพรเหลา น้ี เชน อาํ พัน (琥珀 หูพ่วั ) และซนั ชี (三七) เปนตน ชงละลาย (溶化 หรงฮวา) ตัวยาบางชนิดมีลักษณะเปนยางหรือมีความเหนียวมาก ควร นาํ มาละลายในน้าํ รอนหรือละลายในยาเตรียมรบั ประทาน เชน เออเจียว (阿胶) เปน ตน แชน้าํ (泡服 เผา ฝ)ู ตวั ยาบางชนิดมสี ารออกฤทธ์หิ รอื มีองคประกอบของนาํ้ มนั หอมระเหย ซึ่งสามารถละลายในน้ํารอนไดงาย ควรเตรยี มยาโดยการนาํ มาแชในน้ํารอนหรือน้าํ ยาของตวั ยาชนิด อื่นทรี่ อ น เชน อบเชยจีน (肉桂 โรว กุย ) เปนตน วิธีรบั ประทานยา (服法 ฝูฝา) วิธรี บั ประทานยา รวมถงึ เวลาทีเ่ หมาะสมในการรับประทานยา โดยท่วั ไปปฏบิ ัติ ดงั นี้ ยาตม ใหรับประทานวันละ 1 หอ หากอาการรุนแรงสามารถรับประทานวันละ 2 หอได ยา หอหนึ่ง ๆ ตมแบงรับประทาน 2-3 คร้ัง โดยกําหนดวาอาการปวยทั่วไปใหรับประทานเชา-เย็น หาก อาการปวยหนกั สามารถรับประทานไดทุก 4 ช่ัวโมง ยาประเภทบาํ รงุ ควรรบั ประทานกอนอาหาร แต หากจะใหเหมาะสม ไมวาจะรับประทานกอนหรือหลังอาหาร ใหเวนระยะเวลาหางกันพอสมควร ยา

Page 68 การใชยาสมุนไพรจนี 47 ประเภทฆาพยาธิหรือยาระบายใหรับประทานขณะทองวาง ยารักษาโรคมาลาเรียใหรับประทานยากอน มาลาเรียกาํ เริบ ยาชวยใหจิตใจสงบหรือนอนหลับใหรับประทานกอนนอน โรคเร้ือรังควร กําหนดเวลารับประทานยาใหแ นนอน ยาประเภทชาชง ใหร บั ประทานตางนาํ้ ชา จิบไดบ อ ย ๆ ใหรับประทานยาตมขณะอุน ๆ แตถาปวยดวยโรคกลุมความรอน สามารถรับประทานยาใน ขณะที่ยาเยน็ แลว ถาปวยดวยโรคกลุมความเย็น ใหด่ืมขณะรอน ๆ ในอาการท่ีปวยดวยโรคกลมุ อาการเย็นแทรอนเทยี ม ใหร บั ประทานขณะทย่ี าเย็นแลว ถาปวยดวยโรคกลุมอาการรอนแทเ ย็นเทยี ม ให รบั ประทานขณะที่ยายังรอนอยู ในผูปวยหมดสติหรือกัดฟนแนน สามารถใหยาทางสายยางผานรูจมูก ในผูปวยที่มีอาการ อาเจียน ใหต มยาใหคอนขา งเขม ขน มีปริมาณนอย แลวแบง รบั ประทานหลายครงั้ ยาเมด็ ลกู กลอน และยาผง ใหด ่มื นํา้ ตาม เอกสารที่ใชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. Zhang E. The Chinese materia medica: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 2. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 3. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 4. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990.

Page 69 48 ตาํ รบั ยาจนี ท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย บทท่ี 5 การตัง้ ตาํ รับยาจนี ตาํ รบั ยาเกดิ จากการผสมกนั ของตวั ยาตาง ๆ ตั้งแต 2 ชนดิ ข้ึนไป โดยไดจากการวนิ ิจฉัยโรค แลว จงึ คัดเลอื กตวั ยาท่ีเหมาะสมเขาเปน หมวดหมู ตวั ยาแตละตัวมสี รรพคุณเดน และดอ ยในตัวเอง ดังน้ัน การตั้งตํารับยาท่ีเหมาะสมอาจเสริมฤทธ์ิหรือลดพิษของยาในตาํ รับได การเสริมฤทธิ์ ลดพิษหรือลด ความแรงของยาทีเ่ หมาะสม มีผลทําใหต วั ยาสามารถออกฤทธิ์ไดด ี ตามคัมภีร “เนยจิง (内经)” ตํารับยาจะประกอบดวยตัวยาหลัก ตัวยาเสริม ตัวยาชวย และตัวยานาํ พา ตัวยาหลักเปนตัวยาท่ีสําคัญท่ีสุดในตํารับยา โดยท่ัวไปจะใชในปริมาณมากท่ีสุด สว นตัวยาเสรมิ และตัวยาชว ยจะใชใ นปรมิ าณรองลงมา ตวั ยาหลกั (主药 จเู หยา หรือ 君药 จวฺ นิ เหยา) ตัวยาหลกั คอื ตวั ยาทเ่ี ปน ตวั ยาสาํ คญั ทใี่ ชร กั ษาโรคของตาํ รบั ยานนั้ ตัวยานี้จะมีผลรักษาสาเหตุ ของโรคหรอื อาการสําคัญของโรค ดงั น้ันตัวยาหลักจงึ เปน ตัวยาสําคัญทีก่ อ ใหเ กดิ ผลการรักษาตามวัตถุ ประสงคของตาํ รับยานั้น หรอื กลา วอีกนัยหน่ึงคอื ตัวยาหลักบอกสรรพคุณหลกั ของตํารบั ยานนั้ ตัวอยาง เชน การใชห มาหวง (麻黄) เปน ตัวยาหลักในตาํ รับยาขับเหง่อื แกห อบหดื เปน ตน ตัวยาเสริม (辅药 ฝเู หยา หรือ 臣药 เฉินเหยา) ตัวยาเสริม คือตัวยาที่ชวยเสรมิ หรอื เพิ่มประสิทธผิ ลการรกั ษาของตัวยาหลกั ในตาํ รับ รวมทั้ง ใชร กั ษาอาการอนื่ ๆ ของโรคน้ัน ๆ ทต่ี ัวยาหลกั ไมสามารถครอบคลุมอาการเหลานัน้ ได ตัวอยา งเชน การใชก ิ่งอบเชยจีน (桂枝 กยุ จือ) เปน ตัวยาเสรมิ สาํ หรับหมาหวง (麻黄) ในการขบั เหงือ่ กระทุง ไข ใน ตํารับยาหมาหวงทงั (麻黄汤) เปนตน ตัวยาชว ย (佐药 จัว่ เหยา ) ตัวยาชวย คือตัวยาที่ชวยเสริมฤทธ์ิ ควบคุม ลดพิษ ขจัดพิษของตัวยาหลักและตัวยาเสริม รวมท้ังใชรักษาผลขางเคียงของตัวยาหลักและตัวยาเสริม ตัวยาน้ีมักใชในปริมาณนอ ย เชนการใชขงิ สด (生姜 เซิงเจียง) ลดพิษของปน เซย่ี (半夏) ซึง่ เปน ตัวยาหลกั ในตํารับยาแกไอ เปนตน

Page 70 การตั้งตํารบั ยาจนี 49 ตัวยานําพา (使药 ส่ือเหยา ) ตวั ยานาํ พา คอื ตัวยาท่ที าํ หนา ท่ีนําพาตวั ยาอืน่ ๆ ใหไปยงั บรเิ วณทตี่ อ งการรกั ษา และทําหนาท่ี ปรับตัวยาในตาํ รับใหเขา กนั ได มกั ใชต วั ยานีใ้ นปริมาณนอย ตัวอยา งเชน การใชช ะเอมเทศ (甘 草 กนั เฉา) เปนตัวยานําพา ทําหนาที่ปรบั ตัวยาทงั้ ตํารบั ใหเขา กนั และปองกนั การขบั เหง่ือมากเกินไปของ หมาหวง (麻黄) และกงิ่ อบเชยจีน (桂枝 กุยจอื ) ในตาํ รับยาหมาหวงทัง (麻黄汤) เปน ตน นอกจากตวั ยาหลักแลว ตํารับยาหน่ึง ๆ ไมจําเปนตอ งมสี วนประกอบครบทง้ั หมด และตวั ยา หนง่ึ ๆ อาจทําหนาที่หลายอยา งได หากอาการเจ็บปว ยไมซบั ซอ น อาจใชต วั ยาเพียงหน่ึงหรอื สองชนดิ ได หากตัวยาหลกั และตวั ยาเสริมไมม ีพิษหรอื ไมมีอาการขา งเคยี ง ก็ไมจําเปน ตองมตี วั ยาชว ย และหากตวั ยาหลักสามารถเขาสบู รเิ วณท่เี จบ็ ปว ยได กไ็ มจําเปน ตอ งใชต วั ยานําพา โดยทัว่ ไปการตั้งตํารบั ยามักใช ตัวยาหลักเพยี งหนง่ึ ชนิด แตหากอาการเจบ็ ปวยมีความซับซอ นมาก กส็ ามารถใชตวั ยาหลกั ไดม ากกวา หน่งึ ชนิด สว นตวั ยาเสรมิ นน้ั สามารถใชไ ดหลายชนิด และตัวยาชว ยมกั ใชจ าํ นวนชนิดมากกวาตัวยา เสริม สาํ หรบั ตัวยานําพาน้นั มักใชเพียง 1-2 ชนดิ ดงั นั้น ในยาแตล ะตาํ รับ อาจมีจาํ นวนชนิดของตัวยา ท่ีทําหนา ท่แี ตกตางกนั ขน้ึ กบั อาการของผูป ว ย ชนดิ ของโรค และวธิ ีรักษาเปนสําคัญ เอกสารทใ่ี ชประกอบการเรยี บเรยี ง 1. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 2. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 3. สมบูรณ ฟเู จรญิ ทรพั ย, บุญยง เศวตบวร. การตัง้ ตํารบั ยา. ใน: มานพ เลิศสุทธริ กั ษ, พจงจิต เลิศสุทธริ กั ษ, นติ ตน นั ท เทอดเกยี รติ (บรรณาธกิ าร). ตาํ รับยาจีน. [เอกสารประกอบการฝก อบรมหลกั สูตรยาและสมุนไพรจีน วันท่ี 12-24 มถิ นุ ายน 2547]. นนทบุรี: สถาบนั การแพทยไ ทย-จนี เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ . กรุงเทพมหานคร, 2547.

Page 71 50 ตํารับยาจีนท่ีใชบอ ยในประเทศไทย บทท่ี 6 พฒั นาการของตํารับยาจีน ตาํ รับยาจีนที่ใชกันมาต้ังแตสมัยโบราณซ่ึงมีผลตอการปองกันและรักษาโรคน้ัน เกิดจากการ ผสมกนั ของตวั ยาตาง ๆ ตั้งแตส องชนดิ ข้ึนไปตามหลักการตัง้ ตาํ รบั ยาจนี ศาสตรด า นเภสชั ตาํ รบั ของจีน มีการศกึ ษาวิจัยและพัฒนาในเชงิ วทิ ยาศาสตรอ ยางตอเนอ่ื ง เพอ่ื สนบั สนุนการนาํ ไปใชโ ดยอาศยั ความรู ตามภมู ิปญญา ตามตาํ นานและหลักฐานทางประวตั ิศาสตร ตํารับยาจนี เร่ิมกําเนดิ ขึน้ ในยุคสงั คมทาส ได เริ่มมกี ารนาํ ตัวยาเดีย่ วมาใชเ พอื่ การปองกนั และบาํ บัดรักษาโรค ตอ มาในยคุ ราชวงศซาง (商代 Shang Dynasty: 1,600-1,100 ปกอ นคริสตศ ักราช) มนษุ ยไดเ รยี นรชู นิดของโรคและรจู กั ตวั ยามากข้ึน รจู ักนํา ตัวยาหลายชนิดมาผสมกันเปนตํารับเพ่ือใชในการรักษาโรคภัยไขเจ็บ ทําใหการบําบัดรักษาโรคมี ประสทิ ธภิ าพมากย่ิงข้นึ ในป ค.ศ. 1979 ไดม ีการคน พบหลักฐานทางโบราณคดจี ากสสุ านหมาหวางตุย (马王堆 Ma Wangdui) ในสมยั ราชวงศฮน่ั พบตาํ รับยารกั ษาโรคจํานวน 52 ขนาน ซึ่งถือเปนตํารายา ท่เี กาแกทส่ี ดุ ของประวัตศิ าสตรก ารแพทยจีน การพัฒนาวชิ าการดานการแพทยจ นี ทาํ ใหตํารบั ยามคี วามสมบรู ณแ ละมีเนือ้ หาสาระมากขึน้ ใน ยุคจั้นก๋ัว ยุคราชวงศฉิน และยุคราชวงศฮั่น ไดพบคัมภีรหวงต้ีเนยจิง (黄帝内经 The Yellow Emperor’s Canon of Internal Medicine) เนอื้ หาประกอบดวยทฤษฎีพน้ื ฐานของเภสชั ตาํ รับ เชน หลักการตั้งตํารบั ยา ขอหา มในการจดั ยารวมหรอื ยากลุม รูปแบบยาเตรียมของตํารบั ยา วธิ ใี ชย า เปน ตน รวมท้งั สน้ิ 13 ตาํ รบั ซ่งึ ถอื เปน จุดกาํ เนิดของศาสตรดานเภสัชตํารบั ในปจ จุบนั เสินหนงเปน เฉา จงิ เปน คัมภรี สมุนไพรจนี ฉบับแรกที่สืบทอดมาต้งั แตราชวงศฉิน ราชวงศฮ นั่ และแพรหลายใชม าจนถงึ ปจ จุบนั คัมภีรน ไ้ี ดบันทกึ ชอื่ สมุนไพรจีนถึง 365 ชนิด และบรรยายถงึ ทฤษฎี การใชส มุนไพรจนี ตา ง ๆ ในบทท่ีวาดวยเร่อื งของยา คอื จฺวิน (ยาหลกั ) เฉิน (ยาเสรมิ ) จัว่ (ยาชวย) ส่อื (ยานําพา) ชีฉิง (อารมณท ั้ง 7) และซ่อื ช่อี ูเ วย  (4 รส 5 กล่ิน) ซึ่งในวงการวทิ ยาศาสตรปจ จุบนั ยอมรบั วาผลของยาสมุนไพรที่บันทึกไวในคัมภีรเลมนี้สวนใหญจะถูกตอง เชน หมาหวงใชรักษาโรคหอบ หวงเหลียนรักษาโรคบิด สาหรา ยรกั ษาโรคคอพอก เปนตน ในยุคราชวงศฮ ั่นตะวันออก มีแพทยที่มีช่ือเสยี งทานหนงึ่ คือ จางจงจิ่ง (张 仲 景 Zhang Zhongjing) ไดรวบรวมความรูทางการแพทยในอดีตบวกกับประสบการณของตนเองแตงคัมภีร

Page 72 พัฒนาการของตาํ รับยาจนี 51 ซางหานจาปงลุน (伤寒杂病论 Treatise on Febrile and Miscellaneous Diseases) เน้อื หา ประกอบดวยตาํ รบั ยารักษาโรคตา ง ๆ รวม 269 ตํารับ โดยไดอธิบายถึงรายละเอยี ดการปรบั เพ่มิ หรือลด ขนาดยาในตํารับ วธิ ีใช และรปู แบบยาเตรียมที่เหมาะสม คัมภรี เ ลม นี้มคี วามสมบูรณมาก ตอ มาชนรนุ หลังไดยกยองทานใหเปน “บิดาแหงตาํ รับยาจีน” ในยุคราชวงศถังเปนยุคแรกท่ีพุทธศาสนารุงเรือง ทส่ี ุด ซึง่ มอี ทิ ธิพลตอ พฒั นาการทางการแพทยจ นี มีหนงั สือตาํ ราทางการแพทยเ กดิ ขน้ึ จาํ นวนมาก ทาํ ให มกี ารพัฒนาศาสตรดา นตํารับยาจีนอยางกวา งขวาง เชน ตาํ ราเปยจี๋เชียนจนิ เอยี้ วฟาง (备急千金要方 Thousand Ducat Formulae) และตาํ ราเชยี นจนิ อ้ีฟาง (千金翼方 Supplement to the Thousand Ducat Formulae) ของซุนซอื เหมยี่ ว (孙思邈 Sun Simiao) ตาํ ราไวไถมเ่ี อี้ยว (外台秘要 Arcane Essentials from Imperial Library) ของหวางถาว (王焘 Wang Tao) ซ่งึ บรรจุตํารบั ยาไวกวา 6,000 ตาํ รับ หนงั สอื ดงั กลา วทงั้ สามเลม จัดเปนงานรวบรวมตํารับยาคร้ังยิ่งใหญโดยแพทยผูมีชื่อเสียงใน ประวัตศิ าสตรการแพทยจีน นับเปน มรดกอนั ล้ําคาที่ตกทอดมาจนถึงปจ จุบัน ในยคุ ราชวงศซง ทางการไดจัดใหม ีการประชุมคณะแพทยจีนและไดร วบรวมขนึ้ เปน ตําราไทผิง เซิง่ หุยฟาง (太平圣惠方 Peaceful Holy Benevolent Formulae) บรรจตุ ํารับยาไวร วม 16,834 ตาํ รบั ตาํ ราเซง่ิ จจ่ี ง ลู (圣济总录 The Complete Record of Holy Benevolence) บรรจตุ ํารบั ยา ประมาณ 20,000 ตาํ รบั และตาํ ราไทผ ิงหุยหมนิ เหอจจี้ ฺหวฟี าง (太平惠民和剂局方 Formulae of the Peaceful Benevolent Dispensary) บรรจตุ ํารบั ยาไวร วม 788 ตาํ รบั สาํ หรับตาํ ราไทผิงหุย หมนิ เหอจ้จี ฺหวฟี างถอื เปนตาํ รายาหลวงเลมแรกในโลกเก่ียวกับตํารับยา ตาํ ราเลมนีไ้ ดร วบรวมตาํ รับยาหลวง และมีการแกไ ขปรบั ปรงุ ใหม โดยมรี ายละเอียดของเนื้อหาในแตล ะตํารบั เชน สรรพคุณของตํารบั ยา สว นประกอบ วธิ แี ปรรูป และการนาํ ไปใชใหต รงตามสรรพคุณทต่ี องการ ตาํ ราดังกลา วนับเปนตาํ ราสาํ หรบั โอสถสถานในยุคราชวงศซง ซ่งึ ตอมาไดมีการพัฒนาอยางตอเน่ือง และเปนจุดเริ่มตนของกําเนิดเภสัช ตาํ รบั เลมแรกของประเทศจีน ในยุคราชวงศจนิ (金代 Jin Dynasty) เฉงิ อจู ี่ (成无己 Cheng Wuji) ไดแตงตําราซางหานหมิงหลล่ี นุ (伤寒明理论 Expoundings on the Treatise on Febrile Diseases) ซ่งึ คัดเลอื กตาํ รบั ยาจาํ นวน 20 ขนานจากตาํ ราซางหานลนุ (伤寒论 Treatise on Febrile Diseases) นํามาศกึ ษาวเิ คราะหอยา งละเอยี ด และไดใหคาํ อธบิ ายตํารับยาแตล ะตํารบั อยางชดั เจน ไดแก ตัวยาหลัก ตวั ยาเสริม ตัวยาชวย และตวั ยานาํ พา ซงึ่ ถอื เปนตาํ ราทฤษฎีตํารบั ยาจีนเลมแรกและเปนพืน้ ฐานในการ พฒั นาตํารบั ยาในยคุ ตอมา

Page 73 52 ตํารบั ยาจนี ทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย ในยคุ ราชวงศหมงิ แพทยจีนจูสู (朱橚 Zhu Su) และคณะ ไดรวบรวมตํารบั ยาตาง ๆ กอ น ศตวรรษท่ี 15 และไดแ ตง ตาํ ราผจู ฟ้ี าง (普济方 Prescription for Universal Relief) บรรจุตาํ รบั ยา ไวรวม 61,739 ตาํ รบั จัดเปนตาํ ราท่ีบรรจุจาํ นวนตํารบั ยามากที่สดุ ของจีนจวบจนปจ จบุ ัน ในยคุ ราชวงศช งิ (清代 Qing Dynasty) มกี ารกอ ตง้ั สํานักโรคระบาดขึ้น โดยไดรวบรวมแพทยจ นี ทม่ี ีชื่อเสียง หลายทานมารวมกันคิดคนและพัฒนาตาํ ราการแพทยและเภสัชตาํ รับ ทาํ ใหเน้ือหาในตาํ รับยามีความ สมบูรณมากยิ่งข้ึน ตัวอยางเชน ตําราอีฟางเขา (医方考 Textual Criticism on Prescriptions) อีฟางจ๋เี จี่ย (医方集解 Collection of Formulae and Notes) เปนตน ทําใหทฤษฎตี าํ รบั ยาจีนไดรับ การพัฒนากา วหนาข้ึนอีกระดบั หนง่ึ หลงั การสถาปนาสาธารณรฐั ประชาชนจีน รฐั บาลจนี มีนโยบายสังคายนาการแพทยจนี ท่ัวประเทศ มีการรวบรวมและชาํ ระตาํ ราแพทยด ง้ั เดมิ อยา งกวางขวาง มกี ารศกึ ษาวิจยั ทางพรคี ลินกิ และทางคลนิ กิ ในสถาบันวจิ ยั ตา ง ๆ ของประเทศ โดยศึกษาครอบคลุมทั้งตาํ รับยาโบราณ ตาํ รบั ยาลบั และตํารบั ยาจาก ประสบการณของแพทยท ีม่ ชี ื่อเสียง ขณะเดยี วกันกไ็ ดคดิ คนตํารบั ยาใหม ๆ ทม่ี ปี ระสิทธิภาพจํานวน มาก และไดพ ฒั นารูปแบบยาใหม ๆ ข้ึน จากผลดงั กลาวเปนที่มาของพัฒนาการของตาํ รับยาจนี โดยสรปุ พัฒนาการของตาํ รบั ยาจนี มีประวัตศิ าสตรอันยาวนาน โดยเรมิ่ จากระดับสามัญสู ระดับที่กาวหนา ทนั สมยั ข้นึ จากความธรรมดางา ย ๆ จนกลายเปน ความลกึ ซ้ึง ซง่ึ ตอ งอาศัยเวลาอนั ยาวนาน แลวคอย ๆ สืบทอดตอกนั มาจนกลายเปน สาขาวิชาท่ีมีความโดดเดน สมบูรณ และมที ฤษฎที ่ี เปนระบบแขนงหนง่ึ ของการแพทยจีน เอกสารที่ใชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 2. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 3. วิชยั โชคววิ ฒั น. ประวตั กิ ารแพทยจีนโดยสงั เขป. วารสารการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก 2547; 2(1): 73-92.

Page 74 รปู แบบยาเตรียมของตํารบั ยาจีน 53 บทที่ 7 รูปแบบยาเตรยี มของตาํ รับยาจนี รูปแบบยาเตรียมของตํารับยาจีนมีหลายรูปแบบ เชน ยาตม ยาดองเหลา ยาน้ําเช่ือม ยา ลูกกลอน ยาเมด็ ยาแคปซลู ยาผง ยาชงพรอมด่ืม ยาเสน ยาครีม ยาฉดี เปนตน การเลอื กรปู แบบยา เตรียมท่ีเหมาะสมตองคํานึงถึงลักษณะและอาการโรคของผูปวยแตละราย คุณลักษณะเฉพาะของ ตัวยาแตละชนดิ และสรรพคณุ ของตํารับยา รูปแบบยาเตรียมท่นี ยิ มใชม ีดังตอไปน้ี 1. ยาตม (汤剂 ทงั จี้) ยาตม เปนรปู แบบยาเตรยี มท่นี ิยมใชในการแพทยแผนจนี มากท่ีสดุ เตรียมโดยนําตาํ รับยามา แชในนํา้ ใหนาํ้ ทว มตัวยาเล็กนอ ย ตัง้ ทง้ิ ไวประมาณ 30-60 นาที เพ่อื ใหน า้ํ ซึมเขา ตวั ยากอ นตม ในการ ตมยานน้ั ปรมิ าณน้ํา ระดับไฟ และเวลาทใี่ ชในการตมยาขนึ้ อยูกับคุณสมบตั ขิ องยาแตล ะประเภท เชน ยารักษาอาการภายนอก ยาแกรอ นใน ใหใ ชน ํ้าปริมาณนอ ย ใชไ ฟแรง และใชเ วลาตม นอย โดยทว่ั ไป หลังตม เดอื ดแลวใหตม ตอ อีกประมาณ 5-10 นาที หากเปนยาบํารงุ ใหเพมิ่ ปรมิ าณนาํ้ ใชไฟออ น และใช เวลาตมนานข้ึน โดยท่ัวไปหลงั ตมเดอื ดแลว ใหต ม ตออกี ประมาณ 30-40 นาที วธิ กี ารตม โดยทวั่ ไป เมือ่ เร่ิมตมใหใ ชไ ฟแรงกอน พอเดือดแลว ใชไ ฟออ น ๆ ตม ตอ ยาหนึ่ง หอจะตม 2-3 ครัง้ เม่อื ตมครัง้ แรกเสรจ็ แลว ใหร นิ นา้ํ ยาเก็บไว เตมิ นํ้าลงในกากทเ่ี หลือ แลว ตมตออีก 1-2 ครง้ั รวมนาํ้ ท่ีตม ไดท ้งั หมดเขา ดวยกนั (อาจนําไปเคยี่ วใหงวดลงอีกครงึ่ หนึง่ ) จดุ เดน ของยาตม คอื ยาดูดซึมไดรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง มีผลขางเคียงนอยและพิษต่ํา นิยมใชรักษาโรคทั่วไปหรือ โรคเฉยี บพลัน นอกจากน้ี ยังสามารถปรับเปลย่ี นสตู รตาํ รับใหเ หมาะกบั ผูปว ยได ยาตม บางตํารบั ใช รักษาแผลภายนอก โดยใชช าํ ระลางทีผ่ วิ หนัง และบางตาํ รับใชส วนทวาร 2. ยาดองเหลา (酒剂 จ่วิ จ)ี้ ยาดองเหลา เปนรปู แบบยาเตรยี มท่ีไดจ ากการนําตวั ยามาแชใ นเหลาขาว สารที่ออกฤทธิ์จะ ละลายออกมาในเหลา ยาดองเหลา มักมีลักษณะใส เหมาะสําหรบั ผูปว ยทมี่ สี ภาพรางกายออนแอ มี ปญหาเรื่องลมชน้ื ปวดเมอ่ื ยตามรางกาย บาดเจบ็ จากการชกตอ ย ตัวอยา งเชน ยาดองเหลา สบิ ทศิ (十 全大补酒 สือฉวนตาปจู ว่ิ ) และเฟงซอื เหยา จว่ิ (风湿药酒) เปน ตน

Page 75 54 ตาํ รับยาจีนทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย 3. ยานํ้าเช่อื ม (糖浆剂 ถังเจียงจ)ี้ ยานาํ้ เช่ือม แบงออกเปน 2 ประเภทคือ แบบมตี ัวยา และแบบไมมตี ัวยา (หรอื นํ้าเชอื่ มลวน) ยานาํ้ เชื่อมแบบมีตัวยามีวิธีการเตรียมคือ นาํ ตัวยามาตมน้าํ แลว นาํ นาํ้ ยาทไี่ ดไ ปเคี่ยวจนเขม ขน จากนั้น จึงใสนาํ้ เช่ือมลงไปผสมใหเ ขากนั ยานํ้าเชื่อมจะมรี สหวาน เหมาะสาํ หรบั ผูป ว ยเด็ก 4. นาํ้ ยากล่นั (药露 เหยา ลู หรอื 露剂 ลจู )้ี น้าํ ยากลั่น เปนรปู แบบยาเตรียมท่ไี ดจ ากการนําตัวยาสดทีม่ อี งคป ระกอบของสารระเหยงา ยใส หมอนง่ึ นึ่งจนกลายเปนไอ เม่ือไอนาํ้ ยาไปกระทบกับความเย็นทฝี่ าหมอ จะไดห ยดนํา้ ยาเรยี กวา น้าํ ยา กล่ัน นาํ้ ยากลั่นจะมีกล่ินหอมช่ืนใจ รสจืด ไมมีสี รับประทานงาย ใชเปนเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แก รอนใน ตัวอยา งเชน นํา้ ยากลน่ั ดอกสายนา้ํ ผึง้ (金银花露 จินอิ๋นฮวาล)ู เปนตน 5. ยาลูกกลอน (丸剂 หวานจ)ี้ ยาลกู กลอน เปนรูปแบบยาเตรียมท่มี ลี ักษณะเปนเมด็ กลม ๆ ขนาดแตกตางกนั เตรียมโดย นาํ ตวั ยาไปบดเปนผงละเอียด แลวผสมกบั น้ํากระสายยา เชน น้าํ น้ําผง้ึ นํา้ สมสายชู น้าํ ผลไม แปง เปย ก แปงหม่ีเปย ก เหลา เหลาองนุ และไขผึง้ เปนตน จากนน้ั นํามาปน เปนยาลกู กลอนดว ยมือหรอื เคร่อื งจักร โดยปกติยาลูกกลอนใชร บั ประทานรักษาโรคทัว่ ไป ประเภทของยาลกู กลอนที่นยิ มใช ไดแก 5.1 ยาลกู กลอนนา้ํ ผง้ึ (蜜丸 ม่ีหวาน) คือยาลูกกลอนท่ีใชน ้ําผง้ึ เปนนา้ํ กระสายยา เตรยี ม โดยนาํ ตัวยาที่บดเปนผงละเอยี ดมาผสมกบั น้ําผ้ึงบรสิ ุทธ์ิ แลว เคย่ี วจนเหนยี ว สีคลํา้ จากน้นั นาํ มาปน เปนกอนกลมดวยมือหรือเครื่องจักร อาจจะมีขนาดใหญหรือเล็กก็ได ขนาดใหญมีนํ้าหนักประมาณ 3-9 กรัม ขนาดเลก็ อาจจะมขี นาดตา ง ๆ กันตามตองการ เนื่องจากยาลกู กลอนชนดิ น้ใี ชน าํ้ ผึง้ เปน น้ํา กระสายยา จึงมีลักษณะคอนขางน่มิ นุม และเหนยี วชน้ื เล็กนอย กลน่ิ หอมชวนรบั ประทาน ยาออกฤทธ์ิ เรว็ ปานกลาง เหมาะสําหรับใชร กั ษาโรคท้ังประเภทเฉยี บพลนั และเรอ้ื รัง และยังมีผลบาํ รงุ รา งกายดวย ตัวอยางเชน เซิ่นชี่หวาน (肾气丸) และอันกงหนิวหวงหวาน (安宫牛黄丸) เปนตน 5.2 ยาลูกกลอนนาํ้ (水丸 สุยหวาน) คอื ยาลูกกลอนทีใ่ ชนํา้ เปนนา้ํ กระสายยา เตรยี มโดยนํา ตัวยาที่บดเปน ผงละเอยี ดมาผสมกับน้ําสะอาด หรอื ของเหลวทร่ี บั ประทานไดอนื่ ๆ เชน เหลา เหลา องุน นํา้ สมสายชู หรือแมแ ตน า้ํ ยาทเ่ี ตรียมไดจากตวั ยาอื่น ๆ จากนนั้ นาํ มาทาํ เปนยาลกู กลอนดว ยมอื หรอื เครอื่ งจกั ร ปกตมิ ักทาํ เปนยาลูกกลอนขนาดเม็ดเลก็ กลืนงาย จงึ ใชส าํ หรบั รักษาโรคทัว่ ไป ยาสามารถ แตกตัวและดูดซึมเขาสูรางกายไดเร็ว ตัวอยางยาลูกกลอนน้าํ เชน เปาเหอหวาน (保和丸) และ

Page 76 รูปแบบยาเตรียมของตํารบั ยาจีน 55 ล่ิวเสนิ หวาน (六神丸) เปน ตน 5.3 ยาลกู กลอนแปง เปย ก (糊丸 หหู วาน) คือยาลกู กลอนทใ่ี ชแปงเปย กเปน นาํ้ กระสายยา เตรียมโดยนํายาสมุนไพรทบี่ ดเปนผงละเอยี ด มาผสมกับแปง เปย กหรอื แปง หมเี่ ปย ก เพอ่ื ชว ยในการปน ลกู กลอน ยาลกู กลอนชนดิ นมี้ ีลกั ษณะเหนียวเหนอะหนะมากกวา ยาลกู กลอนชนดิ อ่นื เมือ่ รบั ประทาน ยาจงึ แตกตวั และถูกดูดซมึ ไดช ากวายาลกู กลอนนา้ํ ผึง้ และยาลูกกลอนน้ํา เปนรูปแบบยาทนี่ ิยมใชก ับตวั ยาทเ่ี ปนสารกระตนุ หรือมพี ษิ หรือระคายเคืองมาก ซงึ่ จะชว ยใหการดดู ซมึ ชา ลง ลดการระคายเคอื ง ตอทางเดินอาหาร และมีผลการรักษาเนิน่ นานออกไป ตัวอยา งยาลกู กลอนแปง เปยก เชน ซีหวงหวาน (犀黄丸) เปน ตน 5.4 ยาลูกกลอนสารสกัด (浓缩剂 หนงซวั หวาน) คอื ยาลูกกลอนท่เี ตรยี มจากนํ้ายาสมนุ ไพร สกัดเขมขน มวี ธิ กี ารเตรยี มคอื ตม ตัวยาทตี่ อ งการตามกรรมวิธกี ารเตรียมยาตม จากน้นั นาํ นํ้ายาทต่ี ม ไดม าเค่ยี วตอใหเขม ขน จนเหนียวหนืด แลว นาํ ไปผสมกบั ตัวยาอ่ืน ๆ ในตาํ รบั ทบ่ี ดเปนผงละเอียด ผสมคลุกเคลาจนเขากนั อยางสม่ําเสมอ นําไปอบใหแ หง แลว บดเปน ผงละเอยี ด นําผงยาทีเ่ ตรียมไดน ้ี ไปทาํ เปนยาลกู กลอน โดยใชนา้ํ เหลา หรอื นํ้ายาสมุนไพรท่ีเหลอื เปนน้ํากระสายยา จะไดย าลูกกลอน สารสกัด ซึ่งเปน ยาทม่ี ปี ระสิทธภิ าพสูง รักษาโรคไดโดยใชป ริมาณนอย จึงมักทาํ เปน ยาลกู กลอนเม็ด เล็ก รับประทานงาย เหมาะกับการใชร กั ษาโรคทุกชนดิ ตวั อยางยาลกู กลอนสารสกัด เชน หนิวหวง เจยี่ ตูหนงซวั หวาน (牛黄解毒浓缩丸) เปน ตน 6. ยาตัน (丹剂 ตนั จ้ี) ยาตัน เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการระเหิดเม่ือไดรับความรอนของเคร่ืองยาธาตุวัตถุท่ีมี ปรอทและกํามะถันเปนสว นประกอบ ตัวยากลุมนี้มีคุณสมบตั ิที่ดีคือ ใชใ นปริมาณนอ ยแตม ปี ระสทิ ธิภาพ สงู สวนมากมกั ใชเ ปนยาภายนอก เชน ไปเจี้ยงตัน (白降丹) และหงเซงิ ตนั ( 红升丹) เปน ตน นอกจากนี้ คําวา “ยาตัน” อาจจะหมายถึง ยาจีนทม่ี ีคุณคา หายาก และมีคุณสมบตั พิ ิเศษ ตัวอยา งเชน เสย่ี วเออ รหยุ ชนุ ตนั (小儿回春丹) หวั ลั่วตนั (活络丹) และจอื่ เสวฺ ต ัน (紫雪丹) เปน ตน 7. ยาเมด็ (片剂 เพยี่ นจ)ี้ ยาเม็ด เปนรูปแบบยาเตรียมที่ไดจากการนําตัวยามาบดเปนผง แลวเติมสารประกอบอื่น เพ่อื ใหไ ดสว นผสมและปริมาณยาท่ีเหมาะสม และชว ยในการตอกเปน เมด็ ผสมใหเ ขา กัน จากน้นั นําไป ตอกเมด็ เปน รูปแบบตา ง ๆ โดยใชเ ครื่องตอกยาเมด็ ยาเมด็ มีขอ ดคี อื รับประทานงา ย ปรมิ าณสาร สาํ คัญสมํา่ เสมอ ตน ทุนการผลิตต่ํา ดูแลรักษางา ย และการขนสงสะดวก หากตัวยามกี ลน่ิ และมรี สขม

Page 77 56 ตํารับยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย สามารถบดบังไดโดยการเคลือบยาเม็ดดวยนํา้ ตาล หากตองการใหยาเม็ดออกฤทธ์ิที่กระเพาะอาหาร หรือลาํ ไส สามารถใชสารเคลือบที่เหมาะสมได ตัวอยางเชน ซังจฺหวีก่ันเมาเพ่ียน (桑菊感冒片) และอิน๋ เฉยี วเจยี่ ตเู พ่ยี น (银翘解毒片) เปนตน 8. ยาแคปซูล (胶囊剂 เจียวหนงั จ)้ี ยาแคปซลู มี 2 ประเภท ไดแ ก ยาสมุนไพรบรรจแุ คปซลู (บดเปนผง แลว ผา นแรงเบอร 100) และสารสกดั สมนุ ไพรบรรจแุ คปซลู ขนาดของแคปซลู มหี ลายขนาด เชน 500, 250, 150 มลิ ลกิ รัม เปน ตน ปลอกแคปซูลผลิตมาจากวสั ดุตาง ๆ กนั เชน จากพืช และจากสตั ว เปนตน 9. ยาอม หรือยาเม็ดแบน (锭剂 ตง้ิ จ้ี หรอื 饼剂 ปงจี้) ยาอมหรือยาเม็ดแบน เปนรูปแบบยาเตรียมที่ไดจากการนาํ ตัวยาลวน ๆ ท่ีบดเปนผง ละเอียดหรือผสมกับสารประกอบอื่น ทาํ ใหเปนรูปแบบตาง ๆ กัน เชน รูปกลม รูปกลมแบน รูปรี รูปเหล่ียม เปนตน แลวนําไปอบแหง ใชไดทั้งรับประทาน หรือใชภายนอก เชน จื่อจินติ้ง (紫金锭) เปน ตน 10. ยาผง (散剂 สา นจี้) ยาผง เปน รปู แบบยาเตรยี มท่ีไดจากการนําตวั ยามาบดเปนผงละเอียด และผสมคลกุ เคลาให เขากัน แลวนาํ ไปอบหรอื ตากใหแ หง มที ้งั ตาํ รบั ทใี่ ชภายในและภายนอก ตํารับท่ใี ชภายในน้ัน กรณีที่ ใชขนาดยาปริมาณนอย ใหนาํ ตัวยามาบดเปนผงละเอียด แลว ชงกับน้าํ รับประทาน กรณีที่ใชขนาดยา ปริมาณมาก มักบดเปนผงหยาบ นําไปตม กบั นาํ้ กรองเอากากออก แลวรับประทานเฉพาะน้ําทก่ี รองได สวนตํารบั ยาผงทใ่ี ชภายนอก ใชวิธโี รยบนแผล หรอื บรเิ วณทีต่ องการรักษา ตํารับยาผงอาจถูกนําไป ปรุงแตงกอนนําไปใช ยาผงเปนรูปแบบยาเตรียมท่ีนิยมมากอกี รปู แบบหนง่ึ เพราะเตรียมไดงาย ใช สะดวกท้ังรับประทานหรือใชภายนอก หากการเตรียมและการเก็บรักษาดียาจะไมเส่ือมสภาพงาย นอกจากนีย้ งั มขี อ ดีในเร่ืองราคาถูกและประหยดั 11. ยาชงสมนุ ไพร (茶剂 ฉาจ้)ี ยาชงสมุนไพร เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการนําตัวยาที่บดเปนผงหยาบ มาผสมกับสาร ยึดเกาะ ปน เปนกอนหรือเม็ดเล็ก ๆ แลวอบใหแหง วิธีใชค อื นาํ มาแชในนาํ้ เดือดในภาชนะท่มี ีฝาปด นาน 5-10 นาที แลวดม่ื แทนนาํ้ ชา ตัวอยางเชน อสู อื ฉา (午时茶) เปนตน

Page 78 รูปแบบยาเตรียมของตาํ รับยาจีน 57 12. ยาชงพรอมดมื่ (冲服剂 ชงฝูจ)ี้ ยาชงพรอมดม่ื เปนรปู แบบยาเตรียมทไ่ี ดจ ากการนาํ สารสกดั กง่ึ แขง็ หรือสารสกัดแหง ( 浸 膏 จ้นิ เกา) มาผสมกับสารประกอบบางชนดิ เชน แปง หรือผงนา้ํ ตาล แลวนาํ ไปอบแหง ทําเปนเมด็ เล็ก ๆ บรรจซุ อง สําหรบั ชงนา้ํ รบั ประทาน รูปแบบยาประเภทนี้พัฒนามาจากยาตมและยาน้ําเช่อื ม มีขอ ดีคอื ใชง า ยและพกพาสะดวก ตัวยาออกฤทธิ์เร็ว เหมาะสําหรบั ใชร กั ษาโรคหลายชนิด ตวั อยางเชน ซูกาน ชงจ้ี (疏肝冲剂) และกนั่ เมา ทยุ เรอ ชงจ้ี (感冒退热冲剂) เปน ตน 13. ยาครมี ข้ผี ึง้ หรอื รปู แบบยาท่ีคลายกนั (膏剂 เกาจ)ี้ ยาครมี ขีผ้ ึง้ หรือรูปแบบยาทีค่ ลายกนั เตรยี มโดยนําตวั ยามาตม กบั น้ํา หรอื น้ํามันพืช ทําให เขมขน โดยการเค่ยี วตอ จนไดยาเตรยี มท่ีมลี ักษณะขนเหนยี วคลายครมี หรอื ยาข้ผี ึ้ง หรอื เคย่ี วจนไดย า เตรียมท่ีขนกึ่งแข็งเกือบแหงคลายยาสีฟนหรือปูนที่ผสมแลว (พรอมท่ีจะนาํ ไปฉาบ) หรือเค่ียวจนได รูปแบบเกือบแข็งเหมือนกอเอี๊ยะ หรือเคี่ยวจนแหงเปนผงสารสกัด ยาเตรียมรูปแบบนี้มีทั้งชนิด รับประทาน เชน สารสกัดเหลว (流浸膏 หลิวจ้ินเกา) สารสกัดก่งึ แข็งหรอื สารสกดั แหง (浸膏 จิ้นเกา) สารสกดั เขม ขนก่งึ เหลว (煎膏 เจยี นเกา) และชนดิ ท่ีใชท าภายนอก เชน ครีมและข้ีผง้ึ (软膏 หรวน เกา) และกอเอย๊ี ะ (硬膏 อิง้ เกา) เปน ตน 13.1 สารสกัดเหลว ( 流 浸 膏 หลิวจน้ิ เกา) เตรยี มโดยนําตวั ยามาแชในตวั ทาํ ละลายที่ เหมาะสม เพื่อใหไดสารสกัดที่ออกฤทธ์ิตามตองการ แลวนําไประเหยเอาตัวทําละลายออกโดยใช อุณหภมู ิต่าํ ปรับความเขม ขนของสารสกัดและปริมาณของตัวทําละลายใหอยูในเกณฑมาตรฐานที่ กาํ หนดไว โดยท่ัวไปยาเตรยี มสารสกัดเหลวปรมิ าตร 1 มิลลลิ ิตร จะมปี ระสทิ ธภิ าพเทียบเทา กับตวั ยา แหง นํา้ หนกั 1 กรัม เวน แตจะมีการระบุไวเ ปน กรณพี ิเศษ ตัวอยางสารสกัดเหลว เชน สารสกัดเหลว ชะเอมเทศ (甘草流浸膏 กันเฉา หลิวจนิ้ เกา) และสารสกดั เหลวกญั ชาเทศ (益母草流浸膏 อี้หมูเ ฉา หลิวจ้ินเกา) เปนตน 13.2 สารสกัดกงึ่ แข็งและสารสกดั แหง (浸膏 จนิ้ เกา) เตรยี มโดยนาํ ตวั ยามาหมกั ในตวั ทาํ ละลายท่ีเหมาะสม เพ่ือใหไดส ารสกัดท่อี อกฤทธ์ติ ามตองการ แลวนําไประเหยเอาตัวทําละลายออกโดย ใชอุณหภูมิต่ําตามมาตรฐานของสารสกัดกึ่งแข็งและสารสกัดแหง สารสกัดปริมาณ 1 กรัม จะมี ประสทิ ธิภาพเทียบเทา กบั ตวั ยาแหงนาํ้ หนกั 2-5 กรัม นิยมนําสารสกัดกง่ึ แขง็ มาเตรียมเปนยาเม็ด หรอื ยาลกู กลอน ตัวอยางเชน เหมาตงชิงจิน้ เกา (毛冬青浸膏) เปนตน สว นสารสกัดแหง ทีเ่ ปน ผงแหง ฃ นยิ มใชบรรจุแคปซูลหรือชงนํ้ารบั ประทาน ตวั อยางเชน หลงตานเฉา จิน้ เกา (龙胆草浸膏) เปนตน

Page 79 58 ตาํ รบั ยาจีนท่ใี ชบอยในประเทศไทย 13.3 สารสกัดเขมขนกง่ึ เหลว (煎膏 เจยี นเกา หรือ 膏滋 เกาจอื ) เตรียมโดยนาํ ตัวยามาตม จนกระท่ังการสกดั สมบูรณ ทิง้ กาก นาํ สารสกดั ทไี่ ดมาทําใหเ ขมขน เตมิ น้ําผึง้ หรอื นํ้าตาลกรวด หรือ น้ําตาลทรายในปริมาณที่เหมาะสม ผสมใหเ ขากัน จะไดส ารสกดั ท่มี ลี ักษณะเขมขนกงึ่ เหลว การใชย า เตรียมชนิดนี้จะใชในปริมาตรนอย รับประทานงาย เนื่องจากมีสวนผสมของน้าํ ผ้ึงหรือนํ้าตาลใน ปริมาณมาก และมีประสิทธิภาพในการบํารุงคอนขางสูง จึงเหมาะสําหรับผูปวยโรคเรื้อรังที่รางกาย ออนแอ ตัวอยางสารสกัดเขมขนก่ึงเหลว เชน อี้หมูเฉาเกา (益母草膏) และผีผาเกา (枇杷膏) เปนตน 13.4 ครมี และขี้ผงึ้ (软膏 หรวนเกา หรอื 药膏 เหยา เกา) เปนรปู แบบยาเตรยี มซง่ึ มลี กั ษณะ เปน ครมี ขนเหนียว ทาติดผิวหนังไดง าย ทอี่ ณุ หภมู ปิ กตจิ ะมลี กั ษณะคอนขา งแขง็ และมีความเหนียว เฉพาะตัว เมื่อนํามาปา ยหรอื ทาลงบนผวิ หนงั จะคอย ๆ ออ นตวั หรอื หลอมละลาย สารออกฤทธจ์ิ ะ คอย ๆ ถกู ดูดซมึ เขา สผู วิ หนงั ยาประเภทน้ีจะออกฤทธ์ิเร็วปานกลาง ตัวอยางยาครีมและขผี้ งึ้ เชน ซนั หวงหรว นเกา (三黄软膏) และครีมฟาทะลายโจร (穿心莲软膏 ชวนซนิ เหลียนหรวนเกา) เปน ตน 13.5 กอเอยี๊ ะ (硬膏 อง้ิ เกา) เตรยี มโดยใชส ารพ้นื ที่เหมาะสมผสมหรอื ละลายเขากบั ตวั ยา สมุนไพร แลว นาํ มาปายลงบนผาหรอื บนแผน วัสดทุ ใ่ี ชป ด เฉพาะทผี่ วิ หนงั สว นทเี่ ปนสดี าํ บนผา หรือ วสั ดุนั้นเรียกวา กอเอ๊ยี ะหรือกอเอี๊ยะดาํ (黑膏药 เฮยเ กาเหยา) โดยปกตทิ อี่ ุณหภูมหิ องจะมีลักษณะ เปน ของแขง็ แตจ ะออ นตวั ลงท่อี ุณหภูมริ า งกายหรอื ทป่ี ระมาณ 36-37 องศาเซลเซยี ส และยาจะเริ่ม ออกฤทธิ์ โดยคอย ๆ ถูกดูดซึมเขาสูผิวหนังเฉพาะที่หรือท่ัวรางกาย ตัวอยางยากอเอี๊ยะ เชน โกวผี เกา (狗皮膏) และซางซอื จ่อื ทง เกา (伤湿止痛膏) เปน ตน 14. ยาเสน (条剂 เถยี วจ)ี้ ยาเสน เปนรูปแบบยาเตรียมที่ไดจากการนาํ ตัวยาใสในกระดาษที่เตรียมจากเปลือกตนหมอน แลว นํามามวนเปนเสน เล็ก ๆ หรือนํามามวนเปน เสน เล็ก ๆ แลว เคลอื บดวยยาผงสมุนไพร ยาเสน มกั ใชปก เขา รหู วั ฝเพอ่ื ขบั หนอง และทาํ ใหแผลเปอ ยแหงเร็ว นยิ มใชในศลั ยกรรมจนี 15. ยาเสน ดา ย (线剂 เสย้ี นจ)ี้ ยาเสนดาย เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการนําเสนดายไหมหรือเสนดายฝายไปแชหรือตม ใน นา้ํ ยาสมุนไพร จากน้นั นาํ ไปตากแหง โดยทั่วไปมักใชยาเตรยี มประเภทนผ้ี ูกรากไฝ หรือรากริดสีดวง ทวาร

Page 80 รปู แบบยาเตรียมของตํารบั ยาจนี 59 16. ยามว นลนไฟ (灸剂 จว่ิ จี้) ยามวนลนไฟ เปนรูปแบบยาเตรียมทไี่ ดจ ากการนาํ ใบโกฐจฬุ าลมั พา (艾叶 ไอเยี่ย) มาห่นั เปน เสนฝอย จากนั้นหอมวนดวยใบโกฐจุฬาลัมพาอีกที คลายกับมวนยาสูบ เปนรูปแบบยาที่ใชในการ ฝงเขม็ หรือรักษาจุดลมปราณหรือตําแหนงทีเ่ กดิ โรค วธิ ีการใชค อื นํายาเตรยี มนี้มาจดุ ไฟ แลว นํามาลน เพือ่ การรกั ษาหรือเพือ่ การปองกนั โรค 17. ยาฉีด (针剂 เจนิ จี้ หรือ 注射剂 จูเ ซอ จ)ี้ * ยาฉีด เปนรูปแบบยาเตรียมท่ีไดจากการนําตัวยามาสกัด และผานกระบวนการสกัดเอา สารประกอบท่ไี มต องการออก จนไดส ารบรสิ ทุ ธ์ิ แลวนําไปเตรียมยาฉีด โดยผา นการฆาเช้อื ตามเกณฑ มาตรฐานของการเตรยี มยาฉีด ยาฉดี มีหลายประเภท ทงั้ ประเภทฉดี ใตผ วิ หนงั ฉดี เขา กลามเนอ้ื และ หลอดเลือดดํา ยาฉดี มีประสิทธภิ าพสูง มีปริมาณสารสาํ คญั ทแี่ นน อน นอกจากน้ี การดูดซมึ ของตวั ยา จะไมถูกรบกวนโดยอาหาร และตวั ยาไมถูกทาํ ลายโดยนา้ํ ยอ ยในกระเพาะอาหาร ตัวอยา งยาฉดี เชน ยา ฉดี จวฺ น่ิ หวง (菌黄注射液) และยาฉีดฟฟู างตันเซนิ (复方丹参注射液) เปน ตน เอกสารทใี่ ชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990. 2. Li F, Fan QL, Zhu ZB, Zhao JQ, Zhu WX. Science of prescriptions: A newly compiled practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 1st ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai University of Traditional Chinese Medicine, 2000. 3. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. *ในประเทศไทยไมอนุญาตใหใชย าเตรยี มจากสมุนไพรในรูปยาฉดี

Page 81 60 ตาํ รบั ยาจนี ท่ใี ชบ อยในประเทศไทย บทท่ี 8 ประเภทของตาํ รับยาจนี ตาํ รับยาจนี แบงตามสรรพคณุ เปนประเภทใหญ ๆ 17 ประเภท ไดแก ตาํ รับยาบํารงุ ตํารับยา ปรับใหสมดุล ตาํ รับยาปรับการไหลเวยี นของช่ภี ายในรางกาย ตาํ รบั ยารกั ษาความผิดปกติของระบบ เลอื ด ตํารับยาใหความอบอุนภายในรางกาย ตํารบั ยารักษาอาการภายนอก ตาํ รบั ยาระบายความรอ น ตํารับยาสลายความช้ืน ตํารับยาสมาน ตํารับยาชวยยอยสลาย ตาํ รับยารักษาอาการแหงขาดความ ชุมช้ืน ตาํ รับยาขับเสมหะ ตํารับยาบรรเทาอาการลม ตาํ รับยาเปดทวาร ตํารับยากลอมจิตประสาท ตํารบั ยาถาย และตํารบั ยารักษาแผล ฝห นอง รายละเอียดของตาํ รับยาแตละประเภทสรปุ ได ดังน้ี 1. ตํารบั ยาบํารงุ (补益剂 ปูอ้จี ี้) หมายถึงตาํ รบั ยาทปี่ ระกอบดวยตวั ยาทมี่ ีสรรพคณุ ชว ยเพิม่ สารจาํ เปน เพม่ิ ภูมิตานทาน และ ชว ยใหรา งกายแขง็ แรง แบงเปน 4 กลมุ ดงั น้ี 1.1 ตาํ รับยาบํารุงชี่ (补气剂 ปูชี่จี้) ประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณบํารุงช่ี สามารถเพิ่ม สมรรถนะการทาํ งานของปอดและมา ม ใชร กั ษาโรคท่ชี ีข่ องปอดและมามพรอ ง เชน เซิงมายสา น (生脉 散) เปนตน 1.2 ตํารับยาบาํ รุงเลือด (补血剂 ปูเซวี่ยจ้ี) ประกอบดวยตัวยาบาํ รุงเลือด ใชรักษาอาการ ขาดเลอื ด เชน ซือ่ อูทัง (四物汤) เปนตน 1.3 ตํารับยาบํารุงยิน (补阴剂 ปูยินจี้) ประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณเสริมบาํ รุงยิน ใช รักษาอาการยนิ ของตับ และไตพรอง เชน ล่ิวเวยต ้ีหวงหวาน (六味地黄丸) เปนตน 1.4 ตาํ รับยาบาํ รุงหยาง (补阳剂 ปหู ยางจ)้ี ประกอบดว ยตวั ยาทมี่ ีสรรพคณุ บาํ รงุ หยางของ ไต ใชรกั ษาอาการหยางของไตออ นแอ เชน เซ่นิ ชห่ี วาน (肾气丸) เปนตน 2. ตาํ รับยาปรบั ใหส มดลุ (和解剂 เหอเจย่ี จ)้ี หมายถึงตํารับยาที่ประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณรักษาอาการของโรคเสาหยาง ชวยใหการ ทาํ งานของตับ มา ม กระเพาะอาหารและลําไสดขี ้นึ ตํารับยาน้ีแบงเปน 3 กลมุ ดังน้ี 2.1 ตาํ รบั ยาปรบั เสา หยางใหส มดลุ (和解少阳剂 เหอเจ่ียเสาหยางจ)ี้ ใชรักษาโรคเสา หยาง ซ่ึงมีลักษณะกง่ึ ในก่ึงนอก เชน เสยี่ วไฉหทู งั (小柴胡汤) เปนตน

Page 82 ประเภทของตํารบั ยาจีน 61 2.2 ตํารับยาปรบั ตับและมามใหสมดุล (调和肝脾剂 เถยี วเหอกานผจี )้ี ประกอบดวยตวั ยา ทมี่ ีฤทธิก์ ระจายช่ขี องตบั และเสริมมา มใหแข็งแรง มีสรรพคณุ ปรบั ตบั และมามใหส มดุล ใชร ักษาโรคท่ี ชต่ี ดิ ขดั ไปกระทบตอมา ม หรอื มามพรองออ นแอ ไมสามารถทาํ หนา ที่ดานลาํ เลยี ง จนสง ผลใหช ข่ี องตับ กระจายไดไ มค ลอ ง ทาํ ใหต บั และมา มไมสมดลุ เชน ซือ่ หน้ีสา น (四逆散) เปนตน 2.3 ตาํ รับยาปรบั กระเพาะอาหารและลําไสใหส มดุล (调和肠胃剂 เถยี วเหอฉางเวย จ )้ี มรี ส เผ็ดและขม กระจายสเู บ้อื งลาง มีฤทธิป์ รบั มา มและกระเพาะอาหารใหส มดลุ ใชร กั ษาโรคทกี่ ารทํางาน ของกระเพาะอาหารและลําไสแปรปรวน เชน หวงเหลยี นทัง (黄连汤) เปน ตน 3. ตาํ รบั ยาปรับการไหลเวียนของชภ่ี ายในรา งกาย (理气剂 หลีช่ ี่จี)้ หมายถงึ ตํารบั ยาทสี่ ว นใหญประกอบดว ยตัวยาท่ีชว ยใหก ารไหลเวียนของชี่ภายในรางกายดีขึ้น หรอื ปรับช่ีใหลงสูเ บ้อื งลา ง แบง เปน 2 กลุม ดงั น้ี 3.1 ตาํ รับยาชว ยใหการไหลเวยี นของชีภ่ ายในรา งกายดีข้ึน (行气剂 สงิ ช่ีจ)ี้ มฤี ทธิ์ปรับการ ทาํ งานของช่ีทงั้ ระบบทาํ ใหไหลเวยี นดขี น้ึ ใชร ักษาโรคที่มอี าการช่ีติดขดั เชน ตา วช่ที งั (导气汤) เปน ตน 3.2 ตาํ รับยาปรบั ใหชลี่ งสูเ บื้องลา ง (降气剂 เจย้ี งช่ีจ)ี้ ทีม่ ฤี ทธ์ิปรับช่ีใหล งสเู บอื้ งลา ง ลดการ ไหลยอนข้นึ ของชใ่ี นรา งกาย เพื่อระงบั อาการไอหอบ หรอื อาเจียนในผูป ว ย เชน ตง้ิ ฉวนทงั (定喘汤) เปน ตน 4. ตํารบั ยารักษาความผดิ ปกติของระบบเลอื ด (理血剂 หล่เี ซวี่ยจ)ี้ หมายถึงตํารบั ยาท่ีประกอบดวยตวั ยาทม่ี ีสรรพคณุ รกั ษาอาการผิดปกตขิ องระบบเลอื ด ชว ย ปรับสมดลุ ของช่แี ละเลือด โดยทั่วไปใชบํารุงเลือด หา มเลือด สลายเลอื ดค่ัง และชว ยการไหลเวียนของ เลอื ดใหด ขี ้ึน แบงเปน 2 กลมุ ดังน้ี 4.1 ตาํ รบั ยาชว ยใหเ ลอื ดไหลเวยี นและสลายเลอื ดคั่ง (活血祛瘀剂 หวั เซว่ยี ชวยี วฺ จี )ี้ มี สรรพคุณรักษาอาการที่มีเลอื ดคัง่ และชํ้าใน (เลือดตกใน) เชน ชีหลสี าน (七厘散) และ เถยี่ ตาหวาน (铁打丸) เปน ตน 4.2 ตาํ รบั ยาหามเลือด (止血剂 จอ่ื เซวี่ยจ)้ี มฤี ทธ์หิ ามเลือดทัง้ ภายในและภายนอกรา งกาย ใชรักษาอาการของโรคท่ีมีเลือดออก เชน ไอเปนเลือด เลือดกําเดาไหล ถายเปนเลือด หรือ ประจาํ เดือนมามากผิดปกติ เชน ซ่ือเซงิ หวาน (四生丸) เปนตน

Page 83 62 ตาํ รบั ยาจีนท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย 5. ตาํ รบั ยาสมาน (固涩剂 กเู ซอ จ)ี้ หมายถึงตํารบั ยาทีใ่ ชร ักษาโรคทชี่ ีข่ องเลือด สารพน้ื ฐานในไต และอสจุ เิ คลอื่ นหล่ังออกงาย ประกอบดว ยตวั ยาทีม่ ฤี ทธย์ิ ับย้งั หรือเหนี่ยวรง้ั ใหเ สถยี ร การเคลอ่ื นหลง่ั ออกของสารภายในรางกาย ทํา ใหสูญเสียชขี่ องเลอื ด ซง่ึ มีสาเหตุและพยาธสิ ภาพของรา งกายแตกตา งกัน เชน เหง่อื ออกงาย เหง่ือออก ขณะนอนหลบั ทองเสียเร้อื รัง ถายบิดเรอ้ื รัง หล่ังอสุจิขณะหลับ หรอื ปสสาวะรดทนี่ อนในขณะหลบั ประจําเดือนมามากผิดปกตหิ รือมาทลี ะนอยไมห มด รวมถงึ อาการตกขาวมากผิดปกติ แบงเปน 4 กลมุ ดังน้ี 5.1 ตํารับยาเสริมภูมิตานทานของผิวภายนอก ระงับเหง่ือ (固表止汗剂 กูเปยวจ่ือฮั่นจ้ี) มสี รรพคุณบาํ รุงช่ี ปกปองรขู มุ ขนของรา งกาย ชวยระงบั ไมใ หเหง่อื ออกงาย ใชรักษาโรคเหงือ่ ออกเอง ซ่ึงมีสาเหตุจากพลังชี่ท่ีหอหุมผิวกายขาดภูมิตานทาน หรือใชรักษาโรคที่มีอาการยินพรอง ทําใหเกิด ความรอ น เหงอ่ื ออกมาก เชน ยวฺ ผี่ ิงเฟง สาน (玉屏风散) และหมลู ่สี าน (牡蛎散) เปนตน 5.2 ตาํ รับยาสมานลาํ ไส กระชบั ระบบขับถา ย (涩肠固脱剂 เซอฉางกทู วั จี)้ มีสรรพคณุ แก ทอ งเสีย บาํ รงุ มามและไต ชวยชะลอและยับยงั้ การถายมาก หรอื ถายโดยควบคุมไมไ ด ใชร กั ษาโรค มามและไตพรอ ง (หยางพรอง) ซ่งึ ทําใหท องเสยี เร้ือรงั ถายไมห ยุด เชน ซื่อเสินหวาน (四神丸) เปนตน 5.3 ตํารับยาเหนย่ี วรัง้ การหลง่ั นาํ้ อสุจแิ ละปส สาวะ (涩精止遗剂 เซอ จงิ จอ่ื อี๋จ)้ี มสี รรพคุณ บํารุงไต และชว ยใหไตมพี ลงั ในการเหนี่ยวร้งั ไมใ หอ สุจิเคลอ่ื นหลั่ง หรอื ปส สาวะเลด็ โดยไมม แี รงควบคมุ ใชร กั ษาโรคที่พลงั ไตพรอ ง ซง่ึ ทาํ ใหเ ก็บรัง้ อสุจไิ มอ ยู ทาํ ใหเ กดิ อาการหลัง่ เรว็ หรอื พลงั ไตพรองไม สามารถควบคุมการทาํ งานของกระเพาะปสสาวะ ทาํ ใหปสสาวะเล็ด กล้ันไมได หรือปสสาวะบอย เชน ฝูทูตนั (附菟丹) เปนตน 5.4 ตาํ รับยาระงับการตกขาวและประจําเดือนมามาก (固崩止带剂 กเู ปง จ่อื ไตจี้) มฤี ทธิ์ หามเลือดประจําเดือนทม่ี ามาก หรอื ตกขาวมากผิดปกติ ใชร กั ษาโรคประจําเดือนมามากผิดปกติ หรอื มาทลี ะนอ ย แตไมห มด รวมท้ังตกขาวมาก เชน กูจ งิ หวาน (固经丸) เปนตน 6. ตํารับยาใหค วามอนุ ภายในรางกาย (温里剂 เวนิ หลีจ่ ้)ี หมายถึงตาํ รบั ยาท่ีใชรักษากลมุ อาการเย็นภายในรา งกาย มีฤทธิท์ าํ ใหร า งกายอบอนุ สลาย ความเย็น แกป วด เสรมิ การทาํ งานของมามและกระเพาะอาหาร ตํารับยานีม้ ีรสเผ็ดรอน กลุมอาการเย็นภายในรางกาย มสี าเหตมุ าจากสภาพหยางของรา งกายพรอง หยางไมเ พยี งพอ ทาํ ใหเ กิดความเยน็ ภายในรางกาย หรือใชย าผดิ ทําใหหยางลดลง หรือกระทบกบั ความเย็นภายนอกและ

Page 84 ประเภทของตํารับยาจนี 63 เขา ถงึ อวยั วะภายใน แลว ตอไปยังเสนลมปราณ แบง เปน 3 กลุมตามความรนุ แรงของอาการของโรค และตําแหนง ทเ่ี กดิ โรค ดงั นี้ 6.1 ตาํ รบั ยาขจดั ความเย็น อุนจงเจยี ว (มามและกระเพาะอาหาร) (温中祛寒剂 เวินจงชวี หานจ้ี) ใชรักษาโรคที่มีอาการเย็นพรองภายในที่ตําแหนงจงเจียว (มามและกระเพาะ) ประกอบดวย ตัวยาทใี่ หฤทธอ์ิ นุ รอ น และเสรมิ บาํ รงุ ชขี่ องมาม เชน หล่จี งหวาน (理中丸) เปนตน 6.2 ตํารับยาฟน คืนหยางชี่ (回阳救逆剂 หุยหยางจว้ิ หนจี้ )้ี ประกอบดวยตัวยาท่ีมีคุณสมบัติ อุนรอน มีสรรพคุณอุนหยางของไต ชวยใหหยางฟนคืนกลับ ใชรักษาโรคท่ีมีอาการหนาวเย็นมาก เนื่องจากหยางของไตออ นแอ หรือหยางของหัวใจและไตออนแอ เชน ซ่ือหน้ที งั (四逆汤) เปนตน 6.3 ตํารบั ยาสลายความเยน็ อนุ เสน ลมปราณ (温经散寒剂 เวนิ จงิ สานหานจ)ี้ มีฤทธส์ิ ลาย ความเยน็ อนุ เสนลมปราณ และบาํ รงุ เลอื ด ทะลวงชีพจร ใชร กั ษาโรคท่มี อี าการหยางชไ่ี มเพยี งพอ เลอื ด ลมออนแอ หรืออาการปวดที่เกิดจากความเย็นมากระทบ ซึ่งมีผลตอการไหลเวียนของเสนลมปราณ เชน ตังกยุ ซอ่ื หนท้ี ัง (当归四逆汤) เปน ตน 7. ตาํ รบั ยารกั ษาอาการภายนอก (解表剂 เจ่ียเปยวจ)ี้ หมายถึงตํารับยาทใี่ ชร ักษากลุม อาการของโรคอันมสี าเหตุจากภายนอก เชน สภาพอากาศท้งั 6 ไดแ ก ลม ความเยน็ ความรอ นอบอาว ความช้ืน ความแหง และไฟ ตาํ รับยานี้จะออกฤทธก์ิ าํ จัดของ เสยี ท่อี ยตู ามผิวหนังออกโดยผา นการขบั เหงอื่ และกระทงุ อาการของโรคหัดใหอ อกไดง ายขึ้น โดยทวั่ ไป ตํารับยาประเภทนจี้ ะมีรสเผด็ ตอ งเลือกใชใ หเ หมาะกบั โรคตามสาเหตขุ องโรค เชน ลมรอ น ลมเย็น และสภาพรางกาย ซึง่ มลี ักษณะยนิ -หยาง แกรง พรอ งแตกตา งกนั แบงเปน 3 กลุม ดังน้ี 7.1 ตํารับยารกั ษาอาการภายนอกทีม่ รี สเผ็ดอนุ (辛温解表剂 ซงิ เวินเจยี่ เปย วจ)ี้ มรี สเผด็ และมคี ณุ สมบตั เิ ปนยาอุน ใชร กั ษาอาการไขจ ากการกระทบลมเย็น หนาวสนั่ เชน หมาหวงทงั (麻黄 汤) และ เซียงซสู าน (香苏散) เปน ตน 7.2 ตาํ รับยารกั ษาอาการภายนอกท่ีมีรสเผด็ เยน็ (辛凉解表剂 ซงิ เหลยี งเจีย่ เปยวจ้ี) มรี ส เผด็ และมีคณุ สมบตั เิ ปนยาเย็น ใชรกั ษาอาการไข เหงื่อออก เชน อิ๋นเฉียวสาน (银翘散) เปนตน 7.3 ตํารบั ยาเสรมิ ภมู คิ ุมกนั และขบั เหงอ่ื (扶正解表剂 ฝเู จ้ิงเจี่ยเปยวจ)ี้ มีฤทธิ์ขบั เหงอ่ื บํารุงรางกาย และเสรมิ ภูมคิ ุมกนั ใชร ักษาอาการไข หนาวสนั่ ในผปู ว ยที่มอี าการหนักและผปู ว ยทม่ี ี รางกายออนแอ เชน เซินซอู ิ่น (参苏饮) เปนตน

Page 85 64 ตํารบั ยาจีนทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย 8. ตํารบั ยาระบายความรอ น (清热剂 ชิงเรอจ)้ี หมายถึงตาํ รับยาที่ใชรักษากลุมอาการรอนภายในรางกาย ประกอบดวยตัวยาซึ่งมี สรรพคุณระบายความรอ น ชว ยใหเลือดเย็น และแกพ ิษ แบงเปน 7 กลุม ตามตาํ แหนงของโรค ดังน้ี 8.1 ตํารับยาระบายความรอนในระดับชี่ (清气分热剂 ชิงชี่เฟนเรอจี้) มีฤทธ์ิระบาย ความรอ นในระดับช่ี แกอ าการรอ นใน กระหายนํา้ ใชร ักษาโรคทีม่ ไี ขสงู กระหายน้ํามาก เหงื่อออกมาก ชีพจรใหญ เชน ไปหูท งั (白虎汤) เปน ตน 8.2 ตํารับยาระบายความรอ นในระบบหยงิ ช่แี ละเลือด (清营凉血剂 ชงิ อง๋ิ เหลียงเซว่ียจ)้ี มี ฤทธบิ์ รรเทาความรอ นในระบบหยิงชแ่ี ละเลือด ชวยใหเ ลอื ดเยน็ ลง กระจายการคง่ั ของเลือด และหา ม เลือดอันเนอ่ื งมาจากเลอื ดรอน ระบายความรอ นและถอนพษิ ไข เชน ชงิ อ๋ิงทงั (清营汤) เปนตน 8.3 ตาํ รับยาระบายความรอนในระดับช่ีและระดับเลือด (气血两清剂 ช่ีเซวี่ยเหล่ียงชิงจี้) มีฤทธิ์ระบายความรอนทั้งในระดับชี่และในระดับเลือด ใชในกรณีท่ีความรอนเกิดข้ึนพรอมกันทั้ง ภายในและภายนอก หรอื มีไขพ ษิ รอนซง่ึ มอี าการรุนแรง เชน ชิงเวินไปต อู น่ิ (清瘟败毒饮) เปน ตน 8.4 ตํารับยาระบายความรอน บรรเทาพิษไข (清热解毒剂 ชิงเรอเจ่ียตูจ้ี) มฤี ทธ์ริ ะบาย ความรอ น บรรเทาพษิ ไข ใชรกั ษาโรคท่ีมอี าการพษิ รอนมากภายใน รวมท้ังพษิ รอ นบริเวณศีรษะ และ ใบหนา เชน หวงเหลยี นเจย่ี ตทู ัง (黄连解毒汤) เปน ตน 8.5 ตํารบั ยาระบายความรอ นทอี่ วยั วะภายใน (清脏腑热剂 ชิงจั้งฝูเรอ จี้) มฤี ทธ์ริ ะบาย ความรอนสูงทีเ่ กดิ ขน้ึ ในอวยั วะภายในทัง้ หลาย เชน เซีย่ ไปสา น (泻白散) และเสาเหยาทงั (芍药汤) เปนตน 8.6 ตํารบั ยาลดไขจ ากยนิ พรอ ง (清虚热剂 ชิงซวเี รอ จ้ี) มีสรรพคณุ ลดไขจ ากยินพรอง (มี อาการไขต ่าํ ซึง่ เปนความรูส ึกของคนไขเอง เม่ือวดั ปรอทอาจมไี ขเ พยี งเลก็ นอย หรืออาจไมมไี ขกไ็ ด) เสริมยนิ ระบายความรอนจากภายใน ใชรกั ษาโรคที่มไี ขต ํ่า ๆ เปนเวลานาน หรอื ผปู ว ยทม่ี อี าการรอ น ในกระดกู เชน ชงิ กสู า น (清骨散) เปนตน 8.7 ตาํ รับยาลดไขจากอาการเปนลมเพราะแพแดด และเสริมชี่ (清暑益气剂 ชิงสอู ช้ี จี่ ี)้ มีสรรพคุณลดไขจากอาการเปนลมเพราะแพแดด และตัวยาท่ีมีสรรพคุณบํารุงชี่ เสริมยิน ใชรักษา โรคที่ถูกแดดเปนเวลานาน ทําใหมีอาการออนเพลีย ตัวรอน และหมดสติ เชน ลิว่ อี้สา น (六一散) และชงิ สูอชี้ ่ที ัง (清暑益气汤) เปน ตน

Page 86 ประเภทของตํารับยาจีน 65 9. ตาํ รบั ยาสลายความช้ืน (祛湿剂 ชวฺ ีซอื จ)ี้ หมายถงึ ตาํ รบั ยาท่ใี ชรักษาโรคหรอื กลุมอาการเจบ็ ปวยท่เี กดิ จากความชนื้ ประกอบดวยตัวยาที่ มีสรรพคณุ ขจดั ความช้ืนดว ยการขบั นาํ้ สลายชืน้ ระบายน้ําท่มี ีลกั ษณะขนุ เปนตะกอน เพอ่ื ใหเกิดสภาพ คลอ ง สาเหตุทท่ี าํ ใหเ กดิ ความช้นื มี 2 สาเหตุ คือ 1) ความช้นื จากภายนอก เมือ่ รางกายกระทบความชน้ื จากภายนอก ทําใหทางเดินของลมปราณ ติดขัด เกิดอาการกลวั หนาว เปน ไขตัวรอน ปวดศีรษะ ปวดเม่อื ยตามตัว หรอื อาจปวดบวมทข่ี อ ทาํ ให ขอยืดงอไมสะดวก 2) ความช้นื จากภายใน ความชื้นภายในรา งกายมีผลตอ การทํางานของมา ม ปอด ไต ทางเดิน ของซานเจียว และกระเพาะปส สาวะ ทาํ ใหร ะบบการกําจัดนํ้าเสยี บกพรอง เปน ผลใหเกิดภาวะน้ําตกคาง (น้ําเสยี ทคี่ อนขา งใส) กบั เสมหะ (น้ําเสียท่ีคอนขา งหนืด) หรอื นา้ํ เสียที่มองไมเ หน็ ดวยตาเปลา ทําให เกิดอาการบวมนํา้ รางกายของคนมีความเกี่ยวของกับปจจัยภายในและภายนอก ดังน้ันความช้ืนจากภายนอก สามารถเขาสูภายในได ในทํานองเดียวกัน ความชื้นจากภายในสามารถขจัดออกสูภายนอกไดโดยผาน ผวิ หนงั ความชื้นภายนอกและภายในจึงมผี ลตอกัน โดยทั่วไป ความชื้นมกั มาพรอ มกบั ลม ความเยน็ และความรอ น และเนือ่ งจากสภาพรา งกาย ของคนมคี วามแขง็ แรง ออ นแอ แกรง และพรอ งตางกัน ตําแหนง ท่ีเกิดโรคสามารถเกิดไดทง้ั สว นบน สว นลาง ภายในและภายนอก นอกจากน้ี อาการเจบ็ ปวยอาจแปรเปล่ียนไปเปน เย็นหรือรอ นได การ รกั ษาดวยการสลายความชื้นจึงมี 5 วธิ ี คือ (1) หากตาํ แหนงของโรคอยูภ ายนอกหรอื อยสู ว นบน ใหใชยาขบั เหงอ่ื นอ ย ๆ เพื่อขจัดความช้ืน ใหอ อกทางเหงือ่ (2) หากตําแหนงของโรคอยภู ายในหรอื อยสู วนลา ง ใหใ ชย าหอมเยน็ รสขม หรอื รสหวานอมจืด เพื่อขับน้ําออกทางปส สาวะ (3) หากความชนื้ แปรสภาพเปน เยน็ ใหอ ุนหยางสลายชน้ื (4) หากความชนื้ แปรสภาพเปนรอน ใหขจดั รอนสลายชืน้ (5) หากรางกายออนแอ (พรอ ง) มคี วามชืน้ คอนขา งมาก ใหขจดั ความชื้นพรอมกับเสรมิ บํารุง ตํารับยาสลายความช้ืนแบงเปน 5 กลมุ ดงั น้ี

Page 87 66 ตาํ รบั ยาจีนทใี่ ชบอยในประเทศไทย 9.1 ตาํ รับยาสลายความช้ืน ปรับสมดุลของกระเพาะอาหาร (燥湿和胃剂 เจา ซอื เหอเวย จ )ี้ มีรสขม มคี ุณสมบัตอิ นุ มฤี ทธิข์ จดั ความชื้นทาํ ใหแ หง และมกี ลิน่ หอม มีฤทธ์ิกระจายสลายความช้ืน ใชรักษาโรคท่ีมีความช้ืนอุดกั้นภายในรางกาย และมีลมเยน็ จากภายนอกมากระทบ เชน ผงิ เวยส า น (平胃散) เปนตน 9.2 ตาํ รับยาระบายความรอ น สลายความชืน้ (清热祛湿剂 ชิงเรอชวฺ ีซือจ)้ี มีสรรพคณุ ขจดั ความรอน ระบายความชืน้ ใชร กั ษาโรคที่มอี าการรอ นชน้ื เชน ปาเจงิ้ สาน (八正散) เปน ตน 9.3 ตํารับยาขับปสสาวะ ระบายความช้ืน (利水渗湿剂 หลสี ยุ เซิ่นซอื จ้ี) มีสรรพคุณระบาย ความช้ืนออกทางปสสาวะ ใชรักษาโรคที่มีนํ้าหรือความชื้นตกคาง (บวมนาํ้ ) เชน ซอื่ หลงิ สา น (四苓 散) เปนตน 9.4 ตํารบั ยาใหค วามอบอนุ สลายความชื้น (温化水湿剂 เวนิ ฮวา สยุ ซอื จ้)ี มสี รรพคุณ อนุ หยาง และระบายความช้ืน ใชรักษาโรคที่มคี วามเยน็ ช้นื เชน ฟจู อ่ื ทงั (附子汤) เปนตน 9.5 ตํารับยาขจัดลมชื้น และแกปวด (祛风胜湿剂 ชฺวีเฟงเซิง่ ซือจี้) มีสรรพคณุ ขจดั ลมชน้ื ใชรักษาโรคทีม่ ีอาการปวดเนื่องจากลมชืน้ หรือโรคผนื่ คันตามผวิ หนงั เชน กุยจอื เสาเหยา จือหมทู งั (桂 枝芍药知母汤) เปนตน 10. ตํารบั ยาถาย (泻下剂 เซย่ี เซย่ี จ)้ี หมายถึงตาํ รับยาท่ีใชรักษากลุมอาการแกรงภายในรางกาย ประกอบดวยตัวยาที่มีสรรพคุณ ระบายทอ ง กําจดั ของเสยี ท่ตี กคา งในกระเพาะอาหารและลาํ ไส ระบายความรอ นทส่ี ูงเกนิ ไป และขบั นา้ํ เนื่องจากกลมุ อาการแกรงภายในรา งกายทีเ่ ปนสาเหตใุ หทอ งผูกนัน้ อาจเกดิ จากความรอน ความ เย็น ความแหง และนาํ้ ตํารับยาประเภทนีจ้ ึงแบง เปน 5 กลุม ตามพยาธิสภาพของรา งกายและอายขุ อง ผูปวย ดงั น้ี 10.1 ตาํ รับยาถา ย ขบั ความรอน (寒下剂 หานเซยี่ จี้) มีคุณสมบัติเปนยาเยน็ มีสรรพคณุ เปนยาถาย ใชร ักษาโรคทอ งผกู จากความรอนสะสมภายในรา งกาย เชน เสยี่ วเฉิงชีท่ ัง (小承气汤) เปน ตน 10.2 ตาํ รับยาถา ย เสรมิ ความอบอนุ (温下剂 เวนิ เซี่ยจ)ี้ มคี ณุ สมบตั ิอุนรอน มฤี ทธส์ิ ลาย ความเย็นท่ีเปนสาเหตุใหทองผูก ใชรักษาโรคท่ีมีอาการแกรงภายในรางกายท่ีเกิดจากความเย็น เชน เวินผที งั (温脾汤) เปน ตน 10.3 ตํารับยาถาย เพ่ิมความชุมชื้นใหระบบขับถาย (润下剂 รุนเซ่ียจ้ี) มีฤทธิ์ใหความ

Page 88 ประเภทของตํารบั ยาจนี 67 ชุมชื้นและหลอลื่นลําไส เพ่ือใหถายงาย ใชรักษาโรคทองผูกเน่ืองจากน้ําในลําไสไมเพียงพอ ทําให อจุ จาระแขง็ และถายยาก เชน หมาจื่อเหรนิ หวาน (麻子仁丸) เปนตน 10.4 ตํารับยาถา ยอยา งแรง ขบั ความชน้ื (逐水剂 จสู ยุ จ)้ี มสี รรพคุณเปนยาถา ยอยา งแรง ใชรักษาโรคที่มีน้ําเสียตกคางอยูในบริเวณชองทองและทรวงอกรวมถึง อาการบวมนา้ํ ท่ีเกิดจากกลุม อาการแกรง เชน สือเจา ทงั (十枣汤) เปน ตน 10.5 ตาํ รับยาระบาย เพ่ิมความแข็งแรงของลําไส (攻补兼施剂 กงปูเจียนซือจี้) มี สรรพคณุ บาํ รุงและระบาย ใชร กั ษาโรคที่มอี าการแกรงภายใน และพลังชี่ของรา งกายออ นแอ (พบในคน ทสี่ ุขภาพออ นแอ ทองผกู งา ย) หากระบายอยา งเดียวจะทาํ ใหม อี าการออนเพลียมากขน้ึ จึงตองทั้งบาํ รุง และระบายทองพรอมกัน เชน ซนิ เจียหวงหลงทงั (新加黄龙汤) เปนตน 11. ตาํ รบั ยาชวยยอยสลาย (消导剂 เซยี วตา วจ)ี้ หมายถึงตาํ รับยาท่ีสวนใหญประกอบดวยตัวยาที่มีสรรพคุณชวยใหระบบยอยอาหารดีขึ้น ขับ อาหารตกคาง บรรเทาทองอดื หรอื อาการจุกเสยี ดแนน ทอง แบง เปน 2 กลมุ ดงั น้ี 11.1 ตํารับยาชวยยอยอาหาร ขับอาหารตกคาง (消食导滞剂 เซียวสือตาวจื้อจี้) ตาํ รับยา กลุมนี้ประกอบดวยตัวยาที่มีสรรพคุณชวยบรรเทาอาการจุกเสียดทองและชวยยอยอาหาร ใชรักษา อาการอาหารไมย อ ย เชน เปาเหอหวาน (保和丸) เปน ตน 11.2 ตาํ รับยาชวยยอยอาหาร บรรเทาอาการทองอืด (消痞化积剂 เซียวผ่ีฮวาจีจี้) มี สรรพคณุ ชวยใหชี่เดนิ ชวยการไหลเวียนของเลือด และขับชนื้ สลายเสมหะซง่ึ เปน สาเหตใุ หท องอดื เชน จอ่ื สือเซียวผหี่ วาน (枳实消痞丸) เปน ตน 12. ตํารบั ยาขับเสมหะ (祛痰剂 ชวีถันจ)้ี หมายถึงตํารบั ยาท่ใี ชรักษาโรคตา ง ๆ อันเกิดจากเสมหะ ประกอบดว ยตวั ยาทม่ี สี รรพคณุ ขบั เสมหะและนาํ้ เสียที่ตกคา งใหห มดไป เนอื่ งจากเสมหะมีหลายชนิด เชน เสมหะชืน้ เสมหะรอ น เสมหะ แหง เสมหะเย็น และเสมหะปนลม ดงั นนั้ จึงตอ งเลือกใชใหเ หมาะสม ดังน้ี 12.1 ตาํ รับยาสลายความช้ืน ละลายเสมหะ (燥湿化痰剂 เจาซือฮวาถันจี้) ประกอบดวย ตวั ยาละลายเสมหะ สลายความชื้น และตวั ยาท่ีมีรสขม อนุ ชว ยใหค วามชนื้ หายไป หรือตัวยาทีม่ รี ส หวานจืด ชวยระบายความชื้น ใชรักษาโรคท่ีมีอาการเสมหะช้ืน เชน เออรเฉินทัง (二陈汤) และ เวินตา นทัง (温胆汤) เปนตน

Page 89 68 ตํารบั ยาจนี ทใี่ ชบอยในประเทศไทย 12.2 ตาํ รบั ยาขจดั ความรอ น ขบั เสมหะ (清热化痰剂 ชิงเรอฮวา ถนั จ)้ี มีสรรพคุณขจัด ความรอนและสลายเสมหะ ใชรักษาโรคที่มีอาการเสมหะรอน เชน ชงิ ชี่ฮวาถันหวาน (清气化痰丸) เปนตน 12.3 ตํารับยาเพ่มิ ความชมุ ช้นื ใหปอด ละลายเสมหะ (润燥化痰剂 รุน เจา ฮวา ถนั จ)้ี มี สรรพคุณสลายเสมหะและชว ยใหป อดชมุ ชื้น ใชรักษาโรคท่มี อี าการเสมหะแหง เชน เออรห มูสาน (二 母散) เปนตน 12.4 ตาํ รบั ยาอนุ ปอด ขบั เสมหะเยน็ (温化寒痰剂 เวินฮวา หานถันจ)้ี มสี รรพคุณเพม่ิ ความอบอนุ ใหป อด สลายเสมหะ ใชรกั ษาโรคท่ีมอี าการเสมหะเย็น เชน ซันจ่อื หยางชนิ ทัง (三子养 亲汤) เปน ตน 12.5 ตาํ รับยาสลายเสมหะ ขับลม (治风化痰剂 จอื้ เฟงฮวา ถนั จ้ี) มีสรรพคณุ สลายเสมหะ และขับลม แบง เปน 2 กลุมยอย คือ - ตาํ รบั ยาขบั ลมภายนอกที่ทาํ ใหเ กิดเสมหะ (疏风化痰剂 ซเู ฟงฮวา ถนั จ)ี้ เหมาะกบั ผปู วยทมี่ ีเสมหะเนอ่ื งจากลมภายนอก ทาํ ใหป อดกระจายชไี่ มค ลอง จงึ เกิดเสมหะ ตองรักษาดว ยการ กระจายลมและสลายเสมหะ เชน จอ่ื โซวสาน (止嗽散) เปนตน - ตํารบั ยาขบั ลมภายในทที่ ําใหเ กิดเสมหะ (熄风化痰剂 ซเี ฟงฮวา ถนั จี้) เหมาะกับ ผปู ว ยที่มีเสมหะเน่อื งจากพน้ื ฐานเดมิ มีเสมหะอยกู อ นแลว เมอ่ื มีลมจากตบั ชกั นาํ ใหเสมหะข้นึ สสู วนบน ของรางกาย จงึ ทําใหเกดิ อาการเจ็บปวยตาง ๆ ตองรกั ษาดวยการขับลมภายในและสลายเสมหะ ตํารบั ยาในกลุมน้ีประกอบดว ยตวั ยาทีม่ สี รรพคณุ ขบั ลมภายในและสลายเสมหะ เชน ปนเซี่ยไปจเู ทียนหมาทงั (半夏白术天麻汤) เปนตน 13. ตํารบั ยารักษาอาการแหงขาดความชุม ช้ืน (治燥剂 จื้อเจา จ)้ี หมายถึงตาํ รับยาท่ีประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณเสริมสรางนํา้ หลอเลี้ยง ชวยใหอวัยวะมี ความชมุ ช้ืน แบง เปน 2 กลุม ดงั นี้ 13.1 ตํารบั รักษาอาการแหงภายนอกท่ีออกฤทธกิ์ ระจายเบาบาง ชว ยการไหลเวียนของชที่ ป่ี อด (轻宣外燥剂 ชงิ ซวนไวเจา จี)้ มีสรรพคณุ รกั ษาความแหงอันเนอื่ งมาจากอากาศภายนอก มักเกดิ ใน ฤดูใบไมร ว ง เม่ือลมหนาวมา ทําใหช่ีปอดกระจายไมค ลอง นยิ มใชต วั ยาทมี่ คี ุณสมบัตอิ ุน น้ําหนักเบา เชน ซงิ่ ซสู า น (杏苏散) เปนตน

Page 90 ประเภทของตํารับยาจีน 69 13.2 ตํารับยารักษาอาการแหงภายในดวยการเพิ่มความชุมชื้น เสริมยิน (滋润内燥剂 จือรนุ เนย เ จาจ)ี้ มีสรรพคุณรกั ษาอาการแหง แบบรอ น มักจะเกิดในชว งตนฤดใู บไมร วง ซงึ่ ยงั มคี วาม รอ นของปลายฤดูรอ นแฝงอยู ทาํ ใหน้าํ หลอเลีย้ งในปอดลดลง นิยมใชย าท่มี คี ณุ สมบัติเยน็ น้ําหนักเบา เชน อีเ้ วย ทัง (益胃汤) และหยา งยนิ ชิงเฟย ท ัง (养阴清肺汤) เปน ตน 14. ตาํ รับยาเปด ทวาร (开窍剂 ไคเช่ียวจ้)ี หมายถึงตาํ รับยาท่ปี ระกอบดวยตัวยาท่มี รี สเผ็ด มีกลน่ิ หอม ทะลวงไดด ี สามารถเปดทวาร ทาํ ใหม สี ตฟิ น ฟูสมั ปชญั ญะ ใชร ักษาอาการหมดสติ สตเิ ลอะเลือน เกิดอาการชกั หรืออมั พฤกษ แบงเปน 2 กลมุ ดังนี้ 14.1 ตํารับยาเปด ทวารประเภทยาเยน็ (凉开剂 เหลียงไคจ้ี) มกี ล่นิ หอมเย็น ใชรวมกบั ตวั ยาทม่ี สี รรพคณุ ระบายความรอ นของหวั ใจ และชวยใหเ ลอื ดเยน็ ลง ใชรักษาโรคทมี่ อี าการรอ นจัด หรอื พษิ รอนเขา สูเยอื่ หมุ หัวใจ ทําใหห มดสติ เชน หนิวหวงชงิ ซนิ หวาน (牛黄清心丸) เปนตน 14.2 ตาํ รับยาเปดทวารประเภทยาอนุ (温开剂 เวินไคจ)้ี มกี ล่ินหอม ใชร วมกับยาทม่ี รี ส เยน็ มคี ณุ สมบัติอุน ชว ยใหการไหลเวยี นของชดี่ ีขีน้ ใชรักษาโรคทมี่ ีอาการหมดสติเนื่องจากความเย็น ปดก้ันทวาร เชน ผปู ว ยโรคอมั พฤกษทไ่ี ดรบั ความเย็นจนหมดสติ หรอื เสมหะตีขน้ึ สมอง ทําใหหมดสติ เชน ทงกวนสา น (通关散) เปนตน 15. ตาํ รบั ยากลอมจิตประสาท (安神剂 อันเสนิ จี้) หมายถึงตาํ รับยาที่สวนใหญประกอบดวยตัวยาที่มีฤทธิ์คลายเครียด หรือตัวยาบํารุงหัวใจ กลอมประสาท ลดความกระวนกระวายใจ แบงเปน 2 กลมุ ดงั นี้ 15.1 ตาํ รับยาชว ยควบคุมจิตประสาทใหสงบเปนปกติ บรรเทาอาการชกั หรือชอ็ ค (重镇安神 剂 จง เจนิ้ อันเสนิ จ้ี) มฤี ทธ์ริ ะงับประสาท มีสรรพคณุ บรรเทาอาการตกใจกลวั อาการกระวนกระวายไม อยูน่งิ และแกโ รคลมชกั เชน จซู าอนั เสินหวาน (朱砂安神丸) เปน ตน 15.2 ตํารบั ยาบาํ รงุ หัวใจ ชวยใหนอนหลบั (滋养安神剂 จือหยางอนั เสนิ จ)้ี มฤี ทธิ์บํารงุ เลอื ดและยนิ ชว ยใหจติ ใจสงบ ชว ยใหนอนหลับ ใชร กั ษาโรคทมี่ อี าการตกใจงาย หวาดกลัว ใจส่ัน และนอนไมหลับ เชน ซวนเจาเหรินทัง (酸枣仁汤) และเทียนหวางปูซนิ ตัน (天王补心丹) เปน ตน

Page 91 70 ตํารบั ยาจนี ท่ีใชบ อยในประเทศไทย 16. ตาํ รบั ยาบรรเทาอาการลม (治风剂 จ้ือเฟงจ)ี้ หมายถึงตาํ รับยาที่ประกอบดวยตัวยาที่มีรสเผ็ด มีฤทธิ์กระจายลม หรือเสริมยิน ลดหยาง ภายในรางกาย แบงเปน 2 กลมุ ดังนี้ 16.1 ตาํ รับยาปดเปาลมภายนอก (疏散外风剂 ซูสานไวเฟงจี้) มีรสเผ็ด มีฤทธก์ิ ระจาย ลม มีสรรพคุณรักษาอาการเจบ็ ปว ยจากการกระทบลมภายนอก เชน เซยี วเฟงสา น (消风散) เปนตน 16.2 ตาํ รับยาสงบลมภายใน (平熄内风剂 ผงิ ซเี นย เ ฟงจ)ี้ มีสรรพคณุ สงบลมของตบั เปน หลัก โดยทว่ั ไปมักใชรว มกบั ตวั ยาที่มฤี ทธิร์ ะบายความรอน สลายเสมหะ บํารุงเลือด ใชร กั ษาโรคที่มี อาการเจบ็ ปวยจากลมภายในรา งกาย เชน เจิน้ กานซีเฟงทงั (镇肝熄风汤) เปนตน 17. ตาํ รับยารกั ษาแผล ฝห นอง (痈疡剂 ยงหยางจ)ี้ หมายถึงตาํ รับยาท่ีประกอบดวยตัวยาท่ีมีสรรพคุณขับพิษรอน ขับหนอง หรือสลายตุมกอน ดวยความอุน ใชร กั ษาโรคแผล ฝ หนอง ตุมกอนตา ง ๆ แบงเปน 2 กลุม ดังน้ี 17.1 ตาํ รับยารกั ษาแผล ฝห นองภายนอกรา งกาย (外痈剂 ไวยงจ)ี้ มสี รรพคณุ รกั ษาแผล ฝ หนองท่เี กิดตามผวิ หนังภายนอก ไดแก ฝฝก บวั ฝหัวแขง็ ตมุ หนองที่ผิวหนัง งูสวัด ไฟลามทุง ตอม น้ําเหลืองโต เชน เซียนฟางหัวม่ิงอ่ิน (仙方活命饮) และหยางเหอทงั (阳和汤) เปนตน 17.2 ตาํ รับยารกั ษาแผล ฝห นองภายในรา งกาย (内痈剂 เนย ย งจ)ี้ มีสรรพคุณรกั ษาแผล ฝ หนองทีเ่ กดิ ตามอวัยวะภายในตา ง ๆ เชน ฝในปอด ไสติง่ อักเสบ เชน ตาหวงหมตู นั ทัง (大黄牡丹 汤) เปนตน เอกสารทีใ่ ชประกอบการเรยี บเรยี ง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999.

Page 92 ตํารับยาจนี 71 บทที่ 9 ตาํ รบั ยาจีน ตาํ รับยาจีนท่ไี ดค ดั เลือกมาบรรจไุ วใ นหนงั สือเลม น้ี มีจาํ นวน 30 ตํารบั แบง เปน 10 ประเภท ดงั น้ี 1. ยาบํารงุ - ยาบํารงุ ช:ี่ ซือ่ จฺวินจอื่ ทัง (四君子汤) เซงิ มายสาน (生脉散) ปูจงอช้ี ี่ทัง (补中益气汤) - ยาบํารงุ เลอื ด: ซ่อื อทู ัง (四物汤) - ยาบํารงุ ยนิ : อกี ว นเจยี น (一贯煎) ล่วิ เวยต ้ีหวงหวาน (六味地黄丸) - ยาบํารุงหยาง: เซ่ินชี่หวาน (肾气丸) 2. ยาปรับสมดลุ - ยาปรับเสาหยางใหส มดุล: เส่ยี วไฉหทู งั (小柴胡汤) - ยาปรบั ตบั และมา มใหสมดุล: ซอ่ื หน้สี า น (四逆散) เซียวเหยาสา น (消遥散) 3. ยาสมาน - ยาเสริมภูมิตา นทานของผิวภายนอก ระงับเหงอ่ื : ยวฺ ผ่ี งิ เฟงสา น (玉屏风散) - ยาสมานลําไส กระชบั ระบบขบั ถา ย: ซอื่ เสนิ หวาน (四神丸) 4. ยาใหค วามอบอุนภายในรา งกาย - ยาขจัดความเยน็ อุนจงเจยี ว: หล่ีจงหวาน (理中丸) หวูจยู ฺหวที งั (吴茱萸汤) 5. ยารกั ษาอาการภายนอก - ยารักษาอาการภายนอกทมี่ รี สเผด็ อนุ : หมาหวงทงั (麻黄汤) กยุ จือทงั (桂枝汤) เส่ยี วชงิ หลงทงั (小青龙汤) 6. ยาระบายความรอ น - ยาระบายความรอ นในระดับช:่ี ไปห ทู ัง (白虎汤) - ยาระบายความรอน บรรเทาพิษไข: หวงเหลยี นเจีย่ ตูทงั (黄连解毒汤)

Page 93 72 ตาํ รับยาจนี ทใี่ ชบอยในประเทศไทย - ยาระบายความรอ นที่อวัยวะภายใน: ยวฺ ่ีนหฺ วเี่ จียน (玉女煎) ชิงเวย สา น (清胃散) เซ่ียหวงสา น (泻黄散) เซี่ยไปส าน (泻白散) ไปโ ถวเวงิ ทงั (白头翁汤) 7. ยาสลายความช้ืน - ยาขับปส สาวะ ระบายความช้ืน: อหู ลิงสาน (五苓散) 8. ยาถา ย - ยาถา ย ขบั ความรอน: ตาเฉงิ ชท่ี งั (大承气汤) - ยาถา ย เสรมิ ความอบอนุ : เวนิ ผที งั (温脾汤) ไตหวงฟจู อื่ ทัง (大黄附子汤) 9. ยาชว ยยอยสลาย - ยาชว ยยอยอาหาร ขับอาหารตกคาง: เปาเหอหวาน (保和丸) 10. ยาขับเสมหะ - ยาสลายความชืน้ ละลายเสมหะ: เออ รเ ฉินทงั (二陈汤) รายละเอียดของตาํ รับยาจนี แตละตํารับ จะประกอบดว ย ตาํ ราตน ตาํ รับ สว นประกอบ วธิ ใี ช การออกฤทธ์ิ สรรพคณุ คําอธิบายตาํ รับ รูปแบบยาในปจจุบัน ขอ แนะนําการใช ขอควรระวงั ในการใช ขอหา มใช ขอ มลู วิชาการที่เกย่ี วของ เอกสารอา งองิ และภาพประกอบของตาํ รบั ยาและตวั ยา ดงั นี้

Page 94 ตาํ รบั ยาบาํ รงุ : ซ่ือจฺวนิ จอ่ื ทัง 73 ซอื่ จวฺ ินจื่อทงั (四君子汤) ตําราตนตํารับ 太平惠民和剂局方 ไทผงิ หุย หมนิ เหอจ้ีจฺหวีฟาง (Prescription of Peaceful Benevolent Dispensary)1 « ค.ศ. 1151 Chen Shiwen (陈师文 เฉินซือเหวิน) »2 สวนประกอบ Radix Ginseng เหรินเซิน 10 กรัม 9 กรัม 人参 Poria ฝูหลิง 9 กรมั 茯苓 6 กรมั 白术 Rhizoma Atractylodis Macrocephalae ไปจู 甘草 (炙) Radix Glycyrrhizae Praeparata กนั เฉา (จ้อื ) วธิ ีใช ตมเอานาํ้ ด่ืม1,3 การออกฤทธ์ิ เสริมช่บี ํารุงมาม1,3 สรรพคณุ รักษาอาการชี่ของระบบมามและกระเพาะอาหารพรอง โดยมีอาการรับประทานอาหารไดนอย เบื่ออาหารและถา ยเหลว หนาซดี ขาว พูดเสียงเบาออน มอื เทา ไมม ีแรง ชีพจรจมเลก็ ออน หรือ ชีพจรจม เตนชา 1,3 ตํารับยานีส้ ามารถเพมิ่ หรอื ลดขนาดยาใหเ หมาะสมในผปู วยโรคโลหิตจางจากการขาดสารอาหาร เน่อื งจากระบบการยอ ยอาหารไมดี โรคกระเพาะอาหารและลําไสอ ักเสบเรือ้ รงั หรอื ผูป ว ยโรคบดิ เรอื้ รังซ่ึง เกดิ จากช่ขี องมามและกระเพาะอาหารพรอง1,3

Page 95 74 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบอ ยในประเทศไทย ตํารบั ยา ซอ่ื จวฺ นิ จอ่ื ทงั (四君子汤) 2 เซนติเมตร เหรินเซนิ (人参) 5 เซนตเิ มตร ฝูหลงิ (茯苓) 3 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร ไปจ ู (白术) กันเฉา(จ้ือ) [甘草(炙)]

Page 96 ตาํ รบั ยาบํารุง: ซอื่ จฺวินจ่อื ทงั 75 คําอธิบายตาํ รับ สมนุ ไพร ทําหนา ที่ รส คณุ สมบตั ิ สรรพคณุ 人参 เหรินเซนิ ตัวยาหลัก หวานอมขม (โสมคน) อุน เสรมิ พลังช่ี (อยางมาก) เสริม เล็กนอ ย 茯苓 ฝูหลิง เล็กนอ ย ปอด บํารุงมามและกระเพาะ (โปง รากสน) ตัวยาเสรมิ หวาน เลก็ นอ ย อาหาร สรางธาตุนาํ้ ชวยให 白术 ไปจู ตัวยาชว ย ขม จติ ใจสงบ 甘草 (炙) อมหวาน กลาง ระบายความชื้นและน้าํ เสริม กันเฉา (จอ้ื ) ตวั ยานําพา หวาน (ชะเอมเทศผดั น้าํ ผึง้ ) มามใหแ ข็งแรง ชว ยใหจติ ใจ สงบ อุน บํารงุ ชี่ เสรมิ มา มใหแ ข็งแรง แกค วามชืน้ ระบายน้ํา ระงบั เหงือ่ กลอ มครรภ อนุ เสรมิ ช่ี บํารุงสว นกลาง ปรับ ประสานตัวยาทั้งหมดให เขากัน รปู แบบยาในปจจบุ ัน ยาตม ยาเม็ด ยาลูกกลอน4 ขอ ควรระวังในการใช 1. ถา ใชยาซอ่ื จวฺ นิ จือ่ ทงั นาน ๆ จะปรากฏอาการปากและลน้ิ แหง กระหายนํ้า หงุดหงดิ และ กระสับกระสาย1,3 2. ตองระมัดระวงั ในการใชย าซื่อจวฺ นิ จ่อื ทังในผูปว ยท่มี อี าการไขส งู รอ นจัดเนอ่ื งจากยนิ พรอง หรือมสี ารตกคา งในกระเพาะอาหาร ทอ งอืด มีสารนํ้าไมเ พียงพอ หงดุ หงดิ กระหายนํ้า และทอ งผูก1,3 ขอมูลวชิ าการทเี่ กยี่ วของ ตํารับยาซ่อื จฺวินจือ่ ทงั มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดน้าํ มฤี ทธิ์บาํ รงุ มามในหนขู าวและหนูถีบจักร ชว ยปรบั สมดลุ

Page 97 76 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบอ ยในประเทศไทย การทาํ งานของกระเพาะอาหารและลําไสในหนูขาว เสรมิ ภูมคิ มุ กนั ในหนถู ีบจกั ร เสริมสรางเซลลส มอง และเซลลต ับในหนถู ีบจกั รท่ีอายมุ าก4 การศกึ ษาทางคลินิก: ตํารับยาซ่อื จวฺ นิ จ่ือทงั มสี รรพคณุ ในการเพิ่มประสทิ ธภิ าพการทาํ งานของ ประสาทสวนกลาง กระตุนการเผาผลาญ เพมิ่ ภมู ติ า นทาน ปรบั สภาพการทํางานของกระเพาะอาหารและ ลําไส เพ่ิมประสทิ ธิภาพการดดู ซมึ ของระบบการยอ ยอาหาร ระงับอาการทอ งเสยี แกอ าการบวมน้ํา และ ชว ยขับปส สาวะ1,3 เหรินเซิน [โสมคน (Radix Ginseng)] คือ รากแหงของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Panax ginseng C.A. Mey. วงศ Araliaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดนา้ํ ทางปากและฉีดเขาชองทองหนูถีบจักรในขนาด เทียบเทาผงยา 1-3 กรัม/กิโลกรัม มีผลชวยใหหนูถีบจักรมีความจาํ ดีข้ึน และมีรายงานวาโสมคนมีฤทธิ์ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุมกันของรางกาย โดยการกระตุนระบบภูมิคุมกันแบบไมเฉพาะเจาะจง นอกจากน้ีโสมคนยงั ชวยปรับการเตนของหวั ใจใหกลบั สูภ าวะปกตเิ รว็ ขนึ้ ทําใหเหน่อื ยชา ลง และสามารถ ทาํ งานไดน านขึ้น6 การศึกษาทางคลินิก: เมือ่ ใหผ ูปวยที่มอี าการเครยี ดและออ นเพลยี รบั ประทานยาเตรียมทงิ เจอร จากโสมคนความเขมขน 3% วนั ละ 3 ครงั้ คร้ังละ 5 มลิ ลลิ ติ ร ตดิ ตอ กันทกุ วนั เปนเวลา 5-7 วัน พบวา อาการปวดศีรษะ นอนไมหลับ เบื่ออาหาร ดีขึ้นอยางชัดเจน6 เม่ือใหผูปวยโรคโลหิตจางรับประทาน สารสกดั ทกุ วัน วนั ละ 60-120 มลิ ลกิ รมั พบวานอกจากประสทิ ธิภาพการทาํ งานของไขกระดูกเพ่มิ ข้ึน แลว ยงั ชว ยบรรเทาอาการออนเพลียหรอื เม่อื ยลา เบอื่ อาหาร เวียนศรี ษะ หัวใจเตนเร็วของผปู ว ยใหด ขี ึ้น ดวย นอกจากนี้โสมคนยังมสี รรพคณุ ชว ยเพ่มิ สมรรถนะในการทํางานของรา งกายใหส งู ขึ้น ตา นความ เม่ือยลา และเพมิ่ ประสทิ ธิภาพของระบบภมู คิ ุมกันของรางกาย6,7 การศึกษาความปลอดภัย: มีรายงานการศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาขนาดของ ผงยาและสารสกัดนา้ํ เมื่อใหทางปากที่ทาํ ใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 5 และ 1.65 กรมั /กโิ ลกรัม ตามลําดับ6 ฝูหลิง [โปงรากสน (Poria)] คือ เห็ดที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนํ้ามีฤทธิ์สงบประสาทในหนูถีบจักร คลายกลามเน้ือเรียบ ของลําไสกระตาย8 ผงยาเม่ือใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มีผลยับย้ังอาการ

Page 98 ตาํ รับยาบํารงุ : ซอื่ จฺวนิ จอ่ื ทงั 77 ผิวหนังอักเสบ สารสกัดน้าํ ตาลเชิงซอ นเมอื่ ใหทางปากหนถู ีบจกั รในขนาด 250, 500 และ 1,000 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรมั วันละคร้งั ติดตอกนั นาน 7 วนั มฤี ทธเิ์ สรมิ มามใหแ ข็งแรง และเมือ่ ฉีดสารสกัด 70% แอลกอฮอลเ ขา ชองทอ งกระตา ยในขนาด 0.5 กรมั /กิโลกรมั วนั ละครง้ั ตดิ ตอ กันนาน 5 วนั มีฤทธ์ิขบั ปส สาวะ นอกจากน้ียงั พบวา เมือ่ ฉดี ยาเตรยี มเขา ใตผ ิวหนงั หนขู าวในขนาดเทียบเทา ผงยา 1.4 กรมั / กโิ ลกรัม วันละครั้ง ตดิ ตอ กนั นาน 8 วนั มผี ลปกปองตับได9 การศึกษาทางคลินกิ : สารสกดั นํ้าสามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจติ ใจไมสงบชนิดเร้ือรงั และมีฤทธริ์ ะบายความชืน้ และนาํ้ 9 ไปจู (Rhizoma Atractylodis Macrocephalae) คือ ลําตนใตดินแหงของพืชที่มีชื่อ วิทยาศาสตรวา Atractylodes macrocephala Koidz. วงศ Compositae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจัย ดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ผงยามฤี ทธิ์ปกปอ งตบั และเพม่ิ การทํางานของระบบภูมคิ มุ กันในหนู ถบี จักร สารสกดั นํา้ เมอ่ื ใหห นถู ีบจักรทางปากในขนาดเทยี บเทาผงยา 6 กรัม/กโิ ลกรัม มีผลเพิ่มน้าํ หนัก ตัวและความทนทานของหนูถีบจกั ร นอกจากนส้ี ารสกัดนาํ้ ยงั มฤี ทธขิ์ ับปส สาวะในหนูขาว กระตาย และ สนุ ัข10 การศึกษาทางคลินิก: ผงยามีฤทธขิ์ ับปสสาวะ รกั ษาอาการตบั แข็ง และโรคทอ งมาน (มนี าํ้ ขงั ใน ชอ งทอ ง)10 การศึกษาความปลอดภยั : มีรายงานการศกึ ษาพษิ เฉยี บพลนั ในหนูขาวโดยการฉดี สารสกดั นํา้ เขา ชอ งทอ ง พบวา ขนาดของสารสกดั เทยี บเทาผงยาท่ีทาํ ใหห นขู าวตายรอยละ 50 (LD50) มีคา มากกวา 13.3 กรมั /กิโลกรมั และเมอ่ื ใหส ารสกดั นา้ํ ทางปากหนูขาวในขนาด 0.5 กรมั /กโิ ลกรัม ทกุ วันตดิ ตอ กัน นาน 30-60 วนั ไมท าํ ใหเกดิ อาการพิษใด ๆ8 กนั เฉา (จ้ือ) [ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผ้งึ (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คือ รากแหง ของพชื ท่ี มชี อ่ื วิทยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรยี มโดยนาํ นาํ้ ผ้ึงบรสิ ทุ ธิ์มาเจือจางดวยนํา้ ตม ในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม ใสชะเอมเทศทห่ี ัน่ เปน แวน ๆ หรอื เปน ช้นิ ๆ ตามตองการ (อตั ราสว นของสมนุ ไพร:นา้ํ ผ้งึ เทากับ 4:1) แลว คลกุ ใหเ ขา กนั หมกั ไวส กั ครูเ พื่อใหน ํา้ ผ้งึ ซมึ เขาในตวั ยา จากนัน้ นําไปผัดในภาชนะท่ีเหมาะสมโดยใช ระดบั ไฟปานกลาง ผดั จนกระท่ังมสี เี หลืองเขมและไมเหนียวตดิ มอื นาํ ออกจากเตา แลว ตงั้ ทง้ิ ไวใ หเย็น11

Page 99 78 ตาํ รับยาจนี ท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย ชะเอมเทศมีคุณสมบัติเปนกลางคอนขางเย็นเล็กนอย มีรสอมหวาน มีสรรพคุณระบาย ความรอนขับพิษ แกไอ ขับเสมหะ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารักษาอาการไอมีเสมหะมาก พิษจาก ฝแผล คอบวมอักเสบ หรือพษิ จากยาและอาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอ นและขับพษิ ได หาก นํามาผัดนํ้าผึ้งจะทาํ ใหม ีคณุ สมบัตอิ ุน มีรสหวาน มสี รรพคณุ บาํ รุงมา มและกระเพาะอาหาร เสรมิ ช่ี ทาํ ให การเตน ของชีพจรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารักษาอาการมามและ กระเพาะอาหารออ นเพลีย ไมมีแรง ชีข่ องหัวใจพรอง ปวดทอง เสนเอ็นและชพี จรตึงแขง็ ชพี จรเตนไม สม่าํ เสมอ และชีพจรเตนหยุดอยางมีจังหวะ มีรายงานผลการศึกษาเปรียบเทียบปริมาณกรดกลี ไซรไรซิก (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศทีผ่ ดั และไมไ ดผัดนํ้าผง้ึ พบวา ชะเอมเทศผัดนา้ํ ผ้ึงจะมี ปริมาณสารดังกลา วนอยกวาชะเอมเทศทีไ่ มไ ดผ ัดรอยละ 47-60 ทงั้ นข้ี ้ึนอยกู ับคณุ ภาพของเคร่อื งยา11 การศกึ ษา วจิ ยั ของชะเอมเทศผดั นํ้าผึ้ง มีดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: มีรายงานการศกึ ษาเปรยี บเทียบฤทธ์ิเสริมภมู ิคุมกนั ของชะเอมเทศท่ี ผดั น้ําผงึ้ และไมไ ดผ ัด พบวา ฤทธเิ์ สริมภูมิคุมกันของชะเอมเทศผัดน้าํ ผึ้งแรงกวา ชะเอมเทศที่ไมไ ดผ ัดมาก 11 ดงั นั้นชะเอมเทศผัดนํ้าผง้ึ จงึ นับเปน ตัวยาทม่ี ีสรรพคุณบาํ รงุ ชีท่ ี่ดที ส่ี ดุ ในทางคลินกิ เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรัส ตั้งอรา มวงศ, สณุ ี จีระจิตสมั พันธ, ธรี พงศ ต้ังอรามวงศ. ตํารบั ยาซ่อื จวฺ นิ จื่อทัง. [เอกสารแปลเพื่อการจัดทาํ ฐานขอ มูลยา สมุนไพรจีน]. นนทบรุ ี: สถาบันการแพทยไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉยี งใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Zhao H. Si Junzi Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Zhou QM, Wang Y, Wang BX. Radix Ginseng: ren sheng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999.

Page 100 ตาํ รบั ยาบาํ รุง: ซ่อื จฺวนิ จอื่ ทงั 79 8. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 9. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Zhou ZC. Rhizoma Atractylodis Macrocephalae: bai zhu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.