แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ (๑๒) ประเดน็ การพัฒนาการเรียนรู้ แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ ประเดน็ การพัฒนาการเรียนรู้ ประกอบไปดว้ ย แผนยอ่ ย จำนวน ๒ แผน เกี่ยวขอ้ งกับภารกิจด้านการศึกษา จำนวน ๒ แผน แผนย่อย ๓.๑ การปฏริ ูปกระบวนการเรียนรูท้ ่ตี อบสนองต่อการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑ แนวทางการพฒั นา ข้อ ๑) ปรับเปล่ียนระบบการเรียนรู้สำหรบั ศตวรรษที่ ๒๑ ประกอบด้วย ๔ แนวทางย่อย ได้แก่ (๑) พฒั นา กระบวนการเรียนรู้ในทุกระดับชน้ั ต้ังแต่ปฐมวยั จนถงึ อดุ มศกึ ษา ท่ีใช้ฐานความรแู้ ละระบบคิดในลกั ษณะสหวทิ ยาการ มีการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน ที่เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะให้ได้มาตรฐานกับ หลักสูตรในระบบการศึกษาช้ันนำที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอย่างต่อเน่ือง โดยมีการจัดทำรายงาน ประจำปีทเ่ี ปิดเผยต่อสาธารณะ เก่ียวกบั การนิเทศ การติดตาม ประเมินผล และการปรับปรุงหลักสูตรฐานสมรรถนะ ปฏิรูปหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนอาชีวศึกษา ให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและ มาตรฐานอาชีพ โดยเน้นการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และการฝึกงานในสถานประกอบการ ปฏิรูปการ จัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยเน้นการเรียนรู้ท่ีผูกกับงาน เพื่อวางรากฐานให้มีสถานอุดมศึกษาที่สามารถ ตอบสนองความต้องการของประเทศได้ในหลากหลายมิติ ท้ังในด้านการผลิตกำลังคนที่มีสมรรถนะและทักษะ ในสาขาทต่ี ้องการของตลาด การพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่ท่ีมีศักยภาพในการสร้างธรุ กิจใหม่ทมี่ ีการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และสามารถไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ รวมถึงมีนักวิจัยและนวัตกรท่ีสามารถสร้างสรรค์ผลงานวิจัย และนวัตกรรมท่ีมคี ุณภาพ สามารถส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างดี (๒) พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับการศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมเสริมทักษะเพื่อพัฒนาทักษะ สำหรับศตวรรษที่ ๒๑ มีการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับเน้ือหาและวิธีการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสนับสนุน ทฤษฎีการเรียนรู้แบบใหม่ในการพัฒนาเน้ือหาและทักษะแบบใหม่ เทคโนโลยเี พ่ือการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ควรมีคุณลักษณะท่ีมีชวี ิตมีพลวัตมีปฏสิ ัมพันธ์การเชื่อมต่อและมีส่วนร่วม (๓) พัฒนาระบบการเรียนรู้เชิงบูรณาการ ท่ีเน้นการลงมือปฏิบัติ มีการสะท้อนความคิดทบทวนไตร่ตรอง โดยเน้นการเรียนการสอนท่ีเสริมสร้างทักษะชีวิต และสามารถนำมาใช้ต่อยอดในการประกอบอาชีพได้จริง และ (๔) พัฒนาระบบการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนสามารถ กำกับการเรยี นรขู้ องตนได้ เพือ่ ใหส้ ามารถนำองคค์ วามรู้ไปใชส้ ร้างรายได้ รวมถึงมีทกั ษะด้านวิชาชีพ และทักษะชีวิต โดยใช้สื่อผสมอย่างหลากหลายปรับเปลี่ยนตามความสามารถและระดับของผู้เรียน มีเนื้อหาท่ีไม่ยึดติดกับตัวสื่อ เลือกประกอบเน้ือหาได้เอง ค้นหา แก้ไข จดบันทึกได้เก็บประวัติการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีระบบการประเมินผล การเรียนร้ทู ี่รวดเรว็ และต่อเนื่อง โดยผูเ้ รยี นมีความรู้ ทกั ษะ และสมรรถนะที่เป็นที่ตอ้ งการของตลาดแรงงาน ข้อ ๒) เปล่ียนโฉมบทบาทครูให้เป็นครูยุคใหม่ ประกอบดว้ ย ๓ แนวทางย่อย ได้แก่ (๑) วางแผนการผลิต พัฒนาและปรับบทบาทครู คณาจารย์ยุคใหม่ ให้เป็นผู้อำนวยการการเรียนรู้ มีหลักสูตรผลิตครูอาชีวะยุคใหม่ ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและมาตรฐานอาชีพ โดยเน้นการเป็นผู้เช่ียวชาญ และมีประสบการณ์ ในการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการในสาขาที่ตนเองสอน (๒) ปรับระบบการผลิต และพัฒนาครูต้ังแต่ การดงึ ดูดคัดสรรผู้มีความสามารถสูงให้เข้ามาเปน็ ครู ปฏิรูประบบการผลิตครูยุคใหม่ โดยใช้หลักสตู รฐานสมรรถนะ ของวิชาชีพครู ท่ีสามารถสร้างทักษะในการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ และมีครูท่ีชำนาญในด้านการสอนภาษาอังกฤษ และภาษาท่ี ๓ ที่ได้มาตรฐาน ในระดับนานาชาติ ในจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน อีกทั้งยังมีระบบการอบรม และเสริม สมรรถนะครูท่ีผ่านการศึกษาในระบบเดิมหรือครูภาษาอังกฤษและภาษาที่ ๓ ที่ยังไม่ผ่านการประเมินมาตรฐาน ในระดบั นานาชาติ และ (๓) ส่งเสรมิ สนบั สนุนระบบการพัฒนาศักยภาพ และสมรรถนะครอู ยา่ งต่อเนือ่ งครอบคลมุ ท้งั เงินเดือน สายอาชีพ และระบบสนับสนุนอ่ืน ๆ ปฏิรูประบบการผลิตครูอาชีวะยุคใหม่ โดยผู้ที่มีใบประกอบวิชาชีพ แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 41
จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการในสาขาที่ตนเองสอน มีความรู้ทักษะและสามารถสร้างสมรรถนะที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงานและมาตรฐานอาชีพ ให้แก่ผู้เรียน และมีอัตรากำลังเพียงพอต่อความต้องการของสถานศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ขอ้ ๓) เพ่ิมประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภท ประกอบด้วย ๖ แนวทางย่อย ได้แก่ (๑) การปฏิรูปโครงสร้างองค์กรด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นการสร้างความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ ต้ังแต่ระดับบนสุดลงไปจนถึงระดับโรงเรียน รวมถึงมีโครงสร้างแรงจูงใจและความรับผิดชอบของหน่วยงาน และ บุคลากรทางการศึกษาท้ังระบบทเี่ หมาะสม (๒) จัดให้มีมาตรฐานขัน้ ตำ่ ของโรงเรียนในทุกระดับเพื่อผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นที่สูงขึ้น มีการกำหนดมาตรฐานข้ันต่ำของโรงเรียนในทุกระดับ ที่เหมาะสมกับบรบิ ทของประเทศ ในด้านความพร้อมของโครงสร้างพ้ืนฐาน อุปกรณ์การเรียนการสอน การบริหารจัดการโรงเรียน จำนวนครู ท่ีครบชั้น ครบวชิ า จำนวนพนักงานสนับสนุนการบริหารจัดการโรงเรียน (๓) ปรับปรุงโครงสร้างการจัดการศึกษา ให้มปี ระสิทธภิ าพและเพ่ิมคุณภาพการศึกษา มีการปรับปรุงโครงสร้างการศึกษาท่ีเน้นสายอาชพี มากขึ้น มกี าร เรยี นการสอนและการเรียนรู้ท่ีใชเ้ ทคโนโลยีสมัยใหม่ เกดิ ทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ทกั ษะภาษาที่ ๓ ทักษะและความรใู้ นการประกอบอาชพี ใหม่ ๆ อย่างคล่องตวั เพ่ิมประสิทธิภาพการใช้ทรพั ยากรทางการศกึ ษา อย่างเป็นรูปธรรม (๔) เพิ่มการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา ส่งเสริมภาคประชาสังคมปรับปรุง แหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นพ้ืนท่ีเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และมีชีวิต รวมถึงการเรียนรู้และทบทวนทักษะพ้ืนฐาน ไดแ้ ก่ การอ่านออก เขียนได้ คดิ เลขเปน็ โดยระดมทรัพยากรจากภาคเอกชน และภาคประชาสังคม (๕) พัฒนา ระบบประกันคุณภาพการศึกษา โดยแยกการประกันคุณภาพการศึกษาออกจากการประเมินคุณภาพและการ รบั รองคุณภาพ และการกำกับดแู ลคณุ ภาพการศึกษา และปฏริ ูประบบการสอบทนี่ ำไปสู่การวัดผลในเชิงทักษะ ทจ่ี ำเปน็ สำหรบั ศตวรรษที่ ๒๑ มากกวา่ การวดั ระดบั ความรู้ และ (๖) ส่งเสริมการวิจัยและใช้เทคโนโลยี ในการ สร้างและจัดการความรู้การเรียนการสอน และจัดการการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับบริบท พ้ืนท่ี ซ่ึงรวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับภาคอุตสาหกรรม ชุมชน และภาครัฐ เพอื่ เสริมสรา้ งระบบนิเวศนวัตกรรมทเี่ ข้มแขง็ ขอ้ ๔) พัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประกอบด้วย ๕ แนวทางย่อย ได้แก่ (๑) จัดให้มีระบบการศึกษา และระบบฝึกอบรมบนฐานสมรรถนะท่ีมีคุณภาพสูงและยืดหยุ่น (๒) มีมาตรการจูงใจและส่งเสริมสนับสนุนให้คน เข้าสู่วัยเรียนรู้ พัฒนาตนเอง รวมถึงการยกระดับทักษะวิชาชีพ (๓) พัฒนาระบบการเรียนรู้ชุมชนให้เข้าถึงได้ ทกุ ท่ีทุกเวลา โดยความร่วมมือจากภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาสังคม (๔) พัฒนาระบบเครือข่าย เทคโนโลยี ดจิ ทิ ัล และดิจทิ ัลแพลตฟอรม์ สื่อดจิ ิทัลเพ่ือการศึกษาในทุกระดับทุกประเภทการศกึ ษาอย่างท่ัวถงึ และมีประสิทธิภาพ และ (๕) พัฒนาโปรแกรมประยุกต์หรือส่ือการเรียนรู้ดิจิทัลท่ีมีคุณภาพที่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน สามารถเข้าถงึ และใชป้ ระโยชน์ในการเรยี นรู้ และพัฒนาตนเองผา่ นเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ ข้อ ๕) สร้างระบบการศึกษาเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ ประกอบด้วย ๕ แนวทางย่อย ได้แก่ (๑) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความโดดเด่นเฉพาะสาขา สู่ระดับนานาชาติ มีกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและมาตรฐานอาชีพท่ีกำหนดสมรรถนะและทักษะพ้ืนฐาน สำหรับสาขาอาชีพต่าง ๆ ท่ีสอดคล้องกับความต้องการของอตุ สาหกรรม โดยเฉพาะใน ๑๐ กลุ่มอุตสาหกรรม เป้าหมาย S-curve และ New S-curve เพ่ือเป็นเคร่ืองมือในการยืนยนั และพัฒนาสมรรถนะของแรงงาน และ มีกรอบแนวคิดในการคาดการณ์อุปสงค์แรงงานในอนาคตในสาขาอาชีพต่าง ๆ และมีแนวทางทบทวน และปรับปรุง ให้แม่นยำมากข้ึนเป็นระยะ (๒) สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปล่ียนนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรในระดับนานาชาติ รวมถึงการพัฒนาศูนย์วิจัย ศูนย์ฝึกอบรมและทดสอบ ในระดับภูมิภาค แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 42
(๓) จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย และประวัติศาสตร์ท้องถ่ิน (๔) จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประเพณีวัฒนธรรมของไทย และพัฒนาการของประเทศเพ่ือนบ้านในสถานศึกษา และสำหรับประชาชน และ (๕) สง่ เสริมสนับสนนุ การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ของเด็ก เยาวชน และนักเรียน กบั ประเทศในภูมภิ าคเอเชียอาคเนย์ แผนยอ่ ย ๓.๒ การตระหนกั ถงึ พหุปญั ญาของมนษุ ย์ทีห่ ลากหลาย แนวทางการพฒั นา ขอ้ ๑) พัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา โดยพัฒนาระบบบรหิ ารจัดการกลไกการคัดกรองและการส่งต่อ เพือ่ ส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาใหเ้ ต็มตามศกั ยภาพส่งเสริม สนับสนุนครอบครวั ในการเสริมสร้าง ความสามารถพิเศษตามความถนัดและศักยภาพทางดา้ นกีฬาภาษาและวรรณกรรมสุนทรียศิลป์ ส่งเสริมสนับสนุน ระบบสถานศึกษา และสภาพแวดล้อมเอ้ือต่อการสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษบนฐาน พหุปัญญา และส่งเสริมสนับสนุนมาตรการจูงใจแก่ภาคเอกชนและสื่อ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผู้มี ความสามารถพเิ ศษ มีบทบาทเด่นในระดับนานาชาติ แผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (๑๗) ประเด็นความเสมอภาคและหลักประกนั ทางสงั คม แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความเสมอภาค และหลักประกันทางสังคม ประกอบไปด้วย แผนย่อยจำนวน ๒ แผนเกยี่ วข้องกบั ภารกจิ ดา้ นการศึกษา จำนวน ๑ แผน ดงั นี้ แผนย่อย ๓.๑ การคุ้มครองทางสงั คมขน้ั พน้ื ฐานและหลักประกนั ทางเศรษฐกจิ สงั คมและสุขภาพ แนวทางการพัฒนา ข้อ ๑) ขยายฐานความคุ้มครองทางสังคม โดยกำหนดระดับมาตรฐานข้ันต่ำของสวัสดิการแต่ละประเภท แต่ละกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมและชัดเจน เพ่ือป้องกันไม่ให้ประชาชนทุกช่วงวัยต้องเจอสภาวะความยากจน กรณีประสบเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ เพื่อเป็นหลักประกันในการดำเนินชีวิตทางสังคมได้ โดยการ จดั ระบบหรือมาตรการในรูปแบบต่าง ๆ ให้สามารถค้มุ ครองสิทธิขน้ั พ้ืนฐานของประชาชนทุกคน บรกิ ารสงั คม การประกันสังคมการช่วยเหลือทางสังคม การคุ้มครองอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซ่ึงครอบคลุมถึง การจัดโครงข่ายการคุ้มครองทางสังคม สำหรับผู้ด้อยโอกาสและคนยากจน ให้สามารถเข้าถึงบริการพื้นฐาน ของภาครัฐได้อย่างมคี ุณภาพ และการจดั การความเส่ยี งทางสงั คมทเี่ กดิ ข้นึ จากวิกฤตทางเศรษฐกิจ สังคม และ ภยั พบิ ตั ติ ่าง ๆ เพอื่ ปดิ ชอ่ งว่างการคุ้มครองทางสงั คมต่าง ๆ ในประเทศไทย แผนแม่บทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ (๑๘) ประเดน็ การเตบิ โตอย่างย่ังยืน แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการเติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย แผนย่อย จำนวน ๕ แผน เกย่ี วข้องกับภารกจิ ดา้ นการศึกษา จำนวน ๒ แผนดงั น้ี แผนยอ่ ย ๓.๓ การสร้างการเตบิ โตอยา่ งยง่ั ยนื บนสงั คมทเ่ี ปน็ มติ รตอ่ สภาพภูมิอากาศ แนวทางการพัฒนา ข้อ ๓) มุ่งเข้าสู่การลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ ในการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานของภาครัฐ และภาคเอกชน พัฒนามาตรการเพ่ือขับเคลื่อนการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเอื้ออำนวยให้ใช้มาตรการใหม่ ๆ ด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน และการคลัง ในการส่งเสริมและสนับสนุน จูงใจ ให้ภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการปรับตัวรองรับ ผลกระทบและภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเน่ืองมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิผล กำหนดให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐต้องจัดทำการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงจากการเปล่ียนแปลง สภาพภูมิอากาศ เพื่อออกแบบโครงการให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ ในปัจจุบันและในอนาคต รวมท้ัง ความเสี่ยงจากภัยพบิ ัตริ ูปแบบตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วเนือ่ งกับการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 43
แผนย่อย ๓.๔ การจัดการมลพิษท่ีมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสารเคมีในภาคเกษตรทั้งระบบ ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานสากล แนวทางการพัฒนา ข้อ ๓) จัดการขยะมลู ฝอยมูลฝอยติดเช้ือ ของเสียอันตราย และการอุตสาหกรรมใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานสากล การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายของประเทศ กำหนดเป้าหมาย และแนวทางการดำเนินงานครอบคลุม ขยะชุมชน ของเสยี อันตรายชุมชน มูลฝอยติดเชื้อและกากของเสียอตุ สาหกรรม โดยให้ความสำคัญกับการปอ้ งกัน และลดมลพิษจากขยะ และของเสียอันตรายจากแหล่งกำเนิด การบริหารจัดการควบคุมมลพิษจากการบำบัด กำจดั ขยะและของเสียอันตรายโดยปรบั ปรงุ ฟ้ืนฟสู ถานท่ี กำจดั ขยะให้ดำเนินการถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ แผนย่อย ๓.๔ การยกระดับกระบวนทศั น์เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ แนวทางการพฒั นา ข้อ ๑) ส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตท่ีดี โดยปรับปรุง กลไกและพัฒนาเคร่ืองมือต่าง ๆ ของภาครัฐ ให้เอ้ือต่อการปรับเปล่ียนพฤติกรรมของประชาชนทุกภาคส่วน ให้เป็นมติ รกับสิ่งแวดล้อม เพ่ือรองรับการเติบโตที่มีคุณภาพในอนาคต สร้างความรู้ความเข้าใจ การตระหนักรู้ การมีส่วนร่วมด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ให้รองรับการเปล่ียนแปลงทั้งในระดับประเทศ และระดับ สากล โดยสอดแทรกในหลักสูตรการศกึ ษาและ/หรอื การจดั การเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ ทงั้ ในระบบและนอกระบบ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (๒๐) ประเดน็ การบรกิ ารประชาชนและประสิทธภิ าพภาครฐั แผนแมบ่ ทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติ ประเดน็ การบริการประชาชนและประสทิ ธภิ าพภาครฐั ประกอบดว้ ย แผนย่อยจำนวน ๕ แผน เกยี่ วข้องกบั ภารกิจด้านการศึกษา จำนวน ๔ แผน ดังน้ี แผนยอ่ ย ๓.๑ การพัฒนาบริการประชาชน แนวทางการพัฒนา ขอ้ ๑) พัฒนารูปแบบบรกิ ารภาครัฐเพ่ืออำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน ผปู้ ระกอบการ และภาคธรุ กิจ โดยภาครฐั จัดสรรรูปแบบบริการใหม้ ีความสะดวก มีการเชื่อมโยงหลายหน่วยงานแบบเบ็ดเสร็จ ครบวงจร และหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้รับบริการ รวมทั้งอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน และการดำเนนิ ธรุ กิจ ท่ีมีประสทิ ธิภาพสะดวกรวดเรว็ และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานสากล ๒) พัฒนาการให้บรกิ ารภาครัฐผ่านการนำเทคโนโลยีดจิ ิทัลมาประยกุ ต์ใช้ตง้ั แต่ต้นจนจบกระบวนการ และปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากลอย่างคุ้มค่า และมีความรวดเร็วโปร่งใส เสียค่าใช้จ่ายน้อย ลดข้อจำกัด ทางกายภาพ เวลา พ้ืนที่ และตรวจสอบได้ ตามหลักการออกแบบที่เป็นสากล เพื่อให้บริการภาครัฐเป็นไป อย่างปลอดภัย สร้างสรรค์ โปร่งใส มีธรรมาภิบาล เกิดประโยชน์สูงสุด ปรับวิธีการทำงานจากการทำงานตาม ภารกิจที่กฎหมายกำหนด เป็นการให้บริการท่ีให้ความสำคัญกับผู้รับบริการ ปรับปรุงวิธีการทำงานเพ่ือสนับสนุน การพฒั นาบรกิ ารภาครัฐที่มีคุณค่า และไดม้ าตรฐานสากล โดยเปลี่ยนจากการทำงานด้วยมอื เป็นการทำงานบน ระบบดิจิทัลทั้งหมด เช่ือมโยงและบูรณาการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐเข้าด้วยกัน เหมือนเป็นองค์กรเดียว มีการพัฒนาบริการเดิม และสร้างบริการใหม่ท่ีเป็นพลวัตสอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ และขับเคล่ือน โดยความต้องการของประชาชน ภาคธุรกิจ และผู้ใช้บริการ และเปิดโอกาสให้เสนอความเห็นต่อการดำเนินงาน ของภาครัฐได้อย่างสะดวกทนั สถานการณ์ แผนย่อย ๓.๒ การบรหิ ารจดั การการเงินการคลัง แนวทางการพฒั นา ข้อ ๓) จดั ทำงบประมาณตอบสนองต่อเป้าหมายตามยทุ ธศาสตร์ชาติ เพ่ือใหง้ บประมาณเป็นเคร่ืองมือ สำคัญที่จะขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ชาติ โดยสนับสนุนบทบาทภารกิจของหน่วยงานทั้งในภารกิจพ้ืนฐาน ภารกิจ แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 44
ยทุ ธศาสตร์ ภารกิจพ้นื ที่ และภารกิจอ่นื ๆ ให้สามารถดำเนินการได้ตามเปา้ หมายของแต่ละแผนงาน/โครงการ และเป้าหมายร่วมตามระยะเวลาท่ีกำหนดไว้ สอดคล้องกับสถานการณ์และความเร่งด่วนในแต่ละช่วงเวลา โดยใชเ้ คร่ืองมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยที ีท่ ันสมัยรว่ มกนั เพอ่ื ให้เกดิ การพัฒนาในทุก ๆ มิตอิ ย่างย่ังยนื ขอ้ ๕) กำหนดให้มีการติดตามประเมินผลสัมฤทธ์ิการดำเนินการ ตามยุทธศาสตร์ชาติและผลสัมฤทธ์ิ ของแผนงาน/โครงการ ทั้งในภารกิจพ้ืนฐาน ภารกิจยุทธศาสตร์ และภารกิจพ้ืนท่ี มีการติดตามประเมินผล ทั้งก่อนเริ่มโครงการ ระหว่างดำเนินการ และหลังการดำเนินงาน เป็นการติดตามประเมินผลทั้งระบบ ต้ังแต่ ปัจจัยนำเข้า กระบวนการดำเนินการ ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบต่อการบรรลเุ ป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยพัฒนาการเช่ือมโยงข้อมูล เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และนำไปสู่การปรับแนวทางการดำเนินงาน ที่เหมาะสม ได้อย่างต่อเน่ือง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม ประเมินผล และจัดให้มี การรายงานการติดตาม ประเมินผล ในการบรรลุเป้าหมายต่อสาธารณะเป็นประจำ รวมท้ังการตรวจสอบโดย องคก์ รอิสระ ตอ้ งเปน็ ไปเพ่ือส่งเสรมิ การขบั เคลอ่ื นยุทธศาสตรช์ าติ แผนย่อย ๓.๔ การพฒั นาระบบบรหิ ารงานภาครัฐ แนวทางการพัฒนา ข้อ ๑) พัฒนาหน่วยงานภาครัฐให้เป็นภาครัฐทันสมัยเปิดกว้างเป็นองค์กรขีดสมรรถนะสูง สามารถปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่า เทียบได้กับมาตรฐานสากลรองรับสภาพแวดล้อม ในการปฏิบัติงานที่มี ความหลากหลายซับซ้อนและทันการเปลี่ยนแปลง โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาให้มี การนำข้อมูล และข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้ในการพัฒนานโยบาย การตัดสินใจ การบริหารจัดการ การให้บริการ และการพัฒนานวัตกรรมภาครัฐ รวมถึงการเชื่อมโยงการทำงานและข้อมูลระหว่างองค์กรท้ังภายในและภายนอก ภาครัฐแบบอัตโนมัติ อาทิ การสรา้ งแพลตฟอร์มดิจิทัลท่ีภาครฐั สามารถใชร้ ่วมกัน เพื่อเพ่ิมโอกาสในการเข้าถึง ขอ้ มูลที่สะดวกและรวดเร็ว เชื่อมโยงข้อมลู ของหน่วยงานภาครฐั ใหม้ ีมาตรฐานเดยี วกนั และขอ้ มลู ระหว่างหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเพ่ือให้ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการ ขยายโอกาสทางการค้าทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ ข้อ ๒) กำหนดนโยบายและการบริหารจัดการที่ต้ังอยู่บนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์ มีความโปร่งใส ยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง นำนวัตกรรม เทคโนโลยี ข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการทำงาน ที่เป็นดิจิทัล มาใช้ในการบริหารและการตัดสินใจ มีการพัฒนาข้อมูลเปิดภาครัฐให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึง แบ่งปันและ ใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและสะดวก รวมทั้งนำองค์ความรู้ในแบบสหสาขาวิชาเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้าง คุณค่าและแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในการตอบสนองกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันเวลา พร้อมท้ังมีการ จัดการความรู้ และถ่ายทอดความรู้อย่างเป็นระบบเพื่อพัฒนาภาครัฐ ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และการ เสริมสรา้ งการรับรู้ สร้างความเข้าใจการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร เพื่อล่งเสริมการพัฒนาระบบบริการ และการ บรหิ ารจัดการภาครฐั อยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ ข้อ ๓) ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดโครงสร้างองค์การและออกแบบระบบบริหารงานใหม่ ให้มีความ ยืดหยุ่น คล่องตัว กระชับ ทันสมัย สามารถตอบสนองต่อบริบทการเปลี่ยนแปลงได้ในทุกมิติ ไม่ยึดติดกับการ จัดโครงสร้างองค์การแบบราชการและวางกฎเกณฑ์มาตรฐานกลาง มีขนาดท่ีเหมาะสมกับภารกิจ ปราศจาก ความซ้ำซ้อนของการดำเนินภารกิจ สามารถปรับเปลี่ยนบทบาท ภารกิจ โครงสร้างองค์การ ระบบการบริหารงาน รวมท้ังวางกฎระเบียบได้เองอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ท่ีเปล่ียนแปลงไป เน้นทำงานแบบบูรณาการ ไร้รอยต่อ และเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เพื่อมุ่งไปสู่ความเป็นองค์การท่ีมีขีดสมรรถนะสูง สามารถปฏิบัติงานและมีผลสัมฤทธ์ิเทียบได้กับมาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้ยังมีความเป็นสำนักงานสมัยใหม่ แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 45
ใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อวิเคราะห์การล่วงหน้า และทำงานในเชิงรุก สามารถนำเทคโนโลยี อนั ทันสมยั เขา้ มาประยุกต์ใช้เพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภาพและสร้างคุณคา่ ในการทำงาน แผนยอ่ ย ๓.๕ การสรา้ งและพัฒนาบุคลากรภาครัฐ แนวทางการพฒั นา ข้อ ๒) เสริมสร้างความเข้มแขง็ ในการบรหิ ารงานบุคคลในภาครฐั ให้เป็นไปตามระบบคณุ ธรรมอยา่ งแท้จริง โดยการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม และจิตสำนึกสาธารณะ มีระบบ บริหารจัดการและพัฒนาบุคลากรให้สามารถสนองความต้องการในการปฏิบัติงาน มีความก้าวหน้าในอาชีพ สามารถจูงใจให้คนดีคนเก่งทำงานในภาครัฐ โดยมีการประเมินผล และเลื่อนระดับตำแหน่ง ตามผลสัมฤทธ์ิ ของงานและพฤติกรรมในการปฏิบัติงาน โดยมีกลไกการป้องกัน การแทรกแซง และการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ การสร้างความก้าวหน้าให้กับบุคลากรตามความรู้ ความสามารถและศักยภาพในการปฏิบัตงิ าน และการสร้าง กลไกให้สามารถโยกย้ายและหมุนเวียนได้อย่างคล่องตวั เพื่อประโยชน์ของภาครัฐ รวมถงึ การพัฒนาระบบการ จ้างงานบุคลากรทุกประเภทให้มีรูปแบบท่ีหลากหลายเหมาะสมกับภารกิจในรูปต่าง ๆ อาทิ การจ้างงานท่ีมี ลกั ษณะช่ัวคราว ให้เป็นเคร่ืองมือในการบริหารงานในภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ังการทบทวน และ ปรับเปลี่ยนระบบค่าตอบแทนท่ีเป็นธรรม มีมาตรฐาน เหมาะสม สอดคล้องกับภาระงานโดยปรับปรุงวิธีการ กำหนด และพิจารณาค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ให้มีมาตรฐานเหมาะสมกับลักษณะงานและภารกิจ รวมถึง สามารถเทียบเคียงกับตลาดการจ้างงานได้อย่างสมเหตุสมผลโดยไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำของค่าตอบแทน และ สิทธิประโยชนต์ ่าง ๆ ระหวา่ งบคุ ลากรของรฐั ข้อ ๓) พัฒนาบุคลากรภาครัฐทุกประเภท ให้มีความรู้ความสามารถสูง มีทักษะการคิดวิเคราะห์ และ การปรับตัวให้ทันต่อการเปลีย่ นแปลง มีระบบการพฒั นาขีดความสามารถบุคลากรภาครฐั ให้มีสมรรถนะใหม่ ๆ ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษและภาษาที่ ๓ ทักษะด้านดิจิทัล มีทัศนคติและกรอบความคิดในการทำงาน เพื่อให้ บริการประชาชน และอำนวยความสะดวกภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพ่ือประโยชน์ของการพัฒนาประเทศ สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงบริบทการพัฒนา มีการเสรมิ สร้างคุณธรรมและจริยธรรม การปรับเปลี่ยนแนวคิด ให้การปฏิบตั ิราชการเป็นมืออาชพี มีจิตบริการทำงานในเชงิ รุก และมองไปข้างหน้า สามารถบูรณาการการทำงาน ร่วมกับภาคส่วนอ่ืนได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีสำนึกในการปฏิบัติงาน มีความรับผิดรับชอบ และความสุจริต ปฏิบัติงานตามหลักการและหลักวิชาชีพด้วยความเป็นธรรมและเสมอภาค การยืนหยดั ในการกระทำที่ถูกต้อง คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ของส่วนตน ตลอดจนส่งเสริมให้มีการคุ้มครองและปกป้อง บคุ ลากรทกี่ ล้ายืนหยัดในการกระทำทีถ่ กู ตอ้ ง และมีพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานตามจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพ ขอ้ ๔) สรา้ งผู้นำทางยุทธศาสตร์ในหน่วยงานภาครัฐทกุ ระดับอยา่ งต่อเน่อื งและเปน็ ระบบ เพอื่ ให้ผู้นำ และผู้บริหารภาครัฐ มีความคดิ เชิงกลยุทธม์ คี วามเข้าใจสภาพเศรษฐกจิ สงั คม และวัฒนธรรม ทั้งระดับทอ้ งถิ่น และระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก มีความสามารถในการนำหน่วยงาน และมคี ุณธรรมจริยธรรม ในการบริหารงาน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เป็นทั้งผู้นำทางความรู้และความคิด ผลักดันภารกิจ นำการเปลี่ยนแปลง พัฒนานโยบายและยทุ ธศาสตร์เปน็ แบบอยา่ งที่ดตี ่อผูร้ ่วมงานและตอ่ สังคม เพ่ือรองรบั การขับเคลื่อนยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะยาว โดยต้องได้รับการปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิดให้ตนเอง มีความเป็นผู้ประกอบการสาธารณะ เพ่ิมทักษะให้มีสมรรถนะท่ีจำเป็นและเปล่ียนแปลงพฤติกรรม อันจะช่วยทำให้สามารถแสดงบทบาทของการ เปน็ ผนู้ ำการเปลี่ยนแปลง เพือ่ สร้างคุณคา่ และประโยชนส์ ขุ แกป่ ระชาชน แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 46
แผนแม่บทภายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าติ (๒๑) ประเดน็ การต่อด้านทุจรติ และประพฤติมชิ อบ แผนแม่บทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อด้านการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบ ประกอบไปด้วย แผนย่อย จำนวน ๒ แผน เกย่ี วข้องกบั ภารกจิ ด้านการศกึ ษา จำนวน ๑ แผน ดงั น้ี แผนย่อย ๓.๑ การป้องกันการทุจรติ และประพฤติมชิ อบ แนวทางการพฒั นา ข้อ ๑) ปลูกและปลุกจิตสำนึกการเปน็ พลเมืองท่ีดี มวี ัฒนธรรมสุจรติ การปลูกฝังและหล่อหลอมวัฒนธรรม ในกลุ่มเด็กและเยาวชนทุกช่วงวัย ทุกระดับ มุ่งเน้นการปรับพฤติกรรมคน โดยการปลูกและปลุกจิตสำนึกความเป็น พลเมืองที่ดี มีวัฒนธรรมสุจรติ สามารถแยกแยะประโยชนส์ ่วนตนประโยชน์ส่วนรวม มีความละอายต่อการกระทำ ความผิด ไม่เพิกเฉยอดทนต่อการทุจริต และเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อด้านการทุจริตทุกรูปแบบ รวมถึงการ ส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมสุจริตในระดับชุมชน เพ่ือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมค่านิยม ที่ยึดประโยชน์สาธารณะมากกว่าประโยชน์ส่วนตน และต่อด้านการทุจริตและประพฤติมิชอบในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งเสริมวัฒนธรรมสุจริตผ่านหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับทั้งภาคทฤษ ฎีและภาคปฏิบัติตั้งแต่ ระดับปฐมวัยจนถึงระดับอุดมศึกษา เพ่ือปฏิรูปพลเมืองไทยในอนาคตให้มีความเป็นพลเมืองเต็มข้ันสามารถ ทำหน้าทค่ี วามเปน็ พลเมอื งท่ีดี มีจติ สำนึกยึดม่ันในความชื่อสัตย์สุจรติ มีความรับผิดชอบตอ่ สว่ นรวม มรี ะเบยี บ วนิ ยั และเคารพกฎหมาย ข้อ ๒) ส่งเสริมการปฏิบัติหน้าท่ีของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความใสสะอาด ปราศจาก พฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต โดยการปฏิบัติหน้าท่ีราชการอย่างเปิดเผย โปร่งใส ถูกต้องเป็นธรรม ไม่คดโกง รู้จักแยกแยะเร่ืองส่วนตัวออกจากหน้าท่ีการงาน การสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงาน ตลอดจนการสร้าง จิตสำนึก และค่านิยมในการต่อต้านการทุจริตให้แก่บุคลากรขององค์กร โดยการสนับสนุนให้เข้ามามีส่วนร่วม เปน็ เครือขา่ ยต่อดา้ นการทจุ รติ ในหน่วยงานภาครัฐ เพอ่ื สง่ เสริมการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง สอดสอ่ ง ติดตาม พฤติกรรมเส่ียงและแจ้งเบาะแส เพอื่ สกัดก้ันมิให้เกิดการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบได้ โดยมีมาตรการสนับสนุน และค้มุ ครองผแู้ จง้ เบาะแส แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ (๒๒) ประเด็นกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ ประเด็นกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ประกอบไปด้วย แผนย่อย จำนวน ๒ แผน เกี่ยวข้องกบั ภารกจิ ด้านการศึกษา จำนวน ๑ แผน แผนยอ่ ย ๓.๑ การพัฒนากฎหมาย แนวทางการพัฒนา ข้อ ๑) พัฒนากฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับ และมาตรการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับบริบทและเอ้ือต่อ การพฒั นาประเทศ โดยประเมินผลสัมฤทธิ์ ทบทวนความจำเป็น และความเหมาะสมของกฎหมายที่มีอยู่ทกุ ลำดบั ช้ัน ของกฎหมาย แก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้ทนั สมัย ยกเลิกกฎหมายทม่ี ีเนื้อหาไม่จำเป็นหรอื เป็นอุปสรรคตอ่ การพัฒนา ประเทศ เพ่ือให้กฎหมายช่วยสร้างสรรค์ความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจ และสังคม มีความสอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศท่ีเป็นประโยชน์ ต่อประชาชนโดยรวม ให้เอื้อต่อการ ดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐในการพัฒนาประเทศ เพ่ือรองรับการพัฒนาภูมิภาคและจังหวัดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อต่อการใช้นวัตกรรมท้ังในภาครัฐและเอกชนให้สอดคล้องกับบริบทที่เปล่ียนแปลงไป เอื้อต่อการประกอบ ธรุ กิจทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการกำหนด วงรอบในการทบทวนปรับปรุงแกไ้ ขกฎหมายให้ทันสมยั ตลอดเวลา รวมท้ังการประเมินผลสัมฤทธ์ิของกฎหมาย ทุกรอบระยะเวลาที่กำหนด แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 47
ข้อ ๒) มีวิธีการบัญญัติกฎหมายอย่างมีส่วนร่วม ต้องดำเนินการให้มีการรับพิงความคิดเห็นของผู้เก่ียวข้อง วเิ คราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดข้ึนจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมท้ังเปิดเผยผลการรับฟ้งความ คิดเห็นและการวิเคราะห์ต่อประชาชน และนำมาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน เพื่อพัฒนากฎหมายทุกฉบับและทุกลำดับศักด์ิให้สอดคล้อง และเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ ท่ีเปล่ียนแปลงไป เพื่ออำนวยต่อการบริหารราชการแผ่นดิน การดำเนินงานของภาครัฐท่ีเหมาะสมต่อการพัฒนาประเทศ การให้บรกิ ารประชาชนตามประกอบธุรกจิ และการแข่งขนั ระหว่างประเทศ ข้อ ๓) พัฒนาการบังคับใช้กฎหมาย โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการ บังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ เป็นธรรม และก่อให้เกิดความคุ้มค่า ทางเศรษฐกิจ สามารถกล่าวหาและจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคบั ใชก้ ฎหมายอยา่ งเขม้ งวด และเปน็ ธรรม ข้อ ๔) ส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมในกระบวนการกฎหมาย สนับสนุนการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการพฒั นากฎหมายการบงั คับใชแ้ ละการปฏิบัติตามกฎหมาย เพ่ือให้เป็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ และสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการทางกฎหมาย โดยเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชน ต้ังแต่ต้นจนจบกระบวนการ เพื่อให้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ และมีเน้ือหาเป็นไป เพ่อื ประโยชนส์ ่วนรวม แผนแม่บทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติ (๒๓) ประเดน็ การวิจัยและพฒั นานวตั กรรม แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมประกอบไปด้วยแผนย่อย จำนวน ๕ แผนเกี่ยวขอ้ งกบั ภารกิจดา้ นการศึกษา จำนวน ๒ แผน ดังนี้ แผนย่อย ๓.๒ การวจิ ัยและพัฒนานวัตกรรมด้านสังคม แนวทางการพฒั นา ข้อ ๑) พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยการส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และประยุกต์ใช้ นวัตกรรมในการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ของประเทศตลอดทุกช่วงวัย (ปฐมวัย วัยเด็ก วัยเรียน วัยแรงงาน วยั สูงอายุ) การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ท่ีหลากหลาย เพ่ือให้ประชาชนไทยมีทักษะความรู้ และเป็นกำลัง ในการพัฒนาประเทศโดยมีประเด็นการวิจัยที่สำคัญ อาทิ โภชนาการและสุขภาวะในช่วงปฐมวัย การปลูกฝัง ความเป็นคนดีมีวินัยและจิตสาธารณะในวัยเรียน การพัฒนาทักษะและสมรรถนะท่ีจำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ ในวัยเรียนและวัยแรงงาน บุคลากรทางการศึกษา ครู หลักสูตรและกระบวนการสอน การส่งเสริมศักยภาพ ผสู้ ูงอายุ ระบบบรกิ ารสาธารณสขุ และวทิ ยาศาสตร์ทางการกฬี า แผนยอ่ ย ๓.๕ ดา้ นปัจจยั สนับสนุนในการวิจัยและพัฒนานวตั กรรม แนวทางการพฒั นา ขอ้ ๕) การเพิ่มจำนวนและคุณภาพบุคลากรวจิ ัยและนวัตกรรม เพอื่ ผลิต (เชิงปรมิ าณ) และพัฒนาศักยภาพ (เชิงคุณภาพ) ของบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติให้เพียงพอ ทั้งภาค การผลติ บรกิ าร สังคมและชมุ ชน เพือ่ รองรบั การเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ ดว้ ยการวิจัย และนวัตกรรม และเตรยี มความพรอ้ มสำหรบั การเปล่ียนแปลงในอนาคต แผนการปฏิรปู ประเทศ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๖๕ กำหนดให้รัฐจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติ เพ่ือเป็นเป้าหมาย ระยะยาวในการพัฒนาประเทศ ประกอบกับมาตรา ๒๕๗ และมาตรา ๒๕๙ กำหนดให้ทำการปฏิรูปประเทศ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาไปสู่ประเทศท่ีมีความสามัคคีปรองดอง มีการพัฒนาอย่างย่ังยืน ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง และมีความสมดลุ ประชาชนในสังคมมีโอกาสทัดเทียมกนั และมีคุณภาพชีวิตท่ีดี รวมท้ัง แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 48
มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยจะต้องดำเนินการปฏิรูปอย่างต่อเน่ืองในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนการ ปฏิรูปแตล่ ะด้าน คือ ๑) ด้านการเมือง ๒) ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ๓) ด้านกฎหมาย ๔) ด้านกระบวนการ ยุติธรรม ๕) ด้านเศรษฐกิจ ๖) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๗) ด้านสาธารณสุข ๘) ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ๙) ด้านสังคม ๑๐) ด้านพลังงาน ๑๑) ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ และ ๑๒) ดา้ นการศกึ ษา แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564 น้ี มุ่งเน้นกิจกรรมปฏิรูปท่ีจะส่งผลให้ เกิดการเปล่ียนแปลงของภาคการศึกษาทจี่ ะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผ้เู รียน ประชาชน อย่างมีนัยสำคัญ ๕ กิจกรรม โดยพิจารณาความเชื่อมโยงกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย ๗ เรื่อง ๒๙ ประเด็น ๑๓๑ กิจกรรม ซึง่ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ ไดข้ ับเคลือ่ นการดำเนนิ การบางกจิ กรรมไปแล้ว สำหรับกิจกรรมปฏิรูป ๕ กจิ กรรมท่ีกำหนดใหม่และแผนงานเดิม ยังมุ่งเน้นการยกระดับคณุ ภาพการจัดการศึกษา ลดความเหลอ่ื มล้ำ ทางการศึกษา และมุง่ สคู่ วามเปน็ เลิศ และสรา้ งขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ กิจกรรมปฏิรูปท่ีจะส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ 5 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมปฏริ ูปท่ี ๑ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาต้ังแต่ระดับปฐมวัย กิจกรรมปฏริ ูปที่ ๒ การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปล่ียนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ กิจกรรมปฏิรูปที่ ๓ การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ มาตรฐาน กิจกรรมปฏริ ูปท่ี ๔ การจัดอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคีและระบบอน่ื ๆ ทเ่ี นน้ การฝึกปฏบิ ัติอย่างเต็มรูปแบบ นำไปสู่การจ้างงานและการสร้างงาน กิจกรรมปฏิรูปที่ ๕ การปฏิรูปบทบาทการวิจัยและระบบธรรมาภิบาล ของสถาบันอุดมศกึ ษาเพื่อสนบั สนนุ การพัฒนาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลางอยา่ งยั่งยนื ผลอันพึงประสงค์ผลสัมฤทธิ์ท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึน ค่าเป้าหมายและตัวชี้วัด เพื่อยกระดับคุณภาพการจัด การศึกษา ลดความเหล่ือมล้ำทางการศึกษา และปฏิรูประบบการศึกษา ให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับ ความหลากหลายของการจัดการศึกษาและตอบโจทย์การพัฒนาของ โลกอนาคต เพื่อให้ผู้เรียนทุกกลุ่มวัย ได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีทักษะที่จำเป็นของโลก อนาคต สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อืน่ ได้อย่างมีประสิทธิผล มีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวติ และเป็น พลเมอื งทร่ี ู้สทิ ธิและหน้าที่ มีความรบั ผดิ ชอบ และมีจิตสาธารณะ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) เป็นแผนพัฒนาประเทศ ในระยะ ๕ ปี ซง่ึ เปน็ การแปลงยทุ ธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัตอิ ยา่ งเป็นรปู ธรรม เพ่อื เตรียมความพร้อมและวางรากฐาน ในการยกระดับประเทศให้เป็นประเทศท่พี ัฒนาแลว้ มคี วามมน่ั คง ม่ังคั่ง ย่ังยืน ด้วยการพฒั นาตามปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงเก่ียวขอ้ งกับภารกจิ ด้านการศึกษา หลักการพัฒนาประเทศทส่ี ำคัญ ยดึ หลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” “การพัฒนาที่ยั่งยนื ” และ “คนเป็นศูนยก์ ลางการพัฒนา” ที่ต่อเนื่องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๙ - ๑๑ และยึด หลักการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดความเหล่ือมล้ำ และขับเคล่ือนการเจริญเติบโตจากการเพ่ิมผลิตภาพ การผลติ บนฐานการใชภ้ ูมิปัญญาและนวัตกรรม การกำหนดวิสัยทัศน์ของแผนพัฒนาฯ ฉบับนี้ ยึดวิสัยทัศน์ของกรอบยุทธศาสตรช์ าติท่ีกำหนด ในขณะที่ การกำหนดเป้าหมายและตัวช้ีวัดในด้านต่าง ๆ ได้ยึดเป้าหมายอนาคตประเทศไทยปี ๒๕๗๙ ที่เป็นเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี มาเป็นกรอบในการกำหนดเป้าหมายที่จะบรรลุใน ๕ ปี โดยท่ีเป้าหมายและตัวช้ีวัด ต้องสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม ท่ีองค์กรระหว่างประเทศกำหนดขึ้น แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 49
อาทิ การพัฒนาท่ีย่ังยืน (sustainable development goals : SDGs) ท่ีองค์การสหประชาชาติกำหนดข้ึน เป็นต้น ส่วนแนวทางการพัฒนา ได้บูรณาการนโยบายหรือประเด็นพัฒนาที่สำคัญของประเด็นการปฏิรูป ประเทศ ๓๗ วาระ และไทยแลนด์ ๔.๐ การจัดทำแผนขับเคล่ือน และการติดตามประเมินผล เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมท้ังจากภาครัฐ เอกชน ประชาชน และภาคการศึกษา ในทกุ พ้ืนที่ของประเทศ เป็นกลไกประชารัฐท่ีรวมพลัง ให้สามารถกำหนดเป้าหมาย แนวทางการพัฒนา รวมท้ังแผนงานโครงการสำคญั ที่ตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ได้อย่างสอดคลอ้ งกบั ภมู ิสังคมและเกดิ ผลสัมฤทธ์ิอย่างจริงจงั ใน ๕ ปี ประเด็นยุทธศาสตร์ มีทั้งหมด ๑๐ ยุทธศาสตร์ โดยมี ๖ ยุทธศาสตร์ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ และ ๔ ยุทธศาสตร์ที่เปน็ ปัจจยั สนับสนุน ดงั น้ี 1. ยุทธศาสตรก์ ารเสรมิ สร้างและพัฒนาศักยภาพทนุ มนุษย์ 2. ยุทธศาสตรก์ ารสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลอื่ มล้ำในสังคม 3. ยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกจิ และแขง่ ขันไดอ้ ยา่ งยัง่ ยืน 4. ยุทธศาสตร์การเตบิ โตท่ีเป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อมเพื่อการพฒั นาท่ยี งั่ ยืน 5. ยุทธศาสตรก์ ารเสรมิ สรา้ งความมน่ั คงแห่งชาตเิ พ่ือการพฒั นาประเทศสู่ความม่งั คัง่ และยงั่ ยนื 6. ยุทธศาสตรก์ ารบริหารจัดการในภาครฐั การปอ้ งกนั การทจุ ริตประพฤตมิ ิชอบ และธรรมาภบิ าล ในสังคมไทย 7. ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสตกิ ส์ 8. ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวตั กรรม 9. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาภาค เมือง และพื้นทีเ่ ศรษฐกจิ 10. ยุทธศาสตรค์ วามรว่ มมือระหว่างประเทศเพื่อการพฒั นา นโยบายและแผนระดับชาตวิ ่าดว้ ยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) นโยบายและแผนระดับชาติว่าดว้ ยความมนั่ คงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๕) เป็นแผนหลกั ของชาติ ที่เปน็ กรอบทิศทางการดำเนินการป้องกัน แจง้ เตือน แก้ไข หรอื ระงับยบั ย้ังภยั คุกคาม เพ่ือธำรงไว้ซึ่งความมน่ั คง แหง่ ชาติ โดยได้ประเมินสภาวะแวดลอ้ มทางภูมริ ฐั ศาสตร์ สถานการณแ์ ละความเปลยี่ นแปลงของบริบทความมนั่ คง นำไปส่กู ารกำหนดทิศทางหลักในการดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ และความมั่นคงของประเทศ ท้ังนี้ นโยบายความม่นั คงแห่งชาติ ได้กำหนดลำดับความสำคญั โดยพิจารณาความเสี่ยงและผลกระทบต่อความม่นั คง ท่เี ปน็ แก่นหลกั ของชาติ ซ่งึ สง่ ผลต่อความอยู่รอดปลอดภัยของชาติและส่งผลกระทบต่อความม่ันคงในด้านต่าง ๆ และภมู คิ ุ้มกันของชาติ ในภาพรวมเป็นเกณฑส์ ำคัญ โดยกำหนดความสำคัญเป็น 2 ส่วน ดงั นี้ สว่ นท่ี ๑ นโยบายเสริมสรา้ งความมนั่ คงทเี่ ป็นแก่นหลักของชาติ ได้แก่ นโยบายที่ ๑ เสริมสร้างความ ม่นั คงของสถาบนั หลักของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข นโยบายที่ ๒ สร้างความเป็นธรรม ความปรองดองและความสมานฉนั ท์ในชาติ และนโยบายที่ ๓ ป้องกัน และ แก้ไขการก่อความไม่สงบในจังหวดั ขายแดนภาคใต้ ส่วนท่ี ๒ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติทั่วไป ได้แก่ นโยบายท่ี ๔ จัดระบบการบริหารจัดการชายแดน เพ่ือป้องกันและแก่ไขปัญหาข้ามพรมแดน นโยบายท่ี ๕ สร้างเสริมศักยภาพการป้องกันและแกไขปัญหาภัยคุกคาม ข้ามชาติ นโยบายที่ ๖ ปกป้อง รักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล นโยบายที่ ๗ จัดระบบ ป้องกัน และ แก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง นโยบายท่ี ๘ เสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันความมั่นคงภายใน นโยบายท่ี ๙ เสริมสรา้ งความม่ันคงของชาตจิ ากภยั การทจุ ริตคอร์รปั ชัน นโยบายที่ 10 เสรมิ สรา้ งความมั่นคง ทางเทคโนโลยสี ารสนเทศและไซเบอร์ นโยบายท่ี 11 รักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 50
นโยบายท่ี 12 เสริมสรา้ งความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร นโยบายท่ี 13 พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ เพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ นโยบายท่ี ๑๔ เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ นโยบายที่ ๑๕ พัฒนาระบบงานข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพ และนโยบายท่ี ๑๖ เสริมสร้างดุลยภาพในการ ดำเนินความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ นโยบายของคณะรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา) นโยบายหลกั ๑๒ ด้าน ๑. การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ๒. การสรา้ งความม่ันคงและความปลอดภยั ของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ ๓. การทำนุบำรงุ ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ๔. การสรา้ งบทบาทของไทยในเวทีโลก ๕. การพฒั นาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย ๖. การพฒั นาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมภิ าค ๗. การพัฒนาสรา้ งความเข้มแข็งจากฐานราก ๘. การปฏริ ูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกชว่ งวยั ๙. การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลกั ประกนั ทางสงั คม ๑๐. การฟนื้ ฟูทรัพยากรธรรมชาติ และการรกั ษาส่งิ แวดลอ้ มเพื่อสรา้ งการเติบโตอย่างยง่ั ยืน ๑๑. การปฏิรูปการบริหารจดั การภาครฐั ๑๒. การปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ และกระบวนการยุตธิ รรม นโยบายเร่งดว่ น 12 เรื่อง 1. การแก้ไขปญั หาในการดำรงชีวติ ของประชาชน ๒. การปรบั ปรุงระบบสวัสดกิ ารและพฒั นาคุณภาพชีวติ ของประชาชน ๓. มาตรการเศรษฐกิจเพ่ือรองรับความผนั ผวนของเศรษฐกิจโลก ๔. การใหค้ วามช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม ๕. การยกระดับศักยภาพของแรงงาน ๖. การวางรากฐานระบบเศรษฐกจิ ของประเทศสู่อนาคต ๗. การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ ๒๑ ๘. การแกไ้ ขปัญหาทุจริตประพฤตมิ ิชอบในวงราชการ ท้ังฝา่ ยการเมือง ฝา่ ยราชการประจำ ๙. การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพ้ืนทีช่ ายแดนภาคใต้ ๑๐. การพัฒนาระบบการให้บรกิ ารประชาชน ๑๑. การจดั เตรยี มมาตรการรองรบั ภัยแล้งและอุทกภยั ๑๒. การสนับสนุนให้มีการศึกษา รับฟังความเหน็ ประชาชน และดำเนนิ การแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญ แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ เป็นแผนที่วางกรอบเป้าหมายและทิศทางการจัดการศึกษา ของประเทศ ซ่ึงกำหนดวิสยั ทัศน์ไว้วา่ “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรตู้ ลอดชีวิตอยา่ งมคี ุณภาพ ดำรงชวี ิต อย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ ๒๑” โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา ๔ ประการ คือ ๑) เพ่ือพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษา ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ๒) เพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะทักษะและสมรรถนะ แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 51
ท่ีสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และ ยุทธศาสตร์ชาติ ๓) เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และร่วมมือผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างย่ังยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ๔) เพ่ือนำประเทศไทยกา้ วขา้ มกบั ดักประเทศทีม่ ีรายไดป้ านกลาง และความเหล่ือมลำ้ ภายในประเทศลดลง แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ได้วางเป้าหมายไว้ ๒ ดา้ น คือ 1. เปา้ หมายด้านผเู้ รียน โดยมงุ่ พัฒนาผู้เรยี นทุกคนใหม้ คี ณุ ลกั ษณะ และทกั ษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ 2. เป้าหมายของการจัดการศึกษา ๕ ประการ ซึ่งมีตัวชี้วัดเพ่ือการบรรลุเป้าหมาย ๕๓ ตัวชี้วัด ประกอบด้วย เป้าหมายและตวั ชี้วดั ท่ีสำคัญ ดังนี้ ๑) ประชากรทุกคนเข้าถึงการศกึ ษาที่มีคณุ ภาพและมมี าตรฐานอย่างท่ัวถึง ๒) ผู้เรียนทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างเท่าเทียม ๓) ระบบ การศึกษาที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถเตม็ ตามศักยภาพ ๔) ระบบการบริหาร จัดการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ เพ่ือการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่าและบรรลุเป้าหมาย และ ๕) ระบบการศึกษา ที่สนองตอบและก้าวทันการเปล่ียนแปลงของโลกท่ีเป็นพลวตั และบรบิ ททเ่ี ปลยี่ นแปลง ยุทธศาสตร์ ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ ยุทธศาสตร์ท่ี 2 การผลติ และพัฒนากำลงั คน การวจิ ยั และนวัตกรรม เพื่อสร้างขดี ความสามารถ ในการแข่งขนั ของประเทศ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3 การพัฒนาศักยภาพคนทกุ ชว่ งวยั และการสร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้ ยุทธศาสตร์ท่ี 4 การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทยี มทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ท่ี 5 การจดั การศึกษาเพ่ือสร้างเสริมคุณภาพชีวติ ท่เี ป็นมิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม ยุทธศาสตร์ท่ี 6 การพัฒนาประสทิ ธิภาพของระบบบริหารจดั การศกึ ษา เปา้ หมายการพัฒนาท่ีย่ังยนื (SDGs) องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN Thailand) ได้เผยแพร่เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) ซง่ึ ประชาคมโลกใช้เป็นกรอบในการดำเนนิ งานด้านการพฒั นา เพอ่ื คุณภาพชีวิตและส่ิงแวดลอ้ มทีด่ ี โดยกำหนดเปา้ หมาย ๑๗ ข้อ ดงั นี้ เปา้ หมายท่ี ๑ ยุติความยากจนทกุ รูปแบบในทุกที่ เปา้ หมายท่ี ๒ ยุตคิ วามหวิ โหย บรรลคุ วามมั่นคงทางอาหารและยกระดบั โภชนาการและสง่ เสรมิ เกษตรกรรมท่ียงั่ ยนื เป้าหมายท่ี ๓ สรา้ งหลกั ประกันว่าคนมีชีวิตทม่ี สี ขุ ภาพดีและส่งเสรมิ สวัสดิภาพสำหรบั ทกุ คนในทกุ วัย เป้าหมายท่ี ๔ สรา้ งหลกั ประกันวา่ ทกุ คนมกี ารศึกษาทม่ี ีคุณภาพอย่างครอบคลมุ และเท่าเทียม และ สนับสนนุ โอกาสในการเรียนรู้ตลอดชวี ติ เปา้ หมายที่ ๕ บรรลุความเสมอภาคระหวา่ งเพศและให้อำนาจของผูห้ ญิงและเด็กหญิงทุกคน เปา้ หมายท่ี ๖ สร้างหลกั ประกันว่าจะมีการจัดให้มนี ้ำและสุขอนามยั สำหรบั ทุกคนและมีการบริหาร จดั การทยี่ ่ังยืน เปา้ หมายท่ี ๗ สร้างหลักประกันวา่ ทุกคนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ในราคาทส่ี ามารถซ้ือหาได้ เช่ือถือได้ และยง่ั ยนื เป้าหมายที่ ๘ ส่งเสรมิ การเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีต่อเนือ่ ง ครอบคลมุ และย่งั ยืน การจ้างงานเตม็ ท่ี และมีผลติ ภาพ และการมีงานทส่ี มควรสำหรบั ทุกคน แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 52
เป้าหมายที่ ๙ สรา้ งโครงสร้างพืน้ ฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมท่ีครอบคลุม และย่งั ยนื และส่งเสริมนวัตกรรม เปา้ หมายท่ี ๑0 ลดความไมเ่ สมอภาคภายในและระหว่างประเทศ เปา้ หมายที่ ๑๑ ทำให้เมืองและการตงั้ ถน่ิ ฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มีภมู ิต้านทาน และยง่ั ยนื เป้าหมายที่ ๑๒ สร้างหลกั ประกันให้มีรูปแบบการบริโภคและผลิตทย่ี งั่ ยนื เป้าหมายท่ี ๑๓ ปฏิบตั ิการอย่างเร่งด่วนเพ่ือต่อสู้กบั การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ และผลกระทบ ที่เกิดขึ้น เป้าหมายที่ ๑๔ อนรุ ักษแ์ ละใชป้ ระโยชนจ์ ากมหาสมุทร ทะเล และทรพั ยากรทางทะเลอย่างย่งั ยืน เพื่อการพฒั นาที่ยัง่ ยนื เปา้ หมายท่ี ๑๔ ปกป้อง ฟื้นฟู และสนบั สนุนการไข้ระบบนเิ วศบนบกอยา่ งยัง่ ยนื จัดการปา่ ไมอ้ ย่างยัง่ ยนื หยุดการเส่อื มโทรมของที่ดนิ และฟนื้ สภาพกลบั มาใหม่ และหยดุ การสูญเสยี ความหลากหลายทางชวี ภาพ เป้าหมายท่ี ๑๖ ส่งเสริมสังคมท่ีสงบสุขและครอบคลุมเพื่อการพัฒนาท่ียั่งยืน ให้ทุกคนเข้าถึงความยุติธรรม และสรา้ งสถาบนั ทีม่ ปี ระสิทธิผล รับผิดรบั ชอบและครอบคลมุ ในทกุ ระดบั เป้าหมายท่ี ๑๗ เสริมความเขม้ แข็งใหแ้ กก่ ลไกการดำเนินงานและฟ้ืนฟูสภาพหุ้นสว่ นความรว่ มมอื ระดบั โลก สำหรบั การพฒั นาทีย่ ั่งยนื นโยบายและจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมงุ่ มั่นดำเนินการภารกจิ หลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ในฐานะหนว่ ยงาน เจา้ ภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น ๑๒ การพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยท่ี ๓ ในประเด็น ๑๑ ศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลัก ด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนา ศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต และนโยบายเร่งด่วน เรื่องการ เตรียมคนไทยสู่ศตวรรษท่ี ๒๑ นอกจากน้ี ยังสนับสนุนการขับเคล่ือนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความม่ันคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) รวมท้ังนโยบายและแผนต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง โดยคาดหวังว่าการพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต จะได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ให้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อน การพัฒนาประเทศสู่ความม่ันคง มั่งคั่ง และย่ังยืน ดังน้ันในการเร่งรัดการทำงานภาพรวมกระทรวงให้เกิด ผลสัมฤทธิเ์ พื่อสรา้ งความเช่ือม่นั ใหก้ บั สงั คม และผลักดนั ให้การจัดการศกึ ษามคี ุณภาพและประสิทธภิ าพ นโยบายกระทรวงศึกษาธกิ าร ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ๑. ปลดล็อก ปรับเปลี่ยน และเปิดกว้าง ระบบการบริหารจัดการและการพัฒนากำลังคน โดยมุ่งปฏิรูป องค์การเพื่อหลอมรวมภารกิจและบุคลากร เช่น ด้านการประชาสมั พันธ์ ด้านการตา่ งประเทศ ดา้ นเทคโนโลยี ด้านกฎหมาย ฯลฯ เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพและความเป็นเอกภาพ รวมทั้งการนำเทคโนโลยี ดิจิทัลเข้ามาช่วย ในการบรหิ ารงานและการจดั การศึกษา ๒. ปลดลอ็ ก ปรบั เปล่ียน และเปดิ กวา้ ง ระบบการจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้ โดยมุ่งใหค้ รอบคลุมถึง การจดั การศกึ ษาเพ่ือคุณวุฒิ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตทส่ี ามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ ๒๑ 3. ปลดลอ็ ก ปรับเปล่ยี น เปิดกว้างทเี่ ป็นเงอื่ นไขต่าง ๆ เพ่ือให้บรรลุผลตามนโยบายการศึกษายกกำลังสอง (Thailand Education Eco - System : TE2S) การศึกษาท่ีเข้าใจ Supply และตอบโจทย์ Demand โดยให้ ทุกหน่วยงานพิจารณาวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันอย่างรอบด้าน ครบถ้วน ร่วมกันพิจารณาหาแนวทาง ข้ันตอน และวธิ กี ารดำเนนิ การร่วมกนั แบบบูรณาการการทำงานทุกภาคสว่ น แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 53
จุดเน้นกระทรวงศกึ ษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖5 ๑. การพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ๑) ICT (Information and Communication Technologies) เทคโนโลยีสารสนเทศ และการ ส่ือสาร ประกอบด้วย ๗ เรื่องย่อย ได้แก่ (๑) Data Center ศูนย์ข้อมูลกลาง (๒) Big Data ข้อมูลขนาดใหญ่ (คลังข้อมูล การนำข้อมูลมารวมกัน) (๓) Platform (e-library e-learning และ Teaching Resource Platform) (๔) e-book (๕) e-office e-mail และ document (๖) ระบบบริหารจัดการ ห้องเรียน School และ Classroom Management และ (๗) โครงสร้างพืน้ ฐาน Infrastructure (Internet) ๒) การจัดการองค์ความรู้และยกระดับทักษะท่ีจำเป็น เน้นพัฒนาความรู้และสมรรถนะด้าน Digital Literacy สำหรบั ผู้เรยี นที่มคี วามแตกตา่ งกนั ตามระดับและประเภทของการจัดการศึกษา เชน่ STEM Coding ๓) การศึกษาเพ่ือทักษะอาชีพและการมีงานทำ พัฒนา ๓ ทักษะหลัก ไดแ้ ก่ โลกทัศน์อาชีพ การเสริม ทกั ษะใหม่ (Up Skill) และการเพม่ิ ทกั ษะใหมท่ ี่จำเปน็ (Re-Skills) ใหแ้ ก่กลุ่มเปา้ หมาย ประกอบด้วย (๑) ผอู้ ยู่ ในระบบการศึกษา (การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และอาชีวศึกษา) (๒) ผ้อู ยู่นอกระบบการศึกษา (๓) วัยแรงงาน และ (๔) ผู้สูงอายุ เพ่ือให้มีทักษะและสมรรถนะสอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดจิ ิทัลและอาชีพ ท่ีเกิดข้ึนใหม่ (Digital Disruption) โดยเน้นเพิ่มบทบาทของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั ในการ Re-Skills ดา้ นอาชีวศกึ ษากับสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ๔) การต่างประเทศ เน้นภารกิจท่ีต้องใช้ความร่วมมือระดับนานาชาติในการจัดหาครูชาวต่างชาติ ให้แก่สถานศึกษาทุกระดับทุกประเภทของกระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือจัดการศึกษาในสถานศึกษา ๒ ด้านหลัก ได้แก่ (๑) ดา้ นภาษาตา่ งประเทศ และ (๒) ดา้ นวิชาการ โดยเฉพาะอาชีวศึกษา ๕) กฎหมายและระเบียบ เน้นแผนงาน ๒ เร่ือง ท่ีบรรจุอยู่ในแผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา ประกอบด้วย เร่ืองท่ี ๑ : การปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศ โดยพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่และกฎหมายลำดับรอง มีประเด็นปฏิรูป ๕ ประเด็น ได้แก่ (1) การมีพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ และมีการทบทวน จัดทำ แก้ไขและปรับปรุงกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง (2) การสร้างความร่วมมือ ระหว่างรฐั องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ และเอกชน เพ่ือการจัด การศึกษา (3) การขบั เคล่ือนการจัดการศึกษา เพอื่ การพฒั นาตนเองและการศกึ ษาเพ่ือการเรียนรู้ ตลอดชวี ิตเพ่ือรองรับการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชวี ิต (4) การทบทวนและปรับปรุงแผนการศึกษาแห่งชาติ และ (5) การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบาย การศกึ ษาแห่งชาติ เรื่องท่ี ๖ การปรับโครงสรา้ งของหนว่ ยงานในระบบการศึกษา ประกอบดว้ ยประเดน็ ปฏริ ูป ๓ ประเด็น ได้แก่ สถานศึกษามีความเป็นอิสระในการบริหารและจัดการศึกษา พ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา การ ปรบั ปรุงโครงสร้างของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๖) ระบบบริหารจัดการและการพัฒนาบุคลากร โดยรวบรวมหลักสูตรวิชาการของแตล่ ะหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร เพ่ือไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการจัดฝึกอบรมให้แตล่ ะกลุ่มเป้าหมาย และใช้ประโยชน์ จากสถาบนั พัฒนาที่มอี ยู่แลว้ เช่น สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา เพ่ือเป็นหน่วยงาน กลางในการจัดฝึกอบรมพัฒนาทักษะสมรรถนะให้แก่บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ (ผู้บริหารหน่วยงาน ทุกระดับ ผู้บริหารสถานศึกษาทุกระดับทุกประเภท ครู อาจารย์ และบุคลากรอื่น ๆ) รวมท้ังพัฒนายกระดับ ใหเ้ ป็นสถาบนั ฝึกอบรมระดบั นานาชาติ ๗) การประชาสัมพันธ์ โดยจัดต้ังศูนย์ประชาสัมพันธ์ของกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานสังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการผลิตส่ือและจัดทำเนื้อหา เพ่ือเผยแพร่ ผลงาน กิจกรรม และ การเข้ารว่ มงานต่าง ๆ ของทุกหน่วยงานในภาพรวมของ ศธ. แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 54
๘) การพัฒนาเด็กปฐมวัย ดำเนนิ การขับเคล่ือนนโยบายและแนวปฏิบตั ิในการจัดการศึกษา และ การเรยี นร้สู ำหรบั เด็กปฐมวัย ๙) การพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก โดยการส่งเสรมิ โครงการ ๑ ตำบล ๑ โรงเรยี นคุณภาพ ๑๐) การรบั เร่ืองราวร้องทุกขท์ เี่ ก่ียวข้องกบั กระทรวงศึกษาธิการ โดยการนำเทคโนโลยมี าใช้ ในการบริหารจัดการ เชน่ การยกระดบั ตอบรับอตั โนมตั ิเพื่อแก้ไขปัญหาเบอื้ งต้น (Call Center ดา้ นกฎหมาย) การวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบรหิ ารจดั การการรับเร่ืองราวร้องทกุ ขใ์ นภาพรวมของกระทรวง ๑๑) การปฏิรูปองค์การและโครงสรา้ งกระทรวงศึกษาธิการ ๑๒) การพัฒนาครู ในสาขาวิชาต่าง ๆ เพือ่ ให้มีมาตรฐานวิชาชีพทส่ี ูงขน้ึ ๑๓) การศกึ ษายกกำลังสอง โดย - พัฒนาครูทุกระดับให้มีทักษะ ความรู้ท่ีจำเป็น เพื่อทำหน้าท่ีวิทยากรมืออาชีพ (Train The Trainer) และขยายผลการพัฒนาผ่านศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพ่ือความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center: HCEC) - จัดการเรยี นรู้ตลอดชีวิตผ่านเว็บไซต์ www.deep.go.th โดยปลดล็อกและเปดิ กว้าง ให้ภาคเอกชน สามารถเข้ามาพัฒนาเน้ือหา เพื่อให้ผู้เรียน ครู และผู้บริหารทางการศึกษามีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลาย และตลอดเวลา ผ่านแพลตฟอร์มด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ (Digital Education Excellence Platform : DEEP) - ให้ผู้เรียน ครู ผู้บริหารทางการศึกษามีแผนพัฒนารายบุคคลผ่านแผนพัฒนารายบุคคล สคู่ วามเปน็ เลิศ (Excellence Individual Development Plan : EIDP) - จัดทำคู่มอื มาตรฐานโรงเรียน เพอื่ กำหนดใหท้ ุกโรงเรียนต้องมีพื้นฐานที่จำเป็น 2. การสร้างความสามารถในการแข่งขัน - มุ่งเน้นการศึกษาเพื่อทักษะอาชีพและการมีงานทำด้วยคุณภาพ โดยสร้างค่านิยม อาชีวศึกษา และเดมิ เตม็ ช่องว่างระหว่างทักษะ (Full fill Skill Gaps) โดยขยายและยกระดับอาชวี ศึกษาทวิภาคีสู่คณุ ภาพ มาตรฐาน เน้นร่วมมือกับสถานประกอบการช้ันนำ (Tailor-made Curriculum) ขับเคล่ือนความร่วมมือ การจัดการอาชีวศึกษาระหว่างภาครฐั และภาคเอกชนสู่มาตรฐานนานาชาติ - มุ่งเน้น Re-Skills, Up Skill และ New Skill การฝึกอบรมวิชาชีพระยะส้ัน รวมท้ังผลิตกำลัง แรงงานท่มี ีคณุ ภาพตามความเป็นเลศิ ของแตล่ ะสถานศึกษาและตามบริบทของพน้ื ท่ี เพ่อื ตอบโจทย์ การพัฒนา ประเทศและสถานประกอบการ - มุ่งเน้นพัฒนาศูนย์ประสานงานกลางการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (TVET Excellence Center) สู่มาตรฐานสากล ผลิตอาชีวะพันธ์ใหม่ รวมถึงการนำนวัตกรรม Digital เพ่ือมุ่งสู่ การอาชีวศึกษาดิจิทัล (Digital College) - มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการ พัฒนาทักษะการเรียนรู้ผู้เรียน เพ่ือการดำรงชีวิตให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ (Technical Vocational Education and Training : TVET, Student Skill Set) รวมทังให้ความร่วมมือ ในการพัฒนาขีดความสามารถ ของผูเ้ รยี นผา่ นการฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ในต่างประเทศ และการแขง่ ขนั ในเวทีระดับนานาชาติ - มุ่งเน้นการเพ่ิมปริมาณผู้เรียนในหลักสูตรอาชีวศึกษา สร้างภาพลักษณ์สถานศึกษา อาชีวศึกษา เพ่อื ดึงดูดใหผ้ ้ทู ี่สนใจเขา้ มาเรยี น - สนับสนุนให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ และจัดการเรียนการสอน ด้วยเครอ่ื งมือปฏบิ ตั ิทที่ นั สมยั แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 55
3. การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา - ขับเคลื่อนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ - ส่งเสริมให้ผู้เรียนท่ียุติการศึกษาทั้งก่อนและหลังสำเร็จการศึกษาภาคบังคับ ให้ได้รับโอกาส ทางการศกึ ษาจนสำเรจ็ การศกึ ษาภาคบังคับ 4. การจดั การศกึ ษาเพอื่ สร้างเสรมิ คุณภาพชีวิตท่เี ป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อม - เสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก และส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม รวมทงั้ การปรับตวั รองรับการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ิอากาศที่จะเกิดขนึ้ ในอนาคต - ส่งเสริมการพัฒนาส่ิงประดิษฐ์และนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ให้สามารถเป็นอาชีพ และ สร้างรายได้ 5. การพัฒนาการศึกษาเพื่อความมั่นคง เฝา้ ระวงั ภยั ทุกรูปแบบทเ่ี กิดขึ้นกับผเู้ รยี น ครู และสถานศึกษา ๖. การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการ - ปฏิรปู องคก์ ารเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความเปน็ เอกภาพของหนว่ ยงาน - ปรบั ปรุงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศต่าง ๆ ท่ีเป็นอุปสรรคและข้อจำกัด ในการดำเนินงาน โดยคำนึงถงึ ประโยชนข์ องผเู้ รยี นและประชาชน ตลอดจนกระทรวงศกึ ษาธิการโดยรวม - ยกระดับการประเมนิ คุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ของหน่วยงานในสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร - พัฒนาระบบฐานขอ้ มลู ดา้ นการศกึ ษา (Big Data) การขับเคล่ือนนโยบายและจุดเน้นสูก่ ารปฏิบตั ิ ๑. ให้ส่วนราชการ หน่วยงานในสงั กัดกระทรวงศึกษาธกิ าร นำนโยบายและจุดเนน้ เป็นกรอบแนวทาง ในการวางแผนและจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศกึ ษาธกิ ารได้ใหแ้ นวทางในการบริหารงบประมาณไว้ ๒. ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขบั เคล่ือนนโยบายและจดุ เนน้ ส่กู ารปฏิบัติ ระดับพ้ืนที่ โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน สำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนัก ตรวจราชการและติดตามประเมินผล สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นฝ่ายเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ตามลำดับ โดยมีบทบาทภารกิจในการตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลในระดับนโยบาย และจัดทำรายงาน เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการ จัดการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารทราบตามลำดับ ๓. กรณีมีปัญหาในเชิงพื้นที่หรือข้อขัดข้องในการปฏิบตั ิงาน ให้ศึกษา วเิ คราะห์ข้อมูล และดำเนินการ แก้ไขปัญหาในระดับพื้นท่ีก่อน โดยใช้ภาคีเครือข่ายในการแก้ไขข้อขัดข้อง พร้อมท้ังรายงานต่อคณะกรรมการ ติดตามฯ ขา้ งตน้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ตามลำดบั อนึ่ง สำหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่ปฏิบัติในลักษณะงานในเชิงหน้าที่ (Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพ้ืนที่ (Area) ช่ิงได้ดำเนินการอยู่ก่อน เม่ือรัฐบาลหรือกระทรวง ศึกษาธิการมีนโยบายสำคัญเพม่ิ เติมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ นอกเหนือจากที่กำหนดหากมีความสอดคล้องกับ หลักการนโยบายและจุดเน้นข้างต้นให้ถือเปน็ หน้าที่ของสว่ นราชการหลัก และหน่วยงานทเี่ กย่ี วข้องต้องเร่งรัด กำกับ ติดตาม ตรวจสอบให้การดำเนนิ การเกิดผลสำเร็จ และมีประสทิ ธภิ าพอยา่ งเปน็ รปู ธรรมดว้ ยเชน่ กัน แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 56
นโยบายการจดั การศึกษารฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (นางสาวตรนี ุช เทียนทอง) 1. การปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ให้ทันสมัย และทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกระดับการศึกษาให้มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะท่ีเหมาะสมกับ บรบิ ทสงั คมไทย 2. การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูและอาจารยใ์ นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษา ให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทัล เพ่ือให้ครูและอาจารย์ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะทั้งด้านการจัดการ เรยี นรู้ ดว้ ยภาษาและดิจทิ ลั สามารถปรับวิธีการเรียนการสอนและการใช้สอ่ื ทันสมัย และมีความรบั ผิดชอบต่อ ผลลัพธท์ างการศกึ ษาที่เกดิ กับผ้เู รยี น 3. การปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ (NDLP) และการ ส่งเสริมการฝึกทักษะดิจิทัลในชีวิตประจำวัน เพื่อให้มีหน่วยงานรับผิดชอบพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ ที่สามารถนำไปใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัยและเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้อย่าง กว้างขวางผ่านระบบออนไลน์ และการนำฐานข้อมูลกลางทางการศึกษามาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธภิ าพ การบรหิ ารและการจัดการศกึ ษา 4. การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษา โดยการส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษา ให้มีความเป็นอิสระและคล่องตัว การกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายการศึกษาแห่งชาติที่ได้รับการปรับปรุงเพ่ือกำหนดให้มีระบบบริหารและการ จัดการ รวมถึงการจัดโครงสร้างหน่วยงานให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ สถานศึกษาให้มี ความเป็นอิสระและคล่องตัว การบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน มีระบบการบริหารงาน บุคคลโดยยดึ หลกั ธรรมาภิบาล 5. การปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ พร้อมจัดทดสอบวัดความรู้ และ ทักษะท่ีจำเป็นในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาท้ังสายวิชาการและสายวิชาชีพ เพื่อให้ระบบการประเมินผล การศึกษาทุกระดับและระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย ตอบสนองผลลัพธ์ ทางการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 6. การจัดสรรและการกระจายทรัพยากรให้ทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการระดมทรัพยากร ทางการศึกษาจากความร่วมมือทุกภาคส่วน เพ่ือให้การจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษามีความเป็นธรรมและ สรา้ งโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพทัดเทียมกลุ่มอ่ืน ๆ กระจายทรัพยากรทั้งบุคลากร ทางการศึกษา งบประมาณและสื่อเทคโนโลยีไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ 7. การนำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) สู่การปฏิบัติ เป็นการผลิตและการพัฒนากำลังคนเพ่ือการพัฒนาประเทศ โดยใช้กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เช่ือมโยงระบบการศึกษา และการอาชีพ โดยใช้กลไกการเทียบโอนประสบการณ์ด้วยธนาคารหน่วยกิตและการจัดทำมาตรฐานอาชีพ ในสาขาที่สามารถอ้างองิ อาเซยี นได้ 8. การพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาเพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย เพ่ือเป็นการขับเคล่ือนแผนบูรณาการการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 สู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรม โดยหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง นำไปเป็นกรอบในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพอ่ื พัฒนาเด็กปฐมวัย และมกี ารตดิ ตามความก้าวหนา้ เปน็ ระยะ 9. การศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ผู้จบการศึกษา ระดับปริญญาและอาชีวศึกษามีอาชีพและรายได้ท่ีเหมาะสมกับการดำรงชีพและคุ ณภาพชีวิตท่ีดีมีส่วนช่วย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขนั ในเวทีโลกได้ แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 57
10. การพลิกโฉมระบบการศึกษาไทยด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาใช้ในการจัด การศึกษาทุกระดับการศึกษา เพ่ือให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ใน การจัดการศกึ ษาผา่ นระบบดิจิทัล 11. การเพ่ิมโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาท่ีมีคุณภาพของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา และ ผู้เรียนท่ีมีความต้องการจำเป็นพิเศษ เพ่ือเป็นการเพ่ิมโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาท่ีมีคุณภาพของกลุ่ม ผดู้ อ้ ยโอกาสทางการศึกษา และผู้เรยี นท่ีมีความต้องการจำเปน็ พิเศษ 12. การจัดการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย โดยยึดหลักการเรียนรู้ตลอดชีวิตและ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพ่ือเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาท่ีมีคุณภาพของกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ทางการศึกษาและผู้เรยี นทม่ี คี วามต้องการจำเป็นพิเศษ วาระเรง่ ด่วน (Quick Win) ของกระทรวงศึกษาธิการ วาระที่ 1 ความปลอดภัยของผู้เรียน โดยจัดให้มีรูปแบบ วิธีการ หรือกระบวนการในการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรูอ้ ย่างมีคุณภาพ มคี วามสุข และได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการสร้างทักษะให้ผู้เรียนมีความสามารถในการดูแลตนเองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ท่ามกลางสภาพแวดลอ้ มทางสงั คม วาระที่ 2 หลักสูตรฐานสมรรถนะ มุ่งเน้นการจดั การเรียนรทู้ ี่หลากหลายโดยยึดความสามารถของผู้เรียน เปน็ หลัก และพฒั นาผู้เรยี นให้เกดิ สมรรถนะท่ตี อ้ งการ วาระท่ี 3 Big Data พัฒนาการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบและไม่ซ้ำซ้อน เพื่อให้ได้ข้อมูลภาพรวม การศึกษาของประเทศท่ีมีความครบถ้วน สมบูรณ์ ถกู ตอ้ ง เปน็ ปจั จบุ นั และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างแทจ้ ริง วาระท่ี 4 ขับเคล่ือนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) สนับสนุนการดำเนินงาน ของศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา ตามความเป็นเลิศของแต่ละสถานศึกษาและตามบริบทของพ้ืนที่ สอดคล้องกับความต้องการของปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนมีการจัดการเรียนการสอนด้วยเคร่ืองมือท่ีทันสมัย สอดคลอ้ งกับเทคโนโลยีปจั จุบนั วาระท่ี 5 พัฒนาทักษะทางอาชีพ ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่เน้นพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียน เพ่ือ พฒั นาคุณภาพชีวิต สรา้ งอาชีพและรายไดท้ ่เี หมาะสม และเพ่ิมขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ วาระที่ 6 การศึกษาตลอดชีวิต การจดั เรยี นรตู้ ลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัยให้มีคณุ ภาพ และ มาตรฐาน ประซาชนในแต่ละช่วงวัยได้รับการศึกษาตามความต้องการอย่างมีมาตรฐาน เหมาะสม และเต็มตาม ศักยภาพต้ังแตว่ ยั เด็กจนถงึ วัยชรา และพฒั นาหลกั สตู รท่ีเหมาะสมเพ่ือเตรียมความพร้อมในการเขา้ สู่สังคมผสู้ งู วยั วาระที่ 7 การจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้ท่ีมี ความต้องการจำเป็นพิเศษได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพสามารถดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีเกียรติ ศักด์ิศรี เทา่ เทยี มกับผู้อ่ืนในสังคม สามารถช่วยเหลอื ตนเองและมสี ่วนรว่ มในการพฒั นาประเทศ แผนพฒั นาการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) ได้น้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้เป็นกรอบในการดำเนินงาน เพื่อสร้างผลผลิตผลลัพธ์ให้เกิดกับ ผู้เรียน ได้อย่างมีความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) และยทุ ธศาสตร์ชาติระยะ 20 โดยกำหนดสาระสำคัญ ดงั น้ี วสิ ัยทัศน์ “มงุ่ พัฒนาผู้เรยี นให้มคี วามรู้คคู่ ุณธรรม มีคุณภาพชวี ติ ทีด่ ี มีความสุขในสังคม” แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 58
พันธกจิ 1. ยกระดบั คณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาทุกระดับ/ประเภทสสู่ ากล ๒. เสริมสร้างโอกาสการเขา้ ถึงบรกิ ารทางการศึกษาของประชาชนอย่างทว่ั ถึงเท่าเทยี ม ๓. พฒั นาระบบบรหิ ารจัดการการศกึ ษาตามหลักธรรมาภบิ าล เปา้ หมายประสงค์ 1. คณุ ภาพการศึกษาของไทยดขี ้ึน คนไทยมีคุณธรรมจริยธรรม มีภูมคิ ุ้มกันตอ่ การเปล่ยี นแปลง และ การพัฒนาประเทศในอนาคต ๒. กำลงั คนได้รบั การผลิตและพัฒนา เพ่อื เสริมสร้างศักยภาพการแข่งขนั ของประเทศ ๓. มอี งค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม สนับสนนุ การพัฒนาประเทศอยา่ งยั่งยืน ๔. คนไทยไดร้ บั โอกาสในเรียนรอู้ ย่างต่อเน่อื งตลอดชีวิต ๕. ระบบบริหารจัดการการศึกษามปี ระสิทธิภาพ และทกุ ภาคส่วนมีส่วนรว่ มตามหลักธรรมาภิบาล ตัวช้วี ัดตามเป้าหมายหลัก 1. ผลคะแนนสอบ PISA ในแต่ละวิซา ๒. ร้อยละท่เี พิ่มขน้ึ ของคะแนนเฉลยี่ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นวชิ าหลกั ระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน จากการทดสอบระดับซาติ ๓. รอ้ ยละคะแนนเฉลี่ยของผู้เรยี นทม่ี ีคณุ ธรรมจริยธรรม ๔. ร้อยละคะแนนเฉลี่ยของผ้เู รียนทุกระดบั การศึกษามคี วามเป็นพลเมืองและพลโลก ๕. สัดส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชวี ศกึ ษาต่อสายสามัญ ๖. รอ้ ยละความพึงพอใจของนายจา้ งผปู้ ระกอบการท่มี ีต่อผสู้ ำเร็จการศกึ ษาระดับอาชีวศึกษา ๗. รอ้ ยละของผสู้ ำเรจ็ การศึกษาระดับอาชีวศกึ ษาหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน ๑ ปี ๘. รอ้ ยละของผลงานวิจยั นวตั กรรม งานสร้างสรรค์ สิ่งประดษิ ฐไ์ ด้รับการเผยแพร่/ตีพิมพ์ ๙. รอ้ ยละขององค์ความร้แู ละสง่ิ ประดิษฐ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ หรือแก้ไขปญั หาชุมชนท้องถนิ่ ๑๐. จำนวนปกี ารศึกษาเฉล่ยี ของคนไทยอายุ ๑๕- ๕๙ ปี ๑๑. รอ้ ยละของกำลงั แรงงานทส่ี ำเร็จการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ข้นึ ไป ๑๒. รอ้ ยละของนักเรยี นต่อประชากรวัยเรียนระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย อายุ ๑๕ - ๑๗ ปี ๑๓. สัดส่วนผู้เรียนในสถานศกึ ษาทุกระดับของรัฐตอ่ เอกชน ๑๔. จำนวนภาคเี ครอื ข่ายท่ีเข้ามามสี ว่ นร่วมในการจัด/พฒั นาและสง่ เสริมการศกึ ษา ยุทธศาสตร์ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๑ พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมนิ ผล ท่ีมุ่งหวังใหค้ นไทย มคี ณุ ธรรมจริยธรรม มภี ูมิคุ้มกันต่อการเปลยี่ นแปลงและการพฒั นาประเทศในอนาคต ซึ่งตอบสนองการพฒั นา ในด้านคณุ ภาพและด้านการตอบโจทยบ์ ริบทท่เี ปลี่ยนแปลง ยุทธศาสตร์ท่ี ๒ ผลิตพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่มุ่งหวังให้มีการผลิตครูได้ สอดคล้องกับความต้องการในการจัดการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท และมีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ สามารถใช้ศักยภาพในการสอนไดอ้ ย่างเต็มที่ ซ่งึ ตอบสนองการพฒั นาในด้านคุณภาพ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๓ ผลิตและพัฒนากำลงั คน รวมท้ังงานวจิ ัยท่ีสอดคลอ้ งกับความต้องการของการพัฒนา ประเทศ ท่ีมุ่งหวังให้กำลังคนได้รับการผลิตและพัฒนาเพ่ือเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และ มีองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม สนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซ่ึงตอบสนองการพัฒนาในด้าน คณุ ภาพ และดา้ นการตอบโจทย์บรบิ ททีเ่ ปล่ียนแปลง แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 59
ยุทธศาสตร์ท่ี ๔ ขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต ที่มุ่งหวังให้การบริการการศึกษาแก่ผู้เรียนทุกกลุ่มทุกวัยในระดับท่ีเหมาะสมกับสภาพ บริบท และสภาพพ้ืนที่ ซึง่ ตอบสนองการพฒั นาในดา้ นการเขา้ ถงึ การให้บรกิ ารและดา้ นความเท่าเทยี ม ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ที่มุ่งหวังให้คนไทยได้รับ โอกาสในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ซ่ึงตอบสนองการพัฒนาในด้านการ เขา้ ถึงการให้บริการ ด้านความเทา่ เทียม และดา้ นประสทิ ธภิ าพ ยุทธศาสตร์ท่ี ๖ พัฒนาระบบบริหารจัดการ และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา ที่มุ่งหวังให้มีการใช้ทรัพยากรทั้งด้านงบประมาณและบุคลากรได้อย่างคุ้มค่า ไม่เกิดการสูญเปล่า และมีความ คลอ่ งตวั ซ่งึ ตอบสนองการพฒั นาในดา้ นประสทิ ธิภาพ แผนพฒั นาการศึกษาของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) แผนพัฒนาการศึกษาของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการศึกษาของในระยะ ๕ ปี โดยกำหนด สาระสำคัญ ดังน้ี วสิ ัยทศั น์ “การบรหิ ารจัดการมปี ระสิทธภิ าพ ผเู้ รยี นได้รบั การเรียนร้ตู ลอดชีวิตท่ีมีคณุ ภาพ โดยยดึ หลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง” พนั ธกจิ 1. พัฒนาระบบบริหารจัดการใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ ๒. ส่งเสริม สนบั สนุน และพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษา ตามอัธยาศัย โดยการมีส่วนรว่ มจากทกุ ภาคสว่ น ๓. พฒั นาระบบบรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา เป้าประสงคร์ วม 1. ระบบบริหารจดั การมปี ระสิทธภิ าพ ๒. ผเู้ รยี นไดร้ บั โอกาสทางการศกึ ษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตทม่ี คี ณุ ภาพอย่างท่ัวถึงและเทา่ เทยี ม ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. พฒั นาระบบบรหิ ารจดั การให้มีประสทิ ธภิ าพ ๒. พัฒนาและสง่ เสริมการนำระบบเทคโนโลยีดิจทิ ลั มาใช้ในการบรหิ าร การบริการ และการเรยี นรู้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๓. พฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ๔. ส่งเสรมิ การมีส่วนร่วมจากทกุ ภาคส่วนในการกระจายโอกาสทางการศึกษา และการเรียนร้ตู ลอดชวี ิต ๕. พัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธภิ าพ เป้าประสงคต์ ามประเด็นยทุ ธศาสตร์ ๑. หนว่ ยงานมรี ะบบบริหารจดั การทีม่ ีประสทิ ธิภาพ ๒. ผ้รู ับบรกิ ารมีและใช้ระบบเทคโนโลยดี ิจทิ ลั ท่มี ปี ระสิทธิภาพในการบรหิ าร การบริการ และการเรยี นรู้ ๓. ผูเ้ รยี นไดร้ ับการศึกษาท่ีมีคณุ ภาพ ๔. ผู้เรยี นได้รบั โอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถงึ และเท่าเทียม ๕. ข้าราชการ ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษามีความก้าวหน้าในวิชาชีพมีศกั ยภาพในการปฏิบตั ิงาน และการจดั การศึกษาที่มีคุณภาพ แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 60
ยทุ ธศาสตรส์ ำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ยุทธศาสตรท์ ่ี ๑ พฒั นาการจดั การศึกษาเพ่อื ความมั่นคง ยุทธศาสตร์ที่ ๒ พัฒนากำลังคน การวิจยั เพือ่ สรา้ งความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ พฒั นาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ให้มีคุณภาพ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๔ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ยุทธศาสตรท์ ี่ ๕ เสริมสร้างคุณภาพชวี ิตทเี่ ป็นมติ รกับสิ่งแวดลอ้ ม ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๖ พฒั นาระบบบริหารจัดการใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ จดุ เน้นยุทธศาสตร์และบทบาทการพัฒนาภาคของสำนักงานศกึ ษาธกิ ารภาค ๑๔ ๑. สง่ เสริมสนับสนุนและน้อมนำศาสตรพ์ ระราชา พระบรมราโชบายด้านการศึกษา พระราชปณิธาน และพระราชกระแสด้านการศึกษาสู่การปฏบิ ตั ิ ๒. ส่งเสริมและขยายผล “โรงเรียนคุณภาพ” ที่สามารถเป็นต้นแบบในการพัฒนา เช่น โรงเรียนที่มีผลการ พัฒนา O-NET ทีส่ ูงข้นึ โรงเรยี นทีม่ นี วตั กรรมทางการบรหิ ารจัดการและการจัดการเรียนการสอน เป็นต้น ๓. พัฒนาและประสานการดำเนินงานการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กให้เกิดประสิทธิภาพ และ มสี ว่ นร่วมของชมุ ชน ๔. ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะชีวิต และทักษะการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการลูกเสือและยุวกาชาด เช่น โรงเรียนดีวิถีลูกเสือ หมู่ยุวกาชาดต้นแบบการบำเพ็ญประโยชน์ ทางสังคม การดูแลสุขภาพและการส่งเสริมการเรยี นร้วู ธิ กี ารบริโภคอยา่ งลกู หลักโภชนาการ การทำงานร่วมกัน เป็นกลมุ่ การวางแผนชีวติ เปน็ ตน้ ๕. สง่ เสริม สนบั สนนุ และบูรณาการการศกึ ษาเพื่อคนพิการ ผู้ดอ้ ยโอกาสและผมู้ ีความสามารถพิเศษ ๖. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาระบบและมาตรฐานการนิเทศการศึกษา และแนะแนวการศึกษา ทุกระดับและทกุ ประเภท ๗. ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีทักษะและศักยภาพ ดา้ นเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล (Digital literacy) เพอ่ื รองรบั การเรยี นรโู้ ดยใช้ดิจทิ ลั แพลตฟอร์ม แผนพัฒนากลุ่มจงั หวดั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนลา่ ง ๒ วสิ ัยทศั น์ “อุตสาหกรรมแปรรูปและเกษตรอนิ ทรยี ์เพิ่มมูลค่า การท่องเทย่ี วเชงิ คณุ ภาพ การค้าชายแดนได้มาตรฐานสากล” ประเด็นการพัฒนากลมุ่ จงั หวัดภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ตอนล่าง ๒ ประเดน็ การพฒั นาที่ ๑ การส่งเสริมเกษตรอินทรยี ์ การคา้ การลงทุน และการท่องเท่ียว ประเด็นการพัฒนาท่ี ๒ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สรา้ งโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม ประเด็นการพัฒนาที่ ๓ การสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชีวติ ทเ่ี ป็นมติ รต่อสง่ิ แวดลอ้ ม ประเดน็ การพัฒนาท่ี ๔ การเสรมิ สร้างความมัน่ คง แผนพฒั นาจงั หวัดอุบลราชธานี ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ วสิ ยั ทัศน์ “เมอื งนา่ อยู่ทนั สมยั ประตูการคา้ การลงทุน ท่องเที่ยวหลายมิติ เกษตรสูส่ ากล” ประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาของจงั หวัดอบุ ลราชธานี ประเด็นการพัฒนาที่ ๑ การพัฒนาเมืองน่าอยู่ทันสมัยให้เป็นเมืองอัจฉรยิ ะ และสง่ เสรมิ คุณภาพชวี ิตประชาชน ประเดน็ การพัฒนาที่ ๒ การส่งเสรมิ การค้าและการลงทนุ แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 61
ประเดน็ การพัฒนาที่ ๓ การส่งเสรมิ และการพัฒนาการท่องเทยี่ วเชิงคณุ ภาพ ประเดน็ การพัฒนาท่ี ๔ การยกระดบั การผลติ และแปรรปู สนิ คา้ เกษตรสูส่ ากล ประเดน็ การพฒั นาที่ ๕ การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) จังหวัดอุบลราชธานี วิสัยทศั น์ “จัดการศึกษาแบบบูรณาการ ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมที กั ษะทีจ่ ำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ ” การบริหารจดั การศึกษาแบบบูรณาการ หมายถึง การบริหารทท่ี ุกหน่วยงานทำงานแบบมงุ่ เน้นผลงาน ตามยุทธศาสตร์เป็นหลัก เป็นการทำงานหลายหน่วยงานโดยอาศัยความเช่ียวชาญและความชำนาญการของ แต่ละหน่วยงานท่ีแตกต่างกันเฉพาะด้าน ทำงานงานภายใต้เป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักของยุทธศาสตร์ เดียวกัน โดยร่วมกันคิด ร่วมกันทำงาน โดยใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพ่ือให้บรรลุผลตามยุทธศาสตร์ มุ่งผลสำเร็จ และเป้าหมายของงานร่วมกัน เพ่ือก่อให้เกิดความประหยัด เสริมสร้างประสิทธิผลและคำนึงถึงประสิทธิภาพ ของการทำงานเป็นหลัก การเรียนรู้ตลอดชีวิต หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของบุคคลที่เกิดจากการศึกษาในระบบ การศึกษา นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ท้งั ด้านความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ ต้ังแตแ่ รกเกิดจนกระทงั่ สิ้นชวี ติ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หมายถึง การยึดหลักทางสายกลางและความไมป่ ระมาท คำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนการใช้ความรู้ ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวงั และมคี ณุ ธรรมเปน็ พนื้ ฐานในการตดั สนิ ใจและการกระทำ ทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21 หมายถึง คุณสมบัติหรือทักษะท่ีสำคัญของผู้เรียน 3R 8C ซ่ึงเป็น คุณลักษณะพื้นฐานสำคญั ของทักษะข้ันตน้ ทั้งหมด และเป็นคุณลกั ษณะท่ีผ้เู รียนจำเปน็ ต้องมี พนั ธกจิ 1. ส่งเสริม สนับสนุนหน่วยงานทางการศึกษาของรัฐและเอกชนจัดการศึกษาแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนอ้ มนำศาสตรพ์ ระราชาและพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การปฏบิ ตั ิ 2. ส่งเสริม สนับสนุนหนว่ ยงานทางการศึกษาในการจดั การเรียนการสอน เพ่อื เตรยี มคนไทยสศู่ ตวรรษที่ 21 3. เสริมสรา้ งโอกาสการเข้าถึงการศกึ ษาตลอดชีวติ ที่มีคณุ ภาพ เสมอภาค และเทา่ เทียม 4. สง่ เสริม สนับสนุนครแู ละบุคลากรทางการศึกษาให้ไดร้ บั การพฒั นาตามมาตรฐานวชิ าชพี 5. ส่งเสริม สนับสนุนหน่วยงานทางการศึกษาจัดกระบวนการเรียนการสอน สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ผ้เู รียนมคี วามตระหนักในการดำรงชีวติ ที่เปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม 6. พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาท่เี นน้ การมสี ่วนร่วม เพื่อเสรมิ สร้างความรับผิดชอบต่อคุณภาพการศึกษา และบูรณาการการจดั การศึกษาเชิงพ้นื ที่ ประเด็นยทุ ธศาสตร์ 1. เสรมิ สร้างการจัดการศึกษาเพื่อความม่นั คงของสังคมและประเทศชาติ 2. เสริมสรา้ งพฒั นากำลังคน การวจิ ัย และคดิ คน้ นวัตกรรมการศึกษา 3. พฒั นาศักยภาพคนทกุ ชว่ งวยั ให้มคี ณุ ภาพ 4. สร้างโอกาส ความเสมอภาค และลดความเหล่ือมล้ำทางการศึกษา 5. ส่งเสริมและจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสรมิ คุณภาพชวี ติ ทเ่ี ปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดล้อม 6. พัฒนาระบบบรหิ ารจดั การศึกษาให้มปี ระสทิ ธิภาพ แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 62
เปา้ ประสงค์ตามประเด็นยทุ ธศาสตร์ 1. ผูเ้ รียนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมุข 2. ผ้เู รยี นมีสมรรถนะทต่ี อบสนองความต้องการ พัฒนาทักษะการวิจัย และคดิ ค้นนวตั กรรมการศึกษาใหม่ 3. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะของผู้เรียนที่จำเป็น ในศตวรรษที่ 21 4. ผู้เรยี นได้รบั โอกาสทางการศกึ ษาทมี่ ีคณุ ภาพอยา่ งทวั่ ถึงและเสมอภาค 5. หน่วยงานทางการศึกษามีกิจกรรมส่งเสริมคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ และกิจกรรมส่งเสริมการปรับเปล่ียน พฤตกิ รรมให้เปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม 6. หน่วยงานทางการศึกษามีระบบบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการบูรณาการเช่ือมโยง และ ตอบสนองความต้องการของผรู้ บั บริการได้สะดวก รวดเร็ว โปรง่ ใส ตามหลกั ธรรมาภิบาล แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 63
การวเิ คราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) หน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินการทบทวนแผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) จังหวัดอุบลราชธานี โดยร่วมกันวิเคราะห์และสังเคราะห์สภาพแวดล้อมท่ีเป็นโอกาส และ อุปสรรคต่อการจัดการศึกษา เพื่อค้นหาจุดแข็งและจุดอ่อนในการจัดการศึกษา รวมถึงแนวทางการจัดการศึกษา ในอนาคตต่อไป โดยให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการศึกษา ในการวิเคราะห์ สถานภาพของ หน่วยงานทางการศึกษา ได้ใช้เทคนคิ การวเิ คราะห์ SWOT Analysis การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน (S : จุดแข็ง, W : จุดอ่อน) เป็นการวิเคราะห์ภายในองค์การ (Internal analysis) ดว้ ยเคร่อื งมือ McKinney 7-S Framework โดยทำการวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบ ดังน้ี 1) โครงสรา้ งหน่วยงาน (Structure) 2) กลยุทธ์ของหน่วยงาน (Strategy) 3) ระบบการปฏบิ ัติงาน (System) 4) บุคลากร (Staff) 5) ทกั ษะ ความรู้ ความสามารถ (Skill) 6) รปู แบบการบริหารจดั การ (Style) 7) คา่ นยิ มรว่ ม (Shared values) การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกองค์การ (O : โอกาส, T : อุปสรรค) เป็นการวิเคราะห์ภายนอกองค์การ แบบมหภาค (External analysis ) วิเคราะห์ด้วยเทคนิค Force Model หรือ C-PEST Analysis โดยทำการ วเิ คราะห์องค์ประกอบ ดังนี้ ๑) ลูกค้า (Customer) ในท่ีน้ีจะมองถงึ ผู้รบั บริการ ๒) นโยบายและกฎหมาย (Politics, Legal) ๓) สภาพเศรษฐกจิ (Economy) ๔) สงั คม วฒั นธรรม (society-culture) ๕) เทคโนโลยี (Technology) ผลการวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมภายใน และสภาพแวดลอ้ มภายนอก ปรากฏดังนี้ แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 64
การวเิ คราะหป์ ัจจยั ภายใน จุดแขง็ (Strengths) (+) จุดอ่อน (Weakness) (-) 1. ด้านโครงสรา้ งหน่วยงาน (Structure) 1. ดา้ นโครงสรา้ งหน่วยงาน (Structure) 1.1 หน่วยงานทางการศกึ ษา มีโครงสรา้ งการ 1.1 การประสานงานระหว่างหน่วยงาน บริหารงาน ตามระเบยี บ กฎหมาย และการบรหิ าร ทางการศกึ ษา ยังไมม่ ปี ระสิทธิภาพเทา่ ท่คี วร จัดการ รวมถงึ มีองคค์ ณะบุคคลร่วมจัดการศกึ ษา (ไมม่ ีกฎหมายท่ีให้อำนาจในการกำกบั และสั่งการ) สง่ ผลให้การบริหารจัดการหน่วยงานสถานศกึ ษา เน่ืองจากหนว่ ยงานทางการศกึ ษา มกี ารบังคับบัญชา ในจงั หวดั มีประสทิ ธิภาพ ตามสังกดั และไม่มหี นว่ ยงานกลางประสาน 1.2 หน่วยงานทางการศกึ ษา มีศูนย์การ การมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษาระหวา่ งชมุ ชน ประสานงานส่งเสรมิ ความประพฤตินกั เรยี นและ ภาคเอกชน และหนว่ ยงานอ่ืน ๆ นกั ศกึ ษาในเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาหรอื ในเขตพื้นที่ 1.2 หนว่ ยงานทางการศึกษาบางแหง่ จังหวัด และมีศนู ย์เสมารักษส์ ำนกั งานศึกษาธกิ าร ไม่สามารถจัดบคุ ลากรปฏิบัติงานได้ตรงตาม จงั หวดั เปน็ ศูนย์กลางในการประสานงานบรู ณาการ ภาระงาน เนอ่ื งจากมบี ุคลากรไมค่ รบตามกรอบ การปฏิบตั ิงานรว่ มกับหนว่ ยงานทง้ั ภายในและ อตั รากำลัง ภายนอกกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยมเี จ้าหน้าทห่ี รอื พนกั งานเจ้าหน้าท่สี ง่ เสรมิ ความประพฤตินักเรียน สภาพแวด ้ลอมภายใน และนักศกึ ษา เพื่อปฏิบัติหน้าทใี่ นการสง่ เสรมิ ความประพฤตนิ ักเรียนและนักศกึ ษา ร่วมกบั หน่วยงานทเี่ กี่ยวข้อง 2. ดา้ นกลยทุ ธ์ (Strategy) 2. ด้านกลยุทธ์ (Strategy) 2.1 หนว่ ยงานทางการศึกษามีแผนปฏบิ ตั ิการ 2.1 โครงการ/กจิ กรรมท่ีบรรจใุ นแผน ระยะปานกลาง และแผนปฏิบตั ิราชการประจำปี ยงั ไมส่ ามารถพัฒนาและแก้ไขปัญหาได้ เนอ่ื งจาก งบประมาณ ที่สอดคล้องกบั นโยบายหนว่ ยงาน การติดตามประเมินผลในบางโครงการไม่ตอ่ เน่ือง ต้นสงั กัด และใช้เปน็ กรอบทศิ ทาง และเคร่ืองมอื และไม่ได้นำผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการวางแผน ในการดำเนินการบริหารจดั การศกึ ษาได้อยา่ ง สำหรับปีต่อไป มีประสิทธิภาพ 2.2 โครงการ/กจิ กรรมสว่ นหนึ่งที่กำหนดไว้ ตามแผนของหน่วยงานทางการศกึ ษาไม่ได้ ลงส่กู ารปฏิบัติ เนื่องจากไดร้ ับผลกระทบจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) 2.3 โครงการ/กิจกรรมสว่ นหน่งึ ของหน่วยงาน ทางการศกึ ษาไมส่ ามารถดำเนินการได้ เนื่องจาก ไม่ไดร้ ับจดั สรรงบประมาณต่อเน่อื ง แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 65
จุดแข็ง (Strengths) (+) จดุ ออ่ น (Weakness) (-) 3. ด้านระบบการปฏบิ ตั งิ าน (System) 3. ด้านระบบการปฏบิ ตั งิ าน (System) 3.1 ระบบการประกนั คุณภาพภายใน และการ 3.1 ระบบติดต่อสอ่ื สารระหว่างหน่วยงาน ประกนั คุณภาพภายนอก ของสถานศกึ ษา ยังไมม่ ปี ระสิทธภิ าพเท่าที่ควร เนือ่ งจากหน่วยงาน ทงั้ ภาครัฐและเอกชน มคี วามเข้มแข็ง และ บางแห่งยงั ขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทาง ICT หรือ มปี ระสทิ ธภิ าพ สง่ ผลให้สถานศึกษาในจงั หวัด ได้รับ บุคลากรทร่ี บั ผิดชอบยังขาดความรูแ้ ละทักษะ การรับรองคุณภาพจากหนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้อง เช่น เก่ยี วกับการใช้เทคโนโลยี สำนกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพ 3.2 ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศกึ ษาขาด การศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) ความเชื่อมโยง และการเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์ของ 3.2 ทกุ หน่วยงานทางการศึกษา มีขอ้ มูลทาง หน่วยงานไม่เปน็ ปจั จุบนั ส่งผลกระทบต่อ การศกึ ษา ในการวางแผนการจดั การศึกษา และ การบริหารการวางแผนดา้ นจัดการศึกษาเชิงพ้ืนท่ี เผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์สูส่ าธารณชนผา่ นเว็บไซต์ 3.3 หน่วยงานทางการศึกษา มวี สั ดุ อุปกรณ์ ของหนว่ ยงาน รวมถงึ มคี ณะกรรมการบรหิ าร ทางเทคโนโลยี หรอื ด้าน ICT ยงั ไม่เพียงพอต่อความ ขอ้ มลู สารสนเทศดา้ นการศกึ ษาระดับจงั หวดั ต้องการ หรอื ไม่ตรงกับความต้องการ หรือไม่ทันสมัย 4. ดา้ นบคุ ลากร (Staff) 4. ดา้ นบคุ ลากร (Staff) สภาพแวด ้ลอมภายใน 4.1 บุคลากรมผี ลการประเมินการปฏบิ ัติงาน 4.1 โรงเรียนขนาดเล็ก มีครูไม่ครบตามจำนวน อยู่ในระดบั ดี โดยเน้นการทำงานเป็นทีม และการ หอ้ งเรยี น เพราะเป็นไปตามเกณฑ์การจัดสรร มสี ่วนร่วมจากทุกภาคสว่ น อตั รากำลังขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 4.2 หนว่ ยงานทางการศกึ ษาบางแหง่ มีผลการ ในสถานศกึ ษา สังกัด สพฐ. ของ ก.ค.ศ. นกั เรียน ทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ัน้ พื้นฐาน (O-NET) 40 คน ตอ่ ครู 1 คน การพัฒนาครูและบุคลากร ปีการศึกษา 2562 ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 และ ทางการศึกษา ขาดขอ้ มลู ในการพฒั นาทส่ี อดคล้อง ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ทม่ี ีคะแนนเฉลย่ี สงู กว่าคะแนน กบั สภาพปญั หาและบริบทของพ้นื ที่ สง่ ผลให้ปญั หา เฉล่ียระดับประเทศ เน่ืองจากมบี คุ ลากรท่มี ี ไมไ่ ด้รับการแก้ไขที่ตรงประเด็น ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ และมีการพัฒนา 4.2 หนว่ ยงานทางการศกึ ษาขาดบคุ ลากร ตนเองอย่างต่อเน่ือง ที่ผา่ นการอบรม ด้านส่งเสริมความประพฤติ นกั เรียนและนักศึกษาท่ีผา่ นการอบรม มีจำนวน ไมเ่ พยี งพอ และไม่ครอบคลุมทกุ พ้ืนที่ ในการปฏิบัติ หนา้ ทกี่ ารเฝ้าระวังเหตใุ นช่วงเทศกาล 4.3 การพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ขาดการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลในการพัฒนา ทีส่ อดคล้องกบั สภาพปญั หาและบริบทของพนื้ ที่ ส่งผลให้การพฒั นาไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 66
จุดแข็ง (Strengths) (+) จดุ อ่อน (Weakness) (-) 5. ด้านทกั ษะ ความรู้ ความสามารถ (Skill) 5. ด้านทกั ษะ ความรู้ ความสามารถ (Skill) 5.1 บคุ ลากรของหน่วยงานทางการศกึ ษา 5.1 หน่วยงานบางแหง่ ยังขาดแคลนบุคลากร ไดร้ ับการพฒั นาอยา่ งต่อเนือ่ ง สง่ ผลใหบ้ ุคลากร เฉพาะทาง ICT หรือบุคลากรท่รี บั ผดิ ชอบ มขี วญั กำลงั ใจในการปฏบิ ตั งิ าน และมีสมรรถนะ ขาดความรแู้ ละทักษะเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี ตรงตามสายงาน 6. ด้านรปู แบบการบรหิ ารจัดการ 6. ดา้ นรปู แบบการบรหิ ารจัดการ 6.1 แบบแผนหรอื พฤตกิ รรมในการบริหารจดั การ 6.1 แบบแผนหรอื พฤตกิ รรมในการบรหิ ารจดั การ สภาพแวด ้ลอมภายใน ผ้บู ริหารการศกึ ษาของหนว่ ยงานทางการศึกษา ผบู้ รหิ ารการศึกษา ยังไม่ใช้หลกั ธรรมาภิบาล ในการ ในจังหวดั มภี าวะผูน้ ำ และเป็นแบบอยา่ งให้กบั บริหารจดั การ ส่งผลให้บคุ ลากร ขาดขวัญกำลังใจ เจา้ หน้าท่ีในหน่วยงานรวมถึงมีการเสรมิ สรา้ งขวัญ ในการปฏบิ ตั ิงาน และกำลังใจในการปฏิบัติงาน การพจิ ารณาเลอื่ น เงนิ เดือน การยกย่องเชิดชูเกียรติ ทำงานอย่าง มคี วามสขุ และมุ่งมั่นการปฏิบตั งิ านอยา่ งจริงจงั เพอื่ คุณภาพของผ้เู รียน ส่งผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพ ในหนว่ ยงาน 7. ดา้ นคา่ นิยมรว่ ม 7. ด้านคา่ นยิ มรว่ ม 7.1 หนว่ ยงานทางการศกึ ษา มีวัฒนธรรม - ขององค์กรเป็นเอกภาพ มคี วามเข้มแข็งภายใน หน่วยงาน เนื่องจากมีวฒั นธรรมและคา่ นิยม การทำงานเป็นหลักยึดของบุคลากร แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 67
การวเิ คราะหป์ ัจจัยภายนอก โอกาส (Opportunities) (+) อปุ สรรค (Threats) (-) 1. ดา้ นพฤติกรรมผรู้ ับบรกิ าร 1. ดา้ นพฤตกิ รรมผรู้ ับบรกิ าร 1.1 ผปู้ กครองทใี่ ห้ความสำคัญในการจัดการศกึ ษา 1.1 ผูป้ กครองพยายามแสวงหาวธิ กี ารนำบตุ ร นิยมสนับสนุนบตุ รหลานให้เข้าเรยี นในสถานศึกษา หลานเขา้ เรยี นในสถานศึกษาที่มชี ่อื เสยี งของจังหวดั ทมี่ ชี ือ่ เสียงของจงั หวัดหรืออำเภอ สง่ ผลใหส้ ถานศกึ ษา และเป็นสาเหตุหน่งึ ในการรอ้ งเรยี นเกี่ยวกบั ในจงั หวัดมีการแขง่ ขนั พัฒนาคุณภาพมากข้นึ การรับนักเรียนท่ีไม่เป็นธรรม 1.2 สถาบนั ครอบครวั มีความเขม้ แข็งลดลง ผูป้ กครองบางสว่ นยังขาดความรคู้ วามเข้าใจ เกย่ี วกับการจดั การศึกษา ให้ความสำคัญหรือ มีสว่ นร่วมในการส่งเสริมการศกึ ษาน้อย สง่ ผลให้ คณุ ภาพการศึกษาของผเู้ รยี นไมเ่ ปน็ ไปตามเปา้ หมาย 1.3 สภาพครอบครวั ของประชากรในจงั หวดั และประชากรแรงงานต่างชาติ มีการยา้ ยที่อยู่ ซง่ึ อาจส่งผลกระทบต่อการจดั การศกึ ษา การจัดการ เรยี นรู้ และผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน สภาพแวดล้อมภายนอก 2. ด้านนโยบายและกฎหมาย 2. ด้านการเมืองและกฎหมาย 2.1 ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ 2.1 นโยบายทางการศึกษา กฎหมาย และ ยทุ ธศาสตรช์ าติ แผนการปฏริ ปู ประเทศด้านการศกึ ษา ระเบียบ มีการเปลี่ยนแปลง และยงั มีอปุ สรรคและ เปน็ กรอบแนวทางการดำเนินการหลกั ท่จี ะนำไปสู่ ขอ้ จำกดั ในการดำเนนิ งาน สง่ ผลต่อประสทิ ธภิ าพ จุดหมายปลายทางในภาพรวมท่ีเปน็ รูปธรรมชัดเจน การจัดการศกึ ษา และการพัฒนาคุณภาพของผูเ้ รยี น โดยมผี ลผูกพันกับหน่วยงานของรฐั ซึง่ จำเป็นจะต้อง จึงไมบ่ รรลุผลตามเปา้ หมายที่กำหนด จัดทำแผนปฏบิ ัตริ าชการหรอื แผนปฏบิ ัติการ ทส่ี อดคล้องกบั แผนระดบั ท่ี 1 และระดับที่ 2 และ ต้องสง่ ผลต่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตรช์ าติ ตามหลกั การความสัมพนั ธ์เชงิ เหตุและผล (XYZ) 2.2 คำสงั่ หัวหนา้ คณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ท่ี 28/2559 ลงวนั ท่ี 15 มถิ ุนายน 2559 ใหจ้ ดั การศึกษาขัน้ พื้นฐาน 15 ปี โดยไมเ่ กบ็ ค่าใช้จา่ ย โดยใหส้ ว่ นราชการทเี่ ก่ียวข้องกบั การจัดการศกึ ษา ขัน้ พ้นื ฐานดำเนินการจัดการศึกษาใหม้ ีมาตรฐาน และคณุ ภาพ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สรา้ งโอกาส ทางการศกึ ษา สง่ ผลให้อัตราการออกกลางคันลดลง และลดภาระคา่ ใชจ้ ่ายของผู้ปกครอง แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 68
โอกาส (Opportunities) (+) อุปสรรค (Threats) (-) สภาพแวด ้ลอมภายนอก 2.3 พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแกไ้ ขเพิ่มเตมิ เปิดโอกาสให้สถานศึกษา สามารถจดั การศึกษาได้ 3 ระบบ (ในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย) สง่ ผลให้ผเู้ รยี น มีโอกาสในการเข้าถึงการจดั การศึกษาไดต้ าม ศกั ยภาพและบรบิ ทของตนเอง 2.4 กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยระบบหลักเกณฑ์และ วธิ ีการประกนั คุณภาพภายใน พ.ศ. 2553 สง่ ผลให้ ระบบบรหิ ารจัดการศกึ ษาของสถานศกึ ษามีคณุ ภาพ และมคี วามยัง่ ยืน 2.5 พระราชบญั ญตั ิกำหนดแผนและขั้นตอน การกระจายอำนาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครอง ส่วนท้องถิน่ พ.ศ. 2542 กำหนดใหอ้ งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น มีอำนาจและหน้าท่ีในการจัดการศกึ ษา สามารถ สนับสนนุ ด้านการศกึ ษาได้ ส่งผลใหส้ ถานศึกษา ได้รับการสนบั สนนุ งบประมาณ ในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา 2.6 นโยบายการดำเนินงานขบั เคล่ือนโครงการ โรงเรยี นคุณภาพของจังหวดั อุบลราชธานี แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 69
โอกาส (Opportunities) (+) อุปสรรค (Threats) (-) 3. ด้านเศรษฐกิจ 3. ดา้ นเศรษฐกิจ 3.1 จังหวดั อบุ ลราชธานี เป็นพน้ื ที่ศูนยก์ ลาง 3.1 สถานประกอบการในจงั หวดั ให้ความสำคัญ ของอนุภูมภิ าคกลุ่มแม่นำ้ โขง เชอ่ื มโยงไปยัง ในการจดั การศกึ ษานอ้ ยมาก ขาดความร่วมมือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อเน่ืองไป ทางวชิ าการและการสรา้ งเครือข่าย ไม่ให้ความสำคัญ สาธารณรัฐประชาชนจนี และเชื่อมโยงกบั พน้ื ที่ กบั การยกระดบั ฝีมือแรงงาน พฒั นาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศ 3.2 นโยบายการพฒั นาจงั หวัด ไม่เออ้ื ในการ (EEC) การลงทุนประกอบกจิ การโรงงาน นำรายได้ของจังหวัดมาสนับสนนุ การจัดการศกึ ษา อตุ สาหกรรมมจี ำนวนมาก เป็นโอกาสด้านแรงงาน และการจดั สรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับสภาพ การค้า การลงทนุ และการท่องเท่ยี ว ส่งผลให้ ทางเศรษฐกจิ ในปัจจุบัน หน่วยงานทางการศกึ ษา มกี ารพัฒนาทางด้านภาษา 3.3 ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความจำเป็น และอาชีพให้กบั ผเู้ รียน และมภี าระหนี้สนิ สง่ ผลให้เงินเดือนไมเ่ พยี งพอต่อ 3.2 จังหวดั อุบลราชธานี เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ การดำรงชวี ิตของครู มีอำเภอ 10 อำเภอ ติดต่อกับพ้นื ทชี่ ายแดน 3.4 สถานการณ์การระบาดของโรคตดิ เชอ้ื สภาพแวดล้อมภายนอก ระหว่าง 2 ประเทศ ซ่ึงเป็นโอกาสทางการคา้ ไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในปี พ.ศ. 2563 การเรง่ พัฒนาทกั ษะด้านการประกอบการและ เปน็ ต้นมา สง่ ผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ รวมถงึ ทักษะการคา้ ระหว่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 3.3 สถานประกอบการในจงั หวัด มจี ำนวนมาก กระจายอยใู่ นพืน้ ที่ทุกอำเภอ ส่งผลให้สถานศึกษา ไดแ้ สวงหาความร่วมมอื ในการจัดการศกึ ษา การสนบั สนุนทรัพยากรเพื่อการจดั การศึกษา 3.4 ผู้ปกครองส่วนหนงึ่ ท่ีมีรายได้สงู สามารถสง่ บุตรหลานเขา้ เรียนในห้องเรยี นพิเศษ เพื่อเสริมสร้างพนื้ ฐานการเรยี นให้ผูเ้ รยี นมีความถนัด และความสามารถมากขนึ้ เช่น หอ้ งเรยี น EP (English Program ) และ MEP (Mini English program) แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 70
โอกาส (Opportunities) (+) อุปสรรค (Threats) (-) 4. ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม 4. ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม 4.1 จังหวัดอบุ ลราชธานี มีวฒั นธรรมการสบื สาน 4.1 สถานศึกษาบางแห่ง ตง้ั อยู่ในเขตอุตสาหกรรม ประเพณที ้องถ่ินทีด่ ีงาม สง่ ผลใหส้ ถานศกึ ษานำไป ผเู้ รยี นได้รับผลกระทบดา้ นเสียง กล่นิ และอากาศ กำหนดหลักสูตรการเรยี นร้ภู ูมิปญั ญาท้องถ่ิน ไมบ่ รสิ ุทธ์ิ อาจสง่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพผู้เรยี น 4.2 จงั หวดั อบุ ลราชธานี มสี ถานศึกษาจำนวน 4.2 แนวโน้มผ้ปู กครองกล่มุ ใช้แรงงานต่างด้าว หลายแห่ง ตั้งอยู่ทุกตำบล สถานศึกษาจะต้องมีการ จากประเทศข้างเคียง เขา้ มาประกอบอาชพี มากขน้ึ พฒั นาคุณภาพการศกึ ษา ยกระดับมาตรฐาน สง่ ผลต่อกระบวนการจดั การเรยี นการสอน และ โรงเรียนดีขนึ้ เพอ่ื ให้ได้มาตรฐานทใี่ กล้เคยี งกัน ปญั หาการสือ่ สารระหว่างผเู้ รียนหรอื ครู สง่ ผลให้ผ้ปู กครองมีโอกาสและทางเลือกในการนำ 4.3 ชมุ ชนบางแหง่ มสี ภาพเสอื่ มโทรม บุตรหลานเข้าศึกษาต่อ โรงเรียนคุณภาพของ เปน็ แหล่งอบายมขุ ส่งผลใหผ้ ูเ้ รียนบางส่วน จงั หวัดอุบลราชธานี มพี ฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และสภาพปญั หา 4.3 ประชากรในจงั หวดั มีความหลากหลาย ทางสังคมทีเ่ ปล่ียนแปลงไปตามกระแสวัตถุนยิ ม ในการประกอบอาชีพ (เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ตลอดจนการอบรมเล้ียงดูของครอบครวั นำไปสู่ ประมง ค้าขาย การทอ่ งเท่ียว ฯลฯ) ทำให้ พฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์ของเดก็ และเยาวชน สภาพแวดล้อมภายนอก สถานศกึ ษาได้ใช้เป็นแหลง่ เรียนรู้ และสามารถ 4.4 สภาพครอบครวั ของประชาชนในจังหวดั จดั การเรียนการสอนไดต้ ามความตอ้ งการ มีแนวโน้มเป็นครอบครวั เด่ียว ผู้เรียนบางส่วนอาศยั เพ่ือประกอบอาชีพในอนาคต อยกู่ บั เครอื ญาติ เน่อื งจากบิดามารดาประกอบ อาชพี ตา่ งถิน่ จึงไม่ได้อยใู่ กล้ชิด ซ่งึ การดแู ล อาจไม่ท่วั ถงึ และขาดความอบอนุ่ อาจส่งผล กระทบต่อพฤติกรรมผเู้ รียน เชน่ การตดิ เกม การตดิ โทรศัพท์ ฯลฯ 4.5 สังคม ผู้ปกครอง และผู้เรียน มที ศั นคติ คา่ นิยม ยดึ ตดิ การศึกษาสายสามัญ ไม่เขา้ ใจระบบ การเรียนอาชีวศึกษา และยังไมม่ ีความเช่ือมน่ั ในการ เข้าศึกษาต่อในระดบั อาชวี ศึกษา เช่น ด้านความ ปลอดภัย สง่ ผลให้สดั สว่ นการเขา้ ศึกษาต่อ สายอาชวี ศึกษา ไมเ่ ป็นไปตามเปา้ หมาย ขาดแคลน แรงงานทักษะอาชีพ แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 71
โอกาส (Opportunities) (+) อปุ สรรค (Threats) (-) 5. ดา้ นเทคโนโลยี 5. ดา้ นเทคโนโลยี 5.1 ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ 5.1 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยแี ละสารสนเทศ ส่งผลใหผ้ เู้ รียนสามารถเขา้ ถึงแหลง่ ขอ้ มูล และ ซง่ึ อยู่นอกเหนือการควบคุมของสถานศกึ ษา และ สภาพแวด ้ลอมภายนอก ความรู้ไดส้ ะดวก ตามความถนดั และความสนใจ ครอบครวั อาจสง่ ผลให้ผ้เู รียนได้รบั ความเส่ยี งและ นอกจากน้ี สามารถสรา้ งรายไดจ้ ากสื่อออนไลน์ ผลกระทบจากส่ือออนไลน์ สง่ ผลให้ผูเ้ รยี นสว่ นหน่งึ ไดด้ ้วย ใช้ไปในทางทีไ่ มเ่ กิดประโยชน์ และไมเ่ หมาะสม เชน่ 5.2 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เปน็ สาเหตุให้ การเขา้ ถึงสอ่ื ไม่พงึ ประสงค์ที่ไม่มกี ารปดิ กั้น ความตอ้ งการของผ้บู รโิ ภคเทคโนโลยมี ากข้ึน 5.2 รา้ นเกมในจังหวัดมีจำนวนมาก ผูเ้ รียน สง่ ผลให้สถานศึกษาต้องปรบั หลกั สูตรใหส้ อดคล้องกบั สว่ นหน่ึงเข้าใช้บริการอยา่ งไม่เหมาะสม และ ความตอ้ งการภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น/ปราชญช์ าวบา้ น อาจกลายเปน็ แหล่งมัว่ สมุ ของเด็กและเยาวชน ที่หลากหลายในจังหวดั อบุ ลราชธานี ซง่ึ สถานศึกษา สามารถใชเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นรู้ เป็นวิทยากรท้องถ่นิ ถอดบทเรยี นร่วมกบั ชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ และนำเสนอข้อคน้ พบ บนสอ่ื ออนไลน์ แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 72
ความสมั พนั ธ์ C-PEST และ 7S เชงิ บวก 1. (CS7) ผู้ปกครองที่ให้ความสำคัญในการจัดการศึกษา มคี ่านิยมในการเข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีชอ่ื เสียง ของจงั หวัดหรืออำเภอ ประกอบกับ หน่วยงานทางการศึกษา มีวัฒนธรรมขององค์กรเป็นเอกภาพ มีความเข้มแข็ง ภายในหน่วยงาน จึงเป็นปัจจัยส่งเสริมในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา ส่งผลให้สถานศึกษาในจังหวัดมีการ แขง่ ขันพฒั นาคณุ ภาพยงิ่ ขน้ึ 2. (SS5) จังหวัดอุบลราชธานี มีวัฒนธรรมการสืบสาน ประเพณีท้องถิ่นที่ดีงาม ส่งผลให้สถานศึกษา นำไปกำหนดหลักสูตรการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีความหลากหลายในการประกอบอาชีพ ทำให้สถานศึกษา ได้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ และสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามความต้องการเพื่อประกอบอาชีพในอนาคต ประกอบกับบุคลากรของหน่วยงานทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง จึงเป็นปัจจัยส่งเสริม ให้มีการปรับหลักสูตรการเรยี นการสอดให้สอดคลอ้ งกบั บริบทและสภาพพ้นื ที่ 3. (SS6) จังหวัดอุบลราชธานี มีสถานศึกษาจำนวนหลายแห่ง ตั้งอยู่ทุกตำบล สถานศึกษาจึงต้องมีการ พัฒนาคุณภาพการศึกษา ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนดีขึ้น เพ่ือให้ได้มาตรฐานท่ีใกล้เคียงกัน ประกอบกับ ผู้บริหาร การศึกษาของหน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัด มีภาวะผู้นำ และเป็นแบบอย่าง รวมถึงมีการเสริมสร้างขวัญ และกำลังใจใหก้ บั เจ้าหน้าที่ จึงเปน็ ปจั จยั ส่งเสรมิ ตอ่ ประสิทธภิ าพของหน่วยงานและการพัฒนาคุณภาพของผูเ้ รียน 4. (PS5) ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา เป็นกรอบแนวทางการดำเนินการหลัก โดยหน่วยงานของรัฐจะต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการหรือแผนปฏิบัติการ ท่ีสอดคล้องกับแผนระดับท่ี 1 และระดับท่ี 2 ซ่ึงส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบกับ บุคลากรของหน่วยงานทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บุคลากรมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน จงึ เปน็ ปัจจยั สง่ เสริมตอ่ การปฏิบัติงานเพ่อื ขบั เคลือ่ นคุณภาพการศกึ ษาให้บรรลุเปา้ หมายดังกล่าว เชงิ ลบ 1. (TS4) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคมุ ของสถานศึกษา และ ครอบครัว อาจส่งผลให้ผู้เรียนได้รับความเส่ียงและผลกระทบจากส่ือออนไลน์ ใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ และ ไม่เหมาะสม นอกจากน้ีร้านเกมในจังหวัดมีจำนวนมาก ประกอบกับหน่วยงานทางการศึกษาขาดบุคลากรท่ีผ่าน การอบรม ด้านส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาที่ผ่านการอบรม ซึ่งมีจำนวนไม่เพียงพอ และ ไม่ครอบคลุมทุกพ้ืนที่ ในการปฏิบัติหน้าที่การเฝ้าระวังเหตุในช่วงเทศกาล จึงจำเป็นจะต้องเสริมสร้างความ เข้มแข็งในการบูรณาการร่วมกับหน่วยท่ีเก่ียวข้อง เพื่อเฝ้าระวังความพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมนักเรียนและ นกั ศึกษา และสง่ เสริมการใช้สอ่ื ออนไลน์อยา่ งสร้างสรรค์ รวมถึงการรู้เท่าทนั ส่ือ 2. (ES2) สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ การขับเคล่ือนโครงการ/กิจกรรมส่วนหน่ึงท่ีกำหนดไว้ตามแผนของหน่วยงานทางการศึกษา ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ไมส่ ามารถขับเคล่ือนลงสู่การปฏบิ ัติได้เต็มประสิทธิภาพ จงึ จำเป็นจะต้องวางแผนและบริหาร ความเสี่ยงในการขบั เคล่ือนโครงการ แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 73
สรปุ การวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ ม (SWOT) ดา้ นการศึกษาจังหวัดอบุ ลราชธานี จดุ แขง็ (Strengths) ๑) หน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัด จัดการศึกษาครอบคลุมทุกระดับ ทุกประเภทการศึกษา และ ครอบคลมุ ทุกพนื้ ท่ี ส่งผลใหเ้ ด็กเยาวชน และประชาชน ได้รบั การศกึ ษาอย่างทวั่ ถึง และตอ่ เน่ืองตลอดชีวิต ๒) หน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัด มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถ่ินไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ และ สามารถให้บริการดา้ นวชิ าการและวิชาชพี แกช่ มุ ชน รวมทั้งอนรุ ักษ์วัฒนธรรม ประเพณี และวถิ ีชีวิตที่เป็นเอกลกั ษณ์ ใหด้ ำรงอยู่ ๓) หน่วยงานทางการศึกษา มีหลักสูตรที่หลากหลายตอบสนองต่อความต้องการของท้องถ่ิน และ ตลาดแรงงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภูมิปัญญาท้องถ่ินและสถานประกอบการในการฝึกทักษะอาชีพ หรือ ฝกึ วิชาชพี ให้กบั ผเู้ รียน ๔) สถานศึกษาทุกแห่งมีระบบประกันคุณภาพภายในท่ีเข้มแข็ง ส่งผลให้เกิดแรงขับเคลื่อนท่ีสำคัญ ต่อการพัฒนาการศึกษา รองรบั การประกันคณุ ภาพภายนอก ๕) ครู และบุคลากรทางการศึกษามีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านและหลากหลาย ส่งผลให้เกิดการ ประสานงาน และความรว่ มมือระหวา่ งสถานศกึ ษาและหนว่ ยงานท้ังรฐั และเอกชน ๖) การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีหลักสูตรและกระบวนการเรียนการเรียนรู้ ท่มี คี วามยดื หย่นุ ตอบสนองความต้องการของกลมุ่ เป้าหมาย และทศิ ทางการพัฒนาประเทศ ๗) หน่วยงานทางการศึกษาได้รบั ความร่วมมือจากสถานประกอบการ ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน การรับ ผเู้ รียนเขา้ ฝกึ ทกั ษะอาชีพ/ฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ทำให้ผเู้ รียนมีประสบการณแ์ ละรายได้ระหวา่ งเรียน ๘) สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานบางแห่ง ได้ทำข้อตกลงกับสถาบันอาชีวศึกษาในการเรียนสายอาชีพควบคู่ กับสายสามัญ ทำให้ผู้เรยี นได้รบั วฒุ ทิ างการศกึ ษาทั้งสายสามญั และสายอาชีพ (ทวิศึกษา) 9) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562 ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนในสงั กัดสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) จังหวัดอุบลราชธานี มีคะแนนเฉลีย่ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ย ระดบั ประเทศ รอ้ ยละ 14.84 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นในสงั กดั สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษา (สพม.) จงั หวดั อุบลราชธานี มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉล่ียระดบั ประเทศ รอ้ ยละ 0.16 10) หน่วยงานทางการศึกษา มีศูนย์การประสานงานส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา ในเขตพืน้ ที่การศึกษา เขตพื้นที่จังหวัด และมีศูนย์เสมารักษ์สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เปน็ ศูนย์กลางในการ ประสานงานบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานท้ังภายในและภายนอกกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี เจ้าหน้าที่หรือพนักงานเจ้าหน้าที่สง่ เสริมความประพฤตินักเรยี นและนักศึกษา เพ่ือปฏิบตั ิหน้าท่ีในการส่งเสริม ความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา ร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เช่น กองอำนวยการรักษาความม่ันคงภายใน จังหวัดอุบลราชธานี ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงาน ส่งเสริมการปกครองท้องถ่ินจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด อุบลราชธานี สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา และสำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 74
จุดออ่ น (Weakness) ๑) ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาขาดความเป็นเอกภาพ และยังไม่เป็นปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถ นำข้อมูลมาใชป้ ระกอบการบริหารจัดการศึกษาเชงิ พืน้ ที่ของจงั หวดั อบุ ลราชธานไี ด้เท่าท่ีควร ๒) หน่วยงานที่ส่งเสริมการจัดการศึกษาของจังหวัดมีจำนวนมากหลายสังกัด เน่ืองจากเป็นจังหวัด ขนาดใหญ่ แต่การวางแผนและการบรู ณาการจดั การศกึ ษาร่วมกันยังไมม่ ีประสิทธิภาพเทา่ ที่ควร ๓) ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของหน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษา ยังไม่มีเสถียรภาพเท่าท่ีควร รวมถงึ ขาดบุคลากรที่มคี วามรคู้ วามสามารถในการบริหารจัดการ การบำรงุ รักษาเครอื ข่ายอินเตอรเ์ นต็ โดยตรง ส่งผลให้สถานศึกษามีค่าใช้จ่ายเพ่ิมขึ้น และดำเนินการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศของสถานศึกษา ยังไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพเท่าทีค่ วร ๔) กระบวนการจัดการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศของสถานศึกษา ยังไม่มุ่งเน้นทักษะในการสื่อสาร สง่ ผลต่อผู้เรียน ครูหรอื บคุ ลากรทางการศึกษา ยังขาดการพัฒนาทักษะในการส่อื สาร ๕) ผสู้ ำเร็จการศึกษาบางส่วนยังขาดลกั ษณะที่พึงประสงค์ในด้านทักษะชวี ิต ทักษะอาชีพ ส่งผลให้สังคม สถานประกอบการยงั ไม่ยอมรบั คณุ ภาพของผู้สำเรจ็ การศึกษา และการรบั เข้าทำงาน ๖) สถานศึกษาบางแห่งขาดครูเฉพาะทาง/สาขา เพื่อการจัดการเรียนรู้แก่ผู้เรียน/กลุ่มที่มีความต้องการพิเศษ ทำให้ผ้เู รียนไมไ่ ด้รบั การพฒั นาเตม็ ศักยภาพ ๗) ผู้เรียน ครูหรือบุคลากรทางการศึกษายังขาดทักษะ ในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ ในการจดั การเรียนการสอนหรือการปฏบิ ัติหน้าท่ี ๘) ผู้เรยี นขาดทักษะ ความรู้ความสามารถ ดา้ นการคดิ วิเคราะห์ การใช้เหตผุ ล และการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ๙) คณุ ลักษณะเฉพาะของส่ือ วัสดุ ครุภณั ฑ์ ไมต่ รงกับความตอ้ งการ และไม่ทันสมัย ๑๐) ระบบกำกบั ติดตามประเมินผลยังขาดประสิทธภิ าพ และไม่นำผลมาใชใ้ นการพัฒนาอยา่ งตอ่ เนื่อง ๑๑) ครูมีภาระงานนอกเหนือจากการสอนค่อนข้างมาก อาจสง่ ผลต่อประสิทธิภาพในการจัดการเรียน การสอน ๑๒) ผูเ้ รียนบางส่วน ยังประสบปัญหาการอา่ นไมอ่ อก เขยี นไม่ได้ อ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง ๑๓) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562 ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวมของโรงเรียน ในหน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัด คะแนนเฉล่ียร้อยละรวม 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ตำ่ กวา่ ระดบั ประเทศร้อยละ 4.12 ๑4) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ในภาพรวมของโรงเรียน ในหน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัดอุบลราชธานี คะแนนเฉล่ีย ร้อยละรวม 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ต่ำกว่าระดับประเทศรอ้ ยละ 2.29 ๑5) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ในภาพรวมของโรงเรียน ในหน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัดอุบลราชธานี คะแนนเฉล่ียร้อยละ รวม 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ต่ำกว่าระดับประเทศร้อยละ 2.88 และพบว่า ไม่มีโรงเรียนในหน่วยงาน ทางการศึกษาในจงั หวัดอบุ ลราชธานี มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉล่ยี ระดับประเทศ แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 75
โอกาส (Opportunities) ๑) ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา เสริมสร้าง ศักยภาพคนทุกช่วงวัยให้มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม ลดความเหล่ือมล้ำทางสังคม พัฒนาระบบบริหารจัดการ ภาครฐั ใหม้ ีประสิทธิภาพ ทำให้หนว่ ยงานทางการศึกษา/สถานศึกษา ได้รบั การพัฒนาคุณภาพการศึกษา ๒) นโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ส่งเสริมการเช่ือมโยงเครือข่ายและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพม่ิ ประสิทธภิ าพ การบรหิ ารจดั การ การบริการ และการเรียนรสู้ ่สู งั คมแหง่ ปญั ญา ๓) นโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs เป็นโอกาสในการ พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาต่อเน่ืองให้สอดคล้องทิศทางของประเทศ ในการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม ๔) นโยบายลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ เปดิ โอกาสให้ผูเ้ รยี นได้เรยี นรูต้ ามความถนดั และความสนใจของผู้เรยี น ๕) คำสั่งของคณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ ยกระดับนโยบายรฐั บาล เรือ่ ง การจัดการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ๑๕ ปี โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ให้เป็นหน้าท่ีของรัฐบาลและมาตรการตามกฎหมาย เป็นการลดความเหลื่อมล้ ำ สรา้ งโอกาสทางการศึกษา และความเป็นธรรมในสังคม ๖) มาตรการลดหย่อนภาษีเพ่ือการศึกษา เป็นแรงจูงใจให้ภาคเอกชนเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการจัดการศึกษา ๗) องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและสถานประกอบการในจงั หวดั เหน็ ความสำคญั ของการศึกษา ทำให้ สถานศกึ ษาได้รับการสนับสนนุ ทรัพยากรในการจดั การศกึ ษา ๘) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกอย่างฉับพลัน กระตุน้ ให้หน่วยงานและสถานศึกษาจัดกจิ กรรม เพ่ือปลกู ฝังจิตสำนกึ และร่วมอนรุ กั ษ์ ฟ้นื ฟู รักษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม อย่างเปน็ รูปธรรม ๙) จังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นท่ีศูนย์กลางของอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมโยงไปยังสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาวต่อเนื่องไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ซ่ึงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจโลก และยัง เชอ่ื มโยงกับพื้นทีพ่ ัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวนั ออกของประเทศ (EEC) ส่งผลตอ่ การลงทุนประกอบกิจการ อุตสาหกรรม เปน็ โอกาสด้านแรงงาน การค้า การลงทุน และการท่องเทยี่ ว หน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษา จงึ ควรมีการพฒั นาทางดา้ นภาษาและอาชีพใหก้ ับผู้เรียนและเยาวชน อุปสรรค (Threats) ๑) นโยบายการศกึ ษามกี ารเปลย่ี นแปลงบ่อย ทำให้การปฏิบัติงานขาดความตอ่ เน่อื ง และไม่นำผลการ ติดตามงานตามนโยบายไปใชใ้ นการแก้ปัญหาอยา่ งจริงจัง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการศึกษา การดำเนนิ งาน ไม่บรรลุตามเปา้ หมายท่กี ำหนด ๒) สภาพครอบครัวของประชาชนในจังหวัด มีแนวโน้มเป็นครอบครัวเดี่ยวมากข้ึน และสภาพปัญหา ทางสังคมที่เปล่ียนแปลงไปตามกระแสวัตถุนิยม ตลอดจนการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว ในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมลดนอ้ ยลง นำไปสูพ่ ฤตกิ รรมทีไ่ มพ่ ึงประสงค์ของเด็กและเยาวชน ๓) ปญั หาสังคม เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาทางเพศ และอบายมขุ สามารถแพร่กระจายเข้าสู่สถานศึกษา ได้งา่ ยขึน้ ผา่ นทางสือ่ สงั คมออนไลน์ (Social Media) สง่ ผลกระทบต่อพฤตกิ รรมของผ้เู รยี น ๔) ความเหลื่อมล้ำและช่องว่างระหว่างรายได้ของผู้ปกครองในจังหวัดอุบลราชธานี มีผลต่อความพร้อม ของผู้เรยี น และการเข้าถึงบรกิ ารดา้ นศึกษาทีม่ ีคุณภาพแตกตา่ งกนั ๕) ผู้ปกครองบางส่วนเป็นแรงงานจากต่างด้าวที่เข้ามาประกอบอาชีพ และมีการเคลื่อนย้ายแรงงาน ส่งผลให้ผูเ้ รยี นบางส่วนออกกลางคนั หรอื จบการศึกษาไมเ่ ป็นไปตามระยะเวลาทีห่ ลกั สูตรกำหนด ๖) สังคม ผู้ปกครอง และผู้เรียนบางส่วนยังมีทัศนคติ ค่านิยม ที่ขาดความเชื่อมั่น ในการเข้าศึกษาต่อ ระดบั อาชีวศกึ ษา ทำใหส้ ัดส่วนการเข้าศึกษาต่อสายอาชวี ศึกษาไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลต่อการขาดแคลนทกั ษะอาชีพ แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 76
๗) สถานประกอบการต้องการแรงงานท่ีมีทักษะ และฝีมือการปฏิบัติงานตามมาตรฐานความต้องการ ของสถานประกอบการ แต่ผเู้ รยี นจบการศกึ ษามีคุณลักษณะไม่เป็นไปตามความต้องการ ๘) โครงสรา้ งประชากรลดลงอยา่ งตอ่ เน่ืองทกุ ปี ประชากรวัยเรียนลดลง ส่งผลให้มีจำนวนสถานศึกษา ขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มข้ึน รวมถึงการเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากร ทก่ี ำลังเข้าสสู่ งั คมผ้สู งู อายุ ส่งผลตอ่ การการวางแผนและจัดการศกึ ษาตลอดชวี ิต ๙) คา่ นิยมของผูป้ กครองในการส่งบตุ รหลานเขา้ เรียนในสถานศกึ ษาทีม่ กี ารแขง่ ขนั สงู ส่งผลให้จำนวน โรงเรียนขนาดเล็กเพ่ิมข้ึน ๑๐) การจัดการศึกษาเพอื่ เขา้ สู่ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี นยังไม่มีพร้อมเท่าทคี่ วร ๑๑) สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในปี พ.ศ. 2563 ส่งผลกระทบ ตอ่ สภาพเศรษฐกิจ รวมถงึ การจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ สรปุ ประเดน็ ปัญหาและความตอ้ งการพัฒนาเชงิ พนื้ ที่ ปัญหา ๑) กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ยังไมต่ ระหนักในคุณค่าของตนเอง รวมถึงมีทักษะชีวติ และทักษะการประกอบอาชีพน้อย ทงั้ โอกาสในการพัฒนาคุณภาพชวี ิตยงั มีไม่ทว่ั ถึง ทำใหต้ อ้ งพง่ึ พิงการชว่ ยเหลือจากรฐั ๒) ผลการสำรวจระดับสติปัญญาเด็กไทยวัยเรียน (Intelligent Quotient : IQ) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ในปี พ.ศ. 2559 พบว่า ระดับเชาว์สติปัญญาเด็กไทยวัยเรียนภาพรวมของประเทศ เฉล่ีย 98.23 ถือเป็น ระดับสติปัญญาที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ค่อนไปทางต่ำกว่าค่ากลางของมาตรฐานสากล (IQ=100) ซึ่งผลการ สำรวจระดบั สตปิ ญั ญาเด็กไทยวัยเรยี นจงั หวดั อุบลราชธานี เท่ากบั 90.88 ๓) การนำหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ไปสกู่ ารปฏิบตั ิในสถานศึกษา และ ห้องเรียน (หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานกำหนดให้มาตรฐานการเรียนรู้ที่มีตัวช้ีวัดระบุส่ิงท่ีผู้เรียนพึงรู้ และปฏิบัติได้เป็นเปา้ หมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เปน็ คนดี มีปัญญา มีสขุ ภาพชีวิตท่ดี ี และมคี วามสามารถ ในการแข่งขันในเวทีสากล) เน่ืองจากครูผู้สอนใช้หนังสือเรียนเป็นคู่มือการสอน ไม่ได้ออกแบบหลักสูตร ระดบั ชัน้ เรียนหรอื หลักสตู รรายวชิ าดว้ ยตนเอง ๔) ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยแี ละสารสนเทศ ซ่ึงอยนู่ อกเหนือการควบคุมของสถานศกึ ษา และครอบครัว ส่งผลให้ผู้เรียนได้รับความเส่ยี งและผลกระทบจากสือ่ ออนไลน์ ผ้เู รียนสว่ นหน่ึงใช้ในทางท่ไี มเ่ กดิ ประโยชน์ และ ไมเ่ หมาะสม เชน่ การเขา้ ถงึ ส่ือไมพ่ งึ ประสงค์ที่ไม่มกี ารปิดกนั้ ๕) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ได้แก่ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านอาชีวศกึ ษา (V-NET) การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบโรงเรยี น (N-NET) คะแนนเฉลี่ยโดยภาพรวมตำ่ กว่าเกณฑ์คะแนนร้อยละ ๕๐ โอกาส ๑) จังหวัดอุบลราชธานี เป็นพ้ืนท่ีศูนย์กลางของอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมโยงไปยังสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อเนื่องไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจโลก และ ยงั เชอื่ มโยงกับพ้นื ทพ่ี ัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศ (EEC) สง่ ผลต่อการลงทุนประกอบการ และอุตสาหกรรม เป็นโอกาสด้านแรงงาน การค้า การลงทุนและการท่องเท่ียว หน่วยงานทางการศกึ ษา สถานศึกษา จงึ ควรมีการพัฒนาทางดา้ นภาษาและทักษะอาชพี ให้กับผเู้ รียน ๒) จงั หวัดอุบลราชธานี มีประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หลากหลายตลอดปี เช่น ประเพณี แห่เทียนพรรษา ประเพณีแข่งขนั เรือยาว ประเพณไี หลเรือไฟ พิธีสดดุ ีวรี กรรมพระประทุมวรราช สรุ ิยวงษ์ (เจา้ คำผง) แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อุบลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 77
วนั รำลึกแห่งความดชี าวอบุ ลราชธานี วันรำลกึ หม่อมเจียงคำ ชมุ พล ณ อยุธยา งานพธิ ที อดกฐนิ ทอฝา้ ยเปน็ สายบุญ จุลกฐิน ถนิ่ อบุ ล คนมธี รรม ๓) จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้นกำเนิดของพระเถราจารย์หลายรูป อาทิ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ชา สุภัทโท และจัดให้มีการปฏิบัติธรรมเพ่ือเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที และเป็นการปฏิบัติธรรมบูชาคุณถวายเป็นอาจริยบูชาแด่พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) เป็นประจำทุกปี รวมถึงการจัดงานมหาบูรพาจารย์รำลึก 150 ปี ชาตกาล พระอาจารย์ม่ัน ภูริทัตโต บุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ นอกจากน้ี ยังจัดพธิ ีทำบุญตักบาตรดอกบวั ถวายเป็นพุทธบูชาทุกเชา้ วันอาทิตย์ด้วย ๔) วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของประเทศ เข้าร่วมการประกวด ผลงานโมเดลแกะสลักหิมะนานาชาติ ประเทศสาธารณรฐั ประชาชนจีน และได้รบั รางวัลเป็นประจำทุกปี ดังน้ี ในปี พ.ศ. 2560 ได้รับรางวัล TOP GRADE AWARDS ปี พ.ศ. 2561 ได้รับรางวัล First Prize และ Best Technique Award (รางวัลทักษะฝีมือเทคนิคการแกะสลักยอดเยี่ยม) และปี พ.ศ. 2562 - 2563 ได้รับ รางวลั SECOND PRIZES และ ปี พ.ศ. 2564 ได้รับรางวลั SECOND PRIZES ความต้องการพฒั นา ๑) สร้างความตระหนักให้ผู้ด้อยโอกาสรคู้ ุณค่าของตนเอง เสริมทักษะชีวิต ให้มีสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม เสริมทักษะการประกอบอาชีพให้สามารถพ่ึงพาตนเองได้และลดการพ่ึงพิงจากภาครัฐ รวมท้ังจัดกิจกรรมส่งเสริม การพฒั นาสตปิ ญั ญาให้เหมาะสมตามกลมุ่ วยั คา่ เปา้ หมายรอ้ ยละ ๘๐ ตอ่ ปี ๒) พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารที่มีคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพจัดการเรียน การสอน และการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียนเป็นสำคัญ โดยนำเทคโนโลยสี ารสนเทศและเคร่อื งมือที่เหมาะสมมาใช้ในการ เรียนการสอน และยกระดับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ รวมทั้งการพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีทักษะและศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital literacy) เพ่ือรองรับการเรียนรู้โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ค่าเป้าหมายรอ้ ยละ ๘๐ ตอ่ ปี ๓) เด็กไทยมีระดับสตปิ ัญญาเฉล่ีย (IQ) ไม่ต่ำกวา่ ๑๐๐ (โดยการวัดนกั เรยี นท่กี ำลังศึกษาอยู่ระดบั ชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ในปงี บประมาณ ๒๕๖๔) ๔) ร้อยละของเดก็ อายุ ๐ - ๕ ปี มกี ารพัฒนาการสมวัย ค่าเป้าหมายรอ้ ยละ ๘๕ ตอ่ ปี ๕) พัฒนาเยาวชนเพ่ือสืบสานสินทรพั ย์ทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ส่งเสริมท่องเทย่ี วชมุ ชน และ ต่อยอดผลิตภัณฑ์และอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี ทำให้เกิดความสมดุลและการพัฒนาที่ยั่งยืน ค่าเป้าหมาย รอ้ ยละ ๘๐ ตอ่ ปี ๖) สร้างจิตสำนึกด้านพลังงานและส่ิงแวดล้อม (มาตรการลดและคัดแยกขยะมูลฝอย) ค่าเป้าหมาย ร้อยละ ๘๕ ต่อปี ๗) การบูรณาการข้อมูลเทคโนโลยีระหว่างหน่วยงาน ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด และส่ิงผดิ กฎหมาย ค่าเป้าหมายร้อยละ ๘๐ ต่อปี แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 78
แผนผังความเชื่อมโยงระหว่างแผนพัฒนาการศึก แผนระดับ ๑ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๑ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๒ ยทุ ธศาสต ความมั่นคง การสรา้ งความสามารถ การพัฒนา ยทุ ธศาสตร์ชาติ ในการแข่งขนั ศกั ยภาพท ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) แผนระดบั 2 (1) ประเดน็ ความม่ันคง (๓) ประเดน็ การเกษตร (11) ประเ แผนย่อยท่ี ๑ การรกั ษาความสงบ แผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตร์ขาติ ภายในประเทศ แผนย่อยท่ี ๕ เกษตรอัจฉริยะ ชว่ งชวี ิต (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) (๔) ประเด็นอุตสาหกรรมและบรกิ าร แผนย่อยท แห่งอนาคต ต้ังแต่ช่วงต แผนย่อยท่ี ๖ การพัฒนาระบบนิเวศ แผนย่อยท อตุ สาหกรรมและบริการแห่งอนาคต เรยี นและว (๖) ประเด็นพื้นท่ีและเมืองน่าอยู่ (1๒) การพ อจั ฉรยิ ะ แผนย่อยท แผนย่อยท่ี ๒ การพัฒนาพ้ืนท่เี มือง กระบวนกา ชนบทเกษตร และอุตสาหกรรม การเปล่ียน เชงิ นิเวศที่มีการบริหารจัดการ และแผนย่อ ตามแผนผังภูมินเิ วศอย่างย่ังยนื พหปุ ัญญา (7) ประเด็นโครงสร้างพนื้ ฐาน ระบบโลจิสตกิ ส์ และดจิ ิทลั แผนย่อยที่ ๓ โครงสร้างพนื้ ฐาน ดา้ นดิจทิ ลั (๘) ประเดน็ ผปู้ ระกอบการและ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ยคุ ใหม่ แผนย่อยที่ ๑ การสร้างความเข้มแขง็ ผูป้ ระกอบการอัจฉริยะ (๙) ประเด็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แผนย่อยที่ (1) พ้ืนท่ีภาคตะวนั ออก (๒๓) ประเด็นการวจิ ัยและพัฒนา นวัตกรรม แผนย่อยท่ี ๔ การวิจัยและพัฒนา นวตั กรรม ด้านองคค์ วามรู้พนื้ ฐาน แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ.
กษาจังหวัดอบุ ลราชธานี (พ.ศ. 2562 – 2565) ตร์ท่ี ๓ ยุทธศาสตร์ท่ี ๔ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๕ ยุทธศาสตร์ท่ี ๖ า และเสริมสรา้ ง การสรา้ งโอกาส การสรา้ งการเตบิ โตบนคณุ ภาพ การปรบั สมดุลและพัฒนาระบบ ทรพั ยากรมนุษย์ และความเสมอภาคทางสงั คม ท่ีเปน็ มติ รกับส่ิงแวดลอ้ ม การบรหิ ารจัดการภาครัฐ เด็นการศักยภาพคนตลอด (1๗) ประเด็นความเสมอภาค (1๘) ประเด็นการเตบิ โตอย่างย่ังยืน (๒๐) ประเด็นการบรกิ ารประชาชน และหลกั ประกันทางสงั คม แผนย่อยท่ี ๓.๓ การสรา้ งการเตบิ โต และประสทิ ธิภาพภาครฐั ที่ ๒ การพัฒนาเด็กเลก็ แผนย่อยท่ี 1 การคุ้มครองทางสังคม อย่างยัง่ ยืนบนสังคมที่เปน็ มิตรต่อ (๒1) ประเด็นการตอ่ ต้านการทุจริต ตั้งครรภ์จนถึงปฐมวยั ขน้ั พนื้ ฐานและหลกั ประกนั สภาพภูมอิ ากาศ และประพฤติมชิ อบ ที่ 3 การพัฒนาช่วงวัย ทางเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ แผนย่อย ที่ ๓.๕ การยกระดบั แผนย่อยที่ ๑ การป้องกันการทุจริต วัยรุ่น กระบวนทัศน์ เพ่ือกำหนดอนาคต และประพฤติมิชอบ พฒั นาการเรียนรู้ ประเทศ (๒๒) ประเด็นกฎหมาย และ ที่ 1 การปฏริ ูป (1๐) การปรับเปลย่ี นค่านยิ ม กระบวนการยุตธิ รรม ารเรยี นร้ทู ี่ตอบสนองต่อ วัฒนธรรม และด้านส่ิงแวดล้อม นแปลงในศตวรรษท่ี ๒1 อยท่ี ๒ การตระหนักถึง าของมนษุ ยท์ ี่หลากหลาย . 2562 – 2565) จังหวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 79
แผนการปฏิรปู ประเทศ (พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๐๕) ด้านท่ี ๑ ด้านการเมือง ด้านที่ ๕ ด้านเศรษฐกิจ ด้านที่ ๘ ด (๑) การเสริมสรา้ งวฒั นธรรมทาง ๑.1 ผลติ ภาพ เทคโนโลย การเมอื ง และการมสี ว่ นร่วม (๑๐) การพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ - (๑) การปฏ ของประชาชน ในระบอบประชาธปิ ไตย อาชวี ศกึ ษา ของประชา อันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ๑.๒ การรวมกลุ่มในภมู ิภาค ด้านที่ ๑๒ (๒ ) พัฒนาอุตสาหกรรมเปา้ หมาย (๒) การปฏ ๑.๓ ระบบนิเวศด้านวิจัย พฒั นา และเดก็ วยั และนวัตกรรม (๕) การปฏ (๑) การจัดต้ังศูนยก์ ลางการวจิ ัย การผลิตคดั และพฒั นา ผู้ประกอบ ดา้ นท่ี ๑๒ ด้านการศกึ ษา (๕) การปฏ (๗) การปฏิรปู การศกึ ษา และ การสอน เ การเรยี นรโู้ ดยพลิกโฉมดว้ ยระบบ เปลีย่ นแป ดจิ ิทลั แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ.
ด้านสื่อสารมวลชน ด้านท่ี ๑๒ ด้านการศกึ ษา ดา้ นท่ี ๖. ด้านทรพั ยากรธรรมชาติ ด้านท่ี ๒ ด้านการบริหารราชการ ยีสารสนเทศ ฏิรูปการรูเ้ ทา่ ทันสือ่ (๓) การปฏิรปู เพอื่ ลดความเหล่ือมลำ้ และส่ิงแวดลอ้ ม แผ่นดิน าชน ๒ ด้านการศกึ ษา ทางการศึกษา (6) ระบบบริหารจัดการ (๒ )ระบบข้อมลู ภาครัฐมมี าตรฐาน ฏริ ปู การพัฒนาเด็กเลก็ ยเรียน ทรัพยากรธรรมชาติและ ทันสมัย และเช่ือมโยงกนั กา้ วสู่ ฏริ ปู กลไกและระบบ ดกรองและการพัฒนา ส่ิงแวดล้อม รัฐบาลดิจิทลั บวชิ าชีพครู ฏิรูปการจัดการเรียน (๓) โครงสรา้ งภาครัฐ กะทัดรดั เพื่อตอบสนองการ ปลงในศตวรรษที่ ๒๑ ปรบั ตัวไดเ้ รว็ และระบบงาน มีผลสมั ฤทธ์สิ งู (๔) กำลงั คนภาครัฐมขี นาด ทเ่ี หมาะสม และมสี มรรถนะสงู พรอ้ มขับเคลอื่ นยุทธศาสตรช์ าติ ดา้ นที่ ๓ ดา้ นกฎหมาย (๔) มีกลไกทางกฎหมาย เพื่อเพ่ิม ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ ดา้ นท่ี ๑๑ ด้านปอ้ งกัน และ ปราบปรามทจุ รติ และประพฤติ มิชอบ (๑) ด้านการป้องกนั และปราบปราม ทจุ รติ และประพฤติมชิ อบ (๑) ด้านการปอ้ งกนั และเฝา้ ระวัง (๒) ดา้ นการปอ้ งปราม (๓) ดา้ นการปราบปราม ด้านท่ี ๑๒ ด้านการศึกษา (๑) การปฏริ ูปการศกึ ษาและ การเรยี นรู้ของประเทศ (๖) การปรบั ปรงุ โครงสร้าง ของหน่วยงานในระบบการศกึ ษา . 2562 – 2565) จงั หวดั อบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 80
แผนพฒั นาเศรษฐกิจ และสังคมแหง่ ชาติ ๕. การเสรมิ สร้าง ความม่ันคง ๓. การสร้างความเข้มแข็งทาง ๑. การเสร ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) แห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศ เศรษฐกจิ และแข่งขันได้อยา่ งยั่งยืน ศกั ยภาพท สู่ความมั่นคงและยงั่ ยืน นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ ๗. การพัฒนาโครงสรา้ งพ้นื ฐาน พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๔ และระบบโลจสิ ตกิ ส์ ๘.การพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ นโยบายของคณะรัฐมนตรี เทคโนโลยี วจิ ยั และนวัตกรรม (พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา) ๙. การพฒั นาภาค เมือง และพื้นท่ี เศรษฐกจิ 1. การเสริมสร้างความมน่ั คง ๑๖ การรักษาดลุ ยภาพ ๕ การพฒั ประเทศ ของมนษุ ย์ สภาวะแวดล้อมระหวา่ งประเทศ 3. การเสรมิ สรา้ งความมนั่ คง ของสถาบนั หลักของชาติภายใต้ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ๖ การสรา้ งความสามัคคปี รองดอง ๙ การปอ้ งกันและแก้ไขปญั หา การคา้ มนุษย์ ๑๐ การป้องกนั และปราบปราม ยาเสพติด ๑๒ การรกั ษาความม่ันคงพ้ืนที่ ชายแดน ๑๕ การป้องกันและแก้ไขปญั หา ความมน่ั คงทางไซเบอร์ ๑. การปกป้องและเชดิ ชูสถาบัน ๕. การพฒั นาเศรษฐกิจและ ๘. การปฏ พระมหากษตั ริย์ ความสามารถในการแข่งขนั ของไทย และการพัฒ ๒. การสร้างความมัน่ คงและความ ๖. การพัฒนาพนื้ ที่เศรษฐกิจและ ทกุ ช่วงวัย ปลอดภยั ของประเทศ และความ การกระจายความเจรญิ สู่ภูมิภาค สงบสขุ ของประเทศ ๓. การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะ และวฒั นธรรม แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ.
รมิ สรา้ ง และพฒั นา ๒. การสร้างความเป็นธรรม และ ๔. การเติบโตที่เปน็ มติ รกับ ๖. การบริหารจัดการในภาครฐั ทุนมนุษย์ ลดความเหล่อื มล้ำในสังคม สงิ่ แวดล้อมเพื่อการพัฒนา การปอ้ งกันการทุจริตประพฤติ มชิ อบและธรรมาภบิ าลในสงั คม อยา่ งย่งั ยืน ๗. การพัฒนาโครงสรา้ งพนื้ ฐาน (พลังงานเปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดล้อม) ฒนาศกั ยภาพการป้องกัน ๖ การสร้างความสามคั คปี รองดอง ๑๙ การรกั ษาความม่นั คง ๒ การข่าวกรองและการประเมนิ ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและ ด้านสถานการณค์ วามมน่ั คง สงิ่ แวดล้อม ๔ การพฒั นาระบบการ เตรียมพรอ้ มแห่งชาติ ๑๑ การเสริมสร้างความมั่นคง ของชาตจิ ากภัยทุจริต ฏริ ปู กระบวนการเรยี นรู้ ๙. การพฒั นาระบบสาธารณสุข ๑๐. การฟืน้ ฟูทรพั ยากรธรรมชาติ ๑๑. การปฏิรูปการบรหิ ารจัดการ ฒนาศกั ยภาพของคนไทย และหลกั ประกนั ทางสังคม และการรักษาสง่ิ แวดล้อมเพ่อื สรา้ ง ภาครัฐ การเติบโตอย่างยั่งยืน ๑๒. การปอ้ งกันและปราบปราม การทุจรติ และประพฤตมิ ชิ อบ และ กระบวนการยตุ ิธรรม . 2562 – 2565) จงั หวัดอุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 81
แผนระดบั 3 ๑ จัดการศกึ ษาเพอ่ื ความม่ันคง ๒ ผลติ และพฒั นากำลงั คน การวจิ ัย ๓ พัฒนาศ ของสังคมและประเทศชาติ และนวัตกรรมเพอ่ื สร้างขีดความสามารถ และการสร ยุทธศาสตร์แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ในการแข่งขนั ของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ยทุ ธศาสตร์แผนพัฒนาการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ฉบบั ท่ี 12 ๑ พฒั นาหลักสูตร กระบวนการ (พ.ศ. ๒๕๖0 – ๒๕64) จัดการเรียนรู้ การวัดและ ๓ ผลิตและพัฒนากำลงั คน ๑ พัฒนาห ประเมนิ ผล รวมทง้ั งานวิจยั ทสี่ อดคลอ้ งกบั จัดการเรียน ยทุ ธศาสตร์แผนพัฒนาการศกึ ษา ๖ พฒั นาระบบบริหารจัดการและ ความตอ้ งการของประเทศ ๒ ผลิต พฒั ของสำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ส่งเสรมิ ใหท้ ุกภาคสว่ นมีส่วนร่วม บุคลากรท (พ.ศ. ๒๕๖0 – ๒๕64) ในการจัดการศึกษา ๓ ผลิตและ รวมทัง้ งาน ความตอ้ งก ๔ ขยายโอ ทางการศกึ อย่างต่อเน ๕ ส่งเสริม เทคโนโลย ๖ พฒั นาร สง่ เสริมให ในการจัดก 1. พัฒนาร 3. พัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐาน 3. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน ใหม้ ปี ระสทิ การศกึ ษาในระบบ การศึกษา การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอก 2. พัฒนาแ นอกระบบ และการศึกษา ระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั เทคโนโลยีด ตามอัธยาศัย การบริการ อย่างมีประ 3. พัฒนาค การศึกษาใน และการศึก 4. สง่ เสริม ทกุ ภาคส่ว ทางการศกึ ษ ๕ พฒั นาร ของขา้ ราช ทางการศกึ แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ.
ศกั ยภาพคนทุกช่วงวยั ๔ สร้างโอกาส ความเสมอภาค ๕ จัดการศกึ ษาเพือ่ สร้างเสรมิ ๖ พัฒนาประสิทธิภาพของระบบ รา้ งสังคมแห่งการเรียนรู้ และความเท่าเทียมทางการศึกษา คณุ ภาพชวี ติ ท่ีเปน็ มิตรกบั บริหารจดั การศกึ ษา สง่ิ แวดล้อม หลักสตู ร กระบวนการ ๔ ขยายโอกาสการเขา้ ถึงบริการ ๖ พัฒนาระบบบริหารจัดการและ ๑ พฒั นาหลกั สูตร กระบวนการ สง่ เสรมิ ใหท้ ุกภาคส่วนมีส่วนร่วม นรู้ การวัดและประเมินผล ทางการศึกษาและการเรยี นรู้ จัดการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล ในการจัดการศึกษา ฒนาครู คณาจารย์และ อย่างต่อเน่อื งตลอดชีวิต ทางการศกึ ษา ๕ ส่งเสริมและพฒั นาระบบ ะพฒั นากำลงั คน เทคโนโลยดี ิจิทัลเพอ่ื การศึกษา นวิจัยท่ีสอดคลอ้ งกับ การของประเทศ อกาสการเขา้ ถงึ บรกิ าร กษาและการเรียนรู้ นอ่ื งตลอดชีวิต มและพฒั นาระบบ ยดี ิจิทัลเพอื่ การศึกษา ระบบบรหิ ารจัดการและ ห้ทุกภาคส่วนมสี ว่ นร่วม การศึกษา ระบบบรหิ ารจดั การ 2. พัฒนาและส่งเสรมิ การนำ 1. พัฒนาระบบบรหิ ารจดั การ ทธภิ าพ ระบบเทคโนโลยดี จิ ิทัลมาใช้ในการ ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ และส่งเสริมการนำระบบ บริหาร การบริการ และการเรียนรู้ ๕ พฒั นาระบบบริหารงานบคุ คล ดจิ ทิ ัลมาใชใ้ นการบริหาร อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ของขา้ ราชการครู และบุคลากร ร และการเรียนรู้ 4. ส่งเสรมิ การมสี ว่ นรว่ ม ทางการศกึ ษาใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ ะสทิ ธิภาพ จากทุกภาคสว่ นในการกระจาย คุณภาพและมาตรฐาน โอกาสทางการศกึ ษาและการ นระบบ การศกึ ษานอกระบบ เรยี นรตู้ ลอดชวี ติ กษาตามอธั ยาศัย มการมีสว่ นรว่ มจาก วนในการกระจายโอกาส ษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ติ ระบบบริหารงานบุคคล ชการครู และบุคลากร กษาใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ . 2562 – 2565) จงั หวดั อบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 82
แผนพัฒนาจังหวดั อบุ ลราชธานี ๑ การพัฒนาเมืองนา่ อยู่ทนั สมัย ๒ การส่งเสริมการคา้ และการลงทนุ ๓ การสง่ เส ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ ให้เป็นเมืองอจั ฉรยิ ะ และส่งเสริม ทอ่ งเทยี่ วเ ยุทธศาสตรแ์ ผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) จังหวัดอุบลราชธานี คณุ ภาพชีวิตประชาชน ๓. พัฒนาศ ให้มคี ณุ ภา ๑. เสรมิ สร้างการจัดการศึกษา ๒. เสริมสร้าง พัฒนากำลังคน เพ่อื ความมน่ั คงของสังคมและ การวจิ ัยและคิดค้นนวตั กรรม ประเทศชาติ การศึกษา แผนพฒั นาการศกึ ษา (พ.ศ.
สริมและการพัฒนาการ ๔ การยกระดับการผลิตและแปรรปู ๕ การสรา้ งความมั่นคงและความ เชงิ คุณภาพ สินค้าเกษตรสสู่ ากล ปลอดภัยของประชาชน ศกั ยภาพคนทกุ ช่วงวัย ๔. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ๕. สง่ เสรมิ และจัดการศึกษา ๖. พัฒนาระบบรหิ ารจัดการศกึ ษา าพ และลดความเหล่ือมล้ำ เพ่อื สรา้ งเสริมคณุ ภาพชีวิต ใหม้ ีประสิทธิภาพ ทางการศึกษา ทเ่ี ป็นมติ รกับส่งิ แวดลอ้ ม . 2562 – 2565) จังหวัดอบุ ลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 83
สว่ นท่ี ๓ สาระสำคัญของแผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ในการวิเคราะห์สถานภาพของหน่วยงานทางการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี พบว่า สภาพแวดล้อม ภายนอกเป็นโอกาส และสภาพแวดล้อมภายในเป็นจุดแข็ง ซึ่งอยู่ในสถานภาพการกำหนดกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อพัฒนาให้การจัดการศึกษาของหน่วยงานทางการศึกษาของจังหวัดอุบลราชธานี มีเอกภาพในเชิงนโยบาย แผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) จังหวัดอุบลราชธานีฉบับนี้ จึงได้กำหนดแนวทางการจัดการศึกษา ในแต่ละระดับด้วยเป้าประสงค์เดียวกัน ร่วมกันบูรณาการเชื่อมโยงกัน และตอบสนองความต้องการภายใต้ บรบิ ทพนื้ ทข่ี องจงั หวดั ดังนี้ วสิ ยั ทัศน์ “จัดการศึกษาแบบบูรณาการ ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะทจี่ ำเปน็ ในศตวรรษที่ ๒๑ ” การบรหิ ารจดั การศึกษาแบบบรู ณาการ หมายถงึ การบรหิ ารทที่ ุกหน่วยงานทำงานแบบมุง่ เนน้ ผลงาน ตามยุทธศาสตร์เป็นหลัก เป็นการทำงานโดยอาศัยความเชี่ยวชาญ และความชำนาญการของแต่ละหน่วยงาน ท่แี ตกตา่ งกนั เฉพาะด้าน ภายใตเ้ ปา้ หมายและวัตถุประสงค์หลักของยุทธศาสตร์เดยี วกัน มกี ระบวนการรว่ มกัน โดยใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพ่ือให้บรรลุผลตามยุทธศาสตร์ มุ่งผลสำเร็จและเป้าหมายของงานร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิด ความประหยดั เสริมสรา้ งประสิทธผิ ล และคำนึงถึงประสทิ ธภิ าพของการทำงานเปน็ หลัก การเรียนรู้ตลอดชีวิต หมายถึง การเปล่ยี นแปลงของบุคคลที่เกดิ จากการศึกษาในระบบการศึกษา การศึกษา นอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ ต้ังแตแ่ รกเกิดจนกระทั่งส้นิ ชวี ิต หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หมายถึง การยึดหลักทางสายกลางและความไมป่ ระมาท คำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมคิ ุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนการใชค้ วามร้ดู ้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และมีคณุ ธรรมเปน็ พนื้ ฐานในการตดั สินใจและการกระทำ ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ หมายถึง คุณสมบัติหรือทักษะท่ีสำคัญของผู้เรียน 3R 8C ซึ่งเป็น คณุ ลกั ษณะพ้นื ฐานสำคญั ของทกั ษะขัน้ ตน้ ท้ังหมด และเปน็ คุณลกั ษณะท่ีผเู้ รียนจำเป็นต้องมี ประกอบด้วย 3R คอื ทักษะพืน้ ฐานทจี่ ำเป็นต่อผเู้ รยี น ดังนี้ ๑) Reading: อ่านออก ๒) Writing: เขยี นได้ ๓) Arithmetic: มที ักษะในการคำนวณ 8C คอื ทกั ษะท่จี ำเปน็ สามารถนำไปปรบั ใชใ้ นการเรยี นรู้ ดังนี้ 1) Critical Thinking and Problem Solving: การคิดวิเคราะห์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้ 2) Creativity and Innovation: การคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ และคิดเชิงนวัตกรรม 3) Cross-cultural Understanding: ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรม กระบวนการ คิดข้ามวัฒนธรรม 4) Collaboration Teamwork and Leadership: ความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะ ความเป็นผ้นู ำ 5) Communication Information and Media Literacy: การส่อื สาร และการรู้เท่าทันส่ือ แผนพัฒนาการศกึ ษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จงั หวัดอบุ ลราชธานี ฉบับทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 84
6) Computing and ICT Literacy: การใชค้ อมพิวเตอร์ และการรูเ้ ทา่ ทันเทคโนโลยี 7) Career and Learning Skills: ทกั ษะอาชพี และการเรียนรู้ 8) Compassion: คณุ ธรรม ความเมตตากรณุ า และระเบยี บวินยั พนั ธกจิ 1. ส่งเสริม สนับสนุนหน่วยงานทางการศึกษาของรัฐและเอกชนจัดการศึกษาแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนอ้ มนำศาสตรพ์ ระราชาและพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสูก่ ารปฏบิ ตั ิ 2. ส่งเสริม สนับสนนุ หน่วยงานทางการศกึ ษาในการจัดการเรียนการสอน เพือ่ เตรยี มคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 3. เสริมสร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษาตลอดชีวิตที่มีคณุ ภาพ เสมอภาค และเทา่ เทียม 4. สง่ เสริม สนบั สนุนครูและบคุ ลากรทางการศึกษาให้ได้รับการพฒั นาตามมาตรฐานวชิ าชีพ 5. ส่งเสริม สนับสนุนหน่วยงานทางการศึกษาจัดกระบวนการเรียนการสอน สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ผู้เรยี นมีความตระหนักในการดำรงชีวติ ท่เี ป็นมติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ ม 6. พฒั นาระบบบริหารจัดการศึกษาทเ่ี น้นการมีส่วนร่วม เพ่ือเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อคณุ ภาพการศกึ ษา และบรู ณาการการจัดการศกึ ษาเชงิ พ้ืนท่ี ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ 1. เสริมสรา้ งการจัดการศกึ ษาเพื่อความม่นั คงของสงั คมและประเทศชาติ 2. เสรมิ สร้างพฒั นากำลังคน การวจิ ยั และคดิ ค้นนวัตกรรมการศึกษา 3. พัฒนาศักยภาพคนทกุ ช่วงวัยใหม้ ีคณุ ภาพ 4. สร้างโอกาส ความเสมอภาค และลดความเหล่ือมล้ำทางการศึกษา 5. ส่งเสรมิ และจัดการศึกษาเพ่อื สรา้ งเสริมคณุ ภาพชีวติ ทเ่ี ปน็ มติ รกบั ส่งิ แวดล้อม 6. พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มปี ระสิทธิภาพ เป้าประสงค์ 1. ผู้เรียนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมขุ 2. ผเู้ รยี นมสี มรรถนะท่ตี อบสนองความต้องการ พัฒนาทักษะการวจิ ัย และคดิ คน้ นวัตกรรมการศึกษาใหม่ 3. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะของผู้เรียนที่จำเป็น ในศตวรรษท่ี 21 4. ผเู้ รยี นได้รบั โอกาสทางการศกึ ษาที่มีคุณภาพอยา่ งท่วั ถงึ และเสมอภาค 5. หน่วยงานทางการศึกษามีกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ และกิจกรรมส่งเสรมิ การปรับเปล่ียน พฤติกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. หน่วยงานทางการศึกษามีระบบบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการบูรณาการเช่ือมโยง และ ตอบสนองความต้องการของผรู้ บั บรกิ ารได้สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ตามหลกั ธรรมาภบิ าล แผนพฒั นาการศึกษา (พ.ศ. 2562 – 2565) จังหวดั อุบลราชธานี ฉบบั ทบทวน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 85
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308