Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 11599_E-book ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(กลุ่มวณิตา)

11599_E-book ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(กลุ่มวณิตา)

Published by pipe sawada, 2021-02-02 07:03:40

Description: 11599_E-book ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(กลุ่มวณิตา)

Search

Read the Text Version

101 มาตรา ๕๓๑ อนั ผู้ใหจ้ ะเรียกถอนคืนการใหเ้ พราะเหตผุ รู้ บั ประพฤตเิ นรคุณนัน้ ทา่ นวา่ อาจจะเรยี กไดแ้ ต่เพียงในกรณดี งั จะกล่าวต่อไปนี้ (๑) ถ้าผู้รบั ไดป้ ระทษุ รา้ ยต่อผู้ใหเ้ ป็นความผิดฐานอาชญาอยา่ งรา้ ยแรงตามประมวลกฎหมาย ลักษณะอาชญา หรือ (๒) ถ้าผู้รบั ไดท้ ำใหผ้ ูใ้ หเ้ สียชอื่ เสียง หรือหม่นิ ประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรอื (๓) ถ้าผูร้ บั ไดบ้ อกปัดไม่ยอมให้สงิ่ ของจำเป็นเล้ยี งชีวติ แกผ่ ู้ให้ ในเวลาทผ่ี ใู้ ห้ยากไร้และผรู้ บั ยงั สามารถจะใหไ้ ด้ มาตรา ๕๓๒ ทายาทของผใู้ หอ้ าจเรียกให้ถอนคนื การใหไ้ ด้แตเ่ ฉพาะในเหตทุ ี่ผรู้ บั ได้ฆ่าผใู้ ห้ ตายโดยเจตนาและไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือได้กดี กันผูใ้ ห้ไว้มิให้ถอนคนื การให้ แต่ว่าผู้ใหไ้ ด้ฟ้องคดไี ว้แลว้ อยา่ งใดโดยชอบ ทายาทของผใู้ หจ้ ะวา่ คดีอันน้ันตอ่ ไปกไ็ ด้ มาตรา ๕๓๓ เมอื่ ผใู้ ห้ได้ใหอ้ ภยั แกผ่ ้รู บั ในเหตปุ ระพฤติเนรคณุ นั้นแล้วกด็ ี หรือเมื่อเวลาได้ ล่วงไปแลว้ หกเดอื นนบั แต่เหตเุ ชน่ น้นั ไดท้ ราบถงึ บุคคลผู้ชอบทจี่ ะเรียกถอนคืนการใหไ้ ดน้ ้นั กด็ ี ทา่ นวา่ หา อาจจะถอนคืนการให้ได้ไม่ อนึง่ ท่านหา้ มมิใหฟ้ ้องคดีเมอื่ พน้ เวลาสบิ ปีภายหลงั เหตุการณ์เชน่ วา่ นน้ั มาตรา ๕๓๔ เมอ่ื ถอนคนื การให้ ท่านใหส้ ่งคนื ทรพั ยส์ นิ ตามบทบญั ญัตแิ หง่ ประมวล กฎหมายน้ี วา่ ด้วยลาภมิควรได้ มาตรา ๕๓๕ การใหอ้ ันจะกล่าวต่อไปนี้ ทา่ นวา่ จะถอนคนื เพราะเหตเุ นรคณุ ไม่ได้ คอื (๑) ให้เป็นบำเหนจ็ สินจา้ งโดยแท้ (๒) ให้สง่ิ ทมี่ ีค่าภาระตดิ พนั (๓) ใหโ้ ดยหน้าทธี่ รรมจรรยา (๔) ให้ในการสมรส มาตรา ๕๓๖ การใหอ้ ันจะใหเ้ ปน็ ผลตอ่ เม่ือผใู้ ห้ตายน้นั ท่านใหบ้ ังคบั ด้วยบทกฎหมายวา่ ดว้ ยมรดกและพินยั กรรม ลักษณะ ๔ เช่าทรพั ย์

102 หมวด ๑ บทเบ็ดเสรจ็ ทั่วไป มาตรา ๕๓๗ อนั วา่ เช่าทรพั ยส์ ินนน้ั คอื สญั ญาซงึ่ บคุ คลคนหน่ึงเรียกว่า ผู้ใหเ้ ชา่ ตกลงให้ บุคคลอกี คนหนงึ่ เรียกว่า ผเู้ ช่า ไดใ้ ชห้ รือไดร้ บั ประโยชน์ในทรพั ยส์ ินอยา่ งใดอย่างหนงึ่ ชั่วระยะเวลาอันมจี ำกดั และผเู้ ช่าตกลงจะให้ค่าเชา่ เพอ่ื การนั้น มาตรา ๕๓๘ เชา่ อสงั หาริมทรัพย์นัน้ ถ้ามิได้มหี ลักฐานเป็นหนงั สืออย่างหน่งึ อย่างใดลง ลายมือชือ่ ฝา่ ยทต่ี อ้ งรบั ผิดเปน็ สำคญั ทา่ นว่าจะฟ้องรอ้ งใหบ้ ังคับคดหี าได้ไม่ ถา้ เช่ามกี ำหนดกว่าสามปขี นึ้ ไป หรอื กำหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรอื ผูใ้ หเ้ ชา่ ไซร้ หากมิได้ทำเปน็ หนงั สอื และจดทะเบียนตอ่ พนักงานเจ้าหน้าท่ี ท่านว่าการเช่านน้ั จะฟ้องร้องให้บงั คบั คดีไดแ้ ต่เพียงสามปี มาตรา ๕๓๙ คา่ ฤชาธรรมเนยี มทำสญั ญาเชา่ นั้น คูส่ ญั ญาพงึ ออกใช้เสมอกนั ทัง้ สองฝา่ ย มาตรา ๕๔๐ อนั อสงั หารมิ ทรัพย์ ทา่ นห้ามมใิ หเ้ ช่ากันเปน็ กำหนดเวลาเกนิ กว่าสามสบิ ปี ถ้า ไดท้ ำสัญญากนั ไวเ้ ปน็ กำหนดเวลานานกวา่ น้ัน ทา่ นก็ใหล้ ดลงมาเป็นสามสบิ ปี อนึ่ง กำหนดเวลาเช่าดังกลา่ วมาน้ี เมือ่ สน้ิ ลงแลว้ จะตอ่ สญั ญาอกี กไ็ ด้ แต่ตอ้ งอย่าใหเ้ กนิ สามสบิ ปนี บั แต่วันตอ่ สญั ญา มาตรา ๕๔๑ สัญญาเช่าน้นั จะทำกันเป็นกำหนดวา่ ตลอดอายขุ องผู้ใหเ้ ช่าหรอื ของผเู้ ชา่ ก็ให้ ทำได้ มาตรา ๕๔๒ บคุ คลหลายคนเรยี กเอาสงั หารมิ ทรพั ย์อนั เดียวกันอาศัยมลู สญั ญาเช่าต่างราย ท่านวา่ ทรัพยต์ กไปอยู่ในครอบครองผเู้ ชา่ คนใดกอ่ นดว้ ยสญั ญาเชา่ ทรพั ย์นัน้ คนน้ันมสี ทิ ธยิ ่งิ กวา่ คนอน่ื ๆ มาตรา ๕๔๓ บคุ คลหลายคนเรยี กรอ้ งเอาอสงั หารมิ ทรัพยอ์ นั เดียวกันอาศยั มูลสญั ญาเช่าตา่ ง ราย ทา่ นให้วินิจฉัยดงั ต่อไปนี้ (๑) ถา้ การเช่าน้นั เป็นประเภทซ่ึงมิไดบ้ ังคบั ไว้โดยกฎหมายวา่ ต้องจดทะเบียน ท่านให้ถอื ว่าผู้ เชา่ ซึง่ ได้ทรพั ยส์ ินไปไวใ้ นครอบครองกอ่ นดว้ ยสญั ญาเชา่ ของตนนน้ั มีสทิ ธยิ ่ิงกว่าคนอื่น ๆ

103 (๒) ถา้ การเชา่ ทกุ ๆ รายเปน็ ประเภทซ่ึงบังคบั ไว้โดยกฎหมายวา่ ต้องจดทะเบยี น ท่านให้ถอื วา่ ผเู้ ชา่ ซ่ึงได้จดทะเบียนการเช่าของตนกอ่ นนั้นมสี ทิ ธิยงิ่ กว่าคนอน่ื ๆ (๓) ถ้าการเชา่ มที ัง้ ประเภทซง่ึ ตอ้ งจดทะเบียนและประเภทซง่ึ ไมต่ อ้ งจดทะเบยี นตาม กฎหมายยันกันอยไู่ ซร้ ท่านว่าผเู้ ช่าคนทไ่ี ดจ้ ดทะเบยี นการเชา่ ของตนน้ันมีสทิ ธยิ ิง่ กวา่ เว้นแต่ผเู้ ชา่ คนอน่ื จะได้ ทรพั ยส์ ินน้นั ไปไวใ้ นครอบครองดว้ ยการเช่าของตนเสียกอ่ นวันจดทะเบยี นน้นั แล้ว มาตรา ๕๔๔ ทรพั ยส์ นิ ซงึ่ เช่านน้ั ผเู้ ชา่ จะใหเ้ ชา่ ช่วงหรอื โอนสิทธขิ องตนอนั มีในทรัพยส์ ินนนั้ ไมว่ ่าท้งั หมดหรอื แตบ่ างส่วนให้แก่บคุ คลภายนอก ทา่ นว่าหาอาจทำไดไ้ ม่ เว้นแต่จะได้ตกลงกนั ไวเ้ ป็นอยา่ งอ่ืน ในสัญญาเช่า ถา้ ผู้เชา่ ประพฤติฝา่ ฝืนบทบญั ญตั อิ นั น้ี ผใู้ ห้เช่าจะบอกเลกิ สญั ญาเสียก็ได้ มาตรา ๕๔๕ ถ้าผู้เช่าเอาทรัพยส์ นิ ซงึ่ ตนเช่าไปใหผ้ ู้อน่ื เชา่ ชว่ งอีกทอดหนงึ่ โดยชอบทา่ นว่าผู้ เช่าชว่ งยอ่ มตอ้ งรบั ผดิ ตอ่ ผใู้ ห้เช่าเดิมโดยตรง ในกรณเี ชน่ วา่ น้หี ากผเู้ ช่าช่วงจะได้ใช้ค่าเชา่ ใหแ้ ก่ผเู้ ช่าไปก่อน ท่านวา่ ผ้เู ช่าชว่ งหาอาจจะยกข้นึ เป็นขอ้ ต่อสผู้ ใู้ ห้เชา่ ได้ไม่ อน่ึง บทบญั ญตั อิ นั นี้ไม่หา้ มการทผี่ ใู้ หเ้ ชา่ จะใชส้ ทิ ธขิ องตนตอ่ ผเู้ ชา่ หมวด ๒ หนา้ ที่และความรับผิดของผใู้ หเ้ ชา่ มาตรา ๕๔๖ ผใู้ หเ้ ชา่ จำตอ้ งส่งมอบทรัพยส์ นิ ซง่ึ ใหเ้ ชา่ นนั้ ในสภาพอนั ซอ่ มแซมดีแลว้ มาตรา ๕๔๗ ผู้เชา่ ตอ้ งเสียคา่ ใช้จ่ายไปโดยความจำเป็นและสมควรเพือ่ รกั ษาทรัพยส์ นิ ซงึ่ เชา่ นั้นเท่าใด ผใู้ หเ้ ชา่ จำตอ้ งชดใช้ใหแ้ กผ่ ู้เช่า เวน้ แตค่ า่ ใชจ้ ่ายเพือ่ บำรงุ รกั ษาตามปกติและเพือ่ ซ่อมแซมเพยี ง เลก็ นอ้ ย มาตรา ๕๔๘ ถา้ ผ้ใู ห้เชา่ ส่งมอบทรัพยส์ ินซง่ึ เช่านนั้ โดยสภาพไม่เหมาะแก่การทจี่ ะใชเ้ พ่ือ ประโยชน์ทเ่ี ช่ามา ผู้เชา่ จะบอกเลกิ สญั ญาเสียก็ได้ มาตรา ๕๔๙ การส่งมอบทรัพยส์ นิ ซง่ึ เช่ากด็ ี ความรับผิดของผใู้ หเ้ ช่าในกรณชี ำรุดบกพรอ่ ง และรอนสิทธกิ ด็ ี ผลแหง่ ขอ้ สญั ญาว่าจะไมต่ อ้ งรับผดิ กด็ ี เหลา่ น้ี ทา่ นใหบ้ งั คับดว้ ยบทบัญญัติทง้ั หลายแหง่ ประมวลกฎหมายนว้ี า่ ด้วยการซ้ือขายอนโุ ลมความตามควร

104 มาตรา ๕๕๐ ผูใ้ หเ้ ช่ายอ่ มต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องอันเกิดขน้ึ ในระหว่างเวลาเชา่ และผใู้ หเ้ ช่าตอ้ งจดั การซอ่ มแซมทกุ อย่างบรรดาซึง่ เป็นการจำเป็นขึน้ เวน้ แตก่ ารซอ่ มแซมชนิดซึ่งมกี ฎหมาย หรอื จารตี ประเพณวี า่ ผเู้ ชา่ จะพงึ ตอ้ งทำเอง มาตรา ๕๕๑ ถ้าความชำรุดบกพร่องแหง่ ทรัพย์สินทเ่ี ช่านนั้ ไมเ่ ป็นเหตุถึงแกผ่ ู้เชา่ จะต้อง ปราศจากการใช้และประโยชน์ และผู้ให้เชา่ ยังแก้ไขไดไ้ ซร้ ผเู้ ชา่ ตอ้ งบอกกลา่ วแกผ่ ู้ใหเ้ ชา่ ให้จัดการแกไ้ ขความ ชำรดุ บกพรอ่ งนน้ั กอ่ น ถา้ และผู้ใหเ้ ช่าไมจ่ ดั ทำให้คนื ดีภายในเวลาอันสมควร ผเู้ ช่าจะบอกเลกิ สญั ญาเสียกไ็ ด้ หากวา่ ความชำรดุ บกพร่องน้ันรา้ ยแรงถงึ สมควรจะทำเชน่ นนั้ หมวด ๓ หน้าทีแ่ ละความรบั ผดิ ของผ้เู ช่า มาตรา ๕๕๒ อนั ผู้เชา่ จะใช้ทรพั ยส์ ินทเ่ี ช่าเพื่อการอย่างอน่ื นอกจากทใี่ ช้กนั ตามประเพณี นยิ มปกติ หรือการดงั กำหนดไวใ้ นสัญญานั้น ท่านว่าหาอาจจะทำไดไ้ ม่ มาตรา ๕๕๓ ผู้เชา่ จำตอ้ งสงวนทรพั ยส์ ินทีเ่ ช่าน้นั เสมอกับทว่ี ิญญูชนจะพึงสงวนทรพั ย์สนิ ของตนเอง และตอ้ งบำรงุ รักษาทง้ั ทำการซอ่ มแซมเลก็ น้อยดว้ ย มาตรา ๕๕๔ ถา้ ผเู้ ช่ากระทำการฝ่าฝืนบทบญั ญัติในมาตรา ๕๕๒ มาตรา ๕๕๓ หรือฝ่าฝืน ข้อสัญญา ผใู้ หเ้ ช่าจะบอกกลา่ วให้ผเู้ ชา่ ปฏบิ ตั ิใหถ้ กู ต้องตามบทกฎหมายหรอื ข้อสญั ญานน้ั ๆ กไ็ ด้ ถา้ และผเู้ ช่า ละเลยเสียไมป่ ฏบิ ตั ิตาม ท่านวา่ ผ้ใู หเ้ ช่าจะบอกเลกิ สญั ญาเสยี ก็ได้ มาตรา ๕๕๕ ผ้เู ชา่ จำตอ้ งยอมใหผ้ ู้ใหเ้ ชา่ หรือตวั แทนของผใู้ หเ้ ช่าเข้าตรวจดทู รพั ย์สินทเี่ ชา่ เป็นครงั้ คราว ในเวลาและระยะอนั สมควร มาตรา ๕๕๖ ถา้ ในระหวา่ งเวลาเช่ามเี หตจุ ะตอ้ งซอ่ มแซมทรพั ยส์ ินซ่งึ เช่าน้ันเป็นการเร่งร้อน และผใู้ ห้เชา่ ประสงค์จะทำการอนั จำเป็นเพ่อื ทจี่ ะซอ่ มแซมเช่นว่านั้นไซร้ ทา่ นว่าผูเ้ ชา่ จะไม่ยอมให้ทำนน้ั ไมไ่ ด้ แมถ้ งึ วา่ การน้ันจะเป็นความไมส่ ะดวกแก่ตน ถา้ การซอ่ มแซมเป็นสภาพซงึ่ ต้องกินเวลานานเกนิ สมควร จนเปน็ เหตุใหท้ รัพยส์ ินนั้นไมเ่ หมาะแก่การทีจ่ ะใช้เพอื่ ประโยชน์ทเ่ี ชา่ มา ผ้เู ช่าจะบอกเลกิ สญั ญาเสยี กไ็ ด้ มาตรา ๕๕๗ ในกรณีอย่างใด ๆ ดังจะกลา่ วต่อไปน้ี คือ

105 (๑) ถา้ ทรัพยส์ ินทเ่ี ชา่ น้ันชำรุดควรท่ีผ้ใู ห้เช่าจะตอ้ งซอ่ มแซมก็ดี (๒) ถ้าจะต้องจัดการอยา่ งหนึ่งอยา่ งใดเพื่อปดั ปอ้ งภยันตรายแกท่ รพั ยส์ ินนนั้ กด็ ี (๓) ถา้ บุคคลภายนอกรกุ ลำ้ เข้ามาในทรพั ยส์ นิ ท่เี ชา่ หรือเรยี กอา้ งสทิ ธอิ ยา่ งใดอย่างหนงึ่ เหนือ ทรัพยส์ นิ นน้ั ก็ดี ในเหตดุ งั กล่าวน้นั ใหผ้ เู้ ช่าแจง้ เหตุแก่ผู้ใหเ้ ชา่ โดยพลนั เวน้ แต่ผ้ใู หเ้ ชา่ จะไดท้ ราบเหตนุ ั้นอยู่ กอ่ นแลว้ ถา้ ผู้เช่าละเลยเสยี ไมป่ ฏบิ ัติตามบทบัญญัตินีไ้ ซร้ ท่านว่าผเู้ ช่าจะตอ้ งรับผดิ ตอ่ ผู้ให้เช่าในเม่ือ ผูใ้ ห้เช่าตอ้ งเสียหายอยา่ งใด ๆ เพราะความละเลยชักช้าของผเู้ ชา่ นั้น มาตรา ๕๕๘ อันทรพั ยส์ ินทเี่ ช่าน้ัน ถ้ามไิ ดร้ ับอนญุ าตของผใู้ ห้เชา่ กอ่ น ผเู้ ชา่ จะทำการ ดัดแปลงหรอื ตอ่ เตมิ อย่างหนงึ่ อยา่ งใดหาไดไ้ ม่ ถา้ และผเู้ ช่าทำไปโดยมไิ ด้รบั อนญุ าตของผู้ให้เชา่ เช่นนน้ั ไซร้ เม่อื ผใู้ หเ้ ช่าเรยี กรอ้ ง ผูเ้ ชา่ จะต้องทำใหท้ รพั ยส์ ินนัน้ กลบั คืนคงสภาพเดิม ทงั้ จะตอ้ งรบั ผิดตอ่ ผใู้ หเ้ ช่าในความ สญู หายหรือบบุ สลายอยา่ งใด ๆ อนั เกิดแตก่ ารดดั แปลงตอ่ เตมิ นนั้ ด้วย มาตรา ๕๕๙ ถา้ ไมม่ กี ำหนดโดยสัญญาหรือโดยจารีตประเพณวี า่ จะพงึ ชำระคา่ เช่า ณ เวลา ใด ท่านให้ชำระเม่ือสิ้นระยะเวลาอันไดต้ กลงกำหนดกนั ไว้ทกุ คราวไป กล่าวคือวา่ ถา้ เชา่ กันเปน็ รายปีกพ็ ึงชำระ คา่ เช่าเมอื่ สิ้นปี ถา้ เช่ากนั เป็นรายเดอื นก็พงึ ชำระคา่ เชา่ เมื่อสิ้นเดือน มาตรา ๕๖๐ ถ้าผูเ้ ชา่ ไมช่ ำระคา่ เชา่ ผู้ใหเ้ ช่าจะบอกเลกิ สญั ญาเสยี กไ็ ด้ แต่ถ้าคา่ เชา่ นนั้ จะพงึ สง่ เปน็ รายเดอื น หรอื สง่ เป็นระยะเวลายาวกวา่ รายเดือนข้ึนไป ผู้ใหเ้ ชา่ ตอ้ งบอกกลา่ วแกผ่ ู้เชา่ ก่อนวา่ ให้ชำระค่าเช่าภายในเวลาใด ซ่งึ พึงกำหนดอย่าให้น้อยกวา่ สบิ ห้าวนั มาตรา ๕๖๑ ถ้ามไิ ด้ทำหนงั สอื ลงลายมือช่ือของคสู่ ญั ญาแสดงไว้ตอ่ กนั วา่ ทรพั ย์สินที่ใหเ้ ช่ามี สภาพเป็นอยอู่ ยา่ งไร ทา่ นให้สันนิษฐานไวก้ อ่ นว่าผเู้ ชา่ ได้รบั ทรพั ยส์ ินทเ่ี ช่านัน้ ไปโดยสภาพอนั ซ่อมแซมดแี ลว้ และเมอื่ สญั ญาได้เลกิ หรือระงบั ลง ผเู้ ชา่ ก็ต้องส่งคืนทรัพยส์ นิ ในสภาพเช่นนน้ั เว้นแต่จะพสิ ูจนไ์ ด้ว่าทรพั ยส์ นิ นน้ั มิได้ซ่อมแซมไวด้ ใี นขณะทส่ี ่งมอบ มาตรา ๕๖๒ ผ้เู ช่าจะตอ้ งรับผดิ ในความสูญหายหรือบบุ สลายอย่างใด ๆ อนั เกิดขึน้ แก่ ทรัพยส์ ินทเ่ี ชา่ เพราะความผดิ ของผเู้ ชา่ เอง หรือของบุคคลซึ่งอย่กู บั ผเู้ ชา่ หรอื ของผเู้ ช่าชว่ ง แต่ผเู้ ช่าไมต่ ้องรับผิดในความสูญหายหรอื บุบสลายอันเกิดแตก่ ารใช้ทรัพยส์ นิ น้นั โดยชอบ

106 มาตรา ๕๖๓ คดีอนั ผู้ใหเ้ ช่าจะฟอ้ งผเู้ ชา่ เกีย่ วแกส่ ญั ญาเช่านัน้ ทา่ นห้ามมิใหฟ้ ้องเม่อื พน้ กำหนดหกเดอื นนบั แตว่ ันสง่ คืนทรัพยส์ ินท่ีเชา่ หมวด ๔ ความระงบั แหง่ สญั ญาเชา่ มาตรา ๕๖๔ อนั สญั ญาเชา่ นนั้ ทา่ นว่าย่อมระงบั ไปเมอ่ื สน้ิ กำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ มิพกั ต้องบอกกล่าวก่อน มาตรา ๕๖๕ การเช่าถือสวนน้นั ทา่ นใหส้ ันนษิ ฐานไว้กอ่ นวา่ เชา่ กนั ปีหนงึ่ การเชา่ นาก็ใหส้ ันนษิ ฐานไว้กอ่ นว่าเชา่ กันตลอดฤดทู ำนาปีหนึ่ง มาตรา ๕๖๖ ถ้ากำหนดเวลาเชา่ ไมป่ รากฏในความทตี่ กลงกนั หรอื ไมพ่ ึงสนั นิษฐานไดไ้ ซร้ ท่านวา่ คู่สัญญาฝ่ายใดจะบอกเลกิ สญั ญาเชา่ ในขณะเมอ่ื สดุ ระยะเวลาอนั เปน็ กำหนดชำระคา่ เชา่ ก็ได้ทกุ ระยะ แตต่ ้องบอกกล่าวแกอ่ กี ฝา่ ยหนงึ่ ใหร้ ้ตู ัวก่อนชว่ั กำหนดเวลาชำระคา่ เช่าระยะหน่งึ เปน็ อยา่ งน้อยแต่ไม่จำตอ้ ง บอกกล่าวล่วงหนา้ กว่าสองเดือน มาตรา ๕๖๗ ถ้าทรัพยส์ นิ ซง่ึ ใหเ้ ชา่ สูญหายไปท้ังหมดไซร้ ทา่ นว่าสญั ญาเช่าก็ย่อมระงบั ไป ดว้ ย มาตรา ๕๖๘ ถา้ ทรัพยส์ ินซง่ึ ให้เชา่ สูญหายไปแตเ่ พียงบางสว่ นและมไิ ดเ้ ปน็ เพราะความผิด ของผู้เชา่ ท่านวา่ ผเู้ ช่าจะเรียกให้ลดค่าเช่าลงตามส่วนทสี่ ญู หายก็ได้ ในกรณเี ช่นนี้ ถา้ ผู้เชา่ ไมส่ ามารถใช้สอยทรัพยส์ นิ สว่ นท่ียงั คงเหลอื อยู่นั้นสำเรจ็ ประโยชนไ์ ด้ ดังทไ่ี ดม้ ุง่ หมายเขา้ ทำสญั ญาเช่าไซร้ ท่านวา่ ผ้เู ช่าจะบอกเลกิ สัญญาเสียก็ได้ มาตรา ๕๖๙ อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพยน์ ้ันยอ่ มไมร่ ะงบั ไปเพราะเหตุโอนกรรมสทิ ธ์ิ ทรัพยส์ นิ ซง่ึ ใหเ้ ช่า ผรู้ บั โอนย่อมรบั ไปทง้ั สทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องผู้โอนซง่ึ มีต่อผู้เช่าน้นั ดว้ ย มาตรา ๕๗๐ ในเมอื่ ส้นิ กำหนดเวลาเช่าซงึ่ ได้ตกลงกันไว้นั้นถา้ ผู้เช่ายงั คงครองทรัพยส์ ินอยู่ และผู้ใหเ้ ช่ารคู้ วามนน้ั แลว้ ไม่ทกั ท้วงไซร้ ทา่ นใหถ้ ือว่าค่สู ญั ญาเปน็ อันไดท้ ำสญั ญาใหมต่ อ่ ไปไมม่ กี ำหนดเวลา

107 มาตรา ๕๗๑ ถ้าสญั ญาเช่าทีน่ าไดเ้ ลกิ หรือระงบั ลง เมอ่ื ผ้เู ชา่ ไดเ้ พาะปลกู ขา้ วลงแลว้ ไซร้ ท่านว่าผู้เชา่ ย่อมมสี ิทธิทจี่ ะครองนาน้นั ต่อไปจนกว่าจะเสรจ็ การเก่ยี วเก็บ แต่ตอ้ งเสยี คา่ เช่า ลกั ษณะ ๕ เช่าซอ้ื มาตรา ๕๗๒ อันว่าเชา่ ซือ้ นนั้ คือสญั ญาซึง่ เจา้ ของเอาทรพั ยส์ ินออกให้เชา่ และให้คำมน่ั วา่ จะขายทรพั ยส์ ินนนั้ หรือว่าจะใหท้ รัพยส์ ินนั้นตกเปน็ สทิ ธแิ กผ่ ้เู ช่า โดยเงอื่ นไขทีผ่ ูเ้ ช่าไดใ้ ชเ้ งินเปน็ จำนวนเทา่ นนั้ เท่านค้ี ราว สัญญาเชา่ ซอ้ื นั้นถ้าไมท่ ำเป็นหนงั สอื ทา่ นวา่ เปน็ โมฆะ มาตรา ๕๗๓ ผู้เช่าจะบอกเลกิ สัญญาในเวลาใดเวลาหนงึ่ กไ็ ด้ด้วยสง่ มอบทรพั ยส์ ินกลบั คืน ให้แก่เจา้ ของโดยเสียคา่ ใชจ้ ่ายของตนเอง มาตรา ๕๗๔ ในกรณีผิดนัดไมใ่ ช้เงินสองคราวติด ๆ กนั หรอื กระทำผดิ สัญญาในข้อทีเ่ ป็น ส่วนสำคัญ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ จะบอกเลกิ สญั ญาเสยี ก็ได้ ถ้าเช่นนน้ั บรรดาเงนิ ทไ่ี ดใ้ ช้มาแล้วแต่ก่อน ใหร้ บิ เป็น ของเจา้ ของทรัพยส์ ินและเจ้าของทรพั ยส์ ินชอบทีจ่ ะกลบั เขา้ ครองทรพั ยส์ ินน้ันได้ด้วย อน่งึ ในกรณกี ระทำผดิ สญั ญาเพราะผิดนัดไมใ่ ช้เงินซึ่งเป็นคราวที่สดุ นัน้ ท่านว่าเจ้าของ ทรัพยส์ นิ ชอบทจี่ ะริบบรรดาเงินที่ได้ใชม้ าแลว้ แตก่ ่อนและกลบั เขา้ ครองทรพั ยส์ นิ ไดต้ อ่ เมื่อระยะเวลาใชเ้ งินได้ พ้นกำหนดไปอกี งวดหนงึ่ ลกั ษณะ ๖ จา้ งแรงงาน มาตรา ๕๗๕ อนั วา่ จา้ งแรงงานนัน้ คอื สญั ญาซงึ่ บุคคลคนหนึง่ เรยี กว่าลกู จา้ ง ตกลงจะ ทำงานใหแ้ กบ่ ุคคลอีกคนหน่งึ เรียกวา่ นายจา้ ง และนายจ้างตกลงจะใหส้ นิ จา้ งตลอดเวลาทีท่ ำงานให้ มาตรา ๕๗๖ ถา้ ตามพฤตกิ ารณไ์ ม่อาจจะคาดหมายได้วา่ งานนัน้ จะพงึ ทำใหเ้ ปลา่ ไซร้ ทา่ น ย่อมถือเอาโดยปริยายว่ามคี ำม่นั จะใหส้ ินจา้ ง

108 มาตรา ๕๗๗ นายจ้างจะโอนสทิ ธิของตนใหแ้ ก่บคุ คลภายนอกก็ได้เมอื่ ลกู จ้างยนิ ยอมพรอ้ ม ใจด้วย ลูกจา้ งจะให้บคุ คลภายนอกทำงานแทนตนก็ได้เม่ือนายจา้ งยนิ ยอมพรอ้ มใจดว้ ย ถา้ ค่สู ญั ญาฝา่ ยใดทำการฝา่ ฝนื บทบัญญัตนิ ้ี คู่สัญญาอกี ฝา่ ยหนง่ึ จะบอกเลกิ สัญญาเสียก็ได้ มาตรา ๕๗๘ ถา้ ลูกจา้ งรบั รองโดยแสดงออกชดั หรือโดยปรยิ ายว่าตนเป็นผู้มฝี มี อื พเิ ศษ หาก มาปรากฏว่าไรฝ้ มี ือเช่นนน้ั ไซร้ ทา่ นวา่ นายจา้ งชอบทจี่ ะบอกเลกิ สญั ญาเสยี ได้ มาตรา ๕๗๙ การทลี่ กู จ้างขาดงานไปโดยเหตอุ ันสมควรและช่วั ระยะเวลาน้อยพอสมควรนั้น ท่านวา่ ไม่ทำใหน้ ายจา้ งมีสทิ ธิบอกเลกิ สญั ญาได้ มาตรา ๕๘๐ ถา้ ไม่มกี ำหนดโดยสญั ญาหรือจารตี ประเพณีว่าจะพึงจ่ายสนิ จ้างเมอื่ ไร ทา่ นว่า พงึ จา่ ยเม่ืองานไดท้ ำแลว้ เสรจ็ ถ้าการจา่ ยสินจ้างนั้นไดก้ ำหนดกันไว้เป็นระยะเวลากใ็ ห้พึงจา่ ยเม่อื สดุ ระยะเวลา เชน่ น้ันทุกคราวไป มาตรา ๕๘๑ ถา้ ระยะเวลาท่ไี ดต้ กลงวา่ จ้างกนั น้นั สุดสนิ้ ลงแล้วลูกจ้างยงั คงทำงานอยูต่ อ่ ไป อกี และนายจ้างรดู้ ังนน้ั ก็ไมท่ กั ท้วงไซร้ ท่านให้สนั นิษฐานไวก้ อ่ นวา่ คู่สัญญาเป็นอนั ไดท้ ำสญั ญาจา้ งกนั ใหมโ่ ดย ความอย่างเดยี วกันกบั สัญญาเดมิ แตค่ ่สู ญั ญาฝ่ายใดฝา่ ยหนง่ึ อาจจะเลิกสญั ญาเสียได้ด้วยการบอกกล่าวตาม ความในมาตราต่อไปน้ี มาตรา ๕๘๒ ถ้าคู่สญั ญาไม่ได้กำหนดลงไว้ในสญั ญาวา่ จะจา้ งกนั นานเทา่ ไร ท่านวา่ ฝา่ ยใด ฝ่ายหนง่ึ จะเลกิ สญั ญาดว้ ยการบอกกล่าวลว่ งหน้าในเมือ่ ถึงหรอื กอ่ นจะถงึ กำหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหน่งึ เพ่อื ใหเ้ ปน็ ผลเลกิ สญั ญากันเม่อื ถงึ กำหนดจา่ ยสนิ จา้ งคราวถัดไปข้างหน้ากอ็ าจทำได้ แต่ไม่จำต้องบอกกล่าว ล่วงหน้ากวา่ สามเดอื น อนึ่ง ในเมอ่ื บอกกล่าวดงั ว่านี้ นายจา้ งจะจา่ ยสนิ จา้ งแกล่ กู จา้ งเสียให้ครบจำนวนทจี่ ะตอ้ งจา่ ย จนถงึ เวลาเลกิ สญั ญาตามกำหนดทบ่ี อกกลา่ วนนั้ ทเี ดียว แลว้ ปลอ่ ยลกู จา้ งจากงานเสยี ในทนั ทกี ็อาจทำได้ มาตรา ๕๘๓ ถ้าลกู จา้ งจงใจขดั คำสง่ั ของนายจ้างอนั ชอบดว้ ยกฎหมายกด็ ี หรอื ละเลยไม่ นำพาต่อคำสัง่ เช่นวา่ นนั้ เป็นอาจิณกด็ ี ละทงิ้ การงานไปเสยี กด็ ี กระทำความผิดอยา่ งร้ายแรงกด็ ี หรอื ทำ ประการอ่ืนอันไมส่ มแกก่ ารปฏบิ ัติหนา้ ที่ของตนใหล้ ลุ ่วงไปโดยถูกตอ้ งและสจุ รติ กด็ ี ท่านว่านายจา้ งจะไลอ่ อก โดยมพิ ักตอ้ งบอกกลา่ วลว่ งหน้าหรอื ใหส้ ินไหมทดแทนกไ็ ด้

109 มาตรา ๕๘๔ ถ้าจา้ งแรงงานรายใดมีสาระสำคญั อยู่ท่ีตวั บคุ คลผเู้ ปน็ นายจ้าง ทา่ นว่าสัญญา จ้างเชน่ นั้นยอ่ มระงับไปด้วยมรณะแหง่ นายจา้ ง มาตรา ๕๘๕ เมื่อการจ้างแรงงานสุดส้ินลงแล้ว ลูกจ้างชอบท่จี ะไดร้ บั ใบสำคญั แสดงว่า ลกู จา้ งนนั้ ได้ทำงานมานานเท่าไรแ่ ละงานท่ีทำนัน้ เปน็ งานอยา่ งไร มาตรา ๕๘๖ ถา้ ลกู จ้างเป็นผซู้ ง่ึ นายจ้างไดจ้ ้างเอามาแตต่ ่างถ่นิ โดยนายจ้างออกเงินค่า เดินทางให้ไซร้ เม่อื การจา้ งแรงงานสดุ ส้นิ ลง และถ้ามิไดก้ ำหนดกนั ไว้เป็นอย่างอน่ื ในสัญญาแลว้ ทา่ นวา่ นายจ้างจำต้องใชเ้ งินคา่ เดนิ ทางขากลบั ให้ แต่จะตอ้ งเปน็ ดงั ตอ่ ไปนี้ คือ (๑) สญั ญามิได้เลกิ หรือระงบั เพราะการกระทำหรอื ความผดิ ของลกู จา้ ง และ (๒) ลกู จ้างกลับไปยงั ถ่ินท่ไี ดจ้ ้างเอามาภายในเวลาอันสมควร ลกั ษณะ ๗ จา้ งทำของ มาตรา ๕๘๗ อนั ว่าจ้างทำของนั้น คอื สัญญาซง่ึ บุคคลคนหนึง่ เรยี กวา่ ผู้รบั จา้ ง ตกลงจะทำ การงานส่ิงใดส่งิ หนงึ่ จนสำเรจ็ ใหแ้ กบ่ ุคคลอีกคนหนง่ึ เรยี กวา่ ผ้วู ่าจา้ ง และผวู้ า่ จา้ งตกลงจะใหส้ นิ จ้างเพ่ือ ผลสำเรจ็ แหง่ การทท่ี ำนั้น มาตรา ๕๘๘ เครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ สำหรบั ใชท้ ำการงานใหส้ ำเรจ็ นั้น ผรู้ บั จ้างเป็นผจู้ ัดหา มาตรา ๕๘๙ ถ้าสมั ภาระสำหรับทำการงานท่ีกลา่ วนั้นผรู้ บั จา้ งเปน็ ผจู้ ดั หา ท่านวา่ ตอ้ งจดั หา ชนิดท่ีดี มาตรา ๕๙๐ ถา้ สัมภาระน้นั ผวู้ ่าจ้างเป็นผู้จดั หามาสง่ ทา่ นใหผ้ รู้ ับจา้ งใชส้ ัมภาระดว้ ยความ ระมัดระวงั และประหยัดอย่าใหเ้ ปลอื งเสียเปล่า เมือ่ ทำการงานสำเรจ็ แล้ว มีสัมภาระเหลืออยกู่ ็ให้คนื แกผ่ วู้ ่า จ้าง มาตรา ๕๙๑ ถ้าความชำรุดบกพรอ่ งหรอื ความชักช้าในการทีท่ ำนั้นเกิดขึ้นเพราะสภาพแหง่ สัมภาระซ่งึ ผวู้ า่ จา้ งสง่ ใหก้ ด็ ี เพราะคำสงั่ ของผวู้ า่ จ้างก็ดี ท่านวา่ ผู้รบั จา้ งไม่ตอ้ งรบั ผิด เวน้ แตจ่ ะไดร้ ู้อยแู่ ลว้ ว่า สัมภาระนัน้ ไมเ่ หมาะหรือว่าคำสง่ั น้ันไมถ่ ูกตอ้ งและมไิ ด้บอกกลา่ วตักเตอื น

110 มาตรา ๕๙๒ ผูร้ บั จ้างจำตอ้ งยอมให้ผู้ว่าจ้างหรือตวั แทนของผูว้ ่าจา้ งตรวจตราการงานได้ ตลอดเวลาทท่ี ำอยู่นั้น มาตรา ๕๙๓ ถ้าผ้รู บั จา้ งไมเ่ รม่ิ ทำการในเวลาอนั ควร หรอื ทำการชกั ช้าฝา่ ฝืนข้อกำหนดแหง่ สัญญาก็ดี หรือทำการชักชา้ โดยปราศจากความผิดของผวู้ ่าจา้ ง จนอาจคาดหมายลว่ งหนา้ ได้วา่ การนน้ั จะไม่ สำเรจ็ ภายในกำหนดเวลาท่ีได้ตกลงกนั ไวก้ ด็ ี ผวู้ า่ จา้ งชอบทจ่ี ะเลิกสัญญาเสียได้ มิพักตอ้ งรอคอยใหถ้ งึ เวลา กำหนดสง่ มอบของนั้นเลย มาตรา ๕๙๔ ถา้ ในระหวา่ งเวลาท่ีทำการอยู่น้นั เป็นวสิ ยั จะคาดหมายลว่ งหนา้ ไดแ้ น่นอนวา่ การที่ทำนั้นจะสำเรจ็ อย่างบกพร่องหรือจะเปน็ ไปในทางอนั ฝา่ ฝืนข้อสญั ญาเพราะความผิดของผรู้ ับจา้ งไซร้ ผวู้ ่าจ้างจะบอกกล่าวใหผ้ รู้ บั จา้ งแกไ้ ขสง่ิ ทบ่ี กพร่องใหค้ ืนดี หรือทำการให้เปน็ ไปตามสัญญาภายในเวลาอัน สมควรซงึ่ กำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้นกไ็ ด้ ถา้ และคลาดกำหนดนัน้ ไป ทา่ นวา่ ผ้วู า่ จา้ งชอบทจี่ ะเอาการนั้นให้ บุคคลภายนอกซ่อมแซมหรอื ทำต่อไปได้ ซึ่งผู้รบั จา้ งจะตอ้ งเสย่ี งความเสียหายและออกค่าใชจ้ า่ ยทั้งส้นิ มาตรา ๕๙๕ ถา้ ผู้รบั จา้ งเป็นผจู้ ัดหาสัมภาระไซร้ ความรับผดิ ของผู้รบั จ้างในการบกพร่องนั้น ทา่ นให้บงั คบั ดว้ ยบทแหง่ ประมวลกฎหมายนี้ ลักษณะซอ้ื ขาย มาตรา ๕๙๖ ถา้ ผูร้ บั จ้างสง่ มอบการที่ทำไม่ทนั เวลาท่ีไดก้ ำหนดไว้ในสญั ญากด็ ี หรอื ถ้าไมไ่ ด้ กำหนดเวลาไวใ้ นสญั ญาเม่ือล่วงพน้ เวลาอันควรแก่เหตกุ ็ดี ผวู้ า่ จา้ งชอบที่จะลดสนิ จา้ งลง หรือถา้ สาระสำคญั แห่งสญั ญาอยทู่ ่เี วลา ก็ชอบทจ่ี ะเลกิ สญั ญาได้ มาตรา ๕๙๗ ถา้ ผู้วา่ จา้ งยอมรบั มอบการท่ีทำนั้นแล้วโดยมิได้อดิ เอือ้ น ผรู้ ับจา้ งกไ็ มต่ อ้ งรบั ผดิ เพ่อื การทส่ี ง่ มอบเนนิ่ ชา้ มาตรา ๕๙๘ ถา้ ผวู้ ่าจา้ งยอมรบั มอบการทที่ ำนั้นแลว้ ทงั้ ชำรุดบกพรอ่ งมไิ ด้อิดเออื้ นโดย แสดงออกชดั หรอื โดยปริยาย ผ้รู บั จ้างก็ไม่ตอ้ งรบั ผดิ เวน้ แตค่ วามชำรุดบกพรอ่ งนน้ั เปน็ เช่นจะไม่พงึ พบได้ ในขณะเมอื่ รบั มอบ หรอื ผรู้ บั จ้างไดป้ ิดบงั ความนน้ั เสยี มาตรา ๕๙๙ ในกรณีทสี่ ง่ มอบเนน่ิ ช้าไปก็ดี หรอื สง่ มอบการทีท่ ำชำรดุ บกพร่องกด็ ี ท่านวา่ ผูว้ ่าจ้างชอบทจี่ ะยึดหน่วงสนิ จ้างไวไ้ ด้ เวน้ แต่ผ้รู บั จา้ งจะใหป้ ระกันตามสมควร

111 มาตรา ๖๐๐ ถ้ามไิ ดก้ ำหนดไวเ้ ป็นอย่างอน่ื ในสญั ญาไซร้ ทา่ นวา่ ผรู้ บั จ้างจะต้องรบั ผิดเพื่อ การทท่ี ำชำรุดบกพรอ่ งเพยี งแต่ทป่ี รากฏขึน้ ภายในปีหนึ่งนบั แตว่ นั สง่ มอบ หรอื ท่ปี รากฏข้ึนภายในหา้ ปี ถา้ การ ท่ที ำน้นั เปน็ สงิ่ ปลูกสรา้ งกบั พ้นื ดิน นอกจากเรอื นโรงทำด้วยเครอ่ื งไม้ แต่ขอ้ จำกดั นที้ า่ นมใิ หใ้ ช้บงั คับเม่อื ปรากฏว่าผรู้ บั จา้ งไดป้ ดิ บงั ความชำรดุ บกพร่องน้ัน มาตรา ๖๐๑ ทา่ นห้ามมิให้ฟอ้ งผรู้ ับจา้ งเมื่อพ้นปหี นง่ึ นับแตว่ นั การชำรดุ บกพรอ่ งได้ปรากฏ ขึ้น มาตรา ๖๐๒ อันสินจา้ งนน้ั พงึ ใชใ้ ห้เม่อื รับมอบการทีท่ ำ ถา้ การทที่ ำน้นั มกี ำหนดวา่ จะส่งรบั กนั เปน็ สว่ น ๆ และไดร้ ะบุจำนวนสนิ จ้างไว้เป็นสว่ น ๆ ไซร้ ทา่ นว่าพงึ ใชส้ นิ จ้างเพอื่ การแตล่ ะส่วนในเวลารบั เอาส่วนนน้ั มาตรา ๖๐๓ ถ้าผูร้ บั จ้างเปน็ ผจู้ ัดหาสัมภาระ และการท่จี ้างทำนนั้ พังทลายหรือบบุ สลายลง กอ่ นไดส้ ง่ มอบกนั ถกู ต้องไซร้ ทา่ นวา่ ความวินาศอันนั้นตกเปน็ พบั แกผ่ รู้ บั จา้ ง หากความวนิ าศน้ันมไิ ดเ้ ป็น เพราะการกระทำของผู้ว่าจ้าง ในกรณีเช่นวา่ นี้ สินจ้างก็เปน็ อันไมต่ อ้ งใช้ มาตรา ๖๐๔ ถ้าผวู้ า่ จ้างเป็นผจู้ ัดหาสมั ภาระ และการท่ีจา้ งทำนัน้ พงั ทลายหรือบบุ สลายลง กอ่ นได้สง่ มอบกันถกู ต้องไซร้ ท่านว่าความวนิ าศน้นั ตกเปน็ พับแกผ่ ้วู า่ จา้ ง หากความวินาศน้ันมไิ ด้เปน็ เพราะ การกระทำของผรู้ ับจา้ ง ในกรณเี ชน่ ว่าน้ี สนิ จ้างก็เป็นอันไมต่ ้องใช้ เว้นแตค่ วามวินาศนั้นเป็นเพราะการกระทำของผู้ วา่ จ้าง มาตรา ๖๐๕ ถา้ การทจ่ี ้างยงั ทำไม่แลว้ เสรจ็ อยตู่ ราบใด ผู้วา่ จา้ งอาจบอกเลิกสญั ญาได้ เมื่อ เสยี ค่าสนิ ไหมทดแทนให้แกผ่ รู้ บั จา้ งเพ่อื ความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแตก่ ารเลิกสัญญานั้น มาตรา ๖๐๖ ถา้ สาระสำคัญแหง่ สญั ญาอยทู่ ีค่ วามรคู้ วามสามารถของตัวผรู้ บั จ้างและผรู้ ับ จ้างตายกด็ ี หรอื ตกเป็นผู้ไมส่ ามารถทำการทรี่ ับจ้างนัน้ ตอ่ ไปได้ดว้ ยมิใชเ่ พราะความผดิ ของตนกด็ ี ทา่ นวา่ สญั ญาน้ันยอ่ มเปน็ อันส้นิ ลง ถา้ และการสว่ นท่ีไดท้ ำข้ึนแล้วนัน้ เป็นประโยชน์แกผ่ ู้วา่ จา้ งไซร้ ท่านว่าผู้วา่ จา้ งจำตอ้ งรบั เอาไวแ้ ละใช้สนิ จา้ งตามสมควรแกส่ ว่ นน้นั ๆ

112 มาตรา ๖๐๗ ผู้รบั จา้ งจะเอาการทร่ี ับจา้ งทงั้ หมดหรอื แบง่ การแตบ่ างสว่ นไปใหผ้ รู้ บั จา้ งช่วง ทำอีกทอดหน่งึ กไ็ ด้ เวน้ แต่สาระสำคญั แหง่ สญั ญานน้ั จะอยทู่ คี่ วามรู้ความสามารถของตัวผรู้ บั จ้าง แตผ่ รู้ ับจา้ ง คงตอ้ งรบั ผดิ เพ่อื ความประพฤตหิ รือความผิดอยา่ งใด ๆ ของผ้รู บั จ้างช่วง ลักษณะ ๘ รับขน มาตรา ๖๐๘ อันวา่ ผขู้ นส่งภายในความหมายแหง่ กฎหมายลักษณะน้ี คือบุคคลผูร้ บั ขนส่ง ของหรอื คนโดยสารเพอ่ื บำเหนจ็ เป็นทางคา้ ปกติของตน มาตรา ๖๐๙ การรบั ขนของหรือคนโดยสารในหน้าทีข่ องกรมรถไฟหลวงแหง่ กรงุ สยาม และ การขนไปรษณยี ภณั ฑ์ในหน้าทก่ี รมไปรษณียโ์ ทรเลขน้นั ทา่ นใหบ้ งั คบั ตามกฎหมายและกฎขอ้ บังคบั สำหรบั ทบวงการนั้น ๆ รับขนของทางทะเล ทา่ นใหบ้ งั คบั ตามกฎหมายและกฎขอ้ บงั คับวา่ ด้วยการนัน้ หมวด ๑ รับขนของ มาตรา ๖๑๐ อันบคุ คลผู้ทำความตกลงกบั ผขู้ นสง่ เพื่อใหข้ นของสง่ ไปนน้ั เรียกว่าผู้สง่ หรอื ผู้ ตราสง่ บคุ คลผซู้ ่ึงเขาสง่ ของไปถงึ น้นั เรียกวา่ ผรู้ บั ตราสง่ บำเหนจ็ อนั จะตอ้ งจา่ ยใหเ้ พือ่ การขนสง่ ของนนั้ เรียกวา่ คา่ ระวางพาหนะ มาตรา ๖๑๑ อนั วา่ อปุ กรณ์แห่งคา่ ระวางพาหนะนน้ั ไดแ้ ก่ค่าใชจ้ ่ายอยา่ งใด ๆ ตามจารตี ประเพณอี นั ผู้ขนส่งได้เสียไปโดยควรในระหวา่ งขนสง่ มาตรา ๖๑๒ ถา้ ผูข้ นส่งเรียกเอาใบกำกบั ของ ผสู้ ่งต้องทำให้ ใบกำกับของนน้ั ต้องแสดงรายการตอ่ ไปน้ี คอื (๑) สภาพและนำ้ หนกั หรอื ขนาดแหง่ ของทส่ี ่ง กบั สภาพ จำนวน และเครอื่ งหมายแหง่ หบี หอ่ (๒) ตำบลท่ีกำหนดใหส้ ง่ (๓) ชือ่ หรอื ย่ีหอ้ และสำนักของผรู้ บั ตราสง่

113 (๔) ตำบลและวนั ที่ออกใบกำกบั ของนัน้ อนงึ่ ใบกำกบั ของน้ันต้องลงลายมือชือ่ ผสู้ ง่ เป็นสำคัญ มาตรา ๖๑๓ ถ้าผสู้ ง่ เรยี กเอาใบตราส่ง ผู้ขนสง่ ก็ต้องทำให้ ใบตราสง่ นัน้ ต้องแสดงรายการต่อไปน้ี คือ (๑) รายการดงั กลา่ วไว้ในมาตรา ๖๑๒ อนมุ าตรา ๑, ๒ และ ๓ (๒) ช่อื หรอื ย่ีห้อของผสู้ ง่ (๓) จำนวนค่าระวางพาหนะ (๔) ตำบลและวันทีอ่ อกใบตราส่ง อนงึ่ ใบตราส่งนั้นตอ้ งลงลายมอื ชือ่ ผ้ขู นส่งเป็นสำคญั มาตรา ๖๑๔ แม้วา่ ใบตราสง่ จะได้ออกให้แกบ่ ุคคลผใู้ ดโดยนามกต็ าม ทา่ นวา่ ยอ่ มสลักหลงั โอนใหก้ ันได้ เวน้ แต่จะมขี อ้ ห้ามการสลกั หลังไว้ มาตรา ๖๑๕ ถ้าได้ทำใบตราสง่ ใหแ้ ก่กัน ทา่ นว่าของน้นั จะรบั มอบเอาไปได้ตอ่ เมือ่ เวนคนื ใบ ตราส่ง หรือเม่อื ผรู้ บั ตราส่งให้ประกันตามควร มาตรา ๖๑๖ ผขู้ นสง่ จะตอ้ งรบั ผิดในการที่ของอนั เขาได้มอบหมายแกต่ นนัน้ สูญหายหรือบบุ สลายหรอื ส่งมอบชกั ชา้ เว้นแตจ่ ะพิสจู น์ไดว้ ่าการสญู หายหรอื บุบสลายหรอื ชักชา้ นัน้ เกิดแตเ่ หตุสุดวิสยั หรือ เกิดแต่สภาพแหง่ ของนน้ั เอง หรอื เกิดเพราะความผดิ ของผสู้ ง่ หรอื ผรู้ บั ตราสง่ มาตรา ๖๑๗ ผขู้ นสง่ จะตอ้ งรบั ผิดในการทข่ี องสญู หายหรอื บุบสลายหรือสง่ ชกั ช้าอันเกดิ แต่ ความผิดของผูข้ นส่งคนอนื่ หรือบคุ คลอ่ืนซงึ่ ตนหากได้มอบหมายของน้นั ไปอกี ทอดหนึ่ง มาตรา ๖๑๘ ถ้าของนั้นไดส้ ่งไปโดยมผี ขู้ นสง่ หลายคนหลายทอด ท่านว่าผู้ขนสง่ ทง้ั นัน้ จะต้องรบั ผดิ ร่วมกันในการสูญหาย บบุ สลาย หรือสง่ ชกั ชา้ มาตรา ๖๑๙ ถ้าของเปน็ สภาพอันจะกอ่ ให้เกิดอนั ตรายได้ หรือเปน็ สภาพเกลอื กจะกอ่ ใหเ้ กดิ เสยี หายแก่บุคคลหรอื ทรัพย์สินไซร้ ผสู้ ่งต้องแสดงสภาพแหง่ ของน้นั ไว้ก่อนทำสญั ญา ถ้ามไิ ดท้ ำเชน่ นนั้ ผสู้ ่ง จะต้องรบั ผิดในการเสียหายไมว่ า่ อยา่ งใด ๆ อนั เกิดแตข่ องนนั้

114 มาตรา ๖๒๐ ผขู้ นสง่ ไม่ตอ้ งรับผิดในเงนิ ทองตรา ธนบตั ร ธนาคารบัตร ต๋ัวเงิน พนั ธบัตร ใบ หนุ้ ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้า อัญมณี และของมคี ่าอย่างอ่นื ๆ หากมิได้รับบอกราคาหรอื สภาพแหง่ ของไว้ใน ขณะท่สี ่งมอบแก่ตน แตถ่ า้ ของนนั้ ไดบ้ อกราคา ทา่ นวา่ ความรับผิดของผขู้ นสง่ ก็ยอ่ มจำกัดเพียงไมเ่ กินราคาทบี่ อก มาตรา ๖๒๑ คา่ สินไหมทดแทนในการสง่ มอบของชกั ชา้ น้ัน ทา่ นหา้ มมิให้คดิ เกนิ กวา่ จำนวน เชน่ จะพึงกำหนดให้ในเหตุของสญู หายสิน้ เชิง มาตรา ๖๒๒ ของถงึ เมอื่ ใด ผขู้ นสง่ ต้องบอกกลา่ วแก่ผรู้ บั ตราสง่ มาตรา ๖๒๓ ความรบั ผิดของผ้ขู นส่งยอ่ มสดุ ส้นิ ลงในเมอื่ ผรู้ บั ตราสง่ ได้รบั เอาของไวแ้ ลว้ โดย ไมอ่ ิดเอือ้ น และไดใ้ ช้คา่ ระวางพาหนะกบั ทั้งอปุ กรณเ์ สรจ็ แลว้ แตค่ วามท่ีกล่าวน้ที ่านมใิ ห้ใชบ้ งั คบั ในกรณีที่ของสญู หายหรอื บุบสลายเหน็ ไมไ่ ด้แต่สภาพ ภายนอกแหง่ ของน้ัน หากว่าไดบ้ อกกลา่ วความสญู หายหรอื บุบสลายแกผ่ ู้ขนสง่ ภายในแปดวันนบั แต่วนั ส่งมอบ อนึ่ง บทบญั ญัตทิ งั้ หลายนีท้ ่านมิให้ใช้บงั คบั ในกรณที ีม่ กี ารทจุ รติ หรอื ประมาทเลนิ เล่ออยา่ ง ร้ายแรงอนั จะปรบั เอาเปน็ ความผิดของผขู้ นสง่ ได้ มาตรา ๖๒๔ ในข้อความรบั ผดิ ของผู้ขนสง่ ในการทีข่ องสญู หายหรอื บบุ สลายหรอื ส่งชักช้า นน้ั ท่านห้ามมิใหฟ้ ้องเมอื่ พ้นกำหนดปหี นงึ่ นับแต่สง่ มอบ หรอื ปหี นึง่ นบั แตว่ นั ท่ีควรจะไดส้ ง่ มอบ เวน้ แตใ่ น กรณีทมี่ กี ารทจุ รติ มาตรา ๖๒๕ ใบรบั ใบตราส่ง หรือเอกสารอ่ืน ๆ ทำนองนนั้ กด็ ี ซึ่งผู้ขนสง่ ออกให้แกผ่ ้สู ง่ นน้ั ถ้ามขี ้อความยกเวน้ หรอื จำกดั ความรบั ผิดของผู้ขนส่งประการใด ทา่ นว่าความน้ันเป็นโมฆะ เวน้ แต่ผสู้ ง่ จะได้ แสดงความตกลงดว้ ยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกดั ความรบั ผิดเชน่ วา่ นนั้ มาตรา ๖๒๖ ตราบใดของยงั อยู่ในมอื ผขู้ นสง่ ตราบนัน้ ผู้สง่ หรือถ้าได้ทำใบตราสง่ ผทู้ รงใบ ตราส่งนนั้ อาจจะใหผ้ ขู้ นส่งงดการส่งของนนั้ ไป หรอื ใหส้ ่งกลับคนื หรอื ใหจ้ ดั การแกข่ องนน้ั เปน็ อย่างอื่น ประการใดกไ็ ด้ ในเหตุเชน่ น้ี ผ้ขู นสง่ ชอบทีจ่ ะไดร้ ับเงนิ คา่ ระวางพาหนะตามสว่ นแห่งระยะทางทีไ่ ด้จัดการขน สง่ ไปแล้ว กบั ทงั้ ค่าใช้จา่ ยอ่นื ๆ ท่ีตอ้ งเสียไปเพราะเหตุที่บอกงดหรอื เพราะส่งของกลบั คนื หรอื เพราะจดั การ เป็นประการอื่นน้ัน

115 มาตรา ๖๒๗ เมือ่ ของถึงตำบลท่กี ำหนดใหส้ ง่ และผูร้ บั ตราสง่ ไดเ้ รยี กใหส้ ง่ มอบแล้ว ท่านว่า แต่นั้นไปสิทธทิ ้งั หลายของผสู้ ่งอนั เกิดแตส่ ญั ญารบั ขนน้ันยอ่ มตกไปได้แกผ่ รู้ บั ตราสง่ มาตรา ๖๒๘ ถา้ วา่ ของสญู หายไปเพราะเหตสุ ดุ วิสัย ท่านว่าผู้ขนส่งไมม่ สี ทิ ธจิ ะไดเ้ งนิ คา่ ระวางพาหนะ ถา้ และไดร้ บั ไปไว้ก่อนแล้วเทา่ ใดตอ้ งสง่ คืนจงสิน้ มาตรา ๖๒๙ ถา้ ผูข้ นส่งคนใดส่งมอบของเสยี แตก่ ่อนไดร้ บั คา่ ระวางพาหนะและอปุ กรณไ์ ซร้ ท่านว่าผูข้ นส่งคนนัน้ ยงั คงต้องรับผิดตอ่ ผ้ขู นสง่ กอ่ น ๆ ตนเพอ่ื ค่าระวางพาหนะและอุปกรณ์ซง่ึ ยงั คา้ งชำระแก่ เขา มาตรา ๖๓๐ ผ้ขู นสง่ ชอบทจี่ ะยดึ หนว่ งเอาของไวก้ อ่ นได้ตามทจ่ี ำเปน็ เพื่อประกนั การใช้เงนิ คา่ ระวางพาหนะและอปุ กรณ์ มาตรา ๖๓๑ ถา้ หาตัวผูร้ บั ตราสง่ ไมพ่ บก็ดี หรือถ้าผรู้ ับตราส่งบอกปดั ไมย่ อมรบั มอบของก็ดี ผขู้ นส่งตอ้ งบอกกล่าวไปยังผูส้ ง่ ทันที และถามเอาคำส่งั ของผ้สู ง่ ถา้ หากว่าพฤตกิ ารณข์ ัดขวางไมส่ ามารถจะทำไดด้ งั นกี้ ด็ ี หรอื ถา้ ผู้สง่ ละเลยเสียไม่สง่ คำส่ังมา ในเวลาอันควรกด็ ี หรอื สง่ มาเปน็ คำสง่ั อันไมอ่ าจปฏิบัตใิ หเ้ ปน็ ไปไดก้ ็ดี ทา่ นว่าผ้ขู นส่งมอี ำนาจทจ่ี ะเอาของไป ฝากไว้ ณ สำนักงานฝากทรพั ยไ์ ด้ ถ้าของน้ันเปน็ ลหภุ ัณฑข์ องสดเสยี ได้ และการหน่วงชา้ ไวย้ อ่ มเปน็ การเส่ยี งความเสยี หายกด็ ี หรอื ถ้าราคาของนน้ั ดไู มน่ า่ จะคุ้มค่าระวางพาหนะและอุปกรณ์กด็ ี ผขู้ นส่งจะเอาของนัน้ ออกขายทอดตลาดเสยี กไ็ ด้ อน่ึง การเอาของไปฝากหรือเอาออกขายทอดตลาดเชน่ ว่านั้น ผู้ขนส่งต้องบอกกล่าวแกผ่ ูส้ ง่ หรอื ผู้รบั ตราส่งมิใหช้ ักชา้ เวน้ แตไ่ มส่ ามารถจะทำได้ ถา้ และผขู้ นสง่ ละเลยเสียไมบ่ อกกล่าวไซร้ ทา่ นว่าจะต้อง รบั ผิดใช้ค่าเสียหาย มาตรา ๖๓๒ เมื่อเอาของออกขายทอดตลาดแล้วได้เงินจำนวนสทุ ธเิ ท่าใด ใหผ้ ขู้ นสง่ หัก เอาไว้เปน็ เงนิ ค่าระวางพาหนะและค่าอุปกรณ์ ถา้ และยงั มเี งนิ เหลืออยู่อกี เท่าใดต้องสง่ มอบให้แกบ่ คุ คลผ้คู วรท่ี จะได้เงินนน้ั โดยพลนั มาตรา ๖๓๓ ถ้าของนัน้ ไดข้ นสง่ ไปโดยมผี ้ขู นส่งหลายคนหลายทอด ทา่ นว่าผู้ขนสง่ ทอดหลัง ทีส่ ดุ อาจใชส้ ิทธดิ งั กลา่ วไวใ้ นมาตรา ๖๓๐, ๖๓๑, ๖๓๒ นน้ั ในการเรียกคา่ ระวางพาหนะและอุปกรณ์อนั ค้าง ชำระแกผ่ ู้ขนสง่ ท่ัวทกุ คนได้

116 หมวด ๒ รบั ขนคนโดยสาร มาตรา ๖๓๔ ผู้ขนสง่ จะตอ้ งรบั ผดิ ต่อคนโดยสารในความเสยี หายอนั เกดิ แก่ตัวเขา หรือใน ความเสอื่ มเสียอยา่ งใด ๆ อนั เป็นผลโดยตรงแตก่ ารทตี่ ้องชักช้าในการขนสง่ เว้นแต่การเสยี หายหรอื ชกั ชา้ นั้น เกดิ แตเ่ หตสุ ดุ วิสัยหรอื เกดิ แต่ความผิดของคนโดยสารนั้นเอง มาตรา ๖๓๕ เครือ่ งเดนิ ทางหากไดม้ อบหมายแกผ่ ขู้ นสง่ ทนั เวลา ท่านว่าต้องสง่ มอบในขณะ คนโดยสารถึง มาตรา ๖๓๖ ถ้าคนโดยสารไมร่ ับมอบเครอ่ื งเดินทางของตนภายในเวลาเดือนหนง่ึ นบั แต่วนั เครอ่ื งเดนิ ทางนัน้ ถงึ ไซร้ ผู้ขนส่งอาจเอาออกขายทอดตลาดเสียได้ ถ้าเคร่อื งเดนิ ทางน้นั มีสภาพเปน็ ของสดของเสยี ได้ ผขู้ นส่งอาจเอาออกขายทอดตลาดได้ เม่ือ ของนัน้ ถึงแลว้ รออยลู่ ่วงเวลากว่ายสี่ ิบสี่ชว่ั โมง บทบญั ญตั ิในมาตรา ๖๓๒ นน้ั ท่านใหใ้ ชบ้ งั คับแก่คดดี ังว่านดี้ ้วยอนโุ ลมตามควร มาตรา ๖๓๗ สทิ ธิและความรบั ผดิ ของผขู้ นสง่ เพอื่ เครอ่ื งเดนิ ทางอันไดม้ อบหมายแก่ผขู้ นส่ง นั้น แมผ้ ู้ขนสง่ จะมไิ ด้คดิ เอาคา่ ขนส่งตา่ งหากกต็ าม ทา่ นใหบ้ ังคับตามความในหมวด ๑ มาตรา ๖๓๘ ผูข้ นสง่ ไมต่ ้องรับผดิ ในเครอ่ื งเดินทางซ่ึงตนมิไดร้ บั มอบหมาย เว้นแตเ่ มอ่ื เครอื่ ง เดินทางนนั้ สญู หายหรือบบุ สลายไปเพราะความผิดของผูข้ นส่งหรอื ลูกจ้างของผูข้ นสง่ มาตรา ๖๓๙ ตว๋ั ใบรบั หรอื เอกสารอ่นื ทำนองเช่นวา่ นีอ้ นั ผขู้ นสง่ ได้สง่ มอบแก่คนโดยสาร น้นั หากมขี อ้ ความยกเว้นหรือจำกดั ความรบั ผดิ ของผูข้ นสง่ อย่างใด ๆ ทา่ นวา่ ข้อความนนั้ เปน็ โมฆะ เว้นแต่คน โดยสารจะไดต้ กลงดว้ ยชัดแจ้งในการยกเวน้ หรอื จำกดั ความรับผดิ เช่นนั้น

117 ลกั ษณะ ๙ ยืม หมวด ๑ ยืมใชค้ งรูป มาตรา ๖๔๐ อันว่ายืมใชค้ งรปู น้ัน คอื สญั ญาซ่งึ บคุ คลคนหนงึ่ เรียกว่าผใู้ ห้ยืม ใหบ้ ุคคลอกี คนหน่ึง เรียกวา่ ผูย้ ืม ใช้สอยทรัพยส์ นิ สงิ่ ใดสง่ิ หนงึ่ ได้เปลา่ และผ้ยู มื ตกลงวา่ จะคืนทรพั ยส์ ินนัน้ เมอ่ื ได้ใชส้ อย เสรจ็ แลว้ มาตรา ๖๔๑ การใหย้ มื ใช้คงรปู นน้ั ท่านวา่ ย่อมบรบิ รู ณ์ตอ่ เมื่อสง่ มอบทรพั ย์สนิ ซ่งึ ใหย้ มื มาตรา ๖๔๒ ค่าฤชาธรรมเนยี มในการทำสัญญาก็ดี คา่ สง่ มอบและค่าสง่ คืนทรพั ยส์ นิ ซงึ่ ยมื ก็ ดี ย่อมตกแก่ผยู้ มื เป็นผู้เสีย มาตรา ๖๔๓ ทรพั ยส์ ินซงึ่ ยมื น้ัน ถ้าผยู้ มื เอาไปใชก้ ารอยา่ งอื่นนอกจากการอนั เปน็ ปกตแิ ก่ ทรพั ยส์ นิ นน้ั หรอื นอกจากการอนั ปรากฏในสญั ญาก็ดี เอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยกด็ ี เอาไปไว้นานกว่าที่ ควรจะเอาไวก้ ด็ ี ท่านว่าผู้ยืมจะต้องรบั ผิดในเหตุทรัพยส์ นิ นนั้ สูญหายหรือบบุ สลายไปอย่างหนงึ่ อยา่ งใด แมถ้ ึง จะเปน็ เพราะเหตสุ ดุ วสิ ยั เวน้ แต่จะพสิ ูจน์ไดว้ า่ ถงึ อย่างไร ๆ ทรัพยส์ นิ น้ันก็คงจะต้องสญู หายหรอื บุบสลายอยู่ นั่นเอง มาตรา ๖๔๔ ผู้ยมื จำตอ้ งสงวนทรัพยส์ นิ ซ่งึ ยมื ไปเหมอื นเชน่ วญิ ญชู นจะพงึ สงวนทรพั ยส์ ิน ของตนเอง มาตรา ๖๔๕ ในกรณีท้ังหลายดงั กล่าวไวใ้ นมาตรา ๖๔๓ นนั้ กด็ ี หรือถ้าผู้ยมื ประพฤตฝิ า่ ฝืน ต่อความในมาตรา ๖๔๔ ก็ดี ผู้ให้ยืมจะบอกเลกิ สัญญาเสยี กไ็ ด้ มาตรา ๖๔๖ ถา้ มิไดก้ ำหนดเวลากันไว้ ทา่ นให้คนื ทรัพยส์ ินท่ียืมเมอ่ื ผู้ยมื ได้ใช้สอยทรพั ย์สิน นั้นเสรจ็ แลว้ ตามการอนั ปรากฏในสัญญา แตผ่ ู้ให้ยืมจะเรียกคืนก่อนน้นั กไ็ ดเ้ มอื่ เวลาไดล้ ่วงไปพอแกก่ ารทผี่ ้ยู มื จะได้ใช้สอยทรัพยส์ ินน้ันเสรจ็ แล้ว ถ้าเวลากม็ ิได้กำหนดกนั ไว้ ทัง้ ในสัญญากไ็ ม่ปรากฏว่ายมื ไปใช้เพื่อการใดไซร้ ทา่ นว่าผใู้ ห้ยมื จะเรยี กของคืนเม่อื ไรก็ได้

118 มาตรา ๖๔๗ ค่าใชจ้ า่ ยอนั เปน็ ปกตแิ ก่การบำรุงรักษาทรพั ยส์ นิ ซ่ึงยมื นั้น ผ้ยู ืมต้องเปน็ ผเู้ สยี มาตรา ๖๔๘ อนั การยมื ใช้คงรปู ย่อมระงับส้ินไปด้วยมรณะแห่งผยู้ มื มาตรา ๖๔๙ ในขอ้ ความรบั ผดิ เพอ่ื เสียคา่ ทดแทนอนั เกย่ี วกบั การยมื ใชค้ งรปู นน้ั ทา่ นห้ามมิ ให้ฟอ้ งเมอื่ พน้ เวลาหกเดอื นนบั แต่วนั ส้ินสัญญา หมวด ๒ ยืมใชส้ ้นิ เปลือง มาตรา ๖๕๐ อนั วา่ ยมื ใชส้ ้นิ เปลืองนั้น คือสัญญาซง่ึ ผ้ใู ห้ยมื โอนกรรมสทิ ธใ์ิ นทรพั ยส์ ินชนิดใช้ ไปสนิ้ ไปนน้ั เปน็ ปรมิ าณมกี ำหนดใหไ้ ปแก่ผ้ยู มื และผยู้ มื ตกลงว่าจะคนื ทรพั ย์สินเปน็ ประเภท ชนดิ และปรมิ าณ เชน่ เดยี วกนั ใหแ้ ทนทรัพยส์ ินซง่ึ ให้ยืมนน้ั สญั ญานย้ี อ่ มบริบรู ณ์ตอ่ เมื่อสง่ มอบทรัพยส์ ินทยี่ ืม มาตรา ๖๕๑ คา่ ฤชาธรรมเนยี มในการทำสัญญากด็ ี คา่ สง่ มอบและสง่ คนื ทรพั ยส์ ินซงึ่ ยืมก็ดี ยอ่ มตกแกผ่ ยู้ มื เปน็ ผเู้ สีย มาตรา ๖๕๒ ถ้าในสญั ญาไมม่ กี ำหนดเวลาใหค้ ืนทรัพยส์ นิ ซง่ึ ยืมไป ผ้ใู ห้ยมื จะบอกกล่าวแกผ่ ู้ ยมื ให้คนื ทรพั ยส์ ินภายในเวลาอันควร ซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนัน้ ก็ได้ มาตรา ๖๕๓ การกู้ยมื เงนิ กวา่ สองพันบาทข้นึ ไปนน้ั ถ้ามไิ ด้มีหลกั ฐานแหง่ การก้ยู มื เป็น หนงั สืออย่างใดอย่างหนง่ึ ลงลายมอื ช่อื ผู้ยมื เป็นสำคญั จะฟ้องร้องให้บงั คบั คดีหาไดไ้ ม่[๑๒] ในการก้ยู มื เงินมหี ลักฐานเป็นหนงั สอื น้ัน ทา่ นวา่ จะนำสบื การใช้เงนิ ได้ตอ่ เมือ่ มหี ลกั ฐานเปน็ หนังสอื อย่างใดอย่างหนง่ึ ลงลายมอื ชอ่ื ผู้ให้ยมื มาแสดงหรือเอกสารอนั เป็นหลักฐานแห่งการกูย้ ืมนนั้ ไดเ้ วนคนื แล้ว หรือได้แทงเพกิ ถอนลงในเอกสารนน้ั แลว้ มาตรา ๖๕๔ ท่านหา้ มมใิ หค้ ดิ ดอกเบี้ยเกินรอ้ ยละสบิ ห้าต่อปี ถา้ ในสญั ญากำหนดดอกเบ้ยี เกิน กว่านั้น กใ็ ห้ลดลงมาเปน็ รอ้ ยละสบิ หา้ ต่อปี

119 มาตรา ๖๕๕ ท่านหา้ มมใิ หค้ ดิ ดอกเบ้ียในดอกเบยี้ ท่ีคา้ งชำระ แต่ทวา่ เม่ือดอกเบยี้ คา้ งชำระไม่ นอ้ ยกวา่ ปีหนงึ่ คูส่ ัญญาก้ยู มื จะตกลงกันใหเ้ อาดอกเบยี้ น้ันทบเขา้ กับต้นเงินแล้วใหค้ ิดดอกเบยี้ ในจำนวนเงินที่ ทบเขา้ กันน้ันกไ็ ด้ แตก่ ารตกลงเชน่ น้นั ตอ้ งทำเป็นหนังสือ สว่ นประเพณกี ารคา้ ขายทคี่ ำนวณดอกทบตน้ ในบญั ชีเดินสะพัดก็ดี ในการคา้ ขายอย่างอื่น ทำนองเชน่ วา่ น้ีก็ดี หาอยใู่ นบงั คบั แห่งบทบญั ญตั ซิ งึ่ กล่าวมาในวรรคก่อนน้ันไม่ มาตรา ๖๕๖ ถา้ ทำสัญญากู้ยมื เงนิ กัน และผกู้ ้ยู มื ยอมรบั เอาสงิ่ ของหรอื ทรพั ย์สนิ อยา่ งอ่ืน แทนจำนวนเงินน้นั ไซร้ ทา่ นให้คดิ เปน็ หนเี้ งนิ คา้ งชำระโดยจำนวนเทา่ กบั ราคาทอ้ งตลาดแห่งสงิ่ ของหรือ ทรพั ยส์ นิ น้ันในเวลาและ ณ สถานทสี่ ง่ มอบ ถ้าทำสญั ญากู้ยืมเงนิ กนั และผ้ใู หก้ ู้ยมื ยอมรบั เอาสง่ิ ของหรือทรพั ยส์ ินอย่างอื่นเป็นการชำระ หน้ีแทนเงนิ ท่ีกู้ยมื ไซร้ หนอ้ี นั ระงับไปเพราะการชำระเช่นนนั้ ทา่ นให้คิดเปน็ จำนวนเทา่ กบั ราคาท้องตลาดแหง่ สง่ิ ของหรอื ทรัพยส์ ินนั้นในเวลาและ ณ สถานทส่ี ่งมอบ ความตกลงกันอย่างใด ๆ ขดั กับขอ้ ความดงั กลา่ วมาน้ี ทา่ นว่าเป็นโมฆะ ลกั ษณะ ๑๐ ฝากทรัพย์ หมวด ๑ บทเบด็ เสรจ็ ทวั่ ไป มาตรา ๖๕๗ อันวา่ ฝากทรพั ยน์ น้ั คือสญั ญาซงึ่ บุคคลคนหนงึ่ เรียกวา่ ผู้ฝาก ส่งมอบทรัพยส์ ิน ใหแ้ กบ่ ุคคลอกี คนหนงึ่ เรยี กว่าผรู้ บั ฝาก และผรู้ ับฝากตกลงวา่ จะเกบ็ รกั ษาทรพั ยส์ ินนัน้ ไวใ้ นอารกั ขาแหง่ ตน แล้วจะคืนให้ มาตรา ๖๕๘ ถา้ โดยพฤติการณพ์ ึงคาดหมายได้วา่ เขารบั ฝากทรพั ยก์ เ็ พอ่ื จะได้รบั บำเหนจ็ ค่า ฝากทรพั ยเ์ ทา่ นนั้ ไซร้ ทา่ นให้ถือวา่ เปน็ อันไดต้ กลงกันแล้วโดยปริยายวา่ มีบำเหนจ็ เชน่ น้ัน มาตรา ๖๕๙ ถ้าการรบั ฝากทรพั ยเ์ ป็นการทำให้เปล่าไม่มบี ำเหน็จไซร้ ท่านว่าผรู้ ับฝาก จำต้องใชค้ วามระมัดระวังสงวนทรัพยส์ นิ ซ่ึงฝากน้ันเหมอื นเชน่ เคยประพฤตใิ นกจิ การของตนเอง ถ้าการรบั ฝากทรัพยน์ ัน้ มบี ำเหนจ็ ค่าฝาก ทา่ นว่าผรู้ ับฝากจำต้องใชค้ วามระมดั ระวงั และใช้ ฝมี อื เพ่ือสงวนทรพั ยส์ นิ นั้นเหมือนเช่นวญิ ญชู นจะพงึ ประพฤติโดยพฤตกิ ารณด์ ังนัน้ ท้งั นี้ ยอ่ มรวมทง้ั การใช้ ฝีมืออันพิเศษเฉพาะการในทจี่ ะพงึ ใชฝ้ ีมอื เชน่ นน้ั ดว้ ย

120 ถา้ และผรู้ ับฝากเปน็ ผมู้ ีวชิ าชพี เฉพาะกิจการคา้ ขายหรืออาชวี ะอยา่ งหน่ึงอย่างใดกจ็ ำตอ้ งใช้ ความระมดั ระวงั และใช้ฝมี ือเท่าทเ่ี ป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใชใ้ นกจิ การคา้ ขายหรืออาชวี ะอยา่ ง น้นั มาตรา ๖๖๐ ถ้าผ้ฝู ากมิได้อนญุ าต และผ้รู บั ฝากเอาทรพั ยส์ นิ ซงึ่ ฝากนัน้ ออกใชส้ อยเอง หรอื เอาไปใหบ้ ุคคลภายนอกใช้สอย หรือใหบ้ คุ คลภายนอกเกบ็ รกั ษาไซร้ ท่านว่าผ้รู บั ฝากจะต้องรบั ผดิ เมอื่ ทรพั ย์สนิ ซึง่ ฝากนน้ั สญู หายหรอื บุบสลายอยา่ งหนง่ึ อยา่ งใด แมถ้ ึงจะเป็นเพราะเหตุสดุ วสิ ยั เว้นแตจ่ ะพสิ ูจนไ์ ดว้ ่าถงึ อยา่ งไร ๆ ทรพั ย์สนิ นน้ั กค็ งจะตอ้ งสูญหายหรอื บบุ สลายอยนู่ น่ั เอง มาตรา ๖๖๑ ถา้ บคุ คลภายนอกอา้ งวา่ มสี ิทธเิ หนือทรพั ยส์ นิ ซึ่งฝากและยืน่ ฟอ้ งผ้รู บั ฝากก็ดี หรอื ยดึ ทรัพยส์ ินนน้ั กด็ ี ผรู้ ับฝากตอ้ งรบี บอกกล่าวแก่ผฝู้ ากโดยพลนั มาตรา ๖๖๒ ถา้ ไดก้ ำหนดเวลากันไว้ว่าจะพงึ คนื ทรพั ยส์ นิ ซง่ึ ฝากน้นั เมอ่ื ไร ท่านว่าผู้รบั ฝาก ไม่มสี ทิ ธจิ ะคนื ทรพั ยส์ นิ กอ่ นถึงเวลากำหนด เว้นแต่ในเหตจุ ำเป็นอันมอิ าจจะก้าวล่วงเสยี ได้ มาตรา ๖๖๓ ถงึ แม้วา่ ค่สู ัญญาจะได้กำหนดเวลาไว้วา่ จะพงึ คืนทรพั ย์สนิ ซึง่ ฝากนั้นเมอ่ื ไรก็ ตาม ถา้ ว่าผู้ฝากจะเรียกคืนในเวลาใด ๆ ผรู้ ับฝากกต็ อ้ งคนื ให้ มาตรา ๖๖๔ ถา้ คู่สญั ญาไม่ได้กำหนดเวลาไวว้ า่ จะพงึ คืนทรพั ยส์ ินซง่ึ ฝากนัน้ เมือ่ ไรไซร้ ผู้รบั ฝากอาจคืนทรพั ยส์ ินนั้นได้ทุกเม่ือ มาตรา ๖๖๕ ผู้รบั ฝากจำตอ้ งคืนทรพั ยส์ นิ ซงึ่ รบั ฝากไว้นั้นใหแ้ กผ่ ฝู้ าก หรอื ทรัพยส์ นิ นนั้ ฝาก ในนามของผู้ใด คืนใหแ้ กผ่ นู้ ั้น หรอื ผรู้ ับฝากไดร้ บั คำสั่งโดยชอบให้คืนทรพั ยส์ นิ น้นั ไปแกผ่ ู้ใด คืนใหแ้ กผ่ นู้ นั้ แตห่ ากผฝู้ ากทรพั ย์ตาย ทา่ นให้คนื ทรพั ยส์ ินนนั้ ให้แกท่ ายาท มาตรา ๖๖๖ เม่ือคนื ทรัพย์ ถ้ามดี อกผลเกดิ แตท่ รัพยส์ ินซึ่งฝากนนั้ เทา่ ใด ผูร้ บั ฝากจำตอ้ งสง่ มอบพร้อมไปกับทรพั ยส์ นิ นั้นด้วย มาตรา ๖๖๗ คา่ คนื ทรัพย์สนิ ซง่ึ ฝากน้นั ยอ่ มตกแกผ่ ฝู้ ากเปน็ ผู้เสีย มาตรา ๖๖๘ ค่าใช้จา่ ยใดอนั ควรแก่การบำรุงรกั ษาทรัพย์สนิ ซึง่ ฝากน้ัน ผฝู้ ากจำตอ้ งชดใช้ ใหแ้ ก่ผรู้ บั ฝาก เวน้ แตจ่ ะไดต้ กลงกนั ไวโ้ ดยสัญญาฝากทรพั ยว์ า่ ผู้รบั ฝากจะตอ้ งออกเงินคา่ ใชจ้ ่ายนั้นเอง

121 มาตรา ๖๖๙ ถา้ ไมไ่ ด้กำหนดเวลาไวใ้ นสญั ญา หรอื ไมม่ ีกำหนดโดยจารีตประเพณีว่าบำเหน็จ คา่ ฝากทรพั ยน์ ั้นจะพงึ ชำระเมือ่ ไรไซร้ ท่านให้ชำระเมือ่ คืนทรพั ย์สินซง่ึ ฝาก ถา้ ไดก้ ำหนดเวลากนั ไวเ้ ป็นระยะ อย่างไร ก็พึงชำระเมอื่ สิ้นระยะเวลานั้นทกุ คราวไป มาตรา ๖๗๐ ผ้รู บั ฝากชอบทจี่ ะยดึ หน่วงเอาทรพั ยส์ นิ ซง่ึ ฝากน้นั ไว้ได้ จนกวา่ จะได้รับเงิน บรรดาทค่ี า้ งชำระแก่ตนเกี่ยวด้วยการฝากทรพั ยน์ นั้ มาตรา ๖๗๑ ในข้อความรบั ผดิ เพ่อื ใช้เงนิ บำเหนจ็ คา่ ฝากทรพั ยก์ ด็ ี ชดใชเ้ งินค่าใชจ้ า่ ยกด็ ี ใช้ คา่ สินไหมทดแทนเกีย่ วแกก่ ารฝากทรพั ยก์ ็ดี ท่านหา้ มมใิ หฟ้ อ้ งเมอื่ พน้ เวลาหกเดือนนบั แต่วนั สนิ้ สญั ญา หมวด ๒ วิธีเฉพาะการฝากเงิน มาตรา ๖๗๒ ถ้าฝากเงิน ทา่ นใหส้ นั นิษฐานไวก้ ่อนวา่ ผู้รบั ฝากไม่พงึ ตอ้ งส่งคนื เป็นเงินทอง ตราอนั เดยี วกันกบั ทฝี่ าก แต่จะตอ้ งคืนเงนิ ให้ครบจำนวน อน่ึง ผรู้ บั ฝากจะเอาเงนิ ซงึ่ ฝากนน้ั ออกใช้ก็ได้ แตห่ ากจำตอ้ งคืนเงนิ ให้ครบจำนวนเท่านน้ั แม้ว่าเงินซง่ึ ฝากนัน้ จะได้สญู หายไปดว้ ยเหตสุ ดุ วสิ ยั กต็ าม ผรู้ ับฝากกจ็ ำต้องคืนเงนิ เป็นจำนวนดงั ว่านนั้ มาตรา ๖๗๓ เมือ่ ใดผูร้ บั ฝากจำต้องคืนเงนิ แต่เพียงเท่าจำนวนท่ีฝาก ผฝู้ ากจะเรยี กถอนเงนิ คืนกอ่ นถึงเวลาท่ีได้ตกลงกนั ไว้ไม่ได้ หรอื ฝ่ายผรู้ ับฝากจะสง่ คืนเงินก่อนถึงเวลาน้ันก็ไม่ไดด้ จุ กนั หมวด ๓ วิธีเฉพาะสำหรบั เจ้าสำนักโรงแรม มาตรา ๖๗๔ เจ้าสำนักโรงแรมหรอื โฮเตล็ หรือสถานที่อื่นทำนองเชน่ วา่ นั้น จะต้องรบั ผดิ เพอื่ ความสญู หายหรือบบุ สลายอย่างใด ๆ อันเกดิ แกท่ รพั ยส์ นิ ซง่ึ คนเดินทางหรือแขกอาศัยหากได้พามา มาตรา ๖๗๕ เจ้าสำนักต้องรบั ผิดในการทีท่ รัพยส์ ินของคนเดินทางหรือแขกอาศยั สญู หาย หรือบบุ สลายไปอยา่ งใด ๆ แม้ถึงว่าความสญู หายหรือบบุ สลายนนั้ จะเกดิ ข้นึ เพราะผคู้ นไปมาเขา้ ออก ณ โรงแรม โฮเตล็ หรอื สถานทเี่ ชน่ นน้ั กค็ งตอ้ งรับผิด

122 ความรับผดิ น้ี ถา้ เกีย่ วด้วยเงินทองตรา ธนบตั ร ตั๋วเงิน พนั ธบัตร ใบหุ้น ใบหนุ้ กู้ ประทวน สนิ คา้ อญั มณี หรอื ของมคี า่ อื่น ๆ ใหจ้ ำกัดไวเ้ พียงหา้ พันบาท เว้นแต่จะได้ฝากของมคี ่าเช่นน้ไี วแ้ ก่เจา้ สำนัก และได้บอกราคาแห่งของน้ันชัดแจง้ [๑๓] แต่เจ้าสำนกั ไม่ตอ้ งรับผดิ เพอ่ื ความสญู หายหรือบุบสลายอันเกดิ แตเ่ หตสุ ดุ วสิ ัย หรอื แต่สภาพ แหง่ ทรพั ยส์ ินนัน้ หรอื แต่ความผิดของคนเดนิ ทาง หรอื แขกอาศัยผูน้ นั้ เอง หรอื บริวารของเขา หรอื บุคคลซงึ่ เขา ไดต้ ้อนรบั มาตรา ๖๗๖ ทรพั ยส์ ินซงึ่ มไิ ดน้ ำฝากบอกราคาชดั แจง้ นั้น เม่ือพบเหน็ วา่ สญู หายหรอื บบุ สลายข้นึ คนเดินทางหรอื แขกอาศัยตอ้ งแจ้งความน้ันตอ่ เจา้ สำนกั โรงแรม โฮเตล็ หรอื สถานทเี่ ชน่ นน้ั ทนั ที มิฉะนนั้ ท่านวา่ เจา้ สำนกั ยอ่ มพน้ จากความรบั ผิดดังบญั ญัติไวใ้ นมาตรา ๖๗๔ และ ๖๗๕ มาตรา ๖๗๗ ถ้ามีคำแจง้ ความปดิ ไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรอื สถานท่ีอน่ื ทำนองเช่นว่านี้ เปน็ ข้อความยกเวน้ หรอื จำกดั ความรบั ผดิ ของเจ้าสำนกั ไซร้ ทา่ นว่าความนนั้ เป็นโมฆะ เว้นแตค่ นเดินทางหรอื แขก อาศยั จะไดต้ กลงด้วยชดั แจง้ ในการยกเว้นหรือจำกัดความรบั ผิดดงั ว่านัน้ มาตรา ๖๗๘ ในขอ้ ความรบั ผดิ ใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนเพ่อื ทรพั ยส์ ินของคนเดนิ ทางหรือของ แขกอาศัยสูญหายหรอื บบุ สลายน้นั ทา่ นห้ามมใิ ห้ฟอ้ งเมอื่ พน้ เวลาหกเดอื นนบั แต่วนั ท่คี นเดนิ ทางหรอื แขก อาศยั ออกไปจากสถานทีน่ นั้ มาตรา ๖๗๙ เจา้ สำนกั ชอบท่ีจะยดึ หนว่ งเครอื่ งเดนิ ทางหรอื ทรพั ยส์ ินอย่างอืน่ ของคน เดนิ ทางหรือแขกอาศัยอันเอาไว้ในโรงแรม โฮเตล็ หรอื สถานทเ่ี ช่นนั้นไดจ้ นกว่าจะไดร้ บั ใชเ้ งินบรรดาท่ีค้าง ชำระแกต่ น เพอื่ การพกั อาศัยและการอ่นื ๆ อันไดท้ ำให้แก่คนเดนิ ทางหรอื แขกอาศยั ตามทเ่ี ขาพงึ ตอ้ งการน้ัน รวมท้ังการชดใชเ้ งินทง้ั หลายทีไ่ ด้ออกแทนไปด้วย เจา้ สำนักจะเอาทรพั ยส์ ินทไ่ี ด้ยดึ หน่วงไวเ้ ชน่ ว่านั้นออกขายทอดตลาดแลว้ หักเอาเงนิ ใช้ จำนวนทค่ี า้ งชำระแกต่ นรวมทง้ั คา่ ฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการขายทอดตลาดนน้ั จากเงนิ ท่ีขาย ทรพั ยส์ นิ นั้นก็ได้ แต่ทา่ นมิใหเ้ จา้ สำนักใช้สิทธดิ งั วา่ นี้ จนเมอ่ื (๑) ทรัพยส์ นิ น้นั ตกอยแู่ กต่ นเปน็ เวลานานถงึ หกสปั ดาหย์ ังมไิ ดร้ บั ชำระหนี้สนิ และ (๒) อยา่ งนอ้ ยเดอื นหนงึ่ ก่อนวนั ขายทอดตลาด ตนได้ประกาศโฆษณาในหนังสือพมิ พ์ประจำ ท้องถน่ิ ฉบบั หนง่ึ แจ้งความจำนงทจ่ี ะขายทรัพยส์ นิ บอกลกั ษณะแห่งทรัพย์สินทจ่ี ะขายโดยยอ่ กับถ้าร้ชู ื่อ เจา้ ของ กบ็ อกด้วย เมอ่ื ขายทอดตลาดหกั ใชห้ น้ดี งั กลา่ วแล้ว มีเงนิ เหลืออยอู่ ีกเทา่ ใดตอ้ งคนื ให้แก่เจ้าของ หรอื ฝากไว้ ณ สำนกั งานฝากทรัพย์ตามบทบญั ญตั ิในมาตรา ๓๓๑ และ ๓๓๓

123 ลกั ษณะ ๑๑ คำ้ ประกนั หมวด ๑ บทเบ็ดเสรจ็ ทั่วไป มาตรา ๖๘๐ อันวา่ ค้ำประกนั นั้น คอื สญั ญาซึง่ บุคคลภายนอกคนหนึง่ เรยี กว่า ผู้คำ้ ประกนั ผกู พนั ตนต่อเจา้ หนี้คนหนง่ึ เพอ่ื ชำระหนใ้ี นเมอ่ื ลกู หน้ไี มช่ ำระหนีน้ ้ัน อน่งึ สญั ญาค้ำประกันน้ัน ถา้ มไิ ด้มีหลกั ฐานเปน็ หนงั สอื อยา่ งใดอย่างหนง่ึ ลงลายมอื ชื่อผคู้ ำ้ ประกันเป็นสำคญั ท่านวา่ จะฟอ้ งร้องให้บงั คับคดหี าได้ไม่ มาตรา ๖๘๑[๑๔] อันค้ำประกนั นน้ั จะมไี ด้แตเ่ ฉพาะเพื่อหนีอ้ นั สมบรู ณ์ หน้ใี นอนาคตหรอื หนมี้ เี งอื่ นไขจะประกันไวเ้ พอื่ เหตกุ ารณซ์ ึง่ หนน้ี ั้นอาจเปน็ ผลไดจ้ รงิ ก็ ประกันได้ แต่ตอ้ งระบุวัตถปุ ระสงคใ์ นการก่อหนรี้ ายทค่ี ำ้ ประกัน ลักษณะของมลู หนี้ จำนวนเงินสงู สุดที่ค้ำ ประกัน และระยะเวลาในการกอ่ หนี้ทจี่ ะค้ำประกัน เว้นแต่เปน็ การค้ำประกนั เพ่อื กจิ การเนอื่ งกันไปหลายคราว ตามมาตรา ๖๙๙ จะไมร่ ะบรุ ะยะเวลาดงั กลา่ วก็ได้ สญั ญาคำ้ ประกนั ตอ้ งระบหุ น้หี รือสญั ญาทค่ี ้ำประกันไวโ้ ดยชดั แจง้ และผู้ค้ำประกนั ย่อมรบั ผิดเฉพาะหนหี้ รือสญั ญาทีร่ ะบไุ ว้เท่าน้นั หนอ้ี นั เกิดแตส่ ญั ญาซึ่งไมผ่ ูกพนั ลูกหน้เี พราะทำด้วยความสำคัญผิดหรือเพราะเป็นผ้ไู ร้ ความสามารถน้นั ก็อาจจะมปี ระกันอย่างสมบรู ณไ์ ด้ ถา้ หากว่าผู้คำ้ ประกนั รเู้ หตสุ ำคญั ผิดหรอื ไรค้ วามสามารถ นั้นในขณะท่ีเขา้ ทำสญั ญาผกู พันตน มาตรา ๖๘๑/๑[๑๕] ข้อตกลงใดทกี่ ำหนดใหผ้ ้คู ำ้ ประกันตอ้ งรับผดิ อยา่ งเดยี วกบั ลกู หนรี้ ว่ ม หรอื ในฐานะเปน็ ลกู หนี้ร่วม ข้อตกลงนัน้ เปน็ โมฆะ ความในวรรคหน่งึ มใิ ห้ใช้บงั คับแกก่ รณผี คู้ ้ำประกันซง่ึ เปน็ นติ บิ ุคคลและยนิ ยอมเข้าผูกพนั ตน เพ่ือรบั ผดิ อยา่ งลูกหนร้ี ว่ มหรือในฐานะเปน็ ลูกหนร้ี ว่ ม ในกรณีเช่นนน้ั ผู้คำ้ ประกนั ซงึ่ เปน็ นติ บิ ุคคลนน้ั ย่อมไมม่ ี สทิ ธดิ ังทบี่ ัญญตั ิไว้ในมาตรา ๖๘๘ มาตรา ๖๘๙ และมาตรา ๖๙๐[๑๖] มาตรา ๖๘๒ ทา่ นวา่ บคุ คลจะยอมเข้าเปน็ ผรู้ บั เรือน คือเปน็ ประกนั ของผ้คู ำ้ ประกนั อีก ชนั้ หนงึ่ กเ็ ป็นได้

124 ถ้าบคุ คลหลายคนยอมตนเข้าเป็นผคู้ ้ำประกนั ในหนร้ี ายเดยี วกนั ไซร้ ท่านว่าผู้คำ้ ประกัน เหลา่ น้ันมีความรบั ผดิ อยา่ งลกู หนร้ี ่วมกนั แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ำประกันรวมกนั มาตรา ๖๘๓ อนั คำ้ ประกันอยา่ งไมม่ ีจำกัดน้นั ยอ่ มคุม้ ถึงดอกเบีย้ และค่าสนิ ไหมทดแทนซงึ่ ลกู หน้คี า้ งชำระ ตลอดจนค่าภาระตดิ พนั อนั เปน็ อปุ กรณแ์ หง่ หน้ีรายนัน้ ดว้ ย มาตรา ๖๘๔ ผคู้ ้ำประกันยอ่ มรบั ผิดเพอื่ คา่ ฤชาธรรมเนียมความซ่ึงลกู หนจ้ี ะต้องใช้ให้แก่ เจา้ หน้ี แต่ถา้ โจทก์ฟ้องคดโี ดยมไิ ดเ้ รยี กใหผ้ ู้คำ้ ประกนั ชำระหนีน้ น้ั ก่อนไซร้ ทา่ นว่าผ้คู ำ้ ประกันหาตอ้ งรบั ผิด เพอื่ ใชค้ ่าฤชาธรรมเนยี มเช่นน้นั ไม่ มาตรา ๖๘๕ ถา้ เมอื่ บงั คับตามสัญญาค้ำประกนั น้นั ผคู้ ้ำประกนั ไมช่ ำระหนที้ ้ังหมดของ ลูกหน้ี รวมทัง้ ดอกเบย้ี คา่ สินไหมทดแทน และอปุ กรณ์ด้วยไซร้ หน้ียงั เหลืออยเู่ ท่าใด ท่านวา่ ลูกหนี้ยงั คงรับผิด ตอ่ เจา้ หน้ีในส่วนทเี่ หลือนั้น มาตรา ๖๘๕/๑[๑๗] บรรดาข้อตกลงเกีย่ วกบั การค้ำประกันทีแ่ ตกตา่ งไปจากมาตรา ๖๘๑ วรรคหนง่ึ วรรคสอง และวรรคสาม มาตรา ๖๘๖ มาตรา ๖๙๔ มาตรา ๖๙๘ และมาตรา ๖๙๙ เป็นโมฆะ หมวด ๒ ผลกอ่ นชำระหนี้ มาตรา ๖๘๖[๑๘] เมื่อลกู หนผ้ี ิดนดั ใหเ้ จ้าหนมี้ หี นงั สือบอกกลา่ วไปยังผูค้ ้ำประกนั ภายในหก สิบวันนบั แต่วันทล่ี กู หนผ้ี ดิ นดั และไมว่ า่ กรณจี ะเป็นประการใดเจา้ หนจ้ี ะเรียกให้ผคู้ ำ้ ประกันชำระหนก้ี อ่ นท่ี หนงั สอื บอกกลา่ วจะไปถงึ ผูค้ ำ้ ประกันมิได้ แตไ่ ม่ตดั สทิ ธิผคู้ ้ำประกนั ท่ีจะชำระหนเี้ มอ่ื หนี้ถึงกำหนดชำระ ในกรณที ีเ่ จา้ หนม้ี ไิ ดม้ ีหนงั สอื บอกกล่าวภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนงึ่ ใหผ้ ู้ค้ำประกันหลดุ พน้ จากความรบั ผิดในดอกเบย้ี และค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนคา่ ภาระติดพนั อันเป็นอปุ กรณ์แห่งหนีร้ ายนน้ั บรรดาท่ีเกิดขน้ึ ภายหลงั จากพน้ กำหนดเวลาตามวรรคหน่งึ เมอื่ เจา้ หนมี้ ีสทิ ธิเรยี กใหผ้ ้คู ำ้ ประกนั ชำระหน้ีหรือผคู้ ้ำประกนั มสี ิทธชิ ำระหนไ้ี ดต้ ามวรรคหน่งึ ผู้คำ้ ประกันอาจชำระหนที้ ั้งหมดหรือใชส้ ทิ ธิชำระหน้ตี ามเงอ่ื นไขและวิธีการในการชำระหน้ที ลี่ ูกหนี้มีอยูก่ บั เจา้ หนก้ี อ่ นการผดิ นดั ชำระหน้ี ทง้ั น้ี เฉพาะในสว่ นท่ีตนต้องรับผิดก็ได้ และใหน้ ำความในมาตรา ๗๐๑ วรรค สอง มาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม

125 ในระหว่างที่ผู้คำ้ ประกันชำระหนตี้ ามเงอ่ื นไขและวธิ กี ารในการชำระหนี้ของลกู หนี้ตามวรรค สาม เจ้าหนจ้ี ะเรียกดอกเบี้ยเพ่ิมขึ้นเพราะเหตุทลี่ กู หนผี้ ดิ นดั ในระหว่างน้ันมิได้ การชำระหนี้ของผ้คู ้ำประกันตามมาตรานี้ ไมก่ ระทบกระเทอื นสทิ ธิของผคู้ ำ้ ประกันตาม มาตรา ๖๙๓ มาตรา ๖๘๗ ผ้คู ำ้ ประกนั ไมจ่ ำต้องชำระหน้ีกอ่ นถึงเวลากำหนดท่ีจะชำระ แมถ้ ึงว่าลูกหนีจ้ ะ ไม่อาจถอื เอาซง่ึ ประโยชนแ์ หง่ เง่อื นเวลาเริ่มตน้ หรอื เวลาสุดสนิ้ ไดต้ ่อไปแล้ว มาตรา ๖๘๘ เม่ือเจา้ หนีท้ วงใหผ้ คู้ ำ้ ประกนั ชำระหน้ี ผคู้ ้ำประกันจะขอใหเ้ รียกลกู หน้ีชำระ ก่อนก็ได้ เวน้ แตล่ ูกหนจี้ ะถกู ศาลพพิ ากษาใหเ้ ป็นคนลม้ ละลายเสียแลว้ หรือไมป่ รากฏว่าลกู หนไี้ ปอยู่แหง่ ใดใน พระราชอาณาเขต มาตรา ๖๘๙ ถงึ แม้จะไดเ้ รียกให้ลกู หน้ีชำระหนี้ดงั กลา่ วมาในมาตราก่อนนัน้ แลว้ กต็ าม ถา้ ผู้ ค้ำประกนั พสิ จู นไ์ ด้วา่ ลกู หน้นี ้นั มีทางที่จะชำระหน้ีได้ และการที่จะบงั คบั ใหล้ ูกหนีช้ ำระหนนี้ ั้นจะไมเ่ ป็นการ ยากไซร้ ทา่ นวา่ เจา้ หน้ีจะต้องบังคับการชำระหนี้รายนัน้ เอาจากทรัพย์สนิ ของลกู หนกี้ อ่ น มาตรา ๖๙๐ ถา้ เจ้าหนม้ี ที รพั ยข์ องลกู หนีย้ ดึ ถือไว้เปน็ ประกนั ไซร้ เมอ่ื ผู้ค้ำประกันร้องขอ ท่านว่าเจา้ หนจี้ ะตอ้ งให้ชำระหน้เี อาจากทรพั ยซ์ ง่ึ เป็นประกนั น้นั ก่อน มาตรา ๖๙๑[๑๙] ในกรณที เี่ จา้ หนต้ี กลงกับลกู หนี้ อนั มีผลเปน็ การลดจำนวนหนที้ มี่ กี ารคำ้ ประกนั รวมทง้ั ดอกเบ้ีย ค่าสินไหมทดแทน หรอื ค่าภาระติดพนั อนั เปน็ อปุ กรณ์แหง่ หนรี้ ายนั้น ให้เจ้าหนมี้ ี หนงั สือแจง้ ใหผ้ ้คู ้ำประกันทราบถงึ ขอ้ ตกลงดังกล่าวภายในหกสบิ วนั นบั แตว่ นั ที่ตกลงกันนนั้ ถา้ ลูกหนี้ได้ชำระ หนี้ตามทไี่ ดล้ ดแลว้ ก็ดี ลูกหนชี้ ำระหนต้ี ามท่ีได้ลดไม่ครบถ้วนแตผ่ ู้ค้ำประกนั ได้ชำระหนส้ี ว่ นทเ่ี หลอื น้นั แล้วก็ดี หรือลูกหนไี้ ม่ชำระหน้ีตามที่ไดล้ ดแตผ่ ูค้ ำ้ ประกันไดช้ ำระหนตี้ ามท่ีไดล้ ดน้นั แล้วกด็ ี ใหผ้ คู้ ำ้ ประกนั เป็นอันหลดุ พน้ จากการคำ้ ประกัน ในการชำระหนข้ี องผคู้ ำ้ ประกนั ดงั กลา่ ว ผูค้ ้ำประกนั มสี ิทธิชำระหนไ้ี ดแ้ มจ้ ะลว่ งเลย กำหนดเวลาชำระหน้ีตามทไ่ี ด้ลดแตต่ อ้ งไมเ่ กนิ หกสบิ วันนับแต่วนั ที่ครบกำหนดเวลาชำระหนดี้ งั กลา่ ว ในกรณี ท่ีเจา้ หนีม้ หี นงั สือแจง้ ใหผ้ คู้ ้ำประกันทราบถงึ ขอ้ ตกลงดังกล่าวเมื่อลว่ งเลยกำหนดเวลาชำระหนตี้ ามที่ไดล้ ดแล้ว ใหผ้ คู้ ้ำประกนั มสี ทิ ธิชำระหนี้ได้ภายในหกสบิ วันนับแตว่ ันทเี่ จ้าหนี้มหี นังสอื แจง้ ใหผ้ ูค้ ำ้ ประกันทราบถงึ ขอ้ ตกลง น้ัน ทงั้ น้ี ข้อตกลงทีท่ ำขน้ึ ภายหลงั ทล่ี กู หน้ผี ิดนดั ชำระหนแี้ ลว้ หากในขอ้ ตกลงนัน้ มกี ารขยายเวลาชำระหนี้ ให้แกล่ กู หนี้ มใิ ห้ถอื วา่ เปน็ การผ่อนเวลาตามมาตรา ๗๐๐[๒๐] ข้อตกลงใดทมี่ ีผลเปน็ การเพม่ิ ภาระแกผ่ ูค้ ้ำประกนั ใหม้ ากกวา่ ทีบ่ ัญญัติไว้ในวรรคหนง่ึ ข้อตกลงนั้นเปน็ โมฆะ

126 มาตรา ๖๙๒ อายุความสะดุดหยุดลงเป็นโทษแกล่ กู หน้ีน้นั ยอ่ มเป็นโทษแกผ่ ูค้ ำ้ ประกนั ดว้ ย หมวด ๓ ผลภายหลงั ชำระหนี้ มาตรา ๖๙๓ ผู้คำ้ ประกนั ซง่ึ ได้ชำระหนี้แลว้ ย่อมมสี ิทธทิ จี่ ะไล่เบ้ียเอาจากลกู หนี้ เพ่อื ต้นเงนิ กบั ดอกเบ้ยี และเพอ่ื การทตี่ ้องสญู หายหรือเสยี หายไปอยา่ งใด ๆ เพราะการคำ้ ประกันน้นั อนึง่ ผู้ค้ำประกนั ย่อมเขา้ รบั ชว่ งสทิ ธิของเจา้ หนบี้ รรดามเี หนอื ลูกหน้ีดว้ ย มาตรา ๖๙๔ นอกจากข้อตอ่ สซู้ ่ึงผคู้ ำ้ ประกันมีตอ่ เจ้าหนนี้ ั้น ท่านวา่ ผคู้ ้ำประกนั ยงั อาจยกขอ้ ตอ่ สทู้ ้ังหลายซึ่งลกู หนม้ี ตี ่อเจา้ หน้ีข้นึ ต่อส้ไู ดด้ ว้ ย มาตรา ๖๙๕ ผคู้ ำ้ ประกันซงึ่ ละเลยไมย่ กข้อตอ่ สู้ของลกู หนขี้ ้นึ ต่อสเู้ จา้ หนีน้ ัน้ ทา่ นว่าย่อมส้ิน สทิ ธิทจ่ี ะไลเ่ บย้ี เอาแกล่ กู หนเ้ี พียงเทา่ ทไ่ี มย่ กขน้ึ เป็นข้อตอ่ สู้ เว้นแตจ่ ะพสิ ูจน์ไดว้ า่ ตนมิไดร้ วู้ ่ามีข้อตอ่ ส้เู ช่นนนั้ และทไ่ี มร่ นู้ ้ันมไิ ด้เปน็ เพราะความผดิ ของตนดว้ ย มาตรา ๖๙๖ ผู้ค้ำประกนั ไมม่ สี ทิ ธจิ ะไลเ่ บี้ยเอาแกล่ กู หนี้ได้ ถ้าว่าตนไดช้ ำระหนแ้ี ทนไปโดย มไิ ด้บอกลกู หนี้ และลกู หน้ยี งั มิร้คู วามมาชำระหนซี้ ้ำอกี ในกรณีเชน่ ว่านี้ ผู้ค้ำประกนั ก็ได้แตเ่ พียงจะฟอ้ งเจา้ หนีเ้ พื่อคนื ลาภมคิ วรไดเ้ ทา่ นน้ั มาตรา ๖๙๗ ถ้าเพราะการกระทำอยา่ งใดอย่างหนง่ึ ของเจา้ หน้เี อง เปน็ เหตใุ หผ้ ูค้ ้ำประกันไม่ อาจเขา้ รบั ชว่ งไดท้ ง้ั หมดหรอื แตบ่ างสว่ นในสทิ ธกิ ็ดี จำนองกด็ ี จำนำกด็ ี และบุรมิ สทิ ธิอนั ได้ใหไ้ ว้แก่เจา้ หน้ีแต่ ก่อนหรอื ในขณะทำสญั ญาค้ำประกันเพ่อื ชำระหน้ีน้ัน ทา่ นวา่ ผคู้ ำ้ ประกนั ย่อมหลดุ พ้นจากความรบั ผิดเพียง เท่าท่ตี นต้องเสยี หายเพราะการน้นั หมวด ๔ ความระงบั สน้ิ ไปแห่งการคำ้ ประกัน มาตรา ๖๙๘ อนั ผคู้ ้ำประกนั ย่อมหลุดพน้ จากความรบั ผดิ ในขณะเมอื่ หนขี้ องลกู หนร้ี ะงบั ส้นิ ไปไม่วา่ เพราะเหตุใด ๆ

127 มาตรา ๖๙๙ การคำ้ ประกันเพือ่ กจิ การเนอื่ งกนั ไปหลายคราวไม่มีจำกัดเวลาเป็นคณุ แก่ เจ้าหน้นี น้ั ทา่ นว่าผู้คำ้ ประกันอาจเลกิ เสียเพอ่ื คราวอันเป็นอนาคตได้ โดยบอกกล่าวความประสงคน์ นั้ แก่เจา้ หนี้ ในกรณีเช่นน้ี ทา่ นวา่ ผ้คู ้ำประกนั ไม่ต้องรบั ผิดในกจิ การทลี่ ูกหน้กี ระทำลงภายหลังคำบอก กล่าวนั้นไดไ้ ปถึงเจา้ หนี้ มาตรา ๗๐๐[๒๑] ถ้าคำ้ ประกนั หนอี้ นั จะต้องชำระ ณ เวลามกี ำหนดแน่นอนและเจ้าหน้ยี อม ผ่อนเวลาให้แกล่ กู หนี้ ผู้คำ้ ประกันย่อมหลุดพน้ จากความรบั ผดิ เว้นแตผ่ ู้คำ้ ประกนั จะไดต้ กลงด้วยในการผอ่ น เวลาน้ัน ข้อตกลงท่ีผู้คำ้ ประกันทำไว้ลว่ งหน้าก่อนเจา้ หนผ้ี ่อนเวลาอนั มผี ลเป็นการยนิ ยอมใหเ้ จ้าหน้ี ผ่อนเวลา ขอ้ ตกลงนนั้ ใชบ้ งั คบั มิได้ ความในวรรคสอง มิให้ใชบ้ ังคับแก่กรณผี ู้ค้ำประกันซงึ่ เป็นสถาบนั การเงินหรือค้ำประกนั เพือ่ สนิ จ้างเปน็ ปกตธิ ุระ[๒๒] มาตรา ๗๐๑ ผู้คำ้ ประกันจะขอชำระหนแี้ ก่เจ้าหน้ตี ง้ั แต่เมื่อถึงกำหนดชำระก็ได้ ถา้ เจ้าหน้ไี ม่ยอมรบั ชำระหนี้ ผู้ค้ำประกนั กเ็ ปน็ อันหลุดพ้นจากความรบั ผดิ ลกั ษณะ ๑๒ จำนอง หมวด ๑ บทเบ็ดเสรจ็ ทว่ั ไป มาตรา ๗๐๒ อนั ว่าจำนองนน้ั คอื สญั ญาซงึ่ บุคคลคนหน่ึง เรียกวา่ ผจู้ ำนอง เอาทรพั ยส์ ินตรา ไว้แกบ่ คุ คลอกี คนหนง่ึ เรียกวา่ ผู้รบั จำนอง เปน็ ประกันการชำระหน้ี โดยไมส่ ่งมอบทรพั ยส์ นิ นน้ั ใหแ้ กผ่ ูร้ บั จำนอง ผ้รู บั จำนองชอบทจ่ี ะได้รบั ชำระหนจ้ี ากทรพั ยส์ ินทจ่ี ำนองกอ่ นเจา้ หนส้ี ามญั มิพกั ต้อง พเิ คราะห์วา่ กรรมสทิ ธ์ิในทรพั ยส์ นิ จะได้โอนไปยงั บคุ คลภายนอกแล้วหรือหาไม่ มาตรา ๗๐๓ อนั อสงั หาริมทรพั ยน์ น้ั อาจจำนองได้ไม่ว่าประเภทใด ๆ สังหาริมทรพั ยอ์ ันจะกล่าวต่อไปนกี้ อ็ าจจำนองได้ดจุ กัน หากวา่ ไดจ้ ดทะเบยี นไว้แล้วตาม กฎหมาย คือ

128 (๑)[๒๓] เรอื มรี ะวางต้ังแต่ห้าตนั ขน้ึ ไป (๒) แพ (๓) สตั ว์พาหนะ (๔) สังหารมิ ทรัพยอ์ ่ืนใด ๆ ซง่ึ กฎหมายหากบญั ญัตไิ วใ้ หจ้ ดทะเบียนเฉพาะการ มาตรา ๗๐๔ สัญญาจำนองต้องระบทุ รัพยส์ นิ ซึ่งจำนอง มาตรา ๗๐๕ การจำนองทรัพยส์ นิ นั้น นอกจากผเู้ ปน็ เจา้ ของในขณะนัน้ แลว้ ท่านว่าใครอน่ื จะจำนองหาไดไ้ ม่ มาตรา ๗๐๖ บคุ คลมกี รรมสิทธิ์ในทรัพยส์ นิ แต่ภายในบังคบั เงอื่ นไขเช่นใด จะจำนอง ทรัพยส์ นิ นัน้ ไดแ้ ตภ่ ายในบังคับเงือ่ นไขเช่นน้นั มาตรา ๗๐๗ บทบญั ญตั มิ าตรา ๖๘๑ วา่ ดว้ ยค้ำประกนั น้นั ท่านให้ใชไ้ ดใ้ นการจำนอง อนโุ ลมตามควร มาตรา ๗๐๘ สญั ญาจำนองน้ันต้องมจี ำนวนเงนิ ระบไุ วเ้ ปน็ เรือนเงนิ ไทยเป็นจำนวนแนต่ รง ตัว หรือจำนวนขน้ั สูงสดุ ทไ่ี ดเ้ อาทรัพยส์ ินจำนองน้นั ตราไว้เปน็ ประกนั มาตรา ๗๐๙ บคุ คลคนหนงึ่ จะจำนองทรพั ยส์ นิ ของตนไว้เพอ่ื ประกนั หนี้อันบคุ คลอนื่ จะต้อง ชำระ กใ็ ห้ทำได้ มาตรา ๗๑๐ ทรพั ยส์ นิ หลายส่ิงมเี จา้ ของคนเดยี วหรอื หลายคนจะจำนองเพอ่ื ประกนั การ ชำระหน้ีแต่รายหน่ึงรายเดยี ว ท่านก็ใหท้ ำได้ และในการนีค้ สู่ ญั ญาจะตกลงกนั ดงั ต่อไปนก้ี ็ได้ คอื ว่า (๑) ให้ผรู้ บั จำนองใชส้ ิทธบิ ังคบั เอาแก่ทรพั ยส์ นิ ซงึ่ จำนองตามลำดบั อนั ระบุไว้ (๒) ใหถ้ ือเอาทรัพยส์ นิ แตล่ ะสงิ่ เป็นประกันหน้ีเฉพาะแตส่ ว่ นหนึ่งสว่ นใดท่รี ะบไุ ว้ มาตรา ๗๑๑ การทจ่ี ะตกลงกนั ไวเ้ สยี แต่ก่อนเวลาหนถ้ี ึงกำหนดชำระเปน็ ข้อความอย่างใด อย่างหนึ่งว่า ถ้าไมช่ ำระหน้ี ใหผ้ รู้ บั จำนองเข้าเป็นเจ้าของทรพั ยส์ ินซ่งึ จำนอง หรอื วา่ ใหจ้ ัดการแกท่ รพั ยส์ นิ นั้น เปน็ ประการอื่นอยา่ งใด นอกจากตามบทบญั ญัติท้ังหลายว่าด้วยการบงั คบั จำนองนน้ั ไซร้ ข้อตกลงเช่นนั้นทา่ น ว่าไม่สมบรู ณ์

129 มาตรา ๗๑๒ แมถ้ งึ ว่ามีข้อสญั ญาเปน็ อยา่ งอื่นกต็ าม ทรพั ยส์ ินซึ่งจำนองไวแ้ กบ่ ุคคลคนหน่ึง น้นั ทา่ นวา่ จะเอาไปจำนองแกบ่ ุคคลอกี คนหน่งึ ในระหวา่ งเวลาทส่ี ญั ญากอ่ นยังมอี ายอุ ย่กู ็ได้ มาตรา ๗๑๓ ถา้ มไิ ด้ตกลงกันไวเ้ ปน็ อย่างอน่ื ในสัญญาจำนอง ท่านวา่ ผูจ้ ำนองจะชำระหน้ี ล้างจำนองเป็นงวด ๆ กไ็ ด้ มาตรา ๗๑๔ อนั สญั ญาจำนองน้นั ท่านวา่ ตอ้ งทำเป็นหนงั สอื และจดทะเบยี นต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ มาตรา ๗๑๔/๑[๒๔] บรรดาขอ้ ตกลงเก่ียวกบั การจำนองท่ีแตกตา่ งไปจากมาตรา ๗๒๘ มาตรา ๗๒๙ และมาตรา ๗๓๕ เปน็ โมฆะ หมวด ๒ สทิ ธจิ ำนองครอบเพยี งใด ด้วย คือ มาตรา ๗๑๕ ทรพั ยส์ นิ ซงึ่ จำนองยอ่ มเปน็ ประกันเพอ่ื การชำระหน้กี บั ทงั้ คา่ อปุ กรณต์ อ่ ไปนี้ (๑) ดอกเบย้ี (๒) ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้ (๓) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบงั คบั จำนอง มาตรา ๗๑๖ จำนองยอ่ มครอบไปถึงบรรดาทรัพยส์ นิ ซึง่ จำนองหมดทกุ ส่ิง แมจ้ ะไดช้ ำระหนี้ แลว้ บางสว่ น มาตรา ๗๑๗ แม้วา่ ทรพั ยส์ นิ ซง่ึ จำนองจะแบง่ ออกเปน็ หลายส่วนก็ตาม ท่านวา่ จำนองกย็ งั คง ครอบไปถงึ สว่ นเหล่านน้ั หมดทกุ สว่ นด้วยกนั อย่นู ั่นเอง ถึงกระน้ันก็ดี ถา้ ผรู้ ับจำนองยนิ ยอมด้วย ทา่ นวา่ จะโอนทรพั ย์สนิ สว่ นหนง่ึ สว่ นใดไปปลอด จากจำนองก็ให้ทำได้ แต่ความยินยอมดังว่านี้หากมิไดจ้ ดทะเบียน ท่านว่าจะยกเอาขึน้ เปน็ ขอ้ ตอ่ สแู้ ก่ บคุ คลภายนอกหาไดไ้ ม่

130 มาตรา ๗๑๘ จำนองยอ่ มครอบไปถงึ ทรพั ยท์ งั้ ปวงอันติดพันอยกู่ บั ทรัพยส์ ินซงึ่ จำนอง แต่ ตอ้ งอยภู่ ายในบังคับซ่งึ ท่านจำกดั ไวใ้ นสามมาตราตอ่ ไปน้ี มาตรา ๗๑๙ จำนองท่ีดนิ ไมค่ รอบไปถึงเรอื นโรงอันผจู้ ำนองปลกู สร้างลงในท่ดี นิ ภายหลงั วนั จำนอง เวน้ แตจ่ ะมีข้อความกล่าวไว้โดยเฉพาะในสัญญาว่าให้ครอบไปถงึ แต่กระน้นั ก็ดี ผรู้ ับจำนองจะให้ขายเรอื นโรงนน้ั รวมไปกบั ทดี่ นิ ดว้ ยก็ได้ แต่ผรู้ ับจำนองอาจใช้ บรุ ิมสทิ ธิของตนได้เพียงแกร่ าคาทีด่ ินเท่าน้นั มาตรา ๗๒๐ จำนองเรอื นโรงหรือสง่ิ ปลกู สรา้ งอยา่ งอื่นซงึ่ ได้ทำข้นึ ไวบ้ นดินหรือใตด้ นิ ใน ท่ีดินอนั เป็นของคนอื่นเขานัน้ ย่อมไมค่ รอบไปถึงทด่ี ินนั้นดว้ ย ฉันใดกลับกันกฉ็ นั นนั้ มาตรา ๗๒๑ จำนองไมค่ รอบไปถงึ ดอกผลแห่งทรัพยส์ นิ ซง่ึ จำนอง เวน้ แตใ่ นเมอื่ ผรู้ บั จำนอง ไดบ้ อกกลา่ วแกผ่ ู้จำนองหรือผูร้ บั โอนแล้ววา่ ตนจำนงจะบังคบั จำนอง หมวด ๓ สิทธแิ ละหน้าท่ขี องผรู้ ับจำนองและผูจ้ ำนอง มาตรา ๗๒๒ ถา้ ทรพั ยส์ ินไดจ้ ำนองแลว้ และภายหลงั ทจี่ ดทะเบยี นจำนองมจี ดทะเบียน ภาระจำยอมหรอื ทรัพยสทิ ธอิ ยา่ งอ่นื โดยผรู้ ับจำนองมิได้ยินยอมด้วยไซร้ ทา่ นวา่ สทิ ธิจำนองยอ่ มเป็นใหญก่ ว่า ภาระจำยอมหรอื ทรัพยสทิ ธิอย่างอ่นื นน้ั หากวา่ เป็นทเ่ี สอ่ื มเสียแกส่ ทิ ธิของผรู้ ับจำนองในเวลาบงั คับจำนองกใ็ ห้ ลบสิทธทิ ่กี ลา่ วหลงั นั้นเสียจากทะเบียน มาตรา ๗๒๓ ถา้ ทรพั ยส์ ินซ่งึ จำนองบบุ สลาย หรอื ถา้ ทรัพยส์ ินซึง่ จำนองแตส่ ่ิงใดสิ่งหน่ึงสญู หายหรอื บบุ สลาย เปน็ เหตใุ ห้ไม่เพยี งพอแกก่ ารประกนั ไซร้ ทา่ นว่าผรู้ บั จำนองจะบงั คับจำนองเสียในทันทกี ไ็ ด้ เว้นแตเ่ ม่อื เหตุนั้นมิไดเ้ ป็นเพราะความผิดของผู้จำนอง และผู้จำนองก็เสนอจะจำนองทรพั ยส์ ินอื่นแทนใหม้ ี ราคาเพียงพอ หรอื เสนอจะรบั ซอ่ มแซมแก้ไขความบบุ สลายนนั้ ภายในเวลาอนั สมควรแกเ่ หตุ มาตรา ๗๒๔ ผูจ้ ำนองใดได้จำนองทรพั ย์สนิ ของตนไว้เพือ่ ประกันหนี้อนั บคุ คลอื่นจะตอ้ ง ชำระแล้วและเขา้ ชำระหนเ้ี สยี เองแทนลกู หนเ้ี พ่ือจะปัดปอ้ งมิใหต้ อ้ งบงั คบั จำนอง ท่านว่าผู้จำนองนน้ั ชอบทจี่ ะ ไดร้ บั เงนิ ใช้คืนจากลกู หนีต้ ามจำนวนท่ตี นได้ชำระไป ถ้าว่าต้องบังคับจำนอง ท่านว่าผจู้ ำนองชอบทจ่ี ะไดร้ ับเงนิ ใชค้ นื จากลูกหนี้ตามจำนวนซงึ่ ผู้รบั จำนองจะได้รบั ใช้หน้จี ากการบังคบั จำนองน้นั

131 มาตรา ๗๒๕ เม่ือบุคคลสองคนหรือกวา่ น้ันตา่ งไดจ้ ำนองทรพั ย์สนิ แหง่ ตนเพื่อประกันหนแ้ี ต่ รายหนง่ึ รายเดยี วอนั บุคคลอ่นื จะต้องชำระและมิได้ระบุลำดบั ไวไ้ ซร้ ท่านว่าผ้จู ำนองซงึ่ ได้เป็นผู้ชำระหน้ี หรอื เป็นเจา้ ของทรพั ยส์ ินซงึ่ ต้องบงั คบั จำนองน้ันหามสี ทิ ธจิ ะไลเ่ บยี้ เอาแกผ่ ู้จำนองอ่นื ๆ ตอ่ ไปไดไ้ ม่ มาตรา ๗๒๖ เมอ่ื บคุ คลหลายคนต่างได้จำนองทรัพยส์ ินแหง่ ตนเพือ่ ประกันหนีแ้ ตร่ ายหนึ่ง รายเดียวอนั บุคคลอน่ื จะตอ้ งชำระและไดร้ ะบลุ ำดบั ไว้ด้วยไซร้ ท่านวา่ การทผี่ รู้ บั จำนองยอมปลดหนใ้ี ห้แกผ่ ู้ จำนองคนหนงึ่ นนั้ ย่อมทำใหผ้ จู้ ำนองคนหลงั ๆ ไดห้ ลดุ พน้ ดว้ ยเพียงขนาดท่ีเขาต้องรับความเสยี หายแต่การ นนั้ มาตรา ๗๒๗[๒๕] ให้นำบทบญั ญัตมิ าตรา ๖๙๑ มาตรา ๖๙๗ มาตรา ๗๐๐ และมาตรา ๗๐๑ มาใช้บงั คบั กบั กรณที ่ีบุคคลจำนองทรพั ย์สินเพอื่ ประกนั หนอ้ี นั บคุ คลอ่ืนจะตอ้ งชำระดว้ ยโดยอนุโลม มาตรา ๗๒๗/๑[๒๖] ไม่วา่ กรณจี ะเปน็ ประการใด ผู้จำนองซง่ึ จำนองทรพั ย์สนิ ของตนไวเ้ พ่อื ประกันหน้อี นั บคุ คลอน่ื จะต้องชำระ ไมต่ ้องรับผดิ ในหนนี้ นั้ เกนิ ราคาทรพั ยส์ นิ ที่จำนองในเวลาทบี่ งั คบั จำนอง หรอื เอาทรัพยจ์ ำนองหลุด ขอ้ ตกลงใดอันมผี ลใหผ้ ู้จำนองรบั ผิดเกินที่บญั ญัติไวใ้ นวรรคหนึ่ง หรอื ใหผ้ ้จู ำนองรบั ผิดอย่างผู้ คำ้ ประกนั ขอ้ ตกลงนนั้ เปน็ โมฆะ ไมว่ ่าข้อตกลงน้ันจะมอี ยใู่ นสัญญาจำนองหรือทำเปน็ ขอ้ ตกลงต่างหาก ทง้ั นี้ เว้นแต่เป็นกรณที นี่ ิติบุคคลเป็นลกู หนแ้ี ละบุคคลผมู้ ีอำนาจในการจดั การตามกฎหมายหรือบคุ คลทม่ี ีอำนาจ ควบคุมการดำเนนิ งานของนติ บิ ุคคลน้นั เป็นผจู้ ำนองทรัพยส์ นิ ของตนไวเ้ พ่ือประกนั หนน้ี น้ั ของนิตบิ ุคคลและผู้ จำนองได้ทำสญั ญาคำ้ ประกันไวเ้ ปน็ สัญญาตา่ งหาก[๒๗] หมวด ๔ การบงั คับจำนอง มาตรา ๗๒๘[๒๘] เม่อื จะบังคบั จำนองน้ัน ผรู้ ับจำนองต้องมหี นังสือบอกกล่าวไปยังลกู หน้ีกอ่ น วา่ ให้ชำระหน้ีภายในเวลาอันสมควรซึ่งต้องไม่น้อยกวา่ หกสบิ วันนบั แต่วนั ทล่ี กู หน้ไี ดร้ บั คำบอกกลา่ วน้ัน ถา้ และ ลกู หนล้ี ะเลยเสยี ไมป่ ฏบิ ัตติ ามคำบอกกลา่ ว ผรู้ บั จำนองจะฟอ้ งคดตี ่อศาลเพื่อให้พพิ ากษาสั่งให้ยึดทรพั ยส์ นิ ซง่ึ จำนองและให้ขายทอดตลาดกไ็ ด้ ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถา้ เปน็ กรณผี ูจ้ ำนองซงึ่ จำนองทรัพย์สนิ ของตนไวเ้ พื่อประกันหนีอ้ นั บุคคลอ่นื ต้องชำระ ผรู้ บั จำนองตอ้ งสง่ หนงั สือบอกกลา่ วดังกล่าวใหผ้ จู้ ำนองทราบภายในสบิ หา้ วันนับแต่วนั ท่ี

132 ส่งหนังสือแจง้ ใหล้ กู หนที้ ราบ ถ้าผู้รบั จำนองมไิ ด้ดำเนนิ การภายในกำหนดเวลาสบิ หา้ วันนน้ั ใหผ้ ู้จำนองเช่นว่า นนั้ หลดุ พน้ จากความรบั ผิดในดอกเบี้ยและค่าสนิ ไหมทดแทนซ่ึงลกู หนค้ี า้ งชำระ ตลอดจนคา่ ภาระตดิ พนั อัน เป็นอปุ กรณแ์ ห่งหนรี้ ายน้ันบรรดาทเ่ี กิดขน้ึ นับแต่วนั ท่พี น้ กำหนดเวลาสบิ หา้ วันดังกล่าว มาตรา ๗๒๙[๒๙] ในการบังคบั จำนองตามมาตรา ๗๒๘ ถ้าไม่มกี ารจำนองรายอน่ื หรอื บุริมสิทธอิ นื่ อนั ไดจ้ ดทะเบียนไว้เหนอื ทรัพยส์ นิ อันเดยี วกันนี้ ผ้รู ับจำนองจะฟ้องคดตี อ่ ศาลเพอื่ เรียกเอาทรัพย์ จำนองหลุดภายในบงั คับแหง่ เงอ่ื นไขดงั จะกลา่ วต่อไปนี้แทนการขายทอดตลาดก็ได้ (๑) ลกู หนไี้ ด้ขาดส่งดอกเบี้ยมาแลว้ เป็นเวลาถงึ ห้าปี และ (๒) ผูร้ บั จำนองแสดงใหเ้ ปน็ ท่ีพอใจแกศ่ าลวา่ ราคาทรพั ย์สินน้ันน้อยกวา่ จำนวนเงนิ อนั คา้ ง ชำระ มาตรา ๗๒๙/๑[๓๐] เวลาใด ๆ หลงั จากทหี่ นถี้ งึ กำหนดชำระ ถา้ ไม่มีการจำนองรายอ่ืนหรอื บรุ ิมสิทธิอื่นอนั ไดจ้ ดทะเบียนไว้เหนอื ทรพั ยส์ ินอันเดยี วกันน้ี ผจู้ ำนองมีสทิ ธิแจ้งเป็นหนังสือไปยังผรู้ ับจำนอง เพื่อใหผ้ รู้ บั จำนองดำเนินการใหม้ กี ารขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ ที่จำนองโดยไม่ต้องฟอ้ งเป็นคดตี อ่ ศาล โดยผู้รบั จำนองตอ้ งดำเนนิ การขายทอดตลาดทรพั ยส์ ินทจ่ี ำนองภายในเวลาหนง่ึ ปีนบั แต่วนั ท่ไี ดร้ บั หนงั สือแจง้ น้ัน ทงั้ น้ี ใหถ้ อื ว่าหนงั สอื แจง้ ของผจู้ ำนองเปน็ หนงั สอื ยินยอมให้ขายทอดตลาด ในกรณที ่ผี รู้ บั จำนองไมไ่ ดด้ ำเนนิ การขายทอดตลาดทรัพยส์ นิ ทจี่ ำนองภายในระยะเวลาที่ กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ใหผ้ จู้ ำนองพน้ จากความรบั ผิดในดอกเบี้ยและคา่ สินไหมทดแทนซ่ึงลูกหน้คี ้างชำระ ตลอดจนค่าภาระตดิ พันอนั เป็นอปุ กรณแ์ หง่ หนร้ี ายนั้นบรรดาทเี่ กดิ ขน้ึ ภายหลังวนั ที่พน้ กำหนดเวลาดังกล่าว เม่อื ผูร้ บั จำนองขายทอดตลาดทรพั ยส์ ินทจี่ ำนองไดเ้ งนิ สุทธจิ ำนวนเทา่ ใด ผรู้ ับจำนองตอ้ ง จดั สรรชำระหนแ้ี ละอปุ กรณ์ใหเ้ สรจ็ ส้ินไป ถ้ายังมเี งินเหลือกต็ อ้ งสง่ คืนใหแ้ กผ่ ู้จำนอง หรอื แกบ่ คุ คลผู้ควรจะได้ เงินนน้ั แตถ่ ้าไดเ้ งินนอ้ ยกวา่ จำนวนทคี่ า้ งชำระ ใหเ้ ปน็ ไปตามทก่ี ำหนดไวใ้ นมาตรา ๗๓๓ และในกรณที ผี่ ู้ จำนองเป็นบคุ คลซง่ึ จำนองทรพั ย์สินเพอ่ื ประกนั หนี้อันบคุ คลอืน่ จะตอ้ งชำระ ผจู้ ำนองยอ่ มรบั ผดิ เพียงเท่าที่ มาตรา ๗๒๗/๑ กำหนดไว้ มาตรา ๗๓๐ เมอ่ื ทรพั ยส์ นิ อันหน่งึ อนั เดียวไดจ้ ำนองแกผ่ รู้ บั จำนองหลายคนด้วยกนั ท่านให้ ถอื ลำดบั ผรู้ บั จำนองเรยี งตามวันและเวลาจดทะเบียน และผรู้ บั จำนองคนก่อนจกั ไดร้ บั ใช้หน้ีกอ่ นผรู้ ับจำนอง คนหลงั มาตรา ๗๓๑ อนั ผรู้ บั จำนองคนหลังจะบังคับตามสทิ ธขิ องตนให้เสียหายแกผ่ ู้รบั จำนองคน กอ่ นนน้ั ท่านวา่ หาอาจทำไดไ้ ม่

133 มาตรา ๗๓๒ ทรัพยส์ นิ ซง่ึ จำนองขายทอดตลาดไดเ้ งินเป็นจำนวนสุทธิเทา่ ใด ท่านใหจ้ ดั ใชแ้ ก่ ผ้รู บั จำนองเรยี งตามลำดบั และถ้ายงั มเี งินเหลืออยูอ่ กี กใ็ หส้ ง่ มอบแกผ่ จู้ ำนอง มาตรา ๗๓๓[๓๑] ถ้าเอาทรัพยจ์ ำนองหลุดและราคาทรพั ยส์ นิ นน้ั มปี ระมาณต่ำกว่าจำนวนเงิน ที่ค้างชำระกนั อยกู่ ็ดี หรือถา้ เอาทรัพยส์ ินซง่ึ จำนองออกขายทอดตลาดใชห้ น้ี ได้เงนิ จำนวนสทุ ธนิ อ้ ยกวา่ จำนวน เงินท่คี ้างชำระกนั อย่นู น้ั กด็ ี เงนิ ยงั ขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไมต่ ้องรบั ผิดในเงินนนั้ มาตรา ๗๓๔ ถา้ จำนองทรัพยส์ นิ หลายสง่ิ เพอื่ ประกันหนีแ้ ตร่ ายหนึง่ รายเดยี วและมิไดร้ ะบุ ลำดบั ไวไ้ ซร้ ทา่ นว่าผรู้ ับจำนองจะใช้สิทธขิ องตนบงั คบั แก่ทรพั ย์สนิ น้ัน ๆ ทงั้ หมด หรือแตเ่ พียงบางส่งิ กไ็ ด้ แต่ ทา่ นหา้ มมิใหท้ ำเช่นนั้นแกท่ รัพยส์ นิ มากสง่ิ กว่าทจี่ ำเปน็ เพอื่ ใช้หนี้ตามสิทธแิ หง่ ตน ถ้าผรู้ บั จำนองใชส้ ทิ ธขิ องตนบงั คบั แกท่ รพั ยส์ นิ ทงั้ หมดพร้อมกัน ทา่ นใหแ้ บง่ ภาระแหง่ หนนี้ น้ั กระจายไปตามสว่ นราคาแห่งทรัพยส์ ินนนั้ ๆ เวน้ แตใ่ นกรณที ีไ่ ดร้ ะบจุ ำนวนเงนิ จำนองไว้เฉพาะทรพั ยส์ นิ แตล่ ะ สิ่ง ๆ เป็นจำนวนเท่าใด ท่านให้แบ่งกระจายไปตามจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้เฉพาะทรัพยส์ ง่ิ นั้น ๆ แตถ่ า้ ผู้รบั จำนองใชส้ ทิ ธขิ องตนบงั คบั แกท่ รัพยส์ ินอนั ใดอนั หน่งึ แต่เพยี งสง่ิ เดียวไซร้ ผ้รู บั จำนองจะใหช้ ำระหนี้อันเป็นสว่ นของตนทงั้ หมดจากทรัพยส์ นิ อันน้ันกไ็ ด้ ในกรณเี ช่นนนั้ ทา่ นใหถ้ อื ว่าผู้รบั จำนองคนถดั ไปโดยลำดบั ยอ่ มเขา้ รบั ชว่ งสิทธิของผรู้ ับจำนองคนกอ่ นและจะเขา้ บงั คบั จำนองแทนที่คนก่อนก็ ไดแ้ ตเ่ พยี งเทา่ จำนวนซ่ึงผ้รู บั จำนองคนกอ่ นจะพงึ ได้รบั จากทรัพยส์ นิ อน่ื ๆ ตามบทบัญญตั ดิ ังกลา่ วมาในวรรค กอ่ นนน้ั มาตรา ๗๓๕[๓๒] เมือ่ ผรู้ ับจำนองคนใดจะบงั คบั จำนองเอาแก่ผรู้ บั โอนทรัพยส์ ินซง่ึ จำนอง ผู้รบั จำนองต้องมีจดหมายบอกกลา่ วแกผ่ รู้ ับโอนลว่ งหน้าเปน็ ระยะเวลาไม่น้อยกวา่ หกสบิ วนั กอ่ น จงึ จะบงั คบั จำนองได้ หมวด ๕ สทิ ธแิ ละหน้าท่ขี องผรู้ ับโอนทรพั ยส์ นิ ซ่ึงจำนอง มาตรา ๗๓๖ ผ้รู บั โอนทรัพยส์ ินซงึ่ จำนองจะไถ่ถอนจำนองก็ได้ ถ้าหากมิได้เป็นตวั ลกู หนหี้ รือ ผคู้ ้ำประกนั หรอื เป็นทายาทของลกู หนห้ี รือผูค้ ำ้ ประกนั มาตรา ๗๓๗[๓๓] ผรู้ ับโอนจะไถ่ถอนจำนองเมื่อใดกไ็ ด้ แต่ถ้าผู้รบั จำนองไดบ้ อกกล่าวว่าจะ บังคบั จำนอง ผรู้ บั โอนต้องไถถ่ อนจำนองภายในหกสบิ วันนบั แต่วนั รบั คำบอกกลา่ ว

134 มาตรา ๗๓๘ ผู้รบั โอนซงึ่ ประสงคจ์ ะไถ่ถอนจำนองตอ้ งบอกกลา่ วความประสงค์นั้นแกผ่ ูเ้ ปน็ ลกู หน้ีชัน้ ตน้ และตอ้ งสง่ คำเสนอไปยงั บรรดาเจา้ หนที้ ่ไี ดจ้ ดทะเบยี น ไมว่ ่าในทางจำนองหรอื ประการอนื่ ว่าจะ รับใช้เงนิ ให้เป็นจำนวนอันสมควรกบั ราคาทรัพยส์ ินนนั้ คำเสนอนัน้ ใหแ้ จ้งขอ้ ความทงั้ หลายต่อไปนี้ คอื (๑) ตำแหน่งแหลง่ ทีแ่ ละลกั ษณะแห่งทรพั ยส์ นิ ซึง่ จำนอง (๒) วันซงึ่ โอนกรรมสิทธิ์ (๓) ชื่อเจ้าของเดิม (๔) ชือ่ และภูมลิ ำเนาของผ้รู บั โอน (๕) จำนวนเงนิ ท่เี สนอว่าจะใช้ (๖) คำนวณยอดจำนวนเงินทคี่ า้ งชำระแก่เจา้ หน้ีคนหนึ่ง ๆ รวมท้ังอปุ กรณแ์ ละจำนวนเงนิ ที่ จะจัดเปน็ สว่ นใช้แกบ่ รรดาเจา้ หนต้ี ามลำดบั กัน อนง่ึ ให้คดั สำเนารายงานจดทะเบียนของเจ้าพนักงานในเรอื่ งทรัพยส์ ินซ่งึ จำนองน้ัน อันเจ้า พนกั งานรบั รองวา่ เปน็ สำเนาถกู ถ้วนสอดสง่ ไปด้วย มาตรา ๗๓๙ ถา้ เจ้าหนี้คนหน่งึ คนใดไม่ยอมรบั คำเสนอ เจา้ หนคี้ นนัน้ ตอ้ งฟอ้ งคดีตอ่ ศาล ภายในเดอื นหนงึ่ นบั แตว่ ันมคี ำเสนอเพ่อื ให้ศาลพิพากษาสั่งขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ ซ่งึ จำนองนั้น แต่ว่าเจ้าหนี้ นั้นจะต้องปฏิบัติการดงั จะกล่าวต่อไปนีด้ ว้ ย คือ (๑) ออกเงินทดรองคา่ ฤชาธรรมเนียมการขายทอดตลาด (๒) ต้องเข้าสู้ราคาเอง หรือแต่งคนเขา้ สรู้ าคาเปน็ จำนวนเงินสูงกวา่ ทผี่ รู้ บั โอนเสนอจะใช้ (๓) บอกกล่าวการทตี่ นไม่ยอมน้นั ใหผ้ รู้ ับโอนและเจา้ หนีค้ นอืน่ ๆ บรรดาได้จดทะเบยี น กบั ท้งั เจ้าของทรัพยค์ นกอ่ นและลกู หนช้ี ั้นต้นทราบดว้ ย มาตรา ๗๔๐ ถ้าขายทอดตลาดได้เงินจำนวนสุทธลิ ้ำจำนวนเงินทผ่ี รู้ บั โอนเสนอว่าจะใช้ ทา่ น ให้ผรู้ บั โอนเปน็ ผู้ออกใช้คา่ ฤชาธรรมเนียมในการขายทอดตลาด ถ้าได้ไมถ่ งึ ลำ้ จำนวน ทา่ นใหเ้ จ้าหน้ผี รู้ อ้ งขอให้ ขายทอดตลาดเป็นผู้ออก มาตรา ๗๔๑ เมื่อเจ้าหน้ที งั้ หลายไดส้ นองรับคำเสนอท่วั ทุกคนแลว้ โดยแสดงออกชัดหรอื โดยปรยิ ายกด็ ี ทา่ นวา่ จำนองหรือบุรมิ สิทธกิ เ็ ป็นอนั ไถถ่ อนไดด้ ว้ ยผ้รู ับโอนใชเ้ งิน หรือวางเงนิ ตามจำนวนที่ เสนอจะใช้แทนการชำระหน้ี มาตรา ๗๔๒ ถา้ การบงั คบั จำนองกด็ ี ถอนจำนองก็ดี เปน็ เหตใุ ห้ทรพั ยส์ นิ ซง่ึ จำนองหลดุ มอื ไปจากบคุ คลผ้ไู ดท้ รัพยส์ นิ นนั้ ไว้แต่ก่อนไซร้ ทา่ นว่าการทที่ รพั ย์สินหลดุ มอื ไปเชน่ น้ันหามีผลย้อนหลงั ไม่ และ

135 บรุ ิมสิทธิทง้ั หลายของเจ้าหนแ้ี ห่งผทู้ ท่ี รพั ยห์ ลุดมอื ไปอนั มอี ยูเ่ หนอื ทรพั ยส์ นิ และได้จดทะเบียนไว้น้ัน กย็ อ่ มเข้า อยใู่ นลำดับหลงั บรุ ิมสิทธอิ ันเจ้าหนข้ี องผจู้ ำนอง หรือเจา้ ของคนกอ่ นไดจ้ ดทะเบยี นไว้ ในกรณเี ชน่ นี้ ถา้ สทิ ธใิ ด ๆ อนั มอี ยเู่ หนือทรัพยส์ ินซงึ่ จำนองเป็นคณุ หรือเป็นโทษแก่บุคคลผู้ ไดท้ รัพยส์ นิ ซงึ่ จำนองไว้แตก่ อ่ นได้ระงบั ไปแล้วดว้ ยเกล่ือนกลืนกนั ในขณะท่ไี ดท้ รพั ยส์ ินนั้นมาไซร้ สทิ ธิน้นั ทา่ น ให้กลบั คนื มาเปน็ คุณหรอื เป็นโทษแกบ่ ุคคลผนู้ ั้นได้อกี ในเมอ่ื ทรพั ยส์ นิ ซง่ึ จำนองกลบั หลดุ มอื ไป มาตรา ๗๔๓ ถ้าผู้รบั โอนได้ทำใหท้ รัพยส์ ินซงึ่ จำนองเส่อื มราคาลงเพราะการกระทำหรอื ความประมาทเลินเลอ่ แหง่ ตน เป็นเหตใุ หเ้ จ้าหนท้ี ง้ั หลายผูม้ สี ิทธิจำนองหรอื บรุ ิมสิทธิเหนือทรัพยส์ ินนน้ั ต้อง เสยี หายไซร้ ท่านว่าผรู้ ับโอนจะตอ้ งรบั ผดิ เพ่ือความเสียหายนน้ั อยา่ งไรกด็ ี อันผรู้ บั โอนจะเรยี กเอาเงนิ จำนวน ใด ๆ ซง่ึ ตนได้ออกไป หรอื เรยี กให้ชดใช้คา่ ใช้จ่ายที่ตนไดท้ ำให้ทรพั ยส์ นิ ดีข้นึ นนั้ ทา่ นวา่ หาอาจจะเรียกไดไ้ ม่ เว้นแตท่ ี่เป็นการทำให้ทรัพยส์ นิ นนั้ งอกราคาขึ้น และจะเรียกไดเ้ พยี งเทา่ จำนวนราคาทงี่ อกขึน้ เมอื่ ขาย ทอดตลาดเทา่ นนั้ หมวด ๖ ความระงบั ส้นิ ไปแหง่ สัญญาจำนอง มาตรา ๗๔๔[๓๔] อนั จำนองยอ่ มระงบั ส้ินไป (๑) เมื่อหนท้ี ปี่ ระกันระงบั สิ้นไปด้วยเหตปุ ระการอ่ืนใดมใิ ช่เหตอุ ายุความ (๒) เมอ่ื ปลดจำนองให้แกผ่ ู้จำนองดว้ ยหนังสอื เปน็ สำคัญ (๓) เมื่อผจู้ ำนองหลดุ พน้ (๔) เมอื่ ถอนจำนอง (๕) เม่ือขายทอดตลาดทรัพยส์ ินซง่ึ จำนองตามคำสงั่ ศาลอนั เนือ่ งมาแตก่ ารบังคบั จำนองหรอื ถอนจำนอง หรอื เมอ่ื มกี ารขายทอดตลาดทรัพยส์ ินตามมาตรา ๗๒๙/๑ (๖) เมือ่ เอาทรพั ยส์ ินซง่ึ จำนองน้นั หลุด มาตรา ๗๔๕ ผรู้ บั จำนองจะบงั คบั จำนองแมเ้ มื่อหนี้ที่ประกนั นั้นขาดอายุความแลว้ กไ็ ด้ แต่ จะบงั คับเอาดอกเบ้ียทค่ี า้ งชำระในการจำนองเกินกวา่ หา้ ปไี ม่ได้ มาตรา ๗๔๖ การชำระหนไ้ี ม่วา่ คร้ังใด ๆ สน้ิ เชิงหรอื แต่บางส่วนกด็ ี การระงบั หน้อี ยา่ งใด ๆ กด็ ี การตกลงกนั แกไ้ ขเปล่ียนแปลงจำนองหรอื หนอ้ี ันจำนองเปน็ ประกนั นน้ั เปน็ ประการใดกด็ ี ทา่ นว่าตอ้ งนำ ความไปจดทะเบยี นตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ทใี่ นเมอ่ื มีคำขอรอ้ งของผู้มสี ่วนไดเ้ สีย มิฉะนนั้ ท่านหา้ มมิให้ยกขนึ้ เป็น ขอ้ ตอ่ สบู้ ุคคลภายนอก

136 ลักษณะ ๑๓ จำนำ หมวด ๑ บทเบด็ เสรจ็ ทวั่ ไป มาตรา ๗๔๗ อันว่าจำนำนั้น คอื สัญญาซง่ึ บุคคลคนหนง่ึ เรยี กวา่ ผูจ้ ำนำ สง่ มอบ สงั หารมิ ทรพั ยส์ งิ่ หนง่ึ ใหแ้ ก่บคุ คลอกี คนหนงึ่ เรยี กวา่ ผรู้ ับจำนำ เพือ่ เปน็ ประกนั การชำระหน้ี มาตรา ๗๔๘ การจำนำน้นั ยอ่ มเปน็ ประกนั เพือ่ การชำระหนี้กบั ทง้ั คา่ อปุ กรณ์ต่อไปนดี้ ้วย คือ (๑) ดอกเบ้ยี (๒) ค่าสนิ ไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้ (๓) คา่ ฤชาธรรมเนียมในการบงั คับจำนำ (๔) ค่าใช้จา่ ยเพื่อรกั ษาทรพั ย์สนิ ซ่งึ จำนำ (๕) คา่ สินไหมทดแทนเพอื่ ความเสียหายอนั เกดิ แตค่ วามชำรดุ บกพรอ่ งแหง่ ทรพั ยส์ นิ จำนำซง่ึ ไม่เหน็ ประจกั ษ์ มาตรา ๗๔๙ คสู่ ญั ญาจำนำจะตกลงกนั ใหบ้ คุ คลภายนอกเป็นผเู้ กบ็ รกั ษาทรัพยส์ นิ จำนำไวก้ ็ ได้ มาตรา ๗๕๐ ถ้าทรพั ยส์ นิ ทจ่ี ำนำเป็นสิทธิซง่ึ มีตราสาร และมิได้ส่งมอบตราสารนน้ั ให้แกผ่ ูร้ บั จำนำ ท้งั มิไดบ้ อกกลา่ วเปน็ หนังสือแจง้ การจำนำแกล่ ูกหนแ้ี ห่งสิทธิน้นั ดว้ ยไซร้ ทา่ นว่าการจำนำยอ่ มเป็นโมฆะ มาตรา ๗๕๑ ถ้าจำนำตราสารชนิดออกให้แก่บุคคลเพอื่ เขาสัง่ ทา่ นห้ามมิใหย้ กขน้ึ เปน็ ข้อ ต่อส้บู คุ คลภายนอก เว้นแตจ่ ะไดส้ ลกั หลงั ไวท้ ตี่ ราสารใหป้ รากฏการจำนำเชน่ น้นั อนึง่ ในการน้ไี มจ่ ำเป็นตอ้ งบอกกลา่ วแก่ลูกหนี้แหง่ ตราสาร มาตรา ๗๕๒ ถ้าจำนำตราสารชนดิ ออกให้แก่บุคคลโดยนามและจะโอนกันดว้ ยสลักหลงั ไมไ่ ด้ ทา่ นวา่ ต้องจดขอ้ ความแสดงการจำนำไว้ใหป้ รากฏในตราสารน้ันเอง และท่านห้ามมิใหย้ กข้ึนเปน็ ข้อตอ่ สลู้ กู หน้ี แห่งตราสารหรอื บุคคลภายนอก เว้นแตจ่ ะได้บอกกลา่ วการจำนำนนั้ ใหท้ ราบถึงลูกหนีแ้ หง่ ตราสาร

137 มาตรา ๗๕๓ ถา้ จำนำใบหนุ้ หรือใบหนุ้ กูช้ นดิ ระบุชือ่ ทา่ นห้ามมิใหย้ กขึ้นเป็นข้อตอ่ สบู้ รษิ ัท หรอื บคุ คลภายนอก เว้นแต่จะไดจ้ ดลงทะเบยี นการจำนำนั้นไว้ในสมุดของบรษิ ทั ตามบทบญั ญตั ิทง้ั หลายใน ลักษณะ ๒๒ วา่ ดว้ ยการโอนหุน้ หรือหุ้นกู้ มาตรา ๗๕๔ ถา้ สทิ ธิซงึ่ จำนำนนั้ ถงึ กำหนดชำระกอ่ นหนซ้ี งึ่ ประกันไว้นนั้ ไซร้ ทา่ นวา่ ลูกหน้ี แห่งสทิ ธิตอ้ งส่งมอบทรัพยส์ นิ อันเป็นวตั ถแุ ห่งสิทธิใหแ้ กผ่ รู้ บั จำนำ และทรพั ย์สินนนั้ ก็กลายเป็นของจำนำแทน สิทธิซ่งึ จำนำ ถา้ สิทธซิ งึ่ จำนำน้นั เปน็ มลู หนซี้ ง่ึ ต้องชำระเป็นเงนิ และถงึ กำหนดชำระก่อนหนซี้ งึ่ ประกันไว้ น้ันไซร้ ทา่ นว่าตอ้ งใช้เงินให้แกผ่ รู้ ับจำนำและผจู้ ำนำรว่ มกัน ถ้าและเขาท้งั สองน้นั ไมป่ รองดองตกลงกนั ได้ ท่าน ว่าแต่ละคนชอบทจ่ี ะเรยี กใหว้ างเงนิ จำนวนนน้ั ไว้ ณ สำนักงานฝากทรพั ยไ์ ด้เพอื่ ประโยชน์อนั ร่วมกัน มาตรา ๗๕๕ ถา้ จำนำสิทธิ ท่านห้ามมใิ หท้ ำสทิ ธิน้นั ให้สิน้ ไป หรือแกไ้ ขสทิ ธินัน้ ใหเ้ สียหายแก่ ผรู้ บั จำนำโดยผรู้ บั จำนำมิไดย้ นิ ยอมด้วย มาตรา ๗๕๖ การทจ่ี ะตกลงกันไว้เสียแต่กอ่ นเวลาหนถี้ ึงกำหนดชำระเปน็ ข้อความอย่างใด อยา่ งหน่ึงวา่ ถา้ ไม่ชำระหนี้ ใหผ้ รู้ ับจำนำเข้าเปน็ เจา้ ของทรพั ย์สินจำนำ หรือให้จัดการแกท่ รพั ยส์ ินนัน้ เปน็ ประการอ่นื นอกจากตามบทบัญญัตทิ ัง้ หลายว่าด้วยการบงั คบั จำนำนัน้ ไซร้ ขอ้ ตกลงเช่นนัน้ ท่านวา่ ไมส่ มบูรณ์ มาตรา ๗๕๗ บทบญั ญัตทิ ั้งหลายในลกั ษณะ ๑๓ นี้ ท่านใหใ้ ช้บังคบั แก่สญั ญาจำนำทที่ ำกบั ผู้ ตง้ั โรงรับจำนำโดยอนญุ าตรฐั บาลแตเ่ พยี งที่ไมข่ ัดกับกฎหมาย หรอื กฎขอ้ บงั คบั ว่าดว้ ยโรงจำนำ หมวด ๒ สิทธิและหน้าทข่ี องผจู้ ำนำและผูร้ บั จำนำ มาตรา ๗๕๘ ผู้รบั จำนำชอบท่ีจะยดึ ของจำนำไวไ้ ด้ทั้งหมดจนกวา่ จะได้รบั ชำระหนแ้ี ละคา่ อปุ กรณค์ รบถ้วน มาตรา ๗๕๙ ผรู้ บั จำนำจำต้องรักษาทรัพยส์ นิ จำนำไว้ใหป้ ลอดภัย และตอ้ งสงวนทรพั ยส์ ิน จำนำนน้ั เช่นอย่างวิญญูชนจะพงึ สงวนทรพั ยส์ ินของตนเอง

138 มาตรา ๗๖๐ ถา้ ผู้รบั จำนำเอาทรพั ย์สนิ ซึ่งจำนำออกใช้เอง หรอื เอาไปใหบ้ ุคคลภายนอกใช้ สอย หรอื เกบ็ รกั ษาโดยผจู้ ำนำมไิ ด้ยินยอมด้วยไซร้ ท่านว่าผรู้ บั จำนำจะตอ้ งรบั ผดิ เพอื่ ทท่ี รพั ยส์ ินจำนำนนั้ สญู หาย หรอื บุบสลายไปอยา่ งใด ๆ แมท้ งั้ เป็นเพราะเหตุสุดวสิ ยั เวน้ แต่จะพิสจู น์ได้วา่ ถงึ อยา่ งไร ๆ กค็ งจะตอ้ งสูญ หาย หรือบุบสลายอยู่นน่ั เอง มาตรา ๗๖๑ ถา้ มไิ ดก้ ำหนดไวเ้ ปน็ อยา่ งอ่นื ในสญั ญา หากมดี อกผลนิตนิ ยั งอกจากทรัพยส์ นิ นน้ั อยา่ งไร ทา่ นใหผ้ ู้รบั จำนำจัดสรรใช้เปน็ ค่าดอกเบี้ยอนั ค้างชำระแกต่ น และถา้ ไม่มีดอกเบี้ยค้างชำระ ทา่ นให้ จัดสรรใช้ต้นเงนิ แหง่ หนอ้ี นั ไดจ้ ำนำทรัพยส์ ินเปน็ ประกนั นนั้ มาตรา ๗๖๒ คา่ ใชจ้ ่ายใด ๆ อนั ควรแกก่ ารบำรงุ รกั ษาทรพั ยส์ นิ จำนำนน้ั ผจู้ ำนำจำต้อง ชดใชใ้ หแ้ กผ่ รู้ บั จำนำ เวน้ แตจ่ ะได้กำหนดไว้เป็นอยา่ งอื่นในสญั ญา มาตรา ๗๖๓ ทา่ นหา้ มมใิ หฟ้ ้องคดดี ังจะกลา่ วตอ่ ไปนี้ เมอ่ื พน้ หกเดือนนบั แตว่ นั สง่ คืน หรอื ขายทอดตลาดทรัพยส์ ินจำนำ คอื (๑) ฟอ้ งเรียกคา่ สนิ ไหมทดแทนเพ่อื ความบบุ สลายอนั ผรู้ บั จำนำกอ่ ใหเ้ กิดแก่ทรพั ยส์ นิ จำนำ (๒) ฟอ้ งเรยี กให้ชดใช้คา่ ใช้จา่ ยเพอ่ื การบำรงุ รกั ษาทรัพยส์ นิ จำนำ (๓) ฟอ้ งเรยี กค่าสินไหมทดแทนเพ่ือความเสียหายอนั เกดิ แกผ่ ้รู บั จำนำ เพราะความชำรุด บกพรอ่ งในทรพั ยส์ นิ จำนำซง่ึ ไม่เห็นประจักษ์ หมวด ๓ การบงั คับจำนำ มาตรา ๗๖๔ เมอ่ื จะบงั คับจำนำ ผู้รบั จำนำต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยงั ลกู หนก้ี อ่ นว่า ให้ ชำระหนีแ้ ละอุปกรณ์ภายในเวลาอันควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนัน้ ถ้าลูกหนลี้ ะเลยไมป่ ฏบิ ัตติ ามคำบอกกล่าว ผรู้ บั จำนำชอบทจ่ี ะเอาทรัพยส์ ินซง่ึ จำนำออกขาย ได้ แตต่ ้องขายทอดตลาด อน่งึ ผรู้ บั จำนำต้องมจี ดหมายบอกกลา่ วไปยังผจู้ ำนำบอกเวลาและสถานท่ีซง่ึ จะขาย ทอดตลาดดว้ ย มาตรา ๗๖๕ ถา้ ไมส่ ามารถจะบอกกล่าวกอ่ นได้ ผรู้ บั จำนำจะเอาทรพั ยส์ ินจำนำออกขาย ทอดตลาดเสียในเม่อื หนีค้ ้างชำระมาลว่ งเวลาเดอื นหนึง่ แลว้ ก็ให้ทำได้

139 มาตรา ๗๖๖ ถา้ จำนำต๋ัวเงนิ ท่านใหผ้ รู้ บั จำนำเก็บเรยี กเงินตามตั๋วเงนิ นั้นในวันถึงกำหนด ไม่จำเปน็ ตอ้ งบอกกลา่ วก่อน มาตรา ๗๖๗ เมื่อบงั คับจำนำได้เงนิ จำนวนสุทธเิ ท่าใด ท่านวา่ ผ้รู บั จำนำต้องจดั สรรชำระหนี้ และอุปกรณ์เพื่อใหเ้ สร็จสน้ิ ไป และถา้ ยังมีเงินเหลอื ก็ต้องสง่ คืนใหแ้ ก่ผจู้ ำนำ หรือแกบ่ ุคคลผู้ควรจะไดเ้ งนิ น้ัน ถ้าได้เงนิ นอ้ ยกวา่ จำนวนค้างชำระ ท่านว่าลกู หนกี้ ็ยงั คงต้องรับใช้ในส่วนที่ขาดอยนู่ ั้น มาตรา ๗๖๘ ถ้าจำนำทรัพยส์ ินหลายสง่ิ เพื่อประกันหน้แี ตร่ ายหนงึ่ รายเดียว ท่านวา่ ผู้รบั จำนำจะเลอื กเอาทรัพยส์ นิ สิง่ หนง่ึ สงิ่ ใดออกขายก็ได้ แตจ่ ะขายจนเกนิ กวา่ ทีจ่ ำเปน็ เพ่อื ใช้เงนิ ตามสิทธแิ หง่ ตน นั้นหาไดไ้ ม่ หมวด ๔ ความระงบั สิน้ ไปแห่งการจำนำ มาตรา ๗๖๙ อันจำนำยอ่ มระงบั สิน้ ไป (๑) เมอื่ หน้ซี งึ่ จำนำเป็นประกนั อยูน่ น้ั ระงบั ส้ินไปเพราะเหตปุ ระการอ่นื มใิ ชเ่ พราะอายุความ หรือ (๒) เมอื่ ผรู้ บั จำนำยอมใหท้ รัพยส์ ินจำนำกลบั คนื ไปส่คู รอบครองของผจู้ ำนำ ลกั ษณะ ๑๔ เก็บของในคลังสนิ คา้ หมวด ๑ บทเบด็ เสรจ็ ทว่ั ไป มาตรา ๗๗๐ อันว่านายคลงั สินคา้ นั้น คือบคุ คลผรู้ ับทำการเก็บรกั ษาสินค้าเพอื่ บำเหนจ็ เปน็ ทางค้าปกติของตน มาตรา ๗๗๑ บทบญั ญตั ทิ ้ังหลายในประมวลกฎหมายน้ีอนั ว่าดว้ ยฝากทรพั ยน์ นั้ ทา่ นให้ นำมาใช้บังคับแก่การเก็บของในคลังสินค้าด้วยเพียงเทา่ ทีไ่ มข่ ดั กับบทบญั ญตั ิในลกั ษณะน้ี

140 มาตรา ๗๗๒ บทบญั ญัตมิ าตรา ๖๑๖, ๖๑๙, ๖๒๓, ๖๒๕, ๖๓๐, ๖๓๑ และ ๖๓๒ อันวา่ ด้วยการรบั ขนนั้น ทา่ นให้นำมาใช้บังคบั แกก่ ารเก็บของในคลังสนิ คา้ อนโุ ลมตามควรแกบ่ ท มาตรา ๗๗๓ นายคลงั สินค้าจำต้องยอมใหผ้ ู้ทรงใบรบั ของคลังสนิ คา้ หรือผ้ทู รงประทวน สินคา้ ตรวจสนิ คา้ และเอาตัวอยา่ งไปได้ในเวลาอนั ควรระหวา่ งเวลาทำงานทกุ เมือ่ มาตรา ๗๗๔ นายคลงั สนิ ค้าจะเรยี กให้ผฝู้ ากถอนสนิ ค้าไปกอ่ นสนิ้ ระยะเวลาที่ตกลงกันไวน้ ั้น ท่านว่าหาอาจทำไดไ้ ม่ ถ้าไม่มีกำหนดเวลาส่งคืนสินค้า นายคลังสนิ ค้าจะสง่ คืนได้ต่อเมอื่ บอกกล่าวให้ผฝู้ าก ทราบลว่ งหน้าเดือนหนึ่ง แต่ทา่ นมิใหผ้ ฝู้ ากต้องถูกบังคบั ให้ถอนสนิ คา้ ไปก่อนเวลาล่วงแล้วสองเดอื น นบั แต่ วันท่ีได้ส่งมอบฝากไว้ หมวด ๒ ใบรบั ของคลงั สินคา้ และประทวนสินค้า มาตรา ๗๗๕ ถา้ ผฝู้ ากตอ้ งการไซร้ นายคลงั สนิ ค้าตอ้ งสง่ มอบเอกสารซึ่งเอาออกจาก ทะเบียนมตี น้ ขว้ั เฉพาะการอนั มใี บรบั ของคลงั สนิ คา้ ฉบบั หนง่ึ และประทวนสินค้าฉบับหนึ่งให้แกผ่ ฝู้ าก มาตรา ๗๗๖ อันใบรบั ของคลังสนิ ค้านน้ั ย่อมใหส้ ิทธิแกผ่ ฝู้ ากท่จี ะสลกั หลังโอนกรรมสทิ ธใ์ิ น สนิ ค้าไปเปน็ ของผ้อู ืน่ ได้ มาตรา ๗๗๗ อันประทวนสินค้าน้ัน ย่อมให้สทิ ธิแก่ผฝู้ ากทจ่ี ะสลกั หลงั จำนำสนิ คา้ ซงึ่ จดแจ้ง ไว้ในประทวนได้ โดยไม่ต้องสง่ มอบสินคา้ น้นั แกผ่ รู้ บั สลกั หลงั แตว่ า่ เม่อื ผฝู้ ากประสงค์จะจำนำสินค้า ตอ้ งแยกประทวนออกเสยี จากใบรับของคลงั สินคา้ และสง่ มอบประทวนนนั้ ให้แกผ่ รู้ บั สลกั หลัง มาตรา ๗๗๘ ใบรบั ของคลงั สนิ ค้าและประทวนสนิ ค้า ตอ้ งมเี ลขลำดบั ตรงกนั กบั เลขในต้นข้ัว และลงลายมอื ชอื่ ของนายคลงั สินค้า อน่งึ ใบรบั ของคลงั สินคา้ และประทวนสนิ ค้านน้ั ท่านใหม้ รี ายละเอยี ดดงั กล่าวตอ่ ไปน้ี คอื (๑) ช่อื หรอื ยีห่ ้อ และสำนักของผฝู้ าก (๒) ท่ตี ง้ั คลงั สนิ คา้ (๓) คา่ บำเหน็จสำหรับเกบ็ รกั ษา

141 (๔) สภาพของสินค้าท่ีเกบ็ รักษา และนำ้ หนกั หรือขนาดแห่งสนิ ค้านัน้ กบั ทง้ั สภาพ จำนวน และเครอื่ งหมายหบี หอ่ (๕) สถานทีแ่ ละวันออกใบรบั ของคลงั สนิ คา้ และประทวนสินคา้ นน้ั (๖) ถ้าไดก้ ำหนดกนั ไวว้ ่าให้เก็บสินคา้ ไวช้ ั่วเวลาเท่าใดให้แจง้ กำหนดนน้ั ด้วย (๗) ถ้าของท่เี กบ็ รักษามปี ระกนั ภยั ใหแ้ สดงจำนวนเงินทป่ี ระกนั ภยั กำหนดเวลาทปี่ ระกันภัย และชื่อหรือยห่ี อ้ ของผรู้ บั ประกันภัยด้วย อนึ่ง นายคลังสินค้าตอ้ งจดรายละเอยี ดทัง้ นลี้ งไว้ในตน้ ข้ัวด้วย มาตรา ๗๗๙ อนั ใบรบั ของคลังสนิ ค้ากด็ ี ประทวนสนิ ค้ากด็ ี ทา่ นวา่ หาอาจออกใหห้ รอื สลัก หลงั ให้แกผ่ ู้ถอื ได้ไม่ มาตรา ๗๘๐ เมอ่ื ใดผู้ฝากสลักหลงั ประทวนสนิ ค้าใหแ้ ก่ผรู้ บั จำนำ ค่สู ัญญาตอ้ งจดแจ้งการท่ี สลกั หลังน้นั ลงไวใ้ นใบรบั ของคลงั สินคา้ ดว้ ย ถา้ มิไดจ้ ดแจ้งไว้ดังนน้ั ท่านวา่ การจำนำน้นั หาอาจยกขน้ึ เปน็ ขอ้ ต่อสผู้ ซู้ ื้อสนิ ค้าสบื ไปนั้นไดไ้ ม่ มาตรา ๗๘๑ เมื่อประทวนสินคา้ ได้สลกั หลงั และส่งมอบแกผ่ ้รู บั จำนำแล้ว ใหผ้ ู้ฝากกับผรู้ บั จำนำจดลงไวใ้ นประทวนสนิ ค้าเป็นสำคญั ว่าได้จดขอ้ ความตามท่บี ญั ญัติในมาตรากอ่ นไวใ้ นใบรบั ของ คลงั สินคา้ แลว้ มาตรา ๗๘๒ เมอ่ื ใดผฝู้ ากจำนำสนิ ค้าและสง่ มอบประทวนสินค้าแกผ่ รู้ บั สลกั หลังแลว้ ผ้รู ับ สลักหลงั เชน่ นัน้ ต้องมจี ดหมายบอกกล่าวแก่นายคลงั สินค้าใหท้ ราบจำนวนหนซ้ี ง่ึ จำนำสินคา้ นั้นเป็นประกนั ทงั้ จำนวนดอกเบ้ียและวนั อนั หนน้ี นั้ จะถงึ กำหนดชำระ เม่อื นายคลงั สนิ คา้ ได้รบั คำบอกกล่าวเช่นนนั้ แลว้ ตอ้ งจด รายการทั้งนน้ั ลงในตน้ ขว้ั ถา้ และมไิ ดจ้ ดในตน้ ขัว้ เชน่ นั้น ท่านว่าการจำนำน้ันหาอาจจะยกขึ้นเป็นขอ้ ต่อสเู้ จ้าหนี้ ทงั้ หลายของผูฝ้ ากไดไ้ ม่ มาตรา ๗๘๓ ผทู้ รงเอกสารอันมีทงั้ ใบรบั ของคลงั สนิ คา้ และประทวนสนิ คา้ นัน้ จะใหน้ าย คลงั สินค้าแยกสนิ คา้ ทเี่ ก็บรกั ษาไว้ออกเป็นหลายสว่ นและใหส้ ง่ มอบเอกสารแก่ตนส่วนละใบกไ็ ด้ ในกรณเี ชน่ นี้ ผู้ทรงเอกสารตอ้ งคืนเอกสารเดมิ แกน่ ายคลงั สนิ ค้า อนง่ึ ค่าใช้จ่ายในการแยกสนิ ค้าและการสง่ มอบเอกสารใหมน่ ั้น ผู้ทรงเอกสารต้องรบั ใช้

142 มาตรา ๗๘๔ กรรมสทิ ธิ์ในสนิ ค้าทเ่ี กบ็ รักษาไวน้ นั้ ท่านว่าอาจโอนไดแ้ ตด่ ้วยสลกั หลงั ใบรับ ของคลังสินค้าเทา่ นั้น มาตรา ๗๘๕ สินค้าซึ่งเกบ็ รกั ษาไว้นั้นอาจจำนำได้แต่ดว้ ยสลักหลงั ประทวนสินคา้ เมอ่ื ประทวนสนิ ค้าได้สลกั หลงั แล้ว สินค้านน้ั จะจำนำแกผ่ ูอ้ ่ืนอีกชนั้ หนงึ่ ดว้ ยสลกั หลังใบรบั ของคลงั สินคา้ อย่าง เดยี วกับสลักหลงั ประทวนสินค้านั้นกไ็ ด้ มาตรา ๗๘๖ ตราบใดสนิ ค้าทีเ่ กบ็ รกั ษาไวไ้ มไ่ ด้จำนำ ทา่ นว่าจะโอนใบรบั ของคลงั สินคา้ และ ประทวนสินคา้ ไปต่างหากจากกันไมไ่ ดอ้ ยูต่ ราบนัน้ มาตรา ๗๘๗ ในการสลักหลงั ลงในประทวนสนิ ค้าครั้งแรกนน้ั ต้องจดแจง้ จำนวนหนีท้ จ่ี ำนำ สนิ ค้าเป็นประกนั ทั้งจำนวนดอกเบี้ยทจ่ี ะตอ้ งชำระและวนั ทหี่ น้จี ะถึงกำหนดชำระด้วย มาตรา ๗๘๘ อนั สนิ ค้าทเี่ ก็บรักษาไวใ้ นคลงั น้นั จะรบั เอาไปไดแ้ ต่เมือ่ เวนคนื ใบรบั ของ คลังสนิ ค้า มาตรา ๗๘๙ ถา้ ไดแ้ ยกประทวนสนิ คา้ ออกสลกั หลังจำนำแลว้ จะรบั เอาสินคา้ ได้แตเ่ มื่อ เวนคนื ท้งั ใบรบั ของคลงั สินค้าและประทวนสนิ ค้า แต่วา่ ผทู้ รงใบรบั ของคลงั สินค้าอาจให้คืนสนิ คา้ แก่ตนได้ในเวลาใด ๆ เม่อื วางเงินแก่นาย คลังสินค้าเตม็ จำนวนหน้ซี ึง่ ลงไว้ในประทวนสนิ ค้า กบั ทั้งดอกเบยี้ จนถงึ วันกำหนดชำระหน้นี ้นั ด้วย อน่ึง จำนวนเงินที่วางเชน่ นน้ี ายคลงั สินคา้ ตอ้ งชำระแก่ผทู้ รงประทวนสนิ ค้าในเมอื่ เขาเวนคนื ประทวนนนั้ มาตรา ๗๙๐ ถ้าหนซ้ี ึ่งสินค้าจำนำเปน็ ประกนั มิได้ชำระเมื่อวันถึงกำหนดไซร้ ผทู้ รงประทวน สนิ ค้าเม่อื ไดย้ นื่ คำคัดค้านตามระเบยี บแลว้ ชอบทจ่ี ะใหน้ ายคลังสนิ ค้าขายทอดตลาดสนิ ค้านนั้ ได้ แต่ท่านห้าม มิใหข้ ายทอดตลาดก่อนแปดวนั นบั แตว่ นั คัดคา้ น มาตรา ๗๙๑ ผู้ทรงประทวนสินคา้ ตอ้ งมจี ดหมายบอกกล่าวให้ผฝู้ ากทราบเวลาและสถานท่ี จะขายทอดตลาด

143 มาตรา ๗๙๒ นายคลงั สนิ คา้ ต้องหกั เงนิ ที่ค้างชำระแกต่ นเนอื่ งดว้ ยการเก็บรกั ษาสนิ ค้านน้ั จากจำนวนเงนิ สทุ ธทิ ีข่ ายทอดตลาดได้ และเมอื่ ผทู้ รงประทวนสินคา้ นำประทวนมาเวนคนื ต้องเอาเงินทเ่ี หลือ น้ันให้ตามจำนวนทค่ี ้างชำระแก่เขา ถา้ มีเงินเหลือเท่าใด ต้องใช้แก่ผู้รบั จำนำคนหลงั เมอื่ เขาเวนคนื ใบรบั ของคลงั สนิ ค้าหรอื ถา้ ไม่ มผี ู้รบั จำนำคนหลงั หรอื ผรู้ ับจำนำคนหลงั ไดร้ บั ชำระหน้ีแลว้ กใ็ หช้ ำระเงินท่ีเหลืออยนู่ ้ันแกผ่ ทู้ รงใบรบั ของ คลงั สนิ คา้ มาตรา ๗๙๓ ถา้ จำนวนเงนิ สุทธิท่ขี ายทอดตลาดไดไ้ มพ่ อชำระหนแ้ี กผ่ ู้ทรงประทวนสินค้า ไซร้ นายคลังสนิ ค้าต้องคนื ประทวนสินคา้ แก่เขา กับจดบอกจำนวนเงนิ ทไ่ี ดช้ ำระลงไว้ในประทวนสินค้านัน้ แลว้ จดลงไวใ้ นสมุดบญั ชีของตนดว้ ย มาตรา ๗๙๔ ผทู้ รงประทวนสินค้ามสี ิทธิจะไลเ่ บ้ียเอาจำนวนเงนิ ทีย่ งั คา้ งชำระนั้นแกผ่ ูส้ ลัก หลงั คนก่อน ๆ ท้งั หมด หรอื แต่คนใดคนหนึ่งได้ แตต่ อ้ งได้ขายทอดตลาดภายในเดือนหนงึ่ นบั แต่วนั คดั ค้าน อน่งึ ท่านหา้ มมใิ หฟ้ อ้ งไลเ่ บ้ียเมื่อพน้ เวลาปหี น่ึงนบั แต่วันขายทอดตลาด มาตรา ๗๙๕ บทบญั ญัตทิ ้งั หลายในประมวลกฎหมายนอี้ ันวา่ ด้วยต๋วั เงินนนั้ ทา่ นให้ใชไ้ ดถ้ งึ ประทวนสินคา้ และใบรบั ของคลงั สนิ คา้ ซ่ึงได้สลักหลงั อย่างประทวนสินค้าน้ันดว้ ย เพียงท่ไี มข่ ดั กบั บทบัญญตั ิ ทง้ั หลายในลกั ษณะนี้ มาตรา ๗๙๖ ถา้ เอกสารมที ง้ั ใบรับของคลงั สินค้าและประทวนสนิ ค้าหรือแต่อยา่ งหนง่ึ อย่าง ใดสญู หายไป เมื่อผูท้ รงเอกสารนน้ั ๆ ใหป้ ระกนั ตามสมควรแล้วจะใหน้ ายคลังสนิ ค้าออกให้ใหมก่ ไ็ ด้ ในกรณีเช่นนน้ี ายคลงั สินค้าตอ้ งจดหมายลงไว้ในต้นข้ัวเป็นสำคัญ ลักษณะ ๑๕ ตัวแทน หมวด ๑ บทเบ็ดเสรจ็ ทั่วไป มาตรา ๗๙๗ อันวา่ สญั ญาตัวแทนนัน้ คือสญั ญาซ่ึงใหบ้ ุคคลคนหนงึ่ เรียกว่าตวั แทน มี อำนาจทำการแทนบคุ คลอกี คนหนง่ึ เรียกว่าตัวการ และตกลงจะทำการดังน้นั

144 อันความเปน็ ตวั แทนนั้นจะเปน็ โดยต้ังแตง่ แสดงออกชดั หรอื โดยปรยิ ายกย็ อ่ มได้ มาตร ๗๙๘ กิจการอนั ใดท่านบังคบั ไว้โดยกฎหมายวา่ ต้องทำเป็นหนงั สอื การตงั้ ตวั แทนเพอ่ื กจิ การอนั น้ันกต็ อ้ งทำเปน็ หนงั สอื ด้วย กจิ การอันใดทา่ นบงั คบั ไวว้ ่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตัง้ ตัวแทนเพอื่ กจิ การอนั นั้นก็ตอ้ ง มีหลกั ฐานเป็นหนงั สอื ด้วย มาตรา ๗๙๙ ตวั การคนใดใชบ้ ุคคลผู้ไร้ความสามารถเป็นตวั แทน ท่านวา่ ตวั การคนน้นั ยอ่ ม ตอ้ งผูกพนั ในกิจการท่ีตวั แทนกระทำ มาตรา ๘๐๐ ถา้ ตัวแทนได้รบั มอบอำนาจแตเ่ ฉพาะการ ทา่ นว่าจะทำการแทนตวั การไดแ้ ต่ เพยี งในสิ่งทจ่ี ำเปน็ เพ่ือใหก้ ิจอนั เขาไดม้ อบหมายแกต่ นนั้นสำเร็จลลุ ว่ งไป มาตรา ๘๐๑ ถ้าตวั แทนไดร้ บั มอบอำนาจทวั่ ไป ท่านว่าจะทำกิจใด ๆ ในทางจดั การแทน ตวั การกย็ อ่ มทำได้ทุกอย่าง แตก่ ารเชน่ อย่างจะกล่าวต่อไปน้ี ทา่ นว่าหาอาจจะทำได้ไม่ คือ (๑) ขายหรือจำนองอสงั หาริมทรัพย์ (๒) ใหเ้ ช่าอสังหาริมทรพั ยก์ วา่ สามปีข้ึนไป (๓) ให้ (๔) ประนปี ระนอมยอมความ (๕) ยน่ื ฟ้องต่อศาล (๖) มอบขอ้ พพิ าทใหอ้ นุญาโตตลุ าการพิจารณา มาตรา ๘๐๒ ในเหตฉุ ุกเฉิน เพอ่ื จะปอ้ งกนั มิใหต้ วั การต้องเสยี หาย ทา่ นใหส้ ันนิษฐานไว้กอ่ น วา่ ตวั แทนจะทำการใด ๆ เช่นอย่างวิญญชู นจะพึงกระทำ กย็ อ่ มมีอำนาจจะทำได้ทงั้ สิ้น มาตรา ๘๐๓ ตัวแทนไม่มสี ิทธจิ ะไดร้ ับบำเหนจ็ เวน้ แตจ่ ะได้มีข้อตกลงกนั ไว้ในสญั ญาวา่ มี บำเหนจ็ หรอื ทางการทค่ี สู่ ัญญาประพฤติตอ่ กนั น้นั เปน็ ปรยิ ายวา่ มบี ำเหนจ็ หรอื เคยเป็นธรรมเนยี มมบี ำเหนจ็ มาตรา ๘๐๔ ถา้ ในสญั ญาอนั เดียวตัวการคนเดยี วตัง้ ตัวแทนหลายคนเพื่อแก่การอันเดยี วกนั ไซร้ ท่านใหส้ ันนษิ ฐานไว้กอ่ นวา่ ตัวแทนจะตา่ งคนตา่ งทำการนน้ั ๆ แยกกันไมไ่ ด้

145 มาตรา ๘๐๕ ตวั แทนน้ัน เมอ่ื ไม่ได้รบั ความยินยอมของตวั การจะเขา้ ทำนิติกรรมอันใดใน นามของตวั การทำกับตนเองในนามของตนเองหรอื ในฐานเปน็ ตัวแทนของบคุ คลภายนอกหาได้ไม่ เวน้ แต่นิติ กรรมนั้นมเี ฉพาะแตก่ ารชำระหนี้ มาตรา ๘๐๖ ตัวการซึ่งมิได้เปิดเผยช่ือจะกลบั แสดงตนใหป้ รากฏและเข้ารับเอาสัญญาใด ๆ ซ่ึงตวั แทนได้ทำไวแ้ ทนตนกไ็ ด้ แต่ถ้าตัวการผ้ใู ดไดย้ อมให้ตัวแทนของตนทำการออกหน้าเปน็ ตัวการไซร้ ทา่ น ว่าตวั การผนู้ น้ั หาอาจจะทำใหเ้ ส่ือมเสียถงึ สิทธขิ องบุคคลภายนอกอันเขามตี ่อตวั แทน และเขาขวนขวายไดม้ า แต่ก่อนท่ีรวู้ ่าเป็นตัวแทนนน้ั ได้ไม่ หมวด ๒ หนา้ ท่ีและความรบั ผิดของตัวแทนต่อตวั การ มาตรา ๘๐๗ ตวั แทนตอ้ งทำการตามคำสง่ั แสดงออกชัดหรอื โดยปรยิ ายของตัวการเมื่อไม่มี คำสัง่ เช่นนน้ั ก็ตอ้ งดำเนนิ ตามทางที่เคยทำกนั มาในกจิ การคา้ ขายอันเขาใหต้ นทำอยู่นน้ั อนง่ึ บทบญั ญตั มิ าตรา ๖๕๙ วา่ ด้วยการฝากทรัพยน์ ั้น ทา่ นให้นำมาใช้ดว้ ยโดยอนโุ ลมตาม ควร มาตรา ๘๐๘ ตัวแทนต้องทำการด้วยตนเอง เวน้ แต่จะมีอำนาจใชต้ ัวแทนชว่ งทำการได้ มาตรา ๘๐๙ เมื่อตัวการมปี ระสงคจ์ ะทราบความเป็นไปของการที่ไดม้ อบหมายแกต่ ัวแทน นัน้ ในเวลาใด ๆ ซ่งึ สมควรแก่เหตุ ตัวแทนก็ตอ้ งแจง้ ใหต้ วั การทราบ อนงึ่ เมอื่ การเปน็ ตัวแทนน้นั สิ้นสุดลงแล้ว ตัวแทนต้องแถลงบัญชีด้วย มาตรา ๘๑๐ เงนิ และทรัพยส์ ินอย่างอ่ืนบรรดาท่ีตวั แทนได้รับไว้เก่ยี วดว้ ยการเปน็ ตัวแทนนัน้ ท่านว่าตวั แทนต้องส่งให้แก่ตัวการจงส้นิ อนึง่ สิทธิทงั้ หลายซ่งึ ตัวแทนขวนขวายได้มาในนามของตนเองแตโ่ ดยฐานท่ีทำการแทน ตัวการนน้ั ตวั แทนกต็ อ้ งโอนให้แก่ตัวการจงส้นิ มาตรา ๘๑๑ ถ้าตวั แทนเอาเงินซ่ึงควรจะไดส้ ง่ แกต่ ัวการ หรือซงึ่ ควรจะใชใ้ นกจิ ของตัวการ นนั้ ไปใชส้ อยเป็นประโยชนต์ นเสีย ทา่ นวา่ ตัวแทนตอ้ งเสยี ดอกเบีย้ ในเงินนนั้ นบั แตว่ นั ท่ไี ด้เอาไปใช้

146 มาตรา ๘๑๒ ถา้ มีความเสียหายเกดิ ขนึ้ อย่างใด ๆ เพราะความประมาทเลินเลอ่ ของตวั แทนก็ ดี เพราะไม่ทำการเปน็ ตวั แทนกด็ ี หรือเพราะทำการโดยปราศจากอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจกด็ ี ท่านว่า ตัวแทนจะตอ้ งรบั ผิด มาตรา ๘๑๓ ตัวแทนผใู้ ดต้งั ตัวแทนช่วงตามทตี่ วั การระบุตวั ให้ตง้ั ทา่ นวา่ ตวั แทนผนู้ น้ั จะตอ้ งรบั ผดิ แต่เพยี งในกรณที ่ตี นได้รวู้ ่าตัวแทนชว่ งน้นั เปน็ ผูท้ ไี่ มเ่ หมาะแก่การ หรือเปน็ ผู้ท่ีไมส่ มควรไวว้ างใจ แลว้ และมไิ ดแ้ จง้ ความนัน้ ใหต้ วั การทราบหรอื มิไดเ้ ลิกถอนตวั แทนชว่ งนัน้ เสยี เอง มาตรา ๘๑๔ ตวั แทนช่วงยอ่ มรบั ผดิ โดยตรงต่อตัวการฉันใดกลบั กนั กฉ็ นั นัน้ หมวด ๓ หน้าทแี่ ละความรบั ผดิ ของตัวการตอ่ ตวั แทน มาตรา ๘๑๕ ถา้ ตัวแทนมปี ระสงค์ไซร้ ตัวการต้องจา่ ยเงินทดรองให้แกต่ ัวแทนตามจำนวนท่ี จำเป็น เพอื่ ทำการอนั มอบหมายแกต่ ัวแทนนั้น มาตรา ๘๑๖ ถา้ ในการจัดทำกจิ การอนั เขามอบหมายแก่ตนน้นั ตวั แทนไดอ้ อกเงินทดรอง หรือออกเงนิ คา่ ใช้จา่ ยไป ซง่ึ พเิ คราะหต์ ามเหตคุ วรนบั ว่าเปน็ การจำเปน็ ได้ไซร้ ทา่ นวา่ ตัวแทนจะเรียกเอาเงิน ชดใช้จากตัวการ รวมท้งั ดอกเบย้ี นบั แต่วนั ท่ีไดอ้ อกเงนิ ไปนน้ั ด้วยก็ได้ ถ้าในการจัดทำกจิ การอันเขามอบหมายแก่ตนน้ัน ตัวแทนตอ้ งรบั ภาระเปน็ หนี้ขนึ้ อย่างหนง่ึ อยา่ งใด ซงึ่ พเิ คราะหต์ ามเหตุควรนับว่าเปน็ การจำเปน็ ได้ไซร้ ท่านวา่ ตวั แทนจะเรยี กใหต้ วั การชำระหนแี้ ทนตน ก็ได้ หรอื ถ้ายังไม่ถงึ เวลากำหนดชำระหน้ี จะให้ตวั การใหป้ ระกนั อันสมควรกไ็ ด้ ถา้ ในการจดั ทำกจิ การอันเขามอบหมายแก่ตนนนั้ เปน็ เหตุให้ตัวแทนต้องเสียหายอยา่ งหน่งึ อย่างใด มิใช่เป็นเพราะความผดิ ของตนเองไซร้ ท่านว่าตวั แทนจะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากตัวการกไ็ ด้ มาตรา ๘๑๗ ในกรณีทมี่ บี ำเหนจ็ ตวั แทนถ้าไมม่ ีข้อสญั ญาตกลงกันไวเ้ ปน็ อย่างอืน่ ทา่ นวา่ บำเหนจ็ นัน้ พงึ จา่ ยใหต้ อ่ เมอ่ื การเปน็ ตัวแทนได้สดุ สน้ิ ลงแล้ว มาตรา ๘๑๘ การในหน้าทตี่ วั แทนสว่ นใดตวั แทนได้ทำมิชอบในส่วนนน้ั ทา่ นว่าตวั แทนไม่มี สิทธิจะไดบ้ ำเหนจ็

147 มาตรา ๘๑๙ ตวั แทนชอบท่ีจะยดึ หน่วงทรัพยส์ ินอยา่ งใด ๆ ของตวั การอนั ตกอยใู่ นความ ครอบครองของตนเพราะเปน็ ตัวแทนนนั้ เอาไวไ้ ด้ จนกวา่ จะไดร้ บั เงินบรรดาคา้ งชำระแก่ตนเพราะการเปน็ ตัวแทน หมวด ๔ ความรบั ผิดของตวั การและตวั แทนตอ่ บุคคลภายนอก มาตรา ๘๒๐ ตัวการยอ่ มมคี วามผูกพันต่อบคุ คลภายนอกในกจิ การทงั้ หลายอันตัวแทนหรอื ตวั แทนชว่ งได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตวั แทน มาตรา ๘๒๑ บุคคลผใู้ ดเชดิ บุคคลอกี คนหน่งึ ออกแสดงเป็นตวั แทนของตนก็ดี ร้แู ลว้ ยอมให้ บุคคลอีกคนหน่งึ เชิดตวั เขาเองออกแสดงเปน็ ตัวแทนของตนก็ดี ทา่ นว่าบุคคลผูน้ นั้ จะต้องรับผดิ ต่อ บุคคลภายนอกผสู้ จุ ริตเสมอื นว่าบคุ คลอกี คนหนึ่งนนั้ เป็นตวั แทนของตน มาตรา ๘๒๒ ถ้าตัวแทนทำการอนั ใดเกินอำนาจตวั แทน แต่ทางปฏบิ ตั ขิ องตวั การทำให้ บคุ คลภายนอกมีมลู เหตอุ ันสมควรจะเช่ือวา่ การอนั นน้ั อยู่ภายในขอบอำนาจของตัวแทนไซร้ ท่านใหใ้ ช้ บทบญั ญตั มิ าตรากอ่ นนเ้ี ปน็ บทบงั คับ แลว้ แตก่ รณี มาตรา ๘๒๓ ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนงึ่ โดยปราศจากอำนาจกด็ ี หรือทำนอกทำ เหนือขอบอำนาจก็ดี ทา่ นว่าย่อมไมผ่ กู พันตวั การ เว้นแต่ตัวการจะใหส้ ัตยาบนั แก่การน้ัน ถา้ ตัวการไมใ่ หส้ ตั ยาบัน ท่านว่าตัวแทนยอ่ มตอ้ งรบั ผดิ ตอ่ บคุ คลภายนอกโดยลำพงั ตนเอง เว้นแตจ่ ะพสิ จู น์ได้วา่ บคุ คลภายนอกนนั้ ไดร้ อู้ ย่วู า่ ตนทำการโดยปราศจากอำนาจ หรอื ทำนอกเหนือขอบอำนาจ มาตรา ๘๒๔ ตวั แทนคนใดทำสัญญาแทนตัวการซง่ึ อยตู่ ่างประเทศและมีภมู ิลำเนาใน ตา่ งประเทศ ท่านว่าตัวแทนคนนัน้ จะต้องรบั ผิดตามสญั ญานนั้ แต่ลำพังตนเอง แมท้ ง้ั ชอ่ื ของตัวการจะได้ เปิดเผยแลว้ เวน้ แตข่ อ้ ความแห่งสญั ญาจะแยง้ กนั กบั ความรบั ผิดของตัวแทน มาตรา ๘๒๕ ถา้ ตวั แทนเข้าทำสัญญากบั บุคคลภายนอกโดยเหน็ แก่อามสิ สนิ จ้างเปน็ ทรพั ยส์ นิ อย่างใด ๆ หรือประโยชน์อย่างอื่นอันบุคคลภายนอกไดใ้ ห้เปน็ ลาภส่วนตัวก็ดี หรอื ใหค้ ำมัน่ วา่ จะใหก้ ็ ดี ท่านวา่ ตวั การหาตอ้ งผกู พันในสญั ญาซึ่งตวั แทนของตนไดท้ ำนนั้ ไม่ เว้นแตต่ วั การจะไดย้ ินยอมด้วย

148 หมวด ๕ ความระงับสนิ้ ไปแหง่ สญั ญาตวั แทน มาตรา ๘๒๖ อันสญั ญาตวั แทนย่อมระงบั สิ้นไปดว้ ยตัวการถอนตวั แทน หรือดว้ ยตัวแทน บอกเลกิ เป็นตวั แทน อน่ึง สญั ญาตัวแทนย่อมระงบั ส้ินไป เม่อื คู่สญั ญาฝ่ายใดฝ่ายหน่งึ ตาย หรอื ตกเป็นผู้ไร้ ความสามารถ หรอื ลม้ ละลาย เวน้ แตจ่ ะปรากฏว่าขดั กับขอ้ สัญญาหรอื สภาพแหง่ กจิ การนนั้ มาตรา ๘๒๗ ตวั การจะถอนตวั แทน และตัวแทนจะบอกเลกิ เปน็ ตัวแทนเสียในเวลาใด ๆ ก็ ไดท้ กุ เมอ่ื คสู่ ญั ญาฝา่ ยซงึ่ ถอนตวั แทนหรอื บอกเลิกเป็นตัวแทนในเวลาท่ีไม่สะดวกแก่อกี ฝ่ายหนงึ่ จะต้องรับผิดตอ่ คู่สญั ญาฝ่ายนัน้ ในความเสยี หายอยา่ งใด ๆ อันเกิดแตก่ ารนั้น เวน้ แต่ในกรณีที่เป็นความจำเป็น อันมิอาจจะกา้ วลว่ งเสียได้ มาตรา ๘๒๘ เมือ่ สญั ญาตวั แทนระงบั สิน้ ไปเพราะตวั การตายก็ดี ตัวการตกเปน็ ผู้ไร้ ความสามารถหรือล้มละลายก็ดี ทา่ นวา่ ตัวแทนต้องจัดการอนั สมควรทกุ อยา่ งเพ่ือจะปกปกั รกั ษาประโยชนอ์ ัน เขาได้มอบหมายแกต่ นไป จนกว่าทายาทหรือผู้แทนของตัวการจะอาจเขา้ ปกปกั รกั ษาประโยชนน์ ัน้ ๆ ได้ มาตรา ๘๒๙ เมอ่ื สญั ญาตวั แทนระงับส้ินไปเพราะตวั แทนตายกด็ ี ตวั แทนตกเป็นผ้ไู ร้ ความสามารถหรือล้มละลายก็ดี ทา่ นว่าทายาทหรอื บุคคลผรู้ บั หน้าที่ดูแลทรพั ยม์ รดกของตัวแทนโดยชอบด้วย กฎหมายตอ้ งบอกกล่าวแก่ตวั การและจดั การเพื่อปกปกั รกั ษาประโยชนข์ องตวั การไปตามสมควรแกพ่ ฤตกิ ารณ์ จนกวา่ ตัวการอาจเขา้ ปกปกั รักษาประโยชนน์ ้ัน ๆ ได้ มาตรา ๘๓๐ อันเหตทุ ที่ ำใหส้ ญั ญาตวั แทนระงับสน้ิ ไปนั้นจะเกดิ แตต่ วั การหรือตัวแทนก็ตาม ทา่ นห้ามมิใหย้ กข้ึนเปน็ ขอ้ ต่อส้คู สู่ ัญญาอกี ฝ่ายหนงึ่ จนกว่าจะไดบ้ อกกลา่ วเหตุน้ัน ๆ ไปยังคู่สญั ญาฝ่ายนน้ั แล้ว หรือจนกวา่ คู่สัญญาฝา่ ยนนั้ จะไดท้ ราบเหตแุ ล้ว มาตรา ๘๓๑ อนั ความระงบั สน้ิ ไปแห่งสญั ญาตวั แทนนัน้ ทา่ นหา้ มมิให้ยกข้ึนเป็นขอ้ ตอ่ สู้ บุคคลภายนอกผทู้ ำการโดยสจุ รติ เว้นแตบ่ คุ คลภายนอกหากไม่ทราบความนนั้ เพราะความประมาทเลนิ เลอ่ ของตนเอง

149 มาตรา ๘๓๒ ในเมอ่ื สัญญาตวั แทนระงบั สิ้นไป ตัวการชอบทจ่ี ะเรียกให้เวนคืนหนงั สือมอบ อำนาจอยา่ งใด ๆ อันได้ใหไ้ ว้แก่ตวั แทนนัน้ ได้ หมวด ๖ ตัวแทนคา้ ตา่ ง มาตรา ๘๓๓ อนั ว่าตัวแทนค้าตา่ ง คือบคุ คลซ่ึงในทางค้าขายของเขาย่อมทำการซื้อหรือขาย ทรัพยส์ นิ หรอื รบั จัดทำกจิ การค้าขายอย่างอ่ืนในนามของตนเองต่างตัวการ มาตรา ๘๓๔ ถ้ามไิ ด้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ทา่ นว่าตวั แทนค้าตา่ งชอบที่จะไดร้ ับบำเหน็จ โดยอัตราตามธรรมเนียมเพอ่ื กจิ การค้าขายอันตนไดจ้ ัดการใหต้ กลงไปนนั้ ทกุ รายไป มาตรา ๘๓๕ บทบญั ญตั ทิ ง้ั หลายแหง่ ประมวลกฎหมายนี้อนั ว่าดว้ ยตัวแทนน้ันทา่ นใหใ้ ช้ บงั คับถงึ ตัวแทนค้าตา่ งด้วย เพียงทีไ่ มข่ ัดกบั บทบญั ญตั ใิ นหมวดนี้ มาตรา ๘๓๖ บุคคลผไู้ รค้ วามสามารถหาอาจจะทำการเปน็ ตวั แทนค้าตา่ งได้ไม่ เว้นแต่จะ ได้รับอำนาจโดยชอบใหท้ ำได้ มาตรา ๘๓๗ ในการทต่ี ัวแทนคา้ ต่างทำการขายหรือซอื้ หรือจัดทำกจิ การคา้ ขายอย่างอนื่ ตา่ ง ตวั การนั้น ท่านว่าตวั แทนค้าต่างยอ่ มไดซ้ ่ึงสทิ ธอิ นั มตี ่อคสู่ ญั ญาอกี ฝา่ ยหนึ่งในกจิ การเชน่ นั้น และตัวแทนค้า ต่างยอ่ มเป็นผตู้ อ้ งผูกพันตอ่ คสู่ ญั ญาฝ่ายนัน้ ดว้ ย มาตรา ๘๓๘ ถ้าคู่สญั ญาอกี ฝ่ายหนงึ่ ไมช่ ำระหนไี้ ซร้ ท่านวา่ ตัวแทนคา้ ตา่ งหาตอ้ งรบั ผดิ ตอ่ ตัวการเพอื่ ชำระหน้ีนัน้ เองไม่ เว้นแต่จะไดม้ ขี อ้ กำหนดในสญั ญาหรอื มีปรยิ ายแตท่ างการทตี่ ัวการกบั ตวั แทน ประพฤติตอ่ กัน หรือมธี รรมเนยี มในท้องถน่ิ วา่ จะตอ้ งรับผดิ ถงึ เพยี งนน้ั อนง่ึ ตัวแทนค้าต่างคนใดเข้ารับประกนั การปฏิบัติตามสัญญาโดยนยั ดงั กลา่ วมาในวรรคกอ่ น นน้ั ไซร้ ทา่ นว่าตัวแทนคนน้ันช่ือวา่ เปน็ ตวั แทนฐานประกนั ชอบทจี่ ะไดร้ ับบำเหน็จพเิ ศษ มาตรา ๘๓๙ ถ้าตัวแทนค้าตา่ งได้ทำการขายเปน็ ราคาต่ำไปกว่าที่ตัวการกำหนดหรอื ทำการ ซอื้ เป็นราคาสงู ไปกว่าที่ตัวการกำหนดไซร้ หากว่าตัวแทนรบั ใชเ้ ศษท่ีขาดเกนิ นั้นแล้ว ท่านวา่ การขายหรือการ ซื้ออนั นนั้ ตัวการก็ตอ้ งรับขายรบั ซ้ือ

150 มาตรา ๘๔๐ ถา้ ตัวแทนค้าตา่ งได้ทำการขายได้ราคาสงู กว่าที่ตวั การกำหนด หรือทำการซื้อ ได้ราคาตำ่ กว่าทตี่ วั การกำหนดไซร้ ท่านว่าตวั แทนหาอาจจะถือเอาเปน็ ประโยชนข์ องตนได้ไม่ ตอ้ งคิดให้แก่ ตัวการ มาตรา ๘๔๑ ตวั แทนคา้ ตา่ งทำการไปอย่างไรบ้าง ท่านใหแ้ ถลงรายงานแกต่ วั การและเม่อื ได้ ทำการคา้ ตา่ งเสรจ็ ลงแลว้ ก็ให้แจ้งแกต่ ัวการทราบมิให้ชักชา้ มาตรา ๘๔๒ เมือ่ ใดเขามอบหมายทรัพยส์ นิ ไวแ้ ก่ตัวแทนคา้ ตา่ ง ทา่ นใหน้ ำบทบญั ญตั ิ ท้งั หลายแหง่ ประมวลกฎหมายน้ี ลกั ษณะฝากทรัพยม์ าใช้บังคับ อนุโลมตามควร อน่ึง ในกรณีทเี่ ปน็ ความจำเปน็ อันมกิ ้าวลว่ งเสยี ได้ ท่านวา่ ตัวแทนคา้ ต่างจะจดั การแก่ ทรพั ยส์ ินนั้นตามวิธกี ารดงั บญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา ๖๓๑ วา่ ดว้ ยรบั ขนนั้นกไ็ ด้ มาตรา ๘๔๓ ตวั แทนค้าตา่ งคนใดไดร้ ับคำสั่งใหข้ ายหรอื ซอื้ ทรัพยส์ ินอนั มรี ายการขานราคา ของสถานแลกเปลย่ี น ทา่ นวา่ ตวั แทนคนนัน้ จะเปน็ ผซู้ ื้อหรอื ผู้ขายเองกไ็ ด้ เวน้ แตจ่ ะมขี ้อห้ามไวช้ ัดแจง้ โดย สัญญา ในกรณีเชน่ นั้น ราคาอนั จะพงึ ใช้เงินแกก่ ันกพ็ งึ กำหนดตามรายการขานราคาทรัพยส์ ินน้นั ณ สถาน แลกเปลยี่ นในเวลาเม่อื ตวั แทนค้าต่างให้คำบอกกลา่ ววา่ ตนจะเปน็ ผู้ซ้อื หรอื ผขู้ าย เม่อื ตวั การรับคำบอกกลา่ วเชน่ นั้น ถ้าไมบ่ อกปัดเสยี ในทันที ท่านให้ถือวา่ ตัวการเป็นอนั ได้ สนองรบั การนัน้ แลว้ อนงึ่ แมใ้ นกรณีเชน่ นนั้ ตวั แทนค้าตา่ งจะคิดเอาบำเหนจ็ ก็ยอ่ มคิดได้ มาตรา ๘๔๔ ในระหวา่ งตัวการกับตัวแทนค้าต่าง ท่านใหถ้ ือวา่ กิจการอันตวั แทนไดท้ ำให้ตก ลงไปนน้ั ย่อมมีผลเสมอื นดงั ว่าไดท้ ำให้ตกลงไปในนามของตวั การโดยตรง ลักษณะ ๑๖ นายหน้า มาตรา ๘๔๕ บคุ คลผูใ้ ดตกลงจะใหค้ ่าบำเหน็จแกน่ ายหนา้ เพ่อื ทชี่ ี้ชอ่ งใหไ้ ดเ้ ข้าทำสญั ญาก็ดี จัดการใหไ้ ดท้ ำสญั ญากนั กด็ ี ทา่ นว่าบุคคลผนู้ ัน้ จะตอ้ งรบั ผดิ ใช้คา่ บำเหนจ็ กต็ อ่ เมอ่ื สญั ญานน้ั ไดท้ ำกันสำเรจ็ เนอื่ งแต่ผลแห่งการทีน่ ายหน้าไดช้ ช้ี อ่ งหรอื จัดการน้ัน ถ้าสัญญาทไ่ี ด้ทำกันไวน้ ั้นมีเงื่อนไขเป็นเงอ่ื นบงั คับก่อน ไซร้ ท่านวา่ จะเรยี กรอ้ งบำเหน็จคา่ นายหนา้ ยังหาไดไ้ ม่ จนกวา่ เงอ่ื นไขนนั้ สำเร็จแล้ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook