Page 301 280 ตํารับยาจีนทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย ทางปากหนขู าวขนาด 32.0, 16.0, 8.0 และ 4.0 กรมั /กโิ ลกรมั วันละคร้ัง ติดตอกัน 4 สัปดาห ไมพบ การเปลยี่ นแปลงของหวั ใจ ตับ มา ม ปอด ไต กระเพาะอาหาร ลาํ ไส และเลอื ด4 ซันจา (Fructus Crataegi) คอื ผลสกุ แหง ของพชื ที่มีชือ่ วิทยาศาสตรว า Crataegus pinnatifida Bge. หรือ C. pinnatifida Bge. var major N.E. Br. วงศ Rosaceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดาน ตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกดั เอทานอลมฤี ทธล์ิ ดไขมนั ในเลอื ดกระตา ย หนขู าว และหนู ตะเภา สารสกดั น้ํามฤี ทธเิ์ พิ่มการไหลเวยี นของเลือดกระตา ย หนูขาวและหนูตะเภา เพิม่ ความแขง็ แรง ใหก บั เซลลก ลา มเนอื้ หัวใจหนขู าว สารสกัดนํ้าและสารสกดั เอทานอลมีฤทธิ์ตานเชอ้ื แบคทีเรยี หลายชนิด6 การศกึ ษาทางคลินกิ : ซนั จามีสรรพคณุ ลดไขมนั ในเลือด ลดความดนั โลหิต บาํ รงุ หัวใจ แก ตบั อกั เสบ แกบ ดิ และลาํ ไสอกั เสบ เพิ่มประสทิ ธิภาพการทํางานของระบบยอ ยอาหาร6 การศกึ ษาความปลอดภยั : การศกึ ษาพษิ เร้ือรังของสารสกัดซนั จาในสัตวทดลอง ไมพ บอาการ ผิดปกตใิ ด ๆ6 เสนิ ชฺวี (Massa Fermentata Medicinalis) คอื ยาเตรียมท่ไี ดจ ากการนําสมนุ ไพรหลายชนดิ ไดแก ลาเหลยี วเฉา (Herba Polygoni Salicifoli) ชิงเฮา (โกฐจฬุ าลาํ พา Herba Artemisiae annuae) ซงิ่ เหริน (Semen Armeniacae Amarum) และสมุนไพรอืน่ ๆ มาผสมกบั แปงหม่ีหรอื เปลือกขาวสาลี หมักไวจนกระทง่ั เกดิ ฟองฟขู ึ้น แลวนาํ มาเตรยี มเปน เสินชฺว7ี มีรายงานการศกึ ษาวิจยั ดา นตา ง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางคลินกิ : เสนิ ชวฺ ีมีสรรพคุณปรับกระเพาะอาหาร ชวยใหก ารยอ ยและการดดู ซึม อาหารไปเลยี้ งสว นตาง ๆ ของรา งกายดีขน้ึ 7 หลวั ปูจ อ่ื [เมลด็ หวั ผกั กาด (Semen Raphani)] คือ เมลด็ สกุ แหงของพชื ท่ีมชี ือ่ วิทยาศาสตรว า Raphanus sativus L. วงศ Cruciferae5 มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดงั น้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนา้ํ มีฤทธ์ลิ ดความดันโลหิตในกระตา ย ตานอกั เสบในหนู ขาว และสลายอาหารทีต่ กคางในหนถู ีบจักร รวมท้งั ตานเช้ือไวรสั ในหลอดทดลอง8 การศึกษาทางคลนิ กิ : หลวั ปจู ื่อมีสรรพคุณลดความดันโลหิต รักษาอาการทองผกู ในผสู ูงอายุ และสตรรี ะดมู ามากผดิ ปกต8ิ การศกึ ษาความปลอดภัย: เม่ือฉดี สารสกัดนา้ํ เขาชองทอ งหนถู ีบจกั ร พบวาขนาดของสารสกดั ที่ทําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มคี าเทียบเทาผงยา 127.4 กรมั /กโิ ลกรมั และขนาดสูงสุดของ สารสกดั เทยี บเทา ผงยาทจ่ี ะรับไดเ ม่ือใหทางปากหนถู บี จักรมีคา เทา กบั 161 กรมั /กิโลกรัม เมื่อฉดี เขา
Page 302 ตาํ รบั ยาชว ยยอยสลาย: เปา เหอหวาน 281 หลอดเลอื ดดาํ มีคา เทากบั 50 กรมั /กโิ ลกรัม เมื่อใหสารสกัดนาํ้ ทางปากหนูขาวขนาดเทียบเทา ผงยา 100, 200 และ 400 กรมั /กโิ ลกรมั /วัน ตดิ ตอกัน 3 สัปดาห ไมพ บอาการผิดปกตใิ ด ๆ และเม่อื ใหยาเมด็ หลวั ปูจือ่ ขนาด 1.6, 16 และ 32 กรมั /กิโลกรัม ทางปากสุนัขติดตอ กัน 30 วัน ไมพบอาการผดิ ปกติใด ๆ8 ปน เซีย่ (Rhizoma Pinelliae) คือ ลาํ ตน ใตด ินแหงทเี่ อาเปลอื กนอกและรากฝอยออกแลว ของ พืชท่มี ชี ือ่ วทิ ยาศาสตรวา Pinellia ternata (Thunb.) Breit. วงศ Araceae5 ปนเซ่ียเปนสมนุ ไพรทมี่ ี พิษ ตอ งฆา ฤทธิ์ยากอนใช โดยนําปน เซย่ี ไปแชนา้ํ จนกระทงั่ นาํ้ ซมึ เขา เนอื้ ในสมนุ ไพร นาํ ขิงสดหั่นเปน แวนตมเอานาํ้ เติมสารสมและสมุนไพรลงไปในนาํ้ ขิงแลวตมจนกระทั่งสามารถมองเห็นเนื้อในสมุนไพร นาํ สมุนไพรออกมา ตัง้ ทง้ิ ไวใ หแ หงหมาด ๆ ห่นั เปนแวนบาง ๆ แลวนาํ ไปทําใหแหง 9 มีรายงานการ ศึกษาวิจยั ดา นตาง ๆ ดังนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา ปนเซี่ยมีฤทธิ์ระงับไอ ขับเสมหะในแมวและสุนัข ตานอาเจียนใน นกพิราบ กระตา ย และสนุ ขั 10 การศกึ ษาทางคลนิ ิก ปน เซย่ี มีสรรพคุณแกอ าเจียน แกท องเสยี 10 การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาความเปนพิษของ ปนเซ่ียมีความสัมพนั ธอ ยา งใกลช ดิ กับกระบวนการแปรรปู และการเตรยี มสารสกัด มีรายงานวา เมื่อให ผงยา (ท่ียังไมผา นการฆา ฤทธ์ิยา) ทางปาก ขนาดที่ทําใหหนูถีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทากบั 42.7 กรัม/กิโลกรัม และเม่ือใหผงยาดงั กลาวในขนาด 2.25, 4.5 และ 9 กรมั /กิโลกรมั วนั ละครง้ั ติดตอ กันนาน 21 วนั พบวาหนูถีบจกั รตายหมด เมือ่ ฉีดสารสกัดปนเซยี่ เขาชองทอ งหนูถบี จกั ร พบวา ขนาดของสารสกัดทท่ี าํ ใหหนถู บี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทียบเทาผงยา 131.4 กรมั /กิโลกรมั ในขณะท่ีสารสกัดจากปนเซี่ยที่ผานการฆาฤทธ์ิยาแลวไมทําใหเกิดพิษเฉียบพลันใด ๆ และการให สารสกดั ปนเซย่ี ท่ผี า นการฆา ฤทธยิ์ าแลว ในขนาด 9 กรมั /กิโลกรมั ทางปากติดตอ กันนาน 21 วัน ไมมี ผลตอ การเปลย่ี นแปลงของนา้ํ หนักตวั และไมพ บหนถู ีบจกั รตัวใดตาย10 ฝูหลิง [โปงรากสน (Poria)] คือ เห็ดที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae5 มรี ายงานการศึกษาวิจัยดา นตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: สารสกัดนํ้ามฤี ทธ์สิ งบประสาทในหนูถีบจกั ร คลายกลา มเน้ือเรียบ 11 ผงยาเม่อื ใหท างปากหนถู ีบจักรในขนาด 100 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรมั มผี ลยบั ย้งั อาการ ของลาํ ไสก ระตาย ผิวหนังอักเสบ สารสกัดน้ําตาลเชิงซอนเมื่อใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 250, 500 และ 1,000
Page 303 282 ตาํ รับยาจนี ทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย มิลลิกรัม/กิโลกรัม วันละครั้ง ติดตอกันนาน 7 วัน มีฤทธิ์เสริมมามใหแข็งแรง และเมอ่ื ฉีดสารสกัด 70% แอลกอฮอลเขา ชอ งทอ งกระตา ยในขนาด 0.5 กรมั /กิโลกรัม วันละครั้ง ติดตอ กันนาน 5 วนั มฤี ทธ์ิ ขบั ปส สาวะ นอกจากนี้ยังพบวาเมือ่ ฉดี ยาเตรียมเขาใตผิวหนังหนขู าวในขนาดเทียบเทาผงยา 1.4 กรมั / กโิ ลกรมั วนั ละครั้ง ติดตอกันนาน 8 วนั มผี ลปกปองตบั ได12 การศกึ ษาทางคลินิก: สารสกดั น้าํ สามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจิตใจไมสงบชนิดเร้ือรัง และมฤี ทธริ์ ะบายความชนื้ และนาํ้ 12 เฉนิ ผี [ผิวสม จีน (Pericarpium Citri Reticulatae)] คือ เปลือกผลสุกที่ทําใหแ หงของพืชที่มี ชื่อวิทยาศาสตรว า Citrus reticulata Blanco วงศ Rutaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: สารสกดั น้าํ มีฤทธิ์ยับยัง้ การหดตวั ของกลา มเน้ือเรียบของลําไสห นู ตะเภา กระตาย และสุนัข มฤี ทธิ์ขับเสมหะและแกห อบในหนูตะเภา ตา นอนมุ ูลอสิ ระในหนขู าว น้าํ มัน หอมระเหยใหความอบอุนและกระตุนการทาํ งานของระบบกระเพาะอาหารและลาํ ไสใ นกระตาย รกั ษานิ่ว ในถุงน้ําดีในสุนขั 13 การศึกษาทางคลินิก: เปลือกสมจีนมีสรรพคุณรักษาอาการช็อคอันเน่ืองจากการติดเช้ือ สารสกดั มสี รรพคุณรกั ษาแผลกลากเกล้ือน บรรเทาอาการแพ และแกอ จุ จาระมีเลือดปน นํา้ มนั หอม ระเหยมสี รรพคณุ รักษานิว่ ในถงุ น้ําดี13 การศึกษาความปลอดภัย: เม่ือฉีดน้ํามันหอมระเหยเขาชองทองหนูถีบจักร พบวาขนาดของ นา้ํ มนั หอมระเหยที่ทําใหหนถู ีบจักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 1 13 มิลลลิ ติ ร/กิโลกรมั เหลียนเฉียว (Fructus Forsythiae) คือ ผลแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Forsythia suspensa (Thunb.) Vahl. วงศ Oleaceae5 มีรายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดานตาง ๆ ดงั น้ี การศกึ ษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกดั น้ํามีฤทธ์ติ า นเชื้อจุลนิ ทรยี ใ นหลอดทดลอง ระบายความ รอ น และลดความดันโลหติ ในกระตาย ตา นอกั เสบและปกปองตับในหนูขาว ระงับอาเจียนในสนุ ัข14 การศึกษาทางคลินกิ : เหลยี นเฉียวมสี รรพคณุ ระบายความรอนและขบั พิษไข แกด ีซา น แก คล่นื ไสอาเจียน14 การศึกษาความปลอดภัย: เมื่อฉีดสารสกัดนา้ํ เขาใตผิวหนังหนูถีบจักร พบวาขนาดของสาร สกัดน้าํ ที่ทาํ ใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทยี บเทา ผงยา 29.37 กรมั /กิโลกรมั อกี การ ศึกษาหน่ึง พบวา ขนาดสารสกดั นาํ้ ท่ีทาํ ใหหนถู ีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) เม่ือใหทางปากและฉีดเขา ชอ งทองมีคา เทียบเทา ผงยา 172.21 และ 28.32 กรัม/กโิ ลกรมั ตามลําดบั 14
Page 304 ตํารบั ยาชว ยยอยสลาย: เปา เหอหวาน 283 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. มานพ เลิศสทุ ธิรกั ษ. ตํารับยาเปา เหอหวาน. [เอกสารแปลเพ่ือการจัดทําฐานขอ มูลยาสมุนไพรจนี ]. นนทบรุ ี: สถาบันการแพทยไ ทย- จนี เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Jiang DX, Liu ZY, Lian ZH, Wang X. Baohe Wan. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.2. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Q SY. Fructus Crataegi: shan zha. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Jiang XL. Shen Qu. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Jiang XL. Semen Raphani: lai fu zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001. 10. Dou CG. Rhizoma Pinelliae: ban xia. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 12. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 13. Li W. Pericarpium Citri Reticulatae: chen pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. Deng WL. Fructus Forsythiae: lian qiao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 305 284 ตํารบั ยาจนี ที่ใชบ อยในประเทศไทย เออรเฉินทงั (二陈汤) ตาํ ราตนตํารบั 太平惠民和剂局方 ไทผ ิงหุยหมนิ เหอจจี้ ฺหวฟี าง (Prescription of Peaceful Benevolent Dispensary)1 « ค.ศ. 1151 Chen Shiwen (陈诗文 เฉนิ ซือเหวนิ ) »2 สว นประกอบ Rhizoma Pinelliae ปน เซยี่ 15 กรัม Poria ฝูหลงิ 9 กรัม 半夏 Rhizoma Zingiberis Recens เซิงเจยี ง 3 กรมั 茯苓 Fructus Mume อเู หมย 1 ผล 生姜 Pericarpium Citri Reticulatae จหฺ วผี ี 15 กรมั 乌梅 Radix Glycyrrhizae Praeparata กนั เฉา (จอื้ ) 3 กรัม 橘皮 甘草 (炙) ตาํ รบั ยา เออรเฉนิ ทงั (二陈汤)
ตาํ รบั ยาขบั เสมหะ: เออ รเฉินทงั Page 306 285 ปน เซี่ย (半夏) 2 เซนตเิ มตร ฝูหลิง (茯苓) 3 เซนตเิ มตร 3 เซนตเิ มตร 2 เซนตเิ มตร เซงิ เจียง (生姜) อูเหมย (乌梅) 2 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร จฺหวผี ี (橘皮) กันเฉา (จอื้ ) [甘草(炙)]
Page 307 286 ตํารับยาจีนท่ใี ชบ อยในประเทศไทย วิธใี ช ตมเอานํ้าด่ืม1,3 การออกฤทธิ์ ขจดั ความช้นื ละลายเสมหะ ปรับสมดลุ ช่ีสว นกลาง1,3 สรรพคุณ รกั ษาโรคทีม่ ีความช้ืนและเสมหะ ซึ่งแสดงออกโดยมอี าการไอ มเี สมหะมากสีขาว แนน หนา อก อดึ อัด คล่ืนไสอาเจยี น วงิ เวียนศีรษะ ใจส่ัน ลนิ้ ชุมและมฝี าขาว ชพี จรล่นื 1,3 ตํารับยานี้สามารถเพ่ิมหรือลดขนาดยาใหเหมาะสมในผูปวยโรคหลอดลมอักเสบ กระเพาะ อาหารอักเสบ ซง่ึ เกดิ จากมเี สมหะชน้ื 1,3 คําอธบิ ายตาํ รับ สมนุ ไพร ทาํ หนาที่ รส คณุ สมบตั ิ สรรพคณุ 半夏 ปน เซ่ยี ตวั ยาหลกั เผ็ด อุน (มพี ษิ )* ขจดั ความชน้ื ละลายเสมหะ กดช่ี 茯苓 ฝหู ลงิ (โปงรากสน) ลงลา ง ระงบั อาเจียน สลายเสมหะ 生姜 เซงิ เจยี ง (ขงิ สด) ที่เกาะกนั เปนกอน 乌梅 อูเหมย ตวั ยาเสรมิ หวาน กลาง ระบายความชืน้ และนํ้า เสริมมา ม (บว ยดํา) 橘皮 จหฺ วผี ี เล็กนอย ใหแขง็ แรง สงบจิตใจ ตัวยาเสรมิ เผด็ อนุ ขับเหงื่อออกจากผวิ กาย ใหค วาม อบอนุ แกสวนกลาง (กระเพาะ อาหาร) ระงบั อาเจียน และใหค วาม อบอนุ แกป อด ระงับไอ ตัวยาเสรมิ เปร้ียว กลาง กักเกบ็ ยินชีข่ องปอด แกไ อ แก ฝาด ทองเสยี สรางธาตุนํ้า แกกระหายนาํ้ ตัวยาชว ย เผด็ ขม อนุ ปรับสมดุลชีข่ องมา มใหแขง็ แรง ขจดั ความช้นื ละลายเสมหะ * ปนเซ่ีย เปนสมุนไพรทมี่ ีพิษ ตองฆา ฤทธ์ิยากอ นใช
Page 308 ตาํ รับยาขับเสมหะ: เออ รเ ฉนิ ทัง 287 สมุนไพร ทําหนาที่ รส คณุ สมบัติ สรรพคณุ ตวั ยานาํ พา หวาน 甘草 (炙) อุน เสริมช่ี บาํ รงุ สวนกลาง ปรบั กนั เฉา (จื้อ) ประสานตวั ยาท้ังหมดเขาดว ยกนั (ชะเอมเทศผดั นํ้าผ้ึง) รปู แบบยาในปจจบุ นั ยาลกู กลอน ยาเมด็ ยาตม 4 ขอ หามใช ตาํ รับยานี้จัดอยูในประเภทเผ็ดและรอนแหง ดังน้ันหามใชในผูปวยท่ีเปนวัณโรคปอดและมี เลือดออก ยนิ พรอง เสมหะแหงและมเี ลอื ดปน1,3 ขอมลู วชิ าการทเ่ี กี่ยวขอ ง ตาํ รับยาเออ รเ ฉนิ ทัง มรี ายงานการศกึ ษาวิจยั ดานตา ง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยา: ตํารับยาเออเฉินทังมีฤทธิ์ขับเสมหะ ระงับไอ บรรเทาอาการหอบ ยบั ยัง้ การหลง่ั นา้ํ ยอ ยและลดความเปนกรดในกระเพาะอาหาร ปกปอ งตบั ฆาเชื้อจลุ ินทรีย ตา นอักเสบ และชว ยใหก ารทํางานของหวั ใจเปน ปกติ1,4 การศึกษาทางคลินิก: ตํารับยาเออเฉินทังมีสรรพคุณบํารุงกระเพาะอาหาร แกอาเจียน ขับ เสมหะ ระงับอาการไอไดดี สามารถปอ งกนั และรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลําไสไ ด1 ,3,4 ปนเซ่ีย (Rhizoma Pinelliae) คือ ลาํ ตนใตดินแหงท่ีเอาเปลือกนอกและรากฝอยออกแลว ของพืชที่มีชื่อวทิ ยาศาสตรวา Pinellia ternata (Thunb.) Breit. วงศ Araceae5 ปน เซ่ยี เปนสมุนไพร ทมี่ พี ิษ ตอ งฆา ฤทธ์ิยากอ นใช โดยนาํ ปน เซ่ยี ไปแชใ นน้าํ สารสม (ความเขม ขน 8%) จนกระทั่งมองเหน็ เนือ้ ในสมุนไพร เมื่อชิมดูจะรสู กึ ลิน้ ชาเลก็ นอ ย จากนัน้ นาํ ไปลางนาํ้ ใหส ะอาด หัน่ เปน แวน หนา ๆ แลว 6 นําไปทําใหแหง มรี ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ดา นตาง ๆ ดงั นี้ การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: ปนเซี่ยมีฤทธร์ิ ะงับไอ ขับเสมหะในแมวและสนุ ขั ตานอาเจยี นใน นกพริ าบ กระตา ย และสุนัข7 การศึกษาทางคลินกิ : ปนเซ่ยี มีสรรพคุณแกอาเจียน และแกท อ งเสีย7
Page 309 288 ตาํ รบั ยาจีนทใ่ี ชบอยในประเทศไทย การศึกษาความปลอดภัย: การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวาความเปนพิษของ ปนเซ่ยี มีความสมั พนั ธอยา งใกลช ิดกับกระบวนการแปรรูปและการเตรยี มสารสกดั มรี ายงานวา เมือ่ ให ผงยา (ที่ยังไมผ า นการฆาฤทธิ์ยา) ทางปาก ขนาดทท่ี าํ ใหห นถู ีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคา เทา กับ 42.7 กรัม/กิโลกรมั และเมอื่ ใหผ งยาดงั กลา วในขนาด 2.25, 4.5 และ 9 กรัม/กโิ ลกรมั วันละครั้ง ตดิ ตอกนั นาน 21 วนั พบวา หนูถบี จักรตายหมด เมือ่ ฉีดสารสกัดปนเซ่ยี เขาชองทองหนูถีบจกั ร พบวา ขนาดของสารสกัดท่ีทําใหห นถู บี จกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี าเทยี บเทาผงยา 131.4 กรมั /กิโลกรัม ในขณะท่ีสารสกัดจากปนเซี่ยท่ีผานการฆาฤทธ์ิยาแลวไมทําใหเกิดพิษเฉียบพลันใด ๆ และการให สารสกัดปน เซีย่ ทผ่ี านการฆาฤทธิ์ยาแลวในขนาด 9 กรมั /กโิ ลกรัม ทางปากติดตอกันนาน 21 วัน ไมมี ผลตอการเปลย่ี นแปลงของน้าํ หนกั ตัว และไมพบหนถู ีบจักรตัวใดตาย7 ฝูหลิง [โปงรากสน (Poria)] คือ เห็ดที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae5 มรี ายงานการศกึ ษาวิจัยดานตา ง ๆ ดังน้ี การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา: สารสกดั นํ้ามีฤทธสิ์ งบประสาทในหนถู ีบจกั ร คลายกลามเน้ือเรียบ ของลาํ ไสก ระตา ย8 ผงยาเมือ่ ใหท างปากหนถู บี จกั รในขนาด 100 มิลลิกรมั /กโิ ลกรัม มีผลยับยง้ั อาการ ผวิ หนังอักเสบ สารสกดั นา้ํ ตาลเชงิ ซอนเม่อื ใหทางปากหนูถีบจกั รในขนาด 250, 500 และ 1,000 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรัม วันละคร้ัง ติดตอกันนาน 7 วัน มีฤทธิ์เสริมมามใหแข็งแรง และเม่อื ฉีดสารสกัด 70% แอลกอฮอลเขา ชองทองกระตา ยในขนาด 0.5 กรัม/กโิ ลกรมั วันละครั้ง ติดตอกนั นาน 5 วนั มีฤทธขิ์ ับปส สาวะ นอกจากน้ียังพบวาเมือ่ ฉีดยาเตรยี มเขา ใตผวิ หนงั หนูขาวในขนาดเทยี บเทาผงยา 1.4 กรมั /กโิ ลกรมั วนั ละครั้ง ตดิ ตอกนั นาน 8 วัน มีผลปกปอ งตับได9 การศึกษาทางคลินิก: สารสกดั นาํ้ สามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจิตใจไมสงบชนดิ เรือ้ รัง และมีฤทธิร์ ะบายความช้นื และนาํ้ 9 เซิงเจียง (ขิงสด Rhizoma Zingiberis Recens) คือ เหงาสดของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Zingiber officinale (Willd.) Rosc. วงศ Zingiberaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ัยดานตาง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวิทยา: นา้ํ ค้ันมีฤทธิ์ตานการอาเจียนไดผลดี และนาํ้ ค้ันในระดับความ เขม ขนต่ํา ๆ จะเพม่ิ แรงบีบตวั ของลําไสห นโู ดยไมท าํ ใหค วามตึงตวั ของลาํ ไสเ ปลย่ี นแปลง แตใ นระดบั ความเขมขนสูง ๆ จะลดแรงบบี ตวั และความตงึ ตวั ของลําไสอยา งชดั เจน รวมทั้งสามารถเพ่ิมแรงบีบตวั ของลําไสเล็กสนุ ขั 10 นอกจากน้ีนา้ํ ค้ันขิงแกยังมีฤทธย์ิ ับย้งั เช้อื ราในชอ งปาก11
Page 310 ตํารับยาขบั เสมหะ: เออรเ ฉนิ ทัง 289 การศึกษาทางคลินิก: ขิงสดมีสรรพคุณรักษาโรคไขหวัดจากการกระทบลมเย็น แกคลื่นไส อาเจียน แกกระเพาะอาหารอกั เสบเรอ้ื รัง แกท อ งเสีย12 การศกึ ษาความปลอดภยั : เมอื่ ฉดี น้าํ ค้ันขิงสดท่มี คี วามเขมขน 20% เขา หลอดเลอื ดดําหนู ถบี จักร พบวาขนาดท่ที าํ ใหหนูถีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทา กับ 1.5 กรมั /กิโลกรมั อาการพษิ ทีท่ าํ ใหส ัตวต าย คอื ชักและหยดุ หายใจ10 อูเหมย [บว ยดาํ (Fructus Mume)] คือ ผลสกุ แหงของพชื ท่ีมชี อื่ วิทยาศาสตรว า Prunus mume (Sieb.) Sieb. et Zucc. วงศ Rosaceae5 มรี ายงานการศึกษาวิจัยดา นตา ง ๆ ดังน้ี การศึกษาทางเภสัชวทิ ยา: ผลบวยดํามฤี ทธ์เิ สรมิ ภูมติ า นทานในหนูถบี จักร สารสกัดนํ้ามีฤทธ์ิ ฆาและขับพยาธไิ สเ ดือนในสนุ ัข เพิ่มการหลงั่ นํ้าดี และปอ งกนั หรือลดการติดเช้อื ในทอ นา้ํ ดี สารสกัดนาํ้ มฤี ทธิ์แกแพในหนูถบี จักร สารสกัดนา้ํ สวนทต่ี กตะกอนดว ยเอทานอลมฤี ทธิ์ตา นเชอื้ จุลินทรยี ใ นหลอด ทดลอง13 การศึกษาทางคลินิก: ผลบวยดาํ มีสรรพคุณฆาพยาธิไสเดือนและพยาธิปากขอ แกปวดทอง บรรเทาอาการกระเพาะอาหารอักเสบ ถงุ นา้ํ ดอี ักเสบชนดิ เร้ือรงั และลําไสเปน แผลอักเสบ13 จฺหวีผี [ผวิ สมจีน (Pericarpium Citri Reticulatae)] คือ เปลอื กผลสกุ ที่ทําใหแ หง ของพชื ที่มี ชือ่ วทิ ยาศาสตรว า Citrus reticulata Blanco วงศ Rutaceae5 มีรายงานการศึกษาวจิ ยั ดานตา ง ๆ ดงั นี้ การศกึ ษาทางเภสชั วทิ ยา: สารสกดั นํา้ มฤี ทธิย์ ับย้ังการหดตัวของกลา มเนือ้ เรียบของลําไสห นู ตะเภา กระตา ย และสุนขั มฤี ทธข์ิ บั เสมหะและแกหอบในหนูตะเภา ตา นอนมุ ูลอิสระในหนขู าว นํ้ามนั หอมระเหยจฺหวีผีมีฤทธ์ิเพิ่มความอบอุนและกระตุนการทาํ งานของระบบกระเพาะอาหารและลําไสใน กระตาย และรกั ษานิ่วในถงุ นํา้ ดใี นสนุ ัข14 การศกึ ษาทางคลนิ กิ : ผิวสม จีนมสี รรพคุณรักษาอาการชอ็ คอนั เนอื่ งจากการติดเช้อื สารสกดั มี สรรพคณุ บรรเทาอาการแพ และแกอจุ จาระมีเลอื ดปน น้ํามันหอมระเหยมีสรรพคณุ รักษานิว่ ในถุงนํ้าด1ี 4 การศึกษาความปลอดภัย: เมือ่ ฉีดนํา้ มันหอมระเหยเขา ชอ งทอ งหนูถีบจักร พบวา ขนาดของ น้ํามนั หอมระเหยท่ที ําใหห นูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากับ 1 มิลลิลติ ร/กิโลกรมั 14 กันเฉา (จื้อ) (ชะเอมเทศผัดนาํ้ ผงึ้ Radix Glycyrrhizae Praeparata) คอื รากแหง ของพชื ทมี่ ี ช่อื วทิ ยาศาสตรว า Glycyrrhiza uralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae5 เตรียมโดยนาํ นา้ํ ผ้งึ บรสิ ุทธ์มิ าเจือจางดว ยนํ้าตม ในปริมาณท่เี หมาะสม ใสช ะเอมเทศทหี่ ัน่ เปนแวน ๆ หรอื เปน ชน้ิ ๆ ตามตอ งการ (อตั ราสว นของสมนุ ไพร:นํ้าผ้ึง เทากบั 4:1)
Page 311 290 ตํารบั ยาจนี ทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย แลว คลกุ ใหเขา กัน หมักไวส กั ครเู พ่อื ใหน้าํ ผึง้ ซึมเขาในตัวยา จากนั้นนําไปผัดในภาชนะทเ่ี หมาะสมโดยใช ระดับไฟปานกลาง ผดั จนกระทั่งมีสเี หลืองเขม และไมเหนยี วติดมือ นําออกจากเตา แลวตัง้ ท้ิงไวใ หเ ยน็ 6 ชะเอมเทศมีคุณสมบัติเปน กลางคอนขางเยน็ เล็กนอ ย มีรสอมหวาน มสี รรพคุณระบายความ รอ น ขับพษิ แกไอ ขับเสมหะ โดยทวั่ ไปมักใชเขา ในตํารับยารกั ษาอาการไอมเี สมหะมาก พษิ จากฝแผล คอบวมอักเสบ หรอื พษิ จากยาและอาหาร โดยสามารถชว ยระบายความรอนและขบั พิษได หากนาํ มาผัด นา้ํ ผ้ึงจะทาํ ใหม ีคุณสมบตั อิ ุน มีรสหวาน มีสรรพคณุ บํารงุ มามและกระเพาะอาหาร เสรมิ ชี่ ทาํ ใหก ารเตน ของชพี จรมีแรงและกลบั คืนสภาพปกติ โดยท่ัวไปมกั ใชเขา ในตาํ รบั ยารักษาอาการมา มและกระเพาะ อาหารออ นเพลยี ไมมีแรง ชขี่ องหัวใจพรอง ปวดทอง เสน เอ็นและชีพจรตงึ แข็ง ชีพจรเตนไมสมํ่าเสมอ และชีพจรเตน หยดุ อยา งมีจงั หวะ มรี ายงานผลการศึกษาเปรยี บเทียบปริมาณกรดกลีไซรไ รซิก (glycyrrhizic acid) ในชะเอมเทศที่ผัดน้ําผงึ้ และไมไดผ ดั พบวาชะเอมเทศผดั นา้ํ ผ้ึงจะมปี ริมาณสารดงั กลาวนอยกวา ชะเอมเทศทไ่ี มไ ดผดั รอยละ 47-60 ทั้งนีข้ ึ้นอยกู ับคุณภาพของเครอ่ื งยา6 การศกึ ษาวิจัยของชะเอมเทศผดั นา้ํ ผงึ้ มีดังนี้ การศกึ ษาทางเภสชั วิทยา: มีรายงานการศึกษาเปรยี บเทียบฤทธเิ์ สรมิ ภมู คิ ุมกนั ของชะเอมเทศ ทผี่ ดั นํ้าผง้ึ และไมไดผดั พบวา ฤทธเิ์ สรมิ ภูมิคุมกนั ของชะเอมเทศผดั นํ้าผ้ึงจะแรงกวาชะเอมเทศไมไ ดผดั มาก ดงั นน้ั ชะเอมเทศผดั นํ้าผึ้งจึงนบั เปน ตวั ยาที่มสี รรพคุณบาํ รุงช่ีท่ีดีที่สุดในทางคลินิก6 เอกสารอา งอิง 1. Zhang E. Prescriptions of traditional Chinese medicine: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. 6th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999. 2. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 3. จรัส ต้ังอรา มวงศ, สณุ ี จรี ะจิตสมั พันธ, ธรี พงศ ตั้งอรามวงศ. ตํารบั ยาเออรเฉนิ ทัง. [เอกสารแปลเพอ่ื การจัดทาํ ฐานขอมลู ยา สมุนไพรจีน]. นนทบุรี: สถาบันการแพทยไทย-จีน เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 4. Ru K, Wang XD. Erchen Tang. In: Xia M (ed.). Modern study of the medical formulae in traditional Chinese medicine. Vol.2. 1st ed. Beijing: Xue Yuan Press, 1997. 5. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol. 1. English edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 6. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001.
Page 312 ตํารบั ยาขับเสมหะ: เออ รเฉนิ ทัง 291 7. Dou CG. Rhizoma Pinelliae: ban xia. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 8. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 9. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 10. สถาบันวิจยั สมุนไพร. เอกสารวิชาการสมนุ ไพร. นนทบรุ ี: กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข, 2543. 11. สรอ ยศริ ิ ทวีบูรณ. ขงิ . ใน: บพิตร กลางกัลยา นงลักษณ สุขวาณชิ ยศลิ ป.(บรรณาธกิ าร) รายงานผลการศกึ ษาโครงการ การ ประเมินประสิทธภิ าพและความปลอดภัยของยาสมนุ ไพร. นนทบุรี: บริษทั เอส อาร พร้นิ ต้ิง แมสโปรดกั ส จํากดั , 2544. 12. Zhao GB. Rhizoma Zingiberis Recens: sheng jiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 13. Ran MX, Xie BZ. Fructus Mume: wu mei. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 14. Li W. Pericarpium Citri Reticulatae: chen pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 313 292 ตํารบั ยาจีนท่ีใชบ อ ยในประเทศไทย อภธิ านศพั ท กลอมครรภ (安胎 อนั ไท): Anti-abortion กลอมครรภ หมายถึงบํารุงทารกในครรภใหม กี ารเคลอ่ื นไหวเปนปกติ กลมุ อาการเยน็ แทร อนเทยี ม (真寒假热 เจินหานเจีย่ เรอ): Pseudopyretic cold กลุมอาการเย็นแทรอนเทียมเกิดจากยนิ เพิม่ สงู มาก เกิดความเย็นสะสมในรางกาย และขับไล หยางไปอยูทสี่ ว นนอกของรา งกาย ทําใหม ีอาการเยน็ ท่ีสวนในรางกาย ไดแ ก ทอ งเดนิ ชพี จรออน และมี อาการรอนสวนนอกของรา งกาย ไดแ ก มไี ขแ ตชอบหม ผา โหนกแกมแดง คอแหง ชีพจรใหญไมม ีแรง กลมุ อาการรอ นแทเย็นเทยี ม (真热假寒 เจนิ เรอเจยี่ หาน): Pseudofrigid heat กลุมอาการรอ นแทเ ย็นเทียมเกิดจากหยางเพม่ิ สูงมาก เกิดความรอนสะสมคง่ั อยูภายในรางกาย และหยางชไี่ มส ามารถไปสปู ลายมือปลายเทาได มอี าการรอ นแทท ีส่ ว นในรา งกาย ไดแ ก กระวนกระวาย รอ นท่อี กและทอ ง ทอ งผกู ปากแหง ลน้ิ แดง และมีอาการเยน็ เทยี มทส่ี ว นนอกของรา งกาย ไดแก กลวั หนาวเล็กนอย แตไมชอบหม ผา แขนขาเยน็ ออนแรง ชพี จรเลก็ ของเหลวในรา งกาย (津液 จนิ เย่ีย): Body fluid and its metabolism ของเหลวในรา งกาย คอื ของเหลวทั้งหมดทมี่ ีอยใู นรา งกายตามธรรมชาติ มีความสําคญั ตอการ ทํางานของอวยั วะตาง ๆ ของเหลวในรา งกายแบงเปน 2 ชนิดใหญ ๆ คือ 1) จิน (津 body fluid) เปน ของเหลวใสไหลไปมา เปนหยาง ทําหนาท่แี ทรกซมึ หลอเล้ียงผวิ หนัง กลามเนื้อ ชอ งเปดตา ง ๆ 2) เยยี่ ( 液 liquid) เปนของเหลวเหนยี วขน เปน ยิน ทําหนา ทีห่ ลอ ลนื่ ขอตอ ไขกระดูก สมอง อวยั วะภายใน จิน และเยี่ยสามารถเปลยี่ นแปลงเปน ซ่งึ กันและกนั ได ถาจนิ ลดลงจะทําใหเยย่ี ลดลง ถาเยีย่ ลดลงก็จะทําให จนิ ลดลงได สมดลุ ของของเหลวในรา งกาย เกิดจากการทาํ งานรว มกันของมา ม ปอด และไต ความ ผดิ ปกตขิ องอวยั วะเหลานจี้ ะมีผลกระทบตอ การสรา ง การไหลเวยี น และการขับถา ยของเหลว อาจทาํ ให ของเหลวสรางไมเพียงพอ การไหลเวยี นตดิ ขดั มนี าํ้ คั่ง ความชนื้ (湿 ซอื ): Damp ความชื้น มีลกั ษณะสาํ คญั คอื ขนุ ขน เหนยี ว หนืด และหนัก ซึมแพรอ อกไปผา นยาก ดังนนั้ โรคช้นื มักเปน โรคเรื้อรงั หายยาก ความชน้ื แบงเปน 2 อยา ง คือ 1) ความชืน้ ภายนอก (外湿 ไวซอื ) พบมากในฤดูรอน เปนการชถ้ี ึงความช้นื จากภายนอกแทรกแซงรางกายคนเรา เชน ตากฝน การอยูอาศยั
Page 314 ภาคผนวก 1: อภิธานศัพท 293 ในที่ชืน้ แฉะหรือแชนา้ํ เปน ประจํา แลวกอใหเ กิดโรคขึ้น 2) ความช้นื ภายใน (内湿 เนย ซือ) เปนการชี้ถึง สภาพการปวยและการลําเลียงทบี่ กพรองของมามและกระเพาะอาหาร ทําใหเ กดิ ความชน้ื ภายในขึ้น มา ม เปน อวัยวะท่ชี อบแหงไมช อบช้นื ดังนัน้ สภาพชน้ื จึงมผี ลตอ หนา ท่ขี องมาม ทําใหส มรรถภาพการทาํ งาน ของมา มลดลง และขดั ขวางการลาํ เลียงของของเหลว ดังนนั้ ความช้ืนภายในจงึ เกิดจากมามเปนสําคัญ นอกจากนโี้ รคชนื้ ยังอาจเกิดจากสขุ นสิ ยั ในการกนิ อาหารท่ไี มถูกตอ ง โรคชนื้ ภายในจงึ มกั พบอาการท่ีเกดิ ทางมา มและกระเพาะอาหาร เชน เบ่อื อาหาร คลนื่ ไส ทอ งเสยี เปน ตน ความเย็น (寒 หาน): Cold ความเย็น เปนสาเหตหุ นง่ึ ของโรคได และสามารถนาํ มาอธบิ ายถึงสาเหตแุ ละอาการ ลกั ษณะ อาการทีเ่ กดิ จาก “ความเยน็ ” ไดแ ก มีอาการเยน็ หนาว หด หนดื แข็งตัว จับเปนกอ น หรอื ไม กระปรี้กระเปรา ไมม ีชวี ติ ชีวา ความเย็นแบงเปน 2 อยาง คือ 1) ความเย็นภายนอก (外寒 ไวห าน) เปน สาเหตุจากอณุ หภูมิสง่ิ แวดลอมเปลีย่ นแปลงและลดลงทําใหเกดิ เจบ็ ปวย ความเยน็ มักรวมกับลมและชน้ื ทาํ ใหเ กิดโรค 2) ความเยน็ ภายใน (内寒 เนยหาน) ในสภาวะทอ่ี วยั วะภายในเปนโรค มักรสู ึกหนาวเยน็ มือเทา เย็น หนาขาวซดี ล้ินจะมฝี า ขาวและชุม ชพี จรจม เบา-เล็ก ความรอนอบอา ว (暑 ส)ู : Summer heat ความรอนอบอาวเปนลมฟาอากาศของฤดูรอนถึงกอนฤดูหนาว ความรอ นอบอาวเปนสาเหตุ ของโรคภายนอกเทานัน้ ไมมีความรอนอบอา วทก่ี อตวั จากภายในรางกาย โรคความรอนอบอาวมักเกิดใน ฤดูรอ นทีม่ อี ากาศรอนจดั หรืออยูกลางแดดจดั นานเกินไป หรือทาํ งานอยูในท่ีมอี ากาศรอ นอบอาว ทําให รา งกายเสียเหงอ่ื เสียนํา้ มาก เกิดอาการเปนลมวิงเวยี นหนา มดื ช็อก หมดสติ ความแหง (燥 เจา): Dryness ความแหง หมายถึงอากาศแหงแลง ซึ่งเปนปรากฏการณของการเปลี่ยนแปลงอยางหนึ่งของ ธรรมชาติ และยงั อธิบายถงึ พยาธสิ ภาพของโรคดวย ความแหง แบง เปน 2 อยา ง คอื 1) ความแหง ภายนอก (外 燥 ไวเจา) มักพบในตนฤดูใบไมรวง มีคุณสมบัติ คือ แหงแลง ชุมชื้นนอย ซึ่งจะ กระทบกระเทือนตอปอดและทาํ ใหเสียน้ํามาก ในทางการรักษาอาศัยสังเกตจากตนเหตุและอาการของ โรค แบงเปน “แหง อนุ (温燥 เวินเจา)” หมายถงึ เมอื่ อากาศแหง-รอ น ทาํ ใหผ ปู วยมีอาการรอน และ “แหง เยน็ (凉 燥 เหลยี งเจา)” หมายถงึ เมอื่ อากาศแหง-เย็น ทําใหผูปว ยมีอาการเย็น 2) ความแหง ภายใน (内燥 เนยเจา) สว นมากมสี าเหตมุ าจากโรครอนแบบเร้อื รงั ทาํ ใหย ินพรอ ง
Page 315 294 ตาํ รับยาจนี ท่ใี ชบ อยในประเทศไทย จิตใจ (神 เสนิ ): Spirit จติ ใจมี 2 ความหมาย คือ 1) ความหมายอยางแคบ จติ ใจ คอื อารมณ ความรสู ึก ความคดิ 2) ความหมายอยา งกวา ง จติ ใจ คอื การแสดงออกมาภายนอกของการทํางานของรา งกาย เชน สหี นา แววตา ทา ทาง การเคลือ่ นไหว การพูด การตอบสนอง เปนตน ช่ี (气): Qi, Vital energy ช่ี (พลัง) มีความหมาย 2 อยาง คือ 1) เจ้ิงช่ี (正 气 ) พลังภายในรางกาย หมายถึง ความสามารถของรางกายในการปรับสมดุลตาง ๆ การปองกันโรค และการฟนฟูซอมแซมรางกายใน ภาวะปกติ 2) เสียชี่ (邪气) พลังภายนอกรา งกาย หมายถงึ อทิ ธิพลและปจจยั ตาง ๆ ท่ีกอ ใหเ กิดโรค ไดแ ก ลม ไฟ ความรอ น ความเยน็ ความชืน้ ความแหง และอนื่ ๆ จงชี่ (中气): Middle-warmer energy จงชส่ี รางมาจากอาหาร เมื่อกระเพาะอาหารยอยอาหารแลว มา มดูดซมึ สารอาหาร กลัน่ กรองจน บริสทุ ธเิ์ กดิ เปนพลงั หลอเลยี้ งสว นกลางของรางกาย จิงช่ี (精气): Jingqi จงิ ชี่ หมายถึงสารจาํ เปน ทห่ี ลอเล้ยี งและหมนุ เวียนทวั่ รา งกาย ชีจ่ มลงขางลาง (气陷 ชเี่ ซ่ียน): Qi-depletion ช่ีของมามไหลเวียนลอยขึ้นบนสงสารอาหารไปสรางชี่และเปนแรงควบคุมเหน่ียวร้ังชวยให อวัยวะภายในมีตําแหนงยึดเกาะมน่ั คง ถา มามพรองทําใหช ี่พรอ งจมลงขางลาง อวัยวะภายในจะหยอนลง ขา งลา ง มอี าการแนน ถว งในทอ งและเอว ปส สาวะบอย อจุ จาระบอย หายใจขดั พูดเสยี งเบา ชพี จรออ น เบา ชี่ติดขัด (气滞 ชจ่ี อ้ื ): Stagnation of qi ชตี่ ิดขัดไมไ หลเวียน (พลงั สะดดุ ) หมายถึงอาการของโรคทเี่ กดิ ขึน้ เนอ่ื งจากการไหลเวียนของ พลงั ติดขดั ทั้ง ๆ ทพ่ี ลงั คงมอี ยตู ามปกติ จึงเปนอาการท่สี มรรถภาพถกู จาํ กัดไว จัดเปน ภาวะแกรง ช่ีพรอ ง (气虚 ช่ีซวฺ )ี : Asthenia of qi, Pulmonary asthenia ชี่พรอง (พลังพรอง) หมายถึงสภาวะท่ีสมรรถภาพของรางกายลดลง มีอาการออนเพลียไมมี
Page 316 ภาคผนวก 1: อภิธานศัพท 295 แรง ไมอาจทนตอ ความหนาวเยน็ ชพี จรไมมีแรง เนอ่ื งจากตาํ แหนงที่เปน โรคตางกัน อาการพลงั พรองจึง แสดงออกไดหลายแบบ อาการพลังพรอ งท่ีพบบอ ย ไดแก พลงั มา ม-กระเพาะอาหารพรอ ง พลงั ปอด พรอง และพลังไตพรอง ช่ีสวนทางลอยขึ้น (气逆 ช่หี น้ี): Adverse rising of qi ช่ีไหลเวยี นสวนทางลอยขน้ึ หรอื ชย่ี อนกลับ เปนปรากฏการณท ่สี มรรถภาพของอวยั วะผิดปกติ โรคทเ่ี กดิ เพราะพลงั ยอนกลับ เชน พลงั ปอดยอนกลบั เกิดเพราะเสมหะเปน เหตุ ทาํ ใหไอ หอบ พลัง กระเพาะอาหารยอนกลับ อาการท่ีพบบอ ย ไดแก ทอ งอดื ทองแนน เบื่ออาหาร ชี่ไหลเวียนผดิ ปกติ (气机失调 ช่ีจซี ือเถยี ว): Disturbance of qi activity ชมี่ ีทศิ ทางการไหลเวียนขึ้นลงเขา ออกแนนอน ชวยใหยิน-หยาง เลอื ด ชขี่ องอวยั วะภายใน และ ระบบเสน ลมปราณมกี ารไหลเวยี นและทํางานเปนปกติ ความผิดปกติในการไหลเวยี นของชจี่ งึ กอใหเ กดิ ความผดิ ปกติของอวยั วะภายใน เสน ลมปราณ เลอื ด ชี่ และสมดุลยิน-หยางทวั่ รางกาย เวย ชี่ (卫气): Weiqi เวย ช ่ี หมายถงึ พลังท่เี ดินอยูนอกเสน ชีพจรหรอื นอกหลอดเลือด ทําหนา ท่ีบํารุงเลย้ี งรา งกายให อบอนุ ปองกนั ไมใหผวิ หนังถกู อทิ ธิพลและปจ จัยภายนอกตาง ๆ ท่กี อใหเ กดิ โรคจโู จม เหวียนช่ี (元气): Renal qi เหวียนช่ี เปนพลงั ทสี่ ําคญั ทีส่ ดุ ในรา งกาย เปลีย่ นแปลงมาจากสารจําเปน และช่ีทีเ่ ก็บสะสมใน ไตเปนหลัก เปนพลังดั้งเดิมตั้งแตอยูในครรภท่ีไดรับถายทอดมาจากบิดามารดา ความแข็งแกรงหรือ ออ นแอของเหวยี นชี่ ยงั ไดรบั อทิ ธพิ ลจากอาหาร การฝกฝน การใชแ รงงาน สภาพจิตใจ การเจบ็ ปวย อ๋ิงช่ี (营气): Essential substance circulating in vessels อิ๋งช่ี หมายถึงพลังท่ีเดินตามชีพจรหรือเดินในหลอดเลือด ทาํ หนาที่หลอเลี้ยงและหมุนเวียน ทัว่ รางกาย
296 Page 317 ชพี จร (脉 มาย): Pulse ตาํ รบั ยาจนี ที่ใชบอยในประเทศไทย 尺 ฉอ่ื 关 กวน 寸 ชนุ ภาพแสดงลักษณะของชพี จร 浮 ลอย ใตผ ิวหนัง 中 กลาง ชพี จรเตนอยูสว นบน 沉 จม ชีพจรเตน อยูสวนกลาง ชพี จรเตน อยูสว นลึก กระดูก ภาพแสดงระดับการเตน ของชพี จรทต่ี รวจพบในแตละระดับ แรงกดของน้ิว เบา กลาง หนัก
ภาคผนวก 1: อภิธานศัพท Page 318 297 ชพี จรใหญ ความกวา งของหลอดเลือด ชพี จรเลก็ มากกวา ปกติ กวาปกติ ประมาณ 2 ซม. ชีพจรเลก็ กวาปกติ ภาพแสดงความกวางของชีพจร การเปรยี บเทียบชพี จรแนน ใหญ ความกวา งของชีพจรใหญก วาปกติ ภาพแสดงชีพจรแกรง (实脉 สอื มาย) ใตผ วิ หนัง ตอ งใชแ รงกดน้วิ มากกวาปกติ ชพี จรจม จงึ จะพบการเตน ของชพี จร กระดกู ภาพแสดงชีพจรจม (沉脉 เฉนิ มา ย) ชีพจรเปน เสนตรง ตึงเหมอื นกดเสน สายขิม ภาพแสดงชีพจรตึง (弦脉 เสียนมา ย)
Page 319 298 ตาํ รับยาจีนท่ีใชบอ ยในประเทศไทย ชพี จรแกรง (实脉 สือมา ย): Sthenia pulse ชีพจรแกรง มีแรง ลักษณะของชีพจร คอื การเตน ของชีพจรจะเต็มมพี ลงั และมแี รงท้ังกดเบา กดแรง ชพี จรลกั ษณะนสี้ ว นมากเกีย่ วขอ งกับโรคแกรง ชีพจรจม (沉脉 เฉินมาย): Sunken pulse ชีพจรจม ลักษณะของชพี จรคอื ใชนว้ิ จับบนชพี จรเบา ๆ จะไมพบ ตองกดลกึ จงึ จะพบการเตน ของชพี จร ชีพจรจมมักเกดิ กบั ผปู วยเปนโรคที่เกดิ จากภายในเปนหลกั ชพี จรตึง (弦脉 เสียนมา ย): Wiry pulse, string-like pulse ชีพจรตงึ ลักษณะของชพี จร คือ การเตนของชีพจรจะตึงและยาวเหมือนจบั สายขมิ เมื่อใชน ิว้ สมั ผสั จะพบไดง ายและชดั เจนเปนเสนตรง ถาหากชพี จรตงึ ลน่ื ออ น เบา เปนเสนตรงมักพบในคนปกติ หรือผปู ว ยโรคไมรา ยแรง ถา เปน โรครายแรงจะพบชีพจรตงึ เหมือนจับอยูบ นคมมดี ใชนิ้วสมั ผัสจะรสู ึก ทงั้ คมและแขง็ แสดงวา เวยช ใี่ กลจะหมดแลว ชีพจรลกั ษณะน้ีสวนมากเปนโรคเกยี่ วกับโรคตับ โรคถงุ น้ําดี โรคเจบ็ ปวดตา ง ๆ หรือโรคเสมหะอุดตัน ชพี จรตงึ แนน (紧 脉 จนิ่ มา ย): Tense pulse ชีพจรตึงแนน ลักษณะของชพี จร คือ ชพี จรตงึ แนนกระชัน้ เหมือนเชอื กหมนุ เปน เกลียว ใชนวิ้ กดท้ังซา ยและขวาเหมอื นมแี รงตา นกลบั ตึงและมแี รงมากกวา เสยี นมา ย (ชีพจรตึง) ชีพจรลักษณะนี้ สวนมากเปนโรคเกี่ยวกับการทมี่ คี วามเยน็ แกรง อาการเจ็บปวด หรืออาหารตกคางอดุ กน้ั ภายใน ชีพจรเตน ชา (迟脉 ฉอื มา ย): Retarded pulse ชพี จรเตนชา ลกั ษณะของชีพจรคอื การเตนของชพี จรชา การหายใจเขา ออกหนึง่ ครั้งจะมกี าร เตนของชีพจร 3~4 คร้ัง ชพี จรเตน ชา สว นมากเกย่ี วกบั โรคเยน็ หรอื ยังมโี รครอนซอ นอยภู ายใน ชพี จรเตนเชอ่ื งชา (缓脉 หวนมาย): Even pulse ชีพจรเตนเช่อื งชา เปน จงั หวะ ลกั ษณะของชีพจรคอื เตน ชาอยางสมาํ่ เสมอ หายใจเขา ออก 1 ครัง้ ชีพจรจะเตน 4 ครงั้ ลกั ษณะของชพี จรแบบนี้แบง เปน 2 แบบ คอื 1) ชพี จรเตนชา เปน จังหวะ อยางสมํา่ เสมอ การหายใจเขาออก 1 ครั้ง เตน 4 ครั้ง ลักษณะชีพจรแบบนี้ถือวาเปนชีพจรท่ีปกติ 2) ชีพจรเตนชาเปน จงั หวะ ออ น และไมมแี รง สว นมากเก่ยี วกบั มามพรอง ช่กี ับเลอื ดไมเพียงพอ พลงั ชี่ ไมม แี รง ลักษณะชีพจรดงั กลาวเกี่ยวกบั โรคความช้นื ปดกั้น ทําใหห ยางช่ตี ดิ ขดั และเลอื ดหมนุ เวียนชา ลง
ภาคผนวก 1: อภิธานศพั ท Page 320 299 ชีพจรตึงรัดแนน ตงึ เหมอื นเกลียวเชือก ภาพแสดงชพี จรตึงแนน (紧 脉 จ่ินมาย) หายใจ 1 ครั้ง ใตผ ิวหนัง ชพี จรเตนชา หายใจ 1 คร้งั เตน 3 ครั้ง ชพี จรเตน เชอ่ื งชา หายใจ 1 ครั้ง เตน 4 คร้งั ชพี จรเตน เร็ว หายใจ 1 ครัง้ เตน 5 ครงั้ กระดกู ภาพแสดงชีพจรเตน ชา (迟脉 ฉอื มาย) ชพี จรเตน เช่อื งชา (缓脉 หว นมา ย) และชีพจรเตนเร็ว (数脉 สมู าย) การหายใจเขาออก 1 ครงั้ การเตน ของชีพจรชา เล็ก และสน้ั ฝด เหมือนมดี ปอกไมไผไปมาเบา ๆ ภาพแสดงชีพจรฝด (涩脉 เซอ มา ย)
Page 321 300 ตาํ รบั ยาจีนทใ่ี ชบ อยในประเทศไทย ชพี จรเตนเรว็ (数脉 สูมาย): Rapid pulse ชีพจรเตน เร็ว ลกั ษณะของชีพจรคอื ชพี จรเตนรวดเร็ว หายใจเขา ออกหนึง่ ครง้ั ชพี จรเตน 5-6 คร้งั ถาชพี จรเตนเรว็ มีแรง จะเกยี่ วของกบั โรครอนแกรง ความรอ นจะสูงจดั ถาชีพจรเตน เร็วไมมแี รง จะเกีย่ วขอ งกับโรครอ นพรอง ชพี จรฝด (涩脉 เซอ มาย): Uneven pulse ชพี จรฝด ลกั ษณะของชพี จร คือ ชีพจรทั้งเล็กและเดนิ ชา ไปมาฝด ไมร าบรื่น เตนแรงไม สมาํ่ เสมอ ถาใชนว้ิ สมั ผสั จะรสู ึกเหมือนกับใชใ บมีดอันเลก็ กรีดบนไมไผ ชพี จรลกั ษณะนีส้ ว นมากเปน โรคเกี่ยวกับเสมหะ หรืออาหารตกคา งภายใน ชี่ตบี ล่ิมเลือดอุดตัน ชีพจรพรอ ง (虚脉 ซฺวมี าย): Deficient pulse ชพี จรพรอง ลกั ษณะของชพี จร คอื การเตนของชพี จรจะออนนมุ มาก เมอื่ ใชน ว้ิ กดเบาการเตน ของชพี จรจะไมมีแรง หากใชน ว้ิ กดแรงการเตน ของชีพจรจะหายไป ชพี จรลกั ษณะนห้ี มายรวมถึงชพี จร ทั้งหลายทไ่ี มม ีแรง สว นมากเก่ียวขอ งกบั โรคพรอ ง ชีพจรลอย (浮脉 ฝมู า ย): Floating pulse ชีพจรลอย ลักษณะของชีพจร คือ การเตนของชีพจรอยูใกลกับผิวดานบน เมื่อใชน้ิวมือกด เบา ๆ กส็ ามารถสัมผสั ถงึ การเตนของชพี จร เมือ่ กดแรงกลับไมพบ ชพี จรลอยมกั เกิดจากโรคภายนอก หรือหยางพรอ งภายใน แตความรอนเทียมลอยอยภู ายนอก ถา สาเหตุเกิดจากโรคแกรง และภมู ิตา นทาน ของรางกายยงั ไมพรอ ง ชีพจรจะลอยมีแรง ถาภมู ติ านทานของรา งกายพรอง ชพี จรจะลอยไมม ีแรง ชีพจรลอยออ น (濡脉 หรมู าย): Soft pulse ชีพจรลอยออน ลักษณะของชพี จร คือ ชพี จรลอย เลก็ และออ น เมือ่ ใชน ิ้วสมั ผัสชพี จรจะไมม ี แรง เหมอื นเกสรดอกไมล อยอยบู นน้าํ หากใชน วิ้ สมั ผัสเบา ๆ จะมชี พี จรเตน แตถ าจับหนักเกนิ ไปจะไม ชัดเจน ชีพจรลกั ษณะนี้สวนมากเปน โรคเก่ียวกับรางกายออ นแอพรอ งและความช้นื อุดก้นั ชพี จรลืน่ (滑脉 หฺวามาย): Slippery pulse ชพี จรลนื่ ลักษณะของชพี จร คอื การเตน ของชีพจรราบรนื่ ไมติดขดั เมื่อใชน ว้ิ สมั ผสั จะลน่ื เหมอื นไขมกุ ชพี จรลักษณะนี้สว นมากเปนโรคเกี่ยวกับเสมหะ อาหารไมย อ ยหรือตกคา ง ความรอนแกรง ตา ง ๆ
ภาคผนวก 1: อภิธานศพั ท Page 322 301 การเคลือ่ นไหวของชีพจรตาํ่ และออน ความกวา งของชพี จรเล็กกวา ปกติ ชนุ กวน ฉอ่ื ความยาวของชีพจรไมถ ึงฉ่ือ ลกั ษณะของชีพจรเตนออนนุม ภาพแสดงชพี จรพรอ ง (虚脉 ซฺวีมาย) ใตผ วิ หนัง ชีพจรลอย กระดูก การเตนของชีพจรเบาเหมอื นไมเ บาลอยอยูบนผวิ น้ํา ภาพแสดงชพี จรลอย (浮脉 ฝมู า ย) ใตผ วิ หนัง ชพี จรลอยออนนุมเล็ก ไมมแี รง ภาพแสดงชีพจรลอยออ น (濡脉 หรูมาย)
Page 323 302 ตาํ รับยาจนี ทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย 浮 ลอย ใตผวิ หนัง 中 กลาง 沉 จม กระดกู ภาพแสดงชีพจรลนื่ (滑脉 หฺวามาย) การเตนของชีพจรข้ึนและลงท้ังสูงใหญแ ละยาว ความกวา งของชีพจรใหญกวาปกติ การหายใจเขา ออก 1 ครง้ั จงั หวะการเตนขนึ้ ชีพจรจะแรงใหญม ีพลังมาก จงั หวะการเตนลงชีพจรจะออนเบเล็กนอย ฉื่อ กวน ชนุ ชพี จรเตนเลยฉื่อกวนชุน ภาพแสดงชีพจรใหญ (洪脉 หงมาย)
Page 324 ภาคผนวก 1: อภิธานศพั ท 303 ชีพจรเลก็ (细脉 ซี่มาย): Thin pulse ชพี จรเล็ก ลกั ษณะของชพี จรคอื ชีพจรเล็กเหมือนสายไหม เม่ือใชนว้ิ สัมผสั การเตนของชพี จรก็ ยังชัดเจน มคี วามรูสึกวา ชพี จรเลก็ มากและตรงนุม แตกดอยา งไรกไ็ มข าด ชพี จรเลก็ สว นมากเก่ียวขอ ง กบั โรคทเ่ี กิดจากชแ่ี ละเลอื ดพรอ งทัง้ สองอยา ง ชพี จรใหญ (洪脉 หงมาย): Bounding pulse, full pulse ชพี จรใหญ ลกั ษณะของชพี จรคอื ชีพจรลอยกวางใหญ มาแรงไปออ น มาใหญไปยาว สว นมาก เกย่ี วกบั ความรอ นในรางกายสงู มาก ทําใหหลอดเลอื ดขยาย ถา ผูปวยเปน โรคเรอ้ื รังจะพบลักษณะการ เตนของชพี จรลอยใหญ แสดงวาโรคนน้ั จะเปนหนักมากขึน้ ถา ตรวจพบชพี จรลอยใหญ เตนสม่าํ เสมอ ในขณะที่อากาศรอ น ถือวา รางกายแขง็ แรงเปน ปกติ ปญจธาตุ (五行 อูสิง): Five elements ปญ จธาตุ (ธาตุทงั้ หา ) ไดแ ก ธาตุไม ไฟ ดิน ทอง และน้ํา ในทางแพทยจนี ถอื วา ปญจธาตุเปน องคประกอบอยใู นสง่ิ ตาง ๆ ทําใหสง่ิ ท้ังหลายมลี ักษณะ คุณสมบัติ ปฏิกิริยา และรปู รางตาง ๆ กันไป รวมทั้งเปน สาเหตุใหมีการเปลี่ยนแปลงตาง ๆ เกิดข้นึ โดย “ธาตไุ ม” มีลักษณะพเิ ศษคือ เกดิ ใหมไ ด เจรญิ เตบิ โตได และออนนุม ไดแก ตบั ถงุ นา้ํ ดี “ธาตไุ ฟ” มลี กั ษณะพิเศษคือ รอน ไดแก หวั ใจ ลาํ ไส เล็ก “ธาตดุ ิน” มลี กั ษณะพิเศษคือ ใหก าํ เนดิ แกส รรพส่งิ ไดแ ก มาม กระเพาะอาหาร “ธาตทุ อง ” มี ลักษณะพเิ ศษคอื สะอาด บรสิ ุทธ์ิ แขง็ และมคี วามสามารถในการดูดซบั ไดแก ปอด ลําไสใ หญ “ธาตุ น้าํ ” มลี ักษณะพิเศษคือ ทาํ ใหเกดิ ความชุม ชนื้ ไหลลงสทู ี่ต่าํ ไดแ ก ไต กระเพาะปสสาวะ ไฟ (火 ห่วั ): Fire ไฟมีระดับความรุนแรงมากกวารอน เมื่อรอนถึงที่สุดจะเปนไฟ ซ่ึงนอกจากจะมีสาเหตุจาก อิทธิพลภายนอกมากระทบตอรางกายทําใหเกิดรอนและเปลี่ยนเปนไฟไดแลว ยังอาจจะมีสาเหตุจาก อวยั วะภายในเกดิ โรค หรือจิตใจอารมณถ ูกกระตนุ จนทาํ งานมากเกินไป ซงึ่ เรยี กวา ไฟภายใน เชน ไฟ ตบั (肝火 กานหวั่ ) และไฟหวั ใจ (心火 ซนิ หัว่ ) เปนตน ยิน-หยาง (阴阳): Yin-yang ยิน-หยาง เปนทฤษฎีพ้ืนฐานทางการแพทยจีนท่ีอาศัยคุณสมบัติของยิน-หยาง มาอธิบาย รางกายของมนุษย โดย “ยิน” หมายถึง เย็นหรือที่รม สวน “หยาง” หมายถึง รอนหรือท่ีแจง การแพทยจีนใช ยิน-หยาง มาอธบิ ายปรากฏการณท่ตี รงกันขามและขัดแยง กนั ในรางกาย ยิน-หยาง เปน
Page 325 304 ตํารับยาจนี ท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย สิง่ ตรงขามกนั แตต องอยูด วยกัน พึง่ พาอาศยั กนั ควบคุมซึ่งกนั และกันใหอยูในสมดลุ เชน รา งกายและ แขนขาเปน หยาง อวัยวะภายในเปนยิน โดยธรรมชาติ “ยิน-หยาง แบงไดแ ตแ ยกจากกันไมได” ลกั ษณะ ของ ยิน-หยาง สามารถนํามาอธบิ ายปรากฏการณข องการปว ยได โดย ยนิ ปวยเปนโรคใน ภาวะพรอง อาการเยน็ สว นหยาง ปวยเปน โรคนอก ภาวะแกรง อาการรอน ระบบเสนลมปราณ (经络 จงิ ล่ัว): Meridians and collaterals ระบบเสน ลมปราณจําแนกเปน 1) เสน ลมปราณหลกั (经 จิง) คอื เสน ลมปราณใหญ มีเสน ทาง แนนอน สว นมากปรากฏอยูในสว นทีล่ ึก เชน ฝง อยูในกลา มเนื้อ จดั เปนยนิ 2) เสน ลมปราณยอ ย (络 ลั่ว) คือแขนงยอ ยของเสน ลมปราณหลัก สว นมากพบอยตู ามที่ตน้ื ข้นึ มา จัดเปนหยาง เสนลมปราณยอ ย จะเชอ่ื มโยงเสนลมปราณหลักกบั อวัยวะภายใน เนอื้ เย่ือ และสว นตาง ๆ ของรางกาย กลายเปน ระบบ เสนลมปราณ เสนลมปราณทําหนาที่ควบคุมการไหลเวียนและสมดุลของพลัง รวมท้ังควบคุมการ ไหลเวยี นของเลอื ด บาํ รุงรกั ษากระดกู หลอลื่นเอน็ และไขขอ ตา ง ๆ ท่ัวรา งกายใหส ามารถเคลื่อนไหวได คลองและเปน ปกติ โรคภายนอก (表证 เปย วเจิง้ ): Superficial syndrome โรคภายนอกมักพบในระยะแรกของโรคที่เกิดจากปจจัยภายนอก เชน ไขหวัดที่เกิดจากการ กระทบลมรอ นหรือลมเย็นในระยะแรกของโรค โรคภายใน (里证 หลเี่ จง้ิ ): Interior syndrome โรคภายในมักพบในระยะกลางและระยะทา ยของโรคที่เกิดจากปจจัยภายนอก เพราะในระยะ กลางและระยะทา ยของโรคประเภทน้ีมักพบวา อาการของโรคภายนอกไดแ ปรเปลีย่ นและแพรกระจาย เขาไปถึงอวยั วะภายใน ทําใหเกดิ เปน โรคภายในได โรคภายในไมไดเกดิ จากปจจัยภายนอกอยางเดยี ว อาจเกิดจากพลงั และเลอื ดของอวัยวะภายในเสยี สมดุล หรอื ความตา นทานของโรคลดลง ทําใหเ กิดเปน โรคภายในได โรคเยน็ (寒冷病 หานเหลิ่งปง): Cryopathy โรคเย็น คือ โรคท่ีเกดิ จากสภาพยินมากเกินไป รา งกายบางสว นออนแอลงกวาปกติ ทาํ ใหเกิด อาการเย็น เชน มอื เทา เย็น ตัวเยน็ หนาวสัน่ ไมกระหายน้ํา ลน้ิ ขาวซีด โรครอน (热病 เรอ ปง ): Pyreticosis โรครอน คือ โรคท่ีเกิดจากสภาพหยางมากเกินไป รางกายเกิดการตอบสนองอยางแรงตอ
Page 326 ภาคผนวก 1: อภิธานศพั ท 305 โรคภยั ไขเ จบ็ ทาํ ใหเ กดิ อาการรอน เชน มไี ข ปากแหง คอแหง กระหายน้าํ ทองผกู ปส สาวะขดั และมสี ี เขม ลิ้นแดง ชพี จรเตนเร็วและแรง โรคระบาด (流行病 หลิวสงิ ปง): Epidemic disease โรคระบาดเปนโรคตดิ ตอทเ่ี กิดจากเชื้อโรค โรคระบาดมีลักษณะเฉพาะดังนี้ 1) โรคท่ีเกดิ อยา ง รวดเร็ว อาการรนุ แรงและคลายคลึงกนั มีอาการเหมอื นกลุม อาการท่เี กดิ จากไฟแตรนุ แรงกวา เชน ไขส งู กระวนกระวาย คอแหง ลนิ้ แดง มีฝา เหลอื ง มักมีกลุมอาการความช้นื รว มดว ย เปน ตน 2) โรคที่ติดตอ ไดง าย ระบาดแพรกระจายอยา งรวดเรว็ อาจพบชุกชุมเปน แหง ๆ หรอื ระบาดอยา งกวางขวาง มีทั้งโรค ระบาดชนิดไมรายแรงและชนิดรายแรงทําใหถึงตาย เชน ไฟลามทุง คางทูม ไทฟอยด อหิวาตกโรค เปน ตน ลม (风 เฟง ): Wind การแพทยจ นี ใช “ลม” มาอธิบายสาเหตุและอาการของโรคที่มีการเปลยี่ นแปลงคอนขางเรว็ ลม แบง เปน 2 อยา ง คอื 1) ลมภายนอก (外风 ไวเฟง ) เปน สาเหตุภายนอกทเี่ หน่ยี วนําใหเกดิ โรค เชน หวดั 2) ลมภายใน (内 风 เนย เฟง ) เปนการชใี้ หเ หน็ วา อวยั วะภายในเปน โรค ทําใหเกดิ กลมุ อาการ เจบ็ ปว ย เชน อาการเวียนศีรษะ ลมชกั อาการเหลา น้เี กดิ และพฒั นาอยา งเฉยี บพลัน และมีลกั ษณะเดน แสดงใหเ หน็ ในสภาพเคลื่อนไหว เลือด (血 เซวย่ี ): Blood เลอื ด เปนวตั ถุพน้ื ฐานของพลังอยา งหนงึ่ สารจําเปนอาศัยปอดกับหวั ใจ และการทํางานของจง เจยี ว ทําใหเกิดชีท่ ีเ่ ดินตามชีพจร และเกิดเปนเลือดแดง เลอื ดไหลเวยี นอยใู นหลอดเลือด ซงึ่ กระจาย และหลอ เลย้ี งอวยั วะทว่ั รางกาย หากการไหลเวยี นของเลือดผิดปกติ หรือไมอ าจไหลเวยี นไปตามหลอด เลอื ดจะทาํ ใหเ กิดโรคได หวั ใจกาํ หนดเลอื ด ตับเกบ็ เลือด มามควบคุมเลือด อวัยวะท้ัง 3 สมั พันธก บั หนาท่แี ละพยาธิสภาพของเลอื ด การเพม่ิ การไหลเวยี นของเลอื ด (活血 หัวเซวยี ): Promoting blood circulation การเพม่ิ การไหลเวียนของเลอื ด เปน การระบายเลอื ดค่ัง คลายกลา มเน้อื เรยี บของเสนเลอื ดและ อวัยวะตาง ๆ รักษาความผดิ ปกติของระดู การอกั เสบเร้ือรงั โรคเสนเลือดหวั ใจ ฯลฯ
Page 327 306 ตํารบั ยาจีนทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย เลือดคั่ง (血瘀 เซว่ียยฺวี): Blood stasis including stagnated blood and extravasated blood เลอื ดค่ัง หรือเลอื ดจับเปนกอน หมายถึง การท่ีเลอื ดเกิดการจบั ตัวกนั เขา เปน ลิม่ เปน กอน หรือ มีการคางอยูในสวนใดสวนหน่ึงของรางกาย อาจมีอาการหลายแบบ เชน เจ็บปวด และมีผลกระทบ กระเทอื นตอ การทํางานของอวยั วะ มเี ลอื ดออก เปนตน เลือดพรอง (血虚 เซวีย่ ซวฺ ี): Blood deficiency เลือดพรอ ง หมายถงึ การมีปรมิ าณเลือดไมเพียงพอ หรอื การไหลเวยี นของเลอื ดผดิ ปกติ ทาํ ให สมรรถภาพของอวัยวะลดลงหรอื เสยี สมดุล เลอื ดพรอ งอาจมีอาการเลือดจางหรือไมมกี ็ได อาการทัว่ ไป ของเลือดพรอง เชน หนาขาวซดี หรือเหลอื ง เวยี นศรี ษะ ซูบผอม ไมมแี รง เปนตน เหงอ่ื ออกเอง (自汗 จื้อฮ่ัน): Spontaneous perspiration เหงือ่ ออกเอง หมายถึงเหง่อื ออกเปน ประจาํ ในชวงทไ่ี มไ ดหลบั เน่ืองจากหยางหรอื ชีพ่ รอ ง เหง่ือลักออก (盗汗 ตาวฮั่น): Night sweat เหงือ่ ลกั ออก หมายถงึ เหงื่อออกระหวางนอนหลบั ตน่ื แลว ไมมเี หงือ่ เนอื่ งจากยินพรอ ง อวัยวะภายใน (脏腑 จัง้ ฝู) : Internal organs อวัยวะภายในประกอบดวย 1) อวัยวะภายในท้ังหา ไดแก หัวใจ (心 ซิน) ปอด (肺 เฟย) มาม (脾 ผี) ตับ (肝 กาน) และไต (肾 เซิ่น) 2) อวัยวะกลวงทั้งหก ไดแก กระเพาะอาหาร (胃 เวย) ถุงนํ้าดี (胆 ตาน) ลําไสใหญ (大肠 ตาฉาง) ลาํ ไสเ ลก็ (小肠 เสีย่ วฉาง) กระเพาะปส สาวะ (膀胱 ผางกวาง) และ ซานเจียว (三焦) กระเพาะปส สาวะ (膀胱 ผางกวาง): Bladder กระเพาะปสสาวะ มีหนาที่รับและขับถายปสสาวะ ซ่ึงการขับถายปสสาวะตองอาศัยไต ถา กระเพาะปส สาวะถกู กระทบกระเทอื น จะเกดิ อาการปส สาวะคงั่ กลน้ั ปสสาวะไมอยู ถา ยปส สาวะมาก ปส สาวะเปนเลอื ด และควบคุมการถา ยปส สาวะไมด ี กระเพาะอาหาร (胃 เวย ) : Stomach กระเพาะอาหาร ทําหนาทรี่ บั และยอ ยอาหารตาง ๆ จนไดสารจําเปน มีความสัมพนั ธก ับมา มซึ่ง ทาํ หนาที่ลาํ เลียงสารจําเปนและของเหลวไปยังปอด เพื่อสงไปหลอเล้ียงท่ัวรางกาย สมรรถภาพของ กระเพาะอาหารและมา มจะมผี ลโดยตรงตอสุขภาพ
Page 328 ภาคผนวก 1: อภิธานศพั ท 307 ซานเจียว (三焦): Triple warmer ซานเจียวเปนหน่ึงในอวัยวะกลวงทั้งหก และเปนการช้ีตําแหนงของอวัยวะภายในของรางกาย ท้ังหมด แบง เปน 3 ตาํ แหนง คอื 1) ซา งเจยี ว (上焦) หมายถึง สวนบนของรางกาย ตง้ั แตล นิ้ ปขนึ้ ไป ไดแ ก ปอด หวั ใจ 2) จงเจยี ว (中 焦) หมายถึงสว นกลางของรางกาย ต้งั แตสะดือข้นึ ไปจนถงึ ล้ินป ไดแ ก กระเพาะอาหาร ตับ ถงุ น้าํ ดี และมา ม 3) เซีย่ เจยี ว (下焦) หมายถงึ สว นลางของรา งกาย ต้งั แต ใตส ะดอื ลงมาจนถงึ ทอ ง ไดแก ไต และ อวยั วะเพศ รวมท้งั ลําไสใ หญ ลาํ ไสเล็ก กระเพาะอาหาร และ มดลูก ซานเจียวท้ังสามตําแหนง ทก่ี ลาวมาน้ี อวัยวะภายในซึ่งมกี ลไกการเชอ่ื มตอซึ่งกนั และกนั โดยมี สารนํา้ กบั พลงั ชห่ี มนุ เวยี นอยู ทําใหนํ้าไหลเวียนและถา ยเทเปน ปกติ ตบั (肝 กาน): Liver ตับมีหนา ท่ี 3 ประการ คอื 1) สะสมเลอื ด ตบั เก็บสะสมและปรบั ปริมาณของเลอื ดใหค งท่ี เมื่อ รางกายเคล่ือนไหว เลือดจากตับจะไหลไปยังเสนลมปราณตาง ๆ เพ่ือสนองความตองการของรางกาย เมือ่ รา งกายหยุดพกั ผอนเลอื ดจะไหลกลับมาสะสมในตบั 2) กาํ หนดการระบายอยางทัว่ ถึงตลอดภายใน รา งกาย ตบั มคี วามสามารถในการระบายและปรับสมดลุ ใหท ัว่ รางกาย 3) สัมพันธกบั ถงุ น้ําดี ถุงนํ้าดมี ี หนาที่เกบ็ สะสมน้ําดี และชว ยเหลอื พลงั ตบั ไต (肾 เซน่ิ ): Kidney ไต มีหนาที่ 4 ประการ คอื 1) เกบ็ สารจาํ เปนของชีวติ ซ่ึงไดแ ก สารจําเปน ในการกอ กาํ เนดิ ชวี ิต (ไข และอสุจิ ทเี่ ปนพืน้ ฐานของการกอใหเกดิ การตัง้ ครรภ) และสารจําเปนในการดาํ รงชวี ิต ซงึ่ มี หนาท่ีเกี่ยวกับการเผาผลาญในรางกาย และจะไหลเวียนหลอเลี้ยงท่ัวรางกาย 2) กาํ หนดนา้ํ ไตมี ความสัมพันธกับนาํ้ ในรางกาย เกี่ยวของกับการสรางนา้ํ ปสสาวะ และกระเพาะปสสาวะจะทําหนาท่ี ขับถายปสสาวะไดตองอาศัยไต ไตทาํ ใหม ามสามารถลําเลยี งของเหลวในรางกายไดเปน ปกติ 3) สมั พนั ธ กับการหายใจของปอด พลังปอดจะเคลือ่ นลงเบื้องลางสไู ต โดยไตเปนตวั รับพลงั ทาํ ใหการหายใจเปน ปกติ ขณะเดียวกันไตก็ตองไดรับพลังจากปอดจึงสามารถบํารุงรักษาพลังของไตได 4) หนาท่ีของไต หยางและไตยิน ไตหยางทําหนาท่เี กยี่ วกบั การสืบพันธุและปรับสมดุลของนํ้าในรางกาย ไตยินทาํ หนาที่ เกยี่ วกับปริมาณเลือดและของเหลวในรางกาย ไตหยางและไตยนิ ตองมคี วามสมดุลกันจงึ จะทาํ ใหไ ตและ อวยั วะตา ง ๆ ทํางานไดเปนปกติ
Page 329 308 ตาํ รับยาจนี ทีใ่ ชบอยในประเทศไทย ถุงน้ําดี (胆 ตาน): Gallbladder ถุงน้ําดี มีหนาท่ี เกบ็ นาํ้ ดี และทําหนาทร่ี ว มกบั ตับในการหล่งั นํ้าดอี อกมาเพ่อื ชว ยการยอ ย ปอด (肺 เฟย) : Lung ปอด กาํ หนดพลังในสวนที่เกี่ยวกับลมหายใจและสารจําเปน ซึ่งเปนพื้นฐานการทํางานของ อวัยวะอ่ืน ๆ ของรา งกาย มีหนา ที่ 4 ประการ คอื 1) หายใจ ปอดมีความสัมพนั ธก ับจมกู พลังปอดมี ทิศทางเดินลงสูเบ้ืองลา ง มีไตเปน ตัวรับการเคลอื่ นไหวของพลงั น้ี ทําใหการหายใจเปน ปกตแิ ละของเหลว ภายในรางกายถา ยเทสะดวก 2) ลําเลยี งของเหลวภายในรา งกาย เมอ่ื ของเหลวเขาสูร างกาย มา มเปนตัว ลําเลยี งของเหลวน้ไี ปที่ปอดกอน และปอดจะชว ยกระจายของเหลวไปทั่วรา งกาย 3) สมั พนั ธกบั ผวิ หนัง และขน ปอดสัมพันธกับการเปดปดของรูขุมขน การหลั่งเหง่ือ และการตอตานอิทธิพลและปจจัย ภายนอกที่กอใหเกิดโรค 4) สัมพันธกับลาํ ไสใหญ พลังปอดท่ีเคลื่อนลงสูเบื้องลางทําหนาที่ชวยลาํ ไส ใหญข ับถา ยของเสียและดดู ซึมของเหลว มาม (脾 ผี): Spleen มา ม เปน สวนสําคญั ของพลงั หยางในรา งกาย มคี ุณสมบัตชิ อบแหง ไมช อบช้ืน มีหนาที่ 4 ประการ คอื 1) กําหนดการลาํ เลยี งนาํ้ และสารจาํ เปน อาหารเมื่อถกู ยอยทกี่ ระเพาะอาหารแลว มามจะ ลาํ เลียงสารจําเปนไปสูปอด เพือ่ สงไปทว่ั รา งกาย และทาํ หนาทป่ี รับสมดลุ การใชและการขบั ถา ยของเหลว ภายในรางกาย 2) ควบคุมการไหลเวียนของเลือดใหเปนปกติ 3) กําหนดพลังจงช่ี ซึ่งเปนพลังของ กระเพาะอาหารและมาม แตพลังมามจะเปนพลังหลัก 4) สัมพันธกับกระเพาะอาหาร มามทําหนาที่ รวมกับกระเพาะอาหาร โดยกระเพาะอาหารทําหนาที่รับและยอยอาหารจนไดสารจําเปน สวนมามทํา หนา ทล่ี าํ เลียงสารจําเปน นไี้ ปใชท ั่วรา งกาย ลําไสเลก็ (小肠 เสยี่ วฉาง): Small intestine ลาํ ไสเลก็ มหี นา ท่รี ับอาหารบางสว นทีผ่ า นการยอ ยจากกระเพาะอาหารมาแยกสว นท่ใี ส ซงึ่ เปน ประโยชนตอรา งกาย แลว สง ไปยังมา มซงึ่ จะทาํ หนา ท่ลี าํ เลยี งไปยังสว นตาง ๆ ของรา งกาย สว นทีข่ น และ ไมเปนประโยชนจ ะถกู สงไปยงั ลําไสใ หญห รือกระเพาะปส สาวะ เพอ่ื ขับออกจากรางกายในสภาพอุจจาระ หรอื ปสสาวะ ลําไสใหญ (大肠 ตาฉาง): Large intestine ลําไสใหญ มีหนาที่รับส่ิงท่ีผานการยอยจากลําไสเล็ก ดูดซึมส่ิงที่มีประโยชนและนํา้ ที่เหลืออยู ทําใหกลายเปน อจุ จาระ แลว ถายออกจากรา งกาย
Page 330 ภาคผนวก 1: อภิธานศัพท 309 หัวใจ (心 ซนิ ): Heart หัวใจ เปนอวัยวะหลักของอวัยวะภายในท้ังหมด มีหนาท่ีหลัก 3 ประการ คือ 1) กําหนด ชพี จร ควบคุมการไหลเวียนของเลอื ดท่ัวรา งกาย 2) กําหนดความคดิ สัมพันธกับสติปญ ญา การรบั รู และความรูสึกนึกคิด 3) กาํ หนดความสัมพันธกับลาํ ไสเล็ก โดยมีเสนลมปราณเช่ือมโยงถึงกันระหวาง หวั ใจและลําไสเ ลก็ อาการแกรง (实证 สอื เจงิ้ ): Sthenic syndrome อาการแกรง หมายถึงภาวะที่มีปจจัยจากภายนอกมากเกินไป ซึ่งเปนระยะที่การตอสูระหวาง ปจจยั ภายในกบั ปจ จัยภายนอกเปนไปอยางรุนแรง หรืออาจเกิดจากปจ จยั ภายในแกรง เอง เชน ภาวะแกรง ของลมปราณหรือเลือด เปน ตน อาการพรอ ง (虚证 ซวฺ ีเจ้งิ ): Deficient syndrome อาการพรอง หมายถึงภาวะท่ีมีปจจัยจากภายในไมเพียงพอ ระบบภูมิตานทานของรางกาย ออนแอ อารมณทง้ั เจด็ (七情 ชฉี ิง): Seven modes of emotion การแพทยจนี แบง สภาพจิตใจ อารมณข องคนเปน 7 อยาง คอื ดีใจ (喜 สี)่ โกรธ (怒 น)ู วิตก (忧 โยว) กงั วล (思 ซือ) เศรา (悲 เปย) กลวั (恐 โขง) ตกใจ (惊 จิง) สภาพจติ ใจและอารมณ ทง้ั เจด็ นี้ เปนปฏิกิรยิ าสนองตอบเหตุการณแ ละสงิ่ แวดลอมอยา งหน่งึ ของมนุษย ในสภาวะปกตสิ ภาพ จิตใจและอารมณเ หลาน้จี ะไมทําใหเ กดิ โรค แตถา มคี วามผิดปกตเิ กดิ ข้นึ เชน เกดิ อารมณห น่ึงอารมณใ ด มากเกินไป หรืออยใู นอารมณน ้นั นานเกนิ ไป จะมีผลทําใหยิน-หยางของรางกายเสยี สมดุล ทาํ ใหเลอื ด และพลงั ไมสมดุล เสนลมปราณติดขดั การทําหนาทีข่ องอวัยวะภายในตา งๆ เสียสมดลุ กอใหเ กิดโรคขน้ึ ได
Page 331 310 ตาํ รบั ยาจีนทใี่ ชบ อ ยในประเทศไทย เอกสารท่ใี ชป ระกอบการเรยี บเรยี ง 1. โกวทิ คัมภีรภาพ. ทฤษฎีพนื้ ฐานการแพทยแ ผนจีน. พมิ พครง้ั ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ัท นิวไวเต็ก จาํ กัด, 2544. 2. จรสั ตั้งอรา มวงศ. การตรวจชพี จร. [เอกสารประกอบการฝก อบรมหลกั สตู รการตรวจวินิจฉยั โรคดว ยศาสตรก ารแพทยแ ผนจนี วันที่ 20-31 มีนาคม 2549]. นนทบุร:ี สถาบนั การแพทยไทย-จนี เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและ การแพทยทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ , 2549. 3. วิทิต วัณนาวบิ ูล, สุรเกียรติ อาชานานภุ าพ (กองบรรณาธกิ าร). ทฤษฎแี พทยจีน. พิมพค รัง้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: สาํ นักพมิ พ หมอชาวบา น, 2540. 4. Meng H, Shang XM, Zhang XH. English-Chinese and Chinese-English Course-based Medical Dictionary. 1st ed. Xi An: Shijie Tushu Publishing House, 1998. 5. Ou M, Lu X, Li Y, Lai SL, Chen XQ, Huang YZ, Chen JF, Shen C, Zhen WW. Chinese-English glossary of common terms in traditional Chinese medicine. 1st ed. Hong Kong: Joint Publishing Co., 1982. 6. Zhang E. Basic theory of traditional Chinese medicine I: A practical English-Chinese library of traditional Chinese medicine. Vol.I. 9th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 1999.
Page 332 ภาคผนวก 2: รายช่อื ตาํ รับยาจนี 311 รายชื่อตํารับยาจนี รายช่ือ พินยนิ จีนกลาง จนี แตจ ๋ิว อีกว นเจียน เจก็ กวงเจีย 一贯煎 Yiguan Jian เออรเ ฉนิ ทัง หย่ถี ิ่งทงึ 二陈汤 Erchen Tang เสีย่ วชงิ หลงทงั เซยี วแชเหลง ทงึ 小青龙汤 Xiao Qinglong Tang เส่ยี วไฉหทู งั เซียวฉา โอว ทงึ 小柴胡汤 Xiao Chaihu Tang ไตห วงฟูจอื่ ทงั ตั่วอึ๊งหจู ือทงึ 大黄附子汤 Daihuang Fuzi Tang ตา เฉงิ ช่ที ัง ไตเสง ค่ที งึ 大承气汤 Da Chengqi Tang ล่ิวเวย ต ห้ี วงหวาน หลกั บี่ตี่องึ่ อ๊ี 六味地黄丸 Liuwei Dihuang Wan อหู ลงิ สาน โหงวเหลงซ่วั 五苓散 Wuling San ยฺว่ีผงิ เฟง สาน เหง็กผ่งิ ฮวงซวั่ 玉屏风散 Yupingfeng San ยฺว่ีนฺหวเ่ี จยี น เหง็กนึงเจยี 玉女煎 Yunu Jian ซื่อจฺวินจื่อทงั ซ่ีกงุ จอื ทงึ 四君子汤 Si Junzi Tang ซื่ออูท ัง ซีห่ มวยทึง 四物汤 Siwu Tang ซอ่ื หนีส้ าน ซ่เี หง็กซวั่ 四逆散 Sini San ซื่อเสินหวาน ซี่ส่ิงอ๊ี 四神丸 Sishen Wan ไปหทู งั แปะโฮวทึง 白虎汤 Baihu Tang ไปโ ถวเวงิ ทงั แปะเถา องทงึ 白头翁汤 Baitouweng Tang เซิงมา ยสาน แซแหมะซว่ั 生脉散 Shengmai San หวูจูยฺหวีทัง โหงว จหู ยทู งึ 吴茱萸汤 Wuzhuyu Tang ปูจงอีช้ ท่ี ัง โปวตงเอยี๊ ะคี่ทึง 补中益气汤 Buzhong Yiqi Tang เซน่ิ ชี่หวาน เสย่ี งค่อี ี๊ 肾气丸 Shenqi Wan เซย่ี ไปสาน เซ่ยี แปะซว่ั 泻白散 Xiebai San เซีย่ หวงสา น เซี่ยอ่งึ ซ่วั 泻黄散 Xiehuang San
Page 333 312 ตาํ รับยาจนี ทีใ่ ชบอ ยในประเทศไทย รายช่อื ตํารับยาจนี (ตอ ) รายชื่อ พนิ ยิน จีนกลาง จีนแตจ ิว๋ เปาเหอหวาน เปาห่วั อ๊ี 保和丸 Baohe Wan เซยี วเหยาสาน เซยี วเอย่ี วซวั่ 消遥散 Xiaoyao San กุย จือทัง กุยกที ึง 桂枝汤 Guizhi Tang หลจ่ี งหวาน ลตี งอ๊ี 理中丸 Lizhong Wan หมาหวงทงั หม่วั อ่ึงทึง 麻黄汤 Mahuang Tang หวงเหลียนเจีย่ ตทู งั อ่ึงโนยโกยตักทึง 黄连解毒汤 Huanglian Jiedu Tang ชงิ เวยส า น เชง็ อยุ ซวั่ 清胃散 Qingwei San เวินผที งั องุ ปท ึง 温脾汤 Wenpi Tang
Page 334 ภาคผนวก 3: รายชอื่ ตัวยา 313 รายชื่อตวั ยา รายช่อื พินยนิ จนี กลาง จีนแตจ ๋ิว ไทย เหรินเซนิ หย่งิ เซยี ม 人参 Renshen ตงิ เซียง เต็งเฮีย โสมคน 丁香 Dingxiang ตาเจา ต่วั จอ 大枣 Dazao ตาหวง ตัว่ อ๊งึ กานพลู 大黄 Dahuang ตา จี๋ ตั่วเกก็ 大戟 Daji ซนั เหยา /ไหวซนั ซวั เอ๊ียะ/หว ยซวั พทุ ราจนี 山药 Shanyao ซนั จา ซัวจา 山楂 Shanzha ซนั จยู หฺ วี ซวั จยู ู โกฐน้าํ เตา 山茱萸 Shanzhuyu กนั เจยี ง กังเกีย - 干姜 Gan Jiang ชวนเลย่ี นจื่อ ชวนเหลี่ยงจ้ี 川楝子 Chuanlianzi ชวนซยฺ ง ชวงเกยี ง ฮว ยซวั 川芎 Chuanxiong ชวนอู ชวงโอว - 川乌 Chuanwu ซานหลงิ ซาํ เลง - 三棱 Sanling หนวิ ซี หงฉู ิก 牛膝 Niuxi เทียนหมา เทยี นม้ัว ขิงแหง 天麻 Tianma เซิงหมา เซง็ ม้วั 升麻 Shengma อูเวย จอื่ โหงวบจ่ี ี้ ผลเล่ยี น 五味子 Wuweizi อูหลงิ จือ โหงวเหลง จี 五灵脂 Wulingzhi ตนั ผี ตังพวย โกฐหวั บัว 丹皮 Danpi ตนั เซิน ตังเซยี ม 丹参 Danshen เปยห มู/ เปยห มู ปวยบอ โหราเดือยไก 贝母 Beimu ปาโตว ปาตา ว - 巴豆 Badou พนั งูนอย - - - - เปลือกรากโบต๋นั - - สลอด
Page 335 314 ตาํ รับยาจีนท่ใี ชบอยในประเทศไทย รายชอื่ ตวั ยา (ตอ) รายชือ่ พนิ ยิน จนี กลาง จนี แตจ ๋วิ ไทย หยาเซียว 牙硝 Yaxiao อูเหมย แหงเซยี ว ดินประสิว 乌梅 Wumei อโู ถว 乌头 Wutou ตห้ี วง โอวบว ย บว ยดํา 地黄 Dihuang เซิงเจยี ง โอวทา ว - 生姜 Sheng Jiang ไปจู 白术 Baizhu ไปเสา ตีอ่ ึง๊ โกฐข้ีแมว 白芍 Baishao ไปเ ล่ยี น 白敛 Bailian ไปจ ี๋ แชเกยี ขิงสด 白笈 Baiji ไปโ ถวเวงิ แปะตกุ 白头翁 Baitouweng กวาโหลว แปะเจยี ก - 瓜蒌 Gualou เสฺวียนเซนิ แปะเนย่ี ม - 玄参 Xuanshen เปยซ าเซนิ แปะก๊บิ - 北沙参 Bei Shashen กนั เฉา (เซิง) แปะเถา อง - 甘草 (生) Gancao กันเฉา (จื้อ) กวยลู - 甘草 (炙) Gancao (prepared) กันสยุ เหย่ี งเซยี ม - 甘遂 Gansui ปน เซี่ย ปก ซาเซียม - 半夏 Banxia สือเกา กําเชา (แช) - 石膏 Shigao สอื จือ กาํ เชา (เจีย่ ) 石脂 Shizhi ตงั กุย กําซยุ ชะเอมเทศ 当归 Danggui ตงั กยุ ปว แห 当归 Danggui (soaking (จิว่ เปย กนั ) ชะเอมเทศผดั นํ้าผึ้ง (酒焙干) in wine and dried) - - เจียะกอ เกลอื จดื เจยี ะจี - ตังกุย โกฐเชียง ตังกุย (ปว ยจว้ิ ) โกฐเชียงแชเ หลา แลว ปง ใหแ หง
Page 336 ภาคผนวก 3: รายชื่อตัวยา 315 รายช่ือตวั ยา (ตอ) รายชือ่ พินยิน จนี กลาง จนี แตจิว๋ ไทย ตงั กุย (จว่ิ จนิ้ เฉา ) 当归 Danggui (stir-frying ตังกยุ (ฉาจว้ิ ) โกฐเชียงผดั เหลา (酒浸炒) with wine) โรวโตวโคว 肉豆蔻 Roudoukou โรวกยุ เหน็กเตาโขว ลกู จันทนเทศ 肉桂 Rougui หมางเซยี ว 芒硝 Mangxiao ผอเซยี ว เหนก็ กุย อบเชยจีน 朴硝 Puxiao ตี้กูผี 地骨皮 Digupi เหลยี นเฉียว หม่งั เซยี ว ดีเกลือ 连翘 Lianqiao หวจู ูยหฺ วี (จ้ินเฉา) 吴茱萸 Wuzhuyu (saturated พกเซยี ว ดีเกลอื (浸炒) and fried) - ต่ีกุกพวย - 麦冬 Maidong ไมตง - 附子 (炮) Fuzi (prepared) ฟูจอ่ื (เผา) เหล่ียงเค้ียว 杏仁 Xingren (with its ซิ่งเหริน - (去皮尖) skin removed) (ชฺวผ้ี เี จยี น) โหงว จยู ู โหราเดือยไก ปกู จู อื (จิ้มชา) 补骨脂 Buguzhi เหยยี นฮวา แบะตง - 芫花 Yuanhua เฉินผี หูจื้อ (เผา) 陈皮 Chenpi ซีซ่ ิน เหงยงิ้ - 细辛 Xixin จือหมู (คอื่ ผวยเจยี ม) - 知母 Zhimu เจอเซ่ีย โปว กุกจี 泽泻 Zexie ยหฺ วี่จนิ 郁金 Yujin โหว ผอ อวงฮวย 厚朴 Houpo ถงิ่ พวย ผิวสมจีน โซย ซิง - ตบี อ - เจก็ เส่ยี - เฮยี กกิม วา นนางคํา เกา ผก -
Page 337 316 ตาํ รับยาจนี ท่ใี ชบ อ ยในประเทศไทย รายชื่อตวั ยา (ตอ ) รายช่อื พินยิน จีนกลาง จนี แตจ ิ๋ว ไทย เชียนหนวิ คงั งู - 牵牛 Qianniu ฝหู ลงิ 茯苓 Fuling ฝูหลิงผี หกเหล็ง โปงรากสน 茯苓皮 Fulingpi ไหเจา 海藻 Haizao เฉา อู หกเหลงพว ย เปลอื กโปง รากสน 草乌 Caowu จือ่ สอื 枳实 Zhishi จือจอ่ื ไหเฉา สาหรายทะเล 栀子 Zhizi โกวฉจี ื่อ เฉาโอว - 枸杞子 Gouqizi เสินชฺวี 神曲 Shenqu ซังไปผ ี จี๋ซิก สมซา 桑白皮 Sangbaipi ไฉหู 柴胡 Chaihu กุย จอื กจี ี้ ผลพุดซอ น 桂枝 Guizhi ฉินผี 秦皮 Qinpi หวงฉี เกา กจี๋ ้ี - 黄芪 Huangqi หวงเหลยี น สง่ิ ขกั - 黄连 Huanglian หวงปอ 黄柏 Huangbo หวงฉนิ ซึงแปะพว ย เปลือกรากหมอ น 黄芩 Huangqin จูหลิง ฉาโอว - 猪苓 Zhuling หมาหวง 麻黄 Mahuang (with (ชวฺ ีเ้ จ๋ีย) กุยกี กง่ิ อบเชยจนี (去节) joints removed) หลัวปจู อ่ื ฉิ่งพว ย หลวิ หวง อึ่งคี้ - 萝卜子 Luobuzi อง่ึ โนย - 硫黄 Liu Huang อึง่ แปะ - อ่งึ งมิ้ - ตอื เหล็ง - หมว่ั อ๊งึ (ค่อื จัก) - - หลอ ปกจ้ี เมลด็ หวั ผกั กาด หลวิ่ อง๊ึ กํามะถัน
Page 338 ภาคผนวก 3: รายชอื่ ตัวยา 317 รายชอ่ื ตัวยา (ตอ) รายช่อื พนิ ยนิ จีนกลาง จีนแตจ ิ๋ว ไทย Xijiao ซเี จี่ยว ไซกัก นอแรด 犀角 Jingmi จงิ หมี่ แกบ้ี ขา วเจา 粳米 Wei Jiang เวยเ จียง อุยเกีย ขิงปง 煨姜 สตู ีห้ วง (จิว่ เจิง) โกฐขแ้ี มวนึ่งเหลา 熟地黄 Shu Dihuang เสก็ ตอ่ี ง๊ึ (酒蒸) (prepared) หลหี ลู (จวิ เจง็ ) - ปอ เหอ หลล่ี ู ใบสะระแหน 黎芦 Lilu จฺหว๋ผี ี เปาะหอ ผวิ สม 薄荷 Bohe ฮว่ั เซยี ง กิ๊กพวย ตน พมิ เสน 橘皮 Jupi คักเฮีย 藿香 Huoxiang
Page 339 318 ตาํ รบั ยาจีนทใ่ี ชบอยในประเทศไทย ดัชนตี วั ยา กวาโหลว, 38, จูหลงิ , 249, 251, 253 กนั เจียง, 169, 171, 172, 197, 199, 202, 262, 264, จฺหวีผี, 87, 90, 92, 284, 286, 289 เจอ เซ่ยี , 112, 114, 117, 120, 123, 125, 249, 251, 266 กันเฉา, 38, 49, 73, 75, 77, 87, 90, 94, 129, 132, 252 ฉินผี, 244, 246, 247 136, 138, 140, 143, 145, 148, 150, 169, 171, เฉาอู, 38, 173, 183, 185, 188, 190, 192, 195, 197, 200, เฉินผี, 276, 279, 282 205, 208, 210, 212, 232, 234, 236, 238, 240, ไฉหู, 90, 87, 95, 129, 131, 133, 138, 140, 141, 242, 262, 264, 268, 284, 287, 289 กันสยุ , 38, 43 145, 147, 149 กานพลู, 38 ชวนซยฺ ง, 97, 99, 103 กาํ มะถนั , 37 ชวนเลีย่ นจอื่ , 105, 107, 110 กุยจอื , 48, 49, 120, 123, 126, 183, 185, 187, 190, ชวนอู, 38, 40 192, 193, 197, 199, 201, 249, 251, 253 ชะเอมเทศ, 37, 38, 49, 132, 136, 140, 143, 148, เกลือจดื , 37, 45, 210, 211, 221, 222, 234 โกฐข้แี มว, 99, 100, 107, 108, 114, 115, 122, 124, 150, 151, 171, 173, 185, 189, 195, 200, 205, 221, 222, 227, 228, 210, 212, 234, 236, 237, 240, 242, 264, 268, โกฐจุฬาลําพา, 280 287, 289, 290 โกฐเชียง, 99, 101, 107, 109, 148, 151, 227, 229 ชะเอมเทศผัดน้าํ ผึ้ง, 75, 77 โกฐนา้ํ เตา, 43, 46, 258, 259, 264, 265, 272, 273 ชงิ เฮา, 280 โกฐหวั บัว, 99, 103 เชอเฉียนจ่อื , 46 โกวฉีจอ่ื , 105, 107, 110 เชอเสา, 99 ขาวเจา, 210, 211 เชียนหนวิ , 38, 43 ขงิ , 132, 150 ซังไปผี, 238, 240, 241 ขงิ สด, 38, 48, 132, 134, 147, 150, 162, 164, 167, ซันจา, 276, 278, 280 178, 180, 192, 194, 286, 288, 289 ซนั จูยฺหวี, 112, 114, 116, 120, 122, 124 ขงิ แหง, 171, 172, 199, 202, 264, 266 ซันชี, 46 คําฝอย, 43 ซันเหยา, 112, 114, 116, 120, 122, 124 จิงหม่ี, 208, 210, 211 ซาเซนิ , 38, จอื จ่อื , 214, 216, 218, 232, 234, 235 ซานหลงิ , 38, 43 จื่อสอื , 138, 140, 142, 256, 258, 260 ซ่งิ เหริน, 183, 185, 187, 280 จอื หมู, 37, 208, 210, 211, 219, 221, 223 ซเี จ่ียว, 38 ซี่ซนิ , 38, 197, 199, 202, 270, 272, 274
Page 340 ดชั นตี ัวยา 319 ซีหยางเซิน, 46, 80 เซิงเจยี ง, 38, 48, 129, 131, 134, 145, 147, 150, เปยห มู, 38, โปง รากสน, 37, 114, 117, 123, 125, 147, 150, 251, 162, 164, 167, 176, 178, 180, 190, 192, 194, 284, 286, 288 252, 279, 281, 286, 288 เซิงหมา, 87, 90, 95, 225, 227, 230 ไปจ ,ี๋ 38, 42 ดเี กลอื , 258, 260 ไปจ,ู 73, 75, 77, 87, 90, 93, 145, 147, 149, 155, ตน ผกั เบี้ยใหญ, 37 ตังกุย, 87, 90, 92, 97, 99, 101, 105, 109, 145, 157, 159, 169, 171, 173, 249, 251, 254 148, 151, 225, 227, 229 ไปโ ถวเวิง, 244, 246, 247 ต่ังเซิน, 80 ไปเลี่ยน, 38, 42 ตันเซนิ , 38, 42 ไปเ สา, 38, 42, 97, 99, 102, 138, 140, 142, 145, ตนั ผี, 112, 114, 118, 120, 123, 126, 225, 227, 229 148, 151, 190, 192, 194, 197, 200, 203, ตา จ๋ี, 37, 38, 43 ผูเซยี ว, 37, ตา เจา , 129, 132, 135, 162, 164, 167, 176, 178, ฝางเฟง , 155, 157, 159, 232, 234, 235 181, 190, 192, 193 ฝหู ลิง, 37, 73, 75, 112, 114, 117, 120, 123, 125, ตา หวง, 43, 256, 258, 259, 262, 264, 265, 266, 270, 272 145, 147, 150, 249, 251, 252, 276, 279, 281, ติงเซยี ง, 37, 284, 288 ตี้กูผี, 238, 240, 241 พนั งนู อย, 221, 224 ตห้ี วง, 105, 107, 108, 114, 115, 120, 122, 124, พมิ เสน, 234, 236 225, 227, 228 พุทราจนี , 132, 135, 162, 164, 167, 178, 181, 192, เถาเหรนิ , 43 193 ทอ , 43 ฟจู อื่ , 45, 120, 123, 127, 262, 264, 265, 266, 270, นอแรด, 38 272, 273 บวยดาํ , 286, 289 ม่ถี อเจิง, 38 โบตัน๋ , 114, 118, 123, 126, 227, 229 เมล็ดหัวผักกาด, 38, 46, 278, 280 ปรอท, 37, ไมต ง, 80, 82, 84, 105, 107, 109, 219, 221, 223, ปอเหอ, 46, 145, 147, 148, 152 ยฺหว่ีจนิ , 38 ปน เซยี่ , 38, 48, 129, 131, 134, 197, 200, 204, เรว, 46 276, 278, 281, 284, 286, 287 โรวกุย, 38, 46 ปาโตว , 37, 43 โรว โตว โคว, 162, 164, 165 ปูกจู ือ, 162, 164, 165 ลาเหลยี วเฉา , 280 เปยซ าเซิน, 105, 107, 109 ลูกจันทน, 164, 165 ลูกพุด, 216, 218, 234, 235 เลยี่ น, 107, 110 วา นนางคาํ , 38 สมจนี , 279, 282, 289
Page 341 320 ตํารับยาจีนท่ีใชบ อยในประเทศไทย เหรินเซนิ , 37, 38, 46, 73, 75, 76, 80, 82, 83, 87, สม ซา, 140, 142, 258, 260 90, 93, 129, 132, 135, 169, 171, 172, 176, 178, สลอด, 38, 43 180, 262, 264, 267 สารหนู, 37, เหลียนเฉยี ว, 276, 279, 282 สือเกา, 37, 38, 45, 208, 210, 211, 219, 221, 222, โหราเดือยไก, 38, 45, 123, 127, 264, 266, 272, 232, 234 273 สุยอนิ๋ , 37 ไหเ ฉา , 38, สตู ้หี วง, 97, 99, 100, 112, 114, 115, 219, 221, ไหลฝจู ่อื , 38 อบเชยจนี , 38, 43, 46, 48, 49, 123, 126, 185, 187, 222 เสินชวฺ ี, 276, 278, 281 192, 193, 199, 201, 251, 253 เสวฺ ียนเชนิ , 38, 42 อําพัน, 46 โสมคน, 37, 38, , 46, 75, 76, 82, 83, 90, 93, 132, อูโถว, 38 อูเวย จ ่ือ, 80, 82, 85, 162, 164, 166, 197, 200, 204 135, 171, 172, 178, 180, 264, 267, อูหลิงจอื , 38, โสมอเมริกัน, 46, 80 อหู ลิงสาน, 249, 251, 252 หงฮวา, 43 อเู หมย, 284, 286, 289 หนิวซี, 219, 221, 224 เออเจียว, 46 หมอน, 240, 241 ฮั่วเซียง, 232, 234, 236 หมางเซียว, 256, 258, 260 โฮวพวั่ , 256, 258, 259 หมา ฉือเสยี้ น, 37 Achryranthes bidentata Bl., 224 หมาหวง, 43, 48, 49, 183, 185, 186, 197, 199, Aconitum carmichaeli Debx., 127, 266, 273 Agastache rugosa (Fisch et Mey.) O. Ktze, 236 201 Alisma orientalis (Sam.) Juzep., 117, 125, 252 หมูล่ี, 45 Anemarrhena asphodeloides Bge., 211, 223 หยาเซยี ว, 38, Angelica sinensis (Oliv.) Diels, 92,101, 109, หลังตู, 38 หลัวปูจ่ือ, 276, 278, 280 151, 229 หลวิ หวง, 37, Asarum heterotropoides Fr. Schmidt var. หลีหลู, 38 หวงฉนิ , 129, 131, 133, 214, 216, 217 mandshuricum (Maxim.) Kitag., 202, 274 หวงฉี, 37, 87, 89, 91, 155, 157, 158 Asarum sieboldii Miq. var. seoulense Nakai, หวงไป, 214, 216, 217, 244, 246, 247 หวงเหลยี น, 214, 216, 216, 225, 227, 228, 244, 202, 274 Astragalus membranaceus (Fisch.) Bge., 91, 246, 247 หวจู ยู หฺ วี, 162, 164, 166, 176, 178, 179, 158 หูพัว่ , 46 Atractylodes macrocephala Koidz., 77, 93, 149, เหยียนฮวา, 38, 43 159, 173, 254
Page 342 ดัชนตี ัวยา 321 Bupleurum chinense DC., 95, 133, 141, 149 Bupleurum falcatum L., 95, 133, 141, 149 Ephedra sinica Stapf, 186, 201 Bupleurum scorzonerifolium Willd., 95, 133, Evodia rutaecarpa (Juss.) Benth. var. bodinieri 141, 149 (Dode) Huang, 166, 179 Cimicifuga dahurica (Turcz.) Maxim., 95, 230 Forsythia suspensa (Thunb.) Vahl., 282 Cimicifuga deltoidea C.Y. Cheng et Hsiao., 228 Fraxinus chinensis Roxb., 247 Cimicifuga foetida L., 95, 230 Fraxinus rhynchophylla Hance, 247 Cimicifuga heracleifolia Kom., 95, 230 Fraxinus stylosa Lingelsh., 247 Cimicifuga teetoides C.Y. Cheng, 230 Fraxinus szaboana Lingelsh, 247 Cinnamomum cassia Presl, 126, 193, 187, 201, Fructus Aurantii Immaturus, 138, 142, 256, 260 Fructus Corni, 112, 116, 120, 124 253 Fructus Crataegi, 276, 280 Citrus aurantium L., 142, 260 Fructus Evodiae, 162, 166, 176, 179 Citrus reticulata Blanco, 92, 282, 289 Fructus Forsythiae, 276, 282 Citrus sinensis Osbeck, 142, 260 Fructus Gardeniae, 214, 218, 232, 235 Coptis chinensis Franch., 216, 228, 247 Fructus Lycii, 105, 110 Coptis deltoidea C.Y. Cheng et Hsiao, 216, 228, Fructus Meliae Toosendan, 105, 110 Fructus Mume, 284, 289 247 Fructus Psoraleae, 162, 165 Coptis teetoides C.Y. Cheng, 216, 247 Fructus Schisandrae Chinensis, 80, 85, 162, 166, Cornus officinalis Sieb. et Zucc., 116, 124 Cortex Fraxini, 244, 247 197, 204 Cortex Lycii Radicis, 238, 241 Fructus Ziziphi Jujubae, 129, 135, 167, 176, Cortex Magnoliae Officinalis, 256, 259 Cortex Mori Radicis, 238, 241 181, 190, 193 Cortex Moutan Radicis, 112, 118, 120, 126, 225, Gardenia jasminoides Ellis, 218, 235 Glehnia littoralis Fr. Schmidt ex Miq., 108 229 Glycyrrhiza uralensis Fischer, 77, 94, 136, 143, Cortex Phellodendri Chinense, 214, 217, 244, 150, 173, 188, 195, 205, 212, 236, 242, 268, 247 289, Crataegus pinnatifida Bge. var major N.E. Br., Glycyrrhiza glabra L, 77, 94, 136, 143, 150, 173, 188, 195, 205, 212, 236, 242, 268, 289 280 Glycyrrhiza inflata Bat., 77, 94, 136, 143, 150, Crataegus pinnatifida Bge., 280 173, 188, 195, 205, 212, 236, 242, 268, 289 Dioscorea opposita Thunb., 116 Gypsum Fibrosum, 208, 211, 219, 222, 232, Ephedra equisetina Bge., 186, 201 234 Ephedra intermedia Schrenk et C.A. Mey., 186, Herba Agastaches seu Pogostemi, 232, 236 201
Page 343 322 ตาํ รบั ยาจนี ทีใ่ ชบ อยในประเทศไทย Poria cocos (Schw.) Wolf, 76, 117, 125, 150, Herba Artemisiae annuae, 280 Herba Asari, 197, 202, 270, 274 252, 281, 288 Herba Ephedrae, 183, 186, 197, 201 Poria, 73, 76, 112, 117, 120, 125, 145, 150, 249, Herba Menthae, 145, 152 Herba Polygoni Salicifoli, 280 252, 276, 281, 284, 288 Ligusticum chuanxiong Hort., 103 Prunus armeniaca L. var. ansu Maxim., 187 Lycium barbarum L., 110, 241 Prunus armeniaca L., 187 Lycium chinense Mill., 241 Prunus mandshurica (Maxim.) Koehne, 187 Magnolia officinalis Rehd. et Wils. var. biloba Prunus mume (Sieb.) Sieb. et Zucc., 289 Prunus sibirica L., 187 Rehd. et Wils., 259 Psoralea corylifolia L., 165 Magnolia officinalis Rehd. et Wils., 259 Pulsatilla chinensis (Bge.) Regel, 246 Massa Fermentata Medicinalis, 276, 280 Radix Achyranthis Bidentatae, 219, 224 Melia toosendan Sieb. et Zucc., 110 Radix Aconiti Praeparata, 120, 127, 262, 266, Mentha haplocalyx Briq., 152 Morus alba L., 241 270, 273 Myristica fragrans Houtt., 165 Radix Angelicae Sinensis, 87, 92, 97, 101, 105, Natrii Sulphas, 256, 260 Nonglutinous Rice, 208, 211 110, 145, 151, 225, 229, Ophiopogon japonicus Ker-Gawl., 84, 109, 223 Radix Astragali Membranacei, 87, 91, 155, 158 Oryza sativa L., 211 Radix Bupleuri, 87, 95, 129, 133, 138, 141, 145, Paeonia lactiflora Pall., 102, 142, 151, 194, 203 Paeonia suffruticosa Andr., 118, 126, 229 149 Panax ginseng C.A. Mey, 76, 83, 93, 135, 172, Radix Codonopsis Pilosulae, 80 Radix et Rhizoma Rhei, 256, 259, 262, 265, 270, 180, 267, Pericarpium Citri Reticulatae, 87, 92, 276, 282, 272 Radix Ginseng, 73, 76, 80, 83, 87, 93, 129, 135, 284, 289 Phellodendron amurense Rupr, 217, 247 169, 172, 176, 180, 262, 267, Phellodendron chinensis Schneid., 217, 247 Radix Glehniae, 105, 108 Pinellia ternata (Thunb.) Breit., 134, 204, 281, Radix Glycyrrhizae Praeparata, 73, 77, 87, 94, 287 129, 136, 138, 143, 145, 150, 169, 173, 183, Pogostemon cablin (Blanco) Benth., 236 188, 190, 195, 197, 205, 208, 212, 238, 242, Polyporus umbellatus (Pers.) Fires, 253 284, 289 Polyporus, 249, 253 Radix Glycyrrhizae, 232, 236, 262, 268 Radix Ligustici Chuanxiong, 97, 103 Radix Ophiopogonis Japonici, 80, 84, 105, 109, 219, 223
Page 344 ดัชนตี วั ยา 323 Radix Paeoniae Alba, 97, 102, 138, 142, 145, Rhizoma Zingiberis Recens, 129, 134, 167, 176, 151, 190, 194, 197, 203, 180, 190, 194, 284, 288 Radix Paeoniae Rubra, 99 Radix Panacis Quinquefolii, 80 Rhizoma Zingiberis, 169, 172, 197, 202, 262, Radix Pulsatillae, 244, 246 266 Radix Rehmanniae Praeparata, 97, 100, 112, Saposhnikovia divaricata (Turcz.) Schischk., 115, 219, 222 159, 235 Radix Rehmanniae, 105, 108, 120, 124, 225, Schisandra chinensis (Turcz.) Baill., 85, 166, 228 204 Radix Saposhnikoviae Divaricatae, 155, 159, Scutellaria baicalensis Georgi, 133, 217 232, 235 Semen Armeniacae Amarum, 183, 187, 280 Radix Scutellariae, 129, 133, 214, 217 Semen Myristicae, 162, 165 Ramulus Cinnamomi, 120, 126, 183, 187, 190, Semen Raphani, 276, 280 sodium sulphate decahydrate, 260 193, 197, 201, 249, 253 Zingiber officinale (Willd.) Rosc., 134, 150, Raphanus sativus L., 280 Rehmannia glutinosa (Gaertn.) Libosch., 100, 167, 172, 180, 194, 202, 266, 288 Ziziphus jujuba Mill., 135, 167, 181, 193 108, 115, 124, 222, 228 Rheum officinale Baill., 259, 265, 272 Rheum palmatum L., 259, 265, 272 Rheum tanguticum Maxim. ex Balf., 259, 265, 272 Rhizoma Alismatis, 112, 117, 120, 125, 249, 252, Rhizoma Anemarrhenae, 208, 211, 219, 223 Rhizoma Atractylodis Macrocephalae, 73, 77, 87, 93, 145, 149, 155, 159, 169, 173, 249, 254 Rhizoma Cimicifugae, 87, 95, 225, 230 Rhizoma Coptidis, 214, 216, 225, 228, 244, 247 Rhizoma Dioscoreae, 112, 116, 120, 124 Rhizoma Pinelliae, 129, 134, 197, 204, 276, 281, 284, 287 Rhizoma Zingiberis Recens Praeparata, 145, 150
Page 345 324 ตาํ รับยาจนี ทีใ่ ชบอยในประเทศไทย ดัชนที ว่ั ไป กลอ มครรภ, 292 จิงเส้ียวฉา นเปา , 13 กลมุ อาการเยน็ แทรอนเทียม, 292 จติ ใจ, 294 กลมุ อาการรอ นแทเยน็ เทยี ม, 292 จนิ คยุ เอยี้ วเลยี่ , 120, 270 กง ช่ิงซวน, 12 จื๋ออูห มิงสอื ถูเขา , 20 การจดั ยารวม, 37, 44 จูชนุ เซ่ีย, 22 การใชยาสมนุ ไพรจนี , 37 จตู ันซี, 155, 276 การตง้ั ตาํ รับยาจีน, 48 จูปง ทงเหยา ยง, 10 การเพ่มิ การไหลเวียนของเลือด, 305 จูปงเหวยี นโฮว ลุน , 9 กุยจอื ทงั , 190, 192 จสู ,ู 52 กูจนิ อีถง, 23 เจ เอ เกหมา, 25 เกลฟูซุส, 25 เจงิ้ จอ้ื จนุ จเฺ หวยี , 23, 162 เกอหง, 12 เจิง้ ชี,่ 294 ความชื้น, 292, 293 เจงิ้ เหอ, 19 ความเยน็ , 293 เจินจิ่วเจี่ยอี่จงิ , 12 ความรอนอบอา ว, 293 เจียงกวน, 23 ความแหง , 293 เจียงยงิ่ ซู, 23 เคทเบอรี โจนส, 26 โจวโฮว ไปอ ฟี าง, 10 เคลอเยอร, 25 ไจซ ฺว,ี่ 16 จงช,่ี 294 ฉางกง, 8 จั้นกัว๋ , 4, 29 ฉาวเหวียนฟาง, 9, 10 จางจงจ่ิง, 7, 50, 120, 129, 138, 169, 176, 183, ฉนิ เยวย่ี เหริน, 7 เฉงิ อจู ,ี่ 51 190, 197, 208, 244, 249, 256, 270, เฉินจื้อหมิง, 17, 18 จางจ่ิงเยวี่ย, 23, 24, 219 เฉินฉางช่ี, 11 จางเจ้ยี ปน , 23 เฉินซือเหวนิ , 73, 97, 145, 284 จางหวฺ า, 16 เฉนิ ฟเู จ้ิง, 22 จานยิน, 13 เฉนิ เอยี๋ น, 17 จาวสือ, 22 เฉียนอี่, 18, 112, 232, 238 จาวเสวยี หม่ิน, 20 ชางหานลุน , 51 จิงชี,่ 294 ชงิ เวย สาน, 225, 227 จ่งิ เยวย่ี ฉวนซู, 23, 219 ช,่ี 294, 295 จงิ สอื่ เจงิ้ เลยเ ปยจ ๋ีเปนเฉา , 16
Page 346 ดชั นีทวั่ ไป 325 ชจี่ มลงขางลา ง, 294 ช่ตี ดิ ขัด, 294 ซ่ือหน้สี าน, 138, 140 ชีพจร, 296 ซ่อื อทู งั , 97, 100 ชีพจรแกรง, 298 ชีพจรจม, 298 ซนุ ซือเหมย่ี ว, 11, 14, 15, 51, 262 ชีพจรตงึ , 298 ชพี จรตงึ แนน, 298 ซูเวิ่น, 5, 6, 16 ชพี จรเตน ชา , 298 ซหู มงิ อเี ลยอ้ัน, 24, 105 ชีพจรเตน เชอื่ งชา, 298 เซวียไข, 22 ชพี จรเตน เร็ว, 300 เซวยี จี่, 22 ชพี จรฝด, 300 เซอรจ อหน ฟลอเยอร, 25 ชพี จรพรอง, 300 เซง่ิ จจ่ี ง ล,ู 17, 51 ชีพจรลอย, 300 เซงิ มายสาน, 80, 82 ชพี จรลอยออน, 300 เซน่ิ ชี่หวาน, 120, 123 ชีพจรลื่น, 300 เซยี นโซวหล่ีซางซูมี่ฟาง, 13 ชพี จรเลก็ , 303, 304 เซยี่ ไปสาน, 238, 240 ชีพจรใหญ, 303 เซยี วเหยาสา น, 145, 148 ช่พี รอง, 294 เซย่ี หวงสา น, 232, 234 ชส่ี วนทางลอยข้นึ , 295 ดารวนิ , 20 ช่ีไหลเวยี นผิดปกต,ิ 295 เดวิส, 19 ชุนชวิ , 3, 4, 29 ตงยวฺ ซี่ าน, 22 เชียนจินอฟ้ี าง, 14 ตันซซี นิ ฝา , 155, 276 เชยี นจนิ เอ้ยี วฟาง, 14 ตบั , 307 ซง ฉือ, 19 ตัวยาชวย, 48, 49 ซันเปากง, 19 ตัวยานําพา, 49 ซางหานจาปง ลุน, 7, 51 ตัวยาเสรมิ , 48, 49 ซางหานลุน, 21, 23, 129, 138, 169, 176, 183, 190, ตวั ยาหลัก, 48, 49 ตาเฉิงชที่ ัง, 256, 259 197, 208, 244, 249, 256, ตาํ รับยากลอมจิตประสาท, 69 ซางหานหมิงหลลี่ ุน, 51 ตํารับยาขับเสมหะ, 67 ซานเจียว, 307 ตํารับยาชว ยยอ ยสลาย, 67 ซานไหจิง, 4 ตํารบั ยาถาย, 66 ซนิ ซิวเปน เฉา , 11 ตํารับยาบรรเทาอาการลม, 70 ซ่ือจฺวินจอ่ื ทัง, 73, 75 ตาํ รับยาบํารุง, 60 ซือ่ เสินหวาน, 162, 164 ตาํ รับยาปรับการไหลเวยี นของชี่ภายในรางกาย, 61 ตาํ รับยาปรับใหสมดลุ , 60 ตํารับยาเปดทวาร, 69
Page 347 326 ตาํ รบั ยาจนี ทใี่ ชบ อยในประเทศไทย ปจู งอ้ชี ่ีทัง, 87, 91 ตาํ รบั ยาระบายความรอน, 64 เปย จีเ๋ ชียนจนิ เอย้ี วฟาง, 51, 262 ตํารับยารกั ษาความผิดปกติของระบบเลือด, 61 เปยจ ๋ีโฮว ฟาง, 10 ตํารับยารักษาแผล ฝหนอง, 70 เปากู, 12 ตํารับยารกั ษาอาการภายนอก, 63 เปา เหอหวาน, 276, 279 ตาํ รับยารักษาอาการแหงขาดความชุมช้ืน, 68 เปาอิงชวั เอยี้ ว, 22 ตํารบั ยาสมาน, 2 เปนเฉากังมู, 19, 20 ตํารบั ยาสลายความชืน้ , 65, 66, 67 เปน เฉากังมูชาํ ระใหมปไ คเปา , 16 ตํารบั ยาใหความอุนภายในรา งกาย, 62 เปนเฉา กังมสู อื อี้, 20 ไต, 307 เปน เฉา จิง, 6, 7 ไตหวงฟูจือ่ ทัง, 270, 272 เปนเฉา จิงจี๋จ,ู 10 ถังเซิ่นเวย, 16 เปยนเชว่ีย, 7, 8 ถาวหงจิ่ง, 11 ไปห ทู ัง, 208, 211 ถงุ น้ําดี, 308 ผเี วยลุน, 87 ไทผ ิงเซ่ิงหุยฟาง, 17, 51 ผจู ีฟ้ าง, 52 ไทผิงหุยหมินเหอจี้จหฺ วีฟาง, 17, 51, 73, 97, 145, ฝซู ี, 3 284, พฒั นาการของตาํ รับยาจีน, 50 ไทอเี วี่ยน, 13 พมู ิเกอร, 25 โธมสั อาร คอลเลดจ, 25 ฟเู หรินตา ฉวนเหลียงฟาง, 17 นํ้ายากล่นั , 54 ไฟ, 303 เนยจ งิ , 5, 6, 12, 23, 48 มาม, 308 เนย ไวซ างเปยนก่ันลุน, 80 มา ยจิง, 9 บิดาแหง ตํารบั ยาจีน, 51 มเิ ชล บอยม, 24 บูสชอฟ, 25 ยาครีม, 53, 57, 58 ประเภทตัวยาเด่ยี ว, 37 ยาแคปซูล, 53, 56 ประเภทถกู ขม, 37 ยาฉีด, 53, 59 ประเภทลดทอนฤทธิ์, 37 ยาชงพรอมดื่ม, 53, 57 ประเภทลดทอนหรือกาํ จดั พษิ , 37, 38 ยาชงสมนุ ไพร, 56 ประเภทเสรมิ ฤทธ์ิกนั , 37 ยาดองเหลา, 53 ประเภทเสรมิ ฤทธ์ิฝา ยเดยี ว, 37 ยาตม, 44, 47, 53, 55, 57 ประเภทใหผลตรงกนั ขา ม, 37 ยาตนั , 55 ประวัติการแพทยจนี , 3 ยานาํ้ เช่ือม, 53, 54, 57 ปอด, 308 ยาผง, 47, 53, 56, 58 ปญจธาต,ุ 303 ยาเม็ด, 53, 55, 56 ปเ ตอร ปารเ กอร, 25
Page 348 ดัชนีทว่ั ไป 327 ยาลูกกลอน, 47, 53, 54, 55, 57 ยาเสน , 53, 58 ลม, 305 ยาเสน ดาย, 58 ลําไสเล็ก, 308 ยนิ -หยาง, 303 ลาํ ไสใหญ, 308 ยุคสามกก, 4, 29 ลิน่ เตา เหรนิ , 13 ยฺว่ีนฺหวีเ่ จยี น, 219, 221 ล่วิ เวย ตห้ี วงหวาน, 112, 115 ยฺวีผ่ งิ เฟง สา น, 155, 157 เลือด, 305 ระดบั ไฟท่ีใชต ม ยา, 45 เลือดคั่ง, 305 ระบบเสนลมปราณ, 304 เลือดพรอง, 306 ราชวงศจ นิ , 30 วางหมา ว, 21 ราชวงศจนิ้ , 12, 29 วธิ ีขบั เหงื่อ, 32 ราชวงศโจว, 4, 29, 30 วิธีตมยา, 37, 45 ราชวงศฉ ิน, 3, 12, 29 วิธีทาํ ใหสลาย, 35 ราชวงศฉ ี, 12, 30 วิธีทาํ ใหอาเจียน, 32 ราชวงศช ิง, 19, 21, 23, 24, 30 วธิ บี าํ รงุ , 35 ราชวงศซง, 3, 15, 30 วธิ ีประสาน, 33 ราชวงศซาง, 29 วธิ รี ะบาย, 33 ราชวงศเ ซ่ยี , 3, 29 วธิ รี ับประทานยา, 46 ราชวงศใต, 3, 9, 30 วธิ ลี ดความรอน, 34 ราชวงศถัง, 3, 12, 13, 30 วิธีใหความอบอุน, 34 ราชวงศเวย , 29, 30 เวยจ เี้ ปา ซ,ู 19 ราชวงศส ุย, 3, 12, 13, 30 เวยจ ื่อซ่วิ , 24, 105 ราชวงศสูฮน่ั , 29 เวนิ ปง เถียวเปย น, 21 ราชวงศหมิง, 3, 19, 21, 22, 24, 30 เวินผีทงั , 262, 265 ราชวงศหวู, 29 เวนิ อ่ลี ุน, 21 ราชวงศเ หนือ, 3, 9, 30 ไวเ คอจงิ เอย้ี ว, 18 ราชวงศเหลียว, 30 ไวไ ถมีเ่ อ้ยี วฟาง, 14, 15, 51, 214 ราชวงศเหวยี น, 15, 30 สวีชนุ ฝู, 23 ราชวงศฮ ัน่ , 4, 29 สว่ี านจ๋ลี ู, 19 โรคภายนอก, 304 สือจฺเหวียหมิง, 45 โรคภายใน, 304 สือฉานลุน, 17 โรคเยน็ , 304 สืออเู ปนเฉา, 11 โรครอ น, 304 สือโฮวจิ้วจูฟ าง, 12 โรคระบาด, 305 เสินหนง, 3, 6, 7 เสินหนงเปน เฉา จิง, 6, 7, 50
Page 349 328 ตาํ รับยาจีนที่ใชบ อยในประเทศไทย หา ราชวงศ, 3, 30 เส้ยี วเจง้ิ อซี จู ฺหว,ี 16 เหงอ่ื ลกั ออก, 306 เสี่ยวไฉหูทงั , 129, 132 เหงอ่ื ออกเอง, 306 เสย่ี วชงิ หลงทัง, 197, 200 เหลย กงเผา จอื้ ลุน , 11 เสีย่ วเออ รป ง เหวียนฟางลนุ , 18 เหวยี นชี่, 295 เส่ยี วเออ รเหยา เจงิ้ จอ๋ื จฺเหวีย, 18, 112, 232, 238 อวัยวะกลวงทั้งหก, 306 หมา จือ้ , 16 อวยั วะภายในท้ังหา, 306 หมาหวงทัง, 48, 49, 183, 185 อนั ไท, 292 หมาหวางตุย, 50 อนั เสนิ จี้, 69 หมงิ อเี ลยอนั้ , 23 อาการแกรง, 309 หยางจ่ือเจีย้ น, 17 อาการพรอ ง, 309 หลานสือมี่ฉาง, 225 อาร พี แฮรร ิว, 24 หลงิ ซู, 5, 6 อารมณท ง้ั เจด็ , 309 หลวิ เจวยี นจื่อกยุ อฟี๋ าง, 12 อิง๋ ชี่, 295 หลวิ ฝาง, 18 อว้ิ อิว้ จเี๋ ฉงิ , 22 หลิวหาน, 16 อีกว นเจียน, 105, 108 หลีเ่ กา, 80 อจี งจินเจี้ยน, 23 หล่ีจงหวาน, 169, 171 อีฟางเขา , 21, 52 หลตี่ งเหวียน, 80, 87, 225 อฟี างจีเ๋ จ่ีย, 21, 52 หลีส่ ือเจนิ , 19, 20 อหี มิงเหอจงกัว๋ มายหล่ี, 25 หลูซยฺ งจงิ , 13 อหี ย่ิน, 8 หวงตีเ้ นยจงิ , 5, 6, 50 อูสิง, 303 หวงฝูมี่, 12 เออ รเ ฉนิ ทงั , 284, 287 หวงเหลยี นเจย่ี ตทู ัง, 214, 216 ฮวั ถวอ, 8 หวางเขิ่นถัง, 23, 162 หวางซเู หอ, 9, 10 หวางตา น, 22 หวางถาว, 14, 15, 51, 214 หวคู ุน, 21 หวูจยู ฺหวีทงั , 176, 179 หวูฉจี ุน , 20 หวเู ชียน, 23 หวูหรงหลนุ , 22 หวโู หยวซงิ่ , 21 หวั ใจ, 309
ตาํ รบั ยาจนี ที่ใชบ อยในประเทศไทย Page 350 329 ภาพ: ชุมนมุ บัณฑิตใตรม ตนหวูถง วาดโดย สวาง กอแสงเรอื ง เมื่อ พ.ศ.2519
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 460
Pages: