2561รายงานความพึงพอใจ

สถาบนั พระปกเกล้า โรงพยาบาล 09 ศาล การไฟฟ้า 01 การประปา ตำรวจ 02 03 07 04 เกษตรกร 08 05 06 ทหาร การศึกษา ถนน และสรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545-2561





ค วา มเ ชื่อ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 สารบัญ คำนำ III สารบัญ IV สารบญั ตาราง VI สารบญั แผนภูมิ X บทสรปุ สำหรบั ผบู้ รหิ าร 1 บทท่ี 1 บทนำ 15 1.1 หลกั การและเหตผุ ล 17 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 17 1.3 ค้มุ รวมของประชากร 17 1.4 ระยะเวลาการปฏิบัติงานเกบ็ รวบรวมข้อมูล 18 1.5 คำอธิบาย 18 บทท่ี 2 ระเบียบวธิ ีสถิติ 25 2.1 แผนการสุม่ ตัวอย่าง 27 2.2 วิธกี ารเลอื กหน่วยตวั อย่าง 27 2.3 เครอ่ื งมอื การเก็บรวบรวมข้อมูล 28 2.4 วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู 29 2.5 การประมวลผล 29 2.6 หลักเกณฑก์ ารคำนวณคะแนน 29 2.7 หลกั เกณฑก์ ารแปลผล 30 2.8 การเสนอผลการสำรวจ 30 2.9 การประมาณคา่ สถิติ 30 บทที่ 3 สรปุ ผลการสำรวจ 31 3.1 สื่อทใี่ ช้ในการตดิ ตามขา่ วสารทางการเมือง 33 3.2 ความคดิ เห็นต่อรัฐบาล 37 3.3 ความเชอ่ื ม่นั ต่อการทำงานของบคุ คล/คณะบคุ คล/สถาบัน/หน่วยงานต่างๆ 43 3.4 ความเชื่อมนั่ ต่อการทำงานขององคก์ รอสิ ระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ 46 3.5 ความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะทีร่ ัฐและท้องถนิ่ จดั ใหก้ ับประชาชน 47 IV สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเชื่ อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 สารบญั 3.6 ความคิดเห็นและประสบการณเ์ กีย่ วกบั การคอรร์ ัปชัน 55 3.7 การรูจ้ ักและความเชื่อมนั่ ตอ่ สถาบันพระปกเกล้า 59 3.8 ลกั ษณะพน้ื ฐานทางสงั คม และเศรษฐกจิ 62 บทที่ 4 แผนทีแ่ สดงคา่ เปน็ รายจังหวดั 65 บทท่ี 5 สรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545-2561 181 5.1 ความคิดเหน็ และความเช่ือมั่นตอ่ การทำงานของรฐั บาล/คณะบคุ คล/ 184 สถาบนั /หนว่ ยงานต่างๆ และองคก์ รอสิ ระ 5.2 ความพึงพอใจต่อบรกิ ารสาธารณะทร่ี ัฐและท้องถ่ินจัดให้กับประชาชน 201 5.3 การใหบ้ รกิ ารขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และการมีส่วนรว่ มกบั 206 หนว่ ยงาน 5.4 ความคิดเหน็ เก่ียวกบั การคอรร์ ปั ชันและการรอ้ งเรียนเก่ยี วกบั การบริการ 207 5.5 การมีส่วนรว่ มในทางการเมอื งในการรอ้ งเรียนเกย่ี วกบั การใหบ้ ริการ 209 ของหนว่ ยงานราชการ/องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น 5.6 การอยู่รว่ มกันในสงั คมปจั จุบนั 211 5.7 ตารางสถติ ิ พ.ศ. 2545–2561 212 บทท่ี 6 ตารางสถติ ิ พ.ศ. 2561 รายภาค 221 เอกสารอ้างองิ 290 V ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร

ค วา มเ ช่ือ มั่นต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 สารบญั ตาราง ตาราง 3.1 ร้อยละของประชาชนท่ตี ิดตามขา่ วสารทางการเมอื งจากสือ่ อินเทอร์เน็ต 37 ตาราง 3.2 จำแนกตามการเปน็ สมาชิกเครือข่ายสงั คมออนไลน์ ตาราง 3.3 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการติดตามการปฏิบัติงานของรฐั บาล 38 ตาราง 3.4 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการทราบนโยบายของรัฐบาล 41 ตาราง 3.5 และความพงึ พอใจตอ่ นโยบายที่ทราบในระดบั ค่อนข้างพอใจถึงพอใจมาก ตาราง 3.6 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเหน็ เก่ยี วกบั ความเช่อื ม่นั 45 ต่อการทำงานของบุคคล/คณะบุคคล/สถาบัน/หนว่ ยงานต่างๆ ตาราง 3.7 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพงึ พอใจตอ่ บริการสาธารณะ 49 ตาราง 3.8 ท่ีรฐั และทอ้ งถนิ่ จดั ให้ ตาราง 3.9 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยติดต่อ/ใช้บรกิ ารกบั 51 องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ และการเคยมสี ่วนร่วมกับหน่วยงานของรฐั ตาราง 3.10 หรือองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ในการวางแผนการใหบ้ ริการสาธารณะ ตาราง 3.11 แก่ประชาชน ตาราง 3.12 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการเคยรอ้ งเรยี นเกยี่ วกบั 52 ตาราง 3.13 การใหบ้ รกิ ารของหน่วยงานราชการ ตาราง 3.14 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยร้องเรียนเก่ยี วกบั การใหบ้ รกิ าร 54 ตาราง 3.15 ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ตาราง 3.16 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเหน็ เก่ียวกบั การคอรร์ ปั ชนั 55 และการรับสนิ บนในการปกครองระดับประเทศ (นักการเมือง ผู้บรหิ ารระดับสงู ทเ่ี ป็นขา้ ราชการ และขา้ ราชการประจำ) รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกย่ี วกับการคอรร์ ัปชนั 56 และการรบั สินบนในองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ (นายกฯ สมาชิกสภาท้องถ่นิ ) รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยพบเห็นการคอร์รปั ชัน 57 หรือการรับสินบนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเก่ียวกบั คำกลา่ วทว่ี ่า 57 “บางครงั้ การคอรร์ ัปชันในรัฐบาลก็มีความจำเป็นเพือ่ ให้งานสำเร็จลลุ ว่ งไปได”้ รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเกย่ี วกับความไวว้ างใจ 58 ในการอย่รู ่วมกนั ในสงั คม ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการเปน็ สมาชกิ กลุม่ ชมรม และ 59 สมาคมตา่ งๆ ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการทราบเก่ยี วกับบทบาทหน้าที่ 61 ของสถาบนั พระปกเกลา้ ร้อยละของประชาชนที่รจู้ ักสถาบนั พระปกเกลา้ จำแนกตามความเชอ่ื ม่ัน 62 ต่อการทำงานของสถาบันพระปกเกลา้ VI สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเชื่ อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 สารบัญตาราง ตาราง 5.1 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการรับทราบและความพงึ พอใจ 213 ตาราง 5.2 ต่อนโยบายสำคญั ของรฐั บาล ตาราง 5.3 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเกยี่ วกบั ความสามารถของ 214 ตาราง 5.4 รฐั บาลในการแก้ไขปญั หาด้านเศรษฐกจิ และสงั คม ตาราง 5.5 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นและความเชอื่ ม่นั ต่อ 215 ตาราง 5.6 การทำงานของรัฐบาล/คณะบุคคล/สถาบัน/องค์กรอิสระ/หนว่ ยงานตา่ งๆ ตาราง 5.7 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจตอ่ การบรกิ ารสาธารณะ 217 ตาราง 6.1 ท่ีรัฐและท้องถน่ิ จัดให้ ตาราง 6.2 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการรอ้ งเรยี นเกย่ี วกบั การให้บริการ 218 ตาราง 6.3 ของหนว่ ยงานและองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ตาราง 6.4 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยใช้บริการ/มสี ่วนร่วมกับ 219 องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหนว่ ยงาน ในรอบ 12 เดือน ตาราง 6.5 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเหน็ เก่ียวกับการคอรร์ ปั ชัน 220 ตาราง 6.6 ร้อยละของประชาชนที่ตอบแบบสมั ภาษณ์ จำแนกตามลกั ษณะทาง 223 ประชากร สงั คมและเศรษฐกิจ เปน็ รายภาค ตาราง 6.7 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยไปพพิ ิธภัณฑ์ หรือสถานที่ 226 มรดกทางวฒั นธรรม เปน็ รายภาค ตาราง 6.8 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการติดตามข่าวสารทางการเมือง 227 และสอ่ื ทีต่ ิดตาม เปน็ รายภาค รอ้ ยละของประชาชนทต่ี ดิ ตามขา่ วสารทางการเมอื งจากสอ่ื โทรทศั น์ (ฟรที วี )ี 228 ก้างปลา/กล่องดิจติ อล จำแนกตามความถี่ในการตดิ ตามขา่ วสาร ทางการเมือง และช่อง/สถานที ตี่ ดิ ตาม เป็นรายภาค รอ้ ยละของประชาชนทต่ี ดิ ตามขา่ วสารทางการเมืองจากสื่อเคเบ้ิลทีว/ี 229 จานดาวเทยี ม จำแนกตามความถีใ่ นการติดตามขา่ วสารทางการเมอื ง และช่อง/สถานีทต่ี ิดตาม เปน็ รายภาค รอ้ ยละของประชาชนท่ตี ดิ ตามขา่ วสารทางการเมอื งจากส่อื อนิ เทอร์เน็ต 230 จำแนกตามความถ่ใี นการติดตามข่าวสารทางการเมือง และเว็บไซต์ ทต่ี ดิ ตาม เป็นรายภาค รอ้ ยละของประชาชนที่ติดตามขา่ วสารทางการเมอื งจากสือ่ หนังสอื พิมพ์ 231 จำแนกตามความถใ่ี นการตดิ ตามข่าวสารทางการเมอื ง และหนังสือพมิ พ์ ทต่ี ดิ ตาม เป็นรายภาค ร้อยละของประชาชนที่ติดตามข่าวสารทางการเมืองจากสือ่ วิทยุทวั่ ไป 232 จำแนกตามความถใี่ นการตดิ ตามข่าวสารทางการเมอื ง และคลน่ื / สถานที ี่ติดตาม เป็นรายภาค VII ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

ค วา มเ ช่ือ มั่นต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 สารบญั ตาราง ตาราง 6.9 รอ้ ยละของประชาชนที่ตดิ ตามข่าวสารทางการเมอื งจากส่อื วทิ ยุชมุ ชน 233 ตาราง 6.10 จำแนกตามความถใ่ี นการติดตามขา่ วสารทางการเมือง เป็นรายภาค ตาราง 6.11 รอ้ ยละของประชาชนทตี่ ดิ ตามข่าวสารทางการเมอื งจากสอ่ื อินเทอรเ์ น็ต 234 จำแนกตามการเปน็ สมาชกิ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เป็นรายภาค ตาราง 6.12 ร้อยละของประชาชนท่ตี ดิ ตามข่าวสารทางการเมอื งจากสอ่ื อนิ เทอร์เน็ต 234 ตาราง 6.13 จำแนกตามเวลาทีใ่ ชใ้ นการสอ่ื สารทางอินเทอร์เนต็ (Facebook line ตาราง 6.14 คยุ ผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ ) เป็นรายภาค ตาราง 6.15 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการติดตามการปฏบิ ัตงิ านของรัฐบาล 235 ตาราง 6.16 เปน็ รายภาค ตาราง 6.17 คะแนนเฉล่ยี ความพงึ พอใจของประชาชนตอ่ นโยบายของรัฐบาล 236 ตาราง 6.18 ทไี่ ด้ดำเนนิ การ ตาราง 6.19 ร้อยละของประชาชนทีท่ ราบนโยบายของรฐั บาล จำแนกตามระดับ 238 ตาราง 6.20 ความพงึ พอใจต่อนโยบาย ของรัฐบาลท่ไี ด้ดำเนินการ เปน็ รายภาค ตาราง 6.21 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การแกไ้ ขปญั หาของ 249 รัฐบาลในดา้ นสังคมและดา้ นเศรษฐกจิ เปน็ รายภาค ตาราง 6.22 คะแนนเฉลยี่ ความเชือ่ ม่นั ของประชาชนตอ่ การทำงานของบคุ คล/ 250 ตาราง 6.23 คณะบคุ คล/สถาบัน/หนว่ ยงานตา่ งๆ รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดบั ความเชือ่ ม่ันต่อการทำงานของ 251 บุคคล/คณะบุคคล/สถาบนั /หน่วยงานต่างๆ เปน็ รายภาค ร้อยละของประชาชน จำแนกตามระดบั ความเชือ่ ม่ันต่อบุคคลแวดล้อม 263 เป็นรายภาค ร้อยละของประชาชน จำแนกตามระดับความเชื่อม่นั ตอ่ การทำงานของ 264 องค์กรอิสระและองคก์ รตามรัฐธรรมนญู เป็นรายภาค รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดับความพึงพอใจตอ่ 269 การบรกิ ารสาธารณะที่รัฐและทอ้ งถ่นิ จดั ให้ เป็นรายภาค ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการเคยติดตอ่ /ใชบ้ รกิ ารกบั 278 องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ และการเคยมสี ว่ นรว่ มกับหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินในการวางแผนการใหบ้ รกิ ารสาธารณะ แกป่ ระชาชน เป็นรายภาค ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการเคยรอ้ งเรียนเกีย่ วกับการให้บริการ 279 ของหนว่ ยงานราชการ เปน็ รายภาค ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการเคยรอ้ งเรยี นเก่ียวกับการใหบ้ รกิ าร 280 ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ เปน็ รายภาค VIII สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเชื่ อ ม่ั นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 สารบญั ตาราง ตาราง 6.24 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการบริการสาธารณะท่ีตอ้ งการ 281 ตาราง 6.25 ให้รฐั ปฏริ ูป เปน็ รายภาค ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกีย่ วกบั การคอรร์ ปั ชนั 281 ตาราง 6.26 และการรบั สินบนในการปกครองระดับประเทศ (นักการเมอื ง ผบู้ รหิ ารระดับสงู ท่ีเปน็ ขา้ ราชการ และขา้ ราชการประจำ) เป็นรายภาค ตาราง 6.27 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเก่ยี วกบั การคอรร์ ปั ชัน 282 ตาราง 6.28 และการรับสินบนในองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ (นายกฯ สมาชิกสภาทอ้ งถนิ่ ) เป็นรายภาค ตาราง 6.29 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการเคยพบเหน็ การคอร์รัปชนั หรือ 282 ตาราง 6.30 การรับสินบนของเจา้ หน้าทรี่ ฐั เปน็ รายภาค ตาราง 6.31 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั การคอรร์ ัปชนั 283 ตาราง 6.32 และการรบั สนิ บนท่วี า่ “บางคร้ังการคอรร์ ปั ชันในรฐั บาลกม็ คี วามจำเป็น ตาราง 6.33 เพอ่ื ใหง้ านสำเร็จลุลว่ งไปได้” เป็นรายภาค ตาราง 6.34 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ความไวว้ างใจ 283 ในการอยรู่ ว่ มกันในสังคม เปน็ รายภาค รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเปน็ สมาชิกกลุม่ ชมรม และ 284 สมาคมต่างๆ เป็นรายภาค รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการรู้จักสถาบนั พระปกเกลา้ 286 และแหลง่ ส่ือทท่ี ำให้รจู้ ัก เปน็ รายภาค ร้อยละของประชาชนทีร่ จู้ ักสถาบันพระปกเกล้าจากสือ่ โทรทศั น์ 287 จำแนกตามรายการโทรทศั น์ ที่ทำใหร้ ูจ้ กั สถาบันพระปกเกลา้ เปน็ รายภาค รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการทราบเกย่ี วกับบทบาทหนา้ ท่ขี อง 288 สถาบันพระปกเกล้า เปน็ รายภาค รอ้ ยละของประชาชนที่รูจ้ ักสถาบนั พระปกเกล้า จำแนกตามระดับ 289 ความเชอ่ื มน่ั ต่อการทำงานของ สถาบันพระปกเกล้า เปน็ รายภาค IX ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

ค วา มเ ชื่อ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 สารบญั แผนภูม ิ แผนภูมิ ก 1 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยทราบขา่ วสารทางการเมือง 4 และสอื่ ทีต่ ดิ ตาม แผนภมู ิ ก 2 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการตดิ ตามการปฏิบัติงานของรฐั บาล 5 เป็นรายภาค แผนภมู ิ ก 3 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการทราบนโยบายของรฐั บาล 5 อันดบั แรก 6 แผนภมู ิ ก 4 รอ้ ยละของประชาชนทที่ ราบนโยบายของรัฐบาล จำแนกตามระดับความพึงพอใจ 6 ต่อนโยบายของรฐั บาล 5 อันดับแรก แผนภมู ิ ก 5 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกีย่ วกับการแก้ไขปญั หาของ 7 รฐั บาลในด้านสังคมและดา้ นเศรษฐกจิ แผนภูมิ ก 6 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามระดับความเชือ่ มั่นต่อการทำงานของบุคคล/ 8 คณะบคุ คล/สถาบัน/หนว่ ยงานต่างๆ 5 อนั ดบั แรก แผนภูมิ ก 7 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดับความเช่อื มนั่ ตอ่ การทำงานของ 9 องคก์ รอิสระและองคก์ รตามรฐั ธรรมนญู แผนภูมิ ก 8 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดบั ความพึงพอใจต่อการบรกิ ารสาธารณะ 10 ท่รี ัฐและท้องถ่นิ จัดให้ 5 อันดับแรก แผนภูมิ ก 9 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยตดิ ตอ่ /ใชบ้ ริการกับองค์กรปกครอง 10 ส่วนทอ้ งถิน่ แผนภูมิ ก 10 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยมสี ่วนรว่ มกบั หนว่ ยงานของรฐั หรือ 11 องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ในการวางแผนการใหบ้ รกิ ารสาธารณะแก่ประชาชน แผนภูมิ ก 11 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเก่ยี วกบั การคอรร์ ัปชนั และ 12 การรับสนิ บนในการปกครองระดบั ประเทศ แผนภมู ิ ก 12 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การคอร์รัปชันและ 12 การรับสนิ บนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ แผนภูมิ ก 13 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยพบเห็นการคอร์รัปชนั หรือ 13 การรับสินบนของเจา้ หนา้ ทรี่ ัฐ ในรอบ 12 เดอื นทผ่ี ่านมา แผนภูมิ ก 14 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเก่ยี วกบั คำกล่าวทีว่ ่า 14 “บางครัง้ การคอร์รัปชันในรฐั บาลก็มีความจำเป็นเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็ ลุล่วงไปได้” แผนภูมิ 3.1 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยทราบขา่ วสารทางการเมอื ง 33 แผนภมู ิ 3.2 และส่อื ที่ตดิ ตาม แผนภมู ิ 3.3 ร้อยละของประชาชนที่ตดิ ตามขา่ วสารทางการเมอื ง จำแนกตามความถใี่ นการ 36 แผนภูมิ 3.4 ตดิ ตามจากสื่อตา่ งๆ แผนภมู ิ 3.5 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการทราบนโยบายของรัฐบาล 5 อันดับแรก 49 แผนภูมิ 3.6 ร้อยละของประชาชนทที่ ราบนโยบายของรัฐบาล จำแนกตามระดบั ความพงึ พอใจ 40 ตอ่ นโยบายของรฐั บาล 5 อันดับแรก ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเก่ียวกบั การแกไ้ ขปญั หาของ 43 รฐั บาล ในดา้ นสังคมและด้านเศรษฐกจิ รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดบั ความเชื่อมน่ั ต่อการทำงานของบคุ คล/ 44 คณะบุคคล/สถาบัน/หนว่ ยงานตา่ งๆ 5 อนั ดบั แรก X สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเช่ื อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 สารบญั แผนภูมิ แผนภมู ิ 3.7 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดบั ความเชื่อมนั่ ตอ่ การทำงานของ 47 องค์กรอสิ ระและองคก์ รตามรฐั ธรรมนูญ แผนภูมิ 3.8 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดับความพงึ พอใจต่อการบรกิ ารสาธารณะ 48 ท่ีรฐั และทอ้ งถน่ิ จัดให้ 5 อนั ดับแรก แผนภมู ิ 3.9 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการบรกิ ารสาธารณะท่ตี อ้ งการให้รฐั ปฏริ ูป 50 แผนภูมิ 3.10 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการรู้จักสถาบันพระปกเกล้า 60 และแหลง่ สื่อท่ที ำใหร้ จู้ กั แผนภูมิ 5.1 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพงึ พอใจต่อนโยบายสำคญั ของรฐั บาล 184 เกี่ยวกับการสร้างความมั่นคง ปี 2552 - 2561 185 186 แผนภูมิ 5.2 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพงึ พอใจต่อนโยบายสำคัญของรฐั บาล 187 เกีย่ วกับการปฏริ ูประบบราชการและการเมอื ง ปี 2552 - 2561 188 189 แผนภูมิ 5.3 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล 190 ด้านการจดั การการกระทำทผ่ี ดิ กฎหมาย ปี 2552 - 2561 191 192 แผนภมู ิ 5.4 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล 193 ดา้ นการบริหารจดั การ ในภาพรวม ปี 2555 - 2561 194 195 แผนภูมิ 5.5 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพงึ พอใจตอ่ นโยบายสำคญั ของรฐั บาล 196 เกย่ี วกบั การเกษตร ปี 2552 - 2561 196 197 แผนภูมิ 5.6 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพงึ พอใจตอ่ นโยบายชว่ ยเหลอื 198 ด้านภาวะเศรษฐกจิ ปี 2552 - 2561 XI แผนภมู ิ 5.7 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เหน็ เกีย่ วกับความสามารถ ในการแก้ไขปญั หาสงั คมและเศรษฐกิจของรฐั บาล ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.8 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามตามความคิดเห็นเกีย่ วกับความเชอ่ื มั่นตอ่ การทำงานของนายกรัฐมนตร/ี รฐั บาล/พรรคการเมือง ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.9 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามตามความคดิ เห็นเก่ียวกบั ความเชือ่ มั่นต่อ การทำงานของสมาชิกรฐั สภา ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.10 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามตามความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ความเช่ือมน่ั ตอ่ การทำงานของขา้ ราชการ ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.11 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามตามความคิดเหน็ เกยี่ วกับความเชื่อมน่ั ต่อ การทำงานของทหาร ตำรวจ ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.12 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามตามความคิดเห็นเกย่ี วกับความเชอ่ื มั่นต่อ การทำงานของขา้ ราชการส่วนทอ้ งถน่ิ ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.13 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามตามความคิดเหน็ เก่ียวกับความเชื่อม่ันตอ่ การทำงานของแพทย์ ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.14 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามตามความคดิ เห็นเก่ียวกบั ความเช่ือมั่นต่อ การทำงานขององคก์ รชมุ ชน, NGOs ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.15 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามตามความคดิ เห็นเกยี่ วกับความเชอ่ื ม่นั ต่อ การทำงานของศาลและองคก์ รอยั การ ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.16 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามตามความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ความเช่อื มั่นตอ่ การทำงานของส่ือ ปี 2552 - 2561 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

ค วา มเ ชื่อ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 สารบัญแผนภูม ิ แผนภูมิ 5.17 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามตามความคดิ เห็นเกยี่ วกับความเชือ่ ม่นั ตอ่ 199 การทำงานขององคก์ รดา้ นการตรวจสอบ ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.18 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเหน็ เกยี่ วกับความเชือ่ มน่ั ตอ่ 200 การทำงานขององค์กรด้านการคมุ้ ครองสทิ ธิ ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.19 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจตอ่ การบรกิ าร 201 สาธาณูปโภคพ้นื ฐาน ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.20 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพงึ พอใจตอ่ การบริการด้านการศกึ ษา 202 ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.21 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อการบรกิ ารด้านสุขภาพ 203 ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.22 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความพงึ พอใจตอ่ การบรกิ ารดา้ นคณุ ภาพสงั คม 204 ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.23 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อการบริการ 205 ดา้ นคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.24 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยใช้บริการของ 206 องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.25 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกยี่ วกบั “บางครง้ั การคอร์รัปชัน 207 ในรฐั บาลกม็ ีความจำเปน็ เพ่ือใหง้ านลุลว่ งไปได”้ ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.26 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกยี่ วกับการคอรร์ ัปชนั และ 208 การรบั สินบนในการปกครองระดบั ประเทศและการปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.27 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยพบเหน็ การคอรร์ ปั ชนั ปี 2552 - 2561 209 แผนภมู ิ 5.28 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการร้องเรียนเก่ยี วกับการใหบ้ รกิ ารของ 209 หนว่ ยงานราชการ ปี 2552 - 2561 แผนภูมิ 5.29 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการรอ้ งเรียนเก่ยี วกับการให้บรกิ ารของ 210 องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ปี 2552 - 2561 แผนภมู ิ 5.30 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความไวว้ างใจในการติดตอ่ กับผอู้ ืน่ 211 ปี 2552 - 2561 XII สถาบันพระปกเกล้า





บทสรปุ สำหรับผู้บริหาร การสำรวจความคดิ เห็นของประชาชนเกย่ี วกับความพงึ พอใจ ตอ่ การใหบ้ รกิ ารสาธารณะและการทำงานของหน่วยงานตา่ งๆ พ.ศ. 2561 กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ให้ความ ร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้าดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเก่ียวกับ ความพึงพอใจต่อการให้บริการสาธารณะและการทำงานของหน่วยงานต่างๆ อย่าง ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือติดตามและประเมินผลการให้บริการ ของหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน โดยกระบวนการการมีส่วนร่วม ของประชาชน (People’s Audit) อันจะนำไปสู่การนำเสนอแนวทางสำหรับผู้กำหนด นโยบายจะได้นำไปใช้พัฒนาการจัดบริการสาธารณะให้มีคุณภาพ และตอบสนองต่อ ความตอ้ งการของประชาชนทุกกลุม่ ในสงั คมไทยใหด้ ยี ง่ิ ขึ้นตอ่ ไป การสำรวจคร้ังนใ้ี ช้แผนการสุม่ ตัวอยา่ งแบบ Stratified Three–stage Sampling ซ่ึงปฏิบัติงานเก็บรวบรวมข้อมูล ระหว่างวันท่ี 2 – 20 เมษายน พ.ศ. 2561 โดยทำการ สัมภาษณ์สมาชิกในครัวเรือนท่ีมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกจังหวัดท่ัวประเทศ เป็นจำนวนท้ังสิ้น 33,420 คน ซง่ึ สรุปผลการสำรวจ ที่สำคญั ได้ดงั น้ี 3 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

86 1. 21 4 86 ความเช่ือมั่นต่อสถาบันต่างๆ และความพึงพอใจต่อการบ0ริการสาธารณะ พ.ศ. 2561 21 4 และสรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545-25261 21 14 6 0 66 2 2 1. สอื่ ท่ีใชใ้ นกา0รติดตามข่าวสารทางการเมือง 21 14 6 People’s Audit) 66 1 ผลการสำรวจเกี่ยวกับการเคยทราบข่าวส2ารทางการเมือง พบว่า0ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.6 ระบุว่าเคยทราบข่าวสาร ทางการเมือง และร้อยละ 21.4 ระบุว่า ไม่เคยทราบ atified ข่าวสาร 1 8–2 Three–1s2t4age24S8a2m00นส(2เ-pจร่ือ7lิต้อา้inโ.ยหย9ทgสนล)ราะา้ทสรเทัศค9/ำขี่ วน7.เห26อ18บ1า,1์ร4.)86ง(.6ร้ิล4ั2ฟบร%24ส%1ท0วฐัรปาิทีวีท6รรเี1ยป/ีวะจ(ุที)็นชร4า่ัวกต้อา0นไ้า้น-ชยป4ดงลนป(า(ระทรวลอ้ ่ี้อเเา0ยคทSย/.ล13tยกียลr8ะa)ทลมะ–tแ่อ2รi02f6(iลงา.eร1.ดบdะ36้อ)ิจอ)ขยิต่ืน่หาลอวๆอะลสกมเา2รชาร1ะ่นกทจ.5ทาาป)ี่สยงรกอุขดะิาน่าชรรวเุมอเท(มปงรอลือร้อรงะงย์เมรจนลา้อำ็ะตคเยดือ5(ลือร.ะพ2้7อน28)ูด1ย7ข..6วค4ล9อ%ิท%ุย.ะง0ยกหุ1ชับรมุม4บะู่บ.ชบุค6้านุคว)น่าลห(รสตอน้อถิด่ืนังยาตสล(นารือะศม้อพึกยจ0ิมษล.า7พกะา)์ 26 0– 24 60 22 22 46 แผนภูมิ ก1 12รอ้ ยละของประชาชน4จ6ำแนกตามการติดตามข่าวสารทางการเมือง และส่อื ทีต่ ดิ ตาม 1 0 79.0 10 2 2การเคยทราบขา่11ว4.ส2612า.75ร.ท9 า4งกา0รเมอื ง 1 1 1 11 8 79.0 11 โทรทัศน์ (ฟรที วี ี) กา้ งปลา/ 10 6 2 2 9.6 11 กล่องดจิ ติ อล 27.9 21.5 1ไ2ม1่เ8.ค4ย%6.3 78เค.6ย1%2 10 6 พูดคุยกบั บุคคลอน่ื 14.6 85.22 9.6 NGOs) 01 0.7 เคเบล้ิ ทวี /ี จานดาวเทียม 6.3 0.3 อินเทอร์เน็ต หนงั สอื พมิ พ์ ,001-1000,10.160200 วทิ ยุทั่วไป 10 6 01 หอกระจายข่าว 5.2 00 ,001 10 6 0 40 60,01018-80,001000 วทิ ยุชมุ ชน 0.7 ,001- ,000 นติ ยสาร/วารสาร 0.3 16 1 10,001-1 ,000 20,001:11-/2ตอ,บ0ไ0ดม้0ากกว1า่ 1,0ค0าต1อ-บ20,000 อืน่ ๆ เชน่ ประชมุ ประจำเดอื น 0.1 ของหมบู่ า้ น สถานศึกษา เป็นต้น 0 20 40 60 80 100 2 ,200.0 ความคิดเห6น็ 0ตอ่ รฐั บาล : 1/ ตอบได้มากกว่า 1 คาตอบ 2.1 การตดิ ตามการปฏิบตั ิงานของรฐั บาล ประชาชนร้อยละ 79.7 ระบุว่าติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล (ซึ่งในจำนวนน้ี ระบุว่า ติดตามเป็นประจำร้อยละ 12.5 และติดตามเป็นบางครั้งบางคราวร้อยละ 67.2) ในขณะที่ ร้อยละ 20.3 ระบวุ ่าไม่ได้ตดิ ตาม 4 สถาบันพระปกเกล้า

6 2 20.3 ควา มเชื่ อ ม่ั นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 4 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 47.3 -8 100 50.1 80 110...114 เม่ือพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ประชาชนในทุกภาค ประมาณร้อยละ 75-83 ติดตาม 60 40 การปฏิบัตงิ า2นของรัฐบาล 20 0 แผนภมู ิ ก 2 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการติดตามการปฏิบตั งิ านของรัฐบาล เปน็ รายภาค 100 12.5 13.1 12.7 10.8 13.3 12.7 0 67.2 . 69.1 . 62.7 . 71.1 1. 69.3 . 66.6 79.3 2 20.3 17.8 24.6 18.1 17.4 20.7 0 . ... 2.3 2.22 .ก2ารทราบและความพึงพอใจต่อนโยบายของรัฐบาล นโยบายของรัฐบาลท่ีประชาชนระบุว่าทราบ 5 อันดับแรก ได้แก่ การจัดการเร่ือง เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คนพิการ (ร้อยละ 96.9) โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า บัตรทอง/ 30 บาท รักษาทุกโรค (ร้อยละ 96.2) โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ร้อยละ 94.4) 6การควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท (ร้อยละ 93.0) และการแก้ไขปัญหาสินค้า อปุ โภค บริโภคราคาแพง (รอ้ ยละ 86.4) 0 62 44 80 0 86 4 3 5 5 100 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร 80

86 4 80 0 86 4 3 ค วา มเ ช่ือ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 3 5 5 แผนภ1ูม0ิ 0ก 3 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการทราบนโยบายของรฐั บาล 5 อนั ดบั แรก 80 61.1 1806464200000000 17.6 61.1 19. 96.9 96.2 94.4 93.0 86.4 0 17.6 19. 936.1.9 936.8.2 954.6.4 973.0.0 8163.46 20 20 3.1 3.8 5.6 7.0 13.6 20 0 0การจดั การ โครงการ โครงการ การควบคมุ การแก้ไขปญั หา 0 เร่ืองเบ้ยี ยังชีพฯ หลักประกัน บัตรสวสั ดกิ าร ราคาสลาก สินค้าอุปโภค สขุ ภาพฯ แห่งรฐั กนิ แบ่งรฐั บาลฯ บรโิ ภคราคาแพง 97.4) 94.1) 12 ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลท่ีประชาช3น0ระบุว่าค่อนข้างพอใจถึงพอใจมาก มากก9ว3่าร.้อ9ย)ละ 20.3 80.0 ข้ึนไป ได้แก่ การป0กป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ (ร้อยละ 9973..41)) นโยบาย บเจัต็บรปท่วอยงฉ3ุก0เฉบินาทวิกรฤักตษามทีสุกิทโธริทคุก(รท้อี่ (ยรล้อะย9ล3ะ.99)4.ก1า)ร9โจ4คัด.1ร9ก)ง7าก.ร4าเ)รร่ือหงลเับก้ียปยรังะ9ชกีพ2ันผ.ส5ู้สุข)ูงภอาาพยุ ถค้วนนพหิกนา้รา (รอ้ ย1ล2ะ 93.1) และโค4รงการเงนิ อุดหนุนเพือ่ เ3ล0ีย้ งดเู ด็กแรกเกิด (ร้อยละ9932.1.5)9)3.9) 62 20.3 แผนภมู ิ ก 4 รอ้ ยละของประชาชนทที่ ราบนโยบาย9ข2อ.5ง)รฐั บาล จำแนกตามระดบั 4ความพึงพอใจต่อนโยบายของรัฐบาล 5 อันดับแรก รอ้ ยละ 100 80 41070.3 36.3 36.2 39.0 30.5 60 93.939.0 9330..51 40 80 9747.4.3 369.34.1 36.2 93.9 545.14.913.1 62.0 62..0 . 3.312.7 1210.7.8 13.3 12.7 20 60 50.15977..4857.8 94.15757.7.7 9..362.7. 6. 671.6.1 719. .639.3 . 66.6 790.3 110...141 031...559 301...559 10410..4.551...551 402...354102...351 033...159 303...195 ความ 5011420000....1411 พึงพอใจฯ 24.6 18.1 17.4 20.7 การปกปอ้ ง นโยบายเจ็บป่วย โครงการ การจดั การเรื่อง โครงการ เชิดชูสถาบนั ฉกุ เฉินวกิ ฤต หลกั ประกัน เบีย้ ยังชีพฯ เงินอดุ หนนุ เพือ่ 7.4 20.7 . . . พระมหากษัตริย์ มีสทิ ธิทุกที่ สุขภาพฯ เลย้ี งดูเด็กแรกเกดิ .. 6 2.3 สถาบันพระปกเกล้า 16 1 61 1 2.3 6

2.3 1 6ความเชื่อม่ันต่อสถาบันต่างๆ และความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะ พ.ศ. 2561 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 6 61 1 1 0 2.3 ความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การแกไ้ ขปัญหาของรัฐบาลใน2ด0า้ นสังคมและดา้ นเศรษฐกิจ 4 4 ความคิดเห็นเก่ียวกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ในด้านสังคม พบว่า ประชาชนร้อยละ 0 17.6 เห็นว่าสามารถแก้ไข ได้เป็นอย่างมาก ร้อยละ 61.1 เห็นว่าแก้ไขได้บ้าง ร้อยละ 19.3 86 4 เห็นวา่ แก้ไขได้เพยี งเล็กน้อย และร้อยละ 2.0 เหน็ วา่ ไม่สามาร1ถแก้ไขได้เลย ส่วนความคิดเห็นเก่ียวกับการแก้ไขป8ัญหาของรัฐบาล ในด้านเศรษฐกิจ พบว่า2ป8ระ8ชาชน ร้อยละ 9.1 เห็นว่าสามารถแก้ไขได้เป็นอย่างมาก ร้อยละ 55.68 เห็นว่าแก้ไขได้บ้าง ร้อยละ 28.8 เห็นวา่ แก้ไขได้เพยี งเลก็ น้อย และร้อยละ 6.3 เห็นว่าไมส่ ามารถแกไ้ ขไดเ้ ลย แผน5ภูมิ ก 5 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเหน็ เกย่ี วกับ การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในดา้ นสังคมและดา้ นเศรษฐกจิ 0 86.4 61.1 55.8 13.6 0 0 2 17.6 19.3 2 9.1 28.8 6.3 0 2.0 0 แกไ้ ข แก้ไข แก้ไข ไม่สามารถ แกไ้ ข แก้ไข แกไ้ ข ไม่สามารถ ได้เป็น ได้บ้าง ได้เพียง แก้ไข ไดเ้ ป็น ไดบ้ ้าง ได้เพียง แก้ไข อยา่ งมาก เลก็ นอ้ ย ไดเ้ ลย อย่างมาก เลก็ นอ้ ย ได้เลย 3. ความเชือ่ มน่ั ต่อการทำงานของบคุ คล/คณะบคุ คล/สถาบัน/หนว่ ยงานต่างๆ การทำงานของบุคคล/คณะบุคคล/สถาบัน/หน่วยงานต่างๆ ท่ีประชาชนระบุว่า ค่อนข้างเช่ือมั่นถึงเชื่อมั่นมาก 5 อันดับแรก คือ แพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ (ร้อยละ 89.8) แพทย์ในโรงพยาบาลของเอกชน (ร้อยละ 88.3) ทหาร (ร้อยละ 79.0) นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทรโ์ อชา) (ร้อยละ 77.7) และโทรทศั น์ (ร้อยละ 76.7) 7 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร

88.3) 0 28.1 8709..49 6 2278..31 697.69.9 6 2207.1.3 6666666666003333666884....9..665544..4477556..44.8855666661144.200......99998811.. 1280..01 ค วา มเ ชื่อ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 1158..30 1156..39 และสรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545-25661 1166..69 1146..46 6 แผนภมู ิ ก 6 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดับความเชอ่ื ม่ันตอ่ การทำงานของ บุคคล/คณะบุคคล/สถาบนั /หนว่ ยงานต่างๆ 5 อันดบั แรก 100 18000 30.5 30.2 17.2 19.1 13.6 6800 30.5 30.2 17.2 19.1 13.6 4600 89.8 88.3 61.8 79.0 58.6 77.7 63.1 76.7 014.4 20 464.02 59.3 89.8 58.1 88.3 61.8 79.0 58.6 77.7 63.1 76.7 0 20 40 2400 59.3 58.1 11.6 13.2 13.9 . 200 6.2 16622001.....4747.336 16630022......0023388 13.9 . 0 0062211.......2228800 5.1 117700......881155 0055500......6614466 89.9) 89.9) 85.6) 84.0) 85.6) 84.0) 8 8 4. ความเชอื่ มน่ั ตอ่ การทำงานขององคก์ รอสิ ระและองคก์ รตามรฐั ธรรมนูญ (ผ(ศสรปู้ทิตา้อ.ลรธปยิมวย.ลจชนุตปะก.ุษิธ)รา6ยระ(รรรช3ชแ้อมน.ผ7า88ยแ่ช)นร00..ลหอนคด44ะ่งงินณรชล6้อาะ(ง8ตรยกม.ิ้6อล8(รา8รย)ะรค้อลม8คืยอ8ะกณล3าศ6ะะ.รา90ก6ตล.6ร0รรรร).วะัฐ6มคจบ)ธกเณุรวง88าร่ิานะรมคกแก00น่อรผาูรญน่รนมเขดลก(้ินารือา้งอรก(เยปคชตล้อต่ืั้งอะงงม(ก.ก่ั)8นันก0(ถแรต.ึง้อล4.เ)ะย)ช(ปลศ่ือรระ้าอมาลยั่น6บปล3มปกะ.าร5คกา6)รม6ต6แ66อก6่.อล4งา4ะก66)ร(คาทรอณร้องุจทคยระ์ำิกตลกง11รแะรา0068422486อหร000000000000น7ัยม่ง9ขชกก.อาาา9ตรรง)ิ622605500009933......9289288....1122 31.3 26.5 2 92.3 31.3 8899..99 51215002200699........8877.......52828 92.3 58.6 85.7 2 85.7 5 528.9.6 54 2044220......9426642 4036630 68 8 6 66 4 6 6 60 6 6 : มค่า ้อ กว 60 6 : มค่า อ้ กว 8 สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเช่ื อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 แผนภูมิ ก 7 ร้อยล7ะของประชาชน จำแนกตามระดบั ความเช่อื ม่ันต่อการทำงานของ องคก์ รอิสระและองคก์ รตามรฐั ธรรมนูญ 5 องค์กรอิสระฯ 83.0 1.3 89.8) 29.9 53.1 6.1 7.5 2.1 0 ศาลยุตธิ รรม 80.4 1.3 ศาลรฐั ธรรมนูญ 6.4 8.9 3.0 28.1 52.3 1.3 ศาลปกครอง 79.9 6.8 8.9 3.1 27.3 69.6 52.6 1.2 ผ้ตู รวจการแผน่ ดิน 20.1 49.5 8.0 11.6 9.6 68.8 2.2 ปราคบณประากมรกรมารกทารจุ ปรติอ้ แงกหนัง่ ชแาลตะิ 18.0 50.8 10.5 11.0 7.5 66.4 3.0 คณะกรรมการการเลือกตัง้ 15.3 63.751.1 14.4 11.5 4.7 1.9 องค์กรอัยการ 16.9 63.546.8 8.9 12.5 13.0 17.2 19.1 13.6 คณะกรรมการตรวจเงนิ แผ่นดนิ 16.6 46.9 1.9 60.6 9.3 12.4 12.9 ร้อยละ คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแห่งชาติ 14.4 46.2 2.0 9.1 13.5 14.8 88.3 61.8 79.0 58.6 77.7 63.1 76.7 0 20 40 60 80 100 11.6 13.2 13.9 5. ความพึง.พอใจต่อการบริการสาธารณะที่รฐั และทอ้ งถิน่ จดั ให ้ 260...743 602...038 170...815 ประชาชนค่อนข้างพอใจถึงพอใจมากต่อบริการสาธารณะที่รัฐและท้องถ่ินจัดให้ 5 อันดับแรก คือ ไฟฟ้า (ร้อยละ 92.3) โรงเรียน (ร้อยละ 89.9) ถ9น2.น3 (ร้อยละ 85.7) ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ก่อนวัยเรียน89(ร.9้อ)ยละ 85.6) และบ8ร5ิก.7า)รสาธารณสุขและศูนย์อนามัย (ร้อยละ 84.0) 85.6) 84.0) 8 100 29.2 31.3 26.5 27.3 21.0 80 60 84.0 40 63.1 92.3 89.9 59.2 85.7 58.3 85.663.0 9 0 58.6 20 66 0 0005....8928 2.9 1020....78..8 4.2 8.3 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร 402...624 036...552 132...638

89.9) 85.7) 92.3 85.6)ความเช่ือม่ันต่อสถาบันต่างๆ และความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะ พ.ศ. 2561 84.0)และสรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545-2561 แผนภมู 8ิ ก 8 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามระดับความพึงพอใจ ต่อการบริการสาธารณะทร่ี ฐั และท้องถ่นิ จดั ให้ 5 อันดับแรก 100 29.2 31.3 26.5 27.3 21.0 80 60 84.0 40 63.1 92.3 89.9 59.2 85.7 58.3 85.663.0 58.6 20 66 0 0500....8982 2.9 1020....87..8 4.2 8.3 024...642 036...552 132...638 66 4 . : มคา่ อ้ กว่า 8. 41.3 62 6. การติดตอ่ /ใช้บริการกบั องค์กรปกครองสว่ นท้องถ5ิน่ 8 .7 ใสมนว่ีคนขวรณาอ้มะปยพทรลึงี่ะระพ้อชอ1ยาใ.2จชล8มนะไมาร5กม่้อ8คี ยร.ว7้อลายะมรลคะ4ะดิบ1เ7ุวห.31่าน็ .ไ4รมะ่เคคบอ่ ยุวน่าขสเา้ำคงหยพรตอับิดใ1จผตู้ท4่ขอี่เณ/คใะชยท้ตบมี่ ิดรรี ิกตอ้ ่าอยร/1ลกใ.ะช2ับ้บ3อ.ร8งิกคไาม์กรค่รฯอ่ปยพกพบคอวรใ2่าอจถงรสงึ้อ6ไ่วยมนพล่ ทะอ้อใ2จงเ3ถล.ิ่นย6 แผนภูมิ ก 9 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยติดตอ่ /ใช้บริการกับ 4 องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ความพึงพอใจ 11 23.6 พอใจมาก 58.7% 41.3% 71.4 ค่อนข้างพอใจ 100 8.5 80 26.4 310...253 ไมค่ อ่ ยพอใจ 60 43.0 67.2 34.6 59.5 ไมพ่ อใจเลย 40 ไมม่ ีความคิดเหน็ 20 24.2 2114..49 30.9 0 11813.3..23 271.5.6 1230..66 10 7. สถาบันพระปกเกล้า 65.7

48.9) 9. ควา มเช่ื อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 34.1) 7. การมสี ่วนรว่ มกบั หนว่ ยงานของรัฐหรอื องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น ในการกวาางรแเผคนยกเาข2ร้าใ2ไหป้บมรีิสก่าวรนสรา่วธามรกณับะหแนก่่ปวรยะงชาานชขนอ2พงบร8ัฐว่าหรปือระอชงาคช์กนรรป้อยกลคะร ในขณะทรี่ ้อยละ 72.2 ระบวุ ่าไมเ่ คย องส่วนท้องถ่ิน 27.8 ระบุว่าเคย สำหรับผู้ท่ีเคยเข้าไปมีส่ว2นร่วมฯ ระบุว่าได้เข้าร่วมในการประชุมหมู่บ้า2น6(6ร้อยละ 93.2) การวางแผนพัฒนาท้องถิ่น (ร้อยละ 26.6) และเข้าร่วมกิจกรรมอ่ืนๆ เช่น โคร0ง2การไทยนิยมฯ เปน็ ต้น (รอ้ ยละ 0.2) 0.1 1230..92 34.1 17642...300.2 11.3 1 แผนภมู ิ ก 10 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามการเคยมสี ่วนร่วมกับหน่วยงานของรฐั หรือองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นในการวางแผนการใหบ้ ริการสาธารณะแก่ประชาชน 35.5 70.5 กจิ กรรมทเ่ี ขา้ ร่วม 1/ 273.2.2 93.2 การประชุมหม่บู า้ น 72.2% 27.8% 26.6 การวางแผนพฒั นาท้องถ่ิน 01..92 อ่ืนๆ เชน่ โครงการไทยนยิ มฯ ไม่ระบุ : 1/ ตอบได้มากกว่า 1 คาตอบ 8. ความคดิ เห็นและประสบการณ์เกย่ี วกับการคอรร์ ปั ชัน การคอร์รัปชันและการรบั สินบนในการปกครองระดบั ประเทศ ประชาชนร้อยละ 9.8 เห็นว่าแทบจะไม่มีใครเก่ียวข้อง/ไม่มีการคอร์รัปชันและ การรับสินบนในการปกครองระดับประเทศ ร้อยละ 50.1 เห็นว่าเจ้าหน้าท่ีบางคนคอร์รัปชัน ร้อยละ 15.2 เห็นว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่คอร์รัปชัน ร้อยละ 4.4 เห็นว่าเจ้าหน้าที่คอร์รัปชัน เกือบทกุ คน/ทุกคน และร้อยละ 20.5 ไมม่ คี วามคิดเหน็ 11 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

8 12 2 145 60 0 1 50.1 8 2 12 4 4ความเชื่อม่ันต่อสถาบันต่างๆ และความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะ พ.ศ. 2561 40 20และสรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545-2561 72.4%0 8 27.6% 20 ก 11 9รอ้.8ย1แล3ละขะกอางรปรรบั ะสชินาชบนนใจ1นำ5กแ.า2นรกปตกาคมรคอ4วง.ร4าะมดคบั ดิ ปเหรน็2ะเเ0ทก.ย่ี5ศวกับการคอร์รัปชนั 15 12 แผนภูมิ ร้อยละ 0 60 / 50.1 / 40 20 15.2 20.5  9.8 1เจา้ หน้าที่ เจา้ หนา้ ท่ี 4.4 8 4 0 แทบจะไมม่ ี บางคน สว่ นใหญ่ คอรร์ ัปชนั ไมม่ ี 72.4% 27.6% คอรร์ ัปชัน คอร์รปั ชนั : 1/ ตอบไดม้ 1 ใครเกย่ี วข้อง/ เกือทบกุ ทคุกนคน// ความคดิ เหน็  ” 46 ไม่มีการ / คอร์รปั ชัน 4 1 การคอรร์ ัปชันและการรบั สินบนในองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ 2 8 8 การรับสินปบรนะใชนาอชงนคร์ก้อรปยลกะคร1อ7ง.ส3่วเนหท็น้อวง่า1ถแ่ินทรบ้อจยะลไะม่ม4ีใ6ค.7รเเกหี่ย็นววข่า้อเจง้า/หไมน่ม้าีกท2า่ีบราคง8อครน์รคัปอชรัน์รัปแชลันะ ร้อยละ 9.4 เห็นว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่คอร์รัปชัน ร้อยละ 2.8 เห็นว่าเจ้าหน้าท่ีคอร์รัปชัน “ เกือบทุกคน/ทุกค1น แล4ะ6ร้อยละ 23.8 ไม่มีความคิดเห็น 4 แผนกภาูมริคกอร1ร์2ัปรช้อนั ยแลละะขกอางรปรรบั ะสชนิ าบชนนในจำอแงคนก์กรตปากมคครวอางมสคว่ ิด2นเหท28็นอ้ เงก8ถยี่ นิ่ วกับ ”16 “ ร้อยละ 60 1 46.7 40 20 60 17.3 46.7 9.4 23.8 6016 0 40 2.8 “ 12 คอร์รัปชัน 23.8ไมม่ ี 40 สถาบันพระปกเกล้า /เกือบทุกคน/ ความคิดเหน็ 2ใ0คแรทเบกจยี่ ะวไขม้อม่1งี/7.3 เจ้าหนา้ ที่ เจ้าหน้าที่ 60 20 1.7 7.8 /ไม่มีการ บางคน ทุกคน 40 0 คอร์รัปชนั คสอว่ รน์รใ9ัปหช.ญ4นั ่ 7.8 21.7 คอรร์ ัปชนั 2.8 20 0 0 1.7 / /

44 12 26 2 4 ความเชื่อม่ันต่อสถาบันต่างๆ และความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะ พ.ศ. 2561 20.5 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 การพบเห็นการค8อร์ร2ัปชันหรอื การรบั สินบนของเจา้ หน้าท่ีของรัฐ 42 4 การเคยพบเ หระ็นบกุวา่าเรคคยอพรบ์รเัปห็นชันในหขรณือะกทาี่รร้อรยับลสะิน7บ2น.4ขรอะงบเุวจา่้าไหมน่เค้ายทพ่ีขบอเหง็นรัฐ1 พบ0ว่า ประชาชนร้อยละ 27.6 รองลงมาสคำือหไรดับ้ฟผังู้ทจี่เคากยคพนบอเหื่น็น(ร้สอ่วยนลใะห4ญ2่พ.4บ)เหส็นมจาาชกิกสใื่อนโคทรรอทบัศค,นร์มFัวาaหกcรทือe่ีสเbุดพ่ืoอ(รนo้อเยkคล,ยะพLบ8in9เห.e2็น) เล่าให้ฟัง (ร้อยละ 17.00) 8หนังสือพิมพ์ (ร้อยละ 9.9) พบเห็นด้วยตนเอง (ร้อยละ 7.7) วิทยุ (รอ้ ยละ 3.3) และอน่ื ๆ เช่น นิตยสาร/วารสาร, Facebook, Line เปน็ ตน้ (รอ้ ยละ 0.8) 15 แผนภูมิ ก 13 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามการเคยพบเห็นการคอรร์ ัปชนั หรือการรับสนิ บน1ข2องเจ้าหน้าทีร่ ฐั ในรอบ 12 เดือนทผี่ ่านมา แ1หลง่ 1/ ที่พบเหน็ 72.4% 27.6% 89.2 โทรทศั น์ 42.4 ได้ฟงั จากคนอน่ื 17.0 สมาชกิ ในครอบครวั หรือเพื่อน ท่ีเคยพบเห็นเล่าให้ฟัง หนงั สอื พิมพ์ 97..97 พบเห็นดว้ ยตัวเอง 3.3 วทิ ยุ 0.8 อนื่ ๆ เช่น FเนLปaิตน็ciยneตสbน้ าeoรo/วkา,ร,LสinาFรea, cebook, : 1/ ตอบไดม้ ากกว่า 1 คาตอบ 4  1 28 ”8 “ 28 21 13 1 1ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

28 4 28 1ความเชื่อม่ันต่อสถาบันต่างๆ และความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะ พ.ศ. 2561 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 “ ความคิดเห็นขอ”งประชาชนต่อค8ำกล่าวท่ีว่า “บางครั้งการคอร์รัปชันในร2ัฐ1บาล กม็ คี วามจำเป็นเพื่อใหง้ านสำเรจ็ ลุลว่ งไปได”้ 11 ประชาชนรอ้ ยละ 1.7 ระบวุ า่ เหน็ ดว้ ยมากทสี่ ดุ ตอ่ คำกลา่ วทว่ี า่ “บางครง้ั การคอรร์ ปั ชนั ในรัฐบาลก็มีความจำเป็นเพ่ือให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้” ร้อยละ 7.8 ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 21.7 ไม่ค่อยเหน็ 1ด6ว้ ย ร้อยละ 53.7 ไมเ่ หน็ ดว้ ยเลย และร้อยละ 15.1 ไมม่ คี วามคดิ เห็น แผนภมู ิ ก 14 ร้อยละของประชาช“น จำแนกตามความคิดเหน็ เก่ยี วกบั คำกล่าวทวี่ ่า “บางคร้งั การคอรร์ ปั ชนั ในรัฐบาลกม็ คี วามจำเป็นเพ่ือให้งานสำเร็จ”ลุล่วงไปได้” 8 60 53.7 40 21.7 7.8 20 15.1 0 1.7 14 สถาบันพระปกเกล้า





บทท ี่ 1 บทนำ 1.1 หลกั การและเหตุผล การให้บริการสาธารณะของภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีประสิทธิภาพ หรือไม่เพียงใดผู้ที่ให้คำตอบได้ดีที่สุด คือ ประชาชนผู้รับบริการ ดังนั้น การวัดระดับของ การให้บริการสาธารณะของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน โดยกระบวนการ การมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) อย่างเป็นระบบ จึงเป็นเร่ืองสำคัญอย่างย่ิงต่อ การยกระดับการให้บริการสาธารณะเพ่ือให้บริการดังกล่าวมีคุณภาพตรงตามความต้องการของ ประชาชนและสามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างกระบวนการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการสาธารณะอย่างเป็น ระบบและเป็นรูปธรรม สถาบันพระปกเกล้า ในฐานะสถาบันวิชาการซึ่งมีพันธกิจค้นคว้าวิจัยแนวทางการพัฒนา ประชาธิปไตยอย่างมีระบบ ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้ขอความร่วมมือกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ให้ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจ ต่อการบริการสาธารณะ และการทำงานของหน่วยงานต่างๆ สำหรับใช้เป็นข้อมูลทางวิชาการ ประกอบการจัดทำโครงการวัดระดับการให้บริการของหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) อันจะนำไปสู่ การนำเสนอแนวทางสำหรับผู้กำหนดนโยบายจะได้นำไปใช้พัฒนาการจัดบริการสาธารณะให้มี คุณภาพ และสนองตอบตอ่ ความตอ้ งการของประชาชนทุกกล่มุ ในสงั คมไทยยง่ิ ข้นึ ต่อไป 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือทราบความคิดเห็นและระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อบริการ สาธารณะ และการทำงานของหน่วยงานตา่ งๆ 2. เพื่อได้ข้อมูลผลการสำรวจสำหรับนำไปใช้ประกอบการวัดระดับการให้บริการ ของหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน โดยกระบวนการ การมีสว่ นร่วมของประชาชน (People’s Audit) 3. เพื่อนำเสนอความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้เก่ียวข้องสำหรับนำไปใช้ พัฒนาการจัดบริการสาธารณะให้มีคุณภาพ และสนองตอบต่อความต้องการ ของประชาชน 1.3 คมุ้ รวมของประชากร ตามกรอบการศึกษากำหนดให้สำรวจประชาชนท่ีมีอายุ 18 ปีข้ึนไปในครัวเรือน ส่วนบุคคลท่ัวประเทศ การสำรวจครั้งน้ี ไม่รวม ผู้ที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนคนงานที่มีคนงาน 17 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร

ค วา มเ ชื่อ มั่นต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 มาอาศัยอยู่รวมกันในสถานที่ที่นายจ้างจัดหาให้โดยไม่เสียค่าท่ีพัก รวมทั้งผู้ท่ีอาศัยอยู่ใน ครวั เรอื นสถาบนั เช่น เรือนจำ คา่ ยทหาร โรงแรม วดั หอพักนักเรียนนกั ศึกษา เป็นตน้ 1.4 ระยะเวลาการปฏบิ ตั ิงานเก็บรวบรวมข้อมลู ปฏิบตั งิ านเก็บรวบรวมขอ้ มลู ระหวา่ งวนั ท่ี 2 - 20 เมษายน 2561 1.5 คำอธิบาย นโยบายของรฐั บาลท่ไี ดด้ ำเนินการ มดี ังน้ี 1) การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ : รัฐบาลได้ใช้มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางสังคมจิตวิทยา และมาตรการทางระบบส่ือสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการจัดการกับผู้สั่นคลอนสถาบันหลักของชาติ เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและ เป็นจริงเก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจเพ่ือประชาชน รวมท้ังสนับสนุน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งเสริมหลักการทรงงาน ตลอดจนเร่งขยายผล ตามโครงการและแบบอย่างท่ที รงวางรากฐานไว้ให้แพร่หลาย 2) การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด อาวุธสงคราม มาเฟีย และผู้มีอิทธิพล : รัฐบาลได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน และสถานศึกษา โดยการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก/เยาวชน และกลุ่มผู้ใช้แรงงาน รวมท้ังติดตามตรวจค้น ชักชวน ผู้เสพ/ผู้ติด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ตลอดจนควบคุม สกัดก้ัน และปราบปราม เครือข่ายยาเสพติด การยึดหรืออายัดทรัพย์สินผู้ที่เก่ียวข้องกับปัญหายาเสพติด และดำเนินการ ปราบปรามผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ท้ังในระดับประเทศและท้องถิ่น เช่น ผู้ลักลอบค้าอาวุธ มือปืน รับจ้าง บอ่ นการพนนั หวยใต้ดนิ เปน็ ต้น 3) โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง/30 บาทรักษาทุกโรค) : รัฐบาล ได้ดำเนินการคุ้มครองบุคคลท่ีเป็นคนไทยมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ท่ีไม่ได้รับ สิทธิสวัสดิการข้าราชการ หรือสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิสวัสดิการรัฐวิสาหกิจหรือสิทธิอ่ืนๆ จากรัฐ ให้ได้รับบริการสาธารณสุข และเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึง ท้ังการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัย การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟู สมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 4) การจัดการเร่ืองเบี้ยยังชีพ (ผู้สูงอายุ คนพิการ) : รัฐบาลได้เพ่ิมอัตราการจ่ายเบ้ีย ยังชีพของผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีข้ึนไปรายเดือนแบบขั้นบันได เพ่ือให้เหมาะสมกับสภาวะ ค่าครองชีพในปัจจุบัน รวมถึงเบ้ียผู้พิการให้แก่คนพิการท่ีได้มีการลงทะเบียนและย่ืนคำขอรับ เบย้ี ความพกิ ารรายละ 800 บาท 18 สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเช่ื อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 5) การควบคุมราคา สลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท : รัฐบาลได้กำหนดบทลงโทษพ่อค้า คนกลาง ทบ่ี ิดเบือนราคาสลากฯ การรณรงค์ไม่ใหซ้ อ้ื สลากฯ เกนิ ราคา เป็นตน้ 6) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก/การดำเนินการกองทุนหมู่บ้าน : รัฐบาลได้ดำเนินการจัดสรรให้มีแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองสำหรับ การลงทุนเพ่ือพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้หรือเพิ่มรายได้ การลดรายจ่าย การบรรเทา เหตฉุ กุ เฉนิ และจำเปน็ เรง่ ด่วน และนำไปส่กู ารสรา้ งกองทนุ สวัสดภิ าพท่ดี แี กป่ ระชาชนในหมู่บ้าน และชมุ ชน 7) การบริหารจัดการน้ำและระบบชลประทาน : รัฐบาลได้ดำเนินการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำ/ระบบชลประทาน เช่น โครงการ เพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ โครงการบรรเทา อุทกภัย ปรับปรุงคลองระบายน้ำ การจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำ สำหรับพ้ืนท่ี กทม. เพ่ิมประสิทธิภาพคลองระบายน้ำสายหลัก เพ่ิมขีดความสามารถระบบ ท่อระบายนำ้ เป็นต้น 8) โครงการหนึ่งตำบลหน่ึงผลิตภัณฑ์ OTOP : รัฐบาลได้ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ โดยเริ่มจากการรวมกลุ่มของ ประชาชนในการจัดการทรัพยากรท่ีมีอยู่ในท้องถ่ินให้เป็นผลิตภัณฑ์และบริการท่ีมีคุณภาพได้ มาตรฐาน มีเอกลักษณ์เฉพาะท้องถ่ิน เป็นแนวทางในการพ่ึงพาตนเองและช่วยเหลือกันของ ชุมชน เพ่ิมช่องทางการจำหน่ายสินค้า OTOP และใช้นโยบายประชารัฐในการช่วยเหลือผู้ผลิต สินค้า ตลอดจนส่งเสริมเครือข่ายกลุ่มอาชีพต่างๆ ให้มีความสามารถในการบริหารจัดการ เพอื่ ตอ่ ยอดพฒั นาไปถงึ ระดบั วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SME) ต่อไป 9) การดูแลเร่ืองราคาพืชผลสำหรับเกษตรกร/มาตรการช่วยเหลือดูแลเกษตรกร : รัฐบาลได้ดำเนินการส่งเสริมและสร้างองค์ความรู้ทางการเกษตร เช่น การเพาะปลูกพืช ตามความเหมาะสมของแต่ละพ้ืนที่ การลดต้นทุนการผลิต โดยรณรงค์ให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทน ปุ๋ยเคมี และการแปรรูปสินค้าเพ่ือให้เกิดมูลค่าเพ่ิม รวมท้ังการจัดหาตลาดรองรับเพื่อจำหน่าย สินค้าทางการเกษตรในสถานท่ีต่างๆ (เช่น ชุมชนในท้องถ่ิน ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ฯลฯ) นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือ ดูแลเกษตรกร เช่น การพักชำระหนี้ เงินต้น 3 ปีสำหรับเกษตรกรที่ประสบปัญหา การขยายเวลาชำระหน้ีตามศักยภาพของเกษตรกร โดยคิดดอกเบ้ียปกติและไม่คิดเบ้ียปรับ และการยกหนี้ให้เกษตรกรท่ีเสียชีวิต/ทุพพลภาพ/ เจบ็ ปว่ ยเรื้อรัง จนไม่สามารถประกอบอาชพี ได้ 10) การแก้ไขปัญหาสินค้าอุปโภค บริโภคราคาแพง : รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือดูแล เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยจัด “งานธงฟ้า” เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคในราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง การลงพื้นท่ีตรวจสอบควบคุมราคาสินค้า และควบคุม ดูแลราคาสินค้าท่ีจำเป็นต่อการครองชีพ โดยให้ปิดป้ายราคาแสดงราคาขายปลีกห้ามจำหน่าย เกินราคาท่แี สดง เปน็ ต้น 19 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร

ค วา มเ ช่ือ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 11) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ การปราบ คอร์รัปชัน : รัฐบาลได้ดำเนินการปราบปรามการทุจริต ลงโทษผู้กระทำผิด และออกกฎหมาย เพือ่ ปอ้ งกนั การทจุ รติ ในอนาคตโดยมีบทลงโทษสงู สุด 12) การสรา้ งสนั ตสิ ขุ และความปลอดภยั ในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ : รฐั บาลไดด้ ำเนนิ การ นำยุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาใช้ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสันติวิธี การส่งเสริม การพูดคุยแบบสันติสุขกับผู้มีความเห็นต่างจากรัฐ การสร้างความเช่ือมั่นในกระบวนการ ยตุ ธิ รรมตามหลกั นิติธรรมและหลักสทิ ธิมนุษยชนโดยไมเ่ ลอื กปฏิบตั ิ เปน็ ต้น 13) การสร้างความปรองดองสมานฉนั ท์ของคนในชาติ : รฐั บาลไดส้ รา้ งความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติโดยการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ผ่านกลไกระดับ จังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น การเยียวยา ดูแล และฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทาง การเมอื ง เป็นตน้ 14) การแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง/การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา ภัยแล้ง : รัฐบาลได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง เช่น การขุดเจาะบ่อบาดาล การทำฝนเทียม การขุดลอกคูคลอง การส่งเสริมการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยช่วงพักทำนา การกำหนดอัตราการระบายน้ำ การจัดระเบียบ การส่งน้ำในคลองชลประทานแก่เกษตรกร ให้ทั่วถึงและเป็นรูปธรรม การแจกจ่ายน้ำเพ่ือการอุปโภคบริโภคให้กับผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง เปน็ ตน้ 15) การจัดระเบียบทางสังคม : รัฐบาลได้ดำเนินการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยบนพื้นท่ี ทางเท้า การจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ รถจักรยานยนต์รับจ้าง การจัดระเบียบชายหาด ตรวจสอบการบุกรกุ พื้นทส่ี าธารณะ เป็นต้น 16) การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานด้านคมนาคม (ถนน-ราง-น้ำ-อากาศ) : รัฐบาล ได้ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานทั้งถนน-ราง-น้ำ-อากาศ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีข้ึนของ ประชาชน และรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งภาค อุตสาหกรรม เกษตร และบริการ (ท่องเที่ยว) ได้แก่ การสร้างถนนมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง การสร้างรถไฟรางคู่ รถไฟรางมาตรฐาน รถไฟฟ้าสายต่างๆ การสร้างท่าเทียบเรือชายฝั่งแหลมฉบัง เพื่อรองรับเรือขนาดใหญ่และ ศนู ยก์ ารขนส่งตู้สนิ คา้ ทางรถไฟแหลมฉบัง และสนามบินสวุ รรณภมู ิ เฟส 2 17) การแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดิน ป่าไม้ ทะเล/การปราบปรามขบวนการทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติและทวงคืนผืนป่า : รัฐบาลได้ดำเนินการปราบปรามขบวนการทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติ (โดยจัดการกับกลุ่มนายทุนเป็นอันดับแรกและกลุ่มอื่นเป็นลำดับถัดไป) และทวงคืนผืนป่า เนื่องจากสัดส่วนของป่าลดลง จากการบุกรุกและตัดไม้ทำลายป่าเป็นจำนวน มาก เพือ่ นำมาทำเป็นท่พี กั อาศัย รีสอรท์ สวนยางพารา เปน็ ตน้ 20 สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเช่ื อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 18) การบริหารจัดการพลังงานด้านราคาน้ำมัน แก๊ส : รัฐบาลได้ดำเนินการแสวงหา และพัฒนาแหล่งพลังงานและระบบไฟฟ้าจากท้ังในและต่างประเทศ รวมท้ังให้มีการกระจาย แหล่งและประเภทพลงั งาน ให้มีความหลากหลาย เหมาะสม และยัง่ ยืน กำกับราคาพลังงานให้มี ราคาเหมาะสม เป็นธรรมและมุ่งสู่การสะท้อนต้นทุนท่ีแท้จริง โดยปรับบทบาทกองทุนน้ำมัน ให้เป็นกองทุนสำหรับรักษาเสถียรภาพราคา ส่วนการชดเชยราคาน้ันจะดำเนินการอุดหนุน เฉพาะกลุ่ม ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากข้ึนในภาคขนส่ง และส่งเสริมการใช้ แก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลในภาคครัวเรือนส่งเสริมการผลิต การใช้ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนา พลงั งานทดแทนและพลงั งานทางเลือก 19) การจัดระเบียบต่างด้าวและการปราบปรามการค้ามนุษย์ : รัฐบาลได้ดำเนินการ จับกุมและลงโทษผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ หรือผู้หลบหนีเข้าเมือง รวมถึงจัดต้ัง หน่วยงานตา่ งๆ เพ่ือดูแลให้ความช่วยเหลอื เหยอ่ื ค้ามนุษย์ เปน็ ต้น 20) การรักษาความสงบภายในประเทศ : รัฐบาลได้ดำเนินการควบคุมดูแลความสงบ เรียบร้อย ในบ้านเมือง ไม่ให้มีการทะเลาะเบาะแว้งหรือใช้ความรุนแรง รักษาบรรยากาศท่ีดี เพือ่ ส่งเสริมการทอ่ งเที่ยวและการลงทุน 21) แนวนโยบายประชารัฐ : รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชน และทุกภาคส่วนไม่ว่า จะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เปลี่ยนแปลง ปฏิรูป และพัฒนาประเทศในทุกมิติและทุกด้านอย่างกว้างขวาง จริงจัง และ ตอ่ เนื่อง ในทุกระดับ 22) โครงการไทยนิยม ย่ังยืน : รัฐบาลได้ขับเคลื่อนงานสำคัญ 10 เร่ือง ดังน้ี 1) สัญญา ประชาคมผูกใจไทยเป็นหน่ึง ด้วยการสร้างความสามัคคี ปรองดอง จัดให้มีการทำสัญญา ประชาคมให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เพ่ือรับรู้และปฏิบัติตามร่วมกัน 2) คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างย่ิง ผู้ท่ีลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพ่ือ สวัสดิการแห่งรัฐ 3) ชุมชนอยู่ดีมีสุข ด้วยการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ ประชาชนผ่านการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร และการท่องเที่ยวโดยชุมชน 4) วิถีไทยวิถีพอเพียง ด้วยการส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ใน การดำเนินชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงอายุ 5) รู้สิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ในเร่ืองสิทธิ หน้าท่ี และกฎหมาย เพ่ือการเป็นพลเมืองที่ดี 6) รู้กลไกการบริหารราชการ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ท้ังเรื่องกลไกการบริหารราชการ แผ่นดินแต่ละระดับ และการบริหารงบประมาณท่ีมุ่งประโยชน์แก่ประชาชน 7) รู้รัก ประชาธิปไตยไทยนิยม ด้วยการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับระบอบการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และหลักธรรมาภิบาล 8) รู้เท่าทัน เทคโนโลยี ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเก่ียวกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญ ต่อการเข้าถึง ข้อมูลท่ีถูกต้องผ่านโครงการสำคัญ เช่น เน็ตประชารัฐ เป็นต้น 9) ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด 21 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

ค วา มเ ช่ือ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร และ 10) งานตามภารกิจของส่วนราชการ/หน่วยงาน (Function) ซึ่งท้ัง 10 เรื่องดังกล่าว ถือเป็น เร่อื งเร่งดว่ น และจะขยายผลเพื่อต่อยอดในเรอื่ งอืน่ ๆ ต่อไปให้ครอบคลุมทกุ มติ ิ 23) โครงการรัดเข็มขัดนิรภัยทุกท่ีน่ัง (รวมถึงมาตรการห้ามน่ังกระบะและแค็บ) : รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานความมั่นคงสร้างการรับรู้ให้กับ ประชาชนได้คำนึงถึงวินัยจราจรและเคารพกฎหมายเพื่อให้สามารถใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย โดยดแู ลกวดขนั เรอ่ื งวนิ ยั จราจร รณรงคก์ ารรดั เขม็ ขดั นริ ภยั รวมถงึ หา้ มนงั่ ทา้ ยรถกระบะ และแคบ็ 24) โครงการเน็ตประชารัฐ โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม : รัฐบาล ได้จัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (30/10 Mbps) กระจายทุกหมู่บ้าน โดยในการติดต้ัง โครงขา่ ยดงั กลา่ วจะมกี ารใหบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ ไวไฟ (Wi-Fi) โดยไมค่ ดิ คา่ ใชจ้ า่ ย เพอ่ื เปดิ โอกาส ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งจะช่วยลดความเหล่ือมล้ำของ ประชาชนในการเข้าถงึ ขอ้ มลู และข่าวสาร ยกระดับคุณภาพชีวติ และการศึกษาของประชาชน 25) โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ : รัฐบาลได้เปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนเพื่อ สวัสดิการแห่งรัฐ โดยมอบบัตรสวัสดิการเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพ เช่น ค่าสินค้าอุปโภค บริโภค อปุ กรณ์การเกษตร คา่ กา๊ ซหงุ ต้ม และค่ารถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟ เป็นต้น 26) โครงการ “ไทยเท่ ทั่วไทย” : รัฐบาลไดด้ ำเนนิ การส่งเสรมิ การนำวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์มาสร้างสินค้าและบริการให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพ่ิมขึ้น เช่น สินค้าทอ้ งถนิ่ ทอ่ งเทยี่ วชุมชน เป็นต้น 27) การปฏิรูปการเมือง : รัฐบาลโดยสภาขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ทำหน้าท่ีศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง แผนการปฏิรูป วิธีการปฏิรูปพร้อมกำหนดเวลาการปฏิรูป และข้อเสนอแนะ เพอ่ื การขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู ประเทศดา้ นการเมอื ง ทง้ั ระยะสนั้ และ ระยะยาว เพอื่ ใหก้ ารดำเนนิ งาน ปฏิรูป เป็นไปอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย (ฉบับช่วั คราว) พ.ศ. 2557 28) การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี : รัฐบาลได้กำหนดกรอบและแนวทาง การพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย มีความมั่นคง ม่ังคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศท่ีพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง” หรือตามคติพจน์ “มั่นคง มั่งค่ัง ยั่งยืน” โดยมีระยะเวลาบังคับ 20 ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2560-2579 29) โครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด : รัฐบาลได้มอบเงินเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จนถงึ 3 ขวบให้แกค่ รอบครัวผมู้ รี ายไดน้ ้อย เดือนละ 600 บาท 22 สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเชื่ อ มั่ นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 30) นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกท่ี : รัฐบาลได้ดำเนินการคุ้มครองผู้ป่วย ฉุกเฉินวิกฤต ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสีย ค่าใชจ้ ่ายจนพน้ วิกฤตและสามารถเคล่อื นยา้ ยได้อยา่ งปลอดภยั ภายใน 72 ชัว่ โมง 31) การแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าว : รัฐบาลได้ดำเนินการเร่งระบายข้าว ในสตอ็ กเพ่อื ให้ราคาขา้ วปรบั ตวั ดีขึน้ ตามกลไกตลาด 23 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร







บทท่ ี 2 ระเบยี บวิธสี ถติ ิ 2.1 แผนการสุม่ ตัวอยา่ ง การสำรวจด้วยตัวอย่างครั้งน้ีใช้แผนการสุ่มตัวอย่างแบบ Stratified Three–stage Sampling โดยกำหนดให้เขตแจงนับ (Enumeration Area : EA) เป็นหน่วยตัวอย่างข้ันท่ีหน่ึง ครัวเรือนส่วนบุคคลที่มีสมาชิกอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นหน่วยตัวอย่างขั้นท่ีสอง และสมาชิกท่ีมีอายุ 18 ปีขนึ้ ไปเป็นหนว่ ยตัวอย่าง ขนั้ ท่ีสาม 2.1.1 การจดั สตราตมั 77 สตราตัม กำหนดให้กรุงเทพมหานคร และจังหวัด 76 จังหวัดเป็นสตราตัม รวมทั้งส้ิน 2.1.2 ขนาดตัวอยา่ ง กำหนดขนาดตัวอย่างสำหรับแต่ละสตราตัม ได้จำนวนประชาชนท่ีมีอายุ 18 ปีข้ึนไปตัวอย่าง จังหวัดละ 420 คน และกรุงเทพมหานคร 1,500 คน รวมทั่วประเทศทั้งสิ้น 33,420 คน จำแนกตามภาคได้ดังน้ี ภาค EA ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ งประชาชนอายุ 18 ปขี น้ึ ไป 1. กรงุ เทพมหานคร 100 1,500 2. ภาคกลาง (ไมร่ วม กทม.) 700 10,500 3. ภาคเหนือ 476 7,140 4. ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 560 8,400 5. ภาคใต้ 392 5,880 รวมท่วั ประเทศ 2,228 33,420 2.2 วธิ กี ารเลือกหน่วยตวั อยา่ ง หน่วยตัวอย่างข้ันท่ีหนึ่ง กำหนดให้ EA เป็นหน่วยตัวอย่างข้ันท่ีหน่ึง โดยในแต่ละสตราตัมได้ทำการเลือก EA ตัวอย่าง อย่างอิสระต่อกัน โดยให้ความน่าจะเป็น ในการเลอื กเป็นปฏิภาคกับจำนวนครวั เรอื นของ EA นัน้ ๆ 27 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

ค วา มเ ชื่อ ม่ันต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 หน่วยตัวอย่างข้ันที่สอง ในแต่ละ EA ตัวอย่าง ได้ทำการเลือกครัวเรือนส่วน บคุ คลที่มีสมาชิกอายุ 18 ไปขนึ้ ไปตัวอยา่ ง ดว้ ยวิธกี ารสมุ่ แบบมีระบบ EA ละ 15 ครวั เรอื น หน่วยตัวอย่างข้ันที่สาม ในแต่ละครัวเรือนส่วนบุคคลท่ีมีสมาชิกอายุ 18 ปีข้ึนไปตัวอย่าง ได้ทำการเลือกสมาชิกท่ีมีอายุ 18 ปีขึ้นไปตัวอย่าง ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย ครัวเรอื นละ 1 คน เพ่อื ทำการสัมภาษณใ์ นรายละเอียด 2.3 เครือ่ งมือการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในครั้งน้ีได้ใช้แบบสอบถามในการสำรวจ ซ่ึงแบบสอบถาม ประกอบด้วยขอ้ ถาม 8 ตอน ดงั นี้ ตอนที่ 1 สื่อที่ใช้ในการติดตามข่าวสารการเมือง ประกอบด้วย การเคยรับฟัง/ ชมหรือทราบข่าวสารทางการเมือง แหล่งที่รับฟัง/ชมหรือทราบข่าวสารฯ ความถ่ีของ การติดตามข่าวสารฯ การเป็นสมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์ เวลาที่ใช้ในการส่ือสารทาง อินเทอร์เน็ต ตอนที่ 2 ความคิดเหน็ ต่อรัฐบาล ประกอบด้วย การตดิ ตามการปฏิบตั งิ านของรัฐบาล การรู้/ทราบ และความพึงพอใจต่อการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล เช่น การปกป้องเชิดชู สถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด อาวุธสงคราม มาเฟีย และ ผูม้ อี ทิ ธิพล โครงการหลักประกนั สุขภาพถ้วนหนา้ (บัตรทอง/30 บาทรักษาทกุ โรค) เป็นตน้ และ ความคิดเห็นเก่ยี วกับการแก้ไขปญั หาดา้ นสังคมและปัญหาดา้ นเศรษฐกิจของรัฐบาล ตอนท่ี 3 ความเชื่อมั่นที่มีต่อการทำงานของบุคคล/คณะบุคคล/สถาบัน/หน่วยงาน ต่างๆ ประกอบด้วย ความเชื่อมั่นต่อคณะบุคคล/สถาบัน/หน่วยงานต่างๆ เช่น คณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) รัฐบาล/คณะรัฐมนตรี สมาชกิ สภานิตบิ ญั ญตั แิ ห่งชาติ (สนช.) เปน็ ตน้ ตอนที่ 4 ความเชื่อม่ันต่อการทำงานขององค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย ความเชื่อม่ันต่อองค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เช่น ศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนญู ศาลปกครอง ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นตน้ ตอนที่ 5 ความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะท่ีรัฐและท้องถ่ินจัดให้กับ ประชาชน ประกอบด้วย ด้านสาธารณูปโภค (ถนน ไฟฟ้า น้ำประปา อินเตอร์เน็ตชุมชน) ด้านสวัสดิการสังคม (โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก (ศูนย์ก่อนวัยเรียน) การศึกษาผู้ใหญ่ เป็นต้น) และ ด้านส่ิงแวดล้อม (การจัดเก็บขยะมูลฝอย การจัดการน้ำเสีย/สิ่งโสโครก ส่ิงแวดล้อมในชุมชน (ป่า/น้ำ) การเคยติดต่อ/ใช้บริการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (อบจ./เทศบาล/อบต./ สำนักงานเขต) การเคยมีส่วนร่วมกับหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน 28 สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเช่ื อ ม่ั นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 ในการวางแผนการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน การบริการสาธารณะท่ีต้องการให้รัฐ ปฏิรูปมากท่สี ุด และการถกู เลอื กปฏิบัติในการใชบ้ ริการสาธารณะของรัฐ ตอนที่ 6 ความคิดเห็นและประสบการณ์เก่ียวกับการคอร์รัปชัน ประกอบด้วย การคอร์รัปชันและการรับสินบนในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (นายกฯ สมาชิกสภาของ ท้องถ่ิน) การคอร์รัปชันและการรับสินบนในการปกครองระดับประเทศ (นักการเมือง ผู้บริหาร ระดับสูงท่ีเป็นข้าราชการ และข้าราชการประจำ) ความคิดเห็นต่อความคิดหรือคำกล่าวท่ีว่า “บางครั้งการคอร์รัปชันในรัฐบาลก็มีความจำเป็น เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้” การเคยพบเห็น การคอร์รัปชันหรือการรับสินบนของเจ้าหน้าท่ีรัฐในรอบ 12 เดือนท่ีผ่านมา ความคิดเห็น เกี่ยวกับการที่คนส่วนใหญ่สามารถไว้วางใจได้หรือต้องระมัดระวังในการติดต่อกับผู้อื่น (การอยู่ ร่วมกันในสังคม) การเป็นสมาชิกกลุ่ม ชมรม สมาคมต่างๆ ประกอบด้วย การเป็นสมาชิกกลุ่ม/ ชมรม/สมาคม และประเภทกลุ่ม/ชมรม/สมาคมท่เี ปน็ สมาชกิ ตอนท่ี 7 การรู้จักสถาบันพระปกเกล้า ประกอบด้วย การรู้จักสถาบันพระปกเกล้า การทราบถึงบทบาทหน้าท่ี และความเช่อื ม่ันต่อการทำงานของสถาบนั พระปกเกลา้ ตอนที่ 8 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบสัมภาษณ์ ประกอบด้วย ชื่อ เพศ อายุ ระดบั การศึกษาสูงสดุ ประเภทการทำงาน รายได้เฉลยี่ ต่อเดือน 2.4 วธิ กี ารเก็บรวบรวมขอ้ มลู เก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียดในแบบสอบถามด้วยวิธีการสัมภาษณ์หน่วยตัวอย่าง ซ่ึงเปน็ ประชาชนอายุ 18 ปีข้ึนไป แลว้ บันทึกขอ้ มลู ด้วยเครอื่ ง Tablet 2.5 การประมวลผล หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องและ ความสอดคลอ้ งของข้อมูลแล้วนำไปประมวลผลเป็นรปู ตาราง 2.6 หลักเกณฑก์ ารคำนวณคะแนน การคำนวณคะแนนความคิดเห็นในการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเก่ียวกับ ความพงึ พอใจตอ่ การให้บรกิ ารสาธารณะและการทำงานของหน่วยงานตา่ งๆ มหี ลักเกณฑ์ ดังน้ี 2.6.1 ตัวแปรความคิดเห็น/ความพึงพอใจ/ความเช่ือม่ัน ซึ่งมีคะแนนเต็ม 4 คะแนน ได้มกี ารแปลงคำตอบทไ่ี ด้จากแต่ละตวั แปรเปน็ คะแนน มีหลักเกณฑ์ ดังนี้ 29 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร

ค วา มเ ช่ือ มั่นต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 ระดับความคดิ เห็น/ความพงึ พอใจ/ความเช่อื ม่ัน คะแนน เห็นดว้ ยอยา่ งยิง่ /พอใจมาก/เชอ่ื มั่นมาก 4 ค่อนขา้ งเหน็ ด้วย/คอ่ นขา้ งพอใจ/ค่อนข้างเช่ือม่ัน 3 ไม่ค่อยเห็นดว้ ย/ไม่คอ่ ยพอใจ/ไม่คอ่ ยเชอ่ื ม่นั 2 ไม่เหน็ ด้วยเลย/ไม่พอใจเลย/ไม่เช่อื ม่นั 1 2.6.2 การคำนวณค่าร้อยละและคะแนนความคิดเห็นในข้อ 2.6.1 โดยในการคำนวณ ค่าร้อยละได้รวมผู้ตอบทั้งที่มีความคิดเห็นและไม่มีความคิดเห็น ส่วนการคำนวณคะแนน ไมร่ วมผู้ตอบทีไ่ ม่มคี วามคิดเหน็ /ไมร่ ูจ้ ัก/ยังไม่มกี ารให้บรกิ ารนี้ 2.7 หลกั เกณฑก์ ารแปลผล การคำนวณความคิดเห็นต่างๆ ในข้อ 2.6 สถาบันพระปกเกล้าได้กำหนดหลักเกณฑ์ การแปลผล ดงั น้ี ตัวแปรความคิดเห็น/ความพึงพอใจ/ความเชื่อม่ัน (คะแนนเต็ม 4 คะแนน) มีหลักเกณฑ์การแปลผลระดบั ความคดิ เหน็ /ความพึงพอใจ/ความเชอ่ื ม่ัน ดงั นี้ ระดบั ความคิดเห็น/ความพึงพอใจ/ความเชื่อมัน่ คะแนนเฉล่ยี เหน็ ด้วยอยา่ งย่งิ /พอใจมาก/เชือ่ ม่นั มาก 3.50 – 4.00 ค่อนข้างเห็นด้วย/ค่อนขา้ งพอใจ/คอ่ นข้างเช่อื มัน่ 2.50 – 3.49 ไมค่ อ่ ยเหน็ ด้วย/ไม่คอ่ ยพอใจ/ไมค่ ่อยเชื่อม่นั 1.50 – 2.49 ไม่เหน็ ดว้ ยเลย/ไม่พอใจเลย/ไม่เชอ่ื มัน่ 1.00 – 1.49 2.8 การเสนอผลการสำรวจ เสนอผลการสำรวจในระดับภาค ท่ัวประเทศ ในรูปของค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) เพ่ือนำเสนอระดับความคิดเห็น/ความพึงพอใจ/ความเช่ือมั่น ฯลฯ ของ ประชาชน และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) เพอื่ ดูการกระจายของขอ้ มูล 2.9 การประมาณคา่ สถติ ิ การประมาณค่าสถิติ เป็นการคำนวณค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม ลักษณะท่ีต้องการศึกษา ในระดับจังหวัด ภาค และประเทศ โดยมีการถ่วงน้ำหนักตามระดับ การนำเสนอผลการสำรวจให้สอดคล้องกับสัดส่วนของจำนวนประชาชนในคุ้มรวม ซ่ึงในการ คำนวณไดใ้ ช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ 30 สถาบันพระปกเกล้า





. . 2561 1. 86 21 4 บทที่ 3 สรปุ ผลการสำรวจ 0 3.1 สอื่ ท่ีใชใ้ นการตดิ ตามข่าวสารการเมอื ง 21 2 14 6 People’s Audit) ผลการสำรวจเกี่ยวกับการเคยทราบข่าวสารท2างการเมือ6ง พบว่า ปร0ะชาช6นส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.6 ระบุว่าเคยทราบข่าวสาร ทางการเมือง และร้อยละ 21.4 ระบุว่า ไม่เคยทราบ ข่าวสาร 1 สำหรับประชาชนที่เคยทSรtrาatบifขie่าdวสารทางการเมืองร้อยละ 79.0 ระบุว่าติดตามจาก Three–1s2t4age24S8นส(2เaจร2่ือ7mิต้อ้า00โ.ยห-ยp9ทสlนล)รinาะา้ทgรเทัศค9/ีข่ วน.เ6อบา์ )ง(ร้ิลฟรส1ท1วฐั,ร4า86ิทีวีท2รเ24ียป/10ีวจ(ุที)น็ 6รา่ัวกต1้อนไ้าน้ยปดง4ล0ป(า(ระ-รวล4อ้ ้อเา0ยทย/.ล3กียละ)ลมะแ่อ1068(ลง.ร1–.ดะ3้2อ)2ิจอ)ยิตื่นห6ลอๆอะลกมเ2รชา1ะ่นกจ.5ทาป)ี่สยรอุขดะิน่าชรวเุมอท(ปงรอลร้อรงะย์เมจนลาำ็ะตคเดือ5(ือร.พ2้อน)ูดยขวคล7อ2ิทุ8ยะ1ง.ยก.6ห4%ุ1ชั%บมุม4บู่บ.ชุค6้านค)นลห(รสอน้อถื่นังยาสล(นรือะศ้อพึกย0ิมษล.7พะา)์ 0– 24 60 22 แผนภมู ิ 3.1 ร้อยล2ะของประชาชน จำแ4น6กตามการเคยทราบข่าวสารทางการเมอื ง และสอ่ื ทตี่ ดิ ตาม 10 10 4 1 11 1 โทรทศั น์ (ฟรีทีว)ี ก้างปลา/ 79.0 กล่องดจิ ิตอล 8 กา2ร2เคยทราบข่าวสารทางการเมือ0ง 22 1 พูดคุยกบั บุคคลอื่น 27.9 11 เคเบลิ้ ทีว/ี จานดาวเทียม 21.5 ไ2ม1่เ.ค41ย%8 เคย 12 10 6 อนิ เทอร์เนต็ 14.6 หนงั สอื พมิ พ์ 9.6 NGOs) 0 1 8728.6 % 6.3 ,001- ,000 วทิ ยุท่ัวไป 01 หอกระจายข่าว 5.2 ,001 10 6 วทิ ยุชมุ ชน 0.7 16 ,001- ,000 0.3 นิตยสาร/วารสาร 16 1 ,001-10,000 18 อ่ืนๆ เช่น ประชุมประจำเดอื น 0.1 10,001-1 ,000 1 1 ,001-20,000 ของหมบู่ า้ น สถานศึกษา เปน็ ต้น 0 20 40 60 80 100 20,001-2 ,000 2 ,000 60 หมายเหตุ: 1/ ตอบไดม้ ากกวา่ 1 คำตอ:บ1/ ตอบไดม้ ากกวา่ 1 คาตอบ 33 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร

ค วา มเ ช่ือ มั่นต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 สำหรับประชาชนท่ีติดตามข่าวสารทางการเมือง ได้ระบุความถ่ีในการติดตามจากส่ือ ต่างๆ ดังน้ี สอ่ื โทรทัศน์ ผู้ท่ีติดตามข่าวสารทางการเมืองจากสื่อโทรทัศน์ (ฟรีทีวี) ร้อยละ 29.5 ระบุว่าติดตาม ทุกวัน ติดตามสัปดาห์ละ 2-3 วันร้อยละ 42.8 สัปดาห์ละครั้งร้อยละ 13.7 และแทบจะไม่ได้ ติดตามร้อยละ 12.5 ในขณะทไ่ี มไ่ ด้ติดตามเลยรอ้ ยละ 1.5 สำหรับผู้ที่ติดตามฯ ได้ระบุช่อง/สถานีที่ติดตามมากท่ีสุด 5 อันดับแรก คือ สถานี โทรทัศน์ ช่อง 3 (ร้อยละ 40.5) สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 (ร้อยละ 32.2) สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 อสมท. (ร้อยละ 4.0) สถานีโทรทัศน์ ช่อง Thai PBS (ร้อยละ 3.0) และสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 NBT (รอ้ ยละ 1.7) สอ่ื เคเบิล้ ทวี ี/จานดาวเทียม ผู้ท่ีติดตามข่าวสารทางการเมืองจากส่ือเคเบ้ิลทีวี/จานดาวเทียมร้อยละ 28.7 ระบุว่า ติดตามทุกวัน ติดตามสัปดาห์ละ 2–3 วันร้อยละ 42.8 สัปดาห์ละคร้ังร้อยละ 14.3 และแทบจะ ไม่ได้ติดตามรอ้ ยละ 13.7 ในขณะทไี่ ม่ไดต้ ิดตามเลยรอ้ ยละ 0.5 สำหรับผู้ท่ีติดตามฯ ได้ระบุช่อง/สถานีท่ีติดตามมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ Workpoint TV (ร้อยละ 15.8) Amarin TV (ร้อยละ 15.6) Thairath TV (ร้อยละ 14.9) Nation Channel (ร้อยละ 5.8) และ News TV (ร้อยละ 3.0) สื่ออินเทอร์เน็ต ผู้ท่ีติดตามข่าวสารทางการเมืองจากส่ืออินเทอร์เน็ตร้อยละ 37.3 ระบุว่าติดตามทุกวัน ติดตามสัปดาห์ละ 2–3 วันร้อยละ 40.0 สัปดาห์ละคร้ังร้อยละ 10.9 และแทบจะไม่ได้ติดตาม ร้อยละ 10.7 ในขณะทีไ่ มไ่ ด้ติดตามเลยร้อยละ 1.1 สำหรับผู้ท่ีติดตามฯ ได้ระบุเว็บไซต์ท่ีติดตามมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ w w w . g o o g l e . c o m ( ร้ อ ย ล ะ 3 5 . 2 ) w w w . t h a i r a t h . c o . t h ( ร้ อ ย ล ะ 1 4 . 1 ) w w w . s a n o o k . c o m ( ร้ อ ย ล ะ 9 . 8 ) w w w . k a p o o k . c o m ( ร้ อ ย ล ะ 5 . 6 ) แ ล ะ www.khaosod.co.th (รอ้ ยละ 5.4) ส่อื หนงั สือพิมพ์ ผู้ท่ีติดตามข่าวสารทางการเมืองจากส่ือหนังสือพิมพ์ร้อยละ 22.8 ระบุว่าติดตามทุกวัน ติดตามสัปดาห์ละ 2–3 วันร้อยละ 48.9 สัปดาห์ละครั้งร้อยละ 19.4 และแทบจะไม่ได้ติดตาม ร้อยละ 8.1 ในขณะท่ไี มไ่ ด้ตดิ ตามเลยร้อยละ 0.8 34 สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเชื่ อ ม่ั นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 สำหรับผู้ท่ีติดตามฯ ได้ระบุหนังสือพิมพ์ท่ีติดตามมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ ไทยรัฐ (ร้อยละ 72.1) เดลินิวส์ (ร้อยละ 19.7) มติชน (ร้อยละ 2.2) ข่าวสด (ร้อยละ 1.5) และคมชัดลึก (ร้อยละ 0.8) สอ่ื วทิ ยุทั่วไป ผู้ที่ติดตามข่าวสารทางการเมืองจากสื่อวิทยุทั่วไปร้อยละ 30.7 ระบุว่าติดตามทุกวัน ติดตามสัปดาห์ละ 2-3 วันร้อยละ 45.6 สัปดาห์ละคร้ังร้อยละ 10.5 และแทบจะไม่ได้ติดตาม รอ้ ยละ 11.4 ในขณะทีไ่ มไ่ ด้ตดิ ตามเลยร้อยละ 1.8 สำหรับผู้ที่ระบุว่าติดตามฯ ได้ระบุคลื่น/สถานีวิทยุท่ีติดตามมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ร้อยละ 47.3) สถานีวิทยุของ อสมท. (ร้อยละ 17.1) สถานีวิทยุท้องถิ่น (ร้อยละ 11.2) สถานีวิทยุ จ.ส.100 (ร้อยละ 3.4) และสถานีวิทยุ 95.0 FM (ร้อยละ 3.2) สือ่ วิทยุชุมชน ผู้ท่ีติดตามข่าวสารทางการเมืองจากสื่อวิทยุชุมชนร้อยละ 32.6 ระบุว่าติดตามทุกวัน ติดตามสัปดาห์ละ 2–3 วันร้อยละ 24.0 สัปดาห์ละครั้งร้อยละ 6.5 และแทบจะไม่ได้ติดตาม รอ้ ยละ 28.6 ในขณะที่ไม่ได้ตดิ ตามเลยรอ้ ยละ 8.3 35 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร

ค วา มเ ชื่อ มั่นต่อสถาบันต่างๆ แ ละคว ามพึงพอใจต่อกา รบริ กา รส า ธ า รณะ พ .ศ. 2 5 6 1 และสรุปผลการสำรวจ พ . ศ. 2 5 4 5 -2 5 6 1 แผนภมู ิ 3.2 รอ้ ยละของประชาชนที่ติดตามข่าวสารทางการเมือง จำแนกตามความถใ่ี นการตดิ ตามจากสอ่ื ตา่ งๆ โทรทศั น์ เคเบ้ิลทีว/ี อินเทอร์เน็ต หนังสือพมิ พ์ วทิ ยทุ ัว่ ไป วทิ ยชุ ุมชน (ฟรที ีว)ี จานดาวเทียม ทุกวนั สัปดาห์ละ 2-3 วนั สปั ดาห์ละวนั แทบจะไม่ได้ตดิ ตาม ไม่ไดต้ ิดตามเลย 36 สถาบันพระปกเกล้า

ควา มเช่ื อ ม่ั นต่ อ ส ถา บั นต่ า ง ๆ และ ควา มพึ ง พ อ ใ จต่ อ กา รบริ กา รสา ธา ร ณ ะ พ . ศ . 2 5 6 1 แ ละ สรุ ป ผลก าร สำร ว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 6 1 สำหรับประชาชนที่ติดตามข่าวสารทางการเมืองจากสื่ออินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ รอ้ ยละ 89.4 ระบวุ ่าเปน็ สมาชกิ เครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์ และร้อยละ 10.6 ไม่เปน็ สมาชกิ ส่วนผู้ท่ีเป็นสมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ร้อยละ 95.4 ระบุว่าใช้วิธีการ ติดต่อสื่อสารผ่านทาง Facebook มากที่สุด รองลงมาคือ Line (ร้อยละ 93.8) Instagram (ร้อยละ 24.0) และอนื่ ๆ เช่น Twitter, Skype เปน็ ต้น (ร้อยละ 3.6) สำหรับประชาชนท่ีติดตามข่าวสารทางการเมืองจากส่ืออินเทอร์เน็ต จะใช้เวลาในการ ส่ือสารทางอนิ เทอร์เน็ตโดยเฉล่ยี ประมาณ 3 ชั่วโมงต่อวนั ตาราง 3.1 ร้อยละของประชาชนท่ีติดตามข่าวสารทางการเมืองจากส่ืออินเทอร์เน็ต จำแนกตามการเปน็ สมาชกิ เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ การเป็นสมาชิกเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ รอ้ ยละ รวม 100.0 89.4 ๏ เป็น 10.6 ๏ ไมเ่ ป็น 95.4 ผทู้ เี่ ปน็ สมาชกิ ระบวุ ธิ ีการตดิ ตอ่ 1/ ดงั น้ี 93.8 24.0 ๏ Facebook 3.6 3.03 ๏ Line ๏ Instagram ๏ อน่ื ๆ เช่น Twitter, Skype เป็นตน้ จำนวนช่วั โมงเฉลย่ี ต่อวนั ทใี่ ช้สอ่ื สารทางอินเทอร์เนต็ หมายเหตุ : 1/ ตอบไดม้ ากกวา่ 1 คำตอบ 3.2 ความคิดเหน็ ตอ่ รัฐบาล 3.2.1 การตดิ ตามการปฏบิ ตั ิงานของรัฐบาล เม่ือสอบถามประชาชนเก่ียวกับการติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล ประชาชนร้อยละ 67.2 ระบุว่าติดตามเป็นบางคร้ังบางคราว และร้อยละ 12.5 ติดตามเป็น ประจำ ในขณะท่รี ้อยละ 20.3 ไมไ่ ดต้ ดิ ตาม 37 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร