237 การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรยี น ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 เอกสารหลักฐานการศึกษา หลกั ฐานการประเมนิ ผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร การเทียบโอน ผ้เู รยี นที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
238 หลักสูตรการแกะสลัก จานวน 5 ช่วั โมง กลุม่ อาชีพความคิดสร้างสรรค์ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “ร้เู ขา รู้เรา เท่าทนั เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดับการจัดการศึกษา เพ่ือเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ท่ีม่ันคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ มงุ่ พฒั นาคนไทยให้ไดร้ ับการศึกษาเพอ่ื พัฒนาอาชีพ และการมีงานทาอย่างมีคุณภาพท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้ม่ันคง ม่ังค่ัง และมีงานทา อย่างย่ังยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะเป็น การจัดการศึกษาตลอดชีวติ ในรูปแบบใหมท่ ส่ี รา้ งความมั่นคงให้แกป่ ระชาชนและประเทศชาติ นอกจากนก้ี ารแกะสลักเปน็ ชน้ิ งานท่สี ร้างใหม่ขึ้นมา ซึ่งมีลักษณะที่สวยงาม สามารถรับทาใน โอกาสต่างๆ งานพิธี ซ่ึงเป็นอาชีพท่ีไม่ค่อยมีคนรับทาเพราะจะเป็นงานที่ละเอียดอ่อนจึงหาวิทยากร ยาก นับเปน็ ช่องทางหนงึ่ ในการประกอบอาชีพ หลักการของหลักสูตร หลักสูตรการประกอบอาชีพ การแกะสลกั มีหลักการ ดงั น้ี 1. เป็นหลกั สตู รอาชีพทสี่ ง่ เสริม และอนรุ ักษ์ความร้ขู องภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ 2. เปน็ หลกั สูตรอาชพี ทีเ่ น้นการนาวัตถดุ บิ ธรรมชาตทิ ม่ี มี าก หาง่ายและราคาถูก มาสรา้ ง มลู ค่าเพ่ิมเพ่ือให้ประชาชนเกิดรายได้ 3. เปน็ หลักสตู รการศึกษาอาชพี เพ่อื การมงี านทาของประชาชน 4. เป็นหลกั สูตรการศึกษาอาชีพทส่ี ามารถเทียบโอนผลการเรียนเข้าสหู่ ลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวิชาเลือกได้ จดุ มุ่งหมาย หลักสตู รการประกอบอาชพี การแกะสลัก มจี ุดหมาย ดงั น้ี 1. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีความร้แู ละทักษะการใช้ศลิ ปะการแกะสลัก 2. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ที่ได้ไปสร้างรายได้
239 กลุม่ เปา้ หมาย เพื่อให้ประชาชนกลมุ่ ผู้สนใจมีความรู้และทักษะเรอื่ งการแกะสลักมาสร้างอาชีพที่สร้างสรรค์ และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้และวิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัวตนเอง สามารถเผยแพร่ให้แก่ผู้อ่นื และนาไปประกอบอาชพี เพอ่ื การมงี านทาได้ ระยะเวลา 5 ชว่ั โมง จานวน 1 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 4 ช่ัวโมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสรา้ งหลกั สตู ร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ จานวน 1 ช่ัวโมง 2.1 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชพี จานวน 10 นาที 2.2 ความสาคัญในการแกะสลัก จานวน 10 นาที 2.3 แหล่งเรียนรูเ้ กย่ี วกบั การแกะสลัก จานวน 10 นาที 2.4 แหลง่ จาหน่ายผลติ ภัณฑ์จากการแกะสลกั จานวน 10 นาที 3. ทักษะอาชีพ 3 ช่วั โมง 2.1 ข้นั ตอนในการแกะสลกั จานวน 4 ช่วั โมง 2.1.1 วสั ดุ อปุ กรณ์ 2.1.2 การคดั เลือกส่วนต่าง ๆ ของลกั ษณะสี ขนาด ลักษณะแตล่ ะแบบ 2.1.3 การหาวสั ดุ 2.1.4 ศลิ ปะการแกะสลกั 2.1.5 การฝกึ ปฏิบตั กิ ารออกแบบและสร้างสรรค์รปู แบบการแกะสลัก - การแกะสลกั รูปหงษ์ - การแกะสลักรปู ผเี สื้อ - ฯลฯ 3. การบริหารจัดการอาชีพ จา จานวน 10 นาที 3.1 การผลติ 3.2 การควบคุมคณุ ภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชีพ ศิลปะการตอ่ ผ้า จานวน 10 นาที 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชพี การแกะสลกั 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชพี การแกะสลัก 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ การแกะสลัก 4.4 การเขยี นโครงการอาชพี การแกะสลัก
240 4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชีพ การแกะสลัก วธิ กี ารจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี 1.1 วิทยากรให้ความรถู้ ึงความสาคญั และความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพ การ แกะสลัก 1.2 แหล่งเรยี นรู้เกี่ยวกบั การแกะสลัก 1.3 ศกึ ษาขอ้ มลู จากแหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปญั ญา สอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานทจี่ ัดจาหนา่ ย 1.4 สรุปความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศึกษาดูงานจากแหล่งเรยี นรู้ ภูมิปัญญา 2. ทักษะอาชพี 2.1 วทิ ยากรบรรยายขั้นตอนการแกะสลัก 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วธิ กี ารแกะสลกั 2.3 วิทยากรร่วมกบั ผู้เรียนในการการออกแบบการแกะสลัก 2.4 การฝึกปฏิบัติสร้างสรรค์ชนิ้ งานแบบต่าง ๆ 2.5 การแลกเปล่ยี นเรยี นรรู้ ะหว่างผู้เรียนด้วยกนั 2.6 ศึกษาดูงานจากแหลง่ เรียนรู้ในชุมชนและชอ่ งทางออนไลน์ เว็บไซดต์ า่ งๆ 3. การบรหิ ารจดั การอาชพี 3.1 การผลิต 3.1.1 สารวจแหลง่ ทุน 3.1.2 สารวจแหลง่ วสั ดุ วตั ถุดบิ ในทอ้ งถน่ิ 3.2 การควบคมุ คุณภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของชนิ้ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แข็งแรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศึกษาข้อมูลการตลาด วเิ คราะห์ความต้องการของตลาด - ศูนย์ OTOP - ศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน - แหล่งท่องเทยี่ ว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ เชน่ - เวบ็ ไซด์อาเภอ จังหวัด - แผน่ พับโฆษณา 3.3.3 การทาบัญชี - การคิดราคาตน้ ทุนกาไร - บัญชีรายรบั -รายจา่ ย
241 สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู/้ ใบงาน 2. ภูมิปญั ญาท้องถิน่ /วทิ ยากร 3. ตัวอยา่ งชนิ้ งาน 4. วสั ดุ อุปกรณ์ ท่ีใชใ้ นการฝึกปฏิบตั ิ 5. แหลง่ เรียนรู้ ที่ศึกษาดูงาน การวัดและประเมินผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎีระหวา่ งเรียนและจบหลักสูตร 2. การประเมินผลระหวา่ งเรียนจากการปฏบิ ัติงานทีม่ ีคณุ ภาพเพยี งพอ สามารถสร้างรายได้ ใหก้ ับตนเองความสาเรจ็ ของการปฏบิ ตั แิ ละจบหลกั สตู ร การจบหลกั สูตร 1. มเี วลาเรียนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลท้ังภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ัติไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. ผู้เรยี นสามารถเขยี นโครงการอาชีพของตนเองได้ อย่างนอ้ ย 1 โครงการ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรยี น 2. วฒุ ิบัตร ออกโดยสถานศกึ ษาในสังกัดสานักงาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวุฒบิ ัตรท่ีสถานศึกษาออกใหก้ ับผูเ้ รยี นท่ีจบหลกั สูตร การเทยี บโอน ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี เลือกที่สถานศึกษาได้จดั ทา ขน้ึ ได้
242 หลกั สตู รการแกะสลกั ผกั ผลไม้ จานวน 5 ชั่วโมง กลมุ่ อาชพี ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทา แผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทา ไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้าน หลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมท้ังเน้นการบูรณาการให้สอดคล้อง กับศักยภาพด้านต่าง ๆ กศน.อาเภอสามพราน ในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัด การศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มี ความมั่นคง จึงได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการแกะสลักผักผลไม้ขึ้น การแกะสลักผักผลไม้ เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งท่ีถือเป็นมรดกมีค่าที่สืบทอดกันมาช้านาน เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความถนัด สมาธิ รู้จักการตกแต่ง มีความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถเฉพาะตัว และความละเอียดอ่อนมาก การแกะสลกั ผกั และผลไม้ เป็นการแสดงออกทางวฒั นธรรมที่เปน็ เอกลักษณป์ ระจาของชาติ หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลกั สูตรทเ่ี น้นการบูรณาการเนื้อหาสาระภาคทฤษฎีควบคไู่ ปกบั การฝกึ ปฏบิ ัติจริง ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพได้จริงอย่างมีคณุ ภาพและมคี ุณธรรมจริยธรรม 2. เปน็ หลักสูตรทย่ี ดื หยุน่ ทงั้ เนื้อหา ระยะเวลาเรยี น และการจัดกระบวนการเรียนรู้ 3. เปน็ หลกั สตู รท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะรวมทง้ั ความคดิ สร้างสรรค์ ในการแกะสลักผักผลไม้ จุดมุ่งหมาย 1. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนในท้องถิ่นมีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสรา้ งรายได้ให้กบั ตนเองและครอบครัว 2. กลุ่มเป้าหมายสามารถตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 3. เปน็ หลักสตู รการประกอบอาชพี ที่ทาให้เกดิ ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ กลมุ่ เปา้ หมาย กลุม่ เป้าหมาย คอื ประชาชนท่ัวไป 1. ผทู้ ีไ่ ม่มอี าชพี 2. ผทู้ ี่มอี าชพี และต้องการทาอาชพี เสรมิ
243 ระยะเวลาเรยี น 5 ชวั่ โมง จานวน 1 ช่วั โมง ภาคทฤษฎี 4 ชวั่ โมง ภาคปฏบิ ตั ิ โครงสร้างหลักสูตร เร่อื งท่ี 1 ช่องทางการประกอบอาชีพการแกะสลกั ผักผลไม้ จานวน 1 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคญั ของการประกอบอาชีพ 1.2 หลักการแกะสลกั ผกั ผลไม้ เร่ืองที่ 2 ทกั ษะการประกอบอาชีพการแกะสลกั ผักผลไม้ จานวน 4 ชั่วโมง 2.1 การเลอื กและการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการแกะสลักผกั ผลไม้ 2.2 อธบิ ายข้ันตอน และวธิ ีการแกะสลกั ผักผลไม้ 2.3 ฝกึ ปฏิบัตกิ ารแกะสลกั ผักผลไม้ การจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. ทางการประกอบอาชีพ 1.1 วิทยากรใหค้ วามรู้ถึงความสาคญั และความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ 1.2 ศกึ ษาขอ้ มลู จากแหล่งเรียนรู้ ภมู ปิ ญั ญา สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร 1.3 รูปแบบ วิธีการประกอบอาชพี การแกะสลักผักผลไม้ 1.4 สรุปความรู้ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้ ภูมิปญั ญา 2. ทักษะการประกอบอาชีพ 2.1 การบรรยาย 2.2 การสาธิต 2.3 การฝกึ ปฏิบัติการแกะสลกั ผักผลไม้ 2.4 การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ระหวา่ งผูเ้ รยี นและวทิ ยากรประเมนิ ผลการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเอกสาร / ใบความรู้ 2. ศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชน /วิทยากร /ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ การวดั และประเมินผล 1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรียน 2. การประเมินผลงานการปฏิบตั ริ ะหว่างเรยี นความสาเรจ็ ของการปฏิบตั ิ
244 การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรยี น ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 เอกสารหลักฐานการศึกษา หลกั ฐานการประเมนิ ผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร การเทียบโอน ผ้เู รยี นที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
245 หลักสตู รการแกะสลกั ผักและผลไม้ จานวน 9 ช่ัวโมง กลมุ่ อาชพี ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ไขปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความ เข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทา แผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพ่ือการ มีงานทาไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้าน หลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัด ประเมินผล รวมทั้งเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับ ศักยภาพด้านต่างๆ กศน.อาเภอสามพรานในฐานะที่เป็น หน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษา ให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ ไม่มีอาชีพหรือผู้มีอาชีพและต้องการ พัฒนาตนเองให้มีความม่ันคง จึงได้ จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพศิลปะประดิษฐ์ข้ึน เป็นงานศิลปะต่างๆ เช่น การแกะสลัก ของ ชาร่วย ฯลฯ เป็นการฝึกสมาธิ การออกแบบ ความคิดสรา้ งสรรค์ เป็นการพัฒนาตนเอง และช่องทาง การเพมิ่ มลู คา่ และสรา้ งรายไดใ้ หต้ นเอง จุดมงุ่ หมาย 1. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจและมีทักษะในการแกะสลักผักและผลไม้ได้ 2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสามารถสร้างอาชพี และรายได้ให้กับตนเองและครอบครวั กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนท่ัวไป ระยะเวลา จานวน 9 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 3 ชว่ั โมง ภาคปฏิบตั ิ 6 ช่ัวโมง โครงสร้างหลักสูตร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการแกะสลักผักและผลไม้ 1.1 สารวจและวิเคราะห์ตนเองและชมุ ชน ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม อาชีพ และความ ตอ้ งการของตลาด (ผูบ้ ริโภค) 1.2 ความรู้เบื้องตน้ เกย่ี วกบั ชอ่ งทางประกอบอาชพี การแกะสลักผักและผลไม้ 1.3 ลกั ษณะทว่ั ไปของการประกอบอาชีพการแกะสลกั ผกั และผลไม้ 1.4 ประโยชน์ และความเปน็ ไปได้หรือโอกาสในการประกอบอาชีพการแกะสลกั ผกั และ ผลไม้
246 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการแกะสลกั ผักและผลไม้ 2.1 เครื่องมือเคร่ืองใชใ้ นการแกะสลกั ผักและผลไม้ 2.2 การเตรียมและหลักการเลอื กซ้ือวตั ถดุ บิ ตา่ ง ๆ ท่เี หมาะสมกับการแกะสลกั 2.3 การแกะสลกั ลวดลายต่าง ๆ 2.4 ตวั อยา่ งการแกะสลัก 4 รปู แบบ วธิ กี ารจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้การจัดกระบวนการเรียนการสอน หลักสูตรการแกะสลักผักและผลไม้ ประสบ ความสาเร็จตามจุดมุ่งหมายท่ีกาหนดไว้ข้างต้น จึงกาหนดแนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไว้ ดังน้ี 1. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ให้ยดื หย่นุ ตามสภาพและความเหมาะสมของทอ้ งถิ่น 2. การจดั กระบวนการเรียนรู้ ยึดผ้เู รียนเปน็ สาคญั ให้สอดคล้องกบั ความสนใจ ความถนดั และใหโ้ อกาสเท่าเทยี มกันในการพัฒนาตนเองตามความสามารถของผูเ้ รยี น และเนน้ ให้ผู้เรียนได้ แลกเปลย่ี นความคิดเห็นซ่ึงกันและกนั และนาหลกั ทฤษฎีไปใช้ในทางปฏิบัติจรงิ ให้มากที่สุด 3. กจิ กรรมสารวจและวิเคราะหต์ นเองและชุมชน ทรัพยากรสงิ่ แวดลอ้ ม อาชีพ และความ ตอ้ งการของตลาด(ผบู้ รโิ ภค) ด้วยกระบวนการคิดเป็นโดยใช้ขอ้ มูล 3 ด้านไดแ้ ก่ ขอ้ มูลดา้ นตนเอง ข้อมูลดา้ นวชิ าการ และข้อมลู ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม 4. ฝกึ ทกั ษะอาชีพการแกะสลกั 4.1 เรียนรู้ดว้ ยตนเอง จากส่ือตา่ ง ๆ แหล่งเรยี นรู้ ผู้รู้ ภมู ิปัญญาชาวบ้าน 4.2 เรยี นรูด้ ว้ ยการแลกเปล่ยี นเรียนรดู้ ้วยกระบวนการกลุ่ม 4.3 วิทยากร/ผสู้ อน เป็นผถู้ า่ ยทอดความรู้ 4.4 การลงมอื ฝกึ ปฏบิ ตั ิ 5. ฝึกปฏบิ ตั ิการแกะสลกั ในศูนยก์ ารเรียน สอื่ การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นวิชาอาชพี การแกะสลกั ประกอบด้วยเน้ือหา 2 เรือ่ ง 2. ใบความร้/ู ใบงาน/วารสารเก่ียวกับการแกะสลกั ต่างๆ 3. อปุ กรณ์ในการแกะสลกั 4. แหล่งเรียนรใู้ นชมุ ชน การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัดและประเมินผลการเรียน ประกอบด้วย 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ / การรบั รู้ /การฝกึ ปฏิบัต/ิ การมีส่วนรว่ ม 2. การทดสอบ 3. การสงั เกตการเรียนรู้จากการปฏบิ ตั ิ
247 การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรยี น ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 เอกสารหลักฐานการศึกษา หลกั ฐานการประเมนิ ผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร การเทียบโอน ผ้เู รยี นที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
รายละเอยี ดหลกั เรื่อง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ชอ่ งการประกอบ 1. อธิบายความสาคัญของการประกอบ 1. ความ อาชีพการแกะสลกั อาชพี การแกะสลกั การแกะ 1.2 อธิบาย ความเปน็ ไปได้ในการ 2. ความ ประกอบอาชีพการแกะสลกั ไดแ้ ก่ อาชีพก ความต้องการของตลาด การใช้แรงงาน การจัดหาวัสดุ อปุ กรณ์ การเลอื กทาเล -ค ทีต่ งั้ -ก 1.3 แหลง่ เรยี นร/ู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน -ก 1.4 ทิศทางการประกอบอาชีพ -ก 3. แหล 4. ทิศท
248 กสตู ร การแกะสลกั ผักและผลไม้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชั่วโมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ มสาคัญของการประกอบอาชีพ 1. ศึกษาเอกสาร ส่ือบุคคล ะสลัก เพื่อนาข้อมูลมาวิเคราะห์ใช้ 3- มเปน็ ไปได้ในการประกอบ ในการประกอบอาชีพ การแกะสลกั ความตอ้ งการของตลาด การใชแ้ รงงาน การจดั หาวัสดุ อปุ กรณ์ การเลอื กทาเลท่ตี งั้ ล่งเรียนรู้/ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ทางการประกอบอาชีพ
เรื่อง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2. ทกั ษะการประกอบ 2.1 เตรียมการประกอบอาชีพแกะสลัก 2.1 ข้ันเ อาชพี การแกะสลกั - สถานท/่ี พ้นื ท่ี 2.1.1 สถ -การคัดเลอื กวสั ดุ 2.1.2 กา -ความรูท้ ่ีเก่ียวกบั การประกอบ 2.1.3 คว แกะสลกั อาชพี 2.2 ข้นั ต 2.2 การแกะสลกั ผกั ,ผลไม้ ได้แก่ ฟัก ฟกั ฟักท ฟกั ทอง แครอท ขมิ้นขาว 2.3 ขนั้ ก 2.3 การดแู ลรกั ษาเพ่ือบริโภคหรือ จาหนา่ ย จาหนา่ ย
249 เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ เตรียมการประกอบอาชีพแกะสลกั 2.1 ให้ศกึ ษาเอกสารเกีย่ วกับ ถานท/ี่ พ้นื ท่ี การแกะสลกั -6 ารคดั เลอื กวัสดุการแกะสลกั 2.2 ใหล้ งมือปฏบิ ัติการแกะสลกั วามรูท้ ี่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพ โดยการปฏิบัตจิ ริง ก - การคัดสรรวตั ถุดบิ ตอนและวิธกี ารแกะสลัก - การทาความสะอาด ทอง แครอท ขมิน้ ขาว ส่วนผสม การดแู ลรักษาเพอื่ บริโภคหรือ - การบรรจหุ ีบหอ่ ย
250 หลักสตู รการประดิษฐ์พวงมาลยั จากธนบตั ร จานวน 6 ช่วั โมง กลมุ่ อาชีพความคิดสรา้ งสรรค์ หลักการ การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มคี วามรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแกป้ ัญหาการว่างงาน และ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทาแผนพัฒนา การศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานท่ีมีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัด กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมท้ังเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ กศน. อาเภอสามพราน ในฐานะที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความม่ันคง จึงได้จัดทาหลักสูตร การประกอบอาชีพการประดิษฐ์พวงมาลัยจากธนบัตรขึ้น เพื่อเป็นช่องทางหน่ึงในการลดรายจ่ายใน ครอบครัว และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเน้นให้ กล่มุ เป้าหมายประชาชนในพื้นท่ีตาบลทา่ ตลาด หลักการของหลักสตู ร 1. เปน็ หลักสูตรทเ่ี นน้ การบรู ณาการเน้ือหาสาระภาคทฤษฎคี วบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัตจิ ริง ผูเ้ รยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณ์ท่ีไดร้ บั ไปประยุกต์ใชใ้ นการประกอบอาชพี ได้อย่างมี คณุ ภาพและมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 2. เปน็ หลกั สตู รท่ียดื หยุ่น ทัง้ เนื้อหา ระยะเวลาเรียน และการจดั กระบวนการเรียนรู้ 3. เป็นการส่งเสริมให้เกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์มีการนาเอาวัสดุท่มี ใี นท้องถ่นิ มาใชใ้ ห้เกิด ประโยชนม์ ากท่ีสดุ จดุ มงุ่ หมาย 1. เป็นหลักสูตรการประกอบอาชีพทที่ าใหเ้ กิดความคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์ 2. เป็นหลกั สูตรท่ยี ดื หย่นุ ท้งั เนื้อหา ระยะเวลาเรียน และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้ผ้เู รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะการประดษิ ฐ์พวงมาลัยจากธนบตั รได้ ถูกต้อง 2. เพ่ือให้ผเู้ รยี นสามารถการประดษิ ฐพ์ วงมาลัยจากธนบตั รได้
251 กล่มุ เป้าหมาย กลมุ่ เปา้ หมาย คอื ประชาชนทว่ั ไป 1. ผู้ทีไ่ มม่ ีอาชีพ 2. ผู้ที่มีอาชีพและตอ้ งการทาอาชพี เสริม ระยะเวลาเรยี น จานวน 6 ช่ัวโมง 1. ภาคทฤษฎี 2 ชั่วโมง 2. ภาคปฏบิ ตั ิ 4 ชั่วโมง โครงสรา้ งหลักสูตร เรอื่ งที่ 1 ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการประดษิ ฐ์พวงมาลยั จากธนบตั ร จานวน 2 ชวั่ โมง 1. ความสาคัญในการการประดิษฐพ์ วงมาลัยจากธนบตั ร 2. แหล่งเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การประดิษฐพ์ วงมาลยั จากธนบัตร 3. รูปแบบ วธิ กี ารประกอบอาชพี การประดิษฐ์พวงมาลัยจากธนบัตร เรือ่ งท่ี 2 ทักษะการประกอบอาชีพการประดิษฐพ์ วงมาลัยจากธนบัตร 1. วัสดแุ ละอุปกรณ์ในการประดิษฐ์พวงมาลยั จากธนบตั ร 2. การเตรยี มวสั ดุ อปุ กรณป์ ระดษิ ฐ์พวงมาลัยจากธนบตั ร 3. การประดิษฐพ์ วงมาลัยจากธนบตั ร 4. ฝึกปฏบิ ัตกิ ารออกแบบและสรา้ งสรรคผ์ ลิตภัณฑ์การประดษิ ฐพ์ วงมาลยั จาก ธนบตั รเป็นรูปทรงและลวดลวยท่หี ลากหลายได้ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. การบรรยาย 2. การสาธติ 3. การฝกึ ปฏิบัติจรงิ สอื่ การเรยี นรู้ 1. ศึกษาเอกสาร / ใบความรู้ 2. ศึกษาจากแหล่งเรยี นรใู้ นชมุ ชน /วิทยากร /ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ การวัดและประเมินผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎีระหวา่ งเรยี น 2. การประเมนิ ผลงานการปฏิบัตริ ะหว่างเรียนความสาเร็จของการปฏบิ ัติ
252 การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรียน ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 เอกสารหลักฐานการศึกษา หลักฐานการประเมนิ ผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร การเทียบโอน ผ้เู รยี นทจี่ บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
253 หลกั สูตรการประดิษฐด์ อกไม้จากหลอดพลาสติก จานวน 6 ชวั่ โมง กลุม่ อาชพี ความคิดสร้างสรรค์ หลกั การ การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มคี วามรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแกป้ ัญหาการว่างงาน และ ส่งเสริม ความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทาแผนพัฒนา การศึกษาอาชีพ เพ่ือการมีงานทาไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัด กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมท้ังเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ กศน. อาเภอสามพราน ในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความมั่นคง จึงได้จัดทาหลั กสูตร การประกอบอาชพี การประดิษฐ์ดอกไมจ้ ากหลอดพลาสติกขึน้ เพื่อเปน็ ช่องทางหนึ่งในการลดรายจ่ายใน ครอบครัว และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเน้นให้ กลุม่ เป้าหมายประชาชนในพนื้ ท่ีตาบลท่าตลาด หลกั การของหลักสตู ร 1. เปน็ หลกั สูตรทเี่ นน้ การบรู ณาการเน้ือหาสาระภาคทฤษฎคี วบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัตจิ ริง ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณ์ทไี่ ด้รับไปประยุกต์ใชใ้ นการประกอบอาชีพได้อย่างมี คุณภาพและมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 2. เป็นหลกั สูตรที่ยืดหยุ่น ทงั้ เนอื้ หา ระยะเวลาเรยี น และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ การส่งเสริมใหเ้ กิดความคดิ สร้างสรรค์มกี ารนาเอาวัสดุทม่ี ีในท้องถ่ินมาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์มากทีส่ ุด จดุ มุ่งหมาย 1. เปน็ หลักสตู รการประกอบอาชพี ที่ทาให้เกิดความคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรค์ 2. เปน็ หลักสตู รท่ียืดหย่นุ ท้งั เนอ้ื หา ระยะเวลาเรยี น และการจดั กระบวนการเรยี นรู้ วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะการประดิษฐด์ อกไมจ้ ากหลอดพลาสติกได้ ถกู ต้อง 2. เพื่อให้ผเู้ รียนสามารถประดิษฐด์ อกไม้จากหลอดพลาสติกได้
254 กลุ่มเป้าหมาย กลุม่ เป้าหมาย คือประชาชนทั่วไป 1. ผทู้ ่ไี มม่ อี าชพี 2. ผทู้ ่ีมอี าชพี และต้องการทาอาชพี เสริม ระยะเวลาเรียน 6 ชัว่ โมง จานวน 2 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 4 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ โครงสร้างหลกั สตู ร เรอื่ งท่ี 1 ช่องทางการประกอบอาชพี การประดิษฐด์ อกไม้จากหลอดพลาสตกิ จานวน 2 ชว่ั โมง 1. ความสาคัญในการการประดิษฐ์ดอกไม้จากหลอดพลาสติก 2. แหล่งเรียนรเู้ กย่ี วกบั การประดษิ ฐด์ อกไมจ้ ากหลอดพลาสติก 3. รปู แบบ วิธกี ารประกอบอาชพี การประดิษฐด์ อกไมจ้ ากหลอดพลาสตกิ เรอ่ื งที่ 2 ทักษะการประกอบอาชีพการประดิษฐด์ อกไม้จากหลอดพลาสตกิ จานวน 4 ชวั่ โมง 1. วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ในการพับดอกบัวจากการประดิษฐ์ดอกไม้จากหลอดพลาสตกิ 2. การเตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์การประดษิ ฐด์ อกไม้จากหลอดพลาสติก 3. การประดษิ ฐด์ อกไมจ้ ากหลอดพลาสติก 4. ฝึกปฏบิ ตั ิการออกแบบและสร้างสรรคผ์ ลิตภัณฑ์การประดิษฐ์ดอกไมจ้ าก หลอดพลาสติกเป็นรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต 3. การฝึกปฏิบัติจรงิ สื่อการเรียนรู้ 1. ศึกษาเอกสาร / ใบความรู้ 2. ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน /วิทยากร /ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎีระหว่างเรียน 2. การประเมินผลงานการปฏบิ ตั ิระหว่างเรียนความสาเรจ็ ของการปฏิบัติ
255 การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรียน ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2. มี ผลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 เอกสารหลักฐานการศกึ ษา หลกั ฐานการประเมนิ ผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร การเทียบโอน ผเู้ รียนทจี่ บหลกั สูตรนส้ี ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนร้กู บั หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศกึ ษาได้ จดั ทาข้ึน
256 หลกั สตู รการทาจานรองแก้วจากเศษวัสดุ จานวน 6 ชวั่ โมง กลุ่มอาชพี ความคดิ สรา้ งสรรค์ หลกั การ การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มคี วามรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทาแผนพัฒนา การศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานท่ีมีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัด กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมทั้งเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ กศน. อาเภอสามพรานในฐานะ ท่ีเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กบั กลมุ่ เป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความมั่นคง จึงได้จัดทาหลักสูตร การประกอบอาชีพการทาจานรองแก้วจากเศษวัสดุข้ึน เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการลดรายจ่ายใน ครอบครัว และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเน้นให้ กลุ่มเปา้ หมายประชาชนในพ้นื ทต่ี าบลทา่ ตลาด หลักการของหลักสตู ร 1. เปน็ หลักสูตรทเ่ี นน้ การบูรณาการเนื้อหาสาระภาคทฤษฎีควบคูไ่ ปกบั การฝกึ ปฏิบัติจริง ผเู้ รียนสามารถนาความรู้ และประสบการณ์ท่ไี ด้รบั ไปประยุกต์ใชใ้ นการประกอบอาชพี ได้อยา่ งมี คณุ ภาพและมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 2. เป็นหลักสูตรท่ยี ดื หยุน่ ทง้ั เน้ือหา ระยะเวลาเรียน และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ การส่งเสรมิ ให้เกดิ ความคดิ สร้างสรรค์มีการนาเอาวัสดุที่มใี นท้องถนิ่ มาใช้ใหเ้ กิด ประโยชน์มากทีส่ ุด จดุ มุ่งหมาย 1. เปน็ หลกั สตู รการประกอบอาชีพท่ที าให้เกิดความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ 2. เป็นหลักสตู รทย่ี ืดหย่นุ ทงั้ เน้อื หา ระยะเวลาเรยี น และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะการทาจานรองแกว้ จากเศษวสั ดไุ ด้ถูกต้อง 2. เพื่อให้ผูเ้ รยี นสามารถทาจานรองแก้วจากเศษวสั ดไุ ด้ กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเปา้ หมาย คือประชาชนทั่วไป 1. ผู้ทไ่ี มม่ ีอาชีพ 2. ผู้ทม่ี อี าชีพและต้องการทาอาชีพเสรมิ
257 ระยะเวลาเรียน 6 ชัว่ โมง จานวน 2 ช่วั โมง ภาคทฤษฎี 4 ช่วั โมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสรา้ งหลกั สูตร เรอื่ งท่ี 1 ช่องทางการประกอบอาชพี การทาจานรองแกว้ จากเศษวสั ดุ 1. ความสาคัญในการทาจานรองแกว้ จากเศษวัสดุ 2. แหลง่ เรียนร้เู กี่ยวกบั การทาจานรองแกว้ จากเศษวัสดุ 3. รูปแบบ วิธีการประกอบอาชีพการทาจานรองแก้วจากเศษวสั ดุ เร่อื งที่ 2 ทักษะการประกอบอาชีพการทาจานรองแก้วจากเศษวัสดุ 1. วสั ดแุ ละอุปกรณ์ในการพับดอกบัวจากกการทาจานรองแกว้ จากเศษวัสดุ 2. การเตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์การทาจานรองแกว้ จากเศษวสั ดุ 3. การทาจานรองแก้วจากเศษวสั ดุ 4. ฝึกปฏบิ ัตกิ ารออกแบบและสร้างสรรคผ์ ลิตภัณฑ์การทาจานรองแกว้ จากเศษ วัสดเุ ป็นรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต 3. การฝกึ ปฏิบตั จิ ริง สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเอกสาร / ใบความรู้ 2. ศึกษาจากแหล่งเรียนรใู้ นชมุ ชน /วิทยากร /ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน การวดั และประเมินผล 1. การประเมินความรภู้ าคทฤษฎีระหว่างเรียน 2. การประเมนิ ผลงานการปฏิบตั ิระหว่างเรียนความสาเร็จของการปฏิบตั ิ การจบหลักสูตร 1. มีเวลาเรียน ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เอกสารหลักฐานการศกึ ษา หลกั ฐานการประเมินผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร
258 การเทยี บโอน ผูเ้ รียนท่จี บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรูก้ ับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน
259 หลกั สตู รการทาพวงกุญแจ จานวน 10 ชัว่ โมง กลมุ่ อาชพี ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความเปน็ มา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มี หน้าที่ที่จัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนท่ีพลาดโอกาสทาง การศึกษา ได้มองเห็นความสาคัญและช่องทางในการขยายอาชีพ ให้กับประชาชนท่ีต้องการไม่มี รายได้ ประกอบกับทางกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดนโยบายการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงาน ทาให้สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนให้กับประชาชน เพ่ือเป็นแนวทางเลือกอีกทางหนึ่งสาหรับ ประชาชนให้สามารถนาไปปฏิบัติได้จริง และนาไปเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และ ชุมชนได้ กศน. อาเภอสามพรานจึงมีแนวคิดพัฒนาหลักสูตรการทาพวงกุญแจ ให้เป็นองค์ความรู้ แนวทางที่เปน็ กลางในการจดั การศกึ ษาตามนโยบาย เพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน. ได้ปรับเปล่ียนการจัด การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ โดยจัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กศน. เป็นฐานการจัดกรรมให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพ้ืนที่บรกิ าร สานักงาน กศน. จังหวัด จัดทาเวทีประชาคมในระดับจังหวัด เพ่ือกาหนดกรอบอาชีพของจังหวัด จากนั้นสถานศึกษาจึงจัดทาเวทีประชาคมในระดับอาเภอ โดย การวิเคราะห์ศักยภาพของตนเองและพ้ืนที่นาข้อมูลความต้องการด้านอาชีพของทุกตาบล และ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ มาพจิ ารณารว่ มกับรอบอาชพี ของจงั หวดั เพ่อื กาหนดเป็นกรอบอาชพี ของอาเภอ การพัฒนาหลักสูตรต้องสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพใหม่ คือ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง โดยการพัฒนา เน้ือหาสาระที่มีองค์ความรู้ครบวงจร ประกอบด้วย โครงสร้างของหลักสูตร 4 ตอน คือ ช่องทาง การประกอบอาชีพ ทักษะการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการ และการจัดทาโครงการประกอบ อาชพี เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีความรทู้ กั ษะและมีความมั่นใจในการประกอบอาชีพ หลักการของหลักสตู ร 1. เป็นหลักสตู รท่ีมคี วามยดื หยนุ่ ในการจดั กระบวนการเรียนรู้ และการวดั ผลและ ประเมนิ ผล 2. ส่งเสริมด้านการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทา 3. สง่ เสรมิ การพัฒนาด้าน หลกั สูตรความคิดสร้างสรรค์ วิชาการทาพวงกุญแจ
260 จุดหมาย 1. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ และฝกึ ทักษะการทาพวงกญุ แจพร้อมท้ังวิธกี ารทาพวง กญุ แจหมกั สรา้ งมลู คา่ เพิ่ม 2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจัดทาโครงการประกอบอาชีพ ซ่ึงส่งผลให้มองเห็นช่องทางและ ตัดสินใจประกอบอาชีพ พัฒนาการทาพวงกุญแจท่ีสอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน และ สง่ิ แวดล้อม จนสามารถสร้างรายไดท้ ม่ี ่ันคงได้ 3. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียน มคี ุณธรรม จริยธรรม และจติ สานกึ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ชมุ ชนและ สังคม กลุม่ เป้าหมาย 1. กลุม่ เปา้ หมายคือประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายนอกระบบโรงเรยี น 2. ผูท้ ีไ่ มม่ อี าชีพ 3. ผู้ท่มี อี าชีพและต้องการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา จานวน 10 ชวั่ โมง 1. ภาคทฤษฎี 2 ช่ัวโมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 8 ชั่วโมง โครงสร้างหลักสตู ร จานวน 10 ชวั่ โมง 1. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพ 1.1 การจัดการดา้ นการตลาด 1.1.1 ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทาพวงกุญแจ 1.2.2 ทกั ษะการประกอบอาชีพ 1.2.3 ขนั้ ตอนการทาการทาพวงกุญแจ วิธกี ารจดั กระบวนการเรยี นรู้ หลักสูตรการทาพวงกุญแจเป็นหลักสูตรท่ีเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงด้วย การปฏิบัติจริง โดยมีวทิ ยากรอาชพี เป็นผู้ชีแ้ นะและจัดกระบวนการเรียนรพู้ ร้อมกันกับครูผู้สอน โดยมี การจดั กระบวนการเรยี นรูด้ ังนี้ 1. การศึกษาดูงานจากสถานที่จรงิ บรรยาย และสาธิตอาชีพ 2. การฝกึ ปฏิบตั ิรว่ มกบั วทิ ยากร และให้ผู้เรยี นฝึกฝนดว้ ยตนเองจนเกิดทักษะ 3. ทดสอบทักษะท่ไี ดร้ บั การฝกึ ฝน ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ การทาพวงกุญแจ 1. อธิบายความสาคัญของการประกอบอาชีพการทาพวงกญุ แจ 2. อธบิ ายความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพการทาพวงกญุ แจ
261 3. บอกความสาคัญและประโยชน์ของแหล่งเรียนรู้และภมู ปิ ัญญาในท้องถนิ่ 4. สามารถบอกทิศทางการประกอบอาชพี ได้ ข้อมูลท่ีเก่ยี วข้องกับอาชพี จากผรู้ ู้ ผู้ประกอบการในชุมชน 1. ความสาคัญของการประกอบอาชพี การทาพวงกุญแจ 2. ความรู้เบอ้ื งต้นในการประกอบอาชีพการทาพวงกุญแจ ความต้องการตลาด 1. การลงทุน 2. กระบวนการผลติ การจดั หาวัสดุ อปุ กรณแ์ ละวตั ถดุ บิ 3. บอกความสาคญั และประโยชน์ของแหล่งเรียนรู้และภมู ปิ ญั ญาในท้องถนิ่ ทิศทางการเรยี นรู้ 1. วทิ ยากรบรรยายใหค้ วามรู้ รูเ้ รอ่ื งความสาคญั ของอาชพี การทาพวงกุญแจ 2. ศกึ ษาความรเู้ บื้องต้นในการประกอบอาชีพการทาพวงกุญแจข้อมลู ที่เกย่ี วข้อง กบั อาชีพจากผรู้ ู้ ผปู้ ระกอบการในชุมชน ความต้องการของตลาด การลงทนุ และกระบวนการผลติ การจัดหาวสั ดุ อปุ กรณ์ และวัตถดุ บิ 3. ศกึ ษาดูงานจากแหล่งเรยี นรู้/ภูมปิ ญั ญาในท้องถิ่น ข้ันตอนการทา 1. เพอื่ ใหร้ ขู้ นั้ ตอนและวิธกี ารทา 2. เพ่ือใหร้ ้หู ลักการฝกึ ปฏิบตั ิทถี่ ูกวธิ ี 3. เพอ่ื ให้ร้จู ักการให้อุปกรณท์ ่ีถูกตอ้ ง เนอ้ื หา พวงกุญแจเป็นส่วนผสมของศิลปะและประโยชน์ในการใช้งานที่มาด้วยกัน ในอดีต มนั ถูกทาข้ึนในรปู แบบของสายโซ่เลก็ ๆ ด้วยวัสดอุ ยา่ งเช่น โลหะหรอื พลาสตกิ ที่เชื่อมต่อกนั และนามา ใส่ไว้กับลูกกุญแจ ด้วยความยาวของพวงกุญแจท่ีประดิษฐ์ ขึ้นทาให้มันสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่หล่น หรือสูญหายเหมือนกับท่ีเคยเป็นมาเมื่อก่อน บางคนจะร้อยกุญแจเอาไว้ด้วยพวงโซ่ท่ีมีความยาวและ ล็อกอีกด้านหน่ึงไว้กับเข็มขัด ซ่ึงเป็นวิธีท่ีชาญฉลาดที่ทาให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่ากุญแจไม่หายไปไหน ไม่มี ใครสามารถขโมยได้ง่าย ๆ และเม่ือจะใช้งานก็หยิบข้ึนมาใช้ได้เลยโดยไม่เสียเวลาหา เพียงเท่านี้ก็ เท่ากับว่าพวงกุญแจไดท้ าหน้าทข่ี องมนั อยา่ งสมบรู ณแ์ บบแล้ว วธิ ีการปฏิบัติ 1. ตีเสน้ ตามขนาดที่ต้องการแล้วใช้เล่ือยฉลุเล่อื ยตามทเี่ ราวัดไว้ 2. เม่อื ได้ไม้ตามขนาดทีต่ ้องการแลว้ ใช้สว่านขนาดเลก็ เจาะใหเ้ ปน็ รูเพ่อื เอาไว้ใส่ พวงกุญแจ 3. นาไม้ไปขัดกับกระดาษทรายเพอื่ ลบขยุ ของไม้และทาให้ไมม้ ีความสวยงามมากข้ึน 4. รา่ งลวดลายตามต้องการด้วยดนิ สอ 5. ลงสีโปสเตอรต์ ามต้องการ (การลงสีควรลงพ้นื ที่ใหญ่ ๆ ก่อน เชน่ หน้า ผม หัวใจ) 6. รอสแี หง้
262 7. เมอ่ื สีแห้งดีแลว้ ใชพ้ ู่กันเบอรเ์ ล็ก ๆ เพอื่ เขยี นรายละเอียด เช่น ตา แก้ม และ ส่วนประกอบอน่ื ๆ 8. รอให้สีแห้งสนิทแล้วจึงพ่นแล็กเกอร์เป็นลาดับสุดท้าย (การพ่นแล็กเกอร์ควรทา ในที่โล่งมีผ้าปิดจมูก และเมื่อพน่ แล้วควรนาออกตากแดด เพื่อให้แล็กเกอร์ข้ึนเงาสวยงาม หากไมต่ าก แดดจะทาให้แล็กเกอร์ขุ่น หรือเกิดรอยด่างไม่ขึ้นเงา ถ้าเป็นวันท่ีไม่มีแดดจะนาไปอบด้วยหลอดไฟท่ี ให้ความร้อนสงู กไ็ ด้) 9. เม่ือแล็กเกอร์แห้งสนิทก็นาพวงกญุ แจมาใสเ่ ป็นอนั เสรจ็ เรยี บร้อย แนวทางประกอบอาชีพ 1. บอกวธิ หี าลูกค้าแบบตา่ งๆได้ 2. สามารถกาหนดราคาและเทคนิคการขายได้ 3. สามารถทาบญั ชีอยา่ งงา่ ยๆได้ 4. บอกคณุ ลักษณะของผปู้ ระกอบอาชพี ได้ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. การหาลกู คา้ และการบริการ 2. การกาหนดราคาขาย 3. การทาบญั ชรี บั – จา่ ยอย่างง่ายๆ 4. คุณธรรมจริยธรรมของผปู้ ระกอบอาชีพ - ความชื่อสตั ย์ - การตรงตอ่ เวลา - การใหค้ วามสาคัญต่อลูกค้าฯ 5. แบง่ กลมุ่ อภิปรายด้านการจัดการและคุณธรรมของผู้ประกอบการอาชีพ - กลุ่มผบู้ ริหาร - กลุม่ ผขู้ าย - กลมุ่ ผู้ผลติ - กลุ่มลูกค้า ส่อื การเรียนรู้ 1. สอื่ เอกสารใบความรใู้ นการบรรยายและสาธิตอาชพี และการฝึกปฏิบัตจิ รงิ 2. ผรู้ /ู้ ภมู ิปญั ญา ท่ีชานาญการ 3. วัตถุดิบอปุ กรณ์ในอาชีพที่มกี ารใช้จริง การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฏรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลักสตู ร 2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้าง รายได้และจบหลักสตู ร
263 การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มผี ลงานท่มี ีคุณภาพ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลักฐานการประเมินผลงานตามหลกั การของหลักสูตร การเทยี บโอน ผเู้ รียนท่จี บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
264 หลักสูตรการทาของชาร่วย จานวน 10 ชั่วโมง กลมุ่ อาชีพความคิดสร้างสรรค์ ความเปน็ มา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มี หน้าท่ีท่ีจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนท่ีพลาดโอกาสทาง การศึกษา ได้มองเหน็ ความสาคัญและช่องทางในการขยายอาชพี ใหก้ ับประชาชนท่ีต้องการไม่มีรายได้ ประกอบกับทางกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดนโยบายการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือก ารมีงานทาให้ สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนให้กับประชาชนเพื่อเป็นแนวทางเลือกอีกทางหน่ึงสาหรับ ประชาชนใหส้ ามารถนาไปปฏิบัติได้จริงและนาไปเป็นอาชีพเสรมิ เพ่มิ รายไดใ้ หก้ ับครอบครวั และชมุ ชน ได้ กศน. อาเภอสามพราน จึงมีแนวคิดพัฒนาหลักสูตรการทาของชารว่ ย ให้เป็นองคค์ วามรู้ แนวทาง ที่เป็นกลางในการจัดการศึกษาตามนโยบาย เพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน. ได้ปรับเปลี่ยนการจัด การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ โดยจัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กศน. เป็นฐานการจัดกรรมให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพ้ืนที่บริการ สานักงาน กศน. จังหวัด จัดทาเวทีประชาคมในระดบั จังหวัด เพ่ือกาหนดกรอบอาชีพของจังหวัด จากน้ันสถานศึกษาจึงจัดทาเวทีประชาคมในระดับอาเภอ โดย การวิเคราะห์ศักยภาพของตนเองและพ้ืน ท่ีนาข้อมูลความต้องการด้านอาชีพของทุกตาบล และ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ มาพจิ ารณาร่วมกับรอบอาชีพของจงั หวดั เพอ่ื กาหนดเป็นกรอบอาชพี ของอาเภอ การพัฒนาหลักสูตรต้องสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพใหม่ คือ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง โดยการพัฒนา เน้ือหาสาระท่ีมีองค์ความรู้ครบวงจร ประกอบด้วย โครงสร้างของหลักสูตร 4 ตอน คือ ช่องทาง การประกอบอาชีพ ทักษะการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการ และการจัดทาโครงการประกอบ อาชีพ เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นมีความรทู้ กั ษะและมคี วามมนั่ ใจในการประกอบอาชีพ หลกั การของหลักสตู ร การจดั การศึกษาเพ่ือการพฒั นาอาชีพการพัฒนาหลกั สูตรการทาของชารว่ ย เพื่อการมีงานทา กาหนดหลักการไว้ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรที่เน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้ืนที่ ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพ ภูมิประเทศและทาเลท่ีต้ังของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ของแต่ละพ้ืนท่ีและศกั ยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพ้นื ที่ 2. มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพ ท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน สามารถสร้างรายได้ท่ีม่ันคง และเป็นบุคคลที่ทีวินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จรยิ ธรรม มีจติ สานึกความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ผอู้ ่นื สังคม
265 3. ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในการดาเนินงานการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทา รว่ มกบั ภาคีเครอื ขา่ ย 4. เน้นการฝึกปฏิบัติจริงเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาไปประกอบ อาชีพไดใ้ หเ้ กิดรายได้ทมี่ นั่ คง มั่งค่ัง และยั่งยนื ในอาชีพ 5. ส่งเสริมให้มีการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 จุดหมาย 1. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมที ักษะอาชพี ทีส่ ามารถสร้างรายไดท้ ี่มน่ั คง 2. ผู้เรยี นไดน้ าความรมู้ าพัฒนาและชว่ ยเสริมอาชพี เดิมให้มคี วามกา้ วหน้า ม่ันคงยงิ่ ขึ้น 3. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้ ทักษะและประสบการณเ์ กี่ยวกับการทาของชารว่ ยสู่อาชพี ได้ 4. เพื่อให้ผเู้ รยี นมีความรู้และทักษะในการประกอบอาชพี 5. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจในการวางแผนการดาเนินงาน และบริการจัดการ อาชพี ได้อย่างมคี ุณภาพ 6. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คมสว่ นรวม กลุ่มเปา้ หมาย 1. กล่มุ เป้าหมายคือประชาชนกลุ่มเป้าหมายนอกระบบโรงเรียน 2. ผู้ท่ไี มม่ ีอาชพี 3. ผทู้ ่มี อี าชีพและต้องการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา จานวน 10 ช่วั โมง 1. ภาคทฤษฎี 2 ช่วั โมง 2. ภาคปฏิบัติ 8 ชั่วโมง โครงสรา้ งหลักสตู ร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการทาของชาร่วย จานวน 10 ช่วั โมง 1.1 ความสาคญั ของการประกอบอาชพี การทาของชารว่ ย 1.2 ความรเู้ บอื้ งต้นในการประกอบอาชีพการทาของชารว่ ย 1.2.1 ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วข้องกับอาชีพจากผู้รู้ ผูป้ ระกอบการในชมุ ชน 1.2.2 ความต้องการตลาด 1.2.3 การลงทุน 1.2.4 กระบวนการผลติ การจัดหาวัสดุ อุปกรณ์และวัตถดุ ิบ
266 วธิ ีการจดั กระบวนการเรียนรู้ หลักสูตรการทาของชาร่วยเป็นหลักสูตรที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงด้วย การปฏิบัตจิ รงิ โดยมีวิทยากรอาชพี เป็นผู้ชแี้ นะและจัดกระบวนการเรยี นรพู้ ร้อมกันกับครูผู้สอน โดยมี การจดั กระบวนการเรยี นรดู้ ังน้ี 1. การศึกษาดงู านจากสถานทีจ่ ริง บรรยาย และสาธิตอาชีพ 2. การฝึกปฏบิ ัตริ ว่ มกบั วิทยากร และใหผ้ ู้เรยี นฝึกฝนดว้ ยตนเองจนเกิดทักษะ 3. ทดสอบทกั ษะท่ไี ด้รับการฝึกฝน ช่องทางการประกอบอาชพี การทาของชาร่วย 1.1 อธบิ ายความสาคัญของการประกอบอาชพี การทาของชารว่ ย 1.2 อธบิ ายความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชพี การทาของชารว่ ย 1.3 บอกความสาคัญและประโยชนข์ องแหลง่ เรียนรู้และภูมิปัญญาในท้องถ่ิน 1.4 สามารถบอกทิศทางการประกอบอาชีพได้ ขอ้ มูลที่เกย่ี วข้องกบั อาชีพจากผรู้ ู้ ผู้ประกอบการในชมุ ชน 1. ความสาคัญของการประกอบอาชีพการทาของชารว่ ย 2. ความร้เู บอ้ื งตน้ ในการประกอบอาชีพการทาของชาร่วย ความต้องการตลาด 1. การลงทุน 2. กระบวนการผลิต การจัดหาวัสดุ อปุ กรณแ์ ละวตั ถดุ บิ 3. บอกความสาคัญและประโยชนข์ องแหล่งเรียนรู้และภูมปิ ัญญาในท้องถน่ิ ทิศทางการเรียนรู้ 1. วทิ ยากรบรรยายให้ความรู้ รเู้ รื่องความสาคัญของอาชพี การทาของชารว่ ย 2. ศกึ ษาความรเู้ บื้องตน้ ในการประกอบอาชีพการทาของชารว่ ยขอ้ มลู ท่ีเกย่ี วข้อง กับอาชีพจากผู้รู้ ผู้ประกอบการในชุมชน ความต้องการของตลาด การลงทุนและกระบวนการผลิต การจดั หาวัสดุ อปุ กรณ์ และวัตถดุ ิบ 3. ศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรยี นรู/้ ภมู ิปัญญาในท้องถิ่น ขน้ั ตอนการทา 1. เพือ่ ใหร้ ้ขู ้นั ตอนและวธิ กี ารทา 2. เพอื่ ใหร้ หู้ ลักการฝึกปฏิบัตทิ ี่ถูกวธิ ี 3. เพ่ือให้รจู้ กั การใหอ้ ปุ กรณ์ที่ถูกต้อง เน้อื หา การทาของชาร่วย มีประโยชน์ แขกบางคนอาจจะขอนาไปเก็บสะสมมากกว่า 1 อัน หรือบางคร้ังแขกที่มาร่วมงานอาจพาเพ่ือนหรือคนในครอบครัวที่เราไม่ได้แจกการ์ดเชิญมาร่วมงาน ด้วย บางคร้ังจึงต้องแจกของชาร่วยเพิ่มขึ้นจากจานวนแขกที่กาหนดไว้ จึงเป็นการดีถ้าคู่บ่าวสาวจะ เตรียมเอาไว้ก่อนล่วงหน้า สาหรบั ความหมายของชาร่วยน้ันมักจะมีความหมายตามรูปแบบอย่างเช่น เป็นเครื่องจักรสานเล็ก ๆ จะหมายถึงการสานสัมผัสที่ดีของคู่บ่าวสาว ถ้าเป็นแบบมีเชือกผูกที่ของ ชาร่วย จะมีความหมายถึงความรกั ความผูกพันของท้ังคู่ และถ้าเป็นของชาร่วยท่ีมีลักษณะเป็นคู่ เช่น
267 ตะเกียบ ช้อนส้อม จะหมายถึงการอยู่คู่กันตลอดไป ของชารวยเซรามิค ยังหมายถึงการฝ่าฟัน อปุ สรรคตา่ ง ๆ มาดว้ ยกัน วธิ ีการปฏบิ ตั ิ การทาของชารว่ ย มีดังนี้ - ตะเกียบ - พับผา้ ขนหนู - ทีเปดิ ขวด - การทาพวงกุญแจ แนวทางประกอบอาชพี 1. บอกวธิ ีหาลกู ค้าแบบตา่ งๆได้ 2. สามารถกาหนดราคาและเทคนิคการขายได้ 3. สามารถทาบญั ชีอยา่ งง่ายๆได้ 4. บอกคณุ ลกั ษณะของผปู้ ระกอบอาชพี ได้ การจดั การบวนการเรยี นรู้ 1. การหาลกู คา้ และการบริการ 2. การกาหนดราคาขาย 3. การทาบญั ชีรบั – จ่ายอย่างง่ายๆ 4. คุณธรรมจริยธรรมของผู้ประกอบอาชีพ - ความชื่อสัตย์ - การตรงต่อเวลา - การให้ความสาคญั ต่อลูกคา้ ฯ 5. แบ่งกลุ่มอภปิ รายด้านการจัดการและคณุ ธรรมของผ้ปู ระกอบการอาชีพ - กล่มุ ผูบ้ ริหาร - กลมุ่ ผ้ขู าย - กลุ่มผู้ผลิต - กล่มุ ลูกค้า ส่อื การเรยี นรู้ 1. สือ่ เอกสารใบความรใู้ นการบรรยายและสาธติ อาชีพและการฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริง 2. ผรู้ /ู้ ภูมปิ ญั ญา ทีช่ านาญการ 3. วัตถดุ บิ อุปกรณ์ในอาชีพที่มกี ารใช้จรงิ การวดั และประเมินผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฏรี ะหว่างเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้าง รายไดแ้ ละจบหลักสตู ร
268 การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มีผลงานท่มี ีคุณภาพ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลักฐานการประเมินผลงานตามหลกั การของหลักสูตร การเทยี บโอน ผเู้ รียนท่จี บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
269 หลักสูตรการประดิษฐ์ของชารว่ ย จานวน 10 ช่วั โมง กลุ่มอาชีพสร้างสรรค์ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เทา่ ทัน เพ่ือแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดบั การจัดการศกึ ษา เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ที่มั่นคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพัฒนา อาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มั่นคง มั่งค่ัง และมี งานทาอย่างย่ังยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซ่ึงจะ เปน็ การจดั การศกึ ษาตลอดชวี ติ ในรูปแบบใหม่ทส่ี ร้างความมั่นคงให้แกป่ ระชาชนและประเทศชาติ นอกจากนี้ส่ิงประดิษฐ์ท่ีเกิดขึ้นมาจากความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมีลักษณะท่ีสวยงาม และ จาหน่ายได้ นับเป็นชอ่ งทางหนง่ึ ในการประกอบอาชีพ หลกั การของหลักสตู ร หลักสตู รการประกอบอาชพี การประดิษฐข์ องชาร่วย มหี ลกั การ ดงั น้ี 1. เป็นหลกั สูตรอาชีพทส่ี ่งเสริม และอนุรักษค์ วามรู้ของภมู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่ 2. เป็นหลกั สูตรอาชพี ที่เน้นการนาวสั ดธุ รรมชาติทมี่ มี ากและเหลือใชใ้ นท้องถนิ่ มาสรา้ ง มูลค่าเพิ่มเพ่ือใหป้ ระชาชนเกิดรายได้ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาอาชีพเพอื่ การมีงานทาของประชาชน 4. เป็นหลกั สตู รการศึกษาอาชพี ที่สามารถเทียบโอนผลการเรียนเข้าสหู่ ลักสตู รการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี รายวิชาเลอื กได้ จดุ ม่งุ หมาย หลักสูตรการประกอบอาชีพ การประดิษฐข์ องชารว่ ย มีจดุ หมาย ดังน้ี 1. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมคี วามร้แู ละทักษะในการพบั เหรยี ญโปรยทานไดห้ ลากหลายรปู แบบ 2. เพ่ือใหผ้ ้เู รียนสามารถนาความรทู้ ไ่ี ด้ไปสร้างรายได้ 3. กลุ่มเปา้ หมาย เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเร่ืองศิลปะประดิษฐ์มาสร้างผลิตภัณ ฑ์ที่ สร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้และวิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัว ตนเอง สามารถเผยแพรใ่ ห้แกผ่ อู้ ่นื และนาไปประกอบอาชีพเพื่อการมีงานทาได้
270 ระยะเวลา จานวน 10 ชวั่ โมง 1. ภาคทฤษฎี 3 ชว่ั โมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 7 ชัว่ โมง โครงสรา้ งหลกั สูตร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จานวน 1 ชว่ั โมง 1.1 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชพี 1.2 ความสาคัญในการประดิษฐ์ของชารว่ ย 1.3 แหลง่ เรียนรู้เกย่ี วกับการประดิษฐ์ของชารว่ ย 1.4 แหล่งจาหน่ายผลิตภัณฑจ์ ากการประดิษฐ์ของชาร่วย 2. ทกั ษะอาชพี จานวน 7 ชว่ั โมง 2.1 ข้ันตอนในการประดิษฐข์ องชารว่ ย 2.1.1 วัสดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคดั เลือกส่วนต่าง ๆ ของลักษณะสี ขนาด ลกั ษณะแต่ละแบบ 2.1.3 การหาวัสดุ 2.1.4 การประดษิ ฐ์ของชารว่ ย 2.1.5 การฝกึ ปฏิบัตกิ ารออกแบบและสรา้ งสรรคผ์ ลติ ภัณฑ์การประดิษฐ์ของ ชาร่วย - ตกุ๊ ตาผา้ ขนหนู - คัฟเค้กผ้าขนหนู - ฯลฯ 3. การบริหารจัดการอาชีพ จานวน 1 ชัว่ โมง 3.1 การผลิต 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชพี การประดิษฐ์ของชาร่วย จานวน 1 ชวั่ โมง 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชีพ การประดิษฐ์ของชาร่วย 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี การประดิษฐ์ของชารว่ ย 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชพี การประดิษฐ์ของชาร่วย 4.4 การเขยี นโครงการอาชพี การประดิษฐ์ของชาร่วย 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชีพ การประดิษฐ์ ของชาร่วย
271 วธิ กี ารจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี 1.1 วิทยากรให้ความร้ถู ึงความสาคัญและความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ การ ประดษิ ฐข์ องชารว่ ย 1.2 แหลง่ เรียนรเู้ ก่ยี วกบั การประดษิ ฐ์ของชารว่ ย 1.3 ศึกษาขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรู้ ภูมิปัญญา สือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานทีจ่ ดั จาหนา่ ย 1.4 สรุปความรูท้ ี่ได้จากการศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปัญญา 2. ทกั ษะอาชีพ 2.1 วทิ ยากรบรรยายข้นั ตอนการประดิษฐ์ของชาร่วย 2.2 วิทยากรทาการสาธิตวิธีการประดิษฐ์ของชารว่ ย 2.3 วิทยากรร่วมกบั ผู้เรียนในการการออกแบบการประดิษฐ์ของชารว่ ย 2.4 การฝึกปฏบิ ตั สิ ร้างสรรค์ช้ินงานแบบตา่ ง ๆ 2.5 การแลกเปล่ยี นเรียนรรู้ ะหวา่ งผ้เู รียนดว้ ยกัน 2.6 ศึกษาดูงานจากแหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชนและช่องทางออนไลน์ เวบ็ ไซด์ต่างๆ 3. การบรหิ ารจดั การอาชพี 3.1 การผลิต 3.1.1 สารวจแหล่งทุน 3.1.2 สารวจแหล่งวัสดุ วตั ถดุ บิ ในทอ้ งถ่นิ 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คุณภาพของชนิ้ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แข็งแรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศึกษาข้อมูลการตลาด วิเคราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศนู ย์ OTOP - ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน - แหลง่ ท่องเทย่ี ว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ เช่น - เว็บไซด์อาเภอ จังหวัด - แผน่ พบั โฆษณา 3.3.3 การทาบญั ชี - การคิดราคาต้นทนุ กาไร - บัญชีรายรับ-รายจ่าย
272 สอื่ การเรยี นรู้ 1. ใบความรู/้ ใบงาน 2. ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ /วิทยากร 3. ตวั อย่างช้ินงาน 4. วสั ดุ อปุ กรณ์ ท่ีใชใ้ นการฝกึ ปฏิบัติ 5. แหลง่ เรียนรู้ ทศ่ี ึกษาดูงาน การวัดและประเมนิ ผล 1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลกั สตู ร 2. การประเมนิ ผลระหวา่ งเรียนจากการปฏบิ ตั งิ านทีม่ ีคณุ ภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายได้ ให้กบั ตนเองความสาเร็จของการปฏิบัตแิ ละจบหลักสูตร การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรียนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลทัง้ ภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ัติไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. ผ้เู รยี นสามารถเขยี นโครงการอาชพี ของตนเองได้ อย่างนอ้ ย 1 โครงการ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรยี น 2. วุฒบิ ตั ร ออกโดยสถานศึกษาในสงั กดั สานกั งาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวฒุ ิบตั รที่สถานศึกษาออกให้กบั ผูเ้ รียนทจ่ี บหลักสตู ร การเทียบโอน ผู้เรยี นท่จี บหลกั สูตรน้สี ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนร้หู ลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกท่สี ถานศึกษาไดจ้ ัดทาขึน้
273 หลักสตู รการทาพวงมะโหด จานวน 5 ช่ัวโมง กล่มุ อาชีพความคิดสร้างสรรค์ ความเปน็ มา การจัดการอาชีพในปัจจุบันมคี วามสาคัญมาก เพราะการจัดการศึกษาอาชีพเปน็ เรื่องเก่ียวกับ การพัฒนาประชากรของประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะ ในการประกอบอาชีพ ของ บุคคล และกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้นานโยบายและยุทธศาสตร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการจัดการศึกษาอาชีพมาสู่การปฏิบัติ เพื่อจัดการศึกษาพัฒนา อาชีพให้กลุ่มเป้าหมายและประชากรให้มีรายได้และมีงานทาอย่างย่ังยืน มีความสามารถเชิงการ แข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียและระดับสากล เพื่อให้การจัดการศึกษาของสานักงานส่งเสริม การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ใหเ้ ปน็ การจัดการศกึ ษาตลอดชีวติ อย่างแทจ้ รงิ จากนโยบายและจุดเน้นในการดาเนินงานประจาปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวง ศึกษาธิการ และสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีมุ่งเน้นการจัด การศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้าน อุตสาหกรรม ด้านพาณชิ ยกรรม ด้านความคิดสรา้ งสรรค์ และดา้ นอานวยการ และอาชีพเฉพาะทาง ซ่ึงเป็นการศึกษาต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาย่ังยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พวงมะโหดถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างหนึ่งซ่ึงสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยการนา กระดาษสาและกระดาษแก้วมาตัดเป็นลวดลายต่าง ๆ ใช้ตกแต่งวัดและบ้านเรือนในเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลออกพรรษา ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า หรืองานบุญอ่ืน ๆ ซ่ึงเป็นส่ิงประดิษฐ์ท่ีเกิดข้ึนมาจาก ความคิดสร้างสรรค์ และมีลักษณะที่สวยงาม สานักงาน กศน.ได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพ การทาพวงมะโหด เพื่อเป็นช่องทางหน่ึงในการเพ่ิมรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว และเป็นการใช้ เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการ พฒั นาอาชพี ของตนใหม้ คี วามม่ันคง ในพื้นที่ตาบลบางชา้ ง หลักการของหลักสตู ร 1. เป็นหลักสูตรที่เน้นการจดั การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรู้และ ทกั ษะไปประกอบอาชีพได้จรงิ อย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรมจริยธรรม 2. เป็นหลักสูตรการประกอบอาชีพท่ีทาให้เกิดความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ และอนุรักษ์ความรู้ ของภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ 3. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ใน การประกอบอาชีพ 4. เป็นหลักสูตรท่ีผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในรายวิชาเลือกของสาระการประกอบอาชพี
274 จดุ มุง่ หมาย 1. เพือ่ ให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจ และทกั ษะเก่ยี วกับการทาพวงมะโหดได้ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนนาความรู้เกี่ยวกับการทาพวงมะโหดไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ ตนเองและครอบครัวได้อยา่ งมคี ณุ ธรรมและมั่นคง 3. เพื่อใหผ้ ู้เรียนสามารถออกแบบการทาพวงมะโหดในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ กลุ่มเปา้ หมาย กลุม่ เป้าหมาย คือ ประชาชนทั่วไป 1. ผทู้ ไ่ี มม่ ีอาชพี 2. ผู้ท่มี อี าชพี และตอ้ งการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา จานวน 5 ชั่วโมง 1. ภาคทฤษฎี 1 ชว่ั โมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 4 ชว่ั โมง โครงสร้างหลกั สูตร จานวน 1 ชั่วโมง 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการทาพวงมะโหด จานวน 4 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชีพ 1.2 แหล่งเรยี นรู้และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น 1.3 แหล่งจาหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์ 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การทาพวงมะโหด 2.1 การเตรียมวัสดอุ ุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการทาพวงมะโหด 2.2 การออกแบบช้ินงานในรูปแบบต่าง ๆ 2.3 การทาพวงมะโหด วธิ ีการจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทาพวงมะโหด 1.1 วิทยากรบรรยายความสาคญั ในการประกอบอาชพี การทาพวงมะโหด 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถ่ิน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถานประกอบการ สถานท่ีจดั จาหนา่ ย 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การทาพวงมะโหด 2.1 วิทยากรบรรยายขนั้ ตอนการทาพวงมะโหด 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วธิ กี ารทาพวงมะโหด 2.3 วทิ ยากรและผเู้ รียนร่วมกันออกแบบการทาพวงมะโหดในรปู แบบตา่ ง ๆ 2.4 ผเู้ รียนฝึกปฏบิ ัตสิ รา้ งสรรค์การทาพวงมะโหดในรูปแบบตา่ ง ๆ
275 2.5 ผู้เรยี นแลกเปลยี่ นความรู้ซ่ึงกันและกนั 2.6 ผเู้ รียนศกึ ษาดงู านจากแหล่งเรยี นร้ใู นชุมชนและเวบ็ ไซตอ์ อนไลน์ตา่ ง ๆ ส่อื การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหลง่ เรยี นรูใ้ นชมุ ชน / วิทยากร / ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น 3. ตัวอยา่ งช้ินงาน การวดั และประเมินผล 1. การประเมินความรภู้ าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี น 2. การประเมนิ ผลงานการปฏิบตั ิระหวา่ งเรยี นความสาเรจ็ ของการปฏิบตั ิ การจบหลกั สูตร 1. มเี วลาเรียน ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. มผี ลงานทมี่ ีคุณภาพ ตรงตามหลักการของหลักสตู ร เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานการประเมินผล 2. ทะเบยี นคมุ วฒุ บิ ตั ร 3. วฒุ ิบตั รการศกึ ษา ออกโดยสถานศึกษา การเทยี บโอน ผู้เรียนทจี่ บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้ึน
276 หลกั สตู รการทาไม้แขวน จานวน 5 ชั่วโมง กลุ่มอาชีพความคิดสร้างสรรค์ ความเปน็ มา การจัดการอาชีพในปจั จุบนั มีความสาคัญมาก เพราะการจัดการศึกษาอาชีพเป็นเรอ่ื งเกี่ยวกับ การพัฒนาประชากรของประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะ ในการประกอบอาชีพ ของ บุคคล และกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้นานโยบายและยุทธศาสตร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการจัดการศึกษาอาชีพมาสู่การปฏิบัติ เพื่อจัดการศึกษาพัฒนา อาชีพให้กลุ่มเป้าหมายและประชากรให้มีรายได้และมีงานทาอย่างยั่งยืน มีความส ามารถเชิง การแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียและระดับสากล เพ่ือให้การจัดการศึกษาของสานักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ใหเ้ ป็นการจดั การศกึ ษาตลอดชวี ิตอย่างแทจ้ รงิ จากนโยบายและจุดเน้นในการดาเนินงานประจาปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวง ศึกษาธิการ และสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มุ่งเน้นการจัด การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้าน อุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ดา้ นความคดิ สร้างสรรค์ และด้านอานวยการและอาชีพเฉพาะทาง ซึ่งเป็นการศึกษาต่อเน่ืองเพ่ือการพัฒนาย่ังยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การจัดสวนเป็นตัวเลือกหน่ึงที่ประชาชนให้ความสนใจ นอกเหนือจากการปรับภูมิทัศน์หรือ นาต้นไม้มาลงปลูกบนพื้นดินยังมีการจัดสวนแบบอื่นโดยการท่ีนาต้นไม้มาตกแต่งพ้ืนที่ส่วนอ่ืน ๆ ใน รปู แบบของแนวตัง้ หรอื การแขวนต้นไม้ โดยแขวนไวก้ ับริมระเบียง หรอื ทาระแนงไม้ไวเ้ กย่ี วเกาะ ซ่ึง ไม่ทาให้เสียพื้นที่ในแนวราบ แต่ใช้พ้ืนที่ว่างเปล่าทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยเพ่ิมมิติและ มุมมองที่น่าสนใจ เพิ่มความงามทางสายตา อีกทั้งทาให้พ้ืนท่ีในบ้านร่มรื่น และมีบรรยากาศแห่งการ พกั ผ่อนมากข้ึนอกี ดว้ ย ซึ่งสามารถตกแต่งไดท้ ุกพ้ืนที่แม้กระทัง่ บริเวณภายในบ้าน อาคาร หรอื ดาดฟ้า ถือเป็นไอเดียการจัดสวนง่ายๆ ที่ใช้ได้กับพ้ืนท่ีเล็กๆ สวนแขวนสามารถตกแต่งได้ดีแม้ในพ้ืนท่ีจากัด เช่น คอนโดมิเนียม หอพกั อพารท์ เมน้ ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว อาคารชุด หรือแมก้ ระทัง่ ภายในบา้ น สานักงาน กศน.ได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการทาไม้แขวนต้นไม้ เพื่อเป็นช่องทาง หน่ึงในการลดรายจ่ายในครอบครัว และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับ ครอบครวั โดยเน้นกลมุ่ เป้าหมาย คือ ผไู้ ม่มีอาชีพ หรือผมู้ อี าชพี และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มี ความมนั่ คง ในพื้นท่ีตาบลบางช้าง
277 หลกั การของหลกั สตู ร 1. เป็นหลักสูตรทเี่ นน้ การจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรู้และ ทักษะไปประกอบอาชีพไดจ้ ริงอย่างมีคณุ ภาพและมีคุณธรรมจริยธรรม 2. เป็นหลักสตู รการประกอบอาชีพทีท่ าใหเ้ กดิ ความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ 3. เป็นหลักสูตรที่เน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ใน การประกอบอาชพี 4. เป็นหลักสูตรท่ีผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในรายวิชาเลือกของสาระการประกอบอาชีพ จุดมงุ่ หมาย 1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ และทักษะเก่ยี วกบั การทาไม้แขวนต้นไม้ได้ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนนาความรู้เก่ียวกับการทาไมแ้ ขวนตน้ ไม้ไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ ตนเองและครอบครัวไดอ้ ย่างมีคณุ ธรรมและมัน่ คง 3. เพื่อให้ผู้เรยี นสามารถออกแบบการทาไม้แขวนตน้ ไม้ในรปู แบบต่าง ๆ ได้ กลมุ่ เปา้ หมาย กลุ่มเปา้ หมาย คือ ประชาชนทวั่ ไป 1. ผทู้ ีไ่ มม่ ีอาชพี 2. ผทู้ ม่ี ีอาชีพและต้องการพฒั นาอาชีพ ระยะเวลา จานวน 5 ชั่วโมง 1. ภาคทฤษฎี 1 ชั่วโมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 4 ช่ัวโมง โครงสรา้ งหลักสูตร จานวน 1 ชว่ั โมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทาไม้แขวนต้นไม้ จานวน 4 ชวั่ โมง 1.1 ความสาคญั ในการประกอบอาชพี 1.2 แหลง่ เรียนรแู้ ละภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ 1.3 แหล่งจาหนา่ ยผลิตภณั ฑ์ 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการทาไม้แขวนตน้ ไม้ 2.1 การเตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นการทาไมแ้ ขวนต้นไม้ 2.2 การออกแบบชนิ้ งานในรปู แบบต่าง ๆ 2.3 การทาไมแ้ ขวนตน้ ไม้
278 วธิ ีการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี การทาไมแ้ ขวนต้นไม้ 1.1 วทิ ยากรบรรยายความสาคญั ในการประกอบอาชพี การทาไม้แขวนตน้ ไม้ 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถ่ิน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถานประกอบการ สถานท่ีจดั จาหน่าย 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การทาไม้แขวนต้นไม้ 2.1 วิทยากรบรรยายข้นั ตอนการทาไมแ้ ขวนต้นไม้ 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วิธกี ารทาไม้แขวนตน้ ไม้ 2.3 วิทยากรและผ้เู รยี นร่วมกนั ออกแบบการทาไม้แขวนตน้ ไม้ในรปู แบบต่าง ๆ 2.4 ผู้เรยี นฝึกปฏบิ ตั ิสร้างสรรคก์ ารทาไมแ้ ขวนต้นไมใ้ นรปู แบบต่าง ๆ 2.5 ผเู้ รียนแลกเปลี่ยนความรู้ซ่ึงกันและกนั 2.6 ผเู้ รียนศึกษาดูงานจากแหลง่ เรียนรใู้ นชมุ ชนและเว็บไซตอ์ อนไลน์ตา่ ง ๆ สื่อการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหล่งเรยี นรู้ในชมุ ชน / วทิ ยากร / ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน 3. ตัวอยา่ งชนิ้ งาน การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎรี ะหวา่ งเรียน 2. การประเมนิ ผลงานการปฏบิ ตั ิระหวา่ งเรียนความสาเรจ็ ของการปฏบิ ตั ิ การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรียน ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลักสตู ร ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มีผลงานที่มคี ณุ ภาพ ตรงตามหลักการของหลักสตู ร เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานการประเมินผล 2. ทะเบยี นคุมวุฒิบัตร 3. วุฒิบัตรการศึกษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรู้กับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จัดทาข้นึ
279 หลกั สตู รการประดิษฐด์ อกไม้จากกระดาษ จานวน 5 ช่ัวโมง กลมุ่ อาชีพความคดิ สร้างสรรค์ หลกั การ การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศ ให้มคี วามรู้ ความสามารถ และทกั ษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทาแผนพัฒนา การศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทา ไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานที่มีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัด กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมท้ังเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้าน ต่างๆ กศน.อาเภอสามพราน ในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กับ กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความม่ันคง จึงได้ จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการประดิษฐ์ดอกไม้จากกระดาษ ขึ้น เพ่ือเป็นช่องทางหน่ึงในการลด รายจา่ ยในครอบครัว และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กบั ครอบครัว โดยเน้น ใหก้ ลุ่มเปา้ หมายประชาชนในพ้ืนท่ี หลักการของหลักสตู ร 1. เป็นหลกั สูตรท่เี น้นการบรู ณาการเน้ือหาสาระภาคทฤษฎคี วบคู่ไปกับการฝึกปฏิบตั ิจริง ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณ์ท่ีไดร้ ับไปประยุกตใ์ ช้ในการประกอบอาชีพได้อยา่ งมี คุณภาพและมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 2. เปน็ หลกั สูตรทยี่ ืดหยุ่น ทัง้ เนือ้ หา ระยะเวลาเรียน และการจดั กระบวนการเรียนรู้ 3. เป็นหลกั สตู รทีม่ ุ่งเนน้ ให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะรวมทั้งความคดิ สรา้ งสรรค์ ในการประดิษฐ์ดอกไม้จากกระดาษ จดุ ม่งุ หมาย 1. เปน็ หลกั สตู รการประกอบอาชพี ท่ีทาใหเ้ กิดความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ 2. เป็นหลกั สตู รท่ียดื หยนุ่ ทั้งเนอ้ื หา ระยะเวลาเรียน และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการประดษิ ฐด์ อกไมจ้ ากกระดาษได้ถกู ต้อง 2. เพ่ือใหผ้ ้เู รียนสามารถประดษิ ฐด์ อกไม้จากกระดาษได้ กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเปา้ หมาย คอื ประชาชนทวั่ ไป 1. ผทู้ ีไ่ ม่มีอาชีพ 2. ผูท้ ่ีมีอาชีพและต้องการทาอาชีพเสรมิ
280 ระยะเวลาเรยี น จานวน 5 ช่วั โมง 1. ภาคทฤษฎี 1 ชั่วโมง 2. ภาคปฏิบัติ 4 ชว่ั โมง โครงสร้างหลักสูตร เรอื่ งที่ 1 ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการประดิษฐด์ อกไม้จากกระดาษ จานวน 1 ช่วั โมง 1.1 ความสาคัญในการประดิษฐด์ อกไม้จากกระดาษ 1.2 แหลง่ เรียนร้เู กีย่ วกบั การประดษิ ฐด์ อกไมจ้ ากกระดาษ 1.3 รปู แบบ วิธีการประกอบอาชีพการประดิษฐด์ อกไมจ้ ากกระดาษ เร่อื งที่ 2 ทักษะการประกอบอาชพี การประดิษฐด์ อกไม้จากกระดาษ จานวน 4 ชวั่ โมง 2.1 วัสดแุ ละอุปกรณใ์ นการประดษิ ฐ์ดอกไม้จากกระดาษ 2.2 การเตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ 2.3 การประดิษฐ์ดอกไมจ้ ากกระดาษ 2.4 ฝกึ ปฏิบัติการออกแบบและสรา้ งสรรค์ผลติ ภณั ฑจ์ ากกระดาษเป็นดอกไม้ และ จดั ชอ่ ดอกไม้ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ 1.1 วิทยากรใหค้ วามรู้ถึงความสาคัญและความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ ภูมปิ ญั ญา สือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร 1.3 สรปุ ความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศึกษาจากแหล่งเรยี นรู้ ภมู ิปญั ญา 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพ 2.1 การบรรยาย 2.2 การสาธิต 2.3 การออกแบบ 2.4 การฝกึ ปฏบิ ตั ิสร้างสรรค์ช้นิ งานแบบต่างๆ 2.5 การแลกเปลีย่ นเรียนรรู้ ะหว่างผ้เู รยี นและวิทยากรประเมนิ ผลการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเอกสาร / ใบความรู้ 2. ศึกษาจากแหล่งเรยี นรูใ้ นชุมชน /วิทยากร /ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ การวัดและประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎรี ะหวา่ งเรียน 2. การประเมนิ ผลงานการปฏบิ ัตริ ะหว่างเรียนความสาเรจ็ ของการปฏิบตั ิ
281 การจบหลกั สตู ร 1. มเี วลาเรยี น ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลักฐานการประเมินผลงานตามหลกั การของหลักสตู ร การเทียบโอน ผเู้ รียนที่จบหลกั สูตรน้สี ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนร้กู บั หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศกึ ษาได้ จดั ทาข้ึน
282 หลกั สตู รการปลูกไมแ้ ขวน จานวน 5 ชั่วโมง กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ความเป็นมา การจัดการอาชีพในปจั จบุ ันมคี วามสาคัญมาก เพราะการจดั การศึกษาอาชีพเป็นเรอื่ งเก่ียวกับ การพัฒนาประชากรของประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะ ในการประกอบอาชีพ ของ บคุ คล และกลมุ่ บุคคล เปน็ การแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้นานโยบายและยุทธศาสตร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการจัดการศึกษาอาชีพมาสู่การปฏิบัติ เพื่อจัดการศึกษาพัฒนา อาชีพให้กลุ่มเป้าหมายและประชากรให้มีรายได้และมีงานทาอย่างย่ังยืน มี ความสามารถเชิง การแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียและระดับสากล เพ่ือให้การจัดการศึกษาของสานักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ใหเ้ ปน็ การจัดการศกึ ษาตลอดชวี ติ อย่างแทจ้ รงิ จากน โยบ ายแ ละจุด เน้ น ใน การด าเนิ น งาน ป ระจาปี งบ ป ระม าณ 2555 ขอ ง กระทรวงศกึ ษาธิการ และสานักงาน กศน. ทมี่ งุ้ เนน้ การจดั การศกึ ษาอาชีพเพื่อการมงี านทาใน 5 กลุ่ม อาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิด สร้างสรรค์ และด้านอานวยการ และอาชีพเฉพาะทาง ซ่ึงเป็นการศึกษาต่อเน่ืองเพ่ือการพัฒนายั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การจัดสวนเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ประชาชนให้ความสนใจ นอกเหนือจากการปรับภูมิทัศน์หรือ นาต้นไม้มาลงปลูกบนพ้ืนดินยังมีการจัดสวนแบบอื่นโดยการท่ีนาต้นไม้มาตกแต่งพื้นท่ีส่วนอ่ืนๆ ใน รูปแบบของแนวต้ัง หรือการแขวนต้นไม้ ซึ่งช่วยเพิ่มมิติและมุมมองที่น่าสนใจ เพิ่มความงามทาง สายตา อีกทั้งทาให้พื้นท่ีในบ้านร่มรื่น และมีบรรยากาศแห่งการพักผ่อนมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งสามารถ ตกแต่งได้ทุกพื้นท่ีแม้กระทั่งบริเวณภายในบ้าน อาคาร หรือดาดฟ้า ถือเป็นไอเดียการจดั สวนง่ายๆ ที่ ใช้ได้กับพื้นที่เล็กๆ สวนแขวนสามารถตกแต่งได้ดีแม้ในพ้ืนท่ีจากัด เช่น คอนโดมิเนียม หอพัก อพารท์ เมน้ ทาวนเ์ ฮา้ ส์ ตกึ แถว อาคารชุด หรือแมก้ ระท่งั ภายในบา้ น กศน. อาเภอสามพรานได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการปลูกไม้แขวน เพ่ือเป็น ชอ่ งทางหนึ่งในการลดรายจ่ายในครอบครัว และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ ให้กับครอบครัว โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ไม่มีอาชีพ หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของ ตนให้มีความมนั่ คง หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลักสูตรที่เน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ท่ีเน้นการบูรณาการเนื้อหา สาระภาคทฤษฎีควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติจริง ผู้เรียนสามารถนาความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพ ได้จรงิ อยา่ งมีคุณภาพและมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 2. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพื่อประโยชน์ใน การประกอบอาชีพและการศกึ ษาดงู าน
283 3. เป็นหลักสูตรท่ีผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในรายวชิ าเลอื กของสาระการประกอบอาชพี 4. เป็นหลักสูตรที่เน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพด้าน ทรัพยากร ภูมิอากาศ ภูมิประเทศและทาเลที่ตั้ง ศิลปวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิต และด้าน ทรพั ยากรมนษุ ย์ จุดมุ่งหมาย เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมคี ุณลักษณะดงั น้ี 1. มคี วามรแู้ ละทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายไดท้ มี่ นั่ คง มง่ั คัง่ 2. ตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และ สง่ิ แวดลอ้ มอย่างมีคุณธรรมจริยธรรม 3. มีเจตคตทิ ดี่ ใี นการประกอบอาชีพ 4. มคี วามรคู้ วามเข้าใจและฝกึ ทกั ษะการบรหิ ารจัดการในอาชีพได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 5. มีโครงการประกอบอาชพี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาชีพของตนเอง กลุ่มเปา้ หมาย มี 2 กลมุ่ เป้าหมาย คือ 1. ผทู้ ี่ไมม่ อี าชีพ 2. ผู้ท่ีมีอาชีพและตอ้ งการพัฒนาอาชีพ ระยะเวลา 5 ชว่ั โมง จานวน 1 ช่วั โมง ภาคทฤษฎี 4 ช่ัวโมง ภาคปฏบิ ัติ โครงสร้างหลักสตู ร จานวน 1 ชว่ั โมง 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จานวน 10 นาที 1.1 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ จานวน 10 นาที 1.2 ความสาคัญในการทาไมแ้ ขวน จานวน 10 นาที 1.3 แหล่งเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การทาไมแ้ ขวน จานวน 10 นาที 1.4 แหล่งจาหน่ายผลติ ภณั ฑไ์ ม้แขวน จานวน 4 ชว่ั โมง 2. ทักษะอาชีพ 2.1 ขน้ั ตอนในการปลูกไมแ้ ขวน 2.1.1 วัสดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคัดเลอื กทีใ่ ช้ทาไม้แขวน 2.1.3 การหาวัสดุ
284 2.1.4 การปลูกไม้แขวน 2.1.5 การฝกึ ปฏิบตั ิการออกแบบและสร้างสรรค์การปลูกไมแ้ ขวน 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ จานวน 10 นาที 3.1 การผลติ 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชีพการปลกู ไม้แขวน จานวน 10 นาที 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชีพการปลูกไม้แขวน 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี การปลกู ไมแ้ ขวน 4.3 องคป์ ระกอบของโครงการอาชีพการปลูกไม้แขวน 4.4 การเขยี นโครงการอาชีพการปลกู ไมแ้ ขวน 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชีพการปลกู ไม้แขวน วิธกี ารจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ 1.1 วิทยากรให้ความรู้ถึงความสาคญั และความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพการปลูก ไมแ้ ขวน 1.2 แหลง่ เรยี นรู้เก่ยี วกับการปลูกไม้แขวน 1.3 ศึกษาขอ้ มูลจากแหลง่ เรยี นรู้ ภูมปิ ญั ญา สือ่ อิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานที่จดั จาหนา่ ย 1.4 สรปุ ความร้ทู ไ่ี ด้จากการศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรียนรู้ ภูมปิ ัญญา 2. ทกั ษะอาชพี 2.1 วทิ ยากรบรรยายข้ันตอนการปลกู ไม้แขวน 2.2 วทิ ยากรทาการสาธิตวธิ ีการปลกู ไมแ้ ขวน 2.3 วิทยากรรว่ มกับผู้เรียนในการการออกแบบการปลกู ไม้แขวน 2.4 การฝกึ ปฏบิ ตั ิสร้างสรรค์ช้ินงานแบบตา่ ง ๆ 2.5 การแลกเปลี่ยนเรยี นรูร้ ะหวา่ งผ้เู รยี นดว้ ยกนั 2.6 ศกึ ษาดงู านจากแหล่งเรียนรู้ในชมุ ชนและช่องทางออนไลน์ เว็บไซดต์ า่ งๆ 3. การบรหิ ารจัดการอาชีพ 3.1 การผลิต 3.1.1 สารวจแหล่งทนุ 3.1.2 สารวจแหล่งวสั ดุ วัตถุดิบในทอ้ งถิ่น 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของชิน้ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แขง็ แรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศึกษาข้อมูลการตลาด วิเคราะห์ความต้องการของตลาด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344