คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ด้าน 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใชช้ ีวิตประจาวันบนพืน้ ฐาน ของความรู้ ข้อมลู ขา่ วสาร 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลย่ี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรับตัว อยรู่ ่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสขุ 6. มงุ่ มั่นในการ 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย ทางาน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสานกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ชว่ ยทา และแบง่ ปันส่งิ ของให้ผ้อู น่ื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบัติและสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ตา่ กวา่ 54 ปรบั ปรุง 366
บันทกึ หลงั แผนการสอน (แผนท่ี 8 การจดั ตกแตง่ และการดูแลรักษาบา้ น) ผลการจัดการเรยี นการสอน ด้านความรู้ นกั เรยี นจานวน 65.52 มคี วามรูใ้ นเร่อื งการวางแผน การอธบิ ายวธิ ีการ/ข้นั ตอนในการดูแลรกั ษาบา้ นและ เครื่องเรือนได้ถูกต้อง โดยผา่ นในระดับดีมาก จานวน 8 คน ระดับดี จานวน 8 คน ระดับ พอใช้ จานวน 3 คน มี นร. 10 คน ไม่สนใจเรยี น ไม่เขา้ เรยี นออนไลน์ ด้านทกั ษะกระบวนการ นักเรียนจานวน 65.52 มีทักษะในการดแู ลรกั ษาบา้ นและคร่อื งเรือนตา่ งๆภายในบ้านได้ถกู ต้อง โดยปฏบิ ัติอยู่ ในระดับดมี าก จานวน 8 คน ระดับดี จานวน 8 คน ระดับ พอใช้ จานวน 3 คน ด้านเจตคติ นักเรยี นจานวน 65.52 มีเจตคติทีด่ ี มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรูแ้ ละมงุ่ ม่นั ในการทางาน ปัญหา/อุปสรรค มี นร. 10 คน ไม่สนใจเรยี น ไม่เขา้ เรียนออนไลน์ แนวทางการแก้ไข ตดิ ตามและแจง้ ครูท่ปี รกึ ษา แต่ไมป่ ระสบผลสาเรจ็ ลงช่อื นางทศั นี ตรเี จตน์ ผูบ้ นั ทกึ 367
368
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 รหสั วชิ า ง21101 ช่อื วิชา การงานอาชพี 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ ่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การจัดสวนในภาชนะเพ่ือตกแต่งห้องต่างๆ ในบ้าน 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การจัดสวนถาดและสวนแก้วจะต้องทาตามข้นั ตอนการทางานของกระบวนการทางาน ใชก้ ระบวนการกลุ่มด้วย ความเสยี สละ และตดั สินใจแก้ปญั หาอย่างมีเหตผุ ล 2 ตวั ชว้ี ดั /จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ชว้ี ัด ง 1.1 ม.1/1 วเิ คราะหข์ น้ั ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ม.1/2 ใช้กระบวนการกล่มุ ในการทางานด้วยความเสยี สละ ม.1/3 ตัดสินใจแก้ปัญหาการทางานอยา่ งมเี หตผุ ล 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) จดั สวนถาดและสวนแก้วตามขั้นตอนกระบวนการทางาน 2) ใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดสวนถาดและสวนแก้วดว้ ยความเสยี สละ 3) ใชว้ ิธีการแกป้ ัญหาเกีย่ วกับการจดั สวนถาดและสวนแกว้ อย่างมเี หตุผล 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1) ขนั้ ตอนการทางาน เป็นส่วนหน่ึงของการปฏิบัตงิ านตามทักษะกระบวนการทางานโดยทาตามลาดบั ขั้นตอนทว่ี างแผนไว้ เชน่ - การจดั และตกแต่งหอ้ ง 2) กระบวนการกลมุ่ เปน็ วธิ กี ารทางานตามข้นั ตอน คอื การเลอื กหวั หนา้ กลมุ่ กาหนดเป้าหมาย วางแผน แบง่ งานตามความสามารถ ปฏิบตั ิตามบทบาทหน้าที่ ประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ งาน 3) ความเสยี สละเปน็ ลกั ษณะนสิ ัยในการทางาน 4) การแกป้ ัญหาในการทางานเพื่อให้เกิดความคิดหาวิธกี ารแก้ปัญหาตา่ งๆ เช่น - การจดั สวนในภาชนะ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 369
4 สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 2) ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ 3) ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มั่นในการทางาน 6 กจิ กรรมการเรยี นรู้ วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏบิ ัติ ขั้นท่ี 1 สงั เกต รับรู้ 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคิด เพราะเหตุใดจึงมกี ารนาต้นไม้ไปประดบั ตกแตง่ ในห้องต่างๆ (เพื่อให้เกดิ บรรยากาศทผ่ี ่อนคลาย เกดิ ความสวยงาม และตน้ ไม้ยังปล่อยก๊าซออกซิเจนทจี่ าเป็นต่อมนุษย์ใน ตอนกลางวัน) 2. นักเรียนกล่มุ เดิม (จากแผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1) รว่ มกันศึกษาความร้เู ร่อื ง การจดั สวนในภาชนะเพ่ือตกแต่ง หอ้ งตา่ งๆ ในบา้ น จากหนังสือเรียน แล้วบันทึกความรู้ท่ไี ด้จากการศึกษาลงในแบบบนั ทึกการอา่ น 3. ครแู จง้ ใหน้ ักเรียนทราบวา่ ครูจะจัดสวนถาดให้นกั เรยี นดเู ป็นแบบอย่าง เพอ่ื ให้นักเรยี นเกิดการเรียนรจู้ าก ประสบการณ์จริง 4. ครใู หน้ กั เรยี นดูภาชนะ วสั ดุ และเครื่องมือทใี่ ชใ้ นการจัด สวนถาด แล้วจดั สวนถาดให้นักเรียนดเู ปน็ แบบอย่าง ตามลาดับขั้นตอน ขนั้ ที่ 2 ทาตามแบบ 1. สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันทบทวนลาดับขั้นตอนการจัด สวนถาด แล้วฝกึ จัดสวนถาดตามแบบอย่างที่ครูทาให้ดู โดยครูคอยสงั เกตการณอ์ ย่างใกล้ชดิ และเน้นย้าให้นักเรียนตระหนกั ถึงความปลอดภยั ในการทางาน 2. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และความเรียบร้อยของผลงาน ถ้ามีข้อบกพร่องใหช้ ว่ ยกนั หา แนวทางปรบั ปรุง แกไ้ ข ข้นั ที่ 3 ทาเองโดยไมม่ แี บบ 1. สมาชิกในแต่ละกลุม่ รว่ มกนั จดั สวนถาด โดยไมม่ แี บบอยา่ ง โดยครเู ป็นผ้ตู รวจสอบความถกู ต้อง และอธิบาย เพ่ิมเติมในสว่ นทบี่ กพรอ่ ง 2. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด นักเรียนเห็นด้วยกบั การนาสวนถาดไปประดับตกแตง่ ในห้องต่างๆ ภายในบา้ นหรอื ไม่ จงอธิบาย (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ น ดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน) 370
ขนั้ ท่ี 4 ฝึกทาให้ชานาญ 1. สมาชิกในแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันจัดสวนแก้ว เพอ่ื ให้เกิดความชานาญ จากนนั้ ให้ตัวแทนกลุม่ นาเสนอผลงานหนา้ ชั้น เรียน แลว้ ใหเ้ พอ่ื นกล่มุ อนื่ ผลัดกนั ตชิ มผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ การจดั สวนในภาชนะมปี ระโยชน์ต่อนกั เรียนอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน) ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนดแู ลรักษาบา้ นของตนเอง เปน็ เวลา 2 สัปดาห์ แล้วบนั ทกึ ผลการปฏิบัติ กิจกรรม พร้อมติดรูปถ่ายประกอบ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามท่กี าหนด ดังน้ี 1) การวเิ คราะห์ขนั้ ตอนการดูแลรกั ษาบ้านของตนเองตามกระบวนการทางาน 2) การใช้กระบวนการกลุม่ ในการดูแลรกั ษาบ้านของตนเองด้วยความเสียสละ 3) การตดั สินใจแก้ปัญหาการดูแลรักษาบ้านของตนเองอย่างมีเหตผุ ล 4) การสรปุ ผลของการดแู ลรกั ษาบา้ นของตนเอง นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 7 การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ สังเกตความซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ใฝเ่ รยี นรู้ และ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น มุง่ มั่นในการทางาน เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ที่ 2 ที่ 2 ตรวจแบบบันทกึ ผลการดูแลรกั ษาบา้ นของ แบบประเมินการบนั ทึกผลการดูแลรกั ษา ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น ตนเอง บา้ นของตนเอง เกณฑ์ 8 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น การงานอาชพี ม.1 2) ภาชนะ วสั ดุ และเคร่ืองมือท่ีใช้ในการจดั สวนในภาชนะ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ — 371
ชิ้ น ง า น / ภ า ร ะ ง า น ( ร ว บ ย อ ด ) แบบบนั ทึกผลการดแู ลรักษาบา้ นของตนเอง คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนดแู ลรักษาบ้านของตนเอง เปน็ เวลา 2 สัปดาห์ แล้วบนั ทึกผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม พร้อมติดรูปถา่ ยประกอบ (ตดิ รูปถ่าย) 1. การวเิ คราะห์ขนั้ ตอนการดูแลรักษาบา้ นของตนเองตามกระบวนการทางาน 2. การใชก้ ระบวนการกล่มุ ในการดูแลรกั ษาบา้ นของตนเองดว้ ยความเสยี สละ 3. การตดั สินใจแกป้ ัญหาการดูแลรักษาบา้ นของตนเองอยา่ งมีเหตุผล 4. การสรุปผลของการดแู ลรักษาบา้ นของตนเอง 372
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด ) แบบประเมินการบันทึกผลการดูแลรกั ษาบ้านของตนเอง ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 การวิเคราะห์ข้นั ตอนการดแู ลรกั ษาบา้ นของตนเอง ตามกระบวนการทางาน 2 การใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการดแู ลรกั ษาบา้ นของ ตนเองดว้ ยความเสียสละ 3 การตดั สินใจแกป้ ัญหาการดแู ลรกั ษาบา้ นของตนเอง อยา่ งมเี หตผุ ล 4 การสรุปผลของการดแู ลรกั ษาบ้านของตนเอง รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ดีมาก = 4 คะแนน ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ = 2 คะแนน ปรับปรุง = 1 คะแนน 14 - 16 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง 373
ชอ่ื หนังสือ ราคา ชือ่ ผแู้ ตง่ แบบบนั ทึกการอ่าน สานกั พมิ พ์ สถานท่ีพมิ พ์ จานวนหน้า บาท อ่านวนั ที่ เดอื น นามปากกา ปที ่พี มิ พ์ พ.ศ. เวลา 1. สาระสาคัญของเรื่อง 2. วิเคราะหข์ ้อคดิ /ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากเรื่องทอ่ี ่าน 3. สง่ิ ทีส่ ามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน 4. ข้อเสนอแนะของครู ลงชอ่ื นกั เรยี น ลงชอื่ ผปู้ กครอง ( )( ) ลงชื่อ ครูผสู้ อน () เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานมีความสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีขอ้ บกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีขอ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 374
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการท่ีกาหนด แลว้ ขีด ลงในช่อง ที่ตรงกับระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา 2 ความคดิ สร้างสรรค์ 3 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรับปรงุ 375
แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ ช่ือกลุ่ม ชั้น คาช้แี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกับระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 4321 1 การแบ่งหน้าที่กนั อย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมือกันทางาน 3 การแสดงความคดิ เหน็ 4 การรบั ฟังความคดิ เหน็ 5 ความมีนา้ ใจช่วยเหลือกนั รวม ลงชอื่ .................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง 376
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ด้าน 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธิบาย กษัตริย์ ความหมายของ เพลงชาติ 1.2 ปฏิบตั ิตนตามสิทธแิ ละหน้าที่ของนักเรียน 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในช้ันเรียน 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมท่สี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏิบัติตนตามหลกั ของ ศาสนา 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กี่ยวกับสถาบันพระมหากษตั ริย์ตามทีโ่ รงเรียน และชุมชนจดั ขน้ึ 2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏบิ ัติในสง่ิ ท่ถี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวทจ่ี ะทาความผิด ทา ตามสัญญาท่ีตนใหไ้ วก้ ับเพ่ือน พ่อแม่หรือผ้ปู กครอง และครู 2.3 ปฏิบัตติ อ่ ผ้อู น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง 3. มวี นิ ยั 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว รับผดิ ชอบ และโรงเรียน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ ในชวี ิตประจาวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั พอเพียง คมุ้ คา่ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดแู ล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรียบผอู้ ื่น และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดร้อน พร้อมให้อภัยเมอื่ ผู้อื่นกระทาผิดพลาด 377
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ด้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ ีวิตประจาวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลย่ี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยรู่ ่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสขุ 6. มงุ่ มั่นในการ 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทา และแบง่ ปันส่งิ ของใหผ้ ้อู ่นื 8.3 รจู้ กั ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบัติและสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรุง 378
บนั ทกึ หลงั แผนการสอน (แผนที่ 9 การจดั สวนในภาชนะเพอ่ื ตกแตง่ ห้องตา่ งๆ ในบา้ น) ผลการจดั การเรยี นการสอน ด้านความรู้ นักเรยี นจานวน 65.52 มีความรู้ผา่ นเกณฑ์ ในเร่ืองการจดั สวนถาดและสวนแก้ว โดยผา่ นในระดับดีมาก จานวน 8 คน ระดับดี จานวน 8 คน ระดบั พอใช้ จานวน 3 คน มี นร. 10 คน ไมส่ นใจเรยี น ไมเ่ ข้าเรียนออนไลน์ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ นักเรยี นจานวน 65.52 มที กั ษะกระบวนการกลุ่มในการจัดสวนถาดและสวนแกว้ ใชว้ ธิ ีการแกป้ ัญหาด้ถูกต้อง โดยปฏบิ ัติอยใู่ นระดับดีมาก จานวน 8 คน ระดับดี จานวน 8 คน ระดับ พอใช้ จานวน 3 คน ดา้ นเจตคติ นกั เรียนจานวน 65.52 มีเจตคติท่ดี ี มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรแู้ ละม่งุ มัน่ ในการทางาน ปัญหา/อุปสรรค มี นร. 10 คน ไมส่ นใจเรยี น ไม่เข้าเรยี นออนไลน์ แนวทางการแกไ้ ข ตดิ ตามและแจ้งครูทปี่ รึกษา แตไ่ ม่ประสบผลสาเรจ็ ลงชอ่ื นางทัศนี ตรีเจตน์ ผ้บู นั ทึก 379
380
หน่วยการเรียนรู้ที่หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เวลา 5 ช่วั โมง รหัสวิชา ง21101 ชอ่ื วิชา การงานอาชีพ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาป่ีท่ี 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 ประดิษฐค์ ดิ สร้างสรรค์ 1 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ัด ง 1.1 ม.1/1 วเิ คราะห์ข้นั ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ม.1/2 ใช้กระบวนการกลุ่มในการทางานดว้ ยความเสียสละ ม.1/3 ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาการทางานอย่างมเี หตุผล 2 สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวัสดทุ ้องถนิ่ จะต้องวิเคราะหข์ ้ันตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ใช้ กระบวนการกลมุ่ ดว้ ยความเสียสละ และตัดสินใจแกป้ ญั หาอยา่ งมีเหตผุ ล 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1) ข้ันตอนการทางาน เป็นสว่ นหน่ึงของการปฏบิ ตั ิงานตามทักษะกระบวนการทางานโดยทาตามลาดับ ขั้นตอนท่ีวางแผนไว้ 2) กระบวนการกลุ่ม เปน็ วิธีการทางานตามข้ันตอน คอื การเลือกหวั หน้ากล่มุ กาหนดเป้าหมาย วางแผน แบง่ งานตามความสามารถ ปฏบิ ตั ิตามบทบาทหน้าท่ี ประเมินผลและปรับปรงุ งาน เชน่ - การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวัสดใุ นท้องถนิ่ 3) ความเสียสละเป็นลักษณะนิสัยในการทางาน 4) การแกป้ ัญหาในการทางานเพ่ือใหเ้ กดิ ความคิดหาวิธีการแก้ปญั หาต่างๆ 3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ 1) ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุทอ้ งถนิ่ 2) ชนดิ ของวัสดุท้องถนิ่ 3) เคร่อื งมือเครื่องใช้ในการทางานประดิษฐ์ 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 2) ทักษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ 3) ทกั ษะกระบวนการคดิ ตดั สนิ ใจ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดทุ อ้ งถิ่น 381
7 การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมินกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่ง จากวัสดุท้องถนิ่ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง ชนิดของวัสดทุ ้องถิน่ 2) ตรวจใบงานที่ 4.2 เรอื่ ง เครอ่ื งมอื เคร่ืองใช้ในการทางานประดษิ ฐ์ 3) ตรวจใบงานที่ 4.3 เรอ่ื ง อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการวัด ตัด เจาะ และขึน้ รปู ทรง 4) ตรวจใบงานท่ี 4.4 เร่ือง การออกแบบงานประดิษฐ์ 5) ตรวจใบงานท่ี 4.5 เรอ่ื ง งานประดษิ ฐจ์ ากวสั ดุท้องถนิ่ 6) ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น 7) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 8) สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล 9) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 10) สังเกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 7.3 การประเมนิ หลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดทุ อ้ งถิน่ 7.4 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจการประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุทอ้ งถนิ่ 8 กจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 382
เรอ่ื งท่ี 1 ความสาคัญและประเภทของงานประดษิ ฐข์ องใช้ของตกแต่งจากวสั ดทุ ้องถนิ่ 1 คาบ วิธสี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูใหน้ กั เรียนดูตวั อย่างงานประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุทอ้ งถนิ่ แล้วต้ังประเด็นคาถามถามนักเรียน เพื่อใหน้ กั เรยี นตระหนักถึงประโยชนข์ องงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดทุ ้องถน่ิ 2. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนเข้าใจเก่ียวกับความหมายของการประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุทอ้ งถ่นิ และชนดิ ของวสั ดทุ ้องถิน่ 3. ครใู หน้ กั เรยี นดูตวั อย่างงานประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุท้องถิน่ จากน้ันต้ังประเดน็ คาถาม แลว้ ให้ นกั เรยี นชว่ ยกันตอบ 4. ครอู ธิบายใหน้ ักเรยี นเข้าใจเก่ยี วกับวสั ดุทน่ี ามาใช้ทางานประดิษฐ์ ข้ันที่ 2 สารวจคน้ หา (Explore) 1. นกั เรียนแตล่ ะคนศึกษาความรูเ้ รอื่ ง ประโยชนข์ องงานประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวัสดทุ อ้ งถ่นิ จากหนงั สือ เรียน 2. นักเรียนทุกคนชว่ ยกนั วิเคราะหแ์ ละประเมนิ งานประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวัสดทุ อ้ งถิ่นในท้องถ่นิ ของตนเอง ตามประเด็นที่กาหนด 3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ตามความสมคั รใจ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาความร้เู ร่ือง ชนดิ ของวัสดุ ท้องถน่ิ จากหนงั สอื เรยี น ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาให้เพือ่ นในกล่มุ ฟงั เรียงลาดบั ทีละคน จนครบ ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 1. ครใู ห้สมาชิกแตล่ ะคนในกลมุ่ ช่วยกันวเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ประโยชน์ และวสั ดทุ อ้ งถนิ่ ใน ทอ้ งถ่นิ ทจ่ี ะนามาทางานประดิษฐ์ ตามประเด็นทก่ี าหนด 2. สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มคัดเลอื กตวั แทนกล่มุ นาเสนอคาตอบหน้าชัน้ เรยี น 3. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 2 เรอื่ ง ประเภทของวัสดุท้องถิ่น เปน็ การบา้ น แลว้ นาสง่ ครใู นวันถดั ไป ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรเู้ ร่ือง ประโยชนข์ องงานประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุทอ้ งถิ่น 2. สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สรุปความรเู้ รอื่ ง ชนดิ ของวสั ดุทอ้ งถ่ิน เปน็ ผังมโนทัศน์ เสรจ็ แลว้ นาส่งครตู รวจ 3. ครตู รวจสอบความรู้ความเขา้ ใจของนักเรียนจากการนาเสนอผลงาน และการสรปุ ความรเู้ รอื่ ง ชนดิ ของวัสดุ ทอ้ งถิ่น 383
เรื่องท่ี 2 เครื่องมอื เครอื่ งใช้ในการทางานประดษิ ฐ์ 1 คาบ วธิ ีสอนแบบ กระบวนการกล่มุ สัมพนั ธ์ ขนั้ ที่ 1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูให้นกั เรียนดูตวั อยา่ งงานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดทุ ้องถน่ิ แล้วแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั ตัวอย่าง งานประดษิ ฐ์ชนิ้ ดังกล่าว 2. ครอู ธบิ ายให้นกั เรยี นเข้าใจเกี่ยวกบั วธิ ีการใชเ้ ครอื่ งมือเครอ่ื งใชใ้ นการทางานประดิษฐ์ให้ถกู ต้อง เพ่ือให้เกิดความ ปลอดภยั ในการใช้งาน ข้ันท่ี 2 จัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นกลุม่ เดิมรว่ มกนั ศึกษาความร้เู ร่อื ง เคร่ืองมอื เคร่อื งใช้ในการทางานประดิษฐ์ จากหนงั สอื เรยี น ตาม ประเดน็ ท่ีกาหนด 2. นักเรยี นแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอภปิ รายความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาใหเ้ พื่อนในกลุม่ ฟัง จนทกุ คนในกลุ่ม มีความรคู้ วามเขา้ ใจทถี่ ูกต้อง ชดั เจน 3. ครคู ดั เลอื กตัวแทนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการอภิปรายหน้าชนั้ เรยี น แลว้ ให้นักเรียนกล่มุ อื่นทีม่ ีความคิดเหน็ แตกตา่ งกันออกไปได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม 4. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันทาใบงานที่ 1 และใบงานท่ี 2 เรือ่ ง เคร่ืองมือเครือ่ งใชใ้ นการทางานประดษิ ฐ์ เสร็จแล้วตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ามขี ้อบกพร่องให้ ชว่ ยกันปรบั ปรงุ แก้ไข แล้วนาสง่ ครูตรวจ ขนั้ ท่ี 3 สรุปและนาหลกั การไปประยุกตใ์ ช้ เสร็จ 1. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ ร่ือง เคร่ืองมือเครื่องใชใ้ นการทางานประดิษฐ์ 2. สมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ทาใบงานท่ี 4.3 เรื่อง อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการวัด ตัด เจาะ และขนึ้ รปู ทรง แล้วนาสง่ ครตู รวจ ข้ันที่ 4 วดั และประเมนิ ผล 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 4.2-4.3 2. ครูสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มของนกั เรยี น แล้วเสนอแนะในส่วนทีบ่ กพร่องเพ่อื นาไปปรับปรุง แกไ้ ขในการ ทางานครงั้ ต่อไป 3. ครูวดั และประเมินผลนกั เรียนจากการทาใบงาน 384
เรือ่ งที่ 3 การออกแบบงานประดิษฐ์ 1 คาบ วิธีสอนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครใู หน้ กั เรยี นดูตวั อย่างงานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุท้องถนิ่ แล้วแสดงความคดิ เห็นตามประเดน็ ที่ กาหนด 2. ครอู ธิบายให้นักเรยี นเขา้ ใจเกี่ยวกบั การออกแบบงานประดิษฐ์ ข้ันท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) นักเรียนกลมุ่ เดิมร่วมกนั ศึกษาความรเู้ รอื่ ง การออกแบบงานประดษิ ฐ์ จากหนังสือเรยี น ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอธบิ ายความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษาให้เพื่อนในกลุม่ ฟัง จนทุกคนในกลุ่ม มี ความรคู้ วามเข้าใจที่ถกู ต้อง ตรงกัน 2. ครูสมุ่ นักเรยี นอธบิ ายความรูท้ ่ีได้จากการศึกษาใหเ้ พ่ือนฟงั หนา้ ชนั้ เรยี น จากนนั้ เพ่อื นช่วยกนั ตรวจสอบความถูก ตอ้ ง แลว้ ครูอธบิ ายเพม่ิ เติม ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครูใหส้ มาชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะหว์ ิจารณ์ตนเองและเพื่อนในกลมุ่ ตามประเด็นทก่ี าหนด 2. ตวั แทนแต่ละกล่มุ นาเสนอผลการวเิ คราะหว์ ิจารณ์หน้าช้ันเรยี น แลว้ ให้เพอื่ นกลุ่มอื่นทมี่ ีความคดิ เห็นแตกต่างกนั ออกไปได้แสดงความคิดเห็นเพม่ิ เตมิ 3. สมาชกิ แตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั ทาใบงานที่ 4.4 เรือ่ ง การออกแบบงานประดิษฐ์ ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครเู ฉลยคาตอบในใบงานที่ 4.4 แลว้ ใหส้ มาชกิ แต่ละกลมุ่ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและแก้ไขเพม่ิ เติม 2. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ รื่อง การออกแบบงานประดิษฐ์ 385
เรื่องที่ 4 งานประดิษฐ์จากวัสดุท้องถิ่น 1 คาบ วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครใู หน้ ักเรยี นดตู วั อย่างงานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุท้องถน่ิ 2. นกั เรยี นกลุม่ เดิมรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกับตัวอย่างงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุทอ้ งถิน่ ทค่ี รนู ามาใหด้ ู ขัน้ ท่ี 2 จาแนกความแตกตา่ ง 1. สมาชิกในแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาความรู้เรอื่ ง งานประดิษฐ์จากวสั ดทุ อ้ งถิน่ จากหนงั สือเรียน 2. สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มร่วมกันวเิ คราะห์ความแตกต่างของตัวอยา่ งงานประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุท้องถนิ่ ท่ี ครนู ามาให้ดู 3. ครูจับสลากเลือกตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลการวเิ คราะห์หน้าชั้นเรียน แลว้ ใหเ้ พ่อื นกลุ่มอ่ืนที่มีผลการวิเคราะห์ แตกต่างกนั ออกไปไดน้ าเสนอเพิม่ เติม ขน้ั ท่ี 3 หาลักษณะร่วม 1. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วิเคราะหค์ วามเหมือนหรอื คลา้ ยคลงึ กันของตวั อยา่ งงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุท้องถ่นิ ท่ีครนู ามาให้ดู 2. ครจู บั สลากเลอื กตวั แทนกลุ่มนาเสนอผลการวิเคราะหห์ นา้ ชนั้ เรียน แล้วใหเ้ พ่ือนกลมุ่ อ่ืนท่ีมผี ลการวเิ คราะห์ แตกตา่ งกันออกไปได้นาเสนอเพิ่มเติม ขั้นที่ 4 ระบชุ ่อื ความคิดรวบยอด นักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้จากตวั อยา่ งงานประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวัสดุทอ้ งถนิ่ ท่ีครนู ามาให้ดู ขนั้ ท่ี 5 ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 4.5 เรื่อง งานประดิษฐจ์ ากวัสดุทอ้ งถนิ่ เสร็จแลว้ นาสง่ ครูตรวจ 386
เร่อื งท่ี 5 การฝึ กประดิษฐช์ ิ้นงานของใช้ ของตกแต่ง 1 คาบ จากวสั ดทุ ้องถ่ิน วธิ สี อนโดยใช้การ สาธิต ข้ันที่ 1 เตรียมการสาธติ ครจู ัดเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการประดิษฐ์กรอบรูปเชอื กปอ (ครอู าจสอนการประดษิ ฐ์กระเป๋าเชือกปอประดบั กง่ิ ไม้ได้ตามความเหมาะสม โดยศึกษาไดจ้ ากเอกสาร ประกอบการสอน) ขน้ั ที่ 2 สาธติ 1. ครแู จง้ ให้นักเรียนทราบว่า ครูจะสาธิตวิธกี ารประดิษฐ์กรอบรูปเชือกปอใหน้ กั เรยี นดูเป็นตัวอยา่ ง 2. ครูสาธติ วิธกี ารประดิษฐก์ รอบรูปเชอื กปอ พร้อมอธบิ ายประกอบทีละขนั้ ตอนอย่างช้าๆ เพ่ือให้นักเรยี นสังเกตและ จดจาได้อย่างถูกตอ้ ง 3. นักเรยี นกลุ่มเดิมรว่ มกนั ประดิษฐก์ รอบรูปเชือกปอตามทคี่ รูสาธติ ข้นั ท่ี 3 สรุปการสาธิต 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธกี ารประดิษฐ์กรอบรปู เชอื กปอ 2. นักเรียนแต่ละคนศึกษาความรู้เร่อื ง การฝกึ ประดิษฐช์ ้นิ งานของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดทุ ้องถิ่น : การประดิษฐ์ กรอบรปู เชือกปอ จากหนังสอื เรียน เป็นการบา้ น เพ่ือทบทวนวธิ ีการประดิษฐ์กรอบรปู เชือกปอ ขน้ั ท่ี 4 วัดผลประเมินผล ครวู ัดและประเมนิ ผลนักเรียนจากการประดษิ ฐ์กรอบรูปเชอื กปอ และการสรุปวิธีการประดษิ ฐ์กรอบรปู เชอื กปอ ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุทอ้ งถนิ่ โดยให้ครอบคลุม ประเดน็ ตามท่ีกาหนด (ครูอาจใหน้ ักเรียนปฏิบัติกิจกรรมนอกเวลาเรียน) นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 387
9 สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1 2) เอกสารประกอบการสอน 3) ตัวอย่างงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดทุ ้องถิน่ 4) วัสดุอปุ กรณ์ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการประดิษฐก์ รอบรปู เชอื กปอ 5) ใบงานที่ 4.1 เรอื่ ง ชนดิ ของวัสดทุ ้องถิ่น 6) ใบงานที่ 4.2 เรอื่ ง เครื่องมือเครอื่ งใช้ในการทางานประดิษฐ์ 7) ใบงานที่ 4.3 เรื่อง อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการวดั ตดั เจาะ และข้นึ รปู ทรง 8) ใบงานท่ี 4.4 เรอ่ื ง การออกแบบงานประดิษฐ์ 9) ใบงานท่ี 4.5 เรื่อง งานประดิษฐจ์ ากวสั ดุท้องถิ่น 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-6405.html - http://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/generality/10000- 6401.html - http://www.kr.ac.th/wai/show.php?id=397 - http://monochromeoguise.wordpress.com/test-งานประดษิ ฐ/์ 388
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด ) แบบประเมนิ การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุท้องถนิ่ รายการประเมนิ ดมี าก (4) คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การประดิษฐ์ ประดษิ ฐ์ของใช้ ของ ประดิษฐ์ของใช้ ของ ประดิษฐ์ของใช้ ของ ประดษิ ฐ์ของใช้ ของ ของใช้ ของ ตกแตง่ จากวสั ดุ ตกแต่งจากวสั ดุ ตกแตง่ จากวัสดุ ตกแต่งจากวัสดุ ตกแต่ง จากวัสดุ ทอ้ งถ่นิ ตามขั้นตอน ท้องถ่นิ ตามข้ันตอน ทอ้ งถน่ิ ตามขัน้ ตอน ทอ้ งถน่ิ ตามข้นั ตอน ท้องถ่ิน ตาม กระบวนการ ทางาน กระบวนการ ทางาน กระบวนการ ทางาน กระบวนการ ทางาน ขนั้ ตอน ได้ถูกต้อง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง บาง ไมถ่ ูกต้อง กระบวนการ ทุกขน้ั ตอน เกือบทุกขน้ั ตอน ขั้นตอน ทางาน 2. การใช้กระบวน ใชก้ ระบวนการกลุ่ม ใช้กระบวนการกลุ่ม ใชก้ ระบวนการกลุม่ ใชก้ ระบวนการกลมุ่ การกลุ่มในการ ในการประดษิ ฐ์ ของ ในการประดษิ ฐ์ ของ ในการประดิษฐ์ ของ ในการประดิษฐ์ ของ ประดษิ ฐข์ องใช้ ใช้ ของตกแต่งจาก ใช้ ของตกแตง่ จาก ใช้ ของตกแต่งจาก ใช้ ของตกแต่งจาก ของตกแตง่ วัสดุท้องถิน่ ดว้ ยความ วสั ดทุ อ้ งถ่ินด้วยความ วสั ดุทอ้ งถนิ่ ดว้ ยความ วสั ดทุ อ้ งถ่ินด้วยความ จากวัสดุท้องถิน่ เสยี สละไดถ้ ูกตอ้ ง เสยี สละไดถ้ ูกต้อง เสยี สละไดถ้ ูกต้อง เสยี สละได้ถูกตอ้ ง ด้วยความเสยี สละ เหมาะสมทุกข้นั ตอน เหมาะสมเกือบทกุ เหมาะสมบางขน้ั ตอน 1-2 ข้นั ตอน ของการทางาน ข้ันตอนของการ ของการทางาน ทางาน 3. การตดั สนิ ใจ ตดั สินใจแก้ปญั หา ตดั สินใจแก้ปัญหา ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหา ตดั สินใจแก้ปญั หา แก้ปัญหาการ การประดิษฐ์ของใช้ การประดิษฐข์ องใช้ การประดิษฐ์ของใช้ การประดิษฐข์ องใช้ ประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุ ของตกแต่งจากวสั ดุ ของตกแตง่ จากวสั ดุ ของตกแต่งจากวัสดุ ของตกแตง่ ท้องถนิ่ อยา่ งมีเหตผุ ล ท้องถ่ินอย่างมเี หตผุ ล ทอ้ งถ่นิ อย่างมเี หตุผล ท้องถนิ่ อยา่ งมเี หตผุ ล จากวสั ดุท้องถน่ิ ไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม ไดถ้ ูกตอ้ ง และ ได้ค่อนข้างถูกต้อง ไดค้ ่อนขา้ งถูกต้อง อยา่ งมีเหตผุ ล แต่ไม่คอ่ ยเหมาะสม คอ่ นข้างเหมาะสม เหมาะสม 4. ผลงานการ ผลงานการประดิษฐ์ ผลงานการประดิษฐ์ ผลงานการประดิษฐ์ ผลงานการประดิษฐ์ ประดษิ ฐข์ องใช้ ของใช้ ของตกแต่ง ของใช้ ของตกแตง่ ของใช้ ของตกแต่ง ของใช้ ของตกแตง่ ของตกแต่งจาก จากวัสดุทอ้ งถนิ่ มี จากวสั ดุทอ้ งถ่นิ จากวัสดุท้องถนิ่ ไม่ จากวสั ดุท้องถ่ินไม่ วสั ดุท้องถิน่ ความสวยงาม และ ค่อนข้างสวยงาม และ ค่อยสวยงาม แต่ ค่อยสวยงาม และไม่ สามารถนาไปใช้งานได้ สามารถนาไปใชง้ านได้ สามารถนาไปใช้งานได้ สามารถนาไปใชง้ านได้ จรงิ จริง จริง จริง เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ตา่ กว่า 8 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 389
แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 คาชแี้ จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. วัสดทุ ้องถ่ินใดเปน็ วสั ดธุ รรมชาตจิ ากกระบวนการทาง 6. เม่อื ใชเ้ คร่ืองมือเคร่อื งใช้ในการทางานประดิษฐ์ วิทยาศาสตร์ ทเ่ี ป็นเหล็กเสร็จแล้วควรทาอย่างไร ก. ปา่ น ก. แช่นา้ มนั ข. ขนไก่ ข. ล้างนา้ ใหส้ ะอาด ค. เกล็ดปลา ค. ลา้ งนา้ ใหส้ ะอาด แล้วเชด็ ให้แห้ง ง. เส้นใยของพืช ง. เช็ดทาความสะอาด แลว้ ทาน้ามัน 2. กระบวนการประดิษฐ์ช้ินงานทีท่ ากันเปน็ กลุม่ มี 7. ใครใช้เคร่ืองมือไดป้ ลอดภยั มากท่ีสุด ประโยชน์อยา่ งไร ก. พัทเก็บตะปูใส่กระเป๋ากางเกง ก. ชว่ ยฝกึ ทกั ษะการเป็นผู้นา ข. พีชใชส้ วา่ นทีไ่ ม่พรอ้ มใชง้ านเจาะไม้ ข. สง่ เสรมิ ความสามัคคใี นหมู่คณะ ค. เพลงเก็บค้อนเขา้ ท่ีทนั ทีที่ใชง้ านเสร็จ ค. ช่วยใหเ้ กิดการแข่งขนั กนั ภายในกลุม่ ง. แพรวใชเ้ ล่ือยฉลฉุ ลุลวดลายไมข้ ณะงว่ งนอน ง. พิสจู นค์ วามรูค้ วามสามารถว่าใครมมี ากกว่ากัน 8. สีใดเปน็ สีที่แสดงถึงความราบเรียบ สงบ เยือกเย็น 3. นักเรียนสามารถนาส่วนใดของกระจดู มาทางาน ก. สฟี า้ ประดิษฐ์ ข. สีแดง ก. เย่อื ค. สีชมพู ข. ดอก ง. สีเหลอื งส้ม ค. ลาต้น 9. ถ้านกั เรยี นต้องการใหง้ านประดิษฐ์ของตนเองมีความ ง. กาบใบ พลิ้วไหว นักเรยี นจะเลือกใช้เส้นแบบใด 4. คนสมยั ก่อนใชส้ ว่ นใดของลานสาหรบั จารึกหนงั สอื ก. เส้นหัก พระธรรมคาส่งั สอนในพระพุทธศาสนา ข. เสน้ ตรง ก. ลาตน้ ค. เสน้ คลน่ื ข. ก้านใบ ง. เสน้ นอน ค. ใบลานแก่ 10. งานประดิษฐจ์ ากวัสดุท้องถนิ่ ใดเปน็ ของใช้ตาม ง. ยอดลานอ่อน วัฒนธรรมประเพณี 5. เพราะเหตุใดจงึ ควรเลือกเครื่องมอื เครอ่ื งใช้ในการ ก. ชะลอม ทางานประดษิ ฐท์ ม่ี จี าหน่ายในทอ้ งถิ่น ข. บายศรี ก. เพอ่ื หาซ้ืออะไหลเ่ ปลย่ี นง่ายเวลาชารุด ค. ซุ้มดอกไม้ ข. เพือ่ ความทนทานของเคร่ืองมือเครื่องใช้ ง. ถุงบหุ งาแหง้ ค. เพื่อจะไดส้ ะดวกในการเลือกซื้อและเปรยี บเทยี บ มฐ. ง 1.1 ม.1/1-3 ราคา ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ ง. เพอ่ื ให้เคร่อื งมือเคร่ืองใชม้ ีความเหมาะสมกบั 10 สภาพแวดลอ้ ม เฉลย 1. ง 2. ข 3. ค 4. ง 5. ก 390 6. ง 7. ค 8. ก 9. ค 10. ข
แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เพราะเหตุใดจึงควรเลือกเครื่องมือเคร่อื งใชใ้ นการ 6. สใี ดเปน็ สีท่แี สดงถึงความราบเรยี บ สงบ เยอื กเยน็ ทางานประดิษฐ์ทีม่ จี าหน่ายในทอ้ งถน่ิ ก. สเี หลอื งส้ม ก. เพื่อใหเ้ คร่อื งมือเคร่ืองใช้มีความเหมาะสมกบั ข. สชี มพู สภาพแวดล้อม ค. สแี ดง ข. เพอ่ื จะไดส้ ะดวกในการเลอื กซื้อและเปรยี บเทียบ ง. สฟี ้า ราคา ค. เพ่ือความทนทานของเครื่องมือเคร่ืองใช้ 7. กระบวนการประดิษฐช์ ิน้ งานทท่ี ากนั เป็นกลุ่มมี ง. เพอ่ื หาซ้ืออะไหลเ่ ปลีย่ นง่ายเวลาชารุด ประโยชนอ์ ยา่ งไร ก. พสิ ูจน์ความร้คู วามสามารถวา่ ใครมมี ากกวา่ กัน 2. ถา้ นกั เรยี นต้องการใหง้ านประดิษฐ์ของตนเองมีความ ข. ชว่ ยใหเ้ กิดการแข่งขันกันภายในกล่มุ พล้วิ ไหว นักเรียนจะเลือกใช้เสน้ แบบใด ค. สง่ เสรมิ ความสามัคคใี นหมู่คณะ ก. เสน้ นอน ง. ชว่ ยฝึกทกั ษะการเป็นผู้นา ข. เสน้ คลน่ื ค. เสน้ ตรง 8. เม่อื ใช้เคร่ืองมือเครือ่ งใช้ในการทางานประดิษฐ์ ง. เสน้ หกั ท่ีเปน็ เหล็กเสร็จแลว้ ควรทาอย่างไร ก. เช็ดทาความสะอาด แล้วทาน้ามนั 3. งานประดิษฐจ์ ากวัสดุท้องถ่นิ ใดเปน็ ของใชต้ าม ข. ล้างน้าให้สะอาด แล้วเช็ดใหแ้ หง้ วฒั นธรรมประเพณี ค. ล้างน้าให้สะอาด ก. ถุงบหุ งาแหง้ ง. แชน่ ้ามัน ข. ซุม้ ดอกไม้ ค. บายศรี 9. ใครใชเ้ ครื่องมือได้ปลอดภยั มากทส่ี ุด ง. ชะลอม ก. แพรวใชเ้ ลอื่ ยฉลฉุ ลุลวดลายไมข้ ณะงว่ งนอน ข. เพลงเก็บค้อนเข้าที่ทนั ทที ่ีใชง้ านเสรจ็ 4. นกั เรียนสามารถนาสว่ นใดของกระจูดมาทางาน ค. พชี ใชส้ วา่ นท่ไี ม่พรอ้ มใชง้ านเจาะไม้ ประดิษฐ์ ง. พัทเก็บตะปูใส่กระเป๋ากางเกง ก. กาบใบ ข. ลาตน้ 10. วัสดทุ อ้ งถิน่ ใดเปน็ วสั ดธุ รรมชาติจากกระบวนการทาง ค. ดอก วทิ ยาศาสตร์ ง. เยือ่ ก. เสน้ ใยของพืช ข. เกลด็ ปลา 5. คนสมัยก่อนใชส้ ่วนใดของลานสาหรับจารกึ หนังสอื ค. ขนไก่ พระธรรมคาส่ังสอนในพระพุทธศาสนา ง. ปา่ น ก. ยอดลานอ่อน ข. ใบลานแก่ มฐ. ง 1.1 ม.1/1-3 ค. กา้ นใบ ง. ลาตน้ ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ง 2. ข 3. ค 4. ข 5. ก 391 6. ง 7. ค 8. ก 9. ข 10. ก
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 รหสั วชิ า ง21101 ชอ่ื วิชา การงานอาชีพ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปี่ที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ความหมาย ความสาคญั และประเภทของงานประดิษฐ์ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุท้องถิ่นมีประโยชนท์ างดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และชวี ิตความ เปน็ อยู่ 2 ตัวชว้ี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้วี ดั ง 1.1 ม.1/1 วเิ คราะห์ขนั้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ม.1/2 ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางานดว้ ยความเสยี สละ ม.1/3 ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาการทางานอยา่ งมีเหตผุ ล 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อธบิ ายประโยชนข์ องงานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุท้องถน่ิ ได้อย่างถูกต้อง 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง — 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน - ประโยชนข์ องงานประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดทุ อ้ งถิ่น 4 สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 2) ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้ 3) ทกั ษะกระบวนการคิดตดั สนิ ใจ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน
6 กจิ กรรมการเรยี นรู้ วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสรา้ งค่านิยม นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 ขน้ั ที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครใู ห้นกั เรยี นดตู วั อย่างงานประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวัสดทุ ้องถ่นิ 2. ครูตง้ั ประเดน็ คาถามถามนักเรยี น เพอ่ื ให้นักเรียนตระหนักถึงประโยชน์ของงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จาก วสั ดุท้องถนิ่ เช่น - ตวั อย่างงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุท้องถิน่ ท่ีครนู ามาให้ดูคอื อะไร - ตัวอยา่ งงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดทุ ้องถน่ิ ดังกลา่ วประดิษฐ์มาจากวสั ดอุ ะไร - ตวั อยา่ งงานประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวัสดทุ ้องถน่ิ ดงั กลา่ วมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร - นักเรยี นคิดว่า ตนเองสามารถประดิษฐง์ านประดษิ ฐ์ ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดทุ ้องถนิ่ เหมอื นตวั อย่าง งานประดษิ ฐ์ทคี่ รูนามาให้ดูได้หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด - นักเรียนคดิ วา่ ควรมีการสง่ เสริมให้ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุท้องถนิ่ หรือไม่ จงอธิบายเหตผุ ล 3. ครอู ธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกับความหมายของการประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดทุ อ้ งถน่ิ และชนิดของ วัสดทุ อ้ งถนิ่ ข้ันท่ี 2 ประเมินเชิงเหตผุ ล 1. นักเรยี นแต่ละคนศึกษาความรู้เร่อื ง ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดทุ อ้ งถิ่น จากหนังสือ เรียน 2. นกั เรยี นทกุ คนช่วยกันวิเคราะห์และประเมินงานประดิษฐ์ ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุทอ้ งถนิ่ ในท้องถ่นิ ของ ตนเองตามประเด็นทกี่ าหนดดังนี้ 1) งานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุท้องถนิ่ ในท้องถิ่นของนักเรยี นมีอะไรบ้าง 2) วสั ดทุ นี่ ามาประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุทอ้ งถ่นิ ในทอ้ งถนิ่ ของนักเรียนคืออะไร 3) งานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุท้องถิน่ ในท้องถนิ่ ของนักเรยี นมปี ระโยชน์อยา่ งไร 4) นกั เรียนคิดว่า งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุทอ้ งถิน่ ในท้องถ่นิ ของตนเองมคี ุณคา่ และสอดคล้อง กบั สภาพสังคมปัจจบุ นั อย่างไร 3. นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ สนิ ค้าหน่ึงตาบลหน่งึ ผลติ ภณั ฑช์ ว่ ยให้งานประดิษฐ์ ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุทอ้ งถ่นิ ในท้องถน่ิ ของนักเรยี น ออกสู่สากลอยา่ งไร จงอธบิ าย (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ น ดลุ ยพนิ ิจของครูผ้สู อน) ขัน้ ที่ 3 กาหนดค่านิยม
1. ครสู นทนากับนักเรยี นเก่ยี วกับประโยชน์ของงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุท้องถ่ินว่า นกั เรยี นชอบ งานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุท้องถน่ิ ในท้องถนิ่ ของตนเองช้ินใดมากที่สดุ และของช้นิ นัน้ มีประโยชน์ ด้านใด พร้อมอธิบายเหตผุ ล 2. นักเรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคิด งานประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุท้องถ่นิ สะทอ้ นความเป็นเอกลกั ษณ์ของท้องถิน่ อย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยูใ่ น ดุลยพินจิ ของครูผ้สู อน) ข้ันท่ี 4 วางแนวปฏิบัติ 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นภูมใิ จในงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุท้องถ่ินในท้องถิ่นของตนเองอย่างไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน) 2. ครสู นทนากบั นักเรียนเกย่ี วกับแนวทางการประพฤตปิ ฏบิ ัติตนในการอนรุ ักษ์และสง่ เสริมให้มีงานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดทุ ้องถิน่ อยคู่ ทู่ ้องถนิ่ ของตนเอง และแนวทางการประพฤติปฏิบัตใิ หค้ นในทอ้ งถิ่นตระหนักถึง ความสาคัญและประโยชนข์ องงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุท้องถ่นิ ขน้ั ท่ี 5 ปฏิบตั ดิ ว้ ยความชื่นชม 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุท้องถนิ่ ช่วยสร้างรายไดใ้ หแ้ กค่ นในทอ้ งถิน่ อยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) 2. นักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้เร่ือง ประโยชน์ของงานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดทุ อ้ งถน่ิ 3. ครูให้นกั เรียนนาแนวทางการประพฤติปฏิบัตติ นท่ีกาหนดไปปฏิบตั ิจรงิ ในชวี ิตประจาวัน แลว้ รายงานผลตอ่ ครู เป็นระยะๆ 7 การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์ แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง และมงุ่ มนั่ ในการทางาน 8 สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น การงานอาชพี ม.1 2) ตัวอยา่ งงานประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดทุ ้องถน่ิ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ —
แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล คาช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดับคะแนน ลาดบั ชอื่ -สกลุ ความมีวินยั ความมนี า้ ใจ การรับฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมิน เออ้ื เฟอ้ื ความคิดเห็น ความคดิ เหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน 43214321432143214321 ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ด้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมื่อได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสิทธิและหนา้ ทข่ี องนกั เรียน 2. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ 1.3 ให้ความร่วมมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชิกในชน้ั เรียน 3. มีวินยั รับผิดชอบ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง โรงเรยี นและชุมชน 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทีต่ นนบั ถือ ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ของศาสนา 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทีเ่ กยี่ วกับสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามที่โรงเรียน และ ชมุ ชนจดั ข้นึ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี กู ตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในส่งิ ที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวท่จี ะทาความผดิ ทาตามสัญญาท่ี ตนให้ไวก้ บั เพอ่ื น พอ่ แม่หรอื ผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏิบัตติ ่อผ้อู ื่นดว้ ยความซื่อตรง 3.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครวั และ โรงเรยี น มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ในชีวิตประจาวนั 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เครือ่ งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ัตติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อ่นื และไม่ทาใหผ้ ู้อน่ื เดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมอ่ื ผูอ้ ่นื กระทา ผดิ พลาด
คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ด้าน 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใช้ชีวิตประจาวนั บนพน้ื ฐานของ 6. ม่งุ มน่ั ในการ ความรู้ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปล่ยี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั 7. รักความเปน็ ไทย อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้อย่างมคี วามสขุ 8. มีจติ สาธารณะ 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคิด ชว่ ยทา และแบง่ ปนั สง่ิ ของใหผ้ อู้ ื่น 8.3 รูจ้ กั ดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสง่ิ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียน ลงชอื่ .................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ตา่ กว่า 54 ปรบั ปรงุ
บนั ทึกหลงั แผนการสอน (แผนท่ี 10 ความหมาย ความสาคญั และประเภทของงานประดิษฐ์) ผลการจัดการเรยี นการสอน ด้านความรู้ นักเรียนจานวน 65.52 มคี วามรู้ผ่านเกณฑ์ ในเร่อื งการให้ความหมาย ความสาคญั และประเภทของงาน ประดษิ ฐ์ โดยผ่านในระดบั ดีมาก จานวน 10 คน ระดบั ดี จานวน 7 คน ระดบั พอใช้ จานวน 2 คน มี นร. 10 คน ไมส่ นใจเรยี น ไม่เขา้ เรยี นออนไลน์ ด้านทกั ษะกระบวนการ - ด้านเจตคติ นักเรยี นจานวน 65.52 มเี จตคติท่ดี ี มวี ินยั ใฝเ่ รยี นร้แู ละมุ่งมั่นในการทางาน ปัญหา/อุปสรรค มี นร. 10 คน ไมส่ นใจเรียน ไมเ่ ขา้ เรียนออนไลน์ แนวทางการแก้ไข ติดตามและแจ้งครูท่ีปรึกษา แตไ่ ม่ประสบผลสาเรจ็ ลงชือ่ นางทศั นี ตรเี จตน์ ผบู้ นั ทกึ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 11 รหสั วชิ า ง21101 ชือ่ วิชา การงานอาชพี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปี่ท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช้ในการทางานประดิษฐง์ านประดิษฐ์ 1 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด เคร่ืองมือเครือ่ งใช้ในงานประดษิ ฐ์แต่ละประเภทจะต้องเลือกใช้และดแู ลรักษาอยา่ งถูกวิธี เพือ่ ใหเ้ กิดความ ปลอดภัยในการใชง้ าน 2 ตวั ชี้วัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ชี้วัด ง 1.1 ม.1/1 วเิ คราะหข์ ้นั ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน ม.1/2 ใช้กระบวนการกลุ่มในการทางานด้วยความเสียสละ ม.1/3 ตดั สินใจแกป้ ญั หาการทางานอย่างมีเหตุผล 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธบิ ายหลักการเลือกและดแู ลรักษาเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ในงานประดิษฐ์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2) แยกประเภทของอปุ กรณ์ เครื่องมือเคร่ืองใช้ในงานประดิษฐ์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3) อธบิ ายหลกั ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครื่องมือเคร่ืองใช้ในงานประดษิ ฐไ์ ด้อยา่ งถกู ตอ้ ง 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง — 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ - เคร่ืองมอื เคร่ืองใช้ในการทางานประดิษฐ์ 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ 3) ทกั ษะกระบวนการคิดตดั สนิ ใจ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 5 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน
6 กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ ีสอนแบบ กระบวนการกล่มุ สัมพันธ์ ขั้นท่ี 1 นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูให้นักเรยี นดตู วั อย่างงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุทอ้ งถ่นิ 1 ชิน้ แลว้ แสดงความคดิ เหน็ ว่า ตวั อยา่ ง งานประดษิ ฐช์ น้ิ ดังกลา่ วใช้เครื่องมือเครื่องใช้อะไรในการประดิษฐ์ 2. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรียนเข้าใจเก่ียวกับวธิ กี ารใช้เครือ่ งมือเคร่อื งใช้ในการทางานประดษิ ฐใ์ ห้ถกู ต้องเพื่อให้เกดิ ความ ปลอดภัยในการใช้งาน 3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด การใชเ้ ครอื่ งมอื เคร่ืองใชใ้ นการทางานประดิษฐจ์ ะตอ้ งคานงึ ถงึ สิ่งใด (สภาพของเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ การใช้เครอ่ื งมือเครื่องใช้ใหเ้ หมาะสมกับลกั ษณะงาน และใช้อย่างถกู วธิ ี เพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภัยในการทางาน) ขนั้ ที่ 2 จดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด เพราะเหตุใดจึงต้องใชอ้ ุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครอื่ งใช้ใหเ้ หมาะสมกับลกั ษณะงาน (เพราะอปุ กรณ์ เครือ่ งมือเคร่อื งใชแ้ ต่ละชนิดถกู ออกแบบมาเพ่ือใชง้ านที่แตกต่างกนั ถ้าใชไ้ มถ่ ูกต้อง เหมาะสมกบั ลักษณะงานอาจทาให้อุปกรณ์ เคร่อื งมอื เครอื่ งใชช้ ารุด เสียหาย และเกิดอันตรายต่อผใู้ ชไ้ ด้) 2. นกั เรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2) รว่ มกันศึกษาความรู้เรอ่ื ง เครอื่ งมอื เครื่องใชใ้ นการทางาน ประดิษฐ์ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ตามประเดน็ ท่ีกาหนด ดงั นี้ 1) หลักการเลอื กเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ในงานประดิษฐ์ 2) หลักทัว่ ไปในการดูแลรกั ษาเครอ่ื งมือเครื่องใชใ้ นงานประดิษฐ์ 3) ประเภทของอุปกรณ์ เครือ่ งมือเคร่ืองใช้ในงานประดิษฐ์ 4) ความปลอดภยั ในการใช้เครื่องมอื เครอ่ื งใช้ในงานประดษิ ฐ์ 3. นกั เรียนแต่ละคนในกลุ่มผลัดกนั อภปิ รายความรู้ท่ไี ด้จากการศกึ ษาใหเ้ พื่อนในกลมุ่ ฟัง จนทุกคนในกลมุ่ มีความรู้ ความเขา้ ใจทถ่ี ูกต้อง ชัดเจน 4. ครูคดั เลือกตวั แทนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการอภปิ รายหนา้ ชนั้ เรยี น แล้วให้นกั เรียนกลุ่มอนื่ ท่มี ีความคิดเหน็ แตกต่าง กนั ออกไปไดแ้ สดงความคดิ เห็นเพ่ิมเตมิ โดยครูเป็นผตู้ รวจสอบความถูกตอ้ ง และอธบิ ายเพ่มิ เติมในส่วนท่ี บกพร่อง 5. สมาชิกในแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ทาใบงานที่ 2 เร่ือง เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ในการทางานประดิษฐ์ เสร็จแลว้ ตรวจสอบ ความถกู ต้อง ถา้ มขี ้อบกพร่องให้ช่วยกนั ปรบั ปรุง แก้ไข แล้วนาสง่ ครตู รวจ ขั้นท่ี 3 สรุปและนาหลกั การไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด นกั เรียนจะใชเ้ ครอื่ งมือเคร่ืองใช้ในการทางานประดษิ ฐใ์ ห้ปลอดภยั อยา่ งไร
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 2. นักเรียนรว่ มกนั สรุปความรเู้ รื่อง เคร่ืองมือเครื่องใชใ้ นการทางานประดิษฐ์ โดยครูเป็นผตู้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง และอธบิ ายเพมิ่ เติมในส่วนทีบ่ กพร่อง 3. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั ทาใบงานที่ 3 เร่ือง อุปกรณ์ ที่ใชใ้ นการวดั ตดั เจาะ และข้ึนรปู ทรง เสร็จแล้ว นาส่งครตู รวจ ข้นั ท่ี 4 วัดและประเมนิ ผล 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบในใบงานที่ 2 - 3 2. ครสู งั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ของนกั เรียน แลว้ เสนอแนะในส่วนทบ่ี กพร่องเพื่อนาไปปรับปรุง แก้ไขในการ ทางานครัง้ ต่อไป 3. ครูวัดและประเมินผลนกั เรียนจากการทาใบงาน 7 การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 4.2 ตรวจใบงานท่ี 4.3 ใบงานท่ี 4.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน ใบงานท่ี 4.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม เกณฑ์ สงั เกตการใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง และ มุง่ ม่ัน ในการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน รายบคุ คล เกณฑ์ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ 8 สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น การงานอาชีพ ม.1 2) ตวั อย่างงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุท้องถ่ิน 3) ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง เครื่องมือเคร่อื งใชใ้ นการทางานประดิษฐ์ 4) ใบงานท่ี 4.3 เรื่อง อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการวัด ตดั เจาะ และข้ึนรูปทรง 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องสมดุ 2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ - http://www.kr.ac.th/wai/show.php?id=397 - http://monochromeoguise.wordpress.com/test-งานประดิษฐ/์
ใบงานท่ี 2 เครื่องมือเคร่ืองใช้ในการทางานประดิษฐ์ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอธิบายหวั ข้อท่ีกาหนดในตาราง คาอธบิ าย รายการ 1. หลักการเลือกเคร่ืองมือ เครื่องใชใ้ นงานประดิษฐ์ 2. หลักทวั่ ไปในการดแู ล รกั ษาเครื่องมือเครอ่ื งใช้ใน งานประดษิ ฐ์ 3. ความปลอดภัยในการใช้ เครอ่ื งมอื เคร่ืองใช้ ใน งานประดิษฐ์
ใบงานท่ี 4.2 เครื่องมอื เครอื่ งใชใ้ นการทางานประดษิ ฐ์ คาชแ้ี จง ให้นักเรียนอธบิ ายหวั ข้อที่กาหนดในตาราง รายการ คาอธบิ าย 1. หลกั การเลอื กเคร่ืองมือ ในการประดษิ ฐช์ นิ้ งานควรคานงึ ถึงหลกั การเลือกใชเ้ ครื่องมือเคร่ืองใช้ ดังน้ี เครอ่ื งใช้ในงานประดิษฐ์ 1. มจี าหน่ายในทอ้ งถนิ่ 2. มคี วามทนทานสามารถใช้งานไดย้ าวนาน 3. สะดวกตอ่ การใช้งาน 4. มีการรับรองคุณภาพ 2. หลักทั่วไปในการดแู ล ผใู้ ช้ควรดูแลรกั ษาเคร่ืองมือเครือ่ งใช้ใหถ้ ูกวิธี โดยมหี ลักเกณฑ์ ดงั น้ี รักษาเครื่องมือเคร่อื งใช้ใน 1. เขยี นรายการของเครื่องมอื อุปกรณ์ท่ีบรรจุในตเู้ ก็บอปุ กรณล์ งสมุดบนั ทึก งานประดิษฐ์ 2. ของมีคม ของแหลม เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า และของแตกง่าย ควรจัดวางใหพ้ ้นมือเดก็ 3. ความปลอดภยั ในการใช้ 3. อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ควรเก็บสายไฟให้เรียบร้อย เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ 4. เครือ่ งใช้ที่ทาดว้ ยเหล็กควรเกบ็ ในทแี่ ห้งและเชด็ ด้วยน้ามันก่อนการจดั เกบ็ ในงานประดิษฐ์ ถ้าเป็นไมค้ วรเก็บไว้ในท่ีแห้งสนทิ 5. เครอื่ งมือเคร่ืองใช้ทเ่ี ป็นชน้ิ เลก็ ๆ ควรจดั เกบ็ ใส่กล่อง 6. อปุ กรณเ์ คร่ืองใชท้ ีช่ ารุดให้รีบดาเนนิ การซ่อม ในการใชเ้ คร่ืองมือเคร่ืองใช้ควรระมดั ระวงั เรื่องความปลอดภยั ตอ่ ตนเองและ บคุ คลรอบขา้ ง โดยยดึ หลกั การ ดังน้ี 1. ศกึ ษาวิธีใชแ้ ละข้อจากัดของอุปกรณ์ เคร่ืองมือเครื่องใช้ใหเ้ ขา้ ใจก่อนใชง้ าน 2. แต่งกายรดั กุมและไม่ใส่เครื่องประดับขณะใช้อุปกรณ์ เครอื่ งมือเครอ่ื งใช้ 3. มดั หรอื เกบ็ ผมใหเ้ รียบร้อยกอ่ นการใช้เคร่ืองมืออปุ กรณ์ต่างๆ 4. ขณะใชเ้ คร่ืองมือควรอยใู่ นภาวะทางอารมณ์ทป่ี กติและไม่ง่วงนอน อ่อนเพลีย หรอื มึนเมา 5. เครอื่ งใชท้ ่ชี ารดุ ให้ทาการซ่อมแซมก่อนนามาใช้
ใบงานที่ 3 อุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นการวัด ตดั เจาะ และข้ึนรูปทรง ตอนท่ี 1 คาชี้แจง ให้นักเรียนบนั ทึกข้อมลู เกี่ยวกบั อปุ กรณ์ที่ใช้ในการวดั ตามหัวข้อท่ีกาหนด ช่ืออปุ กรณ์ ชื่ออปุ กรณ์ การใช้งาน การใช้งาน การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการวดั ชื่ออปุ กรณ์ การใช้งาน การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา
ตอนที่ 2 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนบันทึกข้อมลู เกี่ยวกบั อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการตัดตามหวั ข้อท่กี าหนด อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการตดั การใช้งาน กรรไกร การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา การใช้งาน เลื่อย การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา การใช้งาน มีด การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา
ตอนที่ 3 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนบันทึกข้อมูลเกยี่ วกบั อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการเจาะตามหวั ข้อท่ีกาหนด ชื่ออปุ กรณ์ การใช้งาน การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา อปุ กรณ์ที่ใช้ในการเจาะ ชื่ออปุ กรณ์ การใช้งาน การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ...............................................................................................................................................................
ตอนที่ 4 คาชี้แจง ให้นักเรยี นบนั ทึกข้อมลู เกยี่ วกบั อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการขึ้นรปู ทรงตามหวั ขอ้ ทกี่ าหนด อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการขึน้ รปู ทรง การใช้งาน ค้อน การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา การใช้งาน ไขควง การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา การใช้งาน คีม การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา
ใบงานท่ี 4.3 อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการวดั ตัด เจาะ และขนึ้ รูปทรง ตอนที่ 1 คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนบันทึกข้อมูลเก่ียวกับอุปกรณท์ ่ีใช้ในการวดั ตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด ช่ืออปุ กรณ์ สำยวดั ชื่ออปุ กรณ์ ตลบั เมตร การใช้งาน นยิ มใชใ้ นงำนประดษิ ฐป์ ระเภทงำนผำ้ การใช้งาน นิยมใชส้ ำหรบั งำนประดษิ ฐป์ ระเภท หรอื ใชว้ สั ดอุ นื่ ๆ ตำมควำมสะดวกของผใู้ ช้ งำนช่ำง งำนไม้ งำนโลหะ ใชส้ ำหรบั วดั งำนทมี่ คี วำม ยำวมำกๆ การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ไม่ใชส้ ำยวดั ผกู แทน การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ไมค่ วรเกบ็ ตลบั เมตร เชอื กและไมพ่ บั สำยวดั เพรำะจะทำใหเ้ สยี รปู ทรง ควรจดั เกบ็ โดยวธิ แี ขวนหรอื มว้ นกลมจะทำใหส้ ำยวดั ในขณะทยี่ งั ช้นื หรอื เปียกน้ำ เพรำะจะทำใหเ้ กดิ สนิม ไม่เสยี รปู ทรง อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการวดั ชื่ออปุ กรณ์ ไมบ้ รรทดั การใช้งาน ใชใ้ นกำรวดั ควำมยำวและกำรขดี เสน้ ไมบ้ รรทดั มคี วำมยำวตงั้ แต่ 12 น้วิ ข้นึ ไป ทำดว้ ยวสั ดหุ ลำยชนิด ซงึ่ แต่ละชนิดมคี วำมทนทำนและมรี ำคำต่ำงกนั ควรเลอื กใชต้ ำมควำมเหมำะสม การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ไมบ้ รรทดั พลำสตกิ ควรระวงั เป็นพเิ ศษเพรำะเกดิ รอยขดู ขดี ไดง้ ่ำย สำหรบั ไมบ้ รรทดั โลหะ ควรระวงั กำรโคง้ งอ และหลงั จำกใชง้ ำนเสรจ็ แลว้ ควรแขวนในตู้เกบ็ เครอื่ งมอื
ตอนที่ 2 คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นบันทึกข้อมลู เกี่ยวกับอุปกรณท์ ่ีใช้ในการตัดตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด อปุ กรณ์ที่ใช้ในการตดั กรรไกร การใช้งาน เลื่อย มีด 1. กรรไกรตดั กระดำษ ทำดว้ ยเหลก็ เน้อื ออ่ นหรอื อะลมู เิ นยี ม มดี ำ้ มจบั เป็นพลำสตกิ ใชส้ ำหรบั ตดั กระดำษ 2. กรรไกรตดั โลหะ ทำดว้ ยเหลก็ ใชส้ ำหรบั ตดั โลหะทมี่ แี ผ่นบำง 3. กรรไกรตดั ผำ้ ทำดว้ ยเหลก็ คณุ ภำพดี ใชส้ ำหรบั ตดั ผำ้ การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ควรเลอื กใชใ้ หเ้ หมำะสมกบั ลกั ษณะงำน ระวงั ไมใ่ หต้ ก และหลงั จำกใชง้ ำนเสรจ็ แลว้ ควรเชด็ ดว้ ยน้ำมนั จกั ร เพอื่ ป้องกนั สนมิ เกบ็ ใสซ่ องพลำสตกิ หรอื ซองผำ้ การใช้งาน 1. เลอื่ ยฉลุ ใชท้ ำงำนช้นิ เลก็ หรอื ใชฉ้ ลลุ วดลำย โดยจะตอ้ งใสใ่ บเลอื่ ยใหต้ งึ 2. เลอื่ ยลนั ดำ มที งั้ ชนิดฟันหยำบและฟันละเอยี ด ควรเลอื กใชใ้ หเ้ หมำะสมกบั ลกั ษณะของงำน 3. เลอื่ ยมอื เหมำะสำหรบั เลอื่ ยแผน่ ไมห้ รอื วตั ถุอนื่ ทมี่ คี วำมหนำไมม่ ำกนกั การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา เลอื่ ยชนิดทถี่ อดใบออกได้ ใหถ้ อดใบเลอื่ ยออกกอ่ นกำรจดั เกบ็ และหลงั จำกใชง้ ำนทุกครงั้ ควรทำควำมสะอำด และเชด็ ดว้ ยน้ำมนั ในสว่ นทเี่ ป็นเหลก็ เพอื่ ป้องกนั กำรเกดิ สนิม และควรจดั เกบ็ ในตูเ้ กบ็ เครอื่ งมอื หรอื แขวนไวใ้ นทเี่ หมำะสม การใช้งาน เป็นเครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นงำนประดษิ ฐบ์ ำงประเภท มดี มหี ลำยชนดิ แต่ละชนดิ มลี กั ษณะกำรใชง้ ำน ต่ำงกนั ดงั นนั้ ควรเลอื กใชม้ ดี ใหเ้ หมำะสมกบั ลกั ษณะของงำน การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ควรทำควำมสะอำดทกุ ครงั้ หลงั จำกกำรใชง้ ำน ไม่ควรใชม้ ดี ทที่ ำดว้ ยอะลมู เิ นียมผ่ำของแขง็ และควรจดั เกบ็ มดี เมอื่ แหง้ สนทิ โดยเกบ็ ในกลอ่ งหรือทเี่ สยี บมดี และควรเกบ็ ใหพ้ น้ มอื เดก็
ตอนท่ี 3 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นบนั ทึกข้อมลู เก่ียวกับอปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการเจาะตามหัวข้อท่ีกาหนด ช่ืออปุ กรณ์ สว่ำนมอื การใช้งาน มี 2 แบบ คอื สวำ่ นเฟือง และสวำ่ นขอ้ เสอื ขณะหมนุ ใหเ้ อำผงวสั ดทุ เี่ กดิ จำกกำรเจำะออกดว้ ย เพอื่ ไมใ่ ห้ เกดิ กำรฝืดขณะทำกำรเจำะ วธิ กี ำรหมนุ สว่ำนใหใ้ ชม้ อื ขำ้ งหนงึ่ กดดำ้ นบนและใชม้ อื อกี ขำ้ งหนงึ่ หมนุ มอื จบั หรอื มอื หมนุ การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ควรถอดดอกสว่ำนออกก่อนกำรจดั เกบ็ เพอื่ ควำมสะดวก จำกนนั้ จงึ ใชน้ ้ำมนั เชด็ ในสว่ น ทเี่ ป็นเหลก็ เพอื่ ป้องกนั กำรเกดิ สนิม และใชน้ ้ำมนั หยอดทเี่ ฟือง เพอื่ ใหห้ มนุ สว่ำนไดส้ ะดวก เกบ็ ดอกสว่ำนในทเี่ กบ็ ใหเ้ รยี บรอ้ ย โดยจดั เกบ็ ใหพ้ น้ มอื เดก็ อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการเจาะ ช่ืออปุ กรณ์ สวำ่ นไฟฟ้ำ การใช้งาน ก่อนกำรใชง้ ำนควรตรวจดปู ลกั๊ เสยี บใหอ้ ยใู่ นสภำพดี ถำ้ ชำรุดควรซ่อมแซมกอ่ นกำรใชง้ ำน เพอื่ ควำม ปลอดภยั ของตนเอง และควรระวงั อยำ่ ใหต้ กหรอื กระแทก เพรำะจะทำใหส้ ว่ำนแตกเสยี หำยได้ การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ควรถอดดอกสวำ่ นออกก่อนกำรจดั เกบ็ ตวั ขนั หวั จบั ของดอกสว่ำนควรผกู ไวก้ บั ตวั สว่ำน เพอื่ ควำมสะดวกและเพอื่ ป้องกนั กำรสญู หำย และจดั เกบ็ ในทเี่ กบ็ ใหพ้ น้ มอื เดก็
ตอนท่ี 4 คาชี้แจง ให้นักเรยี นบันทึกข้อมลู เก่ียวกับอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการข้ึนรปู ทรงตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการขึน้ รปู ทรง ค้อน การใช้งาน ไขควง 1. คอ้ นเหลก็ มี 2 แบบ คอื คอ้ นหวั กลม และคอ้ นหงอน คอ้ นหวั กลมใชส้ ำหรบั ตอกงำนทวั่ ไป คีม สว่ นคอ้ นหงอนใชใ้ นงำนไมส้ ำหรบั ตอกและงดั ตะปู 2. คอ้ นไม้ ใชส้ ำหรบั ตอก เคำะ และกำรเขำ้ เดอื ยไม้ การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา อยำ่ วำงคอ้ นใหถ้ กู แสงแดดนำนๆ และไมน่ ำคอ้ นไปตอกเหลก็ ควรจดั เกบ็ ในตูส้ ำหรบั เกบ็ เครอื่ งมอื หรอื กลอ่ งเกบ็ เครอื่ งมอื การใช้งาน ใชส้ ำหรบั ขนั ตะปเู กลยี ว นอตเกลยี วเพอื่ ประกอบรปู ทรงของวตั ถุประเภทไมห้ รอื วสั ดอุ นื่ ๆ ทใี่ ชต้ ะปหู รอื นอตประกอบในกำรข้นึ รปู ควรเลอื กใชไ้ ขควงทมี่ ขี นำดเหมำะสมกบั ตะปเู กลยี ว ทพี่ บเหน็ โดยทวั่ ไป ไดแ้ ก่ ไขควงปำกแบนและไขควงปำกฉำก การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ควรใชไ้ ขควงใหเ้ หมำะสมกบั ชนิดของนอต และตะปู ควรจดั เกบ็ ไขควงในตเู้ กบ็ เครอื่ งมอื หรอื กล่องเกบ็ เครอื่ งมอื ใหเ้ ป็นสดั สว่ น การใช้งาน 1. คมี ปำกผสม ใชส้ ำหรบั คบี จบั และตดั วสั ดุต่ำงๆ 2. คมี ดดั ใชส้ ำหรบั ดดั ห่วงใหถ้ นดั มอื ใชบ้ บี หว่ ง 3. คมี ตดั ใชส้ ำหรบั ตดั ลวดหรอื วสั ดอุ นื่ ๆ ทมี่ ลี กั ษณะกลม แต่ไมใ่ หญ่เกนิ ไป 4. ปำกคบี ใชส้ ำหรบั คบี วสั ดุทมี่ ขี นำดเลก็ การจดั เกบ็ และดแู ลรกั ษา ไมค่ วรใชค้ มี เคำะวสั ดุแทนคอ้ น เพรำะจะทำใหค้ มี ชำรุด และควรจดั เกบ็ คมี ในตสู้ ำหรบั เกบ็ เครอื่ งมอื หรอื กล่องเกบ็ เครอื่ งมอื อุปกรณ์
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขีด ลงในช่อง ท่ีตรงกับระดับคะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 นาเสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง 2 การลาดับข้นั ตอนของเน้ือเรอ่ื ง 3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ 4 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล ชื่อ ช้ัน คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกับระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทางานตามหนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย 4 ความมีนา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่ คาชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและ นอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่อง ทตี่ รงกับระดบั คะแนน การมี ลาดั ชื่อ-สกลุ การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี ส่วนรว่ มใน รวม บ ที่ ของผ้รู ับการประเมิน ความ ฟงั คนอื่น ตามทไี่ ด้รับ นา้ ใจ การ 20 คิดเห็น มอบหมาย ปรบั ปรุง คะแน ผลงานกลมุ่ น 4321 4321 432 14321 4321 ลงชื่อ .................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321