Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือคำแปลมหาปรินิพพานสูตร

หนังสือคำแปลมหาปรินิพพานสูตร

Description: หนังสือคำแปลมหาปรินิพพานสูตร

Search

Read the Text Version

๑๓๔ ในสฅู รอย่เู มือ่ ถกู เทียบเคยี งเข่าไปในวินยอยู่ ย่อมโอนลง ในสูฅรไมไ่ ค้ควยเลย ยอ่ มกลอยลงในวินยไม่ไคค้ วย ท่านทงหลายพึงถึงการฅกลงใจในคำนว่า ‘ค ำท ีถูกกล่าว ออกมาแล่วน มิ ใช่คำลอนของพระผ้มู พี ระภาคเจไน1น ควยเลย พระเถระรปู นนถือเอามาไมค่ ีควย โดยแนน่ อน’ คกู อ่ นภกิ ษุท1งหลาย ควยการฅลอมเทียบเคียงอย่างนเทียว ท่านทงี หลายพึงบคออกไปเลยี ซ่งึ คำทถี กู กลา่ วออกมาแลว นน แค่ถาคำเหล่าน1น เมือ่ ถูกฅลอมเอาเขา่ ไปในลฅู รอยู่ เม่ือถกู เทียบเคียงเขาไป ในวนิ ยํ อยู่ ถาย่อมโอนลงไปไน ส'ู ครไค้ ลา่ ย่อมคลอยลงในวนิ ยไคไซร้ ท่านทีงหลายพึง ถึงการฅกลงใจในคำน่วา่ คำที่ถกู กล่าวออกมาแลว่ น เบ่น็ คำของพระผมู้ พี ระภาคเจ5ทนนควย พระเถระรปู นนถอื เอา มาแลวดคี วย โคยแน่แท’้ คูกอ่ นภิกษทุ งี หลาย อนนี เบนมหาปเทสชอ่ ท่ี ๔ อนํ ท่านทงี หลายพึงทรงจำไว้” “ ค กู ่อนภิกษุทงี หลาย มหาปเทส ๔ ประการ เหลา่ น่แล อนิ ทา่ นทงี หลายพงึ ทรงจำไว้ ทหลุ านสาสนเมอประทบทอานIรทเฉดศ์ ไค้ยนิ ว่า พระผ้มพี ระภาคเจากำล่งประทบอย่ ณ

๑๓ d . อานนทเจคีย์ ในโภคนครแม้นน สำหรบภกิ ษทุ 1งหลาร] ทรงกระทำธรรมกี ถาท,ี มปี รมิ าณมากนเทยี วว่า “ศลี มเี จต- นารมณ์ มีอาการอยา่ งน สมาธิ มีเจฅนารมณ์ มอี าการ * อย่างน บญญามีเจตนารมณ์ มีอาการอยา่ งน สมาธิที่ มีศีลเบน3านเบ่็นท่ดี ่ง เบ็น่ ท่เี บ่น็ ไป ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงสใํ หญ่ บญญาท่ีมสี มาธเิ บน1านเบ'็ นท่ดี ง เบ็1น ที,เบนไป ยอ่ มมีผลใหญ่ มอี านิสงสใ์ หญ่ จฅิ ทถ่ี ูกบญ่ ญา บม่ 'ใหค้ ถี ึงขนาดแล*ว ยอ่ มหลดุ พนโดยชอบอย่างแท้จรงิ จากอาสวะฑงสามน คอื จากกามาสวะ จากภวาสวะ จากอวชิ ชาสวะ เสว์ ยภตตาหารทบานนายจนทะกมมารบุตร ในคร้ํงนน้ํ พระผ้มู ีพระภาคเจไ กรนประทบ ณ โภคนคร ดามพระอธยาศยแลว ได้ดำรพงพระอานนทะ ผู้มีอายวุ า่ “อาน’นทะ เรามาไปกนเถิด เราจกยงไปยง ภมู ภิ าคอน้ เบนทีฅ่ งอยแู่ หง่ กรงุ ปาวา พระอานนทะ ผมู้ ี อายรุ ิบพระพุทธดำรสิ ส่งวา่ “พระเจำขำ ขาพระบาท พรอิ ม'จะดามเสด็จแอ้วิ” ครงน1น พระผู้มีพระภาคเจไ พรอิ ้มกํบภ่ ิกษหุ มู้ ใหญ่ ได้ทรงดำเนนิ เขา่ ไปยงภูมิภาค ที่กรงุ ปาวาด1งอยู่ ไดย้ ินวา่ ในคราวนน พระผม้ ีพระภาค-

r '■ • ..... ■- 'r- ■ - \" • \\ ะ’'.- 6)๓\\> เจไ'ใด้ทรงพำ‘นกในวค้ อมพวนของนาย,จนุ ทะ กมมารบ?ุ ไร ในกรงุ ปาวา นายจุนทะ กมมารบุฅรไค้สคบวา่ “ ไคย้ นิ วา่ พระผ้พู ระภาคเจไทรงคำเนินไปคามกรุงปาวาแลวประท*บ ณ ว*ค.อมั พวนของเรา (ทีฅ่ งอยู่ในกรุงปาวา)” ในคอนท่ี พอไค้ทราบแล1วนนึ่ นายจุนทะ อัมมารบุ?ไร ไดเ้ ขไไป องั ว*คอํ มั พอนั อนั เบ็่นสถานทพี่ ระผูม้ ีพระภาคเอัากำอัง ประท*บอยู่ ครนเขไ'ใปถึง ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค- เอัาแลว ได้นงํ ลง ณ ส่วนสคุ ดไนหน่ึง พระผ้มู พี ระภาค- เอาั ไค้องั เขาให้เหน็ อย่างแจม่ กระจา่ ง ให้สมาทาน ให้ อาจหาญ ใหร้ ่าเริง อวั ยธรรมกี ถา ในท*นทีนน นาย จุนทะ อัมมารบุ?ไร ผอู้ ันพระผมู้ พี ระภาคเจา'ให้ ไค้เห็น อย่างแจม่ กระจ่าง ใหส้ มาทาน ใหอ้ าจหาญ ให้ร่าเริง ควยธรรมกี ถาแอัว ไคก้ ราบทลู กำอาราธนานึก่ ะพระผู้มี พระภาคเจไวา่ “ขา่ แคพ่ ระองค้ผ้เู บนทเี่ การพ ขอพระ ผู้มพี ระภาคเจไพร1อมอบั ภกิ ษสุ งฆโ์ ปรครบภ*ฅฅาหารเพื่อ เสวยในอันพร่งุ นึ่ ของขไพระบาท” พระผ้มู พี ระภาคเจไ ทรงรบกำนิมนตน์ 1นควยอาการนง่ึ ในคอนทีท่ รงนึ่งอยนู่ น -

®๓(ทเ นายจนุ ทะ กมมารบฅุ รทราบอาการทีพ่ ระพุทธเจา่ ทรง รบนิมนฅแลว ลกุ จากทนี 'ง ถวายอภิวาท กระทำปทกี ษณิ ซ่ึงพระผู้มีพระภาคเจ่าแลว ไค้หลีกออกไป ในกรงนนแล นายจุนทะ กมมารบุฅร ไคใ้ ห้ จดปรงุ ขาท'แย่โภชนียาหารทีป่ ระณฅี และเนอั๊ สกุ รท่ีเบ็่น สีง่ อ่อนอว้ ลงควยวฅถเุ คม๑ี เบ็1นอน้ มาก แอ้วไค้ให้คนไป กราบทูลกาลแหง่ ภพเอพระผู้มพี ระภาคเจา่ วา่ “กาลแห่ง ภฅ่ พระเจาขา ภฅฅาหารสำเร็จแอ้ว” ในทนทีนน พระผมู้ ีพระภาคเจ่าทรงนุ่งในเวลา เซาแอ้ว ทรงถือบาฅรและจวี ร พร2อมกบภิกษุสงฆ์ ไค้ เสด็จเขไไปยงภมู ภิ าคอนเบ็่นท่ดี งอยู่ แห่งนิ เวคนฃ์ องนาย จนุ ทะ ก'มมารบดุ ร ครนเขาไปถงึ แอ้ว ไคป้ ระทบน'ง ณ อาสนะทถี ูกปูไวแ้ อ3้ ครนํ ประทํบนงํ แอ้ว ไค้ดรสสํง นายจุนทะ ก'มมารบุดร'วา่ “จุนทะ เธอจงอง้ คาสพระฅถาคด ควยเนอสกุ รทีเบ่็นสงอ่อนฅวํ ลงคว้ ย้ วฅ่ ถเุ คมี ทเี่ ธอ'ได้จด่ เฅรยี มไวแ้ อ้ว สว่ นภิกษุสงฆ์ เธอจงอง้ คาสควยขาทนยี โภช- ๑ สกุ รมททฺ ว กือเน้ํอสกุ รทอ่ี อ่ น?ทลั งทวิยว้อถ่ ุทีส่ ำเรจ็ มาจาก กรรมวธิ ีทางวทิ ยาศาสฅ ร ็ เ บ อ งอ้น ( A l c h e m y )

©๓ฟ่ นยี าหารอยา่ งอน่ื ทเี่ ธอได้พเั ฅรียมไว้แสว่ ” นายจุนทะ กมมารบุฅร รบํ พระพทุ ธคำรสว่า “พระเจไขไ ขไพระ­ มาทจะองคาสฅามพระคำรสสํง” แลว้ไคอ้ ิงคาสพระผมู้ ี พระภาคเจไ ควยเนอสุกรท่เี บ็่นสงี อ่อนฅวลงคํวยวฅคุเคมี ท่ีถูกจดํ เฅรยี มไวแ้ ลว สว่ นภกิ ษสุ งฆ์ เขาไคอ้ งคาสควย ขาฑนยี โภชนยี าหารอย่างอนื่ ทีไ่ ค้ถกู จคเฅรยี มไว้แส่ว ในคอนทภี่ ฅกจิ เสรจ็ แสว่ น1น พระผูม้ ีพระภาคเจไ ครสสง่ นายจุนทะ กไบมารบุฅรวา่ “จนุ ทะ เธอจงผงเนอ สกุ รทีเ่ บ๋น็ สงี ที่อ่อนฅวลงควยวฅคเุ คมีของเธอ ท่ยี ิงเหลือ อยเู่ สียในหลมุ เถคิ เพราะนอกจากพระคถากณเลว คน อ่ืนผูท้ ีบรโิ ภคเนอสุกรนนเขไไปแลว พงึ เบน็่ ที่ถึงการ ย่อยไปโคยชอบแหง่ เนอสุกรนํน้ พระฅถาคฅไมเ่ ห็น (ว่ามีอยู่) ในโลก ท่รี วมฑงเทวโลก มารโลก และพรหม- โลก ในชุมชน ทรี่ วมท8งสมณะและพราหมณก์ บํ เทพและ มนษุ ย นายจนุ ทะ กมมารบุฅรรบํ พระพุทธคำรสสง่ นนว่า “พระเจไขไ ฃไพระบาทจะผงมนเสยี ” แส่ทไค้ผงเนอ๊ั สกุ ร ทเ่ี บนส่ีงอ่อนฅวํ ลงควยวฅถเุ คมี ทยี่ ิงเหลืออยู่ลง'ในหลมุ

๑ ๓ ส์ แลวไคเ้ ฃไไป ณ พนทพ่ี ระผมู้ ีพระภาคเจไประทบอยู่ ครน เขไไปถงึ ถวายบงคมพระผ้มู พี ระภาคเจไแลํว ไคน้ ์งลง่ ณ ท่สี ดุ คไนหนงึ่ พระผู้มีพระภาคเจไไค้ยงเขาให้เห็น อยา่ งแจม่ กระจา่ ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ใหร้ า่ เริง ควยธรรมีกถาแลว ได้ทรงลุกขนจากอาสนะ เสด็จ หลกี ไป ในเวลาตอ่ มา พระผูม้ ีพระภาคเจไ ผู้ซ่งึ ไคเ้ สวย ภฅฅาหารของนายจุนทะ กมมารบฅร่ แลว ไดเ้ กดิ เบน อาพาธคอื การลงบงคนเบ1็ นโลหดิ อยา่ งรุนแรงขนมา เวท- นาที่สามารถจะใหถ้ งึ ทส่ี ดุ คือมรณะได้ ย่อมเบน'ไปอย่าง แรงกลไไคย้ นิ วา่ พระผูม้ พี ระภาคเจไทรงมีสฅิ มสี มปช'ญ- ญะ ยอมริบไมท่ รงเดอื ดร่อนแมเ้ พราะเวทนานนิ ในทนที นน พระองค์ไค้ฅรสิ สงิ พระอานนทะ ผ้มู ีอายวุ า่ “ดกู ่อน อานนทะ เรามาไปกนเถิด เราจิกไปยํงภมู ภิ าคท่ีกรงุ กสุ นิ าราฅงอยู่” พระอานินทิ ะ ผู้มิอายุ รบิ พระพทุ ธ คำรสิ สงํ วา่ “พระเจไขไ ฃทํ ัพระบาทพรอิ มท่'ี จะ'โดยเสด็จ แล2ว”

6)๔0 ขไพเจไไค้สฅบมาอย่างนื่ว่า ะ พระศาสคาผ้ทู รง เพยี บพรอมควยบญญา เสวยพระกระยาหารของนายจุนทะ กมมารบุฅรแลว ฅองประสบอาพาธอยา่ งแรง ท่ีสามารถ จะใหถ้ ึงที่สุคออื้ มรณะไค้ แค่ ในภ'ฅฅาหารทพ่ี ระคาสคา ไค้เสวยแลว เน่อื สกุ รท่ีเบน่็ ส่ีงท่ีออ่ นฅไลงควยวฅถเุ คมี กม็ ิไค้เบ็น่ บจจยเบน่็ ทเี่ กดิ ขนแห่งพยาธิท่ีแรงกลไ แก่ พระศาสคา พระผมู้ พี ระภาคเจไผ้กู ำสิงอาพาธลงบงคน เบนโลหฅิ อย่ไู คฅ้ รสสงวา่ ‘เราจงไปนกรกุสนิ ารากนเถิค” (คาถาน พระสงิ คีฅิการกเถระท1งหลาย กลา่ วใน สงิ คฅี กิ าล) ต อ ง ท ร ง เด ิน ท า ง ด4ว อ ค ว า ม อ ่อ น เ‘พลย ในฅอนทก่ี ำสงิ เดินทางไปส่กู รุงกุสนิ าราอยู่น้นํ พระผมู้ พี ระภาคเจไไค้ทรงเลยวออกจากหนทาง เขไไป ย*งภมู ภิ าคอนิ เบนที่ คง อย่แู ห่งโ คนฅนไ ม้ คนใค คนหน่งึ กรนเขไไปถึงแลว ไค้ครสสิงพระอานนทะ ผู้มอี ายุว่า “อานนทะ เรว็ เธอจงปูผไสิงฆาฏิ ๔ ซ1นIหพ้ ระฅถาคค‘สุ เหนค็ เหนอ่ื ยแลว่ จํกน่งพก'” พระอานนทะ ผม้ อี ายุ

ร)Gt6) รบพระพุทธคำรสสํงแลว่ ไคป้ ผู ิาสงํ ฆาฏิ ๔ ชนถวาย พระ ผมู้ พี ระภาคเจาใคป้ ระทบนงํ่ ณ อาสนะท่พี ระอาน*นทะ ผูม้ ีอายุปถู วาย ครนประท*บน'งแลิว ไค้ฅรสสํงพระอานํน­ บะ ผมู้ อี ายวุ า่ “อานนทะ เร็วหน่อย เธอจงนำนาดมื่ มาใหพ้ ระดถาคด ยุ ระหายแล่ว จิกท่ีมน1ไ” เ มอ่ื พระผมู้ ีพระภาคเจไดรสอยา่ งน่น พระอานน- ทะ ผู้มีอายุไคก้ ราบทูลคำแยง่ นว่า” พระเจาขา เกวียน ปร\"มาณ ๕00 เลม่ ไคข้ ามไปเมือ่ กน่ นาดรงที่ลอ่ เกวยี น ค่ไฅป มีปริมาณนไ]ยจงึ ขุ่นเบนดมไหลไปอยู่ แม่นา กกุธานอยใู่ นทไ่ี ม่ไกล มนี าใส มนี 1าจืดสนธิ มีนาเย็น มนี าทีไ่ มม่ กี ลน่ โกลน มที ่าเบน่็ ท่ีฃนลงสะดวก นา่ ร่นื รมย พระผมู้ ีพระภาคเจาจิกทรงดืม่ และจกิ ทรงสนาน พระกาย ท่ีแมน่ ากกธุ าน” พระผ้มู ีพระภาคเจิาไค้ฅรํส เช่นนน แม้กรงท่ี ๒ แม้กรงที่ ๓ ในกรงท่ี ๒ พระ อานนทะ ผ้มู อี ายุกราบทูลแยง่ เช่นนน่ แดใ่ นครงื่ ที๓่ พระอานนทะผูม้ อี ายุ กราบทูลรบพระพุทธคำรสส่งแลว' ไค้ถอื บาฅรเข’าใปย*งภูมภิ าคทแี่ มน่ าน,อยน'นดงอยู่ ในเวลา

๑๔ไร!) น1น แม่นาออยน1น ฅอนท่ีแคบ ถูกล่อเกวยี นฅคํ ไป จึงกำลง่ มีน1าฃุน่ เบนฅมไหลไปอยู่ เม่อื พระอาน*นทะ ผู้มี อายุ เขาไปถงึ แม่นาคอนน'น กล*บมีน้ําใส มีนำสะอาค ไมม่ โี คลนตมผสมไหลไปอยู่ ครงํ้ น้ํนพระอานํน่ทะ ผ้มู ี อายุ ได้เกดิ การรำพงึ นขนมาว่า “ ท่านผเู้ จริญทงหลาย โอ ! เหตุทีส่ มควรลอ่ งปรบมอื ให้ นา่ ปลาคเหลือเกิน เหฅุ ท่,ีไมเ่ คยเกคิ มีกม็ าเกิคมีฃน พระตถาคตเจไเบน่็ ผู้มีฤทธิ้ มากเบนผมู้ อี นุภาพมาก เพราะแม่น1านํอย์ ลายนนน ฅอนท่ี แคบ ได้ถกู ลอ่ เกวียนฅดไป จงึ กำล่งมนี *าขนุ่ เบ็่นคม'โหล ไปอยู่ แค่เม่ือเราเขาไปถงึ แมน่ ํา้ นํก้ ลบมนี าํ้ ใส มนี า สะอาค มนี *าทไี่ มม่ โี คลนตมผสมไหลไปอย่”ู ท่านผู้มอี ายุนน้ํ ไดน้ ำนามาลว่ ยบาตร ได้เขาไป ยงิ โคนล่น’ไม้ท่'ี พระผู้มีพระภาคประท*บอยู่ ครนเขไไปถงึ แล่ว ได้กราบทูลเหตกุ ารณน์ ่กะพระผ้มู ีพระภาคเจำ-วา่ “ พระเจไขา เหตคุ วรแก่การปรบมอื ให้ เหตุทไ่ี มเ่ คย เกิตมีกลบมาเกคิ มขี นแล่ว พระตถาคตเลา่ เบนผู้มีฤทธํ่ มาก เบ็น่ ผมู้ อี านุภาพมาก เม่ือกน แม่นา่ นํอยสายน1น ตอนทแี่ คบ ไดถ้ ูกลอ่ เกวียนฅคไป จึงมนี าํ้ ท่ขี นุ่ เบ็น่ ตม

©๔๓ ไหลไปอยู่ แท่เม่อื ขไพระบาทเขไไปถงึ แมน่ าสายนน- I กล'บมนี า'ใส มีนา่ึ สะอาค มีน่ึาทใ่ี มม่ โี คลนผสมไหลไป แลว ขอพระผู้มพี ระภาคเจ1ท ขอพระสุคฅเจท โปรดทรง คมนำด่มื ” ในทนํ ทีน1น, พระผู้มพี ระภาคเจไได้ทรงด่มื นึา่ ดมื่ ' ในอปาทวิถปี ระสาทไม่ร*บสม์ ผสํ กส็ มยน่นึ ปุกกสุ ะ มลบุฅร ผเู้ บน่็ สาวกของ ดาบสอาสาระ กาลามะ กำลงเดนิ ทางไกลจากกรงุ กสุ นิ ารา ไปย*งกรุงปาวา ไดเ้ ห็นพระผม้ พี ระภาคเจไ ผปู้ ระทบน'ง -pi ณ โคนดนไม้ชนิดใดชนดิ หนง่ึ ครนได้เห็นแลว ไดเ้ ขไ ไปยิงภูมิภาคทีพ่ ระผู้มีพระภาคเจไประทบนงํ อยู่ ครํน้ เขไ ไปถงึ แล1ว ถวายอภิวาทพระผมู้ ีพระภาคเจไแลว ได้น*ง เผา ณ ส่วนสดุ ดานหนึง่ แลวไคก้ ราบทูลพระผู้มพี ระ- ภาคเจไอยา่ งน่ึวา่ “ ขไแท่พระมหาสมณะผทู้ รงเกียรฅิ เห ฅุทนี า่ อศจรรย เห ฅุฑ ีไม่เกยมีแทก่ ล้บมามขี นึ แส่ว นา่ เลือมใส บรรพชิฅทํ้งหลาย ยอ่ มสำเร็จอริ ยิ าบถอยู่ ควยวหิ ารธรรมทีสงบ ขไแท่พระมหาสมณะผู้เบนทเ่ี คารพ เรือ่ งท่ีเกยบ*งเกิดขนแลว คือ ดาบสอาสาระ กาลามะ

©๕๕ ’ผ ู้ท ี่ค ำ เนินไปในหนทางไกล เลยววกจากหนทางเขไไป นงํ เบ็่นสว่ นพ'กในกลางวนํ ณ โกนฅนเม้ชนดิ ใดชนดิ หนึ่ง ในทีไ่ มไ่ กล ('จากทางเดิน) กรงนน เกวียนประมาณ ๕00 เลม่ ไคแ้ ล่นเฉยี ด ไค้แล่นเฉยี ดซง่ึ ดาบสอาฬาระ กาลามะไป ในกรงน1น บรุ ษุ คนใดคนหนง่ึ มาอยู่ทาง เบ้อํ งหลง่ บุ ของหมเู่ กวียนน1น ไค้เขำไปยงภมู ภิ าคท่ี ดาบสอาสาระ กาลามะนงิ อยู่ กรนเขไไปถงึ แล่ว ไค้ กลา่ วกำถามนกึ่ ะดาบสอาสาระ กาลามะ ว่า ‘ ทา่ นผทู้ รง เกยี รติ ท่านไค้เหน็ เกวยี นประมาณ' ๕oo เลม่ ท่แี ลน่ ผา่ นไปแล่วบไงไหม ? ’ อา. ‘ ทา่ นผู้เจรญิ ฉนิ ไม่ไค้เหน็ เลย’ บ. ‘ ก ็เสียงเลา่ ท่านไค้ยนิ ไหม?’ อา. ‘ เสียง ฉินก็ไมไ่ ด้ยนิ ’ บุ. ‘ขอถามอีกนดิ ท่านเบนผู้มคี วามรสู้ กึ ฅว อยู่หรอื ? ’ อา. ‘ ฉินมคี วามรสู้ ึกฅวอยู่ ’ บ.ุ ‘ท่าน เบน ผทู้ ่ี กำล่งมีความรูส้ ึกควิ ด่ืน อยู่ แดไ่ มไ่ คเ้ หน็ เลยซึง่ เกวียน ๕00 เลม่ ที่แลน่ เฉียดเขไ

© ๔๕ มา พุ ผ่านไป และเสยี งแห่งเกวยี นเหลา่ นน ท่านก็ไม่ ไค้ยิน ก็ผาสิงฆ'าฏิฃองท่านเล่า ถูกผนุ พงุ เขไมาเกาะจบ บางไหม ใ' อา. ‘ ผา่ สงฆาฏขิ องฉิน ถกู ผนุ พุงเขไมาเกาะ จบิ บาง ” “ ขำแทพ่ ระมหาสมณะผูท้ รงเกยี รฅิ ในคอนที'ไค้ พงคำนนแลว บุรษุ คนนน ไค้มีการกลา่ วคำทีแ่ สดงความ ปลาคใจนํ้วา่ ‘ทา่ นผเู้ จริญอายุ โอ ! นา่ ปลาดเหลอื เกิน ฃอที่พระคาบสอาฬาระ กาลามะ เบนผ'ู้ ซ่ึงกำลง่ ร้สู ึกคว่ คนอยู่ แค่ไมไ่ ค้เหน็ เลยซึ่งเกวียน ๕0๐ เลม่ ที่แล่น เฉียดเขไมา พุ ผ่านไป และไม่ไคย้ นิ เสยี งแห่งเกวยี น เหล่านน เบนเหตุท่นี ่าอศิ จรรย์ เบน่็ เหตุท่ีไมเ่ คยเกดิ มี แคก่ ลบมาเกดิ มฃี น น่าเลอ่ื มใส บรรพชฅิ ที่งหลายยอ่ ม สำเร็จอิริยาบถอยู่ คว่ ยวหิ ารธรรมทส่ี งบ ’ บรุ ษุ นน ครนิ ประกาศความเล่ือมใสในคาบสอาฬาระ กาลามะแล่ว กห็ ลกี ออกไป ” ภ. “ คกู ่อนปกุ กสุ ะ ท่านจะสำคไบมนเบนไฉน ใ คอื ขํอท่ีบคุ คล ๒ คน เบ็่นผ้'ู ทก่ี ำลงํ มีความร้สู กึ ฅวฅืน่ อยู่

©๔๖ แค่คน ๑ ไม่พงึ เห็นเลยซ่ึงเกวยี นประมาณ ๕00 เล่ม ท่ี แล่นเฉยี คเขามา บุ ผา่ นไป และไม่พึงไดย้ นิ เสียงของ เกวียนเหล่าน1น ผ่ายอกี คน ๑ เม่อื ฝนกำลง่ ฅกลงมา เมือ่ ฝนกำล่งเปล่งเสียง1ซู่ บุ อยู่ เมือ่ สายพาึ กำลงแลบกระหึม ครนื ๆ อยู่ เม่ือพากำลง่ ผา่ ลงมาเปรยง ๆ อยู่ ก็ไมพ่ ึง ได้เหน็ เลย และไม่พงึ ไดย้ นิ เสียงของสีงเหล่านน คนไหน พงึ กระทำการที่กระทำได้ยากกวา่ พึงครอบงำสถานการณ ทคี่ รอบงำได้ยากกวา่ ? ” ปุก. “ ขำแคพ่ ระมหาสมณะผู้ทรงเกยี รติ อ*น เกวยน ๕00 — ๖00—๗00 — ๘00—๙00 — ๑,000 ๆลฯ หรอื ©00,000 เลม่ จํกกระทำอะไรใหไ้ ด้ ขอํ ทบี่ ุคคล เบนผทู้ กี่ ำลงิ รู้สกึ ฅวํ ฅื่นอยู่ เมอื่ ฝนกำลงิ ฅกลงมาอยู่ เมื่อ ฝนกำลิงเปลง่ เสียงซู่ บุ อยู่ เมอื่ สายพากำลงิ แลบกระหึม่ ครนื บุ อยู่ เมื่อพากำล่งผา่ ลงมาเปรืยง บุ อยู่ กไ็ ม่พึง เห็นเลย และไมพ่ ึงได้ยนิ เสยี ง คา่ งหาก เบนการทพี ึง กระทำไดย้ ากกวา่ เบนสถานการณท์ ีพ่ ึงครอบงำไดย้ าก กว่า”

ภ. “ ค ูก่อนปุกกสุ ะ ไนกรงหน่งึ น พระตถาคต ป! .ส ำ เรจอริ ิยาบถอยู่ ในศาลาโถง ใกล้เมอื งอาต มุ า ในก ็ .ฝ!■ กรงน\"นแล เม่ือฝนกำลงตกลงมาอยู่ เมื่อฝนกำกง่ เปลง่ เสียงซู่ ‘กุ อยู่ เม่อื สายพากำก่งแลบกระหมึ่ ครืน ‘กุ อยู่ M เมือ่ พากำลงผาลงมาเปรยง ‘กุ อยู่ ชายชาวนาผเู้ บ็1น พ - นองกน่ ๒ คน และโคถึก ๔ ฅ่ว ถูกพาผ่าฅายอยู่ในที่ : ไม่ไกลศาลาโถง ปุกกสุ ะ ในครงนน กลุ่มชนหมู่ใหญ่ ในเมอื งอาตุมาออกมาแลว ไดเ้ ขำไปยงิ ภมู ิภาคทรี่ า่ งกาย แห่งชาย ๒ คน แหง่ โกถกึ ๔ ฅวนอนอยู่ ปกุ กุสะ ก็ใน ตอนนนเทยี ว พระตถาคตได้ออกจากศาลาโถง จงกรม อย'ู่ ในท่แี จง ใกล้ประตแู หง่ ศาลาโถง ในกรงน1น, บุรษุ คนใดคนหนึง่ ไดอ้ อกจากชุมชนกลมุ่ ใหญน่ ่นึ เขาไปย่ ิง ภมู ิภาคทีพระตถาคตจงกรมอยู่ ครืนเขาไปถงึ แลํว ไหว้ พระตถาคตแล้ว ได้ยนื ณ ส่วนสุดในคานหนึ่ง พระ- ตถาคตได้ถามเขาอย่างนวึ่ า่ ‘คกู ่อนผเู้ จรญิ อายุ ชมุ ชน หมูใ่ หญน่ น ประชมุ ก่นควยเร่อื งอะไร ? ” “ บุรุษนนฅอบว่า ‘ ขำแตพ่ ระองค์ผู้ทรงเกยี รติ เมื่อก้นํ ึ่ เมือ่ ฝนกำกง่ ตกลงมาอยู่ เม่อื ฝนกำลงิ เปล่งเสยี ง ....... ............................

© ๔๘ ซู่ ถู อยู่ เมื่อสายพากำลงิ กระห่มึ ครืน ถู อยู่ เมอื่ พากำลิง ผ่าลงมาเปรยง ถ ู อยู่ ชายชาวนาพ -ี่ น ิองกนํ ๒ คน โกลิก ๔ ควิ ไคถ้ ูกพาผา่ ฅาย ชุมชนหมนู่ ํน้ ประชมุ กนใน การถกู พาผา่ คายของคนและ ลฅิ วท์ ้งํ หลาย ขำแค่พระองค์ ผทู้ รงเกึยรฅิ กพ็ ระองคเ์ ล่า ไคไ้ ปอยเู่ สียณ ท่ีไหน?” “ พระฅถาคฅไค้คอบเขาว่า £ดุกอ่ นผู้เจรญิ อายุ ฉนิ ไค้อยู่ในทีน่ น่เี อง ” 11เขาไค้ถามพระฅถาคฅวา่ ‘พระองคไ์ ค้เหน็ อะไรบางไหม ใ ’ เม่ือเขาไค้รบิ กำคอบวา่ ‘ฉนิ ไม่ไคเ้ ห็น’ เขาไค้ถามตอ่ ไปว่า ‘ พระองคไ์ คย้ ินเสยี งอะไรไหม ใ' เมอ่ื เขาไค้ริบกำคอบว่า ‘ ฉินไมไ่ ค้ยนิ เสยี ง’ เขาไค้ถาม ต่อไปวา่ ‘ กพ็ ระองคเ์ บนผู้หลิบเสยี แลวิ หรือ?’ เม่อื เขา ไค้รบิ กำคอบว่า ‘ ฉนิ มิไคเ้ บนผหู้ ลิบ’ เขาไค้ถามต่อไป ว่า ‘ พระองคเ์ บนผูร้ ู้สึกควิ อยู่หรอื ?’ เมือ่ ฉนิ คอบว่า ‘ ม ีความรู้สึกควอย ่’ู เขาไคถ้ ามต่อไปว่า ‘ ขำแตพ่ ระองค์ ผ้ทู รงเกยี รฅิ พระองคน์ น กำลงิ เบ็่นผู้มคี วามรสู้ ึกคิว ฅนื่ อยู่ เม่ือฝนกำลิงฅกลงมาอยู่ เม่ือฝนกำลิงเปล่งเสียง ซู่ ถู อยู่ เม่อื สายพี่ากำลิงแลบกระหมึ่ ครนื ถู อยู่ เมื่อ

พากำลง้ ผา่ ลงมาเปรยง ๆ อยู่ กไ็ ม่ไคเ้ หน็ เลย และไม่ ไคย้ ินเสียงหรอื ? ’ เมอ่ื ฉนั ทอบเขาวา่ ‘ เบนเซน่ น น ผเู้ จรญิ อายุ, ปกุ กุสะ ในกรงนน บรุ ษุ นนไค้มกี ารเปลง่ คำนขนมาวา่ ‘ ค ูกอ่ นท่านผู้เจริญทง่ี หลาย โอ ! น่า อกจรรยเ์ หลือเกนิ ขอท่ีบคุ คลเบนผูก้ ำลงิ มีความรสู้ กึ ทว่ ต่ืนอยู่ แท่เม่ือฝนกำล่งฅกลงมาอยู่ เมื่อฝนกำลงเปล่ง เสีงงซู่ ๆ อยู่ เมอื่ สายพากำล่งแลบกระหึ่มครนื «J ฎยู่ เม0ื่ พากำลง่ ผ่าลงมาเปรยง ๆ อยู่ กไ็ มไ่ คเ้ หน็ เลย และไม่ ไค้ยนิ เสยี ง เบน็่ เหตกุ ารณท์ นี่ ่าอกจรรย์ เบน่็ เหตกุ ารณ์ ท่ีไมเ่ คยมีมาแล่วแิ ทก่ ลไม่มามฃี น น่าเลอ่ื มใส บรรพซิก ทง่ี หลาย ย่อมสำเรจ็ อิรยิ าบถอยู่ ควยวิหารธรรมทส่ี งบ ’ บรุษนนไคป้ ระกาศความเล่อื มใสทที่ ว่ มทนในพระทถากท กระทำปทํกษณิ แลว่ ิ ก็หลีกไป ” ปกุ กุถะถวายผาสิงคิวรรณ เมือ่ พระผู้มพี ระภาคเจไทรํสขอํ กวามอย่างนนแลว่ ิ ปุกกสุ ะ มลบุฅร ไค้กราบทูลพระผ้มู ีพระภาคเจไอย่างน ว่า “ ขำแท่พระองคผ์ ูเ้ บ็่นทีเ่ การพ ความเส่อื มใสใน คาบสอาฬาระ กาลามะ ขำพระบาทนย่อมสาคให้กระจาย

๑ ๔ (ว ลงไปในลมทพ่ี นั เรง หรอื ยอ่ มใหล้ อยไปในแมน่ าทีม่ ี กระแสอนเชี่ยว. ฃไแค่พระองค์ผเู้ บนท่เี คารพ ฃไพระบาท ชนื่ ชมพระดาริสทฅ่ี รสิ แล,วน เบ่็นอยา่ งยง่ ขไพระบาท อนโุ มทนาพระคำรสที่ฅรสิ แล*วน โดยไมโ่ ฅแ้ ยิง บคุ คล พวึ หยิบหงายขนซงึ่ ภาชนะทถ่ี กู วางควาหนาไว้กค็ ี พึงเบ่ดี ออก1ซ่ึงส่ีงฃองที่ถกู สงึ๋ อนื่ บดปง้ อ์ ยู่กค็ ี พึงบอกทางแก่คน ท่ีหลงทางแลว่ ก็ดี พงึ ชฃ้นํ ซง่ึ ควงประทปี ท่ีลกุ โพลงขน ควยนามนในท่ีมืค ควยประสงค์ว่า ‘ ผมู้ ีจก.ษทุ งหลาย จะมองเหน็ รปู ค่าง ๆ ’ ค่งนก็ฅี แมฉ้ ินใศ พระผมู้ พี ระ- ภาคเจไทรงประกาศแล2วซ่ึงพระธรรมโคยปรยิ ายเบนอน มาก ก็ฉินนนเหมอื นนน ขไแค่พระองค์ผูเ้ บ่็นที่เการพ ขไพระบาทนยอ่ มรบไวซ้ ่ึงพระผมู้ ีพระภาคเจไ ๑ พระ- ธรรม ๑ พระสงฆ์ ๑ ให้เบน่็ ผนู้ ำทางการคำเนนิ ซวี ิฅ ขอพระผมู้ พื ระภาคเจไโปรคทรงจำไวซ้ ่ึงขไพระบาท ' วา่ เบนอุบาสกผทู้ ี่รบไวแ้ ลวชงี่ พระรฅนดรยใหเ้ บนผู้นำทาง การคำเนินชีวิฅ จวบจนสนํ้ ลมปราณ เรืมค่นฅํง้ แค่ใน รนิ 'น ไป ”

๑๕© ใน ฅอนที่ ประกาศ ความ เบ่น็ อุบาสก แลว น1น ปุกกุสะ มลบุฅร ไคส้ งิ บุรุษคนใคคนหนึ่งวา่ “ พนาย เร็วเขไ ผ่าเนึอ่ ละเอียด ๒ ผนื ทมี สีเหมอื นทองสงิ คี ชองฉิน ทฉ่ี ินพงึ ใช้เพียงในกราวเทศกาล เธอจงนำเอา มา” บุรุษนนรบคำสิงของปุกกุสะ มลบฅุ ร'ว่า “ ขอรบ” แลโวไคน้ ำผ่าเน่อึ ละเอยี ด ๒ ผืน ซ่ึงมสี เี หมอื นทองสงิ คี ท่ีปกุ กสุ ะพงึ ใชเ้ ฉพาะในเทศกาลนนมาแลว ในคราวน1น ปกุ กุสะ มลบตุ รไค้นอมผ่ากนู่ ในขไไปพรอมกบคำถวายวา่ “ ขาแตพ่ ระองคผ์ ู้เบ็น่ ท,ี เคารพ ผ่าเนอ่ึ ละเอยี ด๒ ผืน ทีม่ ี สเี หมือนทองสิงคนี ่ึ ขไพระบาทพึงใช้สอยเพยี งในเทศกาล ขอพระผู้มีพระภาคเจไโปรครบมนไว้ เพอ่ื อนุเคราะห์แก่ ขาพระบาทเถิค พระเจไขไ” พระผมู้ พี ระภาคเจไตรสวา่ “ ปุกกุสะ ถากระนน ทา่ นจงยงพระตถาคตให้ครองผืน ๑ ยงิ อานนทะให้ ครองผืน ๑ เถ ิด ” ปกุ กุสะ มลบตุ ร รบพระพุทธคำรสํ สงิ วา่ “ พระเจไขไ” แลวไคย้ งิ พระผมู้ ีพระภาคเจไให้ กรองผืน ๑ ยงิ พระอานนทะ ผู้มีอายุ'ให้กรองผืน ๑ ใน ตอนท่ีถวายผา่ เสร็จแลวน1น พระผม้ พี ระภาคเจไไคย้ ิง

ปุกกสุ ะ มลํ บฅุ ร ใหเ้ ห็นอยา่ งแจ่มกระจ่าง ใหส้ มาทาน ใหอ้ าจหาญ ให้ร่าเริง ควยธรรมีกถา ในกรงนน ปกุ กสุ ะ มลํ บฅุ ร ผ้อู นพระผู้มีพระภาคเจ่าใหไ้ ดเ้ หน็ อยา่ ง แจ่มกระจา่ ง ใหส้ มาทาน ใหอ้ าจหาญ ให้ร่าเรงิ แล1ว ได้สกุ ขนจากที่น่งํ ถวายอภวิ าท กระทาป'พใั ษณิ พระผูม้ ี- พระภาคเจา้ แลว่ ไดแ้ ยกทางไป พะฉววรรณบองพระพุทธเจาบรสิ ุทธม์ ากใน ๒ กาล ในคร่งนํน้ พระอานนทะ ผ้มู อี ายุ เม่อื ปกุ กสุ ะ ม้ลบฅร แยกออกไปแลวไม่นาน ไดน้ อมผ่าเนอละเอีย ก ที่มสื เี หมอื นทองสงิ คซี งึ่ เบนผไทป่ี ุกกสุ ะ มํลบฅุ ร พงึ ใช้ เพยี งในเทศกาล คู่นนเขำไปยงิ พระกาย ( ห่มผา ๒ ผนื น*น่เขำท่ีพระกาย ) ของพระผู้มพี ระภากเจ่า ผืาคนู่ น ท่ี ถูกนอม เขา’ไปยงิ พระกายของ พระผูม้ ืพระภาคเจ่าแลว ย่อมปรากฏเหมือนถา่ นเพลงิ ท่ีปราศจากเปลวแลว ใน กร1งนน พระอานํนทะ ผ้มู อี ายุ ไคก้ ราบทลู พระผู้ม-ื พระภากเจา่ อยา่ งนวา่ 11ขอประทานพระวโรกาส เหคุน่า อศจรรย์ เหคุท่ีไม'เกยมีแค่กลบมามีฃน พระเจ่าขำ คอื พระฉวีวรรณของพระฅถาค?ไเจา่ บริสทธแ์ ลวิ ขาว

๑๔๓ ผุดผ่องแลวเพียงใค ผา็ เนอ๊ั ละเอยี ดทีม่ ีสีเหมือน'ทองสิงคี ซึ่งปุกกสุ ะพงึ ใชส้ อยเพียงในเทศกาลก่น ถกู นอ้ มเขไไป ยิง พระกาย ของ พระผมู้ ี พระภาคเจไ แลว .ยอ่ ม ปรากฏ เหมอื นถา่ นเพลิงท่ปี ราศจากเปลวแล2วเพียงนน ” ภ. “ อานนทะ ขอนมปี ระการดํงทเี่ ธอกลา่ วนน พระฅถาคดย่อมมกี ายบรสิ ทุ ธ์อย่างยวคย่ีงย่อมมฉี วีวรรณ ขาวผดุ ผ่องอยา่ งยวดยิง ใน ๒ กาล คือ ในราดรีซง่ึ เบน ที่ ฅรสํ รู้ อนุดร สมมา สมโพธญิ าณ © ใน ราดรี เบน่็ ท่ี ปรนิ พิ พานควยอนปุ าทเิ สสนิพพานธาตุ ๑ อานนทะ ใน ๒กาลนแลพระฅถาคดย่อมมีกายบรสิ ุทธ์อย่างยวคย่ีง ยฎ่ ม มฉี ววี รรณขาวผุดผ่องอยา่ งยวคยง่ี อานนทะ กใ็ นวนน เทียว ในยามสดุ ทไยแห่งราดรี พระฅถากดจกปรนิ พิ พาน ใกลก้ รุงกสุ นิ ารา ณ ระหว่างดนิ สาละ ๒ ด2นิ ในบาไม้ สาละแหง่ เจไม่ลละ ท่มี ีแนวโอบล่อมกรงุ กสุ นิ าราอยู่ (ทาง คานทิศบศจมิ -ห รด ี—ทิศทกษณิ ) อาน'นิทะ เรามาไป ก'นิเถดิ เราจ'กเขาไปยิงภูมภิ าคซง่ึ เบ่น็ ท่ีฅงอยแู่ ห่งแมน่ า กกธุ า” พระอาน/นทะ ผ้มู อี ายรุ บพระพทุ ธาณฅว่า “ พระเจไขไ ขไพระบาทพร2อมทจ่ี ะโดยเสด็จแลว ”

เจามลละ นามวา่ ปกุ กุสะ ไดน้ ำผไเนอละเอยี ด ที่มลี ีเหมือนทองสงิ คี ๑ ค่ถู วาย พระศาสคา ผูอ้ นํ ่ พระอานนทะ ผมู้ ีอายุพัใหค้ รองผาคนู่ 1นแลว ไดท้ รง งดงามเหมือนผิวแห่งดวงจนฑร็ ต,องประทมททในระหวา่ งทาง ในกรงน1น พระผู้มพื ระภาคเจไพรอมควยภกิ ษุ หมู่ใหญ่ ไดเ้ สด็จเขไไปยไภูมภิ าคอนเบน่็ ท่ีค1งอยแู่ ห่ง แม่ป้ากกธา ครนเขาไปถึงแลว ไค้เสด็จลงไปยงิ แม่นา กกธุ า สรงสนานและทรงดมื่ ป้าแลว ไดเ้ สด็จขน เสดจ็ เขไไปยิงภมู ิภาคอนเบน่็ ทีด่ 1งอยูแ่ หง่ สวนมะมว่ ง กรน เสด็จเขาไปถงึ แลว ได้ฅรสสงพระจุนทกะ ผมู้ อี ายุว่า “ จนุ ทกะ เรว็ หนอ่ ย เธอจงปลู าคผไสงํ ฆาฏิ ๔ ซน ให้ แกพระดถากฅๆ เหนด็ เหนอื่ ย จกนอนพก” พระจนุ ทะ ผมู้ อื ายุ รไมพ่ ระพุทธาณไทว่า “ พระเจไขไ” แล1วไค้ ปลู าด ผไสงํ ฆาฏิ ๔ ชนถวาย ใน กรง นน พระผูม้ -ี พระภาคเจไ ได้ทรงสำเร็จสีหไสยา โดยพระปรศว่เบอ๊ั ง ขวา ทรงวางพระบาทเบองซไยใหย้ ่นื เลยออกไปเกียง พระบาทเบองขวา ( เพอื่ ให้ขอและเข่าพนจากการเสยี คลี

<3)&L&i กนิ ) กระทำไว้ในใจซึง่ การกำหนคหมายว่าจะลุกขน ใน กรงนน พระจุนทกะ ผูม้ ีอายุ ไศ้นง่ อยู่เบอั้ งพระพํกฅร์ แห่งพระผมู้ พี ระภากเ■จำ ณ ที่■ นนน'งเอง พระศาสดาผพู้ ระอถาคฅเจำ เสด็จถึงแม่นากคธุ า ท่ีมีนาปราศจากกลน่ี โคลน มีน\\จดื สนธิ มีนา่ื ใส ทรงมี พระกาย เหน็ด เหนอ่ื ย มาก ได้ เสดจ็ ลงไปใน แม่น5า พระฅถาคด ผเู้ บ็่นพระศาสดาท่ไี ม่มคี นเปรยี บได้ในโลก นื่ ทรงสรงสนานพระกายและทรงดม่ื นา่ื แลว ได้เสดจ็ ขนจากแม่น1า พระผู้มพี ระภาคเจํท ผูเ้ บ็่นพระศาสดาท,ี เทพ และมนษุ ย์ทง่ี หลายกระทำไว้ ณ เบอั๊ งหนำ ( เบ็1นทเี่ คารพ แหง่ เทพและมนุษยม์ ากหลาย ) ผู้แสวงซง่ึ พระคุณทใ่ี หญ่ ทรงยไธรรมใหเ้ บ่น็ ไปในท่ามกลางแห่งหมภู่ ิกษุ ไค้เสดจ็ เขาไปยงสวนมะมว่ ง แลวฅรสสํงภกิ ษุชื่อวา่ จุนทกะวา่ “ เธอจงปลู าดผำสงฆาฏิ ๔ ชนให้แกพ่ ระฅถาคด ‘คุจกํ ิ นอน” พระจุนทกะน1น ผอู้ *นพระศาสสดาที่มีพระองค์ ให้ เจรญิ แลํวส่ งํ แล4ว ได้ เร่งรบี ปูผา สงฆาฏิ ๔ ชน พระศาสดาผู้ท่ีมพี ระกายเหน็ดเหน่อื ยมาก ไดบ้ รรทมลง

แมพ้ ระจุนทกะ กไ็ ค้นง ณ เบองพระพ''กฅิ ร์ ใน'สวน มะมว่ งน1น ตริสสง'ใหป้ ลองความเตอื ดรอน'ใจบอ1นายจนุ ทะ ในตอนทกี่ ำล่งประทมอยนู่ นเทียว พระผ้มู -ี พระภาคเจ,าฅ่รสลิงพระอานนทะ ผู้มอี ายุว่า “ อานน,ทะ กค็ ำพดู ท่ีเบ็่น^านเบนที่ฅงขนํ้ แห่งความเดือดล่อนทางใจ พึงมขี นไคเ้ ทียว คือ ใคร พู .พึงย*งความเดือดลอ่ นทาง ใจให้บงเกิดขนมาแกน่ ายจนุ ทะ กบมารบดุ ร’ไค้ ควยการ กลา่ วว่า ‘ จนุ ทะผ้เู จรญิ อายุ ทา่ นผ'ู้ ซึง่ เบ1็ นเจาของ บิณฑบาต กร1งสุดทา่ ย ทีพ่ ระฅถากดเจา เสวย แล่วก็ ปรนิ พิ พาน เบน่็ ผูไ้ มม่ ีลาภ ไค้ไมฅ่ แี ลว่ ’ ความเดือด ลอ่ นทางใจของนายจนุ ทะ กไมม่ ารบุตรนนแล เธอพงึ นำ ออกเสยี ควยการกลา่ วอย่างนว่า ‘ จุนทะผูเ้ จริญอายุ ท่านผเู้ บ็นเล่าของบณิ ฑบาตคร้งํ ํส้ ุคทา่ ย ท่พี ระตถาคต เสวยแล่วปรินพิ พาน เบนผู้มีลาภ ไคด้ แื ลว่ เพราะ ณ เบอิ งพระฟ,กฅิ รพ์ ระผมู้ ีพระภาคเล่า ฉินไคส้ คบพง ไค้จบเอามา่ แลว ซง่ึ พระพุทธคำลส่ นวา่ ‘ บิณฑบาต ๒ คลง่ น คอื บณิ ฑบาฅท่พี ระตถาคตเสวยแลว่ ไค้คลส่ ร้

© dtsi ซง่ึ พระอนุ?ารสมํ มาสมโพธญิ าณ ๑ บณิ ฑบาฅท่ีพระฅถาคฅ เสวยแร่ว ปรินพิ พานควยอนปุ าทเิ สสนพิ พานธาตุ ๑ มีผลเทา่ ‘อุ กน มีวบิ ากเทา่ ‘อุ กน มีผลใหญ่กวา่ และ มอี านิสงสใหญก่ วา่ กวา่ บิณฑบา?!อ่ืน‘อุ มากยง นายจุนทะ กบมารบ?ุ !ร ผ้เู จรญิ อายุ ไคสงสมกรรมที่ทำใหอ้ ายเุ บน็่ ไป ทีท่ ำให้วรรณ สุข ยศ สวรรค์ และอธปิ ไฅย เบน่็ ไป , คูกอ่ น อานนทะ ความ เคือครอน ทางใจ ของ นายจนทะ ก*มมารบ?]ร อนเธอพงึ นำออกเสียควยการ กลาวอยางนนิ ุ , , ทอ่ มา พระผมู้ พี ระภาคเจำทรงทราบเนอความ นนแร่ว ไค้ทรงเปลง่ อุทานน ในเวลานนว่า (๑) “ผ ้ทู ี่ใหท้ าน ย่อมเบ็น่ ที่เจริญมากแห่งบุญ (๒) ผู้ท่รี ะว่งฅวํ อิ ยู่ ย่อมไมเ่ บนทก่ี ่อขนแหง่ เวร (๔) ผู้ทฉ่ี ลาคเท่านน ยอ่ มละบาปไค้ (๔) คนยอ่ มนิพพาน เพราะราคะ โทสะ และ โมหะหมคส้นํ ไป ”

ภาณวารท่ี ๔ ประทมบนเตยงปรินทิ ท'ไน ในคอนท่ีประทบอยู่ในสวนมะมว่ งน1น พระผู้มี- พระภาศเจ*าฅรสสง่ 'พระอานนทะ ผูม้ ีอายวุ ่า £ อานนทะ เรามาไปกนเถิด เราจกิ เข4ทใปยงิ ภมู ิภาคอ'นเบนทีค่ งอยู่ แหง่ ผงนอกของแมน่ ้าํ หิร'ญว่ ดีแห่งกรุงกสุ นิ ารา แห่งบา ฅนสาละของมลํ กษํฅริย์ ท่โี อบล4อมมุมคไนทิศหรดแี ห่ง กรุงกุสินาราอยู่ ” ท่านผู้มอี ายอุ าน\"น่ทะ รบพระพทุ ธาณฅ ว่า “พระเจไขไ พริอมทีจ่ ะฅามเสดจ็ แลว” กรงนน พระผูม้ ีพระภาคเจไพร4อมควยภกิ ษุหมใู่ หญ่ ไค้เสดจเขา ไปยงํ ภมู ิภาคอนเบ็1นทีฅ่ งอยู่แห่งผงนอกของแมน่ าหริ ญ้ วดี แห่งกรงุ กุสินารา แห่งบาคนสาละของมลกษ'ฅริย์ ที โอบลอมมุมfทน้ ทศิ หรดแี ห่งกรงุ กุสนิ ารา คงอยู่ ศรน เสดจ็ เฃไไปถงึ แลว ไดฅ้ รสสงํ ท่านผู้มอี ายอุ านนทะว่า “อานนทะ เรว็ หน่อย เธอจงค!งเคยี งนอยทางระหว่าง ค4นสาละ (เหนือ—ใต้) ๒ ฅน ให้สว่ นทางศีรษ์ ะอยู่ในทศิ อุดร พระฅถาคฅเหนด็ เหน่อื ย จกิ นอน” ทา่ นผู้มอี ายุ

©did อาน,นทะร*บพระพุทธคำ.รสส่งวา่ “พระเจไขไ” แลวไดจ้ ่ค คงเคยี งนอ้ ย ทา่ งระหวา่ งคนสาละ (เหนือ—ใฅ้) ๒ ฅนํ ให้ส่วนทางศีรษ์ ะอยู่ในทศิ อคุ ร ในคอนทีเ่ คียงนอ้ ยถูกจด คงแลวนน พระผมู้ พี ระภาคเจไได้สำเรจ็ สหี ไสยา นว้ ย พระปรศว์เบองขวา ทรงวางพระบาทเบองชไยใหย้ ่ืนเลย ออกไปเคียงพระบาทเบองขวา มสี ฅิ มีสมปช่ญญะ กใ็ นกรงนน คนสาละ ๒ คน ได้มดี อกผลิออก มา เค็มคนและบานควยดอกทเี่ กิดผดิ ฤดกู าล คนสาละ ๒ คนนน คา่ งก็โปรยคอกใหก้ ระจายฅกลงมา ราวกะว่า จะคลุมพระสรรี ะของพระองคค์ ถาคฅเจไ โปรยดอก ให้กระจายฅกลงมาโดยไมข่ าดสาย เพ่ือบูชาพระคถากค เจไ คอกมนทารพแมท้ เี่ บ็่นทิพยม์ ากหลาย กฅ็ กลงมาจาก อากาส ดอกมนทารพทพิ ยเ์ หลา่ น้นํ กระจายหลน่ ลงมา เหมือนกบจะครอบคลมุ พระสรรี ะ ของพระฅถาคฅเจไ กระจายหลน่ ลงมาโดยไมข่ าดสาย เพ่อี บชู าพระคถ่ าคดเจา่ จรุ ณจนทนแ์ มท้ เ่ี บ1็ นทพิ ย์กฅ็ กลงมาจากอากาส จุรณ จนทนท์ พิ ยเ์ หลา่ นํ้น กระจายฅกลงมามากราวกะจะครอบ

๑๖๐ คลมุ พระสรรี ะของพระฅถากคเจำ กระจายฅกลงมา โดยไมข่ าดสายเพื่อบชู าพระคถากค'1จำ คนฅรที ้งหลาย แม้ทเ่ี บน่็ ทพิ ย์ กเ็ ปลง่ เสียงอย่ใู นอากาสเพ่ือบชู าพระ ฅถาคฅเจำ สงกดี ทง่ี หลายแมท้ ่เี บ็่นทพิ ย์ กเ็ บน็่ ไปอย่ใู น อากาส เพ่ือบูชาพระฅถาคฅเจำ ปฏบิ ตตบิ ชาเบนบูชาทแทจ้ รงิ ในครงนํ้ นแล พระผู้มีพระภาคเจาฅรสบอก พระอานนทะ ผู้มอี ายวุ ่า “คกู ่อนอาน*นทะ ตนสาละ ๒ ดิน ไคม้ ดี อกผลอิ อกมาเคม็ คนและบาน ควยคอกที เกดิ ผิดฤดูกาลเทยี ว คนสาละท1งสองคนนน ค่างก็โปรย ดอกให้กระจายฅกลงมาโดยไม่ขาดสาย เพอ่ื บูชาพระ- ฅถาคฅ คอกมนทารพมากหลายแมท้ ่เี บ่น็ ทิพย์ ก็ฅกลงมา จากอากาส คอกมนทารพทิพย์เหล่านน กระจายหล่น ลงมาเหมอื นกบํ จะครอบคลุมสรรี ะของพระฅถาคด กระ- จายหล่นลงมาโดยไมข่ าดสาย เพ่ือบูชาพระฅถาคฅ จรุ ณ จํนทนม์ ากหลายแมท้ เี่ บนทพิ ย์ ก็ฅกลงมาจากอากาส จรฺ ณจนทน์ทิพย์เหล่าน้ํน กระจายตกลงมาราวกะวา่ จะ

6)ษ© ' 'M ครอบคลมุ สร๗ีระของพระทถาคฅ กระจายฅกลงมาโดย I ไม่ขาดสาย เพื่อบูชาพระฅถากฅ คนฅรืท่งี หลายแม้ที่ เบ็่นทิพย์ กเ็ ปลง่ เสยี งอย่ใู นอากาส เพ่ือบชู าพระฅถาคฅ สงคฅี ท่ีงหลายแม้ทีเ่ บ่น็ ทิพย์ กเ็ บ็่นไปอย่ใู นอากาส เพื่อ บชู าพระฅถาคฅ” “ ค กู อ่ นอานนทะ พระฅถาคฅ มิ ใช่เบน่็ ผู้อํน พทุ ธบริษ่ทสกํ การะแลว่ เคา■ รพแลว นบถอื แลว บูชา แลว่ หรือนอบนอมแล่ว ควยเคร่อื งสกการะมีประมาณ เพยี งเท่านนเลย คูกอ่ นอานนทะ พทุ ธมามกะคนใด เบ็่น ภิกษุก็ฅาม เบ่น็ ภิกษณุ กี ฅ็ าม เบ็่นอุบาสกก็คาม เบน็่ อุบาสกิ าก็คาม ยอ่ มเบ็น่ ผู้ปฏบิ ํฅธรรมคามสมควรแก่ธรรม เบ่น็ ผู้ปฏบิ *คปฏปิ ทาท่สี มควรแกน่ ิพพาน เบน่็ ผปู้ ระพฤคิ ธรรม'โคย’ไมข่ าดสายเบ็่นปรกถือธยาศย สำเรจ็ อริ ยิ าบถ อยู่ พุทธมามกะคนนน, ย่อมส*กการะ ยอ่ มเคารพ ย่อม นบถือ ย่อมบูชาพระคถากค คิวยการบูชาทย่ี อคเยี่ยม คูกอ่ นอาน*นทะ เพราะฉะน'นแล ในการสกการะ ในการ เคารพ ในการนบถือ ในการบชู าพระคถากค คิวยการ บชู าทยี่ อดเยย่ี มน ทา่ นทง่ี หลายท่องศึกษาว่า ใราที่ง — ..

©hiss หลา■ ย'จ*กเบ่็นผู้ปฏบิ ํฅธรรมฅามสมควรแก่ธรรม จกเบ1็ น ผู้ปฏิบดปฏิปทาทส่ี มการแกน่ พิ พาน จณบ็่นผู้ปฏบิ ฅํ ธรรมโดยไม่ขาดสายเบนปรกฅิอํธยาศย สำเรจ็ อริ ยิ าบถอยู่ คูกอ่ นอาน'นทะ ทา่ นทงหลายควรศกึ ษาดามประการ อย่างนเพียงอย่างเคยี ว” อาการแห่งหมเู่ หวคาทเทเผา ก็ในคร1งนํ๋ นํ้ ทา่ นผู้มีอายอุ ปุ วาณะ กำลงยนื พ'คพระผมู้ พี ระภาคIจิท้อย่เู บองพระพ*’กฅรพระผู้มีพระภาค เจไ ในดอนน1น พระผู้มพระภาคเจไดรสบอกให้ท่านผู้ มีอายอุ ปุ วาณะถอยออกไปว่า' “ภิกษุ เธอจงหลีกออกไป เสีย อยา่ ได้ยนื อย่ตู รงหนไพระดถากด” ในดอนได้สด,บ พระคำรํสสํงนนแล*ว พระอานนทะ ผู้มีอายุไค้เกิดขอ ฉงนใจนิขนมาวา่ “ทา่ นผู้มีอายอุ ปุ วาณะนิแล เบนภกิ ษุ รไมใ่ ช้ ผู้วนเวียนอยูใ่ นสำน'ก เท่ียวอยใู่ นท่ีใกลแ้ หง่ พระผู้มีพระภาคเจไอยูด่ ลอดกาลนาน กแ็ ลเม่อื เบน่็ เชน่ นน ในกาลท่ีมอี ยใู่ นบนสดุ ทไย พระผู้มีพระภาคเจไย'ง คำรสส่งท่านผ้มู ีอายุอปุ วาณะ ใหอ้ อกไปวา่ ‘ภกิ ษุ เธอ

จงออกไปเสยี อย่าไค้ยนื อยูต่ รงหนไพระตถาคต’ อะไร เล่าหนอเบ1็ นเหตุ อะไรเล่าเบน่็ บจจํยแห่งการทีท่ ำให้ พระผู้มีพระภาคเจํไตไองส่ง,ให้ทา่ นผมู้ ีอายอุ ปุ วาณะหลีก ออกไปวา่ ‘ภกิ ษุ เธอจงหลีกออกไปเสีย อย่าไค้ยนื อยู่ ตรงหนำพระตถาคต” ในกร1งนนํ้ ท่านผมู้ ีอายอุ านนทะ ไค้กราบทูลถาม ขอทตี่ นสงสยนกะพระผู้มีพระภาคเจไวา่ “ขาแต่พระองค์ ผู้เบนทีเ่ คารพ ทา่ นผ้มู อี ายุอุป'วาณะน เบนภกิ ษุรบใช้ ผู้วนเวยี นอยใู่ นสำนกเทีย่ วอยู่ในที่ใกล้แหง่ พระผมู้ ีพระ- ภาคเจไอยูต่ ลอดกาลนาน ก็แลเมอื่ เบนเชน่ นน ในกาล อนมอี ยู่ในบนสุดทาย พระผู้มีพระภาคเจไย'งด0าร่สสํงให้ ท่านผมู้ อี ายอุ ุปวาณะหลกี ออกไปเสยี ว่า ‘ภิกษุ เธอจงออก ไปเสีย อยา่ ไคย้ ืนอยู่ตรงหนไพระตถาคต, ขไแต่พระองค์ ผเู้ บ่็นที่เการพ อะไรเลา่ หนอเบ็่นเหตุ อะไรเล่า เบน่็ บจจย แหง่ การท่ที ำให้พระผมู้ ีพระภาคเจไต่องสงํ ใหท้ ่านผู้มอี ายอุ ุปวาณะหลีกออกไปวา่ ‘ภิกษุ เธอจงหลกี ออกไปเสยี อยา่ ไค้ยนื อย่ฅรงหนไพระตถาคต ?”

ภ. “ค กู อ่ นอานนทะ เทวดาในสบิ โลกธาฅุ โดย มาก ได้ประชมุ กน เพ่ือการเห็นพระฅถากด ประเทศ เพยี งปรมิ าณทเี่ บนฅวกรงุ บลุ นิ ารา เพยี งปริมาณทเี บน ฅวบาไม้สาละของมิลกษํฅริย์ ทโ่ี อบล1อมมมุ ทางทิศหรดี แหง่ กรุงกสุ นิ าราอยู่ ซง่ึ โดยรอบมปี รมิ าณ ๑๒ โยชนนน แม้ส่วนเท่าขนาดแหง่ ส่วนที่แหลมคมแหง่ ปลายแห่งขน เนอทรายพอจดลงไปได้ ทเี่ หลา่ เทวดาผู้มเหสก]ฃ์ (ผอู้ น บุคคลกล่าวว่าเบนกนใหญผ่ ้ใู หญ่โฅ คือเบ็่นคนมีเดช มาก) มิไดถ้ กู ทอ่ ง มิได้มีอยเู่ ลย คูกอ่ นอานนทะ เทวดา 'ท1งหลาย ทา่ งกล่าวโทษว่า ‘น่าเสียใจ! ชาวเราทง่ี ํห้ ลาย ด่างไดม้ าแลวจากท,ี ไกลเพือ่ การเผาพระดถาคฅเจำ พระ- ฅถากฅเจ่าผู้,พระอรหนฅสํมม้ าสมํ ิพุทธเจ5า ยอ่ มบ่งเกิดขน ในโลก ในบางยคุ ในบางสมย ในยามสุดทายแหง่ ราดรี ในวนนเทยี ว พระฅถาคฅเจำก็จํกปรินพิ พาน แทภ่ กิ ษุ ผมู้ เหลก่ ฃ์ผู้น่ ไดย้ ืนบค่ี บงํ อยเู่ บองพระพ'กฅร์ของพระ- ผู้มีพระภาคเจำ เราท่งี หลายยอ่ มไมไ้ ดเ้ พอื่ การเผาพระผ-ู้ มพี ระภาคเจไ ในกาลท่ีเบ่น็ สคุ ทา่ ย”

๑๖๕ M อ. £iฃไแฅ่พระผมู้ พี ระภาคเจาผ้เู บน็่ ทีเ่ คารพ เทวดาทfcงหลายดา่ งเบ่น็ ภฅู (คอื เบ็1นอมนษุ ย)์ ย่อมกระทำ ไว้ในใจ ซ่ึงการจกปรินพิ พานแห่งพระผู้มีพระภาคเจิา อยา่ งไร ?” ภ. ‘ ด กู อ่ นอานนทะ เทวดาทงหลายท่ีมีความ สำmyวา่ เบน็่ แผ่นดนิ ในอากาส มีอยู่ เทวดาเหลา่ นน ย่อมสยายผมออกร1องไห้ ย่อมประคองดงแขนทง่ี สอง ขนรองไห้ ยอ่ มลมฅ่วลงเหมือนเทาถกู ^คออกแลว กลง มากลงไป กรํ่าครวญอยู่'วา่ ‘พระผ้มู ีพระภาคเจาิ จกํ ปรนิ ิพพานเสียเรว็ เกนิ ไป พระสกู ฅเจาจกปรนิ พิ พาน เสยี เร็วเกินไป พระผู้มีจกษจก้ สูญสลายไปในโลกเสียเรว็ เกินไป” “ดขกจ่อนอา1นนทะ เทวดาทง้ํ หลายท1ีม่ คืะวา1มสำคญ วา่ แผน่ ดิน ในแผ่นดนิ มีอยู่ เทวดาเหลา่ นนยอ่ มสยาย ผมรองไห้ ยอ่ มประคองดงแขนทงสองขนรอง'ให้ ยอ่ ม ลมด,วลงเหมอื นเทาถูกด,คออกแล4วกลงมากลงไป รำพน เพออยู่วา่ ‘พระผมู้ พี ระภาคเจาจํโ)ปรินพิ พานเสียเร็วเกิน .............................. II I ...................... .............. ■ ■—

./'$จํร่ป'ป.' ■ •• ' 1 _:ป A .7 ะปไ. ; ■ ป. ะ'. ป ะ\"'' V''-;fyv4 ๑๖๖ พระสุคฅเจาจกปรินิพพานเสยี เร็วเกิน'ไป พระผูม้ ี P จํกษจุ *กสญู สลายไปในโลกเสียเร็วเกนิ ไป” “ส่วนเทวดาทงี่ หลายท,ี ปราศจากรากะ (ทเี่ บน พระอนาคามี) แลวนน ยอ่ มเบนผมู้ สี ฅิ มีสมปช่ญญะ คงทน มนสิการอยูว่ า่ ‘สงขารฑงฬลายไม่เทย่ี ง เพราะ ฉะน1น ใครๆ จะพึงได้ในสงฃารทไ่ี มเ่ ที่ยงน (คาม ปรารถนา) แค่ทไี หน” เก',:.' \\ สงเวชนียสทาน ๔ พระอาน*นทะ ผู้มีอายกุ ราบทลู ว่า “ขาแค่ พระองค์ผู้เจรญิ ในทรงก่อน ภกิ ษทุ ี่งหลาย ในทิศ ทง่ี หลาย จำพรรษาแส่ว ยอ่ มมาเพอ่ื การเผาพระผูม้ ี พระภากเจำ ขำพระบาททีง่ ๋ํหลายยอ่ มไดเ้ พื่อการเห็น เพอ่ื การเขไไปนงใกล้ซึง่ ภกิ ษุที่งหลายเหล่านน ซ่งึ เบน ผ้ทู เ่ี กอกูลแก่การย*งใจ'ให้เจรญิ แค่ในคอนทีพ่ ระผ้มู พี ระ- ภเพAาอึคกเจาารปเหรรนิิ็นพิ พเวพา1่ นอ่ื แกสาร่วเขำไขปำนพไงร”ใะกบนลาิ 1ซ้ท,งึทใภง่ี1ิกหษลทุาะยงยหอ่ ลมาไยมไ่ ดทJ้ ี เบน็่ ผเ้ ก๊ัอกลู แกก่ ารย*งใจใหเ้ จริญ”

;พ , ช ุ , : ภ. “ดกู อ่ นอานนทะ สถานท้ํงห์ ลายที'่ ควรเห็น ที่เบ็่นท่ฅี ํ้ง้ฃํ นแห่งความสง่ เวชแก่กลุ บฅุ รผมู้ ศี ร'ทธาน มี อยู่ ๔ แห่ง สถาน ๔ แหง่ คืออะไร? สถาน ๔ แห่ง คอื (๏) สถานที่ควรเห็น ทเี่ บนที่ค,งขํน้ แห่งความ สง'เวชแกก่ ลุ บุฅรผู้ทีม่ ีความเชื่อวา่ ‘บาไม้สาละอนมชี อื่ วา่ สมุ พินีวน อนฅะงอยใู่ นระหวา่ งสกบุ้จีแ่ ละโกลยิ บ้ฐุ ๋นั เบนสถานทพี่ ระผู้มพี ระภาคเจ็าไค้ประสูณเลว’ (๒) สถานท่คี วรเหน็ ทเี่ บนทฅ่ี ง้ํ ฃํ้นแหง่ ความ สง่ เวชแก่กุลบฅุ รผู้ท่ีมีความเช่ือ'วา่ ‘โพธิพฤกษ์ในอรุ ุ เวลา เสนานิคม ในมคธ7‘‘จี คนน เบ็่นสถานที-่ พระ ฅถากฅเจาไคฅ้ รสรพู้ ระอนุฅรสมมาส,มโพธญิ าณแสว่ ’ (๓) สถานที่ควรเห็น ท่เี บ็น่ ทฅี่ ํง้ ขนแหง่ ความ สง่ เวชแกก่ ุลบุฅรผทู้ ม่ี คี วามเชอ่ื 'ว่า ‘ วนะอนมชี อ่ื ว่า มฤคทายวน ในกรงุ พาราณสี น เบน่็ สถาน ทพี่ ระ?ไถาคฅ เจาไคย้ งพระธรรมจกร่ อ'นไม่มธี รรมอน่ื ยวดย่ีงกวา่ ให้เบน ไปแลว’ (๔) สถานท่ีควรเหน็ ท่เี บนทฅี่ งขนแหง่ ความ .สงํ เวชแกก่ ุล■ บฅุ ่รผ้ทู .่ี มีความเช่ือวา่ ‘ภมู ิภาคในระหวา่ ง ......................... ...............

©๖พ่ อ้นสาละเหนอื -ใต้ ๒ อ้น ในอุทยานอ้นมีช่อื ว่าสาลว่น ของคณะเจามิลละ ทีโ่ อบมุมคำนทศหรดีแห่งกรงุ กุสินารา อยู่น เบนสถาน ท่ีพระฅถาคฅเรำไค้ปรินพิ พานแล่ว อ้วยอนปุ าทเี สสนิพพานธาต”ุ “ค กู ่อนอานนทะ สถานที่ควรคู ทเ่ี บน็่ ทีค่ งขน แหง่ ความสงิ เวชแกก่ ลุ บฅุ รผู้มีศรํทธา ๔ แหง่ เหล่าน้แํ ล อนภกิ ษทุ 1งหลาย อนภิกษุณีท1งหลาย อ้นอบุ าสกท1งหลาย อนอบุ าสิกาทง่ี หลายรํกมาถึง ควยการรำลึกถงึ ความเบน ไปของพระฅถาคฅว่า ''บาไม่สาละ อนมีช่ือวา่ ลมพนิ วี น อ้นคิ งอย'ู่ ในระหว่างสํก่รรํ ้เู และ'โกลิยร*;ฐนิ เบนสถาน ที พระฅถาคฅเรำไคป้ ระสฅู แลว, คงนิบิาง วา่ ‘โพธพิ ฤกษ์ ในอรุ ุเวลา เสนานิคม ใ.นมคธร\"^ อ้นน เบน่็ สถาน ทีพ่ ระฅถาคฅเรำไค้ฅรสรู้ พระอนุฅรสมมาสม้ โพธิญาณ แลว่ , คํงนป้ํ าง ว่า ‘วนะอนมชี ือ่ ว่ามฤคทายวน ในกรงุ - พาราณสี นิ เบ1็ นสถาน ทีพ่ ระฅถาคฅเรำไคย้ งพระธรรม- รํโไรอน้ ไมม่ ีธรรมอน่ื ยวคยงกว่าให้เบนไปแลว่ ’ ค'งนบิ ไง ว่า ‘ภมู ิภาคในระหว่างอ้นสาละเหนือ—ใค้ ๒ อ้น ใน อทุ ยานอ้นมีชอื่ 'วา่ สาล'วนแหง่ คณะเจ่ามํลละทีโ่ อบมมุ คาน

ทศิ หรดีแหง่ กรุงกุสินาราอยู่น เบนสถาน ทพี่ ระฅถาคฅ เจำ'ใตป้ รินพิ พานแลไ คิวยอนปาทิเสสนิพพานธาต,ุ ดงนบไง” “ด ูก่อนอานนทะ ชนท1งหลาย ไมว่ ่าจะมีชาดิ ฅระกลู วรรณะ เบนอย่างไ,ร ‘ตุ ท่จี ไาเที่ยวไปยงทจ่ี าริก แหง่ เจดีย์ มรี ฅิ เล่ือมใสแลวิ กระทำกาละ (คอดาย) ลง ท1งหมด จกํ เฃทั๊ ถงึ สุกฅคิ อื้ ่โลกสวรรค์ ในภายหลไจาก การฅาย เพราะรา่ งกายแดกคบิ ” วธิ ปฏบิ ต1ในสตรี อ. “(C ขา9 ร แด1่พระองคs'์ผ2รู้เบ๘ !นทกี่ ารวะ ขาพระบาท ทงหลาย (ทเ่ี บนบรรพชิฅอย)ู่ จไปฏิบไทในสดรีอย่างไร?’, ภ. “ไม่เหน็ ไมด่ ู อานนทะ” อ. “ขไแฅ่พระองคผ์ ู้ทส่ี ำรอกกวามรกํ ลงในประ- ชาชน เม่อื การณ์ท่เี บนเหตใุ ห้คอิ งเหน็ ใทค้ ิองดู มี อยู่ ขไพระบาทท่งี หลาย ควรปฏิบด้ ในสดรีเหลา่ นน อย่างไร ? ” —— —

f1 ( 'V v f ๆ โ ร เ •J '* '*■> ■ ■ ■ ^V - 1 '* 0 g t) 0 ภ. \"ใมท่ ท ไมพ่ คู อาน”'นทะ’, อ. “เม่อื ส?ารที ”กอยู่ พูดอยู่ ขาพระบาทฑงํ้ หลาย จะควรปฏบิ ”ฅในสฅรนี 1นอย่างไร ใ ” ภ. “พงึ ฅ้งํ สฅไิ ว้ (แลวพูคกบํ เธอ) อานนทะ” รธิ ีปฏิฆ'ตใิ นฬระพทุ ธสรระ อ. “ขำแค่พระองค์ผ้เู บ็น่ ที่เการ่พ ขำพระบ1ท ทะงหลายจะปฏิบไทในพระสรรี ะของพระ?!ถาค?นจำอยา่ ง เร ?V I 99 ภ. “ค ูกอ่ นอาน'นทะ เธอทงหลายไมด่ องขวน ขวายเพอื่ การบชู าพระสรีระของพระดถาคฅ แคจ่ งฃะม”ก เขมน่ จงประกอบโดยไมข่ าดสายในประโยชน์ของฅน จงเบ็น่ ผไู้ มป่ ระมาท มคี วามเพยี ร สง่ ฅนเขำไปใน ประโยชนข์ องฅน สำเร็จอริ ยิ าบถอยู่เถิด ดกู ่อนอาน'นทะ ทงกษ”ฅริย์ ทงพราหมณ์ ฑงคฤหบดี ทเี่ บ่น็ บ”ณฑิฅ ที่ เบ่น็ ผเู้ ลอ่ื มใสยง่ ในพระฅถาค?I มีอยู่ กษ”ฅริย์ พราหมณ์ และคฤหบดีทเี บ็น่ บ”ณฑฅิ เหล่าน”น จ”กกระทำการบชา สรรี ะของพระดถากฅ” iง;ฺ ป;;ป : ■แ^ป.

©oil® อ. \"ขาแต่พระองคผ์ เู้ จรญิ ขอประทานพระ- วโรกาส กษฅ่ รยิ ์ พราหมณ์ และคฤหบดีเหลา่ นนึ่ จะ ควรปฏบิ ไทในพระสรีระของพระฅถากดเจาอย่างไร ? ” ภ. “ดูก่อนอานนทะ พงึ ปฏิบไทในสรรี ะของ พระฅถาคฅเหมอนปฏิบํฅในสรีระแห่งราชน ผจู้ กรพรรค์” อ. “ ขำแตพ่ ระองคผ์ เู้ จริญ ขอประทานพระ- วโรกาส ชนทงหลายย่อมปฏบิ ไทในพระสรรี ะของราช'น ผจู้ กํ รพรรคอ์ ย่างไร ปุ’ ภ. “ค กู อ่ นอานนทะ ชนทีง่ หลายยอ่ มหอ่ สรีระ แหง่ ราชนผูจ้ กรพรรค์ตว่ ยผไใหม่ ครนหอ่ คิวยิ ผาใหม่แลวิ ยอ่ มบุ?ไวยปยุ ผายทีถ่ ูกดคี -สางด‘ี แล'ว กรนี ่บึ ุควยปยุ ผาย ทีถูกศที -สางดแี ล่ว ยอ่ มห่อคิวยผาใหม่ ชนทงี่ หลาย กรีนห่อสรีระของราช'นผู้จํกรพรรค์ควิ ยผาใหมแ่ ละบคุ วย ปุยผาย ๕๐๐ คู่ (ปณฺจหิ ยุคสเตห)ิ ควิ ยิ วิธีนแึ่ ลว จึง บรรจุสรรี ะทถี ูกห่อคิวยิ ผา้ ใหม่ และถูกบุคิวยปยผายแลวิ นนเขำไปในหบี ศพเหลก็ บ1ิ คทอง (ทเ่ี หมื้อนถ*ง tank เก็บ นามน) บดคิวิยฝาหีบเหลก็ ทีบ่ คทองแผ้วอกี อนํ หนง่ึ ๑ ร โปรคคูบนทึกข้างทไย ‘r ■ : รุ,.-, . :, V ไ• ■ ■-. . ■1 { แ1 ( •,“ . 1 I .... , - - .ป —

© o ik ) กระทำไมท้ ี่มกี ลนื่ หอมท1งปวงใหเ้ บ็น่ จิกกาธารแลไ จงึ เผาสรรี ะแหง่ ราช'นผู้จกรพรรค ย่อมสรไงสฅูปแห่งราชน ผู้จกรพรรดี้ไว้ทถ่ี นนใหญ่ กรง ๔ แยก คกู อ่ นอานนทะ ชนท่งี หลาย ยอ่ มปฏบิ ฅในสรรี ะแห่งราชนผจู้ กรพรรท่ี ควยวิธอี ยา่ งน แล คูกอ่ นอาน\"นทะ กษํฅริย์ พราหมณ์ และคฤหบดที ่งี หลาย พงึ ปฏบิ ้ฅในสรีระของพระกถากฅ เหมอื นชนท้ํงหลายปฏบิ ํฅ ในสรีระแห่งราช'นผ้จู ํกรพรรค ฉะน1นเถิค สตปู แห่งพระกถาคฅ กพ็ ึงถูกกระทำไว้ทถี่ นน ใหญ่ ฅรง ๔ แยก กศุ ลกรรมของเหล่าชนผ้ทู จี่ กย่ กขน ซึ่งพวงคอกไม้ หรีอซง่ึ เคร่ืองหอม หรือซึ่งจรุ ณ ทสี่ ตูป น์นกด็ ี ของเหล่าชนผู้ทจี่ กํ ่อภวิ าทท่สี ฅูปนนกค็ ี ของเหล่า ชนผู้ทย่ี ไจิฅใหเ้ ลือ่ มใสในสตูปนน์ กด็ ี นนนํน จกมเี พื่อ ประโยชนเ์ กอกูล เพอ่ื ความสุข ฅลอคกาลนาน แก่ พวกเขา” บคุ คลผู้ควรแก่สตปู ๔ “ ค ูก่อนอานนทะ บคุ คลผคู้ วรแก่สคูปน มีอยู่ ๔ คน บคุ คล ๔ •คนกอใครบไง! บคุ คล ๔ คน คอ พระ กถากกเจไผู้พระอรหนฅสไงมาส้มพทุ ธเจไ พระบจเจก-

©<ท|๓ I ลมพุทธเจา่ สาวกของพระฅถาคฅเจ่า ราช'นผู้จก่ รพรรค น ย่อมเบ1็ นผู้ควรแคส่ ตูป” (๑) “ค กู ่อนอานนทะ ก็เพราะอาศยประโยชน์ ทีมอานุภาพอะไร พระฅถาคฅเจา่ ผู้พระอรห'นคสมมา- สมพทุ ธเจ่า จึงเบนบุกคลผูค้ วรแกส่ คปู ? คูก่อนอานนทะ ชนมากหลายย่อมยิงจคิ ให้เลื่อมใสว่า ‘พระสฅูปองคน์ ้ํ เบนพระสตปู แห่งพระผู้มีพระภาคเจ่าผพู้ ระอรหนคสมมา สมพุทธเจ่าพระองคน์ น’ ชนเหล่านนกรนยงํ จคิ ใหเ้ ลือ่ ม ใสในพระสมมาฺ สมพุทธสฅูปนนํ้ แล1ว ย่อมเขทถงึ สคุ ฅิ กอโลกสวรรค์ ในภายหลงจากการคาย เพราะร่างกาย แคกคบ ตกู ่อนอานนทะ เพราะอาfillประโยชน์ที่มีอานุ- ภาพอ''นนแล พระคถากคเจา่ ผูพ้ ระอรหนฅสํมมาสมพุทธ เจา่ จึงเบนบคุ คลผู้ควรแกส่ ตปู ” (๒) “ ค กู อ่ นอานนทะ ก็เพราะอาศยประโยชน์ ทมี อานภุ าพอะไร พ ระบ จเจกล่มพ ุท ธเจา่ จงึ เบ ็1นบุคกล ผ้คู วรแกส่ ตูป ? คกู ่อนอานนทะ ชนมากหลายยอ่ มย”งจิฅ ให้เลอื มใสวา่ ‘พระสตูปองค์น์ เบนพระสตูปแหง่ พระ- บจเจกสมพุทธเจ่าองคน์ น’ ชนเหลา่ นน กร่นยไจฅิ ให้ —I ..............................I ■ — ._ _

©ฟ้ d เล่อื มใสในพระบจเจกสมพุทธสตูปน์นแล่ว ย่อมเขไถงึ สคุ ติคอื โลกสวรรค์ ในภายหลง่ จากการฅาย เพราะ ^างกายแฅกคํบ ดูก่อนอานนทะ เพราะอาศยประโยชน์ ทีม่ ;อานภุ าพอ\"นนแ์ ล พระบจเจกสมพุทธเจา จึงเบน บุคคลผ้คู วรแก่สตูป” (๓) “ ต กู อ่ นอาน\"นทะ กเ็ พราะอาศ\"ยประโยชน ท่ีมีอานภุ าพอะไร สาวกของพระฅถาคฅ จึงเบนบคุ คล ทค่ี วรแก่สตปู ? ตกู ่อนอาน1นท์ ะ ชนมากหลายย่อมยง จิคให้เลอื่ มใสว่า ‘พระสตูปองคน์ ์ เบนพระสตูปแหง่ สาวกของพระผ้มพระภาคเจ่าผู้พระอรหนฅส\"มมาส\"มพุทธ เจาพระองค์นน’ ชนเหล่าน\"น คร1นยงจิฅให้เลื่อมใสใน พระฅถาคฅสาวกสตปู นน์ แ์ ล่ว ยอ่ มเขไถึงสคุ ติคอื โลก สวรรค์ ในภายหลง่ จากการฅาย เพราะรา่ งกายแคกคบ ตกู ่อนอาน\"นทะ เพราะอาศ\"ยประโยชน์ท่มี อี านภุ าพอ\"นน แลสาวกของพระฅถากฅเจไ จึงเบนบุคคลผูค้ วรแก่สตูป” (๔) “ ต กู อ่ นอานนทะ ก'็ เพราะอาศยประโยชน์ ทมี อานภุ าพอะไร ราชํนผจู้ ไกรพรรค จึงเบ่น็ บุคคล ผคู้ วรแกส่ ตปู ? ตูก่อนอานนทะ ชนมากหลายยอ่ มยง

G)g)<£ จฅิ ให้เลอมใสว่า ‘สตปู องคน์ เบน่็ สตูปแหง่ ธรรมราช'น ผ้ปู ระกอบด็วยท1'ศพธิ ราชธรรมองค์นน คนเหล่าน1น กรนยิงจฅิ ให้เล่ือมใสแลว่ ยอ่ มเขำถงึ สุคติคื้อโลกสวรรก ในภายหลง่ จากการคาย เพราะรา่ งกายแคกคบ คกู ่อน อานนทะ เพราะอาศ\"ยประโยชน์ท่มี ีอานภุ าพอนนึแ่ ล ราชนผูจ้ กึ รพรรค์ จงึ เบน็่ บคุ คลผูค้ วรแกส่ ตูป” “ด กู อ่ นอานนทะ บกุ คลผู้ท ี่ถูกกล่าวมาแล,ว ๔ กนน่ึแล ย่อมเบน็่ บุคคลผู้ควรแกส่ ตปู ” ตรไIสรรเสรญิ นระอานน่ ทเลระ ในครงํ้ นนแล ท่านผมู้ ือายุอานไา,ฑะเขำไปยงิ วหิ ารแล่ว ได้เกาะไมก้ ลอนประตทู ี่มืรูปเหมือนศีร์ษะ วานรยืนรํองไห้อยูพ่ รอมกบรำพนความเสียใจว่า “น่า สงเวช ! เรายงเบนเสกขบคุ คล ยิงเบ่น็ ผูม้ กี ิจท'ี่ จะพึงทำ ควย พ ระผู้มพื ระภาคเจาึ ผเู้ บ'็ นพ ระศาลคาของเรา ผ้ทู รง อนเุ คราะห์เราอยู่ จกึ ปรนิ พิ พานควย” ในทนทนี น .พระผูม้ พื ระภาคเจาไคฅ้ รํสส่งภกิ ษุ รปู ใครูปหนงึ่ ว่า “ภิกษุ เธอจงไป จงบอกอานนทะ . ........................ ..................................

©ฅ่)h ฅามคำของพระฅถาคดวา่ ‘อานนทะ ผเู้ จริญอายุ พระ ศาสคาเรยี กหาท่าน” “พระเจาขำ” ภกิ ษุนํ้ไเริบพระพทุ ธคำร*สสงแล,ว ไคเ้ ขำไปยิงสถาน ทพี่ ระอานนทะผมู้ ีอายุ ยืนเกาะกลอน ประตรู องไห้อยู่ คร1นเขำไปถึงแลว ไค้บอกท่านผมู้ อี ายุ อาน”นทะอยา่ งนึ่วา่ “อานนทะ ผเู้ จรญิ อายุ พระศาสดา ริบสงํ ให้หาทา่ น” ทา่ นผู้มีอายอุ านนทะ บอกริบทราบ พระคำรสเรยี กหานนฅอ่ ภกิ ษนุ ึ่นแลว ไคเ้ ขำไปยิงเคียง นอิ ยท่พี ระผมู้ ีพระภาคเจไประทมอยู่ กรนเขไไปถึง ถวาย อภวิ าทพระผูม้ พี ระภาคเจไแลว ไคน้ งเผา ณ สว่ นสุด ดไนหนง่ึ พระพู้มีพระภาคเจไไค้ฅรสกำเตือนนึก่ ะพระ อานนิ ทะ ผมู้ อี ายุ พนู้ ,งเผาอยู่ ณ สว่ นสุดคไนหนึง่ ว่า “อาน''นทะ อย่าเลย อยา่ ไค้เศรไโศก อยา่ 'ไค้ริอง’ใหค้ รา่ํ ครวญ พระฅถากฅไค้กลา่ วไวก้ ่อนทเี คียวอย่างน่ึมใิ ชห่ รอื วา่ ‘ความแยกออกไป ความพรากออกไป ความเบนโดย ประการอนื่ จากสฅํ ว์และสง่ ขารทงหลาย ทเี่ บนทรี่ กิ เบ็1นท่เี จรญิ ใจท่ีงหมดเทียว ยอ่ มทอ่ งมเี กดิ ขนมา เพราะ ฉะน1น ทกุ ยุ กนจะพงึ ไค้ ในสดว์และสงขารทงหลาย

- ๑ฅเ่ ฟ้ เหล่านแต่ที่ไหนเล่าวา่ ‘สไฑ์และสไขารทถ่ี ูกบจจยปรุง แต่งขนมาแลว ทีม่ ืการตอ่ งประลยไปเบ่็นอาการของฅน ทีเ่ กดิ ขนมาแลว ท่ีเบน็่ แลํวนนํ้ เจไประคุณ! ขออย่า ตอ่ งประล'ยไปเสียเลย, การวิงวอน,มิ ให้สด่ วแ์ ละสง่ ขาร อย่าต่องประลยไปนน, ไม่เบนสถานะจะมไี ด้ ดูก่อน อานนทะ ดลอดกาลนานเทียว เธอไค้บำรุงโคยเฉพาะ ซงึ พระฅถาคด ควยเมฅฅากายกรรม ควยเมฅฅาวจกี รรม ควยเมฅฅามโนกรรม ท่เี กอกลู ท่เี บ่น็ เหคุใหส้ บาย ท่ี : ไมแ่ ดกตา่ งกนท่ีงในท่ีต่อหนำ ท่งี ในท่ลี บหนำ ทน่ี 'บ ทป่ี ระมาณมไิ ค้ ดูก่อนอาน'นทะ เธอไค้กระทำบญุ ไวแ้ ลว่ เธอจงประกอบความเพียรโคยไม่ขาดสายเถดิ เธอจก หมดอาสวะแม้โดยเรว็ ” ในอนค่บนน, พระผ้มู พี ระภาคเจไได้ดรสบอก ภกิ ษุทงหลายวา่ “ ด ูก่อนภกิ ษุทงี่ หลาย พระผูม้ พี ระภาค เจาทงหลาย ผูพ้ ระอรหนิ ดสม้ มาสมิพทุ ธเจำที ไดม้ ี'ไค้แนวํ ในอคฅี กาลแม้นน ไดม้ ภี กิ ษผุ ้อู ุป;ฐากมืขนาคเหมอื น อาน'นทะผเู้ บนภกิ ษุ ผูอ้ ุป;ฐากของพระดถากคน เบ็่น อย่าง ย่งี (คอื ภกิ ษุผู้อุป;ฐากของพระอคีฅพทุ ธเจไท่ีงหลาย

®o)ฝ ไม่มคี เี .กินกว่าพระอานนทะน) พระผูม้ พี ระภาคเจาทง หลายผ้,ู ,พระอรหนฅ ล่มมาล่มพุทธเจ่าท่ีจก่ บง่ เกิด ขนใน อนากฅกาลแมน้ 1น จ*'กเบนผ้มู ีภกิ ษผุ ู้เบ่น็ อปุ P กเหมอื น อาน*นทะผ้เู บนฦกษผู้-อปุ 3 ากฃองพระฅถาอฅนํ้ เบ่น็ อยา่ ง ยง” “ ค กู ่อนภิกษทุ ่งี หลาย อาน*นทะเบน็ บ*ณฑิฅ ย่อมรวู้ า่ ‘กาลน้ํเบ็'นการเพอื่ การเขาเผา พระดถาคฅ ะ คือ กาลน ของภิกษุ กาลน ของภิกษณุ ี กาลนี ของอบุ าสก กาลน ของอุบาสิกา กาลน ของราชน กาลน ของราชมหาอมาฅย์ กาลน ของเดยี รถยี ์ กาลน ของสาวกแห่งเดยี รถยี ”์ “ ค กู ่อนภิกษุทงํ้ หลาย อานนทะมธี รรม,ท่ีอศ'จรรย มธี รรมทยี่ งไม่เคยมแี ลว แทก่ ล*บมามขี น ๔ ประการน ธรรม ๔ ประการนเบน'ไฉน? ธรรม ๔ ประการนเบน ฉะนคอื (๑) ถาบริษํท คอื ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสก และ อุบาสิกา เฃไไปเพื่อการไค้เหน็ อานนทะ การไคเ้ หน็ อานนทะนน ย่อมเบนเหคูใหบ้ ริษทน8นยนิ ดี

(๒) ถไอานํนทะกล่าวธรรมในบรษิ ท่ นน แม้การ กลา่ วธรรมในบริษทนน กเ็ บน็่ เหตุให้บริษท่ นนยนิ คี (๓) การกล่าวธรรมน1น เบ็่นเหตุใหบ้ รษิ ทนน ไม่อี่มควยธรรมทถ่ี กู กลา่ วออกมาแลว่ เลย (๔) ในคอนทอ่ี านนทะยิงนืง่ อยู่ อาการนงนน ก็เบนเหตุใหบ้ รษิ ทนนยิน?! \"ดูกอ่ นภิกษทุ งํ้ ํห้ ลาย อานนทะมีธรรมท่อี ศจรรย์ มีธรรมไมเ่ กยมแี ลไแค่กลบมามีฃน้็ ๔ ประการนแล” “คกู ่อนภิกษุท1งหลาย ราช'นผู้จ*กรพรรดิ้ ยอ่ ม มธี รรมทอื่ ศ'จรรย์ มีธรรมที,ยไ’ไมเ่ คยมแี ล่'วแคก่ ลบมา มขี น ๔ ประการน คือ (๑) ถไบรษิ ํทคอื กษฅํ ริย์ พราหมณ์ คฤหบคี และสมณะ เขไไปเพอื่ การเผาราช*นผู้จ*กรพรรค การไค้ เผาราช'นผู้จ่กรพรรคนํ้น ย่อมเบน่็ เหตุให้บรษิ ทนนยินดี (๒) ถไราช*นผู้จํกรพรรคนนฅรสํ 'ในบรษิ ท่ น1น แมก้ ารฅรสในบรษิ ทนน กเ็ บ่็นเหฅฺให้บริษทํ นนยนิ คี

(๓) การฅร*สน1น เบ็่นเหตใุ หบ้ ริษทนนไมอ่ ่มื ควิ ยคำทถี ูกฅร*สิออกมาแล1วเลย (๔) ในคอนทร่ี าช'นผพู้ ัพรรคประท*บอยูน่ ง ‘ตุ อาการประท'บนง่ี ของราชนผ้จู ก่รพรรคนื นก็เบน็่ เหตใุ ห้ บรษิ ’ทนนยนิ ดี “ค ูกอ่ นภกิ ษุฑงหลาย อานนทะก็ยอ่ มมธี รรม ทอ่ี *ศจรรย์ ธรรมที,ยงไมเ่ คยมแี ลวแฅ่กล*บมามฃี นํ้ ๔ ประการอย่างนนเหมือนกนแล คือ (๑) ถาบริษท่ นน คือภิกษุ ภกิ ษุณี อุบาสก และอบุ าสกิ า เขไไปเพ่ือการไคเ้ หน็ อาน*นฑะ การไค้ เห็นอาน*นฑะน*น ยอ่ มเบ็่นเหตใุ ห้บริษ'ทน1นยนิ ดี (๒) ถไอาน’นทะกล่าวธรรมในบรษิ ท่ น1น แมก้ าร กลา่ วธรรม'ในบริษํทีน*น ก็เบนเหตุใหบ้ ริษํทน้นํ ยินดี (๓) การกลา่ วธรรมนน เบนเหตุให้บรษิ ่ทนนํ้ ไม่อมควิ ยธรรมที่ถกู กล่าวออกมาแลวเลย (๔) ในคอนทอ่ี านนทะนงอยู่ อาการ'นงนน ก็ เบนเหฅใุ ห้บรษิ ํทนนยินดี

\"คูก่อนภิกษทุ ํ้งหลาย อานนทะมีธรรมทอ่ี ศจรรย์ มีธรรมทย่ี ่งโม่เคยมแี ลว่ แตก่ ล'บมามขี น ๔ ประการนแล” พระอานนทเถระกราบทลู ,ให้ไปปรินิน'พาน ในมหานคร เมอื่ พระผู้มพี ระภาคเจาฅรํสคำสรรเสรญิ อย่างนํน้ แลว พระอานนทะ ผู้มีอายุ ไดก้ ราบทูลพระผมู้ พี ระ- ภาคเจาอยา่ งนวึ่ ่า “ฃก็ แด่พระองคผ์ เู้ บนทีเ่ คารพ ขอ พระผมู้ ีพระภาคเจ’าโปรดอยา่ 'ไดป้ รินพิ พานในนครนอย นครทเี่ บ็น่ โฃคเขนิ นครท่เี บน่็ กงี่ นครน นครอนื่ มาก หลาย ที่เบนมหานครย่งมอี ยู่ นครท่ีเบ่็นมหานกรน คือ กรุงจมปา กรงุ ราชคฤห์ กรงุ สาวฅฤ กรงุ สาเก?ไ กรุง โกสม้ พี กรงุ พาราณสี ขอพระผู้มีพระภาคเจาโปรดปร-ิ นพิ พานในนครใดนครหนึง่ ใน ๖ นครน่ึ กษฅริยผ์ ู้ มหาศาล พราหมณ์ผมู้ หาศาล คฤหบดผี มู้ หาศาล ผู้เลอื่ ม ใสแสว้ ในพระฅถาคดเจา มอี ย่มู ากใน ๖ นกรน้ํ กษฅํ ริย์ พราหมณ์ และคฤหบดผี มู้ หาศาลเหลา่ นน จกกระทำการ บซาพระสรรี ะของพระฅถาคดเส้า”

กุสินาราเคยเบนจิกรวรรติราชธานี ภ. “อานนทะ เธออย่า'ไดก้ ล่าวอย่างน<ี vI วา่ ‘นครน*อย นครท่ีเบ็น่ โขดเขิน นครท่บี นกี่งนคร’ เรอื่ ง เคยมแี ลว: ราช*นนามว่ามหาสุที่สนะ ชนะสงครามแลว ไคเ้ บ่็นพระเจ*าจ'กรพรรค ที่ประพฤฅิในทศพิธราชธรรม เบนธรรมราช’น เบนใหญ่ในแผน่ ดินทีจ่ ดมหาสมุทร ในทิศท่ีงํ้สี่ มชี นบททีถ่ งึ ความมนคง ประกอบควิ ยร'คนะ ท1งเจ็ด กรุงกุสนิ าราน ชือ่ ว่ากสุ าวดี ได้เบน็่ ราชธานี ของราชนมหาสทสุ นะ มขี นาดยาวไปทางทิศฅะวนออก และดะวนดก @๒โยชน์ กวา่ งไปทางทศิ เหนอื และทศิ ใต้ ๗ โยชน์ ราชธานีกสุ าวดี ไคเ้ บ็,นนครทม่ี งํ คง่ํ รุ่งเรือง มคี นมาก เกลอ่ื นกล่นค1วยมนษุ ย์ และมอี าหารบรบิ รู ณ”์ “ด กู อ่ นอานนทะ ราชธานีชอื่ ว่าอาลกมนทา ของเทพที่งหลาย เบนนครทีม่ ่งคํง รุ่งเรือง มพี ลเมอื ง มาก เกลื่อนกลน่ ควยยกษ์ และมอี าหารบริบรู ณ์ แม้ฉนใด ราชธานีช่ือวา่ กุสาวดี กฉ็ นํ นนนน์ เทียว เบน นครมํงคงํ่ รุ่งเรือง มพี ลเมอื งมาก เกล่อื นกล่นควย

๙)๘๓ มนษุ ย์ และมีอาหารบริบูรณ์ ราชธานีกสุ าวคี ที่งใน กลางวน ทีง่ ในกลางคนื ไณบ้ น็่ นครทีf่ ๅร้ํนเครงควิ ย เสยี ง ๑๐ ชนคิ น คือ คิวยเสยี งชา่ ง ควิ ยเสยี งมา คิวย เสยี งรถ ควิ ยเสยี งกลอง คิวยเสยี งฅะโพน ควิ ยเสียงสง่ึ (พณิ ) ควิ ยเสยี งเพลงขบ ควิ ยเสยี งกไเสค่าล คิวยเสยี ง ปลบมือ (และเสียงเคาะของแขง็ เช่นถงํ เบ็1นคนิ ) คิวย เสยี ง (จากรานขายอาหาร) ซงึ่ เบนท่ี ๑๐ ว่า “เชิญ ร*บประทานอาหาร เชิญฅื่มเครื่องทึม่ เชญิ รบประทาน ผลไม, ตร'สใ์ ห้พระอานนทะไปแบ่รบิ ่าวปรนิ พิ พาน แกเอามลละ “ ค กู อ่ นอานนทะ เธอจงไป จงเขาไปในกรงุ กุสนิ าราแลวบอกแณจ่ ำม*ลละท่ีงหลาย ทเี่ บนชาวกุส-ิ นาราวา่ ‘ด ูก่อนวาสิฏ3 ะทงี่ หลาย ในยามท่ายแห่งราครี ในว*นนเี ทยี ว พระฅถาคฅจํกปรินิพพาน ท่านท่งี หลาย จงรีบออกไป \"I ทา่ นที่งหลายอย่า'ใตเ้ บ่็นผ้คู คิ เคือดรอน ใจในภายหลงว่า ‘ก็พระฅถาคฅเจำไค้ปรินิพพานแลว