15 เด็กชายวิริทธิ์พล มะเทวิน

41 บันทกึ ผลหลงั การสอน แผนเปลยี่ นผา่ น จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ ๒ ภายใน เดอื นพฤศจกิ ายน ๒๕๖๕ เม่ือให้เดก็ ชายวริ ิทธ์ิพล มะเทวิน รู้จกั อุปกรณใ์ นการรดน้ำตน้ ไม้ เด็กชายวิ รทิ ธ์พิ ล มะเทวนิ สามารถช้ี หยบิ เลอื กอปุ กรณ์ได้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมขั้นตอนท่ี ๒ เมื่อให้เด็กชายวิริทธ์ิพล มะเทวิน รู้จักอุปกรณ์ในการรดน้ำต้นไม้ เด็กชายวิริทธ์ิพล มะเทวิน สามารถชี้ หยิบ เลอื กสายยางรดนำ้ ได้ ๔ ครง้ั ๓ วันติดต่อกนั ภายในเดือน พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕ วนั ทีส่ อน ๒ ๔ ๕ ๘ ๙ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๖ สรปุ ระดับ ๐ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ ๔ คณุ ภาพที่ได้ .เ.ด..ก็ ..ช..า..ย..ว..ิร.ทิ...ธ..พ์ิ ..ล...ม..ะ..เ..ท..ว..นิ ...ส..า..ม..า..ร..ถ..ช..้ี .ห..ย..ิบ....เ.ล..ือ..ก..ส..า.ย..ย..า..ง..ร.ด..น...้ำ.ไ..ด..้ .๔....ค..ร..ัง้ ..ต...ิด..ก..นั ...๓....ว..นั ...ผ..า่..น..จ..ดุ...ป..ร..ะ.ส...ง.ค..์เ.ช...งิ .พ...ฤ..ต..ิก..ร..ร.ม... .ท..ตี่ ..ัง้..ไ.ว..้ .ส..่ง..ผ..ล..ใ.ห..ผ้...้เู .ร.ีย...น..ม..ีว..ิน..ยั...ร..บั..ผ...ิด..ช..อ..บ....ใ.ฝ..่เ.ร..ยี ..น..ร..ู้ .แ..ล..ะ..ม..่งุ..ม..่ัน..ใ..น..ก..า..ร..ท..ำ..ง.า..น............................................................ .................................................................................................................................................................. ระดบั คณุ ภาพ ๔ หมายถึง ผเู้ รยี นสามารถช้ี เลือกสายยางรดนำ้ ไดถ้ ูกตอ้ ง ๔ คร้ัง ๓ วนั ตดิ ต่อกนั ๓ หมายถึง ผเู้ รยี นสามารถช้ี เลือกสายยางรดนำ้ ไดถ้ ูกตอ้ ง ๓ คร้งั ๓ วันตดิ ต่อกัน ๒ หมายถึง ผู้เรียนสามารถชี้ เลือกสายยางรดนำ้ ไดถ้ กู ตอ้ ง ๒ ครัง้ ๓ วนั ตดิ ต่อกนั ๑ หมายถงึ ผ้เู รยี นสามารถช้ี เลอื กสายยางรดน้ำไดถ้ ูกต้อง ๑ ครง้ั ๓ วนั ติดตอ่ กัน ๐ หมายถึง ไมส่ ามารถทำได้ หมายเหตุ ๑ สังเกตจากการปฏบิ ตั ิตามขั้นตอนตามท่กี ำหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสำเร็จของงาน สังเกตจากพัฒนาการของผู้เรยี นท่ที ำได้อยา่ งตอ่ เน่ือง ลงชอ่ื .................................................ครผู สู้ อน (นางสาวขวญั ชนก หม่ันงาน) ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕

42 ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผแู้ ทน ( / ) สอนตามแผนการสอนขน้ั ตอนต่อไป ( ) ควรปรบั แก้ ............................................................................................................. ลงช่อื ................................................................... (นายพิทกั ษ์ วงศฆ์ ้อง) หัวหนา้ เขตพ้นื ทีบ่ ริการประจำเขต ๑ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ( / ) สอนตามแผนการสอนขน้ั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงชอ่ื ................................................................... (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผูช้ ว่ ยผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕

43 แผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan : IIP) ชอื่ -สกลุ เดก็ ชายวริ ิทธพ์ิ ล มะเทวนิ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทความพกิ าร บกพรอ่ งทางร่างกายหรอื การเคลื่อนไหวหรอื สขุ ภาพ ทักษะการเรยี นรู้ แผนเปลยี่ นผา่ น มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผเู้ รยี น ประเด็นพิจารณา ท่ี ๑.๑ ผลการพฒั นาผเู้ รยี น ประเด็นพจิ ารณา ที่ ๑.๒ คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคข์ องผู้เรียน ขอ้ ท่ี ๓ และ ๗ โครงการ/กจิ กรรมทสี่ อดคลอ้ ง ๑. กิจกรรมนนั ทนาการ ๒. กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน เปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เดก็ ชายวิริทธพ์ิ ล มะเทวนิ สามารถรดนำ้ ตน้ ไม้ไดโ้ ดยมีผชู้ ่วยเหลือ จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี ๓ ภายใน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เมื่อให้เด็กชายวิริทธ์ิพล มะเทวิน รู้วิธีการรดน้ำต้นไม้ เด็กชายวิ ริทธิ์พล มะเทวิน สามารถรถนำ้ ตน้ ไม้ไดโ้ ดยมีผู้ชว่ ยเหลอื จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมขน้ั ตอนที่ ๑ เมื่อให้เด็กชายวริ ิทธ์พิ ล มะเทวิน รูว้ ธิ กี ารรดนำ้ ตน้ ไม้ เดก็ ชายวิริทธ์ิพล มะเทวนิ สามารถเปดิ กอ๊ กน้ำไดโ้ ดยมผี ูช้ ว่ ยเหลือ ๔ ครง้ั ๓ วันตดิ ตอ่ กัน ภายในเดือน ธันวาคม ๒๕๖๕

44 แผนที่ ๖ เรมิ่ ใชแ้ ผนวนั ที่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕ สน้ิ สุดแผนวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ใชเ้ วลาสอนคาบละ ๓๐ นาที ๑. เนอื้ หา การรดน้ำต้นไม้ เป็นกิจกรรมภายในครอบครัวท่ีสามารถทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้เกิด ความสัมพันธ์ท่ีดีภายในครอบครัว เป็นกิจกรรมยามว่างเพ่ือผ่อนคลายไปกับธรรมชาติรอบๆ ตัว อีกท้ัง ยงั เป็นกิจกรรมงานบ้านพื้นฐานที่ผูเ้ รียนสามารถฝึกปฏิบัติได้ ดังน้ันจึงจำเป็นต้องเรียนรู้การรดน้ำต้นไม้ ที่เป็นกิจกรรมท่ีฝึกให้ผู้เรียนมีทักษะทางสังคม เพื่อให้เรียนนำทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ใน การดำเนนิ กิจวตั รประจำวัน โดยการสอนแบบไปข้างหนา้ ๒. จดุ ประสงค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนสามารถรดน้ำตน้ ไม้ได้โดยมผี ้ชู ่วยเหลอื ๓. กจิ กรรมการสอน ๑) ขน้ั เตรยี มการสอน สถานท่ี หน่วยบริการงาว จัดสถานที่ในการสอนโดย ผู้เรียนนั่งบนเก้าอ้ีรถเข็น บริเวณ แปลงเกษตร ส่ือ บัวรดน้ำ สายยาง แบบประเมนิ จัดวางไว้ดา้ นข้างของครู พร้อมกับปากกาในการบนั ทึก ผู้เรียน สวมเสื้อผา้ ให้เรียบรอ้ ย ใส่แพมเพิส ๒) ขน้ั นำเสนองาน ทักทาย ครูกล่าวทักทาย ดว้ ยคำวา่ “สวสั ดีคะ่ วนั นีค้ รูจะให้น้องมิกกี้ รดนำ้ ต้นไม้” ระเมนิ ความสามารถพืน้ ฐาน ครูสั่งนกั เรยี นวา่ “นอ้ งมกิ ก้ี รดนำ้ ต้นไม้” จำนวน ๕ ครั้ง ครบู นั ทกึ ผลการประเมินความสามารถพน้ื ฐาน ๓) ขนั้ สอน สาธติ ครูสาธติ การรดนำ้ ตน้ ไม้ เปดิ กอ๊ กน้ำได้โดยมีผู้ช่วยเหลอื หยบิ สายยางเตมิ นำ้ ในบวั รดน้ำได้โดยมีผ้ชู ว่ ยเหลอื ใชบ้ ัวรดนำ้ รดนำ้ ตน้ ไม้ได้โดยมีผูช้ ว่ ยเหลอื ใชส้ ายยางรดน้ำตน้ ไม้ได้โดยมีผชู้ ่วยเหลือ คำสั่ง ใช้คำสงั่ วา่ “นอ้ งมิกก้ี รดน้ำต้นไม้” เทคนคิ การสอน ไดแ้ ก่ กระตุ้นเตือน แรงเสรมิ /รางวลั ครูกล่าวคำชมเชย พูดคำวา่ “ตอบถูกคะ่ ” และ ปรบมือ ๔) ขนั้ ประเมนิ บันทกึ ลงในแบบบนั ทกึ ผลการเรยี นร้ตู ามแผนการสอนเฉพาะบุคคล

45 ๔. การวดั และประเมนิ ผล ๑) วธิ วี ดั และประเมินผล - การสงั เกต - การฝึกปฏิบัติจรงิ ๒) เครอื่ งมอื วัดและประเมินผล - แบบบนั ทึกจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ๕. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล เม่อื ให้เด็กหญงิ บวรรตั น์ มาสา รูว้ ธิ กี ารรดน้ำตน้ ไม้ เดก็ ชายวริ ิทธิ์พล มะเทวนิ สามารถเปิดกอ๊ ก น้ำได้โดยมีผชู้ ว่ ยเหลือ ๔ คร้งั ๓ วนั ตดิ ต่อกัน ภายในเดอื นธันวาคม ๒๕๖๕ โดยมีระดบั คุณภาพ ดังนี้ ๔ หมายถึง ผเู้ รยี นสามารถเปดิ กอ๊ กน้ำได้โดยมีผชู้ ่วยเหลือ ๔ คร้ัง ๓ วนั ติดตอ่ กนั ๓ หมายถึง ผเู้ รยี นสามารถเปิดกอ๊ กนำ้ ไดโ้ ดยมผี ู้ช่วยเหลือ ๓ คร้ัง ๓ วันติดต่อกัน ๒ หมายถงึ ผ้เู รียนสามารถเปิดกอ๊ กน้ำได้โดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ ๒ ครัง้ ๓ วันติดต่อกนั ๑ หมายถงึ ผ้เู รยี นสามารถเปิดก๊อกน้ำไดโ้ ดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ ๑ ครั้ง ๓ วนั ติดตอ่ กนั ๐ หมายถงึ ไม่สามารถทำได้ ลงชือ่ .................................................ครผู ูส้ อน (นางสาวขวัญชนก หมั่นงาน) ครู ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผแู้ ทน ( / ) เปน็ แผนการสอนท่ีดีใช้สอนได้ ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงชือ่ ................................................................... (นายพิทักษ์ วงคฆ์ ้อง) หัวหนา้ เขตพนื้ ทบ่ี ริการประจำเขต ๑ วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ.....๓๑..ธ.ค..๖๕............. ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ( / ) เป็นแผนการสอนทดี่ ใี ช้สอนได้ ( ) ควรปรบั แก้ .............................................................................. ลงชือ่ .................................................................... (นายนภสินธุ์ ดวงประภา) ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วันท/่ี เดือน/พ.ศ.....๓๑..ธ.ค..๖๕.............

46 แบบบนั ทกึ การวิเคราะหง์ าน แผนเปลย่ี นผา่ น จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี ๓ ภายใน เดอื นมีนาคม ๒๕๖๕ เม่ือใหเ้ ดก็ ชายวริ ทิ ธ์ิพล มะเทวนิ รู้วธิ กี ารรดนำ้ ต้นไม้ เดก็ ชาย วริ ทิ ธิ์พล มะเทวิน สามารถรถน้ำต้นไม้ไดโ้ ดยมีผ้ชู ว่ ยเหลือ งาน (Task) รดน้ำต้นไม้ ชอ่ื นกั เรยี น เด็กชายวริ ิทธ์พิ ล มะเทวนิ ลำดับ รายละเอยี ด ผลการประเมนิ Forward Backward วนั เดอื น ปี ที่ ได้ ไม่ได้ Chaining Chaining ธ.ค.๖๕ ม.ค.๖๖ ๑ เปิดก๊อกน้ำได้โดยมผี ู้ ๑ ก.พ.๖๖ มี.ค.๖๖ ชว่ ยเหลือ ๒ หยิบสายยางเตมิ นำ้ ในบัวรด ๒ นำ้ ไดโ้ ดยมผี ้ชู ่วยเหลอื ๓ ใชบ้ วั รดนำ้ รดน้ำต้นไม้ไดโ้ ดย ๓ มีผชู้ ว่ ยเหลือ ๔ ใช้สายยางรดน้ำต้นไม้ได้โดยมี ๔ ผ้ชู ่วยเหลอื ลงชอื่ ............................................ ผูบ้ ันทกึ (นางสาวขวัญชนก หม่นั งาน)

47 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน แผนเปลย่ี นผา่ น จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ ๓ ภายใน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เม่อื ให้เด็กชายวิรทิ ธิ์พล มะเทวิน รวู้ ิธีการรดน้ำต้นไม้ เดก็ ชายวิริทธ์ิพล มะเท วิน สามารถรถนำ้ ต้นไมไ้ ดโ้ ดยมีผู้ช่วยเหลอื จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้ันตอนท่ี ๑ เม่ือให้เด็กหญิงบวรรัตน์ มาสา รู้วิธีการรดน้ำต้นไม้ เด็กชายวิริทธ์ิพล มะเทวิน สามารถเปิดก๊อกน้ำได้โดยมีผู้ ช่วยเหลอื ๔ คร้งั ๓ วนั ติดต่อกนั ภายในเดอื น ธนั วาคม ๒๕๖๕ วันท่ีสอน ๑ ๒ ๘ ๙ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๒๐ ๒๑ ๒๗ ๒๘ สรปุ ระดับ ๐ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ ๔ คณุ ภาพทไี่ ด้ .เ.ด..็ก..ช..า..ย..ว..ริ ..ทิ ..ธ..ิ์พ..ล...ม...ะ..เ.ท..ว..ิน.....ส..า.ม...า.ร..ถ..เ.ป...ิด..ก..๊อ..ก..น..้ำ..ไ.ด..โ้.ด...ย..ม..ีผ..ชู้ ..ว่..ย..เ.ห..ล..ือ...๔....ค..ร..้งั ...ต..ิด..ก..นั....๓...ว..นั....ผ.่า..น..จ..ุด...ป..ร..ะ..ส..ง.ค..เ์..ช..งิ ............. .พ..ฤ..ต..ิก...ร.ร..ม..ท...ีต่ ..งั้ .ไ..ว..้ .ส..่ง.ผ..ล...ใ.ห..ผ้..้เู.ร..ีย..น...ม..ีว..ิน..ยั...ร..บั..ผ..ิด..ช...อ..บ...ใ..ฝ..่เ.ร..ีย..น..ร..ู้ .แ..ล..ะ..ม..งุ่..ม..น่ั ..ใ..น..ก..า..ร.ท...ำ..ง.า..น............................................. .................................................................................................................................................................. ระดบั คณุ ภาพ ๔ หมายถึง ผู้เรียนสามารถเปิดก๊อกน้ำได้โดยมผี ชู้ ว่ ยเหลือ ๔ ครงั้ ๓ วันติดต่อกนั ๓ หมายถึง ผูเ้ รียนสามารถเปิดกอ๊ กน้ำไดโ้ ดยมีผูช้ ว่ ยเหลือ ๓ ครัง้ ๓ วนั ติดตอ่ กนั ๒ หมายถงึ ผเู้ รยี นสามารถเปิดก๊อกน้ำไดโ้ ดยมผี ู้ช่วยเหลือ ๒ ครง้ั ๓ วนั ติดตอ่ กัน ๑ หมายถึง ผู้เรียนสามารถเปิดก๊อกน้ำได้โดยมผี ้ชู ว่ ยเหลอื ๑ คร้งั ๓ วนั ตดิ ต่อกัน ๐ หมายถึง ไมส่ ามารถทำได้ หมายเหตุ ๑ สังเกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามทก่ี ำหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสำเรจ็ ของงาน สังเกตจากพัฒนาการของผู้เรยี นที่ทำได้อยา่ งต่อเนื่อง ลงชอื่ .................................................ครผู สู้ อน (นางสาวขวัญชนก หมน่ั งาน) ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕

48 ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผแู้ ทน ( / ) สอนตามแผนการสอนขั้นตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงช่อื ................................................................... (นายพทิ ักษ์ วงศ์ฆ้อง) หวั หน้าเขตพ้ืนท่บี รกิ ารประจำเขต ๑ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕ ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ( / ) สอนตามแผนการสอนขนั้ ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงช่ือ................................................................... (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผชู้ ่วยผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕

49 แผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan : IIP) ชอื่ -สกลุ เด็กชายวิริทธพ์ิ ล มะเทวนิ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ประเภทความพิการ บกพร่องทางร่างกายหรอื การเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ ทักษะการเรยี นรู้ แผนเปลยี่ นผา่ น มาตรฐานท่ี ๑ คณุ ภาพของผเู้ รยี น ประเด็นพิจารณา ที่ ๑.๑ ผลการพฒั นาผเู้ รียน ประเด็นพิจารณา ที่ ๑.๒ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงคข์ องผู้เรยี น ขอ้ ที่ ๓ และ ๗ โครงการ/กจิ กรรมทส่ี อดคลอ้ ง ๑. กจิ กรรมนันทนาการ ๒. กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน เปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมนี าคม ๒๕๖๖ เด็กชายวิริทธพิ์ ล มะเทวนิ สามารถรดนำ้ ต้นไม้ไดโ้ ดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี ๓ ภายใน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เมอื่ ให้เด็กชายวริ ิทธิ์พล มะเทวินรู้วธิ ีการรดนำ้ ต้นไม้ เด็กชายวริ ิทธิ์ พล มะเทวนิ สามารถรถน้ำต้นไมไ้ ดโ้ ดยมผี ชู้ ่วยเหลอื จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้นั ตอนที่ ๒ เม่ือให้เด็กชายวริ ิทธพ์ิ ล มะเทวนิ รวู้ ธิ กี ารรดนำ้ ตน้ ไม้ เดก็ ชายวริ ิทธพิ์ ล มะเทวิน สามารถหยบิ สายยางเติมน้ำในบัวรดน้ำไดโ้ ดยมผี ้ชู ว่ ยเหลือ ๔ ครัง้ ๓ วนั ตดิ ต่อกัน ภายในเดือน มกราคม ๒๕๖๖

50 แผนที่ ๗ เรม่ิ ใชแ้ ผนวนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖ สน้ิ สดุ แผนวนั ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖ ใชเ้ วลาสอนคาบละ ๓๐ นาที ๑. เนอื้ หา การรดน้ำต้นไม้ เป็นกิจกรรมภายในครอบครัวที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกัน เพ่ือให้เกิด ความสัมพันธ์ท่ีดีภายในครอบครัว เป็นกิจกรรมยามว่างเพ่ือผ่อนคลายไปกับธรรมชาติรอบๆ ตัว อีกท้ัง ยงั เป็นกิจกรรมงานบ้านพื้นฐานที่ผู้เรียนสามารถฝึกปฏิบัติได้ ดังน้ันจึงจำเป็นต้องเรียนรู้การรดน้ำต้นไม้ ท่ีเป็นกิจกรรมท่ีฝึกให้ผู้เรียนมีทักษะทางสังคม เพ่ือให้เรียนนำทักษะ และประสบการณ์ท่ีได้รับไปใช้ใน การดำเนินกจิ วตั รประจำวนั โดยการสอนแบบไปข้างหนา้ ๒. จดุ ประสงค์ เพอ่ื ฝึกใหผ้ ้เู รยี นสามารถรดน้ำตน้ ไม้ได้โดยมผี ูช้ ว่ ยเหลอื ๓. กจิ กรรมการสอน ๑) ขน้ั เตรยี มการสอน สถานที่ หน่วยบริการงาว จัดสถานที่ในการสอนโดย ผู้เรียนนั่งบนเก้าอี้รถเข็น บริเวณ แปลงเกษตร สอื่ บวั รดนำ้ สายยาง แบบประเมนิ จดั วางไวด้ ้านข้างของครู พร้อมกับปากกาในการบนั ทกึ ผู้เรียน สวมเส้อื ผ้าใหเ้ รยี บร้อย ใสแ่ พมเพิส ๒) ขนั้ นำเสนองาน ทกั ทาย ครูกล่าวทักทาย ดว้ ยคำว่า “สวัสดีค่ะ วันน้คี รจู ะให้น้องมิกก้ี รดนำ้ ต้นไม้” ระเมินความสามารถพนื้ ฐาน ครูสั่งนกั เรียนวา่ “น้องมิกก้ี รดน้ำตน้ ไม้” จำนวน ๕ ครั้ง ครบู นั ทกึ ผลการประเมนิ ความสามารถพ้นื ฐาน ๓) ขน้ั สอน สาธิต ครูสาธติ การรดน้ำต้นไม้ เปิดก๊อกนำ้ ได้โดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ หยบิ สายยางเติมนำ้ ในบวั รดน้ำได้โดยมีผูช้ ว่ ยเหลอื ใชบ้ วั รดนำ้ รดน้ำตน้ ไม้ไดโ้ ดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ ใช้สายยางรดนำ้ ต้นไม้ได้โดยมีผูช้ ่วยเหลอื คำสง่ั ใช้คำสง่ั ว่า “น้องมิกก้ี รดนำ้ ตน้ ไม้” เทคนิคการสอน ไดแ้ ก่ กระตุ้นเตือน แรงเสรมิ /รางวลั ครกู ลา่ วคำชมเชย พูดคำว่า “ตอบถกู ค่ะ” และ ปรบมือ ๔) ขน้ั ประเมนิ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทึกผลการเรยี นรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล

51 ๔. การวดั และประเมนิ ผล ๑) วิธวี ัดและประเมินผล - การสังเกต - การฝกึ ปฏิบตั ิจริง ๒) เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล - แบบบันทกึ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ๕. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล เมื่อให้เด็กชายวิรทิ ธิ์พล มะเทวนิ รู้วธิ ีการรดน้ำตน้ ไม้ เด็กชายวิริทธ์ิพล มะเทวนิ สามารถหยิบ สายยางเติมนำ้ ในบวั รดน้ำไดโ้ ดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ ๔ ครั้ง ๓ วันตดิ ต่อกนั ภายในเดือน มกราคม ๒๕๖๖ โดยมรี ะดับคณุ ภาพ ดงั นี้ ๔ หมายถึง ผู้เรียนสามารถหยิบสายยางเติมน้ำในบัวรดน้ำได้โดยมีผู้ช่วยเหลือ ๔ ครั้ง ๓ วัน ติดต่อกนั ๓ หมายถึง ผู้เรียนสามารถหยิบสายยางเติมน้ำในบัวรดน้ำได้โดยมีผู้ช่วยเหลือ ๓ ครั้ง ๓ วัน ตดิ ต่อกัน ๒ หมายถึง ผู้เรียนสามารถหยิบสายยางเติมน้ำในบัวรดน้ำได้โดยมีผู้ช่วยเหลือ ๒ คร้ัง ๓ วัน ตดิ ต่อกัน ๑ หมายถึง ผเู้ รียนสามารถหยิบสายยางเตมิ น้ำในบัวรดน้ำไดโ้ ดยมผี ชู้ ว่ ยเหลือ ๑ ครัง้ ๓ วนั ติดตอ่ กนั ๐ หมายถงึ ไม่สามารถทำได้ ลงชอื่ .................................................ครผู ู้สอน (นางสาวขวญั ชนก หม่นั งาน) ครู ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผแู้ ทน ( ) เปน็ แผนการสอนทดี่ ใี ชส้ อนได้ ( ) ควรปรบั แก้ ........................................................................... ลงช่ือ.................................................................... (นายพิทกั ษ์ วงคฆ์ ้อง) หัวหนา้ เขตพืน้ ท่บี ริการประจำเขต ๑ วนั ท/่ี เดือน/พ.ศ.....๓๑..ม.ค..๖๖............. ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ( / ) เปน็ แผนการสอนทด่ี ีใชส้ อนได้ ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงชื่อ.................................................................... (นายนภสนิ ธุ์ ดวงประภา) ผชู้ ่วยผ้อู ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วนั ท/ี่ เดอื น/พ.ศ.....๓๑..ม.ค..๖๖.............

52 แบบบนั ทกึ การวิเคราะหง์ าน แผนเปลย่ี นผา่ น จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ ๓ ภายใน เดือนมนี าคม ๒๕๖๖ เม่อื ใหเ้ ดก็ ชายวริ ิทธพ์ิ ล มะเทวนิ รูว้ ธิ ีการรดนำ้ ตน้ ไม้ เดก็ ชาย วริ ทิ ธ์ิพล มะเทวนิ สามารถรถน้ำตน้ ไม้ได้โดยมผี ูช้ ่วยเหลอื งาน (Task) รดน้ำต้นไม้ ชอ่ื นกั เรยี น เด็กชายวริ ทิ ธิพ์ ล มะเทวนิ ลำดบั รายละเอียด ผลการประเมิน Forward Backward วัน เดือน ปี ที่ ได้ ไมไ่ ด้ Chaining Chaining ธ.ค.๖๕ ม.ค.๖๖ ๑ เปดิ กอ๊ กนำ้ ได้โดยมผี ู้ ๑ ก.พ.๖๖ มี.ค.๖๖ ชว่ ยเหลอื ๒ หยบิ สายยางเตมิ น้ำในบัวรด ๒ น้ำได้โดยมีผูช้ ่วยเหลือ ๓ ใช้บัวรดน้ำรดน้ำต้นไม้ไดโ้ ดย ๓ มีผู้ช่วยเหลือ ๔ ใชส้ ายยางรดนำ้ ต้นไม้ไดโ้ ดยมี ๔ ผชู้ ว่ ยเหลอื ลงช่อื ............................................ ผบู้ ันทึก (นางสาวขวญั ชนก หมั่นงาน)

53 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน แผนเปลย่ี นผา่ น จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี ๓ ภายใน เดือนมนี าคม ๒๕๖๖ เมอ่ื ให้เด็กชายวิริทธพิ์ ล มะเทวิน ร้วู ธิ ีการรดน้ำต้นไม้ เดก็ ชายวริ ิทธิ์พล มะเท วิน สามารถรถน้ำต้นไม้ได้โดยมผี ้ชู ว่ ยเหลอื จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้นั ตอนที่ ๒ เมอ่ื ให้เด็กชายวิรทิ ธ์ิพล มะเทวิน รู้วิธกี ารรดน้ำตน้ ไม้ เด็กชายวิริทธ์ิพล มะเทวนิ สามารถหยิบสายยางเติมน้ำ ในบัวรดนำ้ ได้โดยมีผชู้ ่วยเหลือ ๔ ครงั้ ๓ วันติดต่อกนั ภายในวนั ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖ วนั ทีส่ อน ๕ ๖ ๗ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ สรุป ระดับ ๐ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ ๔ คณุ ภาพท่ไี ด้ ..เ.ด..ก็..ช..า..ย..ว..ิร..ทิ ..ธ..์พิ ..ล....ม..ะ..เ.ท..ว..นิ...ส...า.ม..า..ร..ถ..ห..ย..ิบ...ส..า.ย..ย..า..ง..เ.ต..ิม..น..้ำ..ใ.น..บ...ัว.ร..ด..น..้ำ..ไ.ด..้โ..ด..ย..ม..ีผ..ชู้..่ว..ย..เ.ห..ล..ือ....๔...ค..ร..งั้...ต..ิด..ก..นั....๓...ว..นั................ ..ผ..า่ ..น..จ..ุด..ป..ร..ะ..ส..ง..ค..เ์.ช..งิ..พ..ฤ..ต..ิก...ร.ร..ม..ท...ีต่ ..งั้ .ไ..ว..้ .ส..่ง.ผ...ล..ใ.ห..ผ้..ูเ้..ร.ยี..น...ม..ีว..นิ ..ยั...ร..บั..ผ..ดิ...ช.อ...บ...ใ.ฝ...เ่ .ร.ยี..น...ร..ู้ .แ..ล..ะ..ม..ุ่ง..ม..่ัน..ใ.น...ก..า..ร.ท...ำ.ง..า..น................. .................................................................................................................................................................. ระดบั คุณภาพ ๔ หมายถึง ผเู้ รียนสามารถหยบิ สายยางเติมน้ำในบวั รดน้ำได้โดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ ๔ ครงั้ ๓ วันตดิ ตอ่ กนั ๓ หมายถึง ผู้เรยี นสามารถหยบิ สายยางเติมน้ำในบัวรดน้ำไดโ้ ดยมผี ชู้ ่วยเหลือ ๓ คร้งั ๓ วนั ตดิ ตอ่ กนั ๒ หมายถึง ผูเ้ รียนสามารถหยิบสายยางเติมน้ำในบวั รดน้ำได้โดยมีผูช้ ่วยเหลือ ๒ ครัง้ ๓ วันติดตอ่ กนั ๑ หมายถงึ ผู้เรียนสามารถหยิบสายยางเติมน้ำในบวั รดน้ำได้โดยมผี ู้ช่วยเหลือ ๑ ครง้ั ๓ วนั ตดิ ต่อกนั ๐ หมายถึง ไม่สามารถทำได้ หมายเหตุ ๑ สังเกตจากการปฏบิ ัติตามขั้นตอนตามที่กำหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสำเรจ็ ของงาน สังเกตจากพฒั นาการของผเู้ รียนทีท่ ำได้อย่างต่อเน่ือง ลงชอ่ื .................................................ครผู ูส้ อน (นางสาวขวัญชนก หม่ันงาน) ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖

54 ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผแู้ ทน ( / ) สอนตามแผนการสอนขัน้ ตอนต่อไป ( ) ควรปรบั แก้ ............................................................................................................. ลงช่อื ................................................................... (นายพิทักษ์ วงศฆ์ ้อง) หวั หน้าเขตพนื้ ท่บี รกิ ารประจำเขต ๑ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖ ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ( / ) สอนตามแผนการสอนขนั้ ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงชือ่ ................................................................... (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผชู้ ่วยผอู้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖

55 แผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan : IIP) ชอ่ื -สกลุ เด็กชายวริ ิทธ์ิพล มะเทวิน ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ประเภทความพกิ าร บกพรอ่ งทางรา่ งกายหรือการเคล่ือนไหวหรอื สขุ ภาพ ทกั ษะการเรยี นรู้ แผนเปลย่ี นผา่ น มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพของผเู้ รยี น ประเด็นพิจารณา ที่ ๑.๑ ผลการพฒั นาผูเ้ รียน ประเด็นพจิ ารณา ที่ ๑.๒ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ของผูเ้ รยี น ข้อท่ี ๓ และ ๗ โครงการ/กจิ กรรมทส่ี อดคลอ้ ง ๑. กิจกรรมนนั ทนาการ ๒. กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน เป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เด็กชายวริ ิทธิพ์ ล มะเทวนิ สามารถรดน้ำตน้ ไม้ได้โดยมีผ้ชู ่วยเหลอื จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ ๓ ภายใน เดอื นมนี าคม ๒๕๖๖ เม่อื ใหเ้ ดก็ ชายวริ ิทธิพ์ ล มะเทวิน รูว้ ิธกี ารรดนำ้ ตน้ ไม้ เดก็ ชาย วริ ิทธพิ์ ล มะเทวนิ สามารถรถนำ้ ตน้ ไม้ได้โดยมผี ูช้ ว่ ยเหลือ จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้นั ตอนที่ ๓ เม่ือให้เด็กชายวิรทิ ธิ์พล มะเทวิน รวู้ ิธีการรดนำ้ ตน้ ไม้ เด็กชายวริ ิทธพ์ิ ล มะเทวนิ สามารถใชบ้ ัว รดน้ำรดนำ้ ต้นไม้ได้โดยมีผชู้ ่วยเหลอื ๔ คร้งั ๓ วันติดต่อกนั ภายในเดือน มีนาคม ๒๕๖๖

56 แผนที่ ๘ เรม่ิ ใชแ้ ผนวนั ท่ี ๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๖ สน้ิ สดุ แผนวนั ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ใชเ้ วลาสอนคาบละ ๓๐ นาที ๑. เนอื้ หา การรดน้ำต้นไม้ เป็นกิจกรรมภายในครอบครัวที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้เกิด ความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว เป็นกิจกรรมยามว่างเพ่ือผ่อนคลายไปกับธรรมชาติรอบๆ ตัว อีกท้ัง ยังเป็นกิจกรรมงานบ้านพื้นฐานท่ีผู้เรียนสามารถฝึกปฏิบัติได้ ดังน้ันจึงจำเป็นต้องเรียนรู้การรดน้ำต้นไม้ ที่เป็นกิจกรรมที่ฝึกให้ผู้เรียนมีทักษะทางสังคม เพื่อให้เรียนนำทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ใน การดำเนินกิจวัตรประจำวัน โดยการสอนแบบไปข้างหน้า ๒. จดุ ประสงค์ เพื่อฝึกใหผ้ เู้ รยี นสามารถรดน้ำต้นไม้ไดโ้ ดยมผี ้ชู ่วยเหลอื ๓. กจิ กรรมการสอน ๑) ขนั้ เตรยี มการสอน สถานที่ หน่วยบริการงาว จัดสถานท่ีในการสอนโดย ผู้เรียนน่ังบนเก้าอี้รถเข็น บริเวณ แปลงเกษตร ส่ือ บวั รดนำ้ สายยาง แบบประเมิน จัดวางไวด้ ้านข้างของครู พร้อมกับปากกาในการบันทกึ ผ้เู รยี น สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ใส่แพมเพิส ๒) ขนั้ นำเสนองาน ทกั ทาย ครูกล่าวทักทาย ดว้ ยคำวา่ “สวสั ดีคะ่ วนั นี้ครจู ะให้น้องมิกก้ี รดนำ้ ตน้ ไม้” ระเมินความสามารถพนื้ ฐาน ครสู ั่งนกั เรียนว่า “น้องมกิ ก้ี รดนำ้ ต้นไม้” จำนวน ๕ ครง้ั ครบู ันทกึ ผลการประเมินความสามารถพนื้ ฐาน ๓) ขนั้ สอน สาธติ ครูสาธติ การรดน้ำตน้ ไม้ เปิดก๊อกนำ้ ได้โดยมีผชู้ ่วยเหลอื หยิบสายยางเตมิ นำ้ ในบวั รดน้ำไดโ้ ดยมผี ูช้ ว่ ยเหลือ ใช้บัวรดนำ้ รดน้ำตน้ ไม้ไดโ้ ดยมีผู้ชว่ ยเหลือ ใช้สายยางรดน้ำตน้ ไม้ไดโ้ ดยมีผชู้ ่วยเหลอื คำสง่ั ใช้คำสัง่ ว่า “น้องมิกก้ี รดนำ้ ตน้ ไม้” เทคนคิ การสอน ได้แก่ กระตุ้นเตือน แรงเสริม/รางวลั ครกู ลา่ วคำชมเชย พูดคำว่า “ตอบถูกคะ่ ” และ ปรบมือ ๔) ขนั้ ประเมนิ บนั ทกึ ลงในแบบบันทึกผลการเรียนร้ตู ามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล

57 ๔. การวดั และประเมนิ ผล ๑) วธิ วี ัดและประเมนิ ผล - การสงั เกต - การฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง ๒) เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล - แบบบันทึกจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ๕. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล เมือ่ ให้เด็กชายวิรทิ ธพ์ิ ล มะเทวนิ รูว้ ิธีการรดนำ้ ตน้ ไม้ เด็กชายวริ ิทธ์ิพล มะเทวิน สามารถใช้บัว รดนำ้ รดนำ้ ตน้ ไมไ้ ดโ้ ดยมีผู้ช่วยเหลือ ๔ ครั้ง ๓ วันติดต่อกนั ภายในเดือนมนี าคม ๒๕๖๖ โดยมรี ะดบั คุณภาพ ดงั น้ี ๔ หมายถงึ ผเู้ รียนสามารถใช้บวั รดน้ำรดนำ้ ต้นไม้ได้โดยมผี ู้ช่วยเหลือ ๔ ครงั้ ๓ วันตดิ ตอ่ กัน ๓ หมายถึง ผเู้ รียนสามารถใช้บัวรดนำ้ รดนำ้ ตน้ ไม้ไดโ้ ดยมีผชู้ ว่ ยเหลือ ๓ ครั้ง ๓ วันติดต่อกนั ๒ หมายถึง ผู้เรยี นสามารถใชบ้ ัวรดน้ำรดน้ำตน้ ไมไ้ ด้โดยมีผูช้ ่วยเหลือ ๒ ครง้ั ๓ วนั ติดตอ่ กัน ๑ หมายถงึ ผู้เรียนสามารถใช้บัวรดน้ำรดน้ำตน้ ไม้ได้โดยมีผู้ช่วยเหลอื ๑ ครัง้ ๓ วันตดิ ต่อกัน ๐ หมายถงึ ไม่สามารถทำได้ ลงชอื่ .................................................ครูผสู้ อน (นางสาวขวญั ชนก หม่นั งาน) ครู ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผแู้ ทน ( / ) เปน็ แผนการสอนทด่ี ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรบั แก้ ........................................................................... ลงช่อื .................................................................... (นายพทิ ักษ์ วงค์ฆ้อง) หัวหนา้ เขตพื้นทีบ่ ริการประจำเขต ๑ วนั ท/่ี เดือน/พ.ศ.....๓..ม.ี ค..๖๖............... ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย ( / ) เปน็ แผนการสอนทด่ี ใี ชส้ อนได้ ( ) ควรปรบั แก้ .............................................................................. ลงชอ่ื .................................................................... (นายนภสนิ ธุ์ ดวงประภา) ผู้ชว่ ยผูอ้ ำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ วนั ท/ี่ เดอื น/พ.ศ.....๓..ม.ี ค..๖๖...............

58 แบบบนั ทกึ การวิเคราะหง์ าน แผนเปลย่ี นผา่ น จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ ๓ ภายใน เดือนมนี าคม ๒๕๖๖ เม่อื ใหเ้ ดก็ ชายวริ ิทธพ์ิ ล มะเทวนิ รู้วิธกี ารรดน้ำตน้ ไม้ เด็กชาย วริ ทิ ธ์ิพล มะเทวนิ สามารถรถน้ำตน้ ไม้ได้โดยมผี ูช้ ่วยเหลอื งาน (Task) รดน้ำต้นไม้ ชอ่ื นกั เรยี น เด็กชายวริ ทิ ธิพ์ ล มะเทวนิ ลำดบั รายละเอียด ผลการประเมิน Forward Backward วนั เดือน ปี ที่ ได้ ไมไ่ ด้ Chaining Chaining ธ.ค.๖๕ ม.ค.๖๖ ๑ เปดิ กอ๊ กนำ้ ได้โดยมผี ู้ ๑ ก.พ.๖๖ มี.ค.๖๖ ชว่ ยเหลอื ๒ หยบิ สายยางเตมิ น้ำในบัวรด ๒ น้ำได้โดยมีผูช้ ่วยเหลือ ๓ ใช้บัวรดน้ำรดน้ำต้นไม้ไดโ้ ดย ๓ มีผู้ช่วยเหลือ ๔ ใชส้ ายยางรดนำ้ ต้นไม้ไดโ้ ดยมี ๔ ผชู้ ว่ ยเหลอื ลงชอ่ื ............................................ ผ้บู ันทกึ (นางสาวขวญั ชนก หมน่ั งาน)

59 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน แผนเปลยี่ นผา่ น จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี ๓ ภายใน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เมื่อให้เดก็ ชายวิริทธพิ์ ล มะเทวิน รวู้ ิธีการรดน้ำต้นไม้ เด็กชายวิริทธิ์พล มะเท วนิ สามารถรถน้ำต้นไมไ้ ดโ้ ดยมีผ้ชู ่วยเหลือ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขั้นตอนที่ ๓ เมื่อให้เด็กชายวิริทธิ์พล มะเทวิน รู้วิธีการรดน้ำต้นไม้ เด็กชายวิริทธิ์พล มะเทวิน สามารถใช้บัวรดน้ำรดน้ำ ต้นไม้ได้โดยมผี ูช้ ่วยเหลอื ๔ ครั้ง ๓ วนั ตดิ ตอ่ กนั ภายในเดือน มนี าคม ๒๕๖๖ วันทสี่ อน ๗ ๘ ๑๐ ๑๑ ๑๕ ๑๗ ๑๘ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๘ สรุป ระดับ ๐ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ ๔ คุณภาพที่ได้ ..เ.ด..ก็ ..ช..า..ย..ว..ริ .ทิ...ธ..ิพ์ ..ล...ม..ะ..เ..ท..ว..ิน...ส..า..ม..า..ร..ถ..ใ.ช..บ้..ัว..ร..ด..น..ำ้..ร..ด..น..้ำ..ต..น้ ..ไ.ม..้ไ..ด..้โ.ด..ย..ม..ผี..้ชู...ว่ .ย..เ.ห...ล..ือ...๔....ค..ร.งั้...ต..ดิ...ก..ัน...๓....ว..นั ...ผ..่า..น..จ..ุด..ป...ร.ะ..ส..ง..ค..์.. ..เ.ช..งิ .พ...ฤ..ต..ิก..ร..ร..ม..ท..ีต่..งั้..ไ.ว..้.ส..่ง..ผ..ล..ใ..ห..ผ้ ..เู้.ร..ยี ..น..ม..ีว..ิน...ยั ...ร..ับ..ผ..ิด..ช..อ..บ....ใ.ฝ..เ่.ร..ยี..น..ร..ู้.แ..ล...ะ..ม..งุ่ .ม..่นั...ใ.น..ก...า.ร..ท..ำ..ง..า.น........................................ .................................................................................................................................................................. ระดบั คณุ ภาพ ๔ หมายถงึ ผู้เรยี นสามารถใช้บวั รดนำ้ รดน้ำตน้ ไม้ได้โดยมผี ู้ชว่ ยเหลือ ๔ ครั้ง ๓ วันตดิ ต่อกนั ๓ หมายถึง ผเู้ รยี นสามารถใชบ้ ัวรดน้ำรดน้ำต้นไม้ไดโ้ ดยมผี ชู้ ่วยเหลือ ๓ ครงั้ ๓ วนั ตดิ ตอ่ กนั ๒ หมายถงึ ผเู้ รยี นสามารถใชบ้ ัวรดนำ้ รดน้ำต้นไม้ได้โดยมผี ูช้ ่วยเหลือ ๒ ครัง้ ๓ วันติดตอ่ กัน ๑ หมายถึง ผู้เรียนสามารถใช้บวั รดนำ้ รดนำ้ ต้นไม้ไดโ้ ดยมผี ู้ช่วยเหลอื ๑ ครั้ง ๓ วนั ติดตอ่ กัน ๐ หมายถึง ไมส่ ามารถทำได้ หมายเหตุ ๑ สังเกตจากการปฏบิ ัติตามขั้นตอนตามท่ีกำหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสำเร็จของงาน สังเกตจากพฒั นาการของผู้เรียนท่ที ำได้อย่างต่อเน่ือง ลงชอ่ื .................................................ครผู ู้สอน (นางสาวขวญั ชนก หมน่ั งาน) ๓ มนี าคม ๒๕๖๖

60 ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผแู้ ทน ( / ) สอนตามแผนการสอนขัน้ ตอนต่อไป ( ) ควรปรบั แก้ ............................................................................................................. ลงช่อื ................................................................... (นายพิทกั ษ์ วงศฆ์ ้อง) หัวหน้าเขตพน้ื ที่บริการประจำเขต ๑ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ( / ) สอนตามแผนการสอนขนั้ ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงช่อื ................................................................... (นายนภสินธุ์ ดวงประภา) ผชู้ ่วยผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ๓ มนี าคม ๒๕๖๖

61

62

63

64

65

66

67

68

69

70

71

72

73

74

75

76 ขอ้ มลู นกั เรยี นรายบคุ คล หอ้ งเรยี นอาเภองาว ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ๑. ขอ้ มลู ดา้ นนักเรยี น ๑.๑ ข้อมลู สว่ นตวั นกั เรยี น ช่อื -นามสกุล (ด.ช/ด.ญ/นาย/น.ส) วิริทธ์ิพล มะเทวิน ช่อื เลน่ มกิ กี้ ประเภทความพกิ าร บกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ เกิดวันท่ี ๑๕ เดือน กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๘ อายุ ๗ ปี เชอ้ื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ เลขบตั รประจาตวั ประชาชน ๑๒๐๘๓๐๐๑๐๒๗๔๑ หมโู่ ลหิต........................................................... การจดทะเบยี นคนพกิ าร  ไมต่ อ้ งการจดทะเบยี น  ยังไมจ่ ดทะเบยี น  จดทะเบียนแล้ว ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ ๓๗/๑ หมู่ท่ี ๔ หมู่บ้าน ปงมะโอ ตาบล บ้านอ้อน อาเภอ งาว จังหวัด ลาปาง รหสั ไปรษณยี ์ ๕๒๑๑๐ ๑.๒ ดา้ นสุขภาพ ๑) สขุ ภาพกาย  มีสขุ ภาพร่างกายสมบรู ณ์แขง็ แรง  เจบ็ ปว่ ยบอ่ ย (ระบุ)............................................................................  มีโรคประจาตวั (ระบุ).....ชกั เกร็ง........................................................  ปว่ ยเปน็ โรครา้ ยแรง/เรอื้ รัง (วณั โรค โรคอว้ น โรคทางเดนิ หายใจเรอ้ื รัง (หอบหืด) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรอื้ รงั โรคมะเร็ง ภาวะภูมคิ ุ้มกนั ตา่ โรคเบาหวาน ภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรนุ แรง ลมชัก ฯลฯ ระบุโรค)............................................................... นา้ หนัก............๑๗..............กโิ ลกรมั สว่ นสูง................๑๑๕...............เซนติเมตร  น้าหนักผิดปกติไมส่ ัมพนั ธ์กบั ส่วนสงู หรอื อายุ  นอนติดเตยี ง ๒) สุขภาพจติ /อารมณ/์ พฤตกิ รรม  อารมณ์ดี ยม้ิ ง่าย  มีปฏิสัมพันธท์ ่เี หมาะสมกับผูอ้ น่ื  อารมณห์ งุดหงิดงา่ ย/โมโหง่าย  ไม่มีปฏิสมั พันธก์ บั ผู้อนื่ เชน่ เฉยเมย ไมส่ บตา  ไมม่ ีการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์  ซมึ เศรา้  แยกตวั ออกจากกลุ่ม  หวาดระแวง  ไม่พบพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์  พบพฤติกรรมทไ่ี ม่พงึ ประสงคท์ สี่ ่งผลกระทบไมร่ นุ แรงต่อตนเอง/ผู้อ่นื /สิ่งของ  พบพฤติกรรมท่ีไม่พงึ ประสงค์ท่สี ่งผลกระทบรุนแรงต่อตนเอง/ผ้อู ่ืน/สิง่ ของ

77 ๑.๓ ดา้ นการเรยี นรู้ ๑) พฒั นาการ/ความสามารถ  พฒั นาการ/ความสามารถเทียบเท่ากับอายุจริง  พัฒนาการ/ความสามารถล่าช้ากวา่ อายจุ ริง ๑ – ๓ ปี  พัฒนาการ/ความสามารถลา่ ช้ากว่าอายุจริง ๓ ปี ขึ้นไป ๒) การชว่ ยเหลอื ตนเอง  สามารถชว่ ยเหลือตนเองได้  สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้บา้ ง  ไมส่ ามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ ๑.๔ ดา้ นสิทธคิ นพิการ/สนบั สนนุ ชว่ ยเหลือจากองค์กรภาครฐั หรอื เอกชน ๑) เบย้ี ยงั ชีพคนพิการ  ได้รับ จานวน............๑๐๐๐...........บาท/เดอื น  ไมไ่ ดร้ ับ เนื่องจาก................................................................................................................ ๒) บรกิ ารฟนื้ ฟูทางการแพทย์  ได้รบั (ระบโุ รงพยาบาล).....สถาบนั ราชนครินทร์................................................................  ไมไ่ ดร้ บั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี สอ่ื สงิ่ อานวยความสะดวก  ได้รับ (ระบุสิ่งที่ได้รับ).........การใชง้ านคอมพิวเตอร์........................................................... (ระบหุ น่วยงานที่ได้รับ).......ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาหวัดลาปาง...................................  ไม่ไดร้ บั เน่ืองจาก............................................................................................................... ๔) ทนุ การศึกษา/เงนิ ชว่ ยเหลอื อื่น ๆ  ได้รบั (ระบุชอ่ื ทุนการศึกษา/เงนิ ช่วยเหลืออื่น ๆ).......คา่ รถรบั สง่ ....................................... จานวน..........๔๐๐.............บาท/เดอื น  ไมไ่ ดร้ ับ เนื่องจาก................................................................................................................ ๕) รับบริการสวสั ดกิ ารทางสงั คม  ได้รับ (ส่ิงท่ีไดร้ ับ เชน่ บริการเคสเมเนเจอร์ บริการรบั ส่งไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบุ).......... (หน่วยงานที่ได้รับ เชน่ พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ )..................................................................  ไมไ่ ด้รบั เนื่องจาก...............................................................................................................

78 ๒. ขอ้ มลู ดา้ นครอบครวั ๒.๑ ขอ้ มลู บดิ า  มชี วี ติ อยู่  ถงึ แกก่ รรม  ไมม่ ีข้อมลู ชื่อ-นามสกลุ บิดา นายอภชิ าต มะเทวิน อายุ ๓๘ ปี เชอื้ ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ  ไมม่ ีงานทา  มีงานทา อาชีพ รบั จ้างท่ัวไป รายได้ ๕๐๐๐ บาท/เดอื น ระดบั การศึกษา  ไมไ่ ดร้ บั การศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศึกษา/ปวช  ปวส/อนปุ ริญญา  ปริญญา ทอี่ ยู่ปัจจุบนั  ท่อี ยู่เดียวกบั นักเรียน  ทีอ่ ยู่ต่างจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมลู ) บ้านเลขที่ ๓๗/๑ หมู่ท่ี ๔ หม่บู ้าน ปงมะโอ ตาบล บ้านออ้ น อาเภอ งาว จังหวดั ลาปาง รหัสไปรษณยี ์ ๕๒๑๑๐ เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๔๗๗๖๔๗๕๗ ๒.๒ ข้อมลู มารดา  มีชีวิตอยู่  ถงึ แกก่ รรม  ไม่มขี ้อมลู ชือ่ -นามสกลุ มารดา นางสาวนิภาพร กนั ปา อายุ ๓๗ ปี เช้อื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ  ไมม่ งี านทา  มีงานทา อาชีพ ค้าขาย รายได้ ๕๐๐๐ บาท/เดือน ระดับการศึกษา  ไมไ่ ด้รับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนุปริญญา  ปรญิ ญา ทีอ่ ย่ปู จั จบุ นั  ท่อี ยู่เดยี วกับนักเรยี น  ที่อยู่ตา่ งจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมลู ) บ้านเลขท่ี ๓๗/๑ หมู่ท่ี ๔ หมู่บ้าน ปงมะโอ ตาบล บา้ นอ้อน อาเภอ งาว จังหวดั ลาปาง รหสั ไปรษณีย์ ๕๒๑๑๐ ๒.๓ ข้อมลู ผปู้ กครอง  บิดา  มารดา  ผู้ปกครองไม่ใช่บดิ า/มารดา (โปรดกรอกข้อมูล) ชื่อ-นามสกุลผูป้ กครอง นายอภชิ าต มะเทวิน อายุ ๓๘ ปี เชือ้ ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ  ไมม่ ีงานทา  มีงานทา อาชีพ รบั จา้ งทั่วไป รายได้ ๕๐๐๐ บาท/เดอื น ระดบั การศกึ ษา  ไมไ่ ด้รับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนุปรญิ ญา  ปรญิ ญา ทอ่ี ยู่ปัจจุบนั  ที่อยู่เดียวกบั นักเรียน  ที่อยูต่ ่างจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมูล) บา้ นเลขที่ ๓๗/๑ หมู่ที่ ๔ หมู่บา้ น ปงมะโอ ตาบล บ้านอ้อน อาเภอ งาว จงั หวดั ลาปาง รหัสไปรษณีย์ ๕๒๑๑๐ เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๔๗๗๖๔๗๕๗ รายไดค้ รอบครวั  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ปี ขึ้นไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ปี  ไม่เกนิ 40,000 บาท/ปี สภาพความเป็นอยู่ในครอบครัว  อยูร่ ่วมกบั บิดามารดา  อยกู่ บั บิดา  อยู่กับมารดา  อยู่กับผู้อ่นื (ระบ)ุ ....................................................................... สถานภาพของบิดามารดา  อย่ดู ้วยกนั  หยา่ ร้าง  แยกกนั อยู่  บิดาถงึ แก่กรรม  มารดาถึงแก่กรรม  บิดา มารดาถึง แก่กรรม

79 ครอบครวั ของนักเรยี นมีสมาชิกท้ังหมด ๔ คน ประกอบดว้ ย บิดา มารดา นอ้ งสาว และนักเรียน บุคคลในครอบครวั มีการใชส้ ารเสพติด  มี  ไมม่ ี เกีย่ วขอ้ งเป็น...............................กับนักเรียน ประเภทสารเสพติดท่ใี ชค้ ือ  บุหร่ี  สรุ า  ยาบ้า  อื่นๆ ระบ.ุ ............................ ความถี่ในการใช้สารเสพตดิ ของบุคคลในครอบครัว  เปน็ ประจา  บางครง้ั บคุ คลในครอบครวั เกย่ี วข้องกับการเล่นการพนนั  มี  ไมม่ ี ความถ่ใี นการเล่นการพนันของบคุ คลในครอบครัว  เปน็ ประจา  บางครงั้ ภายในครอบครวั มีความขัดแยง้ และมีการใชค้ วามรนุ แรง  มี  ไมม่ ี บคุ คลในครอบครวั เจบ็ ปว่ ยด้วยโรครุนแรง/เร้อื รัง  มี  ไมม่ ี อาชพี บิดา/มารดา/ผูป้ กครองเส่ยี งต่อกฎหมาย  มี  ไม่มี ๒.๔ ดา้ นเศรษฐกจิ ครอบครวั  มรี ายได้เพียงพอสาหรบั เล้ยี งดูครอบครัวไดอ้ ย่างดี  มีรายไดเ้ พียงพอสาหรบั เล้ียงดูครอบครวั เฉพาะท่จี าเป็น  มหี นส้ี ิน  มีรายได้เพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอสาหรบั ครอบครัว  ไมม่ รี ายได้เลย ตอ้ งพึ่งพาผอู้ ่นื ทงั้ หมด และมีหน้ีสิน ๒.๕ ดา้ นการคมุ้ ครองนกั เรยี น ๑) การดแู ลเอาใจใส่นกั เรยี น  สมาชิกทุกคนในครอบครัวชว่ ยกนั ดูแลเอาใจใส่นักเรียนเปน็ ประจาสม่าเสมอ  ขาดการดูแลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรียนเปน็ บางครัง้  ขาดการดแู ลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนกั เรยี น/ไม่มีผู้ดูแล  นกั เรยี นถกู ลว่ งละเมิดทางเพศ  นกั เรียนถกู ทาร้ายทารณุ ๒) การชว่ ยเหลอื ในการพฒั นานกั เรยี น  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวเข้าใจ/รว่ มมอื ในการชว่ ยเหลอื ในการพัฒนานักเรียนเป็นอยา่ งดี  สมาชกิ ในครอบครัวบางคนไม่มีความเขา้ ใจ/รว่ มมอื ในการช่วยเหลือในการพัฒนานักเรียน  สมาชกิ ทกุ คนในครอบครัวขาดความเข้าใจ/รว่ มมือในการชว่ ยเหลอื ในการพฒั นานักเรยี น ๒.๖ ดา้ นเจตคตติ อ่ นกั เรยี น ครอบครวั มีความคาดหวงั ในการพฒั นานักเรียน  นักเรียนสามารถพัฒนาไดแ้ ละมีการแสวงหาความรู้ในการพัฒนานักเรยี นอยู่เสมอ  มีความคาดหวังในการพัฒนานักเรยี นแต่ไมม่ ีการแสวงหาความรู้เพื่อนามาพัฒนานักเรยี น  ไมม่ ีความคาดหวังในการพฒั นานักเรยี นและนกั เรยี นเปน็ ภาระของครอบครวั

80 ๒.๗ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะของผปู้ กครองในการพฒั นานกั เรยี น ๑) ความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะของผปู้ กครองในการจดั กิจกรรมเพื่อพฒั นานกั เรียน  มกี ารจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนานกั เรียนเป็นประจาทุกวัน  มกี ารจัดกจิ กรรมเพื่อพัฒนานกั เรียนเปน็ บางครงั้  ไม่เคยมีการจัดกิจกรรมเพื่อพฒั นานกั เรียน ๒) ความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะของผปู้ กครองในการฝกึ ดว้ ยเทคนิค/กจิ กรรม  มีการฝกึ ด้วยเทคนิค/กิจกรรมที่หลากหลายเปน็ ประจาทุกวัน  มีการฝึกด้วยเทคนิค/กจิ กรรมเป็นบางครั้ง  ไมเ่ คยฝกึ ด้วยเทคนิค/กิจกรรม ๓. ขอ้ มลู ดา้ นสภาพแวดล้อม ๓.๑ สภาพแวดล้อมภายในศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง/หนว่ ยบรกิ าร ๑) บรเิ วณภายในหอ้ งเรียนอาคารเรยี น  สภาพแวดลอ้ มในห้องเรยี น/อาคารเรียนมีความเหมาะสมกบั ความต้องการจาเป็นพเิ ศษของ นกั เรียนและปลอดภยั ต่อการดารงชวี ิต  สภาพแวดลอ้ มในห้องเรียน/อาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความตอ้ งการจาเป็น พิเศษของนกั เรียนแตย่ งั สามารถใช้ได้อยา่ งปลอดภยั ต่อการดารงชวี ิต  สภาพแวดล้อมในหอ้ งเรยี น/อาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความตอ้ งการจาเป็น พเิ ศษของนกั เรยี นและไม่ปลอดภยั ตอ่ การดารงชีวิต  สภาพแวดล้อมในหอ้ งเรยี น/อาคารเรียนทุกอย่างไม่มีความเหมาะสมกับความตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษของนักเรียนและไมป่ ลอดภัยต่อการดารงชีวิต ระบุรายละเอียดเพิ่มเตมิ ........................................................................................................................................... ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกบั ความตอ้ งการจาเปน็ พิเศษของนักเรยี น และปลอดภัยต่อการดารงชีวิต  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรยี นบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พเิ ศษ ของนักเรยี นแต่ยงั สามารถใช้ได้อยา่ งปลอดภัยต่อการดารงชีวติ  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจาเปน็ พเิ ศษ ของนักเรยี นและไม่ปลอดภยั ตอ่ การดารงชีวติ  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นทกุ อยา่ งไม่มคี วามเหมาะสมกับความต้องการจาเป็นพิเศษของ นกั เรียนและไมป่ ลอดภยั ตอ่ การดารงชวี ติ ระบุรายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ ........................................................................................................................................... ๓) ผูเ้ กย่ี วขอ้ ง  คร/ู พ่เี ลี้ยงเด็กพิการ/ผ้ปู ฏิบตั ิงานให้ราชการ ทุกคนพร้อมให้การช่วยเหลือนักเรยี น  ครู/พ่ีเล้ยี งเดก็ พกิ าร/ผปู้ ฏบิ ัติงานให้ราชการ บางคนละเวน้ ไม่ให้การชว่ ยเหลอื นกั เรียน

81  ครู/พ่ีเล้ียงเดก็ พกิ าร/ผปู้ ฏิบตั ิงานใหร้ าชการ บางคนรังเกียจนกั เรียน  เพือ่ นทุกคนยอมรบั /ใหเ้ ข้ากลุ่มทากจิ กรรม  เพ่อื นบางคนไม่ยอมรบั /ไม่ใหเ้ ข้ากลมุ่ ทากิจกรรม  เพื่อนทุกคนไมย่ อมรับ/ไม่ใหเ้ ขา้ กลมุ่ ทากจิ กรรม ๓.๒ สภาพแวดล้อมภายในบา้ น ๑) บรเิ วณภายในบา้ น  สะอาดปลอดภัยเออ้ื ตอ่ การพัฒนาศักยภาพนักเรยี น  สะอาดปลอดภัยแตไ่ มเ่ อ้ือต่อการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน  ไม่สะอาดและไมป่ ลอดภัย ๒) บรเิ วณภายนอกบา้ น  สะอาดปลอดภัยเออ้ื ต่อการพฒั นาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แตไ่ มเ่ อ้ือตอ่ การพัฒนาศักยภาพนกั เรียน  ไม่สะอาดและไมป่ ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ้ มภายในชมุ ชน ๑) เจตคตขิ องชุมชนทีม่ ตี อ่ นกั เรยี นและครอบครวั  เป็นภาระของสังคม  พร้อมให้ความชว่ ยเหลือ  ความเชอ่ื เรอ่ื งเวรกรรม  มสี ิทธเิ ทา่ เทยี มกบั คนท่วั ไป  นา่ รังเกยี จ  คนพิการสามารถพฒั นาได้  ไมส่ นใจ ๒) ความสมั พนั ธข์ องนกั เรยี นกับชมุ ชน  เปน็ ทร่ี ู้จกั ในชุมชน  มีสว่ นร่วมในชมุ ชน  เปน็ ท่รี กั ของคนในชุมชน  ชมุ ชนให้ความช่วยเหลอื  ไมม่ ีคนในชมุ ชนรู้จัก  ไมส่ นใจ  สร้างความเดือดร้อนให้คนในชมุ ชน

82 แบบรวบรวมข้อมูลผเู้ รียน ตามกรอบคดิ แนวเชงิ นเิ วศ (Ecological System) และกรอบการประเมนิ ของฟานไดจค์ (The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities) ชอื่ -นามสกลุ ผเู้ รยี น เด็กชายวิริทธิ์พล มะเทวนิ ชอ่ื เลน่ มกิ กี้ ระดบั ชัน้ เตรียมความพร้อม ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรบั บรกิ าร หน่วยบริการ ชอ่ื สถานศกึ ษา ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง อาเภอ งาว จงั หวดั ลาปาง ขอ้ มูล ณ วนั ที่ ๒๗ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

83 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รยี น ขอ้ มลู ของผเู้ รยี น ๑. ขอ้ มลู ของผเู้ รยี น ชือ่ -นามสกลุ ผเู้ รยี น เด็กชายวริ ทิ ธิ์พล มะเทวนิ ช่อื เลน่ มิกก้ี อายุ ๗ ปี เพศ ชาย เชอ้ื ชาติ ไทย ประเภทความพิการ บคุ คลท่มี คี วามบกพร่องทางร่างกายหรือการเคล่อื นไหวหรือสุขภาพ โรคประจาตวั ชกั  ลกั ษณะความพกิ าร นักเรยี นมีพฤติกรรมชอบดูวีดีโอเพลงจากยูทูป เช่น รถไฟบ๊อบ มวย รายการบันเทิง เป็นต้น เม่ือไดด้ ูจะเงยหนา้ ชันคอขึ้นไดน้ าน และเม่ือดูวดี ีโอที่ถูกใจมักจะหัวเราะเสยี งดงั แสดงสีหนา้ มี ความสุข แต่เมื่อเปิดวีดีโอท่ีไม่ถูกใจจะเอามือเอ้ือมไปจับรีโมทโทรทัศน์ หรือโทรศัพท์ แสดงให้ ผู้ปกครองรู้เพ่อื เปลี่ยนรายการ แต่ยงั ไม่สามารถกดปุ่มรีโมทหรือโทรทศั น์ได้ เม่ือให้รอคอยหรือไมไ่ ด้ดู วดี โี อเพลงมกั จะเอามอื เข้าปากตลอดเวลา จนน้ิวมือซดี เหี่ยว นักเรียนมีลักษณะกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง สามารถควบคุมกล้ามเน้ือได้บ้าง สามารถพลิกตะแคงตัวได้ ไม่สามารถลุกขึ้นนั่งทรงตัวได้ด้วยตนเอง น่ังทรงตัวได้โดยมีผู้ช่วยเหลือได้ ไม่สามารถลุกข้ึนยืนทรงตัวได้ด้วยตนเอง และไม่สามารถเดินได้ด้วยตนเอง ความตึงตัวของกล้ามเน้ือ ไม่สม่าเสมอ เอ้ือมแขนและใชฝ้ ่ามือหยบิ สิ่งของท่ีอยู่ด้านหน้าได้ สามารถรบั ประทานอาหารได้โดยมีผู้ ช่วยเหลือ กลืนอาหารได้เอง ควบคุมน้าลายไม่ได้ หยิบอาหารเป็นช้ินเล็กๆ เข้าปากได้เอง ไม่สามารถ ควบคุมการขับถ่ายได้ ไม่สามารถทากิจวัตรประจาวันได้ด้วยตนเอง เน่ืองจากสมองพิการหลังคลอด ส่งผลทาให้ไม่สามารถควบคุมกล้ามเน้ือให้สม่าเสมอได้ จึงต้องรับประทานยาคลายกล้ามเนื้อตาม แพทย์สั่งอยา่ งต่อเนอ่ื ง  พฤตกิ รรมของผเู้ รยี น พฤตกิ รรมสว่ นบคุ คล ผู้เรียนสนใจเสียงดนตรีประกอบภาพจากโทรทัศน์ และ YouTube เมื่อผู้เรียนได้ยิน เสียงเพลงจะชันคอข้ึนเพ่ือมองหาเสียงเพลงได้ทุกทิศทาง และจะทากิจกรรมต่างได้ดีเม่ือมีเสียงเพลง สามารถเคลื่อนย้ายตัวไปหาโทรศัพท์หรือรีโมทโทรทัศน์ได้ ส่งเสียงเม่ือมีเสียงเพลงที่ไม่สนใจ และมัก เอามือเขา้ ปากเพ่ืออมไว้ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ผู้เรียนไม่สามารถส่ือสารด้วยภาษาท่ีมีความหมายได้ สามารถฟังและทาตามคาส่ังง่ายๆ ได้ เป็นบางคร้ัง สามารถแสดงความต้องการของตนเอง โดยการเปล่งเสียงออกมา แสดงอารมณ์ด้วยการ

84 การหวั เราะ ย้มิ เมื่อดีใจและสามารถใช้มือเอื้อมจับวัตถุโดยใชฝ้ า่ มอื ได้ สามารถหยบิ วัตถุสีแดง สีเขียว และสีเหลอื งตามคาส่งั ได้ นักเรียนควรได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการมอง การฟัง และการใช้ประสาทสัมผัส ต่างๆ โดยมีผู้ช่วยเหลือในการทากิจกรรมทุกขั้นตอน ด้วยการกระตุ้นเตือนทางวาจา และการกระตุ้น เตือนทางกาย การใช้เสริมแรงทางบวกด้วยเสียงเพลงที่ผู้เรียนชอบ และการใช้ส่ือ ส่ิงอานวยความ สะดวกชว่ ยในการเรียนรู้ เชน่ รถเขน็ หมอนสามเหล่ียม วีดโี อเพลง เป็นต้น ภาพผู้เรยี น

85 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รยี น ขอ้ มลู ความสามารถผ้เู รยี น  ความสามารถพนื้ ฐานของผู้เรียน ๑.๑ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา้ นรา่ งกาย จดุ เดน่ จดุ ออ่ น ๑. เม่ือให้ผู้เรยี นชันคอขึ้นเพ่ือมองวัตถหุ รือเพ่ือทา ๑. เม่ือไม่มีเพลงหรือวีดีโอท่ีสนใจ ผู้เรียนจะไม่ชัน กิจกรรมที่อยู่หน้า ผู้เรียนสามารถชันคอขึ้นได้โดย คอข้ึนเพื่อทากิจกรรมหรอื มองวตั ถุ มีเพลงหรอื วีดีโอท่สี นใจ ๒. เมื่อใหผ้ ้เู รียนน่งั ทรงตวั ในท่านั่งขดั สมาธบิ นพ้นื ๒. เม่ือให้ผู้เรียนน่ังทรงตัวในท่านั่งขัดสมาธิบนพ้ืน ผู้เรยี นสามารถน่ังทรงตวั ในการทากจิ กรรมได้โดย ผู้เรียนสามารถนั่งทรงตัวในการทากิจกรรมได้ มีผูช้ ่วยเหลอื ประคองด้านหลัง หากมีความตึงตัวของกล้ามเน้ือแข็งเกร็งข้ึนผู้เรียน จะเสียการทรงตัวในทา่ นัง่ ในขณะนนั้ ทันที ๓. เมื่อให้ผู้เรียนใช้มือหยิบวัตถุ ผู้เรียนสามารถใช้ ๓. เมื่อให้ผู้เรียนใช้มือปล่อยวัตถุได้แต่วัตถุมักจะ ฝ่ามือในการเอ้ือม หยิบ จับ กา นา ปล่อยวัตถุได้ หลุดจากมอื ก่อนถึงเปา้ หมายที่กาหนดไว้ โดยมผี ู้ช่วยเหลือเล็กน้อย ๑.๒ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านอารมณ์ จติ ใจ จดุ เดน่ จดุ ออ่ น ๑. ผู้เรียนสามารถแสดงออกทางอารมณ์ของ ๑. ผู้เรียนไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อ่ืน เมื่อผู้อ่ืนโกรธ ตนเองโดยการยิ้ม หัวเราะ เม่ือได้ดูวีดีโอเพลงท่ี โมโห หรือดุด่า ผู้เรียนจะแสดงพฤติกรรมนิ่งเฉย ชอบ ไม่ตอบสนอง ๒. ผู้เรียนสามารถแสดงความต้องการ โดยการ ๒. ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความต้องการด้วยการ ร้องไห้ เปล่งเสียง หรือเอื้อมมือจ้องมองไปทางส่ิง สื่อสารทางภาษา และท่าทางได้ ทต่ี ้องการได้ ๓. ผู้เรยี นสามารถอยู่นงิ่ เพ่อื รอคอยได้ ๓. ผู้เรียนสามารถอยู่นิ่งเพื่อรอคอยได้ และมักจะ เอามอื เขา้ ปากเพือ่ อม ขณะอย่นู ่งิ นัน้ ๔. ผู้เรียนให้ความร่วมมือทากิจกรรมจนสาเร็จ ๔. ผู้เรียนให้ความร่วมมือทากิจกรรมจนสาเร็จ ตามที่กาหนดให้ได้ ตามท่ีกาหนดให้ได้ เมื่อได้ดวู ีดีโอเพลงท่ีชอบ และ ไม่สามารถแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในตนเอง เม่อื ทากิจกรรมไดส้ าเรจ็

86 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรยี น ขอ้ มลู ความสามารถผ้เู รยี น ๑.๓ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา้ นสงั คม จดุ ออ่ น จดุ เดน่ ๑. ผเู้ รยี นไมส่ ามารถรบั ประทานอาหาร โดยการ ๑. ผูเ้ รียนสามารถรบั ประทานอาหาร โดยการ ใช้ช้อนในการตักอาหารจากถ้วยแลว้ นามาใส่ หยบิ อาหารช้นิ เลก็ เขา้ ปากได้เอง ปากของตนเองและไมส่ ามารถดม่ื นา้ จากหลอด ได้ ๒. ผูเ้ รียนสามารถทากจิ กรรมกลุ่มรว่ มกบั เพอ่ื น ๒. ผ้เู รยี นสามารถเล่นของเล่นร่วมกับเพ่ือนได้ หรือเล่นของเล่นร่วมกับเพ่อื นได้ แตม่ ักจะหยบิ ของเลน่ ทง้ิ ๑.๔ ความสามารถพน้ื ฐานทางดา้ นสตปิ ญั ญา จดุ เดน่ จดุ ออ่ น ๑. ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตามคาสั่งได้โดยการ ๑. ผเู้ รยี นไมส่ ามารถปฏิบตั ติ ามคาสั่งทซี่ ับซอ้ น เอื้อมมือไปหยิบวัตถุและใส่ตามเป้าหมายที่ ได้ และเม่ือหยบิ ไปใส่ตามเปา้ หมายมักจะหลดุ กาหนดใหไ้ ด้ถูกตอ้ ง จากมือก่อนถงึ เป้าหมาย ๒. ผเู้ รยี นสามารถจดจาและจาแนกสีได้ ได้แก่ สี ๒. ผู้เรียนไม่สามารถจดจารูปร่าง ขนาดรูปทรง แดง สเี ขียว และสีเหลอื ง ตา่ งๆ ได้ ๑.๕ ความสามารถพน้ื ฐานทางดา้ นทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความพกิ าร จดุ เดน่ จดุ อ่อน ผู้เรียนสามารถอยู่ในท่านอนหงาย นอนคว่า ผู้เรียนไม่สามารถอยู่ใน รถเข็นน่ั งได้นาน และนอนตะแคงไดถ้ ูกตอ้ ง เนื่องจากความตึงตัวของกล้ามเนื้อไม่สม่าเสมอ ทาให้ลาตัวของผู้เรียนเล่ือนลงมาจากตัวรถเข็น นง่ั

87 รวบรวมขอ้ มูลผูเ้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework การรวบรวมขอ้ มูลผูเ้ รยี นตามกรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. การเขา้ ใกล-้ ถอนหนี (Approach-Withdrawal) การดปู ฏกิ ริ ยิ าของเด็กในการเผชญิ สง่ิ ใหม่ ประสบการณ์ บคุ คล/สถานท่ี ส่ิงของ ความคดิ ๑.๑ อะไรที่เป็นตัวชบี้ อกวา่ เด็กเข้าร่วม การใหค้ วามร่วมมือในการทากจิ กรรม ๑.๒ อะไรทีเ่ ปน็ ตวั ชบ้ี อกวา่ เด็กไม่เขา้ ร่วม ไม่สนใจ เมนิ เฉย หรือรอ้ งไห้ ๑.๓ มอี ะไรที่สังเกตเห็นว่าจูงใจเดก็ บ้าง เมื่อมีเสยี งเพลงผเู้ รยี นจะมองและหันหาเสียง ๑.๔ อะไรทส่ี ังเกตเหน็ วา่ เด็กไม่สนใจ/หลีกหนี หันหนา้ มองไปทางอืน่ หรือน้าตาไหลรอ้ งไห้ บ้าง ๒. ชอ่ งทางการเรยี นรดู้ า้ นประสาทการรบั รู้ (Sensory Learning Channels) ๒.๑ เดก็ รับขอ้ มลู ไดโ้ ดยวิธีใดบ้าง ทางการมอง และการฟงั ๒.๒ เด็กตอบสนองต่อเสียงอยา่ งไร หนั หาเสยี ง ชันคอข้ึน ๒.๓ เดก็ ตอบสนองต่อสิง่ เรา้ ทางสายตาอย่างไร สายตาจ้องมองสง่ิ เร้านน้ั ๒.๔ เด็กตอบสนองต่อการสมั ผัสอย่างไร ใช้มอื สมั ผสั สง่ิ ของนัน้ ดว้ ยการหยบิ จับ ๒.๕ เด็กใชป้ ระสาทสมั ผัสมากกว่าหนึง่ อย่างใน ใชป้ ระสาทสัมผัสมากกวา่ หนึ่งอย่างโดยใช้ตา เวลาเดยี วกนั หรือไม่ ประสานกบั มือ ๒.๖ เด็กแสดงตัวชีแ้ นะการร่วมหรอื ไมเ่ ขา้ ร่วมใน ไม่ แสดงออกดว้ ยการเมนิ เฉย หนั ศรี ษะไปทาง การตอบสนองข้อมูลทางประสาทสมั ผสั เฉพาะ อืน่ ไม่ตอบสนองเม่ือไมต่ ้องการเขา้ รว่ มหรือไม่ หรอื ไม่ เขา้ ร่วมการทากิจกรรม

88 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๓. สถานะทางชวี พฤตกิ รรม (Biobehavioral State) ชดุ ของสภาพการณด์ า้ นชวี พฤติกรรมและกายภาพตง้ั แตก่ ารนอนหลบั จนถงึ การตนื่ นอนและการร้อง ๓.๑ สภาพปัจจบุ ันของเด็กคืออะไร ชอบดูวีดีโอเพลงจากยูทูบ เช่น รถไฟบ๊อบ มวย รายการบันเทิง เป็นต้น เมื่อไดด้ ูจะเงยหน้าชันคอ ข้ึนได้นาน และเม่ือดูวีดีโอที่ถูกใจมักจะหัวเราะ เสยี งดัง แสดงสีหน้ามคี วามสุข แตเ่ มือ่ เปิดวีดีโอท่ี ไม่ถูกใจจะเอามือเอ้ือมไปจับรีโมทโทรทัศน์ หรือ โทรศัพท์ แสดงให้ผู้ปกครองรู้เพ่ือเปล่ียนรายการ แต่ยังไม่สามารถกดปุ่มรีโมทหรือโทรทัศน์ได้ เมื่อ ให้รอคอยหรือไม่ได้ดูวีดีโอเพลงมักจะเอามือเข้า ปากตลอดเวลา จนนว้ิ มือซีด เห่ยี วยน่ ๓.๒ เด็กสามารถควบคุม/เปล่ยี นสภาพของตนได้ ไดเ้ ป็นบางอย่าง เชน่ สามารถควบคมุ กลา้ มเน้ือ หรอื ไม่ ไดบ้ า้ ง สามารถพลิกตะแคงตัวได้ นงั่ ทรงตัวได้ โดยมีผชู้ ่วยเหลือได้ การเอื้อมมอื และแขน ใชฝ้ ่า มือหยิบสง่ิ ของท่ีอยู่ดา้ นหนา้ ได้ สามารถ รบั ประทานอาหารชน้ิ เล็กโดยใช้มอื หยบิ เข้าปาก ได้ กลนื อาหารไดเ้ อง ๓.๓ เดก็ ใชเ้ วลาในการต่นื ตวั มากน้อยแค่ไหน ทนั ทที ่ีไดย้ นิ เสยี งหรือดวู ีดีโอท่ีตนเองชอบ ๓.๔ มีช่วงกว้างของแต่ละสภาพเทา่ ใดท่ีเด็กแสดง ผู้เรยี นจะมองก่อนทจี่ ะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพ ให้เห็นและมแี บบแผนการเปล่ยี นแปลงอะไร ระหวา่ งสภาพ ๓.๕ มีตัวแปรอะไรบา้ งทก่ี ระทบตอ่ สภาพเดก็ อารมณ์ การดูวดี ีโอจากยูทูบหรือโทรทศั น์ท่ีไม่ ถูกใจจะแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ มีผลกระทบต่อ การทากิจกรรมไม่สาเรจ็

89 รวบรวมขอ้ มูลผูเ้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๔. การตอบสนองปฏกิ ริ ยิ าตอบสนองของรา่ งกายในสภาพแวดลอ้ ม (Orienting Response) ๔.๑ มีปจั จัยอะไรบา้ งทท่ี าให้เด็กการตอบสนอง วดี โี อจากยูทูบและโทรทัศน์ ไปในทิศทางนน้ั ได้ชดั แจ้ง ๔.๒ เด็กแสดงการตอบสนองตอ่ ทศิ ทางออก หันหาเสียง อย่างไร ๔.๓ ประสาทการรับรู้ช่องทางใดทปี่ รากฏ การมอง การฟัง และการสมั ผัส เชอ่ื มโยงกบั การตอบสนอง (ข้อมูลประสาทการ รบั รทู้ ก่ี ระตุ้นให้มีการตอบสนองและประสาทการ รับรู้ทใ่ี ชป้ ระโยชน)์ ๕. ความจา (Memory) ใช่ การใชว้ ดี ีโอเพลงจากยูทูบหรือโทรทศั น์ มักจะ ๕.๑ เด็กใช/้ คนุ้ กับสงิ่ เรา้ ท่ีคุ้นชินหรือไม่ ไดผ้ ลทุกคร้ัง นอกจากส่งิ เรา้ ทเ่ี ปน็ วีดีโอเพลงจากยทู ูบหรือ ๕.๒ การนาเสนอส่ิงเรา้ จาเป็นต้องใช้เวลานาน โทรทศั น์ จะใชเ้ วลานานกวา่ เด็กจะค้นุ เคย ต้อง หรอื กค่ี รง้ั ก่อนที่เด็กจะคุ้นชนิ กระตุ้นเตือนทางกาย และวาจา เขา้ ร่วม แตต่ ้องใช้เวลานานในการกระตนุ้ ความ ๕.๓ เด็กเขา้ ร่วมอีกครัง้ ไหมเมื่อเปลี่ยนแปลง สนใจ ลักษณะของสิ่งเร้า แตกตา่ ง กิจกรรมทส่ี นใจจะให้ความร่วมมอื ใน ๕.๔ การตอบสองแตกตา่ งไปหรือไม่ การรว่ มกิจกรรม กิจกรรมทไ่ี ม่สนใจจะเมนิ เฉย มองไปทางอนื่ ไม่ชันคอข้นึ มามอง ๕.๕ เดก็ แสดงการตองสนองแตกต่างหรือไม่กบั ไม่แตกต่าง บุคคลท่ีคุ้ยเคยและไม่ค้นุ เคย ๕.๕ เดก็ แสดงการรับรู้หรือไม่ว่าส่ิงของน้ันยังอยู่ ไม่ หากเป็นส่งิ ของท่ีชอบจะแสดงออกโดยการ แม้จะไม่อยใู่ นสายตาตอนนนั้ เอ้ือมมือไปจับส่ิงของนนั้ ไว้ ๕.๖ เด็กเชอ่ื มโยงเหตกุ ารณ์ที่กาลงั เผชิญกบั ส่ิงท่ี ไม่แน่ใจ ตามมาไหม ๕.๗ เด็กแสดงการคาดเดาต่อสง่ิ /เหตกุ ารณ์ท่ี ไมแ่ น่ใจ กาลังเผชญิ หรอื ไม่ ๕.๘ เดก็ แสดงอาการหรือไม่เมื่อส่ิงที่เกิดใหม่ไม่ ไมแ่ นใ่ จ ตรงกบั ความคาดหวัง ๕.๙ เด็กสามารถเรยี นรกู้ ิจวตั รง่าย ๆ ได้หรือไม่ ได้ เช่น การรับประทานอาหาร ๕.๑๐ กจิ วัตรที่ให้เด็กเรียนรู้จาได้ไหม ได้ เชน่ การรบั ประทานอาหาร

90 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๖. ปฏสิ มั พนั ธท์ างสงั คม (Social Interactions) ๖.๑ เด็กหันไปหาบคุ คลหรือไม่ ไม่หันหาบคุ ลอ่ืน ๖.๒ เด็กแสดงความผกู พนั วา่ มคี วามปลอดภัยกบั ใช่ จะขยบั ตวั หาบคุ คลในครอบครัว บุคคลสาคญั ในชีวิตของเขา/เธอหรือไม่ ๖.๓ เดก็ มสี ่วนร่วมในการผลัดเปลย่ี นกนั เม่ือเร่ิมมี ไม่ ปฏิสัมพนั ธ์หรอื ไม่ ๖.๔ เดก็ มสี ว่ นร่วมในการผลดั เปล่ียนกันเมื่อคน ไม่ อื่นเร่ิมปฏสิ ัมพนั ธ์หรือไม่ ๖.๕ เดก็ ผลัดเปลยี่ นกรี่ อบก่อนทจ่ี ะไม่ร่วม ไม่ ๖.๖ เดก็ เพม่ิ การผลดั เปลยี่ นการมปี ฏิสมั พันธม์ าก ไม่ ข้ึน เพ่ือตอบสนองต่อปฏิสมั พันธข์ องคหู่ รือไม่ ๗. การสอ่ื สาร (Communication) แสดงความตั้งใจในการสื่อสารทางท่าทาง เม่ือ ๗.๑ เด็กแสดงใหเ้ หน็ ความต้งั ใจในการสอ่ื สาร ตอ้ งการเปลย่ี นวดี โี อจากโทรศพั ท์จะเอม้ื มือหยบิ ผ่านการใชง้ านของสัญญาณ การเปลง่ เสียง โทรศพั ท์ หรือเปลย่ี นรายการจากโทรทัศนจ์ ะเอ้ืม ท่าทาง ฯลฯ หรอื ไม่ อธิบายการสอ่ื สารทใ่ี ช้ มอื หยบิ โทท ไม่ ๗.๒ เดก็ ใชส้ ัญญาณอยา่ งสอดคล้องกันหรือไม่ ไมแ่ ตกตา่ งกนั เมื่อไม่ตอ้ งการจะเมนิ เฉย หรือ ๗.๓ เด็กใช้การสอื่ สารแตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อธบิ าย ร้องไห้ การส่ือสารและความความหมายท่ีน่าจะเปน็ เลือกดว้ ยตนเอง ๗.๔ เมื่อนาเสนอตัวเลือกเด็กตดั สนิ ใจเลือก หรอื ไม่ ไม่ใช้ ๗.๕ เดก็ ใชท้ า่ ทางเหมือนบุคคลทั่วไปใช้หรอื ไม่ ไม่ใช้ ๗.๖ เดก็ สามารถใชข้ องหนึ่งอยา่ งหรือสัญลกั ษณ์ แทนกจิ กรรมหรือวัตถหุ รือไม่ ใช่ สามารถตอบสนองด้วยคาสัง่ ง่ายๆ ด้วยการฟัง ๗.๗ เดก็ แสดงให้เหน็ ความเข้าใจในการส่ือสาร ได้ โดยใช้สัญลกั ษณห์ รือไม่ (การได้ยิน ภาพ หรอื การสมั ผสั ) ไม่ ๗.๘ เดก็ ใช้การสอื่ สารทางสัญลักษณห์ รือไม่ อธบิ าย