250 ในอายะฮฺขา้ งตน้ ช้ีใหเ้ ห็นถึงการสอนสัง่ ใหม้ ีความอดทน หลงั จากท่ีไดป้ ฏิบตั ิ ภารกิจการสง่ั ใชใ้ หท้ าสิ่งท่ีชอบและหา้ มปรามในส่ิงท่ีมิชอบ เพ่อื เป็นเกราะป้ องกนั ใหก้ บั นกั ดาอีย์ ในการแบกรับความกดดนั ความด้ือดึง และความเกลียดชงั จากผไู้ ม่หวงั ดีผปู้ ฏิเสธศรัทธาท้งั หลาย จากการศึกษาคน้ ควา้ พบวา่ ท่านนบีนูหฺ ได้ใช้เทคนิคการดะอฺวะฮฺดว้ ยการ เลือกใชเ้ วลาที่เหมาะสมท้งั กลางวนั และกลางคืนอยา่ งสม่าเสมอ และตอ้ งมีความอดทน จาเป็นอยา่ ง ยงิ่ สาหรับนกั ดาอียใ์ นการเลือกใชเ้ วลาท่ีเหมาะสมกบั สถานการณ์ โอกาสของผถู้ ูกดะฮฺ และจะตอ้ งมี ความอดทนต่ออุปสรรคตา่ งๆ ผใู้ ดท่ีไมส่ ามารถทาภารกิจการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของเขาในช่วง กลางวนั ใหท้ าการดะอฺวะฮฺในช่วงกลางคืนตามความเหมาะสมของการปฏิบตั ิงานของพวกเขา ตาม ความเหมาะสมของผถู้ ูกดะอฺวะฮฺและการ เลือกใชค้ าพดู ที่เหมาะสมในสถานการณ์น้นั เพราะใน บางคร้ังผถู้ ูกดะอฺวะฮฺอาจจะมีภารกิจ เหนื่อยลา้ หรืออยใู่ นภาวะลาบาก คบั ขนั ก็เป็นได้ ดงั น้นั นกั ดา อียค์ วรเลือกเวลาท่ีเหมาะสมตามโอกาสของผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ และควรระมดั ระวงั การดะอฺวะฮฺใน ช่วงเวลาที่พวกเขาเบื่อหน่ายหรือมีความลาบาก 4.5.5 การดะอฺวะฮฺด้วยการเรียกร้องเชิญชวนอย่างลับๆและเปิ ดเผย ทา่ นนบีนูหฺ ไดพ้ ยายามใชร้ ูปแบบการดะอฺวะฮฺที่หลากหลายเพือ่ ใหก้ ลุ่มชน ของท่านหนั มาสนใจในสัจธรรมท่ีท่านกาลงั เรียกร้องเชิญชวนพวกเขา เม่ือทา่ นพบวา่ การเรียกร้อง เชิญชวนดว้ ยวธิ ีการต่างๆที่ไดป้ ฏิบตั ิมาก่อนหนา้ น้ีไม่ประสบผลสาเร็จ กลุ่มชนของทา่ นยงั ค งด้ือดึง ปฏิเสธศรัทธา และผนิ หลงั ใหก้ บั การเชิญชวน ทา่ นจึง อดทนและร้องเรียนตอ่ อลั ลอฮฺ พร้อมกนั น้นั ทา่ นยงั ใชเ้ ทคนิคการดะอฺวะฮฺดว้ ยการเรียกร้องเชิญชวนอยา่ งลบั ๆและเปิ ดเผย อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯓﯔﯕﯖﯗﯘ ﯙ ﯚﭼ )9-8 :(نوح
251 ความวา่ “คร้ันแล้วข้าพระองค์ได้เรียกร้องเชิญชวนพวกเขาอย่าง เปิ ดเผย(8) แล้วข้าพระองค์กไ็ ด้ประกาศแก่พวกเขาอย่างเปิ ดเผย อีกทั้งข้าพระองค์ยงั ได้บอกกล่าวแก่พวกเขาอย่างลับ ๆ อีกด้วย (9)” (นูหฺ: 8-9) มุฮมั มดั สัยยดิ ฏอ็ นฏอวยี ์ (Muhammad Sayyid Ṭanṭāwiy, n.d.: 15/115) ไดก้ ล่าว อรรถาธิบายอายะฮ ขา้ งตน้ วา่ “แทจ้ ริง ท่านน บีนูหฺ มีความหวงั วา่ การดะอฺวะฮฺของเขาจะ ประสบผลสาเร็จ และทา่ นยงั รู้ถึงสภาพของกลุ่มชนของท่านเป็นอยา่ งดี ท่านจึงทาการดะอฺ วะฮฺพวก เขาอยา่ งเปิ ดเผย บางคร้ังทาการดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆ และบางคร้ังทาการดะอฺวะฮฺอยา่ งเปิ ดเผยและ ลบั ๆควบคู่กนั ” วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/153) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบาย อายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “ท่านนบีนูหฺ ไดก้ ล่าววา่ แทจ้ ริงขา้ พระองคไ์ ด้ ใชค้ วามหลากหลายในการ ดะอฺวะฮฺ โดยการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของขา้ พระองคส์ ู่การศรัทธา และเคารพภกั ดีอลั ลอฮฺ อยา่ ง เปิ ดเผย หลงั จากน้นั ขา้ พระองคไ์ ดท้ าการดะอฺวะฮฺควบท้งั สองรูปแบบคือการประกาศอยา่ งชดั แจง้ และโดยทางลบั และความหมายจาก อายะฮฺท้งั สองขา้ งตน้ ไดช้ ้ีใหเ้ ห็นวา่ ก ารดะอฺวะฮฺของท่านนบี น้นั มี 3 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ที่ 1 คือ ข้นั เริ่มตน้ โดยการท่ีท่านนบีนูหฺ ไดก้ ล่าวตกั เตือนกลุ่มชนของ ท่านอยา่ งลบั ๆ ท้งั กลางคืนและกลางวนั แต่ผลท่ีไดร้ ับคือการหลบหนีออกห่างจากท่าน ระดบั ที่ 2 คือ ข้นั ต่อเน่ือง โดยการท่ีทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการกล่าวตกั เตือนอยา่ ง เปิ ดเผย เพราะการดะอฺวะฮฺบรรดาบุคคลช้นั นาในหม่พู วกเขาน้นั ตอ้ งพานพบความเหนื่อยยาก การ โตเ้ ถียงอนั มากมาย และการกล่าวร้ายใชว้ าจาหยาบคายแขง็ กระดา้ ง และไมเ่ กิดผลตอบรับใดๆจาก พวกเขาเหล่าน้นั ระดบั ที่ 3 คือ ข้นั ผสม โดยการท่ีท่านนบีนูหฺ ไดก้ ล่าวตกั เตือนกลุ่มชนของ ทา่ นโดยการรวมข้นั ตอนที่หน่ึงและสองควบคู่กนั นนั่ คือการดะอฺวะฮฺอยา่ งเปิ ดเผยโดยการประกาศ และการดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆ และการใชค้ าวา่ ﭽﯓﭼเพื่อบ่งบอกถึงความแตกต่างของสถานการณ์ และความหลากหลายของการใชร้ ูปแบบการดะอฺวะฮฺ เพราะการดะอฺวะฮฺอย่ างเปิ ดเผยยอ่ มหนกั กวา่ การดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆ และการควบรูปแบบท้งั สองยอ่ มหนกั กวา่ การทาการดะอฺวะฮฺเพียงรูปแบบ ใดรูปแบบหน่ึง
252 ข้นั ตอนและรูปแบบการดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ มีความคลา้ ยคลึงกบั การ ดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีมุฮมั มดั ท่ีไดป้ ฏิบตั ิภารกิจการดะอฺวะฮฺของทา่ นท่ีมั กกะฮฺและคาบสมุทร อาหรับ และจุดยนื ของชาวกุร็อยชฺผปู้ ฏิเสธศรัทธาก็มีความคลา้ ยคลึงกบั กลุ่มชนของท่านนบีนูหฺ คือต่างไมเ่ ช่ือฟัง และไมต่ อบรับการดะอฺวะฮฺจากท่านนบีของพวกเขา” อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﮭﮮﮯ ﮰﮱ﮲﮳ ﮴﮵ ﮶ ﮷﮸ﭼ )26 :(فصلت ความวา่ “และบรรดาผ้ปู ฏิเสธศรัทธาได้กล่าวว่า พวกท่านอย่า ฟังอัลกรุ อานนี้ แต่จงทาเสียงอึกทึกในขณะน้นั หวงั ว่าพวกท่าน จะมีชัยชนะ” (ฟุศศิลตั : 26) จากการศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั พบวา่ หลงั จากท่ีกลุ่มชนของท่านนบีนูหฺ ปฏิเสธการ ดะอฺวะฮฺของท่าน ท่านก็ยงั พยายามหาเทคนิค ดะอฺวะฮฺดว้ ยรูปแบบ อื่นๆท่ีหลากหลาย เพราะทา่ น คาดหวงั วา่ ดว้ ยรูปแบบใดรูปแบบหน่ึงในการ ดะอฺวะฮฺที่พวกเขาอาจตอบรับการศรัทธาและหนั สู่ ทางแห่งสจั ธรรม ทา่ น จึงทาการดะอฺวะฮฺ อยา่ งลบั ๆ ท้งั กลางคืนและกลางวนั แตพ่ วกเขายงั หนีห่าง ออกจากทา่ น ท่านจึงทาการดะอฺวะฮฺตอ่ ไปอยา่ งเปิ ดเผย แต่ไม่ประสบผล ทา่ นจึง รวมข้นั ตอนที่หน่ึง และสองควบคูก่ นั นนั่ คือการดะอฺวะฮฺอยา่ งเปิ ดเผยโดยการป ระกาศและการดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆซ่ึง การควบรูปแบบท้งั สองยอ่ มหนกั กวา่ การทาการดะอฺวะฮฺเพยี งรูปแบบใดรูปแบบหน่ึง 4.5.6 การดะอวฺ ะฮฺด้วยการชี้แนะให้ขออภยั โทษ หลงั จากท่ีทา่ นนบีนูหฺ ไดเ้ ชิญชวนกลุ่มชนของท่านดว้ ย การตกั เตือน ใช้ คาพดู ที่สุภาพออ่ นโยน และโนม้ นา้ วจิตใจของพวกเขาดว้ ยผลดีต่างๆ หากพวกเขาเชื่อฟังและปฏิบตั ิ ตาม ท้งั การดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆและเปิ ดเผยท้งั กลางวนั และกลางคืน แต่กลุ่มชนของท่านหาไดเ้ ช่ือฟัง
253 ไม่ ยงิ่ ไปกวา่ น้นั พวกเขาต่างตอ่ ตา้ นและปฏิเสธที่จะตอบรับการดะอฺวะฮฺของทา่ น ท่านจึงพยายาม หารูปแบบการดะฮฺวะฮฺที่หลากหลาย โดยการ ใชเ้ ทคนิคการดะอฺวะฮฺดว้ ยการ ช้ีแนะพวกเขาให้ ทา การขออภยั โทษต่ออลั ลอฮฺ ในความด้ือร้ันของพวกเขา อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯛﯜ ﯝﯞ ﰀ ﰁﰂ ﭼ )10 :(نوح ความวา่ “ข้าพระองค์ได้กล่าวว่า พวกท่านจงขออภัยโทษต่อพระ เจ้าของพวกท่านเถิด เพราะแท้จริงพระองค์เป็นผ้ทู รงอภัยโทษ อย่างแท้ จริ ง” (นูหฺ: 10) วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/154) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบาย อายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “ทา่ นนบี นูหฺ ไดก้ ล่าววา่ ขา้ พระองคไ์ ดก้ ล่าวแก่กลุ่มชนเหล่าน้นั วา่ จงขอ จากอลั ลอฮฺ ใหท้ รงอภยั โทษต่อความผดิ บาปที่ผา่ นมาดว้ ยเจตนาอิคลาศบริสุทธ์ิใจ และจง เตาบะฮฺตอ่ พระองคจ์ ากการปฏิเสธศรัทธาและทาความผดิ ในอดีต แทจ้ ริงพระเจา้ ของพวกทา่ น ผู้ ทรงสร้างพวกทา่ น ผู้ เป็นพระเจา้ ของพวกท่านอยา่ งแทจ้ ริง คือ ผทู้ รงอภยั โทษอยา่ งมากมายใหก้ บั ผกู้ ระทาผดิ ที่กลบั เน้ือกลบั ตวั การขออภยั โทษน้นั จะทาใหเ้ กิดความจาเริญและมีการเพ่มิ พนู มีการ พฒั นาอยา่ งมากมาย ส่วนความยากจนขดั สน ความแหง้ แลง้ ความเจบ็ ป่ วย และความกลวั เกิดจาก ความผดิ บาป หากไดท้ า การสานึกผดิ กลบั เน้ือกลบั ตวั และขออภยั โทษ ความทุกขย์ ากและบท ทดสอบก็จะหายไป และความดีและการเพิ่มพนู ส่ิงดีๆกจ็ ะกลบั มาอีกคร้ัง” ทา่ นนบีนูหฺ พยายามที่จะใชเ้ ทคนิคในการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของท่านใหม้ ี ความหลากหลายเพื่อวา่ พวกเขาจะใหค้ วามสนใจในการเชิญชวนรูปแบบใดรูป แบบหน่ึง แมว้ า่ พวก เขาจะยงั ด้ือร้ัน ปฏิเสธการศรัทธา และใชว้ ธิ ีการต่างๆ เพ่อื ไม่ใหก้ ารดะอฺวะฮฺเขา้ สู่จิตใจของพวกเขา ทา่ นก็ไม่ยอ่ ทอ้ ไม่หมดหวงั ในหนา้ ท่ีของท่าน และท่านไดพ้ ยายามท่ีจะหาช่องทางที่จะโนม้ นา้ วเชิญ ชวนพวกเขา เพ่อื ใหพ้ วกเขาไดร้ ับความดีตอ่ ไป โดยทาการ เรียกร้องช้ีแนะใหพ้ วกเขาขออภยั โทษ
254 ตอ่ อลั ลอฮฺ อยา่ งจริงใจ และใหค้ วามเป็นเอกภาพแด่พระองค์ เพราะพระองคเ์ ป็นผทู้ รงอภยั โทษ ในความผดิ ท้งั หลายของปวงบา่ ว เพอ่ื เป็นการยนื ยนั วา่ สิ่งที่ทา่ นนบีนูหฺ ไดส้ ญั ญากบั กลุ่มชนของท่านวา่ อลั ลอฮฺ จะทรงอภยั โทษในความผดิ บาปต่างๆ หากพวกเขาสานึกผดิ และไดท้ าการขออภยั โทษ กลบั เน้ือกลบั ตวั ในความผดิ พลาดในอดีต จึงขอกล่าวหลกั ฐานอ่ืนๆจากอลั กุรอานซ่ึงอลั ลอฮฺ ได้ กล่าวไวใ้ นอายะฮฺต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﮌﮍ ﮎﮏ ﮐﮑﮒﮓﮔﮕﮖ ﮗﮘﭼ )25 :(الشورل ความวา่ “และพระองค์คือผ้ทู รงรับการขออภยั โทษจากปวงบ่าว ของพระองค์ และทรงอภัยจากความผิดท้ังหลายและพระองค์ ทรงรอบรู้ส่ิงที่พวกเจ้ากระทา” (อชั ชูรอ: 25) จากอายะฮฺขา้ งตน้ ช้ีใหเ้ ห็นวา่ อลั ลอฮฺ น้นั คือผทู้ รงรับการขออภยั โทษจากปวง บา่ วของพระองค์ และพระองคท์ รงอภยั โทษในความผดิ บาปของบา่ วท่ีสานึกผดิ ท้งั หลาย และ แน่นอนหากบา่ วของพระองคจ์ ะทาการขออภยั โทษหรือไม่ พระองคก์ ย็ งั ทรงรอบรู้ในส่ิงท่ีบ่าวได้ กระทาท้งั หมดแลว้ และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานอีกวา่ ﭽﮭﮮ ﮯﮰﮱ﮲﮳ ﮴﮵ﭼ )104 :(التوبة
255 ความวา่ “พวกเขาไม่รู้ดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺ นั้นทรงรับการ สานึกผิดจากปวงบ่าวของพระองค์” (อตั -เตาบะฮฺ: 104) อายะฮฺขา้ งตน้ เป็นการยนื ยนั วา่ อลั ลอฮฺ ทรงตอบรับการอภยั โทษจาก ปวงบา่ ว ของพระองค์ หากพวกเขาสานึกผดิ และทาการขออภยั โทษตอ่ พระองค์ จากการคน้ ควา้ วจิ ยั พบวา่ ท่านนบีนูหฺ มีพยายามอยา่ งยงิ่ ที่จะใชเ้ ทคนิคในการ ดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นเพือ่ โนม้ นา้ วเชิญชวนพวกเขา ใหเ้ คารพภกั ดีตอ่ อลั ลอฮฺ กลบั เน้ือกลบั ตวั ดว้ ยการขออภยั โทษจากพระองค์อยา่ งจริงใจ เพราะพระองคเ์ ป็นผทู้ รงอภยั โทษ และตอบรับการ สานึกผดิ ท้งั หลายจากปวงบ่าว 4.5.7 การดะอฺวะฮฺด้วยการบอกข่าวดี ในสูเราะฮฺนูหฺไดก้ ล่าวถึงการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ตอ่ กลุ่มชนของท่าน ใหท้ าการเคารพภกั ดีอลั ลอฮฺ และศรัทธามน่ั ตอ่ พระองค์ หลงั จากท่ีทา่ นนบีนูหฺ ไดช้ ้ีแนะ กลุ่มชนของท่านใหส้ านึกผดิ และขออภั ยโทษต่ออลั ลอฮฺ แลว้ ทา่ นจึงทาการดะอฺวะฮฺตอ่ โดยใช้ เทคนิคการดะอฺวะฮฺดว้ ยการบอกข่าวดีที่จะเกิดข้ึน 5 ประการหากพวกเขาขออภยั โทษตอ่ พระองค์ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﭑ ﭒﭓﭔﭕﭖﭗﭘﭙ ﭚ ﭛﭜﭝ ﭞﭟﭼ )12-11 :(نوح ความวา่ “พระองค์จะทรงหล่งั นา้ ฝนอย่างมากมายแก่พวกท่าน (11) และพระองค์จะทรงเพิ่มพูนทรัพย์สินและลกู หลานแก่พวก ท่าน และจะทรงทาให้มีสวนมากหลายแก่พวกท่าน และจะทรง ทาให้มีลานา้ มากหลายแก่พวกท่าน(12)” (นูหฺ: 11-12)
256 อลั กุรฺฏุบีย์ (al-Qurtubiy,2005: 17-18/210-211) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “ทา่ นมุกอติลกล่าววา่ เม่ือกลุ่มชนของทา่ นนบีนูหฺ ไดป้ ฏิเสธต่อท่านเป็นเวลายาว นาน อลั ลอฮฺ จึงทรงไมใ่ หฝ้ นตกทาใหเ้ กิดความแหง้ แลง้ และทรงทาใหผ้ หู้ ญิงในหมู่พวกเขาเป็น หมนั ระยะเวลา 40 ปี และสวนรวมถึงส่ิงเพาะปลูกผลผลิตของพวกเขาถูก ทาลาย พวกเขาจึ งไปหา ท่านนบีนูหฺ ดงั น้นั ทา่ นจึงกล่าววา่ จงขออภยั โทษตอ่ พระเจา้ ของพวกทา่ นจากการต้งั ภาคีของ พวกทา่ นและพระองคผ์ ทู้ รงอภยั โทษผทู้ รงเปิ ดประตูแห่งความโปรดปราน” อรั ฺรอซีย์ (al-Raziy,1981: 30/137) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบายวา่ “การเคารพเช่ือฟังอยู่ เป็นนิจเป็นสาเหตุทาใหป้ ระตแู ห่งความดีถูกเปิ ดออก ดว้ ยเหตุผลดงั ตอ่ ไปน้ี (หน่ึง) การปฏิเสธ ศรัทธาเป็นสาเหตุท่ีทาใหโ้ ลกพั งทลาย เฉกเช่นที่ไดม้ ีการกล่าวถึงการปฏิเสธศรัทธาของชนชาว คริสต์ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﯙﯚﯛﯜﯝﯞﯟ ﯠﯡﯢﯣﯤﯥ ﯦﯧﭼ )91-90 :(مًرن ความวา่ “ช้ันฟ้ าท้ังหลายแทบจะพังทลายลงมาและแผ่นดินก็ แทบจะถล่มลึกลงไป และขนุ เขาท้ังหลายกแ็ ทบจะยบุ ทลายลงมา เป็นเสี่ยงๆ(90) ท่ีพวกเขาอ้างพระบตุ รแก่พระผ้ทู รงกรุณาปรานี (91)” (มรั ยมั : 90-91) ในเม่ือการปฏิเสธศรัทธาเป็นสาเหตุ ทาใหโ้ ลกพงั ทลาย แน่นอนอยา่ งยง่ิ วา่ การ ศรัทธาเป็นสาเหตุแห่งการสร้างโลกใหน้ ่าอยู่ (สอง) อายะฮฺขา้ งตน้ เป็นการยนื ยนั อายะฮฺในสูเราะฮฺ นูหฺที่กล่าวถึงผลดีของการเช่ือฟังและปฏิบตั ิตาม เช่นเดียวกบั อายะฮฺตอ่ ไปน้ี
257 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﭑﭒﭓﭔﭕ ﭖﭗﭘﭙﭚ ﭛﭜﭝﭞ ﭟﭠﭡﭢﭼ )96 :(لاأعراؼ ความวา่ “และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธากันและมีความยา เกรงแล้วไซร้ แน่นอนเรากเ็ ปิ ดให้แก่พวกเข าแล้ว ซ่ึงบรรดา ความเพิ่มพูนจากฟากฟ้ าและแผ่นดินแต่ทว่าพวกเขาปฏิเสธ ดังนัน้ เราจึงได้ลงโทษพวกเขา เนื่องด้วยส่ิงท่ีพวกเขาขวนขวาย ไว้” (อลั -อะอฺรอฟ: 96) และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานอีกวา่ ﭽﭞﭟﭠﭡﭢﭣﭤﭥﭦﭧ ﭨ ﭩ ﭪﭫﭬﭭﭮﭯﭰﭱﭲ ﭳﭴﭵﭶﭷﭸﭼ )66 :ل(ادائدة ความวา่ “และหากว่าเขาเหล่านัน้ ได้ตารงไว้ซึ่งอัต- เตารอต และอัล- อินญีล และสิ่งที่ถกู ประทานลงมาแก่พวกเขาจากพระ เจ้าของพวกเขาแล้ว แน่นอนพวกเขากไ็ ด้บริโภคไปแล้วที่มาจาก เบือ้ งบนของพวกเขา และที่มาจา กภายใต้เท้าของพวกเขา ในหมู่ พวกเขาน้ันมีกล่มุ หนึ่งที่มีความยตุ ิธรรม และมากมายในหม่พู วก เขาน้ันช่างเลวร้ายจริง ๆ ส่ิงท่ีพวกเขากระทากนั ” (อลั -มาอิดะฮฺ: 66)
258 และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานอีกวา่ ﭽﭣﭤﭥﭦ ﭧ ﭨﭩﭪﭼ )16 :(لاجن ความวา่ “และหากพวกเขาธารงมน่ั อย่บู นแนวทางที่เท่ียงธรรม แน่นอนเรากจ็ ะให้พวกเขามีริซกีกว้างขวาง” (อลั ญิน: 16) และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานอีกวา่ ﭽﮚﮛ ﮜﮝﮞ ﮟﮠﮡ ﮢ ﮣﮤ ﮥﮦﭼ )3-2 :(الطلاؽ ความวา่ “และผ้ใู ดยาเกรงอัลลอฮฺ พระองค์กจ็ ะทรงหาทางออก ให้แก่เขา(2) และจะทรงประทานปัจจัยยงั ชีพแก่เขาจากที่ท่ีเขา มิได้คาดคิด(3)” (อฏั เฏาะล๊าก: 2-3) และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานอีกวา่ ﭽﮰﮱ ﮲ ﮳ ﮴﮵﮶﮷﮸﮹﮺﮻﮼ ﮽﮾ ﮿ﭼ )132 :(طو ความวา่ “และเจ้าจงใช้ครอบครั วของเจ้าให้ทาละหมาด และจง อดทนในการปฏิบัติ เรามิได้ขอเครื่องยงั ชีพจากเจ้า เราต่างหาก เป็นผ้ใู ห้เครื่องยงั ชีพแก่เจ้า และบ้นั ปลายนั้นสาหรับผ้ทู ่ีมีความ ยาแกรง” (ฏอฮา: 132)
259 (สาม)อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﭳ ﭴﭵ ﭶ ﭷﭸ ﭹﭼ )56 :(الذاريا ت ความวา่ “และข้ามิได้สร้างญิน และมนษุ ย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพ่ือ เคารพภกั ดีต่อข้า” (อซั ซาริยาต: 56) และหากพวกเขาไดป้ ฏิบตั ิในส่ิงท่ีถูกส่ังใชแ้ ลว้ การไดร้ ับส่ิงที่พวกเขาตอ้ งการบน โลกดุนยากเ็ ป็นผลพลอยไดจ้ ากการเช่ือฟังและปฏิบตั ิตามท้งั สิ้น” มนุษยน์ ้นั ชอบที่จะใหค้ วามดีและความกรุณาโปรดปรานเห็นผลอยา่ งรวดเร็วใน เวลาอนั ใกล้ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯰﯱﯲﯳ ﯴﯵﯶﯷﯸﯹ ﯺﯻﭼ )13 :(الصف ความวา่ “และส่ิงอ่ืนๆอีกที่พวกเจ้ารักชอบมนั การช่วยเหลือ จากอัลลอฮฺ และการพิชิ ตอันใกล้นี้ และจงแจ้งข่าวดีแด่บรรดาผู้ ศรัทธาเถิด” (อศั ศอ็ ฟ: 13) ดงั น้นั อลั ลอฮฺ จึงแจง้ ใหก้ ลุ่มชนของท่านนบีนูหฺ ทราบวา่ หากพวกเขา ศรัทธาตอ่ พระองค์ พระองคจ์ ะทรงมอบข่าวดีท้งั ในอาคิเราะฮฺและดุนยา โดยอายะฮฺในสูเร าะฮฺนูหฺ ไดก้ ล่าวถึงผลประโยชนบ์ นโลกดุนยา 5 ประการ ตอ่ ไปน้ี 1. พระองคจ์ ะทรงหลง่ั น้าฝนอยา่ งมากมาย ซ่ึงนามาซ่ึงความอุดมสมบรู ณ์
260 2. พระองคจ์ ะทรงประทานทรัพยส์ ินเงินทองและเพิ่มพนู อยา่ งมากมาย 3. พระองคจ์ ะทรงเพิม่ พนู ลูกหลานอยา่ งมากมาย ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติข อง มนุษยแ์ ละความตอ้ งการของพวกเขา 4. พระองคจ์ ะทรงทาใหม้ ีสวนอนั มากหลายท่ีเตม็ ไปดว้ ยตน้ ไมแ้ ละพชื ผล ซ่ึงจะ ทาใหเ้ กิดผลดีแก่เจา้ ของ 5. พระองคจ์ ะทรงใหล้ าน้าอนั มากหลายเพื่อใชใ้ นการรดน้าพืชผลและสิ่ง เพาะปลูกกที่อยใู่ นสวนของพวกเขา อรั ฺรอซีย์ (al-Raziy,1981: 30/137) ไดก้ ล่าววา่ “ไดม้ ีชายคนหน่ึงมาร้องเรียนตอ่ ทา่ นหะซนั อลั บศั รีย์ เก่ียวกบั ความแหง้ แลง้ ท่านจึงกล่าววา่ ท่านจงขออภยั โทษต่ออลั ลอฮฺ และ อีกคนหน่ึงไดร้ ้องเรียน เก่ียวกบั ความยากจน และอีกคนเก่ียวกบั ลูกหลานนอ้ ย และอีกคนเกี่ยวกบั ที่ดินมีความเจริญเติบโตนอ้ ย ท่านจึงไดส้ ั่งใหท้ ้งั หมดขออภยั โทษ มีคนจากบางกลุ่มไดก้ ล่าวแก่ท่าน วา่ ผคู้ นมาหาท่านและร้องเรียนเรื่องต่างๆ ท่านกลบั สง่ั ใหท้ ้งั หมดขออภยั โทษ ท่านจึงอ่านอายะฮฺ (สู เราะฮฺนูหฺ: 11-12)ใหก้ บั เขา” 4.5.8 การดะอฺวะฮฺด้วยการให้ใคร่ครวญถงึ ความยง่ิ ใหญ่ของอลั ลอฮฺ ทา่ นนบีนูหฺ ไดพ้ ยายามในการหาเทคนิคการดะอฺวะฮฺในรูปแบบใหม่ เม่ือ กลุ่มชนของท่านมีทา่ ทีปฏิเสธรูปแบบท่ีไดด้ ะอฺวะฮฺมาก่อนแลว้ ทา่ นจึงดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของท่านให้ พินิจพจิ ารณาใคร่ครวญถึงความยง่ิ ใหญ่ของอลั ลอฮฺ เพอื่ วา่ พวกเขาจะไดศ้ รัทธา อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﭠﭡ ﭢ ﭣﭤ ﭥ ﭦ ﭧ ﭨ ﭩ ﭪﭼ )14-13 :(نوح ความวา่ “ทาไมพวกท่านจึงไม่สานึกถึงความย่ิงใหญ่ของอัลลอฮฺ (13) และโดยแน่นอนพระองค์ทรงสร้างพวกท่านต ามลาดบั ขน้ั ตอน(14)” (นูหฺ: 13-14)
261 วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/154-155) ไดก้ ล่า ว อรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “หมายถึง พวกเจา้ ไมเ่ กรงกลวั ถึงความยงิ่ ใหญ่ของอลั ลอฮฺ และ ศรัทธาต่อพระองคแ์ ละเ คารพภกั ดีตอ่ พระองคเ์ พยี งองคเ์ ดียวกระน้นั หรือ ท้งั ๆท่ีพระองคค์ ือผทู้ รง สร้างพวกทา่ นเป็นลาดบั ข้นั ตอน เร่ิมจากการเป็นเช้ืออสุจิ หลงั จากน้นั เป็นกอ้ นเลือด หลงั จากน้นั เป็นกอ้ นเน้ือ หลงั จากน้นั เป็นกระดูก หลงั จากน้นั ไดห้ ุม้ กระดูกดว้ ยเน้ือ และหลงั จากน้นั ไดเ้ ป่ า วญิ ญาณกลายเป็นอีกรูปร่างหน่ึง โดยเริ่มจากการวยั ทารก หลงั จากน้นั วยั รุ่น หลงั จากน้นั วยั กลางคน และหลงั จากน้นั วยั ชรา และหากพวกเจา้ ใคร่ครวญยงั มีขอ้ บกพร่องสาหรับพระองคใ์ นการสร้าง พวกเจา้ ดว้ ยลาดบั ที่ซบั ซอ้ นอีกกระน้นั หรือ” ทา่ นมุฮมั มดั ซยั ยดิ ฏอ็ นฏอวยี ์ (Muhammad Sayyid Tantawiy, n.d.: 15/118-119) ไดก้ ล่าวหลกั ฐานถึงการอรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “การสร้างมนุษยท์ ี่อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวไวใ้ น อายะฮฺขา้ งตน้ มีหลกั ฐานยนื ยนั ดงั น้ี อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽ ﮕﮖﮗﮘﮙﮚﮛﮜﮝﮞ ﮟﮠﮡﮢﮣﮤﮥﮦﮧ ﮨ ﮩﮪﮫﮬﮭﮮﮯ ﮰﮱ﮲﮳ ﮴﮵﮶﮷﮸﮹﮺ﭼ )14-12 :ل(ادؤمنوف ความวา่ “และขอสาบานว่า แน่นอนเราได้สร้างมนุษย์มาจากธาตุ แท้ของดิน (12) แล้วเราทาให้เขาเป็ นเชือ้ อสุจิ อย่ใู นที่พักอัน มนั่ คง (คือมดลูก )(13) แล้วเราได้ทาให้เชื้ออสุจิกลายเป็นก้อน เลือด แล้วเราได้ทาให้ก้อนเลือดกลายเป็นก้อนเนือ้ แล้วเราได้ทา ให้ก้อนเนือ้ กลายเป็นกระดูก แล้วเราหุ้มกระดูกน้ันด้วยเนือ้ แล้ว เราได้เป่ าวิญญาณให้เขากลายเป็นอีกรูปร่างหนึ่ง ดั งนน้ั อัลลอฮฺ ทรงจาเริญย่ิง ผ้ทู รงเลิศแห่งปวงผ้สู ร้าง(14)” (อลั มุอฺมินูน: 12-14)
262 และอลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานอีกวา่ ﭽﭷﭸﭹﭺﭻﭼﭽﭾﭿﮀﮁ ﮂﮃ ﮄﮅﮆ ﮇ ﮈﮉﮊﮋﮌﮍﮎﮏ ﮐ ﮑﮒﭼ )54 :(الركـ ความวา่ “อัลลอฮฺ ทรงเป็นผ้สู ร้างพวกเจ้าในสภาพอ่อนแอ แล้ว หลงั จากความอ่อนแอพระองค์กท็ รงทาให้มีความแขง็ แรงแล้ว หลังจากความแขง็ แรงทรงทาให้อ่อนแอ และชราภาพ พระองค์ ทรงสร้างส่ิงที่พระองค์ทรงประสงค์และพระองค์เป็นผ้ทู รงรอบ รู้ ผ้ทู รงอานุภาพ” (อรั รูม: 54) หลงั จากที่ไดเ้ รียกร้องใหม้ ีการใคร่ครวญถึงความยงิ่ ใหญข่ องอลั ลอฮฺ ในการ สร้างมนุษย์ ท่านนบีนูหฺ ยงั ไดเ้ รียกร้องเชิญชวนใหม้ ีการใคร่ครวญถึงความยงิ่ ใหญ่ของ พระองคใ์ นดา้ นอื่นอีก เพ่ือใหพ้ วกเขาศรัทธา” อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﭫﭬﭭ ﭮﭯﭰﭱﭲﭳﭴﭵ ﭶﭷﭸﭹ ﭺﭼ )16-15 :(نوح ความวา่ “พวกเจ้าไม่เห็นดอกหรือว่าอัลลอฮฺทรงสร้างชั้นฟ้ าทั้ง เจด็ เป็นช้ันๆอย่างไร (15) และทรงทาให้ดวงจันทร์ในชั้นฟ้ า เหล่าน้นั มีแสงสว่าง และทรงทาให้ดวงอาทิตย์มีแสงจ้า(16)” (นูหฺ: 15-16)
263 วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/155) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบาย อายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “หมายถึง พวกเจา้ ไมเ่ ห็นและไมด่ ูสิ่งท่ีอยเู่ บ้ืองบนของพวกเจา้ วา่ อลั ลอฮฺ ได้ สร้างทอ้ งฟ้ าท้งั เจด็ ช้นั เรียงกนั ไดอ้ ยา่ งไร และพระองคท์ รงสร้างดวงจนั ทร์ประดบั บนฟากฟ้ า ซ่ึง เป็นช้นั ฟ้ าของโลกดุนยาที่เราสามารถมองเห็นได้ เพอ่ื ส่องแสงเปล่งประกายใหก้ บั โลก โดยที่มนั ไม่ มีความร้อนระอุ และพระองคท์ รงสร้างดวงอาทิตยเ์ ปรียบเสมือนแสงไฟท่ีใหค้ วามสวา่ งในยามที่ ความมืดแห่งราตรีไดล้ บั ขอบฟ้ า และมนั ไดแ้ ผค่ วามร้อนและแสงแดดในเวลากลางวนั ดวงจนั ทร์น้นั มีขา้ งข้ึนขา้ งแรมทาใหเ้ ราสามารถคานวณจานวนเดือน และดวง อาทิตยน์ ้นั สามารถคานวณจานวนปี ได้ ซ่ึงบ่งบอกถึงความยงิ่ ใหญข่ องอลั ลอฮฺ ” อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯗﯘﯙﯚﯛﯜﯝ ﯞﯟ ﯠﯡﯢ ﯣﯤﯥﯦﯧﯨﯩ ﯪﯫ ﯬﯭﯮﯯﯰﭼ )5 :(يونس ความวา่ “พระองค์ทรงทาให้ดวงอาทิตย์มีแสงจ้า และดวงจันทร์ มีแสงนวล และทรงกาหนดให้มนั มีทางโคจร เพ่ือพวกท่านจะไ ด้ รู้จานวนปี และการคานวณ อัลลอฮฺ มิได้ทรงสร้างสิ่งเหล่านี้ เว้น แต่ด้วยความจริง พระองค์ทรงจาแนกสัญญาณต่างๆ สาหรับหมู่ ชนท่ีมีความรู้” (ยนู ุส: 5) มุฮมั มดั ซยั ยดิ ฏอ็ นฏอวยี ์ (Muhammad Sayyid Tantawiy, n.d.: 15/119-120) ได้ กล่าวอรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “อุละมาอบ์ างทา่ นไดก้ ล่าววา่ การท่ีอลั ลอฮฺ ทรงสร้างดวง จนั ทร์มีแสงนวล บ่งบอกวา่ แสงสวา่ งของดวงจนั ทร์มิใช่มาจากดวงจนั ทร์โดยตรง เพราะดวงจนั ทร์ น้นั มืดสนิท แตแ่ สงสวา่ งท่ีมาจากดวงจนั ทร์น้นั มีปฏิกิริยามาจากแสงจากดวงอาทิตย์ และการรับ แสงจากดวงอาทิตยน์ ้นั ต่างกนั รับเพยี งบางส่วนหรือเตม็ ส่วน ซ่ึงจะทาใหเ้ กิดจนั ทร์เส้ียว หรือจนั ทร์
264 เตม็ ดวง และตรงกนั ขา้ มกบั ดวงอาทิตยท์ ่ีอลั ลอฮฺ ทรงสร้างใหม้ ีแสงจา้ เพราะแสงจากดวง อาทิตยเ์ ป็นแสงที่มาจากมนั โดยตรง ซ่ึงส่งผลในการส่องแสงใหก้ บั แผน่ ดินและดวงจนั ทร์” หลงั จากน้นั ทา่ นนบีนูหฺ ยงั พยายามโนม้ นา้ วกลุ่มชนของท่านจากการ เรียกร้องใหพ้ วกเขาใคร่ครวญความยง่ิ ใหญ่ของอลั ลอฮฺ ในการสร้างช้นั ฟ้ า ดวงอาทิตย์ และดวง จนั ทร์ เพื่อช้ีใหพ้ วกเขาเห็นถึงหลกั ฐานความเอกะของพระองค์ และความยง่ิ ใหญท่ รงมีอานาจของ พระองค์ สู่ การเรียกร้องพวกเขาใหใ้ คร่ครวญพิจารณาถึงการสร้างมนุษย์ การเริ่มตน้ บงั เกิดมนุษย์ และการกลบั คืนเพื่อไปยงั โลกหลงั ความตาย” (Muhammad Sayyid Tantawiy, n.d.: 15/120) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﭼﭽﭾ ﭿﮀﮁﮂﮃ ﮄﮅ ﮆ ﮇﭼ )18-17 :(نوح ความวา่ “และอัลลอฮฺทรงบงั เกิดพวกท่านจากแผ่นดินเช่นพืชผกั (17) แล้วจะทรงให้พวกท่านกลบั คืนสู่ในแผ่นดิน และจะทรงให้ พวกท่านออกมาอีกเพ่ือคืนชีพ(18)” (นูหฺ: 17-18) วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/155-156) ไดก้ ล่าว อรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “หมายถึง และอลั ลอฮฺ ทรงบงั เกิดบิดาแห่งประชาชาติท่านนบี อาดมั จากดิน และทรงทาใหม้ ีการเจริญเติบโตเช่นพชื ผกั และทรงทาใหก้ ารเจริญเติบ โตของ พวกเจา้ เกี่ยวขอ้ งกบั อาหารที่เป็นผลผลิตมาจากดิน หลงั จากน้นั พระองคท์ รงทาใหพ้ วกเจา้ กลบั คืนสู่ ดินเมื่อพวกเจา้ เสียชีวติ และส่วนต่างๆของร่างกายเริ่มผพุ งั เป็นผยุ ผงจนกระทงั่ กลายเป็นส่วนหน่ึง ของดิน หลงั จากน้นั พวกเจา้ จะถูกใหฟ้ ้ื นคืนชีพอีกคร้ังในวนั กิยามะฮฺ ซ่ึง ถูกใหฟ้ ้ื นคืนชีพเป็นมนุษย์ โดยไมม่ ีลาดบั ข้นั ตอนเช่นการบงั เกิดมนุษยใ์ นคร้ังแรก”
265 ทา่ นนบีนูหฺ ไดพ้ ยายามดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นใหใ้ คร่ครวญถึงความโปรด ปรานและความเมตตาของอลั ลอฮฺ ที่ใหค้ วามสะดวกแก่บา่ วของพระองคโ์ ดยการสร้างแผน่ ดิน ใหเ้ รียบกวา้ งใหญ่เพอ่ื ใชส้ ัญจรไปมา อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﮈﮉﮊ ﮋﮌﮍﮎﮏ ﮐﮑ ﮒﭼ )20-19 :(نوح ความวา่ “และอัลลอฮฺทรงทาให้แผ่นดินนีร้ าบเรียบกว้างใหญ่ สาหรับพวกท่าน (19) เพ่ือพวกท่านจะได้สัญจรไปมาตามพืน้ ท่ี โล่งกว้างนั้น(20)” (นูหฺ: 19-20) วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/156) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบาย อายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “หมายถึง และจากความเมตตากรุณาของอลั ลอฮฺ ตอ่ ปวงบ่าว พระองคท์ รง สร้างแผน่ ดินที่เรียบ กวา้ งใหญ่ใหก้ บั พวกเจา้ และทรงใหม้ นั มนั่ คงดว้ ยภูเขา และทรงใหพ้ วกเจา้ สญั จรไปมาตามแผน่ ดินอนั กวา้ งใหญ่ไพศาลเพ่อื หาปัจจยั ยงั ชีพ และทรงใหท้ ุกพ้ืนท่ีท้งั ภูเขา และที่ ราบสูงมีทางที่กวา้ งสาหรับการสญั จร” มุฮมั มดั ซยั ยดิ ฏ็อนฏอวยี ์ (Muhammad Sayyid Tantawiy, n.d.: 15/121) ไดก้ ล่าว อรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “ทา่ นนบีนูหฺ ไดพ้ ยายามท่ีจะเรียกร้องเชิญชวนกลุ่มชนของทา่ น ใหต้ อบรับส่ิงที่ท่านไดท้ าการดะอฺวะฮฺ เชื่อฟังและปฏิบตั ิตามท่าน และศรัทธาอยา่ งแน่วแน่ต่อสาสน์ ท่ีไดถ้ ูกส่งลงมา” จากการคน้ ควา้ วจิ ยั พบวา่ ท่านนบีนูหฺ ใช้ความพยายาม อยา่ งมาก ในการ ดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นดว้ ยเทคนิคการดะอฺวะฮฺ ใหพ้ วกเขาใคร่ครวญถึงความยง่ิ ใหญ่ของอลั ลอฮฺ และความเป็นเอกภาพของพระองค์ ดงั น้ี
266 1. พระองคค์ ือผสู้ ร้างมนุษยเ์ ป็นลาดบั ข้นั ตอนเร่ิมจากเช้ืออสุจิเป็นกอ้ นเลือด หลงั จากน้นั เป็นกอ้ นเน้ือ หลงั จาก น้นั เป็นกระดูก หลงั จากน้นั ไดห้ ุม้ กระดูกดว้ ยเน้ือ และหลงั จาก น้นั ไดเ้ ป่ าวญิ ญาณกลายเป็นอีกรูปร่างหน่ึง โดยเร่ิมจากการวยั ทารก หลงั จากน้นั วยั รุ่น หลงั จากน้ั น วยั กลางคน และหลงั จากน้นั วยั ชรา 2. พระองคค์ ือผทู้ รงสร้างช้นั ฟ้ าท้งั เจด็ เป็นช้นั ๆ โดยที่มนั มิไดพ้ งั ลงมาแต่อย่ างใด ท้งั ที่มนั ไมม่ ีที่ยดึ แมแ้ ตน่ อ้ ย 3. พระองคค์ ือผสู้ ร้างดวงจนั ทร์ใหป้ ระดบั อยบู่ นฟากฟ้ า โดยใหม้ นั มีแสงสวา่ ง ระยบิ ระยบั ส่องแสงเปล่งประกายใหก้ บั โลกโดยท่ีไมม่ ีความร้อนระอุ 4. พระองคค์ ือผทู้ รงสร้างดวงอาทิตยเ์ พือ่ ใหค้ วามสวา่ งไสวในยามราตรีลบั ขอบ ฟ้ า และมนั ไดแ้ ผค่ วามร้อนและแสงแดดในเวลากลางวนั เพ่ือใหป้ ระโยชนก์ บั มนุษย์ 5. พระองคค์ ือผบู้ งั เกิดมนุษยใ์ หม้ ีชีวติ ทรงทาใหม้ นุษยเ์ สียชีวติ และจะทรงใหฟ้ ้ื น คืนชีพอีกคร้ังในวนั แห่งการสอบสวน 6. พระองคค์ ือผทู้ รงสร้างแผน่ ดินใหเ้ รียบกวา้ งใหญเ่ พือ่ ใหม้ นุษยส์ ามารถสญั จร ไปมาไดเ้ พือ่ หาปัจจยั ยงั ชีพ ถึงแมว้ า่ ทา่ นนบีนูหฺ พยายามท่ีจะทาใหก้ ารดะอฺวะฮฺของท่านเขา้ สู่หู และ ซึมซบั สู่จิตใจของพวกเขา ดว้ ยรูปแบบท่ีหลากหลาย ที่มีวทิ ยปัญญาและความเขม้ แขง็ น่าเช่ือถือดว้ ย การอดทนอยา่ งมากมายเป็นเวลาอนั ยาวนาน และทาการดะอฺวะฮฺพวกเขาอยา่ งสม่าเสมอ แตก่ ลุ่มชน ของท่านนบีนูหฺ มิไดส้ นใจใยดีการดะอฺวะฮฺของทา่ น ยงั คง ปฏิเสธทางแห่งสัจธรรมดว้ ยความ ด้ือร้ันหยง่ิ ยโส ท่านจึงทาการร้องเรียนต่ออลั ลอฮฺ (Muhammad Sayyid Tantawiy, n.d.: 15/121) อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﮓﮔﮕﮖ ﮗﮘﮙﮚ ﮛ ﮜﮝﮞ ﮟﮠﮡﮢﮣﮤﮥﮦﮧﮨﮩ ﮪﮫﮬﮭﮮﮯﮰﮱ﮲ﭼ )23-21 :(نوح
267 ความวา่ “นูหฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริง พวกเขาได้ฝ่ าฝื นข้าพระองค์และเชื่อฟังผ้ทู ่ีทรัพย์สินของเขา และ ลกู หลานของเขามิได้เพิ่มพูนอันใดแก่เขานอกจากการขาดทุน (21) และพวกเขาได้วางแผนร้ายอันยิ่งใหญ่ (6) และพวกเขาได้ กล่าวว่า พวกท่านอย่าได้ทอดทิง้ พระเจ้าทั้งหลายของพวกท่าน เป็นอันขาด พวกท่านอย่าได้ทอดทิง้ วดั ดฺ และสุวาอฺ และยะฆู ษ และยะอู๊ก และนซั รฺ เป็นอันขาด(23)” (นูหฺ: 21-23) วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/161-162) ไดก้ ล่าว อรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “ทา่ นนบีนูหฺไดท้ าการร้องเรี ยนตอ่ อลั ลอฮฺ วา่ โอพ้ ระเจา้ ของขา้ พระองคแ์ ทจ้ ริงกลุ่มชนของขา้ พระองคย์ งั ค งปฏิเสธขา้ พระองคอ์ ยา่ งตอ่ เน่ือง และไมต่ อบรับการ ดะอฺวะฮฺของขา้ พระองค์ และปฏิบตั ิตามบรรดาผู้ นา ผทู้ ี่หยงิ่ ยโส ผมู้ ง่ั คงั่ และผทู้ ่ีทรัพยส์ ินและ ลูกหลานของพวกเขาไมเ่ พม่ิ พนู สิ่งใดนอกจากทาใหห้ ลงทางในโลกดุนยา และบทลงโทษในวนั อาคิเราะฮฺ และพวกเขาขาดทุนท้งั ในดุนยาและอาคิเราะฮฺ กลุ่มชนของท่านนบีนูหฺ ไดว้ างแผนอนั ยงิ่ ใหญโ่ ดยการสกดั ก้นั มนุษยส์ ู่การ ตอบรับการดะอฺวะฮฺของท่านสู่การศรัทธาต่อพระเจา้ เพียงองคเ์ ดียว และพยายามท่ีจะทาร้ายท่าน และหาทางฆ่าท่าน และบรรดาผนู้ าในหมูพ่ วกเขาที่ปฏิเสธการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ได้ กล่าวส่ังวา่ อยา่ ไดท้ อดทิง้ การสักการะพระเจา้ ของพวกท่าน และหนั มาเคารพภกั ดีพระเจา้ ของนูหฺ เป็นอนั ขาด และจงอยา่ ทอดทิ้งการสกั การะวดั ดฺ สุวาอฺ ยะฆูษ๊ ยะอูก๊ และนสั รฺ ซ่ึงบรรพบุรุษของเรา ไดส้ ักการะมาก่อนหนา้ น้ีเป็นอนั ขาด” จากอายะฮฺขา้ งตน้ ช้ีใหเ้ ห็นวา่ ท่านนบีนูหฺ ตอ้ งอดทนอยา่ งมากมายตอ่ ความ ด้ือร้ัน หยง่ิ ยโส อวดดีของกลุ่มชนของท่านและการวางแผนของพวกเขา เช่นเดียวกบั บรรดานบีและ บรรดาเราะสูลของอลั ลอฮฺ ต่างอดทนในการแบกรับภาระการดะอฺวะฮฺ โดยท่ีพวกเขาไม่ เคยยอ่ ทอ้
268 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽ ﭻﭼﭽﭾﭿﮀﮁﮂﮃ ﮄﭼ )12 :(ابراىيم ความวา่ “และเราจะอดทนต่อการท่ีพวกท่านทาร้ายเรา และ บรรดาผ้มู อบความไว้วางใจพึงไว้วางใจแด่อัลลอฮฺเท่าน้ัน” (อิบรอฮีม: 12) ท่านนบีมุฮมั มดั ไดส้ อนใหร้ ู้จกั การอดทนและยนื หยดั ในหนทางการดะอฺวะฮฺ สู่อลั ลอฮฺ หะดีษท่ีรายงานโดยท่านอบั ดุลเลาะฮฺ บิน มสั อดู๊ ท่านไดก้ ล่าว ضربوقومو،لػكينبيامنلاأنبياء ((كأنيأنظرإلىالنبي اللهماغفرلقوميفنإهم: كىويمسحالدـعن كجهو كيقو ؿ،فأدموه ))لايعلموف )3477 :1998 ،(أخرجوالبخار م ความวา่ “ฉันมองดูท่านนบีมุฮัมมดั ขณะท่านกาลังเล่าถึงนบี ท่านหนึ่งที่ถกู พวกพ้องของพวกเขาทาร้ายจนเลือดออก เขาใช้มือ ลูบเลือดท่ีเปื้อนใบหน้า พลางกก็ ล่าวว่า : ข้าแด่องค์อภิบาลได้ โปรดให้อภัยแก่พวกพ้องของฉันด้วยเถิด เพราะความจริงพวก เขาไม่รู้” (บนั ทึกโดย al-Bukhāriy, 1998: 3477) การที่นกั ดาอียม์ ีความบริสุทธ์ิใจตอ่ อลั ลอฮฺ ในการทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺสู่แนวทาง แห่งการศรัทธา ยนื หยดั ในหนทางการดะอฺวะฮฺและอดทนต่ออุปสรรคต่างๆ แทจ้ ริงเขาไดร้ ับ ผลตอบแทนอยา่ งยงิ่ ใหญจ่ ากพระองค์ และนกั ดาอียท์ ี่ทางานดะอฺวะฮฺอยา่ งแทจ้ ริงมิเคยขอคา่ ตอบแทน
269 ไม่วา่ จะเป็นทรัพยส์ ินเงินทองในการทาหนา้ ที่ของเขาจากผใู้ ด ซ่ึงทา่ นนบีนูหฺ ไดก้ ล่าวแก่กลุ่มชน ของทา่ นถึงจุดประสงคข์ องทา่ นในการดะอฺวะฮฺ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﭑﭒﭓﭔﭕﭖﭗ ﭘﭙ ﭚﭛﭼ )29 :(ىود ความวา่ “และโอ้หม่ชู นของฉันเอ๋ย ฉันมิได้ร้องขอทรัพย์สินใด สาหรับการเยแพร่แต่รางวลั ของฉันอย่ทู ี่อัลลอฮฺ” (ฮดู : 29) ในอายะฮฺขา้ งต้ นบ่งบอกถึงการทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ตามคา บญั ชาจากอลั ลอฮฺ และหวงั ผลตอบแทนจากพระองค์ และมิไดข้ อค่าตอบแทนใดๆจากมนุษย์ ส่ิง เหล่าน้ีจาเป็นอยา่ งยง่ิ สาหรับนกั ดาอียท์ ่ีจะตอ้ งดาเนินตามแนวทางของท่านในการทาหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺ หวงั ผลตอบแทนท่ีดีในโลกหนา้ และไม่ หวงั การตอบแทนจากมนุษย์ เพ่ือวา่ จะไดไ้ ม่มีการครหาวา่ นกั ดาอียท์ าหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺเพ่อื เป็นแนวทางในการไดร้ ับผลประโยชนจ์ ากมนุษย์ และการดะอฺวะฮฺเพอ่ื ผลตอบแทนจากพระองคม์ ีความสาคญั มาก ซ่ึงบรรดาศาสนทตู ของพระองคไ์ ดป้ ฏิบตั ิมาก่อนแลว้ และ ทุกทา่ นต่างกล่าวแก่กลุ่มชนของเ ขาเช่นเดียวกบั ที่ทา่ นนบีนูหฺ ไดก้ ล่าวแก่กลุ่มชนของท่าน และ เช่นเดียวกบั ท่านนบีฮดู อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯡﯢ ﯣﯤ ﯥﯦﯧ ﯨﯩ ﯪﯫ ﯬﯭﯮ ﯯﯰ ﭼ )51 :(ىود
270 ความวา่ “โอ้กล่มุ ชนของฉันเอ๋ย ฉันมิได้ขอร้องต่อพวกท่านซ่ึง รางวลั ในการนีเ้ ลย รางวลั ของฉันนน้ั อย่กู ับพระผ้ใู ห้บงั เกิดฉัน พวกท่ านไม่ใช้ ปั ญญาหรื อ” (ฮดู : 51) และท่านนบีมุฮมั มดั ก็เช่นเดียวกั นมิเคยขอคา่ ตอบแทนใดๆ จะมากหรือนอ้ ย จนทาใหก้ ลุ่มชนของท่านห่างไกลจากการดะอฺวะฮฺ และทาใหม้ ีภาระหน้ีอนั หนกั อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﮕﮖﮗﮘﮙﮚ ﮛﮜﭼ )40 :(الطور ความวา่ “หรือว่าเจ้าขอค่าจ้างจากพวกเขา ดงั นนั้ พวกเขาจึงมี ภาระหนีอ้ ันหนัก” (อฏั ฏูร: 40) และแน่นอนอลั ลอฮฺ ทรงตอบแทนท่านนบีนูหฺ และบรรดาศาสนทูตของ พระองค์ ผทู้ ี่ทาหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺในหนทางข องพระองคแ์ ละผทู้ ่ีศรัทธามน่ั ตอ่ พระองคด์ ว้ ยการตอบ แทนที่ดีในโลกน้ีและโลกหนา้ สาหรับผปู้ ฏิเสธศรัทธาบรรดาศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ ยง่ิ ไปกวา่ น้นั พวกเขาทาใหผ้ คู้ นจานวนมากหลงทาง แน่นอนพระองคท์ รงเตรียมผลตอบแทนใหก้ บั พวกเขาดว้ ยการ ลงโทษท้งั โลกน้ีและโลกหนา้ เช่นเดียวกบั กลุ่มชนของทา่ นนบนูหฺ อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽ﮳﮴ﯖﯗﯘ ﯙ ﯚﯛ ﯜﯝﭼ )24 :(نوح
271 ความวา่ “และโดยแน่นอน พวกเขาได้ทาให้หม่ชู นจานวนม าก หลง ดังนั้นขอพระองค์ท่านอย่าได้เพิ่มอันใดแก่พวกอธรรม เหล่าน้นั นอกจากกการหลงผิดเท่าน้ัน” (นูหฺ: 24) วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/162-163) ไดก้ ล่าว อรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “แทจ้ ริงบรรดาผนู้ าและหวั หนา้ ไดท้ าใหห้ มชู่ นจานวนมากหลงทาง มีการ กล่าวกนั วา่ ผคู้ นจานวนมากหลงสกั การะรูปป้ัน และหลงั จากน้นั ไดม้ ีการสกั การะต่อเน่ืองจนถึงยคุ ของ ชนเผา่ อาหรับและอะอฺญามียจ์ นกระทงั่ ถึงยคุ แห่งการแต่งต้งั นบี เช่นท่ีท่านนบีอิบรอฮีมไดก้ ล่าว อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﭫﭬﭭﭮﭯﭰﭱﭲﭳ ﭴ ﭵﭶﭷ ﭼ )36-35 :(ابراىيم ความวา่ “และขอพระองค์ ทรงให้ข้าพระองค์และลกู หลานของ ข้าพระองค์พ้นจากการบูชาเจวด็ (35) โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงพวกมนั ได้ทาให้มนุษย์ส่วนใหญ่หลงทาง(36)” (อิบรอฮีม: 35-36) เป็นการเหมาะสมแลว้ ที่ท่านนบีนูหฺ ไดข้ อดุอาอใ์ หก้ ลุ่มชนของท่านอยใู่ น การหลงทาง ปฏิเสธศรัทธา และด้ือร้ัน ดงั น้นั ทา่ นจึงกล่าววา่ จะไม่เพ่มิ สิ่งใดใหก้ บั บรรดาผปู้ ฏิเสธ ศรัทธานอกจากการเคลือบแคลงสงสยั และห่างไกลจากความถูกตอ้ งดีงาม และพวกเขาจะไมร่ ับ ทางนาท่ีจะนาไปสู่ความถูกตอ้ ง เช่นเดียวกบั ที่ทา่ นนบีมูซา ไดข้ อดุอาอจ์ ากอลั ลอฮฺ แก่ ฟิ รฺเอานฺและกลุ่มชนของทา่ น
272 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯹﯺﯻﯼﯽﯾﯿﰀﰁ ﰂ ﰃﰄﰅﰆﭼ )88 :(يونس ความวา่ “ขอพระองค์ทรงทาลายทรัพย์สินของพวกเขา และทรง โปรดทาให้หั วใจของพวกเขาแขง็ กระด้างเพ่ือมิให้พวกเขา ศรัทธาจนกว่าพวกเขาจะเห็นการลงโทษอย่างเจบ็ ปวด” (ยนู ุส: 88) หลงั จากน้นั อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวยนื ยนั ถึงการใหผ้ ลตอบแทนแก่ กลุ่มชนของ ทา่ นนบีนูหฺ ท่ีปฏิเสธศรัทธาเน่ืองจากการท่ีพวกเขาทาใหม้ นุษยห์ ลงผดิ เป็นจานวนมาก อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯞ ﯟﯠﯡﯢﯣﯤﯥﯦﯧ ﯨ ﯩﯪﭼ )25 :(نوح ความวา่ “อันเนื่องมาจากความผิดมากหลายของพวกเขา พวกเขา จึงถกู จมนา้ ตาย และจะถกู ให้เข้าอย่ใู นไฟนรก ดังนั้นพวกเขาจะ ไม่ได้พบผ้ชู ่วยเหลือสาหรับพวกเขาอื่นจากอัลลอฮฺ” (นูหฺ: 25) จากความผดิ บาปอั นมากหลายและความด้ื อร้ันปฏิเสธศทั ธาและต่อตา้ นทา่ น นบี นูหฺ อลั ลอฮฺ จึงทรงลงโทษพวกเขาดว้ ยการใหจ้ มน้าจากเหตุการณ์น้าท่วมโลก หลงั จากน้นั พวกเขาจะถูกนาเขา้ สู่ไฟนรกในวนั อาคิเราะฮฺ และจะไมม่ ีผใู้ ดสามารถยบั ย้งั การลงโทษ ของ พระองคแ์ ละช่วยเหลือพวกเขาได้
273 จากการศึก ษาวจิ ยั พบวา่ อลั ลอฮฺ ทรงตอบแทนผศู้ รัทธาดว้ ยผลตอบแทนท่ีดี และผลบุญอนั มากหลายในโลกน้ีและสวรรคเ์ ป็นท่ีพานกั ของพวกเขาในโลกหนา้ และพระองคท์ รง ตอบแทนกลุ่มชนของทา่ นนบีนูหฺ ท่ีปฏิเสธศรัทธาดว้ ยการลงโทษพวกเขาในโลกน้ีโดยทรง ใหพ้ วกเขาอยใู่ นการหลงผดิ และทรงลงโทษต่อมาด้ วยน้าทว่ มโลก และการลงโทษพวกเขาในโลก หนา้ ดว้ ยการถูกใหเ้ ขา้ อยใู่ นไฟนรกอนั ลุกโชน ดงั น้นั ลูกหลาน ทรัพยส์ มบตั ิอนั มากมาย มิตรสหาย หรือคนรักใคร่ ตลอดจนพระเจา้ จอมปลอมซ่ึงเป็นรูปป้ันของพวกเขา กไ็ ม่สามารถใหค้ วามคุม้ ครอง หรือใหค้ วามช่วยเหลือแก่พวกเขาใหร้ อดพน้ จากการลงโทษของพระองคไ์ ด้ ท่านนบีนูหฺ ไดท้ าการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นดว้ ยการดะอฺวะฮฺท่ี หลากหลาย ท้งั การตกั เตือน เรียกร้องเชิญชวนดว้ ยความสุภาพออ่ นโยน โดยวธิ ีลบั และเปิ ดเผย ช้ีแนะใหข้ ออภยั โทษต่ออลั ลอฮฺ โนม้ นา้ วดว้ ยการบอกข่าวดี และใหใ้ คร่ครวญถึงความยงิ่ ใหญ่ ของพระองค์ ทาการดะอฺวะฮฺอยา่ งตอ่ เน่ืองท้งั เวลากลางคืนและกลางวนั เป็นเวลายาวนานถึง 950 ปี แตผ่ ลท่ีไดร้ ับคือกลุ่มชนของท่านตา่ งหลีกหนี ไม่ยอมที่จะรับฟังสจั ธรรม และดว้ ยความด้ือร้ัน จองหองพวกเขาไดฝ้ ่ าฝืนและปฏิเสธศรัทธา ยง่ิ ไปกวา่ น้นั พวกเขาไดว้ างแผนร้ายอนั ยง่ิ ใหญ่เพอ่ื ทาลายลา้ งการเผยแผแ่ ละการเรียกร้องของท่าน และยงั ทาใหผ้ คู้ นส่วนใหญ่หลงทางดว้ ยการ ชกั ชวนใหส้ ักการะรูปป้ัน และปิ ดก้นั มิใหห้ นั หนา้ เขา้ หาการเรียกร้องสู่พระองค์ พวกเขาจึงถูก ลงโทษใหอ้ ยใู่ นหมู่ผหู้ ลงผดิ และถูกใหจ้ มน้าตายในโลกน้ี และในโลกหนา้ พวกเขาจะถูกใหอ้ ยใู่ น ไฟนรกอนั ลุกโชน เพราะการฝ่ าฝืนของพวกเขา ท่านนบีนูหฺ จึงไดข้ อดุอาอต์ อ่ อลั ลอฮฺ ใหพ้ ระองคท์ รงจดั การข้นั เด็ ดขาด ต่อกลุ่มชนของท่านที่ปฏิเสธ อยา่ ใหห้ ลงเหลือบนแผน่ ดิน เพราะพวกเขาจะยงิ่ ทาใหผ้ คู้ นหลงผดิ และจะกาเนิดแตพ่ วกเลวทราม และขอดุอาอต์ ่อพระองคอ์ ยา่ ไดท้ รงปล่อยปละละเ ลยกลุ่มชน เหล่าน้นั อนั เนื่องมาจากท่านไดร้ ู้วา่ พวกเขาจะไมศ่ รัทธาแมว้ า่ จะยงั ใชเ้ วลายาวนานมากเทา่ ใดก็ ตามในการดะอฺวะฮฺพวกเขา การดะอฺวะฮฺน้นั กจ็ ะไม่เกิดผลเพราะหวั ใจของพวกเขาด้ือร้ันและแขง็ กระดา้ งไม่ยอมรับสัจธรรม อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานวา่ ﭽﯫﯬﯭﯮ ﯯ ﯰﯱﯲﯳ ﯴﯵﯶﯷ ﯸﯹﯺﯻﯼﯽ ﯾﯿﰀﭼ )27-26 :(نوح
274 ความวา่ “และนหู ฺได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอ พระองค์ทรงอย่าปล่อยใ ห้พวกปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออย่ใู น แผ่นดินนีเ้ ลย(26) เพราะแท้จริง หากพระองค์ทรงปล่อยให้พวก เขาหลงเหลืออยู่ พวกเขากจ็ ะทาให้ปวงบ่าวของพระองค์หลงผิด และพวกเขานนั้ จะให้กาเนิดแต่พวกเลวทราม พวกปฏิเสธศรัทธา เท่านั้น(27)” (นูหฺ: 26-27) วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/163) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบาย อายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “เม่ือทา่ นนบีนูหฺ ไดร้ ับวะฮียจ์ ากอลั ลอฮฺ และทราบวา่ กลุ่มชนของทา่ นจะ ไม่มีผใู้ ดศรัทธายกเวน้ จานวนนอ้ ยเท่าน้นั ท่านจึงไดท้ าการขอดุอาอว์ า่ โอพ้ ระเจ้าของขา้ พระองคจ์ ง อยา่ ใหผ้ ปู้ ฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออยบู่ นแผน่ ดินน้ีเลย แทจ้ ริงหากอลั ลอฮฺ ทรงใหก้ ลุ่มชนของทา่ นนบีนูหฺ ท่ีปฏิเสธศรัทธา หลงเหลืออยู่ พวกเขาจะทาการชกั ชวนบา่ วของพระองคท์ ี่กาเนิดหลงั จากพวกเขาหลงผดิ จากทางที่ เท่ียงตรง และพวกเขาเองจะกาเนิดแต่พวกเลว ทรามท่ีละทิง้ การเคารพภกั ดีตอ่ พระองค์ ผทู้ ่ีหวั ใจ ของพวกเขาเตม็ ไปดว้ ยความทรยศตอ่ มหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยที่พระองคท์ รงทาใหท้ า่ นนบี ทราบหลงั จากที่ไดร้ ่วมใชช้ ีวติ กบั พวกเขาเป็นเวลายาวนานถึง 950 ปี ” ท่านมุฮมั มดั ซยั ยดิ ฏอ็ นฏอวยี ์ (Muhammad Sayyid Tantawiy, n.d.: 15/125-126) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “ในอายะฮฺน้ี สิ่งท่ีเราเชื่อมนั่ ตอ่ ทา่ นนบีนูหฺ คือทา่ นเป็น หน่ึงในบรรดาอุลุลอซั มี ผเู้ ป็นเยยี่ งอยา่ งในการอดทนตอ่ บททดสอบ ทา่ นไม่ไดข้ อดุอาอใ์ หก้ บั กลุ่ม ชนของท่าน และไม่ไดก้ ล่าวแก่พวกเขาดว้ ยคาพดู เช่นน้นั นอ กจากหลงั จากที่ทา่ นหมดหวงั ในการ ตอบรับการศรัทธาของพวกเขา ซ่ึงอลั ลอฮฺ ไดท้ รงทาใหท้ า่ นทราบวา่ จะไม่มีผใู้ ดศรัทธาอีกแลว้ นอกจากท่ีไดศ้ รัทธาไปแลว้ และนอกจากท่านไดส้ งั เกตการณ์ร่วมใชช้ ีวติ กบั พวกเขาเป็นเวลา ยาวนานถึง 950 ปี ท่านจึงทราบวา่ พวกเขาอยใู่ นหมชู่ นท่ีรักการห ลงทางมากกวา่ ทางนา และ ลูกหลานของพวกเขาต่างดาเนินรอยตามบรรพบุรุษของพวกเขาดว้ ยการปฏิเสธศรัทธาและกระทา ส่ิงท่ีเลวทราม จะพบวา่ ท่านนบีนูหฺ ไดท้ าการขอดุอาอใ์ หก้ ลุ่มชนของท่านท่ีปฏิเสธศรัทธา ดว้ ยการทาลายลา้ งพวกเขาใหห้ มดสิ้น ในเวลาเดียวกนั ทา่ นไดท้ าการขอดุอาอใ์ ห้ อลั ลอฮฺ ทรง ประทานการอภยั โทษและความโปรดปรานจงประสบแด่บรรดาผศู้ รัทธา”
275 อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﰁﰂ ﰃﰄﰅﰆﰇﰈﰉ ﰊﰋ ﰌﰍﰎ ﰏﰐﭼ )28 :(نوح ความวา่ “ขา้ แต่พระเจา้ ของขา้ พระองค์ ขอพระองคท์ รงอภยั โทษ ใหแ้ ก่ขา้ พระองค์ และพอ่ แมข่ องขา้ พระองค์ และผทู้ ่ีเขา้ มาใน บา้ นของขา้ พระองคเ์ ป็นผศู้ รัทธา และบรรดาผศู้ รัทธาชาย และ บรรดาผศู้ รัทธาหญิง และพระองคท์ ่านอยา่ ไดเ้ พม่ิ อนั ใดแก่พวก อธรรมเหล่าน้นั นอกจากความพินาศหายนะเท่าน้นั ” (นูหฺ: 28) วะฮฺบะฮฺ อซั ซุฮยั ลีย์ (Wahbah al-Zuhailiy, 2009: 15/164) ไดก้ ล่าวอรรถาธิบาย อายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “ทา่ นนบีนูหฺ ไดก้ ล่าวดุอาอว์ ่ าโอพ้ ระเจา้ ของขา้ พระองค์ โปรดทรงลบลา้ ง ความผดิ ของขา้ พระองค์ และบิดามารดาของขา้ พระองคผ์ ศู้ รัทธาตอ่ สาสน์ของขา้ พระองค์ และ โปรดทรงอภยั โทษใหก้ บั ผทู้ ่ีเขา้ มาในบา้ นของขา้ พระองคท์ ่ีเป็นผศู้ รัทธา และบรรดาผเู้ ชื่อมนั่ ต่อ การมีอยขู่ องพระองค์ และความเอกะของพระองค์ และบรร ดาผเู้ ชื่อมน่ั จากประชาชาติและชนรุ่น หลงั จากน้ี และโปรดทรงอยา่ เพม่ิ พนู อนั ใดแก่ผทู้ ี่อธรรมตอ่ ตนเองดว้ ยการปฏิเสธศรัทธานอกจาก ความพงั พินาศและหายนะ ทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการขอดุอาอซ์ ่ึงครอบคลุมท้งั ผศู้ รัทธาและผปู้ ฏิเสธศรัทธา จนถึงวนั กิยามะฮฺ จากหะดีษรายงานโดย อบซู ะอ๊ีด อลั คุดรีย์ ทา่ นไดย้ นิ ท่านเราะสูล ไดก้ ล่าว วา่ ))(ل(اتصاحبلإامؤمنالكايأكلطعامكلإاتقي )2395 :1998 ، كاًلتمذ م4832 :1998 ،(أخرجوأبو داكد
276 ความวา่ “ท่านอย่าคบเป็นมิตรสหายนอกจากกบั ผ้ศู รัทธาและจะ ไม่รับประทานอาหารของท่านนอกจากผ้ทู ี่มีความยาเกรง” (บนั ทึกโดย Abu Dawud, 1998: 4832 และ al-Tirmiziy, 1998: 2395) และเป็นการส่งเสริมใหม้ ีการขอดุอาอต์ ามแบบอยา่ งของท่านนบีนูหฺ สาหรับ บรรดาผศู้ รัทธาชายหรือหญิง ทุกยคุ ทุกสมยั ท้งั ท่ีมีชีวติ อยหู่ รือไดจ้ ากโลกน้ีไปแลว้ ” มุฮมั มดั ซยั ยดิ ฏอ็ นฏอวยี ์ (Muhammad Sayyid Tantawiy, n.d.: 15/126) ไดก้ ล่าว อรรถาธิบายอายะฮฺขา้ งตน้ วา่ “สูเราะฮฺน้ีไดจ้ บทา้ ยดว้ ยการขอดุอาอข์ องท่านนบีนูหฺ ตอ่ อลั ลอฮฺ ใหพ้ ระองคท์ รงอภยั โทษแก่บรรดาผศู้ รัทธา และความพงั พนิ าศหายนะจงประสบแก่บรรดาผู้ ปฏิเสธศรัทธา” ท่านนบีนูหฺ ไดท้ าการ วงิ วอนขอดุอาอต์ ่ออลั ลอฮฺ ให้พระองคท์ รงกวาด ลา้ งพวกอธรรมเหล่าน้นั ใหห้ มดสิ้นไปจากแผน่ ดินเพราะหากพวกเขาหลงเหลืออยกู่ ร็ ังแต่จะก่อ ความวนุ่ วายและความไม่สงบ โดยการขัดขวางการเรียกร้องเชิญชวนสู่ สัจธรรมและปิ ดก้นั มิใหก้ าร ดะอฺวะฮฺเขา้ สู่จิตใจของมหาชน พวกเขาจะใหก้ าเนิดแต่พวกเลวทรามและพวกปฏิเสธศรัทธาเทา่ น้นั อีกท้งั ท่าน ไดท้ าการวงิ วอน ขอดุอาอต์ ่ออลั ลอฮฺ ใหพ้ ระองคท์ รง อภยั โทษใหแ้ ก่ตวั เอง ซ่ึงเป็น มรรยาทที่ดีงามของบา่ วที่รู้จกั พระเจา้ และการขอดุอาอ์ใหแ้ ก่บิดามารดาของทา่ นคือการภกั ดีของ ทา่ นต่อผบู้ งั เกิดเกลา้ ที่เป็นมุอ์มินผศู้ รัทธา และการขอพรใหแ้ ก่ผทู้ ่ีเขา้ ไปในบา้ นของทา่ น ที่เป็นผู้ ศรัทธาคือการท่ีท่านรักท่ีจะใหค้ วามดีแก่พ่ีนอ้ งของทา่ นที่เป็นผศู้ รัทธาท้งั ชายและหญิง ในตรงกนั ขา้ มท่านไดข้ อพรอีกคร้ังใหค้ วามพนิ าศล่มจมจงมีแด่พวกอธรรมผปู้ ฏิเสธศรัทธาท้งั หลาย จากการศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั พบวา่ ทา่ นนบีนูหฺ ใชค้ วามพยายามอยา่ งมากในการ ดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นดว้ ยรูปแบบและเทคนิคการดะอฺวะฮฺที่หลากหลาย โดยการตกั เตือนให้ ระมดั ระวงั การลงโทษจากอลั ลอฮฺ หากพวกเขาฝ่ าฝืน การใชค้ าพดู ที่สุภาพอ่อนโยนและการ โนม้ นา้ วจิตใจ การดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆและเปิ ดเผยท้งั กลางวนั และกลางคืน การช้ีแนะใหข้ ออภยั โทษ ตอ่ พระองค์ การบอกขา่ วดีสาหรับผขู้ ออภยั โทษ ท่ี จะนามาซ่ึงทรัพยส์ ิน เงินทองและลูกหลานอนั มากมาย สวนและลาน้าหลายสาย และยงั ไดต้ กั เตือนใหพ้ วกเขาใคร่ครวญส่ิงท่ีพระองคท์ รง สร้างสรรพสิ่งท้งั มวล รวมถึงการสร้างมนุษยเ์ ป็นลาดบั ข้นั ตอน การสร้างช้นั ฟ้ า ดวงอาทิตย์และดวง
277 จนั ทร์ การสร้างมนุษยม์ าจากดิน และจะกลบั คืนสู่ดิน และจะถูกใหฟ้ ้ื นคืนชีพอีกคร้ังในวนั แห่งการ ตอบแทน และการสร้างแผน่ ดินใหเ้ รียบกวา้ งใหญ่ เพ่อื การสญั จรไปมา ท่านไดว้ างแบบอยา่ งแห่ง การดะอฺวะฮฺใหช้ นรุ่นหลงั ไดป้ ฏิ บตั ิตาม โดยการ ใชเ้ ทคนิค ดะอฺวะฮฺดว้ ยรูปแบบท่ีหลากหลาย ที่ กล่าวมาเพอ่ื ไมใ่ หผ้ ถู้ ูกดะอฺวะฮฺรู้สึกเบื่อหน่าย และมีความคาดหวงั วา่ ดว้ ยรูปแบบใดรูปแบบหน่ึงใน การดะอฺวะฮฺท่ีพวกเขาอาจตอบรับการศรัทธาและหนั สู่ทางแห่งสจั ธรรม ซ่ึงจาเป็นอยา่ งย่ิ งสาหรับ นกั ดาอียช์ นรุ่นหลงั ที่ จะตอ้ งนาเทคนิคตา่ งๆของท่านที่หลากหลายมาปรับใชใ้ หเ้ หมาะสมตาม ภารกิจการดะอฺวะฮฺกบั สถานการณ์ในปัจจุบนั ซ่ีงเป็นแบบอยา่ งการดะอฺวะฮฺท่ีดีสาหรับท่ีจะดาเนิน รอยตอ่ ไปตราบวนั สิ้นโลก
278 บทท่ี 5 สรุปผลการวจิ ัยและข้อเสนอแนะ วตั ถุประสงค์ ในการวจิ ยั คร้ังน้ีผวู้ จิ ยั มีวตั ถุประสงค์ ดงั น้ี 1.8.4 เพอ่ื ศึกษาชีวประวตั ิของท่านนบีนูหฺ 1.8.5 เพือ่ ศึกษาถึงความสาคญั ของสูเราะฮฺนูหฺ 1.8.6 เพ่ือศึกษาเทคนิคการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ ความสาคัญและประโยชน์ของการวจิ ัย การศึกษาวเิ คราะห์เทคนิค การดะอฺ วะฮฺของ ท่านนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ เป็น การศึกษาเชิงวเิ คราะห์รูปแบบและวธิ ีการในการดะอฺวะฮฺของท่านบีนูหฺ ที่ตอ้ งต่อสู้ อดทนและ เสียสละท้งั กลางวนั และกลางคืน ท้งั โดยทางลบั และเปิ ดเผย แตด่ ว้ ยความด้ือร้ันและปฏิเสธศรัทธา ของประชาชาติของท่าน ทาใหท้ ่านตอ้ งทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺเป็นเวลาอนั ยาวนาน ผวู้ จิ ยั คาดวา่ จะไดร้ ับ ประโยชน์จากการศึกษาวจิ ยั ดงั น้ี 1) ไดร้ ับความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ชีวประวตั ิของทา่ นนบีนูหฺ 2) ไดร้ ับความรู้ความเขา้ ใจถึงความเป็นมาและความสาคญั ของสูเราะฮฺนูหฺ 3) ไดเ้ รียนรู้ถึงเทคนิคการดะอฺวะฮฺของนบีนูหฺ ตามนยั แห่งสูเราะฮฺนูหฺ 4) ไดเ้ รียนรู้ถึงวธิ ีการดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ 5) ไดอ้ งคค์ วามรู้ที่เป็นประโยชนแ์ ก่ผวู้ จิ ยั และผอู้ า่ น อีกท้งั เป็นขอ้ มูลสาหรับผสู้ นใจ ท่ีจะศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั เทคนิคการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ในโอกาสต่อไป ขอบเขตของการวจิ ัย การวจิ ยั คร้ังน้ีผู้วจิ ยั ไดท้ าการศึ กษาวเิ คราะห์เทคนิค การดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ โดยกาหนดขอบเขตในการวจิ ยั ดงั น้ี ศึกษาวเิ คราะห์เฉพาะเรื่องท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เทคนิคการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ
279 วธิ ีดาเนินการวจิ ัย 1. รูปแบบการวจิ ัย งานวจิ ยั ชิ้นน้ีเป็นการศึกษาวจิ ยั เชิงพรรณาโดยจะเก็บขอ้ มลู จากเอกสารต่างๆ ตารา และงานวจิ ยั ต่างๆ 2. แหล่งข้อมูล งานวจิ ยั คร้ังน้ี เป็นงานวจิ ยั เอกสารจากแหล่งขอ้ มลู ที่สาคญั คือ 2.1 แหล่งปฐมภมู ิ ดงั น้ี 2.1.1 หนงั สือท่ีเก่ีย วขอ้ งกบั ชีวประวตั ิของทา่ นนบีนูหฺ เช่น Qasas al- Anbiyā’ของ Ibn Kathīr และ Qisas} al-Qur’ān ของ Muhammad Ahmad Jād al-Maulā/Muhammad Abū al-Fadl Ibrāhim เป็ นตน้ 2.1.2 หนงั สือตฟั ซีรฺ (หนงั สือตฟั ซีรบิลมะอฺษรู ) เช่น Jāmi‘ al-Bayān fī Tafsīr al-Qur’ān ของ al-Ṭabariy, Tafsīr al-Qur’ān al-Aẓīm ของ Ibn Kathīr เป็ นตน้ และ(หนงั สือ ตฟั ซีรบิรฺรออฺย)์ เช่น Fī Zilāl al-Qur’ān ของ Saiyid Quṭb, Tafsīr al-Fakhr al-Rāziy al-Mushtahīr bi al-Tafsīr al-Kabīr wa Mafātīh al-Ghaib ของ al-Rāziy เป็นตน้ โดยอา้ งอิงถึงอายะฮฺต่างๆที่เกี่ยวขอ้ ง กบั เทคนิคการดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ และอายะฮฺที่เก่ียวขอ้ งกบั เน้ือหา 2.1.3 อลั หะดีษ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั เน้ือหาการดะอฺวะฮฺ โดยจะยดึ หะดีษท่ีเป็น อลั เศาะหาหฺ เช่น Sahīh al-Bukhāriy, Sahīh Muslim ท่ีเป็นอลั สุนนั เช่น Sunan al-Tirmidhiy, Sunan Abī Dāwūd เป็ นตน้ และท่ีเป็ นอลั มะสานีด เช่น Musnad al-Imām Ahmad เป็นตน้ 2.2 แหล่งทุติยภูมิ 2.2.1 หนงั สือหรือเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ชีวประวตั ิของนกั อรรถาธิบาย อลั กุรอานหรือชีวประวตั ิของผเู้ ล่าหะดีษ และผรู้ ายงานหะดีษ 2.2.2 หนงั สือการอรรถาธิบายหะดีษที่อธิบายเกี่ยวกบั การศึกษาวเิ คราะห์ใน เร่ืองการดะอฺวะฮฺ 2.3 แหล่งตติยภมู ิ 2.3.1 หนงั สื อพจนานุกรมอธิ บายศพั ทภ์ าษาอาหรับ ท่ีเป็นภาษาอาหรับ ภาษามลายู และภาษาไทย 2.3.2 หนงั สือการใชศ้ พั ทเ์ ทคนิคต่างๆทางวชิ าอลั กรุ อาน (Mu‘jam al- Maudū‘āt al-Qur’ān)
280 2.3.3 หนงั สือคาศพั ทใ์ นอลั กรุ อาน (al-Mu‘jam al-Mufahras li al-Alfāẓ al- Qur’ān al-Karīm) 3. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล งานวจิ ยั น้ีเป็นงานที่ตอ้ งใชค้ วามละเอียดออ่ นและระมดั ระวงั เพราะเป็นหวั ขอ้ ที่เก่ียวขอ้ งกบั อลั กรุ อาน ดงั น้นั การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจึงตอ้ งใชห้ ลกั เกณฑแ์ ละแนวทางที่ถูกตอ้ ง ดงั น้ี 3.1 รวบรวม และเรียบเรียงขอ้ มลู ท่ีไดศ้ ึกษามาตามข้นั ตอนตอ่ ไปน้ี 3.1.1 รวบรวมอายะฮฺอลั กุ รอานและหะดีษท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การดะอฺวะฮฺ แล ะ เทคนิคการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ 3.1.2 รวบรวมชีวประวตั ิของทา่ นนบีนูหฺ และงานดะอฺวะฮฺของทา่ น 3.1.3 รวบรว มทศั นะของบรรดาอุละมาอต์ ฟั สีรฺ (ไม่วา่ จะเป็นตฟั สี ร บิลมะอฺษรู หรือตฟั ซีรบิรฺรออฺย)์ และทศั นะของอุละมาอห์ ะดีษ 3.2 รวบรวมแนวทางและหลกั การตา่ งๆท่ีเก่ียวขอ้ ง ไม่วา่ ที่ใชใ้ นก ารอธิบาย หรือตรั ญีหฺ (การใหน้ ้าหนกั หลกั ฐาน) 4. การวเิ คราะห์ข้อมูล ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ผวู้ จิ ยั จะใชห้ ลกั การดงั น้ี 4.1 หลกั อุศลู อตั ตฟั สี รฺ ผวู้ จิ ยั ใช้ หลกั การ ตฟั สีรฺบิลมะอฺษรู หมายถึง การ อรรถาธิบายอลั กุรอานโดยยดึ เอาหลกั ฐานที่ชดั เจนท่ีสุดในการอธิบาย 4.2 หลกั อุศูลอลั หะดีษ ผวู้ จิ ยั จะยดึ ดีษเศาะห้ีหฺ ) (حديثصحيحหะดีษหะสั น ) (حديثحسنเทา่ น้นั ในการประกอบการอธิบายเพอื่ ยนื ยนั ความถูกตอ้ ง ส่วนหะดีษเฎาะ อีฟ ) (حديثضعيفน้นั จะใชอ้ า้ งอิงเฉพาะบางกรณีเทา่ น้นั ถึงอยา่ งไร ก็ตามเมื่อมีความขดั แยง้ ระหวา่ ง หะดีษดว้ ยกนั ท้งั ดา้ นเน้ือหาหรือระดบั ของหะดีษ ผวู้ จิ ยั จะยดึ เอาหะดีษที่มีระดบั เหนือกวา่ เสมอ 4.3 หลกั การประวตั ิศาสตร์ ผวู้ จิ ยั ใชห้ นงั สือท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ประวตั ิศาสตร์ในการ นาเสนอขอ้ มูลท่ีอธิบายเก่ียวกบั ทา่ นนบีนูหฺ และการดะอฺวะฮฺของท่าน
281 5.1 สรุปผลการวจิ ัย 5.1.1 เพอ่ื ศึกษาชีวประวตั ิของทา่ นนบีนูหฺ ช่ือของท่านนบีนูหฺ คือ นูหฺ บุตรของ ลามกั บุตรของ มะตูชาลิค บุตรของ เคาะนูค เขาคือ อิดรีส บุตรของ ยาริด บุตรของ มะฮฺลาบีล บุตรของ กีนาน บุตรของ อะนูช บุตรของ ชีษ บุตรของ อาดมั สาหรับวงศต์ ระกลู ของท่า นพบวา่ ท่านมาจากตระกลู ผศู้ รัทธา และมีเช้ือสายมาจากทา่ นนบีอาดมั ท่านนบีนูหฺ ไดก้ าเนิดหลงั จากที่ท่านนบีอาดมั เสียชีวติ เป็น เวลา 126 ปี ระหวา่ งการกาเนิดของทา่ นนบีนูหฺ และการเสียชีวติ ของทา่ นนบีอาดมั น้นั เป็นเวลา 146 ปี สภาพสังคมในช่วงระหวา่ งท่านนบีอาดมั และท่านนบีนูหฺ พบวา่ ผคู้ น ยดึ มนั่ ในหนทางแห่งอิสลามรวมถึงบิดามารดาของท่านนบีนูหฺ ยงั มีบรรดาผทู้ าความดีอยใู่ น หนทางที่ถูกตอ้ งช่ือ วดั ดฺ สุวาอฺ ยะฆษู ยะอกู๊ และนซั รฺและผคู้ นในสมยั น้นั กป็ ฏิบตั ิตามบรรดาคนดี เหล่าน้นั ดว้ ย หลงั จากท่ี คนดีในหมพู่ วกเขาตายไป พวกเขากเ็ ศร้าเสียใจ จึงมีการเสนอใหส้ ร้างรูป ป้ันข้ึนเพอ่ื เป็นการราลึกถึงคนดีเหล่าน้นั แต่เม่ือเวลาผา่ นไปหลายยคุ หลายสมยั พวกเขาก็หลงลืม พระเจา้ ที่แทจ้ ริง เริ่มมีการเคารพสกั การะรูปป้ัน วดั ดฺ สุวาอฺ ยะฆษู ยะอกู๊ และนซั รฺ ซ่ึงมีตน้ เหตุมา จากชยั ฏอนท่ีทาการกระซิบกระซาบโดย หลอกใหพ้ วกเขาสร้างรูปป้ันข้ึน และกล่าววา่ แทจ้ ริงรูป ป้ันน้นั สามารถใหน้ ้าฝน และใหป้ ระโยชน์อนั มากมาย และเมื่อกาลเวลาผา่ นไปจนถึงช่วงสมยั ของ ประชาชาติของนบีนูหฺ กลุ่มชนของท่านกก็ ม้ หนา้ กม้ ตาสักการะรูปป้ันท้งั ๆท่ีไม่รู้วา่ มีที่มาจาก ท่ีใดและรู้แต่เพียงวา่ บรรพบุรุษของพวกเขาไดป้ ฏิบตั ิมาก่อนหนา้ น้ีเท่าน้นั และพวกเขาเช่ือวา่ รูป ป้ันที่พวกเขาสร้างข้ึนน้นั จะสามารถใหท้ ุกขแ์ ละสุขได้ อีกท้งั ยงั สามารถใหโ้ ทษและยงั ประโยชน์ กบั พวกเขาได้ พวกเขาจึงผนิ หลงั ใหก้ บั แนวทางอนั ถูกตอ้ งและหนั หนา้ สู่การเคารพสักกา ระบชู า รูปป้ันและสร้างรูปป้ันเพ่มิ ข้ึนดว้ ยน้ามือของพวกเขา น่ีคือสภาพสงั คมหลงั จากท่ีถูกหล่อหลอม โดยชยั ฏอนท่ีมีหนา้ ท่ีหลอกล่อผคู้ นสู่การหลงทาง อลั ลอฮฺ ไดท้ รงแตง่ ต้งั ศาสนทตู ของพระองคเ์ พื่อทาหนา้ ที่ เรียกร้องมวลมนุษย์ ไปสู่การใหเ้ อกภาพ การจงรักภกั ดี และการอิบ าดะฮฺต่อพระองค์ เพยี งองคเ์ ดียวเทา่ น้นั หลงั จากที่
282 ผคู้ นในสมยั น้นั เร่ิมมีการเคารพสักการะส่ิงอ่ืนนอกเหนือจากอลั ลอฮ โดยพระองคท์ าการ แตง่ ต้งั เราะสูลทา่ นแรกสู่มนุษยโ์ ลก นนั่ คือ ท่านนบีนูหฺ ท่านนบีนูหฺ ไดร้ ับหนา้ ที่ใหท้ าการเชิญชวนผคู้ นสู่การจงรักภกั ดี ตอ่ อลั ลอฮฺ พระองคไ์ ด้ทรงส่งท่านนบีนูหฺ ซ่ึงเป็นศาสนทูตของพระองคใ์ หท้ าการดะอฺวะฮฺกลุ่มชน ของทา่ นสู่การเคารพภกั ดีผทู้ รงสร้างสรรพส่ิงท้งั หลายและช้ีแนะแนวทางท่ีถูกตอ้ งใหก้ บั พวกเขา และตกั เตือนใหห้ ่างไกลจากการเคารพสิ่งอ่ืนนอกจากพระองคท์ ่ีจะนาพาซ่ึงการลงโทษอนั เจบ็ ปวด บรรดาผปู้ ฏิเสธศรัทธาจากกลุ่มชนของท่านนบีนูหฺ ต่างปฏิเสธคาเชิญชวน ของท่านและกล่าวแก่ทา่ นวา่ ทา่ นคือผหู้ ลงผดิ ท้งั ที่ความจริงแลว้ พวกเขาเหล่าน้นั คือผหู้ ลงผดิ อนั ชดั แจง้ นอกจากบรรดาชนช้นั นาในหมชู่ นของท่านจะปฏิเสธการเชิญชวนของทา่ นแลว้ พวกเขายงั กล่าววา่ ท่านน้ั นเป็นเพียงสามญั ชนธรรมดาเช่นพวกเขา มิไดป้ ระเสริฐมากกวา่ พวกเขาและยงั กล่าวหาวา่ ท่านเป็นผโู้ กหกท่ีพยายามเชิญชวนพวกเขา และไมม่ ีผปู้ ฏิบตั ิตามทา่ นยกเวน้ ผตู้ ่าตอ้ ยใน หมู่ชนของพวกเขาเทา่ น้นั และกล่าวหาวา่ ท่านน้นั พยายาม ทาตวั เป็นผนู้ าใหด้ ีเด่นเหนือคนอ่ืนโดย การอา้ งว่าไดร้ ับการบญั ชาจากพระเจา้ เพอื่ ใหไ้ ดม้ าซ่ึงความมง่ั คงั่ และมีหนา้ มีตาในสังคม พวก เขาจึงพยายามที่จะกาจดั ท่านและบีบบงั คบั ท่าน โดยกล่าวหาวา่ ทา่ นไม่ไดเ้ ป็นสิ่งอ่ืนใดนอกจากคน บา้ และถูกขบู่ ังคบั ดว้ ยความเอือมระอาและเบื่อหน่ายต่อการเชิญชวนของท่านพวกเขาทาการทา้ ทายใหท้ า่ นนามาซ่ึงการลงโทษท่ีไดส้ ญั ญาไวเ้ น่ืองจากพวกเขาเห็นวา่ ไม่ปรากฏการลงโทษใดๆใน ระยะเวลาอนั ยาวนานที่ท่านไดท้ าการดะอฺวะฮฺ ท่านจึงตอบพวกเขาวา่ หากอลั ลอฮฺ ทรงประสงค์ ใหก้ ารลงโทษเกิดข้ึนก็จะไมม่ ีผรู้ อดไปได้ ท่านนบีนูหฺ ยงั คงยนื หยดั หนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺของทา่ น เป็นเวลายาวนาวถึง 950 ปี แต่พบวา่ จานวนผศู้ รัทธาไม่เพิม่ ข้ึนขณะท่ีจานวนผปู้ ฏิเสธ ศรัทธากลบั เป็นไปในทางตรงกนั ขา้ ม ท่านจึงไดห้ นั หนา้ เขา้ ร้องเรียนตอ่ อลั ลอฮฺ ถึงการทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺดว้ ย ทา่ นจึงไดข้ อวงิ วอนให้ พระองคท์ รงตดั สินระหวา่ งท่านและกลุ่มชนของทา่ นโดย ยตุ ิธรรม ทา่ นจึงเริ่มดุอาอ์ให้พระองค์?ณ. ทาลายบรรดาผปู้ ฏิเสธ และทรงช่วยเหลือทา่ นและบรรดาผศู้ รัทธาท่ียดึ มน่ั ตามแนวทางของพระองค์ ใหร้ อดพน้ จากการลงโทษดว้ ย วนั ที่อลั ลอฮฺ สัญญาไวไ้ ดม้ าถึง เม่ือพระองคเ์ ปิ ดเผยกบั ทา่ นนบีนูหฺ วา่ จะ ไม่มีใครศรัทธาต่อเขาอีกแลว้ และพระองคไ์ ด้บลั ดาลใจใหเ้ ขาไม่เศร้าเสียใจในเร่ืองน้นั พระองค์
283 ทรงบญั ชาใหท้ ่านนบีนูหฺ สร้างเรือ อุละมาอม์ ีความคิดเห็นต่างกนั เกี่ยวกบั เรือ โดยให้ ความเห็นดงั น้ี 1) สูง 80 ศอก กวา้ ง 50 ศอก 2) ในคมั ภีร์เตารอตไดก้ ล่าววา่ สูง 300 ศอก กวา้ ง 50 ศอก 3) หะซนั บศั รียม์ ีความคิดเห็นวา่ สูง 600 ศอก กวา้ ง 300 ศอก 4) อิบนฺ อบั บาสมีความคิดเห็น วา่ สูง 1200 ศอก กวา้ ง 600 ศอก 5) สูง 1000 ศอก กวา้ ง 100 ศอก 6) อุละมาอส์ ่วนใหญม่ ีความ คิดเห็นตรงกนั วา่ สูง 30 ศอก มีสามช้นั แต่ละช้นั สูง 10 ศอก ช้นั ล่างสุดสาหรับสัตวส์ ี่ขาและ สัตวเ์ ล้ือยคลาน ช้นั ท่ีสองสาหรับมนุษย์ และช้นั บนสุดสาหรับนกและสตั วป์ ี ก เมื่อเรือถูกสร้างเสร็จ และทา่ นรอคาบญั ชาจากพระองคท์ ี่จะลงมายงั ท่าน ทนั ใดน้นั สญั ญาณการเ ร่ิมตน้ แห่งอุทกภยั ไดม้ าถึง เม่ือเตาอบในบา้ น ของท่านเออ่ ลน้ ไปดว้ ยน้า ทา่ นรีบเร่ง เปิ ดเรือและเรียกผศู้ รัทธา และ ท่านไดน้ าสัตวท์ ุกชนิดท้งั แมลงและนกอยา่ งล ะคู่เพศผแู้ ละเพศเมีย ข้ึนไปกบั ท่าน บรรดาผรู้ ู้ศาสนา (อุละมาอ)์ มีหลายทรรศนะในเร่ืองของบรรดาผทู้ ี่ข้ึนเรือไปกบั ทา่ นนบีนูหฺ อิบนฺอบั บาส กล่าววา่ มีแปดคน ขณะที่กะอบั อลั อะฮฺบรั ฺ บอกวา่ มีเจด็ สิบสองคน และคนอ่ืนๆบอกวา่ มีสิบคน อลั ลอฮฺ ไดท้ รงลงโทษผปู้ ฏิเสธศรัทธาดว้ ยการจมน้า และทรงช่วยเหลือท่าน นบีนูหฺ และผศู้ รัทธาจากภยั พิบตั ิอนั ร้ายแรง พระองคท์ รงใหล้ ูกหลานของท่านที่ยงั คงมีชีวติ อยสู่ ืบทอดเช้ือสายจากทา่ นและพระองคท์ รงยกยอ่ งเกียรติคุณของทา่ นในหมู่ประชาชาติรุ่นหลงั ๆ ท้งั หลาย เพราะท่านอยใู่ นหมปู่ วงบ่าวผศู้ รัทธามนั่ ตอ่ พระองคเ์ พยี งองคเ์ ดียวเทา่ น้นั มุอฺญิซะฮฺ (ปาฏิหาริย์ ) ของท่านนบีนูหฺ น้นั ไดม้ ีการพดู ถึงมากมาย เพราะ การทุ่มเทเพ่ืองานดะอฺวะฮฺที่เป็นหนา้ ท่ีหลกั ของบรรดาศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ สาหรับมุอฺญิซะฮฺ (ปาฏิหาริย)์ ของท่านนบีนูหฺ น้นั สามารถจาแนกออกเป็นขอ้ ๆ ดงั น้ี 1. ทา่ นนบีนูหฺ เป็นเราะสูลท่านแรกของโลก ซ่ึงอลั ลอฮฺ ไดท้ รงแต่งต้งั เพอ่ื ทาการดะอฺวะฮฺผคู้ นสู่หนทางอนั ถูกตอ้ ง 2. ทา่ นนบีนูหฺ เป็นหน่ึงในบรรดา “อลู ุลอซั มี” 5 ทา่ น อนั ไดแ้ ก่ ท่านนบีนูหฺ ท่านนบีอิบรอฮีม ทา่ นนบีมซู า ทา่ นนบีอีซา และท่าน นบีมุฮมั มดั
284 3. ทา่ นนบีนูหฺ เป็นบิดาคนท่ีสองแห่งมนุษยชาติ เนื่องจากเผา่ พนั ธุ์มนุษยส์ ืบ เช้ือสายมาจากทา่ น เพราะหลงั จากเหตุการณ์น้าทว่ มโลก ไมม่ ีใครรอดชีวติ จากเหตุการณ์น้ีเลย นอกจากทา่ นนบีนูหฺ บรรดาลูก ๆ ของทา่ นและสาวกผซู้ ื่อสตั ยบ์ างคนเท่าน้นั 4. ท่านนบีนูหฺ มีอายยุ นื และใชเ้ วลาในการเผยแพร่ศาสนายาวนาน หลงั จากเหตุการณ์น้าทว่ มโลกซ่ึงเป็นบทลงโทษจากอลั ลอฮฺ ท่านนบีนูหฺ ยงั คงปฏิบตั ิหนา้ ท่ีในการดะอฺวะฮฺตอ่ ไป จนวาระสุดทา้ ยไดม้ าถึง ในขณะที่ท่านจะเสียชีวติ ทา่ นได้ ขอร้องใหล้ ูกๆของท่านสกั การะอลั ลอฮฺ เพยี งองคเ์ ดียวแลว้ ท่านกจ็ ากไป มีการเล่ากล่า วกนั วา่ สุสานของ ทา่ นนบีนูหฺ อยทู่ ่ีมสั ยดิ อนั ศกั ด์ิศิทธ์ อยู่ท่ี “มกั กะฮฺ” ขณะท่ีคนอื่นๆกล่าววา่ เขาถูกฝังที่เมือง “บะอฺละบกั ” ในอิรัก อลั ลอฮฺ เทา่ น้นั ผรู้ ู้ดียงิ่ 5.1.2 เพื่อศึกษาถึงความสาคญั ของสูเราะฮฺนูหฺ สูเราะฮฺนูหฺเป็นสูเราะฮฺมกั กียะฮฺอยา่ งเอกฉนั ท์ เป็นสูเราะฮฺลาดบั ที่ 71 ใน อลั กรุ อานและเป็นสูเราะฮฺท่ีถูกประทานลงมาเป็นลาดบั ที่ 73 ตามลาดบั การประทานสูเราะฮฺใน อลั กุรอาน ถูกประทานลงมาหลงั จากสูเราะฮฺอลั นะหฺล์ อายะฮฺท่ี 1-40 และก่อนสูเราะฮฺอฏั ฏูรและ อุละมาอบ์ างท่านไดก้ ล่าววา่ ก่อนสูเราะฮฺอิบรอฮีม จานวนอายะฮฺของสูเราะฮฺนูหฺน้นั ตามมุซฮฟั อลั กฟู ี ย์ (มุซฮฟั ของชาวกฟู ะฮฺ )มี จานวน 28 อายะฮฺ ตามมุซฮฟั อลั บศั รียแ์ ละอชั ชามีย์ (มุซฮฟั ของชาวบสั เราะฮฺและชาม )มีจานวน 29 อายะฮฺ และตามมุซฮฟั มกั กียแ์ ละมะดะนีย(์ มุซฮฟั ของชาวมกั กะฮฺและมะดีนะฮฺ)มีจานวน 30 อายะฮฺ คาในสูเราะฮฺนูหฺมีจานวน 224 คา และมีอกั ษรท้งั หมด 950 ตวั อกั ษร ตามจานวน ปี ท่ีทา่ นนบีนูหฺ ไดท้ าการดะอฺวะฮฺ นี่คือส่ิงมหศั จรรยใ์ นอลั กุรอานที่มนุษยไ์ ม่สามารถ ลอกเลียนแบบได้ สูเราะ ฮฺนูหฺเป็นสูเราะฮฺท่ีส้ัน เน้ือเรื่องของสูเราะฮฺน้ีจึงคลา้ ยคลึงกบั สูเราะฮฺ มกั กียะฮฺอ่ืนๆ คือเนน้ หนกั ในเร่ืองของอะกีดะฮฺหรือหลกั การศรัทธา และอธิบายหลกั การศรัทธา แต่ ท่ีสาคญั และเป็นจุดเด่นของสูเราะฮฺน้ีคือการกล่าวอยา่ งละเอียดเก่ียวกบั การดะอ วะฮฺ ผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ
285 และจุดยนื ของมนุษยต์ ่อการดะอฺวะฮฺซ่ึงใชร้ ูปแบบท่ีหลากหลายในการเชิญชวนผคู้ นสู่สจั ธรรม เพอ่ื เป็นการฝึกฝนบรรดานบีเราะสูล และผทู้ ่ีไดช้ ื่อวา่ เป็นนกั ดาอียจ์ วบจนวนั สิ้นโลก ในสูเราะฮฺน้ี ทา่ นนบีนูหฺ ไดเ้ ร่ิมการดะอฺวะฮฺเผยแผส่ ัจธรรม โดยการตกั เตือนกลุ่มชนขอ งเขา และเชิญชวน ใหล้ ะทิ้งการทาความผดิ และอธรรม เพ่ือวา่ อลั ลอฮฺ จะทรงอภยั โทษ และเพ่ิมพนู ทรัพยส์ ินเงิน ทองและลูกหลานอนั มากมาย พระองคจ์ ะทรงใหม้ ีสวนและลาน้ามากหลายแก่พวกเขา แตพ่ วกเขา ปฏิเสธ และด้ือร้ันในการหลงผดิ จนกระทง่ั พระองคไ์ ดใ้ หส้ ิ้นสุดลงดว้ ยเหตุการณ์น้าท่ว ม ซ่ึง พระองคท์ รงใหบ้ รรดาผปู้ ฏิเสธศรัทธาในหม่ชู นของเขาจมน้าตาย ดว้ ยเหตุน้ีสูเราะฮฺน้ี จึงไดช้ ื่อวา่ “สูเราะฮฺนูหฺ” ท่านนบีมฮู มั มดั มิไดก้ ล่าวถึงความประเสริฐของสูเราะฮฺนูหฺไวใ้ นวจนะของ ท่าน รวมถึงบรรดาเศาะหาบะฮฺก็มิไดก้ ล่าวถึง เช่นเดียวกบั บรรดาอุละมาอ์ ท้งั ยคุ ก่อนและยคุ หลงั แต่อยา่ งไรกต็ ามมีเพียงหะดีษเมาฎูอฺ (หะดีษที่มิไดม้ ีท่ีมาจากทา่ นนบีมุฮมั มดั ) จึงไม่ควรยดึ เป็น หลกั ฐาน ดว้ ยเหตุน้ีจึงไมป่ รากฏร่องรอยหลกั ฐานท่ีชดั เจนที่กล่าวถึงความประเสริฐของสูเราะฮฺนูหฺ แตท่ ้งั น้ีท้งั น้นั สูเราะฮฺที่มีอยใู่ นอลั กุรอานท้งั หมดลว้ นมีคุณคา่ และมีความหมายท่ีดีงามยง่ิ เริ่มตน้ สูเราะฮฺนูหฺดว้ ยการกล่าวเก่ียวกบั การบญั ชาของอลั ลอฮฺ ต่อท่านนบีนูหฺ ใหท้ าการดะอฺวะฮฺหมชู่ นของทา่ น และสูเราะฮฺไดก้ ล่าวจบทา้ ยถึงผลตอบแทนของอลั ลอฮฺ ตอ่ บรรดาผปู้ ฏิเสธศรัทธาดว้ ยการลงโทษในดุนยาและอาคิเ ราะฮฺ หลงั จากท่ีท่านประสบกบั ความ เหน่ือยยากและความพยายามเป็นเวลาอนั ยาวนานถึง 950 ปี และการขอดุอาอข์ องท่านใหพ้ ระองค์ ทรงอภยั โทษบรรดาผศู้ รัทธา ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺที่ผา่ นมา คือสูเราะฮฺอลั มะอาริจ โดยท่ีท้งั สองสูเราะฮฺน้นั มีความสมั พนั ธ์และความคลา้ ยคลึงกนั 2 ประการ 1. ท้งั สองสูเราะฮฺมีความคลา้ ยคลึงกนั เป็นอยา่ งมาก กล่าวคือในสูเราะฮฺอลั มะอาริจ ไดม้ ีการกล่าวถึงบทลงโทษสาหรับชาวกุฟฟารฺผปู้ ฏิเสธ ศรัทธา สมยั ทา่ นนบีมุฮมั มดั และใน สูเราะฮฺนูหฺไดม้ ีการกล่าวถึงบทลงโทษสาหรับชาวกุฟฟารฺผปู้ ฏิเสธศรัทธาสมยั ทา่ นนบีนูหฺ 2. สูเราะฮฺอลั มะอาริจไดก้ ล่าวถึงความยงิ่ ใหญ่และเดชานุภาพของพระองคใ์ นการ ท่ีพระองคจ์ ะเปลี่ยนจากบรรดาผทู้ ่ีปฏิเสธศรัทธาจากกลุ่มชนของทา่ นนบีมุฮมั มดั ดว้ ยตวั แทน ซ่ึงดีกวา่ พวกเขา ซ่ึงมีความคลา้ ยคลึงกบั สูเราะฮฺนูหฺท่ีไดม้ ีการกล่าว ถึงความยง่ิ ใหญข่ องอลั ลอฮฺ และเดชานุภาพของพระองคใ์ นการท่ีพระองคจ์ ะลงโทษบรรดาผทู้ ่ีปฏิเสธศรัทธาจากกลุ่มชนของ
286 ท่านนูหฺ ดว้ ยการจมน้า และการที่ทา่ นนบีนูหฺ ไดข้ อดุอาออ์ ยา่ ใหผ้ ปู้ ฏิเสธศรัทธา หลงเหลือในแผน่ ดิน ซ่ึงยอ่ มหมายถึงการขอใหผ้ ศู้ รัทธารอดพน้ ปลอดภยั จากกา รลงโทษ และ เปลี่ยนจากกลุ่มชนผปู้ ฏิเสธศรัทธาเหล่าน้นั ดว้ ยตวั แทนที่ดีกวา่ พวกเขา ความสมั พนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺหลงั จากน้นั คือสูเราะฮฺอลั ญิน 4. ท้งั สองสูเราะฮฺไดก้ ล่าวเก่ียวกบั ผลตอบแทนที่ดีของบา่ วผศู้ รัทธา 5. ท้งั สองสูเราะฮฺไดก้ ล่าวถึงสิ่งที่เก่ียวขอ้ งกบั ช้นั ฟ้ า 6. ท้งั สองสูเราะฮฺไดก้ ล่าวถึงบทลงโทษสาหรับผฝู้ ่ าฝืนอลั ลอฮฺ ความสัมพนั ธ์ของสูเราะฮฺนูหฺกบั สูเราะฮฺก่อนจากน้นั คือสูเราะฮฺอนั นะหฺลต์ ามลาดบั การประทานอลั กุรอาน โดยที่สูเราะฮฺอนั นะหฺลไ์ ดก้ ล่าวในอายะฮฺทา้ ยๆเก่ียวกบั การดะอฺวะฮฺของ ทา่ นนบีมุฮมั มดั ตอ่ ชาวมกั กะฮฺดว้ ยรูปแบบวทิ ยปัญญา สุขมุ ตกั เตือนท่ีดี และการโตแ้ ยง้ ดว้ ยสิ่งที่ ดีกวา่ และอดทนต่ออุปสรรคต่างๆ ความด้ือร้ันของพวกเขา แน่นอนอลั ลอฮฺ ยอ่ มอยเู่ คียงขา้ ง บรรดาผอู้ ดทน หลกั การใชภ้ าษาในสูเราะฮฺนูหฺ มีดงั ต่อไปน้ี 1. อลั ลอฮฺ ไดใ้ ชค้ าท่ีหลากหล ายในสูเราะฮฺนูหฺ มีการใชร้ ูปแบบ )(الطباؽ อตั ติบาก ซ่ึงเป็นคาสองคาที่ตรงขา้ มกนั 2. อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานโดยใชร้ ูปแบบ ) ل(امجا زلادرسلอลั มะญาส อลั มุรซลั เป็นคาท่ีกล่าวในอายะฮฺ ใหค้ วามหมายต่างจาก ความหมายจริงของคา แต่ความหมายที่ใชแ้ ละ ความหมายจริงของคา มีความเก่ียวขอ้ งกนั 3. อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานโดยใชร้ ูปแบบ ) (لاإستعارةอลั อิซติอาเราะฮฺ ซ่ึงเป็ นการเปรี ยบเทียบ 4. อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานในรูปแบบ ) (لاإطنا بอลั อิฏนาบ โดยใช้ คานาม )ل(ادصدرอลั มศั ดรั ฺ ในอายะฮฺซ่ึงเป็นการยนื ยนั ถึงการกระทาน้นั ๆ 5. อลั กินายะฮฺ ) (الكنايةคือ คาที่ตอ้ งการความหมายอื่นท่ีสอดคลอ้ งกบั คาเดิม พร้อมกบั อาจสื่อถึงความหมายเดิมไปพร้อมๆกนั 6. อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กรุ อานในรูปแบบ ) (لاإطنا بอลั อิฏนาบโดยกล่าว เจาะจงหลงั จากท่ีกล่าวโดยรวมทว่ั ไป ) (لاخاصبعدا لعامอลั คอส บะอฺด์ อลั อาม
287 7. ในสูเราะฮฺน้ีมีอายะฮฺท่ีมีคาคลา้ ยคลึง (ل)ادتشابوเพื่อใหเ้ กิดความหมายที่เจาะจง เฉพาะ 8. อลั ลอฮฺ ไดก้ ล่าวในอลั กุรอานในรูปแบบ ) (سجعمرصعซะญะอฺมุรฺเสาะอฺ ซ่ึง เป็นการคลอ้ งจองและสมั ผสั สระในแตล่ ะอายะฮฺ 5.1.3 เพอ่ื ศึกษาเทคนิคการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ การดะอฺวะฮฺ หมายถึงการเชิญชวนมนุษยส์ ู่ อลั ลอฮฺ และการเรียกร้องสู่ทางนา โดยใหก้ ระทาในสิ่งที่ชอบ และหา้ มปรามในสิ่งที่มิชอบ จุดประสงคใ์ นการทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺ มีดงั ต่อไปน้ี 1) เพ่ือช่วยเหลือมนุษยใ์ หห้ นั สู่การเคารพอิบา ดะฮฺต่ออลั ลอฮฺ ตามท่ีอิสลาม ไดส้ อนสง่ั และเพอื่ ใหม้ นุษยร์ ู้จกั พระเจา้ ท่ีแทจ้ ริง และการใชจ้ ิตวญิ ญาณที่มีเกียรติ จิตใจท่ีสูงส่งใน การสร้างมนุษยท์ ี่บริสุทธ์ิที่ดีเลิศ และยกการกระทาและการปฏิบตั ิท่ีจะนาพาซ่ึงความอยากความ ตอ้ งการอนั ไมร่ ู้จกั เพียงพอ การรู้จกั ยบั ย้งั ชง่ั ใจในการที่จะปฏิบตั ิตามมารร้ายชยั ฏอน 2) เพอ่ื ขดั เกลาจิตใจของมนุษยใ์ หม้ ีเกียรติและสูงส่ง เพราะอลั ลอฮฺ น้นั ทรง ใหเ้ กียรติกบั มนุษยอ์ ยา่ งมากมาย 3) เพ่อื ช่วยเหลือมนุษยใ์ นการฟ้ื นฟซู ุนนะฮฺการตะอารุฟทาความรู้จกั ซ่ึงกนั และ กนั และเพอ่ื ประกาศความเป็นพ่ีนอ้ งและความเทา่ เทียมซ่ึงกนั และกนั ไมม่ ีความเหล่ือมล้าระหวา่ ง ชาติพนั ธ์ ตาแหน่งยศถาบรรดาศกั ด์ิ ชาติตระกลู สีผวิ หรือเช้ือชาติ แตผ่ หู้ น่ึงผใู้ ดจะสูงส่งอยทู่ ่ีการ งานที่ดีของเขา การใหป้ ระโยชนแ์ ก่ส่วนรวม ความพยายามที่น่ายกยอ่ ง การกระทาท่ีดี และหวั ใจที่ ยาเกรงพระเจา้ อยา่ งแทจ้ ริง 4) เพอื่ ช่วยเหลือมนุษยใ์ นการเปล่ียนแปลงความเส่ือมโทรมในสงั คมซ่ึงพบวา่ มี มุสลิมร่วมอาศยั อยเู่ ป็นจานวนมากในปัจจุบนั โดยช้ีใหพ้ วกเขาเห็นถึงความจาเป็นในการกลบั ไปยงั ศาสนา ใกลช้ ิดอลั ลอฮฺ และใกลช้ ิดมนุษย์ เพอื่ ที่จะช่วยกนั ร่วมมือในการฟ้ื นฟสู งั คมใหน้ ่าอยู่ ตามท่ีอิสลามไดส้ อนส่ังไว้ และเพื่อเป็นการยนื ยนั ถึงการไดร้ ับสิทธิดา้ นชีวติ ทรัพยส์ ิน การงาน สุขภาพ อิสรภาพและความปลอดภยั ของทุกคน และกาหนดขอบเขตการแสวงหาแต่สิ่งท่ีฮาลาลเป็น ท่ีอนุมตั ิ
288 5) เพอ่ื ทาหนา้ ที่ตรั บียะฮฺอบรมสอนส่ั งมุสลิมตามรูปแบบการตรั ฺบียะฮฺ อิสลามียะฮฺที่สมบูรณ์ ใหค้ รอบคลุมทุกๆดา้ น ท้งั ดา้ นจิตวญิ ญาณ ความคิด มารยาท สุขภาวะดา้ น ร่างกาย และสงั คม 6) เพื่อเป็นการปฏิบตั ิภารกิจในการเตรียมพร้อมสงั คมมุสลิมที่จาเป็นจะตอ้ งเติม เตม็ ดว้ ยจรรยามารยาทแบบอิสลาม 7) เพ่อื เป็นการปฏิบตั ิภารกิจในการปกป้ องประชาชาติอิสลามจากศตั รู ซ่ึงมายดึ ดินแดนหรือคุกคามในทุกรูปแบบ ไมว่ า่ ในดา้ นวฒั นธรรม การเมือง เศรษฐกิจ หรือสงั คม 8) เพื่อเป็นการปฏิบตั ิภารกิจในการสร้างการปกครองระบอบอิสลามในทุกๆ รูปแบบ เพราะเป็นส่วนสาคญั ในการวางรูปแบบการปกครองก่อนสิ่งอื่นใด 9) เพอ่ื เป็นการปฏิบตั ิภารกิจในการรวมคนมุสลิมทว่ั โลกใหเ้ ป็นหน่ึงเดียว โดย เริ่มตน้ จากการรวมเป็นหน่ึงเดียวดา้ นความคิด วฒั นธรรม และอื่นๆ 10) เพื่อปฏิบตั ิภารกิจในการดะอฺวะฮฺสู่หนทางแห่งอลั ลอฮฺ ทว่ั แผน่ ดิน 11) เพ่ือยนื ยนั ถึงหลกั การเชื่อวนั แห่งการตอบแทน เพราะมนุษยน์ ้นั จะถูกใหฟ้ ้ื น คืนชีพในวนั ท่ียง่ิ ใหญ่ วนั ที่มนุษยจ์ ะยนื ตอ่ หนา้ พระเจา้ แห่งสากลโลก ความหมายของนกั ดาอียเ์ ชิงวชิ าการ หมายถึง ผทู้ ่ีถูกใหร้ ับผดิ ชอบตามที่อิสลามได้ บญั ญตั ิไว้ โดยตอ้ งทาหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺไปสู่อลั ลอฮฺ หรือผทู้ ี่กาหนดใหต้ วั เองทาหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺ ไปสู่อลั ลอฮฺ เพยี งองคเ์ ดียว ใหศ้ รัทธาต่อพระองค์ ตอ่ ทา่ นนบีมุฮมั มดั และสู่การทาความดี ในดา้ นอิบาดะฮฺ การดาเนินชีวติ และส่งั ใชใ้ หก้ ระทานส่ิงที่ชอบและหา้ มปรามในสิ่งท่ีมิชอบ คุณลกั ษณะของนกั ดาอียท์ ี่สาคญั มีดงั ต่อไปน้ี 1) การรู้จกั อลั ลอฮฺ อยา่ งแทจ้ ริงและมีความใกลช้ ิดกบั พระองคอ์ ยา่ งแน่วแน่ 2) มีความเขา้ ใจอยา่ งละเอียดในเร่ืองศาสนาและดุนยา 3) มีความรอบรู้ในเรื่องของผถู้ ูกดะอฺวะฮฺมีประสบการณ์ท่ีโชกโชน มีความรู้ ความเขา้ ใจที่กวา้ งขวาง ตอ้ งศึกษากบั ผรู้ ู้ จะตอ้ งเรียนรู้ความเป็นอยขู่ องผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ รู้ปัญหาและ แนวทางแกไ้ ข และเรียนรู้วชิ าต่างๆที่เกี่ยวขอ้ งกบั ผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ 4) การเป็นแบบอยา่ งที่ดี 5) มีความสนใจและตื่นตวั ตลอดเวลา 6) มีความบริสุทธ์ิใจ (อิคลาศ) 7) มีความอดทน
289 8) การศึกษาหาความรู้อยา่ งสม่าเสมอ 9) มีความนอบนอ้ มถ่อมตนและสุภาพออ่ นโยน ประเภทของผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ(มดั อูย)์ มีดงั ตอ่ ไปน้ี 1) มุอฺมิน หรือผศู้ รัทธา หมายถึง บุคคลท่ีศรัทธาตอ่ อิ สลามและพึงพอใจใน หลกั การ ซ่ึงพวกเขามีมุมมองท่ีดีต่อศาสนาอิสลาม และพร้อมที่จะเรียนรู้อิสลาม มีความ กระตือรือร้นท่ีจะปฏิบตั ิในสิ่งท่ีอิสลามสง่ั ใช้ และมีความพร้อมในการใชช้ ีวติ ในดุนยาและอาคิ เราะฮฺเพ่ือใหถ้ ูกตอ้ งตามแบบอยา่ ง และพวกเขาไม่ไดใ้ หค้ วามสนใจอยา่ งจริงจงั เก่ียวกบั ดุนยา และ พยายามอยา่ งมากในการปฏิบตั ิการงานในดุนยาเพื่อใหเ้ กบ็ เกี่ยวผลในวนั อาคิเราะฮฺ เพราะพวกเขามี ความเชื่อมน่ั ต่อผลตอบแทนในวนั อาคิเราะฮฺ ซ่ึงอลั ลอฮฺ ไดท้ รงสัญญาไวส้ าหรับบรรดาผู้ ศรัทธาที่ยดึ มน่ั ในสายเชือกแห่งอิสลามอยา่ งแทจ้ ริง 2) ผทู้ ี่ไมม่ ีจุดยนื (ผทู้ ี่ยงั ลงั เลอยู่ ) หมายถึง บุคคลท่ียงั ไมไ่ ดร้ ับความกระจา่ งใน การถูกดะอฺวะฮฺในคร้ังแรก จึงจาเป็นสาหรับนกั ดาอียใ์ นการดะอฺวะฮฺคร้ังตอ่ ๆไป จนกวา่ พวกเขาจะ เขา้ ใจความหมายของการบริสุทธ์ิใจตอ่ อลั ลอฮฺ รู้ถึงผลดีของการตอบรับการดะอฺวะฮฺ และรู้ คุณค่าของดุนยาเพอ่ื นาเสบียงไปยงั อาคิเราะฮฺ 3) ผกู้ ระทา ความผดิ หมายถึง บุคคลที่ศรัทธาต่อระบบอิสลามและกล่าวคา ปฏิญาณตน (ชะฮาดะฮฺ ) วา่ ไมม่ ีพระเจา้ อ่ืนใดนอกจากอลั ลอฮฺ และท่านนบีมุฮมั มดั เป็น ศาสนทตู ของพระองค์ แต่ในเวลาเดียวกนั พวกเขากห็ นั หลงั ใหก้ บั บางส่วนที่กฎหมายอิสลามสัง่ ใช้ และปฏิบตั ิในสิ่งที่อิสลามสั่งหา้ ม 4) กาฟิ ร หรือผปู้ ฏิเสธศรัทธาคือ กลุ่มชนท่ีไม่ตอบรับการดะอฺวะฮฺและมองนกั ดาอียใ์ นแง่ร้าย มีความสงสัยตอ่ หลกั การ และแนวคิดของการดะอฺวะฮฺ และมองนกั ดาอียใ์ นมุมมอง ท่ีเสียหาย ซ่ึงอลั กุรอานไดก้ ล่าวถึงพวกเขาคือพวกชนช้นั นา คือ ผทู้ ี่มีเกียรติ ในสังคมและเป็นผนู้ า ตอ่ ตา้ นการดะอฺวะฮฺของบรรดาเราะสูล เทคนิคการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ 1) การดะอฺวะฮฺดว้ ยการกล่าวตกั เตือน อลั ลอฮฺ ไดท้ รงส่งทา่ นนบีนูหฺ ใหท้ าหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของท่าน และทา่ นกน็ อ้ มรับคาบญั ชาพร้อมใชเ้ ทคนิคการดะอฺว ะฮฺดว้ ยการตกั เตือนกลุ่มชนของทา่ นใหต้ อบ รับสจั ธรรมก่อนการลงโทษจะมาถึง
290 2) การดะอฺวะฮฺดว้ ยความสุภาพอ่อนโยน ท่านนบีนูหฺ ไดท้ าการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ น โดยที่ท่านรู้จกั ตวั ตน ของกลุ่มชนของทา่ น ท่านจึงเลือกใชค้ าพดู ท่ีเหมาะสมสุภาพออ่ นโยนกบั พวกเขา เพอื่ เชิญชวนพวก เขาสู่สจั ธรรมใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด ดว้ ยเหตุน้ีจาเป็นอยา่ งยงิ่ สาหรับ นกั ดาอียใ์ นการใชค้ าพดู ที่ชดั เจน เหมาะสม มีความสุภาพอ่อนโยนตามสภาพความเขา้ ใจของผถู้ ูกดะอฺวะฮฺเพือ่ ใหเ้ กิดปฏิกิริยาและซึม ซบั สู่หวั ใจของพวกเขา 3) การดะอฺวะฮฺดว้ ยการโนม้ นา้ ว อลั ลอฮฺ ไดท้ รงบญั ชาศาสนทูตของพระองคใ์ หท้ าหนา้ ที่ดะอฺวะฮฺบ่าวของ พระองคโ์ ดยการโนม้ นา้ วดว้ ยคาพดู ท่ีสุภาพอ่อนโยน และท่านนบีนูหฺ ก็ไดน้ อ้ มรับคาบญั ชา และปฏิบตั ิภารกิจแห่งการดะอฺวะฮฺดว้ ย ความจริงใจ ซ่ึงบ่งบอกถึงความรักความห่วงใยของทา่ นท่ีมี ตอ่ กลุ่มชนของท่าน และเพื่อเชิญชวนพวกเขาสู่การศรัท ธาเคารพภกั ดี และยาเกรงต่อพระองคโ์ ดย การเชื่อฟังและปฏิบตั ิตามส่ิงที่ทา่ นไดเ้ ชิญชวนและยงั โนม้ นา้ วถึงขอ้ ดีในการปฏิบตั ิตามเพือ่ ให้ ไดร้ ับการอภยั โทษและไดร้ ับการผอ่ นผนั ไปยงั วาะรที่ถูกกาหนดไว้ 4) การดะอฺวะฮฺดว้ ยการเลือกใชเ้ วลาที่เหมาะสม ทา่ นนบีนูหฺ ได้ใช้เทคนิคการดะอฺวะฮฺดว้ ยการเลือกใชเ้ วลาท่ีเหมาะสม ท้งั กลางวนั และกลางคืนอยา่ งสม่าเสมอ และตอ้ งมีความอดทน จาเป็นอยา่ งยง่ิ สาหรับนกั ดาอียใ์ น การเลือกใชเ้ วลาท่ีเหมาะสมกบั ส ถานการณ์ โอกาสของผถู้ ูกดะฮฺ และจะตอ้ งมีความอดทนตอ่ อุปสรรคต่างๆ ผใู้ ดที่ไมส่ ามารถทาภารกิจการดะอฺวะฮฺกลุ่มชน ของเขาในช่วงกลางวนั ใหท้ าการ ดะอฺวะฮฺในช่วงกลางคืนตามความเหมาะสมของการปฏิบตั ิงานของพวกเขา ตามความเหมาะสมของ ผถู้ ูกดะอฺวะฮฺและการ เลือกใชค้ าพดู ท่ีเหมาะสมในสถานการณ์น้นั เพราะในบางค ร้ังผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ อาจจะมีภารกิจ เหนื่อยลา้ หรืออยใู่ นภาวะลาบาก คบั ขนั ก็เป็นได้ ดงั น้นั นกั ดาอียค์ วรเลือกเวลาที่ เหมาะสมตามโอกาสของผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ และควรระมดั ระวงั การดะอฺวะฮฺในช่วงเวลาท่ีพวกเขาเบ่ือ หน่ายหรือมีความลาบาก 5) การดะอฺวะฮฺดว้ ยการเรียกร้องเชิญชวนอยา่ งลบั ๆและเปิ ดเผย หลงั จากท่ีกลุ่มชนของทา่ นนบีนูหฺ ปฏิเสธการดะอฺวะฮฺของท่าน ทา่ นก็ ยงั พยายามหาเทคนิค ดะอฺวะฮฺดว้ ยรูปแบบ อ่ืนๆท่ีหลากหลาย เพราะท่าน คาดหวงั วา่ ดว้ ยรูปแบบใด รูปแบบหน่ึงในการดะอฺวะฮฺท่ีพวกเขาอาจตอบรับการศรัทธาและหนั สู่ทางแห่งสจั ธรรม ทา่ น จึงทา การดะอฺวะฮฺ อยา่ งลบั ๆ ท้งั กลางคืนและกลางวนั แตพ่ วกเขายงั หนีห่างออกจากท่าน ท่านจึงทาการ ดะอฺวะฮฺต่อไปอยา่ งเปิ ดเผย แต่ไมป่ ระสบผล ท่านจึง รวมข้นั ตอนที่หน่ึงและสองควบคูก่ นั นน่ั คือ
291 การดะอฺวะฮฺอยา่ งเปิ ดเผยโดยการป ระกาศและการดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆซ่ึง การควบรูปแบบท้งั สอง ยอ่ มหนกั กวา่ การทาการดะอฺวะฮฺเพียงรูปแบบใดรูปแบบหน่ึง 6) การดะอฺวะฮฺดว้ ยการช้ีแนะใหข้ ออภยั โทษ ท่านนบีนูหฺ มีพยายามอยา่ งยงิ่ ท่ีจะใชเ้ ทคนิคในการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของ ท่านเพื่อโนม้ นา้ วเชิญชวนพวกเขา ใหเ้ คารพภกั ดี ตอ่ อลั ลอฮฺ กลบั เน้ือกลบั ตวั ดว้ ยการ ขออภยั โทษจากพระองค์อยา่ งจริงใจ เพราะพระองคเ์ ป็นผทู้ รงอภยั โทษ และตอบรับการสานึก ผดิ ท้งั หลาย จากปวงบา่ ว 7) การดะอฺวะฮฺดว้ ยการบอกข่าวดี ท่านนบีนูหฺ พยายามท่ีจะดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นใหศ้ รัทธามนั่ ตอ่ อลั ลอฮฺ หากพวกเขาศรัทธาต่อพระองค์ พระองคจ์ ะทรงมอบข่าวดี ดว้ ยผลประโยชนบ์ นโลก ดุนยา 5 ประการ ตอ่ ไปน้ี 1. พระองคจ์ ะทรงหลงั่ น้าฝนอยา่ งมากมาย ซ่ึงนามาซ่ึงความอุดมสมบูรณ์ 2. พระองคจ์ ะทรงประทานทรัพยส์ ินเงินทองและเพ่มิ พนู อยา่ งมากมาย 3. พระองคจ์ ะทรงเพมิ่ พนู ลูกหลานอยา่ งมากมาย ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติ ของมนุษยแ์ ละความตอ้ งการของพวกเขา 4. พระองคจ์ ะทรงทาใหม้ ีสวนอนั มากหลายที่เตม็ ไปดว้ ยตน้ ไมแ้ ละพชื ผ ล ซ่ึง จะทาใหเ้ กิดผลดีแก่เจา้ ของ 5. พระองคจ์ ะทรงใหล้ าน้าอนั มากหลายเพอ่ื ใชใ้ นการรดน้าพืชผลและส่ิง เพาะปลูกกท่ีอยใู่ นสวนของพวกเขา 8) การดะอฺวะฮฺดว้ ยการใหใ้ คร่ครวญถึงความยง่ิ ใหญข่ องอลั ลอฮฺ ท่านนบีนูหฺ ใชค้ วามพยายาม อยา่ งมาก ในการ ดะอฺวะฮฺกลุ่มชนขอ ง ทา่ นดว้ ยเทคนิคการดะอฺวะฮฺ ใหพ้ วกเขาใคร่ครวญถึงความยง่ิ ใหญข่ องอลั ลอฮฺ และความเป็น เอกภาพของพระองค์ ดงั น้ี 1. พระองคค์ ือผสู้ ร้างมนุษยเ์ ป็นลาดบั ข้นั ตอนเริ่มจากเช้ืออสุจิเป็นกอ้ นเลือด หลงั จากน้นั เป็นกอ้ นเน้ือ หลงั จากน้นั เป็นกระดูก หลงั จากน้นั ไดห้ ุม้ กระดูกดว้ ยเน้ื อ และหลงั จาก น้นั ไดเ้ ป่ าวญิ ญาณกลายเป็นอีกรูปร่างหน่ึง โดยเริ่มจากการวยั ทารก หลงั จากน้นั วยั รุ่น หลงั จากน้นั วยั กลางคน และหลงั จากน้นั วยั ชรา 2. พระองคค์ ือผทู้ รงสร้างช้นั ฟ้ าท้งั เจด็ เป็นช้นั ๆ โดยที่มนั มิไดพ้ งั ลงมาแต่ อยา่ งใดท้งั ที่มนั ไม่มีที่ยดึ แมแ้ ต่นอ้ ย
292 3. พระองคค์ ือ ผสู้ ร้างดวงจนั ทร์ใหป้ ระดบั อยบู่ นฟากฟ้ า โดยใหม้ นั มีแสง สวา่ งระยบิ ระยบั ส่องแสงเปล่งประกายใหก้ บั โลกโดยท่ีไม่มีความร้อนระอุ 4. พระองคค์ ือผทู้ รงสร้างดวงอาทิตยเ์ พือ่ ใหค้ วามสวา่ งไสวในยามราตรีลบั ขอบฟ้ า และมนั ไดแ้ ผค่ วามร้อนและแสงแดดในเวลากลางวนั เพ่ือใหป้ ระโยชน์กบั มนุษย์ 5. พระองคค์ ือผบู้ งั เกิดมนุษยใ์ หม้ ีชีวติ ทรงทาใหม้ นุษยเ์ สียชีวติ และจะทรง ใหฟ้ ้ื นคืนชีพอีกคร้ังในวนั แห่งการสอบสวน 6. พระองคค์ ือผทู้ รงสร้างแผน่ ดินใหเ้ รียบกวา้ งใหญ่เพ่อื ใหม้ นุษยส์ ามารถ สญั จรไปมาไดเ้ พอ่ื หาปัจจยั ยงั ชีพ 5.2 อภปิ รายผล จากการวจิ ยั เทคนิคการดะอฺวะฮฺ ของทา่ นนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ ผลการวจิ ยั พบวา่ 1. ชีวประวตั ิของทา่ นนบีนูหฺ มีความสอดคลอ้ งกบั อลั กุรอาน หะดีษและ ความคิดเห็นจากอุละมาอใ์ นเร่ืองช่ือของทา่ น อลั ลอฮฺไดก้ ล่าวถึงชื่อของทา่ นชดั เจนในอลั กรุ อานวา่ ﭽﮀ ﮁ ﮂ ﮃ ﮄ ﮅ ﮆ ﮇﮈﮉﮊ ﮋ ﮌﮍﮎﭼ )1 :(نوح ความวา่ “แท้จริงเราได้ส่งนหู ฺไปยงั หม่ชู นของเขา (โดยบญั ชา ว่า) เจ้าจงกล่าวตกั เตือนหม่ชู นของเจ้า ก่อนที่การลงโทษอัน เจบ็ ปวดจะมาถึงพวกเขา” (นูหฺ: 1) สภาพสังคมในช่วงระหวา่ งทา่ นนบีอาดมั และทา่ นนบีนูหฺ พบวา่ ผคู้ นยดึ มนั่ ในหนทางแห่งอิสลามรวมถึงบิดามารดาของทา่ น
293 ดงั ที่ท่านอิบนฺ กะษิรฺ (Ibn Kathīr, 2003: 1/98) ไดร้ ายงานหะดีษ โดยอา้ งจากการ บนั ทึกของอลั บุคอรีย์ จากหะดีษอิบนฺอบั บาส ซ่ึงท่านกล่าววา่ ))))كافيبنآدـ كنوحعشرةقركفكلهمعلىلاإسلاـ ความวา่ “ปรากฏวา่ ระยะเวลา ระหวา่ งอาดมั และนู หฺคือหน่ึง สหสั วรรษ ทุกคนยดึ มน่ั บนหนทางแห่งอิสลาม” การดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของท่าน สอดคลอ้ งตามที่อลั กรุ อานไดก้ ล่าวไว้ ส่วนขอ้ มูล อ่ืนๆ เช่น วงศต์ ระกลู ของท่านนบีนูหฺ มีเช้ือสายมาจากท่านนบีอาดมั การกาเนิดของท่าน ลกั ษณะของเรือ สุสานของท่าน ขอ้ มูลดงั กล่าวเป็นเพยี งรายงานจากอิสรออีลียาต 2. สูเราะฮฺนูหฺเป็นสูเราะฮฺมกั กียะฮฺอยา่ งเอกฉนั ท์ เป็นสูเราะฮฺลาดบั ที่ 71 ใน อลั กรุ อานและเป็นสูเราะฮฺที่ถูกประทานลงมาเป็นลาดบั ที่ 73 ตามลาดบั การประทานสูเราะฮฺใน อลั กุรอาน อุละมาอม์ ีความคิดเห็นต่างกนั เกี่ยวกบั จานวนอายะฮฺของสูเราะฮฺนูหฺ จุดเด่นของสูเราะฮฺน้ี คือการกล่าวอยา่ งละเอียดเก่ียวกบั การดะอวะฮฺ ผถู้ ูกดะอฺวะฮฺ และจุดยนื ของมนุษยต์ ่อการดะอฺวะฮฺ ซ่ึงใชร้ ูปแบบที่หลากหลายในการเชิญชวนผคู้ นสู่สจั ธรรม 3. จุดประสงคใ์ นการทาหนา้ ท่ีดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ คือการตกั เตือน และเชิญชวนกลุ่มชนของท่านใหเ้ คารพสกั การะอลั ลอฮฺ ดงั ที่พระองคไ์ ดก้ ล่าวในอลั กุรอานวา่ ﭽﮏﮐﮑﮒﮓ ﮔﮕﮖﮗﮘﮙ ﮚﮛﭼ )3-2 :(نوح ความวา่ “เขากล่าว ว่าโอ้หม่ชู นของฉันเอ๋ย แท้จริงฉันคือผู้ ตักเตือนอันชัดแจ้งของพวกท่าน (2) พวกท่านจงเคารพภกั ดี อัลลอฮฺเถิด และจงยาเกรงพระองค์ และจงเช่ือฟังปฏิบัติตามฉัน (3)” (นูหฺ : 2-3)
294 4. เทคนิคการดะอฺวะฮฺของทา่ นนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺนูหฺ พบวา่ ทา่ นนบีนูหฺ ใชค้ วามพยายามอยา่ งมากในการดะอฺวะฮฺกลุ่มชนของทา่ นดว้ ยรูปแบบและเทคนิคการดะอฺวะฮฺ ที่หลากหลาย โดยการตกั เตือนใหร้ ะมดั ระวงั การลงโทษจากอลั ลอฮฺ หากพวกเขาฝ่ าฝืน การใช้ คาพดู ที่สุภาพออ่ นโยนและการโนม้ นา้ วจิตใจ การดะอฺวะฮฺอยา่ งลบั ๆและเปิ ดเผย ท้งั กลางวนั และ กลางคืน การช้ีแนะใหข้ ออภยั โทษตอ่ พระองค์ การบอกข่าวดีสาหรับผขู้ ออภยั โทษ ที่ จะนามาซ่ึง ทรัพยส์ ินเงินทองและลูกหลานอนั มากมาย สวนและลาน้าหลายสาย และยงั ไดต้ กั เตือนใหพ้ วกเขา ใคร่ครวญส่ิงที่พระองคท์ รงสร้างสรรพสิ่งท้งั มวล รวมถึงการสร้างมนุษยเ์ ป็นลาดบั ข้ั นตอน การ สร้างช้นั ฟ้ า ดวงอาทิตย์และดวงจนั ทร์ การสร้างมนุษยม์ าจากดิน และจะกลบั คืนสู่ดิน และจะถูกให้ ฟ้ื นคืนชีพอีกคร้ังในวนั แห่งการตอบแทน และการสร้างแผน่ ดินใหเ้ รียบกวา้ งใหญ่ เพอื่ การสญั จรไป มา ทา่ นไดว้ างแบบอยา่ งแห่งการดะอฺวะฮฺใหช้ นรุ่นหลงั ไดป้ ฏิบตั ิตาม โดยการ ใชเ้ ทคนิค ดะอฺวะฮฺ ดว้ ยรูปแบบท่ีหลากหลาย ท่ีกล่าวมา เพอื่ ไม่ใหผ้ ถู้ ูกดะอฺวะฮฺรู้สึกเบื่อหน่าย และมีความคาดหวงั วา่ ดว้ ยรูปแบบใดรูปแบบหน่ึงในการ ดะอฺวะฮฺท่ีพวกเขาอาจตอบรับการศรัทธาและหนั สู่ทางแห่งสจั ธรรม ซ่ึงจาเป็นอยา่ งยิ่ งสาหรับนกั ดาอียช์ นรุ่นหลงั ที่จะตอ้ งนาเทคนิคต่างๆของทา่ นที่หลากหลาย มาปรับใชใ้ หเ้ หมาะสมตามภารกิจการดะอฺวะฮฺกบั สถานการณ์ในปัจจุบนั ซี่งเป็นแบบอยา่ งการดะอฺ วะฮฺท่ีดีสาหรับท่ีจะดาเนินรอยตอ่ ไปตราบวนั สิ้นโลก 5.3 ข้อเสนอแนะ 1. นกั ดาอียค์ วรทาการศึกษาเก่ียวกบั การดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ ให้ ละเอียดครอบคลุมหลายๆดา้ น การดะอฺวะฮฺของบรรดานบีและบรรดาเ ราะสูลของอลั ลอฮฺ และ การคน้ ควา้ ความรู้อื่นๆ เพิม่ เติมเก่ียวกบั การดะอฺวะฮฺ เพ่อื ใชใ้ นการทางานดะอฺวะฮฺ และใหเ้ กิด ประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากท่ีสุด 2. ควรใหผ้ วู้ จิ ยั และผมู้ ีความรู้ทาการเขียนวทิ ยานิพนธ์เก่ียวกบั เทคนิคการ ดะอฺวะฮฺของท่านนบีนูหฺ ในสูเราะฮฺอ่ื นๆ เช่นสูเราะฮฺฮดู เป็นตน้ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ที่ หลากหลายมากข้ึน ครอบคลุมมากข้ึน และสามารถนามาใชใ้ นการปฏิบตั ิภารกิจดะอฺวะฮฺอยา่ งมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากท่ีสุด
295 บรรณานุกรม หนังสือ/ตารา ฝ่ ายวชิ าการภาษา ไทย . พทุ ธศกั รา ช 2553 “พจนานุกรมไทยฉบบั ทนั สมยั และสมบูรณ์ ”. กรุงเทพมหานคร: บริษทั ซีเอด็ ยเู คชนั่ จากดั . บินมุสลิม. ม.ป.ป. “ปทานุกรมอาหรับ-ไทย” กรุงเทพมหานคร: ส.วงศเ์ สง่ียม สมาคมนกั เรียนเก่าอาหรับประเทศไทย . ปี ฮิจเราะฮฺศกั ราช 1419.(พทุ ธศกั ราช 2542) “พระมหา คมั ภีร์อลั กุรอานพร้อมความหมายภาษาไทย ”. ซาอุดีอารเบี ย: ศนู ยก์ ษตั ริยฟ์ ะฮดั เพอ่ื การพมิ พอ์ ลั กรุ อานอลั มะดีนะฮฺ อลั มุเนาวะเราะฮฺ ฮารูน ยะฮฺยา (แปลภาษาไทยโดย ซากี เริงสมุทร์ และ กอมารียะฮ์ อิสมาแอล ). 2548 “ประชาชาตทิ ่ี ถูกทาลาย”. กรุงเทพมหานคร: ศูนยห์ นงั สืออิสลาม Abās al-Sīsiy. 1998. al-Da‘wah ilā Allah Ḥub)(الدعوةإلىلالهحب. Cairo: Dār al-Tauzī ‘ wa al-Nashr al-Islāmiyyah. Abu al-Wahhāb al-Najjār. n.d Qisas al-Anbiyā’ )(قصصلاأنبياء. Cairo: Dār al-Turāth. Abu Dāwūd, Sulaimān ibn al-Ash‘āth. n.d. Sunan Abī Dāwūd )(سننأبي داود. Riyāḍ: Maktabah Ma‘ārif. Abū Bakr Dhikriy. 1997. al-Da‘wah ilā al-Islām )(الدعوةإلىلاإسلام. s.l.: s.n. Abū Bakr Jābir al-Jazāiriy. 2003. Aisar al-Tafāsīr li Kalām al-‘Aliy al-Kabīr (أيسرالتفاسير )لكلامالعليالكبير. al-Madīnah al-Munauwarah: Maktabah: al-Ulūm wa al- Hikam.
296 Abū al-Hasan Ahmad ibn Fāris ibn Zakariyya. n.d. Mu‘jam Maqāyīs al-Lughah (معجممقاييس )اللغة. s.l.: s.n. ‘Abd al-Karīm Zaidān. 1987. Uṣūl al-Da‘wah ) (أصو لالدعوة. Beirut: Dār al-Kitāb al- Lubnāniyyah. ‘Abd al-Qādir Sayyid ‘Abd al-Ra’ūf. 1987. Dirāsāt fī al-Da‘wah al-Islāmiyyah (دراسا تفي )الدعوةلاإسلامية. Cairo: Dār al-Tabā‘ah al-Muhammadiyyah. ‘Abd al-Rahmān bin Muhammad bin Qāsim wa Sa‘īduhū Binuhū Muhammad. 1995. Jam‘u wa Tartīb of Majmū‘ Fatāwā by Ahmad bin Taimiyah (مجموعالفتاو ىلابن )تيمية. Al-Sa‘ūdiyyah: Majma‘ al-Malik Fahad li Ṭibā‘ah al-Musḥaf al-Sharīf. ‘Abd al-Rahmān ibn Nāsir al-Sa‘diy. 2004. Taisīr al-Karīm al-Rahmān fī Tafsīr Kalām al- Mannān )(تيسيرالكريمالرحمنفيتفسيركلامالمنان. Cairo: Maktabah al- Ṣafā. ‘Afāf ‘Aliy al-Najjār. 2009. Namāzij min jidāl Ulī al-‘Azm ma‘a Umamihim (نماذجمنجدا ل )أولىالعزممعأممهم. Cairo: Matba‘ah Jāmi‘ah al-Azhar. Ahmad bin Muhammad bin Hanbal bin Hilāl bin Asad. 1993. Musnad al-Imām Ahmad )(مسندلاإمامأحمد. s.l: Dār Ihyā’ al-Turāth al-Arabiy. Ahmad Zaghlūl Ṣādiq. 2007. Al-Mukhtaṣar fī al-Dakhīl fī al-Tafsīr (المختصرفيالدخيلفي. )التفسير. s.l: s.n.
297 ‘Aliy ‘Abd al-Halīm Mahmūd. 2003. al-Mar’ah al-Muslimah wa Fiqh al-Da‘wah ilā Allah )(المرأةالمسلمة وفقهالدعوةإلىلاله. al-Manṣūrah: Dār al-Wafā’. ‘Aliy bin Ṣālih al-Murshid . 1989. Mustalzimāt al-Da‘wah fī al- ‘Aṣr al-Ḥāḍir (مستلزما ت. الدعوةفيالعصرالحاضرs.l.: Dār Hajr. ‘Aliy al-Mahfūz. 1852. Hidāyah al-Murshidīn ilā Turuq al-Wa‘z wa al-Khatābah )(هدايةالمرشدينإلىطرقالوعظ والخطابة. s.l.: Dār al-I‘tiṣām. Anīs Manṣūr. 1999. Lau Jā’ Nūh )(لوجاءنوح. Cairo.: Dār al-Shurūq. al-Baidāwiy, Abū Sa‘īd Abdullah bin ‘Umar bin Muhammad al-Shairāziy. n.d. Anwār al-Tanzīl wa Asrār al-Ta’wīl al-Ma‘rūf bi Tafsīr Baidāwiy (أنوارالتنزيل وأسرارالتأويل )المعروفبتفسيرالبيضاو ي. S.l.: Dār al-Jīl. al-Bukhāriy, Muhammad ibn Ismā‘īl. 1998. Sahīh al-Bukhāriy )(صحيحالبخار ي. Riyāḍ: Dār Bait al-Afkār al-Dauliyyah. Fathī Muhammad Muhammad Gharīb 1997. al-Amr bi al-Ma‘rūf wa al-Nahyi ‘an al-Munkar fī Dū’ al-Qur’ān al-Karīm (لاأمربالمعروف والنهيعنالمنكرفيضوء )القرآنالكريم. Cairo: Matba‘ah Rashwān. Jalāl al-Dīn al-Suyūṭiy/Jalāl al-Dīn al-Maḥalliy.2004. Tafsīr al-Jalālain )(تفسيرالجلالين. Cairo: Maktabah al-Ṣafā. Ibn Āshūr,Muhammad al-Ṭāhir bin Muhammad bin Muhammad al-Ṭāhir. 2000. al-Tahrīr wa al- Tanwīr ) (التحرير والتنوير. Beirūt: Mu’assasah al-Tārīkh.
298 Ibn al-Jauziy. 1994. Zād al-Masīr fī ‘Ilm al-Tafsīr ) ( زادالمسيرفيعلمالتفسيير. Beirūt: Dār al-Kutub al-‘Ilmiyyah Ibn Hajar al-‘Asqalāniy. 1998. Tuḥfah al-Nubalā’ min Qaṣaṣ al-Anbiyā’ (حتفةالنبلاءمن ) قصصلاأنبياء. Cairo: Maktabah al-Tābi‘īn. Ibn Kathīr,‘Imād al-Dīn Abū al-Fidā’ Ismā‘īl ibn Kathīr al-Qurshiy al-Dimashqiy. 2003. al- Bidāyah wa al-Nihāyah ) (ال دباية والنهاية. Cairo: Maktabah al-Ṣafā. Ibn Kathīr,‘Imād al-Dīn Abū al-Fidā’ Ismā‘īl ibn Kathīr al-Qurshiy al-Dimashqiy. 1997. Qasas al-Anbiyā’ ) (قصصلاأنبياء. Cairo: Dār al-Ṭabā‘ah wa al-Nashr al-Islāmiyyah. Ibn Kathīr,‘Imād al-Dīn Abū al-Fidā’ Ismā‘īl ibn Kathīr al-Qurshiy al-Dimashqiy. 2006. Tafsīr al-Qur’ān al-Aẓīm ) (تفسيرالقرآنالعظيم. Cairo: Dār al-Taqwā. Ibn Mājah, Muhammad ibn Yazīd al-Qaẓwīniy. n.d. Sunan ibn Mājah )(سننابنماجه. Riyāḍ: Maktabah Ma‘ārif. Ibn Manzūr. 2003. Lisān al-‘Arab li al-Imām al-‘Allāmah Ibn al-Manzūr (لسانالعربللإمام )العلامةابنمنظور. Cairo: Dār al-Hadīth. Ibn Taimiyah. 1995. al-Fatāwā al-Kubrā li Ibn Taimiyah )(الفتاو ىالكبرىلابنتيمية. s.l.: s.n. Ibn Qaiyim al-Jauziyyah. 1973. I‘lām al-Muwaqqi‘īn ‘an Rab al-‘Ālamīn (إعلامالموقعينعن )ربالعالمين. Beirūt.: Dār al-Jīl Ittiḥād al-Madāris al-Islāmiyyah al-Ahliyyah lī al-Wilayāt .al-Janūbiyyah. 2010. Al-Qur’ān wa al- Tafsīr )(القرآن والتفسير. s.l.: s.n.
299 ‘Izzah Muhammad Husīn. n.d. Dirāsāt fī al- ‘Aqīdah al-Islāmiyyah fī Ḍū’ al-Qur’ān al-Karīm wa al-Sunnah al-Sharī fah (دراسا تفيالعقيدةلاإسلاميةفيضوءالقرآن )الكريم والسنةالشريفة. Cairo.: Dār al-Kutub. Mahmūd al-Ṭaḥḥān. n.d. Taisīr Muṣṭalah al-Hadīth ) (تيسيرمصطلحالحديثKarajīy: Qadīmī Kutub Khamānah. Mahmūd Shalabiy. 1982. Hayāh Nūh ) (حياةنوحs.l.: Dār al-Jīl. Muhammad Amīn Husīn. 1983. Khasais} al-Da‘wah al-Islāmiyyah )(خصائصالدعوةلاإسلامية Jordan: Maktabah al-Mannār. Muhammad Ahmad Jād al-Maulā/Muhammad Abū al-Fadl Ibrāhim. 2000. Qisas} al-Qur’ān ) (قصصالقرآنCairo: Dār al-Turāth. Muhammad Ahmad Qāsim/Maḥy al-Dīn Dīb. 2003. ‘Ulum al-Balāghah )(علومالبلاغةṬarāblis- Lubnān: Muassasah al-Hadīthah li al-Kitātb. Muhammad Abū al-Fatḥ al-Bayānūniy. 1991. Al-Madkhal ilā ‘Ilm al-Da‘wah (المدخلإ لىعلم )الدعوة. Kuwait: Muassasah al-Risālah li al-Ṭabā‘ah wa al-Nashr wa .al-Tauzī‘ Muhammad ‘Aliy al-Ṣābūniy. 1981. Ṣafwah al-Tafāsīr ) (صفوةالتفاسيرBairūt: Dār al-Qur’ān al-Karīm. Muhammad Ghazāliy. 1985. Ma‘a Allah – Dirāsat fī al-Da‘wah wa al-Du‘āh ) دراسا تفيالدعوة والدعاة-(معلاله. Cairo: Dār al-Qutub al-Islāmiyyah. Muhammad Namr al-Khatīb. 1981. Murshid al-Du‘āh )(مرشدالدعاة. Beirūt: Dār al-Ma‘rifah.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347