Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore sunmoon

sunmoon

Published by poolsombutnuch, 2019-10-25 03:12:06

Description: sunmoon

Search

Read the Text Version

สว่ นดาวฤกษ์ จะสอ่ งแสงกะพรบิ ระยิบระยับไมเ่ คล่อื นที่และเกำะกลุ่มอยใู่ น ตำแหน่งเดิม ดำวเครำะห์สว่ นใหญ่ท่ีอย่ใู นระบบสรุ ยิ ะมีดำวบรวิ ำรโคจรรอบ ยกเวน้ ดำว พธุ และดำวศุกร์ และเรำสำมำรถพบระบบ วงแหวนได้ในดำวเครำะหข์ นำดใหญ่อย่ำง เช่น ดำวพฤหัสบดี ดำวเสำร์ ดำวยเู รนัส และดำวเนปจนู แต่มเี พียงดำวเสำร์เทำ่ นัน้ ที่เรำ สำมำรถมองเห็นวงแหวนได้ชัดเจนโดยใช้กลอ้ งโทรทรรศน์ 251

นิยามของดาวเคราะห์ เม่ือวนั ท่ี 24 สิงหำคม พ.ศ. 2549 ทป่ี ระชมุ สหพนั ธด์ ำรำศำสตรส์ ำกล ทก่ี รงุ ปรำก สำธำรณรัฐเช็ก ซ่ึงประกอบด้วยนกั ดำรำศำสตร์กว่ำ 2,500 คนจำก 75 ประเทศทั่วโลก ได้มมี ติรว่ มกนั ในกำรกำหนดนยิ ำมใหม่ของดำวเครำะห์ ดังนี้ – ไมใ่ ชด่ ำวฤกษ์ – ไม่ใช่ดวงจนั ทร์บรวิ ำร – มีแรงดึงดดู มำกพอ ทีจ่ ะทำใหโ้ ครงสร้ำงของดำวเปน็ ทรงกลม – เปน็ ดำวท่ีโคจรรอบดำวฤกษ์ ซ่งึ ในทนี่ ห้ี มำยถงึ ดวงอำทิตย์ – มขี นำดเส้นผำ่ นศนู ยก์ ลำงอยำ่ งนอ้ ย 500 ไมล์ (804.63 กโิ ลเมตร) 252

นิยามของดาวเคราะห์ นยิ ามใหม่ ของดำวเครำะห์นี้สง่ ผลให้ ดาวพลูโต ถกู ปลดออกจำกกำรเปน็ ดำวเครำะห์ในระบบสรุ ิยะ คงเหลือดำวเครำะห์เพยี ง 8 ดวง เน่อื งจำกดำวพลโู ตไม่ สำมำรถควบคมุ แรงดึงดูดและวงโคจรของสิ่งตำ่ งๆ ทอี่ ย่นู อกระบบสรุ ิยะ และใหถ้ ือ ว่ำดำวพลูโตเปน็ ดำวเครำะหแ์ คระ ซงึ่ มลี กั ษณะคลำ้ ยกับวัตถุขนำดเลก็ ในระบบ สุรยิ ะ 253

นยิ ามของดาวเคราะห์ รายชือ่ ดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ิยะ (เรียงตามระยะห่างจากดวงอาทติ ย์) > ดำวพุธ > ดำวศุกร์ > โลก > ดำวองั คำร > ดำวพฤหัสบดี > ดำวเสำร์ > ดำวยูเรนสั > ดำวเนปจูน 254

สมบตั ขิ องดาวฤกษ์ ดาวฤกษ์ ทเี่ รำมองเห็นด้วยตำ เปล่ำเป็นรปู กลุ่มดำว อยหู่ ำ่ งจำกโลก ประมำณ 4-1500 ปีแสง นักดำรำศำสตร์ ทำกำรศกึ ษำดำวฤกษไ์ ดโ้ ดยกำรวเิ ครำะห์ คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟำ้ ทด่ี ำวแผอ่ อกมำ เพอ่ื ให้ ได้ทรำบสมบตั ิ ดังนี้ 255

สมบตั ิของดาวฤกษ์ ระยะห่างของดาว: ใชก้ ำลังขยำยของกลอ้ งโทรทรรศน์ตรวจวัดมมุ แพรัลแลกซ์ เรียกวำ่ \"กระบวนกำรแอสโตรเมทรี\" (Astrometry) โชตมิ าตร: บนั ทกึ แสงของดำวดว้ ย CCD แลว้ คำนวณเปรยี บเทียบอนั ดับควำมสว่ำง เรียกว่ำ \"กระบวนกำรโฟโตเมทรี\" (Photometry) ก้าลงั ส่องสวา่ ง: แปรผนั ตรงตำมควำมสว่ำง แตแ่ ปรผกผันกับระยะห่ำงของดำว สเปกตรัม: แยกแแสงดำวของดำวดว้ ยสเปกโตรมเิ ตอร์ เรียกว่ำ \"กระบวนกำรสเปกโต รสโคปี\" (Spectroscopy) องค์ประกอบทางเคมี: ได้จำกกำรวิเครำะห์เสน้ ดูดกลนื และเส้นแผ่รงั สีของสเปกตรัม 256

สมบตั ขิ องดาวฤกษ์ ทศิ ทางการเคลอ่ื นที่และความเร็วเชงิ เรเดยี น: ได้จำกกำรวเิ ครำะห์ปรำกฏกำรณด์ อ็ ปเปลอร์ อณุ หภูม:ิ ได้จำกกำรวิเครำะหก์ รำฟแสง หำคำ่ ควำมยำวคล่นื เขม้ สุด (λmax) ดว้ ยกฎกำรแผ่ รังสีของวีน (Wien’s displacement Law) รศั มีของดาว: ไดจ้ ำกกำรแทนคำ่ กำลงั ส่องสวำ่ งและอณุ หภูมชิ องดำว ตำมกฏควำมเข้ม พลังงำนของสเตฟำน-โบลทซม์ ำนน์ (Stefan – Boltzmann Law) มวลของดาว: ได้จำกกำรคำนวณควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งคำบวงโคจรและระยะหำ่ งระหวำ่ งดำว สองดวงในระบบดำวคู่ 257

สมบตั ิของดาวฤกษ์ 258

ระบบสุรยิ ะ (Solar System) 259

ระบบสรุ ิยะ (Solar System) ประกอบด้วยดวงอำทิตยแ์ ละวตั ถุอืน่ ๆ ที่โคจรรอบดวง อำทิตย์เนอ่ื งจำกแรงโน้มถว่ ง ได้แก่ ดำวเครำะห์ 8 ดวงกับดวงจนั ทรบ์ ริวำรที่ค้นพบแล้ว 166 ดวง ดำว เครำะหแ์ คระ 5 ดวงกับดวงจนั ทรบ์ ริวำรท่ีค้นพบแลว้ 4 ดวง กับวตั ถขุ นำดเล็กอื่น ๆ อกี นบั ลำ้ นชนิ้ ซ่งึ รวมถึง ดำวเครำะหน์ อ้ ย วัตถใุ นแถบไคเปอร์ ดำวหำง สะเกด็ ดำว และฝุ่นระหวำ่ งดำวเครำะห์ 260

ระบบสุรยิ ะ โดยทว่ั ไปแลว้ จะแบง่ ยำ่ นตำ่ ง ๆ ของระบบสุริยะ นบั จำกดวงอำทิตย์ออกมำดังน้คี อื ดำว เครำะห์ชนั้ ในจำนวน 4 ดวง แถบดำวเครำะห์นอ้ ย ดำวเครำะหข์ นำดใหญร่ อบนอกจำนวน 4 ดวง และแถบไคเปอร์ซง่ึ ประกอบด้วยวัตถทุ ีเ่ ยน็ จดั เป็นนำ้ แข็ง พ้นจำกแถบไคเปอร์ออกไปเปน็ เขตแถบ จำนกระจำย ขอบเขตเฮลโิ อพอส (เขตแดนตำมทฤษฎที ซ่ี ึง่ ลมสุรยิ ะสิ้นกำลังลงเนอ่ื งจำกมวลสำร ระหว่ำงดวงดำว) และพ้นไปจำกน้ันคอื ย่ำนของเมฆออรต์ กระแสพลำสมำท่ไี หลออกจำกดวงอำทติ ย์ (หรือลมสรุ ยิ ะ) จะแผต่ วั ไปทว่ั ระบบสุรยิ ะ สรำ้ ง โพรงขนำดใหญข่ ้ึนในสสำรระหวำ่ งดำวเรียกกนั วำ่ เฮลโิ อสเฟยี รซ์ ่ึงขยำยออกไปจำกใจกลำงของแถบ จำนกระจำย 261

ระบบสุรยิ ะ ดาวเคราะห์ช้นั เอกทั้ง 8 ดวงในระบบสรุ ิยะ เรยี งลำดบั จำกใกลด้ วงอำทิตย์ทสี่ ดุ ออกไป มดี งั นี้คอื ดำวพุธ ดำวศกุ ร์ โลก ดำวองั คำร ดำวพฤหสั บดี ดำวเสำรด์ ำวยเู รนัส และดำว เนปจูน นบั ถึงกลางปี ค.ศ. 2008 วัตถขุ นำดยอ่ มกว่ำดำวเครำะหจ์ ำนวน 5 ดวง ได้รบั กำรจัด ระดับใหเ้ ปน็ ดำวเครำะหแ์ คระ ได้แก่ ซีรีสในแถบดำวเครำะห์น้อย กับวตั ถอุ ีก 4 ดวงที่โคจรรอบดวง อำทิตย์อยู่ในยำ่ นพน้ ดำวเนปจูน คอื ดำวพลูโต (ซ่งึ เดิมเคยถกู จดั ระดับไว้เป็นดำวเครำะห์) เฮำเม อำ มำคมี ำคี และ อีรีส 262

ระบบสุรยิ ะ มดี ำวเครำะห์ 6 ดวงและดำวเครำะห์แคระ 3 ดวงทีม่ ีดำวบริวำรโคจรอยูร่ อบ ๆ เรำเรยี ก ดำวบริวำรเหล่ำนี้ว่ำ \"ดวงจันทร\"์ ตำมอย่ำงดวงจนั ทรข์ องโลก นอกจำกนีด้ ำวเครำะหช์ ้นั นอกยงั มี วงแหวนดำวเครำะห์อยรู่ อบตัวอันประกอบด้วยเศษฝุ่นและอนุภำคขนำดเล็ก สำหรบั คำวำ่ ระบบดาวเคราะห์ ใช้เม่ือกล่ำวถงึ ระบบดำวโดยทัว่ ไปทม่ี วี ตั ถุตำ่ ง ๆ โคจร รอบดำวฤกษ์ คำว่ำ \"ระบบสุริยะ\" ควรใช้เฉพำะกับระบบดำวเครำะห์ท่ีมโี ลกเปน็ สมำชกิ และไม่ ควรเรยี กวำ่ \"ระบบสรุ ิยจกั รวำล\" อยำ่ งท่เี รียกกันติดปำก เนื่องจำกไมเ่ กีย่ วข้องกับคำวำ่ \"จักรวาล\" ตำมนัยที่ใชใ้ นปัจจบุ ัน 263

ระบบสุรยิ ะ โดยในระบบสรุ ยิ ะจกั รวาลของเรำนนั้ มดี าวฤกษ์ซงึ่ มีแสงสว่างในตวั เองเพียงแค่ ดวงเดียวซึง่ กค็ ือดวงอำทติ ย์ ในขณะทมี่ ีดำวทีถ่ ูกจัดชนั้ เปน็ ดำวเครำะหอ์ ยู่ทง้ั สิน้ 8 ดวง โดยแต่ เดิมมี 9 ดวง เรียกว่ำ กลุ่มดำวนพเครำะห์ นพ แปลว่ำ เก้ำ แตล่ ่ำสดุ มีกำรจดั อันดบั ใหมใ่ ห้ดำว พลโู ตถกู ลดช้นั จำกดำวเครำะห์มำเป็นดำวเครำะห์แคระ ซึง่ ไมน่ บั รวมกับดวงจันทรบ์ รวิ ำร ท่ไี ม่ นบั รวมเปน็ ดำวเครำะห์ 264

ดวงอาทติ ย์ (Sun) 265 ขนาดเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง : 1,392,000 กโิ ลเมตร หรือ 109 เท่ำของโลก มวล : 332,943 เท่ำของโลก ความหนาแน่นเฉล่ีย : 1,408 กิโลกรัม/ลูกบำศก์เมตร หมนุ รอบตัวเองทีเ่ สน้ ศนู ย์สตู ร : 25.07 วัน อุณหภูมิพื้นผวิ ประมาณ : 6,000 องศำเซลเซียส แรงโน้มถ่วงทีผ่ วิ : 27.9 เทำ่ ของโลก มธี าตุทีส่ ้าคัญ คอื ไฮโดรเจน : 71% ฮีเลียม : 27% ออกซเิ จนและธำตอุ นื่ : 2%

266

ดาวพุธ (Mercury) ขนาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง : 4,880 กิโลเมตร มวล (โลก =1) : 0.055 เท่ำของโลก ความหนาแน่นเฉล่ีย : 5,430 กิโลกรัม/ลูกบำศกเ์ มตร คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ : 88 วัน คาบการหมนุ รอบตวั เอง : 59 วนั ระยะหำ่ งจำกดวงอำทิตย์เฉล่ยี : 58 ล้ำนกโิ ลเมตร 267

ดาวพธุ (Mercury) ดาวพุธ เป็นดำวเครำะหท์ ี่อยู่ใกลด้ วงอำทติ ยม์ ำกท่สี ุด ไมม่ ีดำวบรวิ ำร และ เป็นดำวเครำะห์ทเี่ ล็กที่สุดในระบบสรุ ิยะ และด้วยควำมที่มันเปน็ ดำวที่มีขนำดเล็ก (เส้นผำ่ นศนู ยก์ ลำงประมำณ 4,878 กโิ ลเมตร) จึงทำใหม้ นั ไมส่ ำมำรถสร้ำงสนำมโนม้ ถ่วงท่ีมีพลงั มำกพอที่จะดงึ ดูดและกักเกบ็ บรรยำกำศได้ ดำวพธุ จึงมีแรงโนม้ ถว่ งน้อย มำก และไมม่ ีบรรยำกำศ ทำให้วัตถุอวกำศพุ่งชนได้ง่ำย พ้นื ผวิ ดำวจึงขรุขระจำกกำรพุ่ง ชนเหลำ่ นนั้ 268

ดาวพุธ (Mercury) ดาวพุธใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทติ ย์รอบละ 88 วัน แตก่ ลบั หมุนรอบตัวเอง 1 รอบ ใช้เวลาถึง 180 วนั เลยทเี ดยี ว น่ันหมำยควำมว่ำ ดำวพุธจะมีด้ำนท่หี นั เข้ำหำด วงอำทติ ย์ยำวนำนมำก เช่นเดียวกบั ด้ำนทหี่ นั ออกไปในทิศทำงตรงกันข้ำมกบั ดวง อำทิตย์ ดงั น้นั เม่ือมดี ้ำนทดี่ ำวพธุ หันเขำ้ หำดวงอำทติ ย์ยำวนำน ประกอบกับไมม่ ีชัน้ บรรยำกำศ จงึ ทำให้พ้ืนผิวดำวรอ้ นมำก สว่ นด้ำนทหี่ ันทิศตรงข้ำมดวงอำทิตย์ กเ็ ย็นมำก เช่นกัน ดาวพุธจึงไดร้ บั ฉายาว่า เตาไฟแชแ่ ขง็ ท้ังน้ี ดำวพุธมกั ปรำกฏใกล้ หรอื อยู่ภำยใต้แสงจ้ำของดวงอำทติ ย์ ทำให้ สังเกตเห็นไดย้ ำก แต่กพ็ อมองเหน็ ไดด้ ้วยตำเปลำ่ ในเวลำพลบค่ำ 269

ดาวศกุ ร์ (Venus) เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง : 12,104 กโิ ลเมตร มวล (โลก =1) : 0.815 เท่ำของโลก ความหนาแนเ่ ฉลยี่ : 5,424 กโิ ลกรมั /ลูกบำศกเ์ มตร คาบการโคจรรอบดวงอาทติ ย์ : 225 วัน คาบการหมุนรอบตวั เอง : 243 วันระยะหำ่ งจำกดวงอำทิตย์เฉลย่ี : 108 ลำ้ นกโิ ลเมตร 270

ดาวศุกร์ (Venus) ดาวศุกร์ เป็นดำวเครำะห์เพอื่ นบ้ำนทีอ่ ยู่ใกล้โลกมำกทสี่ ดุ ไม่มดี วงจนั ทร์เปน็ ดำวบรวิ ำร มีขนำดเล็กกวำ่ แต่ก็ใกลเ้ คยี งกับโลกมำก จนได้ชอ่ื ว่าเป็นฝาแฝดกับโลก เราสามารถสังเกตเห็นดาวศุกร์ได้ดว้ ยตาเปลา่ โดยสามารถมองเห็นได้ทางขอบฟา้ ดา้ นทศิ ตะวันตกในเวลาใกลค้ ้า่ เราเรียกวา่ ดาวประจา้ เมอื ง (Evening Star) สว่ น ชว่ งเชา้ มดื ปรากฏใหเ้ ห็นทางขอบฟา้ ดา้ นทิศตะวันออกเรียกว่า ดาวรงุ่ (Morning Star) เรำมักสังเกตเหน็ ดำวศุกร์มีแสงส่องสว่ำงมำกเน่อื งจำก ดำวศุกร์มีชน้ั บรรยำกำศท่ี ประกอบไปด้วยกำ๊ ซคำรบ์ อนไดออกไซด์ มผี ลทำให้อุณหภมู พิ น้ื ผวิ สงู ข้นึ 271

ดาวศุกร์ (Venus) ดำวศกุ รม์ ีขนำดเส้นผำ่ นศนู ยก์ ลำง 12,104 กิโลเมตร หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบ ใช้เวลำ 224 วัน และมที ศิ ทำงกำรหมนุ ทไ่ี ม่เหมอื นดำวเครำะห์ดวงอน่ื ในระบบ สรุ ยิ ะ คอื ในขณะทดี่ าวเคราะหด์ วงอืน่ หมุน ทวนเขม็ นาฬกิ า ดาวศกุ ร์กลับหมุน ตามเขม็ นาฬิกา สว่ นช้นั บรรยำกำศบนดำวนั้น ประกอบด้วยคำรบ์ อนไดออกไซตถ์ งึ 97% ทำให้ดำวศุกร์รอ้ นมำก อุณหภูมสิ งู เฉยี ด 500 องศำเซลเซียส และสะท้อน แสงอำทิตย์ได้ดี จงึ สกุ สว่ำงเมือ่ มองเห็น 272

โลก (Earth) เส้นผา่ นศูนยก์ ลาง : 12,756 กโิ ลเมตร มวล : 5.98 x 1,024 กิโลเมตร ความหนาแน่นเฉลย่ี : 5,520 กโิ ลเมตร/ลูกบำศก์เมตร คาบการโคจรรอบดวงอาทติ ย์ : 356.26 วนั คาบการหมุนรอบตวั เอง : 23.93 วนั ระยะห่างจากดวงอาทติ ยเ์ ฉลยี่ : 150 ลำ้ นกิโลเมตร ความเอยี งของแกนโลกจากแนวตงั้ ฉาก : 23.5 องศำ ความเร็วเฉลยี่ ในการเคลือ่ นท่ี : 29.78 กิโลเมตร/วินำที อณุ หภูมิพนื้ ผวิ เฉล่ีย : 15 องศำ องศป์ ระกอบของบรรยำกำศ ไนโตรเจน : 77%, ออกซิเจน : 21%, คำร์บอนไดออกไซด์ อำรก์ อน ไอน้ำและอน่ื ๆ : 2% 273

โลก (Earth) โลก เป็นดำวเครำะหด์ วงเดยี วทีม่ ีสิง่ มีชีวติ อำศัยอยู่ เนื่องจากมีชั้นบรรยากาศและมี ระยะห่าง จากดวงอาทิตย์ทเ่ี หมาะสมตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและการด้ารงชวี ติ ของสิง่ มชี ีวติ นัก ดำรำศำสตร์อธบิ ำยเก่ยี วกบั กำรเกิดโลกวำ่ โลกเกิดจำกกำรรวมตวั ของกล่มุ กำ๊ ซ และมีกำร เคลือ่ นที่สลบั ซับซ้อนมำก แต่มีพน้ื ผวิ เปน็ หินเช่นเดียวกบั ดำวเครำะหช์ นั้ ในดวงอื่น ๆ ทั้งนี้ โลก มีดวงจนั ทร์เป็นบริวำร โคจรอยรู่ อบโลกเพยี งดวงเดยี ว มีขนำดเสน้ ผำ่ ศนู ยก์ ลำง 3,476 กโิ ลเมตร หรือประมำณ 1 ใน 4 ของเส้นผำ่ ศูนย์กลำงโลก และโคจรอยูห่ ่ำงจำกโลกโดยเฉล่ยี ประมำณ 384,400 กโิ ลเมตร และโคจรรอบโลกในระยะเวลำประมำณ 29.5 วนั เป็นดวงจันทร์ เปน็ ดำวดวงเดยี วท่ีมนษุ ยเ์ ดนิ ทำงไปสำรวจ โดยกำรนำตวั อย่ำงดนิ และหนิ จำกดวงจันทร์กลับมำ ตรวจวเิ ครำะหบ์ นโลก 274

ดาวอังคาร (Mars) 275 เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง : 6,794 กโิ ลเมตร มวล (โลก =1) : 0.107 เท่ำของโลก ความหนาแน่นเฉลี่ย : 3,930 กโิ ลเมตร/ลกู บำศก์เมตร คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ : 687 วัน คาบการหมุนรอบตวั เอง : 24 ช่วั โมง 37 นำที ระยะห่างจากดวงอาทติ ย์เฉล่ยี : 230 ลำ้ นกิโลเมตร

ดาวอังคาร (Mars) ดาวองั คาร มีขนำดเลก็ กว่ำโลก เส้นผำ่ นศูนย์กลำงรำว 6,794 กิโลเมตร พ้ืนผวิ ดาว อังคารมปี รากฏการณเ์ มฆและพายฝุ ุน่ เสมอ เป็นทน่ี ่ำสนใจในกำรศกึ ษำของนักวิทยำศำสตร์ เป็นอยำ่ งมำกเนื่องจากมลี กั ษณะและองค์ประกอบ ที่ใกล้เคียงกบั โลก เชน่ มีระยะเวลำในกำร หมุนรอบตัวเอง 1 วัน เท่ำกับ 24.6 ชว่ั โมง และระยะเวลำใน 1 ปี เมือ่ เทียบกับโลกเท่ำกับ 1.9 มกี ำรเอยี งของแกน 25 องศำ ดำวองั คำรมดี วงจนั ทร์เป็นบริวำร 2 ดวง และมอี ุณหภมู ิพ้นื ผวิ ค่อนขำ้ งเย็น อย่ทู ป่ี ระมำณ -65 องศำเซลเซยี ส 276

ดาวอังคาร (Mars) ปัจจุบัน นักวทิ ยำศำสตร์อยู่ระหว่ำงกำรศกึ ษำดำวอังคำรอยำ่ งละเอยี ด โดย กำรส่งยำนควิ ริออสซิต้ีข้นึ ไปศึกษำสภำพบนดำว เพื่อวิเครำะหค์ วำมเป็นไปได้ในกำร เป็นโลกใบที่สอง และน่นั อำจเป็นข่ำวดีสำหรับมวลมนษุ ยชำติ 277

ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) 278 เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง : 140,000 กิโลเมตร มวล (โลก =1) : 317.83 เท่ำของโลก ความหนาแนน่ เฉลี่ย : 1,330 กโิ ลเมตร/ลกู บำศกเ์ มตร คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ : 12 ปี คาบการหมนุ รอบตวั เอง : 9 ชวั่ โมง 50 นำที ระยะหา่ งจากดวงอาทติ ยเ์ ฉลยี่ : 780 ล้ำนกิโลเมตร

ดาวพฤหสั บดี (Jupiter) ดาวพฤหัสบดี เปน็ ดาวเคราะห์ที่ใหญท่ สี่ ุดในระบบสรุ ิยะจักรวาล มีขนาดเสน้ ผา่ น ศูนยก์ ลางยาวกว่าโลก 11 เท่า หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใช้เวลา 9.8 ช่วั โมง ซง่ึ เร็วทส่ี ดุ ใน บรรดาดาวเคราะห์ทงั้ หลาย และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลา 12 ปี นกั ดำรำศำสตร์ อธิบำยว่ำ ดำวพฤหสั เป็นกลมุ่ กอ้ นก๊ำซหรือของเหลวขนำดใหญ่ ทไี่ ม่มสี ่วนที่เปน็ ของแข็งเหมือน โลก และเป็นดำวเครำะหท์ ่มี ดี ำวบริวำรมำกถึง 67 ดวง 279

ดาวเสาร์ (Saturn) 280 เส้นผา่ นศนู ยก์ ลาง : 120,000 กิโลเมตร มวล (โลก =1) : 95.16 เทำ่ ของโลก ความหนาแน่นเฉล่ยี : 700 กโิ ลเมตร/ลูกบำศกเ์ มตร คาบการโคจรรอบดวงอาทติ ย์ : 29.5 ปี คาบการหมนุ รอบตัวเอง : 10 ช่วั โมง 34 นำที ระยะห่างจากดวงอาทติ ยเ์ ฉลีย่ : 1,430 ลำ้ นกโิ ลเมตร

ดาวเสาร์ (Saturn) ดาวเสาร์ เป็นดำวเครำะห์ทีเ่ รำสำมำรถมองเหน็ ไดด้ ว้ ยตำเปลำ่ เปน็ ดำวท่ปี ระกอบไป ดว้ ยก๊ำซและ ของเหลวสคี อ่ นขำ้ งเหลอื ง หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 10.2 ชั่วโมง และโคจร รอบดวงอาทติ ย์ 1 รอบใชเ้ วลา 29 ปี ลกั ษณะเด่นของดาวเสาร์ คอื มวี งแหวนล้อมรอบ ซึ่งวง แหวนดังกล่ำวเป็นอนุภำคเล็ก ๆ หลำยชนิดรวมกัน และดำวเสำร์มีวงแหวนถงึ 3 ชัน้ นอกจำกนี้ ดำวเสำร์ยงั มดี ำวบรวิ ำร 62 ดวง หน่งึ ในนน้ั คือดวงจนั ทร์ไททนั (Titan) ซ่งึ ถอื วำ่ เป็นดวงจนั ทรท์ ่ี แปลกที่สุดในระบบสรุ ิยะจกั รวำล เพรำะเปน็ ดวงจันทรด์ วงเดยี วในระบบสรุ ิยะท่ีมีบรรยำกำศ และ นกั วทิ ยำศำสตร์วิเครำะหด์ วงจันทรด์ วงน้ีมสี ภำพเหมือนโลกยุคแรก ๆ หำกดวงอำทิตย์รอ้ นข้ึน เม่ือไร น้ำแขง็ บนดวงจันทรจ์ ะละลำย และมวี วิ ฒั นำกำรคล้ำยกันกับโลกเลยทีเดยี ว 281

ดาวยเู รนัส (Uranus) 282 เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง : 52,400 กิโลเมตร มวล (โลก =1) : 14.54 เท่ำของโลก ความหนาแนน่ เฉล่ีย : 1,300 กโิ ลเมตร/ลูกบำศก์เมตร คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ : 84 ปี คาบการหมุนรอบตวั เอง : 17 ชวั่ โมง 14 นำที ระยะหา่ งจากดวงอาทติ ย์เฉล่ีย : 2,900 ล้ำนกิโลเมตร

ดาวยูเรนัส (Uranus) ดาวยเู รนัส หรือดาวมฤตยู เป็นดำวเครำะหแ์ กส๊ ขนำดใหญ่ มดี วงจนั ทร์บรวิ ำร 27 ดวง หมนุ รอบตัวเอง 1 รอบ ใชเ้ วลา 16.8 ชัว่ โมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใช้ เวลานานถงึ 84 ปี ดำวยเู รนัสประกอบดว้ ยกำ๊ ซและของเหลว เช่นเดียวกับดำวพฤหสั บดี และดำว เสำรท์ ้ังนี้ ดำวยเู รนัสเปน็ ดำวเครำะห์ใหญเ่ ป็น ที่ 3 รองจำกดำวพฤหสั บดี และดำวเสำร์ โคจรหำ่ ง จำกดวงอำทิตยโ์ ดยเฉล่ีย 2,871 ล้ำนกิโลเมตร ทำใหม้ องเหน็ ดว้ ยตำเปล่ำได้ยำก แตเ่ มอ่ื ใช้ กลอ้ งโทรทัศน์ และรูต้ ำแหนง่ แน่ชดั กจ็ ะสำมำรถเหน็ ได้ในคนื ฟำ้ ใสกระจำ่ ง 283

ดาวเนปจนู (Neptune) 284 เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง : 50,000 กโิ ลเมตร มวล (โลก =1) : 17.15 เทำ่ ของโลก ความหนาแน่นเฉลี่ย : 1,640 กโิ ลเมตร/ลูกบำศก์เมตร คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ : 165 ปี คาบการหมนุ รอบตัวเอง : 16 ชว่ั โมง ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เฉลยี่ : 4,500 ล้ำนกโิ ลเมตร

ดาวเนปจูน (Neptune) ดาวเนปจูน หรอื ดาวเกตุ เปน็ ดำวเครำะหข์ นำดใหญเ่ ปน็ ที่ 4 ในระบบสุริยะ มีเส้นผ่ำนศูนยก์ ลำงรำว 50,000 กโิ ลเมตร จโุ ลกได้ถึง 60 ดวง ระยะหำ่ งเฉลี่ยจำกดวง อำทิตย์ 4,504 ล้ำนกโิ ลเมตร หมนุ รอบตวั เองครบรอบในเวลำ 16 ชวั่ โมงอยู่ไกลจำก โลกมำกจนไม่สำมำรถมองเห็นได้ด้วยตำเปล่ำ ต้องใช้กล้องโทรทรรศนข์ นำดใหญ่เทำ่ นัน้ จงึ จะเหน็ เป็นจดุ ริบหรีไ่ ด้ ส่ิงทีม่ นุษย์รเู้ กี่ยวกบั ดำวเนปจนู ในทกุ วนั นี้ จงึ เป็นขอ้ มูลที่ ไดม้ ำจำกยำน วอยเอเจอร์ 2 ซง่ึ โคจรสำรวจดำวเนปจูน ระยะใกล้ เม่ือ พ.ศ. 2532 285

ดาวเคราะห์ ท้งั 8 สามารถแบ่งออกเปน็ กล่มุ ๆ ไดด้ ังน้ี 1. แบง่ ตามลกั ษณะทางกายภาพ 2. แบ่งตามวงทางโคจร 3. แบง่ ตามลักษณะพืน้ ผวิ 286

1. แบ่งตามลกั ษณะทางกายภาพ 1.1 ดาวเคราะหช์ นั้ ใน (Inner or Terrestrial Planets) จะเปน็ กล่มุ ดำวเครำะห์ ทีอ่ ยู่ ใกลด้ วงอำทิตยม์ ำกกวำ่ อกี กลุม่ เป็นดำวเครำะห์ทเ่ี ย็นตัวแล้วมำกกวำ่ ทำให้มีผิวนอกเป็นของแขง็ เหมอื นผิวโลกของเรำ จึงเรยี กวำ่ Terrestrial Planets (หมำยถงึ \"บนพ้ืนโลก\") ได้แก่ ดำวพธุ (Mercury), ดำวศกุ ร(์ Venus), โลก (Earth) และดำวองั คำร (Mars) ซงึ่ จะใชแ้ ถบของ ดำวเครำะห์ นอ้ ย (Asteroid Belt) เปน็ แนวแบ่ง 287

1. แบ่งตามลักษณะทางกายภาพ 1.2 ดาวเคราะหช์ นั้ นอก (Outer or Jovian Planets) จะเปน็ กลุ่มดำวเครำะห์ ทอ่ี ยูไ่ กล ดวงอำทติ ยม์ ำกกวำ่ อกี กลุม่ เปน็ ดำวเครำะห์ทเ่ี พิ่งเยน็ ตวั ทำให้มผี ิวนอก ปกคลมุ ด้วยก๊ำซ เปน็ ส่วน ใหญ่ เหมอื นพ้ืนผิวของดำวพฤหสั ทำให้มชี อ่ื เรยี กว่ำ Jovian Planets (Jovian มำจำกคำว่ำ Jupiter-like หมำยถงึ คล้ำยดำวพฤหัส) ไดแ้ ก่ ดำวพฤหัส (Jupiter), ดำวเสำร์ (Saturn), ดำวยเู รนัส (Uranus), ดำวเนปจนู (Neptune) 288

2. แบง่ ตามวงทางโคจร 2.1 ดาวเคราะห์วงใน (Interior planets) หมำยถงึ ดำวเครำะห์ทอ่ี ยู่ใกล้ดวงอำทิตย์ มำกกวำ่ โลก ไดแ้ กด่ ำวพธุ และดำวศุกร์ 2.2 ดาวเคราะห์วงนอก (Superior planets) หมำยถึง ดำวเครำะห์ทีอ่ ยู่ถดั จำกโลกออกไป ได้แก่ ดำวองั คำร ดำวพฤหสั บดี ดำวเสำร์ ดำวยเู รนสั ดำวเนปจูน 289

3. แบง่ ตามลักษณะพื้นผวิ 3.1 ดาวเคราะห์หนิ ไดแ้ ก่ ดำวพธุ ดำวศุกร์ โลก และดำวองั คำร ทั้ง 4 ดวงน้ีมพี ้นื ผิวแขง็ เป็นหนิ มชี ัน้ บรรยำกำศบำงๆ หอ่ หมุ้ ยกวน้ ดำวพธุ ทอ่ี ยูใ่ กลด้ วงอำทติ ยท์ ี่สดุ ไมม่ บี รรยำกำศ 3.2 ดาวเคราะหก์ า๊ ซ ไดแ้ ก่ ดำวพฤหัสบดี ดำวเสำร์ ดำวยูเรนัส และ ดำวเนปจนู จะเป็น กำ๊ ซท่ัวทั้งดวง อำจมแี กนหนิ ขนำดเล็ก อยภู่ ำยใน พนื้ ผิวจึงเปน็ บรรยำกำศทปี่ กคลมุ ดว้ ยก๊ำซมีเทน แอมโมเนยี ไฮโดรเจน และฮีเลียม 290

นอกจากท่ีเราทราบวา่ ดาวเคราะหจ์ ะหมนุ รอบตวั เอง โคจรไปรอบๆดวง อาทติ ยแ์ ล้ว แกนของแตล่ ะดาวเคราะห์ ยงั เอียง (จากแนวตั้งฉากของการเคลือ่ นท่ี) ไมเ่ ทา่ กนั อีกดว้ ย นอกจากนี้ เม่อื เทียบทิศทางของ การหมนุ รอบตัวเอง กบั การ หมุนรอบ ดวงอาทิตย์ ของแต่ละดาวเคราะห์ พบวา่ ดาวศุกร์ (Venus), ดาว ยเู รนสั (Uranus) จะหมุนรอบตวั เองแตกต่างไปจาก ดาวเคราะหด์ วงอน่ื ๆ ใน ระบบสรุ ิยะจกั รวาลของเรา 291

เรื่องท่ี 5 พัฒนาการของแบบจา้ ลอง ระบบสรุ ิยะ 292

อรสิ โตเตลิ แหง่ สตากริ า (384-322 กอ่ นครสิ ตศักราช) 293

อริสโตเติลเปน็ นกั ปรำชญช์ ำวกรีกทยี่ งิ่ ใหญ่คนหน่ึง ในประวัติศำสตรโ์ ลก อรสิ โตเตลิ เขำ้ ศกึ ษำรำ่ เรยี นในวิทยำลัย ของพลำโต อยำ่ งไรกต็ ำมเขำกม็ ีแนวคิดทข่ี ัดแยง้ กบั หลกั กำร ของพลำโต โดยท่เี ขำคดิ ว่ำเรำสำมำรถคน้ ควำ้ หำควำมรกู้ บั โลกของธรรมชำติท่ีอยรู่ อบตวั เรำได้ เขำเปน็ คนแรกทแ่ี ยกปรชั ญำออกเป็น 2 ศำสตร์ ได้แก่ ศำสตรท์ ศ่ี ึกษำธรรมชำติ (physiologoi) และ ศำสตร์ ท่ีเกีย่ วกบั ควำมเช่ือและพระเจำ้ (theologoi) ออกจำกกนั โดยส้นิ เชงิ 294

350 ปี กอ่ นครสิ ตกาล อาริสโตเตลิ เปน็ ปราชญ์ท่านแรกที่สามารถ ครอบงา้ ความ เช่ือของมนุษยใ์ น แนวความคิดทางดาราศาสตรแ์ หง่ เอกภพ ทว่ี า่ โลกเปน็ ศนู ยก์ ลางของเอกภพโดยดวง อาทติ ย์ ดวงจนั ทร์ และดาวเคราะหท์ ั้งหลาย โคจรรอบโลก 295

นโิ คลัส โคเปอรน์ คิ ัส (Nicolaus Copernicus) 296

นักดำรำศำสตรช์ ำวโปแลนด-์ เยอรมนั ตพี ิมพ์ หนังสอื ช่ือ “การโคจรของวัตถทุ อ้ งฟา้ (The Revolutions of the Heavenly Bodies)” “โลกไมใ่ ช่ศูนยก์ ลางของเอกภพ ดาวเคราะห์ ทกุ ดวงโคจรรอบดวงอาทิตย์” ดงั นัน้ ดวงอำทติ ยจ์ งึ เป็นศนู ย์กลำงของระบบ สุริยะ ซ่ึงโลกก็โคจรรอบดวงอำทติ ยเ์ หมอื นกบั ดำว เครำะหด์ วงอน่ื ดว้ ย 297

ทโิ ค บราห์ (TYCHO BRAHE) ค.ศ. 1546 - 1601 298

ทโิ ค บราห์ นักดำรำศำตร์ชำวเดนมำรก์ ได้สร้าง ผลงานทำงดำรำศำสตร์ไว้มำกมำย โดยเฉพำะบนั ทกึ ตา้ แหน่ง ดวงดาวบนทอ้ งฟา้ ที่ทโิ คได้บันทกึ ไว้ร่วม 40 ปี ซงึ่ บันทึก ดงั กลำ่ วเปรยี บเสมือนมรดกอันล้ำคำ่ ท่โี ยฮนั เนส เคปเลอร์ (ผู้ซ่งึ เปน็ ผชู้ ว่ ยของทโิ ค) ไดค้ รอบครองหลังจำกทโิ คไดเ้ สยี ชวี ติ ลง อย่ำงกระทันหันและเปน็ กำรเสยี ชีวติ ท่เี ป็นปริศนำจนถงึ ปจั จุบนั วำ่ เปน็ กำรฆำตกรรมหรือกำรเสยี ชวี ิตอยำ่ งกระทนั หนั รวมไปถงึ ขอ้ สงสัยทว่ี ่ำเคปเลอรไ์ ดเ้ ขำ้ ไปมีสว่ นเก่ยี วขอ้ งกับกำรเสยี ชีวิต ของทโิ คหรอื ไม่ 299

การสร้างระบบดาวแบบไทโคนกิ โดยเช่อื วำ่ โลกเป็นศูนยก์ ลางของระบบสุริยะ (และจกั รวาล) โดยมดี วงจนั ทร์ และดวงอำทติ ย์ โคจรรอบโลก และ ดำวนพเครำะห์อนื่ ๆ โคจรรอบ ดวงอำทติ ย์อกี ที ซง่ึ นำไปส่แู นวคดิ ว่ำ ดวงอาทิตย์ เป็นศูนยก์ ลางของระบบสรุ ยิ ะ ของโยฮนั เนส เคป เลอร์ลกู มอื ของเขา ภาพแบบจา้ ลองจกั รวาลของทิโค 300