Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สวดมนต์ทำวัตร_เจริญพระพุทธมนต์

สวดมนต์ทำวัตร_เจริญพระพุทธมนต์

Published by DPD E-Lidrary, 2020-06-15 22:39:38

Description: สวดมนต์ทำวัตร_เจริญพระพุทธมนต์

Search

Read the Text Version

นกฺขตฺตยกฺขภตู านํ ความป้องกนั บาปเคราะหท์ งัÊ หลาย ปาปคคฺ หนิวารณา แต่สาํ นักแห่งเหล่านักษตั ร และยกั ษ์ และภตู ได้มแี ล้ว ปริตฺตสสฺ านุภาเวน หนฺตวฺ า เตสํ อปุ ททฺ เว ด้วยอานุภาพ แห่งพระปริตร นกฺขตฺตยกฺขภตู านํ จงกาํ จดั เสียซึÉงอปุ ัทวะทงัÊ หลาย แต่ ปาปคคฺ หนิวารณา สาํ นักแห่งนักษตั ร และยกั ษ์และภตู เหล่านันÊ ปริตฺตสสฺ านุภาเวน หนฺตฺวา เตสํ อปุ ททฺ เว. ความป้องกนั บาปเคราะหท์ งัÊ หลาย แต่สาํ นักแห่งเหล่านักษตั ร และยกั ษ์ และภตู ได้มแี ล้ว ด้วยอานุภาพ แห่งพระปริตร จงกาํ จดั เสียซึÉงอปุ ัทวะทงัÊ หลาย แต่ สาํ นักแห่งนักษตั ร และยกั ษ์และภตู เหล่านันÊ . - 151 -

ส่วนทÉี 3 พระสตู รแปล ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสูตร อนตั ตลกั ขณสูตร อาทิตตปรยิ ายสูตร คิริมานนั ทสูตร มหาสมยั สูตร โคตมีสูตร - 152 -

เรมÉิ ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสูตร อนุตฺตรํ อภิสมโฺ พธึ พระตถาคตเจ้า ได้ตรสั ร้ซู Éึงพระ สมพฺ ชุ ฌฺ ิตฺวา ตถาคโต อนุตตรสมั มาสมั โพธิญาณแล้ว ปฐมํ ยํ อเทเสสิ เมืÉอจะทรงประกาศธรรมทีÉใครๆ ยงั ธมมฺ จกฺกํ อนุตตฺ รํ มิได้ให้เป็นไปแล้วในโลก ให้เป็นไป สมมฺ เทว ปวตเฺ ตนฺโต โดยชอบแท้ ได้ทรงแสดงพระ โลเก อปปฺ ฏิวตตฺ ิยํ อนุตตรธรรมจกั รใดก่อน ยตฺถากขฺ าตา อโุ ภ อนฺตา คือในธรรมจกั รใด พระองคต์ รสั ซึÉง ปฏิปตฺติ จ มชฌฺ ิมา ทÉีสดุ 2 ประการ และข้อปฏิบตั ิเป็น จตสู วฺ าริยสจเฺ จสุ กลาง และปัญญาอนั ร้เู หน็ อนั หมด วิสทุ ฺธํ ญาณทสสฺ นํ จดแล้วในอริยสจั ทงัÊ 4 เทสิตํ ธมมฺ ราเชน เราทงัÊ หลาย จงสวดธรรมจกั รนันÊ สมมฺ าสมโฺ พธิกิตตฺ นํ ทีÉพระองคผ์ พู้ ระธรรมราชาทรงแสดง นาเมน วิสสฺ ตุ ํ สตุ ตฺ ํ แล้ว ปรากฏโดยชืÉอว่า ธมั มจกั ธมมฺ จกฺกปปฺ วตฺตนํ กปั ปวตั ตนสตู ร เป็นสตู รประกาศ เวยยฺ ากรณปาเฐน พระสมั มาสมั โพธิญาณอนั พระสงั คีติ สงฺคีตนฺตมภฺ ณาม เส. กาจารยร์ ้อยกรองไว้โดยเวยยากรณ ปาฐะ เทอญ. - 153 -

ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสูตร เอวมเฺ ม สตุ ํ อนั ข้าพเจ้า (คือพระอานนทเถระ) ได้สดบั มาแล้วอย่างนีÊ เอกํ สมยํ ภควา สมยั หนึÉงพระผมู้ พี ระภาคเจ้า พาราณสิยํ วิหรติ เสดจ็ ประทบั อย่ทู ีÉป่ าอิสิปตน อิสิปตเน มิคทาเย มฤคทายวนั ใกล้เมืองพาราณสี ตตฺร โข ภควา ป ฺจวคคฺ ิเย ในกาลนันÊ แล พระผ้มู พี ระภาคเจ้า ภิกฺขู อามนฺเตสิ ตรสั เตือนพระภิกษุปัญจวคั คียว์ ่า เทฺวเม ภิกขฺ เว อนฺตา ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย ทÉีสดุ สองอย่างนีÊ ปพพฺ ชิเตน น เสวิตพพฺ า อนั บรรพชิตไม่ควรเสพ โย จายํ กาเมสุ คือการประกอบตนให้พวั พนั ด้วยกาม กามสขุ ลลฺ ิกานุโยโค ในกามทงัÊ หลายนีÊใด หีโน เป็นธรรมอนั เลว คมโฺ ม เป็นเหตุให้ตงัÊ บ้านเรือน โปถชุ ชฺ นิโก เป็ น ขอ งค น ม ีกิเล ส หน า อนริโย ไมใ่ ช่ไปจากข้าศึกคือกิเลส อนตฺถส หฺ ิโต ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ อย่างหนึÉง - 154 -

โย จายํ อตตฺ กิลมถานุโยโค คือการประกอบความเหน็ดเหนืÉอย ด้วยตนเหล่านีÊใด ทุกโฺ ข อนริโย ให้เกิดทุกขแ์ ก่ผปู้ ระกอบ อนตฺถส หฺ ิโต เอเต เต ภิกขฺ เว ไมใ่ ช่ไปจากข้าศึกคือกิเลส อโุ ภ อนฺเต อนุปคมมฺ มชฺฌิมา ปฏิปทา ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ อย่างหนึÉง ตถาคเตน อภิสมพฺ ทุ ธฺ า ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย ข้อปฏิบตั ิอนั จกขฺ กุ รณี ญาณกรณี เป็นกลาง ไม่เข้าไปใกล้ทีÉสดุ สอง อปุ สมาย อภิ ญฺ าย อย่างนันÉ นันÊ สมโฺ พธาย นิพพฺ านาย สวํ ตตฺ ติ อนั ตถาคตได้ตรสั ร้แู ล้วด้วยปัญญา กตมา จ สา ภิกฺขเว อนั ยิÉง มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมพฺ ทุ ฺธา ทาํ ดวงตา ทาํ ญาณเครÉืองรู้ จกฺขกุ รณี ญาณกรณี ย่อ มเป็ น ไปเพÉือ ค วาม เข้าไปสงบระงบั เพืÉอความร้ยู Éิง เพืÉอความร้ดู ี เพืÉอ ความดบั ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กข็ ้อปฏิบตั ิซึÉง เป็นกลางนันÊ เป็นไฉน ทÉีตถาคตได้ตรสั ร้แู ล้ว ด้วยปัญญา อนั ยิÉง ทาํ ดวงตา ทาํ ญาณเครÉืองรู้ - 155 -

อปุ สมาย อภิ ญฺ าย ย่อ มเป็ น ไปเพÉือ ค วาม เข้าไปสงบระงบั สมโฺ พธาย นิพพฺ านาย เพÉือความรยู้ ิÉง เพืÉอความรดู้ ี เพÉือ สวํ ตตฺ ติ ความดบั อยเมว อริโย ทางมีองค์ 8 เครือÉ งไปจากข้าศึกคือ อฏฺฐงฺคิโก มคโฺ ค กิเลสนีÊเอง เสยฺยถีทํ กล่าวคือ (1) สมมฺ าทิฏฺฐิ ปัญญาอนั เหน็ ชอบ (2) สมมฺ าสงฺกปโฺ ป ความดาํ ริชอบ วาจาชอบ (3) สมมฺ าวาจา การงานชอบ ความเลียÊ งชีวิตชอบ (4) สมมฺ ากมมฺ นฺโต ความเพียรชอบ ความระลึกชอบ (5) สมมฺ าอาชีโว ความตงัÊ จิตชอบ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย อนั นีÊแล ข้อ (6) สมมฺ าวายาโม ปฏิบตั ิซÉึงเป็นกลางนันÊ (7) สมมฺ าสติ ทีÉตถาคตได้ตรสั รแู้ ล้ว ด้วยปัญญา (8) สมมฺ าสมาธิ อนั ยิÉง อยํ โข สา ภิกขฺ เว มชฺฌิมา ปฏิปทา - 156 - ตถาคเตน อภิสมพฺ ทุ ธฺ า

จกฺขกุ รณี ญาณกรณี ทาํ ดวงตา ทาํ ญาณเครÉืองรู้ อปุ สมาย อภิ ญฺ าย สมโฺ พธาย นิพพฺ านาย ย่อ มเป็ น ไปเพÉือ ค วาม เข้าไปสงบระงบั สวํ ตฺตติ เพืÉอความร้ยู Éิง เพืÉอความรดู้ ี เพÉือ อิทํ โข ปน ภิกฺขเว ความดบั ทกุ ขฺ ํ อริยสจจฺ ํ ชาติปิ ทุกขฺ า ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กน็ ีÊแล เป็น ชราปิ ทกุ ฺขา ทุกขอ์ ย่างแท้จริง คือ มรณมปฺ ิ ทุกขฺ ํ โสกปริเทวทุกขฺ โทมนสฺ- ความเกิดกเ็ ป็นทุกข์ สปุ ายาสาปิ ทกุ ฺขา ความแก่กเ็ ป็นทุกข์ อปปฺ ิ เยหิ สมปฺ โยโค ทุกฺโข ความตายกเ็ ป็นทุกข์ ปิ เยหิ วิปปฺ โยโค ทกุ ฺโข ความโศก ความราํÉ ไรราํ พนั ความ ยมปฺ ิ จฉฺ ํ น ลภติ. ทุกขโ์ ทมนัส และความคบั แค้นใจ ตมปฺ ิ ทกุ ขฺ ํ กเ็ ป็นทกุ ข์ ค วาม ประส บด้วยสÉิ งทÉีไม ่เป็ น ทÉีร กั ทงัÊ หลายเป็นทุกข์ ความพลดั พรากจากสÉิงทีÉรกั ทงัÊ หลาย เป็ น ทุกข ์ ปรารถนาอย่ยู ่อมไมไ่ ด้ แม้อนั ใด แม้อนั นันÊ กเ็ ป็นทุกข์ - 157 -

สงฺขิตฺเตน ป จฺ ปุ าทานกฺขนฺธา โดยย่อแล้ว อปุ าทานขนั ธ์ 5 เป็น ทกุ ฺขา ทุกข์ อิทํ โข ปน ภิกฺขเว ทกุ ฺขสมทุ โย อริยสจจฺ ํ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กน็ ีÊแล เป็น ยายํ ตณฺหา เหตใุ ห้ทุกขเ์ กิดขึÊนอย่างจริงแท้คือ โปโนพภฺ วิกา นนฺทิราคสหคตา ความทะยานอยากนีÊ ตตรฺ ตตฺราภินนฺทินี ทาํ ให้มีภพอีก เสยฺยถที ํ กามตณฺหา เป็นไปกบั ความกาํ หนัด ด้วยอาํ นาจ ความเพลิน ภวตณฺหา เพลิดเพลินในอารมณ์นันÊ ๆ วิภวตณฺหา กล่าวคือ อิทํ โข ปน ภิกฺขเว ทกุ ขฺ นิโรโธ อริยสจจฺ ํ คือความทะยานอยากในอารมณ์ทีÉ ใคร่ คือความทะยานอยากในความมี ค วาม เป็ น คือความทะยานอยากในความไม่มี ไม่เป็ น ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กน็ ีÊแล เป็น ความดบั ทกุ ขอ์ ย่างจริงแท้ คือ - 158 -

โย ตสสฺ าเยว ตณฺหาย ความดบั โดยสิÊนกาํ หนัด โดยไม่ อเสสวิราคนิ โรโธ เหลือแห่งตณั หานันÊ นันÉ เทียว อนั ใด จาโค ความสละตณั หานันÊ ปฏินิสสฺ คโฺ ค ความวางตณั หานันÊ มตุ ตฺ ิ ความปล่อยตณั หานันÊ อนาลโย ความไม่พวั พนั แห่งตณั หานันÊ อิทํ โข ปน ภิกขฺ เว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กน็ ีÊแล เป็นข้อ ทุกขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจจฺ ํ ปฏิบตั ิให้ถงึ ความดบั ทุกขอ์ ย่างจริง แท้ คือ อยเมว อริโย ทางมอี งค์ 8 เครอÉื งไปจากข้าศึกคือ อฏฺฐงฺคิโก มคโฺ ค กิเลสนีÊแล เสยยฺ ถที ํ กล่าวคือ (1) สมมฺ าทิฏฺฐิ ปัญญาอนั เหน็ ชอบ (2) สมมฺ าสงฺกปโฺ ป ความดาํ ริชอบ (3) สมมฺ าวาจา วาจาชอบ (4) สมมฺ ากมมฺ นฺโต การงานชอบ (5) สมมฺ าอาชีโว ความเลีÊยงชีวิตชอบ (6) สมมฺ าวายาโม ความเพียรชอบ - 159 -

(7) สมมฺ าสติ ความระลึกชอบ (8) สมมฺ าสมาธิ. ความตงัÊ จิตชอบ. อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ เม ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน ภิกขฺ เว แล้ว ญาณได้เกิดขึÊนแล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ ุเตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึนÊ แล้ว วิทยาได้เกิดขึนÊ แล้ว จกฺขุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชฺชา อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทÉีเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า นีÊเป็นทุกขอริยสจั ตํ โข ปนิทํ ทกุ ขฺ ํ อริยสจจฺ ํ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน ปริ เฺ ญยยฺ นฺติ เม ภิกขฺ เว แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ ุเตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึนÊ แล้ว วิทยาได้เกิดขึนÊ แล้ว จกฺขุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชฺชา อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทÉีเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า กท็ ุกขอริยสจั นีÊนันÊ แล ควรกาํ หนดรู้ ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ อริยสจจฺ ํ ปริ ญฺ าตนฺติ เม ภิกฺขเว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ เกิดขึÊนแล้ว วิทยาได้เกิดขึÊนแล้ว ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชฺชา อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน อาโลโก อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทีÉเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว ในกาลก่อนว่า กท็ ุกขอริยสจั นีÊนันÊ แล อนั เราได้กาํ หนดร้แู ล้ว - 160 -

อิทํ ทกุ ฺขสมทุ โย อริยสจฺจนฺติ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน เม ภิกฺขเว แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึนÊ แล้ว วิทยาได้เกิดขึÊนแล้ว จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชฺชา อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทÉีเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า นีÊทกุ ขสมทุ ยั อริยสจั ตํ โข ปนิทํ ทกุ ฺขสมทุ โย อริย- ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน สจจฺ ํ ปหาตพพฺ นฺติ เม ภิกฺขเว แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึÊนแล้ว วิทยาได้เกิดขึนÊ แล้ว จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชชฺ า อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทÉีเราไม่ได้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า กท็ กุ ขสมทุ ยั อริยสจั นีÊนันÊ แล ควรละเสีย ตํ โข ปนิทํ ทุกขฺ สมทุ โย อริยสจจฺ ํ ปหีนนฺติ เม ภิกขฺ เว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ เกิดขึÊนแล้ว วิทยาได้เกิดขึนÊ แล้ว ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชชฺ า อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน อาโลโก อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทีÉเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว ในกาลก่อนว่า กท็ ุกขสมทุ ยั อริยสจั นีÊนันÊ แล อนั เราได้ละแล้ว - 161 -

อิทํ ทกุ ขฺ นิโรโธ อริยสจฺจนฺติ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน เม ภิกขฺ เว แล้ว ญาณได้เกิดขึÊนแล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึÊนแล้ว วิทยาได้เกิดขึÊนแล้ว จกฺขุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชชฺ า อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทÉีเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า นีÊทกุ ขนิโรธอริยสจั ตํ โข ปนิทํ ทกุ ขฺ นิโรโธ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน อริยสจจฺ ํ สจฉฺ ิกาตพพฺ นฺติ แล้ว ญาณได้เกิดขึÊนแล้ว ปัญญาได้ เม ภิกฺขเว เกิดขึนÊ แล้ว วิทยาได้เกิดขึนÊ แล้ว ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทÉีเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชฺชา อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า กท็ กุ ขนิโรธอริยสจั นีÊ อาโลโก อทุ ปาทิ นันÊ แล ควรทาํ ให้แจ้ง ตํ โข ปนิทํ ทุกขฺ นิโรโธ อริย- ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน สจจฺ ํ สจฉฺ ิกตนฺติ เม ภิกขฺ เว แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึนÊ แล้ว วิทยาได้เกิดขึÊนแล้ว จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชชฺ า อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทÉีเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า กท็ กุ ขนิโรธอริยสจั นีÊ นันÊ แล อนั เราได้ทาํ ให้แจ้งแล้ว - 162 -

อิทํ ทกุ ขฺ นิโรธคามินี ปฏิปทา ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน อริยสจจฺ นฺติ เม ภิกขฺ เว แล้ว ญาณได้เกิดขึÊนแล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึนÊ แล้ว วิทยาได้เกิดขึÊนแล้ว จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชชฺ า อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทีÉเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า นีÊทกุ ขนิโรธคามินี ปฏิปทาอริยสจั ตํ โข ปนิทํ ทกุ ฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจจฺ ํ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน ภาเวตพพฺ นฺติ เม ภิกฺขเว แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึÊนแล้ว วิทยาได้เกิดขึÊนแล้ว จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชชฺ า อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทีÉเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า กท็ ุกขนิโรธคามินี ปฏิปทาอริยสจั นีÊนันÊ แล ควรให้เจริญ ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจจฺ ํ ภาวิตนฺติ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุได้เกิดขึÊน เม ภิกฺขเว แล้ว ญาณได้เกิดขึนÊ แล้ว ปัญญาได้ ปพุ เฺ พ อนนุสสฺ เุ ตสุ ธมเฺ มสุ เกิดขึนÊ แล้ว วิทยาได้เกิดขึนÊ แล้ว จกฺขุํ อทุ ปาทิ ญาณํ อทุ ปาทิ แสงสว่างได้เกิดขึÊนแล้วแก่เรา ใน ป ญฺ า อทุ ปาทิ วิชชฺ า อทุ ปาทิ ธรรมทงัÊ หลายทีÉเราไมไ่ ด้เคยฟังแล้ว อาโลโก อทุ ปาทิ ในกาลก่อนว่า กท็ ุกขนิโรธคามินี ปฏิปทาอริยสจั นีÊนันÊ แล อนั เราเจริญ แล้ว - 163 -

ยาวกีว จฺ เม ภิกฺขเว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย ปัญญาอนั รเู้ หน็ อิเมสุ จตสู ุ อริยสจฺเจสุ ตามเป็นจริงแล้วอย่างไร ในอริยสจั 4 เอวนฺติปริวฏฺฏํ ทวฺ าทสาการํ เหล่านีÊของเรา ซÉึงมีรอบ 3 มีอาการ ยถาภตู ํ ญาณทสสฺ นํ 12 อย่างนีÊ ยงั ไม่หมดจดเพียงใดแล้ว น สวุ ิสทุ ฺธํ อโหสิ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย เราได้ยืนยนั เนว ตาวาหํ ภิกฺขเว สเทวเก ตนว่า เป็นผตู้ รสั รพู้ ร้อมเฉพาะซึÉง โลเก สมารเก สพรฺ หฺมเก ปัญญาเครÉอื งตรสั ร้ชู อบ ไม่มคี วาม สสสฺ มณพรฺ าหฺมณิยา ปชาย ตรสั ร้อู ืÉนจะยÉิงกว่าในโลก เป็นไปกบั สเทวมนุสสฺ าย อนุตฺตรํ ด้วยเทพดา มาร พรหม ในหม่สู ตั ว์ สมมฺ าสมโฺ พธึ อภิสมพฺ ทุ โฺ ธ ทงัÊ สมณพราหมณ์ เทพดา มนุษย์ ปจจฺ ญฺ าสึ ไม่ได้เพียงนันÊ ยโต จ โข เม ภิกขฺ เว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กเ็ มÉือใดแล อิเมสุ จตสู ุ อริยสจเฺ จสุ ปัญญาอนั รเู้ หน็ ตามเป็นจริงอย่างไร เอวนฺติปริวฏฺฏํ ทวฺ าทสาการํ ในอริยสจั 4 เหล่านีÊ ของเรา ซÉึงมี ยถาภตู ํ ญาณทสสฺ นํ สวุ ิสทุ ธฺ ํ รอบ 3 มอี าการ 12 อย่างนีÊ หมดจด อโหสิ ดีแล้ว อถาหํ ภิกฺขเว สเทวเก เมือÉ นันÊ เราจึงได้ยืนยนั ตนว่า เป็น โลเก สมารเก สพฺรหมฺ เก ผตู้ รสั รพู้ ร้อมเฉพาะ ซึÉงปัญญา สสสฺ มณพรฺ าหฺมณิยา ปชาย เครืÉองตรสั ร้ชู อบ ไม่มีความตรสั รู้ สเทวมนุสสฺ าย อนุตตฺ รํ อืÉนยิÉงกว่าในโลก เป็นไปกบั ด้วยเทพ สมมฺ าสมโฺ พธึ อภิสมพฺ ทุ โฺ ธ ดา มาร พรหม ในหม่สู ตั ว์ ทงัÊ ปจจฺ ญฺ าสึ สมณพราหมณ์ เทพดา มนุษย์ - 164 -

ญาณ ฺจ ปน เม ทสสฺ นํ กแ็ ล ปัญญาอนั ร้เู หน็ ได้เกิดขึÊนแล้ว อทุ ปาทิ แก่เรา อกปุ ปฺ า เม วิมตุ ฺติ อยมนฺติมา ชาติ ว่าความพ้นพิเศษของเราไม่กลบั นตถฺ ิทานิ ปนุ พภฺ โวติ กาํ เริบ ชาตินีÊเป็นทีÉสดุ แล้ว บดั นีÊ อิทมโวจ ภควา ไม่มภี พอีก อตฺตมนา ป จฺ วคคฺ ิยา ภิกขฺ ู พระผมู้ ีพระภาคเจ้า ได้ตรสั ธรรม ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุํ ปริยายนีÊแล้ว อิมสมฺ ิ จฺ ปน เวยฺยากรณสมฺ ึ ภ ญฺ มาเน ภิกษุปัญจวคั คียก์ ม็ ีใจยินดี อายสมฺ โต โกณฺฑ ฺญสสฺ วิรชํ วีตมลํ ธมมฺ จกขฺ ุํ อทุ ปาทิ เพลินภาษิตของพระผมู้ พี ระภาคเจ้า ยงฺกิ จฺ ิ สมทุ ยธมมฺ ํ สพฺพนฺตํ กแ็ ลเมอÉื เวยยากรณ์นีÊ อนั พระผมู้ ี นิโรธธมมฺ นฺติ พระภาคเจ้าตรสั อยู่ ปวตตฺ ิเต จ ภควตา ธมมฺ จกฺเก จกั ษุในธรรม อนั ปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทิน ได้เกิดขึนÊ แล้วแก่ พระผมู้ อี ายโุ กณฑญั ญะ ว่าสิÉงใดสิÉงหนÉึง มีอนั เกิดขึÊนเป็น ธรรมดา สิÉงทงัÊ ปวงนันÊ มอี นั ดบั ไป เป็ น ธ รร ม ด า กค็ รนัÊ เมืÉอธรรมจกั ร อนั พระผมู้ ีพระ ภาค เจ้าให้เป็ น ไปแล้ว - 165 -

ภมุ มฺ า เทวา สททฺ มนุสสฺ าเวสุํ เหล่าภมุ มเทพดา กย็ งั เสียงให้บนั ลือลนัÉ เอตมภฺ ควตา พาราณสิยํ ว่านันÉ จกั ร คือธรรม ไม่มจี กั รอืÉนสู้ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ได้ อนั พระผมู้ ีพระภาคเจ้าให้เป็นไป ธมมฺ จกฺกํ ปวตตฺ ิตํ แล้ว ทÉีป่ าอิสิปตนะมฤคทายวนั อปปฺ ฏิวตฺติยํ สมเณน วา ใกล้เมอื งพาราณสี อนั สมณ พรฺ าหฺมเณน วา เทเวน วา พราหมณ์ เทพดา มาร พรหม มาเรน วา พฺรหฺมนุ า วา และใคร ๆ ในโลกยงั ให้เป็นไปไมไ่ ด้ เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ ดงั นีÊ ภมุ มฺ านํ เทวานํ สททฺ ํ สตุ ฺวา เทพเจ้าเหล่าชนัÊ จาตุมหาราช ได้ฟัง จาตุมมฺ หาราชิกา เทวา เสียงของเทพเจ้า เหล่าภมุ มเทพดา สทฺทมนุสสฺ าเวสุํ แล้ว กย็ งั เสียงให้บนั ลือลนัÉ จาตุมมฺ หาราชิกานํ เทวานํ เทพเจ้าเหล่าชนัÊ ดาวดึงส์ ได้ฟังเสียง สทฺทํ สตุ ฺวา ตาวตึสา เทวา ของเทพเจ้า เหล่าชนัÊ จาตมุ หาราช สททฺ มนุสสฺ าเวสุํ แล้ว กย็ งั เสียงให้บนั ลือลนัÉ ตาวตึสานํ เทวานํ สทฺทํ สตุ วฺ า เทพเจ้าเหล่าชนัÊ ยามะ ได้ฟังเสียง ยามา เทวา สททฺ มนุสสฺ าเวสุํ ของเทพเจ้าเหล่าชนัÊ ดาวดึงสแ์ ล้ว ก็ ยงั เสียงให้บนั ลือลนัÉ ยามานํ เทวานํ สททฺ ํ สตุ วฺ า ตสุ ิตา เทวา สททฺ มนุสสฺ าเวสุํ เทพเจ้าเหล่าชนัÊ ดสุ ิต ได้ฟังเสียงของ เทพเจ้า เหล่าชนัÊ ยามะแล้ว กย็ งั เสียงให้บนั ลือลนัÉ - 166 -

ตสุ ิตานํ เทวานํ สทฺทํ สตุ วฺ า เทพเจ้าเหล่าชนัÊ นิมมานรดี ได้ฟัง นิมมฺ านรตี เทวา สทฺทมนุสสฺ าเวสุํ เสียงของเทพเจ้า เหล่าชนัÊ ดสุ ิตแล้ว กย็ งั เสียงให้บนั ลือลนัÉ นิมมฺ านรตีนํ เทวานํ สทฺทํ สตุ ฺวา ปรนิมมฺ ิตวสวตตฺ ี เทวา เทพเจ้าเหล่าชนัÊ ปรนิมมิตวสวดั ดี สทฺทมนุสสฺ าเวสุํ ได้ฟังเสียงของเทพเจ้า เหล่าชนัÊ นิมมานรดีแล้ว กย็ งั เสียงให้บนั ลือ ปรนิมมฺ ิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สทฺทํ ล นั É สตุ วฺ า พรฺ หฺมกายิกา เทวา สทฺทมนุสสฺ าเวสุํ เทพเจ้าเหล่าทÉีเกิดในหมู่พรหม ได้ ฟังเสียงของเทพเจ้า เหล่าชนัÊ ปรนิม เอตมภฺ ควตา พาราณสิยํ มิตวสวดั ดีแล้ว กย็ งั เสียงให้บนั ลือ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ล นั É ธมมฺ จกฺกํ ปวตฺติตํ อปปฺ ฏิวตตฺ ิยํ สมเณน วา พรฺ าหฺมเณน วา ว่านันÉ จกั ร คือธรรม ไม่มีจกั รอÉืนส้ไู ด้ เทเวน วา มาเรน วา อนั พระผ้มู ีพระภาคเจ้าให้เป็นไปแล้ว พรฺ หฺมุนา วา เกนจิ วา ทีÉป่ าอิสิปตนะมฤคทายวนั ใกล้เมอื ง โลกสมฺ ินฺติ. พาราณสี อนั สมณพราหมณ์ เทพ ดา มาร พรหม และใคร ๆ ในโลก อิติห เตน ขเณน เตน ยงั ให้เป็นไปไม่ได้ ดงั นีÊ. มหุ ตุ เฺ ตน ยาว พรฺ หฺมโลกา สทโฺ ท อพภฺ คุ คฺ จฉฺ ิ โดยขณะคร่เู ดียวนันÊ เสียงขึÊนไปถึง พรหมโลก ด้วยประการฉะนีÊ - 167 -

อย จฺ ทสสหสสฺ ี โลกธาตุ ทงัÊ หมนืÉ โลกธาตุ สงฺกมปฺ ิ สมปฺ กมปฺ ิ สมปฺ เวธิ อปปฺ มาโณ จ โอฬาโร ได้หวนัÉ ไหวสะเทือนสะท้านลนัÉ ไป โอภาโส โลเก ปาตรุ โหสิ อติกฺกมเฺ มว เทวานํ เทวานุภาวํ ทงัÊ แสงสว่างอนั ยÉิงไม่มีประมาณ ได้ ปรากฏแล้วในโลก อถโข ภควา อทุ านํ อทุ าเนสิ ล่วงเทวานุภาพ ของเทพดาทงัÊ หลาย อ ญฺ าสิ วต โภ โกณฺฑ โฺ ญ เสียหมด อ ญฺ าสิ วต โภ โกณฺฑ โฺ ญติ อิติหิทํ อายสมฺ โต โกณฺฑ ฺญสสฺ ลาํ ดบั นันÊ แล พระผมู้ พี ระภาคเจ้าได้ อ ญฺ าโกณฺฑ โฺ ญเตฺวว นามํ ทรงเปล่งอทุ านว่า อโหสีติ. ว่าโกณฑญั ญะได้ร้แู ล้วหนอ ผเู้ จริญ โกณฑญั ญะได้รแู้ ล้วหนอ ผเู้ จริญ เพราะเหตนุ ันÊ นามว่า อญั ญา โกณฑญั ญะนีÊนันÉ เทียว ได้มีแล้วแก่ พระผมู้ อี ายโุ กณฑญั ญะ ด้วยประการ ฉะนีÊแล. - 168 -

เรมÉิ อนตั ตลกั ขณสูตร ยนฺตํ สตฺเตหิ ทุกเฺ ขน อนัตตลกั ขณะอนั ใด อนั สตั ว์ เญยฺยํ อนตตฺ ลกฺขณํ ทงัÊ หลายพึงร้ไู ด้โดยยาก อตฺตวาทาตฺตส ญฺ านํ พระสมั พทุ ธเจ้า ได้ทรงประกาศ สมมฺ เทว วิโมจนํ อนัตตลกั ขณะนันÊ เป็นธรรมอนั ปลด สมพฺ ทุ ฺโธ ตํ ปกาเสสิ เปลืÊองอตั ตวาทุปาทาน การถอื มนัÉ ด้วยอนั กล่าวว่าตน และอตั ตสญั ญา ความสาํ คญั ว่าตน โดยชอบแท้ ทิฏฺฐสจจฺ าน โยคินํ แก่เหล่าพระโยคี คือปัญจวคั คีย์ ผู้ มีสจั จะอนั เหน็ แล้ว อตุ ตฺ รึ ปฏิเวธาย เพÉือให้เจริญญาณอนั อดุ ม เพืÉอตรสั รู้ ภาเวตุํ ญาณมตุ ฺตมํ ธรรมอนั ยÉิง ยนฺเตสํ ทิฏฺฐธมมฺ านํ จิตของพระปัญจวคั คียเ์ หล่านันÊ ผมู้ ี ญาเณนุปปริกฺขตํ ธรรมอนั ได้เหน็ แล้ว ใคร่ครวญแล้ว ด้วยญาณ พ้นแล้วจากอาสวะทงัÊ สพพฺ าสเวหิ จิตจฺ านิ ปวงโดยไม่เหลือ ด้วยพระสตู รอนั ใด วิมจุ จฺ ึสุ อเสสโต ตถา ญาณานุสาเรน เราทงัÊ หลาย จงสวดพระสตู รอนั นันÊ สาสนํ กาตมุ ิจฉฺ ตํ เพืÉอสาํ เรจ็ ประโยชน์แก่สาธชุ น สาธนู ํ อตฺถสิทธฺ ตฺถํ ทงัÊ หลาย ผปู้ รารถนาจะทาํ คาํ สอน ตํ สตุ ตฺ นฺตํ ภณาม เส. โดยระลึกตามญาณ อย่างนันÊ เทอญ. - 169 -

อนตั ตลกั ขณสูตร เอวมเฺ ม สตุ ํ อนั ข้าพเจ้า (คือพระอานนทเถระ) ได้สดบั มาแล้วอย่างนีÊ เอกํ สมยํ ภควา สมยั หนึÉงพระผมู้ ีพระภาคเจ้า พาราณสิยํ วิหรติ เสดจ็ ประทบั อย่ทู ีÉป่ าอิสิปตนะ อิสิปตเน มิคทาเย มฤคทายวนั ใกล้เมืองพาราณสี ตตฺร โข ภควา ป จฺ วคคฺ ิเย ในกาลนันÊ แล พระผมู้ พี ระภาคเจ้า ภิกขฺ ู อามนฺเตสิ ตรสั เตือนพระภิกษุปัญจวคั คีย์ (ให้ ตงัÊ ใจฟังภาษิตนีÊว่า) รปู ํ ภิกขฺ เว อนตตฺ า ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย รปู (คือ ร่างกายนีÊ) เป็นอนัตตา (มิใช่ตน) รปู จฺ หิทํ ภิกฺขเว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กร็ ปู นีÊจกั ได้ อตตฺ า อภวิสสฺ เป็นอตั ตา (ตน) แล้ว นยิทํ รปู ํ อาพาธาย สวํ ตเฺ ตยฺย รปู นีÊกไ็ ม่พึงเป็นไปเพÉืออาพาธ (ความลาํ บาก) ลพเฺ ภถ จ รเู ป อนึÉง สตั วพ์ ึงได้ในรปู ตามใจหวงั เอวํ เม รปู ํ โหตุ ว่ารปู ของเรา จงเป็นอย่างนีÊเถิด เอวํ เม รปู ํ มา อโหสีติ รปู ของเรา อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย - 170 -

ยสมฺ า จ โข ภิกฺขเว กเ็ พราะเหตุใดแล ภิกษุทงัÊ หลาย รปู ํ อนตฺตา รปู จึงเป็นอนัตตา ตสมฺ า รปู ํ อาพาธาย สวํ ตฺตติ เพราะเหตนุ ันÊ รปู จึงเป็นไปเพืÉอ อาพาธ น จ ลพภฺ ติ รเู ป อนÉึง สตั วย์ ่อมไม่ได้ในรปู ตามใจหวงั เอวํ เม รปู ํ โหตุ ว่ารปู ของเรา จงเป็นอย่างนีÊเถิด เอวํ เม รปู ํ มา อโหสีติ รปู ของเรา อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย เวทนา อนตฺตา เวทนา (คือความร้สู ึกอารมณ์) เป็น อนัตตา เวทนา จ หิทํ ภิกฺขเว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กเ็ วทนานีÊจกั ได้ อตตฺ า อภวิสสฺ เป็นอตั ตาแล้ว นยิทํ เวทนา อาพาธาย เวทนานีÊ กไ็ ม่พึงเป็นไปเพÉืออาพาธ สวํ ตเฺ ตยยฺ ลพเฺ ภถ จ เวทนาย อนÉึง สตั วพ์ ึงได้ในเวทนาตามใจหวงั เอวํ เม เวทนา โหตุ ว่าเวทนาของเรา จงเป็นอย่างนีÊเถิด เอวํ เม เวทนา มา อโหสีติ เวทนาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย ยสมฺ า จ โข ภิกขฺ เว กเ็ พราะเหตุใดแล ภิกษุทงัÊ หลาย เวทนา อนตฺตา เวทน าจึงเป็ น อ นัต ต า - 171 -

ตสมฺ า เวทนา อาพาธาย เพราะเหตนุ ันÊ เวทนาจึงเป็นไปเพืÉอ สวํ ตฺตติ อาพาธ น จ ลพภฺ ติ เวทนาย อนึÉง สตั วย์ ่อมไมไ่ ด้ในเวทนาตามใจ หวงั เอวํ เม เวทนา โหตุ ว่าเวทนาของเรา จงเป็นอย่างนีÊเถิด เอวํ เม เวทนา มา อโหสีติ เวทนาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย ส ญฺ า อนตฺตา สญั ญา (คือความจาํ ) เป็นอนัตตา ส ญฺ า จ หิทํ ภิกฺขเว ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กส็ ญั ญานีÊจกั ได้ อตตฺ า อภวิสสฺ เป็นอตั ตาแล้ว นยิทํ ส ญฺ า อาพาธาย สญั ญานีÊ กไ็ ม่พึงเป็นไปเพÉืออาพาธ สวํ ตฺเตยยฺ ลพเฺ ภถ จ ส ญฺ าย อนÉึง สตั วพ์ ึงได้ในสญั ญาตามใจหวงั เอวํ เม ส ญฺ า โหตุ ว่าสญั ญาของเรา จงเป็นอย่างนีÊเถิด เอวํ เม ส ญฺ า มา อโหสีติ สญั ญาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย ยสมฺ า จ โข ภิกฺขเว กเ็ พราะเหตุใดแล ภิกษุทงัÊ หลาย ส ญฺ า อนตตฺ า สญั ญาจึงเป็นอนัตตา ตสมฺ า ส ญฺ า อาพาธาย เพราะเหตนุ ันÊ สญั ญาจึงเป็นไปเพÉือ สวํ ตฺตติ อาพาธ - 172 -

น จ ลพภฺ ติ ส ญฺ าย อนÉึง สตั วย์ ่อมไมไ่ ด้ในสญั ญาตามใจ หวงั เอวํ เม ส ญฺ า โหตุ เอวํ เม ส ญฺ า มา อโหสีติ ว่าสญั ญาของเรา จงเป็นอย่างนีÊเถิด สงฺขารา อนตตฺ า สญั ญาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย สงฺขารา จ หิทํ ภิกฺขเว สงั ขารทงัÊ หลาย (คือสภาพทÉีเกิดกบั อตตฺ า อภวิสสฺ สํ ุ ใจ ปรงุ ใจให้ดีบ้าง ชวัÉ บ้าง) เป็น นยิทํ สงฺขารา อาพาธาย อนัตตา สวํ ตเฺ ตยฺยุํ ลพเฺ ภถ จ สงฺขาเรสุ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กส็ งั ขาร ทงัÊ หลายนีÊ จกั ได้เป็นอตั ตาแล้ว เอวํ เม สงฺขารา โหนฺตุ เอวํ เม สงฺขารา มา อเหสนุ ฺติ สงั ขารทงัÊ หลายนีÊ กไ็ ม่พึงเป็นไปเพÉือ อาพาธ ยสมฺ า จ โข ภิกขฺ เว สงฺขารา อนตตฺ า อนึÉง สตั วพ์ ึงได้ในสงั ขารทงัÊ หลาย ตามใจหวงั ว่าสงั ขารทงัÊ หลายของเรา จงเป็น อย่างนีÊเถิด สงั ขารทงัÊ หลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย กเ็ พราะเหตใุ ดแล ภิกษุทงัÊ หลาย สงั ขารทงัÊ หลายจึงเป็นอนัตตา - 173 -

ตสมฺ า สงฺขารา อาพาธาย เพราะเหตนุ ันÊ สงั ขารทงัÊ หลายจึง สวํ ตตฺ นฺติ เป็ น ไปเพÉือ อ าพาธ น จ ลพภฺ ติ สงฺขาเรสุ อนึÉง สตั วย์ ่อมไมไ่ ด้ในสงั ขาร เอวํ เม สงฺขารา โหนฺตุ ทงัÊ หลายตามใจหวงั เอวํ เม สงฺขารา มา อเหสนุ ฺติ ว่าสงั ขารทงัÊ หลายของเรา จงเป็น วิ ญฺ าณํ อนตฺตา อย่างนีÊเถิด สงั ขารทงัÊ หลายของเรา วิ ญฺ าณ จฺ หิทํ ภิกฺขเว อย่าได้เป็นอย่างนันÊ เลย อตตฺ า อภวิสสฺ นยิทํ วิ ญฺ าณํ อาพาธาย วิญญาณ (คือใจ) เป็นอนัตตา สวํ ตฺเตยยฺ ลพเฺ ภถ จ วิ ญฺ าเณ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กว็ ิญญาณนีÊจกั ได้เป็นอตั ตาแล้ว เอวํ เม วิ ญฺ าณํ โหตุ เอวํ เม วิ ญฺ าณํ มา อโหสีติ วิญญาณนีÊ กไ็ ม่พึงเป็นไปเพÉือ อาพาธ ยสมฺ า จ โข ภิกขฺ เว วิ ญฺ าณํ อนตตฺ า อนÉึง สตั วพ์ ึงได้ในวิญญาณตามใจ หวงั ว่าวิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนีÊ เถิด วิญญาณของเรา อย่าได้เป็น อย่างนันÊ เลย กเ็ พราะเหตุใดแล ภิกษุทงัÊ หลาย วิญญาณ จึงเป็ น อ นัต ต า - 174 -

ตสมฺ า วิ ญฺ าณํ อาพาธาย เพราะเหตนุ ันÊ วิญญาณจึงเป็นไป สวํ ตฺตติ เพืÉออาพาธ น จ ลพภฺ ติ วิ ญฺ าเณ อนÉึง สตั วย์ ่อมไม่ได้ในวิญญาณ เอวํ เม วิ ญฺ าณํ โหตุ ตามใจหวงั เอวํ เม วิ ญฺ าณํ มา อโหสีติ ว่าวิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนีÊ ตํ กึ ม ญฺ ถ ภิกขฺ เว เถิด วิญญาณของเรา อย่าได้เป็น อย่างนันÊ เลย รปู ํ นิจฺจํ วา อนิจจฺ ํ วาติ อนิจจฺ ํ ภนฺเต ท่านทงัÊ หลายย่อมสาํ คญั ความนันÊ ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทุกฺขํ วา เป็นไฉน ภิกษุทงัÊ หลาย ตํ สขุ ํ วาติ ทกุ ขฺ ํ ภนฺเต รปู เทÉียงหรือไม่เทีÉยง ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทกุ ฺขํ วิปริณามธมมฺ ํ ไม่เทÉียง พระเจ้าข้า กลลฺ ํ นุ ตํ สมนุปสสฺ ิตุํ เอตํ มม เอโสหมสมฺ ิ สÉิงใดไม่เทีÉยง สิÉงนันÊ เป็นทกุ ขห์ รอื เอโส เม อตฺตาติ เป็นสขุ เล่า เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า กส็ ิÉงใดไม่เทÉียง เป็นทุกข์ มีค วามแ ปร ปรวน ไปเป็ น ธ รร มด า ควรหรือ เพÉือจะตามเหน็ สÉิงนันÊ ว่านันÉ ของเรา เราเป็นนันÉ เป็นนÉี นันÉ เป็ น ต น ขอ งเร า - 175 -

โน เหตํ ภนฺเต หาอย่างนันÊ ไม่ พระเจ้าข้า ตํ กึ ม ญฺ ถ ภิกฺขเว ท่านทงัÊ หลายย่อมสาํ คญั ความนันÊ เป็นไฉน ภิกษุทงัÊ หลาย เวทนา นิจจฺ า วา อนิจฺจา วาติ เวทนา เทีÉยงหรือไม่เทีÉยง อนิจฺจา ภนฺเต ไม่เทÉียง พระเจ้าข้า ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทุกขฺ ํ วา กส็ Éิงใดไม่เทÉียง สิÉงนันÊ เป็นทกุ ขห์ รอื ตํ สขุ ํ วาติ เป็นสขุ เล่า ทุกขฺ ํ ภนฺเต เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทุกขฺ ํ กส็ ิÉงใดไม่เทÉียง เป็นทุกข์ วิปริณามธมมฺ ํ มคี วามแปรปรวนไปเป็นธรรมดา กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสสฺ ิตุํ ควรหรือ เพืÉอจะตามเหน็ สิÉงนันÊ เอตํ มม เอโสหมสมฺ ิ ว่านันÉ ของเรา เราเป็นนันÉ เป็นนีÉ นันÉ เอโส เม อตฺตาติ เป็ น ต น ขอ งเร า โน เหตํ ภนฺเต หาอย่างนันÊ ไม่ พระเจ้าข้า ตํ กึ ม ญฺ ถ ภิกฺขเว ท่านทงัÊ หลายย่อมสาํ คญั ความนันÊ เป็นไฉน ภิกษุทงัÊ หลาย ส ญฺ า นิจจฺ า วา อนิจฺจา วาติ สญั ญา เทÉียงหรอื ไม่เทÉียง อนิจฺจา ภนฺเต ไม่เทÉียง พระเจ้าข้า - 176 -

ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทุกฺขํ วา กส็ ิÉงใดไม่เทีÉยง สิÉงนันÊ เป็นทุกขห์ รอื ตํ สขุ ํ วาติ เป็นสขุ เล่า ทุกขฺ ํ ภนฺเต เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทกุ ขฺ ํ กส็ Éิงใดไม่เทีÉยง เป็นทกุ ข์ วิปริณามธมมฺ ํ มคี วามแปรปรวนไปเป็นธรรมดา กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสสฺ ิตุํ ควรหรอื เพืÉอจะตามเหน็ สÉิงนันÊ เอตํ มม เอโสหมสมฺ ิ ว่านันÉ ของเรา เราเป็นนันÉ เป็นนÉี นันÉ เอโส เม อตตฺ าติ เป็ น ต น ขอ งเร า โน เหตํ ภนฺเต หาอย่างนันÊ ไม่ พระเจ้าข้า ตํ กึ ม ญฺ ถ ภิกฺขเว ท่านทงัÊ หลายย่อมสาํ คญั ความนันÊ เป็นไฉน ภิกษุทงัÊ หลาย สงฺขารา นิจจฺ า วา อนิจจฺ า วาติ สงั ขารทงัÊ หลายเทÉียงหรือไม่เทÉียง อนิจฺจา ภนฺเต ไม่เทีÉยง พระเจ้าข้า ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทุกขฺ ํ วา กส็ Éิงใดไม่เทีÉยง สิÉงนันÊ เป็นทุกขห์ รอื ตํ สขุ ํ วาติ เป็นสขุ เล่า ทุกขฺ ํ ภนฺเต เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทุกฺขํ สิÉงใดไม่เทÉียง เป็นทุกข์ วิปริณามธมมฺ ํ มีค วามแ ปร ปรวน ไปเป็ น ธ รร มด า - 177 -

กลลฺ ํ นุ ตํ สมนุปสสฺ ิตุํ ควรหรอื เพÉือจะตามเหน็ สิÉงนันÊ เอตํ มม เอโสหมสมฺ ิ ว่านันÉ ของเรา เราเป็นนันÉ เป็นนีÉ นันÉ เอโส เม อตตฺ าติ เป็ น ต น ขอ งเร า โน เหตํ ภนฺเต หาอย่างนันÊ ไม่ พระเจ้าข้า ตํ กึ ม ญฺ ถ ภิกขฺ เว ท่านทงัÊ หลายย่อมสาํ คญั ความนันÊ เป็นไฉน ภิกษุทงัÊ หลาย วิ ญฺ าณํ นิจจฺ ํ วา อนิจฺจํ วาติ วิญญาณเทÉียงหรือไม่เทีÉยง อนิจจฺ ํ ภนฺเต ไม่เทÉียง พระเจ้าข้า ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทกุ ขฺ ํ วา กส็ Éิงใดไม่เทÉียง สÉิงนันÊ เป็นทุกขห์ รอื ตํ สขุ ํ วาติ เป็นสขุ เล่า ทุกฺขํ ภนฺเต เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ยมปฺ นานิจจฺ ํ ทุกฺขํ สÉิงใดไม่เทีÉยง เป็นทุกข์ วิปริณามธมมฺ ํ มีค วามแ ปร ปรวน ไปเป็ น ธ รร มด า กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสสฺ ิตุํ ควรหรือ เพÉือจะตามเหน็ สิÉงนันÊ เอตํ มม เอโสหมสมฺ ิ ว่านันÉ ของเรา เราเป็นนันÉ เป็นนÉี นันÉ เอโส เม อตตฺ าติ เป็ น ต น ขอ งเร า โน เหตํ ภนฺเต หาอย่างนันÊ ไม่ พระเจ้าข้า เพราะเหตนุ ันÊ แล ภิกษุทงัÊ หลาย ตสฺมาติห ภิกฺขเว - 178 -

ยงฺกิ จฺ ิ รปู ํ รปู อย่างใดอย่างหนÉึง อตีตานาคตปจจฺ ปุ ปฺ นฺนํ ทีÉเป็นอดีตกด็ ี อนาคตกด็ ี ปัจจบุ นั กด็ ี อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา ภายในกด็ ี ภายนอกกด็ ี โอฬาริกํ วา สขุ มุ ํ วา หยาบกด็ ี ละเอียดกด็ ี หีนํ วา ปณีตํ วา เลวกด็ ี ประณีตกด็ ี ยนฺทเู ร สนฺติเก วา อนั ใด มีในทÉีไกลกด็ ี ในทีÉใกล้กด็ ี สพพฺ ํ รปู ํ รปู ทงัÊ หมด กเ็ ป็นสกั ว่ารปู เนตํ มม นันÉ ไม่ใช่ของเรา เนโสหมสฺมิ เราไม่เป็นนันÉ เป็นนÉี น เมโส อตตฺ าติ นันÉ ไม่ใช่ตนของเรา ดงั นีÊ เอวเมตํ ยถาภตู ํ สมมฺ ปปฺ ญฺ าย ข้อนีÊอนั ท่านทงัÊ หลาย พึงเหน็ ด้วย ทฏฺฐพพฺ ํ ปัญญาอนั ชอบตามเป็นจริงแล้วอย่างนีÊ ยากาจิ เวทนา เวทนาอย่างใดอย่างหนÉึง อตีตานาคตปจจฺ ปุ ปฺ นฺนา ทีÉเป็นอดีตกด็ ี อนาคตกด็ ี ปัจจบุ นั กด็ ี อชฌฺ ตฺตา วา พหิทธฺ า วา ภายในกด็ ี ภายนอกกด็ ี โอฬาริกา วา สขุ มุ า วา หยาบกด็ ี ละเอียดกด็ ี - 179 -

หีนา วา ปณีตา วา เลวกด็ ี ประณีตกด็ ี ยา ทูเร สนฺติเก วา อนั ใด มีในทÉีไกลกด็ ี ในทÉีใกล้กด็ ี สพพฺ า เวทนา เวทนาทงัÊ หมด กเ็ ป็นสกั ว่าเวทนา เนตํ มม นันÉ ไมใ่ ช่ของเรา เนโสหมสมฺ ิ เราไม่เป็นนันÉ เป็นนÉี น เมโส อตฺตาติ นันÉ ไม่ใช่ตนของเรา ดงั นีÊ เอวเมตํ ยถาภตู ํ สมมฺ ปปฺ ญฺ าย ข้อนีÊอนั ท่านทงัÊ หลาย พึงเหน็ ด้วย ทฏฺฐพพฺ ํ ปัญญาอนั ชอบตามเป็นจริงแล้วอย่างนีÊ ยากาจิ ส ญฺ า สญั ญาอย่างใดอย่างหนÉึง อตีตานาคตปจจฺ ปุ ปฺ นฺนา ทีÉเป็นอดีตกด็ ี อนาคตกด็ ี ปัจจบุ นั กด็ ี อชฌฺ ตตฺ า วา พหิทฺธา วา ภายในกด็ ี ภายนอกกด็ ี โอฬาริกา วา สขุ มุ า วา หยาบกด็ ี ละเอียดกด็ ี หีนา วา ปณีตา วา เลวกด็ ี ประณีตกด็ ี ยา ทูเร สนฺติเก วา อนั ใด มีในทีÉไกลกด็ ี ในทีÉใกล้กด็ ี สพพฺ า ส ฺญา สญั ญาทงัÊ หมดกเ็ ป็นสกั ว่าสญั ญา เนตํ มม นันÉ ไมใ่ ช่ของเรา เนโสหมสมฺ ิ เราไม่เป็นนันÉ เป็นนÉี - 180 -

น เมโส อตตฺ าติ นันÉ ไมใ่ ช่ตนของเรา ดงั นีÊ เอวเมตํ ยถาภตู ํ สมมฺ ปปฺ ญฺ าย ทฏฺฐพพฺ ํ ข้อนีÊอนั ท่านทงัÊ หลาย พึงเหน็ ด้วย ปัญญาอนั ชอบตามเป็นจริงแล้วอย่าง เยเกจิ สงฺขารา นันÊ อตีตานาคตปจจฺ ปุ ปฺ นฺนา สงั ขารทงัÊ หลายเหล่าใดเหล่าหนึÉง อชฺฌตตฺ า วา พหิทฺธา วา โอฬาริกา วา สขุ มุ า วา ทÉีเป็นอดีตกด็ ี อนาคตกด็ ี ปัจจบุ นั หีนา วา ปณีตา วา กด็ ี เย ทเู ร สนฺติเก วา สพเฺ พ สงฺขารา ภายในกด็ ี ภายนอกกด็ ี เนตํ มม หยาบกด็ ี ละเอียดกด็ ี เนโสหมสมฺ ิ น เมโส อตตฺ าติ เลวกด็ ี ประณีตกด็ ี เอวเมตํ ยถาภตู ํ สมมฺ ปปฺ ญฺ าย ทฏฺฐพพฺ ํ เหล่าใด มีในทÉีไกลกด็ ี ในทีÉใกล้กด็ ี สงั ขารทงัÊ หลายทงัÊ หมด กเ็ ป็นสกั ว่า สงั ขาร นันÉ ไมใ่ ช่ของเรา เราไม่เป็นนันÉ เป็นนีÉ นันÉ ไม่ใช่ตนของเรา ดงั นีÊ ข้อนีÊอนั ท่านทงัÊ หลาย พึงเหน็ ด้วย ปัญญาอนั ชอบตามเป็นจริงแล้ว อย่างนันÊ - 181 -

ยงฺกิ จฺ ิ วิ ญฺ าณํ วิญญาณอย่างใดอย่างหนึÉง อตีตานาคตปจจฺ ปุ ปฺ นฺนํ ทีÉเป็นอดีตกด็ ี อนาคตกด็ ี ปัจจบุ นั กด็ ี อชฌฺ ตตฺ ํ วา พหิทธฺ า วา ภายในกด็ ี ภายนอกกด็ ี โอฬาริกํ วา สขุ มุ ํ วา หยาบกด็ ี ละเอียดกด็ ี หีนํ วา ปณีตํ วา ยนฺทเู ร สนฺติเก วา เลวกด็ ี ประณีตกด็ ี สพพฺ ํ วิ ญฺ าณํ อนั ใด มีในทÉีไกลกด็ ี ในทÉีใกล้กด็ ี วิญญาณทงัÊ หมด กเ็ ป็นสกั ว่า เนตํ มม วิญญาณ เนโสหมสฺมิ นันÉ ไม่ใช่ของเรา น เมโส อตฺตาติ เราไม่เป็นนันÉ เป็นนÉี เอวเมตํ ยถาภตู ํ สมมฺ ปปฺ ญฺ าย นันÉ ไมใ่ ช่ตนของเรา ดงั นีÊ ทฏฺฐพพฺ ํ ข้อนีÊอนั ท่านทงัÊ หลาย พึงเหน็ ด้วย ปัญญาอนั ชอบตามเป็นจริงแล้ว เอวํ ปสสฺ ํ ภิกฺขเว อย่างนันÊ ดงั นีÊ สตุ วา อริยสาวโก ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย อริยสาวกผไู้ ด้ รปู สมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ สดบั แล้วเหน็ อย่อู ย่างนีÊ ย่อมเบÉือหน่าย ทงัÊ ในรปู - 182 -

เวทนายปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในเวทนา ส ญฺ ายปิ นิพพฺ ินฺทติ สงฺขาเรสุปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอืÉ หน่าย ทงัÊ ในสญั ญา วิ ญฺ าณสมฺ ปึ ิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบือÉ หน่าย ทงัÊ ในสงั ขาร นิพพฺ ินฺทํ วิรชฺชติ ทงัÊ หลาย วิราคา วิมจุ จฺ ติ วิมตุ ตฺ สฺมึ วิมตุ ฺตมิติ ญาณํ โหติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในวิญญาณ ขีณา ชาติ วสุ ิตํ พรฺ หมฺ จริยํ เมืÉอเบอÉื หน่าย ย่อมคลายความติด กตํ กรณียํ นาปรํ อิตถฺ ตตฺ ายาติ ปชานาตีติ เพราะคลายความติด จิตกพ็ ้น อิทมโวจ ภควา เมืÉอจิตพ้นแล้ว กเ็ กิดญาณร้วู ่า พ้นแล้ว ดงั นีÊ อตตฺ มนา ป จฺ วคคฺ ิยา ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุํ อริยสาวกนันÊ ย่อมทราบชดั ว่าชาติ สิÊนแล้ว พรหมจรรยเ์ ราได้อย่จู บ แล้ว กิจทีÉควรทาํ เราได้ทาํ เสรจ็ แล้ว กิจอืÉน อีกเพืÉอ ค วาม เป็ น อ ย่างนีÊ มิได้ม ี พระผมู้ พี ระภาคเจ้า ได้ตรสั พระสตู ร นีÊจบลง พระภิกษุปัญจวคั คียก์ ม็ ีใจยินดี เพลิดเพลินภาษิตของพระผมู้ ี พระภาคเจ้า - 183 -

อิมสมฺ ิ จฺ ปน เวยยฺ ากรณสมฺ ึ กแ็ ลเมืÉอเวยยากรณ์นีÊ อนั พระผมู้ ี ภ ญฺ มาเน พระภาคเจ้าตรสั อยู่ ป ฺจวคคฺ ิยานํ ภิกฺขนู ํ อนุปาทาย จิตของพระภิกษุปัญจวคั คียพ์ ้นแล้ว อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมจุ จฺ ึสตู ิ. จากอาสวะทงัÊ หลาย ไม่ถือมนัÉ ด้วย อปุ าทานแล. - 184 -

เรมิÉ อาทติ ตปรยิ ายสูตร เวเนยยฺ ทมโนปาเย พระพทุ ธเจ้า ได้ถงึ พระบารมีแล้ว สพพฺ โส ปารมึ คโต โดยประการทงัÊ ปวง ในอบุ ายฝึ ก อโมฆวจโน พทุ ฺโธ เวไนยสตั ว์ มพี ระวาจาไม่เปล่าจาก อภิ ญฺ ายานุสาสโก ประโยชน์ ทรงพราํÉ สอนเพÉือความ ตรสั รยู้ Éิง จิณฺณานุรปู โต จาปิ และทรงแนะนําหม่สู ตั ว์ โดยธรรมตาม ธมเฺ มน วินยํ ปชํ สมควรแก่อปุ นิสยั ทีÉเคยประพฤติมา จิณฺณาคคฺ ิปาริจริยานํ ทรงแสดงอาทิตตปริยายอนั ใดเป็น สมโฺ พชฺฌารหโยคินํ เครือÉ งนําใจ ของพวกพระโยคี ผคู้ วร ยมาทิตฺตปริยายํ จะตรสั รู้ ซึÉงเป็นชฎิลเคยบาํ เรอไฟ เทสยนฺโต มโนหรํ เต โสตาโร วิโมเจสิ ได้ทรงยงั พระโยคีผสู้ ดบั เหล่านันÊ ให้ พ้นแล้ว อเสกขฺ าย วิมตุ ฺติยา ด้วยอเสกขวิมตุ ติ ตเถโวปปริกฺขาย เราทงัÊ หลาย จงสวดอาทิตตปริยาย วิ ฺ นู ํ โสตมุ ิจฉฺ ตํ สตู รนันÊ เป็นอบุ ายเครÉืองกาํ หนด ทุกฺขตาลกขฺ โณปายํ ความทุกข์ เพÉือวิญsชู นทงัÊ หลาย ตํ สตุ ฺตนฺตํ ภณาม เส. ผปู้ รารถนาเพÉือจะฟัง โดยความ ใคร่ครวญอย่างนันÊ เทอญ. - 185 -

อาทิตตปรยิ ายสูตร เอวมเฺ ม สุตํ อนั ข้าพเจ้า (คือพระอานนทเถระ) ได้สดบั มาแล้วอย่างนีÊ เอกํ สมยํ ภควา สมยั หนÉึง พระผมู้ พี ระภาคเจ้า คยายํ วิหรติ คยาสีเส เสดจ็ ประทบั อย่ทู ีÉคยาสีสะ ใกล้ แม่นÊําคยา สทฺธึ ภิกขฺ สุ หสเฺ สน กบั ด้วยพระภิกษุพนั หนึÉง ตตฺร โข ภควา ในกาลนันÊ แล พระผ้มู ีพระภาคเจ้า ภิกขฺ ู อามนฺเตสิ ตรสั เตือนพระภิกษุทงัÊ หลาย (ให้ ตงัÊ ใจสดบั พทุ ธภาษิตนีÊ) ว่า สพพฺ ํ ภิกฺขเว อาทิตฺตํ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย สิÉงทงัÊ ปวงเป็น ของรอ้ น กิ จฺ ภิกฺขเว สพพฺ ํ อาทิตฺตํ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย กอ็ ะไรเล่า ชÉือว่า สÉิงทงัÊ ปวง เป็นของร้อน จกขฺ ุํ ภิกฺขเว อาทิตฺตํ ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย จกั ษุ (คือ นัยน์ตา) เป็นของร้อน รปู า อาทิตฺตา รปู ทงัÊ หลาย เป็นของร้อน จกฺขวุ ิ ญฺ านํ อาทิตฺตํ วิญญาณอาศยั จกั ษุ เป็นของร้อน จกฺขสุ สมผฺ สโฺ ส อาทิตโฺ ต สมั ผสั อาศยั จกั ษุ เป็นของรอ้ น - 186 -

ยมปฺ ิ ทํ จกขฺ สุ มผฺ สสฺ ปจฺจยา ความร้สู ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึÊนเพราะ อปุ ปฺ ชฺชติ เวทยิตํ จกั ขสุ มั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทุกฺขํ วา เป็นสขุ กด็ ี ทุกขก์ ด็ ี อทกุ ขฺ มสขุ ํ วา ไม่ใช่ทกุ ข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี ตมปฺ ิ อาทิตฺตํ แมอ้ นั นันÊ กเ็ ป็นของร้อน เกน อาทิตฺตํ รอ้ นเพราะอะไร อาทิตฺตํ ราคคคฺ ินา ร้อนเพราะไฟคือราคะ โทสคคฺ ินา โมหคคฺ ินา เพราะไฟคือโทสะ เพราะไฟคือโมหะ อาทิตตฺ ํ ชาติยา รอ้ นเพราะความเกิด ชรามรเณน เพราะความแก่และความตาย โสเกหิ ปริเทเวหิ เพราะความโศก เพราะความราํÉ ไร ราํ พนั ทุกเฺ ขหิ โทมนสเฺ สหิ เพราะความทุกข์ เพราะความเสียใจ อปุ ายาเสหิ เพราะความคบั แค้นใจ อาทิตฺตนฺติ วทามิ เราจึงกล ่าวว่าเป็ น ขอ งร้อ น โสตะ (คือห)ู เป็นของร้อน โสตํ อาทิตฺตํ เสียงทงัÊ หลาย เป็นของร้อน สทฺทา อาทิตตฺ า วิญญาณอาศยั โสตะ เป็นของรอ้ น โสตวิ ญฺ าณํ อาทิตฺตํ - 187 -

โสตสมผฺ สโฺ ส อาทิตฺโต สมั ผสั อาศยั โสตะ เป็นของร้อน ยมปฺ ิ ทํ โสตสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา ความร้สู ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึÊนเพราะ อปุ ปฺ ชฺชติ เวทยิตํ โสตสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทกุ ฺขํ วา เป็นสขุ กด็ ี ทุกขก์ ด็ ี อทกุ ขฺ มสขุ ํ วา ไม่ใช่ทกุ ข์ ไม่ใช่สขุ กด็ ี ตมปฺ ิ อาทิตตฺ ํ แม้อนั นันÊ กเ็ ป็นของร้อน เกน อาทิตตฺ ํ รอ้ นเพราะอะไร อาทิตตฺ ํ ราคคคฺ ินา รอ้ นเพราะไฟคือราคะ โทสคคฺ ินา โมหคคฺ ินา เพราะไฟคือโทสะ เพราะไฟคือโมหะ อาทิตตฺ ํ ชาติยา รอ้ นเพราะความเกิด ชรามรเณน เพราะความแก่และความตาย โสเกหิ ปริเทเวหิ เพราะความโศก เพราะความราÉํ ไร ราํ พนั ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ เพราะความทุกข์ เพราะความเสียใจ อปุ ายาเสหิ เพราะความคบั แค้นใจ อาทิตฺตนฺติ วทามิ เราจึงกล่าวว่าเป็นของรอ้ น ฆานะ (คือจมกู ) เป็นของรอ้ น ฆานํ อาทิตฺตํ กลÉินทงัÊ หลาย เป็นของร้อน คนฺธา อาทิตฺตา - 188 -

ฆานวิ ญฺ าณํ อาทิตฺตํ วิญญาณอาศยั ฆานะ เป็นของร้อน ฆานสมผฺ สโฺ ส อาทิตโฺ ต สมั ผสั อาศยั ฆานะ เป็นของรอ้ น ยมปฺ ิ ทํ ฆานสมผฺ สสฺ ปจฺจยา ความรสู้ ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึนÊ เพราะ อปุ ปฺ ชชฺ ติ เวทยิตํ ฆานสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทุกขฺ ํ วา เป็นสขุ กด็ ี ทุกขก์ ด็ ี อทุกขฺ มสขุ ํ วา ไมใ่ ช่ทุกข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี ตมปฺ ิ อาทิตตฺ ํ แม้อนั นันÊ กเ็ ป็นของร้อน เกน อาทิตตฺ ํ ร้อนเพราะอะไร อาทิตฺตํ ราคคคฺ ินา ร้อนเพราะไฟคือราคะ โทสคคฺ ินา โมหคคฺ ินา เพราะไฟคือโทสะ เพราะไฟคือโมหะ อาทิตฺตํ ชาติยา รอ้ นเพราะความเกิด ชรามรเณน เพราะความแก่และความตาย โสเกหิ ปริเทเวหิ เพราะความโศก เพราะความราÉํ ไร ราํ พนั ทุกฺเขหิ โทมนสเฺ สหิ เพราะความทุกข์ เพราะความเสียใจ อปุ ายาเสหิ เพราะความคบั แค้นใจ อาทิตฺตนฺติ วทามิ เราจึงกล ่าวว่าเป็ น ขอ งร้อ น ชิวหา (คือลิÊน) เป็นของร้อน ชิวฺหา อาทิตตฺ า - 189 -

รสา อาทิตฺตา รสทงัÊ หลาย เป็นของร้อน ชิวหฺ าวิ ฺญาณํ อาทิตฺตํ วิญญาณอาศยั ชิวหา เป็นของรอ้ น ชิวหฺ าสมผฺ สโฺ ส อาทิตโฺ ต สมั ผสั อาศยั ชิวหา เป็นของรอ้ น ยมปฺ ิ ทํ ชิวหฺ าสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา ความรสู้ ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึÊนเพราะ อปุ ปฺ ชชฺ ติ เวทยิตํ ชิวหาสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทุกขฺ ํ วา เป็นสขุ กด็ ี ทุกขก์ ด็ ี อทกุ ฺขมสขุ ํ วา ไม่ใช่ทกุ ข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี ตมปฺ ิ อาทิตตฺ ํ แมอ้ นั นันÊ กเ็ ป็นของร้อน เกน อาทิตตฺ ํ รอ้ นเพราะอะไร อาทิตตฺ ํ ราคคคฺ ินา ร้อนเพราะไฟคือราคะ โทสคคฺ ินา โมหคคฺ ินา เพราะไฟคือโทสะ เพราะไฟคือโมหะ อาทิตฺตํ ชาติยา ร้อนเพราะความเกิด ชรามรเณน เพราะความแก่และความตาย โสเกหิ ปริเทเวหิ เพราะความโศก เพราะความราํÉ ไร ราํ พนั ทุกเฺ ขหิ โทมนสเฺ สหิ เพราะความทุกข์ เพราะความเสียใจ อปุ ายาเสหิ เพราะความคบั แค้นใจ อาทิตตฺ นฺติ วทามิ เราจึงกล่าวว่าเป็นของรอ้ น - 190 -

กาโย อาทิตโฺ ต กายเป็นของรอ้ น โผฏฺฐพพฺ า อาทิตตฺ า โผฏฐพั พะ (คือสิÉงทีÉถกู ต้องทางกาย) เป็ น ขอ งร้อ น กายวิ ญฺ าณํ อาทิตฺตํ วิญญาณอาศยั กาย เป็นของร้อน กายสมผฺ สโฺ ส อาทิตโฺ ต สมั ผสั อาศยั กาย เป็นของร้อน ยมปฺ ิ ทํ กายสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา ความร้สู ึกอารมณ์นีÊเกิดขึÊน เพราะ อปุ ปฺ ชฺชติ เวทยิตํ กายสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทุกขฺ ํ วา เป็นสขุ กด็ ี ทุกขก์ ด็ ี อทุกฺขมสขุ ํ วา ไมใ่ ช่ทุกข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี ตมปฺ ิ อาทิตตฺ ํ แม้อนั นันÊ กเ็ ป็นของร้อน เกน อาทิตตฺ ํ รอ้ นเพราะอะไร อาทิตฺตํ ราคคคฺ ินา รอ้ นเพราะไฟคือราคะ โทสคคฺ ินา เพราะไฟคือโทสะ โมหคคฺ ินา เพราะไฟคือโมหะ อาทิตฺตํ ชาติยา ร้อนเพราะความเกิด ชรามรเณน เพราะความแก่และความตาย โสเกหิ เพราะความโศก ปริเทเวหิ เพราะความราÉํ ไรราํ พนั - 191 -

ทกุ เฺ ขหิ เพราะความทุกข์ โทมนสเฺ สหิ เพราะความเสียใจ อปุ ายาเสหิ เพราะความคบั แค้นใจ อาทิตฺตนฺติ วทามิ เราจึงกล ่าวว่าเป็ น ขอ งร้อ น มนะ (คือใจ) เป็นของร้อน มโน อาทิตโฺ ต ธรรมทงัÊ หลาย (คืออารมณ์ทÉีเกิดแก่ ธมมฺ า อาทิตตฺ า ใจ) เป็นของร้อน วิญญาณอาศยั มนะ เป็นของร้อน มโนวิ ญฺ าณํ อาทิตฺตํ สมั ผสั อาศยั มนะ เป็นของรอ้ น มโนสมผฺ สโฺ ส อาทิตฺโต ความรสู้ ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึนÊ เพราะ ยมปฺ ิ ทํ มโนสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา มโนสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด อปุ ปฺ ชฺชติ เวทยิตํ เป็นสขุ กด็ ี เป็นทกุ ขก์ ด็ ี สขุ ํ วา ทกุ ขฺ ํ วา ไม่ใช่ทกุ ข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี อทกุ ฺขมสขุ ํ วา แม้อนั นันÊ กเ็ ป็นของร้อน ตมปฺ ิ อาทิตฺตํ ร้อนเพราะอะไร เกน อาทิตฺตํ รอ้ นเพราะไฟคือราคะ อาทิตฺตํ ราคคคฺ ินา เพราะไฟคือโทสะ โทสคคฺ ินา เพราะไฟคือโมหะ โมหคคฺ ินา - 192 -

อาทิตฺตํ ชาติยา ร้อนเพราะความเกิด ชรามรเณน เพราะความแก่และความตาย โสเกหิ เพราะความโศก ปริเทเวหิ เพราะความราÉํ ไรราํ พนั ทกุ ฺเขหิ เพราะความทุกข์ โทมนสเฺ สหิ เพราะความเสียใจ อปุ ายาเสหิ เพราะความคบั แค้นใจ อาทิตฺตนฺติ วทามิ เราจึงกล่าวว่าเป็นของรอ้ น ดกู ่อนภิกษุทงัÊ หลาย อริยสาวกผไู้ ด้ เอวํ ปสสฺ ํ ภิกฺขเว สดบั มาแล้ว เหน็ อย่อู ย่างนีÊ สตุ วา อริยสาวโก ย่อมเบอืÉ หน่าย ทงัÊ ในจกั ษุ จกฺขสุ มฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉอื หน่าย ทงัÊ ในรปู ทงัÊ หลาย รเู ปสุปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอÉื หน่าย ทงัÊ ในวิญญาณอาศยั จกขฺ วุ ิ ญฺ าเณปิ นิพพฺ ินฺทติ จกั ษุ ย่อมเบÉือหน่าย ทงัÊ ในสมั ผสั อาศยั จกขฺ สุ มผฺ สเฺ สปิ นิพพฺ ินฺทติ จกั ษุ ความรสู้ ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึนÊ เพราะ ยมปฺ ิ ทํ จกขฺ สุ มผฺ สสฺ ปจฺจยา จกั ขสุ มั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด อปุ ปฺ ชชฺ ติ เวทยิตํ - 193 -

สขุ ํ วา ทกุ ฺขํ วา เป็นสขุ กด็ ี เป็นทุกขก์ ด็ ี อทกุ ขฺ มสขุ ํ วา ไมใ่ ช่ทกุ ข์ ไม่ใช่สขุ กด็ ี ตสมฺ ปึ ิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอÉื หน่าย ทงัÊ ในความร้สู ึกนันÊ โสตสมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอืÉ หน่าย ทงัÊ ในโสตะ สทเฺ ทสปุ ิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในเสียงทงัÊ หลาย โสตวิ ญฺ าเณปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในวิญญาณ อาศยั โสตะ โสตสมผฺ สเฺ สปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉอื หน่าย ทงัÊ ในสมั ผสั อาศยั โสตะ ยมปฺ ิ ทํ โสตสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา ความรสู้ ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึÊนเพราะ อปุ ปฺ ชฺชติ เวทยิตํ โสตสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทุกขฺ ํ วา เป็นสขุ กด็ ี เป็นทกุ ขก์ ด็ ี อทุกขฺ มสขุ ํ วา ไมใ่ ช่ทกุ ข์ ไม่ใช่สขุ กด็ ี ตสมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในความร้สู ึกนันÊ ฆานสมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉอื หน่าย ทงัÊ ในฆานะ คนฺเธสปุ ิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอÉื หน่าย ทงัÊ ในกลÉินทงัÊ หลาย ฆานวิ ญฺ าเณปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในวิญญาณ อาศยั ฆานะ ฆานสมผฺ สเฺ สปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในสมั ผสั อาศยั ฆานะ - 194 -

ยมปฺ ิ ทํ ฆานสมผฺ สสฺ ปจฺจยา ความรสู้ ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึÊนเพราะ อปุ ปฺ ชฺชติ เวทยิตํ ฆานะสมั ผสั เป็นปัจจยั แมอ้ นั ใด สขุ ํ วา ทกุ ฺขํ วา เป็นสขุ กด็ ี เป็นทกุ ขก์ ด็ ี อทุกขฺ มสขุ ํ วา ไม่ใช่ทุกข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี ตสมฺ ปึ ิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉือหน่าย ทงัÊ ในความรสู้ ึกนันÊ ชิวหฺ ายปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอืÉ หน่าย ทงัÊ ในชิวหา รเสสปุ ิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในรสทงัÊ หลาย ชิวหฺ าวิ ฺญาเณปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบืÉอหน่าย ทงัÊ ในวิญญาณอาศยั ชิวหา ชิวฺหาสมผฺ สเฺ สปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอÉื หน่าย ทงัÊ ในสมั ผสั อาศยั ชิวหา ยมปฺ ิ ทํ ชิวฺหาสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา ความรสู้ ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึนÊ เพราะ อปุ ปฺ ชชฺ ติ เวทยิตํ ชิวหาสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทกุ ขฺ ํ วา เป็นสขุ กด็ ี เป็นทุกขก์ ด็ ี อทกุ ฺขมสขุ ํ วา ไม่ใช่ทกุ ข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี ตสมฺ ปึ ิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉอื หน่าย ทงัÊ ในความร้สู ึกนันÊ กายสมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉอื หน่าย ทงัÊ ในกาย - 195 -

โผฏฺฐพเฺ พสุปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉือหน่าย ทงัÊ ในโผฏฐพั พะ ทงัÊ หลาย กายวิ ญฺ าเณปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอÉื หน่าย ทงัÊ ในวิญญาณอาศยั กาย กายสมผฺ สเฺ สปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉือหน่าย ทงัÊ ในสมั ผสั อาศยั กาย ยมปฺ ิ ทํ กายสมผฺ สสฺ ปจฺจยา ความร้สู ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึÊนเพราะ อปุ ปฺ ชฺชติ เวทยิตํ กายสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทุกฺขํ วา เป็นสขุ กด็ ี เป็นทกุ ขก์ ด็ ี อทกุ ขฺ มสขุ ํ วา ไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สขุ กด็ ี ตสมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอืÉ หน่าย ทงัÊ ในความรสู้ ึกนันÊ มนสมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉอื หน่าย ทงัÊ ในมนะ ธมเฺ มสุปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉือหน่าย ทงัÊ ในธรรมทงัÊ หลาย มโนวิ ญฺ าเณปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบÉอื หน่าย ทงัÊ ในวิญญาณ อาศยั มนะ มโนสมผฺ สเฺ สปิ นิพพฺ ินฺทติ ย่อมเบอÉื หน่าย ทงัÊ ในสมั ผสั อาศยั มนะ ยมปฺ ิ ทํ มโนสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา ความร้สู ึกอารมณ์นีÊ เกิดขึนÊ เพราะ อปุ ปฺ ชชฺ ติ เวทยิตํ มโนสมั ผสั เป็นปัจจยั แม้อนั ใด สขุ ํ วา ทกุ ฺขํ วา เป็นสขุ กด็ ี เป็นทกุ ขก์ ด็ ี - 196 -

อทกุ ขฺ มสขุ ํ วา ไมใ่ ช่ทุกข์ ไมใ่ ช่สขุ กด็ ี ตสมฺ ึปิ นิพพฺ ินฺทติ นิพพฺ ินฺทํ วิรชฺชติ ย่อมเบอÉื หน่าย ทงัÊ ในความร้สู ึกนันÊ วิราคา วิมจุ ฺจติ วิมตุ ตฺ สมฺ ึ เมือÉ เบÉือหน่าย ย่อมคลายติด วิมตุ ฺตมิติ ญาณํ โหติ ขีณา ชาติ วสุ ิตํ พรฺ หมฺ จริยํ เพราะคลายติด จิตกพ็ ้น กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตตฺ ายาติ ปชานาตีติ เมืÉอจิตพ้น อิทมโวจ ภควา กม็ ีญาณร้วู ่าพ้นแล้ว อตตฺ มนา เต ภิกฺขู อริยสาวกนันÊ ย่อมทราบชดั ว่าชาติ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุํ สิÊนแล้ว พรหมจรรยไ์ ด้อย่จู บแล้ว อิมสมฺ ิ จฺ ปน เวยยฺ ากรณสมฺ ึ กิจทÉีควรทาํ ได้ทาํ เสรจ็ แล้ว กิจอÉืน ภ ญฺ มาเน อีกเพÉือ ค วาม เป็ น อ ย่างนีÊ มิได้มี ตสสฺ ภิกฺขสุ หสสฺ สสฺ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมจุ ฺจึสตู ิ. พระผมู้ พี ระภาคเจ้าได้ตรสั ธรรม ปริยายอนั นีÊแล้ว พระภิกษุเหล่านันÊ กม็ ใี จยินดี เพลินภาษิตของพระผมู้ พี ระภาคเจ้า กแ็ ลเมอÉื เวยยากรณ์อนั นีÊ อนั พระผมู้ ี พระภาคเจ้าตรสั อยู่ จิตของพระภิกษุพนั รปู นันÊ กพ็ ้นจาก อาสวะทงัÊ หลาย ไม่ถอื มนัÉ ด้วย อปุ าทานแล. - 197 -

คริ มิ านนั ทสูตร เอวมเฺ ม สุตํ อนั ข้าพเจ้า (คือ พระอานนทเถระ) ได้สดบั มาแล้วอย่างนีÊ เอกํ สมยํ ภควา สมยั หนÉึง พระผมู้ พี ระภาคเจ้า สาวตถฺ ิยํ วิหรติ เชตวเน เสดจ็ ประทบั ในพระวิหารเชตวนั อนาถปิ ณฺฑิกสสฺ อาราเม อนั เป็นอารามของอนาถบิณฑิก คฤหบดีสรา้ งถวายใกล้เมืองสาวตั ถี เตน โข ปน สมเยน กโ็ ดยสมยั นันÊ แล อายสมฺ า คิริมานนฺโท พระคิริมานนทผ์ ้มู อี ายุ อาพาธิโก โหติ เป็นผอู้ าพาธ ทกุ ขฺ ิโต พาฬฺหคิลาโน ประกอบด้วยทกุ ขเวทนาเป็นไข้หนัก อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ครงัÊ นันÊ แล พระอานนท์ผมู้ อี ายุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ได้เข้าไปเฝ้าโดยทÉีพระผมู้ พี ระภาคเจ้า เสดจ็ ประทบั อยู่ อปุ สงฺกมิตฺวา ครนัÊ เข้าไปเฝ้าแล้ว ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา จึงถวายบงั คมพระผมู้ ีพระภาคเจ้า เอกมนฺตํ นิสีทิ นังÉ ณ ทÉีควรส่วนข้างหนึÉง - 198 -

เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เมÉือพระอานนทน์ ังÉ ณ ทีÉควรส่วนข้าง อายสมฺ า อานนฺโท หนึÉงแล้ว ภควนฺตํ เอตทโวจ จึงกราบทลู คาํ นีÊ กะพระผ้มู พี ระภาค เจ้าว่า อายสมฺ า ภนฺเต คิริมานนฺโท พระเจ้าข้า พระคิริมานนทผ์ มู้ ีอายุ อาพาธิโก ทุกฺขิโต อาพาธ ประกอบด้วยทกุ ขเวทนา พาฬฺหคิลาโน เป็ น ไข้หนัก สาธุ ภนฺเต ภควา พระเจ้าข้า ดีแล้วขอพระผมู้ พี ระภาค เจ้า เยนายสมฺ า คิริมานนฺโท เสดจ็ เข้าไปใกล้ โดยทÉีพระ เตนุปสงฺกมตุ คิริมานนทอ์ ยู่ อนุกมปฺ ํ อปุ าทายาติ เพืÉอได้ทรงอนุเคราะห์ สเจ โข ตวฺ ํ อานนฺท พระผมู้ ีพระภาคเจ้า จึงตรสั ว่า อานนท์ ถ้าท่านแล คิริมานนฺทสสฺ ภิกฺขโุ น พึงเข้าไปหาภิกษุคิริมานนทแ์ ล้ว อปุ สงฺกมิตวฺ า ทส ส ญฺ า ภาเสยฺยาสิ แสดงสญั ญา 10 - 199 -

ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ ข้อนีÊเป็นเหตใุ ห้อาพาธนันÊ ของภิกษุ คิริมานนฺทสสฺ ภิกฺขโุ น ทส คิริมานนทร์ ะงบั ไปโดยฐานะเพราะ ส ญฺ า สตุ วฺ า โส อาพาโธ ฟังสญั ญา 10 ฐานโส ปฏิปปฺ สสฺ มเฺ ภยฺย. กตมา ทส สญั ญา 10 เป็นอย่างไร อนิจฺจส ญฺ า ความกาํ หนดหมายว่าไม่เทÉียง อนตฺตส ญฺ า ความกาํ หนดหมายว่าไม่ใช่ตน อสภุ ส ญฺ า ความกาํ หนดหมายว่าไม่งาม อาทีนวส ญฺ า ความกาํ หนดหมายว่าเป็นโทษ ปหานส ญฺ า ความกาํ หนดหมายในการละ วิราคส ญฺ า ความกาํ หนดหมายในธรรมอนั ปราศจากราคะ นิโรธส ญฺ า ความกาํ หนดหมายในธรรมเป็นทีÉดบั สพพฺ โลเก อนภิรตส ญฺ า ความกาํ หนดหมายในความไม่ยินดี ในโลกทงัÊ ปวง สพพฺ สงฺขาเรสุ อนิจฺจส ฺญา ความกาํ หนดหมายโดยความไม่ ปรารถนาในสงั ขารทงัÊ ปวง อานาปานสสฺ ติ สติกาํ หนดลมหายใจเข้าออกเป็น อารมณ์ - 200 -


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook