หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ (กลุ่มสนใจ) ปีงบประมาณ 2562

91 ส่ือการเรียนรู้ 1. ใบความร้/ู ใบงาน 2. ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ /วิทยากร 3. ตวั อย่างชนิ้ งาน 4. วสั ดุ อุปกรณ์ ที่ใชใ้ นการฝกึ ปฏบิ ตั ิ 5. แหลง่ เรียนรู้ ทศ่ี กึ ษาดูงาน การวดั และประเมินผล 1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎีระหวา่ งเรียนและจบหลกั สตู ร 2. การประเมินผลระหว่างเรียนจากการปฏิบตั งิ านท่มี คี ุณภาพเพียงพอ สามารถสรา้ งรายได้ ให้กบั ตนเองความสาเร็จของการปฏิบัติและจบหลกั สูตร การจบหลกั สตู ร 1. มเี วลาเรยี นไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมนิ ผลท้ังภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ัติไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. ผูเ้ รียนสามารถเขียนโครงการอาชีพของตนเองได้ อยา่ งน้อย 1 โครงการ เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรยี น 2. วฒุ บิ ตั ร ออกโดยสถานศึกษาในสังกัดสานกั งาน กศน. 3. ทะเบยี นคุมวฒุ บิ ัตรทสี่ ถานศึกษาออกใหก้ ับผูเ้ รียนที่จบหลักสตู ร การเทยี บโอน ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกท่ีสถานศึกษาได้จดั ทา ข้นึ

92 หลักสูตรอาหารว่าง จานวน 9 ชัว่ โมง กลมุ่ อาชีพด้านพาณชิ ยกรรมและบริการ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ท่ีจะพัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะ ยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อเพ่ิมศักยภาพและขีดความ สามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถ สร้างรายได้ ท่ีม่ันคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ ไดร้ ับการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมี คณุ ภาพ ทั่วถึงและเทา่ เทียมกัน ประชาชนมี รายได้มั่นคง ม่ังคัง่ และมงี านทาอย่างย่ังยนื มีความสามารถเชิงการแข่งขนั ทงั้ ในระดับภูมิภาคอาเซียน และระดับสากล ซ่ึงจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ ประชาชนและประเทศชาต.ิ สภาพสังคมปัจจุบันมนุษย์เราได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ เช่น ด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอกับจานวนประชากรท่ีเพิ่มขึ้นทุกมุมโลก มนุษย์จึงประสบปัญหาต่างๆตามมามากมาย โดยเฉพาะด้านการดารงชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชน นอกจากจะมีการประกอบอาชพี เพอ่ื เป็นการเล้ียงตัวเองและครอบครัวแล้ว ยังมีสิ่งทถี่ ือว่า เป็นภาระหนักคืออาหารเพ่ือบรโิ ภคประจาวัน จึงจาเปน็ อย่างยง่ิ ทมี่ นุษยเ์ ราจะต้องสร้างข้ึนหรือหามา ทดแทนโดยวธิ ีการต่างๆ เพอ่ื การอยูร่ อด อาหารว่าง มีลักษณะของอาหารท่ีมีความหลากหลาย ใช้ศิลปะในการตกแต่งอาหารให้น่า รับประทาน ท่ีเหมาะกับโอกาสและวัตถุประสงค์ของการประกอบอาหารแต่ละประเภท การประกอบ อาหารว่าง มีความหลากหลาย ท้ังลักษณะ รปู ร่าง รสชาตทิ ่ีอร่อยและถูกหลกั โภชนาการ ซ่ึงเริ่มตั้งแต่ การเลอื กซอ้ื วัตถดุ ิบ, เทคนิคการประกอบอาหารการตกแตง่ การเลือกบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งการวางแผน จาหน่ายเพื่อการค้า การเลือกทาเลที่เหมาะสม และถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ และหลักสุขาภิบาล อาหาร ท้ังในการประกอบอาหารเพื่อการดารงชีวิตระดับครอบครัว ชุมชน และการประกอบอาหารเพ่ือ การค้า

93 หลกั การของหลักสตู ร 1. เป็นหลกั สตู รที่เน้นการจดั การศกึ ษาอาชีพเพอื่ การมงี านทา ที่เน้นการบรู ณาการเนื้อหา สาระภาคทฤษฎีควบคู่ไปกบั การฝึกปฏิบตั จิ รงิ ผู้เรียนสามารถนาความรู้และทกั ษะไปประกอบอาชีพ ไดจ้ รงิ อย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรมจริยธรรม 2. เปน็ หลักสตู รทเี่ นน้ การดาเนนิ งานร่วมกบั เครือข่าย สถานประกอบการ เพ่ือประโยชน์ใน การประกอบอาชพี และการศึกษาดูงาน 3. เปน็ หลกั สตู รท่ผี ้เู รยี นสามารถนาผลการเรียนรูไ้ ปเทยี บโอนเขา้ สหู่ ลักสตู รการศึกษานอก ระบบระดบั การศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในรายวชิ าเลอื กของสาระการประกอบอาชีพ 4. เปน็ หลักสตู รที่เน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ไดแ้ ก่ ศักยภาพด้าน ทรพั ยากร ภมู ิอากาศ ภูมิประเทศ และทาเลท่ตี งั้ ศิลปวฒั นธรรมประเพณีและวิถชี วี ิต และด้าน ทรัพยากรมนษุ ย์ จดุ หมาย เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี ุณลักษณะดังนี้ 1. มคี วามรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสรา้ งรายไดท้ ่มี น่ั คง มง่ั คัง่ 2. ตัดสนิ ใจประกอบอาชพี ใหส้ อดคลอ้ งกับศักยภาพของตนเอง ชมุ ชน สงั คม และ ส่ิงแวดล้อมอย่างมีคุณธรรมจริยธรรม 3. มีเจตคตทิ ่ดี ีในการประกอบอาชีพ 4. มคี วามรู้ความเข้าใจและฝึกทักษะการบรหิ ารจดั การในอาชีพได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ 5. มโี ครงการประกอบอาชพี เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางในการพัฒนาอาชีพของตนเอง ระยะเวลา 9 ชั่วโมง จานวน 1 ชวั่ โมง ภาคทฤษฎี 8 ชั่วโมง ภาคปฏบิ ัติ โครงสร้างหลักสูตร จานวน 30 นาที 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี จานวน 8 ชัว่ โมง 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชพี 1.2 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชพี อาหารวา่ ง 1.3 แหลง่ เรียนรู้การประกอบอาชพี อาหารวา่ ง 1.4 ทิศทางพัฒนาการประกอบอาชีพอาหารว่าง 2. ทกั ษะอาชพี 2.1 ความรเู้ บื้องตน้ เก่ียวกบั อาหารว่าง 2.2 ประเภทของอาหารวา่ ง 2.3 การประกอบอาหารวา่ ง จานวน 3 ประเภท

94 2.4 บรรจภุ ัณฑ์อาหารว่าง จานวน 30 นาที 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ 3.1 การเลอื กทาเลที่ตง้ั ร้าน 3.2 การจดั และตกแต่งหน้าร้าน 3.3 การคิดราคาต้นทนุ และการวิเคราะหจ์ ุดคุ้มทุน 3.4 การขาย 3.5 การส่งเสรมิ การขาย 3.6 การทาบญั ชีร้านค้าอย่างง่าย การจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต ทดลอง 3. การศกึ ษาดูงาน 4. การวเิ คราะห์และสังเคราะหบ์ ทเรียน 5. การฝึกปฏิบตั ิ สือ่ การเรียนรู้ 1. สอื่ เอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธิตอาชีพ การฝึกปฏิบัติจริง 2. ผรู้ ู้/ภูมิปญั ญา ท่ชี านาญการ 3. วตั ถุดิบ อุปกรณใ์ นอาชีพท่มี ีการใช้จริง การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ภาคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลกั สตู ร 2. การประเมินผงงานระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ัติ ไดผ้ ลงานท่มี คี ณุ ภาพสามารถสรา้ งรายได้ และจบหลกั สตู ร การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 3. มีผลงานท่ีมคี ณุ ภาพ ตรงตามหลกั การของหลักสูตร เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานการประเมิน 2. ทะเบียนวุฒิบัตร 3. วฒุ บิ ตั รการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา

95 การเทียบโอน ผู้เรยี นท่ีจบหลกั สูตรน้สี ามารถนาไปเทยี บโอนผลการเรยี นรูก้ บั หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวชิ าเลอื กทส่ี ถานศกึ ษาได้ จัดทาข้ึน

96 หลกั สตู รอาหารว่าง จานวน 25 ช่ัวโมง กล่มุ อาชพี ด้านพาณิชยกรรมและการบริการ ความเป็นมา อาหารว่าง คือ อาหารท่ีรับประทานระหว่างม้ือ ใช้รับประทานในขณะท่ีห้องว่าง แบ่งเป็น 2 ชว่ ง คอื อาหารว่างเช้าและอาหารวา่ งบ่าย มักใช้ในการจดั ประชมุ อบรม สัมมนา ในส่วนราชการและ องค์กรตา่ งๆในการจัดเลี้ยงและทารบั ประทานในครอบครัว สามารถทาจาหน่ายเป็นอาชพี ได้ อาหารว่างในปัจจุบันมีมากมายหลายชนิด ทั้งอาหารว่างของไทยและของต่างชาติ เช่น คุกกี้ ขนมเป๊ะ ขนมปัง เป็นต้น หาซ้ือง่ายเพราะมีขายในท้องตลาด แต่ยังมีอาหารว่างอีกหลายชนิดที่หา ยาก เพราะส่วนผสมค่อนข้างเยอะ ทายาก ต้องอาศัยฝีมือ ความสามรถ ความประณีต สวยงาม เช่น ขนมปังซูชิ เห็ดสามรส กะหล่าปลีลุยสวน กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด ขนมจีบ ซาลาเปลา เกี๊ยว ทอด เห็ดทอด ขา้ วโพดทอด เป็นต้น จึงควรอนุรกั ษ์และสืบทอดไม่ให้ถกู ลมื เลือน และให้คนรุ่นใหม่ได้ รู้จกั และเรียนรู้ท่จี ะนาไปใชป้ ระโยชน์ เพ่ือสรา้ งความภาคภูมใิ จ เพ่ือสร้างอาชพี และสบื ทอดตอ่ ไป หลกั การของหลักสูตร เป็นหลักสตู รที่เน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทา ท่ีเน้นการบูรณาการเนื้อหาสาระ ภาคทฤษฎี ควบคู่ไปกับการฝึกปฏบิ ัติจริง ผู้เรียนสามารถนาความรู้และทกั ษะไปประกอบอาชีพได้จริง อย่างมีคณุ ภาพและมีคุณธรรมจรยิ ธรรม จุดมงุ่ หมาย 1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจและมีทกั ษะในการทาอาหารวา่ งได้ 2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนสามารถสรา้ งอาชพี และรายไดใ้ ห้กบั ตนเองและครอบครัว กลุม่ เปา้ หมาย ประชาชนท่วั ไป ระยะเวลา 25 ชวั่ โมง จานวน 5 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 20 ชัว่ โมง ภาคปฏบิ ัติ

97 โครงสร้างหลกั สตู ร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการทาอาหารว่าง จานวน 1 ชั่วโมง 1.1 สารวจและวิเคราะห์ตนเองและชุมชน ทรัพยากร ส่ิงแวดล้อม อาชีพ และ ความต้องการของตลาด (ผ้บู รโิ ภค) 1.2 ความร้เู บอ้ื งตน้ เกี่ยวกับชอ่ งทางประกอบอาชพี การทาอาหารว่าง 1.3 ลักษณะทัว่ ไปของการประกอบอาชีพการทาอาหารว่าง 1.4 ประโยชน์ และความเปน็ ไปได้หรือโอกาสในการประกอบอาชีพการทาอาหารวา่ ง 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการทาอาหารว่าง จานวน 20 ชวั่ โมง 2.1 เครอื่ งมือเคร่ืองใชใ้ นการปรงุ อาหาร 2.2 การเตรียมและหลักการเลอื กซ้ือวตั ถุดบิ ต่างๆ 2.3 การปรุงอาหารใหม้ ีรสชาติมาตรฐาน และการรักษาคณุ คา่ ของสารอาหารที่ปรุง 2.4 ตวั อย่างเมนู 4 อย่าง 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ จานวน 2 ช่วั โมง 3.1 การผลิต 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชพี อาหารวา่ ง จานวน 2 ช่วั โมง 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชพี อาหารวา่ ง 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชีพ อาหารวา่ ง) 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชพี อาหารว่าง 4.4 การเขียนโครงการอาชพี อาหารวา่ ง 4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชพี อาหารว่าง วิธกี ารจดั กระบวนการเรียนรู้ เพ่ือให้การจัดกระบวนการเรียนการสอน หลักสูตรกลุ่มอาชีพ เรื่อง อาหารว่าง ประสบ ความสาเร็จตามจุดมุ่งหมายท่ีกาหนดไว้ข้างต้น จึงกาหนดแนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไว้ ดงั นี้ 1. การจดั กระบวนการเรียนรู้ ให้ยดื หยุ่นตามสภาพและความเหมาะสมของท้องถนิ่ 2. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ยึดผูเ้ รียนเปน็ สาคญั ใหส้ อดคลอ้ งกับความสนใจ ความถนัด และให้โอกาสเท่าเทียมกันในการพัฒนาตนเองตามความสามารถของผเู้ รียน และเนน้ ให้ผ้เู รียนได้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันและนาหลักทฤษฎีไปใช้ในทางปฏิบตั ิจรงิ ให้มากท่ีสุด 3. กิจกรรมสารวจและวิเคราะห์ตนเองและชุมชน ทรัพยากรส่ิงแวดล้อม อาชีพ และ ความตอ้ งการของตลาด(ผ้บู ริโภค) ด้วยกระบวนการคดิ เปน็ โดยใชข้ ้อมูล 3 ดา้ นไดแ้ ก่ ข้อมูลด้าน ตนเอง ข้อมูลด้านวิชาการ และข้อมลู ด้านสงั คม สิง่ แวดล้อม

98 4. ฝกึ ทกั ษะอาชีพการทาอาหารวา่ ง 4.1 เรยี นรู้ด้วยตนเอง จากสื่อตา่ ง ๆ แหล่งเรียนรู้ ผู้รู้ ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น 4.2 เรียนรดู้ ้วยการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ด้วยกระบวนการกล่มุ 4.3 วทิ ยากร/ผ้สู อน เป็นผูถ้ า่ ยทอดความรู้ 4.4 การลงมอื ฝกึ ปฏิบัติ 5. ฝกึ ปฏบิ ตั ิการทาอาหารว่าง ในศูนยก์ ารเรยี น สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นวิชาอาชพี การทาอาหารว่าง ประกอบดว้ ยเน้อื หา 2 เร่อื ง 2. ใบความรู/้ ใบงาน/วารสารเกย่ี วกับการทาอาหารตา่ งๆ 3. อปุ กรณ์ในการทาอาหารว่าง 4. แหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผลการเรียน ประกอบดว้ ย 1. การสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ / การรับรู้ /การฝึกปฏบิ ตั ิ/ การมีส่วนรว่ ม 2. การทดสอบ 3. การสังเกตการเรยี นรจู้ ากการปฏบิ ัติ การจบหลกั สูตร ผเู้ ข้ารบั การอบรมท่ีมเี วลาเรยี นไมน่ ้อยกวา่ 80% ของเวลาเรียนท้ังหมด เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรยี น 2. วุฒบิ ัตร ออกโดยสถานศึกษาในสงั กดั สานักงาน กศน. 3. ทะเบยี นคุมวฒุ ิบัตรท่ีสถานศึกษาออกให้กบั ผู้เรยี นที่จบหลกั สตู ร การเทยี บโอน ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี เลือกท่ีสถานศึกษาได้จัดทา ขึ้นได้

99 หลกั สูตรอาหารวา่ ง (ไก่ทอดสมนุ ไพร แซนวชิ จ๋ิว) จานวน 6 ชวั่ โมง กลมุ่ อาชีพด้านพาณชิ ยกรรมและบรกิ าร ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เทา่ ทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดับการจัดการศึกษา เพื่อเพ่ิมศักยภาพ และขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ท่ีม่ันคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพัฒนา อาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพทั่วถึง และเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้ม่ันคง มั่งคั่ง และมี งานทาอย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซ่ึงจะ เป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวติ ในรูปแบบใหม่ท่สี รา้ งความมนั่ คงใหแ้ กป่ ระชาชนและประเทศชาติ ดังน้ันสถานศึกษาจึงได้เห็นความสาคัญในเรื่องการนาวัตถุดิบในชุมชนมาแปรรูปอาหาร ประเภทต่างๆเพ่ือบริโภคในครัวเรอื น และจาหน่ายในชุมชนและเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ ต่อไป จงึ สนับสนนุ และส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายให้มคี วามรเู้ รือ่ งการแปรรูปอาหารประเภทตา่ ง ๆ จาก วัตถุดิบท่ีมีในชุมชน โดยการพัฒนาหลักสูตรให้ผู้เรียนได้มีความรู้เร่ืองการปรุงอาหาร การแปรรูป อาหาร เพ่ือเพ่ิมมูลค่าใหก้ บั สนิ คา้ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกจิ การผลิตสินคา้ หลกั การของหลักสตู ร หลกั สตู รการประกอบอาชพี อาหารวา่ ง (ไกท่ อดสมนุ ไพร แซนวิชจ๋ิว) มหี ลักการ ดังนี้ 1. เป็นหลักสตู รอาชพี ท่ีสง่ เสริม และอนุรักษ์ความรขู้ องภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ 2. เป็นหลกั สตู รอาชีพทเ่ี น้นการนาวัตถุดบิ และสมุนไพร พืชผกั สวนครัวในท้องถนิ่ มาสร้าง มูลค่าเพิ่มเพื่อให้ประชาชนเกิดรายได้ 3. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาอาชพี เพื่อการมีงานทาของประชาชน 4. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาอาชีพทสี่ ามารถเทียบโอนผลการเรยี นเขา้ สูห่ ลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี รายวชิ าเลือกได้ จดุ ม่งุ หมาย หลกั สตู รการประกอบอาชพี อาหารว่าง (ไกท่ อดสมนุ ไพร แซนวิชจว๋ิ ) มจี ุดหมาย ดงั นี้ 1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรแู้ ละทกั ษะในการทาอาหารว่าง (ไกท่ อดสมุนไพร แซนวชิ จว๋ิ ) 2. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสามารถนาความรูท้ ่ไี ด้ไปสรา้ งรายได้

100 กลมุ่ เปา้ หมาย เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเร่ืองการนาพืชสมุนไพรและวัตถุดิบใน ท้องถ่ินมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้และ วิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัวตนเอง สามารถเผยแพร่ให้แกผ่ ู้อื่น และนาไปประกอบอาชีพเพ่ือการมี งานทาได้ ระยะเวลา 6 ช่ัวโมง จานวน 2 ชวั่ โมง ภาคทฤษฎี 4 ชั่วโมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสร้างหลกั สูตร 1. ช่องทางการประกอบอาชพี จานวน 1 ชว่ั โมง 2.1 ความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ จานวน 15 นาที 2.2 ความสาคัญในการทาอาหารว่าง (ไก่ทอดสมนุ ไพร แซนวิชจิ๋ว) จานวน 15 นาที 2.3 แหล่งเรียนรเู้ ก่ียวกบั การทาอาหารว่าง (ไก่ทอดสมุนไพร แซนวชิ จว๋ิ ) จานวน 15 นาที 2.4 แหลง่ จาหน่ายผลิตภณั ฑ์จากการทาอาหารวา่ ง (ไกท่ อดสมุนไพร แซนวิชจ๋วิ ) จานวน 15 นาที 2. ทักษะอาชีพ จานวน 4 ชั่วโมง 2.1 ขั้นตอนในการทาอาหารวา่ ง (ไกท่ อดสมุนไพร แซนวชิ จวิ๋ ) จานวน 4 ช่ัวโมง 2.1.1 วัสดุ อปุ กรณ์ 2.1.2 การคดั เลอื กส่วนตา่ ง ๆ ของวตั ถุดิบ 2.1.3 การหาวตั ถดุ ิบ 2.1.4 การทาอาหารว่าง (ไก่ทอดสมุนไพร แซนวชิ จว๋ิ ) 2.1.5 การฝึกปฏิบัตกิ ารทาอาหารว่าง (ไก่ทอดสมนุ ไพร แซนวิชจิ๋ว) 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ จานวน 30 นาที 3.1 การผลติ 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชีพ อาหารว่าง (ไกท่ อดสมุนไพร แซนวชิ จิ๋ว) จานวน 30 นาที 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชพี อาหารว่าง (ไก่ทอดสมนุ ไพร แซนวิชจ๋วิ ) 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ อาหารวา่ ง (ไก่ทอดสมุนไพร แซนวชิ จว๋ิ ) 4.3 องคป์ ระกอบของโครงการอาชีพ อาหารวา่ ง (ไก่ทอดสมุนไพร แซนวชิ จว๋ิ ) 4.4 การเขียนโครงการอาชีพ อาหารว่าง (ไก่ทอดสมุนไพร แซนวิชจ๋ิว) 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชพี อาหารว่าง (ไก่ทอดสมุนไพร แซนวชิ จิ๋ว)

101 วธิ ีการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี 1.1 วทิ ยากรให้ความร้ถู ึงความสาคัญและความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ อาหาร วา่ ง (ไกท่ อดสมนุ ไพร แซนวชิ จวิ๋ ) 1.2 แหลง่ เรียนรู้เกย่ี วกบั อาหารวา่ ง (ไกท่ อดสมุนไพร แซนวิชจิ๋ว) 1.3 ศึกษาขอ้ มลู จากแหลง่ เรียนรู้ ภูมิปัญญา สือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานทจ่ี ดั จาหน่าย 1.4 สรปุ ความรทู้ ไี่ ด้จากการศกึ ษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ ภูมิปญั ญา 2. ทักษะอาชพี 2.1 วิทยากรบรรยายขั้นตอนการทาอาหารว่าง (ไก่ทอดสมุนไพร แซนวิชจว๋ิ ) 2.2 วทิ ยากรทาการสาธติ วธิ กี ารทาอาหารวา่ ง (ไกท่ อดสมุนไพร แซนวชิ จว๋ิ ) 2.3 วทิ ยากรร่วมกับผเู้ รียนในการการออกแบบการทาอาหารวา่ ง (ไกท่ อดสมนุ ไพร แซนวชิ จิ๋ว) 2.4 การฝกึ ปฏิบัตสิ ร้างสรรค์อาหารแบบต่าง ๆ 2.5 การแลกเปล่ียนเรยี นร้รู ะหวา่ งผู้เรยี นด้วยกนั 2.6 ศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรียนรูใ้ นชุมชนและช่องทางออนไลน์ เวบ็ ไซด์ตา่ งๆ 3. การบรหิ ารจัดการอาชพี 3.1 การผลิต 3.1.1 สารวจแหลง่ ทนุ 3.1.2 สารวจแหลง่ วสั ดุ วตั ถุดบิ ในท้องถนิ่ 3.2 การควบคมุ คุณภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คุณภาพของอาหาร รสชาติ สสี นั ความสะอาด รูปแบบ ราคา 3.3 การตลาด 3.3.1 ศกึ ษาข้อมลู การตลาด วเิ คราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศนู ย์ OTOP - ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน - แหลง่ ท่องเที่ยว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เชน่ - เวบ็ ไซด์อาเภอ จังหวัด - แผ่นพับโฆษณา 3.3.3 การทาบัญชี - การคดิ ราคาต้นทนุ กาไร - บัญชีรายรบั -รายจ่าย

102 สือ่ การเรียนรู้ 1. ใบความรู้/ใบงาน 2. ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน/วิทยากร 3. ตวั อย่างช้ินงาน 4. วัสดุ อุปกรณ์ ทีใ่ ช้ในการฝึกปฏบิ ัติ 5. แหลง่ เรยี นรู้ ทศ่ี กึ ษาดูงาน การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎรี ะหว่างเรยี นและจบหลักสตู ร 2. การประเมนิ ผลระหว่างเรียนจากการปฏิบตั งิ านทมี่ ีคุณภาพเพียงพอ สามารถสร้างรายได้ ใหก้ บั ตนเองความสาเร็จของการปฏิบัตแิ ละจบหลักสตู ร การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรยี นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมนิ ผลทงั้ ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 3. ผเู้ รยี นสามารถเขียนโครงการอาชีพของตนเองได้ อยา่ งน้อย 1 โครงการ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรียน 2. วฒุ บิ ัตร ออกโดยสถานศึกษาในสงั กัดสานักงาน กศน. 3. ทะเบียนคมุ วฒุ บิ ตั รทสี่ ถานศึกษาออกให้กบั ผู้เรียนที่จบหลกั สูตร การเทยี บโอน ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกท่ีสถานศึกษาได้จัดทา ขน้ึ ได้

103 หลักสตู รอาหารว่าง (แซนวิช ปอเป๊ียะทอด) จานวน 10 ชั่วโมง กลุ่มอาชพี ด้านพาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทา แผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้าน หลักสูตรการจัดกระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล รวมทั้งเน้นการบรู ณาการใหส้ อดคลอ้ งกับ ศักยภาพด้านต่าง ๆ กศน.อาเภอสามพราน ในฐานะที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษา ให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความมั่นคง จึงได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพอาหารว่าง (แซนวิช ปอเปี๊ยะทอด) ข้ึน เพ่ือเป็นช่องทางหนึ่ง ในการลดรายจ่ายในครอบครัว และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับ ครอบครัว โดยเนน้ ให้กลมุ่ เป้าหมายประชาชนในพ้ืนที่ตาบลคลองจนิ ดา หลักการ 1. เป็นหลกั สูตรที่เน้นการจัดการศึกษาอาชพี เพื่อการมีงานทา ทีเ่ น้นการบูรณาการเนื้อหา สาระภาคทฤษฎีควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบตั จิ รงิ ผู้เรยี นสามารถนาความรูแ้ ละทกั ษะไปประกอบอาชีพ ไดจ้ ริงอยา่ งมคี ุณภาพและมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 2. เปน็ หลกั สตู รทีม่ งุ่ ให้ผเู้ รยี นนาประสบการณ์จากการเรียนไปใช้ประโยชน์ในการดารงชวี ิต ประจาวนั 3. เปน็ หลกั สตู รทพ่ี ฒั นาขนึ้ เพื่อเพ่มิ โอกาสการสรา้ งรายไดใ้ ห้กับผู้ท่ีกาลังมองหาอาชีพเสริม หรอื อาชพี หลัก จุดม่งุ หมาย 1. เพ่ือส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนในท้องถ่ินมีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว 2. กลมุ่ เป้าหมายสามารถตัดสนิ ใจประกอบอาชีพให้สอดคลอ้ งกบั ศักยภาพของตนเอง ชมุ ชน สงั คม และส่ิงแวดล้อมอยา่ งมีคุณธรรมจริยธรรม 3. มีเจตคตทิ ่ีดใี นการประกอบอาชพี กลุม่ เปา้ หมาย กลมุ่ เป้าหมาย คือประชาชนท่ัวไป 1. ผู้ทีไ่ ม่มีอาชพี 2. ผทู้ มี่ อี าชพี และตอ้ งการทาอาชีพเสรมิ

104 วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะการทาอาหารว่าง (แซนวิช ปอเป๊ียะทอด) 2. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นสามารถทาอาหารวา่ ง ประเภท แซนวชิ และปอเปี๊ยะทอด ได้ ระยะเวลาเรียน 10 ชว่ั โมง จานวน 2 ช่ัวโมง ภาคทฤษฎี 8 ชวั่ โมง ภาคปฏิบัติ โครงสร้างหลกั สูตร เร่อื งท่ี 1 ชอ่ งทางการประกอบอาชพี อาหารวา่ ง จานวน 1 ชั่วโมง 1.1 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ 1.2 ความสาคญั ในการประกอบอาชีพอาหารว่าง เรอ่ื งที่ 2 ทกั ษะการประกอบอาชีพอาหารว่าง จานวน 8 ชั่วโมง 2.1 การเตรยี มวสั ดุอุปกรณแ์ ละใช้เคร่ืองมอื เครื่องทีใ่ ช้ในการทาอาหารว่าง 2.2 บอกประเภทและเลือกซ้ือเคร่ืองปรงุ ที่ใช้ในการทาอาหารวา่ ง 2.3 การทาอาหารวา่ งประเภท แซนวชิ และปอเปย๊ี ะทอด 2.4 การคานวณปริมาณและราคาอาหารว่าง เรอ่ื งท่ี 3 การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพอาหารว่าง จานวน 1 ชัว่ โมง 3.1 วิเคราะห์ความต้องการของตลาด 3.2 การขาย 3.3 การทาบญั ชี รายรับ – รายจ่าย การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี 1.1 วิทยากรใหค้ วามร้ถู ึงความสาคัญและความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชพี 1.2 ศกึ ษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ ภูมิปญั ญา ส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์ เอกสาร 1.3 สรปุ ความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศึกษาจากแหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปัญญา 2. ทักษะในการประกอบอาชพี การทาอาหารวา่ ง 2.1 การบรรยาย 2.2 การสาธิต 2.3 การฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริง 3. การบริหารจัดการอาชีพ 3.1 การคดิ ราคาต้นทนุ กาไร 3.2 ศกึ ษาข้อมลู การตลาด วเิ คราะห์ความต้องการของตลาด 3.3 การทาบญั ชี รายรับ – รายจา่ ย

105 สอื่ การเรียนรู้ 1. ส่ือเอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธิตอาชีพ การฝกึ ปฏบิ ัติจริง 2. ผ้รู ู้/ภมู ิปญั ญา การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี น 2. การประเมนิ ผลงานการปฏิบัตริ ะหวา่ งเรยี นความสาเร็จของการปฏบิ ัติ การจบหลกั สตู ร 1. มเี วลาเรยี น ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรยี น 2. วฒุ ิบตั ร ออกโดยสถานศึกษาในสงั กดั สานักงาน กศน. 3. ทะเบยี นคุมวุฒบิ ตั รท่สี ถานศกึ ษาออกให้กับผูเ้ รียนท่จี บหลักสูตร การเทียบโอน ผเู้ รยี นท่จี บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาขนึ้

106 หลักสตู รชา่ งตกแตง่ คว้ิ สวย หลักสตู ร 10 ช่ัวโมง กลุ่มอาชีพด้านพาณชิ ยกรรมและบริการ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศใหม้ ีความรู้ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชพี เปน็ การแก้ปัญหาการวา่ งงานและ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รักการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและ การมีงานทาอย่างมคี ุณภาพทั่วถึง และเท่าเทียมกนั ประชาชนมีรายได้ม่ันคง และมีงานทาอย่างย่ังยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษา ตลอดชวี ิตในรูปแบบใหม่ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ในสภาพปัจจุบันมนุษย์ เราได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และ ส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างมาก เมื่อจานวนประชากรเพ่ิมข้ึน แต่ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจาเป็นอย่างย่ิงท่ีมนุษย์จะต้องสร้างข้ึนหรือทดแทนโดยวิธีการต่าง ๆ เพ่ือการอยู่รอด ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน จึงได้นา นโยบาย ยุทธศาสตร์และความจาเป็นดังกล่าวสู่การปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาหลักสูตรอาชีพให้กับ กลุ่มเป้าหมาย และประชาชนมีรายได้ และมีการตกแต่งค้ิวสวยด้วยการเขียนคิ้ว เป็นช่องทาง การประกอบอาชีเสริมหรือช่องทางการพัฒนาตนเอง ปัจจุบัน เพ่ือพัฒนาบุคลิกภาพและเพ่ือ ความมั่นใจในทุกโอกาส การนาการเรียนการตกแต่งคิ้วสวยให้เกิดประโยชน์ในปัจจุบันน้ีนับว่า การตกแต่งคิ้วสวยมีช่องทางการตลาดที่หลากหลาย เริม่ ต้นจากการเรยี นรู้และฝึกหัดตนเองก่อนก่อน เรียนรู้หลักการและลงมือทา ฝึกฝนและทดสอบ จนสามารถประกอบอาชีพได้ ผู้ท่ีสนใจควรศึกษาหา ความรู้และฝึกปฏบิ ัตจิ นเกิดความชานาญ สามารถนาไประกอบอาชพี ใหก้ ับตนเองได้ หลักการของหลักสูตร 1. เปน็ หลักสูตรการประกอบอาชพี ทที่ าใหเ้ กดิ ชอ่ งทางการตลาด 2. เปน็ หลักสตู รการประกอบอาชพี ที่สง่ เสรมิ การมงี านทาของประชาชน 3. เป็นหลักสตู รทีย่ ดื หยนุ่ ทง้ั เนือ้ หา ระยะเวลาเรียน และการจัดกระบวนการเรียนรู้ 4. เป็นหลักสูตรการอาชีพที่สามารถเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรสถานศึกษาของศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี รายวชิ าเลอื กท่สี ถานศึกษาจัดทาขึน้ ได้ จุดมุ่งหมาย 1. เพื่อให้ผูเ้ รียนรูถ้ งึ ทกั ษะการตกแต่ค้ิวได้ 2. เพื่อให้ผูเ้ รียนสามารถการตกแต่ค้วิ ได้ 3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้และทักษะท่ีได้รับไปใช้ในชีวิตประจาวันและประกอบ อาชพี ได้

107 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ่ ประสงค์ 1. มคี วามรู้ความเข้าและเจตคติท่ีดี ตอ่ การเรยี นตกแต่งค้ิวสวย 2. สามารถการตกแต่ควิ้ ได้ 3. สามารถนาความร้แู ละทกั ษะที่ไดร้ บั ไปใช้ในชวี ิตประจาวันและประกอบอาชพี ได้ กลมุ่ เปา้ หมาย มี 2 กลุม่ เปา้ หมาย คอื 1. ผู้ไมม่ ีอาชีพ ประชาชนทัว่ ไป 2. ผูท้ ม่ี อี าชีพหลกั และต้องการมอี าชพี เสรมิ ระยะเวลาการเรียนรู้ของหลกั สูตร จานวน 10 ช่วั โมง ภาคทฤษฏี 3 ชว่ั โมง ภาคปฏิบตั ิ 7 ชว่ั โมง โครงสรา้ งหลกั สูตร เร่ืองที่ 1 ศึกษาทฤษฎกี ารตกแต่งควิ้ สวย จานวน 3 ช่วั โมง - รูปแบบการเขยี น - สีเขยี นค้วิ ท่ตี อ้ งใช้ให้เหมาะกับสผี ม - ข้ันตอนการเขียนคิว้ เรือ่ งท่ี 2 ทักษะการขนั้ ตอนการเขยี นคว้ิ ในแต่ละรูปแบบ จานวน 7 ชว่ั โมง - วทิ ยากรอธิบายรูปแบบการเขยี นค้วิ - วทิ ยากรสีเขยี นคว้ิ ทีต่ ้องใช้ให้เหมาะกับสีผม - วิทยากรขนั้ ตอนการเขียนคิว้ ในแต่ละรูปแบบ วธิ กี ารจดั กระบวนเรยี นรู้ ขน้ั นา - วิทยากรพูดคยุ แลกเปลี่ยนความรปู้ ระประสบการณก์ ับผ้เู รยี น ขน้ั จัดกจิ กรรม - วิทยากรอธบิ ายรปู แบบการเขยี นคิ้ว - วทิ ยากรสีเขยี นคว้ิ ทต่ี อ้ งใช้ให้เหมาะกับสีผม - วิทยากรขนั้ ตอนการเขียนคิว้ ในแตล่ ะรูปแบบ ขัน้ ใหเ้ นือ้ หา - ผเู้ รยี นฝึกปฏิบัติตามขนั้ ตอนและรปู แบบที่ได้เรียนรู้

108 สือ่ การเรยี นรู้ - เอกสารแบบการเขียนค้วิ - ตวั อยา่ งบคุ คล - วสั ดุ อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมือ การวัดและประเมินผล ประเมินจากสภาพความเปน็ จริง ผลงานการปฏบิ ัติ ความสนใจใส่ใจในการเรียนทกั ษะอาชีพ การจบหลักสูตร 1. การประเมินทางทฤษฎี ร้อยละ 80 2. การประเมนิ เวลาเรยี น รอ้ ยละ 80 3. การประเมินตามสภาพจริงจากผลงานหรอื กิจกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิไดแ้ ก่ - ความสวยงาม ร้อยละ 40 - ความคิดสรา้ งสรรค์ รอ้ ยละ 30 - ความสนใจ ความรบั ผิดชอบในเวลาเรยี น ร้อยละ 30 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรียน 2. วุฒบิ ตั ร ออกโดยสถานศึกษาในสงั กดั สานักงาน กศน. 3. ทะเบยี นคุมวฒุ บิ ตั รทส่ี ถานศกึ ษาออกให้กับผู้เรยี นท่จี บหลกั สูตร การเทียบโอน ผู้เรยี นทจ่ี บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรู้กับหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการประกอบอาชีพรายวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้จัดทา ขน้ึ ในระดับระดับหน่ึง

109 หลักสตู รการทาครองแครง จานวน 4 ช่วั โมง กลมุ่ อาชพี ด้านพาณชิ ยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา จากน โยบ ายแ ละจุดเน้ น ใน การดาเนิ น งาน ป ระจาปี งบ ป ระม าณ 2555 ขอ ง กระทรวงศึกษาธิการ และสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ี มุ่งเน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้าน เกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอานวยการและ อาชีพเฉพาะทาง ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษาอาชีพที่มุ่งพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวติ ในรูปแบบใหม่ท่ีสรา้ งความมั่นคงให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ตลอดจนสามารถแกป้ ัญหาการว่างงานและสง่ เสรมิ ความเข้มแขง็ ให้แก่เศรษฐกิจชมุ ชน การเลือกประกอบอาชีพในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน จาเปน็ ต้องมีขอ้ มูลพ้ืนฐานในหลักสูตร ในหลาย ๆ ด้าน ท้ังด้านการผลิต และความต้องการของตลาดแรงงานในสาขาอาชีพต่าง ๆ กลุ่มอาชีพ สาขาพาณิชยกรรมก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการเลือกประกอบอาชีพ สานักงาน กศน. ไดจ้ ัดทาหลกั สูตร การประกอบอาชีพการทาครองแครง ซึง่ มีความละเอยี ดออ่ นประณีตในการทาที่พิถีพิถนั รสชาตอิ รอ่ ย หอมหวาน มีสีสันสวยงาม และเป็นขนมท่ีมีความเกี่ยวข้องกับคนไทยมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดย มุ่งเน้นการปฏิบัติจริง เพ่ือพัฒนากระบวนการเรียนรู้ท่ีจะนาไปสู่การสร้างรายได้ การสร้างงานให้กับ ประชาชน เพิ่มรายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และตอ้ งการพัฒนาอาชพี ของตนให้มีความมั่นคง ในพืน้ ทีต่ าบลบางชา้ ง หลกั การของหลกั สตู ร 1. เป็นหลักสูตรทเ่ี น้นการจัดการศกึ ษาอาชพี เพื่อการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรู้และ ทกั ษะไปประกอบอาชพี ไดจ้ ริงอย่างมีคณุ ภาพและมีคุณธรรมจริยธรรม 2. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ใน การประกอบอาชีพ 3. เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในรายวชิ าเลอื กของสาระการประกอบอาชพี 4. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติในเขตพ้ืนที่ให้บริการ ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิ ประเทศและทาเลที่ตั้ง ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชวี ิต ศักยภาพของทรพั ยากร มนษุ ย์ในเขตพ้ืนท่ี

110 จุดม่งุ หมาย 1. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมคี วามรูค้ วามเข้าใจ และทักษะเกยี่ วกับการทาครองแครงได้ 2. เพื่อให้ผู้เรียนนาความรู้เกี่ยวกับการทาครองแครงไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ ตนเองและครอบครวั ได้อย่างมีคณุ ธรรมและมน่ั คง กล่มุ เป้าหมาย กลมุ่ เป้าหมาย คอื ประชาชนท่วั ไป 1. ผู้ที่ไม่มีอาชพี 2. ผู้ทมี่ ีอาชพี และต้องการพฒั นาอาชพี ระยะเวลา 4 ช่วั โมง จานวน 1 ชัว่ โมง ภาคทฤษฎี 3 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ โครงสรา้ งหลักสูตร จานวน 1 ชัว่ โมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาครองแครง จานวน 3 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชพี 1.2 แหลง่ เรยี นรแู้ ละภูมิปัญญาท้องถิน่ 1.3 แหลง่ จัดจาหนา่ ย 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การทาครองแครง 2.1 การเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทาครองแครง 2.2 การทาครองแครง วธิ ีการจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการทาครองแครง 1.1 วิทยากรบรรยายความสาคัญในการประกอบอาชีพการทาครองแครง 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถ่ิน สถานประกอบการ สถานท่ีจัด จาหน่าย 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการทาครองแครง 2.1 วทิ ยากรบรรยายข้ันตอนการทาครองแครง 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วธิ ีการทาครองแครง 2.3 ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ัติการทาครองแครง

111 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหล่งเรียนรู้ในชุมชน / วทิ ยากร / ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ การวดั และประเมินผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎรี ะหว่างเรียน 2. การประเมนิ ผลงานการปฏิบตั ริ ะหว่างเรียนความสาเรจ็ ของการปฏิบัติ การจบหลกั สตู ร 1. มีเวลาเรยี น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 3. มีผลงานทม่ี ีคณุ ภาพ ตรงตามหลกั การของหลักสตู ร เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบยี นคมุ วฒุ บิ ัตร 3. วุฒิบัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศึกษา การเทยี บโอน ผู้เรียนทจี่ บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นร้กู ับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทา

112 หลกั สูตรการทาเผอื กกวน จานวน 4 ชั่วโมง กลุม่ อาชีพดา้ นพาณชิ ยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา จากน โยบ ายแ ละจุด เน้ น ใน การด าเนิ น งาน ป ระจาปี งบ ป ระม าณ 2555 ขอ ง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และสานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มงุ่ เน้น การจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอานวยการและอาชีพเฉพาะ ทาง ซ่ึงเป็นการศึกษาต่อเน่ืองเพื่อการพัฒนายั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และให้มี ความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคลและกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหา การว่างงานและส่งเสรมิ ความเข้มแขง็ ให้แก่เศรษฐกจิ ชุมชน การเลือกประกอบอาชีพในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน จาเปน็ ต้องมีข้อมูลพื้นฐานในหลักสูตร ในหลาย ๆ ด้าน ท้ังดา้ นการผลิต และความต้องการของตลาดแรงงานในสาขาอาชีพตา่ งๆ กลุ่มอาชีพ สาขาพาณิชยกรรมก็เป็นทางเลือกหน่ึงในการเลือกประกอบอาชีพ สานักงาน กศน. ไดจ้ ัดทาหลกั สูตร การประกอบอาชีพการทาเผือกกวน ซ่ึงมีความละเอียดอ่อนประณีตในการทาที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อย หอมหวาน และเป็นขนมท่ีมีความเก่ียวข้องกับคนไทยมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติ จริง เพ่ือพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่จะนาไปสู่การสร้างรายได้ การสร้างงานให้กับประชาชน เพ่ิม รายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการ พัฒนาอาชพี ของตนใหม้ ีความมน่ั คง ในพื้นทต่ี าบลบางช้าง หลกั การของหลักสตู ร 1. เป็นหลักสูตรท่ีเนน้ การจัดการศกึ ษาอาชีพเพื่อการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรแู้ ละ ทกั ษะไปประกอบอาชพี ได้จรงิ อย่างมีคณุ ภาพและมีคุณธรรมจริยธรรม 2. เป็นหลักสูตรที่เน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพ่ือประโยชน์ใน การประกอบอาชีพ 3. เป็นหลักสูตรท่ีผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในรายวชิ าเลอื กของสาระการประกอบอาชพี 4. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติในเขตพื้นที่ให้บริการ ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิ ประเทศ และทาเลท่ีตงั้ ศักยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ศักยภาพของทรัพยากร มนษุ ย์ในเขตพื้นที่

113 จุดมุง่ หมาย 1. เพื่อให้ผูเ้ รียนมีความรู้ความเข้าใจ และทกั ษะเก่ยี วกับการทาเผือกกวนได้ 2. เพื่อให้ผู้เรียนนาความรู้เกี่ยวกับการทาเผือกกวนไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ ตนเองและครอบครัวไดอ้ ยา่ งมีคณุ ธรรมและมัน่ คง กลุ่มเปา้ หมาย กลุ่มเปา้ หมาย คือ ประชาชนท่วั ไป 1. ผทู้ ี่ไม่มีอาชีพ 2. ผู้ทม่ี ีอาชีพและต้องการพฒั นาอาชีพ ระยะเวลา 4 ชว่ั โมง จานวน 1 ช่วั โมง ภาคทฤษฎี 3 ชว่ั โมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสรา้ งหลกั สูตร จานวน 1 ชวั่ โมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทาเผือกกวน จานวน 3 ชั่วโมง 1.1 ความสาคญั ในการประกอบอาชพี 1.2 แหลง่ เรยี นรู้และภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น 1.3 แหล่งจดั จาหนา่ ย 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การทาเผือกกวน 2.1 การเตรียมวสั ดุอุปกรณท์ ่ีใช้ในการทาเผือกกวน 2.2 การทาเผือกกวน วิธกี ารจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาเผอื กกวน 1.1 วิทยากรบรรยายความสาคัญในการประกอบอาชีพการทาเผือกกวน 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถ่ิน สถานประกอบการ สถานที่จัด จาหนา่ ย 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการทาเผือกกวน 2.1 วิทยากรบรรยายขัน้ ตอนการทาเผอื กกวน 2.2 วทิ ยากรทาการสาธติ วธิ ีการทาเผือกกวน 2.3 ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการทาเผอื กกวน

114 สื่อการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหล่งเรยี นร้ใู นชุมชน / วทิ ยากร / ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ การวดั และประเมินผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี น 2. การประเมินผลงานการปฏิบตั ิระหวา่ งเรยี นความสาเร็จของการปฏบิ ตั ิ การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี น ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลักสูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 3. มผี ลงานทม่ี ีคุณภาพ ตรงตามหลกั การของหลักสูตร เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบียนคมุ วุฒบิ ตั ร 3. วฒุ ิบตั รการศึกษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน ผู้เรียนทจ่ี บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรูก้ ับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จัดทาข้ึน

115 หลักสูตรการทาวุน้ หน้า จานวน 4 ชวั่ โมง กลุ่มอาชีพด้านพาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเปน็ มา จากน โยบ ายแ ละจุด เน้ น ใน การด าเนิ น งาน ป ระจาปี งบ ป ระม าณ 2555 ขอ ง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และสานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีมงุ่ เน้น การจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอานวยการและอาชีพเฉพาะ ทาง ซ่ึงเป็นการศึกษาต่อเนื่องเพ่ือการพัฒนายั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และให้มี ความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคลและกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหา การวา่ งงานและส่งเสริมความเขม้ แข็งใหแ้ ก่เศรษฐกิจชุมชน วนุ้ เป็นขนมหวานของไทยที่หากินได้ท่วั ไป เนอ้ื ว้นุ จะคลา้ ยกับเยลล่ขี องฝรง่ั แตกต่างกันท่ีเนื้อ สัมผัสของวุ้นจะแข็งและกรอบกว่า คนไทยนากะทิมาผสมกับผงวุ้นเติมเกลือเล็กน้อยเพ่ือให้มีรสเค็ม มัน ทาเป็นหน้าของวุ้นตัดกับรสหวานของเน้ือวุ้นท่ีใส่เฉพาะน้าตาล ทาให้กินได้อร่อยไม่เลี่ยน และใส่ สลบั ช้นั ใหด้ สู วยงาม กศน. อาเภอสามพรานได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการทาวุ้นหน้า โดยมุ่งเน้น การปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่จะนาไปสู่การสร้างรายได้ การสร้างงานให้กับ ประชาชน เพ่ิมรายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และตอ้ งการพัฒนาอาชพี ของตนให้มีความมั่นคง ในพน้ื ท่ตี าบลบางชา้ ง หลักการของหลกั สตู ร 1. เป็นหลักสูตรท่เี นน้ การจัดการศกึ ษาอาชีพเพื่อการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความร้แู ละ ทักษะไปประกอบอาชพี ได้จรงิ อย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 2. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ใน การประกอบอาชีพ 3. เป็นหลักสูตรท่ีผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในรายวชิ าเลอื กของสาระการประกอบอาชพี จุดมงุ่ หมาย 1. เพื่อให้ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะเก่ยี วกับการทาวุน้ หน้าได้ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนนาความรู้เก่ียวกับการทาวุ้นหน้าไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเอง และครอบครวั ไดอ้ ย่างมีคุณธรรมและม่ันคง

116 กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเปา้ หมาย คอื ประชาชนท่ัวไป 1. ผู้ทีไ่ มม่ ีอาชีพ 2. ผู้ทม่ี อี าชีพและต้องการพฒั นาอาชีพ ระยะเวลา 4 ชั่วโมง จานวน 1 ชัว่ โมง ภาคทฤษฎี 3 ชั่วโมง ภาคปฏบิ ัติ โครงสรา้ งหลักสูตร จานวน 1 ช่ัวโมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาว้นุ หนา้ จานวน 3 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคญั ในการประกอบอาชีพ 1.2 แหลง่ เรยี นรแู้ ละภมู ิปัญญาท้องถิ่น 1.3 แหล่งจดั จาหน่าย 2. ทักษะการประกอบอาชพี การทาว้นุ หนา้ 2.1 การเตรียมวสั ดอุ ปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการทาวุ้นหนา้ 2.2 การทาวนุ้ หน้า วธิ ีการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการทาว้นุ หน้า 1.1 วทิ ยากรบรรยายความสาคญั ในการประกอบอาชีพการทาวนุ้ หน้า 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น สถานประกอบการ สถานที่จัด จาหนา่ ย 2. ทักษะการประกอบอาชีพการทาวุ้นหนา้ 2.1 วิทยากรบรรยายขน้ั ตอนการทาวนุ้ หน้า 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วิธกี ารทาว้นุ หนา้ 2.3 ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการทาว้นุ หน้า ส่ือการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหล่งเรียนรใู้ นชุมชน / วิทยากร / ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ การวัดและประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหวา่ งเรยี น 2. การประเมินผลงานการปฏิบตั ิระหว่างเรียนความสาเร็จของการปฏบิ ัติ

117 การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี น ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. มีผลงานท่มี ีคุณภาพ ตรงตามหลักการของหลกั สูตร เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ัตร 3. วฒุ ิบัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน ผูเ้ รียนทีจ่ บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรูก้ ับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จัดทาขน้ึ

118 หลกั สูตรการทาสาคูไส้หมู จานวน 4 ช่วั โมง กลมุ่ อาชพี ด้านพาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา จากน โยบ ายแ ละจุด เน้ น ใน การด าเนิ น งาน ป ระจาปี งบ ป ระม าณ 2555 ขอ ง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และสานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีมุง่ เน้น การจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอานวยการและอาชีพเฉพาะ ทาง ซึ่งเป็นการศึกษาต่อเน่ืองเพื่อการพัฒนายั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และให้มี ความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคลและกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหา การวา่ งงานและส่งเสริมความเข้มแขง็ ให้แก่เศรษฐกิจชุมชน สภาพสังคมปัจจุบันมนุษย์เราได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ เช่น ด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคมและส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างมาก ประชากรมนุษย์เพิ่มข้ึนเรื่อย ๆ แต่ ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอกับจานวนประชากรที่เพิ่มข้ึนทุกมุมโลก มนุษย์จึงประสบปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะด้านการดารงชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชน นอกจากจะมีการประกอบอาชพี เพือ่ เปน็ การเลยี้ งตวั เองและครอบครัวแล้ว ยังมสี ่ิงทถี่ ือว่า เป็นภาระหนกั คืออาหารเพอื่ บรโิ ภคประจาวัน จึงจาเป็นอย่างยง่ิ ท่มี นุษย์เราจะต้องสรา้ งข้ึนหรือหามา ทดแทนโดยวธิ กี ารต่าง ๆ เพ่ือการอยรู่ อด การเลือกประกอบอาชีพในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน จาเป็นต้องมีข้อมูลพ้ืนฐานในหลักสูตร ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านการผลิต และความต้องการของตลาดแรงงานในสาขาอาชีพตา่ งๆ กลุ่มอาชีพ สาขาพาณิชยกรรมก็เป็นทางเลือกหน่ึงในการเลือกประกอบอาชีพ กศน. อาเภอสามพรานได้จัดทา หลักสูตรการประกอบอาชีพการทาสาคูไส้หมู โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติจริง เพ่ือพัฒนากระบวนการ เรียนรู้ที่จะนาไปสู่การสร้างรายได้ การสร้างงานให้กับประชาชน เพ่ิมรายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือน โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความ มัน่ คง ในพื้นท่ีตาบลบางชา้ ง หลกั การของหลกั สูตร 1. เป็นหลักสูตรท่เี นน้ การจัดการศกึ ษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรู้และ ทักษะไปประกอบอาชีพไดจ้ ริงอย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรมจริยธรรม 2. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพ่ือประโยชน์ใน การประกอบอาชีพ 3. เป็นหลักสูตรท่ีผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในรายวิชาเลือกของสาระการประกอบอาชีพ

119 จดุ ม่งุ หมาย 1. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ และทักษะเกีย่ วกบั การทาสาคูไส้หมูได้ 2. เพื่อให้ผู้เรียนนาความรู้เก่ียวกับการทาสาคูไส้หมูไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ ตนเองและครอบครัวได้อยา่ งมคี ุณธรรมและม่นั คง กลมุ่ เป้าหมาย กล่มุ เป้าหมาย คือ ประชาชนท่ัวไป 1. ผ้ทู ่ไี ม่มอี าชีพ 2. ผทู้ ม่ี ีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา 4 ช่ัวโมง จานวน 1 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 3 ชว่ั โมง ภาคปฏบิ ัติ โครงสรา้ งหลกั สูตร จานวน 1 ชวั่ โมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทาสาคูไสห้ มู จานวน 3 ช่วั โมง 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชีพ 1.2 แหลง่ เรียนรแู้ ละภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่น 1.3 แหล่งจดั จาหนา่ ย 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการทาสาคูไสห้ มู 2.1 การเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการทาสาคูไสห้ มู 2.2 การทาสาคูไสห้ มู วิธีการจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการทาสาคูไสห้ มู 1.1 วิทยากรบรรยายความสาคัญในการประกอบอาชีพการทาสาคูไส้หมู 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น สถานประกอบการ สถานท่ีจัด จาหน่าย 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การทาสาคไู ส้หมู 2.1 วิทยากรบรรยายขั้นตอนการทาสาคูไสห้ มู 2.2 วิทยากรทาการสาธิตวธิ กี ารทาสาคูไสห้ มู 2.3 ผูเ้ รยี นฝกึ ปฏิบตั ิการทาสาคไู สห้ มู

120 สื่อการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหลง่ เรียนรใู้ นชมุ ชน / วทิ ยากร / ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎีระหว่างเรยี น 2. การประเมินผลงานการปฏบิ ัติระหว่างเรยี นความสาเร็จของการปฏบิ ตั ิ การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี น ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 3. มีผลงานทม่ี ีคณุ ภาพ ตรงตามหลักการของหลกั สูตร เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบียนคุมวุฒบิ ตั ร 3. วฒุ บิ ัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศึกษา การเทยี บโอน ผู้เรียนทจ่ี บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จัดทาข้ึน

121 หลกั สตู รการทาแซนวิช จานวน 5 ชวั่ โมง กลมุ่ อาชีพดา้ นพาณิชยกรรมและการบรกิ าร ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทโี ลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดับการจัดการศึกษา เพ่ือเพ่ิมศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ท่ีม่ันคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนา อาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้ม่ันคง ม่ังค่ัง และมี งานทาอย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะ เปน็ การจดั การศกึ ษาตลอดชวี ติ ในรปู แบบใหมท่ ่ีสร้างความมัน่ คงให้แกป่ ระชาชนและประเทศชาติ ดังนั้นสถานศึกษาจึงได้เห็นความสาคัญในเร่ืองการนาวัตถุดิบในชุมชนมาแปรรูปอาหาร ประเภทต่างๆเพื่อบริโภคในครัวเรือน และจาหน่ายในชุมชนและเพมิ่ มูลค่าของผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ ตอ่ ไป จึงสนับสนนุ และสง่ เสริมให้กลมุ่ เปา้ หมายใหม้ คี วามรเู้ รอ่ื งการแปรรูปอาหารประเภทต่าง ๆ จาก วัตถุดิบท่ีมีในชุมชน โดยการพัฒนาหลักสูตรให้ผู้เรียนได้มีความรู้เรื่องการทาอาหารว่าง (การทาแซนวิช) เพอ่ื เพ่ิมมลู คา่ ใหก้ บั สนิ คา้ และเพ่ิมความสามารถในการแข่งขันทางธุรกจิ การผลติ สินคา้ หลกั การของหลักสตู ร หลกั สูตรการประกอบอาชีพ การทาแซนวิช มีหลกั การ ดงั นี้ 1. เป็นหลักสตู รอาชพี ท่ีส่งเสริม และอนรุ ักษ์ความรขู้ องภมู ิปัญญาท้องถิ่น 2. เปน็ หลักสตู รอาชีพท่เี น้นการนาวัสดธุ รรมชาตทิ ี่มีมากและเหลือใช้ในท้องถ่ินมาสร้าง มูลค่าเพิ่มเพื่อให้ประชาชนเกิดรายได้ 3. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาอาชีพเพื่อการมีงานทาของประชาชน 4. เป็นหลกั สตู รการศึกษาอาชีพทีส่ ามารถเทยี บโอนผลการเรยี นเขา้ สู่หลกั สตู รการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวชิ าเลือกได้ จดุ มงุ่ หมาย หลักสูตรการประกอบอาชพี การทาแซนวิช มจี ดุ หมาย ดงั น้ี 1. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นมีความรู้และทกั ษะในการทาแซนวิช 2. เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสามารถนาความรูท้ ไ่ี ด้ไปสรา้ งรายได้

122 กลุ่มเปา้ หมาย เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเรื่องการนาพืชสมุนไพรและวัตถุดิบใน ท้องถิ่นมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้และ วิธีการไปปฏบิ ัติใช้ในครอบครัวตนเอง สามารถเผยแพร่ให้แกผ่ ู้อ่ืน และนาไปประกอบอาชีพเพื่อการมี งานทาได้ ระยะเวลา 5 ชวั่ โมง จานวน 1 ช่วั โมง ภาคทฤษฎี 4 ชัว่ โมง ภาคปฏบิ ตั ิ โครงสร้างหลกั สตู ร จานวน 30 นาที 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ จานวน 4 ชวั่ โมง 1.1 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ จานวน 30 นาที 1.2 ความสาคญั ในการทาแซนวิช 1.3 แหล่งเรียนรู้เก่ยี วกับการทาแซนวิช 1.4 แหล่งจาหน่ายผลิตภัณฑจ์ ากการทาแซนวชิ 2. ทักษะอาชพี 2.1 ข้ันตอนในการทาแซนวชิ 2.1.1 วสั ดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคัดเลอื กส่วนตา่ ง ๆ ของวัตถุดบิ 2.1.3 การหาวัตถุดบิ 2.1.4 การทาแซนวชิ 2.1.5 การฝึกปฏบิ ตั กิ ารทาแซนวชิ 3. การบรหิ ารจัดการอาชีพ 3.1 การผลิต 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.3 การตลาด

123 วธิ กี ารจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ 1.1 วทิ ยากรใหค้ วามรถู้ ึงความสาคญั และความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชพี ทาแซนวิช แหล่งเรียนรเู้ ก่ียวกับการทาแซนวิช 1.2 ศกึ ษาขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปัญญา ส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานท่จี ดั จาหน่าย 1.3 สรปุ ความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษาดูงานจากแหล่งเรยี นรู้ ภมู ปิ ัญญา 2. ทกั ษะอาชพี 2.1 วิทยากรบรรยายข้ันตอนการทาแซนวิช 2.2 วิทยากรทาการสาธิตวธิ กี ารทาแซนวิชพร้อมผเู้ รยี นปฏิบตั จิ รงิ 2.3 วิทยากรร่วมกบั ผู้เรยี นในการการออกแบบการการทาแซนวิช 2.4 การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ระหว่างผเู้ รยี นดว้ ยกนั 2.6 ศึกษาดงู านจากแหล่งเรียนร้ใู นชุมชนและช่องทางออนไลน์ เวบ็ ไซดต์ ่างๆ 3. การบรหิ ารจดั การอาชพี 3.1 การผลติ 3.1.1 สารวจแหล่งทุน 3.1.2 สารวจแหล่งวสั ดุ วัตถุดบิ ในท้องถ่ิน 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของชน้ิ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แข็งแรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศึกษาข้อมูลการตลาด วิเคราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศนู ย์ OTOP - ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน - แหล่งท่องเที่ยว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เช่น - เว็บไซด์อาเภอ จังหวดั - แผ่นพับโฆษณา 3.3.3 การทาบัญชี - การคดิ ราคาต้นทุนกาไร - บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย

124 สือ่ การเรยี นรู้ 1. ใบความรู้/ใบงาน 2. ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ /วิทยากร 3. ตวั อยา่ งชิ้นงาน 4. วสั ดุ อุปกรณ์ ท่ีใช้ในการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. แหลง่ เรียนรู้ ทีศ่ ึกษาดูงาน การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมินผลระหวา่ งเรียนจากการปฏิบตั ิงานทม่ี ีคณุ ภาพเพียงพอ สามารถสร้างรายได้ ใหก้ บั ตนเองความสาเร็จของการปฏบิ ัติและจบหลกั สูตร การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี นไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลทัง้ ภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ตั ไิ มน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. ผู้เรยี นสามารถเขยี นโครงการอาชีพของตนเองได้ อยา่ งน้อย 1 โครงการ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรยี น 2. วฒุ ิบัตร ออกโดยสถานศึกษาในสงั กัดสานักงาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวุฒบิ ตั รทส่ี ถานศกึ ษาออกให้กบั ผู้เรียนที่จบหลักสตู ร การเทยี บโอน ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกท่ีสถานศึกษาได้จดั ทา ขน้ึ ได้

125 หลักสตู รแซนวิช จานวน 3 ชวั่ โมง ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มีความรู้ความสามารถและมีทักษะในการประกอบอาชีพอิสระ เป็นการแก้ปัญหา การว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกจิ ชุมชน สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการใน การจัดแผนพัฒนาการศึกษาอาชีพ ไว้ว่า หลักสูตรต้องมีความยืดหยุ่น การจัดกระบวนการเรียนรู้เน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ การวัดและการประเมินผลต้องเป็นไปตาม หลกั สตู รกาหนดไว้ กศน.อาเภอสามพรานได้ตระหนักถึงความสาคัญของการประกอบอาชีพ การพึ่งพาตนเอง อันเป็นการลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ของประชาชน และในฐานะที่เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนด้าน การจัดการศึกษาให้กับประชาชน จึงได้ร่วมกับ ครู กศน.ตาบล ดาเนินการจัดทาและพัฒนาหลักสูตร ต่าง ๆ ขึ้นเพื่อใช้ในการจัดการศึกษาอาชีพได้อย่างหลากหลายและตรงกับความต้องการของ ประชาชน กศน.อาเภอสามพรานร่วมกับภูมิปัญญา ครู กศน.ตาบล จัดทาหลักสูตร แซนวิช จานวน 3 ชั่วโมงขึ้น เพ่ือให้ผู้เรียนนาไปทารับประทานเอง อันเป็นการลดรายจ่าย หรือทาขาย เพ่ือเพ่ิมรายได้ ของตนเอง หลักการของหลกั สตู ร 1. เป็นหลักสตู รอาชีพทส่ี ง่ เสริมและอนุรกั ษ์ความรู้ของภูมิปญั ญาท้องถิ่น 2. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาเพอ่ื การมีงานทาของประชาชน จุดมงุ่ หมายของหลกั สตู ร 1. เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ความสามารถและทกั ษะในการทาแซนวิช 2. เพ่ือให้ผู้เรียนตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และสิ่งแวดลอ้ ม อยา่ งมคี ุณธรรม จริยธรรม 3. เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมเี จตคติทด่ี ีในการประกอบอาชีพ กลมุ่ เป้าหมาย ประชาชนผู้สนใจทว่ั ไป ระยะเวลา 3 ชัว่ โมง จานวน 1 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 2 ชว่ั โมง ภาคปฏบิ ตั ิ

126 โครงสร้างของหลกั สตู ร 1. ทักษะในการประกอบอาชีพ - วตั ถดุ ิบ อปุ กรณ์ ทใี่ ชใ้ นการทาแซนวชิ - ข้ันตอนการทาแซนวชิ - บรรจภุ ัณฑแ์ ซนวิช 2. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพ - การบริหารจดั การดา้ นการผลติ - การบริหารจดั การดา้ นการตลาด วธิ กี ารจดั กระบวนการเรยี นรู้ ทกั ษะในการประกอบอาชีพ 1. วทิ ยากรบรรยายเกยี่ วกบั วตั ถุดิบ อปุ กรณ์ ขัน้ ตอนการทาแซนวิช 2. วิทยากรสาธติ การทาแซนวิช 3. ผเู้ รียนฝึกปฏบิ ตั กิ ารทาแซนวิช การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพ 1. วิทยากรและผู้เรยี นรว่ มกันวางแผนการผลิต 2. วิทยากรใหค้ วามรดู้ ้านการหาลูกคา้ และตน้ ทนุ การผลติ สอ่ื การเรียนรู้ 1. ใบความร/ู้ วีดีทัศน์/ You-tube 2. วทิ ยากร/ภูมิปัญญาท้องถนิ่ 3. ตวั อย่างผลงาน 4. แหล่งเรยี นรู้/หอ้ งสมดุ /เอกสารทางวชิ าการ การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎีและปฏบิ ัติระหวา่ งการเรียน 2. การประเมนิ ผลหลังเรียน เพ่อื จบหลกั สูตร การจบหลกั สตู ร 1. มเี วลาเรยี นไมน่ ้อยกว่า ร้อยละ 80 2. มผี ลงานที่มีคณุ ภาพ เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรยี น 2. วุฒบิ ตั ร ออกโดยสถานศึกษาในสงั กัดสานักงาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวุฒบิ ตั รทสี่ ถานศึกษาออกให้กับผู้เรียนทจ่ี บหลกั สูตร

127 การเทยี บโอน ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกที่สถานศึกษาได้จดั ทา ข้ึนได้

128 หลักสูตรขนมหวาน จานวน 9 ชว่ั โมง กลมุ่ อาชีพด้านพาณชิ ยกรรมและบริการ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ที่จะพัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันไดใ้ น 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจที่จะ ยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อเพ่ิมศักยภาพและขีดความ สามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถ สร้างรายได้ ท่ีมั่นคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ ไดร้ บั การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมงี านทาอย่างมี คณุ ภาพ ทว่ั ถึงและเทา่ เทียมกัน ประชาชนมี รายได้มนั่ คง ม่ังค่งั และมงี านทาอยา่ งยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแขง่ ขันทัง้ ในระดับภมู ิภาคอาเซียน และระดับสากล ซึ่งจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความม่ันคงให้แก่ ประชาชนและประเทศชาต.ิ สภาพสังคมปัจจุบันมนุษย์เราได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ เช่นด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ประชากรมนุษย์เพ่ิมขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอกับจานวนประชากรที่เพิ่มข้ึนทุกมุมโลก มนุษย์จึงประสบปัญหาต่างๆตามมามากมาย โดยเฉพาะด้านการดารงชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชน นอกจากจะมีการประกอบอาชีพเพื่อเป็นการเลี้ยงตัวเองและครอบครัวแลว้ ยังมีส่ิงท่ีถือวา่ เป็นภาระหนักคอื อาหารเพ่ือบริโภคประจาวนั จึงจาเปน็ อย่างยิง่ ที่มนษุ ยเ์ ราจะต้องสร้างขึ้นหรือหามา ทดแทนโดยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เพื่อการอย่รู อด ขนมหวาน มีความละเอียดอ่อนประณตี ในการเลอื กสรรวัตถุดบิ วิธีการทาทพ่ี ถิ พี ิถัน รสชาติ อร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน และเป็นขนมท่ีมีความเก่ียวข้องกับคนไทย มาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การประกอบอาชีพขนมหวาน เป็นอาชีพอิสระในการทามาหากิน และสร้าง รายได้ให้กบั ตนเอง หลกั การของหลักสตู ร 1. เปน็ หลักสตู รทเี่ นน้ การบรู ณาการใหส้ อดคล้องกับศักยภาพดา้ นตา่ ง ๆ 5 ด้าน ไดแ้ ก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นตาละพนื้ ท่ี ศักยภาพของพืน้ ทต่ี ามลักษณะภมู ิอากาศ ศกั ยภาพ ภูมปิ ระเทศและทาเลที่ตั้งของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ชี วี ิต ของแต่ละพื้นท่ีและศักยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแตล่ ะพ้นื ที่ 2. มุง่ พฒั นาคนไทยให้ได้รับการศกึ ษาเพื่อพฒั นาอาชีพและการมงี านทาอย่างมคี ุณภาพ ทั่วถงึ และเทา่ เทียมกัน สามารถสรา้ งรายได้ทม่ี ัน่ คงและเป็นบคุ คลท่ีมีวินบั เป่ยี มไปด้วยคุณธรรม จรยิ ธรรม มจี ิตสานกึ ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ผู้อน่ื และสังคม

129 3. ส่งเสรมิ ให้มคี วามรว่ มมือในการดาเนนิ งานการจดั การศึกษาอาชพี เพ่อื การมงี านทา ร่วมกบั ภาคเี ครือขา่ ย 4. เน้นการฝกึ ปฏบิ ัติจริงเพ่ือให้ผเู้ รยี นเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาไปประกอบ อาชีพได้ให้เกิดรายได้ท่มี ่ันคง ม่ังคงั่ และย่ังยนื ในอาชพี จุดมุ่งหมาย เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมคี ณุ ลักษณะดงั นี้ 1. มคี วามรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายไดท้ ม่ี ัน่ คง ม่ังค่ัง 2. ตดั สนิ ใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกบั ศักยภาพของตนเอง ชุมชน สงั คม และ สิ่งแวดลอ้ มอย่างมีคณุ ธรรมจริยธรรม 3. มีเจตคติทด่ี ีในการประกอบอาชีพ 4. มีความรคู้ วามเข้าใจและฝกึ ทักษะการบรหิ ารจดั การในอาชพี ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 5. มโี ครงการประกอบอาชพี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพฒั นาอาชีพของตนเอง กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเปา้ หมายคอื ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายนอกระบบโรงเรยี น 1. ผู้ทีไ่ ม่มอี าชพี 2. ผมู้ อี าชพี และต้องการพัฒนาอาชีพ ระยะเวลา 9 ชวั่ โมง จานวน 1 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 8 ชวั่ โมง ภาคปฏบิ ตั ิ โครงสร้างหลกั สตู ร จานวน 30 นาที 1. ช่องทางการประกอบอาชพี ขนมหวาน จานวน 8 ชั่วโมง 1.1 ความสาคญั ในการประกอบอาชีพ 1.2 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพขนมหวาน 1.3 แหล่งเรียนรูก้ ารประกอบอาชพี ขนมหวาน 1.4 การตัดสนิ ใจเลือกประกอบอาชีพขนมหวาน 2. ทกั ษะในการประกอบอาชีพขนมหวาน 2.1 การเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการทาขนมหวาน 2.2 การทาขนมหวาน จานวน 4 ชนดิ 2.3 บรรจภุ ัณฑข์ นมหวาน

130 3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพขนมหวาน จานวน 30 นาที 3.1 การเลอื กทาเลทตี่ ้งั ร้าน 3.2 การจดั และตกแตง่ หน้าร้าน 3.3 การคิดราคาต้นทุนและการวิเคราะหจ์ ดุ คุ้มทุน 3.4 การขาย 3.5 การส่งเสรมิ การขาย 3.6 การทาบัญชีรา้ นค้าอย่างงา่ ย การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต ทดลอง 3. การศกึ ษาดงู าน 4. การวิเคราะห์และสงั เคราะหบ์ ทเรียน 5. การฝกึ ปฏิบัติ สือ่ การเรยี นรู้ 1. สอ่ื เอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธิตอาชพี การฝกึ ปฏิบัติจรงิ 2. ผู้รู้/ภูมิปญั ญา ท่ชี านาญการ 3. ภาพขนมหวาน 4. วตั ถุดบิ อุปกรณ์ในอาชพี ท่ีมกี ารใช้จรงิ การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลกั สตู ร 2. การประเมินผลงานระหวา่ งเรียนจากการปฏบิ ตั ิ ได้ผลงานที่มคี ุณภาพสามารถสร้าง รายได้และจบหลักสตู ร การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรียน ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลักสูตร ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. มีผลงานท่ีมีคุณภาพ ตรงตามหลักการของหลักสตู ร เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมิน 2. ทะเบยี นวุฒบิ ัตร 3. วุฒิบตั รการศกึ ษา ออกโดยสถานศึกษา

131 การเทียบโอน ผู้เรียนท่ีจบหลกั สูตรนสี้ ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรกู้ ับหลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน

132 หลักสตู รขนมหวาน จานวน 12 ช่ัวโมง กลมุ่ อาชพี ดา้ นพาณิชยกรรมและบริการ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เปน็ การแกป้ ัญหาการว่างงาน และ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทาแผนพัฒนา การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัด กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมทั้งเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ กศน.อาเภอสามพราน ในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความม่ันคง จึงได้จัดทาหลักสูตรการ ประกอบอาชีพขนมหวานข้ึน เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการลดรายจ่ายในครอบครัว และสามารถนา ความรูไ้ ปประกอบอาชพี เสริมสร้างรายไดใ้ ห้กบั ครอบครวั โดยเน้นใหก้ ลุ่มเปา้ หมายประชาชนในพน้ื ท่ี หลักการของหลักสูตร 1. เปน็ หลักสูตรทเ่ี น้นการบรู ณาการเน้ือหาสาระภาคทฤษฎคี วบคไู่ ปกับการฝึกปฏิบัติจริง ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณ์ที่ไดร้ บั ไปประยุกต์ใชใ้ นการประกอบอาชพี ได้อย่างมี คุณภาพและมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 2. เปน็ หลกั สูตรทยี่ ดื หยนุ่ ทั้งเนือ้ หา ระยะเวลาเรยี น และการจัดกระบวนการเรียนรู้ 3. เปน็ การสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ มีการนาเอาวัสดุทมี่ ีในทอ้ งถ่นิ มาใชใ้ หเ้ กิด ประโยชนม์ ากทส่ี ุดและสามารถนาไปประกอบอาชพี ได้ จดุ ม่งุ หมาย เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนมีคณุ ลักษณะดังน้ี 1. มีความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว 2. ตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคลอ้ งกับศักยภาพของตนเอง ชมุ ชน สังคม และ สง่ิ แวดล้อมอย่างมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 3. มีเจตคติทดี่ ีในการประกอบอาชีพ กลมุ่ เป้าหมาย กลมุ่ เป้าหมายคอื ประชาชนทั่วไป 1. ผู้ทีไ่ ม่มอี าชพี 2. ผู้มีอาชพี และต้องการทาอาชีพเสริม

133 ระยะเวลา 12 ชวั่ โมง จานวน 2 ชัว่ โมง ภาคทฤษฎี 10 ชว่ั โมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสร้างหลกั สตู ร จานวน 1 ช่ัวโมง 1. ช่องทางการประกอบอาชพี ขนมหวาน จานวน 10 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคญั ในการประกอบอาชีพ จานวน 1 ชว่ั โมง 1.2 ความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพขนมหวาน 1.3 แหล่งเรยี นรู้การประกอบอาชีพขนมหวาน 2. ทักษะในการประกอบอาชพี ขนมหวาน 2.1 การเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทาขนมหวาน 2.2 การทาขนมหวาน (ถว้ ยฟ,ู เปยี กปูน, เปยี กปนู กะทิสด, วุ้น) 2.3 บรรจภุ ัณฑ์ขนมหวาน 3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพขนมหวาน 3.1 วเิ คราะห์ความต้องการของตลาด 3.2 การคิดราคาต้นทุนและการวิเคราะหจ์ ดุ คุ้มทุน 3.3 การขาย 3.4 การทาบญั ชี รายรบั – รายจา่ ย การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี 1.1 วทิ ยากรใหค้ วามรถู้ ึงความสาคัญและความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพ 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ ภมู ปิ ญั ญา สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ เอกสาร 1.3 สรุปความร้ทู ่ีได้จากการศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ภูมปิ ัญญา 2. ทกั ษะในการประกอบอาชีพขนมหวาน 2.1 การบรรยาย 2.2 การสาธิต 2.3 การฝึกปฏบิ ัตจิ ริง 2.4 การแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ะหว่างผเู้ รยี นด้วยกนั 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ 3.1 การคิดราคาตน้ ทุนกาไร 3.2 ศึกษาข้อมูลการตลาด วเิ คราะห์ความตอ้ งการของตลาด 3.3 การทาบัญชี รายรับ – รายจ่าย

134 สื่อการเรียนรู้ 1. สอ่ื เอกสารใบความรูใ้ นการบรรยายและสาธติ อาชีพ การฝกึ ปฏิบัติจรงิ 2. ผู้รู/้ ภูมิปญั ญา ท่ชี านาญการ 3. ภาพขนมหวาน 4. วตั ถุดบิ อุปกรณใ์ นอาชพี ทีม่ กี ารใช้จรงิ การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินความรภู้ าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี น 2. การประเมนิ ผลงานการปฏิบตั ิระหว่างเรียนความสาเร็จของการปฏบิ ัติ การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรียน ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เอกสารหลักฐานการศกึ ษา หลกั ฐานการประเมินผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร การเทยี บโอน ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน

135 หลักสตู รการทาขนมหวาน จานวน 10 ชั่วโมง กลุ่มวิชาพาณิชยกรรมและบริการ ความเปน็ มา ในยุคของการแข่งขัน ท่ีเรากาลังประสบอยใู่ นปัจจุบนั ชีวิตมีความรีบเร่งมากข้ึน จนไม่ค่อยมี เวลาที่จะให้ความสาคัญกับเรื่องความสมดุลของอาหารท่ีรับประทานรวมท้ังค่านิยมการรับประทาน อาหารแบบตะวันตก ซึ่งประกอบด้วย เน้ือสัตว์ ไขมัน นม เนย เป็นส่วนใหญ่ ทาให้คนไทยมีโรค ซ่ึง เกิดจากการกินดีเกินไป เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัมพาต ซึ่งโรคเหล่าน้ีล้วน เก่ยี วกบั ความเสือ่ มของหลอดเลือด ในปัจจุบันชาวตะวันตกเริ่มตระหนักถึงพิษภัยของการกินอาหาร ซึ่งไม่สมดุลได้มีการชักชวน ใหล้ ดการรบั ประทาน เนื้อสตั ว์ นม เนย ให้เพม่ิ การรับประทาน พชื ผัก และธญั พชื ซึ่งอดุ มดว้ ยเสน้ ใย จากธรรมชาติ และวิตามนิ ในวัยเด็ก เนื้อสัตว์และนม ยังเป็นสิ่งจาเป็น เน่ืองจากร่างกายมีการเจริญเติบโตในวัยผู้ใหญ่ ร่างกายต้องการโปรตีนลดลง การรับประทานเน้ือสัตว์ และนมมากเกินไปยังทาให้ร่างกายได้รับไขมัน เพ่ิม เนื่องจากในเน้ือสัตว์และนม จะมีปริมาณไขมันค่อนข้างสูง นอกจากน้ันยังพบว่า ผู้ที่รับประทาน เน้ือสัตว์มาก ๆ มีโอกาสเกิดมะเร็งลาไส้ใหญ่ได้สูงควรเปลี่ยนแปลงมารับประทานโปรตีนจากพืชพวก ถ่ัวแทน อาหารอีกกลุม่ ซง่ึ ไมค่ วรรับประทานมากเกินไป คอื น้าตาล พบว่าน้าตาลทาให้หลอดเลือดมี ความเส่ือมเร็วขึ้น ในผู้ป่วยเบาหวานท่ีมีน้าตาลสงู จะพบว่าหลอดเลือดแก่ก่อนวัย ไขมันก็เป็นอีกกลุ่ม หน่ึงทคี่ วรจากัด และใชน้ ้ามนั จากพืชแทน นา้ มันจากสัตว์ ยกเวน้ น้ามนั มะพร้าวและน้ามันปาล์ม ควร หลีกเลี่ยง เนื่องจากมีโครเรสเตอรอลสูง อาหารท่ีควรรับประทานคือ ผัก ผลไม้ ธัญพืช เช่น ข้าวซ้อม มือ ถ่ัว เพราะอุดมไปด้วย กากใยธรรมชาติ วิตามิน และเกลอื แร่ การพัฒนาหลักสูตรต้องสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพใหม่ คือ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริหาร ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง โดยการพัฒนา เน้ือหาสาระท่ีมีองค์ความรู้ครบวงจร ประกอบด้วย โครงสร้างของหลักสูตร 4 ตอน คือ ช่องทาง การประกอบอาชีพ ทักษะการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการ และการจัดทาโครงการประกอบ อาชพี เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ทักษะและมคี วามมน่ั ใจในการประกอบอาชพี หลักการของหลักสูตร 1. เปน็ หลกั สูตรท่ีมคี วามยืดหยุ่นในการจัดกระบวนการเรียนรู้ และการวดั ผลและ ประเมินผล 2. สง่ เสรมิ ด้านการศกึ ษาอาชีพเพื่อการมีงานทา 3. สง่ เสริมการพฒั นาด้าน หลักสูตรคหกรรม วิชาการทาขนมหวาน

136 จุดหมาย 1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมีทักษะอาชพี ทส่ี ามารถสรา้ งรายไดท้ ม่ี ่ันคง 2. ผู้เรยี นไดน้ าความร้มู าพัฒนาและช่วยเสรมิ อาชพี เดิมให้มคี วามกา้ วหนา้ ม่ันคงย่ิงขึ้น 3. เพื่อให้ผู้เรยี นมีความรู้ ทักษะและประสบการณ์เกีย่ วกบั การทาขนมหวานสู่อาชีพได้ 4. เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมีความรแู้ ละทักษะในการประกอบอาชีพ 5. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจในการวางแผนการดาเนินงาน และบริการจดั การ อาชีพไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ 6. เพ่ือให้ผู้เรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม มีความรบั ผิดชอบต่อตนเองและสังคมส่วนรวม กลุ่มเป้าหมาย 1. กลุ่มเป้าหมายคือประชาชนกลุม่ เปา้ หมายนอกระบบโรงเรียน 2. ผทู้ ่ีไมม่ อี าชพี 3. ผทู้ ี่มอี าชีพและตอ้ งการพัฒนาอาชีพ ระยะเวลา 10 ช่วั โมง จานวน 2 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 8 ชว่ั โมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสร้างหลกั สตู ร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี ขนมหวาน จานวน 1 ชัว่ โมง 1.1 ความสาคญั ในการประกอบอาชีพ 1.2 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพขนมหวาน 1.3 แหลง่ เรยี นร้กู ารประกอบอาชีพขนมหวาน 2. ทักษะในการประกอบอาชีพขนมหวาน จานวน 8 ชว่ั โมง 2.1 การเตรียมวสั ดอุ ุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการทาขนมหวาน 2.2 การทาขนมหวาน (ลูกชุบ, ทบั ทมิ กรอบ, บวั ลอยเบญจรงค์, ขา้ วเกรยี มปากหม้อ) 2.3 บรรจภุ ณั ฑข์ นมหวาน 3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพขนมหวาน จานวน 1 ช่วั โมง 3.1 วิเคราะห์ความต้องการของตลาด 3.2 การคิดราคาตน้ ทนุ และการวเิ คราะห์จุดคุ้มทุน 3.3 การขาย 3.4 การทาบญั ชี รายรบั – รายจ่าย

137 วธิ ีการจัดกระบวนการเรียนรู้ หลักสูตรการทาขนมหวานเป็นหลักสูตรที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงด้วย การปฏิบัตจิ ริง โดยมวี ิทยากรอาชีพเปน็ ผู้ชี้แนะและจัดกระบวนการเรียนรู้พร้อมกนั กบั ครผู สู้ อน โดยมี การจดั กระบวนการเรยี นรู้ดงั นี้ 1. การศกึ ษาดูงานจากสถานท่ีจรงิ บรรยาย และสาธิตอาชีพ 2. การฝึกปฏิบตั ริ ่วมกับวทิ ยากร และใหผ้ ู้เรียนฝกึ ฝนด้วยตนเองจนเกิดทกั ษะ 3. ทดสอบทกั ษะท่ไี ด้รบั การฝกึ ฝน ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ การขยายพันธพ์ุ ชื 1. อธิบายความสาคญั ของการประกอบอาชีพการทาขนมหวาน 2. อธบิ ายความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพกาการทาขนมหวาน 3. บอกความสาคัญและประโยชนข์ องแหล่งเรยี นรแู้ ละภมู ิปัญญาในท้องถิ่น 4. สามารถบอกทศิ ทางการประกอบอาชีพได้ ขอ้ มลู ท่ีเกี่ยวข้องกับอาชพี จากผู้รู้ ผปู้ ระกอบการในชุมชน 1. ความสาคัญของการประกอบอาชีพการทาขนมหวาน 2. ความรเู้ บือ้ งต้นในการประกอบอาชพี การทาขนมหวาน ความต้องการตลาด 1. การลงทนุ 2. กระบวนการผลติ การจัดหาวัสดุ อปุ กรณแ์ ละวัตถดุ ิบ 3. บอกความสาคญั และประโยชน์ของแหลง่ เรยี นร้แู ละภมู ิปัญญาในท้องถนิ่ ทิศทางการเรยี นรู้ 1. วทิ ยากรบรรยายให้ความรู้ รู้เรือ่ งความสาคัญของอาชีพการทาขนมหวาน 2. ศกึ ษาความรเู้ บ้ืองตน้ ในการประกอบอาชพี การทาขนมหวานขอ้ มูลทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับ อาชพี จากผู้รู้ ผูป้ ระกอบการในชมุ ชน ความตอ้ งการของตลาด การลงทนุ และกระบวนการผลิต การ จัดหาวสั ดุ อปุ กรณ์ และวัตถุดบิ 3. ศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรยี นรู้/ภมู ิปัญญาในท้องถิน่ ขัน้ ตอนการทา 1. เพือ่ ใหร้ ู้ขนั้ ตอนและวิธกี ารทา 2. เพอื่ ใหร้ หู้ ลกั การฝึกปฏบิ ตั ิท่ีถูกวธิ ี 3. เพื่อใหร้ ู้จกั การให้อปุ กรณ์ที่ถกู ต้อง เน้ือหา การเรียนรู้ขนมไทย ประเทศไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มา ดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคนิสัย แบบไทยๆ จนทาให้คนรุ่นหลัง ๆ แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ ๆ และอะไรดัดแปลงมา จากวัฒนธรรมของชาตอิ ื่น

138 วธิ ีการปฏบิ ตั ิ 1. ลูกชุบ 2. ทับทิมกรอบ 3. บวั ลอยเบญจรงค์ 4. ข้าวเกรียมปากหม้อ แนวทางประกอบอาชีพ 1. บอกวิธหี าลกู ค้าแบบต่าง ๆ ได้ 2. สามารถกาหนดราคาและเทคนิคการขายได้ 3. สามารถทาบัญชีอยา่ งงา่ ยๆได้ 4. บอกคณุ ลักษณะของผู้ประกอบอาชีพได้ การจดั การบวนการเรียนรู้ 1. การหาลูกคา้ และการบริการ 2. การกาหนดราคาขาย 3. การทาบญั ชรี บั – จา่ ยอย่างง่ายๆ 4. คุณธรรมจริยธรรมของผูป้ ระกอบอาชีพ - ความชอ่ื สัตย์ - การตรงต่อเวลา - การให้ความสาคญั ต่อลกู ค้าฯ 5. แบ่งกล่มุ อภปิ รายด้านการจดั การและคุณธรรมของผู้ประกอบการอาชพี - กล่มุ ผ้บู รหิ าร - กล่มุ ผู้ขาย - กลุ่มผผู้ ลติ - กลุม่ ลกู คา้ ส่อื การเรียนรู้ 1. สือ่ เอกสารใบความรู้ในการบรรยายและสาธิตอาชพี และการฝกึ ปฏิบัตจิ รงิ 2. ผรู้ /ู้ ภูมิปัญญา ท่ชี านาญการ 3. วตั ถุดิบอปุ กรณ์ในอาชีพท่ีมีการใชจ้ รงิ การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรูภ้ าคทฤษฏรี ะหว่างเรียนและจบหลักสูตร 2. การประเมนิ ผลงานระหวา่ งเรยี นจากการปฏิบัติ ไดผ้ ลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และจบหลกั สตู ร

139 การจบหลกั สตู ร 1. มเี วลาเรียน ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 3. มผี ลงานทม่ี คี ุณภาพ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลกั ฐานการประเมินผล การเทยี บโอน ผู้เรียนที่จบหลกั สูตรนส้ี ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดับ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน

140 หลกั สูตรการทานาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ จานวน 5 ชั่วโมง กล่มุ อาชีพดา้ นพาณิชยกรรมและบริการ ความเปน็ มา แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550 – พ.ศ. 2554) กาหนดกรอบ การพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นให้เกิด “การพัฒนาท่ีย่ังยืนและการอยู่ดีมีสุขของคนไทย” และสร้าง ค่านิยมร่วมกันให้คนไทยตระหนักถึงความจาเป็นและการปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เจตคติ กระบวนการทางานโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยหู่ ัว นาทางในการบรหิ ารประเทศ กระทรวงศึกษาธิการเห็นความสาคัญของแนวคดิ ดังกลา่ วจึงมี นโยบายเพม่ิ ศกั ยภาพและขดี ความสามารถในการแข่งขนั ใหป้ ระชาชนไดม้ ีอาชีพที่สามารถสรา้ งรายได้ ที่ม่ันคั่งและม่ันคงโดย ได้กาหนดยุทธศาสตร์ “2555” เพื่อพัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นที่ใน 5 กลุ่ม อาชีพใหม่ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก เพื่อเป็นการสนองนโยบายและขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน.ได้นานโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวง ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการการศึกษาอาชีพมาสู่การปฏิบัติ เพ่ือจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพให้กับ กลุ่มเป้าหมายและประชากรให้มีรายได้และมีงานทาอย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งใน ระดับภูมิภาคเอเชียและระดับสากล และเพ่ือให้กลุ่มเป้าหมาย ประชากรมีรายได้และมีงานทาอย่าง ยั่งยืน โดยยึดศักยภาพ 5 ศักยภาพ มาใช้ในการดาเนินการดังกล่าวกอปรกับปัจจุบันเกษตรกรนิยม ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทาให้มีผลผลิตจานวนมากออกสู่ตลาดส่งผลให้ราคาผลผลผลิตตกต่าหรือบางส่วน ไม่ได้ขนาดตามความต้องการของตลาด มีปริมาณมากจนล้นตลาดทาให้เกษตรกรมีรายได้ไม่เพียงพอ กับค่าใช้จ่าย เพ่ือเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวสานักงาน กศน. จึงจัดทาหลักสูตร “การทาน้าสมุนไพร เพอ่ื สุขภาพ” เพ่ือเป็นการให้ความรู้ให้กบั กลุ่มผู้ไม่มีอาชีพและผู้ตอ้ งการพัฒนาอาชีพในการเพิม่ มูลค่า ของผลผลิตจนสามารถนาไปประกอบเป็นอาชีพ เพ่ือก่อให้เกิดรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวเป็น การสรา้ งอาชพี ใหเ้ กดิ ความมง่ั คัง่ และมั่นคงตอ่ ไป หลักการของหลักสตู ร หลักสตู รการศึกษาอาชีพการทานา้ สมนุ ไพรเพอื่ สขุ ภาพมหี ลักการจดั การเรียนรู้ดงั น้ี 1. เปน็ การจัดทาหลกั สูตรอุตสาหกรรมที่มีความยืดหยนุ่ ดา้ นหลักสูตร การจัดกระบวนการ เรียนรกู้ ารวดั และการประเมินผล 2. เพือ่ พฒั นาอาชพี และการมงี านทาอยา่ งมีคุณภาพ สามารถสรา้ งรายได้ท่มี ่นั คง 3. สง่ เสรมิ ใหม้ ีการเทียบโอนความรู้เข้าส่หู ลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษา ขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 4. ส่งเสริมใหก้ ลุ่มเป้าหมายนาศักยภาพ 5 ด้านของพน้ื ทป่ี ระกอบดว้ ย ทรพั ยากรธรรมชาติ สภาพภมู ิประเทศ สภาพภมู อิ ากาศ ศลิ ปวัฒนธรรมประเพณี และทรัพยากรมนุษย์ มาใช้ประกอบ การตัดสินใจประกอบอาชีพ 5. มุง่ เนน้ การฝกึ ปฏบิ ตั เิ พ่ือให้เกิดทักษะ สามารถนาไปประกอบอาชีพได้