นน้ั สิง่ น้ีเปน คา ตอบแทนเพื่อกระตนุ เขา เขากจ็ ะไมส ามารถทาํ ได ซึง่ นีค่ ือความเกยี จครา นท่ีจะยบั ยัง้ เขาจากการทาํ อะมลั พรอมกบั หวน่ั เกรงวามนั จะสงผลใหลม เลกิ และละท้งิ อะมลั ซึง่ อลั ลอฮฺทรงรดู ที ส่ี ดุ สวนหลักฐานตามทัศนะนี้คือการทุมเทละหมาดของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จนกระท่ังเทาแตกในการละหมาด สุนัต แตสําหรับการละหมาดฟรฎน้ันก็ใหละหมาดในทุกสภาพ ไม วาจะชวงที่รางกายแข็งแรง หรือเจ็บปวย ก็ใหละหมาดดวยการยืน หรือน่ัง หรือนอน หรือกอดอก หรือทาทางใดก็ตามที่สามารถทําได (จากหนงั สอื “อัศ-เศาะลาตุ วัต-ตะฮัจดุ ” โดยทานอิบนุ อัล-ค็อร รอฏ หนา 305) และหวังวาการอภิปรายที่มีคุณคานี้จะฉายใหทานเห็นถึง พลังที่ซอนอยูในความลับตา งๆ ดังน้ัน ทานจงตระหนกั ในเรื่องนใ้ี ห มากๆ เพราะมันเปนเน้ือหาที่มีคุณคาที่สุดเทาท่ีทานจะไดพบใน บรรดาหนังสือที่กลาวถึงความถอมตน การขัดเกลาจิตใจ และ คณุ ธรรมจริยธรรม ในความเปนจริงชาวสะลัฟน้ันมีความเขาใจเปนอยางดีถึง คําส่ังใชของอัลลอฮฺ และพวกเขาไดพินิจใครครวญในแกนแทของ โลกนี้รวมถึงบั้นปลายของมันสูโลกอาคิเราะฮฺ ดังนั้น พวกเขาจึง ปลีกตัวจากฟตนะฮฺตางๆ ของมัน และสีขางของพวกเขา เคล่ือน หางจากท่ีนอน สวนหัวใจของพวกเขาก็ปลีกหางจากความ ทะเยอทะยานไปยังมัน และแรงปณิธานของพวกเขามเี หนือกวาสิ่ง 50
ท่ีไรส าระ ทานจะไมพบเหน็ พวกเขานอกจากจะอยูในสภาพที่ถือศีล อด ยืนละหมาด และรองหมรองไห ซ่ึงเราดีใจอยางยิ่งท่ีไดแนะนํา ชีวประวัติอันมีเกียรติของพวกเขาที่เต็มไปดวยเรื่องราวของแรง ปณิธาณอนั แรงกลา ในการเตาบตั ตวั และยืนหยัดในหลกั การศาสนา รวมถึงความมุงม่ันของพวกเขาในการทําอิบาดะฮฺและนอบนอม ถอมตนตออัลลอฮฺ และนี่คือเรื่องราวเล็กๆ นอยๆ ท่ีจะฉายใหเห็น ถึงคํากลาวและการทําอิบาดะฮฺของพวกเขาที่บงช้ีถึงความเอาจริง เอาจัง ความมุงมนั่ และแรงปณธิ านของพวกเขา ทานอัล-หะสัน อัล-บัศรี ไดกลา ววา “ใครท่ีแขงกบั ทานใน เร่อื งศาสนากจ็ งแขง กบั เขา สวนใครทีแ่ ขงกบั ทา นในเร่อื งโลกดุน ยา ก็จงปลอยเขาไป” ทานวุฮยั บฺ บนิ อลั -วรั ด ไดก ลา ววา “หากทา นสามารถทจี่ ะ ไมใหใ ครนําหนาทา นไดในเรือ่ งอัลลอฮฺ กจ็ งทาํ เถดิ ” ชัยคฺชัมสุดดีน มุฮัมมัด บินอุษมาน อัต-ตัรกิสตานี ไดกลาว วา “ไมมีขาวคราวใดท่ีมาถึงฉันเกี่ยวกับคนๆ หน่ึงท่ีไดทําอิบา ดะฮฺหนึ่ง นอกจากฉันจะทาํ อบิ าดะฮฺนน้ั เหมอื นกัน และฉนั จะเพมิ่ มากขน้ึ อีก” นักทําอิบาดะฮฺคนหน่งึ ไดกลาววา “หากมีคนๆ หนึ่งรูวามี คนท่ียําเกรงตออัลลอฮฺมากกวาเขา เขาก็จะตายในสภาพวิตก กังวลทก่ี ารงานของเขาไมไดมีมาก” 51
มีคนถามทานนาฟอฺวา “ทานอิบนุอุมัร ไดทําอะไรบางใน บานของเขา ?” ทานนาฟอฺไดตอบวา “ทานจะอาบนํ้าวุฎอฺทุก การละหมาด และจะอานอลั กรุ อานระหวา งน้ันตลอด” เมื่อทานอิบนุอุมัรพลาดละหมาดญะมาอะฮฺหน่ึง “ทานจะ ถือศีลอด (สุนัต) 1 วัน จะทําใหกลางคืนมีชวี ิตชวี า (ทําอิบาดะฮฺ ตลอดท้ังคนื ) และจะปลอ ยทาส 1 คน” ทานอบูมูซา อัล-อัชอะรี ไดมุงมั่นทําความดีอยางมากกอน ใกลเ สียชวี ิต จึงมีคนกลา วแกทานวา “เพลาๆ หนอ ยไมไดห รือทา น ?” ทานอบูมซู าจงึ กลาววา “เม่ือมา วิง่ เขา ใกลเ สนชัยเทา ใด มันก็ จะย่ิงทุมพลังท่ีมีอยูท้ังหมดเพื่อใหเขาสูเสนชัยไดเร็วข้ึน เฉกเชน ผูท่ีมุงสูโลกอาคิเราะฮฺเขาก็จะทุมความสามารถทุกอยางท่ีมีอยู เมื่อรูวาใกลเสียชีวิต” มีคนเลาวา “และแลวทานอบูมูซาก็ไดทํา เชน นัน้ จนเสียชวี ติ ” ทานเกาะตาดะฮฺไดเลาวา ทานมุวัรริกฺ อัล-อิจฺลีไดกลาว วา “ฉันไมพ บวา ผูศรัทธาจะเปรยี บไดกบั สง่ิ ใด นอกจากเปรยี บได กับแผนไมที่ลอยในทะเล” แลวเขาก็กลาววา “ยาร็อบ ยาร็อบ (โอพระผูอภิบาล โอพระผูอภิบาล) หวังวาอัลลอฮฺจะทําใหเขา ปลอดภัย” จากทานอุสามะฮฺเลาวา “คนท่ีเคยเห็นทานสุฟยาน อัษ- เษารีนั้น มักจะเห็นทานเหมือนอยูในเรือที่หวาดหวั่นวามันกําลัง จะอบั ปาง ซง่ึ คําพดู สวนใหญท ี่ไดย ินจากทานคือ “ยารอ็ บ สลั ลมิ 52
สัลลิม (โอพระผูอภิบาล ไดโปรดใหความปลอดภัย ไดโปรดให ความปลอดภยั )” จากทานญะอฺฟรเลาวา พวกเราไดไปเย่ียมทานอบี อัต-ตัย ยาหฺ ในขณะท่ีทานเจ็บปวยอยู ซึ่งทานไดกลาววา “ขอสาบาน ตออัลลอฮฺ สมควรอยางย่ิงท่ีมุสลิมคนหนึ่งจะตองเพิ่มการงานที่ ไดบกพรองตอคําส่ังใชของอัลลอฮฺดวยความขยันขันแข็ง มากกวา น”ี้ แลวทานกไ็ ดร องไห จากทานหญิงฟาฏิมะฮฺ บินติอับดุลมะลิก ภรรยาของ ทานอะมีรุลมุอมินีน อุมัร บินอับดุลอะซีซ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดเลา วา “ฉันไมเคยเห็นใครละหมาดและถือศีลอดมากกวาทาน (อุมัร บินอับดุลอะซีซ) และไมมีใครที่จะมีความยําเกรงตอพระผู อภิบาลมากกวาทาน ทานเคยละหมาดอิชาอ แลวน่ังรองไห จนกระทั่งหลับไป แตแลวทานก็สะดุงต่ืนข้ึนมารองไหจนกระท่ัง หลับไปอีกครั้ง คร้ังหนึ่งขณะที่ทานอยูรวมกับฉันบนเตียงนอน แตเมื่อทานนึกถึงบางอยางเกี่ยวกับโลกอาคิเราะฮฺ ทําใหทานตัว สั่นเหมือนนกกระจอกท่ีกําลังสะบัดน้ํา แลวทานก็นั่งรองไหและ ไดด ึงผา หมออก” จากทานอัล-มุฆีเราะฮฺ บินหะกีม ไดเลาวา ทานหญิงฟาฏิ มะฮฺ บินติอับดุลมะลิก ไดกลาววา “โอทานมุฆีเราะฮฺ เปนไปไดที่ อาจจะมีคนละหมาดและถือศลี อดมากกวาทา นอุมัร บินอบั ดลุ อะ ซีซ แตฉันไมเคยเห็นใครแมแตคนเดียวที่จะมีความเกรงกลัวตอ 53
พระผูอ ภิบาลมากกวาทานอมุ ัร เมอ่ื เขาไปในบา นทา นก็จะเก็บตวั อยูแตสถานที่ละหมาดประจําของทาน โดยทานมักจะรองไหแ ละ วิงวอนขอดอุ าอจนกระท่ังหลับไป หลังจากน้ันทานก็จะต่นื ขน้ึ มา ทาํ เชน น้นั อกี ตลอดทง้ั คืน” จากทานอบีอุบัยดะฮฺ บินอุกบะฮฺ บินนาฟอฺ ซ่ึงทานไดเขา ไปหาทานหญิงฟาฏิมะฮฺ บินติอับดุลมะลิก แลวกลาววา “ไดโปรด เลาเก่ียวกับทานอุมัรแกฉันหนอยไดไหม” ทานหญิงไดตอบวา “ฉันไมรูเลยวาทานไดอาบนํ้าเนื่องจากมีญะนาบะฮแฺ ละฝนเปย ก ตั้งแตไดรับตาํ แหนงเปนเคาะลฟี ะฮอฺ ีก” ทานอัล-อัสวัด บินยะซีดเปนผูท่ีขยันทําอิบาดะฮฺอยางมาก เขาเคยถือศีลอดในวันที่อากาศรอนจัดจนตัวเหลืองเขียว ทําให ทา นอลั เกาะมะฮฺ บินกอ็ ยส กลาวกับเขาวา “ทาํ ไมทานตอ งทรมาน ตัวเองเชนนี้ดวย ?” เขาไดตอบวา “ฉันตองการเกียรติของมัน” ซงึ่ เขาเคยถอื ศีลอดจนตวั เขยี ว และเคยละหมาดจนลม ลงกับพ้นื ทาํ ใหท า นอนัส บนิ มาลกิ และทานอลั -หะสัน อัล-บัศรี ไดเ ขา มาหาเขา แลว กลาวแกเขาวา “แทจ รงิ อลั ลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ไมไดสั่งใชให ทานทําสิ่งเหลานี้เลย” เขาจึงตอบวา “ตัวฉันเปนบาวผูรับใช ซึ่ง ฉนั จะไมปลอยใหม คี วามสงบสุขใดๆ นอกจากฉนั จะไปหามัน” มีผูถามทานอามิร บินอับดุลลอฮฺ วา “ทานสามารถอดทน ตอการอดหลับอดนอนและความหิวกระหายในสภาพอากาศท่ี รอนจัดไดอยางไรกัน ?” เขาตอบวา “ฉันไมไดอดทนอะไร 54
มากมายหรอก เพียงแตฉันไดเปล่ยี นเวลาทานอาหารกลางวันไป เปนชวงกลางคืน และเปล่ียนจากการนอนกลางคืนเปนกลางวัน ซึ่งมันไมไดมีอันตรายอะไร” และเม่ือคํ่าคืนไดมาเยือนเขาก็จะ กลาววา “ความรอนของไฟนรกมนั ทําใหไ มร ูสกึ อยากนอน ดังนั้น จะไมม กี ารนอนจนกวาจะสวาง” จากทานอลั -หะสัน อัล-บศั รี ไดเ ลา วา ทา นอามิร บนิ ก็อยส ไดกลาวแกกลุมชนหน่ึงท่ีวิตกในเร่ืองโลกดุนยาวา “พวกทานมี ความวิตกมากจนเกินไปหรือเปลา ? ขอสาบานตออัลลอฮฺ หาก ฉันสามารถก็จะไมทําใหมีความวิตกมากจนเกินไป” ทานอัล-หะ สันไดเลาวา “ขอสาบานตออัลลอฮฺ เขาทําเชนนั้นไดจริงจนได พบอลั ลอฮฺ (เสียชวี ติ ไป)” จากทานอะหฺมัด บินหัรบ ไดกลาววา “นาแปลกใจยิ่งนัก สําหรับคนทรี่ ูด วี าสวนสวรรคไดประดับประดาบนตัวเขา สวนไฟ นรกก็ไดแผดเผาดานลางของเขา แตเขากลับนอนหลับสนิท ทา มกลางท้งั สอง ?” ทานอบูมุสลิม อัล-คูลานี “ไดแขวนแสตรงท่ีละหมาด ประจําตัวของเขาเพื่อใหมันขูขวัญตัวเขา ซึ่งทานเคยกลาวกับ ตนเองวา “จงลุกข้ึนเถิด ขอสาบานตออัลลอฮฺ ฉันจะจูโจมเจา อยางแนนอน จนกวาความเหนื่อยลานั้นมาจากตัวเจาไมใชมา จากตัวฉัน” ดังนั้น เมื่อความเกียจครานเร่ิมเขามาเขาก็จะใชแส ตีตรงหนาแขง แลวกลาววา “เจาสมควรที่จะถูกตีมากกวาสัตว 55
เลี้ยงของฉัน” และทานเคยกลาววา “คิดหรือวาบรรดาเศาะ หาบะฮฺของทานนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะให ความสําคัญกับมัน (การละหมาด) มากกวาเรา ? เปลาเลย ขอ ส า บา นตออัล ลอฮฺ ฉันจะแขงขันกับพวกเขาอยางสุด ความสามารถจนกวาพวกเขาจะรูวาหลังจากพวกเขานั้นก็ยังมี วรี บรุ ุษอยอู ีก” คนท่ีเคยเห็นทานมันศูร บินอัล-มอุ ฺตะมิร จะกลาววา “เขา ตองเปนคนที่ประสบกับเคราะหกรรมอะไรบางอยาง (เพราะ ความยําเกรงของเขาท่ีมีตออัลลอฮฺ) แขนขานาจะพิการ เสียง แหบ ตาละหอ ย และหากเขาเคลอื่ นไหวหยาดนา้ํ ตาท้งั ส่สี ายก็จะ ไหลเออออกมา (เพราะรองไหหนักมาก)” ซึ่งมารดาของเขาเคย กลาวแกเขาวา “เจาไดทําอะไรจนเปนถึงขนาดนี้ เจารองไหไม หยุดตลอดทั้งคืน จนฉันเกรงวาเจาจะเปนอะไร และเกรงวาเจา จะฆาตวั ตายหรอื เปลา ?” แตเขากลบั ตอบวา “โอท านแมจา ฉัน รดู ีวากําลงั ทาํ อะไรอย”ู ทานฮุชัยม ลูกศิษยของทานมันศูร บินซาซาน ไดเลาวา “หากมีผูแจงแกทานมันศูรวามะละกุลเมาต (มลาอิกะฮฺผูทํา หนาที่ปลิดวิญญาณของมนุษย) อยูท่ีประตูแลว ก็จะไมมีส่ิงใดท่ี เขาจะทําเพ่ิมขึ้นมาอีก (เพราะทาํ อบิ าดะฮทฺ กุ อยา งแลว)” ขอเทาของทานศ็อฟวาน บินสะลีม บวมเน่ืองจากการยืน ละหมาดเปนเวลานาน ทานขยันขันแข็งในการปฏิบัติอิบาดะฮฺ 56
จนกระทั่งหากมคี นแจงแกท านวา “วันกิยามะฮฺจะเกิดในวันพรุงน้ี แลว ก็จะไมมีสิ่งใดที่ทานจะทําเพิ่มขึ้นมาอีก” และทานมักจะ กลาววา “โออ ัลลอฮฺ แทจริงฉันชื่นชอบท่ีจะพบพระองค ไดโ ปรด ทรงช่ืนชอบท่ีจะพบฉันดว ยเถดิ ” จากทานมูซา บนิ อสิ มาอลี ไดกลา ววา “หากฉันจะบอกแก พวกทานวา ฉันไมเคยเห็นทานหัมมาด บินสะละมะฮฺหัวเราะเลย พวกทานจะเช่ือฉันไหม ? ตัวทานหัมมาดน้ันเปนผูท่ีสาละวนอยู กบั ตัวเอง บางทีก็รายงานหะดษี บางทีก็อา นหนังสอื บางทกี ็ซกิ ริ ตออัลลอฮฺ บางทีก็ละหมาด ซ่ึงทานไดจัดสรรเวลาในแตละวัน สําหรบั การงานเหลา นี้” จากทานวะกีอฺ ไดเลาวา “ทานอัล-อะอฺมัชน้ัน เม่ือมีอายุ ใกล 70 ป ทานไมเคยพลาดตักบีรแรกเลยสักคร้ังหนึ่ง และ นับตั้งแตฉันไดติดตามทานมายาวนานถึง 60 ป ฉันไมเคยเห็น ทา นชดละหมาดสักรอ็ กอตั เดียวเลย” จากทานหัมมาด บินสะละมะฮฺ ไดเลาวา “พวกเราไมเคย เขามาหาทานสุลัยมาน อัต-ตัยมี ในชวงเวลาท่ีตองทําอิบาดะฮฺ ตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ นอกจากพวกเราจะพบวาทานกําลัง ทํามนั อยู ซงึ่ หากเปนชว งเวลาทต่ี องละหมาด พวกเรากจ็ ะพบวา ทา นกาํ ลังละหมาด แตหากไมไ ดเ ปนชว งเวลาที่ตอ งละหมาดฟร ฎ พวกเราก็จะพบวาทานกําลังละหมาดสุนัต หรือไปเย่ียมเยียนคน 57
ปวย หรือติดตามญะนาซะฮฺ หรือไมกน็ ่ังอยใู นมัสญิด ซึ่งพวกเรา เหน็ พอ งกันวาทา นไมเคยฝา ฝน อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ เลย” เหลานี้คือตัวอยางของคนท่ีมุงเดินทางสูโลกอาคิเราะฮฺที่มี ความจรงิ ใจที่สุด จงเลยี นแบบพวกเขาแมไมอ าจเปน อยา งพวกเขาได เพราะการพยายามเลียนแบบคนดกี ถ็ อื วาสําเรจ็ แลว และนี่คือเร่ืองราวแหงการตอสูกับจิตใจและการเพียร พยายามเอาชนะความใครของพวกเขา ดังน้ันจงนึกถึงเรื่องราว เหลานี้ในชวงเวลาท่ีทานเกียจครานเถิด และจงขอตออัลลอฮฺให ทา นสามารถทาํ การงานทดี่ ไี ดส าํ เร็จ 58
4. เลิกทาํ ตัวขเี้ กยี จ บอกลาจากคนข้เี กียจ แลวคบกับคนขยันทําความดี ไมมีอะไรที่จะโชครายสําหรับคนท่ีมุงสูอัลลอฮฺย่ิงไปกวา ความขเ้ี กียจและการคบกับคนข้ีเกียจ เพราะมิตรสหายคอื เงาติดตัว และมันจะคอยเลียนแบบคนทีอ่ ยูดวยกนั “ซึ่งลักษณะของคนท่ีมุงสูโลกอาคิเราะฮฺอยางแทจริงคือ พวกเขาจะอยูรวมกบั กลมุ คนท่ีมุงสโู ลกอาคิเราะฮดฺ ว ยกัน โดยไม วุนอยูกับคนที่ข้ีเกียจและหมกหมุนอยูกับความเพริศแพรวของ โลกดุนยาที่จะบั่นทอนไมใหสามารถดํารงบนเสนทางน้ีไดอยาง แทจ รงิ ” (หนงั สืออรั -รอกออกิ ฺ โดยรอชดิ หนา 140) ครั้งเม่ือฆาตกรที่เคยฆาคนมาแลว 100 ชีวิตตองการท่ีจะ เตาบัตตัว ก็มีคนแนะนําวาใหอพยพออกจากบานเมืองท่ีอยูเพราะ ยังเปนบา นเมืองทีไ่ มด ี แตใหเดนิ ทางไปยังที่หน่ึงซ่ึงยงั มีผูค นทาํ อบิ า ดะฮฺตออัลลอฮฺอยู และใหทําอิบาดะฮฺรวมกับพวกเขา (บันทึก โดยอัล-บุคอรแี ละมสุ ลมิ ) 59
ดังนั้น คนที่ปรารถนาการอภัยโทษในเดือนเราะมะฎอนจึง ตองปลีกตัวจากคนที่จมปลักอยูกับชีวิตท่ีไมมีแกนสาร แลวหันไป คบกับคนที่มีปณิธานอันแนวแน ดังท่ีทานอัล-ุนัยดไดกลาววา “จงเดนิ ทางกบั คนที่มีแรงปณิธานอนั แนวแนเ ถดิ ” อันที่จริง อัลลอฮฺไดส่ังใชสิ่งถูกสรางที่ดีเลิศท่ีสุด น่ันคือ ทานนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ใหคบกับคนที่ขยัน มงุ ม่นั สูอลั ลอฮฺ และใหปลกี ตวั จากคนท่หี ลงลืม ซง่ึ พระองคไ ดดาํ รสั ไวว า ��ِّ َ ٱبِٱۡ َۡ�ل َيَغ ٰو َدةِ ٰوٱةِ ُّ�َوۡ�ٱ َيۡلاَۖع َِو ﴿ َوٱ ۡص ِ ۡ� َ� ۡف َس َك َم َع ٱ َّ ِ�ي َن َي ۡد ُعو َن ُيرِ� ُدو َن ُت ِط ۡع َم ۡن َر َّ� ُهم ُت ِر� ُد َ� ۡن ُه ۡم َو َ� َ� ۡع ُد َ� ۡي َنا َك َو ۡج َه ُهۖۥ : ﴾ ]الﻜﻬﻒ٢٨ َأ ۡم ُر ُهۥ ُف ُر ٗطا ِز� َن َة َه َوٮٰ ُه َوٱ َّ� َب َع َق ۡل َب ُهۥ َعن ِذ ۡك ِر َنا َأ ۡ� َف ۡل َنا َو َ� َن [٢٨ ความวา “และจงอดทนตอตวั ของเจา รวมกับบรรดาผวู งิ วอนตอ พระผูเปนเจาของพวกเขา ทั้งยามเชาและยามเย็น โดย ปรารถนา ความโปรดปรานของพระองค และอยาใหสายตาของ เจาหนั เหออกจากพวกเขา ขณะท่เี จา ประสงคความสวยงามแหง ชีวิตของโลกนี้ และเจาอยาเช่ือฟงผูท่ีเราทําใหหัวใจของเขา ละเลยจากการราํ ลึกถงึ เรา และปฏบิ ตั ิตามความใครของเขา และ กจิ การของเขาพินาศสญู หาย” (สเู ราะฮฺอัล-กะฮฟฺ อายะฮฺท่ี 28) 60
และพระองค อัซซะวะญัลละ ไดด าํ รสั อีกวา [١٥ : ﴾ ]ﻟﻘﻤﺎن١٥ ۚ�َّ َ ِ﴿ َوٱتَّبِ ۡع َسبِي َل َم ۡن َ�نَا َب إ ความวา “และจงปฏิบัติตามทางของผูที่กลบั ไปสูขา ” (สูเราะฮฺลกุ มาน อายะฮทฺ ี่ 15) [١١٩ และพระองคไดดํารัสวา �َ َّ ٱ ْٱ َّ� ُقوا َْءا َم ُنوا ٱ َّ ِ�ي َن يَٰٓ َ� ُّ� َها ﴿ : ﴾ ]اﻟﺘﻮ�ﺔ١١٩ �َ َِو ُ�ونُواْ َم َع ٱل َّ ٰص ِدق ความวา “โอศรัทธาชนทัง้ หลาย พงึ ยําเกรงอลั ลอฮเฺ ถดิ และจงอยู รว มกับบรรดาผูท พ่ี ูดจริง” (สเู ราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ อายะฮทฺ ี่ 119) ดงั นน้ั หากคนๆ หน่งึ ไดค บกบั คนทคี่ ิดวาการละหมาดเพยี ง ชวงเวลาส้ันๆ ในยามคํ่าคืนถือเปนผลงานชิ้นโบวแดงแลว เขาก็จะ พลาดการกาวขามทําสิ่งที่ดีกวาได ยิ่งกวาน้ันเขาจะรูสึกภาคภูมิใจ กับชวงเวลาสั้นๆ ท่ีเขาไดทุมเทไปเพื่อพระผูอภิบาลของเขา ในทาง กลับกนั หากเขาไดม องไปยังคนท่อี ยรู อบตัวเขาทไี่ ดยนื ละหมาดนาน นับช่ัวโมงในการตะฮัจุด การวิงวอนขอดุอาอ และการโอดครวญ รอ งไห อยา งนอ ยๆ เขากจ็ ะรสู ึกเสยี ใจในความบกพรอ งตลอดเวลา ฉะน้ัน การเลิกพฤติกรรมที่เกียจครานจงึ ถือเปนศาสนกิจที่ คนในทุกยุคทกุ สมยั มักจะละทิ้งกัน ซ่ึงนักวิชาการทานหนง่ึ ไดกลา ว วา “การพักผอ นมไี วส าํ หรับคนทไ่ี มเ อาไหน” 61
ทานชุอฺบะฮฺ บินอัล-หิญาจญ อัล-บัศรี ผูเปนอะมีรุลมุอ มินีนในเรื่องหะดีษไดกลาววา “พวกทานอยาน่ังรวมกับคนที่ชีวิต ไมมแี กนสาร เพราะความตายคอยจอ งมายังพวกทา นเสมอ” ทานอัช-ชาฟอีไดก ลา ววา “การตอ งการพักผอนในโลกดนุ ยาเปนสิ่งท่ีไมคูควรสําหรับคนท่ีมีเกียรติ เพราะพวกทานแตละ คนยงั คงตองเหนด็ เหน่อื ยอยูตลอดเวลา” มีคนกลาวแกผูสมถะทานหน่ึงวา “มีวิธีใดบางที่จะทําให คนๆ หน่ึงเปนคนที่บริสุทธ์ิใจตออัลลอฮฺ ?” เขาไดตอบวา “เม่ือ สามารถละทิ้งการพักผอนและทุมเทอยางสุดความสามารถใน การฏออะฮฺตอ พระองค” มีคนถามทานอิมามอะหฺมัดวา “เม่ือไหรที่บาวคนหนึ่งจะ ไดล้ิมรสแหงการพักผอนบาง ?” ทานไดตอบวา “เม่ือเทาขาง หน่ึงไดเหยยี บลงในสวนสวรรคแลว” ในสวนการเลือกคบกับคนที่มีแรงปณิธานในการทําความดี และคนที่รักษาตนใหอยูในครรลองของศาสนา รวมถึงคนท่ีมีความ ผูกพันโดยตรงกับอัลลอฮฺน้นั ถือเปนส่งิ ทม่ี ุงมาดปรารถนาของคนท่ี จริงใจมงุ สอู ลั ลอฮฺ ทานซัยนุลอาบิดีน ไดกลาววา “คนๆ หน่ึงจะตองน่ังอยู รวมกบั คนที่เออื้ ประโยชนใ นเร่ืองศาสนาแกเขา” ทานอัล-หะสัน อัล-บัศรี ไดกลาววา “คนท่ีเปนพ่ีนองของ เราเปนที่รักใครย่ิงกวาคนในครอบครัวและลูกหลานของเราเสีย 62
อีก เพราะคนในครอบครัวมักจะทําใหวุนอยูกับโลกดุนยา แตคน ทเี่ ปนพน่ี องมักจะทําใหว นุ อยกู บั โลกอาคเิ ราะฮฺ” นักกวีทา นหน่ึงไดกลาววา ไมใ ชทรพั ยส นิ ที่จะเปน เสบยี งสาํ หรบั มนษุ ย แตเพ่ือนท่ีดตี า งหากที่จะเปน เสบียงอยางแทจ ริง และสวนหน่ึงจากคําสั่งเสยี ของชาวสะลัฟกค็ ือ การใหเลือก มิตรสหายท่ีดี ทานอัล-หะสัน อัล-บัศรไี ดกลาววา “สําหรับตัวทาน นั้นจะไดรับผลโดยตรงจากสหายของทาน และตัวทานเองก็จะ สงผลแกคนท่ีทานรักเชนกัน ดังนั้น จงพิถีพิถันในการเลือกเพ่อื น สหาย รวมถึงคนท่ีจะมาอยูด วยกันเถิด” ดังนั้น ใหพยายามคบหากับมิตรสหายท่ีมีแรงปณิธานอัน แนวแนท่ีจะคอยชวยเหลือทานในการเดินทางนี้ จงคนหาพวกเขา ตามมัสญดิ ตางๆ ถามไถถ งึ พวกเขาตามแหลงชุมนมุ พบปะของคนที่ มีความยําเกรง อยาพยายามสรางเงื่อนไขในการเขาหาพวกเขา และหากถึงข้ันตองประกาศบนปายโฆษณาตางๆ วา “ประกาศหา ผูชวยกระตุนทําความดใี นเดือนเราะมะฎอน” ก็จงประกาศมนั ไป เถดิ พรอมๆ กบั การคบมิตรสหายจะกระตุน ใหใ ชทุกวินาทีอยา ง คมุ คา แลว พวกทานกย็ ังสามารถทบทวนตัวเองในทุกลมหายใจและ 63
ชวงเวลาท่ีมีคุณคาไปดวย ซ่ึงหากคนใดคนหน่ึงเพิกเฉยตอการ ละหมาดญะมาอะฮฺก็จะมีคนคอยกระตุนใหลงโทษตัวเอง เฉกเชน ท่ี ทา นอบิ นอุ มุ รั ไดท าํ ไว ซึ่งทานคงเคยเห็นคนท่ีเกียจครานละหมาดตะรอวีหฺเพียง ชวงเวลาส้ันๆ หลังจากน้ันก็อดหลับอดนอนโตรุงตลอดทั้งคืนจน พลาดละหมาดศบุ ุหฺ [١٠٤ : ﴾ ]الﻜﻬﻒ١٠٤ ﴿ َو ُه ۡم َ ۡ� َس ُبو َن َ� َّ� ُه ۡم ُ ۡ� ِس ُنو َن ُص ۡن ًعا ความวา “และพวกเขาคดิ วา แทจ ริงพวกเขาปฏิบตั ิความดแี ลว” (สเู ราะฮอฺ ลั -กะฮฟฺ อายะฮฺที่ 104) โอคนดีเอย มันตองไมเปนเชนน้ัน แตเราจะบอกถึงกิจวัตร ของคนที่มุงสูอัลลอฮฺอยางแทจริง นั่นคือ เวลาของพวกเขาทั้งหมด จะหมดไปกับการซิกิรและการอานอัลกรุ อาน สวนสถานท่ลี ะหมาด ของพวกเขาจะกระห่ึมดวยเสียงรองไหเนื่องจากความยําเกรง ตออัลลอฮฺ ทานจะเห็นพวกเขาอยูในสภาพอิดโรยเนื่องจากความ หวาดหว่ันตอสภาพในวนั อาคเิ ราะฮฺ ในแงของอิบาดะฮฺทานจะเห็น พวกเขายืนตรงตระหงานประหน่ึงวาพวกเขาไมไดถูกสรางมา นอกจากเพ่ือทําการฏออะฮฺ และจะไมปรากฏในพจนานุกรมของ พวกเขาวา “ฉันไดพลาดละหมาดญะมาอะฮฺ” แลวแทบไมตองพูด ถึงตัวละหมาด ซ่ึงทานจะเห็นการยืนและการนั่งของพวกเขาใน สภาพที่นอบนอมถอมตนเนื่องจากมีความละอายตออัลลอฮฺ โดย 64
พวกเขามักกลาววา “พระองคทรงบริสุทธ์ิย่ิง แตเรากลับไมอิบา ดะฮฺตอพระองคอยา งจริงจังสกั ท”ี คํ่าคืนของพวกเขา ทานรูหรือไมวาคํ่าคืนของพวกเขาเปน เชนไร ? เสียงรองไหโอดครวญของพวกเขาไดถูกกลบดวยเสียง สะอึกสะอน้ื ﴾يَن ُظ ُرو َن َو ُه ۡم ٱلۡ َم ۡو ِت َ � ُ َسا ُقو َن َك َ� َّ� َما �ِإ [6 :]اﻷﻧﻔﺎل ﴿ ความวา “ประหน่ึงวาพวกเขาถูกตอนไปสูความตายโดยท่ีพวก เขากําลงั มองดกู นั อย”ู (สูเราะฮฺอลั -อนั ฟาล อายะฮทฺ ี่ 6) การละหมาดของพวกเขาในความมืดมิดไดสองแสงรัศมี แหงเกียรติ ความรูสกึ ทีห่ ายจากอาการเหนด็ เหน่อื ยถอื เปน กลิน่ อนั อบอวลของน้ําหอม ความงดงามของการเขาเฝามุนาญาจตอพระผู อภิบาลเปนสิ่งที่ทําใหเคลิบเคล้ิม ในยามรุงอรุณถูกใชลบลางความ อาฆาตแคนที่มีอยูในหัวใจดวยการอิสติฆฟารฺ การไดใกลชิด พระองคเปนสิ่งท่พี วกเขามงุ มาดปรารถนา และความสุขของการได สนทนาโตตอบกบั พระองคค อื สง่ิ ทพ่ี วกเขาตางเพลิดเพลนิ พึงรูเถิดโอผทู ี่ต่ืนตัวในการทําความดี ความพยายามในการ แสวงหาการอภัยโทษในเดือนเราะมะฎอนจะสมบูรณไดน้ันทาน จะตองหาอาจารย (ชัยคฺมุร็อบบี) ที่คอยอบรมสั่งสอนตัวทาน โดยตรง ซึ่งอาจเปนคนท่ีสามารถเห็นถึงคุณลักษณะน้ันไดอยาง ชัดเจนหรืออาจจะเปนคนที่ปดบังมันอยู และบางทีอาจจะเปนผูรู 65
หรือคนท่ีกําลังศึกษา แตการใชชีวิตและคํากลาวของเขาจะทําใหรู วาเขาเปนคนท่ีมีการงานลับพิเศษกับอัลลอฮฺอยู (เชน กิยามุลลัยลฺ ถือศีลอดสุนัต เปนตน) และเฉกเชนพวกเขาน้ันมักจะเปน ที่รูจ ักกัน ดี แตหากถงึ ขนั้ ไมเปนที่เปดเผยวามีใครบา ง ก็ยังพอมีคนทสี่ ามารถ แนะนาํ ทา นวาพวกเขาคอื ใคร หากทา นถามถงึ พวกเขาใหบอ ยๆ สวนเงื่อนไขท่ีทานจะรับประโยชนจากพวกเขาไดนั้นคือ พวกเขาจะตองอยูในแนวทางของชาวอะฮฺลิสสุนนะฮฺ และยึดวิถี ของชาวสะลัฟ เพราะพวกเขาคือดวงดาวที่ทําหนาท่ีคอยชี้นํา ประชาชาตนิ ี้ เฉกเชนพวกเขาน่ีแหละที่ทานสามารถจะรับประโยชนจาก คําแนะนํา คําช้ีแนะ คุณลักษณะนิสัย รวมถึงการปฏิบัติของพวก เขากอนคําพดู ของพวกเขาเสยี อีก ทานจะเห็นการละหมาดของพวก เขาเปนตนแบบของคนท่ีมีความยําเกรงอยางสุดหัวใจ และเปน ตนแบบสําหรับคนท่ีมีจิตใจมั่นคงและประกอบศาสนกิจอยาง เครงครัด การตักบีรในละหมาดของพวกเขาแมจะมีเสียงที่แผวเบา แตก็ประหน่ึงเสียงคํารามของสรรพสิ่งท้ังหลายเนื่องดวยความ จริงใจตอ การตกั บรี ตอ พระองค การรุกูอฺและการสุูดของพวกเขาถือเปนสัญลักษณของ การสุูดของทุกสรรพส่ิง ซ่ึงหากทานไดเพงมองไปยังการทําอิบา ดะฮฺของพวกเขา ทา นคงปรารถนาที่จะใหส รรพสิ่งท้งั หมดไดแ ซซ อ ง สดุดพี รอมๆ กบั พวกเขา ซง่ึ อัลลอฮไฺ ดก ลาวถึงทา นนบดี าวดุ ไวว า 66
ۖ َ ۡ� ُشو َر ٗة �َ ۡ َوٱل َّط ١٨ َوٱ ۡ ِ� ۡ َ�ا ِق �ِّ ِ بِٱ ۡل َع ٱ ۡ ِ� َبا َل َم َع ُهۥ � ُ َس ّبِ ۡح َن ﴿ إِنَّا َس َّخ ۡرنَا [١٩ ،١٨ : ﴾ ]ص١٩ بٞ � َّ ُ� ٓۥ أَ َّواّٞ ُ ความวา “แทจริง เราไดทําใหภูเขาแซซองสดุดีพรอมกับเขา ทั้ง ในยามพลบค่ําและยามรงุ อรุณ และ (เราไดทําให) นกมารวมกัน ท้ังหมด เช่อื ฟงเขา” (สเู ราะฮฺศ็อด อายะฮฺที่ 18-19) โออัลลอฮฺ เราขอตอพระองคใหไดคบกับมติ รสหายที่ดแี ละ ไดโปรดใหเราทุกคนเขา สูสวนสวรรคอ นั สขุ สําราญ 05. 67
เตรียมพรอ มที่จะเปลีย่ นแปลงตัวเอง َو ِ� َّن، ﻠَﻴْ ِﻪท َﻋานﻘ َﻊนَ �َ บاีْنศ ََأﺬอ็ َفﻜลُﺎ َﻫล�َ ِﻪลัَ ِﺑล ٍلﻞอَ َﺎﺒฮุ� ََﻘﺟอَ ﺖะ َِﻪลﻧْْﺤ ِﻔยัَأَﺗฮَ ٌﺪﻰวิﻋَِﻋﻠะﺎสัم َﻗَّﺮลَ ُﻪลัﺄٍَ َّﻧبมﺑَﺎ َﻛไُُﻪﺬด�َ َﻛกﻧُﻮลَ� ُذُﻪา ىﻮวُﻧว َﺮُذา اِإﻟْ َّ َنﻔﺎالِْﺟُﻤ َﺮْﺆﻳَِﻣ َﺮَﻦىَﻳ ความวา “ผูศรัทธานั้นเห็นความผิดของตัวเอง ราวกับวาเขา กําลังน่ังอยูเชิงเขาโดยเกรงวามันอาจจะถลมลงมาทับเขาไดทุก เมื่อ ในขณะที่คนชั่วจะเห็นความผิดของตัวเองราวกับวามันเปน แคแมลงวันตัวหนึ่งที่บินมาเกาะอยูบนจมูกของเขา เขาเพียงแค เอามือปดมันใหบ นิ หนีไปเทา นัน้ ” (บนั ทึกโดยอลั -บคุ อร)ี เพราะความมุงมั่นตั้งใจของคนท่ีผูกพันกับโลกอาคิเราะฮฺ นั้นจะไมสนใจอะไรนอกจากความสมบูรณแบบ ทําใหขอบกพรอง อนั นอ ยนิดทมี่ ีอยูจึงเปนความผิดอนั รายแรง นกั กวีทา นหนงึ่ ไดก ลาววา ฉนั ไมเ คยเหน็ ใครทําความผดิ ใดที่จะรายแรงยงิ่ กวา ขอบกพรอ งของคนท่ีสามารถทําสงิ่ น้นั ไดอ ยางสมบรู ณ 68
และเทาท่ีแรงปณิธานแนวแนเพียงใดก็จะย่ิงเพ่ิมความมุ มานะมากเทาน้ัน และเทาท่ีแรงปณิธานไดถดถอยเพียงใดก็จะย่ิง เพ่ิมความอดื อาดยืดยาดมากเทา น้ัน นักกวีทา นหนงึ่ ไดก ลา ววา ความมงุ มนั่ ตง้ั ใจจะเปน ไปตามสิ่งท่มี อี ยใู นคนนน้ั และความใจบุญกจ็ ะเปน ไปตามสง่ิ ทม่ี อี ยูในคนน้ัน และนี่เปนการตอบโตคนที่กลาววา “จะมีใครอีกเลาท่ี บริสุทธ์ไิ รม ลทินอนื่ จากบรรดานบ”ี ผใู ดบางจะมมี ารยาททดี่ เี ลศิ ทุกประการ เพยี งพอแลวทค่ี นหน่งึ จะมเี กียรตหิ ากเขาไดทบทวนตวั เอง ซ่ึงนี่หลักเกณฑสําหรับใชกับคนท่ัวไป แตสําหรับการใชก บั ตัวเองจะวางอยบู นฐานของการตาํ หนติ ัวเอง และการแสวงหาความ สมบูรณ รวมถงึ ไมร ูสึกพอใจตอสิ่งท่ีบกพรอ ง หากจติ ใจมันใหญเกนิ ตัว ก็ยากทีร่ า งกายจะสนองความตองการของมันได ก็เหมือนกับคนท่พี ยายามใหองคประกอบของความศรทั ธา มีความสมบูรณโดยตลอด ทําใหทุกครั้งที่เขารูวามันไดบกพรองไป เขาก็ตั้งใจที่จะทําใหมันมีความสมบูรณอีกคร้ัง โดยรูดีถึงความ 69
จําเปนท่ีมันจะตองมีความบรสิ ุทธ์ิ ซ่ึงเขาจะรวบรวมทุกสิ่งทุกอยา ง ทอี่ ัลลอฮฺประทานมากอนหนา นเี้ พื่อขจดั ส่งิ ทีไ่ มดใี หห มดไป (ทง้ั ๆ ที่ บางทีอาจจะมีสิ่งไมดีปะปนกับสิ่งดี) นอกจากน้ีเขาจะยังคงต้ังใจที่ จะจัดการมันไปเร่ือยๆ จนกวาจะเปนไปตามความตองการของเขา นั่นคือ การทําใหองคประกอบของความศรัทธามีความสมบูรณ (ดู ในอลั -อะวาอิก หนา 38) อันที่จริง ความมุงมั่นตั้งใจมีอยูตลอดเวลา แตเปนเพราะ ความผิดบาปท่ีกลายเปนโรครายจนฝงลึกและกลายเปนความเคย ชิน จึงไมสามารถท่ีจะใชวิธีรักษาท่ีใชกันโดยท่ัวไปได แตจะตองใช วิธีผาตัดแบบถอนรากถอนโคนในชวงเดือนเราะมะฎอน และการท่ี แรงปณิธานไดลุกโชนกอนท่ีจะเขาสูชวงเวลาท่ีจําเริญนี้ ทําใหไมมี ส่ิงใดอีกนอกจากการลงมืออยางเด็ดเด่ียวและอดทนตอความ เจ็บปวดทม่ี นั ฝง ลกึ จนสรา งความเจ็บปวดตอ ความศรัทธาและความ ยําเกรงของทาน แตไมควรที่จะใชสารเสพติดมาจัดการเร่ืองน้ี เพราะมันจะทําใหทานมึนงงและจับตนชนปลายไมถูก จนสุดทาย ทานอาจจะไมรูวามีสวนใดบางที่ยังไมถูกถอนรากถอนโคนจนหมด ส้ิน ซ่ึงมันอาจจะหลงเหลือกอนเน้ือเล็กๆ ท่ีจะสงผลใหเกิดโรคราย ข้ึนมาอีกครั้งเม่ือทานพรามัวหรือถูกลอลวงดวยการมองหรือการ กระซิบกระซาบหรือยังมีความรูสึกผูกพันกับมันอยู ดังน้ัน ให จัดการและผาตัดมันอยางเร็วที่สุดในชวงเดือนเราะมะฎอน และ อยาทําโดยคอยเปนคอยไปตามที่เราเรียกมันวาสารเสพติด แตให 70
จัดการกับความผิดบาปนั้นดวยความเด็ดขาดและอยาใหมี ความรสู ึกทคี่ นุ ชินไปกับความผิดนั้น และอยาไดหวาดหว่นั ตอ ความ เจ็บปวดท่ีเกิดขึ้น เพราะมันเปนอาการขางเคียงของการรักษาท่ีจะ ประสบความสาํ เรจ็ และเปน วิธีรักษาที่จะทําใหหายขาด อันท่ีจริง บรรยากาศของเดอื นเราะมะฎอนถอื เปน โอกาสที่ ดีสําหรับการปรับปรุงแกไขความผิดบาปและการปฏิบัติส่ิงท่ีไมดี ตางๆ จนเกิดความเคยชิน เพราะมันเปนเดือนแหงการคุมครอง กลาวคือ มีการระงับความใคร (การบริโภคอาหารและการมี เพศสัมพันธ) ซง่ึ ความใครทีม่ ีอยถู อื เปน บอเกดิ ของความชว่ั รายและ สงิ่ ที่ฝาฝน ทง้ั หลาย สว นพวกชยั ฏอนกถ็ กู ลามโซต รวนซึ่งพวกมนั ถอื เปน บอ เกดิ ของความเสียหายที่ลกู หลานอาดัมไดป ระสบ นอกจากนี้ บรรยากาศของผูคนท่ีทําแตความดีก็เปนอีกหน่ึงองคประกอบ จน คนท่ีถือศีลอดจะไมเห็นใครนอกจากพวกเขาจะถือศีลอดและ แขงขันกันทําความดี ทําใหความมุงมั่นตั้งใจของเขาที่จะทําส่ิงท่ีฝา ฝนจึงลดนอยลงไปดวยและยังสามารถทําความดีไดอยางขยัน ขันแข็ง ดังน้ัน องคประกอบท่ีสําคัญท้ังสามประการบวกกับความ มุงม่ันตั้งใจที่จะใหเกิดสิ่งท่ีดีนน้ั จึงเกิดบรรยากาศที่ดแี ละเหมาะสม ในการจดั การกบั โรครา ยตางๆ กระน้ันก็ตาม อยาลืมวาในเดือนนี้ยังมีบัญชีรายช่ือของผูท่ี ไดรับการปลดปลอยจากไฟนรก ผูที่กลับเน้ือกลับตัวตออัลลอฮฺ และผูท่ีไดรับการตอบรบั ในการงานตางๆ ที่พระผูอภิบาลผูสูงสงได 71
เปดรับไว และถามองดูอยางผิวเผินแลวก็จะพบวาคนที่ยึดม่ันใน ศาสนาสวนใหญเมื่อไดอ ยูในชวงตนของเดือนเราะมะฎอนแลวก็จะ มีความรูสึกท่ีโศกเศราอยางหนักทามกลางความเงียบสงัดของยาม คํา่ คนื ทเ่ี ตม็ ไปดว ยความพเิ ศษอันมากมาย และหากเดือนน้ียังไมสามารถปลุกแรงปณิธานในการ จัดการกับส่งิ ไมดตี า งๆ ก็จะไมห ลงเหลือโอกาสใดอกี แลว สําหรบั คน ที่มุงสูโลกอาคิเราะฮฺจะทาํ ใหเ ขาบริสุทธจ์ิ ากสิง่ ไมด ตี า งๆ ได ซึ่งใคร ก็ตามท่ีถูกหามจากความจําเริญของเดือนเราะมะฎอนและไม สามารถที่จะลบลางความผิดตา งๆ ของเขา แลวเม่อื ไหรอกี ท่ีเขาจะ มโี อกาสไดร ับความจาํ เริญนี้ ในหนังสือเศาะฮีหฺของอิบนุคุซัยมะฮฺรายงานวา ทานญิบรี ลไดก ลา ววา َﻓﺄَ ْ� َﻌ َﺪ ُه اﻟ َّﻨﺎ َر َﻓ َﺪ َﺧ َﻞ َﻟ ُﻪ ُ� ْﻐ َﻔ ْﺮ َﻓﻠَ ْﻢ َر َم َﻀﺎ َن َﺷ ْﻬ َﺮ َأ ْد َر َك َﻣ ْﻦ : ا ُﷲ َ� ُﻘﻠْ ُﺖ �َ ْ آ ِﻣ ความวา “ผูใดเขาสูเดือนเราะมะฎอนแลว แตเขาไมไดรับการ อภัยโทษ เขาเขาสูไฟนรก ขอใหเขาหางไกลจากความเมตตา ของอลั ลอฮฺ แลว ฉนั ก็กลาว อามนี ” และมีรายงานจากอัฏ-เฏาะบะรอนี ดวยสายรายงานทเ่ี ฎาะ อฟี จาก؟ท ْﻰา َﺘน َﻤน�َ บ� ีﻴ ِﻪศِ อ็ﻟَ ُﻪลَﺮลั ِﻔล ْﻐล�َ อَ ْﻢฮا لอุ َذะِ إล، ยัﻟَ ُﻪฮิ ْﺮว َﻔะ ْﻐส�َ ลั ْﻢลَัﻓَﻠม َنไﺎดَﻀก مลَ َرา ว َكว َرา ُ� ْﻌ ًﺪا لِ َﻤ ْﻦ أَ ْد 72
ความวา “ขอใหหางไกลจากความเมตตาของอัลลอฮสฺ าํ หรบั คนที่ เขาสูเดือนเราะมะฎอนแลว แตเขาไมไดรับการอภัยโทษ ซ่ึงหาก เขายงั ไมไ ดรบั การอภยั โทษในเดือนนี้ แลวเมื่อไหรอีก ?” และมีรายงานโดยอัฏ-เฏาะบะรอนดี ว ยสายรายงานทีต่ องมี การพิจารณา จากทา นอุบาดะฮฺ บนิ อศั -ศอมติ (มัรฟูอฺ) َأ َﺗﺎ ُ� ْﻢ َو َ ُ� ُّﻂ،ال َّﺮﺣْ َﻤ ُﺔ َ�ﻴُ ْ ِ� ُل، ﻳ ْﻐ َﺸﺎ ُ� ْﻢ ا ُﷲ ِ�ﻴ ِﻪ،َﺑ َﺮ َ� ٍﺔ َر َم َﻀﺎ ُن َﺷ ْﻬ ُﺮ �َﻣ َْوﻦ ُ�ﺒَﺎُﺣ ِ ِﺮ َم،ﺎ ُﻓ َﻓ ِﺈِﺴ َّن اُ�ل ْﻢَّﺸ ِِ�ﻘﻴﻲ ِﻪ،ََأ� ْﻨْ� ُُﻔﻈ ُِﺮﺴ ا ُ� ُﷲ ْﻢ ِإﻟ َﺧﻰ ْ ًَ��اَﻨ ،اﻟ ُّﺪﻋﺎ َء ُ َﻓﺐﺄَ ُِر�ﻴواِﻪ، َﻼو�ِﺋَ ْﺴ َﺘَ�ﺘَِﺠ ُﻪﻴ،اِﺑﻟﺨَ َُ�ﻄ ْﺎﻢ َﻳﺎَم ا َﷲ ِﻣ ْﻦ ِ�ﻴ ِﻪ َرﺣْ َﻤ ًﺔ ا ِﷲ ความวา “เราะมะฎอนไดมายังพวกทานแลวซึ่งเปนเดือนท่ีมี ความจําเริญ โดยท่ีอัลลอฮฺไดแผความเมตตาลงมาแกพวกทาน ความผิดบาปจะถูกลบลางไป และการขอดุอาอจะถูกตอบรับ อัลลอฮฺจะมองดูพวกทานแขงขันกันทําความดีในเดือนน้ี และจะ อวดอางพวกทานตอบรรดามลาอิกะฮฺ ดังน้ัน พวกทานจงแสดง ใหอัลลอฮฺเห็นวาพวกทานน้ันมีอะไรดีบาง ซึ่งคนท่ีขาดทุนท่ีสุด คอื คนที่ถูกหามจากความเมตตาของอลั ลอฮฺ” สําหรับการเตรียมพรอมทําความดีและฝกตนใหมีความ มุ ง ม่ั น ตั้ ง ใ จ เ พื่ อ ป ฏิ บั ติ มั น ใ น เ ดื อ น เ ร า ะ ม ะ ฎ อ น ถื อ เ ป น ก า ร เตรียมพรอมที่สําคัญที่สุด ซ่ึงมันเปนนัยของหลักฐานตางๆ ที่ 73
กลาวถึงความประเสริฐของเดือนเราะมะฎอนและการมุงม่ันตั้งใจ ทําความดีในเดือนนั้น และโดยสวนใหญแลวมีความชัดเจนวาได กลาวถึงการปฏิบัติมันกอนเขาสูเดือนเราะมะฎอนหรือชวงตนของ เดือน แตบางคนก็ยังเพอฝนวาตัวเองจะมีความมุงม่ันตั้งใจ ซึ่ง ประหน่ึงเปนภาพลวงตาที่คนกระหายนํ้าคิดวามันเปนแองนํ้าแต เม่อื พวกเขามาถึงมนั เขากลับไมพบส่ิงใดเลย ซึง่ พวกเขาไดว าดฝนอยา งสวยหรูวา จะขยนั ขนั แข็งทําความ ดีในเดือนนี้อยางดีท่ีสุด และยังจินตนาการถงึ ภาพของการเปน คนดี แตเมื่อเขาเขาสูเดือนนี้แลว เขากลับกลาววา “วันน้ีด่ืมเหลา พรุงนี้ คอยวากัน” (เปนสํานวน หมายถึง คนที่กําลังงวนอยูกับอะไรสัก อยางหน่ึง ถึงแมจะมีเร่ืองสําคัญอะไรเขามา เขาก็จะไมละจากสง่ิ ท่ี เขากําลงั งว นอยู จนกวาจะจดั การใหเสร็จ) และหากพวกเขาตางมุง มั่นทําความดีกอ นทเี่ ราะมะฎอนจะ มาถึง จติ ใจของพวกเขากค็ งคุนชนิ กบั ความดี แตพ วกเขากลบั รอให มันใกลมาถึงกอน ซ่ึงเม่ือเวลาเพื่อการเตรียมตัวไดหมดแลว พวก เขากจ็ ะเปนประหนงึ่ คนท่ีไปตลาดแตไมพกเงนิ ไป แนน อนวา เขาจะ ไมจริงจังมากนักในการจับจายซื้อของ ย่ิงกวานั้นอาจจะมีคนกลาว กับเขาวา “ออกไปใหพน ซะ อยา กดี ขวางทางเดินคนอ่นื ” ซ่ึงทานอนัส บินอัน-นัฎรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เคยกลาวแก ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม หลังจากสงคราม 74
บะดรั วา “โอทานเราะสลู ุลลอฮฺ ฉนั พลาดเขารวมสงครามครัง้ แรกที่ ทานไดตอสูกับบรรดามุชริกีน ขอสาบานตออัลลอฮฺหากพระองคได ใหฉันรวมสงครามตอ สูกับชาวมุชรกิ ีนในครั้งตอไป พระองคจะเห็น วาฉันไดทําอะไรบาง” หลังจากนั้นมีรายงานวาบรรดาเศาะหาบะฮฺ ไดพบเขาในสงครามอุหุดในสภาพที่ถูกแทงมากถึง 80 แผล โดยมี ทั้งแผลจากคมดาบ จากคมหอก และจากลูกธนู ซึ่งทําใหเรารูถึง ความต้ังใจแนว แนข องชายคนน้ี และเม่ือเศาะหาบะฮฺทานหนึ่งไดกลาววา “โอทานเราะสู ลุลลอฮฺ ฉันไมไดสัตยาบันกับทานนอกจากใหลูกธนูเขามาทางน้ี แลวฉันก็ไดเขาสวรรค” ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกลาวแกเขาวา “หากทานจริงใจตออัลลอฮฺ พระองคก็ จะจริงใจตอทาน” หลังจากนั้นก็มีรายงานวาลูกธนูไดท่ิมแทงเขาสู ตําแหนงท่ีเขาไดชี้ไว ซ่ึงทําใหเรารูถึงแรงปณิธานอันแนวแนของ ชายคนนี้ ความมงุ มน่ั ต้งั ใจจะเปนไปตามสง่ิ ท่ีมอี ยูในคนนน้ั และความใจบุญกจ็ ะเปน ไปตามสง่ิ ที่มีอยูในคนนั้น เร่อื งท่ใี หญในสายตาของคนทม่ี องวา เปน เรอื่ งเลก็ มนั กจ็ ะเลก็ เรือ่ งท่ีเลก็ ในสายตาของคนที่มองวา เปน เรอ่ื งใหญม ันกจ็ ะใหญ 75
6. เตรยี มพรอ มสําหรับทําความดแี ละทบทวนตวั เอง พึงรูเถิดวา การเตรียมพรอมสําหรับทําความดีหรือ การฏออะฮฺตออัลลอฮฺ และการทบทวนตัวเองอยูเสมอนั้นเปนสอง ภารกิจที่มคี วามแตกตา ง แตทัง้ สองมคี วามสมั พนั ธกัน ในสวนการเตรยี มพรอมสาํ หรบั ทาํ ความดถี อื เปนสัญญาณที่ จะบรรลุถงึ ความสําเรจ็ และเปนตวั ช้ีวดั ถึงความจรงิ ใจในเปาหมาย ทีม่ ีอยู ซึง่ อลั ลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารสั ในเรือ่ งนี้วา [46 :﴿ ۞ َولَ ۡو أَ َرا ُدواْ ٱ ۡ ُ� ُرو َج َ َ� َع ُّدواْ َ ُ�ۥ ُع َّد ٗة ﴾ ]اﻟﺘﻮ�ﺔ ความวา “และหากพวกเขาตองการออกไป แนนอนพวกเขาตอง เตรียมสัมภาระสําหรับการออกไปนั้นแลว” (สูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 46) ดังนั้น การฏออะฮฺหรือการทําความดีจึงตองมีการ เตรียมพรอ มดวยการทําภารกจิ ตางๆ ท่ีศาสนาไดก าํ หนดไว จนกวา จะไดลิ้มรสและขจัดสิ่งที่เปนอุปสรรคของมัน โดยเฉพาะในชวง เดือนเราะมะฎอนท่ีการงานตางๆ มีความประเสริฐ มีผลตอบแทน 76
และมีการเพิ่มพูนเปนเทาทวีคูณเน่ืองจากความประเสริฐของ ชวงเวลานัน้ ทําใหการละหมาดญะมาอะฮฺ จึงเร่ิมดวยการอาบน้ําวุฎอ เปนอยางดี รวมถึงการมีเจตนาที่จริงใจในการแสวงหาผลบุญตา งๆ นอกจากนี้ยังใหไปเยี่ยมอัลลอฮฺในบานของพระองค (มัสญิด) และ ใหเกียรติตอคําส่ังใชของพระองค พรอมกับรุดหนาในการตอบ รับคําเรียกรองของพระองค “หยั ยะ อะลศั เศาะลาฮฺ” และใหรีบเรง สดับฟงคําโตตอบของพระองค และใหมีความสุขท่ีไดเขาเฝามุ นาญาจและเขาพบพระองค ทานอบีฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เลาวา ทานเราะสู ลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮอุ ะลยั ฮิวะสัลลมั ไดก ลาววา ،ْ ِّﺖ��ُ� َﻟ َُّﻪﻢَُﺳﻋ ِﺑﻠَﻮ ََﻴْﻬِﻗﺧﺎِﻪَِﻪﺮ َدَﻣَ َﺧجَﺎر ْﻤ َإَﺟد ًاﻟٌﺴﺔ َﺎمﻰ،ا َّﻒلَ�َﺗ ْﻢﻋلَََﻮ َﻠْﻢََّﻰﺿْ�ﺗَﺄ ُ َﺰ َﻂَﻓﺻِلﺄ َاﺧْﻼلﺣ ِﺗَْﻤﻄَِﻪﺴَﻮ ًَِﻼةﻦﻓﺋِإﻲالَﺑﻻَُ�ﻮيْ ُﺘﺔُُر ِﺿﻪِﻓﺗُﻮَﻌ ََءوﺼ،ﺔالَأﻓَُﺗ َّﺈﻧَّﺼََُذﻪﻀا َّﻌإﻼ ََُُةذﺻ،ٍ َُﺟﺧ ََﺟ ُوﻪَِﻄﻤذﺎإﻴِلﺌَﻋﻻٌَﺔﻚ،ََّﺮﻋﻨ ُﺟُِﻪﻻﺿِﻞﺑِْﻌُ َﻬً�ﻔﻓﺎﺎِﺮﻲ،اََولوَﺻَُِﻤﺣﻋ َّ ْْﻄﻼﺸﺴ ُةِﺮِْﺠﺖ�ا ِلﺪَﻦ َوﻻ ﻳَ َﺰا ُل، الﻠَّ ُﻬ َّﻢ ا ْرﺣَ ْﻤ ُﻪ، الﻠَّ ُﻬ َّﻢ َﺻ ِّﻞ َﻋﻠَﻴ ِﻪ: ﺗﻘﻮ ُل، َﻣﺎ لَ ْﻢ ُ�ْ ِﺪث،ﻓﻲ ُم َﺼﻼ ُه ﻓﻲ َﺻﻼ ٍة َﻣﺎ ا ْ� َﺘ َﻈ َﺮ ال َّﺼ َﻼ َة ความวา “ละหมาดของคนๆ หนึ่งในรูปแบบญะมาอะฮฺจะไดรับ ผลตอบแทนตา งจากการละหมาดท่ีบานของเขา หรือในตลาดถึง ยี่สิบหาเทา เมื่อผูใดอาบนํ้าละหมาดอยางสมบูรณที่สุดและได เดนิ ไปยังมัสญดิ ซ่ึงเขาผนู ้ันไมมเี ปาหมายอนื่ ใดนอกจากเพอ่ื การ 77
ละหมาด เขาจะไมยางกาวไปหน่ึงกาวนอกจากอัลลอฮฺจะ ยกระดับใหเขาหน่ึงระดับชั้น และจะลบบาปของเขาหนึ่งบาป และเมื่อเขาไดละหมาดมลาอกิ ะฮกฺ ็จะขอพรแกเขาตราบเทาทเ่ี ขา นั่งอยู ณ สถานที่ท่ีเขาทําการละหมาด ตราบที่เขาไมมีหะดัษ (เสียน้ําละหมาด) ดวยการกลา ว “โออัลลอฮขฺ อไดโปรดใหพ รแก เขาดวยเถิด และไดโ ปรดเมตตาเขาดว ยเถิด” คนๆ หนึ่งยังคงอยู ในการละหมาดตราบใดที่เขายังคอยละหมาดในเวลาตอไป” (บนั ทกึ โดยอลั -บคุ อรีและมุสลมิ ) การเตรียมตัวในท่ีน้ีหมายรวมถึงการทําความสะอาดและ การมีเจตนา โดยเปนการเตรียมจิตใจเพ่ือเขาพบอัลลอฮฺ อัซซะ วะญัลละ ซึ่งมันจะเกิดข้ึนไดดวยองคประกอบดังน้ี ปรับทัศนคติ ตามท่ีศาสนาไดกําหนดใชขณะที่ออกจากบานและเดินไปยังมสั ญดิ เพราะมันเปนส่ิงท่ีสําคัญอยางย่ิงท่ีจะทําใหหัวใจอยูกับเน้ือกับตัว และจะสง ผลใหไมทําในสิ่งที่สวนทางกบั ความสํารวมและสงบเสงย่ี ม ขณะท่ีกําลังเดินไปยังมัสญิด เชน การประสานนิ้วเขาดวยกัน การ หันมองผูคนที่อยูริมทาง รวมถึงการใหความสนใจตอความเพริศ แพรวของโลกดนุ ยามากจนเกนิ ไป (โดยเฉพาะในยุคสมัยปจจุบนั นี้) และการไมเดินอยางรีบเรง เพราะการเดินไปยังมัสญิดเปนสวน สําคัญในการเตรียมตวั เพื่อใหม ีสมาธิในละหมาด ดวยเหตุนี้ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลัม จงึ กลา ววา 78
، َوأْﺗُﻮ َﻫﺎ َ� ْﻤ ُﺸﻮ َن َﻋﻠَﻴْ ُ� ْﻢ ال َّﺴ ِﻜﻴ َﻨ ُﺔ،ِإ َذا أُ ِ�ﻴ َﻤ ْﺖ ال َّﺼ َﻼ ُة ﻓَ َﻼ ﺗَﺄْﺗُﻮ َﻫﺎ � َ ْﺴ َﻌ ْﻮ َن ความวา “เมื่อมีการอิกอมะฮฺเพื่อละหมาด พวกทานอยาไดไป ดวยความเรง รบี แตพ วกทานจงเดนิ ไปดว ยความสงบไมรบี รอน” (บันทึกโดยอลั -บุคอรแี ละมุสลิม) และมรี ายٍةงﻼาَ น َﺻในﻲสํ ِﻓา َﻮนَ� ُﻬวนﻼ ِةทَ ีﺼบ่ َّ นั الทึﻰก ِإ َﻟโﺪดُ ﻤยِ ْﻌท�َ า نนَ ﺎมَ ุﻛสَذاล ِإมิ َﻓﺈِ َّن أَ َﺣ َﺪ ُ� ْﻢ ความวา “ผใู ดท่ีตง้ั ใจจะละหมาด (ญะมาอะฮฺ) เขาผูน ั้นเสมือนได อยูในการละหมาดแลว” (บันทึกโดยมสุ ลิม) และไมสมควรท่ีจะหัวเราะมากจนเกินไปทั้งกอนและหลัง ละหมาด เพราะมันจะทําใหอรรถรสของความคุชูอฺหมดไปและจะ ทําใหหัวใจมีความแข็งกระดาง นอกจากน้ีจะทําใหระหวางตัวเขา และความรูสึกท่ไี ดร บั ผลจากการฏออะฮนฺ น้ั เหนิ หางออกไป และในขณะท่ีเขามัสญิดก็จําเปนที่จะตองเขาไปดว ยการให เกียรติ และแสดงถึงความหวาดหวั่นตอความนาเกรงขามของ สถานที่และผูเปน เจา ของมัน (น่ันคืออัลลอฮฺ) เพระมัสญิดคือสถาน ที่ความเมตตาจะถูกประทานลงมาและคือสถานที่ลงมาของความ จําเริญตางๆ ดวยเหตนุ ศี้ าสนาจึงกําหนดใหค นท่ีจะเขามสั ญิดกลาว วา ال َّﺸﻴْ َﻄﺎ ِن ِﻣ َﻦ اﻟْ َﻘ ِﺪﻳ ِﻢ َو ُﺳﻠْ َﻄﺎﻧِ ِﻪ اﻟْ َﻜ ِﺮ� ِﻢ َو�ِ َﻮ ْﺟ ِﻬ ِﻪ اﻟْ َﻌ ِﻈﻴ ِﻢ �ِ َّ ﺑِﺎ أَ ُﻋﻮ ُذ ال َّﺮ ِﺟﻴ ِﻢ 79
ความวา “ฉันขอความคุมครองตออัลลอฮฺผูทรงยง่ิ ใหญ ดวยพระ พักตรของพระองคอันทรงเกียรติ ดวยอํานาจความย่ิงใหญของ พระองคทมี่ แี ตน านมา ใหร อดพนจากชัยฏอนผูถ ูกสาปแชง ” และเม่ือเขาไปยังมัสญิดแลว ศาสนาก็ใหละหมาดสุนนะฮฺ ในนัน้ ระหวางทร่ี อละหมาด (ฟรฎ) ซ่งึ ความสาํ คญั ของการละหมาด สุนนะฮฺกอนนั้นเปนการเตรียมตัวใหมีสมาธิในละหมาดฟรฎที่ สมบูรณยงิ่ ข้ึน หลังจากนัน้ ศาสนากใ็ หละหมาดฟรฎดว ยหัวใจทม่ี ีสมาธอิ ยู กับเน้ือกับตัว ตามที่เราไดกลาวถึงเทคนิคการลิ้มรสความสุขของ การละหมาด และสวนหนึ่งของการเตรียมตัวน้ีคือ การเตรียมตัวเพื่อ ละหมาดตะรอวีหฺ เพราะถือเปนหนึ่งในอิบาดะฮฺท่ีสําคัญมากในค่ํา คืนของเดือนเราะมะฎอน ซ่ึงมีหะดีษที่ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลมั ไดก ลาววา َﻣ ْﻦ ﻗَﺎ َم َر َم َﻀﺎ َن ِإﻳ َﻤﺎﻧًﺎ َوا ْﺣتِ َﺴﺎﺑًﺎ ُﻏ ِﻔ َﺮ ﻟَ ُﻪ َﻣﺎ َ� َﻘ َّﺪ َم ِﻣ ْﻦ َذﻧْ ِﺒ ِﻪ ความวา “ผูใดลุกขึ้น (ละหมาดและประกอบอิบาดะฮฺ) ดวย ศรัทธามั่นและหวังในผลตอบแทนจากอัลลอฮฺ เขาจะไดรับการ อภัยโทษจากความผิดของเขาในอดีต”” (บันทึกโดยอัล-บุคอรี และมสุ ลิม) 80
และมรี ายงานจากทานอบีซรั ไดเ ลาวา َﻓﻠَ ْﻢ َ� ُﻘ ْﻢ ﺑِ َﻨﺎ َﺷيْ ًﺌﺎ ِﻣ َﻦ، ُﺻ ْﻤﻨَﺎ َﻣ َﻊ َر ُﺳﻮ ِل ا َّ ِ� َﺻ َّ� ا َّ ُ� َﻋﻠَﻴْ ِﻪ َو َﺳ ّﻠَ َﻢ َر َم َﻀﺎ َن ََﻠّﻧ ِإﻴْ َِِّنﻞﺖ: َﻓ ََ�ﺷﻠَ َْﻘَّﻤﻄﺎﺎ َُﺮلﻛاَلﺎ:ﺐ،َ َﻠّ َﻟَذﻴَْﻗﻴْﺎَِﻫﻠَﻞَ ٍلﺔ،َﺎ�لََﻘَﻛﺣَْﺎﻮﺎَّﺘَﻧَم َ�ﻰ َِِّﺑﻔ َ�ﺖَﻨﻠْﻨْﺎ َﺘا َﻨَﻟﺼﺎَْﺨَﺣِﺮﺎ ِ�ََّﺘِم َﻴﻰﺎف َﺴَمَذُﺔُﺣ ََﻫﻫَﻗِﺎﺴِﺬَ َم ِﺐهَﺐﺑِاُﺛَﻨلﻟَﺎﻠُ ُﻪﻠَّﻴْ ُ َِ�ﻠَﺣﺚ َﻴَِّﺔﺘﺎاﻰلُم،�ﻠﺎَ َِّمﻤ،ِ ٌِﻹﻊ ََّﻓَﻣ،لَ َّﺘ َْﻳﻢ َﻰﺎﺻ َ� ََّﺑَُرﻘ�ِﻘُْﺳﻢَ َﻲﻣﻮﺑِ ََﻊﻨَ َلﺎﺳاﺒْْا:اللل َّﺮََّ�َّﺴﺸُُﻘﺎﺟ ْﻬَِﻠْدﻞِﺮ َُﺳِإﺖ ُﺔَذَﺣا،اا ความวา “พวกเราไดรวมถือศีลอดพรอมกับทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในเดือนเราะมะฎอน ซ่ึงทานไมได นําละหมาด (ตะรอวีหฺ) แกพวกเราเลย จนกระท่ังเหลือ 7 คืน สดุ ทา ย โดยทา นไดนาํ ละหมาด (ตะรอวหี )ฺ แกพ วกเราจน 1 สวน 3 ของค่ําคืนไดหมดไป แตเมื่อถึงค่ําคืนที่ 6 สุดทาย ทานกลับไม นําละหมาดแกเรา แตเม่ือถึงค่ําคืนที่ 5 สุดทายก็ไดนําละหมาด แกพวกเราอีกครั้งจนเลยเวลาครึ่งคนื ไป ฉันจึงถามทานนบวี า โอ ทานเราะสูลุลลอฮฺ เปนไปไดหรือไมท่ีทานจะนําละหมาดพวกเรา ตลอดท้ังค่ําคืนเลย ทานนบีจึงกลาววา แทจริง เมื่อชายคนหน่ึง ไดรวมละหมาดพรอมกับอิมามจนกระท่ังเสร็จ เขาจะไดรับ ผลตอบแทนเสมือนเขาไดละหมาดตลอดทั้งคํ่าคืน” (บันทึก โดยอบดู าวดุ ดวยสายรายงานทเี่ ศาะฮหี )ฺ คนที่ละหมาดกยิ ามุลลัยลฺเปนประจําหลายคนไดมาปรารภ วาเขาไมสามารถลิ้มรสผลของการละหมาดนั้น ทั้งๆ ที่พวกเขาเช่ือ 81
ในความสําคัญของมัน และพยายามท่ีจะบรรลุเปาหมายของการ ปฏิบัติมนั ใหไ ด แตอันท่ีจริงแลว การละหมาดท่ีสําคัญนี้ (หมายถึงการ ละหมาดกิยามุลลยั ลฺ) ก็เหมือนกบั การละหมาดอืน่ ๆ ทจี่ ะตองมกี าร เตรยี มพรอ มเปน อยางดี ดว ยเหตุน้ี คนทีป่ รารถนาในประโยชนของ การละหมาดตะรอวีหฺจึงตองเริ่มดวยการทานอาหารใหนอยเทาท่ี จําเปน และเปนสิ่งที่ดีมากๆ หากเขาไปยังมัสญิดในสภาพที่ทองมี ความหิวโหย เพราะมันจะสงผลใหห ัวใจมสี มาธอิ ยูกบั เน้ือกบั ตวั เปน อยางมาก นอกจากน้ีเขาควรอาบนํ้าใหสะอาด และแตงตัวดวย เสื้อผาที่ดีท่ีสุด และใหไปยังมัสญิดต้ังแตเน่ินๆ แตถือเปนสิ่งที่แย อยางย่ิงหากเขาพลาดละหมาดอิชาอเปนญะมาอะฮฺ ซึ่งมันเปนตัว บงชี้ถึงการถูกหักหามจากความดีงามและไมเขาใจในหลักการ ศาสนาเปนอยางดี เพราะการละหมาดอิชาอเปนญะมาอะฮฺ เทียบเทากับการกิยามุลลัยลฺคร่ึงคืนดังท่ีมีหะดีษระบุไว และ ยิ่งกวานั้นมันเปนฟรฎท่ีอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ไดดํารัสถึงในหะ ดษี กดุ สีไววา َو َﻣﺎ َ� َﻘ َّﺮ َب إِ َﻟ َّﻲ َ�ﺒْ ِﺪي ﺑِﺄَ َﺣ َّﺐ إِ َﻟ َّﻲ ِم َّﻤﺎ اﻓْ َﺘ َﺮ ْﺿ ُﺖ َﻋﻠَﻴْ ِﻪ ความวา “และไมมีส่ิงใดท่ีบาวของฉันได (ปฏิบัติตน) เขาใกลกบั ฉนั ดว ยการงานหนึ่งที่ฉนั โปรดปรานยิง่ กวาการปฏิบัตใิ นสิ่งท่ฉี นั กาํ หนดเปน ฟรฎ” (บันทกึ โดยอัล-บุคอร)ี 82
นอกจากนี้ใหสรางความรูสึกเสมือนวากําลังเขาเฝาอัลลอฮฺ และใหฉวยโอกาสในการวอนขอความเมตตา การอภัยโทษ และ การรอดพนจากการลงโทษในนรกของพระองค และใหเขาไป ยังมัสญิดโดยปลุกความรูสึกใหถวิลถึงและปรารถนาในความ ประเสริฐของมัน และใหมีความละอายใจตออัลลอฮฺและหว่ันเกรง ตอการถูกผลักไสและผินหลังของพระองค และใหเขาเลือกหามสั ญิ ดของชาวอะฮฺลิสสนุ นะฮฺ เพราะหากตวั เขาเปนหน่ึงในคนทกี่ ารงาน ไมถูกตอบรับ บรรดาคนดีๆ ก็อาจจะชวยเหลือเขาได หลังจากน้ัน ใหเขาสรางความรูส ึกตามท่เี ราไดน ําเสนอไปแลวกอนหนา นีใ้ นเร่ือง ที่เก่ยี วกับภารกจิ ตา งๆ ขณะท่จี ะเขา สกู ารละหมาดและชว งระหวา ง การละหมาด สําหรับการทบทวนตัวเองในการฏออะฮฺตางๆ ถือเปน ภารกิจท่ีมีคุณคามากท่ีสุดที่คนทําอิบาดะฮฺจะทํามันในชวงเดือน เราะมะฎอน อันที่จริงการทบทวนตัวเองเปนภารกิจสําคัญสําหรับ คนท่ีจะมุงสูเสนทางแหงโลกอาคิเราะฮฺอยูแลว แตมันเปนภารกิจท่ี มีการเนน ยา้ํ และใหทาํ เพิ่มเปน เทาทวคี ณู ในชวงเดอื นน้ี การทบทวน (มุหาสะบะฮฺ) หมายถึง การตรวจสอบส่ิงท่ี ไดฏออะฮฺไปทั้งที่เปดเผยและซอนเรน ทั้งในครั้งเร่ิมแรกและครั้ง สดุ ทา ย โดยศึกษาผลทไ่ี ดรบั จากมนั ทง้ั นกี้ ็เพอ่ื รบั รูถ งึ ส่ิงท่ีไดร บั จาก มันเพ่ือจะไดรักษาใหยังคงอยูตอ สวนสิ่งที่ทําไดน้ันก็จะเพ่ิมใหม าก 83
ยง่ิ ขึ้น และการเขาถงึ สิ่งทบ่ี กพรอ งทไ่ี ดท าํ ไปนน้ั กเ็ พอื่ จะไดปรับปรงุ แกไขตอ ไป การทบทวนน้ันเกิดขน้ึ ท้งั กอ นการทําอะมลั ขณะทท่ี ําอะมลั และหลังจากท่ที ําอะมลั สําหรับการทบทวนกอนการทําอะมัล คือการเตรียมพรอม ท่ีจะทําอะมัลน้นั และการตระหนักในส่ิงที่จะเปนขอบกพรองในการ ทําอะมัลน้ัน ทั้งน้ีจะไดหลีกหางจากมัน สวนการทบทวนขณะที่ ทําอะมัล คือ การเฝาตรวจสอบอะมัลท่ีทําไปท้ังท่ีเปดเผยและท่ี ซอนเรน ทั้งในครั้งเร่ิมแรกและครั้งสุดทาย และการทบทวน หลงั จากทาํ อะมลั คือการทําอะมลั นนั้ อีกในภายหลงั หากคนๆ หน่ึงหมั่นทบทวนตัวเองจนเปนเนืองนิจ มันก็จะ กลายเปนวิถีชีวิตท่ีไมจําเปนตองมีการบังคับและปรับปรุงแกไขมัน อีก และจะพบวาเบ้ืองหลังของการทบทวนและผลของมันน้ันจะ เปนการเพิ่มพูนสถานะของอิหฺสาน ซึ่งเปนสิ่งท่ีทุกคนตางแสวงหา มัน น่ันคอื การทาํ อบิ าดะฮตฺ อ อลั ลอฮปฺ ระหนงึ่ วา พระองคท รงมองดู เขาอยู การทบทวนตัวเองเชนน้จี ําเปนตอ งทาํ แบบลบั ๆ โดยการยาํ้ เตือนตัวเองและความใครของตัวเองบอยๆ พรอมทั้งปรับปรุงแกไ ข ขอบกพรองใดๆ ก็ตามดวยการตําหนิติเตียน เตือนสําทับมัน และ ลงโทษตอ ความเกยี จครานและเฉื่อยชาของมนั 84
อยา งไรก็ตาม เราจะไมแ นะนาํ ใหยึดตดิ กบั ตารางตรวจสอบ อะมัลท่ีคิดคนตายตัวข้ึนมา ซ่ึงในเรื่องนี้ผูคนไดแบงความคิดเห็น ออกเปนสองกลุมหลักๆ กลุมหน่ึงไดกําหนดใหมันเปนเครื่องมือ ตายตวั ในการตรั บียะฮฺและเปน สูตรสําเร็จในการปรบั ปรงุ ตวั เองใหด ี แตกลุมหน่ึงหามใชมันอยางสิ้นเชิงและยังถือวาเปนบิดอะฮฺดวยซ้ํา แตส่ิงท่ีถูกตองที่สุดคือการอยูระหวางกลาง ไมปฏิเสธวามันไมได เปนเครื่องมือท่ีมีปรากฏในยุคสมัยของชาวสะลัฟแหงประชาชาติน้ี แตมันก็ไดรับการการันตีจากหลักการศาสนาท่ีคลายคลึงกัน เชน การนับตัสบหี ดฺ ว ยหิน เปนตน ซึ่งมีรายงานปรากฏอยา งชัดเจนจาก การปฏิบัติของบรรดาเศาะหาบะฮฺและบรรดาตาบิอีน นอกจากนี้ เราไมไดบอกวาอนุญาตใหยึดติดกับมันในทุกชวงเวลา แตเรา แนะนําใหใชมันเฉพาะในชวงเร่ิมแรกเพียงเทานั้น และเราก็ไมได บังคับใหทุกคนใชมัน แตคนท่ีจะใชมันเปนตัวชวยในชวงเริ่มแรกที่ บางทีตัวของเขายังพลิกผันไมน่ิงพอก็หวังวาอยาใชมันจนมีปญหา โดยมีเงื่อนไขวา อยา ยดึ ติดกับมันไปตลอด ส่ิงที่ถูกตองที่สุดคือ การหมั่นทบทวนดวยตัวเองและเฝา ตดิ ตามมันอยูเสมอ และใหมีบทลงโทษในกรณีทห่ี นั เหไปจากมัน ซ่ึง การปฏิบัติเชนน้ีเองท่ีจะทําใหอิบาดะฮฺมีความบริสุทธิ์จากลูทาง ตางๆ ท่ีจะหันเหใหออกจากเจตนาที่ดี เชนความตองการท่ีจะติ๊ก เคร่อื งหมายในตารางทบทวนตวั เองแบบมั่วๆ เปน ตน 85
7. ศกึ ษาวธิ ถี อื ศลี อดตามบัญญัติอิสลาม น่ีคอื สิง่ วาญิบท่มี ีการเนน ย้ําใหปฏบิ ตั มิ ากทส่ี ุด เพราะประตู ท่เี บิกทางไปสคู วามสุขสาํ ราญและการสถาปนาวาใครจะไดเ ปนวะลี (คนรัก) ของอัลลอฮฺนั้น ผูกพันโดยตรงกับความรูท่ีถูกตองและมี ประโยชนซึ่งมันจะนําสูการทําอะมัลท่ีศอลิหฺ เพราะการทําอะมัลท่ี ศอลิหฺจะไมมีคุณคา ใดๆ หากปราศจากความรทู ี่มีประโยชน ความรูที่มีประโยชนจะนําสูการงานท่ีศอลิหฺ หากเขาตอบ รับท่ีจะทํามัน แตหากไมแลวมันก็สูญเปลาไป และเฉกเชนที่วาญิบ สําหรับคนละหมาดตองเรียนรูวิธีการละหมาด และคนท่ีจายซะกา ตตองเรียนรูสิ่งที่เขาจะจายซะกาต ฯลฯ ดังนั้น จึงเปนส่ิงท่ีนา รังเกียจอยางย่ิงตามหลักการศาสนาสําหรับคนที่มีโอกาสอยูใน ชวงเวลาแหงการฏออะฮฺ แตเขากลับลมเหลวในหนทางแหงการ แขง ขันกันทาํ ความดี และบกพรองในการเตรยี มตัวเขา สูช วงเวลานี้ ดังน้ัน จําเปนท่ีจะตองเรียนรูหุกุมตางๆ ของการถือศีลอด และส่งิ ที่เปน ขอหา มของมนั รวมถึงรุกนุ ตา งๆ และสิ่งที่ทาํ ใหก ารถอื ศีลอดเสียและส่ิงที่อนุญาตใหปฏิบัติได นอกจากน้ียังรวมถึงหุกุม ตางๆ ของการละหมาดตะรอวีหฺ การอิอฺติกาฟ เปนตน ในสวน 86
ผูหญิงนั้นกม็ ีเรื่องท่ีตองเรยี นรหู กุ ุมตางๆ ของการถือศีลอดเปน การ เฉพาะ เชนเกี่ยวกับการมีประจําเดือน การมีเลือดเสีย (อิสติหา เฎาะฮฺ) การมีเลือดนิฟาส (เลือดหลังคลอด) รวมถึงการถือศีลอด ในขณะที่ตงั้ ครรภแ ละใหน มบุตร อยางไรก็ตาม ขาพเจาขอแนะนําหนังสือบางเลมซึ่งเหมาะ แกการเรียนรูหุกุมตางๆ ของการถือศีลอด สวนการไปถามผูรูใน บางประเด็นที่ยังสงสัยน้ันยอมเปนส่ิงท่ีสนับสนุนใหทําอยูแลว ใน จาํ นวนหนังสือท่ีจะขอแนะนํามดี งั นี้ 1. ซาด อัล-มะอาด ฟฮัดยิ ค็อยร อัล-อิบาด โดยอิบนุล ก็อยยิม (หมวดแบบอยางของทานนบี ศ็อลลัลลอฮอุ ะลัยฮิวะสัลลมั ในการถือศลี อด) 2. ศ็อฟวะฮฺ อัล-กะลาม ฟมะนาสิก อัศ-ศิยาม โดยอบีอิด รสี มฮุ มั มดั อบั ดลุ ฟตตาหฺ (เปนจลุ สารเลมเลก็ ๆ) 3. ฟกฮฺ อัส-สุนนะฮฺ โดยสัยยิด สาบิก แตใหศึกษาเลมท่ี ผานการตรวจสอบของชยั คอฺ ัล-อลั บานี นั่นคือ ตะมาม อัล-มินนะฮฺ ฟ อัต-ตะอฺลกี อะลา ฟกฮฺ อสั -สนุ นะฮฺ และขอใหทานหลีกเล่ียงจากการแสดงความคิดเห็นใน ประเด็นปญหาศาสนา (ฟตวา) และนําเสนอขอมูลตางๆ ท้ังๆ ท่ี ทานไมไดมีความเชี่ยวชาญในเร่ืองนั้น เพราะมันจะเปนส่ิงไมดี สาํ หรับตัวทานและจะทาํ ใหค นอืน่ หลงผดิ ตามไปดวย 87
สวนหนังสือท่ีแนะนําใหศึกษาเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติตอ พระผูเปน เจา และสิ่งท่ีสมควรปฏิบตั ิในชว งเวลาตา งๆ น้ัน ขาพเจา ขอแนะนําหนังสือ “ละฏออิฟ อัล-มะอาริฟ” โดยอัล-หาฟซ อิบนุ เราะญบั เราะหิมะฮุลลอฮฺ 88
8. เตรยี มล้ิมรสอิบาดะฮฺแหงความอดทน อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารสั วา ٱ َّ ِ�ي َن َّ �ٖ َع ِظي َح ٍّظ ُذو َّ ٓيُ َل َّقٮٰ َها َو َما ْ َص َ ُ�وا �ِإ ٓيُ َل َّقٮٰ َها َو َما :]ﻓﺼﻠﺖ ﴾ �ِإ ﴿ [35 ความวา “และไมมีผูใดไดรับมัน (คุณธรรม) นอกจากบรรดาผู อดทน และจะไมมีผูใดไดรับมัน นอกจากผูที่มีโชคลาภอันใหญ หลวง” (สูเราะฮฺฟุศศลิ ัต อายะฮทฺ ี่ 35) บางคนไดใชชวงเทศกาลแหงความดีไปกับความสุขสําราญ ท่ีมีอยูในทุกรูปแบบ ซ่ึงทําใหเขาไดออกจากเดือนนั้นเฉกเชนกอน เขามา และอาจจะยิ่งแยกวาดวยซํ้า นอกจากน้ียังทําให ความสัมพันธระหวางเขากับความมุงมาดท่ีมีตอโลกอาคิเราะฮฺยิ่ง หางเหินมากยิ่งขนึ้ และยังทาํ ใหค วามใครท ปี่ ดบังอยูอยางแนนหนา ไดปด กัน้ ระหวางเขากับการมงุ สูอัลลอฮฺ และหากเดือนเราะมะฎอนคือเดือนแหงการถือศีลอดและ การอดทน จึงเปนโอกาสที่ดีสําหรับเราที่จะไดล้ิมรสแกนแทของ ความอดทนเพอ่ื สามารถล้มิ รสแกนแทของการถอื ศีลอด 89
โอผูทีใ่ ฝในความดใี นเดอื นน้ี ส่ิงที่มอี ยเู บอื้ งหนาทา นคอื การ อดทนตอส่ิงที่ตองหา ม การอดทนในการทําความดี และการอดทน ตอ ทกุ ส่งิ ทป่ี ระสบแกท าน ซึ่งประเภทตางๆ ของความอดทนดังขางตนน้ันคือ เอกลักษณที่สําคัญของการเปนคนรักของอัลลอฮฺ และเปน คุณสมบัติของการเปนแกนนําในศาสนานี้ ดังที่ทานชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ ไดกลาววา “แทจริง การเปนแกนนําในศาสนา เปนไปดวยการมีความอดทนและความเชื่อมั่น” ซ่ึงทานหยิบยก หลักฐานจากคําดาํ รัสของอลั ลอฮฺ ตะอาลา ท่ีวา ﴾ ﴿ َو َج َع ۡل َنا ِم ۡن ُه ۡم أَ�ِ َّم ٗة َ� ۡه ُدو َن بِأَ ۡم ِرنَا لَ َّما َص َ ُ� ۖواْ َو َ�نُواْ � َ�ٰتِ َنا يُوقِ ُنو َن [24 :]الﺴﺠﺪة ความวา “และเราไดจ ัดใหมีแกนนําจากพวกเขา เพื่อจะไดชี้แนะ แนวทางที่ถูกตองตามคําบัญชาของเรา ในเม่ือพวกเขามีความ อดทนและพวกเขาเช่ือมั่นตอโองการท้ังหลายของเรา” (สู เราะฮอฺ สั -สัจฺดะฮฺ อายะฮฺท่ี 24) ทานอิบนุลก็อยยิม เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดกลาววา “บรรดา นักวิชาการเห็นพองกันวานัยของความอดทนท่ีถูกตองที่สุดคือ การควบคุมจิตใจจากสิ่งท่ีไมชื่นชอบ ซ่ึงเปนข้ันตําแหนงของ แนวทางสูความรัก (ซ่ึงเปนหน่ึงในรูปแบบของการมุงสูอัลลอฮฺ) ท่คี นท่วั ไปมักทาํ ไดย ากและมีความลําบากมากทสี่ ดุ เนือ่ งจากคน 90
ท่ัวไปเปนคนที่เพิ่งเร่ิมกาวสูแนวทางนี้ (ซึ่งอาจจะยังไมมีความ อดทน) และไมมีความชํานาญในการมุงสูโลกอาคิเราะฮฺ และมัน ไมใชวิธีการท่ีคนเพ่ิงเร่ิมตนจะหักโหมไปทํามันได (เชน ใหเขา ละหมาดนานๆ ตลอดท้ังคืน หรือใหเขาถือศีลอดวันเวนวัน -ผู แปล-) ดังนั้น เมื่อใดท่ีเขาไดประสบกับบททดสอบเขาก็รูสึก หวาดหวั่น และเปนการยากท่ีเขาจะเผชิญกับบทดสอบตางๆ และอดทนกับมันได เพราะเขาไมใชคนที่มีความชํานาญจน สามารถอดทนไดตลอด และไมใชคนที่มีความรักตออัลลอฮฺแลว จนรูสึกอิ่มเอิบกับบททดสอบตางๆ ขอเพียงเปนความพึงพอ พระทัยของผูท่เี ขารัก (นั่นคืออลั ลอฮ)ฺ ” โอผูท่ีปรารถนาความสําเร็จเอย สิ่งท่ีขาพเจาไดนําเสนอไป น้ันทําใหทานรูวาเดือนเราะมะฎอนคือโอกาสที่ดีย่ิงในการฝกฝน ความอดทน เพราะปจจัยทั้งหมดลวนเอื้อแกทาน ไมวาความ ชวยเหลือของอัลลอฮฺที่มีอยูตลอดชวงเวลา สวนพวกอิบลีสท่ีคอย จองเลนงานทานก็ถูกลามโซตรวน และตัวทานเองก็มองวาความดี นั้นเปนส่ิงที่ทําไดงาย สวนความช่ัวกลับเปนสิ่งที่หวาดหว่ันที่จะทํา มัน ดังนั้น ไมมีอะไรอ่ืนแลวนอกจากทานจะตองเยียวยาความนึก คิด การกระซิบกระซาบ และความรูสึกตางๆ ท่ีมีอยูในกนบ้ึงของ หัวใจในชวงโอกาสน้ี และแนนอนวาไมมีสิ่งใดท่ีจะเปรียบหัวใจไดดี ยิ่งกวา คนปว ยท่ีอยูในหอ งไอซียทู ตี่ อ งงดน้าํ งดอาหารท่อี าจสง ผลตอ 91
การรักษา ย่ิงกวานั้นยังส่ังงดไมใหญาติพ่ีนองเขามาเย่ียม ทั้งน้ี เพ่ือใหรางกายไดพักผอนอยางเต็มที่และเพ่ือเปนการฟนฟู สมรรถภาพของรา งกายใหฟ นตวั ไปในทางท่ีดี นอกจากน้ียังใหอยใู น เขตปลอดเชื้อเพื่อสูดอากาศท่ีบริสุทธ์ิ และใหเลือดที่บริสุทธ์ิเขาสู เสนเลือดเพื่อเพิ่มความแขง็ แรง พรอมกับวัดชีพจรและวดั ไขเพอ่ื ให แพทยสามารถวินิจฉัยสภาพรางกายได ดังน้ัน จึงเปนโอกาสที่ดี สําหรับหัวใจท่ีย่ําแยซึ่งเกิดจากการทําความผิดตางๆ และการขลุก อยูกับความใคร และสิ่งคลุมเครือท่ีสรางความเสื่อมเสีย และความ ออนแอท่ีเกิดจากการไมไดขัดเกลาและปรับปรุงแกไขใดๆ ตลอด ชวงเวลาที่ผานมาท่ีมันจะไดเขาหองไอซียูในชวงเดือนเราะมะฎอน เพราะสิ่งท่ีจะทําใหหัวใจของทานกลับมาเขมแข็งอีกคร้ังคือการมี ความยําเกรงและความรักตออัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสัลลัม รวมถงึ การเคารพเช่อื ฟงตอ ท้งั สอง ดังนั้น จงบังคับตัวทานใหหาวหาญตอความอยากของปาก ทองและความใครทัง้ หลายในเดือนนี้ ซ่ึงหากมนั ยังกอ ความปนปว น ก็อยาไดลังเลใจที่จะใชมาตรการข้ันเด็ดขาดและจับกุมจิตใจท่ีชั่ว รายแลวนํามันเขาคุกแหงความปรารถนาจนกวามันจะปฏิบัติตาม คําส่ังของทาน แตหากมันยิ่งปนปวนและกลาที่จะตอตานก็ใหใชไม เรียวฟาดมันใหแรงโทษฐานท่ีสวนกับคําส่ังและฝาฝนความ ปรารถนาของทาน และหากมันยังด้ือดงึ ฝา ฝนอีกกใ็ หข วู าจะจัดการ ลงโทษดว ยการประหาร เพราะจติ ใจท่ชี ัว่ รา ยน้ันไมมคี ณุ คาใดๆ อีก 92
แลว และหากมันไดออดออ นและเซา ซค้ี วามรสู กึ ของทานก็จาํ เปน ท่ี จะตองลงโทษมันดว ยการประหารอยางจริงจังในชวงสิบคืนสุดทา ย ของเดือนเราะมะฎอนดวยการจัดการมันในขณะที่อิอฺติกาฟจน สามารถกําจัดจิตใจท่ีปนปวนน้ันใหหมดส้ินไป แลวใหชวงเวลานั้น สามารถสรางจิตใจใหมที่มีความสงบสุข ออนโยน และโนมนาวให ทานทําความดีตางๆ ไดอยางงายดาย และสามารถตอตานเม่ือมัน เรียกรองใหทานทําสิ่งท่ีผิดบาป ดังกลาวนี้มันจะสรางจิตใจใหมท่ี เปนไปตามศาสนาไดกําหนดในชวงโอกาสท่ีสะอาดบริสุทธิ์ (น่ันคือ เดือนเราะมะฎอน) และเติบโตขึ้นมาพรอมไดรับการอบรมเลี้ยงดู จากบรรดาคนดี ซี่งทานจะไมเห็นมันหลังจากนั้นนอกจากจะทาํ แต ส่ิงทีด่ ี ในความเปนจริงมันคอื การสรา งจติ ใจท่ีมคี ุณสมบตั ขิ องแกน นําในศาสนา ซึ่งไดเตบิ โตข้ึนมาจากกระบวนการเตรียมพรอมสกู าร เปนคนดี และใหความสะดวกตอการสรางความรูสึกใหหวาดหว่ัน และการมีจติ มัน่ ตอ อัลลอฮอฺ ยา งเครง ครัด 93
9. เทคนคิ การเขาถงึ ความหอมหวานของการฏออะฮฺ หลักฐานท่ีบงชี้ถึงการมีอยูจริงของความหอมหวานใน การฏออะฮฺ คือ คํากลาวของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่วา َو�ِ ُﻤ َﺤ َّﻤ ٍﺪ َر ُﺳﻮ ًﻻ، َو�ِﺎ ْ ِﻹ ْﺳ َﻼ ِم ِدﻳﻨًﺎ،َذا َق َﻃ ْﻌ َﻢ ا ْ ِﻹﻳ َﻤﺎ ِن َﻣ ْﻦ َر ِﺿ َﻲ ﺑِﺎ ِﷲ َر ًّ�ﺎ ความวา “ผูที่นอมรับวาอัลลอฮฺเปนพระผูอภิบาล อิสลามเปน ศาสนา และมุฮัมมัดเปนศาสนทูตจะไดลิ้มรส (ความหอมหวาน) ของการศรัทธา” (บนั ทึกโดยมสุ ลิม) และคํากลา วของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮวิ ะสัลลมั ทว่ี า ا َّ ُ� َو َر ُﺳﻮ ُﻟ ُﻪ أَ َﺣ َّﺐ ُ�َوأَﻮ َْنن،�ِ َ ِإ َّأَﻻ ْن ِ َّﻳ:ا َﻻِﻹﻳ ُ َِﻤ�ﺎُّﺒ ُِﻪن � ِ� َﺮﻴَوُهأَِﻪأَ ْنَْون َُﺟُ�ِ� َْﺪﻘ َّ َﺬﺐ َﺣَالف ََﻼﻤ َِﻓْوﺮ َةﻲَء،ْ ِاإﺛَ َﻟﻟ ْﻴ َﻼ ِﻪ ُ�ٌ ِمثْﻔ َّﻤِﺮَﻣﺎ ْ َﻦﻛِﺳ َﻤَﻮﺎا ُﻳَُ�ﻫ ََّﻤﻦﺎ ﻳَ ْ� َﺮ َه أَ ْن َ� ُﻌﻮ َد ِﻓﻲ اﻟ َّﻨﺎ ِر ความวา “สามประการหากผูใดมีไวครอบครองเขาจะไดพบกับ ความหอมหวานของการศรัทธา หน่ึง..การที่เขาทําใหอัลลอฮฺ และศาสนทูตของพระองคเปนท่ีรักยิ่งแกเขามากกวาสิ่งอ่ืนใด สอง..การทเี่ ขามอบความรักใหแกบ คุ คลหน่งึ บุคคลใดเขาจะไมร กั 94
บุคคลน้ันยกเวน รักเพื่ออัลลอฮฺ สาม..เขารงั เกียจที่จะกลับไปเปน กุฟรฺ (ปฏิเสธ) เสมือนที่เขารังเกียจจะถูกโยนลงไปในเปลวเพลิง ของนรก” (บนั ทกึ โดยอัล-บุคอรแี ละมสุ ลมิ ) และเมื่อคร้ังท่ีทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม ไดหามบรรดาเศาะหาบะฮฺของทานจากการถือศีลอด ตดิ ตอกัน (โดยไมล ะศีลอดนนั้ -วิศอล-) เศาะหาบะฮกฺ ลมุ นน้ั กก็ ลาว ขึ้นมาวา “แลวทําไมทานถือศีลอดติดตอกันได” ทานนบี จึงกลาว วา إِ ِّ� لَ ْﺴ ُﺖ َﻛ َﻬﻴْئَ ِﺘ ُ� ْﻢ إِ ِّ� أُ ْﻃ َﻌ ُﻢ َوأُ ْﺳ َﻘﻰ ความวา “ฉันไมเ หมือนกบั ลกั ษณะของพวกทาน แทจริงฉันมีผใู ห อาหาร และฉันมผี ูใหเ คร่ืองดม่ื ” (บนั ทึกโดยอัล-บคุ อรีและมุสลมิ ) และบางสาํ นวนไดร ะบวุ า �ِ إِ ِّ� أَ َﻇ ُّﻞ ِﻋﻨْ َﺪ َر ِّ� ُ� ْﻄ ِﻌ ُﻤ ِ� َو� َ ْﺴ ِﻘﻴ ความวา “แทจริงฉันอยูภายใตก ารดูแลของพระผูอภิบาลของฉัน ซ่ึงพระองคคอยใหอาหารฉัน และคอยใหฉันด่ืม” (บันทึกโดย อะหฺมัด) และอกี สํานวนไดระบวุ า �ِ َو َﺳﺎ ِ�ﻴًﺎ � َ ْﺴ ِﻘﻴ،�ِ ِإ َّن ِﻟﻲ ُﻣ ْﻄ ِﻌ ًﻤﺎ ُ� ْﻄ ِﻌ ُﻤ 95
ความวา “แทจริงฉันมผี ูใ หอ าหารคอยใหอาหารฉนั และฉนั มผี ใู ห เครื่องด่ืมคอยใหฉ นั ดืม่ ” (บันทกึ โดยอบูดาวุด) ทานอิบนุลก็อยยิม ไดกลาววา “เปนความเขาใจผิดอยาง ยิ่งสาํ หรบั คนทค่ี ดิ วา อาหารและเครอื่ งด่มื นัน้ คือสงิ่ ท่ีปากสามารถ ล้ิมรสเพียงอยางเดียว” แลวทานก็กลาวอีกวา “แตนัยของมัน จรงิ ๆ คือ การไดล ิม้ รสความหอมหวานของอมี านและอิหฺสานน้ัน เปนส่ิงที่เกิดขึ้นไดในหัวใจ ซ่ึงมันสามารถลิ้มรสความหอมหวาน น้นั ไดเฉกเชน ทีป่ ากสามารถล้ิมรสความหอมหวานของอาหาร” โอผูท่ีมุงสูความพึงพระทัยของพระผูเปนเจา พึงรูเถิดวา ขอมูลตางๆ ท่ีมีการนําเสนอในน้ีเปนเพียงทฤษฎีเทานั้น สวน ขอแนะนําตางๆ ที่ปรากฏอยูก็เปนการกลาวถึงโดยภาพรวม ซ่ึงมัน ไมไดมีอะไรนอกจากขอเท็จจริงที่มีอยูในเน้ือหาเทานั้น กระนั้นก็ ตามมนั กไ็ มใชเ ปนส่งิ ทีใ่ ครๆ สามารถเขา ถึงไดนอกจากคนทอี่ ลั ลอฮฺ จะใหเขาเทาน้ัน และผูใดที่ไดล้ิมรสเขาก็จะรับรูเอง ดังน้ันจงทําให สง่ิ เหลา นีเ้ ปนขอย้ําเตอื นเถดิ เพราะเราจะพาทา นไปสูค าํ กลา วทค่ี น มีหัวใจหยาบกระดางและมีสนิมเกาะไมสามารถเขาใจมันได ดังนัน้ หากมีเร่ืองใดท่ียากเกินจะเขาใจไดก็อยาดวนสรุปวาทานกําลังมี ปญหาในความสัมพันธกับอัลลอฮฺ แตเราขอแนะนําใหทานอานใน แตละเร่ืองใหครบถวน และปฏิบัติตามท่ีเราไดแนะนําแกทาน 96
หลงั จากน้นั ใหท า นทวนอา นบรรทัดนัน้ อีกครงั้ ซงึ่ ถา ทา นพบวามสี ่ิง ใดเกิดขึ้นกับตัวทานตามที่เราไดฉายภาพใหเห็นนั้น ก็จงกลาว สรรเสริญตอ อัลลอฮฺ -อลั หมั ดุลลิ ลาฮ-ฺ เถิด ทพ่ี ระองคทรงใหทานได ล้ิ ม ร ส ค ว า ม ห อ ม ห ว า น ข อ ง อี ม า น แ ล ะ ค ว า ม ห อ ม ห ว า น ข อ ง การฏออะฮฺ ส่ิงแรกที่ทานตองรูคือ “ความคิดนั้นไมมีขีดจํากัด สวนล้ิน ไมมีวันหยุดพูด และอวัยวะตางๆ ก็จะไมหยุดการเคล่ือนไหว ซ่ึง หากทานไมใหมันวุนอยูกับเรื่องที่สําคัญ มันก็จะไปวุนอยูกับเร่ือง เล็กนอย และหากทานไมจ ัดการใหมนั ทาํ แตส่ิงดี มันก็จะทําในสงิ่ ท่ี ไมดแี ทน ซึ่งโดยปกติแลว จิตใจของมนุษยชอบความสุขและความ สบายและไมช อบส่ิงที่ไมดีและความลาํ บาก ฉะนนั้ จงพยายามตอสู กับความยากลําบากในการทําความดี (เพราะความดสี วนใหญม กั จะ มีความยากลําบาก) จนกวาหัวใจจะเกิดความเคยชิน เม่ือถึงขั้นนั้น แลวหัวใจก็จะไมรูสึกลําบาก และจะรูสึกเกลียดชังความช่ัว” (โดย อับดลุ วะฮฺฮาบ “อรั -รออิก”ฺ ) นอกจากนี้ใหต้ังปณิธานอันแนวแนอยางสมํ่าเสมอ เพราะ ถือเปนรากฐานสําคัญที่สุดในการขวนขวายสิ่งท่ีย่ิงใหญ และจะมี การขวนขวายสง่ิ ใดทย่ี ่ิงใหญไ ปกวาการขวนขวายโลกอาคิเราะฮอฺ กี ดังท่อี ัลลอฮฺ ตะอาลา ไดดาํ รัสวา 97
ن َفأُ ْو َٰٓل�ِ َك َ� َن َس ۡع ُي ُهمٞ ﴿ َو َم ۡن َأ َرا َد ٱ� ِخ َر َة َو َس َ ٰ� لَ َها َس ۡع َي َها َو ُه َو ُم ۡؤ ِم [١٩ : ﴾ ]اﻹﺳﺮاء١٩ �َّم ۡش ُكو ٗر ความวา “และผูใดปรารถนาโลกอาคิเราะฮฺ และขวนขวายเพ่ือ มันอยา งจรงิ จัง โดยที่เขาเปนผศู รทั ธาชนเหลาน้ัน การขวนขวาย ของพวกเขาจะไดรับการชมเชย” (สูเราะฮฺอัล-อิสรออ อายะฮฺที่ 19) พึงรูเถิดวา การจะไดล้ิมรสความหอมหวานของการฏอ อะฮฺน้ันจะตอ งผนวกรวมระหวา งหัวใจ ฮิมมะฮฺ (ปณิธานหรือความ ปรารถนา) และความนึกคิดตางๆ ตออัลลอฮฺ ซึ่งทานอบิ นุลก็อยยิม ไดอธิบายในเร่ืองน้ีวา “คือการที่หัวใจท้ังดวงไดตั้งม่ันตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ โดยไมห ันขวาและซาย (ไมว อกแวก) ซึ่งเมอ่ื ใดที่ แรงปรารถนาไดล้ิมรสการผนวกรวมน้ีแลวมันก็จะเชื่อมโยงกับ ความถวิลถึงเจาของมัน และทําใหไฟแหงความรักและความ ตองการที่มีอยูในหัวใจของเขาไดลุกโชนมากยิ่งขึ้น” แลวทานก็ กลาวอีกวา “ขอสาบานตออัลลอฮฺวาแรงปรารถนาของจิตใจน้ัน สามารถพิชิตทุกสิ่งทุกอยางไดอยางแนนอน ซึ่งมันจะดําเนินบน เสนทางน้ีโดยไมหยุดย้ัง ยกเวนชวงขณะอยูเบื้องหนาพระองคผู ทรงเมตตา ตะบาเราะกะ วะตะอาลา และเม่ือน้ันเองเขาก็จะกม ลงสุูดเบื้องหนาพระองคเพ่ือแสดงถึงการขอบคุณที่สามารถ 98
มาถึงจุดนีไ้ ด ซ่ึงเขาจะยงั คงกมลงสุดู ตอ ไปจนกวาจะมีคาํ กลา ว แกเขาวา َّم ۡر ِض َّي ٗة َرا ِض َي ٗة َر ّ�ِ ِك �ٰ َ ِإ �ٓ ِ ٱ ۡر ِج ٢٧ ٱلۡ ُم ۡط َم�ِ َّن ُة ٱ�َّ ۡف ُس يَٰٓ َ� َّ� ُت َها ﴿ �ِ َفٱ ۡد ُخ٢٨ [٣٠ ،٢٧ : ﴾ ]اﻟﻔﺠﺮ٣٠ �ِ َوٱ ۡد ُخ ِ� َج َّن٢٩ ِ� ِع َ�ٰ ِدي ความวา “โอชีวิตที่สงบน่ิงเอย จงกลับมายังพระเจาของเจาดวย ความยินดีและเปนที่ปติเถิด แลวจงเขามาอยูในหมูปวงบาวของ ขาเถิด และจงเขามาอยูในสวนสวรรคของขาเถิด” (สูเราะฮฺ อลั -ฟจ ฺร อายะฮทฺ ี่ 27-30) ม ห า บ ริ สุ ท ธ์ิ ยิ่ ง ผู ท ร ง ทํ า ใ ห ร ะ ห ว า ง ป ว ง บ า ว มี แ ร ง ปรารถนาท่ีแตกตางกันไป กระท่ังไดเห็นระหวางสองแรง ปรารถนาน้ันหางกันราวทิศตะวันออกกบั ทิศตะวันตก ยิ่งกวานั้น บางทีมันหางย่ิงกวาจุดท่ีต่ําสุดกับจุดท่ีสูงสุดเสียอีก และนี่คือ ของขวัญจากผูทรงอํานาจ ผทู รงปรีชาญาณ : ﴾ ]اﻟﺤﺪﻳﺪ٢١ ﴿ َ�ٰلِ َك َف ۡض ُل ٱ َّ�ِ يُ ۡؤ�ِيهِ َمن � َ َشآ ُءۚ َوٱ َّ ُ� ُذو ٱ ۡل َف ۡض ِل ٱ ۡل َع ِظي ِم [٢١ ความวา “น่นั คือความโปรดปรานของอลั ลอฮฺ ซง่ึ พระองคจ ะทรง ประทานมันใหแกผูที่พระองคทรงประสงค และอัลลอฮฺนั้นทรง เปนผโู ปรดปรานอันใหญหลวง” (สเู ราะฮอฺ ัล-หะดดี อายะฮฺที่ 21) 99
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301