Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตัวชี้วัดต้องรู้และควรรู้ หลักสูตรฯ 2551 สำหรับสถานการณ์ Covid-19-1

ตัวชี้วัดต้องรู้และควรรู้ หลักสูตรฯ 2551 สำหรับสถานการณ์ Covid-19-1

Description: ตัวชี้วัดต้องรู้และควรรู้ หลักสูตรฯ 2551 สำหรับสถานการณ์ Covid-19-1

Search

Read the Text Version

ชั้น ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชี้วัด ๒๔๗ ม.4-6 ๒๑ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๑ วเิ ครำะห์หลกั ธรรมสำคัญ รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ หลักธรรมสำคญั ในกำรอยรู่ ่วมกัน ในกำรอย่รู ่วมกันอยำ่ งสนั ติสุข อย่ำงสันติสุข o ครสิ ต์ศำสนำ ไดแ้ ก่ ของศำสนำอืน่ ๆ และชกั ชวน บญั ญัติ ๑๐ ประกำร สง่ เสรมิ สนบั สนุนใหบ้ ุคคลอ่ืน (เฉพำะท่เี กยี่ วข้อง) o ศำสนำอสิ ลำม ไดแ้ ก่ เห็นควำมสำคญั ของ หลักจรยิ ธรรม (เฉพำะที่เกี่ยวข้อง) กำรทำควำมดีต่อกนั สภำพปญั หำในชุมชน และสงั คม ๒๒ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๒ เสนอแนวทำงกำรจัดกจิ กรรม ปฏบิ ัติตนเปน็ ชำวพุทธท่ีดี ควำมร่วมมือของทุกศำสนำ ต่อภิกษุ ในกำรแกป้ ัญหำและพฒั นำ o กำรเข้ำใจในกิจของพระภกิ ษุ สังคม เชน่ กำรศึกษำ กำรปฏิบตั ิธรรม ๒๓ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๑ ปฏิบัตติ นเป็นศำสนิกชน และกำรเปน็ นักบวชทีด่ ี ท่ีดตี ่อสำวก สมำชิก o คณุ สมบตั ิของทำยกและ ในครอบครัวและคนรอบข้ำง ปฏคิ ำหก o หนำ้ ที่และบทบำทของพระภิกษุ ในฐำนะพระนักเทศน์ พระธรรมทตู พระธรรมจำริก พระวทิ ยำกร พระวปิ สั สนำจำรย์ และพระนักพัฒนำ o กำรปกป้องคุ้มครอง พระพุทธศำสนำของพุทธบริษัท ในสังคมไทย o กำรปฏิบตั ติ นต่อพระภกิ ษุ ทำงกำย วำจำ และใจ ทป่ี ระกอบดว้ ยเมตตำ o กำรปฏสิ ันถำรท่เี หมำะสม ต่อพระภิกษุ ในโอกำสต่ำง ๆ ปฏบิ ตั ิตนเป็นสมำชิกที่ดี ของครอบครัว และสังคม o กำรรกั ษำศีล ๘ o กำรเข้ำรว่ มกิจกรรม และเป็นสมำชกิ ขององค์กร ชำวพุทธ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ช้นั ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชี้วดั ๒๔๘ ม.4-6 รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ๒๔ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ปฏบิ ตั ติ นถูกต้อง ตำมศำสนพธิ ี พิธีกรรม o กำรเปน็ ชำวพทุ ธทดี่ ี ตำมหลักศำสนำทีต่ นนับถือ ตำมหลกั ทิศเบื้องบน ในทศิ ๖ o กำรปฏิบัติตนที่เหมำะสม ในฐำนะผปู้ กครอง และผูอ้ ยู่ในปกครอง ตำมหลกั ทิศเบ้อื งลำ่ ง ในทิศ ๖ o กำรปฏิสนั ถำรตำมหลกั ปฏิสนั ถำร ๒ o หน้ำท่ีและบทบำท ของอบุ ำสก อุบำสิกำ ที่มตี ่อสังคมไทยในปัจจุบนั o กำรปฏิบตั ิตนเปน็ สมำชิกท่ีดี ของครอบครัว ตำมหลัก ทิศเบอ้ื งหลัง ในทิศ ๖ o กำรบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อ ครอบครวั ชุมชน ประเทศชำติ และโลก ประเภทของศำสนพธิ ี ในพุทธศำสนำ o ศำสนพธิ ีเน่ืองดว้ ยพุทธบญั ญัติ เช่น พธิ ีแสดงตนเปน็ พุทธมำมกะ พธิ ีเวียนเทียน ถวำยสงั ฆทำน ถวำยผำ้ อำบน้ำฝน พิธีทอดกฐิน พธิ ีปวำรณำ เป็นตน้ o ศำสนพธิ ีท่ีนำพระพุทธศำสนำ เข้ำไปเกี่ยวเนื่อง เช่น กำรทำบุญ เลย้ี งพระในโอกำสตำ่ ง ๆ ควำมหมำย ควำมสำคัญ คติธรรม ในพธิ กี รรม บทสวดมนต์ของนักเรียน งำนพธิ ี คุณค่ำ และประโยชน์ พธิ ีบรรพชำอุปสมบท คุณสมบัติ ของผู้ขอบรรพชำอปุ สมบท เคร่อื ง อฏั ฐบริขำร ประโยชน์ของกำร บรรพชำอุปสมบท บุญพธิ ี ทำนพิธี กุศลพิธี คุณค่ำและประโยชน์ ของศำสนพิธี สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชัน้ ท่ี รหัสตัวช้ีวดั ตัวช้ีวดั ๒๔๙ ม.๔-๖ ๒๕ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๓ แสดงตนเป็นพุทธมำมกะ รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ หรอื แสดงตนเปน็ ศำสนิกชน ของศำสนำท่ีตนนับถือ กำรแสดงตนเปน็ พุทธมำมกะ o ขนั้ เตรียมกำร ๒๖ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔ วิเครำะห์หลกั ธรรม o ขน้ั พิธีกำร หลกั ธรรม/คตธิ รรมท่เี กย่ี วเน่ือง คติธรรมท่ีเกี่ยวเนื่อง กบั วันสำคญั และเทศกำล ทีส่ ำคัญในพระพทุ ธศำสนำ กบั วันสำคัญทำงศำสนำ หรอื ศำสนำอนื่ กำรปฏบิ ตั ติ นทถ่ี ูกต้อง และเทศกำลที่สำคญั ในวันสำคัญ และเทศกำล ที่สำคัญในพระพุทธศำสนำ ของศำสนำท่ีตนนับถือ หรือศำสนำอ่ืน กำรปกป้อง คุ้มครอง ธำรงรกั ษำ และปฏบิ ัตติ นไดถ้ ูกต้อง พระพุทธศำสนำของพทุ ธบริษัท ในสงั คมไทย ๒๗ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๕ สมั มนำและเสนอแนะ กำรปลกู จิตสำนกึ แนวทำงในกำรธำรงรักษำ และกำรมีสว่ นรว่ ม ศำสนำท่ีตนนับถือ ในสังคมพทุ ธ อนั ส่งผลถึงกำรพฒั นำตน กฎหมำยแพง่ เกี่ยวกบั ตนเอง พฒั นำชำติ และโลก และครอบครัว กฎหมำยแพ่งเก่ียวกับนิติกรรม ๒๘ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๑ วิเครำะห์และปฏิบัติตน สญั ญำ เชน่ ซื้อขำย ขำยฝำก เช่ำ ตำมกฎหมำยท่ีเก่ียวข้อง ทรัพย์ เช่ำซ้ือ ก้ยู ืมเงิน จำนำ กับตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน จำนอง ประเทศชำติ และสังคมโลก กฎหมำยอำญำ เช่น ควำมผดิ เก่ียวกับทรัพย์ ควำมผิด เกยี่ วกับชวี ติ และรำ่ งกำย กฎหมำยอืน่ ท่สี ำคัญเช่นรฐั ธรรมนูญ แหง่ รำชอำณำจักรไทยฉบบั ปจั จบุ นั กฎหมำยกำรรับรำชกำรทหำร กฎหมำยภำษีอำกร กฎหมำยคุ้มครองผูบ้ ริโภค ข้อตกลงระหว่ำงประเทศ เช่น ปฏิญญำสำกลว่ำด้วย สิทธมิ นุษยชน สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๕๐ ชั้น ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวช้ีวัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๒๙ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๒ วเิ ครำะห์ควำมสำคัญ โครงสรำ้ งทำงสังคม - กำรจดั ระเบียบทำงสังคม ของโครงสร้ำงทำงสังคม - สถำบันทำงสังคม กำรขัดเกลำทำงสงั คม กำรขัดเกลำทำงสังคม กำรเปลย่ี นแปลงทำงสังคม กำรแก้ปญั หำและแนวทำง และกำรเปลีย่ นแปลง กำรพัฒนำทำงสงั คม ทำงสังคม คณุ ลกั ษณะพลเมืองดี ของประเทศชำตแิ ละสงั คมโลก ๓๐ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๓ ปฏบิ ัติตนและมสี ว่ นสนับสนุน เชน่ ให้ผอู้ นื่ ประพฤติ ปฏบิ ัติ o เคำรพกฎหมำย และกตกิ ำสงั คม เพ่ือเป็นพลเมอื งดี o เคำรพสทิ ธิเสรภี ำพของตนเอง ของประเทศชำติ และสังคมโลก และบุคคลอื่น o มีเหตผุ ล รับฟังควำมคิดเหน็ ของผู้อืน่ o มีควำมรบั ผิดชอบต่อตนเอง สังคม ชุมชน ประเทศชำติ และสังคมโลก o เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงกำรเมือง กำรปกครอง o มสี ่วนร่วมในกำรป้องกนั แก้ไขปัญหำเศรษฐกจิ สงั คม กำรเมืองกำรปกครอง ส่ิงแวดลอ้ ม o รู้ทันส่อื o มีทกั ษะควำมเป็นผู้นำและผู้ตำม o แก้ไขควำมขัดแย้งอย่ำงสันติวธิ ี o มีควำมกล้ำหำญทำงจริยธรรม สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๕๑ ช้นั ที่ รหัสตัวชี้วดั ตัวชี้วดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ควำมหมำย ควำมสำคัญ แนวคิด ม.4-6 ๓๑ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ประเมินสถำนกำรณ์ และหลักกำรของสิทธิมนุษยชน บทบำทขององค์กร สทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย ระหว่ำงประเทศ ในเวทโี ลก ท่ีมผี ลต่อประเทศไทย และเสนอแนวทำงพัฒนำ สำระสำคัญของปฏิญญำสำกล วำ่ ดว้ ยสิทธมิ นุษยชน ๓๒ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๕ วเิ ครำะห์ควำมจำเป็น บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทจี่ ะต้องมีกำรปรบั ปรุง แหง่ รำชอำณำจักรไทย เปล่ียนแปลงและ ฉบับปจั จุบันเก่ยี วกับ อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิทธมิ นุษยชน และเลอื กรบั วฒั นธรรมสำกล ปัญหำสิทธมิ นษุ ยชนในประเทศ และแนวทำงแกป้ ัญหำและพฒั นำ ๓๓ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๑ วิเครำะห์ปัญหำกำรเมอื ง ควำมหมำยและควำมสำคญั ทส่ี ำคญั ในประเทศ ของวฒั นธรรม จำกแหลง่ ขอ้ มูลต่ำง ๆ ลักษณะและควำมสำคัญ พรอ้ มท้งั เสนอแนวทำงแก้ไข ของวฒั นธรรมไทยทส่ี ำคญั กำรปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงและ ๓๔ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๒ เสนอแนวทำง แนวทำงอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมไทย ทำงกำรเมืองกำรปกครอง ควำมแตกต่ำงระหว่ำง ทน่ี ำไปสู่ควำมเขำ้ ใจ และ วัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรมสำกล กำรประสำนประโยชนร์ ว่ มกัน วธิ กี ำรเลือกรับวัฒนธรรมสำกล ระหว่ำงประเทศ อัตลกั ษณ์และควำมหลำกหลำย ในสงั คมพหุวฒั นธรรม สถำนกำรณ์กำรเมือง กำรปกครองของสงั คมไทย อทิ ธพิ ลของระบบกำรเมือง กำรปกครองที่มผี ลตอ่ กำรดำเนนิ ชีวิต ปญั หำกำรเมืองสำคัญ ทเี่ กิดขน้ึ ภำยในประเทศ สำเหตุและแนวทำงแก้ไข กำรประสำนประโยชน์ร่วมกนั ระหวำ่ งประเทศ เช่น กำรสร้ำงควำมสัมพนั ธ์ ระหว่ำงไทยกบั ประเทศต่ำง ๆ กำรแลกเปลย่ี นเพ่ือชว่ ยเหลือ และสง่ เสรมิ ดำ้ นวัฒนธรรม กำรศกึ ษำ เศรษฐกิจ สังคม สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๕๒ ชั้น ท่ี รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๓๕ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์ควำมสำคญั กำรปกครองตำมระบอบ ประชำธิปไตยอันมพี ระมหำกษัตรยิ ์ และควำมจำเปน็ ท่ตี ้อง ทรงเป็นประมุข - รูปแบบของรัฐ ธำรงรักษำไวซ้ ่งึ กำรปกครอง - ฐำนะและพระรำชอำนำจ ตำมระบอบประชำธปิ ไตย ของพระมหำกษตั รยิ ์ อันมีพระมหำกษัตริย์ กำรตรวจสอบกำรใชอ้ ำนำจรัฐ ตำมรฐั ธรรมนูญแหง่ ทรงเปน็ ประมขุ รำชอำณำจักร ไทยฉบบั ปจั จบุ ัน ทีม่ ผี ลต่อกำรเปลี่ยนแปลง ๓๖ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๔ เสนอแนวทำงและมีส่วนร่วม ทำงสังคม เชน่ กำรตรวจสอบ โดยองคก์ รอิสระ กำรตรวจสอบ ในกำรตรวจสอบกำรใช้ โดยประชำชน อำนำจรฐั ระบบเศรษฐกิจของโลก ในปจั จบุ ัน ผลดีและผลเสยี ๓๗ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๑ อภิปรำยกำรกำหนดรำคำ ของระบบเศรษฐกจิ แบบตำ่ ง ๆ และค่ำจำ้ งในระบบเศรษฐกิจ ตลำดและประเภทของตลำด ขอ้ ดีและข้อเสยี ของตลำด ประเภทต่ำง ๆ กำรกำหนดรำคำตำมอุปสงค์ และอุปทำน กำรกำหนดรำคำ ในเชงิ กลยทุ ธท์ ีม่ ใี นสงั คมไทย กำรกำหนดค่ำจำ้ ง กฎหมำย ทเ่ี ก่ียวข้องและอตั รำคำ่ จ้ำง แรงงำนในสงั คมไทย บทบำทของรัฐในกำรแทรกแซง รำคำ และกำรควบคุมรำคำ เพอื่ กำรแจกจ่ำย และจดั สรร ในทำงเศรษฐกิจ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชั้น ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตัวชี้วดั ๒๕๓ ม.๔-๖ ๓๘ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๒ ตระหนักถึงควำมสำคัญ รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ของปรัชญำของเศรษฐกิจ กำรประยุกตใ์ ช้เศรษฐกิจ พอเพียง ในกำรดำเนินชวี ติ พอเพียงทีม่ ีตอ่ เศรษฐกจิ ของตนเอง และครอบครัว กำรประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกจิ สังคมของประเทศ พอเพยี งในภำคเกษตร อุตสำหกรรม กำรค้ำและ ๓๙ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๓ ตระหนักถึงควำมสำคัญ บรกิ ำร ของระบบสหกรณ์ ปัญหำกำรพัฒนำประเทศ ในกำรพัฒนำเศรษฐกิจ ที่ผำ่ นมำ โดยกำรศึกษำ ในระดับชมุ ชนและประเทศ วเิ ครำะห์แผนพัฒนำเศรษฐกจิ และสังคมฉบับที่ผ่ำนมำ ๔๐ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๔ วิเครำะหป์ ัญหำทำงเศรษฐกจิ กำรพัฒนำประเทศทน่ี ำปรชั ญำ ในชมุ ชนและเสนอแนวทำง ของเศรษฐกิจพอเพียงมำใช้ แก้ไข ในกำรวำงแผนพฒั นำเศรษฐกิจ และสงั คมฉบบั ปัจจุบัน วิวัฒนำกำรของสหกรณ์ ในประเทศไทย ควำมหมำย ควำมสำคัญ และหลักกำรของระบบสหกรณ์ ตัวอย่ำงและประเภท ของสหกรณ์ในประเทศไทย ควำมสำคัญของระบบสหกรณ์ ในกำรพฒั นำเศรษฐกจิ ในชมุ ชนและประเทศ ปัญหำทำงเศรษฐกจิ ในชมุ ชน แนวทำงกำรพัฒนำเศรษฐกจิ ของชุมชน ตัวอย่ำงของกำรรวมกลุม่ ทป่ี ระสบควำมสำเร็จ ในกำรแก้ปญั หำทำงเศรษฐกิจ ของชุมชน สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชั้น ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชี้วดั ๒๕๔ ม.๔-๖ ๔๑ ส ๓.๒ ม.๔-๖/๑ อธบิ ำยบทบำทของรฐั บำล รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ต้องรู้ ควรรู้ เกี่ยวกับนโยบำยกำรเงนิ นโยบำยกำรเงนิ กำรคลัง ในกำรพัฒนำเศรษฐกจิ กำรคลัง ในกำรพฒั นำ ของประเทศ บทบำทของนโยบำยกำรเงนิ เศรษฐกิจของประเทศ และกำรคลงั ของรัฐบำลในดำ้ น - กำรรักษำเสถียรภำพ ๔๒ ส ๓.๒ ม.๔-๖/๒ วิเครำะห์ผลกระทบของ กำรเปดิ เสรีทำงเศรษฐกจิ ทำงเศรษฐกิจ ในยุคโลกำภิวตั น์ท่มี ผี ลต่อ - กำรสร้ำงกำรเจรญิ เติบโต สังคมไทย ทำงเศรษฐกิจ - กำรรักษำดุลกำรคำ้ ระหว่ำงประเทศ - กำรแทรกแซงรำคำ และกำรควบคุมรำคำ รำยรบั และรำยจ่ำยของรฐั ทีม่ ผี ลต่องบประมำณ หนส้ี ำธำรณะ กำรพัฒนำ ทำงเศรษฐกิจและคณุ ภำพชีวติ ของประชำชน - นโยบำยกำรเก็บภำษีประเภท ต่ำง ๆ และกำรใชจ้ ำ่ ยของรฐั - แนวทำงกำรแก้ปัญหำ กำรวำ่ งงำน ตวั ช้วี ัดควำมเจริญเตบิ โต ทำงเศรษฐกิจ เช่น GDP, GNP รำยได้เฉลยี่ ต่อบุคคล ววิ ัฒนำกำรของกำรเปิดเสรี ทำงเศรษฐกิจในยคุ โลกำภิวตั น์ ของไทย ปจั จัยทำงเศรษฐกจิ ท่ีมีผล ตอ่ กำรเปิดเสรีทำงเศรษฐกิจ ของประเทศ ผลกระทบของกำรเปิดเสรี ทำงเศรษฐกิจของประเทศ ทมี่ ตี ่อภำคกำรเกษตร ภำคอุตสำหกรรม ภำคกำรค้ำ และบริกำร สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชั้น ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั ๒๕๕ ม.4-6 ๔๓ ส ๓.๒ ม.๔-๖/๓ วิเครำะห์ผลดี ผลเสีย รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ของควำมรว่ มมือทำงเศรษฐกิจ แนวคิดพ้ืนฐำนที่เก่ียวข้อง กบั กำรค้ำระหวำ่ งประเทศ ระหว่ำงประเทศในรปู แบบ บทบำทขององค์กำรควำมร่วมมือ ทำงเศรษฐกิจทีส่ ำคญั ในภมู ิภำค ต่ำง ๆ ต่ำง ๆ ของโลก เช่น WTO , NAFTA , EU , IMF , ADB , ๔๔ ส ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ตระหนักถึงควำมสำคัญ OPEC , FTA , APEC ของเวลำและยุคสมยั ในระดับต่ำง ๆ เขตสีเ่ หลย่ี ม ทำงประวัติศำสตร์ เศรษฐกิจ ท่ีแสดงถึงกำรเปล่ียนแปลง ปัจจัยตำ่ ง ๆ ที่นำไปสกู่ ำรพึ่งพำ ของมนุษยชำติ กำรแขง่ ขัน กำรขัดแย้ง และ กำรประสำนประโยชน์ ทำงเศรษฐกิจไทยกับต่ำงประเทศ ตัวอย่ำงเหตุกำรณ์ท่ีนำไปสู่ กำรพึ่งพำทำงเศรษฐกจิ ผลกระทบจำกกำรดำเนิน กิจกรรมทำงเศรษฐกจิ ระหว่ำงประเทศ ปัจจยั ตำ่ ง ๆ ท่นี ำไปสู่ กำรพ่ึงพำ กำรแข่งขนั กำรขดั แย้ง และกำรประสำน ประโยชน์ทำงเศรษฐกิจ วิธกี ำรกีดกันทำงกำรค้ำ ในกำรคำ้ ระหวำ่ งประเทศ เวลำและยุคสมัยทำงประวัติศำสตร์ ท่ปี รำกฏในหลักฐำน ทำงประวัติศำสตร์ไทย และประวัติศำสตร์สำกล ตัวอยำ่ งเวลำและยุคสมยั ทำงประวัติศำสตร์ ของสังคมมนษุ ย์ท่ีมปี รำกฏ ในหลักฐำนทำงประวตั ิศำสตร์ (เชื่อมโยงกับ มฐ. ส ๔.๓) ควำมสำคญั ของเวลำ และยคุ สมัยทำงประวัตศิ ำสตร์ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๕๖ ชน้ั ที่ รหัสตัวช้ีวดั ตัวชี้วัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ขน้ั ตอนของวธิ ีกำรทำงประวัติศำสตร์ ม.4-6 ๔๕ ส ๔.๑ ม.๔-๖/๒ สร้ำงองค์ควำมรู้ใหม่ โดยนำเสนอตัวอยำ่ งทีละข้นั ตอน ทำงประวัติศำสตร์ อยำ่ งชัดเจน โดยใชว้ ิธีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ คณุ คำ่ และประโยชน์ของวิธกี ำร อยำ่ งเป็นระบบ ทำงประวตั ิศำสตร์ทมี่ ตี อ่ กำรศึกษำทำงประวัติศำสตร์ 46 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๑ วเิ ครำะห์อิทธิพลของ ผลกำรศึกษำหรือโครงงำน อำรยธรรรมโบรำณ ทำงประวตั ิศำสตร์ และกำรตดิ ตอ่ ระหว่ำง อำรยธรรมของโลกยุคโบรำณ โลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก ได้แก่ อำรยธรรมลุ่มแมน่ ำ้ ทีม่ ีผลต่อพัฒนำกำร ไทกรีส-ยเู ฟรตสี ไนล์ ฮวงโห และกำรเปลี่ยนแปลงของโลก สนิ ธุ และอำรยธรรมกรีก โรมัน กำรตดิ ตอ่ ระหวำ่ งโลกตะวนั ออก 47 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๒ วเิ ครำะหเ์ หตุกำรณส์ ำคัญต่ำง ๆ กบั โลกตะวนั ตก และอิทธิพล ที่ส่งผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง ทำงวัฒนธรรมทีม่ ตี ่อกันและกัน ทำงสงั คม เศรษฐกิจและ เหตกุ ำรณ์สำคัญต่ำง ๆ ทสี่ ง่ ผลต่อ กำรเมืองเข้ำสู่โลก กำรเปลีย่ นแปลงของโลก สมยั ปัจจบุ ัน ในปัจจบุ ัน เชน่ ระบอบศกั ดินำ สวำมภิ ักด์ิ สงครำมครเู สด 48 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์ผลกระทบของกำร กำรฟนฟศู ิลปวทิ ยำกำร ขยำยอิทธิพลของประเทศ กำรปฏิวตั ิทำงวทิ ยำศำสตร์ ในยุโรปไปยังทวปี อเมริกำ กำรสำรวจทำงทะเลกำรปฏิรปู ศำสนำ แอฟริกำและเอเชีย กำรปฏวิ ตั ิอุตสำหกรรม แนวคดิ เสรีนยิ ม ๔9 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๔ วเิ ครำะห์สถำนกำรณ์ แนวคดิ จักรวรรดนิ ยิ ม ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ ๒๑ แนวคิดชำตินิยม กำรขยำย กำรลำ่ อำณำนิคม และผลกระทบ ควำมรว่ มมือ และควำมขดั แยง้ ของมนุษยชำติในโลก ในครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๒๐ สถำนกำรณ์สำคัญของโลก ในครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๒๑ เช่น - เหตกุ ำรณ์กำรระเบดิ ตึก World Trade Centre (เวลิ ดเ์ ทรด เซน็ เตอร์) ๑๑ กนั ยำยน ๒๐๐๑ - กำรขำดแคลนทรัพยำกร - กำรก่อกำรรำ้ ยและกำร ต่อตำ้ นกำรก่อกำรร้ำย ควำมขดั แย้งทำงศำสนำ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๕๗ ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 50 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๑ วเิ ครำะห์ประเดน็ สำคัญ ประเด็นสำคญั ของประวัตศิ ำสตรไ์ ทย เชน่ แนวคิดเกย่ี วกบั ของประวตั ศิ ำสตร์ไทย ควำมเป็นมำของชำติไทย อำณำจักรโบรำณในดนิ แดนไทย 51 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๒ วิเครำะห์ควำมสำคัญของ และอิทธิพลที่มีต่อสังคมไทย ปัจจัยท่มี ีผลต่อกำรสถำปนำ สถำบันพระมหำกษตั ริย์ อำณำจักรไทยในช่วงเวลำตำ่ ง ๆ สำเหตุและผลของกำรปฏริ ปู ต่อชำติไทย กำรปกครองบำ้ นเมือง กำรเลิกทำส เลกิ ไพร่ กำรเสดจ็ ประพำสยุโรป 52 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๓ วิเครำะหป์ ัจจยั ทส่ี ่งเสริม และหวั เมืองสมยั รชั กำลท่ี ๕ แนวคดิ ประชำธิปไตย กำรสร้ำงสรรค์ภมู ปิ ญั ญำไทย ตั้งแต่สมยั รชั กำลที่ ๖ จนถึงกำรเปล่ียนแปลง และวัฒนธรรมไทย ซ่ึงมีผล กำรปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ สมัยรชั กำลท่ี ๗ ต่อสงั คมไทยในยุคปัจจบุ นั บทบำทของสตรีไทย บทบำทของสถำบันพระมหำกษตั รยิ ์ 53 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๔ วเิ ครำะห์ผลงำนของ ในกำรพฒั นำชำติไทยในดำ้ นตำ่ ง ๆ เชน่ กำรป้องกนั และรักษำเอกรำช บุคคลสำคญั ทงั้ ชำวไทย ของชำติ กำรสร้ำงสรรคว์ ัฒนธรรมไทย อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวนั ตก และตำ่ งประเทศ ท่ีมสี ว่ น และตะวันออกทีม่ ีต่อสงั คมไทย ผลงำนของบุคคลสำคัญ สรำ้ งสรรคว์ ัฒนธรรมไทย ทงั้ ชำวไทยและต่ำงประเทศ ที่มสี ่วนสรำ้ งสรรคว์ ัฒนธรรมไทย และประวตั ิศำสตร์ไทย และประวัติศำสตร์ไทย เช่น - พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหลำ้ นภำลยั - พระบำทสมเดจ็ พระนงั่ เกลำ้ เจ้ำอย่หู ัว - พระบำทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้ำเจำ้ อยู่หัว - สมเด็จพระมหำสมณเจ้ำ กรมพระยำวชริ ญำณวโรรส - พระเจ้ำบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษำธิรำชสนิท สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๕๘ ชน้ั ที่ รหัสตัวชี้วัด ตัวช้ีวดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ - สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอ เจำ้ ฟ้ำจติ รเจริญ กรมพระยำ นรศิ รำนวุ ัตตวิ งศ์ - สมเดจ็ พระเจ้ำบรมวงศ์เธอ กรมพระยำดำรงรำชำนภุ ำพ - หม่อมรำโชทัย หม่อมรำชวงศ์ กระต่ำย อิศรำงกูร - สมเดจ็ เจำ้ พระยำบรม มหำศรสี รุ ยิ วงศ์ (ชว่ ง บุนนำค) - บำทหลวงปำ เลอกวั ซ์ - พระยำกัลยำณไมตรี (Dr.Francis B.Sayre ดร.ฟรำนซีส บี แซร์) - ศำสตรำจำรย์ศิลป พีระศรี - พระยำรัษฎำนปุ ระดิษฐมหิศร ภกั ดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) ปจั จัยและบุคคลท่สี ่งเสริม สร้ำงสรรค์ภูมิปัญญำไทย และวฒั นธรรมไทย ซึ่งมีผลต่อ สังคมไทยในยุคปัจจุบนั เชน่ - พระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยู่หัว ภมู พิ ลอดุลยเดช - สมเด็จพระนำงเจ้ำสิรกิ ิติ์ พระบรมรำชนิ ีนำถ - สมเด็จพระศรีนครินทรำ บรมรำชชนนี - สมเด็จพระเจ้ำภคินีเธอ เจำ้ ฟำ้ เพชรรัตนรำชสดุ ำ สิรโิ สภำพัณณวดี - สมเด็จพระเจำ้ พี่นำงเธอ เจ้ำฟ้ำกัลยำณวิ ฒั นำ กรมหลวงนรำธวิ ำส รำชนครนิ ทร์ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชนั้ ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วัด ๒๕๙ ม.4-6 54 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๕ วำงแผนกำหนดแนวทำง รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ และกำรมีส่วนร่วมกำรอนุรักษ์ สภำพแวดล้อมที่มผี ลต่อ กำรสรำ้ งสรรค์ภูมปิ ญั ญำ ภมู ิปัญญำไทยและวฒั นธรรมไทย และวัฒนธรรมไทย วถิ ชี วี ติ ของคนไทยในสมยั ต่ำง ๆ 55 ส 5.1 ม.4-6/1 วิเครำะห์กำรเปลี่ยนแปลง กำรสบื ทอดและเปล่ียนแปลง ทำงกำยภำพในประเทศไทย ของวฒั นธรรมไทย และภมู ิภำคตำ่ ง ๆ ของโลก แนวทำงกำรอนรุ ักษภ์ มู ิปัญญำ ซึ่งไดร้ ับอทิ ธิพลจำกปัจจัย และวฒั นธรรมไทยและ ทำงภมู ศิ ำสตร์ กำรมีสว่ นร่วมในกำรอนรุ ักษ์ วธิ ีกำรมีส่วนรว่ มอนุรักษ์ 56 ส 5.1 ม4-6/2 วิเครำะหล์ ักษณะทำงกำยภำพ ภูมปิ ญั ญำและวฒั นธรรมไทย ซง่ึ ทำให้เกิดปัญหำและ กำรเปลย่ี นแปลงทำงกำยภำพ ภยั พบิ ัตทิ ำงธรรมชำติ (ประกอบด้วย ๑. ธรณีภำค ในประเทศไทยและ ๒. บรรยำกำศภำค ๓. อุทกภำค ภมู ภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก ๔. ชีวภำค) ของพื้นท่ีในประเทศไทย และภูมภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก 57 ส 5.1 ม.4-6/3 ใชแ้ ผนที่และเครื่องมือ ซง่ึ ไดร้ ับอิทธิพลจำกปัจจัย ทำงภูมศิ ำสตร์ในกำรค้นหำ ทำงภูมศิ ำสตร์ วเิ ครำะห์ และสรปุ ข้อมลู กำรเปลี่ยนแปลงทำงกำยภำพ ตำมกระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ ทส่ี ่งผลต่อภมู ปิ ระเทศ ภูมิอำกำศ และนำภูมิสำรสนเทศมำใช้ และทรัพยำกรธรรมชำติ ประโยชน์ในชีวติ ประจำวัน ปัญหำทำงกำยภำพและภยั พิบัติ ทำงธรรมชำติในประเทศและ ภมู ภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก แผนที่และองคป์ ระกอบ กำรอ่ำนแผนที่เฉพำะเรื่อง กำรแปลควำมหมำยรูปถ่ำย ทำงอำกำศ และภำพจำกดำวเทียม กำรนำภูมิสำรสนเทศไปใช้ ในชีวติ ประจำวัน สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖๐ ชั้น ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 58 ส 5.2 ม.4-6/1 วิเครำะห์ปฏิสัมพนั ธ์ระหว่ำง ปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่ำงสง่ิ แวดล้อม ส่ิงแวดล้อมทำงกำยภำพกบั ทำงกำยภำพกบั วิถีกำรดำเนนิ กจิ กรรมของมนุษย์ ชวี ติ ภำยใตก้ ระแสโลกำภวิ ตั น์ ในกำรสรำ้ งสรรคว์ ถิ ี ได้แก่ กำรดำเนินชวี ติ ของท้องถิน่ - ประชำกรและกำรตั้งถิน่ ฐำน ทั้งในประเทศไทยและ (กำรกระจำย และ ภูมิภำคต่ำง ๆ ของโลก กำรเปลยี่ นแปลงประชำกร และเห็นควำมสำคญั ของ ชุมชนเมอื งและชนบท และ ส่งิ แวดล้อมท่มี ีผลต่อ กำรกลำยเป็นเมือง) กำรดำรงชวี ติ ของมนษุ ย์ - กำรกระจำยของกจิ กรรม ทำงเศรษฐกิจ (เกษตรกรรม อุตสำหกรรมกำรผลติ กำรบรกิ ำร และกำรท่องเทย่ี ว) 59 ส 5.2 ม.4-6/2 วิเครำะห์สถำนกำรณ์ สถำนกำรณก์ ำรเปลี่ยนแปลง สำเหตุ และผลกระทบ ด้ำนทรพั ยำกรธรรมชำติ ของกำรเปล่ยี นแปลง และสง่ิ แวดล้อม ได้แก่ ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติ และ กำรเปลย่ี นแปลงสภำพภมู อิ ำกำศ ส่ิงแวดล้อมของประเทศไทย ควำมเส่อื มโทรมของส่ิงแวดล้อม และภมู ภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ และภัยพิบัติ สำเหตุ และผลกระทบของ กำรเปลยี่ นแปลงด้ำน ทรพั ยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดล้อมของประเทศไทย และภมู ิภำคต่ำง ๆ ของโลก กำรจดั กำรภยั พบิ ัติ 60 ส 5.2 ม.4-6/3 ระบมุ ำตรกำรปอ้ งกันและแกไ้ ข มำตรกำรป้องกันและแกไ้ ข ปญั หำ กฎหมำยและนโยบำย ปญั หำทรัพยำกรธรรมชำติและ ด้ำนทรพั ยำกรธรรมชำติ และ สง่ิ แวดล้อมในประเทศและ ส่ิงแวดล้อม บทบำทของ ระหว่ำงประเทศ ตำมแนวทำง องค์กำรท่ีเก่ยี วข้อง กำรพัฒนำท่ีย่งั ยนื ควำมมัน่ คง และกำรประสำนควำมรว่ มมือ ของมนุษย์ และกำรบรโิ ภค ทัง้ ในประเทศและระหว่ำง อยำ่ งรบั ผิดชอบ ประเทศ กฎหมำยและนโยบำย ดำ้ นทรพั ยำกรธรรมชำติ และ สิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศและ ระหว่ำงประเทศ บทบำทขององค์กำร และกำร ประสำนควำมร่วมมือทง้ั ใน ประเทศและระหวำ่ งประเทศ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชน้ั ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วัด ๒๖๑ ม.4-6 61 ส 5.2 ม.4-6/4 วเิ ครำะหแ์ นวทำงและ รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ มีสว่ นรว่ มในกำรจดั กำร แนวทำงกำรจัดกำร ทรัพยำกรธรรมชำติ และ ทรัพยำกรธรรมชำติ และ สิ่งแวดล้อม กำรมีส่วนร่วมในกำรแกป้ ัญหำ สิง่ แวดลอ้ ม เพื่อกำรพฒั นำ และกำรดำเนนิ ชีวติ ตำมแนวทำง กำรจดั กำรทรัพยำกรและ ท่ยี ่งั ยืน สงิ่ แวดล้อมเพ่ือกำรพัฒนำ ทีย่ งั่ ยนื รวม 61 ตัวช้ีวดั รวมท้ังหมด 418 ตัวชว้ี ัด 31 30 194 224 สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

262 สรปุ ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ชั้น ตัวช้วี ัดท้ังหมด ต้องรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 15 8 7 ป.๒ 21 11 10 ป.๓ 18 9 9 ป.๔ 19 13 6 ป.๕ 25 12 13 ป.๖ 22 6 16 ม.๑ 23 17 6 ม.๒ 25 15 10 ม.๓ 24 12 12 ม.๔-๖ 29 12 17 รวม 221 115 106 ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 15 สิงหาคม 2559 สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖๓ ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ช้ัน ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.1 1 พ 1.1 ป.1/1 อธิบำยลกั ษณะและหน้ำท่ี ลักษณะและหนำ้ ทีข่ องอวยั วะภำยนอก ของอวัยวะภำยนอก ทม่ี ีกำรเจริญเติบโตและพฒั นำกำร ไปตำมวัย - ตำ หู คอ จมกู ผม มือ เทำ้ เลบ็ ผิวหนงั ฯลฯ - อวัยวะในชอ่ งปำก (ปำก ล้นิ ฟัน เหงอื ก) 2 พ 1.1 ป.1/2 อธบิ ำยวธิ ดี ูแลรกั ษำอวัยวะ กำรดแู ลรักษำอวัยวะภำยนอก ภำยนอก - ตำ หู คอ จมกู ปำก ลน้ิ ฟัน ผม มอื เทำ้ เล็บ ผิวหนัง ฯลฯ - อวัยวะในชอ่ งปำก (ปำก ล้ิน ฟัน เหงอื ก) 3 พ 2.1 ป.1/1 ระบสุ มำชิกในครอบครัว สมำชกิ ในครอบครัว และควำมรักควำมผกู พัน ของสมำชิกท่ีมตี ่อกนั ควำมรักควำมผูกพนั ของสมำชิก ในครอบครัว 4 พ 2.1 ป.1/2 บอกส่ิงท่ชี ื่นชอบ และภำคภมู ใิ จ สงิ่ ที่ชน่ื ชอบและควำมภำคภูมิใจ ในตนเอง ในตนเอง (จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยของตนเอง) 5 พ 2.1 ป.1/3 บอกลกั ษณะควำมแตกต่ำงระหวำ่ ง ลกั ษณะควำมแตกตำ่ งของเพศชำย เพศชำยและเพศหญิง เพศหญิง - รำ่ งกำย - อำรมณ์ - ลกั ษณะนสิ ยั 6 พ 3.1 ป.1/1 เคลือ่ นไหวร่ำงกำยขณะอยู่กับที่ ธรรมชำตขิ องกำรเคล่อื นไหวร่ำงกำย เคลอ่ื นท่แี ละใช้อุปกรณป์ ระกอบ ในชีวติ ประจำวนั - แบบอยกู่ ับที่ เช่น น่ัง ยนื ก้มเงย เอยี งซ้ำย - ขวำ เคลื่อนไหวข้อมือ ข้อเท้ำ แขน ขำ - แบบเคลอื่ นท่ี เช่น เดิน วิง่ กระโดด กลง้ิ ตัว - แบบใช้อปุ กรณ์ประกอบ เช่น จบั โยน เตะ เคำะ 7 พ 3.1 ป.1/2 เล่นเกมเบด็ เตลด็ และเขำ้ ร่วม กจิ กรรมทำงกำยท่ีใช้ในกำรเคลื่อนไหว กจิ กรรมทำงกำยที่ใช้กำรเคล่ือนไหว ตำมธรรมชำติ ตำมธรรมชำติ - กำรเล่นเกมเบ็ดเตล็ด สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ช้ัน ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๒๖๔ ต้องรู้ ควรรู้ กำรออกกำลงั กำยและกำรเล่นเกม ป.1 8 พ 3.2 ป.1/1 ออกกำลงั กำย และเลน่ เกม เบด็ เตลด็ ตำมคำแนะนำอย่ำงสนกุ สนำน กฎ กติกำ ข้อตกลงในกำรเล่นเกม เบ็ดเตลด็ 9 พ 3.2 ป.1/2 ปฏบิ ตั ิตนตำมกฎ กตกิ ำ ข้อตกลง กำรปฏบิ ัตติ นตำมหลกั สุขบัญญตั ิ ในกำรเลน่ เกมตำมคำแนะนำ แหง่ ชำติ 10 พ 4.1 ป.1/1 ปฏิบัติตนตำมหลักสุขบัญญตั ิ ลกั ษณะอำกำรเจ็บป่วยท่เี กิดขึน้ กับตนเอง แหง่ ชำติตำมคำแนะนำ - ปวดศีรษะ - ตัวรอ้ น 11 พ 4.1 ป.1/2 บอกอำกำรเจ็บปว่ ยทเ่ี กดิ ขึ้น - มีนำ้ มูก - ปวดท้อง กับตนเอง - ผ่ืนคนั (หนังศรี ษะ ผวิ หนัง) - ฟกชำ้ ฯลฯ 12 พ 4.1 ป.1/3 ปฏิบัตติ นตำมคำแนะนำ เมื่อมีอำกำรเจ็บป่วย วิธีปฏิบัตติ นเม่ือมีอำกำรเจ็บป่วย ทเ่ี กดิ ขนึ้ กับตนเอง 13 พ 5.1 ป.1/1 ระบุส่งิ ที่ทำให้เกิดอนั ตรำย ทีบ่ ำ้ น โรงเรยี น และกำรป้องกัน สิ่งที่ทำให้เกดิ อนั ตรำยภำยในบ้ำน และโรงเรยี น กำรป้องกนั อนั ตรำยภำยในบำ้ น และโรงเรียน 14 พ 5.1 ป.1/2 บอกสำเหตุและกำรปอ้ งกัน อันตรำยจำกกำรเล่น อนั ตรำยทเ่ี กดิ จำกกำรเลน่ - สำเหตทุ ท่ี ำให้เกิดอนั ตรำย 15 พ 5.1 ป.1/3 แสดงคำพูดหรอื ท่ำทำง จำกกำรเลน่ ขอควำมช่วยเหลอื จำกผู้อ่นื - กำรป้องกันอนั ตรำยจำกกำรเล่น เมอ่ื เกิดเหตุรำ้ ยทีบ่ ้ำนและโรงเรยี น กำรขอควำมชว่ ยเหลอื เมื่อเกิดเหตุร้ำย รวม 15 ตวั ชีว้ ัด ทีบ่ ้ำนและโรงเรยี น - บุคคลที่ควรขอควำมชว่ ยเหลือ - คำพดู และท่ำทำงกำรขอควำมช่วยเหลอื 8 7 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖๕ ชน้ั ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.2 1 พ 1.1 ป.2/1 อธิบำยลกั ษณะ และหนำ้ ท่ี ลกั ษณะและหน้ำที่ของอวัยวะภำยใน ของอวัยวะภำยใน ท่มี กี ำรเจริญเตบิ โตและพัฒนำกำร ไปตำมวัย (สมอง หวั ใจ ตบั ไต ปอด กระเพำะอำหำร ลำไส้ ฯลฯ) 2 พ 1.1 ป.2/2 อธิบำยวิธดี ูแลรกั ษำอวยั วะภำยใน กำรดแู ลรักษำอวยั วะภำยใน - กำรระมดั ระวงั กำรกระแทก - กำรออกกำลังกำย - กำรกนิ อำหำร 3 พ 1.1 ป.2/3 อธิบำยธรรมชำติของชีวติ มนุษย์ ธรรมชำติของชีวิตมนษุ ยต์ ้ังแต่เกิด 4 พ 2.1 ป.2/1 ระบุบทบำทหน้ำทขี่ องตนเอง จนตำย และสมำชกิ ในครอบครัว บทบำทหน้ำที่ของสมำชิกในครอบครัว - ตนเอง - พ่อ แม่ - พีน่ ้อง - ญำติ 5 พ 2.1 ป.2/2 บอกควำมสำคัญของเพื่อน ควำมสำคญั ของเพ่ือน (เช่น พูดคยุ 6 พ 2.1 ป.2/3 ระบุพฤติกรรมที่เหมำะสมกับเพศ ปรึกษำ เล่น ฯลฯ) 7 พ 2.1 ป.2/4 อธิบำยควำมภำคภูมิใจในควำมเป็น พฤติกรรมที่เหมำะสมกบั เพศ เพศหญิงหรือเพศชำย - ควำมเป็นสุภำพบรุ ุษ 8 พ 3.1 ป.2/1 ควบคุมกำรเคลอื่ นไหวรำ่ งกำย ขณะอยูก่ ับที่ เคล่ือนที่ - ควำมเปน็ สภุ ำพสตรี และใช้อปุ กรณ์ประกอบ ควำมภำคภูมิใจในเพศหญิงหรือเพศชำย 9 พ 3.1 ป.2/2 เลม่ เกมเบด็ เตลด็ และเข้ำรว่ ม ลกั ษณะและวิธีกำรของกำรเคล่อื นไหว กจิ กรรมทำงกำยที่วธิ ีเลน่ อำศัยกำร ร่ำงกำยแบบอย่กู บั ที่ เช่น กระโดด เคล่ือนไหวเบื้องตน้ ทั้งแบบอยู่กับท่ี บดิ ตัว ดึง ผลัก แบบเคลอ่ื นท่ี เช่น เคลอื่ นทแี่ ละใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ กระโดดเขยง่ กำ้ วชิดก้ำว วิ่งตำมทิศทำง ทก่ี ำหนด และแบบใช้อุปกรณ์ประกอบ 10 พ 3.2 ป.2/1 ออกกำลังกำย และเล่นเกม เช่น คีบ ขว้ำง ตี ได้ด้วยตนเองอยำ่ งสนุกสนำน กำรเล่นเกมเบ็ดเตล็ด และเขำ้ รว่ ม กิจกรรมทำงกำยที่วิธเี ล่นอำศัยกำร เคลอื่ นไหวเบ้ืองต้นท้ังแบบอยู่กับท่ี เคลือ่ นท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ กำรออกกำลังกำยและเล่นเกมเบ็ดเตล็ด ประโยชนข์ องกำรออกกำลังกำย และกำรเลน่ เกม สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖๖ ชัน้ ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.2 11 พ 3.2 ป.2/2 ปฏิบัติตำมกฎ กติกำและข้อตกลง กฎ กตกิ ำ ข้อตกลงในกำรเล่นเกม ในกำรเล่นเกมเป็นกลุม่ เปน็ กล่มุ 12 พ 4.1 ป.2/1 บอกลักษณะของกำรมสี ุขภำพดี ลักษณะของกำรมีสขุ ภำพดี - ร่ำงกำยแข็งแรง - จติ ใจร่ำเริง แจ่มใส - มีควำมสขุ - มคี วำมปลอดภัย 13 พ 4.1 ป.2/2 เลือกกินอำหำรที่มปี ระโยชน์ อำหำรทมี่ ีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ 14 พ 4.1 ป.2/3 ระบขุ องใชแ้ ละของเล่นทมี่ ีผลเสีย ของใชแ้ ละของเลน่ ท่ีมผี ลเสียตอ่ สุขภำพ ตอ่ สุขภำพ 15 พ 4.1 ป.2/4 อธบิ ำยอำกำรและวิธีป้องกัน อำกำรและวิธีปอ้ งกันกำรเจ็บปว่ ย - ตำแดง ท้องเสยี ฯลฯ กำรเจบ็ ป่วย กำรบำดเจบ็ อำกำรและวธิ ปี อ้ งกนั กำรบำดเจ็บ ทีอ่ ำจเกิดข้ึน - ถูกของมคี ม แมลงสัตวก์ ัดต่อย 16 พ 4.1 ป.2/5 ปฏบิ ัติตำมคำแนะนำเมือ่ มีอำกำร หกล้ม ฯลฯ เจ็บป่วยและบำดเจ็บ วิธปี ฏบิ ตั ติ นเมื่อเจบ็ ปว่ ยและบำดเจ็บ 17 พ 5.1 ป.2/1 ปฏิบตั ิตนในกำรป้องกันอุบัติเหตุ ท่ีอำจเกดิ ขน้ึ ทำงนำ้ และทำงบก อบุ ตั ิเหตทุ ำงน้ำ และทำงบก - สำเหตุของอบุ ตั ิเหตุทำงนำ้ และทำงบก 18 พ 5.1 ป.2/2 บอกชือ่ ยำสำมัญประจำบำ้ น - วธิ กี ำรปอ้ งกันอุบัติเหตุทำงนำ้ และใช้ยำตำมคำแนะนำ และทำงบก 19 พ 5.1 ป.2/3 ระบโุ ทษของสำรเสพตดิ สำรอันตรำย ใกลต้ ัวและวิธีกำรป้องกัน ยำสำมัญประจำบ้ำน - ชือ่ ยำสำมัญประจำบ้ำน 20 พ 5.1 ป.2/4 ปฏบิ ัตติ นตำมสัญลักษณ์และ - กำรใชย้ ำตำมควำมจำเป็น ป้ำยเตือนของส่ิงของหรือสถำนที่ ท่เี ป็นอันตรำย และลกั ษณะอำกำร 21 พ 5.1 ป.2/5 อธิบำยสำเหตุ อันตรำย วิธีป้องกัน สำรเสพติดและสำรอันตรำยใกลต้ ัว อัคคีภยั และแสดงกำรหนีไฟ - โทษของสำรเสพติดและ รวม 21 ตัวช้ีวดั สำรอันตรำยใกลต้ ัว - วธิ ีป้องกัน สญั ลักษณ์และปำ้ ยเตือนของสิ่งของ หรือสถำนทที่ ่ีเป็นอันตรำย - ควำมหมำยของสญั ลกั ษณ์ และป้ำยเตือน อคั คภี ยั - สำเหตุของกำรเกดิ อคั คีภยั - อันตรำยซงึ่ ได้รับจำกกำรเกิดอคั คีภยั - กำรปอ้ งกนั อัคคีภัย และกำรหนไี ฟ 11 10 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖๗ ชนั้ ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 1 พ 1.1 ป.3/1 อธบิ ำยลักษณะและกำรเจริญเตบิ โต ลกั ษณะกำรเจริญเติบโตของร่ำงกำย ของร่ำงกำยมนุษย์ มนุษยท์ มี่ ีควำมแตกตำ่ งกัน ในแตล่ ะบุคคล - ลกั ษณะรูปร่ำง - นำ้ หนกั - สว่ นสงู 2 พ 1.1 ป.3/2 เปรียบเทียบกำรเจรญิ เติบโต เกณฑ์มำตรฐำนกำรเจริญเติบโต ของตนเองกบั เกณฑ์มำตรฐำน ของเด็กไทย 3 พ 1.1 ป.3/3 ระบุปจั จัยที่มผี ลต่อกำรเจริญเตบิ โต ปจั จัยทีม่ ผี ลต่อกำรเจริญเติบโต - อำหำร - กำรออกกำลังกำย - กำรพักผ่อน 4 พ 2.1 ป.3/1 อธบิ ำยควำมสำคญั และควำมแตกตำ่ ง ควำมสำคญั ของครอบครัว ของครอบครัวทมี่ ตี ่อตนเอง ควำมแตกตำ่ งของแตล่ ะครอบครวั - เศรษฐกจิ - สงั คม - กำรศึกษำ 5 พ 2.1 ป.3/2 อธบิ ำยวิธีสรำ้ งสมั พันธภำพ วิธกี ำรสรำ้ งสมั พนั ธภำพในครอบครัว ในครอบครวั และกลุ่มเพื่อน และกลมุ่ เพ่ือน 6 พ 2.1 ป.3/3 บอกวิธีหลีกเลีย่ งพฤติกรรม พฤติกรรมทีน่ ำไปสู่กำรถกู ล่วงละเมิด ทนี่ ำไปสู่กำรถกู ลว่ งละเมิดทำงเพศ ทำงเพศ (กำรแต่งกำย กำรเท่ียวกลำงคืน กำรคบเพือ่ น กำรเสพสำรเสพตดิ ฯลฯ) วิธหี ลกี เลี่ยงพฤติกรรมที่นำไปสู่ กำรถกู ล่วงละเมดิ ทำงเพศ (ทกั ษะปฏเิ สธและอน่ื ๆ ) 7 พ 3.1 ป.3/1 ควบคุมกำรเคล่อื นไหวร่ำงกำย กำรเคล่อื นไหวรำ่ งกำยแบบอยู่กับท่ี ขณะอยกู่ ับท่ี เคลื่อนที่ และใช้ เชน่ ย่อยืด เขยง่ พบั ตวั เคลื่อนไหว อุปกรณ์ประกอบอยำ่ งมีทศิ ทำง ลำตัว กำรเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนท่ี เช่น เดนิ ตอ่ เท้ำ เดินถอยหลงั กระโจน และแบบใช้อุปกรณป์ ระกอบ โดยมีกำรบงั คบั ทิศทำง เช่น ดีด ขว้ำง โยน และรับ วธิ กี ำรควบคุมกำรเคล่อื นไหวร่ำงกำย แบบตำ่ ง ๆ อย่ำงมีทิศทำง 8 พ 3.1 ป.3/2 เคลื่อนไหวร่ำงกำยที่ใชท้ ักษะ กิจกรรมทำงกำยที่ใชท้ ักษะกำรเคล่อื นไหว กำรเคล่อื นไหวแบบบังคบั ทิศทำง แบบบงั คบั ทิศทำง ในกำรเลน่ เกม ในกำรเล่นเกมเบด็ เตลด็ เบ็ดเตลด็ สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖๘ ชั้น ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 9 พ 3.2 ป.3/1 เลือกออกกำลังกำย กำรละเลน่ แนวทำงกำรเลือกออกกำลังกำย กำรละเล่นพื้นเมืองและเลน่ เกม พ้นื เมือง และเล่นเกมท่ีเหมำะสมกับ ท่เี หมำะสมกับจดุ เด่น จุดด้อย จุดเด่น จดุ ดอ้ ย และข้อจำกัด ของตนเอง และข้อจำกัดของแต่ละบุคคล 10 พ 3.2 ป.3/2 ปฏบิ ัตติ ำมกฎ กติกำและขอ้ ตกลง กำรออกกำลังกำย เกม และกำรละเล่น พน้ื เมือง ของกำรออกกำลังกำย กำรเล่นเกม กำรละเลน่ พนื้ เมืองไดด้ ว้ ยตนเอง กฎ กติกำและข้อตกลง ในกำร ออกกำลงั กำย กำรเล่นเกม และกำรละเล่นพ้ืนเมือง 11 พ 4.1 ป.3/1 อธิบำยกำรติดต่อและวธิ กี ำร กำรติดต่อและวิธีกำรป้องกัน ปอ้ งกนั กำรแพรก่ ระจำยของโรค กำรแพร่กระจำยของโรค 12 พ 4.1 ป.3/2 จำแนกอำหำรหลัก ๕ หมู่ อำหำรหลกั ๕ หมู่ 13 พ 4.1 ป.3/3 เลือกกินอำหำรที่หลำกหลำย กำรเลือกกินอำหำรที่เหมำะสม ครบ ๕ หมู่ ในสดั สว่ นทเ่ี หมำะสม - ควำมหลำกหลำยของชนิดอำหำร ในแต่ละหมู่ - สัดส่วนและปริมำณของอำหำร (ตำมธงโภชนำกำร) 14 พ 4.1 ป.3/4 แสดงกำรแปรงฟันให้สะอำด กำรแปรงฟนั ให้สะอำดอย่ำงถูกวธิ ี อย่ำงถูกวิธี (ครอบคลุมบริเวณขอบเหงือกและคอฟัน) 15 พ 4.1 ป.3/5 สรำ้ งเสรมิ สมรรถภำพทำงกำยได้ ตำมคำแนะนำ กำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำย เพ่ือสุขภำพ - วิธีกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย - วธิ ีกำรสร้ำงเสรมิ สมรรถภำพ เพอื่ สขุ ภำพ โดยกำรออกกำลังกำย กำรพักผ่อน และกิจกรรมนนั ทนำกำร 16 พ 5.1 ป.3/1 ปฏบิ ตั ติ นเพอื่ ควำมปลอดภัย วิธปี ฏบิ ัติตนเพ่ือควำมปลอดภัย จำกอุบตั ิเหตุในบ้ำน โรงเรียน และกำรเดนิ ทำง จำกอบุ ัตเิ หตุในบ้ำน โรงเรยี น และกำรเดินทำง 17 พ 5.1 ป.3/2 แสดงวธิ ีขอควำมชว่ ยเหลือ จำกบคุ คลและแหล่งตำ่ ง ๆ กำรขอควำมช่วยเหลอื จำกบุคคล เมอ่ื เกดิ เหตุรำ้ ย หรอื อบุ ตั ิเหตุ และแหล่งตำ่ ง ๆ เม่ือเกิดเหตุรำ้ ย 18 พ 5.1 ป.3/3 แสดงวธิ ปี ฐมพยำบำล เม่อื บำดเจบ็ หรืออบุ ตั เิ หตุ จำกกำรเลน่ กำรบำดเจบ็ จำกกำรเลน่ รวม 18 ตวั ชี้วัด - ลกั ษณะของกำรบำดเจบ็ - วิธปี ฐมพยำบำล (บำดเจบ็ ห้ำมเลือด ฯลฯ) 99 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖๙ ชน้ั ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 1 พ 1.1 ป.4/1 อธิบำยกำรเจริญเติบโตและ กำรเจริญเตบิ โตและพฒั นำกำร พฒั นำกำรของร่ำงกำยและจิตใจ ของรำ่ งกำยและจติ ใจตำมวยั ตำมวยั (ในช่วงอำยุ ๙ – ๑๒ ปี) 2 พ 1.1 ป.4/2 อธิบำยควำมสำคัญของกล้ำมเนื้อ ควำมสำคญั ของกลำ้ มเน้ือ กระดกู กระดูกและขอ้ ที่มผี ลต่อสุขภำพ และข้อที่มีผลต่อสขุ ภำพ กำรเจรญิ เตบิ โตและพฒั นำกำร กำรเจรญิ เตบิ โตและพฒั นำกำร 3 พ 1.1 ป.4/3 อธบิ ำยวธิ ดี แู ลกลำ้ มเนอื้ กระดูก วธิ ีดูแลรักษำกลำ้ มเน้ือ กระดูกและข้อ และขอ้ ให้ทำงำนอย่ำงมปี ระสิทธิภำพ ให้ทำงำนอย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ 4 พ 2.1 ป.4/1 อธิบำยคุณลักษณะของควำมเป็น คณุ ลักษณะของควำมเปน็ เพื่อนและ เพื่อนและสมำชกิ ทีด่ ขี องครอบครวั สมำชิกท่ดี ีของครอบครวั 5 พ 2.1 ป.4/2 แสดงพฤติกรรมทเ่ี หมำะสมกับเพศ พฤติกรรมท่เี หมำะสมกับเพศของตน ของตนตำมวัฒนธรรมไทย ตำมวัฒนธรรมไทย 6 พ 2.1 ป.4/3 ยกตัวอยำ่ งวธิ กี ำรปฏิเสธกำรกระทำ วธิ กี ำรปฏิเสธกำรกระทำทเี่ ป็นอันตรำย ที่เป็นอนั ตรำยและไม่เหมำะสม และไมเ่ หมำะสมในเรื่องเพศ ในเรื่องเพศ 7 พ 3.1 ป.4/1 ควบคมุ ตนเองเมื่อใชท้ ักษะกำร กำรเคลือ่ นไหวร่ำงกำยแบบผสมผสำน เคล่ือนไหวในลักษณะผสมผสำนได้ ท้งั แบบอยู่กับที่ เช่น กระโดดหมุนตัว กระโดดเหยียดตัว แบบเคล่ือนท่ี เช่น ท้ังแบบอยูก่ ับที่ เคลือ่ นที่ และใช้ ซกิ แซ็ก วง่ิ เปลย่ี นทิศทำง ควบมำ้ และ อุปกรณ์ประกอบ แบบใช้อปุ กรณ์ประกอบ เชน่ บอล เชอื ก 8 พ 3.1 ป.4/2 ฝึกกำยบริหำรท่ำมอื เปล่ำประกอบ จังหวะ กำยบรหิ ำรท่ำมือเปล่ำประกอบจังหวะ 9 พ 3.1 ป.4/3 เล่นเกมเลยี นแบบและกจิ กรรม เกมเลียนแบบและกจิ กรรมแบบผลดั แบบผลดั กฬี ำพนื้ ฐำน เช่น แชร์บอล แฮนดบ์ อล 10 พ 3.1 ป.4/4 เลน่ กีฬำพืน้ ฐำนอย่ำงน้อย ๑ ชนดิ หว่ งขำ้ มตำขำ่ ย 11 พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลังกำย เล่นเกม และกีฬำ กำรออกกำลงั กำย เล่นเกม ตำมควำมชอบ ทต่ี นเองชอบและมีควำมสำมำรถ ของตนเองและเล่นกีฬำพ้ืนฐำนร่วมกับ ในกำรวิเครำะหผ์ ลพัฒนำกำรของ ผู้อื่น ตนเองตำมตัวอย่ำงและแบบปฏบิ ัติ ของผู้อื่น กำรวิเครำะห์ผลพัฒนำกำรของตนเอง ในกำรออกกำลังกำย เล่นเกม และ เล่นกีฬำตำมตัวอย่ำงและแบบปฏิบตั ิ ของผู้อื่น คุณค่ำของกำรออกกำลงั กำย เล่นเกม และเลน่ กีฬำที่มีตอ่ สุขภำพ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๐ ช้ัน ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 12 พ 3.2 ป.4/2 ปฏบิ ัติตำมกฎ กติกำกำรเลน่ กีฬำ กำรปฏิบัติตำมกฎ กติกำ กำรเล่นกีฬำ พื้นฐำนตำมชนดิ กีฬำท่เี ลน่ พืน้ ฐำนตำมชนิดกีฬำท่ีเล่น 13 พ 4.1 ป.4/1 อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงส่ิงแวดล้อม 6 สิ่งแวดล้อมกับสุขภำพ กับสุขภำพ 14 พ 4.1 ป.4/2 อธิบำยสภำวะอำรมณ์ ควำมรู้สึก กำรจัดส่ิงแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะ ท่ีมผี ลต่อสขุ ภำพ และเอ้ือต่อสุขภำพ 15 พ 4.1 ป.4/3 วิเครำะหข์ ้อมูลบนฉลำกอำหำรและ สภำวะอำรมณ์และควำมรู้สึก เช่น ผลติ ภัณฑส์ ขุ ภำพ เพ่ือกำรเลอื กบริโภค โกรธ หงดุ หงิด เครยี ด เกลียด เสียใจ เศรำ้ ใจ วติ กกงั วล กลวั กำ้ วร้ำว 16 พ 4.1 ป.4/4 ทดสอบและปรบั ปรุงสมรรถภำพ อจิ ฉำ ริษยำ เบื่อหน่ำย ท้อแท้ ดีใจ ทำงกำยตำมผลกำรตรวจสอบ ชอบใจ รกั ชนื่ ชม สนุก สขุ สบำย สมรรถภำพทำงกำย ผลท่มี ตี อ่ สขุ ภำพ 17 พ 5.1 ป.4/1 อธบิ ำยควำมสำคัญของกำรใช้ยำ ทำงบวก : สดชื่น ยิม้ แยม้ แจม่ ใส และใชย้ ำอย่ำงถูกวธิ ี ร่ำเริงฯลฯ 18 พ 5.1 ป.4/2 แสดงวธิ ปี ฐมพยำบำลเมื่อได้รับ ทำงลบ : ปวดศีรษะ ปวดท้อง อนั ตรำยจำกกำรใช้ยำผดิ สำรเคมี แมลงสตั ว์กดั ต่อย และกำรบำดเจบ็ เบื่ออำหำร ออ่ นเพลยี ฯลฯ จำกกำรเลน่ กีฬำ กำรวิเครำะห์ข้อมูลบนฉลำกอำหำร 19 พ 5.1 ป.4/3 วเิ ครำะห์ผลเสยี ของกำรสบู บุหร่ี และผลิตภัณฑ์สุขภำพ และกำรด่ืมสรุ ำทีม่ ีต่อสุขภำพ และกำรป้องกนั กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย รวม 19 ตัวชี้วัด กำรปรบั ปรุงสมรรถภำพทำงกำยตำมผล กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย ควำมสำคัญของกำรใช้ยำ หลักกำรใชย้ ำ วิธปี ฐมพยำบำล - กำรใช้ยำผิด - สำรเคมี - แมลงสัตวก์ ัดตอ่ ย - กำรบำดเจ็บจำกกำรเล่นกีฬำ ผลเสยี ของกำรสบู บหุ รี่ กำรด่ืมสุรำ และกำรป้องกนั 13 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๑ ชั้น ท่ี รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 1 พ 1.1 ป.5/1 อธบิ ำยควำมสำคัญของระบบ ควำมสำคัญของระบบย่อยอำหำร และระบบขบั ถ่ำยที่มีผลตอ่ สุขภำพ ยอ่ ยอำหำร และระบบขับถ่ำย กำรเจรญิ เติบโต และพฒั นำกำร ทีม่ ีผลตอ่ สขุ ภำพ กำรเจริญเติบโต และพฒั นำกำร 2 พ 1.1 ป.5/2 อธิบำยวิธดี แู ลระบบยอ่ ยอำหำรและ วิธีดแู ลรักษำระบบย่อยอำหำรและ ระบบขับถ่ำยให้ทำงำนตำมปกติ ระบบขบั ถำ่ ยใหท้ ำงำนตำมปกติ กำรเปล่ยี นแปลงทำงเพศ 3 พ 2.1 ป.5/1 อธิบำยกำรเปล่ยี นแปลงทำงเพศ กำรดแู ลตนเอง และปฏบิ ตั ิตนได้เหมำะสม กำรวำงตวั ทเี่ หมำะสมกบั เพศ ตำมวฒั นธรรมไทย 4 พ 2.1 ป.5/2 อธิบำยควำมสำคัญของกำรมีครอบครัว ทีอ่ บอุ่นตำมวัฒนธรรมไทย ลกั ษณะของครอบครวั ท่ีอบอุ่น ตำมวฒั นธรรมไทย (ครอบครวั ขยำย 5 พ 2.1 ป.5/3 ระบพุ ฤติกรรมที่พึงประสงค์ และ กำรนับถือญำต)ิ ไมพ่ ึงประสงค์ในกำรแก้ไขปญั หำ ควำมขัดแย้งในครอบครัวและ พฤติกรรมที่พงึ ประสงคแ์ ละ กลมุ่ เพ่ือน ไม่พึงประสงค์ในกำรแก้ไขปญั หำ ควำมขดั แย้งในครอบครวั 6 พ 3.1 ป.5/1 จดั รูปแบบกำรเคล่ือนไหว แบบผสมผสำน และควบคมุ ตนเอง กำรจดั รปู แบบกำรเคลื่อนไหวรำ่ งกำย เมอื่ ใช้ทักษะกำรเคลอื่ นไหว แบบผสมผสำน และกำรปฏบิ ัติ ตำมแบบที่กำหนด กิจกรรมทำงกำย ท้ังแบบอยู่กับท่ี เคล่ือนท่ี และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ 7 พ 3.1 ป.5/2 เล่มเกมนำไปสู่กีฬำท่เี ลือกและ ตำมแบบที่กำหนด เชน่ กำรฝึกกำยบรหิ ำร กิจกรรมกำรเคลื่อนไหวแบบผลดั ยืดหยนุ่ ข้ันพนื้ ฐำน เป็นต้น 8 พ 3.1 ป.5/3 ควบคุมกำรเคลอื่ นไหวในเร่ือง เกมนำไปสูก่ ฬี ำและกิจกรรมแบบผลดั กำรรับแรง กำรใช้แรง และควำมสมดลุ ทีม่ ีกำรตี เขี่ย รบั –ส่งสง่ิ ของ ขว้ำง และวิ่ง 9 พ 3.1 ป.5/4 แสดงทกั ษะกลไกในกำรปฏบิ ัติ กิจกรรมทำงกำยและเลน่ กีฬำ กำรเคลือ่ นไหวในเรอื่ งกำรรบั แรง กำรใช้แรง และควำมสมดุล 10 พ 3.1 ป.5/5 เลน่ กีฬำไทยและกีฬำสำกล ประเภทบคุ คลและประเภททีม ทกั ษะกลไกท่สี ง่ ผลต่อกำรปฏิบตั ิ อยำ่ งละ ๑ ชนดิ กจิ กรรมทำงกำยและเล่นกีฬำ 11 พ 3.1 ป.5/6 อธบิ ำยหลกั กำร และเขำ้ ร่วม กำรเล่นกีฬำไทย เชน่ ตะกร้อวง กจิ กรรมนนั ทนำกำรอยำ่ งน้อย ว่ิงชกั ธง และกฬี ำสำกล เช่น กรีฑำ ๑ กิจกรรม ประเภทลู่ แบดมินตนั เปตอง ฟตุ บอล เทเบลิ เทนนิส วำ่ ยน้ำ หลกั กำรและกิจกรรมนนั ทนำกำร สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๒ ชนั้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 12 พ 3.2 ป.5/1 ออกกำลังกำยอย่ำงมรี ูปแบบ หลักกำรและรูปแบบกำรออกกำลงั กำย เลน่ เกมทใ่ี ช้ทักษะกำรคดิ และ ตดั สินใจ กำรออกกำลงั กำย และกำรเล่นเกม เช่น เกมเบ็ดเตลด็ เกมเลยี นแบบ เกมนำ และกำรละเล่นพื้นเมือง 13 พ 3.2 ป.5/2 เล่นกีฬำที่ตนเองชอบอย่ำงสม่ำเสมอ กำรเล่นกีฬำไทย และกีฬำสำกล โดยสร้ำงทำงเลือกในวธิ ปี ฏบิ ัติ ประเภทบุคคลและทีมท่ีเหมำะสม ของตนเองอยำ่ งหลำกหลำย กบั วยั อย่ำงสม่ำเสมอ และมนี ้ำใจนักกีฬำ กำรสรำ้ งทำงเลือกในวิธีปฏิบตั ิ ในกำรเล่นกีฬำอย่ำงหลำกหลำย และมนี ้ำใจนักกีฬำ 14 พ 3.2 ป.5/3 ปฏิบตั ิตำมกฎ กติกำกำรเลน่ เกม กฎ กติกำในกำรเล่นเกมกีฬำไทย กีฬำไทยและกีฬำสำกล และกีฬำสำกลตำมชนดิ กีฬำที่เล่น ตำมชนดิ กีฬำท่เี ล่น วธิ ีกำรรกุ และวิธีป้องกนั ในกำรเลน่ กีฬำไทยและกีฬำสำกลทเ่ี ลน่ 15 พ 3.2 ป.5/4 ปฏบิ ัตติ นตำมสทิ ธิของตนเอง สิทธขิ องตนเองและผู้อ่นื ในกำรเลน่ เกม ไมล่ ะเมดิ สทิ ธผิ อู้ ื่นและยอมรับ และกีฬำ ในควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งบคุ คล ในกำรเลน่ เกมและกฬี ำไทย ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งบุคคล กฬี ำสำกล ในกำรเล่นเกมและกฬี ำ 16 พ 4.1 ป.5/1 แสดงพฤติกรรมทเี่ หน็ ควำมสำคญั ควำมสำคัญของกำรปฏบิ ัติตน ของกำรปฏิบตั ติ นตำมสุขบญั ญตั ิ ตำมสุขบัญญตั ิแหง่ ชำติ แห่งชำติ 17 พ 4.1 ป.5/2 คน้ หำขอ้ มูลข่ำวสำรเพ่ือใช้ แหลง่ และวิธีคน้ หำข้อมลู ขำ่ วสำร สรำ้ งเสริมสุขภำพ ทำงสุขภำพ กำรใชข้ อ้ มูลขำ่ วสำรในกำรสร้ำงเสริม สขุ ภำพ 18 พ 4.1 ป.5/3 วเิ ครำะหส์ ื่อโฆษณำในกำรตดั สินใจ กำรตดั สนิ ใจเลือกซื้ออำหำรและ เลอื กซื้ออำหำรและผลิตภัณฑ์สขุ ภำพ ผลิตภัณฑส์ ขุ ภำพ (อำหำร อยำ่ งมเี หตผุ ล เคร่ืองสำอำง ผลติ ภัณฑ์ดูแลสุขภำพ ในช่องปำก ฯลฯ) 19 พ 4.1 ป.5/4 ปฏิบัติตนในกำรป้องกนั โรคที่พบบอ่ ย กำรปฏบิ ัติตนในกำรป้องกันโรค ในชีวติ ประจำวนั ที่พบบ่อยในชวี ิตประจำวนั - ไขห้ วดั - ไขเ้ ลือดออก - โรคผวิ หนัง - ฟนั ผุและโรคปริทันต์ ฯลฯ สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๓ ช้นั ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 20 พ 4.1 ป.5/5 ทดสอบและปรบั ปรุงสมรรถภำพ กำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบ กำรปรบั ปรงุ สมรรถภำพทำงกำย สมรรถภำพทำงกำย ตำมผลกำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย 21 พ 5.1 ป.5/1 วิเครำะหป์ ัจจยั ทม่ี ีอิทธิพล ปจั จยั ทมี่ อี ิทธิพลต่อกำรใช้สำรเสพติด ต่อกำรใชส้ ำรเสพตดิ (สรุ ำ บหุ ร่ี ยำบำ้ สำรระเหย ฯลฯ) - ครอบครัว สงั คม เพ่อื น - ค่ำนยิ ม ควำมเชอ่ื - ปัญหำสุขภำพ - สือ่ ฯลฯ 22 พ 5.1 ป.5/2 วเิ ครำะห์ผลกระทบของกำรใช้ยำ ผลกระทบของกำรใชย้ ำและสำรเสพติด และสำรเสพติดที่มผี ลตอ่ รำ่ งกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสตปิ ัญญำ ทม่ี ตี อ่ ร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ สังคม 23 พ 5.1 ป.5/3 ปฏิบตั ิตนเพอ่ื ควำมปลอดภัย และสติปญั ญำ จำกกำรใช้ยำและหลีกเล่ยี ง สำรเสพติด กำรปฏบิ ตั ิตนเพื่อควำมปลอดภัย 24 พ 5.1 ป.5/4 วิเครำะห์อิทธพิ ลของส่อื จำกกำรใชย้ ำ ที่มตี ่อพฤติกรรมสขุ ภำพ กำรหลกี เล่ยี งสำรเสพติด 25 พ 5.1 ป.5/5 ปฏิบัตติ นเพื่อป้องกันอนั ตรำย จำกกำรเล่นกีฬำ อิทธิพลของส่ือที่มตี ่อพฤติกรรมสุขภำพ รวม 25 ตัวชีว้ ัด (อินเทอร์เน็ต เกม ฯลฯ) กำรปฏิบตั เิ พ่ือป้องกนั อนั ตรำย จำกกำรเลน่ กีฬำ 12 13 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๔ ช้นั ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.6 1 พ 1.1 ป.6/1 อธิบำยควำมสำคัญของระบบสืบพันธ์ุ ควำมสำคญั ของระบบสบื พันธ์ุ ระบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหำยใจ ระบบไหลเวยี นโลหิต และระบบหำยใจ ทีม่ ผี ลต่อสขุ ภำพ กำรเจริญเติบโต ท่มี ผี ลตอ่ สุขภำพ กำรเจริญเติบโต และพัฒนำกำร และพฒั นำกำร 2 พ 1.1 ป.6/2 อธบิ ำยวธิ ีกำรดแู ลรักษำระบบสบื พนั ธ์ุ วิธีดูแลรกั ษำระบบสบื พันธ์ุ ระบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหำยใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบหำยใจ ให้ทำงำนตำมปกติ ใหท้ ำงำนตำมปกติ 3 พ 2.1 ป.6/1 อธิบำยควำมสำคัญของกำรสรำ้ ง ควำมสำคญั ของกำรสร้ำงและรกั ษำ และรกั ษำสมั พันธภำพกับผู้อ่ืน สมั พนั ธภำพกับผู้อนื่ ปัจจัยท่ีชว่ ยให้กำรทำงำนกลมุ่ ประสบควำมสำเรจ็ - ควำมสำมำรถสว่ นบคุ คล - บทบำทหน้ำทีข่ องสมำชกิ ในกล่มุ - กำรยอมรับควำมคิดเหน็ และ ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคล - ควำมรับผดิ ชอบ 4 พ 2.1 ป.6/2 วิเครำะห์พฤติกรรมเสีย่ งทอ่ี ำจนำไปสู่ พฤติกรรมเสย่ี งท่นี ำไปสกู่ ำรมเี พศสมั พนั ธ์ กำรมีเพศสัมพันธ์ กำรตดิ เชือ้ เอดส์ กำรติดเช้อื เอดส์ และกำรตง้ั ครรภ์ และกำรต้ังครรภ์ก่อนวัยอนั ควร กอ่ นวัยอนั ควร 5 พ 3.1 ป.6/1 แสดงทักษะกำรเคลื่อนไหวร่วมกับ กำรเคล่ือนไหวรว่ มกับผ้อู ่นื แบบผลดั ผูอ้ ื่นในลกั ษณะแบบผลัด และแบบ ในลกั ษณะผสมผสำน ในกำรร่วม ผสมผสำนได้ตำมลำดบั ท้ังแบบ กจิ กรรมทำงกำย เช่น กจิ กรรมแบบ อยู่กบั ท่ี เคลอื่ นท่ี และใช้อุปกรณ์ ผลัด กำยบรหิ ำรประกอบเพลง ประกอบและกำรเคลื่อนไหว ยดื หย่นุ ขัน้ พืน้ ฐำนที่ใชท้ ำ่ ตอ่ เนื่อง ประกอบเพลง และกำรต่อตัวท่ำง่ำย ๆ 6 พ 3.1 ป.6/2 จำแนกหลักกำรเคลอ่ื นไหว กำรเคล่อื นไหวในเรอ่ื งกำรรับแรง ในเรือ่ งกำรรบั แรง กำรใช้แรง กำรใช้แรง และควำมสมดุล และควำมสมดุลในกำรเคลือ่ นไหว กบั กำรพฒั นำทักษะกำรเคลอื่ นไหว รำ่ งกำยในกำรเล่นเกม เลน่ กีฬำ ในกำรเล่นเกมและกีฬำ และนำผลมำปรับปรุง เพ่ิมพูนวธิ ี ปฏิบัติของตนและผ้อู ่นื 7 พ 3.1 ป.6/3 เลน่ กีฬำไทย กฬี ำสำกลประเภทบคุ คล กำรเล่นกฬี ำไทย กีฬำสำกล ประเภท และประเภททีมอยำ่ งละ ๑ ชนิด บคุ คลและประเภททีม เช่น กรฑี ำ ประเภทลู่และลำน เปตอง วำ่ ยนำ้ เทเบิลเทนนิส วอลเลยบ์ อล ฟุตบอล ตะกร้อวง สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๕ ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.6 8 พ 3.1 ป.6/4 ใชท้ กั ษะกลไกเพ่ือปรบั ปรุงเพ่ิมพนู กำรใชข้ อ้ มูลด้ำนทักษะกลไกเพื่อปรบั ปรุง ควำมสำมำรถของตนและผู้อื่น และเพิ่มพนู ควำมสำมำรถในกำร ในกำรเล่นกีฬำ ปฏบิ ัติกิจกรรมทำงกำยและเล่นกฬี ำ 9 พ 3.1 ป.6/5 รว่ มกจิ กรรมนันทนำกำร อย่ำงน้อย กำรนำควำมรูแ้ ละหลักกำรของ ๑ กิจกรรม แลว้ นำควำมรูแ้ ละ หลักกำรท่ีได้ไปใชเ้ ป็นฐำนกำรศกึ ษำ กิจกรรมนนั ทนำกำรไปใชเ้ ป็นฐำน หำควำมร้เู รอ่ื งอืน่ ๆ กำรศึกษำหำควำมรู้ 10 พ 3.2 ป.6/1 อธิบำยประโยชน์และหลักกำร ออกกำลังกำยเพื่อสขุ ภำพ ประโยชน์และหลักกำรออกกำลงั กำย สมรรถภำพทำงกำยและ เพ่ือสุขภำพ สมรรถภำพทำงกำยและ กำรสร้ำงเสริมบคุ ลิกภำพ กำรสร้ำงเสริมบุคลิกภำพ 11 พ 3.2 ป.6/2 เล่นเกมทใี่ ชท้ ักษะกำรวำงแผน กำรเลน่ เกมท่ีใชท้ ักษะกำรวำงแผน และสำมำรถเพมิ่ พูนทักษะ กำรออกกำลังกำยและเคล่อื นไหว กำรเพิ่มพูนทักษะกำรออกกำลงั กำย อย่ำงเปน็ ระบบ และกำรเคล่อื นไหวอยำ่ งเปน็ ระบบ 12 พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กีฬำทตี่ นเองชน่ื ชอบและ กำรเลน่ กฬี ำประเภทบุคคลและ สำมำรถประเมนิ ทักษะกำรเล่น ประเภททีมทช่ี ่นื ชอบ ของตนเป็นประจำ กำรประเมินทกั ษะกำรเล่นกีฬำของตน 13 พ 3.2 ป.6/4 ปฏิบัติตำมกฎ กติกำตำมชนิดกฬี ำ ทเี่ ลน่ โดยคำนึงถงึ ควำมปลอดภยั กฎ กติกำในกำรเลน่ กีฬำไทย กีฬำสำกล ของตนเองและผอู้ ่ืน ตำมชนิดกีฬำที่เล่น 14 พ 3.2 ป.6/5 จำแนกกลวธิ ีกำรรกุ กำรป้องกนั กลวิธีกำรรุก กำรป้องกันในกำรเล่นกีฬำ และนำไปใช้ในกำรเลน่ กฬี ำ กำรสร้ำงควำมสำมัคคีและควำมมนี ้ำใจ 15 พ 3.2 ป.6/6 เลน่ เกมและกีฬำดว้ ยควำมสำมัคคี นักกฬี ำในกำรเล่นเกมและกีฬำ และมนี ้ำใจนักกีฬำ ควำมสำคัญของสงิ่ แวดลอ้ มที่มผี ล 16 พ 4.1 ป.6/1 แสดงพฤติกรรมในกำรป้องกันและ ต่อสขุ ภำพ แกไ้ ขปัญหำส่ิงแวดล้อมที่มีผล ต่อสุขภำพ ปญั หำของส่งิ แวดล้อมที่มีผล ตอ่ สุขภำพ 17 พ 4.1 ป.6/2 วิเครำะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดจำก กำรระบำดของโรคและเสนอ กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำ แนวทำงกำรป้องกันโรคตดิ ตอ่ สิง่ แวดลอ้ มทม่ี ีผลต่อสขุ ภำพ สำคญั ทพ่ี บในประเทศไทย โรคติดต่อสำคัญทร่ี ะบำดในปัจจบุ นั ผลกระทบทีเ่ กิดจำกกำรระบำดของโรค กำรปอ้ งกนั กำรระบำดของโรค สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๖ ช้ัน ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.6 18 พ 4.1 ป.6/3 แสดงพฤตกิ รรมที่บง่ บอกถึง พฤติกรรมท่ีแสดงออกถึงควำมรบั ผิดชอบ ควำมรบั ผิดชอบต่อสุขภำพ ตอ่ สุขภำพของส่วนรวม ของส่วนรวม 19 พ 4.1 ป.6/4 สรำ้ งเสริมและปรบั ปรุงสมรรถภำพ วธิ ที ดสอบสมรรถภำพทำงกำย ทำงกำยเพ่ือสขุ ภำพอย่ำงต่อเนอื่ ง กำรสร้ำงเสริมและปรับปรงุ สมรรถภำพ ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย 20 พ 5.1 ป.6/1 วเิ ครำะห์ผลกระทบจำกควำมรุนแรง ภยั ธรรมชำติ ของภยั ธรรมชำติท่มี ีตอ่ ร่ำงกำย จิตใจ และสงั คม - ลักษณะของภัยธรรมชำติ - ผลกระทบจำกควำมรุนแรงของ ภยั ธรรมชำติที่มตี อ่ ร่ำงกำย จิตใจ และสังคม 21 พ 5.1 ป.6/2 ระบวุ ิธีปฏิบตั ติ น เพ่ือควำมปลอดภัย กำรปฏิบตั ิตนเพ่ือควำมปลอดภยั จำกธรรมชำติ จำกภยั ธรรมชำติ 22 พ 5.1 ป.6/3 วิเครำะหส์ ำเหตุของกำรติดสำรเสพติด สำเหตขุ องกำรติดสำรเสพติด และชกั ชวนให้ผ้อู ่นื หลีกเลย่ี ง สำรเสพตดิ ทักษะกำรสื่อสำรให้ผูอ้ นื่ หลกี เล่ียง สำรเสพติด รวม 22 ตัวช้ีวัด 6 16 สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๗ ชน้ั ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.1 1 พ 1.1 ม.1/1 อธบิ ำยควำมสำคญั ของระบบประสำท ควำมสำคญั ของระบบประสำทและ และระบบตอ่ มไร้ทอ่ ที่มีผลต่อสขุ ภำพ ระบบต่อมไร้ท่อทม่ี ีผลตอ่ สุขภำพ กำรเจรญิ เติบโต และพฒั นำกำรของ กำรเจริญเติบโต และพัฒนำกำรของ วัยรุน่ วัยรุน่ 2 พ 1.1 ม.1/2 อธิบำยวิธีดูแลรกั ษำระบบประสำท วธิ ีดูแลรักษำระบบประสำท และ และระบบต่อมไร้ทอ่ ให้ทำงำนตำมปกติ ระบบตอ่ มไร้ท่อให้ทำงำนตำมปกติ 3 พ 1.1 ม.1/3 วเิ ครำะห์ภำวะกำรเจริญเตบิ โต กำรวิเครำะห์ภำวะกำรเจรญิ เติบโต ทำงรำ่ งกำยของตนเองกบั เกณฑ์ ตำมเกณฑ์มำตรฐำนและปจั จัย มำตรฐำน ทเ่ี กย่ี วข้อง 4 พ 1.1 ม.1/4 แสวงหำแนวทำงในกำรพฒั นำตนเอง แนวทำงในกำรพฒั นำตนเอง ให้เจริญเติบโตสมวยั ใหเ้ จรญิ เติบโตสมวัย 5 พ 2.1 ม.1/1 อธิบำยวิธกี ำรปรบั ตัวตอ่ กำร กำรเปลย่ี นแปลงทำงร่ำงกำย จิตใจ เปลย่ี นแปลงทำงรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์ และพัฒนำกำรทำงเพศ อำรมณ์ และพัฒนำกำรทำงเพศ - ลกั ษณะกำรเปล่ยี นแปลง อยำ่ งเหมำะสม ทำงรำ่ งกำย จิตใจ อำรมณ์ และพัฒนำกำรทำงเพศ - กำรยอมรับและกำรปรบั ตัว ต่อกำรเปลยี่ นแปลงทำงร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ และพัฒนำกำร ทำงเพศ - กำรเบยี่ งเบนทำงเพศ 6 พ 2.1 ม.1/2 แสดงทักษะกำรปฏิเสธเพ่อื ป้องกัน ทกั ษะปฏเิ สธเพอื่ ป้องกันกำรถกู ตนเองจำกกำรถูกลว่ งละเมิด ลว่ งละเมดิ ทำงเพศ ทำงเพศ 7 พ 3.1 ม.1/1 เพิ่มพนู ควำมสำมำรถของตน หลักกำรเพ่ิมพูนควำมสำมำรถ ตำมหลักกำรเคลอื่ นไหวท่ใี ชท้ ักษะ ในกำรเคล่ือนไหวทใ่ี ช้ทักษะกลไก กลไกและทักษะพื้นฐำนทนี่ ำไปสู่ กำรพฒั นำทักษะกำรเลน่ กฬี ำ และทักษะพนื้ ฐำนท่นี ำไปส่กู ำรพฒั นำ ทกั ษะกำรเล่นกีฬำ 8 พ 3.1 ม.1/2 เลน่ กฬี ำไทยและกีฬำสำกลประเภท กำรเลน่ กฬี ำไทย และกีฬำสำกล บคุ คลและทมี โดยใช้ทักษะพน้ื ฐำน ทเี่ ลือก เช่น กรีฑำประเภทล่แู ละลำน ตำมชนดิ กฬี ำ อย่ำงละ ๑ ชนดิ บำสเกตบอล กระบ่ี เทเบิลเทนนสิ เทนนสิ ว่ำยนำ้ 9 พ 3.1 ม.1/3 ร่วมกิจกรรมนันทนำกำรอยำ่ งน้อย กำรนำควำมร้แู ละหลักกำรของ ๑ กิจกรรม และนำหลักควำมรทู้ ไี่ ด้ กิจกรรมนันทนำกำรไปใช้เชื่อมโยง ไปเชอื่ มโยงสมั พนั ธ์กับวชิ ำอื่น สมั พนั ธก์ บั วชิ ำอ่ืน สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๗๘ ช้นั ท่ี รหัสตวั ชี้วดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.1 10 พ 3.2 ม.1/1 อธบิ ำยควำมสำคัญของกำร ควำมสำคญั ของกำรออกกำลงั กำยและ ออกกำลังกำยและเล่นกีฬำ เล่นกฬี ำจนเปน็ วิถีชวี ิตท่ีมีสขุ ภำพดี จนเป็นวถิ ชี ีวิตท่มี สี ขุ ภำพดี 11 พ 3.2 ม.1/2 ออกกำลงั กำยและเลอื กเขำ้ ร่วม กำรออกกำลงั กำย เช่น กำยบรหิ ำร แบบต่ำง ๆ เต้นแอโรบิก โยคะ เลน่ กฬี ำตำมควำมถนดั ควำมสนใจ รำมวยจนี อยำ่ งเต็มควำมสำมำรถ พร้อมทั้ง กำรเลน่ กีฬำไทย และกีฬำสำกล ท้ังประเภทบุคคลและทมี มีกำรประเมินกำรเล่นของตน กำรประเมนิ กำรเลน่ กีฬำของตนเอง และผู้อ่นื และผ้อู ่ืน 12 พ 3.2 ม.1/3 ปฏิบตั ิตำมกฎ กติกำ และขอ้ ตกลง กฎ กตกิ ำกำรเล่นเกมและกำรแข่งขัน ตำมชนดิ กีฬำทีเ่ ลอื กเลน่ กีฬำที่เลือกเลน่ 13 พ 3.2 ม.1/4 วำงแผนกำรรกุ และกำรป้องกัน รปู แบบ วิธกี ำรรุก และป้องกัน ในกำรเลน่ กีฬำท่ีเลือกและนำไปใช้ ในกำรเลน่ กีฬำทเี่ ลือก ในกำรเล่นอยำ่ งเปน็ ระบบ กำรเล่น กำรแข่งขันกฬี ำ และกำรทำงำน 14 พ 3.2 ม.1/5 รว่ มมือในกำรเลน่ กีฬำและกำรทำงำน เปน็ ทีม เปน็ ทีมอย่ำงสนุกสนำน กำรยอมรบั ควำมสำมำรถและ 15 พ 3.2 ม.1/6 วิเครำะห์ เปรียบเทยี บ และยอมรับ ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งบุคคล ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงวิธีกำรเลน่ กีฬำ ในกำรเลน่ กีฬำ ของตนเองกบั ผ้อู ื่น หลกั กำรเลอื กอำหำรที่เหมำะสมกบั วัย 16 พ 4.1 ม.1/1 เลอื กกนิ อำหำรท่ีเหมำะสมกับวยั ปัญหำท่เี กิดจำกภำวะโภชนำกำร 17 พ 4.1 ม.1/2 วิเครำะห์ปญั หำท่ีเกดิ จำก - ภำวะกำรขำดสำรอำหำร ภำวะโภชนำกำรท่มี ีผลกระทบ - ภำวะโภชนำกำรเกนิ ตอ่ สขุ ภำพ เกณฑ์มำตรฐำนกำรเจริญเตบิ โต 18 พ 4.1 ม.1/3 ควบคมุ นำ้ หนกั ของตนเอง ของเด็กไทย ให้อยู่ในเกณฑ์มำตรฐำน วิธกี ำรควบคมุ น้ำหนกั ของตนเอง 19 พ 4.1 ม.1/4 สรำ้ งเสรมิ และปรับปรุงสมรรถภำพ ให้อยู่ในเกณฑ์มำตรฐำน ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบ วิธที ดสอบสมรรถภำพทำงกำย วธิ สี รำ้ งเสรมิ และปรบั ปรงุ สมรรถภำพ ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชน้ั ที่ รหัสตัวช้ีวดั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๒๗๙ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.1 20 พ 5.1 ม.1/1 แสดงวธิ ีปฐมพยำบำลและเคลื่อนยำ้ ย กำรปฐมพยำบำลและเคลอ่ื นย้ำย ผปู้ ว่ ยอย่ำงปลอดภัย 17 6 ผูป้ ่วยอย่ำงปลอดภัย - เป็นลม - บำดแผล 21 พ 5.1 ม.1/2 อธิบำยลักษณะอำกำรของ - ไฟไหม้ ผู้ติดสำรเสพตดิ และกำรป้องกัน - กระดกู หกั กำรตดิ สำรเสพติด - น้ำรอ้ นลวก ฯลฯ 22 พ 5.1 ม.1/3 อธิบำยควำมสมั พันธข์ องกำรใช้ ลักษณะของผตู้ ดิ สำรเสพติด สำรเสพติดกบั กำรเกิดโรคและ อำกำรของผตู้ ิดสำรเสพตดิ อบุ ตั ิเหตุ กำรปอ้ งกนั กำรตดิ สำรเสพตดิ 23 พ 5.1 ม.1/4 แสดงวธิ กี ำรชักชวนผอู้ ่ืนใหล้ ด ละ เลกิ สำรเสพตดิ โดยใชท้ กั ษะต่ำง ๆ ควำมสัมพันธข์ องกำรใชส้ ำรเสพตดิ กับกำรเกิดโรคและอุบตั ิเหตุ ทักษะทีใ่ ช้ในกำรชกั ชวนผู้อื่นใหล้ ด ละ เลิก สำรเสพติด - ทักษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ - ทักษะกำรสื่อสำร - ทักษะกำรตดั สินใจ - ทักษะกำรแกป้ ัญหำ ฯลฯ รวม 23 ตัวชี้วดั สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๐ ชน้ั ที่ รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.2 1 พ 1.1 ม.2/1 อธบิ ำยกำรเปล่ียนแปลงด้ำนร่ำงกำย กำรเปลย่ี นแปลงดำ้ นรำ่ งกำย จิตใจ จิตใจ อำรมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญำ อำรมณ์ สงั คม และสติปัญญำในวัยร่นุ ในวัยรุ่น 2 พ 1.1 ม.2/2 ระบุปัจจัยที่มีผลกระทบ ปจั จยั ท่ีมีผลกระทบต่อกำรเจริญเติบโต ตอ่ กำรเจรญิ เตบิ โตและพฒั นำกำร และพฒั นำกำรด้ำนร่ำงกำย จิตใจ ดำ้ นร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ สังคม อำรมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญำ และสติปญั ญำในวัยรนุ่ - พนั ธุกรรม - ส่ิงแวดล้อม - กำรอบรมเล้ยี งดู 3 พ 2.1 ม.2/1 วิเครำะหป์ จั จยั ทม่ี ีอิทธิพล ปัจจยั ทีม่ อี ิทธิพลตอ่ เจตคตใิ นเรอ่ื งเพศ ตอ่ เจตคติในเรื่องเพศ - ครอบครัว - วัฒนธรรม - เพ่อื น - สือ่ 4 พ 2.1 ม.2/2 วเิ ครำะห์ปัญหำและผลกระทบ ปญั หำและผลกระทบทเี่ กิดจำก ทเ่ี กดิ จำกกำรมเี พศสัมพนั ธ์ กำรมีเพศสมั พนั ธ์ในวัยเรยี น ในวัยเรยี น 5 พ 2.1 ม.2/3 อธิบำยวธิ ปี ้องกันตนเอง โรคติดต่อทำงเพศสมั พนั ธ์ และหลกี เลย่ี งจำกโรคติดตอ่ โรคเอดส์ ทำงเพศสัมพันธ์ เอดส์ และ กำรต้ังครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ กำรตัง้ ครรภ์โดยไม่พงึ ประสงค์ 6 พ 2.1 ม.2/4 อธิบำยควำมสำคัญของควำม ควำมสำคัญของควำมเสมอภำคทำงเพศ เสมอภำคทำงเพศและวำงตัว กำรวำงตวั ตอ่ เพศตรงขำ้ ม ได้อยำ่ งเหมำะสม ปัญหำทำงเพศ แนวทำงกำรแกไ้ ขปญั หำทำงเพศ 7 พ 3.1 ม.2/1 นำผลกำรปฏบิ ัตติ นเกยี่ วกับทักษะ กำรนำผลกำรปฏบิ ตั ิตนเกย่ี วกบั กลไกและทักษะกำรเคลือ่ นไหว ทกั ษะกลไกและทักษะกำรเคลื่อนไหว ในกำรเลน่ กีฬำจำกแหล่งข้อมูล ในกำรเล่นกีฬำจำกแหล่งข้อมูลท่ี ทีห่ ลำกหลำยมำสรุปเป็นวธิ ี หลำกหลำยมำสรปุ เป็นวธิ ีท่เี หมำะสมใน ทเี่ หมำะสมในบรบิ ทของตนเอง บริบทของตนเองในกำรเลน่ กีฬำ 8 พ 3.1 ม.2/2 เล่นกีฬำไทยและกีฬำสำกล กำรเลน่ กฬี ำไทย กฬี ำสำกลตำมชนดิ ทง้ั ประเภทบุคคลและทมี กฬี ำท่ีเลอื ก เช่น กรีฑำประเภทลู่และ อยำ่ งละ ๑ ชนิด ลำน บำสเกตบอล กระบ่ี เทนนิส ตระกร้อลอดบว่ ง ฟุตซอล วำ่ ยนำ้ เทควนั โด สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๑ ชั้น ที่ รหัสตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.2 9 พ 3.1 ม.2/3 เปรยี บเทยี บประสทิ ธิภำพของ ประสิทธิภำพของรูปแบบกำรเคล่ือนไหว รปู แบบกำรเคล่ือนไหวทีส่ ง่ ผล ทสี่ ่งผลต่อกำรเล่นกีฬำและกิจกรรม ตอ่ กำรเล่นกฬี ำและกจิ กรรม ในชวี ติ ประจำวัน ในชีวิตประจำวนั 10 พ 3.1 ม.2/4 รว่ มกิจกรรมนันทนำกำร อย่ำงน้อย กำรนำประสบกำรณจ์ ำกกำรร่วม ๑ กจิ กรรม และนำควำมรแู้ ละหลกั กำร กจิ กรรมนนั ทนำกำรไปปรบั ใช้ ที่ได้ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ในชีวติ ประจำวนั อยำ่ งเป็นระบบ 11 พ 3.2 ม.2/1 อธิบำยสำเหตกุ ำรเปลี่ยนแปลง สำเหตุกำรเปล่ียนแปลงทำงด้ำนร่ำงกำย ทำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม จติ ใจ อำรมณ์ สงั คมและสติปัญญำ และสติปัญญำ ทีเ่ กดิ จำก จำกกำรออกกำลงั กำยและกำร กำรออกกำลังกำยและเลน่ กีฬำ เล่นกฬี ำอย่ำงสม่ำเสมอจนเป็นวถิ ชี ีวิต เป็นประจำจนเปน็ วถิ ีชวี ิต กำรสร้ำงวถิ ชี วี ติ ทีม่ ีสขุ ภำพดี โดยกำรออกกำลงั กำย และเล่นกฬี ำ เปน็ ประจำ 12 พ 3.2 ม.2/2 เลอื กเข้ำร่วมกิจกรรมกำรออกกำลงั กำย กำรออกกำลงั กำยและกำรเล่นกีฬำไทย เล่นกีฬำตำมควำมถนัดและ กีฬำสำกลทง้ั ประเภทบคุ คลและ ควำมสนใจ พร้อมทงั้ วิเครำะห์ ประเภททีม ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งบุคคล กำรวเิ ครำะห์ควำมแตกต่ำง เพ่ือเป็นแนวทำงในกำรพัฒนำตนเอง ระหว่ำงบคุ คลเพือ่ เป็นแนวทำง ในกำรพฒั นำกำรรว่ มกิจกรรม กำรออกกำลงั กำยและเลน่ กีฬำ 13 พ 3.2 ม.2/3 มวี ินัย ปฏบิ ัตติ ำมกฎ กตกิ ำ และ วนิ ัยในกำรฝึก และกำรเลน่ กฬี ำ ข้อตกลงในกำรเล่นกีฬำทเ่ี ลือก ตำมกฎ กติกำและข้อตกลง 14 พ 3.2 ม.2/4 วำงแผนกำรรกุ และกำรป้องกัน รูปแบบ กลวิธีกำรรกุ กำรป้องกัน ในกำรเลน่ กีฬำที่เลือกและนำไปใช้ ในกำรเล่นกีฬำเปน็ ทีม ในกำรเล่นอยำ่ งเหมำะสมกบั ทมี ประโยชน์ของกำรเลน่ และกำรทำงำน เป็นทมี หลักกำรให้ควำมรว่ มมอื ในกำรเลน่ กำรแขง่ ขันกีฬำและกำรทำงำนเปน็ ทีม 15 พ 3.2 ม.2/5 นำผลกำรปฏิบัตใิ นกำรเลน่ กีฬำ กำรพัฒนำวิธีเลน่ กฬี ำทีเ่ หมำะสม มำสรุปเปน็ วธิ ที ี่เหมำะสมกับตนเอง กบั ตนเอง ดว้ ยควำมมุ่งมนั่ - กำรเลอื กวธิ ีเลน่ - กำรแก้ไขข้อบกพร่อง - กำรเพิม่ ทักษะ กำรสรำ้ งแรงจูงใจและกำรสรำ้ ง ควำมม่งุ ม่ันในกำรเลน่ และแข่งขันกีฬำ สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ช้นั ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๒๘๒ กำรเลอื กใชบ้ รกิ ำรทำงสขุ ภำพ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.2 16 พ 4.1 ม.2/1 เลอื กใช้บรกิ ำรทำงสุขภำพ อย่ำงมเี หตุผล 17 พ 4.1 ม.2/2 วเิ ครำะห์ผลของกำรใช้เทคโนโลยี ผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อสุขภำพ ทีม่ ีต่อสุขภำพ 18 พ 4.1 ม.2/3 วเิ ครำะห์ควำมเจริญก้ำวหนำ้ ควำมเจรญิ ก้ำวหน้ำทำงกำรแพทย์ ท่มี ีผลต่อสุขภำพ ทำงกำรแพทย์ทีม่ ีผลต่อสุขภำพ ควำมสมดลุ ระหวำ่ งสุขภำพกำยและ 19 พ 4.1 ม.2/4 วิเครำะหค์ วำมสัมพันธ์ของ สุขภำพจติ ภำวะสมดลุ ระหว่ำงสขุ ภำพกำย และสขุ ภำพจิต ลักษณะอำกำรเบ้ืองตน้ ของผู้มปี ญั หำ สขุ ภำพจิต 20 พ 4.1 ม.2/5 อธบิ ำยลักษณะอำกำรเบือ้ งต้น ของผมู้ ปี ัญหำสุขภำพจิต วธิ ีปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื จัดกำรกับอำรมณ์ และควำมเครียด 21 พ 4.1 ม.2/6 เสนอแนะวิธปี ฏิบตั ิตนเพ่ือจัดกำร กับอำรมณแ์ ละควำมเครยี ด เกณฑส์ มรรถภำพทำงกำย 22 พ 4.1 ม.2/7 พฒั นำสมรรถภำพทำงกำยตนเอง กำรพัฒนำสมรรถภำพทำงกำย ให้เป็นไปตำมเกณฑ์ที่กำหนด วิธกี ำร ปัจจยั และแหลง่ ทช่ี ว่ ยเหลอื 23 พ 5.1 ม.2/1 ระบวุ ิธกี ำร ปจั จยั และแหลง่ ฟนฟผู ู้ติดสำรเสพตดิ ที่ช่วยเหลือ ฟนฟูผู้ตดิ สำรเสพตดิ กำรหลกี เล่ยี งพฤติกรรมเสีย่ งและ 24 พ 5.1 ม.2/2 อธบิ ำยวิธกี ำรหลกี เล่ียงพฤติกรรม สถำนกำรณ์เสยี่ ง เสย่ี งและสถำนกำรณ์เส่ยี ง - กำรมวั่ สมุ - กำรทะเลำะวิวำท 25 พ 5.1 ม.2/3 ใชท้ กั ษะชวี ิตในกำรป้องกนั ตนเอง - กำรเขำ้ ไปในแหลง่ อบำยมุข และหลีกเลยี่ งสถำนกำรณ์คบั ขัน - กำรแขง่ จกั รยำนยนต์บนท้องถนน ทอ่ี ำจนำไปส่อู ันตรำย ฯลฯ รวม 25 ตัวชีว้ ัด ทักษะชีวิตในกำรป้องกนั ตนเอง (ทกั ษะปฏเิ สธ ทักษะกำรต่อรอง ฯลฯ) และหลกี เลี่ยงสถำนกำรณ์ คับขนั ท่อี ำจนำไปสู่อนั ตรำย 15 10 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๓ ชนั้ ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.3 1 พ 1.1 ม.3/1 เปรยี บเทยี บกำรเปลี่ยนแปลง กำรเปลีย่ นแปลง ดำ้ นร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคมและสติปญั ญำ ทำงดำ้ นร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ ในแตล่ ะวัย - วัยทำรก สังคมและสติปัญญำแตล่ ะช่วง - วัยก่อนเรยี น - วยั เรยี น ของชีวิต - วยั รุ่น - วยั ผใู้ หญ่ 2 พ 1.1 ม.3/2 วิเครำะห์อิทธพิ ลและควำมคำดหวัง - วัยสงู อำยุ ของสงั คมต่อกำรเปลยี่ นแปลง ของวยั รุน่ อิทธพิ ลและควำมคำดหวงั ของสังคม ทมี่ ตี ่อกำรเปลีย่ นแปลงของวัยร่นุ 3 พ 1.1 ม.3/3 วเิ ครำะหส์ ื่อโฆษณำที่มีอิทธิพล ต่อกำรเจริญเตบิ โตและพัฒนำกำร สอื่ โฆษณำที่มีอทิ ธพิ ลต่อกำรเจริญเติบโต ของวัยรุน่ และพัฒนำกำรของวัยรนุ่ - โทรทศั น์ 22 พ 5.1 ม.3/3 วิเครำะหอ์ ิทธพิ ลของสอื่ ตอ่ - วิทยุ พฤติกรรมสขุ ภำพและควำมรุนแรง - สอื่ ส่งิ พิมพ์ - อนิ เทอรเ์ น็ต 4 พ 2.1 ม.3/1 อธิบำยอนำมยั แมแ่ ละเด็ก กำรวำงแผนครอบครวั และวธิ ีกำร อิทธพิ ลของสื่อตอ่ พฤตกิ รรมสุขภำพ ปฏิบัติตนที่เหมำะสม และควำมรุนแรง (คลิปวดิ ีโอ กำรทะเลำะวิวำท อนิ เทอรเ์ น็ต 5 พ 2.1 ม.3/2 วเิ ครำะห์ปัจจัยทีม่ ผี ลกระทบ เกม ฯลฯ) ต่อกำรต้ังครรภ์ องค์ประกอบของอนำมัยเจริญพนั ธุ์ 6 พ 2.1 ม.3/3 วิเครำะหส์ ำเหตุ และเสนอแนวทำง - อนำมยั แม่และเด็ก ปอ้ งกนั แกไ้ ขควำมขัดแย้ง - กำรวำงแผนครอบครัว ในครอบครัว ปจั จยั ทีม่ ีผลกระทบต่อกำรตง้ั ครรภ์ - แอลกอฮอล์ - สำรเสพตดิ - บุหรี่ - สภำพแวดล้อม - กำรติดเชือ้ - โรคที่เกิดจำกภำวะกำรต้งั ครรภ์ สำเหตคุ วำมขัดแย้งในครอบครวั แนวทำงป้องกัน แก้ไขควำมขัดแย้ง ในครอบครัว สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๔ ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.3 7 พ 3.1 ม.3/1 เลน่ กฬี ำไทยและกีฬำสำกล เทคนคิ และวิธีกำรเลน่ กีฬำไทยและ อย่ำงละ ๑ ชนิด โดยใชเ้ ทคนิค กฬี ำสำกลที่เลือก เช่น กรีฑำประเภทลู่ ทเี่ หมำะสมกับตนเองและทีม และลำน วอลเลย์บอล บำสเกตบอล ดำบสองมือ เทนนสิ ตะกร้อข้ำมตำข่ำย ฟุตบอล 8 พ 3.1 ม.3/2 นำหลกั กำร ควำมรู้ และทกั ษะ กำรนำหลักกำร ควำมรู้ ทักษะ ในกำรเคลื่อนไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกำรเลน่ กฬี ำไปใช้ ในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย สรำ้ งเสริมสขุ ภำพอย่ำงต่อเน่ือง เป็นระบบ กำรเล่นเกม กำรเลน่ กีฬำไปใช้ 9 พ 3.1 ม.3/3 รว่ มกจิ กรรมนันทนำกำร อย่ำงน้อย เปน็ ระบบสรำ้ งเสรมิ สุขภำพ ๑ กิจกรรมและนำหลักควำมรวู้ ิธีกำร ไปขยำยผลกำรเรียนรู้ให้กบั ผู้อื่น อย่ำงต่อเน่อื ง 10 พ 3.2 ม.3/1 มีมำรยำทในกำรเล่นและดูกีฬำ กำรจดั กิจกรรมนันทนำกำรแก่ผ้อู ืน่ ดว้ ยควำมมนี ำ้ ใจนักกีฬำ มำรยำทในกำรเลน่ และกำรดูกีฬำ 11 พ 3.2 ม.3/2 ออกกำลงั กำยและเลน่ กฬี ำ ดว้ ยควำมมนี ้ำใจนักกีฬำ อยำ่ งสมำ่ เสมอและนำแนวคิด หลักกำรจำกกำรเล่นไปพัฒนำ กำรออกกำลังกำยและกำรเล่นกีฬำ คุณภำพชวี ิตของตนด้วยควำม ประเภทบคุ คลและประเภททีม ภำคภูมใิ จ กำรนำประสบกำรณ์ แนวคดิ จำกกำร ออกกำลังกำยและเล่นกีฬำไปประยุกต์ใช้ 12 พ 3.2 ม.3/3 ปฏิบตั ติ นตำมกฎ กตกิ ำ และขอ้ ตกลง ในกำรพฒั นำคณุ ภำพชีวิต ในกำรเลน่ ตำมชนิดกฬี ำทเี่ ลือก และนำแนวคิดที่ได้ไปพัฒนำ กฎ กติกำและข้อตกลงในกำรเลน่ กฬี ำ คุณภำพชวี ติ ของตนในสังคม ท่เี ลือกเล่น กำรประยุกตป์ ระสบกำรณ์กำรปฏบิ ัติ 13 พ 3.2 ม.3/4 จำแนกกลวิธีกำรรุก กำรป้องกัน ตำมกฎ กติกำ ข้อตกลงในกำรเล่นกฬี ำ และใช้ในกำรเลน่ กีฬำท่เี ลอื กและ ไปใช้พัฒนำคณุ ภำพชีวติ ของตนในสังคม ตดั สนิ ใจเลือกวิธที ีเ่ หมำะสมกับทีม ไปใชไ้ ด้ตำมสถำนกำรณ์ของกำรเล่น วธิ ีกำรประยุกต์ใช้กลวิธีกำรรุก และกำรป้องกันในกำรเล่นกฬี ำ 14 พ 3.2 ม.3/5 เสนอผลกำรพัฒนำสุขภำพของ ไดต้ ำมสถำนกำรณข์ องกำรเล่น ตนเองที่เกดิ จำกกำรออกกำลังกำย และกำรเล่นกฬี ำเปน็ ประจำ กำรพัฒนำสุขภำพตนเองทเี่ กิดจำก กำรออกกำลงั กำยและกำรเล่นกีฬำ เป็นประจำ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๕ ชั้น ท่ี รหัสตัวช้ีวดั ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.3 15 พ 4.1 ม.3/1 กำหนดรำยกำรอำหำรท่เี หมำะสม กำรกำหนดรำยกำรอำหำรที่เหมำะสม กับวยั ต่ำง ๆ โดยคำนงึ ถึงควำม กับวัยตำ่ ง ๆ ประหยดั และคณุ คำ่ ทำงโภชนำกำร - วัยทำรก วยั เดก็ (วัยกอ่ นเรียน วัยเรียน) วยั รุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยสงู อำยุ โดยคำนงึ ถึงควำมประหยดั และ คณุ ค่ำทำงโภชนำกำร 16 พ 4.1 ม.3/2 เสนอแนวทำงป้องกันโรคทเี่ ป็น โรคท่เี ป็นสำเหตสุ ำคัญของกำรเจ็บป่วย สำเหตุสำคัญของกำรเจ็บป่วยและ กำรตำยของคนไทย และกำรตำยของคนไทย โรคติดต่อ เชน่ - โรคทีเ่ กดิ จำกกำรมเี พศสมั พันธ์ - โรคเอดส์ - โรคไข้หวัดนก ฯลฯ โรคไมต่ ดิ ตอ่ เช่น - โรคหัวใจ - โรคควำมดันโลหติ สงู - เบำหวำน - มะเร็ง ฯลฯ 17 พ 4.1 ม.3/3 รวบรวมขอ้ มูลและเสนอแนวทำง ปญั หำสขุ ภำพในชมุ ชน แก้ไขปัญหำสุขภำพในชุมชน แนวทำงแก้ไขปัญหำสขุ ภำพในชมุ ชน 18 พ 4.1 ม.3/4 วำงแผนและจดั เวลำในกำร ออกกำลังกำย กำรพกั ผ่อนและ กำรวำงแผนและจัดเวลำในกำร กำรสรำ้ งเสรมิ สมรรถภำพทำงกำย ออกกำลงั กำย กำรพกั ผ่อน และ 19 พ 4.1 ม.3/5 ทดสอบสมรรถภำพทำงกำย และพฒั นำได้ตำมควำมแตกต่ำง กำรสรำ้ งเสริมสมรรถภำพทำงกำย ระหวำ่ งบคุ คล กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย 20 พ 5.1 ม.3/1 วิเครำะห์ปจั จยั เสย่ี งและพฤติกรรม เสย่ี งท่มี ผี ลตอ่ สขุ ภำพและแนวทำง แบบตำ่ ง ๆ และกำรพัฒนำ ป้องกนั สมรรถภำพเพื่อสุขภำพ 21 พ 5.1 ม.3/2 หลีกเลี่ยงกำรใช้ควำมรนุ แรงและ ชักชวนเพอื่ นใหห้ ลีกเล่ียงกำรใช้ ปจั จัยเส่ียงและพฤตกิ รรมเส่ียง ควำมรุนแรงในกำรแก้ปญั หำ ตอ่ สุขภำพ 23 พ 5.1 ม.3/4 วเิ ครำะห์ควำมสัมพันธ์ของกำรดม่ื เครือ่ งดื่มทีม่ ีแอลกอฮอลต์ ่อสุขภำพ แนวทำงกำรป้องกันควำมเส่ียง และกำรเกิดอุบตั เิ หตุ ต่อสขุ ภำพ 24 พ 5.1 ม.3/5 แสดงวิธีกำรช่วยฟนคืนชีพ อยำ่ งถูกวธิ ี ปญั หำและผลกระทบจำกกำรใช้ รวม 24 ตวั ช้ีวดั ควำมรนุ แรง วิธีหลีกเลี่ยงกำรใช้ควำมรุนแรง ควำมสัมพันธข์ องกำรด่ืมเครื่องดมื่ ที่มแี อลกอฮอลต์ อ่ สุขภำพและ กำรเกิดอบุ ัติเหตุ วิธกี ำรช่วยฟนคนื ชพี อย่ำงถกู วธิ ี 12 12 สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๖ ชนั้ ที่ รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 1 พ 1.1 ม.4-6/1 อธบิ ำยกระบวนกำรสรำ้ งเสริม กระบวนกำรสรำ้ งเสริมและดำรง และดำรงประสิทธภิ ำพกำรทำงำน ประสทิ ธภิ ำพกำรทำงำนของระบบ ของระบบอวยั วะตำ่ ง ๆ อวัยวะตำ่ ง ๆ - กำรทำงำนของระบบอวยั วะต่ำง ๆ - กำรสร้ำงเสริมและดำรงประสิทธภิ ำพ ของอวัยวะต่ำง ๆ (อำหำร กำรออกกำลังกำย นนั ทนำกำร กำรตรวจสขุ ภำพ ฯลฯ) 2 พ 1.1 ม.4-6/2 วำงแผนดแู ลสขุ ภำพตำมภำวะ กำรวำงแผนดแู ลสุขภำพของตนเอง กำรเจรญิ เตบิ โตและพัฒนำกำร ของตนเองและบุคคลในครอบครัว และบคุ คลในครอบครวั 3 พ 2.1 ม.4-6/1 วเิ ครำะหอ์ ิทธพิ ลของครอบครัว อทิ ธพิ ลของครอบครัว เพ่อื น สงั คม เพอื่ น สังคม และวัฒนธรรม และวัฒนธรรมทม่ี ีต่อพฤติกรรม ทีม่ ผี ลตอ่ พฤติกรรมทำงเพศและ ทำงเพศและกำรดำเนินชวี ิต กำรดำเนนิ ชวี ิต ค่ำนยิ มในเรื่องเพศตำมวฒั นธรรมไทย 4 พ 2.1 ม.4-6/2 วิเครำะห์คำ่ นยิ มในเรื่องเพศ และวัฒนธรรมอ่นื ๆ ตำมวฒั นธรรมไทยและวัฒนธรรม อน่ื ๆ แนวทำงในกำรเลือกใชท้ ักษะต่ำง ๆ ในกำรปอ้ งกนั ลดควำมขัดแย้ง และ 5 พ 2.1 ม.4-6/3 เลอื กใชท้ ักษะทเี่ หมำะสม แกป้ ญั หำเร่ืองเพศและครอบครัว ในกำรปอ้ งกัน ลดควำมขัดแย้ง - ทกั ษะกำรสอื่ สำรและสรำ้ งสัมพันธภำพ และแก้ปัญหำเร่อื งเพศและ - ทกั ษะกำรต่อรอง ครอบครัว - ทกั ษะกำรปฏิเสธ - ทักษะกำรคิดวิเครำะห์ 6 พ 2.1 ม.4-6/4 วเิ ครำะห์สำเหตแุ ละผลของ - ทักษะกำรตดั สินใจและแก้ไขปัญหำ ควำมขดั แย้งท่ีอำจเกดิ ขึ้นระหวำ่ ง นักเรยี นหรือเยำวชนในชมุ ชน ฯลฯ และเสนอแนวทำงแก้ไขปัญหำ ควำมขดั แย้งท่ีอำจเกดิ ข้ึนระหวำ่ ง นักเรียนหรอื เยำวชนในชมุ ชน - สำเหตขุ องควำมขัดแยง้ - ผลกระทบที่เกิดจำกควำมขัดแย้ง ระหว่ำงนักเรียนหรือเยำวชน ในชมุ ชน - แนวทำงในกำรแก้ปญั หำทอี่ ำจเกิดจำก ควำมขดั แย้งของนักเรยี นหรือ เยำวชนในชมุ ชน สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๗ ชั้น ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 7 พ 3.1 ม.4-6/1 วเิ ครำะห์ควำมคิดรวบยอดเกี่ยวกับ ควำมคิดรวบยอดเกี่ยวกบั กำรเคลือ่ นไหว กำรเคลือ่ นไหวรปู แบบต่ำง ๆ รูปแบบตำ่ ง ๆ ในกำรเลน่ กฬี ำ ในกำรเลน่ กีฬำ กำรวเิ ครำะห์ควำมคดิ รวบยอด เก่ียวกบั กำรเคล่ือนไหวรปู แบบตำ่ ง ๆ ในกำรเลน่ กีฬำ 8 พ 3.1 ม.4-6/2 ใช้ควำมสำมำรถของตน เพื่อเพิ่ม กำรใชค้ วำมสำมำรถของตน ศักยภำพของทีม คำนงึ ถึงผล ท่เี กิดต่อผูอ้ น่ื และสงั คม ในกำรเล่นกีฬำ เพื่อเพิ่มศักยภำพ 9 พ 3.1 ม.4-6/3 เลน่ กีฬำไทย กีฬำสำกล ประเภท ของทมี โดยคำนึงถึงผลทเ่ี กิดต่อผู้อืน่ บุคคล/คู่ กีฬำประเภททีม อย่ำงน้อย ๑ ชนิด และสงั คม 10 พ 3.1 ม.4-6/4 แสดงกำรเคลื่อนไหวไดอ้ ยำ่ ง กีฬำประเภทบุคคล/คู่ ประเภททีม เช่น สรำ้ งสรรค์ ฟุตซอล รักบ้ีฟุตบอล ยิมนำสติก ลีลำศ 11 พ 3.1 ม.4-6/5 เขำ้ รว่ มกิจกรรมนนั ทนำกำร นอกโรงเรยี น และนำหลักกำร ซอฟท์บอล เทนนิส เซปักตะกร้อ แนวคดิ ไปปรับปรงุ และพฒั นำ คุณภำพชีวติ ของตนและสงั คม มวยไทย กระบี่กระบอง พลอง ง้ำว 12 พ 3.2 ม.4-6/1 ออกกำลังกำยและเล่นกีฬำ กำรเคล่อื นไหวที่สร้ำงสรรค์ เชน่ ท่เี หมำะสมกบั ตนเองอย่ำงสม่ำเสมอ และใช้ควำมสำมำรถของตนเอง กิจกรรมเขำ้ จังหวะ เชียร์ลดี เดอร์ เพม่ิ ศักยภำพของทมี ลดควำมเป็น ตวั ตน คำนึงถึงผลท่เี กิดตอ่ สงั คม กำรนำหลกั กำรและแนวคิดของ กิจกรรมนนั ทนำกำร ไปปรับปรุงและ พฒั นำคณุ ภำพชีวิตของตนและสังคม กำรออกกำลังกำยด้วยวธิ ที ช่ี อบ เช่น ฝกึ กำยบริหำรแบบต่ำงๆ ขจี่ ักรยำน กำรออกกำลังกำยจำกกำรทำงำน ในชวี ติ ประจำวัน กำรรำกระบอง รำมวยจีน กำรเล่นกฬี ำประเภทบุคคลและ ประเภททีม กำรใชค้ วำมสำมำรถของตนในกำร เพิม่ ศักยภำพของทีมในกำรเล่นกฬี ำ และกำรเล่นโดยคำนึงถงึ ประโยชน์ ตอ่ สงั คม กำรวำงแผนกำหนดกิจกรรม กำรออกกำลังกำยและเล่นกีฬำ สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๘ ชนั้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 13 พ 3.2 ม.4-6/2 อธบิ ำยและปฏบิ ัติเกี่ยวกับสทิ ธิ สทิ ธิ กฎ กติกำกำรเล่นกีฬำ กฎ กติกำ กลวธิ ตี ่ำง ๆ ในระหว่ำง กลวิธี หลักกำรรุก กำรป้องกนั อย่ำงสร้ำงสรรค์ในกำรเล่น กำรเลน่ กำรแข่งขันกีฬำกบั ผู้อ่ืน และแข่งขันกีฬำ และนำไปสรปุ เปน็ แนวปฏิบตั ิและ กำรนำประสบกำรณ์จำกกำรเล่นกีฬำ ไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน ใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่ำงต่อเน่อื ง กำรปฏบิ ตั ติ นในเรื่องมำรยำท 14 พ 3.2 ม.4-6/3 แสดงออกถงึ กำรมีมำรยำทในกำรดู ในกำรดู กำรเล่น กำรแข่งขนั กำรเล่น และกำรแขง่ ขันกีฬำ ควำมมนี ้ำใจนักกีฬำ ด้วยควำมมีนำ้ ใจนกั กฬี ำ และนำไปใช้ปฏิบัตทิ ุกโอกำส บุคลิกภำพท่ีดี จนเป็นบุคลิกภำพท่ีดี ควำมสขุ ท่ีได้จำกกำรเข้ำร่วมกิจกรรม 15 พ 3.2 ม.4-6/4 รว่ มกิจกรรมทำงกำยและเลน่ กีฬำ ทำงกำยและเลน่ กีฬำ อย่ำงมีควำมสุข ชื่นชมในคุณค่ำ และควำมงำมของกำรกีฬำ คณุ คำ่ และควำมงำมของกำรกีฬำ 16 พ 4.1 ม.4-6/1 วิเครำะหบ์ ทบำทและควำม บทบำทและควำมรบั ผิดชอบของ รบั ผิดชอบของบคุ คลท่ีมีต่อกำร บุคคลท่ีมตี ่อกำรสรำ้ งเสริมสขุ ภำพ สรำ้ งเสริมสขุ ภำพและกำรป้องกนั และกำรป้องกันโรคในชุมชน โรคในชุมชน สำเหตุของกำรเจบ็ ป่วยและกำรตำย 19 พ 4.1 ม.4-6/4 วเิ ครำะหส์ ำเหตุและเสนอแนวทำง ของคนไทย เชน่ โรคจำกกำรประกอบ กำรปอ้ งกนั กำรเจ็บป่วยและ อำชีพ โรคทำงพันธกุ รรม กำรตำยของคนไทย แนวทำงกำรป้องกันกำรเจบ็ ป่วย 25 พ 5.1 ม.4-6/3 วิเครำะห์ปัจจัยท่ีมีผลต่อสุขภำพ หรอื ควำมรุนแรงของคนไทย ปจั จัยที่มีผลต่อสุขภำพหรือ และเสนอแนวทำงป้องกนั ควำมรุนแรงของคนไทย และเสนอแนวทำงป้องกัน 17 พ 4.1 ม.4-6/2 วเิ ครำะหอ์ ิทธิพลของสอื่ โฆษณำ อทิ ธพิ ลของสื่อโฆษณำเกีย่ วกับสขุ ภำพ เกี่ยวกับสขุ ภำพเพ่ือกำรเลือกบรโิ ภค แนวทำงกำรเลือกบริโภคอย่ำงฉลำด และปลอดภยั 18 พ 4.1 ม.4-6/3 ปฏิบัติตนตำมสทิ ธิของผ้บู รโิ ภค สิทธพิ ้ืนฐำนของผบู้ รโิ ภคและกฎหมำย ทเี่ ก่ยี วข้องกับกำรคุ้มครองผู้บริโภค 20 พ 4.1 ม.4-6/5 วำงแผนและปฏิบตั ิตำมแผน กำรวำงแผนกำรพฒั นำสุขภำพ กำรพฒั นำสุขภำพของตนเอง ของตนเองและครอบครวั และครอบครวั กำรวำงแผนพฒั นำสมรรถภำพ 22 พ 4.1 ม.4-6/7 วำงแผนและปฏิบัตติ ำมแผน ทำงกำยและสมรรถภำพกลไก กำรพฒั นำสมรรถภำพกำย และสมรรถภำพกลไก สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘๙ ชั้น ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 21 พ 4.1 ม.4-6/6 มสี ว่ นร่วมในกำรสง่ เสรมิ และ กำรมสี ว่ นรว่ มในกำรส่งเสริม และพฒั นำสุขภำพของบุคคล พัฒนำสขุ ภำพของบคุ คลในชุมชน ในชุมชน 23 พ 5.1 ม.4-6/1 มสี ่วนรว่ มในกำรป้องกันควำมเส่ียง กำรจดั กิจกรรมป้องกนั ควำมเส่ียง ต่อกำรใชย้ ำ กำรใช้สำรเสพติด ตอ่ กำรใชย้ ำ สำรเสพตดิ และ และควำมรนุ แรง เพ่ือสขุ ภำพ ควำมรุนแรง ของตนเอง ครอบครวั และสงั คม กำรวิเครำะหผ์ ลกระทบที่เกิดจำก 24 พ 5.1 ม.4-6/2 วิเครำะหผ์ ลกระทบที่เกิดจำก กำรครอบครอง กำรใช้ และกำร กำรครอบครอง กำรใชแ้ ละ จำหนำ่ ยสำรเสพติด กำรจำหน่ำยสำรเสพตดิ (ตนเอง ครอบครัว เศรษฐกิจ สังคม) 26 พ 5.1 ม.4-6/4 วำงแผน กำหนดแนวทำง โทษทำงกฎหมำยทีเ่ กิดจำก ลดอบุ ัติเหตุ และสร้ำงเสรมิ กำรครอบครอง กำรใช้และกำร ควำมปลอดภยั ในชุมชน จำหน่ำยสำรเสพตดิ 27 พ 5.1 ม.4-6/5 มีสว่ นร่วมในกำรสรำ้ งเสรมิ กำรวำงแผน กำหนดแนวทำง ควำมปลอดภยั ในชุมชน ลดอบุ ตั เิ หตุ และสร้ำงเสริม ควำมปลอดภัยในชุมชน 28 พ 5.1 ม.4-6/6 ใช้ทักษะกำรตัดสนิ ใจแกป้ ัญหำ ในสถำนกำรณท์ เ่ี ส่ียงต่อสุขภำพ กิจกรรมกำรสร้ำงเสริมควำมปลอดภัย และควำมรนุ แรง ในชุมชน 29 พ 5.1 ม.4-6/7 แสดงวธิ กี ำรช่วยฟนคืนชีพ ทกั ษะกำรตัดสินใจแก้ปัญหำ อย่ำงถูกวธิ ี ในสถำนกำรณ์ท่เี สีย่ งต่อสขุ ภำพ รวม 29 ตัวช้วี ัด รวมท้ังหมด 221 ตวั ช้ีวัด วธิ กี ำรชว่ ยฟนคืนชพี อยำ่ งถกู วิธี 12 17 115 106 สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

290 สรุปตัวชี้วัดและสาระการเรยี นร้แู กนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ชนั้ ตัวช้ีวัดท้ังหมด ต้องรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 18 10 8 ป.๒ 25 12 13 ป.๓ 29 12 17 ป.๔ 29 15 14 ป.๕ 26 13 13 ป.๖ 27 17 10 ม.๑ 27 15 12 ม.๒ 27 17 10 ม.๓ 32 19 13 ม.๔ - ๖ 39 27 12 รวม 279 157 122 ข้อมลู ณ วนั ท่ี 15 สงิ หำคม 2559 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๑ ตวั ช้วี ัดและสาระการเรียนร้แู กนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ชนั้ ที่ รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๑ 1 ศ ๑.๑ ป.๑/๑ อภิปรำยเก่ียวกับรูปร่ำง ลักษณะ รูปรำ่ ง ลักษณะ และขนำดของส่ิงต่ำง ๆ รอบตวั ในธรรมชำติและส่ิงท่ีมนษุ ย์สรำ้ ง และขนำดของสงิ่ ตำ่ ง ๆ รอบตวั ข้ึน แสดงควำมรสู้ ึกทมี่ ตี ่อธรรมชำตแิ ละ ส่งิ แวดล้อมรอบตวั ในธรรมชำตแิ ละสง่ิ ท่ีมนุษย์สรำ้ งขึ้น 2 ศ ๑.๑ ป.๑/๒ บอกควำมรู้สกึ ท่ีมตี อ่ ธรรมชำติ และสงิ่ แวดลอ้ มรอบตัว 3 ศ ๑.๑ ป.๑/๓ มที ักษะพ้ืนฐำนในกำรใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ กำรใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ เช่น ดนิ เหนียว ดนิ น้ำมนั ดนิ สอ พู่กนั กระดำษ สีเทียน สรำ้ งงำนทัศนศิลป สนี ้ำ ดนิ สอสี สรำ้ งงำนทศั นศิลป 4 ศ ๑.๑ ป.๑/๔ สร้ำงงำนทศั นศิลปโดยกำรทดลองใชส้ ี กำรทดลองสีดว้ ยกำรใช้สีนำ้ สีโปสเตอร์ ดว้ ยเทคนคิ งำ่ ย ๆ สเี ทียนและสจี ำกธรรมชำติท่ีหำได้ ในท้องถิ่นโดยกำรวำดภำพระบำยสี 5 ศ ๑.๑ ป.๑/๕ วำดภำพระบำยสีภำพธรรมชำติ ตำมควำมรูส้ กึ ของตนเอง ตำมควำมร้สู ึกของตนเอง งำนทศั นศลิ ปในชีวิตประจำวัน 6 ศ ๑.๒ ป.๑/๑ ระบุงำนทัศนศิลปในชวี ิตประจำวัน กำรกำเนิดของเสียง 7 ศ 2.1 ป.1/1 รวู้ ่ำสง่ิ ต่ำง ๆ สำมำรถก่อกำเนิดเสียง - เสยี งจำกธรรมชำติ ทแี่ ตกต่ำงกัน - แหลง่ กำเนิดของเสยี ง - สสี ันของเสียง 8 ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสยี งดัง - เบำ และควำมช้ำ - เรว็ ของจังหวะ ระดับเสียงดัง-เบำ (Dynamic) 9 ศ 2.1 ป.1/3 ท่องบทกลอน ร้องเพลงงำ่ ย ๆ อตั รำควำมเรว็ ของจังหวะTempo 10 ศ 2.1 ป.1/4 มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมดนตรี กำรอ่ำนบทกลอนประกอบจังหวะ อยำ่ งสนกุ สนำน กำรร้องเพลงประกอบจงั หวะ 11 ศ 2.1 ป.1/5 บอกควำมเกี่ยวข้องของเพลง ที่ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั กิจกรรมดนตรี - กำรรอ้ งเพลง 12 ศ 2.2 ป.1/1 เลำ่ ถงึ เพลงในทอ้ งถิน่ - กำรเคำะจังหวะ 13 ศ 2.2 ป.1/2 ระบสุ ิง่ ทีช่ ่นื ชอบในดนตรที อ้ งถน่ิ เพลงทใ่ี ชใ้ นชวี ิตประจำวนั - เพลงเด็ก - บทเพลงประกอบกำรละเล่น - เพลงสำคัญ (เพลงชำติไทย เพลงสรรเสริญพระบำรม)ี ที่มำของบทเพลงในท้องถน่ิ ควำมนำ่ สนใจของบทเพลงในทอ้ งถ่ิน สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชน้ั ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๒๙๒ กำรเคลอ่ื นไหวลักษณะต่ำง ๆ ต้องรู้ ควรรู้ ป.1 14 ศ 3.1 ป.1/1 เลียนแบบกำรเคล่ือนไหว - กำรเลยี นแบบธรรมชำติ - กำรเลยี นแบบคน สตั ว์ สิ่งของ ๑๐ ๘ 15 ศ 3.1 ป.1/2 แสดงท่ำทำงงำ่ ย ๆ เพ่ือสือ่ ควำมหมำย กำรใชภ้ ำษำทำ่ และกำรประดษิ ฐ์ แทนคำพูด ท่ำประกอบเพลง กำรแสดงประกอบเพลงทเ่ี กีย่ วกบั 16 ศ 3.1 ป.1/3 บอกสิง่ ที่ตนเองชอบ จำกกำรดู ธรรมชำตสิ ัตว์ หรือร่วมกำรแสดง กำรเปน็ ผชู้ มท่ดี ี 17 ศ 3.2 ป.1/1 ระบุและเลน่ กำรละเลน่ ของเด็กไทย กำรละเล่นของเด็กไทย - กำรเลน่ ของเด็กไทย 18 ศ 3.2 ป.1/2 บอกสงิ่ ท่ีตนเองชอบในกำรแสดง กำรแสดงนำฏศิลป นำฏศลิ ป รวม ๑๘ ตัวชีว้ ดั สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชน้ั ท่ี รหัสตวั ชี้วัด ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๒๙๓ ต้องรู้ ควรรู้ เสน้ สี รูปรำ่ ง รปู ทรงในธรรมชำติ ป.2 1 ศ ๑.๑ ป.๒/๑ บรรยำยรูปร่ำง รปู ทรงท่ีพบ และสงิ่ แวดลอ้ ม และงำนทศั นศิลป ประเภทตำ่ ง ๆ เช่น งำนวำด งำนปนั ในธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อม และงำนพิมพ์ภำพ 2 ศ ๑.๑ ป.๒/๒ ระบุทศั นธำตุที่อยู่ในสิง่ แวดล้อม และ งำนทัศนศลิ ป โดยเนน้ เร่ืองเส้น สี รปู รำ่ ง และรปู ทรง 3 ศ ๑.๑ ป.๒/๓ สร้ำงงำนทัศนศิลปต่ำง ๆ โดยใช้ทศั นธำตุท่ีเน้นเสน้ รูปร่ำง 4 ศ ๑.๑ ป.๒/๔ มที กั ษะพื้นฐำนในกำรใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ กำรใช้วสั ดุ อุปกรณ์ สร้ำงงำนทศั นศิลป ๓ มติ ิ สร้ำงงำนทศั นศลิ ป ๓ มติ ิ ภำพปะติดจำกกระดำษ 5 ศ ๑.๑ ป.๒/๕ สรำ้ งภำพปะติดโดยกำรตัด เนื้อหำเร่อื งรำวในงำนทัศนศิลป และกำรวำดภำพถ่ำยทอดเร่ืองรำว หรอื ฉกี กระดำษ งำนโครงสร้ำงเคลอ่ื นไหว 6 ศ ๑.๑ ป.๒/๖ วำดภำพเพ่ือถำ่ ยทอดเร่ืองรำวเกยี่ วกบั งำนทัศนศิลปในชวี ติ ประจำวนั ครอบครัวของตนเองและเพ่อื นบำ้ น และงำนทัศนศลิ ปในท้องถ่นิ 7 ศ ๑.๑ ป.๒/๗ เลือกงำนทัศนศลิ ป และบรรยำยถึง สิ่งทมี่ องเห็น รวมถงึ เน้ือหำเร่ืองรำว 8 ศ ๑.๑ ป.๒/๘ สรำ้ งสรรคง์ ำนทศั นศิลปเปน็ รูปแบบ งำนโครงสรำ้ งเคลื่อนไหว 9 ศ ๑.๒ ป.๒/๑ บอกควำมสำคญั ของงำนทัศนศิลป ทีพ่ บเหน็ ในชีวิตประจำวัน 10 ศ ๑.๒ ป.๒/๒ อภปิ รำยเก่ียวกับงำนทัศนศิลป ประเภทต่ำง ๆ ในท้องถิน่ โดยเน้นถงึ วิธีกำรสร้ำงงำนและวัสดอุ ุปกรณท์ ใี่ ช้ 11 ศ 2.1 ป.2/1 จำแนกแหลง่ กำเนดิ ของเสียงท่ีได้ยิน สีสันของเสยี งเครื่องดนตรี 12 ศ 2.1 ป.2/2 จำแนกคุณสมบตั ขิ องเสียงสงู - ตำ่ สีสันของเสยี งมนุษย์ ดัง - เบำ ยำว - ส้ัน ของดนตรี กำรจำแนกเสียง สูง - ต่ำ ดงั - เบำ 13 ศ 2.1 ป.2/3 เคำะจงั หวะหรอื เคล่ือนไหวร่ำงกำย ยำว - สัน้ จำกกำรฟัง ให้สอดคล้องกับเนื้อหำของเพลง กำรเคลอื่ นไหวประกอบเน้ือหำในบทเพลง 14 ศ 2.1 ป.2/4 รอ้ งเพลงง่ำย ๆ ทีเ่ หมำะสมกับวยั กำรเลน่ เครอ่ื งดนตรีประกอบจังหวะ 15 ศ 2.1 ป.2/5 บอกควำมหมำยและควำมสำคัญของ เพลงที่ไดย้ ิน กำรขบั ร้อง ควำมหมำยและควำมสำคัญของเพลง ทไี่ ด้ยิน - เพลงปลุกใจ - เพลงสอนใจ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๔ ชัน้ ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.2 16 ศ 2.2 ป.2/1 บอกควำมสัมพนั ธ์ของเสยี งร้อง บทเพลงในทอ้ งถน่ิ - ลกั ษณะของเสียงร้องในบทเพลง เสียงเครื่องดนตรีในเพลงทอ้ งถ่นิ - ลกั ษณะของเสียงเคร่ืองดนตรี โดยใชค้ ำงำ่ ย ๆ ทใี่ ช้ในบทเพลง 17 ศ 2.2 ป.2/2 แสดงและเข้ำรว่ มกิจกรรมทำงดนตรี กจิ กรรมดนตรีในโอกำสพิเศษ ในท้องถ่ิน - ดนตรกี บั โอกำสสำคญั ในโรงเรียน - ดนตรกี บั วันสำคญั ของชำติ 18 ศ 3.1 ป.2/1 เคล่ือนไหวขณะอยู่กับที่และเคล่อื นท่ี กำรเคลอื่ นไหวอย่ำงมีรปู แบบ 19 ศ 3.1 ป.2/2 แสดงกำรเคล่ือนไหวท่ีสะท้อนอำรมณ์ - กำรนัง่ ของตนเองอยำ่ งอิสระ - กำรยืน - กำรเดนิ 20 ศ 3.1 ป.2/3 แสดงท่ำทำง เพ่ือสอ่ื ควำมหมำย แทนคำพูด เพลงท่เี ก่ยี วกบั สิ่งแวดลอ้ ม 21 ศ 3.1 ป.2/4 แสดงทำ่ ทำงประกอบจังหวะ หลักและวิธกี ำรปฏิบัตนิ ำฏศลิ ป อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ - กำรฝึกภำษำท่ำสอ่ื ควำมหมำย 22 ศ 3.1 ป.2/5 ระบุมำรยำทในกำรชมกำรแสดง แทนอำกปั กิริยำ - กำรฝึกนำฏยศัพทใ์ นส่วนลำตัว 23 ศ 3.2 ป.2/1 ระบแุ ละเลน่ กำรละเลน่ พน้ื บ้ำน 24 ศ 3.2 ป.2/2 เชอื่ มโยงสิง่ ที่พบเหน็ ในกำรละเลน่ กำรใชภ้ ำษำท่ำและนำฏยศัพท์ ประกอบจงั หวะ พน้ื บ้ำนกับส่ิงทีพ่ บเหน็ ในกำรดำรงชวี ติ ของคนไทย มำรยำทในกำรชมกำรแสดง กำรเขำ้ ชม 25 ศ 3.2 ป.2/3 ระบุสง่ิ ทชี่ ่ืนชอบและภำคภูมิใจ หรอื มีสว่ นร่วม ในกำรละเล่นพื้นบ้ำน กำรละเล่นพน้ื บ้ำน รวม ๒๕ ตัวชว้ี ัด - กำรละเล่นพน้ื บ้ำน - คณุ ค่ำของกำรละเล่นพื้นบ้ำน - ควำมภำคภูมใิ จ ๑2 ๑3 สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๕ ชัน้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๓ 1 ศ ๑.๑ ป.๓/๑ บรรยำยรูปร่ำง รูปทรงในธรรมชำติ รปู รำ่ ง รูปทรงในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อม 2 ศ ๑.๑ ป.๓/๖ สิง่ แวดล้อม และงำนทศั นศลิ ป และกำรใช้เส้น รปู รำ่ ง รูปทรง สี พ้ืนผิว ในงำนทัศนศิลปและวำดภำพ 3 ศ ๑.๑ ป.๓/๒ วำดภำพถ่ำยทอดควำมคดิ ควำมร้สู ึก ถ่ำยทอดควำมคิดควำมร้สู กึ 4 ศ ๑.๑ ป.๓/๕ จำกเหตกุ ำรณช์ ีวิตจริง โดยใช้เสน้ 5 ศ ๑.๑ ป.๓/๗ รปู รำ่ ง รปู ทรง สี และพ้ืนผวิ วสั ดุ อุปกรณ์ทใี่ ช้สรำ้ งงำนทศั นศิลป ประเภทงำนวำด งำนปัน งำนพมิ พภ์ ำพ 6 ศ ๑.๑ ป.๓/๓ ระบุ วัสดุ อุปกรณ์ทใี่ ช้สรำ้ งผลงำน และเทคนิควิธีกำรในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป เมอ่ื ชมงำนทศั นศิลป 7 ศ ๑.๑ ป.๓/๔ เส้น สี รูปร่ำง รูปทรง พ้ืนผิว ในธรรมชำติ มีทกั ษะพนื้ ฐำน ในกำรใช้วสั ดุ อุปกรณ์ สง่ิ แวดลอ้ มและงำนทัศนศิลป สรำ้ งสรรค์งำนปนั กำรวำดภำพระบำยสีส่งิ ของรอบตวั บรรยำยเหตผุ ลและวิธกี ำร ด้วยสเี ทยี น ดินสอสี และสีโปสเตอร์ ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศลิ ป กำรแสดงควำมคดิ เหน็ ในงำนทัศนศลิ ป โดยเน้นถงึ เทคนิค และวัสดุ อุปกรณ์ ของตนเอง กำรจดั กลุ่มของภำพตำมทัศนธำตุ จำแนกทัศนธำตุของส่ิงตำ่ ง ๆ ในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อม รปู รำ่ ง รปู ทรง ในงำนออกแบบ และงำนทัศนศิลป โดยเน้นเร่ืองเสน้ สี รูปร่ำง รูปทรง และพนื้ ผิว ทีม่ ำของงำนทศั นศลิ ปในท้องถน่ิ วัสดุ อปุ กรณ์ และวธิ ีกำรสร้ำงงำน วำดภำพ ระบำยสีส่ิงของรอบตวั ทัศนศลิ ปในทอ้ งถนิ่ รูปร่ำงลักษณะของเครอ่ื งดนตรี 8 ศ ๑.๑ ป.๓/๘ ระบุสง่ิ ท่ีชื่นชมและสิ่งทค่ี วรปรับปรงุ เสยี งของเครอื่ งดนตรี ในงำนทศั นศิลปของตนเอง สญั ลกั ษณแ์ ทนคุณสมบตั ิของเสยี ง (สูง - ต่ำ ดัง - เบำ ยำว - สนั้ ) 9 ศ ๑.๑ ป.๓/๙ ระบแุ ละจัดกลุ่มของภำพตำมทัศนธำตุ สัญลกั ษณ์แทนรปู แบบจังหวะ ทีเ่ น้นในงำนทัศนศิลปน้นั ๆ 10 ศ ๑.๑ ป.๓/๑๐ บรรยำยลักษณะรปู ร่ำง รปู ทรง ในงำนกำรออกแบบสิ่งต่ำง ๆ ทีม่ ีในบำ้ นและโรงเรียน 11 ศ ๑.๒ ป.๓/๑ เลำ่ ถึงทีม่ ำของงำนทัศนศลิ ปในทอ้ งถิ่น 12 ศ ๑.๒ ป.๓/๒ อธบิ ำยเกยี่ วกับวัสดอุ ุปกรณ์และวธิ ีกำร สรำ้ งงำนทศั นศิลปในท้องถิน่ 13 ศ 2.1 ป.3/1 ระบรุ ปู รำ่ งลักษณะของเคร่ืองดนตรี ท่ีเหน็ และได้ยินในชีวิตประจำวัน 14 ศ 2.1 ป.3/2 ใช้รูปภำพหรือสญั ลกั ษณ์แทนเสียง และจังหวะเคำะ สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๖ ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 15 ศ 2.1 ป.3/3 บอกบทบำทหนำ้ ท่ีของเพลงท่ีไดย้ นิ บทบำทหนำ้ ท่ีของบทเพลงสำคญั - เพลงชำติ 16 ศ 2.1 ป.3/4 ขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรงี ำ่ ย ๆ - เพลงสรรเสริญพระบำรมี - เพลงประจำโรงเรียน 17 ศ 2.1 ป.3/6 แสดงควำมคดิ เห็นเกีย่ วกบั เสยี งดนตรี เสียงขบั ร้องของตนเองและผู้อืน่ กำรขบั ร้องเดีย่ วและหมู่ 18 ศ 2.1 ป.3/5 เคลือ่ นไหวท่ำทำงสอดคล้องกับ กำรบรรเลงเคร่ืองดนตรีประกอบจังหวะ อำรมณ์ของเพลงทีฟ่ ัง กำรแสดงควำมคดิ เหน็ เก่ียวกับเสียงรอ้ ง 19 ศ 2.1 ป.3/7 นำดนตรีไปใช้ในชีวติ ประจำวันหรือ และเสยี งดนตรี โอกำสต่ำง ๆ ได้อยำ่ งเหมำะสม - คุณภำพเสยี งร้อง - คณุ ภำพเสียงดนตรี 20 ศ 2.2 ป.3/1 ระบุลกั ษณะเด่นและเอกลกั ษณ์ ของดนตรีในท้องถิ่น กำรเคลื่อนไหวตำมอำรมณ์ของบทเพลง 21 ศ 2.2 ป.3/2 ระบคุ วำมสำคัญและประโยชน์ กำรใช้ดนตรีในโอกำสพเิ ศษ ของดนตรีตอ่ กำรดำเนินชวี ติ - ดนตรใี นงำนร่นื เรงิ ของคนในท้องถน่ิ - ดนตรีในกำรฉลองวนั สำคญั ของชำติ 22 ศ 3.1 ป.3/1 สรำ้ งสรรคก์ ำรเคล่ือนไหว เอกลกั ษณ์ของดนตรใี นท้องถิ่น ในรูปแบบต่ำง ๆ ในสถำนกำรณส์ ้นั ๆ - ลกั ษณะเสียงรอ้ งของดนตรใี นทอ้ งถน่ิ - ภำษำและเนื้อหำในบทร้องของดนตรี 23 ศ 3.1 ป.3/2 แสดงท่ำทำงประกอบเพลง ตำมรูปแบบนำฏศิลป ในท้องถน่ิ - เครอ่ื งดนตรีและวงดนตรีในท้องถิ่น 24 ศ 3.1 ป.3/3 เปรียบเทียบบทบำทหนำ้ ท่ขี องผู้แสดง และผชู้ ม ดนตรีกับกำรดำเนนิ ชีวิตในท้องถนิ่ - ดนตรีในชวี ติ ประจำวนั 2๕ ศ 3.1 ป.3/4 มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกำรแสดง - ดนตรใี นวำระสำคัญ ทเี่ หมำะสมกบั วัย กำรเคล่อื นไหวในรูปแบบต่ำง ๆ - รำวงมำตรฐำน - สถำนกำรณส์ ั้น ๆ - สถำนกำรณ์ท่กี ำหนดให้ หลักและวธิ กี ำรปฏิบตั ินำฏศิลป - ภำษำท่ำสอื่ อำรมณ์ของมนุษย์ - นำฎยศัพท์ในส่วนขำ หลกั ในกำรชมกำรแสดง - ผู้แสดง - ผ้ชู ม - กำรมีส่วนรว่ ม สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)