Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 1 1_2564

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 1 1_2564

Published by Tanapat Issarangkul Na Ayutthaya, 2021-05-08 03:32:50

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 1 1_2564

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ ฟิสกิ ส์ 1 (ว 31201) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ การศกึ ษาวชิ าฟิสกิ ส์ การเคลอ่ื นทใ่ี นแนวตรง แรงและกฎการเคลอ่ื นท่ี การเคลอ่ื นทแ่ี นวโคง้ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 นายธนพฒั นน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตาแหน่ง ครู กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 1 การออกแบบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 รหสั วิชา ว31201 ระดบั ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ตำบลชา่ งเค่งิ อำเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ สำนกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สำนักงานการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 2 คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ า ฟสิ ิกส์ 1 รหสั วชิ า ว31201 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกติ คำอธบิ ายรายวิชา ศึกษาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา พัฒนาการของหลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์ การวัดปริมาณ ทางฟิสิกส์ ความคลาดเคลื่อนในการวัด การแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ ความหมายจากกราฟเส้นตรง ความสมั พันธร์ ะหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว ความเร่งของการเคลือ่ นท่ีของวัตถุในแนวตรงทม่ี ีความเร่งคงตัว จากกราฟและสมการ ค่าความเรง่ โนม้ ถ่วงของโลก แรงลัพธข์ องแรงสองแรงท่ีทำมุมต่อกัน กฎการเคล่อื นที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล การใช้กฎการเคลื่อนท่ีของนิวตันกับสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ แรงเสียดทานระหว่าง ผิวสัมผัสของวัตถุคู่หน่ึง ๆ ในกรณีที่วัตถุหยุดนิ่งและวัตถุเคล่ือนที่ สัมประสิทธ์ิความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของ วัตถคุ ู่หนึ่ง ๆ และนำความรู้เรอื่ งแรงเสยี ดทานไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั การเคลอ่ื นท่ีแบบโพรเจกไทล์ และปรมิ าณตา่ ง ๆ ของการเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล์ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคล่ือนท่ี อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็วเชิงมุม มวลของวัตถุในการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดับ การประยุกต์ใช้ความรู้การเคล่ือนท่ีแบบ วงกลมในการอธบิ ายการโคจรของดาวเทียม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ วิเคราะห์ การอธปิ ราย การอธบิ ายและการสรุปผล เพ่อื ให้ผู้เรยี นเกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารสง่ิ ทเี่ รียนรแู้ ละนำ ความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตตนเอง ตลอดจนมจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มที่ถกู ต้อง ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นและอธบิ ายการคน้ หาความรทู้ างฟสิ ิกส์ ประวตั ิความเปน็ มา รวมทงั้ พัฒนาการของหลกั การและแนวคิด ทางฟสิ กิ สท์ ม่ี ีผลตอ่ การแสวงหาความรใู้ หม่และการพัฒนาเทคโนโลยไี ด้ 2. วัดและรายงานผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนำความคลาดเคล่ือนในการวัดมา พิจารณาในการนำเสนอผล รวมท้ังแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์และแปลความหมายจาก กราฟเสน้ ตรงได้ 3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของการเคลื่อนที่ของ วตั ถุในแนวตรงที่มีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมท้ังทดลองหาค่าความเร่งโน้มถ่วงของโลก และ คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ งได้ 4. ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงท่ที ำมมุ ตอ่ กนั ได้ 5. เขยี นแผนภาพของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถุอสิ ระ ทดลองและอธิบายกฎการเคล่อื นที่ของนิวตันและการใช้กฎการ เคลอ่ื นทขี่ องนวิ ตนั กับสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ รวมทัง้ คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ งได้ 6. อธบิ ายกฎความโนม้ ถ่วงสากลและผลของสนามโนม้ ถว่ งทีท่ ำให้วตั ถุมีน้ำหนัก รวมท้ังคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ี เกี่ยวข้องได้ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 3 7. วิเคราะห์ อธิบาย และคำนวณแรงเสียดทานระหวา่ งผิวสัมผสั ของวัตถุคหู่ นึ่ง ๆ ในกรณีที่วัตถุหยุดน่ิงและวัตถุ เคล่ือนท่ี รวมท้ังทดลองหาสัมประสิทธ์ิความเสียดทานระหว่างผวิ สัมผัสของวัตถุคู่หน่ึง ๆ และนำความรเู้ รื่อง แรงเสยี ดทานไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ 8. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์ และทดลองการ เคล่ือนทแี่ บบโพรเจกไทล์ได้ 9. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคล่ือนท่ี อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็ว เชงิ มมุ และมวลของวัตถใุ นการเคล่ือนที่แบบวงกลมในระนาบระดับ รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กีย่ วข้อง และประยกุ ตใ์ ช้ความรกู้ ารเคล่อื นท่ีแบบวงกลมในการอธบิ ายการโคจรของดาวเทยี มได้ รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู้ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 4 โครงสร้างรายวิชา รายวิชา ฟิสิกส์ 1 รหัสวชิ า ว31201 หน่วยกิต 2.0 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ กจิ กรรมการเรียนรู้ จำนวน นำ้ หนักคะแนน ชวั่ โมง (ในการประเมนิ ) 1. การศกึ ษาวชิ าฟสิ กิ ส์ (8) 1. ธรรมชาตแิ ละสาขาความรขู้ องฟสิ ิกส์ 2 2. การวดั ปริมาณและหน่วยทางฟิสกิ ส์ 3 3. เลขนัยสำคญั 3 2. การเคลอ่ื นท่ีในแนวตรง (20) 1. ปริมาณที่เกี่ยวกบั การเคล่ือนท่ีของวตั ถุ 2 2. เครอื่ งเคาะสัญญาณเวลา 2 3. ความเรง่ 3 4. กราฟแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณ 3 ต่าง ๆ ของการเคล่อื นทแี่ นวตรง 5. การเคลือ่ นทขี่ องวตั ถุกรณีความเรง่ มีคา่ คง 3 ตวั 6. วตั ถตุ กแบบอิสระดว้ ยความเรง่ คงตัว 5 7. ความเร็วสมั พัทธ์ 2 3. แรงและกฎการเคลอื่ นท่ี (28) 1. แรงและแรงลัพธ์ 3 2. กฎการเคลอื่ นที่ของนิวตัน 8 3. กฎแรงดึงดูดระหวา่ งมวลของนิวตัน 6 4. แรงปฏิกิรยิ าต้ังฉากและแรงเสียดทาน 6 5. การประยกุ ตใ์ ช้กฎการเคลือ่ นท่ีของนวิ ตนั 5 4. การเคลอื่ นทีแ่ นวโคง้ 1. การเคลื่อนทแ่ี บบโพรเจกไทล์ 12 2. การเคลอื่ นที่แบบวงกลม 12 รวม 80 100 จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 5 ผลการเรยี นรู้และสาระการเรียนร้เู พมิ่ เตมิ สาระฟิสกิ ส์ * สาระฟสิ ิกส์ ชน้ั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรเู้ พ่ิมเตมิ ม.4 1. สืบค้นและอธิบายการค้นหาความรทู้ างฟิสิกส์ • ฟิสิกส์เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหน่ึงท่ีศึกษาเกี่ยวกับสสาร พลังงาน อันตรกิริยา ประวัติความเป็นมา รวมทั้งพัฒนาการของ ระหวา่ งสสารกับพลงั งาน และแรงพื้นฐานในธรรมชาติ หลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์ที่มีผลต่อ • การค้นคว้าหาความรู้ทางฟิสิกส์ได้มาจากการสังเกต การทดลอง และเก็บ การแสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒ นา รวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ หรือจากการสร้างแบบจำลองทางความคิด เทคโนโลยี เพื่อสรุปเป็นทฤษฎี หลักการหรือกฎ ความรู้เหล่านี้สามารถนำไปใช้อธิบาย ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรอื ทำนายส่ิงทีอ่ าจจะเกิดขึ้นในอนาคต • ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของหลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์เป็น พ้ืนฐานในการแสวงหาความร้ใู หม่เพิ่มเติม รวมถงึ การพฒั นาและความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยีกม็ สี ว่ นในการค้นหาความรใู้ หม่ทางวิทยาศาสตรด์ ้วย 2. วัดและรายงานผลการวัดปรมิ าณทางฟสิ ิกส์ได้ • ความร้ทู างฟิสกิ ส์สว่ นหน่ึงได้จากการทดลอง ซง่ึ เกีย่ วข้องกบั กระบวนการวัด ถกู ต้องเหมาะสม โดยนำความคลาดเคล่ือนใน ปรมิ าณทางฟสิ กิ ส์ ซง่ึ ประกอบด้วยตัวเลข และหนว่ ยวัด การวัดมาพิจารณาในการนำเสนอผล รวมทั้ง • ปริมาณทางฟิสิกส์สามารถวัดได้ด้วยเคร่ืองมือต่าง ๆ โดยตรงหรือทางอ้อม แสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์ หน่วยท่ีใช้ในการวัดปริมาณทางวิทยาศาสตร์ คือ ระบบหน่วยระหว่างชาติ และแปลความหมายจากกราฟเส้นตรง เรียกยอ่ ว่า ระบบเอสไอ • ปริมาณทางฟิสิกส์ที่มีค่าน้อยกว่าหรือมากกว่า 1 มาก ๆ นิยมเขียนในรูป ของสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ หรือเขียนโดยใช้คำนำหน้าหน่วยของระบบ เอสไอ การเขียนโดยใช้สัญกรณ์วิทยาศาสตร์เป็นการเขียนเพื่อแสดง จำนวนเลขนยั สำคัญทถ่ี ูกต้อง • การทดลองทางฟิสิกส์เกี่ยวกับการวัดปริมาณต่าง ๆ การบันทึกปริมาณที่ได้ จากการวัดด้วยจำนวนเลขนัยสำคัญท่ีเหมาะสมและค่าความคลาดเคลื่อน การวิเคราะห์และการแปลความหมายจากกราฟ เช่น การหาความชันจาก กราฟเส้นตรง จุดตัดแกน พ้นื ทใ่ี ต้กราฟ เปน็ ตน้ • การวัดปริมาณต่าง ๆ จะมีความคลาดเคลื่อนเสมอขึ้นอยู่กับเครื่องมือ วิธีการวัด และประสบการณ์ของผู้วัด ซึ่งค่าความคลาดเคลื่อนสามารถ แสดงในการรายงานผลทงั้ ในรปู แบบตัวเลขและกราฟ • การวัดควรเลือกใช้เคร่ืองมือวัดให้เหมาะสมกับส่ิงที่ต้องการวัด เช่น การวัด ความยาวของวัตถุท่ีต้องการความละเอียดสูง อาจใช้เวอร์เนียร์แคลลิเปิร์ส หรือไมโครมเิ ตอร์ • ฟสิ ิกสอ์ าศยั คณติ ศาสตร์เปน็ เครื่องมือในการศึกษาคน้ คว้า และการส่ือสาร ม.4 จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 6 ชน้ั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนร้เู พิม่ เตมิ 3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง • ปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่ง และความเร่ง โดยความเร็วและความเร่งมีท้ังค่าเฉลี่ยและค่าขณะหน่ึง ของการเคลื่อนท่ีของวัตถุในแนวตรงท่ีมี ซ่ึงคิดในช่วงเวลาสั้น ๆ สำหรับปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการเคลื่อนท่ี ความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้ง แนวตรงดว้ ยความเรง่ คงตัวมคี วามสมั พันธ์ตามสมการ ทดลองหาค่าความเร่งโน้มถ่วงของโลก และ v = u + at คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่เี ก่ียวข้อง u+v ∆x = ( 2 ) t ∆x = ut + 1 at2 2 v2 = u2 + 2a∆x • การอธิบายการเคล่ือนที่ของวัตถุสามารถเขียนอยู่ในรูปกราฟตำแหน่งกบั เวลา กราฟความเร็วกับเวลา หรือกราฟความเร่งกับเวลา ความชันของ เสน้ กราฟตำแหน่งกับเวลาเป็นความเร็ว ความชันของเส้นกราฟความเรว็ กับ เวลาเป็นความเร่ง และพื้นที่ใต้เส้นกราฟความเร็วกับเวลาเป็นการ กระจัด ในกรณีที่ผู้สังเกตมีความเร็ว ความเร็วของวัตถุที่สังเกตได้เป็น ความเรว็ ทเ่ี ทียบกับผูส้ งั เกต • การตกแบบเสรีเป็นตัวอย่างหน่ึงของการเคล่ือนท่ีในหนึ่งมิติท่ีมีความเร่ง เทา่ กบั ความเร่งโนม้ ถ่วงของโลก ม.4 4. ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรง • แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์จึงมีท้ังขนาดและทิศทางกรณีที่มีแรงหลาย ๆ แรง สองแรงที่ทำมุมตอ่ กัน กระทำต่อวัตถุสามารถหาแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุโดยใช้วิธีเขียนเวกเตอร์ ของแรงแบบหางตอ่ หัว วธิ ีสรา้ งรูปสเ่ี หล่ยี มดา้ นขนานของแรงและวิธคี ำนวณ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 7 ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ 5. เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุอิสระ • สมบัติของวัตถุที่ต้านการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ เรียกว่า ความเฉื่อย ทดลองและอธิบายกฎการเคล่ือนที่ของนิวตัน มวลเปน็ ปริมาณทบี่ อกใหท้ ราบวา่ วตั ถุใดมคี วามเฉ่ือยมากหรือน้อย และการใช้กฎการเคล่ือนที่ของนิวตันกับ • การหาแรงลพั ธ์ที่กระทำต่อวัตถุสามารถเขียนเป็นแผนภาพของแรงท่กี ระทำ สภาพการเคลื่อนท่ีของวัตถุ รวมท้ังคำนวณ ต่อวตั ถอุ ิสระได้ ปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง • กรณีที่ไม่มีแรงภายนอกมากระทำ วัตถุจะไม่เปลี่ยนสภาพการเคล่ือนท่ีซึ่ง เป็นไปตามกฎการเคล่อื นทข่ี ้อท่ีหนงึ่ ของนิวตัน • กรณที ี่มีแรงภายนอกมากระทำโดยแรงลพั ธ์ทก่ี ระทำตอ่ วัตถไุ ม่เปน็ ศูนย์ วัตถุ จะมคี วามเรง่ โดยความเร่งมที ศิ ทางเดยี วกับแรงลพั ธ์ ความสัมพันธ์ระหว่าง แรงลัพธ์ มวลและความเรง่ เขยี นแทนได้ด้วยสมการ n ∑ F⃑ i = ma⃑ i=0 ตามกฎการเคลอื่ นท่ขี ้อที่สองของนวิ ตัน • เม่ือวัตถุสองก้อนออกแรงกระทำต่อกัน แรงระหว่างวัตถุท้ังสองจะมี ขนาดเทา่ กัน แต่มีทิศทางตรงข้ามและกระทำต่อวัตถุคนละก้อน เรียกว่า แรงคู่กิริยา-ปฏิกิริยา ซ่ึงเป็นไปตามกฎการเคลื่อนที่ข้อท่ีสามของนิวตัน และเกดิ ข้ึนได้ทั้งกรณที ่วี ตั ถุท้งั สองสัมผัสกันหรือไม่สัมผสั กนั กไ็ ด้ 6. อธิบายกฎความโน้มถ่วงสากลและผลของ • แรงดึงดูดระหว่างมวลเป็นแรงที่มวลสองก้อนดึงดูดซึ่งกันและกันด้วย สนามโน้มถ่วงที่ทำให้วัตถุมีน้ำหนัก รวมท้ัง แรงขนาดเท่ากันแต่ทิศทางตรงข้ามและเป็นไปตามกฎความโน้มถ่วงสากล คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วข้อง เขียนแทนได้ด้วยสมการ FG = G m1m2 R2 • รอบโลกมีสนามโน้มถ่วงทำให้เกิดแรงโน้มถ่วง ซ่ึงเป็นแรงดึงดูดของโลกที่ กระทำตอ่ วัตถุ ทำให้วตั ถมุ ีน้ำหนกั 7. วิเคราะห์ อธิบาย และคำนวณแรงเสียดทาน • แรงที่เกิดข้ึนที่ผิวสัมผัสระหว่างวัตถุสองก้อนในทิศทางตรงข้ามกับทิศทาง ระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หน่ึง ๆ ในกรณีท่ี การเคลื่อนท่ี หรือแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่ของวัตถุ เรียกว่า แรงเสียดทาน วัตถุหยุดน่ิงและวัตถุเคลื่อนท่ี รวมทั้งทดลอง แรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสคู่หนึ่ง ๆ ข้ึนกับสัมประสิทธ์ิความเสียดทาน ม.4 หาสัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่าง และแรงปฏิกิริยาต้ังฉากระหว่างผวิ สัมผัสคู่น้นั ๆ ผิวสมั ผัสของวตั ถคุ หู่ นึง่ ๆ และนำความร้เู รอื่ ง • ขณะออกแรงพยายามแต่วัตถุยังคงอยู่นิ่งแรงเสียดทานมีขนาดเท่ากับ แรงเสยี ดทานไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน แรงพยายามท่ีกระทำตอ่ วตั ถุน้นั และแรงเสียดทานมีค่ามากที่สดุ เมื่อวตั ถุเร่ิม เคลื่อนที่ เรียกแรงเสียดทานนี้ว่า แรงเสียดทานสถิต แรงเสียดทานที่ กระทำต่อวัตถุขณะกำลังเคลื่อนที่ เรียกว่า แรงเสียดทานจลน์ โดยแรง เสยี ดทานทีเ่ กิดระหวา่ งผวิ สัมผัสของวตั ถคุ ู่หน่ึง ๆ คำนวณได้จากสมการ fs ≤ μsN fk = μkN • การเพิ่มหรือลดแรงเสียดทานมีผลต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งสามารถ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั 16. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ •การเคลอื่ นทีแ่ นวโค้งพาราโบลาภายใต้สนามโน้มถ่วง โดยไม่คิดแรงต้านของ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 8 ชน้ั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรเู้ พ่ิมเติม ที่เก่ียวข้องกับการเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ อากาศเป็นการเคล่ือนทีแ่ บบโพรเจกไทล์ วตั ถุมกี ารเปลีย่ นตำแหนง่ ในแนวด่ิง และทดลองการเคลอ่ื นที่แบบโพรเจกไทล์ และแนวระดบั พร้อมกนั และเป็นอิสระต่อกัน สำหรับการเคลื่อนทีใ่ นแนวดิ่ง เป็นการเคลอ่ื นที่ที่มแี รงโน้มถว่ งกระทำจึงมีความเรว็ ไม่คงตัว ปริมาณต่าง ๆ มีความสมั พนั ธ์ตามสมการ vy = uy + ayt ∆y = (uy+vy) t 2 ∆y = uyt + 1 ayt2 2 vy2 = u2y + 2ay∆y • ส่วนการเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีแรงกระทำจึงมีความเร็วคงตัว ตำแหน่ง ความเรว็ และเวลา มคี วามสมั พันธต์ ามสมการ ∆x = uxt 17. ทดลองและอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างแรง •วัตถุที่เคลื่อนที่เป็นวงกลมหรือส่วนของวงกลม เรียกว่า วัตถุนั้นมีการ สู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคล่ือนที่ อัตราเร็ว เคล่ือนท่ีแบบวงกลม ซ่ึงมีแรงลัพธ์ที่กระทำกับวัตถุในทิศเข้าสู่ศูนย์กลาง เชิงเส้น อัตราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุใน เรียกว่า แรงสู่ศูนย์กลาง ทำให้เกดิ ความเรง่ สู่ศูนย์กลางที่มีขนาดสัมพันธ์กับ การเคลื่อนทแ่ี บบวงกลมในระนาบระดับ รัศมีของการเคลื่อนท่ีและอัตราเร็วเชิงเส้นของวัตถุ ซึ่งแรงสู่ศูนย์กลาง รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แ ล ะ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใช้ ค ว า ม รู้ ก า ร เค ล่ื อ น ท่ี แ บ บ คำนวณได้จากสมการ Fc = mv2 วงกลมในการอธบิ ายการโคจรของดาวเทียม r •นอกจากนก้ี ารเคลอื่ นทแ่ี บบวงกลมยังสามารถอธิบายได้ด้วยอัตราเรว็ เชิงมุม ซ่ึงมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงเส้นตามสมการ v = ωr และแรงสู่ ศนู ยก์ ลางมคี วามสัมพันธก์ ับอัตราเร็วเชงิ มมุ ตามสมการ Fc = mω2r •ดาวเทียมทีโ่ คจรในแนววงกลมรอบโลกมีแรงดงึ ดูดที่โลกกระทำตอ่ ดาวเทียม เปน็ แรงสู่ศูนย์กลาง ดาวเทยี มทโี่ คจรค้างฟา้ ในระนาบของเส้นศนู ยส์ ตู รมคี าบ การโคจรเท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของโลก หรือมีอัตราเร็วเชิงมุม เท่ากับอัตราเร็วเชิงมุมของตำแหน่งบนพื้นโลก ดาวเทียมจึงอยู่ตรงกับ ตำแหนง่ ทก่ี ำหนดไว้บนพืน้ โลก * สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, ตัวชี้วดั และสาระการเรียนร้แู กนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พ.ศ. 2551. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ ุมนุม สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, 2560) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 9 ผงั มโนทัศน์ รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 1 รหัสวชิ า ว31201 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ช่อื หนว่ ยที่ 1 การศึกษาวิชาฟสิ ิกส์ ช่อื หน่วยที่ 2 การเคลื่อนท่ใี นแนวตรง จำนวน 8 ช่วั โมง : ….. คะแนน จำนวน 20 ชัว่ โมง : ….. คะแนน รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 80 ชว่ั โมง ชือ่ หนว่ ยที่ 3 แรงและกฎการเคลอ่ื นที่ ชอ่ื หนว่ ยที่ 4 การเคล่ือนทีแ่ นวโคง้ จำนวน 28 ชวั่ โมง : ….. คะแนน จำนวน 24 ช่วั โมง : ….. คะแนน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 10 ผงั มโนทัศน์ 1 รายวชิ า ฟิสิกส์ 1 รหสั วชิ า ว31201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง การศกึ ษาวิชาฟิสิกส์ จำนวน 8 ช่วั โมง : .................... คะแนน 1. ชื่อเรอื่ ง ธรรมชาติของฟิสิกส์ จำนวน 2 ช่ัวโมง : ….. คะแนน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง การศกึ ษาวชิ าฟิสิกส์ จำนวน 8 ชัว่ โมง 2. ชื่อเรื่อง การวัดปริมาณและหนว่ ยทางฟิสกิ ส์ 3. ชื่อเร่ือง เลขนยั สำคัญ จำนวน 3 ชว่ั โมง : ….. คะแนน จำนวน 3 ช่ัวโมง : ….. คะแนน จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 11 ผังมโนทัศน์ 2 รายวิชา ฟสิ ิกส์ 1 รหัสวชิ า ว31201 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง การเคลือ่ นทใ่ี นแนวตรง จำนวน 20 ชวั่ โมง : .................... คะแนน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง การเคลือ่ นท่ีในแนวตรง จำนวน 20 ชัว่ โมง 1. ช่ือเร่อื ง ปริมาณที่เกีย่ วกบั การ 4. ชื่อเร่อื ง กราฟแสดงความสมั พันธร์ ะหวา่ ง เคล่ือนท่ขี องวตั ถุ ปรมิ าณตา่ ง ๆ ของการเคล่ือนทแ่ี นวตรง จำนวน 2 ชวั่ โมง : ….. คะแนน จำนวน 3 ชัว่ โมง : ….. คะแนน 2. ชื่อเรื่อง เครือ่ งเคาะสัญญาณเวลา จำนวน 2 ชัว่ โมง : ….. คะแนน 5. ช่ือเร่อื ง การเคล่อื นที่ของวตั ถุกรณี ความเร่งคงตวั จำนวน 3 ช่ัวโมง : ….. คะแนน 3. ช่ือเรื่อง ความเร่ง 6. ช่อื เรอ่ื ง วตั ถุตกแบบอิสระดว้ ย จำนวน 3 ชัว่ โมง : ….. คะแนน ความเร่งคงตวั จำนวน 5 ชัว่ โมง : ….. คะแนน 7. ชอื่ เรือ่ ง ความเรว็ สัมพทั ธ์ จำนวน 2 ช่วั โมง : ….. คะแนน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 12 ผังมโนทัศน์ 3 รายวชิ า ฟสิ ิกส์ 1 รหสั วชิ า ว31201 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 เร่ือง แรงและกฎการเคลือ่ นท่ี จำนวน 28 ช่ัวโมง : .................... คะแนน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง แรงและกฎการเคลอื่ นท่ี จำนวน 28 ชั่วโมง 1. ช่ือเร่อื ง แรงและแรงลพั ธ์ 3. ชื่อเร่อื ง กฎแรงดึงดูดระหวา่ งมวลของนวิ ตัน จำนวน 3 ชว่ั โมง : ….. คะแนน จำนวน 6 ชว่ั โมง : ….. คะแนน 2. ชื่อเรอื่ ง กฎการเคล่อื นทีข่ องนวิ ตัน 4. ชื่อเรอ่ื ง แรงตัง้ ฉากและแรงเสยี ดทาน จำนวน 8 ช่วั โมง : ….. คะแนน จำนวน 6 ชัว่ โมง : ….. คะแนน 5. ช่ือเร่อื ง การประยุกตใ์ ช้กฎการเคลอื่ นที่ของนวิ ตัน จำนวน 5 ชว่ั โมง : ….. คะแนน จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 13 ผังมโนทศั น์ 4 รายวิชา ฟิสกิ ส์ 1 รหัสวชิ า ว31201 ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่อง การเคลื่อนทแ่ี นวโค้ง จำนวน 24 ชว่ั โมง : .................... คะแนน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การเคล่ือนที่แนวโค้ง จำนวน 24 ชวั่ โมง 1. ช่ือเรอ่ื ง การเคล่ือนท่ีแบบโพรเจคไทล์ 2. ช่ือเรอ่ื ง การเคลื่อนที่แบบวงกลม จำนวน 12 ชั่วโมง : ….. คะแนน จำนวน 12 ชว่ั โมง : ….. คะแนน จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 14 โครงสรา้ งรายวิชา ฟิสกิ ส์ 1 ม.4 ภาคเรยี นที่ 1/2564 ลำดบั ชื่อหนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา เรยี นรู้ (ชม.) 1. การศกึ ษาวิชา 1. สืบค้นและอธิบายการค้นหาความรู้ ฟิสิกส์เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับ 8 ฟสิ ิกส์ ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา สสาร พลังงาน อันตรกิริยาระหว่างสสารกับพลังงาน รวมทั้งพัฒนาการของหลักการและ และแรงพนื้ ฐานในธรรมชาติ แนวคิดทางฟิสิกส์ที่มีผลต่อการ การค้นคว้าหาความรู้ทางฟิสิกส์ได้มาจากการสงั เกต แสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนา การทดลอง และเก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ หรือ เทคโนโลยีได้ จากการสร้างแบบจำลองทางความคิด เพ่ือสรุปเป็น 2. วัดและรายงานผลการวัดปริมาณทาง ทฤษฎี หลักการหรือกฎ ซึ่งสามารถนำไปใช้อธิบาย ฟิสิกส์ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนำ ปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือทำนายส่ิงท่อี าจจะเกดิ ขึน้ ใน ความคลาดเคลื่อนในการวัดมา อนาคต โดยประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ พิจารณาในการนำเสนอผล รวมทั้ง หลักการ และแนวคิดทางฟิสิกส์เป็นพ้ืนฐานในการ แสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ แสวงหา ความรู้ใหม่เพิ่มเติม รวมถึงการพัฒนาและ วิเคราะห์และแปลความหมายจาก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกม็ สี ว่ นในการค้นหาความรู้ กราฟเสน้ ตรงได้ ใหม่ทางวิทยาศาสตรด์ ว้ ย ความรู้ทางฟิสิกส์ส่วนหน่ึงได้จากการทดลอง ซ่ึง เกี่ยวข้องกับกระบวนการวัดปริมาณ ทางฟิสิกส์ ประกอบด้วยค่าท่ีเป็นตัวเลขและหน่วยวัด โดยสามารถ วัดได้ด้วยเครอื่ งมือต่าง ๆ โดยตรง หรือทางอ้อม หน่วย ที่ใช้ในการวัดปริมาณทางวิทยาศาสตร์ คือ หน่วยใน ระบบเอสไอ ปริมาณที่มีค่าน้อยหรือมากกว่า 1 มาก ๆ นิยมเขียนในรูปของสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ การเขียนโดย ใช้ สัญกรณ์วิทยาศาสตร์เป็นการเขียนเพื่อแสดงจำนวน เลขนยั สำคัญทีถ่ ูกต้อง การทดลองทางฟิสิกส์จะเก่ียวกบั การวัดปริมาณต่าง ๆ การวัดจะมีความคลาดเคล่ือนเสมอ ซึ่งข้ึนอยู่กับ เคร่อื งมือ วิธีการวดั และประสบการณข์ องผวู้ ัด ในการ บันทึกปริมาณท่ไี ด้จากการวัดด้วยจำนวนเลขนยั สำคญั ท่ี เหมาะสมและค่าความคลาดเคลื่อน เพือ่ การนำเสนอผล การเขียนกราฟ และลงข้อสรุป รวมท้ังมีทักษะในการ รายงานการทดลอง โดยการวัดควรเลือกใช้เคร่ืองมือวัด ให้เหมาะสมกับสงิ่ ท่ตี อ้ งการวัด 2. การเคลือ่ นที่ 3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ ปริมาณท่ีเกี่ยวกับการเคล่ือนท่ีของวัตถุ ได้แก่ 20 ในแนวตรง ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็วและความเร่ง โดย และความเร่งของการเคลื่อนที่ของวัตถุ ความเร็วและความเร่งมีท้ังค่าเฉล่ียและค่าขณะหน่ึง ซึ่ง ในแนวตรงที่มีความเร่งคงตัวจากกราฟ คิดในช่วงเวลาสัน้ มาก ๆ เข้าใกล้ศนู ย์ และสมการ รวมทั้งทดลองหาค่ า การอธิบายการเคล่ือนที่ของวัตถุสามารถเขียนอยู่ใน ความเร่งโน้มถ่วงของโลก และคำนวณ รูปกราฟตำแหน่งกับเวลา ความเร็วกั บเวลา หรือ ปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วข้องได้ ความเรง่ กับเวลา โดยความชันของเสน้ กราฟตำแหนง่ กับ เวลาเป็นความเร็ว ความชันของเส้นกราฟความเร็วกับ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 15 ลำดบั ชอ่ื หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา เรียนรู้ (ชม.) เวลาเป็นความเร่ง และพ้ืนที่ใต้เส้นกราฟความเร็วกับ เวลาเป็นการกระจัด ในกรณีที่ผู้สังเกตมีความเร็ว ความเร็วของวัตถุที่สังเกตได้เป็นความเร็วท่ีเทียบกับ ผู้ สังเกต ส่วนการเคล่ือนท่ีของวัตถุในแนวตรงกรณีที่มี ความเร่งคงที่ สามารถอธิบายได้โดยใช้สมการจลน์ ศาสตร์ 4 สมการ การตกแบบเสรีเป็นตัวอย่างหน่ึงของการเคล่ือนท่ีใน หน่ึงมิตทิ ีม่ คี วามเรง่ เท่ากบั ความเร่งโนม้ ถ่วงของโลก 3. แรงและกฎการ 4. ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธ์ แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์จึงมีท้ังขนาด และทิศทาง 28 เคลื่อนท่ี ของแรงสองแรงท่ที ำมมุ ตอ่ กนั ได้ กรณีท่ีมีแรงหลาย ๆ แรงกระทำต่อวัตถุ สามารถหาแรง 5. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อ ลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุโดยใช้วิธีเขียนเวกเตอร์ของแรง วัตถุอิสระ ทดลองและอธิบายกฎ แบบหางต่อหัว วิธีสร้างรูปส่ีเหล่ียมด้านขนานของแรง การเคลื่อนที่ของนิวตันและการใช้ และวิธคี ำนวณ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันกับสภาพ การเค ล่ือ นที่ ของวัตถุ รวม ท้ั ง ความเฉ่ือยเป็นสมบัติของวัตถุท่ีต้านการเปลี่ยนสภาพ คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง การเคลื่อนท่ีของวัตถุ โดยมีมวลเป็นปริมาณท่ีบอกให้ ได้ ทราบวา่ วตั ถุใดมีความเฉอ่ื ยมากหรือน้อย 6. อธิบายกฎความโน้มถ่วงสากลและ ผลของสนามโน้มถ่วงท่ีทำให้วัตถุมี การหาแรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุสามารถเขียนเป็น แผนภาพของแรงทกี่ ระทำต่อวัตถุอิสระได้ ในกรณีทไ่ี มม่ ี นำ้ หนัก รวมท้ังคำนวณปริมาณต่าง แรงภายนอกมากระทำตอ่ วัตถุ หรือแรงที่กระทำต่อวัตถุ ๆ ท่เี กยี่ วข้องได้ เป็นศูนย์ วตั ถุจะไม่เปล่ียนสภาพการเคล่ือนท่ีซึ่งเป็นไป 7. วิเคราะห์ อธิบาย และคำนวณแรง ตามกฎการเคลื่อนท่ีข้อที่หน่ึงของนิวตัน แต่ถ้ามีแรง เสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุ ภายนอกมากระทำต่อวัตถุ โดยแรงลัพธ์ทก่ี ระทำต่อวัตถุ คู่หน่ึง ๆ ในกรณีท่ีวัตถุหยุดนิ่งและ ไม่เป็นศูนย์ วัตถุจะมีความเร่ง โดยความเร่งมีทิศทาง วัตถุเคลื่อนท่ี รวมท้ังทดลองหา เดยี วกบั แรงลัพธ์ ซึ่งเปน็ ไปตามกฎการเคล่ือนท่ขี ้อที่สอง สมั ประสิทธค์ิ วามเสียดทานระหว่าง ของนิวตัน ผิวสัมผัสของวัตถุคู่หน่ึง ๆ และนำ เม่ือวัตถุสองก้อนออกแรงกระทำต่อกัน จะเกิดแรง ความรู้เรื่องแรงเสียดทานไปใช้ใน กิริยาและแรงปฏิกิรยิ า โดยแรงท้ังสองจะมีขนาดเท่ากัน แต่มีทิศทางตรงข้ามและกระทำต่อวัตถุคนละก้อน ชีวิตประจำวนั ได้ เรียกว่า แรงคู่กิริยา-ปฏิกิริยา ซึ่งเป็นไปตามกฎการ เคลือ่ นทข่ี ้อท่สี ามของนิวตัน และเกิดข้ึนไดท้ ง้ั กรณีทวี่ ัตถุ ทั้งสองสัมผสั กนั หรอื ไมส่ ัมผสั กันกไ็ ด้ วัตถุคู่หนึ่งจะมีแรงกระทำต่อกัน แรงน้ีเป็นแรงดึงดูด ระหว่างมวลเป็นแรงท่ีมวลสองก้อนดึงดูดซ่ึงกันและกัน ด้วยแรงขนาดเท่ากันในแนวเดียวกันแต่ทิศทางตรงข้าม และเป็นไปตามกฎความโน้มถ่วงสากล แรงท่ีเกิดข้ึนท่ีผิวสัมผัสระหว่างวัตถุสองก้อนในทิศ ทางตรงข้ามกับทิศทางการเคล่ือนท่ี หรือแนวโน้มท่ีจะ เคลื่อนท่ีของวัตถุ เรียกว่า แรงเสียดทาน ซ่ึงแรงเสียด ทานระหว่างผิวสมั ผัสคู่หน่ึง ๆ จะข้ึนอยู่กบั สัมประสิทธ์ิ ความเสียดทานและแรงปฏิกิริยาตงั้ ฉากระหว่างผวิ สัมผสั คู่น้ัน ๆ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 16 ลำดับ ชอ่ื หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา เรียนรู้ (ชม.) ขณะวตั ถยุ ังคงอยู่นิ่ง แรงเสยี ดทานมขี นาดเพม่ิ ขึ้นตาม แรงท่ีกระทำต่อวัตถุนั้น และจะมีค่ามากท่ีสุด เมื่อวัตถุ เริม่ เคลื่อนท่ี เรยี กแรงเสียดทานทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุขณะอยู่ นิ่งว่า แรงเสียดทานสถิต และเรียกแรงเสียดทานท่ี กระทำตอ่ วัตถขุ ณะกำลงั เคลื่อนที่ว่า แรงเสียดทานจลน์ 4 การเคล่อื นที่แนว 8. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณ การเคลื่อนท่ีของวัตถุท่ีมีเส้นทางเป็นโค้งพาราโบลา 24 โค้ง ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการ ภายใต้สนามโน้มถ่วง โดยไม่คิดแรงต้านของอากาศเป็น เคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ และ การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ ซ่ึงพิจารณาได้ว่าวัตถุมี ทดลองการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจก การเปลี่ยนตำแหน่งในแนวด่ิงและแนวระดับพร้อมกัน ไทล์ได้ และเป็นอิสระต่อกนั ส่วนการเคล่อื นทใ่ี น แนวระดับไมม่ ี 9. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ แรงกระทำจึงเป็นการเคลอ่ื นท่ที ม่ี ีความเร็วคงตวั ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการ วัตถุท่ีเคล่ือนที่เป็นวงกลมหรือส่วนของวงกลม เคลื่อนท่ี อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็ว เรียกว่า เป็นการเคลื่อนที่แบบวงกลม ซึ่งมีแรงลัพธ์ที่ เชิงมุ ม และมวลของวัตถุในการ กระทำกับวัตถุในทิศเข้าสู่ศูนย์กลาง เรียกว่า แรงสู่ เคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดับ ศูนย์กลาง ทำให้เกิดความเร่งสู่ศูนย์กลางที่มีขนาด รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ สัมพันธ์กับรัศมีของการเคลื่อนที่ และอัตราเร็วเชิงเส้น เก่ียวข้อง และประยุกต์ใช้ความรู้การ ของวัตถุ เคลื่อนท่ีแบบวงกลมในการอธิบายการ นอกจากน้ี การเคล่ือนที่แบบวงกลมยังสามารถ โคจรของดาวเทยี มได้ อธิบายได้ด้วยอัตราเร็วเชิงมุม ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ อตั ราเร็วเชิงเส้น และแรงสู่ศูนย์กลางมีความสมั พันธ์กับ อัตราเร็วเชิงมุม การเคล่ือนที่ในแนววงกลม ได้แก่ การ เคล่ือนท่ีของรถบนถนนโค้ง และดาวเทียมที่โคจรเป็น แนววงกลมรอบโลก จำนวนช่ัวโมงเรียน รวมท้ังหมด 80 จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

โครงสรา้ งแผนการจัดการเรยี นรู้ ฟิสิกส์ หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอ 1. การศึกษาวิชาฟิสกิ ส์ วธิ กี ารสอน/เทคนคิ แผนที่ 1 ธรรมชาติและสาขา ความรูข้ องฟิสกิ ส์ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) แผนท่ี 2 การวัดปรมิ าณและ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es หนว่ ยทางฟิสิกส์ (5Es Instructional Model) กลุ่มส

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 17 1 ม.4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 80 ช่วั โมง อน/ ทกั ษะทไี่ ด้ การประเมิน เวลา (ช่ัวโมง) - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2 ) - ทักษะการสือ่ สาร - สังเกตการอภิปรายเกี่ยวกบั - ทกั ษะการทำงานร่วมกัน ธรรมชาตขิ องฟิสกิ ส์ - ตรวจใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ธรรมชาติ ของฟิสิกส์ - ตรวจผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง ธรรมชาติ ของฟสิ ิกส์ - ตรวจการทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 1 เร่ือง ธรรมชาติของ ฟิสิกส์ - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 1.1 เรอื่ ง ธรรมชาตขิ องฟิสิกส์ - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 2.1 เรื่อง สาขาความรู้ของวชิ าฟิสิกส์ - ทักษะการวิเคราะห์ - ตรวจการนำเสนอขอ้ มลู ระบบ 3 ) - ทกั ษะการส่ือสาร หน่วยท่ีใชใ้ นทางฟิสิกส์ท่ีได้จาก - ทักษะการทำงานร่วมกัน การสบื ค้น - ทักษะการนำความรูไ้ ปใช้ - ตรวจผังมโนทศั น์ เรื่อง การวดั ปรมิ าณและหน่วยทางฟสิ กิ ส์ - ตรวจใบงานที่ 1.2 เร่อื ง หน่วย ของการวัด - ตรวจการทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 1 เรือ่ ง การวดั ปรมิ าณ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอ วิธีการสอน/เทคนิค แผนที่ 3 เลขนยั สำคญั แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) 2. การเคล่อื นที่ในแนวตรง แผนท่ี 1 ปรมิ าณท่เี กย่ี วกับ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es การเคล่ือนทข่ี องวตั ถุ (5Es Instructional Model) กลุม่ ส

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 18 อน/ ทักษะทไี่ ด้ การประเมิน เวลา (ช่ัวโมง) และหนว่ ยทางฟิสกิ ส์ - ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 3.1 เรอ่ื ง การ วดั ปริมาณทางกายภาพในเชิง ฟสิ กิ ส์ - ทักษะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 3 ) - ทักษะการสงั เกต - ตรวจการนำเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกับ - ทักษะการสอ่ื สาร เลขนัยสำคญั - ทักษะการทำงานร่วมกนั - สงั เกตการทำกิจกรรมการหา - ทกั ษะการนำความร้ไู ปใช้ ปรมิ าตรของหนงั สอื เรียน - ทักษะการคิดอยา่ งมี - ตรวจผังมโนทัศน์ เรอื่ ง เลข วจิ ารณญาณ นัยสำคญั - ตรวจใบงานท่ี 1.3 - ตรวจการทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 1 เรื่อง เลขนยั สำคัญ - ตรวจแบบฝกึ หัดที่ 4.1-4.5 เรื่อง เลขนัยสำคัญและความ คลาดเคล่อื น - ตรวจแบบบนั ทึกกจิ กรรม เรื่อง การหาปรมิ าตรของหนังสือเรียน - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2 ) - ทกั ษะการสังเกต - สงั เกตการอภิปรายเกย่ี วกับ - ทักษะการสอ่ื สาร ความเร็วและอัตราเร็ว - ทกั ษะการทำงานร่วมกนั - ตรวจผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง ปรมิ าณที่ - ทักษะการนำความรูไ้ ปใช้ เกย่ี วกับการเคลอ่ื นท่ีของวัตถุ - ตรวจใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง ปริมาณท่ี เกี่ยวกบั การเคลอ่ื นที่ของวัตถุ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอ วิธกี ารสอน/เทคนคิ แผนที่ 2 เครือ่ งเคาะ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es สัญญาณเวลา (5Es Instructional Model) แผนท่ี 3 ความเร่ง แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) กลมุ่ ส

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 19 อน/ ทักษะทไี่ ด้ การประเมนิ เวลา (ชว่ั โมง) - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 2 เรอื่ ง ปรมิ าณท่ี เกีย่ วกับการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุ - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 1.1-1.3 เรอ่ื ง ปริมาณทเ่ี กี่ยวกับการเคลือ่ นท่ีของ วตั ถุ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - สงั เกตการทำกิจกรรมการวัด 2 ) - ทกั ษะการสงั เกต อัตราเรว็ โดยใช้เคร่ืองเคาะ - ทกั ษะการสอื่ สาร สญั ญาณเวลา - ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั - ตรวจผงั มโนทัศน์ เร่อื ง เคร่อื ง เคาะสัญญาณเวลา - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 2 เรื่อง เครือ่ ง เคาะสญั ญาณเวลา - ตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 2.1-2.2 เร่ือง เครอื่ งเคาะสญั ญาณเวลา - ตรวจแบบบนั ทึกกิจกรรม เรอื่ ง การวัดอตั ราเรว็ โดยใช้เครอื่ งเคาะ สัญญาณเวลา - ทักษะการวิเคราะห์ - สังเกตการอภิปรายเก่ียวกับ 3 ) - ทกั ษะการสังเกต ความเรง่ และความหน่วง - ทกั ษะการสอื่ สาร - ตรวจผงั มโนทศั น์ เรื่อง ความเร่ง - ทักษะการทำงานรว่ มกนั - ตรวจใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง ความเร่ง - ทักษะการนำความรูไ้ ปใช้ - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 2 เร่อื ง ความเร่ง - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 3.1-3.2 เรือ่ ง จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอ วิธกี ารสอน/เทคนิค แผนท่ี 4 กราฟแสดง แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es ความสมั พันธ์ ระหว่าง (5Es Instructional Model) ปริมาณต่าง ๆ ของ การเคลือ่ นทแ่ี นวตรง แผนที่ 5 การเคล่ือนที่ของวัตถุ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es กรณีความเร่งมีค่าคง (5Es Instructional Model) ตวั กลุม่ ส

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 20 อน/ ทกั ษะที่ได้ การประเมนิ เวลา (ชว่ั โมง) ความเรง่ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - ตรวจการนำเสนอกราฟแสดง 3 ) - ทักษะการสงั เกต ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งปริมาณต่าง - ทกั ษะการส่ือสาร ๆ ของการเคลอื่ นทแี่ นวตรง - ทักษะการทำงานรว่ มกัน - ตรวจผังมโนทศั น์ เรอื่ ง กราฟ แสดงความสัมพันธ์ระหวา่ ง ปรมิ าณตา่ ง ๆ ของการเคลอื่ นที่ แนวตรง - ตรวจการทำแบบฝกึ หัดจาก Unit Question 2 เร่อื ง กราฟแสดง ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งปรมิ าณต่าง ๆ ของการเคล่อื นที่แนวตรง - ตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 4.1-4.2 เรอื่ ง กราฟแสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง ปริมาณต่าง ๆ ของการเคล่ือนที่ แนวตรง - ทกั ษะการวิเคราะห์ - ตรวจการนำเสนอผงั มโนทศั น์ 3 ) - ทักษะการสังเกต เรอื่ ง การเคลื่อนที่ของวตั ถุกรณี - ทักษะการส่ือสาร ความเร่งมีคา่ คงตัว - ทักษะการทำงานร่วมกนั - ตรวจใบงานท่ี 2.5 เร่ือง การ - ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้ เคลื่อนท่ีของวตั ถกุ รณคี วามเร่งมี คา่ คงตัว - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 2 เรอ่ื ง การเคลือ่ นท่ี ของวตั ถุกรณีความเร่งมีค่าคงตวั - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 5.1 เรื่อง การ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอ วธิ กี ารสอน/เทคนิค แผนท่ี 6 วัตถุตกแบบอสิ ระด้วย แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es ความเรง่ คงตัว (5Es Instructional Model) แผนที่ 7 ความเรว็ สัมพัทธ์ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) กลุม่ ส

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 21 อน/ ทักษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา (ชัว่ โมง) เคล่ือนที่ของวตั ถุกรณคี วามเร่งมี คา่ คงตัว - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - สังเกตการทำกจิ กรรมการ 5 ) - ทักษะการสงั เกต เคล่อื นทขี่ องวตั ถทุ ี่ตกแบบอสิ ระ - ทักษะการส่อื สาร - สงั เกตการอภิปรายเก่ียวกบั วตั ถุ - ทักษะการทำงานรว่ มกนั ตกแบบอิสระดว้ ยความเร่งคงตวั - ทักษะการนำความรู้ไปใช้ ในชีวิตประจำวัน - ตรวจใบงานที่ 2.6 เรือ่ ง วัตถุตกแบบ อิสระดว้ ยความเร่งคงตัว - ตรวจการทำแบบฝกึ หัดจาก Unit Question 2 เรือ่ ง วัตถุตกแบบ อิสระด้วยความเรง่ คงตวั - ตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 6.1-6.2 เรื่อง วัตถุตกแบบอิสระด้วยความเรง่ คงตัว - ตรวจแบบบันทกึ กิจกรรม เร่อื ง การเคลอื่ นท่ขี องวตั ถุท่ีตกแบบ อิสระ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 2 ) - ทกั ษะการสังเกต - สงั เกตการอภปิ รายเกี่ยวกบั - ทกั ษะการสื่อสาร ความเร็วสมั พทั ธ์ - ทักษะการทำงานรว่ มกนั - ตรวจผงั มโนทศั น์ เร่ือง ความเรว็ - ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ สัมพทั ธ์ - ตรวจใบงานท่ี 2.7 เรือ่ ง ความเร็ว สัมพัทธ์ - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 7.1-7.3 เรื่อง ความเรว็ สัมพัทธ์ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอ 3. แรงและกฎการเคลื่อนท่ี แผนท่ี 1 แรงและแรงลัพธ์ วธิ ีการสอน/เทคนิค แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) แผนท่ี 2 กฎการเคลื่อนที่ของ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es นิวตัน (5Es Instructional Model) กลุม่ ส

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 22 อน/ ทักษะทไ่ี ด้ การประเมิน เวลา (ชัว่ โมง) - ทกั ษะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3 ) - ทักษะการสังเกต - สงั เกตการทำกจิ กรรมการหา - ทกั ษะการสอ่ื สาร ขนาดและทิศทางของแรงลพั ธ์ - ทักษะการทำงานร่วมกัน - ตรวจผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง แรง - ทักษะการนำความรไู้ ปใช้ - สงั เกตการอภปิ ราย เร่อื ง มวลเฉ่ือย - ตรวจใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง แรงและ แรงลพั ธ์ - ตรวจการทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 3 - ตรวจแบบฝึกหัดท่ี 1.1-1.5 เรือ่ ง แรง - ตรวจแบบบันทึกกจิ กรรม เรื่อง การหาขนาดและทศิ ทางของ แรง ลพั ธ์ - ทกั ษะการวิเคราะห์ - สังเกตการทำกิจกรรมแรงกบั 8 ) - ทกั ษะการสังเกต ความเร่ง - ทกั ษะการส่อื สาร - ตรวจผังมโนทัศน์ เรอื่ ง กฎการ - ทกั ษะการทำงานร่วมกัน เคลอ่ื นท่ขี องนวิ ตัน - ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ - สงั เกตการอภิปราย เรือ่ ง แรงดงึ - ทกั ษะการคิดอย่างมี ในเส้นเชือก วิจารณญาณ - ตรวจใบงานท่ี 3.2 เร่ือง กฎการ เคล่ือนทีข่ องนวิ ตัน - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 3 เร่อื ง กฎการ เคล่ือนท่ีของนิวตัน - ตรวจแบบฝึกหัดท่ี 2.1-2.2 เรื่อง จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอ วิธกี ารสอน/เทคนิค แผนท่ี 3 กฎแรงดงึ ดดู ระหวา่ ง แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es มวลของนิวตัน (5Es Instructional Model) แผนที่ 4 แรงปฏิกริ ิยาตง้ั ฉาก แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es และแรงเสยี ดทาน (5Es Instructional Model) กลุม่ ส

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 23 อน/ ทักษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา (ชั่วโมง) กฎการเคล่ือนทข่ี องนวิ ตนั - ตรวจแบบบันทึกกิจกรรม เร่อื ง แรงกับความเร่ง - ทักษะการวิเคราะห์ - ตรวจการนำเสนอข้อมลู การวัด 6 ) - ทกั ษะการสังเกต ค่าแรงดึงดูดระหวา่ งมวลของ - ทักษะการสอื่ สาร คาเวนดชิ - ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั - สงั เกตการอภปิ รายเรอื่ งความเรง่ เนอ่ื งจากความโน้มถว่ งของโลก - ตรวจผังมโนทศั น์ เรื่อง กฎแรง ดึงดูดระหว่างมวลของนวิ ตนั - ตรวจใบงานท่ี 3.3 เร่ือง กฎแรง ดึงดดู ระหว่างมวลของนวิ ตนั - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 3 เรอ่ื ง กฎแรงดงึ ดดู ระหวา่ งมวลของนวิ ตัน - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 3.1 เรอ่ื ง กฎแรงดงึ ดดู ระหวา่ งมวลของนิว ตัน - ทักษะการวเิ คราะห์ - ตรวจการนำเสนอผลงานเรอ่ื งแรง 6 ) - ทักษะการสงั เกต เสียดทานในชีวติ ประจำวนั - ทกั ษะการส่อื สาร - ตรวจผังมโนทัศน์ เร่ือง แรง - ทักษะการทำงานร่วมกนั ปฏกิ ริ ิยาตั้งฉากและแรงเสยี ดทาน - ทักษะการนำความรู้ไปใช้ - สงั เกตการทำกิจกรรมแรงเสียดทาน - ตรวจใบงานท่ี 3.4 เร่อื ง แรงปฏกิ ริ ยิ า ต้งั ฉากและแรงเสยี ดทาน - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอ วธิ ีการสอน/เทคนิค แผนที่ 5 การประยุกต์ใช้กฎการ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es เคล่ือนท่ขี องนวิ ตัน (5Es Instructional Model) 4. การเคลอื่ นท่ีแนวโค้ง แผนท่ี 1 การเคลอื่ นทแ่ี บบ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es โพรเจกไทล์ (5Es Instructional Model) กลุม่ ส

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 24 อน/ ทกั ษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา (ช่วั โมง) Question 3 เรื่อง แรงปฏิกริ ิยาต้ัง ฉากและแรงเสียดทาน - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 4.1-4.3 เรอ่ื ง แรงปฏกิ ิรยิ าตั้งฉากและแรงเสียด ทาน - ตรวจแบบบันทกึ กจิ กรรม เร่ือง แรงเสยี ดทาน - ทักษะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 5 ) - ทกั ษะการสงั เกต - สงั เกตการอภปิ รายเรื่องการช่ัง - ทกั ษะการสอื่ สาร นำ้ หนักในลฟิ ต์ - ทักษะการทำงานรว่ มกัน - ตรวจผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง การ - ทักษะการนำความรู้ไปใช้ ประยุกต์ใช้กฎการเคลื่อนที่ของนวิ ตัน - ตรวจใบงานที่ 3.5 เร่ือง การ ประยุกต์ใช้กฎการเคลอ่ื นทข่ี องนวิ ตนั - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit Question 3 เรอ่ื ง การ ประยกุ ต์ใชก้ ฎการเคลอื่ นท่ีของนิว ตัน - ตรวจแบบฝึกหัดที่ 5.1-5.2 เร่อื ง การประยุกต์ใชก้ ฎการเคลือ่ นท่ี ของนิวตัน - ทักษะการวเิ คราะห์ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 12 ) - ทกั ษะการสงั เกต - ตรวจผลงานการนำเสนอเรอ่ื ง - ทักษะการสื่อสาร การเคลอื่ นทแี่ บบโพรเจกไทล์ใน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอ วิธีการสอน/เทคนิค แผนที่ 2 การเคลอื่ นทแ่ี บบ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es วงกลม (5Es Instructional Model) กลุ่มส

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 25 อน/ ทกั ษะที่ได้ การประเมนิ เวลา (ชว่ั โมง) - ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั ชวี ิตประจำวนั - ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ - สงั เกตการทำกจิ กรรมการศกึ ษาการ - ทกั ษะการคิดอย่างมี เคลอื่ นท่แี บบโพรเจกไทล์ วจิ ารณญาณ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง การ เคลอ่ื นทแี่ บบโพรเจกไทล์ - ตรวจใบงานท่ี 4.1 เร่ือง การ เคลือ่ นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ - ตรวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 3 เรอ่ื ง การเคลอื่ นที่ แบบโพรเจกไทล์ - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 1.1-1.3 เรือ่ ง การ เคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์ - ตรวจแบบบันทึกกจิ กรรม เรอ่ื ง การศึกษาการเคลือ่ นท่ีแบบ โพรเจกไทล์ - ทกั ษะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 12 ) - ทักษะการสงั เกต - ตรวจผลงานการนำเสนอ เร่ือง - ทักษะการสอ่ื สาร การเคล่ือนท่ีแบบวงกลมใน - ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน ชีวติ ประจำวนั - ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ - สังเกตการทำกิจกรรมการศึกษาการ - ทกั ษะการคิดอยา่ งมี เคลอ่ื นท่แี บบวงกลม วจิ ารณญาณ - ตรวจผังมโนทศั น์ เร่อื ง การ เคล่ือนท่ีแบบวงกลม - ตรวจใบงานที่ 4.2 เรอื่ ง การ เคล่อื นทีแ่ บบวงกลม - ตรวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอ วิธกี ารสอน/เทคนิค กลมุ่ ส

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 26 อน/ ทกั ษะทไี่ ด้ การประเมิน เวลา (ชวั่ โมง) Question 3 เรอ่ื ง การเคล่ือนท่ี แบบวงกลม - ตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 2.1-2.3 เรื่อง การเคล่อื นทแ่ี บบวงกลม - ตรวจแบบบันทกึ กิจกรรม เรอื่ ง การศึกษาการเคลอ่ื นทแี่ บบวงกลม จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 การศกึ ษาวชิ าฟิสิกส์ เวลา 8 ช่ัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปรมิ าณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการเคล่อื นที่ ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัม การเคลือ่ นทีแ่ นวโคง้ รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ได้ 1) สืบค้นและอธิบายการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพัฒนาการของหลักการ และแนวคิดทางฟสิ กิ สท์ ่มี ผี ลต่อการแสวงหาความรูใ้ หม่และการพฒั นาเทคโนโลยีได้ 2) วัดและรายงานผลการวัดปรมิ าณทางฟิสิกสไ์ ดถ้ ูกต้องเหมาะสม โดยนำความคลาดเคลือ่ นในการวัด มาพิจารณาในการนำเสนอผล รวมท้ังแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์และแปลความหมาย จากกราฟเสน้ ตรงได้ 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม 1) ฟิสิกส์เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหน่ึงที่ศึกษาเกี่ยวกับสสาร พลังงาน อันตรกิริยาระหว่างสสารกับพลังงาน และแรงพืน้ ฐานในธรรมชาติ 2) การค้นคว้าหาความรู้ทางฟิสิกส์ได้มาจากการสังเกต การทดลอง และเก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ หรือจากการสรา้ งแบบจำลองทางความคิด เพ่ือสรุปเป็นทฤษฎี หลักการหรอื กฎ ความรู้เหล่านี้สามารถ นำไปใชอ้ ธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือทำนายส่ิงทอี่ าจจะเกดิ ข้นึ ในอนาคต 3) ประวัตคิ วามเป็นมาและพัฒนาการของหลักการและแนวคิดทางฟิสกิ ส์เป็นพน้ื ฐานในการแสวงหาความรู้ ใหม่เพ่ิมเติม รวมถึงการพัฒนาและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็มีส่วนในการค้นหาความรู้ใหม่ทาง วิทยาศาสตร์ด้วย 4) ความรู้ทางฟิสิกส์ส่วนหนึ่งได้จากการทดลอง ซึ่งเก่ียวข้องกับกระบวนการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ ซึ่ง ประกอบดว้ ยตวั เลขและหน่วยวัด 5) ปริมาณทางฟิสิกส์สามารถวัดได้ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ โดยตรงหรือทางอ้อมหน่วยที่ใช้ในการวัดปรมิ าณ ทางวทิ ยาศาสตรค์ ือระบบหนว่ ยระหวา่ งชาติ เรยี กย่อวา่ ระบบเอสไอ 6) ปริมาณทางฟิสิกส์ที่มีค่าน้อยกว่าหรือมากกว่า 1 มาก ๆ นิยมเขยี นในรปู ของสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ หรือ เขียนโดยใช้คำนำหน้าหน่วยของระบบเอสไอ การเขียนโดยใช้สัญกรณ์วิทยาศาสตร์เป็นการเขียนเพ่ือ แสดงจำนวนเลขนัยสำคัญท่ีถกู ตอ้ ง 7) การทดลองทางฟิสิกส์เกี่ยวกับการวัดปริมาณต่าง ๆ การบันทึกปริมาณท่ีได้จากการวัดด้วยจำนวนเลข นัยสำคัญที่เหมาะสมและค่าความคลาดเคลื่อน การวิเคราะห์และการแปลความหมายจากกราฟ เช่น การหาความชันจากกราฟเส้นตรง จดุ ตัดแกนพน้ื ที่ใตก้ ราฟ เปน็ ต้น 8) การวัดปริมาณต่าง ๆ จะมีความคลาดเคล่อื นเสมอขึ้นอยู่กับเครื่องมือ วิธีการวดั และประสบการณ์ของ ผวู้ ดั ซง่ึ คา่ ความคลาดเคลอ่ื นสามารถแสดงในการรายงานผลทั้งในรูปแบบตวั เลขและกราฟ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 2 9) การวัดควรเลือกใช้เคร่ืองมือวัดให้เหมะสมกับสิ่งท่ีต้องการวัด เช่น การวัดความยาวของวัตถุท่ีต้องการ ความละเอยี ดสงู อาจใช้เวอร์เนยี ร์แคลลเิ ปริ ส์ หรอื ไมโครมิเตอร์ 10) ฟิสิกสอ์ าศยั คณติ ศาสตรเ์ ปน็ เครอื่ งมอื ในการศกึ ษาค้นคว้า และการสอ่ื สาร 2.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ฟสิ ิกส์เป็นวิชาวทิ ยาศาสตร์กายภาพสาขาหน่ึงที่เน้นการศึกษาเชงิ ปริมาณ ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์เชิงปฏิบัติ ทฤษฎี หรอื กฎ หรอื หลกั การฟิสกิ ส์ได้มาจากการทดลองและการสงั เกตปรากฏการณธ์ รรมชาติ แล้วพยายามหารูปแบบและ หลักการท่เี ก่ียวข้องกับปรากฏการณ์นั้น ๆ จนเป็นท่ียอมรบั และใช้กันอยา่ งกวา้ งขวาง เพ่ือนำไปสูก่ ารสรา้ งสงิ่ ใหม่ ๆ มาช่วยในการแกป้ ญั หา การสรา้ งเครอ่ื งอำนวยความสะดวก ที่เรยี กวา่ เทคโนโลยี ปริมาณที่อธบิ ายปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ หรือการเปล่ียนแปลงของปริมาณท่ีสังเกตอาจจะความยาว มวล เวลา ความเรง่ และความดนั เป็นต้น ปรมิ าณเหลา่ นจ้ี ะถกู แยกเป็นปรมิ าณฐานและปริมาณอนพุ นั ธ์ การกำหนดหนว่ ยต่าง ๆ จึงต้องกำหนดให้เข้าใจตรงกันโดยใช้ระบบหน่วยระหว่างชาติ (SI Unit) ตัวพหุคูณท่ีใช้เขียนแทนหน่วยฐานหรือ หน่วยอนุพันธท์ ่มี ีค่ามากหรอื นอ้ ยเกินไป เรยี กวา่ คำอปุ สรรค วิชาฟิสิกส์เป็นวิชาที่ต้องทดลอง ค้นหาคำตอบและความจริงมาวิเคราะห์ อธิบาย ความสำคัญของการบันทึก ข้อมูลจึงนับว่าจำเป็น โดยตัวเลขที่ได้จากการวัดจึงมีความสำคัญ และมีความหมาย ตัวเลขเหล่าน้ีจึงมีนัยสำคัญ เรียกว่า เลขนัยสำคัญ แต่ความถูกต้องแม่นยำน้ันจะไม่ 100% เนื่องจากเคร่ืองมือและตัวผู้วัดเอง จึงต้องมีค่า คลาดเคลอื่ น (คา่ ความไม่แน่นอนของการวดั ) 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสงั เกต 3) ทักษะการส่อื สาร 4) ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 5) ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - แบบบนั ทกึ กิจกรรม เรื่อง การหาปริมาตรของหนังสือเรยี น - ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ธรรมชาติของฟสิ กิ ส์ - ใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง การวดั ปรมิ าณและหน่วยทางฟิสกิ ส์ - ใบงานท่ี 1.3 เรือ่ ง เลขนัยสำคญั - ผงั มโนทัศน์ เรื่อง ธรรมชาติและสาขาความรู้ของวชิ าฟิสิกส์ - ผังมโนทศั น์ เรื่อง การวดั ปริมาณและหนว่ ยทางฟิสิกส์ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 3 - ผังมโนทัศน์ เรอื่ ง เลขนยั สำคัญ 6. การวัดและการประเมินผล เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 รายการวัด วิธวี ัด เครือ่ งมือ ผ่านเกณฑ์ 6.1 การประเมินชิ้นงาน/ - ตรวจผังมโนทัศน์ แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ ประเมินตามสภาพจรงิ ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง ธรรมชาตแิ ละ ภาระงาน สาขาความรขู้ องวชิ า รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ฟิสกิ ส์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจผงั มโนทศั น์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เร่ือง การวัดปริมาณ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ และหน่วยทางฟสิ ิกส์ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรื่อง เลขนยั สำคัญ 6.2 การประเมินก่อนเรยี น ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบกอ่ นเรียน - แบบทดสอบกอ่ นเรียน ก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การศึกษาวชิ า ฟสิ ิกส์ 6.3 การประเมินระหว่างการ จดั กจิ กรรม 1) ธรรมชาตแิ ละสาขา - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานที่ 1.1 ความร้ขู องวชิ า - ตรวจแบบฝึกหัดที่ - แบบฝกึ หัดที่ 1.1, 2.1 ฟิสกิ ส์ 1.1, 2.1 2) การวัดปรมิ าณและ - ตรวจใบงานที่ 1.2 - ใบงานที่ 1.2 หน่วยทางฟสิ กิ ส์ - ตรวจแบบฝกึ หัดที่ 3.1 - แบบฝึกหดั ท่ี 3.1 3) เลขนัยสำคญั - ตรวจใบงานที่ 1.3 - ใบงานที่ 1.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หดั ท่ี 4.1-4.5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี - ผลงานทีน่ ำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 4.1-4.5 ผ่านเกณฑ์ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 3) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน การทำงานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2 4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล 5) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม การทำงานกล่มุ การทำงานกลุม่ 6) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี ินัย อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 4 รายการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ในการทำงาน อันพึงประสงค์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 6.4 การประเมนิ หลังเรียน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบหลังเรยี น - แบบทดสอบหลงั เรียน หลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง การศกึ ษาทาง ฟิสิกส์ 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา 2 ช่วั โมง • แผนท่ี 1 : ธรรมชาติของฟสิ ิกส์ เวลา 3 ชั่วโมง วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 3 ช่ัวโมง • แผนท่ี 2 : การวัดปริมาณและหนว่ ยทางฟสิ ิกส์ (รวม 8 ชวั่ โมง) วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนท่ี 3 : เลขนยั สำคัญ วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 8. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวชิ าเพมิ่ เติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นท่ี 1 การศึกษาทางฟสิ กิ ส์ 2) ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ธรรมชาติของฟสิ กิ ส์ 3) ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง การวัดปริมาณและหนว่ ยทางฟสิ กิ ส์ 4) ใบงานที่ 1.3 เรอื่ ง เลขนยั สำคญั 5) แบบฝกึ หดั หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 การศึกษาทางฟิสิกส์ 6) PowerPoint เร่อื ง ฟิสิกส์ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) ห้องสมุด 3) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 5 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดต่อไปน้ีเป็นส่ิงท่ีนักวิทยาศาสตร์ใช้พิสูจน์ 6. นักเรยี นคนหนงึ่ ใชไ้ มโครมเิ ตอร์วัดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม ความจรงิ ตา่ ง ๆ ได้ 3.004 มิลลเิ มตร ค่าท่ีวัดไดจ้ ะมีเลขนยั สำคญั ก่ตี ัว 1. ความเชอื่ 2. ทฤษฎี 1. 1 ตวั 2. 2 ตัว 3. การสังเกต 4. การทดลอง 3. 3 ตวั 4. 4 ตวั 5. การบันทกึ ข้อมลู 5. 5 ตวั 2. ต้นวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของเหรียญอันหน่ึง 3 ครั้ง 7. ข้อใดคือผลรวมของ 2.50 มิลลิเมตร และ 7.2 เซนติเมตร ได้เท่ากับ 2.542, 2.532 และ 2.54 เซนติเมตร ตามหลักเลขนยั สำคัญ คา่ เฉลีย่ ของเหรยี ญเปน็ เท่าไร 1. 7.4 เซนตเิ มตร 2. 7.45 เซนติเมตร 1. 2.54 เซนตเิ มตร 3. 7.450 เซนติเมตร 4. 7.5 เซนตเิ มตร 2. 2.542 เซนติเมตร 5. 7.55 เซนตเิ มตร 3. 2.53 เซนติเมตร 8. จงหาผลรวมของ 3.15 × 10-3 และ 7.54 × 10-2 ตามหลัก 4. 2.532 เซนติเมตร เลขนยั สำคัญ 5. 2.538 เซนติเมตร 1. 7.855 × 10-3 2. 78.55 × 10-3 3. ข้อใดคือปรมิ าณเวกเตอรท์ ง้ั หมด 3. 7.86 × 10-2 4. 10.94 × 10-2 1. มวล น้ำหนกั พลงั งาน 5. 7.855 × 10-4 2. ความเรว็ ความเรง่ การกระจดั 9. เลขนัยสำคญั คืออะไร 3. โมเมนตัม แรง พลงั งาน 1. เลขที่วดั ได้จรงิ ๆ จากเคร่ืองมือวดั 4. ความเร่ง การกระจดั ระยะทาง 2. เลขท่ีอ่านได้จากเคร่ืองมือวัดแบบขีดสเกลรวมกับตัวเลขที่ 5. เวลา ปริมาตร ความหนาแน่น ประมาณอีก 1 ตัว 4. ความยาว 0.000007 เมตร มีคา่ ตรงกบั ข้อใด 3. เลขที่ประมาณข้ึนมาในการวัด 1. 7 ไมโครเมตร 2. 7.0 × 10-5 เมตร 4. เลขท่บี อกความละเอียดของเครอื่ งมือวดั 3. 7 นาโนเมตร 4. 7.0 × 10-4 เมตร 5. ข้อ 1. และ 2. ถกู 5. 7 เมกะเมตร 10. นำแผน่ ไม้ส่เี หลีย่ มผนื ผ้ามาวัดความกวา้ งได้ 12.5 ± 0.1 เมตร 5. การอ่านค่าจากเคร่ืองวัดแบบแสดงผลด้วยตัวเลขมี และวดั ความยาวได้ 20.0 ± 0.2 เมตร จงหาพ้ืนท่ีของแผ่นไม้ หลกั การอยา่ งไร 1. (2.50 ± 0.05) × 102 ตารางเมตร 1. ประมาณความคลาดเคลือ่ นทกุ ครั้ง 2. (2.80 ± 0.03) × 102 ตารางเมตร 2. อา่ นตามท่ีเหน็ จริง ๆ จากจอภาพ 3. (2.50 × 102 ± 0.05) ตารางเมตร 3. ตอ้ งประมาณตวั เลขตัวสดุ ท้าย 1 ตวั 4. (2.80 × 102 ± 0.03) ตารางเมตร 4. ต้องวัดหลายคร้งั แลว้ หาคา่ เฉลย่ี 5. (2.50 ± 0.03) × 102 ตารางเมตร 5. ใหห้ นา้ จอแสดงผลอยใู่ นระดับสายตา เฉลย 1. 4 2. 5 3. 2 4. 1 5. 2 6. 4 7. 4 8. 3 9. 2 10. 1 จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 6 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ต้นวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของเหรยี ญอนั หนึ่ง 3 6. นาแผน่ ไมส้ ่เี หล่ียมผนื ผ้ามาวดั ความกวา้ งได้ 12.5 ± 0.1 เมตร ค รัง้ ได้เท่ ากับ 2.542 , 2.532 แ ละ 2.54 และวดั ความยาวได้ 20.0 ± 0.2 เมตร จงหาพน้ื ทขี่ องแผ่นไม้ เซนตเิ มตร ค่าเฉลย่ี ของเหรยี ญเป็นเท่าไร 1. (2.80 ± 0.03) × 102 ตารางเมตร 1. 2.538 เซนตเิ มตร 2. (2.50 ± 0.05) × 102 ตารางเมตร 2. 2.532 เซนตเิ มตร 3. (2.50 × 102 ± 0.05) ตารางเมตร 3. 2.53 เซนตเิ มตร 4. (2.80 × 102 ± 0.03) ตารางเมตร 4. 2.542 เซนตเิ มตร 5. (2.50 ± 0.03) × 102 ตารางเมตร 5. 2.54 เซนตเิ มตร 7. นกั เรยี นคนหนง่ึ ใชไ้ มโครมเิ ตอรว์ ดั เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางของเส้น 2. ข้อใดต่อไปน้ีเป็ นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ใช้พิสูจน์ ผม ได้ 3.004 มลิ ลเิ มตร ค่าทว่ี ดั ไดจ้ ะมเี ลขนยั สาคญั กต่ี วั ความจรงิ ตา่ ง ๆ 1. 5 ตวั 2. 4 ตวั 1. การทดลอง 2. การบนั ทกึ ขอ้ มูล 3. 3 ตวั 4. 2 ตวั 3. ความเชอ่ื 4. ทฤษฎี 5. 1 ตวั 5. การสงั เกต 8. จงหาผลรวมของ 3.15 × 10-3 และ 7.54 × 10-2 ตาม 3. ขอ้ ใดคอื ปรมิ าณเวกเตอรท์ งั้ หมด หลัก เลขนัยสาคญั 1. โมเมนตมั แรง พลงั งาน 1. 7.855 × 10-3 2. 78.55 × 10-3 2. เวลา ปรมิ าตร ความหนาแน่น 3. 7.86 × 10-2 4. 10.94 × 10-2 3. ความเร่ง การกระจดั ระยะทาง 5. 7.855 × 10-4 4. มวล น้าหนัก พลงั งาน 9. ข้อใดคือผลรวมของ 2.50 มิลลิเมตร และ 7.2 เซนติเมตร 5. ความเรว็ ความเรง่ การกระจดั ตามหลกั เลขนัยสาคญั 4. การอ่านค่าจากเคร่อื งวดั แบบแสดงผลดว้ ยตวั เลขมี 1. 7.4 เซนตเิ มตร 2. 7.45 เซนตเิ มตร หลกั การอย่างไร 3. 7.450 เซนตเิ มตร 4. 7.5 เซนตเิ มตร 1. ประมาณความคลาดเคล่อื นทุกครงั้ 5. 7.55 เซนตเิ มตร 2. อ่านตามทเ่ี หน็ จรงิ ๆ จากจอภาพ 10. เลขนัยสาคญั คอื อะไร 3. ตอ้ งประมาณตวั เลขตวั สดุ ทา้ ย 1 ตวั 1. เลขทว่ี ดั ไดจ้ รงิ ๆ จากเคร่อื งมอื วดั 4. ตอ้ งวดั หลายครงั้ แลว้ หาค่าเฉลย่ี 2. เลขทอี่ า่ นไดจ้ ากเคร่อื งมอื วดั แบบขดี สเกลรวมกบั ตวั เลขท่ี 5. ใหห้ นา้ จอแสดงผลอยูใ่ นระดบั สายตา ประมาณอกี 1 ตวั 5. ความยาว 0.000007 เมตร มคี ่าตรงกบั ขอ้ ใด 3. เลขทปี่ ระมาณขน้ึ มาในการวดั 1. 7 ไมโครเมตร 2. 7.0 × 10-5 เมตร 4. เลขทบี่ อกความละเอยี ดของเคร่อื งมอื วดั 3. 7 นาโนเมตร 4. 7.0 × 10-4 เมตร 5. ขอ้ 1. และ 2. ถูก 5. 7 เมกะเมตร เฉลย 1. 1 2. 1 3. 5 4. 1 5. 1 6. 2 7. 2 8. 3 9. 4 10. 2 จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 7 แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ แบบประเมินผลงานผังมโนทัศน์ คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมินผลงาน/ช้นิ งานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี ำหนด แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับ คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 4 3 21 1 ความสอดคล้องกบั จุดประสงค์ 2 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา 3 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 4 ความตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ................................................... ผปู้ ระเมิน ............../................./................ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 8 เกณฑป์ ระเมินผงั มโนทัศน์ ประเดน็ ที่ประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 1. ผลงานตรงกบั ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผ ล งานไม่ส อดค ล้อ ง จดุ ประสงคท์ ีก่ ำหนด จุดประสงค์ทุกประเดน็ จดุ ประสงค์เปน็ ส่วนใหญ่ จุดประสงคบ์ างประเด็น กับจดุ ประสงค์ 2. ผลงานมคี วาม เน้ือหาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน เนื้อหาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน ถกู ต้องสมบูรณ์ ถูกตอ้ งครบถ้วน ถูกตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ ถกู ต้องเปน็ บางประเดน็ ไมถ่ ูกตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ 3. ผลงานมคี วามคดิ ผ ล งานแส ดงออกถึง ผลงานมีแนวคิดแปลก ผลงานมีความน่าสนใจ ผลงานไม่แสดงแนวคิด สร้างสรรค์ ค วามคิด ส ร้างส รรค์ ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ แ ป ล ก ให ม่ แ ล ะ เป็ น ใหม่ ระบบ 4. ผลงานมคี วามเปน็ ผ ล ง า น มี ค ว า ม เป็ น ผลงานส่วนใหญ่มีความ ผ ล ง า น มี ค ว า ม เป็ น ผลงานส่วนใหญ่ไม่เป็น ระเบียบ ระเบียบแสดงออกถึง เป็ น ระเบี ยบ แต่ ยังมี ระเบียบแตม่ ขี อ้ บกพร่อง ร ะ เบี ย บ แ ล ะ มี ข้ อ ความประณีต ขอ้ บกพร่องเลก็ นอ้ ย บางส่วน บกพรอ่ งมาก เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–16 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 9 แบบประเมนิ การปฏบิ ตั กิ าร คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมนิ การปฏบิ ตั กิ ารของนักเรยี นตามรายการทกี่ ำหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 4321 1 การปฏิบัตกิ ารทดลอง 2 ความคลอ่ งแคล่วในขณะปฏบิ ัตกิ าร รวม 3 การนำเสนอ ลงช่อื ................................................... ผ้ปู ระเมิน ................./................../.................. จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 10 เกณฑก์ ารประเมินการปฏิบตั กิ าร ประเดน็ ท่ีประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 ทำการทดลองตาม 1. การปฏบิ ัตกิ าร ขั้นตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ 32 ต้องให้ความชว่ ยเหลือ ทดลอง ได้อย่างถกู ต้อง อยา่ งมากในการทำการ ทำการทดลองตาม ตอ้ งใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทดลอง และการใช้ ข้นั ตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ บา้ งในการทำการ อุปกรณ์ ได้อย่างถูกตอ้ ง แต่อาจ ทดลอง และการใช้ ตอ้ งไดร้ ับคำแนะนำบ้าง อุปกรณ์ 2. ความ มคี วามคล่องแคลว่ มีความคลอ่ งแคลว่ ขาดความคล่องแคลว่ ทำการทดลองเสรจ็ ไม่ คลอ่ งแคล่ว ในขณะทำการทดลอง ในขณะทำการทดลอง ในขณะทำการทดลอง ทันเวลา และทำ โดยไม่ตอ้ งได้รบั คำ แตต่ ้องไดร้ บั คำแนะนำ จงึ ทำการทดลองเสรจ็ อุปกรณ์เสียหาย ในขณะ ชแ้ี นะ และทำการ บ้าง และทำการทดลอง ไมท่ นั เวลา ปฏิบตั กิ าร เสร็จทันเวลา ตอ้ งให้ความชว่ ยเหลอื ต้องให้คำแนะนำในการ อย่างมากในการบนั ทึก ทดลองเสร็จทนั เวลา บันทกึ และสรปุ ผลการ บนั ทึก สรปุ และ สรุป และนำเสนอผล ทดลองได้ถกู ต้อง แต่ นำเสนอผลการทดลอง การทดลอง 3. การบนั ทึก สรปุ บนั ทึกและสรุปผลการ การนำเสนอผลการ และนำเสนอผล ทดลองได้ถูกต้อง รดั กมุ ทดลองยังไมเ่ ป็น การทดลอง นำเสนอผลการทดลอง ขนั้ ตอน เปน็ ข้นั ตอนชัดเจน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 10-12 ดมี าก 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 0-3 ปรบั ปรุง จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 11 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ต้องของเน้อื หา   2 ความคิดสรา้ งสรรค์   3 วิธีการนำเสนอผลงาน   4 การนำไปใช้ประโยชน์   5 การตรงตอ่ เวลา   รวม ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............/................./................... เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 12 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเหน็   2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่ืน   3 การทำงานตามหนา้ ทท่ี ีไ่ ด้รบั มอบหมาย   4 ความมนี ้ำใจ   5 การตรงตอ่ เวลา   รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ............/.................../................ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 13 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี ชอ่ื –สกุล การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม ของนักเรียน ความคดิ เหน็ ฟังคนอ่นื ตามทีไ่ ด้รับ สว่ นร่วมใน 15 มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน ผลงานกลมุ่ 321321321321321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ................................................... ผูป้ ระเมิน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ............./.................../............... ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook