คู่มือการจดั กจิ กรรมลูกเสือเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ประเภทลูกเสือวสิ ามัญ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 5 - 6 ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ 2 - 3 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 1
คานิ ยม นบั ว่าเป็นโอกาสและประโยชน์ทส่ี าคญั อกี เรอ่ื งหน่งึ ทส่ี านกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การ นกั เรยี น ซง่ึ เป็นหน่วยงานหน่งึ ในสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร รว่ มกบั หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ไดผ้ ลติ ตาราในลกั ษณะ ค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ชดุ น้ขี น้ึ ซง่ึ มเี น้ือหาทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตามวยั และพฒั นาการของผเู้ รยี น และมกี ารบูรณาการกจิ กรรมการเรยี นการสอน เขา้ กบั วธิ กี ารลกู เสอื ครู อาจารย์ ผกู้ ากบั ลกู เสอื และบคุ ลากรทางการลกู เสอื จะไดน้ าไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์อยา่ งแทจ้ รงิ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ประเทศไทยกาลงั กา้ วสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ดงั นนั้ ความถกู ตอ้ งและชดั เจนในเรอ่ื งการ จดั กจิ กรรมลกู เสอื จงึ เป็นตาราและค่มู อื ทางวชิ าการ สาหรบั กจิ กรรมลกู เสอื เพอ่ื จะใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการ พฒั นาเยาวชนใหเ้ ป็นพลเมอื งดี มคี วามรอบรู้ สามารถชว่ ยตนเองได้ อนั จะเป็นแรงผลกั ดนั ใหก้ ารศกึ ษา ของประเทศไทยมคี วามเจรญิ เท่าเทยี มกบั ประเทศสมาชกิ อาเซยี น และอารยประเทศอ่นื ๆ ทวั่ โลก ขอขอบคุณ และใหก้ าลงั ใจต่อผทู้ รงวุฒทิ างการลกู เสอื และผมู้ สี ่วนรว่ มในการจดั ทาค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ ง ทกั ษะชวี ติ เลม่ น้ที ุกท่าน ทไ่ี ดเ้ สยี สละ กาลงั ความคดิ จนทาใหเ้ สรจ็ สน้ิ โดยสมบรู ณ์ อนั จะเป็นประโยชน์ ต่อกจิ การลกู เสอื อยา่ งมาก ทงั้ ในปัจจบุ นั และอนาคต นายประเสรฐิ บญุ เรอื ง รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เลขาธกิ ารสานกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ 2 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
คานิ ยม คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เป็นเครอ่ื งมอื สาคญั สาหรบั ครผู สู้ อน ลกู เสอื เนตรนารี ทจ่ี ะใชส้ าหรบั วางแผนการสอน การวดั และการประเมนิ ผเู้ รยี น จดั ทาขน้ึ โดยมเี ป้าหมาย สาคญั คอื เสนอแนวทางทเ่ี หมาะสมในการจดั การเรยี นการสอนในรายวชิ าต่าง ๆ สาหรบั ครผู สู้ อน นาไปใชเ้ ป็นหลกั การในการจดั การเรยี นการสอน โดยสามารถพฒั นาและปรบั ปรงุ ใหด้ ขี น้ึ ตาม ความรู้ ความสามารถของครผู สู้ อน ในบรบิ ทแต่ละภูมภิ าค หลกั สาคญั ของเอกสารชดุ น้ี นอกเหนือจากเสนอแนวทางดา้ นเน้อื หาสาระสาคญั วธิ สี อนท่ี เหมาะสม การวดั และประเมนิ ผล ตวั อยา่ งแบบทดสอบ วธิ ที ดสอบ แลว้ ยงั สามารถต่อยอดทาง ความคดิ ของครผู สู้ อนได้ เน่อื งจากเป้าหมายทต่ี อ้ งการคอื การนาเอากระบวนการลกู เสือมาจดั การ เรยี นรใู้ หแ้ ก่ผเู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง ในการทากจิ กรรมอยา่ งครบวงจร เพอ่ื ใหเ้ ป็นผมู้ คี ุณธรรม จรยิ ธรรม ตามรปู แบบของลกู เสอื จงึ เช่อื ไดว้ า่ หากผเู้ รยี นเขา้ ใจและปฏบิ ตั ไิ ดแ้ ลว้ จะเป็นคนดใี น สงั คม ขอขอบคณุ ผรู้ ว่ มดาเนนิ การในการจดั ทาค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ทกุ ภาคสว่ น ทเ่ี ลง็ เหน็ ประโยชน์ในการทาเอกสารชดุ น้ีจนสาเรจ็ เรยี บรอ้ ย สามารถเผยแพรไ่ ด้ ซง่ึ น่าจะ เป็นประโยชน์ต่อเดก็ และเยาวชนในทส่ี ดุ นายศจั ธร วฒั นะมงคล ผอู้ านวยการสานกั เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 3
คานา สานักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนกั เรยี น สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สมาคม วางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ในพระราชปู ถมั ภ์สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ไดร้ บั การสนับสนุนงบประมาณจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.) ร่วมกัน พฒั นาโครงการลูกเสอื เสรมิ สร้างทักษะชวี ติ มวี ตั ถุประสงค์เพ่ือเสรมิ สร้างทกั ษะชวี ิตให้เด็กและ เยาวชนในสถานศกึ ษาดว้ ยกระบวนการลูกเสอื โดยใหเ้ ด็กและเยาวชนลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเองใน การทากจิ กรรมอย่างครบวงจร ตงั้ แต่การศกึ ษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ติ ามแผน ประเมนิ และ ปรบั ปรุงการจดั กจิ กรรม รวมถงึ การทางานเป็นระบบหมตู่ ามกระบวนการลูกเสอื ซง่ึ กจิ กรรมดงั กล่าว เป็นการพฒั นาความเป็นมนุษยแ์ บบองคร์ วม ทงั้ ดา้ นร่างกาย จติ ใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ทาให้เดก็ และเยาวชนมรี ะเบยี บวนิ ัย มจี ติ สานึกในการทาความดี เพ่ือทาประโยชน์ให้กบั ครอบครวั ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ ต่อไป เริ่มจากการศึกษาความเป็ นไปได้ ศึกษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องทัง้ ในและ ต่างประเทศ จดั ประชุมผู้เช่ยี วชาญทงั้ ด้านลูกเสอื ด้านทกั ษะชวี ติ รวมทงั้ ด้านการพฒั นาเดก็ และ เยาวชน เพ่อื กาหนดกรอบโครงสรา้ งหลกั สูตรลูกเสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ท่สี อดคลอ้ งกบั ปัญหา ตามวยั และพฒั นาการดา้ นต่าง ๆ ของลกู เสอื แต่ละประเภท คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ฉบบั ทดลอง สมาคมวางแผนครอบครวั แห่ง ประเทศไทยฯ ได้เรม่ิ ใช้ในปี พ.ศ.2553 มโี รงเรยี นจากทุกภูมภิ าคของประเทศเข้าร่วมโครงการ จานวน 26 โรงเรยี น โดยได้ดาเนินการควบคู่ไปกบั การวจิ ยั และประเมนิ ผลการใช้คู่มอื และทาการ ปรบั ปรงุ ค่มู อื ครงั้ แรกเม่อื เมษายน พ.ศ. 2554 โดยไดเ้ พมิ่ เตมิ เพลง เกม นิทาน เรอ่ื งสนั้ และเน้ือหา ใหค้ รบถว้ นยงิ่ ขน้ึ การปรบั ปรุงครงั้ ท่ีสอง มิถุนายน พ.ศ. 2559 เกิดข้ึนตามข้อเสนอแนะจากการประชุม ปฏบิ ตั กิ าร “การขบั เคล่อื นกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นดว้ ยกระบวนการลูกเสอื ” ซง่ึ จดั โดยสานกั การลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร โดยยดึ ข้อบังคบั คณะลูกเสอื แห่งชาตวิ ่าด้วยการปกครอง หลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษลูกเสอื และเพมิ่ จานวนแผนการจดั กจิ กรรมให้ ครบ 40 ชวั่ โมง เพ่อื ครอบคลุมสาระทจ่ี าเป็นอย่างครบถ้วน เป็นการเตรยี มการขยายผลในโรงเรยี น สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน (สพฐ.) ทวั่ ประเทศ และได้แบ่งคู่มอื ออกเป็น 11 เล่ม สาหรบั ลกู เสอื แต่ละชนั้ ปี เพ่อื ความสะดวกของผสู้ อน รวมทงั้ ทางสานักการลกู เสอื ยวุ กาชาด และกิจการนักเรียน ได้ทาการทดลองคู่มือจากโรงเรยี นทุกภูมิภาค จานวน 53 โรงเรียน โดย ดาเนินการวิจยั และประเมินผลการใช้คู่มือและทาการปรบั ปรุงคู่มือคู่ขนานกับ สมาคมวางแผน ครอบครวั แห่งประเทศไทยฯ ดว้ ย สานกั การลูกเสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรยี น และสมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศ ไทยฯ ขอขอบพระคุณหน่วยงานและบุคลากรทุกท่านท่มี ีส่วนร่วมในโครงการให้สาเร็จลุล่วง ณ โอกาสน้ี ตงั้ แต่การรเิ รม่ิ โครงการและสนับสนุนงบประมาณจากสานกั งานกองทุนสนับสนุนการสรา้ ง 4 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
เสรมิ สุขภาพ (สสส.) การจดั ทาหลกั สตู รและคู่มอื การทดลองวจิ ยั และประเมนิ ผลการใชค้ ่มู อื รวมทงั้ การปรบั ปรงุ ค่มู อื ทงั้ 2 ครงั้ หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ ว่าค่มู อื ชุดน้ีจะช่วยสง่ เสรมิ ใหก้ จิ การลูกเสอื ของประเทศ ไทย ซง่ึ ดาเนินมาครบวาระ 107 ปี ในปี พ.ศ. 2561 น้ี ไดเ้ ป็นเครอ่ื งมอื สาคญั และก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ สงู สดุ ต่อการพฒั นาเดก็ และเยาวชนของชาตติ ่อไป สานักการลกู เสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ในพระราชปู ถมั ภส์ มเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมษายน 2561 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 5
สารบญั คานิ ยม หน้า 2 คานา 4 8 คาชี้แจงการใช้ค่มู อื 11 แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 - 6 14 และประกาศนียบตั รวิชาชีพ 2 - 3 33 38 หน่วยท่ี 1ปฐมนิเทศ 44 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 1 การปฐมนิเทศ(วชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั ) 49 หน่วยท่ี 2 วชิ าโครงการ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 2 การอนุรกั ษ์และรว่ มแกไ้ ขทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 70 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 3 การอนุรกั ษแ์ ละสบื สานวฒั นธรรม แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 4 ช่วยกนั ดแู ลรกั ษาสาธารณสมบตั ชิ มุ ชน ชาติ 105 หน่วยท่ี 3 วชิ าบรกิ าร 131 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 5 บรกิ าร 141 หน่วยท่ี 4 วชิ าสงั คมสงเคราะห์ 145 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 6 สงั คมสงเคราะห์ 148 155 หน่วยท่ี 5 วชิ าเดนิ ทางไกลและอยคู่ ่ายพกั แรม แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 7 เดนิ ทางไกลและอยคู่ ่ายพกั แรม 157 164 หน่วยท่ี 6 สขุ ภาพ อนามยั 176 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 8 คา่ นยิ มทางสุขภาพทผ่ี ดิ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 9 เพศสมั พนั ธป์ ลอดภยั ดว้ ยถุงยางอนามยั 181 หน่วยท่ี 7 ดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 10 การใชเ้ งนิ อยา่ งมคี ุณคา่ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 11 การวางแผนการใชเ้ งนิ สว่ นตวั แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 12 การหารายไดร้ ะหว่างเรยี น หน่วยท่ี 8 การคดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ แกไ้ ขปัญหา แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 13 ความเสย่ี งทเ่ี ลย่ี งได้ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 14 การแกไ้ ขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ติ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 15 การตดิ เกมและ IT มผี ลอยา่ งไรต่อเยาวชน หน่วยท่ี 9 จดุ ดี จดุ ดอ้ ย และการพฒั นาตนเอง แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 16 ศรทั ธา....ส่กู ารพฒั นาตนเอง 6 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
สารบญั (ต่อ) หน้า แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 17 ลมใตป้ ีก 189 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 18 ส่กู ารยอมรบั และชยั ชนะ (ใหโ้ อกาสการเป็นผนู้ า) 196 หน่วยท่ี 9 จดุ ดี จดุ ดอ้ ย และการพฒั นาตนเอง (ต่อ) แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 19 รจู้ กั ตนเอง 202 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 20 ศกั ดศิ ์ รขี องความเป็นมนุษย์ 215 หน่วยท่ี 10 รกั และศรทั ธาสถาบนั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 21 ประวตั กิ ารเสยี ดนิ แดนไทย 222 หน่วยท่ี 11 คุณธรรม จรยิ ธรรม แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 22 รกั ษเ์ มอื งไทยโตไปไมโ่ กง 234 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 23 รกั ทร่ี บั ผดิ ชอบและปลอดภยั 240 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 24 ประพฤตชิ อบดว้ ยกาย วาจา ใจ 247 หน่วยท่ี 12 สมั พนั ธภาพและการสอ่ื สาร แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 25 การพดู จาสุภาพ 251 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 26 การเลอื กคคู่ รอง 255 หน่วยท่ี 13 ประเมนิ ผล แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 27 การประเมนิ ผล 260 ภาคผนวก ภาคผนวก ก แนวคดิ เรอ่ื งทกั ษะชวี ติ 275 ภาคผนวก ข กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ 286 บรรณานุกรม 289 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 7
คาชี้แจงการใช้ค่มู อื ค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ชุดน้ี จดั ทาขน้ึ สาหรบั ผู้กากบั ลกู เสอื ใชเ้ ป็น แนวทางในการจดั กิจกรรมลูกเสอื มีจานวน 11 เล่ม แยกตามชนั้ ปี สาหรบั ลูกเสือ 4 ประเภท คือ ลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ และลกู เสอื วสิ ามญั หลกั สตู รลูกเสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ มเี น้ือหาทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตามวยั และพฒั นาการ ด้านต่าง ๆ ของลูกเสือแต่ละประเภท นอกจากน้ียงั มีเน้ือหาครบถ้วน เป็นไปตามข้อบงั คบั คณะ ลกู เสอื แห่งชาติ ว่าดว้ ยการปกครองหลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ และลกู เสอื วสิ ามญั อกี ดว้ ย แผนการจดั กิจกรรมลูกเสอื เสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ ในคู่มอื ชุดน้ี ได้ออกแบบโดยบูรณาการ กิจกรรมท่ีเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เข้ากบั วธิ กี ารลูกเสอื คือการใช้ระบบหมู่หรอื กลุ่มย่อย โดยให้เดก็ เป็น ศูนยก์ ลาง และมผี ใู้ หญ่ทาหน้าทช่ี ่วยเหลอื และส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ กระบวนการเรยี นรใู้ นกลุ่ม แนะนา สงั่ สอน และฝึกอบรมใหส้ ามารถพง่ึ ตนเองได้ มจี ติ อาสา รบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม ยดึ มนั่ ในคาปฏญิ าณและกฎของ ลกู เสอื เสรมิ สรา้ งคุณค่าในตนเอง รวมทงั้ ใชร้ ะบบเคร่อื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ทางลกู เสอื และเคร่อื งหมาย วชิ าพเิ ศษ เป็นแรงกระตุน้ ไปส่เู ป้าหมายในการพฒั นาตนเอง การเรยี งลาดบั แผนการจดั กจิ กรรม จดั เรยี งลาดบั เน้ือหาสาระตามหลกั สูตรในขอ้ บงั คบั คณะ ลกู เสอื แห่งชาติ ว่าดว้ ยการปกครองหลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ และลกู เสอื วสิ ามญั การนาไปใชข้ น้ึ กบั ดุลยพนิ ิจของสถานศกึ ษาในการเลอื กว่าแผนการจดั กจิ กรรมใดควรใชเ้ มอ่ื ใด องค์ประกอบในการประชุมกอง เน้นการใช้ชวี ติ กลางแจ้ง นอกหอ้ งเรยี น ใกล้ชดิ ธรรมชาติ เรยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง เกม และการบรกิ ารผอู้ ่นื ซง่ึ ถอื เป็นหวั ใจของกจิ กรรมลูกเสอื ทกุ ประเภท โดยกจิ กรรมทใ่ี ช้ แบง่ ออกเป็น 5 ประเภท คอื การแสดงออก การสารวจและการรายงาน การวเิ คราะห์และการประเมนิ เกมและการแข่งขนั การบาเพ็ญประโยชน์ มกี ารออกแบบกิจกรรม เพ่อื ให้ลูกเสอื ได้ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการแลกเปล่ียนประสบการณ์ แลกเปลย่ี นความคดิ ความเช่อื สรา้ งองค์ความรแู้ ละสรปุ ความคดิ รวบยอด รวมทงั้ เปิดโอกาสให้ลูกเสอื ไดป้ ระยุกต์ใชส้ งิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ ในชวี ติ จรงิ อกี ดว้ ย เน้อื หาสาระในแผนการจดั กจิ กรรมประกอบดว้ ย 1. กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติ (ไม่รวมกิจกรรมทดสอบเพ่ือรับ เครอ่ื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ทางลกู เสอื และเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ) 2. กจิ กรรมตามขอ้ บงั คบั ของคณะลูกเสอื แห่งชาติท่ชี ่วยเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ความรบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม 3. กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เพ่อื สรา้ งภมู คิ ุม้ กนั ทางสงั คมต่อเหตุการณ์และสภาพปัญหา ของเดก็ แต่ละวยั 8 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ค่มู อื แต่ละเลม่ ไดจ้ ดั ทาตารางหน่วยกจิ กรรม และแผนการจดั กจิ กรรม 40 ชวั่ โมง เพ่อื ใหเ้ หน็ ภาพรวมของการจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ของลกู เสอื ในแต่ละระดบั ชนั้ และมหี มายเหตุ บอกไวใ้ นตารางชอ่ งขวาสุด ว่าเป็นแผนการจดั กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ แผนการจดั กจิ กรรมประกอบดว้ ย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา ส่อื การเรยี นรู้ กจิ กรรม การ ประเมนิ ผล องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ สาคญั ท่เี กิดจากกจิ กรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู้ เรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ผู้สอนควรทาความเข้าใจให้ชดั เจนว่าเป็นจุดประสงค์การเรยี นรูด้ ้านความรู้ เจตคติ หรอื ทกั ษะ เพอ่ื จดั กจิ กรรมไดต้ รงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ต่ละดา้ น จดุ ประสงค์การเรยี นรดู้ า้ นความรู้ มจี ุดเน้นทก่ี ารตงั้ ประเดน็ ให้วเิ คราะห์ สงั เคราะห์เน้ือหา ความรู้ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ และสามารถนาไปใชไ้ ดใ้ นชวี ติ จรงิ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรดู้ ้านเจตคติ มจี ุดเน้นทอ่ี ารมณ์ความรสู้ กึ และการตงั้ ประเดน็ ใหผ้ ูเ้ รยี น ไดแ้ ลกเปลย่ี นและตรวจสอบความคดิ ความเชอ่ื ของตนเองกบั สมาชกิ กลมุ่ คนอ่นื ๆ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรดู้ ้านทกั ษะ เน้นทก่ี ารทาความเขา้ ใจในขนั้ ตอนการลงมอื ทาทกั ษะ และ ไดท้ ดลองและฝึกฝนจนชานาญ บางแผนการจดั กจิ กรรมมจี ุดประสงค์การเรยี นรซู้ ้อนกนั มากกว่า 1 ดา้ น ให้เน้นด้านทเ่ี ป็น จดุ ประสงคห์ ลกั ของแผนการจดั กจิ กรรม เนื้อหา เป็นผลการเรยี นรูท้ ่เี กดิ ขน้ึ หลงั การสอน ผู้สอนควรตรวจสอบว่าผู้เรยี นได้เน้ือหาครบถ้วน หรอื ไม่ สื่อการเรียนรู้ เป็นสอ่ื อุปกรณ์ ทใ่ี ชใ้ นการจดั กจิ กรรม เชน่ แผนภมู เิ พลง เกม ใบงาน ใบความรู้ และเรอ่ื งท่ี เป็นประโยชน์ ซง่ึ มรี ายละเอยี ดอยใู่ นภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรม กิจกรรม กจิ กรรมลูกเสอื ยงั คงแบบแผนของลูกเสือไว้ คอื การเปิดประชุมกอง/ปิดประชุมกอง และ เพลง เกม นิทาน เรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์ ซง่ึ ใส่ไวใ้ นทกุ แผนการจดั กจิ กรรม โดยผกู้ ากบั ลูกเสอื สามารถ ปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม ผสู้ อนควรจดั กจิ กรรมตามทไ่ี ดอ้ อกแบบไวเ้ รยี งตามลาดบั ขนั้ ตอน การจดั กจิ กรรม นอกจากน้ีก่อนการจดั กิจกรรมควรศกึ ษาแผนการจดั กจิ กรรมใหเ้ ขา้ ใจอย่างถ่องแท้ ทกุ ขนั้ ตอน ศกึ ษาใบความรสู้ าหรบั ผสู้ อน และใบงานสาหรบั ผเู้ รยี น เพ่อื ทผ่ี สู้ อนจะไดจ้ ดั กจิ กรรมการ เรยี นการสอนใหไ้ ดเ้ น้อื หาตรงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรมู้ ากทส่ี ดุ ทงั้ น้ีผกู้ ากบั ควรทาความเขา้ ใจแนวคดิ เรอ่ื งทกั ษะชวี ติ และกจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ใหถ้ ่องแทด้ ว้ ย โดยศกึ ษาไดจ้ ากภาคผนวก ก และภาคผนวก ข คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 9
การประเมินผล สามารถประเมนิ ได้ทงั้ ระหว่างการจดั กจิ กรรม และหลงั การสอนจบแล้ว ตามแนวทางท่ไี ด้ให้ไว้ ในแต่ละแผนการจดั กจิ กรรม องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม ทักษะชีวิตเกิดข้ึนได้หลายองค์ประกอบในการจัดกิจกรรมแต่ละครงั้ ในท่ีน้ีได้ระบุเพียง องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ สาคญั ทเ่ี กดิ ขน้ึ เท่านนั้ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรม เป็นส่อื อุปกรณ์ ตามรายการท่รี ะบุไวใ้ นส่อื การเรยี นรู้ เช่น เพลง เกม บตั รคา ใบงาน ใบความรู้ และเรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์ ฯลฯ หากมขี อ้ เสนอแนะเพ่อื การปรบั ปรงุ คมู่ อื ชดุ น้ี กรณุ าตดิ ต่อท่ี สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทย ฯ เลขท่ี 8 วภิ าวดรี งั สติ 44 แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรงุ เทพฯ 10900 โทรศพั ท์ 0-2941-2320 ต่อ 151 โทรสาร 0-2561-5130 10 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 - 6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 2 - 3 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 11
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6 และปวช.2- 3 ช่ือหน่วยกิจกรรมตาม ช่ือแผนการจดั กิจกรรม จานวน หมายเหตุ ข้อบงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติ ชวั่ โมง 1. ปฐมนิเทศ 1. การปฐมนิเทศ (วชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั ) 1 2. วิชาโครงการ 2. การอนุรกั ษ์และรว่ มแกไ้ ข 4 วชิ าพเิ ศษ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 3. การอนุรกั ษ์และสบื สานวฒั นธรรม 2 ทกั ษะชวี ติ 2 ทกั ษะชวี ติ 4. ช่วยกนั ดแู ลรกั ษาสาธารณสมบตั ิ 3. วิชาบริการ ชุมชน ชาติ 2 วชิ าพเิ ศษ 2 วชิ าพเิ ศษ 5. บรกิ าร 2 วชิ าพเิ ศษ 4. วิชาสงั คมสงเคราะห์ 6. สงั คมสงเคราะห์ 5. วิชาเดินทางไกล 7. เดนิ ทางไกลและอยคู่ า่ ยพกั แรม และอย่คู ่ายพกั แรม 6. สขุ ภาพ อนามยั 8. คา่ นิยมทางสขุ ภาพทผ่ี ดิ 2 ทกั ษะชวี ติ 2 ทกั ษะชวี ติ 7. ดาเนินชีวิตตามหลกั 9. เพศสมั พนั ธป์ ลอดภยั ดว้ ยถุงยางอนามยั 1 ทกั ษะชวี ติ ปรชั ญาของเศรษฐกิจ 10. การใชเ้ งนิ อยา่ งมคี ุณค่า 1 ทกั ษะชวี ติ พอเพียง 11. การวางแผนการใชเ้ งนิ ส่วนตวั 1 ทกั ษะชวี ติ 12. การหารายไดร้ ะหว่างเรยี น 1 ทกั ษะชวี ติ 1 ทกั ษะชวี ติ 8. การคิดวิเคราะห์ ตดั สินใจ 13. ความเสย่ี งทเ่ี ลย่ี งได้ 1 ทกั ษะชวี ติ แก้ไขปัญหา 14. การแกไ้ ขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ติ 15. การตดิ เกมและ IT มผี ลอยา่ งไร ต่อเยาวชน 12 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6 และปวช.2-3 ช่ือหน่วยกิจกรรมตามข้อบงั คบั ช่ือแผนการจดั กิจกรรม จานวน หมายเหตุ คณะลกู เสือแห่งชาติ ชวั่ โมง ทกั ษะชวี ติ 9. จดุ ดี จดุ ด้อย 16. ศรทั ธา...สกู่ ารพฒั นาตนเอง 1 ทกั ษะชวี ติ 1 ทกั ษะชวี ติ และการพฒั นาตนเอง 17. ลมใตป้ ีก 2 18. ส่กู ารยอมรบั และชยั ชนะ 2 ทกั ษะชวี ติ (ใหโ้ อกาสการเป็นผนู้ า) 2 ทกั ษะชวี ติ 19. รจู้ กั ตนเอง 3 ทกั ษะชวี ติ 20. ศกั ดศิ ์ รขี องความเป็นมนุษย์ 10. รกั และศรทั ธาสถาบนั ชาติ 21. ประวตั กิ ารเสยี ดนิ แดนไทย ศาสน์ กษตั ริย์ 11. คณุ ธรรม จริยธรรม 22. รกั ษ์เมอื งไทยโตไปไมโ่ กง 2 ทกั ษะชวี ติ 2 ทกั ษะชวี ติ 12. สมั พนั ธภาพ 23. รกั ทร่ี บั ผดิ ชอบและปลอดภยั 2 ทกั ษะชวี ติ 24. ประพฤตชิ อบดว้ ยกาย วาจา ใจ 2 ทกั ษะชวี ติ 25. การพดู จาสภุ าพ 2 ทกั ษะชวี ติ และการสื่อสาร 26. การเลอื กค่คู รอง 2 13. ประเมินผล 27. การประเมนิ ผล 48 รวม 13 หน่วยกิจกรรม รวม 27 แผนการจดั กิจกรรม หมายเหตุ แผนกจิ กรรมน้เี ป็นแผนทางเลอื กใหล้ กู เสอื เลอื กตามความสนใจและความตอ้ งการ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 13
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2–3) หน่วยท่ี 1 ปฐมนิเทศ เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 1 การปฐมนิเทศ (วิชาพิเศษลกู เสือวิสามญั ) 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถเลอื กเรยี นวชิ าพเิ ศษ ตามความถนดั และความสนใจของตนเองได้ 2. เนื้อหา หลกั สตู รเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั จานวน 11 วชิ า 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 4. กิจกรรม 4.1 ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รอ้ งเพลง 4.2 ผกู้ ากบั ลกู เสอื สนทนาซกั ถามถงึ ประสบการณ์ ความสนใจ และความถนดั ของลกู เสอื แต่ละ คน เพ่อื พจิ ารณาเลอื กวชิ าพเิ ศษตามหลกั สตู รตามขอ้ บงั คบั ของคณะลกู เสอื แห่งชาติ ว่าดว้ ย การปกครอง หลกั สตู ร และวชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั (ฉบบั ท่ี 15) พ.ศ. 2529 4.3 ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหล้ กู เสอื แต่ละหมศู่ กึ ษาใบความรู้ และเลอื กวชิ าพเิ ศษทส่ี นใจ คนละ 2 วชิ า(ไม่ซ้ากบั วชิ าบงั คบั ตามหลกั สตู ร) 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื จดั กลุ่มลกู เสอื ตามความสนใจของลกู เสอื 4.5 ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรุปและนดั หมายเพ่อื ชแ้ี จงรายละเอยี ดการจดั กจิ กรรมตาม หลกั สตู รวชิ าพเิ ศษ 5. การประเมินผล สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 14 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 1 เพลง เกียรติศกั ด์ิลูกเสือ ลกู เสอื ลกู เสอื ไวศ้ กั ดซิ ์ ลิ กู เสอื ชาย ลกู เสอื ลกู เสอื ไวล้ ายซลิ กู เสอื ไทย รกั เกยี รติ และวนิ ยั แขง็ แรง และอดทน เราจะบาเพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อผอู้ ่นื แมล้ าบากตรากตรากจ็ ะทาใหส้ าเรจ็ ทา ทา ทา ขา้ สญั ญาว่าจะทา เสยี ชพี อยา่ เสยี สตั ย์ รกั ชาตใิ หม้ นั่ ไว้ ดงั นามอนั เกรยี งไกรพระมงกุฎทรงประทาน ใบความรู้ การฝึกอบรมลกู เสอื วสิ ามญั ในเบอ้ื งตน้ เป็นการฝึกอบรมหลกั สตู รเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ซง่ึ ใช้ ระยะเวลาไมค่ วรเกนิ 6 เดอื น จากนนั้ ลกู เสอื จะเขา้ พธิ ปี ระจากอง และเรยี นตามหลกั สตู รโดยจะมวี ชิ าพเิ ศษ ตามขอ้ บงั คบั คณะลกู เสอื แหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการปกครอง หลกั สตู ร วชิ าพเิ ศษ ลกู เสอื วสิ ามญั วสิ ามญั ซง่ึ มี จานวน 11 วชิ า เพ่อื รบั เคร่อื งหมาย ดงั น้ี 1. วิชาการลกู เสือ หลกั สตู ร (1) ไดร้ บั การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลกู เสอื ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภทลกู เสอื สารองหรอื ลกู เสอื สามญั อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง (2) ไดท้ ดลองปฏบิ ตั หิ น้าทผ่ี ูก้ ากบั ลกู เสอื สารอง หรอื ลกู เสอื สามญั ในกองลกู เสอื เป็นทพ่ี อใจ ของผกู้ ากบั ลกู เสอื ใน กองนนั้ ๆ เป็นเวลาไมน่ ้อยกวา่ 3 เดอื น วตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. บรรยายแนวการฝึกอบรมลกู เสอื สารองหรอื สามญั ได้ 2. สามารถปฏบิ ตั หิ น้าทผ่ี กู้ ากบั หรอื ลองผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ไดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ 3. ทาหน้าทเ่ี ป็นผชู้ ่วยผกู้ ากบั หรอื รองผชู้ ่วยผกู้ ากบั ลกู เสอื สามญั หรอื สารองได้ แนวการจดั ฝึ กอบรม 15 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
1. สง่ ลกู เสอื วสิ ามญั ไปเขา้ รบั การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลกู เสอื สารองหรอื สามญั กับหน่วยงานอ่นื ๆ ทเ่ี ปิดการฝึกอบรม 2. กองลกู เสอื วสิ ามญั เปิดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลกู เสอื สารองหรอื ลกู เสอื สามญั ใหก้ บั ลกู เสอื วสิ ามญั ในกองลกู เสอื นนั้ ๆ 3. ใหล้ กู เสอื วสิ ามญั ปฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี นการฝึกอบรมลกู เสอื สารอง หรอื ลกู เสอื สามญั ไมน่ ้อยกว่า 3 เดอื น จนเป็นทเ่ี ชอ่ื ไดแ้ น่ว่าลกู เสอื วสิ ามญั ผนู้ นั้ ปฏบิ ตั หิ น้าทไ่ี ดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ ทงั้ น้กี ารฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลกู เสอื สารองหรอื สามญั นนั้ สานกั งานลกู เสอื แห่งชาตไิ ดก้ าหนด หลกั สตู รและตารางการฝึกอบรมตลอดจนวธิ กี ารฝึกอบรมไวใ้ นคมู่ อื การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลกู เสอื แต่ละ ประเภท ดงั นนั้ ผทู้ จ่ี ดั การฝึกอบรมจะตอ้ งดาเนนิ การฝึกอบรมไปตามหลกั การวชิ าการฝึกอบรมอย่าง ครบถว้ น จงึ จะถอื ไดว้ า่ เป็นการฝึกอบรมทส่ี มบูรณ์ 2. วิชาเดินทางไกลและอย่คู ่ายพกั แรม หลกั สตู ร เดนิ ทางไกลไปกบั ลกู เสอื วสิ ามญั เป็นเวลา 4 วนั ตดิ ต่อกนั (อยทู่ ค่ี า่ ยพกั แรม 3 คนื ) หรอื เดนิ ทางไกลไปกบั ลกู เสอื วสิ ามญั 2 ครงั้ แต่ละครงั้ ใช้ เวลา 48 ชวั่ โมง โดยอยคู่ ่ายพกั แรม 2 คนื ไมน่ บั เวลาเดนิ ทางไปและกลบั การเดนิ ทางไกลดงั กลา่ ว ลกู เสอื จดั การเองโดยตลอด ทงั้ น้ี ดว้ ยความ เหน็ ชอบของผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั การเดนิ ทางไกลและแรมคนื ตอ้ งไดม้ าตรฐานสงู การเดนิ ทางไกลทางบก หรอื ทางน้าภายในประเทศหรอื ต่างประเทศกไ็ ด้ ตอ้ งแสดงวา่ ในการเดนิ ทางตอ้ งใช้ ความอดทน การพง่ึ ตนเอง ความคดิ รเิ รม่ิ ความมานะและการเป็นผนู้ า กบั ตอ้ งทาสมดุ ปมู รายงานการ เดนิ ทางยน่ื ต่อผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ดว้ ย วตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของการเดนิ ทางไกลและอยคู่ ่ายพกั แรมได้ 2. วางแผนการเดนิ ทางไกลและอยคู่ ่ายพกั แรมได้ 3. ปฏบิ ตั แิ ละสอบวชิ าพเิ ศษการเดนิ ทางไกลและอยคู่ า่ ยพกั แรมได้ 16 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แนวการจดั การฝึ กอบรม ภาคทฤษฎี ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสอื ทใ่ี ชค้ มู่ อื หลกั สตู รวาชาพเิ ศษน้คี วรจดั แบง่ เน้อื หาไวใ้ หเ้ หมาะสมใน การสอนประจาคาบเรยี น ปกตใิ นภาคทฤษฎโี ดยใชว้ ธิ สี อนดว้ ยการบรรยายหรอื อภปิ รายกลุม่ หรอื สาธติ ฯลฯ ตามแต่ผบู้ งั คบั บญั ชาจะเหน็ สมควรและเหมาะสม ภาคปฏิบตั ิ ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสอื ควรใหล้ กู เสอื วสิ ามญั รว่ มกนั กาหนดและวางแผนดาเดนิ การปฏบิ ตั ิ จรงิ เพ่อื ทาการทดสอบวชิ าพเิ ศษเดนิ ทางไกลและอยคู่ ่ายพกั แรม การประเมินผล ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื ทม่ี อบเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั วชิ าเดนิ ทางไกล และการอยคู่ ่ายพกั แรมใหก้ บั ลกู เสอื วสิ ามญั ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามขอ้ บงั คบั คณะลกู เสอื แห่งชาติ วา่ ดว้ ยการปกครอง หลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั ของสานกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ 3. วิชาโครงการ หลกั สตู ร (1) เลอื กวางโครงการและสละเวลาทางานตามโครงการอยา่ น้อง 6 เดอื น และบนั ทกึ กจิ กรรมต่างๆไวด้ ว้ ยใหเ้ สนอรายงาน ความกา้ วหน้าตามโครงการต่อผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั อยา่ ง น้อย 3ครงั้ พรอ้ มทงั้ บนั ทกึ กจิ กรรมต่างๆ และอาจเสนอ แผนภมู แิ ผนทป่ี ระกอบดว้ ยกไ็ ด้ (2) โครงการหมายถงึ งานทจ่ี ดั ทาขน้ึ เองโดยใชท้ กั ษะมี ผลประโยชน์ได้ ลกู เสอื เป็นผเู้ ลอื กเองลกู เสอื เลอื กเรอ่ื งใด จะตอ้ งไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ก่อน (3) เมอ่ื ลกู เสอื ไดป้ ฏบิ ตั สิ าเรจ็ ตามโครงการแลว้ ใหแ้ สดงผลงานว่า ไดม้ าตรฐานและเป็นทพ่ี อใจผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั วตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. บอกความหมาย ประเภท และประโยชน์ของโครงการได้ 2. เลอื กโครงการทเ่ี หมาะสมกบั กจิ การลกู เสอื ไดถ้ ูกตอ้ ง 3. การเสนอโครงการ การบนั ทกึ การปฏบิ ตั งิ าน และการปรบั ปรงุ แกไ้ ขในการดาเนินการตาม โครงการ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 17
แนวการจดั การฝึ กอบรม (การเปิดประชุมกอง 6 ครงั้ ) 1. เปิด – ปิด ประชุมกองในการจดั กจิ กรรมแต่ละครงั้ ตามขนั้ ตอน 2. กลวธิ ใี นการฝึกอบรม 2.1.บรรยาย Lecture 2.2.อภปิ รายกลุ่ม Group Discussion 2.3.อภปิ รายเป็นคณะ Panel Discussion 2.4.ระดมสมอง Brain Storming 3. วสั ดอุ ุปกรณ์ 3.1.แผนภูมิ แผน่ โปรง่ ใส “โครงการ” 4. วิชาผฝู้ ึ กสอน หลกั สตู ร (1) ผา่ นการฝึกอบรมขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภท ใดประเภทหน่งึ ของหลกั สตู รลกู เสอื สารอง สามญั สามญั รนุ่ ใหญ่ (2) สามารถทาการฝึกสอนวชิ าลกู เสอื ตามประเภท ทต่ี นรบั การอบรมมาแลว้ อยา่ งน้อย 2 วชิ า (3) ไดท้ าการสอนเป็นทพ่ี อใจของผกู้ ากบั กอง นนั้ ๆ เป็นเวลา 3 เดอื น โดยสอนอยา่ งน้อย 2 วชิ า วชิ าละ 3 ครงั้ วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. อธบิ ายเน้อื หาหลกั สตู รผกู้ ากบั ลกู เสอื สารอง สามญั หรอื สามญั รนุ่ ใหญ่ ขนั้ ความรู้เบอ้ื งตน้ ประเภทใดประเภทหน่งึ 2. ทาการสอนวชิ าลกู เสอื ตามประเภททต่ี นผ่านการฝึกอบรมมาไดอ้ ยา่ งน้อย 2 วชิ า 3. ปฏบิ ตั หิ น้าทเ่ี ป็นรองผกู้ ากบั ในกองลกู เสอื สารอง สามญั สามญั รนุ่ ใหญ่ ประเภทใดประเภทหน่งึ ไดเ้ ป็นอย่างดี แนวการจดั การฝึ กอบรม 1. ลกู เสอื วสิ ามญั ทจ่ี ะขอรบั เคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษ “วชิ าผฝู้ ึกสอน” จะตอ้ งสมคั รเขา้ รบั การ ฝึกอบรม และผ่านการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื สารอง สามญั สามญั รนุ่ ใหญ่ ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภทใดประเภทหน่งึ 18 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
2. การสมคั รเขา้ รบั การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื สามารถสมคั รไดด้ งั น้ี 2.1.โรงเรยี นในส่วนกลาง สามารถสมคั รเขา้ รบั การฝึกอบรมไดท้ ่ี - สานกั งานลกู เสอื แห่งชาติ - หน่วยราชการต่างๆ เช่น สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา สานกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ฯลฯ หรอื สโมสรลกู เสอื ต่างๆ ทข่ี ออนุญาตเปิด การฝึกอบรม 2.2.โรงเรยี นในส่วนภมู ิภาค สมารถสมคั รเขา้ รบั การฝึกอบรมไดท้ ่ี - สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาต่างๆ - จงั หวดั ต่างๆ - สโมสรลกู เสอื ของจดั หวดั หรอื โรงเรยี น ฯลฯ 3. โรงเรยี นใดทม่ี ลี กู เสอื วสิ ามญั เลอื กสอบวชิ าพเิ ศษผฝู้ ึกสอนเป็นจานวนมาก(40 คน)กส็ ามารถขอ อนุญาตเปิดอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภทใดประเภทหน่งึ 4. ลกู เสอื วสิ ามญั ทผ่ี า่ นการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภทใดแลว้ จะตอ้ งไป สมคั รเป็นรองผกู้ ากบั ลกู เสอื ในโรงเรยี นต่างๆ ทม่ี กี องลกู เสอื ตามประเภททต่ี นผา่ นการฝึกอบรม 5. การสมคั รเป็นรองผกู้ ากบั ลูกเสอื นนั้ ใหเ้ ขยี นใบสมคั รตามแบบใบสมคั ร (ล.ส.2) 6. หลงั จากไดร้ บั การแต่งตงั้ เป็นรองผกู้ ากบั ลกู เสอื แลว้ จะตอ้ งไดร้ บั มอบหมายจากผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหส้ อนวชิ าต่างๆ 1 ภาคเรยี น อยา่ งน้อย 2 วชิ า วชิ าละ 3 ครงั้ 7. ผลการสอนวชิ าต่างๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจะตอ้ งเป็นทพ่ี อใจของผกู้ ากบั ลกู เสอื โดยมคี ะแนนผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ ผลทก่ี าหนดไวไ้ มต่ ่ากวา่ 40 คะแนน จงึ ถอื ว่าผา่ น 5. วิชาขบั รถยนต์ หลกั สตู ร 1. มคี วามรคู้ วามสามารถในเร่อื งต่อไปน้ี ก. ขบั รถยนตไ์ ด้ ข. ซอ่ มเครอ่ื งหรอื ขอ้ บกพรอ่ งเลก็ น้อยและเปลย่ี น ยางรถยนตไ์ ด้ 2. สามารถผา่ นการทดสอบและไดร้ บั ใบอนุญาตขบั รถยนต์ สว่ นบคุ คลจากนายทะเบยี นจงั หวดั 3. รจู้ กั และสามารถปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจรได้ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 19
วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. สามารถปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ไดถ้ กู ตอ้ ง 2. สามารถใชแ้ ละบารงุ รกั ษารถยนตเ์ บอ้ื งตน้ ได้ 3. สามารถขบั รถยนตแ์ ละผา่ นการทดสอบไดร้ บั ใบอนุญาตขบั รถยนตส์ ว่ นบคุ คลได้ แนวทางการฝึ กอบรม 1. ใหก้ ารอบรมใหม้ คี วามรตู้ ามพระราชบญั ญตั กิ ารจราจรทางบก 2. ใหม้ คี วามรเู้ รอ่ื งเครอ่ื งหมายและสญั ญาณจราจรทางบก 3. ใหม้ คี วามรู้ การใชแ้ ละการบารงุ รกั ษารถยนต์ 6. วิชายิงปื น หลกั สตู ร (1) รจู้ กั กฎแหง่ ความปลอดภยั เกย่ี วกบั การยงิ ปืนว่าตอ้ งมาก่อนอ่นื ใด รจู้ กั สว่ นต่างๆของปืนและวธิ ใี ช้ การรกั ษาและการทาความ สะอาด (2) แสดงเป้าตามกาหนดทย่ี งิ ไดด้ ว้ ยตนเองภายใน 6 สปั ดาหท์ แ่ี ลว้ สาหรบั การทดสอบไดท้ าแตม้ ไม่น้อยกวา่ ทก่ี าหนดไว้ เป้าทย่ี งิ จะตอ้ งไดร้ บั การรบั รองจากผสู้ อนตามทไ่ี ดร้ บั แต่งตงั้ ไว้ (3) ภาคปฏบิ ตั กิ ารยงิ ใชป้ ืนยาวอดั ลมและปืนไรเฟิลลกู กรด ก. ปืนยาวอดั ลม ระยะยงิ 25 ฟุต ทา่ ยงิ ทา่ นอน ท่านงั่ ท่าคุกเขา่ ทา่ ยนื ใชเ้ ป้ามาตรฐานของเอน็ .อาร.์ เอ.ชนิดละ 5 ตาววั ยงิ ตาววั ละ 5 นดั รวมยงิ ท่าละ 25 นดั กาหนดเวลายงิ นดั ละ 1 นาที การตดั สนิ โดยนบั เป้าตาววั ทไ่ี ดแ้ ตม้ ต่าสุดของแต่ละเป้าตาววั ตอ้ งไมต่ ่ากว่า 1. ทา่ นอน 40 แตม้ 2. ท่านงั่ 35 แตม้ 3. ทา่ คกุ เขา่ 35 แตม้ 4. ท่ายนื 30 แตม้ ข. ปืนไรเฟิลลกู กรด ระยะยงิ 50 ฟุต ทา่ ยงิ ทา่ นอน ท่านงั่ ทา่ คุกเขา่ ท่ายนื ใชเ้ ป้ามาตรฐานของ เอน็ .อาร.์ เอ. ชนดิ ละ 5 ตาววั ยงิ ตาววั ละ 2 นดั รวมยงิ ทา่ ละ 10 นดั กาหนดเวลายงิ นดั ละ 1 นาที การตดั สนิ โดยนบั เป้าตาววั ทไ่ี ดแ้ ตม้ ต่าสุดของแต่ละเป้าตาววั ตอ้ งไมต่ ่ากว่า 1. ท่านอน 16 แตม้ 2. ท่านงั่ 14 แตม้ 3. ท่าคุกเขา่ 14 แตม้ 4. ทา่ ยนื 12 แตม้ หมายเหตุ การยงิ ตอ้ งยงิ ตามลาดบั ท่า 20 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
(4) ลกั ษณะปืนทใ่ี ชใ้ นภาคปฏบิ ตั ิ ก. ปืนทใ่ี ชห้ า้ มตดิ ศูนยก์ ลอ้ ง ข. การบรรจกุ ระสนุ ใชบ้ รรจุยงิ ทลี ะ 1 นดั (5) ตอ้ งทาการสอบขอ้ เขยี นไดไ้ มต่ ่ากว่า 80% และภาคปฏบิ ตั ไิ ดแ้ ตม้ ไมต่ ่ากวา่ ทก่ี าหนดไว้ วตั ถปุ ระสงคว์ ิชายิงปื นลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. บรรยายส่วนต่างๆของปืน และวธิ กี ารใชป้ ืนได้ 2. อธบิ ายกฎแห่งความปลอดภยั เกย่ี วกบั การยงิ ปืนได้ 3. ยงิ ปืนยาวอดั ลมและปืนไรเฟิลลกู กรดได้ 4. สาธติ ทา่ ยงิ ปืนตามลาดบั ท่าไดถ้ ูกตอ้ ง ตามหลกั สตู รกาหนด แนวการจดั ฝึ กอบรม ลกู เสอื วสิ ามญั ทจ่ี ะขอรบั เคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษ “วชิ ายงิ ปืน” จะตอ้ งศกึ ษาหลกั สตู รเน้อื หาวชิ าการ ใหท้ ราบขนั้ ตอนและนาไปปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. ไดท้ าการทดสอบการยงิ เป้าตาววั และทาแตม้ ใหไ้ ดต้ ามทค่ี ณะกรรมการผรู้ บั ผดิ ชอบได้ กาหนดไวภ้ ายใน 6 สปั ดาห์ โดยแผ่นนนั้ จะตอ้ งไดร้ บั คารบั รองจากผสู้ อนหรอื หน่วยงานท่ี มผี รู้ บั รอง 2. ไดผ้ า่ นการยงิ ปืนยาวอดั ลม ปืนไรเฟิลลกู กรดในท่ายงิ ต่างๆกนั และไดแ้ ตม้ ตามทก่ี าหนดไว้ ในหลกั สตู ร โดยมหี นงั สอื รบั รองจากหน่วยงานทไ่ี ดไ้ ปฝึกและปฏบิ ตั ิ 3. ทาขอ้ สอบขอ้ เขยี นไดไ้ มต่ ่ากว่า 80% โดยผกู้ ากบั ผรู้ บั ผดิ ชอบ จะเป็นผอู้ อกตรวจให้ 4. เมอ่ื ลกู เสอื วสิ ามญั ปฏบิ ตั ผิ ่านครบ 3ขนั้ ตอนแลว้ ทางโรงเรยี นจะทาเรอ่ื งขออนุมตั คิ ณะ กรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาติ เพอ่ื ขออนุมตั วิ ชิ าพเิ ศษ วชิ ายงิ ปืนใหล้ กู เสอื วสิ ามญั จงึ จะ มสี ทิ ธติ ์ ดิ เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษน้ไี ด้ 7.วิชาศิลปประยกุ ต์ หลกั สตู ร ใหเ้ ลอื กปฏบิ ตั ิ 5 ขอ้ ใน 9 ขอ้ จนเป็นทพ่ี อใจของผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั (1) สามารถออกแบบตวั อกั ษรชนดิ ต่าง ๆ ทใ่ี ชใ้ นงาน พาณชิ ย ศลิ ป์ ตามความเหมาะสมของการโฆษณาประกอบการใชส้ จี านวน 2 ภาพ ตามขนาดและขอ้ ความตามทผ่ี กู้ ากบั กาหนด (2) สามารถออกแบบปกหนังสอื และปกงานพมิ พต์ ่าง ๆ จานวน 2 ภาพ ตามขนาดและขอ้ ความทผ่ี กู้ ากบั กาหนด คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 21
(3) สามารถเขยี นภาพประกอบเรอ่ื ง ตามจนิ ตนาการและความรสู้ กึ ดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ และ เครอ่ื งมอื ต่าง ๆ เชน่ ดนิ สอ สเี มจกิ ฯลฯ จานวน 2 ภาพ ตามขนาดทผ่ี กู้ ากบั กาหนด (4) สามารถเขยี นภาพการต์ ูนเกย่ี วกบั ลกู เสอื ดว้ ยลายเสน้ สเี ดยี วและหลายสี อยา่ งละ 1 ภาพ ตาม ขนาดทผ่ี กู้ ากบั กาหนด (5) สามารถออกแบบเครอ่ื งหมาย สญั ลกั ษณ์ ส่อื ความหมาย หรอื รปู แบบประกอบตวั อกั ษรท่ี เกย่ี วกบั ลกู เสอื หรอื เอกลกั ษณ์ของไทย จานวน 2 ภาพ ตามขนาดทผ่ี ู้กากบั กาหนด (6) สามารถสรา้ งรปู จาลอง การจดั ตกแต่งสวนและบรเิ วณ โดยสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหว่างวสั ดุ และ สงิ่ ของ เพอ่ื นามาตกแต่ง ปฏบิ ตั กิ ารขนาดเลก็ ตามทผ่ี กู้ ากบั กาหนด (7) สามารถประยกุ ตง์ านหตั ถกรรมพน้ื บา้ น หรอื เครอ่ื งใชส้ อยในครวั เรอื น ใหเ้ กดิ ความเหมาะสมกบั สงั คมปัจจบุ นั ตามทผ่ี กู้ ากบั กาหนด (8) สามารถปัน้ ทาแมพ่ มิ พช์ น้ิ และแมพ่ มิ พท์ ุบ และการหล่อดว้ ยปนู ปลาสเตอร์ เป็นเครอ่ื งเล่น เครอ่ื งประดบั อาคารบา้ นเรอื นได้ จานวน 2 ชน้ิ ดว้ ยแมพ่ มิ พท์ ุบ 6 ชน้ิ และแมพ่ มิ พช์ น้ิ 1 ชน้ิ ตามทผ่ี กู้ ากบั กาหนด (9) สามารถทาภาพพมิ พโ์ ดยการออกแบบ งานพมิ พ์ แมพ่ มิ พ์ การพมิ พแ์ มพ่ มิ พไ์ ม้ การพมิ พ์ แมพ่ มิ พผ์ า้ ไทย เทคนคิ การทาแมพ่ มิ พด์ ว้ ยน้ายาไวแสง การถ่ายดว้ ยแสงแดด สปอทไลท์ และแสงนอี อน อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ 1 ชน้ิ ตามขนาดและสที ผ่ี กู้ ากบั กาหนด วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. บรรยายความหมายและขอบขา่ ยของการฝึกอบรมวชิ าศลิ ปประยกุ ตไ์ ด้ 2. อธบิ ายหลกั การและวธิ กี ารในการออกแบบงานศลิ ปะในหวั ขอ้ ต่างๆตามหลกั สตู รได้ 3. ปฏบิ ตั กิ ารในการออกแบบเกย่ี วกบั ศลิ ปะตามหลกั สตู รในการฝึกอบรมได้ แนวการจดั การฝึ กอบรม 1. บรรยายความหมาย หลกั การและวธิ กี ารในการฝึกอบรมในหวั ขอ้ ต่างๆ ตามหลกั สูตรวชิ าศลิ ป ประยกุ ตไ์ ด้ 2. สาธติ ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมไดเ้ หน็ ถงึ การออกแบบศลิ ปะในหวั ขอ้ ต่างๆตามหลกั สตู ร 3. ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมไดป้ ฏบิ ตั จิ รงิ ในการฝึกอบรมแต่ละเรอ่ื งในหลกั สตู ร 4. จดั นิทรรศการเก่ยี วกบั ศลิ ปะใหล้ กู เสอื วสิ ามญั ไดเ้ กดิ ความสนใจและแนวคดิ ตลอดจนทศั นคตทิ ด่ี ีต่อ วชิ าศลิ ปประยกุ ต์ วสั ดอุ ปุ กรณ์ในการฝึ กอบรม 1. ภาพต่างๆเช่น ตวั อกั ษรแบบต่างๆงานพมิ พ์ ห่นุ จาลอง งานปั้น 2. วสั ดอุ ุปกรณ์ กระดาษวาดเขยี น แผน่ ใส สไลด์ ภาพยนตร์ สชี นดิ ต่างๆของดนิ ฯลฯ 22 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
8. วิชาปฐมพยาบาล หลกั สตู ร (1) รแู้ ละสามารถปฏบิ ตั ติ ามหลกั ทวั่ ไปของการปฐมพยาบาลและ ขอ้ ควรจาของการปฐมพยาบาล (2) รแู้ ละสามารถสาธติ เรอ่ื งต่อไปน้วี ธิ กี ารหา้ มเลอื ดวธิ แี กไ้ ขอาการ ชอ็ ค (Shock)วธิ กี ารช่วยหายใจหรอื ผายปอด นวดหวั ใจ วธิ กี าร ขนเคล่อื นยา้ ยผปู้ ่วย หรอื ผบู้ าดเจบ็ รจู้ กั อาการของเรอ่ื งกระดกู หกั ในสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายวธิ กี ารเขา้ เฝือกชวั่ คราว วธิ แี กบ้ าดแผล มพี ษิ (3) เรยี นรถู้ งึ โรคบางชนิดทพ่ี บบอ่ ยๆในการเขา้ คา่ ยพกั แรมงานชุมนุม และยาทใ่ี ชใ้ นการรกั ษา อยา่ งสงั เขป (4) การทดสอบวชิ าปฐมพยาบาล ใหม้ ภี าคปฏบิ ตั แิ ละทดสอบดว้ ย คอื สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ สาธติ ได้ จน เป็นทพ่ี อใจของคณะกรรมการสอบ วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. บรรยายหลกั การทวั่ ไปเกย่ี วกบั การปฐมพยาบาลได้ 2. อธบิ ายวธิ กี ารปฐมพยาบาลและการใชย้ าทจ่ี าเป็นในเบอ้ื งตน้ ใหก้ บั ผปู้ ่วยไดพ้ อสงั เขป 3. ปฏบิ ตั กิ ารปฐมพยาบาลใหผ้ ปู้ ่วยในกรณตี ่างๆได้ แนวการจดั การฝึ กอบรม 1. บรรยายเกย่ี วกบั หลกั การทวั่ ไปของการปฐมพยาบาลในเรอ่ื งต่างๆตามหวั ขอ้ ในหลกั สตู ร 2. สาธติ การปฏบิ ตั พิ ยาบาลในหวั ขอ้ ต่างๆตามหลกั สตู ร 3. ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมไดป้ ฏบิ ตั จิ รงิ ในการฝึกอบรม 4. ใหล้ กู เสอื วสิ ามญั ไดอ้ อกปฏบิ ตั จิ รงิ ในภาคสนาม คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 23
9. วิชาอิเลก็ ทรอนิกส์ หลกั สตู ร (1) สามารถเขยี นวงจรเครอ่ื งรบั วทิ ยุ เอฟ.เอม็ . อยา่ งงา่ ย และจดั ทาเป็น(Printed Circuit) กบั ใสอ่ ุปกรณ์ทกุ อยา่ งใหเ้ ขา้ ท่ี ครบถว้ น และใช้ เครอ่ื งรบั วทิ ยทุ ส่ี รา้ งขน้ึ นนั้ อยา่ งไดผ้ ล (2) มคี วามรเู้ กย่ี วกบั อุปกรณ์ทเ่ี รยี กวา่ Integrated Circuit. (IC.) และสามารถนาไปใชง้ านใน เครอ่ื งรบั วทิ ยุ หรอื เคร่อื งอุปกรณ์ ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ อยา่ งน้อย 1 อยา่ ง (3) สามารถตดิ ตงั้ เสาอากาศโทรทศั น์ เพอ่ื ใชก้ บั เครอ่ื งรบั โทรศพั ท์ ขาวดาและสโี ดยใหร้ บั สญั ญาณ ภาพไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ทกุ สถานี วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. เขยี นวงจรเครอ่ื งรบั วทิ ยุ เอฟ.เอม็ . อยา่ งง่ายไดแ้ ละสามารถจดั ทาเป็นแผ่นวงจรพมิ พไ์ ด้ 2. สามารถประกอบอุปกรณ์เครอ่ื งรบั วทิ ยุ เอฟ.เอม็ . และนาไปใชไ้ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. มคี วามรเู้ กย่ี วกบั อุปกรณ์ IC. และสามารถนาไปใชก้ บั อุปกรณ์ทางอเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ดอ้ ยา่ งน้อย 1 อยา่ ง 4. สามารถตดิ ตงั้ เสาอากาศวทิ ยุ-โทรทศั น์ ไดแ้ ละสามารถรบั สญั ญาณไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ แนวการจดั การฝึ กอบรม 1. บรรยายนาเกย่ี วกบั เครอ่ื งรบั วทิ ยรุ ะบบ เอฟ.เอม็ . และเสาอากาศรบั สญั ญาณ โทรทศั น์ชนดิ ต่างๆ 2. สาธติ การนาอุปการณ์ IC. ไปประกอบกบั เครอ่ื งอุปกรณ์ทางอเิ ลก็ โทรนิกสห์ รอื ในเครอ่ื งรบั วทิ ยุ 3. สาธติ การตดิ ตงั้ เสาอากาศเพ่อื รบั สญั ญาณภาพทงั้ เครอ่ื งรบั สแี ละขาวดา 4. ใหผ้ รู้ บั การฝึก สามารถประกอบและตดิ ตงั้ อุปกรณ์ IC. ในอุปกรณ์อเิ ลก็ โทรนกิ สห์ รอื ในวทิ ยอุ ยา่ ง น้อย 1 อยา่ ง 5. ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การฝึก สามารถประกอบและตดิ ตงั้ อุปกรณ์เสาอากาศรบั สญั ญาณภาพไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพทุกสถานี 6. เสนอรายงานการปฏบิ ตั ติ ่อทป่ี ระชุม 24 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
10. วิชาบริการ หลกั สตู ร (1) ทาหน้าทพ่ี เ่ี ลย้ี งของลกู เสอื วสิ ามญั ทเ่ี ขา้ ใหม่ (2) ทาหน้าทเ่ี ป็นกรรมการของกอง (3) บาเพญ็ ประโยชน์ต่อกองลกู เสอื ของตนไม่ น้อยกว่า 9 ครงั้ (4) บาเพญ็ ประโยชน์ต่อกองลกู เสอื อ่นื ไมน่ ้อยกว่า 6 ครงั้ (5) บาเพญ็ ประโยชน์ต่อชุมชนไมน่ ้อยกวา่ 3 ครงั้ วตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ลกู เสือสามญั สามารถ 1. อธบิ ายถงึ หน้าทข่ี องพเ่ี ลย้ี งไดถ้ กู ตอ้ งและปฏบิ ตั ขิ องลกู เสอื วสิ ามญั ทเ่ี ขา้ ใหมไ่ ด้ 2. อธบิ ายถงึ หน้าทข่ี องคณะกรรมการประจากองไดถ้ ูกตอ้ ง และปฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี นคณะกรรมการประจา กอง 3. อธบิ ายความหมายของการบรกิ ารและประเภทของการบรกิ ารได้ 4. อธบิ ายหลกั ในการใหบ้ รกิ ารได้ 5. อธบิ ายงานและโอกาสทจ่ี ะใหบ้ รกิ ารหรอื บาเพญ็ ประโยชน์ต่อตนเอง ขบวนการลกู เสอื และชุมชนได้ 6. ปฏบิ ตั ติ นไดต้ ามคตพิ จน์ของลกู เสอื วสิ ามญั ทงั้ น้ี แนวทางในการดาเนินการจดั กจิ กรรมไดจ้ ดั ทาเป็นแผนการสอน แผนเป็นการเฉพาะเพ่อื ใหผ้ ู้ กากบั ลกู เสอื ไดศ้ กึ ษาและนาไปใชต้ ่อไป 11. วิชาสงั คมสงเคราะห์ หลกั สตู ร มคี วามรแู้ ละสามารถชแ้ี จงเรอ่ื งราวตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ไี ดด้ พี อสมควร (1) ปัญหาสงั คม (2) ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั กรมประชาสงเคราะห์ และการสงั คม สงเคราะห์ (3) การสรา้ งความสมั พนั ธก์ บั ผรู้ บั การสงเคราะห์ (4)บทบาทและหน้าทข่ี องงานประชาสงเคราะห์ (5) การสงเคราะหเ์ ดก็ และบุคคลวยั รนุ่ (6) การสงเคราะหค์ รอบครวั คนชรา คนพกิ าร คนขอทาน และคนไรท้ พ่ี ง่ึ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 25
(7) การสงเคราะหผ์ ปู้ ระสบภยั (8) องคก์ ารสงั คมสงเคราะหเ์ อกชนกบั งานสงเคราะหผ์ ปู้ ระสบภยั (9) การออกหน่วยช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั (10) บทบาทและหน้าทข่ี องลกู เสอื ในสงเคราะหผ์ ปู้ ระสบภยั อคั คภี ยั อุทกภยั และวาตภยั (11) การจดั ทพ่ี กั ชวั่ คราวสาหรบั ผปู้ ระสบภยั (12) การรบั บรจิ าคสงิ่ ของเหลอื ใชส้ าหรบั ผปู้ ระสบภยั ทงั้ น้ี แนวทางในการดาเนินการจดั กจิ กรรมไดจ้ ดั ทาเป็นแผนการสอน แผนเป็นการเฉพาะเพอ่ื ใหผ้ ู้ กากบั ลกู เสอื ไดศ้ กึ ษาและนาไปใชต้ ่อไป 12. เครือ่ งหมายวชิราวธุ หลกั สตู ร (1) ไดร้ บั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั อยา่ งน้อย 5 วชิ า (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื หรอื ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั รบั รองวา่ เป็นผู้ ดาเนนิ ชวี ติ ตามแบบลกู เสอื และปฏบิ ตั ติ ามคตพิ จน์วา่ “บรกิ าร” โดยเครง่ ครดั (3) เลขาธกิ ารคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาติ ผอู้ านวยการลกู เสอื จงั หวดั ผอู้ านวยการ ลกู เสอื อาเภอ แลว้ แต่กรณี เป็นผแู้ ต่งตงั้ บคุ คลทม่ี คี ุณวุฒเิ หมาะสมทาการสมั ภาษณ์ เมอ่ื เหน็ ว่าเป็นผเู้ หมาะสมกใ็ ห้ รายงานไปตามลาดบั จนถงึ คณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง่ ชาตเิ พอ่ื ขออนุมตั ิ วตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ลกู เสือวิสามญั สามารถ 1. เพอ่ื แสดงถงึ ความสามารถของลกู เสอื วสิ ามญั ทไ่ี ดร้ บั เครอ่ื งหมายสงู สุด 2. เป็นพเ่ี ลย้ี งลกู เสอื วสิ ามญั ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพได้ 3. เป็นรองผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ได้ 26 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แนวการจดั การฝึ กอบรม ผทู้ จ่ี ะไดร้ บั เครอ่ื งหมายวชริ าวธุ จะตอ้ งสอบไดว้ ชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั อยา่ งน้อย 5 วชิ าซง่ึ ควรจะมี วชิ าเหลา่ น้คี อื 1. วชิ าการลกู เสอื 2. วชิ าเดนิ ทางไกลและอยคู่ า่ ยพกั แรม 3. วชิ าบรกิ าร 4. วชิ าผฝู้ ึกสอน 5. วชิ าปฐมพยาบาล วชิ าเหล่าน้ถี อื เป็นวชิ าหลกั ในการทจ่ี ะบรกิ ารผอู้ ่นื ไดต้ ามวตั ถุประสงคข์ องเครอ่ื งหมายวชริ าวธุ ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั จะตอ้ งจดั การสอนและฝึกอบรม เพ่อื สอบวชิ าพเิ ศษเหลา่ น้ี เนื้อหาวิชาประกอบการฝึ กอบรมตามหลกั สตู ร 1. วิชาการลกู เสือ หลกั สตู ร 1. ไดร้ บั การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสอื ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภทของลกู เสอื สารอง หรอื ลกู เสอื สามญั อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ 2. ไดท้ ดลองปฏบิ ตั หิ น้าทผ่ี กู้ ากบั ลกู เสอื ในกองนนั้ ๆ ไมน่ ้อยกว่า 3 เดอื น วิธีปฏิบตั ิ จากขอ้ 1. - สง่ ลกู เสอื วสิ ามญั เขา้ รบั การอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื สารอง หรอื สามญั ชนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ตามทห่ี น่วยงานต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งเปิดการฝึกอบรมขน้ึ หรอื - จดั ฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื สารอง หรอื ลกู เสอื สามญั ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ขน้ึ ในกองลกู เสอื วสิ ามญั นนั้ เอง ใหค้ รบทุกวชิ าแลว้ ประเมนิ ผลแต่ละวชิ าจน ผา่ นหมดทุกวชิ า ซง่ึ ผสู้ อนจะตอ้ งไดร้ บั เครอ่ื งหมายวดู แบดจว์ สิ ามญั 2 ทอ่ น เป็นอยา่ งน้อย หรอื - จดั ฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื สารอง หรอื ลกู เสอื สามญั ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งต้น ให้แก่ลูกเสอื วสิ ามญั แบบการอยู่ค่ายพกั แรม คือจดั เหมอื นอบรมขนั้ ความรู้ เบอ้ื งตน้ (B.T.C.) จรงิ ๆ แต่ไมไ่ ดร้ บั วฒุ บิ ตั ร จากขอ้ 2. - สง่ ลกู เสอื วสิ ามญั เขา้ ไปปฏบิ ตั หิ น้าทผ่ี กู้ ากบั ลกู เสอื สารอง หรอื ผกู้ ากบั ลูกเสอื สามญั ในกองลูกเสอื สารอง หรอื กองลูกเสอื สามญั จรงิ ๆ จนครบ 3 เดอื น และไดร้ บั คารบั รองจากผกู้ ากบั ลกู เสอื ของกองลกู เสอื นนั้ ๆ หรอื - ทดลองปฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี นกองลกู เสอื วสิ ามญั นนั้ เอง ในกรณที ไ่ี มส่ ามารถจะส่ง คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 27
ลกู เสอื วสิ ามญั ไปปฏบิ ตั หิ น้าท่ผี กู้ ากบั ลกู เสอื สารอง หรอื สามญั ได้ โดยผู้ กากบั ลกู เสอื วสิ ามญั รบั รองผลกงานใหก้ ไ็ ด้ (ในฐานะพเ่ี ลย้ี งปฏบิ ตั หิ น้าท่ี แทนผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั เป็นเวลา 3 เดอื น) 2. วิชาเดินทางไกลและอย่คู ่ายพกั แรม หลกั สตู ร เดนิ ทางไกลไปกบั ลกู เสอื วสิ ามญั เป็นเวลา 4 วนั ตดิ ต่อกนั (อยทู่ ค่ี า่ ยพกั แรม 3 คนื ) หรอื เดนิ ทางไกลไปกบั ลูกเสือวสิ ามญั 2 ครงั้ แต่ละครงั้ ใช้เวลา 48 ชวั่ โมง โดยอยู่ค่ายพกั แรม 2 คนื ไม่นับเวลา เดนิ ทางไปและกลบั การเดนิ ทางไกลดงั กล่าว ลูกเสอื จดั การเองโดยตลอด ทงั้ น้ีด้วยความเหน็ ชอบของผู้ กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั การเดนิ ทางไกลและแรมคนื ต้องไดม้ าตรฐานสูง การเดนิ ทางไกล จะไปทางบก หรอื ทางน้า ภายในประเทศหรอื ต่างประเทศกไ็ ด้ ต้องแสดงว่าในการเดนิ ทางต้องใช้ความอดทน การพ่งึ ตนเอง ความคดิ รเิ รม่ิ ความมานะ และการ เป็นผนู้ า กบั ตอ้ งทาสมดุ ปมู รายงานการเดนิ ทางยน่ื ต่อผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ดว้ ย วิธีปฏิบตั ิ การเดนิ ทางไกลและอย่คู ่ายพกั แรมของลูกเสอื วสิ ามญั เพ่อื ให้ได้มาตรฐานตามหลกั สูตรน้ี ลูกเสอื วสิ ามญั เลอื กการเดนิ ทางได้ 2 วธิ ี คอื 1. เดนิ ทางไกลและอยคู่ ่ายพกั แรมไปกบั ลกู เสอื วสิ ามญั อ่นื ๆ ทงั้ กอง เป็นเวลา 4 วนั ตดิ ต่อกนั และ อยคู่ า่ ยพกั แรม 3 คนื ทากจิ กรรมของการอยคู่ า่ ยพกั แรมดงั น้ี - สรา้ งค่ายพกั แรมดว้ ยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการกางเตน็ ท์ หรอื สรา้ งเพงิ จากวสั ดุธรรมชาตใิ ห้ ป้องกนั ลม ฝน ได้ - จดั บรเิ วณค่ายให้สวยงาม สะอาด มกี ารทาอุปกรณ์การอย่คู ่ายพกั แรม เช่น เตาลอยท่เี ก็บ อุปกรณ์ครวั ทน่ี งั่ รบั ประทนอาหาร ทเ่ี กบ็ แกว้ น้าและอาหารสดต่าง ๆ ตลอดทข่ี ดุ หลุมเปียก หลมุ แหง้ ฯลฯ - มกี ารทดสอบการผจญภยั ตามหลกั เกณฑก์ ารอยคู่ า่ ยพกั แรม และวชิ าบุกเบกิ ดว้ ย - มกี ารฝึกการทาแผนทแ่ี ละการเดนิ ทางสารวจเป็นระยะทางไมน่ ้อยกว่า 8 กโิ ลเมตร เพ่อื ใหม้ ี การเขยี นรายงานการเดนิ ทาง 2. เดนิ ทางไกลกบั ลูกเสอื วสิ ามญั 2 ครงั้ ครงั้ ละไม่น้อยกว่า 48 ชวั่ โมง อย่คู ่ายพกั แรม 2 คีน อาจ ไปโดยรถจกั รยาน หรอื ทางน้า (พายเรอื ไป) โดยทากจิ กรรมเหมอื น ขอ้ 1 ทงั้ 2 ขอ้ น้ี ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั จะต้องทราบวา่ ลูกเสอื วสิ ามญั จะไปอยคู่ ่ายพกั แรมทไ่ี หน? ไปโดย วธิ กี ารอยา่ งไร? ไปทากจิ กรรมอะไรบา้ ง? มคี วามปลอดภยั มากน้อยเพยี งใด? (ถ้าเหน็ ว่าไม่ปลอดภยั ต้อง สงั่ งดโดยเดด็ ขาด) และตอ้ งลงนามรบั รองผลการเดนิ ทางทุกครงั้ 28 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
3. วิชาบริการ หลกั สตู ร (1) ทาหน้าทพ่ี เ่ี ลย้ี งของลกู เสอื วสิ ามญั ทเ่ี ขา้ ใหม่ (2) ทาหน้าทเ่ี ป็นกรรมการของกอง (3) บาเพญ็ ประโยชน์ต่อกองลกู เสอื ของตนไมน่ ้อยกว่า 9 ครงั้ (4) บาเพญ็ ประโยชน์ต่อกองลกู เสอื อ่นื ไมน่ ้อยกว่า 6 ครงั้ (5) บาเพญ็ ประโยชน์ต่อชุมชนไม่น้อยกว่า 3 ครงั้ วิธีปฏิบตั ิ ให้ลูกเสอื วสิ ามญั ทาหน้าท่ตี ่าง ๆ ดงั กล่าว ในหลกั สูตรทุกข้อ โดยมอบหมายให้ดาเนินการตาม ขนั้ ตอนทเ่ี หมาะสม แลว้ ใหผ้ กู้ ากบั ลกู เสอื ลงนามรบั รองในสมดุ บนั ทกึ ผลงานของลกู เสอื วสิ ามญั คนนัน้ ในกรณีทล่ี ูกเสอื วสิ ามญั มาจากกองอ่นื ใหพ้ จิ ารณาจากสมุดบนั ทกึ ประจาวนั ของลกู เสอื วสิ ามญั คน นนั้ อย่างละเอยี ด ตลอดทงั้ การลงนามรบั รองของผกู้ ากบั ลกู เสอื ดว้ ย หากมขี อ้ สงสยั อาจใหท้ ดลองปฏบิ ตั จิ รงิ กไ็ ดต้ ามเหมาะสม 4. วิชาผฝู้ ึ กสอน หลกั สตู ร (1) ผ่านการฝึกอบรมขนั้ ความรู้เบ้ืองต้น (B.T.C.) ประเภทใดประเภทหน่ึงของหลกั สูตรลูกเสือ สารอง สามญั สามญั รนุ่ ใหญ่ (2) สามารถทาการสอนวชิ าลกู เสอื ตามประเภททต่ี นรบั การอบรมแลว้ อยา่ งน้อย 2 วชิ า (3) ไดท้ าการสอนเป็นทพ่ี อใจของผกู้ ากบั กองนนั้ ๆ เป็นเวลา 3 เดอื น โดยใหส้ อนอยา่ งน้อย 2 วชิ า วชิ าละ 3 ครงั้ วิธีปฏิบตั ิ จากข้อ 1 ให้ดูจากวุฒบิ ตั รว่าผ่านการฝึกอบรมจรงิ หรอื ไม่ หากไม่ผ่านการฝึกอบรมดงั กล่าว ให้ผู้ กากบั ลูกเสอื จดั ฝึกอบรมขน้ึ ภายในกองให้ครบทุกวชิ าเหมอื นการจดั การฝึกอบรมของวชิ าผู้กากบั ลูกเสอื สารอง สามญั หรอื สามญั รนุ่ ใหญ่ ขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภทใดประเภทหน่งึ แลว้ ลงนามรบั รองให้ จากข้อ 2 ใหท้ าการสอนใหด้ ู 2 วชิ า โดยใหส้ อนจรงิ ๆ หรอื สมั ภาษณ์ หรอื ใหเ้ ขยี นแผนการสอนให้ ดู อยา่ งหน่งึ ตามทผ่ี กู้ ากบั ลกู เสอื เหน็ สมควร จากข้อ 3 ส่งไปช่วยทาการสอนในกองลูกเสอื ทอ่ี ยใู่ กลเ้ คยี งเป็นเวลา 3 เดอื น ตามกาหนดแลว้ ขอดู ใบรบั รองผลงานจากผู้กากบั ลูกเสอื กองนัน้ ๆ หรอื ให้สอนในกองลูกเสอื วสิ ามญั ของตนเองโดยมผี ู้กากบั ลกู เสอื ควบคุมอยา่ งใกลช้ ดิ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 29
5. วิชาปฐมพยาบาล หลกั สตู ร (1) รแู้ ละสามารถปฏบิ ตั ติ ามหลกั ทวั่ ไปของการปฐมพยาบาลและขอ้ ควรจาของการปฐมพยาบาล (2) รแู้ ละสามารถสาธติ เรอ่ื งต่อไปน้ี วธิ กี ารหา้ มเลอื ด วธิ แี กไ้ ขอาการงนั (Shock) วธิ กี ารชว่ ยหายใจ หรอื ผายปอด นวดหวั ใจ วธิ กี ารขน เคล่อื นยา้ ยผปู้ ่วย หรอื ผบู้ าดเจบ็ รจู้ กั อาการของเรอ่ื งกระดกู หกั ในสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย วธิ กี ารเขา้ เฝือกชวั่ คราว วธิ แี กบ้ าดแผลมพี ษิ (3) เรยี นรถู้ ึงโรคบางชนิดท่ีพบบ่อย ๆ ในการเขา้ ค่ายพกั แรมงานชุมชน และยาทใ่ี ช้ในการรกั ษา อยา่ งสงั เขป (4) การทดลองวชิ าปฐมพยาบาล ใหม้ ภี าคปฏบิ ตั แิ ละทดสอบดว้ ย คอื สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ สาธติ ได้ จนเป็นทพ่ี อใจของคณะกรรมการสอบ วิธีปฏิบตั ิ จากข้อ 1 อาจทาการฝึกอบรมขน้ึ ในกองลูกเสอื วสิ ามญั เอง หรอื ส่งไปเขา้ รบั การฝึกอบรมตามท่มี ี การฝึกอบรมวชิ าปฐมพยาบาล หรอื ดจู ากหนงั สอื สาคญั วา่ ผ่านการฝึกอบรมมาแลว้ (ถา้ ลกู เสอื คนนนั้ เคยรบั การฝึกอบรมมาแลว้ ) จากข้อ 2 ใหส้ าธติ ใหด้ ู หรอื ตอบคาถามในกระดาษ โดยอธบิ ายใหเ้ ขา้ ใจ จากข้อ 3 สมั ภาษณ์หรอื ใหเ้ ขยี นบรรยายใหด้ ู แลว้ ซกั ถามตามความเหมาะสม จากข้อ 4 ใหส้ าธติ ใหด้ จู นเป็นทพ่ี อใจของคณะกรรมการ หากลกู เสอื วสิ ามญั ผนู้ นั้ ไดเ้ คยผ่านวชิ าการต่าง ๆ ทไ่ี ดก้ าหนดไว้ อาจจะทงั้ หมดหรอื บางวชิ า กใ็ หผ้ ู้ กากบั ลูกเสอื สมั ภาษณ์หรอื ให้คณะกรรมการผู้ซ่งึ เป็นผู้เช่ยี วชาญเฉพาะวชิ า ทาการสมั ภาษณ์ตามแบบ สมั ภาษณ์ดงั น้ี 30 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แบบสมั ภาษณ์ลกู เสือวิสามญั เพ่ือรบั เครอื่ งหมายวชิราวธุ ชอ่ื (ลกู เสอื ) ...............................................................นามสกุล........................................................ กองลกู เสอื วสิ ามญั (โรงเรยี น, วทิ ยาลยั )................................................................................................ ที่ วิชาที่สมั ภาษณ์ วนั เดือน ปี ความเหน็ ของผู้ หมายเหตุ สมั ภาษณ์ วชิ า………………………… ภาคทฤษฎี 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ภาคปฏิบตั ิ/ทกั ษะ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 31
เสนอคณะกรรมการสอบเคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษ เครอ่ื งหมายวชริ าวุธ ขา้ พเจา้ ไดท้ าการสอบสมั ภาษณ์ทงั้ ภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ตั ขิ องลกู เสอื วสิ ามญั ………………………………………..…………แลว้ เหน็ ว่า สมควร ไดร้ บั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ / ยงั ไมค่ วรไดร้ บั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ (ลงชอ่ื )................................................ (................................................) ผทู้ าการสมั ภาษณ์ 32 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั การกิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยท่ี 2 วิชาโครงการ แผนการจดั กิจกรรมที่ 2 การอนุรกั ษ์และร่วมแก้ไขทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เวลา 4 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถบอกความหมาย ประเภท และประโยชน์ของโครงการได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถเลอื ก เขยี น และนาเสนอโครงการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มได้ อยา่ งเหมาะสม 2. เนื้อหา 2.1 ความหมายของโครงการ 2.2 การวางแผนโครงการมคี วามจาเป็นต่อแผนปฏบิ ตั งิ าน 2.3 ลกั ษณะของโครงการทด่ี ี 2.4 รปู แบบ(Form) หรอื โครงสรา้ ง (Structure) ของการเขยี นโครงการ 2.5 สง่ิ สาคญั ทค่ี วรคานึงถงึ ในการเขยี นโครงการ 2.6 ขนั้ ตอนการเสนอโครงการ 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง/เกมส์ 3.2 ใบความรู้ วชิ าโครงการ (ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ จากใบความรวู้ ชิ าการเขยี นโครงการ ลูกเสอื วสิ ามญั ชนั้ มธั ยมศกึ ษา ปีท่ี 4 และ ปวช. 1 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 21) 3.3 แผนภมู /ิ แผนโปรง่ ใส/ PowerPoint 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ที่ 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื ร่วมกนั สนทนาวธิ กี ารทางานกลุ่มใหป้ ระสบความสาเรจ็ (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยายประกอบแผนภูมิ หรอื แผน่ โปรง่ ใสหรอื PowerPoint เกย่ี วกบั คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 33
ความหมายของโครงการ ความสาคญั ของโครงการต่อแผนปฏบิ ตั งิ าน ลกั ษณะของโครงการทด่ี ี และ โครงสรา้ งของการเขยี นโครงการ(จากใบความรวู้ ชิ าโครงการ) (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหล้ กู เสอื แต่ละหมู่ ออกสารวจสถานทภ่ี ายในสถานศกึ ษาเพอ่ื จดั ทาแผนเสนอโครงการอนุรกั ษ์ และรว่ มแกไ้ ขทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของสถานศกึ ษา ตามแบบฟอรม์ ทแ่ี จกให้ (เวลา 20 นาท)ี (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหล้ กู เสอื แต่ละหมู่ อภปิ รายกลุม่ ผลของการสารวจสถานท่ี เพอ่ื เขยี นโครงการตามแบบฟอรม์ (5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยายเรอ่ื งเสนอโครงการ แลว้ มอบหมายใหแ้ ต่ละหมไู่ ปดาเนินงานตาม โครงการภายในระยะเวลา 10 สปั ดาห์ โดยใชเ้ วลาวา่ งนอกเวลาเรยี น แลว้ บนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั งิ าน โดยมผี กู้ ากบั ไปนิเทศการดาเนินงานเป็นระยะ (6) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นดั หมายเวลาในการนาเสนอผลงาน 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ “มดงา่ มกบั นกพริ าบ” 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ท่ี 2 หลงั จากลกู เสอื ดาเนินงานตามโครงการแลว้ ไมน่ ้อยกว่า4 สปั ดาห์ 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหล้ กู เสอื แต่ละหมนู่ าเสนอผลการดาเนินงานตามโครงการ ดว้ ยวธิ ใี ดวธิ หี น่งึ ดงั ต่อไปน้ี โดยระหว่างการนาเสนอมอบหมายแต่ละหมปู่ ระเมนิ ผลงานดว้ ย (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเสนอโครงการเรยี บรอ้ ยแลว้ นาไปจดั นิทรรศการดว้ ยแผนภมู ิ (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ ประเมนิ ผลใหข้ อ้ เสนอแนะและช่นื ชมผลงาน (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหล้ กู เสอื แต่ละหมสู่ รปุ รายงานผลการดาเนินโครงการ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการสรปุ รายงานผลการดาเนินโครงการ 34 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 2 เพลง ในหมลู่ กู เสือ ในหมลู่ กู เสอื เมอ่ื เรารว่ มอยู่ ต่างคนต่างรกู้ นั ดใี นหน้าทท่ี ุกอยา่ ง ต่างช่วยกนั ทา ทาไมเ่ วน้ ว่าง งานทกุ อยา่ ง งานทุกอยา่ ง จะเสรจ็ โดยงา่ ยดาย ในหมเู่ นตรนารี ทเ่ี ราจะรว่ มอยู่ ต่างคนต่างรกู้ นั ดใี นหน้าทท่ี ุกอย่าง ต่างชว่ ยกนั ทา ทาไมเ่ วน้ ว่าง งานทกุ อยา่ ง งานทุกอย่าง จะเสรจ็ โดยงา่ ยดาย เกม ทางานกล่มุ ใชผ้ เู้ ลน่ 6 คน ถอื เชอื กคนละเสน้ ใหด้ งึ เสน้ เชอื กใหต้ งึ แลว้ นากระป๋ องใบเลก็ ทผ่ี กู เชอื ก 6 เสน้ น้ไี ปวาง ไวบ้ นกระป๋ องใบใหญ่ มกี ตกิ าวา่ หา้ มไมใ่ หเ้ ชอื กแต่ละเสน้ หยอ่ น ต่อไปใชเ้ พยี ง 3 คน ถอื เสน้ เชอื กแลว้ ทา อยา่ งเดมิ ต่อไปใชเ้ พยี งคนเดยี วใหจ้ บั เวลาไวแ้ ต่ละครงั้ ดว้ ย ประโยชน์จากการเลน่ เกมน้ี ผเู้ ลน่ จะไดป้ ระโยชน์มากจากเกมน้ี เพราะทาใหท้ ราบว่า งานเลก็ ๆ ใชค้ นมาก จะเสยี เวลามาก ถา้ ใชค้ น น้อยๆ จะเสรจ็ เรว็ กว่า คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 35
หาตวั เลข วิธีเล่น 1. เขยี นตวั เลข 1-50-100 ปนเปลงไปบนน้ากระดาษทเ่ี ตรยี มไวแ้ ลว้ โดยการเขยี นเลขนนั้ คนเขยี น จะเป็นคนจดั ตวั เลขไวแ้ ยกจากกนั คอื เลขคู่ อยคู่ รง่ึ กระดาษอกี ซกี หน่งึ เลขคอ่ี ยอู่ กี ครง่ึ กระดาษอกี ดา้ นหน่งึ หรอื ไวข้ า้ งลา่ งเป็นเลขคู่ ขา้ งบนเป็นเลขคก่ี ไ็ ด้ (การวางเลขค่คู จ่ี ะไม่มกี ารบอกผเู้ ล่นว่า เลขคอู่ ยตู่ รงไหน เลข คอ่ี ยตู่ รงไหน) 2. ผเู้ ลน่ ทงั้ 3 คน จะนงั่ ลอ้ มวงอยรู่ อบๆ กระดาษทม่ี ตี ารางตวั เลขอยแู่ ลว้ ใหท้ งั้ 3 ชว่ ยกนั หาเลข 1-50 โดยจะมคี นๆ หน่งึ เตรยี มกากบาททบั เลขท่ี 2 คนคอยเป็นคนบอก 3. กลมุ่ ไหนหาตวั เลขเสรจ็ ก่อนจะเป็นผชู้ นะ สรปุ แนวคิด 1. การทางานเป็นทมี เมอ่ื เราทางานเป็นทมี เรากจ็ ะรจู้ กั หน้าทแ่ี ละรวดเรว็ ในการทางาน 2. การแบง่ งานออกเป็นกล่มุ 3. การรจู้ กั สงั เกต 4. ความรว่ มมอื ของกลุ่ม เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ หมวดวิชยั นักปลกู ต้นไม้ จากชวี ติ จรงิ ของ ร.ต.ต.วชิ ยั สุรยิ ทุ ธ 30 กว่าปีทแ่ี ลว้ ตารวจนายหน่งึ พากเพยี รปลกู ตน้ ไมเ้ พ่อื หวงั ใหบ้ า้ นเกดิ ทต่ี นเองอย่นู นั้ อุดมสมบูรณ์มาก ขน้ึ และจนถงึ วนั น้ีทช่ี วี ติ กา้ วสวู่ ยั เกษยี ณ เขากย็ งั เพยี รปลกู ตน้ ไม้ ซง่ึ นบั จากวนั นัน้ จนถงึ วนั น้ี นบั ไดห้ ลาย ลา้ นตน้ และบอก “ผมจะปลกู ต้นไม้ไปจนกว่าผมจะตาย” โครงการแผ่นดนิ ธรรมแผ่นดนิ ทอง ซง่ึ เป็นโครงการพระราชดารขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั นบั เป็นแรงบนั ดาลใจครงั้ แรกทท่ี าใหน้ ายดาบตารวจ ทถ่ี งึ แมป้ ัจจุบนั จะไดเ้ ล่อื นขนั้ เป็นผหู้ มวดแลว้ ก็ตาม ยดึ ถอื และดาเนินรอยตามมาโดยตลอด ตงั้ แต่วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2531 เป็นต้นมา เขาคอื ผทู้ ท่ี าใหถ้ นนหลายสายในอาเภอปรางคก์ ู่ ทใ่ี นอดตี 36 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
เคยจดั วา่ เป็นอาเภอทย่ี ากจนทส่ี ุดในจงั หวดั ศรสี ระเกษ เรมิ่ มคี วามอุดมสมบรู ณ์เตม็ ไปดว้ ยตน้ ไมท้ ข่ี น้ึ เรยี ง ราย เน่อื งจากน้าพกั น้าแรงและความตงั้ ใจของเขาเอง ปัจจบุ นั ตน้ ไมท้ ห่ี มวดวชิ ยั ปลกู เกดิ ขน้ึ มากมายเป็นหลายลา้ นตน้ และคาดวา่ กจ็ ะคงดาเนินต่อไปดงั คา หมวดวชิ ยั เคยตงั้ ปณธิ านไวว้ า่ “จะปลกู ต้นไม้จนกว่าจะตาย” และกเ็ หน็ วา่ จะเป็นจรงิ เชน่ นนั้ เพราะตลอด ระยะ 30 ปีทเ่ี ขาทามา ผหู้ มวดวยั เกษยี ณคนน้ไี มเ่ คยบ่นสกั คาวา่ เสยี เปรยี บใคร เร่อื งนี้สอนให้ร้วู ่า การทส่ี งั คมจะดขี น้ึ ไดน้ นั้ ตอ้ งเรมิ่ ทต่ี วั เรา มดง่ามกบั นกพิราบ มดงา่ มตวั หน่ึงเหน็ นายพรานยกปืนขน้ึ มาเพ่อื ส่องจอ้ งยงิ นกพริ าบ แต่มดงา่ มไมอ่ ยากใหน้ กพริ าบตอ้ ง ถกู กระสุนปืนนายพราน จงึ ไต่ขน้ึ ไปบนขาของนายพรานแลว้ คอยทที น่ี ายพรานจะเหน่ียวไกปืน มดงา่ มกก็ ดั ทเ่ี ทา้ ของนายพราน ทาใหน้ ายพรานสะดงุ้ ยงิ ปืนพลาดไปถกู กง่ิ ไม้ และนกพริ าบไมถ่ กู ยงิ ต่อมาไม่นานมดง่ามรสู้ กึ กระหายน้าจงึ เดนิ ไปท่บี ่อน้า แต่ขณะท่จี ะกนิ น้าก็พลดั ตกลงไปในบ่อน้า มด งา่ มจงึ ตะโกนรอ้ งขอความชว่ ยเหลอื นกพริ าบซง่ึ เกาะอยทู่ ก่ี งิ่ ไม้ ใกลๆ้ ไดย้ นิ เสยี งกเ็ ลยเอาปากคาบใบไมม้ า ทง้ิ ไว้ใกลม้ ดง่าม มดง่ามจงึ รบี ปีนขน้ึ บนใบไมท้ นั ที ทาใหร้ อดตายไดใ้ นท่สี ุด ส่วนนกพริ าบนัน้ กด็ ใี จท่ไี ด้มี โอกาสตอบแทนบญุ คณุ ของมดงา่ ม เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า การช่วยเหลอื ผอู้ ่นื ยอ่ มก่อใหเ้ กดิ ผลดตี ่อตนเองอยเู่ สมอ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 37
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยที่ 2 วิชาโครงการ เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 3 การอนุรกั ษ์และสืบสานวฒั นธรรมไทย 1.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความหมายและวธิ กี ารอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทยได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถสรา้ งเครอื ขา่ ย เพ่อื สบื สานวฒั นธรรมไทยได้ 2.เนื้อหา 2.1 ความหมายการอนุรกั ษ์และสบื สานวฒั นธรรมไทย 2.2 วธิ กี ารอนุรกั ษ์สบื สานวฒั นธรรมไทย 2.3 การสรา้ งเครอื ขา่ ย/แนวรว่ มอนุรกั ษ์สบื สานวฒั นธรรมไทย 3.สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยาย ทาการอภปิ รายถงึ ปัจจุบนั ทค่ี นวยั หนุ่มสาว มคี วามจาเป็นทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ สอดแทรกวฒั นธรรมประเพณไี ทย ใหม้ คี า่ นิยมรกั และหวงแหนวฒั นธรรมของชาติ โดยใหร้ วู้ ่า - วฒั นธรรม คอื อะไร - วฒั นธรรม มกี ป่ี ระเภท - วฒั นธรรม มอี งคป์ ระกอบทส่ี าคญั อยา่ งไร - วฒั นธรรม มกี ารเปลย่ี นแปลงได้- การแสดงคุณค่าทางสุนทรภี าพ และอารมณ์สะเทอื นใจทม่ี ี ต่อวฒั นธรรมไทย (โดยใช้ใบความรู้ “วฒั นธรรมไทย”ประกอบประเดน็ การบรรยายและอภิปราย) 2) ให้ลูกเสอื แต่ละหมู่หรอื กลุ่มกาหนดการแสดงวฒั นธรรมประเพณีของภาคใดภาคหน่ึง หมู่ หรอื กลุม่ ละ 1 ภาค 38 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
- ภาคเหนือ - ภาคกลาง - ภาคใต้ - ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื - ภาคตะวนั ออก แลว้ จดั การแสดงใชเ้ วลาหมลู่ ะ 3-5 นาที 3) ใหแ้ ต่ละหม่หู รอื กลุ่ม อภปิ รายหาขอ้ สรุปทางดา้ นสถาปัตยกรรมไทยของโบสถ์ หรอื วหิ ารมี ลกั ษณะสาคญั อย่างไร แต่ละตาแหน่งมีช่อื ว่าอะไร อยู่ทไ่ี หนของโบสถ์หรอื วหิ าร เช่น ช่อฟ้า ใบระกา คนั ทวยหรอื หูช้าง ซุม้ ประตู หน้าบนั ซุ้มหน้าต่าง ฯลฯ โดยศกึ ษานอกสถานทแ่ี ละนามาเสนอหม่หู รอื กลุ่มละ 3 นาที 4) ผู้กากบั ลกู เสอื และลกู เสอื ร่วมกนั สรุปพฤตกิ รรมหรอื ลกั ษณะนิสยั อนุรกั ษ์สบื สานวฒั นธรรม ไทย 4.4 ผกู้ ากบั เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6.องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตท่ีได้จากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ เหน็ คณุ ค่า ภาคภมู ใิ จหวงแหนและรว่ มสบื สาน วฒั นธรรมไทย คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 39
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 3 เพลง ชาวไทย ใบความรู้ ชาวไทยเราเอ๋ย ขออยา่ ละเลยในการทาหน้าท่ี ยามเมอ่ื เราไดเ้ ล่นสนุก เปลอ้ื งทกุ ขส์ บายอยา่ งน้ี เพราะชาตเิ ราไดเ้ สรี มเี อกราชสมบูรณ์ เราจงึ ควรช่วยชชู าตใิ ห้ เก่งกาจเจดิ จารญู เพอ่ื ความสขุ เพมิ่ พนู ของชาวไทยเราเอย วฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมคืออะไร เมอ่ื พดู ถงึ เรอ่ื งวฒั นธรรม ก่อนอ่นื อยากจะใหเ้ ขา้ ใจความหมายของวฒั นธรรมเสยี ก่อนเพราะ ความหมายของวฒั นธรรมนนั้ ไดม้ ผี จู้ ากดั ความไวม้ ากมาย ซง่ึ พอจะสรุปไดว้ ่าวฒั นธรรมเป็นสว่ นทงั้ หมดท่ี ซบั ซอ้ น ประกอบดว้ ย ความรู้ ความเชอ่ื ศลิ ป์ ศลี ธรรม กฎหมาย ประเพณแี ละความสามารถอ่นื ๆ ทม่ี นุษย์ ไดม้ าในฐานะทเ่ี ป็นสมาชกิ ของสงั คม ส่วนความหมายของวฒั นธรรมในภาษาไทยนนั้ ตามพระราชบญั ญตั ิ วฒั นธรรมแหง่ ชาติ พทุ ธศกั ราช 2405 ไดใ้ หค้ วามหมายไวด้ งั น้ี “วฒั นธรรม” หมายถงึ ลกั ษณะทแ่ี สดงถงึ ความเจรญิ งอกงาม ความเป็นระเบยี บ ความกลมเกลยี ว กา้ วหน้าของชาติ และศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน (เป็นการชช้ี วน เชญิ ชวน วงิ วอน) ใหป้ ระชาชนรว่ มกนั ทา ความเจรญิ งอกงามใหม้ คี วามดงี ามขน้ึ ไมใ่ ช่เพยี งรบั มรดกกนั มาเท่านนั้ แต่ตอ้ งรกั ษาของเดมิ ทม่ี ี (Conservative) แกไ้ ขดดั แปลงของเดมิ ทค่ี วรแกห้ รอื ดดั แปลงวางมาตรฐานความดงี ามขน้ึ ใหม่ แลว้ ส่งเสรมิ ใหเ้ ป็นลกั ษณะทด่ี ปี ระจาชาตสิ บื ต่อไปจนถงึ อนุชนรุ่นหลงั (Progressive) จากขอ้ ความขา้ งตน้ พอจะกล่าวไดว้ า่ วฒั นธรรมเป็นมรดกทางสงั คมทค่ี รอบคลุมทุกสงิ่ ทกุ อยา่ ง ท่ี แสดงออกถงึ วถิ ชี วี ติ ของมนุษย์ โดยแต่ละสงั คมมวี ฒั นธรรมเฉพาะของตน เพราะเป็นวถิ ชี วี ติ ทแ่ี ตกต่างกนั ของแต่ละกล่มุ สงั คม การทม่ี นุษยม์ คี วามแตกต่างกนั อาจเป็นผลสบื เน่อื งมาจากวฒั นธรรม เช่น พวกชาวเขาปิกมี พวก เอสโมและพวกโรมนั โบราณ หรอื พวกนกั บรหิ าร นกั บญั ชี กเ็ ป็นมนุษยด์ ว้ ยกนั ทงั้ นนั้ วฒั นธรรมทเ่ี กย่ี วกบั 40 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
วทิ ยาศาสตร์ ไมว่ า่ ชาตทิ เ่ี จรญิ แลว้ หรอื ลา้ หลงั กต็ าม มคี วามเป็นวฒั นธรรมเทา่ กนั ในแงท่ เ่ี ป็นแบบแผนของ การดารงชวี ติ สรปุ แลว้ วฒั นธรรมมคี วามหมายครอบคลมุ ถงึ ทกุ สงิ่ ทุกอยา่ งทแ่ี สดงอออกถงึ วถิ ชี วี ติ ของมนุษยใ์ น สงั คมกลุม่ ใดกลมุ่ หน่งึ มนุษยไ์ ดค้ ดิ สรา้ งเกณฑ์ วธิ ใี นการปฏบิ ตั ิ การจดั ระเบยี บ ตลอดจนระบบความเชอ่ื ถอื ความนิยม ความรู้ และเทคโนโลยตี ่างๆ ในการควบคมุ และใชป้ ระโยชน์จากธรรมชาติ ในดา้ นวฒั นธรรมนนั้ เราอาจแบง่ ประเภทของวฒั นธรรมออกไดเ้ ป็น 2 ส่วน ไดแ้ ก่ - วฒั นธรรมทเ่ี ป็นวตั ถุ เชน่ บา้ น โบสถ์ วหิ าร หอประชุม เป็นตน้ - วฒั นธรรมทเ่ี กย่ี วกบั จติ ใจ เชน่ อุดมการณ์ คา่ นยิ ม แนวความคดิ ประเพณแี ละการปฏบิ ตั สิ บื ต่อ กนั มาจนเป็นทย่ี อมรบั ในชุมชนของตนวา่ ดงี ามเหมาะสม เช่น ศาสนา ความเชอ่ื เจตคติ ซง่ึ เป็น นามธรรมทม่ี องเหน็ ไมไ่ ด้ องคป์ ระกอบของวฒั นธรรม มี 4 องคป์ ระกอบท่ีสาคญั ได้แก่ 1.องคว์ ตั ถุ วฒั นธรรมวตั ถุทส่ี ามารถจบั ตอ้ งได้ เชน่ โรงเรยี น โรงงาน ภาพเขยี น ภาพปัน้ โบสถ์ วหิ าร หอดดู าว 2.องคก์ าร หมายถงึ กลุ่มทอ่ี งคก์ ารจดั อยา่ งมรี ะเบยี บ หรอื มโี ครงสรา้ งอยา่ งเป็นทางการ มกี ารวาง กฎเกณฑร์ ะเบยี บเรยี บรอ้ ย และมวี ตั ถุประสงคไ์ วอ้ ยา่ งแน่นอน เช่น สมาพนั ธ์ สมาคม กรรมการลกู เสอื สภากาชาด วดั สภาประชาชาติ ซง่ึ เป็นองคก์ ารทใ่ี หญ่ทส่ี ดุ 3.องคพ์ ธิ กี าร เป็นขบธรรมเนยี มประเพณที ย่ี อมรบั กนั โดยทวั่ ไป เชน่ พธิ กี รรมต่างๆ ตงั้ แต่เรอ่ื งการ เกดิ การหมนั้ การแต่งงาน การบวชนาค การตาย การปลกู บา้ นขน้ึ บา้ นใหม่ ฯลฯ ซง่ึ ศาสนามอี ทิ ธพิ ลอยู่ บา้ งไมม่ ากกน็ ้อย รวมทงั้ การแต่งกาย และรบั ประทานอาหารดว้ ย เช่น หญงิ แต่งชุดไทย ชายแต่งชุดเตม็ ยศ เช่น รบั ประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ดนิ เนอร์ ขนั โตก เป็นต้น พธิ กี ารเหล่าน้เี ปลย่ี นแปลงไปบา้ งตามสภาพ ของสงั คม 4.องคค์ ติ หมายถงึ ความเขา้ ใจ ความเชอ่ื ความคดิ เหน็ ตลอดจนอุดมการณ์ต่างๆ เชน่ เช่อื ว่ากรรม เป็นเครอ่ื งชช้ี ะตา ความเช่อื ในเรอ่ื งการมผี วั เดยี วเมยี เดยี ว ความเช่อื ในเรอ่ื งการตายแลว้ เกดิ ใหม่ หรอื เรา เช่อื กนั ว่าอุดมการณ์ของขบวนการลกู เสอื เป็นสงิ่ ค้าจนุ โลก เป็นตน้ ถงึ แมว้ า่ เราจะทราบว่าลกั ษณะของวฒั นธรรมนนั้ เป็นสง่ิ ทไ่ี ดม้ าโดยการเรยี นรกู้ ด็ สี บื เน่อื งมาจาก มรดกทางสงั คมกด็ ี หรอื เป็นวถิ ชี วี ติ หรอื แบบของการดารงชวี ติ กด็ ี ยอ่ มจะเป็นสง่ิ ทไ่ี มค่ งท่ี ทงั้ น้เี พราะมนุษย์ มกี ารคดิ คน้ สงิ่ ใหมๆ่ หรอื ปรบั ปรงุ ของเดมิ ใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปจนทาใหว้ ฒั นธรรม มกี ารเปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอ เชน่ เดมิ ชาวไทยมคี วามคดิ ว่าผหู้ ญงิ ควรอยกู่ บั บา้ นเลย้ี งลกู ดแู ลบา้ นเรอื น ปัจจบุ นั ผหู้ ญงิ ทางานเคยี งบ่าเคยี งไหลก่ บั ชายมากขน้ึ หรอื เดมิ ชายไทยคดิ ว่า การเตน้ กนิ รากนิ ของ หญงิ ไทยเป็นสงิ่ ไมส่ มควร แต่ปัจจบุ นั เป็นทน่ี ิยมกนั มากและมรี ายไดส้ งู หรอื เรอ่ื งความคดิ ทางการเมอื ง คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 41
เสรภี าพ ฯลฯ กต็ าม การเปลย่ี นแปลงน้อี าจจะมคี นทม่ี คี วามคดิ แบบเก่าๆ คดั คา้ นบา้ ง ซง่ึ เป็นธรรมดาของ สงั คมทพ่ี ฒั นาหรอื กาลงั พฒั นาไมจ่ าเป็นตอ้ งเปลย่ี นแปลงเหมอื นกนั ทุกคน ซง่ึ ถ้าเราเขา้ ใจถงึ ขอ้ ทข่ี ดั กนั น้ไี ด้ กจ็ ะเป็นแนวทางในการชว่ ยสรา้ งวฒั นธรรมทเ่ี ป็นประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ไดม้ าก แต่อยา่ งไรกต็ าม ในสว่ นทเ่ี ป็นวฒั นธรรมดว้ ยกนั แลว้ ศลิ ป์ กเ็ ป็นส่วนหน่งึ ของวฒั นธรรมหรอื บางทก่ี ็ ชอบเรยี กรวมๆกนั วา่ “ศลิ ปวฒั นธรรม” ซง่ึ สงิ่ น้เี ป็นเครอ่ื งชบ้ี ่งความเป็นชาติ ประเทศใดชาตใิ ดจะเสอ่ื มหรอื จะเจรญิ กด็ ไู ดท้ ศ่ี ลิ ปะและวฒั นธรรมน้แี หละ ของไทยเรากม็ คี วามเสอ่ื มและความเจรญิ เหมอื นกนั เราจะ สงั เกตว่า ยคุ ใดสมยั ใดองคพ์ ระมหากษตั รยิ ใ์ หค้ วามสนใจสนบั สนุนเรอ่ื งศลิ ปะแลว้ วฒั นธรรมของชาตนิ นั้ ก็ เจรญิ รุง่ เรอื งในยคุ นนั้ 42 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ขาด ๆ เกิน ๆ มคี นถามขงจอ้ื วา่ “ชาย 4 คนนนั้ ต่างกม็ อี ะไรดกี ว่าท่าน แต่ทาไมพวกเขาจงึ ยอมเป็นศษิ ยร์ บั ใชท้ ่าน?” “เขามดี อี ยา่ งไร?” ขงจอ้ื ถาม แลว้ ผถู้ ามขงจอ้ื กต็ อบว่า “ชายคนท่ี 1 นนั้ พดู เก่งกว่าทา่ น ชายคนท่ี 2 นนั้ มเี มตตาดกี ว่าทา่ น ชายคนท่ี 3 มที ่าทางสง่างามกว่าท่าน ชายคนท่ี 4 มคี วามกลา้ หาญกวา่ ท่าน” เมอ่ื ขงจอ้ื ไดฟ้ ังเช่นนัน้ จงึ กลา่ ววา่ “เหตุทช่ี ายทงั้ 4 คน ยอมเป็นศษิ ยร์ บั ใชข้ า้ พเจา้ นนั้ เป็นเพราะว่า ชายคนท่ี 1 พดู เก่งกจ็ รงิ แต่ไมร่ จู้ กั สารวมปาก ชายคนท่ี 2 มเี มตตาจรงิ แต่บางครงั้ กเ็ มตตามากเกนิ ไปจนสรา้ งความเดอื ดรอ้ นใหก้ บั ตนเอง ชายคนท่ี 3 กว็ างท่าสงา่ เสยี จนไมร่ จู้ กั ถ่อมตน ชายคนท่ี 4 กก็ ลา้ เสยี จนบา้ บน่ิ ถา้ จะยกสง่ิ ทช่ี ายทงั้ 4 มรี วมกนั มาใหข้ า้ พเจา้ ขา้ พเจา้ กจ็ ะไมข่ อรบั เพราะสง่ิ ทพ่ี วกเขาขาดนนั้ มอี ยใู่ น ตวั ขา้ พเจา้ พวกเขาจงึ มอบตวั เป็นศษิ ยร์ บั ใชข้ า้ พเจา้ ” เรือ่ งนี้สอนให้ร้วู ่า การทจ่ี ะใหผ้ อู้ ่นื ยอมรบั นับถอื และศรทั ธาในตวั เรานนั้ ยอ่ มเกดิ จากความดแี ละ ความสามารถในตวั เรานนั้ เอง ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 43
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 2,3) หน่วยท่ี 2 วิชาโครงการ แผนการจดั กิจกรรมที่ 4 ช่วยดแู ลรกั ษาสาธารณสมบตั ิ ชุมชน ชาติ เวลา 2 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถดาเนินการโครงการดแู ลรกั ษาสาธารณสมบตั ิ ชุมชน และชาตไิ ด้ 2. เนื้อหา โครงการบรกิ าร ดแู ล รกั ษา สาธารณสมบตั ิ ชุมชน ชาติ 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 เกม 3.2 ใบความรู้ 1) แบบสารวจสาธารณสถานทใ่ี กลบ้ า้ น ทว่ี ดั ทโ่ี รงเรยี น (สถานศกึ ษา) 2) แบบรายงานผลกการปฏบิ ตั งิ านตามโครงการ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 4.2 เกม หรอื เพลง 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั อภปิ รายรปู แบบโครงการ 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหห้ มลู่ กู เสอื ดาเนินการสารวจสาธารณสมบตั ใิ นชุมชนใกล้ สถานศกึ ษา 3) ลกู เสอื แต่ละหมจู่ ดั ทาโครงการดแู ลรกั ษาสาธารณสมบตั ใิ นชมุ ชน หมลู่ ะ 1 โครงการ 4) ลกู เสอื แต่ละหมนู่ าเสนอโครงการโดยผ่านความเหน็ ชอบของผนู้ าชุมชน 5) หมลู่ กู เสอื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามโครงการ 6) ลกู เสอื สรปุ รายงานผลการดาเนินโครงการ และนาเสนอผลการปฏบิ ตั งิ านต่อกองลกู เสอื 4.4 ผกู้ ากบั เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 44 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการดาเนนิ งานตามโครงการ 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการดแู ละรกั ษาสาธารณ สมบตั ขิ องชุมชน และของชาติ ตามคตพิ จน์ของลกู เสอื วสิ ามญั “บรกิ าร” ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 4 เกม กระซิบ ใชผ้ เู้ ล่นประมาณ 10 คน ใหส้ ง่ ขา่ วโดยกระซบิ ทห่ี ใู หไ้ ด้ยนิ คนเดยี วแลว้ กระซบิ ต่อๆกนั จนครบ 10 คน แลว้ ใหค้ นสุดทา้ ยเขยี นหรอื พดู ออกมาดงั ๆว่าไดย้ นิ มาว่าอยา่ งไร แลว้ ใหค้ นแรกพดู ขอ้ ความเดมิ เช่น ขอ้ ความเดมิ มวี า่ “พรงุ่ น้เี ราชว่ ยกนั ทางานของชุมชนนะ เช่น กาจดั น้าเน่า สรา้ งศาลาพกั รอ้ น แลว้ เราจะมี ความสขุ และอายยุ นื ” ประโยชน์จากเกมนี้ จะเหน็ วา่ เมอ่ื กระซบิ ถงึ คนท่ี 10 แลว้ จะเหลอื ขอ้ ความสนั้ นดิ เดยี ว ทาใหเ้ ราทราบ ธรรมชาตขิ องมนุษยน์ นั้ จะรบั และถ่ายทอดขา่ วสารไดไ้ ม่ทงั้ หมด ถา้ เป็นครจู ะไดไ้ มโ่ มโหนกั เรยี น ถา้ สอน แลว้ นกั เรยี นจาไมไ่ ด้ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 45
ใบความรู้ แบบสารวจสาธารณสมบตั ิ ท่ีบ้าน ท่ีวดั ท่ีโรงเรียน ชอ่ื .....................................................................เลขท.่ี ..................หม.ู่ ........................กอง....................... สถานทต่ี งั้ สาธารณสมบตั ิ กจิ กรรมโครงการ คุณประโยชน์ของโครงการ ทใ่ี กลบ้ า้ น 1. .................................... 1. 2. .................................... 2. ทว่ี ดั 1. .................................... 1. 2. .................................... 2. ทโ่ี รงเรยี น/แผนก 1. ..................................... 1. 2. ..................................... 2. ลงช่อื ................................................. ผสู้ ารวจ -----------/-------------------------/------------- 46 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แบบรายงานผลการปฏิบตั ิกิจกรรมโครงการ ช่อื ...................................................................................เลขท.่ี ....................หม.ู่ ......................... วนั เดอื น ปี กจิ กรรมโครงการ หมายเหตุ ลงชอ่ื ................................................. ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน -----------/-------------------------/------------- ขอรบั รองวา่ เป็นความจรงิ ลงชอ่ื .......................................................... ผนู้ าชุมชน ความเหน็ ผกู้ ากบั ลกู เสอื …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .................................................ผกู้ ากบั ลกู เสอื (..........................................) -----------/-------------------------/------------- ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 47
เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ นกกระจาบ นกกระจาบฝงู หน่งึ ถูกนายพรานใชต้ าขา่ ยจบั ไป หวั หน้านกกระจาบและนกทเ่ี หลอื ไดห้ าวธิ เี พ่อื ให้ รอดพน้ จากตาขา่ ย เมอ่ื ฝงู นกถกู นายพรานดบั จบั ไดใ้ ชก้ ลวธิ คี วามสามคั คี ทาใหร้ อดพน้ จากตาขา่ ย นายพรานไดอ้ ยา่ งปลอดภยั เรอ่ื งนี้สอนให้รวู้ ่า คนเดยี วหวั หาย สองคนเพ่อื นตาย สามคนกลบั บา้ นได้ 48 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั การกิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 2–3) หน่วยท่ี 3 วิชาบริการ เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 5 บริการ 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายและปฏบิ ตั หิ น้าทพ่ี เ่ี ลย้ี งเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายและปฏบิ ตั หิ น้าทค่ี ณะกรรมการประจากองได้ 1.3 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายและปฏบิ ตั หิ น้าทก่ี ารบรกิ ารได้ 2. เนื้อหา 2.1 หน้าทพ่ี เ่ี ลย้ี งเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั 2.2 หน้าทค่ี ณะกรรมการประจากอง 2.3 การบาเพญ็ ประโยชน์ต่อกองลกู เสอื ของตน 2.4 การบาเพญ็ ประโยชน์ต่อกองลกู เสอื อ่นื 2.5 การบาเพญ็ ประโยชน์ต่อชุมชน 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 3.3 คหู าลกู เสอื วสิ ามญั (Rover Den) สาหรบั การประชมุ คณะกรรมการประจากองลกู เสอื วสิ ามญั 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) การนาเขา้ ส่บู ทเรยี น บ.ี -พ.ี (B.-P.) กล่าวว่า “การลูกเสอื วสิ ามญั ประกอบดว้ ยคณะบุคคลทม่ี ี ความเป็นพ่นี ้องกนั ในการใช้ชวี ติ กลางแจ้ง และในการให้บรกิ ารแก่ผู้อ่นื ” ต่อจากท่ไี ด้เป็นลูกเสอื สารอง ลูกเสอื สามญั และลูกเสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ เพ่อื มชี ่องทางในการประกอบอาชพี ทเ่ี ป็นประโยชน์ แก่ตนเองและบรกิ ารชมุ ชน 2) ผู้กากบั ลูกเสอื อธบิ ายถึงบทบาทของพ่ีเล้ยี งลูกเสือวสิ ามญั (Sponsor) โดยปฏิบตั ิตนเป็น ตวั อยา่ งทด่ี ี ช่วยเหลอื แนะนา เตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ในเร่ืองธรรมเนียมประเพณีของลกู เสอื วสิ ามญั และการพฒั นาตนเองในขบวนการทางลกู เสอื 3) ผกู้ ากบั ลูกเสอื อธบิ ายบทบาทหน้าท่ี วธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นการประชุมคณะกรรมการประจากองลกู เสอื วสิ ามญั 4) จดั การประชมุ ตามระเบยี บวาระการประชุมทค่ี ณะกรรมการประจากองการเสนอเรอ่ื งพจิ ารณา ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 49
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295