100 อายะฮฺท่ีไดก้ ล่าวไวข้ า้ งตน้ มีสานวนและความหมายอยา่ งชดั เจนเก่ียวกบั บรรดา อูลุลอซั มีท้งั 5 ท่าน อนั ไดแ้ ก่ ท่านนบีนูหฺ ท่านนบีอิบรอฮีม ท่านนบีมูซา ท่านนบี อีซา และทา่ น นบีมุฮมั มดั ซ่ึงเป็นบรรดาผทู้ ี่มีประวตั ิที่ยง่ิ ใหญ่ท่ีสุดในสมยั ที่พวกเขาตอ้ ง รับผดิ ชอบกบั งานดะอฺวะฮฺที่หนกั หน่วง ตอ้ งพบพานอุปสรรคท่ีสาหสั และไดร้ ับการยกยอ่ ง จากอลั ลอฮฺ ใหเ้ ป็นเราะสูลที่มีฐานะที่สูงกวา่ บรรดาเราะสูลท่านอื่นๆ 2.5.3 ทา่ นนบีนูหฺ เป็นบิดาคนท่ีสองแห่งมนุษยชาติ เน่ืองจากเผา่ พนั ธุ์มนุษยส์ ืบเช้ือ สายมาจากท่าน เพราะหลงั จากเหตุการณ์น้าท่วมโลก ไมม่ ีใครรอดชีวติ จากเ หตุการณ์น้ีเลยนอกจาก ท่าน บรรดาลูก ๆ ของทา่ นและสาวกผซู้ ่ือสตั ยบ์ างคนเท่าน้นั อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﯺﯻﯼﯽﯾﯿﰀﰁﰂ ﰃ ﰄ ﰅ ﭑﭒﭓﭔ ﭕﭖﭗﭘ ﭙﭚﭛﭜﭝﭞﭟﭠﭡﭢ ﭣﭤ ﭥﭦﭧﭨﭩﭪﭫﭬﭭﭮﭼ )82-75 :(الصافا ت ความวา่ “ และโดยแน่นอนนูหฺได้ร้องขอเราดงั น้ันผ้ตู อบสนอง ช่างประเสริฐเสียน่ีกระไร (75) และเราได้ช่วยเขาและชุมชนของ เขาให้พ้นจากทุกข์ภัยอันมหันต์ (76) และเราได้ให้ลูกหลานของ เขายงั คงมีชีวิตเหลืออยู่ (77) และเราได้ปล่อยทิง้ ไว้ (เกียรติคุณ) แก่เขาในกล่มุ ชนรุ่นหลงั ๆ (78) ความศานติจงมีแด่นหู ฺในหมู่ ประชาชาติทั้งหลาย (79) แท้จริง เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทน ผ้กู ระทาความดีทั้งหลาย (80) แท้จริง เขา(นูหฺ) อย่ใู นปวงบ่าว ของเราผ้ศู รัทธา (81) แล้วเราได้ให้พวกอื่นจมนา้ ตาย (82)” (อศั ศอ็ ฟฟาต: 75-82)
101 อลั ลอฮฺ ผทู้ รงอานาจเล่าเร่ืองน้าวา่ ﭽﭱﭲﭳﭴﭵﭶﭷﭸﭹ ﭺﭻ ﭼﭽﭾﭿ ﮀﮁﮂﮃ ﮄﮅﮆﮇ ﮈﮉﮊ ﮋﮌﭼ )40 :(ىود ความวา่ “ จนกระท่ังเม่ือคาบญั ชาของเราได้มา และบนพืน้ แผ่นดินนา้ ได้พวยพุ่งขึน้ เรากล่าวว่า ”จงบรรทุกไว้ในเรือจาก ทุกชนิดเป็นคู่ ๆ และครอบครัวของเจ้าด้วย เว้นแต่ผ้ทู ่ีพระดารัส ได้กาหนดแก่เขาไว้ก่อน และผ้ศู รัทธา แต่ไม่มีผ้ศู รัทธาร่วมกบั เขานอกจากจานวนเลก็ น้อย” (ฮูด: 40) อายะฮฺที่ไดก้ ล่าวมาขา้ งตน้ ช้ีใหเ้ ห็นวา่ อลั ลอฮฺ ไดท้ รงลงโทษบรรดาผทู้ ่ีต้งั ภาคี ตอ่ พระองคด์ ว้ ยการทาใหน้ ้าท่วมโลก และพระองคท์ รงช่วยเหลือทา่ นนบีนูหฺ และกลุ่มชนของ ทา่ นที่ศรัทธาซ่ึงมีเพียงจานวนนอ้ ยใหพ้ น้ จากภยั พบิ ตั ิดงั กล่าว หลงั จากน้นั พระองคท์ รงใหม้ นุ ษย์ โลกสืบเช้ือสายมาจากทา่ นและลูกหลานของทา่ น 2.5.4 ทา่ นนบีนูหฺ มีอายยุ นื และใชเ้ วลาในการเผยแพร่ศาสนายาวนานที่สุด ทา่ นนบีนูหฺ ทาหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺเชิญชวนกลุ่มชนของท่านสู่การเคารพสกั การะ อลั ลอฮฺ เพียงองคแ์ ละหนั ห่างจากการสักการะบูชารูปป้ันเจวด็ ต่ างๆที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้ ทาการสกั การะแต่กาลก่อน
102 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﭥﭦﭧﭨ ﭩﭪﭫﭬﭭﭮﭯ ﭰﭱﭲﭳ ﭴﭵﭶﭷﭸﭹﭼ ) 59 :(لاأعراؼ ความวา่ “และแท้จริงเราได้ส่งนหู ฺ ไปยงั ประชาชาติของเขา แล้ว เขาได้กล่าวว่า โอ้ประช าชาติของฉันจงเคารพสักการะอัลลอฮฺ เถิดไม่มีผ้ไู ด้รับการเคารพสักการะใด ๆ สาหรับพวกท่านอีกแล้ว อ่ืนจากพระองค์ แท้จริงฉันกลวั การลงโทษในวนั อันย่ิงใหญ่จะ ประสบแก่พวกท่าน” (อลั -อะอฺรอฟ: 59) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ไวใ้ นอลั กุรอานอีกวา่ ﭽ ﮧﮨﮩﮪﮫﮬﮭ ﮮﮯﮰﮱ﮲ ﮳ﭼ )26 :(ىود ความวา่ “คือพวกท่านอย่าเคารพอิบาดะฮฺผ้ใู ดนอกจากอัลลอฮฺ แท้จริงฉันกลวั แทนพวกท่านถึงการลงโทษในวนั อันเจบ็ ปวด” (ฮูด: 26) ทา่ นนบีนูหฺ ยงั ไดท้ าการตกั เตือนกลุ่มชนของท่านใหห้ นั สู่ความถูกตอ้ งโดย การเคารพภกั ดีตอ่ อลั ลอฮฺ เพยี งองคเ์ ดียวและปฏิบตั ิตามคาสอนของทา่ น
103 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﮏﮐ ﮑﮒﮓ ﮔﮕﮖﮗﮘﮙ ﮚﮛﭼ ) 3-2 :(نوح ความวา่ “เขากล่าวว่า โอ้หม่ชู นของฉันเอ๋ย แท้จริงฉันคือผู้ ตกั เตือนอันชัดแจ้งของพวกท่าน (2)พวกท่านจงเคารพภักดี อัลลอฮฺ เถิด และจงยาเกรงพระองค์ และจงเชื่อฟังปฏิบั ติตาม ฉัน(3)” (นูหฺ: 2-3) ท่านนบีนูหฺ ทาการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของท่านอยา่ งไมย่ อ่ ทอ้ ถึงแมจ้ ะถูก ปฏิเสธ ยง่ิ ไปกวา่ น้นั ท่านไดเ้ พมิ่ การดะอฺวะฮฺของท่านท้งั กลางวนั และกลางคืนอยา่ งตอ่ เน่ืองดว้ ย ความเหนื่อยยาก และยงั คงปฏิบตั ิหนา้ ท่ีทุกวถิ ีทางที่จะกระทาได้ ท้งั โดยทางเปิ ดเผยและโดยทางลบั ดว้ ยการบอกขา่ วดีสาหรับผทู้ ่ีศรัทธา และขา่ วร้ายสาหรับผปู้ ฏิเสธศรัทธา แตก่ ไ็ มป่ ระสบ ความสาเร็จ กลุ่มชนของท่านยงั คงด้ือร้ันปฏิเสธ โตเ้ ถียง และเยาะเยย้ ท่านดว้ ยการกระทาต่างๆนานา แตท่ า่ นยงั คงอดทน จน กระทงั่ อลั ลอฮฺ ไดม้ ีวะฮียแ์ ก่ทา่ นวา่ จะไม่มีผศู้ รัทธาเพิ่มจากที่ไดศ้ รัทธา ไปแลว้ ซ่ึงมีจานวนนอ้ ยเท่าน้นั อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﯴﯵ ﯶﯷﯸﯹﯺ ﯻﯼ ﯽﯾﯿ ﰀﰁﰂﰃ ﰄﰅﭼ )36 :(ىود
104 ความวา่ “และได้มีวะฮีย์แก่นหู ฺ ว่า แท้จริงจะไม่มีผ้ใู ดจากหม่ชู น ของเจ้าศรัทธา เว้นแต่ผ้ทู ี่ได้ศรัทธาแล้ว ดงั นั้น เจ้าอย่าเศร้าหมอง ในส่ิงที่พวกเขากระทา” (ฮูด: 36) ทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการดะอฺวะฮฺเป็นเวลายาวนานถึง 950 ปี ดว้ ยความอดทน และเหนื่อยยาก แต่ยงั ไดร้ ับการปฏิเสธจากกลุ่มชนของท่าน การลงโทษอยา่ งเจบ็ ปวดจึงประสบแก่ พวกเขาขณะท่ีพวกเขาเป็นผอู้ ธรรม อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﯨﯩﯪﯫ ﯬﯭﯮﯯﯰﯱ ﯲﯳﯴﯵﯶﯷﯸﭼ ) 14 :(العنكبو ت ความวา่ “และโดยแน่นอนเราได้ส่งนหู ฺไปยงั หม่ชู นของเขา และ เขาได้อย่รู ่วมกับพวกเขาหนึ่งพนั ปี เว้นห้าสิบปี (950 ปี ) ดังน้ัน อุทกภยั ได้คร่าพวกเขาขณะท่ีพวกเขาเป็นผ้อู ธรรม” (อลั องั กะบูต: 14) 2.6 การเสียชีวติ ของท่านนบนี ูหฺ อลั กรุ อานไดว้ าดภาพท่ีแทจ้ ริงของเร่ืองราวของ ท่านนบีนู หฺ เราไมร่ ู้วา่ เรื่องราวของ ท่านกบั ผคู้ นของ ท่านน้นั ได้ ดาเนินตอ่ ไปเช่นไร เร่ืองที่เราไดร้ ู้ท้งั หมดหรือสามาร ถ คน้ ควา้ ไดค้ ือ อลั ลอฮฺ ไดเ้ ล่าวา่ ﭽﭑﭒﭓﭔ ﭕﭼ )77 :(الصفا ت
105 ความวา่ “ และเราได้ให้ลูกหลานของเขายงั คงมีชีวิตเหลืออยู่” (อศั ศอ็ ฟฟาต: 77) ลูกของทา่ นนบีนูหฺ ซ่ึงมีกนั อยู่ 5 คน คนหน่ึงตายไปกบั น้าทว่ ม ช่ือ ย าม )(ياـ ซ่ึงอะฮฺลุลกิตาบ21เรียกวา่ “กนั อฺาน” ) (كنعافอีกคนชื่อ อฺาบิร ) (عابرเป็นผหู้ ญิง ซ่ึงได้ตายไปก่อน น้าลด หรือบางคนบอกวา่ ตายไปกบั น้าท่วมดว้ ยอีก 3 คนที่เหลือรอดมาไดแ้ ก่ ซาม ) (ساـฮาม ) (حاـและยาฟิ ษ )( (يافثIbn Kathīr, 1997: 104) ซามเป็นตน้ ตระกลู อ าหรับ ฟาริซี ย์ และโรม ส่วน ฮาม เป็นตน้ ตระกลู กิบฏี ย์ )นิโกร(ซูดาน )อียปิ ต(์ และเบอร์เบอร์ (กลุ่มคอเคซอยดแ์ ถบแอฟริกาตอนเหนือ ) และยาฟิ ษ เป็น ตน้ ตระกลู เตอร์ก เศาะกอลิบะฮฺกบั ยะอฺํูจญแ์ ละมะอํ์ ูจญ์ )ชนเผา่ สลาฟ( (Ibn Kathīr, 1997: 111) ท่านนบีนูหฺ ไดใ้ ชช้ ีวติ กบั การดะอฺวะฮฺเป็นเวลาอนั ยาวนาน อลั ลอฮฺ ได้ เล่าเก่ียวกบั จานวนอายขุ องท่านเพียงบางส่วน แตม่ ิใช่จานวนอายทุ ้งั หมดของทา่ นเริ่มต้งั แตก่ าเนิด จนถึงเสียชีวติ แตอ่ ยา่ งใด อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﯨﯩﯪ ﯫ ﯬﯭﯮﯯﯰﯱ ﯲﯳﯴﯵﯶﯷﯸﭼ )14 :(العنكبو ت ความวา่ “และโดยแน่นอนเราไดส้ ่งนูหฺไปยงั หมชู่ นของเขา และ เขาไดอ้ ยรู่ ่วมกบั พวกเขาหน่ึงพนั ปี เวน้ หา้ สิบปี (950 ปี ) ดงั น้นั อุทกภยั ไดค้ ร่าพวกเขาขณะท่ีพวกเขาเป็นผอู้ ธรรม” (อลั องั กะบูต: 14) 21 อะฮฺลุลกิตาบ เป็ นคาในภาษาอาหรับ หมายถึง ชาวคมั ภีร์ซ่ึงเป็ นคมั ภีร์ท่ีถกู ประทานจากอลั ลอฮฺ นนั่ คือ ชาวยวิ และคริสต์ (Ahmad Zaghlūl ,Ṣādiq 2007:36)
106 อิบนุอาชูรฺ (Ibn ‘Āshūr,2000: 20/146) ไดอ้ รรถาธิบายอายะฮฺน้ี วา่ “อายะฮฺน้ีได้ กล่าวถึงระยะเวลา 950 ปี ในการทาการดะอฺวะฮฺของท่าน นบีนูหฺ ต่อกลุ่มชนของทา่ น มิใช่ จุดประสงคใ์ นการบอกถึงอายขุ องทา่ นนบีนูหฺ ในช่วงที่อลั ลอฮฺ ทาการแตง่ ต้งั ทา่ นเพื่อ เร่ิมทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺกลุ่ มชนของทา่ นแตอ่ ยา่ งใด และอุละมาอต์ ฟั ซีรไดม้ ีค วามคิดเห็นต่างกนั ใน เร่ืองน้ีดว้ ย” อิบนุเญาซีย์ (Ibn al-Jauziy, 1994: 6/130) ไดก้ ล่าวถึงความคิดเห็นของ อุละมาอ์ เกี่ยวกบั อายะฮฺขา้ งตน้ ซ่ึงเก่ียวขอ้ งกบั อายขุ องทา่ นนบีนูหฺ ออกเป็น 5 ความคิดเห็นต่อไปน้ี ความคิดเห็นท่ี 1: ท่านนบีนูหฺ ถูกแตง่ ต้งั ใหท้ าหน้าที่ดะอฺวะฮฺหลงั จากอายไุ ด้ 40 ปี และไดใ้ ชช้ ีวติ ในการเชิญชวนกลุ่มชนของทา่ นเป็นเวลา 950 ปี และใชช้ ีวติ หลงั จากเหตุการณ์ น้าท่วมเป็นเวลา 60 ปี โดยใชห้ ลกั ฐานอา้ งอิงจากหะดีษที่รายงานโดยยซู ุฟ บิน มะฮฺรอนจากท่านอบู ฮุรอยเราะฮฺ กล่าววา่ ทา่ นนบีมุฮมั มดั กล่าววา่ ((بعثلالهنوحالأربعُتسنة كلبثفيقوموألفسنةلإاخمسُت عامايدعوىم كعاشبعدالطوفافستُتسنةحتىكثرالنا س ))كفشوا )4005: ت.د،(أخرجولاحا ؾـ ความวา่ “อลั ลอฮฺ ไดท้ รงแต่งต้งั ทา่ นนบีนูหฺ เมื่อท่าน อายุ 40 ปี และท่านไดอ้ ยรู่ ่วมกบั กลุ่มชนของท่ านเพอื่ ทาการ ดะอฺวะฮฺพวกเขาเป็นเวลา 950 ปี และใชช้ ีวติ หลงั จากเหตุการณ์ น้าท่วมเป็นเวลา 60 ปี จนกระทง่ั มนุษยเ์ ร่ิมมากข้ึนและไดก้ ระจดั กระจายตามที่ต่างๆ” (รายงานโดย al-Hakim, ม.ป: 4005) ความคิดเห็นท่ี 2: ทา่ นนบีนูหฺ มีชีวติ อยรู่ วมถึงการใชเ้ วลาในการเชิญชวน กลุ่มชนของทา่ นเป็นเวลา 950 ปี และใชช้ ีวติ หลงั จากเหตุการณ์น้าท่วมเป็นเวลา 70 ปี รวมอายขุ อง ทา่ นอายทุ ้งั หมด 1020 ปี
107 ความคิดเห็นท่ี 3: ท่านนบีนูหฺ ถูกแต่งต้งั ใหท้ าหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของ ท่านเม่ือทา่ นมีอายุ 350 ปี และใชช้ ีวติ ในการเชิญชวนกลุ่มชนของท่านเป็นเวลา 950 ปี และใชช้ ีวติ หลงั จากน้นั อีกเป็นเวลา 350 ปี (รวมแลว้ ท่านมีอายุ 1650 ปี ) ความคิดเห็นที่ 4: ท่านนบีนูหฺ ไดใ้ ชช้ ีวติ ร่วมกบั กลุ่มชนของท่านก่อนท่ีจะได้ รับคาบญั ชาใหท้ าหนา้ ที่ดะอฺวะฮเป็นเวลา 300 ปี และใชช้ ีวติ ในการเชิญชวนกลุ่มชนของทา่ นเป็น เวลา 300 ปี และใชช้ ีวติ หลงั จากเหตุการณ์น้าทว่ มเป็นเวลา 350 ปี (รวมแลว้ ท่านมีอายุ 950 ปี ) ความคิดเห็นที่ 5: อายะฮฺขา้ งตน้ ไดร้ ะบุอายขุ องทา่ นนบีนูหฺ ท้งั หมด (ต้งั แต่ กาเนิดรวมถึงการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นจนกระทงั่ เสียชีวติ ) ในขณะที่เขาจะตาย เขาไดข้ อร้องใหล้ ูกชายของเขาสักการะอลั ลอฮฺ เพยี งองค์ เดียวแลว้ เขากจ็ ากไป อบั ดุลลอฮฺ อิบนุอมั รฺ รายงานวา่ ทา่ นนบีมุฮมั มดั ไดเ้ ล่าถึงคาสงั่ เสียของท่าน นบีนูหฺ ต่อลูกๆของทา่ นก่อนที่ท่านจะเสียชีวติ ไวใ้ นหะดีษวา่ ((إفنبيلالهنوحاصلىلالهعليو كسلملداحضرتوالوفاةقا ؿلابنو فإف السماكا ت، آمر ؾبلاإلولإا لاله:إنيقاصعليك الوصية ككضعتلاإلولاالاله،السبع كلاأرضُتالسبعلو كضعتفيكفة كلوأف السماكا ت السبع،فيكفة رجحتبهنلاإلولإا لاله كسبحاف،كلاأرضُتالسبعكنحقلةمبهمةقصمتهنلاإلولإالاله ))لالهبكحمدهفنإهاصلاةكلشيءبكهايرزؽلاخلق )548 :1998 (أخرجوالبخار م ความวา่ “เมื่อการตายของ ท่านนบีนูหฺ มาถึง เขาแนะนา ตกั เตือนลูกของเขาวา่ แทจ้ ริงฉนั จะใหค้ าแนะนาเก่ียวกั บ เรื่องราวส่ิงต่างๆท่ีจะเกิดข้ึนหลงั จากน้ี ฉนั ขอสง่ั ใหเ้ จา้ ทาสองส่ิง และเตือนใหร้ ะวงั ตอ่ สองสิ่งเช่นกนั ฉนั ขอสั่งใหเ้ จา้ ศรัทธาวา่ ไม่
108 มีพระเจา้ อื่นใดนอกจากอลั ลอฮฺ หากนาช้นั ฟ้ าและแผน่ ดินท้งั เจด็ มาวางไวท้ ่ีดา้ นหน่ึงของตาชง่ั และนาคาวา่ ไม่มีพระเจา้ อื่นใด นอกจาก อลั ลอฮฺ มาวางที่อีกดา้ นหน่ึง สิ่งหลงั จะหนกั กวา่ และถึงแมน้ วา่ ช้นั ฟ้ าและแผน่ ดินท้งั เจด็ จะมีความมน่ั คงเทา่ ใด มนั จะอ่อนแอต่อคาวา่ ไม่ มีพระเจา้ อ่ืนใดนอกจาก อลั ลอฮฺ และการสรรเสริญต่ออลั ลอฮฺ แทจ้ ริงมนั การสรรเสริญในทุกเรื่อง และนามาซ่ึงรุสกีของส่ิงที่ถูกสร้าง(มนุษย)์ (บนั ทึกโดย Al-Bukhāriy, 1998: 548) มีการเล่ากล่า วกนั วา่ สุสานของ ทา่ นนบีนูหฺ อยทู่ ี่มสั ยดิ อนั ศกั ด์ิศิทธ์ อยู่ที่ “มกั กะฮฺ” ขณะที่คนอื่นๆกล่าววา่ เขาถูกฝังที่เมือง “บะอฺละบกั ” ในอิรัก (Ibn Kathīr, 1997: 102-105) อลั ลอฮฺ เท่าน้นั ผรู้ ู้ดียง่ิ 2.7 การกล่าวถึงท่านนบีนูหฺ ในอลั กุรอาน ช่ือของท่านนบีนูหฺ ไดถ้ ูกกล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานท้งั หมดเป็นจานวน 43 ท่ี และ ไดถ้ ูกกล่าวไวใ้ นหลายๆ สูเราะฮฺ เช่น สูเราะฮฺอลั อะอฺรอฟ สูเราะฮฺฮูด สูเรา ะฮฺอลั มุอฺมินูน สูเราะฮฺ อชั ชุอารออฺ และอลั เกาะมรั ฺ นอกจากน้ีพระองคย์ งั ใหเ้ กียรติท่านโดยต้งั ช่ือ สูเราะฮฺหน่ึงในอลั กุรอาน วา่ “สูเราะฮฺนูหฺ” อีกดว้ ย ในสูเราะฮฺนูหฺและสูเราะฮฺฮดู น้ีไดก้ ล่าวถึงประวตั ิของ ทา่ นนบีนูหฺ ไว้ อยา่ งละเอียด 2.7.1 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงท่านนบีนูหฺ เป็นการยกยอ่ งใหเ้ กียรติทา่ น โดย ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานดงั ต่อไปน้ี 1) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﭑﭒ ﭓ ﭔ ﭕ ﭖﭗ ﭘﭙﭚﭛﭜ ﭼ )163 :(النساء
109 ความวา่ “ แท้จริงเราได้มีโองการแก่เจ้า เช่นเดียวกบั ที่เราได้มี โองการแก่นูหฺ และบรรดานบีหลังจากเขา” (อนั -นิซาอฺ: 163) 2) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﮋﮌﮍﮎ ﮏﮐﮑﮒ ﮓﮔﮕ ﮖﮗﭼ )33 :(آ ؿعمراف ความวา่ “แท้จริงอัลลอฮฺ ได้ทรงคัดเลือก อาดัมและนูหฺ และ วงศ์วานของอิบรอฮีม และวงศ์วานของอิมรอนให้เหนือกว่า ประชาชาติท้ังหลาย” (อาละอิมรอน: 33) 3) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽ ﭮﭯﭰﭱﭲﭳﭴﭵﭶ ﭷ ﭸ ﭹﭺ ﭻ ﭼ ﭽ ﭾ ﭿ ﮀﮁﮂﮃﮄﮅﮆﮇ ﭼ )84 :(لاأنعام ความวา่ “และเราได้ให้เขา ซึ่งอิสฮาก และยะอฺ กูบ ทั้งหมดน้ัน เราได้แนะนาแล้ว และนูหฺเรากไ็ ด้แนะนาแล้วแต่ก่อนโน้น และ จากลกู หลานของเขาน้นั คือดาวดู และสุลยั มาน และอัยยบู และ ยซู ุฟและมซู า และฮารูน และในทานองน้ันแหละ เราจะตอบ แทนแก่ผ้กู ระทาดีทั้งหลาย” (อลั -อนั อาม: 84)
110 4) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭵﭶﭷﭸﭹﭺﭻﭼ ﭽﭾﭿ ﭼ )3 :(لاإسراء ความวา่ “โอ้ เผ่าพันธ์ุของเราไ ด้บรรทุก (ไว้ในเรือ ) กบั นูหเอ๋ย แท้จริงเขาเป็นบ่าวผ้กู ตญั ํู” (อลั อิสรออฺ: 3) 5) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﭖﭗﭘﭙﭚﭛ ﭜﭝﭞﭟﭠﭼ )79-78 :(الصافا ت ความวา่ “และเราได้ปล่อยทิง้ ไว้ (เกียรติคุณ) แก่เขาในกล่มุ ชน รุ่นหลัง ๆ(78)ความศานติจงมีแด่นหู ฺในหม่ปู ระชาชาติท้ังหลาย (79)” (อศั ศอ็ ฟฟาต: 78-79) 6) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﮆﮇﮈﮉﮊﮋ ﮌﮍ ﮎ ﮏ ﮐ ﮑﮒﮓ ﮔﮕﮖﮗﮘﮙﮚﮛﮜ ﮝ ﮞﮟﮠﮡ ﮢ ﮣﮤﮥﭼ )58 :(مًرن ความวา่ “ชนเหล่าน้นั คือบรรดาผ้ทู ี่อัลลอฮฺ ทรงโปรดปรานพวก เขาให้เป็นนบีท่ีมีเชื้อสายจากอาดมั และจากเชื้อสายผ้ทู ่ีเราบรรทุก
111 ไว้ในเรือกับนหู ฺ และจากเชือ้ สายขอ งอิบรอฮีม และอิสรออีล และจากเชื้อสายผ้ทู ่ีเราได้ชี้แนะทางและเราได้คัดเลือกไว้ เมื่อ บรรดาโองการของพระผ้ทู รงกรุณาปรานีถกู อ่านแก่พวกเขา พวกเขาจะก้มลงสุํูดและร้ องไห้ ” (มรั ยมั : 58) 2.7.2 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงทา่ นนบีนูหฺ เพอ่ื เป็นแบบอยา่ งใหก้ บั บรรดานบี โดยไดก้ ล่าวในอลั กุรอานดงั ตอ่ ไปน้ี ﭽﭹﭺﭻﭼﭽﭾﭿﮀﮁﮂﮃ ﮄﮅﮆﮇﮈﮉﮊﮋﮌﮍﮎ ﮏ ﮐﮑﮒﮓ ﮔﮕﮖﮗﮘﮙﮚ ﮛ ﮜﮝﮞﮟﮠﮡﮢﮣﭼ )13 :(الشورل ความวา่ “พระองค์ได้ทรงกาหนดศาสนาแก่พวกเจ้า เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงบญั ชาแก่นูหฺ และที่เราได้วะฮฺ ยแู ก่ เจ้ากเ็ ช่นเดียวกบั ท่ีเราได้บญั ชาแก่อิบรอฮิม และมซู า และ อีซา ว่า พวกเจ้าจงดารงศาสนาไว้ ให้คงมน่ั และอย่าแตกแยกกันใน เรื่องศาสนา แต่เป็นเรื่องใหญ่แก่พวกต้ังภาคีที่เจ้าเรียกร้อง เชิญ ชวนพวกเขาไปสู่ศาสนานนั้ อัลลอฮฺทรงเลือกสาหรับพระองค์ผู้ ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงชี้แนะทางสู่พระองค์ผ้ทู ่ีผินหน้า สู่พระองค์” (อชั ชูรอ: 13) อลั ลอฮฺ ทรงกาหนดบญั ญตั ิศาสนาท่ีสะดวกง่ายดายแก่ ทา่ นนบีมุฮั มมดั เสมือนกบั ที่พระองคไ์ ดท้ รงบญั ชาแก่บรรดาเราะสูลและบรรดานบีที่มีช่ือเสียง ซ่ึงเป็นบรรดานบีท่ี ไดร้ ับเกียรติน้ี เช่น ทา่ นนบีนูหฺ ซ่ึงถือวา่ ท่านเป็นเราะสูลทา่ นแรกท่ีเป็นแบบอยา่ งในดา้ นการ
112 ดะอฺวะฮฺตามบทบญั ญตั ิท่ีไดม้ ี บญั ญตั ิในศาสนาและฮุกมุ ต่าง ๆ ใหแ้ ก่บรรดานบี รวมถึงท่านนบี อิบรอฮีม ท่านนบีมซู า และท่านนบีอีซา จนกระทงั่ พระองคท์ รงใหบ้ ญั ญตั ิศาสนา ตา่ ง ๆ เหล่าน้นั สิ้นสุดลงดว้ ยบญั ญตั ิศาสนาของ เราะสูล และนบีท่ีดีท่ีสุด คือของทา่ นนบีมุฮมั มดั พระองคท์ รงบญั ชาแก่บรรดานบีท่ีมีความหนกั แน่น และมนั่ คงวา่ พวกเจา้ จงดารงศาสนาไวใ้ ห้ มนั่ คง ซ่ึงพระองคท์ รงกาหนดไวแ้ ก่พวกเจา้ อยา่ ทาลายและอยา่ แตกแยกกนั ในเรื่องของศาสนา แต่มนั เป็นเรื่องใหญ่และเป็นการลาบากแก่พวกมุชริกีน พวกกุฟฟารฺ มกั กะฮฺที่จะยดึ ถือปฏิบตั ิ เพราะเป็นการเรียกร้องไปสู่การเตาฮีด และพระองคท์ รงคดั เลือกผทู้ ี่พระองคท์ รงประสงคค์ ือ ผทู้ ่ี มีศรัทธาและมีความจงรักภกั ดีตอ่ พระองค์ (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 1244) 2.7.3 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงทา่ นนบีนูหฺ วา่ ท่านเป็นหน่ึงในบรรดา “อลู ุล อซั มี” อนั ไดแ้ ก่ ทา่ นนบีนูหฺ ท่านนบีอิบรอฮีม ทา่ นนบีมซู า ท่านนบีอีซา และ ทา่ นนบีมุฮมั มดั โดยไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานดงั ตอ่ ไปน้ี ﭽﭑﭒﭓﭔﭕﭖﭗﭘﭙ ﭚﭛﭜ ﭝﭞﭟﭠﭡﭢﭣ ﭼ )7 :(لاأحزا ب ความวา่ “และจงราลึกถึงขณะท่ีเราได้เอาคามน่ั สัญญาของพวก เขาจากบรรดานบีและจากเจ้า และจากนหู ฺ และอิบรอฮีม และ มซู า และอีซา อิบนฺมรั ยมั และเราได้เอาคามน่ั สัญญาอย่างหนกั แน่นจากพวกเขา” (อลั อะหฺซาบ: 7) 2.7.4 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงคาวงิ วอนต่ออลั ลอฮฺ ของทา่ นนบีนูหฺ และ การตอบรับดุอาอฺของท่าน ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭻﭼﭽﭾﭿﮀ ﮁﮂﮃﮄ ﭼ )118 :(الشعراء
113 ความวา่ “ดงั นั้นขอพระองค์ทรงตัดสินระหว่างฉันกับพวกเขา โดยยตุ ิธรรมเถิด และทรงโปรดช่วยฉัน และบรรดาผ้ศู รัทธาที่อยู่ ร่วมกบั ฉันให้รอดพ้นด้วยเถิด” (อชั ชุอะรออฺ: 118) 2) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭯ ﭰﭱﭲﭳﭴ ﭼ )10 :(القمر ความวา่ “เขาจึงวิงวอนขอต่ อพระเจ้าของเขาว่า แท้จริงข้า พระองค์ถกู พิชิตเสียแล้ว ได้โปรดช่วยเหลือ(ข้าพระองค์)ด้วย” (อลั เกาะมรั : 10) อายะฮฺขา้ งตน้ ไดช้ ้ีใหเ้ ห็นถึงการท่ีทา่ นนบีนูหฺ ไดเ้ รียกร้องไปสู่การเตาฮีดและ การเผยแผส่ จั ธรรมของเขา ไม่แตเ่ พียงเท่าน้นั พวกเขายงั กล่าวอีกวา่ ท่านนบีนูหฺ เป็นคนบา้ และไดข้ ่บู งั คบั ดว้ ยถอ้ ยคาที่หยาบโลน ทา่ นนบีนูหฺ จึงร้องเรียนต่อพระเจา้ ของเขาวา่ พวกเขา ไดพ้ ิชิตขา้ พระองคแ์ ลว้ ขอพ ระองคท์ รงโปรดช่วยเหลือขา้ พระองคด์ ว้ ย อบหู ยั ยานกล่าววา่ “ทา่ น นบีนูหฺ ไดว้ งิ วอน ขอพรหลงั จากสิ้นหวงั ในการเรียกร้องเชิญชวนพวกเขาอนั เน่ืองมาจากการ ทาร้าย จนกระทงั่ เขากล่าววา่ โอพ้ ระเจา้ ของขา้ พระองค์ ขอพระองคท์ รงอภยั โทษใหแ้ ก่หมู่ชนของ ขา้ พระองค์ เพราะพวกเขาไมร่ ู้” (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 1403) 3) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽ ﮱ﮲﮳ ﮴﮵﮶﮷﮸﮹﮺ ﮻﮼ ﮽﮾ﭼ )6-5 :(نوح ความวา่ “เขากล่าวว่า ข้าแต่ พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงข้า พระองค์ได้เรียกร้องเชิญชวนหม่ชู นของข้าพระองค์ทั้งกลางคืน
114 และกลางวนั (5) แต่การเรียกร้องเชิญชวนของข้าพระองค์มิได้ เพิ่มพนู สิ่งใดแก่เขานอกจากการหลบหนี(6)” (นูหฺ: 5-6) 4) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽ ﭼ )26 :ل(ادؤمنوف ความวา่ “นหฺได้กล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้า ของข้าพระองค์ ขอ พระองค์ทรงโปรดช่วยเหลือข้าพระองค์ด้วย เพราะพวกเขา ปฏิเสธไม่ยอมเชื่อข้าพระองค์” (อลั มุอฺมินูน: 26) 5) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﯫﯬﯭﯮ ﯯ ﯰﯱ ﯲﯳ ﯴﯵ ﭼ )26 :(نوح ความวา่ “และนหู ฺได้กล่ าวว่า ข้าแต่พระเจ้าขอ งข้าพระองค์ ขอ พระองค์ทรงอย่าปล่อยให้พวกปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออย่ใู น แผ่นดินนีเ้ ลย” (นูหฺ: 26) 6) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﯺ ﯻ ﯼ ﯽ ﯾ ﯿ ﰀ ﰁ ﰂ ﰃﰄ ﰅﭑﭒﭓﭔ ﭕﭖﭗﭘ
115 ﭙﭚﭛﭜﭝﭞﭟﭠﭼ )79 -75 :(ا ؿصافا ت ความวา่ “และโดยแน่นอนนูหฺ ได้ร้องขอเราดังนน้ั ผ้ตู อบสนอง ช่างประเสริฐเสียนี่กระไร (75) และเราได้ช่วยเขาและชุมชนของ เขาให้พ้นจากทุกข์ภยั อันมหันต์ (76) และเราได้ให้ลูกหลานของ เขายงั คงมีชีวิตเหลืออยู่ (77) และเราได้ปล่อยทิ้ งไว้ (เกียรติ คุณ) แก่เขาในกล่มุ ชนรุ่นหลัง ๆ (78) ความศานติจงมีแด่นูหฺใน หม่ปู ระชาชาติทั้งหลาย(79)” (อศั ศ็อฟฟาต: 75-79) การที่ทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการวงิ วอนขอจากอลั ลอฮฺ น้นั ไดร้ ับการตอบรับ จากอลั ลอฮฺ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) อลั ลอฮฺ ทรงประทานความปลอดภยั และความรอดพน้ ใหก้ บั ทา่ นนบีนูหฺ และผทู้ ่ีศรัทธาตอ่ สาส์นท่ีทา่ นเชิญชวน นนั่ คือรอดพน้ จากการถูกลงโทษใหจ้ มน้า และ ปลอดภยั จากการดูถูก เหยยี ดหยามของบรรดาผปู้ ฏิเสธศรัทธา 2) อลั ลอฮฺ ทรงประทานใหล้ ูกหลานของท่านนบีนูหฺ ยงั คงมีชีวติ เหลืออยู่ คือมีชีวติ อยใู่ นแผน่ ดินหลงั จากความพินาศของหม่ชู นของเขาดว้ ยการจมน้าตาย ซ่ึงท่าน นบีนูหฺ ไดข้ อดุอาอฺมาก่อนหนา้ น้ี ทา่ น และผทู้ ี่อยกู่ บั ทา่ นในเรือไดร้ อดพน้ ต่อมามนุษยไ์ ดส้ ืบ เช้ือสายมาจากลูกหลานท้งั สามของทา่ นคือ ‚ซาม ฮาม และยาฟิ ซ‛ 3) อลั ลอฮฺ ทรงประกาศ เกียรติคุณแก่ ทา่ นนบีนูหฺ ใหก้ บั กลุ่มชนรุ่น หลงั ๆ ไดท้ ราบเฉกเช่นที่ประชาชาติของทา่ นนบีมุฮมั มดั ไดช้ ื่นชมคุณงามความดีของท่านที่ ปรากฏในอลั กรุ อาน และอลั ลอฮฺ ทรงประทาน ความศานติ ใหก้ บั ท่านนบี นูหฺ ในหมู่ ประชาชาติท้งั หลาย (Hassān Muhammad Husīn Zaghl, 2008: 46) 2.7.5 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงท่านนบีนูหฺ เกี่ยวกบั การอิหฺซาน(การทาความดี) ของทา่ นโดยไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานดงั ตอ่ ไปน้ี 1) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭡﭢ ﭣﭤﭥ ﭼ )80 :(الصافا ت
116 ความวา่ “แท้ริง เช่นนน้ั แหละเราจะตอบแทนผ้กู ระทาความดี ทั้งหลาย” (อศั ศอ็ ฟฟาต: 80) อรั รอซีย์ (al-Fakhr al-Rāziy,1981: 26/145) ไดอ้ รรถาธิบายอายะฮฺน้ีวา่ “ความหมายของอายะฮฺน้ีคือ เม่ือเราไดอ้ ธิบายถึงคุณลกั ษณะที่ดีและความเป็นเอกลกั ษณ์ของทา่ น นบีนูหฺ ถึงเกียรติขอ งทา่ นอนั สูงส่งจากการที่โลกน้ีเตม็ ไปดว้ ยทายาทท่ีสืบเช้ือสายจากท่าน และจากการกล่าวถึงของคนทว่ั โลกเก่ียวกบั การท่ีทา่ นคื อผกู้ ระทาความดีเพราะทา่ นเป็นบ่าว ของอลั ลอฮฺ ที่ศรัทธา ความหมายในท่ีน้ีคือการช้ีใหเ้ ห็นถึงตาแหน่งที่ยงิ่ ใหญ่และมีเกียรติจาก การศรัทธาตอ่ อลั ลอฮฺ และจงรักภกั ดีตอ่ พระองค”์ 2.7.6 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงหนา้ ที่ของท่านนบีนูหฺ ในการทางานดะอฺวะฮฺ ประชาชาติของท่านสู่หนทางท่ีถูกตอ้ งโดยไดก้ ล่าวในอลั กุรอานดงั ตอ่ ไปน้ี 1) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﮎ ﮏﮐﮑ ﮒﮓﮔ ﮕﮖﮗﮘﮙ ﮚ ﮛﮜﮝﮞﮟ ﭼ )23 :ل(ادؤمنوف ความวา่ “และเป็นท่ีแน่นอนยิ่ง เราได้ส่งนหู ฺ ไปยงั หม่ชู นของเขา ดังนัน้ เขาได้กล่าวว่า “โอ้หม่ชู นของฉันเอ๋ย พวกท่านจงเคารพ ภักดี อัลลอฮฺเถิดสาหรับพวกท่านน้นั ไม่มีพระเจ้าอ่ืนใดนอกจาก พระองค์ ดังนั้นพวกท่านจะไม่ยาเกรง (การลงโทษของพระองค์ ) หรื อ” (อลั มุอฺมินูน: 23) อายะฮฺน้ีถูกประทานลงมาเพ่ือ เป็นการปลอบใจแก่ท่าน นบีมุหมั มดั ในการทา หนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺของทา่ น อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวถึงทา่ นนบีนูหฺ เพอ่ื ให้ทา่ นนบีมุฮมั มดั ยดึ ถือ
117 เป็นแบบอยา่ งในความอดทนของเขา และเพ่อื ใหเ้ ป็นท่ีทรา บกนั วา่ บรรดานบีก่อนจากเขาน้นั ไดถ้ ูก ปฏิเสธมาก่อนแลว้ (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 824) 2) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﮝﮞﮟﮠ ﮡﮢﮣﮤﮥﮦ ﭼ )25 :(ىود ความวา่ “และโดยแน่นอน เราได้ส่งนู หฺไปยงั กล่มุ ชนของเข า (โดยกล่าวว่า) “แท้จริงฉันเป็นผ้ตู กั เตือนอันแน่ชัดแก่พวกท่าน แล้ว” (ฮดู : 25) 3) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭹﭺﭻﭼﭽﭾﭿﮀﮁﮂﮃ ﮄﮅﮆﮇﮈﮉﮊﮋﮌﮍﮎ ﮏ ﮐﮑﮒﮓ ﮔﮕﮖﮗﮘﮙﮚ ﮛ ﮜﮝﮞﮟﮠﮡﮢﮣﭼ )13 :(الشورل ความวา่ “พระองค์ได้ทรงกาหนดศาสนาแก่พวกเจ้า เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงบัญชาแก่นูหฺ และท่ีเราได้วะฮฺ ยู แก่เจ้ากเ็ ช่นเดียวกบั ที่เราได้บญั ชาแก่อิบรอฮิม และมซู า และ อีซาว่า พวกเจ้าจงดารงศาสนาไว้ให้คงมน่ั และอย่าแตกแยก กันในเรื่องศาสนา แต่เป็นเรื่องใหญ่แก่พวกต้ังภาคีท่ีเจ้า เรียกร้อง เชิญชวนพวกเขาไปสู่ศาสนาน้ัน อัลลอฮฺทรงเลือก สาหรับพระองค์ผ้ทู ี่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงชี้แนะทางสู่ พระองค์ผ้ทู ่ีผินหน้าสู่พระองค์” (อชั ชูรอ: 13)
118 อลั ลอฮฺ ทรงกาหนดบญั ญตั ิศาสนาท่ีสะดวกง่ายดายแก่ ท่านนบีมุฮมั มดั เสมือนกบั ท่ีพระองคไ์ ดท้ รงบญั ชาแก่บรรดา เราะสูลและบรรดานบีท่ีมีช่ือเสียง ซ่ึงเป็นบรรดา นบีท่ีไดร้ ับเกียรติน้ี เช่น ท่านนบี นูหฺ ทา่ นนบี อิบรอฮีม ทา่ นนบี มซู า และ ท่านนบีอีซา และได้บญั ญตั ิศาสนาและฮุกมุ ตา่ ง ๆ ใหแ้ ก่บรรดานบีเหล่าน้นั จนกระทง่ั พระองคท์ รงใหบ้ ญั ญตั ิศาสนาตา่ ง ๆ เหล่าน้นั สิ้นสุดลงดว้ ยบญั ญตั ิศาสนาของเราะสูล และนบี ท่ีดีที่สุด คือของทา่ นนบีมุฮมั มดั พระองคท์ รงบญั ชาแก่บรรดานบี วา่ พวกเจา้ จงดารงศาสนา ไวใ้ หม้ นั่ คง ซ่ึงพระองคท์ รงกาหนดไวแ้ ก่พวกเจา้ อยา่ ทาลายและอยา่ แตกแยกกนั ในเร่ืองของ ศาสนา แตม่ นั เป็นเรื่องใหญ่และเป็นการลาบากแก่พวกมุชริกีน พวกกุฟฟารฺ มกั กะฮฺที่จะยดึ ถือ ปฏิบตั ิเพราะเป็นการเรียกร้องไปสู่การเตาฮีด และพระองคท์ รงคดั เลือกผทู้ ี่พระองคท์ รง ประสงคค์ ือผทู้ ่ีมีศรัทธาและมีความจงรักภกั ดีตอ่ พระองค์ (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศ ไทย, 2542: 1244) 2.7.7 การกล่าวถึงท่านนบีนูหฺ และการเผชิญระหวา่ งท่านกั บกลุ่มชนของ ทา่ น ดงั อายะฮฺอลั กรุ อานตอ่ ไปน้ี 1) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﮌﮍﮎ ﮏﮐﮑﮒﮓﮔ ﮕﮖﮗ ﮘﮙﮚﮛﮜﮝ ﮞﮟﮠ ﮡﮢﮣﮤﭼ )5 :(غافر ความวา่ “(เพราะ) ก่อนหน้าพวกเขาน้ัน หม่ชู นของนูหฺ และพล พรรคต่าง ๆ หลงั จากพวกเขาได้ปฏิเสธมาก่อนแล้ว และทุก ๆ ประชาชาติได้ตั้งใจท่ีจะทาลายล้าง เราะสูล ของพวกเขาและ โต้เถียงด้วยความเทจ็ เพื่อท่ีจะลบล้างความจริงให้สูญสิ้นไป ดงั นัน้ ข้าจึงได้ลงโทษพวกเขาแล้วเป็นอย่างไร บ้างการลงโทษ ของข้า” (ฆอฟิ ร: 5)
119 2) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭬﭭﭮ ﭯﭰﭱﭲﭳﭴﭼ )116 :(الشعراء ความวา่ “พวกเขากล่าวว่า โอ้นูหฺ หากท่านไม่หยุ ดยง้ั แน่นอน ท่านจะอย่ใู นหม่ผู ้ถู กู ขว้างด้วยก้อนหิน” (อชั ชุอะรออฺ: 116) 3) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭤﭥ ﭦﭧﭨﭩﭪﭫﭬﭭﭮﭼ )9 :(القمر ความวา่ “ก่อนหน้าพวกเขานนั้ หม่ชู นของนหู ฺได้ปฏิเสธ พวกเขา ได้ปฏิเสธบ่าวของเราโดยกล่าวว่าเขา (นูหฺ) เป็นคนบ้า และถกู ขู่ บงั คับ” (อลั เกาะมรั : 9) 4) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﭴﭵﭶ ﭷﭸﭹﭺ ﭻﭼﭽﭾ ﭼ )52 :(النجم ความวา่ “และหม่ชู นของนูหฺก่อนหน้านี้ แท้จริงพวกเขาเป็นผู้ อธรรมยิ่ง และเป็นผ้ลู ะเมิดย่ิง” (อนั นจั มฺ: 52)
120 5) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﮘﮙﮚﮛﮜ ﮝﮞﮟ ﮠ ﮡﮢﮣﮤﮥﭼ )32 :(ىود ความวา่ “พวกเขากล่าวว่า “โอ้นูหฺเอ๋ย แน่นอนท่านได้โต้เถียง ของเรามากเร่ืองขึน้ ดงั นัน้ จงนามาให้เราเถิดส่ิงที่ สัญญากับเรา ไว้ ถ้าท่านอย่ใู นหม่ผู ้สู ัตย์จริง” (ฮูด: 32) 6) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﭑ ﭒ ﭓ ﭔﭕ ﭖ ﭗﭘﭙ ﭚ ﭛﭜﭝ ﭞﭟﭠﭡﭢﭣﭤ ﭥ ﭦ ﭧﭨﭩﭪﭫﭬﭭﭮ ﭯ ﭰ ﭱ ﭲﭳﭼ )71 :(يونس ความวา่ “และเจ้าจงอ่านให้พวกเขาฟังถึงเรื่องราวของนบีนูหฺ เม่ือเขา(นูหฺ) กล่าวแก่ประชาชาติของเขาว่า “โอ้หม่ชู นของฉัน หากว่าการพักอย่ขู องฉันและการตั กเตือนของฉัน ด้วยโองการ ท้ังหลายของอัลลอฮฺ เป็นเรื่องใหญ่แก่พวกท่านแล้ว ดงั น้ันฉันขอ มอบหมายแด่อัลลอฮฺ เท่าน้นั พวกท่านจงร่วมกนั วางแผนของ พวกท่าน พร้อมกบั บรรดาภาคีของพวกท่านเถิด แล้วอย่าให้แผน ของพวกท่านเป็นที่ปิ ดบงั แก่พวกท่า น แล้วจงดาเนินการต่อฉัน ทันทีและอย่าได้ลังเลเลย” (ยนู ุส: 71)
121 อุละมาอบ์ างทา่ น กล่าววา่ การที่ ท่านนบีนูหฺ ประกาศออกไป วา่ พวก ท่านจงดาเนินตามแผนร้ายของท่านทนั ที อยา่ ไดล้ ่าชา้ แมแ้ ตข่ ณะหน่ึง เป็นการไมใ่ ยดีต่อการ กระทาของประชาชาติของทา่ น พร้อมกบั มีความมนั่ ใจต่ออลั ลอฮฺ และสัญญาของพระองคท์ ี่ จะใหค้ วามคุม้ ครอง ตอ่ ท่าน(สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 500) 2.7.8 อลั ลอฮฺ ไดท้ รงทาลายลา้ งหม่ชู นของท่านนบีนูหฺ อยา่ งยอ่ ยยบั อนั เน่ืองมาจากความด้ือร้ันของพวกเขาและการปฏิเสธการดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ ท่ีไดท้ าการ ดะอฺวะฮฺพวกเขาเป็นเวลา 950 ปี 1) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭯ ﭰﭱﭲﭳﭴ ﭼ )10 :(القمر ความวา่ “เขาจึงวงิ วอนขอตอ่ พระเจา้ ของเขาวา่ แทจ้ ริงขา้ พระองคถ์ ูกพชิ ิตเสียแลว้ ไดโ้ ปรดช่วยเหลือ(ขา้ พระองค)์ ดว้ ย” (อลั เกาะมรั : 10) 2) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กรุ อานวา่ ﭽﯫﯬﯭﯮ ﯯ ﯰﯱﯲﯳ ﯴﯵ ﭼ )26 :(نوح ความวา่ “และนหู ฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอ พระองค์ทรงอย่าปล่อยให้พวกปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออย่ใู น แผ่นดินนีเ้ ลย” (นูหฺ: 26)
122 3) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﭼﭽﭾﭿﮀﮁﮂﮃ ﮄ ﮅﮆﮇ ﮈﭼ )76 :(لاأنبياء ความวา่ “และจงราลึ กถึงเร่ืองราวของนหู ฺ เมื่อเขาได้ร้องเรียน (ต่ออัลลอฮฺ ) ก่อนหน้านี้ แล้วเราได้ตอบรับการร้องเรียกแก่เขา และเราได้ช่วยให้เขาและพรรคพวกของเขา รอดพ้นจากความ ทุกข์ระทมอันใหญ่หลวง” (อลั อมั บิยาอฺ: 76) อายะฮฺขา้ งตน้ ช้ีใหเ้ ห็นวา่ อลั ลอฮฺ ทรงส่งทา่ นนบีนูหฺ เพ่อื ทาการดะอฺวะฮฺ กลุ่มชนของทา่ น แต่ดว้ ยความด้ือร้ัน ปฏิเสธศรัทธา พระองคจ์ ึงทรงตอบรับดุอาอข์ องทา่ นและทรง ลงโทษพวกเขามิใหพ้ วกเขาหลงเหลืออยบู่ นแผน่ ดิน
123 บทท่ี 3 ความสาคญั และความเป็ นมาของสูเราะฮฺ นูหฺ สูเราะฮฺนูหฺเป็นสู เราะฮฺมกั กียะฮฺ 22ตามความเห็นเอกฉนั ทข์ องบรรดาอุละมาอซ์ ่ึง ถูกประทานลงมาเพือ่ รักษาอะกีดะฮฺหลกั ศรัทธาที่ถูกตอ้ ง และเป็นการย้าเตือนชาวมกั กะฮฺใหล้ ะทิง้ การบชู าเจวด็ และสิ่งอ่ืนใดนอกเหนือจากอลั ลอฮฺ และหนั กลบั สู่หลกั การศรัทธาท่ีเที่ยงตรง โดย ศึกษาจากขอ้ คิดและบทเรีย นจากท่านนบีนูหฺ ที่มีเกียรติ ผซู้ ่ึงไดร้ ับมอบหมายหนา้ ที่เราะสูล เป็นทา่ นแรก หน่ึงในบรรดาอลู ุลอซั มี 5 ทา่ นท่ีอลั ลอฮฺ ไดท้ ดสอบพวกเขาอยา่ งมากมายดว้ ยบท ทดสอบอนั หนกั หน่วง โดยท่ีพระองคไ์ ดท้ รงส่งทา่ นนบีนูหฺ เพ่ือทาการป่ าวประกาศเชิญชวน กลุ่มชนของทา่ นสู่การศรัทธ าที่แทจ้ ริงต่ออลั ลอฮฺ เพยี งองคเ์ ดียว และดว้ ยความด้ือร้ันของกลุ่ม ชนของท่าน พวกเขาต่างปฏิเสธท่ีจะตอบรับการเชิญชวนน้นั แต่ทา่ นก็ยงั อดทนต่อความด้ือร้ันและ ปฏิเสธจากกลุ่มชนของท่านเป็นเวลายาวนาน และยงั คงดาเนินหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺตอ่ ไปอยา่ งแน่วแน่ ดว้ ยการเชิญชวนกลุ่มช นของทา่ นสู่การใคร่ครวญพนิ ิจพจิ ารณาสิ่งที่อลั ลอฮฺ ทรงสร้างช้นั ฟ้ า และแผน่ ดิน ดวงจนั ทร์และดวงอาทิตย์ มนุษยแ์ ละพืชผกั กลางวนั และกลางคืน แตก่ ลุ่มชนของทา่ น เหล่าน้นั ต่างเอานิ้วมืออุดรูหูของพวกเขาเป็นการยนื ยนั ในการไม่รับฟังคาเชิญชวนจากท่านนบีนูหฺ และปิ ดตาของพว กเขาในการมองเห็นหลกั ฐานอนั ชดั แจง้ และปฏิเสธความถูกตอ้ งที่ไดม้ ายงั พวกเขา อลั ลอฮฺ จึงลงโทษพวกเขาดว้ ยการจมน้าตายซ่ึงเป็นบทลงโทษบนโลกดุนยาและ ลงโทษดว้ ยไฟนรกซ่ึงเป็นบทลงโทษในโลกหนา้ อาคีเราะฮฺ อนั เนื่องมาจากการท่ีพวกเขาต่อตา้ น และปฏิเสธการศรัทธาตอ่ อลั ลอฮฺ และปฏิเสธการเชิญชวนของท่านนบีนูหฺ (Wahbah al- Zuḥailiy,2009: 15/143-144) 3.1 การต้ังช่ือสูเราะฮฺ การต้งั ช่ือสูเราะฮฺแต่ละสูเราะฮฺน้นั ไดถ้ ูกต้งั ชื่อข้ึนในสมยั ท่านบนีมุฮมั มดั และ เป็นท่ีรู้จกั กนั ในสมยั น้นั ดงั หะดีษต่อไปน้ี 22 สูเราะฮฺมกั กียะฮฺ ตามความเห็นอุละมาอส์ ่วนใหญ่ (ํุมฮรู ฺ) หมายถึงสูเราะฮฺท่ีถูกประทานใหก้ บั ท่านนบีมุ ฮมั มดั ก่อนที่ท่านจะอพยพไปยงั เมืองมะดีนะฮฺ แตม่ ีอลุ ะมาอบ์ างท่านไดใ้ หค้ วามหมายวา่ สูเราะฮฺมกั กียะฮฺ คือสูเราะฮฺ ท่ีถูกประทานในขณะท่ีท่านนบี อยทู่ ่ีเมืองมกั กะฮฺ (Zakiy Muhammad Abū Sarī‘,2010:159-160)
124 قلتلعثمانبنعفانماحملكمأنعمتدم: ))أفابنعبا سقا ؿ كىيمنلادثانيفجعلتملوعا،إلىبراءة كىيمنلادئُت كإلىلاأنفا ؿ بسملالهالحرمنالرحيم: لكمتكتبوابينهماسطر،فيالسبعالطوا ؿ ،كانالنبيصلىلالهعليو كسلملشاتنّز ؿعليولاآيا ت:قا ؿعثماف ضعىذه لاآيةفي: كيقو ؿلو،فيدعوبعضمنكافيكتبلو فيقو ؿ، كتنز ؿعليولاآية كلاآيتاف،السورةالتييذكرفيهاكذا ككذا ككانت، ككانت لاأنفا ؿمنأك ؿماأنز ؿعليولباددينة،مثل ذلك ، ككانت قصتهاشبيهةبقصتها،براءةمنآخرمانز ؿمنالقرآف لكمأكتب،فمنىنا ؾ كضعتهافيالسبعالطوا ؿ،فظننتنأهامنها ((بسملالهالحرمنالرحيم:بينهماسطر )330/2 : ت. د،ل(ادستدر ؾ ความวา่ “แท้จริงท่านอิบนอุ ับบาส กล่าวว่า :ฉันกล่าวแก่ท่าน อุษมาน อิบนฺ อัฟฟาน ว่าท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับสูเราะฮฺ บะรออะฮฺ (เตาบะฮฺ ) ซ่ึงเป็นสูเราะฮฺ มะอี น 23 และสูเราะฮฺอัล อันฟาล ซ่ึงเป็นสูเราะฮฺมะษานี 24ถกู จัดให้อย่ใู นพวกเจด็ สูเราะฮที่ ยาวท่ีสุดในอัลกุรอาน โดยระหว่างสองสูเราะฮฺมิได้เขียน บิสมิลลาฮฺ อัรเราะฮฺมาน อัรเราะฮฺฮีม ? อุษมานกล่าวว่า : แท้จริง ท่านนบี เม่ือใดท่ีอายะฮฺใดๆถกู ประทานลงมา ท่านจะเรียก ผ้เู ขียนอัลกุรอาน (วะฮฺยู )บางคน แล้วกล่าวกบั เขาว่า : จงวาง อายะฮฺนีไ้ ว้ในสูเราะฮฺนีๆ้ และเมื่อถกู ประทานหน่ึงอายะฮฺหรือ สองอายะฮฺท่านกจ็ ะกล่าวเช่นเดิม และอัลอันฟาลเป็นสูเราะฮฺ ต้นๆที่ถกู ประทานเมื่อนบีอย่ทู ี่เมืองมะดีนะฮฺ ส่วนบะรออะฮฺเป็น สูเราะฮฺท้ายๆที่ถกู ประทาน ลงมาในอัลกรุ อาน และเรื่องราวท้ัง สองสูเราะฮฺมีความคล้ายคลึงจนกระทั่งฉัน(อุษมาน)คิดว่าท้ังสอง เป็นสูเราะฮฺเดียวกนั มนั จึงถกู วางเรียงไว้ในจานวนเจด็ สูเราะฮฺที่ 23สูเราะฮฺมะอีน )ل(ادئُتคือสูเราะฮฺที่มีจานวนอายะฮฺ 100 อายะฮฺข้ึนไป(Zakiy Muhammad Abū Sarī‘, 2010:357) 24 สูเราะฮฺมะษานีย์ ) ل(ادثانيคือสูเราะฮฺท่ีมีจานวนอายะฮฺ นอ้ ยกวา่ 100 อายะฮฺแต่มากกวา่ สูเราะฮฺอลั มุฟัศศอล (สูเราะฮฺส้นั ๆ) (Zakiy Muhammad Abū Sarī‘, 2010:357)
125 ยาวที่สุดในอัลกุรอาน ด้วยเหตนุ ีจ้ ึงไม่เขียนค่ันระหว่างสอง สูเราะฮฺด้วยบิสมิลลาฮฺ อัรเราะฮฺมาน อัรเราะฮีม” (al-Mustadrak, ,ม.ป: 2/330) จากหลกั ฐานขา้ งตน้ ช้ีใหเ้ ห็นวา่ ชื่อสูเราะฮฺในอลั กรุ อานมีมาต้งั แตส่ มยั ทา่ นนบี มุฮมั มดั เพราะเมื่อมีอายะฮฺใดถูกประทานลงมาทา่ นนบีกจ็ ะมีคาส่ังใหว้ างเรียบเรียงอายะฮฺ ดงั กล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺน้นั ๆในที่ท่ีแน่นอนชดั เจน ดงั น้นั การต้งั ช่ือสูเราะฮฺนูหฺน้นั มีมาสมยั ทา่ นนบีมุฮมั มดั จริงอยา่ งมิตอ้ งสงสัย และการต้งั ช่ือสูเราะฮฺน้ีไดถ้ ูกต้งั ชื่อตามชื่อของทา่ นนบีนูหฺ เพราะเร่ืองราวที่กล่าวถึงใน สูเราะฮฺน้ีไดพ้ ดู ถึงเร่ืองราวของท่านนบีนูหฺ ต้งั แตเ่ ริ่มตน้ สูเราะฮฺเก่ียวกบั การเชิญชวนดะอฺวะฮฺ กลุ่มชนของทา่ นสู่สัจธรรม จนถึงเหตุการณ์น้าทว่ มโลกซ่ึงเป็นบทลงโทษจากอลั ลอฮฺ และมี การกล่าวถึงในตน้ สูเราะฮฺจนถึงทา้ ยสูเราะฮฺเกี่ยวกบั ท่านและกลุ่มชนของท่าน และสูเราะฮฺนูหฺยงั มี ช่ืออีกช่ือหน่ึงวา่ สูเราะฮฺอินนาอรั ฺซลั นานูหนั (Innā Arsalnā Nūhan) ซ่ึงทา่ นอิมามอลั บุคอรียไ์ ดท้ า การอรรถาธิบายสูเราะฮฺน้ีในหนงั สือเศาะห้ีหฺของทา่ นดว้ ยชื่อดงั กล่าว อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอายะฮฺแรกของสูเราะฮฺนูหฺวา่ ﭽﮀﮁﮂﮃﮄﮅﮆ ﮇﮈﮉﮊﮋ ﮌﮍﮎﭼ )1 :(نوح ความวา่ “แท้จริงเราได้ส่งนหู ฺไปยงั หม่ชู นของเขา โดยบญั ชาว่า เจ้าจงกล่าวตกั เตือนหม่ชู นของเจ้า ก่อนที่การลงโทษอันเจบ็ ปวด จะมาถึงพวกเขา” (นูหฺ : 1) อายะฮฺขา้ งตน้ ไดข้ ้ึนตน้ อายะฮฺดว้ ยคาวา่ “อินนาอรั ฺซลั นานูหนั ” ( )ﮀ ﮁ ﮂ ดงั น้นั จึงไดม้ ีการเรียกชื่อสูเราะฮฺนูหฺอีกช่ือหน่ึงดว้ ยช่ือดงั กล่าว สาหรับการเริ่มตน้ อายะฮฺไดก้ ล่าวถึง
126 การเริ่มตน้ ของทา่ นนบีนูหฺ ในการทาหนา้ ที่ดะว ะฮฺกลุ่มชนของท่าน โดยไดร้ ับคาบญั ชา จากอลั ลอฮฺ ใหท้ าหนา้ ท่ีน้ีอยา่ งจริงจงั อนั หมายถึง อลั ลอฮฺ ไดเ้ ลือกท่านเป็น ศาสนทตู ของ พระองคใ์ นการทาหนา้ ที่ดะวะฮฺ ซ่ึงเป็นกา้ วแรกในการทางานดะอฺวะฮฺของท่าน 3.2 จานวนอายะฮฺในสูเราะฮฺนูหฺ สูเราะฮฺนูหฺเป็นสูเราะฮฺมั กกียะฮฺอยา่ งเอกฉนั ท์ เป็นสูเราะฮฺลาดบั ท่ี 71 ใน อลั กรุ อานและเป็นสูเราะฮฺที่ถูกประทานลงมาเป็นลาดบั ท่ี 73 ตามลาดบั การประทานสูเราะฮฺใน อลั กุรอาน ถูกประทานลงมาหลงั จากสูเราะฮฺอลั นะหฺล์ อายะฮฺท่ี 1-40 และก่อนสูเราะฮฺอฏั ฏูร มุฮมั มดั สัยยดิ ฏอ็ นฏอวีย์ (Muhammad Sayyid Ṭanṭāwiy, n.d.: 15/109) ไดก้ ล่าว ในหนงั สือของท่านวา่ “สูเราะฮฺนูฮฺถูกประทานลงมาหลงั จากสูเราะฮฺอลั นะหฺล์ และก่อน สูเราะฮฺอิบรอฮีม” จานวนอายะฮฺของสูเราะฮฺนูหฺน้นั ตามมุซฮฟั อลั กฟู ี ย์ (มุซฮฟั ของชาวกฟู ะฮฺ )มี จานวน 28 อายะฮฺ ตามมุซฮฟั อลั บศั รียแ์ ละอชั ชามีย์(มุซฮฟั ของชาวบสั เราะฮฺและชาม )มีจานวน 29 อายะฮฺ และตามมุซฮฟั มกั กียแ์ ละมะดะนีย(์ มุซฮฟั ของชาวมกั กะฮฺและมะดีนะฮฺ)มีจานวน 30 อายะฮฺ (Muhammad Sayyid Ṭanṭāwiy, n.d.: 15/109) คาในสูเราะฮฺนูหฺมีจานวน 224 คา และมีอกั ษรท้งั หมด 950 ตวั อกั ษร ตามจานวน ปี ที่ทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการดะอฺวะฮฺ น่ีคือส่ิงมหศั จรรยใ์ นอลั กรุ อานที่มนุษยไ์ มส่ ามารถ ลอกเลียนแบบได้ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﯨﯩﯪﯫ ﯬﯭﯮﯯﯰﯱ ﯲﯳﯴﯵﯶﯷﯸﭼ ) 14 :(العنكبو ت
127 ความวา่ “และโดยแน่นอนเราได้ส่งนูหฺ ไปยงั หม่ชู นของเขา และ เขาได้อย่รู ่วมกับพวกเขาหนึ่งพันปี เว้นห้าสิบปี (950 ปี ) ดงั น้ัน อุทกภัยได้คร่าพวกเขาขณะที่พวกเขาเป็นผ้อู ธรรม” (อลั องั กะบูต: 14) จากอายะฮฺขา้ งตน้ ช้ีใหเ้ ห็นวา่ ทุกพยญั ชนะในสูเราะฮฺนูหฺน้นั มีจานวน 950 ตวั อกั ษร ซ่ึงเป็นจานวนปี ท่ีท่านนบีนูหฺ ไดท้ าการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ น น่ีคือส่ิง มหศั จรรยใ์ นอลั กรุ อานท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ตวั เลขท่ีม าจากอลั ลอฮฺ ซ่ึงมนุษยไ์ ม่สามารถ ลอกเลียนแบบได้ และหากวา่ อลั กุรอานมาจากผทู้ ี่มิใช่พระเจา้ อยา่ งแทจ้ ริง แน่นอนความขดั แยง้ ยอ่ มปรากฏข้ึนอยา่ งมากมาย (‘Iṣām zuhd, 2005: 13-14) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﭻﭼﭽﭾﭿ ﮀ ﮁ ﮂﮃ ﮄﮅ ﮆ ﮇﮈﮉﭼ )82 :(النساء ความวา่ “พวกเขาไม่พิจารณาดูอัลกรุ อานบ้างหรือ และหากว่า อัลกุรอานมาจากผ้ทู ี่ไม่ใช่อัลลอฮฺ แล้วแน่นอนพวกเขากจ็ ะพบว่า ในนั้นมีความขดั แย้งกันมากมาย” (อนั -นิซาอฺ: 82) 3.3 เนือ้ หาของสูเราะฮฺนูหฺ โดยสรุป สูเราะฮฺนูหฺถึงแมจ้ ะเป็นสูเราะฮฺท่ีส้นั เพราะอยใู่ นจาพวกสูเราะฮฺมกั กียะฮฺ เน้ือเร่ือง ของสูเราะฮฺน้ีจึงคลา้ ยคลึงกบั สูเราะฮฺมกั กียะฮฺอ่ืนๆ คือเนน้ หนกั ในเร่ืองของอะกีดะฮฺหรือหลกั การ ศรัทธา และอธิบายหลกั การศรัทธา เช่นการศรัทธาตอ่ อลั ลอฮฺ การทาอีบาดะฮฺและการจงรักภกั ดี ต่อพระองค์ การละทิง้ การสักการะและบูชาเจวด็ การยนื ยนั ถึงการมีอยขู่ องอลั ลอฮฺเพยี งองคเ์ ดียว และความยง่ิ ใหญข่ องพระองค์ เป็นตน้ แต่ที่สาคญั และเป็นจุดเด่นของสูเราะฮฺน้ีคือการกล่าวอย่ าง
128 ละเอียดเกี่ยวกบั การดะอ วะฮฺ ผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ และจุดยนื ของมนุษยต์ อ่ การดะอฺวะฮฺซ่ึงใชร้ ูปแบบท่ี หลากหลายในการเชิญชวนผคู้ นสู่สจั ธรรม เพื่อเป็นการฝึกฝนบรรดานบี เราะสูล และผทู้ ่ีไดช้ ื่อวา่ เป็นนกั ดาอียจ์ วบจนวนั สิ้นโลก ในสูเราะฮฺน้ีทา่ นนบีนูหฺ ไดเ้ ร่ิมการดะอฺวะฮฺ เผยแผส่ ัจธรรม โดยการตกั เตือนกลุ่มชนของเขา และเชิญชวนใหล้ ะทิ้งการทาความผดิ และอธรรม เพ่อื วา่ อลั ลอฮฺ จะทรงอภยั โทษ และเพิม่ พนู ทรัพยส์ ินเงินทองและลูกหลานอนั มากมาย พระองคจ์ ะทรงใหม้ ี สวนและลาน้ามากหลายแก่พวกเขา แต่พวกเขาปฏิเสธ และด้ือร้ันในการหลงผดิ จนกระทง่ั พระ องค์ ไดใ้ หส้ ิ้นสุดลงดว้ ยเหตุการณ์น้าท่วม ซ่ึงพระองคท์ รงใหบ้ รรดาผปู้ ฏิเสธศรัทธาในหมชู่ นของเขา จมน้าตาย ดว้ ยเหตุน้ีสูเราะฮฺน้ี จึงไดช้ ื่อวา่ “สูเราะฮฺนูหฺ” (Wahbah al-Zuḥailiy,2009: 15/143-144) ในสูเราะฮฺนูหฺไดม้ ีการช้ีแจงถึงแนวทางปฏิบตั ิของอลั ลอฮฺ ตอ่ ประชาชาติต่างๆ ท่ีหนั ห่างจากการเรียกร้องของพระองค์ ไดช้ ้ีแจงถึงบ้นั ปลายของบรรดาเราะสูลและจุดจบของ บรรดาผปู้ ฏิเสธศรัทธาในยคุ และสมยั ต่างๆ สูเราะฮฺไดเ้ ร่ิมดว้ ยการที่อลั ลอฮฺ ทรงส่งทา่ นนบีนูหฺ เพื่อประกาศเผยแผ่ สัจธรรมและตกั เตือนหมูช่ นของเขาใหร้ ะวงั การลงโทษจากพระองค์ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇﮈﮉﮊ ﮋ ﮌﮍﮎﭼ )1 :(نوح ความวา่ “แท้จริงเราได้ส่งนหู ฺไปยงั หม่ชู นของเขา )โดยบญั ชาว่า( เจ้าจงกล่าวตกั เตือนหม่ชู นของเจ้ า ก่อนท่ีการลงโทษอันเจบ็ ปวด จะมาถึงพวกเขา” (นูหฺ: 1) สูเราะฮฺไดก้ ล่าวถึงการตอ่ สู้ของทา่ นนบีนูหฺ การอดทนในการทาหนา้ ที่ ดะอฺวะฮฺหมู่ชนของเขาใหเ้ คารพภกั ดีอลั ลอฮฺ เพยี งองคเ์ ดียว และละทิง้ การสกั การะพระเจ้ าที่
129 พวกเขาสร้างข้ึน และใหย้ าเกรงตอ่ อลั ลอฮฺ และปฏิบตั ิตามท่านเราะสูลผเู้ ป็นศาสนทูต ของอลั ลอฮฺ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﮏﮐﮑﮒﮓ ﮔﮕﮖﮗﮘﮙ ﮚﮛﭼ )3-2 :(نوح ความวา่ “เขากล่าวว่า โอ้หม่ชู นข องฉันเอ๋ย แท้จริงฉันคือผู้ ตกั เตือนอันชัดแจ้งของพวกท่าน (2) พวกท่านจงเคารพภกั ดี อัลลอฮฺเถิด และจงยาเกรงพระองค์ และจงเช่ือฟังปฏิบัติตามฉัน (3)” (นูหฺ : 2-3) ทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการการเสียสละเพ่ือการดะอฺวะฮฺท้งั กลางคืนและกลางวนั ท้งั โ ดยทางลบั และการเปิ ดเผย กระน้นั ก็ตามหม่ชู นของเขากห็ าไดใ้ หค้ วามสนใจแก่เขาไม่ ยงิ่ กวา่ น้นั พวกเขายงั ดื่มด่าอยใู่ นการหลงผดิ และการด้ือร้ัน อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﮱ ﮲ ﮳ ﮴ ﮵ ﮶ ﮷﮸ ﮹﮺ ﮻ ﮼ ﮽﮾ﭼ )6-5 :(نوح ความวา่ “เขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงข้า พระองค์ได้เรียกร้องเชิญชวนหม่ชู นของข้าพระองค์ท้ังกลางคืน
130 และกลางวั น(5)แต่การเรียกร้องเชิญชวนของข้าพระองค์มิได้ เพิ่มพนู สิ่งใดแก่เขานอกจากการหลบหนี(6)” (นูหฺ: 5-6) หลงั จากน้นั ในสูเราะฮฺยงั ไดก้ ล่าวเตือนพวกเขาใหร้ าลึกถึงการมีอยขู่ องอลั ลอฮฺ เพยี งองคเ์ ดียว และความยงิ่ ใหญข่ องพระองค์ ความโปรดปรานและความดีงามตา่ งๆของ พระองคผ์ า่ นทา่ นนบีนูหฺ เพ่อื ใหพ้ วกเขาขยนั หมน่ั เพียรในการจงรักภกั ดีตอ่ พระองค์ และให้ พินิจพิจารณาถึงความโปรดปรานของพระองคท์ ่ีทรงสร้างช้นั ฟ้ าและแผน่ ดิน ใคร่ครวญการสร้าง มนุษย์ และความโปรดปรานของพระองคต์ ่อมนุษยโ์ ดยใหแ้ ผน่ ดินราบเรียบกวา้ งเพอ่ื มนุษยส์ ามารถ สัญจรไปมาได้ แลว้ พวกเขากจ็ ะเห็ นร่องรอยแห่งอานุภาพและความเมตตาของพระองคใ์ นจกั รวาล น้ี อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﭫ ﭬ ﭭ ﭮ ﭯ ﭰﭱ ﭲ ﭳ ﭴﭵ ﭶﭷﭸﭹ ﭺ ﭻﭼﭽﭾﭿﮀ ﮁﮂﮃﮄﮅﮆ ﮇﭼ )18-15 :(نوح ความวา่ “พวกเจ้าไม่เห็นดอกหรือว่าอัลลอฮฺทรงสร้างช้ันฟ้ าท้ัง เจด็ เป็นช้ัน ๆ อย่างไร (15)และทรงทาให้ดวงจันทร์ในชั้นฟ้ า เหล่านนั้ มีแสงสว่าง และทรงทาให้ดวงอาทิตย์มีแสงจ้า (16)และอัลลอฮฺทรงบังเกิ ดพวกท่านจากแผ่นดินเช่นพืชผกั (17)แล้วจะทรงให้พวกท่านกลบั คืนสู่ในแผ่นดิน และจะทรงให้ พวกท่านออกมาอีกเพ่ือคืนชีพ(18)” (นูหฺ: 15-18)
131 ท้งั ๆที่ไดม้ ีการตกั เตือนสง่ั สอนและช้ีแนะทางที่ถูกตอ้ งและทางรอดแลว้ กต็ าม หมูช่ นของทา่ นนบีนูหฺ ก็ยงั ด้ือร้ันดว้ ยการปฏิเสธศรัทธา การหลงทางและการผนิ หลงั ใหก้ บั หนทางท่ีเที่ยงแท้ พวกเขาเหยยี ดหยามการเรียกร้องเชิญชวนของท่านนบีของพวกเขา อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﮓﮔﮕﮖ ﮗﮘﮙﮚ ﮛ ﮜﮝﮞ ﮟﮠﮡﮢﮣﮤﮥﮦﮧﮨﮩ ﮪﮫﮬﮭﮮﮯﮰﮱ﮲ﭼ )23-21 :(نوح ความวา่ “นูหฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริง พวกเขาได้ฝ่ าฝื นข้าพระองค์และเชื่อฟังผ้ทู ี่ทรัพย์สินของเขา และ ลกู หลานของเขามิได้เพ่ิมพนู อันใดแก่เขานอกจากการขาดทุน (21)และพวกเขาได้วางแผนร้ายอันยิ่งใหญ่ (22)และพวกเขาได้ กล่าวว่า พวกท่านอย่าได้ทอดทิง้ พระเจ้าท้ังหลายของพวกท่าน เป็นอันขาด พวกท่านอย่าได้ทอดทิง้ วดั ดฺ และสุวาอฺ และยะฆษู และยะอู๊ก และนัซรฺ เป็นอันขาด(23)” (นูหฺ: 21-23) จากการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ทาใหผ้ คู้ นแตกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มผู้ ออ่ นแอไดต้ อบรับการดะอฺวะฮฺของทา่ นซ่ึงมีจานวนเพยี งนอ้ ยนิด ซ่ึงอลั ลอฮฺ ไดใ้ หพ้ วกเขารอด พน้ จากการลงโทษของพระองค์ และอีกกลุ่มหน่ึงท่ีปฏิเสธการดะอฺวะฮฺและด้ือร้ัน ดว้ ยเหตุน้ีสูเราะฮฺ ไดจ้ บลงดว้ ยการวงิ วอนขอพรของท่านนบีนูหฺ แก่หมูช่ นท่ีด้ือร้ันของเขาใหป้ ระสบความ หายนะ หลงั จากที่เรียกร้องเชิญชวนพวกเขาใหเ้ คารพภกั ดีต่ออลั ลอฮฺ องคเ์ ดียวเป็นเวลายาวนาน ถึง 950 ปี จิตใจของพวกเขามิไดอ้ อ่ นไหวลงเลย การตกั เตือนกด็ ีและการเตือนสาทบั ก็ดีมิไดอ้ านวย ประโยชนอ์ นั ใดแก่พวกเขาเลย
132 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽ ﮳ ﮴ ﯖﯗ ﯘ ﯙ ﯚ ﯛ ﯜﯝ ﯞ ﯟﯠﯡﯢﯣﯤﯥﯦﯧﯨﯩ ﯪﯫﯬﯭﯮ ﯯ ﯰﯱﯲﯳﯴﯵﯶ ﯷﯸﯹﯺﯻﯼﯽ ﯾﯿﰀﰁ ﰂﰃﰄﰅﰆﰇ ﰈﰉ ﰊﰋﰌﰍﰎ ﰏﰐﭼ )28-24 :(نوح ความวา่ “และโดยแน่นอน พวกเขาได้ทาให้หม่ชู นจานวนมาก หลง ดังนนั้ ขอพระองค์ท่านอย่าได้เพ่ิมอันใดแก่พวกอธรรม เหล่านั้น นอกจากการหลงผิดเท่าน้นั (24)อันเนื่องมาจากความผิด มากหลายของพวกเขา พวกเขาจึงถกู จมนา้ ตาย และจะถกู ให้เข้า อย่ใู นไฟนรก ดังน้ันพวกเขาจะไม่ได้พบผ้ชู ่วยเหลือสาหรับพวก เขาอ่ืนจากอัลลอฮฺ (25)และนูหฺ ได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้า พระองค์ ขอพระองค์ทรงอย่าปล่อยให้พวกปฏิเสธศรัทธา หลงเหลืออย่ใู นแผ่นดิน (26)เพราะแท้จริง หากพระองค์ทรง ปล่อยให้พวกเขาหลงเหลืออยู่ พวกเขากจ็ ะทาให้ปวงบ่าวของ พระองค์หลงผิด และพวกเขานัน้ นะให้กาเนิดแต่พวกเลวทราม พวกปฏิเสธศรัทธาเท่านัน้ (27)ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอ พระองค์ทรงอภยั โทษให้แก่ข้าพระองค์ และพ่อแม่ของข้า พระองค์ และผ้ทู ี่เข้ามาในบ้านของข้าพระองค์เป็นผ้ศู รัทธา และ บรรดาผ้ศู รัทธาชาย และบรรดาผ้ศู รัทธาหญิง และพระองค์ท่าน อย่าได้เพ่ิมอันใดแก่พวกอธรรมเหล่าน้ัน นอกจากความพินาศ หายนะเท่านน้ั (28)” (นูหฺ: 24-28)
133 3.4 ความประเสริฐของสูเราะฮฺนูหฺ จากการคน้ ควา้ วจิ ยั เกี่ยวกบั ความประเสริฐของสูเราะฮฺ พบวา่ ท่านนบีมูฮมั มดั มิไดก้ ล่าวถึงความประเสริฐของสูเราะฮฺนูหฺ ไวใ้ นวจนะของทา่ น รวมถึงบรรดาเศาะฮาบะฮฺก็มิได้ กล่าวถึง เช่นเดียวกบั บรรดาอุละมาอท์ ้งั ยคุ ก่อนและยคุ หลงั แต่อยา่ งไรก็ตามมีเพียงหะดีษเมาฎอู ฺ (หะดีษที่มิไดม้ ีทีมาจากทา่ นนบีมุฮมั มดั ) จึงไมค่ วรยดึ เป็นหลกั ฐาน ดว้ ยเหตุน้ีจึงไมป่ รากฏ ร่องรอยหลกั ฐานที่ชดั เจนที่กล่าว ถึงความประเสริฐของสูเราะฮฺนูหฺ แต่ท้งั น้ีท้งั น้นั สูเราะฮฺที่มีอยู่ ในอลั กุรอานท้งั หมดลว้ นมีคุณคา่ และมีความหมายที่ดีงามยงิ่ 3.5 การเริ่มต้นและการจบของสูเราะฮฺนูหฺ การเริ่มตน้ สูเราะฮฺน้นั ไดม้ ีการเริ่มตน้ ดว้ ยอายะฮฺอลั กรุ อานที่กล่าวเกี่ยวกบั การ บญั ชาของอลั ล อฮฺ ต่อทา่ นนบีนูหฺ ใหท้ าการดะอฺวะฮฺหม่ชู นของท่านถึงการลงโทษอนั เจบ็ ปวดท่ีจะมาถึงในอีกไม่ชา้ หากพวกเขายงั คงยนื กรานอยใู่ นการหลงผดิ ปฏิเสธศรัทธา และไม่ ปฏิบตั ิตามส่ิงท่ีทา่ นนบีไดท้ าการดะอฺวะฮฺ ถึงแมว้ า่ ท่านนบีจะดะอฺวะฮฺดว้ ยรูปแบบการเชิญชวนท่ี หลากหลายสมบรู ณ์แบบแลว้ แตก่ ลุ่มชนกย็ งั แตกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มผศู้ รัทธาและกลุ่มปฏิเสธ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอลั กุรอานวา่ ﭽﮀﮁﮂﮃﮄﮅﮆ ﮇﮈﮉﮊﮋ ﮌ ﮍ ﮎﮏﮐﮑﮒ ﮓ ﮔﮕﮖﮗ ﮘ ﮙﮚﮛﮜﮝﮞﮟﮠﮡﮢ ﮣﮤﮥﮦﮧﮨﮩﮪﮫﮬﮭ ﮮ ﮯ ﮰﮱ﮲ ﮳ ﮴﮵﮶﮷﮸﮹﮺﮻﮼﮽﮾﮿ ﯀﯁﯂ ﯓﯔ ﯕﯖﯗ ﯘﯙ ﯚﯛﯜ
134 ﯝﯞ ﰀ ﰁﰂ ﭑﭒﭓﭔﭕ ﭖﭗﭘﭙﭚ ﭛﭜﭝ ﭞﭟﭠ ﭡﭢﭣﭤﭥﭦﭧﭨﭩﭪﭼ )14-1 :(نوح ความวา่ “แท้จริงเราได้ส่งนูหฺไปยงั หม่ชู นของเขา โดยบญั ชาว่า เจ้าจงกล่าวตกั เตือนหม่ชู นของเจ้า ก่อนท่ีการลงโทษอันเจบ็ ป วด จะมาถึงพวกเขา(1) เขากล่าวว่า โอ้หม่ชู นของฉันเอ๋ย แท้จริงฉัน คือผ้ตู กั เตือนอันชัดแจ้งของพวกท่าน (2) พวกท่านจงเคารพภกั ดี อัลลอฮฺเถิด และจงยาเกรงพระองค์ และจงเช่ือฟังปฏิบัติตามฉัน (3) พระองค์จะทรงอภัยโทษให้แก่พวกท่านในความผิดของพวก ท่าน และจะทรงผ่อนผนั พวกท่านจนกระทั่งถึงวาระที่ถกู กาหนด ไว้ แท้จริงวาระของอัลลอฮฺน้นั เมื่อมาถึงแล้วมนั จะไม่ยืดเวลา ต่อไปอีก หากพวกท่านได้รู้ (4) เขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้า พระองค์ แท้จริงข้าพระองค์ได้เรียกร้องเชิญชวนหม่ชู นของข้า พระองค์ท้ังกลางคืนและกลางวนั (5) แต่การเรียกร้องเชิญชวน ของข้าพระองค์มิได้เพิ่มพูนสิ่งใดแก่เขานอกจากการหลบหนี (6) และแท้ จริ งทุกครั้ งท่ีข้าพระองค์ เรี ยกร้ องเชิญชวนพวกเขาเพื่อท่ี พระองค์ท่านจะได้อภัยโทษให้แก่พวกเขา พวกเขากเ็ อานิว้ มืออุด รูหูของพวกเขา และเอาเสื้อผ้าของพวกเขาคลุมโปง และพวกเขา ยงั ดือ้ รั้น และหย่ิงยะโสด้วยคว ามจองหอง (7) คร้ันแล้วข้า พระองค์ได้เรียกร้องเชิญชวนพวกเขาอย่างเปิ ดเผย (8) แล้วข้า พระองค์กไ็ ด้ประกาศแก่พวกเขาอย่างเปิ ดเผย อีกทั้งข้าพระองค์ ยงั ได้บอกกล่าวแก่พวกเขาอย่างลับ ๆ อีกด้วย(9) ข้าพระองค์ได้ กล่าวว่า พวกท่านจงขออภยั โทษต่อพระเจ้าของพวกท่านเถิด เพราะแท้จริ งพระองค์เป็นผ้ทู รงอภัยโทษอย่างแท้จริง (10) พระองค์จะทรงหลัง่ นา้ ฝนอย่างมากมายแก่พวกท่าน (11) และ พระองค์จะทรงเพ่ิมพนู ทรัพย์สินและลกู หลานแก่พวกท่าน และ จะทรงทาให้มีสวนมากหลายแก่พวกท่าน และจะทรงทาให้มีลา
135 นา้ มากหลายแก่พวกท่าน(12) ทาไมพวกท่านจึงไม่สานึกถึงความ ยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺ(13) และโดยแน่นอน พระองค์ทรงสร้างพวก ท่านตามลาดับขนั้ ตอน(14)” (นูหฺ : 1-14) สูเราะฮฺนูหฺไดเ้ ริ่มตน้ ดว้ ยพระดารัสของอลั ลอฮฺ ในอายะฮฺที่ 1-14 โดยที่พระองคท์ รง ส่งทา่ นนบีนูหฺ ใหเ้ ร่ิมทา การดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ น โดยการตกั เตือนใหพ้ วกเขาห่างไกล จากการทาความผดิ บาป และอลั ลอฮฺ จะทรงอภยั โทษใหก้ บั พวกเขา เพื่อวา่ พวกเขาจะได้ ห่างไกลจากบทลงโทษของพระองค์ เพราะการลงโทษน้นั จะเกิดข้ึนไม่ชา้ กเ็ ร็ว ท้งั ในโลกน้ีและโลก หนา้ นอกจากน้ีทา่ นนบีนูหฺ ยงั ไดป้ ระกาศใหพ้ วกเขาทราบอยา่ งตรงไปตรงมาและชดั เจนวา่ ท่านคือผตู้ กั เตือนอนั ชดั แจง้ ดงั น้นั หนา้ ที่ของพวก เขากค็ ือ การเคารพภกั ดีต่ออลั ลอฮฺ องคเ์ ดียว เพราะเป็นแนวทางที่ถูกตอ้ งและเป็นรากฐานแห่งการดาเนินชีวติ และจงยาเกรงตอ่ พระองค์ เพราะ ความยาเกรงเป็นสิ่งค้าประกนั อยา่ งแท้ จริงในการรักษาความเท่ียงธรรมของมนุษย์ และการเชื่อฟัง ปฏิบตั ิตามเราะสูลนบั ไดว้ า่ เป็นแนวทางสาคญั ยง่ิ ในการดาเนินชีวติ อยา่ งถูกตอ้ ง (สมาคมนกั เรียน เก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 1569) ทา่ นนบีนูหฺ ไดส้ ัญญากบั กลุ่มชนของเขาตามที่อลั ลอฮฺ ไดท้ รงสญั ญากบั บรรดาผกู้ ลบั เน้ือกลบั ตวั ไวว้ า่ พระองคจ์ ะทรงอภยั โทษจากความผดิ และบาปต่าง ๆ ในอดีต อีกท้งั จะไดร้ ับการผอ่ นผนั ไปยงั วาระที่พระองคท์ รงกาหนดไวค้ ือวนั กิยามะฮฺ และวาระท่ีถูกกาหนดไว้ น้นั เป็นของแน่นอน จะมีมาตามกาหนดของมนั โดยไม่มีการผอ่ นผนั เหมือนกบั การลงโทษในโลก ดุนยา (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 1569) ทา่ นนบีนูหฺ ไดร้ ายงานผลการปฏิบตั ิหนา้ ที่อนั ยาวนานแด่พระเจา้ ของเขา ดว้ ยการวาดภาพการเหนื่อยยากอยา่ งต่อเน่ืองท้งั กลางวนั และกลางคืนในการทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺของ ท่าน แต่ก็ไมป่ ระสบความสาเร็จ ทา่ นมิไดเ้ หน่ือยหน่ายหรือยอ่ ทอ้ หมดหวั งตอ่ การผนิ หลงั ให้จาก กลุ่มชนของท่าน และไมเ่ ชื่อฟังการเรียกร้องของท่าน แตผ่ ลท่ีไดร้ ับจากพวกเขาคือการหลบหนี ใน เวลาเดียวกนั ก็ไม่ชอบที่จะใหเ้ สียงเรียกร้องเชิญชวนสู่หนทางที่ถูกตอ้ ง เขา้ สู่โสตประสาทของพวก เขา ดงั น้นั ภาพลกั ษณ์แห่งค วามด้ือร้ันหยง่ิ ยะโสของผใู้ หญท่ ่ี มีนิสัยเหมือนเดก็ กป็ รากฏข้ึนแก่พวก เขาคือ เอานิ้วมืออุดรูหู ปิ ดหวั ปิ ดหนา้ ดว้ ยเส้ือผา้ ในสภาพคลุมโปง แตถ่ ึงกระน้นั ทา่ นนบีนูหฺ
136 ก็ยงั คงปฏิบตั ิหนา้ ท่ีทุกวถิ ีทางท่ีจะกระทาได้ บางคร้ังก็ทาหนา้ ท่ีเผยแผอ่ ยา่ งเปิ ดเผย และบางคร้ังก็ ทาหนา้ ที่ควบกนั ไปท้งั สองอยา่ งคือท้งั โดยทางเปิ ดเผยและโดยทางลบั (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย, 2542: 1570) ทา่ นน บีนูหฺ หาช่องทางเพอื่ จะใหพ้ วกเขาไดร้ ับความดีต่อไป จึงทาการ เรียกร้องใหพ้ วกเขาขออภยั โทษต่ออลั ลอฮฺอยา่ งจริงใจ และใหค้ วามเป็นเอกภาพแด่พระองค์ เพราะ พระองคเ์ ป็นผทู้ รงอภยั โทษในความผิดท้งั หลายของปวงบ่าว นอกจากน้ีท่านนบีนูหฺยงั ไดช้ ้ีให้พวก เขาเห็นวา่ อลั ลอฮฺ จะให้ปัจจยั ยงั ชีพอยา่ งครบครันและง่ายดาย แก่พวกเขา หากพวกเขามีความ ยาเกรงและขออภยั โทษต่อพระองค์ พระองคก์ จ็ ะประทานน้าฝนอยา่ งมากมาย ซ่ึงจะทาใหพ้ ืชพนั ธ์ ต่าง ๆ งอกเ งยและเกิดลาน้าลาธารอีกท้ั งจะไดร้ ับ ปัจจยั ยงั ชีพ อื่นๆ รวมถึง ลูกหลานและทรัพย์ สมบตั ิอั นมากมาย อีกดว้ ย แต่ถึงกระน้นั พวกเขากย็ งั ปฏิเสธ และยงั ยนื ยนั ท่ีจะอยใู่ นหนทางท่ี บิดพลิ้ว และการหลงทางอนั ชดั แจง้ (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 1571) ทา่ นนบีนูหฺ ไดต้ าหนิกลุ่มชนของทา่ นในท่าทีของพวกเขาที่มีต่ออลั ลอฮฺ ในส่วนที่เก่ียวกบั ตวั ของพวกเขา และที่เก่ียวกบั จกั รวาลรอบ ๆ ตวั ของพวกเขา ทา่ นแปลกใจตอ่ การดูหมิ่นดูแคลนและการไมม่ ีมรรยาทของพวกเขาตอ่ อลั ลอฮฺ และการยนื กรานที่จะปฏิเสธ ความหวงั ดีเหล่าน้นั ไมต่ อบรับการ ดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ และยอมที่หลงทางเฉกเช่น บรรดาผหู้ ลงทางและบรรดาผกู้ ระทาความผดิ บาป (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย , 2542: 1571) อลั ลอฮฺ จึงกล่าวในอายะฮฺที่ 21-28 เป็นการจบสูเราะฮฺวา่ ﭽﮓﮔﮕﮖ ﮗﮘﮙﮚ ﮛ ﮜﮝﮞ ﮟﮠﮡﮢﮣﮤﮥﮦ ﮧﮨﮩ ﮪﮫﮬﮭﮮﮯﮰ ﮱ﮲﮳﮴ﯖﯗ ﯘﯙﯚﯛ ﯜﯝﯞﯟﯠﯡ ﯢﯣﯤﯥﯦﯧﯨﯩﯪﯫﯬﯭﯮ ﯯ
137 ﯰﯱﯲﯳ ﯴﯵﯶﯷ ﯸﯹﯺ ﯻﯼﯽ ﯾﯿﰀﰁﰂ ﰃﰄﰅ ﰆﰇﰈﰉﰊﰋ ﰌﰍﰎ ﰏﰐﭼ )28-21 :(نوح ความวา่ “นหู ฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริง พวกเขาได้ฝ่ าฝื นข้าพระองค์และเชื่อฟังผ้ทู ี่ทรัพย์สินของเขา และ ลกู หลานของเขามิได้เพิ่มพูนอันใดแก่เขานอกจากการขาดทุน (21) และพวกเขาได้ วางแผนร้ายอันยิ่งใหญ่ (22) และพวกเขาได้ กล่าวว่า พวกท่านอย่าได้ทอดทิง้ พระเจ้าท้ังหลายของพวกท่าน เป็นอันขาด พวกท่านอย่าได้ทอดทิง้ วดั ดฺ และสุวาอฺ และยะฆษู และยะอู๊ก และนัซรฺ เป็นอันขาด (23) และโดยแน่นอน พวกเขา ได้ทาให้หม่ชู นจานวนมากหลง ดังนน้ั ขอพระองค์ท่านอย่าได้ เพิ่มอันใดแก่พวกอธรรมเหล่านนั้ นอกจากการหลงผิดเท่านั้น (24) อันเน่ืองมาจากความผิดมากหลายของพวกเขา พวกเขาจึง ถกู จมนา้ ตาย และจะถกู ให้เข้าอย่ใู นไฟนรก ดงั น้ันพวกเขาจะ ไม่ได้พบผ้ชู ่วยเหลือสาหรับพวกเขาอ่ืนจากอัลลอฮฺ (25) และนหู ฺ ได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงอย่า ปล่อยให้พวกปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออย่ใู นแผ่นดินนีเ้ ลย (26) เพราะแท้จริง หากพระองค์ทรงปล่อยให้พวกเขาหลงเหลืออยู่ พวกเขากจ็ ะทาให้ปวงบ่าวของพระองค์หลงผิด และพวกเขานน้ั นะให้กาเนิดแต่พวกเลวทราม พวกปฏิเสธศรัทธาเท่านน้ั (27) ข้า แต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้า พระองค์ และพ่อแม่ของข้าพระองค์ และผ้ทู ่ีเข้ามาในบ้านของข้า พระองค์เป็นผ้ศู รัทธา และบรรดาผ้ศู รัทธาชาย และบรรดาผู้ ศรัทธาหญิง และพระองค์ท่านอย่าได้เพ่ิมอันใดแก่พวกอธรรม เหล่าน้นั นอกจากความพินาศหายนะเท่านน้ั (28)” (นูหฺ : 21-28)
138 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวจบทา้ ยสูเราะฮฺนูหฺ ถึงผลของการดะอฺวะฮฺโดยที่ท่าน นบีนูหฺ ไดห้ นั หนา้ เขา้ ร้องเรียนต่ออลั ลอฮฺ วา่ หลงั จากท่ีท่านประสบกบั ความเหนื่อยยากและความ พยายามเป็นเวลาอนั ยาวนานถึง 950 ปี แตก่ ลุ่มชนของท่านก็ไมย่ อมเช่ือฟังและไดฝ้ ่ าฝืน ทา่ น โดยที่ จิตใจของพวกเขามิไดอ้ ่อนไหวลงเลย ยงิ่ ไปกวา่ น้นั พวกเขากลบั เห็นดีเห็นชอบเช่ือฟังและปฏิบตั ิ ตามผทู้ ี่ทรัพยส์ มบตั ิและลูกหลานของเขามิไดอ้ านวยประโยชน์อนั ใดแก่พวกเขาเลย นอกจากความ หายนะและการขาดทุนเท่าน้นั ไมแ่ ตเ่ พียงเทา่ น้นั แต่พวกเขายงั ไดว้ างแผนร้ายอนั ยง่ิ ใหญ่เพอ่ื ทาลาย ลา้ งการเผยแผแ่ ละการเรียกร้องเชิญชวนไปสู่สจั ธรรมอีกดว้ ย (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศ ไทย, 2542: 1572) กลุ่มชนของทา่ นนบีนูหฺ ไดก้ ล่าวเตือน มิใหพ้ วกเขา ทอดทิ้งพระเจา้ ท้ังหลาย ของพวกเขา ท้งั น้ีเพอ่ื เป็นการส่งเสริมใหม้ ีความรังเกียจตอ่ การเรียกร้องของทา่ นนบีนูหฺ ข้ึนใน จิตใจของพวกเขา และไดเ้ จาะจงกล่าวถึงชื่อบรรดาเจวด็ วดั ดฺ สุวาอฺ ยะฆูษ ยะอกู๊ และนซั รฺ เพอื่ เป็น การกระตุน้ เตือนให้ เกิดความรู้สึกข้ึนในจิตใจของ กลุ่มชนทว่ั ไป บรรดาผนู้ าท่ีหลงผดิ จะร วบรวม พลพรรคใหเ้ รียงรายลอ้ มรอบรูปป้ันและเจวด็ ที่เป็นกรวดหินดินทราย รูปป้ันท่ีเป็นตวั บุคคลและรูป ป้ันเจวด็ ทางแนวความคิด ท้งั หมดน้ีอยใู่ นสภาพเดียวกนั หมด เพ่ือจะปิ ดก้นั มิใหห้ นั หนา้ เขา้ หาการ เรียกร้องสู่อลั ลอฮฺ และเพ่อื โน้มนา้ วจิตใจใหห้ นั ห่างจ ากการเรียกร้องเชิญชวนดว้ ยการวางแผน ร้ายอนั ยง่ิ ใหญ่ ดว้ ยเล่ห์กลและการผนึกกาลงั ดงั น้นั ท่านนบีนูหฺ จึงขอจากอลั ลอฮฺ ทรงให้ พวกอธรรมเหล่าน้นั จมอยแู่ ตใ่ นการหลงผดิ เทา่ น้นั เพราะการตกั เตือนสาทบั ของท่านต่อกลุ่มชน ของทา่ นไมไ่ ดอ้ านวยประโยชน์อนั ใดแก่พวกเขาเลย (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย , 2542: 1573) ดว้ ยการกระทาผดิ อยา่ งมากมาย และบาปกรรมอนั มากหลาย อีกท้งั การฝ่ าฝืน ท่านนบีนูหฺ พวกเขาจึงถูกจมน้าตายและเผาไหมอ้ ยใู่ นนรก นน่ั คือโทษที่พวกเขาจะไดร้ ับท้งั ในดุนยาและอาคิเราะฮฺ การเขา้ ไปอยใู่ นนรกกเ็ ป็นโทษท่ีพวกเขาจะได้ รับเป็นการต่อเนื่องกนั หลงั จากถูกจมน้าตาย ดงั น้นั ลูกหลานก็ดี ทรัพยส์ มบตั ิอนั มากมายก็ดี มิตรสหายหรือคนรักใคร่กด็ ี ตลอดจนพระเจา้ จอมปลอมของพวกเขากด็ ี ไมอ่ าจจะใหค้ วามคุม้ ครองหรือใหค้ วามช่วยเหลือแก่ พวกเขาใหพ้ น้ จากการลงโทษของอลั ลอฮฺ ไปได้ (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรั บประเทศไทย , 2542: 1573)
139 ในการวงิ วอนของ ทา่ นนบีนูหฺ ท่านไดข้ อใหพ้ ระองคท์ รงกวาดลา้ งพวก อธรรมเหล่าน้นั ใหห้ มดสิ้นไปจากแผน่ ดินเพราะหากพวกเขาหลงเหลืออยู่ กร็ ังแต่จะก่อความวนุ่ วาย และความไม่สงบอยตู่ ลอดไป นนั่ กค็ ือพวกเขาจะขดั ขวางการเรียกร้องเชิญชวนไปสู่อลั ลอฮฺ และปิ ดก้นั มิใหก้ ารดะอฺวะฮฺเขา้ สู่จิตใจของมหาชน เพราะพวกเหล่าน้นั จะใหก้ าเนิดแต่พวกเลว ทรามและพวกปฏิเสธศรัทธาเทา่ น้นั (สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย, 2542: 1573) และสุดทา้ ยทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการวงิ วอนขออ ภยั โทษใหแ้ ก่ตวั เอง ซ่ึงเป็น มรรยาทที่ดีงามของบ่าวท่ีรู้จกั พระเจา้ การดุอาอฺใหแ้ ก่บิดามารดาของทา่ น คือการภกั ดีของท่านตอ่ บิดามารดาท่ีเป็นมุอฺมินผศู้ รัทธา และการขอพรใหแ้ ก่ผทู้ ่ีเขา้ ไปในบา้ นของท่านใหเ้ ป็นผศู้ รัทธา นี่ คือการรักท่ีจะใหค้ วามดีแก่พนี่ อ้ งของท่านที่เป็นผศู้ รัทธาท้งั ชายและหญิง ในทางตรงกนั ขา้ มท่าน ไดข้ อพรใหค้ วามพินาศล่มจมจงมีแด่พวกอธรรมผปู้ ฏิเสธศรัทธาท้งั หลาย (สมาคมนกั เรียนเก่า อาหรับประเทศไทย, 2542: 1574) ในสูเราะฮฺน้ีไดจ้ บลงโดยใหข้ อ้ คิดแก่ปัญญาชน ดว้ ยภาพลกั ษณ์ที่เด่นชดั 2 ภาพคือ การตอ่ สู้ดิ้นรนและความอดทนอยา่ งตอ่ เนื่อง และภาพของผดู้ ้ือร้ัน ผอู้ ธ รรม ท้งั สองดงั กล่าวนบั ได้ วา่ เป็นนิทศั นอ์ ุทาหรณ์อยา่ งดีแก่นกั เผยแผใ่ นยคุ หลงั (สมาคม นกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย , 2542: 1574) 3.6 ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺทผ่ี ่านมาและสูเราะฮฺหลงั จากน้ัน 3.6.1 ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺที่ผา่ นมา วะฮฺบะฮฺ อซั ซุ หัยลีย์ (Wahbah al-Zuḥailiy, 2009.: 15/143) ไดก้ ล่าวถึง ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺท่ีผา่ นมา คือสูเราะฮฺอลั มะอาริจวา่ ท้งั สองสูเราะฮฺน้นั มี ความสัมพนั ธ์และความคลา้ ยคลึงกนั 2 ประการ 1. ท้งั สองสูเราะฮฺมีความคลา้ ยคลึงกนั เป็นอยา่ งมาก กล่าวคือในสูเราะฮฺอลั มะอาริจ ไดม้ ีการกล่าวถึงบทลงโทษสาหรับชาวกุฟฟารฺผปู้ ฏิเสธ ศรัทธา สมยั ท่านนบีมุฮมั มดั และใน สูเราะฮฺนูหฺไดม้ ีการกล่าวถึงบทลงโทษสาหรับชาวกฟุ ฟารฺผปู้ ฏิเสธศรัทธาสมยั ท่านนบีนูหฺ
140 2. อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นอายะฮฺสุดทา้ ยของสู เราะฮฺอลั มะอาริจถึงเดชานุภาพ ของพระองคต์ อ่ มนุษยชาติวา่ ﭽﭑﭒﭓ ﭔﭕﭖﭗﭘﭙﭚﭛ ﭜ ﭝ ﭞﭟﭠﭡﭼ )41-40 :ل(ادعارج ความวา่ “ข้าขอสาบานต่อพระเจ้าแห่งบรรดาทิศตะวนั ออก และ บรรดาทิศตะวนั ตกว่า แท้จริงเรา (อัลลอฮฺ) เป็นผ้เู ดชานภุ าพอย่าง แน่นอน(40)ต่อการท่ีเราจะเปลี่ยนตวั แทนซึ่งดีกว่าพวกเขาและ เราจะไม่เป็นผ้หู มดความสามารถ (41)” (อลั มะอาริจญ์ : 40-41) และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺนูหฺถึงเดชานุภาพของพระองคต์ อ่ มนุษยชาติ วา่ ﭽ ﯞ ﯟﯠﯡﯢﯣﯤﯥﯦﯧ ﯨ ﯩﯪﯫﯬﯭﯮ ﯯ ﯰﯱﯲﯳﯴﯵﭼ )26-25 :(نوح ความวา่ “อันเน่ืองมาจากความผิดมากหลายของพวกเขา พวกเขา จึงถกู จมนา้ ตาย และจะถกู ให้เข้าอย่ใู นไฟนรก ดังนน้ั พวกเขาจะ ไม่ได้พบผ้ชู ่วยเหลือสาหรับพวกเขาอื่นจากอัลลอฮฺ (25)และนูหฺ ได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงอย่า ปล่อยให้พวกปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออย่ใู นแผ่นดินนีเ้ ลย (26)” (นูหฺ : 25-26)
141 อายะฮฺขา้ งตน้ ในสูเราะฮฺอลั มะอาริจไดก้ ล่าวถึงความยงิ่ ใหญ่และเดชานุภาพของ พระองคใ์ นการที่พระองคจ์ ะเปล่ียนจากบรรดาผทู้ ี่ปฏิเสธศรัทธาจากกลุ่มชนของทา่ นนบีมุฮมั มดั ดว้ ยตวั แทนซ่ึงดีกวา่ พวกเขา ซ่ึงมีความคลา้ ยคลึงกบั สูเราะฮฺนูหฺท่ีไดม้ ีการกล่าวถึงความยงิ่ ใหญ่ ของอลั ลอฮฺ และเดชานุภาพของพระองคใ์ นการที่พระองคจ์ ะลงโทษบรรดาผทู้ ี่ปฏิเสธศรัทธา จากกลุ่มชนของทา่ นนูหฺ ดว้ ยการจมน้า และการท่ีท่านนบีนูหฺ ไดข้ อดุอาออ์ ยา่ ใหผ้ ปู้ ฏิเสธ ศรัทธาหลงเหลือในแผน่ ดิน ซ่ึงยอ่ มหมายถึงการขอใหผ้ ศู้ รัทธารอดพน้ ปลอดภยั จากการลงโทษ และเปล่ียนจากกลุ่มชนผปู้ ฏิเสธศรัทธาเหล่าน้นั ดว้ ยตวั แทนท่ีดีกวา่ พวกเขา 3.6.2 ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺหลงั จากน้นั ความสมั พนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺ หลงั จากน้ั นคือสูเราะฮฺอลั ญิน โดยท่ีท้งั สองสูเราะฮฺน้นั มีความสอดคลอ้ งกนั ซ่ึงสูเราะฮฺอลั ญินเปรียบเสมือนเป็นการเติมเตม็ สูเราะฮฺนูฮฺให้ สมบูรณ์เก่ียวกบั การดะอฺวะฮฺสู่หนทางของอลั ลอฮฺ สาหรับสูเราะฮฺนูหฺเป็นการยกตวั อยา่ งใหแ้ ก่ ประชาชาติเกี่ยวกบั การต่อตา้ นและปฏิเสธศรัทธาศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ ในการทาหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺ และการตกั เตือนไม่ยงั ประโยชนอ์ นั ใดกบั พวกเขา ส่วนในสูเราะฮฺอลั ญินไดย้ กตวั อยา่ งเก่ียวกบั การ ดะอฺวะฮฺมคั ลูกของอลั ลอฮฺ นน่ั คือญินซ่ึงพวกเขาตอบรับการดะอฺวะฮฺตกั เตือนอนั เน่ื องมาจาก พวกเขาสดบั ฟังอลั กุรอาน (‘Iṣām zuhd, 2005: 14) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺนูหฺวา่ ﭽﮓﮔﮕﮖ ﮗﮘﮙﮚ ﮛ ﮜﮝﮞ ﮟﮠﭼ )21 :(نوح ความวา่ “นูหฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พ ระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริง พวกเขาได้ฝ่ าฝื นข้าพระองค์และเช่ือฟังผ้ทู ี่ทรัพย์สินของเขา และ ลูกหลานของเขามิได้เพิ่มพูนอันใดแก่เขานอกจากการขาดทุน” (นูหฺ : 21)
142 และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺอลั ญินวา่ ﭽﭑﭒﭓ ﭔ ﭕﭖ ﭗﭘﭙﭚ ﭛﭜ ﭝﭞﭟﭠ ﭡ ﭢﭣﭤﭥﭦﭧ ﭨﭩ ﭼ )2-1 :(لاجن ความวา่ “จงกล่าวเถิดมฮุ ัมมดั ว่ า ได้มีวะฮียฺมายงั ฉันว่า แท้จริง พวกญินจานวนหน่ึงได้ฟังฉัน(อ่านอัลกรุ อาน) และพวกเขากล่าว ว่า แท้จริงเราได้ยินกุรอานที่แปลกประหลาด (1) นาไปสู่ทางที่ ถกู ต้อง ดงั นน้ั พวกเราจึงศรัทธาต่ออัลกรุ อานน้นั และเราจะไม่ ต้งั สิ่งใดเป็นภาคีต่อพระเจ้าของเรา(2)” (อลั ญิน : 1-2) อายะฮฺท่ีไดก้ ล่าวมาขา้ งตน้ จะเห็นไดว้ า่ ท้งั สองสูเราะฮฺมีความสอดคลอ้ งกนั คือ สูเราะฮฺนูหฺไดก้ ล่าวเกี่ยวกบั กลุ่มชนท่ีปฏิเสธการดะอฺวะฮฺ ส่วนในสูเราะฮฺอลั ญินไดก้ ล่าวเก่ียวกบั กลุ่มชนที่ตอบรับการดะอฺวะฮฺ ในที่น้ีสามารถทาใหเ้ ขา้ ใจไดว้ า่ เม่ือมีผปู้ ฏิเสธศรัทธาที่ยโสโอหงั บน แผน่ ดิน อลั ลอฮฺ กจ็ ะทดแทนกลุ่มชนที่ดีกวา่ ท่ีตอบรับการศรัทธาอยา่ งแน่วแน่ วะฮฺบะฮฺ อซั ซุ หัยลีย์ (Wahbah al-Zuḥailiy, 2009.: 15/167-168) ไดก้ ล่าวถึง ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺ นูหฺกบั สูเราะฮฺ หลงั จากน้ั น คือสูเราะฮฺอลั ญินวา่ ท้งั สองสูเราะฮฺน้นั มี ความสัมพนั ธ์และความคลา้ ยคลึงกนั 3 ประการ ดงั น้ี 1. ท้งั สองสูเราะฮฺไดก้ ล่าวเกี่ยวกบั ผลตอบแทนท่ีดีของบ่าวผศู้ รัทธา อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺนูหฺวา่ ﭽﯛﯜﯝﯞ ﰀ ﰁﰂﭑ ﭒ ﭓﭔﭕﭼ )11-10 :(نوح
143 ความวา่ “ข้าพระองค์ได้กล่าวว่า พวกท่านจงขออภยั โทษต่อพระ เจ้าของพวกท่านเถิด เพราะแท้จริงพระองค์เป็นผ้ทู รงอภัยโทษ อย่างแท้จริง (10) พระองค์จะทรงหลั่งนา้ ฝนอย่างมากมายแ ก่ พวกท่าน (11)” (นูหฺ : 10-11) และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺอลั ญินวา่ ﭽﭣﭤﭥﭦ ﭧ ﭨﭩﭪﭼ )16 :(لاجن ความว่า “และหากพวกเขาธารงมน่ั อย่บู นแนวทางที่เท่ียงธรรม แน่นอนเรากจ็ ะให้พวกเขามีริซกีกว้างขวาง” (อลั ญิน : 16) ท้งั สองอายะฮฺมีความหมายโดยรวมวา่ หากบา่ วของอลั ลอฮฺ ศรัทธาตอ่ พระองค์ และอยใู่ นแนวทางท่ีถูกตอ้ ง และเมื่อมีความผดิ พลาดเกิดข้ึนก็ขออภยั โทษตอ่ พระองค์ แทจ้ ริง พระองคจ์ ะทรงหลงั่ น้าฝนและทรงประทานริซกีปัจจยั ยงั ชีพอยา่ งมากมาย 2. ท้งั สองสูเราะฮฺไดก้ ล่าวถึงสิ่งที่เก่ียวขอ้ งกบั ช้นั ฟ้ า อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺนูหฺวา่ ﭽﭫﭬﭭ ﭮﭯﭰﭱ ﭲﭳﭼ )15 :(نوح ความวา่ “พวกเจ้าไม่เห็นดอกหรือว่าอัลลอฮฺทรงสร้างชั้นฟ้ าทั้ง เจด็ เป็นชั้น ๆ อย่างไร” (นูหฺ : 15)
144 และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺอลั ญินวา่ ﭽﮝ ﮞ ﮟ ﮠ ﮡ ﮢ ﮣﮤ ﮥﭼ )8 :(لاجن ความวา่ “และแท้จริงเราได้ค้นคว้าหาข่าว ณ ช้ันฟ้ า แต่เราได้พบ ณ ท่ีนัง่ เตม็ ไปด้วยยามเฝ้ าผ้เู ข้มแขง็ และเปลวเพลิง” (อลั ญิน : 8) 3. ท้งั สองสูเราะฮฺไดก้ ล่าวถึงบทลงโทษสาหรับผฝู้ ่ าฝืนอลั ลอฮฺ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺนูหฺวา่ ﭽﯞ ﯟﯠﯡﯢﯣﯤﯥﯦﯧ ﯨ ﯩﯪﭼ )25 :(نوح ความวา่ “อันเนื่องมาจากความผิดมากหลายของพวกเขา พวกเขา จึงถกู จมนา้ ตาย และจะถกู ให้เข้าอย่ใู นไฟนรก ดงั นนั้ พวกเขาจะ ไม่ได้พบผ้ชู ่วยเหลือสาหรับพวกเขาอื่นจากอัลลอฮฺ” (นูหฺ : 25) และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ นสูเราะฮฺอลั ญินวา่ ﭽﮪﮫ ﮬﮭﮮﮯﮰﮱ ﮲﮳﮴﮵﮶ ﮷ ﮸﮹﮺﮻ﭼ )23 :(لاجن
145 ความวา่ “เว้นแต่ฉันจะเผยแผ่ (ส่ิงที่รับ) จากอัลลอฮฺ และสาส์น ของพระองค์ และผ้ใู ดฝ่ าฝื นอัลลอฮฺ และ เราะสูล ของพระองค์ แท้จริงสาหรับ เขาน้นั คือไฟนรก เป็นผ้พู านักอย่ใู นน้ันตลอด กาล” (อลั ญิน : 23) ท้งั สองอายะฮฺมีความหมายที่สอดคลอ้ งกนั เก่ียวบทลงโทษสาหรับผปู้ ฏิเสธศรัทธา และผฝู้ ่ าฝืนอลั ลอฮฺ ดว้ ยการลงโทษในไฟนรกที่พานกั ตลอดกาล และไม่มีผใู้ ดสามารถช่วยเหลือ ใหร้ อดพน้ จากการลงโทษของพระองคไ์ ด้ 3.6.3 ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺก่อนจากน้นั ตามลาดบั การประทานอลั กุรอาน ความสมั พนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺก่อนจากน้นั คือสูเราะฮฺอนั นะหฺลต์ ามลาดบั การประทานอลั กุรอาน โดยท่ีสูเราะฮฺอนั นะหฺลไ์ ดก้ ล่าวในอายะฮฺทา้ ยๆเก่ียวกบั การดะอฺวะฮฺของ ทา่ นนบีมุฮมั มดั ตอ่ ชาวมกั กะฮฺดว้ ยรูปแบบวทิ ยปัญญา สุขมุ ตกั เตือนท่ีดี และการโตแ้ ยง้ ดว้ ยสิ่งท่ี ดีกวา่ และอดทนตอ่ อุปสรรคตา่ งๆ ความด้ือร้ันของพวกเขา แน่นอนอลั ลอฮฺ ยอ่ มอยเู่ คียงขา้ ง บรรดาผอู้ ดทน (‘Iṣām zuhd, 2005: 15) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในสูเราะฮฺอนั นะหฺลว์ า่ ﭽ ﮦﮧ ﮨﮩﮪ ﮫﮬﮭﮮ ﮯﮰﮱ﮲﮳﮴ ﮵ ﮶﮷﮸﮹﮺﮻﮼﮽ ﮾﮿ ﯀﯁﯂ ﭼ )126-125 :(النحل ความวา่ “จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขมุ และการตกั เตือนท่ีดีและจงโต้แย้งพวกเขาด้วยส่ิงท่ีดีกว่าแท้ จริง พระเจ้าของเจ้าน้ันทรงรู้ดีย่ิงถึงบรรดาผ้ทู ่ีอย่ใู นทางที่หลงผิดและ
146 พระองค์นัน้ ทรงรู้ดีย่ิงถึงบรรดาผ้ทู ่ีอย่ใู นทางที่ถกู ต้ อง(125) และ หากพวกเจ้าจะลงโทษ (ฝ่ ายปรปักษ์ ) กจ็ งลงโทษเย่ียงท่ีพวกเจ้า ได้รับโทษและหากพวกเจ้าอดทน แน่นอนมนั เป็นการดียิ่ง สาหรับบรรดาผ้อู ดทน(126)” (อนั นะหฺลฺ: 125-126) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในสูเราะฮฺนูหฺวา่ ﭽﮀ ﮁﮂﮃ ﮄﮅﮆ ﮇﮈﮉﮊﮋ ﮌﮍﮎﭼ )1 :(نوح ความวา่ “ แท้จริงเราได้ส่งนู หฺไปยงั หม่ชู นของเขา (โดยบญั ชา ว่า) เจ้าจงกล่าวตักเตือนหม่ชู นของเจ้า ก่อนท่ีการลงโทษอัน เจบ็ ปวดจะมาถึงพวกเขา” (นูหฺ: 1) การกล่าวถึงการดะอฺวะฮฺสู่หนทางของ อลั ลอฮฺ ในสูเราะฮฺน้ีไดอ้ ธิบายถึง รูปแบบการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ที่ไดเ้ รียกร้องเชิญชวนกลุ่มชนของทา่ นใหห้ นั สู่ทางท่ี เท่ียงตรงเป็นเวลายาวนาน ดว้ ยรูปแบบท่ีมากมาย และวิ ธีการดะอฺวะฮฺท่ีหลากหลายเพ่อื ใหท้ า่ นนบี มุฮมั มดั ไดศ้ ึกษาวธิ ีการดะอฺวะฮฺเฉกเช่นท่ีทา่ นนบีนูหฺ ไดป้ ฏิบตั ิมาก่อนแลว้ ซ่ึงท้งั สอง สูเราะฮฺมีความคลา้ ยคลึงกนั มีหวั ขอ้ เดียวกนั นนั่ คือการดะอฺวะฮฺสู่หนทางของอลั ลอฮฺ แมว้ า่ เวลาจะล่วงเลยมากเท่าใด แตก่ ็ยงั สาม ารถนาตวั อยา่ งไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี (‘Iṣām zuhd, 2005: 15) 3.7 หลกั การใช้ภาษาในสูเราะฮฺนูหฺ อลั กุรอานซ่ึงเป็นธรรมนูญหลกั และเป็นธรรมนูญแรกของอิสลามน้นั ไดถ้ ูกจดั วาง คา อายะฮฺ สูเราะฮฺในที่ๆเหมาะสม มีการใชภ้ าษาท่ีสละสลวย คลอ้ งจอง และไม่มีม นุษยค์ นใด
147 สามารถแต่งเติมหรือป้ันแตง่ แมเ้ พยี งไมก่ ี่อายะฮฺ หรือขอใหผ้ อู้ ื่นท่ีมิใช่อลั ลอฮฺ ช่วยป้ันแตง่ กไ็ ม่ สามารถทาไดอ้ ยา่ งแน่นอน เพราะอลั กรุ อานน้นั มาจาก อลั ลอฮฺ แต่เพียงผเู้ ดียวอยา่ งมิตอ้ งสงสยั อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽ ﮱﯓﯔﯕﯖﯗﯘ ﯙﯚﯛ ﯜﯝﯞﯟﯠﯡ ﯢﯣﭼ )38 :(يونس ความวา่ “หรือพวกเขากล่าวว่า เขา (มฮุ ัมมดั ) เป็นผ้ปู ั้ นแต่งขึน้ จงกล่าวเถิด (มฮุ ัมมดั ) พวกท่านจงนามาสักบทหนึ่งเยี่ยงนั้น และ จงเรียกร้องผ้ทู ่ีพ วกท่านสามารถนามาได้นอกจากอัลลอฮฺ หาก พวกท่านเป็นผ้สู ัจจริง” (ยนู ุส : 38) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานอีกวา่ ﭽﭑ ﭒ ﭓﭔﭕﭖﭗ ﭘﭙﭚ ﭛﭜﭝﭞﭟﭠﭡﭢ ﭣﭤﭼ )13 :(ىود ความวา่ “หรือพวกเขากล่าวว่า เขา (มฮุ ัมมดั )ได้ปลอมแปล ง อัลกุรอานขึน้ มา (มฮุ ัมมดั )จงกล่าวเถิด ดงั นนั้ พวกท่า นจงนามา สักสิบ สูเราะฮฺ ท่ีถกู ปลอมแปลงขึน้ ให้ได้อย่างอัลกุ รอาน และ พวกท่านจงเรียกผ้ทู ี่มีความส ามารถในหม่พู วกท่านอื่นจาก อัลลอฮฺ(ให้มาช่วย) ถ้าพวกท่านเป็นพวกสัจจริง” (ฮูด : 13)
148 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานอีกวา่ ﯢﯣ ﭽﯙﯚﯛﯜﯝﯞﯟ ﯠﯡ ﯤﯥﯦﭼ )49 :(القصص ความวา่ “จงกล่าวเถิด (มฮุ ัมมดั ) ดังนัน้ พวกท่านจ งนาคัมภีร์สัก เล่มหนึ่งจากอัลลอฮฺ ท่ีถกู ต้องเหมาะสมยิ่งกว่าท้ังสองเพ่ือฉันจะ ได้ปฏิบัติตามมนั หากพวกท่านเป็นผ้สู ัจจริง” (อลั เกาะศอ็ ศ : 49) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานอีกวา่ ﭪﭫ ﭬﭭﭮﭯ ﭰﭱﭲ ﭳﭴﭵﭶﭷﭸ ﭹ ﭺﭻﭼﭽﭾ ﭿﮀﮁ ﮂﮃﮄﮅ ﮆﮇﮈﮉﮊ ﮋﮌﮍﮎﮏﮐ ﮑﮒ ﮓ ﮔﮕﮖ ﮗﮘﮙﮚﮛﮜﮝ ﮞ ﮟﮠﮡﮢ ﮣﮤﮥ ﮦﮧﮨﮩﮪﮫﮬﮭﮮ ﮯ ﮰﮱ﮲﮳﮴ ﮵ ﮶﮷﮸﮹ ﮺﮻ﭼ )8-10 :(لاأحقاؼ ความวา่ “หรือพวกเขากล่าวว่า เขา(มฮุ ัมมดั )ได้ปั้นแต่งอัลกรุ อาน นั้น จงกล่าวเถิดมฮุ ัมมดั ถ้าฉันได้ปั้นแต่งอัลกุรอานขึน้ พวกท่าน กไ็ ม่มีอา นาจอันใดที่จะช่วยเหลือฉันได้จาก (การลงโทษของ ) อัลลอฮฺ พระองค์ทรงรู้ดีย่ิงถึงส่ิงท่ีพวกท่านกาลงั ง่วนอย่ใู นเรื่อง
149 นี้ พอเพียงแล้วที่พระองค์ทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพว กท่าน และพระองค์เป็นผ้ทู รงอภยั ผ้ทู รงเมตตาเสมอ (8)จงกล่าวเถิด มฮุ ัมมัด ฉันมิได้เป็นคนแรกในบรรดา เราะสูล และฉันไม่รู้ว่าจะ เกิดอะไรขึน้ แก่ฉันและแก่พวกท่าน ฉันมิได้ปฏิบัติต ามสิ่งใด นอกจากส่ิงที่ถกู วะฮีย์ให้แก่ฉัน และฉันมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็น ผ้ตู กั เตือนอันชัดแจ้ง(9)จงกล่าวเถิดมฮุ ัมมดั พวกท่านไม่เห็นดอก หรื อว่า ถ้าหากอัลกุรอานมาจากอัลลอฮฺ และพวกท่านปฏิเสธ อัลกุรอานนั้น ทั้งๆ ท่ีมีพยานคนหน่ึงจากวงศ์วานของ อิสรออีลเป็นพยานต่อลักษณะเช่นเดียวกนั (คือคัมภีร์อัตเตารอฮฺ ) แล้วเขากศ็ รัทธาแต่พวกท่านยงั ดือ้ ร้ันหยิ่ งยะโส แท้จริงอัลลอฮฺ จะไม่ทรงชีแ้ นะทางแก่หม่ชู นผ้อู ธรรม(10)” (อลั อะหฺกอฟ : 8-10) จากอายะฮฺอลั กรุ อานท้งั หมดขา้ งตน้ ไดส้ ื่อความหมายโดยรวมวา่ อลั กุรอานน้นั มา จากอลั ลอฮฺ อยา่ งแทจ้ ริง โดยท่ีไมม่ ีใครสามารถลอกเลียนแบบป้ันแตง่ ข้ึนใหค้ ลา้ ยกนั น้ีได้ และ ไมม่ ีคมั ภีร์ใดๆท่ีสัจจริง ไม่มีการบิดเบือนเปล่ียนแปลงนอกจากอลั กุรอานเทา่ น้นั เพราะอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอายะฮฺอ่ืนเพ่อื ยนื ยนั วา่ หากอลั กุรอานถูกสร้างมาจากผอู้ ื่นท่ีมิใช่อลั ลอฮฺ แลว้ ไซร้ ยอ่ มเกิดความขดั แยง้ อยา่ งแน่นอน อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﭻﭼﭽﭾﭿ ﮀ ﮁ ﮂﮃ ﮄﮅ ﮆ ﮇﮈﮉﭼ )82 :(النساء ความวา่ “พวกเขาไม่พิจารณาดูอัลกุรอานบ้างหรือ และหากว่า อัลกรุ อานมาจากผ้ทู ่ีไม่ใช่ อัลลอฮฺแล้วแน่นอนพวกเขากจ็ ะพบว่า ในน้นั มีความขดั แย้งกันมากมาย” (อนั -นิซาอฺ : 82)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347