200 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล แทนทจ่ี ะเปน็ ปตี อ่ ปดี งั แตก่ อ่ น พอบวชครบสบิ ปกี ร็ สู้ กึ วา่ สบิ ป ี ไม่ใช่เวลาท่ียาวนานเลย จึงตั้งเป้าว่าถ้าบวชครบ ๒๐ ปีก็คง ไม่เลว คร้ันผ่านไป ๒๐ ปีก็คิดต่อว่า บวชให้ครบ ๓๐ ปีก ็ ไม่น่าจะยากอะไร บัดนี้ก็บวชครบ ๓๐ พรรษาแล้ว อีกแค่ เดือนเดียวก็จะอยู่ในเพศบรรพชิตครบ ๓๐ ปี ถึงตอนน ้ี ความคิดเหมือนคนติดคุกได้เลือนหายไปนานแล้ว เพราะ รู้สึกคุ้นเคยและเป็นสุขกับชีวิตสมณะ ซึ่งก็ไม่ใช่เร่ืองแปลก เพราะกว่าครึ่งชีวิตของข้าพเจ้าเป็นชีวิตในผ้าเหลือง พูดไป ท�ำไมมีแม้กระท่ังคนท่ีติดคุกนานถึง ๓๐ ปี ก็คงรู้สึกว่าคุก เปน็ “บา้ น” แลว้ ยอ่ มไมร่ สู้ กึ แปลกแยกหรอื อดึ อดั กบั สภาพ เชน่ นนั้ อีกต่อไป การอยู่กับปัจจุบันเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ข้าพเจ้าบวชได้ ตอ่ เนอ่ื ง พรรษาแรกๆ นนั้ ขา้ พเจา้ รสู้ กึ ใจหายเสมอเวลานกึ ถงึ ตวั เองในเพศบรรพชติ ยาวนานนบั สบิ ป ี เกดิ ความรสู้ กึ ปรวิ ติ ก ขนึ้ มาเวลามองไปยงั อนาคตของตวั เอง แตท่ กุ ครง้ั กจ็ ะกลบั มา ถามตัวเองว่า วันน้ีมีความสุขกับชีวิตพระหรือไม่ ก็พบว่า ม ี ความสขุ สบายดอี ย ู่ อยา่ งนอ้ ยกไ็ มร่ สู้ กึ ทกุ ขเ์ หมอื นตอนทเ่ี ปน็ ฆราวาส จะเป็นโชคร้ายหรือโชคดีไม่ทราบได้ ก่อนบวชน้ัน ขา้ พเจา้ มคี วามทกุ ขม์ าก รสู้ กึ วา่ ภาวะจติ ใจวา้ วนุ่ ตกต�่ำจนยำ่� แย ่ ซ้�ำยังส่งผลกระทบต่อเพื่อนๆ ท่ีอยู่ใกล้ด้วย แต่เมื่อบวชแล้ว
201 ๓ ๐ ปี ใ น วิ ถี ส ม ณ ะ ไม่เคยมีภาวะเช่นนั้นเลย เวลาเกิดความคิดท่ีจะสึกข้ึนมา นึกถึงช่วงชีวิตก่อนบวชแล้ว ความอยากสึกก็ฝ่อลงทันท ี เพราะกลวั วา่ จะกลบั ไปอยใู่ นวงั วนอยา่ งนน้ั อกี ถงึ แมว้ า่ ตอนสกึ ใหม่ๆ ใจจะสดใส พอมีวิชาความรู้ท่ีจะจัดการกับอารมณ ์ ของตัวได้บ้าง แต่ก็รู้ดีว่าคงถูกกิจกรรมทางโลกฉุดกระชาก ลากดงึ ไป จนชวี ติ เสยี สมดลุ และอาจเสยี ศนู ยอ์ กี ครงั้ ความ หลาบจ�ำต่ออารมณ์ความรู้สึกก่อนบวชเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให ้ ข้าพเจา้ เอาจรงิ เอาจงั กับความคดิ เรอ่ื งลาสิกขา จรงิ อยชู่ วี ติ ในผา้ เหลอื งนน้ั ไมใ่ ชว่ า่ จะราบรน่ื บอ่ ยครง้ั ก ็ มีความทุกข์ ความทุกข์อย่างหน่ึงที่รบกวนเกิดจากกามราคะ การครองชวี ติ พรหมจรรยโ์ ดยมกี รรมฐานเปน็ เครอ่ื งหลอ่ เลย้ี ง ชว่ ยใหข้ า้ พเจา้ พอจะรบั มอื กบั กามราคะทรี่ บกวนได ้ กลา่ วคอื นอกจากจะช่วยให้มีสติรู้ทันอารมณ์ท่ีเกิดข้ึน ไม่ปล่อยให้มัน ครอบง�ำใจ หรือพิจารณาเห็นความไม่งามที่ช่วยให้กามราคะ ฝ่อไปแล้ว ความสงบเย็นและโปร่งเบาจากกรรมฐาน ยังน�ำ ความสุขมาให้แก่ข้าพเจ้าเป็นการทดแทนกามสุข หากไม่ม ี ความสุขอันประณีตจากกรรมฐานหล่อเลี้ยงจิตใจ ก็ง่ายที่จะ หนั ไปหากามสขุ แทน แมจ้ ะรวู้ า่ เปน็ สขุ ทห่ี ยาบ แตห่ ากจติ ใจ หวิ กระหายแลว้ กพ็ รอ้ มจะฉวยควา้ อะไรกไ็ ดท้ ดี่ บั กระหายได ้ แมจ้ ะทำ� ใหเ้ จบ็ ปว่ ยในภายหลังกต็ าม
202 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล แตก่ ใ็ ชว่ า่ ความสขุ จากกรรมฐานและชวี ติ พระจะหลอ่ เลยี้ ง ใจไปไดต้ ลอด บางครงั้ กามราคะกค็ รองใจ ทจี่ รงิ กย็ งั พอทนไหว หาอะไรทำ� เพลนิ ๆ กก็ ลบั มาเปน็ ปกต ิ แตพ่ อนกึ ไปถงึ อนาคต ของตวั เองวา่ หากตอ้ งครองเพศพรหมจรรยไ์ ปตลอดชวี ติ กจ็ ะ รู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมาทันที เพราะยังห่วงใยในรสชาติของกาม- ราคะอย ู่ แตส่ งิ่ หนง่ึ ทช่ี ว่ ยยง้ั ใจไมใ่ หเ้ ตลดิ ไปไกล กค็ อื ความ ตระหนกั ถงึ โทษของชวี ติ คู่ นนั่ คอื เหน็ วา่ ชวี ติ คนู่ อกจากเปน็ สง่ิ ทไ่ี มม่ นั่ คง แตกรา้ วงา่ ยแลว้ ยงั มกั กอ่ ใหเ้ กดิ ความทกุ ขแ์ ก่ ทง้ั สองฝา่ ย ตงั้ แตเ่ ลก็ จนโตขา้ พเจา้ ไมเ่ พยี งเหน็ พอ่ แมท่ ะเลาะ กนั เปน็ อาจณิ เทา่ นน้ั หากยงั เหน็ คแู่ ลว้ คเู่ ลา่ ทวี่ วิ าทบาดหมาง เปน็ ประจำ� หลายคนแมจ้ ะรกั กนั ปานดดู ดม่ื ในทแี รกแตส่ ดุ ทา้ ย ก็เหินห่างหมางเมินกัน บ่อยคร้ังชีวิตคู่มักลงเอยด้วยการ ทำ� รา้ ยกนั ทง้ั รา่ งกายและจติ ใจ ขา้ พเจา้ เองไมม่ คี วามมนั่ ใจเลย ว่าตนเองจะท�ำได้ดีกว่าคนอื่นๆ และจะรู้สึกแย่กับตัวเองมาก หากลงเอยดว้ ยการทำ� รา้ ยคนทต่ี น (เคย) รกั พดู อยา่ งนไ้ี มไ่ ด้ หมายความวา่ ชวี ติ คทู่ ผี่ าสกุ จะเปน็ ไปไมไ่ ด ้ แตโ่ อกาสทจี่ ะเปน็ ไปไดน้ น้ั กค็ งพอๆ กบั การถกู ลอ็ ตเตอรร่ี างวลั ทห่ี นง่ึ ซงึ่ บงั เอญิ ขา้ พเจา้ ไมค่ อ่ ยมโี ชคทางนเี้ สยี ดว้ ย เมอ่ื คดิ ใครค่ รวญแลว้ ขา้ พเจา้ มขี อ้ สรปุ วา่ การมคี วามสขุ ในชวี ติ พระนนั้ แมจ้ ะยาก แตก่ ง็ า่ ย กวา่ การมคี วามสขุ ในชวี ิตคูห่ รอื ชวี ิตครองเรือน
203 ๓ ๐ ปี ใ น วิ ถี ส ม ณ ะ เปน็ โชคของขา้ พเจา้ ทมี่ เี หตปุ จั จยั เกอ้ื กลู ใหส้ ามารถบวช ไดน้ านจนกระทง่ั บดั น ี้ ทส่ี ำ� คญั คอื มคี รบู าอาจารยแ์ ละกลั ยาณ- มิตรมากมายที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด จึงมีโอกาสได ้ สมั ผสั กบั ชวี ติ ทปี่ ระเสรฐิ มเี วลาฝกึ ฝนปฏบิ ตั ติ นจนไดพ้ บกบั ความโปรง่ เบาสงบเยน็ และไดเ้ รยี นรวู้ ธิ ที จ่ี ะแกท้ กุ ขท์ เี่ กดิ ขน้ึ ในใจ โดยมวี ชิ ากรรมฐานเปน็ พนื้ ฐาน จนสามารถอยไู่ ดอ้ ยา่ ง เปน็ สขุ และมคี วามพรอ้ มทจี่ ะชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู ผอู้ นื่ ไดม้ ากขนึ้ ๓๐ ปใี นเพศบรรพชติ ชว่ ยใหข้ า้ พเจา้ ไดใ้ กลช้ ดิ แนบแนน่ ธรรม มากขึ้นอย่างที่น้อยคนจะมีโอกาส แม้จะยังมีความหวั่นไหว เพราะอำ� นาจของกเิ ลส แตก่ ม็ จี ติ จำ� นงตอ่ พระนพิ พาน อยา่ ง มน่ั ใจวา่ เป็นสงิ่ ประเสรฐิ สูงสดุ ที่ควรเข้าถงึ และเข้าถงึ ได้ การมอี ายพุ รรษามากขน้ึ นนั้ ชว่ ยใหก้ ารใชช้ วี ติ สมณะนน้ั เปน็ ไปไดง้ า่ ยขน้ึ เพราะมคี วามคนุ้ เคยกบั สกิ ขาบทและขอ้ วตั ร ตา่ งจากคนทเี่ พงิ่ บวชใหมท่ ต่ี อ้ งใชค้ วามพยายามในการปรบั ตวั มาก แตใ่ นอกี ดา้ นหนงึ่ ความคนุ้ เคยกอ็ าจกลายเปน็ ความเคยชนิ และจำ� เจ จนขาดความกระตอื รอื รน้ ทจ่ี ะเคยี่ วเขน็ ผลกั ดนั ตน ใหพ้ ฒั นาในทางจติ ใจยง่ิ ๆ ขนึ้ ไป กลายเปน็ “ไมแ้ ก”่ ทไี่ มย่ อม ปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงตน รา้ ยกวา่ นน้ั กค็ อื ชะลา่ ใจหรอื ประมาท ปล่อยตัวปล่อยใจจนเปิดช่องให้กิเลสครอบง�ำ ยิ่งได้รับความ เคารพมากข้ึนในฐานะที่มีพรรษายุกาลมาก ไม่มีใครกล้า
204 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล วา่ กลา่ วทกั ทว้ ง เอาแตน่ บนอบกราบกราน กง็ า่ ยมากทจี่ ะเกดิ ความหลงตัวลมื ตนจนพลงั้ พลาดได้ ในกรณีของข้าพเจ้านั้น ใช่แต่พรรษาจะมากข้ึนเท่านั้น ชอ่ื เสยี งกติ ตศิ พั ทก์ เ็ พม่ิ พนู ขนึ้ ดว้ ย โดยเฉพาะในชว่ งสามปหี ลงั หากไมเ่ ปน็ เพราะสอ่ื โทรทศั นร์ วมทงั้ รางวลั และเกยี รตยิ ศตา่ งๆ ท่ีได้รับ ก็คงไม่เป็นท่ีรู้จักของผู้คนมากมาย ก่อนหน้าน้ันแม้ จะเขยี นหนงั สอื ออกมาหลายเลม่ แตไ่ ปไหนมาไหนกไ็ มค่ อ่ ยมี คนรจู้ กั ยกเวน้ คนทเ่ี ปน็ นกั อา่ น แตจ่ ๆู่ กก็ ลายเปน็ “คนดงั ” ขนึ้ มา ไปไหนมาไหนกม็ คี นทกั มากขน้ึ จนบางทา่ นทกั วา่ ขา้ พเจา้ เป็นพระ “เซเลบ” (celebrity) ไปแล้ว สภาพดังกล่าวไม่ได ้ ส่งผลให้ข้าพเจ้ามีชีวิตส่วนตัวน้อยลงเท่าน้ัน แต่ยังหมายถึง การมโี ลกธรรม คอื ลาภ สกั การะเปน็ ตน้ มารมุ เรา้ ซง่ึ ไมใ่ ช ่ เรื่องดีเลย เพราะง่ายมากท่ีจะทำ� ให้กิเลสเพิ่มพูนหรืออัตตา ตวั ตนใหญข่ น้ึ
205 ๓ ๐ ปี ใ น วิ ถี ส ม ณ ะ อกี สถานะหนง่ึ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ควบคกู่ ค็ อื ความเปน็ ครบู าอาจารย ์ หรอื ถงึ กบั ถกู ยกใหเ้ ปน็ วปิ สั สนาจารย ์ บางทา่ นถงึ กบั ตง้ั ใหเ้ ปน็ พระสปุ ฏปิ นั โนดว้ ยซำ�้ อนั เปน็ ผลสบื เนอื่ งจากการไดร้ บั นมิ นต์ ให้ไปบรรยาย อบรมตามที่ต่างๆ อย่างต่อเน่ืองมาเป็นเวลา หลายป ี ยงิ่ ระยะหลงั ผคู้ นหนั มาสนใจธรรมะมากขนึ้ ขา้ พเจา้ จึงเป็นท่ีรู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะดังกล่าว ซ่ึงย่อมตามมา ดว้ ยคำ� สรรเสรญิ ชน่ื ชมและการเคารพนบนอบ ทง้ั หมดนที้ ำ� ให ้ ข้าพเจ้ามี “งานเข้า” มากข้ึน กล่าวคือมีกิจนิมนต์ชุกข้ึน จน มเี วลาทำ� กจิ สว่ นตวั นอ้ ยลง ขณะเดยี วกนั กก็ ลายเปน็ โจทยใ์ หญ ่ ท่ีต้องจัดการด้วยความระมัดระวัง หาไม่แล้วก็ง่ายมากที่จะ หลงใหลได้ปลื้มกับมัน จนเกิดความหลงตัวลืมตนว่า “กูแน่” หรอื คิดวา่ ตนเองเป็นอย่างทเี่ ขายกใหจ้ ริงๆ อาการแบบน้ีหากเกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นอันตรายต่อชีวิต พรหมจรรย์ นอกจากทำ� ให้ไม่ก้าวหน้าในการปฏิบัติแล้ว ยัง กลบั จะถอยหลงั เสยี ดว้ ย อกี ทงั้ ยงั เปน็ ทกุ ขไ์ ดง้ า่ ยมาก เพราะ อย่าว่าแต่ค�ำวิจารณ์เลย เพียงแค่เขาไม่ชม ไม่กราบไหว้ ไม ่ เคารพนบนอบ กท็ ำ� ใหไ้ มพ่ อใจหรอื ไมส่ บายใจแลว้ รา้ ยกวา่ นนั้ กค็ อื เมอ่ื หลงตดิ ในชอ่ื เสยี งแลว้ กเ็ ลยกลายเปน็ คนทต่ี อ้ งรกั ษา ภาพลักษณ์ให้ดูดีอยู่เสมอ อย่างน้อยก็เพ่ือรักษาความนิยม และคำ� สรรเสรญิ เอาไวไ้ มใ่ หต้ ก ผลกค็ อื ตอ้ งคอยปกปดิ ดา้ นท่ ี
206 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ดไู มด่ เี อาไว ้ หากทำ� อะไรบกพรอ่ ง ไมเ่ กง่ ไมฉ่ ลาด กต็ อ้ งปฏเิ สธ หรอื กลบเกลอื่ นไวก้ อ่ น หนกั กวา่ นนั้ กค็ อื โกหกเพอ่ื สรา้ งภาพ ดงั นน้ั จงึ งา่ ยมากทจ่ี ะกลายเปน็ คนไมซ่ อ่ื ตอ่ ทงั้ ผอู้ นื่ และตนเอง ข้าพเจ้าส�ำนึกอยู่เสมอว่าตนเองยังเป็นผู้ศึกษาท่ีต้องเรียนรู้ อกี มาก เพราะยงั หา่ งไกลจากมรรคผล แมพ้ รรษาจะมากแต่ กใ็ ชว่ า่ ภมู จิ ติ ภมู ธิ รรมจะมากตามไปดว้ ย ขอ้ บกพรอ่ งกม็ ไี มน่ อ้ ย ไม่ใช่คนดีพร้อม อีกท้ังยังไม่ลืมพื้นเพท่ีเป็นพระผู้น้อยจาก วัดป่าเล็กๆ ท่ีไม่ได้เรียนสูงในทางธรรม แต่มีบุญที่ได้อยู่ใกล้ และรู้จักครูบาอาจารย์หลายท่านท่ีทรงคุณอันประเสริฐ เป็น แบบอย่างในการด�ำเนินชีวิตและให้ความรู้ในทางธรรมท้ังใน ทางปริยัติและปฏิบัติ ใช่แต่เท่านั้นข้าพเจ้ายังมีกัลยาณมิตร ที่ใกล้ชิดพอท่ีจะแนะน�ำ และทักท้วงตักเตือน แม้เคารพแต่ กไ็ มไ่ ดเ้ ชดิ ชจู นวางไวบ้ นหง้ิ แตเ่ ทา่ นน้ั คงไมพ่ อ ขา้ พเจา้ จำ� ตอ้ ง หมน่ั เตอื นตนอยเู่ สมอไมใ่ หห้ ลงใหลไดป้ ลมื้ กบั ชอ่ื เสยี งเกยี รต-ิ ยศและค�ำสรรเสริญท่ีมีอยู่รอบตัว เพราะมันเจือไปด้วยโทษ ที่สามารถท�ำให้เสียผู้เสียคนได้ อีกท้ังยังเป็นส่ิงที่ไม่เที่ยงแท ้ แนน่ อน อะไรทม่ี อบใหแ้ กเ่ ราได ้ กส็ ามารถดงึ ไปจากเราไดเ้ ชน่ กนั จงึ ไมค่ วรยึดตดิ ถือมั่นกับมันมาก ย้อนกลับไปเมื่อยังเป็นคฤหัสถ์ ข้าพเจ้าไม่นึกไม่ฝันว่า ตนเองจะอยู่ในผ้าเหลืองมาค่อนชีวิต แม้เม่ือบวชแล้ว ก็ยัง
207 ๓ ๐ ปี ใ น วิ ถี ส ม ณ ะ ไมค่ าดคดิ อยดู่ วี า่ จะมปี ญั ญาอยใู่ นเพศบรรพชติ นานถงึ ๓๐ ป ี เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเรื่องยากอย่างย่ิง แต่เมื่อเวลาผ่านไป วนั นน้ั กม็ าถงึ จนได ้ ๓๐ ปที ผี่ า่ นไปมหี ลายสงิ่ หลายอยา่ งเกดิ ขน้ึ กบั ชวี ติ ทง้ั บวกและลบ แตก่ ลา่ วโดยรวมแลว้ สามารถพดู ไดว้ า่ เปน็ ชวี ติ ทใ่ี หป้ ระโยชนอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ แกก่ ารเกดิ มาเปน็ มนษุ ย ์ ในชาตนิ ้ี เชอ่ื แนว่ า่ หากเปน็ คฤหสั ถม์ าจนถงึ ทกุ วนั น ้ี จะไมไ่ ด้ รบั ประโยชนแ์ ละท�ำประโยชนไ์ ด้มากขนาดนี้ การได้ครองเพศบรรพชิตอย่างยาวนานเอื้อให้จิตใจได ้ หยง่ั ถงึ ภมู ปิ ญั ญาอนั ลมุ่ ลกึ และร�่ำรวยทไ่ี ดส้ บื สานตอ่ เนอื่ งกนั อยา่ งไมข่ าดสายนานถงึ ๒๖ ศตวรรษ เปน็ พน้ื ภมู อิ นั กวา้ งใหญ่ มหาศาลท่ีสามารถดูดซับปรีชาญาณมาได้อย่างไม่มีวันหมด
208 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ในดา้ นหนง่ึ กท็ ำ� ใหร้ สู้ กึ วา่ ตนม ี “ราก” อนั หยงั่ ลกึ ทใี่ หค้ วามมน่ั คง แตใ่ นเวลาเดียวกนั ภมู ิปัญญาเหลา่ น้ีสามารถปลดปลอ่ ยจติ ใจ ให้เป็นอิสระ ไม่ยึดติดถือมั่นกับสิ่งสมมุติใดๆ เป็นเสมือน “ปกี ” ทใี่ หอ้ สิ รภาพแกต่ นเอง ทง้ั ความมนั่ คงในจติ ใจ ไมห่ วนั่ ไหว เพราะลมพายอุ นั ผนั ผวน และความอสิ ระของจติ ใจ ไมเ่ ปน็ ทาส ของกิเลสและความทุกข์นั้น เป็นสิ่งส�ำคัญอย่างยิ่งท่ีทุกชีวิต ควรมี แม้ทุกวันนี้รากของข้าพเจ้ายังไม่ลึก ปีกยังไม่แข็งแรง แต่ก็น่าสงสัยว่าหากไม่ได้ครองเพศบรรพชิตมาจนถึงปัจจุบัน รากและปีกของขา้ พเจ้าคงต้นื เขินและอ่อนแอเปน็ อย่างยงิ่
209 ๓ ๐ ปี ใ น วิ ถี ส ม ณ ะ เมอ่ื มองทบทวนชวี ติ ทผี่ า่ นมา อดคดิ ไมไ่ ดว้ า่ หากวนั นน้ั ในเดอื นพฤษภาคมเมอ่ื ๓๐ ปที แ่ี ลว้ ขา้ พเจา้ ไมม่ คี วามอาลยั ในชวี ติ พระ ขา้ พเจา้ ยอ่ มตดั สนิ ใจลาสกิ ขาไมก่ ว่ี นั หลงั จากนนั้ และชวี ติ ขา้ พเจา้ ยอ่ มหนั เหไปอกี ทางหนงึ่ ซงึ่ คงจะเขา้ ไมถ่ งึ สงิ่ ดๆี อย่างที่ได้รับทุกวันน้ี การที่ชีวิตสมณะของข้าพเจ้ายืดยาวมา จนถงึ วนั นไ้ี ด ้ หว้ งอารมณใ์ นวนั นน้ั นบั เปน็ ขอ้ ตอ่ ทส่ี ำ� คญั มาก แมเ้ ปน็ หว้ งอารมณท์ กี่ นิ เวลาไมน่ านแตก่ ส็ ง่ ผลกระทบตอ่ วถิ ชี วี ติ ของคนๆ หนึง่ อยา่ งยืนยาวมาถึงสามสบิ ปเี ปน็ อย่างนอ้ ย ขา้ พเจา้ ยงั จะตอ้ งเดนิ ทางอกี ไกลกวา่ จะถงึ จดุ หมายสงู สดุ ของชาวพทุ ธ แตจ่ ะมโี อกาสเดนิ ทางไดน้ านเพยี งใด และจะไป ไดไ้ กลแคไ่ หน กส็ ดุ วสิ ยั ทจ่ี ะรไู้ ด ้ แตค่ วามตงั้ ใจกย็ งั ไมต่ า่ งจาก ทเ่ี คยเขยี นทงิ้ ทา้ ยไวเ้ มอื่ ขา้ พเจา้ บวชไดค้ รบ ๑๒ พรรษากค็ อื “ปุถุชนอย่างข้าพเจ้าหากสามารถดำ� รงเพศพรหมจรรย์ไปจน ตลอดชวี ติ โดยไมถ่ ว่ งพระศาสนาใหท้ รดุ ต�่ำลงไปกวา่ น ้ี กน็ บั ว่าเปน็ ความส�ำเรจ็ ในชีวติ แล้ว” ๕ มกราคม ๒๕๕๖
210 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ชีวติ อาตมา เปน็ แคพ่ ระอยา่ งเดียว ก็เป็นเกยี รตแิ ละประเสรฐิ สดุ ในชวี ติ แลว้ ทเี่ หลอื เป็นสว่ นเกนิ
211 ๓ ๐ ปี ใ น วิ ถี ส ม ณ ะ ไมม่ อี ะไรสงู สดุ กวา่ การเปน็ พระ
ป ร ะ วั ติ ป ร ะ ว ั ติ ประวัติ พระไพศาล วสิ าโล นามเดมิ ไพศาล วงศว์ รวสิ ทิ ธ ิ์ เปน็ บตุ ร คนที่ ๔ ของนายก๊กก๊ี และนางกิมวา แซ่อุ่ย เกิดเมื่อวันที ่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๐๐ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๒ ค�่ำเดือน ๖ ปีระกา ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ภูมิล�ำเนา คลองมหานาค อำ� เภอปอ้ มปราบฯ กรุงเทพมหานคร
๒๕๐๔-๒๕๐๕ การศกึ ษาระดบั กอ่ นวยั เรยี น ทโ่ี รงเรยี นสตรีจลุ นาค ๒๕๐๖-๒๕๑๗ การศกึ ษาระดบั ประถม และมธั ยม ศกึ ษาแผนกศิลปะ โรงเรียนอัสสัมชญั ๒๕๑๘-๒๕๒๓ การศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร ์ คณะศลิ ปศาสตร ์ สาขาวิชาประวัตศิ าสตร์ ระหวา่ งเรยี นทธี่ รรมศาสตร ์ เคยเปน็ สาราณยี กร ปาจารย- สาร และเปน็ เจา้ หนา้ ทก่ี ลมุ่ ประสานงานศาสนาเพอ่ื สงั คมตงั้ แต ่ ป ี ๒๕๑๙ จนถงึ ป ี ๒๕๒๖ โดยมบี ทบาทรว่ มในแนวทางอหงิ สา ตอ่ เหตกุ ารณ ์ ๖ ตลุ าคม ๒๕๑๙ จนเปน็ เหตใุ หถ้ กู ลอ้ มปราบ ภายในมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร ์ และถกู คมุ ขงั ในเรอื นจำ� เปน็ เวลา ๓ วนั อุปสมบทเมื่อวันท่ี ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ ณ วัดทอง- นพคณุ กรงุ เทพมหานคร เรยี นกรรมฐานจากหลวงพอ่ เทยี น จติ ตฺ สโุ ภ วดั สนามใน กอ่ นไปจ�ำพรรษาแรก ณ วดั ปา่ สคุ ะโต อ�ำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โดยศึกษาธรรมกับหลวงพ่อ คำ� เขยี น สวุ ณฺโณจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต แต่ส่วนใหญ่พำ� นัก ป ร ะ ว ั ติ อยทู่ ว่ี ดั ปา่ มหาวนั อำ� เภอภเู ขยี ว จงั หวดั ชยั ภมู ิ โดยจำ� พรรษา สลับระหวา่ งวดั ปา่ สคุ ะโต กับวดั ป่ามหาวนั งานหนังสือ • งานเขียน พ.ศ. ๒๕๑๘-๒๕๕๕ จ�ำนวน ๑๕๐ เลม่ • งานเขยี นรว่ ม พ.ศ. ๒๕๓๐-๒๕๕๔ จำ� นวน ๒๔ เลม่ • งานแปล พ.ศ. ๒๕๔๔-๒๕๕๐ จำ� นวน ๕ เลม่ • งานแปลร่วม พ.ศ. ๒๕๑๘-๒๕๓๕ จำ� นวน ๔ เลม่ • งานบรรณาธกิ รณ ์ พ.ศ. ๒๕๒๙-๒๕๔๙ จ�ำนวน ๕ เล่ม • งานบรรณาธกิ รณร์ ว่ ม พ.ศ. ๒๕๒๑ จำ� นวน ๒ เลม่
ประวัตกิ ารท�ำงาน ๒๕๑๘-๒๕๑๙ สาราณยี กร วารสารปาจารยสาร ๒๕๑๙ จดั ตงั้ กลมุ่ ประสานงานศาสนาเพอื่ สงั คม (อดีต) ๒๕๑๙-๒๕๒๖ เจ้าหน้าทีก่ ลุม่ ประสานงานศาสนาเพอ่ื สังคม ๒๕๓๐-๒๕๓๑ อนุกรรมการสถาบันวิจยั และพฒั นา มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ๒๕๓๔-ปจั จบุ นั ทป่ี รกึ ษาชมรมเดก็ รกั นกรกั ษธ์ รรมชาติ จ. ชัยภมู ิ ๒๕๓๕ กรรมการกล่มุ เสขยิ ธรรม ๒๕๓๘-๒๕๕๑ กรรมการสถาบนั สนั ตศิ กึ ษา มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ๒๕๓๙-ปัจจุบัน กรรมการมูลนิธโิ กมลคีมทอง ๒๕๔๐-ปจั จบุ นั กรรมการมูลนิธสิ ุขภาพไทย
๒๕๔๒-ปัจจบุ นั ประธานเครอื ข่ายพุทธิกา ๒๕๔๓-ปจั จุบนั ประธานโครงการธรรมยาตราเพ่ือฟ้ืนฟูชวี ติ และธรรมชาติ ล่มุ นำ้� ล�ำปะทาว จ. ชยั ภมู ิ ๒๕๔๓-๒๕๔๕ วทิ ยากรโครงการเสรมิ สร้างทกั ษะแก ่ ผูป้ ฏิบตั ติ ่อผู้ชมุ นมุ ดว้ ยสนั ติวธิ ี ๒๕๔๖ กรรมการทป่ี รึกษามูลนธิ โิ รงเรียนรุ่งอรณุ ๒๕๔๕-ปจั จบุ ัน กรรมการที่ปรึกษาโรงเรยี นวรรณสว่างจิต ๒๕๔๗-ปัจจุบนั ทีป่ รกึ ษาและวิทยากรจัดอบรม โครงการเผชญิ ความตายอยา่ งสงบ เครอื ข่ายพทุ ธกิ า ๒๕๔๗-๒๕๔๙ วทิ ยากรโครงการการจัดการ ป ร ะ ว ั ติ ความขัดแย้งด้วยสนั ติวิธีในระบบ การแพทยแ์ ละสาธารณสุข ๒๕๔๘-๒๕๔๙ กรรมการอสิ ระเพ่อื ความสมานฉันท์ แหง่ ชาติ
๒๕๔๘-๒๕๕๒ กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ในคณะกรรมการส�ำนกั งานกองทุน สนบั สนุนสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.) ๒๕๕๐-ปัจจุบัน กรรมการมูลนธิ ิสง่ เสรมิ สนั ติวิถ ี ๒๕๔๙-๒๕๕๔ กรรมการสภาสถาบันอาศรมศิลป์ ๒๕๕๑ กรรมการสถาบนั วจิ ัยและพัฒนา มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ๒๕๕๒-ปจั จุบนั ท่ปี รึกษาโครงการส่งเสรมิ สุขภาวะ ทางปญั ญา เครอื ขา่ ยพทุ ธกิ า ๒๕๕๒ กรรมการทปี่ รกึ ษา International Network of Engaged Buddhists ๒๕๕๓-๒๕๕๔ กรรมการปฏริ ปู ทีม่ ีนายอานนั ท ์ ปนั ยารชนุ เป็นประธาน ๒๕๕๓ กรรมการท่ีปรกึ ษา Buddhist Peace Fellowship (USA)
งานศกึ ษา งานวิชาการและงานวิจยั ป ร ะ ว ั ติ ๒๕๒๗ ปาฐกถาโกมลคมี ทอง เรอื่ ง “แสวงหารากฐาน ของชีวิตในโลกแห่งกิจกรรม” ๒๕๓๗ งานวิจยั เรอ่ื ง “ประวัตศิ าสตรก์ ารบริโภค สรุ าในประเทศไทย” สนบั สนนุ โดย มูลนิธิสาธารณสขุ แห่งชาติ ๒๕๓๗ ปาฐกถาปาจารยสาร เรอ่ื ง “ดว้ ยพลังแหง่ ปญั ญา และความรัก” ๒๕๔๖ งานวิจยั เรอื่ ง “พทุ ธศาสนาในอนาคต : แนวโน้มและทางออกจากวกิ ฤต” ๒๕๔๖ งานวิจัยเร่ือง “การจดั การความขดั แย้งดว้ ย สันตวิ ธิ ใี นระบบการแพทย์และสาธารณสุข” ๒๕๔๗ ปาฐกถามูลนธิ ิ ๑๔ ตลุ า เร่อื ง “เปิดหน้าตา่ ง สร้างสะพาน สมานใจ : ทางออกจากกับดกั แหง่ ความรุนแรงในยุคทักษิณ”
๒๕๕๐ ปาฐกถาเร่ือง “ความหวงั และปัญหาท้าทาย แนวทางสันติวธิ ีในปัจจบุ นั ” ในงานมหกรรม สนั ตวิ ธิ ี ภาคใต ้ ๓๑ ต.ค. ๕๐ จดั โดย คณะกรรมการอสิ ระเพ่อื ความสมานฉนั ท์ ๒๕๕๑ ปาฐกถานำ� ในการประชุมประจำ� ปขี อง สมาคมปรชั ญาและศาสนาแห่งประเทศไทย ณ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น เรื่อง “พทุ ธธรรม ศลี ธรรม กับประชาธิปไตย” ๒๕๕๕ ปาฐกถาศาสตราจารยอ์ ดุล วเิ ชียรเจริญ เรอ่ื ง “ศิลปศาสตร์กบั การพัฒนามนุษย์” ในวาระ ๕๐ ปีแห่งการก่อต้งั คณะ ศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์
ประกาศเกียรติคณุ และรางวัล ป ร ะ ว ั ติ ๒๕๑๘ ทุนภมู พิ ล ๒๕๔๓ รางวลั ปรดี ี พนมยงค์ ส�ำหรับบคุ คลผ้มู ีผลงานดเี ด่น ทางดา้ นสนั ติภาพ ในโอกาสฉลองครบร้อยปีชาตกาล นายปรดี ี พนมยงค ์ รฐั บรุ ษุ อาวุโส วันที ่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๔๔๓- ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ และในวาระที่ องคก์ ารยูเนสโกบรรจชุ ่อื ไวใ้ นปฏทิ นิ การเฉลิมฉลองบุคคลส�ำคญั ของโลก (ค.ศ. ๒๐๐๐-๒๐๐๑)
๒๕๔๘ รางวัลชูเกยี รติ อุทกะพันธ ์ หนังสอื ดีเด่น สาขาศาสนาและปรัชญาเรอื่ ง “พุทธศาสนาไทย ในอนาคต : แนวโน้มและทางออกจากวกิ ฤต” จดั โดย บริษัทอมรินทร์พรนิ้ ต้งิ แอนด์พบั ลชิ ชงิ่ จำ� กดั (มหาชน) ๒๕๕๑ รางวลั คนดีนำ� ทาง แทนคณุ แผ่นดนิ คนดีนำ� ทาง จังหวดั ชยั ภูมิ ๒๕๕๓ ในโครงการแทนคณุ แผ่นดนิ ปี ๒๕๕๑ วนั ที ่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ โครงการเพ่ือสนบั สนนุ คนดนี �ำทาง โดย หนังสือพมิ พ ์ คม ชัด ลึก “ตน้ แบบชวี ิต ท่ีสรา้ งแรงบนั ดาลใจใหค้ นไทยร่วมกันท�ำดีสบื ไป” ๒๕๕๒ ประกาศเกยี รตคิ ุณ ผู้มคี ณุ ปู การต่อกระทรวง สาธารณสขุ ด้านการพฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรม ในการประชมุ วิชาการพัฒนาจรยิ ธรรมกระทรวง สาธารณสุข ครัง้ ที ่ ๔ ประจ�ำปี ๒๕๕๒ วนั ที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๒ ๒๕๕๓ รางวลั ศรีบรู พา ประจำ� ปี ๒๕๕๓ จัดโดยสมาคมนักเขยี นแห่งประเทศไทย
๒๕๕๓ � รบั รางวัลเกียรติยศคนคน้ คนอวอรด์ พ.ศ. ๒๕๕๓ รางวัลเกยี รติยศ รางวัลแด่ความดงี าม ของมวลมนษุ ย ์ “พลงั แห่งความด”ี ในงาน คนค้นฅน อวอรด์ ครง้ั ท่ ี ๒ วันที่ ๒๑ ธนั วาคม ๒๕๕๓ ๒๕๕๓ รางวัลนักเขียนอมตะ ประจำ� ปี ๒๕๕๔ โดยมูลนิธอิ มตะ ประกาศเกียรตคิ ุณ ผู้ได้รบั รางวลั พระธาตุพนม ทองคำ� ประจำ� ปี ๒๕๕๓ ของมหาวทิ ยาลัย ๒๕๕๓ ขอนแกน่ และภมู ภิ าคตะวันออกเฉียงเหนือ � ออกรายการ “เจาะใจ” ป ร ะ ว ั ติ ในโอกาสทไ่ี ด้รบั เลอื กเปน็ ๑ ใน ๑๐ แรงบนั ดาลใจ พ.ศ. ๒๕๕๓
๒๕๕๔ ประกาศเกยี รตคิ ุณ ประจำ� ปี ๒๕๕๔ ศษิ ย์เกา่ ดีเดน่ และสร้างช่อื เสียงใหแ้ ก่ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร ์ ในโอกาสครบรอบ การสถาปนามหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ปที ่ี ๗๗ วนั ที่ ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๕๔ ๒๕๕๔ รางวัลประกาศเกยี รติคุณพระราชทานของ สมเดจ็ พระบรมราชินนี าถ ผทู้ ำ� คณุ ประโยชน์ ด้านนนั ทนาการ ประเภท การอ่าน การเขยี น การพูด จดั โดย สำ� นักนนั ทนาการ กระทรวงการท่องเท่ยี วและกฬี า กรมพลศึกษา ๒๕๕๔ เกยี รติคณุ การดำ� เนินงานดเี ดน่ ด้านการควบคมุ การบรโิ ภคเครื่องดม่ื แอลกอฮอล ์ วันงดดื่มสุราแห่งชาต ิ ๒๕๕๔ ณ วนั ท่ ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ โดย กระทรวงสาธารณสุข ๒๕๕๔ รางวลั พทุ ธคณุ ปู การ ประเภทรัชตเกียรตคิ ุณ ๒๕๕๕ ศลิ ปศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ กติ ติมศกั ด ิ์ สาขาวชิ า พุทธศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๒๕๕๕ ศิลปศาสตรดุษฎบี ณั ฑิตกติ ติมศักดิ ์ สาขาปรชั ญา และศาสนา มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์
ระดับองคก์ ร เครือข่ายพทุ ธิกา ท่ีพระไพศาล วิสาโล เป็นประธาน ๒๕๔๙ ประกาศเกยี รตคิ ณุ แสดงว่าเครือขา่ ยพุทธิกาเพอื่ พระพทุ ธศาสนาและสงั คม เป็นผ้ทู ี่ทางรายการ “คนดีคู่สงั คม” ขอยกยอ่ งวา่ เปน็ บุคคลตัวอยา่ ง ทบี่ �ำเพ็ญบุญประโยชนใ์ หก้ ับสังคมและส่วนรวม อยา่ งทมุ่ เท โดยอทุ ศิ ทง้ั กายและสติปัญญา ทางรายการออกอากาศทางสถานีโทรทศั น ์ UBC ช่อง 07 ขอมอบเพื่อเปน็ เกยี รติสืบไป วันท ี่ ๒๗ มกราคม ๒๕๔๙ ๒๕๕๐ ในโอกาสวันสังคมสงเคราะหแ์ หง่ ชาติ ป ร ะ ว ั ติ และวนั อาสาสมัครไทย ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ คณะกรรมการสง่ เสรมิ การ จัดสวัสดกิ ารสงั คมแหง่ ชาติและกระทรวง การพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ ร่วมกับ สภาสังคมสงเคราะหแ์ หง่ ประเทศ ไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ ขอมอบโล่ ประกาศเกียรติคุณให ้ เครือขา่ ยพทุ ธิกา ในฐานะองคก์ รท่มี ีกจิ กรรมทางสังคมดีเดน่ ณ วนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๕๐
ภาคสอง
การประพฤติพรหมจรรย์มิใชก่ ารท�ำศกึ สงคราม ดงั ตรสั ไวใ้ นพระบาลดี อกหรอื คนทเ่ี พยี งแตเ่ หน็ ยอดธงหรอื ไดย้ นิ เสียงกึกก้องของกองทพั ข้าศกึ ก็ยอมแพเ้ สียแลว้ จะถือว่าเป็นนกั รบประเภทใด เสนามารนน้ั มกี องทพั อนั ยิง่ ใหญ่ แตเ่ ราจะสมควรลา่ ถอย กต็ อ่ เมอื่ ไดป้ ระดาบกนั แลว้ มใิ ชห่ รอื คดิ เชน่ นแี้ ลว้ กเ็ ลยมคี วามกล้าทีจ่ ะลุกขึ้นส้ ู แมไ้ ม่แน่ใจวา่ จะผ่านไปไดอ้ ีกกีศ่ กึ ก็ตาม
สารโกมล ม่ั น ค ง บ น วิ ถี ธ ร ร ม มกราคม-กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๕ มั่ น ค ง บนวิถธี รรม พระไพศาล วิสาโล โลกนต้ี อ้ งการคนทตี่ อ่ สเู้ พอื่ ความถกู ตอ้ งมากกวา่ คนทต่ี อ่ สู้ เพอื่ ความสำ� เรจ็ ทกุ วนั นมี้ คี นทตี่ อ้ งการเปน็ ฝา่ ยชนะเยอะแลว้ ทวั่ ทกุ หนแหง่ มแี ตค่ นทตี่ อ้ งการเปน็ ผชู้ นะมากกวา่ คนทต่ี อ้ งการ ทำ� เพอ่ื ความถกู ตอ้ ง เราเองกต็ อ้ งระวงั วา่ เราทำ� เพอ่ื อะไร เพอ่ื จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะหรือเปล่า ถ้าเราท�ำเพื่อต้องการจะได ้ ชอื่ วา่ เปน็ ผชู้ นะ เรากจ็ ะเปลย่ี นขา้ งไดง้ า่ ย หรอื ถอนตวั ไดง้ า่ ย เมื่อไมแ่ นใ่ จวา่ สง่ิ ทเี่ ราก�ำลงั ทำ� อยูน่ จี้ ะส�ำเร็จหรือไม่
232 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล การท�ำงานเพ่ือสังคม เพื่อธรรมชาติ เพ่ือส่ิงแวดล้อม จะตอ้ งมคี นคดั คา้ นเสมอ มคี นเสยี ผลประโยชนข์ ดั ขวางเสมอ เรากต็ อ้ งยนื หยดั มน่ั คงในความถกู ตอ้ ง แตเ่ ราจะทำ� เชน่ นไี้ ด ้ ไมใ่ ชเ่ พยี งเพราะเราเชอื่ มนั่ วา่ เราท�ำสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ งเทา่ นน้ั แตย่ งั เป็นเพราะเราไม่หวั่นไหวต่อค�ำสรรเสริญหรือนินทาด้วย ไม ่ หว่ันไหวต่อโลกธรรม โลกธรรมคือสรรเสริญและนินทา ซึ่ง ไม่เท่ียงทั้งคู่ ได้ยศก็มีเส่ือมยศ ได้ลาภก็มีเสื่อมลาภ ได้รับ ค�ำชมก็ต้องมีคนด่า คนท่ีต้องการเป็นผู้ชนะเขาต้องการค�ำ สรรเสรญิ สง่ิ ใดถา้ ทำ� แลว้ แพ ้ ไมไ่ ดร้ บั คำ� ชน่ื ชมสรรเสรญิ เขา ก็ถอย หรือว่าถ้าทำ� แล้วไม่ได้รางวัล ไม่ได้ความม่ังคั่งรำ�่ รวย เขากไ็ มเ่ อา แตส่ ำ� หรบั ผทู้ ย่ี นื หยดั เพอ่ื ความถกู ตอ้ ง จะไมเ่ อา ความสขุ ฝากผกู ตดิ ไวก้ บั สง่ิ เหลา่ น ้ี เพราะเขามคี วามสขุ ภายใน คนเราถา้ เอาความสขุ ไปผกู ตดิ กบั ทรพั ยส์ มบตั ิ ชอื่ เสยี ง เกยี รตยิ ศ ชวี ติ กจ็ ะโลเลไมม่ นั่ คง เปลย่ี นขา้ งเปลย่ี นฝง่ั ไดง้ า่ ย ไมส่ ามารถทจ่ี ะยนื หยดั จนถงึ ทสี่ ดุ ได ้ แตค่ นทแ่ี มจ้ ะถกู นนิ ทา ถูกว่าร้าย หรือยากจน แต่ถ้าเขามีความสุขภายใน เขาก็ยัง สามารถยนื หยดั ตอ่ ไปได ้ เพราะเขามคี วามสขุ ภายในเปน็ เครอื่ ง หล่อเลี้ยง ฉะนั้นพวกเราต้องฝึกมากๆ เพ่ือเข้าถึงความสุข ภายใน
233 ม่ั น ค ง บ น วิ ถี ธ ร ร ม อาตมานกึ ถงึ ตน้ ไม ้ ตน้ ไมต้ อนทยี่ งั เปน็ ตน้ กลา้ เขาตอ้ ง อาศยั ฝนจากฟา้ ตอ้ งอาศยั คนรดน�้ำให ้ แตพ่ อเปน็ ตน้ ไมใ้ หญ ่ รากยง่ิ หยง่ั ลกึ เทา่ ไหร ่ เขากย็ งิ่ มน่ั คง และถา้ สามารถหยง่ั รากลกึ ไปถึงตาน้�ำใต้ดินได้ เขาก็จะเขียวสะพรั่งตลอดปี เหมือนกับ ต้นไม้ในเขตป่าดิบแล้งที่เขียวตลอดปีอย่างต้นไม้ท่ีภูหลง ที่เขียวตลอดปีได้ก็เพราะว่าเขาสามารถหย่ังรากลึกไปถึงน�้ำ ใต้ดินได้ แต่ถ้าเป็นต้นไม้อื่นที่รอฝนจากฟ้า รอคนรดน้�ำ ป่านน้ีก็เหลืองแห้งไปหมดหรือตายไปแล้วเหมือนกับต้นไม้ท ี่ เราเหน็ สองขา้ งทางขณะทเี่ ดนิ ธรรมยาตรามตี น้ ไมจ้ �ำนวนมาก แหง้ ตาย สว่ นใหญเ่ ปน็ พชื ลม้ ลกุ แตต่ น้ ไมจ้ ำ� นวนหนง่ึ ยงั เขยี ว อย ู่ ทนแลง้ ได้ แมฝ้ นไมต่ กก็ยังเขยี วได้ ขอใหเ้ ราเปน็ เชน่ นนั้ คอื สามารถทจ่ี ะยนื หยดั อยไู่ ดแ้ มว้ า่ สิ่งแวดล้อมจะไม่เป็นใจ เพราะเราสามารถเข้าถึงต้นธารแห่ง ความสุข ต้นธารแห่งความสุขหรือตาน�้ำแห่งความสุขน้ีอยู ่ ในใจเรา ในปา่ มตี านำ้� ซงึ่ เปน็ ตน้ ธารของลำ� หว้ ย ลำ� ปะทาวและ แมน่ ำ�้ ทงั้ ปวง ทง้ั ปงิ วงั ยมนา่ นกเ็ กดิ จากตานำ้� เลก็ ๆ ในปา่ ในปา่ มตี านำ�้ ในใจเรากม็ ตี านำ้� เหมอื นกนั อนั เปน็ ทม่ี าแหง่ ความสขุ ที่เราต้องหยั่งลงไปให้ถึง ถ้าเราหย่ังถึงได้เราก็จะมีความสุข แม้ว่าผู้คนจะไม่เข้าใจเราก็ตาม เม่ือใจเราหยั่งลึกเราก็จะรู้ว่า คณุ คา่ ของชีวติ หรอื ชีวติ ทีด่ ี ไมใ่ ชห่ มายถึงชวี ิตทย่ี ืนยาว
234 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล คนมักจะเข้าใจว่าชีวิตที่ดี คือชีวิตท่ีมีอายุยืน แต่สิ่งท ่ี สำ� คญั กวา่ ชวี ติ ทยี่ นื ยาว คอื ชวี ติ ทม่ี ที ง้ั ความกวา้ งและความลกึ ชีวิตยืนยาวอย่างเดียวไม่พอ ต้องกว้างด้วย กว้างคือมีน้�ำใจ กว้างขวาง เห็นผู้คนเป็นเพ่ือนมนุษย์ ไม่ได้เห็นเป็นศัตรู ม ี ความเออ้ื เฟอ้ื เผอ่ื แผต่ อ่ สรรพสตั ว ์ นอกจากกวา้ งแลว้ กต็ อ้ งลกึ ด้วย คือมีความลุ่มลึกทางจิตใจ สามารถจะเข้าถึงความสุข ภายในท่ีอยู่ในจิตใจของเราได้ ถ้ากว้างและลึกแล้ว แม้ชีวิต จะส้นั ก็ไมม่ ีความหมาย พระพทุ ธเจา้ ตรสั วา่ มชี วี ติ วนั เดยี ว แตอ่ ยอู่ ยา่ งบณั ฑติ มีค่ากว่าการอยู่อย่างอายุยืนยาวเป็นร้อยปี แต่ว่าไม่ได้ท�ำ ความดีอะไรเลย เพราะฉะน้ันไม่จ�ำเป็นว่าเราจะต้องเดินทาง ไปใหถ้ งึ จดุ หมาย อยา่ งพวกเราหลายคนกไ็ มส่ ามารถจะมาถงึ ตรงนไี้ ด ้ แตว่ า่ สง่ิ ทเี่ ขาไดท้ ำ� ขณะทอี่ ยขู่ บวนธรรมยาตรา อาจจะ
235 ม่ั น ค ง บ น วิ ถี ธ ร ร ม ประทบั ใจเราไปนาน เพราะเขามนี ำ�้ ใจ เขาเสยี สละ เขานกึ ถงึ ผู้อื่น เขายอมลำ� บากเพื่อเรา อย่างนี้เรียกว่าเขามีความกว้าง ในจติ ใจ และทเี่ ขาทำ� เชน่ นไี้ ด ้ กม็ กั เปน็ เพราะเขามคี วามลมุ่ ลกึ ในจิตใจด้วย เพราะฉะนั้นถึงแม้เขาจะเดินได้แค่วันสองวัน เขาอาจจะทงิ้ รอยเทา้ ไวบ้ นเสน้ ทางธรรมยาตราแคช่ ว่ งสน้ั ๆ แต่ เขาไดท้ ง้ิ รอยประทบั ไวใ้ นใจเรา กอ่ ใหเ้ กดิ ความซาบซงึ้ ใจ อาจ จะมากกว่าหลายคนที่เดินต้ังแต่วันแรกจนวันสุดท้าย แต่ถ้า คดิ ถงึ แตต่ วั เอง ใจคบั แคบ การเดนิ ๗-๘ วนั กม็ คี วามหมาย น้อยกว่าการเดินเพียงวันเดียว แต่ว่าเต็มไปด้วยน้�ำใจ และ มากดว้ ยมิตรภาพ เสน้ ทางชวี ติ ของเรา จะยาวหรอื จะสนั้ ไมม่ ใี ครตอบได้ เหมอื นกบั ทเี่ ราไดพ้ ดู ไปแลว้ เมอ่ื วานวา่ ชวี ติ ของเรานนั้ เหมอื น กบั เทยี น เราไมม่ ที างรหู้ รอกวา่ เทยี นเลม่ นจ้ี ะไหมจ้ นหมดเชอ้ื หรือว่าโดนลมพัดดับไปเสียก่อนท้ังๆ ที่ยังมีเช้ือและไขเทียน อยู่ แต่แม้จะเป็นอย่างหลังก็ไม่สำ� คัญเท่ากับว่า ขณะท่ียังมี เปลวไฟอยู่นั้น เขาให้ความสว่างไสวแค่ไหน หรือเขากลัวว่า เทียนจะหมดเชื้อหมดไขเสียก่อน เลยส่องสว่างน้อยๆ นิดๆ คนทไ่ี มก่ ลวั วา่ ชวี ติ จะสน้ั แคไ่ หน เขากเ็ หมอื นเทยี นทพี่ รอ้ มจะ ใหเ้ ปลวไฟสวา่ งไสว แมว้ า่ นน่ั จะทำ� ใหอ้ ายขุ องเทยี นสน้ั ลงกต็ าม อันนเ้ี ปน็ เร่อื งหนึง่ ที่อยากจะฝากไว้
236 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล การทเี่ ราสามารถยนื หยดั อยา่ งถกู ตอ้ งได ้ นอกจากเปน็ เพราะมีความสุขภายในเป็นเครื่องหล่อเล้ียงแล้ว อีกส่ิงหน่ึง ทส่ี �ำคญั คอื เราตอ้ งมภี มู ติ า้ นทานความทกุ ข์ดว้ ย คนเราจะมี ความสขุ ไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ ตอ้ งมภี มู ติ า้ นทานความทกุ ข ์ เพราะ คนเรานนั้ หนที กุ ขไ์ มพ่ น้ ไมว่ า่ เราจะรำ�่ รวยเปน็ มหาเศรษฐ ี หรอื พอ่ แมม่ ง่ั คงั่ ร�่ำรวย กห็ นคี วามแก ่ ความเจบ็ ความตายไมพ่ น้ หนคี วามพลดั พรากสญู เสยี ไมพ่ น้ อกี ทง้ั ยงั ตอ้ งประสบกบั การ ติฉินนินทา การว่าร้าย เราจะมีความสุขภายในและยืนหยัด ในสง่ิ ที่ถูกต้องได ้ จึงตอ้ งมภี มู ติ ้านทานความทุกขด์ ้วย ภมู ติ า้ นทานความทกุ ขม์ าจากไหน กต็ อ้ งมาจากการทเี่ รา เจอความทุกข์บ่อยๆ เจอความล�ำบากบ่อยๆ มันเหมือนกับ คนท่ีมีภูมิต้านทานเชื้อโรค ถามว่าภูมิต้านทานน้ีมาจากไหน กเ็ พราะเขาเจอเชอ้ื โรคบอ่ ยๆ อยา่ งเดก็ ชาวบา้ นตวั เลก็ ๆ เขา เลน่ ดนิ คลกุ ฝนุ่ เขาเลน่ นำ้� นำ�้ เขา้ ปากเขาไมร่ เู้ ทา่ ไหร ่ บางที น�้ำคลองสีด�ำเข้าปากไป ก็ไม่เป็นอะไร แต่ว่าคนเมืองเดี๋ยวน ้ี เป็นโรคมือเท้าปากกันมาก เป็นโรคแปลกๆ เยอะแยะเลย สว่ นหนงึ่ กเ็ พราะไมม่ ภี มู ติ า้ นทานโรค เพราะอยกู่ บั ความสะอาด เกินไป ขณะที่เด็กชนบทหรือเด็กสลัม เขาไม่ค่อยเป็นโรค พวกนเ้ี ทา่ ไหร ่ เพราะเขาเจอเชอ้ื โรคมาตง้ั แตเ่ ลก็ จงึ มภี มู ติ า้ น ทานโรค พวกเรากเ็ หมอื นกนั เมอ่ื ฉดี วคั ซนี เขา้ ไป เรากม็ ภี มู ิ
237 ม่ั น ค ง บ น วิ ถี ธ ร ร ม ตา้ นทานโรค วณั โรค ปอดบวม อหวิ าต ์ จงึ ทำ� อะไรไมไ่ ด ้ ทำ� ไม ภูมิต้านทานจึงเกิดขึ้นได้ วัคซีนคืออะไร ก็คือเช้ือโรคอ่อนๆ น่ันเอง รา่ งกายเราต้องเจอเช้อื โรค ถึงจะมีภมู ิต้านทานโรค ฉนั ใดกฉ็ นั นนั้ เราตอ้ งเจอความยากลำ� บาก ถงึ จะมภี มู ิ ตา้ นทานความยากลำ� บาก ตอ้ งเจอความทกุ ข ์ ถงึ จะมภี มู ติ า้ น- ทานความทุกข์ คนที่พยายามหนีความทุกข์ตลอดเวลา เขา ไมร่ หู้ รอกวา่ กำ� ลงั พาตวั เองเขา้ สคู่ วามเสย่ี ง คอื ไมม่ ภี มู ติ า้ นทาน ความทุกข์ หรือมีน้อย ฉะน้ันเราอย่ากลัวความยากล�ำบาก บางทตี อ้ งเขา้ หาดว้ ย เพอ่ื สรา้ งสมภมู ติ า้ นทานความทกุ ข ์ หวงั วา่ ธรรมยาตราจะมสี ว่ นชว่ ยเพมิ่ ภมู ติ า้ นทานความทกุ ขใ์ หก้ บั เรา ดว้ ย เปน็ ภมู ติ า้ นทานความยากลำ� บาก อนั นค้ี อื ตน้ ทนุ สำ� คญั อยา่ รสู้ กึ วา่ ขาดทนุ ทเี่ จอความลำ� บาก ใหถ้ อื วา่ นเ่ี ปน็ กำ� ไร เพอ่ื น เขาจะใช้เวลาช่วงน้ีไปเท่ียว ก็เป็นเร่ืองของเขา เราใช้เวลาใน ชว่ งนม้ี าเจอความยากลำ� บาก แตส่ ง่ิ ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ กค็ อื เราจะม ี ภมู ติ า้ นทานความทกุ ข ์ ซง่ึ จะชว่ ยใหเ้ ราเปน็ คนสขุ งา่ ย มคี วาม สุขจากภายใน อีกท้ังยังท�ำให้เราสามารถท่ีจะม่ันคงในส่ิงที่ ถูกตอ้ ง และยนื หยัดไปจนถงึ ท่ีสดุ ได้
ภาพ : นติ ยสารสารคดี
ท่ีมา : หนังสอื รุง่ อรุณทสี่ คุ ะโต ธ ร ร ม ะ ทุ ก ห ย ่ อ ม ห ญ ้ า บรรยายเม่ือวันท่ี ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕ ธรรมะ ทุ ก ห ย่ อ ม ห ญ้ า พระไพศาล วิสาโล อาจารยข์ องอาตมาเดนิ ทางมาเยยี่ มอาตมาได ้ ๒-๓ วนั แลว้ มาทุกปี ปีละ ๓-๔ เดือนแล้วก็จากไป อาจารย์ของอาตมา ที่ว่าก็คือ กระเต็นน้อย ที่เรียกว่าเป็นอาจารย์ก็เพราะว่าเขา มคี ณุ สมบตั ทิ น่ี า่ นบั ถอื บนิ มากเ็ กาะอยบู่ นกา้ นบวั บา้ ง กง่ิ ไม้ บา้ ง กลางสระบา้ ง เขาอยนู่ ง่ิ ๆ สงบอยลู่ ำ� พงั ตวั เดยี ว ไมร่ สู้ กึ เหงาเลย กระเต็นน้อยนี่มีความสุขอยู่กับการอยู่เอกา มัน
240 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ไมร่ สู้ กึ เหงา อาตมาบางทอี ยคู่ นเดยี วยงั เหงาเลย แตก่ ระเตน็ - น้อยไม่เหงา แถมยังมีสมาธิดีมาก เกาะอยู่บนก้านบัวอย่าง สงบนิ่ง แม้แดดจะร้อนก็ไม่มีอาการทุกข์ น่ิง น่ิงจนบางที นึกว่าเขาหลับ แต่จริงๆ ไม่ได้หลับหรอก ถ้ามีปลาว่ายผ่าน มา เขาก็จะบินโฉบลงไปควา้ มาเลย สมาธิดมี าก ไมใ่ ช่สมาธิ แบบเหงาๆ หงอยๆ หรือไม่รู้ไม่ช้ีอะไร เป็นสมาธิท่ีต่ืนแล้ว เรียกว่ามีสติพร้อม ถ้าเป็นคนเรา ขืนน่ังนิ่งๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ หลับ แต่กระเต็นน้อยนิ่งแบบมีสติต่ืนตัวเต็มที่ ปลาผ่านมา กโ็ ฉบทันที พอไดป้ ลามากระเตน็ นอ้ ยกพ็ อใจ แมจ้ ะตวั เลก็ กพ็ อใจ รอ้ งจบิ๊ ๆๆๆ ดว้ ยความยนิ ด ี กระเตน็ นอ้ ยมคี วามสนั โดษมาก ได้แค่ไหนก็พอใจ แถมไม่สะสมสมบัติไว้ด้วย กระเต็นน้อย ไม่มีสมบัติพัสถานอะไร ไม่มีรังด้วยซ�้ำ ผิดกับนกบางชนิดท่ี ยังสะสมอาหารในรัง แต่กระเต็นน้อยนี่ไม่มีเหย้าไม่มีเรือน ไม่มีรัง ไม่มีการสะสม เห็นแล้วบางทียังละอายใจว่า เราน่ี เปน็ พระแตก่ ม็ ที รพั ยส์ มบตั เิ ยอะ เรามกี ฏุ ิ เรามที พ่ี กั หลบแดด กนั ฝน แตก่ ระเตน็ นอ้ ยนอี่ ยกู่ ลางสระ แดดจะรอ้ น อากาศจะ หนาว เขากอ็ ยนู่ ิ่ง ทำ� หนา้ ท่ขี องตวั ไมท่ ุกข์ไม่ร้อน คนเรานถ่ี า้ เปน็ อยา่ งกระเตน็ จะมคี วามสขุ มาก อยเู่ อกา ก็มีความสุข ไม่มีทรัพย์สมบัติให้สะสม ร้องเพลงได้ท้ังวัน
241 ธ ร ร ม ะ ทุ ก ห ย่ อ ม ห ญ้ า ร้องจ๊ิบๆๆๆๆ แล้วก็ไป เด๋ียวก็ไปเกาะตรงนั้นที ตรงนี้ที แล้วก็น่ิง แต่ก็ไม่ได้หลับ พระเราน่ีนั่งสมาธิยังหลับเลย แต่ กระเต็นน้อยน่ตี ่ืนตัวอยู่ตลอดเวลา คลา้ ยๆ กับกบ เหน็ เขา อยู่น่ิงๆ อย่าไปคิดว่าเขาหลับ ถ้ามีแมลงผ่านหน้าเม่ือไหร่ เขาจะตระหวดั ลนิ้ จบั ใสป่ ากทนั ที เปน็ ความนงิ่ ทต่ี นื่ ตวั เตม็ ท่ี ไม่ใช่น่ิงแบบไม่รู้ไมช่ ี้ คนทม่ี สี ตจิ ะตนื่ ตวั แบบนแี้ หละ ภายนอกนน่ี งิ่ แตข่ า้ งใน ตนื่ ตวั เตม็ ท ่ี บางคนไปเขา้ ใจวา่ อยนู่ ง่ิ ๆ มนั ตอ้ งซมึ ๆ หงอยๆ นักปฏิบัติเป็นอันมากน่ังสมาธิจนเกิดความเง่ืองหงอย เลย ท�ำให้เกิดภาพว่าสมาธิภาวนาท�ำให้เฉื่อยชา ที่จริงน่ันเป็น ความเข้าใจผิด สมาธิภาวนาแบบพุทธน้ีต้องท�ำให้เกิดความ ตื่นตัว เกิดความพร้อมที่จะท�ำงาน ที่เรียกกันว่า กัมณียา เหมอื นสมาธแิ บบกระเตน็ นอ้ ยและกบซง่ึ มคี วามรตู้ วั ทว่ั พรอ้ ม ตลอดเวลา นักปฏิบัตธิ รรมตอ้ งทำ� ให้ไดแ้ บบน้ี สัตว์บางพวกนี่น่ิงไม่เป็น ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา เชน่ ลงิ กระโดดไปกระโดดมา มนั อยสู่ ขุ ไมเ่ ปน็ บางทกี อ็ วด ฉลาด แตน่ กกระเตน็ นอ้ ยนน่ี งิ่ ถงึ เวลากไ็ ปนะ ไปกไ็ ปเปลา่ ๆ ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือไป ไปอย่างอิสระเสรี ไม่หวนหาอาลัย ในสถานท่ี ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต อยู่กับปัจจุบัน ถึงไหนก็ นอนนั่น พักเหน่ือยแล้วก็เดินทางต่อไป มาเพ่ือจะไป ไม่
242 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล ตดิ ท ่ี ถอื เอาทกุ หนทกุ แหง่ เปน็ บา้ น ใครบา้ งทจ่ี ะทำ� ไดอ้ ยา่ งนี้ อาตมาก็เลยบอกว่า กระเต็นน้อยนี่แหละคืออาจารย์ของ อาตมา เหน็ แลว้ กอ็ ดคดิ ไมไ่ ดว้ า่ ถา้ เราเปน็ อยา่ งกระเตน็ นอ้ ย ชวี ิตคงมีความสขุ ไมน่ อ้ ย ในปา่ นมี้ คี รบู าอาจารยเ์ ยอะแยะ บางทกี เ็ ปน็ แบบแมไ่ ก่ แม่ไก่น่ีมีความกล้ามาก พร้อมจะปกป้องลูกน้อยจากภัย อนั ตรายทกุ ชนดิ มคี นเลา่ วา่ วนั กอ่ นนงั่ รถจากทา่ มะไฟจะมา วัด กลางถนนมีแมไ่ กก่ �ำลงั คุ้ยเขี่ยหากินกับลกู ฝูงหน่งึ พอรถ วง่ิ ตรงมาเขา้ น ี่ ลกู เจย๊ี บหนไี มท่ นั แมไ่ กแ่ ทนทจ่ี ะหนเี อาตวั รอด กลับกางปีกปกป้องลูกน้อย มันกล้าเผชิญหน้ากับรถ ยอม ให้รถทับเลย กล้าหาญมาก นับว่าน่านับถือ ถ้าเราได้อย่าง นีบ้ า้ งจะดไี ม่นอ้ ย ครูบาอาจารย์ที่จะสอนธรรมให้เรานั้นมีอยู่ทุกหนทุก แห่ง ไม่ว่าในป่า กลางสระ ต้นไม้ หรือแม้แต่ก้อนอิฐก็เป็น ครสู อนเราได้ ท่านอาจารย์พุทธทาสชอบแนะให้ลูกศิษย์ที่สวนโมกข์ ฟงั เสยี งตน้ ไมพ้ ดู ฟงั เสยี งกอ้ นหนิ สอนธรรมะ กอ้ นหนิ กส็ อน ธรรมะได ้ ตน้ ไมก้ ส็ อนได ้ ดอกบวั นยี่ ง่ิ ดใี หญ ่ ทง้ั ดอกบวั ใบบวั ตน้ บวั นสี่ อนธรรมะไดท้ ง้ั นนั้ ตน้ บวั นเ่ี ตบิ โตจากโคลนตม แต่ กพ็ าตวั ขน้ึ พน้ น�้ำได ้ สะอาดบรสิ ทุ ธ์ิ ไมม่ รี ว้ิ รอยของโคลนตม
243 ธ ร ร ม ะ ทุ ก ห ย่ อ ม ห ญ้ า สว่ นใบบวั นน้ั ฝนกท็ ำ� ใหเ้ ปยี กไมไ่ ด ้ ฉาบทาไมไ่ ด ้ ฝนตกลงมา ถูกใบบัวก็หล่นลงน�้ำ บางครั้งหยดน�้ำก็ไปสะสมอยู่ตรงร่อง กลางใบบวั แตใ่ บบวั กไ็ มย่ อมแบกนำ้� จะโอนเอนจนนำ้� เทไหล ลงหมด ดอกบวั กเ็ ชน่ กนั สอนใจเราดมี าก พจิ ารณาไปเถอะ วันน้ตี มู พรุง่ นี้บาน มะรนื ก็ร่วง สอนอนิจจงั ไดเ้ ปน็ อย่างดี พจิ ารณาพวกนบ้ี อ่ ยๆ กช็ ว่ ยใหเ้ รามสี ตเิ กดิ ปญั ญาขนึ้ มา แตถ่ า้ มองผา่ นๆ ไมน่ อ้ มเขา้ มาใสต่ วั ธรรมะกไ็ มเ่ กดิ ธรรมะน้ี จะเป็นธรรมะได้เราต้องน้อมเข้ามาใส่ตัว คุณสมบัติอย่าง หน่ึงของธรรมะคือ โอปนยิโก แปลว่า พึงน้อมเข้ามาใส่ตัว
244 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล น้อมเข้ามาใส่ตัวถึงจะเป็นธรรมะ ถ้าไม่น้อมเข้ามาใส่ตัว ก็ เป็นธรรมะไม่ได ้ ดูโทรทัศน์ดูละครแล้วปล่อยใจออกนอกตัว มนั กไ็ ดแ้ ต่สนกุ แตธ่ รรมะไม่เกดิ แต่พอเรานอ้ มส่งิ ท่ีเห็นเอา เขา้ มาใสต่ วั เหน็ วา่ เจา้ ตวั ขอี้ จิ ฉานมี้ นั ชา่ งเหมอื นเราเสยี จรงิ ใจร้อนขี้อิจฉา มองคนอ่ืนติดลบเสมอ พอไปเห็นตัวเองอยู่ บนทีวี มันก็สอนใจเราให้อิจฉาน้อยลง เวลาเห็นตัวละคร เอะอะโวยวายด้วยความโกรธก็น้อมเข้ามาใส่ตัว ว่าตอนเรา โกรธเรากจ็ ะนา่ เกลยี ดนา่ ระอาอยา่ งในตวั ละครนแ้ี หละ เวลา โกรธ เราไม่เห็นหน้าตัวเองหรอก แต่พอเห็นตัวละครโกรธ แลว้ หนา้ ตาเหมอื นยกั ษเ์ หมอื นมาร ถา้ เรามสี ตจิ ะฉกุ คดิ ขน้ึ ได้ ว่า เราก็เป็นอย่างน้ีเหมือนกัน ไม่น่าดูเลย รู้จักมองอย่างน้ี เราจงึ จะเหน็ โทษของความโกรธ และพยายามโกรธใหน้ อ้ ยลง ดลู ะครดโู ทรทศั นใ์ หล้ องพจิ ารณาดวู า่ ตวั เองอยตู่ รงไหน เป็นพระเอก เป็นนางเอก หรือเป็นผู้ร้าย ดูแล้วน้อมเข้ามา ใสต่ ัว เราก็จะได้ระมัดระวงั ตวั เองมากข้นึ ขอใหพ้ จิ ารณาทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งทผ่ี า่ นพบ อยา่ มองอยา่ ง ผ่านๆ ขอให้มองอย่างมีสติ จิตว่างจากความคิด คนเราถ้า ใจไมว่ า่ ง ใจเตม็ ไปดว้ ยความคดิ แลว้ น่ี ธรรมะจากธรรมชาตกิ ็ ยากที่จะซมึ เข้าไปในจติ ใจของเราได้ แต่พอทำ� ใจว่างๆ มีสติ ก�ำกบั ใจ ธรรมะจากธรรมชาตกิ เ็ ขา้ มาในใจของเราไดง้ ่าย ใจ
245 ธ ร ร ม ะ ทุ ก ห ย่ อ ม ห ญ้ า ของเราเหมือนแก้วน้�ำ แก้วน้�ำเปล่าๆ ถ้าเติมน�้ำลงไป แก้ว ก็รับน�้ำได้ แต่ถ้าแก้วน�้ำเต็มด้วยน้�ำสิ เติมน�้ำสะอาดลงไปก็ ล้นออกหมด ในสมัยพุทธกาลเคยมีคนหน่ึงเป็นยาจกเข็ญใจ นุ่งผ้า เก่าๆ รับจ้างเขาท�ำงาน ตอนหลังเห็นโทษจากชีวิตฆราวาส เลยมาบวชเป็นพระ คงเพราะเห็นว่า ชีวิตพระน้ันสะดวก สบาย มคี นอปุ ถมั ภบ์ ำ� รงุ ไมต่ อ้ งทำ� งานหนกั อยา่ งนอ้ ยกไ็ ม่ อดอยากหิวโหย เมอื่ บวชแล้วก็ยังเกบ็ เสอ้ื ผา้ เอาไว้ ครัน้ บวชแลว้ กร็ วู้ า่ ชีวิตพระไม่ไดส้ บายเทา่ ไหร่นัก บาง ครง้ั กอ็ ยากจะสกึ แตเ่ วลาเกดิ อยากสกึ กจ็ ะไปดเู สอื้ ผา้ ทเี่ กบ็ ซ่อนเอาไว้ ท�ำให้ไม่อยากสึก เสื้อผ้าเหล่าน้ีคงเตือนท่านว่า ถ้าออกไปเป็นโยม ชีวิตจะล�ำบาก ความอยากสึกเลยฝ่อลง เพื่อนพระเห็นก็ถามว่า ท่านไปที่น่ันบ่อยๆ ท�ำไม พระรูปนี้ ก็ตอบไปวา่ ไปหาอาจารย์ ทา่ นคงไปหาอาจารยแ์ บบน้ีหลาย ครั้ง จนท่ีสุดก็บรรลุอรหัตตผล เลยไม่ได้ไปหาเสื้อผ้าที่ซ่อน ไว้อีก ปล่อยทางให้รก พระรูปอ่ืนๆ เห็นเข้าก็เลยถามว่า เดยี๋ วนที้ ำ� ไมไมเ่ หน็ ไปหาอาจารยอ์ กี เลย ทา่ นตอบวา่ เดยี๋ วนี้ เราไมเ่ กยี่ วขอ้ งกบั อาจารยแ์ ลว้ ไมต่ อ้ งการอาจารยแ์ ลว้ พระ ภิกษุได้ยินก็หาว่าท่านพูดอวดตัวเป็นอรหันต์ จึงไปทูลพระ พุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ทรงรับรองว่าพระรูปน้ีท่านเป็นพระ
246 ๓ ท ศ ว ร ร ษ พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล อรหนั ตแ์ ลว้ นเี่ ปน็ ตวั อยา่ งวา่ แมแ้ ตเ่ สอื้ ผา้ ขาดๆ ปปุ ะกเ็ ปน็ อาจารย์ได ้ ทุกสิ่งทกุ อยา่ งเปน็ ครบู าอาจารยเ์ ราไดท้ ้งั น้ัน สมัยพุทธกาลมีพระบางรูปท้อแท้ท้อถอยในการปฏิบัติ วนั หนงึ่ เหน็ คนเลย้ี งชา้ งฝกึ ชา้ ง คนจะสง่ั ใหม้ นั ท�ำอะไร ชา้ งก็ ทำ� ได ้ ใหม้ นั ลกุ ขน้ึ นง่ั ยกขา ยนื ๒ ขา มนั ทำ� ไดห้ มด กน็ กึ สะท้อนในใจว่า แม้สัตว์เดรัจฉานอย่างช้างยังฝึกได้มากมาย เราเป็นมนุษย์ท�ำไมจึงฝึกตนเองไม่ได้ ต้องได้สิ คิดได้เช่นนี้ ก็เกิดมานะและก�ำลังใจในการปฏิบัติ ไม่ยอมเลิกกลางคัน ท่านเพียรพยายามไม่นานกบ็ รรลธุ รรม เดี๋ยวนี้เราไปคิดว่าครูบาอาจารย์มีแต่ในโรงเรียนและ มหาวิทยาลัย ก็เลยไม่ได้คิดที่จะเรียนรู้จากส่ิงรอบตัว อะไร กต็ าม ถา้ มองใหเ้ ปน็ กไ็ ดป้ ระโยชน ์ แมแ้ ตภ่ าพโฆษณาทยี่ ว่ั ยุ
247 ธ ร ร ม ะ ทุ ก ห ย่ อ ม ห ญ้ า กิเลส ละครน้�ำเน่า ก็ให้แง่คิดหรือสติปัญญาแก่เราได ้ ไม่ใช่ ว่าจะต้องเรียนจากหนังสือเท่าน้ัน สมัยที่พระอาจารย์มั่นยัง ไม่มีชื่อเสียง เป็นพระป่าที่จาริกธุดงค์ไปทั่วอีสานพร้อมกับ ลกู ศษิ ย ์ เจา้ คณะมณฑลอสี านสมยั นน้ั รงั เกยี จพระอาจารยม์ นั่ มาก มองเห็นว่าเป็นพระจรจัด ไม่สังกัดวัดตามระเบียบ คณะสงฆ์ซึ่งก�ำลังมีการปฏิรูปขนานใหญ่ ที่ส�ำคัญมองว่า พระอาจารยม์ นั่ ไมม่ คี วามรทู้ างธรรม เพราะไมไ่ ดเ้ รยี นปรยิ ตั ิ เจ้าคณะมณฑลท่านนี้สงสัยว่าคนไปนับถือพระอาจารย์ม่ัน ได้อย่างไร? เวลาพระอาจารย์ม่ันและลูกศิษย์เข้ามาในเขต ปกครองของท่าน คือ จังหวัดอุบลราชธานี ท่านก็จะส่ังให้ เจา้ หนา้ ทบ่ี า้ นเมอื งไลอ่ อกไป ทง้ั ๆ ทเี่ ปน็ ธรรมยตุ เหมอื นกนั แต่ตอนหลังท่านกลับมานับถือพระอาจารย์มั่น แม้กระนั้น กย็ งั สงสยั ไมห่ ายวา่ พระอาจารยม์ น่ั รธู้ รรมไดอ้ ยา่ งไร? ในเมอ่ื อยู่แต่ป่า ไม่มีต�ำรา ท่ีสงสัยมากก็เพราะเจ้าคณะมณฑล ทา่ นนจ้ี บประโยค ๙ จงึ เหน็ วา่ ปรยิ ตั ศิ กึ ษามคี วามสำ� คญั มาก เม่ือได้พบพระอาจารย์ม่ันจึงได้ถามเร่ืองน้ี ค�ำตอบของพระ อาจารย์มั่นก็คือ “ธรรมะนั้นมีอยู่ทุกหย่อมหญ้าส�ำหรับผู้มี ปัญญา”
ศาสนา ศ า ส น า บ ริ โ ภ ค นิ ย ม บ ริ โ ภ ค นิ ย ม พระไพศาล วิสาโล ศาสนาอะไรทก่ี ำ� ลงั แพรห่ ลายอยา่ งรวดเรว็ ทว่ั โลก? คำ� ตอบ คอื ศาสนาบรโิ ภคนยิ ม เวลานไี้ มว่ า่ จะอยมู่ มุ ไหนของโลก ใน ปา่ ลกึ บนเขาสงู หรอื ขวั้ โลกใต ้ จะเหน็ รอ่ งรอยของบรโิ ภคนยิ ม ในทุกท่ี เรียกได้ว่าไม่มีท่ีไหนท่ีบริโภคนิยมเข้าไปไม่ถึง แม ้ ไมม่ ถี นน กอ็ าศยั สญั ญาณดาวเทยี มเปน็ สอื่ เผยแพร ่ ในหลาย แหง่ สถานทที่ เี่ ปน็ ตวั แทนของศาสนาบรโิ ภคนยิ มมจี ำ� นวนมาก กวา่ วดั วาอารามเสยี อกี เชน่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ซง่ึ มวี ดั ไมถ่ งึ ๕๒๐ วดั แตม่ ผี บั บาร ์ คาราโอเกะและสถานเรงิ รมย์ เกือบ ๑,๓๐๐ แห่ง ยังไม่นับศูนย์การค้าและแหล่งช็อปปิ้ง ตา่ งๆ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306