Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ท่องนรกอเวจีใหม่ ฉบับแก้ไข ๑(จีน)

ท่องนรกอเวจีใหม่ ฉบับแก้ไข ๑(จีน)

Published by akkarasubun, 2021-05-13 02:21:21

Description: ท่องนรกอเวจีใหม่ ฉบับแก้ไข ๑

Search

Read the Text Version

หนังสือธรรมะแจกฟรี ไม่สงวนลิขสิทธ์ิ ~0~

消除淫亂業障咒 คาถาสลายกรรมประพฤตผิ ิดในกามซงึ่ เป็นอปุ สรรคขดั ขวางกศุ ลจิต 爹欣謝巴 悉吉艾巴 南巴 嫩巴拉 洽擦洛 เตยี ซนิ เซี่ย ปา ซี จ๋ี ไอ้ ปา หนนั ปา เนิ่น ปา ลา เชี่ย ชา ลว่ั 常念 南無月光佛 หมน่ั ท่อง นา โม เอวีย้ กวง ฝอ บ่อยๆ ~1~

สารบญั 7 9 ประกาศเทวราชโองการ 10 คานา หนนั ฮวา๋ เซง่ิ ตี ้ 11 คานา พระอมิตาภะพทุ ธเจ้า 12 คานา หนนั ไหก่ วนซอ่ื อนิ ผซู า่ คานา พระพทุ ธะเดนิ ดินจีก้ ง 13 ตอนท่ี 1 17 ข้ามทะเลกรรมเข้าพบพระโพธิสตั ว์ 21 ตอนท่ี 2 ไปสระทพิ ย์ชาระจติ คยุ เร่ืองทะเลกรรม 29 ตอนที่ 3 36 อธิบายเรื่องทางสามแพร่ง เย่ียมเยียนวญิ ญาณทารก ตอนท่ี 4 อธิบายเรื่องโรคกรรม ทอ่ งเท่ียวดงหมาดุ ตอนท่ี 5 วเิ คราะห์เร่ืองเกิดตาย ทศั นาโรงฟังพระสตู ร ~2~

ตอนท่ี 6 43 คยุ เร่ืองวญิ ญาณออกจากร่าง เที่ยวสะพานไนเ่ หอเฉียว ตอนที่ 7 54 ตวั อยา่ งคาพิพากษาคดีประพฤตผิ ดิ ในกามและคดยี าเสพตดิ ตอนท่ี 8 62 พระสงฆ์และนกั พรตที่ขดู รีดทรัพย์ บาปมหนั ต์ ตอนที่ 9 68 ขนุ นางข้าราชการท่ีไมซ่ ือ่ สตั ย์สจุ ริตต้องทกุ ข์ทรมานนานเป็นกปั ตอนที่ 10 76 วางแผนฆาตกรรมฮบุ สมบตั ิ จมปรักอเวจี ตอนท่ี 11 84 เป็นโจรครัง้ แล้วครัง้ เลา่ ทกุ ข์ทรมานแสนสาหสั ตอนท่ี 12 92 ขม่ ขืนผ้หู ญิง ทกุ ข์หม่ืนกปั ตอนท่ี 13 99 ขม่ ขืนลกู สะใภ้ งไู ชร่าง ตอนที่ 14 ร่วมเพศกบั คนในสายเลือดเดยี วกนั กรรมสนองถกู ลงทณั ฑ์ในอเวจี 107 ~3~

ตอนท่ี 15 113 ร่วมเพศกบั อาสะใภ้ ถลาลงสคู่ วามทกุ ข์ 121 129 ตอนที่ 16 137 ใช้ศาสนาลอ่ ลว่ งกาม เหตใุ ห้ตกอเวจี 143 149 ตอนที่ 17 157 ลอ่ ลวงกามเด็กสาว ชวั่ ร้ายท่ีสดุ 165 171 ตอนท่ี 18 บงั คบั ให้คนเป็นโสเภณี ลงโทษด้วยเสาร้อน ตอนท่ี 19 มโนกรรมไมบ่ ริสทุ ธิ์ เกิดความวบิ ตั ิ ตอนที่ 20 จริยธรรมและมโนธรรม สองคานีม้ ีกนั หรือไม่ ตอนที่ 21 ขม่ ขืนในศาลเจ้า ถกู ลงทณั ฑ์ไมไ่ ด้พกั ตอนท่ี 22 เป็นขนุ นางที่เห็นแกต่ วั ตกอเวจี ตอนท่ี 23 ทาลายชาตสิ ร้างความเดือดร้อนให้แกป่ ระชาชน เป็นบาปหนกั ~4~

ตอนท่ี 24 177 ไปดสู ภาพของคนที่ไมม่ ีความจงรักภกั ดใี นนรกอเวจี 183 190 ตอนที่ 25 198 มวั่ สรุ านารีทาให้ประเทศชาตเิ สียหาย เหตแุ ห่งอเวจี 208 217 ตอนที่ 26 224 นรกอเวจี ที่คมุ ขงั จกั รพรรดิ 231 236 ตอนท่ี 27 นากรรมติดตวั ออกจากอบาย มีหนทาง ตอนท่ี 28 สวดท่องพทุ ธนามของพระศรีอาริยเมตไตรย สามารถได้ไปเกิด ตอนท่ี 29 อยทู่ า่ มกลางระหวา่ งลอยกบั จม ขนึ ้ ไปเจอค้อน ลงมาเจอไฟ ตอนที่ 30 นกั โทษที่ไร้ความกตญั ญจู ะสงสารไปทาไม ตอนท่ี 31 นรกอเวจีลงโทษคนที่ไมก่ ตญั ญู ตอนที่ 32 พระศรีอาริยเมตไตรยคล้อยตามเหตปุ ัจจยั ฉดุ ชว่ ย “ซงั โจ้ว” ~5~

ตอนท่ี 33 244 เหลา่ พทุ ธะชว่ ยหนนุ สง่ พระศรีอาริยเมตไตรยเก็บงานสมบรู ณ์ 252 ตอนที่ 34 เลื่อมใสศรัทธาสวดทอ่ งพทุ ธนาม พ้นจากคกุ นรก 259 ตอนที่ 35 266 “ฝ่าหลวั เทียนจนุ ” เรียกเข้าพบและให้กาลงั ใจ 273 275 ตอนที่ 36 278 ข้อแนะนาสาหรับการใช้หนงั สือมาขจดั กรรม บทสง่ ท้าย เฉาเทียนกงเทียนซง่ั เซง่ิ หมู่ บทสง่ ท้าย เป่ ยเทียนอวีห้ มอต้าซอื่ เจ่ียง ภาคผนวก ~6~

วนั ท่ี 4 เดือน 9 ปีอ้อู ๋นิ ค.ศ.1998 ( ตรงกบั ปีจงฮวา๋ หมินกวั๋ ที่ 87 เดือนตลุ าคม วนั ที่ 23 ) องค์ประธานสานกั ธรรมก่งเหิงถงั ประทบั ทพิ ย์ญาณ คืนนีน้ ้อมรับเทวราชโองการเง็กเซียนฮอ่ งเต้ประพนั ธ์หนงั สือ ให้เทพ ประจาสานกั ธรรมออกไปรับเทวราชโองการ 10 ลีเ้บือ้ งหน้า ให้เทพหลกั เมืองออกไปรับเทวราชโองการ 5 ลีเ้ บือ้ งหน้า เทพและคนที่เหลือเรียง ตามลาดบั ขนั้ รอรับพระบาท ไทไ่ ป๋ เซียนเวงิ เป็นตวั แทนพระองค์ ลงประทบั ทิพย์ญาณ อนั นรกปราศจากคล่ืน เรียกวา่ อเวจี วิญญาณบาปผีมี กอ่ กรรมไว้ ถอนใจ ให้โศกศลั ย์ เด๋ียวก็ร้อน เดี๋ยวก็หนาว เขานา้ แขง็ ไฟโลกนั ตร์ ไมม่ ีหวงั ไมม่ ีวนั ยากฝัน จะออกมา วนั นีเ้ ราได้อัญเชิญเทวราชโองการของเง็กเซียนฮ่องเต้มาประกาศ เทพ-คนหมอบกราบ รับเทวราชโองการ เง็กเซียนฮอ่ งเต้มีรับสง่ั วา่ “เราอย่บู นสวรรค์ ตลอดเวลาเราคิดถึงแต่ อาณาประชาราษฎร์ เมื่อตรวจสอบดพู บว่าสานกั ก่งเหิง เมืองเฟิ งเอวี๋ยน ~7~

เกาะไต้หวนั แดนชมพูทวีป ได้จดั ตัง้ อาณาจกั รธรรมประทับทรงสอนสง่ั ประพันธ์หนังสือโน้มนาใจคนปลุกเตือนชาวโลกอย่างแพร่หลาย สร้ าง ความดีความชอบไว้มากมาย พู่กันทรงมือเอกในสานักก็มีปณิธานยอม ถวายตวั ประกาศธรรมแทนฟ้า เทพและคนมีปณิธานเดียวกนั เราดีใจย่ิง นกั จึงประกาศเทวราชโองการให้ปีอ้อู ิ๋นตงั้ แต่เดือน 9 เป็นต้นไป เชิญ พทุ ธะจีก้ งเป็นผ้นู าพาชิวเซงิ ไปท่องเที่ยวนรกอเวจี นาความทกุ ข์ยากของ เหลา่ วิญญาณบาปในนรกอเวจีที่ต้องรับโทษตลอดเวลาอยา่ งไม่มีหยดุ พกั ประพนั ธ์ออกมาเป็นหนงั สือธรรมมะ ใช้หนงั สือนีเ้ตือนเวไนย์ให้เกิดความ ระมดั ระวงั แต่ทว่าในอดีตที่ผ่านมา เคยมีการประพนั ธ์หนงั สือ“ท่องนรก อเวจี”ออกมาเผยแพร่แล้ว เพ่ือให้เห็นถึงความแตกตา่ งของหนงั สือใหม่จึง ประกาศให้ใช้ชื่อหนงั สือว่า“ท่องนรกอเวจีใหม่” ทกุ วนั ศกุ ร์ให้มีการประทบั ทรงประพนั ธ์หนงั สือเพ่ือให้หนงั สือเสร็จภายในหนึ่งปี หวังว่าเทพและคน จะปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั วนั ท่ีหนงั สือเสร็จเป็นเลม่ จะประทานบญุ กศุ ลตามคณุ งามความชอบ” ทงั้ นีข้ อให้เป็นตามบญั ชาอยา่ ได้ผดิ พลาด เทพ-คน หมอบกราบสานกึ คณุ ปีอ้อู ิ๋นเดือน 9 วนั ที่ 4 ( ค.ศ. 1998 ) ~8~

หนนั ฮวา๋ เซงิ่ ตี ้ ประทบั ทพิ ย์ญาณประทานคานา คานา มองดูกระแสของโลกโลกีย์ ใจคนเส่ือมทรามเห็นแก่ผลประโยชน์ ของตวั เอง หลงลืมศีลธรรมจริยธรรม ผ้ใู หญ่ไม่เป็นผ้ใู หญ่ เด็กไม่เป็นเด็ก ลาดบั วัยวฒุ ิของผู้อาวุโสกบั ผู้น้อยสูญสิน้ ไป แยกไม่ออกว่าใครเป็นพ่อ ใครเป็นลกู จงึ ทาให้แตล่ ะคนตา่ งทาตามความปรารถนาของตวั เองโดยไม่ คานงึ ถึงหลกั ทานองคลองธรรม ทาให้เกิดการต่อส้เู ข่นฆ่ากนั ระหว่างพ่อ กับลูกเกิดเป็นโศกนาฏกรรมในสังคมอยู่ไม่ขาด บ้างก็ใส่ร้ ายป้ายสีกัน ต่างๆนานาในบรรดาญาติพี่น้องและมิตรสหาย ทาลายซงึ่ เกียรติศกั ดิ์ศรี คณุ ธรรม เข่นฆ่ากันถึงตาย ดงั นนั้ อาณาจกั รธรรมนีจ้ ึงได้รับเทวราชโอง การให้ประพนั ธ์หนงั สือ“ทอ่ งนรกอเวจีใหม่” เพ่ือจะได้แปรเปลี่ยนจิตใจของ ปวงประชา หนันฮว๋าเซ่ิงตี ้ ประทานคานา ณ สานักธรรมก่งเหิงถัง เมืองเฟิ งเอวี๋ยน เกาะไต้หวนั ปีอ้อู ิน๋ เดือน 9 วนั ท่ี 4 ( ค.ศ. 1998 ) ~9~

พระอมิตาภะพทุ ธเจ้าแหง่ แดนสขุ าวดีพทุ ธเกษตร เสดจ็ ประทบั ทิพย์ญาณ คานา สาธุ ! พุทธบุตรทงั้ หลาย ช่วงนีส้ บายดีหรือไม่ ! ทอดถอนใจกับ กระแสนิยมของคนในสงั คม ใจคนไม่ดีงามเหมือนเก่า มีบางคนเพียงเพ่ือ ผลประโยชน์ของตวั เอง ทาให้ประชาชนต่างได้รับความลาบากยากแค้น ถึงแม้จะมีปากแต่ก็แก้ต่างให้ตวั เองไม่ได้ ถึงแม้จะได้รับความอยุติธรรม แต่ก็ยื่นร้องขอความเป็นธรรมไม่ได้ ดังนนั้ เมื่อความอาฆาตแค้นเหล่านี ้ รวมตัวกันกลายเป็นพลังมาขัดขวาง ถึงตอนนัน้ ต่อให้เป็น“ต้าหลัวจิน เซยี น”ก็ยากท่ีจะหนีพ้นจากความอาฆาตแค้นพวั พนั นีไ้ ด้ บดั นีพ้ ทุ ธะจีก้ ง รับเทวราชโองการนาพาชิวเซิงแห่งสานักธรรมก่งเหิงถังไปเท่ียวชมนรก อเวจี หวงั ว่าจะอาศยั โอกาสในการไปเท่ียวชมนรกอเวจีนี ้เปิดเผยความ ทกุ ขเวทนาของแดนทคุ ติภูมิ และเปิดความสว่างทางปัญญากล่อมเกลา จติ ใจผ้คู นให้เป็นคนดี ให้คนเสเพล อกตญั ญู สามารถกลบั ตวั ได้ พระอมติ าภะพทุ ธะประทานคานา ณ สานกั ธรรมกง่ เหงิ ถงั เมืองเฟิงเอวย๋ี น เกาะไต้หวนั ปีอ้อู ๋ินเดือน 9 วนั ที่ 4 ( ค.ศ. 1998 ) ~ 10 ~

หนนั ไหก่ วนซอ่ื อินผซู า่ เสด็จประทบั ทิพย์ญาณ คานา ในช่วงยคุ ท้ายปลายธรรมเป็นชว่ งท่ีศีลธรรมจรรยาตกต่าเส่ือมทราม คณุ สมบตั ิของความเป็นคนตกต่าลง ความจริงแล้วไม่มีคา่ ควรแก่การเกิด เป็นคนบนโลกด้วยซา้ ขณะนีก้ ระแสนยิ มของคนในสงั คมทกุ ๆท่ีล้วนเตม็ ไป ด้วยการใช้กาลงั อานาจป่ าเถื่อน กบั ดกั หลมุ พราง ข่มขืนกระทาชาเรา เข่นฆ่าชีวิต เร่ืองต่างๆเหล่านี ้ ทาให้จิตใจคนเกิดความประหวน่ั พร่ันพรึง กลางวนั ยากท่ีจะใช้ชีวิตให้ผา่ นพ้นไปได้อยา่ งปกติสขุ กลางคืนก็ยากท่ีจะ หลบั ตานอน กลวั แตว่ า่ เมื่อเภทภยั หายนะมาถึงตวั ถึงเวลานนั้ จะปอ้ งกนั ก็ไม่สามารถป้องกนั ได้ ฟา้ เบือ้ งบนคานงึ ถึงปัญหานี ้ จงึ มีเทวราชโองการ ให้สานกั ธรรมก่งเหิงถงั ประพนั ธ์หนงั สือ“ทอ่ งนรกอเวจีใหม่”ทกุ สปั ดาห์เพ่ือ เตือนชาวโลก หวงั ว่าการประพนั ธ์หนงั สือเลม่ นี ้ เทพและคนจะปฏิบตั ิตาม คาสงั่ ใช้หนังสือนีโ้ น้มนาจิตใจของคนท่ียงั มีชีวิตอยู่บนโลก คา้ จุนโลก ไมใ่ ห้ตกอยใู่ นสภาพที่ตกต่าเสื่อมทราม หนนั ไหก่ วนซ่อื อินผซู า่ ประทานคานา ณ สานกั กง่ เหิงถงั เมืองเฟิงเอวยี๋ น เกาะไต้หวนั ปีอ้อู นิ๋ เดอื น 9 วนั ที่ 4 ( ค.ศ. 1998 ) ~ 11 ~

พทุ ธะเดนิ ดินจีก้ ง ประทบั ทพิ ย์ญาณ คานา หลังจากนีท้ ุกๆสัปดาห์ เราจะนาพาชิวเซิงไปท่องเที่ยวนรกอเวจี นรกขมุ นีช้ ่างน่าสงั เวช การทรมานนกั โทษในนรกขมุ ต่างๆยงั ห่างไกลนกั ไม่อาจเทียบชัน้ กับนรกอเวจีได้ เราจะพาไปเย่ียมชมยังสถานที่จริง บรรยายสภาพเหตกุ ารณ์จริงตามความเป็นจริง ไม่มีเนือ้ หาท่ีไร้สาระ เป็น สาเนาท่ีถอดแบบออกมาเหมือนกบั ต้นฉบบั ถ่ายทอดส่โู ลกมนษุ ย์อยา่ งไม่ มีข้อบกพร่อง เพ่ือปลกุ คนหลงให้รู้ต่ืน ระวงั บาป บาเพ็ญบุญ จึงไม่ผิด ตอ่ พระโองการฟา้ ที่ประทานความเมตตา พทุ ธะจีก้ ง ประทานคานา ณ สานกั กง่ เหงิ ถงั เมืองเฟิงเอวี๋ยน เกาะไต้หวนั ปีอ้อู ๋นิ เดือน 9 วนั ที่ 4 ( ค.ศ. 1998 ) ~ 12 ~

ตอนท่ี 1 ข้ามทะเลกรรมเข้าพบพระโพธิสตั ว์ พทุ ธะจีก้ ง ประทบั ทิพย์ญาณ นรกไซร้ ไร้ซงึ่ ประตู เข้าออกแล ปณิธานแน่วแน่ มหากรุณา โลกเล่ือมใส ท่ีเก่าเคยเยือนไซร้ ความในใจ ก็ไมใ่ หม่ ไมศ่ รัทธา หาเช่ือไม่ ในใจไร้ ซงึ่ กศุ ล พทุ ธะจีก้ ง : เอาล่ะ! ประทานยนั ต์เผาให้ดื่ม วิญญาณจงออกจาก ร่าง ชวิ เซงิ : ทา่ นคือพระอาจารย์จีก้ งใชห่ รือไม?่ พทุ ธะจีก้ ง : ถกู ต้องเราคือสงฆ์เฒา่ จีก้ ง ชิวเซิง : พระอาจารย์ครับ ท่านสวมจีวรขาดๆ ถือพัดขาดๆ ใส่ รองเท้าฟาง ชา่ งมีความสขุ จริงๆ พุทธะจีก้ ง : แน่นอน กายสังขารไม่ถูกผูกมัด มีอิสระเสรี จึงมี ความสขุ เชน่ นี ้ ศิษย์อยากจะลองมีความสขุ แบบนีบ้ ้างไหมละ่ ? ชิวเซิง : ไม่ครับ! แต่งตวั แบบนีอ้ ย่ใู นสภาพความเป็นจริงของสงั คม มนั เป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก พทุ ธะจีก้ ง : ที่พดู มามนั ก็ถกู นะ ~ 13 ~

ชิวเซงิ : (โดยท่ีไมท่ นั รู้ตวั ก็มาถงึ สถานที่ท่ีไมร่ ู้จกั ) พระอาจารย์ครับ ! ทา่ นลองมองดทู ะเลท่ีอยเู่ บือ้ งหน้านน่ั สิครับ ที่นี่คือท่ีไหนกนั ครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ท่ีนี่คือทะเลกรรม ชิวเซิง : แต่ในทะเลกรรมแห่งนีม้ ีผู้คนมากมายกาลังโศกเศร้ าคร่า ครวญ เด๋ียวก็จมเดี๋ยวก็ลอย ผลบุ ๆโผลๆ่ อยใู่ นนนั้ น่ีเป็นเพราะเหตใุ ดกนั ครับ? พุทธะจีก้ ง : น่ันเพราะผู้ที่ตกสู่ทะเลกรรมจะเจ็บปวดทรมาน เหมือนกบั ถกู เข็มแหลมทมิ่ แทง ดงั นนั้ จงึ โศกเศร้าคร่าครวญแบบนนั้ ชวิ เซงิ : ท่ีแท้ก็เป็นเช่นนีเ้อง พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เรา! สถานที่แสดงธรรมของพระกษิติครรภ์โพธิสตั ว์ อยขู่ ้างหน้านีแ้ ล้ว พวกเรารีบไปกนั เถอะ พทุ ธะจีก้ ง : เบือ้ งหน้ามีเจ้าหน้าที่มาคอยต้อนรับอย่สู องท่าน ศิษย์ เราเจ้าลองเข้าไปสอบถามดซู ิ ชิวเซิง : ศิษย์รับทราบแล้วครับ ไม่ทราบวา่ ท่านทงั้ สองคือเจ้าหน้าท่ี ท่ีจะพาพวกเราไปพบพระกษิตคิ รรภ์โพธิสตั ว์ใชห่ รือเปลา่ ครับ? เจ้าหน้าที่ : ถกู ต้องแล้ว! พวกเราได้รับบญั ชามาจากพระโพธิสตั ว์ พทุ ธะจีก้ ง : งนั้ ก็ดีละ! รบกวนทา่ นทงั้ สองนาทางด้วย ~ 14 ~

ชิวเซิง : (เข้ามาภายในตาหนกั ) พระอาจารย์ครับ! ผ้ทู ี่อย่เู บือ้ งหน้า เรา ในมือถือคทาบรรพชิต บนเศียรสวมมาลาห้าทิศ ใช่พระกษิติครรภ์ โพธิสตั ว์ไหมครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ใชแ่ ล้ว พระโพธิสตั ว์ : ผ้ทู ี่สหายธรรมจีก้ งพามา คือชิวเซงิ พ่กู นั ทรงมือเอก ท่ี ได้รับเทวราชโองการให้ประพนั ธ์หนงั สือ“ทอ่ งนรกอเวจีใหม่”ใชห่ รือไม?่ พทุ ธะจีก้ ง : ใชแ่ ล้ว ศษิ ย์เรา! เจ้ารีบเข้าไปคารวะพระโพธิสตั ว์เร็ว ชวิ เซงิ : ผ้นู ้อยคารวะพระโพธิสตั ว์ พระโพธิสตั ว์ : ชิวเซงิ เชิญลกุ ขนึ ้ เถอะ น่ีเป็นครัง้ แรกท่ีหนงั สือโต้ตอบ ทางการทตู ละเลยเรื่องการต้อนรับ หวงั วา่ อยา่ ได้ถือโทษตาหนิ ชวิ เซงิ : ผ้นู ้อยมิกล้าครับ! พระโพธิสตั ว์ : อาจารย์กบั ศิษย์ ทงั้ สองท่าน ทาไมไม่เข้ามานงั่ ซกั ประเด๋ียวละ่ เพง่ิ จะชงชาเสร็จพอดี อาจารย์-ศษิ ย์เชิญด่ืมชา พทุ ธะจีก้ ง : ขอบคณุ สหายธรรม ชิวเซิง : ชานีเ้ ทียบกับชาท่ีอยู่บนโลกมนุษย์แล้วเป็นชาท่ีหอมกรุ่น มาก พระโพธิสตั ว์ครับ! เมื่อด่ืมชานีห้ มด กลับไปบนโลกมนุษย์แล้วจะ นอนไมห่ ลบั ไหมครับเน่ีย? พระโพธิสตั ว์ : เมธีโปรดวางใจ ไมเ่ ป็นเช่นนนั้ หรอก ~ 15 ~

ชวิ เซงิ : งนั้ ผ้นู ้อยก็ไมป่ ฏเิ สธที่จะดื่ม สงสยั วา่ ถ้วยนีจ้ ะเลก็ เกินไป พระโพธิสตั ว์ : จริงหรือเปลา่ ? ถ้าอยา่ งนนั้ เดี๋ยววนั หลงั จะเปลีย่ นเป็น ถ้วยใหญ่ให้ วันนีเ้ มธีเพ่ิงจะเร่ิมต้นมาเยี่ยมชมเป็นครัง้ แรก ต้องการให้ ชว่ ยเหลืออะไรบ้างหรือไม?่ ชิวเซิง : พระโพธิสตั ว์ครับ! ครัง้ นีผ้ ้นู ้อยติดตามพระอาจารย์จีก้ งมา เท่ียวชมนรกอเวจี ได้ยินเขาเล่าลือกนั ว่านรกอเวจีมืดมิดและอนั ตรายมาก เป็นไปได้หรือไมท่ ี่จะขอยืมศสั ตราเวทของทา่ นไว้ใช้ปอ้ งกนั ตวั สกั ชนิ ้ ? พระโพธิสตั ว์ : ศสั ตราเวทของที่น่ี ที่เราสามารถให้ยืมได้มีเพียง“มีด ทองคาพนั ปี”เพียงเลม่ เดียวเทา่ นนั้ ชิวเซิง : มีไว้ก็ดีกวา่ ไมม่ ีอะไรเลย (ย่ืนมือออกไปรับมีด) ผ้นู ้อยกราบ ขอบคณุ พระโพธิสตั ว์เมตตา พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เรา! เจ้าจะเอามีดไปทาอะไร? ชิวเซิง : นรกอเวจีอนั ตรายและน่ากลวั เตรียมการเอาไว้ป้องกันตวั สกั หน่อยจะดีกวา่ พทุ ธะจีก้ ง : ลกู ศิษย์! ถึงสานกั ก่งเหิงถงั แล้ว วิญญาณเจ้าจงกลบั เข้าร่าง ชิวเซงิ : ศิษย์น้อมสง่ พระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : เอาละ่ ! อาจารย์กลบั ละ ~ 16 ~

ตอนท่ี 2 ไปสระทิพย์ชาระจิต คยุ เร่ืองทะเลกรรม พทุ ธะจีก้ ง ประทบั ทิพย์ญาณ นา้ เยน็ สระทิพย์ชาระจิต อยา่ ได้ลงั เลใจ ทะเลสาบนา้ ใส กระจา่ งในความแยบยล แช่กายหายโสโครก ล้างความคดิ อกศุ ล ราคีไมเ่ ปือ้ นปน นฤมลดงั่ มงั กร พทุ ธะจีก้ ง : เราจะนาพาวิญญาณของชิวเซิงไปท่องเท่ียว เอาละ่ ! ศิษย์เรา เจ้าจงสงบจิตลง ประทานยนั ต์เผาให้ดื่ม วิญญาณเจ้าจงออก จากร่าง ชิวเซงิ : ศิษย์คารวะพระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : ศษิ ย์เราไมต่ ้องมากพิธี ชวิ เซงิ : พระอาจารย์ครับ! คืนนีจ้ ะพาศิษย์ไปท่ีไหนครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ไป“สระชาระจิต” เจ้านง่ั บนบลั ลงั ก์บวั ให้ดีๆ ชิวเซงิ : พระอาจารย์ครับ! เบือ้ งหน้าไมไ่ กลนกั มีบงึ ใหญ่อยแู่ หง่ หนง่ึ ในบึงมีชายหญิงหลายคนกาลังเล่นนา้ อยู่ ไม่ทราบว่าพวกเขาเป็นคน ประเภทไหนครับ? ~ 17 ~

พุทธะจีก้ ง : พวกเขาก็คือผู้ท่ีเพ่ิงจะสาเร็จเป็นเซียนใหม่ท่ีมาชาระ ล้างมลทนิ ในสระชาระจิตแหง่ นี ้ ถงึ สระชาระจิตแล้ว ศิษย์เรา! เจ้ารีบลง ไปในสระทิพย์เถอะ ชิวเซิง : (เดินตรงเข้าไปในสระทิพย์ แต่ไม่ทันไรก็หันหลังกลบั มา) พระอาจารย์ครับ! นา้ ลกึ อยา่ งนีจ้ ะทาให้คนจมนา้ ได้นะครับ พทุ ธะจีก้ ง : ไมต่ ้องกลวั ไปชาระล้างมลทนิ ออกให้สะอาดเถอะ! ชิวเซิง : (เดินเข้าไปในสระทิพย์ ผา่ นไปช่วงระยะเวลาหน่ึงก็กลบั ขนึ ้ ฝั่ง) นา้ ในสระเยน็ ชื่นใจ รู้สกึ เบาหววิ ไปทงั้ ตวั ความกลดั กล้มุ ต่างๆที่มีอยู่ ทงั้ หมดก็คอ่ ยๆมลายหายไป พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เรา! หลงั จากนีไ้ ปเจ้าจะต้องยิ่งมีจิตใจท่ีเด็ดเด่ียว แนว่ แนเ่ พื่อให้มหาธรรมปกโปรดกลอ่ มเกลาเวไนย์ไปทว่ั หล้า ชวิ เซงิ : พระอาจารย์ครับ! ทาไมเหน็ แต่คนท่ีเล่นนา้ ในสระ แตก่ ลบั ไมเ่ หน็ มีเจ้าหน้าท่ีท่ีคอยเฝา้ สระละ่ ครับ? พทุ ธะจีก้ ง : เขาอาจจะกาลงั งานยงุ่ อยกู่ ็ได้ ชิวเซิง : พระอาจารย์ครับ! ขอยืมนา้ เต้าที่อยใู่ นมือของท่านให้ศิษย์ ดหู นอ่ ยได้ไหมครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ไมม่ ีปัญหา ชวิ เซงิ : ในนา้ เต้านี่ใสอ่ ะไรไว้บ้างครับ? ~ 18 ~

พทุ ธะจีก้ ง : ในนนั้ มียาทพิ ย์ ชวิ เซงิ : ท่ีแท้ก็เป็นยาทพิ ย์ แล้วมียาแก้เจบ็ คอไหมครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ยอ่ มต้องมีแน่ หยิบออกมาสิ ชิวเซิง : ยาเม็ดเล็กๆนี่จะพอใช้หรือครับ? ให้ศิษย์เอาเก็บไว้ใช้บ้าง ได้ไหม? พทุ ธะจีก้ ง : ได้ เอาเก็บไว้สิ ชิวเซิง : (รับยามาถุงหน่ึง แต่ดูๆแล้วทั่วทัง้ ตัวก็ไม่มีท่ีไหนท่ีจะ สามารถใช้เก็บยาได้) พระอาจารย์ครับ ! ศิษย์ขอพูดตรงๆแบบไม่อ้อม ค้อม พระอาจารย์ช่วยสอนวิธีเก็บ เปลี่ยนสภาพ เคลื่อนย้าย หรือขยาย ใหญ่ให้ศิษย์ซกั วธิ ีหนงึ่ สิครับ จะได้พกตดิ ตวั ได้สะดวก พทุ ธะจีก้ ง : ได้ รวบรวมสมาธิแล้วตงั้ ใจฟังนะ ชวิ เซงิ : งนั้ ศิษย์ขอลองดหู น่อยซิวา่ ผลลพั ธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร? สะดวกดีแท้ สามารถยอ่ เกบ็ ได้เหมือนเมลด็ งาเล็กๆ แล้วยงั สามารถทาให้ ขยายใหญ่ขนึ ้ ได้หลายเท่า ขอบคณุ พระอาจารย์มากครับท่ีถ่ายทอดวิชา อาคม พทุ ธะจีก้ ง : จาได้แล้วหรือยงั ? ชิวเซิง : ศิษย์จาได้แล้วครับ จริงสิ เม่ือคราวก่อนพวกเราผ่านทะเล กรรม ไมท่ ราบวา่ เพราะเหตใุ ดจงึ มีคนอยใู่ นทะเลกรรมครับ? ~ 19 ~

พทุ ธะจีก้ ง : ทกุ ๆคนท่ีเพ่งิ จะตายภายใน 49 วนั ถ้าหากญาติพ่ีน้อง ท่ีอยู่บนโลกมนุษย์ไม่ได้สร้ างบุญกุศลอุทิศให้กับผู้ตาย ผู้ตายก็จะไม่ สามารถอาศัยพลังบุญของญาติๆรวมทงั้ พลงั บุญของตัวเองให้หลุดพ้น ออกจากอบายภูมิได้ หลงั จาก 49 วนั ผ่านพ้นไป ผู้ตายก็จะตกส่ทู ะเล กรรมออกมาไม่ได้ ในทะเลกรรมมีสตั ว์ร้ายอยู่รายรอบ จ้องท่ีจะเขมือบ วิญญาณบาปเหล่านนั้ อยู่ตลอดเวลา บนฝั่งก็มีพวกยักษ์ถือหอกง่ามขู่ บงั คบั วิญญาณบาปท่ีต้องการขึน้ ฝ่ังเหล่านนั้ ให้เข้าไปหาสตั ว์ร้าย คนชวั่ ทกุ คนจะต้องเข้าส่ทู ะเลกรรมแห่งนีก้ ่อน เอาล่ะ! คืนนีด้ กึ แล้ว พวกเรา กลบั กนั เถอะ! ถงึ สานกั กง่ เหิงถงั แล้ว ชิวเซงิ : ศิษย์น้อมสง่ พระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : วญิ ญาณจงกลบั เข้าร่าง เอาละ่ ! อาจารย์กลบั ละ ~ 20 ~

ตอนที่ 3 อธิบายเร่ืองทางสามแพร่ง เยี่ยมเยียนวญิ ญาณทารก พทุ ธะจีก้ ง ประทบั ทพิ ย์ญาณ มืดสลวั ทางสามแพร่ง เด็กกาพร้าจะไปไหน ปากทางนนั้ ไปหนใด เดนิ เปลา่ เปล่ียวชา่ งมืดมน ทารกน้อยแสนอาลยั ทอดถอนใจริมฝ่ังชล เตือนชายหญิงทว่ั ทกุ คน รักถนอมลกู ในครรภ์ พทุ ธะจีก้ ง : ปากทางสามแพร่งก็คือสถานที่ที่วิญญาณต้องเดินผ่าน ทุกๆคนจะต้ องผ่านเส้ นทางนี ้ สาหรับผู้บาเพ็ญธรรมจะได้ พักอยู่ที่ ห้องรับแขก ณ ปากทางสามแพร่งเพื่อรอเรียกตวั สว่ นคนชว่ั ก็เดินตรงลงสู่ ยมโลกตามแรงกรรมของแตล่ ะคน ไมส่ ามารถตอ่ ต้านขดั ขืนหรือแก้ตา่ งให้ ตวั เองได้ ที่ทางสามแพร่งนีย้ งั มีริมฝั่งแม่นา้ ซ่ึงมกั จะพบเห็นวิญญาณ เด็กทารกโศกเศร้าอาลยั อยู่ที่นน่ั บ่อยๆ เป็นเพราะว่าพ่อแม่ไม่รัก จึงต้อง มาร้องไห้เสียใจอย่ทู ่ีริมแม่นา้ เอาล่ะ! ประทานยนั ต์ให้ศิษย์เราเผาดื่ม (พุทธะจีก้ งโบกพดั ใบลานเพียงครัง้ เดียว วิญญาณของชิวเซิงก็ออกจาก ร่างแล้ว) ชิวเซงิ : ศิษย์คารวะพระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เราไมต่ ้องมากพธิ ี รีบนง่ั บนบลั ลงั ก์บวั ให้ดีๆ ~ 21 ~

ชิวเซิง : ครับ! (ระหว่างทางเห็นแต่ความมืดมิดไม่มีแสงสว่างเลย แม้แต่น้อย จนกระทั่งผ่านไปช่วงหน่ึงจึงมีแสงสว่าง) พระอาจารย์ครับ! เบือ้ งหน้ามีลกั ษณะเป็นทางสามแพร่ง ท่ีนี่คือที่ไหนกนั ครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ที่น่ีก็คือปากทางสามแพร่งอนั โดง่ ดงั ของนรกภมู ิ ชวิ เซงิ : ทางสามแพร่งนีม้ ีความพเิ ศษอยา่ งไรครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ความพิเศษของทางสามแพร่งอยู่ท่ีแยกหนึ่งไปสวรรค์ แยกหนงึ่ ไปยมโลก สว่ นอีกแยกหนง่ึ กลบั สโู่ ลกมนษุ ย์ ชิวเซิง : คนแบบไหนจึงสามารถเดินบนเส้นทางที่จะไปสวรรค์ได้ ครับ? พุทธะจีก้ ง : คนที่สมัยตอนมีชีวิตอยู่ไม่ได้สร้ างบาปกรรม บางคน ถงึ แม้วา่ จะไมไ่ ด้สร้างบญุ กศุ ลแต่ก็ไมไ่ ด้ทากรรมชว่ั ไมไ่ ด้ทาลายชีวิตของ ตัวเองและครอบครัว ไม่ได้ทาลายชีวิตของผู้อื่น ก็สามารถเดินบน “เส้นทางขึน้ ส่สู วรรค์”ได้ สาหรับผู้ที่บาเพ็ญธรรม หากยงั อย่ใู นช่วงของ 49 วนั หลงั ความตายก็จะมีสิ่งศกั ดิ์สิทธิ์ท่ีมีบญุ สมั พนั ธ์มารับและพาไปที่ ทางสามแพร่งเพื่อรอการตรวจสอบยืนยนั บญุ กศุ ลที่ทาไว้เม่ือครัง้ สมยั ท่ียงั มีชีวิตอย่ตู ามความเป็นจริง หากไมไ่ ด้สร้างบาปกรรมชวั่ ใดๆหลงเหลือไว้ บนโลก หรืออาจจะนาบุญ-บาปมาหกั ลบกันแล้วเหลือบุญกุศลมากกว่า โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ มีกศุ ลมากกวา่ สามพนั บญุ แปดร้อยมรรคผลขนั้ พืน้ ฐาน ก็สามารถเดนิ บน“เส้นทางขนึ ้ สสู่ วรรค์” ได้ ~ 22 ~

ชิวเซงิ : แล้วเส้นทางกลบั สโู่ ลกมนษุ ย์คืออยา่ งไรหรือครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ถ้าหากวิญญาณของผ้ตู ายมาถึงทางออกแห่งนี ้พิสจู น์ แล้วว่าอายขุ ยั บนโลกมนษุ ย์ยงั ไม่หมดสิน้ ซงึ่ บางทีอาจจะเป็นเพราะเหตุ ไม่คาดฝันที่วิญญาณหลุดออกจากร่าง เจ้ าหน้ าท่ีในยมโลกหรือสิ่ง ศกั ดิ์สิทธ์ิพามาถึงที่น่ี บางทีก็อาจจะเป็นกรณีท่ีจะต้องสบั เปลี่ยนคนบน โลกมนษุ ย์ หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะจงั หวะโอกาสและเหตบุ งั เอิญใน ทุกๆด้านท่ีวิญญาณจะต้องใช้“เส้นทางกลับสู่โลกมนุษย์” แต่เง่ือนไขท่ี สาคญั ก็คือร่างกายท่ีอย่บู นโลกมนษุ ย์ต้องยงั ไม่เน่าเป่ือย มีบางครัง้ เกิด จากความผดิ พลาดของเจ้าหน้าที่ในยมโลกท่ีจบั วิญญาณมาผิดตวั ดงั นนั้ หากรู้ไวก็สามารถกลบั สโู่ ลกมนษุ ย์ได้ทนั แตถ่ ้าหากร่างกายเน่าเปื่อยหรือ ถกู ทาลายไปแล้ว เจ้าหน้าท่ีในยมโลกท่ีจบั วญิ ญาณมาผิดก็จะต้องรับการ ไตส่ วนตดั สนิ ความผิด ส่วนวิญญาณที่ถกู จบั มาผิดตวั ก็สามารถปลอ่ ยให้ เป็นอิสระชวั่ คราวบนโลกมนษุ ย์หรือเขตแดนสามญั ชนในเมืองนรกเพ่ือรอ คอยจงั หวะโอกาสให้วิญญาณยืมร่างใหม่ในการคืนชีพ ซง่ึ กรณีนีจ้ ะต้อง เป็นคนดี ชิวเซงิ : เหน็ วิญญาณเด็กทารกมากมายอย่ทู ่ีข้างทางสามแพร่ง บ้าง ก็มีใบหน้าที่เศร้าหมอง รู้สกึ โศกเศร้าและหวาดกลวั น่ีเป็นเพราะเหตใุ ดกนั ครับ? พทุ ธะจีก้ ง : พวกเขาทงั้ หมดควรจะได้ไปเกิดบนโลกมนษุ ย์ บางคน อาจจะไปเกิดเพ่ือตอบแทนคณุ บางคนอาจจะไปเกิดเพ่ือชาระแค้น ใน ~ 23 ~

บรรดาเด็กๆเหลา่ นีม้ ีหลายคนท่ีต่อไปในอนาคตจะได้เป็นข้าราชการ เป็น นายพล เป็นรัฐมนตรี แต่เป็นเพราะพ่อแม่ท่ีพวกเขาไปอาศยั ท้องเกิด ถ้า หากไม่ใช่ชายหญิงที่รู้สึกอับอายเพราะท้องก่อนแต่งจึงไปทาแท้งก็คือพ่อ แม่ผ้ปู กครองของทงั้ สองฝ่ ายไม่เห็นชอบที่จะให้แต่งงานกนั แต่ก็ยงั ดือ้ รัน้ ทาเร่ืองผิดประเวณี พ่อแม่จึงให้ไปทาแท้ง บางคนเป็นคนในครอบครัวที่ ร่ารวยสงู ศกั ด์ิ เมื่ออยนู่ อกบ้านก็ทาตวั เจ้าช้หู ลายใจ มว่ั กาม หลอกลวงให้ ผ้หู ญิงเสียตวั จากนนั้ ก็ทอดทงิ ้ บ้างก็ชอบเสพสขุ ระหว่างชายหญิงทาเร่ือง ช่วั ช้าเพื่อจะได้เสพกาม ทาให้เกิดการตงั้ ท้องนอกสมรส บ้างก็อายุยัง น้อยไม่อยากมีภาระเหน่ือยยาก บางคนเป็นเด็กสาววยั รุ่น บางคนเป็น หญิงท่ีแต่งงานแล้ว บางคนก็เป็นโสเภณี บ้างถูกกระทาชาเรา บ้างถูก ล่อลวงไปข่มขืน บ้างคบช้สู ่ชู ายแล้วไม่สมคั รใจท่ีจะมีท้อง จึงเกิดการทา แท้งรีดลกู ครัง้ แล้วครัง้ เล่า นอกจากนีย้ งั มีนโยบายของรัฐบาลที่บงั คบั ให้ ประชาชนมีลกู ได้เพียงคนเดียว เม่ือประชาชนในประเทศให้กาเนิดทารก เพศหญิงก็จะนาเอาลูกของตวั เองไปกดนา้ ฝังทงั้ เป็น ฆ่าให้ตาย บีบคอ อดุ จมกู เป็นต้น วิญญาณทารกเหลา่ นนั้ ต่างก็มารวมตวั กนั ท่ีริมฝ่ังแม่นา้ แห่งนี ้ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ก็มกั จะผ่านมาทางนีพ้ ร้ อมทงั้ สงเคราะห์ ชว่ ยเหลืออยเู่ สมอ ชิวเซิง : ขอเข้าไปสมั ภาษณ์หน่อยได้ไหมครับว่าอะไรคือเหตตุ ้นผล กรรมที่ทาให้พวกเขาเหลา่ นนั้ ต้องตายตงั้ แตอ่ ายยุ งั น้อย? ~ 24 ~

พทุ ธะจีก้ ง : ได้สิ! แต่ภาษาของเด็กทารกนนั้ เข้าใจยาก ต้องมีแม่ นมหรือพ่ีเลีย้ งมาช่วยแปล (พูดยังไม่ทันขาดคา เบือ้ งหน้าก็มีสตรีวัย กลางคนนางหนง่ึ เดนิ เข้ามา) พทุ ธะจีก้ ง : (เข้าฌานตรวจดวู า่ สตรีนางนีค้ ือใคร) ศิษย์เราเจ้ารีบเข้า ไปคารวะโพธิสตั ว์กวนอิมเร็ว ชวิ เซงิ : ผ้นู ้อยกราบคารวะพระโพธิสตั ว์กวนอิม พระโพธิสตั ว์ : ชิวเซงิ ไมต่ ้องมากพิธี ชิวเซิง : ท่านพระโพธิสตั ว์ครับ! เหตใุ ดท่านจึงมาที่ทางสามแพร่งนี ้ ละ่ ? พระโพธิสัตว์ : เราเพิ่งจะออกมาจากสถานที่แสดงธรรม พอดีว่า กาลังจะไปท่ีตาหนกั กษิติครรภ์ จึงประจวบเหมาะได้พบกับพวกท่านที่น่ี พอดี พทุ ธะจีก้ ง : สหายธรรมหนนั ไห่ ไมพ่ บกนั นาน ทา่ นสบายดีนะ! พระโพธิสตั ว์ : เราสบายดี พุทธะจีก้ ง : พอดีมีเรื่องๆหน่ึง เราไม่เชี่ยวชาญภาษาของทารก รบกวนสหายธรรมช่วยแปลให้ชวิ เซงิ ฟังซกั ประเดี๋ยว พระโพธิสตั ว์ : ได้สิ! ~ 25 ~

ชิวเซิง : ถ้าอย่างนนั้ สมั ภาษณ์ทารกคนนีก้ ่อนแล้วกนั ดูเหมือนเขา จะทกุ ข์ระทมเป็นอยา่ งมาก พระโพธิสตั ว์ : เด็กคนนีบ้ อกว่าเขาควรจะได้ไปเกิดเป็นลกู สาวของ ครอบครัวสกุลหยาง แต่เป็นเพราะการเงินของพ่อแม่อตั คดั ขดั สนจึงทา แท้ง เดิมทีเขาควรจะได้เกิด และเม่ืออายคุ รบ 15 ปีก็จะมีโอกาสได้พบ กบั สามีภรรยาค่หู นงึ่ รับไปเลีย้ งดเู ป็นบตุ รบญุ ธรรม และเป็นเพราะพอ่ แม่ บุญธรรมไร้ ทายาทเขาจึงได้เป็นผู้สืบทอดมรดก ตอนนีก้ ลับถูกทาแท้ง ดงั นนั้ จงึ โศกเศร้าทกุ ข์ระทม ชิวเซิง : ตามที่ในพระสูตรคมั ภีร์กล่าวไว้นนั้ ท่ีมนุษย์มีอายุสนั้ หรือ บางทีอาจจะยงั ไม่ทนั ได้คลอดออกมาจากครรภ์ก็ต้องมาตายอยา่ งไม่เป็น ธรรม นนั่ ก็เพราะว่าชาติก่อนหรืออาจจะในหลายๆชาติท่ีผ่านมาได้สร้าง เหตตุ ้นผลกรรมอะไรไว้จึงต้องมาตายตงั้ แต่อายยุ งั น้อย ช่วยเล่าเรื่องของ เธอให้ฟังหนอ่ ยได้หรือไม?่ พระโพธิสัตว์ถ่ายทอดคาพูดของทารก : เมื่อชาติท่ีแล้วฉันเป็น ข้าราชการ ในปีหมินกัว๋ ท่ี 1 เข้ารับราชการอยู่ที่มณฑลเจียงซี เพราะว่า ตลอดทงั้ ปีชอบกินไขป่ ลาและชอบสนกุ กบั การจบั ลกู นกเลน่ ฉนั ไม่รู้จกั รัก ทะนุถนอมชีวิตของลกู นก ในทางตรงกันข้ามมกั จะทาให้ลกู นกต้องตาย อยบู่ อ่ ยๆ ตลอดทงั้ ปีมีลกู นกต้องตายในกามือของฉนั ไม่รู้มากมายเทา่ ไหร่ ในยามปกติฉนั ก็ทาเรื่องท่ีเป็นการบญุ การกศุ ลอย่บู ้างเป็นครัง้ คราว และที่ ฉันเป็นข้าราชการฉนั ก็ไม่ได้ทาเรื่องเลวทราม ไม่ได้กดข่ีข่มเหงประชาชน ~ 26 ~

อีกทงั้ ไมเ่ คยรับสนิ บน และยิ่งไมม่ ีเรื่องกามลามกอนั เส่ือมเสียต่อประเพณี และศีลธรรมอันดีงาม ด้วยเหตุนีพ้ ญายมจึงตดั สินให้ฉันมีชะตาชีวิตได้ เป็นข้าราชการท่ีร่ารวย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพ่อแม่จะใจดาอามหิตทาแท้ง ทาให้ฉันสูญเสียโอกาสท่ีจะได้สืบทอดมรดกรวมทัง้ โอกาสท่ีจะได้เข้า คดั เลือกเป็นข้าราชการ ตอนนีเ้หลือเพียงความเคียดแค้น ชวิ เซงิ : ในเม่ือเป็นเชน่ นีแ้ ล้วก็ควรปล่อยวางความผกู พนั ทงั้ ปวง มิสู้ ล้มเลิกความคิดที่จะเป็นข้าราชการท่ีมีอานาจและความร่ารวยสงู ศกั ด์ินนั้ ทงิ ้ ไป มีจิตหนง่ึ ใจเดียวมาบาเพญ็ ธรรมปฏบิ ตั ธิ รรมจะดีกวา่ พระโพธิสัตว์ถ่ายทอดคาพูดของทารก : ฉันไม่ยอมหรอก แล้วอีก อยา่ งก็ไมม่ ีที่ไหนให้ฉนั ได้พงึ่ พิงด้วย ชิวเซิง : เบือ้ งหน้านีก้ ็คือผ้บู รรลุธรรมแห่งเขาผู่ถวั ซนั ที่ทุกคนต่างก็ รู้จกั กันดี มีพระนามว่า “หนนั ไห่กู่ฝอ” หรือพระโพธิสตั ว์กวนอิมผู้มีมหา เมตตามหากรุณาปลดเปลือ้ งความทกุ ข์ยากให้แก่เวไนย์อย่างกว้างขวาง และยงั มีฉายาวา่ พระโพธิสตั ว์กวนอิมพนั เนตรพนั กร หากได้ติดตามท่าน บาเพ็ญธรรมปฏบิ ตั ิธรรมก็จะไม่ต้องเวียนวา่ ยอย่ใู นความทกุ ข์แห่งการเกิด แก่เจบ็ ตาย พระโพธิสตั ว์ถ่ายทอดคาพดู ของทารก : ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้รับการ กลอ่ มเกลาสง่ั สอนจากพระโพธิสตั ว์หรือไม?่ พระโพธิสตั ว์ : ในเมื่อเธอมีกศุ ลผลบุญอีกทงั้ ยินยอมรับการสอนสั่ง แล้วเราจะทอดทงิ ้ โดยไมม่ ีเหตผุ ลได้อยา่ งไร ~ 27 ~

ชวิ เซงิ : ขอพระโพธิสตั ว์โปรดเมตตาฉดุ ชว่ ย พระโพธิสตั ว์ : ได้สิ ! รอเรากลบั มาจากตาหนกั กษิติครรภ์ค่อยพา เธอกลบั ไปท่ีทะเลใต้ (ตอนนีค้ ณะผ้เู ดินทางรวมทงั้ ทารกแซห่ ยางมาถงึ ห้องรับแขก ณ ปาก ทางสามแพร่งแล้ว) พระโพธิสตั ว์ : วิญญาณหยาง เธอก็รอเราอย่ใู นห้องรับแขกนีก้ ่อน เราตงั้ ชื่อใหมใ่ ห้เธอวา่ “เหอเซยี ง” ชิวเซงิ : ขอบคณุ พระโพธิสตั ว์เมตตา วิญญาณหยาง : ขอบคุณพระโพธิสัตว์เมตตาประทานชื่อให้ ขอบคุณคุณลุงมากท่ีทา ให้ ฉันมีโอกาสได้ รับการอบรมส่ังสอนจากพระ โพธิสตั ว์ ตอ่ ไปภายหน้าจะต้องตอบแทนบญุ คณุ ชิวเซงิ : ไมเ่ ป็นไรหรอก ฉนั ไมไ่ ด้ชว่ ยเหลืออะไรเธอเลยซกั นดิ เดียว พทุ ธะจีก้ ง : ตอนนีด้ กึ แล้ว พวกเราต้องขอตวั กลบั กอ่ น พระโพธิสตั ว์ : ศิษย์-อาจารย์คอ่ ยๆไป ชิวเซงิ : กราบลาพระโพธิสตั ว์ พทุ ธะจีก้ ง : ถงึ สานกั ก่งเหงิ ถงั แล้ว ชิวเซงิ กลบั เข้าร่างเถอะ ชิวเซงิ : ศษิ ย์น้อมสง่ พระอาจารย์ ~ 28 ~

ตอนท่ี 4 อธิบายเร่ืองโรคกรรม ทอ่ งเท่ียวดงหมาดุ พทุ ธะจีก้ ง ประทบั ทพิ ย์ญาณ มืดสดุ มืดลกึ สดุ ลกึ เท่ียวนรกไมเ่ หน่ือยหนา่ ย กลางดงหมาอนั ดรุ ้ายสงั เกตการณ์อยเู่ บือ้ งหน้า ได้แตเ่ หน็ วิญญาณบาปตา่ งโศกเศร้าหวาดผวา เสียงร้องไห้เสียงกน่ ดา่ ตอ่ วา่ ฟา้ ตอ่ วา่ ดนิ พทุ ธะจีก้ ง : ประทานยนั ต์ให้ศิษย์เราเผาดื่ม (พทุ ธะจีก้ งโบกพดั เพียง เบาๆวิญญาณของชวิ เซงิ ก็ออกจากร่าง) ชิวเซงิ : ศษิ ย์คารวะพระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เราไมต่ ้องมากพธิ ี รีบนงั่ บลั ลงั ก์บวั ไปเที่ยวนรก ชวิ เซงิ : ศิษย์นงั่ เรียบร้อยแล้วครับ ขอเชิญพระอาจารย์ออกเดินทาง ได้ พทุ ธะจีก้ ง : ศษิ ย์เรา! ระยะนีเ้จ้าสบายดีไหม? ชิวเซิง : เรียนพระอาจารย์! วันไหนก็ตามที่ศิษย์ออกเดินทาง ท่องเที่ยวเพ่ือประพันธ์หนังสือจะต้องมีอาการเจ็บป่ วยเล็กๆน้อยๆ ไม่ ทราบวา่ น่ีเป็นเพราะอะไรหรือครับ? พทุ ธะจีก้ ง : นี่เป็นการสลายวิบากกรรมในอดีตชาติ อาศยั ช่วงเวลา ในระหว่างท่ีกาลงั ประพนั ธ์หนงั สือนีท้ าให้วิบากกรรมต่างๆปรากฏออกมา ~ 29 ~

ทีละอยา่ งๆ อาจจะมากบ้างน้อยบ้าง ก็มีเพียงโอกาสแบบนีจ้ งึ จะสามารถ สลายวิบากกรรมได้อยา่ งรวดเร็ว ชิวเซงิ : มีวิธีอื่นมาสลายวิบากกรรมไหมครับ? พุทธะจีก้ ง : มี! แต่สิน้ เปลืองเวลามากกว่า ถ้าหากทุกๆวันหม่ัน สวดท่องพระสูตรคมั ภีร์แล้วอทุ ิศ ก็จะสามารถลดวิบากกรรมที่มาถ่วงรัง้ ทรมานกายสงั ขารให้ลดน้อยลงได้ ชิวเซิง : ศิษย์ก็สวด “ผู่เหมินผิ่น” ทุกวัน ไฉนกายสังขารยังได้รับ ความเจ็บปวดทรมานอยลู่ ะครับ? พทุ ธะจีก้ ง : การที่ร่างกายได้รับความเจ็บปวดทรมานนนั้ ก็มีข้อดีอยู่ อยา่ งหนงึ่ เพราะเป็นการหลีกเลี่ยงป้องกนั เพื่อจะได้ไมต่ ้องพบเจอกบั แรง กรรมท่ีหนกั มากในยามแก่ เน่ืองจากว่าในยามปกติก็ได้ชาระเวรกรรมไป บ้างแล้วบางสว่ น ชิวเซิง : เวรกรรมรุมเร้ า ไม่มีเวลาท่ีแน่นอน ไม่มีสถานที่ที่แน่นอน ตรงกบั ความจริงท่ีวา่ “อนิจจงั ” พุทธะจีก้ ง : ถูกต้อง! ก็คือ “ความอนิจจัง” ดังนัน้ ย่ิงต้องมีความ วิริยะในการบาเพ็ญปฏิบตั ิ รักษาศีลวินยั ดาเนินบารมีหกอย่างไม่ย่อท้อ ยง่ิ ไปกวา่ นนั้ อารมณ์เจ็ด ตณั หาหก รวมทงั้ โลภ โกรธ หลง พิษร้ายรุนแรง ตา่ งๆในใจของชาวโลกก็สามารถใช้โรคกรรมมาขจดั ถอดถอนให้ลดน้อยลง ได้ ดงั นนั้ นอกจากโรคกรรมจะสามารถขจดั เวรกรรมที่ไร้รูปลกั ษณ์ได้แล้ว ~ 30 ~

ยังสามารถขจัดตัณหาความทะยานอยากท่ีมีรูปลักษณ์ได้ อีกด้ วย เพราะว่ามีเพียงช่วงขณะที่กาลงั ป่ วยอยู่ มนุษย์จึงไม่มีความโลภ โกรธ หลง รวมทงั้ ความคดิ ท่ีไมถ่ กู ทานองคลองธรรมตา่ งๆ และย่ิงไมม่ ีโอกาสไป สร้ างบาปกรรมเพราะรู้แต่เพียงว่าโรคที่ตนกาลังเผชิญอยู่นัน้ มันทุกข์ ทรมาน ตอ่ เรื่องตา่ งๆก็จะไมม่ ีจิตใจท่ีจะไปคดิ เล็กคดิ น้อยถือสาหาความ ชิวเซิง : ที่แท้ความเจ็บป่ วยก็มีประโยชน์อย่างนีเ้ อง แต่ดีท่ีสุดก็คือ สามารถขจัดอารมณ์เจ็ด ตัณหาหก รัก โลภ โกรธ หลง และความคิด เหลวไหลท่ีไม่ถูกทานองคลองธรรมต่างๆในขณะท่ียงั มีสุขภาพร่างกาย แข็งแรง จงึ จะสามารถสาแดงฝีมือให้ปรากฏ พุทธะจีก้ ง : ถูกต้องแล้ว อย่ารอจนกระท่ังโรคภัยไข้เจ็บมาทาให้ ร่างกายได้รับความทกุ ข์ทรมาน เพราะวา่ นนั่ เป็นเพียงผลกระทบท่ีเกิดจาก ความเจ็บป่ วยเท่านนั้ ไม่ใช่ฝีมือความสามารถในการไม่ถือสาหาความที่ เกิดขนึ ้ จากการบาเพ็ญ ชิวเซิง : เบือ้ งหน้ามองเห็นผืนดินอนั กว้างใหญ่ไพศาล ท่ีนน่ั มีหมา อย่มู ากมาย ตวั ใหญ่และแข็งแรงราวกบั หมาป่ า หมาแต่ละตวั คล้ายกับ จะหิวจนหน้ามืด กระโจนเข้าใส่คนท่ีเดินผ่านไปผ่านมา กดั แล้วก็ไมย่ อม ปล่อย ผ้คู นต่างก็ร้องไห้วิ่งหนี ว่ิงชนกนั อตุ ลดุ ทงั้ ตวั ถกู ฝงู หมาอนั ดรุ ้าย กัดจนถลอกปอกเปิกไปหมด เสือ้ ผ้าขาดวิ่นจนดูไม่ได้ เป็นสภาพที่น่า เวทนาจนไมส่ ามารถบรรยายออกมาเป็นคาพดู ได้ ชา่ งนา่ สงสารจริงๆ ~ 31 ~

พทุ ธะจีก้ ง : ชา่ งนา่ เหน็ ใจจริงๆ แต่คนเหลา่ นีก้ ่อกรรมไว้ก็ต้องรับผล กรรมนนั้ ด้วยตวั เอง โทษใครไมไ่ ด้ ชิวเซิง : เพราะเหตใุ ดจงึ ต้องรับผลกรรมเช่นนี ้แล้วท่ีนี่คือท่ีไหนหรือ ครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ท่ีน่ีมีชื่อวา่ “ดงหมาด”ุ คนเหลา่ นีต้ อนท่ีมีชีวติ อยลู่ ้วนเป็น คนชวั่ ท่ีไม่ยอมสานกึ ผิดแก้ไขปรับปรุงตวั พวกเขาจะต้องมาที่นี่ ให้หมาที่ หวิ จนบ้าคลง่ั เหลา่ นีก้ ินให้อ่ิมเสยี กอ่ นจงึ จะสามารถไปตอ่ ยงั สถานีตอ่ ไปได้ ชิวเซงิ : มีเรื่องแบบนีด้ ้วยหรือครับ? เข้าไปสมั ภาษณ์ได้หรือไม?่ พทุ ธะจีก้ ง : ควรจะเข้าไปสมั ภาษณ์! (ในขณะที่ศิษย์-อาจารย์กาลงั จะเดินไปข้างหน้า ทนั ใดนนั้ เจ้าหน้าท่ี ที่มีใบหน้าเหมือนนกแร้งและมีรูปร่างเหมือนยกั ษ์ก็เรียกให้หยดุ ) พทุ ธะจีก้ ง : ขนุ พลสองทา่ นนีด้ เู หมือนไมเ่ คยเห็นมากอ่ น? ขนุ พล : ผ้มู าเยอื นคือใคร? ไฉนถงึ ได้เดินเตร็ดเตร่มาถงึ ที่นี่? พทุ ธะจีก้ ง : พวกเราก็คือผ้ทู ี่ได้รับเทวราชโองการจากเงก็ เซียนฮ่องเต้ ให้มาประพนั ธ์หนงั สือ ขนุ พล : โปรดแสดงหลกั ฐานยืนยนั ด้วย พุทธะจีก้ ง : (หยิบเทวราชโองการออกมา เห็นแต่แสงสีทองเจิดจ้า เสียดแทงลกู นยั น์ตาทาให้ตาพร่า) ~ 32 ~

ขนุ พล : ในเมื่อมีเทวราชโองการ ท่ีเสียมารยาทไปเมื่อครู่นีไ้ ด้โปรด ให้อภยั ด้วย พทุ ธะจีก้ ง : มาตรฐานของการปฏบิ ตั ิงานในหน้าที่ก็ควรจะเป็นเช่นนี ้ แหละ ขนุ พล : มีอะไรให้เรารับใช้โปรดบอกมาเถอะ พทุ ธะจีก้ ง : ตอนนีอ้ ยากสมั ภาษณ์วิญญาณบาปท่ีถูกหมากัด ได้ โปรดเรียกวญิ ญาณบาปมาให้สมั ภาษณ์ด้วย ขนุ พล : ได้ครับ! วิญญาณบาปท่ีอย่ขู ้างหน้ารีบมานี่ซิ วิญญาณ บาปพวกนีท้ าไมยงั ไมร่ ีบเข้ามาอีก! พทุ ธะจีก้ ง : เธอบอกมาซิว่าตอนที่มีชีวิตอย่ทู าอาชีพอะไร แล้วทา กรรมใดไว้จงึ มาอยทู่ ่ีน่ี? วิญญาณบาป : ฉันช่ือจางฉางเต๋อ เป็นคนเมืองจงั ฮว่า พ่อฉันตาย ตงั้ แต่เด็ก ฉันอาศัยอยู่กับแม่สองคน เพราะว่าไม่มีพ่อ ก็เลยถูกเด็กคน อื่นๆรังแกอยู่เสมอๆ จึงค่อยๆปลูกฝังจนกลายเป็นคนที่มีความคิดหัว รุนแรง โตขึน้ ก็ไม่ได้ประกอบอาชีพท่ีสุจริต ทางานอยู่ในพืน้ ที่ของโซน วีดีโอเกม เดมิ ทีก็เป็นคนหวั รุนแรงอยแู่ ล้ว เลยย่งิ ติดนิสยั ความเคยชินท่ีไม่ ดีมากยิ่งขึน้ ในที่สดุ ก็ด่ืมเหล้าสบู บุหร่ี ต่อเรื่องอาหารการกินก็เป็นคนที่ เรื่องมากช่างติ ถ้าอาหารไม่ถูกใจก็จะคว่าชามลงตรงนนั้ ทาให้แม่รู้สึก เสียใจไมห่ ยดุ ตอ่ มาก็ถกู เพื่อนที่ไมด่ ียว่ั ยใุ ห้ไปร่วมเล่นเกมลกู กญุ แจจงึ ได้ ~ 33 ~

รู้จกั กับหญิงสาววยั รุ่นแซเ่ ฉินคนหน่ึง หลงั จากที่มีเพศสมั พนั ธ์กนั นานวนั เข้า พอรู้ว่าฝ่ายหญิงท้องได้สองเดือนก็บงั คบั ให้ไปทาแท้งหลายต่อหลาย ครัง้ โดยไม่ได้สนใจไยดี จนกระทัง่ มีอยู่วนั หนึ่งฉันฝันเห็นเด็กทารกกลุ่ม หนงึ่ เป็นเงารางๆ หลงั จากนนั้ เป็นต้นมาไมว่ า่ จะกลางวนั หรือกลางคืนก็จะ เห็นวิญญาณของเด็กทารกมาตามหลอกหลอน รู้สกึ กลวั ไมก่ ล้ามอง เป็น เช่นนีอ้ ย่หู ลายวนั สดุ ท้ายก็เป็นโรคประสาท นอนอยบู่ นเตียงผ้ปู ่ วยนาน 5 เดือน ไม่สามารถรักษาเยียวยาได้และตายในที่สุด วิญญาณถูกนาย นิรยบาลควบคมุ ตวั เมื่อเดินผ่านมาทางนีก้ ็ถูกหมาท่ีกาลงั หิวโหยกัดกิน ไม่สามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้ พอเดินไปได้เพียงแค่นิดหน่อยก็จะถูก นายนิรยบาลทบุ ตีด้วยกระบองเขีย้ วหมาป่ า ทาให้หมาที่กาลงั หิวโหยย่ิง เข้ามากดั กินเป็นอาหาร ได้โปรดชว่ ยฉนั ด้วย ฉนั อยทู่ ี่น่ีมา 3 วนั แล้ว ชิวเซิง : ดูเธอช่างน่าเวทนาจริงๆ ทาให้ฉันรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่ อย่างไรก็ตามย่ิงทาให้ฉันรู้สึกวา่ คนท่ีไม่มีความผิดก็คือแม่ของเธอรวมทงั้ เด็กทารกที่ถกู เธอทาแท้งเหล่านนั้ เมื่อคิดถึงตรงจดุ นีก้ ็ทาให้ฉนั รู้สกึ โกรธ แค้นไม่หาย (พูดพร้ อมทงั้ ถีบวิญญาณบาปไปหนึ่งที่ วิญญาณบาปกลิง้ หลุนๆไปหลายตลบ ฝูงหมาท่ีกาลังหิวโหยอ้าปากตะกุยตะกายกงเล็บ กระโจนเข้าใส่ กัดจนหน้าตาเละเทะ ทงั้ ตวั ถูกฉีกกัดไม่มีชิน้ ดี เลือดเนือ้ สาดกระเซน็ เป็นสภาพท่ีไมอ่ าจทนดไู ด้) พทุ ธะจีก้ ง : ชิวเซงิ ! เม่ือไหร่เจ้าจะหดั เลียนแบบเท้าของเฟยเทียน? ชวิ เซงิ : ศิษย์โมโหไปชวั่ ขณะ ~ 34 ~

พทุ ธะจีก้ ง : คืนนีด้ กึ แล้ว เรากลบั กนั เถอะ ชิวเซงิ : ครับ! กราบขอบคณุ ทา่ นขนุ พลทงั้ สองท่ีชว่ ยเหลือ ขนุ พล : มิกล้า มิกล้า! น้อมสง่ ท่านเมธีศษิ ย์อาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : ถงึ สานกั กง่ เหิงถงั แล้ว ชวิ เซงิ รีบกลบั เข้าร่าง ชวิ เซงิ : ศิษย์น้อมสง่ พระอาจารย์กลบั สวรรค์ ~ 35 ~

ตอนท่ี 5 วเิ คราะห์เรื่องเกิดตาย ทศั นาโรงฟังพระสตู ร พทุ ธะจีก้ ง ประทบั ทพิ ย์ญาณ ทอ่ งเที่ยวเมืองนรก ลงขมุ เก้าอเวจี คากลา่ วโทษนนั้ ไม่มี เหนื่อยยากไซร้ไมเ่ รรวน เยี่ยมเยียนโรงฟังพระสตู ร ทศั นาโดยถ่ีถ้วน จงึ ต่ืนรู้ชาวโลกล้วน ควรจะต้องมาบาเพ็ญ พุทธะจีก้ ง : ในพระสูตรคัมภีร์ทัง้ หลายไม่มีเล่มไหนเลยท่ีจะไม่ ส่งเสริมให้คนทาความดี แต่จะมีสกั ก่ีคนที่น้อมรับปฏิบัติตามคาสง่ั สอน ของอริยปราชญ์เมธี ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีคนรู้ตื่นรู้แจ้ง รู้และเข้าใจว่า โลกนีเ้ หมือนดงั่ ความฝัน เหมือนดงั่ ภาพมายา มีมาก็มีไปไม่จีรัง ทกุ สิ่ง ทุกอย่างล้วนเกิดขึน้ ตามมูลเหตุปัจจัย เพราะมีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึน้ เพราะมีเหตปุ ัจจยั จงึ สิน้ สดุ เพราะมีเหตปุ ัจจยั จงึ ดบั สลายลง ในเมื่อเป็น เชน่ นี ้ แล้วเร่ืองราวต่างๆทางโลกยงั มีเร่ืองอะไรที่จะต้องไปคิดเล็กคิดน้อย หรือถือสาหาความกันอีกล่ะ? มีเพียงปล่อยวางเหตุปัจจยั ทงั้ หลายลง อย่างสิน้ เชิงจึงเป็นผ้ตู ื่นแจ้งอย่างแท้จริง เอาล่ะ! ประทานยนั ต์ให้ศิษย์ เราเผาดื่ม (พทุ ธะจีก้ งโบกสะบดั พัดใบลานเบาๆ วิญญาณของชิวเซิงก็ ออกจากร่าง) ชวิ เซงิ : ศษิ ย์คารวะพระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : ศษิ ย์เราไมต่ ้องมากพิธี รีบขนึ ้ บลั ลงั ก์บวั เถอะ ~ 36 ~

ชิวเซงิ : ศษิ ย์นง่ั เรียบร้อยแล้วครับ ขอเชิญพระอาจารย์ออกเดินทาง ได้ พทุ ธะจีก้ ง : ศษิ ย์เรา ! ชีวิตเจ้ามีเปา้ หมายอยา่ งไร? ชิวเซิง : ชีวิตคนเกิดมา แค่บาเพ็ญกุศลบ่มเพาะคุณธรรม ชาระ ปณิธานก็เพียงแคน่ ี ้ พทุ ธะจีก้ ง : เอ๊ะ! ถ้าอยา่ งนนั้ ทาไมใครๆถึงได้ปรารถนาอยากจะอยู่ เหนือจากการเกิด และอยากจะหลดุ พ้นจากความตายละ่ ? ชิวเซงิ : ที่เรียกว่าการเกิดนนั้ เดิมทีก็ไม่มีการเกิดให้เรียกขาน แล้ว ไหนเลยจะมีการเกิดให้เราอยเู่ หนือได้? เดิมทีก็ไม่มีความตายให้กล่าวถึง แล้วไหนเลยจะมีความตายให้เราหลดุ พ้น? พทุ ธะจีก้ ง : ตามความเห็นของเจ้า เร่ืองเกิดตายก็ไม่มีอะไรน่ากลวั แล้วงนั้ สิ? ชิวเซิง : ก็ไม่เชิงนะครับ เพราะอะไรนะหรือ? ก็เพราะคนเรา หวาดกลัวความตาย เน่ืองจากมีความทุกข์ทรมานจากความตาย จึง ต้องการหลดุ พ้นจากความตาย จะหลดุ พ้นจากความตายได้ก็จะต้องอยู่ เหนือการเกิด เม่ือไมเ่ กิดก็ไมต่ ้องตาย พุทธะจีก้ ง : งัน้ เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไรเร่ืองการ“อยู่เหนือการ เกิด”? ~ 37 ~

ชิวเซิง : ที่เรียกว่า“อย่เู หนือการเกิด” ควรจะหมายถึงวิญญาณของ คนตาย มีคากล่าวว่า “คนกลัวตาย ผีกลัวเกิด” แต่กลับไม่มีใครรู้ว่า ความตายของผีก็คือการท่ีผีหลุดพ้ นจากทะเบียนผีแล้ วไปเกิดในชาติ กาเนิดสี่ คือเกิดในครรภ์ เกิดในไข่ เกิดในไคล(ท่ีชืน้ แฉะหมักหมมเน่า เปื่อย) เกิดผุดขึน้ (โอปปาติกะ) และยังมีหกภูมิวิถี คือภูมิสวรรค์ ภูมิ มนุษย์ ภูมิอสรู ภูมิเดรัจฉาน ภมู ินรก ภูมิเปรต ไม่เพียงแต่ผีเท่านนั้ ที่ ต้องไปเกิดในหกภมู วิ ิถี แม้แตค่ นก็เชน่ กนั หลงั จากที่คนตายแล้วก็จะต้อง ไปเกิดใหม่ในหกภมู ิวิถีตามเหตุปัจจยั ที่ตนได้สร้างไว้ แม้กระทงั่ เวไนย์ใน หกภมู ิวิถีต่างก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่ใู นภูมิต่างๆของหกภูมิวิถีเช่นกัน ท่ีเรียกวา่ หกภมู ิวิถีแหง่ การเวียนวา่ ย เพราะวา่ คนขาดปัญญาท่ีแท้จริง ไม่ มีปัญญาท่ีหนกั แนน่ มน่ั คง ด้วยเหตนุ ีจ้ งึ ไม่เข้าใจในเหตตุ ้นผลกรรม หลง ทางอยู่ในหกภูมิวิถี แต่ผู้ที่มีปัญญาอย่างแท้จริง มีปัญญาที่หนักแน่น ม่ันคงย่อมเข้าใจในเหตุต้นผลกรรม ด้วยเหตุนีจ้ ึงไม่หวาดหวั่นต่อการ เวียนวายตายเกิดในหกภมู วิ ถิ ี และมีปณิธานที่จะกลบั มาเกิดใหม่ในหกภมู ิ วิถีเพ่ือฉุดช่วยเวไนย์ เปิดความสว่างทางปัญญาให้แก่คนเขลา กล่อม เกลาคนลมุ่ หลง พทุ ธะจีก้ ง : แท้จริงเป็นเช่นนี ้ งนั้ จะต้องทาอย่างไรจึงจะมีปัญญาที่ แท้จริง และมีปัญญาที่หนกั แนน่ มน่ั คง? ชิวเซิง : ตามหลกั เหตุผลควรจะต้องขจดั อารมณ์เจ็ดคือยินดี โกรธ โศก สขุ รัก เกลียด ปรารถนา ตดั ตณั หาหก และขจดั สามพิษร้ายคือโลภ โกรธ หลง เหล่านีเ้สียก่อน อีกทงั้ พยายาม “ละความชวั่ ทงั้ ปวง เจริญรอย ~ 38 ~

ปฏิบตั ิตามความดีทงั้ มวล” ย่ิงต้องมานะพากเพียรดาเนินปฏิบตั ิบารมีหก ตลอดชีวิตรักษาศีลวินัยบาเพ็ญปฏิบัติอย่างไม่เบื่อหน่าย ก็จะสามารถ บรรลถุ งึ ขนั้ ก้าวลว่ งพ้นจากความเป็นปถุ ชุ นเข้าสคู่ วามเป็นอริยะ พทุ ธะจีก้ ง : ในเมื่อเป็นอย่างนี ้ชาวโลกยิ่งควรใช้จิตใจเช่นนี ้ จึงจะ สามารถบรรลถุ ึงความหลุดพ้นจากการเกิดตายได้อย่างแท้จริง แทนท่ีจะ ไปหลบหลีกการเกิดตาย ขอเพียงภายในจิตใจมีความตื่นแจ้ง แล้วจะต้อง กลวั ไปไยกบั ความเจบ็ ปวดทรมานของกายสงั ขาร ด้วยเหตนุ ีค้ วามสมั ผสั รู้ ของผ้มู ีปัญญากบั ผ้เู ขลาหลงท่ีมีตอ่ เรื่องใดเรื่องหนงึ่ ซง่ึ เป็นเรื่องเดียวกนั จงึ มีความแตกตา่ งกนั ทศั นคติและวิธีการแก้ไขปัญหาก็ไม่เหมือนกนั ดงั นนั้ อยากจะเป็นผ้มู ีปัญญาหรือคนเขลาหลงกอ็ ยทู่ ี่ตวั เอง ชิวเซิง : พระอาจารย์ครับ ท่านดูสิ เบือ้ งหน้ามีวิหารอยู่หลังหนึ่ง ก่อสร้ างได้อย่างอลังการ ในประตูยังปล่อยแสงเจ็ดสีท่ีโชติช่วงชัชวาล ออกมาตลอดเวลา หรือว่านี่จะเป็นสถานที่สาหรับเต้นรา แต่ว่าศิษย์เต้น ไมเ่ ป็น ขอรอทา่ นอยขู่ ้างนอกก็แล้วกนั พทุ ธะจีก้ ง : ใช่สถานท่ีสาหรับเต้นราซะที่ไหนกนั นน่ั คือสถานที่ท่ีใช้ สาหรับแสดงธรรมและฟังพระสตู ร ชวิ เซงิ : ศษิ ย์ไมร่ ะวงั คาพดู พระอาจารย์โปรดอย่าได้ตาหนิ (เห็นฝงู ชนกล่มุ หน่ึงมากนั แล้ว มีทงั้ ผ้ชู าย ผ้หู ญิง คนแก่และเด็ก) จริงสิ ! ขอเข้า ไปสมั ภาษณ์ได้หรือไม?่ พทุ ธะจีก้ ง : ได้สิ! ไปเลือกสมั ภาษณ์เอาเองเลย ~ 39 ~

ชิวเซิง : (ทอดตามองไป บนศีรษะของแต่ละคนปรากฏรัศมีสีแดง รัศมีของบางคนก็เกือบจะเป็นสีขาว) ขอถามคณุ ลงุ ไม่ทราบว่าท่านมา ท่ีน่ีนานแคไ่ หนแล้ว? วิญญาณบญุ : ฉนั มาท่ีนี่ได้สามเดือนแล้ว ชิวเซงิ : ช่วยเล่าเรื่องราวในสมยั ตอนท่ีท่านยงั มีชีวิตอย่ใู ห้ฟังคร่าวๆ ได้หรือไม่ จะได้นาข้อมูลไปตีพิมพ์ลงในหนังสือธรรมะเพื่อกล่อมเกลา ชาวโลก วิญญาณบญุ : ได้สิ! ฉนั แซ่จาง เกิดท่ีเมืองต้าหลี่มณฑลอวิ๋นหนาน ตอนท่ีมีชีวิตอยู่ทาอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากไม่แปดเปือ้ นนิสัยความ เคยชนิ ที่ไมด่ ี อีกทงั้ มีความขยนั หมนั่ เพียร ประหยดั มธั ยสั ถ์ จงึ พอที่จะมี เงินเก็บสะสมอยู่บ้าง และมกั จะนาเงินของตวั เองท่ีประหยดั อดออมไว้ มากบ้ างน้ อยบ้ างออกมาบริ จาคทานช่วยเหลือผ้ ูอ่ืนที่ลาบากยากจน อยู่ เสมอ พอถึงช่วงหลงั ฤดเู ก็บเกี่ยวก็มกั จะเข้าร่วมเป็นอาสาสมคั รทางาน โดยไม่รับเงินค่าตอบแทน เช่นไปช่วยทางานในบ้านของคนท่ีมีฐานะ ยากจน ช่วยทาความสะอาดบ้าน ช่วยซ่อมแซมบ้านเป็นต้น ทาอย่างนี ้ เป็นเวลาหลายปีโดยไม่เบ่ือหน่าย ไมพ่ ร่าบน่ และไมน่ กึ เสียใจในภายหลงั จนกระทงั่ สนิ ้ อายขุ ยั ก็ได้รับการต้อนรับอยา่ งมีเกียรตจิ ากทา่ นพญายม แต่ เป็นเพราะตอนท่ีมีชีวิตอยู่ฉันไม่เชื่อในเรื่องศาสนา และก็ไม่ได้นับถือ ศาสนาใด จึงไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี พญายมจึงให้ฉันเป็นวิญญาณบุญ ~ 40 ~

มาฟังเซียน พุทธะ อริยะ เมธีเทศนาส่ังสอนธรรมะที่โรงฟังพระสูตรทุก สปั ดาห์ ตอนนีก้ าลงั จะไปฟังธรรม ชิวเซิง : ถ้าอย่างนนั้ ไม่รบกวนเวลาของท่านแล้ว ขอบคณุ ท่ีท่านร่วม ประพนั ธ์หนงั สือ วิญญาณบุญ : น่ีถือว่าเป็นความโชคดีและเป็นเกียตริอย่างยิ่ง สาหรับฉนั ชิวเซงิ : พระอาจารย์ครับ! เข้าไปข้างในได้ไหมครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ได้! เข้าไปดๆู สกั หนอ่ ย ชิวเซิง : ภายในวิหารมองเห็นมวลชนอลหมา่ น ดารดาษไปด้วยแสง รัศมีของวิญญาณ ภายในตกแต่งราวกับเป็นวันออลเซนท์(วันสมโภช นกั บุญทงั้ หลาย) แสงประทีประยิบระยบั ไปทวั่ ทุกที่ หลากสีสนั เจิดจ้า มี หมอกควนั แผป่ กคลมุ หนาทบึ (คล้ายกบั ควนั ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ ระเหิดจากก้อนนา้ แข็งแห้งแล้วไหลพร่ังพรูออกมาจากทงั้ สี่ทิศ) เหมือนกบั งานราตรีต้อนรับน้องใหม่ เพียงชว่ั ครู่กลางเวหาก็เกิดการสน่ั สะเทือนขึน้ เล็กน้อย แสงสีทองถกู ปล่อยลงมาจากด้านบนมากมายนบั ไม่ถ้วน ได้ยิน เสยี งคนท่ีอยขู่ ้างหน้าพดู วา่ “พระโพธิสตั ว์และเทพเซยี นทงั้ หลายเสด็จแล้ว ทงั้ หมดยืนตรงแสดงความเคารพ ถวายธูปเทียนดอกไม้สด” เหน็ เทพเซยี น เสด็จลงมาทีละองค์ๆ จากนัน้ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์จึงกล่าวขึน้ ว่า “ขณะนีม้ ีผ้บู าเพญ็ ผา่ นการทดสอบจานวน 20 ทา่ น จะพาไปรับตาแหน่ง ~ 41 ~

บนสวรรค์ชัน้ ต่างๆ ขอเป็นตัวแทนของทุกท่านแสดงความยินดี” (ถึง ตอนนีพ้ ทุ ธะจีก้ งก็ดงึ ชวิ เซงิ ออกมาข้างนอก) พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เรา ! ควรกลบั กนั ได้แล้ว เอาละ! ถึงสานกั ก่ง เหิงถงั แล้ว วิญญาณจงกลบั เข้าร่าง ชิวเซงิ : ศิษย์น้อมสง่ พระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : เอาละ อาจารย์กลบั ล่ะ ~ 42 ~

ตอนที่ 6 คยุ เรื่องวญิ ญาณออกจากร่าง เที่ยวสะพานไนเ่ หอเฉียว พทุ ธะจีก้ ง ประทบั ทิพย์ญาณ เย่ียมเยือนนรก ถกกนั เร่ืองบาปบญุ ไมส่ ร้างกศุ ลงามคณุ ต้องทกุ ข์เข็ญ เตือนหนอเตือน ผ้ไู มย่ อมมาบาเพญ็ ไนเ่ หอเฉียวลาเค็ญ ร่าไห้บนสะพาน พทุ ธะจีก้ ง : ชาวโลกโดยทวั่ ไปนนั้ เมื่อพูดถึงเรื่องการทาบุญทาทาน แตล่ ะคนตา่ งก็พดู ว่ามีเงินน้อย ฐานะทางการเงินฝืดเคือง พอมีคนชวนไป ฟังหลกั ธรรมก็บอกวา่ ไม่มีเวลา ถ้าไม่ใช่ตอบปฏิเสธก็อ้างเหตผุ ลมากมาย สารพดั อย่างเช่น ท่ีบ้านไม่มีคนดแู ล บริษัทกาลงั เร่งสินค้า มีเพ่ือนมา เยี่ยมเยียน ต่างๆนานา บอกปัดไม่ยอมเข้าร่วมศกึ ษาธรรม ใครเลยจะรู้ ว่าตัวเองได้ปฏิเสธโอกาสที่จะสร้ างกุศลไปแล้วภายในช่ัวพริบตา แล้ว เม่ือไหร่ถึงจะมีโอกาสได้เข้าร่วม หรือจะรอจนกระทง่ั ประสบความสาเร็จ มีช่ือเสียงเป็นท่ียอมรับ รอจนลกู ๆเติบโตเป็นผ้ใู หญ่ รอให้ญาติมิตรมานง่ั กันจนเต็มที่นั่ง หรือจะรอจนกระทั่งตัวเองแก่หง่อมผมหงอกฟันร่วง ใน ตอนที่พละกาลงั เส่ือมถอยลงจงึ คิดท่ีจะหนั เข้าส่หู นทางธรรม หนั มาสร้าง กศุ ลบม่ เพาะคณุ ธรรม ถงึ เวลานนั้ เกรงวา่ เรื่องราวตา่ งๆจะไม่เป็นอย่างนนั้ ซะแล้ว พลงั ใจมีเหลือไม่เพียงพอซะแล้ว ดงั นนั้ ทกุ ๆเวลาจะต้องรู้จกั ดารง จติ ให้อยใู่ นความคิดท่ีเป็นกศุ ล ใช้กายนีไ้ ปสร้างบญุ กศุ ล รับประกนั ว่าใน ~ 43 ~

ภายภาคหน้าจะสามารถพ้นจากเงือ้ มมือของพญายมได้ ถ้าหากไม่รู้จกั คิดดีทาดี ในวันข้างหน้าก็จะต้องไปท่ีสะพานไน่เหอเฉียวอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนนั้ มานึกเสียใจในภายหลงั เกรงว่ายากนกั ที่จะรอดพ้นจาก ความยากลาบากนีไ้ ปได้ ดังนนั้ การทาความดีจะต้องรีบฉกฉวยโอกาส ตงั้ แต่เนิ่นๆ การขจดั ความชวั่ ก็จะต้องรีบฉกฉวยโอกาสตงั้ แต่เน่ินๆด้วย เช่นกัน เอาล่ะ! ประทานยันต์ให้ศิษย์เราเผาด่ืม (พุทธะจีก้ งโบกพดั ใบ ลานไปหนง่ึ ที วญิ ญาณของชิวเซงิ ก็ออกจากร่าง) ชวิ เซงิ : ศิษย์คารวะพระอาจารย์ พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เราไมต่ ้องมากพธิ ี รีบนง่ั บลั ลงั ก์บวั เถอะ ชวิ เซงิ : ศษิ ย์นง่ั เรียบร้อยแล้วครับ เชิญพระอาจารย์ออกเดินทางได้ พทุ ธะจีก้ ง : ศิษย์เรา! ชว่ งนีเ้จ้าสบายดีหรือไม?่ ชิวเซิง : ได้พึ่งใบบญุ ของพระอาจารย์ ช่วงนีศ้ ิษย์สบายดีครับ พระ อาจารย์ครับ ทา่ นมีงานธรรมกิจรัดตวั ทกุ วนั ไมท่ ราบวา่ ทา่ นสบายดีไหม? พทุ ธะจีก้ ง : เฮ่อ! ถ้าหากอาจารย์สบายดี อาจารย์ก็ไม่ต้องมาท่ีน่ี พาเจ้าไปเที่ยวนรกทกุ สปั ดาห์แล้วละ่ ! ชิวเซงิ : ไฉนพระอาจารย์จงึ กลา่ วเชน่ นี?้ พุทธะจีก้ ง : เวไนย์ยังคงลุ่มหลงอยู่ในลาภยศชื่อเสียง กามารมณ์ ความรุ่งเรืองตกต่าท่ีไม่จีรังยงั่ ยืน ไม่ยอมรู้ต่ืน ไม่ยอมตระหนกั รู้ แล้วจะ ให้อาจารย์ทาเชน่ ไร? ~ 44 ~

ชิวเซิง : ท่ีแท้พระอาจารย์ทุกข์ใจเพ่ือเวไนย์ที่ยงั ล่มุ หลงไม่รู้จกั ต่ืน เช่ือแน่ว่าจะต้องมีสกั วนั หนงึ่ ท่ีสามารถปลกุ ต่ืนเวไนย์ที่ยงั ล่มุ หลงได้อย่าง แน่นอน พทุ ธะจีก้ ง : หากเป็นเช่นนนั้ ก็ไม่เสียแรงเปล่าท่ีต้องเหนื่อยยากเดิน ทางไกลแสนไกลไปเยือนนรกอเวจีเพ่ือถ่ายทอดสภาพเหตุการณ์จริงอบรม สง่ั สอนชาวโลก ชิวเซิง : ต้องเป็นเช่นนัน้ แน่ครับ สักวันหนึ่งจะต้องเห็นผลสัมฤทธ์ิ แน่นอน พระอาจารย์ครับ! ศิษย์มีเรื่องหนง่ึ อยากขอคาชีแ้ นะ พทุ ธะจีก้ ง : วา่ มาสิ ชิวเซิง : คนมีสามอมตะวิญญาณและเจ็ดมรรตยวิญญาณ เม่ือคน ตายแล้ววิญญาณลอยเคว้งคว้างไม่รู้จะไปหนใด ตอนท่ีวิญญาณจะออก จากร่างนัน้ เหมือนท่ีกล่าวไว้ในคัมภีร์ใช่หรือไม่? ดั่งถูกแทงด้วยเข็ม เหมือนถกู ตดั ด้วยมีด เจ็บปวดทรมานหาใดเปรียบได้? พทุ ธะจีก้ ง : ถกู ต้อง! ตอนที่วญิ ญาณจะออกจากร่างนนั้ ทกุ ข์ทรมาน เป็นอยา่ งยง่ิ เพราะวา่ ทวารตา่ งๆถกู ปิดหมด ปรารถนาอยากจะเปิดประตู ท่ีถูกปิดมานานจนเต็มไปด้วยฝ่ ุนจบั ก็เหมือนกับคนที่เอาร่างไปพุ่งชน ประตทู ี่ปิดสนิทอีกทงั้ บานพบั ก็ขนึ ้ สนิม ถึงแม้จะเปลี่ยนรูปแบบของประตู มาแล้วก่อนหน้านี ้ แต่ก็ยงั ต้องพยามยามดิน้ รนใช้กาลงั อย่สู กั ระยะหน่ึง ช่วงเวลาที่พยายามทะลวงฝ่ าออกมาจากประตนู นั้ ทกุ ข์ทรมานเป็นอย่าง ยงิ่ ด้วยเหตนุ ีบ้ างคนจงึ เกิดจิตท่ีเคืองแค้นอยา่ งไมม่ ีเหตผุ ล ผลกั ดนั ให้ตก ~ 45 ~

ส่นู รก เพราะเหตใุ ดนะหรือ? ก็เหมือนกับคนๆหน่ึงที่พยายามเปิดประตู ด้ วยความยากลาบาก แต่คนท่ีอยู่ข้ างนอกกลับดึงประตูไปปิ ดไว้ เหมือนเดิม คนที่อยู่ข้างในย่อมจะต้องเกิดจิตที่เคืองแค้นขึน้ มาอย่าง แน่นอน ชิวเซิง : ในเม่ือตอนท่ีวิญญาณจะออกจากร่างนนั้ เจ็บปวดทรมาน เช่นนี ้ แต่ทาไมบนโลกที่เต็มไปด้วยเร่ืองราวแปลกประหลาดใบนีก้ ลับ มกั จะได้ยินอยู่เสมอว่ามีบางคนที่ฝันเห็นร่างของตวั เองนอนอยู่บนเตียง แล้วก็มีบางคนที่ประสบอบุ ตั ิเหตุ วิญญาณของเขากลบั ไปท่ีบ้านแล้ว แต่ ร่างของเขากลบั ไปอย่ทู ่ีโรงพยาบาล แล้วยงั มีบางคนท่ีเห็นร่างของตวั เอง ประสบกบั เคราะห์ภยั ต่างๆ หลงั จากนนั้ วิญญาณของเขาจึงกลบั เข้าร่าง แท้ที่จริงคนที่ผ่านประสบการณ์เช่นนีม้ ีอย่มู ากมาย นนั่ เป็นเพราะอะไร? แล้วทาไมไมเ่ คยได้ยนิ คนเหลา่ นนั้ บอกวา่ เจ็บปวดทรมานละ่ ครับ? พทุ ธะจีก้ ง : เพราะว่าตอนที่คนกาลงั หลบั ร่างกายท่ีเป็นกายเนือ้ นี ้ นอนหลบั แต่จิตวิญญาณนัน้ กลบั ต่ืนขึน้ มา อีกทงั้ ทวารก็เปิดได้โดยง่าย ดังนัน้ คนที่เคยผ่านประสบการณ์เช่นนีจ้ ะรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองอยู่ใน ความฝันเหมือนคร่ึงหลบั ครึ่งต่ืน สามารถมองเห็นร่างของตวั เองนอนอยู่ บนเตียงได้อย่างชัดเจนโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บปวด สาหรับบางคนท่ีประสบ อบุ ตั ิเหตุ บางครัง้ ถกู กระแทกตรงจดุ สาคญั ทาให้ทวารเปิดออก วิญญาณ หลดุ ออกจากร่าง เป็นเพราะตอนที่เขาถกู กระแทก เขารู้แตเ่ พียงวา่ ถกู แรง กระแทก แต่จิตใจยังคงจดจ่อคิดถึงแต่สถานที่ๆจะไป จึงเกิดเป็นพลัง ขบั เคลื่อนไปยงั สถานที่นนั้ ๆโดยท่ีไม่รู้สึกเจ็บปวด บางครัง้ คนที่ประสบ ~ 46 ~

เคราะห์ภยั ก็มีสิ่งศกั ดิ์สิทธิ์คอยปกปักค้มุ ครองอย่ขู ้างๆ ทาให้เขาเห็นร่าง ของตวั เองประสบเคราะห์ภยั และจาฝังใจ ถ้าหากเขาสามารถรู้จกั สานึก ตวั ต่อไปในภายภาคหน้าก็คือคนที่จะได้ไปส่สู คุ ติภมู ิ แต่ถ้าหากไม่รู้จกั สานกึ ตวั เกรงวา่ ต่อไปในภายภาคหน้าก็คือคนท่ีจะต้องตกส่ทู คุ ติภมู ิเป็น แน่ ชิวเซิง : พระอาจารย์กล่าวเช่นนีส้ รุปว่าทกุ อย่างอย่ทู ี่ความตงั้ ใจใช่ หรือไม่ พลงั ความคิดท่ีอย่ใู นจิตใจสามารถรวบรวมเป็นพลงั ที่แข็งแกร่งก็ ไมก่ ลวั วา่ วญิ ญาณจะกระสานซา่ นเซน็ ไป พทุ ธะจีก้ ง : ถกู แล้ว! เพราะวา่ ใจเป็นปราการค้มุ กนั ชิวเซิง : ปราการแหง่ ใจจาเป็นต้องใช้ความจริงใจท่ีแนว่ แน่มน่ั คง ใช้ ความคิดท่ีละเอียดออ่ น จงึ สามารถบรรลจุ ริงดจุ ดงั่ จนั ทร์สอ่ งสว่าง ใจนนั้ ก็เหมือนดงั่ เพชรที่ไมถ่ กู ทาลาย พทุ ธะจีก้ ง : ถกู ต้อง! แตส่ ามารถบรรลถุ งึ ระดบั นีไ้ ด้ น้อยนกั แล ชิวเซิง : พระอาจารย์ครับ! ท่านดูข้างหน้าน่ันสิครับมีสะพานอยู่ สะพานหนึ่ง สะพานนัน้ แคบและยาวทัง้ ยังแกว่งไปแกว่งมาเหมือนกับ สะพานแขวน ไม่รู้ว่าสะพานนนั้ แข็งแรงแน่นหนาหรือเปล่า? ถ้าหากเดิน ไปถงึ กลางสะพานแล้วสะพานขาดขนึ ้ มากะทนั หนั จะทาอยา่ งไรดีครับ? พทุ ธะจีก้ ง : สะพานนีค้ ือสะพาน “ไน่เหอเฉียว”( 奈何橋 ) ถงึ แม้ สะพานจะยาวและแคบแตม่ นั ก็ไมข่ าดงา่ ยๆ เจ้าดนู น่ั สิ (พทุ ธะจีก้ งชีน้ ิว้ ไป ~ 47 ~

อีกด้านหนึ่ง มองเห็นสะพานที่กว้างใหญ่และสูงตระหง่านสร้ างขึน้ จาก ทองแดงบริสทุ ธิ์ ปรากฏแสงสีแดงทงั้ สองฟาก) ชวิ เซงิ : พระอาจารย์ครับ สะพานทองแดงนน่ั ช่ือสะพานอะไรครับ? พทุ ธะจีก้ ง : สะพานนีช้ ่ือวา่ สะพาน “อไู๋ นเ่ ฉียว” ( 無奈橋 ) ชิวเซงิ : แล้วทาไมไมข่ ้ามสะพานนีล้ ะ่ ? พทุ ธะจีก้ ง : ไมไ่ ด้! เจ้าดทู ่ีสะพานนีส้ ิ มีเปลวไฟปะทอุ อกมาไมห่ ยดุ แถมด้านบนยงั มีฟา้ ผา่ ที่จะผา่ ลงมาใส่วิญญาณบาปตรงไหนเม่ือไหร่ก็ไมร่ ู้ ดงั นนั้ สะพานนีจ้ งึ มีไว้สาหรับให้วิญญาณบาปที่เมื่อตอนสมยั มีชีวิตอย่ไู ม่ เชื่อในกฎแห่งกรรมและผ้ทู ่ีทาอนนั ตริยกรรมทงั้ ห้าได้เดนิ ข้าม ชิวเซิง : (มองไปที่สะพานไน่เหอเฉียว บนสะพานเต็มไปด้ วย วิญญาณบาปเบียดเสียดกนั แนน่ ขนดั ด้านหลงั ยงั มีวิญญาณบาปตอ่ แถว กันยาวเหยียดมากๆ) พระอาจารย์ครับ ศิษย์ใช้ตาเนือ้ ไปลองนบั ดูแต่ไม่ สามารถนบั จานวนพวกเขาได้หมด พทุ ธะจีก้ ง : อาจารย์ใช้ตาทิพย์ก็ไมส่ ามารถนบั ได้หมด ชิวเซงิ : ถ้าอยา่ งนนั้ พวกเราจะต้องยืนตอ่ แถวไปถึงวนั ไหนจงึ จะผา่ น ดา่ นไปได้ละครับ? พทุ ธะจีก้ ง : ไม่ต้องผ่านด่านหรอก เพียงแค่สอบถามข้อมลู อยู่ข้าง นอกก็พอ ~ 48 ~

ชิวเซิง : วิญญาณเหล่านนั้ ผลกั กนั ไปผลกั กนั มา มีหลายคนถกู ผลกั ตกสะพาน เด๋ียวจมเดี๋ยวลอย บางครัง้ นายนิรยบาลก็ใช้หอกง่ามแทงเข้า ไปที่วิญญาณเหล่านนั้ ทาให้พวกเขากระโดดลงจากสะพานเอง เพราะ เหตใุ ดถงึ ได้มีเหตกุ ารณ์แบบนีเ้กิดขนึ ้ ? พทุ ธะจีก้ ง : ต้องถามนายนิรยบาลถงึ จะรู้ (กวกั มือเรียกนายนริ ยบาล มาถาม) นายนิรยบาล : ทา่ นทงั้ สองเป็นเทพมาจากท่ีใด? พทุ ธะจีก้ ง : เราคือจีก้ ง รับเทวราชโองการจากเง็กเซียนฮอ่ งเต้นาพา ชิวเซิงพ่กู ันทรงมือเอกจากสานกั ก่งเหิงถงั เมืองฟงเอว๋ียน เกาะไต้หวนั แดนชมพูทวีป มาท่องเท่ียวประพันธ์หนังสือ “ท่องนรกอเวจีใหม่” เพื่อ ปลุกต่ืนชาวโลกให้บังเกิดกุศลจิต ขณะนีม้ ีเร่ืองท่ีไม่เข้าใจหวังว่าจะได้ รับคาชีแ้ นะ นายนิรยบาล : ท่ีแท้คือพุทธะจีก้ ง เทพสวรรค์มาเยือนที่นี่ ไม่ได้ ออกไปต้อนรับ ต้องขออภยั จริงๆ ส่วนท่านพ่กู นั ทรงผ้เู ลื่องชื่อ ข้าพเจ้า เองก็ได้ยินชื่อเสียงมานาน ชิวเซิง : ใคร่ขอคาชีแ้ นะ ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดถึงต้องบีบบงั คบั ให้วญิ ญาณเหลา่ นีก้ ระโดดลงจากสะพานด้วย? นายนิรยบาล : นนั่ เป็นเพราะคนทว่ั ไปไมไ่ ด้สร้างบญุ กศุ ลแถมยงั ก่อ กรรมทาชวั่ อยไู่ มข่ าด เม่ือมาถึงท่ีน่ีก็จะต้องลงส่สู ระเลือดแห่งนีเ้ พ่ือชาระ ล้างบาปกรรมเสียก่อน ~ 49 ~


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook