Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore sunmoon

sunmoon

Published by poolsombutnuch, 2019-10-25 03:12:06

Description: sunmoon

Search

Read the Text Version

03 การกา้ หนดทิศ เมอ่ื เราอยกู่ ลางแจง้ และมองไปรอบๆ ตวั เราจะเหน็ พืน้ โลกทอดไกลออกไปจรดขอบฟ้าเปน็ รูปครึง่ วงกลม เราเรยี กเสน้ ตัดระหวา่ งพื้นโลกกับ ขอบฟ้าว่า เสน้ ขอบฟ้า (Horizon) เส้นขอบฟ้า เป็นเสน้ วงกลมล้อมรอบตัวในแนวราบ 51

03 การกา้ หนดทศิ พระอาทติ ยก์ าลงั จะลบั ขอบฟ้า 52

03 การกา้ หนดทิศ เม่อื สงั เกต การเคลอื่ นท่ขี องดวงอาทิตยใ์ น เวลาเชา้ จะเหน็ ดวงอาทิตยโ์ ผลข่ ้นึ มา จากขอบฟ้า ด้านหนงึ่ เรียกว่า ทิศตะวนั ออก และดวงอาทิตย์ จะเคลอ่ื นที่ขนึ้ สงู ที่สุดในเวลาประมาณเท่ียงวัน จากนั้นดวงอาทติ ย์จะเคลื่อนต่าลงกระทง่ั ตกลับ ขอบฟา้ อกี ด้านหน่งึ เรยี กวา่ ทิศตะวันตก การข้ึน - ตกของดวงอาทติ ย์ เกิดจากการหมุนรอบตวั เอง ของโลกตามแกนเหนอื - ใต้ 53

03 การกา้ หนดทศิ ดงั นน้ั การกาหนดทิศทางบนโลก จึง แบง่ ออกเปน็ 4 ทศิ หลกั คือ ทิศตะวนั ออก (East) ทิศตะวันตก (West) ทิศเหนือ (North) ทิศใต้ (South) โดยทศิ ทง้ั ส่ีมคี วามสัมพันธก์ นั ดังน้ี 54

03 การกา้ หนดทศิ ภาพที่ 1 เมอ่ื หันหนา้ ไปทางเหนือ ดำ้ นหลัง ของเรำจะเป็นทิศใต้ แขนซำ้ ย จะชไ้ี ปทำงทิศตะวันตก แขนขวำ จะช้ไี ปทำงทศิ ตะวนั ออก 55

03 การกา้ หนดทศิ ภาพท่ี 2 เม่อื หันหน้าไปทางทศิ ตะวันตก ดำ้ นหลงั ของเรำจะเป็นทศิ ตะวนั ออก แขนซำ้ ย จะชี้ไปทำงทศิ ใต้ แขนขวำ จะชไ้ี ปทำงทศิ เหนือ 56

03 การก้าหนดทศิ ภาพท่ี 3 จุดเหนอื ศรี ษะ จุดสูงทสี่ ดุ บนฟ้ำจะอยู่เหนือศรี ษะพอดี เรยี กวำ่ จดุ เหนือศรี ษะ (Zenith) จุดเหนือศรี ษะทำมุมกบั ผสู้ งั เกตกำรณ์ และ ขอบฟำ้ ทกุ ๆ ด้ำน เป็นมมุ ฉำก (90°) พอดี 57

03 การกา้ หนดทิศ 3.1 การหาทิศ 58

03 การก้าหนดทศิ 3.1 การหาทศิ 1. อาศัยเขม็ ทิศ (compass) เปน็ วิธีทงี่ ่ำยทีส่ ดุ โดยวำงเข็มทิศในแนวรำบ ใหป้ ลำยข้ำงหนง่ึ ชไ้ี ปทำงทิศเหนอื เสมอ เรยี กว่ำปลำยชีเ้ หนอื เพรำะโลกมีคณุ สมบัตเิ หมือนแทง่ แมเ่ หลก็ ขนำดมหึมำ โดยมีข้ัวแม่เหลก็ โลกเหนืออยู่ที่ชำยฝงั่ ทำงเหนอื ของเกำะ ปรนิ ซ์ ออฟ เวลส์ ทำงตอนเหนอื ของแคนำดำ คอยส่งอำนำจดึงดดู ให้ ปลำยช้เี หนอื ของเขม็ ทศิ ชไี้ ปทำงนัน้ เสมอ และขวั้ แม่เหล็กโลกใต้อยูท่ ี่ บริเวณ เซำท์ วกิ ตอเรยี แลนด์ ในทวปี แอนตำรก์ ติกำ 59

03 การก้าหนดทิศ 3.1 การหาทิศ 1. อาศยั เขม็ ทศิ (compass) ข้อควรระวงั ไม่ควรอ่ำนเข็มทิศใกลๆ้ กบั สงิ่ ทีเ่ ปน็ เหลก็ หรอื กระแสไฟฟ้ำ เพรำะเข็มทิศจะทำงำนไม่เท่ยี งตรง ไฟฟำ้ แรงสงู ควรอย่หู ำ่ ง 55 เมตร รถยนต์บรรทกุ รถถัง ปนื ใหญ่สนำม ควรอยหู่ ่ำง 18 เมตร สำยโทรเลข โทรศัพท์ ลวดหนำม ควรอยู่ห่ำง 10 เมตร โลหะท่ีไม่เปน็ เหล็กหรือโลหะผสมไมม่ ีผลต่อการอา่ นเข็มทศิ 60

03 การกา้ หนดทิศ 3.1 การหาทิศ 2. หาทิศโดยอาศยั แสงแดด การสงั เกตเงาของวัตถุจากแสงแดด เปน็ กำรหำทศิ เหนือ โดยประมำณ คอื ดวงอำทติ ย์จงึ ทำงทิศตะวนั ออก ถ้ำเรำหนั หลังให้ ทิศตะวนั ออก ดำ้ นหนำ้ จะเปน็ ทิศตะวนั ตก ดำ้ นซ้ำยมือเป็นทศิ ใต้ และ ดำ้ นขวำมอื เป็นทศิ เหนือ แตก่ ำรโคจรของโลกรอบดวงอำทิตย์ไมค่ งที่ คอื โคจรไปในขอบฟำ้ ด้ำนเหนือ เรยี กวำ่ ตะวนั -ออ้ มเหนือ และโคจรไป ในขอบฟำ้ ดำ้ นใต้ เรียกวำ่ ตะวันอ้อมใต้ ทำให้ลักษณะของเงำทีเ่ กดิ ขึ้น เปล่ียนแปลงไปตำมกำรโคจรอบดวงอำทติ ย์ 61

03 การกา้ หนดทิศ 3.1 การหาทศิ 2. หาทิศโดยอาศัยแสงแดด ฤดูตะวันออ้ มเหนอื ประมำณเดอื น เมษำยน-สงิ หำคม ตอนเช้ำ เงำจะทอดไปทำงทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ตอนเท่ียง เงำจะทอดไปทำงทศิ ใต้ ตอนเยน็ เงำจะทอดไปทำงทิศตะวนั ออกเฉยี งใต้ 62

03 การก้าหนดทิศ 3.1 การหาทศิ 2. หาทิศโดยอาศยั แสงแดด ฤดูตะวันออ้ มใต้ ประมำณเดอื น สงิ หำคม-เมษำยน ตอนเช้ำ เงำจะทอดไปทำงทศิ ตะวันตกเฉยี งเหนือ ตอนเท่ยี ง เงำจะทอดไปทำงทศิ เหนือ ตอนเยน็ เงำจะทอดไปทำงทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ 63

03 การกา้ หนดทิศ 3.1 การหาทิศ 3. หาทิศจากดาวเหนอื โดยอำศัยกลมุ่ ดำวจระเข้ หรือดำวหมี ใหญ่ จะมกี ลุ่มดำวอยู่ 7 ดวง โคจรอยรู่ อบๆ ดำวเหนือเหนือขั้วโลก จะมดี ำวคหู่ น้ำสุดชี้ไปทำง ดำวเหนอื ตลอดเวลำ ดังรูป 64

03 การกา้ หนดทิศ 3.1 การหาทศิ 5. หาทศิ โดยอาศยั นาฬิกาข้อมอื ใช้หำทศิ เหนอื ไดโ้ ดยประมำณ แต่ตอ้ งเอำฤดกู ำลมำพจิ ำรณำดว้ ย ฤดูตะวันอ้อมเหนอื ใช้ไมแ้ ท่งเล็กๆ ปักลงบนพ้นื ดนิ เอำนำฬกิ ำวำงรำบลงบนพ้นื โดยหันนำฬกิ ำให้เงำของไมท้ ี่ปกั ไวน้ ้นั ทำบผำ่ นเลข 12 และจดุ ศูนย์กลำงของหน้ำปัด จำกนัน้ แบง่ ครึง่ มุมระหว่ำงเข็มสั้นกับเลข 12 เส้นแบ่งครึง่ มมุ นัน้ จะช้ีไปในแนวทิศ เหนือ 65

03 การกา้ หนดทศิ 3.1 การหาทิศ 5. หาทิศโดยอาศยั นาฬิกาขอ้ มอื ใช้หำทิศเหนอื ได้โดยประมำณ แตต่ ้องเอำฤดูกำลมำพิจำรณำดว้ ย ฤดูตะวนั ออ้ มใต้ ทำเช่นเดียวกัน แตใ่ นกำรวำง นำฬิกำใหห้ นั เงำของไมท้ ่ีปักไว้ทำบผ่ำนเข็มสัน้ กับ จุดศูนย์กลำงของหนำ้ ปดั แล้วแบง่ คร่งึ มุมระหวำ่ ง เขม็ สั้นกบั เลข 12 เสน้ แบ่งคร่ึงมุมนัน้ จะชไี้ ปในแนว ทิศใต้ ดงั รปู 66

03 การก้าหนดทิศ 3.2 การหาทิศในแผนที่ 1. บอกเปน็ ชอ่ื ทศิ คือ ทศิ เหนือ ใต้ ตะวนั ออก ตะวนั ตก และอำจแยกเปน็ ระบบ 4 ทศิ หรือ 16 ทศิ หรอื 32 ทศิ ตำมท่ที หำรเรือนิยมใชเ้ รยี กทศิ ทำงลม 67

03 การก้าหนดทศิ 3.2 การหาทศิ ในแผนที่ 2. บอกทศิ เปน็ มลิ มลิ คือ มมุ รอบจุดหรือมุมรอบวงกลม แบ่งออกเป็น 6,400 หนว่ ย แต่ละหน่วยเรยี กว่ำ มลิ มมุ รอบวงกลมมี 360 องศำ = 6,400 มลิ “ 1 “ = 6400/360 = 17.8 มลิ เพอื่ ควำมสะดวกนิยมใช้ 1 องศำ เท่ำกับ 18 มลิ หน่วยบอกทศิ เป็นมลิ นยิ มใชใ้ นหน่วยทหำรปนื ใหญแ่ ละอำวธุ หนกั เพรำะตำแหน่งได้ ละเอียดกวำ่ แบบอน่ื ๆ 68

03 การกา้ หนดทิศ 3.2 การหาทิศในแผนท่ี 3. บอกทิศเป็นเกรด คอื มุมรอบจุดหรือวงกลมมี 400 หน่วย แตล่ ะหนว่ ยเรียกว่ำ 1 เกรด โดยถอื หลกั จำกทิศเหนอื เป็น 0 เกรด ทิศตะวนั ออกเปน็ 100 เกรด ทิศใต้เป็น 200 เกรด ทิศตะวันตกเปน็ 300 เกรด 1 เกรด มี 100 ลปิ ดำ 1 ลปิ ดำ มี 60 พิลปิ ดำ 4. บอกทศิ เป็นองศา คือ มมุ รอบจดุ หรือวงกลมมี 360 อำศำ แต่ละหน่วยเรยี กว่ำ 1 องศำ แตล่ ะ 1 องศำ มี 60 ลปิ ดำ 1 ลปิ ดำ มี 60 พลิ ิปดำ ซง่ึ เป็นหนว่ ยทใี่ ชท้ ัว่ ไปในแผนที่ 69

03 การก้าหนดทิศ 3.2 การหาทศิ ในแผนที่ 5. บอกทศิ เปน็ อะซมิ ทุ (Azinuth) คือ มุมรอบจดุ หรือวงกลมทวี่ ดั จำกแนวทศิ เหนือไปตำมเข็มนำฬกิ ำ นยิ มใชใ้ นหน่วยทหำร 6. บอกทศิ เปน็ แบรงิ ส์ (Bearings) คอื มุมทวี่ ัดในแนวนอน โดยวดั จำกทศิ เหนือ และทศิ ใต้เปน็ หลกั ไปทำงตะวันออกและทำงตะวันตก มคี ำ่ มุมไมเ่ กิน 90 องศำ เชน่ แนว หนง่ึ เบนจำกทิศเหนอื ไปทำงตะวันออก 49 องศำ เรียกว่ำ แบริงสเ์ หนือ 49 องศำตะวันออก เขยี น N 49 องศำ E หรอื S 70 องศำ W อ่ำนวำ่ แบรงิ สใ์ ต้ 70 องศำตะวนั ตก นยิ มใช้ใน หน่วยของทหำรเรอื 70

04 พิกัดขอบฟา้ (Horizontal coordinates) พิกดั ขอบฟา้ (Horizontal coordinates) เปน็ ระบบพิกัดซง่ึ ใช้ในกำรวัดตำแหน่ง ของวตั ถุทอ้ งฟ้ำ โดยถอื เอำตวั ของผสู้ ังเกตเปน็ ศูนย์กลำงของทรงกลมฟำ้ โดยมจี ดุ และเส้นสมมติ บนทรงกลมฟ้ำแสดงในภำพ ภาพระบบพิกัดขอบฟ้า 71

04 พิกดั ขอบฟา้ (Horizontal coordinates) ทศิ ทั้งสี่ ประกอบด้วย ทิศเหนอื (North) ทิศ ตะวันออก (Earth) ทศิ ใต้ (South) ทศิ ตะวันตก (West) เมอ่ื หนั หนำ้ เข้ำหำทิศเหนอื ด้ำนหลงั เป็น ทิศใต้ ซ้ำยมอื เป็นทศิ ตะวันตก ขวำมอื เปน็ ทิศ ตะวนั ออก ภาพระบบพิกัดขอบฟ้า 72

04 พิกดั ขอบฟา้ (Horizontal coordinates) จดุ เหนอื ศรี ษะ (Zenith) เปน็ ตำแหนง่ สงู สดุ ของทรงกลมฟ้ำ ซงึ่ อยู่เหนอื ผสู้ งั เกต  จดุ ใต้เทา้ (Nadir) เปน็ ตำแหน่งตำ่ สุดของ ทรงกลมฟำ้ ซง่ึ อยใู่ ตเ้ ทำ้ ของผสู้ ังเกต ภาพระบบพกิ ัดขอบฟา้ 73

04 พกิ ัดขอบฟ้า (Horizontal coordinates)  เส้นขอบฟ้า (Horizon) หมำยถึง แนวเส้น ขอบท้องฟำ้ ซ่ึงมองเห็นจรดพื้นรำบ หรืออีกนยั หน่งึ คือ เส้นวงกลมใหญบ่ นทรงกลมฟำ้ ทอ่ี ยหู่ ำ่ ง จำกจุดเหนอื ศีรษะ ทำมมุ 90° กับแกนหลกั ของ ระบบขอบฟ้ำ  เสน้ เมอรเิ ดียน (Meridian) เปน็ เส้นสมมติ บนทรงกลมฟำ้ ในแนวเหนือ-ใต้ ซึง่ ลำกผ่ำนจุด เหนอื ศรี ษะ ภาพระบบพิกัดขอบฟ้า 74

04 พิกดั ขอบฟ้า (Horizontal coordinates) กำรวัดมุมในระบบพิกัดขอบฟ้ำประกอบด้วย มมุ ทิศ และ มมุ เงย มุมทิศ (Alzimuth)​ เปน็ มุมในแนวรำบ ซึง่ วัดจำกทิศเหนือ (0°) ไปตำมเสน้ ขอบฟ้ำใน ทศิ ตำมเข็มนำฬกิ ำ ไปยงั ทิศตะวันออก (90°) ทศิ ใต้ (180°) ทิศตะวนั ตก (270°) และกลับมำท่ที ศิ เหนือ (360°) อกี คร้ังหน่ึง ดงั นน้ั มมุ ทศิ จึงมีค่ำระหวำ่ ง (0°-360°) 75

04 พกิ ัดขอบฟา้ (Horizontal coordinates) กำรวดั มุมในระบบพิกัดขอบฟ้ำประกอบด้วย มุมทิศ และ มมุ เงย มมุ เงย (Altitude) เปน็ มมุ ในแนวดง่ิ ซ่งึ นบั จำกเสน้ ขอบฟ้ำ (0°) สงู ขึ้นไปจนถงึ จุดเหนอื ศีรษะ (90°) ดงั น้นั มมุ ทิศจึงมีค่ำระหว่ำง (0°-360°) ดังน้นั มมุ เงยจึงมีค่ำระหว่ำง (0°-90°) 76

04 พกิ ดั ขอบฟ้า (Horizontal coordinates) กำรวดั มุมในระบบพกิ ดั ขอบฟ้ำประกอบด้วย มุมทิศ และ มมุ เงย เมื่อมองดูตำแหนง่ ดำวในภำพที่ 2 จะเหน็ วำ่ ดำวมีพกิ ัดขอบฟ้ำ มมุ ทิศ 250° มมุ เงย 45° ทง้ั นใ้ี นกำรวดั ระยะห่ำงของดำวบนท้องฟ้ำจะเปน็ ระยะเชิงมมุ ภาพการวัดมุมทิศ-มุมเงย 77

05 กา้ หนดเวลาบนโลก กำรแบง่ เวลำของโลกโดยแบง่ ออกเปน็ 24 เขต แต่ละเขตมีควำมกว้ำง 15 องศำลองจิจูด หรือ เวลำ 1 ช่วั โมง โดยเขตแรกมีเสน้ เมอริเดยี นแรก หรอื เมอรเิ ดยี น 0 องศำ ผำ่ นเมอื งกรีนิชเป็นแกนกลำง ภาพแผนทแ่ี สดงโซนเวลาของโลก (Time Zone) 78

05 กา้ หนดเวลาบนโลก เน่อื งจำกโลกหมุนรอบตวั เอง ซีกหน่ึงของโลกจงึ เป็นกลำงคนื ในขณะท่ี อกี ซีกหน่งึ เป็นกลำงวัน ในปี 1884 โดยควำมตกลงระหว่ำงประเทศต่ำงๆ ทัง้ หมด 25 ประเทศได้มกี ำรกำหนดเขตแบง่ เวลำกันขึน้ หำกเรำลำกเสน้ แบ่งท่ีกึ่งกลำงโลกไปบรรจบกันเป็นวงกลม เสน้ นีจ้ ะ เรยี กว่ำ อเี ควเตอร์ (Equator) ทปี่ ระชมุ ไดแ้ บง่ จำกเสน้ น้ี ออกไปอีก 24 เส้น จำกทง้ั หมด 360 องศำรอบโลก นัน่ หมำยควำมว่ำ แต่ละเสน้ จะหำ่ งจำกเส้นท่ีอยู่ ตดิ กัน 15 องศำ (360/24 = 15) โดยเร่มิ นับเส้นแรกจำกเส้นเวลำมำตรฐำน กรนี ชิ (Greenwich) ประเทศองั กฤษแตล่ ะเสน้ จำกท้งั หมด 24 เส้น จะเปน็ กำร แสดงควำมแตกตำ่ งของเวลำหนงึ่ ชั่วโมง 79

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ประเทศไทย จะอยู่ในรำวเส้นที่ 105 องศำตะวันออก หำกหำร ด้วยสบิ ห้ำก็จะไดเ้ ส้นแบ่งเวลำออกมำเป็นเส้นท่ี 7 น่ันหมำยควำมวำ่ เวลำในประเทศไทย จะล้ำหนำ้ เวลำในองั กฤษอยู่ 7 ชั่วโมงในสหรฐั อเมรกิ ำ ซ่ึงเป็นประเทศใหญ่ จะมกี ำรแบ่งเขตเวลำภำยในประเทศออกเป็นสเ่ี ขต ดว้ ยกัน คอื ตะวนั ออก ภำคกลำง เทอื กเขำ และ แปซฟิ กิ (Eastern, Central, Mountain and Pacific) เช่น เวลำ 7 p.m. เวลำตะวันออก จะเปน็ 6 p.m. เวลำภำคกลำง เปน็ 5 p.m. เวลำเทอื กเขำ และเปน็ เวลำ 4 p.m. เวลำแปซฟิ ิก 80

05 กา้ หนดเวลาบนโลก วนั และเวลำของโลกปฏิสมั พนั ธก์ ับเส้นลองจิจดู โลกหมนุ รอบตัวเอง 1 รอบ ใช้เวลำ 24 ชว่ั โมง เป็นมมุ 360 องศำ เอำ 24 ไปหำร 360 จะได้วำ่ โลก หมนุ ไปได้ชั่วโมงละ 15 องศำ / นำทีละ 15 ลิปดำ / วนิ ำทีละ 15 ฟิลิปดำ ดังนนั้ คำ่ ลองจิจูด หรือเสน้ เมอริเดยี นจะทำใหเ้ รำคำนวณเวลำท้งั 24 เขตของโลก กำรแบง่ เวลำของโลกโดยแบ่งออกเป็น 24 เขต แตล่ ะเขตมี ควำมกวำ้ ง 15 องศำลองจิจดู หรือ เวลำ 1 ชั่วโมง โดยเขตแรกมเี ส้นเมอรเิ ดยี น แรก หรอื เมอริเดียน 0 องศำ ผำ่ นเมอื งกรีนิชเปน็ แกนกลำง เขตเวลำของโลกจะ นบั ตำมลองจิจูดใดกต็ ำม ถ้ำนบั ไปทำงตะวนั ออก จะเรว็ กว่ำทำงตะวันตก และ ถำ้ นับไปทำงตะวันตกจะชำ้ กวำ่ เวลำทำงตะวันออก 81

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ประเภทของเวลา 1. เวลามาตรฐานสากล (Greennich Mean Time) เวลำทลี่ องจิจดู 0 องศำ / เวลำมำตรฐำนกรนี ชิ 82

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ประเภทของเวลา 2. เวลามาตรฐาน (Standard time) 83

05 ก้าหนดเวลาบนโลก ประเภทของเวลา 2. เวลามาตรฐาน (Standard time) โดยแตล่ ะประเทศจะกำหนดเวลำประเทศ ของตน ยึดหลักตำมลองจจิ ูดหลกั ของเขตเวลำของโลกทผี่ ำ่ นประเทศของตน เชน่ ประเทศไทยกำหนดเวลำมำตรฐำนตำมเวลำที่ลองจิจดู 105 องศำ ตะวันออก ซงึ่ เร็วกว่ำเวลำมำตรฐำนสำกล 7 ชัว่ โมงกำรนับเวลำมำตรฐำนของประเทศจะ เทำ่ กันทว่ั ประเทศ แตส่ ำหรับประเทศทม่ี อี ำณำเขตกว้ำงใหญ่กม็ ีเวลำมำตรหลำยเวลำ ตำมแต่ละเขตพื้นที่ เชน่ อเมริกำ รัสเซีย เปน็ ต้น 84

05 ก้าหนดเวลาบนโลก ประเภทของเวลา 3. เวลาท้องถิ่น (Local time) เวลำทน่ี บั ตำมลองจิจดู ทผ่ี ่ำนบรเิ วณนน้ั จรงิ ๆ เช่น จังหวดั อบุ ลรำชธำนตี ้ังอยทู่ ่ี 105 องศำตะวันออก ซ่งึ เรว็ กว่ำเวลำมำตรฐำนสำกลอยู่ 7 ชว่ั โมง กรงุ เทพฯ ตั้งอยทู่ ลี่ องจจิ ูดที่ 100 องศำตะวนั ออกจงึ มีเวลำเร็วกวำ่ เวลำ มำตรฐำนสำกลอยู่ 6 ชวั่ โมง 40 นำที เวลำทน่ี ับตำมลองจจิ ูดทผ่ี ่ำนจรงิ น้ี เรยี กวำ่ เวลำ ทอ้ งถ่นิ 85

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ประเภทของเวลา 3. เวลาทอ้ งถ่ิน (Local time) 86

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ประเภทของเวลา เสน้ ที่เกยี่ วข้องกบั เวลำทีส่ ำคญั เส้นแบ่งเขตวนั สำกล ( International Date Time) โดยกำหนดประมำณทีเ่ สน้ ลองจิจดู ที่ 180 เปน็ เสน้ แบง่ เขตวันสำกลแต่มกี ำรเล่ยี ง ใหเ้ สน้ เขตวนั นี้ผำ่ นเฉพำะพื้นนำ้ เพื่อขจดั ปญั หำกำรมี 2 วันบนเกำะเดยี วกนั ดงั น้ันเสน้ เขตวนั นจี้ งึ ไมเ่ ปน็ เสน้ ตรงตำมเส้นเมอริเดียน 180 ตลอดทง้ั เส้น อีกอยำ่ งถ้ำข้ำมเสน้ เขต วนั น้ไี ปทำงซกี โลกตะวันตกตอ้ งนับวนั ลดลง 1 วนั และถำ้ ข้ำมเส้นเขตวันนไ้ี ปทำงซกี โลก ตะวนั ออกจะตอ้ งนับวนั เพมิ่ ขน้ึ อกี 1 วนั 87

05 กา้ หนดเวลาบนโลก โลกโคจรรอบดวงอำทิตยห์ นง่ึ รอบ ใช้เวลำ 1 ปี หรอื 365 วัน เรำแบง่ เวลำหน่งึ ปี ออกเปน็ 12 เดือน ๆ ละ 30 หรอื 31 วัน เพ่อื ใหส้ อดคล้องกับเดอื นทำงจันทรคติ ซงึ่ ดวงจนั ทรโ์ คจรรอบโลกหนง่ึ รอบใชเ้ วลำประมำณ 30 วนั โลกหมุนรอบตัวเองหนง่ึ รอบ ใชเ้ วลำ 1 วัน หรอื 24 ชว่ั โมง โดยแตล่ ะชั่วโมงจะถูกแบ่งยอ่ ย ออกเป็น 60 นำที และแต่ละนำทีถูกแบง่ อีกเปน็ 60 วินำที 88

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ตัวอยา่ งที่ 1 ถาม : ในวันที่ 24 มกราคมเวลา 18:30 UT. เวลามาตรฐานของประเทศไทยจะเปน็ เวลาอะไร? เวลามาตรฐานประเทศไทย = 18:30 + 7:00 = 25:30 ตอบ : เวลามาตรฐานของประเทศไทยจะเป็น วนั ที่ 25 สงิ หาคม เวลา 01:30 นาฬกิ า 89

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ตัวอยา่ งท่ี 2 ถาม : วันท่ี 2 มกราคม เวลา 08:00 น. ของประเทศไทย (UT+7)คดิ เปน็ เวลาสากล (UT=0) ได้เทา่ ไร? เวลาประเทศไทยเรว็ กวา่ เวลาสากล = 7 – 0 = 7 ชว่ั โมง ตอบ : เวลาสากลจะเป็น วนั ท่ี 2 มกราคม เวลา 01:00 UT (08:00–07:00) 90

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ตัวอยา่ งท่ี 3 ถาม : วันท่ี 2 มกราคม เวลา 08:00 น. ของไทย (UT+7) ตรงกับเวลาอะไรของประเทศญปี่ นุ่ (UT+9)? เวลาประเทศญีป่ ุ่นเร็วกวา่ เวลาประเทศไทย = 9 – 7 = 2 ชั่วโมง ตอบ : เวลาทีป่ ระเทศญี่ปุน่ จะเป็น วันที่ 2 สิงหาคม เวลา 06:00 น. (08:00–02:00) 91

05 ก้าหนดเวลาบนโลก ตวั อยา่ งท่ี 4 ถาม : วันท่ี 2 มกราคม เวลา 08:00 น. ของไทย (UT+7) ตรงกบั เวลาอะไรท่กี รุงวอชงิ ตัน ดซี ี (UT-5)? เวลาประเทศไทยเรว็ กวา่ เวลาทก่ี รงุ วอชิงตัน ดซี ี = (+7)–(-5) = 12 ช่ัวโมง ตอบ : เวลาทก่ี รุงวอชิงตันดซี ี จะเป็น วันที่ 1 มกราคม เวลา 20:00 น. (24:00+08:00–12:00) 92

05 ก้าหนดเวลาบนโลก ตัวอยา่ งการคา้ นวณเวลามาตรฐานของโลก ตวั อยา่ งที่ 1 ตำแหน่ง A อยู่ที่ละตจิ ูด 20° เหนอื และลองจจิ ูด 105° ตะวันออก ตำแหนง่ B อยทู่ ีล่ ะติจดู 20° ใต้ และลองจิจดู 105° ตะวนั ตก ถ้ำเวลำทต่ี ำแหน่ง A เป็นวันที่ 10 กรกฎำคม เวลำ 10.00 น. เวลำที่ ตำแหนง่ B ขณะนน้ั เป็นเทำ่ ใด วิธที ้า ตำแหนง่ A อยู่บนเส้นลองจิจูด 105° ตะวันออก ส่วนตำแหน่ง B อย่บู นเสน้ ลองจิจดู 105° ตะวันตก แสดงวำ่ ตำแหนง่ ทั้งสองอยหู่ ่ำงจำกกนั 105° + 105° = 210° ลองจิจดู หำ่ งกนั 15° เวลำจะตำ่ งกัน 1 ชว่ั โมง ลองจิจดู หำ่ งกนั 210° เวลำจะห่ำงกนั 1 x 210/15 = 14 ช่ัวโมง ตอบ ตำแหน่ง B เป็นเวลำ 20.00 น. วันที่ 9 กรกฎำคม 93

05 กา้ หนดเวลาบนโลก ตวั อยา่ งการคา้ นวณเวลามาตรฐานของโลก ตวั อยา่ งท่ี 2 บ้ำนของนำย ก ตง้ั อยูท่ ี่กรุงเทพมหำนครบนเส้นลองจิจดู 100.5° ตะวนั ออก เม่ือสถำนวี ิทยุกระจำยเสียง แหง่ ประเทศไทยประกำศเวลำมำตรฐำนกรนี ชิ เปน็ เวลำ 01.00 น.ของวันจนั ทร์ ประเทศไทยตัง้ อยู่ที่ลองจจิ ดู 105° ตะวนั ออก นำย ก ควรตงั้ นำฬกิ ำขอ้ มือของเขำให้สอดคลอ้ งกบั เวลำมำตรฐำนขณะน้ันเทำ่ กับเทำ่ ไร วธิ ีท้า สำหรับประเทศไทยไม่วำ่ จะอยู่บนเสน้ ลองจิจดู ใดใหใ้ ช้เวลำมำตรฐำนที่เส้นลองจจิ ูด 105° ตะวนั ออก ลองจิจูดห่ำงกัน 1° เวลำต่ำงกัน = 4 นำที ลองจิจดู ห่ำงกัน 105° เวลำต่ำงกัน = 4 x 105 นำที = 420 นำที = 420/60 = 7 ชั่วโมง ตอบ ขณะทเ่ี มืองกรนี ิชเป็นเวลำ 01.00 น. นำย ก. ควรตั้งนำฬกิ ำขอ้ มือเปน็ เวลำ 08.00 น.วนั เดียวกนั 94

06 การข้นึ ตกของดวงดาว 95

06 การขน้ึ ตกของดวงดาว ปรากฏการณ์ดาวข้ึน-ตก เปน็ ผลสะท้อนจำกกำรหมุนรอบ ตัวเองของโลก ซ่งึ หมนุ จำกทศิ ตะวันตกไปทศิ ตะวัน ออก โลกกลม ๆ เม่อื หมนุ รอบตัวเองจะหมุนรอบแกนท่ผี ่ำนขั้วโลกเหนอื และขวั้ โลกใต้ แกนทผ่ี ำ่ นข้วั โลกเหนือจะช้ี ไปยังขั้วฟ้ำเหนือซง่ึ มดี ำวเหนืออยใู่ กล้ ๆ ดังนน้ั เมื่อโลกหมุนจำกทศิ ตะวันตกไปทศิ ตะวันออก ดำวจึงวน เป็นวงกลม รอบดำวเหนอื โดยวนจำกด้ำนทศิ ตะวนั ออกไปทำงทิศตะวนั ตก 96

06 การขนึ้ ตกของดวงดาว เสน้ ทางการข้นึ -ลง ของดวงดำวทั้งหลำยจะขนำนกัน ในประเทศไทยดำว ทข่ี ึ้นตรงจดุ ทศิ ตะวนั ออกพอดจี ะมี เสน้ ทำงขน้ึ -ตกเอยี งไปทำงทิศใต้เลก็ นอ้ ย ทำใหจ้ ดุ ทข่ี ้นึ ไปสงู สดุ อยทู่ ำงทิศใตข้ องจุดเหนือศีรษะเป็นมมุ เทำ่ กับ ละตจิ ูด และคล้อยต่ำลงไป ตรงจดุ ทิศตะวนั ตกพอดี รวมเวลำตง้ั แตข่ ้นึ ถึงตกเท่ำกับ 12 ช่ัวโมงพอดี ดำวทขี่ นึ้ เฉยี งไปทำงใต้ของจุดทศิ ตะวนั ออกเปน็ มุมเทำ่ ใด จะไปตกทำงทศิ ตะวนั ตกเฉียงไปทำงทิศใต้เปน็ มุมเท่ำน้นั โดยจะมเี วลำอยเู่ หนือขอบฟำ้ ยำวมำกกว่ำ 12 ชั่วโมง โดยเสน้ ทำงขน้ึ -ตก ขนำนกบั เส้นท่ีข้ึนตรงจดุ ทิศ ตะวันออก 97

06 การขึ้นตกของดวงดาว ดาวในทอ้ งฟา้ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื ดาวเคราะห์ และ ดาวฤกษ์ ภาพกล่มุ ดาวบนท้องฟ้า 98

06 การข้นึ ตกของดวงดาว ดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะ มี 8 ดวง แตล่ ะดวงโคจรรอบดวงอำทติ ยไ์ ด้แก่ ดำวพธุ ดำวศกุ ร์ โลก ดำวองั คำร ดำวพฤหัสบดี ดำวเสำร์ ดำวยูเรนัส ดำวเนปจนู 99

06 การข้ึนตกของดวงดาว ดำวเครำะหท์ เ่ี รำสำมำรถมองเห็นได้ด้วยตำเปลำ่ ได้แก่ ดำวพธุ ดำวศุกร์ ดำวอังคำร ดำวพฤหัสบดี และดำวเสำร์ ดำวพุธ ดำวองั คำร ดำวศกุ ร์ ดำวพฤหสั บดี ดำวเสำร์ สว่ นดำวดวงอ่ืนอยู่ไกลจำกโลกมำกจนไมส่ ำมำรถมองเห็นไดด้ ว้ ยตำเปล่ำ 100


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook