201 การออกหนุ้ โดยราคาสูงกวา่ มูลคา่ ของหนุ้ ทต่ี ง้ั ไวน้ น้ั หากวา่ หนังสือบรคิ ณหส์ นธใิ ห้อำนาจไว้ กใ็ ห้ออกได้ และในกรณเี ช่นนน้ั ต้องสง่ ใชจ้ ำนวนทล่ี ำ้ มลู ค่าพร้อมกนั ไปกบั การส่งใช้เงินคราวแรก อนงึ่ เงนิ สง่ ใชค้ ่าห้นุ คราวแรกนน้ั ต้องมใิ หน้ อ้ ยกวา่ ร้อยละยสี่ บิ ห้าแห่งมูลคา่ ของหนุ้ ทต่ี งั้ ไว้ มาตรา ๑๑๐๖ การทเ่ี ขา้ ชื่อซ้ือหนุ้ น้ันยอ่ มผูกพันผูเ้ ขา้ ชอื่ โดยเงื่อนไขวา่ ถา้ บริษัทตง้ั ขนึ้ แล้ว จะใช้จำนวนเงินคา่ ห้นุ นน้ั ๆ ให้แก่บริษัทตามหนังสือชช้ี วนและข้อบงั คับของบรษิ ทั มาตรา ๑๑๐๗ เม่ือหุ้นชนดิ ซึ่งจะตอ้ งลงเงนิ น้นั ไดม้ ผี เู้ ข้าช่อื ซอื้ หมดแล้ว ผเู้ ริ่มกอ่ การต้องนดั บรรดาผเู้ ข้าชือ่ ซือ้ หุ้นมาประชุมกนั เปน็ การประชมุ ใหญโ่ ดยไมช่ ักชา้ ประชมุ อันนใ้ี หเ้ รยี กวา่ ประชมุ ตงั้ บรษิ ทั อนึง่ ให้ผเู้ รม่ิ ก่อการสง่ รายงานการตงั้ บรษิ ัทมคี ำรบั รองของตนวา่ ถูกต้อง และมขี ้อความที่ เก่ยี วแก่กจิ การอันจะพงึ กระทำในทป่ี ระชุมตง้ั บริษัททกุ ๆ ขอ้ ตามความในมาตราต่อไปนี้ ไปยังผู้เขา้ ชื่อซอ้ื หนุ้ ทกุ คนอยา่ งน้อยเจ็ดวันก่อนวันนดั ประชมุ เม่อื ไดส้ ง่ รายงานต้ังบริษัทแกผ่ ูเ้ ข้าช่ือซื้อหนุ้ แล้ว ผเู้ รมิ่ กอ่ การตอ้ งจัดสง่ สำเนารายงานอนั มีคำ รับรองว่าถกู ตอ้ งตามทีบ่ งั คบั ไว้ในมาตรานไี้ ปยงั นายทะเบียนบริษัทโดยพลัน อนง่ึ ให้ผเู้ รมิ่ ก่อการจดั ใหม้ บี ญั ชแี ถลงรายชอื่ ฐานะ และสำนกั ของผเู้ ข้าช่อื ซื้อหนุ้ กับจำนวน หุ้นซึ่งตา่ งคนได้ลงช่อื ซอ้ื ไวเ้ พอื่ เสนอตอ่ ทีป่ ระชมุ น้ันด้วย บทบญั ญตั ทิ ง้ั หลายแหง่ มาตรา ๑๑๗๖, ๑๑๘๗, ๑๑๘๘, ๑๑๘๙, ๑๑๙๑, ๑๑๙๒ และ ๑๑๙๕ นนั้ ทา่ นให้นำมาใช้บงั คับแกก่ ารประชุมตง้ั บริษทั ดว้ ยโดยอนุโลม มาตรา ๑๑๐๘ กจิ การอันจะพึงทำในทปี่ ระชุมตั้งบริษทั นั้น คอื (๑) ทำความตกลงตง้ั ขอ้ บงั คบั ตา่ ง ๆ ของบริษทั (๒) ให้สัตยาบันแก่บรรดาสญั ญาซ่ึงผเู้ ร่มิ กอ่ การได้ทำไว้ และคา่ ใช้จา่ ยอยา่ งหน่งึ อยา่ งใดซง่ึ เขาตอ้ งออกไปในการเรมิ่ ก่อบรษิ ทั (๓) วางกำหนดจำนวนเงินซงึ่ จะให้แกผ่ เู้ ร่ิมกอ่ การ ถา้ หากมีเจตนาว่าจะให้ (๔) วางกำหนดจำนวนหนุ้ บรุ ิมสทิ ธิ ทัง้ กำหนดสภาพและบรุ มิ สทิ ธแิ หง่ หุ้นนั้น ๆ วา่ เปน็ สถาน ใดเพยี งใด ถ้าหากจะมหี ้นุ เชน่ นนั้ ในบริษทั (๕) วางกำหนดจำนวนหุน้ สามญั หรอื หนุ้ บุรมิ สทิ ธซิ ง่ึ ออกใหเ้ หมอื นหนงึ่ วา่ ไดใ้ ชเ้ ตม็ คา่ แล้ว หรือไดใ้ ช้แตบ่ างสว่ นแล้ว เพราะใชใ้ ห้ดว้ ยอย่างอ่ืนนอกจากตัวเงนิ และกำหนดวา่ เพยี งใดซงึ่ จะถือเอาเปน็ วา่ ได้ ใช้เงนิ แลว้ ถา้ หากจะมหี ุ้นเช่นนนั้ ในบรษิ ัท ให้แถลงในทป่ี ระชุมโดยเฉพาะวา่ ซง่ึ จะออกหุ้นสามญั หรอื หนุ้ บุริมสทิ ธิใหเ้ หมอื นหนงึ่ ว่า ได้ใชเ้ งนิ แลว้ เช่นนัน้ เพือ่ แทนคณุ แรงงานหรอื ตอบแทนทรัพยส์ ินอยา่ งใด ให้พรรณนาจงชดั เจนทุกประการ
202 (๖) เลอื กต้งั กรรมการและพนักงานสอบบัญชอี ันเปน็ ชดุ แรกของบริษทั และวางกำหนด อำนาจของคนเหล่านด้ี ้วย มาตรา ๑๑๐๙ ผ้เู ริ่มกอ่ การหรือผเู้ ขา้ ชอ่ื ซื้อหุ้นจะออกเสยี งลงคะแนนไม่ได้ ถา้ ตนมสี ว่ นได้ เสียโดยพเิ ศษในปญั หาทย่ี กข้นึ วินิจฉยั นน้ั อน่ึง มติของทปี่ ระชมุ ตง้ั บริษัทย่อมไมส่ มบรู ณ์ เว้นแต่ทป่ี ระชมุ จะไดล้ งมติโดยเสียงข้างมาก อนั มีคะแนนของผเู้ ขา้ ช่ือซอ้ื หนุ้ รวมกนั ไมน่ ้อยกว่ากึ่งจำนวนผ้เู ขา้ ชือ่ ซอ้ื หุ้นทงั้ หมดซง่ึ มีสิทธลิ งคะแนนได้ และ คดิ ตามจำนวนหนุ้ รวมกนั ไม่นอ้ ยกวา่ กงึ่ จำนวนหุ้นของผู้ถอื หนุ้ นน้ั ๆ ทงั้ หมดด้วยกนั มาตรา ๑๑๑๐ เมือ่ ได้ประชมุ ตงั้ บรษิ ทั แล้ว ให้ผเู้ รมิ่ กอ่ การบรษิ ัทมอบการทงั้ ปวงให้แก่ กรรมการของบรษิ ัท เมื่อกรรมการไดร้ ับการแล้ว กใ็ หล้ งมอื จัดการเรียกใหผ้ เู้ รม่ิ กอ่ การและผเู้ ขา้ ชอ่ื ซ้ือหุ้นทั้งหลาย ใช้เงินในหุ้นซง่ึ จะตอ้ งใชเ้ ปน็ ตวั เงนิ เรียกหนุ้ หนง่ึ ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละยสี่ บิ หา้ ตามทไ่ี ด้กำหนดไวใ้ นหนงั สอื ชช้ี วน บอกกล่าวป่าวรอ้ งหรอื หนงั สอื ชวนให้ซ้ือหุ้น มาตรา ๑๑๑๑ เมอื่ จำนวนเงินซงึ่ วา่ ไวใ้ นมาตรา ๑๑๑๐ ได้ใชเ้ สรจ็ แล้ว กรรมการต้องไปขอ จดทะเบยี นบรษิ ัทนนั้ คำขอและข้อความที่ลงในทะเบยี นน้นั ให้ระบรุ ายการตามทไ่ี ด้ตกลงกันในทป่ี ระชุมตง้ั บริษทั ดงั ตอ่ ไปนี้ คอื (๑) จำนวนหุน้ ทง้ั สิน้ ซงึ่ ได้มผี ู้เข้าชอ่ื ซอื้ หรือไดจ้ ดั ออกใหแ้ ลว้ แยกให้ปรากฏว่าเป็นชนิดหนุ้ สามญั เท่าใด หนุ้ บรุ มิ สทิ ธเิ ท่าใด (๒) จำนวนหุ้นสามัญหรอื หุน้ บุรมิ สทิ ธิ ซง่ึ ออกใหเ้ หมือนหนงึ่ ว่าได้ใชเ้ ตม็ คา่ แล้วหรอื ได้ใช้แต่ บางส่วนแล้ว นอกจากทีใ่ ชเ้ ปน็ ตัวเงิน และหุ้นท่ีไดใ้ ช้แตบ่ างสว่ นนัน้ ให้บอกวา่ ไดใ้ ช้แล้วเพียงใด (๓) จำนวนเงนิ ที่ได้ใชแ้ ลว้ หนุ้ ละเทา่ ใด (๔) จำนวนเงินทไี่ ด้รับไว้เป็นค่าหนุ้ รวมท้งั สิ้นเทา่ ใด (๕) ช่ือ อาชีวะ และทสี่ ำนกั ของกรรมการทุกคน (๖) ถา้ ใหก้ รรมการตา่ งมีอำนาจจดั การของบริษัทได้โดยลำพงั ตวั ใหแ้ สดงอำนาจของ กรรมการน้ัน ๆ ว่าคนใดมเี พียงใด และบอกจำนวนหรอื ชอ่ื กรรมการซง่ึ จะลงช่ือเป็นสำคญั ผูกพันบริษทั ได้น้ัน ด้วย (๗) ถา้ ตั้งบริษทั ข้นึ ช่วั กาลกำหนดอนั หน่ึง ใหบ้ อกกาลกำหนดอนั นั้นด้วย (๘) ท่ตี ้งั สำนักงานแห่งใหญแ่ ละสาขาทงั้ ปวง การลงทะเบียนจะมรี ายการอย่างอ่นื ซึง่ กรรมการเหน็ สมควรจะให้ทราบแกป่ ระชาชนกล็ งได้
203 ในการขอจดทะเบียนน้ัน ถ้าไดท้ ำข้อบังคบั ของบริษทั ไว้ประการใดบ้างตอ้ งสง่ สำเนาขอ้ บงั คบั นน้ั ๆ ไปด้วย กับท้ังสำเนารายงานการประชมุ ตงั้ บรษิ ัทหนงั สอื ทงั้ สองน้ี กรรมการต้องลงลายมือชอื่ รับรองคน หนงึ่ เปน็ อยา่ งนอ้ ย วรรคหา้ [๔๗] (ยกเลกิ ) ใหพ้ นักงานทะเบยี นทำใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนสง่ มอบใหแ้ ก่บริษทั ฉบบั หนง่ึ มาตรา ๑๑๑๑/๑[๔๘] ในการจัดตง้ั บริษทั ถา้ ได้ดำเนินการครบทกุ ขน้ั ตอนดงั ตอ่ ไปนภ้ี ายใน วันเดียวกบั วนั ทผี่ เู้ รม่ิ ก่อการจดั ทำหนังสือบรคิ ณหส์ นธิ กรรมการจะขอจดทะเบยี นหนงั สอื บรคิ ณห์สนธิ และจด ทะเบยี นบริษทั ไปพร้อมกันภายในวันเดยี วกนั กไ็ ด้ (๑) จดั ใหม้ ผี เู้ ข้าชอ่ื ซอ้ื หนุ้ ครบตามจำนวนห้นุ ทงั้ หมดทบี่ รษิ ทั จะจดทะเบียน (๒) ประชุมจดั ตง้ั บรษิ ทั เพอื่ พิจารณากจิ การต่าง ๆ ตามมาตรา ๑๑๐๘ โดยมผี เู้ รม่ิ ก่อการและ ผเู้ ขา้ ชอ่ื ซ้ือหุ้นทกุ คนเข้ารว่ มประชุม และผเู้ ร่มิ กอ่ การและผู้เขา้ ชื่อซ้ือหุ้นทกุ คนให้ความเห็นชอบในกิจการท่ีได้ ประชุมกนั นัน้ (๓) ผเู้ ริ่มกอ่ การได้มอบกจิ การทงั้ ปวงใหแ้ ก่กรรมการ (๔) กรรมการได้เรียกใหผ้ ู้เข้าช่ือซอ้ื หุ้นใช้เงนิ คา่ ห้นุ ตามมาตรา ๑๑๑๐ วรรคสอง และเงนิ ค่า หุ้นดงั กล่าวไดใ้ ช้เสรจ็ แล้ว มาตรา ๑๑๑๒ ถา้ การจดทะเบยี นมไิ ด้ทำภายในสามเดือนนบั แตป่ ระชมุ ต้ังบรษิ ัทไซร้ ทา่ นว่า บริษัทนน้ั เป็นอนั ไมไ่ ด้ตง้ั ขนึ้ และบรรดาเงินที่ได้รบั ไว้จากผ้เู ข้าช่ือซือ้ หุ้นน้ันต้องใช้คืนเตม็ จำนวนมิใหล้ ดเลย ถ้ามจี ำนวนเงินเช่นวา่ นัน้ คา้ งอย่มู ิได้คืนในสามเดือนภายหลงั การประชมุ ตัง้ บริษัทไซร้ ทา่ นวา่ กรรมการของบริษทั ตอ้ งรบั ผดิ ร่วมกันทจ่ี ะใช้ท้งั ต้นเงนิ และดอกเบี้ยคดิ ตง้ั แต่เวลาสิ้นกำหนดสามเดอื นน้ัน แต่ถา้ กรรมการคนใดพสิ จู น์ได้วา่ การที่เงนิ ขาดหรอื ท่ใี ชค้ นื ชา้ ไปมไิ ด้เปน็ เพราะความผิดของ ตนไซร้ กรรมการคนนน้ั ก็ไมต่ อ้ งรบั ผิดในการใช้ต้นเงนิ หรอื ดอกเบี้ย มาตรา ๑๑๑๓ ผู้เรม่ิ กอ่ การบริษทั ตอ้ งรบั ผดิ ร่วมกนั และโดยไมจ่ ำกดั ในบรรดาหนี้และการ จ่ายเงนิ ซึง่ ท่ปี ระชมุ ตั้งบรษิ ัทมไิ ด้อนุมัติ และแมจ้ ะได้มีอนมุ ตั ิกย็ งั คงต้องรบั ผดิ อยเู่ ชน่ นน้ั ไปจนกวา่ จะไดจ้ ด ทะเบยี นบรษิ ัท มาตรา ๑๑๑๔ เม่อื บริษัทไดจ้ ดทะเบยี นแล้ว ผูเ้ ขา้ ชือ่ ซอื้ หุน้ จะรอ้ งฟอ้ งขอใหศ้ าลเพกิ ถอน การทต่ี นไดเ้ ขา้ ชือ่ ซอื้ โดยยกเหตวุ า่ สำคญั ผดิ หรือต้องขม่ ขู่ หรอื ถูกลวงล่อฉ้อฉลน้ันทา่ นวา่ หาอาจทำไดไ้ ม่
204 มาตรา ๑๑๑๕ ถา้ หากว่าชอ่ื บริษัทซึง่ ตงั้ ไวใ้ นหนังสอื บรคิ ณห์สนธิพ้องกับชอ่ื บริษัทอ่ืนซ่งึ ได้ จดทะเบยี นแล้วก็ดี หรอื พอ้ งกบั ช่อื ซึง่ ตงั้ ไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิฉบบั อื่นอนั ไดจ้ ดทะเบยี นแลว้ กด็ ี หรือ คลา้ ยคลึงกบั ช่ือเชน่ กลา่ วนนั้ จนนา่ จะลวงใหม้ หาชนหลงไปได้ก็ดี ทา่ นวา่ บุคคลผ้ทู ม่ี ีส่วนได้เสยี คนหน่งึ คนใดจะ ฟ้องเรียกเอาค่าสนิ ไหมทดแทนแกผ่ เู้ ร่ิมกอ่ การบริษทั ก็ได้ และจะร้องขอให้ศาลส่ังบงั คบั ใหเ้ ปลยี่ นชอื่ นั้นเสยี ใหมก่ ็ได้ เมอ่ื ศาลมคี ำส่งั เชน่ นนั้ แลว้ ก็ต้องบอกชอื่ ซง่ึ เปล่ียนใหมน่ ั้นจดลงทะเบยี นแทนช่อื เกา่ และ ตอ้ งแกใ้ บสำคัญการจดทะเบยี นด้วยตามกันไป มาตรา ๑๑๑๖[๔๙] บคุ คลผูม้ สี ว่ นไดเ้ สียคนใดคนหนงึ่ ประสงคจ์ ะได้สำเนาหนงั สือบรคิ ณห์ สนธิและขอ้ บงั คับบรรดามีในบรษิ ทั หนง่ึ บริษทั ใด กช็ อบทจี่ ะเรียกไดจ้ ากบริษัทน้ัน ในการนบี้ ริษทั จะเรียกเอา เงนิ ไมเ่ กินฉบบั ละสิบบาทก็ได้ ส่วนที่ ๒ หนุ้ และผ้ถู ือหุน้ มาตรา ๑๑๑๗[๕๐] อันมลู ค่าของหุ้น ๆ หนึ่งนั้น มิใหต้ ำ่ กว่าหา้ บาท มาตรา ๑๑๑๘ อันหุ้นนนั้ ทา่ นว่าจะแบ่งแยกหาได้ไม่ ถา้ บุคคลมจี ำนวนแต่สองคนขึ้นไปถือหุ้น ๆ เดียวรว่ มกัน ทา่ นวา่ ตอ้ งตั้งใหค้ นใดคนหน่งึ ใน จำนวนน้ันแตค่ นเดยี วเป็นผใู้ ชส้ ิทธิในฐานเปน็ ผ้ถู ือหุ้น อนง่ึ บคุ คลทง้ั หลายซงึ่ ถือหุ้น ๆ เดยี วร่วมกนั ต้องร่วมกันรบั ผดิ ตอ่ บริษทั ในการสง่ ใช้มลู คา่ ของหุน้ มาตรา ๑๑๑๙ ห้นุ ทกุ ๆ ห้นุ จำต้องให้ใชเ้ ปน็ เงนิ จนเตม็ ค่า เว้นแต่หุ้นซ่งึ ออกตามบทบญั ญัติ มาตรา ๑๑๐๘ อนมุ าตรา (๕) หรือมาตรา ๑๒๒๑ ในการใช้เงนิ เป็นคา่ หุ้นน้นั ผู้ถือหุน้ จะหกั หนีก้ บั บริษัทหาได้ไม่ มาตรา ๑๑๒๐ บรรดาเงนิ ค่าหุ้นซง่ึ ยังจะตอ้ งส่งอีกน้ัน กรรมการจะเรียกใหผ้ ้ถู อื หุน้ สง่ ใชเ้ สีย เมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ที่ประชมุ ใหญ่จะไดว้ ินิจฉัยเป็นอย่างอ่ืน
205 มาตรา ๑๑๒๑ การเรียกเงินคา่ หุน้ แตล่ ะคราวนั้น ท่านบงั คบั วา่ ให้สง่ คำบอกกลา่ วล่วงหนา้ ไม่ ต่ำกวา่ ยสี่ ิบเอ็ดวนั ด้วยจดหมายสง่ ลงทะเบียนไปรษณยี ์ และผู้ถือหนุ้ ทกุ คนจะต้องใชเ้ งนิ ตามจำนวนที่เรยี กนน้ั สุดแตก่ รรมการจะไดก้ ำหนดไปวา่ ใหส้ ง่ ไปยงั ผใู้ ด ณ ที่ใดและเวลาใด มาตรา ๑๑๒๒ ถา้ และเงนิ อันจะพึงสง่ ใชเ้ ปน็ ค่าหนุ้ ตามเรียกน้ันผ้ถู ือหนุ้ คนใดมิไดส้ ่งใช้ตาม วนั กำหนดไซร้ ผนู้ นั้ จำตอ้ งเสียดอกเบยี้ นบั แตว่ ันทีก่ ำหนดใหส้ ง่ ใชจ้ นถงึ วันท่ีได้สง่ เสรจ็ มาตรา ๑๑๒๓ ถา้ ผู้ถือหนุ้ คนใดละเลยไมส่ ง่ ใช้เงนิ ทเ่ี รยี กคา่ ห้นุ ตามวนั กำหนด กรรมการจะ ส่งคำบอกกลา่ วดว้ ยจดหมายส่งลงทะเบยี นไปรษณีย์ไปยงั ผนู้ ัน้ ใหส้ ง่ ใช้เงนิ ท่ีเรียกกบั ทง้ั ดอกเบยี้ ดว้ ยก็ได้ ในคำบอกกล่าวอันนี้ ใหก้ ำหนดเวลาไปพอสมควรเพ่ือใหใ้ ชเ้ งนิ ทเี่ รยี กกบั ทงั้ ดอกเบี้ย และต้อง บอกไปดว้ ยวา่ ใหส้ ง่ ใช้ ณ สถานทใี่ ด อนึ่ง ในคำบอกกลา่ วนน้ั จะแจง้ ไปดว้ ยกไ็ ด้ว่า ถ้าไมใ่ ช้เงนิ ตามเรยี ก หุ้นน้ัน อาจจะถูกรบิ มาตรา ๑๑๒๔ ถ้าในคำบอกกล่าวมีขอ้ แถลงความถึงการรบิ หุ้นด้วยแล้ว หากเงินค่าหนุ้ ที่ เรยี กกบั ทงั้ ดอกเบี้ยยงั คงคา้ งชำระอยตู่ ราบใด กรรมการจะบอกรบิ หุ้นน้นั ๆ เมอ่ื ใดกไ็ ด้ มาตรา ๑๑๒๕ หุ้นซง่ึ รบิ แลว้ นนั้ ใหเ้ อาออกขายทอดตลาดโดยไม่ชักชา้ ไดจ้ ำนวนเงนิ เท่าใด ใหเ้ อาหักใช้ค่าหุ้นท่เี รยี กกับดอกเบ้ยี ค้างชำระ ถา้ ยังมเี งินเหลือเท่าใดต้องสง่ คนื ใหแ้ กผ่ ู้ถอื หนุ้ น้ัน มาตรา ๑๑๒๖ แม้ว่าวิธีการรบิ ห้นุ ขายห้นุ จะไมถ่ ูกตอ้ งดว้ ยระเบยี บก็ดี ทา่ นวา่ หาเป็นเหตใุ ห้ สิทธขิ องผ้ซู ื้อหุน้ ซงึ่ รบิ นัน้ เสอ่ื มเสยี ไปอย่างไรไม่ มาตรา ๑๑๒๗ ให้บรษิ ทั ทำใบหุน้ คือใบสำคญั สำหรบั หุน้ ใบหนึ่งหรอื หลายใบ มอบใหเ้ ป็น ค่มู อื แก่ผถู้ ือห้นุ จงทกุ ๆ คน เมือ่ มอบใบหนุ้ นน้ั จะเรียกค่าธรรมเนยี มก็ได้ สดุ แตก่ รรมการจะกำหนด แตม่ ใิ หเ้ กนิ สบิ บาท [๕๑] มาตรา ๑๑๒๘ ในใบหุ้นทกุ ๆ ใบ ทา่ นให้กรรมการลงลายมอื ช่ือเองคนหนึง่ เป็นอยา่ งนอ้ ย และประทบั ตราของบรษิ ัทเป็นสำคญั ในใบหุ้นนน้ั ตอ้ งมีขอ้ ความต่อไปนี้ คอื (๑) ชอื่ บรษิ ทั (๒) เลขหมายหุ้นทก่ี ลา่ วถึงในใบหนุ้ น้ัน
206 (๓) มลู คา่ หุ้นหนง่ึ เป็นเงนิ เทา่ ใด (๔) ถา้ และเปน็ หนุ้ ท่ียงั ไม่ไดใ้ ช้เงินเสร็จ ใหจ้ ดลงว่าได้ใชเ้ งนิ ค่าหุ้นแล้วหุ้นละเท่าใด (๕) ชื่อผู้ถอื หนุ้ หรอื คำแถลงว่าไดอ้ อกใบหุ้นน้ันให้แกผ่ ู้ถอื มาตรา ๑๑๒๙ อนั วา่ หุ้นน้ันยอ่ มโอนกนั ได้โดยมติ ้องได้รับความยินยอมของบริษทั เว้นแต่ เมือ่ เปน็ หนุ้ ชนดิ ระบุชอ่ื ลงในใบหนุ้ ซึง่ มีข้อบงั คบั ของบรษิ ทั กำหนดไว้เป็นอยา่ งอ่นื การโอนหุน้ ชนดิ ระบชุ ่ือลงในใบหุน้ นั้น ถ้ามิไดท้ ำเปน็ หนงั สอื และลงลายมือชื่อของผูโ้ อนกบั ผรู้ บั โอน มพี ยานคนหนงึ่ เปน็ อยา่ งนอ้ ยลงช่อื รับรองลายมือนนั้ ๆ ดว้ ยแลว้ ท่านว่าเป็นโมฆะ อนงึ่ ตราสารอัน นั้นตอ้ งแถลงเลขหมายของหนุ้ ซง่ึ โอนกนั น้นั ด้วย การโอนเช่นน้ีจะนำมาใช้แกบ่ รษิ ทั หรือบคุ คลภายนอกไม่ได้ จนกวา่ จะไดจ้ ดแจ้งการโอนท้งั ชื่อและสำนักของผรู้ บั โอนนัน้ ลงในทะเบยี นผถู้ อื หุน้ มาตรา ๑๑๓๐ หุ้นใดเงินท่ีเรียกค่าห้นุ ยงั คา้ งชำระอยู่ หุ้นนน้ั บริษัทจะไม่ยอมรบั จดทะเบียน ให้โอนก็ได้ มาตรา ๑๑๓๑ ในระหวา่ งสบิ สวี่ นั กอ่ นการประชมุ ใหญส่ ามญั บรษิ ัทจะปิดสมุดทะเบยี นพัก การโอนห้นุ เสยี ก็ได้ มาตรา ๑๑๓๒ ในเหตบุ างอยา่ งเชน่ ผูถ้ อื หนุ้ ตายก็ดี หรอื ลม้ ละลายกด็ ี อันเปน็ เหตุให้บคุ คล อน่ื เปน็ ผ้มู สี ิทธจิ ะไดห้ นุ้ ขึน้ นัน้ หากวา่ บุคคลน้นั นำใบหุ้นมาเวนคืน เม่ือเปน็ วสิ ยั จะทำได้ ทง้ั ไดน้ ำหลักฐานอัน สมควรมาแสดงดว้ ยแล้ว ก็ใหบ้ รษิ ัทรับบุคคลน้นั ลงทะเบยี นเปน็ ผู้ถอื หุน้ สบื ไป มาตรา ๑๑๓๓ ห้นุ ซงึ่ โอนกันนัน้ ถ้าเปน็ ห้นุ อนั ยงั มิไดส้ ง่ เงนิ ใชเ้ ตม็ จำนวนค่าหุ้น ทา่ นว่าผู้ โอนยังคงตอ้ งรบั ผิดในจำนวนเงินท่ยี งั มิได้สง่ ใชใ้ หค้ รบถว้ นน้ัน แต่ว่า (๑) ผโู้ อนไมต่ อ้ งรับผดิ ในหนีอ้ ันหนง่ึ อันใดของบรษิ ทั ซง่ึ ไดก้ อ่ ใหเ้ กิดขึ้นภายหลงั โอน (๒) ผู้โอนไมต่ อ้ งรบั ผิดออกสว่ นใช้หนี้ เว้นแตค่ วามปรากฏขนึ้ แกศ่ าลวา่ บรรดาผู้ท่ียงั ถือหุ้น ของบริษทั อยนู่ ้ันไม่สามารถออกส่วนใช้หนอี้ นั เขาจะพงึ ตอ้ งออกใชน้ ้ันได้ ขอ้ ความรบั ผดิ เช่นวา่ มานั้น ท่านห้ามมิให้ฟอ้ งผู้โอนเมอื่ พ้นสองปีนบั แตไ่ ด้จดแจง้ การโอนน้ัน ลงในทะเบยี นผถู้ ือหนุ้
207 มาตรา ๑๑๓๔ ใบหุ้นออกใหแ้ กผ่ ู้ถือนัน้ จะออกไดก้ ็แต่เมอื่ มีขอ้ บงั คับของบริษทั อนญุ าตไว้ และจะออกให้ไดแ้ ตเ่ ฉพาะเพอ่ื หุน้ ซึ่งไดใ้ ช้เต็มคา่ แล้ว ในกรณเี ชน่ ว่าน้ี ผู้ทรงใบหุน้ ชนิดระบุชื่อย่อมมสี ิทธจิ ะ ได้รบั ใบหุน้ ชนดิ ออกใหแ้ กผ่ ู้ถอื เมอ่ื เวนคืนใบหุน้ ชนดิ ระบชุ อื่ นั้นใหข้ ดี ฆา่ เสีย มาตรา ๑๑๓๕ หุ้นชนดิ ที่มีใบหนุ้ ออกให้แกผ่ ถู้ อื นนั้ ยอ่ มโอนกันไดเ้ พยี งด้วยสง่ มอบใบหนุ้ แก่ กัน มาตรา ๑๑๓๖ ผู้ทรงใบหุ้นชนดิ ออกให้แกผ่ ูถ้ อื ยอ่ มมสี ิทธจิ ะมาขอเปลี่ยนเอาใบห้นุ ชนิดระบุ ช่อื ได้ เมื่อเวนคืนใบห้นุ ฉบบั ออกให้แกผ่ ้ถู อื นัน้ ให้ขีดฆา่ เสีย มาตรา ๑๑๓๗ ถ้าข้อบังคับของบรษิ ทั มกี ำหนดไว้เป็นองคค์ ุณอนั หนึ่งสำหรับผูจ้ ะเป็น กรรมการ วา่ จำจะต้องเปน็ ผถู้ อื หุน้ เปน็ จำนวนเทา่ หนง่ึ เทา่ ใดไซร้ หุ้นเช่นนที้ า่ นว่าต้องเป็นหนุ้ ชนิดระบุช่อื มาตรา ๑๑๓๘ บริษทั จำกัดต้องมสี มดุ ทะเบยี นผู้ถอื หุ้น มรี ายการดังต่อไปนีค้ อื (๑) ช่ือและสำนกั กับอาชีวะ ถ้าวา่ มี ของผู้ถอื หนุ้ ขอ้ แถลงเรอ่ื งหนุ้ ของผถู้ อื หุน้ คนหนงึ่ ๆ แยกหุ้นออกตามเลขหมายและจำนวนเงนิ ทไ่ี ดใ้ ชแ้ ล้ว หรอื ทไี่ ดต้ กลงกนั ใหถ้ ือวา่ เปน็ อันได้ใช้แลว้ ในหนุ้ ของผู้ถอื หุน้ คนหนึง่ ๆ (๒) วันเดอื นปซี ่งึ ได้ลงทะเบียนบุคคลผหู้ นง่ึ ๆ เปน็ ผู้ถือหุ้น (๓) วันเดอื นปซี ึ่งบุคคลคนใดคนหน่ึงขาดจากเปน็ ผู้ถอื หุน้ (๔) เลขหมายใบหุ้นและวนั ทล่ี งในใบหุ้นชนิดออกให้แกผ่ ู้ถือ และเลขหมายของหุ้นซึ่งได้ลงไว้ ในใบหนุ้ นน้ั ๆ (๕) วันที่ได้ขีดฆา่ ใบหุ้นชนิดระบุชือ่ หรอื ชนดิ ออกให้แกผ่ ูถ้ อื มาตรา ๑๑๓๙ สมุดทะเบียนผถู้ อื หนุ้ เร่มิ แตว่ นั จดทะเบยี นบรษิ ทั น้นั ใหร้ ักษาไว้ ณ สำนักงาน ของบริษทั แหง่ ท่ีไดบ้ อกทะเบยี นไว้ สมดุ ทะเบียนนี้ใหเ้ ปิดใหแ้ ก่ผู้ถอื หนุ้ ทั้งหลายดูได้ในระหว่างเวลาทำการโดย ไมเ่ รยี กค่าธรรมเนียมอยา่ งหนงึ่ อยา่ งใด แต่กรรมการจะจำกดั เวลาลงไว้อย่างไรพอสมควรก็ได้ หากไม่นอ้ ยกวา่ วันละสองช่วั โมง ให้เป็นหน้าทข่ี องกรรมการทจี่ ะส่งสำเนาบัญชีรายช่ือผู้ทีย่ งั คงเป็นผู้ถอื หนุ้ อย่ทู งั้ หมดในเวลาท่ี ประชุม และรายชื่อผทู้ ่ีขาดจากเป็นผถู้ อื หนุ้ จำเดมิ แต่วันประชมุ สามญั คร้ังทแ่ี ลว้ มานัน้ ไปยังนายทะเบยี นอย่าง นอ้ ยปลี ะครัง้ และมิใหช้ า้ กว่าวันทสี่ บิ สี่นบั แต่การประชมุ สามัญ บัญชรี ายชอื่ น้ใี ห้มรี ายการบรรดาทร่ี ะบุไวใ้ น มาตราก่อนน้ันทุกประการ
208 มาตรา ๑๑๔๐[๕๒] ผู้ถือหุ้นชอบทจ่ี ะเรยี กใหส้ ง่ มอบสำเนาทะเบียนเชน่ วา่ น้นั หรือแต่ตอน หนึง่ ตอนใดแก่ตนได้ เม่ือเสยี ค่าสำเนาแตไ่ มเ่ กินหนา้ ละหา้ บาท มาตรา ๑๑๔๑ สมดุ ทะเบยี นผู้ถือหุน้ น้ัน ท่านใหส้ ันนิษฐานไวก้ ่อนว่าเปน็ พยานหลกั ฐานอนั ถกู ตอ้ งในขอ้ กระทงความบรรดาที่กฎหมายบังคบั หรอื ใหอ้ ำนาจให้เอาลงในทะเบียนนัน้ มาตรา ๑๑๔๒ ถา้ บรษิ ัทได้ออกหนุ้ บรุ มิ สิทธไิ ปแล้ว ไดก้ ำหนดไว้วา่ บรุ ิมสทิ ธิจะมแี กห่ ้นุ น้นั ๆ เป็นอย่างไร ท่านหา้ มมใิ ห้แก้ไขอีกเลย มาตรา ๑๑๔๓ หา้ มมิใหบ้ รษิ ทั จำกัดเปน็ เจ้าของถอื ห้นุ ของตนเอง หรือรบั จำนำหุ้นของ ตนเอง ส่วนที่ ๓ วิธจี ดั การบริษัทจำกดั ๑. บทเบ็ดเสรจ็ ท่ัวไป มาตรา ๑๑๔๔ บรรดาบรษิ ัทจำกดั ใหม้ กี รรมการคนหน่งึ หรือหลายคนดว้ ยกันจดั การตาม ข้อบังคบั ของบริษัท และอยใู่ นความครอบงำของทป่ี ระชุมใหญ่แหง่ ผู้ถอื หุน้ ทง้ั ปวง มาตรา ๑๑๔๕ จำเดมิ แต่ได้จดทะเบียนบริษทั แล้ว ท่านหา้ มมิให้ตงั้ ข้อบงั คบั ขึน้ ใหม่ หรือ เพมิ่ เตมิ เปลยี่ นแปลงขอ้ บงั คับหรือขอ้ ความในหนงั สือบริคณห์สนธิแต่อย่างหน่ึงอย่างใด เวน้ แต่จะไดม้ ีการลง มตพิ ิเศษ มาตรา ๑๑๔๖ บรรดาขอ้ บงั คบั อันไดต้ ้งั ข้ึนใหม่ หรอื ได้เพ่ิมเติมเปล่ยี นแปลงนั้นเป็นหนา้ ท่ี ของบริษทั ท่ีจะจดั ให้ไปจดทะเบียนภายในกำหนดสบิ สวี่ ันนับแตว่ ันท่ีได้มกี ารลงมตพิ เิ ศษ มาตรา ๑๑๔๗[๕๓] (ยกเลิก) มาตรา ๑๑๔๘ บรรดาบริษัทจำกดั ต้องมสี ำนักงานบอกทะเบียนไว้แห่งหนึง่ ซ่ึงธรุ การติดตอ่ และคำบอกกลา่ วทงั้ ปวงจะสง่ ถึงบรษิ ัทได้ ณ ทน่ี นั้
209 คำบอกกล่าวสถานท่ตี ง้ั แหง่ สำนกั งานที่ไดบ้ อกทะเบยี นไวก้ ็ดี หรือเปลย่ี นย้ายสถานทกี่ ็ดี ให้ สง่ แกน่ ายทะเบยี นบริษทั และให้นายทะเบยี นจดขอ้ ความนนั้ ลงในทะเบยี น มาตรา ๑๑๔๙ ตราบใดหุ้นทง้ั หลายยงั มไิ ดช้ ำระเงนิ เตม็ จำนวน ทา่ นว่าตราบนัน้ บรษิ ทั จะลง พิมพห์ รือแสดงจำนวนตน้ ทนุ ของบริษทั ในหนงั สืออย่างหนึ่งอยา่ งใดเช่นในคำบอกกลา่ วป่าวร้องก็ดี ในตั๋วเงิน และบญั ชสี ่งิ ของกด็ ี ในจดหมายกด็ ี ต้องแสดงไว้ใหช้ ดั เจนดว้ ยในท่เี ดยี วกันว่า จำนวนเงินต้นทนุ ได้ชำระแลว้ เพียงกส่ี ว่ น ๒. กรรมการ มาตรา ๑๑๕๐ ผูเ้ ป็นกรรมการจะพงึ มจี ำนวนมากน้อยเทา่ ใด และจะพงึ ไดบ้ ำเหน็จเทา่ ใด ให้ สดุ แล้วแต่ท่ีประชมุ ใหญจ่ ะกำหนด มาตรา ๑๑๕๑ อันผเู้ ปน็ กรรมการนั้น เฉพาะแต่ที่ประชมุ ใหญเ่ ท่านัน้ อาจจะต้ังหรอื ถอนได้ มาตรา ๑๑๕๒ ในเมือ่ มกี ารประชมุ สามญั ครง้ั แรกภายหลังแต่จดทะเบยี นบรษิ ัทก็ดี และใน เม่อื มกี ารประชมุ สามญั คร้งั แรกในปที ุก ๆ ปีต่อไปกด็ ี ผู้เป็นกรรมการตอ้ งออกจากตำแหน่ง โดยจำนวนหน่งึ ใน สามเปน็ อตั รา ถา้ และจำนวนกรรมการจะแบง่ ออกให้ตรงเปน็ ส่วนสามไมไ่ ด้ ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้ทสี่ ดุ กบั ส่วนหนึ่งในสาม มาตรา ๑๑๕๓ ตัวกรรมการทีจ่ ะตอ้ งออกจากตำแหนง่ ในปแี รกและปีทสี่ องภายหลงั จด ทะเบยี นบรษิ ทั นน้ั ถ้ากรรมการมไิ ด้ตกลงกนั ไวเ้ องเป็นวิธีอ่นื ไซร้ กใ็ ห้จบั สลากกนั ส่วนปหี ลงั ๆ ต่อไปให้ กรรมการคนทีไ่ ด้อยใู่ นตำแหนง่ นานทสี่ ุดนัน้ เปน็ ผ้ตู อ้ งออก กรรมการผู้ออกไปน้นั จะเลือกเข้ารบั ตำแหนง่ อกี กไ็ ด้ มาตรา ๑๑๕๓/๑[๕๔] กรรมการคนใดจะลาออกจากตำแหนง่ ใหย้ น่ื ใบลาออกตอ่ บรษิ ทั การ ลาออกมผี ลนับแตว่ นั ทใี่ บลาออกไปถงึ บรษิ ทั กรรมการซ่ึงลาออกตามวรรคหนึง่ จะแจ้งการลาออกของตนให้นายทะเบยี นทราบดว้ ยกไ็ ด้ มาตรา ๑๑๕๔ ถ้ากรรมการคนใดลม้ ละลาย หรอื ตกเป็นผู้ไร้ความสามารถไซร้ ท่านวา่ กรรมการคนนัน้ เปน็ อนั ขาดจากตำแหนง่
210 มาตรา ๑๑๕๕ ถ้าตำแหนง่ ว่างลงในสภากรรมการเพราะเหตุอ่ืนนอกจากถงึ คราวออกตาม เวรไซร้ ท่านว่ากรรมการจะเลอื กผู้อน่ื ตง้ั ขึ้นใหม่ใหเ้ ต็มทว่ี า่ งกไ็ ด้ แต่บคุ คลทไ่ี ดเ้ ป็นกรรมการใหมเ่ ช่นน้นั ใหม้ ี เวลาอย่ใู นตำแหนง่ ไดเ้ พียงเทา่ กำหนดเวลาท่ีกรรมการผู้ออกไปนัน้ ชอบทจี่ ะอย่ไู ด้ มาตรา ๑๑๕๖ ถา้ ทป่ี ระชุมใหญถ่ อนกรรมการผหู้ นงึ่ ออกกอ่ นครบกาลกำหนดของเขา และ ตง้ั คนอนื่ ข้ึนไว้แทนทไ่ี ซร้ ท่านวา่ บคุ คลทเ่ี ป็นกรรมการใหม่นน้ั ใหอ้ ยใู่ นตำแหน่งไดเ้ พยี งเท่ากำหนดเวลาที่ กรรมการผ้ถู ูกถอนน้นั ชอบที่จะอยู่ได้ มาตรา ๑๑๕๗[๕๕] เม่อื มกี ารเปลยี่ นแปลงกรรมการ ใหบ้ ริษทั นำความไปจดทะเบียนภายใน สบิ สว่ี ันนบั แตว่ นั ทม่ี กี ารเปลีย่ นแปลง มาตรา ๑๑๕๘ นอกจากจะมีข้อบังคบั ของบริษทั ไว้เป็นอย่างอืน่ ท่านว่ากรรมการมีอำนาจดงั พรรณนาไวใ้ นหกมาตราตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑๑๕๙ ในจำนวนกรรมการนัน้ แมต้ ำแหนง่ จะว่างไปบา้ ง กรรมการที่มีตวั อย่กู ย็ ่อม ทำกิจการได้ แตถ่ ้าในเวลาใดจำนวนกรรมการลดนอ้ ยลงกว่าจำนวนอนั จำเปน็ ทจี่ ะเป็นองคป์ ระชุมได้ ตลอดเวลาเช่นนนั้ กรรมการท่มี ตี ัวอย่ยู อ่ มทำกจิ การไดเ้ ฉพาะแตใ่ นเร่ืองทจ่ี ะเพม่ิ กรรมการขึน้ ใหค้ รบจำนวน หรือนัดเรียกประชมุ ใหญ่ของบรษิ ทั เท่าน้ัน จะกระทำการอยา่ งอื่นไมไ่ ด้ มาตรา ๑๑๖๐ กรรมการจะวางกำหนดไว้ก็ไดว้ ่า จำนวนกรรมการเข้าประชมุ กี่คนจึงจะเปน็ องคป์ ระชมุ ทำกจิ การได้ ถา้ และมไิ ดก้ ำหนดไวด้ ังนน้ั ไซร้ (เมอ่ื จำนวนกรรมการเกนิ กว่าสามคน) ท่านว่าตอ้ งมี กรรมการเขา้ ประชุมสามคนจงึ จะเปน็ องค์ประชุมได้ มาตรา ๑๑๖๑ ขอ้ ปรกึ ษาซง่ึ เกิดเป็นปญั หาในประชมุ กรรมการนน้ั ใหช้ ข้ี าดตัดสินเอาเสยี ง ขา้ งมากเปน็ ใหญ่ ถา้ และคะแนนเสียงเท่ากนั ใหผ้ ู้เปน็ ประธานเป็นผอู้ อกเสียงชี้ขาด มาตรา ๑๑๖๒ กรรมการคนหนึง่ คนใดจะนัดเรียกใหป้ ระชุมกรรมการเม่อื ใดกไ็ ด้ มาตรา ๑๑๖๓ กรรมการจะเลอื กกรรมการคนหนึง่ ขึน้ เปน็ ประธานทีป่ ระชุม และจะ กำหนดเวลาว่าใหอ้ ยใู่ นตำแหนง่ เพียงใดกไ็ ด้ แต่ถา้ หากมไิ ด้เลอื กกนั ไว้เช่นนัน้ หรือผู้เป็นประธานไม่มาประชุม ตามเวลาทไ่ี ดน้ ัดหมายไซร้ กรรมการทีม่ าประชมุ นนั้ จะเลือกกันคนหนง่ึ ข้ึนเป็นประธานในการประชุมเช่นน้ันก็ ได้
211 มาตรา ๑๑๖๔ กรรมการจะมอบอำนาจอยา่ งหนงึ่ อย่างใดของตนใหแ้ กผ่ จู้ ัดการ หรอื ใหแ้ ก่ อนุกรรมการซึ่งตงั้ ขน้ึ จากผทู้ เี่ ป็นกรรมการด้วยกนั ก็ได้ ในการใช้อำนาจซง่ึ ไดม้ อบหมายเชน่ นั้น ผจู้ ดั การทุกคน หรอื อนกุ รรมการทกุ คนต้องทำตามคำสัง่ หรอื ข้อบังคบั ซ่ึงกรรมการท้งั หลายไดก้ ำหนดใหท้ กุ อย่างทุกประการ มาตรา ๑๑๖๕ ถา้ การมอบอำนาจมไิ ด้กำหนดไวเ้ ป็นอยา่ งอน่ื ไซร้ ข้อปรกึ ษาซึง่ เกดิ เปน็ ปัญหาข้นึ ในทปี่ ระชมุ อนุกรรมการทั้งหลายใหต้ ดั สนิ เอาเสียงขา้ งมากเป็นใหญ่ ถ้าและคะแนนเสียงเทา่ กัน ใหผ้ ู้ เป็นประธานช้ีขาด มาตรา ๑๑๖๖ บรรดาการซงึ่ กรรมการคนหน่งึ ได้ทำไปแมใ้ นภายหลังความปรากฏวา่ การ ต้ังแตง่ กรรมการคนนั้นมขี ้อบกพร่องอยบู่ า้ งกด็ ี หรือเป็นผบู้ กพร่องด้วยองค์คุณควรแก่ตำแหนง่ กรรมการก็ดี ท่านวา่ การท่ไี ด้ทำนน้ั ยอ่ มสมบูรณเ์ สมอื นดงั วา่ บคุ คลผู้นัน้ ไดร้ ับการแตง่ ตงั้ โดยถกู ตอ้ งและบรบิ รู ณ์ดว้ ยองค์คณุ ของกรรมการ มาตรา ๑๑๖๗ ความเกีย่ วพนั กนั ในระหวา่ งกรรมการและบรษิ ัทและบุคคลภายนอกนั้น ท่าน ใหบ้ ังคบั ตามบทบัญญตั ิแหง่ ประมวลกฎหมายน้ี วา่ ด้วยตัวแทน มาตรา ๑๑๖๘ ในอันท่ีจะประกอบกิจการของบริษทั นัน้ กรรมการตอ้ งใชค้ วามเอ้อื เฟื้อ สอดสอ่ งอย่างบุคคลค้าขายผปู้ ระกอบด้วยความระมัดระวัง ว่าโดยเฉพาะ กรรมการตอ้ งรบั ผดิ ชอบร่วมกนั ในประการตา่ ง ๆ ดังจะกล่าวตอ่ ไปน้ี คือ (๑) การใช้เงินค่าหนุ้ นน้ั ไดใ้ ชก้ ันจริง (๒) จัดใหม้ ีและรกั ษาไว้ให้เรียบรอ้ ย ซึง่ บรรดาสมดุ บญั ชแี ละเอกสารทกี่ ฎหมายกำหนดไว้ (๓) การแจกเงนิ ปันผลหรอื ดอกเบ้ยี ใหเ้ ป็นไปโดยถูกตอ้ งตามทีก่ ฎหมายกำหนดไว้ (๔) บังคับการให้เป็นไปโดยถกู ต้องตามมตขิ องท่ีประชุมใหญ่ อน่งึ ท่านหา้ มมใิ หผ้ ู้เปน็ กรรมการประกอบการค้าขายใด ๆ อันมสี ภาพเป็นอย่างเดยี วกนั และเป็นการแข่งขันกบั การค้าขายของบรษิ ัทนั้น ไมว่ า่ ทำเพอื่ ประโยชนต์ นหรอื เพ่ือประโยชน์ผ้อู ื่น หรอื ไปเขา้ ห้นุ ส่วนไมจ่ ำกดั ความรบั ผดิ ในห้างคา้ ขายอนื่ ซึง่ ประกอบกิจการมสี ภาพเปน็ อย่างเดยี วกนั และแขง่ ขันกบั กิจการ ของบรษิ ทั โดยมิไดร้ ับความยินยอมของทปี่ ระชมุ ใหญข่ องผถู้ อื หุ้น บทบญั ญัติทกี่ ล่าวมาข้างบนนีใ้ หใ้ ช้บงั คับตลอดถงึ บุคคลซ่ึงเปน็ ผแู้ ทนของกรรมการดว้ ย มาตรา ๑๑๖๙ ถ้ากรรมการทำใหเ้ กดิ เสยี หายแก่บริษทั ๆ จะฟ้องร้องเรียกเอาสินไหม ทดแทนแก่กรรมการกไ็ ด้ หรือในกรณที บ่ี รษิ ัทไมย่ อมฟ้องร้อง ผถู้ ือหนุ้ คนหน่ึงคนใดจะเอาคดนี ้ันขน้ึ ว่าก็ได้
212 อน่งึ การเรียกรอ้ งเชน่ น้ี เจา้ หนข้ี องบริษทั จะเปน็ ผเู้ รียกบงั คบั ก็ได้ เทา่ ทเี่ จ้าหนีย้ งั คงมีสิทธิ เรยี กร้องแกบ่ ริษทั อยู่ มาตรา ๑๑๗๐ เม่ือการซง่ึ กรรมการคนใดได้ทำไปไดร้ บั อนมุ ัติของทป่ี ระชุมใหญ่แล้ว ทา่ นว่า กรรมการคนนั้นไม่ตอ้ งรบั ผดิ ในการนนั้ ตอ่ ผถู้ อื หนุ้ ซึ่งไดใ้ ห้อนมุ ตั หิ รอื ตอ่ บริษทั อีกตอ่ ไป ท่านหา้ มมิให้ผถู้ อื หุน้ ซงึ่ มไิ ดใ้ หอ้ นมุ ัตดิ ้วยนน้ั ฟอ้ งคดเี ม่อื พน้ เวลาหกเดอื นนบั แตว่ นั ท่ปี ระชมุ ใหญใ่ ห้อนมุ ตั แิ กก่ ารเชน่ วา่ นั้น ๓. ประชุมใหญ่ มาตรา ๑๑๗๑ ให้มกี ารประชุมผ้ถู อื หุน้ ท่วั ไปเปน็ ประชมุ ใหญภ่ ายในหกเดอื นนบั แต่วนั ทไ่ี ด้ จดทะเบยี นบริษัท และตอ่ นนั้ ไปก็ใหม้ ีการประชุมเชน่ น้ีครงั้ หนงึ่ เป็นอยา่ งนอ้ ยทุกระยะเวลาสบิ สองเดอื น การประชมุ เชน่ น้ี เรียกว่าประชุมสามัญ การประชมุ ใหญ่คราวอน่ื บรรดามนี อกจากนี้ เรียกวา่ ประชมุ วสิ ามญั มาตรา ๑๑๗๒ กรรมการจะเรยี กประชุมวสิ ามญั เม่ือใดกไ็ ดส้ ุดแตจ่ ะเห็นสมควร ถ้าบริษัทขาดทุนลงถึงกง่ึ จำนวนตน้ ทุน กรรมการต้องเรยี กประชมุ วสิ ามญั ทันทเี พื่อแจ้งใหผ้ ู้ ถือหนุ้ ทราบการท่ขี าดทนุ นั้น มาตรา ๑๑๗๓ การประชมุ วสิ ามญั จะต้องนัดเรียกให้มีขนึ้ ในเม่อื ผู้ถอื หนุ้ มีจำนวนหุ้นรวมกนั ไมน่ ้อยกวา่ หน่งึ ในหา้ แหง่ จำนวนหนุ้ ของบริษทั ไดเ้ ข้าชื่อกันทำหนงั สอื รอ้ งขอให้เรียกประชุมเช่นน้นั ในหนังสือ ร้องขอนั้นต้องระบวุ า่ ประสงค์ใหเ้ รยี กประชมุ เพอื่ การใด มาตรา ๑๑๗๔ เม่อื ผ้ถู อื หุน้ ย่ืนคำร้องขอใหเ้ รียกประชุมวสิ ามญั ดังได้กล่าวมาในมาตรากอ่ นน้ี แลว้ ใหก้ รรมการเรยี กประชุมโดยพลนั ถ้าและกรรมการมไิ ดเ้ รยี กประชุมภายในสามสบิ วนั นับแตว่ นั ย่นื คำรอ้ งไซร้ ผถู้ ือหุ้นทั้งหลาย ซึง่ เปน็ ผรู้ อ้ ง หรอื ผูถ้ ือห้นุ คนอน่ื ๆ รวมกันไดจ้ ำนวนดังบังคบั ไวน้ ั้นจะเรยี กประชุมเองกไ็ ด้ มาตรา ๑๑๗๕[๕๖] คำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่ให้ลงพมิ พโ์ ฆษณาในหนังสือพมิ พ์แหง่ ทอ้ งท่อี ยา่ งน้อยหนึง่ คราวกอ่ นวันนดั ประชมุ ไมน่ อ้ ยกวา่ เจ็ดวนั และส่งทางไปรษณยี ์ตอบรบั ไปยังผถู้ อื หุ้นทกุ คน ที่มีชอื่ ในทะเบยี นของบรษิ ทั กอ่ นวนั นดั ประชุมไมน่ อ้ ยกวา่ เจด็ วนั เว้นแตเ่ ป็นคำบอกกล่าวเรยี กประชุมใหญ่เพ่ือ ลงมติพเิ ศษ ให้กระทำการดงั ว่านน้ั กอ่ นวันนดั ประชุมไม่น้อยกว่าสิบสว่ี ัน
213 คำบอกกลา่ วเรียกประชมุ ใหญน่ น้ั ให้ระบุสถานท่ี วัน เวลา และสภาพแหง่ กจิ การที่จะได้ ประชุมปรกึ ษากนั และในกรณที ี่เปน็ คำบอกกลา่ วเรียกประชุมใหญเ่ พอ่ื ลงมติพเิ ศษให้ระบุขอ้ ความทจี่ ะ นำเสนอใหล้ งมตดิ ว้ ย มาตรา ๑๑๗๖ ผ้ถู ือห้นุ ทัว่ ทุกคนมสี ิทธิจะเขา้ ประชมุ ในทปี่ ระชมุ ใหญไ่ ดเ้ สมอ ไม่วา่ จะเปน็ ประชมุ ชนดิ ใดคราวใด มาตรา ๑๑๗๗ วิธดี งั บญั ญัตไิ ว้ในมาตราต่อ ๆ ไปน้ี ทา่ นให้ใช้บังคบั แกก่ ารประชุมใหญ่ เวน้ แต่จะมีขอ้ บงั คับของบรษิ ทั กำหนดไวเ้ ปน็ ข้อความขดั กัน มาตรา ๑๑๗๘ ในการประชุมใหญ่ ถ้าไมม่ ผี ถู้ ือหนุ้ มาเข้าประชุมรวมกนั แทนหุ้นได้ถึงจำนวน หนึง่ ในสแี่ ห่งทนุ ของบริษัทเป็นอย่างนอ้ ยแลว้ ทา่ นว่าท่ีประชมุ อนั นนั้ จะปรกึ ษากจิ การอันใดหาได้ไม่ มาตรา ๑๑๗๙ การประชุมใหญเ่ รียกนัดเวลาใด เมอ่ื ลว่ งเวลานัดน้ันไปแลว้ ถงึ ชว่ั โมงหนง่ึ จำนวนผู้ถือหุน้ ซ่ึงมาเขา้ ประชุมยังไมค่ รบถ้วนเป็นองคป์ ระชมุ ดังบญั ญัติไว้ในมาตรา ๑๑๗๘ น้นั ไซร้ หากว่าการ ประชุมใหญ่นนั้ ไดเ้ รยี กนดั เพราะผ้ถู ือหุ้นร้องขอ ท่านใหเ้ ลิกประชุม ถ้าการประชุมใหญ่น้นั มิใชช่ นดิ ซึง่ เรียกนดั เพราะผ้ถู อื หุ้นรอ้ งขอไซร้ ท่านใหเ้ รยี กนดั ใหมอ่ กี คราวหนง่ึ ภายในสบิ สว่ี ัน และการประชุมใหญ่ครง้ั หลงั น้ที ่านไมบ่ งั คับว่าจำตอ้ งครบองคป์ ระชมุ มาตรา ๑๑๘๐ ในการประชมุ ผถู้ ือหนุ้ ท่ัวไปเป็นประชมุ ใหญท่ กุ ๆ ครงั้ ใหผ้ ูเ้ ปน็ ประธานใน สภากรรมการนงั่ เปน็ ประธาน ถ้าประธานกรรมการเช่นว่านไ้ี มม่ ีตัวกด็ ี หรอื ไมม่ าเข้าประชมุ จนลว่ งเวลานัดไปแลว้ สบิ ห้า นาทกี ็ดี ให้ผูถ้ ือหนุ้ ทั้งหลายซึ่งอยใู่ นที่นั้นเลือกผ้ถู อื หุ้นคนหนง่ึ ในจำนวนซงึ่ มาประชุมขนึ้ นง่ั เปน็ ประธาน มาตรา ๑๑๘๑ ผู้น่งั เป็นประธานจะเลอ่ื นการประชุมใหญใ่ ด ๆ ไปเวลาอืน่ โดยความยินยอม ของท่ปี ระชุมก็ได้ แต่ในทปี่ ระชมุ ซงึ่ ไดเ้ ลอื่ นมานัน้ ทา่ นมิใหป้ รึกษากจิ การอนั ใดนอกไปจากทีค่ ้างมาแต่วนั ประชุมกอ่ น มาตรา ๑๑๘๒ ในการลงคะแนนโดยวธิ ีชมู ือนน้ั ท่านให้นบั วา่ ผถู้ อื หุ้นทกุ คนท่ีมาประชมุ เอง หรอื มอบฉนั ทะใหผ้ อู้ ื่นมาประชุมแทนมีเสียงหน่งึ เปน็ คะแนน แต่ในการลงคะแนนลบั ท่านใหน้ บั วา่ ผู้ถอื หุ้นทุก คนมคี ะแนนเสียงเสยี งหนึง่ ต่อหุ้นหนง่ึ ทต่ี นถือ
214 มาตรา ๑๑๘๓ ถ้ามขี ้อบงั คบั ของบรษิ ทั วางเปน็ กำหนดไว้วา่ ตอ่ เมอ่ื ผูถ้ อื หนุ้ เปน็ ผมู้ หี นุ้ แต่ จำนวนเท่าใดขน้ึ ไปจงึ ให้ออกเสยี งเป็นคะแนนได้ไซร้ ทา่ นว่าผ้ถู อื หุ้นทงั้ หลายซงึ่ ไมม่ หี นุ้ ถึงจำนวนเทา่ นั้นยอ่ มมี สิทธทิ ีจ่ ะเข้ารวมกนั ให้ได้จำนวนห้นุ ดังกลา่ ว แล้วตัง้ คนหนงึ่ ในพวกของตนให้เปน็ ผรู้ ับฉันทะออกเสยี งแทนใน การประชมุ ใหญใ่ ด ๆ ได้ มาตรา ๑๑๘๔ ผู้ถือหนุ้ คนใดยงั มไิ ดช้ ำระเงนิ ค่าห้นุ ซง่ึ บรษิ ทั ได้เรียกเอาแตต่ นใหเ้ สรจ็ สนิ้ ทา่ นว่าผถู้ ือหุน้ คนน้นั ไม่มสี ิทธิออกเสียงเปน็ คะแนน มาตรา ๑๑๘๕ ผู้ถอื หนุ้ คนใดมสี ว่ นได้เสียเป็นพเิ ศษในขอ้ อนั ใดซึ่งท่ีประชมุ จะลงมติ ท่าน หา้ มมิให้ผถู้ อื หุ้นคนนนั้ ออกเสยี งลงคะแนนดว้ ยในขอ้ นัน้ มาตรา ๑๑๘๖ ผู้ทรงใบหนุ้ ชนดิ ออกใหแ้ กผ่ ถู้ ือหาอาจออกเสยี งเป็นคะแนนได้ไม่ เวน้ แตจ่ ะ ได้นำใบหุ้นของตนนัน้ มาวางไวแ้ ก่บริษัทแต่ก่อนเวลาประชุม มาตรา ๑๑๘๗ ผถู้ อื หุ้นทุกคนจะมอบฉนั ทะใหผ้ ู้อ่ืนออกเสียงแทนตนก็ได้ แตก่ ารมอบฉันทะ เช่นน้ตี ้องทำเป็นหนงั สอื ดังตอ่ ไปนี้ คอื มาตรา ๑๑๘๘ หนังสือต้งั ผรู้ บั ฉันทะน้นั ใหล้ งวนั และลงลายมือช่อื ผ้ถู ือหุ้นและให้มรี ายการ (๑) จำนวนหนุ้ ซง่ึ ผมู้ อบฉนั ทะน้ันถอื อยู่ (๒) ชื่อผู้รบั ฉันทะ (๓) ตั้งผรู้ บั ฉนั ทะนน้ั เพอ่ื การประชุมครั้งคราวใด หรอื ตั้งไว้ชั่วระยะเวลาเพยี งใด มาตรา ๑๑๘๙ อนั หนงั สอื ตง้ั ผรู้ บั ฉันทะนั้น ถ้าผู้มชี ือ่ รบั ฉันทะประสงค์จะออกเสียงในการ ประชุมครง้ั ใด ตอ้ งนำไปวางตอ่ ผูเ้ ป็นประธานแตเ่ มอ่ื เรมิ่ หรอื กอ่ นเร่ิมประชมุ ครัง้ นัน้ มาตรา ๑๑๙๐ ในการประชุมใหญ่ใด ๆ ขอ้ มติอนั เสนอให้ลงคะแนนทา่ นใหต้ ดั สินดว้ ยวธิ ีชู มอื เว้นแต่เมื่อกอ่ นหรอื ในเวลาที่แสดงผลแหง่ การชมู อื น้ัน จะไดม้ ีผู้ถือหุ้นสองคนเปน็ อย่างนอ้ ยตดิ ใจรอ้ งขอให้ ลงคะแนนลับ
215 มาตรา ๑๑๙๑ ในการประชมุ ใหญใ่ ด ๆ เมอ่ื ผเู้ ป็นประธานแสดงวา่ มตอิ ันใดนบั คะแนนชมู ือ เปน็ อนั ว่าได้หรือตกก็ดี และไดจ้ ดลงไว้ในสมดุ รายงานประชมุ ของบรษิ ัทดังน้ันแลว้ ท่านให้ถอื เปน็ หลักฐาน เพียงพอทจี่ ะฟงั ไดต้ ามนัน้ ถา้ มีผูต้ ดิ ใจร้องขอให้ลงคะแนนลบั ไซร้ ท่านให้ถือวา่ ผลแหง่ คะแนนลับนนั้ เป็นมตขิ องท่ี ประชุม มาตรา ๑๑๙๒ ถา้ มผี ูต้ ดิ ใจรอ้ งขอโดยชอบใหล้ งคะแนนลับ การลงคะแนนเช่นน้นั จะทำด้วย วธิ ใี ดสดุ แลว้ แต่ผเู้ ป็นประธานจะสง่ั มาตรา ๑๑๙๓ ถ้าคะแนนเสยี งเทา่ กัน จะเปน็ ในการชูมอื กด็ ี หรือในการลงคะแนนลบั ก็ดี ให้ ผู้เปน็ ประธานในทปี่ ระชมุ มีคะแนนอกี เสยี งหนงึ่ เป็นเสียงช้ขี าด มาตรา ๑๑๙๔[๕๗] การใดที่กฎหมายกำหนดให้ตอ้ งทำโดยมติพิเศษ ท่ีประชุมใหญ่ตอ้ งลงมติ ในเรือ่ งนนั้ โดยคะแนนเสยี งขา้ งมากไมต่ ำ่ กวา่ สามในสข่ี องจำนวนเสยี งทงั้ หมดของผูถ้ อื หุ้นทม่ี าประชุมและมี สิทธิออกเสยี งลงคะแนน มาตรา ๑๑๙๕ การประชุมใหญน่ นั้ ถา้ ได้นดั เรียกหรือได้ประชมุ กัน หรอื ไดล้ งมตฝิ า่ ฝนื บทบญั ญตั ิในลกั ษณะน้กี ด็ ี หรอื ฝ่าฝืนข้อบงั คบั ของบรษิ ทั กด็ ี เมอื่ กรรมการหรือผู้ถอื หุ้นคนหนง่ึ คนใดรอ้ งข้นึ แลว้ ให้ศาลเพกิ ถอนมตขิ องทปี่ ระชุมใหญ่อนั ผดิ ระเบียบนั้นเสยี แต่ตอ้ งรอ้ งขอภายในกำหนดเดือนหน่งึ นบั แต่ วนั ลงมตินน้ั ๔. บญั ชงี บดลุ มาตรา ๑๑๙๖ อนั บญั ชีงบดลุ นนั้ ท่านว่าต้องทำอย่างนอ้ ยคร้ังหนงึ่ ทุกรอบสบิ สองเดอื น คอื เม่ือเวลาสดุ รอบสบิ สองเดือนอนั จัดวา่ เป็นขวบปีในทางบัญชเี งนิ ของบรษิ ัทน้นั อน่ึง งบดลุ ต้องมีรายการย่อแสดงจำนวนสนิ ทรพั ย์และหนี้สนิ ของบริษทั กับทั้งบญั ชกี ำไรและ ขาดทนุ มาตรา ๑๑๙๗ งบดลุ นนั้ ต้องจดั ให้มผี สู้ อบบัญชีคนหนงึ่ หรือหลายคนตรวจสอบแล้วนำเสนอ เพื่ออนุมัติในทีป่ ระชมุ ใหญภ่ ายในสเี่ ดือนนบั แตว่ ันท่ีลงในงบดุลนน้ั
216 อน่งึ ให้สง่ สำเนางบดลุ ไปยงั บคุ คลทกุ คนบรรดามีชื่อในทะเบียนผู้ถือหนุ้ ของบริษทั แต่ก่อนวัน นัดประชมุ ใหญล่ ว่ งหนา้ ไมน่ อ้ ยกวา่ สามวนั นอกจากนัน้ ใหม้ สี ำเนางบดุลเปดิ เผยไว้ในสำนักงานของบริษทั ในระหวา่ งเวลาเช่นวา่ นนั้ เพ่ือใหผ้ ทู้ รงใบหุน้ ชนดิ ออกใหแ้ กผ่ ู้ถือน้นั ตรวจดูไดด้ ว้ ย มาตรา ๑๑๙๘ ในเมอื่ เสนองบดลุ กรรมการต้องเสนอรายงานตอ่ ที่ประชุมใหญ่ แสดงว่า ภายในรอบปซี ่งึ พจิ ารณากันอยู่นนั้ การงานของบรษิ ัทไดจ้ ัดทำไปเป็นประการใด มาตรา ๑๑๙๙ บคุ คลใดประสงค์จะไดส้ ำเนางบดลุ ฉบับหลังทีส่ ดุ จากบริษัทใด ๆ ก็ชอบทจี่ ะ ซ้ือเอาได้โดยราคาไม่เกินฉบบั ละยสี่ บิ บาท[๕๘] ใหเ้ ป็นหนา้ ทข่ี องกรรมการทจ่ี ะสง่ สำเนางบดุลทกุ ฉบบั ไปยงั นายทะเบยี นไมช่ า้ กวา่ เดือนหนงึ่ นับแตว่ ันซงึ่ งบดุลน้ันได้รบั อนุมัตใิ นทป่ี ระชมุ ใหญ่ ๕. เงินปนั ผลและเงนิ สำรอง มาตรา ๑๒๐๐ การแจกเงินปนั ผลน้ัน ตอ้ งคิดตามสว่ นจำนวนซ่ึงผู้ถอื หุน้ ไดส้ ง่ เงนิ แลว้ ในหนุ้ หนึง่ ๆ เวน้ แต่จะได้ตกลงกันไวเ้ ปน็ อย่างอน่ื ในเรอื่ งหุ้นบรุ ิมสิทธิ มาตรา ๑๒๐๑ ห้ามมิให้ประกาศอนญุ าตเงินปันผล นอกจากโดยมตขิ องทปี่ ระชุมใหญ่ กรรมการอาจจา่ ยเงินปนั ผลระหว่างกาลให้แก่ผถู้ อื หนุ้ ไดเ้ ปน็ ครงั้ เปน็ คราว ในเมอ่ื ปรากฏแก่ กรรมการวา่ บรษิ ทั มีกำไรสมควรพอท่ีจะทำเชน่ น้นั หา้ มมิใหจ้ ่ายเงนิ ปันผลจากเงินประเภทอืน่ นอกจากเงินกำไร ถ้าหากบรษิ ทั ขาดทนุ หา้ มมใิ ห้ จ่ายเงนิ ปนั ผลจนกว่าจะได้แก้ไขใหห้ ายขาดทนุ เช่นนน้ั มาตรา ๑๒๐๒ ทุกคราวทแ่ี จกเงินปนั ผล บริษัทต้องจดั สรรเงินไวเ้ ปน็ ทนุ สำรองอย่างนอ้ ย หนงึ่ ในยี่สบิ สว่ นของจำนวนผลกำไรซง่ึ บรษิ ทั ทำมาหาไดจ้ ากกจิ การของบริษัท จนกวา่ ทนุ สำรองนน้ั จะมจี ำนวน ถงึ หนึง่ ในสบิ ของจำนวนทนุ ของบริษทั หรือมากกว่าน้นั แลว้ แตจ่ ะได้ตกลงกำหนดไว้ในขอ้ บังคบั ของบรษิ ัท ถ้าไดอ้ อกห้นุ โดยคดิ เอาราคาเกินกว่าทป่ี รากฏในใบห้นุ เท่าใด จำนวนทคี่ ดิ เกินน้ที ่านใหบ้ วก ทบเขา้ ในทุนสำรองจนกว่าทุนสำรองจะมจี ำนวนเทา่ ถงึ ที่กำหนดไว้ในวรรคกอ่ น
217 มาตรา ๑๒๐๓ ถา้ จ่ายเงินปนั ผลไปโดยฝ่าฝืนความในมาตราท้ังสองซง่ึ กล่าวมาไซร้ เจา้ หน้ี ทั้งหลายของบรษิ ทั ชอบทจ่ี ะเรียกเอาเงินจำนวนซง่ึ ได้แจกไปคืนมายังบรษิ ทั ได้ แตว่ ่าถา้ ผู้ถอื หุ้นคนใดไดร้ ับเงิน ปนั ผลไปแลว้ โดยสจุ ริต ทา่ นว่าจะกลับบงั คบั ให้เขาจำคนื น้นั หาได้ไม่ มาตรา ๑๒๐๔[๕๙] การบอกกลา่ ววา่ จะปนั ผลอยา่ งใด ๆ อนั ไดอ้ นุญาตใหจ้ า่ ยน้นั ใหบ้ รษิ ทั มี จดหมายบอกกลา่ วไปยังตัวผู้ถือห้นุ ทปี่ รากฏช่อื อยูใ่ นทะเบยี นผถู้ ือหุ้นทกุ คน แตใ่ นกรณีทบี่ ริษทั มหี นุ้ ชนดิ ทม่ี ีใบ ห้นุ ออกให้แกผ่ ู้ถอื ใหโ้ ฆษณาในหนังสอื พมิ พ์แห่งทอ้ งทอี่ ยา่ งน้อยหน่งึ คราวด้วย มาตรา ๑๒๐๕ เงนิ ปันผลน้ัน แมจ้ ะค้างจา่ ยอยู่ ท่านว่าหาอาจจะคิดเอาดอกเบย้ี แกบ่ ริษัทได้ ไม่ ๖. สมดุ และบัญชี มาตรา ๑๒๐๖ กรรมการตอ้ งจดั ใหถ้ ือบัญชซี งึ่ กล่าวต่อไปนไ้ี ว้ให้ถูกถว้ นจริง ๆ คือ (๑) จำนวนเงนิ ที่บรษิ ัทไดร้ บั และไดจ้ ่าย ทงั้ รายการอันเปน็ เหตุให้รบั หรือจา่ ยเงนิ ทุกรายไป (๒) สนิ ทรัพย์และหนสี้ นิ ของบริษทั มาตรา ๑๒๐๗ กรรมการต้องจัดใหจ้ ดบันทกึ รายงานการประชุม และข้อมติทง้ั หมดของท่ี ประชมุ ผถู้ ือหนุ้ และของทีป่ ระชมุ กรรมการลงไวใ้ นสมุดโดยถกู ต้อง สมดุ น้ีใหเ้ กบ็ รกั ษาไว้ ณ สำนกั งานที่ได้จด ทะเบียนของบรษิ ทั บนั ทกึ เช่นนั้นอย่างหนึง่ อย่างใด เม่ือไดล้ งลายมอื ช่ือของผเู้ ปน็ ประธานแหง่ การประชุมซงึ่ ไดล้ งมติ หรือซง่ึ ไดด้ ำเนนิ การงานประชมุ กด็ ี หรือได้ลงลายมอื ชอ่ื ของผเู้ ป็นประธานแห่งการประชุมถดั จากครั้ง นน้ั มาก็ดี ท่านให้สนั นษิ ฐานไว้ก่อนว่าเป็นหลกั ฐานอันถกู ต้องแห่งขอ้ ความท่ไี ดจ้ ดบันทกึ ลงในสมดุ นนั้ ๆ และ ใหส้ ันนษิ ฐานไว้กอ่ นวา่ การลงมตแิ ละการดำเนนิ ของทป่ี ระชมุ อันได้จดบนั ทกึ ไว้นน้ั ได้เป็นไปโดยชอบ ผถู้ อื ห้นุ คนใดจะขอตรวจเอกสารดงั กลา่ วมาข้างตน้ ในเวลาใดเวลาหนงึ่ ระหว่างเวลาทำการ งานก็ได้ ส่วนท่ี ๔ การสอบบญั ชี มาตรา ๑๒๐๘ ผู้สอบบญั ชนี นั้ จะเปน็ ผ้ถู อื ห้นุ ของบริษทั ก็ได้ แต่บคุ คลผมู้ สี ่วนไดเ้ สียในการ งานท่บี รษิ ัททำโดยสถานอืน่ อย่างหนง่ึ อย่างใดนอกจากเปน็ แตผ่ ้ถู ือหุ้นในบริษัทเทา่ น้ันแล้ว ทา่ นว่าจะเลอื กเอา
218 มาเปน็ ตำแหน่งผูส้ อบบญั ชีหาได้ไม่ กรรมการกด็ ี หรอื ผอู้ นื่ ซง่ึ เป็นตวั แทนหรือเปน็ ลกู จา้ งของบริษทั ก็ดี เวลาอยู่ ในตำแหน่งน้นั ๆ กจ็ ะเลือกเอามาเปน็ ตำแหน่งผสู้ อบบญั ชขี องบรษิ ัทหาได้ไม่ มาตรา ๑๒๐๙ ผู้สอบบญั ชนี นั้ ให้ทป่ี ระชุมสามญั เลือกต้ังทกุ ปี ผ้สู อบบญั ชีคนซึ่งออกไปนั้นจะเลอื กกลบั เขา้ รบั ตำแหน่งอกี ก็ได้ มาตรา ๑๒๑๐ ผู้สอบบัญชคี วรจะไดส้ นิ จ้างเทา่ ใด ใหท้ ีป่ ระชุมใหญก่ ำหนด มาตรา ๑๒๑๑ ถ้ามตี ำแหน่งว่างลงในจำนวนผสู้ อบบญั ชี ใหก้ รรมการนดั เรียกประชุม วสิ ามญั เพอื่ ใหเ้ ลอื กตง้ั ขนึ้ ใหม่ใหค้ รบจำนวน มาตรา ๑๒๑๒ ถา้ มไิ ดเ้ ลอื กตัง้ ผูส้ อบบญั ชีโดยวธิ ีดังกลา่ วมา เมือ่ ผู้ถือหุ้นไม่นอ้ ยกว่าห้าคน รอ้ งขอ ก็ให้ศาลตงั้ ผู้สอบบญั ชปี ระจำปีน้นั และกำหนดสนิ จา้ งใหด้ ว้ ย มาตรา ๑๒๑๓ ให้ผสู้ อบบญั ชีทกุ คนเข้าตรวจสอบสรรพสมดุ และบญั ชีของบรษิ ัทในเวลาอนั สมควรได้ทุกเม่อื และในการอนั เกยี่ วดว้ ยสมุดและบญั ชีเชน่ น้ันให้ไตถ่ ามสอบสวนกรรมการ หรือผูอ้ นื่ ๆ ซ่งึ เปน็ ตวั แทน หรอื เป็นลูกจ้างของบรษิ ัทไดไ้ มว่ ่าคนหนง่ึ คนใด มาตรา ๑๒๑๔ ผสู้ อบบญั ชีตอ้ งทำรายงานวา่ ด้วยงบดลุ และบญั ชียืน่ ต่อทปี่ ระชมุ สามญั ผู้สอบบญั ชีตอ้ งแถลงในรายงานเช่นนนั้ ดว้ ยวา่ ตนเหน็ วา่ งบดลุ ได้ทำโดยถกู ถ้วนควรฟังว่า สำแดงใหเ้ ห็นการงานของบริษัททเ่ี ปน็ อยู่ตามจริงและถูกตอ้ งหรอื ไม่ สว่ นท่ี ๕ การตรวจ มาตรา ๑๒๑๕ เม่ือผถู้ ือหุน้ ในบรษิ ทั มจี ำนวนรวมกนั ไม่น้อยกวา่ หน่ึงในห้าของจำนวนหนุ้ ท้ังหมด ทำเรอ่ื งราวร้องขอไซร้ ใหร้ ัฐมนตร*ี เจ้าหน้าทตี่ ง้ั ผู้ตรวจอันทรงความสามารถ จะเป็นคนเดียวหรอื หลายคนกต็ าม ไปตรวจการงานของบรษิ ทั จำกดั น้ันและทำรายงานยื่นให้ทราบ ก่อนท่จี ะตง้ั ผู้ตรวจเชน่ น้ัน รฐั มนตร*ี จะบังคับให้คนทง้ั หลายผยู้ ื่นเรอื่ งราววางประกนั เพ่อื รับ ออกเงินค่าใชส้ อยในการตรวจนนั้ กไ็ ด้
219 มาตรา ๑๒๑๖ กรรมการก็ดี ลูกจา้ งและตัวแทนของบริษัทกด็ ี จำตอ้ งสง่ สรรพสมุดและ เอกสารทง้ั ปวงซึ่งตนเกบ็ รกั ษาหรอื อยใู่ นอำนาจแหง่ ตนน้นั ให้แก่ผตู้ รวจ ผ้ตู รวจคนหนง่ึ คนใดจะให้กรรมการ ลกู จา้ ง และตวั แทนของบริษัทสาบานตวั แลว้ สอบถาม คำให้การในเรื่องอันเนอื่ งด้วยการงานของบริษทั นนั้ กไ็ ด้ มาตรา ๑๒๑๗ ผูต้ รวจตอ้ งทำรายงานย่ืน และรายงานน้ันจะเขียนหรือตพี มิ พส์ ดุ แต่ รัฐมนตร*ี เจ้าหนา้ ทจ่ี ะบญั ชา สำเนารายงานนัน้ ใหร้ ัฐมนตร*ี สง่ ไปยงั สำนักงานบรษิ ัทซง่ึ ได้จดทะเบยี นไว้ กับทงั้ สง่ แกผ่ ู้ถือหุ้นซ่งึ ย่ืนเรอื่ งราวขอให้ตรวจนน้ั ด้วย มาตรา ๑๒๑๘ คา่ ใช้สอยในการตรวจเช่นน้ี ผู้ยืน่ เร่อื งราวขอให้ตรวจต้องใชท้ ัง้ สิน้ เวน้ แตถ่ า้ บริษัทในคราวประชมุ ใหญ่ครงั้ แรกเมอื่ ตรวจสำเร็จลงแล้วได้ยนิ ยอมวา่ จะจ่ายจากสนิ ทรัพยข์ องบริษทั นัน้ มาตรา ๑๒๑๙ รัฐมนตรี*เจ้าหน้าที่โดยลำพงั ตนเอง จะตง้ั ผตู้ รวจคนเดียวหรือหลายคนใหไ้ ป ตรวจการของบริษทั เพอ่ื ทำรายงานยน่ื ตอ่ รฐั บาลก็ได้ การตง้ั ผตู้ รวจเชน่ วา่ มานจ้ี ะพงึ มีเมือ่ ใดสุดแลว้ แต่ รัฐมนตร*ี จะเห็นสมควร สว่ นที่ ๖ การเพม่ิ ทุนและลดทนุ มาตรา ๑๒๒๐ บรษิ ัทจำกัดอาจเพมิ่ ทนุ ของบรษิ ัทข้นึ ได้ด้วยออกหนุ้ ใหม่โดยมตพิ ิเศษของ ประชมุ ผถู้ ือหุ้น มาตรา ๑๒๒๑ บริษทั จำกดั จะออกหนุ้ ใหม่ใหเ้ หมอื นหนง่ึ วา่ ไดใ้ ชเ้ ตม็ คา่ แล้ว หรือได้ใชแ้ ต่ บางสว่ นแล้วด้วยอย่างอื่นนอกจากใหใ้ ชเ้ ป็นตัวเงนิ นนั้ ไมไ่ ด้ เวน้ แตจ่ ะทำตามมตพิ เิ ศษของประชุมผถู้ ือหุ้น มาตรา ๑๒๒๒[๖๐] บรรดาหุ้นที่ออกใหมน่ ัน้ ต้องเสนอใหแ้ กผ่ ถู้ ือหุน้ ทง้ั หลายตามส่วนจำนวน หุ้นซึง่ เขาถอื อยู่ คำเสนอเช่นนี้ ตอ้ งทำเปน็ หนงั สือบอกกลา่ วไปยังผู้ถือหนุ้ ทกุ ๆ คน ระบจุ ำนวนหุ้นใหท้ ราบ วา่ ผู้นัน้ ชอบทจี่ ะซอ้ื ไดก้ หี่ ุน้ และใหก้ ำหนดวนั ว่าถา้ พน้ วันนัน้ ไปมไิ ด้มคี ำสนองมาแลว้ จะถอื ว่าเป็นอันไมร่ บั ซอื้ เมอ่ื วนั ทก่ี ำหนดลว่ งไปแลว้ ก็ดี หรอื ผู้ถอื หุน้ ไดบ้ อกมาวา่ ไม่รบั ซื้อหนุ้ นั้นก็ดี กรรมการจะเอา หุ้นเชน่ น้ันขายให้แกผ่ ู้ถอื หุ้นคนอนื่ หรือจะรับซอ้ื ไวเ้ องก็ได้
220 มาตรา ๑๒๒๓[๖๑] หนงั สอื บอกกลา่ วทเี่ สนอใหผ้ ถู้ อื หุ้นซ้อื หนุ้ ใหมน่ ั้น ตอ้ งลงวนั เดือนปีและ ลายมอื ชอ่ื ของกรรมการ มาตรา ๑๒๒๔ บรษิ ัทจำกัดจะลดทนุ ของบรษิ ัทลงด้วยลดมลู ค่าแต่ละหุ้น ๆ ให้ตำ่ ลง หรือลด จำนวนหนุ้ ให้นอ้ ยลงโดยมตพิ ิเศษของประชุมผู้ถือหนุ้ กไ็ ด้ มาตรา ๑๒๒๕ อนั ทนุ ของบริษทั นั้นจะลดลงไปใหถ้ งึ ตำ่ กวา่ จำนวนหน่ึงในสข่ี องทุนทง้ั หมด หาไดไ้ ม่ มาตรา ๑๒๒๖[๖๒] เมอ่ื บริษัทประสงคจ์ ะลดทนุ ต้องโฆษณาความประสงค์น้นั ในหนงั สือพมิ พ์ แหง่ ท้องทอี่ ย่างนอ้ ยหนง่ึ คราว และตอ้ งมหี นงั สอื บอกกล่าวไปยังบรรดาผูซ้ งึ่ บริษัทรูว้ ่าเปน็ เจ้าหน้ขี องบริษทั บอกใหท้ ราบรายการซง่ึ ประสงคจ์ ะลดทุนลงและขอใหเ้ จ้าหน้ผี ูม้ ีข้อคัดค้านอยา่ งหนึ่งอย่างใดในการลดทนุ น้นั ส่งคำคดั ค้านไปภายในสามสบิ วันนบั แตว่ ันที่บอกกลา่ วน้นั ถ้าไม่มผี ใู้ ดคดั ค้านภายในกำหนดเวลาสามสบิ วัน กใ็ ห้พงึ ถอื วา่ ไมม่ ีการคดั คา้ น ถา้ หากมเี จา้ หนีค้ ัดค้าน บริษทั จะจดั การลดทุนลงไม่ได้ จนกวา่ จะได้ใช้หน้ีหรอื ให้ประกนั เพอ่ื หน้ีรายนั้นแล้ว มาตรา ๑๒๒๗ ถ้ามเี จา้ หนีค้ นหนง่ึ คนใดละเลยเสยี มไิ ดค้ ดั คา้ นในการที่บรษิ ัทจะลดทนุ ลง เพราะเหตวุ า่ ตนไม่ทราบความ และเหตทุ ไี่ ม่ทราบนัน้ มไิ ด้เปน็ เพราะความผดิ ของเจ้าหนีค้ นน้ันแต่อย่างใดไซร้ ท่านว่าผถู้ ือหนุ้ ทง้ั หลายบรรดาท่ไี ดร้ ับเงินคนื ไปตามสว่ นทลี่ ดหุ้นลงนนั้ ยงั คงจะตอ้ งรบั ผดิ ตอ่ เจ้าหนเ้ี ชน่ นน้ั เพียงจำนวนทีไ่ ดร้ บั ทุนคืนไปช่ัวเวลาสองปี นับแตว่ นั ทีไ่ ดจ้ ดทะเบยี นการลดทนุ นัน้ มาตรา ๑๒๒๘ มติพิเศษซงึ่ อนุญาตใหเ้ พม่ิ ทุนหรือลดทนุ นน้ั บริษัทตอ้ งจดทะเบยี นภายใน สิบส่วี ันนับแตว่ นั ที่ไดล้ งมติน้ัน
221 สว่ นท่ี ๗ หุน้ กู้ มาตรา ๑๒๒๙[๖๓] บริษทั จะออกหุน้ ก้ไู ม่ได้ มาตรา ๑๒๓๐[๖๔] (ยกเลิก) มาตรา ๑๒๓๑[๖๕] (ยกเลกิ ) มาตรา ๑๒๓๒[๖๖] (ยกเลกิ ) มาตรา ๑๒๓๓[๖๗] (ยกเลกิ ) มาตรา ๑๒๓๔[๖๘] (ยกเลกิ ) มาตรา ๑๒๓๕[๖๙] (ยกเลกิ ) ส่วนที่ ๘ เลกิ บรษิ ัทจำกดั มาตรา ๑๒๓๖ อันบรษิ ัทจำกัดยอ่ มเลกิ กนั ดว้ ยเหตุดังจะกลา่ วต่อไปน้ี คอื (๑) ถา้ ในข้อบงั คบั ของบริษทั มีกำหนดกรณอี ันใดเปน็ เหตทุ จี่ ะเลกิ กนั เมอ่ื มีกรณีน้นั (๒) ถา้ บริษทั ไดต้ ้งั ข้ึนไว้เฉพาะกำหนดกาลใด เมอ่ื สิ้นกำหนดกาลนนั้ (๓) ถ้าบรษิ ทั ไดต้ ้ังขึ้นเฉพาะเพอ่ื ทำกจิ การอยา่ งหนึง่ อย่างใดแต่อยา่ งเดยี ว เมือ่ เสร็จการนน้ั (๔) เม่อื มมี ตพิ เิ ศษให้เลิก (๕) เมือ่ บรษิ ทั ล้มละลาย มาตรา ๑๒๓๗ นอกจากนศ้ี าลอาจสง่ั ใหเ้ ลกิ บริษทั จำกดั ด้วยเหตุตอ่ ไปนี้ คอื (๑) ถ้าทำผิดในการย่ืนรายงานประชุมตัง้ บริษัท หรอื ทำผดิ ในการประชุมตั้งบริษัท (๒) ถา้ บรษิ ทั ไมเ่ รมิ่ ทำการภายในปีหนงึ่ นบั แตว่ นั จดทะเบยี น หรอื หยุดทำการถงึ ปหี นึ่งเตม็ (๓) ถ้าการคา้ ของบริษัททำไปกม็ ีแตข่ าดทนุ อยา่ งเดยี ว และไมม่ ีทางหวงั วา่ จะกลบั ฟ้นื ตวั ได้
222 (๔)[๗๐] ถา้ จำนวนผถู้ อื ห้นุ ลดน้อยลงจนเหลอื ไมถ่ ึงสามคน แตอ่ ยา่ งไรก็ดี ในกรณที ำผิดในการยน่ื รายงานประชมุ ตง้ั บรษิ ัท หรือทำผิดในการประชุมตั้ง บรษิ ัท ศาลจะสง่ั ให้ยนื่ รายงานประชมุ ตงั้ บริษทั หรอื ให้มีการประชมุ ต้งั บรษิ ทั แทนสัง่ ให้เลกิ บริษัทก็ได้ แลว้ แต่ จะเห็นควร สว่ นท่ี ๙ การควบบรษิ ทั จำกัดเข้ากัน มาตรา ๑๒๓๘ อนั บริษทั จำกัดนัน้ จะควบเขา้ กันมไิ ด้ เวน้ แต่จะเป็นไปโดยมติพเิ ศษ มาตรา ๑๒๓๙ มตพิ เิ ศษซง่ึ วนิ ิจฉยั ให้ควบบริษทั จำกดั เข้ากนั นั้น บริษทั ต้องนำไปจดทะเบยี น ภายในสบิ สี่วนั นบั ตงั้ แตว่ นั ลงมติ มาตรา ๑๒๔๐ บริษทั ตอ้ งโฆษณาในหนงั สอื พมิ พ์แหง่ ทอ้ งทอี่ ย่างนอ้ ยหนง่ึ คราว และส่งคำ บอกกล่าวไปยังบรรดาผ้ซู งึ่ บรษิ ทั รวู้ ่าเป็นเจ้าหน้ีของบริษัท บอกใหท้ ราบรายการทปี่ ระสงคจ์ ะควบบริษทั เขา้ กนั และขอใหเ้ จ้าหนผ้ี มู้ ีขอ้ คัดคา้ นอย่างหน่ึงอยา่ งใดในการควบบริษัทเข้ากันนน้ั สง่ คำคดั ค้านไปภายในหกสิบ วันนบั แต่วันที่บอกกล่าว[๗๑] ถ้าไมม่ ีใครคัดคา้ นภายในกำหนดเวลาเช่นว่าน้ัน กใ็ ห้พงึ ถอื วา่ ไมม่ ีคัดค้าน ถา้ หากมเี จ้าหนค้ี ัดคา้ น บริษทั จะจัดการควบเข้ากันมิได้ จนกว่าจะได้ใช้หนห้ี รอื ได้ให้ประกนั เพือ่ หนร้ี ายนั้น มาตรา ๑๒๔๑ บรษิ ัทได้ควบเข้ากันแล้วเมอื่ ใด ต่างบรษิ ทั ตอ้ งนำความไปจดทะเบยี นภายใน สบิ ส่วี ันนับแตว่ นั ทีค่ วบเขา้ กนั และบริษทั จำกัดอนั ได้ตง้ั ขึน้ ใหมด่ ว้ ยควบเขา้ กนั นัน้ กต็ อ้ งจดทะเบยี นเปน็ บรษิ ัท ใหม่ มาตรา ๑๒๔๒ จำนวนทุนเรอื นหุ้นของบริษทั ใหม่นั้น ต้องเทา่ กับยอดรวมจำนวนทุนเรือน หนุ้ ของบริษัทเดมิ อันมาควบเข้ากัน มาตรา ๑๒๔๓ บรษิ ัทใหมน่ ีย้ ่อมได้ไปทั้งสทิ ธิและความรบั ผดิ บรรดามอี ยู่แกบ่ รษิ ัทเดิมอนั ได้มาควบเข้ากนั น้นั ทง้ั ส้นิ
223 สว่ นท่ี ๑๐ หนงั สอื บอกกล่าว มาตรา ๑๒๔๔ อันหนงั สือบอกกล่าวซ่ึงบรษิ ทั จะพงึ สง่ ถงึ ผถู้ อื หุ้นนน้ั ถา้ ว่าไดส้ ง่ มอบใหแ้ ล้ว ถงึ ตวั ก็ดี หรอื ส่งไปโดยทางไปรษณยี ส์ ลกั หลังถงึ สำนักอาศยั ของผ้ถู ือหนุ้ ดงั ที่ปรากฏในทะเบยี นของบริษัทแลว้ กด็ ี ท่านให้ถอื ว่าเป็นอันไดส้ ่งชอบแลว้ มาตรา ๑๒๔๕ หนงั สือบอกกลา่ วใด ๆ เมื่อไดส้ ง่ โดยทางไปรษณีย์สลกั หลงั ถกู ตอ้ งแลว้ ท่าน ให้ถือวา่ เปน็ อันไดส้ ง่ ถงึ มอื ผรู้ ับในเวลาทหี่ นงั สอื เชน่ นน้ั จะควรไปถึงไดต้ ามทางการปกติแห่งไปรษณยี ์ สว่ นที่ ๑๑ การถอนทะเบียนบริษทั รา้ ง[๗๒] มาตรา ๑๒๔๖ (ยกเลิก) สว่ นท่ี ๑๒ การแปรสภาพหา้ งหุ้นส่วนจดทะเบยี นและห้างหนุ้ ส่วนจำกดั เปน็ บริษัทจำกัด[๗๓] มาตรา ๑๒๔๖/๑[๗๔] ห้างหนุ้ ส่วนจดทะเบยี นหรอื ห้างห้นุ สว่ นจำกัดทีม่ ผี เู้ ปน็ หนุ้ ส่วนตั้งแต่ สามคนขนึ้ ไปอาจแปรสภาพเป็นบริษทั จำกัดได้ โดยความยินยอมของผู้เปน็ หนุ้ สว่ นทุกคนและ ดำเนนิ การ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) แจง้ ความยนิ ยอมของผเู้ ปน็ หนุ้ สว่ นทจ่ี ะใหแ้ ปรสภาพหา้ งหนุ้ ส่วนเปน็ บริษทั จำกดั เป็น หนังสอื ตอ่ นายทะเบียนภายในสบิ สี่วันนบั แตว่ ันท่ีผเู้ ป็นห้นุ สว่ นทุกคนใหค้ วามยนิ ยอม (๒) ประกาศโฆษณาในหนังสอื พมิ พ์แห่งท้องท่ีอย่างนอ้ ยหนงึ่ คราว และมหี นังสือบอกกลา่ วไป ยงั บรรดาผซู้ ึ่งรู้วา่ เปน็ เจา้ หน้ีของห้างหนุ้ ส่วนบอกใหท้ ราบรายการทป่ี ระสงคจ์ ะแปรสภาพห้างหุ้นสว่ นเป็น บริษทั และขอให้เจา้ หนผ้ี มู้ ขี อ้ คดั คา้ นอยา่ งหนึ่งอยา่ งใดในการแปรสภาพเปน็ บรษิ ัทจำกดั นั้น สง่ คำคดั ค้านไป ภายในสามสบิ วันนบั แต่วันทีบ่ อกกลา่ วน้ัน ถ้ามกี ารคัดคา้ น ห้างหนุ้ สว่ นน้นั จะแปรสภาพมไิ ด้จนกว่าจะไดช้ ำระหนห้ี รอื ให้ประกันเพ่ือหนี้ นนั้ แลว้
224 มาตรา ๑๒๔๖/๒[๗๕] ในกรณไี ม่มกี ารคัดค้านหรอื มีการคดั คา้ นแต่หา้ งหุ้นส่วนได้ชำระหนี้ หรอื ให้ประกันเพอื่ หนนี้ น้ั แล้ว ผู้เป็นห้นุ สว่ นทุกคนต้องประชมุ เพอื่ ใหค้ วามยนิ ยอมและดำเนินการในเรอื่ ง ดงั ต่อไปนี้ (๑) จัดทำหนังสือบริคณหส์ นธิและข้อบงั คบั ของบริษทั (ถา้ ม)ี (๒) กำหนดจำนวนทุนเรอื นห้นุ ของบริษัท ซึง่ ต้องเท่ากับส่วนลงหุ้นของผเู้ ป็นหุ้นส่วนทกุ คนใน หา้ งหุ้นสว่ น และกำหนดจำนวนหนุ้ ของบริษัททจ่ี ะตกไดแ้ กห่ ุน้ สว่ นแต่ละคน (๓) กำหนดจำนวนเงินที่ไดใ้ ชแ้ ล้วในแตล่ ะหุ้น ซ่ึงต้องไม่น้อยกวา่ ร้อยละยสี่ บิ ห้าแหง่ มลู คา่ ของหนุ้ แตล่ ะหุน้ ทต่ี งั้ ไว้ (๔) กำหนดจำนวนห้นุ สามญั หรือหนุ้ บรุ มิ สทิ ธิ รวมทง้ั กำหนดสภาพและบุริมสิทธิของหุ้นซง่ึ จะออกและจัดสรรหนุ้ ใหแ้ กผ่ เู้ ปน็ ห้นุ ส่วน (๕) แตง่ ตั้งกรรมการและกำหนดอำนาจของกรรมการ (๖) แต่งตงั้ ผสู้ อบบญั ชี (๗) ดำเนนิ การในเรอื่ งอืน่ ๆ ทจี่ ำเปน็ ในการแปรสภาพ ในการดำเนินการตามวรรคหน่ึง ให้นำบทบญั ญตั เิ กี่ยวกบั บรษิ ทั จำกัดวา่ ดว้ ยการนัน้ ๆ มาใช้ บงั คบั โดยอนุโลม มาตรา ๑๒๔๖/๓[๗๖] หุ้นสว่ นผจู้ ัดการเดิมตอ้ งสง่ มอบกจิ การ ทรพั ยส์ ิน บัญชีเอกสารและ หลักฐานตา่ ง ๆ ของห้างหุ้นส่วนใหแ้ ก่คณะกรรมการบรษิ ทั ภายในสบิ ส่วี นั นบั แตว่ นั ทผ่ี ูเ้ ป็นห้นุ ส่วนได้ให้ความ ยนิ ยอมและดำเนนิ การในเร่ืองต่าง ๆ ตามมาตรา ๑๒๔๖/๒ เสรจ็ ส้นิ แลว้ ในกรณที ่ผี เู้ ป็นห้นุ ส่วนยังไม่ไดช้ ำระเงนิ คา่ หุ้นหรอื ชำระเงนิ คา่ ห้นุ ไมค่ รบร้อยละยีส่ บิ ห้าของ มูลค่าหนุ้ หรือยงั ไมไ่ ด้โอนกรรมสทิ ธทิ์ รัพยส์ นิ หรอื ทำเอกสารหลกั ฐานการใชส้ ิทธิต่าง ๆ ใหแ้ ก่คณะกรรมการ ให้คณะกรรมการบรษิ ัทมหี นงั สือแจง้ ใหผ้ เู้ ป็นหนุ้ ส่วนชำระเงนิ ค่าหนุ้ โอนกรรมสิทธิห์ รอื ทำเอกสารหลกั ฐาน การใช้สทิ ธิตา่ ง ๆ แลว้ แตก่ รณี ใหแ้ กค่ ณะกรรมการภายในสามสิบวันนบั แตว่ นั ท่ไี ด้รับหนงั สือแจง้ มาตรา ๑๒๔๖/๔[๗๗] คณะกรรมการบรษิ ทั ตอ้ งขอจดทะเบยี นการแปรสภาพเป็นบรษิ ทั จำกดั ต่อนายทะเบียน ภายในสบิ สีว่ ันนับแต่วันทีไ่ ด้ดำเนนิ การตามมาตรา ๑๒๔๖/๓ ครบถ้วนแล้ว ในการขอจดทะเบียนแปรสภาพเปน็ บรษิ ทั จำกัด คณะกรรมการต้องยน่ื รายงานการประชมุ ท่ี ผู้เป็นห้นุ ส่วนได้ร่วมกันพจิ ารณาให้ความยินยอมและดำเนินการแปรสภาพห้างหนุ้ ส่วนเป็นบรษิ ัทจำกดั ตาม มาตรา ๑๒๔๖/๒ หนงั สอื บริคณหส์ นธิ ข้อบงั คบั และบญั ชรี ายชื่อผ้ถู ือห้นุ พรอ้ มกบั การขอจดทะเบียนดว้ ย
225 มาตรา ๑๒๔๖/๕[๗๘] เมื่อนายทะเบยี นไดร้ ับจดทะเบยี นการแปรสภาพห้างหุ้นสว่ นจด ทะเบยี นหรือห้างหนุ้ ส่วนจำกดั เป็นบริษทั จำกดั แล้ว ใหห้ ้างหุน้ ส่วนจดทะเบยี น หรอื ห้างหุน้ สว่ นจำกดั เดมิ หมด สภาพการเป็นหา้ งหุน้ ส่วนจดทะเบียนหรือห้างหุ้นสว่ นจำกดั ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยแ์ ละให้นาย ทะเบยี นหมายเหตไุ ว้ในทะเบียน มาตรา ๑๒๔๖/๖[๗๙] เมื่อห้างห้นุ ส่วนจดทะเบียนหรือหา้ งหนุ้ สว่ นจำกัดไดจ้ ดทะเบยี นแปร สภาพเป็นบรษิ ทั จำกัดแลว้ บรษิ ัทย่อมไดไ้ ปทั้งทรัพยส์ นิ หน้ี สิทธิ และความรบั ผิดของหา้ งหุน้ ส่วนจดทะเบยี น หรอื หา้ งหุ้นส่วนจำกัดเดิมท้ังหมด มาตรา ๑๒๔๖/๗[๘๐] เมื่อจดทะเบียนแปรสภาพเปน็ บริษทั จำกดั แล้ว หากบรษิ ทั ไมส่ ามารถ ชำระหนท้ี ร่ี บั มาจากห้างหุ้นส่วนทแี่ ปรสภาพได้ ให้เจา้ หนบี้ งั คบั ชำระหนเ้ี อาจากผเู้ ปน็ หนุ้ สว่ นในห้างห้นุ ส่วนท่ี แปรสภาพไดต้ ามท่ีผเู้ ป็นหุ้นส่วนจะตอ้ งรับผดิ ในหนี้ของหา้ งหุ้นส่วน หมวด ๕ การชำระบัญชีหา้ งหนุ้ สว่ นจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกดั และบริษัทจำกดั มาตรา ๑๒๔๗[๘๑] การชำระบญั ชหี า้ งหนุ้ สว่ นจดทะเบยี น หรือหา้ งหุ้นสว่ นจำกดั หรือบรษิ ทั จำกัดซึง่ ล้มละลายนน้ั ให้จดั ทำไปตามบทกฎหมายลกั ษณะล้มละลายทคี่ งใชอ้ ยู่ตามแต่จะทำได้ รัฐมนตรเี จ้าหน้าทจี่ ะออกกฎกระทรวงว่าด้วยการชำระบญั ชหี ้างหุ้นสว่ นและบรษิ ทั และ กำหนดอตั ราค่าฤชาธรรมเนยี มก็ออกได้ มาตรา ๑๒๔๘ เมอ่ื กลา่ วถึงประชมุ ใหญใ่ นหมวดน้ี ทา่ นหมายความดังต่อไปน้ี คือ (๑) ถ้าเกี่ยวกบั ห้างห้นุ ส่วนจดทะเบยี นและห้างหุ้นสว่ นจำกดั กค็ อื การประชุมหุ้นสว่ นทง้ั ปวง ซึง่ อาศัยคะแนนเสยี งขา้ งมากเป็นใหญใ่ นการวนิ ิจฉยั (๒) ถา้ เกย่ี วกับบรษิ ทั จำกัด ก็คอื การประชมุ ใหญ่ตามทีไ่ ด้บญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา ๑๑๗๑ มาตรา ๑๒๔๙ หา้ งหุ้นสว่ นกด็ ี บรษิ ัทก็ดี แมจ้ ะไดเ้ ลกิ กนั แล้ว ก็ใหพ้ งึ ถือว่ายงั คงตง้ั อยู่ตราบ เทา่ เวลาทจี่ ำเปน็ เพื่อการชำระบญั ชี
226 มาตรา ๑๒๕๐ หนา้ ทีข่ องผู้ชำระบัญชี คอื ชำระสะสางการงานของห้างหุ้นส่วนหรอื บรษิ ัท นน้ั ใหเ้ สรจ็ ไป กับจัดการใชห้ นเ้ี งนิ และแจกจำหน่ายสินทรัพยข์ องห้างหนุ้ ส่วนหรอื บรษิ ทั นน้ั มาตรา ๑๒๕๑ หา้ งหุ้นส่วนก็ดี บรษิ ทั ก็ดี ในเมอ่ื เลกิ กันเพราะเหตุอ่ืนนอกจากล้มละลาย หุ้นสว่ นผจู้ ดั การหา้ ง หรอื กรรมการของบรษิ ทั ยอ่ มเขา้ เปน็ ผชู้ ำระบัญชี เว้นไว้แตข่ ้อสัญญาของห้างหรือ ข้อบงั คบั ของบริษทั จะมีกำหนดไวเ้ ป็นสถานอ่นื ถา้ ไม่มผี ชู้ ำระบัญชีดังว่ามาน้ี และเมื่อพนกั งานอยั การหรอื บคุ คลอ่นื ผู้มสี ว่ นไดเ้ สียในการน้ี รอ้ งขอ ทา่ นใหศ้ าลตง้ั ผชู้ ำระบญั ชี มาตรา ๑๒๕๒ หุ้นส่วนผจู้ ัดการ หรือกรรมการบรษิ ัทมอี ำนาจโดยตำแหน่งเดมิ ฉันใด เม่อื เปน็ ผู้ชำระบญั ชกี ็ยงั คงมีอำนาจอยู่ฉันนน้ั มาตรา ๑๒๕๓ ภายในสบิ สว่ี นั นบั แตไ่ ดเ้ ลกิ ห้างเลกิ บรษิ ัท หรอื ถ้าศาลไดต้ ้งั ผชู้ ำระบญั ชนี บั แต่วันที่ศาลตั้ง ผชู้ ำระบัญชีตอ้ งกระทำดังจะกลา่ วตอ่ ไปนี้ คอื (๑)[๘๒] บอกกลา่ วแกป่ ระชาชนโดยประกาศโฆษณาในหนังสอื พิมพแ์ ห่งทอ้ งท่ีอยา่ งนอ้ ยหนงึ่ คราววา่ หา้ งหนุ้ ส่วนหรอื บรษิ ัทนน้ั ได้เลกิ กนั แลว้ และใหผ้ ู้เปน็ เจ้าหนที้ ้งั หลายยืน่ คำทวงหน้ีแกผ่ ้ชู ำระบัญชี (๒) ส่งคำบอกกล่าวอยา่ งเดยี วกนั เปน็ จดหมายลงทะเบยี นไปรษณียไ์ ปยงั เจา้ หนีท้ ง้ั หลายทกุ ๆ คน บรรดามชี ื่อปรากฏในสมดุ บัญชีหรือเอกสารของห้างหรือบริษทั นั้น มาตรา ๑๒๕๔ การเลกิ หุ้นสว่ นหรอื บริษทั นัน้ ผ้ชู ำระบัญชตี อ้ งนำบอกให้จดทะเบียนภายใน สิบสว่ี นั นบั แตว่ นั ท่เี ลิกกัน และในการนตี้ อ้ งระบุชือ่ ผชู้ ำระบญั ชที ุก ๆ คนใหจ้ ดลงทะเบียนไว้ดว้ ย มาตรา ๑๒๕๕ ผชู้ ำระบญั ชตี อ้ งทำงบดลุ ขน้ึ โดยเร็วทสี่ ดุ ทีเ่ ปน็ วิสยั จะทำได้ สง่ ใหผ้ สู้ อบบัญชี ตรวจสอบลงสำคัญวา่ ถกู ต้อง แล้วตอ้ งเรียกประชุมใหญ่ มาตรา ๑๒๕๖ ธุรการอันทปี่ ระชมุ ใหญจ่ ะพงึ ทำน้นั คือ (๑) รบั รองใหห้ นุ้ ส่วนผจู้ ัดการหรือกรรมการบริษทั คงเปน็ ผชู้ ำระบญั ชีต่อไป หรอื เลือกต้ังผู้ ชำระบัญชีใหมข่ น้ึ แทนท่ี และ (๒) อนุมัตบิ ญั ชีงบดลุ อนึง่ ท่ปี ระชุมใหญ่จะสง่ั ใหผ้ ชู้ ำระบญั ชที ำบญั ชตี รี าคาทรัพย์สนิ หรอื ใหท้ ำการใด ๆ กไ็ ด้ สดุ แตท่ ี่ประชุมจะเห็นสมควร เพอื่ ชำระสะสางกจิ การของหา้ งห้นุ ส่วนหรอื บริษทั ใหเ้ สรจ็ ไป
227 มาตรา ๑๒๕๗ ผู้ชำระบญั ชซี ง่ึ มใิ ช่เปน็ ขึ้นเพราะศาลตัง้ นั้น ท่านว่าจะถอนเสียจากตำแหน่ง และตัง้ ผอู้ ื่นแทนทก่ี ็ได้ ในเมอ่ื ผเู้ ปน็ หุ้นสว่ นท้งั หลายออกเสยี งเปน็ นำ้ หนึ่งใจเดียวกนั หรอื ทปี่ ระชมุ ใหญ่ของผู้ ถอื หุน้ ได้ลงมติดงั น้ัน แต่ศาลย่อมสั่งถอนผชู้ ำระบัญชีจากตำแหน่งและตงั้ ผอู้ ่นื แทนทไ่ี ด้ ไมเ่ ลอื กวา่ จะเปน็ ผู้ ชำระบัญชีซง่ึ ศาลตัง้ หรอื มิใช่ศาลตง้ั ในเมื่อมีคำรอ้ งขอของผเู้ ปน็ หนุ้ สว่ นในหา้ งคนใดคนหน่ึงหรือของผถู้ อื หุ้น ในบริษัทมหี ุน้ รวมกันนับได้ถงึ หน่งึ ในยสี่ ิบแหง่ ทุนของบริษัท โดยจำนวนทสี่ ง่ ใช้เงนิ เขา้ ทุนแล้วน้นั มาตรา ๑๒๕๘ เมื่อมกี ารเปลย่ี นตวั ผชู้ ำระบัญชใี หมค่ รง้ั ใด ผู้ชำระบญั ชตี ้องนำความจด ทะเบียนภายในสิบสี่วันนบั แตว่ นั ท่ไี ด้เปลี่ยนตัวกันน้ัน มาตรา ๑๒๕๙ ผชู้ ำระบญั ชีทงั้ หลายยอ่ มมอี ำนาจดงั จะกล่าวตอ่ ไปน้ี คือ (๑) แกต้ า่ งวา่ ต่างในนามของห้างหนุ้ สว่ นหรอื บริษัทในอรรถคดพี ิพาทอันเปน็ แพง่ หรอื อาชญาทัง้ ปวง และทำประนปี ระนอมยอมความ (๒) ดำเนนิ กจิ การของหา้ งหนุ้ สว่ นหรอื บรษิ ัทตามแตจ่ ำเป็น เพื่อการชำระสะสางกจิ การให้ เสร็จไปด้วยดี (๓) ขายทรัพยส์ ินของห้างหนุ้ ส่วนหรือบริษทั (๔) ทำการอยา่ งอืน่ ๆ ตามแตจ่ ำเป็น เพอื่ ชำระบญั ชใี หเ้ สร็จไปด้วยดี มาตรา ๑๒๖๐ ขอ้ จำกดั อำนาจของผชู้ ำระบญั ชีอยา่ งใด ๆ จะอ้างเป็นสมบรู ณ์ต่อ บุคคลภายนอกหาไดไ้ ม่ มาตรา ๑๒๖๑ ถ้ามผี ชู้ ำระบญั ชหี ลายคน การใด ๆ ที่ผู้ชำระบญั ชกี ระทำยอ่ มไม่เปน็ อัน สมบรู ณ์นอกจากผชู้ ำระบญั ชีท้งั หลายจะได้ทำรว่ มกัน เวน้ แตท่ ่ปี ระชุมใหญห่ รอื ศาลจะได้กำหนดอำนาจไว้เป็น อย่างอื่นในเวลาตง้ั ผ้ชู ำระบัญชี มาตรา ๑๒๖๒ ถ้ามมี ติของทปี่ ระชุมใหญห่ รอื คำบังคบั ของศาลให้อำนาจผชู้ ำระบัญชีใหท้ ำ การแยกกนั ได้ ทา่ นว่าตอ้ งนำความจดทะเบยี นภายในสบิ ส่วี ันนบั แต่วันลงมตหิ รอื ออกคำบงั คับน้นั มาตรา ๑๒๖๓ ค่าธรรมเนยี ม ค่าภาระติดพัน และค่าใช้จา่ ยซงึ่ ต้องเสยี โดยควรในการชำระ บัญชนี น้ั ทา่ นว่าผชู้ ำระบญั ชตี ้องจดั การใช้ก่อนหนีเ้ งินรายอน่ื ๆ มาตรา ๑๒๖๔ ถ้าเจา้ หน้คี นใดมไิ ด้มาทวงถามใหใ้ ช้หน้ี ผูช้ ำระบญั ชตี อ้ งวางเงินเท่าจำนวน หนีน้ ้นั ตามบทแหง่ ประมวลกฎหมายน้ี ว่าดว้ ยวางทรัพยส์ ินแทนชำระหน้ี
228 มาตรา ๑๒๖๕ ผูช้ ำระบญั ชจี ะเรียกใหผ้ ูเ้ ป็นหุ้นสว่ นหรอื ผู้ถอื หุน้ สง่ ใชเ้ งินลงห้นุ อันเปน็ สว่ น ยังค้างชำระอยูน่ ้ันกไ็ ด้ และเงนิ ทคี่ ้างชำระน้ี ถึงแมจ้ ะไดต้ กลงกันไวก้ อ่ นโดยสญั ญาเข้าห้นุ ส่วน หรือโดย ข้อบงั คบั ของบริษทั ว่าจะไดเ้ รียกต่อภายหลังกต็ าม เมือ่ เรียกเช่นนี้แล้ว ทา่ นวา่ ตอ้ งส่งใช้ทันที มาตรา ๑๒๖๖ ถา้ ผู้ชำระบญั ชีมาพจิ ารณาเห็นว่า เม่ือเงินลงทนุ หรอื เงินค่าหุ้นได้ใช้เสรจ็ หมดแล้ว สนิ ทรพั ยก์ ็ยังไมพ่ อกบั หนส้ี นิ ไซร้ ผชู้ ำระบญั ชีต้องรอ้ งขอต่อศาลทนั ที เพ่อื ให้ออกคำสงั่ วา่ หา้ ง หนุ้ ส่วนหรอื บริษทั น้นั ล้มละลาย มาตรา ๑๒๖๗ ผชู้ ำระบญั ชีตอ้ งทำรายงานย่ืนไว้ ณ หอทะเบยี นทุกระยะสามเดอื นครงั้ หนึ่ง วา่ ไดจ้ ดั การไปอย่างใดบา้ ง แสดงใหเ้ ห็นความเป็นไปของบัญชีทช่ี ำระอยู่นน้ั และรายงานนใ้ี หเ้ ปิดเผยแกผ่ ้เู ป็น หนุ้ สว่ นและผถู้ อื หนุ้ และเจ้าหนท้ี ัง้ หลายตรวจดไู ด้โดยไมต่ อ้ งเสยี ค่าธรรมเนยี ม มาตรา ๑๒๖๘ ถา้ การชำระบญั ชนี นั้ ยงั คงทำอยโู่ ดยกาลกวา่ ปหี นึง่ ขึน้ ไป ผ้ชู ำระบญั ชีตอ้ ง เรียกประชมุ ใหญใ่ นเวลาสิ้นปีทกุ ปนี บั แต่เรม่ิ ทำการชำระบญั ชี และตอ้ งทำรายงานย่ืนทป่ี ระชุมว่าได้จัดการไป อยา่ งไรบ้าง ทง้ั แถลงให้ทราบความเปน็ ไปแหง่ บัญชโี ดยละเอียด มาตรา ๑๒๖๙ อันทรพั ยส์ ินของหา้ งหนุ้ สว่ นหรอื ของบรษิ ทั นนั้ จะแบง่ คืนใหแ้ กผ่ เู้ ปน็ หนุ้ สว่ นหรอื ผ้ถู อื หุ้นไดแ้ ตเ่ พียงเท่าท่ไี มต่ ้องเอาไว้ใชใ้ นการชำระหนขี้ องหา้ งหุ้นสว่ นหรอื บรษิ ัทเท่าน้ัน มาตรา ๑๒๗๐ เม่อื การชำระบัญชีกจิ การของหา้ งหนุ้ ส่วนหรือบริษทั สำเรจ็ ลง ผชู้ ำระบัญชี ต้องทำรายงานการชำระบญั ชีแสดงวา่ การชำระบญั ชีนน้ั ไดด้ ำเนินไปอยา่ งใด และไดจ้ ัดการทรพั ยส์ ินของหา้ ง หนุ้ ส่วนหรอื บริษัทนัน้ ไปประการใด แล้วใหเ้ รยี กประชมุ ใหญเ่ พือ่ เสนอรายงานน้ัน และช้แี จงกจิ การต่อที่ ประชมุ เมือ่ ทปี่ ระชุมใหญ่ไดใ้ หอ้ นมุ ัติรายงานนน้ั แล้ว ผชู้ ำระบัญชตี อ้ งนำข้อความทไี่ ดป้ ระชมุ กนั น้ัน ไปจดทะเบียนภายในสบิ ส่วี ันนับแต่วนั ประชุม เมื่อไดจ้ ดทะเบียนแล้วดงั นี้ใหถ้ อื วา่ เปน็ ทสี่ ุดแหง่ การชำระบญั ชี มาตรา ๑๒๗๑ เมอื่ เสรจ็ การชำระบญั ชแี ล้ว ทา่ นให้มอบบรรดาสมดุ และบญั ชี และเอกสาร ทัง้ หลายของห้างหุ้นส่วนหรอื บรษิ ทั ซึ่งไดช้ ำระบญั ชนี น้ั ไวแ้ ก่นายทะเบยี นภายในกำหนดสบิ ส่วี นั ดงั กลา่ วไว้ใน มาตราก่อน และให้นายทะเบยี นรักษาสมดุ และบญั ชี และเอกสารเหล่านน้ั ไวส้ บิ ปนี ับแต่วันถงึ ทสี่ ุดแหง่ การ ชำระบัญชี
229 สมดุ และบญั ชีและเอกสารเหลา่ นี้ ใหเ้ ปดิ ให้แกบ่ รรดาบคุ คลผมู้ สี ่วนไดเ้ สียตรวจดไู ดโ้ ดยไม่ เรยี กคา่ ธรรมเนียมอยา่ งหน่งึ อยา่ งใด มาตรา ๑๒๗๒ ในคดีฟ้องเรียกหน้ีสนิ ซง่ึ หา้ งห้นุ ส่วนหรอื บรษิ ัท หรือผเู้ ป็นหุน้ สว่ น หรอื ผ้ถู อื หนุ้ หรือผูช้ ำระบัญชีเปน็ ลกู หน้ีอยู่ในฐานเชน่ น้ัน ทา่ นห้ามมใิ หฟ้ ้องเม่อื พ้นกำหนดสองปนี บั แต่วนั ถงึ ทส่ี ุดแหง่ การชำระบญั ชี มาตรา ๑๒๗๓ บทบัญญตั ิแห่งมาตรา ๑๑๗๒ ถึงมาตรา ๑๑๙๓ กบั มาตรา ๑๑๙๕ มาตรา ๑๒๐๗ เหล่านี้ ท่านให้ใชบ้ งั คบั แกก่ ารประชุมใหญซ่ ึ่งมีข้ึนในระหวา่ งชำระบญั ชดี ว้ ยโดยอนุโลม หมวด ๖ การถอนทะเบียนหา้ งหนุ้ ส่วนจดทะเบียน หา้ งหนุ้ สว่ นจำกดั และบรษิ ทั จำกดั ร้าง[๘๓] มาตรา ๑๒๗๓/๑[๘๔] เม่อื ใดนายทะเบยี นมมี ลู เหตอุ ันควรเชอื่ วา่ ห้างหนุ้ สว่ นจดทะเบยี น หา้ ง หุ้นสว่ นจำกัด หรอื บรษิ ทั จำกัดใด มไิ ด้ทำการค้าขายหรอื ประกอบการงานแลว้ ใหน้ ายทะเบียนมหี นังสอื สง่ ทาง ไปรษณีย์ตอบรบั ไปยงั ห้างหนุ้ สว่ นหรอื บรษิ ัท เพือ่ สอบถามว่ายังทำการคา้ ขายหรอื ประกอบการงานอยูห่ รือไม่ และแจง้ ว่าหากมไิ ดร้ บั คำตอบภายในสามสบิ วันนับแตว่ นั ทสี่ ง่ หนงั สือจะไดโ้ ฆษณาในหนังสอื พมิ พ์เพ่ือขดี ช่ือ หา้ งห้นุ สว่ นหรือบริษทั น้ันออกเสียจากทะเบียน ถ้านายทะเบียนได้รบั คำตอบจากห้างหนุ้ ส่วนหรอื บริษทั นนั้ วา่ หา้ งหนุ้ สว่ นหรอื บรษิ ทั มไิ ด้ทำ การค้าขายหรอื ประกอบการงานแลว้ หรอื มิไดร้ ับคำตอบภายในสามสบิ วนั นบั แต่วันที่สง่ หนงั สอื ใหน้ ายทะเบยี น โฆษณาในหนังสือพมิ พ์แหง่ ท้องท่อี ย่างนอ้ ยหนงึ่ คราวและส่งหนงั สือบอกกล่าวทางไปรษณยี ต์ อบรบั ไปยงั ห้าง หุ้นสว่ นหรือบรษิ ทั ว่า เมื่อพน้ เวลาเก้าสิบวันนับแต่วนั ทสี่ ่งหนงั สอื บอกกล่าวห้างหนุ้ ส่วนหรอื บรษิ ทั น้นั จะถกู ขดี ช่อื ออกจากทะเบยี น เวน้ แตจ่ ะแสดงเหตุใหเ้ ห็นเปน็ อยา่ งอน่ื มาตรา ๑๒๗๓/๒[๘๕] ในกรณที ห่ี ้างหุ้นส่วนหรอื บริษัทเลิกกนั แลว้ และอยรู่ ะหว่างการชำระ บัญชี หากนายทะเบยี นมมี ลู เหตอุ นั ควรเช่อื ว่าไมม่ ตี วั ผู้ชำระบญั ชที ำการอยู่ หรอื การงานของห้างห้นุ สว่ นหรือ บริษัทไดช้ ำระสะสางตลอดแล้ว แต่ผชู้ ำระบญั ชีมไิ ดท้ ำรายงานการชำระบัญชี หรือมไิ ดย้ ื่นจดทะเบยี นเสรจ็ การ ชำระบญั ชีตอ่ นายทะเบียน ใหน้ ายทะเบยี นมหี นังสือสง่ ทางไปรษณีย์ตอบรบั ไปยงั ห้างหุ้นส่วนหรือบรษิ ัท และผู้ ชำระบัญชี ณ สถานท่ีอันปรากฏเป็นสำนักงานสดุ ทา้ ย แจง้ ใหด้ ำเนนิ การเพอื่ ใหม้ ีตัวผู้ชำระบญั ชี หรือย่นื รายงานการชำระบญั ชี หรือจดทะเบียนเสรจ็ การชำระบัญชี แล้วแต่กรณี และแจง้ ว่าหากมไิ ดด้ ำเนนิ การ
230 ดงั กลา่ วภายในระยะเวลาหนง่ึ รอ้ ยแปดสิบวันนับแตว่ ันทส่ี ่งหนังสอื น้ันแลว้ จะได้โฆษณาในหนังสอื พมิ พ์เพื่อขีด ชอ่ื ห้างห้นุ สว่ นหรอื บริษัทน้นั ออกเสียจากทะเบียน ถา้ ห้างหุ้นส่วนหรือบรษิ ัท หรือผูช้ ำระบญั ชีมไิ ด้ดำเนินการภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนงึ่ ใหน้ ายทะเบยี นโฆษณาในหนงั สือพมิ พแ์ หง่ ทอ้ งที่อย่างนอ้ ยหน่ึงคราว และส่งหนังสือบอกกลา่ วทางไปรษณยี ์ ตอบรบั ไปยังห้างหุน้ สว่ นหรือบรษิ ทั และผู้ชำระบญั ชีวา่ เมอื่ พน้ กำหนดเวลาเกา้ สิบวันนบั แตว่ นั ทสี่ ง่ หนงั สอื บอก กลา่ ว หา้ งหุ้นส่วนหรอื บริษทั น้ันจะถกู ขีดชือ่ ออกจากทะเบยี น เว้นแต่จะแสดงเหตุใหเ้ หน็ เป็นอยา่ งอื่น มาตรา ๑๒๗๓/๓[๘๖] เมือ่ สิ้นกำหนดเวลาตามท่ีแจ้งในหนังสือบอกกลา่ วตามมาตรา ๑๒๗๓/ ๑ หรือมาตรา ๑๒๗๓/๒ แล้ว และหา้ งหุ้นส่วนหรอื บรษิ ทั หรือผชู้ ำระบญั ชมี ไิ ด้แสดงเหตุใหเ้ หน็ เปน็ อยา่ งอื่น นายทะเบยี นจะขดี ช่ือห้างหนุ้ สว่ นหรอื บรษิ ัทนัน้ ออกเสียจากทะเบยี นก็ได้ ในการน้ี ให้หา้ งหุน้ สว่ นหรือบริษัท นั้นสิ้นสภาพนติ บิ ุคคลต้ังแต่เมือ่ นายทะเบียนขดี ชอื่ หา้ งหุ้นสว่ นหรอื บรษิ ัทออกเสียจากทะเบียน แต่ความรับผิด ของหุน้ สว่ นผจู้ ัดการ ผเู้ ป็นหนุ้ สว่ น กรรมการ ผจู้ ัดการ และผถู้ อื ห้นุ มอี ยู่เทา่ ไรก็ให้คงมอี ยอู่ ยา่ งนัน้ และพึงเรยี ก บงั คบั ไดเ้ สมอื นห้างหนุ้ ส่วนหรอื บรษิ ทั นน้ั ยังมไิ ดส้ ิน้ สภาพนติ บิ ุคคล มาตรา ๑๒๗๓/๔[๘๗] ถา้ หา้ งหนุ้ สว่ น ผู้เปน็ หุ้นส่วน บริษทั ผูถ้ อื หนุ้ หรือเจ้าหน้ีใด ๆ ของ หา้ งหนุ้ ส่วนหรือบรษิ ัทนน้ั รสู้ กึ ว่าต้องเสียหายโดยไมเ่ ป็นธรรมเพราะการท่ีหา้ งหุ้นส่วนหรือบริษทั ถูกขดี ชื่อออก จากทะเบียน เมื่อหา้ งหุ้นสว่ น ผเู้ ปน็ หุ้นสว่ น บริษทั ผู้ถอื หนุ้ หรือเจ้าหน้ยี น่ื คำรอ้ งตอ่ ศาลและศาลพจิ ารณาได้ ความเป็นท่ีพอใจว่าในขณะท่ขี ดี ชือ่ หา้ งหุน้ สว่ นหรอื บริษทั ออกจากทะเบียนห้างหนุ้ ส่วนหรือบริษทั ยังทำการ คา้ ขายหรือยงั ประกอบการงานอยู่ หรอื เห็นเป็นการยตุ ธิ รรมในการทจ่ี ะใหห้ ้างหุ้นสว่ นหรอื บริษทั ได้กลบั คนื สู่ ทะเบยี นก็ดี ศาลจะสงั่ ใหจ้ ดช่ือหา้ งหนุ้ สว่ นหรือบริษัทกลบั คนื เขา้ ส่ทู ะเบยี นกไ็ ด้ และใหถ้ อื วา่ ห้างหนุ้ สว่ นหรอื บริษทั นน้ั ยงั คงอยู่ตลอดมาเสมอื นมิได้มกี ารขีดช่ือออกเลย โดยศาลจะส่ังและวางขอ้ กำหนดไวเ้ ปน็ ประการใด ๆ ตามทเ่ี หน็ เปน็ การยุตธิ รรมดว้ ยกไ็ ด้เพอื่ ใหห้ ้างหนุ้ ส่วนหรอื บรษิ ัทและบรรดาบคุ คลอื่น ๆ กลบั คืนสูฐ่ านะอัน ใกล้ทสี่ ดุ กบั ฐานะเดมิ เสมือนหา้ งหนุ้ ส่วนหรือบริษทั น้ันมไิ ด้ถูกขีดชื่อออกจากทะเบยี นเลย การรอ้ งขอใหห้ ้างหนุ้ ส่วนหรือบริษัทกลบั คืนสทู่ ะเบยี น ห้ามมใิ ห้ร้องขอเมอื่ พ้นกำหนดสบิ ปี นับแตว่ นั ที่นายทะเบยี นขีดชื่อห้างหุน้ ส่วนหรือบรษิ ัทออกจากทะเบยี น
231 ลกั ษณะ ๒๓ สมาคม[๘๘] มาตรา ๑๒๗๔ - ๑๒๙๗ (ยกเลกิ ) พระราชกฤษฎีกา ใหใ้ ช้บทบญั ญตั ิ บรรพ ๔ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์[๘๙] พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาประชาธปิ ก พระปกเกล้าเจ้าอยหู่ วั มพี ระบรมราชโองการ ดำรสั เหนือเกล้าฯ ให้ประกาศจงทราบทว่ั กนั วา่ โดยทก่ี ารประมวลกฎหมายแหง่ บ้านเมอื งได้ดำเนริ มาถงึ คราวทค่ี วรประกาศใช้บรรพ ๔ แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ จึง่ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ สงั่ ว่า ใหเ้ พิม่ บทบัญญัตบิ รรพ ๔ ตง้ั แตม่ าตรา ๑๒๙๘ ถึง มาตรา ๑๔๓๔ ตามทไี่ ด้ตราไว้ตอ่ ท้ายพระราชกฤษฎกี านเี้ ขา้ เป็นส่วนหนง่ึ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และ พาณชิ ย์ ใหใ้ ช้พระราชกฤษฎกี านต้ี ั้งแต่วนั ท่ี ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๕ เปน็ ต้นไป ประกาศมา ณ วันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศกั ราช ๒๔๗๓ เปน็ ปที ี่ ๖ ในรชั ชกาลปัจจุบนั
232 บรรพ ๔ ทรพั ยส์ ิน ลกั ษณะ ๑ บทเบ็ดเสรจ็ ทั่วไป มาตรา ๑๒๙๘ ทรัพยสิทธทิ งั้ หลายนน้ั ทา่ นวา่ จะกอ่ ตง้ั ข้ึนไดแ้ ต่ดว้ ยอาศัยอำนาจในประมวล กฎหมายนห้ี รือกฎหมายอนื่ มาตรา ๑๒๙๙ ภายในบงั คับแหง่ บทบญั ญตั ใิ นประมวลกฎหมายนห้ี รือกฎหมายอื่นทา่ นวา่ การไดม้ าโดยนิตกิ รรมซง่ึ อสังหารมิ ทรัพยห์ รอื ทรัพยสทิ ธอิ ันเกี่ยวกับอสงั หารมิ ทรัพยน์ น้ั ไมบ่ รบิ รู ณ์ เว้นแต่นติ ิ กรรมจะไดท้ ำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการไดม้ ากบั พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ถา้ มีผไู้ ดม้ าซ่งึ อสงั หาริมทรัพยห์ รือทรัพยสทิ ธอิ ันเก่ยี วกับอสงั หารมิ ทรัพย์โดยทางอนื่ นอกจาก นติ ิกรรม สทิ ธขิ องผู้ได้มาน้นั ถ้ายงั มไิ ดจ้ ดทะเบยี นไซร้ ท่านว่าจะมกี ารเปลีย่ นแปลงทางทะเบยี นไมไ่ ด้ และ สทิ ธอิ นั ยงั มิไดจ้ ดทะเบยี นนั้น มใิ ห้ยกขึ้นเปน็ ขอ้ ต่อสบู้ ุคคลภายนอกผไู้ ด้สทิ ธมิ าโดยเสียค่าตอบแทนและโดย สุจรติ และไดจ้ ดทะเบยี นสทิ ธโิ ดยสจุ รติ แล้ว มาตรา ๑๓๐๐ ถ้าไดจ้ ดทะเบียนการโอนอสงั หาริมทรัพยห์ รอื ทรัพยสิทธอิ ันเกี่ยวกบั อสงั หารมิ ทรพั ยเ์ ปน็ ทางเสยี เปรียบแกบ่ ุคคลผู้อย่ใู นฐานะอนั จะใหจ้ ดทะเบียนสทิ ธขิ องตนได้อยูก่ ่อนไซร้ ท่าน วา่ บคุ คลนน้ั อาจเรยี กใหเ้ พกิ ถอนการจดทะเบียนนนั้ ได้ แตก่ ารโอนอันมคี ่าตอบแทน ซง่ึ ผรู้ ับโอนกระทำการโดย สจุ รติ น้ัน ไมว่ า่ กรณีจะเปน็ ประการใด ท่านว่าจะเรียกให้เพิกถอนทะเบยี นไมไ่ ด้ มาตรา ๑๓๐๑ บทบัญญตั แิ ห่งสองมาตรากอ่ นนี้ ท่านใหใ้ ชบ้ งั คบั ถึงการเปลย่ี นแปลง ระงบั และกลับคืนมาแห่งทรัพยสิทธอิ ันเกยี่ วกับอสงั หารมิ ทรพั ยน์ น้ั ดว้ ยโดยอนโุ ลม มาตรา ๑๓๐๒[๙๐] บทบญั ญัติแหง่ สามมาตราก่อนน้ี ใหใ้ ชบ้ งั คบั ถงึ เรือมรี ะวางตง้ั แตห่ า้ ตนั ขน้ึ ไป ทง้ั แพและสัตวพ์ าหนะด้วยโดยอนโุ ลม มาตรา ๑๓๐๓ ถา้ บุคคลหลายคนเรียกเอาสงั หารมิ ทรพั ยเ์ ดยี วกัน โดยอาศัยหลกั กรรมสทิ ธ์ิ ตา่ งกันไซร้ ทา่ นวา่ ทรพั ยส์ ินตกอยูใ่ นครอบครองของบุคคลใด บคุ คลนนั้ มสี ทิ ธยิ ง่ิ กวา่ บคุ คลอ่นื ๆ แตต่ ้องได้ ทรพั ยน์ นั้ มาโดยมีคา่ ตอบแทนและไดก้ ารครอบครองโดยสจุ รติ
233 ท่านมใิ ห้ใช้มาตรานบ้ี งั คบั ถงึ สงั หาริมทรพั ย์ซง่ึ ระบไุ วใ้ นมาตรากอ่ นและในเร่อื งทรัพยส์ นิ หาย กบั ทรัพยส์ ินที่ได้มาโดยการกระทำผดิ มาตรา ๑๓๐๔ สาธารณสมบัติของแผน่ ดินนั้น รวมทรพั ยส์ นิ ทุกชนิดของแผ่นดนิ ซงึ่ ใช้เพื่อ สาธารณประโยชนห์ รือสงวนไวเ้ พ่ือประโยชนร์ ่วมกัน เชน่ (๑) ทดี่ นิ รกร้างว่างเปล่า และทีด่ ินซง่ึ มผี เู้ วนคนื หรือทอดทงิ้ หรอื กลบั มาเป็นของแผ่นดนิ โดย ประการอ่ืน ตามกฎหมายท่ดี นิ (๒) ทรพั ยส์ นิ สำหรบั พลเมืองใช้ร่วมกนั เปน็ ตน้ ว่า ท่ชี ายตลงิ่ ทางนำ้ ทางหลวง ทะเลสาบ (๓) ทรัพยส์ นิ ใชเ้ พอ่ื ประโยชน์ของแผ่นดนิ โดยเฉพาะ เปน็ ตน้ วา่ ป้อมและโรงทหาร สำนัก ราชการบ้านเมอื ง เรอื รบ อาวุธยทุ ธภณั ฑ์ มาตรา ๑๓๐๕ ทรพั ยส์ นิ ซงึ่ เป็นสาธารณสมบตั ขิ องแผน่ ดินนัน้ จะโอนแกก่ ันมิได้ เวน้ แต่ อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรอื พระราชกฤษฎกี า มาตรา ๑๓๐๖ ทา่ นหา้ มมิใหย้ กอายุความขนึ้ เป็นข้อต่อส้กู บั แผน่ ดินในเร่ืองทรพั ยส์ นิ อันเปน็ สาธารณสมบตั ขิ องแผน่ ดิน มาตรา ๑๓๐๗ ท่านห้ามมิให้ยึดทรัพย์สินของแผ่นดินไม่ว่าทรัพย์สินน้ันจะเป็นสาธารณ สมบัตขิ องแผ่นดินหรือไม่ ลกั ษณะ ๒ กรรมสทิ ธิ์ หมวด ๑ การไดม้ าซง่ึ กรรมสิทธ์ิ มาตรา ๑๓๐๘ ท่ดี นิ แปลงใดเกิดท่ีงอกริมตล่ิง ทง่ี อกยอ่ มเปน็ ทรัพยส์ นิ ของเจา้ ของท่ดี นิ แปลงนนั้ มาตรา ๑๓๐๙ เกาะทเี่ กดิ ในทะเลสาบ หรอื ในทางนำ้ หรือในเขตน่านน้ำของประเทศก็ดี และ ท้องทางน้ำท่ีเขนิ ข้นึ ก็ดี เป็นทรพั ยส์ ินของแผน่ ดนิ
234 มาตรา ๑๓๑๐ บุคคลใดสรา้ งโรงเรอื นในท่ีดนิ ของผอู้ ่ืนโดยสจุ รติ ไซร้ ทา่ นว่าเจา้ ของทด่ี นิ เปน็ เจ้าของโรงเรือนนน้ั ๆ แต่ตอ้ งใช้คา่ แห่งทด่ี ินเพียงทเี่ พมิ่ ขึ้นเพราะสรา้ งโรงเรอื นนน้ั ให้แกผ่ สู้ รา้ ง แตถ่ ้าเจ้าของทดี่ นิ สามารถแสดงได้ว่า มไิ ด้มคี วามประมาทเลินเลอ่ จะบอกปัดไม่ยอมรบั โรงเรอื นน้นั และเรียกให้ผสู้ รา้ งรอ้ื ถอนไป และทำที่ดินใหเ้ ปน็ ตามเดมิ ก็ได้ เวน้ ไวแ้ ต่ถา้ การนีจ้ ะทำไมไ่ ด้โดยใช้ เงินพอสมควรไซร้ ทา่ นว่าเจา้ ของทด่ี ินจะเรยี กใหผ้ สู้ รา้ งซื้อทด่ี ินทัง้ หมดหรือแต่บางสว่ นตามราคาตลาดก็ได้ มาตรา ๑๓๑๑ บุคคลใดสรา้ งโรงเรอื นในทดี่ ินของผอู้ ืน่ โดยไมส่ ุจรติ ไซร้ ท่านวา่ บุคคลนน้ั ตอ้ ง ทำท่ดี นิ ใหเ้ ปน็ ตามเดิมแลว้ สง่ คนื เจ้าของ เวน้ แตเ่ จ้าของจะเลือกใหส้ ่งคนื ตามท่เี ป็นอยู่ ในกรณเี ชน่ นเี้ จา้ ของ ที่ดนิ ต้องใชร้ าคาโรงเรอื นหรอื ใชค้ ่าแห่งที่ดนิ เพยี งท่ีเพิม่ ขน้ึ เพราะสรา้ งโรงเรอื น นน้ั แลว้ แตจ่ ะเลือก มาตรา ๑๓๑๒ บคุ คลใดสรา้ งโรงเรอื นรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผอู้ ่ืนโดยสจุ ริตไซร้ ทา่ นวา่ บคุ คลนน้ั เป็นเจ้าของโรงเรอื นท่ีสรา้ งขนึ้ แตต่ ้องเสียเงนิ ให้แก่เจา้ ของทด่ี นิ เป็นค่าใช้ทดี่ นิ นนั้ และจดทะเบยี น สทิ ธิเป็นภาระจำยอม ตอ่ ภายหลงั ถา้ โรงเรือนนน้ั สลายไปทัง้ หมด เจา้ ของทด่ี นิ จะเรียกใหเ้ พกิ ถอนการจด ทะเบียนเสยี กไ็ ด้ ถา้ บุคคลผสู้ ร้างโรงเรือนนนั้ กระทำการโดยไมส่ จุ รติ ทา่ นวา่ เจ้าของท่ดี นิ จะเรยี กใหผ้ สู้ ร้างรอ้ื ถอนไป และทำทีด่ ินใหเ้ ป็นตามเดมิ โดยผสู้ รา้ งเป็นผอู้ อกคา่ ใชจ้ า่ ยก็ได้ มาตรา ๑๓๑๓ ถ้าผเู้ ป็นเจา้ ของท่ดี นิ โดยมีเง่อื นไขสร้างโรงเรอื นในทดี่ ินนน้ั และภายหลัง ทีด่ นิ ตกเป็นของบุคคลอื่นตามเงือ่ นไขไซร้ ท่านให้นำบทบัญญตั ิแห่งประมวลกฎหมายนีว้ า่ ด้วยลาภมิควรไดม้ า ใช้บังคับ มาตรา ๑๓๑๔ ทา่ นใหใ้ ช้บทบญั ญตั ิมาตรา ๑๓๑๐, ๑๓๑๑ และ ๑๓๑๓ บงั คับตลอดถึงการ กอ่ สร้างใด ๆ ซึง่ ตดิ ทีด่ นิ และการเพาะปลูกต้นไม้หรอื ธญั ชาตดิ ว้ ยโดยอนุโลม แต่ขา้ วหรือธัญชาติอย่างอื่นอันจะเก็บเกี่ยวรวงผลไดค้ ราวหนึ่งหรอื หลายคราวต่อปี เจ้าของ ที่ดนิ ตอ้ งยอมใหบ้ คุ คลผกู้ ระทำการโดยสจุ รติ หรือผเู้ ป็นเจ้าของที่ดินโดยมเี ง่อื นไขซงึ่ ได้เพาะปลูกลงไว้นัน้ คง ครองท่ดี ินจนกวา่ จะเสรจ็ การเกบ็ เกี่ยวโดยใช้เงินคำนวณตามเกณฑ์ค่าเช่าทด่ี ินน้ัน หรอื เจา้ ของที่ดนิ จะเข้า ครอบครองในทนั ทโี ดยใชค้ า่ ทดแทนใหแ้ กอ่ ีกฝา่ ยหนึง่ กไ็ ด้ มาตรา ๑๓๑๕ บุคคลใดสร้างโรงเรอื น หรอื ทำการกอ่ สร้างอย่างอนื่ ซงึ่ ติดทดี่ ิน หรอื เพาะปลกู ต้นไมห้ รอื ธัญชาติในทีด่ ินของตนด้วยสมั ภาระของผอู้ ่นื ท่านวา่ บุคคลน้นั เปน็ เจา้ ของสมั ภาระ แตต่ อ้ งใช้คา่ สมั ภาระ
235 มาตรา ๑๓๑๖ ถา้ เอาสงั หาริมทรพั ยข์ องบุคคลหลายคนมารวมเข้ากนั จนเป็นส่วนควบหรอื แบง่ แยกไมไ่ ดไ้ ซร้ ท่านวา่ บคุ คลเหล่านั้นเปน็ เจา้ ของรวมแหง่ ทรัพยท์ ร่ี วมเข้ากัน แตล่ ะคนมสี ว่ นตามค่าแห่ง ทรพั ย์ของตนในเวลาทรี่ วมเข้ากบั ทรัพยอ์ นื่ ถา้ ทรัพยอ์ ันหนึ่งอาจถือไดว้ ่าเป็นทรพั ย์ประธานไซร้ ทา่ นวา่ เจ้าของทรัพย์น้นั เปน็ เจา้ ของ ทรัพยท์ รี่ วมเข้ากนั แตผ่ ูเ้ ดียว แตต่ อ้ งใช้ค่าแห่งทรัพย์อน่ื ๆ ให้แกเ่ จา้ ของทรพั ย์นัน้ ๆ มาตรา ๑๓๑๗ บคุ คลใดใชส้ ัมภาระของบคุ คลอ่ืนทำส่ิงใดขนึ้ ใหม่ไซร้ ท่านวา่ เจา้ ของสัมภาระ เปน็ เจา้ ของสิ่งนัน้ โดยมติ อ้ งคำนงึ ว่าสัมภาระนั้นจะกลบั คนื ตามเดิมไดห้ รอื ไม่ แต่ตอ้ งใช้คา่ แรงงาน แต่ถา้ ค่าแรงงานเกินกวา่ ค่าสมั ภาระท่ใี ชน้ น้ั มากไซร้ ท่านว่าผทู้ ำเปน็ เจ้าของทรัพยท์ ่ีทำขึน้ แต่ ต้องใชค้ ่าสมั ภาระ มาตรา ๑๓๑๘ บุคคลอาจไดม้ าซึ่งกรรมสทิ ธ์ิแหง่ สงั หารมิ ทรพั ยอ์ นั ไม่มเี จา้ ของโดยเข้าถือเอา เวน้ แต่การเขา้ ถือเอานัน้ ตอ้ งห้ามตามกฎหมาย หรอื ฝา่ ฝนื สทิ ธิของบคุ คลอ่ืนที่จะเขา้ ถอื เอาสังหารมิ ทรพั ยน์ ้นั มาตรา ๑๓๑๙ ถา้ เจ้าของสงั หารมิ ทรัพย์เลิกครอบครองทรพั ย์ด้วยเจตนาสละกรรมสทิ ธิไ์ ซร้ ท่านวา่ สังหาริมทรัพยน์ ้ันไมม่ เี จา้ ของ มาตรา ๑๓๒๐ ภายในบงั คับแหง่ กฎหมายเฉพาะและกฎข้อบงั คบั ในเรื่องนน้ั ทา่ นวา่ สัตว์ปา่ ไมม่ ีเจา้ ของตราบเทา่ ท่ยี งั อยอู่ ิสระ สตั วป์ า่ ในสวนสตั ว์ และปลาในบอ่ หรอื ในทนี่ ้ำซง่ึ เจา้ ของกั้นไว้นน้ั ท่านวา่ ไมใ่ ชส่ ตั วไ์ มม่ ีเจ้าของ สตั วป์ า่ ท่คี นจบั ไดน้ นั้ ถ้ามนั กลับคืนอสิ ระและเจ้าของไม่ตดิ ตามโดยพลันหรอื เลิกตดิ ตามเสีย แลว้ ฉะนี้ท่านวา่ ไม่มีเจ้าของ สตั ว์ซง่ึ เล้ยี งเชอ่ื งแล้ว ถ้ามันท้ิงทไ่ี ปเลย ทา่ นว่าไมม่ เี จ้าของ มาตรา ๑๓๒๑ ภายในบงั คบั แหง่ กฎหมายเฉพาะและกฎขอ้ บังคับในเรอ่ื งน้นั ผูใ้ ดจบั สตั ว์ปา่ ไดใ้ นที่รกรา้ งวา่ งเปลา่ หรอื ในท่ีนำ้ สาธารณะกด็ ี หรือจบั ได้ในท่ีดิน หรือท่นี ำ้ มีเจา้ ของโดยเจ้าของมิไดแ้ สดง ความหวงห้ามกด็ ี ท่านวา่ ผู้น้ันเป็นเจ้าของสัตว์ มาตรา ๑๓๒๒ บุคคลใดทำใหส้ ัตวป์ า่ บาดเจบ็ แลว้ ตดิ ตามไปและบคุ คลอนื่ จับสัตวน์ ้นั ไดก้ ็ดี หรือสตั วน์ ั้นตายลงในท่ดี นิ ของบุคคลอ่ืนกด็ ี ทา่ นวา่ บุคคลแรกเป็นเจ้าของสัตว์
236 มาตรา ๑๓๒๓ บุคคลเกบ็ ได้ซง่ึ ทรพั ย์สินหาย ต้องทำอย่างหนงึ่ อย่างใดดงั ต่อไปนี้ (๑) สง่ มอบทรัพยส์ ินน้ันแกผ่ ู้ของหายหรอื เจ้าของ หรอื บุคคลอ่ืนผมู้ สี ทิ ธิจะรบั ทรัพยส์ ินน้ัน หรอื (๒) แจง้ แกผ่ ขู้ องหายหรอื เจา้ ของ หรอื บุคคลอนื่ ผมู้ สี ทิ ธจิ ะรบั ทรพั ยส์ นิ น้นั โดยมิชกั ช้า หรือ (๓)[๙๑] ส่งมอบทรพั ย์สินนน้ั แกเ่ จ้าพนกั งานตำรวจ หรอื พนกั งานเจา้ หน้าทอ่ี ื่นภายในสามวัน และแจ้งพฤตกิ ารณ์ตามท่ที ราบอนั อาจเป็นเครอื่ งช่วยในการสบื หาตวั บุคคลผมู้ สี ทิ ธจิ ะรับทรัพยส์ ินนั้น แตถ่ ้าไมท่ ราบตัวผู้ของหาย เจา้ ของ หรือบุคคลอืน่ ผมู้ ีสทิ ธิจะรับทรพั ยส์ ินก็ดี หรือบุคคลดัง ระบุนั้นไมร่ บั มอบทรัพยส์ นิ กด็ ี ท่านให้ดำเนินการตามวิธอี นั บัญญตั ิไวใ้ นอนุมาตรา (๓) ทั้งน้ี ท่านวา่ ผเู้ ก็บไดซ้ ง่ึ ทรพั ย์สินหายตอ้ งรกั ษาทรพั ยส์ ินน้ันไว้ดว้ ยความระมัดระวังอนั สมควร จนกวา่ จะส่งมอบ มาตรา ๑๓๒๔ ผ้เู ก็บไดซ้ งึ่ ทรพั ย์สนิ หาย อาจเรียกร้องเอารางวัลจากบุคคลผู้มสี ทิ ธจิ ะรับ ทรพั ยส์ ินนั้นเปน็ จำนวนรอ้ ยละสิบแหง่ ค่าทรัพยส์ ินภายในราคาสามหมน่ื บาท และถา้ ราคาสงู กว่านนั้ ข้นึ ไปให้ คดิ ใหอ้ กี รอ้ ยละหา้ ในจำนวนท่ีเพมิ่ ขน้ึ แต่ถ้าผ้เู กบ็ ไดซ้ ึ่งทรัพย์สินหายไดส้ ง่ มอบทรัพยส์ นิ แก่เจ้าพนกั งานตำรวจ หรอื พนกั งานเจา้ หนา้ ที่อน่ื ใหเ้ สียเงนิ อกี รอ้ ยละสองครง่ึ แหง่ คา่ ทรพั ย์สนิ เป็นคา่ ธรรมเนยี มแกท่ บวงการน้ัน ๆ เพิม่ ขึ้นเป็นสว่ นหนง่ึ ต่างหากจากรางวลั ซง่ึ ให้แกผ่ ้เู กบ็ ได้ แต่คา่ ธรรมเนียมน้ใี หจ้ ำกัดไวไ้ มเ่ กินหน่ึงพันบาท[๙๒] ถ้าผู้เกบ็ ไดซ้ งึ่ ทรพั ยส์ นิ หายมิได้ปฏบิ ัตติ ามบทบญั ญตั ใิ นมาตราก่อนไซรท้ ่านวา่ ผนู้ ้นั ไมม่ สี ทิ ธิ จะรบั รางวลั มาตรา ๑๓๒๕ ถ้าผเู้ กบ็ ไดซ้ ึ่งทรพั ยส์ ินหายได้ปฏิบัตติ ามบทบญั ญัตมิ าตรา ๑๓๒๓ แลว้ และ ผู้มสี ิทธิจะรับทรพั ยส์ นิ นนั้ มไิ ด้เรียกเอาภายในหนง่ึ ปีนบั แตว่ นั ท่เี กบ็ ไดไ้ ซร้ ทา่ นว่ากรรมสทิ ธ์ติ กแกผ่ เู้ กบ็ ได้ แตถ่ ้าทรัพย์สินซ่งึ ไม่มผี เู้ รยี กเอานัน้ เปน็ โบราณวัตถุไซร้ กรรมสิทธ์ิแหง่ ทรัพยส์ ินน้นั ตกแก่ แผน่ ดิน แต่ผเู้ กบ็ ได้มีสทิ ธจิ ะไดร้ บั รางวัลรอ้ ยละสบิ แหง่ คา่ ทรพั ยส์ ินนนั้ มาตรา ๑๓๒๖ การเกบ็ ไดซ้ ง่ึ ทรพั ยส์ ินอนั ตกหรอื ทงิ้ ทะเล หรือทางนำ้ หรือน้ำซัดขน้ึ ฝัง่ น้นั ทา่ นใหบ้ งั คับตามกฎหมายและกฎข้อบังคบั ว่าดว้ ยการนั้น มาตรา ๑๓๒๗ ภายในบงั คับแหง่ กฎหมายอาชญา กรรมสิทธแิ์ ห่งส่ิงใด ๆ ซง่ึ ได้ใช้ในการ กระทำผิด หรอื ได้มาโดยการกระทำผดิ หรอื เกี่ยวกับการกระทำผดิ โดยประการอ่ืน และได้สง่ ไวใ้ นความรกั ษา ของกรมในรัฐบาลนน้ั ท่านว่าตกเปน็ ของแผ่นดิน ถ้าเจ้าของมไิ ด้เรยี กเอาภายในหนึง่ ปีนบั แตว่ นั สง่ หรอื ถ้าได้ ฟ้องคดอี าชญาต่อศาลแลว้ นบั แตว่ ันท่ีคำพิพากษาถึงทสี่ ุด แตถ่ า้ ไม่ทราบตวั เจ้าของ ท่านใหผ้ อ่ นเวลาออกไป เปน็ หา้ ปี
237 ถา้ ทรัพย์สนิ เปน็ ของเสยี ง่าย หรอื ถา้ หนว่ งชา้ ไวจ้ ะเป็นการเสย่ี งความเสียหายหรอื ค่าใช้จ่ายจะ เกินส่วนกบั คา่ ของทรัพยส์ ินนั้นไซร้ ทา่ นว่ากรมในรัฐบาลจะจดั ให้เอาออกขายทอดตลาดกอ่ นถงึ กำหนดกไ็ ด้ แตก่ อ่ นทจ่ี ะขายให้จดั การตามควรเพอ่ื บันทึกรายการอันเปน็ เครือ่ งให้บคุ คลผู้มสี ทิ ธจิ ะรบั ทรัพยส์ นิ นน้ั อาจ ทราบว่าเปน็ ทรัพยส์ นิ ของตนและพสิ จู นส์ ทิ ธิได้ เมอ่ื ขายแล้วได้เงนิ เป็นจำนวนสทุ ธิเทา่ ใดให้ถอื ไว้แทนตัว ทรัพยส์ นิ มาตรา ๑๓๒๘[๙๓] สงั หาริมทรพั ยม์ คี า่ ซ่งึ ซ่อนหรอื ฝงั ไว้นน้ั ถา้ มีผู้เกบ็ ได้โดยพฤตกิ ารณซ์ ึง่ ไมม่ ี ผ้ใู ดสามารถอา้ งว่าเปน็ เจา้ ของได้ ใหก้ รรมสทิ ธิต์ กเปน็ ของแผ่นดิน ผ้เู กบ็ ไดต้ อ้ งสง่ มอบทรพั ย์น้นั แกเ่ จ้า พนกั งานตำรวจหรอื พนักงานเจา้ หน้าทอี่ ่ืน แล้วมสี ทิ ธิจะไดร้ บั รางวลั หนง่ึ ในสามแห่งคา่ ทรัพยน์ นั้ มาตรา ๑๓๒๙ สทิ ธิของบุคคลผู้ไดม้ าซง่ึ ทรัพยส์ นิ โดยมีคา่ ตอบแทนและโดยสจุ ริตน้นั ทา่ นวา่ มิเสยี ไป ถงึ แมว้ า่ ผโู้ อนทรัพยส์ ินใหจ้ ะไดท้ รพั ยส์ ินนัน้ มาโดยนิตกิ รรมอันเปน็ โมฆยี ะ และนติ กิ รรมนัน้ ได้ถูกบอก ลา้ งภายหลัง มาตรา ๑๓๓๐ สิทธิของบคุ คลผู้ซื้อทรัพยส์ ินโดยสจุ รติ ในการขายทอดตลาดตามคำสง่ั ศาล หรือคำส่งั เจา้ พนกั งานรกั ษาทรพั ย์ในคดลี ม้ ละลายนน้ั ทา่ นวา่ มิเสียไป ถงึ แมภ้ ายหลงั จะพิสจู น์ได้ว่าทรัพยส์ ิน นั้นมิใชข่ องจำเลย หรือลกู หนโ้ี ดยคำพพิ ากษา หรือผู้ลม้ ละลาย มาตรา ๑๓๓๑ สทิ ธขิ องบุคคลผูไ้ ดเ้ งนิ ตรามาโดยสุจริตน้นั ทา่ นว่ามิเสียไป ถงึ แม้ภายหลงั จะ พิสจู น์ได้วา่ เงินน้นั มิใช่ของบุคคลซึง่ ได้โอนใหม้ า มาตรา ๑๓๓๒ บุคคลผ้ซู ือ้ ทรัพยส์ นิ มาโดยสุจรติ ในการขายทอดตลาด หรอื ในทอ้ งตลาด หรอื จากพอ่ ค้าซง่ึ ขายของชนดิ นั้น ไมจ่ ำตอ้ งคนื ให้แก่เจ้าของแทจ้ ริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใชร้ าคาที่ซ้อื มา มาตรา ๑๓๓๓ ทา่ นว่ากรรมสทิ ธิน์ ัน้ อาจไดม้ าโดยอายุความตามทบี่ ญั ญัติไวใ้ นลกั ษณะ ๓ แห่งบรรพนี้ มาตรา ๑๓๓๔ ทดี่ นิ รกรา้ งวา่ งเปล่า และทดี่ ินซึ่งมผี เู้ วนคืนหรือทอดทง้ิ หรือกลับมาเปน็ ของ แผ่นดนิ โดยประการอ่นื ตามกฎหมายทดี่ ินนัน้ ท่านว่าบุคคลอาจได้มาตามกฎหมายท่ีดิน
238 หมวด ๒ แดนแห่งกรรมสิทธิ์ และการใช้กรรมสิทธิ์ มาตรา ๑๓๓๕ ภายในบงั คับแหง่ บทบัญญตั ิในประมวลกฎหมายน้หี รอื กฎหมายอืน่ ทา่ นวา่ แดนแหง่ กรรมสิทธ์ิทดี่ นิ นนั้ กนิ ทง้ั เหนือพ้นื ดนิ และใตพ้ น้ื ดนิ ดว้ ย มาตรา ๑๓๓๖ ภายในบงั คบั แหง่ กฎหมาย เจา้ ของทรพั ย์สนิ มีสิทธิใช้สอยและจำหนา่ ย ทรพั ยส์ ินของตนและได้ซึ่งดอกผลแหง่ ทรพั ยส์ ินนั้น กบั ท้งั มสี ิทธติ ดิ ตามและเอาคืนซง่ึ ทรพั ย์สินของตนจาก บุคคลผู้ไมม่ สี ทิ ธจิ ะยึดถอื ไว้ และมสี ทิ ธขิ ดั ขวางมใิ หผ้ ูอ้ นื่ สอดเข้าเกี่ยวขอ้ งกบั ทรพั ยส์ ินน้นั โดยมชิ อบด้วย กฎหมาย มาตรา ๑๓๓๗ บุคคลใดใชส้ ิทธขิ องตนเปน็ เหตใุ หเ้ จ้าของอสงั หารมิ ทรัพย์ไดร้ บั ความเสยี หาย หรือเดือดรอ้ นเกนิ ท่ีควรคดิ หรอื คาดหมายไดว้ า่ จะเปน็ ไปตามปกติและเหตุอันควรในเมื่อเอาสภาพและตำแหน่ง ท่ีอย่แู หง่ ทรัพยส์ ินนั้นมาคำนงึ ประกอบไซร้ ท่านวา่ เจา้ ของอสังหารมิ ทรัพยม์ ีสทิ ธิจะปฏิบตั กิ ารเพือ่ ยงั ความ เสียหายหรือเดอื ดร้อนน้นั ใหส้ ้นิ ไป ทง้ั นี้ ไม่ลบล้างสทิ ธิทจี่ ะเรียกเอาค่าทดแทน มาตรา ๑๓๓๘ ขอ้ จำกัดสทิ ธแิ หง่ เจา้ ของอสงั หาริมทรัพยซ์ ึง่ กฎหมายกำหนดไว้นั้นทา่ นว่าไม่ จำตอ้ งจดทะเบยี น ขอ้ จำกดั เชน่ น้ี ท่านว่าจะถอนหรอื แก้ใหห้ ยอ่ นลงโดยนิตกิ รรมไม่ได้ นอกจากจะได้ทำนติ กิ รรม เป็นหนงั สอื และจดทะเบียนกบั พนกั งานเจ้าหน้าท่ี ขอ้ จำกดั ซง่ึ กำหนดไว้เพื่อสาธารณประโยชน์นั้น ท่านว่าจะถอนหรือแก้ใหห้ ยอ่ นลงมิได้เลย มาตรา ๑๓๓๙ เจา้ ของที่ดนิ จำตอ้ งรบั น้ำซง่ึ ไหลตามธรรมดาจากทด่ี นิ สงู มาในที่ดนิ ของตน น้ำไหลตามธรรมดามายงั ที่ดินตำ่ และจำเปน็ แก่ทด่ี ินน้นั ไซร้ ทา่ นวา่ เจ้าของทด่ี นิ ซง่ึ อยสู่ ูงกว่า จะกันเอาไว้ไดเ้ พียงทจี่ ำเป็นแกท่ ด่ี นิ ของตน มาตรา ๑๓๔๐ เจ้าของท่ดี นิ จำตอ้ งรบั น้ำซงึ่ ไหลเพราะระบายจากทีด่ ินสูงมาในทด่ี นิ ของตน ถ้ากอ่ นท่ีระบายนั้นนำ้ ไดไ้ หลเข้ามาในทีด่ นิ ของตนตามธรรมดาอยแู่ ล้ว ถ้าได้รบั ความเสยี หายเพราะการระบายนำ้ ทา่ นว่าเจ้าของทด่ี ินตำ่ อาจเรียกรอ้ งใหเ้ จ้าของ ทีด่ ินสงู ทำทางระบายน้ำและออกค่าใช้จา่ ยในการนน้ั เพอ่ื ระบายน้ำไปใหต้ ลอดท่ีดินต่ำจนถึงทางน้ำ หรือทอ่ น้ำ สาธารณะ ท้ังน้ี ไม่ลบลา้ งสทิ ธิแหง่ เจ้าของท่ดี นิ ตำ่ ในอนั จะเรยี กเอาคา่ ทดแทน
239 มาตรา ๑๓๔๑ ท่านมใิ หเ้ จ้าของอสงั หารมิ ทรพั ยท์ ำหลังคาหรอื การปลกู สร้างอยา่ งอ่นื ซึง่ ทำ ใหน้ ำ้ ฝนตกลงยงั ทรพั ย์สินซึง่ อยตู่ ดิ ตอ่ กนั มาตรา ๑๓๔๒ บอ่ สระ หลมุ รับน้ำโสโครก หรอื หลมุ รบั ปยุ๋ หรือขยะมลู ฝอยนนั้ ท่านวา่ จะ ขุดในระยะสองเมตรจากแนวเขตที่ดินไมไ่ ด้ คูหรอื การขุดร่องเพอ่ื วางท่อน้ำใตด้ ินหรือสิง่ อ่ืนซึ่งคล้ายกนั นนั้ ท่านว่าจะทำใกล้แนวเขตทด่ี นิ กว่าคร่ึงหนง่ึ แห่งส่วนลกึ ของคหู รอื ร่องน้ันไมไ่ ด้ แต่ถ้าทำหา่ งแนวเขตหน่งึ เมตรหรอื กว่าน้นั ท่านว่าทำได้ ถา้ กระทำการดังกล่าวไว้ในสองวรรคกอ่ นใกลแ้ นวเขตไซร้ ทา่ นวา่ ตอ้ งใชค้ วามระมัดระวงั ตาม ควร เพ่อื ปอ้ งกนั มิใหด้ นิ หรือทรายพังลง หรือมิให้นำ้ หรอื ส่ิงโสโครกซึมเขา้ ไป มาตรา ๑๓๔๓ ห้ามมิใหข้ ุดดนิ หรอื บรรทกุ น้ำหนกั บนทดี่ ินเกินควรจนอาจเปน็ เหตอุ นั ตราย แก่ความอยูม่ ่ันแหง่ ท่ีดนิ ติดตอ่ เวน้ แตจ่ ะจัดการเพียงพอเพื่อปอ้ งกันความเสียหาย มาตรา ๑๓๔๔ รัว้ กำแพง รัว้ ตน้ ไม้ คู ซงึ่ หมายเขตทด่ี นิ นนั้ ท่านให้สนั นษิ ฐานไวก้ ่อนวา่ เจา้ ของทีด่ ินท้งั สองขา้ งเปน็ เจา้ ของรวมกัน มาตรา ๑๓๔๕ เมื่อรว้ั ตน้ ไม้ หรือคซู ่งึ มไิ ด้ใชเ้ ป็นทางระบายน้ำ เปน็ ของเจา้ ของทด่ี ินทั้งสอง ขา้ งรวมกนั ทา่ นวา่ เจา้ ของข้างใดข้างหนง่ึ มสี ทิ ธทิ จี่ ะตัดรัว้ ตน้ ไม้ หรอื ถมคูนน้ั ไดถ้ งึ แนวเขตท่ดี นิ ของตน แต่ต้อง กอ่ กำแพง หรือทำรวั้ ตามแนวเขตนนั้ มาตรา ๑๓๔๖ ถา้ มตี น้ ไมอ้ ย่บู นแนวเขตทดี่ นิ ท่านใหส้ ันนษิ ฐานไวก้ ่อนว่าเจา้ ของทด่ี ินทัง้ สอง ขา้ งเปน็ เจ้าของตน้ ไมร้ วมกนั ดอกผลเปน็ ของเจา้ ของท่ีดินคนละส่วนเสมอกัน และถา้ ตัดต้นลงไซร้ ไม้นัน้ เป็น ของเจ้าของทีด่ ินคนละส่วนดุจกัน เจา้ ของแตล่ ะฝ่ายจะตอ้ งการให้ขดุ หรือตัดตน้ ไมก้ ็ได้ คา่ ใชจ้ ่ายในการน้นั ตอ้ งเสยี เทา่ กนั ทง้ั สองฝ่าย แต่ถ้าเจา้ ของอกี ฝ่ายหนงึ่ สละสทิ ธใิ นตน้ ไมไ้ ซร้ ฝ่ายท่ีตอ้ งการขดุ หรอื ตดั ต้องเสียค่าใช้จ่ายฝา่ ยเดียว ถ้าตน้ ไม้นน้ั เป็นหลกั เขตและจะหาหลกั เขตอื่นไมเ่ หมาะเหมอื น ทา่ นวา่ ฝา่ ยหน่ึงฝ่ายใดจะตอ้ งการใหข้ ดุ หรอื ตัด ไมไ่ ด้ มาตรา ๑๓๔๗ เจา้ ของที่ดินอาจตดั รากไมซ้ ึง่ รุกเข้ามาจากทดี่ ินติดตอ่ และเอาไวเ้ สยี ถา้ กิ่งไม้ ย่ืนลำ้ เขา้ มา เมอื่ เจา้ ของท่ดี นิ ได้บอกผูค้ รอบครองทด่ี นิ ติดตอ่ ใหต้ ัดภายในเวลาอันสมควรแลว้ แตผ่ นู้ นั้ ไม่ตดั ทา่ นว่าเจ้าของทีด่ ินตัดเอาเสียได้
240 มาตรา ๑๓๔๘ ดอกผลแหง่ ตน้ ไม้ทหี่ ลน่ ตามธรรมดาลงในทดี่ ินตดิ ต่อแปลงใด ท่านให้ สันนษิ ฐานไว้ก่อนว่าเปน็ ดอกผลของที่ดินแปลงน้ัน มาตรา ๑๓๔๙ ทด่ี นิ แปลงใดมีทด่ี นิ แปลงอน่ื ลอ้ มอยจู่ นไม่มที างออกถงึ ทางสาธารณะไดไ้ ซร้ ทา่ นว่าเจา้ ของทดี่ ินแปลงน้นั จะผ่านท่ดี นิ ซ่งึ ล้อมอยไู่ ปสทู่ างสาธารณะได้ ท่ดี ินแปลงใดมีทางออกไดแ้ ต่เมอ่ื ต้องขา้ มสระ บงึ หรือทะเล หรือมที ชี่ นั อนั ระดบั ทด่ี นิ กบั ทาง สาธารณะสงู กวา่ กันมากไซร้ ทา่ นว่าใหใ้ ช้ความในวรรคตน้ บงั คบั ทแ่ี ละวธิ ีทำทางผา่ นน้ันตอ้ งเลอื กใหพ้ อควรแกค่ วามจำเป็นของผมู้ ีสทิ ธจิ ะผ่าน กบั ทง้ั ให้ คำนึงถึงที่ดนิ ทลี่ อ้ มอยู่ใหเ้ สยี หายแต่น้อยทส่ี ดุ ท่ีจะเป็นได้ ถ้าจำเป็นผูม้ สี ิทธจิ ะผา่ นจะสรา้ งถนนเป็นทางผ่านก็ ได้ ผ้มู สี ิทธจิ ะผา่ นตอ้ งใชค้ า่ ทดแทนใหแ้ ก่เจ้าของท่ดี ินทลี่ ้อมอยเู่ พ่อื ความเสยี หายอนั เกิดแต่เหตุ ท่ีมีทางผา่ นนั้น คา่ ทดแทนน้ันนอกจากคา่ เสยี หายเพราะสร้างถนน ท่านว่าจะกำหนดเปน็ เงินรายปกี ็ได้ มาตรา ๑๓๕๐ ถ้าท่ีดินแบง่ แยกหรือแบ่งโอนกันเปน็ เหตใุ หแ้ ปลงหน่งึ ไมม่ ีทางออกไปสทู่ าง สาธารณะไซร้ ทา่ นวา่ เจา้ ของที่ดินแปลงน้นั มสี ทิ ธเิ รยี กร้องเอาทางเดินตามมาตรากอ่ นไดเ้ ฉพาะบนทด่ี นิ แปลง ที่ได้แบ่งแยกหรอื แบง่ โอนกันและไม่ตอ้ งเสยี ค่าทดแทน มาตรา ๑๓๕๑ เจ้าของท่ดี นิ เมอ่ื บอกลว่ งหนา้ ตามสมควรแล้ว อาจใชท้ ่ีดินตดิ ตอ่ เพยี งท่ี จำเป็นในการปลูกสรา้ งหรอื ซอ่ มแซมร้ัว กำแพง หรือโรงเรือน ตรงหรอื ใกลแ้ นวเขตของตน แตจ่ ะเข้าไปใน เรอื นทอ่ี ย่ขู องเพอื่ นบา้ นข้างเคยี งไมไ่ ด้ เวน้ แต่ไดร้ บั ความยินยอม ถา้ ได้กอ่ ความเสยี หายใหเ้ กิดขนึ้ ไซร้ ท่านว่าเพ่ือนบ้านข้างเคยี งจะเรยี กเอาค่าทดแทนก็ได้ มาตรา ๑๓๕๒ ท่านว่าถ้าเจ้าของที่ดินได้รับค่าทดแทนตามสมควรแลว้ ตอ้ งยอมใหผ้ ูอ้ ืน่ วาง ท่อนำ้ ท่อระบายนำ้ สายไฟฟ้า หรือสง่ิ อืน่ ซง่ึ คล้ายกันผ่านทดี่ ินของตน เพ่อื ประโยชน์แก่ทีด่ ินตดิ ตอ่ ซงึ่ ถา้ ไม่ ยอมใหผ้ า่ นก็ไม่มที างจะวางได้ หรอื ถ้าจะวางไดก้ ็เปลืองเงินมากเกินควร แตเ่ จา้ ของทด่ี นิ อาจใหย้ กเอา ประโยชนข์ องตนขึ้นพจิ ารณาด้วย เม่อื มเี หตผุ ลพิเศษ ถ้าจะตอ้ งวางเหนอื พืน้ ดินไซร้ ทา่ นว่าเจา้ ของท่ดี ินอาจเรียกให้ซอ้ื ท่ีดินของ ตนบางส่วนตามควรท่จี ะใช้ในการนัน้ โดยราคาคุม้ คา่ ท่ีดนิ และค่าทดแทนความเสียหายซ่งึ อาจมเี พราะการขาย นน้ั ดว้ ย ถ้าพฤตกิ ารณ์เปลี่ยนไป เจ้าของท่ีดนิ อาจเรียกใหย้ ้ายถอนสง่ิ ที่วางนั้นไปไว้ ณ ส่วนอื่นแห่ง ทดี่ นิ ของตนตามแตจ่ ะเหมาะแกป่ ระโยชนแ์ หง่ เจ้าของทีด่ นิ
241 คา่ ย้ายถอนนนั้ เจ้าของทีด่ ินตดิ ต่อเป็นผูเ้ สีย แตถ่ า้ มพี ฤติการณ์พเิ ศษไซร้ ท่านว่าจะใหเ้ จา้ ของ ทดี่ นิ อีกฝา่ ยหนึ่งช่วยเสียค่าย้ายถอนตามสว่ นอันควรกไ็ ด้ มาตรา ๑๓๕๓ บคุ คลอาจพาปศสุ ัตวข์ องตนผา่ นหรือเขา้ ไปในทีด่ ินของผอู้ ่นื ซ่งึ มไิ ดก้ น้ั เพอ่ื ไป เลี้ยง และอาจเข้าไปเอาน้ำในบ่อหรอื สระในที่เชน่ วา่ นัน้ มาใชไ้ ด้ เวน้ แตท่ ่ดี ินเป็นท่เี พาะปลกู หรอื เตรยี มเพอื่ เพาะปลูก หว่าน หรอื มธี ญั ชาตขิ ึ้นอยแู่ ล้ว แต่ทา่ นว่าเจ้าของที่ดินยอ่ มหา้ มไดเ้ สมอ มาตรา ๑๓๕๔ ถา้ มจี ารตี ประเพณแี หง่ ทอ้ งถน่ิ ให้ทำไดแ้ ละถา้ เจ้าของไมห่ ้าม บคุ คลอาจเขา้ ไปในทีป่ ่า ท่ีดง หรอื ในทม่ี ีหญ้าเลีย้ งสัตว์ซงึ่ เป็นท่ีดนิ ของผอู้ น่ื เพอ่ื เกบ็ ฟนื หรือผลไมป้ ่า ผกั เหด็ และสงิ่ เช่นกัน มาตรา ๑๓๕๕ เจ้าของทดี่ ินรมิ ทางนำ้ หรือมีทางนำ้ ผ่าน ไมม่ สี ทิ ธิจะชกั เอาน้ำไวเ้ กินกวา่ ท่ี จำเปน็ แก่ประโยชนข์ องตนตามควร ใหเ้ ปน็ เหตเุ สื่อมเสียแกท่ ด่ี ินแปลงอ่ืนซง่ึ อยู่ตามทางน้ำนั้น หมวด ๓ กรรมสทิ ธ์ริ วม มาตรา ๑๓๕๖ ถ้าทรพั ยส์ ินเปน็ ของบุคคลหลายคนรวมกัน ท่านให้ใชบ้ ทบญั ญตั ิในหมวดน้ี บงั คับ เวน้ แตจ่ ะมีกฎหมายบัญญัติไวเ้ ปน็ อยา่ งอ่ืน มาตรา ๑๓๕๗ ท่านใหส้ ันนษิ ฐานไว้กอ่ นว่าผเู้ ป็นเจ้าของรวมกนั มสี ว่ นเท่ากนั มาตรา ๑๓๕๘ ทา่ นใหส้ ันนษิ ฐานไว้กอ่ นว่าเจา้ ของรวมมสี ิทธจิ ัดการทรัพยส์ นิ รวมกัน ในเร่ืองจัดการตามธรรมดา ทา่ นวา่ พงึ ตกลงโดยคะแนนขา้ งมากแหง่ เจ้าของรวม แตเ่ จา้ ของ รวมคนหนึง่ ๆ อาจทำสง่ิ ใดสง่ิ หนงึ่ ในทางจัดการตามธรรมดาได้ เว้นแตฝ่ ่ายขา้ งมากไดต้ กลงไว้เป็นอย่างอ่ืน แต่ เจา้ ของรวมคนหนง่ึ ๆ อาจทำการเพอ่ื รกั ษาทรัพยส์ นิ ได้เสมอ ในเร่อื งจัดการอันเป็นสาระสำคญั ท่านวา่ ตอ้ งตกลงกนั โดยคะแนนขา้ งมากแหง่ เจา้ ของรวม และคะแนนขา้ งมากนั้นต้องมสี ่วนไมต่ ำ่ กวา่ ครง่ึ หน่งึ แหง่ คา่ ทรพั ยส์ นิ การเปลยี่ นแปลงวตั ถทุ ี่ประสงคน์ ้ัน ทา่ นว่าจะตกลงกันไดก้ แ็ ตเ่ มื่อเจา้ ของรวมเหน็ ชอบทุกคน
242 มาตรา ๑๓๕๙ เจ้าของรวมคนหน่ึง ๆ อาจใชส้ ทิ ธิอันเกดิ แตก่ รรมสทิ ธิ์ครอบไปถึงทรัพยส์ นิ ทง้ั หมดเพอ่ื ตอ่ สบู้ ุคคลภายนอก แตใ่ นการเรียกร้องเอาทรัพย์สนิ คนื นัน้ ทา่ นวา่ ต้องอยู่ในบงั คบั แหง่ เงอื่ นไขท่ี ระบไุ ว้ในมาตรา ๓๐๒ แหง่ ประมวลกฎหมายน้ี มาตรา ๑๓๖๐ เจา้ ของรวมคนหน่งึ ๆ มีสทิ ธิใชท้ รัพยส์ ินได้ แตก่ ารใช้น้นั ตอ้ งไมข่ ัดต่อสทิ ธิ แห่งเจา้ ของรวมคนอ่นื ๆ ทา่ นให้สนั นิษฐานไวก้ อ่ นว่าเจา้ ของรวมคนหนงึ่ ๆ มสี ทิ ธไิ ด้ดอกผลตามส่วนของตนท่ีมีใน ทรัพยส์ ินนัน้ มาตรา ๑๓๖๑ เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จะจำหน่ายสว่ นของตน หรอื จำนอง หรอื ก่อใหเ้ กดิ ภาระตดิ พันก็ได้ แต่ตัวทรัพย์สนิ นนั้ จะจำหนา่ ย จำนำ จำนอง หรอื ก่อใหเ้ กดิ ภาระตดิ พันไดก้ แ็ ตด่ ว้ ยความ ยนิ ยอมแห่งเจ้าของรวมทกุ คน ถ้าเจา้ ของรวมคนใดจำหน่าย จำนำ จำนอง หรอื กอ่ ใหเ้ กิดภาระตดิ พนั ทรัพย์สินโดยมิไดร้ บั ความยนิ ยอมแห่งเจ้าของรวมทกุ คน แตภ่ ายหลังเจา้ ของรวมคนนนั้ ได้เปน็ เจา้ ของทรพั ย์สนิ แตผ่ ูเ้ ดียวไซร้ ทา่ น วา่ นติ กิ รรมนั้นเป็นอันสมบูรณ์ มาตรา ๑๓๖๒ เจา้ ของรวมคนหน่งึ ๆ จำตอ้ งชว่ ยเจ้าของรวมคนอ่นื ๆ ตามสว่ นของตนใน การออกค่าจดั การ คา่ ภาษีอากร และค่ารักษา กบั ทงั้ คา่ ใชท้ รัพยส์ นิ รวมกันด้วย มาตรา ๑๓๖๓ เจา้ ของรวมคนหน่ึง ๆ มสี ทิ ธิเรยี กใหแ้ บง่ ทรพั ยส์ นิ ได้ เว้นแต่จะมีนติ ิกรรมขดั อยู่ หรือถ้าวัตถทุ ปี่ ระสงค์ทเ่ี ปน็ เจา้ ของรวมกนั น้นั มลี กั ษณะเปน็ การถาวร กเ็ รยี กใหแ้ บง่ ไม่ได้ สิทธิเรยี กใหแ้ บง่ ทรัพยส์ ินน้นั ทา่ นว่าจะตัดโดยนิติกรรมเกนิ คราวละสบิ ปีไมไ่ ด้ ท่านว่าเจ้าของรวมจะเรียกให้แบ่งทรพั ยส์ นิ ในเวลาที่ไม่เปน็ โอกาสอนั ควรไม่ได้ มาตรา ๑๓๖๔ การแบง่ ทรัพย์สินพึงกระทำโดยแบง่ ทรพั ยส์ นิ น้นั เองระหวา่ งเจา้ ของรวม หรือโดยขายทรพั ยส์ ินแล้วเอาเงนิ ทีข่ ายได้แบง่ กัน ถ้าเจา้ ของรวมไมต่ กลงกนั ว่าจะแบง่ ทรัพยส์ ินอย่างไรไซร้ เมอื่ เจา้ ของรวมคนหนงึ่ คนใดขอ ศาลอาจสัง่ ใหเ้ อาทรพั ยส์ ินนัน้ ออกแบง่ ถ้าส่วนที่แบง่ ให้ไมเ่ ท่ากนั ไซร้ จะสง่ั ให้ทดแทนกันเป็นเงนิ ก็ได้ ถา้ การ แบง่ เชน่ ว่านไ้ี มอ่ าจทำได้หรอื จะเสียหายมากนกั กด็ ี ศาลจะสงั่ ใหข้ ายโดยประมลู ราคากันระหว่างเจ้าของรวม หรอื ขายทอดตลาดกไ็ ด้
243 มาตรา ๑๓๖๕ ถา้ เจา้ ของรวมต้องรับผดิ ชอบร่วมกันตอ่ บคุ คลภายนอกในหนี้อนั เกย่ี วกับ ทรพั ยส์ นิ รวม หรอื ในหนีซ้ ่งึ ไดก้ ่อข้ึนใหมเ่ พ่ือชำระหนีเ้ ดมิ ดังวา่ นั้นกด็ ี ในเวลาแบ่ง เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จะ เรยี กให้เอาทรัพยส์ ินรวมน้นั ชำระหนเี้ สียก่อน หรอื ใหเ้ อาเปน็ ประกันกไ็ ด้ ถ้าเจา้ ของรวมคนหนง่ึ ตอ้ งรบั ผิดต่อเจา้ ของรวมคนอื่นในหนซ้ี งึ่ เกิดจากการเปน็ เจ้าของรวม หรอื ในหนี้ซงึ่ ได้กอ่ ขึน้ ใหมเ่ พ่อื ชำระหนี้เดมิ ดังวา่ นั้นก็ดี ในเวลาแบง่ เจ้าของรวมผเู้ ปน็ เจ้าหน้ีจะเรยี กใหเ้ อาส่วน ซึง่ จะไดแ้ ก่ลกู หนขี้ องตนในทรพั ยส์ นิ รวมนน้ั ชำระหนเ้ี สียก่อน หรอื ใหเ้ อาเปน็ ประกันกไ็ ด้ สทิ ธิท่กี ลา่ วมาขา้ งตน้ นอี้ าจใชแ้ กผ่ ู้รบั โอน หรอื ผ้สู บื กรรมสทิ ธ์ิในส่วนของเจ้าของรวมน้นั ถ้าจำเป็นจะต้องขายทรัพยส์ ินรวมไซร้ ทา่ นใหน้ ำบทบญั ญตั มิ าตรากอ่ นมาใชบ้ ังคับ มาตรา ๑๓๖๖ เจา้ ของรวมคนหนง่ึ ๆ ตอ้ งรบั ผดิ ตามส่วนของตนเช่นเดียวกบั ผู้ขายใน ทรัพยส์ นิ ซง่ึ เจ้าของรวมคนอนื่ ๆ ได้รบั ไปในการแบง่ ลักษณะ ๓ ครอบครอง มาตรา ๑๓๖๗ บคุ คลใดยึดถอื ทรัพยส์ ินโดยเจตนาจะยดึ ถือเพ่ือตน ทา่ นว่าบคุ คลนัน้ ไดซ้ ่งึ สทิ ธิครอบครอง มาตรา ๑๓๖๘ บคุ คลอาจได้มาซง่ึ สิทธคิ รอบครองโดยผู้อนื่ ยดึ ถือไวใ้ ห้ มาตรา ๑๓๖๙ บคุ คลใดยึดถอื ทรพั ยส์ นิ ไว้ ทา่ นใหส้ นั นษิ ฐานไวก้ ่อนว่า บุคคลน้ันยดึ ถอื เพ่ือ ตน มาตรา ๑๓๗๐ ผคู้ รอบครองนั้น ท่านใหส้ ันนษิ ฐานไว้กอ่ นวา่ ครอบครองโดยสุจริตโดยความ สงบและโดยเปิดเผย มาตรา ๑๓๗๑ ถ้าพสิ ูจนไ์ ด้วา่ บุคคลใดครอบครองทรพั ยส์ นิ เดยี วกันสองคราว ท่านให้ สนั นษิ ฐานไวก้ อ่ นวา่ บุคคลนนั้ ได้ครอบครองตดิ ต่อกนั ตลอดเวลา มาตรา ๑๓๗๒ สิทธซิ ง่ึ ผูค้ รอบครองใช้ในทรัพย์สนิ ท่ีครอบครองนนั้ ทา่ นใหส้ ันนิษฐานไว้กอ่ น วา่ เป็นสทิ ธซิ ง่ึ ผู้ครอบครองมตี ามกฎหมาย
244 มาตรา ๑๓๗๓ ถ้าทรพั ยส์ ินเปน็ อสงั หารมิ ทรพั ยท์ ่ไี ด้จดไว้ในทะเบยี นทด่ี ิน ทา่ นใหส้ นั นิษฐาน ไว้กอ่ นว่าบุคคลผู้มีชอ่ื ในทะเบียนเปน็ ผ้มู สี ิทธคิ รอบครอง มาตรา ๑๓๗๔ ถา้ ผู้ครอบครองถกู รบกวนในการครอบครองทรัพยส์ นิ เพราะมผี สู้ อดเข้า เกยี่ วขอ้ งโดยมชิ อบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านวา่ ผคู้ รอบครองมสี ิทธจิ ะให้ปลดเปลอื้ งการรบกวนนนั้ ได้ ถ้าเป็นที่นา่ วิตกว่าจะยังมกี ารรบกวนอีก ผู้ครอบครองจะขอต่อศาลใหส้ งั่ หา้ มกไ็ ด้ การฟอ้ งคดเี พอ่ื ปลดเปลือ้ งการรบกวนนั้น ทา่ นวา่ ต้องฟอ้ งภายในปหี นง่ึ นบั แต่เวลาถูก รบกวน มาตรา ๑๓๗๕ ถา้ ผู้ครอบครองถูกแย่งการครอบครองโดยมชิ อบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านวา่ ผู้ ครอบครองมสี ทิ ธิจะไดค้ นื ซงึ่ การครอบครอง เวน้ แตอ่ กี ฝ่ายหน่งึ มสี ทิ ธเิ หนือทรัพยส์ ินดีกวา่ ซง่ึ จะเป็นเหตใุ ห้ เรียกคืนจากผูค้ รอบครองได้ การฟ้องคดเี พ่อื เอาคนื ซึ่งการครอบครองนั้น ทา่ นวา่ ต้องฟอ้ งภายในปีหน่ึงนบั แตเ่ วลาถกู แยง่ การครอบครอง มาตรา ๑๓๗๖ ถา้ จะตอ้ งส่งทรพั ยส์ นิ คนื แกบ่ ุคคลผมู้ ีสทิ ธิเอาคนื ไซร้ ทา่ นให้นำบทบัญญตั ิ มาตรา ๔๑๒ ถึง ๔๑๘ แหง่ ประมวลกฎหมายนวี้ ่าดว้ ยลาภมคิ วรไดม้ าใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม มาตรา ๑๓๗๗ ถา้ ผ้คู รอบครองสละเจตนาครอบครอง หรือไม่ยึดถือทรพั ยส์ ินต่อไปไซร้ การ ครอบครองยอ่ มสดุ สนิ้ ลง ถ้าเหตอุ ันมสี ภาพเป็นเหตุชว่ั คราวมมี าขดั ขวางมิให้ผู้ครอบครองยดึ ถอื ทรพั ยส์ ินไซร้ ท่านว่า การครอบครองไม่สดุ สนิ้ ลง มาตรา ๑๓๗๘ การโอนไปซ่ึงการครอบครองน้นั ย่อมทำไดโ้ ดยสง่ มอบทรพั ยส์ ินที่ครอบครอง มาตรา ๑๓๗๙ ถ้าผู้รบั โอนหรือผ้แู ทนยดึ ถอื ทรัพยส์ ินอยู่แลว้ ท่านว่าการโอนไปซ่งึ การ ครอบครองจะทำเพียงแสดงเจตนากไ็ ด้ มาตรา ๑๓๘๐ การโอนไปซ่งึ การครอบครองย่อมเปน็ ผล แม้ผูโ้ อนยงั ยดึ ถือทรัพยส์ นิ อยู่ ถา้ ผู้ โอนแสดงเจตนาว่าตอ่ ไปจะยดึ ถอื ทรพั ยส์ ินนนั้ แทนผรู้ ับโอน
245 ถา้ ทรัพย์สินนนั้ ผูแ้ ทนของผโู้ อนยดึ ถอื อยู่ การโอนไปซง่ึ การครอบครองจะทำโดยผูโ้ อนสงั่ ผ้แู ทนวา่ ต่อไปใหย้ ดึ ถอื ทรพั ยส์ นิ ไวแ้ ทนผ้รู บั โอนกไ็ ด้ มาตรา ๑๓๘๑ บุคคลใดยดึ ถอื ทรัพยส์ นิ อยูใ่ นฐานะเปน็ ผแู้ ทนผ้คู รอบครอง บุคคลนั้นจะ เปลย่ี นลักษณะแห่งการยดึ ถอื ได้ กแ็ ตโ่ ดยบอกกลา่ วไปยงั ผคู้ รอบครองว่าไมเ่ จตนาจะยึดถือทรพั ยส์ ินแทนผู้ ครอบครองต่อไป หรือตนเองเปน็ ผคู้ รอบครองโดยสจุ รติ อาศัยอำนาจใหม่อนั ไดจ้ ากบุคคลภายนอก มาตรา ๑๓๘๒ บคุ คลใดครอบครองทรพั ย์สนิ ของผอู้ ่นื ไว้โดยความสงบและโดยเปดิ เผยด้วย เจตนาเป็นเจ้าของ ถา้ เปน็ อสงั หาริมทรัพย์ไดค้ รอบครองติดต่อกนั เป็นเวลาสิบปี ถ้าเปน็ สงั หารมิ ทรัพยไ์ ด้ ครอบครองติดตอ่ กันเป็นเวลาหา้ ปไี ซร้ ทา่ นวา่ บคุ คลนนั้ ได้กรรมสทิ ธิ์ มาตรา ๑๓๘๓ ทรัพยส์ ินอนั ได้มาโดยการกระทำผดิ น้นั ท่านวา่ ผ้กู ระทำผดิ หรือผรู้ บั โอนไม่ สจุ รติ จะไดก้ รรมสทิ ธ์โิ ดยอายุความกแ็ ต่เม่ือพ้นกำหนดอายคุ วามอาชญา หรือพน้ เวลาที่กำหนดไวใ้ นมาตรา กอ่ น ถา้ กำหนดไหนยาวกวา่ ทา่ นให้ใชก้ ำหนดนั้น มาตรา ๑๓๘๔ ถ้าผู้ครอบครองขาดยึดถอื ทรัพยส์ นิ โดยไมส่ มัครและได้คนื ภายในเวลาปหี น่งึ นับต้ังแต่วนั ขาดยดึ ถอื หรือได้คืนโดยฟอ้ งคดภี ายในกำหนดนนั้ ไซร้ ทา่ นมิให้ถอื ว่าการครอบครองสะดุดหยุดลง มาตรา ๑๓๘๕ ถ้าโอนการครอบครองแกก่ นั ผูร้ บั โอนจะนบั เวลาซงึ่ ผโู้ อนครอบครองอย่กู อ่ น นน้ั รวมเขา้ กบั เวลาครอบครองของตนก็ได้ ถ้าผ้รู ับโอนนับรวมเช่นนั้น และถ้ามีขอ้ บกพรอ่ งในระหว่าง ครอบครองของผูโ้ อนไซร้ ทา่ นว่าขอ้ บกพร่องน้นั อาจยกข้นึ เป็นข้อตอ่ สผู้ ูร้ บั โอนได้ มาตรา ๑๓๘๖ บทบญั ญัตวิ า่ ดว้ ยอายคุ วามในประมวลกฎหมายน้ี ท่านใหใ้ ช้บังคบั ในเรื่อง อายุความได้สิทธอิ ันกลา่ วไว้ในลกั ษณะน้โี ดยอนโุ ลม ลกั ษณะ ๔ ภาระจำยอม มาตรา ๑๓๘๗ อสังหารมิ ทรพั ยอ์ าจตอ้ งตกอยู่ในภาระจำยอมอนั เป็นเหตุใหเ้ จา้ ของตอ้ ง ยอมรบั กรรมบางอย่างซ่ึงกระทบถึงทรพั ย์สนิ ของตน หรือตอ้ งงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างอันมีอยู่ในกรรมสทิ ธ์ิ ทรพั ยส์ ินนัน้ เพ่ือประโยชนแ์ กอ่ สงั หาริมทรพั ยอ์ ่ืน
246 มาตรา ๑๓๘๘ เจ้าของสามยทรพั ย์ไม่มสี ทิ ธทิ ำการเปลีย่ นแปลงในภารยทรพั ย์หรือใน สามยทรัพย์ซงึ่ ทำใหเ้ กิดภาระเพมิ่ ขึน้ แกภ่ ารยทรพั ย์ มาตรา ๑๓๘๙ ถา้ ความตอ้ งการแหง่ เจ้าของสามยทรพั ยเ์ ปลย่ี นแปลงไป ทา่ นวา่ ความ เปลยี่ นแปลงนน้ั ไม่ใหส้ ิทธิแกเ่ จ้าของสามยทรัพยท์ จ่ี ะทำใหเ้ กดิ ภาระเพม่ิ ขึ้นแกภ่ ารยทรัพยไ์ ด้ มาตรา ๑๓๙๐ ท่านมิใหเ้ จ้าของภารยทรพั ยป์ ระกอบกรรมใด ๆ อนั จะเป็นเหตใุ ห้ประโยชน์ แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก มาตรา ๑๓๙๑ เจ้าของสามยทรพั ย์มสี ทิ ธทิ ำการทุกอย่างอนั จำเปน็ เพ่อื รกั ษาและใช้ภาระจำ ยอม แตต่ ้องเสียคา่ ใชจ้ า่ ยของตนเอง ในการนเี้ จ้าของสามยทรัพยจ์ ะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภารยทรพั ยไ์ ด้ก็ แตน่ อ้ ยทส่ี ดุ ตามพฤติการณ์ เจ้าของสามยทรัพย์ต้องเสยี ค่าใช้จ่ายของตนเองรักษาซอ่ มแซมการท่ีได้ทำไปแลว้ ให้เปน็ ไป ดว้ ยดี แต่ถา้ เจา้ ของภารยทรพั ยไ์ ดร้ บั ประโยชนด์ ้วยไซร้ ทา่ นว่าตอ้ งออกค่าใช้จ่ายตามสว่ นแห่งประโยชน์ท่ี ได้รับ มาตรา ๑๓๙๒ ถ้าภาระจำยอมแตะตอ้ งเพียงส่วนหนึ่งแห่งภารยทรัพย์ เจ้าของทรัพย์น้นั อาจ เรยี กใหย้ ้ายไปยงั สว่ นอืน่ กไ็ ด้ แต่ต้องแสดงไดว้ ่าการยา้ ยนัน้ เป็นประโยชน์แกต่ นและรบั เสียคา่ ใชจ้ ่าย ทง้ั นี้ ตอ้ ง ไม่ทำให้ความสะดวกของเจ้าของสามยทรพั ยล์ ดนอ้ ยลง มาตรา ๑๓๙๓ ถ้ามิได้กำหนดไวเ้ ป็นอย่างอ่นื ในนติ กิ รรมอันกอ่ ให้เกิดภาระจำยอมไซร้ ท่าน วา่ ภาระจำยอมยอ่ มติดไปกับสามยทรัพยซ์ ง่ึ ไดจ้ ำหนา่ ย หรอื ตกไปในบังคับแหง่ สทิ ธิอ่ืน ทา่ นวา่ จะจำหนา่ ย หรอื ทำใหภ้ าระจำยอมตกไปในบงั คับแหง่ สทิ ธอิ น่ื ต่างหากจาก สามยทรพั ย์ไมไ่ ด้ มาตรา ๑๓๙๔ ถ้ามกี ารแบง่ แยกภารยทรพั ย์ ทา่ นว่าภาระจำยอมยงั คงมอี ยทู่ ุกส่วนท่ีแยก ออก แต่ถา้ ในสว่ นใดภาระจำยอมนัน้ ไม่ใช้และใชไ้ มไ่ ดต้ ามรปู การ ทา่ นวา่ เจา้ ของสว่ นน้ันจะเรียกให้พ้นจาก ภาระจำยอมก็ได้ มาตรา ๑๓๙๕ ถา้ มกี ารแบง่ แยกสามยทรพั ย์ ท่านว่าภาระจำยอมยังคงมอี ยู่เพอื่ ประโยชน์แก่ ทกุ ส่วนทแ่ี ยกออกน้ัน แตถ่ ้าภาระจำยอมนั้นไมใ่ ชแ้ ละใช้ไมไ่ ด้ตามรปู การเพื่อประโยชน์แกส่ ว่ นใดไซร้ ทา่ นวา่ เจา้ ของภารยทรพั ย์จะเรียกให้พน้ จากภาระจำยอมอันเกย่ี วกบั ทรพั ยส์ ่วนนัน้ ก็ได้
247 มาตรา ๑๓๙๖ ภาระจำยอมซ่งึ เจ้าของรวมแหง่ สามยทรัพยค์ นหนงึ่ ไดม้ า หรอื ใช้อยนู่ ัน้ ท่าน ใหถ้ อื ว่าเจ้าของรวมได้มาหรอื ใช้อยดู่ ้วยกนั ทุกคน มาตรา ๑๓๙๗ ถ้าภารยทรัพยห์ รอื สามยทรพั ย์สลายไปทง้ั หมด ทา่ นว่าภาระจำยอมสิ้นไป มาตรา ๑๓๙๘ ถ้าภารยทรพั ย์และสามยทรัพย์ตกเปน็ ของเจา้ ของคนเดียวกนั ทา่ นว่า เจา้ ของจะให้เพิกถอนการจดทะเบียนภาระจำยอมกไ็ ด้ แต่ถ้ายังมิไดเ้ พกิ ถอนทะเบยี นไซร้ ภาระจำยอมยงั คงมี อยใู่ นสว่ นบคุ คลภายนอก มาตรา ๑๓๙๙ ภาระจำยอมนน้ั ถ้ามิได้ใชส้ ิบปี ทา่ นว่ายอ่ มสิน้ ไป มาตรา ๑๔๐๐ ถา้ ภาระจำยอมหมดประโยชนแ์ กส่ ามยทรพั ย์ไซร้ ทา่ นว่าภาระจำยอมนั้นสิน้ ไป แต่ถ้าความเปน็ ไปมีทางให้กลับใช้ภาระจำยอมไดไ้ ซร้ ท่านว่าภาระจำยอมนน้ั กลับมขี ้ึนอีกแตต่ ้องยงั ไม่พน้ อายคุ วามท่รี ะบุไวใ้ นมาตรากอ่ น ถ้าภาระจำยอมยงั เป็นประโยชน์แก่สามยทรพั ย์อยบู่ ้าง แตเ่ มอื่ เทียบกบั ภาระอันตกอยูแ่ ก่ ภารยทรพั ยแ์ ล้ว ประโยชนน์ ้ันน้อยนกั ไซร้ ท่านวา่ เจา้ ของภารยทรพั ย์จะขอให้พ้นจากภาระจำยอมทงั้ หมด หรือแตบ่ างสว่ นก็ได้ แตต่ ้องใช้ค่าทดแทน มาตรา ๑๔๐๑ ภาระจำยอมอาจได้มาโดยอายคุ วาม ท่านใหน้ ำบทบัญญตั วิ า่ ด้วยอายุความ ไดส้ ทิ ธอิ ันกล่าวไว้ในลักษณะ ๓ แห่งบรรพนีม้ าใช้บังคบั โดยอนุโลม ลักษณะ ๕ อาศัย มาตรา ๑๔๐๒ บุคคลใดได้รบั สทิ ธอิ าศยั ในโรงเรอื น บุคคลนน้ั ย่อมมีสทิ ธอิ ยใู่ นโรงเรอื นน้นั โดยไม่ต้องเสยี คา่ เชา่ มาตรา ๑๔๐๓ สิทธิอาศัยน้ัน ทา่ นวา่ จะกอ่ ใหเ้ กิดโดยมีกำหนดเวลา หรอื ตลอดชวี ิตของผู้ อาศัยก็ได้
248 ถ้าไมม่ กี ำหนดเวลา ทา่ นวา่ สิทธินน้ั จะเลกิ เสยี ในเวลาใด ๆ กไ็ ด้แต่ต้องบอกลว่ งหนา้ แกผ่ ู้ อาศัยตามสมควร ถา้ ใหส้ ทิ ธิอาศัยโดยมกี ำหนดเวลา กำหนดนนั้ ทา่ นมิใหเ้ กนิ สามสิบปี ถ้ากำหนดไวน้ านกวา่ นั้น ใหล้ ดลงมาเป็นสามสบิ ปี การใหส้ ทิ ธิอาศยั จะตอ่ อายุก็ได้ แต่ต้องกำหนดเวลาไม่เกนิ สามสบิ ปีนบั แต่วนั ทำตอ่ มาตรา ๑๔๐๔ สิทธอิ าศยั น้ันจะโอนกนั ไมไ่ ดแ้ มโ้ ดยทางมรดก มาตรา ๑๔๐๕ สทิ ธิอาศัยนั้นถ้ามไิ ดจ้ ำกดั ไว้ชดั แจ้งวา่ ใหเ้ พอื่ ประโยชนแ์ ก่ผู้อาศัยเฉพาะตวั ไซร้ บุคคลในครอบครัวและในครัวเรอื นของผูอ้ าศัยจะอยดู่ ว้ ยก็ได้ มาตรา ๑๔๐๖ ถา้ ผใู้ ห้อาศัยมิไดห้ ้ามไว้ชดั แจ้ง ผอู้ าศยั จะเกบ็ เอาดอกผลธรรมดาหรอื ผลแหง่ ท่ีดนิ มาใช้เพียงทจี่ ำเปน็ แกค่ วามต้องการของครวั เรือนก็ได้ มาตรา ๑๔๐๗ ผู้ใหอ้ าศัยไม่จำต้องบำรงุ รักษาทรัพยส์ ินใหอ้ ยใู่ นความซอ่ มแซมอันดี ผู้อาศัยจะเรียกใหช้ ดใช้ค่าใชจ้ า่ ย ซง่ึ ได้ออกไปในการทำใหท้ รพั ยส์ นิ ดีขึ้นหาได้ไม่ มาตรา ๑๔๐๘ เมอ่ื สทิ ธิอาศัยส้นิ ลง ผู้อาศัยต้องสง่ ทรพั ยส์ นิ คนื แกผ่ ู้ให้อาศัย มาตรา ๑๔๐๙ ทา่ นใหน้ ำบทบญั ญัติแหง่ ประมวลกฎหมายนี้วา่ ด้วยหน้าท่แี ละความรับผิด ของผ้เู ช่าอนั กลา่ วไวใ้ นมาตรา ๕๕๒ ถึง ๕๕๕ มาตรา ๕๕๘, ๕๖๒ และ ๕๖๓ มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม ลักษณะ ๖ สิทธเิ หนือพ้นื ดิน มาตรา ๑๔๑๐ เจ้าของทด่ี นิ อาจก่อใหเ้ กดิ สทิ ธเิ หนอื พ้ืนดินเปน็ คุณแกบ่ คุ คลอน่ื โดยใหบ้ ุคคล นนั้ มีสิทธิเป็นเจ้าของโรงเรอื น สงิ่ ปลกู สรา้ ง หรือสิ่งเพาะปลกู บนดินหรอื ใต้ดนิ นน้ั มาตรา ๑๔๑๑ ถ้ามิไดก้ ำหนดไว้เป็นอย่างอืน่ ในนติ กิ รรมอันก่อให้เกิดสทิ ธเิ หนอื พ้นื ดินไซร้ ท่านว่าสิทธนิ ั้นอาจโอนไดแ้ ละรบั มรดกกนั ได้
249 มาตรา ๑๔๑๒ สทิ ธเิ หนือพ้ืนดินนนั้ จะก่อใหเ้ กิดโดยมกี ำหนดเวลา หรอื ตลอดชีวติ เจา้ ของ ท่ดี นิ หรอื ตลอดชวี ติ ผทู้ รงสทิ ธิเหนือพ้นื ดินนน้ั ก็ได้ ถา้ กอ่ ให้เกดิ สทิ ธพิ ื้นดินโดยมีกำหนดเวลาไซร้ ทา่ นให้นำบทบัญญัตมิ าตรา ๑๔๐๓ วรรค ๓ มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม มาตรา ๑๔๑๓ ถา้ สิทธเิ หนอื พนื้ ดนิ นน้ั ไม่มกี ำหนดเวลาไซร้ ทา่ นว่าคู่กรณีฝ่ายใดจะบอกเลกิ เสยี ในเวลาใดกไ็ ด้ แต่ต้องบอกล่วงหนา้ แกอ่ ีกฝ่ายหนงึ่ ตามสมควร ถ้ามคี า่ เช่าซ่งึ จำตอ้ งให้แกก่ ันไซร้ ท่านว่า ตอ้ งบอกล่วงหนา้ ปหี น่งึ หรอื ใหค้ า่ เช่าปหี นง่ึ มาตรา ๑๔๑๔ ถา้ ผทู้ รงสิทธเิ หนอื พน้ื ดนิ ละเลยไม่ปฏิบตั ิตามเงอ่ื นไขอนั เป็นสาระสำคญั ซึ่ง ระบไุ วใ้ นนิตกิ รรมกอ่ ตั้งสทิ ธนิ ัน้ ก็ดี หรอื ถา้ มคี า่ เชา่ ซงึ่ จะตอ้ งให้แกก่ ัน แต่ผูท้ รงสทิ ธเิ หนอื พนื้ ดินละเลยไมช่ ำระ ถงึ สองปีติด ๆ กันก็ดี ทา่ นว่าคูก่ รณีอกี ฝ่ายหนง่ึ จะบอกเลิกสทิ ธิเหนอื พ้ืนดนิ กไ็ ด้ มาตรา ๑๔๑๕ สทิ ธเิ หนอื พ้ืนดนิ นนั้ ไมส่ นิ้ ไปโดยเหตทุ ่ีโรงเรอื น สิ่งปลกู สร้าง หรอื สงิ่ เพาะปลูกสลายไป แมก้ ารสลายนั้นจะเป็นเพราะเหตสุ ดุ วิสัย มาตรา ๑๔๑๖ เมอ่ื สิทธเิ หนอื พ้ืนดินสน้ิ ไป ผทู้ รงสทิ ธิจะรอื้ ถอนโรงเรอื น สิง่ ปลกู สร้าง สิง่ เพาะปลูกของตนไปก็ได้ แต่ต้องทำใหท้ ี่ดินเป็นตามเดิม แต่ถ้าเจา้ ของที่ดนิ จะไม่ยอมให้รอื้ ถอนไป และบอกเจตนาจะซอื้ ตามราคาทอ้ งตลาดไซร้ ท่าน วา่ ผู้ทรงสทิ ธเิ หนอื พืน้ ดนิ จะไม่ยอมขายไม่ได้ เว้นแตจ่ ะมเี หตอุ ันสมควร ลักษณะ ๗ สิทธิเกบ็ กิน มาตรา ๑๔๑๗ อสังหารมิ ทรัพยอ์ าจต้องตกอยู่ในบังคบั สทิ ธิเกบ็ กนิ อนั เป็นเหตใุ หผ้ ทู้ รงสทิ ธิ นนั้ มสี ทิ ธคิ รอบครอง ใช้ และถือเอาซง่ึ ประโยชน์แหง่ ทรัพยส์ นิ น้นั ผทู้ รงสทิ ธเิ กบ็ กินมอี ำนาจจัดการทรพั ยส์ นิ ผทู้ รงสทิ ธเิ กบ็ กนิ ในปา่ ไม้ เหมอื งแร่ หรือทีข่ ุดหนิ มสี ทิ ธทิ ำการแสวงประโยชนจ์ ากปา่ ไม้ เหมอื งแร่ หรือท่ขี ดุ หนิ น้ัน
250 มาตรา ๑๔๑๘ สิทธเิ กบ็ กินนนั้ จะก่อใหเ้ กดิ โดยมีกำหนดเวลา หรอื ตลอดชวี ิตแห่งผู้ทรงสทิ ธิ กไ็ ด้ ถา้ ไม่มกี ำหนดเวลา ทา่ นใหส้ ันนิษฐานไวก้ ่อนวา่ สทิ ธิเกบ็ กินมีอยู่ตลอดชวี ติ ผู้ทรงสทิ ธิ ถ้ามกี ำหนดเวลา ท่านใหน้ ำบทบญั ญัตมิ าตรา ๑๔๐๓ วรรค ๓ มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ถ้าผ้ทู รงสทิ ธเิ กบ็ กนิ ถึงแก่ความตาย ทา่ นว่าสทิ ธนิ ั้นยอ่ มส้นิ ไปเสมอ มาตรา ๑๔๑๙ ถา้ ทรพั ยส์ นิ สลายไปโดยไมไ่ ดค้ ่าทดแทนไซร้ ทา่ นวา่ เจ้าของไมจ่ ำตอ้ งทำให้ คืนดี แต่ถ้าเจ้าของทำให้ทรัพยส์ ินคนื ดีข้ึนเพียงใด ทา่ นว่าสทิ ธิเก็บกนิ กก็ ลับมขี น้ึ เพยี งน้นั ถ้าไดค้ ่าทดแทนไซร้ ท่านว่าเจา้ ของหรือผทู้ รงสิทธิเก็บกินตอ้ งทำใหท้ รัพยส์ ินคืนดเี พียงที่ สามารถทำไดต้ ามจำนวนเงนิ ค่าทดแทนท่ไี ดร้ บั และสทิ ธเิ กบ็ กินกลับมีขนึ้ เพียงทีท่ รัพยส์ นิ กลบั คืนดี แตถ่ า้ พน้ วิสัยที่จะทำให้กลบั คืนดีได้ สทิ ธิเก็บกนิ กเ็ ปน็ อันส้ินไป และคา่ ทดแทนนน้ั ตอ้ งแบง่ กนั ระหวา่ งเจา้ ของทรัพยส์ ิน และผทู้ รงสทิ ธิเกบ็ กนิ ตามส่วนแหง่ ความเสยี หายของตน วิธีนใ้ี ห้ใช้บังคับโดยอนโุ ลมถึงกรณีซง่ึ ทรพั ยส์ นิ ถูกบังคับซื้อ และกรณซี ึง่ ทรพั ยส์ นิ สลายไปแต่ บางสว่ น หรือการทำใหค้ ืนดีนั้นพน้ วสิ ัยในบางสว่ น มาตรา ๑๔๒๐ เมอ่ื สิทธเิ ก็บกนิ สิ้นลง ผทู้ รงสทิ ธิต้องสง่ ทรัพย์สินคนื แก่เจ้าของ ถา้ ทรัพย์สินสลายไป หรอื เส่ือมราคาลง ผ้ทู รงสทิ ธิเกบ็ กนิ ต้องรับผิด เวน้ แตจ่ ะพสิ จู น์ได้ว่า ความเสยี หายน้นั มไิ ด้เกิดขึน้ เพราะความผิดของตน ถ้าผูท้ รงสทิ ธิเกบ็ กินใช้ทรพั ยส์ นิ ส้ินเปลืองไปโดยมชิ อบ ท่านว่าต้องทำให้มมี าแทน ถา้ ทรพั ยส์ ินเสอื่ มราคาเพราะการใชต้ ามควรไซร้ ทา่ นวา่ ผู้ทรงสทิ ธิเกบ็ กินไม่จำต้องให้คา่ ทดแทน มาตรา ๑๔๒๑ ในการใช้สิทธเิ กบ็ กนิ นั้น ผทู้ รงสิทธติ ้องรกั ษาทรพั ยส์ นิ เสมอกบั ที่วิญญูชนพงึ รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของตนเอง มาตรา ๑๔๒๒ ถา้ มิได้กำหนดไว้เปน็ อย่างอน่ื ในนิตกิ รรมอันกอ่ ให้เกดิ สทิ ธเิ ก็บกนิ ไซร้ ทา่ นวา่ ผู้ทรงสทิ ธิน้นั จะโอนการใชส้ ทิ ธขิ องตนใหบ้ คุ คลภายนอกกไ็ ด้ ในกรณเี ช่นน้นั เจ้าของทรพั ย์สนิ อาจฟ้องร้องผรู้ บั โอนโดยตรง มาตรา ๑๔๒๓ เจา้ ของทรพั ย์สินจะคดั ค้านมใิ ห้ใช้ทรัพยส์ นิ ในทางอันมิชอบดว้ ยกฎหมาย หรอื มสิ มควรกไ็ ด้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359