Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความสุขของการทำอิบาดะฮ

ความสุขของการทำอิบาดะฮ

Published by Ismail Rao, 2020-06-26 07:36:11

Description: ความสุขกับการทำอิบาดะฮฺ์ และการเตรียมตัวสู่เดือนเราะมะฎอน
โดย อบูมุฮัมมัด อัลมุอฺตัซซุบิลลาฮฺ
ริฎอ บินอะหฺมัด สมะดี
คำนิยมโดย ชัยคฺอบูอิสหาก อัลหุวัยนี
ชัยคฺมุฮัมมัด หุสัยน์ ยะอฺกูบ
แปลโดย อบูอิบานะฮฺ ฟิตยะตุลฮัก

Search

Read the Text Version

นน้ั สิง่ น้ีเปน คา ตอบแทนเพื่อกระตนุ เขา เขากจ็ ะไมส ามารถทาํ ได ซึง่ นีค่ ือความเกยี จครา นท่ีจะยบั ยัง้ เขาจากการทาํ อะมลั พรอมกบั หวน่ั เกรงวามนั จะสงผลใหลม เลกิ และละท้งิ อะมลั ซึง่ อลั ลอฮฺทรงรดู ที ส่ี ดุ สวนหลักฐานตามทัศนะนี้คือการทุมเทละหมาดของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จนกระท่ังเทาแตกในการละหมาด สุนัต แตสําหรับการละหมาดฟรฎน้ันก็ใหละหมาดในทุกสภาพ ไม วาจะชวงที่รางกายแข็งแรง หรือเจ็บปวย ก็ใหละหมาดดวยการยืน หรือน่ัง หรือนอน หรือกอดอก หรือทาทางใดก็ตามที่สามารถทําได (จากหนงั สอื “อัศ-เศาะลาตุ วัต-ตะฮัจดุ ” โดยทานอิบนุ อัล-ค็อร รอฏ หนา 305) และหวังวาการอภิปรายที่มีคุณคานี้จะฉายใหทานเห็นถึง พลังที่ซอนอยูในความลับตา งๆ ดังน้ัน ทานจงตระหนกั ในเรื่องนใ้ี ห มากๆ เพราะมันเปนเน้ือหาที่มีคุณคาที่สุดเทาท่ีทานจะไดพบใน บรรดาหนังสือที่กลาวถึงความถอมตน การขัดเกลาจิตใจ และ คณุ ธรรมจริยธรรม ในความเปนจริงชาวสะลัฟน้ันมีความเขาใจเปนอยางดีถึง คําส่ังใชของอัลลอฮฺ และพวกเขาไดพินิจใครครวญในแกนแทของ โลกนี้รวมถึงบั้นปลายของมันสูโลกอาคิเราะฮฺ ดังนั้น พวกเขาจึง ปลีกตัวจากฟตนะฮฺตางๆ ของมัน และสีขางของพวกเขา เคล่ือน หางจากท่ีนอน สวนหัวใจของพวกเขาก็ปลีกหางจากความ ทะเยอทะยานไปยังมัน และแรงปณิธานของพวกเขามเี หนือกวาสิ่ง 50

ท่ีไรส าระ ทานจะไมพบเหน็ พวกเขานอกจากจะอยูในสภาพที่ถือศีล อด ยืนละหมาด และรองหมรองไห ซ่ึงเราดีใจอยางยิ่งท่ีไดแนะนํา ชีวประวัติอันมีเกียรติของพวกเขาที่เต็มไปดวยเรื่องราวของแรง ปณิธาณอนั แรงกลา ในการเตาบตั ตวั และยืนหยัดในหลกั การศาสนา รวมถึงความมุงม่ันของพวกเขาในการทําอิบาดะฮฺและนอบนอม ถอมตนตออัลลอฮฺ และนี่คือเรื่องราวเล็กๆ นอยๆ ท่ีจะฉายใหเห็น ถึงคํากลาวและการทําอิบาดะฮฺของพวกเขาที่บงช้ีถึงความเอาจริง เอาจัง ความมุงมนั่ และแรงปณธิ านของพวกเขา ทานอัล-หะสัน อัล-บัศรี ไดกลา ววา “ใครท่ีแขงกบั ทานใน เร่อื งศาสนากจ็ งแขง กบั เขา สวนใครทีแ่ ขงกบั ทา นในเร่อื งโลกดุน ยา ก็จงปลอยเขาไป” ทานวุฮยั บฺ บนิ อลั -วรั ด ไดก ลา ววา “หากทา นสามารถทจี่ ะ ไมใหใ ครนําหนาทา นไดในเรือ่ งอัลลอฮฺ กจ็ งทาํ เถดิ ” ชัยคฺชัมสุดดีน มุฮัมมัด บินอุษมาน อัต-ตัรกิสตานี ไดกลาว วา “ไมมีขาวคราวใดท่ีมาถึงฉันเกี่ยวกับคนๆ หน่ึงท่ีไดทําอิบา ดะฮฺหนึ่ง นอกจากฉันจะทาํ อบิ าดะฮฺนน้ั เหมอื นกัน และฉนั จะเพมิ่ มากขน้ึ อีก” นักทําอิบาดะฮฺคนหน่งึ ไดกลาววา “หากมีคนๆ หนึ่งรูวามี คนท่ียําเกรงตออัลลอฮฺมากกวาเขา เขาก็จะตายในสภาพวิตก กังวลทก่ี ารงานของเขาไมไดมีมาก” 51

มีคนถามทานนาฟอฺวา “ทานอิบนุอุมัร ไดทําอะไรบางใน บานของเขา ?” ทานนาฟอฺไดตอบวา “ทานจะอาบนํ้าวุฎอฺทุก การละหมาด และจะอานอลั กรุ อานระหวา งน้ันตลอด” เมื่อทานอิบนุอุมัรพลาดละหมาดญะมาอะฮฺหน่ึง “ทานจะ ถือศีลอด (สุนัต) 1 วัน จะทําใหกลางคืนมีชวี ิตชวี า (ทําอิบาดะฮฺ ตลอดท้ังคนื ) และจะปลอ ยทาส 1 คน” ทานอบูมูซา อัล-อัชอะรี ไดมุงมั่นทําความดีอยางมากกอน ใกลเ สียชวี ิต จึงมีคนกลา วแกทานวา “เพลาๆ หนอ ยไมไดห รือทา น ?” ทานอบูมซู าจงึ กลาววา “เม่ือมา วิง่ เขา ใกลเ สนชัยเทา ใด มันก็ จะย่ิงทุมพลังท่ีมีอยูท้ังหมดเพื่อใหเขาสูเสนชัยไดเร็วข้ึน เฉกเชน ผูท่ีมุงสูโลกอาคิเราะฮฺเขาก็จะทุมความสามารถทุกอยางท่ีมีอยู เมื่อรูวาใกลเสียชีวิต” มีคนเลาวา “และแลวทานอบูมูซาก็ไดทํา เชน นัน้ จนเสียชวี ติ ” ทานเกาะตาดะฮฺไดเลาวา ทานมุวัรริกฺ อัล-อิจฺลีไดกลาว วา “ฉันไมพ บวา ผูศรัทธาจะเปรยี บไดกบั สง่ิ ใด นอกจากเปรยี บได กับแผนไมที่ลอยในทะเล” แลวเขาก็กลาววา “ยาร็อบ ยาร็อบ (โอพระผูอภิบาล โอพระผูอภิบาล) หวังวาอัลลอฮฺจะทําใหเขา ปลอดภัย” จากทานอุสามะฮฺเลาวา “คนท่ีเคยเห็นทานสุฟยาน อัษ- เษารีนั้น มักจะเห็นทานเหมือนอยูในเรือที่หวาดหวั่นวามันกําลัง จะอบั ปาง ซง่ึ คําพดู สวนใหญท ี่ไดย ินจากทานคือ “ยารอ็ บ สลั ลมิ 52

สัลลิม (โอพระผูอภิบาล ไดโปรดใหความปลอดภัย ไดโปรดให ความปลอดภยั )” จากทานญะอฺฟรเลาวา พวกเราไดไปเย่ียมทานอบี อัต-ตัย ยาหฺ ในขณะท่ีทานเจ็บปวยอยู ซึ่งทานไดกลาววา “ขอสาบาน ตออัลลอฮฺ สมควรอยางย่ิงท่ีมุสลิมคนหนึ่งจะตองเพิ่มการงานที่ ไดบกพรองตอคําส่ังใชของอัลลอฮฺดวยความขยันขันแข็ง มากกวา น”ี้ แลวทานกไ็ ดร องไห จากทานหญิงฟาฏิมะฮฺ บินติอับดุลมะลิก ภรรยาของ ทานอะมีรุลมุอมินีน อุมัร บินอับดุลอะซีซ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดเลา วา “ฉันไมเคยเห็นใครละหมาดและถือศีลอดมากกวาทาน (อุมัร บินอับดุลอะซีซ) และไมมีใครที่จะมีความยําเกรงตอพระผู อภิบาลมากกวาทาน ทานเคยละหมาดอิชาอ แลวน่ังรองไห จนกระทั่งหลับไป แตแลวทานก็สะดุงต่ืนข้ึนมารองไหจนกระท่ัง หลับไปอีกครั้ง คร้ังหนึ่งขณะที่ทานอยูรวมกับฉันบนเตียงนอน แตเมื่อทานนึกถึงบางอยางเกี่ยวกับโลกอาคิเราะฮฺ ทําใหทานตัว สั่นเหมือนนกกระจอกท่ีกําลังสะบัดน้ํา แลวทานก็นั่งรองไหและ ไดด ึงผา หมออก” จากทานอัล-มุฆีเราะฮฺ บินหะกีม ไดเลาวา ทานหญิงฟาฏิ มะฮฺ บินติอับดุลมะลิก ไดกลาววา “โอทานมุฆีเราะฮฺ เปนไปไดที่ อาจจะมีคนละหมาดและถือศลี อดมากกวาทา นอุมัร บินอบั ดลุ อะ ซีซ แตฉันไมเคยเห็นใครแมแตคนเดียวที่จะมีความเกรงกลัวตอ 53

พระผูอ ภิบาลมากกวาทานอมุ ัร เมอ่ื เขาไปในบา นทา นก็จะเก็บตวั อยูแตสถานที่ละหมาดประจําของทาน โดยทานมักจะรองไหแ ละ วิงวอนขอดอุ าอจนกระท่ังหลับไป หลังจากน้ันทานก็จะต่นื ขน้ึ มา ทาํ เชน น้นั อกี ตลอดทง้ั คืน” จากทานอบีอุบัยดะฮฺ บินอุกบะฮฺ บินนาฟอฺ ซ่ึงทานไดเขา ไปหาทานหญิงฟาฏิมะฮฺ บินติอับดุลมะลิก แลวกลาววา “ไดโปรด เลาเก่ียวกับทานอุมัรแกฉันหนอยไดไหม” ทานหญิงไดตอบวา “ฉันไมรูเลยวาทานไดอาบนํ้าเนื่องจากมีญะนาบะฮแฺ ละฝนเปย ก ตั้งแตไดรับตาํ แหนงเปนเคาะลฟี ะฮอฺ ีก” ทานอัล-อัสวัด บินยะซีดเปนผูท่ีขยันทําอิบาดะฮฺอยางมาก เขาเคยถือศีลอดในวันที่อากาศรอนจัดจนตัวเหลืองเขียว ทําให ทา นอลั เกาะมะฮฺ บินกอ็ ยส กลาวกับเขาวา “ทาํ ไมทานตอ งทรมาน ตัวเองเชนนี้ดวย ?” เขาไดตอบวา “ฉันตองการเกียรติของมัน” ซงึ่ เขาเคยถอื ศีลอดจนตวั เขยี ว และเคยละหมาดจนลม ลงกับพ้นื ทาํ ใหท า นอนัส บนิ มาลกิ และทานอลั -หะสัน อัล-บัศรี ไดเ ขา มาหาเขา แลว กลาวแกเขาวา “แทจ รงิ อลั ลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ไมไดสั่งใชให ทานทําสิ่งเหลานี้เลย” เขาจึงตอบวา “ตัวฉันเปนบาวผูรับใช ซึ่ง ฉนั จะไมปลอยใหม คี วามสงบสุขใดๆ นอกจากฉนั จะไปหามัน” มีผูถามทานอามิร บินอับดุลลอฮฺ วา “ทานสามารถอดทน ตอการอดหลับอดนอนและความหิวกระหายในสภาพอากาศท่ี รอนจัดไดอยางไรกัน ?” เขาตอบวา “ฉันไมไดอดทนอะไร 54

มากมายหรอก เพียงแตฉันไดเปล่ยี นเวลาทานอาหารกลางวันไป เปนชวงกลางคืน และเปล่ียนจากการนอนกลางคืนเปนกลางวัน ซึ่งมันไมไดมีอันตรายอะไร” และเม่ือคํ่าคืนไดมาเยือนเขาก็จะ กลาววา “ความรอนของไฟนรกมนั ทําใหไ มร ูสกึ อยากนอน ดังนั้น จะไมม กี ารนอนจนกวาจะสวาง” จากทานอลั -หะสัน อัล-บศั รี ไดเ ลา วา ทา นอามิร บนิ ก็อยส ไดกลาวแกกลุมชนหน่ึงท่ีวิตกในเร่ืองโลกดุนยาวา “พวกทานมี ความวิตกมากจนเกินไปหรือเปลา ? ขอสาบานตออัลลอฮฺ หาก ฉันสามารถก็จะไมทําใหมีความวิตกมากจนเกินไป” ทานอัล-หะ สันไดเลาวา “ขอสาบานตออัลลอฮฺ เขาทําเชนนั้นไดจริงจนได พบอลั ลอฮฺ (เสียชวี ติ ไป)” จากทานอะหฺมัด บินหัรบ ไดกลาววา “นาแปลกใจยิ่งนัก สําหรับคนทรี่ ูด วี าสวนสวรรคไดประดับประดาบนตัวเขา สวนไฟ นรกก็ไดแผดเผาดานลางของเขา แตเขากลับนอนหลับสนิท ทา มกลางท้งั สอง ?” ทานอบูมุสลิม อัล-คูลานี “ไดแขวนแสตรงท่ีละหมาด ประจําตัวของเขาเพื่อใหมันขูขวัญตัวเขา ซึ่งทานเคยกลาวกับ ตนเองวา “จงลุกข้ึนเถิด ขอสาบานตออัลลอฮฺ ฉันจะจูโจมเจา อยางแนนอน จนกวาความเหนื่อยลานั้นมาจากตัวเจาไมใชมา จากตัวฉัน” ดังนั้น เมื่อความเกียจครานเร่ิมเขามาเขาก็จะใชแส ตีตรงหนาแขง แลวกลาววา “เจาสมควรที่จะถูกตีมากกวาสัตว 55

เลี้ยงของฉัน” และทานเคยกลาววา “คิดหรือวาบรรดาเศาะ หาบะฮฺของทานนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะให ความสําคัญกับมัน (การละหมาด) มากกวาเรา ? เปลาเลย ขอ ส า บา นตออัล ลอฮฺ ฉันจะแขงขันกับพวกเขาอยางสุด ความสามารถจนกวาพวกเขาจะรูวาหลังจากพวกเขานั้นก็ยังมี วรี บรุ ุษอยอู ีก” คนท่ีเคยเห็นทานมันศูร บินอัล-มอุ ฺตะมิร จะกลาววา “เขา ตองเปนคนที่ประสบกับเคราะหกรรมอะไรบางอยาง (เพราะ ความยําเกรงของเขาท่ีมีตออัลลอฮฺ) แขนขานาจะพิการ เสียง แหบ ตาละหอ ย และหากเขาเคลอื่ นไหวหยาดนา้ํ ตาท้งั ส่สี ายก็จะ ไหลเออออกมา (เพราะรองไหหนักมาก)” ซึ่งมารดาของเขาเคย กลาวแกเขาวา “เจาไดทําอะไรจนเปนถึงขนาดนี้ เจารองไหไม หยุดตลอดทั้งคืน จนฉันเกรงวาเจาจะเปนอะไร และเกรงวาเจา จะฆาตวั ตายหรอื เปลา ?” แตเขากลบั ตอบวา “โอท านแมจา ฉัน รดู ีวากําลงั ทาํ อะไรอย”ู ทานฮุชัยม ลูกศิษยของทานมันศูร บินซาซาน ไดเลาวา “หากมีผูแจงแกทานมันศูรวามะละกุลเมาต (มลาอิกะฮฺผูทํา หนาที่ปลิดวิญญาณของมนุษย) อยูท่ีประตูแลว ก็จะไมมีส่ิงใดท่ี เขาจะทําเพ่ิมขึ้นมาอีก (เพราะทาํ อบิ าดะฮทฺ กุ อยา งแลว)” ขอเทาของทานศ็อฟวาน บินสะลีม บวมเน่ืองจากการยืน ละหมาดเปนเวลานาน ทานขยันขันแข็งในการปฏิบัติอิบาดะฮฺ 56

จนกระทั่งหากมคี นแจงแกท านวา “วันกิยามะฮฺจะเกิดในวันพรุงน้ี แลว ก็จะไมมีสิ่งใดที่ทานจะทําเพิ่มขึ้นมาอีก” และทานมักจะ กลาววา “โออ ัลลอฮฺ แทจริงฉันชื่นชอบท่ีจะพบพระองค ไดโ ปรด ทรงช่ืนชอบท่ีจะพบฉันดว ยเถดิ ” จากทานมูซา บนิ อสิ มาอลี ไดกลา ววา “หากฉันจะบอกแก พวกทานวา ฉันไมเคยเห็นทานหัมมาด บินสะละมะฮฺหัวเราะเลย พวกทานจะเช่ือฉันไหม ? ตัวทานหัมมาดน้ันเปนผูท่ีสาละวนอยู กบั ตัวเอง บางทีก็รายงานหะดษี บางทีก็อา นหนังสอื บางทกี ็ซกิ ริ ตออัลลอฮฺ บางทีก็ละหมาด ซ่ึงทานไดจัดสรรเวลาในแตละวัน สําหรบั การงานเหลา นี้” จากทานวะกีอฺ ไดเลาวา “ทานอัล-อะอฺมัชน้ัน เม่ือมีอายุ ใกล 70 ป ทานไมเคยพลาดตักบีรแรกเลยสักคร้ังหนึ่ง และ นับตั้งแตฉันไดติดตามทานมายาวนานถึง 60 ป ฉันไมเคยเห็น ทา นชดละหมาดสักรอ็ กอตั เดียวเลย” จากทานหัมมาด บินสะละมะฮฺ ไดเลาวา “พวกเราไมเคย เขามาหาทานสุลัยมาน อัต-ตัยมี ในชวงเวลาท่ีตองทําอิบาดะฮฺ ตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ นอกจากพวกเราจะพบวาทานกําลัง ทํามนั อยู ซงึ่ หากเปนชว งเวลาทต่ี องละหมาด พวกเรากจ็ ะพบวา ทา นกาํ ลังละหมาด แตหากไมไ ดเ ปนชว งเวลาที่ตอ งละหมาดฟร ฎ พวกเราก็จะพบวาทานกําลังละหมาดสุนัต หรือไปเย่ียมเยียนคน 57

ปวย หรือติดตามญะนาซะฮฺ หรือไมกน็ ่ังอยใู นมัสญิด ซึ่งพวกเรา เหน็ พอ งกันวาทา นไมเคยฝา ฝน อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ เลย” เหลานี้คือตัวอยางของคนท่ีมุงเดินทางสูโลกอาคิเราะฮฺที่มี ความจรงิ ใจที่สุด จงเลยี นแบบพวกเขาแมไมอ าจเปน อยา งพวกเขาได เพราะการพยายามเลียนแบบคนดกี ถ็ อื วาสําเรจ็ แลว และนี่คือเร่ืองราวแหงการตอสูกับจิตใจและการเพียร พยายามเอาชนะความใครของพวกเขา ดังน้ันจงนึกถึงเรื่องราว เหลานี้ในชวงเวลาท่ีทานเกียจครานเถิด และจงขอตออัลลอฮฺให ทา นสามารถทาํ การงานทดี่ ไี ดส าํ เร็จ 58

4. เลิกทาํ ตัวขเี้ กยี จ บอกลาจากคนข้เี กียจ แลวคบกับคนขยันทําความดี ไมมีอะไรที่จะโชครายสําหรับคนท่ีมุงสูอัลลอฮฺย่ิงไปกวา ความขเ้ี กียจและการคบกับคนข้ีเกียจ เพราะมิตรสหายคอื เงาติดตัว และมันจะคอยเลียนแบบคนทีอ่ ยูดวยกนั “ซึ่งลักษณะของคนท่ีมุงสูโลกอาคิเราะฮฺอยางแทจริงคือ พวกเขาจะอยูรวมกบั กลมุ คนท่ีมุงสโู ลกอาคิเราะฮดฺ ว ยกัน โดยไม วุนอยูกับคนที่ข้ีเกียจและหมกหมุนอยูกับความเพริศแพรวของ โลกดุนยาที่จะบั่นทอนไมใหสามารถดํารงบนเสนทางน้ีไดอยาง แทจ รงิ ” (หนงั สืออรั -รอกออกิ ฺ โดยรอชดิ หนา 140) ครั้งเม่ือฆาตกรที่เคยฆาคนมาแลว 100 ชีวิตตองการท่ีจะ เตาบัตตัว ก็มีคนแนะนําวาใหอพยพออกจากบานเมืองท่ีอยูเพราะ ยังเปนบา นเมืองทีไ่ มด ี แตใหเดนิ ทางไปยังที่หน่ึงซ่ึงยงั มีผูค นทาํ อบิ า ดะฮฺตออัลลอฮฺอยู และใหทําอิบาดะฮฺรวมกับพวกเขา (บันทึก โดยอัล-บุคอรแี ละมสุ ลมิ ) 59

ดังนั้น คนที่ปรารถนาการอภัยโทษในเดือนเราะมะฎอนจึง ตองปลีกตัวจากคนที่จมปลักอยูกับชีวิตท่ีไมมีแกนสาร แลวหันไป คบกับคนที่มีปณิธานอันแนวแน ดังท่ีทานอัล-ุนัยดไดกลาววา “จงเดนิ ทางกบั คนที่มีแรงปณิธานอนั แนวแนเ ถดิ ” อันที่จริง อัลลอฮฺไดส่ังใชสิ่งถูกสรางที่ดีเลิศท่ีสุด น่ันคือ ทานนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ใหคบกับคนที่ขยัน มงุ ม่นั สูอลั ลอฮฺ และใหปลกี ตวั จากคนท่หี ลงลืม ซง่ึ พระองคไ ดดาํ รสั ไวว า ��ِّ َ ‫ٱبِٱۡ َۡ�ل َيَغ ٰو َدةِ ٰوٱةِ ُّ�َوۡ�ٱ َيۡلاَۖع َِو‬ ‫﴿ َوٱ ۡص ِ ۡ� َ� ۡف َس َك َم َع ٱ َّ ِ�ي َن َي ۡد ُعو َن‬ ‫ُيرِ� ُدو َن‬ ‫ُت ِط ۡع َم ۡن‬ ‫َر َّ� ُهم‬ ‫ُت ِر� ُد‬ ‫َ� ۡن ُه ۡم‬ ‫َو َ� َ� ۡع ُد َ� ۡي َنا َك‬ ‫َو ۡج َه ُهۖۥ‬ :‫ ﴾ ]الﻜﻬﻒ‬٢٨ ‫َأ ۡم ُر ُهۥ ُف ُر ٗطا‬ ‫ِز� َن َة‬ ‫َه َوٮٰ ُه‬ ‫َوٱ َّ� َب َع‬ ‫َق ۡل َب ُهۥ َعن ِذ ۡك ِر َنا‬ ‫َأ ۡ� َف ۡل َنا‬ ‫َو َ� َن‬ [٢٨ ความวา “และจงอดทนตอตวั ของเจา รวมกับบรรดาผวู งิ วอนตอ พระผูเปนเจาของพวกเขา ทั้งยามเชาและยามเย็น โดย ปรารถนา ความโปรดปรานของพระองค และอยาใหสายตาของ เจาหนั เหออกจากพวกเขา ขณะท่เี จา ประสงคความสวยงามแหง ชีวิตของโลกนี้ และเจาอยาเช่ือฟงผูท่ีเราทําใหหัวใจของเขา ละเลยจากการราํ ลึกถงึ เรา และปฏบิ ตั ิตามความใครของเขา และ กจิ การของเขาพินาศสญู หาย” (สเู ราะฮฺอัล-กะฮฟฺ  อายะฮฺท่ี 28) 60

และพระองค อัซซะวะญัลละ ไดด าํ รสั อีกวา [١٥ :‫ ﴾ ]ﻟﻘﻤﺎن‬١٥ ۚ�َّ َ ِ‫﴿ َوٱتَّبِ ۡع َسبِي َل َم ۡن َ�نَا َب إ‬ ความวา “และจงปฏิบัติตามทางของผูที่กลบั ไปสูขา ” (สูเราะฮฺลกุ มาน อายะฮทฺ ี่ 15) [١١٩ และพระองคไดดํารัสวา �َ َّ ‫ٱ‬ ْ‫ٱ َّ� ُقوا‬ ْ‫َءا َم ُنوا‬ ‫ٱ َّ ِ�ي َن‬ ‫يَٰٓ َ� ُّ� َها‬ ﴿ :‫ ﴾ ]اﻟﺘﻮ�ﺔ‬١١٩ �َ ِ‫َو ُ�ونُواْ َم َع ٱل َّ ٰص ِدق‬ ความวา “โอศรัทธาชนทัง้ หลาย พงึ ยําเกรงอลั ลอฮเฺ ถดิ และจงอยู รว มกับบรรดาผูท พ่ี ูดจริง” (สเู ราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ อายะฮทฺ ี่ 119) ดงั นน้ั หากคนๆ หน่งึ ไดค บกบั คนทคี่ ิดวาการละหมาดเพยี ง ชวงเวลาส้ันๆ ในยามคํ่าคืนถือเปนผลงานชิ้นโบวแดงแลว เขาก็จะ พลาดการกาวขามทําสิ่งที่ดีกวาได ยิ่งกวาน้ันเขาจะรูสึกภาคภูมิใจ กับชวงเวลาสั้นๆ ท่ีเขาไดทุมเทไปเพื่อพระผูอภิบาลของเขา ในทาง กลับกนั หากเขาไดม องไปยังคนท่อี ยรู อบตัวเขาทไี่ ดยนื ละหมาดนาน นับช่ัวโมงในการตะฮัจุด การวิงวอนขอดุอาอ และการโอดครวญ รอ งไห อยา งนอ ยๆ เขากจ็ ะรสู ึกเสยี ใจในความบกพรอ งตลอดเวลา ฉะน้ัน การเลิกพฤติกรรมที่เกียจครานจงึ ถือเปนศาสนกิจที่ คนในทุกยุคทกุ สมยั มักจะละทิ้งกัน ซ่ึงนักวิชาการทานหนง่ึ ไดกลา ว วา “การพักผอ นมไี วส าํ หรับคนทไ่ี มเ อาไหน” 61

ทานชุอฺบะฮฺ บินอัล-หิญาจญ อัล-บัศรี ผูเปนอะมีรุลมุอ มินีนในเรื่องหะดีษไดกลาววา “พวกทานอยาน่ังรวมกับคนที่ชีวิต ไมมแี กนสาร เพราะความตายคอยจอ งมายังพวกทา นเสมอ” ทานอัช-ชาฟอีไดก ลา ววา “การตอ งการพักผอนในโลกดนุ ยาเปนสิ่งท่ีไมคูควรสําหรับคนท่ีมีเกียรติ เพราะพวกทานแตละ คนยงั คงตองเหนด็ เหน่อื ยอยูตลอดเวลา” มีคนกลาวแกผูสมถะทานหน่ึงวา “มีวิธีใดบางที่จะทําให คนๆ หน่ึงเปนคนที่บริสุทธ์ิใจตออัลลอฮฺ ?” เขาไดตอบวา “เม่ือ สามารถละทิ้งการพักผอนและทุมเทอยางสุดความสามารถใน การฏออะฮฺตอ พระองค” มีคนถามทานอิมามอะหฺมัดวา “เม่ือไหรที่บาวคนหนึ่งจะ ไดล้ิมรสแหงการพักผอนบาง ?” ทานไดตอบวา “เม่ือเทาขาง หน่ึงไดเหยยี บลงในสวนสวรรคแลว” ในสวนการเลือกคบกับคนที่มีแรงปณิธานในการทําความดี และคนที่รักษาตนใหอยูในครรลองของศาสนา รวมถึงคนท่ีมีความ ผูกพันโดยตรงกับอัลลอฮฺน้นั ถือเปนส่งิ ทม่ี ุงมาดปรารถนาของคนท่ี จริงใจมงุ สอู ลั ลอฮฺ ทานซัยนุลอาบิดีน ไดกลาววา “คนๆ หน่ึงจะตองน่ังอยู รวมกบั คนที่เออื้ ประโยชนใ นเร่ืองศาสนาแกเขา” ทานอัล-หะสัน อัล-บัศรี ไดกลาววา “คนท่ีเปนพ่ีนองของ เราเปนที่รักใครย่ิงกวาคนในครอบครัวและลูกหลานของเราเสีย 62

อีก เพราะคนในครอบครัวมักจะทําใหวุนอยูกับโลกดุนยา แตคน ทเี่ ปนพน่ี องมักจะทําใหว นุ อยกู บั โลกอาคเิ ราะฮฺ” นักกวีทา นหน่ึงไดกลาววา ไมใ ชทรพั ยส นิ ที่จะเปน เสบยี งสาํ หรบั มนษุ ย แตเพ่ือนท่ีดตี า งหากที่จะเปน เสบียงอยางแทจ ริง และสวนหน่ึงจากคําสั่งเสยี ของชาวสะลัฟกค็ ือ การใหเลือก มิตรสหายท่ีดี ทานอัล-หะสัน อัล-บัศรไี ดกลาววา “สําหรับตัวทาน นั้นจะไดรับผลโดยตรงจากสหายของทาน และตัวทานเองก็จะ สงผลแกคนท่ีทานรักเชนกัน ดังนั้น จงพิถีพิถันในการเลือกเพ่อื น สหาย รวมถึงคนท่ีจะมาอยูด วยกันเถิด” ดังนั้น ใหพยายามคบหากับมิตรสหายท่ีมีแรงปณิธานอัน แนวแนท่ีจะคอยชวยเหลือทานในการเดินทางนี้ จงคนหาพวกเขา ตามมัสญดิ ตางๆ ถามไถถ งึ พวกเขาตามแหลงชุมนมุ พบปะของคนที่ มีความยําเกรง อยาพยายามสรางเงื่อนไขในการเขาหาพวกเขา และหากถึงข้ันตองประกาศบนปายโฆษณาตางๆ วา “ประกาศหา ผูชวยกระตุนทําความดใี นเดือนเราะมะฎอน” ก็จงประกาศมนั ไป เถดิ พรอมๆ กบั การคบมิตรสหายจะกระตุน ใหใ ชทุกวินาทีอยา ง คมุ คา แลว พวกทานกย็ ังสามารถทบทวนตัวเองในทุกลมหายใจและ 63

ชวงเวลาท่ีมีคุณคาไปดวย ซ่ึงหากคนใดคนหน่ึงเพิกเฉยตอการ ละหมาดญะมาอะฮฺก็จะมีคนคอยกระตุนใหลงโทษตัวเอง เฉกเชน ท่ี ทา นอบิ นอุ มุ รั ไดท าํ ไว ซึ่งทานคงเคยเห็นคนท่ีเกียจครานละหมาดตะรอวีหฺเพียง ชวงเวลาส้ันๆ หลังจากน้ันก็อดหลับอดนอนโตรุงตลอดทั้งคืนจน พลาดละหมาดศบุ ุหฺ [١٠٤ :‫ ﴾ ]الﻜﻬﻒ‬١٠٤ ‫﴿ َو ُه ۡم َ ۡ� َس ُبو َن َ� َّ� ُه ۡم ُ ۡ� ِس ُنو َن ُص ۡن ًعا‬ ความวา “และพวกเขาคดิ วา แทจ ริงพวกเขาปฏิบตั ิความดแี ลว” (สเู ราะฮอฺ ลั -กะฮฟฺ  อายะฮฺที่ 104) โอคนดีเอย มันตองไมเปนเชนน้ัน แตเราจะบอกถึงกิจวัตร ของคนที่มุงสูอัลลอฮฺอยางแทจริง นั่นคือ เวลาของพวกเขาทั้งหมด จะหมดไปกับการซิกิรและการอานอัลกรุ อาน สวนสถานท่ลี ะหมาด ของพวกเขาจะกระห่ึมดวยเสียงรองไหเนื่องจากความยําเกรง ตออัลลอฮฺ ทานจะเห็นพวกเขาอยูในสภาพอิดโรยเนื่องจากความ หวาดหว่ันตอสภาพในวนั อาคเิ ราะฮฺ ในแงของอิบาดะฮฺทานจะเห็น พวกเขายืนตรงตระหงานประหน่ึงวาพวกเขาไมไดถูกสรางมา นอกจากเพ่ือทําการฏออะฮฺ และจะไมปรากฏในพจนานุกรมของ พวกเขาวา “ฉันไดพลาดละหมาดญะมาอะฮฺ” แลวแทบไมตองพูด ถึงตัวละหมาด ซ่ึงทานจะเห็นการยืนและการนั่งของพวกเขาใน สภาพที่นอบนอมถอมตนเนื่องจากมีความละอายตออัลลอฮฺ โดย 64

พวกเขามักกลาววา “พระองคทรงบริสุทธ์ิย่ิง แตเรากลับไมอิบา ดะฮฺตอพระองคอยา งจริงจังสกั ท”ี คํ่าคืนของพวกเขา ทานรูหรือไมวาคํ่าคืนของพวกเขาเปน เชนไร ? เสียงรองไหโอดครวญของพวกเขาไดถูกกลบดวยเสียง สะอึกสะอน้ื ﴾‫يَن ُظ ُرو َن‬ ‫َو ُه ۡم‬ ‫ٱلۡ َم ۡو ِت‬ َ ‫� ُ َسا ُقو َن‬ ‫َك َ� َّ� َما‬ �ِ‫إ‬ [6 :‫]اﻷﻧﻔﺎل‬ ﴿ ความวา “ประหน่ึงวาพวกเขาถูกตอนไปสูความตายโดยท่ีพวก เขากําลงั มองดกู นั อย”ู (สูเราะฮฺอลั -อนั ฟาล อายะฮทฺ ี่ 6) การละหมาดของพวกเขาในความมืดมิดไดสองแสงรัศมี แหงเกียรติ ความรูสกึ ทีห่ ายจากอาการเหนด็ เหน่อื ยถอื เปน กลิน่ อนั อบอวลของน้ําหอม ความงดงามของการเขาเฝามุนาญาจตอพระผู อภิบาลเปนสิ่งที่ทําใหเคลิบเคล้ิม ในยามรุงอรุณถูกใชลบลางความ อาฆาตแคนที่มีอยูในหัวใจดวยการอิสติฆฟารฺ การไดใกลชิด พระองคเปนสิ่งท่พี วกเขามงุ มาดปรารถนา และความสุขของการได สนทนาโตตอบกบั พระองคค อื สง่ิ ทพ่ี วกเขาตางเพลิดเพลนิ พึงรูเถิดโอผทู ี่ต่ืนตัวในการทําความดี ความพยายามในการ แสวงหาการอภัยโทษในเดือนเราะมะฎอนจะสมบูรณไดน้ันทาน จะตองหาอาจารย (ชัยคฺมุร็อบบี) ที่คอยอบรมสั่งสอนตัวทาน โดยตรง ซึ่งอาจเปนคนท่ีสามารถเห็นถึงคุณลักษณะน้ันไดอยาง ชัดเจนหรืออาจจะเปนคนที่ปดบังมันอยู และบางทีอาจจะเปนผูรู 65

หรือคนท่ีกําลังศึกษา แตการใชชีวิตและคํากลาวของเขาจะทําใหรู วาเขาเปนคนท่ีมีการงานลับพิเศษกับอัลลอฮฺอยู (เชน กิยามุลลัยลฺ ถือศีลอดสุนัต เปนตน) และเฉกเชนพวกเขาน้ันมักจะเปน ที่รูจ ักกัน ดี แตหากถงึ ขนั้ ไมเปนที่เปดเผยวามีใครบา ง ก็ยังพอมีคนทสี่ ามารถ แนะนาํ ทา นวาพวกเขาคอื ใคร หากทา นถามถงึ พวกเขาใหบอ ยๆ สวนเงื่อนไขท่ีทานจะรับประโยชนจากพวกเขาไดนั้นคือ พวกเขาจะตองอยูในแนวทางของชาวอะฮฺลิสสุนนะฮฺ และยึดวิถี ของชาวสะลัฟ เพราะพวกเขาคือดวงดาวที่ทําหนาท่ีคอยชี้นํา ประชาชาตนิ ี้ เฉกเชนพวกเขาน่ีแหละที่ทานสามารถจะรับประโยชนจาก คําแนะนํา คําช้ีแนะ คุณลักษณะนิสัย รวมถึงการปฏิบัติของพวก เขากอนคําพดู ของพวกเขาเสยี อีก ทานจะเห็นการละหมาดของพวก เขาเปนตนแบบของคนท่ีมีความยําเกรงอยางสุดหัวใจ และเปน ตนแบบสําหรับคนท่ีมีจิตใจมั่นคงและประกอบศาสนกิจอยาง เครงครัด การตักบีรในละหมาดของพวกเขาแมจะมีเสียงที่แผวเบา แตก็ประหน่ึงเสียงคํารามของสรรพสิ่งท้ังหลายเนื่องดวยความ จริงใจตอ การตกั บรี ตอ พระองค การรุกูอฺและการสุูดของพวกเขาถือเปนสัญลักษณของ การสุูดของทุกสรรพส่ิง ซ่ึงหากทานไดเพงมองไปยังการทําอิบา ดะฮฺของพวกเขา ทา นคงปรารถนาที่จะใหส รรพสิ่งท้งั หมดไดแ ซซ อ ง สดุดพี รอมๆ กบั พวกเขา ซง่ึ อัลลอฮไฺ ดก ลาวถึงทา นนบดี าวดุ ไวว า 66

ۖ ‫َ ۡ� ُشو َر ٗة‬ �َ ۡ ‫َوٱل َّط‬ ١٨ ‫َوٱ ۡ ِ� ۡ َ�ا ِق‬ �ِّ ِ ‫بِٱ ۡل َع‬ ‫ٱ ۡ ِ� َبا َل َم َع ُهۥ � ُ َس ّبِ ۡح َن‬ ‫﴿ إِنَّا َس َّخ ۡرنَا‬ [١٩ ،١٨ : ‫ ﴾ ]ص‬١٩ ‫ب‬ٞ ‫� َّ ُ� ٓۥ أَ َّوا‬ّٞ ُ ความวา “แทจริง เราไดทําใหภูเขาแซซองสดุดีพรอมกับเขา ทั้ง ในยามพลบค่ําและยามรงุ อรุณ และ (เราไดทําให) นกมารวมกัน ท้ังหมด เช่อื ฟงเขา” (สเู ราะฮฺศ็อด อายะฮฺที่ 18-19) โออัลลอฮฺ เราขอตอพระองคใหไดคบกับมติ รสหายที่ดแี ละ ไดโปรดใหเราทุกคนเขา สูสวนสวรรคอ นั สขุ สําราญ 05. 67

เตรียมพรอ มที่จะเปลีย่ นแปลงตัวเอง ‫ َو ِ� َّن‬، ‫ﻠَﻴْ ِﻪ‬ท‫ َﻋ‬าน‫ﻘ َﻊ‬นَ �َ บ‫اีْن‬ศ‫ ََأﺬ‬อ็‫ َفﻜ‬ลُ‫ﺎ َﻫ‬ล�َ ‫ِﻪ‬ลัَ ِ‫ﺑ‬ล‫ ٍلﻞ‬อَ َ‫ﺎﺒ‬ฮ‫ุ� ََﻘﺟ‬อَ ‫ﺖ‬ะ‫ َِﻪ‬ล‫ﻧْْﺤ ِﻔ‬ยัَ‫أَﺗ‬ฮ‫َ ٌﺪﻰ‬วิ‫ﻋَِﻋﻠ‬ะ‫ﺎ‬ส‫ัم َﻗَّﺮ‬ลَ ‫ ُﻪ‬ล‫ัﺄٍَ َّﻧب‬ม‫ﺑَﺎ َﻛ‬ไ‫ُُﻪﺬ‬ด�َ‫ َﻛ‬ก‫ﻧُﻮ‬ล‫َ� ُذُﻪ‬า ‫ىﻮ‬วُ‫ﻧ‬ว‫ َﺮُذ‬า ‫اِإﻟْ َّ َنﻔﺎالِْﺟُﻤ َﺮْﺆﻳَِﻣ َﺮَﻦىَﻳ‬ ความวา “ผูศรัทธานั้นเห็นความผิดของตัวเอง ราวกับวาเขา กําลังน่ังอยูเชิงเขาโดยเกรงวามันอาจจะถลมลงมาทับเขาไดทุก เมื่อ ในขณะที่คนชั่วจะเห็นความผิดของตัวเองราวกับวามันเปน แคแมลงวันตัวหนึ่งที่บินมาเกาะอยูบนจมูกของเขา เขาเพียงแค เอามือปดมันใหบ นิ หนีไปเทา นัน้ ” (บนั ทึกโดยอลั -บคุ อร)ี เพราะความมุงมั่นตั้งใจของคนท่ีผูกพันกับโลกอาคิเราะฮฺ นั้นจะไมสนใจอะไรนอกจากความสมบูรณแบบ ทําใหขอบกพรอง อนั นอ ยนิดทมี่ ีอยูจึงเปนความผิดอนั รายแรง นกั กวีทา นหนงึ่ ไดก ลาววา ฉนั ไมเ คยเหน็ ใครทําความผดิ ใดที่จะรายแรงยงิ่ กวา ขอบกพรอ งของคนท่ีสามารถทําสงิ่ น้นั ไดอ ยางสมบรู ณ 68

และเทาท่ีแรงปณิธานแนวแนเพียงใดก็จะย่ิงเพ่ิมความมุ มานะมากเทาน้ัน และเทาท่ีแรงปณิธานไดถดถอยเพียงใดก็จะย่ิง เพ่ิมความอดื อาดยืดยาดมากเทา น้ัน นักกวีทา นหนงึ่ ไดก ลา ววา ความมงุ มนั่ ตง้ั ใจจะเปน ไปตามสิ่งท่มี อี ยใู นคนนน้ั และความใจบุญกจ็ ะเปน ไปตามสง่ิ ทม่ี อี ยูในคนน้ัน และนี่เปนการตอบโตคนที่กลาววา “จะมีใครอีกเลาท่ี บริสุทธ์ไิ รม ลทินอนื่ จากบรรดานบ”ี ผใู ดบางจะมมี ารยาททดี่ เี ลศิ ทุกประการ เพยี งพอแลวทค่ี นหน่งึ จะมเี กียรตหิ ากเขาไดทบทวนตวั เอง ซ่ึงนี่หลักเกณฑสําหรับใชกับคนท่ัวไป แตสําหรับการใชก บั ตัวเองจะวางอยบู นฐานของการตาํ หนติ ัวเอง และการแสวงหาความ สมบูรณ รวมถงึ ไมร ูสึกพอใจตอสิ่งท่ีบกพรอ ง หากจติ ใจมันใหญเกนิ ตัว ก็ยากทีร่ า งกายจะสนองความตองการของมันได ก็เหมือนกับคนท่พี ยายามใหองคประกอบของความศรทั ธา มีความสมบูรณโดยตลอด ทําใหทุกครั้งที่เขารูวามันไดบกพรองไป เขาก็ตั้งใจที่จะทําใหมันมีความสมบูรณอีกคร้ัง โดยรูดีถึงความ 69

จําเปนท่ีมันจะตองมีความบรสิ ุทธ์ิ ซ่ึงเขาจะรวบรวมทุกสิ่งทุกอยา ง ทอี่ ัลลอฮฺประทานมากอนหนา นเี้ พื่อขจดั ส่งิ ทีไ่ มดใี หห มดไป (ทง้ั ๆ ที่ บางทีอาจจะมีสิ่งไมดีปะปนกับสิ่งดี) นอกจากน้ีเขาจะยังคงต้ังใจที่ จะจัดการมันไปเร่ือยๆ จนกวาจะเปนไปตามความตองการของเขา นั่นคือ การทําใหองคประกอบของความศรัทธามีความสมบูรณ (ดู ในอลั -อะวาอิก หนา 38) อันที่จริง ความมุงมั่นตั้งใจมีอยูตลอดเวลา แตเปนเพราะ ความผิดบาปท่ีกลายเปนโรครายจนฝงลึกและกลายเปนความเคย ชิน จึงไมสามารถท่ีจะใชวิธีรักษาท่ีใชกันโดยท่ัวไปได แตจะตองใช วิธีผาตัดแบบถอนรากถอนโคนในชวงเดือนเราะมะฎอน และการท่ี แรงปณิธานไดลุกโชนกอนท่ีจะเขาสูชวงเวลาท่ีจําเริญนี้ ทําใหไมมี ส่ิงใดอีกนอกจากการลงมืออยางเด็ดเด่ียวและอดทนตอความ เจ็บปวดทม่ี นั ฝง ลกึ จนสรา งความเจ็บปวดตอ ความศรัทธาและความ ยําเกรงของทาน แตไมควรที่จะใชสารเสพติดมาจัดการเร่ืองน้ี เพราะมันจะทําใหทานมึนงงและจับตนชนปลายไมถูก จนสุดทาย ทานอาจจะไมรูวามีสวนใดบางที่ยังไมถูกถอนรากถอนโคนจนหมด ส้ิน ซ่ึงมันอาจจะหลงเหลือกอนเน้ือเล็กๆ ท่ีจะสงผลใหเกิดโรคราย ข้ึนมาอีกครั้งเม่ือทานพรามัวหรือถูกลอลวงดวยการมองหรือการ กระซิบกระซาบหรือยังมีความรูสึกผูกพันกับมันอยู ดังน้ัน ให จัดการและผาตัดมันอยางเร็วที่สุดในชวงเดือนเราะมะฎอน และ อยาทําโดยคอยเปนคอยไปตามที่เราเรียกมันวาสารเสพติด แตให 70

จัดการกับความผิดบาปนั้นดวยความเด็ดขาดและอยาใหมี ความรสู ึกทคี่ นุ ชินไปกับความผิดนั้น และอยาไดหวาดหว่นั ตอ ความ เจ็บปวดท่ีเกิดขึ้น เพราะมันเปนอาการขางเคียงของการรักษาท่ีจะ ประสบความสาํ เรจ็ และเปน วิธีรักษาที่จะทําใหหายขาด อันท่ีจริง บรรยากาศของเดอื นเราะมะฎอนถอื เปน โอกาสที่ ดีสําหรับการปรับปรุงแกไขความผิดบาปและการปฏิบัติส่ิงท่ีไมดี ตางๆ จนเกิดความเคยชิน เพราะมันเปนเดือนแหงการคุมครอง กลาวคือ มีการระงับความใคร (การบริโภคอาหารและการมี เพศสัมพันธ) ซง่ึ ความใครทีม่ ีอยถู อื เปน บอเกดิ ของความชว่ั รายและ สงิ่ ที่ฝาฝน ทง้ั หลาย สว นพวกชยั ฏอนกถ็ กู ลามโซต รวนซึ่งพวกมนั ถอื เปน บอ เกดิ ของความเสียหายที่ลกู หลานอาดัมไดป ระสบ นอกจากนี้ บรรยากาศของผูคนท่ีทําแตความดีก็เปนอีกหน่ึงองคประกอบ จน คนท่ีถือศีลอดจะไมเห็นใครนอกจากพวกเขาจะถือศีลอดและ แขงขันกันทําความดี ทําใหความมุงมั่นตั้งใจของเขาที่จะทําส่ิงท่ีฝา ฝนจึงลดนอยลงไปดวยและยังสามารถทําความดีไดอยางขยัน ขันแข็ง ดังน้ัน องคประกอบท่ีสําคัญท้ังสามประการบวกกับความ มุงม่ันตั้งใจที่จะใหเกิดสิ่งท่ีดีนน้ั จึงเกิดบรรยากาศที่ดแี ละเหมาะสม ในการจดั การกบั โรครา ยตางๆ กระน้ันก็ตาม อยาลืมวาในเดือนนี้ยังมีบัญชีรายช่ือของผูท่ี ไดรับการปลดปลอยจากไฟนรก ผูที่กลับเน้ือกลับตัวตออัลลอฮฺ และผูท่ีไดรับการตอบรบั ในการงานตางๆ ที่พระผูอภิบาลผูสูงสงได 71

เปดรับไว และถามองดูอยางผิวเผินแลวก็จะพบวาคนที่ยึดม่ันใน ศาสนาสวนใหญเมื่อไดอ ยูในชวงตนของเดือนเราะมะฎอนแลวก็จะ มีความรูสึกท่ีโศกเศราอยางหนักทามกลางความเงียบสงัดของยาม คํา่ คนื ทเ่ี ตม็ ไปดว ยความพเิ ศษอันมากมาย และหากเดือนน้ียังไมสามารถปลุกแรงปณิธานในการ จัดการกับส่งิ ไมดตี า งๆ ก็จะไมห ลงเหลือโอกาสใดอกี แลว สําหรบั คน ที่มุงสูโลกอาคิเราะฮฺจะทาํ ใหเ ขาบริสุทธจ์ิ ากสิง่ ไมด ตี า งๆ ได ซึ่งใคร ก็ตามท่ีถูกหามจากความจําเริญของเดือนเราะมะฎอนและไม สามารถที่จะลบลางความผิดตา งๆ ของเขา แลวเม่อื ไหรอกี ท่ีเขาจะ มโี อกาสไดร ับความจาํ เริญนี้ ในหนังสือเศาะฮีหฺของอิบนุคุซัยมะฮฺรายงานวา ทานญิบรี ลไดก ลา ววา ‫َﻓﺄَ ْ� َﻌ َﺪ ُه‬ ‫اﻟ َّﻨﺎ َر‬ ‫َﻓ َﺪ َﺧ َﻞ‬ ‫َﻟ ُﻪ‬ ‫ُ� ْﻐ َﻔ ْﺮ‬ ‫َﻓﻠَ ْﻢ‬ ‫َر َم َﻀﺎ َن‬ ‫َﺷ ْﻬ َﺮ‬ ‫َأ ْد َر َك‬ ‫َﻣ ْﻦ‬ : ‫ا ُﷲ َ� ُﻘﻠْ ُﺖ‬ �َ ْ ‫آ ِﻣ‬ ความวา “ผูใดเขาสูเดือนเราะมะฎอนแลว แตเขาไมไดรับการ อภัยโทษ เขาเขาสูไฟนรก ขอใหเขาหางไกลจากความเมตตา ของอลั ลอฮฺ แลว ฉนั ก็กลาว อามนี ” และมีรายงานจากอัฏ-เฏาะบะรอนี ดวยสายรายงานทเ่ี ฎาะ อฟี จาก‫؟‬ท‫ ْﻰ‬า‫ َﺘ‬น‫ َﻤ‬น�َ บ‫� ีﻴ ِﻪ‬ศِ อ็‫ﻟَ ُﻪ‬ล‫َﺮ‬ล‫ั ِﻔ‬ล‫ ْﻐ‬ล�َ อ‫َ ْﻢ‬ฮ‫ا ل‬อุ ‫ َذ‬ะِ‫ إ‬ล، ยั‫ﻟَ ُﻪ‬ฮ‫ิ ْﺮ‬ว‫ َﻔ‬ะ‫ ْﻐ‬ส�َ ลั ‫ ْﻢ‬ลَ‫ัﻓَﻠ‬ม‫ َن‬ไ‫ﺎ‬ด‫َﻀ‬ก ‫م‬ลَ ‫َر‬า ว‫ َك‬ว‫ َر‬า ‫ُ� ْﻌ ًﺪا لِ َﻤ ْﻦ أَ ْد‬ 72

ความวา “ขอใหหางไกลจากความเมตตาของอัลลอฮสฺ าํ หรบั คนที่ เขาสูเดือนเราะมะฎอนแลว แตเขาไมไดรับการอภัยโทษ ซ่ึงหาก เขายงั ไมไ ดรบั การอภยั โทษในเดือนนี้ แลวเมื่อไหรอีก ?” และมีรายงานโดยอัฏ-เฏาะบะรอนดี ว ยสายรายงานทีต่ องมี การพิจารณา จากทา นอุบาดะฮฺ บนิ อศั -ศอมติ (มัรฟูอฺ) ‫َأ َﺗﺎ ُ� ْﻢ‬ ‫ َو َ ُ� ُّﻂ‬،‫ال َّﺮﺣْ َﻤ ُﺔ‬ ‫ َ�ﻴُ ْ ِ� ُل‬،‫ ﻳ ْﻐ َﺸﺎ ُ� ْﻢ ا ُﷲ ِ�ﻴ ِﻪ‬،‫َﺑ َﺮ َ� ٍﺔ‬ ‫َر َم َﻀﺎ ُن َﺷ ْﻬ ُﺮ‬ �‫َﻣ َْوﻦ ُ�ﺒَﺎُﺣ ِ ِﺮ َم‬،‫ﺎ ُﻓ َﻓ ِﺈِﺴ َّن اُ�ل ْﻢَّﺸ ِِ�ﻘﻴﻲ ِﻪ‬،‫ََأ� ْﻨْ� ُُﻔﻈ ُِﺮﺴ ا ُ� ُﷲ ْﻢ ِإﻟ َﺧﻰ ْ ًَ��اَﻨ‬ ،‫اﻟ ُّﺪﻋﺎ َء‬ ‫ ُ َﻓﺐﺄَ ُِر�ﻴواِﻪ‬،‫ َﻼو�ِﺋَ ْﺴ َﺘَ�ﺘَِﺠ ُﻪﻴ‬،‫اِﺑﻟﺨَ َُ�ﻄ ْﺎﻢ َﻳﺎَم‬ ‫ا َﷲ ِﻣ ْﻦ‬ ‫ِ�ﻴ ِﻪ َرﺣْ َﻤ ًﺔ ا ِﷲ‬ ความวา “เราะมะฎอนไดมายังพวกทานแลวซึ่งเปนเดือนท่ีมี ความจําเริญ โดยท่ีอัลลอฮฺไดแผความเมตตาลงมาแกพวกทาน ความผิดบาปจะถูกลบลางไป และการขอดุอาอจะถูกตอบรับ อัลลอฮฺจะมองดูพวกทานแขงขันกันทําความดีในเดือนน้ี และจะ อวดอางพวกทานตอบรรดามลาอิกะฮฺ ดังน้ัน พวกทานจงแสดง ใหอัลลอฮฺเห็นวาพวกทานน้ันมีอะไรดีบาง ซึ่งคนท่ีขาดทุนท่ีสุด คอื คนที่ถูกหามจากความเมตตาของอลั ลอฮฺ” สําหรับการเตรียมพรอมทําความดีและฝกตนใหมีความ มุ ง ม่ั น ตั้ ง ใ จ เ พื่ อ ป ฏิ บั ติ มั น ใ น เ ดื อ น เ ร า ะ ม ะ ฎ อ น ถื อ เ ป น ก า ร เตรียมพรอมที่สําคัญที่สุด ซ่ึงมันเปนนัยของหลักฐานตางๆ ที่ 73

กลาวถึงความประเสริฐของเดือนเราะมะฎอนและการมุงม่ันตั้งใจ ทําความดีในเดือนนั้น และโดยสวนใหญแลวมีความชัดเจนวาได กลาวถึงการปฏิบัติมันกอนเขาสูเดือนเราะมะฎอนหรือชวงตนของ เดือน แตบางคนก็ยังเพอฝนวาตัวเองจะมีความมุงม่ันตั้งใจ ซึ่ง ประหน่ึงเปนภาพลวงตาที่คนกระหายนํ้าคิดวามันเปนแองนํ้าแต เม่อื พวกเขามาถึงมนั เขากลับไมพบส่ิงใดเลย ซึง่ พวกเขาไดว าดฝนอยา งสวยหรูวา จะขยนั ขนั แข็งทําความ ดีในเดือนนี้อยางดีท่ีสุด และยังจินตนาการถงึ ภาพของการเปน คนดี แตเมื่อเขาเขาสูเดือนนี้แลว เขากลับกลาววา “วันน้ีด่ืมเหลา พรุงนี้ คอยวากัน” (เปนสํานวน หมายถึง คนที่กําลังงวนอยูกับอะไรสัก อยางหน่ึง ถึงแมจะมีเร่ืองสําคัญอะไรเขามา เขาก็จะไมละจากสง่ิ ท่ี เขากําลงั งว นอยู จนกวาจะจดั การใหเสร็จ) และหากพวกเขาตางมุง มั่นทําความดีกอ นทเี่ ราะมะฎอนจะ มาถึง จติ ใจของพวกเขากค็ งคุนชนิ กบั ความดี แตพ วกเขากลบั รอให มันใกลมาถึงกอน ซ่ึงเม่ือเวลาเพื่อการเตรียมตัวไดหมดแลว พวก เขากจ็ ะเปนประหนงึ่ คนท่ีไปตลาดแตไมพกเงนิ ไป แนน อนวา เขาจะ ไมจริงจังมากนักในการจับจายซื้อของ ย่ิงกวานั้นอาจจะมีคนกลาว กับเขาวา “ออกไปใหพน ซะ อยา กดี ขวางทางเดินคนอ่นื ” ซ่ึงทานอนัส บินอัน-นัฎรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เคยกลาวแก ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม หลังจากสงคราม 74

บะดรั วา “โอทานเราะสลู ุลลอฮฺ ฉนั พลาดเขารวมสงครามครัง้ แรกที่ ทานไดตอสูกับบรรดามุชริกีน ขอสาบานตออัลลอฮฺหากพระองคได ใหฉันรวมสงครามตอ สูกับชาวมุชรกิ ีนในครั้งตอไป พระองคจะเห็น วาฉันไดทําอะไรบาง” หลังจากนั้นมีรายงานวาบรรดาเศาะหาบะฮฺ ไดพบเขาในสงครามอุหุดในสภาพที่ถูกแทงมากถึง 80 แผล โดยมี ทั้งแผลจากคมดาบ จากคมหอก และจากลูกธนู ซึ่งทําใหเรารูถึง ความต้ังใจแนว แนข องชายคนน้ี และเม่ือเศาะหาบะฮฺทานหนึ่งไดกลาววา “โอทานเราะสู ลุลลอฮฺ ฉันไมไดสัตยาบันกับทานนอกจากใหลูกธนูเขามาทางน้ี แลวฉันก็ไดเขาสวรรค” ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกลาวแกเขาวา “หากทานจริงใจตออัลลอฮฺ พระองคก็ จะจริงใจตอทาน” หลังจากนั้นก็มีรายงานวาลูกธนูไดท่ิมแทงเขาสู ตําแหนงท่ีเขาไดชี้ไว ซ่ึงทําใหเรารูถึงแรงปณิธานอันแนวแนของ ชายคนนี้ ความมงุ มน่ั ต้งั ใจจะเปนไปตามสง่ิ ท่ีมอี ยูในคนนน้ั และความใจบุญกจ็ ะเปน ไปตามสง่ิ ที่มีอยูในคนนั้น เร่อื งท่ใี หญในสายตาของคนทม่ี องวา เปน เรอื่ งเลก็ มนั กจ็ ะเลก็ เรือ่ งท่ีเลก็ ในสายตาของคนที่มองวา เปน เรอ่ื งใหญม ันกจ็ ะใหญ 75

6. เตรยี มพรอ มสําหรับทําความดแี ละทบทวนตวั เอง พึงรูเถิดวา การเตรียมพรอมสําหรับทําความดีหรือ การฏออะฮฺตออัลลอฮฺ และการทบทวนตัวเองอยูเสมอนั้นเปนสอง ภารกิจที่มคี วามแตกตา ง แตทัง้ สองมคี วามสมั พนั ธกัน ในสวนการเตรยี มพรอมสาํ หรบั ทาํ ความดถี อื เปนสัญญาณที่ จะบรรลุถงึ ความสําเรจ็ และเปนตวั ช้ีวดั ถึงความจรงิ ใจในเปาหมาย ทีม่ ีอยู ซึง่ อลั ลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารสั ในเรือ่ งนี้วา [46 :‫﴿ ۞ َولَ ۡو أَ َرا ُدواْ ٱ ۡ ُ� ُرو َج َ َ� َع ُّدواْ َ ُ�ۥ ُع َّد ٗة ﴾ ]اﻟﺘﻮ�ﺔ‬ ความวา “และหากพวกเขาตองการออกไป แนนอนพวกเขาตอง เตรียมสัมภาระสําหรับการออกไปนั้นแลว” (สูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ อายะฮทฺ ่ี 46) ดังนั้น การฏออะฮฺหรือการทําความดีจึงตองมีการ เตรียมพรอ มดวยการทําภารกจิ ตางๆ ท่ีศาสนาไดก าํ หนดไว จนกวา จะไดลิ้มรสและขจัดสิ่งที่เปนอุปสรรคของมัน โดยเฉพาะในชวง เดือนเราะมะฎอนท่ีการงานตางๆ มีความประเสริฐ มีผลตอบแทน 76

และมีการเพิ่มพูนเปนเทาทวีคูณเน่ืองจากความประเสริฐของ ชวงเวลานัน้ ทําใหการละหมาดญะมาอะฮฺ จึงเร่ิมดวยการอาบน้ําวุฎอ เปนอยางดี รวมถึงการมีเจตนาที่จริงใจในการแสวงหาผลบุญตา งๆ นอกจากนี้ยังใหไปเยี่ยมอัลลอฮฺในบานของพระองค (มัสญิด) และ ใหเกียรติตอคําส่ังใชของพระองค พรอมกับรุดหนาในการตอบ รับคําเรียกรองของพระองค “หยั ยะ อะลศั เศาะลาฮฺ” และใหรีบเรง สดับฟงคําโตตอบของพระองค และใหมีความสุขท่ีไดเขาเฝามุ นาญาจและเขาพบพระองค ทานอบีฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เลาวา ทานเราะสู ลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮอุ ะลยั ฮิวะสัลลมั ไดก ลาววา ،‫ْ ِّﺖ��ُ� َﻟ َُّﻪﻢَُﺳﻋ ِﺑﻠَﻮ ََﻴْﻬِﻗﺧﺎِﻪَِﻪﺮ َدَﻣَ َﺧجَﺎر ْﻤ َإَﺟد ًاﻟٌﺴﺔ َﺎمﻰ‬،‫ا َّﻒلَ�َﺗ ْﻢﻋلَََﻮ َﻠْﻢََّﻰﺿْ�ﺗَﺄ ُ َﺰ َﻂَﻓﺻِلﺄ َاﺧْﻼلﺣ ِﺗَْﻤﻄَِﻪﺴَﻮ ًَِﻼةﻦﻓﺋِإﻲالَﺑﻻَُ�ﻮيْ ُﺘﺔُُر ِﺿﻪِﻓﺗُﻮَﻌ ََءوﺼ‬،‫ﺔالَأﻓَُﺗ َّﺈﻧَّﺼََُذﻪﻀا َّﻌإﻼ ََُُةذﺻ‬،ٍ‫ َُﺟﺧ ََﺟ ُوﻪَِﻄﻤذﺎإﻴِلﺌَﻋﻻٌَﺔﻚ‬،‫ََّﺮﻋﻨ ُﺟُِﻪﻻﺿِﻞﺑِْﻌُ َﻬً�ﻔﻓﺎﺎِﺮﻲ‬،‫اََولوَﺻَُِﻤﺣﻋ َّ ْْﻄﻼﺸﺴ ُةِﺮِْﺠﺖ�ا ِلﺪَﻦ‬ ‫ َوﻻ ﻳَ َﺰا ُل‬،‫ الﻠَّ ُﻬ َّﻢ ا ْرﺣَ ْﻤ ُﻪ‬،‫ الﻠَّ ُﻬ َّﻢ َﺻ ِّﻞ َﻋﻠَﻴ ِﻪ‬:‫ ﺗﻘﻮ ُل‬،‫ َﻣﺎ لَ ْﻢ ُ�ْ ِﺪث‬،‫ﻓﻲ ُم َﺼﻼ ُه‬ ‫ﻓﻲ َﺻﻼ ٍة َﻣﺎ ا ْ� َﺘ َﻈ َﺮ ال َّﺼ َﻼ َة‬ ความวา “ละหมาดของคนๆ หนึ่งในรูปแบบญะมาอะฮฺจะไดรับ ผลตอบแทนตา งจากการละหมาดท่ีบานของเขา หรือในตลาดถึง ยี่สิบหาเทา เมื่อผูใดอาบนํ้าละหมาดอยางสมบูรณที่สุดและได เดนิ ไปยังมัสญดิ ซ่ึงเขาผนู ้ันไมมเี ปาหมายอนื่ ใดนอกจากเพอ่ื การ 77

ละหมาด เขาจะไมยางกาวไปหน่ึงกาวนอกจากอัลลอฮฺจะ ยกระดับใหเขาหน่ึงระดับชั้น และจะลบบาปของเขาหนึ่งบาป และเมื่อเขาไดละหมาดมลาอกิ ะฮกฺ ็จะขอพรแกเขาตราบเทาทเ่ี ขา นั่งอยู ณ สถานที่ท่ีเขาทําการละหมาด ตราบที่เขาไมมีหะดัษ (เสียน้ําละหมาด) ดวยการกลา ว “โออัลลอฮขฺ อไดโปรดใหพ รแก เขาดวยเถิด และไดโ ปรดเมตตาเขาดว ยเถิด” คนๆ หนึ่งยังคงอยู ในการละหมาดตราบใดที่เขายังคอยละหมาดในเวลาตอไป” (บนั ทกึ โดยอลั -บคุ อรีและมุสลมิ ) การเตรียมตัวในท่ีน้ีหมายรวมถึงการทําความสะอาดและ การมีเจตนา โดยเปนการเตรียมจิตใจเพ่ือเขาพบอัลลอฮฺ อัซซะ วะญัลละ ซึ่งมันจะเกิดข้ึนไดดวยองคประกอบดังน้ี ปรับทัศนคติ ตามท่ีศาสนาไดกําหนดใชขณะที่ออกจากบานและเดินไปยังมสั ญดิ เพราะมันเปนส่ิงท่ีสําคัญอยางย่ิงท่ีจะทําใหหัวใจอยูกับเน้ือกับตัว และจะสง ผลใหไมทําในสิ่งที่สวนทางกบั ความสํารวมและสงบเสงย่ี ม ขณะท่ีกําลังเดินไปยังมัสญิด เชน การประสานนิ้วเขาดวยกัน การ หันมองผูคนที่อยูริมทาง รวมถึงการใหความสนใจตอความเพริศ แพรวของโลกดนุ ยามากจนเกนิ ไป (โดยเฉพาะในยุคสมัยปจจุบนั นี้) และการไมเดินอยางรีบเรง เพราะการเดินไปยังมัสญิดเปนสวน สําคัญในการเตรียมตวั เพื่อใหม ีสมาธิในละหมาด ดวยเหตุนี้ทานนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลัม จงึ กลา ววา 78

، ‫ َوأْﺗُﻮ َﻫﺎ َ� ْﻤ ُﺸﻮ َن َﻋﻠَﻴْ ُ� ْﻢ ال َّﺴ ِﻜﻴ َﻨ ُﺔ‬،‫ِإ َذا أُ ِ�ﻴ َﻤ ْﺖ ال َّﺼ َﻼ ُة ﻓَ َﻼ ﺗَﺄْﺗُﻮ َﻫﺎ � َ ْﺴ َﻌ ْﻮ َن‬ ความวา “เมื่อมีการอิกอมะฮฺเพื่อละหมาด พวกทานอยาไดไป ดวยความเรง รบี แตพ วกทานจงเดนิ ไปดว ยความสงบไมรบี รอน” (บันทึกโดยอลั -บุคอรแี ละมุสลิม) และมรี าย‫ٍة‬ง‫ﻼ‬าَ น‫ َﺻ‬ใน‫ﻲ‬ส‫ํ ِﻓ‬า‫ َﻮ‬น‫َ� ُﻬ‬วน‫ﻼ ِة‬ทَ ‫ีﺼ‬บ่ َّ นั ‫ال‬ท‫ึﻰ‬ก‫ ِإ َﻟ‬โ‫ﺪ‬ดُ ‫ﻤ‬ยِ ‫ْﻌ‬ท�َ า ‫ن‬นَ ‫ﺎ‬มَ ‫ุﻛ‬ส‫َذا‬ล‫ ِإ‬มิ ‫َﻓﺈِ َّن أَ َﺣ َﺪ ُ� ْﻢ‬ ความวา “ผใู ดท่ีตง้ั ใจจะละหมาด (ญะมาอะฮฺ) เขาผูน ั้นเสมือนได อยูในการละหมาดแลว” (บันทึกโดยมสุ ลิม) และไมสมควรท่ีจะหัวเราะมากจนเกินไปทั้งกอนและหลัง ละหมาด เพราะมันจะทําใหอรรถรสของความคุชูอฺหมดไปและจะ ทําใหหัวใจมีความแข็งกระดาง นอกจากน้ีจะทําใหระหวางตัวเขา และความรูสึกท่ไี ดร บั ผลจากการฏออะฮนฺ น้ั เหนิ หางออกไป และในขณะท่ีเขามัสญิดก็จําเปนที่จะตองเขาไปดว ยการให เกียรติ และแสดงถึงความหวาดหวั่นตอความนาเกรงขามของ สถานที่และผูเปน เจา ของมัน (น่ันคืออัลลอฮฺ) เพระมัสญิดคือสถาน ที่ความเมตตาจะถูกประทานลงมาและคือสถานที่ลงมาของความ จําเริญตางๆ ดวยเหตนุ ศี้ าสนาจึงกําหนดใหค นท่ีจะเขามสั ญิดกลาว วา ‫ال َّﺸﻴْ َﻄﺎ ِن‬ ‫ِﻣ َﻦ‬ ‫اﻟْ َﻘ ِﺪﻳ ِﻢ‬ ‫َو ُﺳﻠْ َﻄﺎﻧِ ِﻪ‬ ‫اﻟْ َﻜ ِﺮ� ِﻢ‬ ‫َو�ِ َﻮ ْﺟ ِﻬ ِﻪ‬ ‫اﻟْ َﻌ ِﻈﻴ ِﻢ‬ �ِ َّ ‫ﺑِﺎ‬ ‫أَ ُﻋﻮ ُذ‬ ‫ال َّﺮ ِﺟﻴ ِﻢ‬ 79

ความวา “ฉันขอความคุมครองตออัลลอฮฺผูทรงยง่ิ ใหญ ดวยพระ พักตรของพระองคอันทรงเกียรติ ดวยอํานาจความย่ิงใหญของ พระองคทมี่ แี ตน านมา ใหร อดพนจากชัยฏอนผูถ ูกสาปแชง ” และเม่ือเขาไปยังมัสญิดแลว ศาสนาก็ใหละหมาดสุนนะฮฺ ในนัน้ ระหวางทร่ี อละหมาด (ฟรฎ) ซ่งึ ความสาํ คญั ของการละหมาด สุนนะฮฺกอนนั้นเปนการเตรียมตัวใหมีสมาธิในละหมาดฟรฎที่ สมบูรณยงิ่ ข้ึน หลังจากนัน้ ศาสนากใ็ หละหมาดฟรฎดว ยหัวใจทม่ี ีสมาธอิ ยู กับเน้ือกับตัว ตามที่เราไดกลาวถึงเทคนิคการลิ้มรสความสุขของ การละหมาด และสวนหนึ่งของการเตรียมตัวน้ีคือ การเตรียมตัวเพื่อ ละหมาดตะรอวีหฺ เพราะถือเปนหนึ่งในอิบาดะฮฺท่ีสําคัญมากในค่ํา คืนของเดือนเราะมะฎอน ซ่ึงมีหะดีษที่ทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลมั ไดก ลาววา ‫َﻣ ْﻦ ﻗَﺎ َم َر َم َﻀﺎ َن ِإﻳ َﻤﺎﻧًﺎ َوا ْﺣتِ َﺴﺎﺑًﺎ ُﻏ ِﻔ َﺮ ﻟَ ُﻪ َﻣﺎ َ� َﻘ َّﺪ َم ِﻣ ْﻦ َذﻧْ ِﺒ ِﻪ‬ ความวา “ผูใดลุกขึ้น (ละหมาดและประกอบอิบาดะฮฺ) ดวย ศรัทธามั่นและหวังในผลตอบแทนจากอัลลอฮฺ เขาจะไดรับการ อภัยโทษจากความผิดของเขาในอดีต”” (บันทึกโดยอัล-บุคอรี และมสุ ลิม) 80

และมรี ายงานจากทานอบีซรั ไดเ ลาวา ‫ َﻓﻠَ ْﻢ َ� ُﻘ ْﻢ ﺑِ َﻨﺎ َﺷيْ ًﺌﺎ ِﻣ َﻦ‬، ‫ُﺻ ْﻤﻨَﺎ َﻣ َﻊ َر ُﺳﻮ ِل ا َّ ِ� َﺻ َّ� ا َّ ُ� َﻋﻠَﻴْ ِﻪ َو َﺳ ّﻠَ َﻢ َر َم َﻀﺎ َن‬ ‫ ََﻠّﻧ ِإﻴْ َِِّنﻞﺖ‬:‫ َﻓ ََ�ﺷﻠَ َْﻘَّﻤﻄﺎﺎ َُﺮلﻛاَلﺎ‬:‫ﺐ‬،َ‫ َﻠّ َﻟَذﻴَْﻗﻴْﺎَِﻫﻠَﻞَ ٍلﺔ‬،‫َﺎ�لََﻘَﻛﺣَْﺎﻮﺎَّﺘَﻧَم َ�ﻰ َِِّﺑﻔ َ�ﺖَﻨﻠْﻨْﺎ َﺘا َﻨَﻟﺼﺎَْﺨَﺣِﺮﺎ ِ�ََّﺘِم َﻴﻰﺎف َﺴَمَذُﺔُﺣ ََﻫﻫَﻗِﺎﺴِﺬَ َم ِﺐهَﺐﺑِاُﺛَﻨلﻟَﺎﻠُ ُﻪﻠَّﻴْ ُ َِ�ﻠَﺣﺚ َﻴَِّﺔﺘﺎاﻰلُم‬،‫�ﻠﺎَ َِّمﻤ‬،ِ ‫ ٌِﻹﻊ ََّﻓَﻣ‬،‫لَ َّﺘ َْﻳﻢ َﻰﺎﺻ َ� ََّﺑَُرﻘ�ِﻘُْﺳﻢَ َﻲﻣﻮﺑِ ََﻊﻨَ َلﺎﺳاﺒْْا‬:‫اللل َّﺮََّ�َّﺴﺸُُﻘﺎﺟ ْﻬَِﻠْدﻞِﺮ َُﺳِإﺖ ُﺔَذَﺣا‬،‫اا‬ ความวา “พวกเราไดรวมถือศีลอดพรอมกับทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในเดือนเราะมะฎอน ซ่ึงทานไมได นําละหมาด (ตะรอวีหฺ) แกพวกเราเลย จนกระท่ังเหลือ 7 คืน สดุ ทา ย โดยทา นไดนาํ ละหมาด (ตะรอวหี )ฺ แกพ วกเราจน 1 สวน 3 ของค่ําคืนไดหมดไป แตเมื่อถึงค่ําคืนที่ 6 สุดทาย ทานกลับไม นําละหมาดแกเรา แตเม่ือถึงค่ําคืนที่ 5 สุดทายก็ไดนําละหมาด แกพวกเราอีกครั้งจนเลยเวลาครึ่งคนื ไป ฉันจึงถามทานนบวี า โอ ทานเราะสูลุลลอฮฺ เปนไปไดหรือไมท่ีทานจะนําละหมาดพวกเรา ตลอดท้ังค่ําคืนเลย ทานนบีจึงกลาววา แทจริง เมื่อชายคนหน่ึง ไดรวมละหมาดพรอมกับอิมามจนกระท่ังเสร็จ เขาจะไดรับ ผลตอบแทนเสมือนเขาไดละหมาดตลอดทั้งคํ่าคืน” (บันทึก โดยอบดู าวดุ ดวยสายรายงานทเี่ ศาะฮหี )ฺ คนที่ละหมาดกยิ ามุลลัยลฺเปนประจําหลายคนไดมาปรารภ วาเขาไมสามารถลิ้มรสผลของการละหมาดนั้น ทั้งๆ ที่พวกเขาเช่ือ 81

ในความสําคัญของมัน และพยายามท่ีจะบรรลุเปาหมายของการ ปฏิบัติมนั ใหไ ด แตอันท่ีจริงแลว การละหมาดท่ีสําคัญนี้ (หมายถึงการ ละหมาดกิยามุลลยั ลฺ) ก็เหมือนกบั การละหมาดอืน่ ๆ ทจี่ ะตองมกี าร เตรยี มพรอ มเปน อยางดี ดว ยเหตุน้ี คนทีป่ รารถนาในประโยชนของ การละหมาดตะรอวีหฺจึงตองเริ่มดวยการทานอาหารใหนอยเทาท่ี จําเปน และเปนสิ่งที่ดีมากๆ หากเขาไปยังมัสญิดในสภาพที่ทองมี ความหิวโหย เพราะมันจะสงผลใหห ัวใจมสี มาธอิ ยูกบั เน้ือกบั ตวั เปน อยางมาก นอกจากน้ีเขาควรอาบนํ้าใหสะอาด และแตงตัวดวย เสื้อผาที่ดีท่ีสุด และใหไปยังมัสญิดต้ังแตเน่ินๆ แตถือเปนสิ่งที่แย อยางย่ิงหากเขาพลาดละหมาดอิชาอเปนญะมาอะฮฺ ซึ่งมันเปนตัว บงชี้ถึงการถูกหักหามจากความดีงามและไมเขาใจในหลักการ ศาสนาเปนอยางดี เพราะการละหมาดอิชาอเปนญะมาอะฮฺ เทียบเทากับการกิยามุลลัยลฺคร่ึงคืนดังท่ีมีหะดีษระบุไว และ ยิ่งกวานั้นมันเปนฟรฎท่ีอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ ไดดํารัสถึงในหะ ดษี กดุ สีไววา ‫َو َﻣﺎ َ� َﻘ َّﺮ َب إِ َﻟ َّﻲ َ�ﺒْ ِﺪي ﺑِﺄَ َﺣ َّﺐ إِ َﻟ َّﻲ ِم َّﻤﺎ اﻓْ َﺘ َﺮ ْﺿ ُﺖ َﻋﻠَﻴْ ِﻪ‬ ความวา “และไมมีส่ิงใดท่ีบาวของฉันได (ปฏิบัติตน) เขาใกลกบั ฉนั ดว ยการงานหนึ่งที่ฉนั โปรดปรานยิง่ กวาการปฏิบัตใิ นสิ่งท่ฉี นั กาํ หนดเปน ฟรฎ” (บันทกึ โดยอัล-บุคอร)ี 82

นอกจากนี้ใหสรางความรูสึกเสมือนวากําลังเขาเฝาอัลลอฮฺ และใหฉวยโอกาสในการวอนขอความเมตตา การอภัยโทษ และ การรอดพนจากการลงโทษในนรกของพระองค และใหเขาไป ยังมัสญิดโดยปลุกความรูสึกใหถวิลถึงและปรารถนาในความ ประเสริฐของมัน และใหมีความละอายใจตออัลลอฮฺและหว่ันเกรง ตอการถูกผลักไสและผินหลังของพระองค และใหเขาเลือกหามสั ญิ ดของชาวอะฮฺลิสสนุ นะฮฺ เพราะหากตวั เขาเปนหน่ึงในคนทกี่ ารงาน ไมถูกตอบรับ บรรดาคนดีๆ ก็อาจจะชวยเหลือเขาได หลังจากน้ัน ใหเขาสรางความรูส ึกตามท่เี ราไดน ําเสนอไปแลวกอนหนา นีใ้ นเร่ือง ที่เก่ยี วกับภารกจิ ตา งๆ ขณะท่จี ะเขา สกู ารละหมาดและชว งระหวา ง การละหมาด สําหรับการทบทวนตัวเองในการฏออะฮฺตางๆ ถือเปน ภารกิจท่ีมีคุณคามากท่ีสุดที่คนทําอิบาดะฮฺจะทํามันในชวงเดือน เราะมะฎอน อันที่จริงการทบทวนตัวเองเปนภารกิจสําคัญสําหรับ คนท่ีจะมุงสูเสนทางแหงโลกอาคิเราะฮฺอยูแลว แตมันเปนภารกิจท่ี มีการเนน ยา้ํ และใหทาํ เพิ่มเปน เทาทวคี ณู ในชวงเดอื นน้ี การทบทวน (มุหาสะบะฮฺ) หมายถึง การตรวจสอบส่ิงท่ี ไดฏออะฮฺไปทั้งที่เปดเผยและซอนเรน ทั้งในครั้งเร่ิมแรกและครั้ง สดุ ทา ย โดยศึกษาผลทไ่ี ดรบั จากมนั ทง้ั นกี้ ็เพอ่ื รบั รูถ งึ ส่ิงท่ีไดร บั จาก มันเพ่ือจะไดรักษาใหยังคงอยูตอ สวนสิ่งที่ทําไดน้ันก็จะเพ่ิมใหม าก 83

ยง่ิ ขึ้น และการเขาถงึ สิ่งทบ่ี กพรอ งทไ่ี ดท าํ ไปนน้ั กเ็ พอื่ จะไดปรับปรงุ แกไขตอ ไป การทบทวนน้ันเกิดขน้ึ ท้งั กอ นการทําอะมลั ขณะทท่ี ําอะมลั และหลังจากท่ที ําอะมลั สําหรับการทบทวนกอนการทําอะมัล คือการเตรียมพรอม ท่ีจะทําอะมัลน้นั และการตระหนักในส่ิงที่จะเปนขอบกพรองในการ ทําอะมัลน้ัน ทั้งน้ีจะไดหลีกหางจากมัน สวนการทบทวนขณะที่ ทําอะมัล คือ การเฝาตรวจสอบอะมัลท่ีทําไปท้ังท่ีเปดเผยและท่ี ซอนเรน ทั้งในครั้งเร่ิมแรกและครั้งสุดทาย และการทบทวน หลงั จากทาํ อะมลั คือการทําอะมลั นนั้ อีกในภายหลงั หากคนๆ หน่ึงหมั่นทบทวนตัวเองจนเปนเนืองนิจ มันก็จะ กลายเปนวิถีชีวิตท่ีไมจําเปนตองมีการบังคับและปรับปรุงแกไขมัน อีก และจะพบวาเบ้ืองหลังของการทบทวนและผลของมันน้ันจะ เปนการเพิ่มพูนสถานะของอิหฺสาน ซึ่งเปนสิ่งท่ีทุกคนตางแสวงหา มัน น่ันคอื การทาํ อบิ าดะฮตฺ อ อลั ลอฮปฺ ระหนงึ่ วา พระองคท รงมองดู เขาอยู การทบทวนตัวเองเชนน้จี ําเปนตอ งทาํ แบบลบั ๆ โดยการยาํ้ เตือนตัวเองและความใครของตัวเองบอยๆ พรอมทั้งปรับปรุงแกไ ข ขอบกพรองใดๆ ก็ตามดวยการตําหนิติเตียน เตือนสําทับมัน และ ลงโทษตอ ความเกยี จครานและเฉื่อยชาของมนั 84

อยา งไรก็ตาม เราจะไมแ นะนาํ ใหยึดตดิ กบั ตารางตรวจสอบ อะมัลท่ีคิดคนตายตัวข้ึนมา ซ่ึงในเรื่องนี้ผูคนไดแบงความคิดเห็น ออกเปนสองกลุมหลักๆ กลุมหน่ึงไดกําหนดใหมันเปนเครื่องมือ ตายตวั ในการตรั บียะฮฺและเปน สูตรสําเร็จในการปรบั ปรงุ ตวั เองใหด ี แตกลุมหน่ึงหามใชมันอยางสิ้นเชิงและยังถือวาเปนบิดอะฮฺดวยซ้ํา แตส่ิงท่ีถูกตองที่สุดคือการอยูระหวางกลาง ไมปฏิเสธวามันไมได เปนเครื่องมือท่ีมีปรากฏในยุคสมัยของชาวสะลัฟแหงประชาชาติน้ี แตมันก็ไดรับการการันตีจากหลักการศาสนาท่ีคลายคลึงกัน เชน การนับตัสบหี ดฺ ว ยหิน เปนตน ซึ่งมีรายงานปรากฏอยา งชัดเจนจาก การปฏิบัติของบรรดาเศาะหาบะฮฺและบรรดาตาบิอีน นอกจากนี้ เราไมไดบอกวาอนุญาตใหยึดติดกับมันในทุกชวงเวลา แตเรา แนะนําใหใชมันเฉพาะในชวงเร่ิมแรกเพียงเทานั้น และเราก็ไมได บังคับใหทุกคนใชมัน แตคนท่ีจะใชมันเปนตัวชวยในชวงเริ่มแรกที่ บางทีตัวของเขายังพลิกผันไมน่ิงพอก็หวังวาอยาใชมันจนมีปญหา โดยมีเงื่อนไขวา อยา ยดึ ติดกับมันไปตลอด ส่ิงที่ถูกตองที่สุดคือ การหมั่นทบทวนดวยตัวเองและเฝา ตดิ ตามมันอยูเสมอ และใหมีบทลงโทษในกรณีทห่ี นั เหไปจากมัน ซ่ึง การปฏิบัติเชนน้ีเองท่ีจะทําใหอิบาดะฮฺมีความบริสุทธิ์จากลูทาง ตางๆ ท่ีจะหันเหใหออกจากเจตนาที่ดี เชนความตองการท่ีจะติ๊ก เคร่อื งหมายในตารางทบทวนตวั เองแบบมั่วๆ เปน ตน 85

7. ศกึ ษาวธิ ถี อื ศลี อดตามบัญญัติอิสลาม น่ีคอื สิง่ วาญิบท่มี ีการเนน ย้ําใหปฏบิ ตั มิ ากทส่ี ุด เพราะประตู ท่เี บิกทางไปสคู วามสุขสาํ ราญและการสถาปนาวาใครจะไดเ ปนวะลี (คนรัก) ของอัลลอฮฺนั้น ผูกพันโดยตรงกับความรูท่ีถูกตองและมี ประโยชนซึ่งมันจะนําสูการทําอะมัลท่ีศอลิหฺ เพราะการทําอะมัลท่ี ศอลิหฺจะไมมีคุณคา ใดๆ หากปราศจากความรทู ี่มีประโยชน ความรูที่มีประโยชนจะนําสูการงานท่ีศอลิหฺ หากเขาตอบ รับท่ีจะทํามัน แตหากไมแลวมันก็สูญเปลาไป และเฉกเชนที่วาญิบ สําหรับคนละหมาดตองเรียนรูวิธีการละหมาด และคนท่ีจายซะกา ตตองเรียนรูสิ่งที่เขาจะจายซะกาต ฯลฯ ดังนั้น จึงเปนส่ิงท่ีนา รังเกียจอยางย่ิงตามหลักการศาสนาสําหรับคนที่มีโอกาสอยูใน ชวงเวลาแหงการฏออะฮฺ แตเขากลับลมเหลวในหนทางแหงการ แขง ขันกันทาํ ความดี และบกพรองในการเตรยี มตัวเขา สูช วงเวลานี้ ดังน้ัน จําเปนท่ีจะตองเรียนรูหุกุมตางๆ ของการถือศีลอด และส่งิ ที่เปน ขอหา มของมนั รวมถึงรุกนุ ตา งๆ และสิ่งที่ทาํ ใหก ารถอื ศีลอดเสียและส่ิงที่อนุญาตใหปฏิบัติได นอกจากน้ียังรวมถึงหุกุม ตางๆ ของการละหมาดตะรอวีหฺ การอิอฺติกาฟ เปนตน ในสวน 86

ผูหญิงนั้นกม็ ีเรื่องท่ีตองเรยี นรหู กุ ุมตางๆ ของการถือศีลอดเปน การ เฉพาะ เชนเกี่ยวกับการมีประจําเดือน การมีเลือดเสีย (อิสติหา เฎาะฮฺ) การมีเลือดนิฟาส (เลือดหลังคลอด) รวมถึงการถือศีลอด ในขณะที่ตงั้ ครรภแ ละใหน มบุตร อยางไรก็ตาม ขาพเจาขอแนะนําหนังสือบางเลมซึ่งเหมาะ แกการเรียนรูหุกุมตางๆ ของการถือศีลอด สวนการไปถามผูรูใน บางประเด็นที่ยังสงสัยน้ันยอมเปนส่ิงท่ีสนับสนุนใหทําอยูแลว ใน จาํ นวนหนังสือท่ีจะขอแนะนํามดี งั นี้ 1. ซาด อัล-มะอาด ฟฮัดยิ ค็อยร อัล-อิบาด โดยอิบนุล ก็อยยิม (หมวดแบบอยางของทานนบี ศ็อลลัลลอฮอุ ะลัยฮิวะสัลลมั ในการถือศลี อด) 2. ศ็อฟวะฮฺ อัล-กะลาม ฟมะนาสิก อัศ-ศิยาม โดยอบีอิด รสี มฮุ มั มดั อบั ดลุ ฟตตาหฺ (เปนจลุ สารเลมเลก็ ๆ) 3. ฟกฮฺ อัส-สุนนะฮฺ โดยสัยยิด สาบิก แตใหศึกษาเลมท่ี ผานการตรวจสอบของชยั คอฺ ัล-อลั บานี นั่นคือ ตะมาม อัล-มินนะฮฺ ฟ อัต-ตะอฺลกี อะลา ฟกฮฺ อสั -สนุ นะฮฺ และขอใหทานหลีกเล่ียงจากการแสดงความคิดเห็นใน ประเด็นปญหาศาสนา (ฟตวา) และนําเสนอขอมูลตางๆ ท้ังๆ ท่ี ทานไมไดมีความเชี่ยวชาญในเร่ืองนั้น เพราะมันจะเปนส่ิงไมดี สาํ หรับตัวทานและจะทาํ ใหค นอืน่ หลงผดิ ตามไปดวย 87

สวนหนังสือท่ีแนะนําใหศึกษาเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติตอ พระผูเปน เจา และสิ่งท่ีสมควรปฏิบตั ิในชว งเวลาตา งๆ น้ัน ขาพเจา ขอแนะนําหนังสือ “ละฏออิฟ อัล-มะอาริฟ” โดยอัล-หาฟซ อิบนุ เราะญบั เราะหิมะฮุลลอฮฺ 88

8. เตรยี มล้ิมรสอิบาดะฮฺแหงความอดทน อัลลอฮฺ ตะอาลา ไดด ํารสั วา ‫ٱ َّ ِ�ي َن‬ َّ �ٖ ‫َع ِظي‬ ‫َح ٍّظ‬ ‫ُذو‬ َّ ٓ‫يُ َل َّقٮٰ َها‬ ‫َو َما‬ ْ ‫َص َ ُ�وا‬ �ِ‫إ‬ ٓ‫يُ َل َّقٮٰ َها‬ ‫َو َما‬ :‫]ﻓﺼﻠﺖ‬ ﴾ �ِ‫إ‬ ﴿ [35 ความวา “และไมมีผูใดไดรับมัน (คุณธรรม) นอกจากบรรดาผู อดทน และจะไมมีผูใดไดรับมัน นอกจากผูที่มีโชคลาภอันใหญ หลวง” (สูเราะฮฺฟุศศลิ ัต อายะฮทฺ ี่ 35) บางคนไดใชชวงเทศกาลแหงความดีไปกับความสุขสําราญ ท่ีมีอยูในทุกรูปแบบ ซ่ึงทําใหเขาไดออกจากเดือนนั้นเฉกเชนกอน เขามา และอาจจะยิ่งแยกวาดวยซํ้า นอกจากน้ียังทําให ความสัมพันธระหวางเขากับความมุงมาดท่ีมีตอโลกอาคิเราะฮฺยิ่ง หางเหินมากยิ่งขนึ้ และยังทาํ ใหค วามใครท ปี่ ดบังอยูอยางแนนหนา ไดปด กัน้ ระหวางเขากับการมงุ สูอัลลอฮฺ และหากเดือนเราะมะฎอนคือเดือนแหงการถือศีลอดและ การอดทน จึงเปนโอกาสที่ดีสําหรับเราที่จะไดล้ิมรสแกนแทของ ความอดทนเพอ่ื สามารถล้มิ รสแกนแทของการถอื ศีลอด 89

โอผูทีใ่ ฝในความดใี นเดอื นน้ี ส่ิงที่มอี ยเู บอื้ งหนาทา นคอื การ อดทนตอส่ิงที่ตองหา ม การอดทนในการทําความดี และการอดทน ตอ ทกุ ส่งิ ทป่ี ระสบแกท าน ซึ่งประเภทตางๆ ของความอดทนดังขางตนน้ันคือ เอกลักษณที่สําคัญของการเปนคนรักของอัลลอฮฺ และเปน คุณสมบัติของการเปนแกนนําในศาสนานี้ ดังที่ทานชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ ไดกลาววา “แทจริง การเปนแกนนําในศาสนา เปนไปดวยการมีความอดทนและความเชื่อมั่น” ซ่ึงทานหยิบยก หลักฐานจากคําดาํ รัสของอลั ลอฮฺ ตะอาลา ท่ีวา ﴾ ‫﴿ َو َج َع ۡل َنا ِم ۡن ُه ۡم أَ�ِ َّم ٗة َ� ۡه ُدو َن بِأَ ۡم ِرنَا لَ َّما َص َ ُ� ۖواْ َو َ�نُواْ � َ�ٰتِ َنا يُوقِ ُنو َن‬ [24 :‫]الﺴﺠﺪة‬ ความวา “และเราไดจ ัดใหมีแกนนําจากพวกเขา เพื่อจะไดชี้แนะ แนวทางที่ถูกตองตามคําบัญชาของเรา ในเม่ือพวกเขามีความ อดทนและพวกเขาเช่ือมั่นตอโองการท้ังหลายของเรา” (สู เราะฮอฺ สั -สัจฺดะฮฺ อายะฮฺท่ี 24) ทานอิบนุลก็อยยิม เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดกลาววา “บรรดา นักวิชาการเห็นพองกันวานัยของความอดทนท่ีถูกตองที่สุดคือ การควบคุมจิตใจจากสิ่งท่ีไมชื่นชอบ ซ่ึงเปนข้ันตําแหนงของ แนวทางสูความรัก (ซ่ึงเปนหน่ึงในรูปแบบของการมุงสูอัลลอฮฺ) ท่คี นท่วั ไปมักทาํ ไดย ากและมีความลําบากมากทสี่ ดุ เนือ่ งจากคน 90

ท่ัวไปเปนคนที่เพิ่งเร่ิมกาวสูแนวทางนี้ (ซึ่งอาจจะยังไมมีความ อดทน) และไมมีความชํานาญในการมุงสูโลกอาคิเราะฮฺ และมัน ไมใชวิธีการท่ีคนเพ่ิงเร่ิมตนจะหักโหมไปทํามันได (เชน ใหเขา ละหมาดนานๆ ตลอดท้ังคืน หรือใหเขาถือศีลอดวันเวนวัน -ผู แปล-) ดังนั้น เมื่อใดท่ีเขาไดประสบกับบททดสอบเขาก็รูสึก หวาดหวั่น และเปนการยากท่ีเขาจะเผชิญกับบทดสอบตางๆ และอดทนกับมันได เพราะเขาไมใชคนที่มีความชํานาญจน สามารถอดทนไดตลอด และไมใชคนที่มีความรักตออัลลอฮฺแลว จนรูสึกอิ่มเอิบกับบททดสอบตางๆ ขอเพียงเปนความพึงพอ พระทัยของผูท่เี ขารัก (นั่นคืออลั ลอฮ)ฺ ” โอผูท่ีปรารถนาความสําเร็จเอย สิ่งท่ีขาพเจาไดนําเสนอไป น้ันทําใหทานรูวาเดือนเราะมะฎอนคือโอกาสที่ดีย่ิงในการฝกฝน ความอดทน เพราะปจจัยทั้งหมดลวนเอื้อแกทาน ไมวาความ ชวยเหลือของอัลลอฮฺที่มีอยูตลอดชวงเวลา สวนพวกอิบลีสท่ีคอย จองเลนงานทานก็ถูกลามโซตรวน และตัวทานเองก็มองวาความดี นั้นเปนส่ิงที่ทําไดงาย สวนความช่ัวกลับเปนสิ่งที่หวาดหว่ันที่จะทํา มัน ดังนั้น ไมมีอะไรอ่ืนแลวนอกจากทานจะตองเยียวยาความนึก คิด การกระซิบกระซาบ และความรูสึกตางๆ ท่ีมีอยูในกนบ้ึงของ หัวใจในชวงโอกาสน้ี และแนนอนวาไมมีสิ่งใดท่ีจะเปรียบหัวใจไดดี ยิ่งกวา คนปว ยท่ีอยูในหอ งไอซียทู ตี่ อ งงดน้าํ งดอาหารท่อี าจสง ผลตอ 91

การรักษา ย่ิงกวานั้นยังส่ังงดไมใหญาติพ่ีนองเขามาเย่ียม ทั้งน้ี เพ่ือใหรางกายไดพักผอนอยางเต็มที่และเพ่ือเปนการฟนฟู สมรรถภาพของรา งกายใหฟ นตวั ไปในทางท่ีดี นอกจากน้ียังใหอยใู น เขตปลอดเชื้อเพื่อสูดอากาศท่ีบริสุทธ์ิ และใหเลือดที่บริสุทธ์ิเขาสู เสนเลือดเพื่อเพิ่มความแขง็ แรง พรอมกับวัดชีพจรและวดั ไขเพอ่ื ให แพทยสามารถวินิจฉัยสภาพรางกายได ดังน้ัน จึงเปนโอกาสที่ดี สําหรับหัวใจท่ีย่ําแยซึ่งเกิดจากการทําความผิดตางๆ และการขลุก อยูกับความใคร และสิ่งคลุมเครือท่ีสรางความเสื่อมเสีย และความ ออนแอท่ีเกิดจากการไมไดขัดเกลาและปรับปรุงแกไขใดๆ ตลอด ชวงเวลาที่ผานมาท่ีมันจะไดเขาหองไอซียูในชวงเดือนเราะมะฎอน เพราะสิ่งท่ีจะทําใหหัวใจของทานกลับมาเขมแข็งอีกคร้ังคือการมี ความยําเกรงและความรักตออัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสัลลัม รวมถงึ การเคารพเช่อื ฟงตอ ท้งั สอง ดังนั้น จงบังคับตัวทานใหหาวหาญตอความอยากของปาก ทองและความใครทัง้ หลายในเดือนนี้ ซ่ึงหากมนั ยังกอ ความปนปว น ก็อยาไดลังเลใจที่จะใชมาตรการข้ันเด็ดขาดและจับกุมจิตใจท่ีชั่ว รายแลวนํามันเขาคุกแหงความปรารถนาจนกวามันจะปฏิบัติตาม คําส่ังของทาน แตหากมันยิ่งปนปวนและกลาที่จะตอตานก็ใหใชไม เรียวฟาดมันใหแรงโทษฐานท่ีสวนกับคําส่ังและฝาฝนความ ปรารถนาของทาน และหากมันยังด้ือดงึ ฝา ฝนอีกกใ็ หข วู าจะจัดการ ลงโทษดว ยการประหาร เพราะจติ ใจท่ชี ัว่ รา ยน้ันไมมคี ณุ คาใดๆ อีก 92

แลว และหากมันไดออดออ นและเซา ซค้ี วามรสู กึ ของทานก็จาํ เปน ท่ี จะตองลงโทษมันดว ยการประหารอยางจริงจังในชวงสิบคืนสุดทา ย ของเดือนเราะมะฎอนดวยการจัดการมันในขณะที่อิอฺติกาฟจน สามารถกําจัดจิตใจท่ีปนปวนน้ันใหหมดส้ินไป แลวใหชวงเวลานั้น สามารถสรางจิตใจใหมที่มีความสงบสุข ออนโยน และโนมนาวให ทานทําความดีตางๆ ไดอยางงายดาย และสามารถตอตานเม่ือมัน เรียกรองใหทานทําสิ่งท่ีผิดบาป ดังกลาวนี้มันจะสรางจิตใจใหมท่ี เปนไปตามศาสนาไดกําหนดในชวงโอกาสท่ีสะอาดบริสุทธิ์ (น่ันคือ เดือนเราะมะฎอน) และเติบโตขึ้นมาพรอมไดรับการอบรมเลี้ยงดู จากบรรดาคนดี ซี่งทานจะไมเห็นมันหลังจากนั้นนอกจากจะทาํ แต ส่ิงทีด่ ี ในความเปนจริงมันคอื การสรา งจติ ใจท่ีมคี ุณสมบตั ขิ องแกน นําในศาสนา ซึ่งไดเตบิ โตข้ึนมาจากกระบวนการเตรียมพรอมสกู าร เปนคนดี และใหความสะดวกตอการสรางความรูสึกใหหวาดหว่ัน และการมีจติ มัน่ ตอ อัลลอฮอฺ ยา งเครง ครัด 93

9. เทคนคิ การเขาถงึ ความหอมหวานของการฏออะฮฺ หลักฐานท่ีบงชี้ถึงการมีอยูจริงของความหอมหวานใน การฏออะฮฺ คือ คํากลาวของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่วา ‫ َو�ِ ُﻤ َﺤ َّﻤ ٍﺪ َر ُﺳﻮ ًﻻ‬، ‫ َو�ِﺎ ْ ِﻹ ْﺳ َﻼ ِم ِدﻳﻨًﺎ‬،‫َذا َق َﻃ ْﻌ َﻢ ا ْ ِﻹﻳ َﻤﺎ ِن َﻣ ْﻦ َر ِﺿ َﻲ ﺑِﺎ ِﷲ َر ًّ�ﺎ‬ ความวา “ผูที่นอมรับวาอัลลอฮฺเปนพระผูอภิบาล อิสลามเปน ศาสนา และมุฮัมมัดเปนศาสนทูตจะไดลิ้มรส (ความหอมหวาน) ของการศรัทธา” (บนั ทึกโดยมสุ ลิม) และคํากลา วของทานนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮวิ ะสัลลมั ทว่ี า ‫ا َّ ُ� َو َر ُﺳﻮ ُﻟ ُﻪ أَ َﺣ َّﺐ‬ ‫ ُ�َوأَﻮ َْنن‬،�ِ َ‫ ِإ َّأَﻻ ْن ِ َّﻳ‬:‫ا َﻻِﻹﻳ ُ َِﻤ�ﺎُّﺒ ُِﻪن‬ ‫� ِ� َﺮﻴَوُهأَِﻪأَ ْنَْون َُﺟُ�ِ� َْﺪﻘ َّ َﺬﺐ َﺣَالف ََﻼﻤ َِﻓْوﺮ َةﻲَء‬،ْ ‫ِاإﺛَ َﻟﻟ ْﻴ َﻼ ِﻪ ُ�ٌ ِمثْﻔ َّﻤِﺮَﻣﺎ ْ َﻦﻛِﺳ َﻤَﻮﺎا ُﻳَُ�ﻫ ََّﻤﻦﺎ‬ ‫ﻳَ ْ� َﺮ َه أَ ْن َ� ُﻌﻮ َد ِﻓﻲ‬ ‫اﻟ َّﻨﺎ ِر‬ ความวา “สามประการหากผูใดมีไวครอบครองเขาจะไดพบกับ ความหอมหวานของการศรัทธา หน่ึง..การที่เขาทําใหอัลลอฮฺ และศาสนทูตของพระองคเปนท่ีรักยิ่งแกเขามากกวาสิ่งอ่ืนใด สอง..การทเี่ ขามอบความรักใหแกบ คุ คลหน่งึ บุคคลใดเขาจะไมร กั 94

บุคคลน้ันยกเวน รักเพื่ออัลลอฮฺ สาม..เขารงั เกียจที่จะกลับไปเปน กุฟรฺ (ปฏิเสธ) เสมือนที่เขารังเกียจจะถูกโยนลงไปในเปลวเพลิง ของนรก” (บนั ทกึ โดยอัล-บุคอรแี ละมสุ ลมิ ) และเมื่อคร้ังท่ีทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม ไดหามบรรดาเศาะหาบะฮฺของทานจากการถือศีลอด ตดิ ตอกัน (โดยไมล ะศีลอดนนั้ -วิศอล-) เศาะหาบะฮกฺ ลมุ นน้ั กก็ ลาว ขึ้นมาวา “แลวทําไมทานถือศีลอดติดตอกันได” ทานนบี จึงกลาว วา ‫إِ ِّ� لَ ْﺴ ُﺖ َﻛ َﻬﻴْئَ ِﺘ ُ� ْﻢ إِ ِّ� أُ ْﻃ َﻌ ُﻢ َوأُ ْﺳ َﻘﻰ‬ ความวา “ฉันไมเ หมือนกบั ลกั ษณะของพวกทาน แทจริงฉันมีผใู ห อาหาร และฉันมผี ูใหเ คร่ืองดม่ื ” (บนั ทึกโดยอัล-บคุ อรีและมุสลมิ ) และบางสาํ นวนไดร ะบวุ า �ِ ‫إِ ِّ� أَ َﻇ ُّﻞ ِﻋﻨْ َﺪ َر ِّ� ُ� ْﻄ ِﻌ ُﻤ ِ� َو� َ ْﺴ ِﻘﻴ‬ ความวา “แทจริงฉันอยูภายใตก ารดูแลของพระผูอภิบาลของฉัน ซ่ึงพระองคคอยใหอาหารฉัน และคอยใหฉันด่ืม” (บันทึกโดย อะหฺมัด) และอกี สํานวนไดระบวุ า �ِ ‫ َو َﺳﺎ ِ�ﻴًﺎ � َ ْﺴ ِﻘﻴ‬،�ِ ‫ِإ َّن ِﻟﻲ ُﻣ ْﻄ ِﻌ ًﻤﺎ ُ� ْﻄ ِﻌ ُﻤ‬ 95

ความวา “แทจริงฉันมผี ูใ หอ าหารคอยใหอาหารฉนั และฉนั มผี ใู ห เครื่องด่ืมคอยใหฉ นั ดืม่ ” (บันทกึ โดยอบูดาวุด) ทานอิบนุลก็อยยิม ไดกลาววา “เปนความเขาใจผิดอยาง ยิ่งสาํ หรบั คนทค่ี ดิ วา อาหารและเครอื่ งด่มื นัน้ คือสงิ่ ท่ีปากสามารถ ล้ิมรสเพียงอยางเดียว” แลวทานก็กลาวอีกวา “แตนัยของมัน จรงิ ๆ คือ การไดล ิม้ รสความหอมหวานของอมี านและอิหฺสานน้ัน เปนส่ิงที่เกิดขึ้นไดในหัวใจ ซ่ึงมันสามารถลิ้มรสความหอมหวาน น้นั ไดเฉกเชน ทีป่ ากสามารถล้ิมรสความหอมหวานของอาหาร” โอผูท่ีมุงสูความพึงพระทัยของพระผูเปนเจา พึงรูเถิดวา ขอมูลตางๆ ท่ีมีการนําเสนอในน้ีเปนเพียงทฤษฎีเทานั้น สวน ขอแนะนําตางๆ ที่ปรากฏอยูก็เปนการกลาวถึงโดยภาพรวม ซ่ึงมัน ไมไดมีอะไรนอกจากขอเท็จจริงที่มีอยูในเน้ือหาเทานั้น กระนั้นก็ ตามมนั กไ็ มใชเ ปนส่งิ ทีใ่ ครๆ สามารถเขา ถึงไดนอกจากคนทอี่ ลั ลอฮฺ จะใหเขาเทาน้ัน และผูใดที่ไดล้ิมรสเขาก็จะรับรูเอง ดังน้ันจงทําให สง่ิ เหลา นีเ้ ปนขอย้ําเตอื นเถดิ เพราะเราจะพาทา นไปสูค าํ กลา วทค่ี น มีหัวใจหยาบกระดางและมีสนิมเกาะไมสามารถเขาใจมันได ดังนัน้ หากมีเร่ืองใดท่ียากเกินจะเขาใจไดก็อยาดวนสรุปวาทานกําลังมี ปญหาในความสัมพันธกับอัลลอฮฺ แตเราขอแนะนําใหทานอานใน แตละเร่ืองใหครบถวน และปฏิบัติตามท่ีเราไดแนะนําแกทาน 96

หลงั จากน้นั ใหท า นทวนอา นบรรทัดนัน้ อีกครงั้ ซงึ่ ถา ทา นพบวามสี ่ิง ใดเกิดขึ้นกับตัวทานตามที่เราไดฉายภาพใหเห็นนั้น ก็จงกลาว สรรเสริญตอ อัลลอฮฺ -อลั หมั ดุลลิ ลาฮ-ฺ เถิด ทพ่ี ระองคทรงใหทานได ล้ิ ม ร ส ค ว า ม ห อ ม ห ว า น ข อ ง อี ม า น แ ล ะ ค ว า ม ห อ ม ห ว า น ข อ ง การฏออะฮฺ ส่ิงแรกที่ทานตองรูคือ “ความคิดนั้นไมมีขีดจํากัด สวนล้ิน ไมมีวันหยุดพูด และอวัยวะตางๆ ก็จะไมหยุดการเคล่ือนไหว ซ่ึง หากทานไมใหมันวุนอยูกับเรื่องที่สําคัญ มันก็จะไปวุนอยูกับเร่ือง เล็กนอย และหากทานไมจ ัดการใหมนั ทาํ แตส่ิงดี มันก็จะทําในสงิ่ ท่ี ไมดแี ทน ซึ่งโดยปกติแลว จิตใจของมนุษยชอบความสุขและความ สบายและไมช อบส่ิงที่ไมดีและความลาํ บาก ฉะนนั้ จงพยายามตอสู กับความยากลําบากในการทําความดี (เพราะความดสี วนใหญม กั จะ มีความยากลําบาก) จนกวาหัวใจจะเกิดความเคยชิน เม่ือถึงขั้นนั้น แลวหัวใจก็จะไมรูสึกลําบาก และจะรูสึกเกลียดชังความช่ัว” (โดย อับดลุ วะฮฺฮาบ “อรั -รออิก”ฺ ) นอกจากนี้ใหต้ังปณิธานอันแนวแนอยางสมํ่าเสมอ เพราะ ถือเปนรากฐานสําคัญที่สุดในการขวนขวายสิ่งท่ีย่ิงใหญ และจะมี การขวนขวายสง่ิ ใดทย่ี ่ิงใหญไ ปกวาการขวนขวายโลกอาคิเราะฮอฺ กี ดังท่อี ัลลอฮฺ ตะอาลา ไดดาํ รัสวา 97

‫ن َفأُ ْو َٰٓل�ِ َك َ� َن َس ۡع ُي ُهم‬ٞ ‫﴿ َو َم ۡن َأ َرا َد ٱ� ِخ َر َة َو َس َ ٰ� لَ َها َس ۡع َي َها َو ُه َو ُم ۡؤ ِم‬ [١٩ :‫ ﴾ ]اﻹﺳﺮاء‬١٩ �‫َّم ۡش ُكو ٗر‬ ความวา “และผูใดปรารถนาโลกอาคิเราะฮฺ และขวนขวายเพ่ือ มันอยา งจรงิ จัง โดยที่เขาเปนผศู รทั ธาชนเหลาน้ัน การขวนขวาย ของพวกเขาจะไดรับการชมเชย” (สูเราะฮฺอัล-อิสรออ อายะฮฺที่ 19) พึงรูเถิดวา การจะไดล้ิมรสความหอมหวานของการฏอ อะฮฺน้ันจะตอ งผนวกรวมระหวา งหัวใจ ฮิมมะฮฺ (ปณิธานหรือความ ปรารถนา) และความนึกคิดตางๆ ตออัลลอฮฺ ซึ่งทานอบิ นุลก็อยยิม ไดอธิบายในเร่ืองน้ีวา “คือการที่หัวใจท้ังดวงไดตั้งม่ันตออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ โดยไมห ันขวาและซาย (ไมว อกแวก) ซึ่งเมอ่ื ใดที่ แรงปรารถนาไดล้ิมรสการผนวกรวมน้ีแลวมันก็จะเชื่อมโยงกับ ความถวิลถึงเจาของมัน และทําใหไฟแหงความรักและความ ตองการที่มีอยูในหัวใจของเขาไดลุกโชนมากยิ่งขึ้น” แลวทานก็ กลาวอีกวา “ขอสาบานตออัลลอฮฺวาแรงปรารถนาของจิตใจน้ัน สามารถพิชิตทุกสิ่งทุกอยางไดอยางแนนอน ซึ่งมันจะดําเนินบน เสนทางน้ีโดยไมหยุดย้ัง ยกเวนชวงขณะอยูเบื้องหนาพระองคผู ทรงเมตตา ตะบาเราะกะ วะตะอาลา และเม่ือน้ันเองเขาก็จะกม ลงสุูดเบื้องหนาพระองคเพ่ือแสดงถึงการขอบคุณที่สามารถ 98

มาถึงจุดนีไ้ ด ซ่ึงเขาจะยงั คงกมลงสุดู ตอ ไปจนกวาจะมีคาํ กลา ว แกเขาวา ‫َّم ۡر ِض َّي ٗة‬ ‫َرا ِض َي ٗة‬ ‫َر ّ�ِ ِك‬ �ٰ َ ِ‫إ‬ �ٓ ِ ‫ٱ ۡر ِج‬ ٢٧ ‫ٱلۡ ُم ۡط َم�ِ َّن ُة‬ ‫ٱ�َّ ۡف ُس‬ ‫يَٰٓ َ� َّ� ُت َها‬ ﴿ �ِ ‫ َفٱ ۡد ُخ‬٢٨ [٣٠ ،٢٧ :‫ ﴾ ]اﻟﻔﺠﺮ‬٣٠ �ِ ‫ َوٱ ۡد ُخ ِ� َج َّن‬٢٩ ‫ِ� ِع َ�ٰ ِدي‬ ความวา “โอชีวิตที่สงบน่ิงเอย จงกลับมายังพระเจาของเจาดวย ความยินดีและเปนที่ปติเถิด แลวจงเขามาอยูในหมูปวงบาวของ ขาเถิด และจงเขามาอยูในสวนสวรรคของขาเถิด” (สูเราะฮฺ อลั -ฟจ ฺร อายะฮทฺ ี่ 27-30) ม ห า บ ริ สุ ท ธ์ิ ยิ่ ง ผู ท ร ง ทํ า ใ ห ร ะ ห ว า ง ป ว ง บ า ว มี แ ร ง ปรารถนาท่ีแตกตางกันไป กระท่ังไดเห็นระหวางสองแรง ปรารถนาน้ันหางกันราวทิศตะวันออกกบั ทิศตะวันตก ยิ่งกวานั้น บางทีมันหางย่ิงกวาจุดท่ีต่ําสุดกับจุดท่ีสูงสุดเสียอีก และนี่คือ ของขวัญจากผูทรงอํานาจ ผทู รงปรีชาญาณ :‫ ﴾ ]اﻟﺤﺪﻳﺪ‬٢١ ‫﴿ َ�ٰلِ َك َف ۡض ُل ٱ َّ�ِ يُ ۡؤ�ِيهِ َمن � َ َشآ ُءۚ َوٱ َّ ُ� ُذو ٱ ۡل َف ۡض ِل ٱ ۡل َع ِظي ِم‬ [٢١ ความวา “น่นั คือความโปรดปรานของอลั ลอฮฺ ซง่ึ พระองคจ ะทรง ประทานมันใหแกผูที่พระองคทรงประสงค และอัลลอฮฺนั้นทรง เปนผโู ปรดปรานอันใหญหลวง” (สเู ราะฮอฺ ัล-หะดดี อายะฮฺที่ 21) 99


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook