หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานอื่นหรือภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องในพื้นที่น้ันๆ และใหม้ อี ำนาจหนา้ ท่ีดงั ต่อไปนี้ 1) กำหนดยุทธศาสตร์และบทบาทการพัฒนาภาคต่างๆ ให้เช่ือมโยงและสอดคล้องกับ ทิศทางการพัฒนาประเทศ ทิศทางการดำเนินงานตามข้อ 3 (1) นโยบายและยุทธศาสตร์ของ กระทรวงศึกษาธิการ และยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด รวมท้ังการพัฒนาด้านอื่นๆ ในพื้นที่ รับผิดชอบตามศกั ยภาพและโอกาสของบคุ คลและชมุ ชนในแตล่ ะพ้ืนท่ี 2) สนับสนุนการพัฒนาจังหวัดในพื้นที่รับผดชอบเก่ียวกับงานด้านวิชาการ การวิจัยและพัฒนา 3) กำกับดูแล ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงานศึกษาธิการ จงั หวดั ในพ้นื ท่ีรับผดิ ชอบ 4) สนับสนุนการตรวจราชการ และติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบาย และยทุ ธศาสตรข์ องกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในพ้ืนที่รบั ผิดชอบ 5) ประสานการบริหารงานระหว่างราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้เกิดการ พัฒนาอย่างบูรณาการในระดับพ้ืนท่ีของหลายจังหวัด โดยยึดการมีส่วนร่วมและประโยชน์สุขของ ประชาชนเปน็ หลกั 6) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรอื ท่ีไดร้ ับมอบหมาย” “ข้อ 11 ให้มีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสังกัดสำนักงานปลั ดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อปฏิบัติภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการเก่ียวกับการบริหารและการจัดการ ศึกษาตามที่กฎหมายกำหนดการปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ นโยบาย และยุทธศาสตร์ ของส่วนราชการตา่ งๆ ทมี่ อบหมายและให้มอี ำนาจหนา้ ท่ใี นเขตจังหวัด ดงั ต่อไปนี้ 1) รับผิดชอบงานธุรการของ กศจ. อกศจ. คณะอนุกรรมการบริหารราชการ เชิงยุทธศาสตร์ คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา คณะอนุกรรมการและคณะทำงาน รวมท้ังปฏบิ ัติงานราชการทเี่ ป็นไปตามอำนาจและหน้าทข่ี อง กศจ. และตามที่ กศจ. มอบหมาย 2) จดั ทำแผนพฒั นาการศกึ ษาและแผนปฏบิ ตั กิ าร 3) สั่งการ กำกับ ดูแล เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการ หรือหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวง ศกึ ษาธกิ าร 4) จัดระบบ สง่ เสรมิ และประสานงานเครือข่ายขอ้ มลู สารสนเทศและเทคโนโลยี ดจิ ทิ ัลเพอื่ การศึกษา 5) ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาเพ่ือคนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีความสามารถ พิเศษ 6) ดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา 7) ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการเก่ียวกับงานด้านวิชาการ การนิเทศ และแนะแนว การศึกษาทกุ ระดบั และทุกประเภท รวมทัง้ ตดิ ตามและประเมินผลระบบบริหารและการจดั การ ศกึ ษา 40
8) ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านการบริหาร การเงิน และการบัญชี ของสว่ นราชการหรอื หนว่ ยงานและสถานศึกษาในสงั กัดกระทรวงศึกษาธกิ าร 9) ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬาเพ่ือการ ศึกษา 10) ส่งเสรมิ สนบั สนุน และดำเนินการเกยี่ วกบั การจดั การศกึ ษาเอกชน 11) ปฏิบัติภารกิจตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการหรือตามที่ได้รับมอบหมาย รวมท้ังปฏิบัติภารกิจเก่ียวกับราชการประจำทั่วไปของกระทรวงศกึ ษาธิการและประสานงานต่างๆ ใน จังหวัด 5. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง สถานท่ีจัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการภาค สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 7 มีนาคม 2562 (ยกเลิก ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง กำหนดสถานที่ตัง้ ของสำนักงานศกึ ษาธกิ ารภาค ลงวันท่ี 4 พฤษภาคม 2560) สำนักงานศกึ ษาธิการภาค 1 ต้งั อยูท่ ่จี ังหวัดลพบุรี รบั ผิดชอบดำเนินงานในพ้ืนที่ จงั หวัดชยั นาท พระนครศรอี ยุธยา ลพบุรี สระบรุ ี สิงห์บุรี อา่ งทอง สำนกั งานศึกษาธกิ ารภาค 2 ตั้งอยู่ท่ีจงั หวัดปทมุ ธานี รับผิดชอบดำเนนิ งานในพน้ื ท่ี จงั หวัดนนทบุรี ปทมุ ธานี นครปฐม สมุทรปราการ กรงุ เทพมหานคร สำนกั งานศึกษาธกิ ารภาค 3 ตั้งอย่ทู ีจ่ ังหวัดราชลบุรี รบั ผดิ ชอบดำเนินงานในพ้นื ที่ จังหวดั กาญจนบรุ ี ราชบรุ ี สุพรรณบรุ ี สำนักงานศึกษาธิการภาค 4 ตั้งอยทู่ จี่ ังหวัดสมุทรสงคราม รบั ผดิ ชอบดำเนินงานใน พื้นทจ่ี งั หวดั ประจวบครี ขี ันธ์ เพชรบรุ ี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สำนักงานศึกษาธิการภาค 5 ตั้งอยู่ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช รับผิดชอบดำเนินงาน ในพน้ื ที่จังหวดั ชุมพร นครศรธี รรมราช พัทลงุ สรุ าษฎร์ธานี สงขลา สำนักงานศึกษาธิการภาค 6 ต้ังอยู่ท่ี จังหวัดภูเก็ต รับผิดชอบดำเนินงาน ในพ้นื ที่จงั หวดั กระบี่ ตรัง พังงา ภเู กต็ ระนอง สตูล สำนกั งานศึกษาธกิ ารภาค 7 ตั้งอยูท่ ี่ จงั หวดั ยะลา รบั ผดิ ชอบดำเนินงาน ในพื้นท่ี จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สำนักงานศึกษาธิการภาค 8 ตง้ั อยู่ท่ี จังหวดั ชลบุรี รบั ผิดชอบดำเนนิ งาน ในพื้นท่ี จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ชลบุรี ระยอง สำนกั งานศึกษาธกิ ารภาค 9 ตั้งอยู่ท่ี จังหวัดฉะเชิงเทรา รับผิดชอบดำเนนิ งาน ในพ้นื ที่จงั หวัดจนั ทบุรี ตราด นครนายก ปราจนี บรุ ี สระแก้ว สำนกั งานศึกษาธิการภาค 10 ตั้งอย่ทู ี่ จงั หวัดอุดรธานี รบั ผดิ ชอบดำเนนิ งานใน พ้ืนทจ่ี ังหวัดบึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สำนักงานศึกษาธกิ ารภาค 11 ตัง้ อยู่ท่ี จังหวดั สกลนคร รบั ผดิ ชอบดำเนินงานใน พ้นื ที่จงั หวดั นครพนม มุกดาหาร สกลนคร สำนกั งานศึกษาธิการภาค 12 ต้งั อยทู่ ี่ จงั หวัดขอนแกน่ รับผดิ ชอบดำเนินงาน ในพ้นื ท่ีจงั หวัดกาฬสินธ์ุ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอด็ สำนักงานศึกษาธิการภาค 13 ตั้งอยู่ท่ี จังหวัดนครราชสีมา รับผิดชอบดำเนินงาน ในพื้นทจ่ี ังหวดั ชัยภูมิ นครราชสมี า บุรรี มั ย์ สุรนิ ทร์ 41
สำนักงานศึกษาธิการภาค 14 ต้ังอยู่ที่ จังหวัดอุบลราชธานี รับผิดชอบดำเนินงาน ในพ้ืนท่จี งั หวดั ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี สำนกั งานศึกษาธิการภาค 15 ตัง้ อย่ทู ี่ จงั หวดั เชียงใหม่ รับผิดชอบดำเนนิ งานใน พืน้ ทีจ่ งั หวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สำนกั งานศึกษาธิการภาค 16 ตง้ั อยทู่ ่ี จังหวัดเชียงราย รับผดิ ชอบดำเนนิ งานใน พน้ื ที่จังหวดั เชยี งราย น่าน พะเยา แพร่ สำนักงานศึกษาธิการภาค 17 ตั้งอยู่ที่ จังหวัดพิษณุโลก รับผิดชอบดำเนินงาน ในพื้นทจี่ ังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทยั อตุ รดิตถ์ สำนักงานศึกษาธิการภาค 18 ตั้งอย่ทู ่ี จงั หวัดนครสวรรค์ รบั ผิดชอบดำเนินงาน ในพน้ื ทจ่ี ังหวดั กำแพงเพชร นครสวรรค์ พจิ ิตร อุทยั ธานี 6. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง จัดต้ังสำนักงานศึกษาธิการภาค จำนวน หกภาค เป็นหน่วยงานภายในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และมีอำนาจหน้าที่ (ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร ลงวนั ท่ี 22 มีนาคม 2562) ดังน้ี ข้อ 1 ให้จัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการภาค จำนวนหกภาค เป็นหน่วยงานภายใน สงั กัดสำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดังน้ี 1) สำนักงานศึกษาธิการภาคกลาง ต้ังอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี รับผิดชอบ ดำเนินการในพ้ืนท่ีสำนักงานศึกษาธิการภาค 1 ภาค 2 ภาค 3 และภาค 4 โดยสำนักงานศึกษาธิการ ภาค 2 ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการภาคกลางและศึกษาธิการภาค 2 ทำหน้าที่ศึกษาธิการภาค กลาง อีกหนา้ ทหี่ น่ึง 2) สำนักงานศึกษาธิการภาคใต้ ต้ังอยู่ท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราช รับผิดชอบ ดำเนินการในพ้ืนที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 5 และภาค 6 โดยสำนักงานศึกษาธิการภาค 5 ปฏิบัติ หน้าท่ีสำนกั งานศึกษาธิการภาคใต้ และศกึ ษาธิการภาค 5 ทำหนา้ ทศ่ี กึ ษาธิการภาคใต้ อกี หนา้ ทหี่ นึง่ 3) สำนักงานศึกษาธิการภาคใต้ชายแดน ตั้งอยู่ที่จังหวัดยะลา รับผิดชอบ ดำเนินการในพ้ืนท่ีสำนักงานศึกษาธิการภาค 7 โดยสำนักงานศึกษาธิการภาค 7 ปฏิบัติหน้าที่ สำนักงานศึกษาธิการภาคใต้ชายแดน และศึกษาธิการภาค 7 ทำหน้าที่ศึกษาธิการภาคใต้ชายแดน อีกหนา้ ทหี่ น่งึ 4) สำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออก ตั้งอยู่ท่ีจังหวัดชลบุรี รับผิดชอบ ดำเนินการในพื้นท่ีสำนักงานศึกษาธิการภาค 8 และภาค 9 โดยสำนักงานศึกษาธิการภาค 8 ปฏิบัติ หน้าที่สำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออก และศึกษาธิการภาค 8 ทำหน้าที่ศึกษาธิการภาคตะวันออก อีกหน้าที่หนึ่ง 5) สำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ท่ีจังหวัดอุดรธานี รับผิดชอบดำเนินการ ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 10 ภาค 11 ภาค 12 ภาค 13 และภาค 14 โดยสำนักงานศึกษาธิการภาค 10 ปฏิบัติหน้าท่ีสำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อกี หน้าที่หนง่ึ 6) สำนักงานศึกษาธิการภาคเหนือ ต้ังอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ รับผิดชอบ ดำเนินการในพื้นท่ีสำนักงานศึกษาธิการภาค 15 ภาค 16 ภาค 17 และภาค 18 โดยสำนักงาน ศึกษาธิการภาค 15 ปฏิบัติหน้าท่ีสำนักงานศึกษาธิการภาคเหนือ และศึกษาธิการภาค 15 ทำหน้าท่ี ศึกษาธิการภาคเหนอื อีกหนา้ ทีห่ นงึ่ 42
ขอ้ 2 ให้สำนักงานศึกษาธกิ ารภาค หกภาค ตามข้อ 1 มอี ำนาจหนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปนี้ 1) กำหนดกรอบนโยบายและวางระบบในการบริหารงานภาค กลุ่มจังหวัด และจังหวัดในระดับภาคแบบบูรณาการ เพื่อให้สามารถบริหารงาน แก้ไขปัญหาและพัฒนาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 2) กำหนดยุทธศาสตร์และบทบาทการพัฒนาภาคให้เช่ือมโยงและสอดคล้อง กบั นโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ และยุทธศาสตร์การพัฒนากลุม่ จังหวัดในระดบั ภาค 3) จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาภาค และดำเนินการตามแผน พัฒนาการศึกษา ระดับภาคให้เกดิ ผลสัมฤทธิ์ 4) กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดทำแผน พัฒนาการศึกษา กลุ่มจังหวัด แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการด้านการศึกษาประจำปีของ กลุม่ จังหวัดและจงั หวดั ในพน้ื ที่ 5) บูรณาการแผนของส่วนราชการและแผนพัฒนาการศึกษาในระดับภาค เพ่ือให้การขับเคลื่อนแผนด้านการศึกษาสอดคล้องกับศักยภาพหรือประเด็นปัญหาในระดั บภาคและ เช่ือมโยงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ และนโยบายรัฐบาล 6) สัง่ การ เร่งรัด กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลการดำเนินงานของ หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในภาค ให้เป็นไปตาม ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค แผนพัฒนาการศึกษาระดับภาค นโยบายและยุทธศาสตร์ของ กระทรวงศกึ ษาธิการ 7) สนับสนุนการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ การตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี การตรวจราชการตาม ขอ้ สงั่ การของนายกรัฐมนตรี และขอ้ ส่งั การของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 8) กำหนดแนวทางการตรวจสอบ กำกับ ติดตามการบริหารงานบุคคลของ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาในระดับภาค 9) บรหิ ารงานบุคคลของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในภูมภิ าคและจงั หวดั 10) กำหนดทิศทางรวมท้ังส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการพัฒนา บคุ ลากรในระดับภาค 11) ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ร่วมกับสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา หรือสว่ นราชการหรือ หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วข้องมอบหมาย 12) กำหนดกรอบนโยบาย แนวทางการดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน กจิ การลกู เสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียนระดับภาค ให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนนิ การตามที่ สำนักงานลกู เสอื แห่งชาติ หรอื สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ ารมอบหมาย 13) ประเมินผลและจัดทำรายงานการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ การพฒั นาภาค และแผนพฒั นาการศกึ ษาระดบั ภาค 14) ดำเนินงานตามอำนาจหน้าท่ีในฐานะผู้ประสานงานการจัดการ ศึกษา ระดบั กล่มุ จงั หวัด อกี หนา้ ทห่ี นึ่ง ยกเว้น สำนักงานศึกษาธิการภาคใต้ชายแดน (ศูนย์ประสานงานและบรหิ าร การศกึ ษาจงั หวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) เป็นผูด้ ำเนนิ งาน) 43
15) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืน ที่เกย่ี วข้องหรือทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 7. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จัดต้ังกลุ่มขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (กลุ่ม ป.ย.ป.) ประกาศ ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 (ยกเลิก ประกาศฯ ณ วันท่ี 9 เมษายน 2561) ให้จัดตั้งกลุ่ม ป.ย.ป. เป็นหน่วยงานภายใน สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร มีอำนาจและหนา้ ท่ี ดงั น้ี 1) เป็นศูนย์บัญชาการในการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศของ กระทรวง 2) เป็นแกนกลางการประสานงานระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศกับส่วนราชการ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงและระหว่าง กระทรวง 3) งานเลขานกุ ารของคณะทำงานขับเคลอื่ นในระดบั กระทรวง 4) เป็นเจ้าภาพในการกำกับ ติดตามการดำเนินการของส่วนราชการและหน่วยงาน ในสงั กดั ให้เป็นไปตามแผนแมบ่ ทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติ และแผนปฏริ ปู ประเทศ 5) จัดทำแผนปฏิบัติการเพ่ือสนับสนุนการดำเนินงานของแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ แผนปฏิรูปประเทศใหบ้ รรลเุ ป้าหมายทีก่ ำหนด 6) ประเมินผล และจัดทำรายงานการดำเนินการของกระทรวงในการขับเคลื่อน ยทุ ธศาสตร์ชาติ และการปฏริ ูปประเทศ 7) ประสาน เร่งรัด และให้คำปรึกษาแนะนำแก่ส่วนราชการและหน่วยงาน ในสังกดั 8) เผยแพร่ และสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ข้าราชการและบุคลากร ในสังกดั กระทรวง 9) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนที่เกี่ยวข้อง หรือทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 8. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง จัดตั้งกองส่งเสริมและพัฒนาการบริหาร การศึกษาในภูมิภาค ประกาศ ณ วนั ท่ี 26 มกราคม 2565 (ยกเลิกประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่ือง จัดต้ังสำนักบูรณาการกิจการการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563) เป็นหน่วยงานการศกึ ษาในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าทแี่ ละอำนาจ ดังตอ่ ไปนี้ 1) รบั ผิดชอบงานเลขานกุ ารของคณะกรรมการขับเคลอ่ื นการปฏิรูปการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค รวมทั้งปฏิบั ติราชการท่ีเป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ของ คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานอื่นทเี่ ก่ยี วขอ้ งและที่ไดร้ บั มอบหมาย 2) จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทาง และมาตรการเกี่ยวกับ การบริหารการศึกษาของประเทศในระดับภูมิภาคหรือจังหวัดที่ส่งผลต่อการขับเคล่ือนและการพัฒนาด้าน การศึกษาของประเทศให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมนานาประเทศ เสนอต่อคณะกรรมการขับเคลื่อน การปฏิรปู การศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธิการในภูมิภาค 44
3) บูรณาการและขับเคล่ือนนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทาง และมาตรการเกี่ยวกับ ก า ร บ ริ ห า ร ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง ป ร ะ เท ศ ใ น ร ะ ดั บ ภู มิ ภ า ค ห รื อ จั ง ห วั ด ที่ ส่ ง ผ ล ต่ อ ก า ร ขั บ เค ลื่ อ น และการพัฒนาด้านการศึกษาของประเทศให้มีประสิทธิภาพทดั เทียมนานาประเทศในระดบั กระทรวง กั บ ห น่ ว ย ง า น ร ะ ดั บ ภ า ค แ ล ะ ร ะ ดั บ จั ง ห วั ด ใ ห้ เช่ื อ ม โ ย ง แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ช า ติ ทิศทางการปฏริ ูปประเทศ 4) ส่งเสริมระบบบริหารการศึกษาของประเทศในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด ให้เช่ือมโยงและสอดคล้องกับทิศทางการพัฒ นาประเทศ นโยบายและยุทธศาสตร์ของ กระทรวงศึกษาธิการ ทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด และยทุ ธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวดั และจงั หวดั 5) พัฒนาระบบการบริหารการศึกษาของประเทศในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด เพื่อขบั เคลอื่ นคณุ ภาพการศึกษาให้ทดั เทียมนานาประเทศ 6) ส่งเสริม สนับสนุนเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการบริหารการศึกษาของประเทศ ในระดับภูมภิ าคหรือจงั หวดั แบบรว่ มมอื และบูรณาการกับหนว่ ยงานในสงั กัดกระทรวงศึกษาธิการและ หนว่ ยงานอ่ืนหรอื ภาคสว่ นทเี่ กีย่ วขอ้ ง 7) จัดระบบประสานงาน สนับสนุน ช่วยเหลือ รายงานเกี่ยวกับเหตุภัยพิบัติ และภาวะวิกฤตทางการศึกษาของประเทศในระดับภูมิภาคหรือจังหวัดแบบร่วมมือและบูรณาการกับ หน่วยงานในสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารและหน่วยงานอ่นื หรอื ภาคส่วนท่เี กยี่ วขอ้ ง 8) กำกับ ดูแล ติดตาม ประเมินผล และรายงานเก่ียวกับการขับเคลื่อน การบริหารการศึกษาของประเทศในระดับภูมิภาคหรือจังหวัดที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ชาติและทิศทางการพฒั นาประเทศ 9) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย 9. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จัดต้ังศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ประกาศ ณ วันท่ี 26 มกราคม 2565 (ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง จัดตั้งศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงวันท่ี 19 เมษายน พ.ศ. 2561 และ เร่ือง ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการและการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่และอำนาจ ของสำนักประสานงานและบูรณาการการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปเป็นของศูนย์ประสานงาน และบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันท่ี 30 มกราคม 2563) โดยมหี นา้ ที่และอำนาจดงั น้ี 1) เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนการศึกษาแบบร่วมมือและบูรณาการในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (1) ประเด็นความมั่นคง นโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยความม่ันคงแห่งชาติ และพระราชบัญญัติการรักษาความม่ันคงภายใน ราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 และแผนอื่นท่ีเก่ียวข้อง รวมทั้งเป็นเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อน ก า ร ศึ ก ษ าใน จั งห วั ด ช า ย แ ด น ภ าค ใต้ แ ล ะ ค ณ ะ ก ร ร ม ก าร อ่ื น ท่ี เก่ี ย ว ข้ อ งอั น ส่ ง ผ ล ให้ ป ร ะ ช า ช น ในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ อยดู่ ี กินดี และมคี วามสุขอย่างย่ังยนื 2) จัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการเก่ียวกับการศึกษาแบบร่วมมือ แ ล ะ บู ร ณ า ก า ร ใน จั ง ห วั ด ช า ย แ ด น ภ า ค ใต้ ท่ี ส อ ด ค ล้ อ งกั บ น โ ย บ า ย แ ล ะ แ ผ น ร ะ ดั บ ช า ติ ว่ า ด้ ว ย ความม่ันคงแห่งชาติ และพระราชบญั ญัติการรกั ษาความม่นั คงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 และ 45
แผนอนื่ ท่ีเกี่ยวข้อง สภาพท้องถิ่นและพ้ืนที่ทีเ่ ก่ยี วข้องอันสง่ ผลให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยดู่ ี กนิ ดี และมีความสุขอยา่ งยง่ั ยนื 3) ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานเก่ียวกับการขับเคลื่อนนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาแบบร่วมมือและบูรณาการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สกู่ ารปฏิบัติอยา่ งเป็นรูปธรรม 4) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา เยียวยาและพัฒนานักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา บุตรของผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (1) ประเด็นความม่ันคง นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความม่ันคงแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยการรักษาความม่ันคงภายใน ราชอาณาจกั ร และแผนอน่ื ท่เี กย่ี วขอ้ ง 5) สร้างความร่วมมือเก่ียวกับการจัดการศึกษาท้ังภายในและต่างประเทศ เพ่อื ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาในจงั หวัดชายแดนภาคใต้อยา่ งยั่งยืน 6) เป็นศูนยก์ ลางข้อมูลสารสนเทศเกยี่ วกับการศึกษาในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ 7) สื่อสารการตระหนักรู้และสร้างเครือข่ายเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อยกระดับ คุณภาพการศกึ ษาในจังหวดั ชายแดนภาคใตอ้ ย่างยง่ั ยนื 8) เรง่ รดั กำกับ ตดิ ตาม และประเมินผลนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแผนปฏบิ ตั ิการ เกี่ยวกบั การศกึ ษาแบบร่วมมือและบรู ณาการในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ 9) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนที่เก่ียวข้อง หรือทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 16. บริบทและสถานการณท์ เ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การจดั การศกึ ษาของสำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร บริบท สถานการณ์หรือเง่ือนไขทางสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เก่ียวข้องกับการจัด การศึกษา เช่น สถิติทางการศึกษา แนวโน้มการเปล่ียนแปลงของเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี สังคม โครงสร้างประชากร โรคอุบัติใหม่ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงโครงสร้างและ การบริหารจัดการ ส่งผลต่อการสร้างโอกาสหรืออุปสรรคต่อการจดั การศึกษา รวมทั้งมีผลต่อการกำหนด ทิศทาง การจัดการศกึ ษาของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซงึ่ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. สถิตทิ างการศึกษา - ร้อยละของนักเรียน นิสิตและนักศึกษาในระบบโรงเรียนต่อประชากรวัยเรียน มีแนวโน้มที่ลดลง คือ จากร้อยละ 82.41 ในปีการศึกษา 2562 ลดลงเป็นร้อยละ 81.81 ในปีการศึกษา 2563 ส่วนจำนวนผู้เรียน/นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน ในสถานศึกษาสังกัด กศน. มแี นวโน้มที่ลดลงเช่นกัน คือ จากจำนวน 4.27 ล้านคน ในปีการศึกษา 2562 ลดลงเป็นจำนวน 3.64 ล้านคน ในปกี ารศึกษา 2563 - ปีการศึกษาเฉลี่ยของประเทศไทย (กลุม่ อายุ 15-59 ปี) ประจำปีการศกึ ษา 2563 คอื 9.86 ปี หรือมีการศกึ ษาอย่ใู นระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น - ผลการประเมิน PISA 2018 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 66 ลดลงจากปี 2015 ท่ีอยู่ในอันดับ 55 ผลการประเมินพบว่า นักเรียนไทยมีคะแนนทั้ง 3 ด้านต่ำกว่าค่าคะแนนเฉล่ีย ของประเทศสมาชิก OECD กล่าวคือ คะแนนเฉลี่ยด้านการอ่าน 393 คะแนน (คะแนนค่าเฉล่ีย ของ OECD 487 คะแนน) คะแนนเฉล่ียคณิตศาสตร์ 419 คะแนน (คะแนนค่าเฉลี่ยของ OECD 489 46
คะแนน) และคะแนนเฉลี่ยวิทยาศาสตร์ 426 คะแนน (คะแนนค่าเฉล่ียของ OECD 489 คะแนน) เม่ือเทียบกับคะแนนประเมินในปี 2015 พบว่า คะแนนด้านการอ่านลดลง ส่วนคะแนนคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น และเม่ือพิจารณาผลการประเมินของโรงเรียนเอกชน สังกัด สช. พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยสงู กวา่ คะแนนเฉล่ยี ของประเทศ แต่ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยของ OECD ท้ัง 3 ดา้ น - ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขัน ประจำปี 2564 (2021 IMD World Competitiveness Ranking : IMD) พบว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 28 จาก 64 ประเทศ ดีขึ้นจาก ปี 2563 ที่อยู่ในอันดับที่ 29 และเม่ือพิจารณาด้านการศึกษา พบว่าอยู่ในอันดับที่ 56 ลดลงจากปี 2563 ท่ีอยู่ในอันดับที่ 55 ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากความไม่เพียงพอของบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษาที่ครูต้องรับภาระดูแลนักเรียนเพ่ิมข้ึน และมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้น อย่างต่อเนื่องภาคธุรกิจไม่ม่ันใจในผลสัมฤทธ์ิของระบบการศึกษา ทักษะด้านภาษาไม่ตอบโจทย์ ในการประกอบอาชพี - ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2563 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมทุกสังกัด ใน 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า คะแนนเฉล่ีย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คือ 56.20 คะแนน ภาษาอังกฤษ คือ 43.55 คะแนน คณิตศาสตร์ คือ 29.99 คะแนน และวิทยาศาสตร์คือ 38.78 คะแนน เม่ือพิจารณาค่าคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียน เอกชน สังกัด สช. พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของประเทศ ทั้ง 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยภาพรวมทุกสังกัด ใน 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า คะแนนเฉลี่ย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คือ 54.29 คะแนน ภาษาอังกฤษ คือ 34.38 คะแนน คณิตศาสตร์ คือ 25.46 คะแนน และวิทยาศาสตร์ คือ 29.89 คะแนน และคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนเอกชน สังกัด สช. พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉล่ียสูงกว่าคะแนน เฉลี่ยของประเทศ ในขณะที่กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและวิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉล่ียต่ำกว่า คะแนนเฉลี่ยของประเทศ และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โดยภาพรวมทุกสังกัด ใน 5 กลุ่มสาระ การเรียนรู้ พบว่า คะแนนเฉล่ียกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คือ 44.36 คะแนน สังคมศึกษา คือ 35.93 คะแนน ภาษาอังกฤษ คือ 29.94 คะแนน คณิตศาสตร์ คือ 26.04 คะแนน และวิทยาศาสตร์ คือ 32.68 คะแนน ซึ่งเม่ือพิจารณาโรงเรียนเอกชน สังกัด สช. พบว่า กลุ่มสาระการรียนรู้ภาษาอังกฤษ มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉล่ียของประเทศ แต่ในขณะท่ีกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สังคม ศึกษา คณิตศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์มคี า่ คะแนนเฉลย่ี ตำ่ กว่าคะแนนเฉล่ยี ของประเทศ - ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 พบว่า คะแนนเฉล่ียระดับประเทศ (รวมท้ัง 2 ด้านคือการอ่านออกเสียงและการอ่านรู้เรื่อง) คือ ร้อยละ 73.02 และโรงเรียนเอกชน สังกัด สช. มีคะแนนเฉลี่ยทัง้ 2 ดา้ น ร้อยละ 72.72 ซง่ึ ตำ่ กวา่ คะแนนเฉลีย่ ของประเทศ - ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (National Test : NT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ปีการศึกษา 2563 พบว่า คะแนนเฉล่ียรวมความสามารถ ทั้งสองด้าน (ด้านคณิตศาสตร์และภาษาไทย) มีคะแนนเฉล่ียร้อยละ 43.97 และโรงเรียนเอกชน สังกดั สช. มีคะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 43.76 ซง่ึ ตำ่ กวา่ คะแนนเฉลีย่ ของระดบั ประเทศ - ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (Non-Formal National Educational Test : N-NET) เฉล่ียรวม 5 สาระ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 มีคะแนนเฉลี่ยทั้ง 3 ระดับการศึกษา เท่ากับ 38.56 ผ่านเกณฑ์การประเมินเป้าหมายขั้นต่ำ 47
(0.5) ซึ่งเมื่อพิจารณารายระดับการศึกษา พบว่า ระดับการศึกษาที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด คือ ระดับ ประถมศึกษา มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 42.29 รองลงมาคือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีคะแนนเฉลี่ย เทา่ กับ 38.89 และระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลายมีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 34.51 ตามลำดับ - ผลการทดสอบวัดสมรรถนะครูทางด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จากจำนวนผู้เข้ารับการทดสอบท้ังหมด จำนวน 133,232 คน คะแนนเต็ม 100 คะแนน พบว่า คะแนนสูงสุด คือ 92 คะแนน คะแนนต่ำสุด คือ 4 คะแนน และ คะแนนเฉลีย่ คอื 52.53 คะแนน 2. บริบทและสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ธนาคารโลกได้คาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจ ของโลก พ.ศ. 2564 จะเติบโตประมาณร้อยละ 4 ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะเติบโตประมาณร้อยละ 5.5 เน่ืองมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ลดลงร้อยละ 2.6 ส่งผลให้การอุปโภค บริโภคของครัวเรือนปรับลดลง ความเช่ือมั่นของผู้บริโภคลดลง การลงทุน ของภาคธุรกิจลดลง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำต่อเน่ืองจากมาตรการจำกัด การเดินทางระหว่างประเทศ อีกท้ังยังส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษา โดยพบว่า มีจำนวน ผู้ปกครองยากจนเพ่ิมขึ้นจาก 300,000 คน เป็น 700,000 คน ในปี 2563 และจะเพิ่มข้ึนอีกในปี 2564 รวมท้ังส่งผลให้มีเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาประมาณ 6,568 คน และคาดการณ์ว่า ส้ินปีการศึกษา 2564 จะมีเด็กหลุดจากระบบ 65,000 คน แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา ร้อยละ 4 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 19-20 และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ร้อยละ 48 และยังหลุด ต่อเน่ือง ชุมชนแออัดในกรุงเทพมหานคร พบหน้ีนอกระบบเพ่ิมหลายครอบครัวจากการกู้เงิน ผอ่ นมอื ถอื เรยี นออนไลน์ 3. บริบทและสถานการณ์ด้านการเมือง จากการประเมินโดยธนาคารโลกในปี 2562 พบว่า ประสิทธิผลของรัฐบาลไทย อยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 65.87) ลดลงจากปี 2561 (ร้อยละ 66.83) เล็กน้อย ในปี 2563 ยังมีสถานการณ์ทางการเมืองท่ีเกิดจากปัญหาการขาดเสถียรภาพ และธรรมาภิบาลของรัฐ อันสะท้อนถึงการขาดความเช่ือมั่นต่อระบบ รวมถึงความขัดแย้งทางความคิด ระหว่างวัยและกลุ่ม ประกอบกับพัฒนาการทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีการแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ของสื่อออนไลน์อนั นำมาซ่ึงการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารท่ีเปิดกว้างสามารถเปน็ ไดท้ ้ังโอกาสในการส่ือสาร ทำความเข้าใจและลดความขัดแย้งในสังคมในขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความเส่ียงที่จะมีการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลอย่างไม่ถูกต้องในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารท่ีบิดเบือนอย่างแนบเนียน เพื่อเป็นเครื่องมือ ในการบ่มเพาะชักจูงทางความคิดและสร้างความเกลียดชัง เพื่อให้เกิดความแตกแยกทางสังคม ซ่ึงปัญหาการขาดเสถียรภาพและธรรมาภิบาลทางการเมืองยังคงมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อเ นื่องไป อีกท้ังมีการปรับเปล่ียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบ่อยครั้ง ทำให้การดำเนินนโยบาย การพัฒนาการศึกษาไม่ต่อเนื่อง รวมถึงสถานการณ์ความวุ่นวายของการชุมนุมทางการเมืองส่งผล กระทบต่อการเรียนการสอน ทำให้ปัจจัยสำคัญของการศึกษาไทยขึ้นอยู่การกำหนดทิศทาง นโยบาย และแผนการดำเนนิ งานของภาครฐั ในการพัฒนาการศึกษาไทย 4. บริบทและสถานการณ์ด้านเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ท่ีมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ในภาคส่วนต่าง ๆ และแตกต่าง ไปจากวิถีการดำเนินชีวิตและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมแบบเดิม ประเทศไทยเอง ก็เช่นเดียวกัน พลวัตของเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่หยุดยั้ง ส่งผลกระทบ 48
อย่างมากต่อวิถีชีวิต รวมถึงระบบเศรษฐกิจและสังคม เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี แบบก้าวกระโดด ได้แก่ เทคโนโลยีอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทุกท่ีทุกเวลา การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud computing) การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data analysis) การเช่ือมต่อของสรรพส่ิง (Internet of Things) การพิมพ์ 3 มิติ (3D printing) และความม่ันคงปลอดภัย ไซเบอร์ (cyber security) เป็นต้น ผลจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ได้ส่งผลกระทบ ต่อตลาดแรงงานที่ขาดแคลนแรงงานทักษะและเกิดความไม่สอดคล้องระหว่างทักษะของแรงงาน กับทักษะที่ต้องใช้ในการทํางาน (Skill Mismatch) โดยเฉพาะทักษะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ระดับสูง อาทิ ความรู้ด้านดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ ขณะท่ีแรงงานระดับล่างจะถูกชดเชยด้วยหุ่นยนต์ และจักรกลมากข้ึน มีคาดการณ์ว่าปัญญาประดิษฐ์และระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติจะส่งผลให้อัตรา การว่างงานของประเทศไทยเพิ่มข้ึนประมาณร้อยละ 5 ภายในปี 2578 ถ้าแรงงานส่วนใหญ่ไม่ได้รับ การพัฒนาและสร้างทักษะ (Re/Up-Skill) ที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ อีกท้ังความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีและการส่ือสารส่งผลให้วิถีชีวิตของคนรุ่นต่าง ๆ เปล่ียนไปอย่างมาก เช่น เด็กท่ีบริโภคส่ือ มากจะส่งผลต่อระดับ IQ ท่ีลดลง เด็กท่ีได้รับสื่อต้ังแต่ยังเล็กส่งผลทางลบต่อพฤติกรรมและ พัฒนาการทางลบ อาทิ ความก้าวร้าว พฤติกรรมดื้อต่อต้าน พัฒนาการด้านภาษาล่าช้า ผลจาก การสำรวจพบว่า สังคมไทยเป็นสังคมท่ีคนใช้เวลากับการออนไลน์เฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง 5 นาที ทั้งน้ี ผลกระทบด้านการศึกษาในการเรียนการสอนช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ทำให้ห้องเรียนส่วนใหญ่ต้องถูกปิด เปล่ียนรูปแบบการเรียน การสอนเป็นแบบออนไลน์แต่ประสิทธิภาพที่เกิดข้ึนไม่เท่ากับการเรียนในห้องเรียน ทำให้เด็ก มีปัญหาท้ังการเรียนที่ต้องหยุดชะงัก ไปจนถึงความไม่พร้อมของผู้ปกครอง การขาดแคลนอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต การใช้เวลาหน้าจอมากเกินไป ขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ทำให้เกิด ความเครียดท้ังเด็กและครู เด็กมีการเรียนรู้ท่ีลดลง (Learning Loss) หรือขาดการทบทวนบทเรียน เปน็ เวลานาน สง่ ผลต่อพน้ื ฐานความรใู้ นด้านสำคัญๆ ซงึ่ เป็นพนื้ ฐานของการพัฒนาทุนมนุษย์ในสงั คม 5. บริบทและสถานการณ์ด้านโรคติดต่อ โรคอุบัติใหม่ ตลอดระยะเวลา 20 ปีท่ีผ่านมา มีโรคติดเช้ืออุบัติใหม่ปรากฏขึ้นมากมาย เช่น การระบาดของเชื้อโรค SARS การระบาดเช้ือโรค H5N1 avian flu ในแถบเอเชียะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การระบาดเช้ือโรค Ebola ในแถบ แอฟริกาตะวันตก, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, สเปน, อิตาลี และ ในปี 2019 - ปัจจุบัน เกิดสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ขึ้นทั่วโลก สำหรับประเทศไทย มีการเกิดโรคติดต่ออุบัติใหม่อยู่เป็นระยะๆ เช่น การพบผู้ป่วยโรคซาร์ส ใน พ.ศ. 2546 พบการแพร่ ระบาดของโรคไข้หวัดนก ระหว่างปี พ.ศ. 2547 - 2551 การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ ชนิด เอ H1N1 และปัจจุบันคือการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ส่งผล กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น ผลกระทบจากการเจ็บป่วยนำมาสู่ค่าใช้จ่าย การรักษาและเสียชีวิต ผลกระทบจากพฤติกรรมท่ีต้องหลีกเล่ียงห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัส การยกเลิกกิจกรรมท่ีจะส่งผลต่อการแพร่กระจายของเช้ือ ผลกระทบต่อการจ้างงาน ค่าจ้าง ความยากจนและความเหลื่อมล้ำ การสูญเสียรายได้และกระทบสู่ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ส่งผล ตอ่ ผลกระทบในระยาวทีเ่ กิดจากการสูญเสียการเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากร การตาย และการย้ายถิ่น รวมถึงการปรับตัวดำเนินชีวิตเป็นปกติบนพ้ืนฐาน New Normal หรือวิถีชีวิตใหม่ ได้แก่ การเว้น ระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ลดการปฏิสัมพันธ์ ลดการไปในสถานท่ีสาธารณะ การทำงานจากบ้าน (Work From Home) การใช้หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ การออกกำลังกาย 49
และการทำประกันสุขภาพจะมีแนวโน้มมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน ออนไลน์ การทำงานที่บ้าน การประชุมออนไลน์การซื้อสินค้าออนไลน์ การทำธุรกรรมและการเอ็นเตอร์เทน ชีวิตรูปแบบต่างๆ อย่างดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงผลกระทบด้านการศึกษาที่ผ่านมามีท้ังเลื่อนเปิดเทอม ส่ังปิดสถานศึกษา การปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบเรียนออนไลน์ การสอนทางไกล การใช้เทคโนโลยีในการเรียน การสอน การเกิดความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนา ช่องทางการเรียนรู้แบบใหม่ สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหา ในช่วงเวลาวิกฤติ รวมท้ังเกิดความเหล่ือมล้ำที่เกิดจากโอกาสในการเข้าถึงสารสนเทศท่ีไม่เท่าเทียม แก่เดก็ ยากจนและผู้ทเี่ ขา้ ไม่ถงึ เทคโนโลยี 6. บริบทและสถานการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ที่ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น มีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพ่ิมขึ้น 1.5 ถึง 5.1 องศาเซลเซียส ภายในปี 2643 และภายใน พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 80 พันล้านตัน/ปี หากไม่มีการดำเนินงานท่ีสำคัญเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะทำให้ภายใน พ.ศ. 2603 ความเสียหายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นท่ัวโลกจะมีมูลค่าถึงร้อยละ 1.0 - 3.3 ของ GDP โลก และมูลค่าความเสียหายจะเพ่ิมขึ้นเป็นร้อยละ 2.0-10.0 ภายใน พ.ศ. 2643 อีกทั้งมีการประมาณการว่าใน พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) ประชากร 2 ใน 3 ของโลก จะเผชิญกับปัญหา ขาดแคลนน้ำ สำหรับประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2559 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลำดับ ที่ 20 ของประเทศท่ีปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.90 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกหรือปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 327 ตัน และในปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยอยู่อันดับท่ี 2 ของประเทศที่มี การป ล่ อย ก๊ าช เรือ น กระจ ก จ ากโรงไฟ ฟ้ าถ่ าน หิ น สู งที่ สุ ด ใน ภู มิ ภ าค เอ เชี ย ต ะวัน อ อกเฉี ย งใต้ โดย Germanwatch ระบุว่าประเทศไทยเป็นประเทศ 1 ใน 10 ที่มีความเส่ียงสูงต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศในระยะยาว และในอีก 20 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2559–2578) ประเทศไทยมีอุณหภูมิ เฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น และมีอุณหภูมิสูงสุดเฉล่ียมากกว่า 35 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อน ปริมาณน้ำฝน รายปีเฉล่ียเพิ่มมากข้ึน และจำนวนวันฝนตกในช่วงฤดูฝนและการกระจายตัวของฝนเพ่ิมขึ้น ทำให้ ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแหล่งน้ำ และมีภาวะเส่ียงต่อการเกิดภัยแล้งและอุทกภัยในบางพ้ืนที่ ซ่ึงกระทบต่อการจดั การนำ้ ของประเทศในภาคสว่ นต่างๆ 7. บริบทและสถานการณ์ด้านสังคม วัฒนธรรม และโครงสร้างประชากร องค์การ สหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่าจำนวนประชากรโลกจะเพ่ิมสูงขึ้นถึง 9.7 พันล้านคนภายในปี 2050 และอาจเพิ่มสูงเกือบ 1.1 หมื่นล้านคนในช่วงปี 2100 พร้อมท้ังคาดการณ์ว่าโลกจะเข้าสู่ระดับ สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Age Society) ในปี 2050 (พ.ศ. 2593) สำหรับประเทศไทยได้เข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุมาต้ังแต่ปี 2548 และคาดว่าจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete- aged Society) ภายในปี 2566 และกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-aged Society) ภายในปี 2577 จะมีสัดส่วนประชากรสูงวัยสูงถึงร้อยละ 28.1 ของประชากรทั้งหมด แต่กำลังแรงงานลดลงจนส่งผลทำให้เกิดการพึ่งพาแรงงานข้ามชาติมากข้ึน นำไปสู่การขยายตัว ของการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งภายในและระหว่างประเทศ ซ่ึงจะทำให้รูปแบบของสังคมไท ย ปรับเปล่ียนไปสู่สังคมพหุวัฒนธรรม อีกทั้งอาจนำมาซ่ึงเศรษฐกิจใหม่ ๆ จากความต้องการของสินค้า และบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุและแนวโน้มของประชากรรุ่นใหม่ส่งผลทำให้เกิด 50
การเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ท้ังในด้านสมดุลด้านการทำงานและชีวิตส่วนบุคคลที่มี แนวโน้มต้องการอิสระและความยืดหยุ่นในการทำงานสูง รวมถึงมีความต้องการเป็นผู้ประกอบการ ที่เป็นเจ้าของธุรกิจสูง และนำไปสู่รูปแบบการทำงาน การใช้ชีวิต และสภาพสังคมรูปแบบใหม่ ๆ นอกจากนี้ การลดลงของอัตราการเกิดของประชากรไทย โดยเฉพาะกลุ่มประชากรเจนเนอเรชั่นวาย ท่ีมีสุขภาพดีและอยู่ในวัยท่ีเหมาะสมต่อการสร้างครอบครัวมีอัตราการให้กำเนิดลดลง เนื่องจาก ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดความต้องการเป็นครอบครัวเด่ียวใช้ชีวิตคนเดียว ด้วยมีระดับการศึกษา ท่ีสูงขึ้นและสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซ่ึงจะส่งผลกระทบกับผลิตภาพของเศรษฐกิจของประเทศ และฐานะการคลังของรัฐบาลที่ในอนาคต งบประมาณการดูแลผู้สูงอายุจะสูงข้ึนมาก การพัฒนา การศึกษาต้องวางแผนในการรองรับผลกระทบจากประชากรวัยเรียนที่ลดลง การวางพ้ืนฐานในการ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีทักษะและสมรรถนะสูง การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านการพัฒนา การศึกษาเพ่ือให้พร้อมรับการเปล่ียนแปลง ลดอัตราการพ่ึงพิงและเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคล่ือน การพฒั นาประเทศ 8. บริบทด้านโครงสร้างและการบริหารจัดการของสำนักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีหน่วยงานในสังกัดจำนวน 115 หน่วยงาน ทั้งหน่วยงานส่วนกลางและหน่วยงานส่วนกลางท่ีต้ังอยู่ในภูมิภาค (สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด 77 แห่ง/ สำนักงานศึกษาธิการภาค 18 แห่ง) กรอบอัตรากำลังในภาพรวมของสำนักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ มีจำนวนทั้งสิ้น 27,016 คน จำแนกเป็นข้าราชการพลเรือน 1,624 คน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา 6,987 คน ลูกจ้างประจำ 518 คน พนักงานราชการ 14,829 คน ลูกจ้างช่ัวคราว 65 คน และจ้างเหมาบริการ 2,993 คน และจากผลการประเมินแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 26 ตัวช้ีวัด บรรลุ เป้าหมาย จำนวน 20 ตัวชี้วัด คิดเป็นร้อยละ 76.92 ไม่บรรลุเป้าหมาย จำนวน 4 ตัวชี้วัด คิดเป็น ร้อยละ 15.39 และไม่สามารถประเมินผลได้ จำนวน 2 ตัวช้ีวัด คิดเป็นร้อยละ 7.69 ประกอบกับ คะแนนประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อยู่ในระดับผ่านตามเกณฑ์ ITA (Integrity & Transparency Assessment) เป้าหมายร้อยละ ไม่น้อยกว่า 85 คะแนน ผลการดำเนินงานได้ 90.54 คะแนน และถึงแม้ว่าสำนักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการจะมีโครงสร้างอำนาจหน้าที่ท่ีชัดเจนและมีหน่วยงานในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ด้านการศึกษาในระดับพ้ืนท่ี แต่ยังมีปัญหาอุปสรรคในเชิงโครงสร้าง ขาดการบูรณาการกันอย่าง แท้จริงทำให้ขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ หน่วยงานท่ีต้ังอยู่ในภูมิภาคไม่มีอำนาจสั่งการ โดยตรง และมีภารกิจที่ซ้ำซ้อนกันในเชิงพื้นที่ บางหน่วยงานมีกรอบอัตรากำลังแต่ไม่มีบุคลากร การปฏิบัติงานไม่เป็นตามอัตรากำลัง บางหน่วยงานบุคลากรไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน จำเป็น ต้องมีการพฒั นาดา้ นการบรหิ ารจดั การให้มีประสทิ ธภิ าพมากข้ึน ครอบคลุมทกุ มิติ ท้งั ในเชิงโครงสร้าง ระบบงาน กฎระเบยี บ งบประมาณ 51
17. ผลการวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก ของสำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร จากข้อมูลกรอบแนวคิดต่าง ๆ ท่ีใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับจัดทำคำของบประมาณรายจ่าย ประจำปี) รวมท้ังข้อมูลบริบทและสถานการณ์ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษา นำมาจัดทำเป็นผลการ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการกำหนดจุดแข็ง จุดอ่อนจาก สภาพแวดล้อมภายใน และโอกาส อปุ สรรค จากสภาพแวดล้อมภายนอก การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน โดยการปรับใช้ทฤษฎีกรอบแนวคิดของแมคคินซีย์ (McKinsey 7’s Framework) ท่ีคำนึงถึงประสิทธิภาพขององค์กรท่ีเกิดจากความสัมพันธ์ของปัจจัย ต่าง ๆ 7 ประการ ประกอบด้วย กลยุทธ์ โครงสร้าง ระบบ รูปแบบ บุคลากร ทักษะและค่านิยมร่วม และนำมากำหนดเปน็ จุดแข็ง และจดุ ออ่ น การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก โดยการปรับใช้ทฤษฏี PESTEL Analysis ในการวิเคราะห์ ในมิติต่าง ๆ ประกอบด้วย การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี กฎหมายและ สิ่งแวดลอ้ ม ที่มีผลกระทบต่อองคก์ ร และนำมากำหนดเปน็ โอกาสและอปุ สรรค จดุ แข็ง (STRENGTHS) จดุ อ่อน (WEAKNESSES) 1. มีบุคลากรปฏิบตั ิงานและเครือข่ายครอบคลมุ 1. ระบบฐานขอ้ มูลสารสนเทศด้านการศึกษา ทุกพน้ื ทีท่ ่ัวประเทศ สามารถประสานและบรู ณา ยังไมเ่ ช่ือมโยงเปน็ เอกภาพ ไม่ทนั สมัย การการทำงานไดท้ ัง้ สว่ นกลางและภูมภิ าค และไม่เป็นปัจจบุ นั 2. มคี ณะกรรมการศึกษาธกิ ารจงั หวัดทม่ี ี 2. บุคลากรบางสว่ นปรบั ตัวไมท่ ันกับการ ผู้วา่ ราชการเป็นประธาน ทำให้การขบั เคลื่อน เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยดี จิ ิทลั และบางสว่ น การศึกษาเปน็ ไปในทิศทางเดียวกัน และมีการ มุ่งทำงานประจำมากกวา่ ทำงานแบบรเิ รมิ่ บูรณาการทำงานรว่ มกนั ทง้ั ภาครัฐและเอกชน สรา้ งสรรค์ 3. เป็นหน่วยงานหลักทมี่ บี ทบาท/ภารกิจโดยตรง 3. หลกั สูตรและรปู แบบการพัฒนาบุคลากร ในการการส่งเสริมและสร้างโอกาสให้เด็กและ ไมห่ ลากหลาย ขาดความต่อเนอื่ ง ไม่เพียงพอ เยาวชนนอกระบบการศึกษา ไดร้ ับโอกาสทาง และไม่ตรงกับความต้องการของบคุ ลากร การศึกษาอยา่ งท่วั ถึง และมีแหลง่ เรยี นร้สู ่งเสริม 4. ขาดการนำค่านยิ ม TEAMWINS มากระตุ้น การจดั การศึกษาตามอัธยาศัย ทำใหป้ ระชาชน และสง่ เสริมใหเ้ กิดการพฒั นากรอบความคดิ ได้รบั โอกาสและยกระดับการศึกษาครอบคลมุ ให้กับทุกหนว่ ยงานอยา่ งตอ่ เน่ืองและจริงจงั ทกุ พนื้ ท่ีและเขา้ ถึงกลมุ่ เป้าหมาย 5. บทบาทครสู ่วนใหญย่ งั ไมเ่ อื้อต่อการสง่ เสรมิ 4. เปน็ หน่วยงานหลักในการจัดทำงบประมาณ ผู้เรยี นให้มที ักษะในศตวรรษท่ี 21 และบรหิ ารราชการท่ัวไปของกระทรวง เพอ่ื บรรลุ 6. ผลการประเมนิ PISA 2018 ดา้ นการอ่าน และเกดิ ผลสัมฤทธติ์ ามภารกิจของกระทรวง คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนสงั กัด 5. เป็นหนว่ ยงานท่มี ผี ลการประเมินคุณธรรม สช. อยใู่ นระดับต่ำกวา่ ค่าคะแนนเฉลีย่ ของ และความโปรง่ ใสในการดำเนินงานอย่ใู นระดับ ประเทศ OECD ท่สี ูงตามเกณฑ์ (ITA) 7. ผลการจดั อันดบั ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ (IMD) พ.ศ. 2564 ดา้ นการศึกษา 52
จดุ แข็ง (STRENGTHS) จุดอ่อน (WEAKNESSES) 6. มหี น่วยงานกฎหมายท่อี อกกฎ ระเบียบ อยใู่ นอันดับ 56 จาก 64 ประเทศทว่ั โลก ลดลง ข้อบงั คับ หลักเกณฑ์ วิธกี ารและเง่ือนไข จาก พ.ศ. 2563 ซึ่งอยู่ในอนั ดับท่ี 55 การบรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการครู 8. ผลการสอบ O-NET ของนักเรียนสงั กัด สช. และบุคลากรทางการศึกษา ส่วนใหญ่มคี ะแนนต่ำกวา่ ร้อยละ 50 โดยเฉพาะ 7. มีเครือข่ายพัฒนาความรว่ มมอื ด้านการศึกษา ในระดับ ม.6 รวมทั้งผลการสอบ RT และ NT ทั้งในและตา่ งประเทศ ของนักเรียนสังกัด สช. มคี ะแนนตำ่ กว่า ค่าคะแนนเฉล่ยี ของประเทศ 9. ผู้เรยี นในพนื้ ที่จงั หวัดชายแดนภาคใต้ ขาดทักษะการใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือสื่อสาร ในการเรียนรู้ 10. การจดั การเรยี นการสอนและการวัด ประเมินผลของ กศน. ไมส่ อดคล้องกับการ ทดสอบทางการศกึ ษา N-NET ของสถาบนั ทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (สทศ.) สง่ ผล ใหค้ ะแนนลดลง โอกาส (OPPORTUNITIES) อปุ สรรค (THREATS) 1. การเปลยี่ นแปลงของโลกเขา้ สู่ยคุ ดิจิทัล 1. การเมอื งขาดเสถียรภาพ ส่งผลใหข้ าด (Digital Transformation) ส่งผลให้เกดิ การใช้ ความเช่อื มัน่ ต่อระบบ รวมถึงความขัดแย้ง เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ในการจัดการเรียนการสอน ทางความคดิ ส่งผลใหน้ โยบายขาดความ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์ การเรยี น ตอ่ เนอ่ื ง/เปล่ยี นแปลงบ่อย ทางไกล และการเรียนรู้ตลอดชวี ิต รวมทง้ั เกดิ การ 2. กระบวนการปรับปรุง แก้ไขกฎหมายระดบั ปรับเปลีย่ นระบบการทำงาน การสื่อสารกวา้ งไกล ชาติ บางสว่ นล่าช้า ไม่ครบถว้ น ไมส่ อดคล้องกบั รบั ขอ้ มลู ขา่ วสารรวดเรว็ และลดการใช้ทรัพยากร สถานการณ์ท่ีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ ในการทำงานได้มากข้นึ เป็นข้อจำกัดในการสง่ เสริมการมสี ่วนรว่ มการจดั 2. (รา่ ง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การศกึ ษาเอกชนกบั ภาคส่วนตา่ ง ๆ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) 3. โรคอุบัติใหม่ทำให้จำนวนผปู้ กครองยากจน ใหค้ วามสำคญั กับการพฒั นากำลังคนใหม้ ี เพม่ิ ข้ึน สง่ ผลเด็กบางส่วนหลุดออกนอกระบบ สมรรถนะสูง เอื้อต่อการสร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้ การศึกษา ตลอดชีวติ รวมถึง การส่งเสริมและปรับเปลย่ี น 4. เด็กและเยาวชนบางส่วน ขาดการตระหนักรู้ กระบวนการทำงานเปน็ ภาครัฐดจิ ทิ ลั และการรเู้ ท่าทนั สอ่ื สง่ ผลให้เกิดปญั หาทาง 3. รฐั บาลสง่ เสริมการบรหิ ารจัดการข้อมลู ขนาด สงั คมเกี่ยวกับยาเสพตดิ อบายมุข ปญั หา ใหญ่ (Big Data) ทำให้ จดั เก็บ เชื่อมโยง และใช้ ทางเพศและการใช้ความรนุ แรงในสถานศึกษา ประโยชน์ต่อการปรับปรงุ กระบวนการทำงานของ มากขึน้ หน่วยงานจากฐานข้อมลู ท่ีมปี ระสทิ ธิภาพเพ่ิมขนึ้ 5. ปญั หาความเหล่อื มล้ำในการเข้าถงึ เทคโนโลยี 4. นโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเชือ่ มโยง สารสนเทศ ทำใหเ้ ด็กบางสว่ นขาดความสามารถ ระบบการศึกษาระดบั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน ในการเรยี นออนไลน์ จากการขาดอปุ กรณแ์ ละ ระดับอาชวี ศึกษาระดับอุดมศึกษา อนิ เทอร์เน็ต 53
โอกาส (OPPORTUNITIES) อปุ สรรค (THREATS) 5. ประเทศไทยจะก้าวเขา้ สสู่ ังคมผู้สูงวัยสมบรู ณ์ 6. การเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ เส่ียงตอ่ ในปี 2566 เปน็ โอกาสในการพฒั นาการ การเกดิ ภยั แล้งและอุทกภยั ในบางพืน้ ท่ี รวมถึง จัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวติ สำหรับ ปญั หาฝ่นุ PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อการ กลมุ่ ผู้สูงอายุ ดำรงชีวิต 6. ประเทศไทยเข้ารว่ มเป็นส่วนหนึ่งในการ ขับเคล่ือนเป้าหมายการพฒั นาที่ยงั ยนื (SDGs) ทม่ี ีประเด็นดา้ นการศกึ ษาเป็นเป้าหมายสำคญั 7. ระบบราชการ 4.0 เอ้ือตอ่ การพัฒนาหน่วยงาน อย่างเปน็ ระบบ ทนั สมัย และเชื่อมโยงกนั ทกุ ระดับ 54
ส่วนที่ 3 สาระสำคัญของแผนปฏิบตั ริ าชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบบั จดั ทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำป)ี สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ศึกษา วิเคราะห์ และทบทวนบริบทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ระดับประเทศ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนการปฏิรูปประเทศ ฉบับปรับปรุง (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) นโยบายและแผน ระดับชาติว่าด้วยความม่ันคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2562 - 2565) นโยบายรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันท่ี 25 กรกฎาคม 2562 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายท่ี 4 เป้าหมายด้านการศึกษา แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นโยบาย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ร่าง) แผนปฏิบัติราชการของ กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี พ.ศ. 2566 เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับจัดทำคำของบประมาณ รายจ่ายประจำป)ี ดังนี้ 1. วิสยั ทัศน์ บูรณาการจัดการศึกษาอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ผ้เู รยี นมีคณุ ภาพและทกั ษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ 2. พันธกจิ 2.1 ส่งเสริม สนับสนุนการบริหารและจัดการศึกษาแบบบูรณาการทุกระดับ ทุกพ้ืนท่ี อย่างมีประสทิ ธิภาพ 2.2 ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ให้เท่าทนั การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ 2.3 ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างท่ัวถึง เหมาะสมตามศักยภาพและช่วงวัยของผเู้ รียน เพอื่ ลดความเหล่ือมล้ำทางการศกึ ษา 2.4 ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลและพัฒนาสมรรถนะ ของขา้ ราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาใหเ้ ท่าทันการเปล่ยี นแปลงในโลกยุคใหม่ 3. คา่ นิยม TEAMWINS T = Teamwork การทำงานเป็นทมี E = Equality of Work ความเสมอภาคในการทำงาน A = Accountability ความรบั ผิดชอบ M = Morality and Integrity การมีศีลธรรมและมคี วามซอ่ื สตั ย์ W = Willful ความมงุ่ ม่ันตง้ั ใจทำงานอย่างเตม็ ศักยภาพ I = Improvement การพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนื่องสม่ำเสมอ N = Network and Communication การเปน็ เครือขา่ ยที่มีปฏสิ ัมพันธท์ ่ีดีต่อกัน S = Service Mind การมีจิตม่งุ บรกิ าร
4. เป้าประสงค์รวม 4.1 สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีการบริหารและการจัดการศึกษาแบบบูรณาการ ท่ีมีประสิทธภิ าพ 4.2 ผู้เรยี นได้รับการศึกษาและการเรยี นรู้ท่ีมคี ุณภาพและเทา่ ทนั การเปล่ียนแปลงในโลก ยคุ ใหม่ 4.3 ผู้เรยี นได้รับโอกาสทางการศกึ ษาและการเรยี นรูต้ ลอดชีวติ อย่างท่วั ถึงและเสมอภาค 4.4 ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะที่ส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียน ให้เท่าทนั การเปล่ียนแปลงในโลกยคุ ใหม่ 5. เป้าประสงค์รวม ตัวช้ีวัดเปา้ ประสงค์รวมและคา่ เปา้ หมาย เปา้ ประสงคร์ วม ตวั ชีว้ ัดเปา้ ประสงค์รวม คา่ เปา้ หมาย ปรากฏรายละเอียดตัวชี้วัดในภาคผนวก ปี 2566 1. สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 1. ผลคะแนนประเมินคณุ ธรรมและความ 85 คะแนน ข้นึ ไป มกี ารบรหิ ารและการจัดการศกึ ษา โปร่งใสนการดำเนินงานของสำนกั งานปลดั 420 คะแนน แบบบรู ณาการ ที่มปี ระสิทธภิ าพ กระทรวงศึกษาธกิ ารอยู่ในระดับผา่ น ตาม รอ้ ยละ 80 เกณฑ์ ITA (Integrity & Transparency รอ้ ยละ 61 Assessment) (ศปท.) ร้อยละ 95 2. ผลคะแนนการประเมนิ สถานะของ 15,000,000 คร้งั หน่วยงานภาครฐั ในการเปน็ ระบบราชการ 4.0 ประจำปี (PMQA 4.0) : (Self-Assessment) ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร (กพร.) 2. ผเู้ รยี นไดร้ ับการศึกษาและการ 3. รอ้ ยละของนักเรียนทผ่ี า่ นการประเมิน เรียนรูท้ ี่มีคุณภาพและเท่าทันการ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสตู ร เปล่ียนแปลงในโลกยุคใหม่ แกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 ระดบั ดขี ึ้นไป (สช.) 4. รอ้ ยละของผู้เรยี นผ่านการประเมนิ คุณธรรม ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 ระดบั ดีขึ้นไป (กศน.) 3. ผู้เรียนไดร้ ับโอกาสทางการ 5. รอ้ ยละของผู้ผา่ นการฝึกอบรม/พัฒนา ศกึ ษาและการเรียนรตู้ ลอดชีวิต ทกั ษะอาชพี ระยะสัน้ สามารถนำความรู้ไป อยา่ งทวั่ ถึงและเสมอภาค สร้างโอกาสในการประกอบอาชพี /พัฒนางาน ได้ (กศน.) 6. จำนวนคร้ังทีป่ ระชาชนเขา้ ถงึ หลกั สูตร/ส่ือ/ แหล่งเรียนร้ทู จี่ ดั การศกึ ษาในรูปแบบการ เรียนรูต้ ลอดชวี ิต (Lifelong Learning) 56
เปา้ ประสงค์รวม ตวั ชี้วดั เปา้ ประสงคร์ วม ค่าเป้าหมาย ปรากฏรายละเอยี ดตัวชี้วดั ในภาคผนวก ปี 2566 4. ข้าราชการ ครู และบคุ ลากร ทางการศึกษามสี มรรถนะท่สี ง่ ผล 7. ร้อยละของขา้ ราชการ ครู และบคุ ลากร รอ้ ยละ 85 ต่อการพัฒนาผู้เรยี นให้เทา่ ทนั ทางการศกึ ษาทีไ่ ดร้ บั การพฒั นาสมรรถนะการ รอ้ ยละ 80 การเปลย่ี นแปลงในโลกยคุ ใหม่ ปฏบิ ตั ิงาน และสามารถนำผลการพัฒนาไปใช้ ในการปฏบิ ตั ิงาน (สอ./สช./สคบศ./กศน./ ก.ค.ศ.) - ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา - ข้าราชการพลเรือนสามัญ และบคุ ลากร ทางการศึกษาอน่ื (มาตรา 38 ค(2)) 6. ประเดน็ ยุทธศาสตร์ เปา้ ประสงคร์ ายประเด็นยุทธศาสตร์ และกลยทุ ธ์ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ เป้าประสงคร์ ายประเดน็ กลยุทธ์ ยทุ ธศาสตร์ 1. พัฒนาการจดั การศกึ ษา 1.1 ปลูกฝงั คา่ นยิ มและหลกั คิดที่ เพอื่ ความมั่นคง 1. ผู้เรียนได้รับโอกาสทาง ถกู ต้องเพ่ือเสรมิ สร้างเสถยี รภาพ การศึกษาและการเรยี นรู้ที่มี สถาบนั หลักของชาติ ตามระบอบ คณุ ภาพและทักษะทจ่ี ำเป็น ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ สอดคล้องกบั การเสรมิ สร้างความ ทรงเป็นประมุข ม่ันคงในแต่ละบริบท 1.2 ยกระดับคุณภาพและสร้างโอกาส การเข้าถึงการศึกษา และพฒั นา สมรรถนะการเรียนร้/ู อาชีพดว้ ยศาสตร์ พระราชาและตามหลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียงในเขตพัฒนาพิเศษ เฉพาะกิจจงั หวัดชายแดนภาคใต้ และ เขตพ้นื ทพ่ี ิเศษ (พื้นที่สูง พ้นื ท่ีตาม ตะเข็บชายแดนและพื้นทเ่ี กาะแกง่ ชายฝ่ังทะเล ท้ังกลุ่มชนตา่ งเชอ้ื ชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม กล่มุ ชนชาย ขอบและแรงงานต่างดา้ ว) 1.3 พัฒนากลไกบูรณาการระบบ บริหารจดั การการป้องกนั และแกไ้ ข ปัญหายาเสพติดหรือภยั คุกคาม รปู แบบใหม่ 57
ประเด็นยุทธศาสตร์ เปา้ ประสงคร์ ายประเดน็ กลยุทธ์ 2. พฒั นากำลังคน เพื่อ ยทุ ธศาสตร์ สรา้ งความสามารถในการ แขง่ ขนั ของประเทศ 1.4 พัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษา 3. พฒั นาและเสริมสร้าง ศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์ กบั ตา่ งประเทศเพื่อยกระดบั คุณภาพ ให้มีคุณภาพ และโอกาสทางการศึกษา 4. สร้างโอกาสและความ เสมอภาคทางการศึกษา 2. ผเู้ รยี นมสี มรรถนะและ 2.1 พัฒนาผเู้ รยี นให้มีความรู้ ทกั ษะ องค์ความรทู้ ต่ี อบสนองความ และสมรรถนะอาชีพให้สอดคล้องกบั ตอ้ งการของตลาดแรงงานในพื้นที่ ความตอ้ งการของตลาดแรงงานใน ภมู ภิ าคและประเทศ พน้ื ที่ ภูมิภาค และประเทศ 3. ผูเ้ รยี นมีคณุ ภาพ ทักษะและ 3.1 สง่ เสริมการจดั การเรยี นการสอน คณุ ลกั ษณะทเ่ี หมาะสมตอ่ การ พัฒนากระบวนการคิดอยา่ งเป็นระบบ เรียนรู้ในโลกยุคใหม่ ผ่านประสบการณต์ รงจากการลงมอื 4. ครู และบุคลากรทางการศึกษา ปฏิบตั ิ ควบคู่กบั การเรียนรูผ้ ่านสอื่ มสี มรรถนะเท่าทันการ เทคโนโลยดี จิ ิทัล เปลย่ี นแปลงในโลกยคุ ใหม่ 3.2 สร้างแพลตฟอร์มดจิ ิทัลรองรบั การเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย 3.3 บรู ณาการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ทสี่ ง่ เสริม ระเบยี บ วนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จิตสาธารณะ ความเปน็ พลเมอื งและความปลอดภัยของผเู้ รียน 3.4 พัฒนาระบบการบริหารงานบุคคล ของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพ่ือ ยกระดับสมรรถนะในการปฏิบัติงาน 3.5 สง่ เสริมการวิจัยและนวัตกรรม การบรหิ ารและจัดการศึกษาและพัฒนา บุคลากรวจิ ัยทางการศึกษา 5. ผู้เรียนไดร้ ับโอกาสทาง 4.1 เพิ่มและกระจายโอกาสทาง การศึกษาอย่างทั่วถึงและเสมอภาค การศึกษาในระบบ การศกึ ษานอก ดว้ ยรูปแบบท่ีหลากหลาย ระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถเข้าถึงโอกาสทาง การเรียนรู้อยา่ งต่อเนื่องตลอดชวี ิตได้ อยา่ งหลากหลายรอบคลมุ ทุกพน้ื ที่ และกลุม่ เป้าหมาย 4.2 ส่งเสริม พัฒนาสอ่ื การเรียนรู้ ผา่ นเทคโนโลยดี ิจทิ ัลที่เหมาะสม ตอ่ การเข้าถงึ และพฒั นาการเรียนรู้ อยา่ งต่อเนอ่ื งตลอดชีวติ 58
ประเด็นยุทธศาสตร์ เปา้ ประสงค์รายประเด็น กลยุทธ์ ยทุ ธศาสตร์ 5.1 สง่ เสริมกจิ กรรมสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักรู้ 5. ส่งเสริมการสรา้ งคณุ ภาพ 6. หนว่ ยงานและสถานศึกษา คณุ ภาพชวี ติ ที่เปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ด้วยรปู แบบท่หี ลากหลาย ชีวติ ทเ่ี ป็นมติ รกบั มีการสง่ เสริมคุณภาพชวี ติ 6.1 สง่ เสริมและพฒั นาการนำเทคโนโลยี ดจิ ิทัลมาประยุกตใ์ ช้ในการบริหาร สง่ิ แวดล้อม ทเี่ ป็นมิตรกบั สิง่ แวดลอ้ ม ราชการและบรกิ ารประชาชน 6.2 พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางด้าน 6. พัฒนาระบบบริหาร 7. หนว่ ยงานมรี ะบบการบริหาร การศกึ ษาใหเ้ ป็นเอกภาพ เป็นปจั จุบัน จัดการให้มีประสทิ ธิภาพ จัดการท่มี ปี ระสิทธิภาพด้วย และเชือ่ มโยงกนั ในทุกระดบั เทคโนโลยีดิจทิ ลั ตอบสนอง 6.3 สรา้ งและพฒั นากลไกการบริหาร ความต้องการของผู้รับบริการได้ จดั การศกึ ษาให้มปี ระสิทธิภาพ อย่างสะดวก รวดเรว็ และโปร่งใส เชอื่ มโยงทุกระดบั ทุกพน้ื ที่ 6.4 เร่งรัด ปรับปรุง แกไ้ ขกฎหมาย กฎ ระเบียบ และขอ้ บังคบั ให้ สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั บรบิ ทที่ เปลี่ยนแปลง 6.5 ปรับปรงุ โครงสร้างและอำนาจ หน้าทข่ี องหน่วยงานให้มีความทันสมัย ยืดหยุ่น เชือ่ มโยง และเอือ้ ต่อการ พฒั นาหน่วยงานให้มปี ระสทิ ธิภาพ 6.6 พัฒนาเครอื ข่ายต่อต้านการทจุ รติ ประพฤตมิ ชิ อบใหม้ สี ว่ นร่วมจัดกิจกรรม รณรงค์ เฝา้ ระวงั และติดตาม พฤติกรรมเสีย่ งการทุจริต 6.7 พัฒนาระบบการบริหารงาน บคุ คลของข้าราชการพลเรือนและ บคุ ลากรทางการศึกษาอ่ืน เพ่ือ ยกระดบั สมรรถนะการปฏบิ ัติงาน 59
7. ประเด็นยุทธศาสตร์ ตวั ช้ีวัดและคา่ เป้าหมายรายประเด็นยทุ ธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ ตัวชี้วดั และค่าเป้าหมายรายประเด็นยุทธศาสตร์ ค่าเป้าหมาย สป. ปี 2566 ปรากฏรายละเอยี ดตวั ช้วี ดั ในภาคผนวก รอ้ ยละ100 1. พฒั นาการจดั การ 1. ร้อยละของหน่วยงาน/สถานศกึ ษาสังกัดสำนักงาน 5,438 คน รอ้ ยละ 80 ศกึ ษาเพ่ือความม่นั คง ปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ ความรัก ร้อยละ 80 ร้อยละ 80 และการธำรงรักษาสถาบันหลกั ของชาติ ยึดมน่ั ใน รอ้ ยละ 51.50 การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ คะแนนเฉลยี่ 41 ทรงเปน็ ประมขุ (ทุกหนว่ ยงานและสถานศึกษา 1 ระบบ ในสังกัด สป.) รอ้ ยละ 80 2. จำนวนผไู้ ด้รบั ทุนการศึกษารายปี ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไม่สงบในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) 3. ร้อยละของผู้เรียนที่ได้รับการสรา้ งภูมิคมุ้ กัน จากภัยคกุ คามรปู แบบใหม่ (ยาเสพติด, ภัยไซเบอร์, ภยั พิบตั ิธรรมชาต,ิ โรคอบุ ัตใิ หม่ ฯลฯ) (สบศ.) 2. พฒั นากำลงั คน 4. ร้อยละของผู้ผ่านการอบรมเครอื ขา่ ยเศรษฐกจิ เพ่อื สรา้ งความสามารถ ดจิ ิทลั ชมุ ชนระดบั ตำบล (กศน.) ในการแข่งขนั ของประเทศ 5. ร้อยละของผูเ้ รียนมคี วามรู้ ทักษะ และสมรรถนะ อาชีพที่สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตลาดแรงงาน ในพนื้ ท่ี ภมู ภิ าค และประเทศ (ศธภ. 6 ภาค ภมู ิศาสตร)์ 3. พัฒนาและเสรมิ สร้าง 6. ร้อยละของนักเรียนสงั กัดโรงเรยี นเอกชนที่มี ศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ คะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ ให้มคี ณุ ภาพ ขั้นพน้ื ฐาน (O-NET) แตล่ ะวชิ าผ่านเกณฑ์คะแนน ร้อยละ 50 ข้นึ ไปเพิ่มข้ึน (สช.) 7. คะแนนเฉลย่ี ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติดา้ นการศึกษานอกระบบ (N-NET) เพมิ่ ขน้ึ (กศน.) 8. จำนวนระบบคลงั ความร้ทู ี่มีการเชอ่ื มโยงเข้าสู่ ระบบดจิ ิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรยี นรแู้ หง่ ชาติ (National Digital Learning Platform : NDLP) (ศทก.) 9. ร้อยละของผลงานวิจยั และนวตั กรรมเพื่อสรา้ ง ความรู้สกู่ ารพฒั นาการศึกษา ทีไ่ ด้รับการเผยแพร่ แก่ผ้เู กี่ยวข้องและสาธารณชน (สนย.) 60
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ ตวั ชี้วดั และค่าเป้าหมายรายประเด็นยุทธศาสตร์ ค่าเปา้ หมาย สป. ปรากฏรายละเอียดตัวชี้วดั ในภาคผนวก ปี 2566 4. สร้างโอกาสและความ 10. จำนวนนกั เรยี นทีเ่ ป็นผู้พิการ ผูด้ อ้ ยโอกาส 410,000 คน เสมอภาคทางการศึกษา ไดร้ ับโอกาสในการเขา้ ถึงบริการการศึกษาและการ รอ้ ยละ 100 พัฒนาสมรรถภาพหรอื บรกิ ารทางการศึกษา ไม่นอ้ ยกว่า 16 ฉบับ ทเ่ี หมาะสมตามความต้องการจำเป็น (กศน./สช.) 1 ระบบฐานข้อมลู - กศน. 10,000 คน - สช. 400,000 คน 5. สง่ เสริมการสร้าง 11. ร้อยละของหนว่ ยงานและสถานศึกษาส่งเสริม คณุ ภาพชีวติ ท่เี ป็นมติ รกับ กจิ กรรมสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ และความตระหนกั รู้ สง่ิ แวดลอ้ ม คณุ ภาพชวี ิตทีเ่ ปน็ มติ รกบั สิ่งแวดลอ้ มดว้ ยรปู แบบ ท่ีหลากหลาย (สอ,สบศ.,สช.,กศน.) 6. พัฒนาระบบบรหิ าร 12. จำนวนร่าง/กฎหมาย กฎ ระเบยี บ ประกาศ จัดการให้มีประสทิ ธิภาพ ขอ้ บังคับที่ไดร้ ับการปรับปรุง แก้ไข หรือพัฒนาให้ สอดคลอ้ งกับสถานการณ์ (สน./สช./ก.ค.ศ.) - สน. 1 ฉบบั - สช. ไมน่ อ้ ยกวา่ 10 ฉบับ - ก.ค.ศ. ไม่นอ้ ยกว่า 5 ฉบับ 13. จำนวนระบบฐานข้อมูลกลาง (Big Data) ของ กระทรวงศึกษาธกิ ารที่เช่ือมโยงฐานข้อมูลรายบุคคล อ้างอิงจากเลขประจำตัวประชาชน 13 หลกั ระหวา่ ง กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานอ่ืน (ศทก.) 61
แผนผังความเช่อื มโยงแผน 3 ระดับ ของประเทศสู่แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ ระดบั 1 ยุทธศาสตร์ชาติ 2. การสร้างความสามารถ 3. การพฒั นาและเสร (พ.ศ. 2561-2580) ในการแข่งขนั ทรพั ยากร 1. ความม่นั คง ระดับ 2 1. ประเดน็ ความม่ันคง (แผนย่อยท่ี 3.1) 6. พื้นที่และเมอื งน่าอยูอ่ ัจฉรยิ ะ (แผนยอ่ ยท่ี 10. การปรับเปล่ยี นค่านิยมและว การรักษาความสงบภายในประเทศ 3.1) การพัฒนาเมอื งนา่ อย่อู จั ฉรยิ ะ แผนแม่บท (แผนย่อยที่ 3.2) การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา 9. เขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ (แผนยอ่ ยที่ 3.1) ปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่า ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีผลกระทบต่อความม่ันคง การพฒั นาเขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก/ 2. ประเดน็ การตา่ งประเทศ (แผนยอ่ ยท่ี 3.2 ชายแดน/การพัฒนาพน้ื ท่ีระเบยี งเศรษฐกจิ จติ สาธารณะและการเปน็ พลเ ความร่วมมอื เศรษฐกิจและความร่วมมอื ภาคใต้ (แผนยอ่ ยที่ 3.2) การพฒั นาพื้นที่ เพอ่ื การพัฒนาระหวา่ งประเทศ ระเบยี งเศรษฐกิจภาคใต้ (แผนยอ่ ยที่ 3.3) 11. ศักยภาพคนตลอดช่วงช การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษชายแดน พฒั นาเด็กตั้งแตช่ ว่ งการต้งั คร ท่ี 3.3) การพัฒนาช่วงวยั เรียน/วัย การพัฒนาและยกระดับศกั ยภ (แผนยอ่ ยท่ี 3.5) การส่งเสริมศกั ย 12. การพฒั นาการเรยี นรู้ (แผนย่อยท เรียนร้ทู ่ตี อบสนองตอ่ การเปลยี่ นแปล ในศตวรรษท่ี 21 (แผนยอ่ ยที่ 3.2) แผ พหุปญั ญาของมนษุ ยท์ ่ีหลากหลาย 13. การเสรมิ สร้างให้คนไทยมสี ขุ ภาว ที่ดี แผนย่อยท่ี 3.1) การสรา้ ง ความรอ ปอ้ งกนั และควบคุมปัจจยั เสี่ยงทค่ี กุ ค 23. การวิจยั และพัฒนานวตั กรรม ( พัฒนานวัตกรรมด้านองค์ความรพู้ ้นื ฐาน แผนปฏิรูปประเทศ 12. ด้านการศึกษา (1) สร้างโอกาสและความเสมอ 5. ดา้ นเศรษฐกจิ (5) ศกั ยภาพคนเพอ่ื เปน็ พลังในการ 12. ดา้ นการศึกษา (2) จัดกา ภาคทางการศกึ ษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย (2) การพฒั นา ขับเคลือ่ นเศรษฐกิจ ฐานสมรรถนะ (3) พัฒนาครูแ (ฉบับปรบั ปรุง) การจดั การเรยี นการสอนสู่การเรยี นร้ฐู านสมรรถนะ (3) พฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษา รา่ ง แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 12. ไทยมีกำลงั คนสมรรถนะสูง 8. ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉรยิ ะทน่ี ่าอยู่ 12. ไทยมีกำลังคนสม และสงั คมแห่งชาติ มงุ่ เรียนรูอ้ ย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ ปลอดภัย เตบิ โตไดอ้ ย่างย่งั ยืน มุง่ เรียนรู้อยา่ งต่อเนอื่ ฉบบั ที่ 13 การพัฒนาแหง่ อนาคต พฒั นาแหง่ อนาคต (พ.ศ. 2566 - 2570) นโยบายและแผนระดับชาติ 1. เสรมิ สรา้ งความมนั่ คงของสถาบันหลักของชาติ ว่าดว้ ยความม่นั คงแห่งชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ (พ.ศ. 2562 -2565) ทรงเป็นประมุข 2. สร้างความเปน็ ธรรม ความปรองดอง และความสมานฉนั ทใ์ นชาติ 3. ปอ้ งกันและแกไ้ ขการก่อเหตรุ ุนแรงในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ 5. สรา้ งเสริมศกั ยภาพการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาภยั คุกคามข้ามชาติ 8. เสริมสรา้ งความเขม้ แข็งและภูมคิ มุ้ กันความม่ันคงภายใน 10. เสรมิ สรา้ งความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์ นโยบายรฐั บาล 1. การปกปอ้ งและเชดิ ชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 5. การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขัน 3. การทำนุบำรงุ ศาสนา ศลิ ป 2. การสรา้ งความมนั่ คงและความปลอดภัย ของไทย 8. การปฏริ ูปกระบวนการเรยี (พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตร)ี ของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ ของคนไทยทุกช่วงวยั 4. การสรา้ งบทบาทของไทยในเวทโี ลก ระดับ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ 1. การจัดการศึกษาเพ่ือความมน่ั คงของสงั คม 2. การผลิตและพฒั นากำลังคน เพื่อสร้างขีด 3. การพัฒนาศกั ยภาพค 3 แผนปฏิบัติราชการฯ ปี 66 ศธ. และประเทศ ความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ สังคมแห่ง ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ 1. พัฒนาการจดั การศึกษาเพ่ือความมัน่ คง 2. พัฒนากำลงั คน การวจิ ยั 3. พัฒนาและเสริมสรา้ งศ แผนปฏิบตั ริ าชการฯ ปี 66 สป. เพื่อสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ
ณ พ.ศ. 2566 ของสำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ (ฉบบั จดั ทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำป)ี รมิ สร้างศกั ยภาพ 4. การสร้างโอกาสและ 5. การสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชีวติ 6. การปรบั สมดุลและพฒั นาระบบการ รมนษุ ย์ ความเสมอภาคทางสังคม ท่ีเป็นมติ รต่อสิ่งแวดลอ้ ม บริหารจดั การภาครฐั วัฒนธรรม (แผนยอ่ ยที่ 3.1) 17. ความเสมอภาคและหลักประกันทาง 18. การเตบิ โตอยา่ งยง่ั ยืน (แผนยอ่ ยที่ 3.5) 20. การบริการประชาชนและประสิทธภิ าพ านิยม และการเสริมสรา้ ง สังคม (แผนยอ่ ยที่ 3.1) การคมุ้ ครองทาง การยกระดับกระบวนทัศนเ์ พ่ือกำหนดอนาคต ภาครัฐ (แผนย่อยที่ 3.1) การพัฒนาบรกิ าร เมอื งท่ีดี สังคมข้ันพื้นฐานและหลกั ประกนั ทาง ประเทศ ประชาชน (แผนยอ่ ยที่ 3.2) การบรหิ าร ชวี ิต (แผนย่อยที่ 3.2) การ เศรษฐกิจ สงั คม และสุขภาพ จดั การการเงินการคลงั (แผนยอ่ ยท่ี 3.4) รรภ์จนถึงปฐมวยั (แผนยอ่ ย การพัฒนาระบบบริหารงานภาครัฐ (แผน ยร่นุ (แผนยอ่ ยท่ี 3.4) ย่อยท่ี 3.5) การสร้างและพฒั นาบคุ ลากร ภาพวัยแรงงาน ภาครัฐ กยภาพผสู้ งู อายุ 21. การตอ่ ตา้ นการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบ (แผนยอ่ ยท่ี 3.1) การปอ้ งกนั การทุจริตและ ที่ 3.1) การปฏริ ูปกระบวนการ ประพฤติมชิ อบ ลง 22. กฎหมายและกระบวนการยตุ ธิ รรม ผนยอ่ ยการตระหนักถึง (แผนย่อยท่ี 3.1) การพัฒนากฎหมาย วะ อบรู้ด้านสุขภาวะและการ คามสุขภาวะ (แผนยอ่ ยที่ 3.4) การวจิ ัยและ น ารเรยี นการสอนสกู่ ารเรยี นรู้ 12. ด้านการศึกษา (1) สร้างโอกาสและความเสมอ 6. ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 2. ดา้ นการบริหารราชการแผ่นดนิ (1) ภาครฐั ดจิ ทิ ลั และบคุ ลากรทางการศกึ ษา ภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดบั ปฐมวัย (2) การพฒั นา (2) บริหารจดั การชายฝั่งทะเลและชายฝั่งรายจงั หวัด (2) โครงสรา้ งองค์กรและระบบงานภาครฐั (3) บรหิ าร การจดั การเรียนการสอนสู่การเรยี นรฐู้ านสมรรถนะ (บรรจุในหลักสูตรการศกึ ษาฯ) ทรัพยากรบุคคลระบบเปดิ (4) ความเขม้ แข็งระดับพืน้ ที่ (3) พัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา แบบมีสว่ นรว่ ม (5) จัดซ้อื จัดจ้างภาครัฐโปร่งใส 3. ดา้ นกฎหมาย (1) ปรบั ปรุงกฎหมายท่ีกระทบชวี ติ ประชาชน (3) เพม่ิ ประสทิ ธิภาพการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย 11.ดา้ นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและ ประพฤตมิ ิชอบ (4) ระบบราชการโปร่งใส (5) มาตรการ ปอ้ งกนั ทจุ รติ เชิงนโยบาย มรรถนะสงู 9. ไทยมีความยากจนข้ามรนุ่ ลดลงและ 11. ไทยสามารถลดความเสยี่ งและ 13. ไทยมภี าครฐั ที่ทันสมัย อง ตอบโจทยก์ าร คนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทางสงั คม ผลกระทบจากภยั ธรรมชาติและการ มีประสทิ ธิภาพและตอบโจทย์ประชาชน ที่เพียงพอ เหมาะสม เปลีย่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ปะและวฒั นธรรม 9. การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลกั ประกันทางสังคม 10. การฟน้ื ฟทู รัพยากรธรรมชาติและการรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม 11. การปฏิรปู การบรหิ ารจัดการภาครฐั ยนร้แู ละการพัฒนาศักยภาพ เพ่ือการสรา้ งการเตบิ โตท่ยี ั่งยืน 12. การปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตและประพฤติมชิ อบ และกระบวนการยุตธิ รรม คนทกุ ชว่ งวัยและการสรา้ ง 4. การสรา้ งโอกาสเข้าถงึ บรกิ ารทางการศกึ ษา 5. การจัดการศกึ ษาเพื่อการสรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชีวิต 6. การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศกึ ษาให้ทันสมัย งการเรยี นรู้ ทม่ี คี ณุ ภาพอยา่ งทัว่ ถึงและเสมอภาค ทีเ่ ปน็ มิตรกับส่ิงแวดลอ้ ม มปี ระสิทธิภาพตามหลกั ธรรมาภิบาล ศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4. สรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษา 5. ส่งเสริมการสรา้ งคุณภาพชวี ติ ท่เี ปน็ มิตรกับ 6. พัฒนาระบบบริหารจัดการให้มปี ระสทิ ธภิ าพ ส่ิงแวดล้อม
วสิ ยั ทศั น์ แผนผังความเชื่อมโยงสาระสำคัญของแผนปฏบิ ตั ริ าชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ พันธกิจ เปา้ ประสงคร์ วม บรู ณาการจัดการศกึ ษาอย่างมีประสิทธ 1. สง่ เสรมิ สนับสนนุ การบริหารและจดั การศกึ ษา 2. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาในระบบ แบบบรู ณาการทุกระดับ ทกุ พืน้ ทีอ่ ยา่ งมีประสิทธิภาพ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ใหเ้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลงในโลกยุคใหม่ 1. สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการมีการบรหิ าร 2. ผเู้ รียนไดร้ ับการศกึ ษาและการเรียนรทู้ ี่มคี ณุ ภาพ และการจดั การศกึ ษาแบบบูรณาการทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ และเท่าทันการเปลย่ี นแปลงในโลกยุคใหม่ ประเด็น 1. พัฒนาการจดั การศึกษา 2. พฒั นากำลงั คนเพือ่ สร้างความสามารถ 3. พัฒนาและเสรมิ สรา้ งศกั ย ยทุ ธศาสตร์ เพอ่ื ความมัน่ คง ในการแขง่ ขนั ของประเทศ ทรัพยากรมนษุ ยใ์ หม้ ีคณุ ภ เป้าประสงค์ ผูเ้ รยี นไดร้ บั โอกาสทางการศึกษาและการ ผเู้ รยี นมีสมรรถนะและองคค์ วามรทู้ ี่ตอบสนอง 1. ผเู้ รียนมคี ุณภาพ ทกั ษะและคณุ รายประเด็น เรียนรทู้ ม่ี คี ุณภาพและทกั ษะทจ่ี ำเปน็ ความต้องการของตลาดแรงงานในพนื้ ท่ี ที่เหมาะสมตอ่ การเรยี นรใู้ นโลกยคุ ยุทธศาสตร์ สอดคล้องกับการเสรมิ สรา้ งความมั่นคงใน ภมู ภิ าค และประเทศ 2. ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาม แตล่ ะบรบิ ท เท่าทันการเปลยี่ นแปลงในโลกยุคใ 1. ปลกู ฝังคา่ นยิ มและหลกั คิดทถ่ี กู ต้อง 1. พฒั นาผ้เู รยี นใหม้ คี วามรู้ ทักษะ และ 1. ส่งเสรมิ การจดั การเรียนการสอน เพ่ือเสรมิ สรา้ งเสถยี รภาพสถาบันหลกั สมรรถนะอาชีพให้สอดคล้องกับความตอ้ งการ พฒั นากระบวนการคิดอย่างเป็น ของชาติ ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มี ของตลาดแรงงานในพ้นื ท่ี ภมู ิภาค และประเทศ ผา่ นประสบการณต์ รงจากการลงม พระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข ควบคกู่ บั การเรยี นรผู้ า่ นส่ือเทคโนโ กลยุทธ์ 2. ยกระดับคณุ ภาพและสร้างโอกาส 2. สรา้ งแพลตฟอรม์ ดจิ ทิ ลั รองรับก ภายใต้ประเดน็ การเข้าถึงการศกึ ษา และพฒั นา ที่หลากหลาย ยุทธศาสตร์ สมรรถนะการเรยี นร้/ู อาชพี ดว้ ยศาสตร์ 3. บูรณาการจัดกระบวนการเรียน พระราชาและตามหลกั ปรชั ญาของ ท่สี ง่ เสรมิ ระเบยี บ วินยั คณุ ธรรม เศรษฐกจิ พอเพยี งในเขตพัฒนาพิเศษ จิตสาธารณะ ความเปน็ พลเมอื ง แ เฉพาะกจิ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ และ ความปลอดภยั ของผเู้ รียน เขตพน้ื ทีพ่ ิเศษ (พืน้ ทีส่ ูง พ้ืนท่ีตาม 4. พฒั นาระบบการบรหิ ารงานบุค ตะเข็บชายแดนและพืน้ ทเ่ี กาะแก่ง และบุคลากรทางการศกึ ษา เพอื่ ยก ชายฝ่ังทะเล ทั้งกลมุ่ ชนต่างเช้ือชาติ สมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ าน ศาสนา และวฒั นธรรม กลมุ่ ชนชายขอบ 5. ส่งเสรมิ การวิจยั และนวตั กรรมก และแรงงานต่างดา้ ว) และจดั การศกึ ษา และพัฒนาบคุ ล 3. พฒั นากลไกบรู ณาการระบบบรหิ าร ทางการศึกษา จัดการการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา ยาเสพตดิ หรือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ 4. พัฒนาความร่วมมือดา้ นการศกึ ษา กับตา่ งประเทศเพ่ือยกระดบั คณุ ภาพ และโอกาสทางการศกึ ษา
ศ. 2566 ของสำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร (ฉบบั จดั ทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี) ธภิ าพ ผู้เรยี นมีคุณภาพและทักษะทจี่ ำเปน็ ในโลกยุคใหม่ 3. ส่งเสรมิ สนบั สนุนการสรา้ งโอกาส และความเสมอภาค 4. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ การพฒั นาระบบการบรหิ ารงานบุคคลและพัฒนา ทางการศึกษาอยา่ งทั่วถึง เหมาะสมตามศกั ยภาพและชว่ งวัย สมรรถนะของขา้ ราชการ ครู และบุคลากรทางการศกึ ษาใหเ้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงในโลกยุคใหม่ ของผู้เรียน เพ่อื ลดความเหลอ่ื มล้ำทางการศกึ ษา 4. ข้าราชการ ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษามีสมรรถนะท่สี ง่ ผล 3. ผเู้ รียนไดร้ ับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรตู้ ลอดชีวิต ตอ่ การพัฒนาผเู้ รยี นใหเ้ ทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงในโลกยคุ ใหม่ อยา่ งท่ัวถึงและเสมอภาค ยภาพ 4. สรา้ งโอกาสและความเสมอภาค 5. ส่งเสรมิ การสรา้ งคณุ ภาพชวี ติ 6. พฒั นาระบบบริหารจดั การใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ภาพ ทางการศกึ ษา ท่ีเป็นมติ รกับส่ิงแวดลอ้ ม ณลักษณะ ผเู้ รยี นไดร้ บั โอกาสทางการศึกษา หนว่ ยงานและสถานศกึ ษามกี าร หน่วยงานมีระบบการบรหิ ารจดั การทมี่ ีประสทิ ธภิ าพ คใหม่ อย่างทว่ั ถงึ และเสมอภาคดว้ ยรปู แบบ ส่งเสรมิ คณุ ภาพชีวิตท่เี ป็นมิตร ดว้ ยเทคโนโลยดี ิจทิ ัล ตอบสนองความต้องการ มสี มรรถนะ ทห่ี ลากหลาย กบั สงิ่ แวดลอ้ ม ของผู้รบั บรกิ ารได้อยา่ งสะดวก รวดเรว็ และโปร่งใส ใหม่ น 1. เพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษา 1. ส่งเสริมกจิ กรรมสร้างความรู้ 1. ส่งเสรมิ และพัฒนาการนำเทคโนโลยีดจิ ิทลั นระบบ ในระบบการศกึ ษา นอกระบบ และ ความเข้าใจ และความตระหนักรู้ มาประยกุ ต์ใชใ้ นการบรหิ ารราชการและบริการ มอื ปฏบิ ตั ิ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้ผเู้ รยี นสามารถ คุณภาพชวี ิตที่เปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ประชาชน โลยดี ิจิทลั เข้าถงึ โอกาสทางการเรียนรู้อยา่ งตอ่ เน่อื ง ดว้ ยรูปแบบท่หี ลากหลาย 2. พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางดา้ นการศึกษา การเรยี นรู้ ตลอดชีวิตไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ครอบคลมุ ให้เปน็ เอกภาพ เปน็ ปัจจุบัน และเชือ่ มโยงกัน ทกุ พ้ืนท่ี และกลมุ่ เปา้ หมาย ในทกุ ระดบั นรู้ 2. สง่ เสรมิ พฒั นาส่ือการเรยี นรผู้ า่ น 3. สร้างและพัฒนากลไกการบริหารจัดการศึกษา จริยธรรม เทคโนโลยดี ิจทิ ัลทเ่ี หมาะสมต่อการเขา้ ถึง ให้มีประสทิ ธิภาพ เชือ่ มโยงทุกระดบั ทกุ พ้นื ที่ และ และพฒั นาการเรยี นร้อู ย่างต่อเนื่อง 4. เร่งรัด ปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ ตลอดชีวติ และข้อบงั คับให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบรบิ ท คคลของครู ทเ่ี ปล่ียนแปลง กระดับ 5. ปรับปรุงโครงสร้างและอำนาจหน้าท่ี ของหน่วยงานให้มีความทันสมัย ยืดหยุ่น การบริหาร เชื่อมโยง และเอื้อต่อการพัฒนาหน่วยงานให้มี ลากรวิจัย ประสิทธภิ าพ 6. พัฒนาเครอื ขา่ ยต่อต้านการทจุ ริตประพฤติ มิชอบให้มีส่วนร่วมจัดกิจกรรม รณรงค์ เฝ้าระวัง และตดิ ตามพฤตกิ รรมเสีย่ งการทุจริต 7. พัฒนาระบบการบรหิ ารงานบุคคล ของข้าราชการพลเรอื นและบุคลากรทางการศึกษา อน่ื เพ่อื ยกระดับสมรรถนะการปฏบิ ัตงิ าน
ส่วนที่ 4 ตารางสรปุ ภาพรวมงบประมาณตามแผนปฎิบัติราชการประจา (ฉบบั จัดทาคาของบประ งบ/งาน/ประเด็นยุทธศาสตร/์ กลมุ่ โครงการ รวมงบประมาณรวมทั้งส้นิ 1. งบบุคลากรภาครัฐ 2. งบลงทนุ 3. งานบริหารจัดการสานกั งาน 4. ประเด็นยุทธศาสตร์ของสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประเด็นยุทธศาสตร์ สป.ท่ี 1 พฒั นาการจัดการศึกษาเพอื่ ความม่นั คง 1.1 กลุ่มโครงการเสรมิ สรา้ งความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ท 1.2 กลุ่มโครงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและภัยรปู แบบใหม่ 1.3 กลุ่มโครงการพัฒนาการศึกษาในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1.4 กลุ่มโครงการจัดการศึกษาเพือ่ ความมั่นคงในเขตพืน้ ทีพ่ ิเศษ 1.5 กลุ่มโครงการพัฒนาความรว่ มมือด้านการศึกษากับต่างประเทศ ประเด็นยุทธศาสตร์ สป.ที่ 2 พัฒนากาลังคน เพือ่ สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 2.1 กลุ่มโครงการพ้ืนทแี่ ละเมืองน่าอยู่อัจฉรยิ ะ 2.2 โครงการดิจทัลชุมชน ประเด็นยุทธศาสตร์ สป. ที่ 3 พฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ให้มีคุณภาพ 3.1 กลุ่มโครงการปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม จิตสาธารณะและความเป็นพลเมือง 3.2 กลุ่มโครงการพฒั นาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิตต้ังแต่ปฐมวัยจนถึงวัยผู้สูงอายุ 3.3 กลุ่มโครงการปฏิรปู การเรยี นรู้ 3.4 กลุ่มโครงการพฒั นาระบบบรหิ ารงานบุคคลของครูและบคุ ลากรทางการศึกษา (รวมถึงการพฒั นาครแู ละบุคล 3.5 กลุ่มโครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา ประเด็นยุทธศาสตร์ สป. ที่ 4 สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.1 กลุ่มโครงการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.2 กลุ่มโครงการพัฒนาคุณภาพสื่อการเรยี นรู้ผ่านระบบดิจิทลั และแหล่งเรยี นรู้ที่เข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต 6
าปงี บประมาณ พ.ศ. 2566 ของสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ะมาณรายจ่ายประจาปี) จานวน งบประมาณประจาปี โครงการ งบประมาณ พ.ศ. 2566 ทรงเป็นประมุข 438 66,561,780,300 99 9,110,443,300 ลากรทางการศึกษา) 3,616,107,900 13 2,165,318,900 64 51,669,910,200 2 2,331,978,700 60 2 134,857,400 22 6 48,900,800 5 1,883,744,500 1 135 37,290,300 42 227,185,700 19 237,430,100 24 122,652,400 43 114,777,700 7 2,588,720,000 43 284,880,000 32 609,350,000 11 1,297,024,700 367,722,300 29,743,000 43,069,213,900 42,944,152,700 125,061,200
งบ/งาน/ประเด็นยุทธศาสตร/์ กลมุ่ โครงการ ประเด็นยุทธศาสตร์ สป. ท่ี 5 เสริมสร้างคุณภาพชีวิตทเี่ ปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.1 กลุ่มโครงการสร้างการตระหนักรู้บนคุณภาพชีวิตทีเ่ ปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเด็นยุทธศาสตร์ สป. ที่ 6 พฒั นาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 6.1 กลุ่มโครงการบรกิ ารประชาชนและประสิทธิภาพภาครฐั 6.2 กลุ่มโครงการสรา้ งและพฒั นากลไกการบรหิ ารจัดการศึกษาและการมีส่วนร่วมกับทกุ ภาคส่วน 6.3 กลุ่มโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง ภาค และจังหวัดด้านการศึกษา 6.4 กลุ่มโครงการพัฒนากฎหมาย กฎ ระเบยี บ และข้อบังคับด้านการศึกษา 6.5 กลุ่มโครงการปรับปรุงโครงสรา้ งอานาจหน้าท่ขี องหน่วยงาน 6.6 กลุ่มโครงการพัฒนาระบบการบรหิ ารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือน/บคุ ลากรทางการศึกษาอ่ืน (รวมถึงกา พลเรอื น/บุคลากรทางการศึกษาอ่ืน) 6.7 กลุ่มโครงการต่อต้านการทจุ รติ และประพฤติมิชอบ หมายเหตุ : 1. โครงการวิจัยขอรับงบประมาณจากสานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว 6
ารพฒั นาข้าราชการ จานวน งบประมาณประจาปี ว.) โครงการ งบประมาณ พ.ศ. 2566 3 239,069,700 3 239,069,700 152 3,203,497,800 15 1,461,218,600 58 458,817,700 7 1,091,428,500 5 2 5,164,000 61 1,325,800 4 161,744,200 27,151,000 23,799,000 65
ส่วนท งาน/โครงการและงบประมาณ แผนปฎบิ ตั ิราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 25 (ฉบบั จัดทาคาของบประม
ที่ 5 ตามประเดน็ ยุทธศาสตร์ 566 ของสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มาณรายจ่ายประจาปี)
5.1 ตารางสรุปโครงการและงบประมาณตามประเด็นย ประเด็นยุทธศาสตร์ กล่มุ โครงการ จาน ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ 1 5 กลมุ่ โครงการ พฒั นาการจดั การ 1.1 กลมุ่ โครงการเสรมิ สรา้ งความมั่นคงของสถาบนั หลกั ของชาติ ศกึ ษาเพอ่ื ความม่นั คง ตามระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ 1.2 กลมุ่ โครงการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ และภยั รูปแบบใหม่ 1.3 กลมุ่ โครงการพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกิจจังหวัด ชายแดนภาคใต้ 1.4 กลมุ่ โครงการจัดการศึกษาเพ่อื ความม่ันคงในเขตพื้นที่พิเศษ 1.5 กลมุ่ โครงการพฒั นาความรว่ มมือดา้ นการศกึ ษากบั ตา่ งประเทศ หมายเหตุ * หมายถึง โครงการภายใตแ้ ผนงานบรู ณาการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ** หมายถึง โครงการตามนโยบายการจดั การศึกษากระทรวงศึกษาธกิ าร ปีงบประมาณ 6
ยุทธศาสตร์ท่ี 1 พฒั นาการจัดการศึกษาเพ่อื ความมน่ั คง นวนโครงการ งบประมาณ หนว่ ยงาน/จานวนโครงการ 99 ทีข่ ับเคลอื่ นประเดน็ ยุทธศาสตร์ 13 2,331,978,700 2 134,857,400 สอ. (1), สนย.(1), สช. (1), สบศ. (2), สกก. (6), สบศ.รว่ มกบั ศธภ. (1), สบศ.รว่ มกบั ศธจ. (1) 48,900,800 สบศ. (1), สช. (1) 60 1,883,744,500 ศปบ.จชต. (24),ศธภ.7(3), สช. (23) , กศน. (9), สกก. (1) 2 37,290,300 ศธจ. 27 จังหวดั (1), สบศ. (1) 22 227,185,700 สต. (20), สนง.คณะผแู้ ทนถาวรไทยประจายูเนสโกฯ (1), หนว่ ยงานในสงั กดั ศธ. ( สอศ.,กศน.,ก.ค.ศ.,สคบศ.,สกก.,สนง.คณะผแู้ ทน ถาวรไทยประจายูเนสโกฯ) (1) ณ พ.ศ. 2564-2565 และนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธกิ าร ปงี บประมาณ พ.ศ. 2566 67
แบบฟอร์มแผนปฎบิ ตั ิราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสานกั ง ประเด็นยุทธ์ศาสตร์ สป. : 1. พฒั นาการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง กล่มุ โครงการ/โครงการ/ เปา้ หมาย ต กจิ กรรมหลกั ของโครงการ คา่ เปา้ ห รวมประเด็นยุทธศาสตร์ สป. ที่ 1 (จานวน 99 โครงการ) 1.1 กล่มุ โครงการเสรมิ สรา้ งความมั่นคงของ สถาบนั หลักของชาติตามระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ (จานวน 13 โครงการ) 1. โครงการจัดงานเทดิ พระเกยี รตพิ ระบรม- ผบู้ ริหาร ขา้ ราชการ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศกึ ษา 1. ระดบั ความสาเรจ็ ขอ วงศานุวงศ์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2566 ผปู้ กครอง และประชาชนทวั่ ไปไดเ้ ข้า 2. ร้อยละของผเู้ ขา้ รว่ ม 2. โครงการเทิดพระเกียรตพิ ระบรมวงศานุวงศ์ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ร่วมตลอดท้ังโครงการไมน่ ้อยกว่า 5,000 คน (ร้อยละ 85) 3. โครงการสง่ เสริมการพัฒนาโรงเรยี นเอกชน รายงานผลการดาเนินงานโครงการเทิดพระเกียรติ รอ้ ยละของขา้ ราชการบ ใน โครงการตามพระราชดารสิ มเดจ็ พระกนษิ ฐา- ธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ พระบรมวงศานุวงศ์ จานวน 1 เลม่ และเยาวชน มีความรู้ ค สยามบรมราชกุมารใี ห้มคี ณุ ภาพ พระมหากษตั รยิ ์ (อยา่ ง โรงเรียนเอกชนในโครงการ 20 โรง 1. จานวนโรงเรยี นเอกช สนบั สนนุ การจดั และพัฒ แนวพระราชดาริฯ (20 2. ร้อยละความสาเร็จข จัดการเรยี นรู้เปน็ ไปตาม อยใู่ นระดบั ดขี นึ้ ไป (ร้อ 4. โครงการขบั เคลอ่ื นงานดา้ นสถานศึกษาพอเพยี ง ขยายผลใหม้ ีสถานศกึ ษาพอเพียง/ศนู ย์การเรียนรู้ 1. ร้อยละของสถานศึก เปน็ สถานศึกษาพอเพีย และศูนยก์ ารเรียนรูต้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งดา้ น รอ้ ยละ 60) 2. รอ้ ยละของศนู ย์การเ พอเพยี งดา้ นการศึกษา ปงี บประมาณ 2566 การศกึ ษาเพ่ิมขึ้น 6
งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ (ฉบบั จัดทาคาของบประมาณรายจ่ายประจาปี) ตัวชว้ี ัด/ หนว่ ยงาน ความสอดคลอ้ ง หมายตวั ชีว้ ัด รับผิดชอบ งบประมาณปี 2566 ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. 2,331,978,700 แมบ่ ท ปฏริ ูปฯ 13 หลัก เร่งด่วน จุดเน้น 66 134,857,400 องการจัดโครงการ 6,712,000 สอ. 1 1 12 12 มโครงการมคี วามพงึ พอใจ 4,736,000 สนย. 1 1 12 12 บคุ ลากรทางการศึกษา เดก็ ความเข้าใจในสถาบนั 5,698,300 สช. 1 1 12 12 งนอ้ ยร้อยละ 80) ชนท่ไี ดร้ บั การสง่ เสรมิ 8,470,000 สบศ. 1 1 12 12 ฒนาคุณภาพการศกึ ษาตาม โรง) ของการพฒั นาคณุ ภาพการ มหลกั เกณฑท์ กี่ าหนดและ อยละ 80) กษาผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ยงเพมิ่ ข้นึ (ไมน่ อ้ ยกว่า เรยี นรฯู้ (เพ่มิ ข้ึนร้อยละ 50) 68
กลมุ่ โครงการ/โครงการ/ เปา้ หมาย ต กจิ กรรมหลกั ของโครงการ คา่ เปา้ ห 5. โครงการสร้างและสง่ เสรมิ ความเปน็ พลเมอื งดี ศธภ. 18 ภาค บคุ ลกรของ ศธภ. ศธจ. ตามรอยพระยคุ ลบาทดา้ นการศกึ ษาสกู่ ารปฏิบตั ิ และสถานศึกษาในพนื้ ท สานักงานศึกษาธิการภาค ** 1-18 สามารถถอดบทเร (Design Thinking) มีเค สง่ เสรมิ ความเป็นพลเม ดา้ นการศกึ ษาสกู่ ารปฏ 6. โครงการสร้างและสง่ เสรมิ ความเปน็ พลเมอื งดี ศธจ. 77 จงั หวดั ร้อยละของผเู้ ขา้ รว่ มโคร ตามรอยพระยุคลบาทดา้ นการศึกษาสกู่ ารปฏบิ ัต*ิ * เทดิ ทนู ในสถาบนั พระม การปกครองระบอบปร 7. โครงการเสรมิ สร้างความร้คู วามเขา้ ใจดา้ นการ การดาเนินงานเสรมิ สรา้ งความรเู้ ก่ียวกบั สถาบัน รอ้ ยละของหนว่ ยงาน ส ธารงรักษาสถาบันหลกั ของชาตกิ ระทรวงศกึ ษาธกิ าร หลกั ของชาตแิ ละสนองงานโครงการอันเนือ่ ง ทางการศกึ ษา นักเรียน มาจากพระราชดาริฯ ในระดบั พื้นที่ของสานกั งาน ทุกสงั กดั มีความรู้ความ ศกึ ษาธกิ ารภาค 18 แห่ง และสานกั งานศกึ ษาธิการ ชาตไิ ทย เกีย่ วกบั บทบา จงั หวดั จานวน 77 แห่ง รวม 95 แห่ง สถาบนั พระมหากษัตรยิ บูรพมหากษตั รยิ ไ์ ทยทกุ ระบอบประชาธปิ ไตยอ ประมขุ (ร้อยละ 80) 8. โครงการสง่ เสริมกระบวนการเรยี นรู้และปลกู ฝงั 1,890 คน รอ้ ยละของจานวนนักเร แนวทางการจดั การความขัดแยง้ โดย 1,000 คน โครงการผา่ นเกณฑป์ ระ แนวทางสนั ตวิ ิธี** รอ้ ยละ 85) 9. โครงการ \"งานวันสมเดจ็ พระมหาธรี ราชเจ้า\" ระดบั ความสาเรจ็ ของก \"งานวันสมเดจ็ พระมห 10. โครงการจัดงานเฉลมิ พระเกียรตพิ ระบาท 2,500 คน สมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัวเน่ืองในโอกาสวันเฉลมิ ระดบั ความสาเรจ็ ของก พระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบา เน่อื งในโอกาสวันเฉลมิ พ 11. โครงการชมุ นมุ ผบู้ งั คบั บัญชายุวกาชาด 5,400 คน กรกฎาคม 2566 ท่ัวประเทศ เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รอ้ ยละของผเู้ ขา้ ร่วมกิจ ตอ่ กระบวนการดาเนินง 6
ตัวช้วี ดั / หนว่ ยงาน ความสอดคล้อง หมายตัวชี้วดั รบั ผดิ ชอบ งบประมาณปี 2566 ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. แม่บท ปฏิรูปฯ 13 หลัก เร่งด่วน จุดเนน้ 66 . หน่วยงานทางการศึกษา 10,606,200 สบศ. (หลกั ) 1 1 12 12 2 ทร่ี ับผดิ ชอบของ ศธภ. ศธภ.1-18 (รว่ ม) 2 รียน ออกแบบความคิด ครอื ขา่ ยในการสรา้ งและ 40,707,000 สบศ. (หลกั ) 1 1 12 12 มืองดตี ามรอยพระยคุ ลบาท 24,806,800 ศธจ.77 จังหวัด 1 1 12 12 ฏิบตั ิ (ร่วม) รงการมคี วามรักและ มหากษตั ริย์และยึดม่ันใน สบศ. ระชาธปิ ไตย (รอ้ ยละ 100) สถานศกึ ษา บุคลากร น นกั ศึกษาในสถานศกึ ษา มเขา้ ใจในประวัตศิ าสตร์ าทและความสาคัญของ ยแ์ ละความเสยี สละของ กพระองค์ และการปกครอง อนั มรี ะมหากษัตรยิ ์ ทรงเปน็ รียนนกั ศกึ ษาที่เข้าร่วม 13,140,300 สกก. 1 1 12 12 2 ะเมนิ (ไมน่ ้อยกว่า 200,000 สกก. 1 1 12 12 การดาเนนิ โครงการ 700,000 สกก. 1 1 12 12 หาธรี ราชเจ้า\" การดาเนนิ โครงการจัดงาน 16,000,000 สกก. 1 1 12 12 าทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั พระชนมพรรษา 28 จกรรมมคี วามพึงพอใจ งาน (รอ้ ยละ 80) 69
กลุ่มโครงการ/โครงการ/ เป้าหมาย ต กจิ กรรมหลกั ของโครงการ คา่ เป้าห 12. โครงการคา่ ยกจิ กรรมเยาวชนสง่ เสริมคณุ ธรรม 1,000 คน 1. ร้อยละของนกั เรยี น จริยธรรม น้อมนาพระบรมราโชบายดา้ น โครงการมคี วามรู้ ความ การศกึ ษาสกู่ ารปฏิบตั ิ ดา้ นการศึกษา (รอ้ ยละ 2.ร้อยละของนักเรียนน มคี วามพึงพอใจตอ่ การจ 13. โครงการเยาวชนร่วมใจภักดร์ิ กั ในหลวง 1,000 คน 1. ร้อยละของนักเรยี น โครงการมีความรู้ ความ ทด่ี ตี อ่ สถาบนั พระมหาก 2. ร้อยละของนกั เรียน โครงการมคี วามพึงพอใ โครงการ (รอ้ ยละ 80) 1.2 กลมุ่ โครงการป้องกนั และปราบปราม ยาเสพตดิ และภยั รูปแบบใหม่(จานวน 2โครงการ) 1. โครงการสรา้ งภูมิค้มุ กันและปอ้ งกนั ลดประชากรทุกกลมุ่ เปา้ หมายท่ีเขา้ ไปเกยี่ วข้องกบั รอ้ ยละของประชากรท ยาเสพตดิ */** ยาเสพตดิ กับยาเสพตดิ (รอ้ ยละ 8 2. โครงการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ */** โรงเรยี นเอกชน 77 โรง 1. จานวนนักเรยี นโรงเร นักเรียน 7,700 คน เสรมิ สรา้ งภมู ิคุ้มกนั ยาเ 2. ร้อยละของนักเรยี นโ โครงการมพี ฤตกิ รรมกา การมีภูมคิ มุ้ กนั ยาเสพต 1.3 กลุ่มโครงการพฒั นาการศกึ ษาในเขตพฒั นา ผบู้ ริหาร ครู นกั เรียน นกั ศกึ ษา และประชาชน 1. จานวนตาบลทีป่ ระช พเิ ศษเฉพาะกจิ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ในพ้ืนทีจ่ งั หวดั ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและ 4 ร่วมกนั อยา่ งสงบสขุ เพม่ิ (จานวน 60 โครงการ) อาเภอของจงั หวัดสงขลา (อ.จะนะ นาทวี เทพา 2. ประชาชนกลมุ่ เป้าห และสะบา้ ยอ้ ย) (จ. ยะลา อ.ธารโต, จ. ปัตตานี กบั ภาครัฐเพิม่ ข้ึน (ร้อย 1. โครงการโรงเรียนเข้มแขง็ ชมุ ชนร่วมมอื อ. มายอ, อ.ยะหรง่ิ , อ.ท่งุ ยางแดง, อ.กะพอ้ , เสรมิ สรา้ งสงั คมพหุวฒั นธรรมสสู่ นั ตสิ ขุ ชายแดน อ.ปานะเระ, จ.นราธวิ าส อ.แวง้ , อ.ตากใบ, อ.เมือง) ภาคใต*้ 7
ตัวชีว้ ดั / หนว่ ยงาน ความสอดคลอ้ ง หมายตวั ชีว้ ดั รบั ผิดชอบ งบประมาณปี 2566 ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. นักศึกษาท่เี ข้าร่วม 1,540,400 สกก. มเข้าใจพระบรมราโชบาย แมบ่ ท ปฏิรูปฯ 13 หลัก เร่งด่วน จุดเน้น 66 ะ 80) 1,540,400 สกก. นกั ศึกษาทีเ่ ขา้ ร่วมโครงการ 1 1 12 12 จัดโครงการ(รอ้ ยละ 80) 1 1 12 12 นกั ศึกษาท่ีเข้าร่วม มเขา้ ใจ และเกิดทศั นคติ กษัตริย์ (รอ้ ยละ 80) นักศึกษาที่เขา้ ร่วม ใจในกระบวนการดาเนนิ 48,900,800 ทกุ ชว่ งวยั ไมเ่ ก่ียวขอ้ ง 14,897,600 สบศ. 1 1 12 12 11 80) 34,003,200 สช. 1 1 12 12 11 รียนเอกชนที่ไดร้ ับการ เสพตดิ (7,700 คน) โรงเรียนเอกชนทเี่ ข้ารว่ ม ารปฏบิ ตั ติ นที่สะทอ้ นถงึ ตดิ (รอ้ ยละ 80) 1,883,744,500 ชาชนตา่ งวัฒนธรรมที่อยู่ 10,834,300 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 มขน้ึ (จานวน 25 ตาบล) หมายใหค้ วามรว่ มมือ ยละ 80) 70
กล่มุ โครงการ/โครงการ/ เป้าหมาย ต กจิ กรรมหลกั ของโครงการ คา่ เปา้ ห 2. โครงการเสริมสรา้ งศกั ยภาพผเู้ รียนและชุมชน 1. โรงเรียนขยายโอกาสในพื้นท่ี อ.โคกโพธ์ิ อ.ยะรงั 1. รอ้ ยละของกลมุ่ เป้าห โดยประสานความร่วมมือทุกภาคสว่ น* อ.แม่ลานและ อ.มายอของ สพป.ปัตตานี เขต 2 ร่วมมือกบั ภาครัฐเพิม่ ข 3. โครงการสง่ เสริมการใช้ภาษาเพือ่ การสอื่ สาร สาหรบั เดก็ อายุ 4-7 ปี โดยใช้นวตั กรรมชุดสอ่ื (นาร่อง) อาเภอละ 1 โรงเรียน รวม 4 โรงเรียน 2. รอ้ ยละของชมุ ชนเปา้ มัลตมิ ิเดยี และวรรณกรรมท้องถนิ่ เปน็ ฐานรว่ มกบั แนวคิดทวิภาษาในจังหวัดชายแดนภาคใต*้ /** 2. โรงเรยี นในพน้ื ที่ อ. ไมแ้ กน่ อ.กะพอ้ และอ.ทุ่ง ขบั เคลอื่ นชุมชนให้มคี ว 4. โครงการสง่ เสรมิ การอยรู่ ่วมกันในสงั คม ยางแดง ของสพป.ปตั ตานี เขต 3 (นารอ่ ง) อาเภอ ได้ (รอ้ ยละ 80) พหุวฒั นธรรมดว้ ยกระบวนการลกู เสอื * ละ 2 โรงเรยี น รวม 6 โรงเรยี น 3. รอ้ ยละของกลมุ่ เปา้ ห 5. โครงการตดิ ตามประเมินผลและรายงาน การจดั การศกึ ษาในพนื้ ท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต*้ 3. โรงเรียนสงั กดั สช. จ.ปัตตานี อ.มายอ 1 เรียนรู้ และมเี ครือข่ายใ โรงเรียน อ.ยะหรงิ่ 1 โรงเรยี น,สช.จ. นราธวิ าส อ. กบั ศักยภาพของพืน้ ที่ ( เมืองนราธวิ าส 1 โรงเรียน อ. แว้ง 1 โรงเรียน และสช. จ.สงขลา อ.เทพา 1 โรงเรยี น 1. ศนู ยพ์ ัฒนาทกั ษะภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร 1. ร้อยละของศูนย์พฒั น ในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ มีการบรหิ ารจดั การ สอื่ สารในจังหวัดชายแด อยา่ งเปน็ ระบบ สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทในพนื้ ท่ี จดั การอย่างเปน็ ระบบ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ จานวน 300 ศนู ย์ ชมุ ชนในพ้นื ทีจ่ งั หวดั ชา 2. ศนู ย์พัฒนาทักษะภาษาเพอื่ การสอ่ื สารในจังหวัด 2. รอ้ ยละของศูนย์พฒั น ชายแดนภาคใต้ มีสอื่ นวัตกรรมที่สง่ เสรมิ การ สอ่ื สารในจังหวัดชายแด เรียนรดู้ า้ นภาษา สอดคลอ้ งกับบรบิ ทในพ้นื ที่ สง่ เสรมิ การเรียนรูด้ า้ นภ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวน 300 ศูนย์ ในพืน้ ท่จี ังหวัดชายแดน 1. บคุ ลากรในหนว่ ยงานทางการศกึ ษา 40 คน หนว่ ยงานทางการศึกษ 2. ครู 40 คน ภาคใต้ มแี นวทางการพ 3. นกั เรยี น 1400 โดยการประยุกตใ์ ช้กระ รวม 1,480 สง่ เสริมการอยู่รว่ มกนั ภ หนว่ ยงานทางการศกึ ษา สงั กดั สช., กศน., สอศ., 1.กลไกการตดิ ตามประ สพฐ., ศธจ., โรงเรยี นตารวจตระเวรชายแดน จดั การศกึ ษาในพน้ื ทีจ่ ัง หน่วยงานทีไ่ ดร้ ับงบประมาณ ในพื้นที่จังหวดั การการขับเคลอื่ นการแ ชายแดนภาคใตแ้ ละ ศอ.บต., กต., กอ.รมน.ภาค ชายแดนภาคใต้ ของหน 4 สว่ นหน้า, กระทรวงมหาดไทย, มหาวทิ ยาลยั หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วข้องใน สงขลานครนิ ทร,์ มหาวิทยาลยั ราชภัฎยะลา ฯลฯ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ และผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี ในการจัดการศกึ ษาในพืน้ ท่ี 2.รอ้ ยละของผลการวิจ เขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ จาเปน็ ดา้ นการจดั การศ 7
ตัวชวี้ ดั / หนว่ ยงาน ความสอดคล้อง หมายตวั ชว้ี ดั รับผิดชอบ งบประมาณปี 2566 ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. หมายนารอ่ งใหค้ วาม 5,732,100 ศปบ.จชต. ข้ึน (ร้อยละ 80 ) แมบ่ ท ปฏิรูปฯ 13 หลัก เร่งดว่ น จุดเนน้ 66 าหมายนาร่องสามารถ วามเข้มแข็งสคู่ วามยั่งยืน 1 1 12 12 หมายมีการแลกเปลยี่ น ในการพัฒนาใหเ้ หมาะสม (รอ้ ยละ 80) นาทักษะภาษาเพ่อื การ 10,644,700 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 ดนภาคใต้ มกี ารบริหาร สอดคลอ้ งกบั บริบทของ 3,439,700 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 ายแดนภาคใต้(ร้อยละ 80) 4,533,300 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 นาทักษะภาษาเพ่อื การ ดนภาคใต้ มีสอื่ นวตั กรรมท่ี ภาษา สอดคลอ้ งกับบรบิ ท นภาคใต้ (รอ้ ยละ 90) ษาในพ้นื ทีจ่ งั หวดั ชายแดน พฒั นาเยาวชนในสงั กดั ะบวนการลกู เสอื ในการ ภายใตส้ งั คมพหุวฒั นธรรม ะเมนิ ผลและรายงานผลการ งหวัดชายแดนภาคใตบ้ ูรณา แก้ไขปัญหาจงั หวัด นว่ ยงานทางการศึกษาและ นเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกจิ จัยประเมนิ ความตอ้ งการ ศึกษาในจังหวัดชายแดน 71
กลุ่มโครงการ/โครงการ/ เป้าหมาย ต กจิ กรรมหลกั ของโครงการ คา่ เป้าห ภาคใต้ สภาพปัญหาดา้ นาไปสกู่ ารวางแผนปฏิบ การศึกษภายใตก้ ารสร้า และสามารถกาหนดแน ใหส้ อดคลอ้ งกับ สภาพ 3. รอ้ ยละของผลการป ในพืน้ ที่เขตพัฒนาพิเศษ ภาคใต้ ให้สามารถดาเน เปา้ หมายแนวทางและต (รอ้ ยละ 100) 4.ร้อยละของรายงานผ เขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะ ทีบ่ รรลผุ ลสมั ฤทธ์ิตามเป ตวั ชวี้ ัดแผนงานทก่ี าหน 5.ร้อยละของบุคลากรใ มีความรู้ ความเขา้ ใจ เก ประเมินผล และรายงา ดาเนนิ งานให้บรรลเุ ปา้ ห เป้าหมายและตวั ช้วี ดั ทีก่ ภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ ทเ่ี กีย่ วขอ้ งเพ่ือให้เป็นไป (ร้อยละ 80) 6. โครงการเสรมิ สรา้ งความร่วมมือดา้ นการศกึ ษา 1.เยาวชนและประชาชน ในพืน้ ท่ี จ. ชายแดน 1. ร้อยละของเยาวชนแ ระหวา่ งประเทศเพอื่ ความม่ันคง* ภาคใตท้ ีศ่ กึ ษาในตา่ งประเทศ ความเขา้ ใจในการเตรยี 2.เยาวชนและประชาชน ในพืน้ จ.ชายแดนภาคใตท้ ี่ ตา่ งประเทศ (ร้อยละ 8 จะไปศึกษาในตา่ งประเทศ และครูแนะแนวของ 2. ร้อยละของเยาวชนแ โรงเรียนที่เขา้ ร่วม ความรใู้ นการเทียบโอน 3.เยาวชนและประชาชนทส่ี าเรจ็ การศกึ ษาจาก 3. รอ้ ยละของเยาวชนแ ตา่ งประเทศ ครู ผปู้ กครองนักเรียนและประชาชน ความเข้าใจและทศั นคต ท่ัวไปท่ีเข้ารว่ มโครงการ (ร้อยละ 80) 7
ตัวชี้วัด/ หนว่ ยงาน ความสอดคลอ้ ง หมายตวั ชี้วดั รบั ผิดชอบ งบประมาณปี 2566 ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. แม่บท ปฏิรูปฯ 13 หลัก เร่งดว่ น จุดเนน้ 66 านการจดั การศึกษาในพ้นื ที่ บัตงิ านแก้ไขปญั หาดา้ น างทางเลอื กที่เหมาะสม นวทางการพัฒนาการศกึ ษา พทีเ่ กดิ ขน้ึ จรงิ (ร้อยละ 100) ระเมนิ ผลการจัดการศึกษา ษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดน นินงานบรรลผุ ลสมั ฤทธิต์ าม ตวั ช้วี ัดแผนงานทก่ี าหนดไว้ ผลการจัดการศึกษาในพ้ืนที่ ะกจิ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปา้ หมายแนวทางและ นดไว้ (รอ้ ยละ 100) ในหน่วยงานทางการศกึ ษา กี่ยวกบั การตดิ ตาม านผล สง่ ผลใหส้ ามารถ หมายสอดคลอ้ งตามคา่ กาหนดไวใ้ นแผนแม่บท 20 ปี แผนระดบั 2 และ 3 ปที่กฎหมายกาหนด และประชาชนในพน้ื ที่มี 1,586,000 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 ยมตวั ไปศึกษาตอ่ 80) และประชาชนในพนื้ ท่มี ี นรายวิชา (รอ้ ยละ 80) และประชาชนในพื้นทมี่ ี ตทิ ่ดี ตี อ่ ภาครัฐ 72
กลมุ่ โครงการ/โครงการ/ เป้าหมาย ต กจิ กรรมหลัก ของโครงการ คา่ เปา้ ห 7. เงนิ อุดหนุนทุนการศึกษารายปีตอ่ เน่อื งของ ผเู้ รยี นท่เี ป็นทายาทของผทู้ ีไ่ ดร้ บั ผลกระทบ รอ้ ยละของผเู้ รยี นทีเ่ ป็น ทายาทผไู้ ดร้ บั ผลกระทบสบื เน่อื งจากสถานการณ์ และผเู้ รียนทีไ่ ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ ผลกระทบและ ผเู้ รียนท ความไมส่ งบในจงั หวดั ชายแดนภาคใต*้ ความไมส่ งบในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ จานวน จากสถานการณ์ความไ 5,438 คน ภาคใต้ ท่ีย่ืนขอรับทนุ ก ของทายาทผไู้ ดร้ บั ผลกร สถานการณ์ความไม่สงบ ไดร้ ับการจดั สรรทุนฯ (ร 8. โครงการชว่ ยเหลอื เยยี วยาครูและบุคลากร ครูและบุคลากรทางการศึกษาผเู้ สยี ชีวติ อนั เนือ่ ง รอ้ ยละผไู้ ดร้ ับผลกระทบ ทางการศกึ ษาผเู้ สยี ชีวติ อนั เน่ืองมาจาก มาจากเหตกุ ารณ์ความไม่สงบในจงั หวัดชายแดน ไม่สงบในจงั หวัดชายแด เหตกุ ารณ์ความไมส่ งบในจังหวดั ชายแดน ภาคใต้ จานวน 148 ราย ผไู้ ดร้ บั ความเสยี หาย ได ภาคใต้ * เยียวยา (รอ้ ยละ 100) 9. โครงการการบรู ณาการขับเคลอื่ นการเรียนรู้ ผนู้ าชมุ ชน ผนู้ าศาสนา แกนนานักเรยี นนกั ศกึ ษาใน ร้อยละของผนู้ าชมุ ชน ผ ทกั ษะอาชพี นักเรียนนกั ศึกษาตน้ แบบตรงกบั ความ ชุมชนจังหวดั ชายแดนภาคใต้ และบุคลากรทางการ นักเรียนนกั ศึกษาในชมุ ตอ้ งการของชมุ ชนในสาขาที่ตลาดแรงงานตอ้ งการ ศึกษา/ผนู้ าชุมชน ผนู้ าศาสนา แกนนานักเรียน ไดเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมขยาย จงั หวดั ชายแดนภาคใต*้ * นกั ศึกษาในชุมชนจ. ปตั ตานี ยะลา นราธิวาส สตลู การเข้าเรยี นตอ่ ในสาขา และสงขลา (อาเภอสะบ้ายอ้ ย เทพา จะนะ และ ในชุมชนมคี วามตอ้ งการ อาเภอนาทว)ี และบคุ ลากรทางการศกึ ษาทเี่ ก่ียวข้อง (ร้อยละ 80) 10. โครงการสง่ เสริมนวัตกรรมตน้ แบบ หน่วยงานการศึกษาในพน้ื ท่ีจังหวัดชายแดน ร้อยละของสถานศึกษา ดา้ นการศึกษาในพ้ืนทีจ่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ ภาคใต้ มนี วตั กรรมตน้ แบบดา้ นการศกึ ษา ศึกษานกั เรียนและนักศ จานวน 24 นวัตกรรม ชายแดนภาคใต้ เข้าร่วม 11. โครงการสง่ เสริมการเรียนรู้กลมุ่ นกั เรยี น ตน้ แบบดา้ นการศึกษา นกั ศึกษาปอเนาะในจงั หวัดชายแดนภาคใต*้ * ของเปา้ หมาย) นักเรียน นักศึกษาปอเนาะในพนื้ ทีจ่ ังหวัดปตั ตานี ร้อยละของนกั เรียนนักศ ยะลา นราธิวาสและ 4 อาเภอของจังหวัดสงขลา กลมุ่ เปา้ หมายเขา้ ร่วมก (อาเภอจะนะ นาทวี เทพา และสะบ้ายอ้ ย) จานวน ความรูค้ วามเขา้ ใจในแน ท้ังสน้ิ 500 คน ถนัด ความสามารถของ วางแผนการเรยี นเพ่อื ก เมอื่ จบการศกึ ษาได้ (ร้อ 7
ตัวชี้วดั / หนว่ ยงาน ความสอดคลอ้ ง หมายตัวชี้วดั รับผดิ ชอบ งบประมาณปี 2566 ศปบ.จชต. ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. ศปบ.จชต. แม่บท ปฏริ ูปฯ 13 หลัก เร่งดว่ น จุดเน้น 66 นทายาทของผทู้ ี่ไดร้ ับ 65,144,000 1 1 12 12 ท่ีไดร้ บั ผลกระทบ 424,522,000 ไม่สงบในจงั หวดั ชายแดน 1 1 12 11 การศกึ ษารายปตี อ่ เน่อื ง ระทบสบื เนอ่ื งจาก บในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รอ้ ยละ 100) บจากเหตกุ ารณ์ความ ดนภาคใต้ ที่เก่ียวข้องกับ ดร้ ับมอบเงินช่วยเหลอื ผนู้ าศาสนา และแกนนา 930,000 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 54 มชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยตน้ แบบและแบบอยา่ งใน าวิชาทีต่ ลาดแรงงาน ร ระดบั ปวช./ปวส. า ครู บุคลากรทางการ 3,873,600 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 ศกึ ษาในพ้นื ท่ีจงั หวัด มสง่ ผลงานนวัตกรรม 630,800 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 54 (ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ศึกษาปอเนาะ การสง่ เสรมิ การเรยี นร้แู ละมี นวทางการศกึ ษาตามความ งตนเอง มเี ปา้ หมาย และ ก้าวสอู่ าชีพและการมงี านทา อยละ 80) 73
กลมุ่ โครงการ/โครงการ/ เปา้ หมาย ต กจิ กรรมหลัก ของโครงการ คา่ เปา้ ห 12. โครงการสง่ เสริมอาชีพใหเ้ ยาวชนและ เยาวชนและประชาชนในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ 1. ร้อยละของเยาวชนแ ประชาชนในจงั หวัดชายแดนภาคใตก้ ลมุ่ ที่ กลมุ่ ที่เดนิ ทางกลบั จากตา่ งประเทศ จานวน ชายแดนภาคใตก้ ลมุ่ ท่ีเด เดนิ ทางกลบั จากตา่ งประเทศ** 300 คน ตา่ งประเทศที่เข้ารว่ มโค 2. รอ้ ยละของเยาวชนแ 13. โครงการพัฒนาศักยภาพครแู นะแนว ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในพื้นทจี่ งั หวดั ชายแดนภาคใตก้ ลมุ่ ท่เี ด ดา้ นการศึกษาเพอ่ื สง่ เสรมิ การมีงานทาจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ จานวน 300 คน ประเทศ มีทักษะอาชพี ชายแดนภาคใต*้ * สนใจและตรงตามบรบิ ท 3. ร้อยละของเยาวชนแ 14. โครงการเสรมิ สร้างประสทิ ธภิ าพและคุณภาพ 1. ศูนย์ ฯ (ตาดกี า) จานวน 1,500 ศูนย์ ชายแดนภาคใตก้ ลมุ่ ท่เี ด การจดั การศกึ ษาของศนู ย์การศึกษาอิสลามประจา 2. สถาบันศึกษาปอเนาะ จานวน 400 แห่ง ประเทศ ท่เี ข้าร่วมโครง มัสยดิ (ตาดกี า) และสถาบนั ศกึ ษาปอเนาะจังหวดั มีอาชพี ตรงตามบริบทข ชายแดนภาคใต้ หรือลดรายจ่ายอันเป็นผ โครงการฯ สง่ ผลใหม้ คี ุณ และสามารถดาเนินชีวติ ความสขุ (รอ้ ยละ 80) 1. รอ้ ยละของครูและบ ในพนื้ ท่จี งั หวัดชายแดน (ร้อยละ 80) 2. ร้อยละของครแู ละบ ในพน้ื ท่จี ังหวดั ชายแดน แนะแนวดา้ นอาชพี ดา้ น สว่ นตวั และสงั คม ให้กับ (รอ้ ยละ 80) 1. รอ้ ยละของศนู ย์ ฯ (ต เรียนการสอนเป็นเอกภ (เฉลยี่ ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 2. รอ้ ยละของสถาบนั ศ จดั การเรยี นการสอนเป เดยี วกนั (เฉลย่ี ไม่น้อยกว 7
ตัวชวี้ ัด/ หนว่ ยงาน ความสอดคลอ้ ง หมายตวั ชว้ี ดั รบั ผิดชอบ งบประมาณปี 2566 ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. และประชาชนในจังหวัด 3,282,500 ศปบ.จชต. ดนิ ทางกลบั จาก แมบ่ ท ปฏริ ูปฯ 13 หลัก เร่งดว่ น จุดเนน้ 66 ครงการฯ (ร้อยละ 80) และประชาชนในจงั หวัด 1 1 12 12 54 ดนิ ทางกลบั จากตา่ ง พตรงตามความถนดั ความ ทของพืน้ ท่ี (ร้อยละ 80) และประชาชนในจังหวดั ดนิ ทางกลบั จากตา่ ง งการฯมแี นวทาง ของพื้นที่และมรี ายได้ ผลจากการเข้ารว่ ม ณภาพชวี ติ ทีด่ ขี ้ึน ตในสงั คมไดอ้ ย่างมี บคุ ลากรทางการศกึ ษา 1,247,700 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 5 นภาคใต้ เขา้ รว่ มโครงการ 610,200 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 บุคลากรทางการศึกษา นภาคใต้ มแี นวทางในการ นการศึกษาตอ่ และดา้ น บนักเรียน นักศึกษา ตาดกี า) สามารถจดั การ ภาพและทศิ ทางเดยี วกนั ะ 80) ศึกษาปอเนาะสามารถ ป็นเอกภาพ และทศิ ทาง วา่ รอ้ ยละ 80) 74
กล่มุ โครงการ/โครงการ/ เปา้ หมาย ต กจิ กรรมหลัก ของโครงการ คา่ เปา้ ห 15. โครงการเสริมสรา้ งโอกาสทางการศกึ ษาและ 1. ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา โครงการสานฝนั 1. ร้อยละของครูและบ พฒั นาเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การกฬี าสรู่ ะบบการศึกษาจงั หวัดชายแดนใต้ โครงการสานฝนั การกฬี จานวน 12 สถานศกึ ษา ชายแดนใต้ ไดร้ ับการพ 2. นกั เรียน/นักศกึ ษา โครงการโรงเรยี นประชารัฐ การศกึ ษาตอ่ ระดบั ชั้นอ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ และโครงการอาชวี ะ 2. ร้อยละของหนว่ ยงาน ฝมี อื ชน พัฒนากาลงั คนชายแดนใต้ จานวน 68 ฐานข้อมลู ของโรงเรียน สถานศกึ ษา กีฬาสรู่ ะบบการศกึ ษาจ โครงการโรงเรียนประช และโครงการอาชีวะฝมี ชายแดนใตน้ าไปใชใ้ หเ้ ก 16. โครงการขับเคลอื่ นการบรู ณาการระบบ บุคลากรหน่วยงานท่เี กยี่ วข้องกบั การศกึ ษา 1. ร้อยละของบคุ ลากร ข้อมลู สารสนเทศดา้ นการศึกษาทีส่ อดคลอ้ ง ในพื้นท่จี งั หวัดชายแดนภาคใต้ จานวน 80 คน กับการศึกษพ้นื ทจี่ ังหวดั กับชมุ ชนในพน้ื ท่ีจงั หวัดชายแดนภาคใต้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั หล ของการบูรณาการระบ ดา้ นการศกึ ษาทีส่ อดคล จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ 2. จานวนระบบข้อมูลส ทส่ี อดคลอ้ งกบั ชมุ ชนใน ภาคใต้ (จานวน 1 ระบ 17. โครงการประสานขบั เคลอ่ื นนโยบายและจดั ทา 1. ศปบ.จชต. มแี ผนปฏิบัตริ าชการ 1. จานวนแผนปฏบิ ตั กิ า บริหารการศกึ ษาจังหวดั แผนปฏิบตั ริ าชการของศูนย์ประสานงานและ 2. บคุ ลากรท่ีมีสว่ นเก่ียวขอ้ งกับการจัดทาแผน (จานวน 6 แผน) 2. รอ้ ยละของบคุ ลากร บรหิ ารการศกึ ษาจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ปฏบิ ตั กิ ารของหนว่ ยงานทางการศกึ ษาและหนว่ ย จดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารขอ และหนว่ ยงานท่เี ก่ยี วข้อ งานท่เี กีย่ ว ในการจดั ทาแผนปฏิบัต สอดคลอ้ งกับเปา้ หมาย 3.หนว่ ยงานทางการศกึ ษาในพืน้ ท่จี ังหวดั ชายแดน (รอ้ ยละ 80) ภาคใต้ 4. ผบู้ ริหาร และบุคลากรของหนว่ ยงานทาง การศึกษาและหน่วยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง 70 คน 7
ตัวชว้ี ัด/ หนว่ ยงาน ความสอดคล้อง หมายตวั ช้วี ดั รบั ผิดชอบ งบประมาณปี 2566 ศปบ.จชต. ย.ชาติ แผน แผน แผนฯ นโยบายของ ศธ. ศปบ.จชต. แม่บท ปฏริ ูปฯ 13 หลัก เร่งด่วน จุดเน้น 66 บุคลากรทางการศึกษา 1,040,000 ศปบ.จชต. 1 1 12 12 ฬาสรู่ ะบบการศึกษาจังหวดั 900,000 พัฒนาการแนะแนว 1,310,000 1 1 12 12 อุดมศกึ ษา (รอ้ ยละ 80) 1 1 12 12 นที่เก่ยี วขอ้ งสามารถนา นในโครงการสานฝนั การ จังหวดั ชายแดนใต้ ชารัฐจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ มอื ชนพฒั นากาลงั คน กิดประโยชน์(ร้อยละ 80) ร หน่วยงานท่ีเกย่ี วข้อง ดชายแดนภาคใต้ มีความรู้ ลกั การและแนวคดิ บบขอ้ มูลสารสนเทศ ลอ้ งกับชมุ ชนในพน้ื ที่ (ร้อยละ 80) สารสนเทศดา้ นการศึกษา นพืน้ ท่จี งั หวัดชายแดน บบ) ารศูนยป์ ระสานงานและ ดชายแดนภาคใต้ รท่มี สี ว่ นเกีย่ วขอ้ งกบั การ องหน่วยงานทางการศกึ ษา อง มีความรู้ ความเข้าใจ ตกิ ารท่ีเชอ่ื มโยงและ ยยทุ ธศาสตร์ชาติ 75
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428