รวมแผน ม1 เทอม 1

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เห็น   2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่   3 การทางานตามหน้าที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย   4 ความมีนา้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ ้าน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ กษัตริย์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อ โรงเรยี น 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทเี่ กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทถ่ี ูกต้อง 3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว มี ความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 ร้จู กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอ่ื ฟงั คาสง่ั สอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ 6. ม่งุ ม่นั ในการ 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ทางาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสานึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 รจู้ ักการดูแลรักษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรยี น ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวกรรณิกา ลิกัลตา) ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

10. บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………………………. (นางสาวกรรณิกา ลกิ ัลตา) ตาแหน่ง ครู ความคิดเหน็ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นายคมสนั มณศี รี) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอื่ ……………………………………………. (นายไพฑูรย์ มณีจนั ทร์) รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ ความคดิ เหน็ ผู้อานวยการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นางสาวพรณภทั ร์ พงษ์วรชั ญพ์ ร) ผู้อานวยการโรงเรียนเทพสถติ วทิ ยา วนั ท.ี่ ...........เดอื น........................พ.ศ................

ใบงานที่ 2.1 เร่ือง จานวนตรงข้ามของเศษสว่ น คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามแต่ละข้อต่อไปน้ี 1. จงหาจานวนตรงขา้ มของเศษส่วนทกี่ าหนดใหต้ อ่ ไปน้ี 1) จานวนตรงข้ามของ 1 คอื ............................................... 8 2) จานวนตรงขา้ มของ 5 คือ ............................................... 6 3) จานวนตรงขา้ มของ − 2 คอื ............................................... 7 4) จานวนตรงข้ามของ 3 1 คือ ............................................... 5 5) จานวนตรงข้ามของ −1 2 คอื ............................................... 3 2. จงเขียนเคร่อื งหมาย  หนา้ ข้อความทเ่ี ป็นจริง และเขียนเครือ่ งหมาย  หนา้ ขอ้ ความทเ่ี ปน็ เทจ็ ............. 1) จานวนตรงขา้ มของ − 4 คอื 4 9 9 ............. 2) จานวนตรงข้ามของ 6 คือ −(− 161) 11 ............. 3) จานวนตรงข้ามของ 2 5 คอื −2 5 7 7

เฉลยใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง จานวนตรงข้ามของเศษสว่ น คาชี้แจง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามแตล่ ะข้อตอ่ ไปน้ี 1. จงหาจานวนตรงขา้ มของเศษสว่ นที่กาหนดใหต้ ่อไปน้ี 1) จานวนตรงขา้ มของ 1 คือ ............ − 81........................... 8 2) จานวนตรงข้ามของ 5 คือ ............ − 65............................ 6 3) จานวนตรงข้ามของ − 2 คอื .................. 27............................. 7 4) จานวนตรงขา้ มของ 3 1 คือ ............ −3 15............................ 5 5) จานวนตรงขา้ มของ −1 2 คือ ............... 1 23............................ 3 2. จงเขียนเคร่อื งหมาย  หนา้ ขอ้ ความท่เี ปน็ จริง และเขียนเคร่อื งหมาย  หนา้ ข้อความทเ่ี ป็นเทจ็ ....... ...... 1) จานวนตรงข้ามของ − 4 คือ 4 9 9 ...... ..... 2) จานวนตรงขา้ มของ 6 คือ −(− 161) 11 ............ 3) จานวนตรงขา้ มของ 2 5 คอื −2 5 7 7

ใบงานที่ 2.2 เรื่อง การเปรยี บเทยี บเศษสว่ น คาชี้แจง : จงเติมเครื่องหมาย >, < หรือ = ลงใน ใหถ้ ูกตอ้ ง 1) 4 5 9 9 2) -170 -130 3) 5 - 5 6 6 4) 2182 2 2 3 5) -21 - 3 4 6) -6 13 13 -6 7) 1 2 7 14 8) -1 2 -1 1 9 5

เฉลยใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง การเปรียบเทียบเศษส่วน คาชี้แจง : จงเติมเคร่ืองหมาย >, < หรอื = ลงใน ให้ถกู ต้อง 1) 4 < 5 9 9 2) -170 < -130 3) 5 > - 5 6 6 4) 2 8 = 2 2 12 3 5) - 1 > - 3 2 4 6) -6 > 13 13 -6 7) 1 = 2 7 14 8) -1 2 < -1 1 9 5

ใบงานท่ี 2.3 เรือ่ ง การเรยี งลาดับเศษสว่ น คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั เศษสว่ นต่อไปนี้ 1. จงเรยี งลาดบั เศษส่วนตอ่ ไปน้ีจากน้อยไปมาก 1) 4 , 2 , - 4 , -15 5 5 5 …………………………………………………………………………………………………………..…………… 2) 3 , - 2 , 1 , - 3 4 7 6 5 …………………………………………………………………………………………………………..…………… 3) 7 , 2 , 3 , 4 10 5 9 6 …………………………………………………………………………………………………………..…………… 2. จงเรียงลาดบั เศษส่วนต่อไปนจ้ี ากมากไปน้อย 1) - 2 , -1 3 , 5 , 9 8 8 8 8 …………………………………………………………………………………………………………..…………… 2) - 5 , 7 , 3 , -160 9 18 4 …………………………………………………………………………………………………………..…………… 3) 2 1 , -3 2 , -1 1 , 2 5 4 7 8 6 …………………………………………………………………………………………………………..……………

เฉลยใบงานที่ 2.3 เรือ่ ง การเรียงลาดับเศษสว่ น คาชี้แจง : ให้นักเรียนเรียงลาดับเศษส่วนตอ่ ไปน้ี 1. จงเรียงลาดับเศษส่วนตอ่ ไปนี้จากนอ้ ยไปมาก 1) 4 , 2 , - 4 , -15 5 5 5 ………………,……………,…………,…………………………………………………………………..…………… 2) 3 , -72 , 1 , - 53 4 6 ………………,……………,…………,…………………………………………………………………..…………… 3) 7 , 2 , 3 , 4 10 5 9 6 ………………, …………, …………, ……………………………………………………………………..…………… 2. จงเรียงลาดบั เศษสว่ นต่อไปนจี้ ากมากไปน้อย 1) - 2 , -1 3 , 5 , 9 8 8 8 8 ………………, …………, …………,……………………………………………………………………..…………… 2) - 5 , 7 , 3 , -160 9 18 4 ………………, …………,……………,…………………………………………………………………..…………… 3) 2 1 , -3 2 , -1 1 , 2 5 4 7 8 6 ………………,………………, ……………,……………………………………………………………..……………

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 รายวิชาคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน รหัสวิชา ค21101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ชือ่ หน่วย จานวนตรรกยะ เวลารวม 20 ชว่ั โมง เรอื่ ง การบวกและการลบเศษส่วน เวลา 2 ช่ัวโมง ครผู สู้ อน นางสาวกรรณกิ า ลิกลั ตา 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจานวนตรรกยะและความสัมพันธ์ของจานวนตรรกยะ และใช้สมบัติของจานวนตรรกยะใน การแก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวิตจริง 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การบวกและการลบเศษส่วนต้องทาตัวส่วนให้เท่ากันก่อน ซ่ึงโดยทั่วไปนิยมทาตัวส่วนให้เท่ากับ ค.ร.น. ของ ตวั ส่วน จากนัน้ จึงนาตวั เศษมาบวกหรือลบกนั โดยท่ีตัวส่วนยงั คงเทา่ เดิม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 หาผลบวกของเศษสว่ นได้ (K) 3.2 หาผลลบของเศษสว่ นได้ (K) 3.3 เขยี นอธิบายขน้ั ตอนวธิ กี ารหาผลบวกและผลลบของเศษสว่ นได้ (P) 3.4 รับผิดชอบตอ่ หน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. สาระการเรียนรู้ ทศนยิ มและเศษสว่ น 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1. ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2. ความสามารถในการคิด - การให้เหตุผล การสรปุ ความรู้ การปฏบิ ัติ 5.3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 5.4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 6.1. มวี นิ ัย 6.2. ใฝเ่ รยี นรู้ 6.3. ม่งุ มั่นในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 7.1 ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครทู บทวนเรอื่ งการหาผลบวกของเศษส่วนท่มี ตี ัวสว่ นเท่ากัน โดยยกตัวอยา่ งโจทย์บนกระดาน เช่น 1 4 1+4 5 6 + 6 = = 6 6 ให้นกั เรียนสงั เกตวิธกี ารหาผลบวกของเศษส่วนทมี่ ีตัวส่วนเท่ากนั จากน้นั ครูถามคาถาม ดังนี้

 การหาผลลบของเศษส่วนทม่ี ีตวั ส่วนเทา่ กัน นกั เรยี นจะหาคาตอบไดเ้ ช่นเดยี วกบั การหาผลบวกของ เศษส่วนทมี่ ีตัวส่วนเทา่ กนั หรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ หาคาตอบได้เหมือนกนั โดยนาตวั เศษมาลบกันและตัวส่วนยงั คงเทา่ เดิม) จากนน้ั ครูยกตวั อย่างโจทย์การหาผลลบของเศษส่วนท่ีมีตวั สว่ นเท่ากนั เพื่อแสดงใหน้ ักเรียนเห็น ดงั นี้ 3 2 3-2 1 6 - 6 = = 6 6 2. ครูเขยี นโจทย์การหาผลบวกและการหาผลลบของเศษสว่ นบนกระดาน ให้นักเรยี นจับคู่แลว้ ช่วยกันหา คาตอบ เพอื่ เปน็ การทบทวนการทาเศษสว่ นใหเ้ ป็นเศษสว่ นอย่างตา่ และการหาผลบวกและการหาผลลบ ของเศษสว่ นที่มตี วั สว่ นเทา่ กัน ตวั อย่างโจทย์การบวกและการลบเศษส่วนที่มีตวั ส่วนเท่ากนั 1) 3 + 1 2) 2 + 1 3) 7 + 2 8 8 4 4 10 10 3 1 2 1 7 2 4) 8 - 8 5) 4 - 4 6) 10 - 10 คาตอบโจทย์การบวกและการลบเศษส่วนท่ีมตี วั ส่วนเทา่ กนั 1) 1 2) 3 3) 9 2 4 10 1 1 1 4) 4 5) 4 6) 2 3. ครูทบทวนเรื่องการหาเศษสว่ นทีเ่ ทา่ กับเศษส่วนท่ีกาหนดให้ โดยการคูณและการหารด้วยจานวนเต็ม ท่ไี มใ่ ช่ศูนย์ ดงั นี้ a a ac b ac b = bc เม่อื b, c 0 และ = bc เมอื่ b, c 0 7.2 ข้ันสอน 1. ครอู ธบิ ายขน้ั ตอนการบวกเศษส่วนทเี่ ปน็ ลบและมตี ัวสว่ นไม่เท่ากนั ดงั นี้ - เขยี นตวั สว่ นของเศษสว่ นทีเ่ ป็นลบให้เปน็ จานวนเตม็ บวกก่อน - ทาตัวสว่ นของทุกเศษส่วนให้เท่ากนั โดยนยิ มทาตัวสว่ นใหเ้ ท่ากับ ค.ร.น. ของตวั ส่วนของเศษสว่ นท่ี นามาบวกกัน - นาตัวเศษมาบวกกัน โดยท่ีตัวส่วนยังคงเทา่ เดมิ 2. ครยู กตัวอย่างท่ี 6 ในหนังสอื เรียน หน้า 51 แสดงการหาผลบวกของเศษสว่ นอย่างละเอยี ดบนกระดาน 3. ครยู กตัวอย่างท่ี 7 ในหนังสือเรยี น หนา้ 51-52 แสดงการบวกเศษส่วนทีเ่ ป็นจานวนคละบนกระดาน โดยบอกนกั เรียนว่าเราสามารถหาผลบวกได้ 2 วธิ ี ดงั นี้ วธิ ที ่ี 1 เขียนจานวนคละให้อย่ใู นรูปเศษเกิน แล้วนาจานวนทง้ั สองมาบวกกัน วธิ ที ี่ 2 เขยี นจานวนคละในรูปการบวกของจานวนเตม็ กับเศษสว่ นแท้ แล้วหาผลบวกของจานวนเต็มกับ จานวนเต็ม และเศษสว่ นบวกกับเศษส่วน จากนั้นใหน้ กั เรียนทา “ลองทาด”ู ในหนงั สือเรยี น หน้า 51

4. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ “ลองทาดู” จากนนั้ ถามคาถาม ดังน้ี  นกั เรียนคดิ ว่า การหาผลบวกของเศษส่วนท่ีเปน็ จานวนคละ โดยวธิ ีท่ี 1 และวธิ ีท่ี 2 มคี วามสะดวก กว่ากันอย่างไร (แนวตอบ นกั เรยี นอาจตอบได้หลากหลาย เช่น วิธที ่ี 1 มคี วามสะดวกกวา่ วธิ ที ่ี 2 เม่อื โจทยท์ ่ี กาหนดให้มตี ัวสว่ นเป็นจานวนทม่ี ีคา่ น้อย ๆ ทาให้คดิ คานวณได้รวดเร็ว หรือวธิ ีท่ี 2 มีความสะดวก กวา่ วธิ ที ี่ 1 เมื่อโจทยท์ ี่กาหนดให้มีตัวส่วนเปน็ จานวนทมี่ คี ่ามาก ๆ เพราะทาให้คดิ คานวณไดร้ วดเรว็ และคูณจานวนไมม่ าก เปน็ ต้น) 5. ครกู ลา่ วทบทวนว่า “เศษส่วนมีสมบัติการบวกด้วยศูนย์ สมบตั ิการสลับท่ีสาหรบั การบวก และสมบตั กิ าร เปลีย่ นหมู่สาหรบั การบวกเหมอื นกบั จานวนเต็ม ดงั นนั้ เพ่ือความรวดเรว็ ในการหาผลลัพธ์ เราสามารถ ใช้สมบตั ิดงั กล่าวน้ีมาช่วยในการคานวณได้” จากนัน้ ครูยกตัวอยา่ งที่ 8 ในหนังสือเรียน หนา้ 52 แสดง การหาผลบวกของเศษสว่ นสามจานวนท่มี ตี ัวส่วนไม่เท่ากนั บนกระดาน 6. ครใู หน้ กั เรียนทา “ลองทาดู” ในหนงั สือเรียน หนา้ 53 จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 7. ครใู หน้ ักเรียนทา Exercise 2.1B ข้อ 1 ในแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ เปน็ การบ้าน ช่วั โมงที่ 2 8. ครูและนกั เรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบ Exercise 2.1B ข้อ 1 9. ครูทบทวนหลกั การลบจานวนเต็มวา่ ใชก้ ารบวกดว้ ยจานวนตรงขา้ ม และการลบเศษส่วนกใ็ ช้หลักการ เดยี วกนั กับการลบจานวนเต็ม คือ ตัวตง้ั - ตวั ลบ = ตวั ตัง้ + จานวนตรงข้ามของตัวลบ 10. ครอู ธบิ ายขนั้ ตอนการลบเศษส่วนที่เปน็ ลบและมีตัวส่วนไมเ่ ท่ากนั ดังน้ี - เขียนการลบในรปู การบวกดว้ ยจานวนตรงขา้ มก่อน - ทาตวั ส่วนของทุกเศษสว่ นให้เทา่ กนั โดยนิยมทาตวั สว่ นใหเ้ ท่ากับ ค.ร.น. ของตวั ส่วนของเศษสว่ นที่ นามาลบกัน - นาตวั เศษมาบวกหรือลบกนั ตามเครื่องหมายท่ีปรากฏสุดท้าย โดยทตี่ วั สว่ นยังคงเทา่ เดิม 11. ครยู กตวั อยา่ งที่ 9 ในหนังสือเรยี น หน้า 53 บนกระดาน แลว้ ถามคาถาม ดงั น้ี  ตวั ลบ คอื จานวนใด (แนวตอบ -172 ) 7  จานวนตรงข้ามของตัวลบ คือจานวนใด (แนวตอบ 12 )  เขียนการลบในรปู การบวกดว้ ยจานวนตรงขา้ มไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ 5 + 7 ) 6 12 จากนั้นครแู สดงวธิ ีการลบเศษสว่ นของตัวอย่างท่ี 9 ให้นกั เรียนศึกษาและสังเกต 12. ครูยกตัวอยา่ งท่ี 10 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 53 บนกระดาน แลว้ ถามคาถาม ดงั นี้ 5  ตัวลบ คอื จานวนใด (แนวตอบ 2 9 )  จานวนตรงขา้ มของตัวลบ คือจานวนใด (แนวตอบ -2 5 ) 9 -41 5  เขยี นการลบในรปู การบวกดว้ ยจานวนตรงข้ามไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ  + 2 9 )  จากน้นั ครูแสดงวธิ กี ารลบเศษสว่ นของตวั อย่างที่ 10 ให้นักเรียนศกึ ษาและสังเกต

13. ครใู ห้นกั เรยี นจับคู่ศึกษาตัวอยา่ งท่ี 11 ในหนังสือเรยี น หนา้ 54 แลว้ แลกเปลีย่ นความรู้กับคขู่ องตนเอง จากน้นั ใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนทา “ลองทาดู” 14. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 15. ครแู จกใบงานท่ี 2.4 เร่อื ง การบวกและการลบเศษสว่ นที่มีตัวสว่ นไม่เท่ากัน ใหน้ ักเรยี นทา จากน้นั ครู และนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบใบงานท่ี 2.4 16. ครูอธบิ ายการลบเศษสว่ น 2 ขน้ั ตอน ที่มตี วั ส่วนไม่เท่ากัน โดยแสดงวธิ ีหาผลลบของเศษส่วนสาม จานวนจากตวั อย่างที่ 12 ในหนังสือเรยี น หน้า 54 อยา่ งละเอียดบนกระดาน และในระหว่างแสดงวิธีทา ครคู วรเนน้ ยา้ ว่าจานวนตรงข้ามของตวั ลบคือจานวนใด จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นทา “ลองทาดู” 17. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 18. ครแู จกใบงานท่ี 2.5 เรื่อง การบวก ลบระคนของเศษสว่ น ให้นักเรียนทา จากนัน้ ครูและนักเรยี นร่วมกัน เฉลยคาตอบใบงานท่ี 2.5 19 . ครูให้นักเรียนจัดกลุม่ กลุ่มละ 4 คน คละความสามารถทางคณติ ศาสตร์ แล้วทากิจกรรม ดังนี้ - ให้แตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนมาตกลงกันวา่ จะเลอื กแกป้ ัญหาแบบฝกึ ทักษะ 2.1 ข ข้อ 5 หรอื ขอ้ 6 - นกั เรยี นแต่ละคนวเิ คราะห์วา่ ปญั หาทีก่ ลุ่มของตนเองเลอื กมวี ิธีการแก้อยา่ งไร จากน้ันแลกเปลยี่ น คาตอบกันภายในกลุ่ม สนทนาซกั ถามจนเป็นทเ่ี ข้าใจร่วมกัน - นกั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นขัน้ ตอนแสดงวธิ คี ดิ ของกลุม่ ตนเองอยา่ งละเอยี ดลงในสมดุ - ให้ตวั แทนกลมุ่ มานาเสนอคาตอบหน้าชน้ั เรียน โดยเพอ่ื นกลมุ่ ที่เหลือคอยตรวจสอบความถูกต้อง 20.ครูให้นกั เรียนทาแบบฝึกทักษะ 2.1 ข ข้อ 1-4 และ Exercise 2.1B ขอ้ 2 ในแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ เป็นการบ้าน 7.3 ขั้นสรปุ ครถู ามคาถามเพ่ือสรุปความรู้รวบยอดของนักเรียน ดังนี้  การบวกเศษส่วนทเี่ ปน็ บวกและมตี วั สว่ นไม่เทา่ กนั ทาอย่างไร (แนวตอบ ทาตัวส่วนของทุกเศษสว่ นให้เทา่ กัน โดยนยิ มทาตวั ส่วนให้เทา่ กบั ค.ร.น. ของตัวสว่ นของ เศษส่วนทนี่ ามาบวกกนั แลว้ นาตัวเศษมาบวกกนั โดยทีต่ ัวสว่ นยังคงเท่าเดิม)  การบวกเศษสว่ นทเ่ี ป็นลบและมีตัวสว่ นไม่เท่ากนั ทาอยา่ งไร (แนวตอบ เขียนตวั สว่ นของเศษส่วนท่ีเปน็ ลบให้เปน็ จานวนเต็มบวกก่อน จากน้นั ทาตวั ส่วนของทกุ เศษส่วนใหเ้ ทา่ กัน โดยนิยมทาตวั ส่วนให้เท่ากบั ค.ร.น. ของตวั สว่ นของเศษส่วนที่นามาบวกกัน แลว้ นา ตวั เศษมาบวกกนั โดยทต่ี ัวสว่ นยังคงเท่าเดิม)  การบวกเศษส่วนท่ีเป็นลบดว้ ยเศษสว่ นท่เี ป็นลบ จะได้ผลบวกเปน็ จานวนบวกหรอื ลบ (แนวตอบ ได้ผลบวกเปน็ จานวนลบ)  ข้อตกลงของการลบเศษส่วนโดยอาศัยการบวก เปน็ อย่างไร (แนวตอบ ตวั ตง้ั - ตวั ลบ = ตวั ต้งั + จานวนตรงข้ามของตัวลบ)  การลบเศษสว่ นทเ่ี ป็นบวกด้วยเศษสว่ นทีเ่ ปน็ ลบ จะได้ผลลบเปน็ จานวนอะไร (แนวตอบ ได้ผลลบเป็นจานวนบวก)

8. ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้ 8.1 ส่อื การเรียนรู้ 8.1.1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 จานวนตรรกยะ 8.1.2 แบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 จานวนตรรกยะ 8.1.3. ใบงานท่ี 2.4 เรอื่ ง การบวกและการลบเศษส่วนที่มีตวั ส่วนไมเ่ ทา่ กนั 8.1.4. ใบงานท่ี 2.5 เรอ่ื ง การบวก ลบระคนของเศษส่วน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 8.2.1. หอ้ งเรียน 8.2.2. ห้องสมุด 8.2.3. อินเทอร์เนต็ 9. การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวัด เคร่อื งมือที่ใช้วัด เกณฑก์ ารวัด สง่ิ ท่ตี ้องการวัด ตรวจใบงาน/แบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 แบบประเมนิ ผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 1.หาผลบวกของเศษส่วนได้ (K) ตรวจใบงาน/แบบฝกึ หัด ใบงาน/แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ผลงานกลมุ่ /รายบุคคล แบบประเมนิ ผลงาน 2.หาผลลบของเศษส่วนได้ (K) ใบงาน/แบบฝกึ หดั อยูใ่ นระดบั ดีขึ้นไป แบบประเมินผลงาน 3.เขียนอธบิ ายขั้นตอนวธิ กี ารหา กลุ่ม/รายบคุ คล ผลบวกและผลลบของเศษสว่ นได้ (P) สงั เกตพฤติกรรมกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรม 4. รับผดิ ชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับ การทางานกลุ่ม มอบหมาย (A)

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 เนื้อหาละเอยี ดชดั เจน   2 ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา   3 ภาษาทีใ่ ช้เขา้ ใจง่าย   4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ   5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน   รวม ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เห็น   2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่   3 การทางานตามหน้าที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย   4 ความมีนา้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ ้าน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ กษัตริย์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อ โรงเรยี น 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทเี่ กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทถ่ี ูกต้อง 3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว มี ความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 ร้จู กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอ่ื ฟงั คาสง่ั สอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ 6. ม่งุ ม่นั ในการ 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ทางาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสานึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 รจู้ ักการดูแลรักษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรยี น ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวกรรณิกา ลิกัลตา) ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

10. บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………………………. (นางสาวกรรณิกา ลกิ ัลตา) ตาแหน่ง ครู ความคิดเหน็ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นายคมสนั มณศี รี) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอื่ ……………………………………………. (นายไพฑูรย์ มณีจนั ทร์) รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ ความคดิ เหน็ ผู้อานวยการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นางสาวพรณภทั ร์ พงษ์วรชั ญพ์ ร) ผู้อานวยการโรงเรียนเทพสถติ วทิ ยา วนั ท.ี่ ...........เดอื น........................พ.ศ................

ใบงานท่ี 2.4 เร่อื ง การบวกและการลบเศษส่วนท่มี ีตวั ส่วนไม่เทา่ กัน คาชี้แจง : จงหาผลลัพธ์ในแตล่ ะข้อต่อไปน้ี (ตอบในรปู เศษส่วนอย่างต่า) 1) 4  -21  = ............................................... 3  2) -41  - -18  = ...............................................   3) 6 - -23  = ............................................... 9  4) -130  - - 4  = ...............................................  5  5) 2 1  6 1 = ............................................... 3 2 6) - 1  - 1 1 = ............................................... 8  6 7) 3190 - -81  = ...............................................  8) -1 4   2 5 = ............................................... 7  6

เฉลยใบงานที่ 2.4 เรอ่ื ง การบวกและการลบเศษสว่ นทมี่ ตี วั ส่วนไม่เท่ากัน คาชี้แจง : จงหาผลลัพธ์ในแต่ละข้อต่อไปนี้ (ตอบในรูปเศษส่วนอย่างตา่ หรอื จานวนคละ) 1) 4  -21  = .................56.............................. 3  2) -41  - -18  = ................-...81............................   3) 6 - -23  = ................1...13............................ 9  4) -130  - - 4  = .................12..............................  5  5) 2 1  6 1 = ................8...56............................ 3 2 6) - 1  - 1 1 = ................-...1..2..7.4....................... 8  6 7) 3190 - -81  = ................4...4..1.0.........................  8) -1 4   2 5 = ................1...14..21.......................... 7  6

ใบงานท่ี 2.5 เร่ือง การบวก ลบระคนของเศษส่วน คาชี้แจง : จงแสดงวธิ ที า (ตอบในรูปเศษสว่ นอย่างตา่ หรอื จานวนคละ) 1) 3 - 1  -140  = ....................................................................................................... 4 2  = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... 2) 4 - 5  -1 1  = ....................................................................................................... 7 14 2  = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... = ....................................................................................................... เฉลยใบงานที่ 2.5 เร่อื ง การบวก ลบระคนของเศษส่วน

คาช้แี จง : จงแสดงวิธีทา (ตอบในรูปเศษส่วนอยา่ งต่าหรือจานวนคละ) 1) 3 - 1  -140  = ............43...-.......12......2.2......-...14.0................................................................ 4 2  = ..............43....-....42......-...1..4.0..................................................................... = ............41...-....1.4.0.................................................................................. = ..............14......5.5.....-......1..4.0......2.2............................................................. = ............2.5.0....-....2.8.0............................................................................... = ............-...2.3.0...................................................................................... 2) 4 - 5  -1 1  = ..............47.......22......-.....1.5.4........1...12.......................................................... 7 14 2  = ..............1.8.4....-....1.5.4...........23.................................................................. = ............1.3.4...........23.......77....................................................................... ........................1..23..4..4..............1..2....41............................................................................................................................................................ = = = ............1.1..24........................................................................................ ......................1......775.................................................................................................................................................................................. = =

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 9 รายวิชาคณติ ศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค21101 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ชอื่ หน่วย จานวนตรรกยะ เวลารวม 20 ช่วั โมง เรื่อง การคณู และการหารเศษสว่ น เวลา 3 ชว่ั โมง ครผู ู้สอน นางสาวกรรณกิ า ลกิ ัลตา 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจานวนตรรกยะและความสัมพันธ์ของจานวนตรรกยะ และใช้สมบัติของจานวนตรรกยะใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปญั หาในชวี ิตจรงิ 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การหาผลคูณของเศษส่วนสองจานวนทาได้โดยนาตัวเศษคูณกับตัวเศษและนาตัวส่วนคูณกับตัวส่วน การหา ผลหารของเศษส่วนสองจานวนทาได้โดยนาเศษส่วนท่เี ป็นตวั ตงั้ คูณดว้ ยสว่ นกลับของเศษส่วนท่เี ป็นตัวหาร 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 หาผลคณู ของเศษส่วนได้ (K) 3.2 หาผลหารของเศษส่วนได้ (K) 3.3 เขยี นอธิบายขนั้ ตอนวิธีการหาผลคณู และผลหารของเศษสว่ นได้ (P) 3.4 รับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย (A) 4. สาระการเรียนรู้ ทศนยิ มและเศษสว่ น 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5.1. ความสามารถในการส่อื สาร 5.2. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล การสรปุ ความรู้ การปฏบิ ตั ิ 5.3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1. มวี ินยั 6.2. ใฝเ่ รยี นรู้ 6.3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 1 7.1 ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น ครทู บทวนการคูณเศษส่วน โดยใชภ้ าพจากหนังสือเรยี น หนา้ 56 ดงั น้ี 1 5 1 5 2 ของ 6 หรอื 2  6 ของ

พรอ้ มกบั อธบิ ายประกอบ ดังนี้ เมื่อพจิ ารณาจากภาพจะได้ว่า 5 6 - แบง่ รปู สี่เหล่ียมออกเป็น 6 สว่ นเท่า ๆ กนั แล้วระบายสี 5 ส่วน ใน 6 ส่วน จะได้เศษสว่ น - แบ่งคร่ึงรูปสีเ่ หลย่ี มทั้ง 6 รูป จะได้รูปส่ีเหลยี่ มท้ังหมด 12 รูปเทา่ ๆ กนั - ส่วนที่ระบายสีมี 10 สว่ น จากท้ังหมด 12 ส่วน 1 5 - 2 ของ 6 คือ ครึง่ หนงึ่ ของส่วนที่ระบายสีทงั้ หมด - จะได้ 5 หรอื กล่าวไดว้ า่ 1 ของ 5 หรอื 15 = 5 12 2 6 26 12 7.2 ขั้นสอน 1. ครูและนักเรียนช่วยกนั สรปุ วา่ “ผลคณู ของเศษสว่ น คอื เศษส่วนซ่งึ มตี ัวเศษเท่ากับผลคูณของตวั เศษ และตวั ส่วนเทา่ กบั ผลคูณของตัวสว่ น” 2. ครูทบทวนการเขียนจานวนคละในรปู เศษเกิน จากน้ันยกตัวอย่างท่ี 13 ในหนงั สอื เรียน หน้า 56-57 แสดงวธิ ีทาอย่างละเอียดบนกระดาน แลว้ ถามนักเรยี นเร่ืองเคร่อื งหมายของผลคณู ดังนี้  จากโจทย์ข้อ 1) ผลคณู ทไ่ี ดม้ ีเคร่ืองหมายเป็นบวกหรือลบ เพราะเหตุใด (แนวตอบ ผลคณู ที่ได้มีเคร่ืองหมายเป็นลบ เพราะจานวนที่มเี ครื่องหมายตา่ งกันเม่ือนามาคณู กัน ผลคูณทไี่ ดจ้ ะมเี คร่ืองหมายเป็นลบ)  จากโจทยข์ ้อ 2) ผลคูณที่ได้มเี คร่ืองหมายเป็นบวกหรอื ลบ เพราะเหตุใด (แนวตอบ ผลคูณท่ีได้มีเคร่ืองหมายเปน็ บวก เพราะจานวนที่มเี คร่ืองหมายเหมือนกันเม่ือนามาคณู กนั ผลคณู ทไี่ ดจ้ ะมเี ครื่องหมายเป็นบวก) 3. ครกู ล่าวเพ่ิมเตมิ วา่ “ถา้ ผลลพั ธท์ ไี่ ดเ้ ปน็ เศษเกินควรเขียนใหอ้ ยใู่ นรูปจานวนคละ และตอบในรูปเศษส่วน อยา่ งต่า” จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นทา “ลองทาดู” ในหนงั สอื เรยี น หน้า 57 4. ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 5. ครใู ห้นกั เรียนทาแบบฝกึ ทกั ษะ 2.1 ค ข้อ 1 (ขอ้ ย่อย 1)-3)) จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ แบบฝึกทักษะ 2.1 ค ขอ้ 1 (ข้อย่อย 1)-3)) 6. ครกู ล่าวทบทวนว่า “เศษส่วนมีสมบัติการคูณด้วยศนู ย์ สมบัตกิ ารคูณดว้ ยหนึ่ง สมบตั กิ ารสลับทีส่ าหรับ การคณู สมบัติการเปล่ียนหมู่สาหรับการคูณ และสมบตั ิการแจกแจงเหมือนกับจานวนเต็ม ดังนนั้ เพื่อ ความรวดเรว็ ในการหาผลลพั ธ์ เราสามารถใช้สมบัตดิ ังกลา่ วนมี้ าชว่ ยในการคานวณได้” จากน้ันครู ยกตวั อยา่ งที่ 14 ในหนังสอื เรียน หนา้ 57 แสดงการหาผลคูณของเศษส่วนสามจานวนที่มตี วั สว่ นไม่ เทา่ กันบนกระดาน 7. ใหน้ กั เรียนทา “ลองทาดู” จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 8. ครแู จกใบงานท่ี 2.6 เรื่อง การคณู เศษสว่ น ใหน้ ักเรยี นทา จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ ใบงานท่ี 2.6 9. ครูยกตัวอย่างท่ี 15 ในหนังสอื เรียน หนา้ 58 แสดงวธิ ีทาอยา่ งละเอียดบนกระดาน จากนน้ั ให้นักเรยี นทา “ลองทาดู” 10. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 11. ครูให้นกั เรยี นทาแบบฝึกทักษะ 2.1 ค ขอ้ 1 (ข้อย่อย 7)) และ Exercise 2.1C ข้อ 1 ในแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ เป็นการบา้ น

ช่วั โมงท่ี 2 12.ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบแบบฝึกทกั ษะ 2.1 ค ข้อ 1 (ข้อยอ่ ย 7)) และ Exercise 2.1C ขอ้ 1 2 3 3 2 13.ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาการหาผลหารของ 4  4 และ 4  4 ในหนงั สือเรยี น หน้า 58-59 จากนั้น อธิบาย ดงั น้ี 2 3 4 4 4 3 - จากการหาผลหารของ  เราจะคณู ตวั เศษและตวั ส่วนดว้ ย เพอื่ ทาใหต้ ัวส่วนเปน็ 1 นกั เรียนจะสงั เกตเห็นว่า จานวนที่นามาคูณเป็นสว่ นกลับของเศษสว่ นท่ีเปน็ ตัวหาร 3 2 4 - และจากการหาผลหารของ 4  4 เราจะคูณตัวเศษและตัวสว่ นด้วย 2 เพื่อทาให้ตวั สว่ นเป็น 1 นกั เรียนจะสังเกตเห็นว่า จานวนทน่ี ามาคณู เปน็ สว่ นกลบั ของเศษส่วนทเี่ ปน็ ตวั หารเช่นกัน 14.ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปวา่ “การหาผลหารของเศษสว่ น คือ ผลคณู ของเศษสว่ น โดยเศษสว่ นที่เป็น ตัวคณู ตอ้ งเป็นส่วนกลบั ของตัวหาร” 3 2 2 3 4 4 15.ครูให้นักเรยี นพิจารณาผลหารของ 4  4 และ  พร้อมท้งั อธบิ ายวา่ “นกั เรยี นจะเหน็ วา่ มี ผลหารไมเ่ ท่ากนั ดังนนั้ การหารจานวนท่เี ปน็ เศษสว่ นไม่มสี มบัติการสลับท่ี” 16.ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนยกตวั อยา่ งการหารเศษสว่ น แลว้ สลับทีร่ ะหว่างตัวต้งั และตัวหาร เพ่ือตรวจสอบ อกี คร้ังวา่ การหารไม่มสี มบัตกิ ารสลับที่ 17.ให้นักเรยี นจบั คู่ศึกษาตวั อยา่ งท่ี 16 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 60 แล้วแลกเปลีย่ นความรูก้ ับคู่ของตนเอง จากนน้ั ครถู ามคาถาม ดังน้ี  การหารเศษสว่ นทเ่ี ป็นลบดว้ ยเศษส่วนทเี่ ป็นบวก จะไดผ้ ลหารเป็นจานวนบวกหรือลบ (แนวตอบ ได้ผลหารเป็นจานวนลบ) 18. ครใู หน้ กั เรยี นทา “ลองทาดู” จากนั้นครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 19. ใหน้ กั เรยี นคเู่ ดิมศกึ ษาตวั อย่างที่ 17 ในหนังสือเรียน หน้า 60 แล้วแลกเปล่ยี นความร้กู ับคู่ของตนเอง จากนนั้ ครถู ามคาถาม ดงั นี้  การหารเศษส่วนที่เป็นบวกดว้ ยเศษส่วนท่ีเปน็ ลบ จะได้ผลหารเป็นจานวนบวกหรอื ลบ (แนวตอบ ไดผ้ ลหารเปน็ จานวนลบ) 20. ครใู หน้ กั เรียนทา “ลองทาดู” จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 21. ใหน้ กั เรียนคเู่ ดิมศึกษาตวั อยา่ งท่ี 18 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 61 แลว้ แลกเปลีย่ นความรกู้ บั คูข่ องตนเอง จากนั้นครถู ามคาถาม ดงั นี้  การหารเศษส่วนท่ีเปน็ ลบดว้ ยเศษสว่ นที่เปน็ ลบ จะไดผ้ ลหารเปน็ จานวนบวกหรือลบ (แนวตอบ ได้ผลหารเปน็ จานวนบวก) 22. ครใู ห้นักเรยี นทา “ลองทาดู” จากน้ันครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 23. ครูให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทักษะ 2.1 ค ขอ้ 1 (ข้อย่อย 4)-6)) และ Exercise 2.1C ข้อ 2 (ขอ้ ย่อย 1)-5)) ในแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ เป็นการบ้าน

ชวั่ โมงท่ี 3 24.ครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบแบบฝึกทกั ษะ 2.1 ค ข้อ 1 (ข้อยอ่ ย 4)-6)) และ Exercise 2.1C ข้อ 2 (ข้อย่อย 1)-5)) 25.ครกู ล่าวทบทวนหลกั การหาผลหาร ดังนี้ “ผลหารของเศษส่วน คอื ผลคณู ของเศษส่วน โดยเศษส่วนท่ี เปน็ ตัวคูณตอ้ งเป็นส่วนกลับของเศษส่วนทเ่ี ป็นตัวหาร” 26. ครูกล่าวถึงการหารที่มี 2 ขนั้ ตอนว่า “ถ้าโจทย์การหารมีเคร่อื งหมายวงเลบ็ ใหห้ าผลหารในวงเล็บกอ่ น แลว้ จงึ นาผลหารที่ไดไ้ ปหาผลหารกับเศษสว่ นท่เี หลือ” แล้วยกตวั อย่างที่ 19 ในหนังสือเรียน หนา้ 61 แสดงวิธที าอย่างละเอยี ดบนกระดาน 27. ให้นกั เรยี นทา “ลองทาดู” จากนัน้ ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 28. ให้นักเรยี นทาแบบฝกึ ทักษะ 2.1 ค ข้อ 1 (ขอ้ ย่อย 8)) และ Exercise 2.1C ขอ้ 2 (ขอ้ ยอ่ ย 6)-10)) จากนัน้ ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบแบบฝึกทักษะ 2.1 ค ขอ้ 1 (ขอ้ ย่อย 8)) และ Exercise 2.1C ข้อ 2 (ขอ้ ย่อย 6)-10)) 29. ครูให้นกั เรียนทา “Thinking Time” ในหนังสอื เรียน หน้า 61 โดยเขียนแสดงวธิ ที าอย่างละเอียดลงใน สมดุ จากนน้ั ครถู ามคาถาม ดังน้ี  จากการหารเศษสว่ นทเี่ ป็นลบทัง้ สามจานวน จะไดผ้ ลหารเปน็ จานวนบวกหรือลบ เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ ไดผ้ ลหารเปน็ จานวนลบ เพราะ เศษสว่ นท่ีเปน็ ลบหารด้วยเศษส่วนทเ่ี ปน็ ลบจะไดผ้ ลหาร เป็นจานวนบวก แล้วนาเศษส่วนทเี่ ป็นบวกมาหารด้วยเศษส่วนทเ่ี ป็นลบอกี คร้ัง จึงได้ผลหารเป็น จานวนลบ) 30. ครูแจกใบงานที่ 2.7 เรอื่ ง การหารเศษส่วน ใหน้ ักเรยี นทา จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบ ใบงานที่ 2.7 31.ครูใหน้ กั เรยี นจัดกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละความสามารถทางคณติ ศาสตร์ แล้วทากิจกรรม ดงั น้ี - ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนมาตกลงกันวา่ จะเลือกแก้ปัญหาแบบฝกึ ทักษะ 2.1 ค ขอ้ 4 หรอื ข้อ 5 - นกั เรียนแต่ละคนวเิ คราะห์วา่ ปญั หาที่กลุ่มของตนเองเลือกมีวิธกี ารแก้อยา่ งไร จากน้นั แลกเปลยี่ น คาตอบกนั ภายในกลุ่ม สนทนาซกั ถามจนเปน็ ทีเ่ ขา้ ใจร่วมกัน - นกั เรยี นแตล่ ะคนเขียนขนั้ ตอนแสดงวิธีคิดของกล่มุ ตนเองอยา่ งละเอยี ดลงในสมุด - ใหต้ วั แทนกล่มุ มานาเสนอคาตอบหน้าชน้ั เรียน โดยเพอ่ื นกลุ่มทเ่ี หลอื คอยตรวจสอบความถูกต้อง 32.ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกทกั ษะ 2.1 ค ข้อ 2-3 และ Exercise 2.1C ข้อ 3 ในแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ เป็นการบ้าน 7.3 ขั้นสรุป ครถู ามคาถามเพ่ือสรปุ ความรู้รวบยอดของนกั เรยี น ดังนี้  การคณู เศษสว่ นท่เี ป็นบวกดว้ ยเศษสว่ นทเี่ ปน็ ลบ หรือการคูณเศษสว่ นท่ีเป็นลบดว้ ยเศษส่วนทเ่ี ปน็ บวก จะไดผ้ ลคูณเปน็ จานวนบวกหรอื ลบ (แนวตอบ ได้ผลคูณเปน็ จานวนลบ)  การคณู เศษสว่ นท่เี ป็นลบด้วยเศษสว่ นทเี่ ป็นลบ จะไดผ้ ลคูณเปน็ จานวนบวกหรอื ลบ (แนวตอบ ไดผ้ ลคูณเปน็ จานวนบวก)  หลักการหาผลหาร คอื อะไร (แนวตอบ ผลหารของเศษสว่ น คอื ผลคูณของเศษส่วน โดยเศษส่วนที่เปน็ ตวั คูณต้องเป็นส่วนกลับของ เศษสว่ นทเ่ี ปน็ ตวั หาร)

 การหารเศษสว่ นที่เปน็ บวกด้วยเศษสว่ นทเี่ ป็นลบ หรือการหารเศษส่วนท่ีเปน็ ลบดว้ ยเศษส่วนทเ่ี ปน็ บวก จะได้ผลหารเป็นจานวนบวกหรอื ลบ (แนวตอบ ได้ผลหารเป็นจานวนลบ)  การหารเศษสว่ นทเี่ ปน็ ลบดว้ ยเศษส่วนทีเ่ ป็นลบ จะไดผ้ ลหารเป็นจานวนบวกหรือลบ (แนวตอบ ไดผ้ ลหารเปน็ จานวนบวก) 8. สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรียนรู้ 8.1.1. หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 จานวนตรรกยะ 8.1.2 แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 จานวนตรรกยะ 8.1.3. ใบงานท่ี 2.6 เร่ือง การคณู เศษสว่ น 8.1.4. ใบงานที่ 2.7 เร่อื ง การหารเศษส่วน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 8.2.1. ห้องเรียน 8.2.2. หอ้ งสมุด 8.2.3. อินเทอรเ์ น็ต 9. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้วัด เกณฑ์การวดั ส่ิงทต่ี ้องการวัด ตรวจใบงาน/แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ตรวจใบงาน/แบบฝึกหดั แบบประเมนิ ผลงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 1.หาผลคณู ของเศษส่วนได้ (K) ผลงานกลมุ่ /รายบุคคล ใบงาน/แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 แบบประเมินผลงาน 2.หาผลหารของเศษสว่ นได้ (K) สงั เกตพฤติกรรมกลมุ่ ใบงาน/แบบฝกึ หัด อย่ใู นระดบั ดขี ้นึ ไป แบบประเมนิ ผลงาน 3.เขยี นอธบิ ายขั้นตอนวธิ ีการหาผล กลุ่ม/รายบุคคล คูณและผลหารของเศษส่วนได้ (P) 4. รบั ผิดชอบตอ่ หน้าทีท่ ่ีไดร้ บั แบบสงั เกตพฤติกรรม มอบหมาย (A) การทางานกลุ่ม

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 เนื้อหาละเอยี ดชดั เจน   2 ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา   3 ภาษาทีใ่ ช้เขา้ ใจง่าย   4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ   5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน   รวม ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เห็น   2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่   3 การทางานตามหน้าที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย   4 ความมีนา้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ ้าน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ กษัตริย์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อ โรงเรยี น 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทเี่ กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทถ่ี ูกต้อง 3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว มี ความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 ร้จู กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอ่ื ฟงั คาสง่ั สอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ 6. ม่งุ ม่นั ในการ 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ทางาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสานึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 รจู้ ักการดูแลรักษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรยี น ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวกรรณิกา ลิกัลตา) ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

10. บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………………………. (นางสาวกรรณิกา ลกิ ัลตา) ตาแหน่ง ครู ความคิดเหน็ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นายคมสนั มณศี รี) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอื่ ……………………………………………. (นายไพฑูรย์ มณีจนั ทร์) รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ ความคดิ เหน็ ผู้อานวยการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นางสาวพรณภทั ร์ พงษ์วรชั ญพ์ ร) ผู้อานวยการโรงเรียนเทพสถติ วทิ ยา วนั ท.ี่ ...........เดอื น........................พ.ศ................

ใบงานท่ี 2.6 เรือ่ ง การคูณเศษสว่ น คาชี้แจง : จงหาผลคูณในแต่ละขอ้ ตอ่ ไปนี้ (ตอบในรปู เศษสว่ นอย่างต่า) 1) 1  3 = ............................................... 2 4 2) -75   4 = ...............................................  5 3) 1  - 2  = ............................................... 6 9  4) -130   1 2 = ...............................................  5 5) -1 4   2 5 = ............................................... 5  7 6) -83   -1 2  = ...............................................  3  7) 3  -72   1 3 = ............................................... 5  4 8) -3190   1  -45  = ...............................................  8 

เฉลยใบงานที่ 2.6 เร่อื ง การคณู เศษส่วน คาชี้แจง : จงหาผลคูณในแต่ละข้อตอ่ ไปนี้ (ตอบในรปู เศษส่วนอย่างตา่ หรอื จานวนคละ) 1) 1  3 = ...........3.................................... 2 4 8 2) -75   4 = ..........-....47.................................  5 3) 1  - 2  = ...........-...2.1.7............................... 6 9  4) -130   1 2 = ..........-....52..01...............................  5 5) -1 4   2 5 = ..........-...4...33...51............................ 5  7 6) -83   -1 2  = ...........85....................................  3  7) 3  -72   1 3 = ..........-...1..30................................ 5  4 8) -3 9   1  -45  = ...........1.3.0..9.0............................... 10  8 

ใบงานท่ี 2.7 เร่ือง การหารเศษส่วน คาชี้แจง : จงหาผลหารในแตล่ ะข้อต่อไปนี้ (ตอบในรปู เศษส่วนอย่างต่า) 1) 27 = ............................................... 5  10 2) -131   6 = ...............................................  9 3) 1  -25  = ............................................... 10  4) - 6   1 2 = ............................................... 9  3 5) 2 6  -18  = ............................................... 7  6) -1 4   -2 1  = ............................................... 5  2  7) 5  -78   2 1 = ............................................... 6  4 8) -2 1   -13   -3 1  = ............................................... 3   10 

เฉลยใบงานท่ี 2.7 เร่ือง การหารเศษส่วน คาชี้แจง : จงหาผลหารในแตล่ ะขอ้ ต่อไปน้ี (ตอบในรูปเศษสว่ นอยา่ งตา่ หรือจานวนคละ) 1) 27 = ..........4..................................... 5  10 7 2) -131   6 = .........-...2.9..2................................  9 3) 1  -25  = .........-...41................................... 10  4) - 6   1 2 = .........-...25................................... 9  3 5) 2 6  -18  = .........-...2..2...76.............................. 7  6) -1 4   -2 1  = ..........12..85................................... 5  2  7) 5  -78   2 1 = .........-...1.8.8.0..9.............................. 6  4 8) -2 1   -13   -3 1  = .........-...2...3.8.1.............................. 3   10 

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 รายวิชาคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวชิ า ค21101 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ชื่อหน่วย จานวนตรรกยะ เวลารวม 20 ช่วั โมง เรือ่ ง การนาความรู้เกีย่ วกับเศษส่วนไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ เวลา 2 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวกรรณิกา ลกิ ัลตา 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจานวนตรรกยะและความสัมพันธ์ของจานวนตรรกยะ และใช้สมบัติของจานวนตรรกยะใน การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปญั หาในชีวติ จรงิ 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ในชวี ติ ประจาวันมสี ถานการณต์ ่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกับจานวนที่ไมเ่ ตม็ หน่วยหรือเศษส่วนอยู่มาก ซ่ึงเกิดจากการ แบ่งสิ่งของท้ังหมดออกเป็นส่วนท่ีเท่า ๆ กัน แล้วสนใจเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น แบ่งขนมเค้กเป็น 4 ชิ้นเท่า ๆ กัน 1 รับประทานไป 1 ช้ิน กล่าวได้ว่า รับประทานเค้กไป 4 ของจานวนขนมเค้กท้ังหมด และเราสามารถใช้ความรู้ของ เศษสว่ นมาช่วยในการดาเนินการทางคณิตศาสตรใ์ หเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์น้ัน ๆ ได้ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 เข้าใจการนาความรู้เกี่ยวกับเศษสว่ นไปใชแ้ กป้ ญั หาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง (K) 3.2 เขียนอธิบายขั้นตอนวิธีการแกป้ ญั หาทางคณิตศาสตรเ์ ก่ยี วกบั เศษสว่ นได้ (P) 3.3 รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมาย (A) 4. สาระการเรยี นรู้ ทศนิยมและเศษสว่ น 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1. ความสามารถในการสื่อสาร 5.2. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตผุ ล การสรปุ ความรู้ การปฏิบตั ิ 5.3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 5.4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1. มวี ินัย 6.2. ใฝ่เรยี นรู้ 6.3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 1 7.1 ข้นั นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครทู บทวนความรู้เร่ืองการบวก การลบ การคูณ และการหารเศษสว่ น ดังน้ี - การบวกและการลบเศษส่วนทีม่ ีตัวสว่ นไม่เท่ากัน ทาไดโ้ ดยการหา ค.ร.น. ของตัวส่วนเพื่อทาตวั สว่ น ให้เทา่ กนั ก่อน แล้วจึงนาตวั เศษมาบวกหรือลบกัน โดยที่ตวั สว่ นยังคงเท่าเดมิ - การหาผลคณู ของเศษส่วน ทาไดโ้ ดยนาตัวเศษคูณกับตวั เศษ และนาตวั ส่วนคณู กบั ตวั ส่วน - การหาผลหารของเศษส่วน ทาได้โดยนาเศษส่วนท่เี ปน็ ตวั ตั้งคณู ด้วยสว่ นกลับของเศษสว่ นท่ีเป็น ตัวหาร 2. ครูกลา่ วนาวา่ “ในชวี ติ ประจาวันมสี ถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกับเศษสว่ น ซ่ึงนกั เรยี นตอ้ งใช้ความรู้ ของเศษสว่ นท่ีได้ทบทวนไปแล้วขา้ งต้นมาดาเนินการทางคณติ ศาสตร์ให้เหมาะสมกบั สถานการณ์” 7.2 ข้นั สอน 1. ครกู ลา่ วทบทวนขัน้ ตอนการวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา ดงั น้ี - อา่ นโจทย์ให้เข้าใจ แลว้ พิจารณาว่าโจทย์ถามอะไร - สิง่ ท่ีโจทย์กาหนดใหม้ ีอะไรบ้าง - เลือกวธิ ีดาเนินการท่จี ะแกโ้ จทย์ปัญหา - หาคาตอบ 2. ครยู กตวั อยา่ งที่ 20 ในหนังสอื เรียน หนา้ 63 บนกระดาน แลว้ ถามคาถามเพ่ือใหน้ กั เรียนวิเคราะหโ์ จทย์ ดงั นี้  โจทย์ถามอะไร (แนวตอบ เหลอื ระยะทางอกี กก่ี ิโลเมตรจงึ จะถงึ เส้นชัย)  สิง่ ที่โจทยก์ าหนดใหม้ ีอะไรบ้าง (แนวตอบ ในการแข่งขนั ว่งิ มาราธอนระยะทาง 42 กโิ ลเมตร ปรากฏว่าชั่วโมงแรกสเุ มธวิ่งได้ระยะทาง 1 6 3 ของระยะทางทง้ั หมด และชั่วโมงที่สองวง่ิ ได้อกี 7 ของระยะทางท่ีวิ่งได้ในชวั่ โมงแรก) จากน้นั ครูแสดงวธิ ที าอย่างละเอียดใหน้ กั เรยี นได้ศึกษาและสงั เกต แล้วถามคาถาม ดังน้ี  ใชก้ ารดาเนนิ การใดในการแก้โจทย์ปญั หา (แนวตอบ วธิ คี ูณ วธิ ีบวก และวธิ ลี บ)  ได้คาตอบเท่าไร (แนวตอบ เหลอื ระยะทางอีก 28 กิโลเมตร สุเมธจึงจะถึงเส้นชัย) จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทา “ลองทาด”ู 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 4. ครูยกตัวอยา่ งที่ 21 ในหนงั สือเรียน หน้า 63-64 บนกระดาน แลว้ ถามคาถามเพอื่ ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์ โจทย์ ดงั นี้  โจทย์ถามอะไร (แนวตอบ วิชาญขบั รถออกจากบ้านถึงจงั หวัดเชยี งรายเป็นระยะทางกี่กิโลเมตร)  สงิ่ ท่โี จทยก์ าหนดใหม้ ีอะไรบ้าง

(แนวตอบ วิชาญขบั รถยนต์ออกจากบา้ นไปจังหวัดเชียงราย วนั แรกขบั รถได้ 3 ของระยะทางทง้ั หมด 5 5 วนั ท่ีสองขบั รถได้อีก 8 ของระยะทางที่เหลอื รวมสองวันขับรถไดร้ ะยะทาง 629 กิโลเมตร) จากน้นั ครูแสดงวธิ ที าอย่างละเอยี ดใหน้ กั เรียนได้ศึกษาและสงั เกต แล้วถามคาถาม ดงั นี้  ใชก้ ารดาเนนิ การใดในการแก้โจทยป์ ัญหา (แนวตอบ วิธีคูณ วิธีบวก และการเทยี บบัญญตั ิไตรยางศ์)  ไดค้ าตอบเท่าไร (แนวตอบ วิชาญขบั รถออกจากบ้านถงึ จังหวัดเชียงรายเป็นระยะทาง 740 กโิ ลเมตร) จากน้นั ใหน้ กั เรยี นทา “ลองทาด”ู ในหนงั สอื เรียน หน้า 64 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 6. ครูแจกใบงานที่ 2.8 เรอื่ ง การนาความรเู้ กีย่ วกับเศษส่วนไปใชใ้ นชีวิตจริง ให้นักเรียนทา จากนั้นครแู ละ นกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบใบงานที่ 2.8 7. ครใู หน้ ักเรยี นทา Exercise 2.1D ขอ้ 1-4 ในแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ เป็นการบ้าน โดยครูและนักเรียน วเิ คราะห์แนวทางการดาเนนิ การแกโ้ จทยป์ ัญหารว่ มกันก่อน ช่วั โมงท่ี 2 8. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบ Exercise 2.1D ข้อ 1-4 9. ครูยกตวั อยา่ งท่ี 22 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 64 บนกระดาน แลว้ ถามคาถามเพอื่ ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหโ์ จทย์ ดังน้ี  โจทย์ถามอะไร (แนวตอบ พ่อค้าติดราคาขายกีตาร์ไวก้ บ่ี าท)  สิง่ ที่โจทยก์ าหนดใหม้ ีอะไรบา้ ง 1 10 (แนวตอบ ร้านขายเครื่องดนตรปี ระกาศลดราคากตี าร์ ของราคาขายที่ติดไว้ ถา้ ผู้ซ้ือจ่ายเงนิ สด พ่อคา้ จะลดราคากีตารล์ งอีก 1 ของราคาขายทีล่ ดลงครัง้ แรก และผซู้ ้ือจา่ ยเงนิ สดซือ้ กตี าร์เป็นเงนิ 15 4,872 บาท) จากนั้นครแู สดงวธิ ที าอยา่ งละเอียดให้นักเรียนได้ศึกษาและสังเกต แลว้ ถามคาถาม ดังนี้  ใชก้ ารดาเนนิ การใดในการแก้โจทย์ปัญหา (แนวตอบ วธิ ีคูณ วิธีลบ และการเทยี บบัญญัตไิ ตรยางศ)์  ได้คาตอบเท่าไร (แนวตอบ พ่อค้าติดราคาขายกีตาร์ไว้ 5,800 บาท) จากน้นั ใหน้ กั เรยี นทา “ลองทาด”ู ในหนงั สือเรยี น หนา้ 65 10.ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบ “ลองทาดู” 11.ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกทักษะ 2.1 ง ข้อ 1-3 จากนนั้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบแบบฝึกทักษะ 2.1 ง ขอ้ 1-3 12.ครูให้นกั เรียนทาแบบฝกึ ทักษะ 2.1 ง ขอ้ 4-8 และ Exercise 2.1D ขอ้ 5-8 ในแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ เป็นการบ้าน โดยครแู ละนักเรียนวเิ คราะห์แนวทางการดาเนินการแกโ้ จทยป์ ญั หาร่วมกนั ก่อน

ครูให้นักเรยี นจัดกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละความสามารถทางคณติ ศาสตร์ แลว้ ทากจิ กรรม ดังน้ี - ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ศกึ ษากิจกรรมคณติ ศาสตร์ “การแก้โจทย์ปญั หาโดยใชบ้ าร์โมเดล (Bar model)” ในหนงั สือเรียน หนา้ 66 - ครูอธิบายว่า ในการแก้โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับเศษสว่ น โดยใชบ้ าร์โมเดล (Bar model) นักเรยี นจะต้องแบ่ง บารโ์ มเดลออกเปน็ ส่วน ๆ ที่เท่ากัน ตามตัวสว่ นที่โจทย์กาหนดให้ เช่น 1 ถ้าโจทยก์ าหนด 2 จะแบง่ บาร์โมเดลเปน็ 2 ส่วนเท่า ๆ กัน และระบายสีตามตวั เศษ ดงั น้ี ถา้ โจทย์กาหนด 3 จะแบง่ บาร์โมเดลเปน็ 8 ส่วนเทา่ ๆ กนั และระบายสตี ามตัวเศษ ดังนี้ 8 - นกั เรยี นแตล่ ะคนวิเคราะหว์ ่าปญั หาจากคาถามมวี ธิ กี ารแก้อย่างไร จากนน้ั แลกเปล่ยี นคาตอบกันภายใน กลุ่ม สนทนาซกั ถามจนเป็นท่ีเข้าใจรว่ มกนั - นักเรียนแต่ละคนเขยี นข้นั ตอนแสดงวิธีหาคาตอบของกลมุ่ ตนเองอย่างละเอยี ดลงในสมุด - ใหต้ วั แทนกลมุ่ มานาเสนอคาตอบหน้าช้นั เรยี น โดยเพื่อนกลมุ่ ทีเ่ หลือคอยตรวจสอบความถกู ต้อง 7.3 ขั้นสรุป ครถู ามคาถามเพ่ือสรปุ ความรู้รวบยอดของนกั เรียน ดงั นี้  ข้นั ตอนการวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา มีอะไรบา้ ง (แนวตอบ 1) อ่านโจทย์ให้เขา้ ใจ แลว้ พิจารณาวา่ โจทยถ์ ามอะไร 2) สิ่งทโ่ี จทยก์ าหนดใหม้ ีอะไรบา้ ง 3) เลือกวธิ ีดาเนินการทจ่ี ะแก้โจทย์ปัญหา 4) หาคาตอบ)  การดาเนินการในการแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกบั เศษสว่ น มีอะไรบ้าง (แนวตอบ การบวก การลบ การคูณ การหาร และการเทียบบัญญตั ิไตรยางศ์) 8. สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรียนรู้ 8.1.1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 จานวนตรรกยะ 8.1.2 แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 จานวนตรรกยะ 8.1.3. ใบงานที่ 2.8 เรอ่ื ง การนาความรู้เกยี่ วกับเศษสว่ นไปใชใ้ นชีวติ จริง 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 8.2.1. หอ้ งเรียน 8.2.2. หอ้ งสมดุ 8.2.3. อินเทอรเ์ น็ต

9. การวัดและประเมินผล วธิ ีการวัด เครื่องมอื ทีใ่ ช้วัด เกณฑก์ ารวัด สิ่งท่ีต้องการวดั แบบประเมนิ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 ใบงาน/แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 1.เข้าใจการนาความรูเ้ ก่ียวกับ ตรวจใบงาน/แบบฝึกหดั เศษสว่ นไปใช้แกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์ ผลงานกลุม่ /รายบุคคล แบบประเมนิ ผลงาน อยู่ในระดับดขี น้ึ ไป และปญั หาในชวี ติ จรงิ (K) กลมุ่ /รายบคุ คล 2.เขียนอธบิ ายขน้ั ตอนวธิ ีการ แบบสังเกตพฤติกรรม แก้ปัญหาทางคณติ ศาสตรเ์ กีย่ วกับ การทางานกล่มุ เศษสว่ นได้ (P) 3. รบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ที ่ีได้รับ สังเกตพฤตกิ รรมกลุม่ มอบหมาย (A)

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 เนื้อหาละเอยี ดชดั เจน   2 ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา   3 ภาษาทีใ่ ช้เขา้ ใจง่าย   4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ   5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน   รวม ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เห็น   2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่   3 การทางานตามหน้าที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย   4 ความมีนา้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษัตรยิ ์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อ โรงเรยี น 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่เี กย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งทถ่ี ูกตอ้ ง 3. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว มี ความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน 4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 ร้จู กั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอ่ื ฟงั คาสง่ั สอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยูอ่ ย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ 6. ม่งุ ม่นั ในการ 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ทางาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสานึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดูแลรกั ษาทรัพย์สมบตั ิและสงิ่ แวดล้อมของห้องเรียนและ โรงเรยี น ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวกรรณิกา ลิกัลตา) ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

10. บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา/อุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………………………. (นางสาวกรรณิกา ลกิ ัลตา) ตาแหน่ง ครู ความคิดเหน็ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...………………………………………………………………………………………………………………………………........... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นายคมสนั มณศี รี) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอื่ ……………………………………………. (นายไพฑูรย์ มณีจนั ทร์) รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ ความคดิ เหน็ ผู้อานวยการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...……………………………………………………………………………………………………………………….................... ลงชอ่ื ……………………………………………. (นางสาวพรณภทั ร์ พงษ์วรชั ญพ์ ร) ผู้อานวยการโรงเรียนเทพสถติ วทิ ยา วนั ท.ี่ ...........เดอื น........................พ.ศ................

ใบงานท่ี 2.8 เรอ่ื ง การนาความรูเ้ กย่ี วกับเศษสว่ นไปใชใ้ นชีวติ จริง คาชีแ้ จง : จงวเิ คราะห์โจทย์และแสดงวิธีทา 1. คณุ แม่มหี ัวเชอ้ื น้าสม้ 6 2 ลิตร เติมน้าเปล่า 12 4 ลติ ร แลว้ แบ่งใสข่ วดขนาด 8 ลิตร จะแบ่ง 5 5 25 ส้มได้ก่ีขวด วิเคราะหโ์ จทย์ - โจทยถ์ ามอะไร ……………………………………………………………………..………………………………………. - ส่งิ ที่โจทยก์ าหนดให้มีอะไรบา้ ง ……………………………………………………..….….………………….……… ……………………………………………………………………………………………….……………………………….…… - ใช้การดาเนินการใดในการแก้โจทยป์ ัญหา….…………………………………………….……………………….. ……………………………………………………………………………………………….…………………………….……… วิธที า …………………………………………………………………………………….…….…………………………………… ……………………………………………………………………. …………………………….…………………………………..... ………………………………………………………………………………………………….…………………………………..... ………………………………………………………………………………………………….…………………………………..... ………………………………………………………………………………………………….…………………………………..... ………………………………………………………………………………………………….…………………………………..... ………………………………………………………………………………………………….………………………………….....

2. พวงผกาซ้ือขา้ วสาร 1 2 กโิ ลกรมั ราคากิโลกรมั ละ 35 บาท และซอ้ื น้าตาลทราย 2 135 กโิ ลกรมั 5 ราคากิโลกรมั ละ 25 บาท พวงผกาจะต้องจา่ ยเงินทงั้ หมดก่ีบาท วเิ คราะห์โจทย์ - โจทย์ถามอะไร ……………………………………………………………………..………………………………………. - สง่ิ ที่โจทย์กาหนดใหม้ ีอะไรบ้าง ……………………………………………………..….….………………….……… ……………………………………………………………………………………………….……………………………….…… - ใช้การดาเนนิ การใดในการแก้โจทย์ปญั หา….…………………………………………….……………………….. ……………………………………………………………………………………………….…………………………….……… วธิ ที า …………………………………………………………………………………….…….…………………………………… ……………………………………………………………………. …………………………….…………………………………..... ………………………………………………………………………………………………….……………………………..…...... ………………………………………………………………………………………………….……………………………...…..... ………………………………………………………………………………………………….…………………………………..... ……………………………………………………………………………………………….….…………………………….…….... ………………………………………………………………………………………………….……………………….……….......

เฉลยใบงานท่ี 2.8 เรอ่ื ง การนาความรเู้ กี่ยวกับเศษสว่ นไปใช้ในชีวิตจริง คาชแ้ี จง : จงวเิ คราะห์โจทย์และแสดงวิธีทา 1. คุณแม่มีหัวเชอ้ื น้าส้ม 6 2 ลิตร เติมน้าเปลา่ 12 4 ลติ ร แล้วแบ่งใส่ขวดขนาด 8 ลิตร คณุ แมจ่ ะ 5 5 25 แบ่งนา้ ส้มได้กข่ี วด วเิ คราะหโ์ จทย์ - โจทยถ์ ามอะไร ……คณุ …แ…ม…่จะ…แ…บ…่งน…ำ้ ส…ม้ …ได…ก้ …ีข่ ว…ด………………………………..………………………………………. - ส่งิ ทโ่ี จทยก์ าหนดใหม้ ีอะไรบา้ ง ……ค…ณุ …แม…่ม…หี …วั เ…ชอื…น…้ำส…้ม…………ล…ิตร…เ…ตมิ…น…ำ้ เ.ป.…ล.่ำ….………ล…ิต…ร …….……… …แล…ะ…แบ…่ง…ใส…่ขว…ด…ขน…ำ…ด…………ลติ …ร……………………………………………………….……………………………….…… - ใชก้ ารดาเนนิ การใดในการแก้โจทย์ปัญหา….…ว…ิธ…ีกำ…รบ…ว…ก…แล…ะ…วธิ …ีก…ำร…ห…ำร………….……………………….. ……………………………………………………………………………………………….…………………………….……… วธิ ที า ……ค…ุณ…แม…่ม…หี วั…เช…อื …น…้ำส…้ม…………ลิต…ร…เต…มิ …น…ำ้ เ…ปล…ำ่ …………ล…ติ …ร………….…….…………………………………… ……………จ…ะ…ม…นี ำ้ …ส…ม้ ผ…ส…ม……………………=……………….……ล…ติ …ร………………….…………………………………..... ……………………………………………………=……………ล…ิตร…………………………….…………………………………..... ………………แบ…ง่ …ใส…ข่ ว…ด…ขน…ำ…ด…………ลิต…ร………………………………………………….…………………………………..... ……………จ…ะ…แบ…่ง…ได…้ ………………=……………………ข…วด……………………………….…………………………………..... ……………………………………………=…6…0…ข…วด………………………………………….…………………………………..... ……………ด…งั …นนั……ค…ุณ…แม…่จ…ะ…แบ…่ง…น้ำ…ส…ม้ ไ…ด้…60……ขว…ด…………………………………….………………………………….....

2. พวงผกาซื้อขา้ วสาร 1 2 กโิ ลกรมั ราคากโิ ลกรัมละ 35 บาท และซอ้ื น้าตาลทราย 2 135 กิโลกรมั 5 ราคากิโลกรมั ละ 25 บาท พวงผกาจะต้องจ่ายเงินทงั้ หมดกี่บาท วเิ คราะห์โจทย์ - โจทยถ์ ามอะไร ……พว…ง…ผก…ำ…จะ…ต…อ้ ง…จ่ำ…ย…เง…นิ ท…งั …ห…มด…ก…บ่ี ำ…ท……………………..………………………………………. - ส่ิงที่โจทย์กาหนดให้มีอะไรบา้ ง ……พ…วง…ผ…กำ…ซ…อื ข…้ำ…วส…ำร…………ก…โิ ล…กร…มั …ร…ำค…ำ.ก.…โิ ล.ก…ร.มั…ล…ะ…35……บำ…ท….……… …แล…ะ…ซือ…น…ำ้ ต…ำ…ลท…ร…ำย……………กโิ …ลก…ร…มั …รำ…ค…ำก…โิ ล…ก…รมั…ล…ะ…2…5 …บำ…ท………………….……………………………….…… - ใช้การดาเนินการใดในการแก้โจทยป์ ัญหา….…ว…ธิ …ีกำ…รค…ูณ…แ…ล…ะว…ิธีก…ำ…รบ…ว…ก………….……………………….. ……………………………………………………………………………………………….…………………………….……… วิธที า ……พ…วง…ผ…กำ…ซ…ือข…้ำว…ส…ำร…………กโิ…ล…กร…ัม…ร…ำค…ำก…ิโ…ลก…ร…มั ล…ะ…3…5…………….…….…………………………………… ……………บซ…อืำ…ทข…ำ้ ว…สำ…ร…เป…็น…เงนิ……………………=……………. ……บำ…ท…………………….…………………………………..... ………………………………………………………=…4…5…บ…ำ…ท…………………………….……………………………..…...... ………………ซือ…น…้ำต…ำ…ลท…ร…ำย……………กิโ…ลก…ร…มั …รำ…ค…ำก…ิโล…ก…รมั…ล…ะ…2…5 …บำ…ท…………….……………………………...…..... ……………ซ…ือ…น…้ำต…ำ…ลท…ร…ำย…เป…น็ …เง…ิน……………………=…………………บ…ำท…………….…………………………………..... ………………………………………………………………=…5…5…บ…ำ…ท………………….….…………………………….…….... ………………ดัง…น…ัน…พ…ว…งผ…ก…ำจ…ะ…ตอ้ …งจ…ำ่ …ยเ…งนิ…ท…งั ห…ม…ด…4…5…+…5…5 …=…10…0…บ…ำท………….……………………….……….......

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหัสวิชา ค21101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ช่อื หน่วย จานวนตรรกยะ เวลารวม 20 ช่ัวโมง เร่ือง ทศนิยมและคา่ ประจาหลักของทศนยิ ม เวลา 1 ชั่วโมง ครูผ้สู อน นางสาวกรรณิกา ลกิ ลั ตา 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจานวนตรรกยะและความสัมพันธ์ของจานวนตรรกยะ และใช้สมบัติของจานวนตรรกยะใน การแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์และปัญหาในชีวติ จรงิ 2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ทศนิยมเป็นจานวนที่บอกให้ทราบว่าเป็นก่ีส่วนใน 10, 100, 1000, … ส่วนเท่า ๆ กัน ซึ่งเราสามารถหาค่า ของเลขโดดในแต่ละหลักของทศนิยมได้ โดยนาเลขโดดในแตล่ ะหลกั คูณคา่ ประจาหลกั ของทศนิยมในหลกั นนั้ ๆ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 บอกค่าประจาหลัก และคา่ ของเลขโดดของทศนิยมในแต่ละหลกั ได้ (K) 3.2 เขียนทศนยิ มในรูปกระจายได้อยา่ งคล่องแคลว่ (P) 3.3 รับผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ีท่ไี ด้รับมอบหมาย (A) 4. สาระการเรียนรู้ ทศนิยมและเศษส่วน 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล การสรปุ ความรู้ การปฏิบัติ 5.3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 5.4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6.1. มีวนิ ยั 6.2. ใฝ่เรยี นรู้ 6.3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 7.1 ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูทบทวนความสัมพนั ธ์ของเศษส่วนกบั ทศนยิ มไมเ่ กนิ สามตาแหนง่ ท่ีนักเรียนไดเ้ รียนมาแลว้ ในระดับ ชัน้ ประถมศึกษา โดยการถาม - ตอบ ดงั นี้  เศษส่วนท่ีมีตัวสว่ นเปน็ 10 เมือ่ เขยี นในรปู ทศนยิ มจะได้ทศนยิ มก่ีตาแหน่ง (แนวตอบ จะไดท้ ศนยิ มหนงึ่ ตาแหนง่ )  เศษส่วนที่มีตัวสว่ นเปน็ 100 เมอ่ื เขียนในรูปทศนยิ มจะได้ทศนยิ มกตี่ าแหนง่ (แนวตอบ จะไดท้ ศนยิ มสองตาแหน่ง)

 เศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเป็น 1,000 เม่อื เขียนในรปู ทศนิยมจะไดท้ ศนิยมกีต่ าแหนง่ (แนวตอบ จะไดท้ ศนยิ มสามตาแหน่ง) จากนั้นครยู กตวั อยา่ งในหนังสือเรียน หน้า 67 ดงั น้ี 7 10 เขยี นใหอ้ ยู่ในรูปทศนิยมเปน็ 0.7 232 เขียนใหอ้ ยู่ในรูปทศนยิ มเปน็ 2.32 100 31402050 เขียนให้อยู่ในรปู ทศนิยมเป็น 3.425 2. ครูกล่าวว่า “ทศนิยมทกี่ ล่าวไปขา้ งต้นเป็นทศนิยมที่เป็นบวกทั้งหมด ต่อไปเราจะเรียนทศนิยมท่เี ป็นลบ” จากน้ันครยู กตัวอยา่ งเศษสว่ นทีเ่ ปน็ ลบ 5 จานวน แล้วให้นักเรยี นสง่ ตัวแทน 5 คน ออกมาเขียนให้อย่ใู น รปู ทศนิยม 3. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา่ “เราสามารถเขยี นแสดงทศนยิ มบนเสน้ จานวนไดเ้ ชน่ เดียวกับจานวนเตม็ และ เศษสว่ น น่นั คือ ทศนิยมทเ่ี ป็นบวกจะอยู่ทางขวาของศูนย์ และทศนยิ มที่เปน็ ลบจะอยู่ทางซ้ายของศนู ย์” 7.2 ข้ันสอน 1. ครใู หน้ กั เรยี นจบั คู่ศึกษาจานวนตรงข้ามของทศนิยม ในหนังสือเรียน หนา้ 67 แลว้ แลกเปลย่ี นความรกู้ บั คขู่ องตนเอง จากนนั้ ครูถามคาถาม ดงั นี้  จานวนตรงข้ามของทศนยิ ม หมายถึงอะไร (แนวตอบ หมายถึง ทศนิยมใด ๆ ท่ีอยหู่ า่ งจาก 0 เปน็ ระยะเท่า ๆ กันบนเส้นจานวน)  เมื่อ a เป็นทศนยิ มใด ๆ เขยี นแทนจานวนตรงขา้ มของ a ได้อย่างไร (แนวตอบ -a) 2. ครูใหน้ กั เรียนคเู่ ดิมศึกษาจานวนตรงขา้ มของทศนยิ ม ในหนังสือเรียน หน้า 68 แล้วแลกเปลี่ยนความรู้ กบั คู่ของตนเอง จากน้นั ครูยกตวั อยา่ งทศนยิ มท่เี ป็นบวกมา 1 จานวน และทศนิยมท่เี ป็นลบมา 1 จานวน แลว้ ใหน้ กั เรยี นเขียนแสดงทศนยิ มและจานวนตรงข้ามของทศนิยมนัน้ บนเส้นจานวนลงในสมดุ 3. ครใู ห้นักเรียนศึกษาคา่ สมั บรู ณ์ของทศนิยม ในหนงั สือเรยี น หนา้ 68 จากนัน้ ครูถามคาถาม ดงั น้ี  คา่ สมั บูรณข์ องทศนิยม หมายถึงอะไร (แนวตอบ หมายถงึ ระยะหา่ งระหวา่ งทศนิยมนั้นกับศนู ยบ์ นเสน้ จานวน)  เมอ่ื a เปน็ ทศนยิ มใด ๆ เขยี นแทนค่าสัมบูรณข์ อง a ได้อย่างไร (แนวตอบ |a|) 4. ครูยกตัวอย่างทศนยิ มที่เปน็ บวกมา 1 จานวน และทศนยิ มท่เี ปน็ ลบมา 1 จานวน แลว้ ใหน้ ักเรียนสง่ ตวั แทน 2 คน ออกมาเขียนค่าสัมบรู ณ์ของทศนยิ มน้นั 5. ครใู หน้ กั เรยี นพจิ ารณาตารางแสดงคา่ ประจาหลักของเลขโดดในหลักต่าง ๆ ของจานวนเตม็ และทศนยิ ม ในหนังสอื เรยี น หน้า 69 โดยครอู าจเพ่มิ เติมความร้ใู ห้นักเรียน ดงั นี้ 1 - ทศนิยมตาแหน่งท่ี 1 มคี า่ ประจาหลักเป็น 10 หรือเขียนในรปู ทศนยิ มไดเ้ ปน็ 0.1 - ทศนยิ มตาแหนง่ ท่ี 2 มีค่าประจาหลกั เปน็ 1 หรือเขียนในรูปทศนยิ มได้เป็น 0.01 100 1 - ทศนยิ มตาแหน่งท่ี 3 มีคา่ ประจาหลักเปน็ 1, 000 หรอื เขียนในรูปทศนยิ มได้เปน็ 0.001