นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ผู้บังคับการค่ายทหารพรานปักธงชัย (ผู้ก่อตั้งค่าย เขียนตำรา และ (กำหนดหลักสูตรการฝึกทหาร) พ.ศ.2521-พ.ศ.2523 ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ พ.ศ.2524- พ.ศ.2527 ผู้บัญชาการพลรบพิเศษที่ 1 พ.ศ.2528-พ.ศ.2530 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (กาญจนบุรี) พ.ศ.2531- พ.ศ.2532 ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ พ.ศ.2532- พ.ศ.2533 แม่ทัพน้อยที่ 1 พ.ศ.2533-พ.ศ.2534 ผู้บัญชาการ โรงเรียนนายร้อยพระจอมเกล้าฯ พ.ศ.2534-พ.ศ.2536 ผู้อำนวยการ กรป. กลาง (ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหาร พัฒนา กองบัญชาการทหารสงู สุด) พ.ศ.2537-พ.ศ.2538 สำหรับเกียรติประวัติการทหาร ได้แก่ เข้าร่วมสงคราม 2 ครั้ง ประเทศเกาหลี พ.ศ.2505 ประเทศเวียดนามใต้ รุ่นที่ 1 (จงอาจศึก) พ.ศ.2510 ราชการพิเศษนอกประเทศลาว พ.ศ.2508 ประเทศกัมพูชา พ.ศ.2520 ประเทศพม่า พ.ศ.2521 ได้รับ พระราชทาน “เหรียญกล้าหาญ” ในราชการสงครามเวียดนาม พ.ศ.2511 ได้รับเหรียญกล้าหาญประเทศสหรัฐอเมริกา “ชั้น บรอนซ์สตาร์” ได้รับเหรียญกล้าหาญประเทศเวียดนามใต้ “ชั้นโกล์สตาร์” “ประดับดาวทอง” พ.ศ.2511 ได้รับรางวัล ศิษย์เก่า รร.จปร. ปฏิบัติงานดีเด่น ได้รับพระราชทานรางวัล พ.ศ.2526 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ประสบการณ์ทางการเมือง ประกอบด้วย สมาชิกสภา ปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พ.ศ.2519 - พ.ศ.2520 สมาชิกสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2520-พ.ศ.2522 สมาชิกวุฒิสภาและ กรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์วุฒิสภา พ.ศ.2529- พ.ศ.2533 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2534-พ.ศ.2535 186
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม สมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการการศึกษาและวัฒนธรรม วุฒิสภา พ.ศ.2535-พ.ศ.2538 สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ คมนาคม วุฒิสภา พ.ศ.2538-พ.ศ.2542 สมาชิกวุฒิสภาจังหวัด กาญจนบุรี (จากการเลือกตั้งครั้งแรก) 4 มี.ค.2543-19 ก.ย. 2549 รองประธานคณะกรรมาธิการทหาร วุฒิสภา รองประธาน คณะกรรมาธิการกิจการองค์กร รวมเวลาที่มีประสบการณ์ ทางการเมืองประมาณ 25 ปี (7 สมัย) สำหรับการศึกษาดูงานต่างประเทศทางทหาร อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี สวีเดน เดนมาร์ก ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลีใต้ พม่า สิงค์โปร มาเลเซีย นอกจากนี้ยังได้ศึกษาดูงานด้าน การเมืองในประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อิสราเอล เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ออสเตรเลีย ลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารรัฐสังคมนิยม เวียดนาม ออสเตรีย ฮังการี สาธารณรัฐเชค ติมอร์ตะวันออก พม่า และอินโดนีเซีย แนวคิดและหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ด้วยพื้นฐานครอบครัวที่ไม่ค่อยสู้ดีนักทำให้พลเอก วัฒนา สรรพานิช มีความเข้าใจและรับรู้ที่ความยากลำบากของ คนโดยทั่วไป การดำเนินชีวิตจึงวางอยู่บนหลักความพอเพียง ไม่ประมาทในชีวิต ชีวิตราชการทหารในอดีตที่ต้องเข้าร่วมรบใน สงครามมีส่วนสำคัญที่ทำให้เรียนรู้การแก้ไขและต่อสู้กับปัญหา มีทั้งการเป็นผู้นำ ความรับผิดชอบ หลักการดังกล่าวได้นำไปใช้ ในครอบครัวและอบรมดูแลบุตร 187
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี “ด้านครอบครัว โดยความที่ผมเป็นชาวบ้านเป็น คนยากจน ผมจึงรู้บทบาทความยากจน เราจึงรู้ เมื่อเรา ได้มาเป็นผู้บังคับหมวด ผู้บังคับกองมาอยู่กับหน่วยทหาร คนรวยส่วนมากมันไม่เป็นทหาร คนจนไม่มีอันจะกินมัน ถึงได้มาเป็น ในชีวิตผมได้รู้เห็นมาและได้แก้ปัญหาได้ ช่วยเหลือทุกปัญหาของเขาถ้าเราไม่แก้ให้จะมีผลกระทบ ต่อตัวเรา ในการดำเนินชีวิตเราต้องทำตัวเป็นผู้นำด้าน การเมือง ด้านครอบครัว ลูกผมสองคนเกิดมาแม่เป็นครู ได้เรียนรู้ ได้ช่วยตนเอง ได้การศึกษาเป็นอย่างดี ตื่นขึ้นมา ทำงานบ้านจงนอนคู่กับคนดีมีระเบียบวินัยจงฝึกเป็นตาม ตารางโรงเรียนกินนอนก็เหมือนอยู่บ้าน” ชีวิตโดยส่วนใหญ่ของพลเอกวัฒนา สรรพานิช อยู่กับ การปฏิบัติหน้าที่ในการทหารซึ่งต้องย้ายสถานที่ทำงานบ่อยครั้ง ในขณะที่ครอบครัวมิได้ย้ายติดตามไปด้วย “ผมไม่ค่อยอยู่บ้านเพราะว่าย้ายไปหลายที่ ชีวิต ครอบครัวเราให้เขาใช้มีเหตุผลให้เขาเข้าใจผมเป็นทหาร ก็จริงผมไม่เห็นด้วยแบบที่ว่าสามีย้ายไปที่ไหนครอบครัว ต้องแห่ตามไป เราต้องมีถิ่นฐานที่อยู่ของเราลูกต้องอยู่ ตรงนี้เพราะเขาไปกับเราไม่ได้เพราะเราคนละหน้าที่กัน และผมเวลารับราชการผมจึงมีเวลาทำงานมากเพราะว่า ไม่หลับไม่นอนอยู่กลางคืนตี 1 2 และตี 3 อยู่กับลูกน้อง และเดินเวรยามกันแล้วเราก็พร้อมอยู่กันจนเช้าและเรา ก็พร้อมอยู่กับลูกน้องพร้อมที่จะรับเพราะไม่มีอะไรห่วง 188
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ผมภูมิใจที่ผมได้ทำงานมากกว่าคนอื่นคือผมไม่เคยลา 38 ปี และก็ไม่ค่อยมาอยู่บ้านจะอยู่ในหน่วยทหาร” การเข้าสู่การเมือง พลเอกวัฒนา สรรพานิช มีประสบการณ์ทางการเมือง มายาวนานโดยเข้าสู่การเมืองนับตั้งแต่การเป็นข้าราชการทหาร แต่เป็นการเมืองในช่วงที่ทหารเข้ามายึดอำนาจหรือมีบทบาท ทางการเมืองแทนนักการเมือง จำนวน 6 สมัย ครั้งแรกในปี 2519 ซึ่งเรียกว่า “สมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” สภา ดังกล่าวทำหน้าที่เสมือนวุฒิสภาในปัจจุบัน สมาชิกสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2520 สมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง ปี 2529 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2534 สมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง ปี 2535 สมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง 2538 และสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดกาญจนบุรี ในการเลือกตั้งวุฒิครั้งแรก (ดำรงตำแหน่ง 4 มี.ค.2543 - 19 ก.ย. 2549) แม้ว่าจะมีบทบาทและมีประสบการณ์ทางการเมือง มายาวนานแต่การเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเป็น สิ่งที่พลเอกวัฒนา สรรพานิช มีความภูมิใจมากที่สุด ขณะ เดียวกันทำให้มีบทบาทในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ในด้านต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่โดยตรง “ผมเข้าสู่การเมือง ส.ว. จากการแต่งตั้งถึง 6 สมัย รวมเป็น 7 จากการเลือกตั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2519 เรียกว่า สภาปฏิรูป ไม่ได้เรียก ส.ว. การเข้าสู่การเมืองในฐานะ 189
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้สมัคร ส.ว. ผมเป็น ส.ว. จากการเลือกตั้งครั้งแรก เมื่อปี 2543 และจบวาระเมื่อปี 2549 แต่เกิดการปฏิวัติ ก่อนผมหมดวาระ ผมภูมิใจตอนผมเป็น ส.ว. 95 ตำบล 900 กว่าหมู่บ้าน ผมดำเนินการอยู่และผมก็ไม่ได้จ่ายเงิน เพราะผมไมม่ เี งนิ จา่ ย แตก่ ารเลอื กตง้ั ส.ส. ผมจำใจตอ้ งเปน็ ผมรับปากเขาไว้ ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องแต่ว่าเมื่อไม่ได้จบเลย ผมให้แง่ที่ว่าการลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคสำคัญต่อ ตัวเรา” แต่กับบทบาทสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) พลเอก วัฒนา สรรพานิช แม้ว่าจะได้ลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ไม่ประสบ ความสำเร็จ ทำให้ไม่มีโอกาสได้ทำงานการเมืองในฐานะ ส.ส. แต่อย่างใด ในทัศนะของ พลเอกวัฒนา สรรพานิช พรรคการเมือง มีความสำคัญต่อนักการเมือง เพราะพรรคเป็นที่รวมของ อุดมการณ์ทางการเมืองและนโยบายซึ่งเกิดจากการรวบรวม ข้อเรียกร้องในความต้องการ รวมถึงปัญหาต่างๆ ของประชาชน โดยมีนักการเมืองนำมาวิเคราะห์และตัดสินใจพัฒนากลายมา เป็นนโยบายของพรรคที่ใช้ในการหาเสียงและเป็นคำมั่นสัญญา ที่ให้ไว้แก่ประชาชนในช่วงเวลาการหาเสียงเลือกตั้ง สิ่งที่ นักการเมืองต้องดำเนินการคือการนำนโยบายดังกล่าวไปปฏิบัติ ให้เกิดผลต่อประชาชนอย่างจริงจัง “ผมไม่มีโอกาสได้เป็น ส.ส. แต่อยากจะฝากให้ ส.ส. ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนเราต้องเห็นประโยชน์ของ 190
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ประชาชนต้องมาก่อน พรรคต้องกำหนดนโยบายที่ชัดเจน ที่สนองตอบต่อความต้องการของประชาชน ส.ส. นำนโยบายไปปฏิบัติๆ ได้จริง” พรรคการเมืองและการหาเสียงเลือกต้ัง พลเอกวัฒนา สรรพานิช อธิบายต่อประเด็นดังกล่าวว่า ในการหาเสียงเลือกตั้งของตนเองนั้นเน้นการเดินหาเสียงเพราะ ได้ใกล้ชิด ได้รับสัมผัสและรับรู้ถึงความต้องการของประชาชน มากกว่าการใช้วิธีการอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดตัวตัว ประชาชนในชุมชนท้องถิ่นต่างๆ โดยที่การหาเสียงใช้นโยบาย ของพรรคการเมืองเป็นข้อเสนอที่จะดำเนินทำงานการเมือง หากได้รับเลือกตั้ง สำหรับแนวโน้มในอนาคตของพรรคการเมือง พลเอก วัฒนา สรรพานิช เห็นว่าพัฒนาการทางการเมืองและพรรค การเมืองของไทย พรรคการเมืองขนาดใหญ่จะมีความได้เปรียบ มากกว่าในขณะเดียวกันพรรคการเมืองขนาดเล็กไม่สามารถ แข่งขันทางการเมืองได้ และจะล้มสลายในที่สุด แม้ว่าพรรค การเมืองขนาดเล็กจะมีความสำคัญต่อการเมืองและประชาชน ก็ตาม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ พรรคการเมืองขนาดเล็ก ไม่สามารถนำนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ปฏิบัติได้เพราะไม่มีโอกาส ชนะการเลือกตั้ง กรณีดังกล่าวมาจากการเรียนรู้ทางการเมือง ของประชาชนที่ต่อเนื่องมานาน “เดินหาเสียง บอกพรรค ชี้แจงนโยบาย พรรคเล็ก จะหายไปจากสังคมไทยโดยการเรียนรู้ของเขาเอง เมื่อ 191
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี พรรคเล็กเกิดขึ้นเราจะเห็นว่าไม่มีความสำคัญเท่าไร แต่พรรคเล็กจะมีความสำคัญถ้าทำทุกอย่างให้เขา (ประชาชน) ได้” ปัจจัยที่มีผลต่อความเข้มแข็งทางการเมือง ในทศั นะของพลเอกวฒั นา สรรพานชิ เหน็ วา่ ความเขม้ แขง็ ทางการเมืองขึ้นอยู่กับนักการเมืองและพรรคการเมือง ทั้งนี้ เพราะเกี่ยวข้องกับเสถียรภาพทางการเมือง พรรคการเมืองจะมี ความสำคญั ตอ่ การเปน็ รฐั บาลเพราะเปน็ ผทู้ ร่ี วมของนกั การเมอื ง และนโยบายที่จะถูกนำมาใช้ในการบริหารประเทศ แต่อย่างไร ที่มีความสำคัญมากคือ รัฐธรรมนูญซึ่งได้กำหนดรูปแบบการ ปกครอง กำหนดกติกาหรือเงื่อนไขต่าง ๆ ไว้ รวมถึงความ สัมพันธ์ระหว่างองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ “ความเข้มแข็งทางการเมืองการเมืองต้องมีกรอบ คือรัฐธรรมนูญต้องมีกติกาซึ่งมีความผูกพันทุกองค์กร รูปร่างหน้าตา ความผูกพันระหว่างองค์กรของรัฐ การปกครองจะปกครองยังไง ประชาชนจะมีหน้าที่อย่างไร ความล้มเหลวของการเมืองของเราก็คือการมีรัฐธรรมนูญ ที่เลว จริยธรรมวิถีประชาธิปไตยต้องมีวินัย รู้จักให้อภัย ปรองดอง ประนีประนอมเป็นหลัก” โดยรัฐธรรมนูญต้องกำหนดกติกาที่ดีและมีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ ในขณะเดียวกันสังคมต้องมีจริยธรรมให้ความ สำคัญกับหลักการประชาธิปไตย มีวินัย รู้จักการให้อภัย 192
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ประนีประนอมเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนเป็นจำนวนมาก ในสังคม 4.1.9 พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ เกิดวันที่ 8 กันยายน 2488 สมรสกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ เพิ่มสุข วิษณุวงศ์ มีบุตรธิดา 2 คน ได้แก่ น.ส.สุชยา วิษณุวงศ์ และนายวิชาญ วิษณุวงศ์ การศึกษา ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี (ระดับ มัธยมศึกษา) โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัดกาญจนบุรี และ โรงเรียนกระดาษไทยอนุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี โรงเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 16 หลักสูตรโดดร่ม และหลักสูตรจู่โจม โรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษ หลักสูตรชั้นนายร้อยและหลักสูตร ชน้ั นายพัน โรงเรียนศนู ย์การทหารราบ หลักสตู รฝ่ายอำนวยการ หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 59 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง หลักสูตรวิทยาลัยป้องกัน ราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (วปรอ.4111) เกียรติประวัติเหรียญตรา พ.ศ. 2514 เหรียญพิทักษ์ เสรีชน (เวียตนาม) พ.ศ. 2521 เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 1 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช (มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก) พ.ศ. 2547 ตำแหน่งที่สำคัญในการปฏิบัติราชการทหาร ผู้บังคับ หน่วยระดมหมวดกองร้อย หน่วยสูตรสงครามพิเศษ พ.ศ.2511- 2522 ทหารฝ่ายอำนวยการและเสนาธิการ ในกองทัพบก พ.ศ.2523-2532 ปฏิบัติการในสังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด พ.ศ.2533-2547 ผู้อำนวยการกองที่ 3 ศูนย์รักษาความปลอดภัย 193
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ช่วยบัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย (อัตราพลตรี พ.ศ. 2538 ) รองผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย ที่ปรึกษา สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (อัตราพลโท พ.ศ. 2544) ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (อัตราพลเอก พ.ศ. 2547) การปฏบิ ตั ริ าชการพเิ ศษ ปฏบิ ตั ริ าชการสงครามเวยี ดนาม พ.ศ. 2511 ปฏิบัติราชการในโครงการของศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพบก ส่วนโครงการ 309 พ.ศ. 2515-2519 ปฏิบัติราชการ ในโครงการของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ส่วนโครงการ 506 พ.ศ. 2519-2522 ปฏิบัติราชการในโครงการของ ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพบก ส่วนโครงการ 513 พ.ศ. 2524-2533 นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 13 รักษาพระองค์ พ.ศ. 2543 กรรมการ ในคณะอนุกรรมการ ปปง. พ.ศ. 2544 ตุลาการศาลกรุงเทพ พ.ศ. 2545 หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ประจำผู้บัญชาการทหารบก พ.ศ. 2545 นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ พ.ศ.2547 งานด้านวิชาการ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยาลัยป้องกัน ราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการ ทหารสงู สุด พ.ศ.2544-2547 อาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาโครงการ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง การดำรงตำแหน่งด้านการเมือง สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 1 (ชุดที่ 2) พ.ศ.2548-2549 รองประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ประธาน คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาติดตามสถานการณ์ที่น่าสนใจ 194
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม กรรมาธกิ ารการทหาร สภาผแู้ ทนราษฎร ประธานคณะอนกุ รรมการ ติดตามการดำเนินงานการพัฒนาภูมิภาค (ภาคกลาง) กลาง ตอนล่าง กลุ่มที่ 1 (นครปฐม, ราชบุรี, สุพรรณบุรีและ กาญจนบุรี) ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒ ิ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาในเชิงนโยบายในจังหวัดนราธิวาส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 1 (ชุดที่ 23) พ.ศ.2550-2554 ประธานคณะกรรมาธิการวิชาสามัญ พิจารณาปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2551-2552 รองประธานคณะกรรมาธิการการทหาร คนที่ 1 สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2552-2556 รองประธานคณะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหาร งบประมาณจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาพิจารณาโครงดารเสริมสร้าง ศักยภาพและบริหารจัดการกองทัพ คณะกรรมาธิการการทหาร การเข้าสู่การเมือง พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ เข้าสู่อาชีพการเมืองในช่วง ปลายการรับราชการทหาร โดยงานด้านความมั่นคงกรณีปัญหา ความไมส่ งบในพน้ื ทส่ี ามจงั หวดั ชายแดนใตเ้ ปน็ งานทร่ี บั ผดิ ชอบ ในช่วงท้ายชีวิตราชการ โดยมีนาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ อดีตนักการเมืองของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นผู้ชักชวน พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์เห็นว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าสู่การเมือง ในฐานะ ส.ส. ของจังหวัด และมีโอกาสได้ทำงานด้านความ มั่นคงที่ต่อเนื่องจากงานราชการจึงตัดสินใจเข้าสู่สนามเลือกตั้ง นับตั้งแต่การเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2548 เป็นต้นมา 195
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี “ผมจะเข้าสู่การเมืองผมอยู่ในช่วงปลายของการ รับราชการ เดิมทีผมรับราชการทหาร มียศเป็นพลเอกแล้ว เป็นที่ปรึกษาพิเศษของสถาบันป้องกันประเทศ เรื่องที่ยัง คงติดค้างอยู่ในการทำงานรับราชการก็คือเรื่องของปัญหา ที่เป็นภัยคุกคาม ทางด้านการก่อความไม่สงบในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ช่วงนั้นผมเห็นว่าเราจะปล่อยไปอย่างนั้น แล้วโอกาสที่เราจะไปช่วยแก้ปัญหาของชาติในเรื่องของ การก่อความไม่สงบมันก็คงจะไม่มีทางอีก ช่วงนั้นกำลัง จะมีการเลือกตั้งในต้นปี 48 ซึ่งหมอเดชา สุขารมณ์ ท่านเป็น ส.ส. เดิม เห็นว่าเราเป็นคนหนึ่งที่น่าจะมีความ สามารถในการที่จะมาทำงานการเมืองตรงนี้ไปชวนมา ผมเห็นว่ามันเป็นโอกาสทั้งสองอย่าง ในการมาทำงาน การเมืองและไปช่วยแก้ปัญหาก็เลยตกลง” การเข้าสู่การเมืองโดยผ่านการเลือกตั้งในช่วงเวลา ดังกล่าว พลเอกสมชาย วิษณุวงษ์เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้ว่า ตนเองจะมีประสบการณ์การทำงานการเมืองมานาน รวมถึง ประสบความสำเรจ็ ในอาชพี รบั ราชการแลว้ กต็ าม เพราะตดั สนิ ใจ ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2547 ในขณะที่ การเลือกตั้งกำหนดขึ้นในเดือนกุมพันธ์ ปี 2548 ทำให้มีเวลา การลงพื้นที่หาเสียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่การเป็นคนจังหวัด กาญจนบุรีโดยกำเนิด ผ่านการศึกษาจากโรงเรียนวิสุทธรังสี ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เป็นนักเรียนเรียนเก่ง ทำให้มีทั้ง เพื่อนร่วมรุ่น รุ่นพี่รุ่นน้อง จึงเป็นที่รู้จักกันดีของคนจังหวัด กาญจนบุรี ในขณะเดียวกันยังเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 196
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม รุ่นเดียวกับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพลอากาศเอกคงศักดิ์ วันทนา อดีตผู้บัญชาการทหาร อากาศ จึงทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น “ในช่วงนั้นต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ผมมีเวลาค่อนข้างสั้นเวลาที่ตัดสินใจช่วงนั้นคือ ในเดือน พฤศจิกายนของปี 2547 และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นใน เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2548 ซึ่งจะมีช่วงเวลา 3 เดือนในการ หาเสียงซึ่งค่อนข้างอยาก ผมเป็นคนที่นี่โดยถิ่นกำเนิด ผมเป็นคนท้องถิ่น ผมเรียนหนังสือที่โรงเรียนวิสุทธรังสี โรงเรียนกระดาษไทยนุเคราะห์ เมื่อพอพูดเท้าความไป แล้วมันค่อนข้างง่าย คนในร่วมสมัยคนจะรู้จักผมคนข้างดี เหมือนเป็นนักเรียนที่อยู่ในแนวหน้าทุกคนก็จะค่อนข้าง รู้จักดี และผมเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกันกับ คุณทักษิณ ชินวัตร พลอากาศเอกคงศักดิ์ วันทนา” การเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี และนักเรียนโรงเรียน วสิ ทุ ธรงั สี รวมถงึ การลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั ในนามพรรคไทยรกั ไทย ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตราชการทหารทำให้ประสบ ความสำเร็จในการลงเลือกตั้งนับจากสมัยแรกในปี 2548 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งในระบบเขตเดียวเบอร์เดียว และการเลือกตั้ง ครั้งที่สองในระบบรวมเขตในการเลือกตั้งครั้งต่อมา “การเลือกตั้งครั้งแรกเขตเดียวเบอร์เดียว ส่วนการ เลือกตั้งครั้งที่ 2 ได้อันดับ 2 รองจาก พลโทมะ ครั้งแรก 197
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี เขตเดียวเบอร์ก็จะเป็นอำเภอเมืองอย่างเดียว ต่อมาเมื่อ เป็นการรวมเขต เขตที่ 1 ก็ประกอบด้วย 3 เขตย่อยรวม 9 อำเภอ เดิมทีผมเป็นคนท่าม่วง ตำบลหนองขาว ในทางการเมืองอยู่พรรคไทยรักไทย ต่อมาก็เป็น พลังประชาชน และเพื่อไทยในปัจจุบัน” ในการเข้าสู่อาชีพการเมืองของพลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ นั้นจำเป็นต้องปรับตัวค่อนข้างมาก ด้วยอาชีพราชการทหาร มีระบบการทำงานที่แตกต่างจากอาชีพนักการเมืองโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะการรับฟังความคิดเห็น ข้อเรียกร้องของประชาชน ท่ีตอ้ งการใหแ้ กไ้ ขปัญหา ในขณะเดยี วกันนกั การเมอื งตอ้ งรับฟัง การโต้แย้งหรือถกเถียงในประเด็นปัญหาต่างๆ ในขณะที่ ราชการทหารในฐานะผู้บังคับบัญชา มีอำนาจในการสั่งการ และตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาด การต่อรองหรือถกเถียงเป็นเรื่อง ยากที่จะเกิดขึ้น “เรื่องนี้ต้องยอมรับตรงๆ ว่าลำบากสำหรับคนที่ เป็นข้าราชการประจำมาก่อน ยิ่งคนที่มีตำแหน่งที่มันสูงๆ การที่จะมาปรับตัวเป็นนักการเมืองโดยยึดถือประชาชน ซึ่งเราต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของเขามากที่สุด ถ้าหากว่าใครไม่ปรับตัวอาจทำให้ประสบความสำเร็จ ค่อนข้างยาก เราต้องปรับ คือเราอยู่ค่อนข้างที่จะสูงแล้ว เราจะทำอะไรต้องมีกฎระเบียบวินัย พอมาข้างล่างพี่น้อง ประชาชนประสบปัญหานานัปการที่รอการดูแล ความ คิดเห็นย่อมมีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง เราต้องเข้าใจและ 198
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ต้องปรับตัวให้ได้เพื่อที่จะสนองความต้องการของพี่น้อง ประชาชน” การเขา้ สอู่ าชพี นกั การเมอื งทำใหพ้ ลเอกสมชาย วษิ ณวุ งศ์ มีความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาของจังหวัดกาญจนบุรีว่า เป็น จังหวัดที่มีปัญหาด้านโครงสร้างค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปัญหา เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดิน ซึ่งที่ดิน 2 ใน 3 ของ จังหวัดฯ เป็นที่ดินที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของหน่วยงานราชการทั้งสิ้น ประกอบด้วย ที่ดินของกองทัพ ที่ดินอุทยานแห่งชาติ ที่ดินป่า สงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติ ในขณะที่ ประชาชนแม้ว่าจะอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินดังกล่าวมา ยาวนานแต่กลับไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดินแต่อย่างใด นอกจากนี้ในขณะเดียวกันยังเป็นจังหวัดที่เป็นต้นน้ำสำคัญใน ลุ่มน้ำภาคกลางแต่ประชาชนในบางพื้นที่กลับประสบปัญหา การขาดแคลนแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค “โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มี ปัญหาในโครงสร้างค่อนข้างมาก ตัวอย่าง จังหวัด กาญจนบุรีที่ดินประมาณ 2 ใน 3 ของจังหวัดเป็นที่ของ ทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นที่ของทหารในกฤษฎีกา 2481 ที่อุทยานแห่งชาติ ที่ป่าสงวนหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ เป็นพื้นที่ ที่หวงห้าม ไม่ให้ประชาชนเขาไปครอบครอง เป็นสิทธิที่ไม่มีทางเอกสารหลักฐานได้ ก็ต้องทำความ เข้าใจในการแก้ปัญหาเพื่อให้การดำเนินชีวิตทางสังคม และทางราชการไปด้วยกันได้ แล้วยังมีปัญหาอื่นเช่นเรื่อง 199
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี น้ำ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีน้ำค่อนข้างอุดม สมบรู ณ์ สถานะจริงๆแล้วเป็นต้นน้ำ น้ำส่วนใหญ่ก็จะไหล ไปยังพื้นที่ตอนล่างซึ่งมีจังหวัดอื่นรับผลประโยชน์ เช่น ราชบุรี สมุทรสงครามบ้าง แม้กระทั่งกรุงเทพในส่วนของ การประปานครหลวง ในขณะเดียวกันพื้นที่จังหวัด กาญจน์ เรียกว่าเป็นพื้นที่ภาคอีสานในภาคกลางซึ่งต้อง รอรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้” บทบาทพรรคการเมือง และความความสัมพันธ์ของกลุ่มต่างๆ ในพรรค พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า บทบาท ของพรรคการเมืองขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญซึ่งได้บัญญัติหน้าที่ของ พรรคการเมืองไว้ กรณีดังกล่าวพิจารณาได้จากบทบัญญัติว่า ด้วยพรรคการเมืองที่ปรากฏในรัฐธรรมฉบับปี พ.ศ.2540 และ ฉบับ ปี พ.ศ.2550 ข้อแตกต่างระหว่างรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับ ส่งผลต่อพรรคการเมืองและนักการเมืองในการดำเนินกิจกรรม ทางการเมืองอย่างมาก โดยรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2540 ได้ให้ ความสำคัญกับพรรคการเมืองมากกว่า มุ่งเน้นและส่งเสริม ความเข้มแข็งของพรรคการเมืองซึ่งมีผลต่อเสถียรภาพและ ความเข้มแข็งทางการเมืองของรัฐบาล เป็นผลให้ ส.ส. รวมกลุ่ม สังกัดพรรคการเมือง สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2550 มีลักษณะตรงกันข้าม ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง มีโอกาส ที่จะถกู ยุบตลอดเวลา 200
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม “ในเรื่องนี้ถ้าจะพูดเช่นนั้นต้องดูว่าในยุคที่ผม เข้ามานั้นประกอบด้วยกฎหมายที่สำคัญของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 และ ปี 2540 ทั้ง 2 ฉบับนี้ ในบทบาทหน้าที่ของ พรรคการเมืองค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอย่างมาก รัฐธรรมนูญปี 2540 จะให้ความสำคัญกับพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นภาพลักษณ์ของพรรคการเมือง ก็จะอยู่ใน สถานะที่เข้มแข็ง การเกาะกลุ่มของ ส.ส. ต้องอาศัย กฎเกณฑ์กติกาที่เข้มแข็ง ในขณะเดียวกันเมื่อมาถึง ปี 2550 พรรคการเมืองค่อนข้างที่จะล่อแหลมมาก พูดง่ายๆ ว่าโอกาสที่ยุบพรรคมีมาก รัฐธรรมนูญ 2540 กับ 2550 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง” นอกจากนี้พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ยังได้อธิบาย เพิ่มเติมดังนี้ สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญปี 2540 คือ 1) การ ตรวจสอบค่อนข้างยากในองค์กรอิสระ 2) สถานะของสมาชิก พรรคการเมืองค่อนข้างจะมีกติกาเคร่งครัดทำให้การย้ายพรรค เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก เมื่อเปรียบเทียบกับวันเวลาที่กำหนดให้ มีการเลือกตั้ง เช่นกำหนดให้มีการเลือกตั้ง 45-60 วัน ในขณะที่ การย้ายพรรคต้องกำหนดให้ทำได้ภายใน 90 วันเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องตัดสินใจย้ายพรรคก่อนจะถึงวาระการเลือกตั้ง ประเด็นที่ ท้าทายต่อความเข้มแข็งของพรรคการเมืองจึงมีแตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง ในขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2550 กำหนดไว้ เพียง 30 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตามในทัศนะของพลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ทั้งนักการเมืองและคนในสังคมมีความ 201
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี เห็นแตกต่างกันออกไป โดยมีคำอธิบายหรือคำโต้แย้งใน หลากหลาย อาทิ ทัศนะต่อความเข้มแข็งของพรรคการเมืองที่มี ผลต่อความเข็มแข็งทางการเมือง การพัฒนาไปสู่ระบบ สองพรรคการเมืองใหญ่ ข้อดีข้อเสียของระบบพรรครัฐบาล พรรคเดียวหรือ รัฐบาลผสมหลายพรรค ในขณะที่ความเห็นใน ทางตรงข้าม อาจอธิบายเหตุผลความแตกต่างระหว่างที่พัฒนา ทางการเมืองแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา “วาระการเลือกตั้งเสร็จยังไม่ออกก็ได้ ออกทีหลัง แล้วจึงจะไปลงเลือกตั้งก็ได้ ตรงนี้ทุกคนก็จะมีความเห็น แตกต่างกันออกไป คนหนึ่งบอกว่าระบบพรรคการเมือง ต้องเข้มแข็ง การเมืองถึงจะเดินไปได้ด้วยดี ในท้ายที่สุด แล้วการเมืองก็จะเหลือเพียงแค่สองพรรคใหญ่ๆ เช่น ในประเทศที่เจริญแล้ว ในขณะเดียวกันบรรยากาศ ทางการเมืองของบางประเทศอาจไม่เอื้อ ก็อาจต้องบอก ว่ามีหลายพรรค (ดีกว่า) ก็แล้วแต่มุมมองว่า หลายพรรค กลายเป็นรัฐบาลผสม เหมาะไหม มันก็แตกต่างกันโดย สิ้นเชิง เพราะฉะนั้นจะถามความเห็นผม ผมก็ต้องบอกว่า มันขึ้นอยู่กับภาวะที่กำหนดในเรื่องของรัฐธรรมนูญว่า จะทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งเช่นรัฐธรรมนูญปี 2540 หรือจะทำให้พรรคการเมืองมีความอ่อนตัวเช่น ปี 2550 อย่างนี้เป็นต้น” 202
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม การหาเสียงเลือกต้ัง แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในอาชีพราชการทหารแต่กับ การเมืองแล้ว พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ยอมรับว่าการลงสู่ สนามการเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายและใครก็สามารถทำได้ ความ ซับซ้อนภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องความคิดเห็นและความ เข้าใจการเมืองของประชาชนที่มีต่อนักการเมืองนั้นในการลง เลือกตั้งตัวเขาเองยังคงไม่คุ้นเคยและอ่อนประสบการณ์ แต่ ความโชคดีในการลงสู่สนามการเลือกตั้งในจังหวัดกาญจนบุรี นั้นเป็นผลมาจากการเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรีโดยกำเนิด สายสัมพันธ์เครือญาติและเพื่อนฝูงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ต่อความสำเร็จในการลงสมัครรับเลือกนับจากครั้งแรก “การหาเสียงไม่ใช้เรื่องง่ายเลย มาก็อึ้งเหมือนกัน อย่างที่ผมบอกแล้วว่า 1) ผมโชคดีที่ผมเป็นคนที่นี่ เพราะฉะนั้นถ้าถามถึงคนที่อายุ 50 กว่าขึ้นไปแล้ว เค้าก็ ค่อนข้างที่จะรู้จักผมแล้วบังเอิญถ้าคนยุคนั้นในสมัยนั้น ก็จะมีญาติผู้ใหญ่ผม คือคุณอาผมกับพ่อผม เค้าก็เป็นคน ที่คนรู้จักทั้งจังหวัด ก็เป็นคนช่วยในเรื่องของส่วนตัว เราต้องยอมรับว่าเวลาที่มีแค่นั้น นอกนี้แล้วส่วนหนึ่งในความสำเร็จในการลงสู่การเมือง จังหวัดกาญจนบุรีคือการสนับสนุนของนาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ ซึ่งเป็นผู้ชักชวนลงสมัครับเลือกตั้ง และสนับสนุนฐานคะแนนเสียงในฐานะ ส.ส. กาญจนบุรีพื้นที่ เดิม โดยกลุ่มหัวคะแนน และผู้นำท้องถิ่นที่มีบทบาททาง 203
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี การเมืองในพื้นที่และเคยเป็นฐานการเมืองให้กับนาวาอากาศโท นายแพทย์เดชาฯ พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ยอมรับว่า ในการ เปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรก ประชาชนหรือ คนทั่วไปยังไม่ทราบหรือรู้ว่าตนเองเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นคนเก่าแก่คนหนึ่ง ทำให้ไม่รับความสนใจมากนัก จนกระทั่ง คนทั่วไปทราบถึงประวัติส่วนตัว ในภาพรวม พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ อธิบายว่า สิ่งที่ ทำให้ตนเองประสบความสำเร็จมาจากสามปัจจัย ประกอบด้วย 1) ผลจากการสนับสนุนทางการเมืองโดยนาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมย์ อดีตเจ้าของพื้นที่ 2) ผลจากการเป็น คนพื้นที่หรือชาวจังหวัดกาญจนบุรี ละ 3) ความโดดเด่นของ คู่แข่งขันทางการเมือง ซึ่งยังคงมีไม่มากนักในขณะนั้น ในขณะ เดียวกันยังได้รับอิทธิพลจากกระแสของพรรคการเมืองที่ตนเอง สังกัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก ดังคำ อธิบายดังนี้ “บังเอิญในสมัยนั้นตัวพี่หมอเดชาเอง ก็ทำงาน การเมืองอยู่ ในส่วนนั้นเค้าก็ยังเห็นว่าใครก็ตามที่หมอ สนับสนุนมา เค้าก็เห็นดีด้วยเค้าก็พร้อมจะสนับสนุนเรา นี่ก็เป็นประเด็นที่ 2) แล้ว พอประเด็นที่ 3) คือในสมัยนั้น อาจจะมีคนแข่งขันกันในตัวที่เด่น ๆมีไม่มากนักเมื่อเรา เปิดตัวเช่นนั้นมา พอเค้ารู้ว่าเป็นคนเก่าแก่ที่นี้ เค้าก็ เปลี่ยนเค้าก็หันกลับมาได้ มันก็เลยถือว่าเป็นโชคดีของเรา ที่พี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรี เค้าเห็นว่าสมควรที่จะ เลือกคนพื้นที่นี้คนท้องถิ่นนี้ เค้าก็เลยหันกลับมาเพราะ 204
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ฉะนั้นเมื่อรวม 3 ประการ มันก็เลยกลายเป็นกลยุทธ์ ในการหาเสียงเฉพาะกิจที่เกิดขึ้นในช่วง 3 เดือน มีความ สามารถเฉพาะตัวในเรื่องของญาติพี่น้องอยู่บ้าง มีฐาน เสียงของผู้ที่สนับสนุนเรามากระแสพรรคก็ดี ปี 2544-2548 ได้รับการยอมรับจากประชาชน นโยบายดีเรื่องรากหญ้า 2548 ก็เลยได้ดอกผล” การรักษาคะแนนเสียงและฐานเสียง พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ อธิบายถึงประเด็นกล่าวนี้ว่า การหาเสียงเลือกตั้งและการรักษาฐานคะแนนเสียงของ นักการเมืองนั้น ประการแรก เกี่ยวข้องกับพัฒนาการทาง การเมืองของไทย ซึ่งนับจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 เป็นต้นมานั้น การเมืองไทยมิได้มีการพัฒนาอย่างที่ควร จะเป็น ดังปรากฏว่าเกิดการรัฐประหารโดยกองทัพอยู่บ่อยครั้ง ทำให้การเมืองไทยไม่มีความแน่นอน ประการที่สอง ปัญหาว่า ด้วยสถานภาพการเมืองของไทยศูนย์กลางอยู่ในกรุงเทพฯ จังหวัดขนาดใหญ่ที่ได้รับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า จังหวัดในพื้นที่ห่างไกลหรือชายแดน ขาดความเท่าเทียมในด้าน ต่าง ๆ ดังนั้นกลยุทธ์หรือวิธีการหาเสียงเลือกตั้งจึงมีความ แตกต่างกันออกไป “ในความคิดผมการเมืองประเทศไทยที่พัฒนา มาตั้งแต่ปี 2475 ปัจจุบันเราไปถึงไหนเราก็ยังล้มลุก คลกุ คลานอยพู่ อสมควรจนกระท่งั มาถึงปี 2540 กค็ ่อนข้าง จะมั่นในว่าจะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารแต่ก็มี เพราะ 205
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ฉะนั้นความไม่แน่นอนมันก็มีเกิดขึ้นนี่คือจุดที่หนึ่งที่เรา เราจะต้องคิดถึง ประการที่สองเราต้องถามเราด้วยว่า สถานภาพการเมืองในประเทศไทยที่เกิดขึ้นในกรุงเทพ กับในจังหวัดที่เจริญ กับในจังหวัดชายแดนหรือพื้นที่ ชายแดน” ความแตกต่างในพื้นที่เลือกตั้งทำให้จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ หรือวิธีการหาเสียงเลือกตั้ง โดยต้องมีการวิเคราะห์และกำหนด เป้าหมายให้ชัดเจนว่าควรดำเนินการด้วยกลยุทธ์อย่างไรจึงจะ เหมาะสมกับการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ สำหรับพลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ กลยุทธ์การหาเสียง เลือกตั้งที่ดีคือการเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เข้าได้ทุกกลุ่ม สามารถที่จะนำเสนอหรือพูดคุยให้ประชาชน ได้พิจารณาถึงนโยบายและนักการเมืองว่าเหมาะสมกับการ ตัดสินใจลงคะแนนเสียงให้หรือไม่ ดังคำอธิบายดังนี้ “ระดับเหมือนกันไหมก็ตอบว่ายากที่จะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นวิธีการกลยุทธ์การนำเสนอ การเข้าถึงจะต้อง แตกต่างกันออกไปเราก็ต้องคิดเอา เราต้องวิเคราะห์ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราก็ต้องกำหนดกรอบ วิเคราะห์ เป้าหมายออกมาว่าเป็นอย่างไร แล้วเราต้องหาสิ่งที่เป็น กลยุทธ์ในการเข้าถึง อย่างไรก็ตามเราต้องเข้าถึงพี่น้อง ประชาชนให้มากที่สุด แล้วต้องเข้าได้ทุกกลุ่ม มันก็จะ เป็นการที่จะนำเสนอให้เค้าคิด ส่วนเค้าจะเลือกหรือไม่มัน อีกเรื่องหนึ่ง แต่เราต้องนำไปสู่วิธีการที่ จะนำไปถึง 206
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม เป้าหมายต่างๆ เหล่านั้นให้ได้ คนชายแดนเราจะเข้ายังไง คนในชนบทจะเขายังไงคนในตัวเมืองจะเข้ายังไง คนที่อยู่ ในระบบของราชการจะเข้ายังไง ผมยกตัวอย่างง่ายในเขต อำเภอสำคัญ ๆ หรือตัวจังหวัดมีหมู่บ้านจัดสรรมากมาย เราจะเข้ายังไงกับหมู่บ้านจัดสรรล่ะเพราะคนที่อยู่ใน หมู่บ้านจัดสรรกับคนที่อยู่ในชนบทบรรยากาศไม่เหมือน กัน อย่างนี้เป็นต้นเราต้องรู้จังหวะเราก็ต้องใช้เวลาการใช้ เวลาเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องรู้ข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย เราต้องวิเคราะห์ให้ได้ก่อนเราถึงลงมือทำ” การทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต่อประเด็นดังกล่าวนี้ พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ เห็นว่า หน้าที่สำคัญของ ส.ส. มี 2 ประการ กล่าวคือ การทำหน้าที่ ดูแลแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน และการทำหน้าที่ด้าน นิติบัญญัติ ซึ่งหน้าที่ประการหลัง ได้แก่ การอภิปรายในรัฐสภา การร่วมเป็นคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาปัญหาและแนวทาง แก้ไขในการนำเสนอต่อรัฐบาล “ต้องพูดอย่างนี้นะครับ หน้าที่ของเราเมื่อเข้าไป แล้ว เราก็ต้องดูปัญหาของพี่น้องประชาชนก่อน รวมทั้ง การพัฒนา อันที่ 2 การทำหน้าที่ในนิติบัญญัติ มีการ อภิปรายในสภา มีการเป็นกรรมาธิการเพื่อที่จะแก้ปัญหา อันที่ 3 ก็อาจจะเป็นหน้าที่เฉพาะที่เรามีอยู่หรือว่ามีความ ถนัดเช่นผมเป็นทหาร งานทางด้านความมั่นคงผมก็ค่อน ข้างจะคุ้นเคย เอกลักษณ์ในตัวผมก็จะโน้มไปทางเรื่อง 207
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ของความมั่นคง แต่อย่างไรก็ตามเราต้องทำทั้ง 3 หน้าที่ ควบคู่กันไปผมเป็นคนที่เกิดที่เมืองกาญจน์ เพราะฉะนั้น ปัญหาเมืองกาญจน์ ผมทราบดี รู้ปัญหารู้ทุกอย่าง” สำหรบั ประเภทของงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายนน้ั โดยสว่ นใหญ่ จะเป็นงานเกี่ยวกับความมั่นคงทางการทหารเพราะมี ประสบการณ์ด้านดังกล่าวโดยตรง โดยรับตำแหน่งกรรมาธิการ ทหาร รวมถึงประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาสถานการณ์ที่ รุนแรง อย่างไรก็ตามด้วยการเป็น ส.ส. จังหวัดกาญจนบุรี ปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งมีผลกระทบต่อความ เป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และวิถีชีวิตของประชาชน ทำให้ พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ มีความต้องการหรือเป้าหมายในการ พัฒนาจังหวัดกาญจนบุรีให้มีความก้าวหน้ามากขึ้นกว่าที่เป็น อยู่ โดยเฉพาะการมุ่งเน้นพัฒนาแหล่งน้ำซึ่งเป็นความต้องการ อันดับต้นๆ ของจังหวัด โดยมองว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการ พัฒนาและวางแผนรองรับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังคำอธิบายดังนี้ “ผมตอ้ งทำหนา้ ทต่ี ามนติ บิ ญั ญตั ผิ มตอ้ งสอดแทรก ตัวผมเข้าไป เป็นกรรมาธิการ แต่ที่ผ่านมาเค้าก็จับผม ไปเป็นกรรมาธิการทหาร เพราะว่าผมเป็นทหารทำหน้าที่ เป็นรองกรรมาธิการทหาร และเป็นประธานอนุในเรื่องการ พิจารณาสถานการณ์ที่มันรุนแรง หรือว่าการพัฒนา กองทัพก็เป็นประธานทั้ง 2 ด้าน เสร็จแล้วผมก็ต้อง ปลีกตัว เมื่อมีกรรมาธิการวิสามัญ เกี่ยวกับการแก้ปัญหา 208
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ที่ดิน ผมก็จะเข้าไปสู่ตรงนั้น เมื่อมีกรรมาธิการทหาร ว่าด้วยเรื่องของการแก้ปัญหาภัยแล้ง หรือทำน้ำตาม ลุ่มน้ำสำคัญมีด้วยกันหลายลุ่มน้ำด้วยกันแต่บังเอิญ โชคไม่ดี ลุ่มน้ำแม่กลองถือว่าเป็นลุ่มน้ำที่ดีมีคุณภาพ เค้าจัดไว้ลำดับหลังๆ มันก็ทำให้การพิจารณาค่อนข้างที่ จะลำบาก เคา้ กจ็ ะไปเนน้ ในเรอ่ื งของภาคอสี าน ภาคเหนอื หรือภาคตะวันออก มีความขาดแคลนน้ำเป็นหลัก” “แต่อย่างไรก็ตาม เรารู้ปัญหาในนี้เราก็พยายาม เรียกร้องว่า อย่าไปมองเห็นว่าเป็นลุ่มน้ำที่ดีที่สุดแล้ว ละเลย เพราะต่อไปในอนาคตถ้าคุณไม่พัฒนาแล้ว ต่อไป มันจะยิ่งยากลำบากโดยผมชี้ให้เห็นประเด็นว่า บริเวณ ลุ่มน้ำแม่กลองก็มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่งด้วยกัน มีปริมาณการเก็บน้ำเท่าไรปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมีอีก เท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปัญหาที่มีอยู่และยังไม่ได้ แก้ กับปริมาณน้ำที่มีอยู่และนำไปใช้ได้มันพอกันไหม มันต้องเกิดแผนการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนขึ้นไป เช่น ปลูกต้นไม้ทดแทน ทำเขื่อน ฝาย ขนาดย่อยกลาง ขึ้นมา เพื่อชะลอน้ำไม่ให้มันลงมาก่อนเวลาอันควรอย่างนี้ เป็นต้น และให้ยืดระยะเวลาของน้ำที่จะใช้ได้เหนือเขื่อน ให้ครบในวงรอบ 1 ปีให้ได้อย่างนี้เป็นต้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งพื้นที่ทางด้านตะวันออกของจังหวัด ในอำเภอ หนองปรือ ห้วยกระเจา เลาขวัญ ซึ่งเป็นอำเภอที่มีความ แห้งแล้งและเราจะใช้ยังไง หรือว่าแนวคิดในการที่เค้า คิดจะเอาน้ำเหนือเขื่อนมาใช้ในพื้นที่นี้ ผมก็พยายามบอก 209
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ว่าคงต้องศึกษาให้ดีเพราะการนำน้ำเหนือเขื่อนไปใช้ ลักษณะอย่างนั้น ผมพูดเมื่อไปว่าน้ำจะขาดแคลนแล้วน้ำ ในการผลิตกระแสไฟฟ้าก็จะไม่มี คลื่นที่ยืนยันว่าน้ำจะไม่ พอคือการที่เรามีเขื่อนท่าทุ่งนาแล้วเราใช้ระบบสูบปรับ ก็แสดงว่าน้ำไม่พอใช้แล้วนั้น ถ้าเกิดน้ำทะเลหนุนขึ้นมา ในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นในเขตจังหวัดสมุทรสงคราม กับ ราชบุรี ต้องอาศัยน้ำในระบบนิเวศลงไปช่วยดันน้ำ ถ้าเรา ไม่มีน้ำส่วนนี้เหลือเอาไว้ใครจะไปช่วย แล้วถ้าน้ำทะเล หนุน 2 จังหวัดนี้แล้ว จังหวัดนั้นทำยังไงหมดเลย เพราะ ฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำจะต้องทำตั้งแต่ต้นน้ำแล้วทำ ด้วยความรอบครอบ ทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าคิด จะทำอะไรก็ทำ ผมพยายามศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ” ความร่วมมือทางการเมืองภายในพรรคและต่างพรรค ในทัศนะของพลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ เห็นว่า ส.ส. มีหน้าที่หลัก 2 ประการ กล่าวคือ การทำงานหน้าที่ในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) ซึ่งทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ต้องทำหน้าที่เหมือนกันภายใต้ความรับผิดชอบต่อประชาชน ซึ่ง ส.ส. ต้องรับทราบปัญหาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในขณะ เดียวกันยังมีหน้าที่สร้างความเจริญให้กับพื้นที่ของตนอีกด้วย ทั้งนี้ความแตกต่างของ ส.ส. หรือนักการเมืองเป็นผลมาจาก การสังกัดพรรคการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งพรรคการเมืองย่อม มีนโยบายในการพัฒนาประเทศหรือการทำงานแตกต่างกัน ออกไป ในขณะที่รูปแบบการทำงานของ ส.ส. อาจมีความ แตกต่างกันหรือเหมือนกันก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการทำงาน 210
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม โดยบางคนอาจทำงานการเมืองในพื้นที่โดยการลงพบปะ ชาวบ้านโดยตรงในชุมชนต่างๆ แล้วรวบรวมปัญหาต่างๆ เพื่อ นำเสนอให้ได้รับการแก้ไขต่อไป ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่าง นักการเมืองในจังหวัดนั้นหากเป็น ส.ส. พรรคการเมืองเดียวกัน ย่อมมีความใกล้ชิดและทำงานเพื่อสนองตอบต่อความต้องการ ของประชาชนไดด้ ีกว่าการสังกัดพรรคหรือเปน็ สมาชิกทีแ่ ตกต่าง กัน ดังคำอธิบายดังนี้ “ผมอยากแยกออกเป็นปัจจัยในการพิจารณา หนึ่ง ถ้าพูดถึงการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน พื้นที่ จะต่างพรรคต่างอะไรก็แล้วแต่ต้องทำหน้าที่เหมือน กันหมด คือมีความรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชนที่รับ ทราบปัญหา แก้ไขปัญหานำความเจริญมาสู้เค้าทุกคน ต้องดำเนินการเหมือนกันหมดแต่ในขณะเดียวกัน มันก็มี ความต่างกันในเรื่องของนโยบายพรรคแต่ละพรรค ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเมื่อนโยบายของแต่ละพรรค ไม่เหมือนกัน แนวทางแนวความคิดในการปฏิบัติมันก็ ต้องไม่เหมือนกัน อันต่อไปคืออาจจะเป็นเอกลักษณ์ของ แต่ละคนที่จะกำหนดวิธีการหรือใช้วิธีการ (หาเสียง เลือกตั้งและทำงานการเมือง โดย) มีตัวแทนมีหัวคะแนน หรือบางคนอาจบอกว่าไม่จำเป็น เราเข้าสู่ประชาชน รากหญ้าเลย เราต้องเดินทางไปพบกับทุกๆ คนอย่างนั้น แล้วจึงมารวมมือกัน แต่อย่างไรก็ตามความใกล้ชิดกัน ระหว่างพรรคการเมืองที่อยู่ในพรรคเดียวกันย่อมมีมาก กว่านักการเมืองที่อยู่ต่างพรรค แต่หน้าที่เฉพาะที่จะเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องเหมือนกัน” 211
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ปัจจัยท่ีมีผลต่อความเข้มแข็งทางการเมือง สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อความเข้มแข็งทางการเมืองนั้น พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ เห็นว่า ส.ส.ต้องให้ความสำคัญกับ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และต้องเข้าถึงประชาชน พร้อมทั้งช่วยแก้ไขปัญหา โดยพรรคการเมืองมีผลต่อความ เข้มแข็งทางการเมืองโดยตรงเพราะพรรคการเมืองเป็นที่รวม อุดมการณ์ทางการเมืองของกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมือง เดียวกันหรือเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรืออาจขัดแย้งกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องให้ความสำคัญ กับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ซึ่งภายใต้กติกาดังกล่าว จะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งลดน้อยลงไป “การเมืองคืออะไร ถ้าการเมืองหมายถึงตัว ส.ส. กับประชาชนกับระบบนิติบัญญัติหรือเรื่องของพรรค การเมือง การแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองต้องพูดให้ ชัดเจน ถ้าเป็นเรื่อง ส.ส.กับประชาชน ไม่มีปัญหาอะไร เลยเราต้องเขาถึงประชาชน เราต้องรู้ถึงความต้องการของ ประชาชนเราต้องรู้ถึงปัญหาของพี่น้องประชาชน เราต้องหาทางในการแก้ไขปัญหาเราต้องหาทางพัฒนา เพื่อหาความเจริญให้เค้า ความเจริญในหลายๆ อย่าง ต้องดูให้ถี่ถ้วน เราต้องวิเคราะห์ก่อนสำหรับในเรื่องของ เรากับพรรคการเมืองก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งตรงๆ ว่า การรวมกลุ่มของพรรคการเมืองคือคนที่มีอุดมการณ์ เดียวกันในการที่จะหาทางช่วยเหลือสังคม อย่างไรก็ตาม มันอาจจะไม่ได้เหมือนกันอย่างเดียวมันอาจจะเป็นแค่ 212
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม สอดคล้องกันก็ได้บ้างอย่างก็อาจจะขัดกันก็ได้แต่ก็ต้องดู ว่าระบบของประชาธิปไตยก็ต้องถือเสียงส่วนใหญ่ เสียง ส่วนใหญ่ว่ายังไงต้องเอนไปตามนั้น ถ้าเรายอมรับในเกม กติกานี้ ผมบอกได้เลยว่าปัญหาน้อย แต่ถ้าใครก็ตามไม่ เคารพกฎกติกามันก็จะเกิดการแย่งกัน ในพรรคการเมือง คือคนที่มีอุดมการณ์แต่อาจจะมีแนวคิดที่ไม่ตรงกันก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องถือเสียงส่วนใหญ่ซึ่งเป็นมติออกไป” แนวคิดด้านความเข็มแข็งทางการเมืองโดยเน้นความ สำคัญของพรรคการเมืองดังกล่าวของพลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ถือเป็นทัศนะที่สอดคล้องกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่กับกรณีของประเทศไทยอาจเป็นไป ทิศทางตรงกันข้ามกับกลุ่มที่มีความเห็นว่าการทำให้ พรรคการเมืองเข้มแข็งที่มากเกินไปอาจนำมาซึ่งการสร้างผู้นำ แบบทรราชหรือเผด็จการรัฐสภา รวมถึงกลุ่มที่มีทัศนะทาง การเมืองที่ไม่ไว้วางใจนักการเมืองและพรรคการเมือง 4.10 พลตรีศรชัย มนตรีวัต เกิดวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2488 ในจังหวัดกาญจนบุรี เปน็ บตุ รของพลตำรวจตรี ขนุ พชิ ยั มนตรวิ ตั กบั นางองนุ่ มนตรวิ ตั ซึ่งแม่เป็นครูชาวอำเภอท่าม่วง ในขณะที่พ่อเป็นชาว กรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียน สันติราษฎร์วิทยาลัย และปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยไอดาโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา 213
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี อาจกล่าวได้ว่าของพลตรีศรชัย มนตรีวัตแตกต่างจาก นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีโดยส่วนใหญ่ในการเข้าสู่ การเมืองด้วยพื้นฐานฐานะทางเศรษฐกิจ ครอบครัวและการ ศึกษา รวมถึงความผูกพันกับจังหวัดเกิด เพราะเมื่อเกิดก็ต้อง ย้ายตามครอบครัวและเริ่มต้นการศึกษาในกรุงเทพฯ ใช้ชีวิตใน จังหวัดกาญจนบุรีน้อยมาก มีเพียงการกลับไปเยี่ยมญาติในช่วง ปิดภาคเรียนเท่านั้น “ชีวิตเป็นลูกข้าราชการ พ่อแม่ย้ายไปไหนก็ย้าย ตาม แต่ผมเกิดมาก็ย้ายเข้ากรุงเทพฯ เลย พ่อรับราชการ อยู่ที่เมืองกาญจน์ แต่แม่เป็นคนเมืองกาญจน์ รับราชการ ครูอยู่อำเภอท่าม่วง .ทุกคนจึงคิดว่าผมเป็นคนกาญจนบุรี แต่ว่าชีวิตเราก็ถือว่าเป็นคนเมืองกาญจน์ แต่ว่ามารับ การศึกษาก็ตามพ่อแม่ แต่ว่าก็มาเรียนหนังสือยู่ที่กรุงเทพ เสียเป็นส่วนใหญ่...ปิดเทอมทีก็ไปเยี่ยมญาติเท่านั้น... พ่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พ่อเคยเป็นผู้กับ การตำรวจ ดังนั้นหลายๆ คน ทุกๆ คนจึงคิดว่าผมเป็นคน กาญจนบุรีเต็มตัว ชีวิตลูกข้าราชการ พ่อแม่ย้ายไปไหน ก็ย้ายตาม ดังนั้นผมเกิดมาก็ย้ายเข้ากรุงเทพฯ เลย” การเข้าสู่การเมือง พลตรีศรชัย มนตรีวัต หรือ เสธ.นิด มิได้มีความคิดที่จะ เข้าสู่การเมืองแต่อย่างใด แต่ด้วยชีวิตรับราชการนั้นทำหน้าที่ ประสานงานติดต่อกับฝ่ายการเมืองมาโดยตลอด โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการของ “บิ๊กจิ๋ว” พลเอก 214
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ชวลิต ยงใจยุทธ นับจากการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหาร บกเป็นต้นมา นอกจากนี้แล้วยังได้รับอิทธิพลจากบิดาซึ่งเป็น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งขณะ นั้นดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจกาญจนบุรีอันเป็นพื้นที่ ยุทธศาสตร์สงครามของประเทศที่สำคัญ และด้วยสถานการณ์ ทางการเมืองในช่วงเวลาสงครามมีความละเอียดอ่อนและ ซับซ้อนสูง รัฐบาลไทยในขณะนั้นจึงต้องการแต่งตั้งผู้ว่าราชการ จังหวัดกาญจนบุรีที่มาจากทหารหรือตำรวจ และด้วยเหตุผลนี้ เองบิดาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนั้น “ชีวิตผมไม่เคยคิดจะมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง... เมื่อสำเร็จการศึกษาก็มารับราชการด้วยทุนกองทัพบก ก็มาสอนหนังสือ 10 ปี ในโรงเรียนนายร้อยด้านรัฐศาสตร์ นี่แหละ ก็ชีวิตมันหักเห ผู้บังคับบัญชาต้องออกมาเป็น ปลัดบัญชีกระทรวงกลาโหม ก็ขอให้เรามาเป็นทหาร คนสนิท คือ พลเอกไพจิตร สมสุวรรณ มาอยู่เสร็จต้องเข้า โรงเรียนเสนาธิการทหาร เรียนด้วย ทำงานไปด้วย พอสำเร็จการศึกษาก็มาเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำตัวพลเอกชวลิต ก็คิดว่าจะได้ทำงานทหารเต็มตัว แต่ปรากฏว่าภารกิจของท่านมีงานการเมืองที่ต้อง ประสานกับนักการเมืองเยอะ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านพลเอกชาติชาย ชุณหวัณ อะไรอย่างงี้ ซึ่งบังเอิญเหลือเกินครอบครัวผมคุณพ่อเป็นข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะอยู่กับผู้มี อำนาจ เราก็เลยมีโอกาสได้เป็นลูกเป็นหลานของผู้มี 215
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี อำนาจเยอะแยะ พ่อเป็นผู้กำกับการจังหวัดแล้วก็เป็นผู้ว่า สาเหตุเพราะว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังจะยุติ ทาง รัฐบาลสมัยนั้นอยากได้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากทหาร หรือตำรวจ แล้วเขาก็ตั้งพ่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด 1 ปี เต็มๆ” เส้นทางการทำงานการเมืองนั้นแม้ว่าจะเป็นนายทหาร ซึ่งมีระบบการทำงานแตกต่างจากฝ่ายการเมืองหรือข้าราชการ หน่วยงานอื่นๆ แต่พลตรีศรชัย มนตรีวัตสามารถทำงาน การเมืองได้อย่างราบรื่น รวมถึงความไว้เนื้อเชื้อใจจากฝ่าย การเมืองชั้นผู้ใหญ่ ด้วยบารมีของบิดาอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้นำทางการเมือง พรรคการเมือง และรัฐบาลในยุคต่อมาเป็นอย่างสูง อาทิ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ เป็นต้น รวมถึงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในการทำงานในฐานะฝ่ายเสนาธิการทหารของ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเป็นนายทหารคนสำคัญของพลเอก เปรมในช่วงเวลาดังกล่าว “เมื่อชีวิตต้องมาประสานงานการเมืองประกอบ กับเรา ซึ่งเราเป็นลูกผู้ใหญ่ซึ่งพี่ชาติ (พลเอก ชาติชาย ชุณหวัณ) รู้จักพ่อเราดี อาจารย์หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็เป็นคนที่เคารพนับถือพ่อเรามาก เลยเอ็นดูเรา มากเป็นพิเศษ เมื่อทำงานการเมือง ก็เป็นประโยชน์ต่อ การประสานงานให้ท่านพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ คิดว่า อันนี้ทำให้ผมมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง” 216
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม แม้ว่างานการเมืองจะมีความซับซ้อนและเข้าใจยาก อนั เกิดจากสถานการณแ์ ละอิทธิพลต่างๆ แต่สำหรับพลตรีศรชยั มนตรีวัตแล้วสามารถปรับตัวเข้ากับการเมืองได้อย่างรวดเร็ว และโดยง่าย ทั้งนี้ด้วยมีภูมิหลังการสำเร็จการศึกษาด้าน รัฐศาสตร์หรือวิชาการว่าด้วยการเมือง รวมถึงการเป็นอาจารย์ สอนวิชาด้านรัฐศาสตร์ในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ “เราเป็นนักรัฐศาสตร์อยู่แล้ว (จบรัฐศาสตร์จาก สหรัฐอเมริกา) เพราะงั้นมาทำงานการเมืองก็เลยง่ายขึ้น แล้วก็ความไว้วางใจที่เป็นเสมือนลูกหลานท่านอย่างงี้ เลยทำอะไรต่ออะไรก็ได้รับความไว้วางใจทั้งสองฝ่าย ทั้งพลเอกชวลิต ทั้งคู่ที่จะทำงานร่วมกัน ก็เลยมีความ ใกล้ชิดกับนักการเมืองมากขึ้นๆ” ประสบการณท์ างการเมอื งในชว่ งการเปน็ ฝา่ ยเสนาธกิ าร ทหารเริ่มต้นจากการเป็นนายทหารคนสนิทของพลเอกไพจิตร สมสุวรรณ ในขณะดำรงตำแหน่งปลัดบัญชีกระทรวงกลาโหม และพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ขณะเป็นนายทหารที่ทำงาน ให้กับพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรียาวนานเป็นเวลา 8 ปี ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาของ นายทหารที่มีบทบาทสำคัญในทางการเมืองไทยช่วงหนึ่ง อย่างไรก็ตามชีวิตราชการในฐานะนายทหารหนุ่มที่เติบโตอย่าง รวดเร็วโดยได้รับการแต่งตั้งนายพลที่มีอายุน้อยมากเพียง 42 ปี ต้องยุติลงเมื่อตัดสินใจลาออกจากราชการตามพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ผู้บังคับบัญชาทหารบกในขณะนั้นทั้งๆ ที่เหลืออายุ 217
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ราชการอีก 3 ปีครึ่ง โดยเหตุผลการตัดสินใจส่วนหนึ่งมาจาก การได้รับอิทธิพลทางความคิดซึ่งนำมาสู่การตัดสินใจลาออก ของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ผนวกกับการเป็นนักรัฐศาสตร์ที่มี ความเข้าใจในอาชีพราชการกับการเมือง อย่างไรก็ตามการ ตัดสินใจครั้งสำคัญดังกล่าวพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ พร้อมกับ ครอบครัวและญาติพี่น้องมิได้เห็นด้วยแต่ประการใด “ช่วงนั้นกับพลเอกชวลิตซึ่งทำงานให้กับพลเอก เปรมมาตลอด 8 ปี เมื่อทำไปแล้วพลเอกชวลิต ลาออก จากผู้บัญชาการทหารบกทั้งๆ ที่เหลือเวลารับราชการอีก 3 ปีครึ่ง ท่านก็คิดจะลาออก ก็ตัดสินใจลาออก มาทำงาน การเมือง ผมเป็นคนหนึ่งที่ลาออกร่วมกับเพื่อนๆ ของท่าน หลายคน เช่น พลเอกจรวย วงษ์สายัณห์ พลเอกพัฒน์ อัคนิบุตร ก็ลาออกตามมาทีหลัง แต่ผมลาออกพร้อมท่าน ทันที แต่ท่านก็ไม่สบายใจที่เราลาออก แต่เราก็คิดว่า เนื่องจากเราเป็นนักรัฐศาสตร์ แล้วเรามองเห็น เรา สามารถมองทะลุได้ว่าอำนาจนี่ไม่เข้าใครออกใคร เราก็ บอกว่าก็อยากทำงานที่ไม่มีคนมากล่าวหาเรา รับราชการ แล้วมาอยู่กับการเมือง เพราะฉะนั้นก็ออกมาเสียเลย แล้ว อีกอย่างผมคิดว่าพี่จิ๋ว เป็น ผบ.ทบ. แล้วอีกตั้ง 3 ปีกว่า จะเกษียณท่านยังลาออกเลย แล้วเราแค่พลตรีทำไมจะ ไม่กล้า” ในอีกเหตุผลการลาออกจากราชการนั้นพลตรีศรชัย มนตรีวัตคิดว่าตนเองนั้นถือว่าประสบความสำเร็จในอาชีพ 218
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ราชการทหารแล้วจากการได้รับยศเป็นพลตรีซึ่งน้อยคนนักที่จะ ทำได้ขณะอายุยังน้อย พลตรีศรชัย มนตรีวัตได้มีบทบาทและ ถือเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคความหวังใหม่คนสำคัญ สำหรับพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธนั้นเมื่อไม่สามารถทัดทานการตัดสินใจลาออก จากราชการทหารได้ จึงสนับสนุนและเสนอให้ลงรับสมัครใน พื้นที่ภาคอีสานด้วยถือว่าเป็นฐานเสียงสำคัญของท่านและ พรรคความหวังใหม่ในขณะนั้น อย่างไรก็ตามพลตรีศรชัย มนตรีวัตได้ปฏิเสธและเลือกที่จะลงสมัครรับเลือกในจังหวัด กาญจนบุรีแทนเพราะไม่อยากถกู เรียกขานไปในทางไม่ดีเหมือน เช่นที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองหลายๆ คน แม้จะรู้ดีว่าการเมืองมี ความไม่แน่นอนสูงและไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะประสบ ความสำเร็จมากน้อยเพียงใด “แล้วเมื่อออกมาก็ไปสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัด กาญจนบุรี สาเหตุก็เพราะเราเป็นคนเมืองกาญจน์ คือ จริงๆ ไปลงที่ไหนก็คงจะได้ ในฐานะเป็นผู้บริหารพรรค สมัยนั้นผมเป็น founder (ผู้ร่วมก่อตั้ง) พรรคความหวังใหม่ คนหนึ่ง ฉะนั้นเราก็รู้ทิศทางอะไรเป็นอะไร ท่านพลเอก ชวลิตก็อยากให้ลงเลือกตั้ง ให้ลงอีสาน สะดวกหน่อย แล้วเรามีพื้นฐานอีสาน เป็นนักรัฐศาสตร์ รู้อยู่แล้วเรื่อง หมาหลง ผมก็บอกถ้าผมจะลงเลือกตั้งคงต้องเลือก บ้านเกิดกาญจนบุรี หนักน่ะ ท่านบอก ก็เรียนรู้อยู่แล้วว่า มันลำบากยังไง การเมือง ก็บอกได้ก็ได้ ตกก็ตก การรับ ราชการก็ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดแล้วเป็นนายพล ได้” 219
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับการเข้าสู่การเมืองของพลตรีศรชัย มนตรีวัตนั้น โดยความเห็นส่วนตัวนั้นกล่าวว่าตนเองเป็นคนโชคดีที่ประสบ ความสำเร็จได้รับการเลือกตั้งนับจากครั้งแรกที่ลงรับสมัครฯ แต่ ผลการเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จนั้นมิได้มาเพราะโชคช่วย หากแต่ได้มีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในพื้นที่เลือกตั้ง ในจังหวัดกาญจนบุรีอย่างต่อเนื่องมาเป็นนานจึงมีความรู ้ ความเข้าใจ รวมถึงการทราบลักษณะเฉพาะของพื้นที่ ความ ใกล้ชิดกับประชาชน ผู้นำชาวบ้านหรือนักการเมืองท้องถิ่นและ ข้าราชการ “ตัดสินใจลาออกมาเป็นผู้แทนฯ ก็ดีถือว่าโชคดี ได้รับการเลือกตั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ใครๆ ไปลง ก็ได้หรอกน่ะ แต่เรามีพื้นฐานตั้งแต่ปี 33 จนถึงปี 38 สัมผัสกับนักการเมือง สัมผัสกับประชาชน แล้วมีพื้นฐาน เป็นนักรัฐศาสตร์ทำให้เราประสบความสำเร็จ” ในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิตการเมือง หลังการลาออกจากราชการทหารและเข้าสู่การเมืองพร้อมๆ กับ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ผบู้ ญั ชาการทหารและขา้ ราชการเตม็ ตวั เพอ่ื ตง้ั พรรคความหวงั ใหม่ แม้ว่าพลตรีศรชัย มนตรีวัตจะคนรู้ใจและมีบทบาทสำคัญใน การตั้งพรรคก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วด้วยความสัมพันธ์กันชิด ระหว่างพลเอกชวลิต ยงใจยุทธกับนายอำนวย วีรวรรณ รวมถึง ตนเอง ในช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้งนายอำนวย วีรวรรณ ได้ตัดสินใจแยกตัวออกจากพรรคความหวังใหม่ไปจัดตั้ง 220
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม พรรคนำไทย ผลของความสนิทสนมและใกล้ชิดส่วนตัวทำให้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ยินยอมให้พลตรีศรชัย มนตรีวัต ไปทำงานการเมืองให้กับนายอำนวย วีรวรรณเมื่อได้รับการ ร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามสัญญาใจที่ได้พูดคุยกันก่อนหน้านั้น จึงเป็นที่มาถึงเหตุผลในการเป็น ส.ส. สมัยแรก และการรับ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกในสังกัดพรรคนำไทยซึ่งมิใช่พรรค ความหวังใหม่อย่างที่ควรจะเป็น “...ที่จริงวันลงเลือกตั้งจริงๆ ก็มีปัญหา ท่าน ดร.อำนวย วีรวรรณ ท่านไม่แฮปปี้กับพรรคความหวังใหม่ ไม่รู้จะทำยังไง ในที่สุดท่านก็ขอเวลาตัดสินใจ ระหว่าง หนึ่งท่านก็จะไปดำเนินงานการเมืองของท่านเอง ในที่สุด ก็คุณกับพี่จิ๋ว พี่จิ๋วก็พยายามบอกว่าอย่าเพิ่งเลย เดียว ค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยกันไป ในที่สุดท่านก็เดินหาพี่จิ๋ว วันหนึ่ง ท่านจะตั้งพรรค พี่จิ๋วพยายามขอร้องไม่ให้ตั้ง พรรค อยู่ด้วยกันไปก่อนเดี่ยวค่อยๆ แก้ปัญหาให้อย่างงี้ ในที่สุดก็จากกันไป แต่ก่อนจากท่านก็บอกว่าอำนวยตั้ง พรรคเองนี่ในพรรคความหวังใหม่อยากได้อะไรให้หมด จะเอา ส.ส. ไป ไดห้ มด ระหวา่ งนน้ั ผมกท็ ำหนา้ ทป่ี ระสานงาน ระหวา่ งพรรคระหวา่ งนน้ั ไปไหนกไ็ ปดว้ ยกนั ไปตา่ งประเทศ ก็ไปในฐานะแทนพี่จิ๋ว วันหนึ่งท่านก็บอกขอพบพี่จิ๋ว กบ็ อกวา่ พจ่ี ว๋ิ จำไดไ้ หมวา่ อยากไดอ้ ะไรในพรรคความหวงั ใหม่ ทั้งหมดนี่ วันนี้ผมจะมาขอพลตรีศรชัย ท่านก็พูดอะไร ไม่ออก นวยอยู่ด้วยกันเถอะอย่าไปตั้งเลย แต่ก็ยืนยัน ในทส่ี ดุ พจ่ี ว๋ิ กใ็ ห้ ทา่ นกส็ ง่ั ไปอยกู่ บั อำนวยเขาประสานงาน 221
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างพรรคกับพรรค เมื่อจะจัดตั้งรัฐบาลก็ถือว่าพรรค นำไทยกับพรรคความหวังใหม่เป็นพรรคพันธมิตรกัน” หลังการเลือกตั้งปี 2535 ในขณะดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรคนำไทย พลตรีศรชัย มนตรีวัต พร้อมด้วย นายอำนวย วีรวรรณ หัวหน้าพรรคได้ตัดสินใจเข้าร่วมจัดตั้ง รัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา ซึ่งต่อมาดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ซึ่งในการร่วมรัฐบาลครั้งดังกล่าวเป็นผลมาจาก สัญญาใจกับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธในฐานะหัวหน้าพรรค ความหวังใหม่ ซึ่งในการร่วมรัฐบาลครั้งดังกล่าวพลตรีศรชัย มนตรีวัต นับเป็นผู้มีบทบาทอย่างสูงในการตัดสินใจและ ดำเนินการ “เมื่อการเลือกตั้งในปี 2535 พี่จิ๋วก็มาเป็นรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย เราก็เป็นผู้ประสานงานตลอด อันนี้ย้อนหลังไปอีกนิด พอเสร็จแล้วเป็นรัฐบาล เขาก็ ฟอร์มรัฐบาลกัน 6 พรรค ประชุมตกลงกันเรียบร้อย ตอนนั้นนำไทยยังไม่ได้เข้า พี่จิ๋วก็บอกจำที่เราพูดกันไว้ได้ ไหม ถามอำนวยสิ เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรคที่ 7 ไหม ท่านอำนวยก็แล้วแต่ผม รับปากท่านไว้แล้วนี่ เราก็เลย เป็นพรรคที่ 7 ร่วมรัฐบาลด้วย” บทบาทและตำแหน่งในฐานะเลขาธิการพรรคนำไทย ทำให้มีโอกาสก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญในฐานะรัฐมนตรี ว่าการ ซึ่งโควตาพรรคที่ได้รับตำแหน่งหนึ่งในนั้นคือรัฐมนตรี 222
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ด้วยสถานะรวมถึงบทบาทของ ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีความสำคัญ ต่อประเทศ หากแต่พลตรีศรชัย มนตรีวัตกลับปฏิเสธตำแหน่ง ดังกล่าวด้วยถือว่าตนเองนั้นขาดประสบการณ์ทางการเมือง ที่มากพอ แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนทั้งจาก ส.ส. ของพรรค และข้าราชการประจำในกระทรวงฯ ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมา นานก็ตาม สุดท้ายเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง มหาดไทยเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนายบรรหาร ศิลปอาชา และปฏิเสธไม่ได้ “ผมในฐานะเบอร์สองของพรรคนำไทย ในฐานะ เลขาธิการพรรค เราก็ได้มา 4 ตำแหน่ง ในจำนวน ส.ส. 18 คน เรื่องมันยาวทำไหมถึง 4 ตำแหน่ง มี 2 รัฐมนตรี กับอีก 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการ พี่นวยเป็นคนแรก ก็เลือก รองนายก ดูแลเศรษฐกิจ ทีนี้เบอร์ 2 เป็นผมก็มีตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่ด้วยความที่ ด้อยเหลือเกินในประสบการณ์นักการเมือง ไม่เคยเป็นมา ก่อน เลือกตั้งเดือนหนึ่งแล้วเป็นผู้แทนเลย แล้ว 3 วันมา เป็นรัฐมนตรีเลยทำประเทศเสียหายแน่นอน ผมก็บอก เป็นไม่ได้เลย ยังจำได้เลย ส.ส.นี่มากดออดหน้าบ้านตรงนี้ พี่รับเถอะครับแล้วก็ข้าราชการในกระทรวง คือเราคุ้นเคย กันเพราะทำงานร่วมกันมานาน ประสานงานกับคนเยอะ พี่รับเถอะครับเป็นรัฐมนตรีไม่ยากหรอก ผมก็เถียงเขา ทุกคนว่ามันเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดคนเราต้องมี ประสบการณ์ ไม่ใช่พูดภาษาอังกฤษได้ อ่านออกเขียนได้ 223
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี แล้วเป็นโน่นเป็นนี่ได้ ผมไม่เคยเชื่อ ส.ส. 18 คนไม่ยอม จะให้ผมเป็นให้ได้ ผมก็เถียงถ้าไปเป็นเท่ากับฆ่าผม ทางการเมืองทันที ยังไงก็ไม่รับ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องไป เอาคนนอกมาเป็นรัฐมนตรี เพราะผมปฏิเสธแล้วคนอื่นไม่ กล้า ก็บอกว่าถ้าจะให้เป็นขอเป็นตำแหน่งช่วย ผมก็เลย ต้องตกกระไดพลอยโจนไปเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เพราะพี่บรรหารเป็นนายก ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย บอกเอาศรชัยมาเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย แต่กระนั้นในความเป็นจริงพลตรีศรชัย มนตรีวัต มิได้ ต้องการเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หากแต่มี ความสนใจตำแหน่งในกระทรวงศึกษาธิการมากกว่า เพราะ ตนเองนั้นมีประสบการณ์และมีความรู้ความใจในระบบการ ศึกษามากกว่าเพราะพื้นฐานการทำงานจากการเป็นอาจารย์ โรงเรียนนายร้อยฯ และการบริหารหลักสตู รของโรงเรียน “...เราก็อยากเป็นรัฐมนตรีช่วยศึกษา เพราะเรา ถนัดด้วยความเป็นอาจารย์ 10 ปี ไม่ได้เป็นเฉพาะสอน หนังสือแต่ผมเป็นคนปรับปรุงหลักสูตรอะไรต่างๆ ให้ โรงเรยี นนายรอ้ ย มคี วามรรู้ ะดบั อดุ มศกึ ษาคอ่ นขา้ งจะมาก แต่ด้วยความที่เขาจะเอาเราไปดูความมั่นคงเพราะเป็น ทหาร ดูซิบ้านเมืองเรามันผิดหมดทุกเรื่อง เราอยากเป็น รัฐมนตรีศึกษาควรจะให้ แสดงว่ามีความรู้ถึงอยากเป็น แต่บ้านเราแปลก...ผมถือว่าผมเป็นคนแรกที่อยากเป็นแต่ เขาไม่ให้เป็น ก็มาเป็นอยู่ 2 ปีก็ยุบสภา เสร็จแล้วพี่นวย 224
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ก็อยากจะเลิก ก็เลิก ผมก็เลยจับพรรคนำไทยยุบรวมกับ ความหวังใหม่กลับไปเหมือนเดิม ก็เกิดมาจากพรรค ความหวังใหม่อยู่แล้ว นี่คือที่มาที่ไป” ในงานการเมืองของพลตรีศรชัย มนตรีวัตได้มาจุด เปลี่ยนครั้งสำคัญเมื่อนายอำนวย วีรวรรณตัดสินใจยุติบทบาท ทางการเมืองของตนอันมีผลทำให้ท้ายที่สุดพรรคนำไทยได้กลับ เข้าไปรวมกับพรรคความหวังใหม่อีกครั้ง และหลังจากพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธนำพาพรรคความหวังใหม่จัดตั้งรัฐบาลพร้อม กับการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคความหวังใหม่ได้ ลดถอนความสำคัญทางการเมืองลงเป็นลำดับ ประกอบกับ ในช่วงเวลานั้นพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรได้มีแนวคิดจัดตั้ง พรรคการเมืองใหม่ในชื่อ “พรรคไทยรักไทย” ได้เชิญพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธร่วมดำเนินงานการเมืองพรรคเดียวกันอันเป็น ที่มาในย้ายพรรคการเมืองอีกครั้ง สำหรับพลตรีศรชัย มนตรีวัตรแล้ว การเป็นบุคคล ใกล้ชิดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ทำให้ได้รับทราบถึงแนวคิดและ อุดมการณ์ทางการเมืองของพลเอกชวลิต อย่างลึกซึ้ง โดย กล่าวยกย่องว่า พลเอกชวลิต นับเป็นนายทหารที่มีอุดมการณ์ ประชาธิปไตยอย่างเด่นชัด การทำงานการเมืองหรือแม้แต่ใน ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกล้วนวางอยู่บนหลักการ ประชาธิปไตย กล่าวคือ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมใน การเสนอความเห็น รวมถึงการตัดสินใจในทางการบริหารมา โดยตลอด แม้ว่าพลเอกชวลิต จะมีความต้องการใดๆ หากแต่ บุคคลสำคัญๆ ที่มีอำนาจหน้าที่ทักท้วงหรือคัดค้าน พลเอก ชวลิต จะไม่ฝืนข้อเสนอหรือข้อคัดค้านท้วงติงเหล่านั้น 225
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี “จากนั้นมา เลือกตั้งเสร็จคะแนน ส.ส. เราก็ไม่ ค่อยดี ก็พออยู่ได้ เป็นรัฐบาลเป็นอะไร ตลอดจนวันหนึ่ง นั่งคุยกันเรื่องการบริหารพรรคอะไรต่างๆ ท่านทักษิณก็มา ชวน พรรความหวังใหม่ไปอยู่กับไทยรักไทยเถอะ อันนี้ เป็นความรู้ที่ผมได้รับรู้มาโดยตลอดว่า พี่จิ๋วปรารภกับผม เออนิดน่ะ เราไม่สามารถสร้างพรรคความหวังใหม่ให้ เข้มแข็งได้ เราไปยุบรวมกับเขาแล้วเราก็ช่วยทำงานไป มันก็น่าจะสร้างบ้านสร้างเมืองบริหารบ้านเมืองไปได้ด้วย ดี สังเกตได้ว่าพี่จิ๋วไม่ขัดแย้งกับใคร เมื่อทำไม่ได้ก็ให้ โอกาสคนอื่น เหมือนท่านลาออกจากนายกรัฐมนตรีเมื่อมี ปัญหา ท่านก็ลองให้คนอื่นมาแก้ปัญหาดู คือท่านเป็น คนให้โอกาสคนอื่นตลอด ท่านพูดกับผมตอนลาออก ไม่ใช่เราไปยอมกับม็อบอะไรน่ะ มีปัญหาเยอะแยะที่คน อื่นสร้างไว้ เมื่อเรามาสะสร้างแล้วทำไม่ได้นี่ ถูกม็อบถูก อะไรต่างๆ ให้คนอื่นมาสะสร้างซิ จุดนี้คือสิ่งที่ผมรับรู้ ผม ถามตลอดว่าพี่จิ๋วคิดอย่างไร ผมจับประเด็นตรงนั้น แต่ท่านก็เป็นนักประชาธิปไตย ก็โหวตกันแล้วกัน เสียง ส่วนใหญ่อยากให้ยุบรวมก็จะยุบรวม ถ้าเผื่อไม่เราก็ บริหารพรรคต่อไป ที่พูดมาทั้งหมดผมเก็บหลักฐานไว้ หมด ผมรู้อย่างหนึ่งพี่จิ๋วเป็นนักประชาธิปไตยที่สุด เด็ก ง่อยเปลี้ยเสียขาพูดอะไรท่านก็ฟัง ท่านฟังคน ซึ่งผมเข้าใจ มากๆ เลย ฉะนั้นทำอะไรผมต้องเก็บหลักฐาน เพื่อให้ สังคมรับรู้ ให้พี่จิ๋วรับรู้ว่าคิดอย่างไรทำอะไร ผมกล้าบอก ได้เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตไม่มี ผมบอกเลยผมยกมือไหว้ ได้คนเดียว อันนี้ทำให้ผมศรัทธา ผมอายุ 42 ได้เป็น 226
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม นายพล เหลืออีก 18 ปีผมยังลาออก ผมมีโอกาสทำให้ให้ คนเก่งอย่างงี้ ผมไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง แต่ได้ทำงาน ให้คนเก่ง ผมถึงยอมทำ ที่บ้านไม่มีใครแฮปปี้กับผมเลย น้องพี่เชื้อทั้งหลายที่ผมลาออก ผมเป็นนายพลอายุน้อย มากด้วย ทุกคนเสียดาย ที่ออกมาตรงๆ ต้องบอกว่า เลือกตั้งก็ไม่ชัดเจนว่าต้องได้เป็นผู้แทน เป็นผู้แทนแล้ว เป็นอะไรละ ก็เป็นผู้แทน เป็นทหารมันเห็นภาพ พลโท พลเอกมันแค่เอื้อม ซึ่งมันเป็นเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งผม ก็ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้วมาทำงานให้พี่จิ๋ว ผมคิดย้อน หลังยังถามพี่จิ๋วตลอดเวลา ออกมาก่อน 3 ปีครึ่งหนึ่งก่อน อายุราชการพี่คิดผิดคิดถูก ท่านบอกถ้าคิดจะสร้าง ประชาธิปไตยคิดไม่ผิดหรอก แต่ท่านไม่คิดว่าการเมือง หรือนักการเมืองมันจะเลวร้ายอย่างงี้ ท่านคิดในทางที่ดี ตลอด ถามท่านถ้าย้อนอดีตท่านจะลาออกไหม ท่านก็ ยืนยันจะลาออก” ความเป็นนักประชาธิปไตยของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ยังคงอยู่ในความทรงจำของพลตรีศรชัย มนตรีวัตมาโดยตลอด ถึงปัจจุบัน และได้นำมาเป็นแบบอย่างทางการเมืองโดยเฉพาะ แนวคิดและอุดมการณ์ประชาธิปไตย “เพราะฉะนั้นเรารู้ว่าท่านคิดอะไร เราเคยคุยกัน เรื่องพัฒนาการเมืองเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่ชั่วข้ามคืน มันต้องให้เวลาให้โอกาส อย่างเช่นการลาออกจากการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เราชนะโหวต 227
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ที่เราจะการกระจายอำนาจ พี่จิ๋วก็บอกเราทำถูกแล้ว วันนี้จะเป็นประชาธิปไตยได้มันต้องกระจายอำนาจ ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนเด็กที่เขาจะเดินได้แล้วนิ คุยยัง กะเตงอยู่เลย แล้วเมื่อไหร่คุยจะปล่อย คุณจะกระเตงไป ถึง 18 เหรอ หัดเดินได้ต้องให้เขาเดิน แต่พวกหนึ่งไม่ยอม ก็พรรคหนึ่ง......ผมถึงได้ลึกซึ้งกับการเมืองของพรรค..... ไม่ได้ว่าเขาน่ะ แต่ว่าวิธีการทำงานของเขา เอาตัวเองหมด ทุกอย่าง เราทำงานรู้ว่าคิดอย่างไร พี่จิ๋วจะตั้งรัฐมนตรี ความซื่อสัตย์ไล่มาทีละคน ท่านจะตั้งรัฐมนตรีกระทรวง เกษตร ออคนนี้จบเกษตร จบน้ำมา จะเป็นใครก็แล้ว แต่ยากดีมีจนตั้งได้หมด ไม่มีใครเห็น คนอื่นต้องมี..... ต้องซับพอร์ตพรรค รัฐมนตรีสมัยที่พี่จิ๋วตั้งแล้วไม่ได้ออก มา ไม่คลอดนี่คนมีสตังค์ คนมีความรู้มีหมด แต่ทำไมเรา ทำลายท่านหมดเลย ผมพูดไม่ได้ แต่ว่าผมเห็นภาพ ชัดเจน...ผมถามคณะรัฐมนตรีพี่จิ๋วกล้าตั้งอย่างงี้เลยเหรอ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดในฐานะคนรู้ใจทำให้เมื่อพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธมีบทบาททางการเมืองไม่ว่าตำแหน่งใดๆ จะมี พลตรีศรชัย มนตรีวัตเป็นเลขาครูใจเสมอ แต่กระนั้นล้วนมา จากพื้นฐานความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของตน อย่างจริง “ตั้งแต่นั้นมาพี่จิ๋วเป็นอะไรผมก็เป็นเลขาฯ เป็น ผู้นำฝ่ายค้านผมก็เป็นเลขาผู้นำฝ่ายค้าน เป็นนายกผม ก็เป็นเลขา แต่มีตำแหน่งที่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ 228
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม เป็นอีกเรื่องหนึ่ง บางตำแหน่งแย่งกันเป็น อย่างเช่น เลขา ผู้นำฝ่ายค้านไม่มีคนมาแย่งผม เป็นเลขาธิการนายก ก็แย่งกัน ใครจะเป็นก็เป็นไป แต่ผมก็เป็นคนทำงาน กลาโหมอย่างนี้ไม่มีคนแย่ง ผมเป็นได้หมดนี่ทหารก็เป็น ส.ส. ก็เป็น อีกคนเป็นทหารก็ไม่ได้เป็น ส.ส. อีกคนเป็น ส.ส. ก็ไม่ได้เป็นทหาร ผมเป็นคนเดียวที่ทั้งยศและการ เป็นนักการเมือง เพราะฉะนั้นตำแหน่งที่ผมได้มาไม่เคย แย่งใคร เขาให้เป็นเองทั้งสิ้น มีแต่ผมปฏิเสธตลอดเวลา” บทบาททหารในการเมืองถิ่นกาญจนบุรี พลตรีศรชัย มนตรีวัต อธิบายว่าปัจจุบันการเมืองนับ เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง อิทธิพลหรืออำนาจทาง ทหารมิได้มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของ ประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด แม้ว่าอาจจะมีบ้างในบางกรณีแต่ โดยรวมมิได้มีผลต่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยตรง “นี่ 2558 หนึ่งเสียงหนึ่งโหวต ผมบอกตลอดเวลา เมืองกาญจน์มันน่าจะ มีผู้แทนเป็นทหาร แต่มิใช่ ใช่ไหม ทหารไม่มีได้เปรียบหรอก บอกแล้วว่าเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะว่ามีเสื้อแดงเสื้อเหลือง ทหารเสื้อเหลือง ผมเป็นคนละเอียดไปดูทุกหน่วยในหน่วยทหาร ก็บอกว่าอิทธิพลการเมืองมันเข้าไปดีขึ้น บังเอิญทหารเป็นเสื้อ เหลือง” ในทัศนะทางการเมืองดังกล่าว เป็นการยอมรับว่า อำนาจแบบกองทัพไม่สามารถที่จะบังคับหรือแม้กระทั่ง โน้มน้าวให้ประชาชนสนับสนุนในทางการเมือง อันเป็นผล มาจากประชาชนมีพัฒนาการการเรียนรู้และมีความเข้าใจ การเมืองในระบอบประชาธิปไตยมากขึ้นเป็นลำดับ ความเข้าใจ 229
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ทางการเมืองในแบบอดีตที่คิดว่าประชาชนให้ความสำคัญกับ อำนาจทางการทหารนั้นถือเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกับ ข้อเท็จจริงในทางการเมือง แนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมือง พลตรีศรชัย มนตรีวัต นับเป็นนายทหารที่มีความรู้ความ เข้าใจการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก ด้วยได้ รับการศึกษาในด้านรัฐศาสตร์จากต่างประเทศมาโดยตรง ในขณะเดียวกันในอดีตยังเป็นนายทหารซึ่งเป็นอาจารย์สอน ในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าอีกด้วย ภูมิหลังทาง การศึกษาจึงมีอิทธิต่ออุดมการณ์และแนวคิดทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยอย่างมาก สำหรับแนวคิดการ พัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยได้อธิบายไว้ดังนี้ “เด็กกว่าเติบโตอยู่ในครรภ์ในท้องมารดาใช้เวลา เท่าไหร่คลอด เด็กพิเรนอายุ 6 เดือนแล้วคลอดก็ต้อง ประคบประหงมในตกู้ ระจก เพอ่ื ใหแ้ ขง็ แรง ตอ้ งใชเ้ วลาอกี เดือนสองเดือนอยู่ในตู้ ประชาธิปไตยฉันใดก็ฉันนั้นมันมี การพัฒนามาโดยตลอด มันจะดีๆ ชั่วๆ อย่างไรมันก็เป็น ระบอบ แต่กระบวนการยุติธรรมซิครับมันต้องเหมือนกัน ตรงไปตรงมา ประชาธิปไตยก็พัฒนาเร็ว คุณซื้อเสียง คุณทำผิดโทษอย่างไร นิ้ศรีธนญชัยกันหมด ผมจะพูดว่า ประเทศไทยนี่เอาศรีธนญชัยไปฆ่าให้หมดประเทศก็จะ เจริญ แก้ปัญหาง่ายๆ ปล่อยประชาธิปไตยให้พัฒนาของ มันเหมือนเด็ก ทำไมต้อง 9 เดือนออกมาก็แข็งแรง 230
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม แต่ระหว่างอยู่เด็กในครรภ์ก็ต้องประคบประหงม ต้องทาน อาหารดีต้องบำรุง” ในการพัฒนาประชาธิปไตยดังกล่าว พลตรีศรชัย มนตรี อธิบายพร้อมบอกเล่าประสบการณ์ตรงซึ่งได้มีส่วนร่วมสำคัญ ในขณะเป็น ส.ส. สังกัดพรรคความหวังใหม่และทำงานใกล้ชิด กับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ มานาน โดยขณะนั้นพลเอกชวลิต ได้สนับสนุนให้เกิดการสร้างการเรียนรู้ในระบอบประชาธิปไตย โดยการมีส่วนของประชาชนด้วยนโยบายกระจายอำนาจให้กับ องค์กรปกครองท้องถิ่นซึ่งเริ่มจากการผ่านร่างกฎหมายจัดตั้ง องค์การบริหารส่วนตำบลหรือ อบต. แต่กระนั้นองค์กรปกครอง ท้องถิ่นนับจากยุคก่อตั้งถึงปัจจุบันยังคงประสบปัญหาค่อนข้าง มาก ด้วยผู้บริหารท้องถิ่นขาดความรู้ความรู้ความสามารถและ ความเข้าใจในการบริหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสัยทัศน์การ พัฒนาท้องถิ่น พร้อม ๆ กับความล้มเหลวของระบบราชการ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการ พัฒนาท้องถิ่นอย่างที่ควรจะเป็น “อย่าลืมว่าผมอยู่ในสมัยที่ให้ท้องถิ่นได้มีโอกาส เจริญเติบโตกระจายอำนาจ เรามี อบต. มีอะไรก็สมัย พลเอกชวลิต คุณจะเอาอะไรก็บริหารให้เป็น วันนี้นายก (ท้องถิ่น) คิดอยู่อย่างเดียวคือไปเอาผลประโยชน์ แก้ตรงนี้ ให้เป็นนักพัฒนา ผมบอกเด็ก ป.4 ก็สามารถใช้ด็อกเตอร์ ได้นี่ นี่มีใครทำมาสเตอร์แพลนท้องถิ่นของตนเองบ้าง ไม่มี ไปถามดูแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดโซนนิ่งนี่ ทำมา 231
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี เคยสำเร็จไหม วันนี้อยากแก้ปัญหาเรื่องข้าว วันนี้อยาก แก้เรื่องยาง ปัญหาคือเราไม่รู้โซนนิ่งเลย มันต้องถามหัว เลย ถามเกษตรจังหวัดควรจะรู้ แต่นี่ไม่รู้เลย ระบบเอา ไหม ผังเมืองวางกันตั้งแต่พี่จิ๋วเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย พยายามให้ได้ บัดนั้นจนบัดนี้ทำอะไรไม่ได้ แค่ผังเมือง ก็ไม่ทำงาน ผมบอกเลยที่เมืองกาญจน์ผมจ้างเอง เขาก็ เฉยๆ เราเป็นแค่นักการเมืองทำได้แค่นี ้ ประสบการณ์ทางการเมืองและการรับราชการทหาร รวมถึงการศึกษาด้านรัฐศาสตร์ ทำให้พลตรีศรชัย มนตรีวัต มองการเมืองในมติของผู้ตัดสินใจหรือกำหนดนโยบายมากกว่า การเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ ซึ่งประเด็นหลังนี้อยู่ในบทบาท อำนาจ และหน้าที่ของฝ่ายข้าราชการประจำมิใช่นักการเมือง แต่ปัญหา ที่เกิดขึ้นคือ สังคมหรือคนทั่วไปมักเข้าใจหรือคิดว่าเป็นบทบาท หน้าที่ของนักการเมือง เช่นเดียวกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งสังคมมีการตื่นตัวอย่างสงู และพยายามที่จะแก้ไขให้ได้ “อย่าไปโทษนักการเมือง ผมในฐานะเป็น ข้าราชการในฐานะเป็นนักการเมืองโกงเองไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีข้าราชการเป็นมือเป็นไม้ แต่ข้าราชการโกงเองได้ ไม่ต้องมีนักการเมือง ทำไมไม่ดพู รรคข้าราชการด้วย” พลตรศี รชยั มนตรวี ตั อธบิ ายวา่ ปญั หาการทจุ รติ คอรปั ชน่ั นั้นประกอบด้วยสองส่วนคือ ข้าราชการประจำและนักการเมือง แต่ที่สนใจคือ การทุจริตคอรัปชั่นในฝ่ายของนักการเมืองนั้นเป็น 232
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ไปโดยทางอ้อมมากกว่า เพราะนักการเมืองมิได้อยู่ในฐานะฝ่าย ปฏิบัติซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรง การคอรัปชั่นจึงเกิดขึ้นจาก ข้าราชการประจำ ซึ่งหากมิให้ความร่วมมือหรือเป็นผู้ดำเนินการ เอง นักการเมืองไม่สามารถทุจริตใดๆ ได้ หรืออาจเกิดขึ้นแต่ โอกาสเป็นไปได้ยากมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องควบคุมหรือ จัดการกับข้าราชการที่พฤติกรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาดตรงไป ตรงมา “คุณก็จัดการ ข้าราชการประจำก็อย่าทุจริตซิ คุณก็ฆ่านักการเมืองได้หมดแหละ ผมพูดมาแต่ละปัญหา เขาบอกก็ทำไม่ได้ ผมทำมาหมด นี่คือปัญหาทำไมไม่ดู ข้าราชการ นักการเมืองทุจริตก็จับกุมได้” สำหรับคติและหลักการที่ได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอดนับ จาการรับราชการทหารจนกระทั่งมาเป็นนักการเมืองนั้น พลตรี ศรชัย มนตรีวัต มุ่งเน้นการยึดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นแนวทาง การทำงานและการใช้ชีวิตมาโดยตลอด แม้ว่าจะอยู่ในสถานะ หรือตำแหน่งทางการเมืองซึ่งมีอำนาจมากเพียงใดก็ตาม “ผมปรารถนาตัวว่าซื่อสัตย์ ไม่ร่วมกับใคร โกงใดๆ ทั้งสิ้น แล้วผมก็ทำได้จนบัดนั้นถึงบัดนี้ ไม่เช็คประวัติผม ได้เลย ไปถามพ่อค้านักธุรกิจ ผู้รับเหมาทั้งหลาย เวลา มีตำแหน่งหน้าที่งบประมาณเข้าจังหวัดเป็นพันล้าน ผมสักเปอร์เซ็นต์มีไหม...คติคือพยายามทำดีที่สุด จนกว่า จะหมดโอกาส” 233
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี หัวคะแนน การเลือกตั้งและกลยุทธ์การหาเสียง พลตรีศรชัย มนตรีวัต ยอมรับถึงความสำคัญของ หัวคะแนนที่มีต่อการเมือง และเป็นความจำเป็นที่ต้องมี เพราะ หัวคะแนนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ประสานงาน การเมืองระหว่างนักการเมืองกับพื้นที่เลือกตั้ง รวมถึงชาวบ้าน หมู่บ้านและองค์กรปกครองท้องถิ่น การปฏิเสธซึ่งระบบ หัวคะแนนจึงเป็นคำถามที่มีต่อมาว่า จะให้นักการเมืองซึ่งต้อง ลงพื้นที่หาเสียงสนับสนุนในทางการเมืองในช่วงเวลาการรับ สมัครเลือกตั้ง และการทำกิจกรรมการเมืองอย่างไรหากขาดซึ่ง หัวคะแนน “เอาอย่างงี้ เลือกตั้งอะไรก็แล้วแต่ คุณจะไปพบ กับคนพันคนหมื่นคนได้อย่างไรถ้าไม่มีหัวคะแนน ถามว่า ผู้มีอิทธิพลคือหัวคะแนน เขาไม่แฮปปี้กับผมหรอก เพราะ ผมพูดตรงๆ เพราะบ้านเมืองของเรา เสียดายมาปฏิวัติ เสียก่อน ในคำอธิบายการเมืองซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมือง ในฐานะผู้ที่ต้องผ่านเลือกตั้งจากประชาชนจึงปฏิเสธไม่ได้ถึง ความสำคัญของระบบหัวคะแนน ซึ่งมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน อย่างใกล้ชิดและเชื่อมโยงกับระบบอุปถัมภ์ในทางการเมือง อันเป็นสิ่งเกิดขึ้นปกติในความสัมพันธ์เชิงสังคม สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างนักการเมืองถิ่น ในจังหวัดนั้น พลตรีศรชัย มนตรีวัต อธิบายสั้นๆ ว่า การทำ 234
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม กิจกรรมทางการเมืองผ่านการพูดคุยปรึกษาหารือระหว่าง นักการเมืองมักเกิดขึ้นเฉพาะนักการเมืองซึ่งเป็นสมาชิกพรรค เดียวกันมากกว่านักการเมืองระหว่างพรรค ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นในทางการเมือง โดยที่ “การทำงานร่วมกับ ส.ส. คนละ พรรคก็จะไม่คุยกันอยู่แล้ว” คำอธิบายดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความ สัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองสังกัดพรรคเดียวกับต่างพรรค การเมือง ซึ่งหากพิจารณาในมิติของการพัฒนาจังหวัดอันเป็น ที่มาของพื้นที่ทางการเมืองในฐานะ ส.ส. แล้วมักส่งผลกระทบ ต่อแนวทางการพัฒนาจังหวัดเป็นอย่างมากเนื่องจากปฏิเสธ ไม่ได้ว่า ส.ส.มักมีบทบาทเป็นอย่างมากในการพัฒนาจังหวัด ของตน อย่างไรก็ตามมิติการพัฒนาจังหวัดของนักการเมืองถิ่น ดังกล่าวนี้เป็นบทบาทหนึ่งของนักการเมืองถิ่นในอดีต หากแต่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในฉบับล่าสุด รวมถึง กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองได้ห้ามมิให้ ส.ส. เข้าไปยุ่งเกี่ยว กับการทำงานของข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ทำให้บทบาท ดังกล่าวนี้ลดความสำคัญลงเป็นลำดับ นโยบายของพรรคและการหาเสียงเลือกต้ัง แ น ว ท า ง ก า ร ด ำ เ น ิ น ง า น ข อ ง พ ร ร ค ก า ร เ ม ื อ ง แ ล ะ นักการเมืองในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในการบริหารนโยบายของพรรค ไทยรักไทยภายหลังการเลือกตั้งในปี 2544 เป็นต้นมา กล่าวคือ พรรคไทยรักไทยได้นำเสนอนโยบายผ่านการหาเสียงเลือกตั้ง และนำมาบริหารจัดการนโยบายเหล่านั้นไปสู่การปฏิบัติอย่าง 235
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372