Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความสุขของการทำอิบาดะฮ

ความสุขของการทำอิบาดะฮ

Published by Ismail Rao, 2020-06-26 07:36:11

Description: ความสุขกับการทำอิบาดะฮฺ์ และการเตรียมตัวสู่เดือนเราะมะฎอน
โดย อบูมุฮัมมัด อัลมุอฺตัซซุบิลลาฮฺ
ริฎอ บินอะหฺมัด สมะดี
คำนิยมโดย ชัยคฺอบูอิสหาก อัลหุวัยนี
ชัยคฺมุฮัมมัด หุสัยน์ ยะอฺกูบ
แปลโดย อบูอิบานะฮฺ ฟิตยะตุลฮัก

Search

Read the Text Version

เสมอื นท่ีบา วคนหนึง่ กาํ ลงั อา นสาสนของเจา นายทีเ่ ขยี นถึงเขา ทง้ั น้ี เพื่อใหเ ขาไดค รนุ คิดในเนอื้ หาและปฏบิ ตั ติ ามเจตนารมณของมนั ดวยเหตุนี้นักวิชาการบางทานจึงกลาววา “อัลกุรอานเลม น้ี เปนสาสนท่ีถูกสงมายังเราจากพระผูอภิบาลของเรา ผูทรง ยิ่งใหญและเกรียงไกร ดวยกับขอผูกมัดที่เราไดใหไววาจะตะดับ บุรฺมันในทุกๆ การละหมาด จะนั่งใชความคิดเพื่อหาสาระจาก ความหมายของมันเม่ืออยูตามลําพัง จะปฏิบัติตามเน้ือหาของ มนั ในทกุ ๆ การฏออะฮฺ และจะเจรญิ รอยตามในทกุ ๆ คาํ แนะนํา” ทานมาลิก บินดีนาร ไดกลาววา “อัลกุรอานไมไดปลูกสิ่ง ใดในหัวใจของพวกทานหรอื โอช าวอลั กรุ อานเอย ? แทจ ริงอลั กุ รอานน้นั เปนสงิ่ ท่รี นื่ รมยแกหวั ใจของผศู รทั ธา เฉกเชนที่นํา้ ฝนได ใหความชมุ ช่นื แกพ ้ืนดนิ ” ทานเกาะตาดะฮฺ ไดกลาววา “ไมมีผูใดน่ังอยูรวมกับอัลกุ รอาน เวนแตเขาจะยืนขึ้นดว ยกับสิ่งดๆี ท่ีเพิ่มมาใหม หรือไดรับ ความขาดทุน” ซึ่งอลั ลอฮฺ ไดด ํารัสในเรื่องน้ีวา َّ �َ ‫ٱل َّٰظلِ ِم‬ َ �َ ِ‫ِّل ۡل ُم ۡؤ ِمن‬ ٞ‫َو َر ۡ َ�ة‬ ‫ء‬ٞ ٓ‫ِش َفا‬ ﴾ ٨٢ �‫َخ َسا ٗر‬ �‫ِإ‬ ‫َيزِ� ُد‬ � ‫َو‬ ‫ُه َو‬ ﴿ [٨٢ :‫]اﻻﺳﺮاء‬ 200

ความวา “ซ่ึงเปนการบําบัดและความเมตตาแกบรรดาผูศรัทธา และมันมิไดเพ่ิมอันใดแกพวกอธรรม นอกจากการขาดทุน เทาน้ัน” (สเู ราะฮฺอัล-อิสรออ อายะฮทฺ ่ี 82) 8. หวั ใจตอ งมีปฏิกริ ยิ าตามเนือ้ หาของอัลกุรอาน กลาวคือ หัวใจตองมีปฏิกิริยาตามความหลากหลายของ ความหมายอัลกุรอาน โดยใหมันเปนไปตามความเขาใจในแตละ เน้ือหา และใหหัวใจไดแสดงปฏิกิริยาตามเน้ือหาน้ัน เชนโศกเศรา หวั่นเกรง มคี วามหวัง เปน ตน และเทาทม่ี คี วามเขาใจในความหมาย ของมันสมบูรณมากเพียงใด ก็จะทําใหเกิดความยําเกรงในหัวใจ มากเทานั้น ซึ่งโดยสวนใหญของอายะฮฺอัลกุรอานที่มีอยูน้ันจะมี เงอ่ื นไขจาํ กดั รวมอยดู วย ทา นจงึ ไมพบเนื้อหาท่ีกลา วถงึ การใหอภัย และความเมตตา นอกจากมันจะควบคูดวยกับเง่ือนไขตางๆ ที่ จําตองปฏบิ ตั มิ ันใหได เชนอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดด ํารัสวา [٨٢ :‫ ﴾ ]ﻃﻪ‬٨٢ ‫ر‬ٞ ‫﴿ � ِّ� لَ َغ َّفا‬ ความวา “และแทจ รงิ ขา เปน ผอู ภัยอยางมากหลาย” (สเู ราะฮฏฺ อ ฮา อายะฮทฺ ่ี 82) หลังจากน้ันก็มสี เ่ี ง่ือนไขติดตามมา นัน่ คอื [٨٢ :‫ ﴾ ]ﻃﻪ‬٨٢ ‫﴿ لِّ َمن تَا َب َو َءا َم َن َو َع ِم َل َ�ٰلِ ٗحا ُ� َّم ٱ ۡه َت َد ٰى‬ 201

ความวา “แกผลู แุ กโ ทษ และศรัทธา และประกอบความดแี ลว ยึด ม่ันอยใู นแนวทางท่ีถกู ตอ ง” (สูเราะฮฏฺ อฮา อายะฮฺที่ 82) และคาํ ดํารัสของอลั ลอฮฺ ตะอาลา ทวี่ า ْ‫َو َع ِم ُلوا‬ ْ‫َءا َم ُنوا‬ ‫ٱ َّ ِ�ي َن‬ َّ �ٍ ۡ ‫َل ِ� ُخ‬ ‫ٱ ۡ ِ�� َ ٰ� َن‬ ‫ ۡ َ�إِ َِّّقن‬١ ‫َو﴿تَ َو َاوٱ َۡلص َع ۡواْۡ بِ ِ�ٱ‬ ‫ٱل َّ ٰصلِ َ�ٰ ِت‬ [٣ ،١ �ِ‫إ‬ ٢ ٣ ِ�ۡ ‫بِٱل َّص‬ ْ‫َوتَ َوا َص ۡوا‬ :‫﴾[اﻟﻌﺼﺮ‬ ความวา “ขอสาบานดวยกาลเวลา แทจริง มนุษยนั้นอยูในการ ขาดทุน นอกจากบรรดาผูศรัทธา และกระทําความดีท้ังหลาย และตักเตือนกันและกันในส่ิงที่เปนสัจธรรม และตักเตือนกนั และ กันใหม ีความอดทน” (สเู ราะฮอฺ ลั -อัศรฺ อายะฮฺท่ี 1-3) โดยไดระบเุ งอ่ื นไขทัง้ หมด 4 ประการดว ยกนั ซึ่งจาํ เปนตอ ง ปฏบิ ัติตามเงื่อนไขน้ใี หไดท ัง้ หมด อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารัสอีกวา [٥٦ :‫ ﴾ ]اﻻﻋﺮاف‬٥٦ �َ ِ‫ب ِّم َن ٱلۡ ُم ۡح ِسن‬ٞ �ِ‫﴿ إِ َّن َر ۡ َ� َت ٱ َّ�ِ قَر‬ ความวา “แทจริงความเอ็นดูเมตตาของอัลลอฮฺน้ันใกลแก ผูกระทาํ ดที งั้ หลาย” (สเู ราะฮฺอลั -อะอรฺ อฟ อายะฮทฺ ่ี 56) 202

จะเห็นไดวาอัล-อิหสฺ าน (คุณธรรมความดีขั้นสูงสุด) น้ันจะ รวบรวมทกุ สง่ิ ทุกอยาง ซ่ึงผูใดท่ีพลิกอานอัลกุรอานตั้งแตหนาแรกจนถึงหนา สุดทาย ก็จะเห็นเชนขา งตน นี้ และผูใดท่ีเขาใจมันกเ็ หมาะสมแลว ท่ี เขาจะมคี วามเกรงกลัวและโศกเศรา ดวยเหตุน้ี ทานอัล-หะสัน จึงกลาววา “ขอสาบาน ตออัลลอฮฺ ไมมีวันใดท่ีบาวคนหนึ่งไดอานอัลกุรอานดวยความ ศรัทธาตอมัน นอกจากมันจะเพิ่มความโศกเศราแกเขา ความสขุ สบายใจจะลดนอยลง จะรองไหมากข้ึน หัวเราะนอยลง เหน็ด เหนื่อยมากขึ้น ยุงเหยิงมากขึ้น พักผอนไดนอยลง และความ เกียจครา นก็จะลดนอยลงไปดว ย” ทานวุฮัยบฺ บินอัล-วัรดิ ไดกลาววา “ฉันไดน่ังใชความคิด ไปยังบรรดาหะดษี และขอตกั เตือน (เมาอเิ ซาะฮฺ) ตา งๆ ซึง่ ฉนั ยัง ไมพบวาจะมีสิ่งใดท่ีจะทําใหหัวใจมีความออนโยนและสามารถ ดึงความรูสึกของความโศกเศรา ไดมากยิ่งกวาการอานอัลกรุ อาน การทาํ ความเขาใจ และการตะดับบรุ ฺในความหมายของมนั ” ดังนั้นบาวคนหน่ึงจะมีปฏิกิริยาดวยการอานอัลกุรอาน ซึ่ง เขาตอ งมคี วามอดทนอยูร วมกบั เน้อื หาของอายะฮฺท่กี ําลังอา นอยู และเม่ือมีการกลาวถึงสัญญาแหงการลงโทษและการวาง กรอบของการใหอ ภยั โทษดวยการมเี ง่ือนไขเขา มา เขากจ็ ะลดตัวลง ตํา่ ลงเนอื่ งจากความเกรงกลวั ตอ พระองค ประหนงึ่ วาความตายใกล 203

มาเยือนเขา แตเมื่อมีการกลาวถึงความโปรดปรานตางๆ ที่มีอยู อยางมากมาย และคํามั่นสัญญาที่จะไดรับการอภัยโทษ เขาก็จะมี ความปลม้ื ปตปิ ระหน่งึ วา กําลังโบยบินดวยความผาสุก และเมอ่ื มีการกลา วถงึ คณุ ลักษณะและพระนามของอัลลอฮฺ เขาก็จะนอบนอมยอมจํานน เน่ืองดวยความเกรียงไกร และ ความรสู ึกถงึ ความยงิ่ ใหญของพระองค และเมื่อมีการกลาวถึงสิ่งท่ีบรรดาผูปฏิเสธศรัทธาได กลาวถึงอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ในสิ่งท่ีไมคูควรกับพระองค เชน พวกเขากลาววาสาํ หรับอัลลอฮนฺ ้นั ทรงมีบตุ รและมภี าคี เขาก็จะลด เสียงลงและจะมีความรูสึกละอายใจเน่ืองดวยความต่าํ ทรามของคํา กลา วนัน้ และเม่ือมีการกลาวถึงสวนสวรรค จิตใจของเขาก็จะมี ความรสู กึ คนงึ ถงึ และปรารถนาตอ มนั และเม่ือมีการกลาวถึงนรก เขาก็จะหวาดกลัวจนตัวส่ัน ซ่ึง ในครง้ั ที่ทา นเราะสูลลุ ลอฮฺ ศอ็ ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสลั ลมั ไดก ลา วแก ทา นอบิ นมุ สั อดู เมื่อทานอา นอายะฮฺน้ใี หท า นเราะสลู ุลลอฮฺฟง ٤١ ‫﴿ َف َك ۡي َف إِ َذا ِج ۡئ َنا ِمن ُ ِّ� أُ َّمةِۢ � ِ َش ِهي ٖد َو ِج ۡئ َنا بِ َك َ َ ٰ� َٰٓه ُؤ َ ٓ� ِء َش ِهي ٗدا‬ [٤١ : ‫﴾ ]اﻟنﺴﺎء‬ 204

ความวา “แลวอยางไรเลา เม่ือเรานําพยานคนหน่ึงจากแตละ ประชาชาติมา และเราไดนําเจามาเปนพยานตอชนเหลาน้ี” (สู เราะฮฺอัน-นิสาอ อายะฮฺท่ี 41) ทานอิบนุมัสอูดไดเลาวา “ฉันไดเห็นดวงตาทั้งสองของ ทานนบีเออลน ดว ยกบั นํ้าตา” แลวทานนบีกก็ ลาวแกฉ ันวา “หยุด อานไดแลว ” (บนั ทกึ โดยอลั -บุคอรี) ดังกลาวน้ีเองเปนผลมาจากการไดประจักษเห็นถึงสภาพ บางอยา งทที่ าํ ใหห วั ใจจมด่งิ ไปทั้งหมด และมีรายงานวาบางคนมีความเกรงกลัวจนกระทั่งไดสลบ ลมลงเมื่อเขาไดอานอายะฮฺที่กลาวถึงสัญญาแหงการลงโทษ สวน บางคนถึงกบั เสียชวี ติ ไปขณะทฟ่ี ง บางอายะฮฺของอัลกุรอาน สภาพดังขางตน น้ีเองทท่ี ําใหหลุดพนจากการทําใหค ําดาํ รัส ของพระองคประหนึ่งเปนนิยายปรัมปรา ดังนั้นเม่ือเขาไดอานอา ยะฮฺ [١٥ :‫ ﴾ ]اﻻﻧﻌﺎم‬١٥ �ٖ ‫﴿ إِ ِّ ٓ� أَ َخا ُف إِ ۡن َع َص ۡي ُت َر ِّ� َع َذا َب يَ ۡو ٍ� َع ِظي‬ ความวา “แทจริงฉันกลัวการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ หากฉันฝา ฝนพระเจาของฉัน” (สเู ราะฮอฺ ัล-อนั อาม อายะฮทฺ ี่ 15) 205

ซึ่งหากเขาไมรูสึกถึงความหวาดกลัว ก็ประหน่ึงกําลังอาน นิยายปรมั ปราอยู และเมื่ออานอายะฮฺ [٤ : ‫ ﴾ ]اﻟﻤﻤﺘﺤﻨﺔ‬٤ �ُ ‫﴿ َع َل ۡي َك تَ َو َّ�ۡ َنا � َ ۡ� َك َ�نَ ۡب َنا � َ ۡ� َك ٱلۡ َم ِص‬ ความวา “แดพระองคท า นเราขอมอบหมาย และยงั พระองคทาน เทาน้ันเราขอลุแกโทษ และยังพระองคทานเทาน้ันคือการ กลบั ไป” (สเู ราะฮอฺ ัล-มุมตะหนิ ะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 4) ซ่ึงหากเขายังไมม กี ารมอบหมายและสํานึกผิดตอ อัลลอฮฺ ก็ ประหนงึ่ วา เขากาํ ลังอานนยิ ายปรมั ปราอยู และเมอ่ื อานอายะฮฺ [١٢ :‫ ﴾ ]اﺑﺮاﻫﻴﻢ‬١٢ ۚ‫﴿ َو َ�َ ۡص ِ َ� َّن َ َ ٰ� َمآ َءا َذ ۡ� ُت ُمونَا‬ ความวา “และเราจะอดทนตอการท่ีพวกทานทํารายเรา” (สู เราะฮอฺ บิ รอฮีม อายะฮฺที่ 12) ก็ใหเขามีความอดทนและมีความตั้งใจมุงม่ันตอส่ิงนั้น กระทั่งไดลิ้มรสความหอมหวานของการอานอัลกุรอาน ซึ่งหากไมมี ปฏิกิริยาใดๆ เกิดข้ึนกับตัวเขา และหัวใจของเขาไมมีความรูสึก อะไรเลย ก็แนนอนวาส่ิงท่ีเขาไดรับจากการอานน้ันคือเพียงการ 206

ขยับล้ินพรอ มกบั ไดร ับการสาปแชง ตามคําดํารสั ของอัลลอฮฺ ตะอา ลา ทวี่ า [١٨ :‫ ﴾ ]ﻫﻮد‬١٨ �َ ‫﴿ َ� َ� َل ۡع َن ُة ٱ َّ�ِ َ َ� ٱل َّٰظلِ ِم‬ ความวา “พึงรูเถิด! การสาปแชงของอัลลอฮฺจะไดแกบรรดาผู อธรรม” (สูเราะฮฺฮูด อายะฮฺท่ี 18) และคําดาํ รสั ของอัลลอฮฺ ตะอาลา ท่ีวา ‫َ� ۡف َعلُو َن‬ َ ْ ‫َ� ُقولُوا‬ َ ‫َم ۡق ًتا‬ �َ ُ ‫َك‬ [٣ :‫]الﺼﻒ‬ ﴾ ٣ � ‫َما‬ ‫أن‬ ِ�َّ ‫ٱ‬ ‫ِعن َد‬ ﴿ ความวา “เปนที่นาเกลียดยิ่งที่อัลลอฮฺ การที่พวกเจาพูดในส่ิงที่ พวกเจา ไมป ฏิบัติ” (สเู ราะฮอฺ ัศ-ศอ็ ฟ อายะฮทฺ ่ี 3) และคําดํารัสของอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ทว่ี า [١ :‫ ﴾ ]اﻻﻧبﻴﺎء‬١ ‫﴿ َو ُه ۡم ِ� َ� ۡف َلةٖ ُّم ۡع ِر ُضو َن‬ ความวา “โดยท่ีพวกเขาอยูในสภาพหลงลืมเปนผูผนิ หลังให” (สู เราะฮฺอัล-อัมบยิ าอ อายะฮทฺ ่ี 1) และคาํ ดํารัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ทว่ี า ‫َفأَ ۡعرِ ۡض‬ ‫ٱ ُّ� ۡ� َيا‬ ‫ٱ ۡ َ� َي ٰو َة‬ َّ ‫ُي ِر ۡد‬ ‫َولَ ۡم‬ ‫ِذ ۡك ِر َنا‬ �ٰ َّ ‫َت َو‬ ﴾ ٢٩ �‫ِإ‬ ‫َعن‬ ‫َّمن‬ ‫َعن‬ ﴿ [٢٩ : ‫]اﻟﻨﺠﻢ‬ 207

ความวา “ดังน้ัน เจาจงหลบหลีกใหหางจากผูท่ีผินหลังจากการ รําลึกนึกถึงเรา (อัลลอฮฺ) และเขามิไดปรารถนาอ่ืนใดนอกจาก การมชี ีวติ อยูในโลกน้ีเทา น้ัน” (สูเราะฮฺอนั -นจั มฺ  อายะฮฺท่ี 29) และคําดํารัสของอลั ลอฮฺ ตะอาลา ทวี่ า [١١ :‫ ﴾ ]اﻟﺤﺠﺮات‬١١ ‫﴿ َو َمن لَّ ۡم َ� ُت ۡب فَأُ ْولَٰٓ�ِ َك ُه ُم ٱل َّٰظلِ ُمو َن‬ ความวา “และผูใดไมสํานึกผิด ชนเหลานั้นคือบรรดาผูอธรรม” (สเู ราะฮฺอัล-หุุรอต อายะฮทฺ ่ี 11) และอายะฮอฺ ื่นจากนอ้ี ีกมากมาย แ ล ะ มั น ยั ง ห ม า ย ร ว ม อ ยู ใ น ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง คํ า ดํ า รั ส ของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ท่วี า [٧٨ :‫ ﴾ ]اﻟﺒﻘﺮة‬٧٨ �َّ ِ ‫﴿ َو ِم ۡن ُه ۡم أُ ِّم ُّيو َن َ� َ� ۡع َل ُمو َن ٱ ۡل ِك َ�ٰ َب إِ َّ�ٓ أَ َما‬ ความวา “และในหมูพวกเขาน้ันมีผูอานเขียนไมเปน ไมรูคัมภีร นอกจากจะอาศัยเรื่องไรสาระตางๆ” (สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 78) หมายถึงอา นเพยี งอยา งเดยี ว และอัลลอฮฺ อัซซะวะญลั ละ ไดดาํ รสั วา 208

‫َ� ۡن َها‬ ‫َو ُه ۡم‬ ‫َعلَ ۡي َها‬ ‫َ� ُم ُّرو َن‬ َۡ ‫َوٱ‬ ‫ٱل َّس َ�ٰ َ�ٰ ِت‬ �ِ ‫َءا َي ٖة‬ ‫ِّم ۡن‬ ‫َو َ� َ� ِّين‬ ﴿ ‫�� ِض‬ ΅΅[١٠٥ :‫ ﴾ ]ﻳﻮﺳﻒ‬١٠٥ ‫ُم ۡع ِر ُضو َن‬ ความวา “และกี่มากนอยแลว จากสัญญาณในชั้นฟาทั้งหลาย และแผนดิน ท่ีพวกเขาผานมันไปโดยท่ีพวกเขาผินหลังให” (สู เราะฮยฺ สู ุฟ อายะฮทฺ ี่ 105) เพราะอัลกุรอานคือคําอธิบายของสัญญาณตา งๆ ที่มีอยูใน ชั้นฟาและแผนดิน และถึงแมวาเขาไดอานมันแลว แตมันไมสงผล ใหตัวเขามีปฏิกิริยาใดๆ เลย ก็ถือวาเขาเปนผูผินหลังใหอัลกุรอาน และดวยเหตุนี้เองนักวิชาการบางทานจึงกลาววา “ผูใดที่อานอัลกุ รอาน แตไมมีคุณลักษณะของอัลกุรอานปรากฏอยูในตัวเขา อัลลอฮฺ ตะอาลา จะเรียกเขาแลวกลาววา ทุกสิ่งทุกอยางเปน กรรมสิทธ์ิของขา และคําดํารัสก็เปนของขา แตเจาก็ยังผินหลัง ใหขา เจาเอย ไมตองอานคําดาํ รัสของขาหรอก หากตัวเจายังไม กลบั เนอ้ื กลบั ตวั เขา หาขา ” เปรียบคนท่ีทําความผิดเปนอาจิณ ในขณะที่เขายังคง อานอลั กรุ อานอยูเ รอ่ื ยๆ เปรียบเสมือนคนอา นสาสน จากกษัตรยิ ซํ้า แลวซํ้าเลาในทุกๆ วัน ซ่ึงพระองคทรงเขียนถึงเขาใหดูแลบริหาร จัดการอาณาจักรของพระองค แตเขากลับสาละวนอยูกับการสราง ความเสียหาย ในขณะเดียวกันเขาก็จดจออยูกับการศึกษาสาสน 209

ฉบับน้นั ดังนั้นการทีเ่ ขาละทงิ้ การศึกษาสาสน น้ันในขณะทีก่ ําลังทํา ในส่ิงที่สวนทางกับมัน มันยอมทําใหเขาหางไกลจากการถูกตําหนิ และไดร บั บทลงโทษย่ิงกวา และดวยเหตนุ ้เี องทานยสู ฟุ บนิ อัสบาฏ จึงกลา ววา “ฉนั จะ ตั้งใจอานอัลกุรอานก็ตอเม่ือจิตใจของฉันจดจออยูกับมันเพราะ ฉันหว่ันเกรงวาจะไดรับการลงโทษ แตฉันจะมุงไปตัสบีหฺและอิส ติฆฺฟารแทน (จนกวาจะทําใหจิตใจมีสมาธิ แลวคอยกลับไป อานอลั กรุ อาน)” สวนคนที่ผินหลังจากการปฏิบัติตามอัลกุรอานนั้น เราขอ นาํ เสนอคาํ ดาํ รสั ของอลั ลอฮฺ อัซซะวะญลั ละ ที่วา ١٨٧ ‫﴿ َ� َن َب ُذو ُه َو َرآ َء ُظ ُهو ِر ِه ۡم َوٱ ۡش َ َ� ۡواْ بِهِۦ َ� َم ٗنا َقلِي ٗ�ۖ َفبِ ۡئ َس َما �َ ۡش َ ُ�و َن‬ [١٨٧ :‫﴾ ]ال ﻋﻤﺮان‬ ความวา “แลวพวกเขาก็เหวี่ยงมันไวเ บ้ืองหลังของพวกเขา และ ไดแลกเปล่ยี นมันกบั ราคาอันเลก็ นอย ชางเลวแทๆ สิ่งท่ีพวกเขา แลกเปลย่ี นมา” (สเู ราะฮฺอาล อมิ รอน อายะฮทฺ ่ี 187) และดวยเหตุนี้เอง ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกลาววา ‫ﻓﺈذا اﺧﺘﻠﻔﺘﻢ ﻓﻠﺴﺘﻢ ﺗﻘﺮءوﻧﻪ‬، ‫»اﻗْ َﺮ ُءوا اﻟ ُﻘ ْﺮآ َن َﻣﺎ ا ْ� َﺘﻠَ َﻔ ْﺖ َﻋﻠَﻴْ ِﻪ ُﻗﻠُﻮ ُ� ُ� ْﻢ‬ «‫ َﻓﺈِ َذا ا ْﺧ َﺘﻠَ ْﻔﺘُ ْﻢ َ� ُﻘﻮ ُمﻮا َ�ﻨْ ُﻪ‬-‫و� ﺑﻌﺾ الﺮواﻳﺎت‬- 210

ความวา “พวกทานจงอานอัลกุรอานตามท่ีหัวใจของพวกทาน เห็นพองกัน ซ่ึงเมื่อใดก็ตามที่เกิดขอขัดแยงกันก็ไมถือวาพวก ทานไดอานมัน -บางสายรายงานมีสํานวนวา- ซ่ึงเมื่อใดก็ตามท่ี เกิดขอขดั แยง ก็ใหหยุดอา นมัน” (บนั ทึกโดยอัล-บคุ อรีและมุสลิม) อลั ลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารสั วา ‫﴿ ٱ َّ ِ�ي َن إِ َذا ُذ ِك َر ٱ َّ ُ� َو ِج َل ۡت ُقلُو ُ� ُه ۡم � َذا تُلِ َي ۡت َعلَ ۡي ِه ۡم َءا َ�ٰ ُت ُهۥ َزا َد ۡ� ُه ۡم‬ [٢ :‫ ﴾ ]اﻻﻧﻔﺎل‬٢ ‫إِي َ�ٰ ٗنا َو َ َ ٰ� َر ّ�ِ ِه ۡم َ� َت َو َّ�ُو َن‬ ความวา “คือ ผูท่ีเมื่ออัลลอฮฺถกู กลาวขนึ้ แลว หัวใจของพวกเขา ก็หว่ันเกรง และเม่ือบรรดาโองการของพระองคถูกอานแกพวก เขา โองการเหลาน้ันก็เพ่ิมพูนความศรัทธาแกพวกเขา และแด พระเจาของพวกเขาน้ันพวกเขามอบหมายกัน” (สูเราะฮฺอัล- อันฟาล อายะฮฺท่ี 2) �َ َّ ‫�ْ َﺸﻰ ا‬แَ ล‫ ُﻪ‬ะَّ‫أَﻧ‬ท‫ﺖ‬าَ นْ‫أَﻳ‬น‫ َر‬บ‫ﺗَี ُﻪ‬ศ‫็ا َء‬อ‫ َﺮ‬ล‫ ِﻗ‬ล‫ َﺖ‬ลั ‫ْﻌ‬ล‫ِﻤ‬อ‫ َﺳ‬ฮอุ‫ َذا‬ะِ‫إ‬ล‫ ِن‬ยั ‫ﺮآ‬ฮْ ‫ُﻘ‬วิ ْ‫ﻟ‬ะ‫ﺑِﺎ‬ส‫ัﺎ‬ลً‫ْﻮﺗ‬ล‫ﺻ‬มัَ ‫س‬ไดِ ก‫ َّﻨﺎ‬ล‫اﻟ‬า ‫ﻦ‬วُ ว‫ َﺴ‬า ‫»إِ َّن أَ ْﺣ‬ «‫َﻋ َّﺰ َو َﺟ َّﻞ‬ ความวา “ผูท่ีอานอัลกุรอานไพเราะที่สุดคือผูท่ีเม่ือทานฟงการ อานของเขา ทานจะเห็นวาเขามีความยําเกรงตออัลลอฮฺ อัซซะ วะญัลละ” (บนั ทกึ โดยอัฏ-เฏาะบะรอนี ในอลั -มุอญฺ มั อลั -เอาสฎั ) 211

กุรรออ (ผูเช่ียวชาญดา นอัลกรุ อาน) บางทา นไดเ ลา วา “ฉนั เคยอานอัลกุรอานตอหนาอาจารยของฉัน ตอมาฉันกลับมาอีก คร้ังเพ่ือจะอานมันเปนครงั้ ท่ีสอง แตแลวอาจารยทานนั้นก็ปราม ฉัน และกลาววา ทานไดทําใหอัลกุรอานเปนเพียงกิจวัตร ประจําวันของฉันกระนั้นหรอื จงไปเถิดแลวใหอา นตอหนาอลั ลอ ฮฺ อซั ซะวะญลั ละ แลวใหพ ินิจใครครวญวามีสง่ิ ใดบา งท่ีพระองค ทรงสั่งใชท านและมสี ง่ิ ใดบางท่พี ระองคทรงหา มทา น” และน่ีคือสภาพและการปฏิบัติท่ีบรรดาเศาะหาบะฮฺได สาละวนอยูกับมัน ซึ่งหลังจากที่ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะ ลัยฮิวะสัลลัม ไดเสียชีวิตไปน้ัน ในจํานวนเศาะหาบะฮฺท่ีมีอยู ประมาณแสนกวาคนไมม ีผูใดที่ทองจําอัลกรุ อานท้ังเลมไดนอกจาก หกทานเทานั้น ซึ่งสองคนในจํานวนน้ันก็ยังเปนประเด็นท่ีเห็น ตางกันอยูในหมูนักวิชาการ แตพวกเขาสวนใหญจะทองแคสูเราะฮฺ หรือสองสูเราะฮฺเทานั้น ซึ่งคนที่สามารถทองสูเราะฮฺอัล-บะเกาะ เราะฮฺและอัล-อันอามไดถือวาเปนอุละมาอ (ผูรู) ของพวกเขาแลว และเมื่อมีผูใดตองการมาเรียนรูอัลกุรอานกับทานนบี ซ่ึงพอเขา เรียนรถู งึ คาํ ดํารัสของอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ท่วี า ٨ ‫ َو َمن َ� ۡع َم ۡل ِم ۡث َقا َل َذ َّر�ٖ َ ّٗ�� يَ َر ُهۥ‬٧ ‫﴿ َ� َمن َ� ۡع َم ۡل ِم ۡث َقا َل َذ َّر ٍ� َخ ۡ ٗ�� يَ َر ُهۥ‬ [٨ ،٧ :‫﴾ ]الﺰلﺰﻟﺔ‬ 212

ความวา “ดังนั้นผูใดกระทําความดีหนักเทาละอองธุลี เขาก็จะ เห็นมัน สวนผูใดกระทําความชั่วหนักเทาละอองธุลี เขาก็จะเห็น มัน” (สเู ราะฮอฺ ัซ-ซลั ซะละฮฺ อายะฮฺที่ 7-8) เขาก็จะกลาววา “แคน้ีก็เพียงพอแลวสําหรับฉัน” แลว เขาก็ไดจากไป ซึ่งทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ได กลาวถึงเขาวา “ชายคนนี้ไดจากไปโดยที่เขาเปนผูรู” (บันทึก โดยอบดู าวดุ และอลั -หากมิ ) แทจรงิ น่ีเปนสภาพท่ยี อดเยีย่ มทส่ี ดุ ซงึ่ อลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดโปรดปรานดวยมันแกหัวใจของผูศรัทธาพรอมกับการได เขาใจในความหมายของมนั ดวย ซ่ึงการอานดวยการขยับล้ินเพียงอยางเดียวนั้นถือวามี ประโยชนนอยมากๆ ใชแตเทาน้ันการอานดวยการขยับล้ินใน ขณะท่ีไมปฏิบัติตามเน้อื หาของมัน สมควรแลวที่เขาจะอยูในนัยคํา ดํารัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ทวี่ า ΅ ِ‫[ِذ ۡكرِي َفإِ َّن َ ُ�ۥ َم ِعي َش ٗة َضن ٗ� َو َ ۡ� ُ ُ� ُهۥ يَ ۡو َم ٱ ۡلقِ َ�ٰ َمة‬١٢‫ن‬٤‫ َع‬:‫أَ ۡع﴾ َر] َﻃضﻪ‬١٢‫ن‬٤ۡ �‫أَ﴿ۡ� ََو َٰم‬ ความวา “และผใู ดผินหลงั จากการรําลึกถึงขา แทจริงสาํ หรับเขา คือ การมีชีวิตอยอู ยางคับแคนและเราจะใหเขาฟนคืนชพี ในวันกิ ยามะฮใ นสภาพของคนตาบอด” (สเู ราะฮฺฏอฮา อายะฮทฺ ี่ 124) 213

และคําดาํ รัสของอลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ท่ีวา [١٢٦ :‫ ﴾ ]ﻃﻪ‬١٢٦ �ٰ َ ‫﴿ َك َ�ٰلِ َك َ� َ� ۡت َك َءا َ�ٰ ُت َنا فَ َن ِسي َت َهاۖ َو َ� َ�ٰلِ َك ٱ ۡ�َ ۡو َم تُن‬ ความวา “เชนนั้นแหละ เมื่อโองการท้ังหลายของเราไดมีมายัง เจา เจาก็ทําเปนลืมมัน และในทํานองเดียวกัน วันนี้เจาก็จะถูก ลมื ” (สเู ราะฮฺฏอฮา อายะฮฺที่ 126) คือการละท้ิงมัน ไมพินิจใครครวญตอมัน และไมเอาใจใส ตอมัน ซ่ึงคนที่บกพรองในการทําสิ่งหนง่ึ สิ่งใดน้ัน เขาจะถูกเรียกวา เปน คนที่ทาํ เปน ลมื นัน้ เอง สําหรับการอานอัลกุรอานอยางแทจริงน้ัน คือการรวม ระหวางลิ้น สติปญญา และหัวใจเขาดวยกัน ซ่ึงหนาท่ีของลิ้นคือ การออกเสียงอักขระใหถูกตองชัดถอยชัดคํา สวนหนาท่ีของ สติปญญาคือการทําความเขาใจในความหมายของมัน และหนาท่ี ของหัวใจคือการรับขอตักเตือนและซึมซับในเนื้อหาดวยความเช่ือ ฟงและต้ังใจปฏิบัติตาม ดังนั้นลิ้นคือกระบอกเสียง สติปญญาคือ แหลงครนุ คดิ สว นหวั ใจคอื คอยรบั ขอตักเตอื น 9. การตะร็อกฺกี 214

หมายถึง การขึ้นขั้นความรูสึกเสมือนวากําลังฟงคําดํารัส จากพระองคอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ โดยตรง โดยไมใชมาจากตัว ของเขา ซึง่ การอา นอัลกุรอานนัน้ แบง ออกเปน สามระดับ ดังนี้ ระดับตํ่าสุดคือ การที่บาวไดตระหนักประหน่ึงวาเขากาํ ลัง อานอัลกุรอานเบ้ืองหนาอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ซึ่งพระองคกําลัง มองมายังเขา และไดยินในส่ิงท่ีเขาไดอาน ซ่ึงในสภาพเชนนี้เองที่ เขาไดวิงวอน คะย้ันคะยอ นอบนอมถอมตน และออนวอนตอ พระองค ระดับท่ีสองคือ การที่หัวใจมีความรูสึกประหน่ึงวาอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ มองมายังเขา และสนทนากับเขาดวยกับความ กรุณาธิคุณของพระองค และการท่ีเขาไดวอนขอตอพระองคใน ความโปรดปรานและความดีงามตางๆ ของพระองค ซึ่งมันเปน สถานะที่เต็มไปดวยความละอายใจ รูถึงความย่ิงใหญ รูสึกซาบซึ้ง และมีความเขา ใจ สวนระดับท่ีสามคือ การท่ีเขามองไปยังคําดํารัสของผูท่ี ดํารัส (น่ันคืออัลลอฮฺ) และเน้ือหาที่กลาวถึงคณุ ลักษณะตางๆ ของ พระองค โดยไมมองไปยังตัวของเขา การอานของเขา และความ โปรดปรานตา งๆ ท่ีเขาไดรับ ทัง้ ๆ ท่ีพระองคเ ปนผปู ระทานให ทวา เขาจะมุงความตั้งใจไปยังผูท่ีดํารัส โดยจะใชความคิดใครครวญใน เนื้อหาเหลาน้ัน ประหน่ึงวาเขาไดจดจออยูกับการมองไปยังผูที่ ดํารัสเพียงเทานั้น ซ่ึงน่ีคือระดับของอัล-มุก็อรเราะบูน (บรรดาผู 215

ใกลชดิ กับอลั ลอฮ)ฺ สวนสองระดับกอนหนา นี้คือระดบั ของอศั หาบลุ ยะมีน (บรรดาผทู ี่ไดร บั บนั ทกึ การงานดวยมอื ขวา) และถาอืน่ จากน้ี แลวกจ็ ะเปนระดับของอัล-ฆอฟล นี (บรรดาผูที่หลงลมื ) 10. การตะบัรรฺ ี หมายถึง การปฏิเสธในพลังและความสามารถของตน และ การไมมองตวั เองดวยความรสู ึกท่ีภมู ใิ จและเขาขางตวั เอง กลา วคือ เม่ืออานอายะฮฺท่ีกลาวถึงสัญญาการตอบแทนที่ดีและการชื่นชม บรรดาคนดีก็จะไมทึกทักวาอัลลอฮฺกําลังกลาวถึงตัวเขาอยู แตให เช่ือม่ันวาอัลลอฮฺกําลังกลาวถึงบรรดาผูท่ีมีความจริงใจและเชื่อมั่น ตอศาสนา อยางไรก็ตามใหมีความหวังวาอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จะใหตัวของเขาเปนหน่ึงในคนกลุมนั้น และเม่ืออานอายะฮฺที่ กลาวถึงบทลงโทษและการตาํ หนผิ ูที่ฝาฝนและผูท บี่ กพรองในหนา ที่ ก็ใหทึกทักดว ยวาตวั เขาอาจเกย่ี วของโดยตรงกับคนเชนนนั้ และให ตระหนกั วา ตัวเขานัน้ แหละที่กําลงั ถูกกลา วถึงอยู ซงึ่ เขาตองมคี วาม หวาดกลวั และวติ กกังวล ดวยเหตุนเี้ อง ทานอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา จึงขอดุ อาอว า ‫ا� إ� اﺳﺘﻐﻔﺮك ﻟﻈﻠ� و�ﻔﺮي‬ 216

ความวา “โออัลลอฮฺ ฉันขออภัยโทษตอพระองคเนื่องดวยความ อธรรมและการเนรคณุ ท่ฉี นั ไดกอ” จึงมีคนถามทานอิบนุอุมัรวา “ความอธรรมนั้นเราเขาใจ แตการเนรคุณน้ันมันยังไงกันครับ” ทานอิบนุอุมัรจึงอานคําดํารสั ของอลั ลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ทีว่ า [٣٤ :‫ ﴾ ]اﺑﺮاﻫﻴﻢ‬٣٤ ٞ‫م َك َّفار‬ٞ ‫﴿ إِ َّن ٱ ۡ ِ�� َ ٰ� َن َل َظ ُلو‬ ความวา “แทจริงมนุษยน้ันอธรรมยิ่ง เนรคุณย่ิง” (สูเราะฮฺอิบรอ ฮมี อายะฮฺที่ 34) และมคี นถามทานยสู ุฟ บินอัสบาฏวา “เมื่อทา นอัลกุรอาน เสร็จ ทานไดขอดุอาออะไร ?” เขาตอบวา “ฉันจะกลาวขออภัย โทษตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จากความบกพรองของฉันเจ็ด สิบครงั้ ” ดังน้ัน เมื่อใดก็ตามท่ีเขามองวาตัวเองมีความบกพรองตาม เนื้อหาท่ีไดอาน ซ่ึงเปนการมองที่เกิดจากความบกพรองน้ันอยูใกล ตัวเขาจริงๆ ทําใหคนที่ตระหนักเห็นถึงความบกพรองนั้นจะรูสึก หวาดกลัว จนนําไปสูการตระหนักเห็นถึงความบกพรองมาก ย่ิงขึ้นไปอีก แตคนท่ีตระหนกั เห็นถึงความบกพรองน้นั หางไกลจาก ตัวเขา มันกจ็ ะหลอกใหเ ขารสู กึ รอดพนจนทาํ ใหเ ขายง่ิ ตระหนกั เหน็ มันไดหา งไกลจากเขาย่ิงขนึ้ ไปอีก 217

กระน้ันก็ตาม การมองตัวเองดว ยสายตาท่ีภาคภูมิใจน้นั จะ ทาํ ใหต ัวเขาถกู ปด ก้ันจากอลั ลอฮฺ ซึ่งอิมามอชั -ชาฟอีไดก ลาววา ฉันรกั บรรดาคนดถี งึ แมฉ นั ไมไดเ ปนหนงึ่ ในพวกเขา แตฉ ันหวงั ที่จะไดร บั ชะฟาอะฮฺจากพวกเขา และฉันเกลยี ดผูท ม่ี ีชีวติ อยกู บั การทาํ ความผดิ ถึงแมร ะหวา งเราอาจมีความผดิ ท่ีเหมือนกนั ทา นอิมามอชั -ชาฟอ ี เราะหมิ ะฮลุ ลอฮฺ ไดก ลา วอกี วา สายตาท่ีพึงพอใจยอ มมองขา มขอตาํ หนิทมี่ อี ยู เฉกเชนสายตาทอี่ าฆาตแคน ยอ มไมเห็นความดีใดหลงเหลืออยู 218

เทคนิคการขอดุอาอใ หม ปี ระสิทธภิ าพ 1. ขอดอุ าอในชว งเวลาท่ีประเสริฐ เชนในวันอะเราะฟะฮฺ , ในเดือนเราะมะฎอน , ในวันศุกร, และในชวงสะหรู เปน ตน อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด าํ รสั วา [١٨ :‫ ﴾ ]اﻟﺬار�ﺎت‬١٨ ‫﴿ َو�ِٱ ۡ َ� ۡس َحارِ ُه ۡم � َ ۡس َت ۡغفِ ُرو َن‬ ความวา “และในยามรุงสางพวกเขาขออภัยโทษ (ตอพระองค)” (สูเราะฮอฺ ซั -ซารยิ าต อายะฮฺท่ี 18) และทา นนบี ศอ็ ลลัลลอฮอุ ะลัยฮิวะสัลลมั ไดก ลา ววา ‫ َّﻠ َﻣﻴْ ِْﻦﻞ‬،‫اﻟ َُّﺪﻣ ْ� ْ َﻴﻦﺎ �َ ِْﺣﺴﺄَ َُﻟ� ِ َ��ﺒْ َﻘَﻓﺄُﻰ ْﺛُﻋﻠُ ِﻄ َُﻴﺚ ُﻪال‬،‫ﺮُّ� َِﻨﺎَ�� َﻴَ�َﻓ ُﻘَﺒﺄَﺎﻮ َْﻏُر ِلﻔَك َﺮ َﻣَوﻟَ َُْﻪ�ﻦ َﻌﺎَﻳ َﻟ ْﺪﻰ ُ ُﻋﻛ َّﻮﻞ ِ َﻟ� ْﻴﻠََﻓ ٍﺔﺄَ ِإْﺳ َﻟَﺘﻰ ِﺠالﻴ َّ َﺴﺐ َﻤﺎ َﻟ ُِءﻪ‬،ُ ‫�ﻳََا ْْ ْﺴِ�ﻵﺘَُ ِلْﻐﺧ ُِﻔﺮَر‬ ความวา “แทจ รงิ พระผูอภิบาลของเรา ตะบาเราะกะ วะตะอาลา จะลงมาสูฟ าแหงโลกดุนยาในทุกๆ คืนในชวงหน่ึงในสามสุดทาย ของคืน แลวพระองคจะกลาววา มีผูใดวิงวอนขออะไรจากขา ไหม แลวขาตอบรับคําขอนั้น มีผูใดขออะไรจากขาไหม แลวขา จะใหเขาในส่ิงที่เขาขอ มีผูใดที่ขออภัยโทษตอขาไหม แลวขาจะ อภัยใหแ กเ ขา” (บนั ทกึ โดยอัล-บคุ อรแี ละมสุ ลิม) 219

และมีรายงานวาเม่ือครั้งที่ทานนบียะอฺกูบ อะลัยฮิสลาม กลาววา “ฉันจะขอพระผูอภิบาลของฉันใหอภัยโทษแกพวกเจา ในเวลาใกลๆ น”้ี ซึง่ ทานจะขอดอุ าอใ นชว งสะหูร จึงมีรายงานวาทานนบียะอฺกูบไดลุกข้ึนขอดุอาอชวงสะหูร โดยที่ลูกๆ ของทานจะกลาวอามีนตามหลังทาน ดังน้ันอัลลอฮฺ อัซ ซะวะญลั ละ จึงประทานวะหฺยูลงมาโดยดาํ รัสวา “แทจ ริง ฉันไดให อภยั โทษแกพวกเขาทง้ั หลายแลว และทรงใหพ วกเขาเปน นบ”ี 2. ขอดุอาอใ นชวงขณะทีป่ ระเสริฐ ทานอบูฮุรอ็ ยเราะฮฺ เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮุ ไดก ลา ววา “ประตู แหงชั้นฟาจะถูกเปดในขณะที่มีการสูรบในหนทางของอัลลอฮฺ ตะอาลา, ในขณะฝนกําลังตก, ในขณะละหมาดฟรฎหาเวลา ดงั นนั้ พวกทานจงขะมักเขมนขอดุอาอใ นสภาพดังกลา วเถดิ ” ทานมุญาฮิด ไดกลาววา “แทจริง การละหมาดถูก กําหนดใหปฏบิ ตั ิในชวงเวลาทีด่ ที ี่สุด ดงั น้นั พวกทานจงขอดุอาอ ในชว งเวลาน้นั เถิด” ทา นนบี ศ็อลลัลลอฮอุ ะลัยฮิว‫َﺮ ُّد‬ะُ‫ﻳ‬ส‫ﻻ‬ลั َ ล‫ั ِﺔ‬ม‫َﻗﺎ َﻣ‬ไ‫ِﻹ‬ดْ ‫ا‬ก‫ َو‬ล‫ِن‬า ‫ا‬ว‫ َذ‬ว‫ْ َﻷ‬า ‫اﻟ ُّﺪﻋَﺎ ُء ﺑَ ْ َ� ا‬ 220

ความวา “การขอดุอาอระหวางอะซานกับอิกอมะฮฺจะไมถูก ปฏิเสธ” (บนั ทกึ โดยอบดู าวดู และอตั -ติรมิซ)ี ทา นนบี ศ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลัม ไดก ลาวอกี วา ‫ال َّﺼﺎﺋِ ُﻢ َﻻ ﺗُ َﺮ ُّد َد ْﻋ َﻮﺗُ ُﻪ‬ ความวา “คนที่ถือศีลอดน้ันการดุอาอของเขาจะไมถูกปฏิเสธ” (บนั ทกึ โดยอะหฺมัด) อันท่ีจริง ความประเสริฐของชวงเวลานั้นยอนกลับไปสู ความประเสริฐของสภาพการณเชน กัน เพราะชวงเวลาสะหรู น้นั คือ ชวงเวลาที่หัวใจสะอาด บริสุทธิ์ ปลอดโปรงจากความสับสนวนุ วาย มากที่สดุ สวนวันอะเราะฟะฮฺและวันศุกรน้ัน คือชวงเวลาที่รวบรวม พลังและการสนับสนุนหัวใจเพ่ือใหไดรับความเมตตาของอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ซึ่งน่ีคือหนึ่งในสาเหตุของความประเสริฐของ ชวงเวลาน้นั ยกเวน ความลับบางประการที่ถูกซอ นอยูใ นนัน้ การสุ ูดก็เปนสภาพที่ดีเยีย่ มท่ดี อุ าอจะถูกตอบรับ ทานอบู ฮุรอ็ ยเราะฮฺ เราะฎยิ ลั ลอฮอุ นั ฮุ เลา วา ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลัยฮิ วะสลั ลมั ได‫ء‬กَ ‫ﺎ‬ลَ‫ﻋ‬า‫ﻟ ُّﺪ‬ว‫ا‬ว‫ا‬า‫ ﻓَﺄَ ْ� ِﺜ ُﺮو‬،‫ َو ُﻫ َﻮ َﺳﺎ ِﺟ ٌﺪ‬،‫أَﻗْ َﺮ ُب َﻣﺎ ﻳَ ُ�ﻮ ُن اﻟْ َﻌﺒْ ُﺪ ِﻣ ْﻦ َر ِّ� ِﻪ‬ 221

ความวา “สภาพท่ีบาวของอัลลอฮฺไดใกลชิดกับอัลลอฮฺมากท่ีสุด คือขณะเขาสุูด ดังนั้นจงขอดุอาอในสภาพน้ันใหมากที่สุด” (บันทึกโดยมุสลิม) และจากทานอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เลาวา จ‫ﻴَ ِبﻪ‬า�ِ‫ﺎ‬ก‫ا َﺠ‬ท‫ َﺘﻮ‬า‫ ْ ُﺴﻤ‬น‫�ُِّﻈ‬น‫َ�ْنَﻌ‬บ‫ﻦُีع َأ‬ศٌ ‫ﻤﻮ‬อ็ِ ‫َﻘُﻛ‬ล‫َُّ�ﺮ‬ล‫ل‬،‫ا‬ลั ‫ﺎ ِء‬ล‫ﻋََّﻣﺎ‬อَ‫َُّﻓﺪﺄ‬ฮ‫ﻟ‬อุ‫ا‬،‫ﻲا‬ะ‫ﻓ ًﺪ‬ลِ‫ัا ِﺟ‬ย‫ﺎو‬ฮ‫ิ َُﺪﺳ‬ว‫ْو ِﻬ‬ะَ‫ﺟَأﺘ‬สْ ‫ﺎ‬ลั‫ َﻓ ًﻌﺎ‬ล‫ัُد ِﻛ‬ม‫ُﺠ َرﻮا‬ไ‫ن‬ดَ‫آ ُّﺴ‬ก‫ ْلﺮ‬ล‫ ُﻘا‬า‫اَّﻣ ْﻟﺎ‬ว‫ َأ‬ว‫َﺮَوَأ‬า ‫ْﻗ‬،‫ََأو َْﺟن َّ َأﻞ‬ ‫ِإ ِّ� ُﻧ ِﻬﻴ ُﺖ‬ ‫ال َّﺮ َّب َﻋ َّﺰ‬ ‫ﻟَ ُ� ْﻢ‬ ความวา “แทจริงฉันถูกหามไมใหอานอัลกุรอานในขณะที่รุกูอฺ หรือสุูด สําหรับการรุกูอฺน้ันใหพวกทานกลาวแสดงถึงความ ย่ิงใหญแดพระผูอภิบาล ผูทรงสูงสง และสําหรับการสุูดนั้นให พวกทานพยายามขอดุอาอ เพราะมันเปนสภาพท่ีเหมาะยิ่งตอ การตอบรบั ดอุ าอของพวกทา น” (บนั ทึกโดยมุสลมิ ) 3. ผนิ หนาไปทางกิบลตั และใหยกมือทั้งสองข้ึนกระทั่งเห็นรักแรขาว หรือยกมอื ทง้ั สองขึ้นมาขนาบใบหนาหรือคลา ยคลึงกันน้ี หรือยกน้วิ ช้ีขึ้นมา ดังท่ี ทา นญาบริ บนิ อับดุลลอฮฺ เลา วา ،‫اﻟْ ِﻘﺒْﻠَ َﺔ‬ ‫َوا ْﺳﺘَ ْﻘﺒَ َﻞ‬ ‫ﺑِ َﻌ َﺮﻓَﺔ‬ ‫ال َﻤ ْﻮ ِﻗﻒ‬ ‫أَﺗَﻰ‬ ‫ﻓَﻠَ ْﻢ ﻳَ َﺰ ْل ﻳَ ْﺪ ُﻋﻮ َﺣ َّﺘﻰ َﻏ َﺮ َ� ِﺖ ال َّﺸ ْﻤ ُﺲ‬ 222

ความวา “ทานเราะสูลุลอลฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไดมา ยังทุงอะเราะฟะฮฺ แลวทานก็หันไปยังทิศกิบลัต ซึ่งทานจะขอดุ อาอกระท่ังดวงอาทติ ยตกดิน” (บนั ทึกโดยมุสลมิ ) ทานสลั มาน เลา วา ทานเราะสลู ุลลอฮฺ ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ วะสัลลัม ไดกลา ววา ‫ �َ ْﺴ َﺘ ْﺤ ِي ِﻣ ْﻦ َ�ﺒْ ِﺪ ِه ِإ َذا َر َ� َﻊ َﻳ َﺪﻳْ ِﻪ‬،‫َر َّ�أَ ْن ُ�ﻳَ ُْﺮﻢ َّد َ� ُﻫﺒَﺎَﻤﺎَر َكِﺻ َْوﻔ ًَ�ﺮاَﻌﺎ َﻟﻰ َﺣ ِ ٌّي َﻛ ِﺮ� ٌﻢ‬،‫ِإِإ َﻟ َّﻴْن ِﻪ‬ ความวา “แทจริงอัลลอฮฺ ตะบาเราะกะ วะตะอาลา ผูทรงชีวนิ ผู ทรงใจบุญน้ัน ทรงละอายกับการท่ีบาวคนหน่ึงไดยกสองมือขึ้น วอนขอตอพระองค แลวจะตองนํามือท้ังสองกลับไปอยางวาง เปลา ” (บนั ทึกโดยอบูดาวุด อัต-ตริ มซิ ี และอิบนุมาญะฮฺ) ‫ُﻳ َﺮى‬ และจากทา นอนสั เราะฎิยลั ลอฮอุ ันฮุ เลาวา ‫َر ُﺳﻮ َل‬ ‫َر َأ ْﻳ ُﺖ‬ ‫ َﺣ َّﺘﻰ‬،‫ا ُﷲ َﻋﻠَﻴْ ِﻪ َو َﺳ َﻠّ َﻢ َﻳ ْﺮ َ� ُﻊ َﻳ َﺪ ْﻳ ِﻪ ِﻓﻲ اﻟ ُّﺪﻋَﺎ ِء‬ �َّ ‫ا ِﷲ َﺻ‬ ‫َ�ﻴَﺎ ُض إِ ْ� َﻄﻴْ ِﻪ‬ ความวา “ฉันเห็นทา นเราะสูลลุ ลอฮฺ ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลัยฮวิ ะสลั ลัม ยกสองมือข้ึนในการขอดุอาอ กระท่ังเห็นความขาวของรักแร ทาน” (บันทึกโดยมุสลมิ ) 223

และจากทานอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เลาวา ทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไดเดินผานชายคนหน่ึงที่ กําลังขอดอุ าอโดยทเ่ี ขาช้สี องนิ้วขึ้นมา ทานนบี ศอ็ ลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลมั จงึ กลาววา ‫ أَ ِّﺣ ْﺪ‬،‫أَ ِّﺣ ْﺪ‬ ความวา “ใชน ว้ิ เดยี วพอ” (บันทกึ โดยอนั -นะสาอีและอบดี าวดุ ) คอื ใหชด้ี ว ยนว้ิ เดยี วเทา นน้ั ทา นอบอู ดั -ดรั ดาอ เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮุ ไดก ลา ววา “พวก ทา นจงยกสองมือนข้ี ้นึ กอ นที่มนั จะถูกมัดพันธนาการ” ทา นอบิ นอุ ับบาส เลา วา ‫إذا دﻋﺎ ﺿﻢ وﺟﻌﻞ ﺑﻄﻮﻧﻬﻤﺎ مﺎ ﻳ� وﺟﻬﻪ‬ ความวา “เมอื่ ทา นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลยั ฮิวะสลั ลมั ขอดุอาอทา น จะประกบมือท้ังสองโดยใหฝามือหันมาทางใบหนา” (บันทึกโดย อัฏ-เฏาะบะรอนี ดว ยสายรายงานทเี่ ฎาะอฟี ) ซึ่งนค่ี อื ลกั ษณะการวางมอื ขณะขอดอุ าอ โดยอยา ใหส ายตา แหงนมองไปยังฟากฟา ซ่ึงทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสลั ลมั ได กลา ววา 224

‫ أَ ْو‬،‫ََﻟﻟ ُﺘَﻴنْ ْﺘَﺨ ِﻬَﻄَ َﻔَّ� َّﻦأَﻗْأَﺑَْﻮا َ ٌمﺼﺎ َُر� ُﻫْﻦ ْﻢ َرﻓْ ِﻌ ِﻬ ْﻢ أَﺑْ َﺼﺎ َر ُﻫ ْﻢ ِﻋﻨْ َﺪ اﻟ ُّﺪﻋَﺎ ِء ِﻓﻲ ال َّﺼ َﻼ ِة إِ َﻟﻰ ال َّﺴ َﻤﺎ ِء‬ ความวา “คนท่ีชอบแหงนสายตาไปยังฟากฟา ขณะขอดุอาอใน ละหมาดจะเลิกพฤตกิ รรมนี้ หรอื จะใหสายตาของพวกเขาบอด เสยี กอน” (บนั ทกึ โดยมสุ ลมิ ) 4. ใชน ํา้ เสยี งท่ีแผว เบา โดยใหอยูในระดับท่ีไมดังหรือเบาจนเกินไป เพราะมี รายงานจากทานอบูมูซา อัล-อัชอะรี เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เลาวา พวกเราไดเดนิ ทางพรอมกับทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลยั ฮิ วะสัลลัม ซึง่ เมื่อเราเดนิ ทางใกลถงึ เมืองมะดนี ะฮฺ ทานนบีกไ็ ดตกั บีร ทําใหผูคนตักบีรตามไปดวยพรอมกับเปลงดวยเสียงที่ดัง ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลัยฮวิ ะสลั ลมั จงึ กลา ววา ‫ﻳﺎ أﻳﻬﺎ اﻟﻨﺎس إن اﻟﺬي ﺗﺪﻋﻮن ﻟيﺲ ﺑﺄ َﺻ َّﻢ وﻻ ﻏﺎﺋﺐ‬ ความวา “ผูคนเอย แทจริงผูท่ีพวกทานกําลังวอนขออยูนั้นไมได หหู นวกและไมไดไรตัวตน” (บันทกึ โดยอลั -บคุ อรแี ละมุสลมิ ) และทานหญงิ อาอิชะฮฺ เราะฎยิ ัลลอฮอุ นั ฮา ไดอธิบายคาํ ดาํ รัสทวี่ า [١١٠ :‫ ﴾ ]اﻹﺳﺮاء‬١١٠ ‫﴿ َو َ� َ ۡ� َه ۡر بِ َص َ�تِ َك َو َ� ُ َ�افِ ۡت بِ َها‬ 225

ความวา “และอยา ยกเสยี งดงั ในเวลาละหมาดของเจา และอยา ลดใหค อ ยเชนกัน” (สเู ราะฮอฺ ัล-อสิ รออ อายะฮฺท่ี 110) คอื ดว ยการขอดุอาอข องทา น และอัลลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ ไดยกยอ งทา นนบซี ะกะรยี า อะลัยฮิสลาม โดยทพี่ ระองคไ ดด ํารสั วา [٣ :‫ ﴾ ]مﺮ�ﻢ‬٣ ‫﴿ إِ ۡذ نَا َد ٰى َر َّ� ُهۥ نِ َدآ ًء َخ ِف ّٗيا‬ ความวา “เมื่อเขาวิงวอนตอพระเจาของเขา ดวยการวิงวอน อยางคอ ยๆ” (สเู ราะฮฺมรั ยัม อายะฮทฺ ี่ 3) อัลลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดด าํ รสั อกี วา [٥٥ :‫ ﴾ ]اﻻﻋﺮاف‬٥٥ۚ ‫﴿ ٱ ۡد ُعواْ َر َّ� ُ� ۡم تَ َ ُّ� ٗ� َو ُخ ۡف َي ًة‬ ความวา “พวกเจาจงวิงวอนตอพระเจาของพวกเจาในสภาพ ถอมตนและปกปด ” (สเู ราะฮฺอัล-อะอรฺ อฟ อายะฮทฺ ี่ 55) 5. ไมควรสําบัดสํานวนในการขอดอุ าอม ากจนเกนิ ไป เพราะสภาพของคนที่ขอดุอาอนั้นควรเปนสภาพท่ีมีความ นอบนอมถอมตน ทําใหการสําบัดสํานวนมากจนเกินไปจึงเปนสิ่งท่ี ไมส มควร ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสัลลมั ไดกลา ววา ‫َﺳ َﻴ ُﻜﻮ ُن َﻗ ْﻮ ٌم َ� ْﻌ َﺘ ُﺪو َن ِﻓﻲ اﻟ ُّﺪﻋ َﺎ ِء‬ 226

ความวา “จะมีอยูกลุมหน่ึงท่ีพวกเขาจะเลยเถิดในการขอดุอาอ (สําบัดสํานวนในการขอมากจนเกินไป)” (บันทึกโดยอบูดาวุด และอบิ นมุ าญะฮ)ฺ อลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ไดก ลาววา ‫ٱلۡ ُم ۡع َت ِدي َن‬ ‫ُ ِ� ُّب‬ َ ‫ۚإِ َّن ُهۥ‬ ‫َو ُخ ۡف َي ًة‬ �ٗ �ُّ َ َ‫ت‬ ‫َر َّ� ُ� ۡم‬ ْ‫ٱ ۡد ُعوا‬ :‫]اﻷﻋﺮاف‬ ﴾ ٥٥ � ﴿ [٥٥ ความวา “พวกเจาจงวิงวอนตอพระเจาของพวกเจาในสภาพ ถอมตนและปกปด แทจรงิ พระองคไ มท รงชอบบรรดาผูท ลี่ ะเมิด” (สูเราะฮฺอัล-อะอรฺ อฟ อายะฮทฺ ่ี 55) หมายถงึ การสาํ บดั สาํ นวนในการขอดุอาอม ากจนเกนิ ไป ส่ิงที่ดีท่ีสุดคือการใชบทดุอาอที่ทานนบีไดอาน เพราะ ไมเชนน้ันแลวก็อาจจะเขาขายการเลยเถิดในการขอดุอาอก็เปนไป ได ซ่ึงจะทําใหเขาไดวอนขอในส่ิงท่ีไมเปนประโยชนตอ ตัวเขา ดวย เหตุนี้ จึงมีรายงานจากทานมุอาซ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ไดกลาววา “สําหรับบรรดาอุละมาอน้ัน กระทั่งในสวนสวรรคก็ยังมีความ ตองการในตัวของพวกเขา เพราะจะมีเสียงกลาวแกชาวสวรรค วา พวกทานจงจินตนาการ (ความสุขที่ตองการ) เถิด แตพวก 227

เขาจะไมรูวาตองจินตนาการอยางไร นอกจากจะไดเรียนรูกับ บรรดาอลุ ะมาอ” และมรี ายงานทที่ า นนบีไดก ลาววา ΅ ‫ِﻓﻲ‬ ‫َ� ْﻌ َﺘ ُﺪو َن‬ ‫َﻗ ْﻮ ٌم‬ ‫َﺳﻴَﺄْ ِﺗﻲ‬ ‫اﻟ َّﻄ ُﻬﻮ ِر َواﻟ ُّﺪﻋَﺎ ِء‬ ความวา “ใกลเ ขามาแลวทจ่ี ะมกี ลุมชนที่เลยเถดิ ในการอาบนํา้ ละหมาดและขอดุอาอ” (บนั ทึกโดยอบดู าวุด) และมีรายงานวา “ชาวสะลัฟทานหนึ่งไดเดนิ ผานชายคน หนึ่งท่ีกําลังขอดุอาออยางสําบัดสํานวน เขาจึงกลาวแกชายคน นั้นวา “นี่ทานกําลังวอนขอตอ อลั ลอฮฺกระน้ันหรอื ?” ฉันขอเปน พยานวา ฉันไดเห็นทานหะบีบ อัล-อะญะมี (ผูที่เครงครัดในการ ทําอิบาดะฮฺและมีความสมถะอยางมากจากชาวเมืองบัศเราะฮฺ) ขอดุอาอ ซึ่งทานไมไ ดว อนขอมากไปกวา นี้ «‫»ا� اﺟﻌﻠﻨﺎ ﺟ ّﻴﺪﻳﻦ‬ ความวา “โออ ัลลอฮฺ ไดโ ปรดใหเ ราเปนหนึง่ ในคนดี” «‫»ا� ﻻ ﺗﻔﻀﺤﻨﺎ ﻳﻮم اﻟﻘﻴﺎﻣﺔ‬ ความวา “โออ ัลลอฮฺ ไดโ ปรดอยา ประจานเราในวันกิยามะฮฺ” «�‫»ا� وﻓﻘﻨﺎ لﻠﺨ‬ 228

ความวา “โออ ัลลอฮฺ ไดโ ปรดอํานวยความสะดวกใหเ ราทําความ ด”ี ซึ่ ง ผู ค น ทั้ ง ห ล า ย ต า ง ว อ น ข อ ดุ อ า อ ใ น ทุ ก ส่ิ ง ท่ี เ ข า ปรารถนา และทุกคนตระหนักดีถึงความบารอกัตในดุอาอของ เขา” ชาวสะลัฟบางทานไดก ลาววา “จงขอดุอาอดวยล้นิ ท่นี อบ นอมและถอ มตน ไมใชดว ยล้นิ ที่คลองแคลว และมโี วหาร” และมีรายงานวาบรรดาผูรูจะไมขอดุอาอมากเกินกวาเจ็ด ประโยค โดยพวกเขาไดอางอิงอายะฮฺสุดทายของสูเราะฮฺอัล-บะ เกาะเราะฮฺ ซึ่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ไมไดกลาวถึงบทดุอาอที่บาวของ พระองคใ ชอา นในอายะฮใฺ ดมากกวา นัน้ อีกแลว และพึงรูเถิดวา ความหมายของการสําบัดสํานวนคือ การ ใชคําท่ีเย่ินเยอมากจนเกินไป เพราะมันจะไมทําใหเกิดความรูสึกท่ี นอบนอมและถอมตน ถึงแมวาในบทดุอาอท่ีทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ใชอานนั้นอาจจะมีประโยคท่ี คลายคลึงกัน แตมันก็ไมไดเยิ่นเยอมากจนเกินไป เชนบทดุอาอที่ ทา นนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลยั ฮวิ ะสัลลัม ไดก ลา ววา ‫ﻳَ ْﻮ َم‬ ‫ا َﻷ ْﻣ َﻦ‬ ‫أَ ْﺳﺄَلُ َﻚ‬ ،‫ َﻣ َﻊ ال ُﻤ َﻘ َّﺮ�ِ َ� ال ُّﺸ ُﻬﻮ ِد ال ُّﺮ َّﻛ ِﻊ‬،‫ َواﻟﺠَ َّﻨ َﺔ ﻳَ ْﻮ َم اﻟﺨُﻠُﻮ ِد‬،‫ال َﻮ ِ�ﻴ ِﺪ‬ ‫ و�ِﻧَّ َﻚ َ� ْﻔ َﻌ ُﻞ َﻣﺎ ﺗُ ِﺮ� ُﺪ‬،‫ ِإﻧَّ َﻚ َر ِﺣﻴ ٌﻢ َو ُدو ٌد‬،‫ال ُّﺴ ُﺠﻮ ِد ال ُﻤﻮﻓِ َ� ﺑِﺎﻟ ُﻌ ُﻬﻮ ِد‬ ความวา “ฉันขอตอพระองคซ่ึงความปลอดภัยในวันแหงการ สัญญา (วันกิยามะฮฺ) และขอสวนสวรรคในวันแหงการพาํ นักอยู 229

ตลอดกาลรวมกับบรรดามุก็อรเราะบีน (ผูใกลชิดกับอัลลอฮฺ), บรรดาชุฮูด (ผูที่เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮฺ), ผูที่รุกูอฺ, ผูท่ี สุูด, ผูท่ีดํารงมั่นในคํามั่นสัญญา แทจริงพระองคทรงกรุณา ปรานี ผูทรงรักใครตอ บาว และแทจริงพระองคทรงกระทาํ ตามที่ พระองคทรงประสงค” (บันทกึ โดยอตั -ติรมซิ )ี ดังน้ัน จงอานบทดุอาอที่ทานนบีใชอานเถิด หรือใหอาน ดวยกับลิ้นท่ีมีความนอบนอมถอมตน โดยไมสําบัดสํานวนและเยิ่น เยอมากจนเกินไป ซึ่งความนอบนอ มถอมตนน้นั เปนส่ิงท่อี ลั ลอฮฺ อซั ซะวะญลั ละ ทรงรักยง่ิ กวา 6. มีความนอบนอมถอมตน รวมถึงมีความหวังและความ หวัน่ เกรง อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด าํ รัสวา :‫ ﴾ ]اﻷﻧبﻴﺎء‬٩٠ۖ‫﴿ إِ َّ� ُه ۡم َ�نُواْ � ُ َ ٰ�رِ ُعو َن ِ� ٱ ۡ َ� ۡي َ�ٰ ِت َو َ� ۡد ُعو َ� َنا َر َغ ٗبا َو َر َه ٗبا‬ [٩٠ ความวา “แทจริงพวกเขา แขงขันกันในการทําความดีและพวก เขาวิงวอนเราดวยความหวังและหว่ันเกรงในการลงโทษของ เรา” (สเู ราะฮอฺ ลั -อมั บยิ าอ อายะฮทฺ ่ี 90) และอัลลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ ไดด าํ รัสอีกวา 230

[٥٥ :‫ ﴾ ]اﻷﻋﺮاف‬٥٥ۚ ‫﴿ ٱ ۡد ُعواْ َر َّ� ُ� ۡم تَ َ ُّ� ٗ� َو ُخ ۡفيَ ًة‬ ความวา “พวกเจาจงวิงวอนตอพระเจาของพวกเจาในสภาพ ถอมตนและปกปด” (สเู ราะฮฺอลั -อะอฺรอฟ อายะฮฺที่ 55) 7. ใหขอดว ยความมงุ ม่นั จรงิ จัง และเชอ่ื ม่นั วา จะถกู ตอบรบั รวมท้งั ใหม คี วามจรงิ ใจในการวอนขอตอ พระองค ،‫ ْن ِﺷﺌْ َﺖ‬ท‫ ِإ‬า�นِ ‫ ْﻤ‬เَ‫ﺣ‬ร‫ْر‬า‫ا‬ะ‫ﻢ‬สَّ ‫ُูﻬ‬ลَّ‫ﻠ‬ลุ ‫ال‬ล،อ‫َﺖ‬ฮฺْ‫ﺌ‬ศ‫็ ِﺷ‬อ‫ن‬ลْ ‫ِإ‬ล‫ﻲ‬ลั ‫ِﻟ‬ล‫ْﺮ‬อ‫ِﻔ‬ฮ‫ﻟَْﻏُﻪ‬อุ ‫ َها‬ะ‫َّﻢ ِﺮ‬ล‫ُﻬ ْﻜ‬ยั ‫ َُﻠّﻣ‬ฮ‫ิ َﻻال‬ว:ะ‫ ُﻪْﻢ‬ส�َّ‫ﺈِ ُﻧ‬ลั ‫ َﻓ‬ล،‫ﺔُﺪ‬มัَ ‫ﺄَ َﻟَﺣ‬ไ‫ْ َأﺴ‬ด‫َّﻤﻦ‬กَ ‫َﻟل‬ล‫ﻮا‬า‫ﺰ ُِﻘم‬วِ�َ ‫ﻌ‬วْ ‫َﻴَﻻ‬า ‫ِﻟ‬ ความวา “เม่ือพวกทานคนหน่ึงคนใดขอดุอาอ ก็อยาไดกลาววา โออัลลอฮฺ หากพระองคประสงคก็ทรงใหอ ภัยโทษแกข าเถดิ และ หากพระองคทรงประสงคก็ทรงใหความเมตตาแกขาเถิด แตให เขาขออยางมุงมั่นจริงจัง เพราะแทจริงไมมีใครท่ีอาจหาญจะ บังคบั พระองคได” (บนั ทึกโดยอัล-บุคอรแี ละมสุ ลมิ ) และทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได กลาววา ‫َﺷ ْﻲ ٌء‬ �ِ َّ ‫ا‬ ‫ﻋ َﻠَﻰ‬ ‫َ�ﺘَ َﻌﺎ َﻇ ُﻢ‬ َ ‫ﻓَﺈِﻧَّ ُﻪ‬، ‫ال َّﺮ ْ� َﺒ َﺔ‬ ‫ﻓَﻠْﻴُ ْﻌ ِﻈ ِﻢ‬ ‫أَ َﺣ ُﺪ ُ� ْﻢ‬ ‫َدﻋ َﺎ‬ ‫إِ َذا‬ ‫ﻻ‬ ความวา “เม่ือคนหน่ึงในหมูพวกทานขอดุอาอใหเขาขอตาม ความปรารถนาอยา งเต็มท่ี เพราะไมมีสิ่งใดที่ย่งิ ใหญเหนืออลั ลอ ฮฺได” (บันทึกโดยอิบนุหบิ บาน) 231

และทานนบี ศ‫ َّن‬อ็ ‫ َأ‬ล‫ﻮا‬ล‫ัُﻤ‬ลَ‫ﻠ‬ล‫ ْﻋ‬อ‫وا‬ฮَ อุ ،‫ِﺔ‬ะ‫ َﺑ‬ล‫َﺟﺎ‬ยั ‫ﻹ‬ฮِ ิว‫ِﺑﺎ‬ะ‫ن‬สَ ัล‫ُﻨﻮ‬ล‫ ِﻗ‬มั‫هٍ ُمﻮ‬ไ‫ﻻ‬ด‫ َ ْﻢ‬ก‫ٍ ْ�ﻞ ُﺘ‬ล‫َوِﻓ َأ‬า ‫ﺎ‬วَ‫ َ�ﻏ‬อَّ ‫ﺐ‬กٍี‫ ا‬วْ‫ﻗَﻮاﻠ‬า ‫اِﻣ ْد ْﻦ ُﻋ‬ ‫ُدﻋَﺎ ًء‬ ‫�َ ْﺴﺘَ ِﺠﻴ ُﺐ‬ َ �َ َّ ‫ا‬ ‫ﻻ‬ ความวา “พวกทานจงขอดุอาอตออัลลอฮฺโดยที่พวกทานเปนผทู ี่ เช่ือมั่นในการตอบรบั พงึ ทราบเถดิ วา อลั ลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จะ ไมท รงตอบรับดุอาอจากหัวใจท่หี ลงลมื ” (บนั ทึกโดยอัต-ตริ มซิ ี) ทานสุฟยาน อิบนุอุยัยนะฮฺ ไดกลาววา “คนหน่ึงคนใดใน หมูพวกทานอยาหยุดการขอดอุ าอใ นสงิ่ ทจี่ ิตใจของเขารูดี เพราะ อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ เคยตอบรับดุอาอจากสรรพสิ่งท่ีชั่วทส่ี ดุ มาแลวน่ันคืออิบลีส ขออัลลอฮฺทรงสาปแชงมัน” เม่ือครั้งท่ี พระองคไ ดด ํารสั วา : ‫ ﴾ ]ص‬٨٠ ‫ قَا َل َفإِنَّ َك ِم َن ٱلۡ ُمن َظرِ� َن‬٧٩ ‫﴿ َر ِّب فَأَن ِظ ۡر ِ ٓ� إِ َ ٰ� يَ ۡو ِم ُ� ۡب َع ُثو َن‬ [٨٠ ،٧٩ ความวา “โอพระเจาของขา พระองคไดโปรดประวิงเวลาใหแก ขาพระองคจนถึงวันฟนคืนชีพดวยเถิด พระองคตรัสวา ดังนั้น แทจริงเจาอยใู นหมูผถู กู ประวงิ เวลา” (สูเราะฮฺศ็อด อายะฮฺท่ี 79- 80) 232

8. คะยั้นคะยอในการวิงวอนขอ โดยใหขอยํ้าสามคร้ัง ทา นอบิ นุมัสอูด เลา วา ‫ َو ِ� َذا َﺳﺄَ َل َﺳﺄَ َل ﺛَ َﻼﺛًﺎ‬،‫ﻛ َﺎ َن ِإ َذا َدﻋَﺎ َدﻋَﺎ ﺛَ َﻼﺛًﺎ‬ ความวา “เมอ่ื ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮุอะลยั ฮวิ ะสลั ลมั ขอดอุ าอทา น จะขอยํ้าสามคร้ัง และเม่ือทานวอนขอสิ่งใดทานก็จะขอยํ้าสาม คร้ัง” (บนั ทึกโดยมุสลิม) และอยาดวนรบเราใหตอบรับดุอาอ เพราะทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลยั ฮวิ ะสลั ลัม ไดกลาววา ‫لَ ْﻢ‬ ‫َﻣﺎ‬ ‫ِ َﻷ َﺣ ِﺪ ُ� ْﻢ‬ ‫�ُ ْﺴﺘَ َﺠﺎ ُب‬ ‫ َﻗ ْﺪ َد َﻋ ْﻮ ُت َﻓﻠَ ْﻢ �ُ ْﺴ َﺘ َﺠ ْﺐ ِﻟﻲ‬:‫ َ� َﻴ ُﻘﻮ ُل‬،‫َ� ْﻌ َﺠ ْﻞ‬ ‫ﻓﺎﺳﺄل اﷲ ﻛﺜ ً�ا ﻓﺈﻧﻚ ﺗﺪﻋﻮا ﻛﺮ� ًﻤﺎ‬ ความวา “ดุอาอของทุกคนยอมไดการตอบรับตราบใดที่เขาไม ดวนรบเราใหตอบรับ เชนกลาววา ฉันขอดุอาอแ ลว แตพระองค ไมตอบรับฉันเลย ดังนั้นเม่ือทานขอดุอาอ ก็จงขอตออัลลอฮฺให มาก เพราะทานกําลังขอจากผูทรงใจบุญ” (บันทึกโดยอัล-บุคอรี และมสุ ลิม) ชาวสะลัฟทานหน่ึงไดกลาววา “แทจริงฉันไดวอนขอ ตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ในความตองการอยา งหนึ่งเมื่อยส่ี ิบป ท่ีแลว ซึ่งพระองคยังไมทรงตอบรับเลยในขณะท่ีฉันก็ยังคงหวัง 233

ตอมันอยู ซ่ึงฉันไดวอนขอตออัลลอฮฺใหพระองคทรงใหฉัน สามารถละทง้ิ สง่ิ ท่ีไมมีประโยชนตอตัวฉนั ” 9. เร่ิมขอดอุ าอดว ยการซกิ ริ ตอ อัลลอฮฺ อัซซะวะญลั ละ อยา เร่ิมดวยส่ิงท่ตี องการขอ ทานสะละมะฮฺ บินอัล-อกั วะอฺ ไดก ลาววา َّ ‫�َ ْﺴﺘَ ْﻔ ِﺘ ُﺢ‬ ‫َو َﺳ َّﻠ َﻢ‬ ‫ َاﺻ ْ َّ َﻷ�ﻋْاﻠَﻰ ُاﷲلْ َﻮ ََّﻫﻋﺎﻠَﻴِْ ِبﻪ‬،�ِّ ‫�َِﻣ ُﺎﺴﺒْ َﺳَﺤ ِﺎﻤ ْﻌَن ُ َرﺖ ِّ َ�اﻟاَّﻨﻟْ ِﺒَﻌ َِّﻲ‬ :‫ا ْﺳﺘَ ْﻔ َﺘ َﺤ ُﻪ‬ ‫ِإ ﻻ‬ ‫ُدﻋَﺎ ًء‬ ความวา “ฉันไมเคยไดยินทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เร่ิมขอดุอาอดวยกับสิ่งที่ตองการขอ นอกจากทานจะเริ่มขอดวย การกลาว สุบหานะร็อบบิยัลอะลียฺ อัล-อะอฺลา อัล-วะฮฺฮาบ (อัลลอฮฺผูทรงมหาบริสุทธ์ิย่ิง ผูเปนพระผูอภิบาล ผูทรงสูงสงย่ิง ผูทรงใหอยางมากมาย)” (บันทึกโดยอะหฺมัด) ทานอบูสุลัยมาน อัด-ดารอนี เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดกลาววา “ผูใดตองการวอนขอความตองการของตัวเองตออัลลอฮฺ ก็ให เขาเร่ิมดวยการเศาะละวาตตอทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสลั ลมั หลงั จากนั้นกใ็ หเขาวอนขอตามความตอ งการ หลังจาก น้ันใหเขาปดทายดว ยการเศาะละวาตตอทานนบี ศ็อลลัลลอฮอุ ะ ลยั ฮวิ ะสัลลมั อีกครงั้ เพราะอัลลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ ทรงตอบรับ 234

การเศาะละวาตท้ังสอง ซ่ึงพระองคทรงใจบุญย่ิงโดยไมอาจผลัก ไสสงิ่ ที่อยรู ะหวางมนั ได” 10. ตองเตาบะฮฺในความผิดบาปหรือกลับเนื้อกลับตัว ตออลั ลอฮฺ อซั ซะวะญัลละ อยางจรงิ จังเสยี กอน เพราะมันคือปจจัยหลักและเปนปจจัยท่ีจะทําใหดุอาอถูก ตอบรับไดรวดเร็วท่ีสุด ดังท่ีมีรายงานจากทานกะอฺบ อัล-อะหฺบาร เลาวา “กลุมชนในยุคสมัยของทานนบีมูซา ผูเปนศาสทูต ของอัลลอฮฺ ไดประสบกับภัยแหงแลงที่สรางความขนแคนเปน อยางมาก ดงั นัน้ ทานนบมี ูซาจึงออกมาพรอมกบั ชาวบนอี สิ รออีล เพ่ือขอดุอาอใ หฝนตกยังพวกเขา แตแ ลว ฝนกย็ ังไมตกลงมา กระ ทัง้ ไดออกมาขอดุอาอถ ึงสามคร้ัง แตฝนกย็ ังคงไมตกลงมา ดงั นน้ั อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จึงประทานวะหฺยูลงมาแกนบีมูซา โดย ดํารัสวา “แทจริงขาจะไมตอบรับการวิงวอนของเจา และคน ที่มากับเจา เพราะในหมูพวกเจานั้นมีคนที่ชอบนินทาวารายคน อ่ืนอย”ู ทานนบีมซู าจึงกลา ววา “โอพระผอู ภบิ าลเอย ใครคอื คน น้ันเราจะไดพาเขาออกไปจากพวกเรา” ดังนั้นอัลลอฮฺ อัซซะ วะญัลละ จึงประทานวะหฺยูแกทานนบีมูซาอีกคร้ังวา “โอมูซา เอย ขาไดหามพวกเจาจากการนินทาวาราย โดยที่ฉันจะเปนผูที่ นินวารายดวยตัวเองกระน้ันหรือ ?” ทานนบีมูซาจึงกลาวแก ชาวบนีอิสรออีลวา “พวกทานท้ังหลายจงเตาบะฮฺตัวตอพระผู 235

อภบิ าลของพวกทา นในความผดิ บาปทีไ่ ดน ินทาวา รายเถิด” และ แลวพวกเขาก็ไดเตาบะฮฺตัวทุกคน ดังนั้นอัลลอฮฺ ตะอาลา จึง ประทานนํ้าฝนลงมายังพวกเขา” ทานสุฟยาน อัษ-เษารี ไดกลาววา “มีรายงานมายังฉันวา ชาวบนีอิสรออีลไดประสบกับภัยแหงแลงยาวนานถึงเจ็ดป กระทั่งพวกเขาตองพากันกินซากศพท่ีมีอยูในกองขยะ ทําให พวกเขาพากันออกไปอยูบนภูเขาในสภาพท่ีรองหมรองไหและ นอบนอมถอมตน ดังน้ันอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จึงประทานวะหฺ ยแู กบรรดานบีของพวกเขา อะลยั ฮมิ สุ ลามวา แมนวาพวกเจาได เดินมาดวยเทาเปลาโดยไมมีอะไรสวมใส และยกมือท้ังสองของ พวกเจาขึ้นมาจนเห็นส่ิงท่ีอยูบนฟา และล้ินของพวกเจาไมได หยุดยั้งจากการวิงวอนขอดุอาอ แนนอนวาขาจะไมตอบรับการ วิงวอนของคนที่วิงวอน และจะไมใหความเมตตาแกคนที่รอ งหม รองไห จนกวาเขาจะคืนสิทธิตางๆ ที่ไดกออธรรมแกคนท่ีมีสิทธิ นั้นเสียกอน ดังน้ันพวกเขาจึงปฏิบัติตามน้ัน และแลวฝนตกก็ลง มายังพวกเขาในวันนั้นทนั ท”ี ทานมาลิก บินดีนาร ไดกลาววา “กลุมชนของชาวบนีอิส รออีลไดป ระสบกับภัยแหงแลง ทําใหพวกเขาออกมาวิงวอนขอดุ อาอเปนบอยคร้ัง ดังน้ันอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จึงประทานวะหฺ ยแู กนบีของพวกเขาใหแ จงแกพ วกเขาวา พวกเจา ออกมาวิงวอน ตอขาดวยสภาพท่ีเน้ือตัวของพวกเจาเปรอะเปอนดวยนะญิส 236

และพวกเจายกมือขอตอขาดวยกับมือที่พวกเจาไดหล่ังเลือดกัน และทอ งของพวกเจา กเ็ ตม็ ไปดว ยสิง่ ท่หี ะรอม บดั น้แี หละที่มันทํา ใหค วามโกรธกรวิ้ ของขาทมี่ ีตอ พวกเจาเพม่ิ มากข้นึ และมนั จะไม มสี ่ิงใดเพม่ิ ขนึ้ นอกจากการไลตะเพิดใหยงิ่ ไกล” ทา นอบอู ศั -ศิดดีก อัน-นาญี ไดกลา ววา “ทา นนบสี ลุ ัยมาน อะลัยฮิสลาม ไดออกมาวิงวอนขอดุอาอใหฝนตก แตแลวทานก็ ไดเดนิ ผานมดตัวหนึ่งทกี่ ําลังยนื ใหหลงั ของมันข้ึนไปยงั ฟา โดยที่ มันไดกลาววา “โออัลลอฮฺ แทจริงพวกเราเปนสรรพสิ่งหน่ึงที่ พระองคทรงสราง และพวกเรามีความตองการในริซกีของ พระองคทานอยู ดังนั้นอยาไดทํารายพวกเราดวยกับความผิด บาปของกลุมชนท่ีไมไดเปนพวกเราดวยเถิด” ทานนบีสุลัยมาน อะลัยฮิสลาม จึงกลาววา “พวกทานจงกลบั ไปเถดิ แทจริงฝนได ตกลงมาแลว ดวยกบั การวิงวอนทไ่ี มใชจ ากพวกทาน” ทานอัล-เอาซาอี ไดกลาววา “ผูคนไดออกมาวิงวอนขอดุ อาอใหฝนตก ดังนั้นทานบิลาล บินสะอัดจึงยืนขึ้นมาทามกลาง พวกเขา แลวทานก็ไดสรรเสริญตออัลลอฮฺและยกยองเชิดชูตอ พระองค หลังจากนั้นทานก็กลาววา “โอผูคนที่ออกมาในวันน้ี พวกทานไดยอมรับในความผิดบาปท่ีมีอยูหรอื ไม ?” พวกเขาจงึ พากันกลาววา “ขอสาบานตออัลลอฮฺ เรายอมรับแลว” ทาน บิลาลจึงกลาววา “โออัลลอฮฺ แทจริงพวกเราไดยินคําดํารัสของ พระองคแ ลว วา 237

[٩١ : ‫﴾ ]اﻟﺘﻮ�ﺔ‬٩١ �‫﴿ َما َ َ� ٱلۡ ُم ۡح ِسنِ َ� ِمن َسبِي ٖل‬ ความวา “ไมมีทางใดที่จะกลาวโทษแกบรรดาผูกระทําดีได” (สู เราะฮอฺ ตั -เตาบะฮฺ อายะฮฺที่ 91) แทจริงพวกเราไดยอมรับในความผิดบาปท่ีมีอยูแลว ดังน้ันการอภัยโทษของพระองคจะไมเกิดขึ้นแกเฉกเชนพวกเรา กระน้ันหรือ โออัลลอฮฺ ไดโปรดใหอภัยแกเรา เมตตาแกเรา และ ประทานน้ําฝนแกเราดวยเถิด ซึ่งทานบิลาลไดยกมือท้ังสองข้ึน สวนคนที่เหลือก็ยกมือทั้งสองข้ึนตามไปดวย และแลวฝนก็ไดตก ลงมา” มีคนกลา วแกท านมาลิก บนิ ดนี ารวา “ไดโ ปรดขอดอุ าอแ ก เราดวยเถิด” ทานมาลิกจึงกลาววา “พวกทานตางก็ประสบกับ น้ําฝนท่ีตกมาอยางลาชา แตตัวฉันจะขอตออัลลอฮฺใหกอนหิน คอยตกลงมา” มีรายงานวาทานนบีอีซา เศาะละวาตุลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสะ ลามุฮู ไดออกมาวิงวอนขอดอุ าอใหฝนตกเมื่อครง้ั ที่พวกเขาประสบ กับความทุกขยาก ทา นนบอี ีซา อะลัยฮสิ ลาม จึงกลา วแกพ วกเขาวา “ในหมูพวกทานผูใดท่ียังคงมีบาปอยกู ใ็ หก ลับไปกอน ดังนน้ั พวก เขาจึงพากันกลบั ไปโดยไมม ีใครหลงเหลืออยูเลย ณ ที่ราบทม่ี แี ต ความแหงแลงนั้นนอกจากเพียงคนเดียวเทาน้ัน ดังน้ันทานนบีอี ซา อะลัยฮิสลามจึงกลาวแกเขาวา “ทานไมมีความผิดบาปเลย 238

หรือ ?” เขาจึงกลาววา “ขอสาบานตออัลลอฮฺ ฉันไมเคยทํา ความผิดบาปใดๆ เลย นอกจากมีอยูวันหนึ่งฉันกําลังละหมาด และแลว ก็มีหญงิ นางหนึ่งไดเ ดินผานหนาฉนั ฉนั จึงมองไปยังนาง ซึ่งเม่ือนางไดเดินผานหนาฉันไป ฉันจึงเอานิ้วท่ิมลูกตาตัวเอง แลวควักมันออกมา แลวฉันก็ไดตามหญิงนางนั้นดวยสภาพนั้น” ทานนบีอีซา อะลัยฮิสลาม จึงกลาวแกเขาวา “ดังน้ันทานจง วิงวอนขอดุอาอตออัลลอฮฺเถิด แลวฉันจะกลาวอามีนในการดุ อาอของทาน” มีรายงานเลาอีกวา “แลวชายคนนั้นก็ไดวิงวอน ขอดุอาอ และแลวทองฟาก็เรม่ิ มีเมฆปกคลมุ ใหเห็น หลังจากน้ัน ฝนกต็ กลงมา” ทานยะหฺยา อัล-ฆ็อสสานี ไดกลาววา “กลุมชนในยุคสมัย ของทานนบีดาวุด อะลัยฮิสลาม ไดประสบกับภัยแหงแลง ดังน้ัน พวกเขาจึงเลือกสามคนจากผูท่ีมีความรูในหมูพวกเขาเพื่อ ออกไปวิงวอนขอดุอาอใหฝนตกลงมายังพวกเขา หนึ่งในน้ันได กลาววา “โออัลลอฮฺ พระองคทรงประทานในคัมภีรเตารอตของ พระองควาเราจะใหอภัยโทษตอผูที่อธรรมตอเรา โออัลลอฮฺ แทจริงพวกเราไดอ ธรรมตอตวั พวกเราเอง ดังน้ันไดโปรดใหอ ภัย แกพวกเราดวยเถิด” คนท่ีสองไดกลาววา “โออัลลอฮฺ พระองค ทรงประทานในคัมภีรเตารอตของพระองควาเราจะปลดปลอย บาวทาสทั้งหลายของพระองคทาน โออัลลอฮฺแทจริงพวกเราคอื บาวทาสของพระองค ไดโปรดปลดปลอยเราดวยเถิด” และคนท่ี 239

สามไดกลาววา “โออัลลอฮฺ พระองคทรงประทานในคัมภีรเตา รอตของพระองควาเราจะไมปฏิเสธผทู ี่ยากจนขัดสนเมอื่ พวกเขา ไดยนื อยเู บ้อื งหนาประตขู องเรา โออ ลั ลอฮฺ แทจริงพวกเราคอื ผูที่ ยากจนขดั สนตอทา น และเราก็ไดยืนเบื้องหนา ประตูของพระองค แลว ไดโปรดอยาปฏิเสธการวิงวอนขอดุอาอของพวกเราเลย และแลวฝนก็ไดตกลงมา” ทานอะฏออ อัส-สุลละมี ไดกลาววา “ฝนไมไดตกลงมายัง พวกเรามาเน่ินนาน พวกเราจึงออกไปวิงวอนขอดุอาอใหฝนตก ทันใดนั้นก็มีชายคนหน่ึงในหมูพวกเรายืนอยูระหวางหลุมฝงศพ เขาจึงมองมายังฉันแลวกลาววา “ทานอะฏออเอย นี่คือวันแหง การฟนคืนชีพหรือวันที่ฟนจากหลุมฝงศพ ?” ทานอะฏออได กลาววา “ไมใชๆ เพียงแตฝนไมไดตกมายังพวกเรามาเนิ่นนาน พวกเราจึงออกมาวงิ วอนขอดอุ าอใหฝนตก” ชายคนนนั้ จึงกลา ว วา “ทานอะฏออเอย ทานออกมาดวยหัวใจท่ีติดดินหรือหัวใจที่ ผูกพันกับฟากฟา” ฉันไดกลาววา “ดวยหัวใจท่ีผูกพันกับ ฟากฟา” ชายคนน้ันจึงกลาววา “จงออกไปบอกผูคนท่ียังคง กระทําความผิดอยู ใหพวกเขาเลิกกระทําความผิดเสียกอน เพราะผูที่เฝาตรวจสอบน้ันทรงมองเห็นไดอยางประจักษ และ แลวลมจากฟากฟาก็ไดโชยมาจากทิศทางหน่ึง” แลวเขาก็ได กลาววา “พระเจาของฉัน เจานายของฉนั พระผูอภิบาลของฉัน ไดโปรดอยาทําลายแผนดินของพระองคเน่ืองดวยความผิดบาป 240

ของปวงบาวพระองค เปนเร่ืองของพระองคในสวนเหตผุ ลตางๆ ที่อยูเบ้ืองหลังพระนามของพระองค ยกเวนส่ิงท่ีพระองคไดทรง ประทานนํ้าจืดลงมาอยางมากมาย เพื่อใหปวงบาวไดมีชีวิตชีวา และทําใหพ้ืนแผนดินชุม ชน่ื โอผูท่ีทรงเดชานุภาพเหนือทกุ สิ่งทกุ อยา ง” ทา นอะฏออไดกลา ววา “ไมทนั ทจ่ี ะวอนขอไดจบประโยค ก็เร่ิมมีฟาแลบและฟารองขึ้นมา และแลวโปรยฝนก็ไดตกลงมา ประหน่งึ ถุงน้าํ ทถี่ กู เปดปาก” ทานอิบนุ อัล-มุบาร็อก ไดกลาววา “ฉันไดเดินทางมาถึง เมืองมะดนี ะฮใฺ นชวงปท ี่แหงแลง อยางรนุ แรง ซึ่งผคู นตา งออกมา ขอฝน โดยที่ฉันก็ออกมารวมกับพวกเขาดวย และแลวฉันก็ได พบกับเด็กนอยผิวดําคนหนึ่งที่สวมผากระสอบผืนเล็กๆ ผืนหนึ่ง และอีกผืนหน่ึงไดใหชายผาพาดไวบนบาของเขา แลวเด็กนอย คนน้ันก็ไดน่ังขางฉัน ซ่ึงฉันไดยินเขากลาววา “พระเจาของฉัน พระองคไดสรา งใบหนาตา งๆ เพ่ือใหเกิดความผดิ บาปและมีการ งานที่ไมดีอยางมากมายกระน้ันหรือ ? อันที่จริงพระองคไม ประทานน้ําฝนจากฟากฟาลงมายังพวกเราเพ่ือเปนการอบรม บาวของพระองคดวยกับส่ิงน้ัน ดังนั้น ฉันขอวิงวอนตอพระองค โอผูทรงออนโยน ผูทรงมีความสุขุม โอผูท่ีบาวของพระองคไม รูจักพระองคนอกจากพระองคเปนผูทรงสวยงามยิ่ง ไดโปรด ประทานความชุมชํ่าแกพวกเขาสักชวงหนึ่ง สักชวงหนึ่ง ซ่ึงเด็ก นอยคนน้ันยังคงขอวา สักชวงหนึ่ง สักชวงหน่ึง จนกระท่ัง 241

ฟากฟาปกคลุมไปดว ยเมฆฝน และแลวโปรยฝนกไ็ ดตกลงมาจาก ทุกทิศทาง” ทานอิบนุอัล-มุบาร็อกไดกลาววา “ฉันไดไปหา ทานอัล-ฟุฎ็อยล” ซึ่งเขาไดกลาวแกฉันวา “ดูเหมือนทานกําลัง เครงเครียดอยูใชไหม ?” ฉัน (อิบนุอัล-มุบาร็อก) ไดกลาววา “มี เรื่องท่ีคนอื่นไดทําสําเร็จกอนเราแลว และเขาไดทําหนาที่แทน เราไปแลว (คือวิงวอนขอดุอาอใหอ ัลลอฮฺประทานฝนลงมา) และ ฉันก็ไดเลาเรื่องราวที่เกิดขึ้นใหทานฟุฎ็อยลฟง ทานจึงรองไหจน สะอึกสะอื้น แลวลมสลบไป (เพราะรูสึกวาสาเหตุของความแหง แลงน้ันเกิดจากความผิดของเขาดวยเชนกัน และเขาเองก็ไมได รับโอกาสท่ีจะเปนผทู ี่คล่ีคลายสถานการณน้ันดวยการวงิ วอนขอ จนทาํ ใหอัลลอฮฺตอบรับ)” และมรี ายงานวา “ทานอมุ ัร บนิ อัล-คอ็ ฏฏอบ เราะฎิยัลลอ ฮอุ นั ฮุ ไดออกมาขอใหฝ นตกลงมาแกกลุมชนของอลั -อับบาส ซง่ึ หลังจากที่ทานอุมัรขอดุอาอเสร็จ ทานอัล-อับบาสก็ไดกลาววา “โออัลลอฮฺ แทจริงพระองคจะไมทําใหเกิดภัยพิบัติจากฟากฟา นอกจากดวยกับการกระทําท่ีผิดบาป และพระองคจ ะไมทรงปลด เปล้ืองมันนอกจากดวยการเตาบัต ในความเปนจริงกลุมชนของ ฉันไดมุงมายังพระองคเนื่องดวยแผนดินท่ีศาสนทูตของพระองค เคยใชช วี ิตอยู ศ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั และนีค่ ือมอื ของพวก เราท่ีเปอนบาป และพวกเราตางส่ังเสียใหเตาบัตกันแลว สวน พระองคน้ันเปนผูดูแลพวกเรา และไมทําใหพวกเราไดหลงผิด 242

พระองคจะไมปลอยใหคนจํานวนมากอยูในพ้ืนที่ที่คับแคบ ซ่ึง ผูคนทั้งเด็กเลก็ และผูใหญตางถอ มตนยอมจํานนตอพระองคแ ลว พวกเขาตา งยกเสยี งวอนขอดวยความรอ งทุกข ซึ่งพระองคท รงรู ดีถึงสิ่งท่ีเรนลับตางๆ โออัลลอฮฺ ไดโปรดประทานความชุมชาํ่ แก พวกเขาดว ยกบั น้าํ ฝนของพระองค กอ นทีพ่ วกเขาจะสิ้นหวังแลว พระองคก็จะทําลายพวกเขา แนนอนวาจะไมมีใครสิ้นหวังใน ความเมตตาของพระองค นอกจากกลุมคนที่ปฏิเสธศรัทธา” มี รายงานวา ไมท นั ทีท่ านอลั -อบั บาสจะขอจนจบประโยค กลุมเมฆบน ทองฟาก็ไดก อตวั ข้ึนประหนึง่ ภเู ขาแลว 243

10. ฟนฟอู ิบาดะฮฺทีถ่ กู ลืม การทําการคาใหมีผลกําไรกับอัลลอฮฺมันตองเก็บเก่ียวทุก ชอ งทางท่พี ระองคทรงพึงพอพระทัย ซ่งึ คนท่ีแสวงหาความตองการ ของพระผูเปนเจา รวมถึงสิ่งที่พระองคทรงช่ืนชอบ เขาจะตองมี ความเชี่ยวชาญในการทําการคานัน้ กับพระผูอภิบาลของเขา อัซซะ วะญัลละ แตในความเปนจริงผูคนมักจะเคยชินกับการทําอิบาดะฮฺ บางอยางโดยเขาใจวามันเปนชองทางเดียวเทาน้ันที่จะเปนลูทาง ไปสูอัลลอฮฺ แตคนที่แสวงหาความพึงพอพระทัยของพระผูอภิบาล นั้นสมควรท่ีจะตองคนหาลูทางท่ีถูกลืมและชองทางท่ีผูคนตางเหิน หางจากมนั ซงึ่ มนั เปน ส่ิงทผ่ี คู นไมค อ ยใหค วามสนใจเนอื่ งจากความ เกียจครา นและความออนแอ ซ่ึงหน่ึงในอิบาดะฮฺที่ผูคนมักจะหลงลืมและไมคอยให ความสําคัญกับมัน และเราจะไมคอยพบวายังมีผูคนท่ีเอาใจใสกับ มันยกเวนเพยี งเล็กนอ ยเทานน้ั นน่ั คอื การอิสตฆิ ฟารชวงเวลาสะ หูรหรือใกลรุงอรุณ ซึ่งมันคืออิบาดะฮฺของคนที่มีความสัจจริง ดงั อลั ลอฮฺ ตะอาลา ไดดํารัสวา 244

‫ ٱ َّ ِ�ي َن َ� ُقولُو َن َر َّ� َنآ إِ َّ� َنآ َءا َم َّنا َفٱ ۡغفِ ۡر َ�َا ُذنُو َ� َنا‬١٥ ‫﴿ َوٱ َّ ُ� بَ ِص ُ�ۢ بِٱ ۡلعِ َبا ِد‬ �َ ِ‫َوٱ ۡل ُمنفِق‬ �َ ِ‫ۡل َ�ٰنِت‬ ‫َو ِق َنا َع َذ ا َب‬ ‫ل َّ ٰص ِ�ِ � َن َوٱ ل َّ ٰص ِد ِق َ� َوٱ‬ ‫ٱ‬ ِ١‫ر‬٦‫بِٱٱ ۡ َّ��َاۡس ِر َحا‬ ‫َوٱلۡ ُم ۡس َت ۡغفِرِ� َن‬ [١٧ ،١٥ :‫﴾ ]ال ﻋﻤﺮان‬ ١٧ ความวา “และอัลลอฮนฺ ั้นทรงเหน็ บรรดาบาวทั้งหลาย คือบรรดา ผูที่กลาววา โอพระเจาแหงพวกขาพระองคแทจริงพวกขา พระองคศรัทธากนั แลว โปรดทรงอภยั โทษใหแกพวกขา พระองค ดว ยเถดิ ซึ่งบรรดาความผิดของพวกขาพระองคและโปรดไดทรง ปองกันพวกขาพระองคใหพนจากการลงโทษแหงไฟนรกดวย บรรดาผูที่อดทน และบรรดาผทู ่ีพูดจรงิ และบรรดาผทู ่ีภักดี และ บรรดาผูที่บริจาคและบรรดาผูท่ีขออภัยโทษในยามใกลรุงอรุณ” (สูเราะฮฺอาล อมิ รอน อายะฮทฺ ี่ 15-17) สะหัร คือชวงทายของคํ่าคืน มันคือชวงเวลาใกลรุงอรุณ ดวยเหตุนี้จึงสงเสริมใหคนที่ตองการถือศีลอดทานอาหารใน ชวงเวลานี้ และยังสงเสริมใหเผ่ือเวลาสักเล็กนอยกอนท่ีจะเขา เวลาศุบุหฺเพื่ออิสติฆฺฟารตออัลลอฮฺ และวอนขอการใหอภัยโทษ ขอใหพระองคลบลา งความผดิ และขอใหรอดพน จากไฟนรก เพราะ มันคือชวงเวลาที่ดีท่ีสุดและเปนบทสรุปของชวงเวลาท่ีผานมา ทั้งหมด มันเปนชวงเวลาที่พื้นดินและฟากฟาไดเชื่อมโยงกัน และ มันเปนชวงค่ําคืนของคนที่ละหมาดตะฮัจุดท่ีอบอวลดวยกับลม หายใจของบรรดามลาอิกะฮฺที่ถูกสงลงมา พรอมกับความ 245

กรุณาธิคุณอันลนพนท่ีถูกโปรยลงมา มันยังเปนชวงเวลาที่พระผู เปนเจาที่ทรงใจบุญเสด็จลงมาในชวงหน่ึงในสามสุดทายของค่ําคืน จนกระทั่งมันทําใหเทาไดเหยียดตรงบนท่ีละหมาดท่ีมีเกียรติ และ น้ําตาก็ไดหลั่งไหลจนเปยกชุมเนื่องจากความดีใจท่ีไดใกลชิดผูทรง ยิ่งใหญ ผูทรงเกรียงไกร พรอมกันนั้นมือท้ังสองก็ยกข้ึนสูงเพื่อวอน ขอในส่ิงท่ีตองการ และใชลิ้นในการเปลงซิกิรและอานสิ่งท่ีถูก ประทานลงมา และอีกหนึ่งในอิบาดะฮฺท่ีถูกลืมก็คือ อิบาดะฮฺแหงการ พินิจใครครวญการสรางสรรคของอัลลอฮฺและความมหัศจรรย ตางๆ ที่พระองคทรงสรางข้ึนมา รวมถึงการพินิจใครครวญพระ นามของพระองค คุณลักษณะของพระองค การสรางสรรคของ พระองค รวมถงึ ความโปรดปรานตา งๆ ของพระองค อลั ลอฮฺ ตะ อ‫ َِنَ�ان‬าِ‫ ْووق‬ล‫ ُ�ُرَف‬าِ‫فت َكَّّك‬ไَٖ ‫َن‬ด‫�َٰ��ٰ َت‬ดََ‫ํ� َو‬า‫ۡم ۡب‬ร‫ِه ُس‬สั‫ا��ِ ِر‬ใ‫َهو‬นٗ ‫جِطَّ�ُن‬เُ ร‫ََو�ٰٱ‬อื่ �ٰ ‫لا‬งَِ‫ََذ‬น�ۡ�ٰ‫ََّ้و‬วีَ ‫ٱ‬า‫َخ َّٱۡلس َّ َِقِ��ٰيَ�ٱٰلَن ِ َّتسيَ ََۡذ�ٰوٱَ�ُٰۡك َُ�رِ�تو ِ ََونٱضۡٱ َ�ََّر� ََّ�� َِناقِض َ َ�ٰمَوٗامٱا ۡخَ َخوتِ َلُ�َ�ٰۡقُع ِوَ ٗفتدا‬١‫ل‬٩‫ٱ‬٠ �ِ ‫﴿ إِ َّن‬ ‫ٱ ۡ َ� ۡل َ�ٰ ِب‬ ‫ِ� َخ ۡل ِق‬ [١٩١ ،١٩٠ :‫ ﴾ ]ال ﻋﻤﺮان‬١٩١ ِ‫َع َذا َب ٱ�َّار‬ ความวา “แทจริงในการสรางบรรดาช้ันฟาและแผนดิน และการ ท่ีกลางวันและกลางคืนตามหลังกันนั้น แนนอนมีหลายสัญญาณ สําหรับผูมีปญญา คือบรรดาผูท่ีรําลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืน 246

และน่ัง และในสภาพที่นอนตะแคง และพวกเขาพินิจพิจารณา กันในการสรางบรรดาชัน้ ฟา และแผนดิน (โดยกลาววา) โอพระ เจาของพวกขาพระองค พระองคมิไดทรงสรางสิ่งน้ีมาโดยไร สาระ มหาบริสุทธ์ิพระองคทาน โปรดทรงคุมครองพวกขา พระองคใหพนจากการลงโทษแหงไฟนรกดวยเถิด” (สูเราะฮอฺ าล อิมรอน 190-191) �‫َّال ۡح[ِيَِاب‬١‫َٱح‬٦َ‫كفَأ‬٤‫ءٖ َِّس‬:‫سفَّ�َم َٱهآ﴾لا ِءّ]رِِراَ�ِمﻟٰ َﺒوِٱحنﻘۡل َُﺮَّفومٱةاۡلٓل‬١َّ٦‫و ِٱ‬٤َ‫ٱبَِلۡ﴿هِۡ� ُم ِرٱإِ َۡسَّنَ�ي�َّخ ِِ َ ِر��ضبَٱ ََۡۡ�خَ�َ ۡ�ۡلع ۡ ِحَٱدقلرِٱََّمسلبِ ۡوََممَّتِساآ َهَِءايَ�ٰنَ َ�وََٰوٱف َ�ۡ ُِعتَ� َّ�ٱثَوِٱ�َّ�ِۡاضي َ�َ َه�اس�ِ َ َ�ِمٰوض َم ٖنآَتوٱأَُ ّلِنَِّۡخ�َقزتَِۡو َلدَ�ٰاٖ�ٓٱبَّ ِ َ�ةٖ َّفۡعُ�َوٱقِتََّلُِم ۡ�ۡوَنِلَِ�نٱ�ل‬ ความวา “แทจริงในการสรางบรรดาช้ันฟาและแผนดิน และ สับเปลี่ยนกลางคืนและกลางวัน และเรือที่ว่ิงอยูในทะเลพรอม ดวยสิ่งท่ีอํานวยประโยชนแกมนุษย และน้ําท่ีอัลลอฮฺไดทรงให หลั่งลงมาจากฟากฟา แลวทรงใหแผนดินมีชีวิตชีวาข้ึนดวยน้ํา น้ันหลังจากท่ีมันตายไปแลว และไดทรงใหสัตวแตละชนิด แพร สะพัดไปในแผนดิน และในการใหลมเปล่ียนทิศทาง และใหเมฆ ซง่ึ ถกู กําหนดใหบริการ (แกโ ลก) ผันแปรไประหวา งฟากฟา และ แผนดินนั้น แนนอนลวนเปน สญั ญาณนานาประการแกก ลมุ ชนที่ ใชปญ ญา” (สูเราะฮฺอลั -บะเกาะเราะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 164) 247

ٖ‫َوِ َ�ُه ۡهَو َت ٱُد َّوِ�اْ ٓبِي َهاَأ� ِ َش�أَ ُظلُُ�َ�ٰم ِ ِّمت ٱنلۡ َ َّ�ِّ� ۡف َوٖٱ ۡسَ� َۡح�ٰرِ�ِح َقَد ۡدة‬ ‫ٱ ُّ� ُجو َم‬ ‫َل ُ� ُم‬ ‫َج َع َل‬ َّ ‫﴿ َو ُه َو‬ ‫ٱ ِ�ي‬ ‫َف َّص ۡل َنا‬ ٩٧ ‫ٱ� َ�ٰ ِت لِ َق ۡو ٖ� َ� ۡع َل ُمو َن‬ ‫ َو ُه َو ٱ َّ ِ� ٓي أَن َز َل‬٩٨ ‫عۗ َق ۡد َف َّص ۡل َنا ٱ� َ�ٰ ِت لِ َق ۡو ٖ� َ� ۡف َق ُهو َن‬ٞ ‫ر َو ُم ۡس َت ۡو َد‬ّٞ ‫َ� ُم ۡس َت َق‬ ‫ َنَاَٰو� َِمج َ�ۡنَّنٰ َُمه ٖرِتهَِخ ّٓۦِم ِ ِۡإنٗ�َذ�أَآ ُّۡ�َ�ۡ�َن ۡ�ارِ َم َُٖجبر‬ٞ‫ُنظأَ َُردۡخا ٓوَ�ِراْ َي ۡجِإة‬ٞ‫َِِمموٱۡن َلنُه َّزٱ ۡل� َُتحَّ ّٗبسوا َمَانُّٓمءِ ََوَ�ٱَمالآ ُّكِٗرء ٗبَّما َفاأَ ََون ِۡمخ ََُرمن ۡجۡٱشَناَت�َّبِبِٗۡهخهِا ِۦل َوَ� ِمََبغا ۡن َ�َ َتط ُمۡلُ َتِّعِ� ََهاٰ� َبِقٍِهۡ�ۡن� َوٱٖءان َف‬ [٩٩ ،٩٧ :‫ ﴾ ]اﻻﻧﻌﺎم‬٩٩ ‫َو َ� ۡنعِهِۚۦٓ إِ َّن ِ� َ�ٰلِ ُ� ۡم � َ�ٰ ٖت ّلِ َق ۡو ٖ� يُ ۡؤ ِم ُنو َن‬ ความวา “และพระองคคือ ผูที่ทรงใหมีแกพวกเจาซึ่งดวงดาว ทั้งหลาย เพื่อพวกเจาจะไดรับการชี้นําดว ยดวงดาวเหลาน้ัน ทั้ง ในความมืดแหงทางบกและทางทะเล แนนอนเราไดแจกแจง โองการท้ังหลายไวแลว สําหรับกลุมชนท่ีรู และพระองคคือ ผูท่ี ทรงใหพ วกเจา เกิดขึน้ จากชวี ิตหนงึ่ โดยใหม ที ี่พัก และใหมีที่ฝาก แนนอนเราไดแจกแจงโองการท้ังหลายไวแลว สําหรับกลุมชนที่ เขาใจ และพระองคน้ันคือ ผูที่ทรงใหนํ้าลงมาจากฟากฟา แลว ทรงใหออกมาดวยนํ้าน้ัน ซ่ึงพันธุพืชของทุกสิ่งและเราไดใหอ อก จากพันธุพืชนั้น ซึ่งส่ิงที่มีสีเขียว จากสิ่งที่มีสีเขียวน้ันเราไดให ออกมาซง่ึ เมลด็ ท่ซี อนตวั กันอยู และจากตนอินทผลมั นั้น จนั่ ของ มันเปนหลายต่ํา (และทรงใหออกมาดวยนํ้านั้นอีก) ซ่ึงสวนองุน และซัยตูน และทับทิม โดยมีสภาพคลายกัน และไมคลายกัน พวกเจาจงมองดูผลของมันเม่ือมันเร่ิมออกผล และเม่ือมันแกส ุก 248

แทจริงในสิ่งเหลาน้ันแนนอน มีสัญญาณมากมาย สําหรับหมูชน ผูศ รทั ธา” (สเู ราะฮฺอลั -อนั อาม อายะฮฺท่ี 97-99) ‫ ُلٱ ّلِِ ۡلِ�� َّن َباا ُ ِس ِلُب �سَ ُ�لإُِي ََّورن ٗتّ�ِا ِ ِ�َوك ِم َ�ُٰذَلِنلُ ٗٱَلك�ۚ َّشَ�ۡ� َيَجُرٗةرِ ُجّلَِو َق ِمِمۡو َّم ٖۢا�ن‬ٞ‫إِ ُُّ َِ ۡ���َتٱلِ ِمٌ�َّنفۡح َُ�ِلّۡلِ�َأَ�ٰنُٱِن ُه َّ�ٱۥ ََّم�َِِ��ٰيِذ ِهِتي ِشَف ِمَٱفآَۡنسء‬ ‫﴿ َوأَ ۡو َ ٰ� َر ُّ� َك‬ ‫ ُ� َّم‬٦٨ ‫َ� ۡعرِ ُشو َن‬ ‫ب‬ٞ ‫ُ� ُطونِ َها َ َ�ا‬ [٦٩ ،٦٨ :‫ ﴾ ]اﻟﻨﺤﻞ‬٦٩ ‫َ� َت َف َّك ُرو َن‬ ความวา “และพระเจาของเจาทรงดลใจแกผ้ึงวาจงทํารังตาม ภูเขาและตามตนไม และตามท่ีพวกเขาทํารานขึ้น แลวเจา (ผึ้ง) จงกินจากผลไมท้ังหลาย แลวจงดําเนินตามทางของพระเจา ของ เจา โดยสะดวกสบาย มีเครื่องดื่มท่ีมีสีสันตางๆ ออกมาจากทอง ของมัน ในน้ันมีสิ่งบําบัดแกปวงมนุษยแทจริงในการนั้น แนนอน ยอมเปนสัญญาณแกกลุมชนผูตรึกตรอง” (สูเราะฮฺอัน-นะหฺล อา ยะฮทฺ ี่ 68-69) และยังรวมถึงอายะฮฺตางๆ ท่ีกลาวถึงความเดชานุภาพ ของอัลลอฮฺ ที่เรียกรองไปสูการครุนคิดและพินิจพิจารณาในเนอ้ื หา ของมนั พึงรูเถิดวา อิบาดะฮฺขางตนน้ีเปนแนวทางหลักท่ีจะ เสริมสรางความเชื่อมั่น (ยะกีน) ตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ สวน การพินิจใครครวญน้ันจะทําใหสติปญญารับรูไดทันทีวามีพระผู 249


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook