Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้-ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

แผนการจัดการเรียนรู้-ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

Published by julasak.mind, 2022-08-08 14:19:25

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์ 2
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
นางสาวธันยาภรณ์ จุลศักดิ์

Search

Read the Text Version

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 12 : แบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 12 : แบบฝึกหัด (ต่อ)

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 12 : เฉลยแบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 12 : เฉลยแบบฝกึ หัด (ตอ่ )

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 13 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พลงั งานความรอ้ น เรอ่ื ง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลี่ยนอุณหภูมขิ องสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พนั ธ์ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ิตประจาํ วนั ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณ์ท่เี กี่ยวข้อง กับเสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ารวมท้ังนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ัด ม.1/1 วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปรมิ าณความร้อนที่ทำให้สสาร เปลี่ยนอณุ หภมู ิ และเปล่ยี นสถานะ โดยใชส้ มการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระสําคัญ เมอื่ สสารได้รบั หรือสูญเสียความรอ้ นอาจทำให้สสารเปลี่ยนอณุ หภูมิ เปล่ียนสถานะ หรอื เปลย่ี น รปู รา่ งปริมาณความร้อนท่ีทำใหส้ สารเปลย่ี นอุณหภมู ขิ ึน้ กบั มวล ความรอ้ นจำเพาะ และอุณหภมู ทิ ี่ เปล่ยี นไป 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบายความร้เู กี่ยวกบั การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอุณหภมู ิ โดยใช้สมการ Q = mc∆t ได้ ด้านทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอุณหภมู ิโดยใชส้ มการ Q = mc∆t ได้ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นรอู้ ยู่ในระดับดี

4. คุณลกั ษณะผ้เู รยี น 4.1 คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยอู่ ย่างพอเพียง  ซื่อสัตยส์ จุ ริต  มุ่งม่นั ในการทำงาน  มีวนิ ัย  รักความเป็นไทย  ใฝเ่ รยี นรู้  มีจติ สาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน  ความสามารถในการคิด : นักเรยี นสามารถอธบิ ายความรเู้ กยี่ วกับการคำนวณปริมาณความร้อนกับ การเปลยี่ นแปลงอุณหภมู ิ โดยใช้สมการ Q = mc∆t ได้  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นักเรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรู้ได้ 6. สาระการเรียนรู้ การเปล่ยี นสถานะของสารอาจเปน็ การเปลย่ี นแปลงประเภทดดู พลังงานหรือคายพลังงาน ตัวอย่างการ เปลยี่ นแปลงสถานะของสารท่ีพบในชีวิตประจำวันได้แก่ นำ้ แขง็ หลอมเหลวกลายเป็นน้ำและนำ้ ได้รับความร้อน กลายเป็นไอเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน ในทางตรงกันข้ามเมื่อไอน้ำเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็น น้ำและน้ำแข็ง เปน็ การเปลีย่ นแปลงประเภทคายความรอ้ น การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลย่ี นแปลงของสาร สามารถแยกพจิ ารณาได้ 2 กรณี ดังน้ี กรณที ี่ 1 การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอณุ หภูมิ คำนวณได้จาก สมการ Q = mc∆t เมอื่ Q คอื ปรมิ าณความรอ้ นท่สี ารไดร้ ับ มีหนว่ ยเป็นแคลอรี M คือ มวลของสาร มหี นว่ ยเปน็ กรัม c คือ ความรอ้ นจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็น แคลอรตี ่อกรมั ×องศาเซลเซียส ∆t คอื อุณหภูมิของนำ้ ทีเ่ ปลี่ยนไป มีหนว่ ยเป็นองศาเซลเซียส กรณที ี่ 2 การคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีกบั การเปล่ยี นสถานะ คำนวณไดจ้ าก สมการ Q = mL เม่ือ Q คือ ปรมิ าณความรอ้ น มหี น่วยเป็นแคลอรี M คือ มวลของสาร มหี น่วยเป็นกรัม L คือ ความรอ้ นแฝงจำเพาะของสาร มีหน่วยเปน็ แคลอรีตอ่ กรมั น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลว 80 แคลอรีต่อกรัม หมายความว่า ในการทำน้ำแข็ง 1 กรมั ใหห้ ลอมเหลวเปน็ นำ้ ตอ้ งใช้พลังงานความรอ้ น 80 แคลอรี นำ้ มคี า่ ความร้อนแฝงจำเพาะของการกลายเป็นไอ 540 แคลอรีตอ่ กรมั หมายความวา่ ในการทำนำ้ 1 กรมั อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซียส ใหเ้ ปลยี่ นเป็นไอน้ำ 1 กรัม อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซยี ส ต้องใช้พลังงาน ความรอ้ น 540 แคลอรี

7. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบห้องเรียนกลบั ด้าน (Flipped Classroom) 7.1 ขั้นกำหนดยทุ ธวธิ เี พมิ่ พนู ประสบการณ์ (Experiential Engagement) (ในชนั้ เรียน) นักเรียนทบทวนความร้เู ดมิ เกี่ยวกับผลของความรอ้ นกบั การเปลี่ยนแปลงอณุ หภูมิของสาร ผา่ นประเด็นคำถามทค่ี รตู ง้ั ขน้ึ จากคลิปวิดโี อ “ตรวจอากาศเดอื น เมษายน สถานีรกั โลก 360 องศา EP.56” ดงั นี้ - นักเรียนคดิ วา่ อากาศในเดือนเมษายน เปน็ อย่างไร (แนวคำตอบ อากาศร้อนอบอา้ วมากขน้ึ ) - เพราะเหตุใดอากาศในเดอื นเมษายนจงึ มีความร้อนมากข้ึน (แนวคำตอบ เพราะโลกได้รับพลงั งานความร้อนจากดวงอาทติ ย์ โดยแสงจากดวงอาทติ ยจ์ ะเริ่มตง้ั ฉากตัง้ แตต่ อนเทีย่ งวัน) - ตัวการทที่ ำให้อากาศเปลย่ี นอุณหภมู ิคืออะไร (แนวคำตอบ พลงั งานความร้อน) 7.2 ขั้นสบื ค้นเพ่ือใหเ้ กิดมโนทศั นร์ วบยอด (Concept Exploration) (ศกึ ษานอกเวลาเรียน) นักเรียนสบื ค้นและศึกษาวิดโี อ 2 : การคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปลีย่ นแปลงอณุ หภมู ขิ อง สาร เพือ่ ตอบคำถามในตวั อย่างที่ 1 และ 2 เร่ืองการคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลย่ี นแปลง อณุ หภูมิของสาร ดังนี้ - สมการการคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปล่ยี นแปลงอณุ หภมู ขิ องสาร Q = mc∆t เมื่อ Q คอื ปริมาณความรอ้ นที่สารไดร้ ับ มหี น่วยเปน็ แคลอรี M คอื มวลของสาร มีหนว่ ยเป็นกรมั c คอื ความรอ้ นจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็น แคลอรตี ่อกรมั ×องศาเซลเซียส ∆t คือ อณุ หภูมิของน้ำทเ่ี ปลย่ี นไป มหี นว่ ยเปน็ องศาเซลเซียส - ข้ันตอนการแก้โจทย์ปญั หาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงของสาร ตามแนวคดิ ของ Polya (1957) 4 ขน้ั ตอน ไดแ้ ก่

1. ทำความเข้าใจปญั หา 2. วางแผนการแกป้ ัญหา 3. ดำเนนิ การตามแผน 4. ตรวจสอบผลลัพธ์ โดยให้นกั เรยี นศกึ ษาจากแหลง่ สบื คน้ ขอ้ มลู ที่ครูไดจ้ ัดเตรยี มไวใ้ ห้ ดงั ต่อไปน้ี Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/1002816196965630 นักเรียนสรปุ ความคิดสำคญั เรือ่ ง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปลย่ี นแปลงอุณหภมู ขิ อง สาร ลงในสมดุ 7.3 ขัน้ สร้างองค์ความรอู้ ย่างมคี วามหมาย (Meaning Making) (ศึกษานอกเวลาเรยี น) นักเรียนสร้างองค์ความรู้ เร่ือง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอณุ หภูมิของสาร ลงในสมดุ และใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายขัน้ ตอนการแกโ้ จทย์การคำนวณของตวั อย่างท่ี 4 ผ่านโพสตใ์ น Facebook Group จากโจทย์การคำนวณ ตวั อย่างที่ 4 นำน้ำมวล 300 กรมั อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส ไปวางไวใ้ นชอ่ งแช่แข็ง ถา้ ตอ้ งการ ใหน้ ำ้ มอี ุณหภมู ิ 0 องศาเซลเซยี ส ภายในเวลา 60 วนิ าที น้ำสูญเสียความรอ้ นเฉลย่ี วินาทีละเทา่ ใด นกั เรยี นศึกษาและลงข้อสรปุ จากสิ่งทีน่ กั เรียนศกึ ษา ให้ได้ถึงข้นั ตอนการคำนวณปรมิ าณความร้อน กบั การเปลย่ี นแปลงอุณหภมู ิของสาร การคำนวณ การหาคำตอบ และการตรวจคำตอบ 7.4 ขั้นสาธติ และประยกุ ตใ์ ช้ (Demonstration & Application) (ในชัน้ เรยี น) ครสู าธิตการแกโ้ จทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอณุ หภูมิของสาร โดยกระบวนการแก้โจทยป์ ญั หาโดยใชก้ ระบวนการของ Polya โดยเริม่ จากการอธบิ ายกระบวนการการแก้ โจทยป์ ญั หาตามแนวคิดของ Polya ว่า ประกอบไปด้วย 4 ข้ันตอน ได้แก่ ขน้ั ที่ 1 ทำความเข้าใจโจทย์ ปัญหา ขน้ั ที่ 2 วางแผนแก้โจทยป์ ญั หา ข้ันท่ี 3 ปฏบิ ัตติ ามแผน ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบผลลพั ธ์ พรอ้ มทั้งอธบิ าย รายละเอยี ดในแต่ละขั้นตอน ดังนี้

ตัวอย่างที่ 4 นำน้ำมวล 300 กรมั อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส ไปวางไว้ในชอ่ งแช่แข็ง ถา้ ตอ้ งการ ใหน้ ้ำ มอี ุณหภูมิ 0 องศาเซลเซยี ส ภายในเวลา 60 วนิ าที นำ้ สูญเสียความร้อนเฉลีย่ วินาทีละเท่าใด ขน้ั ท่ี 1 ทำความเขา้ ใจโจทย์ปญั หา นักเรียนและครรู ว่ มกนั วเิ คราะห์ทำความเขา้ ใจโจทย์ โดยให้ นักเรียนร่วมบอกรายละเอยี ดว่าโจทยป์ ญั หาวา่ เป็นเร่อื งราวเกี่ยวกับอะไร บอกสงิ่ ทีโ่ จทย์กำหนดให้ บอกสิ่ง ทโี่ จทย์ถาม ผ่านการต้งั คำถาม ดงั นี้ - โจทย์ปัญหาข้อนี้เป็นเร่ืองราวเกีย่ วกบั อะไร - โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง - โจทย์กำหนดน้ำสูญเสยี ความรอ้ นในระยะเวลาเท่าใด - โจทย์ถามอะไร โดยใหน้ ักเรยี นเขยี นสงิ่ ท่โี จทย์กำหนดให้พร้อมหน่วย ด้านบทโจทย์ปญั หา ข้ันที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา นักเรยี นรว่ มกันแก้โจทยป์ ญั หาโดยให้นกั เรยี นบอกขนั้ ตอน วิธีการหา คำตอบวา่ ต้องทำอย่างไร - น้ำมวล 300 กรัม อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซยี ส ไปวางในช่องแช่แข็ง ถ้าต้องการใหน้ ำ้ มีอุณหภมู ิ 0 องศาเซลเซียส หมายถงึ คา่ อุณหภมู ทิ ่ีเปลีย่ นแปลงไป หาไดจ้ าก 30 - 0 = 30 องศาเซลเซยี ส และคา่ ความ รอ้ นจำเพาะของน้ำ มคี า่ 1 แคลอรีต่อกรมั องศาเซลเซยี ส จากนัน้ นำคา่ ไปแทนในสมการ เพอ่ื หาคำตอบคา่ Q แตค่ า่ Q ที่ได้จะเป็นค่า Q ในระยะเวลา 60 วินาที แตโ่ จทยต์ อ้ งการถามค่า Q ท่ี 1 วินาที ดงั นนั้ จะต้อง หาคา่ Q ที่ 1 วินาที โดยการเทยี บบญั ญัติไตรยางค์ - นำค่าทโี่ จทยก์ ำหนดใหแ้ ทนลงในสมการ Q = mc∆t เพ่ือหาคำตอบของโจทย์ปัญหาขอ้ นี้ ขั้นท่ี 3 ปฏิบัติตามแผน นักเรียนและครูลงมอื ปฏบิ ัตติ ามแผน โดยคิดคำนวณหาคำตอบและ แสดงวธิ ที ำ เพอ่ื คำตอบของโจทย์ปญั หา ดงั น้ี จากสมการ Q = mc∆t แทนคา่ ������ = 300 ������ 1 ������ (30 – 0) Q = 9,000 ในระยะเวลา 60 วนิ าที นำ้ สูญเสยี ความร้อน 9,000 แคลอรี ถา้ 60 วนิ าที น้ำสูญเสียความร้อน 9,000 แคลอรี ถ้า 1 วินาที น้ำสญู เสียความรอ้ น 9,000 ������ 1 60

150 แคลอรี ดังน้ัน น้ำสญู เสยี ความร้อนเฉลี่ยวนิ าทลี ะ 150 แคลอรี ขนั้ ท่ี 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ นักเรียนและครรู ว่ มกนั พจิ ารณาความสมเหตสุ มผลของคำตอบที่ได้ รวมถงึ พิจารณาวิธีการแกป้ ัญหาอนื่ ๆ อีกหรอื ไม่ ผ่านการตั้งคำถาม ดงั นี้ - จะมีวิธีการใดในการแกโ้ จทย์ปญั หาอ่นื ๆ อีกหรือไม่ อย่างไร - นักเรยี นมวี ิธกี ารตรวจสอบผลลพั ธข์ องตนเองว่าคำตอบถูกตอ้ งหรอื ไม่ อย่างไร นกั เรียนและครูทำแบบฝึกหัด เรอื่ ง ความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอณุ หภูมิของสาร หน้าท่ี 3 (ข้อที่ 2) ครูถามนักเรียนเป็นระยะเพ่อื กระต้นุ และตรวจสอบความเขา้ ใจ แนะนำ ชว่ ยเหลือนักเรยี น และ ตรวจสอบนกั เรียนและให้นักเรียนส่งแบบฝึกหัดเพ่ือนำมาตรวจสอบการทำงานของนกั เรียนอกี คร้ังหนึง่ 8. ช้นิ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหัด เรื่อง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปลย่ี นแปลงอณุ หภูมิของสาร 9. ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/1002816196965630 วดิ ที ัศน์ ตรวจอากาศเดือน เมษายน ������ สถานรี กั โลก 360 องศา EP.56 จาก https://www.youtube.com/watch?v=wf-Umzw2sBM

10. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วิธีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ าย การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 ความรู้เกย่ี วกบั การ ในชัน้ เรียน คำนวณปรมิ าณความ ร้อนกบั การเปลี่ยนแปลง อณุ หภมู ิ โดยใชส้ มการ Q = mc∆t ได้ 2. ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหัด แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ทักษะ ปริมาณความร้อนกับ การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปล่ียนแปลง การเปล่ยี นแปลงของสาร อุณหภูมิโดยใชส้ มการ ร้อยละ 70 Q = mc∆t ได้ 3. ด้านจิตพสิ ยั (Affective domain) นักเรียนมสี ่วนรว่ ม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้ ในกิจกรรมการเรยี นรู้ อยใู่ นระดบั ดี การเรียน การเรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70

แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์ การเรียนรู้ทีต่ ้องการวัด และความสอดคลอ้ งด้านพุทธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสัย และจิตพสิ ัย วตั ถุประสงค์ พฤติกรรมการประเมนิ เทคนิค ระดบั พฤติกรรม (%) การ พทุ ธพิ สิ ยั จิตพิสัย ประเมนิ ทักษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นักเรียนสามารถ แบบประเมนิ อธิบายความรู้ การตอบ เกีย่ วกบั การ คำถาม คำนวณปริมาณ ความรอ้ นกบั การ 60 20 20 100 เปลีย่ นแปลง อุณหภูมิ โดยใช้ สมการ Q = mc∆t 2. นกั เรียนสามารถ 50 50 100 แบบประเมิน คำนวณปรมิ าณ 20 40 20 ทกั ษะการ ความร้อนกบั การ แกป้ ญั หา เปล่ียนแปลง โจทย์การ อณุ หภมู โิ ดยใช้ คำนวณ สมการ Q = mc∆t ปรมิ าณความ ได้ ร้อนกับการ เปลี่ยนแปลง 3. นักเรียนมี ของสาร ส่วนรว่ มใน กิจกรรมการ แบบสังเกต เรยี นรู้ พฤติกรรม อยูใ่ นระดับดี 20 100 การเรยี น รวม 60 20 20 100 50 50 100 20 40 20 20 100

**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ ชอื่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ

เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดังตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสงิ่ ทโ่ี จทย์ถามได้ถูกตอ้ งครบถ้วน 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสิ่งท่โี จทยถ์ ามไดถ้ กู ตอ้ งได้บางสว่ น 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดใหแ้ ละสง่ิ ที่โจทย์ถามไมถ่ กู ต้อง หรือไมเ่ ขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ต้อง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ถี ูกต้อง แตย่ งั มีบางสว่ นผิด 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่เขียน 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณได้ถกู ต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรือ 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไม่ถกู ต้องหรือไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ กู ตอ้ งและหาคำตอบไมถ่ กู ต้องหรือไมเ่ ขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกต้องบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไม่ถูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นักเรียนมี8คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70 ข้ึนไป

บันทกึ หลังการสอน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 13 การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสาร 1. สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรียนจำนวน...1..6..4.....คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู.้ ....1..6...4........คน คิดเป็นรอ้ ยละ......1..0..0.......... ไม่ผ่านจดุ ประสงค.์ ......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................... ไดแ้ ก่........................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ด้านพทุ ธพิ ิสยั (Cognitive domain) .......น...กั ..เ.ร..ีย...น..ส...า..ม..า..ร..ถ..อ...ธ..ิบ..า..ย...ค..ว..า..ม...ร..เู้ .ก..ย่ี...ว..ก..ับ...ก..า..ร..ค...ำ..น..ว..ณ...ป...ร..ิม..า..ณ....ค..ว..า..ม...ร..้อ..น...ก..บั...ก..า..ร..เ.ป...ล..ีย่...น..แ...ป..ล...ง..อ..ุณ...ห...ภ...ูม..ิ ...... ...โ..ด..ย...ใ.ช..้ส...ม..ก...า..ร...Q....=......m...c..∆...t...ไ..ด..้ .................................. ...................................................................... ............ 2.2 ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) .......น...กั ..เ.ร..ีย...น..ส...า..ม..า..ร..ถ..ค...ำ..น..ว..ณ....เ.ก...่ีย..ว..ก..บั...ก..า..ร..ค...ำ..น..ว..ณ....ป..ร..ิม...า.ณ....ค..ว..า..ม...ร..้อ..น...ก..บั...ก..า..ร..เ.ป...ล..ย่ี...น..แ...ป..ล..ง..อ...ณุ ...ห...ภ..มู...ิ ................ ...โ..ด..ย...ใ.ช..ส้...ม..ก...า..ร...Q....=......m...c..∆...t...ไ..ด..้ .................................. .................................................................... .............. 2.3 ดา้ นจติ พสิ ยั (Affective domain) .......น...ัก..เ.ร..ีย...น..ม...สี ..่ว..น...ร..่ว..ม..ใ..น..ก...ิจ..ก...ร..ร..ม..ก..า..ร..เ..ร..ีย..น...ร..ู้ใ.น...ร..ะ..ด..บั...ด..ี................................................................................. ....................................................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะหลงั การจดั การเรยี นการสอน .........น..ัก...เ.ร..ีย..น...ม..พี...ฒั...น...า..ก..า..ร..ใ..น..ก...า..ร..ค..ำ..น...ว..ณ...ป...ร..มิ ..า..ณ...ค...ว..า..ม..ร..้อ...น..ก...ับ..ก...า..ร..เ.ป...ล..ี่ย..น...แ..ป...ล..ง..อ..ุณ....ห..ภ...มู...มิ ..า..ก..ข...ึ้น.................... ซ..ง่ึ..เ.ป...็น...ผ..ล..จ...า..ก..ก..า..ร..เ..น..น้...ย..ำ้..ใ..ห..้น...ัก..เ..ร..ีย..น...จ..ด..จ...ำ..ส..ญั ...ล..กั...ษ...ณ...์ใ.น.. .ส..ม..ก...า..ร...แ...ล..ะ..ส..ุม่...ส..อ...บ..ป...า..ก..เ..ป..ล...่า..ร..า..ย..บ..ุค...ค..ล..................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักด์)ิ ครูผสู้ อน

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจัดการ เรียนรทู้ ่ี 13 เรื่อง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปลีย่ นแปลงอุณหภูมิของสาร เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมี ความคิดเห็น ดงั นี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชี้วดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ได้นำกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั มาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ื่อการเรียนรู้  มคี วามเหมาะสมและสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผู้เรยี น  ไม่ส่งเสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนร้ไู ปใช้  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอ่ื ..................................................... (นางรัชนี หนนู อ้ ย) ตำแหน่ง หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนรูห้ นว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง พลังงานความร้อน ในแผนการจัดการ เรยี นร้ทู ี่ 13 เรื่อง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอณุ หภมู ิของสาร เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมี ความคิดเห็น ดงั น้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวัด  สอดคล้อง  ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม  ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นร้ทู ี่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้  มีความเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผู้เรยี น  ไมส่ ง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรยี นร้ไู ปใช้  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวังจันทร์วทิ ยา กลุม่ บริหารงานวิชาการ วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 : ส่อื วดี ิทศั น์

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 13 : สอื่ วีดทิ ัศน์ วิดีทศั น์ ตรวจอากาศเดือน เมษายน ������ สถานรี ักโลก 360 องศา EP.56 จาก https://www.youtube.com/watch?v=wf-Umzw2sBM

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้

ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 13 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 13 : แบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 : แบบฝึกหัด (ต่อ)

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 : เฉลยแบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 13 : เฉลยแบบฝกึ หัด (ตอ่ )

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 14 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พลงั งานความรอ้ น เรอ่ื ง การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลี่ยนอุณหภูมขิ องสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พนั ธ์ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ิตประจาํ วนั ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณ์ท่เี กี่ยวข้อง กับเสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ารวมท้ังนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ัด ม.1/1 วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปรมิ าณความร้อนที่ทำให้สสาร เปลี่ยนอณุ หภมู ิ และเปล่ยี นสถานะ โดยใชส้ มการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระสําคัญ เมอื่ สสารได้รบั หรือสูญเสียความรอ้ นอาจทำให้สสารเปลี่ยนอณุ หภูมิ เปล่ียนสถานะ หรอื เปลย่ี น รปู รา่ งปริมาณความร้อนท่ีทำใหส้ สารเปลย่ี นอุณหภมู ขิ ึน้ กบั มวล ความรอ้ นจำเพาะ และอุณหภมู ทิ ี่ เปล่ยี นไป 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธิบายความร้เู กี่ยวกบั การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอุณหภมู ิ โดยใช้สมการ Q = mc∆t ได้ ด้านทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอุณหภมู ิโดยใชส้ มการ Q = mc∆t ได้ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นรอู้ ยู่ในระดับดี

4. คุณลกั ษณะผ้เู รยี น 4.1 คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยอู่ ย่างพอเพียง  ซื่อสัตยส์ จุ ริต  มุ่งม่นั ในการทำงาน  มีวนิ ัย  รักความเป็นไทย  ใฝเ่ รยี นรู้  มีจติ สาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน  ความสามารถในการคิด : นักเรยี นสามารถอธบิ ายความรเู้ กยี่ วกับการคำนวณปริมาณความร้อนกับ การเปลยี่ นแปลงอุณหภมู ิ โดยใช้สมการ Q = mc∆t ได้  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นักเรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรู้ได้ 6. สาระการเรียนรู้ การเปล่ยี นสถานะของสารอาจเปน็ การเปลย่ี นแปลงประเภทดดู พลังงานหรือคายพลังงาน ตัวอย่างการ เปลยี่ นแปลงสถานะของสารท่ีพบในชีวิตประจำวันได้แก่ นำ้ แขง็ หลอมเหลวกลายเป็นน้ำและนำ้ ได้รับความร้อน กลายเป็นไอเป็นการเปลี่ยนแปลงประเภทดูดความร้อน ในทางตรงกันข้ามเมื่อไอน้ำเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็น น้ำและน้ำแข็ง เปน็ การเปลีย่ นแปลงประเภทคายความรอ้ น การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลย่ี นแปลงของสาร สามารถแยกพจิ ารณาได้ 2 กรณี ดังน้ี กรณที ี่ 1 การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอณุ หภูมิ คำนวณได้จาก สมการ Q = mc∆t เมอื่ Q คอื ปรมิ าณความรอ้ นท่สี ารไดร้ ับ มีหนว่ ยเป็นแคลอรี M คือ มวลของสาร มหี นว่ ยเปน็ กรัม c คือ ความรอ้ นจำเพาะของสาร มีหน่วยเป็น แคลอรตี ่อกรมั ×องศาเซลเซียส ∆t คอื อุณหภูมิของนำ้ ทีเ่ ปลี่ยนไป มีหนว่ ยเป็นองศาเซลเซียส กรณที ี่ 2 การคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีกบั การเปล่ยี นสถานะ คำนวณไดจ้ าก สมการ Q = mL เม่ือ Q คือ ปรมิ าณความรอ้ น มหี น่วยเป็นแคลอรี M คือ มวลของสาร มหี น่วยเป็นกรัม L คือ ความรอ้ นแฝงจำเพาะของสาร มีหน่วยเปน็ แคลอรีตอ่ กรมั น้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะของการหลอมเหลว 80 แคลอรีต่อกรัม หมายความว่า ในการทำน้ำแข็ง 1 กรมั ใหห้ ลอมเหลวเปน็ นำ้ ตอ้ งใช้พลังงานความรอ้ น 80 แคลอรี นำ้ มคี า่ ความร้อนแฝงจำเพาะของการกลายเป็นไอ 540 แคลอรีตอ่ กรมั หมายความวา่ ในการทำนำ้ 1 กรมั อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซียส ใหเ้ ปลยี่ นเป็นไอน้ำ 1 กรัม อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซยี ส ต้องใช้พลังงาน ความรอ้ น 540 แคลอรี

7. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้แบบหอ้ งเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) 7.1 ขน้ั กำหนดยทุ ธวธิ เี พ่มิ พนู ประสบการณ์ (Experiential Engagement) (ในชัน้ เรยี น) นกั เรยี นทบทวนความร้เู ดิมเกี่ยวกบั ผลของความร้อนกับการเปลย่ี นแปลงอณุ หภูมิของสาร ผา่ นการถามคำถามของครู ดังนี้ - ความรอ้ นมผี ลทำให้สารเปลี่ยนอุณหภูมิ นกั เรียนจะคำนวณปรมิ าณความรอ้ นน้นั อย่างไร (แนวคำตอบ ใชส้ มการ Q = mc∆t) - จากสมการการคำนวณปรมิ าณความร้อนทีท่ ำให้สารเปลยี่ นอุณหภมู ิ แต่ละตัวแปรหมายถึงอะไร (แนวคำตอบ Q คอื ปรมิ าณความรอ้ นทส่ี ารไดร้ ับ มีหนว่ ยเปน็ แคลอรี M คอื มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรมั c คือ ความรอ้ นจำเพาะของสาร มีหน่วยเปน็ แคลอรตี ่อกรัม×องศาเซลเซยี ส ∆t คือ อุณหภูมิของน้ำทเี่ ปลยี่ นไป มหี นว่ ยเปน็ องศาเซลเซยี ส) - ความร้อนจำเพาะของน้ำมีค่าเทา่ ใด (แนวคำตอบ 1 แคลอรตี ่อกรมั องศาเซลเซียส ) 7.2 ขน้ั สืบคน้ เพ่ือใหเ้ กิดมโนทัศน์รวบยอด (Concept Exploration) (ศึกษานอกเวลาเรยี น) นักเรียนสืบคน้ และศกึ ษาวิดีโอ 2 : การคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปล่ียนแปลงอุณหภมู ิของ สาร เพ่อื ตอบคำถามในตัวอย่างที่ 1 และ 2 เร่ืองการคำนวณปรมิ าณความร้อนกบั การเปลย่ี นแปลง อุณหภูมิของสาร ดังน้ี - สมการการคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลย่ี นแปลงอุณหภมู ขิ องสาร Q = mc∆t เมอื่ Q คอื ปริมาณความรอ้ นทีส่ ารไดร้ ับ มหี น่วยเป็นแคลอรี M คอื มวลของสาร มีหน่วยเป็นกรัม c คือ ความร้อนจำเพาะของสาร มหี นว่ ยเปน็ แคลอรตี ่อกรัม×องศาเซลเซยี ส ∆t คือ อณุ หภูมิของนำ้ ทเี่ ปลีย่ นไป มีหน่วยเปน็ องศาเซลเซียส - ขน้ั ตอนการแกโ้ จทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ียนแปลงของสาร ตามแนวคิดของ Polya (1957) 4 ข้ันตอน ไดแ้ ก่

1. ทำความเข้าใจปัญหา 2. วางแผนการแก้ปญั หา 3. ดำเนนิ การตามแผน 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ โดยใหน้ กั เรียนศึกษาจากแหลง่ สืบคน้ ขอ้ มูลทคี่ รูไดจ้ ดั เตรียมไวใ้ ห้ ดงั ต่อไปนี้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/1002816196965630 นักเรียนสรปุ ความคดิ สำคญั เรอื่ ง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลย่ี นแปลงอุณหภูมขิ อง สาร ลงในสมดุ 7.3 ข้ันสรา้ งองคค์ วามรอู้ ย่างมคี วามหมาย (Meaning Making) (ศกึ ษานอกเวลาเรยี น) นักเรียนสร้างองคค์ วามรู้ เรื่อง การคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ยี นแปลงอณุ หภูมิของสาร ลงในสมดุ และให้นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายวธิ ีการแกโ้ จทย์การคำนวณของแบบฝึกหดั ขอ้ ท่ี 3 ผ่านโพสต์ใน Facebook Group จากโจทย์การคำนวณ ขอ้ ที่ 3 ต้องให้ความร้อนแก่ทองแดงมวล 100 กรัม อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซยี ส กี่แคลอรี เพ่ือให้ ทองแดงเรมิ่ หลอมเหลว (จดุ หลอมเหลวของทองแดง มีคา่ 1,083 องศาเซลเซยี ส ความร้อนจำเพาะของ ทองแดง มีคา่ 0.09 แคลอรี/กรัม องศาเซลเซยี ส) นักเรยี นศกึ ษาและลงข้อสรุปจากสงิ่ ท่ีนกั เรยี นศกึ ษา ให้ได้ถึงขั้นตอนการคำนวณปริมาณความร้อน กับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสาร การคำนวณ การหาคำตอบ และการตรวจคำตอบ 7.4 ขนั้ สาธิตและประยกุ ตใ์ ช้ (Demonstration & Application) (ในชน้ั เรียน) ครูสาธิตการแก้โจทย์ปัญหาการคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปลีย่ นแปลงอุณหภมู ิของสาร โดยกระบวนการแกโ้ จทยป์ ัญหาโดยใชก้ ระบวนการของ Polya โดยเริ่มจากการอธิบายกระบวนการการแก้ โจทย์ปญั หาตามแนวคิดของ Polya วา่ ประกอบไปดว้ ย 4 ขัน้ ตอน ไดแ้ ก่ ขนั้ ท่ี 1 ทำความเขา้ ใจโจทย์

ปัญหา ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแก้โจทย์ปญั หา ขนั้ ที่ 3 ปฏิบตั ิตามแผน ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบผลลพั ธ์ พร้อมท้ังอธิบาย รายละเอียดในแตล่ ะขัน้ ตอน ดังน้ี ข้อท่ี 3 ต้องให้ความรอ้ นแก่ทองแดงมวล 100 กรัม อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซยี ส กี่แคลอรี เพอ่ื ให้ ทองแดงเรมิ่ หลอมเหลว (จุดหลอมเหลวของทองแดง มีคา่ 1,083 องศาเซลเซยี ส ความร้อนจำเพาะของ ทองแดง มคี า่ 0.09 แคลอรี/กรมั องศาเซลเซยี ส) ข้ันที่ 1 ทำความเขา้ ใจโจทย์ปัญหา นักเรียนและครรู ว่ มกันวิเคราะห์ทำความเขา้ ใจโจทย์ โดยให้ นักเรียนรว่ มบอกรายละเอยี ดวา่ โจทยป์ ัญหาวา่ เปน็ เรื่องราวเกย่ี วกับอะไร บอกสง่ิ ท่ีโจทย์กำหนดให้ บอกส่งิ ทีโ่ จทยถ์ าม ผ่านการตง้ั คำถาม ดังน้ี - โจทย์ปญั หาขอ้ นีเ้ ป็นเร่ืองราวเกย่ี วกบั อะไร - โจทยก์ ำหนดอะไรให้บา้ ง - โจทย์กำหนดประโยค “เพือ่ ให้ทองแดงเรมิ่ หลอมเหลว” หมายความว่าอย่างไร - โจทยถ์ ามอะไร โดยใหน้ ักเรียนเขียนสง่ิ ทโ่ี จทยก์ ำหนดใหพ้ ร้อมหน่วย ด้านบทโจทย์ปัญหา ขั้นท่ี 2 วางแผนแกป้ ญั หา นักเรยี นรว่ มกนั แกโ้ จทย์ปัญหาโดยให้นักเรยี นบอกขน้ั ตอน วธิ กี ารหา คำตอบว่าต้องทำอยา่ งไร - ตอ้ งใหค้ วามร้อนแกท่ องแดงกีแ่ คลอรี หาค่า Q เมื่อ ให้ความรอ้ นกบั ทองแดงมวล 100 กรัม อณุ หภมู ิ 30 องศาเซลเซียส จนทองแดงเร่ิมหลอมเหลว หมายถึง จุดหลอมเหลวของทองแดง มีคา่ 1,083 องศาเซลเซยี ส อุณหภูมิท่ีเปลี่ยนแปลงไป หาไดจ้ าก 1,083 – 30 = 1,053 องศาเซลเซยี ส โจทยก์ ำหนดให้ ความร้อนจำเพาะของทองแดง มคี า่ 0.09 แคลอรี/กรัม องศาเซลเซยี ส จากนั้นนำค่าไปแทนในสมการ เพ่ือหาคำตอบค่า Q - นำคา่ ที่โจทยก์ ำหนดให้แทนลงในสมการ Q = mc∆t เพอ่ื หาคำตอบของโจทย์ปัญหาขอ้ นี้ ขน้ั ที่ 3 ปฏบิ ตั ิตามแผน นักเรียนและครูลงมือปฏบิ ัตติ ามแผน โดยคดิ คำนวณหาคำตอบและ แสดงวิธีทำ เพื่อคำตอบของโจทยป์ ัญหา ดงั น้ี จากสมการ Q = mc∆t แทนคา่ ������ = 100 ������ 0.09 ������ (1,053) Q = 9,477 ดังนน้ั ตอ้ งให้ความรอ้ นแก่ทองแดง 9,477 แคลอรี

ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบผลลัพธ์ นักเรียนและครูรว่ มกนั พจิ ารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบท่ีได้ รวมถึงพิจารณาวิธีการแก้ปัญหาอนื่ ๆ อีกหรอื ไม่ ผา่ นการตง้ั คำถาม ดังน้ี - จะมีวิธกี ารใดในการแก้โจทยป์ ัญหาอ่นื ๆ อีกหรือไม่ อย่างไร - นกั เรยี นมวี ธิ ีการตรวจสอบผลลพั ธข์ องตนเองว่าคำตอบถกู ตอ้ งหรอื ไม่ อย่างไร นกั เรียนและครูทำแบบฝึกหัด เรอ่ื ง ความรอ้ นกับการเปล่ยี นแปลงอุณหภมู ิของสาร หน้าที่ 3 (ขอ้ ท่ี 4) ครูถามนักเรียนเป็นระยะเพ่ือกระตุ้นและตรวจสอบความเขา้ ใจ แนะนำ ชว่ ยเหลอื นักเรยี น และ ตรวจสอบนกั เรยี นและให้นกั เรยี นสง่ แบบฝึกหดั เพ่ือนำมาตรวจสอบการทำงานของนักเรียนอีกคร้ังหนง่ึ 8. ชนิ้ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหัด เร่ือง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลย่ี นแปลงอณุ หภมู ิของสาร 9. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/1002816196965630

10. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วิธีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านพุทธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ าย การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 ความรู้เกยี่ วกบั การ ในชัน้ เรียน คำนวณปรมิ าณความ ร้อนกบั การเปลี่ยนแปลง อณุ หภมู ิ โดยใชส้ มการ Q = mc∆t ได้ 2. ด้านทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหัด แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ทักษะ ปริมาณความร้อนกับ การคำนวณปริมาณความรอ้ นกบั การเปลยี่ นแปลง การเปล่ยี นแปลงของสาร อุณหภูมิโดยใชส้ มการ ร้อยละ 70 Q = mc∆t ได้ 3. ด้านจิตพสิ ยั (Affective domain) นักเรียนมสี ่วนรว่ ม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้ ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ อยใู่ นระดับดี การเรียน การเรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70

แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์ การเรียนรู้ทีต่ ้องการวัด และความสอดคลอ้ งด้านพุทธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสัย และจิตพสิ ัย วตั ถปุ ระสงค์ พฤติกรรมการประเมนิ เทคนิค ระดบั พฤติกรรม (%) การ พทุ ธพิ สิ ยั จิตพิสัย ประเมนิ ทักษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นกั เรยี นสามารถ แบบประเมนิ อธิบายความรู้ การตอบ เกี่ยวกบั การ คำถาม คำนวณปริมาณ ความร้อนกับการ 60 20 20 100 เปลยี่ นแปลง อณุ หภมู ิ โดยใช้ สมการ Q = mc∆t 2. นกั เรียนสามารถ 50 50 100 แบบประเมิน คำนวณปริมาณ 20 40 20 ทกั ษะการ ความรอ้ นกบั การ แกป้ ญั หา เปลย่ี นแปลง โจทย์การ อณุ หภมู ิโดยใช้ คำนวณ สมการ Q = mc∆t ปรมิ าณความ ได้ ร้อนกับการ เปลี่ยนแปลง 3. นักเรยี นมี ของสาร สว่ นร่วมใน กิจกรรมการ แบบสังเกต เรียนรู้ พฤติกรรม อยใู่ นระดับดี 20 100 การเรยี น รวม 60 20 20 100 50 50 100 20 40 20 20 100

**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ ชอื่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ

เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดังตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสงิ่ ทโ่ี จทย์ถามได้ถูกตอ้ งครบถ้วน 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสิ่งท่โี จทยถ์ ามไดถ้ กู ตอ้ งได้บางสว่ น 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดใหแ้ ละสง่ิ ที่โจทย์ถามไมถ่ กู ต้อง หรือไมเ่ ขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ต้อง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ถี ูกต้อง แตย่ งั มบี างสว่ นผิด 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่เขียน 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณได้ถกู ต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรือ 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไม่ถกู ต้องหรือไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ กู ตอ้ งและหาคำตอบไมถ่ กู ตอ้ งหรือไมเ่ ขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกต้องบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไม่ถูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นักเรียนมี8คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70 ข้ึนไป

บันทกึ หลังการสอน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 14 การคำนวณปริมาณความรอ้ นกับการเปลย่ี นแปลงอณุ หภูมิของสาร 1. สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรยี นจำนวน..1...6..4.... .คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนร้.ู ..1..6...4..........คน คิดเปน็ ร้อยละ.....1...0..0.......... ไม่ผา่ นจุดประสงค.์ ......................คน คิดเป็นร้อยละ.................... ได้แก.่ .......................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรุปผลตามรายจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 ด้านพทุ ธพิ สิ ัย (Cognitive domain) .........น..ัก...เ.ร..ีย..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..ธ..บิ...า..ย..ค...ว..า..ม..ร..ู้เ..ก..ย่ี..ว..ก...บั ..ก...า..ร..ค..ำ..น...ว.ณ.. ป...ร..ิม..า..ณ....ค..ว..า..ม...ร..อ้ ..น...ก..ับ...ก..า..ร..เ.ป...ล..ยี่...น..แ...ป..ล...ง..อ..ณุ...ห...ภ...มู ..ิ ...... .....โ.ด...ย..ใ..ช..้ส..ม...ก..า..ร...Q.....=.....m....c..∆...t...ไ.ด...อ้ ..ย..่า..ง..ถ..ูก...ต..้อ...ง................................................................................................ 2.2 ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) .........น..กั...เ.ร..ยี ..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..ค..ำ..น...ว..ณ...เ..ก..ี่ย..ว...ก..ับ...ก..า..ร..ค..ำ..น...ว..ณ...ป...ร..ิม. .า..ณ...ค...ว..า..ม..ร..อ้...น..ก...ับ..ก...า..ร..เ.ป...ล..ีย่ ..น...แ..ป...ล..ง..อ..ณุ....ห..ภ...ูม..ิ............... .....โ.ด...ย..ใ..ช..ส้..ม...ก..า..ร...Q.....=.....m....c..∆...t...ไ.ด...อ้ ..ย..่า..ง..ถ..ูก...ต..้อ...ง................................................................................................ 2.3 ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) .........น..กั...เ.ร..ีย..น...ม..สี...ว่ ..น..ร..่ว..ม...ใ.น...ก..จิ...ก..ร..ร..ม...ก..า..ร..เ.ร..ยี..น...ร..ูใ้..น..ร..ะ..ด...ับ..ด...ี ............................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลงั การจัดการเรยี นการสอน ......อ...า..จ..เ.พ...มิ่..โ..จ..ท...ย..์ป...ญั ...ห...า..ใ.ห...น้ ..ัก...เ.ร..ยี ..น...ฝ..ึก...ก..า..ร..ค..ำ..น...ว..ณ...เ..พ..ิ่ม...ม..า..ก..ข...้ึน....โ.ด...ย..ใ..ห..น้...กั ..เ.ร..ีย...น..เ..ล..ือ..ก...ท..ำ..ต...า..ม..ค...ว..า..ม..ส...ม..คั..ร..ใ..จ..... ห...ร..อื ..ฝ...ึก..ใ..ห..น้...กั ..เ..ร..ีย..น...ค..ดิ ..โ..จ..ท...ย..์ป...ัญ...ห...า..ด..้ว..ย...ต..น...เ.อ..ง................ ..................................................... ............................. ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ด์ิ) ครูผสู้ อน

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจัดการ เรียนรทู้ ่ี 14 เรื่อง การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกบั การเปลีย่ นแปลงอุณหภูมิของสาร เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมี ความคิดเห็น ดงั นี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชี้วดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ได้นำกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั มาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ื่อการเรียนรู้  มคี วามเหมาะสมและสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผู้เรยี น  ไม่ส่งเสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนร้ไู ปใช้  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................................... ..................... .............................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอ่ื ..................................................... (นางรัชนี หนนู อ้ ย) ตำแหน่ง หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนรูห้ นว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง พลังงานความร้อน ในแผนการจัดการ เรยี นร้ทู ี่ 14 เรื่อง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ยี นแปลงอณุ หภมู ิของสาร เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมี ความคิดเห็น ดงั น้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวัด  สอดคล้อง  ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม  ไม่ได้นำกระบวนการเรยี นร้ทู ี่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้  มีความเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผู้เรยี น  ไมส่ ง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรยี นร้ไู ปใช้  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวังจันทร์วทิ ยา กลุม่ บริหารงานวิชาการ วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 : ส่อื วดี ิทศั น์

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้

ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 14 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 14 : แบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 : แบบฝึกหัด (ต่อ)

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 : เฉลยแบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 14 : เฉลยแบบฝกึ หัด (ตอ่ )

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 15 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน เร่ือง การคำนวณปริมาณความร้อนกับการเปล่ียนสถานะของสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจําวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณท์ เี่ กี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้ารวมท้ังนาํ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ดั ม.1/1 วเิ คราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีทำให้สสาร เปลย่ี นอณุ หภมู ิ และเปลีย่ นสถานะ โดยใชส้ มการ Q = mc∆t และ Q = mL 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สาระสําคญั ความรอ้ นมีผลต่อการเปล่ียนสถานะของสสาร เม่ือใหค้ วามร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมพี ลังงานและอุณหภูมเิ พ่ิมขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง ซึง่ ของแข็งจะใชค้ วามร้อนในการเปล่ยี นสถานะเป็น ของเหลว เรียกความรอ้ นท่ีใช้ในการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการ หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงท่ี เรยี กอณุ หภมู ิน้ีวา่ จดุ หลอมเหลว 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความร้เู กี่ยวกบั การคำนวณปรมิ าณความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของ สารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนกบั การเปล่ียนสถานะของสารโดยใชส้ มการ Q = mL ได้ ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นกั เรียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอู้ ยใู่ นระดับดี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook