เสมอื นท่ีบา วคนหนึง่ กาํ ลงั อา นสาสนของเจา นายทีเ่ ขยี นถึงเขา ทง้ั น้ี เพื่อใหเ ขาไดค รนุ คิดในเนอื้ หาและปฏบิ ตั ติ ามเจตนารมณของมนั ดวยเหตุนี้นักวิชาการบางทานจึงกลาววา “อัลกุรอานเลม น้ี เปนสาสนท่ีถูกสงมายังเราจากพระผูอภิบาลของเรา ผูทรง ยิ่งใหญและเกรียงไกร ดวยกับขอผูกมัดที่เราไดใหไววาจะตะดับ บุรฺมันในทุกๆ การละหมาด จะนั่งใชความคิดเพื่อหาสาระจาก ความหมายของมันเม่ืออยูตามลําพัง จะปฏิบัติตามเน้ือหาของ มนั ในทกุ ๆ การฏออะฮฺ และจะเจรญิ รอยตามในทกุ ๆ คาํ แนะนํา” ทานมาลิก บินดีนาร ไดกลาววา “อัลกุรอานไมไดปลูกสิ่ง ใดในหัวใจของพวกทานหรอื โอช าวอลั กรุ อานเอย ? แทจ ริงอลั กุ รอานน้นั เปนสงิ่ ท่รี นื่ รมยแกหวั ใจของผศู รทั ธา เฉกเชนที่นํา้ ฝนได ใหความชมุ ช่นื แกพ ้ืนดนิ ” ทานเกาะตาดะฮฺ ไดกลาววา “ไมมีผูใดน่ังอยูรวมกับอัลกุ รอาน เวนแตเขาจะยืนขึ้นดว ยกับสิ่งดๆี ท่ีเพิ่มมาใหม หรือไดรับ ความขาดทุน” ซึ่งอลั ลอฮฺ ไดด ํารัสในเรื่องน้ีวา َّ �َ ٱل َّٰظلِ ِم َ �َ ِِّل ۡل ُم ۡؤ ِمن َٞو َر ۡ َ�ة ءٞ ِٓش َفا ﴾ ٨٢ �َخ َسا ٗر �ِإ َيزِ� ُد � َو ُه َو ﴿ [٨٢ :]اﻻﺳﺮاء 200
ความวา “ซ่ึงเปนการบําบัดและความเมตตาแกบรรดาผูศรัทธา และมันมิไดเพ่ิมอันใดแกพวกอธรรม นอกจากการขาดทุน เทาน้ัน” (สเู ราะฮฺอัล-อิสรออ อายะฮทฺ ่ี 82) 8. หวั ใจตอ งมีปฏิกริ ยิ าตามเนือ้ หาของอัลกุรอาน กลาวคือ หัวใจตองมีปฏิกิริยาตามความหลากหลายของ ความหมายอัลกุรอาน โดยใหมันเปนไปตามความเขาใจในแตละ เน้ือหา และใหหัวใจไดแสดงปฏิกิริยาตามเน้ือหาน้ัน เชนโศกเศรา หวั่นเกรง มคี วามหวัง เปน ตน และเทาทม่ี คี วามเขาใจในความหมาย ของมันสมบูรณมากเพียงใด ก็จะทําใหเกิดความยําเกรงในหัวใจ มากเทานั้น ซึ่งโดยสวนใหญของอายะฮฺอัลกุรอานที่มีอยูน้ันจะมี เงอ่ื นไขจาํ กดั รวมอยดู วย ทา นจงึ ไมพบเนื้อหาท่ีกลา วถงึ การใหอภัย และความเมตตา นอกจากมันจะควบคูดวยกับเง่ือนไขตางๆ ที่ จําตองปฏบิ ตั มิ ันใหได เชนอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดด ํารัสวา [٨٢ : ﴾ ]ﻃﻪ٨٢ رٞ ﴿ � ِّ� لَ َغ َّفا ความวา “และแทจ รงิ ขา เปน ผอู ภัยอยางมากหลาย” (สเู ราะฮฏฺ อ ฮา อายะฮทฺ ่ี 82) หลังจากน้ันก็มสี เ่ี ง่ือนไขติดตามมา นัน่ คอื [٨٢ : ﴾ ]ﻃﻪ٨٢ ﴿ لِّ َمن تَا َب َو َءا َم َن َو َع ِم َل َ�ٰلِ ٗحا ُ� َّم ٱ ۡه َت َد ٰى 201
ความวา “แกผลู แุ กโ ทษ และศรัทธา และประกอบความดแี ลว ยึด ม่ันอยใู นแนวทางท่ีถกู ตอ ง” (สูเราะฮฏฺ อฮา อายะฮฺที่ 82) และคาํ ดํารัสของอลั ลอฮฺ ตะอาลา ทวี่ า َْو َع ِم ُلوا َْءا َم ُنوا ٱ َّ ِ�ي َن َّ �ٍ ۡ َل ِ� ُخ ٱ ۡ ِ�� َ ٰ� َن ۡ َ�إِ َِّّقن١ َو﴿تَ َو َاوٱ َۡلص َع ۡواْۡ بِ ِ�ٱ ٱل َّ ٰصلِ َ�ٰ ِت [٣ ،١ �ِإ ٢ ٣ ِ�ۡ بِٱل َّص َْوتَ َوا َص ۡوا :﴾[اﻟﻌﺼﺮ ความวา “ขอสาบานดวยกาลเวลา แทจริง มนุษยนั้นอยูในการ ขาดทุน นอกจากบรรดาผูศรัทธา และกระทําความดีท้ังหลาย และตักเตือนกันและกันในส่ิงที่เปนสัจธรรม และตักเตือนกนั และ กันใหม ีความอดทน” (สเู ราะฮอฺ ลั -อัศรฺ อายะฮฺท่ี 1-3) โดยไดระบเุ งอ่ื นไขทัง้ หมด 4 ประการดว ยกนั ซึ่งจาํ เปนตอ ง ปฏบิ ัติตามเงื่อนไขน้ใี หไดท ัง้ หมด อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารัสอีกวา [٥٦ : ﴾ ]اﻻﻋﺮاف٥٦ �َ ِب ِّم َن ٱلۡ ُم ۡح ِسنٞ �ِ﴿ إِ َّن َر ۡ َ� َت ٱ َّ�ِ قَر ความวา “แทจริงความเอ็นดูเมตตาของอัลลอฮฺน้ันใกลแก ผูกระทาํ ดที งั้ หลาย” (สเู ราะฮฺอลั -อะอรฺ อฟ อายะฮทฺ ่ี 56) 202
จะเห็นไดวาอัล-อิหสฺ าน (คุณธรรมความดีขั้นสูงสุด) น้ันจะ รวบรวมทกุ สง่ิ ทุกอยาง ซ่ึงผูใดท่ีพลิกอานอัลกุรอานตั้งแตหนาแรกจนถึงหนา สุดทาย ก็จะเห็นเชนขา งตน นี้ และผูใดท่ีเขาใจมันกเ็ หมาะสมแลว ท่ี เขาจะมคี วามเกรงกลัวและโศกเศรา ดวยเหตุน้ี ทานอัล-หะสัน จึงกลาววา “ขอสาบาน ตออัลลอฮฺ ไมมีวันใดท่ีบาวคนหนึ่งไดอานอัลกุรอานดวยความ ศรัทธาตอมัน นอกจากมันจะเพิ่มความโศกเศราแกเขา ความสขุ สบายใจจะลดนอยลง จะรองไหมากข้ึน หัวเราะนอยลง เหน็ด เหนื่อยมากขึ้น ยุงเหยิงมากขึ้น พักผอนไดนอยลง และความ เกียจครา นก็จะลดนอยลงไปดว ย” ทานวุฮัยบฺ บินอัล-วัรดิ ไดกลาววา “ฉันไดน่ังใชความคิด ไปยังบรรดาหะดษี และขอตกั เตือน (เมาอเิ ซาะฮฺ) ตา งๆ ซึง่ ฉนั ยัง ไมพบวาจะมีสิ่งใดท่ีจะทําใหหัวใจมีความออนโยนและสามารถ ดึงความรูสึกของความโศกเศรา ไดมากยิ่งกวาการอานอัลกรุ อาน การทาํ ความเขาใจ และการตะดับบรุ ฺในความหมายของมนั ” ดังนั้นบาวคนหน่ึงจะมีปฏิกิริยาดวยการอานอัลกุรอาน ซึ่ง เขาตอ งมคี วามอดทนอยูร วมกบั เน้อื หาของอายะฮฺท่กี ําลังอา นอยู และเม่ือมีการกลาวถึงสัญญาแหงการลงโทษและการวาง กรอบของการใหอ ภยั โทษดวยการมเี ง่ือนไขเขา มา เขากจ็ ะลดตัวลง ตํา่ ลงเนอื่ งจากความเกรงกลวั ตอ พระองค ประหนงึ่ วาความตายใกล 203
มาเยือนเขา แตเมื่อมีการกลาวถึงความโปรดปรานตางๆ ที่มีอยู อยางมากมาย และคํามั่นสัญญาที่จะไดรับการอภัยโทษ เขาก็จะมี ความปลม้ื ปตปิ ระหน่งึ วา กําลังโบยบินดวยความผาสุก และเมอ่ื มีการกลา วถงึ คณุ ลักษณะและพระนามของอัลลอฮฺ เขาก็จะนอบนอมยอมจํานน เน่ืองดวยความเกรียงไกร และ ความรสู ึกถงึ ความยงิ่ ใหญของพระองค และเมื่อมีการกลาวถึงสิ่งท่ีบรรดาผูปฏิเสธศรัทธาได กลาวถึงอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ในสิ่งท่ีไมคูควรกับพระองค เชน พวกเขากลาววาสาํ หรับอัลลอฮนฺ ้นั ทรงมีบตุ รและมภี าคี เขาก็จะลด เสียงลงและจะมีความรูสึกละอายใจเน่ืองดวยความต่าํ ทรามของคํา กลา วนัน้ และเม่ือมีการกลาวถึงสวนสวรรค จิตใจของเขาก็จะมี ความรสู กึ คนงึ ถงึ และปรารถนาตอ มนั และเม่ือมีการกลาวถึงนรก เขาก็จะหวาดกลัวจนตัวส่ัน ซ่ึง ในครง้ั ที่ทา นเราะสูลลุ ลอฮฺ ศอ็ ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสลั ลมั ไดก ลา วแก ทา นอบิ นมุ สั อดู เมื่อทานอา นอายะฮฺน้ใี หท า นเราะสลู ุลลอฮฺฟง ٤١ ﴿ َف َك ۡي َف إِ َذا ِج ۡئ َنا ِمن ُ ِّ� أُ َّمةِۢ � ِ َش ِهي ٖد َو ِج ۡئ َنا بِ َك َ َ ٰ� َٰٓه ُؤ َ ٓ� ِء َش ِهي ٗدا [٤١ : ﴾ ]اﻟنﺴﺎء 204
ความวา “แลวอยางไรเลา เม่ือเรานําพยานคนหน่ึงจากแตละ ประชาชาติมา และเราไดนําเจามาเปนพยานตอชนเหลาน้ี” (สู เราะฮฺอัน-นิสาอ อายะฮฺท่ี 41) ทานอิบนุมัสอูดไดเลาวา “ฉันไดเห็นดวงตาทั้งสองของ ทานนบีเออลน ดว ยกบั นํ้าตา” แลวทานนบีกก็ ลาวแกฉ ันวา “หยุด อานไดแลว ” (บนั ทกึ โดยอลั -บุคอรี) ดังกลาวน้ีเองเปนผลมาจากการไดประจักษเห็นถึงสภาพ บางอยา งทที่ าํ ใหห วั ใจจมด่งิ ไปทั้งหมด และมีรายงานวาบางคนมีความเกรงกลัวจนกระทั่งไดสลบ ลมลงเมื่อเขาไดอานอายะฮฺที่กลาวถึงสัญญาแหงการลงโทษ สวน บางคนถึงกบั เสียชวี ติ ไปขณะทฟ่ี ง บางอายะฮฺของอัลกุรอาน สภาพดังขางตน น้ีเองทท่ี ําใหหลุดพนจากการทําใหค ําดาํ รัส ของพระองคประหนึ่งเปนนิยายปรัมปรา ดังนั้นเม่ือเขาไดอานอา ยะฮฺ [١٥ : ﴾ ]اﻻﻧﻌﺎم١٥ �ٖ ﴿ إِ ِّ ٓ� أَ َخا ُف إِ ۡن َع َص ۡي ُت َر ِّ� َع َذا َب يَ ۡو ٍ� َع ِظي ความวา “แทจริงฉันกลัวการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ หากฉันฝา ฝนพระเจาของฉัน” (สเู ราะฮอฺ ัล-อนั อาม อายะฮทฺ ี่ 15) 205
ซึ่งหากเขาไมรูสึกถึงความหวาดกลัว ก็ประหน่ึงกําลังอาน นิยายปรมั ปราอยู และเมื่ออานอายะฮฺ [٤ : ﴾ ]اﻟﻤﻤﺘﺤﻨﺔ٤ �ُ ﴿ َع َل ۡي َك تَ َو َّ�ۡ َنا � َ ۡ� َك َ�نَ ۡب َنا � َ ۡ� َك ٱلۡ َم ِص ความวา “แดพระองคท า นเราขอมอบหมาย และยงั พระองคทาน เทาน้ันเราขอลุแกโทษ และยังพระองคทานเทาน้ันคือการ กลบั ไป” (สเู ราะฮอฺ ัล-มุมตะหนิ ะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 4) ซ่ึงหากเขายังไมม กี ารมอบหมายและสํานึกผิดตอ อัลลอฮฺ ก็ ประหนงึ่ วา เขากาํ ลังอานนยิ ายปรมั ปราอยู และเมอ่ื อานอายะฮฺ [١٢ : ﴾ ]اﺑﺮاﻫﻴﻢ١٢ ۚ﴿ َو َ�َ ۡص ِ َ� َّن َ َ ٰ� َمآ َءا َذ ۡ� ُت ُمونَا ความวา “และเราจะอดทนตอการท่ีพวกทานทํารายเรา” (สู เราะฮอฺ บิ รอฮีม อายะฮฺที่ 12) ก็ใหเขามีความอดทนและมีความตั้งใจมุงม่ันตอส่ิงนั้น กระทั่งไดลิ้มรสความหอมหวานของการอานอัลกุรอาน ซึ่งหากไมมี ปฏิกิริยาใดๆ เกิดข้ึนกับตัวเขา และหัวใจของเขาไมมีความรูสึก อะไรเลย ก็แนนอนวาส่ิงท่ีเขาไดรับจากการอานน้ันคือเพียงการ 206
ขยับล้ินพรอ มกบั ไดร ับการสาปแชง ตามคําดํารสั ของอัลลอฮฺ ตะอา ลา ทวี่ า [١٨ : ﴾ ]ﻫﻮد١٨ �َ ﴿ َ� َ� َل ۡع َن ُة ٱ َّ�ِ َ َ� ٱل َّٰظلِ ِم ความวา “พึงรูเถิด! การสาปแชงของอัลลอฮฺจะไดแกบรรดาผู อธรรม” (สูเราะฮฺฮูด อายะฮฺท่ี 18) และคําดาํ รสั ของอัลลอฮฺ ตะอาลา ท่ีวา َ� ۡف َعلُو َن َ ْ َ� ُقولُوا َ َم ۡق ًتا �َ ُ َك [٣ :]الﺼﻒ ﴾ ٣ � َما أن ِ�َّ ٱ ِعن َد ﴿ ความวา “เปนที่นาเกลียดยิ่งที่อัลลอฮฺ การที่พวกเจาพูดในส่ิงที่ พวกเจา ไมป ฏิบัติ” (สเู ราะฮอฺ ัศ-ศอ็ ฟ อายะฮทฺ ่ี 3) และคําดํารัสของอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ทว่ี า [١ : ﴾ ]اﻻﻧبﻴﺎء١ ﴿ َو ُه ۡم ِ� َ� ۡف َلةٖ ُّم ۡع ِر ُضو َن ความวา “โดยท่ีพวกเขาอยูในสภาพหลงลืมเปนผูผนิ หลังให” (สู เราะฮฺอัล-อัมบยิ าอ อายะฮทฺ ่ี 1) และคาํ ดํารัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ทว่ี า َفأَ ۡعرِ ۡض ٱ ُّ� ۡ� َيا ٱ ۡ َ� َي ٰو َة َّ ُي ِر ۡد َولَ ۡم ِذ ۡك ِر َنا �ٰ َّ َت َو ﴾ ٢٩ �ِإ َعن َّمن َعن ﴿ [٢٩ : ]اﻟﻨﺠﻢ 207
ความวา “ดังน้ัน เจาจงหลบหลีกใหหางจากผูท่ีผินหลังจากการ รําลึกนึกถึงเรา (อัลลอฮฺ) และเขามิไดปรารถนาอ่ืนใดนอกจาก การมชี ีวติ อยูในโลกน้ีเทา น้ัน” (สูเราะฮฺอนั -นจั มฺ อายะฮฺท่ี 29) และคําดํารัสของอลั ลอฮฺ ตะอาลา ทวี่ า [١١ : ﴾ ]اﻟﺤﺠﺮات١١ ﴿ َو َمن لَّ ۡم َ� ُت ۡب فَأُ ْولَٰٓ�ِ َك ُه ُم ٱل َّٰظلِ ُمو َن ความวา “และผูใดไมสํานึกผิด ชนเหลานั้นคือบรรดาผูอธรรม” (สเู ราะฮฺอัล-หุุรอต อายะฮทฺ ่ี 11) และอายะฮอฺ ื่นจากนอ้ี ีกมากมาย แ ล ะ มั น ยั ง ห ม า ย ร ว ม อ ยู ใ น ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง คํ า ดํ า รั ส ของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ท่วี า [٧٨ : ﴾ ]اﻟﺒﻘﺮة٧٨ �َّ ِ ﴿ َو ِم ۡن ُه ۡم أُ ِّم ُّيو َن َ� َ� ۡع َل ُمو َن ٱ ۡل ِك َ�ٰ َب إِ َّ�ٓ أَ َما ความวา “และในหมูพวกเขาน้ันมีผูอานเขียนไมเปน ไมรูคัมภีร นอกจากจะอาศัยเรื่องไรสาระตางๆ” (สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 78) หมายถึงอา นเพยี งอยา งเดยี ว และอัลลอฮฺ อัซซะวะญลั ละ ไดดาํ รสั วา 208
َ� ۡن َها َو ُه ۡم َعلَ ۡي َها َ� ُم ُّرو َن َۡ َوٱ ٱل َّس َ�ٰ َ�ٰ ِت �ِ َءا َي ٖة ِّم ۡن َو َ� َ� ِّين ﴿ �� ِض ΅΅[١٠٥ : ﴾ ]ﻳﻮﺳﻒ١٠٥ ُم ۡع ِر ُضو َن ความวา “และกี่มากนอยแลว จากสัญญาณในชั้นฟาทั้งหลาย และแผนดิน ท่ีพวกเขาผานมันไปโดยท่ีพวกเขาผินหลังให” (สู เราะฮยฺ สู ุฟ อายะฮทฺ ี่ 105) เพราะอัลกุรอานคือคําอธิบายของสัญญาณตา งๆ ที่มีอยูใน ชั้นฟาและแผนดิน และถึงแมวาเขาไดอานมันแลว แตมันไมสงผล ใหตัวเขามีปฏิกิริยาใดๆ เลย ก็ถือวาเขาเปนผูผินหลังใหอัลกุรอาน และดวยเหตุนี้เองนักวิชาการบางทานจึงกลาววา “ผูใดที่อานอัลกุ รอาน แตไมมีคุณลักษณะของอัลกุรอานปรากฏอยูในตัวเขา อัลลอฮฺ ตะอาลา จะเรียกเขาแลวกลาววา ทุกสิ่งทุกอยางเปน กรรมสิทธ์ิของขา และคําดํารัสก็เปนของขา แตเจาก็ยังผินหลัง ใหขา เจาเอย ไมตองอานคําดาํ รัสของขาหรอก หากตัวเจายังไม กลบั เนอ้ื กลบั ตวั เขา หาขา ” เปรียบคนท่ีทําความผิดเปนอาจิณ ในขณะที่เขายังคง อานอลั กรุ อานอยูเ รอ่ื ยๆ เปรียบเสมือนคนอา นสาสน จากกษัตรยิ ซํ้า แลวซํ้าเลาในทุกๆ วัน ซ่ึงพระองคทรงเขียนถึงเขาใหดูแลบริหาร จัดการอาณาจักรของพระองค แตเขากลับสาละวนอยูกับการสราง ความเสียหาย ในขณะเดียวกันเขาก็จดจออยูกับการศึกษาสาสน 209
ฉบับน้นั ดังนั้นการทีเ่ ขาละทงิ้ การศึกษาสาสน น้ันในขณะทีก่ ําลังทํา ในส่ิงที่สวนทางกับมัน มันยอมทําใหเขาหางไกลจากการถูกตําหนิ และไดร บั บทลงโทษย่ิงกวา และดวยเหตนุ ้เี องทานยสู ฟุ บนิ อัสบาฏ จึงกลา ววา “ฉนั จะ ตั้งใจอานอัลกุรอานก็ตอเม่ือจิตใจของฉันจดจออยูกับมันเพราะ ฉันหว่ันเกรงวาจะไดรับการลงโทษ แตฉันจะมุงไปตัสบีหฺและอิส ติฆฺฟารแทน (จนกวาจะทําใหจิตใจมีสมาธิ แลวคอยกลับไป อานอลั กรุ อาน)” สวนคนที่ผินหลังจากการปฏิบัติตามอัลกุรอานนั้น เราขอ นาํ เสนอคาํ ดาํ รสั ของอลั ลอฮฺ อัซซะวะญลั ละ ที่วา ١٨٧ ﴿ َ� َن َب ُذو ُه َو َرآ َء ُظ ُهو ِر ِه ۡم َوٱ ۡش َ َ� ۡواْ بِهِۦ َ� َم ٗنا َقلِي ٗ�ۖ َفبِ ۡئ َس َما �َ ۡش َ ُ�و َن [١٨٧ :﴾ ]ال ﻋﻤﺮان ความวา “แลวพวกเขาก็เหวี่ยงมันไวเ บ้ืองหลังของพวกเขา และ ไดแลกเปล่ยี นมันกบั ราคาอันเลก็ นอย ชางเลวแทๆ สิ่งท่ีพวกเขา แลกเปลย่ี นมา” (สเู ราะฮฺอาล อมิ รอน อายะฮทฺ ่ี 187) และดวยเหตุนี้เอง ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกลาววา ﻓﺈذا اﺧﺘﻠﻔﺘﻢ ﻓﻠﺴﺘﻢ ﺗﻘﺮءوﻧﻪ، »اﻗْ َﺮ ُءوا اﻟ ُﻘ ْﺮآ َن َﻣﺎ ا ْ� َﺘﻠَ َﻔ ْﺖ َﻋﻠَﻴْ ِﻪ ُﻗﻠُﻮ ُ� ُ� ْﻢ « َﻓﺈِ َذا ا ْﺧ َﺘﻠَ ْﻔﺘُ ْﻢ َ� ُﻘﻮ ُمﻮا َ�ﻨْ ُﻪ-و� ﺑﻌﺾ الﺮواﻳﺎت- 210
ความวา “พวกทานจงอานอัลกุรอานตามท่ีหัวใจของพวกทาน เห็นพองกัน ซ่ึงเมื่อใดก็ตามที่เกิดขอขัดแยงกันก็ไมถือวาพวก ทานไดอานมัน -บางสายรายงานมีสํานวนวา- ซ่ึงเมื่อใดก็ตามท่ี เกิดขอขดั แยง ก็ใหหยุดอา นมัน” (บนั ทึกโดยอัล-บคุ อรีและมุสลิม) อลั ลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารสั วา ﴿ ٱ َّ ِ�ي َن إِ َذا ُذ ِك َر ٱ َّ ُ� َو ِج َل ۡت ُقلُو ُ� ُه ۡم � َذا تُلِ َي ۡت َعلَ ۡي ِه ۡم َءا َ�ٰ ُت ُهۥ َزا َد ۡ� ُه ۡم [٢ : ﴾ ]اﻻﻧﻔﺎل٢ إِي َ�ٰ ٗنا َو َ َ ٰ� َر ّ�ِ ِه ۡم َ� َت َو َّ�ُو َن ความวา “คือ ผูท่ีเมื่ออัลลอฮฺถกู กลาวขนึ้ แลว หัวใจของพวกเขา ก็หว่ันเกรง และเม่ือบรรดาโองการของพระองคถูกอานแกพวก เขา โองการเหลาน้ันก็เพ่ิมพูนความศรัทธาแกพวกเขา และแด พระเจาของพวกเขาน้ันพวกเขามอบหมายกัน” (สูเราะฮฺอัล- อันฟาล อายะฮฺท่ี 2) �َ َّ �ْ َﺸﻰ اแَ ล ُﻪะَّأَﻧทﺖาَ นْأَﻳน َرบﺗَี ُﻪศ็ا َءอ َﺮล ِﻗล َﺖลั ْﻌลِﻤอ َﺳฮอุ َذاะِإล ِنยั ﺮآฮْ ُﻘวิ ْﻟะﺑِﺎสัﺎลًْﻮﺗลﺻมัَ سไดِ ก َّﻨﺎลاﻟา ﻦวُ ว َﺴา »إِ َّن أَ ْﺣ «َﻋ َّﺰ َو َﺟ َّﻞ ความวา “ผูท่ีอานอัลกุรอานไพเราะที่สุดคือผูท่ีเม่ือทานฟงการ อานของเขา ทานจะเห็นวาเขามีความยําเกรงตออัลลอฮฺ อัซซะ วะญัลละ” (บนั ทกึ โดยอัฏ-เฏาะบะรอนี ในอลั -มุอญฺ มั อลั -เอาสฎั ) 211
กุรรออ (ผูเช่ียวชาญดา นอัลกรุ อาน) บางทา นไดเ ลา วา “ฉนั เคยอานอัลกุรอานตอหนาอาจารยของฉัน ตอมาฉันกลับมาอีก คร้ังเพ่ือจะอานมันเปนครงั้ ท่ีสอง แตแลวอาจารยทานนั้นก็ปราม ฉัน และกลาววา ทานไดทําใหอัลกุรอานเปนเพียงกิจวัตร ประจําวันของฉันกระนั้นหรอื จงไปเถิดแลวใหอา นตอหนาอลั ลอ ฮฺ อซั ซะวะญลั ละ แลวใหพ ินิจใครครวญวามีสง่ิ ใดบา งท่ีพระองค ทรงสั่งใชท านและมสี ง่ิ ใดบางท่พี ระองคทรงหา มทา น” และน่ีคือสภาพและการปฏิบัติท่ีบรรดาเศาะหาบะฮฺได สาละวนอยูกับมัน ซึ่งหลังจากที่ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะ ลัยฮิวะสัลลัม ไดเสียชีวิตไปน้ัน ในจํานวนเศาะหาบะฮฺท่ีมีอยู ประมาณแสนกวาคนไมม ีผูใดที่ทองจําอัลกรุ อานท้ังเลมไดนอกจาก หกทานเทานั้น ซึ่งสองคนในจํานวนน้ันก็ยังเปนประเด็นท่ีเห็น ตางกันอยูในหมูนักวิชาการ แตพวกเขาสวนใหญจะทองแคสูเราะฮฺ หรือสองสูเราะฮฺเทานั้น ซึ่งคนที่สามารถทองสูเราะฮฺอัล-บะเกาะ เราะฮฺและอัล-อันอามไดถือวาเปนอุละมาอ (ผูรู) ของพวกเขาแลว และเมื่อมีผูใดตองการมาเรียนรูอัลกุรอานกับทานนบี ซ่ึงพอเขา เรียนรถู งึ คาํ ดํารัสของอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ท่วี า ٨ َو َمن َ� ۡع َم ۡل ِم ۡث َقا َل َذ َّر�ٖ َ ّٗ�� يَ َر ُهۥ٧ ﴿ َ� َمن َ� ۡع َم ۡل ِم ۡث َقا َل َذ َّر ٍ� َخ ۡ ٗ�� يَ َر ُهۥ [٨ ،٧ :﴾ ]الﺰلﺰﻟﺔ 212
ความวา “ดังนั้นผูใดกระทําความดีหนักเทาละอองธุลี เขาก็จะ เห็นมัน สวนผูใดกระทําความชั่วหนักเทาละอองธุลี เขาก็จะเห็น มัน” (สเู ราะฮอฺ ัซ-ซลั ซะละฮฺ อายะฮฺที่ 7-8) เขาก็จะกลาววา “แคน้ีก็เพียงพอแลวสําหรับฉัน” แลว เขาก็ไดจากไป ซึ่งทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ได กลาวถึงเขาวา “ชายคนนี้ไดจากไปโดยที่เขาเปนผูรู” (บันทึก โดยอบดู าวดุ และอลั -หากมิ ) แทจรงิ น่ีเปนสภาพท่ยี อดเยีย่ มทส่ี ดุ ซงึ่ อลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดโปรดปรานดวยมันแกหัวใจของผูศรัทธาพรอมกับการได เขาใจในความหมายของมนั ดวย ซ่ึงการอานดวยการขยับล้ินเพียงอยางเดียวนั้นถือวามี ประโยชนนอยมากๆ ใชแตเทาน้ันการอานดวยการขยับล้ินใน ขณะท่ีไมปฏิบัติตามเน้อื หาของมัน สมควรแลวที่เขาจะอยูในนัยคํา ดํารัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ทวี่ า ΅ ِ[ِذ ۡكرِي َفإِ َّن َ ُ�ۥ َم ِعي َش ٗة َضن ٗ� َو َ ۡ� ُ ُ� ُهۥ يَ ۡو َم ٱ ۡلقِ َ�ٰ َمة١٢ن٤ َع:أَ ۡع﴾ َر] َﻃضﻪ١٢ن٤ۡ �أَ﴿ۡ� ََو َٰم ความวา “และผใู ดผินหลงั จากการรําลึกถึงขา แทจริงสาํ หรับเขา คือ การมีชีวิตอยอู ยางคับแคนและเราจะใหเขาฟนคืนชพี ในวันกิ ยามะฮใ นสภาพของคนตาบอด” (สเู ราะฮฺฏอฮา อายะฮทฺ ี่ 124) 213
และคําดาํ รัสของอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ท่ีวา [١٢٦ : ﴾ ]ﻃﻪ١٢٦ �ٰ َ ﴿ َك َ�ٰلِ َك َ� َ� ۡت َك َءا َ�ٰ ُت َنا فَ َن ِسي َت َهاۖ َو َ� َ�ٰلِ َك ٱ ۡ�َ ۡو َم تُن ความวา “เชนนั้นแหละ เมื่อโองการท้ังหลายของเราไดมีมายัง เจา เจาก็ทําเปนลืมมัน และในทํานองเดียวกัน วันนี้เจาก็จะถูก ลมื ” (สเู ราะฮฺฏอฮา อายะฮฺที่ 126) คือการละท้ิงมัน ไมพินิจใครครวญตอมัน และไมเอาใจใส ตอมัน ซ่ึงคนที่บกพรองในการทําสิ่งหนง่ึ สิ่งใดน้ัน เขาจะถูกเรียกวา เปน คนที่ทาํ เปน ลมื นัน้ เอง สําหรับการอานอัลกุรอานอยางแทจริงน้ัน คือการรวม ระหวางลิ้น สติปญญา และหัวใจเขาดวยกัน ซ่ึงหนาท่ีของลิ้นคือ การออกเสียงอักขระใหถูกตองชัดถอยชัดคํา สวนหนาท่ีของ สติปญญาคือการทําความเขาใจในความหมายของมัน และหนาท่ี ของหัวใจคือการรับขอตักเตือนและซึมซับในเนื้อหาดวยความเช่ือ ฟงและต้ังใจปฏิบัติตาม ดังนั้นลิ้นคือกระบอกเสียง สติปญญาคือ แหลงครนุ คดิ สว นหวั ใจคอื คอยรบั ขอตักเตอื น 9. การตะร็อกฺกี 214
หมายถึง การขึ้นขั้นความรูสึกเสมือนวากําลังฟงคําดํารัส จากพระองคอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ โดยตรง โดยไมใชมาจากตัว ของเขา ซึง่ การอา นอัลกุรอานนัน้ แบง ออกเปน สามระดับ ดังนี้ ระดับตํ่าสุดคือ การที่บาวไดตระหนักประหน่ึงวาเขากาํ ลัง อานอัลกุรอานเบ้ืองหนาอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ซึ่งพระองคกําลัง มองมายังเขา และไดยินในส่ิงท่ีเขาไดอาน ซ่ึงในสภาพเชนนี้เองที่ เขาไดวิงวอน คะย้ันคะยอ นอบนอมถอมตน และออนวอนตอ พระองค ระดับท่ีสองคือ การที่หัวใจมีความรูสึกประหน่ึงวาอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ มองมายังเขา และสนทนากับเขาดวยกับความ กรุณาธิคุณของพระองค และการท่ีเขาไดวอนขอตอพระองคใน ความโปรดปรานและความดีงามตางๆ ของพระองค ซึ่งมันเปน สถานะที่เต็มไปดวยความละอายใจ รูถึงความย่ิงใหญ รูสึกซาบซึ้ง และมีความเขา ใจ สวนระดับท่ีสามคือ การท่ีเขามองไปยังคําดํารัสของผูท่ี ดํารัส (น่ันคืออัลลอฮฺ) และเน้ือหาที่กลาวถึงคณุ ลักษณะตางๆ ของ พระองค โดยไมมองไปยังตัวของเขา การอานของเขา และความ โปรดปรานตา งๆ ท่ีเขาไดรับ ทัง้ ๆ ท่ีพระองคเ ปนผปู ระทานให ทวา เขาจะมุงความตั้งใจไปยังผูท่ีดํารัส โดยจะใชความคิดใครครวญใน เนื้อหาเหลาน้ัน ประหน่ึงวาเขาไดจดจออยูกับการมองไปยังผูที่ ดํารัสเพียงเทานั้น ซ่ึงน่ีคือระดับของอัล-มุก็อรเราะบูน (บรรดาผู 215
ใกลชดิ กับอลั ลอฮ)ฺ สวนสองระดับกอนหนา นี้คือระดบั ของอศั หาบลุ ยะมีน (บรรดาผทู ี่ไดร บั บนั ทกึ การงานดวยมอื ขวา) และถาอืน่ จากน้ี แลวกจ็ ะเปนระดับของอัล-ฆอฟล นี (บรรดาผูที่หลงลมื ) 10. การตะบัรรฺ ี หมายถึง การปฏิเสธในพลังและความสามารถของตน และ การไมมองตวั เองดวยความรสู ึกท่ีภมู ใิ จและเขาขางตวั เอง กลา วคือ เม่ืออานอายะฮฺท่ีกลาวถึงสัญญาการตอบแทนที่ดีและการชื่นชม บรรดาคนดีก็จะไมทึกทักวาอัลลอฮฺกําลังกลาวถึงตัวเขาอยู แตให เช่ือม่ันวาอัลลอฮฺกําลังกลาวถึงบรรดาผูท่ีมีความจริงใจและเชื่อมั่น ตอศาสนา อยางไรก็ตามใหมีความหวังวาอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จะใหตัวของเขาเปนหน่ึงในคนกลุมนั้น และเม่ืออานอายะฮฺที่ กลาวถึงบทลงโทษและการตาํ หนผิ ูที่ฝาฝนและผูท บี่ กพรองในหนา ที่ ก็ใหทึกทักดว ยวาตวั เขาอาจเกย่ี วของโดยตรงกับคนเชนนนั้ และให ตระหนกั วา ตัวเขานัน้ แหละที่กําลงั ถูกกลา วถึงอยู ซงึ่ เขาตองมคี วาม หวาดกลวั และวติ กกังวล ดวยเหตุนเี้ อง ทานอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา จึงขอดุ อาอว า ا� إ� اﺳﺘﻐﻔﺮك ﻟﻈﻠ� و�ﻔﺮي 216
ความวา “โออัลลอฮฺ ฉันขออภัยโทษตอพระองคเนื่องดวยความ อธรรมและการเนรคณุ ท่ฉี นั ไดกอ” จึงมีคนถามทานอิบนุอุมัรวา “ความอธรรมนั้นเราเขาใจ แตการเนรคุณน้ันมันยังไงกันครับ” ทานอิบนุอุมัรจึงอานคําดํารสั ของอลั ลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ทีว่ า [٣٤ : ﴾ ]اﺑﺮاﻫﻴﻢ٣٤ ٞم َك َّفارٞ ﴿ إِ َّن ٱ ۡ ِ�� َ ٰ� َن َل َظ ُلو ความวา “แทจริงมนุษยน้ันอธรรมยิ่ง เนรคุณย่ิง” (สูเราะฮฺอิบรอ ฮมี อายะฮฺที่ 34) และมคี นถามทานยสู ุฟ บินอัสบาฏวา “เมื่อทา นอัลกุรอาน เสร็จ ทานไดขอดุอาออะไร ?” เขาตอบวา “ฉันจะกลาวขออภัย โทษตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จากความบกพรองของฉันเจ็ด สิบครงั้ ” ดังน้ัน เมื่อใดก็ตามท่ีเขามองวาตัวเองมีความบกพรองตาม เนื้อหาท่ีไดอาน ซ่ึงเปนการมองที่เกิดจากความบกพรองน้ันอยูใกล ตัวเขาจริงๆ ทําใหคนที่ตระหนักเห็นถึงความบกพรองนั้นจะรูสึก หวาดกลัว จนนําไปสูการตระหนักเห็นถึงความบกพรองมาก ย่ิงขึ้นไปอีก แตคนท่ีตระหนกั เห็นถึงความบกพรองน้นั หางไกลจาก ตัวเขา มันกจ็ ะหลอกใหเ ขารสู กึ รอดพนจนทาํ ใหเ ขายง่ิ ตระหนกั เหน็ มันไดหา งไกลจากเขาย่ิงขนึ้ ไปอีก 217
กระน้ันก็ตาม การมองตัวเองดว ยสายตาท่ีภาคภูมิใจน้นั จะ ทาํ ใหต ัวเขาถกู ปด ก้ันจากอลั ลอฮฺ ซึ่งอิมามอชั -ชาฟอีไดก ลาววา ฉันรกั บรรดาคนดถี งึ แมฉ นั ไมไดเ ปนหนงึ่ ในพวกเขา แตฉ ันหวงั ที่จะไดร บั ชะฟาอะฮฺจากพวกเขา และฉันเกลยี ดผูท ม่ี ีชีวติ อยกู บั การทาํ ความผดิ ถึงแมร ะหวา งเราอาจมีความผดิ ท่ีเหมือนกนั ทา นอิมามอชั -ชาฟอ ี เราะหมิ ะฮลุ ลอฮฺ ไดก ลา วอกี วา สายตาท่ีพึงพอใจยอ มมองขา มขอตาํ หนิทมี่ อี ยู เฉกเชนสายตาทอี่ าฆาตแคน ยอ มไมเห็นความดีใดหลงเหลืออยู 218
เทคนิคการขอดุอาอใ หม ปี ระสิทธภิ าพ 1. ขอดอุ าอในชว งเวลาท่ีประเสริฐ เชนในวันอะเราะฟะฮฺ , ในเดือนเราะมะฎอน , ในวันศุกร, และในชวงสะหรู เปน ตน อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด าํ รสั วา [١٨ : ﴾ ]اﻟﺬار�ﺎت١٨ ﴿ َو�ِٱ ۡ َ� ۡس َحارِ ُه ۡم � َ ۡس َت ۡغفِ ُرو َن ความวา “และในยามรุงสางพวกเขาขออภัยโทษ (ตอพระองค)” (สูเราะฮอฺ ซั -ซารยิ าต อายะฮฺท่ี 18) และทา นนบี ศอ็ ลลัลลอฮอุ ะลัยฮิวะสัลลมั ไดก ลา ววา َّﻠ َﻣﻴْ ِْﻦﻞ،اﻟ َُّﺪﻣ ْ� ْ َﻴﻦﺎ �َ ِْﺣﺴﺄَ َُﻟ� ِ َ��ﺒْ َﻘَﻓﺄُﻰ ْﺛُﻋﻠُ ِﻄ َُﻴﺚ ُﻪال،ﺮُّ� َِﻨﺎَ�� َﻴَ�َﻓ ُﻘَﺒﺄَﺎﻮ َْﻏُر ِلﻔَك َﺮ َﻣَوﻟَ َُْﻪ�ﻦ َﻌﺎَﻳ َﻟ ْﺪﻰ ُ ُﻋﻛ َّﻮﻞ ِ َﻟ� ْﻴﻠََﻓ ٍﺔﺄَ ِإْﺳ َﻟَﺘﻰ ِﺠالﻴ َّ َﺴﺐ َﻤﺎ َﻟ ُِءﻪ،ُ �ﻳََا ْْ ْﺴِ�ﻵﺘَُ ِلْﻐﺧ ُِﻔﺮَر ความวา “แทจ รงิ พระผูอภิบาลของเรา ตะบาเราะกะ วะตะอาลา จะลงมาสูฟ าแหงโลกดุนยาในทุกๆ คืนในชวงหน่ึงในสามสุดทาย ของคืน แลวพระองคจะกลาววา มีผูใดวิงวอนขออะไรจากขา ไหม แลวขาตอบรับคําขอนั้น มีผูใดขออะไรจากขาไหม แลวขา จะใหเขาในส่ิงที่เขาขอ มีผูใดที่ขออภัยโทษตอขาไหม แลวขาจะ อภัยใหแ กเ ขา” (บนั ทกึ โดยอัล-บคุ อรแี ละมสุ ลิม) 219
และมีรายงานวาเม่ือครั้งที่ทานนบียะอฺกูบ อะลัยฮิสลาม กลาววา “ฉันจะขอพระผูอภิบาลของฉันใหอภัยโทษแกพวกเจา ในเวลาใกลๆ น”้ี ซึง่ ทานจะขอดอุ าอใ นชว งสะหูร จึงมีรายงานวาทานนบียะอฺกูบไดลุกข้ึนขอดุอาอชวงสะหูร โดยที่ลูกๆ ของทานจะกลาวอามีนตามหลังทาน ดังน้ันอัลลอฮฺ อัซ ซะวะญลั ละ จึงประทานวะหฺยูลงมาโดยดาํ รัสวา “แทจ ริง ฉันไดให อภยั โทษแกพวกเขาทง้ั หลายแลว และทรงใหพ วกเขาเปน นบ”ี 2. ขอดุอาอใ นชวงขณะทีป่ ระเสริฐ ทานอบูฮุรอ็ ยเราะฮฺ เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮุ ไดก ลา ววา “ประตู แหงชั้นฟาจะถูกเปดในขณะที่มีการสูรบในหนทางของอัลลอฮฺ ตะอาลา, ในขณะฝนกําลังตก, ในขณะละหมาดฟรฎหาเวลา ดงั นนั้ พวกทานจงขะมักเขมนขอดุอาอใ นสภาพดังกลา วเถดิ ” ทานมุญาฮิด ไดกลาววา “แทจริง การละหมาดถูก กําหนดใหปฏบิ ตั ิในชวงเวลาทีด่ ที ี่สุด ดงั น้นั พวกทานจงขอดุอาอ ในชว งเวลาน้นั เถิด” ทา นนบี ศ็อลลัลลอฮอุ ะลัยฮิวَﺮ ُّدะُﻳสﻻลั َ ลั ِﺔมَﻗﺎ َﻣไِﻹดْ اก َوลِنา اว َذวْ َﻷา اﻟ ُّﺪﻋَﺎ ُء ﺑَ ْ َ� ا 220
ความวา “การขอดุอาอระหวางอะซานกับอิกอมะฮฺจะไมถูก ปฏิเสธ” (บนั ทกึ โดยอบดู าวดู และอตั -ติรมิซ)ี ทา นนบี ศ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลัม ไดก ลาวอกี วา ال َّﺼﺎﺋِ ُﻢ َﻻ ﺗُ َﺮ ُّد َد ْﻋ َﻮﺗُ ُﻪ ความวา “คนที่ถือศีลอดน้ันการดุอาอของเขาจะไมถูกปฏิเสธ” (บนั ทกึ โดยอะหฺมัด) อันท่ีจริง ความประเสริฐของชวงเวลานั้นยอนกลับไปสู ความประเสริฐของสภาพการณเชน กัน เพราะชวงเวลาสะหรู น้นั คือ ชวงเวลาที่หัวใจสะอาด บริสุทธิ์ ปลอดโปรงจากความสับสนวนุ วาย มากที่สดุ สวนวันอะเราะฟะฮฺและวันศุกรน้ัน คือชวงเวลาที่รวบรวม พลังและการสนับสนุนหัวใจเพ่ือใหไดรับความเมตตาของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ซึ่งน่ีคือหนึ่งในสาเหตุของความประเสริฐของ ชวงเวลาน้นั ยกเวน ความลับบางประการที่ถูกซอ นอยูใ นนัน้ การสุ ูดก็เปนสภาพที่ดีเยีย่ มท่ดี อุ าอจะถูกตอบรับ ทานอบู ฮุรอ็ ยเราะฮฺ เราะฎยิ ลั ลอฮอุ นั ฮุ เลา วา ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลัยฮิ วะสลั ลมั ไดءกَ ﺎลَﻋาﻟ ُّﺪวاวاา ﻓَﺄَ ْ� ِﺜ ُﺮو، َو ُﻫ َﻮ َﺳﺎ ِﺟ ٌﺪ،أَﻗْ َﺮ ُب َﻣﺎ ﻳَ ُ�ﻮ ُن اﻟْ َﻌﺒْ ُﺪ ِﻣ ْﻦ َر ِّ� ِﻪ 221
ความวา “สภาพท่ีบาวของอัลลอฮฺไดใกลชิดกับอัลลอฮฺมากท่ีสุด คือขณะเขาสุูด ดังนั้นจงขอดุอาอในสภาพน้ันใหมากที่สุด” (บันทึกโดยมุสลิม) และจากทานอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เลาวา จﻴَ ِبﻪา�ِﺎกا َﺠท َﺘﻮา ْ ُﺴﻤน�ُِّﻈนَ�ْنَﻌบﻦُีع َأศٌ ﻤﻮอ็ِ َﻘُﻛลَُّ�ﺮลل،اลั ﺎ ِءลﻋََّﻣﺎอََُّﻓﺪﺄฮﻟอุا،ﻲاะﻓ ًﺪลِัا ِﺟยﺎوฮิ َُﺪﺳวْو ِﻬะَﺟَأﺘสْ ﺎลั َﻓ ًﻌﺎลัُد ِﻛมُﺠ َرﻮاไنดَآ ُّﺴก ْلﺮล ُﻘاาاَّﻣ ْﻟﺎว َأวَﺮَوَأา ْﻗ،ََأو َْﺟن َّ َأﻞ ِإ ِّ� ُﻧ ِﻬﻴ ُﺖ ال َّﺮ َّب َﻋ َّﺰ ﻟَ ُ� ْﻢ ความวา “แทจริงฉันถูกหามไมใหอานอัลกุรอานในขณะที่รุกูอฺ หรือสุูด สําหรับการรุกูอฺน้ันใหพวกทานกลาวแสดงถึงความ ย่ิงใหญแดพระผูอภิบาล ผูทรงสูงสง และสําหรับการสุูดนั้นให พวกทานพยายามขอดุอาอ เพราะมันเปนสภาพท่ีเหมาะยิ่งตอ การตอบรบั ดอุ าอของพวกทา น” (บนั ทึกโดยมุสลมิ ) 3. ผนิ หนาไปทางกิบลตั และใหยกมือทั้งสองข้ึนกระทั่งเห็นรักแรขาว หรือยกมอื ทง้ั สองขึ้นมาขนาบใบหนาหรือคลา ยคลึงกันน้ี หรือยกน้วิ ช้ีขึ้นมา ดังท่ี ทา นญาบริ บนิ อับดุลลอฮฺ เลา วา ،اﻟْ ِﻘﺒْﻠَ َﺔ َوا ْﺳﺘَ ْﻘﺒَ َﻞ ﺑِ َﻌ َﺮﻓَﺔ ال َﻤ ْﻮ ِﻗﻒ أَﺗَﻰ ﻓَﻠَ ْﻢ ﻳَ َﺰ ْل ﻳَ ْﺪ ُﻋﻮ َﺣ َّﺘﻰ َﻏ َﺮ َ� ِﺖ ال َّﺸ ْﻤ ُﺲ 222
ความวา “ทานเราะสูลุลอลฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไดมา ยังทุงอะเราะฟะฮฺ แลวทานก็หันไปยังทิศกิบลัต ซึ่งทานจะขอดุ อาอกระท่ังดวงอาทติ ยตกดิน” (บนั ทึกโดยมุสลมิ ) ทานสลั มาน เลา วา ทานเราะสลู ุลลอฮฺ ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ วะสัลลัม ไดกลา ววา �َ ْﺴ َﺘ ْﺤ ِي ِﻣ ْﻦ َ�ﺒْ ِﺪ ِه ِإ َذا َر َ� َﻊ َﻳ َﺪﻳْ ِﻪ،َر َّ�أَ ْن ُ�ﻳَ ُْﺮﻢ َّد َ� ُﻫﺒَﺎَﻤﺎَر َكِﺻ َْوﻔ ًَ�ﺮاَﻌﺎ َﻟﻰ َﺣ ِ ٌّي َﻛ ِﺮ� ٌﻢ،ِإِإ َﻟ َّﻴْن ِﻪ ความวา “แทจริงอัลลอฮฺ ตะบาเราะกะ วะตะอาลา ผูทรงชีวนิ ผู ทรงใจบุญน้ัน ทรงละอายกับการท่ีบาวคนหน่ึงไดยกสองมือขึ้น วอนขอตอพระองค แลวจะตองนํามือท้ังสองกลับไปอยางวาง เปลา ” (บนั ทึกโดยอบูดาวุด อัต-ตริ มซิ ี และอิบนุมาญะฮฺ) ُﻳ َﺮى และจากทา นอนสั เราะฎิยลั ลอฮอุ ันฮุ เลาวา َر ُﺳﻮ َل َر َأ ْﻳ ُﺖ َﺣ َّﺘﻰ،ا ُﷲ َﻋﻠَﻴْ ِﻪ َو َﺳ َﻠّ َﻢ َﻳ ْﺮ َ� ُﻊ َﻳ َﺪ ْﻳ ِﻪ ِﻓﻲ اﻟ ُّﺪﻋَﺎ ِء �َّ ا ِﷲ َﺻ َ�ﻴَﺎ ُض إِ ْ� َﻄﻴْ ِﻪ ความวา “ฉันเห็นทา นเราะสูลลุ ลอฮฺ ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลัยฮวิ ะสลั ลัม ยกสองมือข้ึนในการขอดุอาอ กระท่ังเห็นความขาวของรักแร ทาน” (บันทึกโดยมุสลมิ ) 223
และจากทานอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เลาวา ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไดเดินผานชายคนหน่ึงที่ กําลังขอดอุ าอโดยทเ่ี ขาช้สี องนิ้วขึ้นมา ทานนบี ศอ็ ลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลมั จงึ กลาววา أَ ِّﺣ ْﺪ،أَ ِّﺣ ْﺪ ความวา “ใชน ว้ิ เดยี วพอ” (บันทกึ โดยอนั -นะสาอีและอบดี าวดุ ) คอื ใหชด้ี ว ยนว้ิ เดยี วเทา นน้ั ทา นอบอู ดั -ดรั ดาอ เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮุ ไดก ลา ววา “พวก ทา นจงยกสองมือนข้ี ้นึ กอ นที่มนั จะถูกมัดพันธนาการ” ทา นอบิ นอุ ับบาส เลา วา إذا دﻋﺎ ﺿﻢ وﺟﻌﻞ ﺑﻄﻮﻧﻬﻤﺎ مﺎ ﻳ� وﺟﻬﻪ ความวา “เมอื่ ทา นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลยั ฮิวะสลั ลมั ขอดุอาอทา น จะประกบมือท้ังสองโดยใหฝามือหันมาทางใบหนา” (บันทึกโดย อัฏ-เฏาะบะรอนี ดว ยสายรายงานทเี่ ฎาะอฟี ) ซึ่งนค่ี อื ลกั ษณะการวางมอื ขณะขอดอุ าอ โดยอยา ใหส ายตา แหงนมองไปยังฟากฟา ซ่ึงทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสลั ลมั ได กลา ววา 224
أَ ْو،ََﻟﻟ ُﺘَﻴنْ ْﺘَﺨ ِﻬَﻄَ َﻔَّ� َّﻦأَﻗْأَﺑَْﻮا َ ٌمﺼﺎ َُر� ُﻫْﻦ ْﻢ َرﻓْ ِﻌ ِﻬ ْﻢ أَﺑْ َﺼﺎ َر ُﻫ ْﻢ ِﻋﻨْ َﺪ اﻟ ُّﺪﻋَﺎ ِء ِﻓﻲ ال َّﺼ َﻼ ِة إِ َﻟﻰ ال َّﺴ َﻤﺎ ِء ความวา “คนท่ีชอบแหงนสายตาไปยังฟากฟา ขณะขอดุอาอใน ละหมาดจะเลิกพฤตกิ รรมนี้ หรอื จะใหสายตาของพวกเขาบอด เสยี กอน” (บนั ทกึ โดยมสุ ลมิ ) 4. ใชน ํา้ เสยี งท่ีแผว เบา โดยใหอยูในระดับท่ีไมดังหรือเบาจนเกินไป เพราะมี รายงานจากทานอบูมูซา อัล-อัชอะรี เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เลาวา พวกเราไดเดนิ ทางพรอมกับทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลยั ฮิ วะสัลลัม ซึง่ เมื่อเราเดนิ ทางใกลถงึ เมืองมะดนี ะฮฺ ทานนบีกไ็ ดตกั บีร ทําใหผูคนตักบีรตามไปดวยพรอมกับเปลงดวยเสียงที่ดัง ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลัยฮวิ ะสลั ลมั จงึ กลา ววา ﻳﺎ أﻳﻬﺎ اﻟﻨﺎس إن اﻟﺬي ﺗﺪﻋﻮن ﻟيﺲ ﺑﺄ َﺻ َّﻢ وﻻ ﻏﺎﺋﺐ ความวา “ผูคนเอย แทจริงผูท่ีพวกทานกําลังวอนขออยูนั้นไมได หหู นวกและไมไดไรตัวตน” (บันทกึ โดยอลั -บคุ อรแี ละมุสลมิ ) และทานหญงิ อาอิชะฮฺ เราะฎยิ ัลลอฮอุ นั ฮา ไดอธิบายคาํ ดาํ รัสทวี่ า [١١٠ : ﴾ ]اﻹﺳﺮاء١١٠ ﴿ َو َ� َ ۡ� َه ۡر بِ َص َ�تِ َك َو َ� ُ َ�افِ ۡت بِ َها 225
ความวา “และอยา ยกเสยี งดงั ในเวลาละหมาดของเจา และอยา ลดใหค อ ยเชนกัน” (สเู ราะฮอฺ ัล-อสิ รออ อายะฮฺท่ี 110) คอื ดว ยการขอดุอาอข องทา น และอัลลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ ไดยกยอ งทา นนบซี ะกะรยี า อะลัยฮิสลาม โดยทพี่ ระองคไ ดด ํารสั วา [٣ : ﴾ ]مﺮ�ﻢ٣ ﴿ إِ ۡذ نَا َد ٰى َر َّ� ُهۥ نِ َدآ ًء َخ ِف ّٗيا ความวา “เมื่อเขาวิงวอนตอพระเจาของเขา ดวยการวิงวอน อยางคอ ยๆ” (สเู ราะฮฺมรั ยัม อายะฮทฺ ี่ 3) อัลลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดด าํ รสั อกี วา [٥٥ : ﴾ ]اﻻﻋﺮاف٥٥ۚ ﴿ ٱ ۡد ُعواْ َر َّ� ُ� ۡم تَ َ ُّ� ٗ� َو ُخ ۡف َي ًة ความวา “พวกเจาจงวิงวอนตอพระเจาของพวกเจาในสภาพ ถอมตนและปกปด ” (สเู ราะฮฺอัล-อะอรฺ อฟ อายะฮทฺ ี่ 55) 5. ไมควรสําบัดสํานวนในการขอดอุ าอม ากจนเกนิ ไป เพราะสภาพของคนที่ขอดุอาอนั้นควรเปนสภาพท่ีมีความ นอบนอมถอมตน ทําใหการสําบัดสํานวนมากจนเกินไปจึงเปนสิ่งท่ี ไมส มควร ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสัลลมั ไดกลา ววา َﺳ َﻴ ُﻜﻮ ُن َﻗ ْﻮ ٌم َ� ْﻌ َﺘ ُﺪو َن ِﻓﻲ اﻟ ُّﺪﻋ َﺎ ِء 226
ความวา “จะมีอยูกลุมหน่ึงท่ีพวกเขาจะเลยเถิดในการขอดุอาอ (สําบัดสํานวนในการขอมากจนเกินไป)” (บันทึกโดยอบูดาวุด และอบิ นมุ าญะฮ)ฺ อลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดก ลาววา ٱلۡ ُم ۡع َت ِدي َن ُ ِ� ُّب َ ۚإِ َّن ُهۥ َو ُخ ۡف َي ًة �ٗ �ُّ َ َت َر َّ� ُ� ۡم ْٱ ۡد ُعوا :]اﻷﻋﺮاف ﴾ ٥٥ � ﴿ [٥٥ ความวา “พวกเจาจงวิงวอนตอพระเจาของพวกเจาในสภาพ ถอมตนและปกปด แทจรงิ พระองคไ มท รงชอบบรรดาผูท ลี่ ะเมิด” (สูเราะฮฺอัล-อะอรฺ อฟ อายะฮทฺ ่ี 55) หมายถงึ การสาํ บดั สาํ นวนในการขอดุอาอม ากจนเกนิ ไป ส่ิงที่ดีท่ีสุดคือการใชบทดุอาอที่ทานนบีไดอาน เพราะ ไมเชนน้ันแลวก็อาจจะเขาขายการเลยเถิดในการขอดุอาอก็เปนไป ได ซ่ึงจะทําใหเขาไดวอนขอในส่ิงท่ีไมเปนประโยชนตอ ตัวเขา ดวย เหตุนี้ จึงมีรายงานจากทานมุอาซ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ไดกลาววา “สําหรับบรรดาอุละมาอน้ัน กระทั่งในสวนสวรรคก็ยังมีความ ตองการในตัวของพวกเขา เพราะจะมีเสียงกลาวแกชาวสวรรค วา พวกทานจงจินตนาการ (ความสุขที่ตองการ) เถิด แตพวก 227
เขาจะไมรูวาตองจินตนาการอยางไร นอกจากจะไดเรียนรูกับ บรรดาอลุ ะมาอ” และมรี ายงานทที่ า นนบีไดก ลาววา ΅ ِﻓﻲ َ� ْﻌ َﺘ ُﺪو َن َﻗ ْﻮ ٌم َﺳﻴَﺄْ ِﺗﻲ اﻟ َّﻄ ُﻬﻮ ِر َواﻟ ُّﺪﻋَﺎ ِء ความวา “ใกลเ ขามาแลวทจ่ี ะมกี ลุมชนที่เลยเถดิ ในการอาบนํา้ ละหมาดและขอดุอาอ” (บนั ทึกโดยอบดู าวุด) และมีรายงานวา “ชาวสะลัฟทานหนึ่งไดเดนิ ผานชายคน หนึ่งท่ีกําลังขอดุอาออยางสําบัดสํานวน เขาจึงกลาวแกชายคน นั้นวา “นี่ทานกําลังวอนขอตอ อลั ลอฮฺกระน้ันหรอื ?” ฉันขอเปน พยานวา ฉันไดเห็นทานหะบีบ อัล-อะญะมี (ผูที่เครงครัดในการ ทําอิบาดะฮฺและมีความสมถะอยางมากจากชาวเมืองบัศเราะฮฺ) ขอดุอาอ ซึ่งทานไมไ ดว อนขอมากไปกวา นี้ «»ا� اﺟﻌﻠﻨﺎ ﺟ ّﻴﺪﻳﻦ ความวา “โออ ัลลอฮฺ ไดโ ปรดใหเ ราเปนหนึง่ ในคนดี” «»ا� ﻻ ﺗﻔﻀﺤﻨﺎ ﻳﻮم اﻟﻘﻴﺎﻣﺔ ความวา “โออ ัลลอฮฺ ไดโ ปรดอยา ประจานเราในวันกิยามะฮฺ” «�»ا� وﻓﻘﻨﺎ لﻠﺨ 228
ความวา “โออ ัลลอฮฺ ไดโ ปรดอํานวยความสะดวกใหเ ราทําความ ด”ี ซึ่ ง ผู ค น ทั้ ง ห ล า ย ต า ง ว อ น ข อ ดุ อ า อ ใ น ทุ ก ส่ิ ง ท่ี เ ข า ปรารถนา และทุกคนตระหนักดีถึงความบารอกัตในดุอาอของ เขา” ชาวสะลัฟบางทานไดก ลาววา “จงขอดุอาอดวยล้นิ ท่นี อบ นอมและถอ มตน ไมใชดว ยล้นิ ที่คลองแคลว และมโี วหาร” และมีรายงานวาบรรดาผูรูจะไมขอดุอาอมากเกินกวาเจ็ด ประโยค โดยพวกเขาไดอางอิงอายะฮฺสุดทายของสูเราะฮฺอัล-บะ เกาะเราะฮฺ ซึ่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ไมไดกลาวถึงบทดุอาอที่บาวของ พระองคใ ชอา นในอายะฮใฺ ดมากกวา นัน้ อีกแลว และพึงรูเถิดวา ความหมายของการสําบัดสํานวนคือ การ ใชคําท่ีเย่ินเยอมากจนเกินไป เพราะมันจะไมทําใหเกิดความรูสึกท่ี นอบนอมและถอมตน ถึงแมวาในบทดุอาอท่ีทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ใชอานนั้นอาจจะมีประโยคท่ี คลายคลึงกัน แตมันก็ไมไดเยิ่นเยอมากจนเกินไป เชนบทดุอาอที่ ทา นนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลยั ฮวิ ะสัลลัม ไดก ลา ววา ﻳَ ْﻮ َم ا َﻷ ْﻣ َﻦ أَ ْﺳﺄَلُ َﻚ ، َﻣ َﻊ ال ُﻤ َﻘ َّﺮ�ِ َ� ال ُّﺸ ُﻬﻮ ِد ال ُّﺮ َّﻛ ِﻊ، َواﻟﺠَ َّﻨ َﺔ ﻳَ ْﻮ َم اﻟﺨُﻠُﻮ ِد،ال َﻮ ِ�ﻴ ِﺪ و�ِﻧَّ َﻚ َ� ْﻔ َﻌ ُﻞ َﻣﺎ ﺗُ ِﺮ� ُﺪ، ِإﻧَّ َﻚ َر ِﺣﻴ ٌﻢ َو ُدو ٌد،ال ُّﺴ ُﺠﻮ ِد ال ُﻤﻮﻓِ َ� ﺑِﺎﻟ ُﻌ ُﻬﻮ ِد ความวา “ฉันขอตอพระองคซ่ึงความปลอดภัยในวันแหงการ สัญญา (วันกิยามะฮฺ) และขอสวนสวรรคในวันแหงการพาํ นักอยู 229
ตลอดกาลรวมกับบรรดามุก็อรเราะบีน (ผูใกลชิดกับอัลลอฮฺ), บรรดาชุฮูด (ผูที่เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮฺ), ผูที่รุกูอฺ, ผูท่ี สุูด, ผูท่ีดํารงมั่นในคํามั่นสัญญา แทจริงพระองคทรงกรุณา ปรานี ผูทรงรักใครตอ บาว และแทจริงพระองคทรงกระทาํ ตามที่ พระองคทรงประสงค” (บันทกึ โดยอตั -ติรมซิ )ี ดังน้ัน จงอานบทดุอาอที่ทานนบีใชอานเถิด หรือใหอาน ดวยกับลิ้นท่ีมีความนอบนอมถอมตน โดยไมสําบัดสํานวนและเยิ่น เยอมากจนเกินไป ซึ่งความนอบนอ มถอมตนน้นั เปนส่ิงท่อี ลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ทรงรักยง่ิ กวา 6. มีความนอบนอมถอมตน รวมถึงมีความหวังและความ หวัน่ เกรง อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด าํ รัสวา : ﴾ ]اﻷﻧبﻴﺎء٩٠ۖ﴿ إِ َّ� ُه ۡم َ�نُواْ � ُ َ ٰ�رِ ُعو َن ِ� ٱ ۡ َ� ۡي َ�ٰ ِت َو َ� ۡد ُعو َ� َنا َر َغ ٗبا َو َر َه ٗبا [٩٠ ความวา “แทจริงพวกเขา แขงขันกันในการทําความดีและพวก เขาวิงวอนเราดวยความหวังและหว่ันเกรงในการลงโทษของ เรา” (สเู ราะฮอฺ ลั -อมั บยิ าอ อายะฮทฺ ่ี 90) และอัลลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ ไดด าํ รัสอีกวา 230
[٥٥ : ﴾ ]اﻷﻋﺮاف٥٥ۚ ﴿ ٱ ۡد ُعواْ َر َّ� ُ� ۡم تَ َ ُّ� ٗ� َو ُخ ۡفيَ ًة ความวา “พวกเจาจงวิงวอนตอพระเจาของพวกเจาในสภาพ ถอมตนและปกปด” (สเู ราะฮฺอลั -อะอฺรอฟ อายะฮฺที่ 55) 7. ใหขอดว ยความมงุ ม่นั จรงิ จัง และเชอ่ื ม่นั วา จะถกู ตอบรบั รวมท้งั ใหม คี วามจรงิ ใจในการวอนขอตอ พระองค ، ْن ِﺷﺌْ َﺖท ِإา�นِ ْﻤเَﺣรْرาاะﻢสَّ ُูﻬลَّﻠลุ الล،อَﺖฮฺْﺌศ็ ِﺷอنลْ ِإลﻲลั ِﻟลْﺮอِﻔฮﻟَْﻏُﻪอุ َهاะَّﻢ ِﺮลُﻬ ْﻜยั َُﻠّﻣฮิ َﻻالว:ะ ُﻪْﻢส�َّﺈِ ُﻧลั َﻓล،ﺔُﺪมัَ ﺄَ َﻟَﺣไْ َأﺴดَّﻤﻦกَ َﻟلลﻮاาﺰ ُِﻘمวِ�َ ﻌวْ َﻴَﻻา ِﻟ ความวา “เม่ือพวกทานคนหน่ึงคนใดขอดุอาอ ก็อยาไดกลาววา โออัลลอฮฺ หากพระองคประสงคก็ทรงใหอ ภัยโทษแกข าเถดิ และ หากพระองคทรงประสงคก็ทรงใหความเมตตาแกขาเถิด แตให เขาขออยางมุงมั่นจริงจัง เพราะแทจริงไมมีใครท่ีอาจหาญจะ บังคบั พระองคได” (บนั ทึกโดยอัล-บุคอรแี ละมสุ ลมิ ) และทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได กลาววา َﺷ ْﻲ ٌء �ِ َّ ا ﻋ َﻠَﻰ َ�ﺘَ َﻌﺎ َﻇ ُﻢ َ ﻓَﺈِﻧَّ ُﻪ، ال َّﺮ ْ� َﺒ َﺔ ﻓَﻠْﻴُ ْﻌ ِﻈ ِﻢ أَ َﺣ ُﺪ ُ� ْﻢ َدﻋ َﺎ إِ َذا ﻻ ความวา “เม่ือคนหน่ึงในหมูพวกทานขอดุอาอใหเขาขอตาม ความปรารถนาอยา งเต็มท่ี เพราะไมมีสิ่งใดที่ย่งิ ใหญเหนืออลั ลอ ฮฺได” (บันทึกโดยอิบนุหบิ บาน) 231
และทานนบี ศ َّنอ็ َأลﻮاลัُﻤลَﻠล ْﻋอواฮَ อุ ،ِﺔะ َﺑลَﺟﺎยั ﻹฮِ ิวِﺑﺎะنสَ ัลُﻨﻮล ِﻗมัهٍ ُمﻮไﻻด َ ْﻢกٍ ْ�ﻞ ُﺘลَوِﻓ َأา ﺎวَ َ�ﻏอَّ ﺐกٍี اวْﻗَﻮاﻠา اِﻣ ْد ْﻦ ُﻋ ُدﻋَﺎ ًء �َ ْﺴﺘَ ِﺠﻴ ُﺐ َ �َ َّ ا ﻻ ความวา “พวกทานจงขอดุอาอตออัลลอฮฺโดยที่พวกทานเปนผทู ี่ เช่ือมั่นในการตอบรบั พงึ ทราบเถดิ วา อลั ลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จะ ไมท รงตอบรับดุอาอจากหัวใจท่หี ลงลมื ” (บนั ทึกโดยอัต-ตริ มซิ ี) ทานสุฟยาน อิบนุอุยัยนะฮฺ ไดกลาววา “คนหน่ึงคนใดใน หมูพวกทานอยาหยุดการขอดอุ าอใ นสงิ่ ทจี่ ิตใจของเขารูดี เพราะ อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ เคยตอบรับดุอาอจากสรรพสิ่งท่ีชั่วทส่ี ดุ มาแลวน่ันคืออิบลีส ขออัลลอฮฺทรงสาปแชงมัน” เม่ือครั้งท่ี พระองคไ ดด ํารสั วา : ﴾ ]ص٨٠ قَا َل َفإِنَّ َك ِم َن ٱلۡ ُمن َظرِ� َن٧٩ ﴿ َر ِّب فَأَن ِظ ۡر ِ ٓ� إِ َ ٰ� يَ ۡو ِم ُ� ۡب َع ُثو َن [٨٠ ،٧٩ ความวา “โอพระเจาของขา พระองคไดโปรดประวิงเวลาใหแก ขาพระองคจนถึงวันฟนคืนชีพดวยเถิด พระองคตรัสวา ดังนั้น แทจริงเจาอยใู นหมูผถู กู ประวงิ เวลา” (สูเราะฮฺศ็อด อายะฮฺท่ี 79- 80) 232
8. คะยั้นคะยอในการวิงวอนขอ โดยใหขอยํ้าสามคร้ัง ทา นอบิ นุมัสอูด เลา วา َو ِ� َذا َﺳﺄَ َل َﺳﺄَ َل ﺛَ َﻼﺛًﺎ،ﻛ َﺎ َن ِإ َذا َدﻋَﺎ َدﻋَﺎ ﺛَ َﻼﺛًﺎ ความวา “เมอ่ื ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลยั ฮวิ ะสลั ลมั ขอดอุ าอทา น จะขอยํ้าสามคร้ัง และเม่ือทานวอนขอสิ่งใดทานก็จะขอยํ้าสาม คร้ัง” (บนั ทึกโดยมุสลิม) และอยาดวนรบเราใหตอบรับดุอาอ เพราะทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลยั ฮวิ ะสลั ลัม ไดกลาววา لَ ْﻢ َﻣﺎ ِ َﻷ َﺣ ِﺪ ُ� ْﻢ �ُ ْﺴﺘَ َﺠﺎ ُب َﻗ ْﺪ َد َﻋ ْﻮ ُت َﻓﻠَ ْﻢ �ُ ْﺴ َﺘ َﺠ ْﺐ ِﻟﻲ: َ� َﻴ ُﻘﻮ ُل،َ� ْﻌ َﺠ ْﻞ ﻓﺎﺳﺄل اﷲ ﻛﺜ ً�ا ﻓﺈﻧﻚ ﺗﺪﻋﻮا ﻛﺮ� ًﻤﺎ ความวา “ดุอาอของทุกคนยอมไดการตอบรับตราบใดที่เขาไม ดวนรบเราใหตอบรับ เชนกลาววา ฉันขอดุอาอแ ลว แตพระองค ไมตอบรับฉันเลย ดังนั้นเม่ือทานขอดุอาอ ก็จงขอตออัลลอฮฺให มาก เพราะทานกําลังขอจากผูทรงใจบุญ” (บันทึกโดยอัล-บุคอรี และมสุ ลิม) ชาวสะลัฟทานหน่ึงไดกลาววา “แทจริงฉันไดวอนขอ ตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ในความตองการอยา งหนึ่งเมื่อยส่ี ิบป ท่ีแลว ซึ่งพระองคยังไมทรงตอบรับเลยในขณะท่ีฉันก็ยังคงหวัง 233
ตอมันอยู ซ่ึงฉันไดวอนขอตออัลลอฮฺใหพระองคทรงใหฉัน สามารถละทง้ิ สง่ิ ท่ีไมมีประโยชนตอตัวฉนั ” 9. เร่ิมขอดอุ าอดว ยการซกิ ริ ตอ อัลลอฮฺ อัซซะวะญลั ละ อยา เร่ิมดวยส่ิงท่ตี องการขอ ทานสะละมะฮฺ บินอัล-อกั วะอฺ ไดก ลาววา َّ �َ ْﺴﺘَ ْﻔ ِﺘ ُﺢ َو َﺳ َّﻠ َﻢ َاﺻ ْ َّ َﻷ�ﻋْاﻠَﻰ ُاﷲلْ َﻮ ََّﻫﻋﺎﻠَﻴِْ ِبﻪ،�ِّ �َِﻣ ُﺎﺴﺒْ َﺳَﺤ ِﺎﻤ ْﻌَن ُ َرﺖ ِّ َ�اﻟاَّﻨﻟْ ِﺒَﻌ َِّﻲ :ا ْﺳﺘَ ْﻔ َﺘ َﺤ ُﻪ ِإ ﻻ ُدﻋَﺎ ًء ความวา “ฉันไมเคยไดยินทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เร่ิมขอดุอาอดวยกับสิ่งที่ตองการขอ นอกจากทานจะเริ่มขอดวย การกลาว สุบหานะร็อบบิยัลอะลียฺ อัล-อะอฺลา อัล-วะฮฺฮาบ (อัลลอฮฺผูทรงมหาบริสุทธ์ิย่ิง ผูเปนพระผูอภิบาล ผูทรงสูงสงย่ิง ผูทรงใหอยางมากมาย)” (บันทึกโดยอะหฺมัด) ทานอบูสุลัยมาน อัด-ดารอนี เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดกลาววา “ผูใดตองการวอนขอความตองการของตัวเองตออัลลอฮฺ ก็ให เขาเร่ิมดวยการเศาะละวาตตอทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสลั ลมั หลงั จากนั้นกใ็ หเขาวอนขอตามความตอ งการ หลังจาก น้ันใหเขาปดทายดว ยการเศาะละวาตตอทานนบี ศ็อลลัลลอฮอุ ะ ลยั ฮวิ ะสัลลมั อีกครงั้ เพราะอัลลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ ทรงตอบรับ 234
การเศาะละวาตท้ังสอง ซ่ึงพระองคทรงใจบุญย่ิงโดยไมอาจผลัก ไสสงิ่ ที่อยรู ะหวางมนั ได” 10. ตองเตาบะฮฺในความผิดบาปหรือกลับเนื้อกลับตัว ตออลั ลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ อยางจรงิ จังเสยี กอน เพราะมันคือปจจัยหลักและเปนปจจัยท่ีจะทําใหดุอาอถูก ตอบรับไดรวดเร็วท่ีสุด ดังท่ีมีรายงานจากทานกะอฺบ อัล-อะหฺบาร เลาวา “กลุมชนในยุคสมัยของทานนบีมูซา ผูเปนศาสทูต ของอัลลอฮฺ ไดประสบกับภัยแหงแลงที่สรางความขนแคนเปน อยางมาก ดงั นัน้ ทานนบมี ูซาจึงออกมาพรอมกบั ชาวบนอี สิ รออีล เพ่ือขอดุอาอใ หฝนตกยังพวกเขา แตแ ลว ฝนกย็ ังไมตกลงมา กระ ทัง้ ไดออกมาขอดุอาอถ ึงสามคร้ัง แตฝนกย็ ังคงไมตกลงมา ดงั นน้ั อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จึงประทานวะหฺยูลงมาแกนบีมูซา โดย ดํารัสวา “แทจริงขาจะไมตอบรับการวิงวอนของเจา และคน ที่มากับเจา เพราะในหมูพวกเจานั้นมีคนที่ชอบนินทาวารายคน อ่ืนอย”ู ทานนบีมซู าจึงกลา ววา “โอพระผอู ภบิ าลเอย ใครคอื คน น้ันเราจะไดพาเขาออกไปจากพวกเรา” ดังนั้นอัลลอฮฺ อัซซะ วะญัลละ จึงประทานวะหฺยูแกทานนบีมูซาอีกคร้ังวา “โอมูซา เอย ขาไดหามพวกเจาจากการนินทาวาราย โดยที่ฉันจะเปนผูที่ นินวารายดวยตัวเองกระน้ันหรือ ?” ทานนบีมูซาจึงกลาวแก ชาวบนีอิสรออีลวา “พวกทานท้ังหลายจงเตาบะฮฺตัวตอพระผู 235
อภบิ าลของพวกทา นในความผดิ บาปทีไ่ ดน ินทาวา รายเถิด” และ แลวพวกเขาก็ไดเตาบะฮฺตัวทุกคน ดังนั้นอัลลอฮฺ ตะอาลา จึง ประทานนํ้าฝนลงมายังพวกเขา” ทานสุฟยาน อัษ-เษารี ไดกลาววา “มีรายงานมายังฉันวา ชาวบนีอิสรออีลไดประสบกับภัยแหงแลงยาวนานถึงเจ็ดป กระทั่งพวกเขาตองพากันกินซากศพท่ีมีอยูในกองขยะ ทําให พวกเขาพากันออกไปอยูบนภูเขาในสภาพท่ีรองหมรองไหและ นอบนอมถอมตน ดังน้ันอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จึงประทานวะหฺ ยแู กบรรดานบีของพวกเขา อะลยั ฮมิ สุ ลามวา แมนวาพวกเจาได เดินมาดวยเทาเปลาโดยไมมีอะไรสวมใส และยกมือท้ังสองของ พวกเจาขึ้นมาจนเห็นส่ิงท่ีอยูบนฟา และล้ินของพวกเจาไมได หยุดยั้งจากการวิงวอนขอดุอาอ แนนอนวาขาจะไมตอบรับการ วิงวอนของคนที่วิงวอน และจะไมใหความเมตตาแกคนที่รอ งหม รองไห จนกวาเขาจะคืนสิทธิตางๆ ที่ไดกออธรรมแกคนท่ีมีสิทธิ นั้นเสียกอน ดังน้ันพวกเขาจึงปฏิบัติตามน้ัน และแลวฝนตกก็ลง มายังพวกเขาในวันนั้นทนั ท”ี ทานมาลิก บินดีนาร ไดกลาววา “กลุมชนของชาวบนีอิส รออีลไดป ระสบกับภัยแหงแลง ทําใหพวกเขาออกมาวิงวอนขอดุ อาอเปนบอยคร้ัง ดังน้ันอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จึงประทานวะหฺ ยแู กนบีของพวกเขาใหแ จงแกพ วกเขาวา พวกเจา ออกมาวิงวอน ตอขาดวยสภาพท่ีเน้ือตัวของพวกเจาเปรอะเปอนดวยนะญิส 236
และพวกเจายกมือขอตอขาดวยกับมือที่พวกเจาไดหล่ังเลือดกัน และทอ งของพวกเจา กเ็ ตม็ ไปดว ยสิง่ ท่หี ะรอม บดั น้แี หละที่มันทํา ใหค วามโกรธกรวิ้ ของขาทมี่ ีตอ พวกเจาเพม่ิ มากข้นึ และมนั จะไม มสี ่ิงใดเพม่ิ ขนึ้ นอกจากการไลตะเพิดใหยงิ่ ไกล” ทา นอบอู ศั -ศิดดีก อัน-นาญี ไดกลา ววา “ทา นนบสี ลุ ัยมาน อะลัยฮิสลาม ไดออกมาวิงวอนขอดุอาอใหฝนตก แตแลวทานก็ ไดเดนิ ผานมดตัวหนึ่งทกี่ ําลังยนื ใหหลงั ของมันข้ึนไปยงั ฟา โดยที่ มันไดกลาววา “โออัลลอฮฺ แทจริงพวกเราเปนสรรพสิ่งหน่ึงที่ พระองคทรงสราง และพวกเรามีความตองการในริซกีของ พระองคทานอยู ดังนั้นอยาไดทํารายพวกเราดวยกับความผิด บาปของกลุมชนท่ีไมไดเปนพวกเราดวยเถิด” ทานนบีสุลัยมาน อะลัยฮิสลาม จึงกลาววา “พวกทานจงกลบั ไปเถดิ แทจริงฝนได ตกลงมาแลว ดวยกบั การวิงวอนทไ่ี มใชจ ากพวกทาน” ทานอัล-เอาซาอี ไดกลาววา “ผูคนไดออกมาวิงวอนขอดุ อาอใหฝนตก ดังนั้นทานบิลาล บินสะอัดจึงยืนขึ้นมาทามกลาง พวกเขา แลวทานก็ไดสรรเสริญตออัลลอฮฺและยกยองเชิดชูตอ พระองค หลังจากนั้นทานก็กลาววา “โอผูคนที่ออกมาในวันน้ี พวกทานไดยอมรับในความผิดบาปท่ีมีอยูหรอื ไม ?” พวกเขาจงึ พากันกลาววา “ขอสาบานตออัลลอฮฺ เรายอมรับแลว” ทาน บิลาลจึงกลาววา “โออัลลอฮฺ แทจริงพวกเราไดยินคําดํารัสของ พระองคแ ลว วา 237
[٩١ : ﴾ ]اﻟﺘﻮ�ﺔ٩١ �﴿ َما َ َ� ٱلۡ ُم ۡح ِسنِ َ� ِمن َسبِي ٖل ความวา “ไมมีทางใดที่จะกลาวโทษแกบรรดาผูกระทําดีได” (สู เราะฮอฺ ตั -เตาบะฮฺ อายะฮฺที่ 91) แทจริงพวกเราไดยอมรับในความผิดบาปท่ีมีอยูแลว ดังน้ันการอภัยโทษของพระองคจะไมเกิดขึ้นแกเฉกเชนพวกเรา กระน้ันหรือ โออัลลอฮฺ ไดโปรดใหอภัยแกเรา เมตตาแกเรา และ ประทานน้ําฝนแกเราดวยเถิด ซึ่งทานบิลาลไดยกมือท้ังสองข้ึน สวนคนที่เหลือก็ยกมือทั้งสองข้ึนตามไปดวย และแลวฝนก็ไดตก ลงมา” มีคนกลา วแกท านมาลิก บนิ ดนี ารวา “ไดโ ปรดขอดอุ าอแ ก เราดวยเถิด” ทานมาลิกจึงกลาววา “พวกทานตางก็ประสบกับ น้ําฝนท่ีตกมาอยางลาชา แตตัวฉันจะขอตออัลลอฮฺใหกอนหิน คอยตกลงมา” มีรายงานวาทานนบีอีซา เศาะละวาตุลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสะ ลามุฮู ไดออกมาวิงวอนขอดอุ าอใหฝนตกเมื่อครง้ั ที่พวกเขาประสบ กับความทุกขยาก ทา นนบอี ีซา อะลัยฮสิ ลาม จึงกลา วแกพ วกเขาวา “ในหมูพวกทานผูใดท่ียังคงมีบาปอยกู ใ็ หก ลับไปกอน ดังนน้ั พวก เขาจึงพากันกลบั ไปโดยไมม ีใครหลงเหลืออยูเลย ณ ที่ราบทม่ี แี ต ความแหงแลงนั้นนอกจากเพียงคนเดียวเทาน้ัน ดังน้ันทานนบีอี ซา อะลัยฮิสลามจึงกลาวแกเขาวา “ทานไมมีความผิดบาปเลย 238
หรือ ?” เขาจึงกลาววา “ขอสาบานตออัลลอฮฺ ฉันไมเคยทํา ความผิดบาปใดๆ เลย นอกจากมีอยูวันหนึ่งฉันกําลังละหมาด และแลว ก็มีหญงิ นางหนึ่งไดเ ดินผานหนาฉนั ฉนั จึงมองไปยังนาง ซึ่งเม่ือนางไดเดินผานหนาฉันไป ฉันจึงเอานิ้วท่ิมลูกตาตัวเอง แลวควักมันออกมา แลวฉันก็ไดตามหญิงนางนั้นดวยสภาพนั้น” ทานนบีอีซา อะลัยฮิสลาม จึงกลาวแกเขาวา “ดังน้ันทานจง วิงวอนขอดุอาอตออัลลอฮฺเถิด แลวฉันจะกลาวอามีนในการดุ อาอของทาน” มีรายงานเลาอีกวา “แลวชายคนนั้นก็ไดวิงวอน ขอดุอาอ และแลวทองฟาก็เรม่ิ มีเมฆปกคลมุ ใหเห็น หลังจากน้ัน ฝนกต็ กลงมา” ทานยะหฺยา อัล-ฆ็อสสานี ไดกลาววา “กลุมชนในยุคสมัย ของทานนบีดาวุด อะลัยฮิสลาม ไดประสบกับภัยแหงแลง ดังน้ัน พวกเขาจึงเลือกสามคนจากผูท่ีมีความรูในหมูพวกเขาเพื่อ ออกไปวิงวอนขอดุอาอใหฝนตกลงมายังพวกเขา หนึ่งในน้ันได กลาววา “โออัลลอฮฺ พระองคทรงประทานในคัมภีรเตารอตของ พระองควาเราจะใหอภัยโทษตอผูที่อธรรมตอเรา โออัลลอฮฺ แทจริงพวกเราไดอ ธรรมตอตวั พวกเราเอง ดังน้ันไดโปรดใหอ ภัย แกพวกเราดวยเถิด” คนท่ีสองไดกลาววา “โออัลลอฮฺ พระองค ทรงประทานในคัมภีรเตารอตของพระองควาเราจะปลดปลอย บาวทาสทั้งหลายของพระองคทาน โออัลลอฮฺแทจริงพวกเราคอื บาวทาสของพระองค ไดโปรดปลดปลอยเราดวยเถิด” และคนท่ี 239
สามไดกลาววา “โออัลลอฮฺ พระองคทรงประทานในคัมภีรเตา รอตของพระองควาเราจะไมปฏิเสธผทู ี่ยากจนขัดสนเมอื่ พวกเขา ไดยนื อยเู บ้อื งหนาประตขู องเรา โออ ลั ลอฮฺ แทจริงพวกเราคอื ผูที่ ยากจนขดั สนตอทา น และเราก็ไดยืนเบื้องหนา ประตูของพระองค แลว ไดโปรดอยาปฏิเสธการวิงวอนขอดุอาอของพวกเราเลย และแลวฝนก็ไดตกลงมา” ทานอะฏออ อัส-สุลละมี ไดกลาววา “ฝนไมไดตกลงมายัง พวกเรามาเน่ินนาน พวกเราจึงออกไปวิงวอนขอดุอาอใหฝนตก ทันใดนั้นก็มีชายคนหน่ึงในหมูพวกเรายืนอยูระหวางหลุมฝงศพ เขาจึงมองมายังฉันแลวกลาววา “ทานอะฏออเอย นี่คือวันแหง การฟนคืนชีพหรือวันที่ฟนจากหลุมฝงศพ ?” ทานอะฏออได กลาววา “ไมใชๆ เพียงแตฝนไมไดตกมายังพวกเรามาเนิ่นนาน พวกเราจึงออกมาวงิ วอนขอดอุ าอใหฝนตก” ชายคนนนั้ จึงกลา ว วา “ทานอะฏออเอย ทานออกมาดวยหัวใจท่ีติดดินหรือหัวใจที่ ผูกพันกับฟากฟา” ฉันไดกลาววา “ดวยหัวใจท่ีผูกพันกับ ฟากฟา” ชายคนน้ันจึงกลาววา “จงออกไปบอกผูคนท่ียังคง กระทําความผิดอยู ใหพวกเขาเลิกกระทําความผิดเสียกอน เพราะผูที่เฝาตรวจสอบน้ันทรงมองเห็นไดอยางประจักษ และ แลวลมจากฟากฟาก็ไดโชยมาจากทิศทางหน่ึง” แลวเขาก็ได กลาววา “พระเจาของฉัน เจานายของฉนั พระผูอภิบาลของฉัน ไดโปรดอยาทําลายแผนดินของพระองคเน่ืองดวยความผิดบาป 240
ของปวงบาวพระองค เปนเร่ืองของพระองคในสวนเหตผุ ลตางๆ ที่อยูเบ้ืองหลังพระนามของพระองค ยกเวนส่ิงท่ีพระองคไดทรง ประทานนํ้าจืดลงมาอยางมากมาย เพื่อใหปวงบาวไดมีชีวิตชีวา และทําใหพ้ืนแผนดินชุม ชน่ื โอผูท่ีทรงเดชานุภาพเหนือทกุ สิ่งทกุ อยา ง” ทา นอะฏออไดกลา ววา “ไมทนั ทจ่ี ะวอนขอไดจบประโยค ก็เร่ิมมีฟาแลบและฟารองขึ้นมา และแลวโปรยฝนก็ไดตกลงมา ประหน่งึ ถุงน้าํ ทถี่ กู เปดปาก” ทานอิบนุ อัล-มุบาร็อก ไดกลาววา “ฉันไดเดินทางมาถึง เมืองมะดนี ะฮใฺ นชวงปท ี่แหงแลง อยางรนุ แรง ซึ่งผคู นตา งออกมา ขอฝน โดยที่ฉันก็ออกมารวมกับพวกเขาดวย และแลวฉันก็ได พบกับเด็กนอยผิวดําคนหนึ่งที่สวมผากระสอบผืนเล็กๆ ผืนหนึ่ง และอีกผืนหน่ึงไดใหชายผาพาดไวบนบาของเขา แลวเด็กนอย คนน้ันก็ไดน่ังขางฉัน ซ่ึงฉันไดยินเขากลาววา “พระเจาของฉัน พระองคไดสรา งใบหนาตา งๆ เพ่ือใหเกิดความผดิ บาปและมีการ งานที่ไมดีอยางมากมายกระน้ันหรือ ? อันที่จริงพระองคไม ประทานน้ําฝนจากฟากฟาลงมายังพวกเราเพ่ือเปนการอบรม บาวของพระองคดวยกับส่ิงน้ัน ดังนั้น ฉันขอวิงวอนตอพระองค โอผูทรงออนโยน ผูทรงมีความสุขุม โอผูท่ีบาวของพระองคไม รูจักพระองคนอกจากพระองคเปนผูทรงสวยงามยิ่ง ไดโปรด ประทานความชุมชํ่าแกพวกเขาสักชวงหนึ่ง สักชวงหนึ่ง ซ่ึงเด็ก นอยคนน้ันยังคงขอวา สักชวงหนึ่ง สักชวงหน่ึง จนกระท่ัง 241
ฟากฟาปกคลุมไปดว ยเมฆฝน และแลวโปรยฝนกไ็ ดตกลงมาจาก ทุกทิศทาง” ทานอิบนุอัล-มุบาร็อกไดกลาววา “ฉันไดไปหา ทานอัล-ฟุฎ็อยล” ซึ่งเขาไดกลาวแกฉันวา “ดูเหมือนทานกําลัง เครงเครียดอยูใชไหม ?” ฉัน (อิบนุอัล-มุบาร็อก) ไดกลาววา “มี เรื่องท่ีคนอื่นไดทําสําเร็จกอนเราแลว และเขาไดทําหนาที่แทน เราไปแลว (คือวิงวอนขอดุอาอใหอ ัลลอฮฺประทานฝนลงมา) และ ฉันก็ไดเลาเรื่องราวที่เกิดขึ้นใหทานฟุฎ็อยลฟง ทานจึงรองไหจน สะอึกสะอื้น แลวลมสลบไป (เพราะรูสึกวาสาเหตุของความแหง แลงน้ันเกิดจากความผิดของเขาดวยเชนกัน และเขาเองก็ไมได รับโอกาสท่ีจะเปนผทู ี่คล่ีคลายสถานการณน้ันดวยการวงิ วอนขอ จนทาํ ใหอัลลอฮฺตอบรับ)” และมรี ายงานวา “ทานอมุ ัร บนิ อัล-คอ็ ฏฏอบ เราะฎิยัลลอ ฮอุ นั ฮุ ไดออกมาขอใหฝ นตกลงมาแกกลุมชนของอลั -อับบาส ซง่ึ หลังจากที่ทานอุมัรขอดุอาอเสร็จ ทานอัล-อับบาสก็ไดกลาววา “โออัลลอฮฺ แทจริงพระองคจะไมทําใหเกิดภัยพิบัติจากฟากฟา นอกจากดวยกับการกระทําท่ีผิดบาป และพระองคจ ะไมทรงปลด เปล้ืองมันนอกจากดวยการเตาบัต ในความเปนจริงกลุมชนของ ฉันไดมุงมายังพระองคเนื่องดวยแผนดินท่ีศาสนทูตของพระองค เคยใชช วี ิตอยู ศ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั และนีค่ ือมอื ของพวก เราท่ีเปอนบาป และพวกเราตางส่ังเสียใหเตาบัตกันแลว สวน พระองคน้ันเปนผูดูแลพวกเรา และไมทําใหพวกเราไดหลงผิด 242
พระองคจะไมปลอยใหคนจํานวนมากอยูในพ้ืนที่ที่คับแคบ ซ่ึง ผูคนทั้งเด็กเลก็ และผูใหญตางถอ มตนยอมจํานนตอพระองคแ ลว พวกเขาตา งยกเสยี งวอนขอดวยความรอ งทุกข ซึ่งพระองคท รงรู ดีถึงสิ่งท่ีเรนลับตางๆ โออัลลอฮฺ ไดโปรดประทานความชุมชาํ่ แก พวกเขาดว ยกบั น้าํ ฝนของพระองค กอ นทีพ่ วกเขาจะสิ้นหวังแลว พระองคก็จะทําลายพวกเขา แนนอนวาจะไมมีใครสิ้นหวังใน ความเมตตาของพระองค นอกจากกลุมคนที่ปฏิเสธศรัทธา” มี รายงานวา ไมท นั ทีท่ านอลั -อบั บาสจะขอจนจบประโยค กลุมเมฆบน ทองฟาก็ไดก อตวั ข้ึนประหนึง่ ภเู ขาแลว 243
10. ฟนฟอู ิบาดะฮฺทีถ่ กู ลืม การทําการคาใหมีผลกําไรกับอัลลอฮฺมันตองเก็บเก่ียวทุก ชอ งทางท่พี ระองคทรงพึงพอพระทัย ซ่งึ คนท่ีแสวงหาความตองการ ของพระผูเปนเจา รวมถึงสิ่งที่พระองคทรงช่ืนชอบ เขาจะตองมี ความเชี่ยวชาญในการทําการคานัน้ กับพระผูอภิบาลของเขา อัซซะ วะญัลละ แตในความเปนจริงผูคนมักจะเคยชินกับการทําอิบาดะฮฺ บางอยางโดยเขาใจวามันเปนชองทางเดียวเทาน้ันที่จะเปนลูทาง ไปสูอัลลอฮฺ แตคนที่แสวงหาความพึงพอพระทัยของพระผูอภิบาล นั้นสมควรท่ีจะตองคนหาลูทางท่ีถูกลืมและชองทางท่ีผูคนตางเหิน หางจากมนั ซงึ่ มนั เปน ส่ิงทผ่ี คู นไมค อ ยใหค วามสนใจเนอื่ งจากความ เกียจครา นและความออนแอ ซ่ึงหน่ึงในอิบาดะฮฺที่ผูคนมักจะหลงลืมและไมคอยให ความสําคัญกับมัน และเราจะไมคอยพบวายังมีผูคนท่ีเอาใจใสกับ มันยกเวนเพยี งเล็กนอ ยเทานน้ั นน่ั คอื การอิสตฆิ ฟารชวงเวลาสะ หูรหรือใกลรุงอรุณ ซึ่งมันคืออิบาดะฮฺของคนที่มีความสัจจริง ดงั อลั ลอฮฺ ตะอาลา ไดดํารัสวา 244
ٱ َّ ِ�ي َن َ� ُقولُو َن َر َّ� َنآ إِ َّ� َنآ َءا َم َّنا َفٱ ۡغفِ ۡر َ�َا ُذنُو َ� َنا١٥ ﴿ َوٱ َّ ُ� بَ ِص ُ�ۢ بِٱ ۡلعِ َبا ِد �َ َِوٱ ۡل ُمنفِق �َ ِۡل َ�ٰنِت َو ِق َنا َع َذ ا َب ل َّ ٰص ِ�ِ � َن َوٱ ل َّ ٰص ِد ِق َ� َوٱ ٱ ِ١ر٦بِٱٱ ۡ َّ��َاۡس ِر َحا َوٱلۡ ُم ۡس َت ۡغفِرِ� َن [١٧ ،١٥ :﴾ ]ال ﻋﻤﺮان ١٧ ความวา “และอัลลอฮนฺ ั้นทรงเหน็ บรรดาบาวทั้งหลาย คือบรรดา ผูที่กลาววา โอพระเจาแหงพวกขาพระองคแทจริงพวกขา พระองคศรัทธากนั แลว โปรดทรงอภยั โทษใหแกพวกขา พระองค ดว ยเถดิ ซึ่งบรรดาความผิดของพวกขาพระองคและโปรดไดทรง ปองกันพวกขาพระองคใหพนจากการลงโทษแหงไฟนรกดวย บรรดาผูที่อดทน และบรรดาผทู ่ีพูดจรงิ และบรรดาผทู ่ีภักดี และ บรรดาผูที่บริจาคและบรรดาผูท่ีขออภัยโทษในยามใกลรุงอรุณ” (สูเราะฮฺอาล อมิ รอน อายะฮทฺ ี่ 15-17) สะหัร คือชวงทายของคํ่าคืน มันคือชวงเวลาใกลรุงอรุณ ดวยเหตุนี้จึงสงเสริมใหคนที่ตองการถือศีลอดทานอาหารใน ชวงเวลานี้ และยังสงเสริมใหเผ่ือเวลาสักเล็กนอยกอนท่ีจะเขา เวลาศุบุหฺเพื่ออิสติฆฺฟารตออัลลอฮฺ และวอนขอการใหอภัยโทษ ขอใหพระองคลบลา งความผดิ และขอใหรอดพน จากไฟนรก เพราะ มันคือชวงเวลาที่ดีท่ีสุดและเปนบทสรุปของชวงเวลาท่ีผานมา ทั้งหมด มันเปนชวงเวลาที่พื้นดินและฟากฟาไดเชื่อมโยงกัน และ มันเปนชวงค่ําคืนของคนที่ละหมาดตะฮัจุดท่ีอบอวลดวยกับลม หายใจของบรรดามลาอิกะฮฺที่ถูกสงลงมา พรอมกับความ 245
กรุณาธิคุณอันลนพนท่ีถูกโปรยลงมา มันยังเปนชวงเวลาที่พระผู เปนเจาที่ทรงใจบุญเสด็จลงมาในชวงหน่ึงในสามสุดทายของค่ําคืน จนกระทั่งมันทําใหเทาไดเหยียดตรงบนท่ีละหมาดท่ีมีเกียรติ และ น้ําตาก็ไดหลั่งไหลจนเปยกชุมเนื่องจากความดีใจท่ีไดใกลชิดผูทรง ยิ่งใหญ ผูทรงเกรียงไกร พรอมกันนั้นมือท้ังสองก็ยกข้ึนสูงเพื่อวอน ขอในส่ิงท่ีตองการ และใชลิ้นในการเปลงซิกิรและอานสิ่งท่ีถูก ประทานลงมา และอีกหนึ่งในอิบาดะฮฺท่ีถูกลืมก็คือ อิบาดะฮฺแหงการ พินิจใครครวญการสรางสรรคของอัลลอฮฺและความมหัศจรรย ตางๆ ที่พระองคทรงสรางข้ึนมา รวมถึงการพินิจใครครวญพระ นามของพระองค คุณลักษณะของพระองค การสรางสรรคของ พระองค รวมถงึ ความโปรดปรานตา งๆ ของพระองค อลั ลอฮฺ ตะ อ َِنَ�انาِ ْووقล ُ�ُرَفาِفت َكَّّكไَٖ َنด�َٰ��ٰ َتดََํ� َوาۡم ۡبรِه ُسสัا��ِ ِرใَهوนٗ جِطَّ�ُنเُ รََو�ٰٱอื่ �ٰ لاงَََِذน�ۡ�ََّٰ้وวีَ ٱาَخ َّٱۡلس َّ َِقِ��ٰيَ�ٱٰلَن ِ َّتسيَ ََۡذ�ٰوٱَ�ُٰۡك َُ�رِ�تو ِ ََونٱضۡٱ َ�ََّر� ََّ�� َِناقِض َ َ�ٰمَوٗامٱا ۡخَ َخوتِ َلُ�َ�ٰۡقُع ِوَ ٗفتدا١ل٩ٱ٠ �ِ ﴿ إِ َّن ٱ ۡ َ� ۡل َ�ٰ ِب ِ� َخ ۡل ِق [١٩١ ،١٩٠ : ﴾ ]ال ﻋﻤﺮان١٩١ َِع َذا َب ٱ�َّار ความวา “แทจริงในการสรางบรรดาช้ันฟาและแผนดิน และการ ท่ีกลางวันและกลางคืนตามหลังกันนั้น แนนอนมีหลายสัญญาณ สําหรับผูมีปญญา คือบรรดาผูท่ีรําลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืน 246
และน่ัง และในสภาพที่นอนตะแคง และพวกเขาพินิจพิจารณา กันในการสรางบรรดาชัน้ ฟา และแผนดิน (โดยกลาววา) โอพระ เจาของพวกขาพระองค พระองคมิไดทรงสรางสิ่งน้ีมาโดยไร สาระ มหาบริสุทธ์ิพระองคทาน โปรดทรงคุมครองพวกขา พระองคใหพนจากการลงโทษแหงไฟนรกดวยเถิด” (สูเราะฮอฺ าล อิมรอน 190-191) �َّال ۡح[ِيَِاب١َٱح٦َكفَأ٤ءٖ َِّس:سفَّ�َم َٱهآ﴾لا ِءّ]رِِراَ�ِمﻟٰ َﺒوِٱحنﻘۡل َُﺮَّفومٱةاۡلٓل١َّ٦و ِٱ٤َٱبَِلۡ﴿هِۡ� ُم ِرٱإِ َۡسَّنَ�ي�َّخ ِِ َ ِر��ضبَٱ ََۡۡ�خَ�َ ۡ�ۡلع ۡ ِحَٱدقلرِٱََّمسلبِ ۡوََممَّتِساآ َهَِءايَ�ٰنَ َ�وََٰوٱف َ�ۡ ُِعتَ� َّ�ٱثَوِٱ�َّ�ِۡاضي َ�َ َه�اس�ِ َ َ�ِمٰوض َم ٖنآَتوٱأَُ ّلِنَِّۡخ�َقزتَِۡو َلدَ�ٰاٖ�ٓٱبَّ ِ َ�ةٖ َّفۡعُ�َوٱقِتََّلُِم ۡ�ۡوَنِلَِ�نٱ�ل ความวา “แทจริงในการสรางบรรดาช้ันฟาและแผนดิน และ สับเปลี่ยนกลางคืนและกลางวัน และเรือที่ว่ิงอยูในทะเลพรอม ดวยสิ่งท่ีอํานวยประโยชนแกมนุษย และน้ําท่ีอัลลอฮฺไดทรงให หลั่งลงมาจากฟากฟา แลวทรงใหแผนดินมีชีวิตชีวาข้ึนดวยน้ํา น้ันหลังจากท่ีมันตายไปแลว และไดทรงใหสัตวแตละชนิด แพร สะพัดไปในแผนดิน และในการใหลมเปล่ียนทิศทาง และใหเมฆ ซง่ึ ถกู กําหนดใหบริการ (แกโ ลก) ผันแปรไประหวา งฟากฟา และ แผนดินนั้น แนนอนลวนเปน สญั ญาณนานาประการแกก ลมุ ชนที่ ใชปญ ญา” (สูเราะฮฺอลั -บะเกาะเราะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 164) 247
َٖوِ َ�ُه ۡهَو َت ٱُد َّوِ�اْ ٓبِي َهاَأ� ِ َش�أَ ُظلُُ�َ�ٰم ِ ِّمت ٱنلۡ َ َّ�ِّ� ۡف َوٖٱ ۡسَ� َۡح�ٰرِ�ِح َقَد ۡدة ٱ ُّ� ُجو َم َل ُ� ُم َج َع َل َّ ﴿ َو ُه َو ٱ ِ�ي َف َّص ۡل َنا ٩٧ ٱ� َ�ٰ ِت لِ َق ۡو ٖ� َ� ۡع َل ُمو َن َو ُه َو ٱ َّ ِ� ٓي أَن َز َل٩٨ عۗ َق ۡد َف َّص ۡل َنا ٱ� َ�ٰ ِت لِ َق ۡو ٖ� َ� ۡف َق ُهو َنٞ ر َو ُم ۡس َت ۡو َدّٞ َ� ُم ۡس َت َق َنَاَٰو� َِمج َ�ۡنَّنٰ َُمه ٖرِتهَِخ ّٓۦِم ِ ِۡإنٗ�َذ�أَآ ُّۡ�َ�ۡ�َن ۡ�ارِ َم َُٖجبرُٞنظأَ َُردۡخا ٓوَ�ِراْ َي ۡجِإةَِِٞمموٱۡن َلنُه َّزٱ ۡل� َُتحَّ ّٗبسوا َمَانُّٓمءِ ََوَ�ٱَمالآ ُّكِٗرء ٗبَّما َفاأَ ََون ِۡمخ ََُرمن ۡجۡٱشَناَت�َّبِبِٗۡهخهِا ِۦل َوَ� ِمََبغا ۡن َ�َ َتط ُمۡلُ َتِّعِ� ََهاٰ� َبِقٍِهۡ�ۡن� َوٱٖءان َف [٩٩ ،٩٧ : ﴾ ]اﻻﻧﻌﺎم٩٩ َو َ� ۡنعِهِۚۦٓ إِ َّن ِ� َ�ٰلِ ُ� ۡم � َ�ٰ ٖت ّلِ َق ۡو ٖ� يُ ۡؤ ِم ُنو َن ความวา “และพระองคคือ ผูที่ทรงใหมีแกพวกเจาซึ่งดวงดาว ทั้งหลาย เพื่อพวกเจาจะไดรับการชี้นําดว ยดวงดาวเหลาน้ัน ทั้ง ในความมืดแหงทางบกและทางทะเล แนนอนเราไดแจกแจง โองการท้ังหลายไวแลว สําหรับกลุมชนท่ีรู และพระองคคือ ผูท่ี ทรงใหพ วกเจา เกิดขึน้ จากชวี ิตหนงึ่ โดยใหม ที ี่พัก และใหมีที่ฝาก แนนอนเราไดแจกแจงโองการท้ังหลายไวแลว สําหรับกลุมชนที่ เขาใจ และพระองคน้ันคือ ผูที่ทรงใหนํ้าลงมาจากฟากฟา แลว ทรงใหออกมาดวยนํ้าน้ัน ซ่ึงพันธุพืชของทุกสิ่งและเราไดใหอ อก จากพันธุพืชนั้น ซึ่งส่ิงที่มีสีเขียว จากสิ่งที่มีสีเขียวน้ันเราไดให ออกมาซง่ึ เมลด็ ท่ซี อนตวั กันอยู และจากตนอินทผลมั นั้น จนั่ ของ มันเปนหลายต่ํา (และทรงใหออกมาดวยนํ้านั้นอีก) ซ่ึงสวนองุน และซัยตูน และทับทิม โดยมีสภาพคลายกัน และไมคลายกัน พวกเจาจงมองดูผลของมันเม่ือมันเร่ิมออกผล และเม่ือมันแกส ุก 248
แทจริงในสิ่งเหลาน้ันแนนอน มีสัญญาณมากมาย สําหรับหมูชน ผูศ รทั ธา” (สเู ราะฮฺอลั -อนั อาม อายะฮฺท่ี 97-99) ُلٱ ّلِِ ۡلِ�� َّن َباا ُ ِس ِلُب �سَ ُ�لإُِي ََّورن ٗتّ�ِا ِ ِ�َوك ِم َ�ُٰذَلِنلُ ٗٱَلك�ۚ َّشَ�ۡ� َيَجُرٗةرِ ُجّلَِو َق ِمِمۡو َّم ٖۢا�نٞإِ ُُّ َِ ۡ���َتٱلِ ِمٌ�َّنفۡح َُ�ِلّۡلِ�َأَ�ٰنُٱِن ُه َّ�ٱۥ ََّم�َِِ��ٰيِذ ِهِتي ِشَف ِمَٱفآَۡنسء ﴿ َوأَ ۡو َ ٰ� َر ُّ� َك ُ� َّم٦٨ َ� ۡعرِ ُشو َن بٞ ُ� ُطونِ َها َ َ�ا [٦٩ ،٦٨ : ﴾ ]اﻟﻨﺤﻞ٦٩ َ� َت َف َّك ُرو َن ความวา “และพระเจาของเจาทรงดลใจแกผ้ึงวาจงทํารังตาม ภูเขาและตามตนไม และตามท่ีพวกเขาทํารานขึ้น แลวเจา (ผึ้ง) จงกินจากผลไมท้ังหลาย แลวจงดําเนินตามทางของพระเจา ของ เจา โดยสะดวกสบาย มีเครื่องดื่มท่ีมีสีสันตางๆ ออกมาจากทอง ของมัน ในน้ันมีสิ่งบําบัดแกปวงมนุษยแทจริงในการนั้น แนนอน ยอมเปนสัญญาณแกกลุมชนผูตรึกตรอง” (สูเราะฮฺอัน-นะหฺล อา ยะฮทฺ ี่ 68-69) และยังรวมถึงอายะฮฺตางๆ ท่ีกลาวถึงความเดชานุภาพ ของอัลลอฮฺ ที่เรียกรองไปสูการครุนคิดและพินิจพิจารณาในเนอ้ื หา ของมนั พึงรูเถิดวา อิบาดะฮฺขางตนน้ีเปนแนวทางหลักท่ีจะ เสริมสรางความเชื่อมั่น (ยะกีน) ตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ สวน การพินิจใครครวญน้ันจะทําใหสติปญญารับรูไดทันทีวามีพระผู 249
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301