นักการเมืองถ่ินจังหวัดขอนแก่น สำนึกชาตินิยมไทยในช่วงสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นตัวอย่างหนึ่งของการผูกขาดอำนาจของข้าราชการไทย โดยเฉพาะทหาร ส่วนในสมัยของจอมพลสฤษดิ์ ก็เป็นการสร้าง ระบบอุปถัมภ์เพื่อความชอบธรรม และการรักษาไว้ซึ่งความ สัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างข้าราชการในฐานะตัวแทนของรัฐ กับประชาชน ในขณะที่ยุคหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็น เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ประชาชนชาวไทยที่เป็นชนชั้น กลางได้พยายามเปลี่ยนแปลงสถานะภาคประชาชนให้เข้ามา มีบทบาทในการรักษาสิทธิและโครงสร้างทางอำนาจของ ประชาชน และร่วมกันสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ได้รับอิทธิพลมา จากโลกตะวันตก นั่นก็คือ การมีสิทธิมีเสียงทางการเมือง การมี ส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน การเข้ามามีบทบาทและ ใช้อำนาจในการเป็นตัวแทน หรือเลือกตัวแทนของตนเพื่อสร้าง หรือกำหนดสิทธิอันพึงมีพึงได้ของสถาบันภาคประชาชน อย่างไรก็ตามในอดีตข้าราชการกระทรวงต่าง ๆ วนเวียน เข้ามาเสนอตัวและมีบทบาททางการเมืองอยู่เสมอและที่สำคัญ คือการได้รับเลือกตั้งให้เป็นตัวแทนประชาชนในจังหวัด ขอนแก่นอย่างต่อเนื่องยาวนานทั้งนี้เป็นเป็นมรดกตกทอด ในอดีตของไทย แม้ในปัจจุบันที่สังคมเชื่อมั่นในระบบราชการ ทั้งนี้เพราะข้าราชการเป็นตัวแทนผู้ใช้อำนาจรัฐอันหนึ่งที่มีความ ชอบธรรม มีความน่าเชื่อถือ มีอำนาจ มีบารมี มีเพื่อนฝูงมาก ข้าราชการจึงผันตัวเองเข้าสู่ถนนทางการเมือง ดังเช่น นักการเมืองจังหวัดขอนแก่นส่วนใหญ่เคยรับราชการมาก่อน 286
บทสรุปและข้อเสนอแนะ เช่น นายอำนวย วีรวรรณ เคยเป็นปลัดกระทรวงการคลัง เคยเป็นอธิบดีกรมศุลกากร นายกวี สุภธีระ เคยเป็นอดีต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายเปรมศักดิ์ เพียยุระเคยเป็น หมอในโรงพยาบาลพล จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น ซึ่งสอดคล้อง กับหนึ่งในข้อสรุปของ กฤษณา ไวสำรวจ (2555, หน้า 103-110) ที่ศึกษา นักการเมืองถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร ว่านักการเมืองถิ่น มาจากคน 6 กลุ่มคือ กลุ่มคนถิ่น กลุ่มอดีตขุนนางสายราชนิกุล กลุ่มข้าราชการ กลุ่มนักธุรกิจหรือวานิช-ธนกิจ กลุ่มนักการเมือง หญิงพื้นเพชาวบ้าน และกลุ่มแกนนำเครือข่ายประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่สามารถพบได้ในเกือบทุกจังหวัดของไทย ไม่เว้นแม้แต่ในจังหวัดขอนแก่น ในโลกธุรกิจ นักธุรกิจต้องใช้ชีวิตผูกพันกับข้าราชการ ในกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ความผูกพันและการ ยุ่งเกี่ยวกับระบบราชการจึงเป็นบันใดขั้นหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจ ดำเนินไปได้โดยสะดวก และยังเป็นแรงจูงใจอันหนึ่งที่ผลักดัน ให้นักธุรกิจเข้าสู่การเมืองดังที่นักวิชาการชื่อดังของโลก Charles E. Lindblom (อ้างถึงใน อนุสรณ์ ลิ่มมณี, 2545, หน้า 121) ได้ให้ ข้อสังเกตไว้ว่า “นักธุรกิจมีความสัมพันธ์และพึ่งพิงกันอย่าง ใกล้ชิดกับรัฐบาล” ซึ่งแต่เดิมนักธุรกิจมักมีคนสนิทเป็นคน ในวงราชการหรือนักการเมืองทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวก ในการติดต่อราชการให้กับธุรกิจของตน แต่ปัจจุบันนักธุรกิจได้ เลือกเดินบนถนนการเมืองเสียเอง เพราะเมื่อนักการเมืองที่มี ตำแหน่งบริหารในรัฐบาลก็คือผู้บังคับบัญชาข้าราชการโดยตรง เช่น นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตลูกเจ้าของโรงสี นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตลูกเจ้าของโรงไม้ พงส์ สารสิน เป็น 287
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น ลูกของอดีตนายกรัฐมนตรีพจน์ สารสินซึ่งเป็นตระกูลทางธุรกิจ ที่สำคัญของไทย ในทางการเมืองนักการเมืองอาจต้องอาศัยทุน จากนักธุรกิจในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะช่วง การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส่วนในทางธุรกิจนักการเมือง มีส่วนช่วยในการผลักดันธุรกิจให้แก่นักธุรกิจโดยเฉพาะ การกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจ เช่น การสร้างถนน สถานที่ราชการ สำนักงาน ฯลฯ นักธุรกิจที่มีความสนิทสนมกับนักการเมืองและข้าราชการจึงได้ เปรียบทางเศรษฐกิจ อันที่จริงสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าระบบ อุปถัมภ์ยังคงดำรงอยู่อย่างแนบแน่นในสังคมไทย จะสังเกตได้ จากข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการที่มักมี นักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง วัฒนธรรมไทยที่อุ้มระบบอุปถัมภ์ จึงถือเป็นเรื่องธรรมดา สอดคล้องกับข้อค้นพบของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ที่เรียกสิ่งนี้ว่า มรดกทางประวัติศาสตร์-วัฒนธรรม ไทย (เสกสรรค์, 2548) ซึ่งจะเห็นได้ว่าในภาพรวมนักการเมือง ถิ่นส่วนใหญ่ล้วนได้ประโยชน์และใช้ประโยชน์จากมรดกทาง ประวัติศาสตร์-วัฒนธรรมไทย ไม่เฉพาะนักการเมืองในจังหวัด ขอนแก่นแต่ในเกือบทุกจังหวัดของประเทศไทย ประเด็นที่สอง โครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจ โครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจ รัฐ-สังคม และรัฐ- ระบบราชการกับนักการเมืองถิ่นเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์- วัฒนธรรมที่สำคัญของสังคมไทย กล่าวได้ว่าหัวใจสำคัญของ โครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างนักการเมืองกับ ประชาชน หรือระหว่างนักการเมืองระดับชาติกับนักการเมือง ถิ่นนั้นโดยมากถูกกำหนดหรือกำกับโดยส่วนกลาง เป็นอำนาจ 288
บทสรุปและข้อเสนอแนะ รวมศูนย์ไว้ที่ส่วนกลาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโครงสร้างความ สัมพันธ์ทางอำนาจและสถานภาพระหว่างนักการเมืองกับ ประชาชนเป็นไปในลักษณะพึ่งพาอาศัยกัน หรืออีกนัยหนึ่งคือ ระบบอุปถัมภ์ นักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นมักใช้ บทบาทและหน้าที่ตามโครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจที่มี อยู่เพื่อความอยู่รอดหรือชัยชนะในสนามเลือกตั้งของตนเอง ซึ่งยงยุทธ บุราสิทธิ์ (2556, หน้า 86) ที่ศึกษาวิจัยเรื่อง “ชุมชน คนอสี านกบั ปญั หาความเหลอ่ื มลำ้ ทางสงั คมในกรงุ เทพมหานคร : กรณีศึกษาชุมชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร” ระบุว่ามีระบบ การจัดตั้งหัวคะแนนในพื้นที่หาเสียงของนักการเมือง ในรูปแบบ ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ทำให้เกิดผู้มีอิทธิพลที่ได้รับ ผลประโยชน์จากฝ่ายการเมืองและฝ่ายที่มีบทบาทในการเป็น รัฐบาล ตัวอย่างเช่น นักการเมืองท้องถิ่นมักเอาใจชาวบ้าน ที่สนับสนุนตน โดยพาไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้สนับสนุนจะไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมกับ กลุ่มได้เลย หรือการช่วยเหลือสนับสนุนในด้านต่าง ๆ แม้ว่า ในความเป็นจริงด้านหนึ่งคือการเลือกปฏิบัติเฉพาะฐานคะแนน เสียงหรือผู้สนับสนุนของตนเอง แม้ว่าระบบการปกครองแบบดั้งเดิมมีโครงสร้างความ สัมพันธ์ทางอำนาจที่เอื้ออำนวยให้เกิดสภาวะการรวม ศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง แต่ระบอบการปกครองแบบ ประชาธิปไตยเป็นการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนในการเลือก ตัดสินใจ นโยบายที่ส่งผลกระทบกับตนโดยตรง หรือโดยอ้อม มากขึ้น ดังนั้นโครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจในสังคมไทย จึงเปลี่ยนแปลงไปบ้างเพียงเล็กน้อย กล่าวคือประชาชน 289
นักการเมืองถ่ินจังหวัดขอนแก่น มีอำนาจต่อรองมากขึ้นในฐานะผู้เลือกตั้ง (เฉพาะช่วงเลือกตั้ง) ในการเลือกและกำหนดตัวแทนของประชาชนแต่อำนาจในการ กำหนดนโยบายยังคงเป็นหน้าที่ของตัวแทนของประชาชนหรือ ชนชั้นนำซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในสังคมซึ่งเป็นข้อจำกัดอันหนึ่ง ของประชาธิปไตยแบบตัวแทน (Representative Democracy) และแม้ว่าในความเป็นจริงระบอบประชาธิปไตยมีหลักประกัน ที่สำคัญคือ หลักนิติรัฐที่สามารถปกป้องและรับประกัน ผู้อ่อนแอในสังคม (คนส่วนใหญ่ของสังคม) ดังที่โจเซฟ อี สติกลิทซ์ (2556, หน้า 50, 321) ได้กล่าวไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า ในความเป็นจริงอภิสิทธิ์ชน (คนรวย ชนชั้นนำ คนส่วนน้อย ในสังคม) ใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อควบคุมให้นิติรัฐวาง กรอบกฎหมายไปในทิศทางที่พวกเขาสามารถเอาเปรียบคนอื่น ได้ ดังนั้นเมื่อมองในแง่ของการใช้อำนาจรัฐ การรวมศูนย์ อำนาจไว้ที่ส่วนกลางย่อมเป็นประโยชน์กับชนชั้นนำ คนรวย นักธุรกิจ นักการเมือง และข้าราชการซึ่งเป็นคนส่วนน้อย มากกว่าคนส่วนใหญ่ที่เป็นประชาชน โครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจที่เน้นให้เห็นความ สำคัญกับรัฐมากกว่าประชาชน หรือให้ความสำคัญกับรัฐเหนือ สังคม กล่าวคือ ความต้องการของรัฐอยู่เหนือความต้องการ ของสังคมที่ประกอบไปด้วยประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ในขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าความต้องการของรัฐโดยทั่วไป มักจะถูกครอบงำโดยคนจำนวนน้อยที่มีอำนาจตามกลไกของ รัฐคือ เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ในหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หรือในแวดวงการศึกษา คือครู อาจารย์ นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 290
บทสรุปและข้อเสนอแนะ อิทธิพลและอำนาจภาครัฐอยู่เหนือสังคมไทยมาเป็นระยะเวลา นาน หลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนอย่างหนึ่งคือ การครอบงำ ของทหารในระบบการปกครอง ซึ่งแนวทางการได้มาซึ่งอำนาจ มักมาจากการ “ปฏิวัติรัฐประหาร” นับจนถึงปัจจุบัน ประเทศ ไทยมีการปฏิวัติและมีรัฐบาลโดยคณะทหารในนาม “เพื่อชาติ” เสมอมา และที่สำคัญที่สุดคือการที่ตัวแทนอำนาจภาครัฐ มักประเมินความรู้ความสามารถของประชาชนในสังคมอยู่ใน ระดับต่ำมาก โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด และ อ้างว่าพวกเขาด้อยการศึกษา ระบบราชการไทยที่ครอบงำสังคมไทยมาเป็นเวลา ช้านาน นับตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปการปกครองไทย ส่งเสริมให้ข้าราชการได้ศึกษายังต่างประเทศ และนำความรู้ กลับมารับใช้ประเทศ ซึ่งอันที่จริงก็คือ การรับใช้ประชาชน ในสังคมไทย แต่เมื่อได้สังเกตการณ์ดังกล่าวอย่างถี่ถ้วนก็จะ พบว่า ข้าราชการส่วนใหญ่จะสนองอำนาจรัฐและระบบราชการ มากกว่าความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ แม้เมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยในปี พ.ศ. 2475 มีการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นกฎเกณฑ์สูงสุดที่ทุกคนต้อง ปฏิบัติตามเสมอเหมือนกัน แต่ทว่า “อำนาจเผด็จการทหาร” ก็ล้มการปกครองแบบประชาธิปไตย “ของพลเรือน” ลงครั้งแล้ว ครั้งเล่า ในขณะที่ภาคพลเรือนที่มีตัวแทนคือนักการเมืองเอง ก็ต้องต่อรองอำนาจกับระบบราชการโดยเฉพาะทหารซึ่งใน ความเป็นจริงทหารน่าจะมีบทบาทแบบมืออาชีพ ทำหน้าที่ของ ตนตามที่กฎหมายกำหนด เป็นรั้วป้องกันประเทศ ไม่ยุ่งเกี่ยว กับการเมืองโดยตรง 291
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น ดังนั้นข้อสรุปที่ว่า “รัฐอยู่เหนือสังคม” หรือกล่าวอีก นัยหนึ่งประชาชนยังคงเป็นเบี้ยล่างให้รัฐเสมอมา ซึ่งไม่น่า จ ะ ส อ ด ค ล ้ อ ง ก ั บ ก า ร ป ก ค ร อ ง ท ี ่ พ ว ก เ ร า เ ร ี ย ก ก ั น เ อ ง ว ่ า “การปกครองระบอบประชาธิปไตย” ที่ชาวตะวันตกได้ริเริ่มกัน เพราะการปกครองระบบนี้เน้นหลักนิติรัฐเพื่อรับประกัน สิทธิ เสรีภาพ และความยุติธรรมกับประชาชน และปกป้องสิทธิ และเสรีภาพของปัจเจกบุคคลและประชาชนโดยรวม มิใช่สิทธิ แค่เพียงการมีสิทธิในการเลือกตั้งเท่านั้น ส่วนรัฐและกลไกของ รัฐเป็นแค่เพียงเครื่องมือในการปกป้อง และรับประกันสิทธิและ เสรีภาพของประชาชน อย่างไรก็ดี วิวัฒนาการที่ประชาชน ในสังคมไทยเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดนโยบาย สาธารณะ เพื่อปกป้องและรับประกันสิทธิ เสรีภาพของตน โดยผ่านตัวแทนของตนคือสมาชิกสภาผู้แทนในจังหวัดต่าง ๆ โดยมีรัฐธรรมนูญที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ มากขึ้น เช่น รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มีภาคส่วนต่าง ๆ หลาก หลาย มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญมากที่สุด จนเป็นที่มา ของการเรียกขานว่า “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ถึงกระนั้น ก็ดี รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ถูกโยนทิ้งโดยคณะทหารอีกครั้ง จากกรณีดังกล่าวข้างต้นมีความสอดคล้องกับการอธิบายของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ( 2548, หน้า 8-40) ที่กล่าวว่าโครงสร้าง ความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างรัฐกับสังคมในกรณีของไทย กลับกลายเป็นว่า “รัฐยังอยู่เหนือสังคม รัฐยังครอบงำและ ควบคุมสังคม หรือรัฐราชการอยู่เหนือสังคม” แทนที่จะให้ อำนาจสังคมหรือประชาชนในการจำกัดขอบเขตอำนาจรัฐ เหมือนในสังคมประชาธิปไตยสากลทั่วไป เหล่านี้จึงเป็น 292
บทสรุปและข้อเสนอแนะ การเน้นย้ำการสะสมอำนาจรวมศูนย์โดยข้าราชการโดยเฉพาะ ทหารในสังคมไทย ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ทางอำนาจ แบบนี้ยังคงพึ่งพิงกับระบบอุปถัมภ์อีกทอดหนึ่ง และสะท้อน ให้เห็นว่าระบบคุณธรรม (Merit System) ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ประเด็นท่ีสาม หลักเศรษฐธรรม โดยทั่วไปหลักเศรษฐธรรม คือ การตัดสินใจดำเนินการ ใดๆ ที่มีเหตุผล บนฐานจริยธรรมไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้ริเริ่ม กระทำ (Action) หรือเป็นผู้ตอบโต้การกระทำ (Reaction) และ ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำหรือผู้ตอบโต้การกระทำ ล้วนแล้วแต่ได้รับ การสนับสนุนจากกฎเกณฑ์ ธรรมเนียมปฏิบัติ ความคาดหวัง และค่านิยมในท้องถิ่นนั้นๆ หลักเศรษฐธรรมมีความสัมพันธ์กับ นักการเมืองในฐานะแหล่งอำนาจหรือความชอบธรรมทาง การเมือง รวมถึงความอยู่รอดของนักการเมือง ทั้งนี้เพราะ ระบบเศรษฐธรรมสะท้อนให้เห็นแนวคิด และพฤติกรรมของ นักการเมืองที่โยงใยกับหลักจริยธรรมคือการดำรงความ ยุติธรรมในด้านต่างๆ เช่นการต่อสู้เพื่อเอาชนะความเหลื่อมล้ำ ทางเศรษฐกิจและสังคม และยังรวมถึงการเป็นตัวแทน ประชาชนของนักการเมืองด้วยการอาสาทำหน้าที่รักษาสิทธิ ประโยชน์ของประชาชนมากขึ้นและสามารถเห็นผลเป็นรูปธรรม จริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับความกินดีอยู่ดี ของประชาชน การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การสนับสนุนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน 293
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น ในยุคประชานิยม เป็นยุคที่แข่งขันกันเชิงนโยบายเพื่อ ครองใจประชาชนหรือเป็นยุคที่พรรคการเมืองต้องคิดนโยบาย ออกมาตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง อันเป็นการสร้างกระแส ความศรัทธาและความเชื่อมั่นให้แก่พรรคการเมืองโดยตรง ส่วน พรรคการเมืองจะทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในนามของพรรคลงแขง่ ขนั ในเขตพน้ื ทเ่ี ลอื กตง้ั ตา่ ง ๆ ทว่ั ประเทศ ในขณะเดียวกันผู้ที่มีบทบาทในพรรคคือผู้บริหารพรรค และนายทุนพรรค ทั้งทางการเงินและทางความคิด จะเห็น ได้ว่าบทบาทของพรรคจะมีมากกว่าตัวนักการเมือง เพราะ นักการเมืองเป็นแค่เพียงองค์ประกอบอันหนึ่งของโครงสร้าง พรรคและโครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ยึดโยงกับ ผลประโยชน์ของพรรคเป็นหลักและก็เป็นหน้าที่ของพรรค การเมืองที่จะต้องมีกระบวนการในการคัดเลือกตัวแทนพรรคที่มี ความรู้ความสามารถอย่างสม่ำเสมอ (Jo Silvester, 2012: 29) เพื่อจุดประสงค์ที่สำคัญคือชัยชนะในการเลือกตั้ง และปฏิเสธ ไม่ได้เช่นเดียวกันว่าหัวหน้าพรรคไทยรักไทยหรือพรรคเพื่อไทย ในปัจจุบันประสบความสำเร็จและมีบทบาทมากที่สุดในยุค ประชานิยมเพราะนโยบายประชานิยม เป็นนโยบายที่พลิก ประวัติศาสตร์การเมืองไทยอย่างแท้จริงในแง่ที่ว่า “รู้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการอะไร และอะไรคือการตัดสินใจที่มี เหตุผลของประชาชน” นั่นคือหลักเศรษฐธรรมที่ถูกนำมาใช้ อย่างได้ผลของพรรคการเมืองอย่างไทยรักไทย สามารถครองใจ ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศได้ และในกรณีของจังหวัด 294
บทสรุปและข้อเสนอแนะ ขอนแก่นหลังปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมานักการเมืองส่วนใหญ ่ ล้วนมาจากพรรคเพื่อไทย ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมเป็นประเด็นที ่ นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่นส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจและ ความสำคัญในลำดับต้น ๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่านักการเมืองมีความ รับผิดชอบต่อประชาชน สนใจประชาชนและต้องการแก้ปัญหา ความกินดีอยู่ดีของประชาชน ดังนั้นนักการเมืองต่างรีบกัน หยิบฉวยโอกาสในการสร้างความชอบธรรมทางการเมืองของ ตนและแสดงออกบนพื้นฐานการทำงานเพื่อประโยชน์ของ ประชาชน แต่สิ่งเหล่านี้ก็สอดคล้องกับหลักเศรษฐธรรมที่ นักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนที่เป็นฐานเสียง หรือในท้องที่ของตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับข้อสรุปข้อหนึ่งใน การวิจัยของ ยงยุทธ บุราสิทธิ์ (2556, หน้า 86) เรื่อง “ชุมชน คนอสี านกบั ปญั หาความเหลอ่ื มลำ้ ทางสงั คมในกรงุ เทพมหานคร: กรณีศึกษาชุมชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร” ที่สรุปว่าการ ปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมโดยอำนาจรัฐเป็นปัญหาสําคัญอีกประการ หนึ่งของชุมชน กล่าวคือ ปัญหาในการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม โดยอำนาจรัฐทำให้ชาวบ้านภายในชุมชนมีการแบ่งกลุ่มสี ทางการเมืองที่ชัดเจน (กลุ่มเสื้อเหลืองกลุ่มเสื้อแดง) ได้รับ การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากนักการเมืองท้องถิ่น การที่ชุมชน มีการแบ่งสีแบ่งฝ่ายนั้นเกิดจากอำนาจทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองมีความ รับผิดชอบต่อประชาชนในพื้นที่ของตนเอง แม้ว่าในด้านหนึ่ง คือการเลือกปฏิบัติก็ตาม 295
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น 6.3 ข้อเสนอแนะการวิจัยครั้งต่อไป 1. การเมืองที่เกิดจากระบบการเลือกตั้งสะท้อนความ เป็นประชาธิปไตยในประเทศ แต่ปัญหาที่เกิดจากความสัมพันธ์ ระหว่างประชาชนกับนักการเมืองมาจากมรดกทาง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยที่ยังไม่กระจาย อำนาจสู่ประชาชนเท่าที่ควรจะเป็นในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นควรมีการศึกษาในส่วนที่เจาะลึกในประเด็นความ เหลื่อมล้ำที่เป็นผลมาจากมรดกทางทางประวัติศาสตร์และ วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยเพื่อกระตุ้นให้เกิดวัฒนธรรมแบบ ประชาธิปไตยมากขึ้น 2. ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบในกับจังหวัดหรือ ภูมิภาคอื่นควบคู่กันไปโดยใช้กรอบการศึกษาเดียวกันนี้เพื่อให้ ได้ข้อมลู ที่เชื่อถือมากยิ่งขึ้น 3. ควรแสวงหากรอบการศึกษาใหม่ๆ ในการศึกษา นักการเมืองและรวมถึงบทบาทของประชาชนที่ส่งผลต่อ พฤติกรรมการเมืองของนักการเมืองถิ่น 296
บรรณานุกรม ภาษาไทย กฤษณา ไวสำรวจ.(2555). นักการเมืองถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. กรวิทย์ เกาะกลาง. (2555). นักการเมืองถ่ินจังหวัดกระบ่ี. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. จุมพล หนิมพานิช. (2547). ผู้นำ อำนาจ และการเมืองในองค์การ. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. โจเซฟ อี สติกลิตซ์. (2556). ราคาของความเหลื่อมล้ำ-The Price of Inequality. สฤนี อาชวานันทกุล, แปล. กรุงเทพมหานคร: โอเพ่นเวิล์ดส พับลิชชิ่ง เฮาส์. ชัยอนันต์ สมุทวนิช. (2538). ประชาธิปไตยกับอนาคตการเมืองไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ผู้จัดการ. ไชยวุฒิ มนตรีรักษ์. (2551). นักการเมืองถ่ินจังหวัดเลย. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. ณรงค์ บุญสวยขวัญ. (2549). นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
นักการเมืองถ่ินจังหวัดขอนแก่น ณัฐพงศ์ บุญเหลือ. (2556). นักการเมืองถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรี. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. ดารารัตน์ เมตตาริกานนท์. (2545) การเมืองสองฝ่ังโขง งานค้นคว้า วิจัยระดับปริญญาเอกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง การรวมกลุ่มทางการเมืองของ ส.ส. อีสาน พ.ศ. 2476-2494. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน. นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2545). การเมืองของประวัติศาสตร์และความทรงจำ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มติชน. บุญกรม คงบังสถาน. (2548). “การต่อสู้ครั้งสุดท้าย” ของพลเอก ชวลติ ยงใจยุทธ. นนทบุรี: ออฟเซ็ท เพรส. บูฆอรี ยีหมะ. (2549). นักการเมืองถิ่นจังหวัดปัตตานี. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. ประกายศรี ศรีรุ่งเรือง. (2550). นักการเมืองถ่ินจังหวัดเชียงราย. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. ประจวบ อัมพะเศวต. (2543). พลิกแผ่นดินประวัติการเมืองไทย มถิ นุ ายน 2475 - 14 ตุลาคม 2516. กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ. ประสาน มฤคพิทักษ์ และคณะ. (2542). อานันท์ ปันยารชุน : ชีวิต ความคิดและการงานของอดีตนายกรัฐมนตรีสองสมัย กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. พรชัย เทพปัญญา. (2548). นักการเมืองถ่ินจังหวัดปทุมธานี. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. ยงยุทธ บุราสิทธิ์. (มกราคม – มิถุนายน 2556). “ชุมชนคนอีสานกับ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมในกรุงเทพมหานคร : กรณี ศึกษาชุมชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร” ใน วารสารภาษา และวัฒนธรรม. ปีที่ 32 ฉบับที่ 1. ยศ สันตสมบัติ. (2533). อำนาจบุคลิกภาพและผู้นำการเมืองไทย. กรุงเทพฯ : สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 298
บรรณานุกรม รัชนีกร เศรษโฐ. (2536). โครงสร้างสังคมและวัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. เริงศักดิ์ กำธร. (2535). ชวน หลีกภัย ลูกแม่ค้าขายพุงปลา. กรุงเทพฯ : ศิลปวัฒนธรรม. ลิขิต ธีรเวคิน. “ข้าราชการท่ามกลางดงหนาม.” มติชน ( 22 เมษายน 2539). หน้า 17. วรเจตน์ ภาคีรัตน์. (2554). “นิติรัฐกับความยุติธรรมทางสังคม.” ใน ปาฐกถา 60 ปี เศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วัชรา ไชยสาร. (2545). การเมืองภาคประชาชน: พัฒนาการการมี ส่วนร่วมทางการเมือง ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม และพหกุ ารเมือง. กรุงเทพฯ: วีเจปริ้นติ้ง. วัลยา. (2546). ทักษิณ ชินวัตร ตาดูดาว เท้าติดดิน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน. สรวง วงศ์สุวรรณเลิศ. (2545). พลเอกเปรม ติณสูลานนท์: รัฐบุรุษ ค่แู ผน่ ดิน. กรุงเทพฯ : มิติใหม่. สำรวน ศิริบุรี. (2537). “แนวความคิดทางการเมืองและบทบาทของ นายแคล้ว นรปติ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”. ปริญญาศึกษามหาบัณฑิต เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยา ศรีนครินทรวิโรฒ สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา. รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร. วิสามัญ ชุดที่ 1 ครั้งที่ 8 วันที่ 18 ธันวาคม 2495. สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา. รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร. สามัญสมัยแรก ครั้งที่ 14 วันที่ 1 พฤษภาคม 2518. สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา. รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร. วิสามัญ ชุดที่ 1 ครั้งที่ 1 วันที่ 6 ตุลาคม 2518. 299
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา. รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร. สามัญ 2 ชุดที่ 1 ครั้งที่ 13 วันที่ 7 สิงหาคม 2518. สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2552). 77 ปีรัฐสภาไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สุเชาวน์ มีหนองหว้า. (2549). นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุบลราชธานี. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า. เสกสรรค์ ประเสริฐกุล. 2533. “รัฐไทยในกฎหมายตราสามดวง.” ใน กฎหมายตราสามดวงกับสังคมไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงาน คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. เสกสรรค์ ประเสริฐกุล. (2548). การเมืองภาคประชาชนในระบอบ ประชาธปิ ไตย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อมรินทร์. เสกสรรค์ ประเสริฐกุล. (2554). “เศรษฐศาสตร์กับการผลิตอวิชชาเชิง โครงสรา้ ง.” ใน ปาฐกถา 60 ปี เศรษฐศาสตรธ์ รรมศาสตร.์ กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสถียร จันทิมาธร. (2532). ชาติชาย ชุณหะวัณ : ทหารนัก ประชาธิปไตย พร้อมสังเขปประวัติ 16 นายกรัฐมนตรี. กรุงเทพฯ : แปลน พับลิชชิ่ง. อคิน ระพีพัฒน์. (2525) “โครงสร้างสังคมไทยและปัญหาเกี่ยวกับ เกษตรกรในการพัฒนา” เอกสารประกอบการอภิปรายทาง วิชาการ เรื่อง “ระบบอุปถัมภ์กับการวิเคราะห์สังคมการเมือง และเศรษฐกิจไทย ความเป็นไปได้และข้อจำกัด” ภาควิชา สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, มีนาคม อนุสรณ์ ลิ่มมณี. (2545). ทฤษฎีเศรษฐกิจการเมืองยุคปัจจุบัน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง. อมรา พงศาพิชญ์ และ ปรีชา คุรินทร์พันธุ์. (2543). ระบบอุปถัมภ์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย 300
บรรณานุกรม ภาษาอังกฤษ F., Riggs. (1966). Thailand: The Modernization of Bureaucratic Polity. Honolulu: East West Centres Press. Parry, Gerraint. (1971). Political Elites. Trowbridge&London: Redwood Press Limited. R., Miliband. (1969). The State in Capitalist Society. London: Weidenfeld and Nicholson. Scott, James C.(1976). The Moral Economy of the Peasant: Rebellion and Subsistance in Southeast Asia. New Heaven: Yale University Press. Silvester, Jo. (2012). “Recruiting politicians: designing competency-base selection for UK parliamentary candidates,” in Ashley Weinberg (ed.). The psychology of politicians. UK: Cambridge University Press. เวป็ ไซต ์ http://www.ect.go.th/th/wp-content/uploads/2013/10/mp48.pdf http://www.kk.ru.ac.th/information2.htm http://www.parliament.go.th/Library http://www.thaibizcenter.com/province.asp?provid=6 http://en.wikipedia.org/wiki/Moral_economy ผู้ใหข้ อ้ มลู หลกั เจริญลักษณ์ เพชรประดับ. นักข่าว สื่อมวลชน, อีสานบิซวีค. สัมภาษณ์ วันที่ 27 มีนาคม 2555. จตุพร เจริญเชื้อ. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, พรรคเพื่อไทย. สัมภาษณ์ วันที่ 5 ธันวาคม 2558. 301
นักการเมืองถ่ินจังหวัดขอนแก่น เปรมศักดิ์ เพียยุระ. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, พรรคภูมิใจไทย. สัมภาษณ์ วันที่ 27 มีนาคม 2555. เพิ่มศักดิ์ จันทหาร. อดีตผู้จัดการธนาคาร ธนาคารออมสิน. สัมภาษณ์ วันที่ 22 สิงหาคม 2558. มุกดา พงษ์สมบัติ. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, พรรคเพื่อไทย. สัมภาษณ์ วันที่ 5 ธันวาคม 2558. สุชาย ศรีสุรพล. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, พรรคเพื่อไทย. สัมภาษณ์ วันที่ 24 ธันวาคม 2558. สุวิทย์ คุณกิตติ. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, หัวหน้าพรรคกิจสังคม. สัมภาษณ์ วันที่ 7 มิถุนายน 2554. สมชาญ ศรีสองชัย. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, พรรคประชาธิปัตย์. สัมภาษณ์ วันที่ 27 มีนาคม 2555. สมศักดิ์ คุณเงิน. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, พรรคเพื่อไทย. สัมภาษณ์ วันที่ 2 เมษายน 2555. อดิศร เพียงเกษ. อดีต ส.ส. จังหวัดขอนแก่น, พรรคเพื่อไทย. สัมภาษณ์ วันที่ 12 ธันวาคม 2558. อุสมาน ระดิ่งหิน. คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดขอนแก่น. สัมภาษณ์ วันที่ 2 เมษายน 2555. 302
ภาคผนวก ภาพนักการเมืองจังหวัดขอนแก่น (บางส่วน) ร้อยโทจารุบุตร เรืองสุวรรณ นายแคล้ว นรปติ
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น ร้อยตำรวจเอก สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นายอดิศร เพียงเกษ 304
ภาคผนวก นายจตุพร เจริญเชื้อ นายสชาย ศรีสุรพล นายเปรมศักด์ เพียยุระ นายสมศักดิ์ คุณเงิน 305
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น นางมุกดา พงษ์สมบัติ นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช 306
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น ประวัตินักวิจัย นิพนธ์ โซะเฮง ทอี่ ยู่ปจั จุบนั 22 หมู่ 13 ต. บึงน้ำรักษ์ อ. บางน้ำเปรี้ยว จ. ฉะเชิงเทรา 24170 Email Address [email protected], [email protected] ประวตั กิ ารศกึ ษา พ.ศ.2551 Ph.D. in Political Science (Comparative Politics) International Islamic University, Malaysia พ.ศ.2542 ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2534 Bachelor of Art (Political Science) International Islamic University, Malaysia ประสบการณก์ ารทำงาน พ.ศ.2556 – ปัจจุบัน อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2556 – ปัจจุบัน 307
นักการเมืองถ่ินจังหวัดขอนแก่น บรรณาธิการวารสารวิชาการ เอเชียพิจาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2555 – 2556 อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต พ.ศ.2553 – ปัจจุบัน อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตเพชรบุรี พ.ศ.2551 – 2554 อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย หลักสตู รรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น พ.ศ.2551 – 2554 คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น พ.ศ.2551 – 25554 รองบรรณาธิการวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น (UMT-Poly Journal) พ.ศ.2550 – ปัจจุบัน อาจารย์พิเศษ และกรรมการมูลนิธิโรงเรียนอิสลามบึงน้ำรักษ์ ฉะเชิงเทรา พ.ศ.2547 – 2550 อาจารย์ประจำสาขาวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น 308
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น พ.ศ.2546 – 2547 อาจารย์ประจำสาขาวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยณิวัฒนา พ.ศ. 2540 -2542 ครสู อนภาษาอังกฤษ, หัวหน้าหมวดวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนสายอักษร ประสบการณ์การสอน หลักสตู รปริญญาตรี - ทฤษฎีและจริยธรรมทางการเมือง 1,2 - การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาทางการเมืองในประเทศ กำลังพัฒนา - ทฤษฎีการเมืองและสังคม - การปกครองเปรียบเทียบ หลักสตู รปริญญาโท - การเมืองการปกครองไทย - การวิเคราะห์การเมืองและแนวทางศึกษารัฐศาสตร์ - การวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ - สัมมนาการบริหารจัดการการปกครองท้องถิ่น - ยุทธศาสตร์การจัดการพัฒนาท้องถิ่นเชิงบรู ณาการ หลักสตู รปริญญาเอก - การวิเคราะห์การเมืองและพัฒนาการด้านการเมือง จากมุมมองภายหลังสมัยใหม่นิยม - การวิเคราะห์บทบาทและอิทธิพลของสหรัฐอเมริกา ที่มีต่อเวทีโลก 309
นักการเมืองถิ่นจังหวัดขอนแก่น - การวิเคราะห์การเมืองนานาชาติที่มีอิทธิพล ต่อการเมืองไทย งานแปล - ประชาธิปไตยในนัยการพัฒนา (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ ฟ้าเดียวกัน,2547) - จากมลายูสู่มุสลิม : ภาพหลอนแห่งอัตลักษณ์ทาง ชาติพันธ์ (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน, 2549) บทความและงานวิจัย - อิสลามานุวัตรและอิสลามานุวัตรองค์ความรู้ (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน,2548) - นอกนิยามความเป็นไทย (กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์.2550) - งานวิจัย “มุสลิมกับโลกสมัยใหม่,” สนับสนุนโดย กองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) - งานวิจัย “การรักษาอัตลักษณ์ของมุสลิมในกรุงเทพฯ และปริมลฑลในบริบทการพัฒนาของไทย,” มหาวิทยาลัยการ จัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, 2553. - “การตอบสนองของชนชั้นนำมุสลิมต่อกระบวนการสร้าง ความทันสมัยในสามจังหวัดชายแดนใต้” รูสมิแล ปีที่ 31 ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม 2553. หน้า 6-22 310
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326