Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1

Description: ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1.

Search

Read the Text Version

Page 251 230 ตํารบั ยาจีนที่ใชบอ ยในประเทศไทย เซงิ หมา (Rhizoma Cimicifugae) คอื ลาํ ตนใตดินแหง ของพชื ที่มีช่ือวิทยาศาสตรว า Cimicifuga heracleifolia Kom. หรือ C. dahurica (Turcz.) Maxim. หรอื C. foetida L. วงศ Ranunculaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: สารสกดั เมทานอลมฤี ทธ์ลิ ดไขแ ละตา นอกั เสบในหนขู าว ระงับปวด และปกปองตบั ในหนูถีบจกั ร ทงิ เจอรเ ซิงหมามีฤทธ์ิสงบจติ ใจในหนูถีบจกั ร และสารสกัดน้าํ มฤี ทธ์ิ ยับย้งั เช้อื แบคทเี รียบางชนิดในหลอดทดลอง11 การศึกษาทางคลนิ ิก: เซิงหมามสี รรพคณุ ตานเชอ้ื ไวรสั และรกั ษาอาการมดลูกหยอ น11 การศกึ ษาความปลอดภยั : มรี ายงานการศึกษาพษิ เฉียบพลนั ในหนถู ีบจักรโดยการใหส ารสกดั เมทานอลทางปาก พบวาขนาดของสารสกดั ทที่ าํ ใหห นูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคา มากกวา 5.0 กรมั /กิโลกรมั 11 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรสั ตงั้ อรามวงศ, สณุ ี จรี ะจติ สมั พันธ, ธีรพงศ ตงั้ อรามวงศ. ตาํ รบั ยาชิงเวย ส า น. [เอกสารแปลเพ่ือการจัดทาํ ฐานขอมูลยาสมนุ ไพร จีน]. นนทบุรี: สถาบันการแพทยไทย-จนี เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวง สาธารณสุข, 2549. 4. Wang X. Qingwei San. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Hou JY. Rhizoma Coptidis: huang lian. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Hou JY. Radix Rehmanniae: di huang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Hou JY. Cortex Moutan: mudan pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Tang W, Eisenbrand G. Chinese drugs of plant origin. 1st ed. Berlin Heidelberg: Springer-Verlag, 1992.

Page 252 ตํารับยาระบายความรอ น: ชงิ เวยส า น 231 10. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Vol.2. Geneva: World Health Organization, 2002. 11. Zhao GB, Ma J. Rhizoma Cimicifugae: sheng ma. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 253 232 ตํารับยาจนี ทใ่ี ชบอ ยในประเทศไทย เซี่ยหวงสาน (泻黄散) ตาํ ราตน ตํารับ 小儿药证直诀 เสี่ยวเออ รเ หยา เจิง้ จื๋อจฺเหวีย (Key to Therapeutics of Children Diseases)1 « ค.ศ. 1114 Qian Yi (钱乙 เฉียนอี่) »2 สว นประกอบ Gypsum Fibrosum สอื เกา 15 กรมั Fructus Gardeniae จอื จอื่ 6 กรมั 石膏 Radix Saponshnikoviae Divaricatae ฝางเฟง 120 กรัม 栀子 Herba Agastaches seu Pogostemi ฮว่ั เซยี ง 21 กรมั 防风 Radix Glycyrrhizae กนั เฉา 90 กรัม 藿香 甘草 วธิ ใี ช นาํ ตัวยาท้ังหมดมาบดเปนผง แลวผัดกับน้าํ ผึ้งผสมเหลาจนกระทั่งผงยามีกล่ินหอมหวาน รับประทานครงั้ ละ 3-6 กรมั หรอื นาํ ตาํ รับยาทั้งหมดลดตามสดั สว น 1,3 ตมเอาน้ําดืม่ การออกฤทธิ์ 1,3 ระบายและขบั ความรอ นของมามและกระเพาะอาหาร สรรพคุณ ใชร ักษาอาการไขรอนจัดจากมา มและกระเพาะอาหาร มีอาการแสดงคอื รอ นใน ปากเปน แผล มีกล่นิ กระวนกระวาย กระหายน้ํา หวิ บอย ริมฝป ากแหง ลนิ้ แดง ชพี จรเตน เร็ว1,3 ตาํ รับยานสี้ ามารถเพม่ิ หรือลดขนาดยาใหเ หมาะสมในผปู ว ยเดก็ ทม่ี ีอาการปากเปนแผลไมห ายขาด โรคทราง และโรคอ่นื ๆ อันมีสาเหตุจากไขรอนจดั ในมา มและกระเพาะอาหาร ทาํ ใหเ กดิ อาการแลบลิ้น บอย ๆ1,3

ตาํ รับยาระบายความรอ น: เซย่ี หวงสาน Page 254 233 ตํารบั ยา เซ่ียหวงสาน (泻黄散) 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร สอื เกา (石膏) จอื จ่อื (栀子) 2 เซนตเิ มตร ฝางเฟง (防风) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร ฮ่ัวเซียง (藿香) กันเฉา (甘草)

Page 255 234 ตาํ รับยาจนี ทีใ่ ชบอยในประเทศไทย คาํ อธบิ ายตํารับ สมุนไพร ทําหนา ที่ รส คุณสมบตั ิ สรรพคณุ 石膏 สือเกา ตวั ยาหลกั เผด็ (เกลอื จืด) ตวั ยาหลัก อมหวาน เย็นจดั ระบายความรอ น กระจายไฟ แก 栀子 จอื จอื่ ตัวยาเสริม ขม (ลูกพดุ ) ตวั ยาชว ย กระวนกระวาย กระหายน้าํ 防风 ฝางเฟง ตวั ยานําพา เผ็ด อมหวาน เย็น ระบายความรอน เสรมิ ความช้นื 藿香 ฮัว่ เซียง (พมิ เสน) เผ็ด ทําใหเ ลอื ดเย็น แกพ ษิ อักเสบ 甘草 กันเฉา (ชะเอมเทศ) อมหวาน อุนเล็กนอ ย ชว ยกระทงุ ไขหวดั จากการกระทบ ลมภายนอก อนุ สลายความชื้น ระบายความรอน ระงับอาเจียน กลาง บาํ รงุ ชี่ เสรมิ มามและกระเพาะ คอนขา งเยน็ อาหาร ระบายความรอน ขับพษิ เล็กนอย ปรับประสานตวั ยาท้ังหมดใหเขากัน รปู แบบยาในปจจบุ นั ยาผง ยาตม 4 ขอมลู วชิ าการท่ีเกี่ยวขอ ง ตํารับยาเซย่ี หวงสา น มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: ตาํ รบั ยาเซ่ียหวงสานมฤี ทธต์ิ านอักเสบในหนถู บี จกั ร1,4 การศึกษาทางคลินิก: ตาํ รับยาเซี่ยหวงสานมีสรรพคุณลดไข บรรเทาอาการอักเสบ สงบจิตใจ ขบั ปส สาวะ เพม่ิ การหล่ังนํ้ายอ ยและชวยยอ ยอาหาร1,3,4 สือเกา [เกลอื จดื (Gypsum Fibrosum)]1 คอื ผลึกเกลอื ซลั เฟตของแคลเซยี มทีม่ ีนา้ํ 2 โมเลกลุ (Calcium sulphate dihydrate) เปนเกลอื ที่ตกผลกึ กอ นเกลอื ชนดิ อืน่ ๆ ในการทาํ นาเกลือ มกั พบปน อยูก ับเกลอื แกง ภาษาแรเรยี กทับศพั ทว า ยิปซมั (Gypsum)5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดนา้ํ ทางปากกระตายในขนาดเทียบเทาผงยา 2.5-3 กรมั /กโิ ลกรมั มผี ลลดไขไ ดดี สารสกัดนา้ํ ผสมนํา้ เกลอื มฤี ทธ์ิเสรมิ ระบบภมู ติ านทานของปอดในกระตา ย

Page 256 ตํารับยาระบายความรอน: เซย่ี หวงสาน 235 สารสกดั นา้ํ ยังมฤี ทธิ์บรรเทาอาการกระหายนํา้ ในหนูขาว6 การศกึ ษาทางคลนิ ิก: สารสกัดนํา้ มสี รรพคุณลดไขสงู ในเดก็ (อณุ หภมู ิ 39-42 องศาเซลเซยี ส) ซ่ึงมีอาการเหง่อื ออกและกระหายนาํ้ ไดผ ลดแี ละสามารถใชร ักษาโรคเก่ยี วกบั ไขขอไดผ ลทง้ั ในเดก็ และผูใหญ6 จือจื่อ [ลูกพุด (Fructus Gardeniae)] คือ เน้ือผลสุกแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Gardenia jasminoides Ellis วงศ Rubiaceae7 มรี ายงานการศึกษาวจิ ัยดานตาง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดนา้ํ มีฤทธป์ิ กปองตับและขับน้ําดใี นหนูขาว ระงับปวด ลดไข และแกโรคผิวหนังหลายชนิดในหนูถีบจักร สารสกัดเอทานอล สารสกัดเอทิลอะซีเตท และสารสกัด เมทานอลมฤี ทธิ์ตา นอกั เสบในหนูถบี จักรและกระตาย8 การศกึ ษาทางคลินกิ : สารสกัดนาํ้ มสี รรพคุณแกโ รคดีซา น ลดบวม และระงบั ปวด8 การศกึ ษาความปลอดภยั : การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนถู ีบจักร โดยฉดี สารสกดั เมทานอลเขา ชอ งทองและใหท างปาก พบวา ขนาดของสารสกดั เทยี บเทา ผงยาท่ีทําใหห นูถีบจักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทากับ 17.1 และ 107.4 กรัม/กโิ ลกรัม ตามลาํ ดับ8 ฝางเฟง (Radix Saposhnikoviae Divaricatae) คือ รากแหงของพชื ทม่ี ีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Saposhnikovia divaricata (Turcz.) Schischk. วงศ Umbelliferae7 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: เมื่อใหสารสกัดนํ้าหรือสารสกัดแอลกอฮอลความเขม ขนรอ ยละ 20 ทางปากกระตายในขนาด 10 มลิ ลิลติ ร/กิโลกรัม พบวา มฤี ทธิล์ ดไขไดดี โดยสารสกัดนํ้ามฤี ทธิแ์ รงกวา สารสกัดแอลกอฮอล และเม่อื ฉีดสารสกดั น้าํ เขาชองทอ งกระตายในขนาดเทียบเทาผงยา 4.4 กรัม/กโิ ลกรมั พบวามฤี ทธ์ิลดไขเชน เดียวกัน เม่ือฉีดสารสกดั แอลกอฮอลเ ขา ชอ งทองหนถู บี จักรในขนาดเทียบเทาผงยา 2 กรัม/กิโลกรมั พบวามฤี ทธล์ิ ดไขท เ่ี กิดจากการติดเชอ้ื ไอกรน เชอื้ คอตบี และเชือ้ บาดทะยกั และเมื่อให สารสกัดแอลกอฮอลทางปากและฉีดเขาใตผิวหนงั หนถู ีบจกั รในขนาดเทยี บเทาผงยา 21.8 และ 42.4 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดับ พบวามีฤทธร์ิ ะงับอาการปวดไดด 9ี นอกจากน้ยี งั พบวาฝางเฟง มฤี ทธ์ิยบั ย้ังเชอ้ื ไวรสั ไขห วดั ใหญบ างชนดิ 10 การศึกษาทางคลนิ ิก: โดยทวั่ ไปฝางเฟงมกั ไมใ ชเ ด่ยี ว สว นใหญจ ะใชเ ปน สว นประกอบในตํารบั ยารักษาอาการปวดศีรษะ ไขห วดั อาการปวดเมื่อยตามมอื เทาเนื่องจากลมช้ืน โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคระบบทางเดนิ อาหาร9 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร โดยการใหสารสกัดน้าํ ทาง

Page 257 236 ตาํ รับยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย ปากและฉีดเขาชองทอ ง พบวา ขนาดของสารสกดั เทยี บเทา ผงยาท่ีทาํ ใหหนถู ีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทา กับ 213.8 และ 37.18 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดบั อีกการศึกษาหนง่ึ พบวา เมอื่ ใหส ารสกัดนาํ้ โดย การฉดี เขา ชองทอง ขนาดของสารสกดั เทียบเทา ผงยาท่ีทําใหหนูถบี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทา กบั 112.8 กรมั /กโิ ลกรัม เมื่อฉดี สารสกดั แอลกอฮอล (โดยวธิ หี มกั ) เขาชองทอ งและใตผ ิวหนงั หนถู บี จกั ร พบวา ขนาดของสารสกัดเทียบเทาผงยาท่ที าํ ใหหนถู บี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 11.80 และ 59.64 กรัม/กโิ ลกรมั ตามลาํ ดับ และเมอื่ ฉดี สารสกัดแอลกอฮอล (โดยใชความรอ น) เขา ชอ งทอ งหนู ถบี จักร พบวาขนาดของสารสกดั เทยี บเทาผงยาทีท่ ําใหหนถู บี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทากับ 26.83 กรมั /กิโลกรัม9 ฮั่วเซยี ง [พิมเสน (Herba Agastaches seu Pogostemi)] คือ สว นเหนือดินท่ีทําใหแ หง ของพืชท่ี มชี ื่อวทิ ยาศาสตรว า Agastache rugosa (Fisch et Mey.) O. Ktze หรอื Pogostemon cablin (Blanco) Benth. วงศ Labiatae7 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ัยดานตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกดั นํา้ มฤี ทธติ์ านเชื้อจุลินทรียในหลอดทดลอง ลดอาการเกรง็ ของกลามเน้ือเรียบของลําไสกระตาย ตานอาเจียนในนกพิราบ ระงับปวดและชวยใหการทาํ งานของ ระบบกระเพาะอาหารและลาํ ไสของหนถู ีบจกั รดีข้ึน11 การศึกษาทางคลนิ กิ : ฮ่วั เซยี งมสี รรพคณุ แกปวดทอ งและทอ งเสียอนั เนอ่ื งจากการตดิ เชอื้ 11 การศึกษาความปลอดภัย: เมื่อใหสารสกัดนา้ํ ทางปากของหนูถีบจักรในขนาดเทียบเทาผงยา 14.58 กรมั /กโิ ลกรัม วันละ 2 ครัง้ พบวาภายใน 7 วนั หนถู ีบจกั รทุกตัวมกี ารเคลือ่ นไหวเปน ปกติ และ ไมพ บหนถู ีบจักรตวั ใดตาย11 กันเฉา (ชะเอมเทศ Radix Glycyrrhizae) คอื รากแหงของพืชทม่ี ีชอ่ื วทิ ยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae7 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา ชะเอมเทศมีฤทธิ์คลายฮอรโมนคอรทิโซน (cortisone) ระงับไอ ขับเสมหะในหนูถีบจักร ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และตานอักเสบในหนูขาว แกแพและเสริม ภูมติ านทานในหนูตะเภา10,12 การศกึ ษาทางคลินกิ ชะเอมเทศมีสรรพคุณระบายความรอน ขบั พษิ แกไ อ ขบั เสมหะ โดย ทัว่ ไปมกั ใชเขา ในตํารับยารักษาอาการไอมเี สมหะมาก พษิ จากฝแผล คอบวมอกั เสบ หรอื พษิ จากยาและ อาหาร เปน ตน โดยสามารถชว ยระบายความรอ นและขบั พิษได1 0,12

Page 258 ตาํ รบั ยาระบายความรอ น: เซี่ยหวงสาน 237 การศกึ ษาความปลอดภยั ชะเอมเทศมีพษิ นอ ย แตการรับประทานตอ เนื่องเปนเวลานาน จะทํา ใหความดนั โลหติ สงู ขึ้นหรือมอี าการบวม10 มีรายงานการศกึ ษาพษิ เฉียบพลนั ในหนถู ีบจักร พบวา ขนาด ของสารสกัดเทียบเทาผงยาเม่อื ฉดี เขา ใตผิวหนังทท่ี ําใหห นถู บี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 3.6 กรัม/กโิ ลกรัม12 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. เย็นจติ ร เตชะดาํ รงสิน. ตาํ รบั ยาเซ่ยี หวงสาน. [เอกสารแปลเพือ่ การจดั ทําฐานขอมูลยาสมนุ ไพรจนี ]. นนทบุรี: สถาบันการแพทย ไทย-จีน เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยท างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Wang X. Xiehuang San. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. ชยันต พเิ ชยี รสุนทร, วเิ ชียร จีรวงศ. คูมอื เภสัชกรรมแผนไทย เลม 4: เครือ่ งยาธาตุวัตถุ. พมิ พครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: สาํ นกั พมิ พอมรินทร, 2546. 6. Hou JY. Gypsum Fibrosum: shi gao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 8. Hou JY. Fructus Gardeniae: zhi zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Du XM. Radix Saposhnikoviae: fang feng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 11. Wang Y, Wang BX. Herba Pogostemonis (agastaches): huo xiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 12. Zhou QL, Wang BX. Radix Glycyrrhizae: gan cao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 259 238 ตํารับยาจนี ทีใ่ ชบอยในประเทศไทย เซี่ยไปสา น (泻白散) ตาํ ราตนตํารบั 小儿药证直诀 เสี่ยวเออ รเหยา เจิ้งจื๋อจฺเหวยี (Key to Therapeutics of Children Diseases)1 « ค.ศ. 1114 Qian Yi (钱乙 เฉียนอี่) »2 สว นประกอบ Cortex Mori Radicis ซงั ไปผ ี 30 กรัม Cortex Lycii Radicis 30 กรัม 桑白皮 Radix Glycyrrhizae Praeparata ตกี้ ูผี 3 กรมั 地骨皮 กันเฉา (จ้ือ) 甘草 (炙) วธิ ใี ช นําตัวยาทัง้ หมดมาบดเปนผง ใสข าวเจา เล็กนอ ย และเตมิ น้ํา 2 ถว ย ตม จนเหลอื น้าํ 2 ใน 3 สว น แลว แบงรบั ประทานกอ นอาหาร วนั ละ 3 ครง้ั 1 การออกฤทธิ์ ระบายและขับความรอ นของปอด แกไอ ระงบั หอบ1 สรรพคุณ ใชร ักษาอาการไอ หอบ เน่อื งจากปอดรอ น รูสกึ ตวั รอนผา วทผ่ี ิวหนงั ชว งบายถึงเย็น ล้นิ แดงมี ฝา เหลือง ชีพจรเลก็ และเรว็ ตํารับยานี้สามารถเพิม่ หรอื ลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูป ว ยโรคหลอดลมอักเสบ พิษรอ นและ ปอดอกั เสบจากโรคหดั อาการไอและหอบจากปอดรอ นในผูปวยวณั โรคปอด1

ตาํ รับยาระบายความรอ น: เซ่ยี ไปสา น Page 260 239 ตาํ รบั ยา เซย่ี ไปสา น (泻白散) ซังไปผี (桑白皮) 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ตก้ี ผู ี (地骨皮) กันเฉา (จอื้ ) [甘草(炙)]

Page 261 240 ตํารับยาจีนทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย คาํ อธบิ ายตํารับ สมุนไพร ทําหนา ที่ รส คณุ สมบตั ิ สรรพคุณ 桑白皮 ซงั ไปผ ี ตวั ยาหลัก (เปลอื กรากหมอ น) ตัวยาเสริม อมหวาน เย็น ระบายและขบั ความรอนของปอด 地骨皮 ต้ีกผู ี ตวั ยาชว ย จดื เย็น ระบายและขับความรอ นทหี่ ลบ 甘草 (炙) อมหวาน อยภู ายในปอด หรอื ความรอนท่ี เกดิ จากยนิ พรอ ง กนั เฉา (จื้อ) หวาน (ชะเอมเทศผดั น้ําผึ้ง) อนุ เสรมิ กระเพาะอาหาร ปรับสว น กลางของรางกาย บํารุงธาตุดิน เกดิ ธาตุทองเพื่อพยุงพลังของปอด รปู แบบยาในปจจุบัน ยาผง3 ขอ ควรระวังในการใช ตํารับยาเซีย่ ไปสา นไมเหมาะกบั ผูป ว ยท่ีมีอาการไอและหอบเน่อื งจากการกระทบลมหนาวภายนอก หรอื ออนแอเน่ืองจากหยางพรอ ง กลวั หนาว1 ขอ มลู วชิ าการทเ่ี ก่ียวของ ตาํ รับยาเซย่ี ไปส าน มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศกึ ษาทางคลนิ กิ : เมอื่ ใหผูป ว ยโรคไอรอ ยวนั รบั ประทานตาํ รับยาเซยี่ ไปส า นตดิ ตอ กนั 4-8 วัน ผปู ว ยจะมอี าการดีขน้ึ มาก หรือบางรายหายเปนปกติ และเมือ่ ใหผ ปู วยเดก็ โรคปอดอกั เสบรับประทาน ยาโดยปรับเปล่ียนสูตร พบวาไดผลการรักษาเปนที่นาพอใจ นอกจากนี้ยังพบวาตํารับยาเซี่ยไปสาน สามารถใชรักษาโรคตาง ๆ ดังตอไปนี้ไดผลดี ไดแก หลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน อาการหอบ เนื่องจากหลอดลมอักเสบ อาการไอ ไขต ่าํ ในผปู ว ยวณั โรค ปอดอักเสบในเด็กอนั เน่ืองจากยินของปอด พรอง3 ตามการแพทยแผนปจจุบันตํารับยาน้ีใชรักษาอาการไอและหอบในโรคปอดอกั เสบ โรคหลอดลม อักเสบ โรคไอรอ ยวนั และขบั เสมหะ3

Page 262 ตาํ รบั ยาระบายความรอน: เซ่ียไปส าน 241 ซังไปผี [เปลือกรากหมอน (Cortex Mori Radicis)] คือ เปลือกรากแหงของพืชที่มีช่ือ วทิ ยาศาสตรว า Morus alba L. วงศ Moraceae4 มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เมื่อฉีดสารสกัดน้ําเขาชองทองหนูถีบจักรในขนาด 50 มิลลิกรัม/ กิโลกรมั จะทาํ ใหสตั วท ดลองสงบ ความรูสึกสัมผัสและความเจ็บปวดลดลง สารสกดั นํา้ เมือ่ ใหห นู ถบี จักรทางปากในขนาดเทยี บเทา ผงยา 2 กรมั /กโิ ลกรัม มฤี ทธิร์ ะงบั ปวดไดด เี ทยี บเทาแอสไพรนิ 0.5 กรมั /กโิ ลกรมั สารสกัดนํา้ ยังมฤี ทธ์ยิ ับย้ังเชื้อโรคท่ที ําใหเกิดอาการเจ็บคอ เชอ้ื บดิ และเชื้อรา นอกจากน้ี ยงั พบวา สารสกดั ซงั ไปผ มี ีฤทธ์ิลดอาการบวม และระงบั อาการไอในหนูขาวดว ย5 การศกึ ษาทางคลินิก: เม่ือใหผูปว ยเดก็ ท่ีมอี าการนา้ํ ลายไหลทมี่ ุมปากรับประทานสารสกดั นํ้าใน ขนาดเทยี บเทา ผงยา 20 กรมั โดยเด็กท่อี ายุตาํ่ กวา 1 ขวบ ใหใ ชข นาดเทยี บเทาผงยา 10 กรัม และให แบงรับประทานวนั ละ 2-3 คร้ัง ตดิ ตอกนั นาน 3-7 วัน พบวา อาการดงั กลา วหายเปนปกติ โดยทวั่ ไป ซังไปผ มี ักไมใ ชเดย่ี ว สว นใหญจะใชเปนสวนประกอบในตํารบั ยารักษาอาการบวมน้ํา หลอดลมอกั เสบ และเยอ่ื หุมปอดอกั เสบ5 การศึกษาความปลอดภยั : การศึกษาพษิ เฉียบพลนั ในหนถู ีบจักร โดยการเตรยี มสารสกัดที่ ผา นกระบวนการสกัดจนไดผ งยาสเี หลืองฉดี เขาชองทอง พบวาขนาดของสารสกัดทท่ี ําใหห นถู บี จักรตาย รอยละ 50 (LD50) มคี าเทา กับ 32.7 มิลลกิ รมั /กิโลกรัม สารสกัดนา้ํ เมอ่ื ใหทางปากและฉดี เขา ชองทอง หนถู ีบจักรในขนาดเทียบเทาผงยา 10 กรัม/กิโลกรัม และฉีดเขาหลอดเลอื ดดําในขนาดเทยี บเทา ผงยา 5 กรัม/กโิ ลกรัม ไมทาํ ใหหนตู วั ใดตาย นอกจากนยี้ ังพบวา การใหย าขนาดสงู ครั้งเดียว หรือแบง รบั ประทาน 5 ครงั้ ละนอ ย ๆ ใหผลไมแ ตกตางกัน ซ่งึ จากผลการทดลองขา งตน อาจกลา วไดว า ซงั ไปผีมีพิษนอ ย ตี้กูผี (Cortex Lycii Radicis) คือ เปลือกรากแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Lycium chinense Mill. หรอื L. barbarum L. วงศ Solanaceae4 มีรายงานการศึกษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดน้ําและสารสกัดแอลกอฮอลทางปากกระตายใน ขนาดเทียบเทาผงยา 7.5 กรัม/กิโลกรัม พบวามีฤทธ์ิลดไข นอกจากน้ันสารสกัดนาํ้ ยังมีฤทธ์ิตานเชื้อ ไทฟอยดแ ละบดิ 6 การศกึ ษาทางคลินิก: เมอื่ ใหผ ปู ว ยทมี่ อี าการตัวอนุ และเหงื่อออกในตอนบา ย ซึ่งมกั จะเกิดกบั ผปู วยวัณโรค รบั ประทานชาสมุนไพรตกี้ ผู ี (ตกี้ ผู ี 45 กรัม/วนั ผสมกบั ใบชา) ตดิ ตอกนั นาน 20 วนั ขน้ึ ไป พบวาผูป ว ยมอี าการดีข้นึ อยา งชัดเจน และเมอื่ รบั ประทานตอ เนอ่ื งนาน 2 เดอื น จะทําใหอ าการ ดงั กลา วหายเปน ปกติ และไมกลบั เปนใหมภายในเวลา 2 ป เมอื่ ใหผ ปู วยทม่ี อี าการเลือดกาํ เดาไหลและ

Page 263 242 ตํารับยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย อาเจียนเปนเลือดรับประทานชาสมุนไพรนี้โดยเพ่ิมขนาดของตี้กูผีเปน 50 กรัม/วัน พบวาเห็นผลการ รักษาภายใน 2 วัน6 การศกึ ษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพิษเฉียบพลนั ในหนูถีบจักร พบวาเมอ่ื ใหสารสกดั นาํ้ ทาง ปากในขนาดเทียบเทา ผงยามากกวา 262.6 กรมั /กโิ ลกรมั ไมท ําใหหนูตัวใดตาย และเมอื่ ฉีดสารสกัดนาํ้ เขา ชองทอง พบวา ขนาดของสารสกัดเทยี บเทาผงยาท่ที ําใหหนถู ีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทากับ 4.7 กรมั / กโิ ลกรมั ซึ่งจากผลการทดลองขา งตน อาจกลาวไดว า ตกี้ ผู ีมีพษิ นอย6 กนั เฉา (จือ้ ) [ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผึ้ง (Radix Glycyrrhizae Praeparata)] คือ รากแหงของพืชที่ มชี ่ือวิทยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae เตรยี มโดยนาํ นา้ํ ผ้งึ บริสุทธมิ์ าเจือจางดว ยนาํ้ ตมในปรมิ าณที่เหมาะสม ใสช ะเอมเทศท่ีห่ันเปนแวน ๆ หรอื เปนชิน้ ๆ ตามตอ งการ (อตั ราสว นของสมนุ ไพร:นา้ํ ผ้งึ เทากบั 4:1) แลว คลกุ ใหเขา กัน หมกั ไวสกั ครเู พอ่ื ใหน ํา้ ผ้งึ ซมึ เขา ในตัวยา จากนัน้ นําไปผัดในภาชนะท่เี หมาะสมโดยใช ระดับไฟปานกลาง ผดั จนกระท่ังมสี ีเหลืองเขมและไมเหนยี วตดิ มอื นําออกจากเตา แลว ตง้ั ท้งิ ไวใ หเย็น7 ชะเอมเทศมคี ุณสมบัติเปนกลางคอนขา งเย็นเล็กนอย มรี สอมหวาน มสี รรพคณุ ระบายความ รอ น ขบั พิษ แกไอ ขับเสมหะ โดยท่วั ไปมกั ใชเ ขาในตาํ รับยารักษาอาการไอมเี สมหะมาก พิษจากฝแผล คอบวมอกั เสบ หรอื พิษจากยาและอาหารโดยสามารถชวยระบายความรอนและขบั พษิ ได หากนาํ มาผัด นํา้ ผง้ึ จะทาํ ใหมคี ุณสมบตั อิ นุ มรี สหวาน มสี รรพคณุ บาํ รุงมามและกระเพาะอาหาร เสริมชี่ ทาํ ใหการเตน ของชพี จรมีแรงและกลับคนื สภาพปกติ โดยทวั่ ไปมักใชเขา ในตํารบั ยารักษาอาการมา มและกระเพาะ อาหารออนเพลยี ไมมแี รง ชขี่ องหวั ใจพรอ ง ปวดทอง เสนเอน็ และชพี จรตงึ แข็ง ชีพจรเตนไมส มํา่ เสมอ และชีพจรเตน หยดุ อยา งมีจังหวะ มรี ายงานผลการศกึ ษาเปรียบเทียบปรมิ าณกรดกลีไซรไ รซกิ (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศทีผ่ ดั และไมไดผ ดั นาํ้ ผึง้ พบวา ชะเอมเทศผดั นํา้ ผง้ึ จะมีปริมาณสารดังกลา วนอ ยกวา ชะเอมเทศทีไ่ มไดผดั รอ ยละ 47-60 ท้งั นี้ขึ้นอยกู บั คณุ ภาพของเครอ่ื งยา7 การศึกษาวิจัยของชะเอมเทศ ผดั น้าํ ผ้งึ มีดังน้ี การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: มีรายงานการศกึ ษาเปรยี บเทียบฤทธ์เิ สริมภูมคิ ุมกนั ของชะเอมเทศ ที่ผดั นํา้ ผ้ึงและไมไดผ ดั พบวา ฤทธเ์ิ สรมิ ภมู ิคุมกนั ของชะเอมเทศผัดน้ําผง้ึ แรงกวาชะเอมเทศท่ไี มไ ดผัด มาก ดงั นนั้ ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผ้งึ จึงนับเปน ตวั ยาท่มี ีสรรพคณุ บาํ รงุ ชท่ี ีด่ ีทส่ี ุดในทางคลนิ ิก7

Page 264 ตํารบั ยาระบายความรอน: เซยี่ ไปสา น 243 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. Liu JG, Wu F. Xiebai san. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 4. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 5. Deng YC. Cortex Mori: sang bai pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 6. Yang YF, Xu SK. Cortex Radicis Lycii: di gu pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.

Page 265 244 ตาํ รบั ยาจนี ที่ใชบ อยในประเทศไทย ไปโถวเวิงทัง (白头翁汤) ตําราตน ตํารับ 伤寒论 ซางหานลุน (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจงจิง่ ) »2 สว นประกอบ Radix Pulsatillae ไปโ ถวเวงิ 15 กรมั Rhizoma Coptidis หวงเหลยี น 6 กรมั 白头翁 Cortex Phellodendri หวงไป 12 กรมั 黄连 Cortex Fraxini ฉินผี 12 กรัม 黄柏 秦皮 วธิ ใี ช ตมเอานา้ํ ดมื่ 1,3 การออกฤทธ์ิ ระบายความรอ นและแกพษิ ชว ยใหเ ลอื ดเยน็ และหยุดการถายบิด1,3 สรรพคุณ รักษาอาการรอนเปนพิษ โรคบดิ ถายเปนเลอื ด มีอาการถายกระปดกระปอย มีหนอง เลอื ด มูกแดงมากกวา มูกสขี าว ปวดทองนอ ย ปวดถว ง มวนทอ ง ถายเปนบิด ทวารหนักแสบรอ น ตัวรอน 1,3 ใจหงดุ หงิด คอแหง กระหายน้ํา ลิ้นแดง มีฝา เหลอื ง ชพี จรตึงและเรว็ ตํารบั ยานี้สามารถเพมิ่ หรอื ลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปว ยโรคลาํ ไสอ กั เสบเฉยี บพลัน โรคบิด ตดิ เชื้อ โรคบดิ อะมีบา ซงึ่ ลว นเปนโรคบดิ แบบรอ นอกั เสบ1,3

ตาํ รบั ยาระบายความรอ น: ไปโถวเวิงทงั Page 266 245 ตํารับยา ไปโถวเวิงทัง (白头翁汤) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ไปโถวเวงิ (白头翁) หวงเหลียน (黄连) หวงไป (黄柏) 3 เซนติเมตร ฉินผี (秦皮) 2 เซนตเิ มตร

Page 267 246 ตํารับยาจนี ทใี่ ชบอยในประเทศไทย คําอธบิ ายตาํ รับ สมุนไพร ทําหนา ท่ี รส คณุ สมบตั ิ สรรพคุณ 白头翁 ไปโ ถวเวิง 黄连 หวงเหลียน ตัวยาหลัก ฝาด ขม เยน็ ระบายความรอนในเลอื ด ขับพษิ รอ น 黄柏 หวงไป เลก็ นอ ย 秦皮 ฉินผี ตวั ยาเสรมิ ขม เยน็ มาก ระบายความรอนของหัวใจและ กระเพาะอาหาร แกพ ิษ หยดุ การ ถายปนบิด ตวั ยาเสริม ขม เย็นมาก ระบายความรอนซงึ่ อยูชว งลา งของ รา งกาย เสริมธาตุน้ํา หยดุ การถา ย เปน บดิ ตัวยาชว ย ขม ฝาด เยน็ ระบายความรอน ขับความชื้นตกคา ง ฝาดสมาน ทําใหห ยดุ ถายเปน บดิ รปู แบบยาในปจ จบุ นั ยานา้ํ ยาเมด็ ยาตม 4 ขอ ควรระวงั ในการใช ตาํ รับยาน้ไี มเ หมาะกับผปู วยท่เี ปนโรคบดิ แบบออ นแอ เปน บดิ เรอื้ รงั 1,3 ขอมลู วิชาการทเ่ี ก่ยี วขอ ง ตาํ รับยาไปโ ถวเวิงทงั มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ัยดานตา ง ๆ ดังนี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดน้าํ มฤี ทธิ์ตา นเชอื้ บดิ ในหลอดทดลอง4 การศกึ ษาทางคลินิก: ตํารบั ยาน้มี ีสรรพคณุ แกอักเสบ ฆา เชอ้ื อะมบี า ขบั ความรอน บรรเทา อาการเกรง็ หยดุ ถาย หามเลือด1,3,4 ไปโ ถวเวงิ (Radix Pulsatillae) คอื รากแหง ของพืชทม่ี ีชอ่ื วทิ ยาศาสตรว า Pulsatilla chinensis (Bge.) Regel วงศ Ranunculaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกดั น้าํ มีฤทธิต์ านเชอื้ อะมีบา ฆา เชอ้ื ทรโิ คโมแนด็ (trichomonad) ในหลอดทดลอง สารสกดั เอทานอลมีฤทธส์ิ งบจิตใจ ระงบั ปวด และบาํ รุงหวั ใจในสตั วท ดลอง6

Page 268 ตาํ รบั ยาระบายความรอ น: ไปโ ถวเวงิ ทัง 247 การศึกษาทางคลินิก: ไปโ ถวเวิงมีสรรพคณุ แกทอ งเสียชนดิ เฉยี บพลันและเรอ้ื รงั ทเี่ กดิ จากเชื้อ อะมบี า แกโ รคบิด ปอดอกั เสบ ติดเชอื้ ทางเดนิ ปสสาวะ ถงุ นํา้ ดีอักเสบ และแกระดขู าว6 การศกึ ษาความปลอดภัย: สารสกัดน้ํามีพิษนอย สารแซโพนนิ (saponin) ในไปโ ถวเวงิ มีดัชนี การละลายในเลอื ดเทา กับ 1:1666 หวงเหลยี น (Rhizoma Coptidis) คือ ลําตน ใตด ินแหง ของพชื ทม่ี ชี ือ่ วทิ ยาศาสตรวา Coptis chinensis Franch. หรอื C. deltoidae C.Y. Cheng et Hsiao หรือ C. teetoides C.Y. Cheng วงศ Ranunculaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: ผงยามีฤทธ์ิตา นเชื้อแบคทีเรียหลายชนดิ ในหลอดทดลอง สารสกัด เมทานอลมีฤทธิ์ตานอักเสบในหนูขาวและหนูถีบจักร สารสกัดน้าํ มีฤทธ์ิลดนํา้ ตาลในเลือดหนูถีบจักร สารเบอเบอรีน (berberine) ซ่ึงเปนองคประกอบทางเคมีของหวงเหลียน มีฤทธิ์ยับย้ังการจับตัวของ เกล็ดเลือดกระตา ย แกท องเสยี ในหนถู ีบจกั ร และรกั ษาแผลในกระเพาะอาหารหนขู าว7 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันของสารเบอเบอรีนในหนูถีบจักร พบวา ขนาดท่ที าํ ใหหนูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) เม่อื ฉีดเขาชอ งทองและใหทางปากมคี า เทา กับ 24.3 และ 392 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรัม ตามลาํ ดบั 7 หวงไป (Cortex Phellodendri) คือ เปลือกตนแหง ของพชื ที่มีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Phellodendron chinensis Schneid. หรือ P. amurense Rupr. วงศ Rutaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: ผงยามฤี ทธ์ติ านเชอื้ แบคทเี รยี หลายชนดิ และปกปองตับในหลอด ทดลอง สารสกัดสวนทลี่ ะลายนํา้ ไดซง่ึ ไดข จดั เอาสารเบอเบอรนี (berberine) ออกไปแลว มฤี ทธิย์ บั ยั้ง การเกดิ แผลในกระเพาะอาหารหนขู าว สารสกดั น้ํามฤี ทธล์ิ ดความดนั โลหิตในแมว สุนขั และกระตา ย สารจาโทรไรซิน (jatrorhizine) มีฤทธชิ์ วยใหก ารทํางานของหวั ใจหนขู าวและกระตายเปนปกติ8 การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดนาํ้ มีสรรพคุณรักษาอาการหูเปนหนองและอักเสบเฉียบพลัน8 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาขนาดของสารสกัดนํ้า และสารเฟลโลเดนดรนี (phellodendrine) ที่ทําใหหนูถีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) เมื่อฉดี เขาชองทอง มีคาเทา กบั 2.7 และ 0.69 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดบั 8 ฉนิ ผี (Cortex Fraxini) คือ เปลือกก่ิงและเปลือกตนแหงของพืชท่ีมีช่ือวทิ ยาศาสตรว า Fraxinus rhynchophylla Hance หรือ F. chinensis Roxb. หรอื F. szaboana Lingelsh. หรือ F. stylosa Lingelsh. วงศ Oleaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั นี้

Page 269 248 ตํารับยาจนี ทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย การศกึ ษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกัดนํ้ามฤี ทธต์ิ านเชือ้ แบคทเี รียทเ่ี ปนสาเหตุของโรคบดิ ในหลอด ทดลอง ตานเช้ือไวรัสในกระตาย สารเอสคูลิน (esculin) และสารเอสคูเลทิน (esculetin) ซึ่ง เปนองคประกอบทางเคมีของของฉินผี มีฤทธ์ิตานอกั เสบในหนูตะเภาและหนูขาว มีฤทธส์ิ งบจติ ใจ ลด อาการเกรง็ และระงบั ปวดในหนูถีบจักร สารฟลาซิน (fraxin) และสารเอสคูลนิ มฤี ทธ์กิ ระตนุ การขบั กรด ออกทางปส สาวะกระตา ยและหนูขาว9 การศึกษาทางคลนิ กิ : ฉนิ ผีมสี รรพคุณแกบดิ หลอดลมอกั เสบชนิดเรอื้ รัง9 การศกึ ษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพิษเฉยี บพลนั ในหนูถบี จักร พบวา ขนาดของสารเอสคลู นิ และสารเอสคูเลทนิ ที่ทาํ ใหห นูถีบจักรตายรอ ยละ 50 (LD50) เมอ่ื ใหท างปากมีคา เทา กบั 11.5 และ 2.39 กรัม/กโิ ลกรมั ตามลาํ ดับ9 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรสั ตั้งอรามวงศ, สุณี จีระจติ สัมพันธ, ธีรพงศ ตง้ั อรา มวงศ. ตํารบั ยาไปโ ถวเวิงทงั . [เอกสารแปลเพ่ือการจัดทาํ ฐานขอ มูลยาสมนุ ไพร จีน]. นนทบุรี: สถาบนั การแพทยไ ทย-จีน เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทรวง สาธารณสุข, 2549. 4. Zhang J, Wang X, Zhao XX. Baitouweng Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Ran MX, Xie BZ. Radix Pulsatillae: bai tou weng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Hou JY. Rhizoma Coptidis: huang lian. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Hou JY. Cortex Phellodendri: huang bai. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Deng WL. Cortex Fraxini: qin pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 270 ตาํ รับยาสลายความชื้น: อหู ลิงสา น 249 อหู ลิงสาน (五苓散) ตาํ ราตนตํารับ 伤寒论 ซางหานลุน (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจง จิ่ง) »2 สวนประกอบ Rhizoma Alismatis เจอเซี่ย 15 กรัม 9 กรัม 泽泻 Poria ฝูหลิง 6 กรัม 茯苓 9 กรัม 桂枝 Ramulus Cinnamomi กยุ จือ 9 กรัม 猪苓 白术 Polyporus จูหลิง Rhizoma Atractylodis Macrocephalae ไปจ ู วิธีใช นํายาทัง้ หมดมาบดเปน ผง ละลายนาํ้ รบั ประทานครั้งละ 3-6 กรัม หรอื ตมเอานา้ํ ด่ืม1,3 การออกฤทธ์ิ 1,3 ขับปส สาวะ ระบายความชน้ื ใหค วามอบอุน ทําใหช ไี่ หลเวยี น สรรพคณุ รกั ษาอาการความช้ืนของน้ําทีต่ กคา งอยูภายใน ซึ่งแสดงอาการดังนี้ ปวดศรี ษะ ตวั รอ น คอแหง กระหายนาํ้ แตเ มือ่ ดม่ื นาํ้ แลวจะมีอาการคลนื่ ไสอ าเจยี น ปส สาวะขัด ลนิ้ มฝี าขาวลืน่ หรอื ขาว หนา ชีพจรลอย เกิดอาการบวมน้าํ ถา ยเหลว หรือมีเสมหะเหลวตกคา ง วงิ เวียนหรือมนึ ศีรษะ ทองนอย มอี าการเตน ตุบ ๆ1,3 ตํารบั ยานีส้ ามารถเพ่มิ หรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผปู ว ยโรคกระเพาะลาํ ไสอ กั เสบเฉียบพลัน มีอาการคล่นื ไสอ าเจียนเปน เวลาประจํา โรคอหิวาตเ ทยี ม ลมพิษจากความเย็น โรคไตอกั เสบเฉียบพลนั ระยะแรก ถงุ อณั ฑะบวมน้ํา มีปส สาวะตกคา งจากความช้นื และนํ้าตกคา งอยภู ายใน1,3

Page 271 250 ตํารบั ยาจนี ที่ใชบอ ยในประเทศไทย ตาํ รับยา อหู ลงิ สา น (五苓散) 3 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร เจอ เซยี่ (泽泻) กยุ จอื (桂枝) 3 เซนติเมตร ไปจ ู (白术) 2 เซนตเิ มตร ฝหู ลิง (茯苓) 2 เซนติเมตร จหู ลิง (猪苓)

Page 272 ตํารบั ยาสลายความช้นื : อูหลิงสา น 251 คาํ อธิบายตํารับ สมุนไพร ทําหนา ท่ี รส คุณสมบัติ สรรพคณุ 泽泻 เจอเซยี่ ตวั ยาหลกั หวานจืด เย็น ระบายความชนื้ และน้าํ ระบาย 茯苓 ฝหู ลิง กลาง ความรอ น (โปง รากสน) ตัวยาเสริม หวาน อุน ระบายความช้นื และน้ํา เสรมิ มา ม 桂枝 กุยจือ ตวั ยาเสริม เลก็ นอย กลาง ใหแขง็ แรง ทําใหจิตใจสงบ (ก่ิงอบเชยจนี ) ขบั เหงอ่ื กระจายช่ี และเลอื ด ขบั 猪苓 จูหลงิ เผด็ อนุ กระจายความเยน็ ออกจากรางกายและ อมหวาน อุนหยางชีใ่ หมีการไหลเวยี นดขี นึ้ 白术 ไปจ ู ระบายความชนื้ และนํ้า แกถ า ย ตวั ยาชว ย หวานจดื เหลว ชว ยใหปส สาวะคลอง แก ปส สาวะขนุ ลดอาการตวั บวม เม่อื ตวั ยาชว ย ขม ใชค ูกับเจอเซีย่ และฝหู ลิง จะชวย อมหวาน เพ่ิมฤทธ์ิการระบายของเสยี และขับ ปสสาวะ บาํ รงุ ชี่ เสรมิ มามใหแ ขง็ แรง แก ความชืน้ ระบายน้ํา ระงบั เหงือ่ กลอมครรภ รปู แบบยาในปจจบุ ัน 5 ยาเม็ด ยาผง ยาตม ขอ ควรระวงั ในการใช ตาํ รบั ยาอูห ลิงสา นชว ยระบายนา้ํ ใหซ มึ ออก หากช่ขี องมา มพรองออ นแอ การขบั เคลอ่ื นของชี่ใน ไตไมเพียงพอ ควรใชคูกับตัวยาท่ีมีสรรพคุณเสริมชี่บํารุงมาม เน่ืองจากตํารับยาอูหลิงสานมีสรรพคุณ เนนไปทางระบายนํา้ ออก จึงไมควรใชติดตอกันเปน ระยะเวลานาน1,3

Page 273 252 ตาํ รับยาจีนท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย ขอหา มใช หามใชในผูปวยท่ีมีอาการยินพรอง ปสสาวะขัด1,3 ขอ มลู วชิ าการท่เี กยี่ วขอ ง ตาํ รับยาอูหลิงสา น มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกดั 50% แอลกอฮอลมีฤทธขิ์ ับปสสาวะในหนูถีบจักรและ หนขู าว ผงยามฤี ทธป์ิ กปองและเพมิ่ ประสิทธิภาพการทํางานของไต สารสกัดน้ํามีฤทธิป์ กปองตบั จากการ ถูกทําลายดว ยแอลกอฮอลในหนูถบี จกั ร5 การศึกษาทางคลนิ กิ : ตํารบั ยาอูหลงิ สานมสี รรพคุณในการกระตุน การไหลเวยี นของเลือดและ ชวยใหป ส สาวะคลอ ง1,3 บรรเทาอาการไตอกั เสบ ลดอาการบวมนํ้า บรรเทาอาการปวดทอ ง และถายเหลว5 เจอเซ่ีย (Rhizoma Alismatis) คือ ลําตนใตดินแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Alisma orientalis (Sam.) Juzep. วงศ Alismataceae6 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: สารสกดั น้าํ มฤี ทธ์ิขับปส สาวะในหนูขาว กระตาย และสนุ ขั และมี 7 ฤทธ์ติ านอกั เสบในหนถู บี จกั รและหนูขาว การศึกษาทางคลนิ ิก: ผงยามสี รรพคณุ รักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินปสสาวะ ไตอกั เสบชนดิ เฉยี บพลนั และชนดิ เรือ้ รัง บรรเทาอาการวงิ เวยี นศีรษะ7 การศึกษาความปลอดภยั : สมนุ ไพรชนิดนี้มคี วามปลอดภัย8 การศึกษาพษิ เฉียบพลันในหนู ขาวโดยการใหสารสกดั นํ้าทางปาก พบวา ขนาดของสารสกัดเทียบเทา ผงยาท่ที าํ ใหห นูขาวตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทากบั 36.36 กรัม/กิโลกรัม เม่ือฉีดสารสกดั นา้ํ และสารสกัด 50% แอลกอฮอลเขา ชอ ง ทองหนูถีบจกั ร พบวาขนาดของสารสกดั ท้งั สองชนิดดังกลา วเทยี บเทาผงยาทท่ี าํ ใหห นูถบี จกั รตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทากบั 15 กรมั /กโิ ลกรมั เมอ่ื ฉีดสารสกัดเมทานอลเขา หลอดเลือดดาํ และชอ งทองหนู ถบี จกั ร พบวาขนาดของสารสกดั ท่ีทาํ ใหห นูถีบจักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทา กับ 0.78 และ 1.27 กรมั /กิโลกรมั ตามลําดับ และสารสกดั ดังกลา วเมื่อใหหนูถีบจกั รทางปากในขนาด 4 กรัม/กิโลกรัม ไม ทาํ ใหหนูถบี จักรตัวใดตาย7 ฝหู ลิง [โปงรากสน (Poria)] คือ เหด็ ทม่ี ีช่ือวิทยาศาสตรว า Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae6 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกัดนํ้ามีฤทธส์ิ งบประสาทในหนถู ีบจักร คลายกลามเนือ้ เรียบ 8 ผงยาเมอ่ื ใหทางปากหนถู บี จกั รในขนาด 100 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรมั มผี ลยบั ย้ังอาการ ของลําไสก ระตาย

Page 274 ตํารับยาสลายความช้นื : อหู ลงิ สา น 253 ผวิ หนงั อกั เสบ สารสกัดนาํ้ ตาลเชิงซอ นเมอ่ื ใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 250, 500 และ 1,000 มิลลิกรมั /กโิ ลกรัม วนั ละคร้งั ติดตอกันนาน 7 วัน มีฤทธ์เิ สริมมามใหแ ข็งแรง และเม่ือฉีดสารสกดั 70% แอลกอฮอลเ ขาชองทอ งกระตา ยในขนาด 0.5 กรัม/กโิ ลกรัม วันละครัง้ ตดิ ตอกันนาน 5 วนั มฤี ทธิ์ ขบั ปส สาวะ นอกจากน้ยี ังพบวาเม่อื ฉีดยาเตรียมเขาใตผวิ หนงั หนขู าวในขนาดเทียบเทา ผงยา 1.4 กรัม/ กิโลกรมั วันละครง้ั ติดตอกนั นาน 8 วัน มีผลปกปอ งตับได9 การศกึ ษาทางคลนิ กิ : สารสกดั นํ้าสามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจิตใจไมส งบชนิดเร้อื รงั และมีฤทธร์ิ ะบายความชนื้ และนาํ้ 9 กุยจอื [ก่งิ อบเชยจีน (Ramulus Cinnamomi)] คอื กิ่งออ นแหง ของพชื ทมี่ ชี ่อื วทิ ยาศาสตรว า Cinnamomum cassia Presl. วงศ Lauraceae6 มรี ายงานการศึกษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดน้ํามฤี ทธ์ลิ ดไขแ ละระบายความรอนอยา งออน ๆ ในหนู ถีบจกั รและกระตาย สารสกัดขนาดเทยี บเทา ผงยา 0.01-0.2 กรมั มฤี ทธติ์ านการแขง็ ตัวของเลือดใน หลอดทดลอง8 นอกจากนสี้ ารสกดั นาํ้ ยงั มฤี ทธิ์ตานเชอ้ื แบคทเี รยี และไวรสั บางชนิด8 การศึกษาทางคลินกิ : โดยทั่วไปกยุ จอื มกั ไมใ ชเ ดยี่ ว สวนใหญจ ะใชเปนสว นประกอบในตาํ รบั ยารกั ษาอาการไขหวัดจากการกระทบลมเย็นภายนอก โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในเดก็ และอาการ หอบเนอ่ื งจากหลอดลมอกั เสบ10 การศึกษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพษิ เฉยี บพลนั โดยฉีดสารสกดั นาํ้ ท่ีมีสว นประกอบของ น้าํ มนั หอมระเหยเขาชอ งทองหนถู ีบจักร พบวาขนาดของสารสกัดท่ที ําใหหนูถีบจกั รตายหมด ตายรอ ยละ 50 (LD50) และไมมีตวั ใดตาย เม่ือใหส ารสกดั ในเวลากลางวันมีคา เทา กับ 1,400, 624.7 และ 200 มิลลิกรมั /กโิ ลกรมั ตามลาํ ดบั แตเมือ่ ใหส ารสกดั ในเวลากลางคนื มคี าเทา กบั 1,600, 773.6 และ 400 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรัม ตามลาํ ดบั แสดงใหเหน็ วา ชวงเวลาของวนั มีผลตอ การออกฤทธข์ิ องสารสกัด10 จหู ลงิ (Polyporus) คอื เห็ดท่มี ีชอ่ื วทิ ยาศาสตรว า Polyporus umbellatus (Pers.) Fires วงศ Polyporaceae6 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ัยดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกดั น้ํามีฤทธ์ิขับปส สาวะในกระตา ยและสุนขั และมฤี ทธิเ์ สริม การทาํ งานของระบบภมู ิคมุ กนั ในหนถู ีบจกั ร สารสกดั นํ้าตาลเชิงซอ นมฤี ทธปิ์ กปองตบั จากสารพิษในหนู 11 8 ถบี จกั ร และสารสกัดแอลกอฮอลมฤี ทธิ์ตานเชอ้ื จลุ ินทรยี  การศึกษาทางคลนิ กิ : เมอ่ื ฉีดสารสกัดนาํ้ ตาลเชงิ ซอ นเขากลา มเน้อื ผปู ว ยโรคไวรสั ตับอักเสบ ครั้งละ 40 มิลลิกรัม วันละคร้งั ติดตอกันนาน 20 วัน แลวใหหยุดยานาน 10 วัน เปนเวลา 3 เดือน

Page 275 254 ตาํ รบั ยาจีนท่ใี ชบ อยในประเทศไทย พบวาใหผ ลในการรักษาไดดี11 การศกึ ษาความปลอดภัย: เมอื่ ฉดี สารสกัดนํา้ ตาลเชิงซอนเขาชอ งทองหนถู ีบจกั รในขนาด 100 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรัม วันละคร้งั ตดิ ตอ กัน 28 วนั ไมพ บอาการผดิ ปกติใด ๆ เมอ่ื ฉีดสารสกัดดงั กลาวเขา ใตผ วิ หนงั หรอื ชอ งทอ งหนูถบี จกั รในขนาด 0.5 และ 0.05 กรมั ตามลาํ ดบั วนั ละครั้ง ติดตอ กันนาน 6 เดือน ไมท ําใหเ กิดโรคมะเร็ง และเมือ่ ฉดี สารสกัดดังกลา วเขาชอ งทองหนูถบี จักรท่กี ําลังตง้ั ทองในขนาด 0.2 กรมั /กโิ ลกรัม ไมทําใหเ กดิ อาการผิดปกตใิ ด ๆ11 ไปจู (Rhizoma Atractylodis Macrocephalae) คือ ลาํ ตนใตดินแหงของพืชท่ีมีชื่อวทิ ยาศาสตร วา Atractylodes macrocephala Koidz. วงศ Compositae6 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ผงยามฤี ทธป์ิ กปองตบั และเพิม่ การทาํ งานของระบบภูมคิ มุ กันในหนู ถีบจกั ร สารสกดั น้าํ เมือ่ ใหห นูถบี จักรทางปากในขนาดเทยี บเทาผงยา 6 กรัม/กิโลกรมั มผี ลเพม่ิ นํ้าหนัก ตวั และความทนทานของหนูถบี จักร นอกจากนีส้ ารสกัดนา้ํ ยงั มีฤทธ์ขิ บั ปสสาวะในหนูขาว กระตาย และ สนุ ัข12 การศึกษาทางคลินกิ : ผงยามฤี ทธิข์ บั ปสสาวะ รกั ษาอาการตบั แข็ง และโรคทองมาน (มนี ้ําขัง ในชองทอ ง)12 การศกึ ษาความปลอดภยั : มีรายงานการศกึ ษาพิษเฉียบพลนั ในหนขู าวโดยการฉีดสารสกดั นํา้ เขาชอ งทอง พบวาขนาดของสารสกัดเทยี บเทาผงยาทีท่ ําใหหนขู าวตายรอยละ 50 (LD50) มคี ามากกวา 13.3 กรมั /กิโลกรมั และเมอ่ื ใหสารสกัดนํ้าทางปากหนขู าวในขนาด 0.5 กรัม/กิโลกรมั ทกุ วนั ติดตอ กนั นาน 30-60 วัน ไมทาํ ใหเกิดอาการพษิ ใด ๆ8 เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรสั ตัง้ อรามวงศ, สุณี จีระจิตสมั พนั ธ, ธีรพงศ ตัง้ อรา มวงศ. ตาํ รับยาอหู ลิงสาน. [เอกสารแปลเพอ่ื การจดั ทําฐานขอมูลยาสมุนไพร จนี ]. นนทบุรี: สถาบันการแพทยไ ทย-จนี เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวง สาธารณสขุ , 2549. 4. Bensky D, Barolet R. Chinese herbal medicine: Formulas & strategies. 1st ed. Seattle: Eastland Press, 1990.

Page 276 ตาํ รบั ยาสลายความชน้ื : อหู ลงิ สา น 255 5. Fan YP, Zhang Q, Zhao XX, Wang XD. Wuling san. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.2. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 6. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 7. Kuang P, Wang SX. Rhizoma Alismatis: ze xie. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 9. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Ma JK. Ramulus Cinnamomi: gui zhi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Hu RJ, Wang SX. Polyporus: zhu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 12. Zhou ZC. Rhizoma Atractylodis Macrocephalae: bai zhu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 277 256 ตํารบั ยาจนี ทีใ่ ชบอยในประเทศไทย ตาเฉงิ ชท่ี งั (大承气汤) ตําราตนตํารับ 伤寒论 ซางหานลนุ (Treatise on Febrile Diseases)1 « ค.ศ 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจง จง่ิ ) »2 สว นประกอบ Radix et Rhizoma Rhei ตา หวง 12 กรมั Cortex Magnoliae Officinalis โฮวพวั่ 15 กรัม 大黄 Natrii Sulphas หมางเซยี ว 9 กรัม 厚朴 Fructus Aurantii Immaturus จอ่ื สือ 12 กรัม 芒硝 枳实 วธิ ใี ช ตม เอาน้าํ ดื่ม โดยตมโฮว พว่ั และจ่อื สือกอ นสกั พัก แลว ใสตา หวงตมตอ รนิ เอานํา้ ยาทต่ี มได 1,3 ขณะรอนมาละลายหมางเซยี ว การออกฤทธ์ิ ทาํ ใหช เ่ี ดินไดสะดวก ขับความรอ น ขบั สงิ่ ตกคา ง และชว ยใหถา ยอุจจาระคลอ ง1,3 สรรพคณุ 1. รกั ษาอาการแกรงของกระเพาะอาหารและลําไส ซง่ึ ทาํ ใหม อี าการทอ งผกู ถายไมออก แนน ทอ ง ผายลมบอย ๆ ปวดทองกดแลวรสู กึ เจบ็ เวลากดจะแขง็ เปน กอน เดยี๋ วรอ นเดย๋ี วหนาว ความรอ น สูง สงผลใหม ีอาการเพอ มือและเทามเี หงอื่ ออก ลน้ิ มีฝา เหลอื งแหง เกดิ เปนตมุ หรอื มรี อยดาํ ไหมแตก 1,3 แหง ชีพจรจม แกรง 2. รกั ษาอาการทีเ่ กิดจากความรอนจดั ซ่งึ แสดงออกโดยมอี าการธาตุแข็ง ถา ยออกมามีแต น้ําใส มกี ลิ่นเหมน็ มาก ประกอบกับทอ งอืด ปวดทองกดไมได เมอ่ื กดจะเปน กอนแขง็ ปากและลิน้ แหง ชพี จรลน่ื แกรง 1,3 3. ผูปวยที่มีอาการรอนแกรงภายใน ซ่ึงแสดงออกโดยมีอาการรอนจัด จะเปนไขชัก และ 1,3 คลุมคลง่ั

ตาํ รบั ยาถา ย: ตาเฉงิ ชท่ี ัง Page 278 257 ตาํ รบั ยา ตาเฉิงชี่ทงั (大承气汤) 2 เซนตเิ มตร ตา หวง (大黄) โฮว พว่ั (厚朴) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร จ่ือสือ (枳实) 2 เซนตเิ มตร หมางเซียว (芒硝)

Page 279 258 ตาํ รบั ยาจีนท่ีใชบอ ยในประเทศไทย ตาํ รับยานสี้ ามารถเพมิ่ หรือลดขนาดยาไดในผูป ว ยท่ีมีอาการรอนจดั ในชว งเวลาส้ัน ๆ โดยมพี ษิ ไขท้ังทีเ่ กดิ จากโรคตดิ ตอ หรอื โรคไมติดตอ หรือลาํ ไสไ มเคลือ่ นไหวชั่วคราวหรือลําไสอดุ ตนั 1,3 คาํ อธบิ ายตาํ รับ สมุนไพร ทาํ หนาท่ี รส คณุ สมบตั ิ สรรพคณุ 大黄 ตาหวง ตัวยาหลัก ขม (โกฐนํา้ เตา ) เย็น ขบั ถา ยของเสียตกคาง สลายกอ น ตัวยาเสริม ขม เผด็ 厚朴 โฮวพั่ว ระบายความรอน หา มเลอื ด แกพษิ ตวั ยาชว ย เคม็ 芒硝 หมางเซยี ว อมขม ชว ยใหเลอื ดมกี ารไหลเวยี นดีขนึ้ (ดีเกลอื ) 枳实 จ่อื สือ ตัวยานาํ พา ขม เผด็ อนุ ชว ยใหช่ีมีการหมนุ เวียน แกค วามช้นื (สมซา) สลายของเสยี ตกคาง ระงบั อาการหอบ เย็น ขบั ถาย สลายกอ นอจุ จาระที่แขง็ ใหออน ตัวลง ระบายความรอน เย็น ขับชล่ี งลา ง สลายกอ น สลายของเสยี เลก็ นอย ตกคา ง ละลายเสมหะ รปู แบบยาในปจ จบุ นั ยาตม ยาชง4 ขอ แนะนําการใช ตาํ รบั ยาน้มี ฤี ทธิ์แรงมาก ดังน้นั หากอาการดขี ึน้ กใ็ หหยุดยา ไมค วรรับประทานยาตอ เพราะจะ ทาํ ลายชี่ของระบบกระเพาะอาหารไดง า ย1,3 ขอควรระวงั ในการใช ตาํ รับยาน้ีเปนยาถายอยางแรง หากสภาพรางกายออนแอหรืออาการทางโรคภายนอกยังไมได แกไข หรอื กระเพาะอาหารและลําไสไ มมีอาการธาตแุ ข็ง ตอ งระมดั ระวังในการใชตํารับยาน1้ี ,3 ขอ หามใช 1,3 หา มใชใ นหญิงมคี รรภ

Page 280 ตาํ รบั ยาถาย: ตาเฉิงชีท่ ัง 259 ขอมูลวิชาการท่เี ก่ียวขอ ง ตาํ รบั ยาตาเฉิงช่ที ัง มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: จากการศกึ ษาในหนูตะเภา หนขู าว และกระตา ย พบวาสารสกัดนํา้ มฤี ทธชิ์ ว ยกระตนุ การบีบตวั ของลําไสใหญ เพิม่ การซึมผา นของของเหลวผานเยอื่ เมือกลาํ ไสใ หญ ทําใหมี ปริมาณนาํ้ ในลําไสใหญมากขนึ้ และชว ยเรงการขับกากอาหารออกจากลาํ ไสใ หญ สารสกดั นํ้ายังมีฤทธิ์ 1,4 ตานเชอื้ แบคทีเรีย ลดอาการปวดบวมในหนูขาว และตา นอกั เสบในหนูตะเภา การศกึ ษาทางคลนิ กิ : ตาํ รับยาตา เฉงิ ชที่ งั มสี รรพคณุ ลดการอกั เสบ ตา นเชื้อแบคทีเรีย ชว ย กระตุน การเคลื่อนไหวของลําไส ชว ยใหการขบั ถายดขี น้ึ สงบสติ และแกอ าการตวั รอ น1,3 ตาหวง [โกฐนา้ํ เตา (Radix et Rhizoma Rhei)] คือ รากและลําตนใตดินแหงของพชื ทม่ี ีชอ่ื วิทยาศาสตรวา Rheum palmatum L. หรือ R. tanguticum Maxim. ex Balf. หรอื R. officinale Baill. วงศ Polygonaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจยั ดานตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสําคัญในโกฐนํ้าเตาโดยเฉพาะสารเซนโนไซด (sennosides) และสารเรอนิ โนไซด (rheinosides) มฤี ทธิ์เปน ยาถายโดยออกฤทธกิ์ ระตุนการบบี ตวั ของลําไสใ หญ ชวย เรง การขับกากอาหารออกจากลําไสใหญ และเพมิ่ การซึมผานของของเหลวผา นเยอ่ื เมือกลําไสใ หญ ทําให 6,7 และแทนนนิ (tannins) ในโกฐน้ําเตามฤี ทธ์ิฝาดสมาน 8 มปี ริมาณนํ้าในลําไสใ หญม ากขนึ้ ทําใหหยุดถา ย การศึกษาทางคลินิก: โกฐนาํ้ เตามีสรรพคุณรักษาอาการทองผูก เลือดออกในระบบทางเดิน อาหารสวนบน กระเพาะอาหารและลําไสอกั เสบเฉียบพลนั 9 การศึกษาความปลอดภัย: การใชโ กฐนาํ้ เตาเกนิ ขนาดอาจทําใหเกดิ อาการปวดเฉียบพลันและ มวนเกร็งในลําไสใหญและอุจจาระเหลวเหมือนนาํ้ ดังนั้นควรใชโกฐน้ําเตาเฉพาะเม่ือไมสามารถแก อาการทอ งผกู ไดด วยการปรบั เปลยี่ นโภชนาการ หรือใชย าระบายชนดิ เพ่ิมกาก ในกรณีทใี่ ชโ กฐนาํ้ เตา แลว มีเลือดออกทางทวารหนัก หรือเมอื่ ใชในขนาดสูงแลว ลําไสย งั ไมมกี ารเคล่อื นไหว อาจบง ถงึ ภาวะ รนุ แรงท่ีอาจเกดิ อันตรายได นอกจากนัน้ การใชติดตอ กนั เปนเวลานานเกินกวาทกี่ ําหนดยงั อาจจะทาํ ให ลาํ ไสเ กดิ ความเคยชนิ ได และหา มใชโกฐน้ําเตาในผปู วยท่มี อี าการปวดเกร็งหรอื ปวดเฉยี บพลันในชองทอง ไตอกั เสบ หรือมีอาการปวดทอ ง คลืน่ ไสอ าเจียนโดยไมทราบสาเหตุ8,10,11 โฮวพั่ว (Cortex Magnoliae Officinalis) คือ เปลือกตนหรือเปลือกรากแหงของพืชท่ีมี ชื่อวทิ ยาศาสตรว า Magnolia officinalis Rehd. et Wils. หรือ M. officinalis Rehd. et Wils. var. biloba Rehd. et Wils. วงศ Magnoliaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจยั ดานตาง ๆ ดังน้ี

Page 281 260 ตํารับยาจีนที่ใชบ อยในประเทศไทย การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารสกดั อีเทอรม ีฤทธ์ิกดประสาทสวนกลางในหนถู ีบจกั ร สารสกดั 50% เอทานอลมฤี ทธิป์ องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหารในหนูขาว สารสกดั น้ําความเขมขน 1:166 มฤี ทธ์กิ ระตนุ กลา มเนื้อเรยี บของลําไสและหลอดลมในหนถู บี จักร แตห ากความเขม ขน ของสารสกดั เพ่มิ ขนึ้ เปน 1:100 จะมีฤทธต์ิ รงกนั ขาม นอกจากนสี้ ารสกดั นํ้ายงั มีฤทธ์ติ า นเชือ้ แบคทเี รียหลายชนิดไดดี12 การศกึ ษาทางคลนิ กิ : โฮวพวั่ มสี รรพคณุ บรรเทาอาการจกุ เสียด แกท องอดื แนน อาหารตกคาง ในลําไส1 2 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนถู ีบจักร พบวา เมอ่ื ใหสารสกดั นา้ํ ทาง ปากขนาดเทียบเทา ผงยา 60 กรัม/กโิ ลกรมั ไมพ บหนูถีบจกั รตวั ใดตายภายใน 3 วนั เมื่อฉีดสารสกดั นา้ํ เขา ชองทองหนถู ีบจกั ร พบวาขนาดของสารสกัดที่ทําใหห นูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทากบั 6.12 กรัม/กโิ ลกรัม อกี การศกึ ษาหนึ่งที่ทําโดยการฉีดสารสกัดน้ําเขาชองทองและใตผ วิ หนงั หนถู บี จกั ร พบวาขนาดของสารสกัดทท่ี าํ ใหห นูถีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทากับ 6.38 และ 2.52 กรมั / กิโลกรัม ตามลาํ ดับ12 หมางเซียว [ดีเกลอื (Natrii Sulphas)] คอื เกลือซลั เฟตของโซเดียม ท่มี นี าํ้ ผลกึ อยู 10 โมเลกลุ มีสูตรเคมี Na2SO4.10 H2O (sodium sulphate decahydrate) มีช่ือสามัญวา Glauber’s salt5 หรือ Mirabilite5,13 การศึกษาทางคลินิก: ดเี กลือมีสรรพคณุ เปนยาถา ย ยาขบั ปส สาวะ รกั ษาอาการถุงนํ้าดอี กั เสบ 13 นวิ่ ในถงุ น้ําดี และขับนํ้าเหลอื งเมอ่ื ใชเฉพาะที่ จื่อสือ [สม ซา (Fructus Aurantii Immaturus)] คอื ผลออ นแหง ของพชื ทม่ี ีชอื่ วทิ ยาศาสตรวา Citrus aurantium L. หรอื C. sinensis Osbeck วงศ Rutaceae5 มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสชั วิทยา: สารสกัดความเขมขน 0.01 มิลลิกรัม/มิลลิลติ ร มีฤทธ์เิ พ่ิมการ เคล่อื นไหวของลาํ ไสก ระตาย ยาฉดี ขนาด 2 0 - 4 0 มิลลกิ รมั /มลิ ลลิ ิตร มฤี ทธ์ยิ บั ยง้ั การหดตวั ของ กลา มเนื้อเรียบของลําไสก ระตา ย และสารสกดั นํ้าเมอื่ ใหทางปากสุนขั ในขนาด 1 กรมั /กโิ ลกรัม มีฤทธ์ิ เพิ่มการเคล่อื นไหวของกลามเน้ือเรียบของลําไสเ ล็ก14 การศึกษาทางคลินิก: สารสกัดน้ํามีสรรพคุณชวยใหการทํางานของกระเพาะอาหารและการ ไหลเวยี นของเลอื ดไปเลีย้ งหวั ใจและสมองดขี ้นึ และรักษาอาการทองผกู เปนประจําในผสู งู อายุไดผลดี14 การศึกษาความปลอดภัย: การศกึ ษาพิษเฉยี บพลันในหนถู บี จกั ร โดยการใหย าฉีดเขาหลอดเลอื ด

Page 282 ตํารบั ยาถา ย: ตาเฉงิ ช่ที ัง 261 ดําและชองทอง พบวา ขนาดของยาฉดี เทียบเทาผงยาทีท่ าํ ใหหนถู บี จักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทา กับ 71.8 และ 267 กรัม/กิโลกรมั ตามลาํ ดับ14 เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรัส ต้ังอรามวงศ, สณุ ี จีระจติ สมั พันธ, ธีรพงศ ตัง้ อรามวงศ. ตํารบั ยาตา เฉิงชีท่ ัง. [เอกสารแปลเพ่อื การจดั ทําฐานขอ มลู ยา สมนุ ไพรจนี ]. นนทบุรี: สถาบันการแพทยไทย-จีน เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Wen LX. Da Chengqi Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicin. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Leng-Peschlow E. Dual effect of orally administered sennosides on large intestine transit and fluid absorption in the rat. J Pharm Pharmacol. 1986; 38: 606-10. 7. De Witte P. Metabolism and pharmacokinetics of anthranoids, Pharmacology. 1993; 47 (Suppl. 1): 86-97. 8. World Health Organization. WHO monograph on selected medicinal plants. Vol. 1. Geneva: World Health Organization, 1999. 9. Li R, Wang BX. Radix et Rhizomarbei: da huang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Reynolds JEF (ed.). Martindale: The extra pharmacopoeia. 30th ed.. London: Pharmaceutical Press, 1993. 11. Blumenthal M, Busse WR, Goldberg A, Gruenwald J, Hall T, Riggins CW, Rister RS (eds.) The complete German Commission E monographs, Therapeutic guide to herbal medicine. Austin (TX): American Botanical Council, 1988. 12. Zhou QM, Wang BX. Cortex Magnoliae Officinalis: hou pu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 13. Yang YF, Xu SK. Mirabilite: mang xiao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. Li W. Fructus Aurantii Immaturus: zhi shi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 283 262 ตํารบั ยาจีนทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย เวินผที งั (温脾汤) ตาํ ราตนตํารับ 备急千金要方 เปยจเ๋ี ชียนจินเอี้ยวฟาง (Thousand Gold Remedies for Emergencies)1 « ค.ศ. 581-682 Sun Simiao (孙思邈 ซุนซอื เหมี่ยว) »2 สวนประกอบ Radix et Rhizoma Rhei ตา หวง 12 กรัม Radix Aconiti Praeparata ฟูจ อื่ (เผา ) 9 กรัม 大黄 Rhizoma Zingiberis กนั เจยี ง 6 กรมั 附子(炮) Radix Ginseng 9 กรมั 干姜 Radix Glycyrrhizae เหรนิ เซนิ 3 กรมั 人参 甘草 กนั เฉา วิธีใช ตมเอานาํ้ ดืม่ โดยแยกตม ฟูจ่ือกอ นตวั ยาอืน่ 30-60 นาที เพือ่ ลดพิษยาใหนอ ยลง และใสต า หวง หลงั จากตมยาชนดิ อนื่ ๆ ในตํารบั ใหเ ดือดแลว ประมาณ 5-10 นาที แลว ตม ตอประมาณ 5 นาท1ี ,3 การออกฤทธ์ิ บํารุงหยาง เสรมิ ความอบอุนใหมา มเพอ่ื ขบั ถายของเยน็ และของเสียท่คี ั่งคางภายใน1,3 สรรพคุณ แกอาการทองรว ง หรอื เปนบิดเนอ่ื งจากความเย็นและของเสยี คงั่ คางภายในจากมา มเยน็ บกพรอง มอี าการทอ งผูก ทอ งเยน็ ปวดทองรอบสะดอื เรอ้ื รงั เวลาไดร บั ความรอ นประคบจะรูส ึกดขี น้ึ หรือเปน บิด เร้ือรงั ปวดทองจกุ แนนใตลิน้ ป มือเทาเยน็ ลนิ้ มีฝา ขาว ชพี จรจมและตึง1,3 ตาํ รับยานีส้ ามารถเพม่ิ หรอื ลดขนาดยาไดตามความเหมาะสมในผปู ว ยโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เร้อื รัง ลําไสอ กั เสบเรื้อรงั ทองผูกจากภาวะหยางพรอ งในกลุมผูปวยโรคเรอื้ รังตา ง ๆ วัณโรคลําไส ทองเสยี เรื้อรังจากหยางพรอ ง ลาํ ไสใ หญอ กั เสบหรอื เปนแผล1,3

ตาํ รับยาถา ย: เวนิ ผที งั Page 284 263 ตํารับยา เวนิ ผที ัง (温脾汤) ตา หวง (大黄) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร ฟูจ่อื (เผา ) [附子(炮)] กันเจียง (干姜) 2 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร กนั เฉา (甘草) 2 เซนตเิ มตร เหรินเซิน (人参)

Page 285 264 ตาํ รบั ยาจนี ท่ีใชบอยในประเทศไทย คาํ อธบิ ายตํารับ สมุนไพร ทาํ หนา ที่ รส คุณสมบตั ิ สรรพคุณ 大黄 ตาหวง ตวั ยาหลัก ขม (โกฐน้ําเตา ) เย็น ขบั ถา ยอุจจาระ ระบายความรอ น ตัวยาหลกั เผ็ด 附子(炮) ตัวยาเสรมิ ขบั พษิ หา มเลอื ด กระจายเลือดชํา้ เผด็ ฟจู อ่ื (เผา ) ตัวยาชว ย ทาํ ใหเลือดหมุนเวียน มีฤทธ์ิ (โหราเดือยไก) ตัวยานาํ พา หวานอม 干姜 กนั เจยี ง ขม คอ นขางแรงในการขบั ถายของเสยี (ขิงแหง) เล็กนอย ที่คัง่ คา ง 人参 เหรินเซิน อมหวาน (โสมคน) รอ น ดึงหยางใหกลับคืน เสรมิ หยาง (มีพษิ )* บาํ รุงไฟธาตุ มีฤทธอิ์ นุ หยางเพื่อ 甘草 กันเฉา (ชะเอมเทศ) สลายความเยน็ ของมาม ระงบั ปวด รอ น ใหความรอ น อบอุนสวนกลาง สลายความเย็น ดงึ หยางใหก ลบั คืน เพื่อกระตนุ ชีพจร ใหค วามอบอนุ แกปอด สลายความชื้น เม่อื ใชรว ม กับฟจู อ่ื จึงเพ่มิ ความแรงของตํารบั อุนเล็กนอย เสรมิ พลงั ช่ี บาํ รงุ หวั ใจและมา ม เสริมปอด สรา งธาตุนํา้ ชวยให จติ ใจสงบ กลาง เสรมิ ช่ี บาํ รงุ สว นกลาง ระบาย คอ นขา งเย็น ความรอ น ขับพิษ แกไอ ขับเสมหะ เล็กนอ ย ปรับประสานตวั ยาทงั้ หมดเขา ดว ยกนั รปู แบบยาในปจจุบนั ยาตม4 * ฟูจือ่ (โหราเดอื ยไก) เปน สมนุ ไพรท่ีมีพิษ ตองฆา ฤทธ์ิยากอ นใช

Page 286 ตํารับยาถา ย: เวินผที ัง 265 ขอควรระวังในการใช ฟูจื่อควรแยกตมกอนตัวยาอื่น 30-60 นาที เพ่ือลดพิษยาใหนอยลง และตาหวงควรใส หลังจากตมยาชนดิ อ่นื ๆ ในตํารบั ใหเดอื ดประมาณ 5-10 นาที แลว จงึ ตม ตอ ประมาณ 5 นาที1,3 ขอ มูลวชิ าการทเี่ กย่ี วของ ตํารับยาเวนิ ผีทัง มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสชั วิทยา: ตาํ รบั ยาเวินผีทังมีฤทธ์ชิ ว ยใหการขบั ถา ยดีข้ึนในหนูถบี จักร4 การศึกษาทางคลนิ กิ : ตาํ รับยาเวนิ ผีทงั มสี รรพคุณแกท อ งผกู ชว ยใหการทาํ งานของไตดขี นึ้ ลดอาการอกั เสบเรือ้ รัง ยกระดับกลไกการทาํ งานของอวยั วะตา ง ๆ ใหดีข้นึ เพ่มิ แรงบบี ตัวของระบบ ทางเดนิ อาหาร กระตุนประสาทสวนกลาง เสริมระบบการยอ ยอาหาร เพิม่ การดูดซึม บํารงุ และกระตนุ 1,3,4 หัวใจ ตาหวง [โกฐน้ําเตา (Radix et Rhizoma Rhei)] คอื รากและลําตน ใตด นิ แหง ของพชื ทม่ี ชี อ่ื วทิ ยาศาสตรวา Rheum palmatum L.หรือ R. tanguticum Maxim. ex Balf. หรือ R. officinale Baill. วงศ Polygonaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวิจัยดา นตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสําคัญในโกฐนา้ํ เตาโดยเฉพาะสารเซนโนไซด (sennosides) และสารเรอินโนไซด (rheinosides) มีฤทธิ์เปนยาถาย โดยออกฤทธิก์ ระตุนการบบี ตัวของลาํ ไสใ หญ ชว ยเรง การขบั กากอาหารออกจากลําไสใ หญ และเพมิ่ การซึมผา นของของเหลวผา นเยือ่ เมือกลําไสใหญ ทําใหมีปริมาณนาํ้ ในลําไสใหญม ากขนึ้ 6,7 และแทนนิน (tannins) ในโกฐนํา้ เตามฤี ทธ์ิฝาดสมาน ทําให 8 หยุดถา ย การศึกษาทางคลินกิ : โกฐนํ้าเตามสี รรพคณุ รักษาอาการทองผกู เลือดออกในระบบทางเดิน อาหารสวนบน กระเพาะอาหารและลําไสอ ักเสบเฉยี บพลนั 9 การศึกษาความปลอดภยั : การใชโ กฐนาํ้ เตา เกินขนาดอาจทาํ ใหเกดิ อาการปวดเฉียบพลนั มวน เกรง็ ในลําไสใหญและอจุ จาระเหลวเหมือนนํา้ ควรใชโ กฐนา้ํ เตาเฉพาะเมอ่ื ไมสามารถแกอาการทองผูกได ดวยการปรบั เปลี่ยนโภชนาการ หรือใชยาระบายชนิดเพิ่มกาก ในกรณที ใ่ี ชโ กฐนา้ํ เตาแลวมีเลือดออกทาง ทวารหนกั หรือเม่อื ใชในขนาดสูงแลว ลาํ ไสยงั ไมมีการเคลื่อนไหว อาจบงถึงภาวะรุนแรงทีอ่ าจเกดิ อนั ตรายได นอกจากนั้นการใชต ิดตอกนั เปนเวลานานเกนิ กวา ที่กําหนดยังอาจจะทาํ ใหล าํ ไสเ กดิ ความเคย ชินได และหามใชโ กฐนาํ้ เตาในผูปวยท่ีมีอาการปวดเกรง็ หรือปวดเฉียบพลนั ในชองทอ ง ไตอกั เสบ หรือมี อาการปวดทอ ง คล่นื ไสอ าเจยี นโดยไมท ราบสาเหตุ8,10,11

Page 287 266 ตํารับยาจีนทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย ฟจู ื่อ (เผา ) [โหราเดอื ยไก (Radix Aconiti Praeparata)] คือ รากแขนงแหงท่ผี า นการฆา ฤทธ์ิ ของพชื ทีม่ ชี ือ่ วทิ ยาศาสตรวา Aconitum carmichaeli Debx. วงศ Ranunculaceae5 การฆา ฤทธิย์ า กอนใช ทําโดยการค่ัวทรายในกระทะดวยไฟแรงจนกระท่ังทรายรอนจัด จากนั้นนําสมุนไพรท่ีห่ันเปน แวน ๆ ใสล งในกระทะ คั่วกับทรายจนกระท่งั สมนุ ไพรมีสเี หลอื งออ น นําออกจากเตา รอนเอาทรายออก แลวตง้ั ทง้ิ ไวใหเ ยน็ มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: ฟูจ ือ่ (เผา) มฤี ทธิล์ ดความดันโลหิตในสุนขั ตานอักเสบในหนู 12 13 ถีบจักร และหนขู าว ระงับปวดในหนถู บี จกั ร และเสริมภูมติ านทานในหนูขาว การศกึ ษาทางคลินกิ : ฟจู ่อื (เผา ) มสี รรพคณุ รกั ษาโรคหัวใจ13 การศึกษาความปลอดภัย: ฟูจ่ือมีพิษมาก ความเปนพิษแตกตางกันมากหรือนอยจะขึ้นอยูกับ แหลง ปลกู อายเุ ก็บเก่ียว วิธฆี าฤทธิข์ องยา และระยะเวลาในการตม มีรายงานวา ฟูจอื่ จากแหลง ตา ง ๆ มคี วามเปนพิษแตกตางกันถึง 8 เทา ฟูจื่อเมื่อฆาฤทธ์ิของยาแลวจะสามารถลดพิษไดมากถึง 81% 12 โดยทั่วไปขนาดของยาท่ีทําใหเปนพิษจะสูงกวาขนาดรับประทานมาก การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนู ถบี จกั ร โดยฉดี สารสกดั น้ําเขาหลอดเลอื ดดาํ พบวา ขนาดสารสกัดเทยี บเทา ผงยาที่ทาํ ใหห นถู บี จกั รตาย รอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทากับ 13.75 กรมั /กโิ ลกรมั และขนาดต่ําสุดของสารสกัดท่ที ําใหห นูขาวตาย เทยี บเทา ผงยา 23.40 กรมั /กโิ ลกรัม13 กันเจียง [ขงิ แหง (Rhizoma Zingiberis)] คอื เหงา แหง ของพชื ที่มีชือ่ วิทยาศาสตรวา Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดานตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา: เมอื่ ใหส ารสกัด 50 % เอทานอลแกห นูถีบจักรทางปากในขนาด 25 มลิ ลิกรมั /กิโลกรมั เปน เวลาติดตอกนั 7 วนั พบวา มีฤทธกิ์ ระตนุ ภูมคิ ุมกนั เมื่อใหในขนาด 200 มลิ ลิกรัม/กโิ ลกรัมพบวา มฤี ทธริ์ ะงับปวดไดอยา งมนี ัยสาํ คัญ และเมื่อใหสารสกัดดังกลาวทางปาก กระตายในขนาด 500 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรมั พบวามฤี ทธ์ิลดไขมนั ในเลือดและมีฤทธ์ติ า นการเกิดภาวะ หลอดเลือดแข็ง สารสกดั อะซโี ตนหรอื 50 % เอทานอล เม่อื ใหทางปากสุนัขในขนาด 25, 50, 100 และ 200 มิลลิกรมั /กิโลกรัม สามารถลดจํานวนครั้งของการอาเจียนจากยาตา นมะเร็งได สว นผลตอการชะลอ การเร่มิ เกิดการอาเจยี นคร้งั แรกนนั้ เฉพาะสารสกดั อะซโี ตนขนาด 100 มิลลกิ รัม/กิโลกรมั หรอื สารสกัด 50 % เอทานอลขนาด 25, 50 และ 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เทานั้นที่สามารถชะลอการเริ่มเกิดการ 14 อาเจียนไดอยางมีนัยสาํ คัญ

Page 288 ตาํ รบั ยาถา ย: เวนิ ผีทัง 267 การศึกษาทางคลินิก: ผงขิงในขนาด 940 มิลลิกรัม มีประสิทธิภาพในการปองกันและลด อาการเมารถเมาเรือไดดี15 เมื่อใหหญิงมีครรภรับประทานขิงผงบรรจุแคปซูลขนาด 1 กรัม นาน 4 วัน ใหผลในการตานการอาเจยี นเนื่องจากต้งั ครรภ และไมพบอาการขางเคียงแตป ระการใด14 นอกจากน้ียงั พบวาขิงชวยบรรเทาอาการปวด และลดการบวมของขอ และยังทําใหหนาท่ีของขอฟนตัวดีข้ึนในผูปวย โรคปวดขอ รูมาตอยด และผูปวยที่มอี าการปวดหลังเรื้อรงั 15 การศึกษาความปลอดภัย: ยังไมพบรายงานเกี่ยวกับการเกิดพิษจากการใชขิงเพียงอยางเดียว และผลจากการศกึ ษาทางคลินิกในผปู ว ยกลมุ ตา ง ๆ ไมพบวาขิงกอ ใหเกิดอาการพษิ แตอ ยางใด เมื่อให สารสกัดขิงดวยน้าํ มันงาในขนาดสูงถึง 1 กรัม/กิโลกรัม แกหนูขาวท่ีต้ังทองในชวงท่ีตัวออนมีการสรา ง อวยั วะ ไมพบพษิ ตอตวั แมและตัวออ นในทอ ง14 เหรินเซนิ [โสมคน (Radix Ginseng)] คอื รากแหง ของพชื ที่มชี อ่ื วทิ ยาศาสตรวา Panax ginseng C.A. Mey วงศ Araliaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: เม่ือใหสารสกัดนาํ้ ทางปากและฉีดเขาชองทองของหนูถีบจักรใน ขนาดเทยี บเทาผงยา 1-3 กรัม/กิโลกรมั มผี ลชวยใหห นถู บี จักรมีความจาํ ดีข้นึ และมีรายงานวา โสมคนมี ฤทธิเ์ พม่ิ ประสิทธภิ าพของระบบภมู ิคุมกนั ของรางกาย โดยการกระตุนระบบภูมิคุมกันของรางกายแบบ ไมเฉพาะเจาะจง นอกจากน้โี สมคนยังชวยปรับการเตน ของหัวใจใหก ลบั สภู าวะปกตเิ รว็ ขึ้น ทาํ ใหเ หนอ่ื ย ชาลง และสามารถทํางานไดนานข้นึ 16 การศึกษาทางคลินิก: การศึกษาทางคลินิก มีรายงานวา เม่ือใหผูปวยที่มีอาการเครียดและ ออ นเพลยี รบั ประทานยาเตรียมทิงเจอรจ ากรากโสมคนความเขม ขน 3% วนั ละ 3 ครงั้ ครั้งละ 5 มลิ ลลิ ติ ร รับประทานติดตอ กันทุกวนั เปน เวลา 5-7 วนั พบวา อาการปวดศรี ษะ นอนไมหลบั เบอ่ื อาหาร ดีขึ้น อยางชัดเจน เม่ือใหผูปวยโรคโลหิตจางรับประทานสารสกัดทุกวัน วันละ 60-120 มิลลิกรัม พบวา นอกจากประสิทธิภาพการทาํ งานของไขกระดูกเพ่ิมขึ้นแลว ยังชวยบรรเทาอาการออนเพลียหรือ เมื่อยลา เบื่ออาหาร เวยี นศีรษะ หัวใจเตน เรว็ ของผูปวยใหดีขน้ึ ดว ย นอกจากนี้โสมคนยงั มีสรรพคุณชว ย เพม่ิ สมรรถนะในการทํางานของรางกายใหส ูงขนึ้ ตานความเมื่อยลา และเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของระบบภูมิคมุ กัน ของรางกาย8,16 การศกึ ษาความปลอดภยั : การศกึ ษาพษิ เฉยี บพลันในหนถู ีบจกั ร พบวา ขนาดของผงยาและ สารสกดั น้าํ เม่อื ใหทางปากทที่ าํ ใหห นถู บี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 5 กรมั /กโิ ลกรัม และ 16 1.65 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดบั

Page 289 268 ตาํ รับยาจนี ท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย กันเฉา [ชะเอมเทศ (Radix Glycyrrhizae)] คือ รากแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Glycyrrhiza uralensis Fischer หรอื G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae- Papillionoidae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ัยดานตา ง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: ชะเอมเทศมฤี ทธิ์คลา ยฮอรโมนคอรท ิโซน (cortisone) ระงับไอ ขบั เสมหะในหนูถีบจักร ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และตานอักเสบในหนูขาว แกแพและเสริมภูมิ ตา นทานในหนูตะเภา12,17 การศึกษาทางคลินิก: ชะเอมเทศมสี รรพคุณระบายความรอน ขับพษิ แกไ อ ขบั เสมหะ โดย ท่วั ไปมักใชเขาในตํารับยารกั ษาอาการไอมีเสมหะมาก พิษจากฝแผล คอบวมอักเสบ หรอื พิษจากยาและ อาหาร โดยสามารถชวยระบายความรอ นและขบั พษิ ได12,17 การศกึ ษาความปลอดภัย: ชะเอมเทศมพี ิษนอ ย แตก ารรับประทานตอเนอ่ื งเปนเวลานาน จะทํา ใหความดันโลหิตสูงขึ้นหรือมีอาการบวม12 การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาขนาดของ สารสกัดเทียบเทา ผงยาเม่ือฉีดเขาใตผวิ หนงั ทท่ี าํ ใหห นูถีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคา เทากบั 3.6 17 กรัม/กโิ ลกรมั เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. สวาง กอแสงเรือง. ตํารับยาเวินผีทัง. [เอกสารแปลเพื่อการจัดทาํ ฐานขอมูลยาสมุนไพรจีน]. นนทบุรี: สถาบันการแพทยไทย-จีน เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยท างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข, 2549. 4. Wen LX. Wenpi Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Leng-Peschlow E. Dual effect of orally administered sennosides on large intestine transit and fluid absorption in the rat. J Pharm Pharmacol. 1986; 38: 606-10. 7. De Witte P. Metabolism and pharmacokinetics of anthranoids, Pharmacology. 1993; 47 (Suppl. 1): 86-97. 8. World Health Organization. WHO monograph on selected medicinal plants. Vol. 1. Geneva: World Health Organization, 1999.

Page 290 ตํารับยาถาย: เวนิ ผที ัง 269 9. Li R, Wang BX. Radix et Rhizomarbei: da huang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Reynolds JEF (ed.). Martindale: The extra pharmacopoeia. 30th ed.. London: Pharmaceutical Press, 1993. 11. Blumenthal M, Busse WR, Goldberg A, Gruenwald J, Hall T, Riggins CW, Rister RS (eds.) The complete German Commission E monographs, Therapeutic guide to herbal medicine. Austin (TX): American Botanical Council, 1988. 12. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 13. Qu SY. Radix Aconiti Lateralis Preparata: fu zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. นงลักษณ สุขวาณิชยศิลป. ขิง. ใน: บพิตร กลางกัลยา นงลักษณ สุขวาณิชยศ ลิ ป (บรรณาธิการ). รายงานผลการศึกษาโครงการ การประเมนิ ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาสมุนไพร. นนทบรุ ี: บรษิ ัท เอส อาร พริน้ ต้งิ แมสโปรดักส จาํ กดั , 2 5 4 4 . 15. สถาบันวจิ ัยสมนุ ไพร เอกสารวชิ าการสมุนไพร. นนทบุรี: กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข, 2543. 16. Zhou QM, Wang Y, Wang BX. Radix Ginseng: ren sheng. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 17. Zhou QL, Wang BX. Radix Glycyrrhizae: gan cao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 291 270 ตาํ รับยาจีนทใ่ี ชบอยในประเทศไทย ไตหวงฟูจอ่ื ทงั (大黄附子汤) ตาํ ราตน ตํารับ 金匮要略 จินคุย เอ้ียวเลีย่ (Synopsis of Prescriptions of the Golden Chamber)1 « ค.ศ. 219 Zhang Zhongjing (张仲景 จางจง จงิ่ ) »2 สว นประกอบ Radix et Rhizoma Rhei ตาหวง 9 กรมั Radix Aconiti Praeparata ฟจู ื่อ (เผา) 9 กรัม 大黄 Herba Asari 3 กรมั 附子 (炮) ซ่ีซนิ 细辛 วธิ ใี ช ตมเอาน้าํ ด่ืม1,3 การออกฤทธ์ิ เสรมิ หยางกระจายความเยน็ ทตี่ กคางในรา งกาย ชว ยใหชี่และเลอื ดหมุนเวียน ขบั ถา ยของเสยี ท่ี ตกคางในลําไสใหญ1,3 สรรพคณุ รกั ษาอาการความเยน็ จับคง่ั อยูในรางกาย มีอาการปวดทอ งนอ ย ทอ งผกู ปวดชายโครง ตวั รอน มไี ข มือเทาเย็น ล้ินมีฝา ขาวและเหนียว ชพี จรตึง แนน 1,3 ตาํ รับยานี้สามารถเพ่ิมหรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคทองผูกอันเนื่องมาจากความ เย็นสะสมค่ังในรา งกาย หรือลาํ ไสอ ดุ ตนั แบบพรอง1,3

ตาํ รบั ยาถา ย: ไตห วงฟูจอ่ื ทัง Page 292 271 ตาํ รบั ยา ไตหวงฟูจ่อื ทงั (大黄附子汤) ตาหวง (大黄) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร ฟูจอ่ื (เผา ) [附子(炮)] ซีซ่ ิน (细辛)

Page 293 272 ตํารบั ยาจนี ที่ใชบ อ ยในประเทศไทย คาํ อธิบายตาํ รับ สมนุ ไพร ทาํ หนา ท่ี รส คณุ สมบัติ สรรพคุณ 大黄 ตา หวง ตวั ยาหลกั ขม เย็น เปน ยาระบาย ขบั ของเสียตกคา ง (โกฐนา้ํ เตา) ตัวยาหลกั เผด็ รอน ใหความอบอุน เสรมิ ความแข็งแรง 附子 (炮) (มีพิษ)* ของไต บํารุงธาตไุ ฟ กระจายความ เยน็ ที่มาจบั บรรเทาอาการปวด ฟจู ื่อ (เผา) (โหราเดอื ยไก) ตัวยาเสรมิ เผ็ด อนุ เสริมความอบอุนใหกับเสน ลมปราณ และสลายความเย็น 细辛 ซซี่ นิ ชวยเสริมหยาง ระงับปวด รปู แบบยาในปจ จุบนั ยาตม4 ขอ ควรระวงั ในการใช โดยทัว่ ไปแลวปรมิ าณของตวั ยาตา หวงทใี่ ชต องไมม ากกวา ตวั ยาฟจู อื่ เม่อื รบั ประทานยาตาํ รับน้ี แลวจะถายอุจจาระดี อาการของโรคจะเขาสูภาวะปกติ หากรับประทานยาตาํ รับนี้แลวไมถาย แตกลับมี อาการคลืน่ ไส อาเจียน มอื เทาเย็น ชีพจรเลก็ ถือวา เปน อนั ตราย ใหหยุดยา1,3 ขอมูลวชิ าการทเี่ กย่ี วขอ ง ตาํ รับยาไตหวงฟจู ่ือทัง มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตา ง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดน้ํามีฤทธิ์เปนยาถาย และชวยปรับอุณหภูมิของรางกายให เปนปกตใิ นหนูถีบจักร4 การศึกษาทางคลินิก: ตาํ รับยาไตหวงฟูจื่อทังมีสรรพคุณเพ่ิมกาํ ลังในการขับของเสีย ชวยให เลือดไหลเวียนดขี ้นึ บาํ รุงหัวใจ ระงบั ปวด และแกท องผูก1,3,4 ตาหวง [โกฐนํา้ เตา (Radix et Rhizoma Rhei)] คือ รากและลาํ ตนใตดินแหงของพืชที่ มีชื่อวิทยาศาสตรวา Rheum palmatum L. หรือ R. tanguticum Maxim. ex Balf. หรือ * ฟูจ่อื (โหราเดอื ยไก) เปนสมนุ ไพรท่ีมีพิษ ตอ งฆาฤทธิ์ยากอ นใช

Page 294 ตํารับยาถา ย: ไตห วงฟูจ่ือทงั 273 R. officinale Baill. วงศ Polygonaceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวิจัยดานตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสําคญั ในโกฐนํ้าเตาโดยเฉพาะสารเซนโนไซด (sennosides) และสารเรอนิ โนไซด (rheinosides) มฤี ทธ์ิเปนยาถายโดยออกฤทธกิ์ ระตุน การบบี ตวั ของลําไสใ หญ ชว ย เรง การขบั กากอาหารออกจากลําไสใ หญ และเพมิ่ การซึมผา นของของเหลวผานเย่ือเมอื กลําไสใ หญ ทําให มปี ริมาณนา้ํ ในลาํ ไสใ หญม ากขน้ึ 6,7 และแทนนนิ (tannins)ในโกฐนาํ้ เตา มีฤทธ์ิฝาดสมาน ทาํ ใหหยดุ ถาย8 การศึกษาทางคลินิก: โกฐนํ้าเตามีสรรพคุณรักษาอาการทองผูก เลือดออกในระบบทางเดิน อาหารสวนบน กระเพาะอาหารและลําไสอักเสบเฉยี บพลนั 9 การศกึ ษาความปลอดภยั : การใชโกฐนํ้าเตาเกนิ ขนาดอาจทําใหเ กิดอาการปวดเฉียบพลันและ มวนเกร็งในลาํ ไสใหญและอุจจาระเหลวเหมือนน้าํ ดังนั้นควรใชโกฐนํ้าเตาเฉพาะเม่ือไมสามารถแก อาการทองผูกไดด วยการปรับเปลี่ยนโภชนาการ หรือใชยาระบายชนิดเพ่ิมกาก เมื่อใชโกฐนาํ้ เตาแลวมี เลือดออกทางทวารหนัก หรือเมื่อใชในขนาดสงู แลว ลาํ ไสย งั ไมม ีการเคล่อื นไหว อาจบงถงึ ภาวะรุนแรงที่ อาจเกิดอันตรายได การใชต ดิ ตอ กนั เปนเวลานานกวา ทกี่ ําหนดยังอาจจะทําใหลาํ ไสเกดิ ความเคยชนิ ได และหามใชโ กฐนาํ้ เตา ในผปู วยท่มี อี าการปวดเกร็งหรือปวดเฉียบพลันในชองทอง ไตอักเสบ หรอื มอี าการ ปวดทอ ง คลื่นไสอ าเจยี นโดยไมทราบสาเหตุ8,10,11 ฟจู ือ่ (เผา) [โหราเดอื ยไก (Radix Aconiti Praeparata)] คอื รากแขนงแหงท่ผี า นการฆา ฤทธิ์ ของพชื ท่มี ีชือ่ วทิ ยาศาสตรว า Aconitum carmichaeli Debx. วงศ Ranunculaceae5 การฆา ฤทธ์ยิ า กอ นใช ทาํ โดยการคว่ั ทรายดว ยไฟแรงจนกระทั่งทรายรอนจดั จากน้นั นําสมุนไพรที่หั่นเปนแวน ๆ ใสล ง ในกระทะ ค่วั กบั ทรายจนกระท่งั สมนุ ไพรมสี เี หลืองออ น นําออกจากเตา รอ นเอาทรายออก แลว ทง้ิ ไวใ หเ ยน็ มรี ายงานการศึกษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ฟูจื่อ (เผา ) มีฤทธลิ์ ดความดนั โลหิตในสุนัข ตา นอกั เสบในหนู ถบี จกั ร และหนขู าว12 ระงบั ปวดในหนูถบี จกั ร และเสรมิ ภูมิตานทานในหนูขาว13 การศกึ ษาทางคลินกิ : ฟจู ่อื (เผา ) 13 มีสรรพคณุ รกั ษาโรคหัวใจ การศกึ ษาความปลอดภยั : ฟจู ือ่ มีพษิ มาก ความเปนพิษแตกตา งกันมากหรอื นอ ยขึน้ อยกู ับ แหลงปลกู อายุเกบ็ เก่ยี ว วธิ ฆี า ฤทธ์ขิ องยา และระยะเวลาในการตม มรี ายงานวา ฟูจ ่ือจากแหลงตาง ๆ มคี วามเปน พิษแตกตา งกันถึง 8 เทา ฟูจ ่ือเมอ่ื ฆา ฤทธ์ิของยาแลว จะสามารถลดพิษไดมากถึง 81% โดยทั่วไปขนาดของยาท่ีทําใหเ ปน พษิ จะสงู กวา ขนาดรบั ประทานมาก12 การศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนู ถีบจกั ร โดยฉีดสารสกัดนํา้ เขา หลอดเลอื ดดาํ พบวา ขนาดสารสกดั เทยี บเทาผงยาทท่ี ําใหหนถู บี จกั รตาย

Page 295 274 ตํารับยาจีนทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย รอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทากับ 13.75 กรัม/กโิ ลกรัม และขนาดตา่ํ สุดของสารสกัดทท่ี ําใหห นูขาวตาย เทียบเทา ผงยา 23.40 กรมั /กโิ ลกรมั 13 ซี่ซิน (Herba Asari) คือ ท้ังตนท่ีทําใหแหงของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Asarum heterotropoides Fr. Schmidt var. mandshuricum (Maxim.) Kitag. หรือ A. sieboldii Miq. หรือ A. sieboldii Miq. var. seoulense Nakai วงศ Aristolochiaceae5 มีรายงานการศึกษาวิจัย ดาน ตาง ๆ ดังนี้ การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: ซซ่ี ินมฤี ทธิ์ลดไขใ นสัตวทดลองหลายชนิด ชว ยใหจิตสงบในหนู ถีบจักร นาํ้ มันหอมระเหยมฤี ทธริ์ ะงับปวดในกระตาย ตา นอักเสบในหนูขาว ชว ยใหก ารทาํ งานของระบบ ทางเดนิ หายใจดขี ึ้นในหนูตะเภา12,14 การศึกษาทางคลนิ ิก: ซี่ซินมสี รรพคณุ ระงบั ปวด บรรเทาอาการปวดศรี ษะ รักษาแผลในปาก แกไขหวดั ไขห วัดใหญ1 2,14 การศกึ ษาความปลอดภัย: การศึกษาพษิ เฉียบพลันในหนูถบี จักร โดยใหส ารสกัดทางปากและ ฉดี เขาหลอดเลือดดาํ พบวาขนาดสารสกัดเทียบเทาผงยาทีท่ ําใหห นถู ีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทากบั 12.37 และ 0.78 กรัม/กโิ ลกรัม ตามลําดบั เมือ่ ฉีดนํา้ มันหอมระเหยเขา ชอ งทองของหนถู บี จักร พบวา ขนาดของน้าํ มนั หอมระเหยทีท่ ําใหห นถู ีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มคี า เทา กบั 1.2 มิลลิลติ ร/ กโิ ลกรมั 14 เอกสารอา งองิ 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. มานพ เลิศสุทธิรักษ. ตํารับยาไตหวงฟูจื่อทัง. [เอกสารแปลเพื่อการจัดทาํ ฐานขอมูลยาสมุนไพรจีน]. นนทบุรี: สถาบันการแพทย ไทย-จีน เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยท างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Wen LX . Dahuang Fuzi Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.1. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Leng-Peschlow E. Dual effect of orally administered sennosides on large intestine transit and fluid absorption in the rat. J Pharm Pharmacol. 1986; 38: 606-10.

Page 296 ตํารับยาถา ย: ไตหวงฟจู อื่ ทัง 275 7. De Witte P. Metabolism and pharmacokinetics of anthranoids, Pharmacology. 1993; 47 (Suppl. 1): 86-97. 8. World Health Organization. WHO monograph on selected medicinal plants. Vol. 1. Geneva: World Health Organization, 1999. 9. Li R, Wang BX. Radix et Rhizomarbei: da huang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. Reynolds JEF (ed.). Martindale: The extra pharmacopoeia. 30th ed.. London: Pharmaceutical Press, 1993. 11. Blumenthal M, Busse WR, Goldberg A, Gruenwald J, Hall T, Riggins CW, Rister RS (eds.) The complete German Commission E monographs, Therapeutic guide to herbal medicine. Austin (TX): American Botanical Council, 1988. 12. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 13. Qu SY. Radix Aconiti Lateralis Preparata: fu zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. Jin G. Herba Asari: xi xin. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.

Page 297 276 ตํารับยาจีนทใี่ ชบ อยในประเทศไทย เปา เหอหวาน (保和丸) ตาํ ราตนตํารับ 丹溪心法 ตันซซี ินฝา (Danxi’s Experimental Therapy)1 « ค.ศ. 1347 Zhu Danxi (朱丹溪 จตู นั ซ)ี »2) สวนประกอบ Fructus Crataegi ซนั จา 180 กรมั Massa Fermentata Medicinalis เสนิ ชฺวี 60 กรัม 山楂 Semen Raphani หลวั ปูจอ่ื 30 กรัม 神曲 Rhizoma Pinelliae ปน เซยี่ 90 กรมั 萝卜子 Poria ฝหู ลิง 90 กรมั 半夏 Pericarpium Citri Reticulatae เฉนิ ผี 30 กรมั 茯苓 Fructus Forsythiae เหลยี นเฉียว 30 กรัม 陈皮 莲翘 ตาํ รบั ยา เปาเหอหวาน (保和丸)

ตาํ รบั ยาชว ยยอยสลาย: เปาเหอหวาน Page 298 277 2 เซนติเมตร ซันจา (山楂) เสินชวฺ ี (神曲) 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร หลอปูจอื่ (萝卜子) 2 เซนตเิ มตร ปนเซี่ย (半夏) ฝูหลิง (茯苓) 3 เซนตเิ มตร 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร เฉินผี (陈皮) เหลียนเฉยี ว (莲翘)

Page 299 278 ตาํ รับยาจีนทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย วิธีใช นําตวั ยาท้งั หมดมาบดเปนผง ใชนํ้าเปน กระสายยาปนเปน ลกู กลอน รบั ประทานครงั้ ละ 6-9 กรมั รับประทานกับนา้ํ ตม สุก หรือนาํ ตวั ยาทั้งหมดมาตมเอาน้ําด่มื โดยปรบั ลดนา้ํ หนักยาลงจากตํารับยา ขา งตน 10 เทา 1,3 การออกฤทธ์ิ 1,3 เจรญิ อาหาร ปรับสมดลุ ของกระเพาะอาหาร สรรพคุณ รักษาอาการที่เกิดจากการกินอาหารมาก มีอาหารตกคาง มีอาการจุกแนนหนาอก ทองอืด บางครั้งปวด พะอดื พะอม เรอเหมน็ เปรีย้ ว เบ่ืออาหาร คลื่นไส หรอื อาจมีอาการทองเสีย ถา ยทอง หรือ กินอาหารเปนพิษ ถายทอ งเหมอื นเปน บิด ล้ินมฝี า เหลอื ง หนาและเหนียว และชพี จรลน่ื ตํารบั ยาน้ีสามารถเพม่ิ หรอื ลดขนาดยาใหเหมาะสมในผปู วยท่ีระบบยอยอาหารไมด ี กระเพาะ อาหารและลําไสอ กั เสบ ซงึ่ เกิดจากการสะสมของอาหารท่ตี กคา งมากเกนิ ไป1,3 คาํ อธิบายตํารับ สมนุ ไพร ทําหนา ที่ รส คณุ สมบัติ สรรพคุณ 山楂 ซนั จา ตัวยาหลัก เปรี้ยวอม หวาน อนุ เล็กนอ ย สลายอาหารท่ีตกคา งในรางกาย 神曲 เสนิ ชฺวี ตวั ยาเสริม ตัวยาเสริม อมหวาน โดยเฉพาะยอยสลายอาหารท่มี ี 萝卜子 หลวั ปจู ือ่ ตวั ยาชว ย เผด็ (เมล็ดหวั ผักกาด) เผด็ อม ไขมันและเน้อื สตั ว 半夏 ปนเซี่ย หวาน เผ็ด อนุ ชว ยยอ ยอาหาร บํารงุ มาม สลาย อาหารทบ่ี ดู และตกคาง กลาง ชว ยใหช ลี่ งตํา่ เจรญิ อาหาร และ สลายอาหารที่ตกคาง อนุ (มพี ษิ )* ขบั ลมและระบายของเสยี ตกคา ง ปรบั กระเพาะอาหารและบรรเทา อาการคล่นื ไส อาเจยี น * ปน เซีย่ เปนสมุนไพรท่มี ีพษิ ตอ งฆาฤทธย์ิ ากอ นใช

Page 300 ตํารบั ยาชวยยอยสลาย: เปา เหอหวาน 279 สมนุ ไพร ทําหนา ที่ รส คุณสมบัติ สรรพคณุ 茯苓 ฝหู ลงิ ตวั ยาชว ย จดื อมหวาน (โปง รากสน) กลาง บาํ รงุ มาม ขับความชนื้ ปรบั ตัวยาชว ย เผ็ด ขม 陈皮 เฉนิ ผี สว นกลางของรางกาย หยดุ ถาย (ผวิ สมจีน) ตัวยาชว ย ขม สงบจิตใจ 莲翘 เหลียนเฉียว อุน ขบั ลมและระบายของเสยี ตกคาง ปรับกระเพาะอาหารและบรรเทา อาการคลื่นไส อาเจียน เยน็ เล็กนอย ระบายความรอ น กระจายและ ขับพษิ รปู แบบยาในปจ จบุ ัน ยาลูกกลอนนํา้ ยาตม 4 ขอ ควรระวังในการใช ตาํ รบั ยานีค้ วรใชอยางระมัดระวังในผปู ว ยทีม่ ีอาการมา มพรองหรือมา มออนแอ หา มรบั ประทาน อาหารรสจัดหรอื มันจัด1,3 ขอมลู วิชาการทเ่ี ก่ยี วขอ ง ตํารับยาเปา เหอหวาน มรี ายงานการศกึ ษาวิจัยดา นตาง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: ตํารบั ยาเปาเหอหวานมีฤทธิ์กระตุนการดูดซึมของลาํ ไสเลก็ และขจดั ของตกคา งในกระเพาะอาหารและลําไสของหนูถบี จกั ร คลายกลามเนอื้ เรยี บของลําไสเ ลก็ กระตาย เพิ่ม การหลัง่ น้าํ ยอ ยในกระเพาะอาหารและการหลงั่ นํ้าดใี นหนขู าว1,4 การศกึ ษาทางคลนิ ิก: ตํารบั ยาเปา เหอหวานมสี รรพคุณชวยในการยอ ยสลายอาหารท่ีตกคาง ชวยใหลาํ ไสและกระเพาะอาหารบีบตัว ยอ ยและสลายอาหาร แกอาเจียน คลน่ื ไส ตา นเชอื้ แบคทีเรีย แก อกั เสบ1,3,4 การศกึ ษาความปลอดภัย: เม่อื ใหยาเปา เหอหวานทางปากหนูถีบจักรขนาด 120 กรัม/กิโลกรมั วันละ 2 คร้ัง เชา-เยน็ ตดิ ตอกนั 7 วัน พบวาไมมีหนถู บี จกั รตวั ใดตาย หนทู ุกตัวมีการเคลอื่ นไหวเปน ปกตแิ ละมีนํา้ หนกั ตวั เพม่ิ ข้นึ อกี การทดลองหนึ่งพบวา ขนาดสงู สุดของยาทหี่ นถู ีบจกั รจะรบั ไดภายใน 24 ชัว่ โมง เมือ่ ใหทางปากคือ 96 กรมั /กโิ ลกรัม และเมื่อฉดี เขาชองทองคอื 72 กรัม/กโิ ลกรมั เม่ือใหย า