นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี การทำงานการเมืองในพื้นที่เลือกตั้งดังกล่าวมีรูปแบบ และลักษณะที่คล้ายกับนายประชา โพธิพิพิธ (สัมภาษณ์, 2553) ดังคำอธิบายดังนี้ “จริงแล้วมันเรื่องที่ผูกพันกันมาตั้งแต่ต้น เป็นกำนันเป็นผู้ใหญ่บ้านเป็นเทศมนตรี มีความผูกพันกับ ประชาชน ส่วนมากมันจะอยู่ใกล้ชิดกันมาก่อนการเป็น ส.ส. เคยอาศัยเคยไปมาหาสู่ยังไงต้องไปอย่างนั้น ไม่มีอะไรพิเศษ ขึ้นมา ถ้าเป็น ส.ส. แล้ว หากว่าพอช่วยได้เราก็ช่วยไป การที่ ชาวบ้านมีความทุกข์สามารถเข้าถึงได้ ไม่มีปัญหา พบได้ตลอด ไม่มีกฎเกณฑ์” และนายสันทัด จีนาภักดิ์ (สัมภาษณ์, 2553) “ปัจจุบันผมก็ยังทำนาอยู่ ผมก็ทำเป็นทุกอย่าง (การลงพื้นที่) พวกชาวไร่ชาวนาไปหมด รู้ทุกพื้นที่และปัจจุบันที่ผมทำนาก็นา ที่มันแล้งน้ำเข้าไม่ได้ นี่กำลังทำอยู่กำลังปรับปรุง ยกลอยสูบน้ำ เข้ามา จัดรูปโดยใช้ทุนเราเอง การดำเนินชีวิตก็ปกติทุกอย่าง เราเป็นเกษตรกรเราก็เป็นเกษตรกร และพอมีเวลาว่าง งานส่วนรวมผมก็เยอะ เราก็แบ่งเวลา พอช่วงบ่ายส่วนใหญ่ก็จะ ไปงานสวดศพ งานเลี้ยงแถวบ้านบางทีก็ 20 กว่างาน ไม่เว้น ความจริงไม่ใช่หน้าที่ แต่มันเป็นประเพณีบ้านเรา เราต้องไป ทุกงาน พอมืดก็ไป ช่วงนี้ดีขึ้นเพราะลูกชายช่วยออกงานทั้ง สองคนลกู ชาย ถ้าผู้หญิงก็มีครอบครัวแล้วก็เปิดร้าน หลายสิบปี มาแล้วครับ อาศัยที่ว่าปัจจุบันนี้ เราใช้ให้ออกชุมชนพบปะ ประชาชนก็พอได้คะแนนเยอะ ก็เก่ง” 286
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม 4.3 เครือข่ายความสัมพันธ์ของนักการเมืองถ่ิน จังหวัดกาญจนบุรี ความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง นักการเมืองถิ่น จังหวัดกาญจนบุรีรู้จักกันมาไม่มาก็น้อย ทั้งก่อนการลงสมัคร รับเลือกตั้งจนกระทั่งได้เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. นอกจากนี ้ ยังเกี่ยวข้องกันมาตั้งแต่การทำงานการเมืองระดับท้องถิ่น ทั้งใน ระดับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรี และข้าราชการ อาทิ นาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ กำนันเซี๊ยะ หรือ ประชา โพพิพิธ กับ กำนันหยุ่น หรือ ไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร พลตรีศรชัย มนตรีวัต มีความสัมพันธ์กันทั้งในฐานะคู่แข่งขัน ในสนามเลือกตั้ง ในขณะที่นอกสนามเลือกตั้งมีฐานะเป็น นักการเมืองของจังหวัดกาญจนบุรีที่ตั้งใจจะพัฒนาจังหวัด กาญจนบุรี พัฒนาปรับปรุงสาธารณปู โภคให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเกี่ยวพันธ์ทั้งในฐานะสมาชิกพรรคการเมืองเดียวกันในบาง ช่วงเวลาอีกด้วย นั่นคือ กำนันหยุ่นสังกัดพรรคการเมืองเดียว กับพลตรีศรชัย มนตรีวัต พลโทมะ โพธิ์งาม พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ภายใต้สังกัดพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพอ่ื ไทย สำหรบั ประชา โพธพิ พิ ธิ และอฏั ฐพล โพธพิ พิ ธิ มีสถานะเป็นพ่อลูก และเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย ์ เช่นเดียวกับอนุกูล แพรไพศาล นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ และฉัตรพัฒน์ เดชกิจสุนทร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งนกั การเมอื งกบั กลมุ่ ตา่ งๆ เครอื ขา่ ย ความสัมพันธ์ทางการเมืองของนักการเมืองถิ่นกาญจนบุรี ประกอบด้วย เครือญาติ ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำทาง 287
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี เศรษฐกิจ มวลชน และนักการเมือง ซึ่งแต่ละกลุ่มล้วนมีความ สัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้ง ไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร พินิจ จนั ทรส์ มบรู ณ์ ประชา โพพพิ ธิ สนั ทดั จนี าภกั ด์ิ อฏั ฐพล โพพพิ ธิ พล.ท.มะ โพธิงาม พล.อ. วัฒนา สรรพานิช พล.อ. สมชาย วิษณุวงค์ อนุกูล แพรไพศาล อาจมีข้อยกเว้นเฉพาะกรณี นาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ ที่มิได้เป็นชาว จังหวัดกาญจนบุรีโดยตรง จึงมีได้มีปัจจัยด้านเครือญาติ การเมือง ที่เด่นชัดในประเด็นดังกล่าวนี้ พิจารณาได้จาก ภูมิหลังทางการเมือง อาทิ ไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร ประชา โพพิพิธ อัฏฐพล โพพิพิธ และปารเมศ โพธารากุล ล้วนเติบโต มาจากผู้นำท้องถิ่นในฐานะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในขณะที่ นักการเมืองรุ่นใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในปี 2554 ได้แก่ สันทัด จีนาภักดิ์ ศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ สุรพงษ์ ปิยะโชติ และฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร ล้วนมาจากการได้รับ เลือกเป็นสมาชิกสภาหรือไม่ก็อยู่เคยดำรงตำแหน่งในฝ่าย บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั้งสิ้น รวมถึง อนุกูล แพรไพศาล ซึ่งไม่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. แต่ถือเป็น นักการเมืองท้องถิ่นรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียง ในขณะที่นักการเมืองถิ่น คนอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นอดีตนายทหารทั้งสิ้น อาทิ พล.ท.มะ โพธิงาม พล.อ. วัฒนา สรรพานิช พล.อ. สมชาย วิษณุวงค์ และพลตรีศรชัย มนตรีวัต อดีตนักการเมืองสายทหารคนสำคัญ ของจังหวัด เครือข่ายความสัมพันธ์ทางการเมืองดังกล่าวอยู่ภายใต้ ระบบอปุ ถมั ภก์ ลา่ วคอื การพง่ึ พาระหวา่ งนกั การเมอื งกบั ชาวบา้ น รวมถึงภาคเอกชน เป็นไปในลักษณะของการผลักดัน 288
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม งบประมาณสนับสนุนโครงการพัฒนาสาธารณูปโภค เส้นทาง คมนาคม ไฟฟ้า ประปา ระบบชลประทาน การพัฒนาอาชีพใน ท้องถิ่นชุมชน โครงการส่งเสริมภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว การเลี้ยงสัตว์ รวมถึงการพัฒนาและขยาย โอกาสการศึกษาผ่านการสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันการศึกษา หรือการขยายวิทยาเขตเข้ามาตั้งในจังหวัด เป็นต้น ซึ่งถือเป็น พื้นฐานการพัฒนาและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัด กำนนั ผใู้ หญ่ ผบู้ รหิ ารและสมาชกิ องคก์ รทอ้ งถน่ิ ทกุ ระดบั ทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล และองค์การ บริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จึงมีความสัมพันธ์กับนักการเมืองถิ่น จังหวัดกาญจนบุรีอย่างแน่นแฟ้น เพราะมีปฏิสัมพันธ์ในการ ทำงานร่วมกันในพื้นที่ การสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลจึงเกิดขึ้น ภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าว ดังปรากฏว่านักการเมืองถิ่นล้วนมี พื้นที่ฐานเสียงหลักของตน ในขณะที่ความสัมพันธ์ดังกล่าว ภาคราชการจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสาน และดำเนินโครงการ ต่างๆ ตามข้อเสนอแนะหรือความเห็นของนักการเมืองและ พรรคการเมือง รวมถึงประชาชน ซึ่งย่อมมีความสัมพันธ์กับ นักการเมืองผ่านผลงานอันเกิดจากการสนับสนุนงานเหล่านี้ และย่อมได้รับการสนับสนุนความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตามลำดับ 289
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ภาพ 4.2 แสดงความสมั พันธก์ ารเมอื งจงั หวัดกาญจนบุรี นกั การเมือง กำนัน เค รือญาติ ผ้ใู หญ่บ้าน กลมุ่ ภาคเอกชน การเข้าสู่สนามการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีสำหรับ บุคคลทั่วไปแล้ว หากไม่ใช่ผู้นำท้องถิ่นที่มีบทบาทบารมีที่ โดดเด่นเป็นที่รู้จักมักคุ้นของชาวจังหวัดกาญจนบุรีโดยทั่วไป เป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือแม้กระทั่ง ส.ว. แม้แต่การมีภูมิหลังเป็นนายทหารที่เคย ทำงานในพื้นที่และเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรีโดยกำเนิด ซึ่งก็ มิใช่หลักประกันในความสำเร็จในสนามเลือกตั้งแต่ประการใด โดยเฉพาะตำแหน่ง ส.ส. ของจังหวัดฯ ได้ 290
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม 4.4 พฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนใน การเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมการเลือกตั้งในที่นี้ ผู้วิจัย ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเฉพาะการเลือกตั้งที่น่าสนใจและ สามารถที่จะนำมาศึกษาเพื่ออธิบายถึงพฤติกรรมทางการเมือง ของประชาชนจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีการเลือกตั้งครั้งที่น่า สนใจดังนี้ การเลือกตั้งวันที่ 2 กรกฎาคม 2538 ผลการเลือกตั้ง ที่สำคัญ ประกอบด้วย เขตที่ 1 ผู้ได้รับเลือกตั้ง ประกอบด้วย พลตรีศรชัย มนตรีวัต 82,483 คะแนน นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐ ถาวร 77,610 คะแนน ทั้งสองสังกัดพรรคนำไทย และ นาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ สังกัดพรรคชาติไทย ได้ 72,099 คะแนน ในขณะที่ผลคะแนนผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ รับการเลือกตั้งแต่น่าสนใจ อาทิ นายมนูญ พงษ์วัฒนา พรรคชาติพัฒนา ได้ 62,080 คะแนน นายพินิจ จันทร์สมบูรณ์ พรรคพลังธรรม ได้ 29,701 คะแนน และสุภกิจ แป้นเขียว พรรคชาติไทย ได้ 23,636 คะแนน สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 ผู้ได้รับเลือกตั้งประกอบด้วย นายประชา โพธิพิพิธ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 76,875 คะแนน รองลงมาได้แก่ นายเรวัติ สิรินุกูล พรรคชาติไทยได้ 63,840 คะแนน ในขณะที่ผู้ไม่ได้รับการเลือกตั้งที่น่าสนใจ อาทิ นายสันทัด จีนาภักดิ์ พรรคชาติไทย ได้ 58,821 คะแนน นายประวิทย์ เจนวีระนนท์ พรรคนำไทย 38,317 คะแนน ว่าที่ร้อยตรีสุเทพ ธรรมสฤษดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 291
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี 5,834 คะแนน และนายรังสิมัญฐ์ สิทธิสังข์ พรรคนำไทย 835 คะแนน (กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, 2538, หน้า 38) หากพิจารณาผลคะแนนดังกล่าวพบว่า ในช่วงเวลา ดังกล่าวพฤติกรรมการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ประการแรก คือ ปัจจัยด้านผู้นำพรรค ซึ่งมีกระแสความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมือง และ ประการที่สอง คือ ปัจจัยด้านผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือ ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ทั้งนี้ปัจจัยหลังนี้นับว่ามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ลงคะแนนเสียงหรือการสนับสนุนของประชาชนจังหวัด กาญจนบุรี ทั้งนี้ด้วยเป็นผลจากพฤติกรรมทางการเมืองและ วัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชนที่ให้ความสำคัญต่อ ผลงานที่นักการเมืองเคยสร้างประโยชน์ให้กับท้องถิ่น ในขณะ เดียวกันความสัมพันธ์ที่ยึดโยงแนบแน่นระหว่างนักการเมืองถิ่น กับผู้นำท้องถิ่น กรณีของพลตรีศรชัย มนตรีวัต (พรรคนำไทย) นั้นด้วยภูมิหลังมีสถานะนายทหารที่มีบทบาททางสังคมและ กิจกรรมในพื้นที่ที่ทำกิจกรรมการเมืองมาต่อเนื่องยาวนาน มีโดดเด่นมากกว่านักการเมืองถิ่นคนอื่นๆ ในขณะนั้นทำให้มี ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของชาวบ้านทั่วไป เช่นเดียวกับผลคะแนน การเลือกตั้งของ ประชา โพธิพิพิธ (พรรคประชาธิปัตย์ 76,875 คะแนน) เรวัติ สิรินุกูล (พรรคชาติไทย 63,840 คะแนน) ซึ่งทั้ง สองคนได้รับเลือกตั้ง ในขณะที่ สันทัด จีนาภักดิ์ (พรรคชาติไทย 58,821 คะแนน) ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ผลคะแนนดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน และ นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีได้ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ 292
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งประชา โพธิพิพิธ และเรวัติ สิรินุกูล ล้วนมีภูมิหลังทั้งการเป็นผู้มีบารมี ชื่อเสียงและผลงานในสายตา ชาวบ้านมากกว่านักการเมืองคนอื่นๆ ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน แต่ด้วยภูมิหลังและบทบาททางการเมืองในพื้นที่ของสันทัด จีนาภักดิ์ ทำให้เขามีชื่อเสียงและบารมีทางการเมืองไม่น้อยกว่า ทั้งสองคน จึงทำให้ผลคะแนนเลือกตั้งไม่แตกต่างกันมากนัก ในการเลือกตั้ง 17 พฤศจิกายน 2539 พลเอกวัฒนชัย วุฒิศิริ พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนมากที่สุด 99,913 คะแนน รองลงมาได้แก่ พล.ต.ศรชัย มนตรีวัต พรรคความหวังใหม่ ได้ 95,512 คะแนน และ นาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ จากพรรคชาติไทย ได้ 82,738 คะแนน ทั้งสามคนได้รับเลือกตั้ง ในเขต 1 ในขณะที่ผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง อาทิ นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร จากพรรคความหวังใหม่ ได้ 81,759 คะแนน นายมนุญ พงษ์วัฒนา ชาติพัฒนา ได้ 29,912 คะแนน นายพินิจ จันทร์สมบูรณ์ พรรคพลังธรรม ได้ 18,506 คะแนน สำหรับในเขตที่ 2 ผู้ได้รับการเลือกตั้งประกอบด้วย นายประชา โพธิพิพิธ พรรคประชาธิปัตย์ 90,264 คะแนน รองลงมาไดแ้ ก่ นายเรวตั ิ สริ นิ กุ ลู พรรคชาตไิ ทย 77,671 คะแนน ขณะที่ผู้ไม่ได้รับการเลือกตั้งได้แก่ นายสันทัด จีนาภักดิ์ ประชาธิปัตย์ 69,797 คะแนน และ นางสาวอ้อย ไผทฉันท์ พรรคชาติไทย 8,237 คะแนน (กรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย, 2539, หน้า 44) กล่าวได้ว่าพฤติกรรมกรรมการเลือกตั้งของประชาชน จังหวัดกาญจนบุรีมิได้มีความแตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อน 293
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี หน้านี้คือในการเลือกตั้งวันที่ 2 กรกฎาคม 2538 มากนัก หาก แต่ที่อาจแตกต่างคือ ผลการเลือกตั้งปี 2539 ในเขตเลือกตั้งที่ 1 มพี ลเอกวฒั นชยั วฒุ ศิ ริ ิ จากพรรคประชาธปิ ตั ยช์ นะการเลอื กตง้ั มีคะแนนเป็นอันดับหนึ่งและทำให้นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร หรือกำนันหยุ่น จากพรรคความหวังใหม่ต้องสอบตกแม้ว่ามี คะแนนเลือกตั้งเป็นจำนวนมากถึง 81,759 คะแนนก็ตาม ทั้งนี้ ในเขตนี้ผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมดล้วนมีภูมิหลังเป็น นายทหารทง้ั สน้ิ หากแตส่ งั กดั พรรคแตกตา่ งกนั ในขณะเดยี วกนั ผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ล้วนได้คะแนนน้อยกว่ามากแม้แต ่ ผสู้ มคั รทม่ี ชี อ่ื เสยี งอยา่ งนายพนิ จิ จนั ทรส์ มบรู ณ์ พรรคพลงั ธรรม ยังได้คะแนนเพียง 18,506 คะแนนเท่านั้น ซึ่งหากพิจารณาถึง สถานการณ์การทางการเมืองดังกล่าวกระแสคะแนนนิยมของ พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายชวน หลีกภัย นายก- รัฐมนตรีในขณะนั้นนับว่ามีสูงมาก จึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่มี ผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับพลเอกวัฒนชัย วุฒิศิริ มากกวา่ ผสู้ มคั รรายอน่ื ๆ และอาจเปน็ เหตผุ ลเดยี วกบั เขตเลอื กตง้ั ที่ 2 ซึ่งทำให้ นายประชา โพธิพิพิธ (พรรคประชาธิปัตย์ 90,264 คะแนน) ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเป็นลำดับหนึ่ง และ นายสันทัด จีนาภักดิ์ ประชาธิปัตย์ ได้คะแนนมากถึง 69,797 คะแนน แม้ว่าจะไม่ได้รับเลือกตั้งก็ตาม โดยผู้ที่ได้รับเลือกตั้ง อีกคนในเขตนี้คือ นายเรวัติ สิรินุกูล สังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งได้ คะแนนมากถึง 77,671 คะแนน ผลคะแนนดังกล่าวแสดงให้เห็น ถึงความสำคัญของบุคคลและกระแสของพรรคการเมืองที่สังกัด ในขณะนั้นด้วย 294
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม กลา่ วไดว้ า่ พฤตกิ รรมการทางการเมอื งวา่ ดว้ ยการเลอื กตง้ั ของประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี และนักการเมืองถิ่น จังหวัดกาญจนบุรีเปลี่ยนแปลงจากการเลือกตั้งเป็นอย่างมาก โดยปรากฏขึ้นในการเลือกตั้งครั้งถัดมาในวันที่ 6 มกราคม 2544 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ร่วมกับกลุ่มนักการเมืองที่มีชื่อเสียงและมีประวัติการทำ การเมืองที่ดี และนักวิชาการกลุ่มหนึ่งได้จัดตั้งพรรคไทยรักไทย และได้ใช้นโยบายหาเสียงเลือกตั้งเป็นแนวทางหลักในการ นำเสนอแนวทางการทำงานของพรรคฯ หากได้รับเลือกตั้ง ทำให้ในเวลาต่อได้เกิดกระแสการตอบรับเป็นอย่างมาก จนกระทั่งมีผลต่อการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมถึงกระแสความ นิยมของประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีที่มีต่อพรรคฯ และผู้สมัคร รับเลือกตั้ง ส.ส.ในขณะนั้น โดยได้คะแนนระบบบัญชีรายชื่อ มากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ กล่าวคือ คิดเป็นร้อยละ 41.66 ทั้งๆ ที่เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่ราว 2 ปี เท่านั้น และพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 33.72 ในขณะที่ผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทยได้จำนวน ส.ส. 2 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่มากที่สุด ได้ ส.ส. จำนวน 3 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคความหวังใหม่ประสบกับความล้มเหลว ไม่มี สมาชิกพรรคฯ ได้รับเลือกตั้งแต่อย่างใด (โปรดดูเพิ่มเติมใน ตาราง 4.1, 4.2 และ 4.3) 295
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ตาราง 4.1 แสดงสถิติจำนวนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียง เลือกตัง้ วันที่ 6 มกราคม 2544 เขตเลือกตัง้ จำนวนผมู้ ีสิทธิ บตั รใชล้ งคะแนน 1 เลือกต้งั 107,092 จำนวน รอ้ ยละ 70,599 65.92 2 112,943 78,504 69.51 3 108,565 79,479 73.23 4 104,657 70,640 67.50 5 86,152 57,022 66.19 รวม 519,409 35,6262 68.59 ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.). (2544). ข้อมูล สถิติ และผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2544, หน้า 69, กรุงเทพฯ: เดอะ มาสเตอร์ เจอร์นัล จำกัด. ตาราง 4.2 แสดงผลการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 296
แบบบญั ชรี ายช่ือ จังหวดั กาญจนบรุ ี ในการเลอื กต้ังวันอาทิตย์ ท่ี 6 มกราคม 2544 เขต ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ไทยรักไทย ประชาธิปัตย ์ความหวงั ใหม่ ชาติไทย เขต 1 297 31,405 20,784 1,724 3,358 เขต 2 37,415 18,595 2,571 5,923 เขต 3 34,612 28,978 336 1,201 เขต 4 17,693 23,059 6,478 8,142 เขต 5 18,448 21,564 4,255 1,212 รวม 287,753 139,573 112,980 15,364 19,836 (85.89%) (41.66%) (33.72%) (4.59%) (5.92%) *ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งรวมจำนวนทั้งสิ้น 335,041 คน ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.). (2544). ข้อมูล สถิติ และผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2544,หน้า 261 -262, กรุงเทพฯ: เดอะ มาสเตอร์ เจอร์นัล จำกัด.
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี สิ่งที่น่าสนใจคือ พรรคการเมืองซึ่งมีฐานการเมือง สนับสนุนในกลุ่มหัวคะแนน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มต่างๆ ก่อนการเลือกตั้งนั้น พรรคชาติไทย ได้รับคะแนนในระบบบัญชี รายชื่อเพียงร้อยละ 5.92 ในขณะที่พรรคความหวังใหม่ ได้รับ คะแนนเพียงร้อยละ 4.59 เท่านั้น สำหรับระบบแบ่งเขตเลือกตั้งซึ่งใช้เกณฑ์ ส.ส. หนึ่งคน ต่อหนึ่งเขตนั้น หากพิจารณาคะแนนในกลุ่มผู้สมัครสำคัญๆ ผลปรากฏวา่ คะแนนใน 3 อนั ดบั แรกจะมชี ว่ งหา่ งจากลำดบั อน่ื ๆ ค่อนมาก อาทิ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 นาวาอากาศโท นายแพทย์ เดชา สุขารมณ์ พรรคไทยรักไทย ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 43.36 รองลงมาได้แก่ นายสุเมธ โพธิพิพิธ พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 37.07 ในขณะที่ลำดับที่ 3 นายสุชิน เป้าอารีย์ พรรคความหวังใหม่ ได้คะแนนร้อยละ 8.63 ในเขตเลอื กตง้ั ท่ี 2 นายสนั ทดั จนี าภกั ด์ิ พรรคไทยรกั ไทย ได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 53.25 ในขณะที่ ลำดับสอง ได้แก่ พลเอกสุพร หิรัญสิ พรรคประชาธิปัตย์ได้ คะแนนเพยี งรอ้ ยละ 21.88 และลำดบั ท่ี 3 นายวฑิ ติ มาไพศาลสนิ พรรคความหวังใหม่ ได้คะแนนร้อยละ 11.90 เขตเลือกตั้งที่ 3 นายเรวัต สิรินุกูล พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนร้อยละ 56.64 รองลงมาได้แก่ นายนายปารเมศ โพธารากลุ ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 42.33 และนางนฏั ฐติ า บญุ เสนนั ท์ พรรคประชากรไทย ได้คะแนนเพียงร้อยละ 1.03 เขตเลือกตั้งที่ 4 นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร พรรค ประชาธิปัตย์ ได้คะแนนมากที่สุดร้อยละ 51.61 รองลงมาได้แก่ 298
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม นายศุภกิจ แป้นเขียว ความหวังใหม่ได้คะแนนร้อยละ 36.33 และ พล.ต.ต.สุรัตน์ ยุทธโยธิน ไทยรักไทย ได้คะแนนร้อยละ 11.33 ตามลำดับ เขตเลอื กตง้ั ท่ี 5 นายประชา โพธพิ พิ ธิ พรรคประชาธปิ ตั ย์ ได้คะแนนมากที่สุด ร้อยละ 53.00 รองลงมาได้แก่ พลตรีศรชัย มนตรีวัต พรรคความหวังใหม่ ได้คะแนนร้อยละ 24.35 และ นายปญั ญา สดุ สวงศ์ พรรคไทยรกั ไทย รอ้ ยละ 21.89 ตามลำดบั 299
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี 300 ตาราง 4.3 แสดงผลการเลือกสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรแบบแบง่ เขต จงั หวดั กาญจนบุรี ในการเลอื กตั้งวนั อาทติ ย์ ที่ 6 มกราคม 2544 เขต หมายเลขสมคั ร ชอื่ ผสู้ มคั ร พรรคทสี่ ังกัด คะแนน ร้อยละ ความหวังใหม่ 5,088 8.63 5 นายสุชิน เป้าอารีย์ 47.36 4.76 7 น.ท.เดชา สุขารมณ์ ไทยรักไทย 27,922 1.01 37.07 9 นายมนญู พงษ์วัฒนา ชาติไทย 2,805 0.59 0.58 1 11 นายวิรินทร์ ตันติพลาวนิชย์ ถิ่นไทย 593 100.00 16 นายสุเมธ โพธิพิพิธ ประชาธิปัตย์ 21,852 18 นางพัชรี ชัยบุตรสมบรู ณ์ ประชากรไทย 348 28 นายชูชีพ ร่มไทร ไทยมหารัฐ 344 รวม 58,592
เขต หมายเลขสมัคร ชือ่ ผสู้ มคั ร พรรคทสี่ งั กดั คะแนน รอ้ ยละ ความหวังใหม่ 8,003 11.90 5 นายวิฑิต มาไพศาลสิน ไทยรักไทย 35,824 53.25 ชาติไทย 5,866 8.72 7 นายสันทัด จีนาภักดิ์ ราษฏร 2,227 3.31 ประชาธิปัตย์ 14,718 21.88 9 นายชรินชัย จันทาภากุล ประชากรไทย 640 0.95 2 13 นางอรัญญา คณากรณ์ ไทยรักไทย 67,278 100.00 16 พล.อ.สุพร หิรัญสิ ประชาธิปัตย์ 27,225 42.33 ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ประชากรไทย 36,430 56.64 30118 นายแดนสรวง กลิ่นสุคนธ์ 1.03 665 รวม 100.00 64,321 7 นายปารเมศ โพธารากุล 16 นายเรวัต สิรินุกลู 3 18 นางนัฏฐิตา บุญเสนันท์ รวม
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี 302 เขต หมายเลขสมคั ร ช่อื ผ้สู มคั ร พรรคทส่ี ังกดั คะแนน ร้อยละ ความหวังใหม่ 20,169 36.33 5 นายศุภกิจ แป้นเขียว 11.33 51.61 7 พล.ต.ต.สุรัตน์ ยุทธโยธิน ไทยรักไทย 6,292 0.27 4 16 นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร ประชาธิปัตย์ 28,649 100.00 24.35 18 นางสาวหนึ่งฤทัย เนตรน้อย ประชากรไทย 400 21.89 53.00 รวม 55,510 0.77 5 พลตรีศรชัย มนตรีวัต ความหวังใหม่ 11,050 100.00 7 นายปัญญา สุดสวงศ์ ไทยรักไทย 9,935 5 16 นายประชา โพธิพิพิธ ประชาธิปัตย์ 24,054 18 นายวิริยะ ภิญโญ ประชากรไทย 348 รวม 45,423
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ความสำเร็จในการบริหารประเทศของรัฐบาลไทยรักไทย ในช่วงเวลาดังกล่าว มีผลอย่างมากต่อการเลือกตั้งปี 2548 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยผลการเลือกตั้งมีดังนี้ 303
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี 304 ตาราง 4.4 แสดงผลการเลือกสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรแบบแบง่ เขต จังหวัดกาญจนบรุ ี ในการเลอื กตง้ั วนั อาทิตย์ ท่ี 6 กุมภาพันธ์ 2548 เขตที่ หมายเลข ชื่อผสู้ มัคร พรรค คะแนน รอ้ ยละ 1 1 นายวิมล พนมศักดิ์ ชาติไทย 4,844 6.53 4 นายสุเมศ โพธิพิพิธ ประชาธิปัตย์ 22,271 30.04 2 9 พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ไทยรักไทย 36,509 49.24 11 นายวสันต์ ภูษิตกาญจนา มหาชน 10,516 14.18 1 รวม ชาติไทย 74,140 100.00 4 นายสมาน เลื่อนเครือ ประชาธิปัตย์ 5,237 6.54 9 นายพินิจ โพธิพิพิธ ไทยรักไทย 24,420 30.50 11 นายสันทัด จีนาภักดิ์ มหาชน 48,066 60.03 นางอรัญญา คณากรณ์ 2,491 3.11 รวม 80,066 100.00
เขตที ่ ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม หมายเลข ช่ือผสู้ มัคร พรรค คะแนน รอ้ ยละ 3 305 4 นายปารเมศ โพธารากุล ประชาธิปัตย์ 45,635 57.47 9 นายเรวัติ สิรินุกูล ไทยรักไทย 33,776 42.53 4 1 รวม ชาติไทย 79,411 100.00 5 4 นายสุชาติ นาควงษ์ ประชาธิปัตย์ 4,700 6.28 9 พล.ต.ต.สุรัตน์ ยุทธโยธิน ไทยรักไทย 4,089 5.47 11 นายไพบลู ย์ พิมพ์พิสิฐถาวร มหาชน 53,471 71.47 นายอนุกลู แพรไพศาล 12,559 16.79 4 ประชาธิปัตย์ 9 รวม ไทยรักไทย 74,819 100.00 นายประชา โพธิพิพิธ 24,293 41.49 พลโทมะ โพธิ์งาม 34,229 58.46 รวม 58,552 100.00 ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.). (2548). ข้อมูล สถิติ และผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2548, หน้า 392 กรุงเทพฯ: บริษัทซี.ดับเบิลย.ู แอนด์ เอส. โปรดักส์ จำกัด.
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ปัญหาการชุมชนประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยในช่วงนับตั้งแต่ปี 2547 ถึงต้นปี 2549 ทำให้ เกิดวิกฤติการณ์เมืองจนกระทั่งนำมาสู่การรัฐประหารยึดอาจ ของกองทัพภายใต้การนำของพลเอกสนธิ บุญรัตนกลิน ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ในนามคณะรัฐประหารว่า “คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ “คมช.” ทั้งนี้ได้ทำให้ วงจรอุบาทว์ทางการเมืองนับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2534 โค่นล้มรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ซึ่ง ได้นำมาสู่การชะงัก งันทางการเมืองอย่างรุนแรง ต่อมาได้มีการจัดทำและผ่าน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 หลังจากนั้นได้มีการเลือกตั้งอีกครั้ง ในวนั ท่ี 23 ธนั วาคม 2550 (สำนกั งานคณะกรรมการการเลอื กตง้ั , ออนไลน์) โดยผลการเลือกตั้ง ส.ส. ของจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ปรากฏว่า ในเขตเลือกตั้งตั้งที่ 1 ได้แก่ พลโทมะ โพธิ์งาม พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ ทั้งสองสังกัดพรรพลังประชาชน และ นายอัฏฐพล โพธิพิธ พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่ นายสันทัด จีนาภักดิ์ พรรคพลังประชาชน และนายปารเมศ โพธารากุล พรรคประชาธิปัตย์ (ดูตาราง 4.5 ประกอบ) 306
ตาราง 4.5 ผลการเลอื กตง้ั ส.ส.แบบแบง่ เขตจงั หวดั กาญจนบรุ ใี นการเลอื กตง้ั วนั ท่ี 23 ธนั วาคม 2550 เขต ยศ ชอื่ -นามสกุล หมายเลข พรรค คะแนน ร้อยละ 79,219 14.83 พล.ท. มะ โพธิ์งาม 8 พลังประชาชน 74,937 14.02 69,511 13.01 พล.อ. สมชาย วิษณุวงศ์ 7 พลังประชาชน 58,765 11.00 58,340 10.92 นาย อัฏฐพล โพธิพิพิธ 18 ประชาธิปัตย์ 50,503 9.45 50,302 9.41 น.ท. (รน.) เดชา สุขารมณ์ ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม 16 ประชาธิปัตย์ 21,192 3.97 307 11,102 2.08 นาย ไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร 4 ชาติไทย 9,950 1.86 8,563 1.60 1 นาย อนุกูล แพรไพศาล 17 ประชาธิปัตย์ นาย พินิจ จันทร์สมบรู ณ์ 9 พลังประชาชน พล.อ. วัฒนา สรรพานิช 10 มัชฌิมาธิปไตย นางสาว อำพิน จงเจริญถาวรกุล 6 ชาติไทย นาง เบญจมาศ จีระพัฒน์ 5 ชาติไทย นาย สมาน เลี่ยนเครือ 12 มัชฌิมาธิปไตย
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี เขต ยศ ชื่อ -นามสกลุ หมายเลข พรรค คะแนน รอ้ ยละ 308 7,514 1.41 นาย ประยงค์ ปั้นแหน่งเพ็ชร 13 เครือข่ายชาวนาฯ 4,658 0.87 4,588 0.86 นาย อณิวัชร์ พนม 1 ไทเป็นไท 4,585 0.86 3,778 0.71 นาย นพรัตน์ เผ่าวัฒน์ชัย 15 เครือข่ายชาวนาฯ 3,757 0.70 3,738 0.70 นาย วีระศักดิ์ สิริกาญจนา 3 ไทเป็นไท 3,318 0.62 1,233 0.23 นาย คุณากร วรรณโชติ 11 มัชฌิมาธิปไตย 1,083 0.20 855 0.16 นาย ประเสริฐ ผิวงาม 2 ไทเป็นไท 699 0.13 1 นาย ทรงเดช สุขขำ 19 เพื่อนเกษตรไทย นาย ธนภพ พรสุริวงษ์ 14 เครือข่ายชาวนาฯ นาย จำนงค์ เจริญสุข 20 เพื่อนเกษตรไทย นาย มนตรี สุขขำ 21 เพื่อนเกษตรไทย นาง บุญล้อม จันธิรา 22 ประชามติ นาย อาวุธ สงค์สกุลชัย 27 ไทยร่ำรวย
เขต ยศ ชือ่ -นามสกลุ หมายเลข พรรค คะแนน ร้อยละ 682 0.13 นางสาว วสุนา ยืนยงค์ 26 ไทยร่ำรวย 573 0.11 544 0.10 นาย มาโนช หงิมห่วง 24 ประชามติ 366 0.07 1 นาย สุริยันต์ พิบาลทอง 23 ประชามติ 534,355 100.00 นาย สืบ สมศรี 25 ไทยร่ำรวย 74,452 25.45 ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม รวม 58,195 19.90 309 53,408 18.26 นาย ปารเมศ โพธารากุล 2 ประชาธิปัตย์ 41,737 14.27 27,738 9.48 นาย สันทัด จีนาภักดิ์ 9 พลังประชาชน 24,691 8.44 3,003 1.03 นาย ประชา โพธิพิพิธ 1 ประชาธิปัตย์ 2 นาย สาทิตย์ จีนาภักดิ์ 10 พลังประชาชน นาย ฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร 3 ชาติไทย นาย พรรษา สายทอง 4 ชาติไทย นางสาว ธนพร สุขขำ 12 เพื่อนเกษตรไทย
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี เขต ยศ ชื่อ -นามสกุล หมายเลข พรรค คะแนน ร้อยละ 310 2,186 0.75 นาย งาม ชเู ลิศ 6 เครือข่ายชาวนาฯ 2,141 0.73 1,490 0.51 นาย วินัย เมืองวงษ์ 5 เครือข่ายชาวนาฯ 833 0.28 760 0.26 นาย ระพี จรรยา 8 ไทเป็นไท 750 0.26 426 0.15 นางสาว นฤมล สุขขำ 11 เพื่อนเกษตรไทย 423 0.14 260 0.09 นาย สุภาพ พุกนิลฉาย 13 ประชามติ 2 นาย ณรงค์ศักดิ์ สิริกาญจนา 7 ไทเป็นไท 292,493 100.00 นาง ปิญนุช สันโดด 16 ไทยร่ำรวย นาย กิตติพงษ์ พรหรรษาวิจิต 15 ไทยร่ำรวย นาง บุษบา วิชาธร 14 ประชามติ รวม ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.). (ออนไลน์). ผลคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2550. ใน www.ect.go.th
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม จากตาราง 4.5 พบว่าประชาชนจังหวัดกาญจนบุรี สนับสนุนพรรคการเมืองเพียง 2 พรรคใหญ่เท่านั้น คือ พรรค พลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้หากนักการเมืองใด มิได้สังกัดใน 2 พรรคนี้จะมีผลต่อโอกาสการชนะเลือกตั้ง เปน็ อยา่ งมาก ทง้ั นเ้ี ปน็ ผลจากการเมอื งเชงิ นโยบายซง่ึ ประชาชน ได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมนับจากการเลือกตั้งในปี 2544 เป็นต้นมา พฤติกรรมการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของ ประชาชนจึงให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองและตัวบุคคล ผสมผสานกัน หากแต่การสังกัดพรรคเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลต่อ การลงคะแนนเสียงสนับสนุน ในขณะที่ปัจจัยส่วนบุคคลเป็น เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองถิ่นกับประชาชน โดยเฉพาะผลงานในพื้นที่ ขณะเดียวกันยังเป็นผลจากระบบ การจัดตั้งหัวคะแนนในการดูแลและช่วยเหลือพร้อมทั้ง สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยและองค์ประกอบในการเลือกตั้งดังกล่าว จึงทำให้ คะแนนผลการเลือกตั้งในกลุ่ม 2 พรรค ทิ้งห่างจากคะแนน ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นๆ เป็นอย่างมาก การสังกัดพรรคดังกล่าวยังมีผลทำให้อดีตนักการเมือง ที่มีชื่อเสียงคนสำคัญไม่ได้รับการเลือกตั้ง อาทิ ในเขตเลือกตั้ง ที่ 1 ผู้ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ประกอบด้วยอาทิ นาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ และนายอนุกูล แพรไพศาล จาก พรรคประชาธิปัตย์ นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร พรรคชาติไทย นายพินิจ จันทร์สมบูรณ์ พรรคพลังปร ะชาชน และพลเอก 311
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี วฒั นา สรรพานชิ ในการลงสมคั รเขตเลอื กตง้ั ท่ี 1 และเขตเลอื กตง้ั ที่ 2 นายประชา โพพิพิธ พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ จีนาภักดิ์ พรรคพลังประชาชน และนายฉัตรพันธ์ เดชกินสุนทร ไม่ได้รับการเลือกตั้ง วิกฤติการณ์ทางการเมืองไทยได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ตาม โดยฝ่ายที่พ่ายแพ้ ในสนามการเลือกตั้งได้ใช้การต่อสู้ที่เรียกว่า “การเมืองนอก สภา” ผ่านการชุมชนประท้วงการบริหารงานของรัฐบาลนับจาก รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งได้รับการเลือกจากพรรค พลังประชาชน ซึ่งชนะการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก- รัฐมนตรี ต่อมาได้มีคำพิพากษาด้วยความผิดจากการเป็นพิธีกร ดำเนินรายการอาหารในสถานีโทรทัศน์ เป็นผลให้ต่อมาพรรค พลังประชาชนได้เสนอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ก็อยู่ได้เพียง ระยะเวลาสั้นในที่สุดต้องถูกยุบพรรคในเวลาต่อมา ทำให้ สมาชิกส่วนหนึ่งของพรรคฯ ออกไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคภูมิใจไทย และบางส่วนร่วมมือกับ พรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเสียง สนับสนุนข้างมากของสมาชิกรัฐสภา ต่อมาเมื่อหมดวาระของ รัฐบาลทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดการ เลือกตั้งขึ้นใหม่อีกครั้ง ในการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 จังหวัด กาญจนบุรีมีจำนวนประชากรทั้งสิ้นรวม 839,776 คน มีจำนวน 312
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ส.ส. 5 คนแบ่งออกเป็น 5 เขตเลือกตั้ง (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 19ก 24 มีนาคม 2554, หน้า 13) โดยผลการ เลือกตั้งสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง กล่าวคือ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง เลือกตั้งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ระหว่างผู้สนับสนุนพรรค เพื่อไทยกับผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากพิจารณาจาก คะแนนบัญชีรายชื่อซึ่งเป็นคะแนนของพรรค พบว่ามีสัดส่วนที่ ใกล้เคียงกัน ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ได้รับคะแนนเลือกตั้ง เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเปรียบเทียบกับสองพรรคการเมือง ข้างต้น (สองพรรคใหญ่ได้คะแนน 172,640 และ 127,021 (คิดเป็นร้อยละ 43.44 และ 43.28 ตามลำดับ) ในขณะที่ได้รับ คะแนนลำดับที่สามคือ พรรครักประเทศไทย ภายใต้การนำของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้รับคะแนนเสียงเพียง 12,021 เช่นเดียวกับพรรคลำดับที่ 4 โดยการนำของนายเนวิน ชิดชอบ ได้รับคะแนน 11,707 และลำดับที่ 5 พรรคชาติไทยพัฒนาของ นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้รับคะแนนเพียง 5,060 (คิดเป็น รอ้ ยละ 3.23, 2.95 และ 1.27 ตามลำดบั ) (สำนกั งานคณะกรรมการ การเลือกตั้ง, 2555, หน้า 241 – 242 และ 288-289) 313
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี 314 ตาราง 4.6 แสดงคะแนนผลการเลือกต้ังแบบรายชื่อบัญชีของจังหวัดกาญจนบุรีท่ีมีคะแนนสูงสุด 5 ลำดบั แรก ในการเลือกต้งั วนั ที่ 3 กรกฎาคม 2554 หมายเลข พรรค 1 ผลคะแนนในเขตเลอื กต้งั 5 รวม 1 เพื่อไทย 33346 2 3 4 22569 172640 32587 42148 41990 (42.11%) (36.85%) (45.98%) (50.21%) (41.40%) (43.44%) 10 ประชาธิปัตย์ 34115 42585 37714 33486 24121 172021 (43.08%) (48.16%) (41.15%) (40.40%) (44.24%) (43.28%) 5 รักประเทศไทย 3688 3080 3389 1337 1337 12831 (4.66%) (3.48%) (3.70%) (1.06%) (2.45%) (3.23%) 16 ภมู ิใจไทย 1231 4191 2881 212 3192 11707 (1.55%) (4.47%) (3.14%) (0.25%) (5.58%) (2.95%) 21 ชาติไทยพัฒนา 847 858 1110 1702 543 5060 (1.07%) (0.97%) (1.21%) (2.04%) (1.00%) (1.27%) 79195 88430 91660 83636 54520 397441 รวมทั้งสิ้น 40 พรรค (100.00%) (100.00%) (100.00%) (100.00%) (100.00%) (100.00%) ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.). (2555). ข้อมูล สถิติ และผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2554, หน้า 241-242 กรุงเทพฯ: บริษัทซี.ดับเบิลยู.แอนด์ เอส. โปรดักส์ จำกัด.
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม ผลคะแนนเลอื กตง้ั สะทอ้ นใหเ้ หน็ วา่ พฤตกิ รรมการตดั สนิ ใจ ลงคะแนนเสียงของประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีนั้นให้ความ สำคัญกับนโยบายของพรรคการเมืองและผลงานของ พรรคการเมือง ซึ่งถือเป็นพัฒนาการทางการเมืองที่สำคัญ (โปรดดเู พิ่มเติมในตาราง 4.6) อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พบว่า การตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง พบว่าในแต่ละเขต เลือกตั้ง ยังคงปัจจัยต่างๆ ที่ผลต่อพฤติกรรมการลงคะแนน เสียง ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัยหลัก กล่าวคือ ปัจจัยด้าน พรรคการเมือง กับปัจจัยส่วนบุคคลของผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือ นักการเมืองถิ่น ซึ่งหากในเขตเลือกตั้งใด ผู้สมัครฯ มีคุณสมบัติ เฉพาะตัวที่โดดเด่นกว่าคนอื่น บวกกับปัจจัยของพรรคการเมือง ที่กำลังได้รับกระแสนิยมในระดับสูงแล้ว ย่อมมีโอกาสที่จะชนะ การเลือกตั้งมากกว่าบุคคลอื่น ดังพบว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 1 เมื่อพิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งจาก 8 พรรคการเมืองที่ได้รับ คะแนนสูงสุด มีดังนี้ พลเอกสมชาย พิษณุวงศ์ พรรคเพื่อไทย ได้รับคะแนนเลือกตั้งมาเป็นลำดับที่หนึ่ง คิดเป็นร้อยละ 42.30 ขณะที่ลำดับที่สองคือ นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ จากพรรคประชา- ธิปัตย์ ได้คะแนนร้อย 42.09 ซึ่งทั้งสองคนต่างเป็นบุคคลที่มี บารมีและมีชื่อเสียง รวมถึงผลงาน และความสัมพันธ์กับ หัวคะแนน ผู้นำ รวมถึงชาวบ้านอย่างแน่นแฟ้นมายาวนาน ในขณะที่ผู้สมัครคนอื่นๆ ได้คะแนนน้อยมาก อาทิ น.ส.วรสุดา สุธารมณ์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน น.ส. กาญจนพร ถาวร พรรคภูมิใจไทย นายธนะสิทธิ์ อภิโชติเฉลิม พรรคพลังมวลชน 315
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี พันเอกสะอิ้ง ชนะนา พรรคความหวังใหม่ (คิดเป็นร้อยละ 7.72, 3.94, 0.40 และ 0.14 ตามลำดับ) ในเขตเลือกตั้งที่ 2 นับเป็นกรณีที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผลปรากฏว่า ฉัตรพันธ์ ธนะกิจเดชสุนทร จากพรรค ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้สมัครฯ ส.ส. ที่อาจกล่าวได้ว่ามือใหม่ใน การเมืองระดับชาติ ได้คะแนนถึงร้อยละ 50.37 เมื่อพิจารณา จากกลุ่มผู้สมัครที่ได้คะแนนมากที่สุดใน 5 คน ชนะพลตรีศรชัย มนตรีวัต จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีคะแนนร้อยละ 32.05 ทั้งๆ ที่ เป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงและบารมีมากที่สุดคนหนึ่งของ จังหวัดกาญจนบุรี แสดงให้เห็นว่าในเขตเลือกตั้งนี้ ประชาชน ส่วนใหญ่สนับสนุนทั้งตัวผู้สมัครและพรรคประชาธิปัตย์มากว่า พรรคเพื่อไทย สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม กล่าวคือ เสียงสนับสนุนทั้งพรรคและผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย มีมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ โดยในสัดส่วนของคะแนนระบบ บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รับคะแนนเสียง 42,148 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 37,714 คะแนน (คิดเป็นร้อยละ 45.98 และ 41.15 ตามลำดับ) ในขณะที่คะแนนของผู้สมัครที่ได้ คะแนนมากที่สุด 3 คนแรก ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย คือ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 47.51 และ นายปารเมศ โพธารากุล จากพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนน คิดเป็นร้อยละ 43.04 ในขณะที่นายสาธิต จีนาภักดิ์ จากพรรค ภูมิใจไทย ซึ่งแม้จะเป็นผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป มีกลุ่ม หัวคะแนนจำนวนมาก และยังเคยเป็นอดีต ส.ส.อีกด้วย 316
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม เมื่อเปลี่ยนพรรคสังกัด ทำให้คะแนนเลือกตั้งที่ได้รับมีเพียง ร้อยละ 8.37 เท่านั้น (โปรดดูตาราง 4.7 ประกอบ) ในเขตเลือกตั้งที่ 4 นายประชา โพพิพิธ จากพรรค ประชาธิปัตย์ ชนะนายไพบูลย์ พิมพิสิฐถาวร ซึ่งทั้งสองคน นับเป็นนักการเมืองที่เติบโตมาจากการเป็นผู้นำท้องถิ่น ในตำแหน่งกำนันทั้งคู่ ซึ่งผลปรากฏว่าคะแนนผลการเลือกตั้ง ไม่ห่างกันมากนัก กล่าวคือ นายประชา โพพิพิธ ได้คะแนน คิดเป็นร้อยละ 50.37 ในขณะที่นายไพบูลย์ได้คะแนนร้อยละ 47.84 สำหรับผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ได้คะแนนรวมคิดเป็น ร้อยละ 1.85 เท่านั้น สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 5 นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะนายวิฑิต มาไพศาลิน ซึ่งฝ่ายแรกได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 46.54 และ ฝ่ายหลังได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 33.14 โดยผู้สมัครจาก พรรคการเมืองอื่นได้คะแนนรวมคิดเป็นเพียงร้อยละ 20.32 เท่านั้น 317
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี 318 ตาราง 4.7 แสดงผลการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต จังหวัดกาญจนบุรี ใน การเลอื กต้งั วนั อาทติ ย์ ที่ 6 กมุ ภาพันธ์ 2554 เขต หมายเลข ช่ือผ้สู มคั ร พรรคที่สังกดั คะแนน ร้อยละ เพื่อไทย 33,501 43.59 1 1 พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ 33,332 43.37 6,111 7.95 10 นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ประชาธิปัตย์ 3,124 4.06 0.41 2 น.ส.วรสุดา สุธารมณ์ ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 315 0.30 228 0.18 16 น.ส.กาญจนพร ถาวรประดิษฐ์ ภูมิใจไทย 136 0.14 110 9 นายธนะสิทธิ์ อภิโชติเฉลิมรัฐ พลังมวลชน 100.00 76,857 39 ว่าที่พันตรีธำรง เกียรติกังวาฬไกล เพื่อนเกษตรไทย 15 นายตรีณพงศ์ ภกู ิจบุญสวัสดิ์ ไทยเป็นไทย 34 พันเอกสอิ้ง ชนะนา ความหวังใหม่ รวม
เขต หมายเลข ช่ือผสู้ มคั ร พรรคท่สี งั กดั คะแนน ร้อยละ ประชาธิปัตย์ 44,540 51.56 10 ฉัตรพันธ์ ธนะกิจเดชสุนทร เพื่อไทย 28,346 32.81 ภมู ิใจไทย 12,692 14.69 1 พลตรีศรชัย มนตรีวัต เครือข่ายชาวนาฯ 0.50 ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 431 0.44 16 นายสันทัด จีนาภักดิ์ ไทยเป็นไทย 377 0.20 พลังคนกีฬา 173 0.06 19 นายธนัชพร สุขจิต 53 2 2 นายณัฐคมณ์ บุญช ู 100.00 ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม 86386 15 นายอนุศิษฐ์ ศรีอริยะกุล 319 36 นางสาวญาดา จันทร์เจริญ รวม
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี เขต หมายเลข ชื่อผ้สู มัคร พรรคทส่ี ังกดั คะแนน ร้อยละ 320 เพื่อไทย 43,546 48.03 1 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ประชาธิปัตย์ 39,447 43.51 ภมู ิใจไทย 7,674 8.46 10 นายปารเมศ โพธารากุล ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 1.10 พลังมวลชน 993 0.14 16 นายสาธิต จีนาภักดิ์ ไทยเป็นไทย 129 0.13 119 3 2 พ.ต.อ.ไพฑูรย์ สายทอง ประชาธิปัตย์ 100.00 9 นายบุญมา ทองเพ็ชร เพื่อไทย 90,667 เครือข่ายชาวนาฯ 50.31 15 นายธนินท์รัฐ ธนทรสุทธิโรจน์ ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 41,448 47.84 เพื่อนเกษตรกรไทย 39,413 1.40 รวม 1,154 0.32 0.13 10 นายประชา โพธิพิพิธ 264 109 100.00 1 นายไพบลู ย์ พิมพ์พิสิฐถาวร 82,388 19 นายประยงค์ ปั้นแหน่งเพ็ชร 4 2 นายประศาสน์ ภษู ณะพงษ์ 39 นายมนตรี สุขขำ รวม
เขต หมายเลข ชอื่ ผสู้ มัคร พรรคท่สี งั กัด คะแนน ร้อยละ ประชาธิปัตย์ 24,919 46.54 10 นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ไทยรักไทย 17,746 33.14 ภูมิใจไทย 10,522 19.65 1 นายวิฑิต มาไพศาลิน ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 0.34 พลังมวลชน 182 0.28 16 นายอานนท์ ถนอมวงษ์ ความหวังใหม่ 148 0.05 29 5 2 นายพีระภัทร์ ยวงเงิน 100.00 9 พ.ต.อ.ฐานันตร์ นาคขำพันธ์ 53,546 ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม 34 พ.ต.อ.วัชระชัย หงษ์สงู 321 รวม หมายเหตุ: คำนวณจากฐานการลงคะแนนรวมในแต่ละเขตเลือกตั้งของจังหวัดฯ รวมทั้งสิ้น 40 พรรคการเมือง (โปรดดูตาราง 4.6 ประกอบ) ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.). (2555). ข้อมูล สถิติ และผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2554, หน้า 288-289 กรุงเทพฯ: บริษัทซี.ดับเบิลยู.แอนด์ เอส. โปรดักส์ จำกัด.
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี จากตาราง 4.7 ผลคะแนนการเลือกตั้งที่ปรากฏ แสดง ให้เห็นถึงคะแนนนิยมของประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีที่มีต่อ พรรคการเมืองขนาดใหญ่ 2 พรรค ในขณะที่พรรคการเมือง ขนาดเล็กมิได้รับการสนับสนุนจากประชาชนแต่ประการใด ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนที่ให้ ความสำคัญต่อนโยบายของพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคล ทั้งนี้แม้ว่าปัจจัยด้านตัวบุคคลจะมีผลต่อคะแนนนิยมทาง การเมืองก็ตาม นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าภูมิหลังของผู้สมัครรับ เลือกตั้งในฐานะข้าราชการพลเรือน หรือแม้แต่ทหารก็มิได้มี อิทธิพลหรือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในการลง คะแนนเสียงของประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีแต่ประการใด เนื้อหาดังกล่าวข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนา การเมืองของประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีในระบอบ ประชาธิปไตยที่ก้าวหน้ามากขึ้นเป็นลำดับ และลดทอน ความสำคัญปัจจัยด้านตัวบุคคลอย่างมีนัยยะสำคัญโดยไม่อาจ ปฏิเสธ หรือกล่าวถึงปัญหาคุณภาพของนักการเมืองและ พรรคการเมืองเหมือนเช่นในอดีต หากแต่ประชาชนให้ความ สำคัญกับนโยบายของพรรคการเมืองที่มีผลกระทบต่อตนเอง และสังคมมากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้เป็นผลจากการบริหารงาน ของรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ไทยรักไทยนับจากปี 2544 เป็นต้นมา ซึ่งเน้นการนำเสนอ นโยบายหาเสียงเลือกตั้งและนำมาปฏิบัติจนปรากฏผลเป็น รูปธรรม และในการเลือกตั้งปี 2554 พรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะสองพรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย ์ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้นำเสนอนโยบายต่างๆ เพื่อหาเสียง 322
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม สนับสนุนจากรปะชาชน การแข่งขันเชิงนโยบายที่ถูกนำไปใช้ หาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว หากพิจารณาเปรียบเทียบแล้วพบว่า นโยบายของทั้งสองพรรคการเมืองมีความใกล้เคียงกันมาก กล่าวคือ นโยบายพรรคเพื่อไทยมุ่งสนับสนุนส่งเสริม การกระจายรายได้ ด้วยการอุดหนุนสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว ยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง เป็นต้น ขณะเดียวกันยังมุ่ง สนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการบริโภคภายในประเทศผ่านนโยบาย สำคัญๆ อาทิ รถคันแรก บ้านหลังแรก บัตรเกษตรกร เป็นต้น ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอนโยบายสำคัญๆ อาทิ นโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ บ้านมั่นคง เงินทุนกู้ยืมต่ำเพื่อการ ศึกษา บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีอย่างมีคุณภาพ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพิ่มกำไรร้อยละ 25 จากการประกันรายได้ เกษตรกร โฉนดชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขยาย ประกันสังคม ปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ บ้านหลังแรกดอก เบี้ย 0% รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เชื่อม เหนือ อีสาน จรดใต้ เป็นต้น กระนั้นปัจจัยส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวกับตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือนักการเมืองก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีส่วนเสริมให้ได้รับ คะแนนนิยมทางการเมือง ปัจจัยด้านนี้เกี่ยวข้องกับอิทธิพล บารมีและระบบอุปถัมภ์ทางการเมือง ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี ้ ล้วนมีความสัมพันธ์กับฐานการเมืองท้องถิ่นของนักการเมือง เป็นสำคัญ โดยเฉพาะการสร้างฐานสนับสนุนผ่านนักการเมือง ท้องถิ่นทั้งในระดับจังหวัดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหาร 323
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนตำบล และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) รวมถึงฐานการเมืองในระดับหมู่บ้านและตำบล ซึ่งกลุ่มนี้ได้แก่ กำนันผู้ใหญ่บ้านนั่นเอง ดังที่ภานุวัฒน์ ผิวนวล (สัมภาษณ์, 2558)44 อธิบายไว้ว่า “การเข้าถึงพื้นที่ ถึงหัวคะแนน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่น การเข้าร่วมงานประเพณีท้องถิ่น งานวัด งานบวช งานแต่ง รวมถึงการช่วยเหลือในโครงการพัฒนาต่าง ๆ ทำให้ได้รับความไว้ใจ คะแนนเสียงจะดีไม่ดีตรงนี้มีความ สำคัญต่อโอกาสที่ชนะเลือกตั้ง” เช่นเดียวกันกับคำอธิบายของ ระเบียบ ประทุมสูตร (สัมภาษณ์, 2559)45 อธิบายเพิ่มไว้ว่า “การได้ใจชาวบ้าน ผู้นำชาวบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หากใคร ได้ใจมากกว่า เข้าถึงกว่าย่อมมีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากกว่า ปัจจัยภูมิหลังเป็นส่วนประกอบสำคัญแต่การเข้าถึงมีผลต่อ คะนนนิยมมากกว่า” ในขณะที่ สุพจน์ คล้ายสินธุ์ (สัมภาษณ์, 2559) มีความ เห็นในทำนองเดียวกัน “นอกจากปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อ การตัดสินใจของชาวบ้านแล้ว การเข้าถึงชาวบ้าน การเป็นคน กว้างขวางในพื้นที่ทั่วไป และได้ใจชาวบ้าน กลมกลืน ทำให้ไว้ วางใจ มคี วามใกลช้ ดิ สนทิ สนม เปน็ ขอ้ ไดเ้ ปรยี บของนกั การเมอื ง ที่มีโอกาสจะชนะการเลือกตั้ง รวมถึงการไม่ทิ้งพื้นที่นอกช่วง เวลาเลือกตั้ง ต้องสม่ำเสมอในการลงพื้นที่” 44 ผู้ใหญ่บ้านคุบอน ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัด กาญจนบุรี 45 กำนันตำบลสระลงเรือ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ตำบลสระลงเรือ อำเภอ ห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี 324
ภูมิหลัง แนวคิด อุดมการณ์ การหาเสียงและพฤติกรรม สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปัจจัยส่วนบุคคล หรือภูมิหลังดังกล่าวนี้ปรากฏในผลการเลือกตั้งของนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ในเขตเลือกตั้งที่ 5 นายประชา โพธิพิพิธ ในเขตเลือกตั้งที่ 4 แสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จทางการเมือง ในสนามเลือกตั้งของนักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีมาจาก ปัจจัยส่วนผสมการเลือกตั้ง 2 องค์ประกอบ คือ พรรคการเมือง และนักการเมือง นั่นคือ หากนักการเมืองสังกัดพรรคขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงและมีนโยบายที่ดี ผสมกับการมีภูมิหลังซึ่งมีความ สัมพันธ์กับระบบอุปถัมภ์ ประกอบด้วย ครอบครัว ฐานะทาง เศรษฐกิจ บารมีและอิทธิพล การมีพื้นฐานการเป็นนักการเมือง ท้องถิ่นย่อมมีผลต่อการสนับสนุนหรือการตัดสินใจลงคะแนน เสียงเลือกตั้งของประชาชนเป็นอย่างมาก (ระเบียบ ประทุม สูตร, สัมภาษณ์ 2559 และ ภานุวัฒน์ ผิวนวล, สัมภาษณ์ 2559) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงและการได้ใจประชาชน หัวคะแนนและผู้นำท้องถิ่นในฐานะผู้มีอำนาจในการลงคะแนน เสียงเลือกตั้ง มิใช่เพียงสถานะของการมีสิทธิลงคะแนนเสียง เลือกตั้งเฉกเช่นในระบบการเมืองหรือการเลือกตั้งในอดีต อีกต่อไป 325
บ5ทท ่ี บทสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 บทสรุป การเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค กล่าวคือ ในช่วงเวลาการเริ่มต้นการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตยของประเทศ ยุคแรก คือ ยุคที่นักการเมืองถิ่น จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล ที่มิได้สังกัด พรรคการเมือง ยุคที่สอง ความสามารถหรือบารมีทางการเมือง กับการสนับสนุนของพรรคการเมือง และยุคที่สาม การครอง พื้นที่ของสองพรรคการเมืองใหญ่ สำหรับการเมืองยุคแรก ช่วงปี พ.ศ. 2475 - 2495 นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีส่วนใหญ่ มาจากคหบดี ผู้นำท้องถิ่นที่มีบารมี และอดีตขุนนาง ทั้งนี้มิได้
บทสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สังกัดพรรคการเมือง โดยมี ส.ส. เพียง 1 คนเท่านั้น ในขณะที่ ยุคที่สอง อยู่ในระหว่างปี พ.ศ.2500 – 2535 ประกอบด้วย ส.ส. ที่สังกัดพรรคการเมืองและไม่สังกัดพรรคการเมือง ช่วงแรก ส.ส. ของจังหวัดสังกัดพรรคการเมืองภายใต้อิทธิพลและสายสัมพันธ์ ของรัฐบาลทหาร ต่อมาผู้ได้รับการเลือกตั้งไม่สังกัดพรรค การเมือง สลับกับสังกัดพรรคการเมือง โดยที่ ส.ส. ของจังหวัด เพิ่มเป็น 2, 3, 4 คน ส่วนใหญ่สังกัดพรรคต่างกัน และในปี 2518 เป็นครั้งแรกที่ทหาร46 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ของจังหวัด และสังกัดพรรคการเมือง แต่กระนั้นทหารยังมิได้มีบทบาทหรือ อิทธิพลในทางการเมืองโดยตรง เพราะยังไม่ปรากฏว่าทหาร สามารถชนะการเลือกตั้งทุกครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับ ยุคที่ 3 ระหว่างปี พ.ศ. 2538 – ปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่ทหารมี บทบาทในการเมืองถิ่นของจังหวัดร่วมกับอดีตผู้นำท้องถิ่น ที่มีบารมีหรือมีอิทธิพลทางการเมือง และบทบาทของ สองพรรคการเมืองใหญ่ในการเมืองของจังหวัด สำหรับ การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี มีขึ้นเป็นลำดับ หากแต่มีลักษณะของการเปลี่ยนแปลงแบบ ค่อยเป็นค่อยไปภายใต้สถานการณ์และอิทธิพลทางการเมือง ระดับชาติ 46 พลโทวิชาญ อังศุโชติ นับเป็นนายทหารที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ของ จังหวัดฯ คนแรก โดยก่อนหน้านั้นในการเลือกตั้ง 10 กุมภาพันธ์ 2512 ภรรยาได้รับเลือกตั้ง เป็น ส.ส. ของจังหวัด 327
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี การหาเสียงเลือกตั้งและการรักษาฐานเสียงของนักการเมือง ถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี พบวา่ การเมอื งถน่ิ จงั หวดั กาญจนบรุ มี ลี กั ษณะไมแ่ ตกตา่ ง จากการเมืองถิ่นจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศมากนัก โดยเฉพาะ อย่างยิ่งประเด็นการหาเสียงเลือกตั้งและการรักษาฐานเสียง ซึ่งเกี่ยวข้องกับค่านิยม ความเชื่อและพฤติกรรมทางการเมือง ทั้งจากนักการเมืองถิ่น และวัฒนธรรมทางการเมืองของ ประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก นับเป็นความสัมพันธ์ภายใต้การ พึ่งพาระหว่างนักการเมืองที่มุ่งหวัง/ต้องการคะแนนสนับสนุน เพื่อเป้าหมายชนะการเลือกตั้งเป็นนักการเมืองในฐานะสมาชิก รัฐสภาในอนาคต ขณะเดียวกันประชาชนในท้องถิ่น มีวัฒนธรรมการเมืองถิ่นซึ่งต้องการให้นักการเมืองเข้ามา ชว่ ยเหลือ/แก้ไขปญั หาความเดอื ดร้อนอันเกดิ จากการขาดแคลน โครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น อาทิ ระบบไฟฟ้า ประปา สถาน- รักษาพยาบาล สถานศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งน้ำหรือ ระบบชลประทาน ปัจจัยหลังนี้มีความสำคัญในทางเศรษฐกิจ ท้องถิ่นเป็นอันมาก เพราะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการผลิต ภาคเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลักของประชาชนในพื้นที่ ความสัมพันธ์ดังกล่าวจึงเกิดขึ้นภายใต้การพึ่งพาระหว่างกัน อย่างแนบแน่น และไม่อาจปฏิเสธสภาพความเป็นจริงดังกล่าว การหาเสียงของนักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ของนักการเมืองจึงแสดงออกผ่านการให้คำมั่นสัญญาหรือ คำปรึกษา รวมถึงการนำเสนอโครงการ/ แผนงานในการพัฒนา ท้องถิ่น ซึ่งได้รับการนำเสนอผ่านผู้นำชุมชน/ ท้องถิ่น รวมถึง 328
บทสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ หัวคะแนนซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ สถานการณ์ดังกล่าวนี้ ดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน ปรากฏในคำอธิบายของนักการเมือง ถิ่นโดยส่วนใหญ่ อาทิ ไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร ประชา โพธิพิพิธ อัฏฐพล โพธิพิพิธ สันทัด จีนาภักดิ์ นาวาอากาศโท นายแพทย์เดชา สุขารมณ์ พลโทมะ โพธิ์งาม พลเอก สมชาย วิษณุวงศ์ หรือแม้แต่พลเอก วัฒนา สรรพานิช และอนุกูล แพรไพศาล ซึ่งสองรายหลังนี้มิได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. แต่อย่างใด กรณีดังกล่าวทำให้นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุร ี มิอาจปฏิเสธถึงความสำคัญที่ต้องดำเนินกิจกรรมที่ชัดเจน เกี่ยวกับการสนับสนุน ผลักดันและติดตามงบประมาณรัฐ ในการพัฒนาท้องถิ่นเพราะหากไม่สามารถดำเนินการได้อย่าง เป็นรูปธรรมย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะสูญเสียฐานเสียงและ กลุ่มสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประชาชนในท้องถิ่นที่มี ความคาดหวัง (expectation) ต่อผลงานที่นักการเมืองระดับสูง ให้กับคู่แข่งขันทางการเมืองที่มีชื่อเสียง บารมี และประวัติ การทำงานที่ดีและเป็นทางเลือกใหม่ได้ในอนาคต นับจากอดีตถึงปัจจุบันระบบการเมืองถิ่นจังหวัด กาญจนบุรีได้ปรากฏฐานการเมืองของนักการเมืองแต่ละคนที่ ยึดครองพื้นที่ต่อเนื่องมานานผ่านระบบอุปถัมภ์ (patronage system) อาทิ ไพบลู ย์ พมิ พพ์ิ สิ ฐิ ถาวร หรอื กำนนั หยนุ่ มฐี านเสยี ง ในพน้ื ทอ่ี ำเภอหว้ ยกระเจา บอ่ พลอย ในขณะท่ี ประชา โพธพ์ิ พิ ธิ มฐี านเสยี งในพน้ื ทอ่ี ำเภอเมอื ง และอำเภอทา่ มะกา เชน่ เดยี วกบั อัฎฐพล โพธิ์พิพิธ ผู้เป็นลูกชาย พลโทมะ โพธิ์งาม มีฐานเสียง 329
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอเมือง และบางส่วนของอำเภอ สังขละ พลเอก สมชาย วิษณุวงศ์ มีฐานเสียงในพื้นที่เดียวกัน กับพลโทมะ โพธิ์งาม ในขณะเดียวกันนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ได้ รับเริ่มเข้ามาแทนที่นักการเมืองรุ่นเก่า อาทิ นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ มีฐานการเมืองสนับสนุนที่สำคัญในพื้นที่ อำเภอสังขละ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ มีฐานการเมืองสนับสนุน ในพื้นที่เขตอำเภอท่าม่วงและอำเภอเมือง และฐานเสียงของ นายเรวัติ สิรินุกูล อดีต ส.ส. ชื่อดังของจังหวัด อย่างไรก็ตาม ฐ า น ก า ร เ ม ื อ ง แ ล ะ ก ล ุ ่ ม ผู ้ ส น ั บ ส น ุ น ป ร ะ เ ภ ท ห ั ว ค ะ แ น น โดยเฉพาะกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก/ผู้บริหารองค์กร ปกครองท้องถิ่นนั้นก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้หากนักการเมือง ถิ่นฯ ไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาใจ หรือนโยบายหาเสียง ที่ได้ให้ไว้ในการเลือกตั้ง ซึ่งกลุ่มหัวคะแนนที่เป็นผู้นำท้องถิ่น จำเป็นต้องรักษาฐานเสียงและคะแนนเสียงสนับสนุนจาก ประชาชนในท้องถิ่นเช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง พรรคการเมือง และ ประชาชนในการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี พบว่า การเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีมีลักษณะของการ ผสมผสานระหว่างพฤติกรรมทางการเมืองของนักการเมือง พรรคการเมืองและประชาชน สำหรับพฤติกรรมทางการเมือง ประกอบด้วย การหาเสียงเลือกตั้ง การจัดตั้งระบบหัวคะแนน ทั้งในช่วงเวลาการหาเสียงเลือกตั้ง หรือการสร้างกลุ่ม ผู้สนับสนุนผ่านผู้นำการเมืองท้องถิ่น หรือผู้นำชาวบ้านในพื้นที่ ต่าง ๆ ผ่านการพัฒนาพื้นที่ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ประกอบด้วย ไฟฟ้า ประปา เส้นทางคมนาคมหรือถนนทั้ง 330
บทสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ภายในหมู่บ้าน ระหว่างหมู่บ้าน เส้นทางเชื่อมระหว่างอำเภอทั้ง ภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัด รวมถึงบทบาทในการ สนับสนุนช่วยเหลือการพัฒนาด้านสาธารณสุขผ่านการติดตาม ด้านโครงการและงบประมาณในระบบการบริหารราชการ ทั้งนี้ กิจกรรมทางการเมืองของนักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับหรือตระหนักในกลุ่มนักการเมือง ทั้งในระดับพื้นที่และระดับชาติของนักการเมืองจังหวัด กาญจนบุรี โดย กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่จำเป็น ต้องเข้ามามีบทบาทหรือมีส่วนร่วม เพื่อสร้างการยอมรับหรือ คะแนนเสียง หรือความนิยมที่มีต่อตัวนักการเมือง ซึ่งแนวคิด ดังกล่าวนี้มีความสัมพันธ์ในระบบอุปถัมภ์ (patronage system) ในขณะเดียวกันด้านวัฒนธรรมการเมือง หากพิจารณา ตามกรอบแนวคิดของ Almond และ Verba (สุกิจ เจริญรัตนกุล, 2530, หน้า 85 -92) พบว่านักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุร ี มีวัฒนธรรมการเมืองแบบมีส่วน (participation political culture) โดยมคี วามเขา้ ใจในระบบการเมอื ง บทบาทหนา้ ทข่ี องนกั การเมอื ง พรรคการเมือง ระบบรัฐสภาและรัฐบาลที่มีความสำคัญต่อการ พัฒนาประเทศ เข้าใจปัญหาและความต้องการของประชาชน ปฏิบัติตนตามสัญญาที่ได้หาเสียง และความสำคัญของ พรรคการเมืองในฐานะศูนย์รวมการกำหนดนโยบาย ในขณะ เดียวกนั ประชาชนเปน็ ผ้ใู ชอ้ ำนาจทางการเมอื งด้วยการตัดสินใจ ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับนักการเมืองและพรรคการเมือง ที่ได้นำเสนอนโยบายสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ในพื้นที่ 331
นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี และเมื่อวิเคราะห์ภายใต้กรอบแนวคิด “การตัดสินใจ เลือกของส่วนรวม” (public choice) พบว่า นักการเมืองถิ่น จงั หวดั กาญจนบรุ แี ละประชาชนเขา้ ใจในบทบาทหนา้ ทท่ี างการเมอื ง ของตนทว่ี า่ นกั การเมอื ง พรรคการเมอื งและรฐั บาล เปรยี บเสมอื น ผู้ผลิตสินค้าและบริการ ในขณะที่ประชาชนเปรียบเสมือน “ผู้บริโภค” (customers) ดังนั้นนักการเมืองจึงต้องเลือกพรรคที่มี อุดมการณ์และนโยบายตรงกับตนเอง รวมถึงการสร้างผลงาน ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจ เลือกลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้นักการเมืองและประชาชน ต้องเคารพในการตัดสินใจของประชาชน ในขณะเดียวกัน กระบวนการยุติธรรมหรือองค์กรต่าง ๆ ก็ต้องมีค่านิยม/ พฤติกรรม ที่เคารพการตัดสินใจของประชาชนเช่นเดียวกัน ในการเลือกตั้งปัจจัยที่มีผลต่อชัยชนะทางการเมืองของ นักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีมี 2 ประการสำคัญประกอบ ด้วย ปัจจัยส่วนบุคคลของตัวนักการเมืองได้แก่ บุคลิกภาพ พฤติกรรม อิทธิพล บารมีและระบบอุปถัมภ์ทางการเมือง การมี ภูมิหลังเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นฐานการเมือง ที่สำคัญ เพราะทำให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งในระดับตำบล และหมู่บ้านทำให้สามารถเข้าถึงและได้ใจชาวบ้านได้มากกว่า นักการเมืองถิ่นคนอื่น ๆ และปัจจัยที่สองคือ พรรคการเมือง ด้วยปัจจุบันประชาชนมีความรู้ความใจความสำคัญของ พรรคการเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายและผลของนโยบายที่มี ผลต่อตัวพวกเขาเอง และนับเป็นความเข้าใจในอำนาจทาง การเมืองที่มีอยู่ของตนเอง 332
บทสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ บทบาททหารในการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี พบว่า พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ทางการทหาร ที่สำคัญ ดังนั้นจึงมิอาจปฏิเสธถึงความสำคัญของทหาร ในทางการเมืองได้ แต่กระนั้นทหารก็มิได้มีอิทธิพลต่อการ ตัดสินใจในการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง หากแต่การจะได้ รับเลือกตั้งหรือได้รับกระแสตอบรับถึงขั้นตัดสินใจลงคะแนน เสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีภูมิหลังเป็นนายทหารนั้นก็มิได้ เป็นไปโดยง่าย โดยเฉพาะในการเลือกตั้งนับจากปี 2544 เป็นต้นมา ดังปรากฏว่า พลเอก วัฒนา สรรพานิช ซึ่งมีภูมิหลัง หรือประวัติที่ประสบความสำเร็จในชีวิตราชการทหาร ประสบการณ์ทางการเมืองที่มาจากการแต่งตั้ง และที่สำคัญ เป็นนายทหารที่เป็นครอบครัวชาวนาและเป็นชาวจังหวัด กาญจนบุรีโดยกำเนิด หากแต่เมื่อลงสู่สนามเลือกตั้ง ส.ส. ก็มิได้ชนะใจประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งแต่ประการใด จะมี ก็เพียงได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว. ซึ่งในทัศนคติรวมถึงค่านิยม ทางการเมืองของประชาชนแล้ว นักการเมืองในฐานะ ส.ว. มิได้ มีความสำคัญหรือมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชนโดยตรง กล่าวคือ ความ สัมพันธ์และความสำคัญระหว่าง ส.ว. กับชาวบ้านมีความ แตกต่างกันค่อนข้างมากกับความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านกับ ส.ส. ค่านิยมและความเชื่อที่ชาวบ้านมีอยู่ดังกล่าวทำให้การ ตัดสินใจลงคะแนนเสียงแตกต่างกัน ในทางตรงกันข้ามในกรณี ของพลโทมะ โพธิ์งาม พลตรีศรชัย มนตรีวัต หรือแม้แต่พลเอก สมชาย วิษณุวงษ์ ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หลายสมัย แต่ก็มิได้เป็นสิ่งการันตีถึงชัยชนะในการเลือกตั้งในอนาคตได้ 333
นักการเมืองถ่ินจังหวัดกาญจนบุรี ดังปรากฏว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2554 พลตรีศรชยั มนตรวี ตั ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ในขณะเดียวกันกับการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี (นายก อบจ.) พลโท มะ โพธิ์งามก็ต้องประสบชะตากรรมทางการเมือง เช่นเดียวกัน รวมถึงพันเอก สะอิ้ง ชนะนา พรรคความหวังใหม่ ซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งน้อยมากในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 5.2 อภิปรายผล จากข้อค้นพบในงานวิจัยเรื่องนักการเมืองถิ่นจังหวัด กาญจนบุรีดังกล่าวนี้สามารถนำมาอภิปรายได้ว่า กลยุทธ์หรือ วิธีการหาเสียงของนักการเมืองถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีนั้นให้ ความสำคัญกับการจัดตั้งกลุ่มหัวคะแนน ผู้นำท้องถิ่นหรือ ชุมชน เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งได้อย่าง ทั่วถึง ในขณะเดียวกันการทำงานการเมืองล้วนมุ่งเน้นกิจกรรม ทีเ่ กี่ยวข้องประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ ได้แก่ งานประเพณตี ่าง ๆ การพัฒนาพื้นที่ด้านโครงสร้างสาธารณูปโภค ถนนหนทาง แหล่งน้ำสำหรับการเกษตรและการบริโภคเพื่อแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันยังใช้นโยบายของ พรรคการเมืองที่ตนเองสังกัดเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและ สนับสนุนในการเลือกตั้ง ทั้งนี้นโยบายของพรรคการเมืองถือ เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการแข่งขันทางการเมืองด้วย ประชาชนมีความเข้าใจความสำคัญนโยบายของพรรคการเมือง ว่ามีผลกระทบอย่างไร ข้อค้นพบดังกล่าวนี้สอดคล้องกับ งานวิจัยของสุรพงศ์ โสธนะเสถียร (2533) เรื่อง “การโฆษณา หาเสียงกับพฤติกรรมการเลือกตั้ง” ซึ่งพบว่ารูปแบบการหาเสียง 334
บทสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ นั้นมีความสัมพันธ์กับเนื้อหาของการหาเสียงประกอบด้วย ข่าวสารการเมือง ระบบการเมือง ระบบการปกครอง ผู้นำและ อำนาจหน้าที่ นโยบายในการบริหารและปกครอง ด้าน เศรษฐกิจและรูปแบบและเนื้อหาของการหาเสียงต้องเลือกสรร แบบวิธีและเนื้อหาให้ตรงกับอารมณ์ ค่านิยมความรู้สึก วัฒนธรรมท้องถิ่น เช่นเดียวกับงานวิจัยของกรมการปกครอง (2522) เรื่อง “การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522” พบว่า การไปใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชน ผู้สมัครรับเลือกตั้ง อิทธิพลและความเลื่อมใสศรัทธา หรือความเข้าใจในนโยบาย ของพรรคการเมือง มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของประชาชน งานวิจัยอง วรวุฒิ เสงี่ยมศักดิ์ (2540) เรื่อง การบริหารแผนการ รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ภายใต้แนวความคิด 3 เขตยุทธศาสตร์ พบว่าการจัดรูปแบบการจัดการหาเสียงมีความสำคัญต่อ การหาเสียงเลือกตั้ง งานวิจัยของกฤษณา ไวสำรวจ (2555) เรื่อง “นักการเมืองถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม” พบว่า กลุ่ม สนับสนุนนักการเมืองในจังหวัดล้วนดำเนินอยู่ภายใต้ความ สัมพันธ์แบบเครือญาติ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพรรคการเมือง การใช้การสื่อสารทางการเมือง งานวิจัยของรุจน์จาลักษณ์รายา คณานุรักษ์ (2551) เรื่อง “นักการเมืองถิ่นจังหวัดสุราษฏร์ธานี” พบว่า นักการเมืองถิ่นมีการจัดจัดตั้งหัวคะแนนเป็นตัวแทน ทำงานในพื้นที่ กลวิธีการหาเสียงด้วยการลงพื้นที่พบปะ ประชาชนทั้งในช่วงเวลาการเลือกตั้งและเวลาทั่วไปอย่างขยัน ขันแข็ง การร่วมกิจกรรม งานบุญประเพณีต่าง ๆ กิจกรรมทาง สังคม รวมถึงการปราศรัยใหญ่ของพรรคในการแถลงนโยบาย ในจังหวัด ประชาชนในพื้นที่จึงมีความผูกพันกับพรรคประชา- 335
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372