แผนการจัดการเรียนรู้-ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 21 : แบบทดสอบหลงั เรียน (ต่อ)

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 21 : แบบทดสอบหลงั เรียน (ต่อ)

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 21 : แบบทดสอบหลงั เรียน (ต่อ)

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 21 : แบบทดสอบหลงั เรียน (ต่อ)

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 21 : แบบทดสอบอตั นัย

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 21 : แบบทดสอบอตั นัย (ตอ่ )

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 21 : แบบทดสอบอตั นัย (ตอ่ )

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 22 กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว21102 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 1 คาบเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 พลังงานความร้อน เรอ่ื ง ความร้อนกบั การขยายตวั และหดตัวของสสาร 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจาํ วัน ธรรมชาติของคลน่ื ปรากฏการณ์ทเ่ี กย่ี วข้อง กับเสียง แสง และคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้ารวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวช้วี ดั ตัวชี้วดั ม.1/4 ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการหดและขยายตัวของสสารเนื่องจากความ ร้อน โดยวเิ คราะหส์ ถานการณป์ ญั หา และเสนอแนะ วิธีการนำความรมู้ าแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั 2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด สาระสําคัญ ความรูเ้ ร่ืองการหดและขยายตวั ของสสารเน่อื งจากความร้อนนำไปใชป้ ระโยชน์ไดด้ ้านต่าง ๆ เชน่ การสรา้ งถนน การสรา้ งรางรถไฟ การทำเทอร์มอมเิ ตอร์ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธิบายประโยชน์ของการหด-ขยายตัวของสสารเม่อื ไดร้ ับความร้อนได้ ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถทดลองและสรุปผลการทดลองทแ่ี สดงให้เห็นถึงความแตกต่างของสสารเม่ือไดร้ ับ ความร้อนได้ ด้านจิตพิสยั (Affective domain) นักเรียนมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรียนร้อู ยูใ่ นระดับดี 4. คุณลักษณะผ้เู รียน 4.1 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์  รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  อยู่อยา่ งพอเพยี ง  ซอื่ สตั ย์สจุ รติ  มุง่ มัน่ ในการทำงาน  มวี นิ ัย  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝเ่ รียนรู้  มจี ติ สาธารณะ

5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น  ความสามารถในการคิด : นกั เรยี นสามารถอธิบายประโยชน์ของการหด-ขยายตัวของ สสารเมอื่ ได้รับความร้อนได้  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นักเรยี นสามารถใช้เทคโนโลยีในการเรยี นรู้ได้ 6. สาระการเรียนรู้ เมอื่ สสารได้รบั ความร้อนจะขยายตัว โดยความรอ้ นทำให้อนุภาคเคล่ือนที่เรว็ ขึ้นและระยะห่างระหว่าง อนุภาคมากขึ้น สสารจึงขยายตวั เช่น การขยายตัวของแอลกอฮอล์ในหลอดเทอร์มอมิเตอร์เมือ่ ได้รบั ความรอ้ น หรืออากาศในบอลลูนหรือโคมลอยได้รับความร้อน อนุภาคของอากาศเกิดการขยายตัว จึงทำให้บอลลูนหรือ โคมลอยมีขยายใหญ่ขนึ้ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขัน้ นำ 1) นกั เรียนดูสื่อวิดิทศั น์ เรือ่ ง หนยู ้มิ หนแู ยม้ เที่ยวงานบอลลูน 2) นกั เรยี นดูตัวอย่างที่ครแู สดง ไดแ้ ก่ ช่องวา่ งระหว่างเหล็กทางรถไฟ บอลลูน สายไฟที่ เสาไฟฟ้า และให้นักเรยี นร่วมกนั วเิ คราะหว์ ่า ตัวอย่างทคี่ รูแสดงใหเ้ ห็นนั้น เพราะเหตุใดจึงเปน็ เช่นนน้ั 3) นักเรียนและครูรว่ มกนั อภิปรายเกย่ี วกบั คำตอบทีน่ ักเรยี นตอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปวา่ ท่ี เปน็ เช่นนนั้ เพราะสสารมีการหดตัวและขยายตัว ขัน้ สอน 3) นกั เรียนทำการทดลอง เรือ่ ง ความแตกของสสารเมือ่ ได้รับความรอ้ นได้ เพือ่ ศึกษาเรื่องการหดตวั และขยายตัวเม่อื สารได้รับความร้อน โดยใหน้ กั เรียนออกแบบการทดลอง ดังนี้ - ปรบั เปลย่ี นอุณหภูมขิ องน้ำ 4) นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปผลการออกแบบการทดลอง เรื่อง ความแตกของสสารเมื่อได้รบั ความรอ้ นได้ หมายเหตุ ในขณะนกั เรยี นทำการทดลองนกั เรียนทุกคนเปิดกล้อง ขน้ั สรปุ 5) นักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลองผ่าน mentimeter.com ในการสรุปผลการทดลองว่า สสารเมอื่ ได้รับความร้อนจะขยายตัว และเม่อื ไดร้ ับความเย็นจะหดตวั 6) นักเรียนทำแบบฝึกหดั เรอ่ื ง ความร้อนกบั การขยายตวั หรอื หดตวั ของสาร 8. ช้นิ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหัด เรือ่ ง ความร้อนกับการขยายตวั หรอื หดตวั ของสาร

9. ส่ือการเรียนรู้ / แหลง่ เรียนรู้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/ 306631377667327 วดิ ิทัศน์ เร่อื ง หนูยิ้มหนแู ย้มเท่ยี วงานบอลลนู จาก https://www.youtube.com/watch?v=wI5hvCtYuc4

10. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วธิ กี ารวัด เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านพุทธิพสิ ัย (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ข้อคำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ 70 ประโยชนข์ องการหด- ในชั้นเรียน ขยายตวั ของสสารเมอ่ื ไดร้ บั ความร้อนได้ 2. ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถทดลอง สอบปากเปลา่ ขอ้ คำถาม ทำการทดลองความแตกของสสาร ภาพถา่ ย เม่ือไดร้ ับความร้อนและสรุปผล และสรุปผลการทดลองท่ี ให้นกั เรียนอธบิ าย ผลการทดลอง การทดลองให้เหน็ ถึงความ แตกต่างระหว่างความแตกของ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความ วธิ ีการดำเนนิ การ สสารเมอื่ ได้รับความร้อน แตกตา่ งของสสาร ทดลองและสรปุ ผล ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 เมื่อไดร้ ับความร้อนได้ การทดลอง 3. ด้านจิตพสิ ัย (Affective domain) นักเรยี นมสี ่วนร่วม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรียนรู้ ในกจิ กรรมการเรียนรู้ การเรียน อย่ใู นระดบั ดี การเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70

แบบวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วัตถุประสงค์ การเรยี นรู้ที่ต้องการวดั และความสอดคล้องดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ทักษะพิสยั และจิตพสิ ยั วตั ถปุ ระสงค์ พฤตกิ รรมการประเมนิ เทคนิค ระดับพฤติกรรม (%) การ พทุ ธพิ สิ ยั จิตพสิ ยั ประเมิน ทักษะพิสัย 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นกั เรยี นสามารถ 20 30 30 20 100 แบบประเมิน อธิบายประโยชน์ของ การตอบคำ การหด-ขยายตวั ของ ถาม สสารเมื่อได้รบั ความ ร้อนได้ 2. นกั เรยี นสามารถ 20 30 30 20 100 1. ทดลองและสรปุ ผล แบบทดสอบ การทดลองทแ่ี สดงให้ - สอบปาก เหน็ ถึงความแตกต่าง เปล่า ของสสารเมอ่ื ไดร้ บั ความร้อนได้ 2. แบบ ประเมินการ ปฏิบตั ิการ ทดลองและ สรปุ ผลการ ทดลอง 3. นกั เรยี นมี 20 40 20 แบบสงั เกต ส่วนร่วมใน กิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรม อยใู่ นระดบั ดี 20 100 การเรยี น รวม 20 30 30 20 100 20 30 30 20 100 20 40 20 20 100

**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ การปฏิบตั ิการทดลองและสรุปผลการทดลอง คำช้แี จง : ให้ผู้ประเมินทำการประเมนิ แบบประเมินปฏบิ ัติการทดลองและสรุปผลการทดลอง ลำดบั ระดบั คะแนน สรุปการประเมิน ที่ ชื่อ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงช่ือ.....................................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดอื น.....................พ.ศ เกณฑก์ ารประเมินการปฏบิ ัติการทดลองและสรปุ ผลการทดลอง เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปน้ี ประเด็น ระดบั คะแนน ที่ประเมนิ 5 4 3 2 1 0 ทำการทดลองสสาร 1. เตรียมอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอุปกรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ 1. เตรยี มอปุ กรณ์ นกั เรยี น ไม่สามารถ เปล่ียนสถานะจาก 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ 2. ออกแบบ ปฏบิ ัติได้ /นักเรยี น ของแขง็ เป็นของเหลว การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง ไม่ปฏิบตั ิ และของเหลวเปน็ 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง 3. ทำการทดลอง ของแข็งได้และ 4. สรปุ ผล 4. สรุปผล 4. สรุปผล 4. สรปุ ผล 4. สรปุ ผล สามารถสรุปผลการ การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง การทดลอง ทดลอง 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธิบายความรู้ 5. อธบิ ายความรู้ 5. อธบิ ายความรู้ ที่เกยี่ วขอ้ ง ที่เกี่ยวข้อง ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ทเี่ กี่ยวขอ้ ง ท่ีเกี่ยวข้อง นกั เรยี นปฏบิ ตั ิได้ นักเรยี นปฏบิ ตั ไิ ด้ นักเรยี นปฏบิ ัตไิ ด้ นักเรียนปฏบิ ัตไิ ด้ นักเรยี นปฏบิ ัติ 5 ข้อ 4 ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ ได้ 1 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมีระดับคะแนน 3 ขึ้นไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ขึ้นไป)

บันทึกหลังการสอน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 พลงั งานความร้อน...... ... ... แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 22 ความร้อนกับการขยายตวั และหดตัวของสสาร 1. สรุปผลการเรยี นการสอน 1. นักเรยี นจำนวน..1..6..4......คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร้.ู ..1..6...4..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....1..0...0........... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค.์ ......................คน คิดเป็นร้อยละ.................... ได้แก่........................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรปุ ผลตามรายจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive domain) ..........น..กั...เ.ร..ยี..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..ธ..บิ...า..ย..ป...ร..ะ..โ..ย..ช..น...์ข..อ...ง..ก..า..ร..ห...ด..-.ข...ย..า.ย...ต..วั..ข...อ..ง..ส..ส...า..ร...เ.ม...ือ่ ..ไ.ด...ร้..ับ...ค..ว..า..ม...ร..้อ..น...ไ.ด...้อ..ย..า่..ง..ถ..ูก...ต..้อ..ง... ....................................................................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทักษะพิสัย (Psychomotor domain) ......น...กั ..เ.ร..ีย...น..ส...า..ม..า..ร..ถ..ท...ด..ล...อ..ง..แ..ล...ะ..ส..ร..ปุ...ผ..ล...ก..า..ร..ท...ด..ล..อ...ง..ท..ีแ่..ส...ด..ง..ใ.ห...้เ.ห...็น...ถ..งึ..ค..ว..า..ม...แ..ต..ก...ต..่า..ง..ข..อ...ง..ส..ส..า..ร......................... ..เ.ม..อ่ื...ไ.ด...ร้ ..ับ..ค...ว..า..ม..ร..้อ...น..ไ..ด..อ้...ย..่า..ง..ถ..กู...ต..้อ..ง................................................................................................................. 2.3 ดา้ นจติ พิสัย (Affective domain) ............น..กั ...เ.ร..ีย..น...ม..สี...่ว..น..ร..ว่..ม...ใ.น...ก..ิจ...ก..ร..ร..ม...ก..า..ร..เ.ร..ยี ..น...ร..อู้ ..ย...ู่ใ.น...ร. ะ...ด..ับ...ด..ี .............................................................. .......... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลงั การจดั การเรยี นการสอน .......ห...า..ก..ร..ะ..ย...ะ..เ.ว..ล..า..ไ..ม..่เ..พ..ีย...ง..พ..อ....ค...ว..ร..ใ.ห...้น..ัก...เ.ร..ีย..น...อ..ัด...ว..ดิ ..โี..อ..ก..า..ร..ท...ด..ล...อ..ง..ด..ว้..ย........................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ ครผู ู้สอน

ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรูห้ นว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง พลงั งานความร้อน ในแผนการจดั การ เรียนรทู้ ่ี 22 เรอื่ ง ความร้อนกับการขยายตวั และหดตัวของสสารเรยี บร้อยแลว้ โดยมคี วามคดิ เห็น ดังน้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ัด  สอดคลอ้ ง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้  ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทเี่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรียนรทู้ เ่ี น้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้สอื่ การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและสง่ เสริมการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น  ไม่สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้  ไมส่ อดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนร้ไู ปใช้  นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอื่ ..................................................... (นางรชั นี หนูน้อย) ตำแหน่ง หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของผ้บู รหิ าร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรหู้ น่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่ือง พลงั งานความร้อน ในแผนการจดั การ เรียนรู้ที่ 22 เร่อื ง ความรอ้ นกับการขยายตัวและหดตัวของสสารเรยี บร้อยแล้ว โดยมคี วามคิดเห็น ดงั นี้ 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วดั  สอดคล้อง  ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้  ได้นำกระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ด้นำกระบวนการเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใช้ส่อื การเรยี นรู้  มคี วามเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นรูข้ องผูเ้ รียน  ไมส่ ่งเสรมิ การเรียนรู้ของผูเ้ รียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใช้  นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมัชญา ผุดผ่อง) ตำแหน่ง รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวงั จนั ทร์วทิ ยา กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ วนั ที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ส่อื การเรียนรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 22 : ส่อื วดี ิทศั น์ วดิ ทิ ศั น์ เรอ่ื ง หนยู ม้ิ หนแู ย้มเที่ยวงานบอลลนู จาก https://www.youtube.com/watch?v=wI5hvCtYuc4

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 22 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้

ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 22 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )

ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 22 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 22 : แบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 22 : เฉลยแบบฝกึ หดั

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 23 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 พลงั งานความร้อน เรอ่ื ง สมดุลความร้อน 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พนั ธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ติ ประจําวัน ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณท์ ่ีเกีย่ วข้อง กบั เสยี ง แสง และคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้ารวมทงั้ นําความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้ีวัด ตัวชี้วัด ม.1/5 วิเคราะห์สถานการณ์การถ่ายโอนความร้อนและคำนวณปริมาณความร้อนที่ถ่าย โอน ระหว่างสสารจนเกดิ สมดลุ ความรอ้ นโดยใช้ สมการ Q สูญเสยี = Q ได้รบั 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระสําคญั ความร้อนถ่ายโอนจากสสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ไปยังสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจนกระทั่งอุณหภูมิ ของสสารทั้งสองเท่ากัน สภาพที่สสารทง้ั สองมีอณุ หภูมเิ ท่ากนั เรยี กวา่ สมดลุ ความรอ้ น เม่อื มกี ารถ่ายโอนความร้อนจากสสารที่มีอุณหภมู ิตา่ งกันจนเกดิ สมดุลความร้อนความร้อนที่เพ่ิมข้ึน ของสสารหนึง่ จะเท่ากับความร้อนท่ลี ดลงของอกี สสารหนึ่ง ซ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนรุ ักษ์พลงั งาน 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายสมดุลความร้อนได้ ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนทีถ่ ่ายโอน ระหว่างสสารจนเกิดสมดลุ ความร้อนโดยใช้ สมการ Q สูญเสยี = Q ได้รบั ได้ ดา้ นจิตพสิ ยั (Affective domain) นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรียนรอู้ ย่ใู นระดับดี

4. คุณลักษณะผู้เรยี น 4.1 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์  รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง  ซ่ือสตั ย์สุจรติ  มุ่งมน่ั ในการทำงาน  มีวนิ ยั  รักความเปน็ ไทย  ใฝเ่ รียนรู้  มจี ิตสาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการคดิ : นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายสมดุลความร้อนได้  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นักเรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรไู้ ด้ 6. สาระการเรียนรู้ ในขณะสมดุลความร้อน ปริมาณความร้อนที่สสารหนึ่งสูญเสียไปจะเท่ากับปริมาณความร้อนที่อกี สสารหนงึ่ ได้รับหรือเขยี นอธบิ ายโดยใช้ความสัมพันธ์ Q สญู เสยี = Q ได้รบั ความร้อนถ่ายโอนจากสสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ไปยังสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจนกระทั่งอุณหภูมิ ของสสารทั้งสองเท่ากัน สภาพท่ีสสารทัง้ สองมอี ุณหภูมิเทา่ กัน เรียกว่า สมดลุ ความร้อน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7.1 ข้ันนำ 1) ครนู ำสนทนาเรื่องการอาบน้ำในชว่ งอากาศหนาวใหน้ ักเรยี นฟัง โดยมีใจความสำคัญ ดงั น้ี การ อาบน้ำในชว่ งอากาศหนาวในตอนเล็ก จะมกี ารเตรียมทำน้ำอนุ่ โดยใชก้ าต้มนำ้ ต้มน้ำจนรอ้ นมาผสมกับน้ำ อุณหภูมปิ กติ แลว้ ผลลัพธท์ ไี่ ด้ คือ นำ้ อนุ่ ซ่ึงสามารถกำหนดเองได้ว่าต้องการความอุน่ มากน้อยเพยี งใด โดย การปรบั สดั ส่วนระหวา่ งน้ำร้อนกับนำ้ เย็น 7.2 ขนั้ สอน 2) นกั เรยี นรว่ มกันตอบคำถามจากเรื่องเลา่ ที่ครูได้เลา่ ให้นักเรียนฟัง ดังน้ี การผสมน้ำร้อนกับนำ้ เย็นเขา้ ด้วยกัน ทำไมจึงได้น้ำอนุ่ (แนวคำตอบ มกี ารผสมกับของน้ำท่ีมอี ณุ หภูมิต่างกนั ) เมือ่ นำสารทีม่ ีอณุ หภมู ิต่างกนั มาผสมกันแล้ว จะเปน็ อยา่ งไร (แนวคำตอบ ซึ่งสารจะมีการเปล่ียนแปลงอณุ หภมู )ิ 3) ครอู ธิบายเพมิ่ เติม โดยมีใจความสำคัญ ดังน้ี เมื่อผสมสสารทีม่ ีอุณหภูมิตา่ งกนั เข้าดว้ ยกนั สสาร ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะถ่ายโอนความร้อนให้กับสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจนกระทั่งสสารทั้งสองมีอุณหภูมิ เทา่ กัน ซ่ึงเม่ือสสารอณุ หภมู ิเทา่ กนั ไม่จำเปน็ ท่ปี ริมาณความร้อนของสสารท้ังสองต้องเท่ากนั เพราะปริมาณ ความรอ้ นขึน้ อยกู่ ับ มวล ความรอ้ นจําเพาะ และอณุ หภมู ิท่ีเปล่ยี นแปลงไป เมื่อผสมสสาร 2 ชนิดที่มีอุณหภมู ิตา่ งกันเข้าด้วยกันจนสสารสมดุลความร้อน ปริมาณความร้อนท่ี สสารหนง่ึ สูญเสยี (สสารมอี ุณหภูมิลดลง) จะเท่ากับปริมาณความร้อนที่อีกสสารหน่ึงได้รับ (สสารมีอุณหภูมิ เพม่ิ ขึ้น)โดยทอี่ ุณหภูมิท่สี สารหนง่ึ ลดลง ไม่จําเปน็ ต้องเทา่ กบั อุณหภมู ทิ อี่ ีกสสารหนงึ่ เพิ่มขน้ึ ซึ่งคำนวณได้

จากสมการ Q สญู เสีย = Q ไดร้ ับ 4) ครูแสดงตวั อย่างโจทยก์ ารคำนวณ เรอ่ื ง สมดุลความรอ้ น จำนวน 1 ข้อ 7.3 ข้ันสรุป 5) นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด เรื่อง สมดลุ ความร้อน ตัวอยา่ งท่ี 2 และแบบฝึกหัดขอ้ ท่ี 1 8. ช้นิ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหดั เร่อื ง สมดลุ ความรอ้ น 9. ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science Facebook Group : https://www.facebook.com/Mind.Julasak.MJ/videos/ 306631377667327

10. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วธิ กี ารวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพุทธิพสิ ัย (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องร้อยละ 70 ความหมายสมดุลความ ในช้นั เรียน ร้อนได้ 2. ดา้ นทักษะพิสยั (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การประเมินทักษะ ปริมาณความร้อนที่ถ่าย การคำนวณปริมาณความร้อนกบั โอน ระหวา่ งสสารจน การเปลี่ยนแปลงของสาร เกดิ สมดลุ ความร้อนโดย รอ้ ยละ 70 ใช้ สมการ Q สญู เสยี = Q ได้รับได้ 3. ด้านจติ พิสยั (Affective domain) นักเรียนมสี ว่ นร่วม สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรยี นรู้ ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ อยใู่ นระดับดี การเรียน การเรยี น ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70

แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วตั ถุประสงค์ การเรยี นรทู้ ่ตี ้องการวดั และความสอดคล้องด้านพทุ ธพิ สิ ัย ทักษะพสิ ัย และจิตพสิ ัย วัตถุประสงค์ พฤตกิ รรมการประเมนิ เทคนิค ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พุทธพิ ิสัย จติ พิสัย ประเมนิ ทกั ษะพสิ ัย 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นักเรยี นสามารถ 20 30 30 20 100 แบบประเมนิ อธิบายความหมาย การตอบคำ สมดลุ ความรอ้ นได้ ถาม 2. นกั เรียนสามารถ 20 30 30 20 100 แบบประเมิน คำนวณปรมิ าณความ 20 40 20 ทกั ษะการ รอ้ นท่ีถ่ายโอน แก้ปญั หา ระหวา่ งสสารจนเกดิ โจทยก์ าร สมดลุ ความรอ้ นโดย คำนวณ ใช้ สมการ Q สญู เสีย = ปรมิ าณความ Q ไดร้ ับได้ รอ้ นกบั การ เปลีย่ น 3. นักเรยี นมี สถานะของ ส่วนรว่ มใน สาร กจิ กรรมการเรยี นรู้ อยใู่ นระดับดี แบบสังเกต พฤติกรรม รวม 20 100 การเรยี น 20 30 30 20 100 20 30 30 20 100 20 40 20 20 100

**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ ชอื่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ

เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดังตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสงิ่ ทโ่ี จทย์ถามได้ถูกตอ้ งครบถ้วน 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสิ่งท่โี จทยถ์ ามไดถ้ กู ตอ้ งได้บางสว่ น 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดใหแ้ ละสง่ิ ที่โจทย์ถามไมถ่ กู ต้อง หรือไมเ่ ขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ต้อง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ถี ูกต้อง แตย่ งั มีบางสว่ นผิด 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่เขียน 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณได้ถกู ต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรือ 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไม่ถกู ต้องหรือไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ กู ตอ้ งและหาคำตอบไมถ่ กู ต้องหรือไมเ่ ขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกต้องบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไม่ถูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นักเรียนมี8คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70 ข้ึนไป

บนั ทึกหลังการสอน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 พลังงานความร้อน...... ... ... แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 23 สมดลุ ความร้อน 1. สรปุ ผลการเรียนการสอน 1. นักเรยี นจำนวน..1...6..4.....คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ ...1..6..4..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.....1..0..0........... ไม่ผ่านจดุ ประสงค.์ ......................คน คดิ เป็นร้อยละ.................... ได้แก่........................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. สรุปผลตามรายจุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) ..........น...ัก..เ..ร..ีย..น...ส..า..ม..า..ร..ถ...อ..ธ..ิบ...า..ย..ค...ว..า..ม..ห...ม..า..ย..ข...อ..ง..ส..ม...ด..ุล...ค..ว..า..ม..ร..อ้...น..ไ..ด..้................................................................. ....................................................................................................................................................................... 2.2 ดา้ นทักษะพิสยั (Psychomotor domain) .......น..ัก...เ.ร..ีย..น...ส..า..ม...า..ร..ถ..ค..ำ..น...ว..ณ...ป...ร..ิม...า..ณ...ค..ว..า..ม...ร..้อ..น...ท...ี่ถ..่า..ย..โ..อ..น....ร..ะ..ห..ว..่า..ง..ส...ส..า..ร..จ..น...เ.ก...ดิ ..ส..ม...ด..ลุ...ค..ว..า..ม...ร..อ้ ..น..................... โ..ด..ย...ใ.ช..้..ส..ม...ก..า..ร...Q.....ส..ูญ...เ..ส..ยี....=....Q....ไ.ด...้ร..บั ..ไ..ด..้......................................................................................................... 2.3 ด้านจติ พสิ ัย (Affective domain) ............น...กั..เ..ร..ยี ..น...ม..ีส..่ว...น..ร..่ว..ม...ใ.น...ก..ิจ..ก...ร..ร..ม..ก...า..ร..เ.ร..ยี..น...ร..ู้ ........................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะหลงั การจัดการเรยี นการสอน ........ค..ว..ร..เ..ต..ร..ีย..ม...ค..ว..า..ม...พ...ร..้อ..ม...ใ.น...เ.ร..อ่ื..ง..ก..า..ร..แ...ก..ส้...ม..ก..า..ร..ข...อ..ง..น..ัก..เ..ร..ยี ..น...ก..่อ..น...เ.ร..ยี...น..เ..ร..่ือ..ง..ส..ม...ด..ลุ..ค...ว..า..ม..ร..้อ...น........................ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................ (นางสาวธันยาภรณ์ จุลศกั ด)์ิ ครูผูส้ อน

ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นร้หู นว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง พลงั งานความร้อน ในแผนการจัดการ เรียนรู้ที่ 23 เรอื่ ง สมดุลความร้อนเรียบรอ้ ยแล้ว โดยมคี วามคดิ เห็น ดงั นี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั  สอดคลอ้ ง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทเ่ี น้นผ้เู รียนเป็นสำคัญมาใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไม่ได้นำกระบวนการเรียนรูท้ ่ีเน้นผูเ้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใช้สือ่ การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น  ไม่ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนร้ไู ปใช้  นำไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................ ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชือ่ ..................................................... (นางรชั นี หนูน้อย) ตำแหนง่ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ าร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง พลงั งานความรอ้ น ในแผนการจดั การ เรียนรทู้ ี่ 23 เรอื่ ง สมดลุ ความร้อนเรยี บร้อยแล้ว โดยมคี วามคดิ เห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ัด  สอดคลอ้ ง  ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้  ได้นำกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ำกระบวนการเรียนร้ทู เี่ น้นผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ่ือการเรียนรู้  มีความเหมาะสมและสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผู้เรียน  ไม่สง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผ้เู รียน 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้  นำไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................ ....................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .................................................................................................................................. ....................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมัชญา ผุดผ่อง) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนวังจนั ทร์วทิ ยา กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 23 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้

ส่อื การเรียนร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 23 : เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 23 : แบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 23 : แบบฝกึ หัด (ตอ่ )

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 23 : เฉลยแบบฝกึ หดั

ส่อื การเรยี นรู้แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 23 : เฉลยแบบฝึกหัด (ตอ่ )

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 24 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว21102 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 คาบเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 พลงั งานความร้อน เรอ่ื ง สมดุลความร้อน 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พนั ธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ติ ประจําวัน ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณท์ ่ีเกีย่ วข้อง กบั เสยี ง แสง และคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้ารวมทงั้ นําความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้ีวัด ตัวชี้วัด ม.1/5 วิเคราะห์สถานการณ์การถ่ายโอนความร้อนและคำนวณปริมาณความร้อนที่ถ่าย โอน ระหว่างสสารจนเกดิ สมดลุ ความรอ้ นโดยใช้ สมการ Q สูญเสยี = Q ได้รบั 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระสําคญั ความร้อนถ่ายโอนจากสสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ไปยังสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจนกระทั่งอุณหภูมิ ของสสารทั้งสองเท่ากัน สภาพที่สสารทง้ั สองมีอณุ หภูมเิ ท่ากนั เรยี กวา่ สมดลุ ความรอ้ น เม่อื มกี ารถ่ายโอนความร้อนจากสสารที่มีอุณหภมู ิตา่ งกันจนเกดิ สมดุลความร้อนความร้อนที่เพ่ิมข้ึน ของสสารหนึง่ จะเท่ากับความร้อนท่ลี ดลงของอกี สสารหนึ่ง ซ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนรุ ักษ์พลงั งาน 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายสมดุลความร้อนได้ ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถคำนวณปริมาณความร้อนทีถ่ ่ายโอน ระหว่างสสารจนเกิดสมดลุ ความร้อนโดยใช้ สมการ Q สูญเสยี = Q ได้รบั ได้ ดา้ นจิตพสิ ยั (Affective domain) นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรียนรอู้ ย่ใู นระดับดี

4. คณุ ลกั ษณะผู้เรยี น 4.1 คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  อยู่อยา่ งพอเพยี ง  ซ่ือสัตยส์ จุ รติ  ม่งุ ม่นั ในการทำงาน  มวี ินัย  รักความเปน็ ไทย  ใฝเ่ รียนรู้  มีจิตสาธารณะ 5. ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น  ความสามารถในการคดิ : นักเรียนสามารถอธบิ ายความหมายสมดุลความร้อนได้  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : นกั เรียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการเรียนรไู้ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ ในขณะสมดุลความร้อน ปริมาณความร้อนที่สสารหนึ่งสูญเสียไปจะเท่ากับปริมาณความร้อนที่อีก สสารหนงึ่ ได้รบั หรือเขียนอธบิ ายโดยใชค้ วามสมั พันธ์ Q สูญเสีย = Q ไดร้ บั ความร้อนถ่ายโอนจากสสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ไปยังสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจนกระทั่งอุณหภูมิ ของสสารท้งั สองเทา่ กัน สภาพท่สี สารทงั้ สองมอี ุณหภูมเิ ทา่ กัน เรยี กว่า สมดลุ ความรอ้ น 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 7.1 ขน้ั นำ 1) ครูทบทวนบทเรียนเกยี่ วกับสมการการคำนวณสมดุลความร้อน 7.2 ข้ันสอน 2) นักเรียนยกตัวอย่างเหตุการณ์ / ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสมดุลความร้อนที่นักเรียนเคยพบ เห็น 3) นักเรียนร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวอย่างเหตุการณ์ / ประสบการณ์ท่ี นกั เรียนยกตวั อย่าง วา่ เกย่ี วขอ้ งกบั สมดลุ ความรอ้ นอย่างไร 4) ครูแสดงตวั อยา่ งโจทยก์ ารคำนวณ เรือ่ ง สมดลุ ความร้อน จำนวน 1 ขอ้ 7.3 ข้ันสรปุ 5) นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรอื่ ง สมดุลความร้อน ตัวอย่างท่ี 2 และแบบฝกึ หดั ขอ้ ท่ี 2-3 8. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - แบบฝึกหดั เรอ่ื ง ความร้อนกับการขยายตวั หรอื หดตวั ของสาร 9. สื่อการเรียนรู้ / แหลง่ เรียนรู้ Google Classroom : https://classroom.google.com/c/MzY4NDU4NDgwMTE1/p/NDQyOTM2MTg3ODQw/details Google sites : https://sites.google.com/wangchan.ac.th/mind-science

10. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วธิ กี ารวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพุทธิพสิ ัย (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธิบาย การตอบคำถาม ขอ้ คำถาม ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องร้อยละ 70 ความหมายสมดุลความ ในช้นั เรียน ร้อนได้ 2. ดา้ นทักษะพิสยั (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถคำนวณ การทำแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์การประเมินทักษะ ปริมาณความร้อนที่ถ่าย การคำนวณปริมาณความร้อนกบั โอน ระหวา่ งสสารจน การเปลี่ยนแปลงของสาร เกดิ สมดลุ ความร้อนโดย รอ้ ยละ 70 ใช้ สมการ Q สญู เสยี = Q ได้รับได้ 3. ด้านจติ พิสยั (Affective domain) นักเรียนมสี ว่ นร่วม สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรยี นรู้ ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ อยใู่ นระดับดี การเรียน การเรยี น ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70

แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วตั ถุประสงค์ การเรยี นรทู้ ่ตี ้องการวดั และความสอดคล้องด้านพทุ ธพิ สิ ัย ทักษะพสิ ัย และจิตพสิ ัย วัตถุประสงค์ พฤตกิ รรมการประเมนิ เทคนิค ระดับพฤตกิ รรม (%) การ พุทธพิ ิสัย จติ พิสัย ประเมนิ ทกั ษะพสิ ัย 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม นักเรยี นสามารถ 20 30 30 20 100 แบบประเมนิ อธิบายความหมาย การตอบคำ สมดลุ ความรอ้ นได้ ถาม 2. นกั เรียนสามารถ 20 30 30 20 100 แบบประเมิน คำนวณปรมิ าณความ 20 40 20 ทกั ษะการ รอ้ นท่ีถ่ายโอน แก้ปญั หา ระหวา่ งสสารจนเกดิ โจทยก์ าร สมดลุ ความรอ้ นโดย คำนวณ ใช้ สมการ Q สญู เสีย = ปรมิ าณความ Q ไดร้ ับได้ รอ้ นกบั การ เปลีย่ น 3. นักเรยี นมี สถานะของ ส่วนรว่ มใน สาร กจิ กรรมการเรยี นรู้ อยใู่ นระดับดี แบบสังเกต พฤติกรรม รวม 20 100 การเรยี น 20 30 30 20 100 20 30 30 20 100 20 40 20 20 100

**หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะหก์ ารประเมิน พุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั จิตพสิ ัย 1 = ความจำ 1 = การรับรู้ 1 = การรบั รสู้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 3 = นำไปใช้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 4 = วเิ คราะห์ 5 = ประเมินคา่ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 6 = สรา้ งสรรค์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจดั ระบบคุณค่า 5 = การตอบสนองท่ซี ับซ้อนขึ้น 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ยั 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ริม่ ใหม่

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ การตอบคำถาม คำชแี้ จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทำการตอบคำถามของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินการตอบคำถาม (ความถูกต้อง) ลำดบั ชื่อ - สกุล ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศกั ด์ิ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ 5 4 ระดบั คะแนน 1 0 ประเมนิ 32 คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบ คำตอบ ถกู ต้อง 5 ข้อ ถกู ตอ้ ง คำตอบ คำตอบถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้อง 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ขอ้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไป

คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ ทักษะการแกป้ ัญหาโจทยก์ ารคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของสาร คำช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทำการประเมนิ แบบประเมินทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณ ลำดบั ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ ชอื่ - สกลุ 9- 7-8 5-6 3-4 1- 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 10 2 1 2 3 4 5 6 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวธนั ยาภรณ์ จลุ ศักดิ)์ วนั ท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ

เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะการแก้ปัญหาโจทย์การคำนวณปรมิ าณความรอ้ นกับการเปลี่ยนแปลงของสาร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดังตารางต่อไปนี้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 1. ทำความเข้าใจปญั หา 2 - เขียนสงิ่ ทโ่ี จทยกำหนดให้ และสงิ่ ทโ่ี จทย์ถามได้ถูกตอ้ งครบถ้วน 2 - เขียนสิ่งทโี่ จทยกำหนดให้ และสิ่งท่โี จทยถ์ ามไดถ้ กู ตอ้ งได้บางสว่ น 1 - เขียนสงิ่ ท่ีโจทย์กำหนดใหแ้ ละสง่ิ ที่โจทย์ถามไมถ่ กู ต้อง หรือไมเ่ ขียน 0 2. วางแผนการแกป้ ญั หา 2 - เขียนวธิ ีแก้ปญั หาไดถ้ กู ต้อง 2 - เขยี นวิธีแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจจะนำไปสู่คำตอบท่ถี ูกต้อง แตย่ งั มีบางสว่ นผิด 1 - เขยี นวิธีแก้ปญั หาไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่เขียน 0 3. ดำเนนิ การตามแผน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจนและหาคำตอบไดถ้ ูกต้องครบถ้วน 4 - เขยี นแสดงการคำนวณได้ถกู ต้องชัดเจนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 3 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกต้องบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องครบถ้วน - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องบางส่วน 2 - เขียนแสดงการคำนวณไดถ้ กู ต้องบางส่วนและหาคำตอบไม่ถกู ต้องหรือ 1 ไมเ่ ขยี น 0 - เขียนแสดงการคำนวณไม่ถกู ต้องหรือไม่เขียนและหาคำตอบได้ถูกต้อง 2 2 บางสว่ น 1 - เขียนแสดงการคำนวณไมถ่ กู ตอ้ งและหาคำตอบไมถ่ กู ต้องหรือไมเ่ ขียน 0 4. ตรวจสอบผลลพั ธ์ - เขยี นแสดงการตรวจคำตอบของปญั หาไดถ้ กู ตอ้ ง - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาได้ถูกต้องบางส่วน - เขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหาไม่ถูกตอ้ ง - ไมเ่ ขียนแสดงการตรวจคำตอบของปัญหา เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นักเรียนมี8คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70 ข้ึนไป