Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

Description: ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1.

Search

Read the Text Version

Page 201 180 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบอยในประเทศไทย การศึกษาความปลอดภัย: เม่ือฉีดสารสกดั น้ําเขาหลอดเลือดดาํ และฉีดเขาชองทองหนูถบี จักร ขนาดเทยี บเทาผงยา 6.72 และ 22.4 กรัม/กโิ ลกรัม ตามลําดบั พบวา หนูถีบจกั รเรม่ิ มีการตายเกดิ ขึ้น แตเ มือ่ ใหสารสกัดน้ําทางปากขนาด 168 กรัม/กโิ ลกรมั ไมพบวามหี นูถบี จักรตวั ใดตาย7 เหรินเซิน [โสมคน (Radix Ginseng)] คือ รากแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Panax ginseng C.A. Mey วงศ Araliaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เมื่อใหสารสกัดนํา้ ทางปากและฉีดเขาชองทองหนูถีบจักรในขนาด เทยี บเทาผงยา 1-3 กรัม/กโิ ลกรัม มผี ลชว ยใหห นูถีบจักรมีความจาํ ดขี ้นึ และมีรายงานวาโสมคนมฤี ทธิ์ เพิ่มประสิทธภิ าพของระบบภมู ิคมุ กันของรา งกาย โดยการกระตนุ ระบบภมู คิ มุ กนั ของรางกายแบบไม เฉพาะเจาะจง นอกจากนีโ้ สมคนยงั ชว ยปรบั การเตนของหวั ใจใหก ลบั สูภาวะปกติเรว็ ขนึ้ ทาํ ใหเ หนอื่ ย ชาลง และสามารถทาํ งานไดนานขึน้ 8 การศกึ ษาทางคลนิ ิก: เมื่อใหผปู ว ยที่มอี าการเครียดและออนเพลีย รบั ประทานยาเตรียมทงิ เจอร จากโสมคนความเขมขน 3% วนั ละ 3 ครง้ั ครั้งละ 5 มลิ ลิลิตร รบั ประทานติดตอ กนั ทุกวันเปนเวลา 5-7 วัน พบวาอาการปวดศีรษะ นอนไมหลับ เบื่ออาหารดีข้ึนอยางชัดเจน8 เม่ือใหผูปวยโรคโลหิตจาง รับประทานสารสกัดทุกวัน วันละ 60-120 มิลลิกรัม พบวานอกจากประสิทธิภาพการทํางานของ ไขกระดูกเพมิ่ ขน้ึ แลว ยงั ชว ยบรรเทาอาการออ นเพลยี หรือเม่ือยลา เบื่ออาหาร เวียนศรี ษะ หัวใจเตนเร็ว ของผูปว ยใหดีขนึ้ ดวย นอกจากน้โี สมคนยงั มสี รรพคุณชวยเพ่มิ สมรรถนะในการทาํ งานของรา งกายให 8,9 สงู ขึ้น ตา นความเมือ่ ยลา และเพม่ิ ประสิทธภิ าพของระบบภูมคิ มุ กันของรา งกาย การศึกษาความปลอดภยั : มีรายงานการศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถบี จกั ร พบวาขนาดของ ผงยาและสารสกดั นํ้าเมือ่ ใหท างปากท่ที ําใหหนูถบี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทากับ 5 และ 1.65 กรมั /กิโลกรัม ตามลําดบั 8 เซงิ เจยี ง [ขิงสด (Rhizoma Zingiberis Recens)] คอื เหงา สดของพชื ท่มี ชี ่ือวิทยาศาสตรว า Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: นํ้าค้ันมีฤทธ์ิตานการอาเจียนไดผลดี และนาํ้ ค้ันในระดับความ เขมขนตาํ่ ๆ จะเพิม่ แรงบีบตวั ของลําไสห นโู ดยไมทําใหความตึงตวั ของลําไสเปลีย่ นแปลง แตใ นระดับ ความเขม ขน สูง ๆ จะลดแรงบบี ตวั และความตงึ ตวั ของลาํ ไสอยางชัดเจน รวมทง้ั สามารถเพิ่มแรงบบี ตวั 10 11 ของลําไสเ ลก็ สนุ ขั นอกจากนีน้ ํา้ คัน้ ขิงแกม ฤี ทธิ์ยับยง้ั เชือ้ ราในชอ งปาก การศึกษาทางคลินิก: ขิงสดมีสรรพคุณรักษาโรคไขหวัดจากการกระทบลมเย็น แกคลื่นไส

Page 202 ตํารบั ยาใหความอบอนุ ภายในรางกาย: หวูจยู หฺ วที ัง 181 อาเจียน แกก ระเพาะอาหารอกั เสบเรอื้ รงั แกท องเสีย12 การศึกษาความปลอดภัย: ขนาดท่ีทําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) ของน้าํ ค้ันขิงสดที่ ความเขม ขน 20 % เมอ่ื ฉดี เขา หลอดเลือดดําของหนถู บี จักรมีคา เทา กบั 1.5 กรัม/กโิ ลกรมั อาการพิษที่ ทําใหสัตวตาย คือ ชักและหยดุ หายใจ10 ตาเจา [พุทราจีน (Fructus Ziziphi Jujubae)] คือ ผลแหงของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร วา Ziziphus jujuba Mill. วงศ Rhamnaceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกดั นาํ้ มฤี ทธ์ิปกปองตับในกระตา ย ระงับไอ ขับเสมหะในหนู 13 ถบี จักร การศึกษาทางคลนิ ิก: สารสกดั น้าํ มีสรรพคุณบรรเทาอาการเลือดคั่ง โดยทั่วไปตาเจา มกั ไมใ ช เด่ยี ว สว นใหญจ ะเปนสวนประกอบในตาํ รับยาตา ง ๆ13 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. สวาง กอแสงเรือง. ตํารบั ยาหวูจยู ฺหวีทัง. [เอกสารแปลเพื่อการจัดทาํ ฐานขอมูลยาสมนุ ไพรจีน]. นนทบุรี: สถาบันการแพทยไ ทย-จนี เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Ou YJJ. Wuzhuyu Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001. 7. Qu SY. Fructus Evodiae: wu zhu yu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Zhou QM, Wang Y, Wang BX. Radix Ginseng: ren sheng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999. 10. สถาบันวิจยั สมุนไพร. เอกสารวชิ าการสมนุ ไพร. นนทบรุ ี: กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข., 2543.

Page 203 182 ตํารบั ยาจีนท่ีใชบอยในประเทศไทย 11. สรอยศิริ ทวีบูรณ. ขิง. ใน: บพิตร กลางกัลยา นงลักษณ สุขวาณิชยศิลป (บรรณาธิการ). รายงานผลการศึกษาโครงการ การ ประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภยั ของยาสมุนไพร. นนทบุรี: บรษิ ทั เอส อาร พร้ินต้ิง แมสโปรดักส จาํ กัด, 2544. 12. Zhao GB. Rhizoma Zingiberis Recens: sheng jiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 13. Zhou ZC. Fructus Jujubae: da zao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 204 ตาํ รบั ยารักษาอาการภายนอก: หมาหวงทงั 183 หมาหวงทงั (麻黄汤) ตําราตนตํารับ 伤寒论 ซางหานลนุ (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจง จ่งิ ) »2 สวนประกอบ 麻黄 (去节) Herba Ephedrae (with joints removed) หมาหวง (ชฺว้เี จย๋ี ) 6 กรัม 4 กรมั 桂枝 Ramulus Cinnamomi กุยจอื 9 กรมั ซง่ิ เหริน (ชฺว้ีผีเจยี น) 杏仁 (去皮尖) Semen Armeniacae Amarum 3 กรัม (with its skin removed) 甘草 (炙) Radix Glycyrrhizae Praeparata กนั เฉา (จอื้ ) วิธใี ช ตม เอานา้ํ ดื่ม แลว นอนหมผา เพือ่ อบใหเ หงอื่ ออกพอควร1,3 การออกฤทธิ์ ขบั เหงือ่ กระทงุ หวัด กระจายชที่ ่ีปอด บรรเทาหอบ1,3 สรรพคณุ ใชรกั ษาไขห วดั จากการกระทบความเย็น มอี าการตวั รอน กลวั หนาว ปวดศรี ษะ ปวดเมื่อยตาม ตัว ไมม ีเหงือ่ มีอาการหอบ ล้ินมฝี าขาวบาง ชพี จรลอย แนน 1,3 ตํารับยานี้สามารถเพิ่มหรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคไขหวัด ไขหวัดใหญ หลอดลม อกั เสบ อาการหอบและหดื จากไขห วดั เนอื่ งจากกระทบลมเย็นทมี่ ีสภาพแกรง 1,3

Page 205 184 ตํารับยาจนี ทีใ่ ชบอยในประเทศไทย ตาํ รับยา หมาหวงทงั (麻黄汤) 2 เซนตเิ มตร หมาหวง(ชฺวเี้ จีย๋ ) [麻黄(去节)] 2 เซนตเิ มตร กุยจอื (桂枝) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร ซิง่ เหริน(ชฺว้ีผเี จยี น) [杏仁(去皮尖)] กนั เฉา(จ้อื ) [甘草(炙)]

Page 206 ตาํ รับยารกั ษาอาการภายนอก: หมาหวงทัง 185 คําอธบิ ายตํารับ สมุนไพร ทาํ หนา ท่ี รส คุณสมบตั ิ สรรพคุณ 麻黄 (去节) ตัวยาหลกั เผด็ ขม อุน ขับเหงื่อ ขับพษิ ไข กระจายชท่ี ีป่ อด เลก็ นอ ย บรรเทาหอบ หมาหวง (ชฺวี้เจยี๋ ) ตวั ยาเสรมิ เผ็ด ขบั เหงอ่ื กระจายชแี่ ละเลือด กระตุน 桂枝 กุย จือ อมหวาน อุน หยางทร่ี ะบบหัวใจ ใชรว มกับหมาหวง (ก่งิ อบเชยจีน) สามารถเพม่ิ ฤทธขิ์ ับเหงื่อใหแ รงข้นึ 杏仁 (去皮尖) ตวั ยาชว ย ขม อุน ระบายและกระจายชท่ี ่ปี อด แกไ อ ตวั ยานาํ พา หวาน เลก็ นอ ย บรรเทาหอบ ใหความชมุ ชื้นแก ซง่ิ เหรนิ (ชฺว้ผี เี จยี น) ลําไส และระบายออน ๆ อนุ เสริมชีส่ ว นกลาง เสรมิ ความชมุ ชืน้ 甘草 (炙) ใหปอด แกไ อ ปรบั ประสานตวั ยา ท้งั หมด และนาํ ยาไปสเู ปา หมาย กันเฉา (จอ้ื ) (ชะเอมเทศผัดนาํ้ ผง้ึ ) รูปแบบยาในปจ จบุ นั ยาตม ยาชงพรอ มด่ืม4 ขอแนะนาํ การใช 1,3 หลงั จากใชตาํ รบั ยานี้ เมอ่ื เหง่อื ออกหายไขแ ลว ควรหยดุ ยาทนั ที ไมควรใชต อเนื่องระยะยาว ขอควรระวงั ในการใช ตาํ รับยาหมาหวงทังมีรสเผ็ดอนุ มีฤทธิข์ บั เหงื่อคอ นขา งแรง จึงไมค วรใชก ับผูป วยท่มี อี าการ เหง่อื ออกแบบพรอง ไขหวดั จากการกระทบลมรอน ไขหวดั ในผปู วยทมี่ รี า งกายออ นแอ เลอื ดพรองจาก การคลอดบตุ ร ตาํ รับยานเ้ี หมาะสาํ หรับอาการไขห วดั จากการกระทบลมเยน็ เทานัน้ ขอมูลวิชาการทีเ่ ก่ยี วของ ตาํ รับยาหมาหวงทงั มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดานตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: ตํารับยาหมาหวงทังมีฤทธร์ิ ะบายความรอนในกระตา ย บรรเทาอาการ

Page 207 186 ตํารับยาจีนที่ใชบ อยในประเทศไทย ไอ ขบั เสมหะ และขยายหลอดลมในหนถู บี จักร บรรเทาอาการอกั เสบ ตานเชือ้ ไวรัส และเช้อื แบคทีเรีย4 การศกึ ษาทางคลนิ กิ : เมอื่ ใหผูปวยเดก็ ซึ่งเปน ไขหวดั จากการกระทบลมเยน็ ภายนอก และมีไข สงู มากกวา 38 องศาเซลเซยี ส* จํานวน 167 ราย รับประทานตาํ รับยาหมาหวงทังเฉล่ียคนละ 2 หอ โดย รับประทานวนั ละ 1 หอ พบวาการรกั ษาไดผ ลรอยละ 90 และเมื่อใหผปู วยเด็กทีม่ ีไขส ูง 38 องศา เซลเซียส* จาํ นวน 13 ราย รับประทานตาํ รบั ยาหมาหวงทงั คนละ 6 หอ พบวาผปู ว ยทุกรายหายเปน ปกต4ิ จากการศึกษาในผปู ว ยไขหวดั ใหญจ าํ นวน 120 ราย โดยผปู ว ยท่ีไมม ีอาการปอดอักเสบใหรับประทาน ตํารบั ยาหมาหวงทงั อยา งเดยี ว สวนผูปวยที่มีอาการปอดอักเสบรวมดวยใหรับประทานตํารับยา หมาหวงทังรวมกบั ยาอน่ื พบวา ผูปว ยจํานวน 102 ราย หายเปน ปกตเิ มื่อรบั ประทานยาเพียง 1-2 หอ ผูป ว ยอกี 18 ราย หายเปน ปกติเมอ่ื รับประทานยาวนั ละ 1 หอ ติดตอ กัน 5-7 วัน4 นอกจากนี้ ตาํ รบั ยา หมาหวงทังยังมสี รรพคุณขับเหงอื่ ระบายความรอ น แกไอ บรรเทาหอบ บรรเทาอาการปวด และขบั ปส สาวะ1,3 ตามการแพทยแผนปจ จบุ นั ตํารบั ยาน้ใี ชร ักษาโรคตดิ เชอ้ื ในระบบทางเดินหายใจสว นบน หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน และหอบหดื 5 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพษิ เฉยี บพลนั ในหนูถบี จกั ร โดยการฉีดสารสกดั เขา ชอ ง ทอง พบวาขนาดสารสกดั เทยี บเทา ผงยาทท่ี ําใหห นถู ีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) และรอ ยละ 95 มคี า เทากบั 28.51 และ 56.35 กรัม/กิโลกรมั ตามลาํ ดับ โดยอาการทเี่ กิดขึ้นหลังจากไดรับสารสกดั คือ มี เหง่ือออกมากจนเปย กชืน้ บรเิ วณทอง หนูสวนหนึง่ ตายหลังจากมีอาการต่ืนเตน กระสบั กระสา ยและ กลา มเน้อื หดเกร็ง หนอู กี สว นหนึ่งตายหลังจากมอี าการต่นื เตนแลว กลา มเนอ้ื หดเกรง็ จนไมเคล่อื นไหว 4 แลว หยดุ หายใจ โดยสาเหตกุ ารตายเนอ่ื งจากหนไู ดรับยาเกินขนาดมาก หมาหวง (ชฺว้เี จ๋ยี )** [Herba Ephedrae (with joints removed)] คอื ลาํ ตนแหงทเ่ี อาขอออก แลว ของพชื ท่มี ีช่ือวทิ ยาศาสตรว า Ephedra sinica Stapf หรอื E. intermedia Schrenk et C.A. Mey. หรอื E. equisetina Bge. วงศ Ephedraceae6 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดนาํ้ ทางปากหนูขาวขนาด 70-300 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พบวามีฤทธิ์ขับเหง่ือบริเวณใตสวนขาลงไป สารสกัดนํ้าขนาดเทียบเทาผงยา 10 กรัม/กิโลกรัม ทําให ตอมเหง่อื สามารถขบั เหงอ่ื ไดเ พมิ่ ข้นึ และเมื่อใหหมาหวงรว มกบั กุย จือ พบวาสามารถเพิม่ ฤทธิ์ขบั เหงอื่ * ถาผปู ว ยมีไขสูง 40 องศาเซลเซียส ใหใชตาํ รับยาหมาซิ่งกันฉอื ทัง (麻杏甘石汤) จะเหมาะสมกวา ** สาํ นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา อนุญาตใหย าท่ีผลิตขึน้ โดยมลี ําตนและ/หรือก่งิ เอเฟดรา (Ephedra) คดิ เปน นา้ํ หนักลาํ ตน และ/ หรือกิ่งแหงสําหรับรับประทานในม้ือหนึง่ ไมเกนิ 2 กรัม

Page 208 ตํารบั ยารกั ษาอาการภายนอก: หมาหวงทัง 187 ใหแ รงขึ้น สารสกัดนํ้าขนาด 20 มลิ ลิกรมั /กิโลกรมั มีฤทธ์ขิ ยายหลอดลมในสนุ ัข และเมือ่ ใหสารสกดั นาํ้ ทางปากและฉดี เขาชองทองหนถู ีบจกั ร พบวา ขนาดของสารสกดั ที่มผี ลระงบั อาการไอในหนถู ีบจกั รได รอยละ 50 (ED50) มคี าเทากบั 175 และ 107 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั ตามลําดับ นอกจากน้ี นาํ้ มันหอม ระเหยในหมาหวงยงั มีฤทธ์ริ ะบายความรอนในกระตา ย และบรรเทาอาการหอบในหนูตะเภา7 การศึกษาทางคลินิก: เม่ือใหผ ูปว ยเด็กทีม่ ีอาการหอบจํานวน 20 ราย รบั ประทานสารสกดั น้ํา พบวา สามารถบรรเทาอาการหอบไดผ ลด7ี การศกึ ษาความปลอดภยั : การศึกษาพิษเฉียบพลัน โดยการฉดี สารสกัดน้าํ เขาชองทอ งหนู ถบี จกั ร พบวาขนาดของสารสกดั ท่ที าํ ใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทา กับ 650 มิลลิกรัม/ กิโลกรัม7 กุย จอื [ก่ิงอบเชยจีน (Ramulus Cinnamomi)] คือ กง่ิ ออ นแหง ของพชื ทมี่ ชี อื่ วทิ ยาศาสตรว า Cinnamomum cassia Presl. วงศ Lauraceae6 มรี ายงานการศกึ ษาวิจัยดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดน้ํามีฤทธ์ลิ ดไขและระบายความรอนอยางออน ๆ ในหนู ถีบจักรและกระตาย เม่อื ใชรว มกบั หมาหวงจะเพิ่มฤทธิ์ขับเหงอื่ ของหมาหวงใหแ รงขน้ึ ในหนขู าว สารสกัด ขนาดเทียบเทาผงยา 0.01-0.2 กรัม มฤี ทธิ์ตา นการแขง็ ตัวของเลือดในหลอดทดลอง8 นอกจากนส้ี ารสกดั นํา้ ยังมฤี ทธติ์ า นเช้ือแบคทีเรยี และไวรสั บางชนดิ 9 การศึกษาทางคลินิก: โดยทั่วไปกยุ จอื มกั ไมใ ชเ ดี่ยว สวนใหญจ ะใชเ ปนสวนประกอบในตํารับยา รักษาอาการไขหวดั จากการกระทบลมเย็นภายนอก โรคติดเชือ้ ระบบทางเดินหายใจในเด็ก และอาการ หอบเน่ืองจากหลอดลมอักเสบ8 การศึกษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพษิ เฉียบพลนั โดยฉีดสารสกัดนํา้ ท่ีมีสว นประกอบของ นาํ้ มนั หอมระเหยเขาชองทองหนถู ีบจักร พบวา ขนาดของสารสกดั ทที่ าํ ใหห นถู ีบจักรตายหมด ตายรอยละ 50 (LD50) และไมม ตี ัวใดตาย เม่ือใหส ารสกัดในเวลากลางวนั มีคาเทากบั 1,400, 624.7 และ 200 มิลลิกรัม/กโิ ลกรัม ตามลาํ ดบั แตเมือ่ ใหสารสกัดในเวลากลางคนื มีคา เทากับ 1,600, 773.6 และ 400 มลิ ลกิ รมั /กิโลกรมั ตามลาํ ดบั แสดงใหเ หน็ วาชว งเวลาของวนั มีผลตอ การออกฤทธ์ขิ องสารสกดั 8 ซ่งิ เหรนิ (ชวฺ ้ีผีเจียน) [Semen Armeniacae Amarum (with its skin removed)] คอื เมลด็ สุกแหงที่ลอกเปลือกหุมเมล็ดออกแลวของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Prunus armeniaca L. หรือ P. sibirica L. หรือ P. mandshurica (Maxim.) Koehne หรือ P. armeniaca L. var. ansu Maxim. วงศ Rosaceae6 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้

Page 209 188 ตํารับยาจีนทใ่ี ชบอ ยในประเทศไทย การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารอะมิกดาลิน (amygdalin) จากซง่ิ เหรินมฤี ทธ์ิบรรเทาอาการไอ ในหนูถบี จกั ร เม่ือใหส ารสกดั นา้ํ ทางปากกระตา ยในขนาดเทยี บเทา ผงยา 5 กรมั /ครง้ั วนั ละ 2 คร้ัง ตดิ ตอ กันนาน 2 วัน พบวามีฤทธ์ิกระตนุ การสรา งโปรตนี ท่ผี วิ นอกของปอด ชว ยใหการทํางานของปอด ดขี ึ้น เมอื่ ใหซ่ิงเหรนิ ในขนาดต่ํา สารอะมิกดาลนิ จะคอย ๆ แตกตวั อยา งชา ๆ ไดก รดไฮโดรไซอานิก (hydrocyanic) ซ่ึงมีฤทธิก์ ดศนู ยก ารหายใจ จงึ ชวยระงับอาการไอและหอบ10 การศึกษาทางคลินกิ : โดยท่วั ไปซ่ิงเหรนิ มกั ใชร วมกบั หมาหวงในตํารับยารักษาโรคเกยี่ วกับ ทางเดนิ หายใจ เชน ยาบรรเทาอาการไอ หลอดลมอกั เสบ อาการหอบเนอื่ งจากหลอดลมอักเสบ เปน ตน10 การศึกษาความปลอดภยั : เมอื่ ใหซ ง่ิ เหรนิ และสารอะมิกดาลินในขนาดสงู เกนิ ขนาด จะเกดิ พิษ อยางรุนแรง อาการทพี่ บ ไดแก วงิ เวยี นศรี ษะ ตาลาย คลื่นเหยี น อาเจยี น และปวดศรี ษะ จากนัน้ อาการจะรนุ แรงถงึ ข้นั หายใจขัด ชักกระตกุ รมู า นตาขยาย หวั ใจเตนไมเ ปน จงั หวะ และหมดสติ หากไม รบี ชวยชวี ติ หรอื ใชวิธีทไี่ มเหมาะสมอาจทาํ ใหถ งึ ตายได ขนาดทีพ่ บวา เปน พษิ ในผูใ หญแ ละในเดก็ เทา กบั 50-60 และ 10 เมลด็ ตามลําดบั หากนํามาเตรยี มโดยผานการตมแลว ลอกเอาเปลอื กหมุ เมลด็ ออก และ ผสมกับน้ําตาลจะทาํ ใหความเปนพษิ ลดลง ในกรณีท่รี บั ประทานเกินขนาด ใหแ กพษิ โดยรบั ประทานยา เม็ดถา นและยานา้ํ เชื่อมไอพีแคก (ipecac syrup)9,10 ความเปนพษิ ของสารอะมิกดาลนิ มีความสัมพนั ธ อยางใกลช ดิ กับวิธกี ารใหยา10 โดยพบวาขนาดของสารดงั กลา วท่ที าํ ใหห นถู ีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50)เม่ือใหทางปากและฉีดเขา หลอดเลือดดําหนถู ีบจกั ร มีคาเทากบั 887 และ 25 มิลลกิ รมั /กิโลกรัม ตามลําดับ10 กนั เฉา (จ้ือ) [ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผึ้ง (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คอื รากแหง ของพชื ท่ี มชี ่อื วิทยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรอื G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรียมโดยนํานา้ํ ผึ้งบรสิ ุทธ์มิ าเจือจางดวยน้ําตม ในปรมิ าณทีเ่ หมาะสม ใสช ะเอมเทศที่ห่นั เปน แวน ๆ หรือเปนชนิ้ ๆ ตามตองการ (อตั ราสว นของสมนุ ไพร:น้ําผ้ึง เทากบั 4:1) แลว คลกุ ใหเ ขากัน หมกั ไวส กั ครูเพอ่ื ใหน าํ้ ผึง้ ซมึ เขา ในตวั ยา จากนน้ั นาํ ไปผดั ในภาชนะท่เี หมาะสมโดยใช ระดับไฟปานกลาง ผัดจนกระท่ังมีสเี หลืองเขมและไมเหนยี วตดิ มือ นาํ ออกจากเตา แลว ตงั้ ท้ิงไวใ หเ ยน็ 11 ชะเอมเทศมคี ุณสมบตั เิ ปน กลางคอ นขางเย็นเลก็ นอย มรี สอมหวาน มีสรรพคุณระบายความ รอน ขับพษิ แกไ อ ขบั เสมหะ โดยท่ัวไปมกั ใชเขาในตาํ รับยารกั ษาอาการไอมีเสมหะมาก พิษจากฝแ ผล คอบวมอักเสบ หรอื พษิ จากยาและอาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอนและขบั พิษได หากนํามาผัด น้ําผง้ึ จะทาํ ใหมีคณุ สมบัตอิ นุ มรี สหวาน มีสรรพคณุ บํารุงมา มและกระเพาะอาหาร เสริมช่ี ทําใหการเตน

Page 210 ตาํ รบั ยารักษาอาการภายนอก: หมาหวงทัง 189 ของชพี จรมแี รงและกลับคนื สภาพปกติ โดยทว่ั ไปมกั ใชเขา ในตํารับยารกั ษาอาการมา มและกระเพาะ อาหารออนเพลียไมม แี รง ชข่ี องหวั ใจพรอง ปวดทอ ง เสน เอน็ และชพี จรตงึ แขง็ ชีพจรเตน ไมสม่าํ เสมอ และชีพจรเตนหยดุ อยา งมจี งั หวะ มีรายงานผลการศึกษาเปรยี บเทยี บปริมาณกรดกลไี ซรไ รซกิ (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศทผี่ ดั และไมไดผัดน้ําผ้ึง พบวาชะเอมเทศผัดนาํ้ ผงึ้ จะมีปรมิ าณสารดงั กลาวนอยกวา ชะเอมเทศทไ่ี มไ ดผัดรอยละ 47-60 ทั้งนี้ขนึ้ อยกู บั คุณภาพของเครือ่ งยา11 การศกึ ษาวิจยั ของชะเอมเทศ ผัดน้าํ ผงึ้ มีดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: มีรายงานการศกึ ษาเปรยี บเทียบฤทธเิ์ สรมิ ภมู ิคุมกันของชะเอมเทศ ทผี่ ัดนา้ํ ผึ้งและไมไดผัด พบวา ฤทธ์เิ สรมิ ภูมคิ ุมกันของชะเอมเทศผัดน้าํ ผ้งึ แรงกวาชะเอมเทศทไี่ มไ ดผัด มาก ดังนั้นชะเอมเทศผัดนาํ้ ผ้ึงจึงนับเปน ตัวยาท่มี ีสรรพคุณบาํ รุงช่ที ีด่ ที ่ีสดุ ในทางคลนิ กิ 11 เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. สวาง กอแสงเรอื ง. ตาํ รบั ยาหมาหวงทงั . [เอกสารแปลเพ่อื การจดั ทาํ ฐานขอ มูลยาสมนุ ไพรจนี ]. นนทบุร:ี สถาบันการแพทยไทย-จนี เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Yuan ZY, Qu YH. Mahuang tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990. 6. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 7. Ma JK. Herba Ephedrae: ma huang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Ma JK. Ramulus Cinnamomi: gui zhi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 10. Zhang BF. Semen Armeniacae Amarum: ku xing ren. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.

Page 211 190 ตํารับยาจีนท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย กยุ จือทัง (桂枝汤) ตําราตนตํารับ 伤寒论 ซางหานลนุ (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจง จ่ิง) »2 สวนประกอบ Ramulus Cinnamomi กยุ จือ 9 กรมั Fructus Ziziphi Jujubae ตา เจา 4 ผล 桂枝 Radix Paeoniae Alba ไปเ สา 9 กรมั 大枣 Rhizoma Zingiberis Recens เซงิ เจียง 9 กรัม 白芍 Radix Glycyrrhizae Praeparata กนั เฉา (จอื้ ) 6 กรัม 生姜 甘草 (炙) วิธใี ช ตมเอาน้ําด่ืม หลังรับประทานยาแลวใหร ับประทานขา วตม หรือน้ําอุน หลังจากน้ันนอนหมผา เพ่ือใหเ หงอ่ื ออกเล็กนอ ย จะไดห ายไขเ รว็ ข้นึ 1,3 การออกฤทธิ์ กระทุงไขห วัด ผอนคลายกลา มเนอื้ ผวิ หนัง ปรับสมดุลขององ๋ิ ชีก่ ับเวย ช1่ี ,3 สรรพคณุ รักษาโรคไขห วดั จากการกระทบลมเย็นและภูมิคุมกนั ทผี่ วิ ภายนอกบกพรอ ง ซ่ึงแสดงออกโดย มอี าการปวดศีรษะ ตัวรอ น เหง่ือออก กลวั ลม คล่นื ไส คดั จมกู ลิน้ มฝี าขาวบาง ชีพจรลอย ชา 1,3 ตํารับยานีส้ ามารถเพม่ิ หรอื ลดขนาดยาไดตามความเหมาะสมในผูปวยโรคหวดั ไขหวดั ระบาดจาก การกระทบลมเย็นภายนอกและภูมิคุมกันตาํ่ ผิวหนังคนั เปนลมพิษ ผืน่ จากความช้นื ปวดเสนประสาท ปวดกลา มเน้อื 1,3

ตาํ รับยารักษาอาการภายนอก: กุยจือทงั Page 212 191 ตํารบั ยา กุยจอื ทัง (桂枝汤) กุยจือ (桂枝) 2 เซนตเิ มตร ตาเจา (大枣) 2 เซนตเิ มตร 3 เซนติเมตร เซงิ เจยี ง (生姜) 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร ไปเ สา (白芍) กนั เฉา(จ้อื ) [甘草(炙)]

Page 213 192 ตาํ รบั ยาจีนที่ใชบอ ยในประเทศไทย คําอธิบายตํารับ สมนุ ไพร ทาํ หนาที่ รส คุณสมบตั ิ สรรพคณุ 桂枝 กยุ จือ (กง่ิ อบเชยจีน) ตัวยาหลัก เผด็ อุน ขับเหงื่อ ผอนคลายกลามเนือ้ 大枣 ตาเจา อมหวาน ใหค วามอบอุน และเสริมหยาง (พุทราจนี ) 白芍 ไปเ สา ชว ยใหช ี่มกี ารหมุนเวยี นดีข้ึน 生姜 เซงิ เจียง ตวั ยาเสริม หวาน อนุ เสรมิ ช่ี บาํ รุงสว นกลาง สรา งเลอื ด (ขิงสด) สงบจติ ใจ ปรบั สมดลุ ของยา 甘草 (炙) ตวั ยาชว ย ขม เปรี้ยว เย็น เสรมิ ยนิ เลือด ปรับประจําเดือน กันเฉา (จอื้ ) (ชะเอมเทศผดั นํา้ ผึ้ง) อมหวาน เล็กนอ ย และปรับสมดลุ ชข่ี องตับ ระงบั ปวด เกบ็ กักยนิ ช่ี ระงับเหงื่อ ตัวยาชว ย เผ็ด อุน ขับเหงือ่ ออกจากผิวกาย ให ความอบอุนแกก ระเพาะอาหาร แกคล่ืนไส ชว ยใหปอดอบอนุ ระงับไอ ตวั ยาชว ย หวาน อุน เสรมิ ชี่ บาํ รุงสวนกลาง ปรับ ประสานตัวยาท้งั หมดใหเ ขา กนั รูปแบบยาในปจ จบุ นั ยาตม 4 ขอหามใช หามใชต ํารบั ยานใ้ี นผูปวยโรคหวดั ทเี่ กิดจากการกระทบลมเย็นภายนอกท่ีมอี าการแกรง หรอื ผูปว ยท่ี ถกู ลมรอ นกระทบภายนอก ซ่งึ แสดงออกโดยกลวั ลม มีเหง่ือออกเองและมีอาการคอแหง ชีพจรเตนเรว็ 1,3 ขอมลู วชิ าการท่เี กย่ี วของ ตาํ รับยากุยจอื ทงั มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกดั นํ้ามีฤทธ์ิขับเหงอื่ ลดไข ตา นอักเสบในหนูถบี จักรและหนู

Page 214 ตํารับยารักษาอาการภายนอก: กุย จือทัง 193 ขาว ระงับปวด ระงับไอ ขบั เสมหะ ทําใหจ ติ สงบ และเสรมิ ภมู ิตา นทานในหนถู บี จักร4 การศึกษาทางคลินิก: ตํารับยากุยจอื ทงั มีสรรพคณุ ขบั เหงือ่ ลดไข ขบั เสมหะ ลดอาการเกรง็ ของ กลา มเน้ือ แกปวด ชว ยทาํ ใหร ะบบการยอ ยและการดดู ซึมอาหารดขี ึ้น เสรมิ สรา งรา งกายใหแขง็ แรง1,3,4 การศึกษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพิษเฉยี บพลนั ในหนถู ีบจักร โดยฉีดสารสกดั เขาชอ งทอ ง พบวา ขนาดสารสกดั เทียบเทาผงยาทท่ี าํ ใหหนูถบี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทา กบั 28.13 กรมั / กโิ ลกรัม และเมอ่ื ฉีดสารสกัดนํา้ เขาหลอดเลือดดาํ ทีห่ กู ระตา ยในขนาดเทียบเทาผงยา 15 กรัม/กโิ ลกรมั ไมพ บอาการพิษ4 กยุ จือ [กิง่ อบเชยจนี (Ramulus Cinnamomi)] คือ ก่ิงออ นแหง ของพชื ทีม่ ชี ือ่ วิทยาศาสตรว า Cinnamomum cassia Presl วงศ Lauraceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกัดน้ํามีฤทธลิ์ ดไขแ ละระบายความรอนอยางออน ๆ ในหนู ถบี จกั รและกระตาย เมือ่ ใชรว มกับหมาหวงจะเพิม่ ฤทธิข์ บั เหง่อื ของหมาหวงใหแรงข้ึนในหนขู าว สารสกัด ขนาดเทียบเทา ผงยา 0.01-0.2 กรัม มีฤทธ์ติ านการแข็งตัวของเลอื ดในหลอดทดลอง6 สารสกดั นํ้ายงั มี ฤทธิ์ตานเชอื้ แบคทเี รียและเชือ้ ไวรสั บางชนดิ 7 การศกึ ษาทางคลนิ ิก: โดยท่วั ไปกยุ จอื มกั ไมใชเ ด่ียว สวนใหญจ ะเปน สว นประกอบในตาํ รับยา ตา ง ๆ เชน ยารกั ษาอาการไขห วดั จากการกระทบลมเยน็ ภายนอก โรคตดิ เชอื้ ระบบทางเดินหายใจในเดก็ อาการหอบเน่อื งจากหลอดลมอกั เสบ เปนตน 6 การศกึ ษาความปลอดภยั : การศึกษาพิษเฉียบพลันโดยฉีดสารสกดั นํา้ ทมี่ สี ว นประกอบของนา้ํ มัน หอมระเหยเขาชองทอ งหนูถีบจกั ร พบวา ขนาดของสารสกดั ทท่ี าํ ใหหนถู ีบจักรตายหมด ตายรอยละ 50 (LD50) และไมมีตวั ใดตาย เม่ือใหสารสกดั ในเวลากลางวนั มีคา เทากบั 1,400, 624.7 และ 200 มิลลิกรมั /กโิ ลกรมั ตามลาํ ดบั แตเ ม่อื ใหส ารสกดั ในเวลากลางคนื มคี า เทากบั 1,600, 773.6 และ 400 มลิ ลิกรัม/กิโลกรมั ตามลาํ ดับ แสดงใหเหน็ วาชว งเวลาของวนั มีผลตอ การออกฤทธ์ขิ องสารสกดั 6 ตาเจา [พุทราจีน (Fructus Ziziphi Jujubae)] คือ ผลแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Ziziphus jujuba Mill. วงศ Rhamnaceae5 มีรายงานการศึกษาวิจยั ดานตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกัดนา้ํ มีฤทธปิ์ กปองตบั ในกระตาย ระงับไอ และขบั เสมหะใน 8 หนถู ีบจกั ร การศกึ ษาทางคลนิ ิก: สารสกดั นํา้ มสี รรพคุณบรรเทาอาการเลอื ดคงั่ โดยท่ัวไปตา เจามักไมใ ช เดยี่ ว สว นใหญจ ะเปนสว นประกอบในตํารบั ยาตาง ๆ8

Page 215 194 ตํารับยาจนี ทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย ไปเ สา (Radix Paeoniae Alba) คือ รากแหงของพืชที่มชี อื่ วทิ ยาศาสตรว า Paeonia lactiflora Pall. วงศ Paeonaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ัยดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดน้ํามีฤทธเิ์ สรมิ ภมู ิคุมกนั เม่ือฉีดสารสกัดกลมุ ไกลโคไซด รวม (total glycosides) เขาชองทองหนูถบี จกั ร พบวาขนาดของสารสกดั ที่มผี ลระงับปวดในหนูถีบจกั ร ไดผลรอ ยละ 50 (ED50) มีคาเทา กับ 5-40 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรมั แตเ มอ่ื ฉีดสารสกัดดังกลาวเขา กลามเนอ้ื ในขนาด 20-40 มลิ ลกิ รมั /กโิ ลกรมั พบวาหนถู ีบจักรจะมอี าการสงบลง9 สารพโี อไนโฟลริน (paeoniflorin) ในสารสกดั น้ํา มีฤทธิ์ปองกนั การแขง็ ตัวของเลือด และตา นอักเสบ เมื่อใหสารสกัดนาํ้ ทางปากของหนู ถบี จกั ร กระตา ย และหนูตะเภา มีผลตานการหดเกร็งของลําไสเล็กสวนปลายและมดลูก และสารสกัด ดังกลาวมีฤทธ์ิปกปองตับในหนถู ีบจักรและหนูขาว7,10 การศกึ ษาทางคลินกิ : เมือ่ ใหสารสกดั กลุม ไกลโคไซดร วมแกผปู วยโรคระบบภูมิคมุ กันบกพรอ ง เน่อื งจากอาการปวยของโรคเรือ้ รัง (เชน โรคปอดอักเสบ โรคหวั ใจ โรครมู าตซิ ม่ั เปนตน) จาํ นวน 65 ราย ตดิ ตอกันทกุ วันนาน 1 เดอื น มผี ลปรับสมดุลของระบบภมู ิคมุ กันได และเมื่อใหสารสกดั ดังกลา วแก ผปู ว ยโรคตบั อกั เสบชนดิ บี จาํ นวน 85 ราย 9 พบวาไดผลเชน กนั การศึกษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพษิ เฉยี บพลนั โดยใหผงยาทางปากหนถู บี จกั ร พบวาขนาด ของผงยาทท่ี ําใหหนถู บี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทากบั 81 กรัม/กโิ ลกรมั เมื่อใหผงยาทางปาก สุนัขวันละ 3 กรัม/กิโลกรัม ตดิ ตอ กนั นาน 6 เดอื น ไมพ บอาการขา งเคียงหรอื อาการผดิ ปกติ ใด ๆ เมอ่ื ฉดี สารสกัดกลมุ ไกลโคไซดร วมเขาชองทองหนถู บี จักรและหนขู าว พบวาขนาดของสารสกัดท่ีทาํ ใหห นูตาย รอยละ 50 (LD50) มคี าเทา กับ 125 และ 301 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั ตามลาํ ดับ เมื่อฉีดสารพีโอไนโฟลรนิ เขา หลอดเลอื ดดาํ และชองทอ งหนถู ีบจักร พบวา ขนาดของสารทท่ี าํ ใหหนูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทียบเทาผงยา 3.53 กรมั /กโิ ลกรัม และ 9.53 กรมั /กิโลกรมั ตามลาํ ดบั 9 เซิงเจยี ง [ขงิ สด (Rhizoma Zingiberis Recens)] คือ เหงาสดของพชื ทมี่ ีชอ่ื วทิ ยาศาสตรว า Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มรี ายงานการศึกษาวิจัยดา นตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: นา้ํ ค้ันมีฤทธิ์ตานการอาเจียนไดผลดี และน้าํ คั้นในระดับความ เขม ขนต่าํ ๆ จะเพ่มิ แรงบบี ตัวของลําไสห นูโดยไมทาํ ใหค วามตึงตัวของลาํ ไสเ ปลี่ยนแปลง แตในระดบั ความเขมขน สงู ๆ จะลดแรงบบี ตัวและความตงึ ตัวของลาํ ไสอยา งชัดเจน รวมทง้ั สามารถเพ่ิมแรงบบี ตัว ของลาํ ไสเลก็ สุนขั 11 นอกจากน้ีนาํ้ คั้นขงิ แกมฤี ทธิย์ ับยั้งเช้ือราในชองปาก12

Page 216 ตํารับยารักษาอาการภายนอก: กุยจือทงั 195 การศึกษาทางคลินิก: ขิงสดมีสรรพคุณรักษาโรคไขหวัดจากการกระทบลมเย็น แกคล่ืนไส อาเจยี น แกกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรงั แกท องเสยี 13 การศึกษาความปลอดภัย: คา LD50 ของนํา้ คั้นขิงสดท่ีความเขมขน 20% เมื่อฉีดเขาหลอด เลอื ดดาํ ของหนถู บี จักรมีคาเทากบั 1.5 กรัม/กโิ ลกรมั อาการพษิ ท่ีทําใหส ัตวต าย คือ ชักและหยดุ หายใจ11 กนั เฉา (จ้ือ) [ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผ้ึง (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คอื รากแหงของพืช ทม่ี ชี อ่ื วิทยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรยี มโดยนําน้าํ ผ้งึ บรสิ ุทธิม์ าเจอื จางดว ยน้าํ ตม ในปริมาณทีเ่ หมาะสม ใสช ะเอมเทศท่หี ัน่ เปนแวน ๆ หรือเปนช้นิ ๆ ตามตอ งการ (อตั ราสว นของสมนุ ไพร:นํ้าผึ้ง เทากับ 4:1) แลวคลกุ ใหเ ขากัน หมกั ไวสักครเู พ่ือใหน ํา้ ผงึ้ ซมึ เขา ในตวั ยา จากน้นั นาํ ไปผัดในภาชนะท่ีเหมาะสมโดยใช ระดบั ไฟปานกลาง ผดั จนกระท่ังมีสเี หลอื งเขมและไมเหนียวติดมือ นําออกจากเตา แลว ต้ังทิง้ ไวใ หเย็น14 ชะเอมเทศมีคุณสมบัตเิ ปนกลางคอ นขา งเยน็ เลก็ นอ ย มรี สอมหวาน มีสรรพคุณระบายความ รอ น ขบั พิษ แกไอ ขบั เสมหะ โดยทั่วไปมักใชเ ขา ในตํารบั ยารักษาอาการไอมเี สมหะมาก พษิ จากฝแ ผล คอบวมอกั เสบ หรอื พิษจากยาและอาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอ นและขับพิษได หากนํามาผดั นํ้าผ้งึ จะทําใหมคี ุณสมบัตอิ ุน มรี สหวาน มีสรรพคณุ บํารงุ มามและกระเพาะอาหาร เสรมิ ชี่ ทําใหการเตน ของชพี จรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ โดยทว่ั ไปมกั ใชเ ขา ในตํารบั ยารักษาอาการมามและกระเพาะ อาหารออ นเพลียไมม แี รง ชข่ี องหัวใจพรอง ปวดทอง เสน เอ็นและชพี จรตงึ แขง็ ชพี จรเตน ไมสมํา่ เสมอ และชพี จรเตน หยุดอยางมจี งั หวะ มีรายงานผลการศึกษาเปรยี บเทยี บปรมิ าณกรดกลไี ซรไ รซกิ (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศที่ผัดและไมไดผ ดั น้าํ ผึง้ พบวาชะเอมเทศผัดนํ้าผ้ึงจะมปี รมิ าณสารดังกลา วนอ ยกวา ชะเอมเทศทไี่ มไ ดผดั รอยละ 47-60 ท้งั น้ขี ึน้ อยูก ับคณุ ภาพของเคร่อื งยา14 การศึกษาวิจัยของชะเอมเทศ ผดั นํา้ ผง้ึ มีดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: มรี ายงานการศึกษาเปรียบเทยี บฤทธเิ์ สริมภูมคิ ุมกนั ของชะเอมเทศ ที่ผัดนํา้ ผึ้งและไมไดผัด พบวาฤทธิ์เสริมภูมิคุมกันของชะเอมเทศผัดน้ําผ้ึงจะแรงกวาชะเอมเทศที่ไมได ผัดมาก ดังน้ันชะเอมเทศผัดนํ้าผง้ึ จงึ นับเปน ตัวยาทมี่ สี รรพคณุ บาํ รงุ ชีท่ ีด่ ีท่ีสุดในทางคลินกิ 14 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999.

Page 217 196 ตํารับยาจนี ที่ใชบ อ ยในประเทศไทย 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรสั ตง้ั อรา มวงศ, สุณี จีระจิตสมั พันธ, ธีรพงศ ตงั้ อรามวงศ. ตาํ รับยากุยจือทัง. [เอกสารแปลเพ่ือการจดั ทาํ ฐานขอ มูลยาสมุนไพร จีน]. นนทบรุ ี: สถาบันการแพทยไ ทย-จนี เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวง สาธารณสุข, 2549. 4. Yuan ZY, Qu YH. Guizhi Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol. 1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Ma JK. Ramulus Cinnamomi: gui zhi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 8. Zhou ZC. Fructus Jujubae: da zao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Wang SX. Radix Paeonia Alba: bai shao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol. 1. Geneva: World Health Organization, 1999. 11. สถาบันวจิ ยั สมุนไพร. เอกสารวิชาการสมุนไพร. นนทบุรี: กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข, 2543. 12. สรอยศิริ ทวีบูรณ. ขิง. ใน: บพิตร กลางกัลยา นงลักษณ สุขวาณิชยศิลป (บรรณาธิการ). รายงานผลการศึกษาโครงการ การ ประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาสมนุ ไพร. นนทบุรี: บรษิ ัท เอส อาร พร้นิ ต้งิ แมสโปรดักส จาํ กดั , 2544. 13. Zhao GB. Rhizoma Zingiberis Recens: sheng jiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.

Page 218 ตาํ รบั ยารักษาอาการภายนอก: เสยี่ วชิงหลงทัง 197 เสยี่ วชงิ หลงทัง (小青龙汤) ตาํ ราตนตํารับ 伤寒论 ซางหานลนุ (Treatise on Fibrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจงจิง่ ) »2 สว นประกอบ 麻黄 (去节) Herba Ephedrae หมาหวง (ชฺวี้เจย๋ี ) 9 กรัม (with joints removed) กุยจอื 6 กรมั 桂枝 Ramulus Cinnamomi กันเจยี ง 3 กรัม 干姜 Rhizoma Zingiberis ซ่ีซนิ 3 กรัม 细辛 Herba Asari ไปเ สา 9 กรมั 白芍 Radix Paeoniae Alba อเู วย จอ่ื 3 กรัม 五味子 Fructus Schisandrae Chinensis ปน เซย่ี 9 กรัม 半夏 Rhizoma Pinelliae กันเฉา (จ้อื ) 6 กรมั 甘草 (炙) Radix Glycyrrhizae Praeparata ตาํ รบั ยา เสี่ยวชิงหลงทัง (小青龙汤)

Page 219 198 ตํารับยาจีนที่ใชบอยในประเทศไทย 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร หมาหวง(ชวฺ ีเ้ จยี๋ ) [麻黄(去节)] กยุ จอื (桂枝) 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร กันเจยี ง (干姜) ซ่ีซิน (细辛) 2 เซนตเิ มตร ไปเ สา (白芍) 2 เซนตเิ มตร อูเวยจ อ่ื (五味子) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร ปน เซี่ย (半夏) กันเฉา(จ้อื ) [甘草(炙)]

Page 220 ตํารบั ยารักษาอาการภายนอก: เสีย่ วชิงหลงทัง 199 วธิ ีใช ตมเอานา้ํ ดื่ม1,3 การออกฤทธิ์ กระทงุ ไขห วัด ขบั ความเยน็ แกไ อระงับหอบ เสรมิ ความอบอนุ ใหป อด และสลายของเหลว ในปอด1,3 สรรพคณุ แกไ ขหวัดจากการกระทบความเย็นภายนอก นํา้ และของเหลวตกคางภายใน มอี าการกลวั หนาว ตวั รอน ไมม ีเหงอ่ื ไอหอบ เสมหะมากแตใส ๆ คอไมแหงหรอื แหง แตไมอยากด่ืมนํา้ มาก อาเจียนแตไมมี อะไรออก สะอกึ ทองเดนิ ปส สาวะขัด ล้นิ มฝี า ขาวและลนื่ ชพี จรลอย แนน1,3 ตาํ รับยานี้สามารถเพ่ิมหรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคหวัด ไขหวัดใหญ หายใจขัด จากหลอดลมอกั เสบ มีอาการหอบหดื 1,3 คําอธบิ ายตํารับ สมุนไพร ทาํ หนาท่ี รส คุณสมบัติ สรรพคณุ ตัวยาหลกั เผ็ดอมขม อุน กระทุง ไขห วดั ขับเหง่อื กระจาย 麻黄 (去节) ตวั ยาหลัก อุน ชี่ของปอด ขับปส สาวะ ลดบวม ตัวยาเสริม เผ็ด รอ น ขับเหงื่อ ผอ นคลายกลามเนอื้ หมาหวง (ชฺว้เี จยี๋ ) อมหวาน ใหค วามอบอุน และเสริมหยาง 桂枝 กยุ จือ ตวั ยาเสริม อนุ ชว ยใหช ี่มีการหมุนเวียนดีขนึ้ (กงิ่ อบเชยจีน) เผด็ ใหความรอน อบอุนสวนกลาง สลายความเย็น ดึงหยางใหกลบั 干姜 กนั เจยี ง เผด็ เพื่อใหชพี จรและลมปราณทํางาน (ขิงแหง) ดีข้ึน ใหความอบอุนท่ีปอด สลายความรอ น 细辛 ซซ่ี นิ ขับลมสลายความเยน็ เปดทวาร แกป วด ใหค วามอบอนุ แกป อด ขับของเหลว

Page 221 200 ตํารบั ยาจีนท่ีใชบอ ยในประเทศไทย สมนุ ไพร ทาํ หนา ท่ี รส คุณสมบัติ สรรพคุณ 白芍 ไปเ สา ตัวยาชว ย ขม เปร้ยี ว เย็น เสริมยินเลอื ด ปรับประจาํ เดือน 五味子 อูเ วย จ อื่ อมหวาน เลก็ นอย และปรับสมดลุ ชีข่ องตบั ระงับ 半夏 ปน เซ่ีย ปวด เก็บกกั ยนิ ช่ี ระงบั เหงอ่ื 甘草 (炙) ตวั ยาชว ย เปร้ียว อนุ รั้งชีข่ องปอด บํารุงสารนํา้ ใหไต กันเฉา (จือ้ ) (ชะเอมเทศผัดนาํ้ ผ้ึง) อมหวาน เสริมสารนํ้า ระงับเหงื่อ เหน่ยี วรั้ง น้ําอสจุ ิ แกท องเสีย สงบหวั ใจ ผอ นคลายประสาท ตวั ยาชว ย เผด็ อนุ ละลายและขับเสมหะ สลาย (มีพิษ)* ของเหลว แกอาเจียน กดชไี่ มให ตขี น้ึ แกสะอึก ยุบและสลาย กอ นเสมหะในทอง ตวั ยานําพา หวาน อุน เสริมชี่ บาํ รุงสวนกลาง ระบาย ความรอน ขบั พิษ แกไอ ขับ เสมหะ แกป วด ปรับประสานยา ทงั้ หมดใหเขากัน รปู แบบยาในปจ จบุ นั ยาตม ยาชง ยานํา้ 4 ขอควรระวงั ในการใช ไมควรใชตาํ รับยานี้ในผูปวยที่มีอาการไอแหงแบบไมมีเสมหะ หรือมีเสมหะสีเหลืองขนเหนียว 1,3 คอแหง ปากแหง ขอ มลู วชิ าการทีเ่ ก่ียวของ ตาํ รบั ยาเส่ยี วชงิ หลงทัง มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: ตาํ รับยาเส่ียวชงิ หลงทังมฤี ทธิ์บรรเทาอาการหอบในหนตู ะเภา บรรเทา อาการแพอากาศในหนูขาวและหนตู ะเภา ชว ยใหการไหลเวยี นของเลือดดขี ึน้ ในหนขู าวและกระตาย4 * ปน เซ่ีย เปน สมุนไพรทีม่ ีพษิ ตองฆาฤทธิ์ยากอนใช

Page 222 ตาํ รับยารักษาอาการภายนอก: เส่ียวชิงหลงทัง 201 การศึกษาทางคลินิก: ตาํ รับยาเส่ียวชิงหลงทังมีสรรพคุณแกหลอดลมอักเสบเรื้อรัง หอบหืด ไขห วัดใหญ ไตอกั เสบเฉยี บพลนั แกไอ ขบั เสมหะ และขับปส สาวะ1,3,4 หมาหวง (ชฺว้เี จี๋ย)** [Herba Ephedrae (with joints removed)] คือ ลาํ ตน แหงทีเ่ อาขอ ออก แลวของพชื ทม่ี ชี ื่อวทิ ยาศาสตรว า Ephedra sinica Stapf หรือ E. intermedia Schrenk et C.A. Mey. หรือ E. equisetina Bge. วงศ Ephedraceae5 มรี ายงานการศึกษาวิจัยดา นตาง ๆ ดังนี้ การศกึ ษาทางเภสชั วทิ ยา: เมอื่ ใหสารสกัดนาํ้ ทางปากหนขู าวขนาด 70-300 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม พบวามฤี ทธข์ิ บั เหงื่อบริเวณใตสว นขาลงไป สารสกดั นํ้าขนาดเทียบเทา ผงยา 10 กรัม/กโิ ลกรัม ทาํ ให ตอมเหงือ่ สามารถขบั เหงอื่ ไดเ พิม่ ขน้ึ และเม่ือใหห มาหวงรวมกบั กิ่งอบเชยจนี พบวาสามารถเพ่มิ ฤทธิข์ ับ เหง่ือใหแรงขน้ึ สารสกัดนาํ้ ขนาด 20 มลิ ลกิ รมั /กโิ ลกรัม มฤี ทธขิ์ ยายหลอดลมในสนุ ัข และเม่อื ใหสาร สกัดน้าํ ทางปากและฉดี เขาชองทองหนถู ีบจักร พบวาขนาดของสารสกดั ทมี่ ผี ลระงบั อาการไอในหนถู บี จกั ร ไดผลรอ ยละ 50 (ED50) มคี าเทากับ 175 และ 107 มิลลกิ รมั /กิโลกรัม ตามลาํ ดับ นอกจากน้ี นํา้ มัน หอมระเหยในหมาหวงยงั มีฤทธร์ิ ะบายความรอนในกระตาย บรรเทาอาการหอบในหนูตะเภา6 การศึกษาทางคลินกิ : เม่อื ใหผูปวยเด็กทีม่ ีอาการหอบ จาํ นวน 20 ราย รับประทานสารสกัดน้าํ พบวาสามารถบรรเทาอาการหอบไดผ ลด6ี การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลนั โดยฉดี สารสกดั นาํ้ เขา ชอ งทอ งหนูถบี จกั ร พบวา ขนาดของสารสกดั นา้ํ ทท่ี ําใหห นถู ีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 650 มิลลิกรัม/กิโลกรมั 6 กุยจอื [กิ่งอบเชยจีน (Ramulus Cinnamomi)] คอื กิ่งออนแหง ของพชื ทมี่ ชี ่อื วทิ ยาศาสตรว า Cinnamomum cassia Presl. วงศ Lauraceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดานตา ง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกัดนาํ้ มฤี ทธิ์ลดไขแ ละระบายความรอ นอยา งออน ๆ ในหนู ถีบจกั รและกระตา ย เมอื่ ใชรว มกับหมาหวงจะเพ่ิมฤทธ์ิขบั เหง่ือของหมาหวงใหแรงขนึ้ ในหนูขาว สารสกดั ขนาดเทียบเทา ผงยา 0.01-0.2 กรัม มฤี ทธิ์ตานการแข็งตัวของเลือดในหลอดทดลอง7 สารสกัดนาํ้ ยงั มี ฤทธติ์ านเช้ือแบคทเี รยี และเชอ้ื ไวรสั บางชนดิ 8 การศึกษาทางคลินกิ : โดยทั่วไปกงิ่ อบเชยจนี มักไมใ ชเดี่ยว สวนใหญจ ะเปน สวนประกอบใน ตาํ รบั ยารกั ษาอาการไขห วัดจากการกระทบลมเย็นภายนอก โรคตดิ เช้อื ระบบทางเดินหายใจในเด็ก อาการ 7 หอบเนือ่ งจากหลอดลมอกั เสบ เปน ตน ** สํานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา อนุญาตใหย าท่ผี ลิตขึ้นโดยมลี าํ ตนและ/หรอื ก่งิ เอเฟดรา (Ephedra) คดิ เปนนาํ้ หนักลาํ ตน และ/ หรอื กิ่งแหง สาํ หรับรบั ประทานในม้ือหน่งึ ไมเกนิ 2 กรมั

Page 223 202 ตํารับยาจนี ทใี่ ชบ อยในประเทศไทย การศกึ ษาความปลอดภยั : การศึกษาพษิ เฉยี บพลันโดยฉดี สารสกัดน้ําที่มสี วนประกอบของ นาํ้ มันหอมระเหยเขา ชองทองหนูถีบจกั ร พบวาขนาดของสารสกัดท่ีทาํ ใหหนูถีบจักรตายหมด ตายรอ ยละ 50 (LD50) และไมมีตวั ใดตาย เมอ่ื ใหส ารสกดั ในเวลากลางวนั มคี าเทากบั 1,400, 624.7 และ 200 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรมั ตามลําดบั แตเ มื่อใหสารสกดั ในเวลากลางคืนมคี าเทากบั 1,600, 773.6 และ 400 มลิ ลิกรมั /กิโลกรัม ตามลําดับ แสดงใหเ หน็ วา ชว งเวลาของวันมีผลตอการออกฤทธ์ิของสารสกดั 7 กนั เจยี ง [ขิงแหง (Rhizoma Zingiberis)] คอื เหงาแหงของพืชที่มชี ื่อวิทยาศาสตรว า Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มรี ายงานการศึกษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสชั วทิ ยา: เมื่อใหส ารสกดั 50 % เอทานอลแกห นถู บี จักรทางปากในขนาด 25 มลิ ลกิ รมั /กโิ ลกรมั เปนเวลาตดิ ตอ กนั 7 วนั พบวา มีฤทธิ์กระตุนภมู คิ มุ กัน เม่ือใหในขนาด 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พบวา มฤี ทธร์ิ ะงบั ปวดไดอยางมีนัยสําคัญ และเม่อื ใหส ารสกัดดงั กลา วทางปาก กระตายในขนาด 500 มิลลกิ รมั /กิโลกรมั พบวา มีฤทธ์ลิ ดไขมนั ในเลือดและมีฤทธต์ิ า นการเกดิ ภาวะ หลอดเลือดแข็ง สารสกดั อะซโี ตนหรือ 50 % เอทานอล เม่อื ใหแกส ุนขั ทางปากในขนาด 25, 50, 100 และ 200 มิลลิกรัม/กโิ ลกรมั สามารถลดจาํ นวนคร้ังของการอาเจยี นท่เี กดิ จากยาตา นมะเร็งได สว นผล ตอ การชะลอการเรมิ่ เกิดการอาเจียนครั้งแรกนน้ั เฉพาะสารสกัดอะซีโตนขนาด 100 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรัม หรือสารสกดั 50 % เอทานอลขนาด 25, 50 และ 100 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรมั เทา นนั้ ท่ีสามารถชะลอการเรมิ่ เกิดการอาเจยี นไดอยา งมนี ยั สําคญั 9 การศึกษาทางคลนิ กิ : ผงขงิ ในขนาด 940 มิลลกิ รมั มปี ระสทิ ธิภาพในการปองกนั และลด อาการเมารถเมาเรอื ไดดี7 เมื่อใหห ญิงมีครรภรับประทานขิงผงบรรจุแคปซลู ขนาด 1 กรัม นาน 4 วัน ใหผ ลในการตานการอาเจยี นเน่ืองจากตง้ั ครรภ และไมพบอาการขา งเคยี งแตป ระการใด9 นอกจากนี้ ยังพบวา ขงิ ชว ยบรรเทาอาการปวด และลดการบวมของขอ และยงั ทําใหการทํางานของขอ ฟน ตัวดขี ึ้นใน ผูปวยโรคปวดขอ รมู าตอยด และผูปวยท่มี ีอาการปวดหลังเรือ้ รัง10 การศึกษาความปลอดภยั : ยังไมพบรายงานเกีย่ วกบั การเกดิ พิษจากการใชข งิ แหงเพียงอยา ง เดยี ว และผลจากการศกึ ษาทางคลินิกในผูปว ยกลุมตาง ๆ ไมพบวา ขงิ กอ ใหเกดิ อาการพษิ แตอ ยางใด เมือ่ ใหสารสกดั ขงิ ดวยน้ํามันงาในขนาดสงู ถงึ 1 กรมั /กิโลกรมั แกห นขู าวทต่ี ั้งทองในชว งทต่ี ัวออนมกี าร สรางอวัยวะ ไมพบพษิ ตอ ตัวแมและตัวออนในทอ ง9 ซี่ซิน (Herba Asari) คือ ทั้งตนที่ทําใหแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Asarum hetero- tropoides Fr. Schmidt var. mandshuricum (Maxim.) Kitag. หรอื A. sieboldii Miq. หรือ

Page 224 ตํารับยารักษาอาการภายนอก: เสีย่ วชิงหลงทัง 203 A. sieboldii Miq. var. seoulense Nakai วงศ Aristolochiaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วิทยา: ซ่ีซินมฤี ทธิล์ ดไขใ นสัตวทดลองหลายชนิด ชวยใหจ ิตสงบในหนู ถบี จกั ร น้าํ มนั หอมระเหยมฤี ทธิ์ระงบั ปวดในกระตา ย ตา นอกั เสบในหนูขาว ชว ยใหก ารทํางานของระบบ ทางเดินหายใจดขี น้ึ ในหนูตะเภา8,11 การศึกษาทางคลนิ ิก: ซซ่ี ินมีสรรพคณุ ระงับปวด บรรเทาอาการปวดศีรษะ รักษาแผลในปาก แกไขห วดั ไขห วดั ใหญ8,11 การศกึ ษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉยี บพลนั ในหนถู บี จักร โดยใหสารสกัดทางปากและ ฉีดเขาหลอดเลือดดาํ พบวา ขนาดสารสกดั เทยี บเทา ผงยาท่ที าํ ใหหนถู บี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทากบั 12.37 และ 0.78 กรัม/กิโลกรมั ตามลาํ ดบั เมอ่ื ฉีดนํ้ามนั หอมระเหยเขา ชอ งทองหนูถบี จกั ร พบวา ขนาดของนา้ํ มันหอมระเหยทีท่ ําใหห นถู บี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทา กับ 1.2 มลิ ลิลิตร/กิโลกรมั 11 ไปเ สา (Radix Paeoniae Alba) คือ รากแหง ของพชื ทมี่ ชี ่อื วทิ ยาศาสตรว า Paeonia lactiflora Pall. วงศ Paeonaceae5 มีรายงานการศึกษาวิจยั ดานตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนาํ้ มีฤทธ์ิเสริมภูมิคุมกัน เม่ือฉีดสารสกัดกลุมไกลโคไซด รวม (total glycosides) เขา ชอ งทอ งของหนูถบี จักร พบวา ขนาดของสารสกดั ทีม่ ผี ลระงบั ปวดในหนู ถบี จกั รไดผ ลรอ ยละ 50 (ED50) มคี าเทา กบั 5-40 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม แตเม่อื ฉดี สารสกดั ดงั กลา วเขา 20-40 12 กลา มเนอ้ื ในขนาด มิลลกิ รมั /กิโลกรมั สารพีโอไนโฟลรนิ พบวาหนถู บี จกั รจะมีอาการสงบลง (paeoniflorin) ในสารสกัดน้าํ มีฤทธิ์ปอ งกันการแขง็ ตัวของเลือดและตานอักเสบ เม่ือใหส ารสกดั น้ําทางปาก หนูถบี จกั ร กระตา ย และหนูตะเภา มผี ลตานการหดเกรง็ ของลาํ ไสเล็กสว นปลายและมดลกู และสารสกัด ดงั กลาวมฤี ทธ์ิปกปองตบั ในหนูถบี จักรและหนขู าว8,13 การศึกษาทางคลินกิ : เมือ่ ใหสารสกัดกลุมไกลโคไซดรวมแกผ ปู ว ยโรคระบบภมู คิ มุ กนั บกพรอ ง เนอ่ื งจากอาการปว ยของโรคเร้อื รงั (เชน โรคปอดอกั เสบ โรคหวั ใจ โรครูมาติซม่ั เปนตน ) จาํ นวน 65 ราย ติดตอกนั ทุกวนั นาน 1 เดือน มีผลปรบั สมดุลของระบบภมู คิ มุ กนั ได และเมื่อใหสารสกดั ดงั กลาวแก ผูป ว ยโรคตบั อกั เสบชนิดบี จาํ นวน 85 ราย พบวา ไดผ ลเชน กนั 12 การศกึ ษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉยี บพลนั โดยใหผ งยาทางปากหนถู บี จักร พบวา ขนาด ของผงยาทีท่ ําใหห นถู บี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทา กบั 81 กรัม/กโิ ลกรมั เม่อื ใหผ งยาทางปาก สุนัขวันละ 3 กรัม/กิโลกรัม ติดตอกันนาน 6 เดือน ไมพบอาการขางเคียงหรืออาการผิดปกติใด ๆ

Page 225 204 ตาํ รบั ยาจีนทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย เมอ่ื ฉดี สารสกดั กลุม ไกลโคไซดร วมเขา ชองทองหนถู ีบจักรและหนูขาว พบวาขนาดของสารสกดั ที่ทาํ ใหหนู ตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทา กับ 125 และ 301 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรมั ตามลําดบั เม่อื ฉดี สารพีโอไนโฟล รนิ เขาหลอดเลอื ดดาํ และชอ งทองของหนถู บี จกั ร พบวาขนาดของสารท่ที ําใหห นูถีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทียบเทา ผงยา 3.53 กรมั /กโิ ลกรมั และ 9.53 กรมั /กโิ ลกรัม ตามลําดบั 12 อูเวยจ่ือ (Fructus Schisandrae Chinensis) คือ ผลสุกแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Schisandra chinensis (Turcz.) Barll. วงศ Magnoliaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ัยดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: มีรายงานวา เม่อื ใหยาเตรียมทางปากแกหนูถีบจกั รในขนาดเทยี บเทา ผงยา 10 กรัม/กโิ ลกรัม วันละครงั้ ตดิ ตอ กันเปนเวลา 4 วนั พบวา สามารถปอ งกนั ตับจากความเปนพิษ ของคารบ อนเตตราคลอไรดได และเมื่อฉีดสารสกัดนํา้ ความเขม ขน 1:1 เขาหลอดเลือดดาํ สุนขั ในขนาด 0.1-0.5 และ 0.5-1.0 มลิ ลิลติ ร/กิโลกรัม มีฤทธ์ิกระตนุ ระบบทางเดินหายใจ ชว ยใหห ายใจไดล กึ และเรว็ ขนึ้ สารสกัดนาํ้ และสารสกดั แอลกอฮอลมีฤทธิ์เพมิ่ แรงบีบตวั ของกลา มเนอื้ หัวใจ14 ยาเตรียมอูเวยจ ื่อมี ฤทธ์ิกระตนุ ประสาทสวนกลางหลายสว นในกบ8 การศึกษาทางคลินิก: การศึกษาทางคลินิก พบวายาผงชวยใหการตอบสนองของรางกายคน ปกติวอ งไวข้นึ และชว ยเพมิ่ ประสิทธิภาพในการทาํ งานดวย นอกจากน้ียงั ชวยใหค นปกติและผูป วยโรค ตาสามารถมองเหน็ ภาพไดช ดั เจนขึน้ เม่ือใหผ ปู วยโรคตับอักเสบเรื้อรังจาํ นวน 102 คน รับประทานยาผง พบวาไดผลดี 72% ผูป ว ยสว นใหญจ ะหายเปนปกตภิ ายในเวลา 25 วัน โดยไมแสดงอาการขา งเคียง 8 เมอื่ ใหเ ด็กที่เปน โรคบิดเรอื้ รังรบั ประทานยาผงขนาด 0.25-2 กรัม หรือยาทงิ เจอรอเู วย จ ื่อความ ใด ๆ เขมขน 90% จํานวน 30-40 หยด หรือสารสกดั ขนาด 0.5 กรัม มีผลรกั ษาไดด 1ี 4 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาความเปนพิษในหนูขาว พบวาขนาดของผงยาเมื่อให ทางปากท่ที าํ ใหเ กิดพิษในหนขู าวคือ 10–15 กรมั /กิโลกรัม โดยทําใหสตั วท ดลองมีอาการไมสงบ นอนไม หลบั และหายใจขัด8 ปน เซี่ย (Rhizoma Pinelliae) คอื ลาํ ตนใตด ินแหงท่ีเอาเปลอื กนอกและรากฝอยออกแลว ของ พชื ทีม่ ีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Pinellia ternata (Thunb.) Breit. วงศ Araceae5 ปน เซี่ยเปนสมนุ ไพรทีม่ ี พษิ ตอ งฆาฤทธยิ์ ากอ นใช โดยนาํ ปน เซี่ยไปแชในนํา้ สารสม (ความเขม ขน 8%) จนกระท่ังมองเห็นเนอ้ื 16 ในสมนุ ไพร เม่อื ชิมดูจะรูส กึ ลน้ิ ชาเล็กนอ ย ลา งน้าํ ใหส ะอาด หั่นเปน แวนหนา ๆ แลว นําไปทําใหแหง มรี ายงานการศึกษาวจิ ัยดานตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ปนเซ่ียมีฤทธ์ิระงับไอ ขับเสมหะในแมวและสุนัข ตานอาเจียนใน

Page 226 ตํารับยารกั ษาอาการภายนอก: เสย่ี วชิงหลงทัง 205 นกพิราบ กระตาย และสนุ ัข15 การศึกษาทางคลนิ กิ : ปน เซย่ี มีสรรพคณุ แกอ าเจียน แกท องเสยี 15 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาความเปนพิษของ ปน เซ่ียมคี วามสัมพนั ธอยางใกลช ดิ กับกระบวนการแปรรูปและการเตรียมสารสกดั มรี ายงานวา เมื่อให ผงยา (ทีย่ ังไมผานการฆา ฤทธ์ยิ า) ทางปาก ขนาดทท่ี าํ ใหหนถู ีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทา กบั 42.7 กรัม/กิโลกรัม และเมื่อใหผ งยาดังกลา วในขนาด 2.25, 4.5 และ 9 กรมั /กโิ ลกรัม วนั ละครงั้ ตดิ ตอ กนั นาน 21 วัน พบวาหนูถบี จักรตายหมด เมือ่ ฉีดสารสกัดปน เซ่ยี เขา ชอ งทอ งหนถู บี จักร พบวา ขนาดของสารสกดั ทที่ าํ ใหห นูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทยี บเทาผงยา 131.4 กรมั /กโิ ลกรมั ในขณะท่ีสารสกัดจากปนเซี่ยท่ีผานการฆาฤทธ์ิยาแลวไมทําใหเกิดพิษเฉียบพลันใด ๆ และการให สารสกดั ปน เซี่ยท่ีผานการฆา ฤทธย์ิ าแลวในขนาด 9 กรัม/กิโลกรัม ทางปากติดตอ กนั นาน 21 วนั ไมม ี ผลตอ การเปลย่ี นแปลงของนํ้าหนกั ตวั และไมพ บหนถู ีบจักรตัวใดตาย15 กนั เฉา (จอื้ ) [ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผึ้ง (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คอื รากแหง ของพชื ที่ มีชือ่ วทิ ยาศาสตรวา Glycyrrhiza uralensis Fischer หรอื G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae5 เตรียมโดยนํานํา้ ผง้ึ บรสิ ทุ ธม์ิ าเจอื จางดว ยน้ําตม ในปริมาณที่เหมาะสม ใสชะเอมเทศท่ีห่นั เปน แวน ๆ หรือเปน ช้ิน ๆ ตามตองการ (อัตราสวนของสมนุ ไพร:นาํ้ ผึ้ง เทากบั 4:1) แลว คลกุ ใหเ ขากนั หมักไวส ักครูเ พ่อื ใหน้าํ ผ้งึ ซมึ เขาในตวั ยา จากนน้ั นําไปผดั ในภาชนะทเ่ี หมาะสมโดยใช 16 ระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระท่ังมสี ีเหลืองเขม และไมเหนยี วตดิ มือ นําออกจากเตา แลว ตั้งท้งิ ไวใ หเ ย็น ชะเอมเทศมีคุณสมบัติเปนกลางคอ นขา งเย็นเลก็ นอย มีรสอมหวาน มีสรรพคุณระบายความ รอ น ขับพษิ แกไอ ขับเสมหะ โดยทวั่ ไปมกั ใชเขา ในตํารบั ยารกั ษาอาการไอมเี สมหะมาก พษิ จากฝแ ผล คอบวมอักเสบ หรอื พิษจากยาและอาหาร โดยสามารถชว ยระบายความรอ นและขับพษิ ได หากนํามาผัด น้าํ ผึ้งจะทาํ ใหม คี ุณสมบัติอุน มรี สหวาน มสี รรพคณุ บาํ รุงมามและกระเพาะอาหาร เสริมช่ี ทําใหก ารเตน ของชพี จรมแี รงและกลับคนื สภาพปกติ โดยท่วั ไปมกั ใชเขาในตํารับยารกั ษาอาการมา มและกระเพาะ อาหารออ นเพลยี ไมมแี รง ชีข่ องหวั ใจพรอ ง ปวดทอ ง เสนเอ็นและชพี จรตงึ แข็ง ชพี จรเตน ไมส มา่ํ เสมอ และชพี จรเตนหยดุ อยา งมจี ังหวะ มรี ายงานผลการศึกษาเปรียบเทยี บปรมิ าณกรดกลไี ซรไ รซิก (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศท่ผี ัดและไมไ ดผดั นาํ้ ผงึ้ พบวา ชะเอมเทศผดั นํา้ ผ้ึงจะมีปรมิ าณสารดังกลาวนอยกวา ชะเอมเทศทไ่ี มไ ดผ ัดรอยละ 47-60 ทั้งนีข้ น้ึ อยกู บั คณุ ภาพของเครื่องยา16 การศกึ ษาวจิ ัยของชะเอมเทศ ผดั นา้ํ ผ้งึ มดี ังน้ี

Page 227 206 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบอยในประเทศไทย การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: มรี ายงานการศึกษาเปรยี บเทยี บฤทธิ์เสริมภมู ิคุมกันของชะเอมเทศ ทผ่ี ัดนาํ้ ผ้งึ และไมไ ดผัด พบวาฤทธ์เิ สรมิ ภมู คิ ุมกันของชะเอมเทศผัดนํา้ ผง้ึ จะแรงกวาชะเอมเทศท่ีไมได ผัดมาก ดังนน้ั ชะเอมเทศผัดนํ้าผ้งึ จึงนบั เปนตวั ยาท่มี ีสรรพคุณบํารุงช่ีทีด่ ีทีส่ ดุ ในทางคลินิก16 เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. สวา ง กอแสงเรอื ง. ตาํ รับยาเส่ียวชงิ หลงทงั . [เอกสารแปลเพ่ือการจดั ทาํ ฐานขอ มูลยาสมนุ ไพรจนี ]. นนทบรุ ี: สถาบันการแพทยไ ทย- จนี เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Qu YH, Yuan ZY. Xiao Qinglong Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine, Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press; 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R.China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Ma JK. Herba Ephedrae: ma huang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Ma JK. Ramulus Cinnamomi: gui zhi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 9. นงลกั ษณ สุขวาณิชยศลิ ป. ขงิ . ใน: บพิตร กลางกลั ยา นงลักษณ สขุ วาณชิ ยศลิ ป.(บรรณาธิการ) รายงานผลการศกึ ษาโครงการ การประเมินประสทิ ธิภาพและความปลอดภัยของยาสมุนไพร. นนทบุรี: บริษัท เอส อาร พริ้นติง้ แมสโปรดกั ส จํากัด, 2544. 10. สถาบันวจิ ยั สมนุ ไพร. เอกสารวชิ าการสมุนไพร. นนทบรุ ี: กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข, 2543. 11. Jin G. Herba Asari: xi xin. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 12. Wang SX. Radix Paeonia Alba: bai shao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 13. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.1. Geneva: World Health Organization, 1999. 14. Liu LD, Zhou ZC, Liu GT. Fructus Schisandrae: wu wei zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 228 ตํารบั ยารกั ษาอาการภายนอก: เส่ยี วชิงหลงทัง 207 15. Dou CG. Rhizoma Pinelliae: ban xia. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 16. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.

Page 229 208 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบอยในประเทศไทย ไปหูทงั (白虎汤) ตําราตน ตํารบั 伤寒论 ซางหานลนุ (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจง จงิ่ ) »2 สว นประกอบ Gypsum Fibrosum สอื เกา (ซยุ ) 30 กรมั Nonglutinous Rice จิงหมี่ 9 กรัม 石膏 (碎) Rhizoma Anemarrhenae 9 กรัม 粳米 Radix Glycyrrhizae Praeparata จอื หมู 3 กรมั 知母 กันเฉา (จือ้ ) 甘草 (炙) วิธีใช เอาตัวยาท้งั หมดตมรวมกนั จนจิงหม่ี (ขาวเจา ) สกุ แลว รินเอานํ้าดื่ม1,3 การออกฤทธิ์ 1,3 เสรมิ ธาตนุ าํ้ ระบายความรอ น สรรพคณุ รกั ษาอาการความรอ นและไขส งู ในตําแหนงหยางหมงิ ซง่ึ อยใู นระบบช่ีของกระเพาะอาหาร และ ลาํ ไสใ หญ มีอาการรอนจดั หนา แดง หงุดหงิด คอแหง กระหายนา้ํ เหง่อื ออกมาก ความรอ นสูง กลวั รอ น ชีพจรใหญ เตนแรงมากกวา ปกต1ิ ,3 ตาํ รับยานีส้ ามารถเพ่มิ หรอื ลดขนาดยาใหเ หมาะสมในผูปวยโรคระบาดของไขหวัด โรคสมอง อกั เสบ โรคเยือ่ หุมสมองอกั เสบ โรคปอดบวม ปอดอักเสบ โรคเลือดมพี ิษ ซ่ึงมาจากความรอนในช่ีสงู จดั อาการชอ งปากอกั เสบ โรคเหงอื กอกั เสบ โรคเบาหวานซง่ึ เกิดจากผปู ว ยทม่ี ีความรอนสูงในกระเพาะ อาหาร

ตาํ รับยาระบายความรอ น: ไปหูท ัง Page 230 209 ตาํ รับยา ไปหูทัง (白虎汤) 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร สอื เกา (石膏) จงิ หมี่ (粳米) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร จอื หมู (知母) กันเฉา(จอื้ ) [甘草(炙)]

Page 231 210 ตาํ รับยาจีนทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย คําอธบิ ายตํารับ สมนุ ไพร ทําหนา ท่ี รส คณุ สมบตั ิ สรรพคุณ 石膏 (碎) สอื เกา (ซุย) (เกลอื จืดทบุ ใหแ ตก) ตัวยาหลัก เผด็ เย็นมาก ระบายความรอนในกระเพาะ 粳米 จิงหม่ี (ขา วเจา) อมหวาน อาหาร (เสน ลมปราณหยางหมิง) 知母 จือหมู แกอาการหงุดหงิด กระหายน้าํ 甘草 (炙) ตัวยาเสรมิ หวานจดื กลาง เสริมกระเพาะอาหาร ปอ งกนั กันเฉา (จอ้ื ) ธาตนุ ้ํา เมื่อใชค กู ับชะเอมเทศผัด (ชะเอมเทศผดั นํา้ ผ้ึง) นํา้ ผึง้ จะชว ยปอ งกันสว นกลาง ของรางกาย (กระเพาะอาหาร) ไมใ หถกู กลมุ ยาเยน็ ไปทําลาย ตัวยาชว ย ขม เยน็ ระบายความรอน ขับไฟ เสรมิ อมหวาน ยนิ ใหค วามชุม ชื้น แกความแหง ชวยเสริมฤทธ์ิของสือเกาให ระบายความรอนในปอดและ กระเพาะอาหารไดดียิ่งข้ึน ตัวยานาํ พา หวาน อุน เสริมชี่ บํารุงสวนกลาง ปรับ ประสานตวั ยาท้งั หมดใหเ ขากนั รปู แบบยาในปจจบุ ัน ยาตม4 ขอหา มใช หา มใชตํารบั ยาไปห ทู ังในผูปว ยทอ่ี าการภายนอก (เปยว) ยังไมไดรบั การแกไ ข มไี ขต ัวรอนสาเหตุ มาจากเลอื ดพรอง อวัยวะภายในเย็นแท แตม ีอาการรอ นเทยี มภายนอก1,3 ซ่งึ มีอาการแสดงคอื มีอาการ ไขแตชอบความอบอุน หิวนํา้ แตไมอยากด่ืมน้าํ แขนขาขยับอยูไมสุข แตผูปวยเซ่ืองซึม และหามใชกับ ผูป วยที่มีไขเน่ืองจากมา มและกระเพาะอาหารพรอง มเี หงือ่ ลกั ออก และออ นเพลยี มาก5

Page 232 ตํารับยาระบายความรอ น: ไปหทู ัง 211 ขอ มูลวิชาการทเ่ี กีย่ วขอ ง ตาํ รับยาไปหทู ัง มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกดั นํ้ามฤี ทธิร์ ะบายความรอ น ลดไขใ นกระตาย เสริมภมู ิคุมกัน 4 และบรรเทาอาการไขส มองอกั เสบในหนูถบี จกั ร การศึกษาทางคลินกิ : ตาํ รบั ยาไปห ูท ังมสี รรพคณุ ลดไข รักษาโรคโลหิตเปนพษิ สงบจิต แกไข ขออักเสบ ระงับเหงื่อ แกกระหายนํ้า ลดนํ้าตาลในเลือดท่ีเกิดจากความรอนสูงจัดในระบบช่ีของเสน ลมปราณหยางหมิง1,3 สือเกา [เกลือจดื (Gypsum Fibrosum)]1 คือ ผลกึ เกลอื ซลั เฟตของแคลเซยี มที่มนี าํ้ 2 โมเลกลุ (Calcium sulphate dihydrate) เปน เกลอื ที่ตกผลึกกอ นเกลอื ชนดิ อนื่ ๆ ในการทาํ นาเกลอื มักพบปน อยูกบั เกลือแกง ภาษาแรเ รยี กทบั ศัพทวายปิ ซัม (Gypsum)6 มีรายงานการศกึ ษาวิจัยดานตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เมื่อใหสารสกัดนา้ํ ทางปากกระตายในขนาดเทียบเทาผงยา 2.5-3 กรมั /กโิ ลกรมั มผี ลลดไขไดดี สารสกดั นาํ้ ผสมนาํ้ เกลอื มฤี ทธิ์เสริมระบบภมู ติ านทานของปอดในกระตาย 7 สารสกดั น้าํ ยงั มฤี ทธบ์ิ รรเทาอาการกระหายน้ําในหนูขาว การศกึ ษาทางคลนิ ิก: สารสกัดน้าํ มสี รรพคณุ ลดไขสงู ในเด็ก (อุณหภูมิ 39-42 องศาเซลเซยี ส) ซึ่งมีอาการเหง่ือออกและกระหายน้ําไดผลดี และสามารถใชร กั ษาโรคเกย่ี วกบั ไขขอไดผ ลทั้งในเดก็ และ ผูใหญ7 จงิ หม่ี [ขา วเจา (Nonglutinous Rice)] คอื เมล็ดของพชื ท่ีมชี ื่อวิทยาศาสตรว า Oryza sativa L. วงศ Gramineae1,8 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกดั น้ําและสารสกดั แอลกอฮอลมีฤทธคิ์ วบคุมอาการมะเรง็ ตับ ในหนูถีบจกั รได8 การศึกษาทางคลินิก: ขา วมีสรรพคณุ บํารงุ รา งกาย บํารงุ มาม บํารงุ กระเพาะอาหารและลําไส แกก ระหายนาํ้ แกบ ดิ และแกทอ งรวง8,9 จือหมู (Rhizoma Anemarrhenae) คือ ลาํ ตนใตดินแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Anemarrhena asphodeloides Bge. วงศ Liliaceae10 มรี ายงานการศึกษาวิจยั ดานตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนาํ้ มีฤทธิ์ดีมากในการตานเชื้อจุลินทรียหลายชนิดในหนู ถบี จกั ร มีฤทธริ์ ะบายความรอ น และลดไขในกระตา ย ลดนํ้าตาลในเลือดในหนถู บี จักร และชว ยใหระบบ การทํางานของประสาทสมั ผสั ในหนขู าวดีขึ้น11

Page 233 212 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบ อ ยในประเทศไทย การศึกษาทางคลินิก: โดยทว่ั ไปจอื หมูมกั ไมใชเ ดีย่ ว สวนใหญจ ะใชเ ปนสว นประกอบในตาํ รบั ยารักษาโรคติดเช้ือระบบทางเดินปสสาวะ และยาระบายความรอน ลดไข11 เม่ือใหอาสาสมัครสุขภาพ แข็งแรงรบั ประทานสารทิโมแซโพนิน (timosaponin) จากจอื หมูในขนาด 2 มิลลกิ รมั /กิโลกรมั ไมพบ ความผดิ ปกติของระบบหวั ใจ ความดันโลหติ และประสาทสัมผสั 11 กนั เฉา (จ้อื ) [ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผงึ้ (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คือ รากแหง ของพชื ที่ มีชอื่ วิทยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรียมโดยนํานาํ้ ผงึ้ บรสิ ทุ ธ์ิมาเจือจางดว ยน้ําตมในปริมาณทเี่ หมาะสม ใสช ะเอมเทศท่ีห่ันเปนแวน ๆ หรือเปนชิ้น ๆ ตามตองการ (อัตราสว นของสมนุ ไพร:น้ําผ้ึง เทากับ 4:1) แลว คลกุ ใหเขากัน หมักไวส กั ครเู พ่ือใหน ํ้าผึ้งซึมเขา ในตัวยา จากนน้ั นาํ ไปผัดในภาชนะที่เหมาะสมโดยใช ระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระท่งั มีสีเหลืองเขมและไมเ หนยี วตดิ มอื นําออกจากเตา แลว ตง้ั ทง้ิ ไวใ หเ ย็น12 ชะเอมเทศมีคุณสมบัติเปนกลางคอ นขา งเยน็ เลก็ นอย มรี สอมหวาน มสี รรพคุณระบายความ รอน ขบั พษิ แกไ อ ขับเสมหะ โดยทัว่ ไปมักใชเขาในตาํ รบั ยารกั ษาอาการไอมเี สมหะมาก พษิ จากฝแ ผล คอบวมอกั เสบ หรือพษิ จากยาและอาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอนและขบั พษิ ได หากนาํ มาผัด นา้ํ ผึง้ จะทําใหม ีคุณสมบตั อิ ุน มรี สหวาน มีสรรพคุณบาํ รุงมามและกระเพาะอาหาร เสรมิ ชี่ ทาํ ใหการเตน ของชพี จรมีแรงและกลบั คนื สภาพปกติ โดยทั่วไปมักใชเขาในตํารบั ยารักษาอาการมามและกระเพาะ อาหารออ นเพลียไมม ีแรง ชี่ของหวั ใจพรอ ง ปวดทอง เสน เอน็ และชีพจรตงึ แขง็ ชพี จรเตนไมส มาํ่ เสมอ และชีพจรเตนหยุดอยางมจี งั หวะ มรี ายงานผลการศกึ ษาเปรยี บเทียบปรมิ าณกรดกลไี ซรไรซกิ (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศทผี่ ัดและไมไ ดผ ดั น้าํ ผึ้ง พบวาชะเอมเทศผัดนํา้ ผึ้งจะมีปริมาณสารดังกลาวนอ ยกวา ชะเอมเทศท่ีไมไดผดั รอ ยละ 47-60 ทงั้ นขี้ ้นึ อยกู ับคณุ ภาพของเครื่องยา12 การศกึ ษาวิจยั ของชะเอมเทศ ผดั นาํ้ ผง้ึ มดี งั น้ี การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: มีรายงานการศึกษาเปรียบเทียบฤทธิเ์ สรมิ ภูมิคุมกนั ของชะเอมเทศ ทผ่ี ัดน้ําผึง้ และไมไ ดผัด พบวาฤทธ์ิเสรมิ ภมู ิคุมกันของชะเอมเทศผดั นา้ํ ผ้ึงแรงกวา ชะเอมเทศท่ไี มไดผัด มาก ดังนัน้ ชะเอมเทศผัดนํา้ ผึง้ จึงนบั เปน ตวั ยาท่ีมีสรรพคณุ บํารงุ ชท่ี ด่ี ที สี่ ุดในทางคลินกิ 12 เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982.

Page 234 ตาํ รับยาระบายความรอ น: ไปหทู งั 213 3. จรัส ต้ังอรามวงศ, สณุ ี จีระจติ สมั พันธ, ธรี พงศ ตงั้ อรามวงศ. ตาํ รับยาไปห ูทงั . [เอกสารแปลเพ่ือการจัดทาํ ฐานขอ มูลยาสมนุ ไพรจนี ]. นนทบรุ ี: สถาบนั การแพทยไทย-จีน เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทรวง สาธารณสขุ , 2549. 4. Zhang J. Baihu Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990. 6. ชยนั ต พเิ ชยี รสุนทร, วิเชยี ร จีรวงศ. คมู ือเภสชั กรรมแผนไทย เลม 4: เครอ่ื งยาธาตวุ ตั ถุ. พมิ พคร้งั ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: สาํ นักพมิ พอมรินทร, 2546. 7. Hou JY. Gypsum Fibrosum: shi gao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. ชัยโย ชัยชาญทพิ ยุทธ, วชริ า แดนตะวัน, สรุ างค หอมจันทร, ลักษณะหญิง รัตรสาร (คณะบรรณาธกิ าร). สมนุ ไพร ลําดับที่ 01: โครงการศึกษาวิจัยสมนุ ไพร. พิมพครั้งท่ี 2. จุฬาลงกรณมหาวิทยาลยั . กรงุ เทพมหานคร: บริษัท สารมวลชน จํากดั , 2525. 9. วทิ ติ วณั นาวิบลู . อาหารสมนุ ไพรในทัศนะจนี -ตะวนั ตก. พิมพครัง้ ท่ี 7. กรงุ เทพมหานคร: พมิ พดี, 2544. 10. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 11. Hou JY. Rhizoma Anemarrhenae: zhi mu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 12. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.

Page 235 214 ตํารับยาจีนที่ใชบ อ ยในประเทศไทย หวงเหลียนเจ่ียตทู งั (黄连解毒汤) ตาํ ราตน ตํารับ 外台秘要 ไวไ ถปเ อี้ยว (The Medical Secrets of an Official)1 « ค.ศ 752 Wang Tao (王焘 หวางถาว) »2 สวนประกอบ Rhizoma Coptidis หวงเหลยี น 9 กรมั Radix Scutellariae หวงฉิน 6 กรัม 黄连 Cortex Phellodendri หวงไป 6 กรัม 黄芩 Fructus Gardeniae จอื จื่อ 9 กรัม 黄柏 栀子 วิธีใช ตมเอานํา้ ด่มื 1,3 การออกฤทธิ์ ระบายความรอน แกพ ิษอักเสบ1,3 สรรพคุณ รักษาอาการพษิ ไข พษิ รอน ไขส งู ตัวรอนทั้ง 3 ชว งของรา งกาย (三焦 ซานเจยี ว) มีอาการไขสงู จดั กระสับกระสาย ผวาดผวา พดู เพอ นอนไมหลับ รมิ ฝปากแหง หรอื ไขส งู อาเจียนเปน เลอื ด หรือตวั รอนจัด ผวิ เปน จํ้า ผื่นแดงหรือตัวรอน ถา ยเปนมูก เปนบดิ อาการรอนชนื้ ดีซาน พิษฝหนองอกั เสบ ปสสาวะสเี หลอื งเขม ลนิ้ แดงมฝี าเหลือง ชีพจรเตน เรว็ และแรง1,3 ตาํ รับยานี้สามารถเพิ่มหรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคไขหวัดระบาด เยื่อหุมสมอง อักเสบและไขสันหลังอักเสบแบบระบาด ผิวหนังติดเช้ือเปนหนอง ตับอักเสบติดเชื้อชนิดเฉียบพลัน โลหติ เปน พษิ กระเพาะอาหารและลําไสอกั เสบเฉียบพลนั บิดติดเชอื้ ติดเชอ้ื ในระบบทางเดนิ ปสสาวะ ถุงนาํ้ ดีอกั เสบรอ นเปน พิษเฉียบพลัน ระบบประสาทอตั โนมตั เิ สียสมดลุ อาการวัยทอง อาการโรค ประสาท นอนไมหลับ ความดันโลหิตสูง ชองปากอักเสบ ปวดฟน ประสาทของกระเพาะอาหาร ตับ และถุงนา้ํ ดีรอ นจัดและอักเสบ อาการอักเสบตาง ๆ ท่ีมีเลือดออกหรอื เปนจํ้าเลือด1,3

ตาํ รบั ยาระบายความรอน: หวงเหลียนเจีย๋ ตทู ัง Page 236 215 ตาํ รบั ยา หวงเหลยี นเจี๋ยตทู งั (黄连解毒汤) 2 เซนติเมตร หวงเหลยี น (黄连) 2 เซนตเิ มตร หวงฉิน (黄芩) 2 เซนติเมตร หวงไป (黄柏) 3 เซนตเิ มตร จอื จือ่ (栀子)

Page 237 216 ตํารับยาจีนท่ีใชบ อยในประเทศไทย คาํ อธบิ ายตํารับ สมนุ ไพร ทาํ หนาท่ี รส คุณสมบตั ิ สรรพคุณ 黄连 หวงเหลียน ตัวยาหลัก ขม เย็นมาก ระบายความรอนของหวั ใจและกระเพาะ อาหาร 黄芩 หวงฉิน ตัวยาเสริม ขม เยน็ มาก ระบายความรอ นของปอด ซึ่งอยชู ว งบน ของรา งกาย 黄柏 หวงไป ตวั ยาชว ย ขม เยน็ มาก ระบายความรอ นซ่ึงอยชู ว งลา งของรา งกาย 栀子 จือจอื่ ตวั ยาชว ย ขม เย็น ระบายความรอ นทง้ั 3 ชว งของรา งกาย (ลูกพดุ ) นําเอาความรอนลงตํ่า และระบายออก รูปแบบยาในปจ จุบัน ยาตม ยาลูกกลอน4 ขอควรระวงั ในการใช ตํารับยานีเ้ หมาะสาํ หรบั ผปู วยที่มพี ิษรอ นอกั เสบ ทัง้ 3 ชว งของรางกาย แตยงั ไมส ูญเสียธาตนุ ้าํ 1,3 ของรา งกาย จึงไมเ หมาะสําหรบั ผูปวยมไี ขส ูงจัดจนสูญเสียธาตนุ ้าํ ของรางกาย เน้ือลิน้ เงาและมสี ีแดงจดั ขอ มลู วชิ าการท่เี ก่ียวของ ตํารับยาหวงเหลียนเจี่ยตูทงั มีรายงานการศึกษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดน้ํามีฤทธิ์ลดไขในกระตาย หนูขาว และหนูถีบจักร เพ่ิม ความแขง็ แรงของผนังหลอดเลอื ด ระงบั ปวด ตานอกั เสบ แกบดิ แกท อ งเสยี และเพมิ่ การดดู ซึมของ ลาํ ไสเ ลก็ หนถู ีบจกั ร ลดความดนั โลหติ เพ่ิมการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง และรักษาแผลใน กระเพาะอาหารหนขู าว4 การศึกษาทางคลินิก: ตาํ รับยานีม้ สี รรพคุณแกอักเสบ ระบายความรอน ตานเชื้อโรคท่ที าํ ให เกดิ พษิ ปรับการไหลเวยี นของนา้ํ ในถงุ น้ําดี หามเลอื ด ขับปส สาวะ และลดความดนั โลหิต1,3,4 หวงเหลียน (Rhizoma Coptidis) คือ ลําตนใตดินแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Coptis chinensis Franch. หรือ C. deltoidea C.Y. Cheng et Hsiao หรือ C. teetoides C.Y. Cheng วงศ Ranunculaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดังน้ี

Page 238 ตาํ รบั ยาระบายความรอน: หวงเหลยี นเจ่ียตูทงั 217 การศกึ ษาทางเภสัชวทิ ยา: ผงยามฤี ทธิ์ตานเช้ือแบคทเี รียหลายชนิดในหลอดทดลอง สารสกดั เมทานอลมีฤทธิ์ตานอักเสบในหนูขาวและหนูถีบจักร สารสกัดนํ้ามีฤทธิ์ลดนํ้าตาลในเลือดหนูถีบจักร สารเบอเบอรีน (berberine) ซึ่งเปนองคประกอบทางเคมีของหวงเหลียนมีฤทธ์ิยับยั้งการจับตัวของ เกล็ดเลือดกระตาย แกท องเสยี ในหนูถีบจักร และรักษาแผลในกระเพาะอาหารหนขู าว6 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันของสารเบอเบอรีนในหนูถีบจักร พบวา ขนาดที่ทาํ ใหห นูถบี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) เมอ่ื ฉีดเขา ชอ งทอ งและใหท างปากมคี าเทากับ 24.3 และ 392 มลิ ลิกรัม/กโิ ลกรัม ตามลาํ ดบั 6 หวงฉนิ (Radix Scutellariae) คือ รากแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Scutellaria baicalensis Georgi วงศ Labiatae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: ผงยามฤี ทธิต์ านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดและปกปอ งตับในหลอด ทดลอง สารสกดั มีฤทธลิ์ ดไขแ ละแกป วดในหนูถบี จักร สารสกดั นํา้ สว นทต่ี กตะกอนในแอลกอฮอลมี ฤทธ์ิตา นอักเสบในหนขู าว7 การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดน้ํามีสรรพคุณรักษาโรคติดเช้ือทางเดินหายใจและหลอดลม อกั เสบชนดิ เฉียบพลนั ในเดก็ รกั ษาโรคบิดชนดิ เฉยี บพลัน และตับอกั เสบ7 การศกึ ษาความปลอดภยั : สารสกัดนาํ้ ขนาด 1 กรัม/กโิ ลกรมั มฤี ทธท์ิ าํ ใหจ ิตใจสงบและไมท าํ ใหกระตายตาย และเมอ่ื ฉดี สารสกดั เอทานอลและสารสกัดไบคาลนิ (baicalin) ซึ่งเปนองคประกอบ ทางเคมีของหวงฉินเขา ใตผิวหนัง พบวา ขนาดของสารสกดั ทั้งสองท่ที าํ ใหห นถู ีบจกั รตายมีคาเทากัน คือ 6 กรัม/กิโลกรมั และคา LD50 ของสารสกัดไบคาลินเมื่อฉีดเขา ชอ งทองของหนถู บี จกั รมคี า เทากบั 3.08 7 กรมั /กโิ ลกรัม หวงไป (Cortex Phellondendri Chinense) คือ เปลอื กตนแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Phellodendron chinensis Schneid. หรือ P. amurense Rupr. วงศ Rutaceae5 มีรายงานการ ศกึ ษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ผงยามีฤทธิ์ตานเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดและปกปองตับในหลอด ทดลอง สารสกดั สว นทลี่ ะลายนํ้าไดซ ่งึ ไดข จดั เอาสารเบอเบอรีน (berberine) ออกไปแลว มฤี ทธิ์ยับยง้ั การเกิดแผลในกระเพาะอาหารหนูขาว สารสกัดน้าํ มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตในแมว สุนัข และกระตาย สารจาโทรไรซนิ (jatrorhizine) มฤี ทธ์ชิ วยใหการทํางานของหัวใจหนขู าวและกระตา ยเปน ปกติ8 การศึกษาทางคลนิ กิ : สารสกดั นํา้ มีสรรพคุณรกั ษาอาการหเู ปนหนองและอกั เสบเฉียบพลนั 8 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาขนาดของสารสกัดนา้ํ

Page 239 218 ตํารบั ยาจนี ที่ใชบ อ ยในประเทศไทย และสารเฟลโลเดนดรนี (phellodendrine) ท่ีทําใหห นูถบี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) เมอ่ื ฉดี เขา ชอ งทอ ง มคี าเทากับ 2.7 และ 0.69 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดบั 8 จือจื่อ [ลูกพุด (Fructus Gardeniae)] คือ เนื้อผลสุกแหงของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Gardenia jasminoides Ellis วงศ Rubiaceae5 มีรายงานการศึกษาวิจัยดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนาํ้ มีฤทธ์ปิ กปอ งตบั และขับนํ้าดใี นหนขู าว ระงับปวด ลดไข และแกโรคผิวหนังหลายชนิดในหนูถีบจักร สารสกัดเอทานอล สารสกัดเอทิลอะซีเตท และสารสกัด เมทานอลมฤี ทธ์ิตา นอักเสบในหนถู บี จกั รและกระตา ย9 การศึกษาทางคลินกิ : สารสกัดนาํ้ มสี รรพคณุ แกโรคดซี า น ลดบวม และระงบั ปวด9 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉยี บพลนั ในหนูถบี จักร โดยฉดี สารสกัดเมทานอลเขา ชองทอ งและใหท างปาก พบวา ขนาดของสารสกดั เทยี บเทา ผงยาทีท่ าํ ใหห นถู บี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 17.1 และ 107.4 กรัม/กิโลกรัม ตามลาํ ดับ9 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรสั ต้ังอรา มวงศ, สุณี จีระจติ สมั พนั ธ, ธีรพงศ ตัง้ อรา มวงศ. ตํารับยาหวงเหลยี นเจี่ยตทู งั . [เอกสารแปลเพื่อการจัดทําฐานขอ มูลยา สมนุ ไพรจนี ]. นนทบุรี: สถาบันการแพทยไทย-จนี เอเชียตะวันออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Zhang J, Zhao XX, Wu F. Huanglian Jiedu Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Hou JY. Rhizoma Coptidis: huang lian. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Hou JY. Radix Scutellariae: huang qin. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Hou JY. Cortex Phellodendri: huang bai. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Hou JY. Fructus Gardeniae: zhi zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 240 ตาํ รบั ยาระบายความรอน: ยฺวีน่ ฺหวีเ่ จียน 219 ยฺว่ีนหฺ วี่เจยี น (玉女煎) ตาํ ราตน ตํารับ 景岳全书 จิง่ เยวยี่ ฉวนซู (Jing Yue’s Complete Works)1 « ค.ศ. 1624 Zhang Jingyue (张景岳 จางจิง่ เยวีย่ ) »2 สว นประกอบ Gypsum Fibrosum สอื เกา 30 กรัม Radix Rehmanniae Praeparata สตู ห้ี วง 30 กรัม 石膏 (จ่ิวเจงิ ) 熟地黄 Rhizoma Anemarrhenae จือหมู 4.5 กรมั (酒蒸) Radix Ophiopogonis Japonici ไมตง 6 กรัม Radix Achyranthis Bidentatae หนิวซี 4.5 กรมั 知母 麦冬 牛膝 วิธใี ช ตม เอานํ้าด่ืม ด่ืมตอนอุนหรือตอนเย็นกไ็ ด1 ,3 การออกฤทธิ์ 1,3 ระบายความรอนของกระเพาะอาหาร เสรมิ ธาตุนํา้ เสรมิ ยิน สรรพคุณ รกั ษาอาการของกระเพาะอาหารทรี่ อ นและธาตุนาํ้ ท่ีนอ ย (ยนิ พรอง) มีอาการปวดศรี ษะ ปวด 1,3 เหงือกและฟน หรือฟน โยก อดึ อัด รอน คอแหง กระหายน้ํา ลนิ้ แดง แหง มฝี า เหลอื ง แหง ตํารบั ยานีส้ ามารถเพ่มิ หรอื ลดขนาดยาใหเ หมาะสมในผปู วยโรคฟน อกั เสบ เหงอื กบวม เปนหนอง ชองปากอกั เสบเฉียบพลัน ลน้ิ อกั เสบ กระเพาะอาหารอักเสบเร้ือรัง ซ่งึ ลว นเปนกลุมอาการกระเพาะ อาหารรอ นและธาตุนา้ํ นอ ยจากไตยินพรอ ง1,3

Page 241 220 ตํารบั ยาจีนท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย ตาํ รับยา ยวฺ นี่ หฺวี่เจียน (玉女煎) 2 เซนติเมตร 3 เซนติเมตร สือเกา (石膏) สตู ้หี วง(จิ่วเจงิ ) [熟地黄(酒蒸)] ไมตง (麦冬) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร จอื หมู (知母) หนวิ ซี (牛膝)

Page 242 ตํารบั ยาระบายความรอ น: ยวฺ ีน่ ฺหวี่เจียน 221 คําอธิบายตาํ รับ สมนุ ไพร ทาํ หนาที่ รส คณุ สมบัติ สรรพคุณ 石膏 สือเกา ตัวยาหลัก เผ็ด (เกลอื จดื ) ตัวยาเสรมิ อมหวาน เยน็ จัด ระบายความรอนทม่ี เี กินอยใู น หวาน หยางหมงิ (กระเพาะอาหาร) 熟地黄(酒蒸) ตัวยาเสรมิ อนุ บํารุงธาตนุ ้ําของไต (เสายนิ ) ขม เล็กนอ ย เสริมตวั ยาสือเการะบายความ สูตห้ี วง (จิว่ เจิง) ตัวยาชว ย รอนและบาํ รุงธาตนุ า้ํ (โกฐขแ้ี มวน่ึงเหลา ) ขมอมหวาน 知母 จอื หมู ตวั ยานําพา เล็กนอย เย็น ใหค วามชมุ ช้ืน เสริมตัวยาสอื เกา ระบายความรอนในกระเพาะ 麦冬 ไมต ง ขมอมหวาน เยน็ อาหาร เปรย้ี ว เล็กนอย เสรมิ ธาตนุ ํา้ ในกระเพาะอาหาร 牛膝 หนวิ ซี ชว ยตวั ยาสูตหี้ วงบาํ รงุ ธาตุนํ้า (พนั งนู อ ย) ของไต กลาง นาํ ความรอน การอกั เสบ และ เลือดที่อยสู ว นบนของรางกายให ระบายลงลาง เพ่ือเปนการหยุด เลอื ดท่รี อ นแลว กระจายออกนอก ระบบ รปู แบบยาในปจ จบุ ัน ยาตม4 ขอควรระวงั ในการใช ตํารับยานีไ้ มเหมาะกบั ผปู วยอจุ จาระเหลว ถา ยบอย1,3 ขอมลู วชิ าการทเ่ี ก่ยี วขอ ง ตํารบั ยายวฺ นี่ หฺ วเี่ จียน มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: ตาํ รับยายวฺ ่นี หฺ ว่ีเจยี นมีฤทธล์ิ ดนํา้ ตาลในเลอื ดกระตายไดดี4

Page 243 222 ตํารบั ยาจนี ที่ใชบ อยในประเทศไทย การศึกษาทางคลนิ กิ : ตาํ รบั ยาน้ีมีสรรพคุณแกอกั เสบ ขบั พิษรอน ชวยใหจิตใจสงบ เสริมธาตุ นาํ้ และชว ยใหรา งกายแขง็ แรง1,3,4 สือเกา [เกลอื จดื (Gypsum Fibrosum)]1 คือ ผลึกเกลอื ซลั เฟตของแคลเซียมทม่ี นี ้ํา 2 โมเลกลุ (Calcium sulphate dihydrate) เปน เกลือทต่ี กผลกึ กอ นเกลอื ชนดิ อื่น ๆ ในการทาํ นาเกลือ มักพบปน อยูกบั เกลอื แกง ภาษาแรเรียกทับศพั ทว า ยิปซัม (Gypsum)5 มีรายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: เมอ่ื ใหส ารสกดั นาํ้ ทางปากกระตายในขนาดเทยี บเทาผงยา 2.5-3 กรมั /กิโลกรมั มผี ลลดไขไ ดดี สารสกัดน้ําผสมนา้ํ เกลอื มฤี ทธ์ิเสริมระบบภมู ติ านทานของปอดในกระตา ย สารสกดั น้ํายังมฤี ทธบ์ิ รรเทาอาการกระหายนาํ้ ในหนขู าว6 การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดนาํ้ มีสรรพคณุ ลดไขสงู ในเด็ก (อณุ หภูมิ 39-42 องศาเซลเซียส) ซง่ึ มีอาการเหง่อื ออกและกระหายนํ้าไดผ ลดี และสามารถใชร กั ษาโรคเกี่ยวกบั ไขขอไดผลทัง้ ในเดก็ และผใู หญ6 สตู ีห้ วง (จิ่วเจิง) [โกฐขแี้ มวน่งึ เหลา (Radix Rehmanniae Praeparata)] คือ รากแหงของพืชทม่ี ี ช่ือวทิ ยาศาสตรว า Rehmannia glutinosa (Gaertn.) Libosch. วงศ Scrophulariaceae6 เตรยี มโดย วิธีนง่ึ เหลา ดงั นี้ นําตหี้ วง (地黄 โกฐขแี้ มว) ทสี่ ะอาด เติมเหลาเหลอื งหรือเหลาขาว คลุกเคลา ใหเ ขา กนั (สมุนไพร:เหลา เทากบั 10:3 โดยนํ้าหนัก) แลว ใสใ นหมอ นงึ่ ทมี่ ฝี าปด มิดชดิ น่ึงจนกระท่ังเหลา แทรกซึม เขาในเนอ้ื สมนุ ไพร สังเกตไดจ ากสีของสมนุ ไพรจะเปลย่ี นเปน สดี าํ เขมมาก เปน มนั และมีรสออกหวาน หลงั จากนั้นนําไปตากแดดจนกระท่ังผิวนอกคอ นขางแหง ไมเหนยี วติดมอื หนั่ เปนชิ้นหนา ๆ แลวนาํ ไปทํา ใหแ หง 7 ตห้ี วงมีคณุ สมบัติเยน็ รสหวานอมขม มฤี ทธ์ิระบายความรอ น ทาํ ใหเลือดเยน็ เสริมยนิ และ ธาตนุ ้ํา ใชรักษาอาการความรอนเขา กระแสเลือด ปากแหง ล้นิ แดง รอนใน กระหายน้ํา คอแหง เปนจา้ํ เลือด อาเจียนเปนเลอื ด เลือดกําเดาไหล เปน ตน เมอ่ื นาํ มาเตรียมเปนสูตี้หวง จะมคี ุณสมบตั ิอุน เล็กนอ ย มรี สอมหวาน มีฤทธ์ิบาํ รุงเลอื ด เสริมยิน บํารุงธาตุนาํ้ และไขกระดกู ใชร ักษาอาการเลอื ดพรอ ง ซดี เหลือง วิงเวยี น นอนไมห ลับ ประจาํ เดือนไมปกติ ตกเลือด ยนิ ของไตพรอ ง เหงอื่ ออกตอนหลบั ฝน เปยก กระหายน้ํา ธาตุนํ้าและเลือดของตับและไตพรอง เอวและเขา ปวดเม่อื ยออนแรง7 รายงานการวจิ ยั พบวา การเตรยี มสตู หี้ วงโดยการน่ึงเซิงตี้หวง จะทาํ ใหสารกลมุ อริ ิดอยดไกลโคไซด (iridoid glycosides) แตกตวั เปน อิรดิ อยดและน้ําตาลเชงิ ซอ น ซงึ่ น้าํ ตาลเชงิ ซอนบางสวนจะแตกตวั ตอ ไปเปน นํ้าตาลเชงิ เดีย่ ว ทําใหปรมิ าณน้ําตาลเชงิ เด่ียวในสตู หี้ วงสงู กวา เซิงตห้ี วง 2 เทา นอกจากนี้ สูต้หี วงจะมีปริมาณกรดอะมิโนลดลง แตปริมาณแรธาตุและสารสาํ คัญในสมุนไพรไมแตกตางกัน9

Page 244 ตํารบั ยาระบายความรอ น: ยฺว่ีนฺหวเ่ี จียน 223 มีรายงานวาเมอ่ื รบั ประทานสตู ีห้ วง อาจทําใหเกดิ อาการขา งเคียงเล็กนอย เชน ทองเสีย ปวดทอ ง วงิ เวยี น ศีรษะ ออ นเพลีย เปนตน แตอาการดงั กลา วจะหายไปเมื่อรับประทานยาอยางตอเน่ือง8 จือหมู (Rhizoma Anemarrhenae) คือ ลําตนใตดินแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Anemarrhena asphodeloides Bge. วงศ Liliaceae7 มีรายงานการศึกษาวิจัยดานตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดน้ํามีฤทธ์ิดีมากในการตานเชื้อจุลินทรียหลายชนิดในหนู ถีบจกั ร มฤี ทธ์ิระบายความรอน และลดไขใ นกระตาย ลดน้าํ ตาลในเลือดในหนูถบี จกั ร และชว ยใหระบบ การทาํ งานของประสาทสัมผัสในหนูขาวดขี ้ึน9 การศึกษาทางคลนิ ิก: โดยทั่วไปจือหมมู กั ไมใชเ ด่ยี ว สวนใหญจ ะใชเปน สว นประกอบในตํารบั ยารักษาโรคติดเช้ือระบบทางเดินปสสาวะ และยาระบายความรอน ลดไข 11 เม่ือใหอาสาสมัครสุขภาพ แข็งแรงรบั ประทานสารทิโมแซโพนนิ (timosaponin) จากจอื หมูในขนาด 2 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั ไมพ บ ความผดิ ปกตขิ องระบบหวั ใจ ความดันโลหติ และประสาทสัมผสั 9 ไมตง (Radix Ophiopogonis Japonici) คอื รากแหงของพชื ทมี่ ชี อ่ื วิทยาศาสตรวา Ophiopogon japonicus Ker-Gawl. วงศ Liliaceae7 มีรายงานการศึกษาวจิ ัยดานตาง ๆ ดังน้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: ยาฉีดเมือ่ ฉีดเขาชอ งทองหนูขาวในขนาดเทียบเทาผงยา 0.6-1 กรมั / กโิ ลกรัม ทําใหก ารเตนของหวั ใจที่เรว็ เกนิ ไปกลบั เปนปกติ แตหากมอี าการรุนแรงมากจะไมไ ดผ ล สารสกดั นํา้ มฤี ทธิเ์ พิม่ ประสทิ ธภิ าพของระบบภูมิคมุ กนั ของรางกาย และชว ยเพ่มิ ความทนทานตอ ภาวะขาดออกซเิ จน ในหนขู าว ผงยามฤี ทธิ์ตา นเชือ้ แบคทีเรียหลายชนดิ ไดแก เชอ้ื ท่เี ปน สาเหตขุ องอาการเจบ็ คอ เชอ้ื ไทฟอยด และแบคทีเรยี ชนดิ ตา ง ๆ ในลําไส8 การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดน้าํ มีสรรพคุณรักษาโรคหัวใจ บรรเทาอาการเจ็บหนาอก และ บรรเทาอาการหอบไดผลดี นอกจากน้ียังมีสรรพคุณรักษาผูปวยท่ีมีอาการอักเสบเรื้อรังของตอมนํ้าตา ตอมนาํ้ ลาย และตอ มอื่น ๆ ทขี่ ับสารนา้ํ อนั เนอ่ื งมาจากภมู ิตา นทานต่าํ โดยไมทราบสาเหตุ ทาํ ใหป ระสทิ ธภิ าพ ในการขบั ของเหลวของตอมเหลา นีล้ ดลง ทาํ ใหตอมแหงและปวดมาก และมรี ายงานวา สารสกัดน้าํ มฤี ทธ์ิ ในการรักษาอาการปากคอแหงในผูส งู อายไุ ดผ ลดี โดยเฉพาะผูปวยทีม่ ีอาการไขใ นระยะเรมิ่ ตน8 การศกึ ษาความปลอดภยั : การศึกษาพษิ เฉยี บพลนั ในหนถู บี จกั ร โดยการฉดี สารสกดั นา้ํ ความ เขมขน 1:1 เขาทางชองทอง พบวาขนาดของสารสกัดเทียบเทาผงยาที่ทาํ ใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทา กบั 20.61 กรมั /กโิ ลกรัม8

Page 245 224 ตาํ รบั ยาจนี ท่ีใชบอยในประเทศไทย หนวิ ซี [พนั งูนอ ย (Radix Achyranthis Bidentatae)] คือ รากแหงของพชื ทม่ี ชี ่อื วิทยาศาสตรว า Achryranthes bidentata Bl. วงศ Amaranthaceae7 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดังนี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: หนวิ ซีมีฤทธิเ์ พ่ิมการสรา งโปรตนี จากกรดอะมิโน (amino acid) ใน หนูถีบจักร กระตุนกลามเน้ือเรียบมดลูกกระตายและหนูขาว สารสกัดแอลกอฮอลมีฤทธ์ิเสริมภูมิ ตา นทาน ระงับปวด และตานอกั เสบในหนขู าวและหนถู ีบจักร10 การศกึ ษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลนั ในหนูถบี จักร โดยการฉดี สารเอก็ ดสี เทอโรน (ecdysterone) และสารไอโนโคสเทอโรน (inokosterone) เขาชอ งทอง พบวา ขนาดทท่ี ําใหห นูถบี จักร ตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 6.4 และ 7.8 กรมั /กโิ ลกรัม ตามลาํ ดับ แตเ ม่อื ใหสารดงั กลาวทาง ปาก พบวาขนาดทีท่ ําใหห นถู บี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเฉลยี่ เทากับ 9 กรัม/กโิ ลกรมั 10 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรสั ตัง้ อรามวงศ, สณุ ี จีระจิตสมั พันธ, ธีรพงศ ตั้งอรา มวงศ. ตาํ รับยายฺว่นี หฺ ว่ีเจียน. [เอกสารแปลเพอ่ื การจัดทาํ ฐานขอ มลู ยา สมุนไพรจนี ]. นนทบุรี: สถาบนั การแพทยไ ทย-จนี เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Zhang J, Wang X, Zhao XX. Baitouweng Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. ชยนั ต พิเชียรสนุ ทร, วิเชียร จรี วงศ. คูมอื เภสัชกรรมแผนไทย เลม 4: เครอ่ื งยาธาตวุ ัตถ.ุ พิมพคร้ังที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: สาํ นักพมิ พอมรินทร, 2546. 6. Hou JY. Gypsum Fibrosum: shi gao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 8. Tao C, Lin ZB. Radix Ophiopogonis: mai dong. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Hou JY. Rhizoma Anemarrhenae: zhi mu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Li R. Radix Achyranthis Bidentatae: niu xi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 246 ตาํ รับยาระบายความรอ น: ชงิ เวย ส าน 225 ชิงเวยส า น (清胃散) ตาํ ราตน ตํารบั 兰室秘藏 หลานสือมฉ่ี าง (Secret Record of the Chamber of Orchid)1 « ค.ศ 1249 Li Dongyuan (李东垣 หลี่ตงเหวียน) »2 สวนประกอบ Rhizoma Coptidis หวงเหลยี น 3 กรมั Radix Rehmanniae ต้หี วง 12 กรมั 黄连 Cortex Moutan Radicis ตันผี 9 กรัม 地黄 Radix Angelicae Sinensis ตงั กุย 6 กรัม 丹皮 Rhizoma Cimicifugae เซงิ หมา 6 กรัม 当归 升麻 วธิ ใี ช ตม เอานา้ํ ดมื่ 1,3 การออกฤทธ์ิ 1,3 ระบายความรอ นของกระเพาะอาหาร ทําใหเ ลอื ดเย็น สรรพคุณ รกั ษาอาการกระเพาะอาหารมพี ิษรอ นสะสม มีอาการปวดฟนรา วไปจนถึงศีรษะ ผวิ หนา รอน กลัวรอ น ชอบเย็น หรือเหงือกเปน แผล มีหนอง หรอื เหงอื กบวม อกั เสบ เลือดออกตามไรฟน หรอื รมิ ฝป าก ลนิ้ บรเิ วณกรามบวม เจบ็ หรือปากรอน เหม็น ปากและลนิ้ แหง ลิ้นแดง มฝี า เหลือง ชพี จรล่นื ใหญและเร็ว1,3 ตํารับยาน้ีสามารถเพิม่ หรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคเหงือกอกั เสบ ชองปากอักเสบ เหงือกบวม เปน หนอง ลิ้นอักเสบ กระเพาะอาหารอกั เสบเนอื่ งจากกระเพาะอาหารรอนจดั 1,3

Page 247 226 ตาํ รบั ยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย ตํารบั ยา ชงิ เวยส า น (清胃散) 2 เซนติเมตร หวงเหลยี น (黄连) 2 เซนติเมตร ตนั ผี (丹皮) 2 เซนติเมตร ตห้ี วง (地黄) 5 เซนตเิ มตร เซิงหมา (升麻) 2 เซนตเิ มตร ตังกุย (当归)

Page 248 ตํารับยาระบายความรอน: ชิงเวย สา น 227 คาํ อธิบายตาํ รับ สมนุ ไพร ทาํ หนาที่ รส คุณสมบัติ สรรพคุณ 黄连 หวงเหลียน ตัวยาหลัก ขม เยน็ มาก ระบายความรอนทีห่ ัวใจและกระเพาะ 地黄 ต้ีหวง (โกฐข้แี มว) อาหาร 丹皮 ตนั ผี (เปลอื กรากโบต๋ัน) ตัวยาเสรมิ หวาน เยน็ ทําใหเลือดเย็น บาํ รงุ ธาตนุ ้ํา 当归 ตังกุย (โกฐเชียง) อมขม 升麻 เซิงหมา ตัวยาเสรมิ ขม เยน็ ทําใหเลือดเย็น ระบายความรอ น อมเผด็ เลก็ นอย ขบั ความรอ นทห่ี ลบอยูในเลอื ด ตัวยาชว ย เผ็ด อุน บํารุงเลอื ด ชวยใหเลือดไหลเวียน อมหวาน ดขี ึ้น ลดบวม แกปวด ตัวยานําพา เผด็ เยน็ กระจายความรอ นและขบั พษิ นาํ ตวั อมหวาน เลก็ นอ ย ยาทุกตัวเขาสูแหลงเกดิ โรค ใชร วม กับตวั ยาอ่นื ในตํารับจะชวยระบาย ความรอ นของกระเพาะอาหารและทาํ ใหเ ลือดเย็น รูปแบบยาในปจจบุ นั ยาผง ยาตม 4 ขอ ควรระวงั ในการใช ตาํ รบั ยาน้ีไมเหมาะกับผปู วยทมี่ อี าการปวดฟน เน่ืองจากกระทบลมหนาว และอาการรอ นในจาก ยินพรอง ธาตนุ าํ้ นอ ย รอ นอักเสบมากแลวทาํ ใหป วดฟน 1,3 ขอมลู วิชาการทเี่ ก่ียวขอ ง ตํารบั ยาชงิ เวย ส า น มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดานตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดนํ้ามฤี ทธติ์ านอกั เสบในหนูขาวและหนูถบี จักร และเสรมิ ภูมคิ มุ กันในไก4

Page 249 228 ตํารบั ยาจนี ทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย การศกึ ษาทางคลนิ กิ : ตาํ รับยานี้มสี รรพคุณฆา เชอื้ แกอ กั เสบ หา มเลอื ด ลดไข แกป วด สงบ ประสาท และชว ยใหเ ลอื ดไหลเวียนดขี ึน้ 1,3,4 การศึกษาความปลอดภัย: เม่ือใหสารสกัดนํ้าทางปากหนูถีบจักรขนาดเทียบเทาผงยา 108 กรัม/กิโลกรมั พบวา ภายใน 3 วันไมมีหนถู ีบจกั รตวั ใดตาย4 หวงเหลยี น (Rhizoma Coptidis) คอื ลาํ ตนใตดินแหง ของพชื ทมี่ ชี ื่อวทิ ยาศาสตรวา Coptis chinensis Franch. หรือ C. deltoidea C.Y. Cheng et Hsiao หรือ C. teetoides C.Y. Cheng วงศ Ranunculaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ัยดานตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสชั วิทยา: ผงยามีฤทธิต์ านเชือ้ แบคทีเรียหลายชนดิ ในหลอดทดลอง สารสกดั เมทานอลมีฤทธ์ิตานอักเสบในหนูขาวและหนูถีบจักร สารสกัดน้ํามีฤทธ์ิลดน้าํ ตาลในเลือดหนูถีบจักร สารเบอเบอรีน (berberine) ซึ่งเปนสารออกฤทธิ์ในหวงเหลียนมีฤทธ์ิยับย้ังการจับตัวของเกล็ดเลือด กระตา ย แกทอ งเสยี ในหนถู บี จกั ร และรักษาแผลในกระเพาะอาหารหนขู าว6 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันของสารเบอเบอรีนในหนูถีบจักร พบวา ขนาดท่ที ําใหห นูถีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) เม่ือฉดี เขาชองทอ งและใหทางปากมคี า เทา กบั 24.3 และ 392 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรมั ตามลาํ ดบั 6 ตี้หวง [โกฐข้ีแมว (Radix Rehmanniae)] คือ รากสดหรือแหง ของพชื ทีม่ ีชอื่ วทิ ยาศาสตรวา Rehmannia glutinosa (Gaertn.) Libosch. วงศ Scrophulariaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ัยดา น ตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกดั นา้ํ มีฤทธยิ์ บั ยง้ั การลดลงของคอรท โิ คสเตอโรน (cortico- sterone) ในซีรัมของกระตายเม่อื ฉดี ยาเดกซาเมทาโซน (dexamethasone) และปองกันเนื้อตอมหมวก ไตฝอ นอกจากนี้สารสกดั น้าํ ยงั มีฤทธิช์ ะลอความแกและเสรมิ ภมู คิ มุ กนั ในหนูขาว เพม่ิ การไหลเวยี นของ เลือดไปเลี้ยงหัวใจในหนูถบี จกั ร และตา นเชอ้ื ราในหลอดทดลอง7 การศกึ ษาทางคลนิ กิ : เมอ่ื ใหผูปวยโรคไขขออักเสบรับประทานโกฐขแี้ มวขนาด 60-90 กรัม พบวามผี ลเพ่มิ ภมู ติ านทาน บรรเทาอาการปวด ลดบวม และแกโรคผิวหนงั การรบั ประทานโกฐข้ีแมวใน ปริมาณสงู อาจทาํ ใหผ ูปว ยบางรายเกิดอาการปวดทอ ง ทองเสยี วิงเวียนศีรษะ ออ นเพลีย และใจส่นั 7 หากรบั ประทานยาไประยะหนง่ึ อาการดงั กลา วจะคอ ย ๆ ลดลง

Page 250 ตํารับยาระบายความรอน: ชงิ เวยสาน 229 ตันผี [เปลือกรากโบต๋ัน (Cortex Moutan Radicis)] คือ เปลือกรากแหงของพืชท่ีมีชื่อ วิทยาศาสตรวา Paeonia suffruticosa Andr. วงศ Ranunculaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ัยดา น ตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารพีโอนอล (paeonol) ซ่ึงเปน องคป ระกอบทางเคมีของตนั ผี มี ฤทธต์ิ า นอกั เสบในหนถู บี จักร หนูขาว และหนตู ะเภา ชว ยใหก ารไหลเวยี นของเลอื ดดีขน้ึ ในสนุ ัข ระงบั ปวด ระบายความรอ น ลดไข และสงบประสาทในหนถู ีบจักร ขบั ปสสาวะในหนขู าว สารสกัดนา้ํ ชวยให การทํางานของหวั ใจหนูขาวเปนปกติ และลดความดนั โลหติ ในสุนัข8 การศกึ ษาทางคลินิก: ยาเตรียมจากสารพีโอนอลมีสรรพคณุ รกั ษาโรคผวิ หนัง เชน ผดผน่ื แดง ยาตมมสี รรพคุณรกั ษาโรคความดันโลหิตสงู และโพรงจมกู อักเสบจากการแพ8 การศกึ ษาความปลอดภัย: เมอื่ ใหสารพโี อนอลทล่ี ะลาย (แขวนตะกอน) ในน้าํ มนั ถวั่ ลิสง ความ เขม ขน 1:1 ทางปากและฉีดเขา ชอ งทอ งหนถู ีบจักร พบวา ขนาดของสารพโี อนอลที่ทาํ ใหห นถู บี จกั รตาย รอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 4.9 และ 0.735 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดบั 8 ตังกยุ [โกฐเชยี ง (Radix Angelicae Sinensis)] คอื รากแหงของพืชที่มชี ือ่ วิทยาศาสตรว า Angelica sinensis (Oliv.) Diels วงศ Umbelliferae5 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดังนี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดนา้ํ มีฤทธิย์ ับยง้ั การรวมตวั ของเกลด็ เลอื ดและการปลอย สารเซโรโทนนิ (serotonin) ในหนูขาว9 เม่ือฉีดสารสกดั นํ้าเขาหลอดเลอื ดดาํ สนุ ัขในขนาดเทียบเทา ผงยา 10 กรัม/กโิ ลกรมั พบวามฤี ทธ์ิกระตุนการหดตัวของกลามเนือ้ เรยี บกระเพาะปสสาวะ ลาํ ไส และมดลกู เม่ือฉดี สารสกัดนํ้าและสารสกัดแอลกอฮอลเ ขาหลอดเลือดดาํ แมว หนูขาว และกระตาย พบวามฤี ทธ์ิ เพ่ิมการหดตัวของกลา มเน้อื เรยี บของมดลกู นอกจากนยี้ งั พบวา สารพอลิแซกคาไรด (polysaccharide) มีฤทธกิ์ ระตุนการสรางเมด็ เลอื ด10 การศึกษาทางคลินกิ : เมื่อใหส ารสกดั นํ้าครัง้ ละ 5 มิลลิลติ ร วันละ 3 คร้ัง ติดตอ กันนาน 1 สัปดาห จะลดอาการปวดประจาํ เดอื น และชว ยขบั ประจาํ เดือน จงึ ไมควรใชก บั ผปู ว ยท่ีใชยาปอ งกนั เลอื ดแข็งตวั สารสกดั น้าํ ยังมีฤทธิก์ ระตุน กลา มเนือ้ เรียบของมดลกู และลดความหนดื ของเลอื ดในสตรี และเมื่อฉีดสารสกัดน้ําเขา หลอดเลือดดาํ ผูปว ยจํานวน 40 ราย ในขนาด 240 มลิ ลิลติ ร/คน/วัน ตดิ ตอ กนั นาน 30 วัน ไมท าํ ใหเ กิดอาการผดิ ปกติใด ๆ10 การศกึ ษาความปลอดภัย: เม่ือฉดี สารสกดั เขา หลอดเลอื ดดาํ หนถู บี จกั ร พบวาขนาดสารสกดั เทยี บเทา ผงยาที่ทําใหห นูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 100.6 กรัม/กิโลกรมั 10